say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ ครั้งที่ | “3”❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖
“ขาซ้ายต้องก้าวมาข้างหน้าอีกหน่อย หันมาด้านหน้าด้วยตอนนี้เราเอียงไปด้านข้างนะ ก้าวเท้าซ้ายมาหน้าอัด ยกเท้าขวาเตะเท้ามาข้างหน้า ใช่... แบบนั้นแหละ มือขวาถือขวานแตะเอาไว้ที่เหนือเข่า” เสียงของหินผาดังขึ้นภายในห้องสตูดิโอที่สายน้ำมักมาใช้ในการซ้อมรำสำหรับการประกวดดาวเดือนที่กำลังจะมาถึง
“ครับ” สายน้ำรับคำพลางตั้งสมาธิกับการซ้อมรำให้มากขึ้น แต่สติของเขาก็มักจะกระเจิงทุกที
“วงอย่าตกสิ ขึ้นมาอีก ระดับนี้” หินผาเดินเข้าไปใกล้ จับมือและแขนของสายน้ำให้ยกขึ้นเพื่อให้ตั้งวงได้ในระดับที่เหมาะสม
“ครับผม”
“ท่านี้ไม่ต้องหันมาทั้งตัวแบบนั้น หันมาแค่หน้าพอ ท่าต่อไปถึงได้บิดตัวมา” เปลี่ยนจากจับแขนเป็นจับไหล่แล้วดันตัวสายน้ำให้หมุนตามมือ “วันนี้เราดูไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่เลยนะ”
สายน้ำถอนหายใจเบา ๆ ปล่อยแขนที่กำลังตั้งวงอยู่ในตกลงข้างลำตัว “นิดหน่อยครับ คงเพราะว่าวันนี้เหนื่อย ๆ ด้วย เลยทำให้ไม่มีสมาธิ”
“อย่างนั้นพักก่อนเถอะ”
“ครับ” สายน้ำเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าที่วางอยู่ข้างกระเป๋ามายกดื่ม ทิ้งตัวลงนั่งพิงกับผนังห้อง เหยียดขายาวเพราะรู้สึกปวดขาจากการย่อยกอยู่หลายครั้ง
“แล้วซ้อมของส่วนกลางเป็นยังไงบ้าง” หินผาตามมานั่งลงใกล้ ๆ กันพลางเอ่ยถาม
“ก็โอเคครับ ช่วงนี้พี่ ๆ เขาไม่ได้ซ้อมหนักเท่าไหร่เพราะให้เวลาพวกผมซ้อมการแสดงความสามารถพิเศษแทน แต่เดี๋ยวใกล้ ๆ ประกวดก็จะเรียกซ้อมอีกครับ” สายน้ำตอบคำถาม
“ก็ดีแล้วล่ะ ยังไงก็อย่าทิ้งเรื่องเรียนล่ะเข้าใจไหม”
คนถูกถามพยักหน้าหงึกหงัก “ครับ ผมไม่ทิ้งการเรียนแน่นอนครับ”
“ดีแล้วล่ะ แล้ววันนี้น้ำรินไม่มาซ้อมด้วยกันเหรอ” ถามไปถึงรุ่นน้องที่เป็นดาวคณะอีกคนที่วันนี้ยังไม่เห็นมาที่ห้องซ้อมเลย
“น้ำรินติดไปทำธุระกับที่บ้านครับเลยไม่ได้มา แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมนัดกับน้ำรินจะมาซ้อมกันตั้งแต่ตอนเช้าเพราะไม่มีเรียน”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ วันนี้เราก็ซ้อมอีกหน่อยแล้วกัน ไม่ต้องดึกมากจะได้ไปพักเยอะ ๆ พรุ่งนี้ค่อยซ้อมใหม่ ดูท่าจะไม่ค่อยมีสมาธิเลย เรียนเหนื่อยล่ะสิ” หินผาใช้นิ้วเคาะหน้าผากของรุ่นน้องปีหนึ่งเบา ๆ พลางหัวเราะ
สายน้ำยิ้ม หัวเราะรับคำพูดนั้นเพราะเขาก็ไม่มีสมาธิจริง ๆ แต่ไม่ใช่ว่าเขาเหนื่อยจากการเรียน หรือการซ้อมของส่วนกลาง แต่เขาไม่มีสมาธิก็เพราะคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นี่ต่างหาก
วันนี้เป็นวันที่สายน้ำอยากจะแยกร่างตัวเองออกมาเป็นอีกคนแล้วสั่งสอนเสียหน่อยที่ไม่มีสมาธิและหลุดอาการบ่อยเสียเหลือเกิน ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าอยู่ ๆ ก็โดนเพื่อนจับได้ว่าเขาแอบชอบใคร พอคนที่แอบชอบมาอยู่ใกล้ ๆ ก็เลยพลอยทำให้ตื่นเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วสายน้ำสามารถเก็บอาการและความรู้สึกได้ดี
แต่วันนี้เขาหลุดอาการบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่อีกคนเดินเข้ามาใกล้ จับแขน จับไหล่เขาเพื่อจัดท่าทางการรำ โชคดีที่คนพี่สนใจแต่การสอนเลยไม่ทันได้สังเกตเท่าไหร่ พอสายน้ำตอบไปว่าเพราะเหนื่อยเลยไม่มีสมาธิ ก็เชื่อเสียสนิทใจ
“ขอบคุณพี่หินผานะครับที่มาช่วยดูผมซ้อมเป็นประจำเลย” สายน้ำพูด โดยพยายามที่จะไม่มองหน้าคนเป็นพี่เพราะกลัวว่าหัวใจของตัวเองจะเต้นแรงไปมากกว่านี้
“ไม่เป็นอะไรหรอก มีอะไรก็ถามพี่ได้ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน จริง ๆ ไม่ใช่แค่พี่หรอก รุ่นพี่ทุกคนก็ถามได้หมดนั่นแหละนะ”
“ครับ ขอบคุณนะครับ ผมจะตั้งใจให้เต็มที่เลย” ทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่หากสาว ๆ เห็นคนตกหลุมรักสายน้ำได้ไม่ยาก
“พร้อมจะซ้อมต่อหรือยัง ทวนท่าอีกสักรอบก็พอแล้วล่ะวันนี้” หินผาลุกขึ้นยืน เห็นแบบนั้นสายน้ำเลยลุกขึ้นตาม “พี่ว่าเราจำท่าได้หมด ให้รำคู่กับน้ำรินเลยก็คงได้ เพราะเก่งทั้งคู่ เก่งกว่าคนมาช่วยสอนอย่างพี่อีกมั้ง”
“ไม่หรอกครับ”
สายน้ำเริ่มซ้อมรำอีกรอบ คราวนี้เขามีสมาธิมากกว่าเดิมทำให้แทบไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลย ทำได้ดีจนหินผาปรบมือให้หลังจากสายน้ำวางมือทั้งสองข้างลงข้างลำตัว
“เยี่ยมเลย รอบนี้ดีมากเลยนะไม่มีผิดเลย นั่งพักก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยกลับห้อง”
สายน้ำพยักหน้ารับกับคำพูดของหินผา เจ้าตัวนั่งพิงผนังแม้การซ้อมรำจะไม่ได้ทำให้เหนื่อยหรือหอบจนเหงื่อยออกท่วมตัว แต่ก็ทำให้ปวดแขนปวดขากับท่าทางที่ใช้ในการรำไม่ใช่น้อย แม้จะเริ่มชินแต่แขนทั้งสองข้างก็ยังมีอาการปวดบ้างจนต้องบีบนวดให้รู้สึกดีขึ้น
“ว่าแต่เราเคยเรียนรำมาก่อนเหรอ” หินผาชวนคุย
“ใช่ครับ ตอนเด็ก ๆ น่ะครับ”
“หือ... เรียนที่ต่างประเทศน่ะเหรอ” หินผาถาม เขาเหมือนจะเคยได้ยินรุ่นน้องปีสองปีสามคุยกันว่าสายน้ำเพิ่งจะย้ายมาจากต่างประเทศ
“ออ... เปล่าครับ ตอนก่อนที่ผมจะย้ายไปต่างประเทศ ผมเคยเรียนตอนเด็ก ๆ ตอนอยู่ต่างประเทศก็มีโอกาสได้รำบ้าง พวกงานแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมอะไรพวกนี้น่ะครับ แต่ก็ไม่บ่อย” สายน้ำตอบคำถามของหินผา
นั่งพักกันอยู่ไม่นานคนเป็นพี่ก็เอ่ยชวนให้กลับไปพัก ซึ่งก่อนจะแยกย้ายก็แวะกินข้าวที่ร้านแถวหน้ามหาวิทยาลัยกันก่อน สายน้ำได้รู้เรื่องการเรียนในคณะเพิ่มมากขึ้น ได้คำแนะนำในการทำงาน ในการแบ่งเวลาจากคนเป็นรุ่นพี่
“รุ่นพี่ปีสองบอกว่าปีหนึ่งมีทำงานร่วมกับพี่ปีสีด้วยเหรอครับ” สายน้ำถามพลางหยิบแก้วน้ำแดงมาใกล้ตัว
“ใช่ เดี๋ยวเทอมสองพวกเราปีหนึ่งก็จะได้ทำงานกับปีสี่” หินผาตอบคำถามของสายน้ำ “เป็นโปรเจคที่มีมาหลายปีแล้วล่ะ ปีหนึ่งจะได้เริ่มออกแบบบ้านครั้งแรก ทำตามโจทย์ที่ปีสี่เตรียมเอาไว้ให้ เป็นของวิชาออกแบบ ส่วนปีสี่จะวางผังเมือง ผังชุมชนอะไรพวกนี้แหละ เป็นวิชาวางผังเมือง”
“ยากไหมครับ”
“ก็ไม่ยากเท่าไหร่นะ ตอนที่พี่อยู่ปีหนึ่งก็ทำ สนุกดีได้เที่ยว ได้ลงชุมชนด้วย” หินผาพูดไปก็ดึงจานข้าวของน้องมาใกล้ ๆ พร้อมกับตักข้าวที่โดนน้ำแกงของผัดพริกแกงในจานของรุ่นน้องมาใส่จานตัวเอง แล้วตักข้าวสวยร้อน ๆ ที่ไม่โดนน้ำแกงในจานตัวเองไปใส่จานของสายน้ำแทน “กินเผ็ดไม่ค่อยจะได้ก็ยังจะสั่งผัดพริกแกงอีกนะเรา”
“ขอบคุณครับ ก็ผมชอบ... ร้านนี้ทำอร่อยถึงจะเผ็ดเกินไปสำหรับผมก็เถอะ” สายน้ำเอ่ยขอบคุณ หลายครั้งที่พวกเขาได้มีโอกาสมากินข้าวด้วยกันหลังเลิกซ้อม และเพราะไม่รู้จักสั่งอะไรเลยสั่งเมนูผัดพริกแกงตามคนพี่ รสชาติอร่อยถูกปากแต่เผ็ดเกินไป หินผาเลยแบ่งข้าวส่วนที่ไม่เผ็ดของตัวเองให้ และตักของสายน้ำมาแทน
และพอครั้งต่อ ๆ มาที่มากินข้าวด้วยกันก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้าวกันแบบนี้เสมอ
“แล้วตอนพวกพี่อยู่ปีหนึ่ง ไปไหนกันเหรอครับ”
“ไปกระบี่น่ะ ที่เกาะลันตา ที่ไปกันก็เพื่อนในกลุ่มแล้วก็รุ่นพี่ที่เราอยู่ด้วย ไปกันเองอาจารย์ไม่ได้ไปคุมด้วย ยกเว้นบางกลุ่มน่ะนะที่อาจารย์ไป” หินผาพูด “เดี๋ยวตอนก่อนปิดเทอมหนึ่งอาจารย์เขาก็จะเรียกคุยเองแหละ ให้จับกลุ่มกันก่อนปิดเทอม เพราะเราจะไปลงชุมชนกันตอนช่วงปิดเทอม เปิดเทอมมาก็เริ่มทำงานเลย”
“ถ้าได้อยู่กลุ่มเดียวกับพี่ก็คงดีสิครับ” สายน้ำเผลอพูดไปอย่างที่ใจคิดก่อนจะตาโตขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไป “อ่า... คือแบบว่า...”
“ก็ได้นะ พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ตอนอาจารย์ให้เลือกรุ่นพี่ก็รีบมาลงชื่อกลุ่มพี่สิ จะได้อยู่ด้วยกันไง” หินผายิ้มรับอย่างใจดี ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเรื่องอยู่กลุ่มกับรุ่นน้อง ดีเสียอีกอยู่กับกลุ่มรุ่นน้องที่สนิทกัน “ทำงานจะได้คุยกันง่าย ๆ เพราะพวกเราก็สนิทกัน”
“ครับ... เอาไว้ผมจะคุยกับเพื่อน ๆ ดู”
หลังจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาใด ๆ ต่อ ต่างฝ่ายต่างลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างจริงจัง นั่งพักสักหน่อยหลังจากกินเสร็จก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปพักเพราะที่พักของพวกเขาอยู่คนละทางกัน สายน้ำยกมือไหว้รุ่นพี่เป็นการลาก่อนจะเดินไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดที่หน้าป้ายพอดี เขาเลือกเดินไปนั่งที่เบาะหลังสุดและหันไปมองทางกระจกหลัง
เพื่อมองใครอีกคนเดินไปอีกทางจนแผ่นหลังของหินผาลับสายตาไปแล้วนั่นแหละ เขาถึงได้หันกลับมา ก่อนที่สายตาจะหันเหความสนใจไปที่แก้วน้ำแดงในมือที่เขาหิ้วติดมือกลับมาด้วยเพราะยังกินไม่หมด จริง ๆ แล้วมันพร่องไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น เหลืออยู่เกือบเต็มแก้วเลย
ทุกคนที่มากินข้าวกับหินผา รุ่นพี่คนนี้ก็มักจะซื้อน้ำแดงให้เขากิน คงเข้าใจไปแล้วว่าเขาชอบกินน้ำแดงชงนี้
สายน้ำไม่ได้ชอบน้ำแดงชง แต่เพราะคนให้ ที่ทำให้สายน้ำชอบแก้วน้ำแดงถูกแช่เอาไว้ในตู้เย็น น้ำแข็งละลายไปบ้างแต่สายน้ำก็ไม่สนใจว่าน้ำแข็งที่ละลายนั้นทำให้น้ำแดงเสียรสชาติไป มันไม่ได้สำคัญเลย เพราะสิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือใครเป็นคนซื้อน้ำแก้วนี้ให้ต่างหาก
เจ้าของห้องเดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาในชุดพร้อมนอน มือทั้งสองข้างใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมที่เปียกชื้นของตัวเองก่อนจะเอาไปตากเอาไว้ที่ระเบียง เดินไปหยิบน้ำแดงที่แช่อยู่ในตู้เย็นออกมาแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์
แก้วพลาสติกทรงสูงจัดวาดบนถาดไม้กลม ๆ ก่อนจะตามมาด้วยโหลแก้วใบเล็ก ๆ ที่จัดสวนเอาไว้มาวางเยื้องไปทางด้านหลัง หยิบโทรศัพท์มาเปิดโหมดกล้องแล้วหามุมถ่ายภาพของแก้วน้ำแดง เอารูปที่ถ่ายได้เข้าไปแต่งสีแต่งแสงอีกหน่อย น้ำในแก้วพลาสติกราคายี่สิบบาทก็ดูดีขึ้นมามากเลยทีเดียว
สายน้ำโพสต์ภาพนั้นลงเฟซบุ๊ก แคปชั่นมีเพียงรูปอีโมจิแก้วน้ำอย่างเดียวเท่านั้น คงเพราะแบบนี้หินผาเลยเข้าใจว่าสายน้ำชอบน้ำแดง เพราะทุกครั้งเจ้าตัวจะต้องเอาแก้วน้ำนั้นมาจัดพร็อพถ่ายรูปทุกครั้ง พอลงรูปเสร็จเจ้าตัวก็เอาแต่นั่งมองแก้วน้ำนั้นแล้วยิ้มออกมา
การได้อยู่ใกล้หินผาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการที่เขาจะมายืนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ ในคณะเดียวกันนี้ เพราะไปอยู่ต่างประเทศมาหลายปี รูปแบบการเรียนการสอนของที่ประเทศไทยก็แตกต่างกัน เขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาอยู่ที่นี่
หรือไม่ว่าจะเป็นการที่เขาได้ใกล้ชิดในตอนที่อีกฝ่ายมาสอนรำ เพราะเขาต้องทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ทำตัวตื่นเต้นเกินกว่าเหตุ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วใจของเขากำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงเพราะได้ใกล้ชิดคนที่แอบรักมาตลอดหลายปี
และสายน้ำมั่นใจว่าความรู้สึกของเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไป
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดที่จะทำอะไร การได้แอบรัก การได้มาอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ก็เกินกว่าที่คิดเอาไว้แล้ว เขาไม่อยากให้ความรู้สึกในใจของเขามาทำลายความรู้สึก และความสัมพันธ์ดี ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้พังลง ถ้าหากว่าหินผารู้ว่าเขาแอบรักแอบชอบ ด้วยสินัยของอีกฝ่ายคงไม่ใจร้ายตัดรอนความสัมพันธ์ อีกฝ่ายคงไม่หนีหรือถอยห่าง แต่ระหว่างพวกเขาจะต้องมีแต่ความอึดอัด ผลสุดท้ายแล้วก็คงไม่มีใครทนความอึดอัดนั้นได้ และต้องถอยห่างออกไป
สายน้ำไม่อยากจะคิดถึงช่วงเวลานั้นเลย ช่วงเวลาที่หินผาค่อย ๆ ถอยห่างจากเขาไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน
ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงจะรู้สึกเจ็บปวดมาก และเขาคงทนไม่ได้ การได้แอบชอบ แอบรักอยู่แบบนี้เขาว่ามันดีที่สุดแล้ว
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเรียกความสนใจของสายน้ำที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ให้กลับมาที่โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว ทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ต่างเข้ามากดถูกใจแล้วก็คอมเมนต์ใต้ภาพที่เขาเพิ่งจะโพสต์ไป เห็นแบบนั้นสายน้ำเลยเข้าไปตอบกลับคอมเมนต์ของแต่ละคน จนมาสะดุดอยู่ที่คอมเมนต์หนึ่ง คอมเมนต์ของคนที่ซื้อน้ำแก้วนั้นให้
HinnPaa ไม่รีบกินเดี๋ยวก็ละลายหมดอร่อยได้แต่เม้มปากเพื่อที่จะกลั้นรอยยิ้มของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย บนใบหน้าหล่อเหลานั้นเผยรอยยิ้มกว้างอย่างเด็กน้อยที่กำลังดีใจเวลาได้เจอของรักของหวง
ปลายนิ้วเลื่อนไปกดถูกใจที่คอมเมนต์นั้น ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
SAINAM karp ละลายแล้วก็ยังอร่อยอยู่ครับสายน้ำมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้รอคอมเมนต์จากอีกฝ่าย แต่มือข้างที่ถือโทรศัพท์ก็ขยันแตะที่หน้าจอเพื่อดูว่ามีการแจ้งเตือนเข้ามาอีกหรือเปล่า ส่วนมืออีกข้างก็ถือแก้วน้ำแดงเอาไว้ น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วแต่รสชาติสำหรับสายน้ำก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้จืดลงจนไม่อร่อย
HinnPaa พูดแบบนี้ค่อยน่าซื้อให้กินหน่อยอีกหลายประโยค หลายคอมเมนต์ที่เขากับหินผาพิมพ์โต้ตอบกัน จนกระทั่งอีกฝ่ายพิมพ์มาอีกรอบเพื่อไล่ให้เขาไปพักผ่อน
HinnPaa ไปนอนได้แล้วมั้ง มัวแต่เล่นโทรศัพท์นะเราน่ะสายน้ำตอบกลับไปสั้น ๆ ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงหยิบแก้วน้ำที่กินน้ำหมดแล้วไปยังบริเวณเคาน์เตอร์ครัว เขาจัดการล้างแก้วให้สะอาดแล้ววางคว่ำเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังตู้แขวนเหนือเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งภายในตู้นั้นมีแก้วพลาสติกแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งล้างเก็บเอาไว้อยู่ รู้ว่าเก็บเอาไว้ก็คงไม่ได้เอามาใช้ทำอะไร แต่ให้ทำใจทิ้ง... ก็ทิ้งไม่ลง พอดีกับที่ตู้มันว่างสายน้ำเลยเก็บแก้วพลาสติกที่เคยใส่น้ำแดงที่หินผาซื้อให้เอาไว้ในนั้น
ก็แค่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีคุณค่าต่อจิตใจของสายน้ำก็เท่านั้น
สายน้ำละสายตาจากตู้ที่ว่าก่อนจะรีบตรงไปยังโซฟาเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงร้องเนื่องจากมีคนโทรเข้ามา เจ้าตัวยิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่าใครวีดิโอคอลมาหา เขากดรับก่อนที่ภาพบนหน้าจอโทรศัพท์จะปรากฏขึ้น เป็นผู้หญิงที่แม้จะเริ่มมีอายุแล้วแต่ก็ยังเห็นความสวยงามบนใบหน้านั้นได้
“แม่... สวัสดีครับ”
[จ้าลูก ยังไม่นอนใช่ไหม แม่โทรมากวนหรือเปล่า] อีกฝ่ายถามกลับมา
“ไม่กวนครับ น้ำยังไม่นอน ว่าแต่แม่จะออกไปไหนครับเนี่ย แด๊ดจะพาไปข้างนอกเหรอ” สายน้ำถามเมื่อสังเกตเห็นว่าแม่ของเขาแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ
[ใช่จ๊ะ วันนี้เรียนกับซ้อมรำเป็นยังไงบ้าง]
แม่ของสายน้ำรู้ว่าเขาได้เป็นเดือนคณะแล้วก็จะใช้การรำในการแสดงความสามารถพิเศษ “ก็ดีครับ ทั้งเรื่องสองเรื่อย”
[ดีแล้วล่ะลูก ตั้งใจเรียน รวมถึงกิจกรรมด้วยนะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ เนอะ]
“ครับ”
[แล้วเรื่องพี่เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ ไม่เห็นอัปเดทอะไรให้แม่ฟังเลย แด๊ดเขาก็อยากรู้นะ]
“แม่ครับ...” สายน้ำเรียกแม่ตัวเองเสียงยาวเมื่อเห็นใบหน้ายิ้ม ๆ ของคนเป็นแม่ “ไม่มีอะไรหรอกครับ ไม่มีอะไรอัปเดทเลย น้ำก็แค่เจอกับพี่เขาเพราะพี่เขามาช่วยสอนรำก็แค่นั้นเอง”
[หือ... เดี๋ยวนี้ลูกแม่ต้องให้พี่เขาสอนรำแล้วเหรอ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้นี่นะ นี่ลูกแม่แกล้งรำไม่เป็นให้พี่เขาสอนหรือเปล่า]
“แม่” สายน้ำเรียก ใบหน้าขาว ๆ ของเขาเริ่มขึ้นสีแดงเพราะเขินกับคำพูดของแม่ “น้ำไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นสักหน่อยครับ ก็น้ำไม่ได้รำนานแล้วเลยลืม ๆ ท่าไปบ้าง ไม่ได้ทำแบบที่แม่ว่าเลย”
[เหรอ... น่าเสียดายจัง ลูกน่าจะแกล้งรำไม่เป็นให้พี่เขาสอนเยอะ ๆ นะ]
“ได้ที่ไหนล่ะครับ แม่ก็... เลิกพูดเรื่องนี้เถอะครับ”
คนที่อยู่กันคนละประเทศหัวเราะเมื่อเห็นหน้าแดง ๆ ของลูกชายผ่านจอโทรศัพท์ [โอเค แม่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ เอาไว้ส่งรูปพี่เขามาให้แม่ดูบ้างสิ แม่อยากรู้ว่ายังหล่อเหมือนเดิมไหม]
“หล่อขึ้นกว่าเดิมอีกครับ พี่เขาดังมาก ๆ เลยในหมู่สาว ๆ เพื่อนในคณะน้ำก็พูดถึงพี่เขาประจำ”
[คู่แข่งลูกแม่เลยเยอะเลยสินะเนี่ย]
“น้ำไม่ได้จะจีบพี่เขาสักหน่อย” สายน้ำว่า “แต่เดี๋ยวครับ ทำไมวกกลับมาเรื่องพี่เขาอีกแล้วล่ะ แม่นี่ล่ะก็”
อีกฝ่ายยิ้มให้ลูกชาย สายตาของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ารักลูกชายคนนี้มากแค่ไหน [ก็แม่ชอบมองหน้าน้ำตอนพูดถึงพี่เขา สายน้ำของแม่ดูมีความสุขมาก ๆ ทั้งรอยยิ้ม ทั้งแววตา แม่รู้เลยว่าลูกรักพี่เขามากแค่ไหน]
สายน้ำรู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนมาก ๆ และมันต้องแดงมากเช่นกันเพราะแม่ของเขายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก เขารู้สึกร้อนที่แก้มมากจนต้องยกมือข้างที่ว่างปิดหน้าตัวเองเอาไว้
[ลูกชายแม่นี่น่ารักจริง ๆ เลยนะ]
“แม่ครับ... เลิกแกล้งน้ำเถอะ”
ปลายสายหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินลูกชายพูด [โอเค ๆ แม่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ที่นู้นน่าจะห้าทุ่มกว่าแล้วสิ อย่างนั้นไปนอนเถอะลูก เอาไว้แม่จะโทรฯ หาใหม่นะ]
“ครับแม่ วันนี้เที่ยวให้สนุกนะครับ น้ำคิดถึงแม่นะ ฝากบอกแด๊ดด้วยว่าน้ำคิดถึง”
[ครับลูก เอาไว้แม่กับแด๊ดจะไปหาลูกนะครับ ฝันดีนะสายน้ำ]
“ครับแม่”
สายถูกตัดไปแล้ว แต่รอยยิ้มของสายน้ำตอนที่ได้คุยกับแม่ยังไม่หายไปไหน การที่ต้องมาอยู่ประเทศไทยคนเดียวแบบนี้ก็อดที่จะคิดถึงกอดของแม่ ตักของแม่ไม่ได้ ถ้าแม่อยู่ใกล้ ๆ เขาคงขอนอนตักจนหลับไปแล้ว แต่เพราะว่าอยู่ไกลกันแม่ของเขาเลยโทรมาหาบ่อย ๆ เพื่อที่จะได้คุยกัน และหวังว่าให้ความคิดถึงมันไม่ทำงานหนักจนเกินไป
แต่พอนึกถึงเรื่องที่แม่พูดก็อดที่จะหน้าแดงอีกรอบไม่ได้ แม่และแด๊ด หรือก็คือสามีใหม่ของแม่รู้มาตลอดเรื่องที่เขาแอบชอบหินผา เขาไม่เคยปิดบัง ตั้งแต่วันที่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเขาก็เดินเข้าไปหาพวกท่านทั้งสองคนและเล่าทุกอย่างให้ฟัง แน่นอนว่าตอนได้ยินพวกท่านก็พากันตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะชอบจะรักคนเพศเดียวกัน
แล้วก็เป็นโชคดีของเขาที่แม่ของเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่ แม้จะตกใจแต่ก็ยอมรับได้ รับฟังและให้ความปรึกษา คำแนะนำกับเขามาตลอด แม่กับแด๊ดรู้ว่าที่เขาเลือกมาเรียนที่นี่เพราะอะไร พวกท่านไม่ได้ขัดหรือเอ่ยห้ามไม่ให้ผมมา อีกทั้งยังช่วยเรื่องการเดินทาง การหาที่พักให้
“ไปทำตามหัวใจของลูก แม่กับแด๊ดไม่ห้าม ไม่ขัดขวางเพราะรู้ว่าเรื่องความรัก เรื่องหัวใจมันห้ามกันยาก แต่น้ำสัญญากับแม่แค่อย่างเดียว ว่าจะไม่ให้ความรักของลูกที่มี มาทำลายอนาคตของลูกเอง”
“แล้วถ้าวันหนึ่งรู้สึกว่าอยู่ไม่ไหว โทรหาแด๊ด แด๊ดจะไปรับกลับมาเอง เข้าใจไหม”นั่นคือคำพูดของแม่กับแด๊ดที่พูดกับเขาตอนที่มาส่งเขาที่สนามบิน เขาได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณที่ทั้งคู่เข้าใจเขา และสายน้ำก็เอ่ยสัญญากับแม่เอาไว้ ว่าเขาจะไม่ให้หัวใจ ไม่ให้ความรักมาทำร้ายอนาคตของเขาแน่นอน
❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖
มาอัปแล้วจ้า วันนี้พาน้องน้ำมาหา พี่หินติดธุระเลยออกมาได้นิดเดียว
ต้องเขาใจพี่เขาหน่อยนะ 55555
เริ่มเปิดเผยความรู้สึกของน้องทีละนิดแล้วจ้า แต่ยังไม่ทั้งหมดนะ
เอาไว้ฟางจะค่อย ๆ เปิดเผยกันไปจ้า
คือน้องน่ารัก น้องเขินด้วยตอนคุยกับแม่
ซึ่งน้องก็โชคดีจริง ๆ นะที่มีแม่ที่เข้าใจแบบนี้
แต่อุตส่าห์ได้มาเจอพี่แล้วทั้งที น้องจะไม่จีบพี่จริง ๆ เหรอเนี่ย...
เอาไว้รออ่านต่อไปดีกว่าเนอะ 5555
เจอกันคราวหน้านะคะ
ขอบคุณค่ะ
#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ