Level 17: งานพิเศษ
ถึงเมื่อคืนจะนอนดึก แต่ผมก็ตื่นเช้าเป็นปกติครับ หลังจากจัดการมื้อแรกของวันใหม่ด้วยขนมปังทาแยมกับกาแฟสำเร็จรูป ผมก็แต่งตัวแล้วไปรอเป็ดที่ด้านล่างของหอพักเพื่อเดินทางไปทำงานพิเศษด้วยกัน
สองวันที่ผ่านมาผมได้นั่งทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่ตัวเองจะต้องสอนทั้งหมด แล้วก็ลองซ้อมพูดให้เป็ดวิพากษ์วิจารณ์ด้วยครับ การทำงานในวันนี้เลยค่อนข้างมั่นใจมากกว่าเดิมอยู่เล็กน้อย
"สวัสดีครับพี่นก"
ผมยกมือไหว้ทักทายพี่นกที่กำลังเตรียมงานอยู่ในห้องทำงาน อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ก่อนจะทักทายกลับด้วยน้ำเสียงสดใส
"วันนี้ได้สอนเองแล้ว พร้อมไหม"
"ก็คิดว่าพร้อมนะครับ"
"ฮ่าๆ มั่นใจหน่อย"
พี่นกเดินเข้ามาตบไหล่ของผม ก่อนจะหันไปทางเป็ดที่เดินไปหยิบพายชิ้นใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานมากินหน้าตาเฉย
"ไอ้เป็ดตะกละ! นั่นอาหารเช้าของฉันนะ! "
"กินหน่อยไม่ได้หรือไง ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยเนี่ย"
"ไอ้น้องเวรเอ๊ย"
ผมมองพี่น้องที่พูดคุยทักทายแบบนี้เป็นประจำ แล้วมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อคืนนี้ผมทบทวนเนื้อหาและวางแผนการสอนเอาไว้ในสมองเรียบร้อย แต่ไม่รู้ว่าพอเอาจริงทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่คิดไหม
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาพี่ลิงก์ที่ไม่แน่ใจว่าตื่นแล้วหรือยัง
Blue++
ผมกำลังจะไปสอนน้องแล้วนะครับ
ผมมองข้อความที่แสดงบนหน้าจอ แล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พลางเลื่อนสายตากลับไปสนใจหน้าจอแชทที่มีการเคลื่อนไหว พี่ลิงก์ไม่ได้ส่งข้อความตัวอักษร แต่เขาส่งข้อความเสียงมาให้ผมครับ
LINK
อืม อย่าสอนเองงงเองล่ะ ขายหน้าเขาพอดี
Blue++-
พี่ต้องให้กำลังใจผมสิ
ผมไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองอะไรครับ ก็แค่แหย่อีกฝ่ายเล่นแก้อาการเกร็งและประหม่าที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้
LINK
ไม่มาหา แล้วจะให้ได้ยังไง
Blue++
ผมไปบ้านพี่ไม่ถูก
LINK
ถ้าบอกแล้วไม่มา จะโกรธ
หลังจากที่ใช้ข้อความเสียงมาก่อนหน้านี้ พี่ลิงก์ก็กลับมาใช้ข้อความปกติตามเดิม ผมอมยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อเขาส่งรูปหน้าบึ้งของตัวเองแบบหัวยังฟูคล้ายเหมือนยังอยู่บนเตียงมาประกอบด้วย
Blue++
ถ้างั้นไม่ต้องบอกมาครับ ผมไม่อยากให้พี่โกรธ
พี่ลิงก์ส่งสติกเกอร์มาแบบรัวๆ ในทำนองที่อยากจะทำร้ายผมด้วยความโมโห ผมก็ส่งสติกเกอร์ยิ้มแฉ่งไปให้ ผมเก่งเวลาอยู่หลังแป้นพิมพ์เสมอครับ แต่ถ้าเจอตัวจริงมาอยู่ตรงหน้าก็หงอให้เขาทุกที
"ได้เวลาแล้วนะบลู"
เสียงของพี่นกเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ผมส่งยิ้มแห้งแล้งไปให้เป็นการขอโทษที่มัวแต่แชทเพลินจนลืมเวลา
Blue++
แค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปทำงานแล้ว
ผมพิมพ์ข้อความปิดท้าย แล้วรีบปิดเสียงกันการรบกวนเวลาสอนในชั้นเรียนของตัวเอง โดยไม่ได้เปิดดูข้อความของอีกฝ่ายที่ตอบกลับมา
@@@@@@@@@@
ครึ่งชั่วโมงแรกของการทำงานค่อนข้างเกร็งและอึดอัดครับ แต่พอเริ่มปรับตัวได้ การสอนของผมก็ผ่านไปด้วยดี น้องๆ แต่ละคนก็ตั้งใจกันดีมาก ระหว่างที่สอนพวกเราก็มีคุยเล่นแทรกกันบ้างเป็นการคลายเครียด ก่อนจะเริ่มเนื้อหาต่อไป
"ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ"
"ค่ะพี่บลู"
นักเรียนของผมเป็นเด็กสาวทั้งหมดเลยครับ ถึงจะชวนให้รู้สึกประหม่าไปบ้าง แต่น้องๆ ก็เป็นมิตรดี ผมรอให้นักเรียนกลุ่มแรกของตัวเองเดินออกจากห้อง ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วก็พบข้อความที่แจ้งเตือนค้างเอาไว้ของพี่ลิงก์ตั้งแต่เช้า ผมยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นภาพของเขาที่ชูสองนิ้วมาให้
น่ารัก...
ผมส่งสติกเกอร์ตอบรับ ถึงแม้ว่ามันจะช้าไปแล้วก็ตาม ก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารของตัวเองใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม พร้อมกับเดินออกจากห้องเรียนขนาดเล็กเพื่อไปพูดคุยกับพี่นกเกี่ยวกับการสอนครั้งแรก
"เป็นไงบ้างบลู ไหวไหม"
"ไหวครับ แล้วเป็ดอยู่ไหนครับ"
"ให้ไปถ่ายเอกสารน่ะ สงสัยยังไม่เสร็จ"
"งั้นผมไปดูมันหน่อยนะครับ"
"อืม ไปพักกันได้เลยนะ แล้วอย่าลืมเวลาล่ะ บ่ายสี่โมงนะบลู"
"ครับพี่นก"
ผมเดินออกจากห้องทำงานของพี่นก แวะทักทายรุ่นพี่ที่เดินผ่านตามมารยาท แล้วเดินตรงไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนเปื่อยอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารด้วยรอยยิ้มขำ
"เป็ดใกล้เสร็จหรือยัง"
"คิดว่าใกล้แล้วว่ะ น่าเบื่อโคตร แล้วมึงเป็นไงบ้าง ไหวป่ะ"
"กูว่าโอเค ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"
"อืม ก็ดีแล้ว”
เป็ดส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ทว่าผ่านไปเพียงห้านาที อีกฝ่ายก็วางมือลง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"หิวแล้วว่ะ เดี๋ยวค่อยกลับมาทำต่อแล้วกัน"
ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเบื่อออกจากห้องที่เต็มไปด้วยเอกสารอย่างไม่รีบร้อน
@@@@@@@@@@
หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ ผมก็ใช้เวลาก่อนจะเริ่มงานสอนน้องอีกกลุ่มในการเตรียมตัวและทบทวนความรู้ของตัวเองอีกรอบ ส่วนเป็ดก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อครับ
ผมโทรศัพท์คุยกับพี่ลิงก์เล็กน้อย ตอนเย็นนี้เขาต้องเดินทางไปเวียดนามกับพ่อแล้วครับ เดิมทีกำหนดการจะต้องเป็นสัปดาห์หน้า แต่ดูเหมือนคู่ค้าจะมีปัญหาเรื่องการนัดหมายเลยต้องเร่งเดินทางกันก่อน
[ถ้ากลับห้องแล้ว ส่งข้อความาด้วยนะบู้]
"ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ"
[อืม เดี๋ยวซื้อของมาฝาก หรือว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า]
"ไม่มีเลย แต่ไม่ต้องซื้ออะไรมาหรอกครับ"
[ทำไม เกรงใจ? กูจำได้ว่าเคยคุยกับมึงเรื่องนี้แล้วนะ]
น้ำเสียงเรียบเรื่อยเริ่มกระด้างขึ้นและสรรพนามที่เปลี่ยนไป ทำให้ผมลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะบอกออกไปแบบส่งๆ ให้หมดเรื่องหมดราวครับ
"เอาขนมขึ้นชื่อที่เป็นของฝากของที่นั่นมาก็ได้ครับ ผมไม่เคยกิน"
นอกจากจะไม่เคยกิน ก็ยังไม่รู้ด้วยว่า ขนมที่ว่าคืออะไร
[อืม แค่นี้นะบู้]
"ครับ"
ผมอมยิ้มกับโทรศัพท์มือถือที่ตัดสายไปแล้ว ก่อนจะเดินไปที่ห้องเรียนอีกครั้งเพื่อเริ่มงานพิเศษของตัวเองต่อ
@@@@@@@@@@
งานพิเศษที่ได้รับหน้าที่สอนหนังสือครั้งแรกในชีวิตเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดีครับ ส่วนในวันจันทร์ถึงวันพุธผมก็ยังมาช่วยงานจิปาถะกับเป็ดเหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาได้หมุนวนกลับมายังวันที่ผมต้องทำหน้าที่หลักอีกครั้ง
"มีใครจะถามอะไรไหม"
"พี่บลูอธิบายตรงนี้อีกรอบได้ไหมอ่ะ"
ผมพยักหน้ารับ แล้วบรรยายเนื้อหาที่เพิ่งพูดจบไปอีกครั้งอย่างใจเย็น เพราะเป็นการสอนแบบกลุ่มส่วนตัวจึงไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรมาก บรรยากาศก็คล้ายกับพี่ที่กำลังสอนการบ้านน้องนั่นแหละครับ
เมื่อหมดเวลาสอนในช่วงเช้า ผมก็เดินออกมาจากห้องอย่างไม่รีบร้อน วันนี้เป็ดเบี้ยวงานครับ ผมเลยต้องเดินทางมาคนเดียว แล้วก็คงต้องไปกินข้าวกลางวันเพียงลำพัง
ถึงเวลาที่ผ่านมาผมจะทักทายกับรุ่นพี่คนอื่นภายในสถาบันสอนพิเศษ B บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกับใคร อีกทั้งโดยพื้นฐานนิสัยของผมก็ไม่ได้อัธยาศัยดีอยู่แล้ว เวลาที่ไม่มีใครก็เลยไม่กล้าเข้าหาใครโดยปริยาย
ผมเดินไปกินข้าวที่สวนอาหารของห้าง ก่อนจะบังเอิญเจอพี่เลมอนกับพี่จันทร์ที่กำลังเดินผ่านมาพอดี พวกเขาเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานที่เดียวกับผมครับ
"อ้าว! บลู ไหงมาคนเดียวอ่ะ เป็ดไปไหน"
พี่เลมอนมองผมอย่างแปลกใจ ผมก็ยิ้มรับตามมารยาทของคนที่รู้จักกันครับ
"เป็ดป่วยครับ เลยไม่ได้มาทำงาน"
พี่เลมอนพยักหน้ารับ แล้วหันไปทางพี่จันทร์ที่ยืนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างกัน
"มึงยังจะไปดูของอีกป่ะ หรือจะกลับเลย"
"ไปดูก่อนดิ ยังมีเวลาอยู่อีก บลูไปด้วยกันไหม มีสอนอีกทีกี่โมง"
ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่คนพูดไม่เก่งอย่างผมก็ไม่อาจต่อกรความเป็นกันเองแบบสุดๆ ของพี่ทั้งสองคนได้
"มาด้วยถันเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วใช่ไหม ไปเดินย่อยกันดีกว่า จะได้ไม่อ้วน"
"ใช่ๆ จะไปนั่งรอเวลาทำไม น่าเบื่อออก"
ทั้งพี่เลมอนและพี่จันทร์ต่างก็ส่งสีหน้าโน้มน้าวเต็มที่ ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้ง แล้วจำใจตอบรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"ก็ได้ครับ"
รุ่นพี่ทั้งสองคนชวนผมคุยไม่หยุด ก่อนที่พวกเขาจะเดินนำผมเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง เมื่อเข้ามาด้านใน ผมก็แยกตัวมาเดินวนเล่นคนเดียว ปล่อยให้พวกพี่สาวเลือกซื้อกันตามสบาย ผ่านไปสักพักผมก็เดินวนไปเจอพี่จันทร์กับพี่เลเมอนกำลังยืนคุยกันอยู่
"เฮ้ย! กูถ่ายรูปได้ไหมวะ เขาจะฟ้องไหม"
"มึงก็บ้า เขาไม่รู้แล้วจะฟ้องมึงได้ไง"
"แต่ถ่ายมุมนี้มันไม่ค่อยเห็นหน้าเลยว่ะ เมื่อกี้กูลองเดินวนแอบมองแล้ว งานดีมาก แกล้งเป็นลมต่อหน้าเขาดีไหมวะ เผื่อจะได้พ่อของลูก"
"อีบ้า! ลองขอถ่ายรูปก่อนดิ ถ้าไม่ได้ค่อยแกล้งสลบ แต่กูขอแกล้งชนก่อนได้ป่ะ อยากสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ เห็นแค่หลังตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอบอุ่น กรี๊ด! "
ผมเลิกคิ้วมองรุ่นพี่สาวทั้งสองคนที่คุยกันอย่างออกรส ก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังตำแหน่งที่เป็นเป้าหมายของคนทั้งคู่ แล้วก็ต้องเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจ
"อ้าว! บลู มาตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงสิ! ให้บลูไปถ่ายให้ดีเปล่าวะ ผู้หญิงออกตัวแรงแล้วไม่งามนะมึง"
พี่จันทร์หันมาทางผมด้วยท่าทีตื่นเต้น ส่วนพี่เลมอนก็ชักสีหน้าออกมา
"จะทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวเขาเดินไปอดแล้วนะมึง! กูจะไม่ทน! ไม่ต้องอยู่ในชีวิต แค่ในสายตาสักวินาทีก็พอ! "
"โอ๊ย! อยากได้ผู้ชายคนนี้! "
ผมกะพริบตามองท่าทางของพี่เลเมอนกับพี่จันทร์ที่กำลังพร่ำเพ้อด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แล้วหันไปมองผู้ชายตัวสูงที่เหมือนกำลังจะเดินห่างออกไปอย่างปลงตก
"ถ้าพี่อยากถ่ายรูปเขา เดี๋ยวผมบอกให้ไหมครับ"
ผมเสนอความช่วยเหลือให้รุ่นพี่ทั้งสองคนที่พร้อมใจกันหันมามองผมด้วยสายตาที่เป็นประกาย
"ดีเลยน้องรัก! ฝากด้วยนะ! "
"เดี๋ยวพี่ซื้อขนมเลี้ยงนะบลู แต๊งกิ้ว! "
ผมพยักหน้ารับ แต่ไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือของพี่จันทร์กับพี่เลมอนที่ยื่นมาให้ ทว่าเลือกที่จะเดินตรงไปหาเป้าหมาย โดยที่มีรุ่นพี่สาวทั้งสองคนเดินตามมาติดๆ อย่างลุ้นระทึก
ผมไม่ได้เอ่ยเรียก แต่ดึงแขนของคนตรงหน้าอย่างเสียมารยาท และเมื่อเขาหันกลับมา นัยน์ตาสีดำก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อวาดรอยยิ้มขึ้น
"บู้"
"มาเดินเล่นหรือครับ ไหนว่ากลับวันนี้"
"กลับมาเมื่อเช้า แล้วก็มารอรับบู้ด้วย ของฝากอยู่ในรถนะ"
พี่ลิงก์บอกพร้อมกับขยี้หัวของผมจนยุ่ง ก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตาไปมองพี่จันทร์กับพี่เลมอนที่มองมาตาค้าง ผมเลยถือโอกาสบอกจุดประสงค์ที่เดินเข้ามาทักในครั้งนี้
"นี่พี่ที่ทำงานครับ พี่จันทร์กับพี่เลมอน พอดีเขาอยากถ่ายรูปกับพี่อ่ะ ได้หรือเปล่า"
พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้นมองผม แล้วหันไปมองรุ่นพี่ที่กำลังหน้าแดงยืนบิดไปบิดมาอีกครั้ง ผมลอบถอนหายใจออกมาอย่างทำตัวไม่ค่อยถูก
"อืม ได้ดิ"
หลังจากได้รับการตอบรับ ทั้งพี่จันทร์กับพี่เลมอนก็ใช้โอกาสที่ได้มาอย่างคุ้มค่า ทั้งถ่ายรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปรวม โดยที่มีผมคอยเป็นตากล้องให้ครับ
"ขอบใจนะบลู"
พี่จันทร์บอกด้วยรอยยิ้ม ผมก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
"ถ้ายังไง ถ่ายรูปให้ผมด้วยได้ไหมครับ"
เสียงของพี่ลิงก์ ทำให้สมาชิกจากสถาบันสอนพิเศษ B ทั้งหมดหันไปมอง เขาส่งยิ้มหว่านเสน่ห์มาให้พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ
"ด...ได้ค่ะ! "
พี่เลมอนรับมาด้วยความประหม่า ก่อนที่ผมจะสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกพี่ลิงก์กอดคล้องคอมาจากด้านหลังอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมตาโตขึ้นพร้อมกับปั้นหน้าไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ หน้าร้อนไปหมดแล้วครับ!
“ถ่ายได้เลยครับ”
พี่เลมอนกับพี่จันทร์ยืนอึ้ง ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์แสดงสีหน้าแบบไหน แต่แก้มนิ่มที่กำลังแนบแก้มของผมตอนนี้ก็ทำให้สมองของผมเบลอไปหมดแล้วครับ!
“ค…ค่ะ”
ผมได้แต่ยืนนิ่งค้างเป็นรูปปั้น จนกระทังพี่ลิงก์รับโทรศัพท์มือถือคืน แล้วเรียกให้ผมดูรูปที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่นี้ด้วยกันนั่นแหละครับ สติของผมถึงได้กลับมาอีกครั้ง
“บู้หน้าตลก”
ผมไม่ได้ตอบรับอะไร ทำได้แต่ยืนมึน ก่อนจะถูกพี่ลิงก์บีบแก้มจนต้องร้องออกมา ผมชักสีหน้าใส่ แต่คนประทุษร้ายก็แค่ยิ้มร้ายกลับ
"ผมเจ็บนะ! "
“ก็บู้หลับในอ่ะ”
ผมได้แต่ลูบแก้มของตัวเองปอยๆ แล้วมองพี่ลิงก์ด้วยสายตาขุ่นเคือง
“แล้วนี่เลิกงานแล้วเหรอ ไหนบอกเลิกหกโมง”
“มาพัก มีสอนตอนสี่โมงครับ”
“อืม เดี๋ยวไปดูหนังรอ”
“ครับ”
พี่ลิงก์ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ แล้วเงยหน้ามองผมพร้อมกับส่งถุงเสื้อผ้าจากร้านที่กำลังถืออยู่มาให้ผมรับไปถือต่อ
"อีกสิบนาทีหนังเข้าแล้ว ลิงก์ฝากถุงนี่ด้วย ไม่อยากถือไป เกะกะ"
"ครับ"
พี่ลิงก์หันไปยิ้มให้พี่จันทร์กับพี่เลมอนเล็กน้อยเป็นการบอกลา
หลังจากที่พี่ลิงก์เดินจากไป ผมก็ถูกพี่สาวร่วมงานทั้งสองคนรุมทึ้งต่อครับ
“นี่มันอะไรกัน!!! อย่าบอกว่าแค่คนรู้จัก เพราะพี่ไม่เชื่อ!!!”
“โธ่! ไม่นะ! ผู้ชายหน้าตาดีที่หายากยิ่งกว่าทองคำ! อย่านะ! อย่าเป็นอย่างที่คิด! บลูอย่าทำร้ายพี่! ได้โปรด!”
ผมมองท่าทางทุรนทุรายกับสีหน้าราวกับโลกจะแตกของพี่จันทร์กับพี่เลมอนอย่างทำตัวไม่ถูก ก่อนจะถูกสองสาวเขย่าไปมา นอกจากจะทั้งอายทั้งเขินแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มมึนด้วยครับ
"พี่พร้อมแล้วบลู! ถึงความจริงจะเลวร้าย! แต่พี่จะยอมรับ! "
"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แค่หัวใจสลายเท่านั้นเอง บอกมาเถอะ ทำให้พี่ตาสว่างที! "
ผมได้แต่กลอกตาไปมาอย่างไม่มั่นใจ ถึงจะเขินจนไม่กล้าบอก แต่ตอนนี้จะหาข้ออ้างอะไรก็นึกไม่ออกด้วย ผมสบตากับพี่จันทร์และพี่เลมอนที่มองมาอย่างกดดัน สุดท้ายเลยจำใจบอกความสัมพันธ์กับพี่ลิงก์ด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
"เอ่อ...คือ เขาเป็นแฟนผมครับ"
ผมมองสีหน้าสะเทือนใจของรุ่นพี่ทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มแหย เพราะตอนนี้ทั้งพี่จันทร์และพี่เลมอนทำหน้าเหมือนจะตายไปแล้วครับ
"กูเกิดมาทำไม! ผู้ชายได้กันเอง! ผู้หญิงอย่างกูเกิดมาทำไม!!! "
"อิจฉาที่สุด! บลูทำบุญด้วยอะไร! บอกพี่มาเดี๋ยวนี้! "
TBC ++++++
Marionetta; ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจ และทุกการติดตามค่ะ
ปล. เห็นพี่ลืงก์เรียกแต่บู้ พอใช้บลูแล้วไม่ชินเลย อิอิ
Level 27: สายรหัส
"พี่บลู สวัสดีค่ะ! "
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก กระแตน้องรหัสของผมกำลังส่งยิ้มหวานมาให้ เธอเดินมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่คาดว่า น่าจะเป็นหลานรหัสของผมครับ
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีการจับสายรหัสของน้องปีหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่ได้ไปด้วย เพราะโดนพี่ลิงก์ลากไปหิ้วของ วันนี้มีโอกาสเลยนัดสายรหัสของตัวเองมาเจอกัน
"สวัสดีครับพี่บลู"
ผมพยักหน้ารับไหว้หลานรหัสพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ พวกเรานัดมากินข้าวที่ร้านอาหารไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
"พี่บลูน่ารักขึ้นหรือเปล่าเนี่ย"
กระแตพูดขึ้นพร้อมกับมองผมด้วยสายตาสดใส ผมก็ยิ้มแหยออกมา แล้วหันสายตาไปทางหลานรหัสที่จ้องมองผมอยู่
"อ้อ นี่น้องซีค่ะ หล่อนะ แต่ไม่สเปคอ่ะ เสียดายจัง"
กระแตบ่นอุบ น้องรหัสของผมมีรสนิยมชอบผู้ชายตัวเล็ก ทว่าแฟนของเธอกลับเป็นสาวเท่สุดฮอตของคณะบัญชีครับ
"พี่ชื่อบลูนะ สายเราก็มีกันแค่นี้ ส่วนปู่รหัสของเราก็ซิ่วไปตั้งแต่ปีสองแล้ว"
ซีพยักหน้ารับ โดยที่สายตายังไม่ละไปไหนจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกแปลกใจ
"มองมาแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า"
"คือ...ที่จริงผมรู้จักพี่มาก่อนหน้านี้แล้วครับ"
ทั้งผมและกระแตหันไปมอง ซีก็ไม่เล่นตัวนานอธิบายทันที
"พอดีผมเป็นเพื่อนกับกรีนครับ"
ฮะ?!
ผมรู้สีกตกใจเล็กน้อย แล้วนึกถึงน้องชายที่แวะมาป่วนเมื่อหลายวันก่อน ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักเพื่อนของกรีนด้วย อันที่จริงตอนมัธยมผมค่อนข้างเก็บตัวและไม่มีใครคบเท่าไหร่ แถมยังเคยถูกดักไถเงินด้วย ถึงกรีนจะไม่เคยพูดเรื่องนี้กับผม แต่ผมก็รู้ว่า มันแอบไปจัดการทุกคนที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้ จนไม่มีใครกล้ามารังแกผมอีก
เพราะแบบนี้นิสัยนักเลงเลยลามมาตีกับพี่ลิงก์เมื่อหลายวันก่อน
"อ้อ บังเอิญจัง"
ผมก็ได้แต่ตอบรับด้วยรอยยิ้มบาง เสียงของกระแตก็โวยวายออกมา
"โอ๊ย! ทำไมแตเหมือนเป็นคนนอกไปได้ล่ะเนี่ย! "
"ไม่ต้องบ่นแล้ว สั่งอาหารเถอะ"
ผมยื่นเมนูส่งไปให้ทั้งกระแตและซีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย หญิงสาวเพียงคนเดียวก็เล่าเรื่องช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา แล้วก็หันมาอวดผมให้ซีฟังอย่างสนุกปาก
"เห็นแบบนี้ พี่บลูเป็นตัวท็อปของสาขาเลยนะ เก่งสุดในรุ่นแล้ว"
"ไม่ถึงขนาดนั้น"
ผมปฏิเสธเสียงอ่อนแกมเขินอายขึ้นมานิดหน่อย กระแตทำหน้ายู่มองผมอย่างหมั่นไส้
"เยลก็ชอบว่าแตอยู่เรื่อย ทำไมไม่ไปติวกับพี่บลูตอนสอบ"
"เคยชวนแล้ว แต่ไม่มาเอง"
"ก็ขี้เกียจอ่ะ แตขอแค่เรียนจบก็พอ ไม่เอาเกรดอะไรหรอก"
ผมมองกระแตอย่างอ่อนใจ แล้วนึกถึงแฟนสาวของอีกฝ่ายที่ชื่อเยลลี่ ชื่อน่ารักแต่หล่อมากครับ ผมยังนึกสงสัยว่าคนนิสัยประหลาดอย่างกระแตไปคบกับดาวดังของคณะบัญชีได้ยังไง
"ครับ แต่พี่ก็เรียนเก่งมาตั้งนานแล้ว"
กระแตหน้ามุ่ยลง หันไปส่งค้อนขวับให้ซีที่นั่งอยู่ข้างกัน
"ซีรู้จักก่อนแบบนี้ พี่ก็ไม่มีอะไรให้เล่าเกี่ยวกับพี่บลูสิ"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางแสนงอนของกระแต แล้วพูดปลอบอย่างใจดี
"วันนี้พี่เลี้ยงไม่อั้นจนกว่ากระแตจะพอใจเลย"
"อื้อ ชอบพี่บลูอ่ะ ทั้งตัวเล็ก ทั้งใจดี"
กระแตส่งยิ้มหวานมาให้ ผมก็ส่ายหน้าเบาๆ แล้วมองจานอาหารที่ค่อยๆ นำมาเสิร์ฟ
@@@@@@@@@@
"พี่บลูกลับยังไงครับ"
หลังจากที่กินอาหารเย็นและพูดตุยกันจนถึงสามทุ่ม เยลลี่ก็มารับกระแตกลับไปแล้ว เหลือผมกับซีแค่สองคนครับ
"เดี๋ยวพี่นั่งวินกลับ"
วันนี้พี่ลิงก์นอนค้างที่คอนโดครับ เขาไปเรียนงานที่บริษัทเลยไม่ได้กลับมาค้างด้วยกัน
"ให้ผมไปส่งไหมครับ พอดีผมเอารถมา"
"อืม ขอบใจ"
ผมเดินตามซีมาถึงรถยนต์คันหนึ่ง อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย แล้วหันมาบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
"เดี๋ยวพี่รอแป๊บนึงนะครับ ขอผมเก็บของในรภก่อน"
ผมพยักหน้า แล้วมองซีที่กุลีกุจอเก็บของในรกให้เรียบร้อย ทว่ายืนรอได้ครู่เดียว เสียงวีดีโอคอลจากโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น
"ครับ"
[บู้อยู่ไหนแล้ว]
"กำลังจะกลับครับ"
ผมมองใบหน้าหล่อของพี่ลิงก์ที่มีฉากหลังเหมือนอยู่ในห้องอะไรสักอย่าง เขาหรี่ตามองผมเล็กน้อย
"ข้างหลังนั่นใคร"
ผมหันไปมองตามสายตาของพี่ลิงก์ก็เห็นซีกำลังมองมาทางนี้พอดี อีกฝ่ายคงจัดของเสร็จแล้ว แต่เพราะว่าเห็นผมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เลยไม่ได้เรียก
"หลานรหัสผมครับ เดี๋ยวน้องไปส่ง"
[อืม งั้นถึงห้องแล้วโทรมาด้วย]
"ครับ"
พี่ลิงก์ตัดการติดต่อไป ผมก็เก็บโทรศัพท์มือถือ แล้วส่งยิ้มบางให้หลานรหัสที่ยืนรออยู่
"เสร็จแล้วใช่ไหม โทษที"
"ครับ ไม่เป็นไรครับ"
หลังจากเดินทางเพียงไม่กี่นาที ซีก็มาส่งผมถึงหอพักครับ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงจากรถ เสียงของคนขับก็ดังขึ้น
"พี่บลูครับ"
ผมหันไปมองซี อีกฝ่ายมองผมเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
"ผมขอส่งข้อความหรือโทรคุยกับพี่ได้ไหมครับ แบบ...คุยเล่น"
"ได้สิ"
"อ่า...ขอบคุณครับ"
ผมมองซีที่อมยิ้มออกมาด้วยความแปลกใจ ผมยิ้มให้เล็กน้อย แล้วลงจากรถ ในคืนนั้นนอกจากผมจะได้รับคำกล่าวฝันดีของพี่ลิงก์แล้ว ผมก็ยังได้รับข้อความ 'ฝันดีนะครับ' จากหลานรหัสด้วย
@@@@@@@@@@
"ได้ข่าวว่า หลานรหัสมึงโดนทาบทามไปประกวดเดือนด้วย"
เป็ดพูดขึ้น หลังจากที่เดินเข้ามานั่งข้างกัน ผมก็พยักหน้ารับ เพราะซีก็โทรมาเล่าให้ผมฟังอยู่เหมือนกัน
"แต่น้องไม่อยากประกวด"
หลังจากที่ได้รวมสายรหัสกันครั้งแรก ผมก็เล่าเรื่องของซีให้น้องชายฟัง กรีนก็ยืนยันเรื่องที่หลานรหัสของผมเป็นเพื่อนร่วมห้องของมัน แถมยังเป็นเพื่อนที่มันมาหาเมื่อครั้งนั้นด้วยครับ
"อืม เป็นกูก็ไม่เอาด้วยหรอก วุ่นวายชะมัด"
"ถึงมึงอยาก เขาก็ไม่เอามึงป่ะ"
ผมแกล้งหยอกเพื่อนสนิท เป็ดก็ส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้ ก่อนเสียงข้อความจะดังขึ้นขัดการสนทนาของเราสองคน
"เบื่อคนมีแฟน จะไม่คุยกันสักชั่วโมงจะตายกันหรือไง"
เป็ดบ่นออกมาอย่างไม่จริงจัง ผมก็ยกยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองชึ้นมาดู
Sea S.
พี่บลู เย็นนี้ว่างไหมครับ
Blue++
ก็ว่าง มีอะไรเหรอ
Sea S.
พรุ่งนี้ผมมีสอบ อยากให้พี่ช่วยติวให้หน่อยได้ไหมครับ
Blue++
ได้ จะให้ติวที่ไหน
Sea S.
แล้วแต่พี่เลยครับ ผมสะดวกทุกที่
Blue++
งั้นเจอที่หอสมุดแล้วกัน
Sea S.
ครับ
ผมละสายตาจากข้อความที่เพิ่งได้รับ แล้วหันไปมองเป็ดที่กำลังเล่นเกมออนไลน์ที่ติดอยู่
"เย็นนี้มึงไปไหนป่ะ"
"มีอะไร"
เป็ดถามกลับ ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากภาพกราฟิกของเกมที่อยู่ตรงหน้า
"วันนี้ซีนัดให้กูไปช่วยติว"
"แล้วไง"
"ก็เผื่อมึงจะนัดน้องไปติวด้วยกัน"
"ไม่อ่ะ ถ้ามันอยากติวก็ต้องมาบอกกูเองสิ"
เป็ดหันมามองผมเล็กน้อย แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน
@@@@@@@@@@
หลังจากเดินมาถึงหอสมุดที่นัดหลานรหัสเอาไว้ ผมก็กวาดตามองเล็กน้อย ซีกำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถืออยู่
"มารอนานแล้วป่ะ"
ซีเงยหน้าพลางส่งยิ้มให้ผม เมื่อผมนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ
"ไม่นานครับ พี่หิวหรือเปล่า ไปกินอะไรกันก่อนไหมครับ แล้วค่อยมาติวกัน"
"ไม่เป็นไร เพิ่งจะห้าโมงเอง"
ซีพยักหน้ารับ แล้วหยิบชีทเรียนขึ้นมาบนโต๊ะ ผมก็เอามาดู หลังจากนั้นก็เริ่มอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ
พวกเราใช้เวลาราวสองชั่วโมง แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือของผมก็ทำให้การติวต้องหยุดชะงักลง ผมหยิบอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองที่ปิดเสียงเอาไว้ แล้วหยิบมันขึ้นมา
[บู้อยู่ไหน]
น้ำเสียงทุ้มเข้มดังขึ้น ผมนิ่งค้างไปไม่กี่วินาที แล้วตอบเสียงอ่อน
"หอสมุดครับ"
ซวยแล้ว...ผมลืมบอกพี่ลิงก์เรื่องที่จะมาติวให้น้องครับ!
[ทำอะไร นี่มันทุ่มกว่าแล้ว ทำไมไม่บอกลิงก์ก่อน]
พี่ลิงก์ใช้น้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม แต่ก็ยังแฝงการตำหนิเอาไว้
"ขอโทษครับ ผมมาติวให้น้อง"
ผมยิ้มแห้งออกมา ทั้งที่คู่สนทนามองไม่เห็น แต่หลานรหัสกลับมองผมนิ่งเลยครับ
[แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ]
"อีกสักพักครับ"
[เสร็จแล้วบอกด้วย จะไปรับ]
"ครับ"
หลังจากพี่ลิงก์วางสายไป ผมก็วางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ แล้วหันมาสนใจเนื้อหาที่กำลังพูดต้างเอาไว้ต่อ ทว่าเสียงของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"ถ้าพี่มีธุระต่อ ก็ไม่เป็นไครับ แค่นี้ผมก็เกรงใจแล้ว"
"ไม่เป็นไร หรือว่าหิวแล้ว? มันก็ทุ่มกว่าแล้ว"
ตอนแรกผมก็ยังไม่รู้สึกหิวอะไรหรอกครับ แต่พอนึกถึงเรื่องกิน ท้องก็เริ่มร้องประท้วงหาอาหารทันที
"ผมก็เริ่มหิวนิดหน่อย งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีไหมครับ"
"อืม"
@@@@@@@@@@
เนื่องจากจะไปกินข้าวกับซีต่อ ผมเลยส่งข้อความไปบอกพี่ลิงก์ว่าไม่ต้องมารับ เพราะหลานรหัสจะไปส่ง แล้วก็ได้รับสติกเกอร์โอเคตอบกลับมาครับ
"ขอบคุณพี่บลูที่ช่วยติวให้วันนี้นะครับ"
ซีหันมาส่งยิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบพร้อมกับพนักหน้ารับ
"มีอะไรก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจ"
"ครับ"
ผมลงจากรถยนต์ที่จอดอยู่ที่หน้าหอพัก แล้วยืนรอจนซีขับรถหายไปจากสายตา ถึงได้เดินขึ้นห้องของตัวเอง
พอผมเปิดประตูเข้าห้องก็เห็นพี่ลิงก์ที่ใส่เพียงบ็อกเซอร์นอนพิงหมอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง เมื่อก่อนผมคงจะช็อกกับภาพตรงหน้า แต่หลังจากที่พวกเราค้างด้วยกันบ่อบขึ้น ผมก็เริ่มปรับตัวไม่ให้เป็นบ้าทุกครั้งที่เห็นรูปร่างเปลือยของเขาได้
ถึงอย่างนั้นก็อดเหลือบมองด้วยหัวใจสั่นไหวไม่ได้อยู่ดีครับ
"เดี๋ยวนี้เถลไถลใหญ่เลยนะ"
พี่ลิงก์ว่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง ผมเดินไปนั่งที่ข้างเตียง หลังจากวางกระเป๋าเป้ของตัวเองแล้ว
"ขอโทษครับ พอดีน้องมาขอให้ช่วยติวกะทันหัน เลยลีมบอก"
"อืม"
ผมมองพี่ลิงก์ที่เงียบไป ก่อนจะถามเขาเสียงเบาอย่างรู้สึกผิด
"แล้วมื้อเย็นพี่กินอะไรครับ อร่อยไหม"
"ยังไม่ได้กิน"
อ่า...
ผมส่งข้อความให้พี่ลิงก์ไม่ต้องรอกินข้าว เพราะผมจะไปกินกับหลานรหัส และเขาก็ส่งสติกเกอร์ตอบรับมาแล้วด้วย แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องแบบนี้
"ไม่หิวเหรอ งั้นจะกินอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้"
พี่ลืงก์เงยหน้ามามองผมอีกครั้ง นัยน์ตาสีดำนิ่งเฉยครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
"อยากกินบู้ได้ไหมล่ะ"
พี่ลิงก์บอกพร้อมกับดึงผมให้นอนลงบนเตียง ความตกใจที่เกิดขึ้นยังช้ากว่าการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเขาที่เข้ามากักตัวของผมเอาไว้ด้วยท่าทีล่อแหลมอีกครับ
"พี่ลิงก์"
"หมั่นไส้ว่ะ"
ทันทีที่เสียงทุ้มดังขึ้น ผมก็ถูกพี่ลิงก์กัดแก้มจนต้องร้องออกมา ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความเขินอาบ เมื่อเขาซุกไซ้ดูดเม้มที่ลำคอของผมแทน
"อย่าเพิ่งครับ"
ผมร้องบอกเสียงแผ่ว ถึงแม้จะร้องห้าม แต่ร่างกายกลับไม่ได้ผลักอีกฝ่ายออก กลับกันดันกอดแผ่นหลังเปลือยอย่างพอใจอีกต่างหาก
ทั้งอาย ทั้งเขิน ทั้งชอบเลยตรับ!
"อืม"
พี่ลิงก์ครางรับ ก่อนที่เขาจะพรมจูบไปทั่วใบหน้าของผม แล้วหยุดสัมผัสชวนวาบไหวตรงริมฝีปากของผม เราสบตากันนิ่ง ท่ามกลางเสียงลมหายใจที่ผิดจังหวะ
"พี่ลิงก์"
ผมยกมือลูบใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างเผลอไผล รอยยิ้มมุมปากสั่งการให้ผมโน้มลำคอของเขาลงเพื่อปลดปล่อยความรุ้สึกของตัวเอง ทว่าอีกฝ่ายกลับถอยตัวออก
"ไปอาบน้ำ"
ผมกะพริบตาทีหนึ่งแล้วดันตัวลุกขึ้น ในนาทีนั้นผมเพิ่งจะรู้ตัวเองว่า เสื้อนักศึกษาถูกปลดกระดุมหมดแล้วครับ
"แล้วพี่จะกินอะไรไหม ผมจะได้ซื้อให้"
ในห้องของผมก็พอจะมีของกินกันคายอยู่บ้างครับ แต่ถ้าหากเขาอยากกินอย่างอื่นผมก็พร้อมบริการไปซื้อด้วยความเต็มใจ
"เมื่อกี้กินของหวานไปแล้ว"
ผมมองพี่ลิงก์ที่กลับไปนอนเล่น แถมยังเอาตุ้กตาลูกเจี๊ยบสีเหลืองที่เขาเคยฝากผมเอาไว้ขึ้นมากอดเล่น
"อ่า...ครับ"
ผมรู้สึกงุนงง แต่ก็พยักหน้ารับ บางทีเขาอาจจะหาขนมกินรองท้องก่อนที่ผมจะมาถึงแล้ว พี่ลิงก์เหลือบมองผม แล้วยกมือขึ้นดึงแก้มของผมแบบไม่เบาแรง
"ไปได้แล้ว มันเขี้ยว"
TBC++++++++
Level 30: ห้วงอารมณ์
ถึงแม้ว่าพี่ลิงก์จะยกระดับความสัมพันธ์จาก 'แฟน' เป็น 'ผัวเมีย' แต่ความใกล้ชิดระหว่างเราสองคนก็ยังเหมือนเดิมครับ โดยจะมีบางวันที่พวกเราไม่ได้นอนกอดกันธรรมดาเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น
เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต ผมก็นึกสงสัย ทั้งที่มีโอกาสหลายครั้ง แต่ทำไมพี่ลิงก์ถึงเลือกวันเกิดของผมเป็นวันเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางกายอย่างลึกซึ่งเป็นครั้งแรก มีความหมายอะไรหรือเปล่า สุดท้ายผมก็ได้คำตอบที่น่าประหลาดใจออกมา
"อ้อ ก็บู้อายุยี่สิบไง"
สีหน้างุนงงของผม ทำให้พี่ลิงก์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วอธิบายอย่างใจเย็น
"ยี่สิบปี ก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ลิงก์ไม่อยากรังแกเด็ก"
ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วอดถามต่อด้วยความสงสัยไม่ได้
"แล้วก่อนหน้านี้? "
ผมปั้นหน้ายาก แต่พี่ลิงก์ก็เข้าใจความนัยที่ผมต้องการสื่อออกไป เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย
"เคยสิ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้จริงจังไง"
ผมนิ่งอึ้ง พี่ลิงก์ดึงผมมากอดเอาไว้
"เอาน่า ถ้าเกิดท้องขึ้นมา ลิงก์รับผิดชอบอยู่แล้ว"
"ผมไม่ท้องหรอกครับ"
ผมตีหน้ามุ่ย พี่ลิงก์กัดแก้มของผมเล่น ก่อนจะคลายอ้อมกอด แล้วลุกจากเตียงที่เราสองคนนั่งเล่นด้วยกัน
"พี่จะทำอะไรครับ"
ผมขมวดคิ้วมองคนที่กำลังถอดกางเกงหน้าตาเฉย ถึงจะเคยเห็นร่างเปลือยเปล่าของเขามาแล้ว แต่ผมก็ยังกระดากอายและคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องชินครับ
"ก็จะอาบน้ำไง"
"อ่าครับ"
หลังจากพี่ลิงก์แก้ผ้าต่อหน้าผมเสร็จ เขาก็ไม่ได้เดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับมาดึงผมให้ลุกขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังขึ้น
"ไปอาบน้ำด้วยกัน"
"แต่ผมอยากอาบคนเดียว"
"ผัวเมียต้องไม่มีอะไรปิดบังกันสิบู้"
ผมปั้นหน้ายากกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากถูกดึงให้ลุกขึ้นยืนแล้ว ผมก็ได้แต่มองพี่ลิงก์ที่ถอดเสื้อผ้าให้อย่างปลงตก
นอกจากกิจกรรมยามดึก เขาก็ชอบชวนผมอาบน้ำด้วยกันเสมอครับ แล้วก็จะหาเรื่องแกล้งผมเป็นประจำอีกด้วย
"บู้ผอมลงหรือเปล่า"
พี่ลิงก์พูดขึ้น เมื่อลากผมลงมาแช่น้ำอุ่นในอ่างด้วยกัน ผมถูกจับให้นั่งแทรกระหว่างขาและเอนพิงหน้าอกของเขา โดยที่มีวงแขนกอดเอวของผมเอาไว้
"ไม่รู้สิครับ"
"อืม สงสัยเพราะช่วงนี้บู้ออกกำลังกายมั้ง"
ผมเลิกคิ้วขึ้น แล้วเงยหน้ามองคนที่นั่งซ้อนหลัง พี่ลิงก์บีบหน้าท้องนิ่มของผมเล่นเบาๆ ราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง
"แต่ผมไม่ได้ออกกำลังกายที่ไหนเลยนะ"
ปกติผมก็ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้เรียนหนักขึ้น กินเยอะขึ้นด้วยซ้ำ ร่างกายของผมไม่น่าจะผอมลงแต่อ้วนขึ้นมากกว่า
"ซื่อบื้อ"
พี่ลิงก์ว่า แล้วก้มลงมากัดแก้มของผม ผมชักสีหน้าออกมา ก่อนผิวแก้มที่น่าสงสารจะร้อนผ่าวขึ้น
"ก็เมื่อคืนลิงก์ชวนบู้ออกกำลังกายไง แต่ทำกันสองรอบเอง คืนนี้เอาให้หมดแรงเลยดีไหม พรุงนี้วันหยุดด้วย"
"ไม่ดีครับ"
"ทำไม เวลาที่เราทำกัน บู้ไม่ชอบเหรอ"
น้ำเสียงไร้เดียงสาพร้อมกับแววตาใสซื่อขัดกับเนื้อหาที่กำลังพูดถึงจนผมหมั่นไส้อย่างรุนแรง เลยตัดสินใจหันไปกัดคอของพี่ลิงก์เล่น แล้วดูดเม้มจนขึ้นรอบแดง
"เดี๋ยวนี้กัดเก่ง"
พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับยกผมให้นั่งหันมาเผชิญหน้ากัน ผมอายนะครับ แต่ก็ไม่ได้หลบสายตาแวววาวของเขา
"พี่ต่างหากที่กัดเก่ง"
ผมตีหน้ามุ่บ พักหลังมานี้ผมโดนพี่ลิงก์กัดบ่อยมาก โดยเฉพาะตอนที่เรามีอะไรกัน เขาจะกัดผมไม่ยั้ง เวลานั้นอารมณ์ของผมกระเจิดกระเจิง เขาจะทำอะไรก็รู้สึกดีไปหมด แต่พอสติกลับมา ก็ต้องมานั่งมองรอยฟันช้ำเลือดอย่างจำทน
"ก็บู้น่ากัด"
พี่ลิงก์อุ้มผมไปนั่งที่เคาน์เตอร์ตรงอ่างล้างหน้า แล้วก้มลงกัดที่หัวไหล่ของผม
"พี่ลิงก์"
ภาพในกระจกเงาบานใหญ่ ทำให้ผมเห็นสภาพของตัวเองชัดเจน ใบหน้าที่แดงก่ำและมือที่จับบ่ากว้างของคนที่กำลังไล่กัดผมอย่างเพลิดเพลิน พี่ลิงก์เลื่อนมาขบกัดหน้าอกของผมทั้งสองข้างสลับไปมา มือที่เคยกอดเอวของผมเอาไว้กำลังเร่งเร้าส่วนกลางลำตัวของผมที่ตื่นขึ้นทุกครั้งที่ถูกเขาสัมผัส
ทั้งที่เสียวจนร่างกายบิดเกร็ง สะท้านจนต้องร้องออกมาอย่างน่าอาย แต่ผมก็ยังยึดคนตรงหน้าเอาไว้ ไม่อยากให้พี่ลิงก์หยุดและจากไป
@@@@@@@@@@
Sea S.
วันหยุดนี้ไปดูหนังกันไหมครับ พอดีผมมีส่วนลด
ผมอ่านข้อความของซี แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังนอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างกัน
"เสาร์อาทิตย์นี้พี่จะไปไหนหรือเปล่าครับ"
"มีอะไร"
พี่ลิงก์ละสายตามามองผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะขยับตัวมานอนหนุนตักของผม ทั้งที่สายตายังมองตัวละครในเกมอยู่
"พอดีน้องจะชวนไปดูหนัง"
"กรีนเหรอ"
เมื่ออาทิตย์ก่อนพวกเราพากรีนไปกินอาหารทะเลด้วยกันครับ น้องชายก็ถล่มเงินของพี่ลิงก์อย่างไม่เกรงใจ โชคดีที่เขารวยพอจะจ่ายจนน่าหมั่นไส้
"เปล่าครับ ซีที่เป็นหลานรหัสของผม"
พี่ลิงก์เหลือบตามามองผม ก่อนที่เขาจะกลับไปสนใจเกมในโทรศัพท์มือถือต่อ
"ลิงก์ก็ว่าจะพาบู้ไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ฟังโฆษณาเมื่อวันก่อน"
ผมตาโตขึ้นทันที เมื่อวันก่อนผมได้ยินโฆษณาจากวิทยุออนไลน์เกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ชวนให้น้ำลายหก
"ครับ"
Blue++
พี่ไม่ว่าง เอาไว้ครั้งหน้านะ
Sea S.
ครับ
@@@@@@@@@@
หลังจากผ่านการสอบกลางภาคมาได้เพียงสัปดาห์เดียว พี่ลิงก์ก็ชวนผมไปงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายด้วยกันครับ
"ผมไปด้วยจะดีเหรอ"
"อืม"
งานเลี้ยงรุ่นจะจัดขึ้นทุกปีครับ เพราะเป็นโรงเรียนหรูที่มีแต่ลูกนักธุรกิจและผู้ที่มีชื่อเสียง ทำให้พวกเขาต้องติดต่อกันเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ในอนาคต
ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับเหตุผลนี้ ถ้าจะคบเพื่อนเพราะต้องการหาประโยชน์จากอีกฝ่ายมากกว่ามิตรภาพ ก็อย่ารู้จักกันเลยจะดีกว่า
พี่ลิงก์ขับโฟล์คบีเทิลสีดำคันสวยพาผมไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง ผมกวาดตามองเพื่อนของเขาที่เข้ามาทักทาย แล้วลอบถอนหายใจออกมา
"พาใครมาด้วยน่ะ"
ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น หลังจากที่ทักทายพี่ลิงก์เสร็จ นัยน์ตาสวยคมก็ปราดมองผมอย่างสงสัย
"เมีย"
ผมอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าพี่ลิงก์จะตอบไปแบบนี้ นอกจากผมจะตกใจแล้ว ทุกคนที่ได้ยินคำตอบต่างก็ตกตะลึงไปไม่แพ้กันครับ
"ลิงก์ตลกจังเลยนะ"
ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้นพลางหัวเราะคิกคัก พี่ลิงก์ก็แค่ยกยิ้ม แล้วกอดไหล่ของผมเดินไปยังที่พักที่ถูกจัดแบ่งเป็นห้องละสองคนไว้
"ไอ้เรย์"
พี่ลิงก์ทักพี่เรย์ที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนอีกสองคมอยู่ เขายักคิ้วตอบกลับ แล้วมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้ม
"ปาล์มบ่นอยากเจอบลูมาตั้งนานแล้ว"
ผมนึกสงสัย แล้วมองตามพี่เรย์ที่ตะโกนเรียกคนที่ชื่อปาล์ม แล้วผมก็เบิกตากว้างเล็กน้อย เมื่อเห็นสาวสวยหุ่นนางแบบท่าทางทะมัดทะแมงเดินตรงมาหา เธอส่งยิ้มให้ผมด้วยแววตาสดใส
"คนนี้เองเหรอ ตัวเล็กจัง"
ผมปั้นหน้ายาก เพราะผู้หญิงตรงหน้าตัวสูงกว่าผมอีกครับ แถมยังสวยจนผมเกร็งไปหมด พอดีไม่เคยเจอผู้หญิงหน้าตาดียิ้มให้
"เห็นแบบนี้ แต่ก็เอาไอ้น้องลิงก์ติดเป็นขี้ปลาทองเลย ฮ่าๆ "
"ไอ้เหี้ยเรย์"
พี่ลืงก์ว่าเสียงเข้ม แต่ดูเหมือนผู้หญิงสวยสะท้านใจจะไม่สนใจ เธอเอาแต่มองผมอย่างพิจารณา
"ก็ดูซื่อดีออก อ้อ...พี่ชื่อปาล์มนะ เป็นแฟนไอ้เรย์มันอ่ะ"
"ครับ ชื่อบลูครับ"
"อืม อยากเจอบลูมานานแล้ว ถ้าคราวก่อนพี่ไม่ติดธุระคงจะได้เจอตั้งแต่ที่เอาของไปบริจาคครั้งก่อนแล้ว"
"ก็ดีแล้วที่ไม่ได้ไป"
พี่เรย์หันมาพูดกับพี่ปาล์ม เธอก็พยักหน้า แล้วหันมาพูดกับผมแทน
"สงสารยายพริ้มจริงๆ ไปลำบากยังพอว่า แต่ดันมาเจอผีด้วยแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก"
พี่ปาล์มทำหน้าไม่สู้ดีออกมา ผมก็ยิ้มแห้ง พอนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ภาพผู้หญิงในกระจกเงาก็ทำผมหลอนไปหลายวัน ถึงตอนนี้จะลืมเลือนไปบ้าง แต่ก็ยังไม่หายไปจากความทรงจำครับ
หลังจากแวะทักทายพูดคุยเสร็จ พี่ลิงก์ก็พาผมเดินไปทางห้องพักต่อ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นอาคารยาวสองชั้นที่ตกแต่งให้กลมกลืนกับธรรมชาติ แถมยังมีน้ำตกสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเย็นสบายอีกด้วย
"ผมคิดว่าพี่เรย์ยังโสดเสียอีก"
ผมพูดขึ้นอย่างแปลกใจ ถึงทุกคนในกลุ่มของพี่ลิงก์จะหน้าตาดี ทว่าแต่ละคนก็เหมือนจะไม่ชอบผูกมัดกับใครสักเท่าไหร่ครับ
"ไอ้เรย์คบกับปาล์มตั้งแต่มัธยมแล้ว เรียนจบก็คงแต่งงานกันเลยมั้ง"
ผมเบิกตาโตขึ้น เพราะไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ปีนี้พวกพี่ลิงก์ก็จะเรียนจบและทำงานกันแล้ว ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะพอที่จะสร้างครอบครัวแล้วล่ะมั้งครับ
"ดีจังเลยนะครับ"
พี่ลิงก์หันมามองผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะดึงผมมานั่งตักแล้วกอดเอาไว้
"บู้อยากแต่งงานเหรอ"
"ผมยังไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย"
"อืม"
พี่ลิงก์วางคางไว้บนไหล่ของผม เขาทำสีหน้าครุ่นคิดบางอย่าง
"รอบู้เรียนจบก่อนแล้วกัน"
"อะไรหรือครับ"
ผมถามอย่างงุนงง พี่ลิงก์ยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วหอมแก้มของผมฟอกใหญ่
"ไม่มีอะไร แค่คิดเรื่องอนาคตนิดหน่อย"
@@@@@@@@@@
ตอนนี้ก็เวลาราวสี่โมงเย็นครับ เราสองคนนั่งเล่นอยู่ในห้องพักจนถึงห้าโมงเย็น พี่ลิงก์ก็พาผมออกไปพบเพื่อนๆ ของเขาที่สนามหญ้าที่เปิดไฟสว่าง ซึ่งตอนนี้กำลังจัดบุฟเฟ่ต์อาหารและเครื่องดื่มอยู่
"มาถึงก็เอาแต่กกกันอยู่ในห้องนะมึง"
พี่ดิมทักขึ้น แล้วหันมาส่งยิ้มให้ผมอย่างผู้ชายขี้เล่น
"กูรำคาญคนเยอะ ไอ้พลกับไอ้ทียังไม่มาเหรอ"
"มาแล้ว ไอ้พลไปคุยอยู่กับพวกไอ้อั๋น ส่วนไอ้ทีก็จำศีลอยู่ในห้อง หิวเมื่อไหร่มันถึงจะออกมา"
พี่ดิมบอก พี่ลิงก์ก็พยักหน้ารับ ก่อนเพื่อนของพี่ลิงก์อีกสองสามคนจะเข้ามาพูดคุยด้วย ผมไม่ได้สนใจบทสนทนาเท่าไหร่นัก แล้วสายตาก็ไปเจอพี่ปาล์มที่กำลังอยู่หน้าเตาย่างบาร์บีคิว และเธอก็หันมาประสานสายตากับผม อีกฝ่ายเลยกวักมือเรียก
"พี่ลิงก์ ผมไปคุยกับพี่ปาล์มนะครับ"
พี่ลิงก์ละสายตามามองผมเล็กน้อย แล้วมองไปยังพี่ปาล์มก่อนจะพยักหน้ารับ
"เป็นไง อึดอัดหรือเปล่ กินนี่สิ"
พี่ปาล์มพูดขึ้นพร้อมกับส่งบาร์บีคิวไม้หนึ่งมาให้ผม
"ขอบคุณครับ"
ผมยิ้มบางออกมาพร้อมกับรับน้ำใจที่ถูกหยิบยื่นมาให้ พี่ปาล์มพยักหน้ารับ แล้วหันไปหยิบแก้วน้ำที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นจิบ
"งานมันจะน่าเบื่อหน่อย หลักๆ ก็มาพุดคุยกันแล้วก็ดื่มน่ะ"
"ครับ"
"แล้วบลุดื่มได้หรือเปล่า หรือจะเอาน้ำอัดลม"
"ไม่เป้นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"
ผมส่งยิ้มให้พี่ปาล์มอย่างเกรงใจ มีหลายคนที่มาพูดคุยกับพี่ปาล์มตรงหนัาเตาย่าง บาร์บีคิว
"นี่น้องใครวะ"
ผู้ชายคนหนึ่งที่หันมาเห็นผมมองมาอย่างสงสัย
"แฟนลิงก์"
พี่ปาล์มเป็นคนตอบ แล้วก็ทำให้คนฟังตาเหลือก เขามองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"เหี้ย! กูก็แค่คิดว่าเรื่องล้อเล่น ไอ้ลิงก์มันเป็นเกย์จริงหรือวะ"
"แล้วมันหนักหัวมึงหนักหรือไง ไปได้แล้ว เกะกะสายตากู"
พี่ปาล์มว่าพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ อีกฝ่ายก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจ แล้วเดินถือแก้วเหล้าจากไปแต่โดยดี ผมได้แต่ยืนเงียบ
ถึงแม้สมัยนี้เรื่องรักร่วมเพศจะเปิดกว้าง แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะยอมรับได้เป็นเรื่องปกติอยู่ดี
"อย่าสนใจเลย"
พี่ปาล์มหันมาบอก เมื่อเห็นสายตาหลายคู่เริ่มมองมาทางผมมากขึ้นอย่างไม่ปิดบัง เรื่องราวของผมคงกำลังถูกซุบซิบนินทาอยู่แน่นอนครับ
"ผมไม่เป็นไรครับ"
ผมบอกพร้อมกับหยิบบาร์บีคิวสามไม้มาถือไว้ แล้วมองหาพี่ลิงก์ที่ไม่รู้ตอนนี้กำลังไปยืนคุยกับเพื่อนอยู่ตรงไหน
"พี่ปาล์มครับ เดี๋ยวผมขอเอาบาร์บีคิวไปให้พี่ลิงก์ก่อนนะครับ"
"อืม พี่ก็อยุ่แถวนี้แหละ มีอะไรก็มาหานะ"
ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินหาพี่ลิงก์ที่อยู่ตรงไหนสักแห่งในกลุ่มคนที่กำลังยืนพูดคุยสังสรรค์กัน ทว่าระหว่างทางในบริเวณที่คนบางตาผมก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งมาดักหน้าเอาไว้เสียก่อน
"นายเองเหรอ ที่เขาว่าเป็นแฟนลิงก์"
ผมมองผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้าโชว์รูปร่างอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะเดิมทีผมก็เป็นคนที่อัธยาศัยไม่ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว
"ถ้าบอกว่าเป็นเด็กรับใช้ยังน่าเชื่อกว่า"
ผมขมวดคิ้วออกมา เมื่อนัยน์ตาที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางกดมองอย่างดูถูก ผมตั้งใจจะเดินหนี แต่อีกฝ่ายก็มาดักหน้าเอาไว้ราวกับต้องการจะหาเรื่อง เธอกอดอกมองผมอย่างหยิ่งยโส
"ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าลิงก์เล่นอะไรอยู่ สงสัยอยากลองของแปลก"
"คุณอิจฉาผมเหรอ"
ทันทีที่ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย นัยน์ตาสวยก็วาววับ เธอจิกตามองผมอย่างไม่พอใจ
"คนอย่างแกไม่เห็นจะมีอะไรดี! ไอ้เกย์น่าขยะแขยง! "
ความกรุ่นโกรธพุ่งเข้ามาในใจ ผมข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ในเวลานี้แต่ละคนต่างก็สนใจแต่เรื่องของตัวเองเลยไม่มีใครหันมามองผมกับผู้หญิงน่ารังเกียจที่กำลังพูดจาถากถางผมอยู่
"ถ้าอย่างนั้น คนที่พยายามเสนอตัวให้กูกับเพื่อนนี่ต้องเรียกว่าอะไร"
เสียงทุ้มเย็นชาดังขึัน ผมหันไปมองอย่างตกใจ พี่ทีที่กำลังยืนอยู่ในมุมมืดกำลังมองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง
"ทีหมายความว่ายังไง"
ผู้หญิงตรงหน้าหันไปมองอย่างไม่พอใจ พี่ทีเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉย
"ก็ตามที่พูด แล้วก็อย่ามายุ่งกับเด็กนี่อีก"
"ที่ปกป้องมัน เพราะเอากับมันมาแล้วหรือไง! "
ผมตาโตขึ้นด้วยความโกรธกับคำพูดเหยียดหยามที่ถูกกล่าวหา ทว่าผมก็ต้องตกใจแทน เมื่อพี่ทียกมือขึ้นตบหน้าของผู้หญิงความคิดสกปรกจนหันไปตามแรง
"เมียเพื่อนกู ไม่ใช่คนที่มึงจะมาพูดจาแบบนี้ได้"
"ทำไม! ถ้าแค่ได้เอาก้นแล้วนับเป็นเมีย! อีฟก็เป็นเมียของลิงก์กับทีเหมือนกัน! "
"อย่างเธอก็แค่เอาไปแก้เบื่อ พวกกูไม่ใช้เมียร่วมกันหรอก"
"กรี๊ด! "
เธอกรีดร้องพร้อมกับยกมือขึ้นจะตบหน้าด้วยความโกรธแค้น แต่พี่ทีจับขัอมือนั้นเอาไว้ แล้วผลักอีกฝ่ายจนล้มไม่เป็นท่าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทว่านัยน์ตากลับเย็นเฉียบจนน่ากลัว
"ไปซะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน"
ผมได้แต่กะพริบตาอ้าปากค้างมองผู้หญิงคนนั้นที่รียลุกกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากไปด้วยความกลัวอย่างตกตะลึง ตั้งแต่เสียงร้องแหลมของเธอดังขึ้นก็เรียกให้สายตาหลายคู่หันมามอง ก่อนที่จะไม่มีใครสนใจอีก
"ขอบคุณครับ"
ผมหันไปมองพี่ทีที่ยืนอยู่ข้างกัน เขาปรายตามามองผมเล็กน้อย ก่อนจะฉวยบาร์บีคิวทั้งสามไม้ที่ผมถืออยู่ แล้วเดินไปอีกทางอย่างเฉื่อยชา
TBC++++++++
Marionetta ชอบพี่ทีจัง ^^ (หลังจากได้กินบู้ไปแล้ว พี่ลิงก์ก็มีความหื่นอย่างต่อเนื่อง 555)