Level 23: เขย่าหัวใจกว่าที่พวกเราจะออกจากโรงเรียนก็ใกล้จะเย็นแล้วครับ หลังจากแวะหาอะไรกินเป็นอาหารเย็นที่ร้านข้างทางเสร็จ ก็เดินทางมายังที่พักในคืนนี้กันต่อ
เดิมทีทริปครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ชายล้วนและตกลงจะอยู่กันห้องละสองคน แต่เพราะพริ้มมาเพิ่มแบบกะทันหันเลยต้องจองห้องเพิ่มครับ ทว่าก็เกิดปัญหาขึ้นเพราะที่พักเต็ม
“เต็ม? ที่แบบนี้เนี่ยนะ?!”
พริ้มโวยวายออกมา ถึงที่พักแห่งนี้จะไม่ได้ราคาแพง แต่ก็ถือว่าใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้แล้วครับ อีกทั้งแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีที่พักให้เลือกด้วย
“แต่ว่า....”
“ฉันจ่ายเพิ่มก็ได้ จะเอาเท่าไหร่”
พริ้มพูดขึ้นพร้อมกับมองพนักงานต้อนรับอย่างกดดัน พี่ลิงก์เลยต้องดึงแขนของน้องสาวออกมา ผมก็เดินตามทั้งสองคนไปรวมกลุ่มพื่อปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
“งั้นก็ยกห้องนึงให้พริ้ม แล้วพวกเราก็นอนห้องละสามคนแล้วกัน”
“แต่มันเป็นเตียงแฝด แถมแต่ละคนก็ไม่ได้ตัวเล็ก หุ่นกะทัดรัดเหมือนบลูด้วยนะเว้ย”
ผมได้แต่นึกเซ็งกับการเปรียบเทียบของพี่เรย์ แต่ก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร ในเมื่อผมตัวสูงเท่ากับพริ้มเลยนี่ครับ ส่วนพวกพี่ๆ แต่ละคนก็อย่างกับเสาไฟฟ้า พอมารวมกลุ่มกันแบบนี้ ผมเหมือนโดนกดดันทางอ้อมเลย
“แค่คืนเดียวเปล่าวะ ก็เลื่อนเตียงมาชิดกันดิ”
พี่พลเสนอทางเลือก แต่ดูเหมือนคนอื่นๆ จะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะการเดินทางมาไกลและกิจกรรมกลางแจ้งที่โรงเรียน ทำให้ทุกคนอยากจะนอนพักผ่อนให้สบายตัวกันมากกว่า
ผมเดินตามพี่ลิงก์กลับไปหาพนักงานต้อนรับอีกครั้งเพื่อสอบถามเกี่ยวกับห้องพักเพิ่มเติม พนักงานสาวมีท่าทีหนักใจ เธอเปิดสมุดอะไรสักอย่าง แล้วถอนหายใจออกมา
“ไม่มีห้องที่หลุดคิวจองหรือเพิ่งเช็กเอาท์บ้างเลยหรือครับ ผมยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้ห้อง ยังไงก็ช่วยหน่อยนะครับ”
ผมได้แต่ยืนนิ่งมองการเจรจาต่อรองของพี่ลิงก์อย่างทำใจ ถ้าหากไม่หาที่พักใหม่ คืนนี้ก็ต้องยัดกันห้องละสามคน แล้วที่นี่ก็ไม่มีเตียงเสริม คงต้องมีคนเสียสละนอนพื้นหรือเก้าอี้แน่นอน
ผมได้แต่คิดในใจ แล้วหันไปสนใจพนักงานที่พยายามหาห้องว่างอย่างเต็มที่ เธอยกโทรศัพท์ติดต่อหาใครสักคนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันมาส่งยิ้มให้พวกเรา
“มันมีห้องว่างอยู่ห้องหนึ่งค่ะ แต่ยังไม่ได้ทำความสะอาด ถ้าต้องการจริงๆ ก็ต้องรอสักครู่นะคะ”
“ครับ ขอบคุณมากเลยครับ”
พี่ลิงก์ส่งยิ้มขอบคุณให้พนักงานสาวก็ยิ้มรับด้วยสีหน้าปั้นยาก ผมก็ถอนหายใจที่รอดพ้นจากชะตากรรมที่มีความเสี่ยงจะได้นอนพื้นหรือหลับคาเก้าอี้อย่างหวุดหวิด
“ได้ห้องแล้ว พวกมึงไปที่ห้องกันเลย เดี๋ยวกูรอห้องกับพริ้ม”
พี่ลิงก์บอกเพื่อน แล้วหันมาส่งกุญแจห้องให้ผม รวมไปถึงข้าวของอย่างอื่นด้วย
“บู้ไปเก็บของที่ห้องเลย เดี๋ยวลิงก์ตามไป”
“ครับ”
@@@@@@@@@@
ผมเดินตามพวกพี่ๆ เข้าไปในลิฟต์ ซึ่งก็พักกันคนละชั้นครับ โดยที่พี่พลพักกับพี่ทีที่ชั้นหก พี่เรย์กับพี่ดิมพักที่ชั้นสาม ส่วนผมกับพี่ลิงก์พักที่ชั้นห้าครับ
ผมเดินออกจากลิฟต์ แล้วมองไปตามหมายเลขที่ติดอยู่ตรงประตู พอเดินมาได้ครู่เดียวก็เจอห้องพักของตัวเองครับ
ภายในห้องพักขนาดกลาง มีเตียงแฝดและเฟอร์นิจอร์พื้นฐานทั่วไป หลังจากเดินสำรวจความเรียบร้อยจนพอใจ ผมก็นั่งเล่นบนเตียง เพียงไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ผมส่องตาแมวเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูออก
พี่ลิงก์เดินตรงเข้ามากระโดดนอนบนเตียงที่อยู่ติดกับห้องน้ำราวกับคนหมดแรง
“เหนื่อย”
ผมยิ้มบางออกมา พลางเดินเข้าไปนวดหลังให้พี่ลิงก์ เขาหันมาส่งยิ้มให้ แล้วหลับตานอนสบายอยู่บนเตียง
“ตกลงพริ้มพักที่ห้องไหนครับ”
“ชั้นนี้แหละ แต่อยู่อีกด้าน”
“แล้วจะไปรวมกลุ่มที่ห้องพี่ดิมกี่โมงครับ”
พวกเรามีนัดจัดงานฉลองว้นเกิดของพี่ดิมกันต่อครับ
“ก็สักสามทุ่ม ตอนนี้ก็พักผ่อนกันก่อน”
ผมพยักหน้ารับพร้อมกับนวดทั้งไหล่และหลังของพี่ลิงก์ไปเรื่อยครับ จนรู้สึกว่าเริ่มเมื่อยมือแล้ว ผมเลยหยุด คนที่นอนสบายเลยลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“เสร็จแล้วเหรอ”
“ผมเมื่อยแล้ว”
ผมบอกไปตามตรง ในขณะที่ผมกำลังจะลุกเดินไปเปิดโทรทัศน์เพื่อไม่ให้ห้องเงียบเกินไป ก็ถูกอีกฝ่ายดึงจนหงายหลังล้มไปบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมเบิกตากว้าง เมื่อถูกพี่ลิงก์กักตัวเอาไว้ด้วยท่าทางล่อแหลม
“ลิงก์จะให้รางวัลบู้”
ผมยังไม่ทันได้ถามว่าคืออะไรและเพราะเหตุใด พี่ลิงก์ก็ก้มลงจูบริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวล ความตกใจเกิดขึ้นชั่ววูบหนึ่ง ก่อนความเคลิบเคลิ้มจะทำให้ผมตอบรับปลายลิ้นที่สอดเข้ามาอย่างเผลอไผล เสียงสัมผัสดังขึ้นตามจังหวะของอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นตามลำดับ โดยที่มือของเราสองคนต่างก็ลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายเพื่อเล้าโลมกันและกันอย่างต่อเนื่อง
หัวใจของผมบีบรัดรุนแรงทุกครั้งที่ถูกพี่ลิงก์จูบเน้นหนัก เขาตักตวงทุกความรู้สึกนึกคิดจนผมเลื่อนลอยไร้สติ
“อื้อ! อือ...”
ผมครางออกมาเบาๆ ถึงแม้หัวใจจะเต้นรัว ใบหน้าเห่อร้อนและลมหายใจติดขัด ทว่าความทรมานนี้กลับสร้างความสุขจนไม่อยากให้ทุกอย่างหยุดลง ผมขยุ้มเส้นผมและรั้งต้นคอของอีกฝ่ายไม่ปล่อย ยิ่งถูกช่วงชิงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกอดคว้าเอาไว้เท่านั้น
"อือ...อืม"
เสียงครางอย่างพอใจของพี่ลิงก์ ทำให้ผมกระดกลิ้นรับอย่างกระตือรือร้น และการตอบสนองของผมก็ทำให้เสียงจูบดังขึ้นกว่าเดิม ความร้อนแรงเร่งเร้าจนแทบขาดใจ
ลมหายใจผิดจังหวะของเราสองคนดังก้อง เมิ่อริมฝีปากที่แนบชิดบดเบียดยาวนานหลายนาทีผละออกห่าง ผมสบนัยน์ตาสีดำทอประกายอย่างหลงใหล ก่อนจะหลับตาลงส่งเสียงร้องแผ่วด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกพี่ลิงก์ลากเลียและดูดเม้มตั้งแต่ใบหูจนถึงซอกคอ
ฝ่ามือร้อนของเขาสอดผ่านชายเสื้อเข้ามาสัมผัสหน้าท้องนิ่ม
ผมหดเกร็งตัวขึ้นฉับพลันพร้อมกับความเขินอาย ตอนนี้พี่ลิงก์ถลกเสื้อยืดของผมขึ้นโชว์หน้าอกสีแดงระเรื่อและหน้าท้องที่กระเพื่อมตามจังหวะของลมหายใจที่ถี่เร็ว
"หึ..."
ผมขมวดคิ้วกับเสียงหัวเราะนั้น แล้วหลุดเสียงครางออกมา เมื่อพี่ลิงก์ก้มลงดูดหัวนมของผมราวกับคนหิวโหย ฝ่ามือที่เคยลูบไล้ผ่านเอวที่ไร้ส่วนโค้งเว้าเลื่อนลงมาทำความรู้จักกับน้องชายของผมที่กำลังดันตัวออกมาไม่หยุด
"อ๊ะ! อ่า...พ...พี่ลิงก์! อึก! "
ผมร้องและบิดเกร็งร่างกายของตัวเองด้วยความกระสัน
พี่ลิงก์ถอยห่างจากหน้าอกแดงช้ำของผม แล้วเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจูบปากของผมอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาดูดเม้มแทรกสอดปลายลิ้นเกี่ยวพันหยอกเย้าไปทั่วโพรงปาก ฝ่ามือก็เคล้นคลึงกดน้ำหนักตรงเป้ากาวเกงที่นูนออกมาของผมจนชื้นแฉะ
ถึงผมจะใจไม่กล้าและยังหวาดกลัวกับความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่านี้ เพราะเคยศึกษาและอ่านประสบการณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ชายด้วยกันมาบ้าง แต่ถ้าหากพี่ลิงก์ลากผมไปทำมิดีมิร้ายหรือรุกหนักขึ้นไม่หยุดเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ผมก็คงไม่ขัดขืนอะไรครับ
ในเมื่อก้นบึ้งของความรู้สึก ผมก็อยากสัมผัสตัวตนของพี่ลิงก์ให้มากกว่านี้
ปังๆ!
"พี่ลิงก์ๆ! "
เสียงเรียกและเคาะประตูดังขึ้นขัดทุกความรู้สึกและอารมณ์ให้ชะงัก สติที่กำลังล่องลอยกลับเข้ามาในทันที ผมลืมตาขึ้นและกำลังจะดันพี่ลิงก์ออก แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับลงน้ำหนักทับมามากกว่าเดิม มือทั้งสองข้างจับยึดใบหน้าของผมเอาไว้ไม่ให้หันหนีไปไหน ริมฝีปากยังคงประกบจูบผมต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมรู้สึกดีและพอใจไปกับทุกการกระทำและทุกสัมผัสของพี่ลิงก์ แต่เสียงเรียกและเคาะประตูไม่หยุด รวมไปถึงเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมพาอารมณ์วาบไหวไปต่อไม่ได้ มือที่เคยรั้งต้นคอและแผ่นหลังกว้างเปลี่ยนมาดันไหล่หนาให้ออกห่าง ใบหน้าที่ถูกล็อกเอาไว้ขยับหนีจูบดูดวิญญาณอย่างเต็มที่
เสียงอู้อึ้ประท้วงขัดขืนของผม ทำให้พี่ลิงก์พ่นลมหายใจแรงอย่างหงุดหงิด แล้วยอมถอยในที่สุด ใบหน้าหล่อที่แดงระเรื่อบูดบึ้ง คิ้วขมวดกันแน่น นัยน์ตาที่เคยทอแววหวานพราวน่ามองแข็งกร้าวอย่างไม่สบอารมณ์ ผมปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ถึงแม้ร่างกายจะยังร้อนรุ่มด้วยอารมณ์อย่างเต็มเปี่ยมอยู่ก็ตาม
"โอ๊ย! "
ผมร้องเสียงเบาพลางลูบแก้มของตัวเอง เมื่อถูกพี่ลิงก์กัดแบบไม่เบาแรง เขาขยี้ผมที่ยุ่งจากฝีมือของผมให้เสียทรงมากกว่าเดิมพร้อมกับเดินไปที่ประตู โดยไม่สนใจเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมรีบลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำทันที
ผมตัดสินใจอาบน้ำพร้อมกับจัดการสภาพของตัวเองให้เรียบร้อย โดยไม่ได้ฟังเสียงจากภายนอก ผมมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกเงาที่มีร่องรอยเป็นจ้ำแดงพลางยกมือแตะริมฝืปากบวมเจ่อด้วยความเขินอาย
เราสองคนกอดจูบอย่างแนบชิดกันหลายครั้งแล้วครับ แต่ครั้งนี้นับว่ามาไกลกว่าปกติ ถ้าไม่มีการขัดจังหวะ ผมคงคล้อยตามจนโดนพี่ลิงก์กินเพลินแบบไม่รู้ตัวแน่!
แต่...ถึงจะรู้ตัวก็ยอมให้กินอยู่ดีครับ งื้อ...
ผมอมยิ้มเขินพลางสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อลบจินตนาการลามกให้หายไปจากสมอง หลังจากควบคุมจิตใจและความรู้สึกให้เป็นปกติได้อีกครั้ง ผมก็เปิดประตูหัองน้ำ แล้วใบหน้าก็มีอุณหภูมิสูงขึ้นมาเล็กน้อย ลำคอแห้งผากกับภาพบาดตาบาดใจ
พี่ลิงก์ที่ถอดเสื้อกำลังนอนอ้าขาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ครับ ใบหน้าหล่อที่ริมฝีปากบวมเจ่อน่าจูบ แผ่นอกและไหล่กว้างสีน้ำนมน่าซบ ตลอดจนกล้ามท้องเป็นลอนสวยน่ากัด ทำให้ผมเผลอเลียริมฝีปากพลางกลืนน้ำลายอีกใหญ่
ไอ้บลู! หยุดคิดเรื่องทะลึ่งเดี๋ยวนี้! ถึงแม้ตอนนี้พี่ลิงก์จะเซ็กซี่น่าปล้ำสุดๆ ก็เถอะ!
ผมตบแก้มของตัวเองที่ความหื่นกามขึ้นสมองกำเริบพร้อมกับพยายามเรียกสติกลับมา และท่าทางเหมือนคนบ้าของผม ก็ทำให้พี่ลิงก์หันมามอง
"บู้เป็นอะไร"
"อ่า...เปล่าครับ เอ่อ...แล้วเกิดอะไรขึันครับ"
ผมเปลี่ยนเรื่องทันที พี่ลิงก์ชักสีหน้าออกมา เสียงทุ้มเจือความเบื่อหน่าย
"พริ้มมาเรียก บอกว่าในห้องมีแมลงสาบ แต่ลิงก์ไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร ตอนนี้ให้ไปอยู่ห้องไอ้ดิมแล้ว"
ผมพยักหน้ารับ พี่ลิงก์ลุกขึ้นเดินมาหา เขาก้มตัวมาหอมแก้มของผมฟอดใหญ่ แล้วกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูให้ผมสยิวเล่น
"เมื่อกี้...กำลังกินบู้อร่อยเลย"
ผมกลั้นหายใจ แล้วหันไปสบกับนัยน์ตาสีดำแวววาว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์วาดขึ้นบนริมฝีปากที่ผมฝากรอยจูบเอาไว้
"เดี๋ยวไปกินเค้กแล้ว ลิงก์จะกลับมากินบู้ต่อ"
ผมพูดอะไรไม่ออก หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาทันที มโนภาพที่พยายามลบล้างไปจากความคิดไหลกลับมาอีกครั้ง จนกระทั่งได้ยินเสียงปิดประตูหัองน้ำ ผมก็เหมือนได้หลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงพร้อมกับลูบใบหน้าร้อนผ่าวของตัวเอง รอยยิ้มปรากฏขึ้นมา
หึ! ชอบแกล้งอยู่เรื่อย
@@@@@@@@@@
เมื่อผมกับพี่ลิงก์ไปถึงห้องของพี่ดิมกับพี่เรย์ เสียงแซวก็ดังขึ้นจากรอยแดงตรงคอของผมและริมฝีปากที่บวมเจ่อของเราสองคน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมองปราดเดียวก็เข้าใจทุกอย่าง
"แหม...แบบนี้จะกินกับพวกเราไหวเหรอ น่าจะอิ่มกันแล้วมั้ง"
"สงสัยต้องเปลี่ยนจากงานเลียงวันเกิดกูเป็นงานเลี้ยงฮันนีมูนของใครหรือเปล่าวะ"
"พวกมึงก็อย่าไปแซวไอ้น้องลิงก์ ถ้ามันอาย คงไม่ทำโชว์หลักฐานแบบนี้หรอก"
พี่เรย์แซวขึ้นเป็นคนแรก ตามด้วยพี่ดิมและพี่พล ส่วนพี่ทีก็ยกยิ้มมุมปากแต่ไม่พูดอะไร ส่วนพริ้มก็นั่งนิ่งเงียบเสมือนว่าไร้ตัวตนจนผิดปกติ
"เอาแต่พล่ามอะไรกันอยู่ได้ สรุปไม่กินเค้กอะไรแล้วใช่ไหม จะได้กลับห้อง"
พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับทำท่าจะพาผมที่ยังยืนมึนแสร้งว่าไม่ได้ยินอะไรออกจากห้อง
"ทำเป็นหัวร้อน จะหาเรื่องไปกินตับกันต่อแบบนี้ เค้กกูก็น่าสงสารแย่"
พี่ดิมพูดขึ้นพลางตีหน้าเศร้าจนน่าหมั่นไส้ ผมได้แต่ปั้นหน้ายาก
"ไอ้สัตว์"
พีีลิงก์สบถออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปตบหัวของพี่ดิมที่ร้องโอดโอยด้วยน้ำเสียงกวนประสาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อน
"ก็ดี มันจะได้เลิกบ้าตุ๊กตาหมี แล้วมาติดเมียแทน"
"ไอ้เหี้ยที! มึงเงียบก็ดีแล้ว"
"หึ! แล้วระหว่างตุ๊กตาหมีกับเมียจะเลือกอะไร"
พี่ลิงก์อ้าปากค้าง ส่วนพี่ทีก็เลิกคิ้วขึ้น ทุกคนเงียบรอฟังคำตอบ ผมมองเขาอย่างลุ้นระทึก
"ก็ต้อง...เมียสิ"
"ฮ่าๆ ยังไงกอดเมียก็ต้องดีกว่ากอดตุ๊กตาหมีอยู่แล้ว คราวนี้ป๊ากับพ่อมึงคงดีใจน่าดู"
พี่ลิงก์ทำหน้ายุ่งกับการถูกเพื่อนเย้าแหย่ ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วคิดกับตัวเองในใจ
แบบนี้ต้องรีบเลื่อนจากสถานะ 'แฟน' เป็น 'เมีย' แล้วครับ
@@@@@@@@@@
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของพี่ดิมจบลงในเวลาราวห้าทุ่ม พวกเรากินเค้กกับขนม โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของขวัญ มีแค่คำอวยพรตามประสาเพื่อนที่ให้กับเจ้าของวันเกิดเท่านั้น
แค่ได้ใช้เวลาที่มีความสุขด้วยกันก็คือของขวัญที่มีค่ามากกว่าสิ่งของทุกอย่างแล้ว
"พี่ลิงก์ พริ้มไม่อยากอยู่คนเดียว"
พริ้มพูดขึ้น ตอนที่เราสามคนกำลังขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นห้า
"อย่าเรื่องเยอะ"
"ก็พริ้มกลัว..."
"พริ้ม อย่าทำให้พี่หงุดหงิด"
พี่ลิงก์มองพริ้มอย่างกดดัน อีกฝ่ายหน้ามุ่ย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเดินกลับห้องพักก่อน ปล่อยให้พี่ชายไปส่งน้องสาวตามลำพังที่ห้องครับ
หลังจากนั่งดูโทรทัศน์ได้ครู่เดียว พี่ลิงก์ก็เดินหน้านิ่งกลับมา
"พี่อย่าว่าพริ้มมากเลย สงสารน้อง"
ถึงแม้จะกลัวพี่ลิงก์ไม่พอใจที่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ผมก็อยากเตือนสติในฐานะแฟนและพี่ชายคนโต
"หึ! ก็ชอบหาเรื่องตลอด"
ผมถอนหายใจออกมา พี่ลิงก์นั่งลงข้างผม
"พี่ต้องอดทนมากกว่านี้นะครับ พริ้มเป็นน้องสาวที่พี่ต้องดูแล"
การเป็น 'พี่' ไม่ใช่แค่เกิดก่อนหรือมีอายุมากกว่า แต่พี่จะต้องมีความอดทนมากกว่า เสียสละมากกว่า เพื่อเป็นที่พึ่งพิงให้กับน้อง บางทีการที่พี่ลิงก์เป็นลูกคนเดียว อาจจะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้
"ถึงพริ้มจะเอาแต่ใจ ทำให้พี่รำคาญไปบ้าง แต่ตแนนี้พี่เป็นคนเดียวที่พริ้มเชื่อใจนะครับ"
พี่ลิงก์มองผมนิ่ง เขาผ่อนลมหายใจออกมา นัยน์ตาสีดำฉุนเฉียวสงบเยือกเย็น
"วันนี้ลิงก์ก็อารมณ์เสียใส่บู้ด้วย ขอโทษนะครับ"
ผมยิ้มบาง แล้วจับมือข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ ก่อนที่นิ้วของเราสองคนจะสอดประสานกัน
"ไม่เป็นไรครับ"
"บู้น่ารัก"
พี่ลิงก์อมยิ้ม แล้วพูดขึ้นที่ข้างหู ผมเหลือบตามองเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจหอมแก้มของเขาไปฟอดใหญ่
"พี่ก็น่ารักครับ"
"ยั่วเหรอ"
"เปล่าครับ ผมพูดไปตามที่คิด"
"อยากขย้ำบู้แล้ว"
ผมตัวแข็ง หัวใจเต้นตึกตัก มือของเราสองคนที่จับกันไว้กระชับมากขึ้น เมื่อปลายจมูกของพี่ลิงก์กำลังซุกไซ้ที่ซอกคอของผม ทว่าผ่านไปไม่กี่อึดใจ การเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดลง ลมหายใจร้อนเป่ามาที่หูของผม
"แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้"
ผมนั่งอึ้งมองพี่ลิงก์ที่ขยี้หัวของผมเล่นพร้อมรอยยิ้ม
"มันเขี้ยว"
พี่ลิงก์บีบแก้มของผมทีหนึ่ง เขาคลายมือที่จัยกันไว้ออก แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
@@@@@@@@@@
ปังๆ!
"พี่ลิงก์ๆ ฮือ! พี่ลิงก์! "
หลังจากที่พี่ลิงก์เข้าไปในห้องน้ำได้ไม่กี่วินาที เสียงร้องเรียกตรงหน้าประตูก็ดังขึ้น ผมรีบลุกไปเปิดประตูด้วยความตกใจ
เสียงเรียกที่เจือเสียงสะอื้น...
เมื่อผมเปิดประตูออก พริ้มก็วิ่งเข้ามากอดแน่น ใบหน้าน่ารักเปื้อนคราบน้ำตา เสียงหวานสั่นเครือด้วยความหวาดกลัวชัดเจน
"ฮึก! ช่วยด้วย ฮือ...พ...พริ้ม.."
ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น หลังจากเสียงตะกุกตะกักของคนที่้เอาแต่กอดพร้อมกับซุกหน้าลงที่ไหล่ของผมแน่นดังขึ้น
"พริ้ม...เจอ ฮึก! ผี ฮือ..."
TBC+++++++
Marionetta มาแล้วค่ะ เปลี่ยนโหมดกันบ้าง ฮ่าๆ เอาใจช่วยในตอนหน้าด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ