ตอนที่ 10
100%
“พรุ่งนี้ย้งจะให้โจ้มารับกี่โมงดี”เล้งที่เดินนำจะเข้าบ้านถึงกับหูผึ่ง ขายาวชะงักทันทีที่โจ้พูดจบประโยค
ไปไหนกันวะ??
นี่ยังมีอะไรที่เขาไม่รู้อีกมั้ย?
“ซักบ่ายโมงก็ได้”ย้งยี้ตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง ทั้งคู่คุยกันอีกครู่โจ้ถึงขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน เล้งไขบานประตูเข้ามาในบ้าน ทั้งบ้านมืดสนิท ความขุ่นมัวทำให้เล้งเดินนำลิ่วๆเข้ามาในบ้านอย่างหงุดหงิด
“พี่เล้ง”เล้งชะงักเท้าที่กำลังจะขึ้นไปด้านบน มันมองผ่านแสงสลัวไปที่อีตัวดีที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าบ้าน
“งื้อ...”มันทำเสียงหงุงหงิงเบาๆ ขาของมันสั่นสลับกันอย่างเอาแต่ใจ
“มารับหน่อย”เล้งกรอกตาเป็นเลขแปดก่อนจะเดินกลับไปรับอีตัวดีที่ตีนตายก้าวไม่ออก
เล้งหงุดหงิดจนลืมไปเสียสนิทว่าย้งยี้กลัวผีกลัวความมืด มันวกกลับมาหน้าบ้านปิดประตูล็อคแล้วคว้ามืออีตัวดีมากุมดึงให้เดินตามขึ้นมาด้านบน ทันทีที่เล้งเปิดไฟย้งยี้ก็ดึงมือตัวเองออกเดินไปนั่งแผ่ที่ขอบเตียงในขณะที่เล้งยืนหน้าบึ้งอยู่กลางห้อง
“พี่เล้งจะอาบน้ำเลยหรือจะให้ย้งอาบก่อน?”
“พรุ่งนี้จะไปไหน?”เล้งไม่ได้ตอบคำถามหากแต่ตั้งคำถามที่คาใจอยู่แทน ย้งยี้หัวเราะเบาๆใช้มือทั้งสองข้างยันกับพื้นเตียงยกเรียวขาขาวขึ้นมาไขว่ห้างแล้วขยับไปมาอย่างสบายอารมณ์
เฮียยี่นี่มองพี่เล้งขาดจริงๆ ย้งยี้รู้สึกว่าสองวันมานี่บทบาทของเล้งกับย้งยี้มันสลับกัน
เมื่อก่อนย้งยี้ไล่ตามเล้ง ไม่ว่าจะไหนทำอะไรเป็นย้งยี้ที่ร้อนใจกระวนกระวายอยากรู้ไปเสียหมด
หากแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
“โจ้ชวนไปดูหนังสือที่ห้างเปิดใหม่น่ะ”
“ไม่ต้องไป”
“ทำไม?”มันเลิกคิ้วถาม มุมปากก็ยกยิ้มน้อยๆ
“ถ้ามีเหตุผลเพียงพอก็จะโทรไปยกเลิก”
“รู้จักเขาดีแค่ไหนถึงจะไปไหนมาไหนกับเขาแค่สองคน”
“ก็เป็นคนดี อีกอย่างโจ้ชัดเจนดีว่าเข้ามาหาย้งแบบไหน”ย้งยี้ตอบตามตรง ใบหน้าจิ้มลิ้มบึ้งลงเมื่อเล้งเลือกที่จะเลี่ยงพูดในสิ่งที่มันอยากฟัง
“อ่อ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องการกูแล้วสินะ”และเช่นเคย เล้งเลือกที่จะประชด มันหันหลังถอดเสื้อช็อปออกเตรียมตัวอาบน้ำ ย้งยี้ปากเบะทำตาคว่ำใส่ไม่ให้เล้งเห็นหมดสภาพเฟียซๆที่สร้างมาตลอดช่วงเย็น
พี่เล้งน่ะโง่ ถ้าไม่เสียดายความหล่อก็จะให้ไปไถนาแทนควายแล้ว
“ย้งน่ะต้องการพี่เล้งมาตลอดแหละ”กลั้นอกกลั้นใจทำเสียงนิ่ง
“แต่มึงไม่เชื่อฟังกู”
“แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ พี่เล้งลองบอกเหตุผลที่มาห้ามไม่ให้ย้งไปกับโจ้มาดีๆซักข้อสิ”
“กูเป็นห่วงมึงไง มึงไม่เคยไปไหนมาไหนโดยไม่มีกูหรือไอ้ยี่ ถ้าไอ้ยี่มันรู้เดี๋ยวมันก็ดุมึงอีกหรอก”
“เฮียยี่รู้แล้ว เฮียอนุญาตให้ย้งไปกับโจ้ สองคนเคยคุยโทรศัพท์กันแล้ว โจ้ขอเฮียยี่ด้วยตัวเองว่าจะจีบย้งขอพาย้งไปเที่ยว”
“แล้วมันก็ยอมเนี่ยนะ”เล้งขึ้นเสียงอย่างโมโห
“แล้วทำไมจะต้องไม่ยอมล่ะ ย้งจะจบ ม.6 อยู่แล้วนะพี่เล้ง ย้งโตแล้ว อีกอย่างย้งคิดว่าเวลาแปดเก้าปีที่ผ่านมามันนานมากเลยนะสำหรับความรู้สึกที่ย้งมีให้พี่น่ะ ย้งชัดเจนทั้งคำพูดและการกระทำมาตลอด และตอนนี้ย้งก็คิดว่าย้งชัดเจนแล้วว่าย้งคงต้องตัดใจซักที สำหรับพี่เล้งย้งคงเป็นได้แค่น้องเป็นได้แค่คนน่ารำคาญใช่มั้ย?”
“กูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นตัวน่ารำคาญ กูแค่ขอเวลา”
“เวลาอะไรของพี่ พี่มีเวลาคิดมาจะเก้าปีแล้วนะพี่เล้ง ย้งคิดไว้แล้วถ้าย้งอายุครบ 18 แล้วพี่เล้งยังไม่ชัดเจนกับย้งซักที ย้งจะเลิกวุ่นวายกับพี่เล้งแล้ว ย้งเหนื่อย ย้งอายตัวเองที่วิ่งตามพี่เหมือนคนบ้าให้คนเขาหัวเราะ...ฮึก...”อยู่ๆอีตัวดีมันก็สะอื้นออกมา ย้งยี้รู้สึกเศร้าเมื่อคิดว่ามันรักพี่เล้งมาครึ่งหนึ่งของชีวิตมันเลยนะ แล้วมันได้อะไรกลับมาจากพี่เล้งบ้างนอกจากสถานะของน้องเพื่อน
มีใครให้มากกว่านี้มั้ยคะ ย้งยี้จะไปกราบตีน
ความอัดอั้นที่มีมาตลอดเกือบ 9 ปีพรั่งพรู ย้งยี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงกล้าพูดประโยคที่เก็บอยู่ในใจมาตลอด มันเคยคิดว่ามันทนได้รอได้ แต่จิวยี่เหมือนมาปลดกลอนที่มันลงไว้ตลอด 9 ปีออกให้ย้งยี้เห็นโลกภายนอก
โลกที่ไม่ได้มีแค่พี่เล้งที่มันรัก โลกที่ยังมีผู้คนอีกมากมายรอใหมันไปทำความรู้จัก
เล้งที่เห็นอีตัวดีเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆก็รู้สึกปวดที่ใจ ขายาวก้าวพรวดๆแค่ 2-3 ก้าวก็เข้าประชิดตัวอีตัวดี มันเอื้อมมือจะดึงย้งมากอดหากแต่ย้งยี้กลับเบี่ยงตัวหนี
“ไม่ต้องมาแตะตัวย้ง ย้งบอกแล้วไงไม่ได้เป็นแฟนไม่มีสิทธิ์จับ”
“จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ยย้ง?”เล้งเอ่ยถามเสียงเรียบ ในหัวและในใจของมันร้อนรนไปหมด
สองวันมันนานเกินไปแล้วสำหรับเกมส์ที่ย้งยี้กำลังเล่นอยู่
“ทำแบบนี้แล้วมีความสุขเหรอ ต้องมาคอยนั่งประชดใส่กันทุกห้านาทีน่ะ เฮียไม่สนุกด้วยนะย้ง”
“แล้วพี่เล้งคิดว่าย้งสนุกเหรอ ย้งก็อึดอัดจะตายแล้วเหมือนกัน”
“ทำไมจะต้องอยากได้สถานะจากปากเฮียวะ ที่ทำอยู่ทุกวันนี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ กูก็มีแค่มึงเนี่ยเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตกูเหมือนกัน”
“ทำไมย้งอยากได้ชื่อเรียกความสัมพันธ์ของเราน่ะเหรอ ก็เพราะเวลามีคนถามว่าเราเป็นอะไรกัน ย้งก็ตอบไม่ได้ไง ถ้าพูดไปเองตามความคิดแล้วพี่เล้งบอกไม่ใช่ ย้งไม่ต้องเก็บเศษหน้าแหลกๆกลับบ้านมานั่งซ่อมหน้าตัวเองเหรอ มันจะยากเย็นอะไรนักหนากับอีแค่บอกมาว่าพี่รู้สึกยังไงกับย้งน่ะ”ย้งยี้เกลียดตัวเองที่พูดไปก็ร้องไห้ไป มือเล็กปาดน้ำตาน้ำมูกป้อยๆอย่างน่าสงสาร เล้งไม่สนใจการดีดดิ้นของย้งยี้มันดีงร่างบางมากอดจนจมอก
“บอกแล้วไง ฮึก...ไม่ได้เป็นอะไรกันห้ามมากอด”มันผลักคนพี่ด้วยแรงเท่าที่มีแต่เล้งกลับยิ่งกอดมันแน่นขึ้น เสียงหัวใจของเล้งดังรัวอย่างน่ากลัว
“กูรักมึง”และแค่ประโยคสามคำสั้นๆที่เล้งพูดออกมาหยุดทุกสิ่ง
เหมือนเวลาหยุดเดิน
เหมือนโลกหยุดหมุน
และเหมือนย้งยี้จะหยุดหายใจแล้วตายไปแล้วเพราะอีตัวดีหยุดดิ้นหยุดร้องหยุดสะอึกสะอื้น มีเพียงใบหน้าที่แหงนมองเล้งอย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก ดวงตากลมจ้องเล้งไม่กระพริบ ริมฝีปากอิ่มอ้าค้างเหมือนปลาทองงับน้ำไม่มีผิด
“กูรักมึง พอใจยัง?”
“พ...พูดอีกทีได้ป่าว?”ย้งยี้ที่เรียกสติตัวเองกลับมาจากนอกโลกเอ่ยขอ เล้งหัวเราะเบาๆยกชายเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาน้ำมูกให้อีตัวดีเหมือนที่ทำมาตั้งแต่เด็ก
ก็รักมาตลอด...รู้ใจตั้งแต่ที่จิวยี่ถามครั้งนั้นแล้ว
เพียงแต่เล้งแคร์สังคมแคร์คนอื่นมากเกินไป จนลืมไปว่าคนที่เขาต้องแคร์ก็คืออีตัวดีในอ้อมกอดนี่เอง
ช่างแม่งสังคมก็แล้วกัน
“ขอโทษนะที่ไม่เคยทำอะไรให้มึงมั่นใจในตัวกูเลยซักครั้ง”เล้งกดจูบลงบนหน้าผากของย้งยี้เบาๆแล้วผละออก
“กูรักมึงมาตั้งนานแล้วมึงก็น่าจะรู้ ไม่งั้นจะคอยดูแลมึงทำไมทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของกูเลยซักนิด”เล้งฝังจมูกลงบนแก้มฟูๆของย้งยี้จนเกิดเสียงดังฟอด มันหัวเราะจนตาหยีเมื่ออีย้งแก้มแดงราวจับไข้ แถมกระพริบตาปริบๆ
“งื้อ...”เมื่อเขินจนพูดไม่ออกย้งยี้ก็เลือกที่จะซบหน้ากับแผงอกของเล้ง มันถูกไถหน้าไปมาอย่างเขินอาย
มันผิดคาด
ย้งยี้ไม่คิดว่าพี่เล้งจะยอมแพ้กับมันเร็วขนาดนี้
ในความคิดของย้งปากแข็งปากหนักแบบนี้อาจจะซักอาทิตย์หรือบางทีอาจจะลากยาวไปเป็นเดือนๆคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่สองวันคำที่ย้งยี้อยากได้ยินมานานหลายปีกลับถูกเปล่งออกมาง่ายๆ
“พรุ่งนี้ไม่ไปได้มั้ย?”เล้งร้องขอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“รับปากเขาไปแล้วว่าจะไป”
“ไม่ให้ไป”เล้งยืนยันคำพูดตัวเองเสียงดู บอกรักก็บอกแล้วย้งยี้ยังจะดื้อ
อยากโดนดีใช่มั้ย?
“ก็นัดเขาไว้ก่อนแล้วนี่นา”อีตัวดีมันเงยหน้าขึ้นมาเถียงทำให้เล้งได้โอกาสประคองใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักไว้ด้วยสองมือ เล้งกระตุกยิ้มก่อนจะกระซิบเสียงพร่าใส่ย้ง
“กูจะทำให้มึงผิดนัดเอง”
“อื้อ..”ย้งยี้ทำท่าจะเถียงแต่เสียงมันก็หยุดอยู่แค่นั้นเมื่อเล้งไม่เปิดโอกาสให้มันได้พูดอีกริมฝีปากออ่มก็ถูกครอบครองบดขยี้จนรู้สึกเจ็บ
จูบของพี่เล้งดุมาก ย้งถึงกับร่างกายอ่อนปวกเปียกจนเล้งดันให้นอนราบลงกับเตียงได้อย่างง่ายดาย เล้งไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย มันกัดริมฝีปากล่างเบาๆอย่างร้องขอให้ย้งยี้เปิดโอกาสให้มันได้เข้าไปชิมความหอมหวานภายใน สอดลิ้นเก็บเกี่ยวอย่างละโมบ หลอกล่อยั่วเย้าเดี๋ยวนุ่มนวลชวนวาบหวามเดี๋ยวดุดันชวนใจสั่นจนร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ย้งยี้ไล้ฝ่ามือขึ้นมาคล้องลำคอของเล้งไว้อย่างลืมตัว
เพราะรักจึงไม่คิดห้ามปล่อยให้เล้งช่วงชิมลมหายใจไปอย่าง่ายๆ เล้งจูบซับหยาดน้ำสีใสที่ไหลเปรอะริมฝีปากจนถึงปลายคาง กดจมูกลงแก้มนุ่มคลอเคลียจนถึงต้นคอขาวหอมกลุ่นกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆคล้ายแป้งเด็กก่อนที่ย้งยี้จะทันคิดอะไรความเจ็บจี๊ดก็แล่นวาบที่ลำคอ เล้งดูดดึงผิวเนื้อเนียนขาวจนขึ้นสีแดงช้ำ เมื่อมองจนพอใจมันก็ผละออก ย้งยี้นอนหายใจหอบระทวยได้แต่ยกปลายนิ้วขึ้นแตะจุดที่โดนดูด
เจ็บแต่กลับรู้สึกดี
เล้งมองภาพอีตัวดีที่แดงก่ำราวลูกพีชแล้วก็พอใจกับผลงานของตัวเอง
มีรอยที่คอแดงเถือกขนาดนั้นดูซิว่าอีตัวดียังจะดื้อดึงไปกับไอ้เด็กหน้าเหมือนสันติสุขนั่นอีกมั้ย
จริงอยู่ที่เล้งไม่ชอบการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของตีตราบนพื้นที่นอกร่มผ้า เล้งรู้สึกว่านั่นเป็นการไม่ให้เกียรติคนที่มันรักแล้วยังเป็นความไม่รับผิดชอบต่อตนเอง
แต่อีย้งมันดื้อดึงเสียเหลือเกิน
ครั้งนี้เล้งยอมแหกกฏของตัวเองตีตราประทับ
ถ้าย้งยังกล้าออกไปข้างนอกอีกก็ต้องนับถือน้ำใจมันล่ะ
“พี่เล้งนิสัยไม่ดี”มันทำเสียงออดใส่
“นิสัยไม่ดีแล้วรักมั้ยล่ะ?”มันเอื้อมมือมากุมมือเล็กที่วางแนบกับที่นอนก่อนจะประสานเอาไว้หลวมๆ
“รักสิ...”ถามอะไรโง่ๆก็รู้อยู่แล้วมั้ยล่ะ
“ถ้ารักก็ฟังกันหน่อยไม่ไปได้มั้ย?”
“ทำไมไม่ให้ไปล่ะแค่ไปซื้อหนังสือเอง อันอันก็ไป”ย้งยี้ยกชื่อของอันดามันขึ้นมาอ้าง มันนัดกับเพื่อนไว้แล้วว่าจะไปซื้อหนังสือเพื่อเตรียมติวสอบ จะมาผิดนัดเพราะพี่เล้งงอแงก็ไม่ใช่ที่ เล้งกระชับมือที่ผสานกับย้งไว้แน่นกว่าเดิมก่อนจะก้มลงไปกระซิบเบาๆแต่ทว่าหนังแน่น
“กูหวงมึง”
จบจ้า...ไม่ไปก็ได้จ้า ยอมเทเพื่อนก็ได้จ้า
ยอมแล้ววววววววว
ย้งยี้จะไปสู้อะไรกับพี่เล้งได้ล่ะจ๊ะ ในที่สุดก็ต้องรับปากว่าจะไม่ไปนั่นแหละพี่เล้งถึงผละออกลุกขึ้นไปอาบน้ำ ย้งทนความตื่นเต้นไม่ไหวรีบต่อสายหาเฮียยี่
“เฮีย...”
ว่าไงอีตัวดีโทรมาทำไมจะดูละคร”จิวยี่บ่นเสียงที่แทรกมาตามสายคือละครเรื่องโปรดที่ม้าชอบดู สงสัยจะดูเป็นเพื่อนม้าจนติดไปอีกคน
“พี่เล้งเขาบอกรักย้งแล้วนะ”มันบอกอย่างอวดๆ
“เฮ้ย จริงดิ่ ทำไมเร็ว?”
“ย้งก็ทำตามที่เฮียบอกเอาโจ้มากระตุ้น วันนี้โจ้แสดงละครสมบทบาทมากพี่เล้งมองตาขวางตลอดเลย”ย้งยี้เล่าเหตุการณ์ในโรงหนังกับในร้านอาหารญี่ปุ่นให้จิวยี่ฟังรวดเดียวจบ ตากลมก็มองประตูห้องน้ำหูก็คอยเงี่ยฟังเสียงน้ำด้านในไปด้วย
“แล้วไงต่อ”
“กลับมาถึงบ้านพี่เล้งหงุดหงิดก็ทะเลาะกันนิดหน่อย ย้งเลยร้องไห้แล้วความในใจมันก็ไหลออกมา พี่เล้งเลยบอกว่าพี่เล้งก็รักย้ง...งื้อพูดแล้วเขิน”มันคุดหน้ากับหมอนกลั้นเสียงงื้อๆของมันจนจิวยี่เบะปาก
ดัดจริตนัก
“เฮียยี่แค่นี้ก่อนนะ เหมือนเสียงน้ำจะเงียบไปแล้ว เฮียสบายใจได้เลยนะยังไงน้องเขยของเฮียก็คือพี่เล้งไม่เปลี่ยนแน่ๆ”ย้งยี้สูงเสียงจุ๊บใส่โทรศัพท์ก่อนกดวางสายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเล้งเปิดประตูห้องน้ำออกมา
ย้งมองเล้งที่นุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวมีหยดน้ำเกาะพราวด้วยด้วงตาส่องประกายม๊อบแม๊บ
เนี่ย
พอปรับความเข้าใจกับพี่เล้งได้ปุ๊บ ย้งยี้คนเดิมก็กลับมาปั๊บ
นั่นอะไรน่ะ
ซิกแพ็คหรือขนมปังปลาจ๊ะ
ทำไมมันช่างเป็นแผงเป็นลอนขนาดนี้
ขอหนูจับขอหนูทัชซักทีแล้วจะเพิ่มเวลาเรียนลดเวลาแรดเพื่อพี่เล้งเลยนะจ๊ะ
“จะจ้องกูอีกนานมั้ย อีกนิดสายตามึงจะกระตุกผ้าขนหนูของกูแล้วนะ”เล้งส่งเสียงเอ็ดเมื่อสายตาซุกซนของอีย้งมันไล่ต่ำลงเรื่อยๆ จะไม่อะไรเลยถ้าอีย้งไม่เสือกแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนเอง
เดี๋ยวเจอปืนใหญ่ดันผ้าขึ้นมาจะแรดไม่ออก
“ไปอาบน้ำได้แล้ว ตัวเหม็น”มันว่าอีตัวดีที่นั่งบิด ย้งชักสีหน้าทันที
“เหม็นเหมินอะไร ถ้แหม็นเมื่อกี้มาไซร้ซอกคอย้งทำไม?”
“ก็เพราะเหม็นไงเลยดมได้แค่คอ”เล้งเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“นิสัยไม่ดี”มันด่ากลับก่อนจะเดินมาเปิดตู้หยิบผ้าขนหนูและชุดนอนมาเตรียม ย้งหยุดมองหน้าเล้งอย่างท้าทาย
“วันไหนหอมทั้งตัวขึ้นมาจะให้นั่งมองอย่างเดียวจำไว้”มันพูดจบก็ยื่นมือมาด้วยความเร็วแสงกระตุกผ้าขนหนูเล้งปึดเดียวผ้าที่คลุมท่อนล่างของเล้งก็หยุดติดมือมันไป อีตัวดีหัวเราะก๊ากปิดประตูห้องน้ำหนีเขาในทันที
เล้งส่ายหน้ากับความกวนตีนนี้ เขาไม่ได้รู้สึกอายอะไรก็แค่เดินไปแต่งตัวเตรียมนอน เล้งมองโทรศัพท์ที่ย้งวางไว้ฉุกคิดบางอย่าง มันปลดล็อคหน้าจอของย้งด้วยรหัสที่คุ้นเคย
อีย้งน่ะมันตั้งรหัสทุกอย่างเป็นวันเดือนปีเกิดเขาแล้วตั้งรหัสทุกอย่างของเล้งเป็นวันเดือนปีเกิดมัน เล้งกดดูประวัติการโทรก่อนจะยิ้มเมื่อเจอชื่อจิวยี่ที่เพิ่งวางสายไปเมื่อนาทีก่อน ไวเท่าความคิดเล้งกดโทรออกไปหาจิวยี่ รอสายไม่นานจิวยี่ก็รับ
อะไรอีกอีย้งเฮียบอกว่าจะดูละคร”
“ไอ้ยี่ ไอ้เหี้ยคราวหน้าขอให้รถเหยียบปากมึง!!” เล้งด่าจบก็ไม่รอคำตอบของจิวยี่มันกดตัดสายทันที
สมน้ำหน้า ยุยงดีนักไอ้มิตรทรยศ เห็นน้องดีกว่าเพื่อน!!!
................................
ดราเมิงดราม่าอาร๊ายยยยยยยยย
ไม่มี!!!