Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า  (อ่าน 43685 ครั้ง)

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
มาเรื่อยๆ ทีละ 3 ตอนจนกว่าจะถึงตอนล่าสุดค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
มาอีก 3 ตอนค่า ขอบคุณทุกคนที่ติตเาม ฝากให้กำลังใจกันต่อไปด้วยนะคะ  :man1:
Happy Christmas   :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านไปเขินไป  :katai2-1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
รอ

ลุ้น

อยู่


จ้า

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Level 19: ยั่วเย้า





พี่ลิงก์พาผมไปถึงคอนโดของเขาในเวลาเกือบตีสองครับ เพราะผมถูกเร่งเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก นอกจากคว้าเสื้อผ้ามาเปลี่ยนชุดหนึ่งและของขวัญที่ทำเอาไว้ใส่กระเป๋าเป้

เมื่อผมเดินตามพี่ลิงก์เข้ามาด้านใน ก็ต้องนึกประหลาดใจ เพราะมอร์แกนที่ยืนประจำหน้าประตูหายไป และพอกวาดสายตาไปทั่วก็ไม่เห็นตุ๊กตาสักตัว แม้กระทั่งโจแอนที่มักจะอยู่ตรงโซฟาเสมอ

"ตุ๊กตาหายไปไหนหมดครับ"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์อย่างสงสัย การหายไปของเหล่าตุ๊กตาหมี ทำให้บรรยากาศในห้องต่างออกไปจากเดิมจนรู้สึกได้

"เอากลับไปซัก แล้วก็อยู่ที่บ้าน ตอนนี้ลิงก์ไม่ได้อยู่นี่ไง เอาไว้เปิดเทอมค่อยเอามาอยู่ด้วยกันใหม่"

ผมไม่ได้ต่อบทสนทนาอีก หลังจากนั่งลงบนโซฟาก็ต้องรู้สึกแปลกที่ไม่ได้อิงแอบโจแอนอย่างที่เคย โซฟาดูกว้างกว่าเดิมเยอะเลยครับ

"บู้หิวป่ะ"

"ไม่ครับ ผมง่วงมากกว่า"

ตอนที่ได้นั่งรถสปอร์ตครั้งแรกในชีวิตก็ตื่นเต้นอยู่ครับ แต่พอผ่านไปสักพักเจอแอร์เย็นและเบาะที่นุ่มสบายก็เกือบจะหลับอยู่หลายรอบ แต่การพูดคุยเกี่ยวกับรถหรูก็ช่วยพาสติของผมให้ตื่นจนถึงตอนนี้

รถยนต์ที่พี่ลิงก์ขับมารับผมเป็นรถสปอร์ตของป๊าครับ ดูเหมือนว่าที่บ้านจะมีหลายคัน พี่ลิงก์เลยขอยืมมาขับเล่นแบบเฉพาะกิจ ซึ่งโดยปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบรถราคาแพงแบบนี้เท่าไหร่

หลังจากที่ได้รู้จักกับพี่ลิงก์อย่างใกล้ชิดมาระยะหนึ่ง ผมก็เริ่มสงสัยในบางอย่างขึ้นมา บางทีเขาก็ดูใช้เงินเก่งไม่ต่างจากลูกคนรวยทั่วไป แต่บางครั้งก็ทำตัวธรรมดาจนผิดวิสัย ถึงอีกฝ่ายจะบอกว่าไม่ชอบรถในฝันราคาหลักล้านจนดูน่าหมั่นไส้ แต่รถส่วนตัวที่ใช้ประจำก็ราคาไม่เบาเช่นกัน

เอาเถอะ...ยังไงมีเงินอยากจะขับอะไรก็ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ

"ง่วงก็นอนดิ"

พี่ลิงก์ยืนมอง ผมก็ได้แต่ฝืนเปลือกตาของตัวเอง เมื่อร่างกายชักจะทนไม่ไหว ตักของโจแอนไม่มีแล้ว ผมจะหนุนอะไร หรือต้องใช้เป้ที่วางอยู่ตรงนี้แทนหมอนชั่วคราวไปก่อน

"งั้นผมนอนนะ"

ถ้าจะไปรับให้มานอนแบบนี้ ก็ไม่ต้องรีบไปรับก็ได้ไหมล่ะครับ

แกล้งกันชัดๆ ...

ผมได้แต่บ่นอีกฝ่ายในใจพลางตั้งท่าหาทำเลนอน ในขณะที่ผมกำลังใช้เป้วางต่างหมอนของตัวเอง เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้น

"อยากนอนในห้องลิงก์ป่ะ"

"...ไม่เป็นไรครับ ผมนอนตรงนี้ดีกว่า"

ถึงสติจะเริ่มขาดหายไปกับความง่วง แต่ความทรงจำยังดีอยู่ครับ ผมไม่รู้ว่าคำพูดของพี่ลิงก์ในตอนนั้นจริงหรือหลอก แต่ยังไงก็ยังไม่พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าหากผมตัดสินใจเอาตัวเองไปนอนในห้องของเขา

พี่ลิงก์หัวเราะในลำคอ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมหมอนกับผ้าห่ม

"ใช้หมอนนี่ จะหนุนเป้ทำไมวะ"

"ขอบคุณครับ"

ผมรับหมอนกับผ้าห่มของเขามาใช้แทน กลิ่นหอมบางอย่างทำให้เผลอสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างไม่รู้ตัว ผมขยับตัวอีกเล็กน้อย โดยที่ยังฝังตัวเองอยู่กับกลิ่นหอมของเครื่องนอนที่ได้รับมา

"หมอนกับผ้าห่มของพี่หอมจัง ใช้น้ำยายี่ห้อไหนอ่ะ ผมจะเอาไปใช้บ้าง"

ผมถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น เขายิ้มออกมา ก่อนจะโถมเข้ามานอนทับเต็มตัวจนผมต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

"เฮ้ย! พี่..."

"ลองดมดิ ใช่กลิ่นนี้หรือเปล่า"

พี่ลิงก์ขยับซอกคอของตัวเองให้ตรงกับปลายจมูกของผม ตอนนี้น้ำหนักที่ทับลงมาไม่ใช่ปัญหาเท่ากับความใกล้ชิดแบบเอ็กคลูซีฟที่อีกฝ่ายยัดเยียดมาให้จนหายง่วง หัวใจเต้นกระหน่ำเหมือนใกล้จะระเบิดแล้วครับ!

"เป็นไง กลิ่นเดียวกันป่ะ"

อ๊ากกกก!

พี่ลิงก์! ถ้าจะทำแบบนี้ เอามีดมาปาดคอกันเลยดีกว่า ฮือ....

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสของลมหายใจหรือเสียงกระซิบที่ข้างหูล้วนสร้างความเสียหายต่อความรู้สึกของผมจนย่อยยับ แต่ก่อนที่ทุกความอดทนจะหมดลง พี่ลิงก์ก็ขยับตัวออกห่างเล็กน้อย ใบหน้าหล่อก้มลงให้เราสองคนได้ประสานสายตากัน

"บู้หลับแล้วเหรอ"

ใครหลับลงก็บ้าแล้ว!!!

ผมปั้นหน้าไม่ถูก แต่เขินมากครับ ความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด เมื่อได้กลิ่นของพี่ลิงก์ชัดๆ แบบไม่มีน้ำหอมเจือปน กลิ่นที่เหมือนหมอนและผ้าห่มของเขา

"บู้ยังไม่ตอบเลยนะ"

พี่ลิงก์ยังไม่ละสายตาไปไหน นัยน์ตาสีดำพราวเป็นประกายหยอกเย้าชัดเจน รวมไปถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เผยออกมาอย่างไม่ปิดบัง ถึงจะรู้สึกร้อนจนหน้าแทบไหม้แค่ไหน แต่ผมก็แสร้งตีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างทุลักทุเล

"พี่...แกล้งผมอีกแล้ว"

ผมบ่นออกมาเสียงเบา แต่ร่างกายไม่กล้าดันอีกฝ่ายออก เพราะเกร็งไปหมดครับ พี่ลิงก์ยิ้มรับพร้อมกับขยับตัวให้เราสองคนเบียดชิดกันมากขึ้นอย่างไม่สำนึกว่าได้สร้างความเดือดร้อนต่อหัวใจของผมมากแค่ไหน ทว่าสถานการณ์ชักจะบานปลาย เมื่อผมรู้สึกถึงบางอย่างบริเวณช่วงล่างของร่างกาย

ตรงที่...ส่วนนั้นของเราสองคนเสียดสีกันอยู่อ่ะครับ!!!

ฉิบ....หาย....แล้ว!!!

"พ...พี่..."

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้หลีกหนีจากช่วงเวลาอันแสนวิกฤต พี่ลิงก์ก็กะพริบตาทีหนึ่ง แล้วก้มลงไปมองจุดอันตรายด้านล่าง ก่อนสายตาที่บ่งบอกความแปลกใจของเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นร้ายกาจในทันที

"ดูเหมือนว่าจะไม่ง่วงแล้ว"

โอ๊ย! อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วเว้ย!!!

ผมเม้มปากแน่นด้วยใบหน้าที่ร้อนฉ่า เพราะอับจนคำพูด ถึงนึกอยากจะนอนเต็มแก่ แต่ส่วนสำคัญของร่างกายดันตื่นขึ้นมาแล้ว แถมยังซื่อตรงเปิดเผยให้พี่ลิงก์รับรู้อีกต่างหาก!

"บู้ ให้ช่วยไหมครับ"

"ม...ไม่ครับ!!! "

ผมตัดสินใจผลักคนที่กำลังจะเลื่อนมือไปสัมผัสตรงจุดต้องห้ามเต็มแรง ก่อนสติจะหายไปมากกว่านี้ พี่ลิงก์ที่ไม่ทันตั้งตัวเลยเซจนเกือบตกโซฟา แต่ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำตาลีตาเหลือกโดยไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย

แค่โดนเบียดนิด สูดกลิ่นของเขาหน่อย ก็อารมณ์ขึ้นแล้วเหรอ! ไอ้บลู!!!

ผมนึกสมเพชกับความอ่อนหัดของตัวเองถึงขีดสุด ลมหายใจผิดจังหวะไปเล็กน้อย ผมใช้มือบรรเทาอาการน่าอายให้สงบลง ถึงความต้องการทางเพศจะเป็นเรื่องปกติที่แสนจะพื้นฐานของมนุษย์ โดยเฉพาะวัยรุ่นชายสุขภาพดีแบบผม แต่ก็ไม่ใช่เวลานี้ไหมวะ!

"บู้ครับ โอเคไหม"

เสียงของพี่ลิงก์ดังขึ้นจากหน้าประตู ผมไม่อยากจะตอบ แต่ถ้าเงียบก็คงไม่ได้ สุดท้ายเลยได้แต่กลั้นใจบอกคนที่อยู่ด้านนอกด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

"อ่า..ผ...ผม..โอเค"

"อืม รออยู่นะ"

พี่รออะไร!!!

ผมกรีดร้องอยู่ในใจ นึกอยากจะฝังตัวเองอยู่ในห้องน้ำจนกว่าเรื่องราวเมื่อครู่นี้จะหายไปจากความทรงจำ แต่ก็คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะสิ่งที่ฟ้องชัดถึงตัวตนของเหตุการณ์ยังเลอะที่มือของตัวเองอยู่เลย

ผมจะกล้ามองพี่ลิงก์ได้ยังไงครับ!!!

หลังจากใช้เวลากับตัวเองจนความสงบสุขกลับมาอีกครั้ง ผมก็เดินวนไปวนมาสักพัก พลางมองนาฬิกาที่แขวนผนังในห้องน้ำไปด้วย ตอนนี้เวลาตีสามกว่าแล้ว แต่ผมยังไม่กล้าออกไปเจอโลกแห่งความจริงเลย

หรือจะนอนในห้องน้ำเลยดี?

ผมได้แต่ปลงกับความกากของตัวเอง แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกกำลังใจให้เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แง้มประตูห้องน้ำออกมาทีละน้อย สายตาสอดส่องมองหาว่าเจ้าของห้องอยู่แถวนี้หรือเปล่า เมื่อพบว่าทางปลอดโปร่ง ผมก็รีบวิ่งตรงไปที่โซฟาแล้วคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงสร้างสถานที่ปลอดภัยให้กับตัวเองไม่รับรู้สิ่งใดอีก

หัวใจของผมยังเต้นแรงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจังหวะของชีวิตจะกลับมาทำงานเป็นปกติ เมื่อไม่มีเหตุการณ์น่าหวาดเสียวเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์อยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากเจอเขาครับ

ในขณะที่ทุกอย่างผ่อนคลายลง แล้วร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยกำลังจะพักผ่อน ผมก็รับรู้ได้ถึงบางอย่างที่ทาบลงมาบนใบหน้าที่ถูกปกป้องด้วยผ้าห่มจนมิด

"นอนดีๆ เดี๋ยวก็หายใจไม่ออก"

เสียงของพี่ลิงก์ดังขึ้นใกล้ๆ แต่ผมไม่สนใจพร้อมกับหลับตา สมอ้างว่าหลับไปแล้ว นิ่งสยบทุกความเคลื่อนไหว ปล่อยให้อีกฝ่่ายจัดผ้าห่มให้คลุมตัวตามปกติครับ

ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์มีท่าทียังไง แต่สัมผัสบางอย่างที่กดลงตรงหน้าผากก็ทำให้หัวใจที่เคยสงบสุขวุ่นวายอีกครั้ง

"หึ! ไอ้อ่อนเอ๊ย"

ว่าไปเถอะครับ ยังไงผมก็ไม่สู้ แล้วก็ไม่โกรธด้วย ก็น้ำเสียงของพี่ลิงก์ที่ดูถูกผม มันอ่อนโยนมากจริงๆ เลยนี่ครับ









@@@@@@@@@@









ผมไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้น แล้วเลื่อนสายตาไปมองวิวตรงกระจกใสที่เปิดผ้าม่านเอาไว้ ก็ยังเห็นเพียงแสงอาทิตย์รำไร ผมเลยหันไปมองเวลาที่แน่นอน ก่อนจะต้องผงะ เพราะตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าเท่านั้น

เฮ้อ..

คงเพราะร่างกายจดจำเวลาตื่นนอนไปแล้ว ถึงจะนอนน้อยแค่ไหน ประสาททุกส่วนในร่างกายก็ยังทำงานตามเวลาอย่างที่ผ่านมา ปกติผมจะตื่นเช้าแล้วนอนเล่นแอื่อยเฉื่อยต่อทั้งวันครับ แต่ที่นี่ไม่ใช่ห้องของผม จะมานอนอืดเป็นซากเปื่อยติดที่นอนไม่ได้

ผมลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดมองพี่ลิงก์ แต่ก็ไม่พบเลยตัดสินใจไปอาบน้ำให้สดชื่นขึ้น พอเดินออกมาอีกทีก็เห็นเจ้าของห้องกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือท่าทางเหนื่อยหอบของเขา

"พี่ไปไหนมาเหรอ"

"ไปฟิตเนสมา"

พี่ลิงก์หันมามอง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากให้ผมเกร็งขึ้นมา

"ที่รีบอาบน้ำ เพราะต้องการลบหลักฐานอะไรหรือเปล่า"

"ไม่ใช่นะครับ! "

ผมหน้ามุ่ยมองพี่ลิงก์ที่หัวเราะออกมาเบาๆ เขาลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า แล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูของผม

"เหมือนมีบางคนจะครางชื่อลิงก์ด้วยล่ะ"

"ไม่..."

ถึงตอนนั้นสติของผมจะกระเจิดกระเจิง แต่ผมก็จำได้ว่าเอาพี่ลิงก์ไปจินตนาการเป็นมโนภาพเท่านั้น และไม่ได้หลุดเสียงร้องเรียกเขาแน่นอน

อย่ามาใส่ร้ายผมนะ!

"หึ! ไม่ใช่ในห้องน้ำ แต่บนโซฟา ตอนนอนอ่ะ"

ผมได้แต่ตาค้าง ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที พี่ลิงก์ยักคิ้วใส่พร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก แล้วเดินไปทางห้องของตัวเองอย่างไม่รับผิดชอบ

ไม่จริงน่า! ผมไม่ได้ฝันลามกถึงเขาใช่ไหม!!!!









@@@@@@@@@@









ผมได้แต่นั่งดูโทรทัศน์ไปเรื่อยเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เอาล่ะ...ผมอาจจะเผลอมีอารมณ์กับความใกล้ชิดที่ไม่เคยเจอมาก่อนแบบนั้น แต่ผมก็จำไม่ได้ว่า ฝันอะไรเกี่ยวกับพี่ลิงก์แม้แต่น้อย ในเมื่อจำอะไรไม่ได้ ผมก็จะไม่ยอมรับ ไม่ว่าความจริงผมจะได้ทำตัวน่าขายหน้าออกมาก็ตาม

ไม่รู้ไม่ชี้ครับผม!

ผมพยักหน้ากับตัวเอง หลังจากจัดการกับความคิดฟุ้งซ่านได้เด็ดขาด ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ที่เดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลอง เขาเหลือบมองผมเล็กน้อย แล้วเดินตรงไปทางห้องครัว ผมลุกขึ้นเดินตามไปดู แล้วก็เห็นอีกฝ่ายกำลังอุ่นอะไรบางอย่างอยู่

"จะกินข้าวเลยไหม"

"ก็ได้ครับ"

ผมนึกโล่งใจที่พี่ลิงก์ไม่ได้พูดถึงเรื่องน่าอายทั้งหลายเกียวกับผมอีก เมื่อเดินเข้าไปยืนข้างกันตรงหน้าเตา ผมก็มองหม้อที่กำลังส่งกลิ่นหอมอย่างสนใจ ข้าวต้มรวมมิตรที่กำลังเดือดเรียกน้ำย่อยในท้องได้อยู่หมัดเลยครับ

"พี่ทำเองหรือครับ"

"อืม ทำตอนบู้หลับ"

พี่ลิงก์หันมามองผม แล้วกลับไปสนใจข้าวต้มตรงหน้าต่อ ผมอมยิ้มออกมาพลางลอบมองท่าทางของเขาไปด้วย จะมาโทษกันไม่ได้หรอกนะครับ เพราะเวลานั้นชาวบ้านเขานอนกัน

"ผมตักให้นะครับ"

ผมกระวีกระวาดไปเตรียมชามมาตักเสิร์ฟข้าวต้มเครื่องกลิ่นหอมให้เรียบร้อย โดยที่พี่ลิงก์ถือแก้วกับเหยือกน้ำเดินตามมาที่โต๊ะอาหาร

ผมนั่งลงพร้อมกับมองชามข้าวต้มน่ากินไปด้วย และเมื่อได้ชิมรสชาติก็รีบตักคำต่อไปทันที พี่ลิงก์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ถามขึ้น

"ไม่ปรุงหน่อยเหรอ"

"โอเคแล้วครับ ผมไม่ได้กินรสจัด"

"อืม บู้ไม่กินรสจัด ลิงก์จะจำไว้ครับ"

พี่ลิงก์อมยิ้มบอก ผมก็กะพริบตาปริบๆ ปรับสายตาที่ปะทะออร่าความน่ารักของเขาอย่างเร่งด่วน ผู้ชายที่ย่ำยีหัวใจของผมอย่างเลือดเย็นก่อนหน้านี้หายไปแล้วครับ เหลือแต่ผู้ชายที่แสนน่าเอ็นดูที่ทำให้ผมอยากจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้นแทน

โธ่....พี่ลิงก์หยุดทำให้ผมเป็นบ้าสักทีเถอะครับ ได้โปรด!

"หน้าแดงทำไม เผ็ดเหรอ"

พี่ลิงก์มองผมด้วยนัยน์ตากระจ่างใส ต่างจากผมทื่หลบสายตาไปมาแล้วก้มลงกินข้าวต้มของตัวเองต่อไปพร้อมกับตอบไม่เต็มเสียงนัก

"....เปล่าครับ"

งื้อ....พี่ลิงก์ใจร้าย! อย่ามาแกล้งถามแบบนี้!

"อืม ไม่ต้องรีบกินก็ได้ เดี๋ยวสำลัก"

ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก ทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ามองคนที่นั่งร่วมโต๊ะเลยสักนิด มือก็ยังจ้วงกินข้าวต้มต่อไปอย่างต่อเนื่อง

"บู้น่ารัก"

"แค่กๆ ..."

ทันทีที่ได้ยินเสียงของพี่ลิงก์ ผมก็สำลักข้าวต้มของตัวเองทันที เสียงหัวเราะของคนต้นเหตุดังขึ้น ผมหันไปคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่ไม่ไกล แล้วเหลือบมองตนตรงหน้าที่ยิ้มขำอย่างปั้นหน้าไม่ถูกเลยครับ

"ฮ่าๆ ตลกว่ะ"

เออ! ขำไปเถอะ ถนัดนักใช่ไหม การทำให้หัวใจคนอื่นปั่นป่วนน่ะ!

ผมคาดโทษอีกฝ่ายเอาไว้อย่างนึกขุ่นเคืองผสมเขินอาย พี่ลิงก์กินข้าวต้มของตัวเองอย่างไม่รีบร้อน นัยน์ตาสีดำก็จ้องมองผมไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

"แกล้งผม"

ผมเผลอหลุดปากออกมาเล็กน้อย แล้วเบื่อนสายตาหลบไปทางอื่น พลางกินข้าวต้มที่ใกล้หมดต่อ

"แกล้งอะไร อย่าใส่ร้ายกันดิ"

"ก็พี่....อ่ะ"

ผมขมวดคิ้ว โดยที่สายตายังมองอาหารเช้าที่ใกล้จะว่างเปล่าของตัวเองไปด้วย เพราะยังไม่กล้ามองพี่ลิงก์เท่าไหร่

"ก็พี่อะไร พูดให้รู้เรื่อง"

ผมเม้มปากของตัวเอง ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนเสียงของพี่ลิงก์จะดังขึ้นอีกครั้ง

"เป็นอะไร ไม่คิดจะมองหน้ากันเลยหรือไง"

ถึงคำถามและน้ำเสียงจะชวนหาเรื่องนิดหน่อย แต่เมื่อผมเลื่อนสายตาไปมองเขา พี่ลิงก์ก็นั่งเท้าคางมองด้วยสายตาที่ยังเจือด้วยรอยยิ้ม

"ก็...."

"ก็....? "

"...เขิน"

ผมปั้นหน้าไม่ถูก ตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองพีลิงก์ อันที่จริงก็ไม่อยากตอบนักหรอกครับ แต่ถ้ามัวแต่อ้ำอึ้งต่อไป เขาก็คงไล่ต้อนผมไม่หยุด และก่อนอะไรก็ตามที่คาดไม่ถึงและยากเกินจะต้านทานตามมา ผมเลยกลั้นใจบอกให้หมดเรื่องหมดราว

ผมเขิน! จบนะครับ!

"บู้กินอิ่มยัง"

ผมทำหน้างงกับคำถามที่คนละเรื่องของเขา แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี เพราะตอนนี้ข้าวต้มของผมหมดแล้ว

"ลิงก์ไม่อยากกินข้าวต้มแล้ว อยากกินอย่างอื่นมากกว่า"

"ฮะ? "

ผมนิ่งอึ้งไปเล็ดน้อย และหน้าตาเหลอหลาของผมก็ทำให้พี่ลืงก์โน้มตัวข้ามโต๊ะมาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะจุ๊บที่ปากจนผมสะดุ้งตกใจจนเกือบหงายหลังตกเก้าอี้

"พี่ลิงก์อยากกินน้องบลูอ่ะครับ"

ถ้าได้ข่าวว่ามีนักศึกษาชายตายในคอนโดหรู ก็ไม่ต้องสงสารหรือเห็นใจอะไรนะครับ เพราะเขาคนนั้นไปสู่สุคติแล้ว ฮือ....













TBC+++++++


Marionetta:
พี่ลิงก์แกล้งน้อง อิอิ ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ ^^
สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :mc4:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
«ตอบ #156 เมื่อ03-01-2020 22:33:33 »

พี่ลิงค์แกล้งน้อง,,,


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
«ตอบ #157 เมื่อ04-01-2020 08:39:00 »

สวัสดีปีใหม่

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
«ตอบ #158 เมื่อ04-01-2020 13:07:14 »

บู้เสร็จลิงก์ ในหลายๆทาง

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
«ตอบ #159 เมื่อ06-01-2020 17:09:31 »

เสร็จพี่ลิงค์สักทีเถอะลูก  :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
« ตอบ #159 เมื่อ: 06-01-2020 17:09:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
«ตอบ #160 เมื่อ09-01-2020 14:14:25 »

Level 20: เราสองคน





"พี่ลิงก์! "

ผมมองพี่ลิงก์ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ส่วนคนก่อเหตุก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกินข้าวต้มของตัวเองต่อ

"ตกใจอะไร ก็แค่บอกความในใจให้ฟัง"

ยัง ยังอีก!

"พี่จะทำให้ผมเป็นบ้า"

ผมบ่นออกมาอย่างอดไม่อยู่ ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ พร้อมกับรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับเข้าที่อีกครั้ง พี่ลิงก์แค่ยิ้มรับอย่างไม่ทุกข์ร้อน

"บู้หาเรื่องลิงก์ก่อนเองนะ"

ผมเลื่อนสายตาไปมองคนที่มากล่าวหาหน้าตาเฉยอย่างไม่เข้าใจ ฝ่ายโจทก์เลยขยายความของตัวเองต่อ

"ก็บู้มาทำให้ลิงก์เขินก่อน"

พอเถอะครับ! จบเรื่องนี้จะได้ไหม....!

"โอเคครับ ผมผิดทุกอย่าง พี่อย่าแกล้งผมอีกเลย"

ผมบอกอย่างยอมแพ้ แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อดับความร้อนที่วิ่งไปทั่วใบหน้า

"ยอมตลอดอ่ะ แล้วเมื่อไหร่จะยอมเข้าไปนอนในห้องด้วยกันสักที"

"พี่ลิงก์ครับ! "

"ฮ่าๆ "

พี่ลิงก์หัวเราะจนน้ำตาเล็ด ผมก็ถอนหายใจพลางมองเขาอย่างระอา

ไอ้คุณชายตุ๊กตาหมีเอ๊ย!








@@@@@@@@@@









หลังจากมื้อเช้าที่ทำให้ผมหัวใจจะวายตายในทุกหนึ่งนาทีได้จบลง ผมก็อาสาเก็บล้างชามให้เรียบร้อย แล้วเดินออกมานั่งดูโทรทัศน์กับพี่ลิงก์ในห้องนั่งเล่น เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่เขินเลยไม่ได้พูดคุยในเรื่องที่อยากรู้นัก ตอนนี้บรรยากาศกลับสู่สภาวะปกติแล้ว ผมเลยถามถึงเรื่องที่สงสัย

"พี่ง่วงไหม ได้นอนบ้างหรือยังครับ"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังสนใจข่าวรอบเช้าอยู่ ตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาไปรับผมช่วงตีหนึ่งจนกระทั่งผมได้นอนก็ราวตีสามเกือบตีสี่ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องทำอาหารเช้าแล้วก็ออกไปเล่นฟิตเนสอีก ถ้าจะได้นอนก็คงไม่ถึงสองชั่วโมงแน่นอนครับ

"นอนตอนบู้หลับ"

พี่ลิงก์หันมาบอก ก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นจนผมเผลอเอนตัวถอยห่างโดยอัตโนมัติ สีหน้ามีลับลมคมในของเขา ทำให้ผมขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ไว้วางใจ

"หึ! ลิงก์ทำทุกอย่างตอนที่บู้หลับ"

"อ่า...ครับ"

มันแค่คำบอกเล่าธรรมดาใช่ไหม ผมไม่ต้องคิดอะไรมากใช่ไหม....

ผมมองพี่ลิงก์ที่กลับไปสนใจโทรทัศน์อีกครั้ง แล้วชวนคุยเรื่องที่อยากรู้ต่อไป ถึงจะคบหาด้วยสถานะพิเศษมาเป็นเดือนแล้ว แต่ผมก็รับรู้เรื่องราวในชีวิตประจำวันของเขาน้อยมากครับ

"ว่าแต่...พี่เข้าฟิตเนสบ่อยไหมครับ"

"ถามทำไม"

น้ำเสียงและแววตาแข็งกระด้างของพี่ลิงก์ ทำให้ผมที่กำลังใช้โอกาสนี้ล้วงข้อมูลส่วนตัวของอีกฝ่ายให้มากขึ้นต้องหยุดชะงักไป

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมา แล้วยกมือบีบแก้มของผมเบาๆ

"แค่เสียงเข้มนิดเดียว แล้วจะหงอทำไมวะเนี่ย"

"ก็...เหมือนพี่ไม่พอใจ"

ก็เล่นส่งอารมณ์มาแบบน้ัน ใครจะกล้าไปต่อวะ....

ผมต่อว่าอีกฝ่ายในใจ แล้วลอบถอนหายใจออกมา เมื่อพี่ลิงก์ส่งยิ้มหวานมาให้ นัยน์ตาสีดำเรียบนิ่งมีแววขบขันเจืออยู่ ผมหน้ามุ่ยมากกว่าเดิม

"แกล้งดุเฉยๆ บู้ไม่เอาดิ ยิ้มหน่อย"

ผมมองที่ลิงก์ที่ยังคงรอยยิ้มเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการเอานิ้วชี้มาจิ้มริมฝีปากของผมไม่หยุดเหมือนกำลังแหย่ตัวอะไรสักอย่างด้วยท่าทางสนุกสนาน

งับนิ้วแม่ง!

ผมทำตามที่คิดทันทีพร้อมกับจ้องตาแขม็งใส่คนที่ทำให้ผมใจแกว่งไปก่อนหน้านี้ พี่ลิงก์แค่ทำสีหน้าแปลกใจ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเอามืออีกข้างลูบหัวของผมไปด้วย

"บู้เหมือนลูกหมาเลย"

ผมปล่อยนิ้วของพี่ลิงก์ให้เป็นอิสระ ถึงจะยังหลงเหลือความขุ่นเคืองอยู่บ้าง แต่สัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับก็ลบล้างความรู้สึกไม่ดีออกไปจนหมด

ผมเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว เวลามีปัญหาหรือไม่พอใจอะไร ส่วนใหญ่ผมก็มักเก็บอาการเอาไว้ และไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง ผมเลยมีนิสัยง่ายๆ ไม่คิดมาก อะไรทนได้ก็ทน อะไรยอมได้ก็ยอม เป็นผู้ชายทื่อๆ ที่ไม่มีอะไรน่าค้นหา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็อาจจะทำให้พี่ลิงก์เบื่อเข้าสักวัน แต่จะให้ผมมาออดอ้อนฉอเลาะก็คงไม่ไหว มันไม่ใช่ตัวตนของผมเลย

"ผมน่าเบื่อไหมครับ"

ผมหลุดปากออกไปอย่างเผลอไผล พี่ลิงก์คลายรอยยิ้มลง เขาเลื่อนมือมากอดคอของผมเอาไว้พร้อมกับมองสีหน้าหม่นหมองของผมไปด้วย

"เป็นอะไร ลิงก์จะเบื่อบู้ได้ไง"

"ผมรู้ตัวดีว่า ตัวเองธรรมดาเกินไป ไม่มีอะไรดีเหมาะกับพี่เลย เพราะผมกลัวพี่จะทิ้งล่ะมั้ง ผมเลยไม่กล้าไปหมด เวลาที่เห็นพี่ทำเหมือนไม่พอใจขึ้นมา"

ผมบอกความในใจที่มีออกมา ความรู้สึกเล็กๆ ที่อยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ แต่นานวันก็ยิ่งทับถมมากขึ้น แล้วผมก็ไม่รู้ว่า ตะกอนเหล่านี้จะทำให้ผมเสียพี่ลิงก์ไปหรือเปล่า

"รู้ป่ะ ลิงก์เคยมีแฟนมาแล้วสามคน บู้เป็นคนที่สี่"

อยู่ดีๆ พี่ลิงก์ก็เล่าเรื่องแฟนเก่าขึ้นมาเฉย ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าที่มองไปทางโทรทัศน์อย่างแปลกใจ ก่อนที่เขาจะหันมาสบตากับผม

"คนแรกหนึ่งอาทิตย์ คนที่สองสามอาทิตย์ คนที่สามสองเดือน"

อ่า....

ผมนั่งอึ้งกับสถิติความรักของพี่ลิงก์ เขายิ้มออกมา

"สาเหตุที่เลิกทุกครั้งก็คือเบื่อ คนแรกเป็นรุ่นพี่โคตรสวย เรียนเก่ง คนดังประจำโรงเรียน แต่ที่คบได้อาทิตย์เดียว เพราะเบื่อที่ชอบสั่ง อวดดี คงคิดว่าเป็นลูกคุณหนูสวยสั่งได้มั้ง ก็เลยเลิก"

โอ้....

"คนที่สองเลยลองมาคบรุ่นน้องแทน หน้าตาน่ารัก ใสๆ จะได้ไม่ต้องมาสั่งอีก แต่ก็อ้อนเยอะ วุ่นวาย น่ารำคาญ ก็ทนมาได้อีกนิดก็เลิกอีก"

พี่ลิงก์เล่าด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ใจของผมนี่เต้นตุบๆ เลยครับ ไม่ต้องบรรยายเยอะ ผมก็พอจะจินตนาการออก แล้วก็อดสงสัยอีกไม่ได้ว่า การที่บอกเลิกได้เร็วแบบนั้น แสดงว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงที่คบเป็นแฟนเลยหรือไงกัน

แล้วถ้าหากไม่ได้คิดอะไร แล้วจะคบกันทำไม...

"พอเข้ามหา'ลัย ก็กะว่าจะเริ่มต้นใหม่ แฟนคนที่สามเป็นสาวเปรี้ยวเลย ทุกอย่างก็พอได้ ไม่อีโก้ ไม่งี่เง่า แต่ไถเงินเก่งฉิบ ชวนให้ซื้อของแบรนด์เนมให้ตลอด ก็เลยเลิก แต่ก็ไม่ได้ง่ายเลยนะ ลิงก์ต้ิองจ้างเลิกด้วย ไม่งั้นตื้อไม่เลิก"

ผมได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา แล้วมองผมด้วยสายตาจริงจัง

"เวลาเบื่อก็คือเบื่อ มันไม่ได้เกี่ยวกับหน้าตา ฐานะ นิสัยใจคอหรอก แต่การที่เราคบกับใครสักคนไม่ได้นาน เพราะอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข พอคิดได้แบบนั้นก็เลยตั้งคำถามสักอย่างเพื่อหาใครสักคนที่เข้ากันได้ จนมาเจอบู้ไง"

ผมเผลอยิ้มออกมา เมื่อพี่ลิงก์ลูบแก้มของผมเบาๆ นัยน์ตาสีดำเป็นประกายขึ้น หัวใจของผมเต้นแรงอีกระดับ ขณะที่ฟังคำพูดของเขา

"บู้เป็นคนที่สี่ ลิงก์ชอบเลขนี้นะ มันพ้องกับภาษาจีนที่แปลว่าตาย"

ฮะ?!

ผมหน้าเหวอออกมาทันที พี่ลิงก์เลยหัวเราะออกมา ตผมปั้นสีหน้าไม่ถูกเลยครับ ตอนแรกมาเกือบซึ้งแล้วนะ แต่ทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้

"ลิงก์ไม่ได้พูดเล่นนะ คิดแบบนั้นจริงๆ ก็หวังว่าคนที่สี่จะเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันไปจนตายเลยอ่ะ บู้โอเคป่ะ"

ผมพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ผมเหมือนถูกพี่ลิงก์เหวี่ยงไปมาจนตามอารมณ์ของบทสนทนาไม่ทันแล้วครับ ความรู้สึกสับสนไปหมด

ซีนนี้มันต้องเขินไหมครับ?!

"ผมก็ไม่รู้..."

"อืม ช่างเถอะ ก็เอาเป็นว่า...ไม่อยากให้บู้ดูถูกตัวเอง เพราะเราสองคนต่างก็เลือกแล้ว บู้เลือกที่จะเข้ามา แล้วลิงก์ก็เลือกที่จะให้เข้ามา ถ้าจะมีใครสักคนที่เบื่อก่อน...ก็อาจจะเป็นบู้ที่เบื่อลิงก์ก่อนก็ได้"

"เฮ้ย! ไม่มีทาง! "

ผมรีบปฏิเสธ เมื่อเห็นใบหน้าหล่อหมองลง เขาเลื่อนสายตามามองผมอีกครั้ง ผมก็ทำสีหน้าจริงจังกลับไป

"ถึงพี่จะแกล้งผมบ่อยมากๆ แต่ถ้าพี่นิยามคำว่าเบื่อ คือการที่อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ผมก็ไม่เคยเบื่อพี่เลย"

"จริงเหรอ"

"ครับ"

น้ำเสียงหนักแน่นของผม ทำให้พี่ลิงก์ยิ้มออกมา ใบหน้าหล่อดูเปล่งประกายขึ้น เขาดึงมือของผมไปกุมเอาไว้

"อืม ดีแล้ว จะมาเบื่อกันง่ายๆ ได้ไง อุตส่าห์รอมาตั้งนาน"

สีหน้างุนงงของผม ทำให้พี่ลิงก์ทำหน้าเซ็งออกมาอย่างขัดใจ ก่อนที่น้ำเสียงทุ้มเรียบเรื่อยจะอธิบายให้ผมเข้าใจ

"ลิงก์ตั้งคำถามมาหลายปีนะ เจอคนเข้ามาตอบไม่รู้เท่าไหร่ คิดดูดิ ตอนนี้จะขึ้นปีสี่แล้ว เพิ่งจะเจอเนี่ย"

ผมนึกถึงเรื่องราวในวันนั้น วันที่ผมได้ตอบคำถามของพี่ลิงก์ ถึงจะมีบางอย่างชวนให้แปลกใจอยู่บ้าง เมื่อได้ย้อนกลับไปนึกถึง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจของผมได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ผมตอบคำถามถูกใช่ไหม

"ตกลงผมตอบคำถามของพี่ถูกใช่ไหมครับ"

พี่ลิงก์มองผมนิ่งๆ อีกครั้ง แล้วปล่อยมือของผมออก ก่อนจะลุกเดินหนีไปในห้องครัวพร้อมกับคำพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่ไร้เยื่อใย

"ซื่อบื้อ"

ผมได้แต่มองตามโดยไม่เอ่ยรั้งอะไร เพราะรู้ดีว่า อีกไม่กี่นาทีเขาก็กลับมา ผมทบทวนเรื่องราวที่ได้รับรู้อีกครั้ง แล้วก็ได้แต่นึกปลงตกกับตัวเอง

ช่างเถอะ...เรื่องวันนั้นคืออะไรก็ไม่รู้ แต่วันนี้ผมเป็นแฟนของพี่ลิงก์แล้วแน่นอน









@@@@@@@@@@









"ฟิตเนสเหรอ ก็เล่นบ่อย"

ถ้าพี่ลิงก์ตอบคำถามแบบนี้กับผมตั้งแต่แรก เราสองคนก็ไม่ต้องพูดเรื่องจริงจังสะเทือนอารมณ์กันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ได้รับรู้ความคิดของเขาเพิ่มมากขึ้น

หลังจากที่พี่ลิงก์เดินเข้าไปในห้องครัว เขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับขนมขบเคี้ยวหลายถุง พอบรรยากาศผ่อนคลายเป็นปกติ ผมก็พูดถึงเรื่องที่ค้างคาเอาไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายก็ไม่ได้เล่นบทแปลกๆ มาให้ผมเหวออีก

"ผมไม่เคยเล่นฟิตเนสเลยครับ ขี้เกียจ"

"ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่"

ผมแอบชักสีหน้ากับน้ำเสียงที่แฝงการกวนอารมร์เอาไว้เล็กน้อย พี่ลิงก์เหลือบมองผม เขาหยิบขนมใส่ปากแล้วเล่าเรื่องของตัวเองต่อ

"เมื่อก่อนโดนป๊าบังคับ แต่พอผ่านไปสักพัก แล้วอะไรหลายอย่างมันดีขึ้น ก็ทำมาตลอด"

"ป๊าของพี่เขาหวังดี"

"อืม ที่จริงแล้วป๊าอยากให้ลิงก์เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบนะ แต่จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงใช่ป่ะ ป๊าเลยหวังให้อย่างน้อยที่สุดรูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องดูดีไว้ก่อน ทำนองนั้น"

ผมคิดตามคำบอกเล่าของพี่ลิงก์ แล้วมาเทียบกับตัวเอง สมัยมัธยมผมก็กินๆ นอนๆ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ ต่างจากน้องชายที่โหมเล่นกีฬาจนตัวสูงนำผมไปหลายเซนติเมตรแบบไม่เกรงใจพี่ชายอย่างผมบ้างเลย แต่โชคดีที่ผมเรียนเก่งให้พ่อกับแม่ชื่นชมครับ

"แต่พี่ก็ดูดีจริงๆ นั่นแหละ"

พี่ลิงก์ก็แค่ยักคิ้วรับแบบวางมาด ผมนึกหมั่นไส้เขาเต็มอก แต่ก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ ในเมื่อคนน่าอิจฉาตรงนี้ดันมาเป็นแฟนของผม

"บางทีผมน่าจะหาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง"

"ไม่ต้องหรอก ตัวนิ่มๆ ก็ดีอยู่แล้ว"

"พี่จะบอกว่าผมอ้วนใช่ไหม"

"บู้ยังไม่อ้วนนะ แค่มีพุง"

ผมทำหน้าเซ็งพร้อมกับแอบแขม่วพุงของตัวเองไปด้วย พี่ลิงก์ที่มองท่าทีของผมออกก็อมยิ้มออกมา

"มีพุงก็ตัวนิ่มไง ดีออก"

"เขามีแต่คนชอบผอมเพรียว เอวบางไม่ใช่หรือครับ"

"ก็ใช่ ถ้าจะเอาไว้ควงเล่น แต่ถ้าจะเอาไว้นอนกอดก็ต้องนุ่มนิ่มไม่ใช่เหรอ"

นั่นไง! โดนอีกแล้ว! ผมต้องเขินไหมครับ บอกที!









@@@@@@@@@@









เราสองคนคุยสัพเพเหระไปเรื่อย โดยที่มีองค์ประกอบคือโซฟา รายการในโทรทัศน์ และขนมกินเล่นครับ จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่ายพี่ลิงก์ก็สั่งพิซซ่ามากิน ตอนนั้นเองที่ผมเริ่มคิดถึงโอกาสและจังหวะที่จะมอบของขวัญที่เตรียมเอาไว้ให้เขาสำหรับวันครบรอบนี้

ผมไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติกหรือถนัดเรื่องสร้างความประทับใจ หลังจากช่วยพี่ลิงก์เก็บกวาดซากอาหารเที่ยงที่กินจนอิ่ม ผมก็ตัดสินใจยื่นของขวัญที่ทำเอาไว้ให้อีกฝ่ายแบบไม่มีพิธีรีตองหรือเกริ่นนำอะไร ซึ่งทำให้คนรับทำหน้างงออกมา

"อะไร"

ถึงพี่ลิงก์จะทำหน้าสงสัยแต่ก็รับของขวัญที่ผมส่งให้แต่โดยดี ความรู้สึกเขินอายของผมกลับมาทำงานอีกครั้ง

"เอ่อ..ของขวัญ"

"ของขวัญ? "

"ก็...วันครบรอบอ่ะครับ"

ผมก้มหน้างุดพร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม พี่ลิงก์มองผมครู่หนึ่ง เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาหอมแก้มของผม แล้วอมยิ้มออกมา

"ขอบคุณครับ"

ผมพยักหน้ารับรัวๆ พลางมองพี่ลิงก์ที่แกะของขวัญที่ได้รับไปด้วย เมื่อกระดาษที่ห่อหุ้มถูกแกะออกจนหมด เคสโทรศัพท์มือถือที่ผมตกแต่งเอาไว้ก็ตกอยู่ในสายตาของเขา

"ลายอะไรวะ"

"ผมก็ไม่รู้"

ผมยิ้มแหยออกมา ตอนที่พี่ลิงก์พิจารณาของขวัญที่เพิ่งได้รับ อันที่จริงลวดลายก็ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษครับ นอกจากสติกเกอร์ตัวอักษรที่เรียงเป็นชื่อของเราสองคน

ชื่อของพี่ลิงก์ที่อยู่บนเคสโทรศัพท์มือถือของผม และชื่อของผมที่อยู่บนเคสโทรศัพท์มือถือของเขา

ตอนนั่งทำ ผมก็เขินนะ ยังแอบคิดว่า พี่ลิงก์จะกล้าใช้หรือเปล่า แต่ถ้าเขาไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่อย่าทิ้งก็พอ

"ขอใช้เลยได้ไหม"

พี่ลิงก์ไม่ได้รอคำตอบของผม เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเปลี่ยนเคสใช้งานเสร็จ แล้วหันมามองผมที่กำลังยืนยิ้มอยู่

"เอาของบู้มาด้วย เดี๋ยวเปลี่ยนให้"

ผมส่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองไปให้ พี่ลิงก์ทำการเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย แล้วหยิบไอแพดมาถ่ายรูปเคสโทรศัพท์มือถือที่วางคู่กัน ทั้งสองอันลวดลายเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นชื่อของเจ้าของที่เป็นของกันและกัน

พี่ลิงก์ส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้ แล้วจับมือของผมเอาไว้

"จริงๆ ลิงก์ก็มีบางอย่างให้เหมือนกัน"

ผมนึกแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่ลิงก์จะมีของขวัญให้ผมด้วยเหมือนกัน เขาพาผมเดินไปยังห้องหนึ่งที่ผมได้แต่มอง ทว่าไม่เคยได้เข้าไปสักที มันไม่ใช่ห้องนอนของเขาครับ แต่เป็นห้องบางอย่างที่มียูกิโนะอยู่

"ที่ชวนมาคอนโด วันนี้ ก็ตั้งใจจะเปิดห้องนี้ให้บู้เห็น ห้องส่วนตัวของลิงก์"

ผมมองพี่ลิงก์ที่กำลังจะเปิดประตูออก ความตื่นเต้นมากขึ้น ตอนนี้ผมกำลังเข้ามาในชีวิตของเขามากขึ้นอีกนิดแล้วครับ













TBC++++++++

Marionetta:
เป็นตอนที่ปล่อยให้แฟนเขาสวีตกันค่ะ อิอิ พี่ลิงก์ก็หยอกบู้ด้วยความรักเช่นเคย >///< ขอบคุณที่ติดตามค่ะ เจอกันตอนหน้าน้า

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 20 > 09-01-20
«ตอบ #161 เมื่อ09-01-2020 22:46:56 »

ไม่ชินพระเอกสายมุ้งมิ้งเลยอ่ มันแหววไป๊ :m20:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 20 > 09-01-20
«ตอบ #162 เมื่อ10-01-2020 00:21:55 »

มันคือห้องอะไรนะ,,,

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 20 > 09-01-20
«ตอบ #163 เมื่อ14-01-2020 13:10:14 »

Level 21: โลกส่วนตัว






คอนโดของพี่ลิงก์ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็มีสัดส่วนชัดเจน ทั้งส่วนทางเข้าที่มีเฟอร์นิเจอร์เป็นตู้ใส่รองเท้า ห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับห้องครัวและโต๊ะกินข้าวขนาดสี่ที่นั่ง ถัดออกไปเป็นห้องน้ำที่ผมใช้งานประจำเวลาได้มาที่นี่ อีกด้านหนึ่งประกอบด้วยห้องที่ผมไม่เคยเข้าไปสองห้อง

ห้องหนึ่งคือห้องนอนและอีกห้องหนึ่งพี่ลิงก์กำลังจะพาผมเข้าไปด้านในครับ เมื่อประตูไม้เปิดออก ห้องที่ทาด้วยสีขาวสะอาดก็ปรากฏสู่สายตา ทว่าสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ผมคือ สิ่งของที่อยู่ภายในห้องนีั

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เหมือนเด็กที่กำลังอวดของ

"ตามสบายเลยนะ"

"อ่า...ครับ"

หลังจากที่ผมก้าวเข้ามาในอาณาเขตส่วนตัวของพี่ลิงก์ ผมก็กวาดสายตามองไปรอบด้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ

ห้องสี่เหลี่ยมกว้างอัดแน่นไปด้วยสิ่งของจนเกือบเต็ม แต่ก็ไม่ได้ดูรกหรือเกะกะแต่อย่างใด ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้ามีระเบียงที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจก ทางด้านซ้ายของห้องมีชั้นหนังสือที่จัดเข้ามุมคู่กับโซฟาขนาดเล็กที่ดูอบอุ่น ถัดไปเล็กน้อยมีโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่อยู่ติดกับประตูที่เชื่อมไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นห้องนอน ส่วนทางด้านขวามีกีตาร์โปร่งที่วางพิงผนังใกล้กันมีเบาะนอนยาว ชั้นวางของ และอุปกรณ์สำหรับวาดรูปวางอยู่ครับ

"พี่ชอบวาดรูปด้วยหรือครับ"

ผมถามขึ้นพร้อมกับเดินไปมองภาพสีน้ำบนกระดานวาดรูป ซึ่งเขาวาดเลียนแบบมาจากรูปถ่ายที่หนีบอยู่กับไม้กระดานแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ข้างกัน แถมฝีมือก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย

"อืม ชอบตั้งแต่เด็กแล้ว ลิงก์ไปเรียนวาดรูปเพิ่มมาด้วย"

ผมพิจารณาผลงานที่อยู่ตรงหน้าด้วยความทึ่ง พี่ลิงก์เดินไปหยิบสมุดวาดรูปมาให้ผมดูเพิ่ม มีทั้งลายเส้นที่วาดด้วยดินสอและปากกา รวมไปถึงภาพที่ระบายสี

พี่ลิงก์เดินไปเปืดคอมพิวเตอร์ แล้วเรียกให้ผมที่กำลังตั้งใจดูภาพวาดในสมุดหันไปสนใจ เขาเลื่อนเมาส์ไปเปิดโฟลเดอร์หนึ่ง ก่อนถาพมากมายจะปรากฏขึ้นมาเต็มหน้าจอ

"เป็นไง สวยป่ะ"

ผมพยักหน้ารับรัวๆ เมื่อภาพถูกเปลี่ยนไปตามการคลิกของเมาส์ รูปที่พี่ลิงก์ให้ผมดูเป็นภาพการ์ตูนที่ลายเส้นสวยมากครับ แถมการลงสีก็เข้าขั้นเทพเลยด้วย อลังการงานสร้างมากๆ

"ลิงก์วาดรูปเก่ง"

ตรงนี้มีคนขี้อวดหนึ่งคนครับ!

ผมมองท่าทางกระหยื่มยิ้มย่องของเชาอย่างนึกหมั่นไส้และชื่นชมในคราวเดียวกัน ภาพวาดของพี่ลิงก์ส่วนใหญ่อ้างอิงมาจากอนิเมะและเกมครับ

"ถ้าพี่จะเก่งขนาดนี้ ทำไมไม่เรียนด้านนี้ไปเลยครับ เรียนบริหารทำไม"

พี่ลิงก์ที่กำลังอวดผลงานของตัวเองให้ผมดูนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนเสียงทุ้มเรียบเรื่อยจะดังขึ้น นัยน์ตาที่เป็นประกายอ่อนแสงลงจนเห็นได้ชัด

"ก็อยากช่วยป๊ากับพ่อมากกว่า บู้รู้หรือเปล่าว่าชีวิตคนเรามีงานอยู่สองอย่าง"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างแปลกใจ เขาส่งยิ้มบางมาให้แล้วอธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"งานที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงชีวิตและงานที่ต้องทำเพื่อล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ"

ผมยืนนิ่งฟังอย่างคาดไม่ถึง แม้ว่าบ่อยครั้งเขาจะทำตัวเหมือนเด็กจนน่าอ่อนใจ แต่ก็มีหลายครั้งที่แสดงความเป็นผู้ใหญ่ออกมา พี่ลิงก์หันไปมองภาพวาดของตัวเองที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง

"แล้วภาพวาดพวกนี้ก็เป็นงานที่ช่วยเติมเต็มตัวตนของลิงก์ แล้วที่สำคัญเป็นผู้บริหารที่วาดรูปเก่งก็เท่ดีออก"

"ครับ"

ผมก็ว่าพี่ลิงก์เท่จริงๆ นั่นแหละครับ

ผมยิ้มรับพร้อมกับมองอีกฝ่ายไม่ละสายตา โดยไม่ได้สนใจน้ำเสียงทุ้มที่กำลังเล่าที่มาของภาพที่เปิดให้ดูเท่าไหร่นัก ก็ในเมื่อตอนนี้ภาพที่สวยและดึงสายตาของผมได้มากที่สุดคือเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังแต้มรอยยิ้มน่ามองนี่ครับ









@@@@@@@@@@









"ลิงก์จะวาดรูปให้ แลกกับเคสโทรศัพท์มือถือที่บู้ทำให้"

พี่ลิงก์หันมาบอก หลังจากนำเสนอผลงานของตัวเองทั้งหมดเสร็จแล้ว ผมเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะเดินไปนั่งตรงโซฟา เพราะยืนดูภาพในคอมพิวเตอร์มาพักหนึ่งแล้วครับ

"ไม่เป็นไรครับ รบกวนเวลาพี่"

"ถ้ากวนแล้วจะอยากทำให้ไหม"

พี่ลิงก์ชักสีหน้าใส่ ผมก็ยิ้มแหยออกมา เขาเดินไปหยิบกระดานวาดรูปแบบตั้งโต๊ะและอุปกรณ์ต่างๆ มานั่งตรงหน้าผม แล้วเผยรอยยิ้มมุมปาก

"ลิงก์จะวาดรูปเหมือน บู้นั่งนิงๆ แล้วกัน"

"เอ่อ...ครับ"

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน ผมรู้สึกเกร็งเล็กน้อย เมื่อต้องมานั่งประจันหน้ากับพี่ลิงก์แบบนี้

"ทำหน้าแบบนั้น ปวดขี้เหรอ"

"เปล่าครับ ก็แค่...ไม่รู้จะทำหน้ายังไง"

"ก็ทำตัวตามสบาย"

"...ครับ"

ผมตอบอ้อมแอ้ม พี่ลิงก์ยกยิ้มพร้อมกับขยับมือที่กำลังวาดรูปของผมไปด้วย เวลาผ่านไปสักพัก ผมก็เริ่มทำตัวไม่ถูกอีกรอบ

"ใกล้เสร็จหรือยังครับ"

"ยัง"

ท่าทางตั้งใจของพี่ลิงก์ ทำให้ผมไม่กล้ากวนเขาอีก ผมรู้ว่างานศิลปะต้องอาศัยเวลาและสมาธิ แต่จะให้นั่งเฉยอย่างเดียวก็ไม่ค่อบโอเคเท่าไหร่ครับ

"ผมคุยกับพี่ได้ไหม"

"แล้วนี่เราไม่ได้คุยกันอยู่เหรอ"

พี่ลิงก์มองผมด้วยสายตาต่อว่า เมื่อได้ยินคำอนุญาตผมเลยเริ่มชวนเขาคุยทันที

"พี่ชอบวาดรูปอะไรมากที่สุดครับ"

"วิวมั้ง แล้วแต่อารมณ์"

"แล้วพี่วาดภาพเหมือนบ่อยไหม"

"ไม่บ่อย"

"แล้วพี่เคยวาดภาพแบบว่า...อืม...ภาพอาร์ตแบบเซ็กซี่อะไรแบบนั้นไหมครับ"

ผมนึกถึงฉากหนึ่งในหนังที่เคยดูขึ้นมา นักเรียนกลุ่มหนึ่งนั่งวาดรูปกึ่งเปลือยของนางแบบสาวสวยอะไรแบบนั้น แล้วคงจะมีผู้หญิงหลายคนเต็มใจแก้ผ้าเป็นนางแบบให้เขาวาดรูปฝึกฝีมือแน่นอนครับ

"ไม่เคย แต่ก็น่าสนใจดี"

ผมมองพี่ลิงก์ที่เลื่อนมาสบสายตากับผม เขายิ้มมุมปาก โดยที่มือก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว

"อยากวาดภาพนู้ดของบู้"

"ไม่เอานะพี่ลิงก์! "

ผมโวยวายออกมาอย่างร้อนรน พี่ลิงก์ก็แค่หัวเราะเบาๆ แล้วไม่ได้สานต่อบทสนทนาเดิมอีก ความรู้สึกร้อนไปทั่วใบหน้า เมื่อเผลอจินตนาการถึงภาพของตัวเองที่กำลังเปลือยกายเป็นแบบให้พี่ลิงก์วาดรูป

ไม่ไหว!

ผมลูบแขนของตัวเอง รู้สึกสยองปนเขินอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะคบกับพี่ลิงก์เป็นแฟน แต่ผมก็ยังใจไม่กล้าพอจะเปลื้องผ้าต่อหน้าเขา แม้ว่าหลายครั้งจะแอบเอาอีกฝ่ายไปจินตนาการลามกอยู่บ้างก็ตาม

"เป็นอะไรอีก"

คำถามของพี่ลิงก์ ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ของตัวเอง แล้วส่ายนห้าไปมาพร้อมกับทำตัวให้เป็นปกติปิดบังพิรุธที่เกิดขึ้นในใจ จนเวลาผ่านมาระยะหนึ่ง แสงแดดตอนบ่ายอ่อนลงตามการเดินทางของเข็มนาฬิกาที่แขวนผนัง

"ใกล้เสร็จหรือยังครับ"

ผมอดถามขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ เพราะเวลาในการเป็นนายแบบผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วครับ

"อย่าเร่ง"

"ขอโทษครับ"

ผมมองพี่ลิงก์ที่ยังทำงานศิลปะของตัวเองต่อไป แล้วมองไปทางกีตาร์ที่วางอยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง

"ผมเล่นกีตาร์เป็นด้วยนะครับ"

"เหรอ เล่นให้ฟังหน่อยดิ"

"แต่ผมเล่นไม่เก่งมากนะครับ ไม่ได้เล่นนานแล้วด้วย"

"อืม อยากฟัง"

ผมก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย หลังจากนั่งไม่มีอะไรทำอยู่สักพัก หน้าที่นายแบบของผมก็จบลงครับ ในที่สุดพี่ลิงก์ก็วาดรูปเสร็จสักที

"นี่ไง"

พี่ลิงก์ลุกเอารูปมาให้ผมดูด้วยรอยยิ้ม ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ก่อนจะตาค้างเมื่อได้เห็นภาพเหมือนของตัวเองเต็มตา

"เอ่อ..."

"เหมือนเป๊ะเลยใช่ป่ะ"

พี่ลิงก์นั่งลงบนที่วางแขนของโซฟาพร้อมกับมองรูปที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยกัน ผมคงจะไม่ตกตะลึงขนาดนี้ ถ้าหากภาพของตัวเองคือก้อนอะไรสักอย่างสีฟ้าที่อยู่บนโซฟาครับ

ไอ้นี่มันคืออะไรวะ?! สองชั่วโมงกว่าที่ผ่านมาคือไอ้ก้อนนี่เหรอ?!!!

"พี่ลิงก์...."

ผมลากเสียงคร่ำครวญออกมา เพราะมั่นใจแล้วว่า โดนเขาแกล้งอีกแล้ว ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่วาดและระบายด้วยปากกาสีครับ ทุกอย่างเป็นภาพเหมือนทั้งหมด ยกเว้นตัวเอกอย่างผม!

"หึ! ทำไม ไม่ชอบเหรอ"

"ก็พี่แกล้งผม"

"ไม่ได้แกล้ง ก็บู้เป็นแบบนี้อ่ะ"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างหาเรื่อง เขาก็เริ่มอธิบายภาพวาดของตัวเองด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน แล้วผมก็ต้องนึกระอาใจ เมื่อได้ฟังที่มาที่ไปของก้อนประหลาดนี้

"ก็บู้ตัวกลมๆ นิ่มๆ ตรงนี้เป็นแก้มกับพุงของบู้ ชื่อบลูก็ต้องตัวสีฟ้า แล้วนี่ก็แขนกับขาสั้นๆ เหมือนเป๊ะเลย"

เอ่อ...ถ้าจะบรรยายมาขนาดนี้ ผมก็หมดคำพูดแล้วครับ

ผมตีหน้ามุ่ยออกมา พี่ลิงก์ก็ยกมือขึ้นลูบหัวของผมเหมือนกำลังปลอบใจ พอผมหันไปส่งสายตาไม่พอใจใส่ เขาก็อมยิ้มออกมา

"ในสายตาลิงก์ บู้ก็เป็นแบบนี้อ่ะ น่ารัก"

ผมเม้มริมฝีปากของตัวเอง ก็ไม่อยากจะยิ้มหรอกนะครับ แต่ความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดแล้ว

"เหมือนก็เหมือน"

"หึ! "

ให้ตายเถอะ! ใช้เวลาตั้งนานได้แค่ไอ้ก้อนนี่จริงๆ น่ะเหรอ เฮ้อ...









@@@@@@@@@@









พี่ลิงก์บังคับให้ผมเปลี่ยนรูปดิสเพลย์เป็นรูปที่เขาวาดให้ครับ ผมในฐานะที่เป็นรองมาตลอด ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยแบบไม่มีหัวข้ออะไรจริงจังนัก

ผมหยิบกีตาร์โปร่งของพี่ลิงก์มาเล่น โดยที่เขาเปิดหาคอร์ดเพลงในอินเทอร์เน็ต ถึงจะไม่ได้เล่นมานาน แต่ดูเหมือนทักษะด้านนี้ของผมจะยังไม่หายไปไหน

พวกเราผลัดกันเล่นผลัดกันร้องจนแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านมาจากระเบียงหายไป ท้องฟ้าสดใสก็กำลังเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น

"ตอนเย็นกินอะไรดี"

พี่ลิงก์ถามขึ้น เขานอนอยู่บนเบาะที่วางอยู่บนพื้น ส่วนผมก็นั่งขัดสมาธิโดยที่ถือกีตาร์ไว้บนตักครับ

"แล้วแต่พี่ ผมนึกไม่ออก"

"อืม งั้นหาของเหลือในตู้เย็นมาทำก็แล้วกัน"

พี่ลิงก์ลุกขึ้นยืน ผมวางเครื่องดนตรีที่ใช้งานมาสักพักพิงกับผนังไว้เหมือนเดิม แล้วเดินตามเขาไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมมื้อเย็นของพวกเรา

พี่ลิงก์เดินไปค้นของที่จะสามารถนำมาทำอาหารได้ครู่หนึ่ง เขาก็บอกให้ผมช่วยเตรียมของให้ หลังจากนั้นเพียงไม่นานอาหารง่ายๆ สองสามอย่างก็เสร็จสิ้น

เราสองคนนั่งกินข้าวเย็นในเวลาเกือบหนึ่งทุ่มตรง รสมือของพี่ลิงก์ก็ยังอร่อยเหมือนเดิมครับ พอมานึกถึงตรงนี้ผมก็เริ่มทบทวนตัวเองขึ้นมา บางทีผมก็ควรจะฝีกทำอาหารบ้างเหมือนกัน

"ไปนั่งเล่นที่ระเบียงกัน"

พี่ลิงก์พูดขึ้น หลังจากที่ผมจัดการเก็บล้างเรียบร้อย เขาก็ส่งถุงขนมมาให้ผม แล้วเดินถือกล่องน้ำผลไม้และแก้วน้ำเดินนำเข้าไปในห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาอีกครั้ง

เราสองคนก้าวตรงไปยังระเบียงด้านนอกที่มีวิวกลางคืนสวยงามและสายลมพัดผ่าน

"ลมแรงเหมือนกันนะครับ"

"อืม แต่ก็สบายดี ว่างๆ ลิงก์ก็ชอบมานั่งเล่นบ่อยๆ "

พวกเรานั่งบนพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องโดยมีของกินคั่นกลางครับ ผมมองพี่ลิงก์แล้วยิ้มออกมา เมื่อเห็นคนที่นั่งข้างกันยกแก้วที่ใส่น้ำผลไม้ขึ้นดื่ม

พี่ลิงก์เป็นผู้ชายรักสุขภาพครับ เขาไม่ชอบดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ด้วย ซึ่งก็อาจจะดูแปลกไปบ้างเมื่อเทียบกับคนในวัยเดียวกัน

"คืนนี้ค้างที่นี่นะ"

พี่ลิงก์หันมามอง ผมนึกลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ

"แต่ผมนอนโซฟาเหมือนเดิมนะ"

พี่ลิงก์หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนน้ำเสียงกลั้วหัวเราะจะดังขึ้น นัยน์ตาสีดำอ่อนแสงอย่างอารมณ์ดี

"นอนห้องนี้ไหม เอาผ้ามาปูนอนด้วยกัน"

ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย พี่ลิงก์หันไปมองวิวด้านหน้าโดยที่หลังยังพิงผนังด้านหนึ่งของระเบียงไว้อย่างผ่อนคลาย

"แค่อยากนอนกอด ได้หรือเปล่า"

พูดมาขนาดนี้ ผมยังปฏิเสธได้หรือไงครับ!

พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองผมอีกครั้ง ผมที่หัวใจเต้นแรงก็พยายามเก็บท่าทีของตัวเอง แล้วเลื่อนสายตาไปสบกับเขา

"แค่นอนกอดนะครับ"

"จูบด้วย"

"อ่า...ครับ"

ผมอมยิ้มด้วยความรู้สึกเขินมากครับ ตอนนี้ไม่กล้ามองพี่ลิงก์เลย แต่ไออุ่นที่ได้รับตรงผิวแก้ม ก็ทำให้ผมต้องหันไปมองอย่างเผลอตัว และเมื่อได้สบสายตาของเขา ทุกการควบคุมของผมก็พังทลายลง

เราสองคนไม่ได้พูดคุยอะไร แต่สื่อสารกันผ่านการสัมผัสของริมฝีปากที่แนบชิดอย่างลึกซึ้งแทน ใช้ทุกจังหวะและการเคลื่อนไหวส่งต่อและบ่งบอกความรู้สึกที่มีต่อกัน

ถึงความสูงของคอนโดมิเนียมจะทำให้อากาศค่อนข้างเย็น แต่พี่ลิงก์ก็เน้นย้ำจูบซ้ำไปซ้ำมาจนร่างกายของผมร้อนผ่าวและอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจเลยครับ







TBC++++++++

Marionetta:
มาแบบหวานละมุนอีกแล้ว 555 ขอบคุณที่ติดตามค่ะ อ่านคอนเมนต์ทึกครั้งก่อนแต่งเลย อิอิ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 21 > 14-01-20
«ตอบ #164 เมื่อ14-01-2020 23:39:55 »

หวานมากครับ,,,

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 21 > 14-01-20
«ตอบ #165 เมื่อ17-01-2020 14:45:03 »

Level 22: ผู้ร่วมเดินทาง







ผมจำไม่ได้ว่าถูกนอนกอดครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะสมัยที่ผมยังเป็นเด็กประถมมั้งครับ ซึ่งมันก็นานจนลืมความรู้สึกในตอนนั้นไปแล้ว และความอบอุ่นที่ถ่ายทอดจากท่อนแขนที่กำลังกอดรัดอยู่ตอนนี้ก็ทำให้ผมนอนไม่หลับ

คืนนี้ผมนอนค้างที่คอนโดของพี่ลิงก์ครับ เจ้าของห้องเอาฟูกมาปูนอนกับพื้นและกำลังนอนกอดผมหลับสบายในห้องงานอดิเรกของเขา ทิ้งให้ผมตาสว่างและหัวใจเต้นแรงตามลำพังในความมืดอย่างสิ้นหนทาง

ผมพยายามข่มตาหลับ แต่ลมหายใจร้อนสม่ำเสมอที่กำลังพัดผ่านข้างแก้มเป็นอุปสรรคหลักที่ทำให่ความรู้สึกของผมไม่สงบจนนอนหลับไม่ลง จะขยับตัวหนีก็กลัวคนที่นอนหลับไปแล้วตื่น ตอนนี้เลยได้แต่นอนลืมตามองเพดานไปเรื่อยเปื่อย

“...บู้”

เสียงทุ้มแผ่วเบาที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย และเมื่อเหลือบไปมองคนที่นอนหลับ ก็เห็นนัยน์ตาสีดำกำลังทอดมองอยู่

“นอนไม่หลับเหรอ”

“...ครับ”

ผมบอกเสียงเบา แต่ก็ยังนอนนิ่งในอ้อมแขนของอีกฝ่ายอยู่เหมือนเดิม พี่ลิงก์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น

“งั้นหาอะไรทำให้เหนื่อยดีไหม”

“เอ่อ....ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวสักพักผมก็หลับ ผมรู้สึกง่วงนิดๆ แล้ว”

ผมรีบพูดออกไปทันที ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์หมายถึงอะไร แต่สมองของผมไม่ได้คิดในแง่ดีสักอย่าง เสียงหัวเราะแผ่วเบาของคนที่นอนข้างกันดังขึ้น ก่อนที่ปลายจมูกของเขาจะกดลงที่หูของผมจนขนลุกไปทั้งร่าง

“ถ้าเปลี่ยนใจก็เรียกได้ตลอดนะ”

แล้วทำแบบนี้ เมื่อไหร่ผมจะหลับได้ล่ะครับ!








@@@@@@@@@@









วันต่อมาพี่ลิงก์ก็มาส่งผมที่หอพักในช่วงบ่าย หลังจากนั้นชีวิตประจำวันของผมก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้งครับ ผมยังไปทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมเหมือนเดิม และบางวันผมก็ไปรอพี่ลิงก์ที่ร้านกาแฟแถวบริษัท แล้วออกไปดูหนังหรือหาอะไรกินด้วยกัน

ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบง่ายจนกระทั่งมาถึงช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเปิดเทอมใหม่ งานพิเศษในฐานะครูสอนพิเศษของผมก็จบลงตามที่ได้ตกลงกับพี่นกเอาไว้ก่อนหน้านี้ พวกรุ่นพี่นัดพาผมกับเป็ดไปเลี้ยงส่งกันเล็กน้อย แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสอีก ผมก็อยากกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งครับ

เป็คอยช่วยพี่นกบ้างเป็นครั้งคราวอยู่แล้ว ส่วนผมก็พักผ่อนอยู่ที่ห้องรอเวลาของการเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าครับ

ในขณะที่ผมกำลังนั่งดูหนังในโน้ตบุ๊กอย่างผ่อนคลาย เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น และเมื่อหยิบมาดูก็พบว่าเป็นพี่ลิงก์ครับ

“ครับพี่”

[บู้เตรียมตัวจัดกระเป๋า พรุ่งนี้จะไปรับ]

“ไปไหนครับ”

[จะพาไปเที่ยว พอดีพวกนั้นจะไปบริจาคของที่โรงเรียนในต่างจังหวัดน่ะ]

“อ้อครับ แล้วไปกี่วันครับ”

[ไปค้างคืนเดียว หรือบู้อยากไปเที่ยวไหนต่อล่ะ]

“ไม่ครับ จะเปิดเทอมแล้ว ผมขี้เกียจ”

[เอาแต่นอนอืดเป็นหมู แค่นี้ล่ะ ทำงานต่อแล้ว]

“ครับ”

ผมวางสายของพี่ลิงก์แล้วกลับมาสนใจหนังที่หยุดไปเมื่อครู่นี้อีกครั้ง ก่อนจะลุกไปจัดกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ









@@@@@@@@@@









เมื่อคืนนี้พี่ลิงก์นัดจะมารับผมตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เพราะต้องเดินทางกันไกล ผมลงมารอที่ด้านล่างของหอพักได้เพียงไม่นานก็เห็นรถยนต์สีขาวไม่คุ้นตามาจอดอยู่ตรงหน้า และผมก็คงจะไม่ได้สนใจ ถ้าหากกระจกด้านข้างคนขับไม่ถูกเลื่อนลงมาจนเห็นใบหน้าน่ารักของใครคนหนึ่งเข้า

พริ้ม...

ผมนึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ที่เดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ผมยังไม่ทันได้ถามอะไร เขาก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“พริ้มไปด้วย มาดักที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนน่ะ”

ผมพยักหนัาเข้าใจ เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้าหากพริ้มจะเดินทางไปด้วย ถึงแม้ตอนนี้เธอจะกำลังส่งสีหน้าเอาชนะผมมาให้อย่างชัดเจนก็ตาม

ผมไม่ได้โมโหหรือไม่พอใจครับ ในเมื่อจะต้องเดินทางไปด้วยกัน ผมเลยหันไปทักทายเพื่อไม่ให้บรรยากาศหลังจากนี้ตึงเครียดจนเกินไป

“สวัสดีครับพริ้ม”

“เชอะ!”

พริ้มแค่นเสียงพร้อมกับสะบัดหน้าใส่ ผมก็ถอนหายใจออกมา แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังต่อว่าน้องสาวที่ทำกิริยาไม่น่ารัก

“ทำตัวให้ดีหน่อย เดี๋ยวก็ไม่ให้ไปด้วยหรอก”

“พี่ลิงก์จะผิดสัญญาเหรอ!”

พริ้มทำหน้างอนใส่ แล้วเลื่อนกระจกขึ้นปิดด้วยท่าทางไม่พอใจ พิลิงก์จ้องเขม็งไปยังน้องสาว ก่อนจะหันมาทางผมด้วยท่าทางหงุดหงิด

“บู้นั่งหลังนะ ขี้เกียจเถียงกับพริ้ม”

“ครับ”

ผมยิ้มให้พี่ลิงก์ แล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลัง สัมภาระของผมมีแค่เป้ใบเดียวครับ และเมื่อทุกคนเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย การเดินทางก็เริ่มขึ้น

ผมมองบรรยากาศภายในรถที่เงียบกริบ พี่ลิงก์ก็เอาแต่สนใจภนนข้างหน้า ส่วนพริ้มก็เอาแต่กดโทรศัพท์มือถือ ผมเลยหันไปมองวิวข้างหน้าต่างแทน

หวังว่าทริปครั้งนี้จะไม่น่าอึดอัดจนเกินไปนะครับ









@@@@@@@@@@









พี่ลิงก์นัดกับเพื่อนๆ กันที่ปั๋มแห่งหนึ่ง เพราะวันหยุดนี้ตรงกับวันเกิดของพี่ดิมพอดี ทุกคนเลยตกลงไปเที่ยวและทำบุญไปพร้อมกัน ทริปบริจาคของให้น้องๆ ที่อยู่เขตห่างไกลแบบเฉพาะกิจจึงเกิดขึ้นครับ

การเดินทางครั้งนี้มีกลุ่มของพี่ลิงก์ รวมผมกับพริ้มไปด้วยก็ทั้งหมดเจ็ดคนครับ สิ่งของที่จะนำไปบริจาคเป็นอุปกรณ์กีฬาและเครื่องเขียน ซึ่งใส่ในรถกระบะที่พี่เรย์เป็นคนขับมากับพี่ดิมและพี่พล ส่วนพี่ทีขับรถมาคนเดียว

“มาจริงดิ”

พี่เรย์ทักขึ้น เมื่อเห็นพริ้มลงมาจากรถ เธอก็แค่ยิ้มให้ ก่อนจะเดินไปทางร้านสะดวกซื้อ โดยไม่ลืมที่จะคว้าแขนของพี่ลิงกให้เดินไปด้วยกัน

ผมก็ได้แต่มองตามเล็กน้อย แล้วก็มารู้ทีหลังจากพี่เรย์ว่า พริ้มรู้เรื่องทริปนี้มาจากน้องสาวของเขาที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอครับ

"พริ้มมาด้วยก็ทนเอาหน่อยนะ"

พี่พลพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ผมก็ยิ้มรับไปตามเรื่อง อันที่จริงระหว่างการเดินทางที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอกครับ อาจจะมีการถกเถียงระหว่างพี่ลิงก์กับพริ้มบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

“ถ้ารำคาญก็ไปนั่งกับไอ้ทีก็ได้ มันขับรถคนเดียวอาจจะเหงา”

พี่ดิมพูดขึ้นพร้อมกับพยักพเยิดไปทางพี่ทีที่กำลังยืนพิงรถยนต์ของตัวเองพลางยกขวดน้ำขึ้นดื่มไม่ต่างจากนายแบบ

“ไม่เป็นไรครับ”

ถัาจะให้ไปทนนั่งอึดอัดในรถของพี่ทีสู้ทะเลาะกับพริ้มยังดีกว่าครับ

หลังจากที่แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ

“บู้แกะขนมมาให้กินหน่อย”

พี่ลิงก์พูดขึ้น ท่ามกลางความเงียบของห้องโดยสาร ผมก็หยิบถุงขนมเตรียมจะแกะให้ แต่ก็มีมือหนึ่งมาคว้าไปเสียก่อน แถมยังเปิดพร้อมเสิร์ฟให้เสร็จสรรพ

“เดี๋ยวพริ้มป้อนให้”

พี่ลิงก์เลื่อนสายตาไปมองพริ้มที่กำลังยื่นขนมมาตรงหน้า เขาหันไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง

“บู้ จะเอาน้ำ”

ผมไม่ทันจะได้หยิบของที่คนขับต้องการ พริ้มก็คว้าขวดน้ำดื่มไปเปิดพร้อมกับใส่หลอดแล้วยืนให้พี่ลิงก์อย่างรวดเร็วทันใจ ผมก็ได้แต่นึกขำและทำตัวไม่ถูกไปพร้อมกัน

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา เขาไม่ได้รับขนมและน้ำดื่มจากพริ้มแต่เลื่อกที่จะพูดบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแทน

“ชื่อบู้เหรอ”

“เปล่าค่ะ แต่พริ้มทำให้สะดวกกว่านี่”

พี่ลิงก์ไม่ตอบอะไร แต่เลี้ยวรถเข้ามาจอดข้างทางแบบกะทันหัน ในขณะที่ผมกำลังงุนงง เขาก็หันมาพูดกับพริ้มด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

“ไปนั่งหลังซะ”

“ไม่เอาอ่ะ”

“พริ้ม!”

“พิ่ลงก์! พริ้มผิดอะไร! ก็แค่จะช่วยเท่านั้นเอง!”

ผมมองพี่ลิงก์ที่ยังจ้องหน้าพริ้ม ส่วนคนที่ถูกจ้องก็ส่งสายตาตัดพ้อ แถมยังทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาด้วยครับ แล้วผมก็ทนมองเหตุการณ์นี้ต่อไม่ได้อีก

“พี่ลิงก์ ใจเย็นๆ ครับ น้องก็แค่หวังดี”

“ยุ่งน่า!”

“ใครน้องนายกัน! "

ทั้งพี่ลิงก์และพริ้มหันมาว่าผมพร้อมกัน ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างระบายอารมณ์ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ถ้าอย่างนั้นผมขอโทรเรียกให้พี่พลมารับนะครับ”

พี่ลิงก์หันมาคว้าโทรศัพท์มือถือของผมไปจากมือด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากมองตามเท่านั้น ส่วนพริ้มที่ทำหน้าเหมือนน้ำตาจะแตกอยู่เมื่อครู่ ก็ส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้ผม แล้วนั่งกอดอกเชิดหน้าอย่างคุณหนูผู้เอาแต่ใจ ความเงียบเกิดขึ้นอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่พี่ลิงก์จะออกรถอีกครั้ง

“ปั๊มหน้าไปนั่งกับไอ้ทีไป"

ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์หมายถึงใครระหว่างพริ้มกับผม แต่เราสองคนก็เลือกที่จะนั่งเงียบต่อไป เมื่อบรรยากาศขุ่นมัวเริ่มคลายลง ผมก็ตัดสินใจพูดทำลายความเงียบขึ้น

“เปิดเพลงฟังดีไหมครับ”

พี่ลิงก์ไม่ได้พูดตอบรับ แต่ส่งโทรศัพท์มือถือของเขามาให้ผมเลือกเพลงบรรเลงที่มีทำนองฟังสบายในอินเทอร์เน็ตเพื่อทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารดีขึ้นและอารมณ์ของทุกคนจะได้สงบลง

“รสนิยมห่วย”

“พริ้มหุบปาก”

พริ้มทำสีหน้างอนใส่พี่ลิงก์อีกครั้ง แล้วหันมาแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่ผมต่อ ผมก็ได้แต่กะพริบตาทีหนึ่งอย่างปลงตกและอ่อนใจ









@@@@@@@@@@









การเดินทางใช้เวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็มาถึงโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลแห่งหนึ่ง โดยที่มีคุณครูและน้องๆ ออกมาต้อนรับกันด้วยรอยยิ้ม ผมที่ไม่เคยทำกิจกรรมอะไรแบบนี้มาก่อนก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันทีเลยครับ

นอกจากจะบริจาคสิ่งของแล้ว พวกเราก็ยังบริจาคเงินสมทบทุนในการบำรุงรักษาโรงเรียนอีกด้วย ความรู้สึกสีเทาที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางที่ชวนปวดหัวหายไปจนหมด

นี่สินะ...ที่เรียกว่าความสุขของผู้ให้

หลังจากทำการส่งมอบสิ่งของและเงินกันเรียบร้อย พวกพี่ๆ ก็เล่นฟุตบอลร่วมกับน้องๆ ท่ามกลางแสงแดดร้อนแรงกันต่ออย่างสนุกสนาน ปล่อยให้ผมยืนมึนอยู่กับพริ้มที่ข้างสนามครับ

ผมมองตามพี่ลิงก์ที่เตะส่งลูกให้น้องคนหนึ่ง เกมครัังนี้แบ่งทีมรวมกับพวกน้องๆ คละกันครับ

พี่ลิงก์เท่ว่ะ ช็อตนี้ต้องเก็บ!

ยังไม่ทันที่ผมจะได้หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อเอามาถ่ายรุปอย่างที่ตั่องการ เสียงหวานแข็งของคนที่ยืนอยู่ด้วยกันก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

“เป็นแฟนกันได้ ก็เลิกกันได้”

พริ้มยังจับจ้องไปย้งสนามฟุตบอลที่เต็มไปด้วยพื้นหญ้าแห้งกรอบ ผมไม่ได้พูดโต้ตอบอะไร อยากพูดอะไรก็ช่างเถอะครับ ผมไม่ได้ถือสาอยู่แล้ว ตอนนี้ก็คิดว่าอีกฝ่ายป็นเหมือนน้องสาวตัวแสบเท่านั้น จนผ่านไปสักพักเสียงหวานของพริ้มก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“นี่! พาไปห้องน้ำหน่อยสิ”

ผมหันไปมองพริ้มที่กำลังทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดด้วยความอ่อนใจ แล้วเดินนำอีกฝ่ายไปยังห้องน้ำที่อยู่ห่างออกไป

หลังจากสอบถามน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็ชี้ไปด้านหลังของอาคารเรียนชั้นเดียวที่อยู่ห่างออกไป ผมกับพริ้มเดินไปตามทางสักพักก็เห็นห้องน้ำที่แบ่งชายและหญิงคนละฟากอยู่ตรงหน้า

“ทำไมมันดูสกปรกจัง”

พริ้มทำสีหน้าไม่ชอบใจ แต่ก็ยอมเดินไปทางห้องน้ำหญิงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ห้องน้ำของโรงเรียนก่อจากปูนที่ทาสีส้มแสบตาและมุงหลังคาด้วยสังกะสีที่แสงแดดส่องถึงโดยไม่ต้องอาศัยแสงไฟในตอนกลางวันครับ

ผมยืนรอพริ้มอยู่ไม่ถึงหนึ่งนาที เสียงกรีดร้องของคนที่เข้าห้องน้ำไปก็ดังขึ้น ผมรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความตดใจ พริ้มวิ่งเข้ามาหาหร้อมกับส่งเสียงร้องโวยวายราวกับคนเสียสติ นิ้วเรียวชี้ไปห้องนัำด้วยท่าทางหวาดกลัว

“กิ้งกือๆ! อี๋ๆ! เอามันออกไป! "

ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อมองตามทิศทางที่อีกฝ่ายบอก

“โอเค เดี๋ยวผมจัดการให้”

ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ กิ้งกือตัวใหญ่กำลังขดตัวอย่างสงบอยู่ข้างส้วมซึมที่อับชื้น ผมตักน้ำราดใส่เพื่อไล่มันออกไป เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีสัตว์อะไรที่ไม่น่าพิสมัยอีก ก็เดินออกมาหาพริ้มที่ยืนหน้าเสียอยู่

“มันไปแล้ว”

“บ้าจริง! ใครจะกล้าเข้ากัน!”

“จะไม่เข้าแล้วเหรอ"

ใบหน้าหวานเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ห้องน้ำหญิงมีทั้งหมดห้าห้อง ผมลองเปิดสำรวจดูทุกห้องแล้ว สภาพก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ พริ้มยืนชั่งใจอยู่สักพัก แล้วหันมาบอกผมเสียงเข้ม

“รอแถวนี้ด้วยล่ะ เผื่อมันมีอะไรน่ากลัวมาอีก”

“ครับ”

พริ้มค่อยๆ ก้าวเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางหวาดระแวง ก่อนจะปิดประตูลง ผมถอนหายใจออกมา หลังจากยืนรออยู่สักพัก อีกฝ่ายก็รีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมมองท่าทางนั้นแล้วอมยิ้มออกมา แต่เมื่อคนตรงหน้าหันมามอง เธอก็ถลึงตาใส่ผม แล้วเดินเชิดหน้าอย่างไม่สนใจ

เอาเถอะ...

ผมได้แต่นึกปลงตกกับท่าทางเอาแต่ใจของพริ้ม และเมื่อเราสองคนกลับไปที่สนามฟุตบอลอีกครั้ง กิจกรรมก็จบลงแล้ว ทุกคนกำลังนั่งพักกันที่ใต้อาคารเรียน พี่ลิงก์หันมาถามผมในทันที

“ไปไหนมา”

“พาพริ้มไปเข้าห้องน้ำมาครับ”

พี่ลิงก์พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปมองพริ้มที่ยืนเงียบอยู่ เขาหยิบขนมกับน้ำเปล่าส่งให้น้องสาวพร้อมกับถามเสียงเรียบ

“หิวหรือเปล่า เอานี่ไปกินรองท้องก่อน”

พริ้มรับขนมกับน้ำดื่มที่พี่ลิงก์ส่งให้ แล้วยิ้มหวานออกมาด้วยท่าทางสดใส

"ขอบคุณค่ะ”

พี่ลิงก์ไม่ได้ตอบรับอะไร นอกจากยกมือลูบหัวของพริ้มเบาๆ ผมมองท่าทางอ่อนโยนของเขาด้วยรอยยิ้มบาง

ถึงจะทะเลาะกันยังไง แต่พี่ชายก็ยังห่วงใยน้องสาวอยู่ดี

เห็นแบบนี้แล้วผมก็นึกถึงน้องชายที่บ้านเลยครับ ตอนนี้กรีนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพเหมือนกัน ผมเพิ่งจะไปช่วยจัดของเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วก็ได้เจอพ่อกับแม่ด้วย

“เหม่ออะไรบู้”

ผมเหมือนหลุดจากภวังค์ความคิดในอดีต ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียก พี่ลิงก์กำลังยืนข้างผม เขาดูเหนื่อยพอสมควรเพราะไปวิ่งเล่นกลางแดดมาพักใหญ่

“เปล่าครับ แล้วเป็นไงครับ สนุกไหม”

“อืม นี่ขนมของบู้”

ผมมองขนมปังเนยสดที่เหลือครึ่งเดียวเล็กน้อย แล้วมองพี่ลิงก์ที่กำลังดื่มน้ำ นัยน์ตาสีดำทอดมองตรงไปข้างหน้า ก่อนที่เขาจะหันมามองผม แล้วเลิกคิ้วขึ้น

“ทำไมมันเหลือครึ่งเดียวล่ะครับ”

“ก็ลิงก์กินไปแล้วไง แบ่งกันไม่ได้เหรอ”

ผมส่วยหน้าพร้อมกับกินขนมปังที่เหลืออยู่จนหมด โดยอุทิศตนยืนเป็นที่วางแขนให้พี่ลิงก์ที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอย่างสงบไปด้วยครับ





TBC++++++++
Marionetta ขอบคุณที่ติดตาม เจอกันตอนหน้าจ้า อิอิ  :-[

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 22 > 17-01-20
«ตอบ #166 เมื่อ17-01-2020 17:56:47 »

เป็นอีกหนึ่งด่านของบู้

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 22 > 17-01-20
«ตอบ #167 เมื่อ18-01-2020 05:03:00 »

บู้ซะอย่างเอาอยู่ทุกคนแหละ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 22 > 17-01-20
«ตอบ #168 เมื่อ21-01-2020 13:09:11 »

Level 23: เขย่าหัวใจ






กว่าที่พวกเราจะออกจากโรงเรียนก็ใกล้จะเย็นแล้วครับ หลังจากแวะหาอะไรกินเป็นอาหารเย็นที่ร้านข้างทางเสร็จ ก็เดินทางมายังที่พักในคืนนี้กันต่อ

เดิมทีทริปครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ชายล้วนและตกลงจะอยู่กันห้องละสองคน แต่เพราะพริ้มมาเพิ่มแบบกะทันหันเลยต้องจองห้องเพิ่มครับ ทว่าก็เกิดปัญหาขึ้นเพราะที่พักเต็ม

“เต็ม? ที่แบบนี้เนี่ยนะ?!”

พริ้มโวยวายออกมา ถึงที่พักแห่งนี้จะไม่ได้ราคาแพง แต่ก็ถือว่าใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้แล้วครับ อีกทั้งแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีที่พักให้เลือกด้วย

“แต่ว่า....”

“ฉันจ่ายเพิ่มก็ได้ จะเอาเท่าไหร่”

พริ้มพูดขึ้นพร้อมกับมองพนักงานต้อนรับอย่างกดดัน พี่ลิงก์เลยต้องดึงแขนของน้องสาวออกมา ผมก็เดินตามทั้งสองคนไปรวมกลุ่มพื่อปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

“งั้นก็ยกห้องนึงให้พริ้ม แล้วพวกเราก็นอนห้องละสามคนแล้วกัน”

“แต่มันเป็นเตียงแฝด แถมแต่ละคนก็ไม่ได้ตัวเล็ก หุ่นกะทัดรัดเหมือนบลูด้วยนะเว้ย”

ผมได้แต่นึกเซ็งกับการเปรียบเทียบของพี่เรย์ แต่ก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร ในเมื่อผมตัวสูงเท่ากับพริ้มเลยนี่ครับ ส่วนพวกพี่ๆ แต่ละคนก็อย่างกับเสาไฟฟ้า พอมารวมกลุ่มกันแบบนี้ ผมเหมือนโดนกดดันทางอ้อมเลย

“แค่คืนเดียวเปล่าวะ ก็เลื่อนเตียงมาชิดกันดิ”

พี่พลเสนอทางเลือก แต่ดูเหมือนคนอื่นๆ จะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะการเดินทางมาไกลและกิจกรรมกลางแจ้งที่โรงเรียน ทำให้ทุกคนอยากจะนอนพักผ่อนให้สบายตัวกันมากกว่า

ผมเดินตามพี่ลิงก์กลับไปหาพนักงานต้อนรับอีกครั้งเพื่อสอบถามเกี่ยวกับห้องพักเพิ่มเติม พนักงานสาวมีท่าทีหนักใจ เธอเปิดสมุดอะไรสักอย่าง แล้วถอนหายใจออกมา

“ไม่มีห้องที่หลุดคิวจองหรือเพิ่งเช็กเอาท์บ้างเลยหรือครับ ผมยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้ห้อง ยังไงก็ช่วยหน่อยนะครับ”

ผมได้แต่ยืนนิ่งมองการเจรจาต่อรองของพี่ลิงก์อย่างทำใจ ถ้าหากไม่หาที่พักใหม่ คืนนี้ก็ต้องยัดกันห้องละสามคน แล้วที่นี่ก็ไม่มีเตียงเสริม คงต้องมีคนเสียสละนอนพื้นหรือเก้าอี้แน่นอน

ผมได้แต่คิดในใจ แล้วหันไปสนใจพนักงานที่พยายามหาห้องว่างอย่างเต็มที่ เธอยกโทรศัพท์ติดต่อหาใครสักคนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันมาส่งยิ้มให้พวกเรา

“มันมีห้องว่างอยู่ห้องหนึ่งค่ะ แต่ยังไม่ได้ทำความสะอาด ถ้าต้องการจริงๆ ก็ต้องรอสักครู่นะคะ”

“ครับ ขอบคุณมากเลยครับ”

พี่ลิงก์ส่งยิ้มขอบคุณให้พนักงานสาวก็ยิ้มรับด้วยสีหน้าปั้นยาก ผมก็ถอนหายใจที่รอดพ้นจากชะตากรรมที่มีความเสี่ยงจะได้นอนพื้นหรือหลับคาเก้าอี้อย่างหวุดหวิด

“ได้ห้องแล้ว พวกมึงไปที่ห้องกันเลย เดี๋ยวกูรอห้องกับพริ้ม”

พี่ลิงก์บอกเพื่อน แล้วหันมาส่งกุญแจห้องให้ผม รวมไปถึงข้าวของอย่างอื่นด้วย

“บู้ไปเก็บของที่ห้องเลย เดี๋ยวลิงก์ตามไป”

“ครับ”





@@@@@@@@@@





ผมเดินตามพวกพี่ๆ เข้าไปในลิฟต์ ซึ่งก็พักกันคนละชั้นครับ โดยที่พี่พลพักกับพี่ทีที่ชั้นหก พี่เรย์กับพี่ดิมพักที่ชั้นสาม ส่วนผมกับพี่ลิงก์พักที่ชั้นห้าครับ

ผมเดินออกจากลิฟต์ แล้วมองไปตามหมายเลขที่ติดอยู่ตรงประตู พอเดินมาได้ครู่เดียวก็เจอห้องพักของตัวเองครับ

ภายในห้องพักขนาดกลาง มีเตียงแฝดและเฟอร์นิจอร์พื้นฐานทั่วไป หลังจากเดินสำรวจความเรียบร้อยจนพอใจ ผมก็นั่งเล่นบนเตียง เพียงไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

ผมส่องตาแมวเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูออก

พี่ลิงก์เดินตรงเข้ามากระโดดนอนบนเตียงที่อยู่ติดกับห้องน้ำราวกับคนหมดแรง

“เหนื่อย”

ผมยิ้มบางออกมา พลางเดินเข้าไปนวดหลังให้พี่ลิงก์ เขาหันมาส่งยิ้มให้ แล้วหลับตานอนสบายอยู่บนเตียง

“ตกลงพริ้มพักที่ห้องไหนครับ”

“ชั้นนี้แหละ แต่อยู่อีกด้าน”

“แล้วจะไปรวมกลุ่มที่ห้องพี่ดิมกี่โมงครับ”

พวกเรามีนัดจัดงานฉลองว้นเกิดของพี่ดิมกันต่อครับ

“ก็สักสามทุ่ม ตอนนี้ก็พักผ่อนกันก่อน”

ผมพยักหน้ารับพร้อมกับนวดทั้งไหล่และหลังของพี่ลิงก์ไปเรื่อยครับ จนรู้สึกว่าเริ่มเมื่อยมือแล้ว ผมเลยหยุด คนที่นอนสบายเลยลืมตาขึ้นอีกครั้ง

“เสร็จแล้วเหรอ”

“ผมเมื่อยแล้ว”

ผมบอกไปตามตรง ในขณะที่ผมกำลังจะลุกเดินไปเปิดโทรทัศน์เพื่อไม่ให้ห้องเงียบเกินไป ก็ถูกอีกฝ่ายดึงจนหงายหลังล้มไปบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมเบิกตากว้าง เมื่อถูกพี่ลิงก์กักตัวเอาไว้ด้วยท่าทางล่อแหลม

“ลิงก์จะให้รางวัลบู้”

ผมยังไม่ทันได้ถามว่าคืออะไรและเพราะเหตุใด พี่ลิงก์ก็ก้มลงจูบริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวล ความตกใจเกิดขึ้นชั่ววูบหนึ่ง ก่อนความเคลิบเคลิ้มจะทำให้ผมตอบรับปลายลิ้นที่สอดเข้ามาอย่างเผลอไผล เสียงสัมผัสดังขึ้นตามจังหวะของอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นตามลำดับ โดยที่มือของเราสองคนต่างก็ลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายเพื่อเล้าโลมกันและกันอย่างต่อเนื่อง

หัวใจของผมบีบรัดรุนแรงทุกครั้งที่ถูกพี่ลิงก์จูบเน้นหนัก เขาตักตวงทุกความรู้สึกนึกคิดจนผมเลื่อนลอยไร้สติ

“อื้อ! อือ...”

ผมครางออกมาเบาๆ ถึงแม้หัวใจจะเต้นรัว ใบหน้าเห่อร้อนและลมหายใจติดขัด ทว่าความทรมานนี้กลับสร้างความสุขจนไม่อยากให้ทุกอย่างหยุดลง ผมขยุ้มเส้นผมและรั้งต้นคอของอีกฝ่ายไม่ปล่อย ยิ่งถูกช่วงชิงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกอดคว้าเอาไว้เท่านั้น

"อือ...อืม"

เสียงครางอย่างพอใจของพี่ลิงก์ ทำให้ผมกระดกลิ้นรับอย่างกระตือรือร้น และการตอบสนองของผมก็ทำให้เสียงจูบดังขึ้นกว่าเดิม ความร้อนแรงเร่งเร้าจนแทบขาดใจ

ลมหายใจผิดจังหวะของเราสองคนดังก้อง เมิ่อริมฝีปากที่แนบชิดบดเบียดยาวนานหลายนาทีผละออกห่าง ผมสบนัยน์ตาสีดำทอประกายอย่างหลงใหล ก่อนจะหลับตาลงส่งเสียงร้องแผ่วด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกพี่ลิงก์ลากเลียและดูดเม้มตั้งแต่ใบหูจนถึงซอกคอ

ฝ่ามือร้อนของเขาสอดผ่านชายเสื้อเข้ามาสัมผัสหน้าท้องนิ่ม

ผมหดเกร็งตัวขึ้นฉับพลันพร้อมกับความเขินอาย ตอนนี้พี่ลิงก์ถลกเสื้อยืดของผมขึ้นโชว์หน้าอกสีแดงระเรื่อและหน้าท้องที่กระเพื่อมตามจังหวะของลมหายใจที่ถี่เร็ว

"หึ..."

ผมขมวดคิ้วกับเสียงหัวเราะนั้น แล้วหลุดเสียงครางออกมา เมื่อพี่ลิงก์ก้มลงดูดหัวนมของผมราวกับคนหิวโหย ฝ่ามือที่เคยลูบไล้ผ่านเอวที่ไร้ส่วนโค้งเว้าเลื่อนลงมาทำความรู้จักกับน้องชายของผมที่กำลังดันตัวออกมาไม่หยุด

"อ๊ะ! อ่า...พ...พี่ลิงก์! อึก! "

ผมร้องและบิดเกร็งร่างกายของตัวเองด้วยความกระสัน

พี่ลิงก์ถอยห่างจากหน้าอกแดงช้ำของผม แล้วเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจูบปากของผมอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาดูดเม้มแทรกสอดปลายลิ้นเกี่ยวพันหยอกเย้าไปทั่วโพรงปาก ฝ่ามือก็เคล้นคลึงกดน้ำหนักตรงเป้ากาวเกงที่นูนออกมาของผมจนชื้นแฉะ

ถึงผมจะใจไม่กล้าและยังหวาดกลัวกับความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่านี้ เพราะเคยศึกษาและอ่านประสบการณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ชายด้วยกันมาบ้าง แต่ถ้าหากพี่ลิงก์ลากผมไปทำมิดีมิร้ายหรือรุกหนักขึ้นไม่หยุดเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ผมก็คงไม่ขัดขืนอะไรครับ

ในเมื่อก้นบึ้งของความรู้สึก ผมก็อยากสัมผัสตัวตนของพี่ลิงก์ให้มากกว่านี้

ปังๆ!

"พี่ลิงก์ๆ! "

เสียงเรียกและเคาะประตูดังขึ้นขัดทุกความรู้สึกและอารมณ์ให้ชะงัก สติที่กำลังล่องลอยกลับเข้ามาในทันที ผมลืมตาขึ้นและกำลังจะดันพี่ลิงก์ออก แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับลงน้ำหนักทับมามากกว่าเดิม มือทั้งสองข้างจับยึดใบหน้าของผมเอาไว้ไม่ให้หันหนีไปไหน ริมฝีปากยังคงประกบจูบผมต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมรู้สึกดีและพอใจไปกับทุกการกระทำและทุกสัมผัสของพี่ลิงก์ แต่เสียงเรียกและเคาะประตูไม่หยุด รวมไปถึงเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมพาอารมณ์วาบไหวไปต่อไม่ได้ มือที่เคยรั้งต้นคอและแผ่นหลังกว้างเปลี่ยนมาดันไหล่หนาให้ออกห่าง ใบหน้าที่ถูกล็อกเอาไว้ขยับหนีจูบดูดวิญญาณอย่างเต็มที่

เสียงอู้อึ้ประท้วงขัดขืนของผม ทำให้พี่ลิงก์พ่นลมหายใจแรงอย่างหงุดหงิด แล้วยอมถอยในที่สุด ใบหน้าหล่อที่แดงระเรื่อบูดบึ้ง คิ้วขมวดกันแน่น นัยน์ตาที่เคยทอแววหวานพราวน่ามองแข็งกร้าวอย่างไม่สบอารมณ์ ผมปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ถึงแม้ร่างกายจะยังร้อนรุ่มด้วยอารมณ์อย่างเต็มเปี่ยมอยู่ก็ตาม

"โอ๊ย! "

ผมร้องเสียงเบาพลางลูบแก้มของตัวเอง เมื่อถูกพี่ลิงก์กัดแบบไม่เบาแรง เขาขยี้ผมที่ยุ่งจากฝีมือของผมให้เสียทรงมากกว่าเดิมพร้อมกับเดินไปที่ประตู โดยไม่สนใจเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมรีบลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำทันที

ผมตัดสินใจอาบน้ำพร้อมกับจัดการสภาพของตัวเองให้เรียบร้อย โดยไม่ได้ฟังเสียงจากภายนอก ผมมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกเงาที่มีร่องรอยเป็นจ้ำแดงพลางยกมือแตะริมฝืปากบวมเจ่อด้วยความเขินอาย

เราสองคนกอดจูบอย่างแนบชิดกันหลายครั้งแล้วครับ แต่ครั้งนี้นับว่ามาไกลกว่าปกติ ถ้าไม่มีการขัดจังหวะ ผมคงคล้อยตามจนโดนพี่ลิงก์กินเพลินแบบไม่รู้ตัวแน่!

แต่...ถึงจะรู้ตัวก็ยอมให้กินอยู่ดีครับ งื้อ...

ผมอมยิ้มเขินพลางสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อลบจินตนาการลามกให้หายไปจากสมอง หลังจากควบคุมจิตใจและความรู้สึกให้เป็นปกติได้อีกครั้ง ผมก็เปิดประตูหัองน้ำ แล้วใบหน้าก็มีอุณหภูมิสูงขึ้นมาเล็กน้อย ลำคอแห้งผากกับภาพบาดตาบาดใจ

พี่ลิงก์ที่ถอดเสื้อกำลังนอนอ้าขาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ครับ ใบหน้าหล่อที่ริมฝีปากบวมเจ่อน่าจูบ แผ่นอกและไหล่กว้างสีน้ำนมน่าซบ ตลอดจนกล้ามท้องเป็นลอนสวยน่ากัด ทำให้ผมเผลอเลียริมฝีปากพลางกลืนน้ำลายอีกใหญ่

ไอ้บลู! หยุดคิดเรื่องทะลึ่งเดี๋ยวนี้! ถึงแม้ตอนนี้พี่ลิงก์จะเซ็กซี่น่าปล้ำสุดๆ ก็เถอะ!

ผมตบแก้มของตัวเองที่ความหื่นกามขึ้นสมองกำเริบพร้อมกับพยายามเรียกสติกลับมา และท่าทางเหมือนคนบ้าของผม ก็ทำให้พี่ลิงก์หันมามอง

"บู้เป็นอะไร"

"อ่า...เปล่าครับ เอ่อ...แล้วเกิดอะไรขึันครับ"

ผมเปลี่ยนเรื่องทันที พี่ลิงก์ชักสีหน้าออกมา เสียงทุ้มเจือความเบื่อหน่าย

"พริ้มมาเรียก บอกว่าในห้องมีแมลงสาบ แต่ลิงก์ไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร ตอนนี้ให้ไปอยู่ห้องไอ้ดิมแล้ว"

ผมพยักหน้ารับ พี่ลิงก์ลุกขึ้นเดินมาหา เขาก้มตัวมาหอมแก้มของผมฟอดใหญ่ แล้วกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูให้ผมสยิวเล่น

"เมื่อกี้...กำลังกินบู้อร่อยเลย"

ผมกลั้นหายใจ แล้วหันไปสบกับนัยน์ตาสีดำแวววาว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์วาดขึ้นบนริมฝีปากที่ผมฝากรอยจูบเอาไว้

"เดี๋ยวไปกินเค้กแล้ว ลิงก์จะกลับมากินบู้ต่อ"

ผมพูดอะไรไม่ออก หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาทันที มโนภาพที่พยายามลบล้างไปจากความคิดไหลกลับมาอีกครั้ง จนกระทั่งได้ยินเสียงปิดประตูหัองน้ำ ผมก็เหมือนได้หลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงพร้อมกับลูบใบหน้าร้อนผ่าวของตัวเอง รอยยิ้มปรากฏขึ้นมา

หึ! ชอบแกล้งอยู่เรื่อย





@@@@@@@@@@





เมื่อผมกับพี่ลิงก์ไปถึงห้องของพี่ดิมกับพี่เรย์ เสียงแซวก็ดังขึ้นจากรอยแดงตรงคอของผมและริมฝีปากที่บวมเจ่อของเราสองคน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมองปราดเดียวก็เข้าใจทุกอย่าง

"แหม...แบบนี้จะกินกับพวกเราไหวเหรอ น่าจะอิ่มกันแล้วมั้ง"

"สงสัยต้องเปลี่ยนจากงานเลียงวันเกิดกูเป็นงานเลี้ยงฮันนีมูนของใครหรือเปล่าวะ"

"พวกมึงก็อย่าไปแซวไอ้น้องลิงก์ ถ้ามันอาย คงไม่ทำโชว์หลักฐานแบบนี้หรอก"

พี่เรย์แซวขึ้นเป็นคนแรก ตามด้วยพี่ดิมและพี่พล ส่วนพี่ทีก็ยกยิ้มมุมปากแต่ไม่พูดอะไร ส่วนพริ้มก็นั่งนิ่งเงียบเสมือนว่าไร้ตัวตนจนผิดปกติ

"เอาแต่พล่ามอะไรกันอยู่ได้ สรุปไม่กินเค้กอะไรแล้วใช่ไหม จะได้กลับห้อง"

พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับทำท่าจะพาผมที่ยังยืนมึนแสร้งว่าไม่ได้ยินอะไรออกจากห้อง

"ทำเป็นหัวร้อน จะหาเรื่องไปกินตับกันต่อแบบนี้ เค้กกูก็น่าสงสารแย่"

พี่ดิมพูดขึ้นพลางตีหน้าเศร้าจนน่าหมั่นไส้ ผมได้แต่ปั้นหน้ายาก

"ไอ้สัตว์"

พีีลิงก์สบถออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปตบหัวของพี่ดิมที่ร้องโอดโอยด้วยน้ำเสียงกวนประสาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อน

"ก็ดี มันจะได้เลิกบ้าตุ๊กตาหมี แล้วมาติดเมียแทน"

"ไอ้เหี้ยที! มึงเงียบก็ดีแล้ว"

"หึ! แล้วระหว่างตุ๊กตาหมีกับเมียจะเลือกอะไร"

พี่ลิงก์อ้าปากค้าง ส่วนพี่ทีก็เลิกคิ้วขึ้น ทุกคนเงียบรอฟังคำตอบ ผมมองเขาอย่างลุ้นระทึก

"ก็ต้อง...เมียสิ"

"ฮ่าๆ ยังไงกอดเมียก็ต้องดีกว่ากอดตุ๊กตาหมีอยู่แล้ว คราวนี้ป๊ากับพ่อมึงคงดีใจน่าดู"

พี่ลิงก์ทำหน้ายุ่งกับการถูกเพื่อนเย้าแหย่ ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วคิดกับตัวเองในใจ

แบบนี้ต้องรีบเลื่อนจากสถานะ 'แฟน' เป็น 'เมีย' แล้วครับ





@@@@@@@@@@





งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของพี่ดิมจบลงในเวลาราวห้าทุ่ม พวกเรากินเค้กกับขนม โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของขวัญ มีแค่คำอวยพรตามประสาเพื่อนที่ให้กับเจ้าของวันเกิดเท่านั้น

แค่ได้ใช้เวลาที่มีความสุขด้วยกันก็คือของขวัญที่มีค่ามากกว่าสิ่งของทุกอย่างแล้ว

"พี่ลิงก์ พริ้มไม่อยากอยู่คนเดียว"

พริ้มพูดขึ้น ตอนที่เราสามคนกำลังขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นห้า

"อย่าเรื่องเยอะ"

"ก็พริ้มกลัว..."

"พริ้ม อย่าทำให้พี่หงุดหงิด"

พี่ลิงก์มองพริ้มอย่างกดดัน อีกฝ่ายหน้ามุ่ย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเดินกลับห้องพักก่อน ปล่อยให้พี่ชายไปส่งน้องสาวตามลำพังที่ห้องครับ

หลังจากนั่งดูโทรทัศน์ได้ครู่เดียว พี่ลิงก์ก็เดินหน้านิ่งกลับมา

"พี่อย่าว่าพริ้มมากเลย สงสารน้อง"

ถึงแม้จะกลัวพี่ลิงก์ไม่พอใจที่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ผมก็อยากเตือนสติในฐานะแฟนและพี่ชายคนโต

"หึ! ก็ชอบหาเรื่องตลอด"

ผมถอนหายใจออกมา พี่ลิงก์นั่งลงข้างผม

"พี่ต้องอดทนมากกว่านี้นะครับ พริ้มเป็นน้องสาวที่พี่ต้องดูแล"

การเป็น 'พี่' ไม่ใช่แค่เกิดก่อนหรือมีอายุมากกว่า แต่พี่จะต้องมีความอดทนมากกว่า เสียสละมากกว่า เพื่อเป็นที่พึ่งพิงให้กับน้อง บางทีการที่พี่ลิงก์เป็นลูกคนเดียว อาจจะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้

"ถึงพริ้มจะเอาแต่ใจ ทำให้พี่รำคาญไปบ้าง แต่ตแนนี้พี่เป็นคนเดียวที่พริ้มเชื่อใจนะครับ"

พี่ลิงก์มองผมนิ่ง เขาผ่อนลมหายใจออกมา นัยน์ตาสีดำฉุนเฉียวสงบเยือกเย็น

"วันนี้ลิงก์ก็อารมณ์เสียใส่บู้ด้วย ขอโทษนะครับ"

ผมยิ้มบาง แล้วจับมือข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ ก่อนที่นิ้วของเราสองคนจะสอดประสานกัน

"ไม่เป็นไรครับ"

"บู้น่ารัก"

พี่ลิงก์อมยิ้ม แล้วพูดขึ้นที่ข้างหู ผมเหลือบตามองเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจหอมแก้มของเขาไปฟอดใหญ่

"พี่ก็น่ารักครับ"

"ยั่วเหรอ"

"เปล่าครับ ผมพูดไปตามที่คิด"

"อยากขย้ำบู้แล้ว"

ผมตัวแข็ง หัวใจเต้นตึกตัก มือของเราสองคนที่จับกันไว้กระชับมากขึ้น เมื่อปลายจมูกของพี่ลิงก์กำลังซุกไซ้ที่ซอกคอของผม ทว่าผ่านไปไม่กี่อึดใจ การเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดลง ลมหายใจร้อนเป่ามาที่หูของผม

"แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้"

ผมนั่งอึ้งมองพี่ลิงก์ที่ขยี้หัวของผมเล่นพร้อมรอยยิ้ม

"มันเขี้ยว"

พี่ลิงก์บีบแก้มของผมทีหนึ่ง เขาคลายมือที่จัยกันไว้ออก แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย




@@@@@@@@@@





ปังๆ!

"พี่ลิงก์ๆ ฮือ! พี่ลิงก์! "

หลังจากที่พี่ลิงก์เข้าไปในห้องน้ำได้ไม่กี่วินาที เสียงร้องเรียกตรงหน้าประตูก็ดังขึ้น ผมรีบลุกไปเปิดประตูด้วยความตกใจ

เสียงเรียกที่เจือเสียงสะอื้น...

เมื่อผมเปิดประตูออก พริ้มก็วิ่งเข้ามากอดแน่น ใบหน้าน่ารักเปื้อนคราบน้ำตา เสียงหวานสั่นเครือด้วยความหวาดกลัวชัดเจน

"ฮึก! ช่วยด้วย ฮือ...พ...พริ้ม.."

ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น หลังจากเสียงตะกุกตะกักของคนที่้เอาแต่กอดพร้อมกับซุกหน้าลงที่ไหล่ของผมแน่นดังขึ้น

"พริ้ม...เจอ ฮึก! ผี ฮือ..."





TBC+++++++

Marionetta
มาแล้วค่ะ เปลี่ยนโหมดกันบ้าง ฮ่าๆ เอาใจช่วยในตอนหน้าด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
«ตอบ #169 เมื่อ21-01-2020 20:37:09 »

ถ้าเลื่อนสถานะแล้วลิงซ์คงหลงหนักมาก​
อยากเห็นลิงซ์หึง​ว่าจะดุสักแค่ไหน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
« ตอบ #169 เมื่อ: 21-01-2020 20:37:09 »





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
«ตอบ #170 เมื่อ25-01-2020 09:27:39 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
«ตอบ #171 เมื่อ27-01-2020 14:30:39 »

Lenel 24: กระชับมิตร







ผี...?!

ผมได้แต่ยืนนิ่งอึ้งเป็นเสาให้พริ้มกอดร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วหันไปมองทางหัองน้ำ เมื่อได้ยินเสียงประตู

"เกิดอะไรขึ้น"

พี่ลิงก์ขมวดคิ้ว พริ้มเงยหน้าขึ้น แล้วผลักผมออก เธอโผเข้าหาพี่ชายด้วยสีหน้าน่าสงสาร

"ฮือ! พี่ลิบก์! พริ้มกลัว! "

พี่ลิงก์มองพริ้มที่ซบอกกอดเอวของตัวเอง น้ำเสียงทุ้มเรียบดังขึ้น

"มีอะไรอีก พูดให้มันรู้เรื่อง"

"ที่...ห้อง ฮือ...มีผี! "

"เหลวไหล ผีมีจริงที่ไหน"

พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับมองคนที่เอาแต่กอดไม่ปล่อยนิ่ง พริ้ม เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงตื่นกลัวดังขึ้นอย่างร้อนรน

"จริงๆ มี...มีผู้หญิงอยู่ในห้อง! ฮือ...พริ้มเห็น! "

ผมนึกสงสารพริ้ม แต่ยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ ผมไม่ได้กลัวแต่ก็ไม่ลบหลู่ครับ

"พริ้มขอนอนด้วยนะ"

"งั้นพริ้มก็นอนที่นี่ พี่กับบู้จะไปนอนห้องนั้นแทน"

พี่ลิงก์ถอนหายใจ ผมคิดว่าเขากำลังใช้ความอดทนอย่างที่ผมเคยบอกเอาไว้

"ไม่เอา! พริ้มไม่อยากอยู่คนเดียว! "

พี่ลิงก์แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องของพริ้ม อีกส่วนหนึ่งเพราะความง่วง ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้วครับ

"พริ้ม! "

เสียงเข้มของพี่ลิงก์ ทำให้พริ้มรัองไห้มากกว่าเดิม เธอเอาแต่ส่ายหน้าไปมาไม่ยอมปล่อยคนที่ตัวเองกอดเอาไว้

"เอาแบบนี้ไหม เราไปดูด้วยกันเลยดีกว่า"

ถ้าขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้เรื่องก็คงไม่จบ

"พริ้มไม่ไป! "

"งั้นก็รออยู่นี่"

พี่ลิงก์บอก แล้วก้าวเดินนำผมออกจากห้อง ทว่ายังไม่ทันพ้นหน้าประตู พริ้มก็ร้องโวยวายถลาเข้ามากอดแขนของพี่ชายเอาไว้

"ฮือ! อย่า! อย่าทิ้งพริ้ม! "

พี่ลิงก์ก้มมองคนที่เกาะแขนเล็กน้อยแล้วเดินต่อ ผมมองพริ้มอย่างพิจารณา

พริ้มกลัวมากจริงๆ …

แต่สาเหตุจะเป็นตาฝาด เพราะอยู่คนเดียวจนคิดไปเอง หรือเพราะเธอเห็นผีจริงๆ




@@@@@@@@@@





เราสามคนเดินไปตามทางที่เงียบกริบ แสงไฟยังเปิดสว่าง แต่เพราะได้รับรู้เรื่องราวบางอย่าง เลยทำให้บรรยากาศดูวังเวงชอบกล

ห้องของพริ้มอยู่เกือบสุดทางครับ ประตูหัองที่ปิดอยู่ไม่ได้ล็อก คงเป็นเพราะความตกใจ เธอคงออกมาโดยไม่ทันได้สนใจ

“พี่ลิงก์ๆ ตอนที่พริ้มวิ่งออกมา พริ้มไม่ได้ปิดประตูนะ”

ผมกับพี่ลิงก์ห้นไปมองพริ้มที่มีใบหน้าซีดเซียว ก่อนที่พวกเราจะเดินเข้าไปด้านใน โดยไม่ได้พูดอะไร ผมมองไปรอบห้องอย่างสำรวจ นอกจากเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปเหมือนกับห้องที่ผมพัก ก็มีเพียงเตียงคู่ขนาดราวห้าฟุตที่แตกต่างครับ

“ไม่เห็นมีอะไร”

“ฮือ! พี่ลิงก์์ พริ้มเห็นจริงๆ นะ”

พริ้มหน้าเสีย เธอสะอึกสะอื้น นัยน์ตาหวานที่มักทอแววสดใสกำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตาอีกครั้ง ผมถอนหายใจออกมา ทุกอย่างก็ดูปกติดีครับ

ผมมองเตียงกว้างที่มีรอยยับเล็กน้อยไปจนถึงผนังห้องที่ยังดูใหม่ต่างจากห้องที่ผมอยู่อย่างพิจารณา ก่อนการเคลื่อนไหวของร่างกายจะหยุดชะงัก เมื่อหางตาเห็นบางอย่างผ่านไปทางระเบียงที่เยื้องไปทางด้านหลังที่ผมกำลังยืนอยู่

ความเงียบระหว่างพวกเราเกิดขึ้นทันทีราวกับอยู่ในสุญญากาศ แม้กระทั่งเสียงสะอื้นของพริ้มก็เหมือนจะแข็งค้าง มีเพียงนัยน์ตาที่เบิกกว้างขึ้นเท่านั้น

“อ๊ะ...กรี๊ด!”

ผมหันขวับไปมองทันทีที่ตั้งสคิได้ และถ้าผมตาไม่ฝาด เส้นผมสีดำยาวที่ฉายเข้าในสายตาตัดผ่านไปทางระเบียงแน่นอนครับ!

ผมคงรีบไปดูด้วยความสงสัยและตกใจ ถ้าหากตอนนี้แขนทั้งสองข้างไม่ได้โดนจับเอาไว้แน่นเสียก่อน

เอ่อ...อะไรกันล่ะเนี่ย

พริ้มที่ขวัญเสียไปแล้ว ผมไม่ได้ตกใจหรอกนะครับ แต่ผู้ชายตัวโตที่ยึดแขนของผมเอาไว้อีกข้าง นี่อะไรกัน

ผมเงยหน้ามองพี่ลิงก์ที่จ้องเขม็งไปทางระเบียง ถ้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้เขายืนอยู่อีกที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ ทำไมมาเกาะผมเร็วขนาดนี้?!

“พี่ลิงก์?”

พี่ลิงก์ขมวดคิ้ว เขาหันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง ทว่านัยน์ตากลับสั่นไหวแบบแปลกๆ

“เมื่อกี้...?”

พี่ลิงก์ถามเสียงเบา ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วหันไปสนใจพริ้มที่กระตุกแขนผมยิกๆ พลางร้องออกมาเสียงสั่น

“” พ...พริ้มไม่ไหวแล้ว ฮือ...ไปจากที่นี่ ฮึก! ออกไปจากที่นี่"

ผมเห็นแค่หางตา แต่สองพี่น้องคู่นี้คงเห็นบางอย่างเต็มตา

“ขอผมเดินไปดูหน่อยนะครับ”

พี่ลิงก์ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่เขากลับยึดแขนของผมแน่นกว่าเดิมไม่ต่างจากพริ้มที่ยังก้มหน้าหลับตาสะอื้นไม่หยุด ผมฝืนก้าวขาไปทางระเบียงอย่างเชื่องช้า

แกร๊ก

ผมกดปลดล็อดประตูระเบียงที่เป็นกระจกติดฟิลม์สีเข้มออก หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย เพราะอะไรก็ตามที่มาที่ระเบียงคงไม่ใช่มวลสารปกติแน่

ผมค่อยๆ เลื่อนประตูออก โดยที่มีพี่ลิงก์กับพริ้มเกาะอยู่ไม่ห่าง สายลมเย็นวูบหนึ่งปะทะเข้ามาที่ใบหน้า ผมกะพริบตาทีหนึ่ง ก่อนจะกวาดมองพื้นที่โดยรอบ

ไม่มีอะไร?

ใช่! มันก็ควรไม่มีอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง!

ผมขบคิดกับตัวเองในใจ ลมเย็นตอนกลางคืนพัดผ่าน ทว่ากลับไม่มีเสียงใบไม้หรือแมลงแต่อย่างใด

เงียบ...จนน่าขนลุก

"เหมือนจะไม่มีอะไรนะครับ”

ผมบอกเสียงเบาพร้อมกับมองคนที่เกาะแขนทั้งสองข้างด้วยรอยยิ้มบาง

ผมรู้ว่ามันไม่ปกติ แล้วก็คงจะมีอะไรบางอย่างแน่ เพราะตอนนี้นอกจากพริ้มแล้ว พี่ลิงก์ก็คงเห็นแล้วเหมือนกัน

"พี่ลิงก์ ถ้างั้น..."

ปึง!

ผมหยุดชะงักคำพูดของตัวเอง แล้วหันไปมองทางห้องน้ำ ซึ่งเป็นที่มาของเสียงปริศนา

ครืดดดดด!

เสียงกดชักโครกจากห้องน้ำที่ไม่มีใครอยู่!

ผมตัวแข็งไปชั่วขณะ ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกหนึ่งพลางขมวดคิ้ว ตั้งใจจะไปดูให้เห็นชัดๆ ด้วยตาของตัวเอง ถึงในใจจะลงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วก็ตาม

"...บู้"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่หันมามอง ใบหน้าของเขาซีดกว่าปกติจนผมนึกเป็นห่วง ส่วนพริ้มก็เอาแต่หลับตาปี๋ซุกหน้ากับไหล่ของผมไม่ปล่อย

"ถ้าพี่..."

"ออกจากที่นี่ก่อนเถอะ"

พี่ลิงก์บอกเสียงเรียบพร้อมกับลากแขนผมเดินไปทางประตูห้อง ทางที่พวกเราต้องผ่านห้องน้ำอยู่ดี ทว่าในขณะที่เราสามคนกำลังเดินผ่าน ประตูห้องน้ำที่ปิดไม่สนิทก็ค่อยๆ เปิดกว้างออกมาทีละน้อยอย่างไร้ที่มา ผมหันไปมองตามสัญชาตญาณ แล้วนิ่งค้างไปอีกครั้ง

ภายในห้องน้ำที่ไฟปิดสนิท มีเพียงแสงไฟในห้องที่ลอดผ่านเข้าไป อ่างล้างหน้าที่อยู่ตรงกับประตูและมีกระจกเงาบานหนึ่งติดอยู่ ภาพสะท้อนที่ควรจะเป็นพวกเราสามคนกลับกลายเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่!

เธอยืนก้มหน้าจนผมยาวสีดำปกปิดใบหน้า แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเงาสะท้อนในกระจกเงาขยับตัวราวกับอีกฝ่ายจะวิ่งออกมา ในจังหวะนั้นแรงกระชากของพี่ลิงก์ก็ดึงทั้งผมและพริ้มออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว

ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่กะพริบตาปริบๆ ความตกใจมากกว่าความกลัวครับ ทั้งที่ถูกพี่ลิงก์ดึงให้วิ่งออกมา แต่ผมก็ยังหันไปมองประตูที่เปิดอ้าทิ้งเอาไว้ แล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลง

เรื่องที่ประตูปิดเอง อาจหาเหตุผลได้ทางวิทยาศาสตร์ ทว่าเรื่องเสียงของตกและเสียงกดชักโครกยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดูด้วยสายตาของตัวเอง แต่ที่แน่ๆ ผู้หญิงในกระจกเงามีอยู่จริง!

แล้วเธอก็คงเป็น 'ผี' อย่างไม่ต้องสงสัยครับ!





@@@@@@@@@





"ฮือ...พี่ลิงก์! "

พอกลับมาที่ห้องพริ้มก็เอาแต่ร้องไห้กอดพี่ลิงก์ไม่ปล่อย ผมก็ถอนหายใจ ก่อนจะอาสาลงไปดูที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง เพราะไม่สามารถติดต่อพนักงานของที่พักได้ทางโทรศัพท์

ตอนี้เวลาดีหนึ่งแล้ว ผมถอนหายใจออกมา ในขณะที่รอลิฟต์ ผมก็หันไปมองห้องของพริ้มอย่างค้างคาใจ

นี่ผมเพิ่งโดนผีหลอกมาจริงๆ เหรอ?!

เมื่อลงไปถึงชั้นล่างก็ไม่พบใครครับ มีเพียงไฟที่เปิดทิ้งไว้แต่ไร้วี่แววของพนักงานสักคนให้บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อผมกลับไปที่ห้องอีกครั้ง ก็พบว่าพวกเพื่อนของพี่ลิงก์มารวมตัวกันครบแล้ว ส่วนพริ้มก็คงร้องไห้จนเหนื่อยหลับไปเรียบร้อยแล้วครับ

"ไม่มีใครอยู่ครับ"

ผมบอกพี่ลิงก์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด พี่ทีกับพี่พลเดินกลับไที่ห้องของพริ้มอีกครั้ง แล้วกลับมาบอกว่า ประตูล็อก

ประตูล็อก?!

ผมกับพี่ลิงก์มองหน้ากัน หากต้องการจะเข้าห้องอีกครั้ง ก็คงต้องรอพนักงานเอากุญแจสำรองให้ เพราะกุญแจที่พริ้มถือยังอยู่ในห้องนั้นครับ

"แล้วจะเอายังไงวะ"

พี่ดิมถามขึ้น พี่ลิงก์ที่มีสีหน้าปกติแล้วถอนหายใจออกมา

"ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ช่างมัน พวกมึงไปนอนกันก่อนเถอะ"

ไม่เป็นไรกันใช่ไหม"

"อืม"

"งั้นพวกกูกลับห้องก่อนแล้วกัน มีอะไรก็เรียกได้ตลอด"

หลังจากนั้นภายในห้องก็เหลือแค่ผู้ประสบเหตุสามคนเหมือนเดิมครับ พี่ลิงก์เปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่ายกดื่ม ก่อนที่เขาจะส่งมาให้ผม

"เอาไหม"

"อ่า...ครับ"

ผมรับมาดื่มเล็กน้อย ก่อนจะวางเอาไว้ที่หัวเตียง พี่ลิงก์้เดินไปดูพริ้มที่นอนหลับไปแล้ว เขาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปในห้องน้ำ แล้วกลับออกมาเช็ดคราบน้ำตาของน้องสาวเงียบๆ

ผมอมยิ้มมองภาพนั้นครู่หนึ่ง เมื่อเห็นพี่ลิงก์วางผ้าขนหนูลง ผมถึงได้ส่งเสียงทำลายความเงียบ

"พี่นอนเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องขับรถอีก"

"บู้นอนไปเลย ลิงก์หลับไม่ลง ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้เดี๋ยวไอ้พลมาขับรถให้"

"ผมก็ตาสว่างแล้วเหมือนกันครับ"

พี่ลิงก์เดินมานั่งบนเตียงข้างกัน ผมเลยหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

"เรามาดูหนังด้วยกันไหมครับ กว่าจะเช้าอีกหลายชั่วโมง"

"อืม"

เราสองคนขยับตัวมานอนเบียดเหยียดขาพิงหัวเตียงด้วยกันครับ โดยที่ผมถือโทรศัพท์มือถือที่เปิดหนังเอาไว้และพี่ลิงก์กำลังกอดไหล่ของผมเอาไว้

พวกเราใส่หูฟังกันคนละข้าง เมื่อหนังเริ่มเรื่อง ผมก็ตั้งสมาธิอยุ่ที่เนื้อเรื่องแทบจะในทันที จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ผมก็ต้องหันไปมองคนที่นั่งเบียดอยู่ข้างกัน เพราะรับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาที่ไหล่

พี่ลิงก์หลับไปแล้วครับ

ผมอมยิ้มออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นไปถอดหูฟังของพี่ลิงก์ออก ก่อนจะเขี่ยปอยผมของเขาเล่นเบาๆ แล้วกลับไปสนใจเนื้อเรื่องในหน้าจอโทรศัพท์มือถือต่อ




@@@@@@@@@@





ตอนเช้าผมกับพี่ลิงก์ลงไปติดต่อกับพนักงาน หลังจากที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้อีกฝ่ายฟัง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้เรื่องอะไร แล้วรีบนำกุญแจสำรองไปเปิดห้องให้แต่โดยดี

ผมกวาดตามองโดยรอบ พี่ลิงก์เดินไปเก็บของของพริ้ม ส่วนผมก็เดินไปเปิดประตูห้องมองข้างในอย่างสงสัย

แน่นอนว่าไม่มีอะไรตก ส่วนเรื่องชักโครก ผมก็คงหาคำตอบไม่ได้ ผมหันไปมองกระจกเงาสยองขวัญเมื่อคืนนี้อีกครั้ง ภาพใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนออกมา ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วขึ้น

เมื่อผมออกมาจากห้องน้ำ พี่ลิงก์ก็เก็บของเสร็จหมดแล้ว พนักงานรับกุญแจคืน ก่อนที่พวกเราจะเดินกลับห้อง ผมกับพี่ลิงก์ไม่ได้ถามที่มาที่ไป เพราะป่วยการที่จะขดคุ้ย อีกทั้งพวกเราก็ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับรู้อะไรทั้งนั้นด้วยครับ

พริ้มมีอาการดีขึ้น ถึงแม้เธอจะซึมไปพอสมควร หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย พวกเราก็ลงไปเช็กเอาท์ แล้วเดินทางออกจากที่พักครับ จุดหมายไม่ใช่ทางกลับไปกรุงเทพ แต่เป็นวัดที่อยู่ในบริเวณนั้นครับ

หลังจากถวายสังฆทาน ทำบุญ และกรวดน้ำเรียกขว้ญกำลังใจกลับมา ทริปครั้งนี้ก็จบลงอย่างสมบูรณ์ครับ

"เดี๋ยวกูจะเอาเลขห้องของพริ้มไปซื้อหวย"

พี่พลพูดขึ้น ตอนนี้เขามีหน้าที่ขับรถ โดยที่พี่ลิงก์นั่งอยู่ที่นั่งข้างกัน ส่วนผมกับพริ้มนั่งอยู่ที่เบาะหลังครับ

"งมงายไม่เข้าเรื่อง"

พี่ลิงก์ว่าไปตามเรื่อง ผมก็แค่ยิ้มแล้วหาวออกมาเล็กน้อย

"บู้ ง่วงก็นอน"

"ผมกินกาแฟแล้ว ไม่ค่อยง่วงแล้วครับ"

หลังจากออกจากวัด พกวเราก็แวะกินอาหารเช้ากัน ผมเลยจัดคาปูชิโนแก้วใหญ่จนตาสว่าง

"อืม"

การจราจรไม่ค่อยติดขัดเพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดเทศกาล พี่พลกับพี่ลิงก์พูดคุยกันเป็นระยะ ส่วนผมที่ไม่ได้ทำอะไรก็หันไปมองพริ้มที่เอาแต่นั่งเงียบ ใบหน้าน่ารักเซื่องซึมจนน่าสงสาร

ผมลอบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นเกมออนไลน์เกมหนึ่งอยู่

"เกมนี้ผมก็เล่นอยู่นะ"

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น แล้วโชว์เกมเดียวกันของตัวเองให้อีกฝ่ายดู พริ้มเหลือบมามองเล็กน้อย

"ตอนนี้มีอีเวนท์แจกของ พริ้มได้ครบหรือยัง"

"ครบแล้ว"

"ของผมยังขาดตั้งหลายอย่าง ตอนนี้กำลังจะเก็บไม้กวาดสีรุ้ง แต่ตีบอสไม่ผ่านสักที"

"บอสอ่อนจะตาย"

"ก็ผมเพิ่งเล่นได้ไม่นานเอง ดูเลเวลสิ"

เกมออนไลน์นี้เป็ดเพิ่งชวนผมเล่นเมื่อไม่กี่วันก่อนครับ แล้วก็ไม่นึกว่าพริ้มจะเล่นเกมแบบนี้ด้วย

"ห่วยจัง ของพริ้มเลเวลร้อยสามสิบสองแล้ว"

ผมลอบยิ้มออกมา ก่อนจะพยักหน้ารับ เมื่อพริ้มเริ่มแนะนำวิธีจัดอาวุธและสกิลให้มือใหม่อย่างผมเข้าใจ

"มีแต่ของขยะ เดี๋ยวพริ้มเอาของให้"

"ขอบคุณครับ"

หลังจากนั้นเราสองคนก็คุยเรื่องเกมออนไลน์กันต่อ ท่าทางที่หงอยเหงาของพริ้มจางหายไป แล้วตอนนี้ก็เกือบจะกลับมาเป็นคุณหนูที่แสนเอาแต่ใจเหมือนเดิมอีกครั้ง

"แล้วสกิลนี่ บลูจะอัพทำไมเปลืองแต้ม สรุปจะเล่นสายอะไรกันแน่เนี่ย โอ๊ย! แบบนี้ของที่ให้ไปก็ใช้ไม่ได้น่ะสิ เอากลับคืนมาเลยนะ เสียของ! "

"ขอเก็บไว้ก่อนไม่ได้เหรอ เผื่อได้ใช้"

"เชอะ! ก็ได้ๆ "

ทริปสองวันหนึ่งคืนครั้งนี้คุ้มค่ามากครับ ถึงแม้จะมีเรื่องไม่คาดฝันต่างๆ เกิดขึ้น แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี

นอกจากความสัมพันธ์ของผมกับพี่ลิงก์จะเข้าใกล้กันมากขึ้น คนที่เคยประกาศตัวเป็นศัตรูก็กลายเป็นเพื่อนใหม่ไปแล้วครับ







TBC++++++++

Marionetta
เป็นตอนที่มาทำให้พริ้มกับบลูดีกัน อิอิ ไม่เคยแต่งแบบนี้เลนค่ะ อยากให้มันน่ากลัวนะ แต่ทำไมมันดูตลกก็ไม่รู้ บู้กลัวพี่ลิงก์แต่ไม่กลัวผีนะ ชวนไปล่าท้าผีได้ 5555

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 24 > 27-01-20
«ตอบ #172 เมื่อ27-01-2020 20:26:53 »

ตอนแรกนึกว่าเป็นคนปลอมมาหลอกขโมยของ พอเป็นผีจริงๆขนลุกเลย
ทริปนี้พี่ลิงซ์ก็อดกินบู้อยู่ดี 55

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 24 > 27-01-20
«ตอบ #173 เมื่อ27-01-2020 22:34:54 »

บู้น่ารักเชียว

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 24 > 27-01-20
«ตอบ #174 เมื่อ30-01-2020 12:48:27 »

Level 25: คนที่ถูกเลือก









บริเวณหอพักที่เคยเงียบเหงา เวลานี้เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาหน้าเก่าและหน้าใหม่ ตอนนี้ผมเป็นรุ่นพี่ปีสามแล้วนะครับ แล้วก็ยังอาศัยอยู่ที่หอพักเดิม โดยที่พี่ลิงก์ก็มาค้างด้วยเป็นบางครั้ง เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ผมเลยให้กุญแจห้องและคีย์การ์ดกับเขาไปอีกชุด แต่ก็มีไปค้างที่คอนโดของอีกฝ่ายบ้างแล้วแต่สะดวกครับ

ความสัมพันธ์ของพวกเรายังเป็นไปอย่างเรียบง่ายเช่นเดิม เคยใกล้ชิดกันมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยังเท่านั้น ถึงแม้ทุกครั้งที่พี่ลิงก์สัมผัสผมมากขึ้นจะชวนให้ผมเผลอคิดไปไกลก็ตามที

ทว่าก็มีสิ่งที่เปลี่ยนไปจนน่าแปลดใจก็คือเรื่องตุ๊กตาหมีครับ ตอนนี้คอนโดของพี่ลิงก์ไม่มีตุ๊กตาหมีแล้ว และเหตุผลของเขาก็ทำให้ผมต้องเขินขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึง

"ที่ไม่ได้เอากลับมา ก็เพราะลิงก์มีบู้แล้วไง"

อีกนัยหนึ่งก็คือ ผมมีความสำคัญมากกว่าตุ๊กตาทั้งหลายเหล่านั้นแล้ว!

ด้วยเหตุนี้ถ้าไม่มีเหตุขัดข้องอะไร พี่ลิงก์ก็จะมานอนกอดผมแทบทุกคืนครับ

"พี่นกฝากถามกูว่า มึงสนใจไปสอนวันเสาร์อาทิตย์ไหม คือ...ถ้าจะไป ก็ได้อ่ะ"

ตอนนี้เป็ดยังคงไปช่วยพี่นกอยู่ครับ แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่มีธุระอะไรด้วย เพียงแต่...

"ฝากขอบคุณพี่นกด้วย แต่กูคงไม่ไปว่ะ พี่ลิงก์โวยวายแน่"

ตอนนี้พี่ลิงก์เรียนหนักและงานเยอะขึ้นด้วย แล้วถ้าผมไม่มีเวลาให้เขาอีก มีเรื่องกันแน่นอนครับ

"อะไรวะ ชีวิตมึง มึงก็ตัดสินใจเองดิ ทำไมต้องรอให้ใครมาตัดสินให้"

เป็ดชักสีหน้าออกมา ผมก็ถอนหายใจกับท่าทางเอาเรื่องของคนตรงหน้า

"หึ! มีแฟนแล้วต้องมีบ่วงคิดคอแบบนี้ ซวยชัดๆ "

"กูพอใจกับบ่วงนี้นะ"

"เออ! ภูมิใจมากล่ะสิ แฟนทั้งหล่อทั้งรวยเนี่ย เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำ"

"ฮ่าๆ ก็ไม่ขนาดนั้น"

เป็ดทำหน้าเซ็งออกมา ผมก็ได้แต่ยิ้มรับก่อนจะลุกขึ้นยืน เมื่อเวลาพักกลางวันหมดลงแล้ว

"ขึ้นเรียนกัน"

"เฮ้อ...นึกถึงเมื่อก่อน พักกลางวันทีไร มึงต้องวิ่งแจ้นไปตามผู้ชาย น่าสมเพชชะมัด"

"แต่กูก็ตามจนได้เป็นเจ้าของอ่ะ ถือว่าประสบความสำเร็จ"

ผมยักคิ้วส่งให้เป็ดอย่างกวนประสาท เมื่อเราสองคนเข้ามานั่งในห้องเรียนได้ไม่นาน เสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น

LINK
เย็นนี้ เดี๋ยวไปรับที่คณะ

Blue++
ครับ

พี่ลิงก์ส่งสติกเกอร์ตอบรับเป็นการปิดท้าย ผมก็เก็บเครื่องมือสื่อสารของตัวเอง เล้วกลับไปสนใจเป็ดที่กำลังคุยเรื่องงานต่อ





@@@@@@@@





หลังจากที่แยกย้ายกับเพื่อนสนิทและเดินลงจากตึกเรียน ผมก็กวาดตามองไปรอบตัว แล้วก็หยุดสายตาตรงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในมุมอับ ทว่าความดูดีของเขาก็ไม่อาจรอดพ้นการตกเป็นที่สนใจของใครหลายคนได้อยู่ดี

"พี่ลิงก์"

ผมลอบถอนหายใจออกมา และเมื่อผมเดินไปหา สายตาหลายคู่ที่ลอบมองพี่ลิงก์อยู่ก็หันมาสนใจผมทันที

ตอนนี้มีแฟนคลับของพี่ลิงก์หลายคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาแล้ว แน่นอนว่าผมโดนวิจารณ์ยับ แต่ผมก็ไม่ค่อยสนใจกับข้อความว่าร้ายทั้งหลายอยู่ดี ต่างจากเป็ดกับพริ้มที่เดือดร้อนแทนผมครับ

หลังจากที่เป็ดรับรู้เรื่องของพริ้ม รวมถึงเกมที่พวกเรากำลังเล่นกัน ทั้งสองคนก็สนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้น และตอนนี้พวกเขาก็โต้ตอบคนที่โจมตีผมอย่างเผ็ดร้อน ผลสุดท้ายพี่ลิงก์ที่เป็นตัวต้นเหตุก็มายุติสงครามสังคมออนไลน์ลงด้วยข้อความสุดอินดี้ตามเคย

'ถึงแฟนกูจะหน้าตาไม่ดี แต่กูก็ไม่เอาพวกมึงหรอก'

ผมอ่านข้อความนั้นด้วยหัวใจที่หนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ดีใจที่พี่ลิงก์ออกมาปกป้องผมอย่างชัดเจนแบบนี้

ข้อความนั้นสร้างกระแสในเวลาไม่กี่นาที มีหลายคนแสดงความไม่พอใจ บางคนก็ต่อว่าพี่ลิงก์กลับด้วย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

ตั้งแต่ที่ผมคบกับพี่ลิงก์ก็ไม่ได้ตามไปสนใจเกี่ยวกับแฟนคลับของเขานัก จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีหลายคนที่ชื่นชอบพี่ลิงก์สลายตัวไปพอสมควร ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนที่เลือกจะเมินความจริงและสร้างมโนภาพในแบบที่ตัวเองต้องการต่อไปอย่างมีความสุขครับ

"อืม"

พี่ลิงก์ลุกขึ้นจากม้านั่ง ก่อนที่เขาจะกอดคอผมเดินไปทางลานจอดรถอย่างไม่รีบร้อน

"วันนี้จะไปซื้อของก่อน"

พี่ลิงก์พูดขึ้น ผมก็พยักหน้ารับ เดิมทีเขาจะมานอนที่ห้องของผมคืนนี้ครับ แต่ผมคงต้องไปนอนที่คอนโดแทนแล้ว

"พี่ลิงก์ ผมขอไปเอาโน้ตบุ๊กที่ห้องก่อน"

"อืม"





@@@@@@@@





พวกเรามาซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ครับ ผมเข็นรถเข็นตามพี่ลิงก์ที่เดินไปตามชั้นวางของอย่างคุ้นเคยไม่ต่างจากพ่อบ้านมืออาชีพ

"เย็นนี้กินสปาเกตตีดีไหม"

"ครับ"

"งั้นก็เอาเส้นสปาเกตตีไปด้วย"

ผมหันไปหยิบเส้นสปาเกตตียี่ห้อหนึ่งมาใส่รถเข็น แล้วกำลังจะเดินตามพี่ลิงก์ต่อ ทว่าเขากลับเอาของที่ผมเพิ่งใส่รถเข็นกลับคืนชั้นวาง แล้วหยิบอีกยี่ห้อหนึ่งมาแทน

"อย่าหยิบมั่วดิบู้"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างงุนงง แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไร นอกจากทำหน้าที่เข็นรถเข็นเดินตามเขาต่อไป

"เอาใส่ชีสด้วยดีไหม"

"ดีครับ"

"งั้นก็ไปเอาชีสมาด้วย พาเมซานชิสนะ"

"ครับ"

ผมก็เดินตามพี่ลิงก์ไปที่ชั้นจัดวางชีสหลากหลายยี่ห้อ ก่อนจะหยิบพาเมซานชีสยี่ห้องหนึ่งมาใส่รถเข็น และก็เป็นอีกครั้งที่อีกฝ่ายนำของที่ผมเลือกออกไปคืน แล้วหยิบอีกยี่ห้อหนึ่งมาแทน

"บู้"

"อ่า...ครับ"

"เลือกของไม่เป็นเหรอ"

ผมก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเขาอยากได้พาเมซานชีส ผมก็หยิบให้ แล้วมันยังไงต่อล่ะครับ

ผมทำอะไรผิด?

สีหน้าของผมทำให้พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา แล้วอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ของที่บู้หยิบมา คุณภาพมันไม่ดีพอไง อันที่ลิงก์หยิบดีกว่า"

"แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่ามันดีกว่า"

ผมว่ามันก็เหมือนกันหมด เขามียี่ห้อที่อยู่ในใจแล้ว? หรือจะต้องให้อ่านส่วนประกอบก่อน?

"ก็มันเพงกว่าไง"

ผมได้แต่ยืนอึ้งกับคำตอบ พี่ลิงก์ทำสีหน้าเบื่อหน่ายออกมา

"ตรรกะง่ายๆ ของดีก็คือของแพง คุณภาพตามราคาไง"

"แต่บางทีของดีก็ไม่จำเป็นต้องราคาแพงก็ได้นี่ครับ"

ของบางอย่างคุณภาพก็ไม่ต่างกันมาก ขายยี่ห้อมากกว่าสินค้าด้วยซ้ำ

"นั่นมันทฤษฏืของคนไม่มีเงิน วัตถุดิบคุณภาพดี ต้นทุนก็สูง ราคาถึงแพงไง"

คนไม่มีเงินอย่างผม พูดไม่ออกเลยครับ

"เพราะไม่เลือกของให้ดีไง บู้ถึงได้เตี้ยแบบนี้"

ผมยืนเก็บความรู้สึกจุกในอกอย่างอดกลั้น ทำได้เพียงเงยหน้ามองคนที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย และตัวสูงกว่าแบบเทียบไม่ติดพร้อมกับตะโกนอยู่ในใจ

แล้วยังไง? ไอ้เตี้ยอย่างผมก็เป็นแฟนของพี่ คนไม่มีคุณภาพดีพอที่พี่เลือกไม่ใช่เหรอ?!

"ไม่พอใจ? "

พี่ลิงก์เลิกคิ้วมองผมที่อาจจะแสดงสีหน้าที่แท้จริงออกไป ผมลอบถอนหายใจออกมา

"เปล่าครับ โอ๊ย! "

ผมร้องออกมาพลางจับแก้มข้างหนึ่งที่เพิ่งโดนอีกฝ่ายกัดด้วยความขุ่นเคืองระคนเขินอาย พี่ลิงก์จ้องผมไม่ละสายตา

"มันเขี้ยวบู้"

ผมทำสีหน้าไม่ถูก ทั้งที่โดนเขาหยอกแบบนี้บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคบชินเสียที ในขณะที่อารมณ์กำลังปั่นป่วน ผมก็สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อคนตรงหน้าก้มลงมาจูบริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขาตัวใหญ่พอจะบังผมจนมิด อีกทั้งยังไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ถึงได้ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์น่าอายเมื่อครู่นี้

"อยากฟัดอีก"

พี่ลิงก์ยังก้มหน้าไม่ห่างไปจากผม ปลายจมูกของเราสองคนลากผ่านแผ่วเบา นัยน์ตาสีดำวาววับสบมองจนใบหน้าของผมร้อนผ่าว

"พี่ลิงก์"

ผมร้องปรามด้วยการเรียกเขาเสียงเบา ตอนนี้หัวใจของผมเต้นระรัว ทั้งตื่นกลัวว่าจะมีใครมาเห็นและตื่นเต้นกับสัมผัสของพี่ลิงก์ที่จะทำให้ผมเป็นบ้า

"หึ! "

พี่ลิงก์ถอยห่างออกมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ก่อนที่เขาจะเดินนำต่อ ผมก็ได้แต่ขมวดคิ้วชักสีหน้า แล้วเข็นรถเข็นตาม





@@@@@@@@




หลังจากนั้นไม่ว่าพี่ลิงก์จะให้ผมหยิบอะไร ผมก็เลือกจากราคาครับ อันไหนแพงที่สุดก็เลือกอันนั้น ซึ่งทำให้เขาแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา

หึ! แฟนใครวะ น่าหมั่นไส้!

"อ้าว! ลิงก์ไม่ได้เจอกันนานเลย"

เสียงทักของใครสักคนดังขึ้น ผมที่เดินเข็นรถเข็นตามหลังมาก็ชะโงกหน้าไปมองเล็กน้อย ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มมาให้พี่ลิงก์อยู่ครับ

"อืม"

"บังเอิญจัง อยู่แุถวนี้เหรอ"

"อืม"

"งั้นเหรอ ไหมมาที่นี่บ่อยนะ แต่ไม่เคยเจอลิงก์เลย"

ผมก็ได้แต่ยืนมอง แต่ไปไหนต่อไม่ได้ครับ เพราะมีรถเข็นของผู้หญิงที่กำลังยืนคุยกับพี่ลิงก์ขวางทางอยู่ แต่ดูเหมือนเธอจะรู้ตัว เลยรีบเข็นรถเข็นหลบทางให้ผมผ่านไปก่อน

ผมก็มองผู้หญิงที่หันไปคุยกับพี่ลิงก์ต่อเล็กน้อย แล้วเข็นรถเข็นผ่านทั้งสองคนไปอย่างไม่สนใจ ผมหันไปมองที่ชั้นวางของที่อยู่ไม่ไกลจากวงสนทนา แล้วหยิบกระดาษทิชชูยี่ห้อที่ราคาแพงที่สุดใส่รถเข็น

"แล้วลิงก์มาคนเดียวเหรอ"

"เปล่า มากับแฟน"

"อ้อ ไหนล่ะ คนนั้นเหรอ"

ผมหันไปมองทั้งสองคนที่กำลังยืนคุยกัน แล้วชะงักไปเล็กน้อย ทว่าเมื่อมองตามสายตาของผู้หญิงคนนั้น ผมถึงเหลือบไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนเลือกของอยู่ถัดจากผมไม่กี่ก้าว

"อืม"

"แฟนสวยนะเนี่ย"

"ไม่สวย แต่น่ารัก"

ผมปั้นหน้ายาก ผู้หญิงคนนั้นยังคงมองไปที่อีกคน ส่วนพี่ลิงก์กำลังมองผมอยู่ แถมยังยักคิ้วส่งมาให้อีกต่างหาก!

"แหม...งั้นไหมไปก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกันใหม่"

"อืม"

พี่ลิงก์เดินมาหาผม แล้วดันไหล่ให้ผมเดินต่อผ่านผู้หญิงที่ยืนเลือกของอยู่ ผมแอบหันหลังกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะตอนนี้เธอกำลังมีสีหน้าตกใจ

"เพื่อนหรือครับ"

"อืม เพื่อนที่โรงเรียนเก่า"

"ดูเหมือนเธอเข้าใจผิดเรื่องแฟนของพี่นะครับ"

"เหรอ ช่างเถอะ..ลืมเลย ต้องไปเอาซอสมะเขือเทศด้วย ใกล้หมดแล้ว"

ผมก็พยักหน้ารับ แล้วเดินอมยิ้มตามคนที่กอดคอของผมเอาไว้อย่างอารมณ์ดี





@@@@@@@@@@





ช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนครับ มีหลายฤดูในหนึ่งวัน แต่ที่แน่ๆ ฝนมักจะตกตอนเวลาเร่งด่วนเป็นประจำ

เฮ้อ...

ผมได้แต่มองร่มในมืออย่างละเหี่ยใจ แล้วเดินขึ้นห้องเรียนด้วยตัวที่เปียกชุ่ม

"เปียกเป็นหมาตกน้ำเลยมึง"

เป็ดทักทายพร้อมกับมองสภาพของผมด้วยสายตาเวทนา ผมนั่งลงแล้วถอนหายใจออกมา

"กูก็คิดว่าจะพ้นแล้ว ดันตกมาได้ แถมยังหนักด้วย"

ผมบ่นออกมา ก่อนหน้าที่จะมาถึงมหาวิทยาลัย สภาพอากาศก็แค่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ผมก็รีบออกจากห้องพักเพราะกลัวจะเปียกระหว่างทาง แต่ก็ดันโชคร้ายหนีไม่พ้นอยู่ดี

"ทำใจอย่างเดียว กูก็บิดมาเต็มที่ หวุดหวิดเหมือนกัน"

"กูแทบจะเขวี้ยงร่มทิ้งแล้ว ไร้ประโยชน์"

ผมหันไปส่งตาขวางใส่ร่มของตัวเอง เป็ดก็หัวเราะออกมาเบาๆ

"พกมาก็ดีแล้ว ถ้ามึงไม่เอามา มันจะมีเรื่องที่ทำให้มึงต้องโมโหที่ไม่ได้เอามา"

"ก็จริง"

ผมกวาดตามองรอบห้องที่คนยังบางตา อาจเป็นเพราะติดฝนและโดดเรียนจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย

"แล้วแฟนมึงไม่อยู่เหรอ ทำไมไม่ให้เขามาส่ง"

"พี่ลิงก์อยู่คอนโด"

"แฟนมึงก็เหมือนร่มที่มึงพกอ่ะบลู"

"ยังไงวะ"

"ถึงจะมี แต่ก็ไม่มีประโยชน์"

"อย่ามาว่าพี่ลิงก์นะเว้ย"

ผมว่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เป็ดก็ทำหน้าตาเบื่อหน่ายออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

พี่ลิงก์น่ะ...ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่ดีต่อใจก็พอแล้ว









TBC+++++++

Marionetta
มาแล้วค่ะ ช่วงนี้สภาพอากาศไม่ดีเลย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

ตอนนี้มาแบบเบาๆ อ่านสบายเหมือนเดิม ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 


ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 25 > 30-01-20
«ตอบ #175 เมื่อ31-01-2020 05:11:57 »

พี่ลิงซ์พูดไม่รักษาน้ำใจน้องเลยแต่วิธีที่ใช้ทำให้หายงอนนั้นหวานมาก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 25 > 30-01-20
«ตอบ #176 เมื่อ31-01-2020 13:26:46 »

 :L2: :L1: :pig4:

ถนอมน้องหน่อย

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 25 > 30-01-20
«ตอบ #177 เมื่อ01-02-2020 20:42:36 »

Level 26: น้องชาย







เนื่องจากสภาพอากาศที่หมุนเวียนจนสุดจะคาดเดา อีกทั้งการมาของสายฝนที่ทำหน้าที่เป็นประจำในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน ทำให้ร่างกายของหลายคนไม่สามารถต้านทานอาการเจ็บป่วยที่แวะมาทักทายได้

"แค่กๆ เจ็บคอ"

"มึงก็อย่ากินน้ำเย็นสิ"

"ก็มันร้อนนี่หว่า แค่กๆ "

"เฮ้ย! ไปไอไกลๆ ไป อย่าเอาหวัดมาติดกู"

ผมไม่ได้สนใจท่าทีรังเกียจของเพื่อนสนิท ทำเพียงแค่ไอตอบรับอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้

"กูแค่ไอ แค่กๆ ยังไม่มีน้ำมูก"

"มันเป็นอาการเร่ิ่มต้นไงวะ รีบกลับไปนอนไป"

ผมพยักหน้ารับ เมื่อสองวันก่อนผมเริ่มเจ็บคอเล็กน้อย แต่ก็ชะล่าใจจนอาการลุกลามมาเป็นอาการไอครับ ถึงจะอยากหยุดเรียนนอนพัก แต่ผมก็ดันมีงานและสอบแทบทุกวัน

เป็ดขับมอเตอร์ไซค์มาส่งผมที่หอพักในตอนบ่าย วันนี้พี่ลิงก์มีเรียนบ่ายแล้วก็ไปทำธุระต่อ ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับมาค้างที่ห้องด้วยกันหรือเปล่า

ผมเดินมึนไปที่ร้านขายยาในละแวกนั้น หลังจากได้ยามาชุดหนึ่งก็เดินกลับห้องครับ

"บลู"

เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปด้านในของหอพัก ทำให้ผมต้องหันไปมอง แล้วก็นึกแปลกใจที่เห็นคนตรงหน้า

"มาไงวะ แต่กๆ "

ผมมองน้องชายตัวสูงอย่างสงสัย กรีนขมวดคิ้ว สายตาสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

"ป่วยเหรอ"

"อืม ว่าแต่ แค่กๆ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ถึงได้มาถึงนี่ แค่กๆ แล้วทำไมไม่โทรมาบอกก่อน"

"พอดีมาหาเพื่อนแถวนี้เลยแวะมา ก็กำลังจะโทรหาอยู่"

"อืม แล้วกินอะไร แค่กๆ หรือยัง"

"กินแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว รำคาญ"

ผมส่งสายตาไม่พอใจไปให้ แล้วเดินเข้าไปด้านในของหอพักตามเดิม โดยที่มีน้องชายเดินตามหลังมาด้วยกัน

"แม่งครึ้มมาอีกแล้ว"

กรีนพูดขึ้น เมื่อมองไปที่หน้าต่าง ท้องฟ้าสีหม่นเป็นลางบอกเหตุถึงสายฝนที่จะมาอีกไม่ช้า

"อืม แล้วจะกลับกี่โมง"

"ค้างที่นี่แล้วกัน ขี้เกียจกลับ"

"พรุ่งนี้ไม่มีเรียน? "

"มีตอนบ่าย"

"อืม"

ผมไออีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปกินยาที่เพิ่งซื้อมา แล้วล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย กรีนเพิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่งคณะสถาปัตยกรรมศาสคร์ของมหาวิทยาลัย D ครับ

"นอนพักไป เดี๋ยวหวัดมาติดกู"

"งั้นมึงก็กลับไปเลยกรีน แค่กๆ "

"ก็ฝนมันจะตกแล้ว ไม่อยากนั่งแท็กซี่ มันแพง"

ผมชักสีหน้าใส่น้องชาย แล้วหลับตาลง เพียงไม่นานยาก็ออกฤทธิ์จนผมเผลอหลับไป





@@@@@@@@@@




ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน แต่ก็รู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงบางอย่างรบกวน

ผลัวะ!

เสียงการต่อสู้ที่ดังขึ้น ทำให้สติมึนงงของผมทำงานเต็มที่ ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าน้องชายกับแฟนกำลังตีกันอยู่!

เกิดอะไรขึ้น!

"หยุดก่อน! "

ผมวิ่งถลาไปแยกผู้ชายตัวโตสองคนที่กำลังใช้หมัดสื่อสารกันอย่างกับคนบ้า

"บลูออกไป! "

"บู้! ไอ้หี้ยนี่ใคร! "

ถึงจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมก็ยังยืนหยัดทำหน้าที่เป็นไม้กันคนบ้าตีกันอย่างแน่วแน่

"แต่กๆ ใจเย็นก่อน! เฮ้อ"

โชตดีที่ทั้งสองคนยังมีสติพอที่จะฟังผมมากกว่าเข้าใส่กันตามอารมณ์

ผมหันไปหาน้องชายที่ยังจ้องหน้าพี่ลิงก์เขม็ง ใบหน้าได้รูปมีรอยช้ำที่มุมปาก แล้วหันไปมองใบหน้าหล่อของแฟนตัวเองที่มีสภาพไม่ต่างกันอย่างอ่อนใจ

"บลู! มันเป็นใคร! "

กรีนถามเสียงเข้มพร้อมกับใช้สายตาเหี้ยมเกรียมจ้องมองผม ในขณะเดียวกันพี่ลิงก์ก็ส่งสายตาแข็งกร้าวอย่างกดดัน ผมผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"กรีน นี่พี่ลิงก์แฟนพี่ พี่ลิงก์ครับ นี่กรีนน้องชายผม"

เมื่อผมแนะนำตัวให้พวกเขารู้จักกัน สีหน้าหาเรื่องของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป คนหนึ่งแสดงความตกใจ ส่วนอีกคนหนึ่งแสดงความเบื่อหน่าบออกมาแบบไม่สบอารมณ์นัก

พี่ลิงก์เดินกลับไปนั่งตรงปลายเตียงราวกับกำลังข่มอารมณ์ ต่างจากกรีนที่มีท่าทางคุกคามผมมากกว่าเดิม

"หมายความว่าไง! บลู! มึงเป็นเกย์?! "

"ไม่รู้"

ผมตอบปัดอย่างขอไปที แล้วไอออกมาอีกครั้ง คงเพราะอาการป่วย ทำให้ผมไม่อยากสู้รบตบมือกับใครเท่าไหร่ แต่น้องชายคงไม่เข้าใจ อีกฝ่ายเข้ามากระชากแขนของผมที่กำลังจะเดินไปหากล่องปฐมพยาบาลที่มีติดห้องเอาไว้

ฉับพลันที่ผมซวนเซไปตามแรงของกรีน พี่ลิงก์ที่นั่งอยู่ก็รีบลุกมาดันน้องชายของผมให้ถอยห่าง เขาส่งสายตาไม่พอใจไปให้พร้อมกับดึงผมมากอดเอาไว้แทน น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นอย่างดุดัน

"อย่ามากระชากแขนแฟนกู"

"ไม่ใช่เรื่องของมึง! อย่าเสือก! "

ผมนึกปวดหัวขึ้นมาทันที อาจจะเป็นความผิดของผมทีไม่ได้เล่าเรื่องของพี่ลิงก์ให้กรีนฟังมาก่อน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นพวกหัวร้อนง่ายและไม่ยอมใคร

"ขอทีเถอะ แค่กๆ อย่าทะเลาะกันได้ไหม"

ผมพาพี่ลิงก์กลับไปนั่งที่ปลายเตียงเหมือนเดิม แล้วก็พาน้องชายไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่อีกด้าน ผมมองทั้งสองคนอย่างจริงจัง

"เฮ้อ เอาล่ะ...ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องต่อยตีกันด้วย"

"กูออกมาจากห้องน้ำ เห็นมันกำลังลวนลามมึงตอนหลับไง เลยต่อยมัน"

กรีนบอกด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด ผมปั้นหน้ายากแต่ก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่นั่งหน้าบึ้งตึง

ฟังแค่นี้ผมก็เดาเรื่องทั้งหมดได้แล้วครับ ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนเสียงเคร่งเครียดของกรีนจะดังขึ้น

"ไอ้ห่าเอ๊ย! บลูเป็นเกย์! "

กรีนโวยวายเหมือนคนที่รับความจริงไม่ได้ สายตาจ้องมองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"อืม"

ผมตัดสินใจยอมรับ คงไม่มีเหตุผลอะไรมาปฏิเสธ ในเมื่อแฟนของผมก็เป็นผู้ชาย ถึงแม้ผมจะชอบผู้ชายคนนี้แค่คนเดียวก็ตาม

"มึงทำให้พี่กูเป็นเกย์! กูจะจัดการมึง! "

"หนวกหู โวยวายอยู่ได้"

"บลูอย่ามาขวาง! "

ผมรีบห้ามน้องชายที่ทำท่าจะพุ่งเข้าหาพี่ลิงก์อย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ดูเหมือนจะยากพอตัว เพราะคู่กรณีกำลังส่งสีหน้ากวนอารมณ์ยั่วโมโหมาให้กรีนอย่างท้าทาย

นี่มันเด็กทะเลาะกันจริงๆ นะครับ!

"กรีน! หยุดบ้า! แล้วกลับไปนั่งตรงนั้น! "

ผมตวาดใส่น้องชายอย่างอดไม่อยู่ ซึ่งทำให้กรีนยอมหยุด ทั้งที่สีหน้ายังแสดงความโมโหอยู่ก็ตาม ปกติผมเป็นคนใจเย็น แต่เมื่อไหร่ที่ผมอารมณ์ร้อนขึ้นมา น้องชายก็มักจะเย็นลงเสมอ

ผมมองกรีนที่ยอมเดินไปนั่งตามที่ผมสั่ง แล้วผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ที่แสดงสีหน้าประหลาดออกมาตอนที่เราสบตากัน

"พี่หยุดแกล้งน้องสักทีสิครับ"

"ไม่ได้แกล้ง ลิงก์อยากแกล้งบู้คนเดียว"

น้ำเสียงเง้างอนที่โดนตำหนิและสายตาตัดพ้อที่ส่งมา ทำให้ผมกลั้นยิ้มเอาไว้ในใจ ทว่าบรรยากาศชวนคันยุบยิบฟัวใจก็ถูกทำลายจากเสียงทุ้มเข้มที่กราดเกรี้ยว

"ไอ้เหี้ย! มึงรังแกพี่กูเหรอ! "

ไอ้น้องบ้า!

ผมเดินเช้าไปตบกระโหลกกรีนอย่างหมดความอดทน ส่วนน้องชายก็หันขวับมามองผมตาขวางอย่างไม่พอใจ

"กูจะฟ้องพ่อกับแม่ว่ามึงกกผู้ชายไว้ที่ห้อง! "

"ไอ้กรีน! "

ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงเข้ม กรีนมีท่าทางฮึดฮัดนั่งกอดอกราวกับกำลังข่มอารมณ์ของตัวเอง ผมได้แต่นึกเหนื่อยใจและกังวลใจไปพร้อมกัน แต่พ่อกับแม่ของผมก็เป็นคนหัวสมัยใหม่แถมยังใจดีมาก คงไม่มีปัญหา ถ้าหากผมจะคบกับผู้ชายหรอกมั้งครับ

"บู้ยังไม่ได้บอกที่บ้านเหรอ"

พี่ลิงก์หันมาถามด้วยสายตาไม่พอใจชัดเจนจนผมทำตัวไม่ถูก

"ก็...ยังครับ"

"ทำไม เพราะแบบนี้ไง ถึงมีไอ้โง่บางคนไม่รู้เรื่อง"

"อ้าว! อย่าเก่งแต่ปาก มึงลุกขึ้นมาเลย! "

"พอสักทีกรีน พี่ลิงก์อย่ายั่วโมโหน้องได้ไหมครับ แค่กๆ "

ผมหันไปสั่งกรีนและขอร้องพี่ลิงก์อย่างหมดหนทาง ตอนนี้ปวดหัวจนลืมไอไปเลยครับ

"กรีนรังเกียจที่พี่มีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ"

ผมหันไปถามน้องชายอย่างจริงจัง ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พี่ลิงก์ แต่อยู่ที่กรีนมากกว่า

กรีนมองผมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนจะตวัดสายตาไปทางพี่ลิงก์ที่นั่งเงียบอย่างเอาเรื่อง

"กูไม่ได้อะไรนะบลู แต่ต้องไม่เอาไอ้เหี้ยนี่มาเป็นแฟนมึง"

"หึ! กูก็ไม่นับมึงเป็นน้องแฟนกูเหมือนกัน"

นี่มันคู่แค้นกันตั้งแต่ชาติปางก่อนเหรอ?!

"อย่าเอาแต่ใจกันนักสิ ไม่เห็นใจคนป่วยบ้างหรือไง แค่กๆ "

ผมไอออกมาแสดงความเป็นคนป่วย ทำให้คู่กัดเลิกเขม่นกันชั่วคราว พี่ลิงก์เดินมาจับหน้าผากของผมเพื่อวัดไข้ ส่วนกรีนก็เบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำกระแทกประตูเสียงดังอย่างระบายอารมณ์

"ลิงก์ไม่ชอบน้องของบู้"

พี่ลิงก์บอกเสียงขุ่น ผมไม่ได้สนใจพลางหันไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้เขาอย่างเบามือ ผมถนัดเรื่องนี้ เพราะกรีนมักมีเรื่องต่อยตีบ่อยด้วยนิสัยหัวร้อนง่ายไม่ยอมใคร

"กรีนเป็นคนตรงๆ แบบนี้แหละครับ มันไม่มีอะไรหรอก พี่อย่าถือสาเลยนะครับ"

"อืม"

ผมยิ้มบาง แล้วไอออกมาเล็กน้อย พี่ลิงก์ขมวดคิ้ว

"กินยาแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

หลังจากตอบคำถามของพี่ลิงก์ ผมก็หันไปมองกรีนที่เดินหน้าบูดออกมาจากห้องน้ำ เลยกวักมือเรียกให้น้องชายจอมดื้อมานั่งตรงหน้าเพื่อทำแผลให้

"ลิงก์ซื้อโจ๊กมา แต่มีแค่สองถุง"

"กูไม่กิน"

ผมถอนหายใจอย่างระอา ขณะที่ทำแผลให้กรีนไปด้วย

"โจ๊กเก็บไว้กินพรุ่งนี้เช้า เดี๋ยวเราไปกินช้าวข้างนอกกันดีกว่านะครับ"

ผมหันไปบอกพี่ลิงก์ เขาไม่ได้โต้เแย้งอะไร ส่วนกรีนก็นั่งหน้าบึ้งออกมาเท่านั้น





@@@@@@@@@@




หลังจากมื้อเย็นผ่านไปอย่างราบรื่น โดยที่พี่ลิงก์เป็นเจ้ามื้อเลี้ยง ปัญหาต่อมาก็เกิดขึ้นจนได้

"ทำไมมึงต้องค้าง"

"ไม่เกี่ยวกับมึง"

"กูไม่อนุญาต! "

"ห้องแฟนกู ไม่ใช่ห้องมึง"

ผมถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ได้แต่มองคนทะเลาะกันอย่างปลงตก ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียวมากเลยครับ แต่คงเป็นไปไม่ได้

หลังจากกินยาหลังอาหารไปอีกรอบ ผมก็อาการดีขึ้น พรุ่งนี้ก็น่าจะหาย

"บลู! กูไม่ยอม! "

"อย่าเรื่องมาก ถ้าไม่พอใจก็กลับไป"

"เห็นผู้ชายดีกว่าน้องหรือวะ! "

"ก็มึงมีปัญหา แค่พี่ลิงก์ไม่มีไง"

ผมบอกอย่างใจเย็น อันที่จริงถ้าให้เลือกระหว่างสองคนนี้ ผมก็เลือกน้องชายครับ แล้วผมก็ต้องทะเลาะกับพี่ลิงก์อีกคน ทางที่ดีอย่าเลือกจะดีที่สุด เตียงของผมกว้างพอจะรองรับผู้ชายสามคนนอนแบบเบียดกันได้

เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว ผมก็เดินไปอาบน้ำต่อ ถึงแม้จะระแวงว่าถ้าปล่อยสองคนนั้นอยู่ตามลำพังจะมีเรื่องอะไรเกิกขึ้นหรือเปล่าก็ตาม





@@@@@@@@@@




ผมนอนมองเพดานที่ปิดไฟไปเรื่อย อาจเพราะเพิ่งนอนไปเมื่อกลางวัน ตอนนี้เลยไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่ แต่ก็ถูกทั้งพี่ลิงก์และกรีนบังคับให้พักผ่อนจะได้หายป่วย

เสียงกรนแผ่วเบาดังมาจากน้องชายที่อยู่ด้านขวา ผมลอบถอนหายใจออกมากับการนอนหลับง่ายของอีกฝ่าย แล้วเหลือบสายตาไปมองทางด้านซ้ายที่มีคนที่นอนหันหลังให้

ผมขยับตัวไปนอนตะแคงข้างบ้าง แล้ววาดแขนกอดคนที่นอนหันหลังด้วยความเคยชิน เพียงไม่นานคนในอ้อมแขนก็ขยับตัวนอนหันหน้าเข้ามาหา

เราสองคนสบตากันในความมืด พี่ลิงก์ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย ฝ่ามือของเขาลูบแก้มของผมอย่างอ่อนโยน

"วันนี้ลิงก์ยังไม่ได้จูบบู้เลย"

เสียงทุ้มแผ่วเบาดังขึ้น ผมเม้มริมฝีปากเล็กน้อยกับความร้อนที่พาดผ่านใบหน้าขึ้นมา

"ผมไม่สบายอยู่นะครับ"

"อืม ลิงก์อยากจูบคนไม่สบาย"

น้ำเสียงหยอกเย้าและนัยน์ตาที่วาววับในความมืด ทำให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงขึ้น เพราะถูกฝ่ามือของพี่ลิงก์ลูบไล้เผ่วเบา แล้วสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อก้นของตัวเองกำลังโดนขย้ำ

"พี่ลิงก์! "

"ชู่ว...อย่าเสียงดังสิ เราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ"

ผมกลั้นลมหายใจ แล้วหันไปมองกรีนที่ยังนอนหลับอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทุกอย่างยังปกติ เลยหันกลับมาชักสีหน้าใส่พี่ลิงก์

"พี่อย่าแกล้งผม"

พี่ลิงก์ยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะเข้ามาจูบริมฝีปากของผมอย่างร้อนแรง ปลายลิ้นสอดแทรกไปทั่วโพรงปากจนผมต้องเผลอครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"อืม! อื้อ..."

ผมจับบ่าของพี่ลิงก์เอาไว้แน่น ร่างกายตอบรับทุกสัมผัสที่ถูกมอบให้โดยอัตโนมัติ ผมไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากพี่ลิงก์ถอนริมฝีปากออกห่าง ผมก็ผวาไปเล็กน้อย แล้วเหลือบมองน้องชายที่ถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ ลมหายใจผ่อนออกมา ดูเหมือนอีกฝ่ายจะนอนนิ่งไม่ตื่นขึ้นมารับรู้อะไร

"พี่ลิงก์"

ผมเรียกเสียงเบาพร้อมกับซุกหน้าเข้ากับหน้าอกของพี่ลิงก์ หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

พี่ลิงก์หอมแก้มของผม ก่อนที่เขาจะกระซิบที่ข้างหู

"อยากแกล้งบู้อีก"

"ไม่เอา ผมจะนอนแล้ว"

ผมอมยิ้มกับตัวเอง หลังจากรับรู้ได้ถึงริมฝีปากนุ่มที่กดลงตรงขมับและวงแขนที่กระชับแน่นขึ้น





@@@@@@@@@@





หลังจากลิงก์ไปส่งบลูที่มหาวิทยาลัย เขาก็ขับรถไปส่งกรีนที่หอพักต่อ

"เมื่อคืนกูรู้นะ"

กรีนส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้คนขับรถที่มองตรงไปยังถนนข้างหน้าราวกับเดินทางมาตามลำพัง

"ครั้งนี้กูจะไม่เอาเรื่อง ถ้ามีครั้งที่สองแบบนี้อีก มึงโดนดีแน่"

ลิงก์ปรายตามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาและรู้สึกรำคาญเต็มทน แต่เขาก็เบื่อจะมีเรื่องด้วยเช่นเดียวกัน

"หึ! เก่งเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าพี่กูหรือไง"

"กูแค่ขี้เกียจทะเลาะกับเด็ก"

"ไอ้สัตว์! "

"กรีน"

ลิงก์กดเสียงต่ำพร้อมกับส่งสายตามองอย่างดุดัน เขาแค่นยิ้มกับสายตาเอาเรื่องที่ส่งกลับมา

"อยากทำอะไรก็เรื่องของมึง"

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงทุ้มเยือกเย็นจะดังขึ้นราวกับคำประกาศิต

"ยังไงพี่ชายมึงก็เป็ยของกู"







TBC++++++++

Marionetta
เปิดตัวน้องกรีน อิอิ ยังมาแบบ slice of life เช่นเคย ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 26 > 01-02-20
«ตอบ #178 เมื่อ02-02-2020 08:17:40 »

มาถึงขนาดนี้พาพี่ลิงซ์ไปเปิดตัวกับครอบครัวเลยบู้

ออฟไลน์ prympws

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 26 > 01-02-20
«ตอบ #179 เมื่อ03-02-2020 12:25:11 »

 :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด