[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267195 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เจนภพ ชั้นเชื่อใจนายได้ไหม โอ้ยยย ครึ่งแรกยิ้มตาปิด ครึ่งหลังจะล้ม  :hao5:

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เราว่าป้านิ่มนี่คือแม่เจนภพป่าว เดาๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
นายพิษจะเป็นไงบ้างนะ คงโดนขังอยู่แน่ ๆ เลย

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณพิษเป็นยังไงบ้านคะะะะะ
เปิดมาหวานกุ๊กกิ๊กกันให้ชื่นใจ แล้วลงจบพาร์ท อย่างที่ยังไงอยากให้จบเลยค่ะ  :ling1:
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ยังไงก็ได้.. นายพิช อย่าตายก็พอ.. ไม่อยากให้บู้บี้เสียใจแล้ววว..

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
มันสะสมมานานเกินไปหรอ เจนภพ ถึงกับต้องฆ่ากันเลย
ฌาณไม่ตาย แต่เจ็บหนัก ไม่งั้นก็ถูกจับตัวขังไว้
เจนภพต้องตอบแทนใครอีกหรอกับเรื่องนี้ ถึงมาหาฌาณตามนัด

เอ็นดู ร้ายนะเรา แหมม ทำเนียนมาก ดีมากค่ะ
หลอกมาหลอกกลับ ไม่โกง ใช่ไหม อัยย์
พิชญ์ฌาณถึงกับอยู่ไม่ได้ ต้องรีบแสดงตัวกันเลยจ้า

นิลลาดูลึกลับ จะช่วยฌาณกับอัยย์จริงใช่ไหม

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ในเมื่อพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ตาย  เจนรบแกจะเครียดเก็บกดอะไรนักหนาห๊า
ยังจะพาคนมารุมยิงพี่ชายแกอีก   นี่เดาว่าคนที่พามาด้วยน่าจะเป็นคนของพิษ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอให้คุณฌานปลอดภัยนะะ
เจนภพนี่ดูไม่ออกละจะดีจะร้าย  :katai1:

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
นิลลาทางเราจะระแวงเธอแล้วนะ !!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เป็นห่วงคุณพิชญ์ฌาณ :ling1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เดาความคิดของเจนภพกับนิลลาไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew5:  เจนภพนายอีกแล้วหรอ มีอะไรให้หักมุมตลอเลย ว่าแต่ตอนนี้คุณพิษยังไม่จนมุมนานเจนใช่ไหม แล้วนิลลานี่คือที่มาที่ไปเป็นคนยังงัยกันนะ แอบขอเชื่อใจนิลลาเหมือนที่บู้บี้เชือได้ไหม ..​หรือเราจะต้องผิดหวังเหมือนที่เชื่อใจเจนภพอีกแล้วนะ

ลุ้นตอนต่อไปปปป :call:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
สรุปทั้งเรื่อง

มีคนดีแค่

อคิราห์กับอคิน แค่นั้นที่เป็นคนดี

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เรื่องนี้เดายากมากกก พลิกโผกันทุกตอนเลย

เจนภพจะทรยศพิษฌาณจริงๆหรอ แงง

โกรธพ่อแต่อย่าโกรธพี่ชายเลยนะ

คิดว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ ยังมีปมอีกหลายปมต้องแก้
รอติดตามค่ะ  :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 876
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :katai1:  :katai1: เจ้าบู้บี้สู้ๆ นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮึ่ยโดนบู้บี้หลอกใจหายใจคว่ำหมด  เจนภพอีกแล้วนะทำอะไรคุณพิชช์อี๊กกก แล้วนิลนี่ทำไมต้องพูดให้น้องอัยย์ระแวงด้วย เดาทางไม่ถูกเลย

ออฟไลน์ NormalVee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องนี้ตัวละครซับซ้อนสุดใจไปเลยค่ะ น่าติดตามมาก

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
รอค่้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ลุ้นทุกตอนเลยอะ

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 36

 

 



 

 

         “ผมมาแล้ว”  ชายหนุ่มพูด  ก้าวยาวๆเข้าไปหาร่างอวบอัดได้ส่วนสัดของอัลฟ่าสาวที่ยืนรออยู่ในลานจอดรถหลังโรงเรียนแห่งหนึ่ง  เธอหันกลับมามองหน้าเขาแล้วยิ้ม

          “ยินดีด้วยนะคะกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่  แผนการหักหลังผู้มีพระคุณของคุณกำลังไปได้สวยจริงๆ”  เธอพูดพลางยิ้มเยื้อน  “คุณพ่อพอใจมากๆเลยค่ะกับการที่คุณได้รับตำแหน่งนี้”

          “ฝากขอบคุณคุณพ่อของคุณด้วยนะครับ  ไว้ผมจะเข้าไปเยี่ยมท่านอีกที”  เจนภพตอบอย่างสงบ

          “ได้สิคะ”  รินลดาว่า

         “คุณติดต่อผมมาอีก  หวังว่าคราวนี้คงมีข้อเสนอที่ดีขึ้นกว่าเก่านะครับ”

          “แน่นอน  ข้อเสนอใหม่ของฉันก็คือ  ของในเซฟนั้น กับชื่อผู้ว่าจ้างของฉันที่คุณอยากได้”  รินลดาพูดเนิบๆ

          “คุณพร้อมหักหลังผู้ว่าจ้างของคุณแล้วเหรอ”  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว  อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ

          “ฉันบอกข้อเสนอนี้กับเขาและเขาก็ตกลงจะให้ฉันบอก”

          “เห็นทีของในเซฟนั่นคงจะสำคัญกับเขามากเหลือเกินสินะ”  เจนภพเคาะ  “แล้วถ้าผมอยากเพิ่มข้อเสนอด้วยการขอเข้าพบเขาสักครั้งล่ะครับ”

          “แหม  คุณนี่  ได้ทีเอาใหญ่เลยนะคะ  นิสัยเหมือนอดีตเจ้านายของคุณไม่มีผิด”  รินลดาพูด  “แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ  เห็นทีแค่ของในเซฟคงจะไม่พอ  คิดว่าผู้ว่าจ้างของฉันก็คงจะรู้สึกไม่สะดวกใจแน่ๆที่จะให้คุณพบ”

          “ถ้าผมมีของแถมล่ะ”  เจนภพยิ้มพราย  “สิ่งที่จะทำให้นายจ้างของคุณยอมให้ผมเข้าพบ”

          “มันคืออะไรคะ”

          ชายหนุ่มยิ้ม  เปิดคลิปในโทรศัพท์ให้หญิงสาวดู

          ภาพผู้ชายร่างสูงใหญ่ในคลิปไม่ชัดเจนนัก  แต่สำหรับคนที่รู้จักพิชช์ฌานก็พอจะเดาออกว่าคนที่ยืนอยู่กลางวงล้อมคือใคร  รินลดายกมือขึ้นปิดปาก  มองภาพอัลฟ่าหนุ่มทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหวาดเสียว  เลือดสดแดงฉานไหลเจิ่งนอง

          “คุณพิชช์ฌาน...”  รินลดาพูด

          “ถูกต้องครับ”  เจนภพพูดเนิบๆ  จ้องมองภาพอดีตเจ้านายถูกซ้อมอย่างรุนแรงในคลิปจนกระทั่งจบ  ร่างสูงใหญ่ของพิชช์ฌานถูกลากออกไปจากโกดังในสภาพร่อแร่เต็มที

          “เขาตายแล้วหรือ”  รินลดากระซิบ  “หรือว่านี่คือคลิปก่อนระเบิด  ไม่สิ  ก็ร่องรอยระเบิดยังอยู่นี่”

          “เป็นคลิปหลังจากระเบิดครับ  คุณพิชช์ฌานไม่ได้เสียชีวิตจากแรงระเบิด  แต่ว่าอยู่ในที่แห่งหนึ่งในความควบคุมของผม”  เจนภพตอบ  “ผมรู้ว่ามีคนไม่เชื่อว่าคุณพิชช์ฌานตายไปแล้วรวมถึงผมด้วย  ผมถึงได้ออกตามหาจนกระทั่งเจอตัวเขาและหาทางล่อเขาออกมาพบ”

          “.........”  หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่คาดคิดแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆด้วยเสียงแหลมสูง  “ฉันกะแล้วเชียวว่าพวกเสี้ยวเบต้าไว้ใจไม่ได้”

          “ผมจะทำเป็นไม่ได้ยินที่คุณพูดเมื่อกี้นะ”  เจนภพพูดเสียงเข้ม  “ผมเปิดไพ่ของผมแล้ว  ตาคุณแล้วครับคุณรินลดา  ผมคิดว่าคุณคงไม่ถนัดแต่การลอบกัดลับหลังอย่างเดียวหรอกใช่มั้ย  ในสายตาของผม  คุณเป็นผู้หญิงที่แฟร์คนนึง”

          “ฉันจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคลิปนี้จะไม่ได้ถูกตัดต่อขึ้นมา”

          “คุณเอาคลิปไปตรวจสอบก็ได้  ผมเชื่อว่าฝีมือคุณดูออกแน่นอนว่าจริงหรือปลอม”

          “ตกลง  ฉันรับข้อเสนอนี้”  รินลดาพูด  ยิ้มมุมปาก  “ถ้าเป็นคลิปจริง  คุณก็เตรียมตัวเข้าพบผู้ว่าจ้างของฉันได้เลย อยากฝากอะไรไปบอกเขาเป็นพิเศษมั้ย”

          “ผมมีข้อเสนอที่ดีที่สุดให้เขา”  เจนภพพูด  ก้มศีรษะให้นิดหนึ่ง

          “เดี๋ยวก่อน  ฉันนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้”  หญิงสาวรั้งเอาไว้  “โอเมก้านั่น...ยังอยู่ที่บ้านของพิชช์ฌานใช่ไหม”

          “คุณหมายถึงคุณอาคิราห์?  ถามทำไม”

          “ฉันอยากได้อาคิราห์  คุณยกมันให้ฉันได้มั้ย”

          “คุณอาคิราห์ไม่ใช่ทรัพย์สินจะได้ยกให้ใครได้  อีกอย่าง  ถึงแม้ว่าคุณพิชช์ฌานจะไม่อยู่แล้วแต่ว่าเขาก็ยังเป็นลูกของนายกฯประเทศนี้  คุณคงไม่อยากมีปัญหากระมัง”  เจนภพพูดเรียบๆกึ่งเตือน  “คุณอาคิราห์ไม่ใช่โอเมก้าที่ใครจะทำอะไรได้ง่ายๆ”

          “ก็เพราะเป็นแบบนั้น  ฉันถึงยิ่งอยากจัดการมันยังไงล่ะ”  รินลดาว่า  “คุณคงไม่คิดจะปกป้องเมียของคนที่คุณเพิ่งซ้อมปางตายหรอกใช่มั้ย”

          “ผมไม่ปกป้องเขาอยู่แล้ว เพียงแต่เตือนคุณว่าอย่าทำอะไรล้ำเส้นจะดีกว่า”

          เปลือกตาระยิบระยับด้วยอายแชโดว์ของหญิงสาวหรี่ลง  รินลดาเอียงคอมองชายหนุ่มตรงหน้า

          “รู้อะไรมั้ย  ฉันเริ่มรู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่างคุณเจนภพ  ถ้าฉันเดาไม่ผิด  คุณใช้พิชช์ฌานเป็นข้อต่อรองในการขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคกับท่านนิมมาน  ถูกมั้ย”

          “ถูกต้อง”

          “แต่ว่ากับอาคิราห์  คุณกลับปกป้องมันนัก  ทำไมกันนะ”

          “เพราะอาคิราห์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องนี้”  ชายหนุ่มตอบอย่างสงบ

          “ไม่ใช่ว่าหวังจะเคลมมันต่อจากพิชช์ฌานหรอกเหรอ”

          คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงก่อนที่จะเจ้าของจะปล่อยเสียงหัวเราะทุ้มๆออกมา

          “ฟังดูน่าสนใจดีนี่ครับ”  เจนภพพูด  “คุณคิดว่ายังไงล่ะ”

          “ฉันเข้าใจล่ะ”  หญิงสาวพยักหน้าเนิบๆ  “ก็ได้  ถ้าอย่างนั้นฉันจะ ‘ยัง’ ไม่แตะต้องมันก็แล้วกันนะ”

          “จนกว่าจะถึงเวลา  คุณผู้หญิง”  เจนภพว่า  แล้วเดินจากมา

          รินลดามองตามหลังอย่างครุ่นคิด  เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า  เธอหยิบขึ้นมาดู  เจนภพส่งคลิปที่เธอเพิ่งดูไปเมื่อครู่นี้มาให้  หญิงสาวกดส่งต่อไปยังใครคนหนึ่งอย่างไม่รอช้า  เสียงเรียกเข้าดังขึ้นทันที

          “ฮัลโหล  กะแล้วเชียวว่าคุณจะต้องรีบโทรมาแน่”  เธอกรอกเสียงลงไป  “ให้ฉันไปหาคุณดีไหมคะ”  ปลายสายบอกสถานที่มา  รินลดากดวางสายแล้วหยิบลิปสติกขึ้นมาเติมสีบนริมฝีปาก

          เกมมันอยู่หลังจากนี้ต่างหาก

          ..............................................................................

          “วันนี้ก็ไม่มีกุหลาบหรอนิลลา”  คนถามนั่งเท้าคางอยู่หน้าระเบียงบ้าน  ทอดสายตามองจ้องเป๋งไปยังประตูหน้าบ้านที่ปิดสนิท  โอเมก้าคนสนิทเงยหน้าขึ้นจากการปอกผลไม้ให้เจ้านายกิน

          “ยังไม่มี”  นิลลาว่า  ส่งแอปเปิ้ลชิ้นใหญ่ไปให้อาคิราห์รับไว้  “คุณกลับเข้าไปในบ้านเถอะ  ถ้ามีมาเมื่อไหร่  ฉันจะเอาไปให้เอง”

          “ฉันแค่อยากรู้ว่าเขาหายไปไหน  สามวันแล้วนะ”

          “ก็คงยุ่งๆ”  นิลลาตอบ  “คุณเองก็มีงานต้องทำไม่ใช่หรือไง  อย่าลืมสิว่าพรุ่งนี้จะต้องไปที่พรรคด้วยนะ”

          “ฉันมาคิดดูแล้ว  ไม่น่าสนใจรับตำแหน่งเลขาฯอะไรนั่นเลยนิลลา  ฉันทำอะไรเป็นที่ไหนกัน”  อาคิราห์ถอนหายใจเฮือก  “แค่อ่านหนังสือเตรียมสอบเทียบก็เหนื่อยจะตายแล้ว”

          “โธ่  คุณเจนภพก็บอกเองว่าคุณพิชช์ฌานอยากให้คุณอัยย์รับตำแหน่งนี้  อย่าเพิ่งถอดใจเลย  คุณยังไม่ได้เริ่มเลยนะ  ลืมที่คุณเคยบอกฉันแล้วเหรอว่าอย่าถอดใจง่ายๆ”

          “ฉันก็อยากได้กำลังใจบ้างนี่”  เจ้าโอเมก้าพูดงึมงำอยู่ในลำคอ  ตวัดสายตามองไปยังประตูรั้วอีกรอบ  “แต่ก็ช่างเถอะ  ฉันโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ  ต้องมีความรับผิดชอบ”  อัยย์พูดเหมือนท่องคำขวัญวันเด็ก  กำมือชูขึ้นสูงให้กำลังใจตัวเองแล้วก็กลับเข้าไปในห้องหนังสือต่อ

          นิลลามองตามหลังพลางถอนหายใจยาว  พิชช์ฌานหายจากการติดต่อไปสามวันแล้ว  ไม่มีกุหลาบหน้าประตู  ไม่มีข้อความหรือแผนการฝากมาบอกอีก  ราวกับชายหนุ่มผู้นั้นหายสาบสูญไปเสียเฉยๆ  เจนภพเองก็นิ่งเฉยไม่พูดเรื่องนี้ออกมาเลยสักคำ

          เจนภพเข้ามารับอาคิราห์ไปที่ทำการพรรคด้วยกัน  มีนักข่าวมารออยู่ข้างหน้ากันเต็มไปหมดเพื่อสัมภาษณ์หัวหน้าพรรคคนใหม่ที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์  อาคิราห์เองก็ถูกรุมด้วยนักข่าวไม่แพ้กันในฐานะเลขาฯคนแรกที่เป็นโอเมก้า

          “รู้สึกอย่างไรบ้างคะกับตำแหน่งนี้”  นักข่าวยิงคำถาม  อาคิราห์ยิ้มตอบ

          “ดีใจมากครับที่ได้มีส่วนร่วมกับในการทำงานของพรรค”

          “คิดว่าหลังจากนี้บทบาทของโอเมก้าจะมีมากขึ้นไหมคะ”

          “แน่นอนครับ   นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น  แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมภูมิใจมากครับ”  อาคิราห์โบกมือให้กล้องแล้วส่งรอยยิ้มหวานที่เรียกเสียงอุทานจากใครหลายคน

          ภาพโอเมก้าในชุดสูทเรียบร้อยยืนเคียงคู่กับหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ  เรียกกระแสทั้งชื่นชมและต่อต้านจากประชาชนได้ทันตาเห็น  ตามด้วยบทสัมภาษณ์จากนิตยสารชื่อดังที่ตามไปสัมภาษณ์โอเมก้าถึงบ้านของพิชช์ฌานอีก

          ชื่อของอาคิราห์กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อีกครั้ง  นักข่าวขุดประวัติของเขาขึ้นมาเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก  เรื่องราวเมื่อตอนที่เขาแฝงตัวเข้าไปในการทลายแหล่งค้ามนุษย์นั้นกลับมาเป็นที่พูดถึงอย่างชื่นชม  ความสามารถพิเศษถูกเอามาบอกต่อปากต่อปาก  บ้างก็บอกว่าคุณอาคิราห์สามารถพูดได้ถึงหกภาษา  บ้างก็บอกว่าคุณอาคิราห์เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ทางด้านความจำและการคิดคำนวน   แม้ว่าจะไม่มีปริญญาบัตรสักใบเพราะไม่เคยเข้าเรียนในระบบเลยก็ตาม

          “นอกจากนี้คุณอัยย์ยังมีความสามารถพิเศษทางด้านกีฬาด้วยนะ  ว่ายน้ำเก่งมาก  เคยว่ายน้ำชนะคุณพิชช์ฌานด้วยล่ะ  ทั้งที่คุณพิชช์ฌานเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองสมัยเรียนมหาลัยเชียวนะ”   นิ่มนวลพูดกับนักข่าวที่มาขอสัมภาษณ์ถึงบ้าน  “แล้วเธอยังมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลงและเต้นรำด้วย  อย่าลืมสิว่าพี่ชายฝาแฝดของเธอเป็นถึงนักร้องซูเปอร์สตาร์นะ  เธอเองก็เก่งไม่แพ้พี่ชาย”

          “ป้านิ่มๆ พอเถอะครับ  อายเค้า”  อาคิราห์แอบสะกิดหลังจากนักข่าวพากันกลับไปหมดแล้ว  “ผมว่าความสามารถพิเศษของผมอย่างเดียวเห็นจะมีแค่เรื่องกินนี่ล่ะ”  เจ้าตัวว่า  ตักอาหารเข้าปากเคี้ยวอย่างรวดเร็วโชว์ทักษะให้ดูว่าพูดจริง  “ผมสามารถกินได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้  โดยเฉพาะฝีมือป้านิ่ม”

          “ป้าเชื่อค่ะ  ป้าทำอะไรให้ก็กินเรียบไม่เหลือเลย  ไม่ต้องมาพูดอ้อนหรอก  อยากกินอะไรก็บอก  เอ.. มะรืนนี้คุณอัยย์จะต้องตามคุณเจนภพออกไปหาเสียงนอกสถานที่ใช่ไหมคะ”

          “ใช่ครับ  เริ่มหาเสียงกันแล้ว”  อาคิราห์พยักหน้ารับ  กางหนังสือพิมพ์ออกอ่าน   “วันนี้ไม่มีกุหลาบหรอครับ”  เจ้าโอเมก้าถามต่อลอยๆคล้ายไม่ใส่ใจ  หากคนฟังก็รู้ดีว่าเจ้าตัวเฝ้ารอคำตอบนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด

          นิ่มนวลลอบถอนหายใจยาว

          “ไม่มีค่ะ  คุณอัยย์อยากได้ดอกไม้ชนิดไหนไหม  เดี๋ยวป้านิ่มจะไปตัดในสวนมาให้ค่ะ  ดอกไฮเดรนเยียก็กำลังงามทีเดียว”

          “ขอบคุณครับ  แต่ไม่เป็นไร”  อาคิราห์วางหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะอาหารแล้วลุกขึ้นเดินกลับขึ้นไปด้านบน  นิ่มนวลมองตามหลังอย่างกังวล  หันไปมองโอเมก้าที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน

          “นิลลา  ไปไหนทำไมเพิ่งมา  ได้กุหลาบมามั้ย”

          “ไม่ได้” นิลลาส่ายหน้า  “ฉันไปธุระมา  คุณอัยย์ขึ้นไปนอนแล้วเหรอ”

          “ใช่  ฉันถามจริงๆเถอะ  คุณพิชช์ฌานไม่ได้ติดต่อมาอีกหรอ  เธอหายไปเป็นอาทิตย์แล้วนะ  นี่ฉันขึ้นไปชั้นบนแอบได้ยินเสียงคุณอัยย์ร้องไห้เมื่อคืนด้วย”  แม่บ้านอาวุโสว่า  “หาทางติดต่อหน่อยไม่ได้หรือไง”

          “ฉันก็ไม่รู้จะติดต่อยังไง”

          “ไม่งั้นเดี๋ยวก็ลงอีหรอบเดิมอีกหรอก  ฉันทนเห็นคุณอัยย์จ๋อยอีกไม่ไหวหรอกนะ  สงสาร”

          คนที่ถูกพูดถึงนั้นกำลังนอนขดอยู่บนเตียงใหญ่ที่แวดล้อมด้วยเครื่องนอนและเสื้อผ้าของเจ้าของห้อง  อาคิราห์ซุกหน้ากับผ้าห่มหนานุ่มอวลด้วยกลิ่นของพิชช์ฌานจางๆ  ปล่อยให้น้ำตาไหลออกหางตาเป็นทาง

          ...ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นหายตัวไปไหนอีกแล้ว  คิดจะปล่อยให้เขาคิดถึงอยู่คนเดียวไปถึงเมื่อไหร่... อาคิราห์คิดวนเวียนกลับไปกลับมา  สลับกับการถอนหายใจยาว

          ทำไมถึงต้องทำตัวมีความลับนัก  อย่างน้อยก็ควรจะต้องส่งข่าวมาบอกกันบ้าง  ไม่ใช่หายเงียบไปแบบนี้  หรือว่าต้องใช้มุขแกล้งตายอีกถึงจะออกมากันแน่

          ..............................................................................

         รถตู้สีดำมืดกลมกลืนกับบรรยากาศจอดรออยู่ก่อนแล้วข้างสวนสาธารณะที่เงียบสงัดไร้ผู้คน  เสียงหอนาฬิกาตีบอกเวลาตีหนึ่ง  ไม่ใช่เวลาที่ใครจะมาเดินเล่นในสวนสาธารณะอีก

          เจนภพจอดรถเทียบข้างต้นไม้ใหญ่แล้วเดินเข้าไปหารถคันนั้นอย่างไม่รีบร้อน   พอเข้าไปใกล้ๆก็เห็นว่ามีผู้ชายสองคนยืนอยู่ข้างรถรอเขาอยู่ก่อนแล้ว

          “ผมชื่อเจนภพ  มาตามที่นัดหมายเอาไว้”  ชายหนุ่มพูดเรียบๆ  เหลือบมองรอบตัวอย่างระมัดระวัง

          ชายหนึ่งในสองก้มศีรษะรับแล้วเดินอ้อมไปอีกทาง  เขาได้ยินเสียงประตูรถเปิดออกก่อนที่ใครคนหนึ่งจะก้าวลงมาจากรถแล้วเดินมาหาเขา

          “คุณเจนภพ”  หญิงสาวอัลฟ่าเรียกชื่อเขาเนิบๆ  “กำลังรอคุณอยู่เลย  ไหนล่ะคะของในเซฟที่ตกลงกันเอาไว้”

          “ผมขอพบผู้ว่าจ้างของคุณก่อน”  ชายหนุ่มตอบ  “ยื่นหมูยื่นแมวสิครับคุณรินลดา”

          “แหม  อย่างน้อย ‘เขา’ ก็คงอยากเห็นของแลกเปลี่ยนของคุณก่อนนะคะ”

          “เขาอยู่ในรถคันนี้งั้นหรือ”     

          “เปล่าค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้า  “นี่เป็นรถของฉันเอง  แต่ฉันทราบว่าเขากำลังจับตามองพวกเราอยู่อย่างแน่นอน”

          เจนภพล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบห่อพลาสติกสีเข้มออกมา  เขายื่นออกมาตรงหน้าให้เห็นได้ชัด ๆ

          “นี่คือของที่อยู่เซฟนั่น”

          “ข้างในนี้มันคืออะไรหรอคะ”  หญิงสาวเอียงคอมองอย่างสนใจ

          “ผู้ว่าจ้างของคุณไม่ได้บอกมาก่อนเหรอว่าคืออะไร”  เจนภพเลิกคิ้ว  คนฟังส่ายหน้า

          “ฉันรู้เพียงแค่ว่ามันเป็นของสำคัญเท่านั้น”  เธอเอื้อมมือทำท่าจะรับของไปทว่าชายหนุ่มดึงคืนกลับไปก่อน

          “เดี๋ยวสิครับ  แล้วข้อแลกเปลี่ยนของเราล่ะ  ผู้ว่าจ้างของคุณอยู่ที่ไหน  ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวออกมาผมก็จะไม่ส่งของให้คุณหรอกนะคุณรินลดา”  เจนภพพูดพลางกวาดตามองรอบตัว  “คุณคงไม่เบี้ยวผมหรอกใช่ไหม”

          “ใครจะทำอย่างนั้นกันล่ะคะ”  หญิงสาวยิ้มพราย  หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก  “ฮัลโหล  ของที่ว่าได้มาแล้วค่ะ  ฉันจะส่งรูปไปให้คุณดู”  เธอกดถ่ายรูปของในมือของเจนภพแล้วส่งไปให้คนๆนั้น  เจนภพเห็นหญิงสาวนิ่งฟังปลายสายพูดอะไรต่อมายืดยาว  รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเพิ่มมากขึ้นราวกับถูกใจสิ่งที่ได้ยิน  “ตกลงค่ะ  ถ้าอย่างนั้นฉันจะกลับไปก่อนนะคะ”  เธอวางสายแล้วหันมาหาชายหนุ่มที่รออยู่  “ผู้ว่าจ้างของฉันอยากจะคุยกับคุณด้วยตัวเองค่ะ  เขากำลังมาที่นี่”

          เจนภพคิดว่าตัวเองได้ยินเสียงเหมือนล้อรถยนต์บดมาตามถนน  กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาตึงเขม็งด้วยความเครียดที่เกิดขึ้น  ถึงแม้ว่าเขาจะมีพิชช์ฌานเป็นตัวประกันแต่ก็ใช่ว่าจะได้ผล  หญิงสาวเองก็มีท่าทางตื่นเต้นจนเห็นได้ชัด  เธอห่อไหล่ลงแล้วจ้องมองไปทางถนนหลักที่เข้ามายังสวนสาธารณะแห่งนี้

          “คุณไม่เคยเจอผู้ว่าจ้างของคุณงั้นหรือ  คุณรินลดา”

          “ไม่เคย  เราติดต่อกันผ่านโทรศัพท์และอีเมล์  แน่นอนว่าเขาใช้เครื่องแปลงเสียงทำให้ไม่รู้ว่าเสียงที่แท้จริงคือใครกันแน่”  เธอตอบ  จับตามองตาไม่กะพริบ 

          “แล้วเขามีชื่อเรียกแทนตัวว่าอะไร”  เจนภพพึมพำ

          “ที่ฉันรู้ก็คือเขาใช่อักษรว่า T.A.แทนตัวเอง”  คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน  “คุณไม่จำเป็นต้องมาถามฉันเพราะอีกเดี๋ยวคุณก็จะได้เจอเขาแล้ว”

          เจนภพนิ่งเงียบ  เขายืนรออย่างสงบแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นจะมีใครปรากฏตัวขึ้นมา





ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk







         “คุณคงไม่ได้หลอกผมใช่ไหม”  ชายหนุ่มถามขึ้นช้า ๆ  เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ  “มันเกือบสิบห้านาทีแล้ว”

          “เขากำลังมา”  รินลดาตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน  เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์ของเธอ  หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูข้อความในนั้นแล้วก็เก็บลงกระเป๋า  “เขาให้ฉันกลับก่อน  เอาไว้เจอกันใหม่นะคะคุณเจนภพ”

          “เดี๋ยวสิ”  ชายหนุ่มท้วง  คว้าแขนของอัลฟ่าสาวเอาไว้  “คุณกลับไปก่อนแบบนี้แล้วผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ถูกปาระเบิดใส่หรืออะไรทำนองนั้น”

          “ให้เขากลับไปเถอะ  ผมไม่ใช่คนเล่นตุกติกอะไรแบบนั้นหรอก”  เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลังทั้งสองคน  เจนภพหันขวับไปมองแล้วก็อ้าปากค้างอย่างตกใจแกมประหลาดใจ  ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้นิดๆแล้วก้มศีรษะให้หญิงสาว  “เชิญคุณรินลดากลับก่อนดีกว่าครับ  ดึกมากแล้วไม่เหมาะกับสุภาพสตรีอย่างคุณ”

          “........”  หญิงสาวไม่พูดอะไรออกมาสักคำแต่รีบหมุนตัวเดินอ้อมไปขึ้นรถตู้ของตนเองแล้วขับออกไปทันที  ทิ้งให้ผู้ชายสองคนยืนประจันหน้ากันอยู่กลางสวนสาธารณะ

          “ไม่นึกเลยว่าเป็นคุณ”  เจนภพพึมพำ  “คุณไตรภพ”

          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใหญ่เลิกคิ้วแล้วส่งยิ้มให้

          “ทำไมล่ะ  คุณ...เจนภพใช่ไหม  ยินดีที่ได้เจอตัวจริงของคุณนะครับ  ผมชื่นชมคุณมานานแล้วในฐานะมือขวาของคุณพิชช์ฌาน  ไม่นึกเลยว่าคุณจะก้าวหน้ารวดเร็วจนได้มาถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในที่สุด”  ไตรภพพูดเนิบ ๆ  เหลือบตามองของในมือของชายหนุ่มรุ่นน้อง  “ผมคิดว่าคุณคงเปิดดูของในเซฟไปแล้ว  และก็คงสงสัยเต็มทีว่ารายชื่อในนั้นประกอบด้วยใครบ้าง   ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็  คุณคิดว่า T.A. ที่อยู่บนสุดคือ ไตรคุณ  อลันไตร  ถูกต้องไหมครับ”

          คนฟังนิ่งอั้น  กำห่อพลาสติกในมือแน่น  เริ่มรู้สึกถึงความอันตรายที่แฝงมากับน้ำเสียงสุภาพของอีกฝ่าย

          “เสียดายที่คุณคิดผิด  ไม่อย่างนั้นแผนจับปลาใหญ่ในวันนี้ก็คงจะสำเร็จอย่างงดงามเป็นแน่”  ไตรภพพูดยิ้มๆ  เหลือบตามองไปทางด้านหลังของคู่สนทนา  “ผมคิดว่าคุณพิชช์ฌานเองก็คงจะกำลังผิดหวังเป็นอย่างมากเช่นกันที่เป็นผม  ไม่ใช่คุณพ่อ  จริงมั้ยครับ  ...ความจริงแล้ว  คุณพิชช์ฌานควรจะออกมาพูดคุยกันเสียหน่อยนะครับ  ผมอยากแลกเปลี่ยนความคิดด้านนโยบายกับคุณอีก”

          “คุณพิชช์ฌานไม่ได้อยู่ที่นี่”  เจนภพพูดเสียงห้วนจัด  “ผมควบคุมตัวเขาเอาไว้ที่หนึ่ง  ถ้าคุณอยากพบเขา  คุณก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

          “อย่างเช่นอะไรบ้างครับ”  ไตรภพถามกลับ  มองหน้าอีกฝ่ายอย่างประเมิน  “คุณเป็นคนเก่ง  มีความสามารถคุณเจนภพ  แต่ว่าคุณเลือกทางที่ผิด  อย่างไรก็ตามคุณยังสามารถกลับตัวได้ทันในตอนนี้”

          “คุณพูดถึงอะไร”

          “ท่านนิมมาน พ่อของคุณพิชช์ฌานเป็นคนสั่งเก็บพ่อแม่ของคุณ  คุณคงรู้เรื่องนี้แล้ว”  ไตรภพพูด  ยิ้มมุมปาก  “คุณคงไม่คิดจะทำงานให้กับคนที่สังหารพ่อแม่กระมัง”

          “.........”  เจนภพเงียบกริบ

          “ถ้าคุณมาทำงานกับผม  ผมมีตำแหน่งดีๆให้คุณ  อย่างน้อยรัฐบาลสมัยหน้าจะต้องมีชื่อคุณเจนภพเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีไม่กระทรวงใดก็กระทรวงหนึ่งอย่างแน่นอน   คุณคิดว่ายังไงล่ะ  ตอนนี้คุณก็เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว  ถ้าพรรคของเราร่วมมือกัน  ผลประโยชน์จะไปไหนเสีย”

          “คุณจะให้ตำแหน่งผมงั้นหรือ”  แววละโมบฉายในดวงตาของคนฟัง

          “แล้วแต่คุณจะเลือกเลย  กระทรวงไหนก็ได้ทั้งนั้น  รับรองว่าพวกอัศวลักษณ์จะต้องกระอักเลือดออกมาด้วยความแค้นแน่  แค่คุณร่วมมือกับเรา  คุณคนเดียวที่มีอำนาจในการตัดสินใจ  จะไปทนเป็นพรรคฝ่ายค้านทำไมในเมื่อมีโอกาสงามๆที่จะร่วมรัฐบาลลอยมาถึงมือแล้ว”

          “ผมสนใจสิ่งที่คุณพูดนะ  คุณไตรภพ  แต่ว่า..ก่อนที่ผมจะเข้าไปจับมือกับใครก็ต้องเช็คก่อนว่ามือนั้นมันโสโครกมากแค่ไหน  เพราะผมไม่อยากจะต้องติดคุกหัวโตไปด้วย  คุณจะบอกผมได้มั้ยว่าอักษรย่อที่อยู่ในนี้”  ชายหนุ่มชูห่อพลาสติกที่ด้านในมีกระดาษม้วนซ้อนเอาไว้ขึ้น  “..คือรายชื่อหรือว่าอะไรกันแน่  แล้วทำไมคุณจะต้องอยากได้มัยด้วย”

          “ถามกันตรง ๆ แบบนี้เลยเหรอ”

          “ผมเป็นคนแฟร์ ๆ อยู่แล้ว”

          “ผมคิดว่าคุณรู้อยู่แล้วนะว่ามันคือรายชื่อ  แต่ที่คุณอยากรู้มากกว่าก็คือ ...อักษรย่อพวกนั้นหมายถึงใครบ้าง  ผมพูดถูกหรือเปล่า”

          “ถ้าจะร่วมมือกัน  ผมก็ควรจะรู้ว่าใครที่อยู่ฝั่งเดียวกันบ้างไม่ใช่หรือไง”  เจนภพว่าพลางยักไหล่  “แต่ถ้าคุณไม่บอก  ผมก็คงจะอดรู้สึกลำบากใจไม่ได้  เราต่างอยากทำงานกับคนที่เชื่อใจกันจริงไหม”

          “อืม  คุณพูดถูก  ถ้าอย่างนั้น  ผมจะให้คนมาช่วยแปลอักษรย่อแต่ละคนให้คุณฟังดีไหม  คิดว่าเขาคงเดาได้หลายคนเชียวล่ะ”  ไตรภพยิ้มพราย ดีดนิ้วทีหนึ่ง

          เจนภพหันไปมองตามเสียงฝีเท้าหลายคู่ที่เดินเข้ามาตรงที่ว่างที่เขายืนอยู่  ภาพร่างสูงใหญ่ของพิชช์ฌานถูกล็อคอย่างแน่นหนาพลางลากมาที่ด้านหน้าบริเวณอย่างไม่ปรานีปราศรัยนั้นทำให้เอาอดีตมือขวาอ้าปากค้าง  เก็บอารมณ์ไม่ทัน

          “ว่าไงครับคุณพิชช์ฌาน  ทำไมถึงหน้าบวมอย่างนั้นล่ะ  เดี๋ยวถ่ายรูปออกมาไม่หล่อนะ”  ไตรภพพูดยิ้มๆ  ย่อตัวลงจับที่ปลายคางเขียวครึ้มบวมเป่งของอดึตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน  “เห็นคุณนั่งคุดคู้แอบอยู่ในรถตั้งนาน  ลูกน้องของผมก็เลยช่วยพาออกมาสูดบรรยากาศหน่อย  สดชื่นขึ้นไหมครับ”

          พิชช์ฌานหรี่ตามองผ่านเปลือกตาที่บวมจนแทบปิดเพราะถูกซ้อมอย่างรุนแรงเมื่อครู่นั้น  เห็นร่างของน้องชายยืนมองมาทางเขาอย่างตื่นตะลึงทำอะไรไม่ถูก  ชายหนุ่มกัดริมฝีปากข่มความเจ็บปวดลงไปแล้วสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของลูกน้องไตรภพ

          “ปล่อยให้เขายืน”  ไตรภพโบกมือห้ามไม่ให้ลูกน้องทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายอีก  พิชช์ฌานลุกขึ้นยืนโซเซกุมชายโครงเอาไว้มั่น

          “คุณ..ไตรภพ..  ทำไมถึง  เป็นคุณไปได้”  แววผิดหวังฉายชัดในดวงตาคมเข้มที่แดงก่ำ  ทอดสายตามองอีกฝ่ายอย่างโกรธแค้น  “ผมอุตส่าห์นับถือคุณ  สุดท้ายคุณก็เลวเหมือนพ่อ”

          “ระวังปากหน่อยคุณพิชช์ฌาน  พ่อของผมไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้นะครับ”  ไตรภพว่า  ลูกน้องที่เหลือลากกึ่งหิ้วปีกคนของพิชช์ฌานมากองรวมกันไว้ได้เกือบยี่สิบคน  “พาคนมาเยอะแยะไปหมด  หวังจะจับปลาใหญ่  ที่ไหนได้ดันโดนตลบหลัง  เป็นอย่างไรบ้างครับ  เจ็บแสบดีไหม”  ไตรภพพูด  เดินไปหยุดตรงหน้าของเจนภพแล้วต่อยเข้าที่หน้าท้องของชายหนุ่มโดยไม่ให้ตั้งตัว  อดีตมือขวาของพิชช์ฌานตัวงอลงทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น  ไตรภพเตะเข้าที่ชายโครงและใบหน้าของเจนภพอีกครั้ง  ไม่เปิดโอกาสให้ลุกขึ้นมาสู้ได้อีก

          พิชช์ฌานอุทาน  ขยับจะเข้าไปช่วยน้องชายแต่ก็ถูกคนของไตรภพล็อคแขนเอาไว้

          “คิดว่าแค่แผนตื้น ๆ อย่างคลิปรุมซ้อมนั้นจะทำให้ผมเชื่อว่าคุณหักหลังพิชช์ฌานหรอครับ  คนหน้าโง่ที่หลงทำงานให้คนที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง  จนบัดนี้ก็ยังถูกหลอกใช้ไม่เลิก  ไม่น่าสมเพชไปหน่อยเหรอ”

          “อย่างน้อยคุณพิชช์ฌานก็ไม่เคยหลอกโอเมก้าไปค้ามนุษย์เหมือนพวกคุณ”  เจนภพพูดเสียงสั่น  “พวกคุณมันไม่ใช่คนแล้ว”

          “ครึ่งเบต้าอย่างคุณไม่ควรจะเรียกว่าตัวเองเป็นมนุษย์นะ”   ไตรภพว่า  เอื้อมมือไปบีบคางของอีกฝ่ายแน่น  “คนอย่างคุณกับพวกสวะโอเมก้าก็ควรจะรู้ที่ของตัวเอง  ไม่ควรคิดเผยอหน้าขึ้นมาเทียบกับอัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์หรอก  มันคนละชั้นกัน  ทำงานตามคำสั่งไปแต่ละวันก็พอแล้ว”

          “เพราะมีพวกความคิดโบราณเต่าล้านปีอย่างพวกคุณอยู่ไง  ประเทศถึงยังไม่ไปไหนสักที”  พิชช์ฌานพูด  ถ่มเอาก้อนเลือดในปากออกมา  “ขอเดาเลยว่าอักษรย่อในนั้นก็คือคนในพรรคของคุณนั่นแหละ  รวบรวมพวกเลว ๆ เข้าไว้ด้วยกัน  ให้ตายเหอะ คุณไตรภพ  ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเป็นคุณ”

          “ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าแผนการของคุณพิชช์ฌานที่ใคร ๆต่างก็บอกว่ายากที่จะตามทันนั้นจะถูกตลบหลังได้ง่ายๆแบบนี้  ถ้าไม่ใช่เพราะคุณส่งดอกไม้ไปให้เมียโอเมก้าของคุณทุกวันล่ะก็  ผมก็คงไม่รู้หรอกว่าคุณยังมีชีวิตอยู่”  ไตรภพยิ้มกว้าง  “โรแมนติก...แต่ผิดเวลา”

          “เมียโอเมก้าที่คุณพูดคือน้องชายแท้ๆของคุณนะ”

          “ผมไม่เคยมีน้องชายเป็นโอเมก้า”  ไตรภพพูดเสียงเย็น  “เอาล่ะ  เราสนุกพอแล้วล่ะมั้ง ถึงเวลาที่จะต้องแยกย้ายกันเสียที  ผมให้คุณเลือกก็แล้วกันนะว่าจะนอนตายท่าไหน  เห็นแก่ที่คุณเคยขึ้นปกนิตยสารมาก่อน”  หนุ่มใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไม่เปลี่ยน  ทว่าแววตาคมกร้าวคู่นั้นบอกชัดว่าเอาจริง  “ให้คุณพิชช์ฌานเลือกก่อน  ตามด้วยคุณเจนภพ   นอนตายข้างกันเลยดีมั้ย  ผมคิดว่านักข่าวน่าจะสนุกกับการพาดหัวข่าวพรุ่งนี้นะ  อะไรดีล่ะ...เป็น เจ้านายลูกน้องหักเหลี่ยมโหดดีมั้ย  หรือว่าตายเพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัวดี  อ้อ  เกือบลืมไปว่าคุณพิชช์ฌานกำลังจะได้ข้อหาใหม่ว่าร่วมขบวนการค้ามนุษย์นี่นะ”

          “คิดว่าทำแบบนี้แล้วพรรคของคุณจะรอดหรือไงคุณไตรภพ  ยังไงความจริงก็ต้องถูกเปิดเผยวันยันค่ำ”

          “ความจริงที่ว่าคุณกับพรรคของคุณเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์น่ะเหรอ”  ไตรภพกระซิบ  “คนตายพูดไม่ได้  คุณก็รู้  คุณพิชช์ฌาน  เสียดายอนาคตคนหนุ่มไฟแรงอย่างคุณจริงๆ”

          พิชช์ฌานรวบรวมแรงที่เหลืออยู่ดันตัวลุกขึ้นยืนทว่าก็ถูกลูกน้องของไตรภพเตะเข้าที่ข้อพับอย่างแรงจนทรุดลงไปกองกับพื้นอีก  ไตรภพล้วงเอาปืนพกกระบอกใหญ่พร้อมที่เก็บเสียงออกมา

          “เอาไว้ผมจะจัดท่าให้คุณก็แล้วกันนะ  ไม่ต้องห่วง”  ไตรภพว่า  ยกกระบอกปืนขึ้นเล็งไปยังหน้าผากของพิชช์ฌาน

          โลหะเย็นเยียบแนบอยู่ที่หน้าผาก  พิชช์ฌานหลับตาลงแล้วนับถอยหลัง  สาม..สอง..หนึ่ง  ใบหน้าเรียวหวานของใครบางคนปรากฏขึ้นในความทรงจำ  อาคิราห์ส่งยิ้มมาให้เขา

          ปัง!

     .................................................................................................

          เจ้าโอเมก้าสะดุ้งตื่นกลางดึกเป็นคืนที่สามติดต่อกัน  เขาหายใจหอบถี่และเหงื่อชุ่มโชกโทรมตัวเพราะฝันร้าย  ภาพพิชช์ฌานนอนจมกองเลือดยังติดตา  อาคิราห์ตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ

          หัวใจยังเต้นรัวเร็วอยู่  ชายหนุ่มพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาว  ระบายความกลัดกลุ้มออกไป  เดินออกไปยืนตากลมที่ริมระเบียง  กลิ่นหอมๆของดอกไม้ในสวนพัดมาเข้าจมูกช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

          หันไปมองรูปหัวเตียงที่เป็นรูปถ่ายของเจ้าของห้องตัวจริง  ...เป็นเพราะเขากังวลเรื่องพิชช์ฌานมากเกินไปก็เลยเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ  แท้จริงแล้วตอนนี้พิชช์ฌานอาจจะกำลังนอนหลับสนิทอยู่ในที่ไหนสักแห่งในประเทศนี้และแผนจัดการพวกค้าโอเมก้าก็กำลังดำเนินไปได้สวยแน่ ๆ

          แล้วเมื่อไหร่พิชช์ฌานจะกลับมาหาเขาซักทีนะ....ชายหนุ่มคิดพลางทอดถอนหายใจยาว

          เสียงเคาะประตูรัวๆดังขึ้นหน้าห้องนอนจนเขาตกใจ  อาคิราห์รีบเดินไปที่ประตูห้องแล้วมองผ่านตาแมวออกไปด้านนอก  นิลลายืนอยู่หน้าห้องด้วยท่าทางร้อนใจ

          “มีอะไร”  เขาเปิดประตูออก  “เกิดอะไรขึ้นหรือ”

          “เรารีบไปโรงพยาบาลกันดีกว่า”  คำพูดของนิลลาทำให้คนฟังหัวใจตกลงไปอยู่ทีตาตุ่มอีกครั้ง  มันเหมือนกับคืนนั้นที่พิชช์ฌานตัวปลอมเสียชีวิตในห้องไอซียูไม่มีผิด  อาคิราห์นั่งบีบมือของตัวเองไปตลอดทางด้วยความตึงเครียด  นิลลาอธิบายสถานการณ์คร่าวๆให้เขาฟังอย่างรวบรัด

          “คุณพิชช์ฌานกับคุณเจนภพวางแผนล่อจับพวกค้ามนุษย์แล้วปรากฏว่าโดนยิง  ตอนนี้อาการสาหัสอยู่ในห้องผ่าตัด”

          น้ำตาของคนฟังทะลักออกมาโดยไม่ต้องฟังจนจบ  อาคิราห์สะอื้นฮักยกชายเสื้อขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้  ภาพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ล้มจมกองเลือดในความฝันกลับมาในความคิดกลายเป็นความกลัวจนตัวสั่นสะท้าน  นิลลาเอาเสื้อคลุมร่างเจ้านายเอาไว้   

          “คุณอาคิราห์ใจเย็นๆก่อน  ข่าวมีมาแค่นี้เอง อาจจะมีผิดพลาดตรงไหน..”

          “ฉันรู้  ฉันสังหรณ์มาตลอดว่ามันจะต้องเกิดขึ้น  แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้”  อาคิราห์พูดทั้งน้ำตา  “ฉันเคยขอเขาแล้วให้หยุดแต่ว่าเขาไม่หยุด  สุดท้าย ...สุดท้าย”

          “คุณพิชช์ฌานไม่ใช่คนที่จะตายง่ายๆ”  นิลลาปลอบใจ

          รถยนต์มาถึงหน้าโรงพยาบาลแห่งนั้น  นักข่าวมารอกันอยู่เต็มไปหมด  อาคิราห์ยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วเดินตามหลังนิลลาเข้าไปด้านในของโรงพยาบาลท่ามกลางเสียงตะโกนและแสงแฟลช  คนของพรรคบางคนรีบเข้ามารับเขารวมถึงนายจรัญรองหัวหน้าพรรค

          “คุณอัยย์  มาแล้วเหรอครับ  ทางนี้ครับ”  จรัญเดินนำหน้าเขาเข้าไปในลิฟต์  อาคิราห์จำเหตุการณ์ระหว่างนั้นไม่ได้ทั้งนั้นว่าได้พบเจอใครบ้าง  เขาหูอื้อตาลายไปหมด  ในใจคิดเพียงแต่ว่าพิชช์ฌานจะต้องไม่เป็นอะไรเท่านั้น

          “อยู่ข้างในครับ”  จรัญพูด

          อาคิราห์ก้าวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยพิเศษอย่างมึนงง  พิชช์ฌานไม่ได้นอนในห้องไอซียูอย่างที่เขาคิดเอาไว้แต่แรกหลังจากได้ยินข่าว  ภาพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงเดี่ยวกลางห้อง  มีสายน้ำเกลือระโยงรยางค์เอาไว้ที่มือข้างหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจหรือมีเครื่องมือแพทย์รายล้อมยุ่บยั่บเหมือนคราวก่อน  เขารู้สึกคลายใจไปได้เปลาะหนึ่ง  เริ่มมีสติพิจารณาสิ่งต่างๆมากขึ้น  อย่างน้อยอีกฝ่ายก็คงจะไม่ได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นกระมัง

          “คุณพิชช์ฌาน”  อาคิราห์เรียก  เอื้อมมือไปแตะที่ท่อนแขนล่ำสันที่วางอยู่แนบตัว  “ได้ยินหรือเปล่า”

          “อืม”  เปลือกตาบวมช้ำของอีกฝ่ายขยับแล้วเปิดขึ้นมองคนมาใหม่  “มาแล้วเหรอ”

          น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ทะลักออกมาอีก  อาคิราห์ยกมือขึ้นปิดปากแล้วก้มลงกอดร่างสูงใหญ่เอาไว้แน่น  ซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างที่มีผ้าพันแผลปิดอยู่นั้น

          “คุณ  ...นึกว่าจะไม่  ฮึก  นึกว่าตายแล้วแน่คราวนี้  ฮือ”  เสียงร้องไห้โฮของโอเมก้าทำให้คนป่วยยิ้มออกมานิดหนึ่ง  ยกมือขึ้นลูบเส้นผมสลวยที่เคลียอยู่กับอกเบาๆ  “ยังไม่ตายจริงๆด้วย”

          “จะตายได้ยังไงเล่า  ฉันยังไม่ได้เจอหน้าเจ้าบู้บี้ที่สามเลยนะ”  พิชช์ฌานพูดช้า ๆ เพราะยังเจ็บแผลที่มุมปากอยู่  “หยุดร้องได้แล้ว  ไหนขอดูหน้าหน่อยซิ  ไม่ได้เจอหน้าตั้งหลายวัน”

          อาคิราห์เงยหน้าขึ้นจากอก  มองหน้าอีกฝ่ายเต็มตา  ใบหน้าเรียวหวานแดงก่ำพอๆกับนัยน์ตากลมโตที่คลอด้วยน้ำตา  ส่วนใบหน้าคมเข้มนั้นก็เขียวช้ำแถมยังบวมเป่งในบางจุด  อาคิราห์ยกมือขึ้นแตะที่หัวคิ้วแตกกับโหนกแก้มช้ำๆนั้นเบาๆ

          “เจ็บมากมั้ย”

          “เห็นหน้าอัยย์แล้วก็หายเจ็บ”

          คนฟังเม้มปากนิดหนึ่งแล้วกดน้ำหนักลงบนโหนกแก้มสีม่วงแรง ๆ จนคนป่วยร้องโอย

          “โทษฐานทำให้ผมเป็นห่วงดีนัก”  อาคิราห์ว่า  แล้วก้มลงไปแตะริมฝีปากเข้าที่จุดเดิมเมื่อครู่นี้  “หายไวๆนะ”

          “ปากฉันก็เจ็บนะ”  พิชช์ฌานพูดลอย ๆ  อีกฝ่ายหัวเราะออกมาได้เป็นครั้งแรก  เอื้อมมือไปจิ้มที่ปลายจมูกโด่งคม

          “รอยาหมอไปแล้วกันนะ”

          “จูบเธอช่วยให้แผลหายเร็วแน่ๆ”  นักการเมืองหนุ่มพูดต่อมาอีก  สบตาอีกฝ่ายด้วยแววตาเป็นประกาย  “โหนกแก้มฉันเหมือนจะหายเจ็บแล้ว”

          “ไม่”  อาคิราห์ปฏิเสธแล้วยิ้มกริ่ม  ลุกขึ้นมายืนข้างเตียง  “คุณต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังก่อน  แล้วผมจะคิดดูอีกทีว่าจะช่วยคุณมั้ย”

          “เดี๋ยวนี้ทำอะไรต้องมีข้อแลกเปลี่ยนตลอด”

          “ก็เรียนรู้มาจากคุณไง”  อาคิราห์หัวเราะเบา ๆ รู้สึกปลอดโปร่งพอที่จะยิ้มออกมาได้  เขาเดินไปลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง

          พิชช์ฌานเหลือบมองคนที่นั่งเท้าคางรอฟังคำอธิบายจากเขาตาแป๋วอย่างมันเขี้ยว  อยากรวบร่างโปร่งบางนั้นมากอดแน่นๆอีกสักทีให้สมกับความคิดถึง  แต่ดูท่าเจ้าตัวคงจะโวยวายหนักแน่ถ้าขืนเขายังอมพะนำเก็บเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้คนเดียวอีก

          “เรื่องมันเริ่มจากการทลายซ่องโอเมก้าคืนนั้นน่ะแหละ”  ชายหนุ่มเริ่มเล่า  เขาเล่าถึงส่งคนเข้าไปหาหลักฐานในบ้านของจักรกฤตจนกระทั่งเกิดเหตุระเบิดขึ้น  เขาติดต่อกับเจนภพเพื่อซ้อนแผนในการติดต่อกลับไปยังพวกฝั่งตรงข้าม  “ฉันให้เจนภพแกล้งทำเป็นทรยศฉันอีกทีจนกระทั่งได้เจอตัวการ”

          “หมายความว่าคุณได้หลักฐานมาจากบ้านของจักรกฤตงั้นเหรอ”

          “ใช่”  ชายหนุ่มพยักหน้ารับ  “ฉันได้สิ่งที่คาดว่าจะเป็นรายชื่อของผู้ร่วมขบวนการของมันมา  แต่ว่ามันใช้ตัวย่อภาษาอังกฤษเอาไว้  และหนึ่งในนั้นก็คือ  T.A.”

         รอยยิ้มบนใบหน้าของคนฟังจางลง  พิชช์ฌานเอื้อมมือไปกุมมือของโอเมก้าเอาไว้

          “พ่อ...หรอ?”  อาคิราห์กระซิบ

          “ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้น”  อัลฟ่าหนุ่มยอมรับ  “ฉันวางแผนให้เจนภพนัดพบกับพวกมันเพื่อส่งมอบของในเซฟให้  แกล้งทำเป็นถูกมันตลบหลังเพื่อจะได้ข้อมูลจากปากของมันให้มากที่สุดก่อนที่ตำรวจจะมาจัดการ ...ไม่ใช่พ่อของเธอ  อาคิราห์  แต่เป็นพี่ชาย  พี่ไตรภพ”

          “คุณพระช่วย”  อาคิราห์อุทาน  “พี่ภพน่ะเหรอ  เป็นไปไม่ได้หรอก  พี่ภพไม่ใช่คนเลว  เขาไม่มีทางมีส่วนร่วมกับขบวนการบ้าๆนั่น”

          “ฉันก็ตกใจมากเหมือนกัน”  พิชช์ฌานถอนหายใจยาว  “ฉันไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นั่น  ฉันคิดว่าน่าจะเป็นพวกลิ่วล้อสักคน  ใครก็ได้ที่ฉันจะเอามาสืบซักทอดได้”   เขานึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนขึ้นมาได้  พอไตรภพจะลั่นไกก็มีเสียงปืนดังขึ้นก่อนจากด้านนอกพร้อมกับร่างลูกน้องของไตรภพล้มลงไปกองกับพื้น  เกิดความชุลมุนขึ้นในพริบตา  พิชช์ฌานดึงเจนภพให้ก้มลงต่ำกับพื้นหญ้าขณะที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวของนายไตรภพที่พยายามยิงต่อสู้

          “ผมไม่อยากเชื่อ”  อาคิราห์ส่ายหน้า  “พี่ภพเป็นคนดีจริง ๆ นะ  เขาไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก”

          “คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนหลังจากนี้แล้ว”  พิชช์ฌานตอบสั้น ๆ ไม่ได้ขยายความต่อ  “เธฮผอมลงไปจากวันนั้น”  เขากำข้อมือเล็กบางของโอเมก้าขึ้นชู

          “ก็ใครจะไปกินลงล่ะ  กุหลาบก็ไม่มีมาส่ง”  อาคิราห์สะบัดเสียง

          “ฉันจำเป็นต้องงดส่งดอกไม้ให้เธอไปเพื่อความแนบเนียน”  พิชช์ฌานหัวเราะเบาๆ  “ตอนนั้นฉันควรจะกำลังถูกเจนภพซ้อมแล้วก็จับไปขังอยู่  จะมาส่งกุหลาบให้เธอได้ยังไง”  เขารู้อยู่แล้วว่ามีคนจับตามองเด็กส่งดอกกุหลาบอยู่ตลอด  เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น

          “คุณไม่คิดถึงความรู้สึกของผมบ้างเลยเหรอว่าจะรู้สึกยังไงบ้าง”  อาคิราห์พูดเสียงเบา

          “ฉันรู้ว่าเธอเข้มแข็งมากพอที่จะรอฉันได้”  พิชช์ฌานพูดด้วยเสียงมั่นใจ  “เธอสอบผ่านตั้งแต่ตอนอยู่หน้าห้องไอซียูคืนนั้น”

          “แม่คุณตบหน้าผมด้วย”  อาคิราห์เพิ่งนึกขึ้นได้  “ตอนนั้นผมสติแตกมาก ๆ”

          “ถ้าไม่ใช่เธอ  ฉันก็คงจะเครียดกว่านี้  แต่นี่เป็น..เจ้าบู้บี้ของฉัน  ฉันเลยมั่นใจว่าจะต้องไม่เป็นไรแน่”  พิชช์ฌานอ้าแขนออกกว้างแล้วพยักหน้าเรียกอีกฝ่าย  “มากอดอีกทีเร็ว”

          “ฮึ  เห็นว่าเจ็บตัวหรอกนะ”  อาคิราห์พึมพำ  ลุกขึ้นมากอดร่างสูงใหญ่เอาไว้อีกรอบด้วยท่าทางเหมือนไม่เต็มใจนัก

          “ฉันรู้ว่าภรรยาของฉันเก่งแล้วก็มีเหตุผล  เขาไม่มีทางโกรธแน่  เพราะทุกอย่างที่ฉันทำลงไปก็เพื่อเขากับลูกทั้งนั้น”  พิชช์ฌานกระซิบกับหน้าผากเนียน

          “ไม่คิดว่าผมจะน้อยใจเป็นบ้างเหรอ”

          “หลังจากนี้ฉันจะชดเชยให้เธอจนกว่าเธอจะพอใจเลยดีไหม”  พิชช์ฌานว่า  “ฉันต้องรีบจัดการทุกอย่างให้จบก่อนที่จะเลือกตั้ง  เพราะฉันไม่รู้เลยว่าพวกมันคิดจะทำอะไรอีก  อย่างน้อยตอนนี้เราก็สบายใจได้ว่ามันคงไม่กล้าทำอะไรเราเพราะตำรวจและคนทั้งประเทศกำลังจับตามอง”

          “ผมยังไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นพี่ไตรภพ”  อาคิราห์พูดกับแผ่นอกกว้าง

          พิชช์ฌานเงียบ  ความจริงเขาก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเหตุการณ์คราวนี้ดูเหมือนถูกจัดฉากอย่างประหลาด  คนอย่างไตรภพในสายตาของเขาเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรถึงขั้นจะมาร่วมมือในขบวนการณ์ค้ามนุษย์ได้  แต่ว่า...ถ้าอย่างนั้น  เหตุใดถึงเป็นผู้ชายคนนั้น ... คำพูดเหยียดโอเมก้าว่าไม่ใช่น้องชายของตนเองยังติดอยู่ในใจ 

          มีอะไรมากกว่าที่เห็นหรือเปล่า  ทุกอย่างมันดูราบรื่นเกินไป  หรือว่าเขากำลังหลงเดินตามเกมของใครอยู่

...

          มาอัพแล้วจร้า

          ใครรอเรื่องนี้อยู่มั้ง

          เจอกันตอนหน้านะคะ

          #ขอรักแค่คุณ

         

 

 

 

 

 

 

 

         

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หายใจ​หาย​คอ​ไม่​ทัน​กัน​เลย​ทีเดียว​เชียว​

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แผนซ้อนแผนซ้อนแผนซ้อนแผน :sad4: หรืออัยย์กับอคินทร์ไม่ใช่ลูกแม่เดียวกับไตรภพ :serius2:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตัวการใหญ่จะหลงเดินมาให้จับง่ายๆเลยเหรอ?  :katai1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ขอถามนักเขียนแบบงี่เง่าหน่อยนะ

ทำไมถึงใช้คำว่า “ หรอ “ ซึ่งออกเป็นเสียงสระ “ ออ “ ในประโยคคำถาม

แทนที่จะใช้ “เหรอ “ ซึ่งออกเสียงสระ “ เออ “ ตามที่เคยเรียนมา

นักเขียนหลายท่านเขียนเรื่องได้ดีมาก แต่พออ่านไป ๆ เจอคำนี้แล้วทำให้ขัดกับความรู้สึกอย่างมาก

และทำให้อรรถรสในการอ่านเสียไปเลย และเราก็ยังไม่ได้ไปเปิดดูใน ราชบัณฑิตฯ

หรือเป็นคำเฉพาะของนักเขียนนิยายหลายท่านที่จะถ่ายทอดให้คนอ่านรุ่นหลังใช้

ภาษาเขียน “หรอ “ แทน “ เหรอ “ ให้มันวิบัติไปอีกหนึ่งคำ  :hao5:  :heaven
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2019 08:30:22 โดย Yarkrak »

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เหมือนเรื่องจะคลี่คลาย แต่ก็ไม่ใช่ แงง
 :hao5: :hao5:
นายพิษจะได้อยู่ดูเจ้าบู้บี้ที่สามมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ oily06

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นั่นสิ เราก็รู้สึกว่าไม่ใช่พี่ไตรภพ ตัวการใหญ่อาจเป็นคนอื่นที่คาดไม่ถึง อาจใช้ครอบครัวกับน้องอัยย์บีบบังคับให้ทำแบบนี้
คุณพิช น้องอัยย์ สู้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด