ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)  (อ่าน 463900 ครั้ง)

na-au

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

คิดถึงหลานคู่นี้จังเลย

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
หวานซะ - -  มาต่อตอนพิเศษนี้ให้จบๆๆแบบแซบๆ ด้วยจะดีมากกกเลยครับ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
น่ารักเหมือนเดิม
ขอบคุณนะครับที่พาทั้งสองคนกลับมาเยี่ยมคนอ่าน
+1

ppmayuree

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงวิว กับ เป้ มาก ๆๆๆ แวะเข้ามา ไม่นึกว่าจะเจอ ขอบคุณค่ะ

cokebundit

  • บุคคลทั่วไป
 o13 ขอบคุณนะคับ :bye2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ: อีกวันของกันและกัน


“ฮัดชิ่ว!”

เสียงจามของคนที่กำลังนอนดูทีวีอยู่บนเตียงดึงความสนใจผมให้ยื่นหน้าเข้าไปมองแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาเก็บเสื้อผ้าที่ตากไว้ตรงระเบียงให้เสร็จเพราะสัมผัสได้ถึงเค้าลางของพายุฝนที่กำลังจะมา

“เป็นหวัดเหรอเป้?”

ผมถามขณะวางตะกร้าผ้าซึ่งซักสะอาดแล้วแต่ยังไม่แห้งดีลงบนพื้นห้อง จากนั้นก็หยิบผ้าที่ยังชื้นเหล่านั้นมาผึ่งกับราวในห้องและตามเก้าอี้เพื่อไล่ความชื้นออกไป ถึงแม้วิธีนี้จะไม่ช่วยให้เสื้อผ้าแห้งสนิท แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เหม็นอับเพราะความชื้นอยู่ในตะกร้า

“ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเพราะฝนจะตกเป้ก็เลยคันจมูก”

พ่อคุณชายตอบพลางใช้หลังมือขยี้ปลายจมูก ผมหันไปมองคนที่ใส่เสื้อยืดบางๆ กับกางเกงบอลขาสั้นบนเตียงแล้วก็สังเกตได้ว่าเป้หน้าแดงกว่าปกติ เลยละมือที่กำลังผึ่งเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปเอามือทาบบนหน้าผาก อุณหภูมิที่สัมผัสได้ทำให้ผมมุ่นคิ้วเข้าหากัน

“ตัวอุ่นๆ เหมือนกันนะ สงสัยจะไม่สบายแล้วล่ะ เดี๋ยววิวเอายามาให้ดีกว่า ”

“ไม่ต้องกินยาหรอก นิดหน่อยแค่นี้นอนหนุนตักวิวสักตื่นก็หายแล้ว”

ผมยังไม่ทันได้ลุกก็โดนรั้งเอวให้กลับไปนั่งท่าเดิม แต่คราวนี้คนพูดไถลตัวลงไปนอนเหยียดยาวบนเตียงโดยวางศีรษะพาดมาบนตัก ผมเลยได้แต่ทักท้วง

“ยังเอาเสื้อผ้าออกมาผึ่งไม่หมดเลยเป้ รออีกแป๊บนึงไม่ได้หรือไง?”

“ไม่เอา อีกอย่างถึงวิวผึ่งตอนนี้มันก็ไม่แห้งหรอก เดี๋ยวเป้ตื่นแล้วค่อยเอาไปอบที่ร้านซักรีดหน้าปากซอยก็ได้”

เป้ย่นจมูกแล้วก็พูดอย่างเอาแต่ใจ ทำเอาผมร่ำๆ อยากจะหยิกคนพูดขึ้นมา แต่ดูแล้วท่าทางเจ้าหมอนี่จะไข้ขึ้นจริงๆ เลยได้แต่ต้องพยายามขยับหาท่านั่งที่เมื่อยน้อยที่สุดด้วยการเอาหมอนมาตั้งพิงไว้ด้านหลัง

“ยกหัวก่อนเป้ หนุนหมอนดีกว่าจะได้ไม่เมื่อยคอ”

ผมเอ่ยพลางหยิบหมอนขึ้นมาวางบนตัก ซึ่งคราวนี้พ่อคุณชายให้ความร่วมมือแต่โดยดี หลังจากหามุมที่นอนได้สบายตัวแล้วก็หลับตาลง ผมจึงลูบผมเป้เบาๆ แล้วถามอย่างเป็นกังวล

“แบบนี้ตอนเย็นจะขับรถไปส่งที่หมอชิตไหวเหรอเป้? เดี๋ยววิวนั่งแท็กซี่ไปเองดีกว่า ส่วนพรุ่งนี้ถ้ายังมีไข้ก็โทรไปบอกอาจารย์ว่าของดไปช่วยสอนยูโดสักวันก็ได้”

เนื่องจากวันอาทิตย์นี้เป็นวันเกิดของหว้า และวันจันทร์ผมก็ไม่มีเรียน เลยสัญญากับแม่ไว้ว่าจะกลับบ้านที่สกลนครไปร่วมฉลองวันเกิดครบสิบห้าปีให้น้องชายพร้อมหน้าทั้งครอบครัว แต่เป้ไปด้วยไม่ได้เนื่องจากติดสอนยูโดให้รุ่นน้องวันเสาร์ แถมวันจันทร์ก็ยังมีเรียนตอนเช้าอีก พ่อคุณชายเลยบอกว่าจะไปส่งผมที่สถานีขนส่งเนื่องจากผมซื้อตั๋วไว้แล้ว แต่ในเมื่อเจ้าตัวดูเหมือนจะไม่สบาย ผมก็เลยคิดว่าควรให้นอนพักเฉยๆ จะดีกว่า

“แค่นี้นอนตื่นเดียวก็หาย เดี๋ยวตอนเย็นเราแวะเอาผ้าเปียกไปส่งร้านซักรีด แล้วเป้ก็ไปส่งวิวที่หมอชิตแล้วค่อยกลับบ้าน ไม่มีปัญหาหรอก”

เป้พูดพลางพลิกตัวนอนคว่ำแล้วกอดเอวผมไว้ ผมเลยคร้านจะตักเตือนเมื่อเห็นความดื้อแพ่งแถมยังเล่นวางเส้นทางไว้ให้หมดแล้วอีก ได้แต่คิดในใจว่าขอให้หมอนี่ไม่ได้เป็นไข้หนักหนาจริงๆ อย่างที่ปากเก่งก็แล้วกัน

“อืม...”

“อะไรเป้? คันจมูกอีกแล้วรึไง?”

ผมถามเมื่อเป้ไม่ยอมหลับแต่ดันผงกหัวขึ้นแล้วเอาจมูกมาดุนๆ ตรงหน้าท้อง เจ้าคนที่กำลังอาศัยตักผมต่างหมอนเลยเงยหน้าขึ้นมายิ้มเจ้าเล่ห์

“ในนี้มีลูกเป้อยู่กี่คนแล้วเนี่ย? ทำไมมันไม่ป่องขึ้นมามั่งเลยล่ะ?”

“ไอ้ทะลึ่ง! ตกลงจะนอนมั้ย!? ถ้าไม่นอนจะได้ลุกไปตากผ้า!”

ผมรู้สึกว่าเลือดฉีดขึ้นหน้าด้วยความเขินจนตีไหล่เป้ไปทีนึง พ่อคุณชายเลยหัวเราะเสียงดังก่อนจะก้มมาจูบท้องผมแล้วก็เอนหน้าลงหนุนหมอน มือใหญ่สองข้างที่โอบอยู่รอบเอวลูบหลังผมขึ้นลงช้าๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะกะจะอ้อนหรือจะง้อกันแน่ เมื่อคืนนี้ผมก็ไม่น่ายอมให้หมอนี่มัดจำส่วนของสามวันที่จะไม่ได้เจอกันเลย เลยโดนเอาเรื่องนี้มาแซวไปซะฉิบ

“ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง แต่ถ้าเรามีลูกด้วยกันแล้วออกมาหน้าเหมือนวิวนะ ลูกเราต้องน่ารักมากแน่ๆ เลย โอ๊ยๆๆ”

“นอน! เดี๋ยวนี้เลย!”

คราวนี้ผมหนีบหูเป้แบบไม่เบามือขณะทำเสียงดุใส่ เป้เหลือบตาขึ้นมองผมนิดนึงก่อนจะหัวเราะเบาๆ และคราวนี้ยอมปิดปากแต่โดยดี ไม่นานก็ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอที่บอกให้รู้ว่าเจ้าเด็กโข่งหลับไปแล้ว ผมจึงค่อยดึงผ้าห่มที่โดนเจ้าตัวเตะไปข้างๆ ขึ้นมาคลุมให้จนถึงไหล่ เพราะอากาศทั้งเย็นทั้งชื้นแบบนี้ ถึงยังไงการรักษาร่างกายให้อบอุ่นไว้ก่อนก็ดีที่สุด

ผมลูบหน้าตัวเองด้วยหวังว่าอาการเห่อร้อนเพราะโดนแซวจะหายไป แล้วก็อดจะเหลือบตามองเจ้าคนที่นอนหนุนตักด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ บางทีหมอนี่ก็ช่างพูดเรื่องไร้สาระได้เป็นคุ้งแควจริงๆ แถมยังขยันหามุกใหม่ๆ มาแหย่ผมตลอดซะด้วยสิ พอได้ฟังอะไรเหนือความคาดหมายก็เลยรับมือไม่ถูกทุกที

แต่เดี๋ยวจะไม่ได้เจอกันสามวัน...ก็คงจะเหงาหูนิดๆ เหมือนกันล่ะนะ

พอคิดเรื่องนี้แล้วผมก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะเจ้าเด็กโข่งนี่นอกจากจะชอบแหย่แล้วยังขี้อ้อนอย่างร้ายกาจด้วย  ไม่อย่างนั้นแค่ไข้ขึ้น ‘นิดหน่อย’ อย่างที่ว่าจริงจะมาขอรุ่มร่ามกับตักผมหรือ แต่ผมก็ผิดเองที่พอโดนอ้อนทีไรก็ไม่ค่อยบ่ายเบี่ยงจริงจัง เป้เลยได้ใจที่จะหาเศษหาเลยกับผมทุกที ดังนั้นอยู่ห่างกันบ้างให้ตานี่หาคนอ้อนไม่ได้ก็สมควรแล้ว

ผมยกมุมปากขึ้นเมื่อเห็นเป้ละเมอยกนิ้วขึ้นถูจมูก เลยหันไปกดรีโมทปิดพัดลมเพื่อไม่ให้คนที่กำลังมีไข้หนาวยิ่งไปกว่านี้ เวลาปกติเป้อาจจะแข็งแรง แต่พอไม่สบายทีก็ชอบเป็นหนักแล้วไม่ประมาณตัวเอง เลยตกเป็นภาระของผมที่ต้องคอยช่วยดูแลอยู่เรื่อย แต่อย่างน้อยการได้รับความไว้วางใจเช่นนี้ก็เป็นแรงขับชั้นดีให้ผมเต็มใจทำ

เสียงหยาดฝนที่ตกกระทบหน้าต่างดังถี่ขึ้นเป็นระยะจนกระทั่งกลายเป็นเสียงซ่า ทัศนียภาพนอกกระจกหน้าต่างถูกพายุฝนบดบังจนพร่าเลือน ผมนั่งมองกระถางต้นไม้ด้านนอกที่กำลังรับน้ำฝนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยืดตัวไปหยิบหนังสืออ่านเล่นมาจากหัวเตียงโดยระวังไม่ขยับตัวให้กระเทือนคนที่กำลังหลับ เพราะดูแล้วผมคงต้องทนเมื่อยขาให้เจ้าเด็กโข่งตัวโตยืมตักหนุนนอนไปอีกพักใหญ่ๆ

วันนี้...ก็ยังคงเป็นอีกวันอันสงบสุขที่ผมพอใจกับการมีเป้อยู่ข้างๆ เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา...

 

++---END---++



A/N: ไม่ได้เขียนตอนใหม่ให้เรื่องนี้มานานมากกกกก เพราะว่ากำลังหัวหมุนกับการเตรียมรวมเล่มให้ "แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก" (ตอนนี้ใกล้ปิดจองแล้ว ใครสนใจคลิกดูบนแถบโฆษณาด้านบนของบอร์ดได้เลยค่ะ หรือคลิกลิ้งค์นี้ก็ได้ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38001.0) สำหรับเนื้อหาในตอนนี้ก็จะไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เหมือนเขียนสนองนี้ดตัวเอง + ตั้งใจให้เป็นของขวัญพี่สาวที่บ่นคิดถึงเป้กับวิว เลยหาเหตุมายำจนได้ตอนสั้นๆ นี้ออกมาจนได้ และก็เช่นเคย เขียนคู่นี้ทีไรคนเขียนอยากเข้าไปนัวเนียวิวแทนตาเป้ซะเองทุกที หวังว่าจะเป็นของขวัญให้ทุกคนที่คิดถึงเป้กับวิวในบรรยากาศฝนพรำๆ ได้บ้างนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2013 20:32:46 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
แอบเข้ามาดู ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยี่ยม
หวานเช่นเคย ขอบคุณนะคุณริน
+1

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
หลังจากที่สะกดจิตตัวเองในเฟส ในที่สุดก็มีตอนพิเศษมา ขอบคุณค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
 :mew1: :mew1: :mew1: คิดถึงเป้กับวิวมากอ่า อ่านตอนพิเศษเสร็จต้องกลับไปอ่านใหม่ซะแล้ว  :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
 :-[ :-[ :3123:


คิดถึง เป้กับวิว เลยเวาะมาเยี่ยม

lew_valen_tom

  • บุคคลทั่วไป
เป้ทะลึ่งอ่ะ... :o8:

แต่คนอ่านก็ชอบ ฮิ้วววววว :impress2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เป้ทะลึ่งอ่ะ... :o8:

แต่คนอ่านก็ชอบ ฮิ้วววววว :impress2:

ไม่ทะลึ่งไม่ใช่เป้ค่ะ ฮิ้ววววว  :laugh: 

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เรื่องของเป้วิว อ๊อฟนะ สนุกมาก ๆ เลยค่ะ
ใช้เวลาอ่านร่วม 2 อาทิตย์
วันนี้อ่านจบแล้ววว

ขอบคุณมากนะคะ~^^

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อื้มมมมมม หวานกันทุกวัน อิอิ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ - ของขวัญวันปีใหม่


"ได้ๆ เอาเป็นว่าหยุดยาวคราวหน้าพี่จะกลับบ้านนะ โดนัทคริสปี้ครีม? โอเค ไว้จะกลับแล้วจะซื้อไปฝากก็แล้วกัน"

ผมวางสายก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ หลังโดนเจ้าน้องชายโทรมาตัดพ้อที่ไม่กลับบ้านช่วงปีใหม่ แต่เพราะว่าผมทำงานธนาคารซึ่งได้หยุดเพียงไม่กี่วัน ก็เลยคิดว่าจะเก็บวันลาไว้กลับช่วงสงกรานต์ทีเดียวดีกว่า

หลังวางสายแล้วผมก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัวออกไปข้างนอก อากาศในกรุงเทพฯ ปลายปีนี้ค่อนข้างหนาวกว่าปีก่อนๆ ก็เลยต้องเลือกใส่เสื้อผ้าเนื้อหนากว่าปกติ หลังหยิบผ้าพันคอไหมพรมที่เป้ซื้อให้จากถนนคนเดินที่เชียงใหม่เมื่อปีก่อนขึ้นมาคล้องคอ ผมก็หยิบของจำเป็นใส่กระเป๋าสะพายแบบพาดบ่าแล้วเดินออกจากห้อง

ปีนี้ก็เป็นปีใหม่ครั้งที่สามแล้วสิที่เราจะได้ฉลองด้วยกัน...

ผมยิ้มบางๆ ขณะเดินไปที่ริมถนนเพื่อเรียกแท็กซี่ หลังจากได้ขึ้นรถแล้วก็มองไปยังแสงอาทิตย์อันริบหรี่ริมขอบฟ้าสีเทาครึ้ม การจราจรในวันสุดท้ายของปีไม่โล่งนักแต่ก็ไม่ถึงกับแย่ หลังมาถึงที่หมายแล้วผมก็จ่ายเงินให้คนขับแท็กซี่ก่อนจะเดินเข้าไปในห้าง

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะที่ผมกำลังจะหยิบมาโทรออกพอดี พอเห็นชื่อคนที่โทรมาก็เลยรีบกดรับสาย

"ไงเป้ อยู่ไหนแล้ว?"

"ยังกินมื้อเย็นกันอยู่เลย วิวออกจากห้องรึยัง?"

"นั่งแท็กซี่ออกมาได้พักใหญ่แล้ว เพิ่งจะถึงเลยเนี่ย"

"อ้าว! งั้นเดี๋ยวเป้รีบออกไปหาดีกว่า วิวรอก่อนนะ"

ผมฟังเสียงคนคุยกันรอบๆ ตัวเป้ที่ดังแทรกมาในสายแล้วก็หัวเราะ "ไม่ต้องรีบหรอกเป้ ไว้กินข้าวกับที่บ้านเสร็จค่อยออกมาก็ได้ เดี๋ยววิวเดินเล่นรอไปเรื่อยๆ ไม่เป็นไรหรอก"

เนื่องจากปีนี้ครอบครัวของเป้ต้องไปกินเลี้ยงรวมญาติกันที่บ้านคุณปู่ พวกเราสองคนก็เลยนัดเจอกันที่ห้างตอนกลางคืนเพื่อจะได้นับถอยหลังวันสิ้นปีด้วยกัน ตอนแรกเป้ก็ชวนผมให้ไปกินข้าวกับที่บ้านด้วย แต่พอได้ยินว่างานนี้จะเป็นการรวมญาติครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ผมก็เลยขอตัวไม่ไปร่วมดีกว่า

เมื่อนัดแนะกันเสร็จแล้วผมก็เดินไปยังแผนกขายหนังสือ จากนั้นก็เลือกดูหนังสือแนะนำบนชั้นวางไปเรื่อย กระทั่งผ่านไปราวชั่วโมงกว่าก็เริ่มอยากหาที่นั่งพัก เลยเดินไปหาร้านกาแฟระหว่างรอให้เป้มาถึง

ผมสั่งชาเขียวปั่นเพราะไม่อยากดื่มกาแฟตอนค่ำ หลังหาเก้าอี้ว่างได้แล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือมากดส่งข้อความบอกเป้ว่านั่งอยู่ที่ไหน ระหว่างรอก็หยิบนิตยสารมาอ่านฆ่าเวลา ภายในร้านมีคนเดินเข้าออกขวักไขว่ไม่หยุด ซึ่งผมเดาว่าคงล้วนแต่มาหาที่นั่งรอก่อนจะถึงเที่ยงคืนเหมือนกัน

หลังอ่านนิตยสารไปได้ราวครึ่งเล่ม ผมก็เหลือบตามองจอมือถือว่ามีข้อความใหม่จากเป้บ้างหรือเปล่า พอไม่เห็นฝ่ายนั้นพิมพ์อะไรมาเลยทั้งที่ผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมเลยหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเพราะชักเบื่อการนั่งรอเฉยๆ

"เป้ ออกมาหรือยัง?"

"อ๋อ มาถึงแล้วก็จอดรถได้สักพักแล้วล่ะ ตอนนี้อยู่ข้างหน้าตรงที่มีคนมาถ่ายรูปไฟคริสต์มาสกันเยอะๆ วิวลงมาได้เลย"

ผมได้ยินแบบนั้นก็เลยหยิบแก้วชาเขียวที่กินหมดแล้วไปทิ้งถังขยะ จากนั้นก็เดินลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่าง ด้านหน้าห้างมีลานเบียร์ซึ่งแต่ละซุ้มก็ล้วนมีนักร้องมาเล่นคอนเสิร์ตกันเสียงดังกระหึ่ม ผมเดินเลาะบริเวณทางเดินไปยังส่วนที่ประดับตกแต่งด้วยไฟหลากสีและตุ๊กตาสำหรับถ่ายรูป แต่เนื่องจากมีคนมาเดินถ่ายรูปตรงนี้กันเยอะมาก ผมซึ่งมองไม่เห็นว่าเป้อยู่ไหนก็เลยโทรหาอีกครั้ง

"เป้ นี่อยู่ข้างล่างแล้วนะ เป้อยู่ไหนน่ะ?"

"อ๋อ วิวเดินมาตรงข้างๆ ต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ได้เลย เป้อยู่แถวๆ นั้นแหละ"

"เดี๋ยวนะ"

ผมไม่ได้กดวางสายและเดินไปยังต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่เป้บอก แต่เดินวนรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นร่างสูงที่คุ้นตาเลยกรอกเสียงถาม

"ไม่เห็นเลยเป้ อยู่ตรงไหนของต้นคริสต์มาสน่ะ?"

"พอดีคนเบียดถ่ายรูปกันเยอะก็เลยเดินหลบออกมาน่ะ วิวเห็นเพนกวินตัวสีน้ำเงินใส่หมวกสีขาวมั้ย? เดินมาตรงข้างหลังเพนกวินตัวนั้นก็แล้วกันนะ"

ผมฟังแล้วก็มองหาเพนกวินตัวที่ว่า เนื่องจากบริเวณนี้มีเพนกวินตั้งอยู่หลายตัวเหลือเกินแถมคนก็มายืนถ่ายรูปกันแน่นขนัด ยังดีที่เพนกวินที่สวมหมวกสีขาวมีตัวเดียว ผมเลยพยายามเบียดผู้คนไปทางด้านหลังเพนกวินตัวนั้น

"อยู่ไหนล่ะเป้ นี่ยืนอยู่หลังเพนกวินที่ว่าแล้ว ไม่เห็นจะเห็นเป้เลย"

เสียงผมเริ่มมีอารมณ์นิดหน่อยเพราะเบื่อการเล่นซ่อนแอบแล้ว ดูเหมือนเป้ก็จะรู้ตัวเหมือนกันเลยหัวเราะเบาๆ

"รอตรงนั้นแหละ เดี๋ยวเป้เดินไปหา"

พูดจบแล้วพ่อตัวดีก็วางสาย ผมเลยได้แต่เงยหน้าขึ้นแล้วพยายามมองไปรอบๆ เพราะถึงจะมีคนมาถ่ายรูปกันเยอะแค่ไหน แต่ส่วนสูงของหมอนั่นก็น่าจะโผล่เลยหัวคนอื่นมาให้ผมสังเกตเห็นได้บ้างล่ะน่า

"พี่คะ เอ่อ..."

เสียงเล็กๆ จากใกล้ตัวดึงให้ผมหันไปมอง แล้วก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่น่าจะอยู่ ม.ปลายหรืออย่างมากสุดก็มหาวิทยาลัยปีต้นๆ ถือกุหลาบช่อหนึ่งมายื่นให้ ผมจึงยิ้มบางๆ แล้วโบกมือปฏิเสธ

"ไม่เอาครับน้อง ขอบคุณครับ"

"เปล่าค่ะพี่ หนูไม่ได้ขาย พอดีมีพี่ผู้ชายบอกให้หนูเอากุหลาบช่อนี้มาให้ค่ะ"

ผมเลิกคิ้วขณะรับกุหลาบช่อนั้นมาอย่างงงๆ ตรงด้านล่างของช่อมีกระดาษโน้ตพับสอดไว้ในริบบิ้น พอผมหยิบออกมาคลี่อ่านก็เห็นข้อความสั้นๆ ที่เขียนด้วยลายมือคุ้นตา

'Look at the X'mas tree'

ผมหันมองไปทางต้นคริสต์มาส พลันก็เห็นลูกโป่งสีขาวลูกหนึ่งลอยขึ้นไปบนฟ้า ถึงแม้ลมจะแรงจนพัดลูกโป่งนั้นลอยไปไกลในเวลาอันสั้น แต่ก็ทันเห็นตัวอักษร P&V ที่เขียนด้วยเมจิกเส้นหนาบนลูกโป่งก่อนที่มันจะลอยจากไปได้ถนัดตา

ขณะที่ยังไม่หายงงว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เด็กสาวคนเมื่อกี้ก็เดินหายไปเสียแล้ว ผมเหลือบตาลงมองช่อกุหลาบในมืออีกครั้ง แล้วก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านข้าง

"สนใจไปเค้าท์ดาวน์ที่ห้องผมคืนนี้มั้ยครับ?"

ผมเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าอันคุ้นเคยซึ่งก้มลงมาใกล้ นัยน์ตาของคนพูดพราวเป็นประกายอย่างที่น่าโดนดีดกกหูเป็นที่สุด ด้วยความหมั่นไส้ผมก็เลยแกล้งทำสีหน้าครุ่นคิด

"ไม่รู้สิครับ ผมคงต้องไปถามแฟนก่อน"

"แฟนขี้หึงเหรอครับ?"

หึ...กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้องแล้วยังจะถาม

"เท่าที่ผมรู้...ก็ขี้หึงพอๆ กับที่ชอบทำให้คนอื่นเขาหมั่นไส้น่ะครับ"

เป้หัวเราะแล้วก็จับมือผมที่กำลังถือช่อกุหลาบให้ตั้งขึ้นบังหน้า จากนั้นก็ก้มลงมาแนบริมฝีปากกับผมเร็วๆ ก่อนจะลดมือลงเหมือนไม่เกิดเรื่องอะไร ทิ้งให้ผมทำหน้าเหวอเพราะนึกไม่ถึงว่าหมอนี่จะกล้าทำแบบนี้กลางที่สาธารณะ

"ไม่หึงก็แย่สิครับ แฟนน่ารักซะจนแค่เห็นก็มันเขี้ยวแล้วนี่นา"

"ไอ้บ้า ตกลงจะเอาไงเนี่ย? ไหนคืนนี้ชวนให้ออกมาเพราะกะจะเค้าท์ดาวน์กันที่นี่ไง"

ผมท้วงทั้งที่รู้สึกว่าผิวหน้าร้อนผ่าว ฝ่ายเจ้าเด็กโข่งมองไปรอบๆ แล้วก็ย่นจมูก "ตอนแรกก็ตั้งใจแบบนั้นหรอก แต่พอเห็นคนเยอะๆ แล้วก็ชักอยากกลับไปเค้าท์ดาวน์กันที่ห้องมากกว่า"

จริงอย่างที่เป้ว่า เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ฉลองวันสิ้นปีที่ผู้คนนิยมมารวมตัวกัน นอกจากนั้นก็ยังมีคอนเสิร์ตเสียงดังอีกด้วย ความจริงแล้วผมก็คงไม่นึกอยากมาถ้าไม่ใช่เพราะเป้ชวนตั้งแต่แรก พอได้ยินว่าอีกฝ่ายอยากกลับไปฉลองที่ห้องก็เลยคล้อยตามไม่ยากนัก

"ก็ดีเหมือนกัน ถ้างั้นเรากลับกันเลยเถอะ วิวมาเดินเล่นตั้งแต่หัวค่ำจนชักเมื่อยแล้ว"

พวกเราเดินกลับเข้าไปในลานจอดรถของห้างแล้วก็ขับรถกลับคอนโด พอถึงห้องแล้วก็ช่วยกันทำอาหารง่ายๆ อย่างสลัดแฮมกับไส้กรอกทอดมานั่งกินแกล้มไวน์ในห้องนั่งเล่น ครู่หนึ่งเป้ก็เอนหัวมาพิงไหล่ผมระหว่างดูข่าวการฉลองปีใหม่ของประเทศที่ก้าวผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว

"ความจริงฉลองกันแค่สองคนก็ดีนะ ปีหน้าก็ทำแบบนี้อีกดีกว่า"

คนพูดบีบกระชับมือของพวกเราที่กุมกันไว้ ผมเลยพยักหน้าแล้วก็จิ้มไส้กรอกทอดป้อนให้ จากนั้นก็หยิบแก้วไวน์ส่งให้เป้ดื่มล้างปาก

"แล้วนึกยังไงถึงให้น้องเขาเอาดอกกุหลาบมาให้เนี่ย?"

ผมถามพลางบุ้ยคางไปทางช่อกุหลาบที่ตอนนี้เสียบอยู่ในแจกัน เป้เลยชำเลืองตามามองผมยิ้มๆ

"เซอร์ไพรส์ไง จะเค้าท์ดาวปีใหม่ครั้งที่สามด้วยกันก็น่าจะมีอะไรพิเศษบ้างใช่ไหมล่ะ?"

ผมหัวเราะเมื่อได้ฟังคำตอบ เรื่องช่างคิดต้องยกให้พ่อเจ้าประคุณเขาล่ะ ไม่ว่าจะกุหลาบเอย ลูกโป่งเอย ความจริงแล้วผมไม่เคยมองหาเรื่องเซอร์ไพรส์ตราบใดที่เราได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่ในเมื่อขานี้เขาชอบทำก็เลยไม่อยากขัด ขอแค่อย่าให้มันเว่อร์จนรับไม่ได้ก็พอ

"ว่าแต่อีกเดี๋ยวก็จะเที่ยงคืนแล้วนะเนี่ย"

"อืม อีกครึ่งชั่วโมงเอง เร็วเหมือนกันแฮะ"

ผมเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังพลางพึมพำตอบ ยังไม่ทันได้นึกถึงว่าปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เป้ก็ลุกขึ้นจากท่าที่นั่งพิงไหล่แล้วโน้มตัวมาคร่อมจนผมกะพริบตามองด้วยความงง

"มีอะไรเหรอเป้?"

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์อันคุ้นตาปรากฏขึ้นให้เห็น ก่อนที่เป้จะลุกจากโซฟาแล้วช้อนตัวผมขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน พอเห็นว่าอีกฝ่ายพาเดินไปห้องนอนก็เลยหันไปเลิกคิ้วถาม

"เดี๋ยวสิ ไหนว่าคืนนี้จะเค้าท์ดาวน์กันไม่ใช่เหรอ?"

"นี่แหละเค้าท์ดาวน์ เพราะนี่จะเท่ากับเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้เลยนะ จะพลาดโอกาสส่งท้ายปีเก่าแล้วเริ่มฉลองวันขึ้นปีใหม่ได้ยังไง"

ผมฟังแล้วก็ได้แต่ทุบไหล่คนพูด จะมีใครเขาเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ในวันพิเศษที่สามร้อยหกสิบห้าวันถึงจะเวียนมาสักรอบแบบหมอนี่มั่งไหมเนี่ย!? แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทักท้วงเมื่อเป้โน้มตัวลงมาจูบทันทีที่วางผมลงบนเตียง ความหนาวของไอเย็นในห้องค่อยๆ หายไปเมื่อร่างกายของเราถ่ายทอดอุณหภูมิให้กันและกัน และเสียงหอบของพวกเราแทบจะกลบเสียงนับถอยหลังของรายการโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่นจนมิด

ราวหนึ่งชั่วโมงผ่านไปกว่าผมจะได้รวบรวมลมหายใจอีกครั้ง พอร่างกายของเป้ผละไปก็ทำให้ผมรู้สึกหนาวจนต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมไหล่ สัมผัสจากปลายนิ้วที่เสยผมบนหน้าผากทำให้ผมปรือตาขึ้นมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ บนใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มประดับอยู่ แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ชวนให้หมั่นไส้เหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว

"แฮปปี้นิวเยียร์"

ผมยิ้มพลางดึงมือของเป้ข้างที่สวมแหวนของพวกเราขึ้นมาจูบ ถึงแม้เมื่อครู่จะบ่นกระปอดกระแปดไปบ้าง แต่ผมก็ตระหนักดีว่าการที่เราคบกันมาจนถึงปีนี้นั้นนับเป็นสิ่งพิเศษแค่ไหน

"พรุ่งนี้พ่อกับแม่เป้อยู่บ้านรึเปล่า? วิวอยากซื้อกระเช้าไปสวัสดีปีใหม่ ไหนๆ ก็ไม่ได้กลับบ้านตัวเองแล้ว"

"เอาสิ พ่อกับแม่ก็บอกเหมือนกันว่าถ้าว่างก็แวะไปกินข้าวที่บ้านก็ได้"

พวกเราคุยกันเรื่องกิจกรรมที่จะทำวันรุ่งขึ้นต่ออีกนิดหน่อยผมก็เริ่มง่วง แต่แล้วตาที่เกือบจะปิดก็ลืมขึ้นอีกครั้งเมื่อมือใหญ่เลื้อยใต้ผ้าห่มเข้ามาลูบแผ่นหลัง หมอนี่เป็นพวกที่พอเครื่องติดแล้วจะไม่ค่อยหยุดง่ายๆ เสียด้วยสิ

"เค้าท์ดาวน์ไปแล้วไงเป้ ยังไม่พออีกเหรอ? วิวง่วงแล้วนะ"

ผมแกล้งทำเสียงดุใส่ แต่เป้กลับยิ้มแล้วก็ก้มลงมาหอมแก้ม "งั้นวิวนอนเฉยๆ ก็ได้ เดี๋ยวเป้จัดการให้เอง ถือเป็นสเปเชี่ยลเซอร์วิสช่วงปีใหม่"

"ไอ้บ้า!"

ผมหัวเราะพลางหยิบหมอนขึ้นมาตีพ่อคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ แต่แล้วเสียงหัวเราะก็เปลี่ยนเป็นเสียงอื่นเมื่อเราเล่นยื้อหมอนกันแล้วเป้ชนะ และผมก็พบว่าตนถูกร่างสูงใหญ่เข้าทาบทับอย่างถือสิทธิ์อีกครั้ง

จำนวนปีที่พวกเราคบกันอาจดูเหมือนน้อยในสายตาคนอื่น แต่ผมก็รู้ดีว่าแต่ละวันที่ผมกับเป้ได้อยู่ด้วยกันล้วนมีความหมาย มันเป็นสิ่งที่แม้เวลาจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรก็ไม่อาจลดทอนความผูกพันที่เรามีให้กันได้เลย

ปีเก่าผ่านพ้นไปแล้ว และปีใหม่ที่กำลังผ่านเข้ามาก็จะเป็นอีกปีที่เราสองคนจะใช้ทุกวันร่วมกันอย่างมีคุณค่า ผมไม่เคยสงสัยเรื่องนี้ในทุกครั้งที่ได้รับการสัมผัส ได้จูบ และได้อยู่ในอ้อมแขนของเป้

สำหรับผม...ปีใหม่จะสวยงามที่สุดก็ต่อเมื่อมีพ่อคุณชายจอมเจ้าเล่ห์คนนี้อยู่ใกล้ๆ และเพียงเท่านั้นก็เป็นของขวัญที่มีความหมายมากพอที่จะทำให้ผมไม่ต้องการอะไรอื่นอีกแล้ว


++---End---++



A/N: กว่าจะเขียนตอนพิเศษนี้ออกมาได้ ยอมรับว่าเกือบหมดมุกแน่ะค่ะเพราะเคยเขียนตอนปีใหม่ให้เป้กับวิวไปสองครั้งแล้ว แต่เห็นมีคนถามถึงคู่นี้บ่อยๆ + อยากเขียนอะไรเลี่ยนๆ บ้างหลังจากช่วงนี้เจอแต่ความซึนขั้นเทพของกฤตภาสในเล่ห์ลวงใจ (แต่แปลกที่คนเขียนกลับหมั่นไส้ตากฤตน้อยกว่าคุณชายเป้ 555) ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงหยุดยาวแบบนี้จะคนอ่านเยอะไหมหนอ ยังไงก็ขอสวัสดีปีใหม่ทุกคน มีความสุขกันมากๆ นะคะ

 :mew1:  :mew1:  :mew1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณจ้า
แต่เราชอบเป้  มากกว่าอีตากฤตนะ อิอิ

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
 :laugh: เป้นายนิได้ฉลองปีใหม่ตลอดๆเลยนะ
แต่คนอ่านก็ชอบ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
อิจฉาคู่รักหวานเลี่ยนคู่นี้จริง ๆ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ ขอให้คนแต่งมีความสุข หัวสมองแล่นปื๊ด ปร๊าด คิดโปรเจคนิยายมาให้ได้อ่านกันเรื่อยนะค่ะ
รวย ๆ นิยายขายดีทุกเรื่อง

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ตราบใดที่เขายังอยากฉลองกับเราไม่ว่าเทศกาลไหน ๆ แม้ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม
นั่นก็หมายความว่าความรักความผูกพันที่มีอยู่ไม่ได้จืดจางลงไป ดีใจกับเป้และวิว
ขอบคุณคนเขียนนะจ๊ะ และสวัสดีปีใหม่(ล่วงหน้า)ด้วยจ้า

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
น่ารัก น่ารัก อ่านแล้วมีความสุขเช่นเคย
 :mc4:  สวัสดีปีใหม่ 2014   
มีความสุขมากๆ เช่นเดียวกันนะคุณริน  :L2: :L2:
+1

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
คู่นี้หวานข้ามปีนะ อิอิ :-[

dog

  • บุคคลทั่วไป
โคตรจะคิดถึงคู่นี้เลย
ต้องเอาฉบับนิยายทั้ง 2 เล่มมาปัดฝุ่นอ่านแก้อาการคิดถึงอยู่เรื่อย
ถ้ายังไม่หมดมุขก็เข็นออกมาเรื่อยๆเลยนะคะ เราชอบ อิอิ
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
เพิ่งอ่านเรื่องแรกจบไป น่ารักมากค่า

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
น่ารักมากเลยค่าาา
ขอบคุณมากนะคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ^^

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
รักเรื่องนี้มากอ่ะ  คนแต่งไม่เคยลืมคนอ่าน เลย มีตอนพิเศษ ออกมา ตลอด  จะติดตามเรื่องนี้ ตลอด ไปค่ะ

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
น่ารักมากที่สุด เป้วิว
เพราะเราคู่กัน แม้ปีจะเพิ่มขึ้น แต่ความหวานไม่เคยลดลงเลยนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด