> Jewelry Design < #อัญมณีที่รัก Epilogue – My Jewelry [END ]P.13 15/10/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: > Jewelry Design < #อัญมณีที่รัก Epilogue – My Jewelry [END ]P.13 15/10/19  (อ่าน 94573 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หุหุหุ ฟาดฟันกันอีกหลาย ๆ ตอนเลยค่ะ อยากเห็นคนเป็นบ้า เชียร์พี่ทิมอยู่แล้ว

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่ทิมระวัง

นัยพอร์ชคิดไม่ซื่อ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai2-1: คนพี่มาเหนือจริงๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มีคนเสียอาการ 5555555555555

ออฟไลน์ RIBBINBO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-2
Jewelry Design
#อัญมณีที่รัก


ผมออกแบบแหวนแต่งงานให้คนอื่นมามากมาย
คงมีแค่คนเดียวที่ผมจะไม่ได้ออกแบบแหวนแต่งงานให้
คนๆ นั้นก็คือตัวผมเอง…
- นพจินดา วรโชติเมธี –

- CH.3 Emerald –
มรกต



“ลูกค้าหรือศัตรูวะ”

“อย่ารักในรอยแค้นก็พอ”

“มีคนเห็นหน้าไอ้ทิมแล้วยังไม่ยอมแพ้ถือว่าแข็งแกร่งพอสมควร”

“ถ้ามันจีบทับทิมของเรา รามิลมึงต้องเตรียมตัวเลยนะ”

“ต้องถึงมือกูเลยเหรอวะพวกมึงฝีมือตกหรือไงแค่ไอ้คินคนเดียวก็พอแล้ว”

“ไอ้พอร์ชนี่ดูอันตรายกว่าที่คิดเสนอหน้ามานั่งร่วมโต๊ะกับเราได้ขนาดนี้ นี่กูจะเริ่มวางแผนรับมือตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

“พวกมึงสามคนช่วยทำตัวปกติกันหน่อยได้ไหมไม่งั้นกูจะบอกให้ไม้กับคีย์จัดการพวกมึงนะ”

เพียงแค่ประโยคเดียวจากทิม  สามคนที่กำลังสุมหัวกันอยู่เขยิบตัวออกจากกันทันที ก่อนจะแกล้งทำเป็นกระแอมแก้เก้อ เมื่อแขกทั้งสามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองเขาทั้งสามคนแล้วยิ้มออกมา คนแรกคือคนที่พวกเขาคุ้นหน้ากันอยู่แล้ว พอร์ช พชร.. ซึ่งพักนี้เห็นหน้ามันบ่อยเหลือเกิน ยังกะสมาชิกแก๊งลูกเพื่อนแม่คนที่ห้า

ส่วนคนที่สองคือ เพื่อนของพอร์ชชื่อ มีน หน้าตาก็ดูหล่อดีเป็นสถาปนิกเหมือนกัน ส่วนคนสุดท้าย...

“เพิ่งเคยได้เจอคุณเบนจามินใกล้ๆ แพรเคยเห็นแต่ในงานไกลๆ”

คุณแพรวา..ใครก็ไม่รู้สถาปนิกชื่อดังแนะนำว่าคือลูกค้า  แต่ท่าทางลูกค้าคนสวยคงไม่ได้อยากเป็นแค่ลูกค้าเพราะมือนี่แทบจะกอดแขนพอร์ชที่นั่งอยู่ข้างๆ  เพราะในช่วงเวลากลางวันร้านอาหารที่รายล้อมไปด้วยตึกออฟฟิศทำให้ที่นั่งในร้านไม่พอ  แก๊งลูกเพื่อนแม่ทั้งสี่คนบวกด้วยเพื่อนสะใภ้อันดับหนึ่งและสอง ต้นไม้และคีตา บังเอิญเหลือบไปเห็นคนสามคนที่ยืนรอพนักงานหาโต๊ะให้อยู่หน้าร้าน ทิมเลยเป็นฝ่ายทักขึ้นมาว่า

“นั่งด้วยกันไหมครับ”

และนั่นก็ทำให้โต๊ะเรากลายเป็นโต๊ะใหญ่กลางร้านและดูจะเป็นที่น่าสนใจของทุกคนมากทีเดียว
คีตา นันทสกุล มีคนรู้จักเป็นเรื่องปกติและไอ้เบนแยกเขี้ยวใส่ผู้ชายทุกคนคนที่เข้ามาขอถ่ายรูปคีตาแบบใกล้ชิด

“คุณแพรจะเปิดร้านเสื้อผ้าเหรอครับ”

“ค่ะ ทำเป็นโฮมออฟฟิศด้วยพอร์ชเก่งมากเลยค่ะ ออฟฟิศแพรสวยปิ๊งเหมือนที่คิดไว้”

“อย่างนี้ได้ออกแบบบ้านตัวเองด้วยหรือเปล่าครับคุณพอร์ช”

“ครับ บ้านหลังที่อยู่ตอนนี้ผมก็ออกแบบเอง มันเป็นสไตล์แบบที่ผมชอบแต่คนอื่นจะบอกว่าแปลกๆ หน่อย”

“แล้วคนที่อยู่ด้วยล่ะครับ”

“คุณคินหมายถึง...แฟน ? ภรรยา?”

พอร์ชเพียงแค่ยิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ คุณทิมนั่งเท้าคางมองเขาอยู่ตอนนี้และดูเหมือนคนทั้งโต๊ะจะรอฟังคำตอบของเขาเพราะทุกสายตามองมาที่เขาคนเดียว พอร์ชหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบอก

“ยังไม่มีหรอกครับ”

“จริงเหรอครับ”

ว่าแล้ว..คุณทิมจะต้องไม่เชื่อแต่จะให้เชื่อง่ายๆ ก็คงไม่ได้เพราะตอนที่เจอกันครั้งแรกก็เจอช็อตเด็ดที่ผับ ครั้งต่อมาและครั้งไหนๆ ก็เจอเขาอยู่กับผู้หญิงตลอดเวลา  อยากจะอธิบายให้ฟังว่าทั้งหมดนั่นไม่รวมที่ผับเป็นลูกค้าของเขา แต่ก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย จะทำอะไรได้ในเมื่อเชื่ออย่างนั้นไปแล้ว

“คุณทิมไม่เชื่อผมเหรอครับ”

“แค่คิดว่าอย่างคุณพอร์ชไม่น่าจะโสด”

“ทำไมล่ะครับ”

“เห็นคุณพอร์ชบอกว่าอยากให้ผมออกแบบแหวนแต่งงานให้นึกว่ามีคู่หมั้นอยู่แล้ว”

“มันก็..เป็นเรื่องของอนาคตครับอะไรๆ ก็ไม่แน่นอนอย่างเช่น..”

“เช่น?”

“คนออกแบบแหวนอาจจะได้ใส่เอง”


ปึก!


ปัก!


โครม!

ทันทีที่จบประโยคนั้นแก๊งลูกเพื่อนแม่ทั้งสามคนก็โยนส้อมในมือ กระแทกแก้ว ตบโต๊ะ พอร์ชหันไปมองคุณรามิลกำลังโดนคุณต้นไม้ดุเรื่องที่โยนส้อมใส่จาน มีหันมาจ้องเขาเขม็งแต่พอโดนคุณไม้ตีแขนก็ทำท่าหงอย ส่วนคุณเบนจามินกำลังนั่งกอดอกทำท่าอยากต่อยเขาเต็มทนคุณคีตาที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องยกมือขึ้นมาพัดๆ ให้ และแน่นอนว่าคนสุดท้ายคือคุณคินที่เดาไว้ว่าไม่มีแฟนมาคุมเลยมองเขานิ่งๆ แต่เหมือนมีประโยคขึ้นมาบนศีรษะว่า

เดี๋ยวมึงเจอ...

นี่รู้สึกเหมือนอยู่ในหนังมาเฟียจริงๆ เถอะให้ตาย


เป็นมื้อกลางวันที่ตื่นเต้นมากไม่เคยเจอกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันขนาดนี้มาก่อน แก๊งลูกเพื่อนแม่ทะเลาะกันแทบทุกประโยค มีเถียงกับเพื่อนแล้วก็หันไปตักอาหารให้แฟนหลากหลายอารมณ์จนตามไม่ทัน แต่ที่พอร์ชสังเกตคือคุณทิมไม่ค่อยกินข้าวเท่าไหร่ถึงแม้ในจานจะมีกับข้าวที่คุณมิล คุณเบน คุณคิน ตักใส่จานจนล้นแต่ก็ยังกินไม่หมด แต่สิ่งที่กินหมดและขอสั่งเพิ่มคือขนมหวานพานาคอตต้าสองสามถ้วยวางอยู่บนโต๊ะ 

กินขนมเก่งจริงๆ


“ขอบคุณนะครับที่ให้ร่วมโต๊ะ ไม่งั้นผมคงไม่ได้ทานข้าวกลางวันแน่ๆ ”

“ไม่เป็นไรครับเรื่องเล็กน้อย หวังว่าต่อจากนี้เราคงได้เจอกันบ่อยๆ นะครับคุณพอร์ช”

ไม่รู้ว่ามันเป็นประโยคแบบไหนแต่ที่แน่ๆ ไม่น่าจะใช่ในทางที่ดีเหมือนประโยคขู่ให้กลัวซะมากกว่า  ถึงแม้ใบหน้าของคุณคินจะยิ้มอยู่ก็ตามเถอะ แก๊งลูกเพื่อนแม่แยกย้ายกันไปแล้ว เพิ่งรู้ว่าแฟนคุณมิลเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ SECRET GARDEN ตอนที่คุณไม้ยื่นนามบัตรมาให้คุณมิลนี่มองตาขวาง ส่วนคุณเบนพอบอกว่าเป็นแฟนคลับของคุณคีตาก็โดนจ้องแล้วจ้องอีก

ขี้หวงกันทั้งแก๊ง

“พอร์ชรอแพรแป๊บเดียวนะคะแพรไปเข้าห้องน้ำก่อน”

“เดี๋ยวครับคุณแพร”

งานเสร็จหมดแล้วแบบก็คุยกันเรียบร้อยแล้วข้าวก็กินแล้วด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะต้องอยู่กับคุณแพรต่อทำไมกัน ไอ้มีนยืนหัวเราะก่อนจะขอตัวไปซื้ออาหารให้หมา เออ..ทิ้งกันไปให้หมด

“คุณพอร์ชไปเดทต่อเหรอครับ”

“เดทกับใครล่ะครับ”

“ลูกค้าสาวสวยของคุณไง”

“คุณทิม..อย่าเพิ่งไป”

พอร์ชเหลือบมองคุณแพรที่กำลังเดินกลับมาหา ทิมเลยหันไปมองก็พอรู้สถานการณ์อยู่บ้างเขาเจอเหตุการณ์แบบนี้จนชินแล้วอย่างน้อยแก๊งลูกเพื่อนแม่ก็เจอจนนับไม่ถ้วยก่อนจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไอ้โดนลูกค้าจีบเนี่ยเรื่องปกติ เขาเองก็เหมือนกัน

“แค่นี้ก็จัดการไม่ได้เหรอครับ”

“ปากท้องก็สำคัญนะคุณ นั่นลูกค้ายกเลิกสัญญาขึ้นมาผมอดตายเลยนะไม่มีเงินซื้อข้าวกิน”

“นี่ผมเป็นคนที่ทำธุรกิจกับคุณ เป็นคู่แข่งและยังต้องเป็นคนช่วยกันผู้หญิงไม่ให้เข้าใกล้อีกเหรอ”

“นับหนึ่งถึงสิบคุณแพรกำลังจะเดินมาถึงแล้วนะ”

ทิมยิ้มนิดๆ ก่อนจะหันไปมองคุณแพรที่กำลังเดินเข้ามาหา ทิมเลยเขยิบเข้ามาใกล้พอร์ชที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใกล้ซะจนพอร์ชเองเลือกที่จะเงียบ ถ้ามองไกลๆ ก็เหมือนคู่รักที่ยืนหยอกล้อกันอยู่ ทิมเห็นว่าคุณแพรที่กำลังเดินเข้ามาหาหยุดชะงักไปเหมือนกัน ทิมเงยหน้ามองพอร์ชที่ก้มหน้าลงมาหามือที่ตกข้างลำตัวเฉียดกันไปมาก่อนที่นิ้วก้อยจะเกี่ยวกันไว้หลวมๆ

“รู้หรือเปล่าว่าใช้วิธีนี้มันเด็กมาก”

“จริงๆ ผมก็ยังเด็กกว่าคุณทิมนะเมื่อวันก่อนคุณยังเรียกผมว่าน้องพอร์ชอยู่เลย”

“อยากให้เรียกอีกเหรอครับ”

“ไม่อยากให้ผมเรียกพี่ทิมบ้างเหรอครับ แต่ก็ไม่โอเคเท่าไหร่ผมไม่อยากดูเด็กในสายตาคุณ”

“ตอนนี้คุณก็ดูเด็กมาก”

“ผมจะงอแงมากกว่านี้เพราะผมไม่อยากไปไหนกับคุณแพรต่อ..อย่าเพิ่งปล่อยครับ”

นิ้วก้อยที่กำลังจะผละออกโดนเกี่ยวเอาไว้อีกรอบท่าทางเหมือนลูกหมาแต่ตัวโตทำหน้าอ้อนๆ ทำให้ทิมหลุดหัวเราะออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่พอร์ชเห็นมันเหมือนครั้งที่สนามยิงปืน  และมันก็ทำให้เขาเองยิ้มออกมาเหมือนกันต่างคนต่างยิ้มอยู่อย่างนั้น เมื่อคุณแพรเดินมาถึง ท่าทางของทั้งคู่ทำให้ลูกค้าสาวสวยได้แต่ยืนขมวดคิ้ว สายตามองไปยังนิ้วที่เกี่ยวกันอยู่และก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย แพรวาเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะเอ่ยขอตัวกลับ

“ก็ไม่เห็นยากนี่”

“เดี๋ยวคุณแพรก็มาใหม่ผมปฏิเสธไปรอบที่ร้อยแล้ว”

“คุณพอร์ชไม่เด็ดขาดเองช่วยไม่ได้นะ”

“ร้านคุณแพรใกล้เสร็จแล้วครับ ถ้าเสร็จงานแล้วก็คงปฏิเสธจริงจังสักที”

“ผมคงช่วยแค่ครั้งเดียวไม่ได้มีน้ำใจขนาดนั้นไม่ชอบมีเรื่องกับใครถ้าไม่จำเป็นมันน่าปวดหัว ผมคงต้องไปแล้ว”

“วันนี้คุณทิมยิ้มบ่อย”

“ไม่ดีเหรอครับ”

“หมายถึงยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มธุรกิจหรือยิ้มเวลาวางแผนแกล้งใครอยู่”

“รู้สึกเหมือนโดนด่า”

“หมายถึงยิ้มแล้วน่ารัก”

พอร์ชพูดออกไปตามที่คิดโดยที่ไม่รู้ตัว ทิมเงียบลงเมื่อได้ยินประโยคนั้นชัดๆ ไอ้คนพูดเหมือนเพิ่งรู้ตัวเลยยกมือลูบต้นคอไปมาคล้ายกับว่าทำอะไรไม่ถูก ทิมบอกอีกครั้งว่าต้องไปแล้วแต่ก่อนที่จะผละออกไปเลยเอียงตัวเข้ามาหาพร้อมกับมือที่ตบลงบนอกกว้างของพอร์ชเบาๆ 

“หน้าแดงนะเรา”

ก็ยังแสบอยู่เหมือนเดิม
นพจินดา


“สถาปนิกชื่อดังไฮโซร้อยล้านปฏิเสธลูกค้าสาวสวยเพราะกำลังกิ๊กกั๊กกับคุณชายแห่งวงการจิวเวลรี่”

“อะไรของมึงวะ”

“กอซซิบกระซิบ”

มีนเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นยอมรับว่าเห็นครั้งแรกนี่ใจตกไปถึงตาตุ่มโคตรตกใจ  เพื่อนเขากับคุณนพจินดายืนใกล้กันแทบจะจูบกันอยู่แล้ว แต่พอยืนมองอยู่นานก็เริ่มรู้แล้วว่าทั้งเพื่อนเขาและคุณนพจินดากำลังทำอะไรกันอยู่ ก็พอดูออก..ก็แค่แสดงให้คุณแพรหนีกระเจิงแล้วดูเลือกแผนอย่างกับละครแต่มันก็ได้ผลแปลกแต่จริง....

“ถ้าเพื่อนคุณนพจินดามาเห็นภาพเมื่อกี้มึงโดนกระทืบตายแน่พอร์ช แค่ในร้านอาหารที่มึงแกล้งหยอดกูยังนึกว่าจาน ชาม ช้อน ส้อมจะเขวี้ยงใส่หัวมึงแล้ว”

“เออ เพื่อนหวงฉิบหายถ้ากูหายเกินห้าชั่วโมงมึงสงสัยแก๊งลูกเพื่อนแม่นี่ก่อนเลยนะ”

“เขาก็ดูไม่ธรรมดามึงก็ร้ายใช่ย่อยแต่..”

“แต่?”

“เมื่อกี้กูรู้ว่าต่างคนต่างแสดงไม่ใช่เรื่องจริงแต่มีแค่แวบหนึ่งที่กูคิดว่าไม่ใช่...”

“ตอนไหน”

“ตอนที่คุณนพจินดายิ้ม มึงมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้ม ตอนนั้น...กูยังคิดเลยมึงแม่งยิ้มแบบนี้ก็เป็น แบบที่เอ็นดูใครสักคน แบบเขาน่ารักเลยต้องยิ้มออกมาความสัมพันธ์มึงกับเขานี่อะไรวะ”

“เล่นเกมกันอยู่”

มีนได้ยินคำตอบเพื่อนก่อนจะหัวเราะออกมา ก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังทำอะไรแต่ก็ไม่เบากันทั้งคู่ต่างคนต่างไม่ยอมขิงก็ราข่าก็แรง แต่ที่เขาเห็นเมื่อกี้เพื่อนเขาเองน่าจะเสียคะแนนไปหลายแต้มอยู่เหมือนกัน

“ถามจริงชนะเขาสักครั้งยังคุณพชร”

สัด..ตอบไม่ถูกเลยว่ะ


Jewelry Design


“ทิม พี่ต่ายโทรมาตามแบบสร้อยข้อมือกับตุ้มหูเจริญกิจธารา ทิมแก้แบบเสร็จหรือยังเดี๋ยวจะทำไม่ทันนะ” 

พลอยลองเคาะประตูเรียกน้องชายคนเล็กที่วันนี้บอกว่ายกเลิกนัดลูกค้าไปเพราะว่ารู้สึกไม่สบาย พอไม่มีเสียงตอบกลับมาพลอยเลยเปิดประตูเข้าไป  คนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้ขยับไปไหน ท่าทางไข้หวัดจะเล่นงานเข้าให้แล้วจริงๆ

“ทิม ทับทิมไหวหรือเปล่า”

“ปวดหัว”

“นี่รับงานเพิ่มอีกแล้วใช่ไหม พี่บอกแล้วไงปฏิเสธไปบ้างทิมทำหมดนี่ไม่ไหวหรอก”

“เกรงใจเขา เขาบอกทิมไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากให้ออกแบบแหวนแต่งงานให้”

“แล้วก็ป่วยเห็นไหมเนี่ย..เสียงแทบไม่มี  งานของเจริญกิจธาราทิมเป็นยังไงบ้างพี่ต่ายโทรมาตามแล้ว”

“พรุ่งนี้ทันไหมพี่พลอย”

“พี่ต่ายบอกเร็วสุดคืนนี้ ได้ตกลงแบบกับคุณพอร์ชหรือยัง”

ทิมส่ายหน้าไปมาก่อนจะยกมือลูบหน้าตัวเองเบาๆ มันเป็นความผิดของเขาเองที่รับงานเยอะจนทำไม่ทันขนาดนี้  จริงๆ ก็อยากทิ้งความเกรงใจไปบ้างแต่เอาเข้าจริงเวลาลูกค้ามาตื้อเพราะชอบผลงานมันก็ใจอ่อนอีกตามเคย ทิมพยักหน้าตอบรับตั้งใจจะลุกไปอาบน้ำแล้วโทรนัดพอร์ชแต่แค่ลุกขึ้นยืนก็เซจนพลอยร้องลั่น

“เอายังไงดี”

“ทิมไหว”

“ให้คุณพอร์ชมาที่บ้านดีไหม พี่ว่าทิมเดินไม่พ้นห้องเป็นลมแน่ตัวร้อนขนาดนี้”

“เฮ้ย...ให้ลูกค้ามาบ้านได้ไง”

“ต้องได้แล้ว เอาเบอร์คุณพอร์ชมาให้พี่”


บ้านวรโชติเมธีหลังใหญ่ดี  ออกแนวปราสาทกรีกโรมันเสาต้นเบ้อเร่อ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาวิเคราะห์แบบบ้าน..ตอนนี้ต้องตั้งสติก่อนพอร์ชนึกไปถึงตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากคุณพลอยว่าให้มาตกลงเรื่องแบบเครื่องประดับที่บ้านวรโชติเมธีได้ไหม ในใจนี่มีคำถามร้อยแปดอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วคุณทิมไปไหนทำไมถึงเป็นคุณพลอย

“รอตรงนี้ก่อนนะคะ ทิมกำลังลงมาไม่สบายหนัก”

อ้อ..ป่วยนี่เอง

แค่เพียงไม่นานคนที่เขาคุ้นเคยก็เดินลงมาจากบันได  หอบของเต็มสองแขน ทั้งๆ ที่สภาพคนป่วยดูอ่อนเพลียจนเขาสังเกตได้แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคุณทิมในแบบที่ไม่ใช่ชุดทำงานเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงวอล์มสามส่วนยิ่งใส่แบบนี้ตัวเล็กลงไปเยอะ ผมสีน้ำตาลอ่อนไม่ได้เซ็ทเหมือนกันทุกวัน ปล่อยหน้าม้าให้ตกลงมาแต่ที่เขาเห็นแล้วต้องอมยิ้มคือบนหน้าผากขาวๆ มีแผ่นลดไข้แปะอยู่

“ขอโทษด้วยนะครับไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ จะอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วแต่พี่พลอยไม่อนญาต”

“ไม่เป็นไรหรอกครับผมไม่ได้ถืออะไร แล้วแบบสร้อย..”

“ไปทำงานข้างนอกตรงสวนได้ไหมครับ”

“แต่คุณทิมป่วย”

“แค่ไข้หวัดเอง”

“ผมยังไงก็ได้”

สุดท้ายเขาก็เดินมาที่ศาลาที่อยู่ตรงสวนดอกไม้เขาพอเดาได้ว่าคอนเซ็ปต์บ้านของวรโชติเมธีนี่ต้องเกี่ยวกับเทพนิยายแน่ๆ คุณทิมดึงเอาแผ่นลดไข้ที่แปะอยู่ออกก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงาน วันนี้ดูไร้พิษสงเพราะป่วยจนตัวขาวซีด ตากลมๆ ก็มีน้ำตาคลอคงเพราะไข้ที่ขึ้นสูงเสียงก็แหบจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง

“งานเร่งเหรอครับ ที่จริงคุณทิมน่าจะนอนพัก”

“ต้องส่งแบบคืนนี้แล้วครับ”

“ถ้าไม่ไหวบอกผมนะครอบครัวผมไม่โกรธคุณทิมหรอก ถ้างานเสร็จไม่ทัน”

“ไม่เอา มันเป็นงานของผม”

คุณทิมส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่าจะทำให้เสร็จ พอร์ชได้แต่นั่งมองคนที่ยกขาขึ้นมาชันเข่าวางไอแพตแล้วขีดๆ เขียนๆ อยู่แบบนั้น  มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าปิดตาท่าทางรำคาญเต็มทน แต่สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลย ทิมเหลือบตามองคนที่เอาแมคบุ๊คขึ้นมาทำงานบ้างก่อนจะเอ่ยเบาๆ

“ที่จริง..ผมรับงานแหวนแต่งงานมากะทันหัน”

“เรื่องปกติของสายออกแบบผมเองยังรับงานซ้อนจนหัวหมุนไปหมด แต่คุณทิมดูมีดวงกับแหวนแต่งงานนะครับ”

“มันมีความสุข..”

“ความสุข?”

“ทุกคู่ที่มาให้ผมออกแบบแต่งงานให้เขามาด้วยความรัก เวลาที่แหวนสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างเขาจะดีใจกันมากๆ เอ่ยขอบคุณผมไม่หยุด เวลาที่ผมเห็นแหวนที่ผมออกแบบอยู่บนนิ้วของทั้งคู่ ผมมีความสุขมากจริงๆ”

“อย่างนี้ได้ออกแบบแหวนแต่งงานของตัวเองไว้บ้างไหมครับ”

มือที่กำลังทำงานอยู่หยุดชะงัก
ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่คิดว่าจะได้แต่งเลยไม่ได้ออกแบบไว้”

“รู้ได้ยังไงครับ”

“ตัวผม ผมก็ต้องรู้อยู่แล้ว  คุณพอร์ช…อยากได้แหวนแบบไหนคิดไว้เลยนะครับ ถึงตอนนั้นพาว่าที่ภรรยามาด้วยก็ได้ยังไงแหวนแต่งงานก็ต้องออกแบบไว้สองวงอยู่แล้ว”

“ก็หวังว่าจะมีวันนั้นนะครับ”

ทั้งๆ ที่คำพูดอาจจะเป็นแค่ประโยคตอบรับธรรมดาๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมทิมถึงต้องเงยหน้าขึ้นมามอง แววตาของพอร์ชไม่ได้เศร้ามากนักแต่มันก็ไม่ใช่แววตาที่ดูมีความสุขเท่าไหร่

รอใครอยู่เหรอไง?

“ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณ คุณพอร์ชวางแผนชีวิตรักไว้ดีมากนะทั้งเรื่องครอบครัวและบ้าน”

“ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่หรอกครับ บ้านที่ผมอยู่ทุกวันนี้ก็อยากให้ภรรยาผมได้ออกแบบด้วย อยากให้เป็นยังไง แบบไหน ห้องนอนของเรา ห้องทำงานของเขา สวนหน้าบ้าน หรือแม้กระทั่งห้องของลูกๆ ผมอยากให้เขามีส่วนร่วม”
“…………………………………………………………………………..”

“ส่วนเรื่องแหวนแต่งงานผมไม่ได้โกหก ผมนึกภาพตัวเองใส่แหวนแต่งงานให้คนที่ผมรักเป็นฉากๆ เลยบางคนอาจจะคิดว่ามันก็แค่เครื่องประดับแต่สำหรับผมมันคือ ตัวแทนความรัก ผมถึงให้ความสำคัญกับแหวนมาก”

“…………………………………………………………………………..”

“ถ้าถึงคิวของผมแล้ว รบกวนคุณทิมช่วยออกแบบแหวนแต่งงานของผมอย่างสุดฝีมือเลยนะครับ”

“…………………………………………………………………………..”

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าผู้ชายเจ้าเล่ห์อย่างพอร์ช พชร จะจริงจังกับเรื่องความรักขนาดนี้ ทิมเจอเรื่องแบบนี้มาเยอะเพราะต้องออกแบบแหวนแต่งงานเลยต้องฟังเรื่องราวความรักของทุกคู่รัก และมันก็นำมาใช้ในการออกแบบแหวน ทิมไม่ได้ออกแบบตามใจตัวเอง แต่เอาเรื่องราวความรักของคู่รักมาใส่ลงในแหวนแต่งงาน และนั่นคือเหตุผลที่แหวนแต่งงานที่ออกแบบโดย นพจินดา แห่ง Pure Jewelry  แตกต่างจากที่อื่น

และสิ่งที่เขารู้ก็คือ ผู้ชายทุกคนอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
รวมถึงพอร์ช พชร เจริญกิจธารา ผู้ชายที่นั่งอยู่กับเขาตอนนี้ด้วยเช่นกัน

พอร์ชหันมามองเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบอะไร สายตาที่มองเหม่อกับมือที่หมุนเม้าส์ปากกาไปมาเหมือนใช้ความคิด  สายลมอ่อนๆ ที่พัดไปมาทำให้เส้นผมสีน้ำตาลปลิวไปตามลม บางส่วนก็ตกลงมาตรงข้างแก้มแต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่ารู้สึกตัวเลยสักนิด

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พอร์ชเอื้อมมือไปสัมผัสกับเส้นผมสีน้ำตาลลื่นมือก่อนจะค่อยๆ ทัดไว้ตรงหลังใบหู ทิมรู้สึกตัวแล้วหันมาสบตากับคนที่ยังไม่ละมืออกไป ต่างคนต่างเงียบอยู่อย่างนั้น

สายตาที่มองกันอยู่มันไม่ใช่แววตาที่อยากจะเอาชนะเหมือนทุกครั้ง
และสัมผัสตรงข้ามแก้มมันอุ่นจนทิมเองไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน…

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนรู้สึกตัว  พอร์ชชักมือกลับมาหยิบโทรศัพท์ก่อนจะบอกเบาๆ ว่าขอไปรับโทรศัพท์ก่อน ทิมเองก็พยักหน้ารับแล้วก้มหน้าทำงานต่อเหมือนเดิม พอร์ชลุกออกมาจากศาลากลางสวนก่อนจะกดรับเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือมีน

“พอร์ชอยู่ไหนวะ เข้าบริษัทไหมคุณแพรวาแวะมาเนี่ยมีแก้แบบอีกเหรอ”

“แก้อะไรไม่มีแล้ว แก้อีกร้านเขาเสร็จไม่ทันแน่”

“แล้วมึงจะเข้าบริษัทอีกป่ะวะกูจะออกไปหาลูกค้าอีกสองคนแล้วกลับบ้านเลย”


พอร์ชยกนาฬิกาขึ้นมาดูจริงๆ มันก็เหลือเวลาอีกตั้งเยอะตอนนี้เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงกว่าๆ เองด้วยซ้ำ สายตามองไปยังทิมที่ยังคงนั่งทำงานอยู่ ท่าทางป่วยหนักแต่ก็ยังตั้งใจทำงานทำให้พอร์ชได้แต่ปล่อยให้มีนพูดต่อไปเรื่อยๆ โดยที่จับใจความไม่ได้สักนิดว่าเพื่อนพูดเรื่องอะไร

คงเพราะรำคาญผมที่ปลิวจนปิดหน้าปิดตา  ทิมเลยเอาหนังยางขึ้นมามัดเป็นจุกน้ำพุไว้ด้วยความเคยชิน  คงลืมไปว่าตอนนี้ไม่ได้นั่งทำงานคนเดียว พอร์ชยิ้มออกมาก่อนจะเอาโทรศัพท์ออกจากหูเมื่อมีนตะโกนเรียกชื่อดังลั่น

“กูอยู่บ้านคุณทิมมาตกลงเรื่องแบบสร้อยข้อมือ คงไม่ได้กลับเข้าบริษัทแล้วว่ะ”

“สู้กันอีกไหมคราวนี้”

“เออ..เวลากูเจอคุณทิมเหมือนฝึกวิทยายุทธ์  ต้องมีสมาธิ สติและความอดทนและตอนนี้กูเหนื่อยมาก”

“เขาเล่นงานมึงหนักเหรอวะมึงถึงเหนื่อยขนาดนี้”

พอร์ชยังไม่ทันได้ตอบคำถามของเพื่อนคนที่กำลังพูดถึงอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็ก้มลงทำงานต่อ เพิ่งรู้ว่าเวลาที่ตั้งใจทำงานคุณทิมก็ดูมีเสน่ห์ดี ยิ่งมองจากตรงนี้คุณทิมดูเด็กกว่าทุกครั้งที่ได้เจอทั้งเสื้อผ้า ทรงผม พอร์ชเห็นคุณพลอยเอาน้ำชาร้อนๆ มาให้เจ้าตัวน่าจะไม่ชอบเพราะเห็นว่าทำหน้าเบ้ใส่ พอโดนบังคับให้กินก็หลับตาปี๋เหมือนเด็กๆ 
 
“เออเล่นงานกูหนักมาก เหนื่อยฉิบหายน่ารักจนกูเหนื่อยไปหมด”

สิ่งที่ได้ยินจากไอ้มีนคือ
มึงพูดบ้าพูดอะไรวะไม่รู้เรื่องเลยพอร์ช..

เออ..มึงอย่ารู้เรื่องเลยให้กูรู้เรื่องคนเดียวพอ


ในที่สุดงานก็เสร็จ พี่ต่ายคือผู้จัดการของ Pure Jewelry  ที่ตรงดิ่งจากบริษัทมายืนรอแบบด้วยตนเอง แต่ท่าทางจะสนิทกันดีพอเดินเข้ามาหาก็ดึงจุกผมคุณทิมซะหัวแทบคว่ำ มีดุเบาๆ ว่าห้ามรับงานซ้อนอีกไม่ได้กลัวทำงานไม่ดีแต่กลัวว่าคุณทิมจะทำงานจนป่วยเหมือนอย่างวันนี้

เวลาหกโมงเย็นเสียงรถที่ดังขึ้นหน้าบ้านพร้อมกับคุณกาญจนาเดินหอบของพะลุงพะลังเข้ามา แม่บ้านเลยวิ่งเข้าไปช่วยถือพอร์ชเองก็เพิ่งเคยเห็นตัวจริงเพราะเขาไม่ค่อยออกงานเท่าไหร่ ทันทีที่คุณกาญจนาเห็นหน้าหลานชาย ชื่อเล่นที่คุ้นเคยก็ถูกเอ่ยออกมาหลังจากหลานชายคนเล็กพยายามส่งสัญญาณห้ามแล้วก็ตาม

“ทับทิมหลานย่าไม่สบายเหรอคะเห็นพี่ต่ายโทรมาบอก”

ทับทิม…

พอร์ชแอบกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นว่าคุณทิมทำหน้าเซ็งสุดชีวิตทันทีที่ได้ยินชื่อตัวเอง ก็ว่าแล้วว่าทำไมชื่อเล่นของคุณนพจินดาถึงไม่ได้เป็นอัญมณีเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ ก็พอเข้าใจว่าชื่อมันค่อนข้างเหมือนผู้หญิงเจ้าตัวคงไม่ค่อยอยากบอกใครด้วยชื่อนี้สักเท่าไหร่

เป็นมื้อเย็นที่สนุกสนานคุณกาญจนาคุยเก่งหยิบเรื่องนู้นเรื่องนี้มาคุยได้ไม่รู้จบ แต่หลานชายคนเล็กน่าจะไม่เอนจอยเท่าไหร่เพราะไข้ขึ้นจนตัวแดงหน้าแดงไปหมด โดนบังคับให้กินข้าวต้มก็กินไปแค่สองสามคำก็นั่งจิบน้ำเปล่า พอร์ชเห็นว่าควรจะให้คุณทิมได้พักผ่อนเลยขอตัวกลับก่อนเพิ่งรู้ตัวว่าเขาอยู่บ้านวรโชติเมธีตั้งแต่เช้าจนเกือบจะสองทุ่มอยู่แล้ว

“ขอโทษนะครับคุณพอร์ช คราวหน้าคงไม่นัดคุณกะทันหันแบบนี้อีก”

“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจครั้งนี้มันเหตุสุดวิสัย”

ขนาดเขาบอกแล้วว่าไม่ต้องเดินมาส่งแต่คนป่วยก็ยังดื้อไม่เลิก สิ่งที่เขารู้วันนี้คุณทิม นพจินดาจริงจังกับงานพอสมควรไม่สิเรียกว่าทุ่มเทกับงาน 100% ก็ว่าได้   จะไม่ยอมเลิกถ้าไม่เสร็จหรือไม่ได้ดั่งใจมีความรับผิดชอบเกินร้อย  นี่ก็คงเซ็งตัวเองเหมือนกันที่ทำงานเสร็จไม่ตรงตามเวลาถึงได้ดูเครียดๆ ทั้งวัน  ไหนจะป่วยหนักอีก

พอร์ชยืนพิงรถที่จอดอยู่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้ามาหาทิมที่ยืนอยู่ตรงหน้า  มือใหญ่ยกขึ้นมาสัมผัสตรงหน้าผากก่อนจะค่อยๆ ทาบทับลงบนแก้มขาวเพื่อวัดอุณหภูมิ

“ตัวร้อนจี๋เลยหายเร็วๆ นะครับ”

“……………………”

“ทับทิม”


“……………………”

พอร์ชละมือออกไปก่อนที่จะก้มหน้าลงมาหาคนป่วย
ดวงตากลมโตมองเขาไม่วางตาเมื่อเขาตั้งใจเขยิบเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม

“ชื่อน่ารักจัง”

ท้ายรถ Porsche สีขาวพ้นสายตาไปจากบ้านวรโชติเมธีไปแล้วแต่ทับทิมยังคงยืนอยู่ไม่ได้ขยับไปไหน มือยกขึ้นมาทาบลงบนหน้าผากตัวเองรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิร่างกายมันร้อนมากกว่าเดิมเขารู้ตัวเองดีว่ามันไม่ได้เกิดเพราะไข้หวัดที่เขากำลังเป็นอยู่

ท่าทางเกมครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิดไว้เลย







TO BE CON
ไม่รู้ว่าใครจะแพ้ก่อนกัน 55555

#อัญมณีที่รัก #ซีรีส์ลูกเพื่อนแม่
twitter @ribbinbo
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2019 23:53:37 โดย RIBBINBO »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
น้องเริ่มทำคะแนนบ้างแล้ว
ทับทิมอย่าไปยอมนะลูก สู้!!

ปล.หายป่วยไข้ก่อนก็ได้เนาะ อิอิ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :-[ หวายยยยทับทิมแพ้แน่ๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รอหายป่วยก่อนเถอะ 55555555555555

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
มาตามอ่านเพื่อนคนที่สาม แต่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่ิอาหาร จริงๆ อ่านมาก่อน2เรื่อง แต่ยังไม่มีโอกาสมาแสดงความคิดเห็น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่ะ ๆ น้องพอร์ชทำคะแนนตีคู่มาสูสีแล้ว พี่ทิมรีบหายไวไวมาสั่งสอนเด็กปีนเกลียว

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่ทิมอย่าโหมงานมากไปนะคะ

เดี๋ยวเด็กมันฉวยโอกาศ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เจ้าเด็กพอร์ชมันร้าย :hao3:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ทับทิมสู้ๆ น้องพอร์ชนะลูก อย่าไปยอมให้เค้าแตะแก้ม เราต้องแตะกลับด้วย  :katai2-1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 876
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ทับทิมอย่าใจอ่อนกับน้องพอร์ชง่ายๆ นะ ต้องให้ฝ่าด่านแก๊งลูกเพื่อนแม่ก่อน  :laugh:

ออฟไลน์ LonelyBoiZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เป็นกำลังใจให้นักเขียน ตามอ่านซีรีส์นี้ทุกเรื่องเลย

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
คินกลายเป็นคนที่มีคู่หลังสุดสินะ

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชั้นเห็นคนแพ้ภัยตัวเองลางๆเลยค่ะ
ทั้งคุณพชร และน้องทับทิม
 :z1: :z1:

ออฟไลน์ Persephone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากแม่ ตามจ้า :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ต้องตามมม

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ลุ้นคู่นี้ :mew1:

ออฟไลน์ RIBBINBO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-2
Jewelry Design
#อัญมณีที่รัก

ผมออกแบบแหวนแต่งงานให้คนอื่นมามากมาย
คงมีแค่คนเดียวที่ผมจะไม่ได้ออกแบบแหวนแต่งงานให้
คนๆ นั้นก็คือตัวผมเอง…
- นพจินดา วรโชติเมธี –

- CH.4 Sapphire –
ไพลิน




“ภาคิน ไปนอนไกลๆ ”

เสียงแหบๆ พูดขึ้นมาทั้งๆ ที่ตายังปิดสนิท  ทิมรู้ทันทีว่าไอ้คนที่กระโดดขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกันคือใคร  มีแค่คนในครอบครัวและแก๊งลูกเพื่อนแม่เท่านั้นแหละที่สามารถเข้ามาในห้องนอนเขาได้และคนที่มาบ่อยที่สุดก็คือไอ้คู่หูข้างบ้าน  ทิมลืมตาขึ้นมามองก็เห็นคินกำลังเล่นกับเจ้ารูบี้อยู่

“ป่วยหนักเหรอไงมึง”

“สบายดีมั้งกูใกล้ตายขนาดนี้”

“เวลามึงป่วยหน้าแดงตัวแดงแก้มก็แดงแจ๋ กูรู้เลยว่าชื่อเล่นมึงคุณย่าตั้งให้เพราะอะไร”

“…………………”

อยู่ดีๆ ทิมก็เงียบลงไปเพราะเผลอไปนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา น้ำเสียงที่พอร์ชเรียกชื่อเขา มันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ขนาดป่วยหนักขนาดนี้เขายังนอนไม่หลับเลยสักนิด พอเผลอนึกถึงก็เหมือนอุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นมากกว่าเดิมเลยต้องแกล้งซุกหน้าลงกับหมอน เขาไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลยจริงๆ

“ทับทิม”

“เรียกชื่อกูแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ”

“ที่หน้าบ้านมึง กูเห็นนะ”

“เห็นอะไร”

“มึงกับพอร์ช”

“มันไม่มีอะไรมึงก็รู้”

คินถอนหายใจแล้วเอารูบี้ใส่กรงตามเดิม เขาไม่ได้จะแอบดูหรอกก็ตั้งใจเดินมาหาไอ้ทิมที่บ้านเพราะเห็นพี่พลอยบอกว่าป่วยหนัก แต่บังเอิญได้เห็นช็อตเด็ดที่ไอ้พอร์ชสถาปนิกไฮโซนั่นกำลังยกมือทาบลงบนแก้มของทิม  แถมไม่รู้ว่าพูดอะไรที่ทำให้ทิมเขินได้ขนาดนั้น

คินรู้ว่าเพื่อนเขาไม่ใช่คนใจอ่อนง่ายๆ แต่สถาปนิกนั่นก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน  ลูกเล่นแพรวพราวขนาดนั้นไม่รู้ว่าทิมจะตกหลุมมันเมื่อไหร่ ยอมรับเลยว่าพอร์ชเป็นคนแรกที่เข้าถึงตัวทิมมากกว่าทุกคน แต่เพราะพอร์ชเข้ามาเป็นลูกค้าคนสำคัญของ Pure Jewelry  และไม่ได้มีทีท่าว่าจะจีบทิมอย่างเต็มตัวและเหตุผลจริงๆ คือสองคนนี้กำลังเล่นเกมกันอยู่

เกมอะไร?  คินก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร ? กติกาเป็นแบบไหน?  เท่าที่เขาเห็นเหมือนมีแค่อย่างเดียวสำหรับเกมนี้คือ  ใครตกหลุมรักก่อนแพ้..แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้น

คนที่ไม่เชื่อว่าตัวเองจะได้แต่งงาน
กับคนที่วาดฝันชีวิตรักงานแต่งงานไว้ซะเลิศหรู

มันจะลงเอยกันแบบไหนเขายังไม่เห็นทางออกเลย

“ทิม กูเป็นห่วงมึงนะ”

“ทุกทีพวกมึงสามคนก็จัดการคนที่เข้ามาหากูได้หมดอยู่แล้ว”

“เพราะพวกนั้น…กูมั่นใจว่ามึงไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเข้าใจที่กูพูดใช่ไหม”

“มันเป็นเกมคิน แค่เกม”

“ถามจริง เกมที่เล่นกันอยู่ตอนนี้ถ้าชนะแล้วได้อะไร”

“……………………………………….”

“คนชนะกูไม่สนใจหรอกนะ”

“……………………………………….”

คินขยับตัวตะแคงข้างหันมามองเพื่อนตัวเล็กที่ป่วยจนน่าสงสาร ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำเพราะพิษไข้มันมีแววตาสับสนเขาสังเกตได้ มือใหญ่ยกขึ้นมาวางลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลเบาๆ

“แล้วถ้าแพ้มึงต้องเสียอะไรบ้าง ทับทิม”

ทิมไม่ได้ตอบคำถามที่คินถามแต่หลับตาลง  ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปหรือเพราะไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเขาแล้วกันแน่ คินจับผ้าห่มให้เพื่อนที่หลับสนิทไปแล้ว ท่าทางเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เขารู้ว่าทุกคนที่เข้ามาหาทับทิมก็เพราะหน้าตาอันดับแรก ผู้ชายที่หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา เข้ามาเพราะอยากเล่นด้วย อยากกอด อยากหอม อยากฟัด และตัวคินเองก็รู้ว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

มีคนเข้ามาอยากเล่นด้วยเพราะน่ารัก
แต่ไม่เคยอยากรักษาให้อยู่ด้วยตลอดไป


“น่ารักให้ตายแต่สุดท้ายก็ผู้ชายป่ะวะ”

ประโยคที่เขาได้ยินมาบ่อยๆ เกี่ยวกับทิม และทุกคนในแก๊งลูกเพื่อนก็จำฝังใจ เพราะแบบนี้..คินถึงกลัวว่าพอร์ชจะเข้ามาแล้วเหตุการณ์ก็จะเหมือนทุกคนที่เคยเจอ เขาได้แต่หวังว่าทับทิม นพจินดาจะเข้มแข็งอย่าเพิ่งหวั่นไหวอะไรง่ายๆ ให้พวกเขาสามคนแน่ใจก่อนว่าคนที่เข้าหาทิมจะรักทิมที่เป็นทิมจริงๆ  ไม่ใช่แค่เข้ามาเล่นๆ แล้วจากไป

Jewelry Design


ป่วยนานกว่าที่คิด

ทิมเข้ามาที่บริษัท พี่ต่ายก็แทบเต้นระบำแทงโก้ใส่เพราะมีงานรอแก้สามสี่งานปิดจ๊อบไม่ได้สักที บางทีทิมก็อยากให้พี่ต่ายได้เจอกับคุณพิมพ์ดาวของรามิลบ้าง อาจจะรวมพลังกันเป็นสุดยอดเลขาแห่งปี โต๊ะทำงานตอนนี้รกไปด้วยเศษกระดาษจนเขาขี้เกียจเก็บ ทิมเอนตัวไปเก้าอี้พักสายตาเพราะทำงานติดกันเป็นเวลานาน

งานที่ทำมาทั้งหมดนั้นไม่มีส่วนของเจริญกิจธารา พอร์ชไลน์มาบอกว่าให้พักงานของเจริญกิจธาราไปก่อนเพราะคุณลุงคุณป้าที่เขาต้องออกแบบไปต่างประเทศ ไว้หายป่วยแล้วค่อยทำต่อ ไม่ได้ซีเรียสอะไร

ข้ออ้าง..เหตุผลที่บอกมาเขารู้อยู่แล้วว่ามันไม่จริง

เพิ่งเคยเจอลูกค้าแบบนี้ ทุกทีนี่เร่งเขาเช้ากลางวันเย็น  แต่จะให้ทิ้งงานไปเลยเขาเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันลูกค้าระดับทั้งตระกูลขนาดนี้จะให้เล่นๆ ก็คงไม่ได้ เสียชื่อ Pure Jewelry  หมด พอคิดได้อย่างนั้นก็เลยลองไลน์ไปหาคุณพอร์ชที่หายเงียบไปสองสามวัน เราสองคนไม่ได้คุยกันบ่อย ครั้งสุดท้ายก็แค่อีกฝ่ายไลน์มาถามว่า หายหรือยังก็แค่นั้น ทิมขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าข้อความที่ส่งไปยังไม่ขึ้นว่าอ่าน สุดท้ายก็เลยตัดสินใจโทรหา

“คุณทิม..ได้ยินผมหรือเปล่าคุณทิม”

“ได้ยินครับ ผมไลน์หาคุณพอร์ชแล้วเรื่องงานแต่คุณไม่ตอบ”

“ขอโทษครับ พอดีงานผมตอนนี้เดือดมากไม่มีเวลาจับโทรศัพท์เลย”

“คือ..ผมจะถามเรื่องเครื่องประดับถ้าไม่ทำตอนนี้กลัวว่าจะไม่ทันวันเกิดคุณเฟื่องฟ้า”

“เอาไงดี”

“อยู่กับลูกค้าหรือเปล่าครับ”

“ผมไม่ได้ออกจากบ้านมาสามวันแล้ว”

“อะไรนะ?”

“คุณทิม”

“ครับ”

“มาที่บ้านผมได้ไหม”

“……………………………………….”

นั่นคือบทสนทนาสุดท้ายก่อนที่ตอนนี้ทิมจะยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ตอนนั้นที่พอร์ชบอกว่าดีไซน์บ้านตัวเองจะแปลกๆ หน่อยแต่ก็ไม่คิดว่าจะแปลกขนาดนี้ บ้านสองชั้นที่เหมือนรีสอร์ท ระเบียงชั้นสองมีชิงช้าสองอันตลกดี เหมือนรวมทุกอย่างไว้ในบ้านหลังเดียว แค่เพียงไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินออกมา

เหมือนเหตุการณ์สลับกัน พอร์ชได้เห็นทิมในชุดอยู่บ้านเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แล้ววันนี้ทิมเองก็ได้เห็นพอร์ชในชุดที่โคตรจะอยู่บ้าน เสื้อยืดสีขาวกางเกงบอลผมเผ้ายุ่งเหยิงเดาว่างานน่าจะหนักพอสมควร

“คุณทิม หายสนิทแล้วเหรอครับ”

“……………………………………….”

พอร์ชมัวแต่หันไปปิดประตู เลยไม่เห็นว่าทิมไม่ได้ฟังที่พอร์ชพูดเลยสักนิด เพราะตอนนี้ทิมเงยหน้ามองบ้านทั้งหลัง  มองจากข้างนอกว่าเขาก็คิดว่ามันแปลก แต่พอเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ การจัดวาง หรือเฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่างลงตัวจนเขาหยุดมองไม่ได้จริงๆ

“บ้านสวยจัง”

ทิมเผลอพูดออกมาตามที่คิด  ประโยคที่ได้ยินทำให้พอร์ชที่เดินตามหลังมาเงยหน้าขึ้นมามอง ภาพของคุณนพจินดาที่เงยหน้ามองไปรอบๆ พร้อมกับรอยยิ้มทำให้พอร์ชเลือกที่จะเงียบลง ดวงตากลมโตมีประกายวาววับเหมือนเจอของที่ถูกใจ เป็นคนแรกที่ชมว่าบ้านเขาสวยเพราะทุกคนที่มาเอาแต่บอกว่า ออกแบบประหลาดจนน่าปวดหัว

ในฐานะสถาปนิกเขาต้องดีใจอยู่แล้วเวลาที่มีใครชมผลงาน
แต่ในฐานะ พอร์ช พชร เขาโคตรๆ ดีใจเลยไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

“นี่รับงานซ้อนเหมือนผมเหรอไง”

“งานเดียวนี่ล่ะคุณ แต่โจทย์ยากมาก แก้แบบจนผมคิดอะไรไม่ออกแล้ว”

“ถ้าคุณพอร์ชไม่พร้อมผมกลับก่อนก็ได้นะ คุณเองดูเครียดๆ กลัวว่าผมจะทำให้เครียดมากกว่าเดิม”

“เห็นหน้าคุณทิมความเครียดหายเป็นปลิดทิ้งเลยนะ”

“กวนตีน”

พอร์ชหัวเราะออกมาแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดเสียงเบาแล้วก็ตามแต่ก็ยังได้ยินอยู่ดี ยังไงเขาก็โตแล้วต้องรับผิดชอบหลายๆ อย่างได้ ห้องทำงานของพอร์ชตอนนี้ค่อนข้างที่จะรกมากเป็นพิเศษ เศษกระดาษปลิวว่อนไปหมดพอเขาถามว่าทำไมไม่ทำงานที่ออฟฟิศเจ้าตัวก็บอกว่าทำงานที่บ้านหัวมันโล่งมากกว่า ตอนนี้กลายเป็นว่าทิมลากเก้าอี้หมุนมานั่งข้างๆ คนที่กำลังทำงานต่อ แบบบ้านคล้ายๆ ทาวน์โฮมทำให้ทิมมองอย่างสนใจ

“เอาเป็นจี้ก็ได้ครับของป้าอัญชัญเอาเล็กๆ หน่อยป้าชัญไม่ชอบอะไรใหญ่ๆ ส่วนของลุงพัฒน์เอาแหวนเรียบๆ “

“………………………………………………………….”

“คุณทิมเลื่อนคิวของพี่บีเอ็มขึ้นมาเลยก็ได้ครับ เป็นครอบครัวเดียวกันมันจะได้เหมือนกันพ่อแม่ลูก”

“………………………………………………………….”

ทิมพยักหน้าก่อนจะจดรายละเอียดที่ได้มาก่อนจะค่อยๆ ร่างแบบไว้คร่าวๆ จะว่าไปเหมือนย้อนเวลากลับไปสมัยตอนเรียนมหา’ลัย คงเพราะเขาเองก็เรียนสายออกแบบมาเหมือนกัน พอนึกถึงก็เลยหัวเราะออกมาจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามอง

“พอดีนึกถึงตอนเรียนครับ พอเห็นคุณพอร์ชแล้วก็คิดว่าตอนทำงานก็ไม่ต่างจากตอนเรียนเท่าไหร่”

“ตอนเรียนผมปีนต้นไม้นั่งมองท้องฟ้าเพราะคิดงานไม่ออกเลยนะ”

“วันนี้ไม่ปีนเหรอครับ”

“เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วเห็นชั้นสองของบ้านไหมครับ ผมมีชิงช้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ”

“ผมชอบนะชิงช้าที่บ้านคุณ เวลาไกวชิงช้าแล้วหัวสมองโล่งๆ ดี มองหน้าผมทำไมครับ”

“เป็นคนแรกที่บอกว่าชอบชิงช้าที่อยู่บนชั้นสอง คนอื่นด่าว่าผมติงต๊องโตแล้วยังจะเล่นอีก”

“ก็นี่บ้านคุณพอร์ช ทำไมคนอื่นต้องมาว่าด้วย”

พอร์ชหยุดเม้าส์ปากกาในมือแล้วหันมามองคนที่กำลังวาดจี้สร้อยคอคร่าวๆ ตอนที่ออกแบบบ้านครั้งแรกทุกคนบอกว่าประหลาดๆ ขนาดไอ้มีนยังบอกว่าถ้ามีคนมาจ้างแบบนี้มันกรี๊ดใส่แล้ว ยิ่งวิศวกรที่รับงานนี้แทบจะด่าเขายันต้นตระกูล พอร์ชแค่อยากเอาทุกอย่างที่อยากให้มีมารวมเป็นบ้านหลังหนึ่งก็เท่านั้น

สำหรับเขาบ้านคือทุกอย่างในชีวิต
ไม่เห็นจะแปลกเลยที่เขาจะรวมเอาสิ่งเขาชอบไว้ที่นี่ที่เดียว

“นั่นสิ ก็นี่บ้านผม”

“คนเดียวที่คุณพอร์ชควรถามความเห็นคือคนที่จะต้องมาอยู่ด้วย”

“ถามใครดีล่ะ ถ้าไม่นับครอบครับแล้วก็ไอ้มีนคนแรกที่มาบ้านผมคนนั้นก็คือคุณนะคุณทิม”

“ผมแค่แวะมาไม่ได้เป็นคนที่อยู่ด้วย”

“อย่างน้อยตอนนี้คุณก็คือคนแรกที่ได้เข้ามานั่งข้างๆ ผม ครั้งหน้าคุณทิมอาจจะได้ไปนั่งเล่นชิงช้าข้างบนก็ได้ ผมหวงบ้านมากมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาง่ายๆ”

“แล้วทำไมวันนี้คุณพอร์ชถึงได้ให้ผมเข้ามาได้ล่ะครับ”

“ถ้าคุณทิมรู้เหตุผลอาจจะหัวเราะก็ได้นะ”

“ไหนลองบอกมาก่อน”

“พอคุณป่วย ผมก็อยากให้คุณพัก”

“แล้ว?”

“คุณก็หายไปเลย”

“ก็ผมป่วย”

“ผมไลน์ไปหา คุณทิมก็ตอบสั้นๆ ว่าใกล้หายแล้ว”

“เข้าเรื่องได้ไหมอ้อมโลกมาก”

“ผมอยากเจอ อยากเห็นหน้าคุณทิม”

“……………………………………….”

ทันทีที่รู้เหตุผลทิมได้แต่เคาะนิ้วกับโต๊ะตรงหน้า เขาไม่ได้หันไปมองหน้าคนพูดหรอกเพราะเห็นจากหางตาอีกฝ่ายนั่งหมุนดินสอในมือไปมาเหมือนกันไม่รู้ว่าทำไมถึงเงียบกันแบบนี้

“บางทีคุณพอร์ชก็มีมุมที่เป็นผู้ใหญ่แต่บางครั้งก็เหมือนยังเป็นเด็กอยู่ เวลาที่พูดอะไรออกมาตรงๆ”

“งั้นวันนี้ผมคงเป็นเด็กชายพอร์ชที่พูดอะไรตรงๆ”

“วันนี้ผมไม่แพ้หรอกนะภูมิต้านทานดีมาก”

พอร์ชหลุดขำออกมาเมื่อคนที่บอกว่าภูมิต้านทานดีมากกำลังนั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ เขาไม่รู้ว่าเพราะยังไม่หายดีหรือว่ากำลังรู้สึกอย่างอื่น ถึงวันนี้คุณทิมจะแต่งตัวเป็นทางการไม่ใช่ชุดอยู่บ้านเหมือนวันนั้น  แต่ก็ไม่ได้ใส่ชุดทำงานเต็มยศ เจ้าตัวบอกว่าไม่มีพบลูกค้าแค่เข้าไปทำงานที่บริษัทเท่านั้น แต่สำหรับพอร์ชยังไงคุณทิมก็ยังดูเด็กกว่าอายุจริงอยู่ดี พอร์ชเอนตัวไปเก้าอี้แล้วพูดให้คนที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ ได้ยิน

“วันนี้ผมก็ไม่อยากชนะเหมือนกัน”


Jewelry Design


หกโมงกว่าแล้ว

ทิมวางงานในมือลงเพิ่งรู้ว่าเราสองคนนั่งทำงานด้วยกันมาตั้งแต่บ่ายโมง คนข้างๆ ยังคงยุ่งวุ่นวายกับแบบบ้านทาวน์โฮมหลังเดิม มีรับสายลูกค้าแล้วเดินไปคุยที่อื่นกลับมาก็นั่งอยู่ที่เดิมไม่ลุกไปไหน ทิมบอกแล้วว่าเขากลับก่อนก็ได้แต่เจ้าของบ้านก็ส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่าให้เขาอยู่ที่นี่ก่อน

เราต่างคนต่างทำงานมีบ้างที่คุยกันเล็กน้อย
น่าแปลกที่มันไม่ได้อึดอัดอะไร

“คุณพอร์ชต้องพักบ้างนะ”

“ผมวางงานลงไม่ได้เลยเวลาที่มันไม่ได้ดั่งใจผมสักที”

“สถาปัตย์ตัวจริงเสียงจริง”

“ตอนสัมภาษณ์อาจารย์ถามผมว่าความฝันของผมคืออะไร ผมตอบแบบโคตรเท่ว่า ผมอยากเป็นสถาปนิกที่หล่อที่สุดในประเทศไทยครับ พอเรียนไปปีเดียวรู้ไหมความฝันผมเหลือแค่ อยากมีชีวิตรอดเป็นสถาปนิกก็พอแล้ว”

“แต่ตอนนี้สถาปนิกพอร์ชท่าทางจะไม่ไหวแล้ว คุณกินข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”

“เมื่อวานตอนบ่าย…..สอง”

ทำไมอยู่ดีๆ คุณทิมก็น่ากลัวขึ้นมาเฉยเลยวะ สายตาเหมือนเขาทำความผิดร้ายแรง พอร์ชเลยเลือกที่จะเงียบแล้วกลับมาหยิบเม้าส์ปากกาขึ้นมาจะทำงานต่อ ยังไม่ทันจะได้ขยับมือไปไหนไม้บรรทัดที่วางอยู่ก็ถูกหยิบขึ้นมาตีลงบนมือเขาเบาๆ

“พักเดี๋ยวนี้!”

โอเคจ้า..พักก็พัก
พอเห็นสายตาคุณทิมก็กลัวจะโดนโต๊ะดราฟทุ่มใส่อยู่เหมือนกัน

โดนด่าอีกเรื่องที่เขาเอาแต่กินมาม่ากระป๋องมาสองสามมื้อ คุณทิมเดินไปที่ห้องครัวตั้งใจจะหากับข้าวกับปลาแต่เจอเศษซากมาม่าไวไววางเกลื่อนตรงเคาน์เตอร์  สรุปเลยต้องโทรสั่ง ระหว่างที่รออาหารก็ไม่รู้จะทำอะไรพอจะทำงานต่อก็กลัวโดนว่าอีก พอร์ชเลยตัดสินใจให้คุณทิมมานั่งตรงหน้าโต๊ะดราฟแทน

“วาดรูปเล่นกันไหม”

“วาดรูปเล่น?”

“ก็คุณทิมห้ามผมทำงาน ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว แสดงฝีมือหน่อยเด็กจิลเวลลี่”

ไม่แปลกใจที่คุณทิมจะวาดรูปสวย ขนาดรูปทรงเรขาคณิตยังเป๊ะทุกองศานี่คว้าเกียรตินิยมเหรียญทองของคณะมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ พอวาดอะไรไปเรื่อยเปื่อยพอร์ชเลยบอกให้ทิมวาดแบบบ้านให้ดู เจ้าตัวคิดนานเหมือนกันเพราะบอกว่าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่แค่เพียงไม่นานแบบบ้านก็ถูกร่างขึ้นมา

“นี่ห้องอะไรครับ”

“ห้องรูบี้”

“ห้องคุณทิมอ่ะนะ”

“ฝาแฝด”

พอร์ชเริ่มเข้าใจว่ามันคือห้องของเจ้าตัวกลมขนสีขาวที่เขาเห็นบ่อยๆ ในอินสตาแกรม  เมื่อคุณทิมเริ่มวาดกรงขนาดใหญ่ไว้ในห้องนั้นด้วย แบบห้องต่างๆ เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง  คงเพราะมีทักษะการวาดรูปอยู่แล้วแบบบ้านก็มันก็เลยสวยกว่าที่คิด พอนั่งวาดรูปไปเรื่อยๆ อาหารที่สั่งไว้ก็มาส่ง พอร์ชเดินไปเอาที่หน้าบ้านรู้สึกงงๆ เมื่อจำนวนกล่องทำไมมันถึงเยอะมากมายขนาดนี้

“อันนี้ของวันนี้ พรุ่งนี้เช้ากลางวันแล้วก็ตอนเย็นผมสั่งเผื่อไว้แล้ว แค่เอาเข้าไมโครเวฟเท่านั้นโยนมาม่าทิ้งไปเลยนะครับ”

พอร์ชมองทิมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุน เจ้าตัวกำลังชี้กล่องข้าวที่วางอยู่ทีละกล่อง มีการย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้กินข้าวบ้างไม่ใช่ทำแต่งานอย่างเดียว อาหารก็ไม่ได้เลิศหรูอะไรหรอกแต่ไม่รู้ว่าทำไมพอร์ชถึงรู้สึกใจฟูแปลกๆ

“ไม่รู้รสชาติจะอร่อยหรือเปล่าแต่ผมก็ว่าดีกว่ากินมาม่..เฮ้ย!”

ทิมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆ เก้าอี้ที่นั่งอยู่ก็ถูกหมุนโดยไม่ทันตั้งตัว เกือบจะหน้าคว่ำลงพื้นแล้วแต่ไอ้คนที่หมุนเก้าอี้ยกแขนทั้งสองข้างคร่อมตัวเขาเหมือนกับกอดเอวไว้ ทิมเองก็คว้าไหล่คนตรงหน้าไว้เพราะว่าจะตกลงไป เพราะเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่มันสูงกว่าที่พอร์ชนั่งท่าทางมันเลยเหมือนว่าอีกฝ่ายจะซบลงบนตักพอมองแบบนี้ก็เริ่มเข้าใจถึงคำว่า แฟนเด็ก..เพราะตอนนี้พอร์ช พชร  เหมือนเด็กผู้ชายตัวโตๆ แต่ทำตัวอ้อนๆ เหมือนเด็กแปดขวบ

“ถามจริง ที่ทำอยู่นี่ห่วงงานหรือห่วงผม”

“งาน”

“อ้อ….โอเค”

พอร์ชทำท่าจะผละออกไปแต่มือของคุณทิมที่วางอยู่บนไหล่กว้างกำเสื้อเขาไว้
เหมือนจะรั้งให้อยู่ก่อน พอร์ชเลยเงยหน้าขึ้นมามอง

“คุณพอร์ช”

“………………….”

“ผมก็ห่วง”

“………………….”

“นิดนึง”

“………………….”

ประโยคสุดท้ายเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่อยู่ใกล้กันขนาดนี้เขาต้องได้ยินอยู่แล้ว รอยยิ้มปรากฏให้เห็นบนใบหน้าที่อ่อนล้าจากการทำงานติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน พอร์ชยอมรับเลยว่าตอนนี้เขายิ้มจนอีกฝ่ายดูออกแล้วมั้งว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง

“วันนี้เราสองคนมีใครชนะไหม”

ทิมหัวเราะออกมา
แล้วส่ายหน้า

“วันนี้เสมอแล้วกัน”


Jewelry Design


คุณทิมกลับบ้านไปแล้ว แก๊งลูกเพื่อนแม่โทรตามครบทั้งสามคน ไม่รู้ว่าคุณทิมได้บอกหรือเปล่าว่าอยู่ที่ไหนน่าจะไม่ได้บอก เพราะถ้าบอกคุณภาคินคงขับรถแบบฟาสแปดมาที่บ้านเขาแล้ว พอร์ชยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับตัวไปไหนตอนแรกตั้งใจจะทำงานต่อให้เสร็จ  แต่ก็นั่งหมุนดินสอในมือเป็นชั่วโมง งานก็ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรเลย เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้พอร์ชต้องกดรับ

“ว่าไงพชร ตายห่าไปหรือยังทั้งบริษัทจะได้เหลือกูคนเดียว”

“ยังไม่ตายและยังหล่ออยู่เหมือนเดิม”

“แล้วนี่แดกอะไรหรือยังเวลาทำงานแบบนี้มึงลืมกินข้าวกินปลาตลอด คนบ้าอะไรไม่กินข้าวสามวัน”

“กินแล้ว คุณทิมสั่งมาให้”

“คุณทิม? มึงไม่ได้อยู่บ้านเหรอวะ”

“บ้านไง”

“พอร์ช”

เพื่อนสนิทที่อยู่ในสายเงียบไปเมื่อเขาบอกว่าคุณทิมมาที่บ้านจริงๆ แต่มาเพราะเรื่องงาน สายตาพอร์ชมองไปยังรูปวาดที่เขาให้คุณทิมวาดเล่นตอนรออาหาร แบบบ้านเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเผลอๆ ห้องรูบี้ใหญ่กว่าห้องของตัวเองด้วยซ้ำ

“แล้วเป็นไงคู่แข่งมาถึงถิ่นแต้มมึงควรจะเพิ่มได้แล้ว วันนี้ชนะไหม”

“เสมอว่ะ คุณทิมบอกมาอย่างนั้นแต่กูก็รู้สึกว่ายังไงก็เหมือนกูแพ้อยู่ดี”

พอร์ชยอมรับว่าเวลาที่เขาคุยกับคุณทิมบางประโยคที่เขาพูดไปก็มีแกล้งยอดให้อีกฝ่ายเขินบ้างเป็นแค่คำพูดเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร  แต่บางอันก็ยอมรับว่ามันมาจากใจเขาจริงๆ อย่างวันนี้ที่เขาบอกว่าอยากเจอ เขาไม่ได้หาเหตุผลมาอ้างแต่เขาอยากเจอ ก็คืออยากเจอไม่ได้คิดซับซ้อนอะไรเลย เขาอยากจะเห็นคุณทิมมาอยู่ตรงหน้า

แต่อีกฝ่ายเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าคำที่บอกมาแล้วทำให้เขาใจเต้นนี่จริงหรือไม่จริง หรือจริงๆ แล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เกมหลอกให้เขาตายใจเท่านั้น ยิ่งประโยคจากเพื่อนสนิทที่อยู่ในสายทำให้เขาแน่ใจแล้วว่าที่จริงแล้วผลการแข่งมันเป็นยังไง
 
“จะบอกอะไรให้นะพอร์ช”

“………………………………”

“มึงน่ะแพ้ตั้งแต่ให้คุณทิมมาที่บ้านแล้ว คนหวงบ้านแบบมึงแค่นี้ก็เป็นคำตอบได้แล้วว่าวันนี้มึงแพ้หรือชนะ"









TO BE CON

จริงๆ ก็อาจจะไม่มีใครชนะ (หรี่ตามอง)

#อัญมณีที่รัก #ซีรีส์ลูกเพื่อนแม่
twitter @ribbinbo

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2019 22:09:10 โดย RIBBINBO »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
แพ้ยาวๆ ไปเลยจ้า คุณน้องพอร์ช
ยอมพี่ทับทิมขนาดนี้แล้ว อิอิ

เป็นโมเม้นท์ที่ดีมากอ่ะ นั่งทำงานด้วยกันเงียบๆ
ไม่ได้ต้องพูดคุยมากมาย แต่สงบและสบายใจ คือดีย์~~~ ^^

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อยากให้เสมอกันไปเรื่อย ๆ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
พอร์ชต้องหันเอาใจน้องรูบี้นะ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
น่ารักอะ สงสัยน้องพอร์ชจะแพ้ทางะทิมทุกครั้งนะเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อุ้ต้ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด