[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 266855 ครั้ง)

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นายพิษทำตัวดีเถอะนะ น้องน่าสงสาร
อย่าทำให้ต้องผิดหวังซิ :z3:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อิหยังของนายพิษเนี่ย  o12

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
.........  :z3: กลายเป็นว่าค้างมากเลยค่ะ  แง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารน้องจังเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2019 09:07:02 โดย Jibbubu »

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตามไปจับกิ๊กหรือเปล่าบู้บี้

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
จะม่าแล้วหรอ ยังไม่พร้อมกินนะ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตอนนี้ ค่อนข้างปวดใจ.. ฮือออ...  :hao5:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โหยยยยย น้องบู้บี้โหมดจริงจัง คุณแม่อ่านแล้วใจบางเลยลูก ถถถถถถ อิพิษษษษษ ฉลาดเรื่องน้องให้ได้อย่างเรื่องบริหารพรรคหน่อยสิ รู้ว่าน้อง sensitive ก็หัดพูดอะไรให้น้องเชื่อใจบ้าง นี่น้องคิดว่าโกหกไปทุกเรื่องแล้วววววว

ชอบความหวานแบบ ความดึงดูดกันแบบไม่รู้ตัวของทั้งคู่ น่าร้ากกกก  :o8:

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เดาใจน้องไม่ถูกเลย แต่นายพิษนี่แพ้ท้องแทนน้องใช่มั้ยคะ สม 55555555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ไปกันใหญ่แล้ว :z3: :z3:
แต่ใครส่งข้อความพวกนั้นให้เจ้าบู้บี้ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชูป้ายเชียร์บู้บี้
สู้ๆ นะรูกก  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
งานเข้า

งานเข้า

งานเข้า

ออฟไลน์ lalilali

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ปากเสียอีกแล้วนังพิษ

ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อัยย์ไว้ใจใครไม่ได้เลยนะเนี่ย :hao4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ใครช่างมายุแยงให้ผัวเมียเขาหมางใจกัน กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใครส่งรูปมาให้เจ้าบู้บี้นะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ทำไมต้องมาได้ยินประโยคนี้ด้วย :katai1: พูดตั้งเยอะแยะ

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไปด้วยกันก็ดีไปดูให้เห็นกับตาเลยบู้บี้ แล้วหนีไปอยู่กับพี่ชายซะ555 แต่ไม่ว่ายังไงบู้บี้ต้องเก็บลูกไว้นะ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
สนุกมากๆๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 20

 



 

 

 

 

            เขาทอดสายตามองร่างกลมป้อมของฝาแฝดที่อยู่ในชุดเอี๊ยมลายลูกหมีเขม็ง  อคินทร์มีท่าทางตื่นเต้นร่าเริงเมื่อรู้ว่าจะได้ออกไปเที่ยวสวนสนุกกับพี่ๆคนอื่น

            “เดี๋ยวคินจะเอาโป่งมาฝาก เยอะๆเลย”  แฝดพี่หันมาบอกเขา  อ้ามือออกกว้าง  “หนมด้วย”

            “อัยย์อยากไป”   เขาเงยหน้าขึ้นบอกพี่เลี้ยงที่กุมข้อมือของเขาเอาไว้แน่น  “ขออัยย์ไปด้วย”

            “คุณอัยย์อยู่บ้านกับพี่ออมดีกว่าค่ะ  เดี๋ยวพี่ออมพาไปเล่นในสวน  ดีไหมคะ  พาพี่ใบหม่อนไปวิ่งเล่นด้วยกันไง”  พี่เลี้ยงย่อตัวลงพูดเสียงอ่อน  อาคิราห์เบะปากออก  ขอบตาร้อนผ่าว

            “ทำไมคินไปได้แล้วอัยย์ไปไม่ได้”  เขาตวาดเสียงแหลม  “อัยย์อยากไปเที่ยว  อยากไปด้วย  อัยย์จะไปด้วย”  เขากระทืบเท้าลงกับพื้นแรงๆหลายที  ทำท่าจะทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นประท้วง  ทว่าเสียงดุๆของบิดาดังขึ้นข้างหลังเสียก่อน

            “งอแงอะไรอาคิราห์  ลุกขึ้นยืนเดี๋ยวนี้  พื้นเปื้อน”  พ่อของเขาเดินมาหยุดตรงกลางระหว่างเขากับแฝดพี่  อัยย์กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ทันทีที่สบตาคมดุคู่นั้นของพ่อ  “เคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ  ออม...พาคุณอัยย์กลับเข้าไป”

            พี่เลี้ยงรับคำ  ออกแรงกึ่งลากกึ่งจูงพาคุณหนูของเธอกลับเข้าไปในบ้าน

            “อัยย์อยากไปด้วย  อัยย์อยากไปเที่ยว  อัยย์อยากไป”  อาคิราห์กรีดเสียง  พยายามดิ้นหนีมือพี่เลี้ยงที่ล็อคตัวของเขาเอาไว้แน่นหนา  มองภาพบิดาจูงมือฝาแฝดคนพี่เดินไปขึ้นรถผ่านม่านน้ำตาพร่ามัว  “ปล่อยอัยย์นะ  อัยย์อยากไป  พ่อไม่รักอัยย์  ไม่มีใครรักอัยย์  ฮือ”

            เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนั้นสะท้อนก้องดังเข้าหูจนอาคิราห์ตกใจตื่น  คราบน้ำตาของค้างอยู่บนหมอนและหางตา  ชายหนุ่มดึงตัวลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนผิวแก้ม

            ห้องนอนมืดสนิทและเงียบเชียบ  ไม่มีเสียงกรนเบาๆอย่างเคย  อาคิราห์เอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงให้สว่างขึ้น  ไม่มีเงาของร่างสูงใหญ่

            ใจหาบไปวูบหนึ่งก่อนจะได้ยินเสียงของตกในห้องน้ำ  อัยย์เหลียวไปมองถึงได้เห็นแสงสว่างรางๆลอดออกมาจากช่องว่างใต้ประตูห้องน้ำ  ตามด้วยเสียงเปิดฝักบัว  นายพิษฌานคงตื่นมาอาบน้ำ...ตั้งแต่ตีสี่เนี่ยนะ   เขาอุทานในใจหลังจากหันไปมองนาฬิกา

            สักพักร่างสูงใหญ่ก็กลับออกมาจากห้องน้ำ  พิชช์ฌานมองคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงแล้วเลิกคิ้ว

            “ทำไมรีบตื่น  ฉันทำเสียงดังเหรอ”

            อีกฝ่ายส่ายหน้า  ย้อนถามกลับมา

            “คุณนอนตรงไหนน่ะ”

            “ก็เธอไม่ให้ฉันนอนบนเตียง  ฉันก็เลยนอนโซฟานั่นแหละ”  นักการเมืองหนุ่มตอบเสียงเรียบเรื่อยเหมือนไม่เดือดร้อนเท่าไหร่  เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วลงมือแต่งตัว  “นอนไม่หลับ  กินกาแฟไปเยอะเลยตาค้าง  ขี้เกียจนอนต่อเลยลุกมาอาบน้ำ  ถ้าเธอยังง่วงอยู่ก็นอนต่อไปก่อนเถอะ  อีกสองชั่วโมงฉันจะปลุก”

            อาคิราห์ถอนหายใจยาว  ลุกขึ้นจากเตียง

            “ไม่เป็นไร  ผมนอนพอแล้ว”

            “อย่าลืมจัดกระเป๋านะ  เจ็ดโมงออกเดินทาง”  พิชช์ฌานพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน  อาคิราห์มองตามหลังด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก  ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวบ้างแล้วก็มายืนปวดหัวกับบรรดาข้าวของที่กองอยู่บนเตียง

            กระเป๋าเดินทางก็ใบนิดเดียว  จะเอาใบใหญ่ไปก็คงจะดูเอิกเกริกเกินไปหน่อย  ไปค้างแค่คืนเดียว  แต่พอเอาใบเล็กไปก็ยัดเสื้อคลุมตัวโปรดกับผ้าห่มพวกนั้นลงไปไม่ได้

            เจ้าโอเมก้ายืนคิดอย่างเคร่งเครียด  ลองพับผ้าวางเรียงทีละชิ้นอย่างบรรจงแล้วก็ยังไม่สำเร็จ  กระเป๋าอ้วนตุ๊จนปิดกระเป๋าไม่ได้  สุดท้ายเขาก็เลยจำต้องคัดของบางชิ้นออกไปอย่างจำใจ

            กว่าจะเสร็จก็เกือบหกโมงเช้าพอดี  นิ่มนวลขึ้นมาเคาะประตูเรียกเขาลงไปกินข้าว  พิชช์ฌานนั่งประจำที่อยู่ก่อนแล้วในชุดพร้อมเดินทาง

            “เก็บของเสร็จแล้วใช่ไหม  เดี๋ยวให้เจนภพยกไปใส่รถ  รีบกินเร็ว...จะได้ไปกัน”  อีกฝ่ายเร่ง

            ยังเหลือเวลาอีกตั้งมากแต่พิชช์ฌานกลับเร่งเขา  คงอยากไปเจอใครบางคนที่นั่นเต็มที ...อาคิราห์คิดในใจขณะที่ตักอาหารเข้าปากเคี้ยวอย่างฝืดคอ  ไม่รู้วันนี้ป้านิ่มฝีมือตกหรือเปล่าถึงไม่อร่อยถูกปากเหมือนเคย

            คนที่นั่งหัวโต๊ะเองก็ตักข้าวต้มเข้าปากได้เพียงสองสามคำแล้วก็ต้องหันไปพึ่งกาแฟดำที่นิ่มนวลชงเอาไว้ให้อย่างรู้ใจขึ้นดื่มแทน  ความจริงเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอน  โดนไล่มานอนโซฟาแข็งๆแทนเตียงใครมันจะไปนอนหลับลงได้  เห็นว่าดึกมากแล้วเลยขี้เกียจเถียงกับอีกฝ่าย  ยอมให้ยึดเตียงเลยตามเลย  อดทนนอนได้ไม่นานก็ทั้งปวดหัวทั้งคลื่นไส้จนต้องลุกมาเข้าห้องน้ำตั้งแต่ก่อนไก่โห่

ตอนนี้อาการปวดหัวก็ยังคุกคามอยู่แม้จะนั่งรถออกจากบ้านมาแล้วก็ตาม  พิชช์ฌานยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเองเบาๆ  เริ่มเวียนหัวเพราะรถโคลงเคลงเลยหันออกไปมองวิวข้างนอกไกลๆเผื่อจะดีขึ้นบ้าง

อาคิราห์แอบมองคนนั่งข้างๆด้วยหางตา  ผู้ชายคนนั้นนั่งเงียบกริบมาตลอดทางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  แทบไม่ยอมหันมาสบตาเขาเลยสักครั้ง  เป็นอาการที่แปลกไปจนเห็นได้ชัด  แต่ก่อนถึงแม้จะไม่ได้คุยกันมากแต่เวลานั่งรถด้วยกันอีกฝ่ายก็ไม่เคยปล่อยให้รถเงียบขนาดนี้

มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ

รถมาถึงที่สนามบิน  เจนภพพาพวกเขาเดินมาอีกทางหนึ่งโดยแทบไม่ผ่านฝูงชน  อาคิราห์เดินตามหลังร่างสูงใหญ่ไปเงียบๆ  เขาเห็นผู้ชายอีกหลายคนเข้ามาทักทายพิชช์ฌานและพูดคุยกัน  เจนภพพาเขาแยกออกมานั่งรอข้างนอกไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ก็ไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไร

เขาละสายตาจากพวกอัลฟ่าแล้วหันมานั่งมองเครื่องบินขึ้นลงอย่างตื่นเต้นแทน  เป็นครั้งแรกที่จะได้นั่งเครื่องบินแม้จะเป็นระยะทางใกล้ๆภายในประเทศก็เถอะ  อดนึกถึงเมื่อคราวก่อนที่มาสนามบินไม่ได้  ตอนนั้นเขามัวแต่เครียดว่าจะได้ไปหรือไม่มากกว่าจะเครียดเรื่องขึ้นเครื่องคนเดียวเสียอีก  ความคิดเรื่องไปเที่ยวรอบโลกคนเดียวนั้นพอมาลองคิดดูอีกรอบแล้วก็ค่อนข้างจะบ้าบิ่นไม่น้อย

แต่ถามว่าอยากทำไหม   คำตอบก็คือ...อยาก..อยู่นั่นเอง

“ได้เวลาแล้วครับคุณอัยย์  เชิญทางนี้”  เจนภพเดินออกมาตามเขา  อาคิราห์เดินตามพวกเขาไปเรื่อยๆจนมาถึงรถบัสคันใหญ่ที่มีเพียงแค่พวกเขาไม่กี่คน  รถขับไปจอดเทียบใกล้ๆเครื่องบินลำหนึ่งที่เล็กกว่าเครื่องบินขนส่งพาณิชย์ทั่วไป

นายพิษฌานมีเครื่องบินของตัวเองจริงๆด้วยแฮะ...

“เธอขึ้นไปก่อนเลย  เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป”  พิษฌานบอกกับเขา  อาคิราห์ไม่ได้ถามอะไร  เขาเดินขึ้นบันไดตามหลังเจนภพขึ้นไปข้างในห้องโดยสารที่จัดเอาไว้หรูหราเกินคาด

“คุณอัยย์นั่งตรงนี้ได้เลยครับ”  เจนภพผายมือไปที่เก้าอี้บุนวมอย่างดีตัวหนึ่งที่ตั้งข้างๆกับอีกตัวที่เดาว่าเป็นของพิษฌาน  “อยากทานอะไรก็บอกได้เลยครับ”

“ผมยังอิ่มๆอยู่  ขอบคุณครับ”  อาคิราห์ทิ้งตัวลงนั่ง  “กระเป๋าเสื้อผ้าของผมอยู่ที่ไหนแล้ว”

“ผมให้คนโหลดขึ้นเครื่องมาแล้วครับไม่ต้องห่วง”

“ผมอยากจะขอผ้าพันคอเสียหน่อย”  อัยย์พึมพำ  “แต่ไม่เป็นไรครับ  ขอบคุณมาก”

“เอาผืนนี้ไปก่อนแล้วกันนะ”  เสียงห้าวๆดังขึ้นตามด้วยร่างสูงใหญ่ที่พอเดินเข้ามาก็ทำให้รู้สึกว่าห้องโดยสารแคบไปในทันที  พิชช์ฌานโปะผ้าพันคอไหมพรมลงบนศีรษะกลมๆของโอเมก้า  “ยังไงผืนที่เธออยากได้ก็เป็นของฉันเหมือนกันนี่นะ”

“ของผม!”

“เดี๋ยวเถอะ  โมเมว่าเป็นของตัวเองอีกแล้ว  ของในกระเป๋าเธอน่ะมีแต่ชุดฉัน  ฉันเห็นอยู่”

“คุณแอบดูกระเป๋าผมเหรอ”  คนฟังตาโต  อีกฝ่ายยักไหล่

“มันก็ต้องเช็คเพื่อความปลอดภัยอยู่แล้ว”  นายพิษฌานตอบเนิบๆ  “แต่ถ้าเธออยากได้ผ้าพันคอ ‘ของเธอ’ ล่ะก็  ฉันเอามาด้วย  อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าฉัน” 

อาคิราห์เม้มปาก  หันหน้าหนีคนที่เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขา  ร่างสูงใหญ่ยกขาขึ้นไขว่ห้างรับแก้วเครื่องดื่มมาจากเจนภพ

“ชอบเครื่องบินของฉันไหม  มันพาเธอบินไปซูริคได้นะ”

“แล้วเมื่อไหร่จะพาผมไปล่ะ”

“ฉันพาเธอไปแน่”  พิษฌานพูดยกแก้วขึ้นดื่ม  ใบหน้าคมเข้มกลับมีแววกังวลอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกัปตันบอกให้รัดเข็มขัด

อัยย์ใจเต้นตึกๆตอนที่เครื่องบินเริ่มออกตัว  เจนภพถอยไปนั่งข้างหลังพร้อมกับผู้ติดตามอีกไม่กี่คน  เสียงเครื่องยนต์ทำงานเต็มที่ก่อนที่เครื่องจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว  ภาพวิวตรงกระจกผ่านไปไวแทบมองไม่ทัน  อาคิราห์มือเย็นเฉียบ  รู้สึกหวิวๆตรงท้องน้อยตอนที่เครื่องลอยขึ้นจากพื้น

“อ้วก...โอย  เจนภพ  ถุง”  เสียงใครอาเจียนดังอยู่ข้างๆ  อาคิราห์หันขวับไปมองแล้วก็พบว่าคนที่นั่งไขว่ห้างวางมาดอยู่เมื่อครู่กำลังโก่งคออาเจียนใส่ถุงพลาสติกเต็มที่  ใบหน้าคมคร้ามซีดเผือดมีเหงื่อผุดขึ้นเต็ม

“คุณฌาน  ไหวไหมครับ  เป็นอะไรไหม”  เจนภพถามอย่างตกใจ  เก้กังๆไม่กล้ายกมือขึ้นลูบหลังเจ้านายได้แต่เงยหน้าขึ้นมองอาคิราห์

“ฉัน...ไม่เป็นไร...ไม่ทันตั้งตัวน่ะ”  พิชช์ฌานพูดหอบๆ  เงยหน้าขึ้นจากถุง  เหลียวมาหน้าคนข้างๆที่ยกมือขึ้นแตะๆที่หลังเขาอยู่  “ปกติฉันไม่เป็นแบบนี้นะ”  ชายหนุ่มรีบพูด  รับแก้วน้ำจากเจนภพมาล้างปาก

“ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่   ใครๆก็เมาเครื่องกันได้”  อาคิราห์พูดอย่างเป็นการเป็นงาน  รู้สึกประทับใจตัวเองไม่น้อยที่ไม่อ้วกออกมาให้ขายหน้า  “เรื่องปกติ”  ยักไหล่แถมให้อีกหน่อย  นานๆทีจะเห็นคนอย่างนายพิษฌานหน้าเขียว  ปกติเห็นเก่งกล้าสามารถชอบโอ้อวดทุกเรื่อง  “ผมเคยเห็นคนแก่เมารถเมาเรือบ่อยออก”  ได้ทีต้องรีบข่ม  โบราณบอกคนล้มให้รีบนั่งทับไปเลย

“อย่าให้ถึงตาเธอบ้างนะ เจ้าบู้บี้”  ฝ่ายนั้นพูดอุบอิบในคอ  รับยาดมมาจ่อจมูกอย่างหมดท่า  พิชช์ฌานได้แต่นั่งหลับตาเงียบไปตลอดทาง

อาคิราห์นั่งมองก้อนเมฆข้างนอกไปเรื่อยๆ  จินตนาการว่ามันเป็นรูปหน้าคนบ้าง  รูปสัตว์ต่างๆบ้าง  จนในที่สุดเครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงเพื่อจอดที่สนามบิน

พิชช์ฌานใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะลุกจากที่นั่งเดินออกมาได้   ว่าที่หุ้นส่วนคนใหม่ของพรรคอย่างคุณธีรดลมารอรับอยู่แล้วถึงสนามบิน  พิชช์ฌานพยายามกล้ำกลืนอาการคลื่นเหียนลงไปให้ได้มากที่สุด  แค่อ้วกต่อหน้าอาคิราห์และลูกน้องตัวเองก็ขายขี้หน้ามากพอแล้ว  ขืนมาอาเจียนต่อหน้าว่าที่นายทุนพรรคอีกคงหมดกัน  ความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมา

“เดินทางเป็นอย่างไรบ้างครับ  เรียบร้อยดีไหม  ยินดีที่ได้พบครับคุณพิชช์ฌาน”  ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูทเรียบกริบพูดทักทายนักการเมืองคนสำคัญและคู่สมรสของเขา  “นี่คงเป็นคุณอาคิราห์  ยินดีที่ได้รู้จักครับ  ผมชื่อธีรดลครับ”

“สวัสดีครับ”  อาคิราห์ยิ้มรับบางๆ  รู้สึกถูกชะตากับผู้ชายคนนี้  รอยยิ้มของเขาดูเป็นมิตรและจริงใจ

ธีรดลพาพวกเขาขึ้นรถและขับมายังรีสอร์ตขนาดใหญ่ติดริมทะเล  ทำเอาคนอยากไปทะเลถึงกับตาลุกวาว  สูดกลิ่นเค็มๆของทะเลเข้าปอด  ลมทะเลพัดแรงจนเส้นผมปลิว  มองลงไปที่ชายหาดเห็นต้นมะพร้าวเป็นทิวแถว

“ผมเตรียมที่พักเอาไว้ให้แล้ว  เชิญครับ” ธีรดลพูดยิ้มๆ  สังเกตเห็นแววพอใจจากนัยน์ตาของอาคิราห์ได้  “คุณพิชช์ฌานกับคุณอาคิราห์เดินทางมาเหนื่อยๆ เชิญพักผ่อนก่อน  แล้วเราค่อยมารับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันพร้อมกับคุยกันไปด้วย  ดีไหมครับ”

ตอนแรกพิชช์ฌานจะปฏิเสธ  เขาใจร้อนเกินกว่าจะมานั่งกินลมชมวิวได้  อยากจะคุยตกลงกันให้เสร็จๆแล้วจะได้รีบกลับ  ขี้เกียจค้างแล้ว  แต่ว่าอาการของตัวเองยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่  กลัวว่าไปตกลงธุรกิจตอนนี้จะพาลเสียเปรียบเอาได้ก็เลยยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่าย  ไม่เกี่ยวกับแววตื่นเต้นในดวงตากลมโตของใครเลยด้วย

“เก็บอาการหน่อย  นี่ฉันมาคุยธุรกิจนะ  ไม่ได้มาพักผ่อน”  พิชช์ฌานกระซิบบอกคนตัวเล็กข้างๆที่เหลือบมองซ้ายขวาไปมา

“ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนี่”  อาคิราห์เถียง

“เหรอ...เห็นมองทะเลตาถลนเมื่อกี้”

“คุณไม่เห็นบอกผมก่อนเลยว่ามาทะเล”  อาคิราห์พูด  เงยหน้าขึ้นมองเขา  “คราวที่แล้วผมยังไม่ได้ขึ้นเรือเลยนะ”

“กำลังท้องกำลังไส้อย่าคึกมากนักเลย”  พิชช์ฌานกระซิบตอบเสียงเข้ม ขมวดคิ้วให้อีกทีหนึ่งก่อนจะหันไปยิ้มรับธีรดลตามเดิม

อาคิราห์จุ๊ปากอย่างหงุดหงิด  อุตส่าห์ได้มาเที่ยวแล้วแท้ๆ ดันมาห้ามนู่นห้ามนี่อีก  น่าเบื่อ...เห็นเราเป็นของเล่นแล้วยังจะมาวุ่นวายอีกเหรอ  กลัวของเล่นเจ๊งงี้เหรอ

ห้องพักสวีทวิวดีที่สุดของรีสอร์ตทำให้อาคิราห์ตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม   ธีรดลบอกว่าตอนเช้าจะสามารถมองพระอาทิตย์ขึ้นผ่านหน้าต่างบานนี้ได้ด้วย  เจ้าโอเมก้าเลยตั้งใจเอาไว้ว่าจะรีบตื่นแต่ไก่โห่มารอดูภาพสวยสุดใจที่เจ้าของโรงแรมโฆษณาเอาไว้ให้ได้

นายพิชช์ฌานฝืนนั่งดูร่างโปร่งบางสาละวนเลือกของในกระเป๋ามากองบนเตียง  พึมพำบ่นเขาอยู่คนเดียวว่าไม่บอกก่อนเลยไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมาด้วย   ฟังเสียงงึมงำได้ไม่เท่าไหร่ก็ชักง่วง  ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนหลับสนิทจนได้ยินเสียงกรนเบาๆออกมา  ร่างสูงใหญ่นอนทับผ้าห่มผืนโปรดของอาคิราห์ที่หอบหิ้วมาเอาไว้ทั้งตัว

“ตัวก็หนักมาทับของเราอีก”  อัยย์บ่น  ใช้มือดันตัวอีกฝ่ายให้พลิกไปอีกทางแต่ไม่สำเร็จ  ดูเหมือนว่าพิชช์ฌานจะหลับลึกมากเสียจนไม่ขยับเขยื้อน  สุดท้ายเขาก็เผลอหลับไปบ้างด้วยความเหนื่อยอ่อน

พิชช์ฌานสะดุ้งตื่นจากความฝันว่ามีหินก้อนใหญ่หล่นจากภูเขาลงมาทับท้องเขาเอาไว้  ชายหนุ่มลืมตาโพลงรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างหนักอึ้งอยู่บนหน้าท้องจริงๆ  พอผงกหัวขึ้นดูก็เจอเจ้าโอเมก้านอนคว่ำเอาหน้าเกยอยู่บนพุงของเขาหลับอย่างสบายใจ

“อาคิราห์  ตื่นก่อน ฉันต้องคุยงานต่อนะ”  พิชช์ฌานใช้ปลายนิ้วจิ้มเข้าที่พวงแก้มนิ่มๆของคนหลับ  เจ้าของแก้มส่งเสียงอืออาแล้วลืมตาขึ้น  “เอาหัวของเธอออกไปจากท้องฉันได้แล้ว”

อัยย์กระพริบตางงๆ แล้วก็รีบดึงตัวลุกขึ้นนั่งโงนเงน   คนเห็นจุ๊ปากดีดนิ้วใส่หน้าผากเนียนไปแรงๆทีนึงจนอาคิราห์สะดุ้ง

“เจ็บนะ”

“จะได้ตื่น”

“คุณมันชอบใช้กำลัง”  คนพูดยกมือขึ้นคลำหน้าผากป้อย  “คิดจะทำอะไรกับผมก็ได้งั้นเหรอ”  พูดแล้วเสียงชักเครือ  พิชช์ฌานถอนหายใจเฮือกหันกลับมามองหน้าเขาแล้วถามเสียงอ่อนลง

“อยากเล่นทะเลไม่ใช่เหรอ  ถ้าอยาก...ก็รีบลงไปกินข้าวสิ”

คนฟังตื่นเต็มตา  ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ  รอยยิ้มจนตาหยีเหมือนเด็กๆนั้นทำเอาคนมองชะงักไปครู่ใหญ่  ประกายตาสดใสในดวงตากลมโตทำให้พิชช์ฌานพลอยรู้สึกสดชื่นตามไปด้วย

ร่างโปร่งบางก้าวออกจากลิฟต์นำหน้าเขาไปยังห้องอาหารพลางมองหาร้านขายชุดว่ายน้ำไปตลอดทาง  ทีมของคุณธีรดลรอเขาอยู่ก่อนแล้ว  พวกเขาพาไปที่ห้องอาหารของโรงแรมที่จัดโต๊ะเตรียมเอาไว้แล้ว

“คุณพิชช์ฌาน  เชิญตามสบายเลยครับ  หวังว่าอาหารมื้อนี้จะถูกปาก”

“ผมเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายอยู่แล้วครับ”  พิชช์ฌานตอบเนิบๆ ดูเชิงอยู่ในที  “โรงแรมของคุณสวยมาก  วิวที่ห้องก็ดีมากเลย  อาคิราห์ชอบใจใหญ่”

“วิวสวยมากครับ”  อาคิราห์เสริมยิ้มๆ  “แขกคงมาพักเต็มประจำ”

“ช่วงนี้ไฮซีซั่นก็จะแขกเยอะหน่อยครับ”  ธีรดลพูด  “ส่วนใหญ่แขกที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติมากกว่า ...”  ชายหนุ่มขยายความเรื่องรีสอร์ตของตัวเองให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ  พิชช์ฌานนั่งฟังเงียบๆ จับตามองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง

ธีรดลเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่เพิ่งขึ้นมาดูแลกิจการแทนบิดาที่เสียชีวิตไปไม่นาน  ทว่าความสามารถของชายหนุ่มก็น่าจับตามองไม่น้อย  มากพอที่คนในพรรคของเขาจะเสนอชื่อมาว่าอยากได้มาร่วมทุน  แต่จากประสบการณ์ของพิชช์ฌานแล้ว  เขายังไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก

“คุณอาคิราห์ชอบทานหอยนางรมไหมครับ  ที่นี่เราขึ้นชื่อเรื่องหอยนางรมมาก...”  ธีรดลตักอาหารใส่จานของอาคิราห์อย่างคล่องแคล่ว  ปากก็พูดยิ้มแย้มอย่างคนอัธยาศัยดี  แม้แต่เจ้าบู้บี้ที่วันๆชอบทำหน้าบูดใส่เขาก็ยังยิ้มตอบอีกฝ่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติ

“เรียกผมว่าอัยย์ก็ได้ครับ  ผมชื่อเล่นว่าอัยย์”

“ได้ครับคุณอัยย์  งั้นคุณอัยย์เรียกผมว่าดลก็ได้นะ  น่าจะง่ายกว่าธีรดล”

พิชช์ฌานกระแอม

“แล้วคู่หมั้นของคุณธีรดลไม่มาด้วยหรอครับ  ผมเคยเห็นแวบๆในหน้าหนังสือพิมพ์”  ชายหนุ่มพูดเรียบๆหน้าตาเฉย

“ผมเพิ่งถอนหมั้นครับ  ...คุณพิชช์ฌานคงไม่ทราบ”  ธีรดลตอบ

“อ้าว  งั้นเหรอครับ”  พิชช์ฌานรู้สึกไม่สบายใจกว่าเดิม  ชายหนุ่มหันไปยกกาแฟขึ้นดื่มหลายอึก  รสขมจัดช่วยให้รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย  “อาคิราห์  เธออยากไปเล่นน้ำไม่ใช่เหรอ  ให้เจนภพพาไปสิ”

“ผมยังไม่ได้กินของหวาน”  อาคิราห์หันมาตอบห้วนๆ

“ผมอยากให้คุณอัยย์ลองขนมหวานที่นี่ก่อน  รับรองว่าคุณจะต้องชอบ”  ธีรดลพูดยิ้มๆ  “คุณอัยย์อยากไปเล่นน้ำหรอครับ”

“ครับ  แต่ผมยังไม่มีชุดว่ายน้ำเลย ...พอดีไม่ทราบว่าจะมาทะเล”  ประโยคหลังเขาปรายตามองไปทางคนข้างๆที่ขยับตัว

“ฉันบอกแล้ว แต่เธอหลับก่อนเอง”  พิชช์ฌานกระซิบมุมปาก  “เดี๋ยวให้เจนภพไปหาชุดว่ายน้ำมาให้ก็ได้  ไม่ต้องรบกวนคุณธีรดลเขาหรอก วุ่นวาย”

“ไม่วุ่นวายเลยครับ  เรื่องธรรมดามาก  ไม่ใช่ทุกคนจะเตรียมชุดว่ายน้ำมานี่ครับ  ที่ข้างๆโรงแรมของเรามีร้านค้าอยู่เยอะเลย  คุณอัยย์ลองเดินเลือกซื้อดูก็ได้ครับ  แบบสวยๆเพียบ  หรือถ้ายังไม่เจอที่ถูกใจให้คนขับรถพาเข้าไปซื้อในเมืองก็ได้ครับ  มีห้างสรรพสินค้า”

“ไม่ต้องวุ่นวายหรอกครับ  ผมเกรงใจ”  พิชช์ฌานรีบขัด

“ขอบคุณมากครับคุณดล  เดี๋ยวผมจะลองเดินดูใกล้ๆแถวนี้ดูก่อนครับ”  อาคิราห์ตอบยิ้มๆ

คนข้างตัวส่งเสียงหึในลำคออย่างหมั่นไส้  ไม่เคยเห็นเจ้าโอเมก้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่บ่อยขนาดนี้มาก่อน  หรือว่านายธีรดลอะไรนี่จะถูกใจมากถึงได้ขยันส่งยิ้มให้เสียเหลือเกิน

“เธอผักติดฟัน”  พิชช์ฌานเอียงตัวเข้าไปกระซิบข้างหู  “เลิกยิ้มแยกเขี้ยวเสียทีเถอะ  เขียวอื๋อเลยฉันอาย”

อาคิราห์หุบยิ้มทันควัน  หันขวับมาถลึงตาใส่เขา

“แล้วทำไมไม่บอก  คุณนี่มันแย่จริงๆ”  พูดจบก็หันไปดื่มน้ำหลายอึกหวังจะให้อะไรก็ตามที่ติดฟันอยู่หลุดออกไป  ใช่ลิ้นดุนๆดูก็ไม่เห็นจะเจอเลย  แต่ว่านายพิษฌานเอาแต่บอกว่ายังเหลืออยู่ตลอดจนอัยย์ไม่กล้ายิ้มกว้างต่ออีก




ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk









            ธีรดลเริ่มสนทนาเข้าเรื่องธุรกิจกับพิชช์ฌานอย่างจริงจังขึ้น  อาคิราห์ทานของหวานเสร็จแล้วเลยรีบขอตัวออกมาจากโต๊ะอาหารโดยมีเจนภพมือขวาของพิชช์ฌานตามมาติดๆ

            “คุณอัยย์จะหาชุดว่ายน้ำใช่ไหมครับ”

            “ใช่แล้ว  คุณเห็นบ้างหรือเปล่า”

            “ผมเห็นมีร้านขายของอยู่ข้างๆนี่เอง  ออกไปดูไหมครับ”  เจนภพเสนอ  อาคิราห์เห็นด้วยก็เลยเดินตามกันออกไปสำรวจร้านค้าข้างๆโรงแรมที่เป็นตึกแถวยาวๆขนานไปกับแนวชายหาด  นักท่องเที่ยวแน่นขนัดสมกับที่เจ้าของโรงแรมว่าเอาไว้

            “ร้านนี้ของเยอะดี  ลองเข้าไปดูไหมครับ”  เจนภพชี้ให้ดู

            ใช้เวลาเลือกของไม่นาน  อาคิราห์ก็ได้ชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวมาชุดหนึ่ง  เขาบอกให้เจนภพเลือกบ้างจะได้มาเล่นน้ำเป็นเพื่อนกัน   ตอนแรกเจนภพก็ปฏิเสธแต่พอบอกว่าเขาจะดำน้ำหนีเท่านั้นแหละ  คนสนิทของนายพิษฌานก็เปลี่ยนใจหันไปเลือกชุดแทบไม่ทัน

            เห็นเจนภพเพลิดเพลินกับการเลือกชุดก็เลยแอบถอยออกมาจากร้าน  ชะเง้อมองร้านอื่นๆข้างๆหาอะไรที่น่าสนใจ  ข้างร้านขายชุดว่ายน้ำเป็นร้านขายอุปกรณ์สำหรับตกปลา  อาคิราห์ก้าวเข้าไปหาไม่รอช้า  ด้อมๆมองๆอยู่พักหนึ่งก็ได้คันเบ็ดอย่างดีมาหนึ่งอัน

            “คุณอัยย์  อยู่ที่นี่เอง  ไปไหนทำไมไม่บอกผมก่อน  ผมตกใจหมด”  เจนภพบ่นพึม  เดินเข้ามาหาเขาในร้าน

            “มาพอดีเลย  ผมอยากได้คันเบ็ดอันนี้  จ่ายเงินให้หน่อยสิ”

            “คันเบ็ด? คุณอัยย์จะเอาไปทำอะไรครับ”

            “ถามแปลก  ก็เอาไปตกปลาสิ”

            “คุณจะตกปลาในทะเลหรอครับ”

            “คุณลุงคนขายเขาบอกว่าที่นี่มีบึงให้ตกปลา  หรือจะตกในทะเลก็ไม่เห็นแปลกนี่”  อาคิราห์ส่งคันเบ็ดให้เขาแล้วบอกเรียบๆ  “จ่ายเงินให้ด้วย  ไม่งั้นผมจะถือออกไปเลย”

            “โธ่  คุณอัยย์”  เจนภพจำต้องล้วงกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาอีกครั้ง  คุณพิชช์ฌานให้เงินเอาไว้ก็จริงแต่ไม่มากพอที่จะจ่ายค่าคันเบ็ดหรอก  ชายหนุ่มล้วงหาเหรียญให้วุ่นขณะที่เจ้านายเดินลอยชายออกไปยืนรอข้างหน้าร้านพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ

            รู้อยู่หรอกว่าคุณอัยย์คงอยากเอาคืนเล็กๆน้อยๆที่ไปขังเธอเอาไว้ที่บ้าน  นี่ถ้าเขาเป็นคุณพิชช์ฌานก็คงพาไปเที่ยวรอบโลกเสียนานแล้ว  ไม่ปล่อยให้นอนร้องไห้ตาปูดทุกวันหรอก

            สงสารตายเลย...ตัวแค่นี้เอง  ไหนจะมาตั้งท้องอีก

            แต่ดูเหมือนว่าคุณพิชช์ฌานเองก็น่าจะเริ่มตระหนักอะไรได้บ้างแล้ว  ดูจากสายตาตอนที่มองคุณอัยย์คุยกับคุณธีรดลอะไรนั่น  เขาทำงานกับอีกฝ่ายมานานทำไมจะดูไม่ออกว่าภายใต้รอยยิ้มฉาบหน้าของพิชช์ฌานนั้น  เจ้าตัวกำลังหงุดหงิดแค่ไหน  ไม่งั้นคงไม่รีบไล่คุณอัยย์ออกมาหรอก

            อาคิราห์แวะซื้อไอศกรีมรถเข็นข้างหน้าร้านมาสองแท่งระหว่างรอเจนภพจ่ายเงิน  นัยน์ตากลมใสเหลือบมองรอบด้านอย่างสนใจ  สุดท้ายก็ไปสะดุดตาเข้ากับแผ่นป้ายอันหนึ่งหน้าประตูกระจกของร้านที่ดูเหมือนสำนักงานถัดออกไปเพียงสองร้านเท่านั้น

            ‘บริษัทรับจัดหางานโอเมก้า’

          สองเท้าก้าวเข้าไปหาเร็วกว่าความคิด  ใบปลิวเสียบอยู่แล้วที่หน้าร้านเหมือนเชิญชวนให้คนมาหยิบได้ฟรี  อาคิราห์หยิบใบปลิวขึ้นมาอ่านคร่าวๆ แล้วพับเก็บเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง

            มันเกี่ยวกับการออกนอกประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าของโอเมก้าด้วย...รายละเอียดยืดยาวเก็บเอาไว้อ่านทีหลัง  หัวใจของอาคิราห์เต้นแรงอย่างตื่นเต้น  ลอบมองเข้าไปในสำนักงานนั้นก็ดูสะอาดสะอ้านน่าเชื่อถือ  เห็นผู้ชายสองคนผลักประตูเข้าไปข้างใน

            “คุณอัยย์  ดูอะไรอยู่ครับ”  เจนภพเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับคันเบ็ดอันใหญ่และถุงใส่ชุดว่ายน้ำในมือ  “เสร็จแล้วครับ”

            “ผมซื้อไอติมมาให้คุณ”  อาคิราห์พูด  ส่งไอศกรีมแท่งไปให้แล้วรับถุงเสื้อผ้ามาถือเอาไว้เอง  “ไม่เป็นไร  ให้ผมช่วยถือเถอะ  ไม่อย่างนั้นคุณจะกินยังไง”  เขารีบพาเจนภพเดินหนีออกมาห่างจากสำนักงานแห่งนั้น

            “ขอบคุณครับคุณอัยย์”  เจนภพยิ้มแห้งๆ  ตั้งใจว่าจะเก็บไอศกรีมเอาไว้เป็นความลับไปก่อน  ไม่อย่างนั้นคงต้องหูชาเพราะใครบางคนเก็บมาค่อนขอดไม่เลิกแน่  ...คนขี้อิจฉาแบบนั้น

            เจนภพพาอาคิราห์ไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดว่ายน้ำแล้วก็ลงไปเล่นน้ำในทะเลข้างหน้าโรงแรมนี่เอง  ชายหนุ่มตามประกบเจ้าโอเมก้าไม่ห่างเพราะกลัวเกิดเรื่องอะไรขึ้น  มีลูกน้องคอยควบคุมสถานการณ์อยู่บนชายหาดอีกทีหนึ่ง  ใจจริงก็อยากจะปิดหาดมันเสียเลยเหมือนคราวก่อน  ติดตรงที่ว่าเจ้านายของเขายังไม่ได้ซื้อหาดนี้เสียด้วย

            ไม่แน่ว่าถ้าคุณธีรดลยังขยันยิ้มกว้างให้คุณอัยย์ไม่เลิก  คุณพิชช์ฌานอาจจะเปลี่ยนใจซื้อโรงแรมแถมหาดไปเลยก็เป็นได้  ไม่ต้องหามันแล้วเงินทุนพรรค  เจนภพหัวเราะออกมากับความคิดไร้สาระที่เขาคิดว่าอาจเป็นจริงได้นั้น

            “คุณหัวเราะอะไรน่ะ”  อาคิราห์ขมวดคิ้ว  มองทรายใต้น้ำอย่างสงสัย  “มีอะไรหรอ”

            “หืม?  เปล่าครับคุณอัยย์  พอดีผมหัวเราะเรื่อยเปื่อยน่ะ ไม่ได้เล่นน้ำทะเลนานแล้ว  สนุกดีนะครับ”

            “คุณพิษฌานเขาไม่ไปเที่ยวทะเลบ้างเหรอ”

            “คุณฌานไม่เที่ยวทะเลหรอกครับ”  มือขวาคนสนิทหัวเราะเบาๆ

            “ทำไมล่ะ  เขาก็มีบ้านพักตากอากาศไม่ใช่เหรอ”

            “นั่นสินะครับ  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

            “ผมอยากถามมานานแล้ว  คุณฌานของคุณน่ะ  ทำธุรกิจอะไรบ้างกันแน่  อย่าบอกผมว่าแค่เล่นการเมืองนะ  ผมไม่เชื่อหรอก  ถ้าแค่เล่นการเมืองจะรวยขนาดนี้ได้ยังไง”

            “ทางบ้านของคุณฌานมีฐานะอยู่แล้วครับ”  เจนภพตอบเรียบๆ แล้วเลี่ยงไป  “ถึงเวลาต้องขึ้นจากน้ำแล้วครับคุณอัยย์  คุณฌานเรียกแล้ว”

            “อยากเล่นต่ออีกหน่อย”

            “แค่ผมพาคุณอัยย์ลงมาลึกขนาดนี้ก็โดนคุณฌานตำหนิแล้วครับ”  เจนภพพูดเสียงอ่อน

            “โอเค  ขึ้นก็ได้”

            อาคิราห์เดินลุยน้ำกลับมายังชายฝั่ง  เจนภพเดินตามไม่ห่าง  สายตาคมไวตวัดมองรอบด้านอย่างระแวดระวัง  ถึงแม้จะมั่นใจว่าไม่มีกลุ่มอนุรักษ์หัวรุนแรงอยู่แถวนี้ก็ตาม

            เดินห่อตัวในชุดคลุมอาบน้ำขึ้นมาจนถึงโรงแรม  นายพิษฌานไม่ได้อยู่ในห้องพัก  อาคิราห์เลยอาบน้ำอย่างสบายใจ  กลับมาเปลี่ยนชุดใหม่ที่แห้งสนิทสบายตัว  กะว่าจะแอบงีบสักหน่อย  เจนภพก็มาเคาะประตูเรียกเสียก่อน

            “คุณฌานเชิญคุณอัยย์ขึ้นไปบนดาดฟ้าครับ”

            “ขึ้นไปทำอะไรเหรอ”

            “ผมก็ไม่ทราบ  ..นั่งคนเดียวอาจจะเหงามั้งครับ”  ประโยคหลังคนพูดลดเสียงลงพูดกับตัวเอง

            อาคิราห์เดินนำหน้าเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม  ดาดฟ้าด้านบนไม่ได้คลาคล่ำด้วยผู้คนอย่างชายหาดข้างล่างแต่กลับโล่งๆว่างเปล่าจนน่าแปลกใจ

            ผู้ชายคนหนึ่งยืนหันหลังให้เขาอยู่  ไม่ได้หันกลับมามองแม้ว่าอาคิราห์จะเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆแล้วก็ตาม  ราวกับกำลังดื่มด่ำกับภาพผืนน้ำเวิ้งว้างตรงหน้า  แสงแดดสะท้อนกับคลื่นเป็นประกายระยิบระยับจับตา  อาคิราห์เท้าแขนเข้ากับราวเหล็กแล้วมองดูเงียบๆ

            “หิวหรือยัง”  เสียงห้าวถามขึ้นทำลายความเงียบนั้น  อาคิราห์อุทาน  นึกว่าตัวเองหูฝาด

            “อะไรนะ”

            “ฉันถามว่าหิวหรือยัง”

            “ทำไมเราต้องคุยกันเรื่องหิวไม่หิวทุกที”  เจ้าโอเมก้าทิ้งมือลงข้างตัว  “เห็นผมตะกละมากนักหรือไง”

            “ก็..เอาเรื่องอยู่”  พิชช์ฌานยกมือขึ้นเกาจมูกของตัวเอง  เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเก้อๆอย่างไรชอบกลเมื่อสบตากลมโตคู่นั้น  ริมฝีปากอิ่มสีสดขยับขึ้นลงเห็นไรฟันขาวเรียงสวยเหมือนไข่มุก  เขายืนอยู่ใกล้กับอาคิราห์จนเห็นแม้กระทั่งปลายขนตาที่ไหวระริกยามต้องลม

            ...ถ้าไม่ถามเรื่องกิน  ก็ไม่รู้จะเปิดประเด็นเรื่องอะไรแล้ว...มันง่ายสุดไม่ใช่หรือไงกัน  นักการเมืองหนุ่มคิดอย่างว้าวุ่น  ไม่อย่างนั้นจะให้เขาชวนคุยเรื่องเลือกตั้งเหรอ  หรือว่าเรื่องมองหานายทุนจากกลุ่มไหนดีหรือไง  ก็คุยไม่ได้อยู่แล้วมั้ย  เกิดวันดีคืนดีเจ้าโอเมก้าเผลอเล่าให้ใครในครอบครัวตัวเองฟังเขาก็จบเห่น่ะสิ

            “เอ้อ ...เล่นน้ำสนุกมั้ย  วันนี้แดดแรงหน่อยนะ”  ชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศนี่ล่ะ  ปลอดภัยสุด

            “ก็สนุกดี  คุณเจนภพว่ายน้ำเก่ง”

            “เหรอ  ...ฉันเล่าหรือยังว่าสมัยเรียนฉันว่ายน้ำได้ที่หนึ่งนะ  เจนภพได้ที่สอง”  พิชช์ฌานเลิกคิ้ว  พูดเนิบๆทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ถาม  แต่เขาก็อดไม่ได้

            “มีเรื่องอะไรที่คุณไม่ได้ที่หนึ่งบ้างมั้ย”  คนฟังชักหมั่นไส้  คนอะไรจะเก่งไปซะทุกอย่างขนาดนั้น

            “มีสิ  เลือกตั้งสมัยที่แล้วไง”  พิชช์ฌานตอบทันควัน

            “คราวนี้คุณเลยจะแก้มืองั้นสิ”

            “ประมาณนั้น...แต่จริงๆแล้วฉันทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่มากกว่า”  ชายหนุ่มตอบ  ขยับคอเสื้อแล้วปลดกระดุมเม็ดบนออก

            “แถวนี้ไม่มีไมโครโฟนหรือนักข่าวหรอกนะ  คุณลองพูดแบบไม่ต้องหาเสียงสักพักได้มั้ย”  อาคิราห์พูดตรงๆ

            “ฉันพูดออกมาจากใจนะ  ไม่ได้หาเสียง”

            แสงแดดสะท้อนเข้ากับเส้นผมสลวยสีน้ำตาลเข้มของโอเมก้าเป็นประกายสีเหลือบทองสวยแปลกตา  พิชช์ฌานพิศดูอย่างใกล้ชิดเงียบๆ  เก็บรายละเอียดเอาไว้ในใจ  เขาเอื้อมมือไปแตะที่ไรผมตรงหน้าผากเนียนแล้วปัดออกอย่างเบามือ

            “อย่างเช่นตอนนี้  ถ้าฉันบอกว่าเธอสวยมาก  ฉันก็พูดจริงๆนะ”

            อาคิราห์ย่นจมูก  เอียงหน้าหลบมือใหญ่

            “คุณว่าผมหน้าตาบู้บี้มาตลอด  จู่ๆมาบอกว่าผมสวยมาก  คิดว่าผมจะเชื่อไหมล่ะ”

            พิชช์ฌานถอนหายใจยาว  ทิ้งมือลงข้างตัว

            “คงต้องใช้เวลาพิสูจน์สินะ”  นักการเมืองหนุ่มพูดเรียบๆคล้ายปรารภกับตัวเอง  ทอดสายตามองออกไปไกล  “เส้นทางของฉันไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่แล้ว”

            “ถึงอย่างไร  เส้นทางของคุณก็ยังเป็นเส้นทางที่คุณเลือกเองได้ไม่ใช่หรือ”  อาคิราห์พูดขึ้นบ้าง  “ไม่เหมือนกับผมที่ไม่มีทางเลือกอะไรทั้งสิ้น”

            “เธอมีทางเลือกอาคิราห์”  ชายหนุ่มหันกลับมา

            “แต่คุณไม่ยอมให้ผมเลือก”  โอเมก้าสวนกลับไป  “อย่างว่า...กับอะไรที่เป็นแค่...ของเล่น  คงไม่มีค่าขนาดนั้น”

            คิ้วเข้มขมวดฉับ  พิชช์ฌานคว้ามือเล็กมากุมเอาไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะหมุนตัวเดินหนี

            “ของเล่นอะไร  เธอพูดถึงเรื่องอะไร”

            “ผมก็พูดทั่วๆไป  ไม่มีอะไร”  อัยย์พยายามสะบัดมือออก  แต่ว่าแรงของเขาไม่เคยสู้อีกฝ่ายได้อยู่แล้ว  สุดท้ายก็ถูกนายพิษฌานกอดเอาไว้ทั้งตัว  “ปล่อยผมเถอะ  ผมจะไปกินข้าว  ตรงเวลาสามมื้ออย่างที่คุณต้องการไงล่ะ”  หางเสียงแตกพร่าด้วยแรงอารมณ์ที่เพียรกดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน  อาคิราห์ดิ้นอย่างแรง

            “อัยย์...ฟังฉันก่อน  ไม่ว่าเธอจะไปได้ยินอะไรมา  มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยนะ”

            “แม้ว่ามันจะออกมาจากปากของคุณเองงั้นหรือ”

            “เธอได้ยินที่ฉันคุยกับหมอฉัตรใช่มั้ย งั้นเธอก็ต้องรู้สิว่าฉันคิดยังไงกับเธอ”

            “อ๋อ  ...ผมรู้แล้ว  คุณเห็นผมเป็นของเล่นไงล่ะ  แค่เห่อของใหม่  คุณพูดเองกับปาก  ส่วนผมก็ได้ยินเองกับหู”  อาคิราห์ก้มลงงับเข้าที่ข้อมือใหญ่เต็มคำ  พิชช์ฌานอุทานลั่น ปล่อยมือออกจากเอวบาง

            “โอ๊ย!  อัยย์  ฟังก่อนสิ  เธอได้ยินฉันพูดแค่นี้เรอะ  ฉันพูดตั้งยาว  พูดยาวกว่านั้นเยอะแยะเธอไม่ได้ยินเลยหรือไง”  พิชช์ฌานพูดเสียงดังอย่างโกรธจัด  “จริงอยู่ว่าฉันพูดว่าเห่อของเล่นใหม่  แต่ฉันพูดประชด  เข้าใจคำว่าพูดประชดมั้ย”

            “ไม่เข้าใจ  คุณจะอ้างว่าพูดประชดใช่ไหม  ผมมันคนโง่อยู่แล้วก็หลับหูหลับตาเชื่อเข้าไปสิ  พูดกล่อมไม่กี่คำก็ยอมเก็บลูกเอาไว้  พูดอีกนิดหน่อยก็เดินตามต้อยๆ  แบบนี้ใช่หรือเปล่าที่คุณคิด  เลี้ยงเอาไว้ในบ้านให้อาหารสามมื้อจะได้โตไวๆ  ถึงเวลาก็เอามันออกไปเร่หาเสียงว่าโอเมก้าเท่าเทียมกัน  ผมพูดถูกหรือเปล่า”

            พิชช์ฌานอึ้ง

            “..คุณลองถามตัวเองก่อนเถอะว่าที่ผมพูดมามันจริงไหม  ถ้ามันจริง...คุณก็อย่ามาหวังว่าผมจะเชื่ออะไรคุณอีกคุณพิษฌาน”

            “อาคิราห์...แต่ความรู้สึกของฉันมันเป็นของจริงนะ”  พิชช์ฌานพูด  ก้าวยาวๆตามหลังร่างโปร่งบางของโอเมก้าที่หมุนตัวเดินจ้ำกลับเข้าไปข้างใน

            รถเข็นบรรจุแจกันประดับด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่เข็นสวนขึ้นมาพอดี  อาคิราห์ตวัดสายตามองแวบเดียวก็รู้ว่ามันคงเตรียมเอาไว้เพื่อประดับโต๊ะดินเนอร์หรูๆของแขกสักคน  เสียงของพิชช์ฌานตามหลังมาติดๆ  อาคิราห์เลยหลบแวบเข้าไปในลิฟต์แล้วกดปิดประตู

            ลงลิฟต์มายังชั้นล่างของโรงแรม  อาคิราห์เดินก้มหน้าก้มตาออกมาแทบไม่ได้ดูทาง  ขอบตาร้อนผ่าวแต่ต้องกลั้นเอาไว้ไม่ให้ปล่อยโฮออกมาตอนนี้  เขาตั้งใจว่าจะเดินออกไปเรียกรถกลับบ้านเสียเลย

            “คุณอัยย์  เกิดอะไรขึ้นครับ”  เสียงทุ้มๆดังขึ้นเหนือศีรษะ  อาคิราห์เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ พบว่ากำลังยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตอยู่  ธีรดลเลิกคิ้วมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ  “มีอะไรให้ผมช่วยไหม”

            “คุณดล...ไม่มีอะไรครับ”  ชายหนุ่มบอกปัด  ทำท่าจะเลี่ยงไปอีกทางแต่ว่าอีกคนกลับเดินตามมาไม่เลิก

            “จะไม่มีอะไรได้ยังไง  ก็คุณอัยย์เดินร้องไห้ออกมา  เกิดอะไรขึ้นครับ  ทะเลาะกับคุณฌานเหรอ  ...ผมเห็นคุณฌานจองดาดฟ้าดินเนอร์กับคุณคืนนี้ไม่ใช่หรือครับ”

            “คุณไม่ต้องมาสนใจผมหรอกครับ  ไม่มีอะไรเลย  ผมไม่ได้เป็นอะไร”  อาคิราห์สูดน้ำมูก ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ  เพิ่งรู้ตัวว่าเดินลิ่วออกมาอยู่ริมถนนแล้ว  “ผมมันงี่เง่าเอง  ไม่ต้องสนใจหรอกครับ”

            “ไม่มีใครงี่เง่าหรอกครับ”  ธีรดลพูดเสียงอ่อน  “ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเองกันทั้งนั้น”

            “ผมมันคนไม่มีเหตุผลครับ  ไม่มีประโยชน์อะไรด้วย  คุณดลไม่ต้องสนใจผมหรอกครับ  ผมไม่มีทางไป ฮึก  เดี๋ยวผมหายแล้วก็กลับเข้าไปเองนั่นแหละ”  คนพูดพูดไปก็สะอึกไปด้วยเพราะพยายามกลั้นสะอื้น  ธีรดลทั้งสงสารทั้งเอ็นดูขึ้นมาในส่วนลึก   ดวงตากลมโตแดงก่ำพอๆกับปลายจมูกโด่งรั้น  ใช้ฟันกัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นรอดออกมาสลับกับพูดตัดพ้อที่ดูน่าขันแล้วก็น่าสมเพชในเวลาเดียวกัน...ถ้าเขาเป็นพิชช์ฌานคงไม่ยอมปล่อยให้วิ่งหัวฟูออกมาคนเดียวแบบนี้แน่

            “เอาอย่างนี้  เราไปนั่งคุยกันดีๆดีไหมครับ  ผมพอรู้จักร้านคาเฟ่ดีๆแถวนี้อยู่บ้าง  เผื่อจะได้สบายใจขึ้น”

            “ไม่เป็นไรครับ  ผมอยู่คนเดียวได้”

            “งั้นคุณอัยย์จะไปไหน  ...ผมขอเดินตามไปด้วยห่างๆ  คิดเสียว่าผมเป็นคนแปลกหน้าก็ได้เอ้า”

            “ไม่เอาครับ  พ่อผมบอกไม่ให้เดินกับคนแปลกหน้า”  อีกฝ่ายตอบกลับมาอีก  ธีรดลเริ่มอยากยกมือขึ้นเกาหัวแรงๆ  พอจะรู้อยู่หรอกว่าโดนรวนเข้าแล้ว  ชักเห็นใจพิชช์ฌานขึ้นมานิดๆ

            “ไม่อย่างนั้นผมจะโทรบอกคุณพิชช์ฌานแล้วนะว่าคุณอัยย์อยู่ที่นี่”

            “ไม่ได้นะ”  ได้ผล  คราวนี้เจ้าตัวหันขวับมาห้ามแล้วยอมเดินตามเขาไปหาที่นั่งคุยกันโดยดี  ธีรดลไม่ได้พาอีกฝ่ายไปไหนไกล  เขาพาไปนั่งสงบสติอารมณ์ในร้านอาหารข้างๆโรงแรมนั่นเอง  เจ้าของร้านรู้จักเขาดีอยู่แล้วเลยพาเข้าไปนั่งข้างในโซนมิดชิดเป็นส่วนตัว

            “โกโก้ร้อนแก้วนึง  เย็นแก้วนึงครับ”  ธีรดลหันไปสั่งเครื่องดื่มให้โอเมก้าที่นั่งนิ่วหน้าอยู่  “ทานอะไรอีกไหม  ที่นี่ขนมเค้กเขาอร่อยนะ”  เลื่อนเมนูให้ตรงหน้า  เห็นอีกฝ่ายชักสนใจเหลือบมองก็ซ่อนยิ้มในใจ  “ผมขอเค้กช็อกโกแลตครับ  แล้วก็เค้กมะพร้าวอีกที่”

            “ผมขอเค้กใบเตย”  คนร้องไห้เมื่อครู่เงยหน้าขึ้นสั่งบ้าง

            บริกรถอยออกไปทิ้งให้พวกเขานั่งคุยกันตามลำพัง  ธีรดลค่อยๆตะล่อมถามทีละนิดจนได้ความว่าทะเลาะกับพิชช์ฌานจริงๆนั่นล่ะ  ส่วนเรื่องอะไรนั้นเจ้าตัวปิดเงียบไม่ยอมบอก  แม้ว่าจะหลอกถามอย่างไรก็ตาม

            เห็นหน้าอ่อนๆก็ไม่ได้หลอกง่ายอย่างที่คิดเท่าไหร่  ไม่รู้ว่าไปเสียอกเสียใจเรื่องอะไรนักหนาถึงได้ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร   แต่ทั้งที่ร้องไห้อยู่ก็ยังไม่วายใช้ช้อนตักเค้กเนื้อนุ่มเข้าปากเคี้ยวไม่หยุด  ต่อมน้ำตากับต่อมรับรสอยู่คนละส่วนไม่เกี่ยวกันสินะ

            “กินส่วนของผมไปก็ได้นะ  ผมอิ่มแล้ว”  ธีรดลพูดยิ้มๆ  เลื่อนจานของตัวเองไปให้  ใช้เวลาไม่กี่นาทีเค้กสามชิ้นกับเครื่องดื่มก็หมดเกลี้ยง  “จริงๆแล้วโมโหหิวหรือเปล่าครับเนี่ย  ทานเกลี้ยงเลย”  เขาแซว

            “ถ้าผมกินน้อยเดี๋ยวก็มีคนมาว่าผมอีก”  อาคิราห์พูดอย่างขุ่นเคือง  “แต่อีกหน่อยเขาก็จะว่าผมไม่ได้แล้ว  เพราะผมจะไม่อยู่ให้เขาว่า  ผมจะไปเลย”

            “คุณอัยย์จะไปไหนครับ”

            “ที่ๆไกลมากๆ”  คนพูดยกช้อนขึ้นชี้ประกอบแล้วก็ลดลงวางที่จานตามเดิมเมื่อนึกได้ว่าไม่ได้อยู่ที่บ้าน  เหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาก็ลุกขึ้นยืน  “ผมจะกลับแล้ว  ขอตัวก่อนนะครับ”

            คนนั่งตรงข้ามอ้าปากค้าง  เรียกบริกรมาเก็บเงินแล้วเดินตามออกมางงๆ  พอออกมาข้างนอกร้านก็พบร่างสูงใหญ่ของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านยืนกอดอกรออยู่ก่อนแล้วด้วยท่าทางเคร่งขรึม  ดวงตาคมจ้องมาที่เขาเขม็งจนธีรดลไม่สบายใจ

            “ผมเจอคุณอัยย์เดินออกมาเลยชวนมาทานขนมครับ”   ธีรดลรีบพูด  เหลือบมองคนต้นเรื่องที่ยืนหน้างออยู่ข้างๆพิชช์ฌาน

            “ขอบคุณครับ  ค่าขนมเดี๋ยวผมให้เจนภพจัดการให้”

            “ไม่เป็นไรครับ  ผมอยากเลี้ยงคุณอัยย์จริงๆ”

            “ถ้าอย่างนั้นก็..ขอบคุณมาก  ผมกับภรรยาขอตัวก่อน”  พิชช์ฌานพูดเสียงเข้ม  จับข้อมือเล็กบางเอาไว้แน่นจนเจ้าของนิ่วหน้า  อะไรบางอย่างแผ่ซ่านออกมาจากเนื้อตัวของนักการเมืองหนุ่มจนคนรอบข้างรู้สึกเสียวสันหลัง  แม้แต่อาคิราห์เองก็ไม่กล้าสะบัดมือออกอีก  จำต้องเดินตามไปเงียบๆ พร้อมกับลูกน้องผู้ติดตามของนายพิษฌานที่ล้อมเอาไว้เหมือนกำแพง

            ธีรดลยกมือขึ้นนวดสันจมูกของตัวเอง  เคยมีคนเตือนเอาไว้แล้วว่าอยู่ห่างๆผู้ชายคนนี้จะดีกว่า  แต่ว่าผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจมันช่างหอมหวนเกินจะห้ามใจจริงๆ  คนอย่างพิชช์ฌานหน้าฉากเป็นใคร  หลังฉากเป็นใคร  คนในวงการต่างรู้กันดี

            จะทำยังไงได้  ขึ้นหลังเสือแล้วจะลงก็คงยาก  คงต้องไปให้สุดทางเสียเท่านั้น

            .....................................................................................

           

            มาอัพแล้วจร้า

            ใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ  ไม่ทอล์คเยอะแล้วเจ็บคอ

            วันนี้ใครยังไม่ไปเลือกตั้ง  รีบไปใช้สิทธิใช้เสียงกันนะคะ  อย่านอนหลับทับสิทธินะ  ใครใช้สิทธิใช้เสียงตัวเองแล้วมานอนรอนับคะแนนพร้อมกับอ่านนิยายไปพลางๆค่ะ  วันนี้เราก็จะเขียนไปเรื่อยๆเหมือนกัน อิอิ

            เจอกันตอนหน้า

            #ขอรักแค่คุณ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
จงหวงคู่ๆๆๆๆๆๆ  เป่าหูนายฌาน

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชีวิตวัยเด็กของน้องน่าสงสารจัง

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :laugh: ทั้งหึง ทั้งแพ้ท้องแทนเมีย
บอกเค้าไปเถอะว่ารัก ชีวิตน้องน่าสงสารนะ ให้น้องได้ชื่นใจบ้าง :mew1:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ตลค.ใหม่ มีประเด็นแน่ๆ
ว่าแต่บ.จัดหางานโอเมก้าก็เป็นบ.เก๊หรือป่าว
น่าสงสัยย  :ruready :ruready

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชักอยากรุแล้วสิว่าหลังฉากคุณพิษเค้าเป็นใคร ส่วนน้องอัยย์ขอเจ้ น่าเอ็นดูสุดๆ มีความสวิงเบาๆ 555555 แม้จะเสียใจแต่เราจะอิ่มท้อง

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
หนูอัยย์จะหาเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนอีกแล้ว

จะหนีไปใหนก็รอคลอดก่อนนะ

ช่วงท้องก็แอบโย้กย้ายเงินในบัญชี

ให้ปลอดภัยในที่ลับๆนะ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
เย้ มาอัฟอีกแล้ว รออีกๆๆ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ชอบมุกผักติดฟัน ไม่ให้นุ้งอัยย์ยิ้มห้หนุ่มๆ อ่ะ..
55+ คุณพิชฌาณ ชั่งคิดอ่ะ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด