หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30  (อ่าน 239943 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 6

ชาวเราพร้อมใจสวดมนต์





“ตั้มว่าเราหัวอ่อนเกินไปมั้ย?”

ผมถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ ตั้มเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยว ตอนนี้เรากำลังพักเที่ยงอยู่ที่โรงอาหารของคณะ ตั้มขมวดคิ้ว เขาคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากอีกคำใหญ่ พอกินหมดแล้วถึงได้ตอบคำถามผม

“ในฐานะที่รู้จักกันมาแค่อาทิตย์กว่า กูควรรักษาน้ำใจมึงสินะ”

“แค่ตั้มมึงกูใส่หน้าเราตั้งแต่คุยกันคำแรก เราก็คิดว่าตั้มไม่ต้องรักษาน้ำใจเราแล้วล่ะ”

“เหมือนโดนด่า”

“ไม่ ตั้มคิดไปเอง” ผมถอนหายใจ สบตาเพื่อนใหม่หัวชมพูแล้วถามย้ำ “สรุปว่าไง คิดว่าเราหัวอ่อนเกินไปมั้ย”

“มึงไม่เชิงหัวอ่อนหรอก” เขากลอกตา ขมวดคิ้วแน่นคล้ายกำลังหาคำพูดดีๆ “แค่แบบ...ดีเลย์”

“ดีเลย์?”

“มึงตามคนไม่ค่อยทันว่ะ เท่าที่กูสังเกต” ตั้มยื่นมือมาตบไหล่ผมเบาๆ “ว่าแต่ทำไมเพิ่งถาม หรือเพิ่งรู้ตัวเอง”

“ไม่ คือ เอ่อ ก็ใช่ แต่ก็ไม่”

“สรุปยังไง กูโง่ กูตีความที่มึงตอบไม่ออกหรอกนะ”

“คือเราก็พอรู้ตัวว่าเราคิดตามคนอื่นช้าไปนิด ยิ่งมุกอะไรที่ต้องคิดลึกๆ เรายิ่งต้องใช้เวลาวิเคราะห์ ทีนี้เราก็แบบ เออ ขี้เกียจอะ ปวดหัว เลยปล่อยๆ ผ่านไปจนติดเป็นนิสัย” ผมเริ่มเล่าให้เขาฟัง ตั้มพยักหน้าหงึกๆ คว้าซองทาโร่ข้างตัวขึ้นมาฉีกแล้วหยิบปลาเส้นใส่ปาก “ไม่รู้เป็นเพราะเรามีฝาแฝดด้วยหรือเปล่า…”

“หือ มึงมีแฝด?”

“อืม อยู่ญี่ปุ่น” ผมพยักหน้ารับ “แฝดเรานอกจากหน้าที่เหมือนแล้ว นอกนั้นไม่มีอะไรเหมือนเลย เขาหัวไวมาก ตอนอยู่ญี่ปุ่นด้วยกันมีเพื่อนคนนึงเข้าหาเรา แฝดเรามองแป๊บเดียวฟันธงใส่เราเลยว่าเข้ามาจีบทั้งที่คุยกันยังไม่ถึงสองประโยค”

“เดี๋ยวนะๆ ตอนอยู่ญี่ปุ่น?”

“อ๋อ ลืมบอกๆ เราเป็นลูกครึ่ง แม่เป็นคนไทย พ่อเป็นคนญี่ปุ่น แต่เกิดที่ไทยนี่แหละแล้วย้ายไปญี่ปุ่นตอนสี่ขวบ” ผมยิ้มเมื่อนึกถึงครอบครัวตัวเอง “พอสิบสี่เรากับแม่ก็ย้ายกลับมาไทยอีกรอบ”

“แล้วแฝดมึงกับพ่อล่ะ?”

“อ้อ…” ผมเม้มปากเล็กน้อย “พวกเขาอยู่ที่ญี่ปุ่นน่ะ...แม่หย่ากับพ่อ พวกเราเลยแยกกัน”

“เฮ้ยๆ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจทำให้เศร้านะ”

“เปล่า ก็ไม่ได้เศร้าหรอก” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ “คิดถึงมากกว่า แต่ก็ยังติดต่อกันปกตินะ แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเฉยๆ เพราะแบบนี้อะ เราเลยไม่ค่อยสันทัดภาษาไทยเท่าไหร่ พวกคำแสลง หรือคำที่มีหลายความหมายงี้ บางทีเราก็ตามไม่ทัน ตอนอยู่ญี่ปุ่นก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ พูดไทยแค่ตอนอยู่บ้าน พอย้ายกลับมาไทยแม่ก็ให้เราเรียนอินเตอร์ เนี่ย ตั้มเก็ตใช่ปะว่าทักษะภาษาไทยเรามันเลเวลไหน”

“เออ ก็พอเข้าใจ”

“แล้วเมื่อเช้าเราก็เพิ่งนึกออก” เล่ามาถึงตรงนี้ก็เผลอเบะปาก “ว่าเราโดนพี่พระพายแกล้งให้พูดว่าอยู่กินกัน”

“ฮะ?”

“คือเราก็ตงิดใจนะ ว่าคำนี้มันแปลกๆ แต่นึกไม่ออกไง ไม่ค่อยได้ใช้ พอเช้ามาเลยเสิร์ชกูเกิ้ลดู ถึงรู้ว่าโดนแกล้ง”

“อ้าว เดี๋ยว สรุปคือมึงกับพี่เขาไม่ได้อยู่กินกัน?” ตั้มทวนคำถาม สีหน้าสงสัย “กูหมายถึงมีอะไรๆ กัน อะไรๆ ที่แบบลึกซึ้ง…”

“บ้าดิตั้ม เรากับพี่พระพายเป็นแค่รูมเมตกันเฉยๆ” ผมแก้ข่าว และเห็นทีต้องแก้ข่าวกับพี่สายฟ้าด้วย ก็ว่าทำไมวันนั้นเขาทำหน้าเหมือนเห็นผี ไม่รู้จะมองผมเป็นคนแบบไหนไปแล้ว “พี่พระพายชอบแกล้งเราอะ ไม่รู้เป็นอะไร เห็นเราตามไม่ทันแล้วสนุกมั้ง”

“อ๋ออออ เฮ้อออ กูเหรอก็นึกไปว่ามึงเป็นพวกหงิมนอกแซ่บใน ยั่วๆ บดๆ”

“หือ บดอะไรเหรอ”

“เอ่อ อย่ารู้เลย” เขาบอกปัด สีหน้ากระอักกระอ่วน ผมเลยไม่เซ้าซี้ถามต่อ แต่จดคำว่าบดไว้ในใจว่าน่าจะมีความหมายอีกแง่ไม่ดีเท่าไหร่ และถ้ายิ่งออกจากปากพี่พระพาย มันต้องไม่บริสุทธิ์ 100% แน่นอน!

“เราก็พยายามจะคิดตามให้ทันนะตั้ม ไม่อยากถูกพี่เขาแกล้ง”

“เออ เดี๋ยวอยู่ไปเรื่อยๆ มึงก็ซึมซับเอง”

“แต่ถ้าซึมซับจนระบบความคิดเราเหมือนของพี่พระพาย เราว่ามันไม่น่าจะดีนะ” ไม่รู้ในหัวเขามีอะไรอยู่บ้าง แต่ผมคิดว่าต้องน่ากลัวมากแน่ๆ

“หรือไม่ก็ย้ายหอ เปลี่ยนรูมเมต”

“เราจ่ายมัดจำหอไปแล้ว รูมเมตใช่ว่าหาได้ง่ายๆ หรือตั้มจะมาเป็นรูมเมตเรา?”

“โทษที แต่กูชอบนอนคนเดียว”

“ไร้เยื่อใยมากตั้ม” ผมเบะปาก “ส่วนเรานอนคนเดียวไม่ได้ นอนไม่หลับเลย ระแวงไปหมด”

“งั้นก็ต้องยอมรับสภาพล่ะนะ” ตั้มโคลงหัว เขาตบไหล่ผมเบาๆ ให้กำลังใจ “ว่าแต่มึงได้ลายเซ็นพี่วินัยครบหรือยัง ส่งเย็นนี้ตอนเข้ารับน้องนะ”

“เออ ลืมเลย เราฝากพี่พระพายไว้”

“แน่ะ ใช้เส้นเหรอ”

“เปล่าสักหน่อย” ผมส่ายหัวดิ๊ก “งั้นเดี๋ยวเราไปเอาสมุดก่อน ตั้มขึ้นไปห้องเรียนก่อนก็ได้ ฝากจองที่ด้วยเดี๋ยวเราตามไป”

“โอเค งั้นตอนขึ้นห้องมึงซื้อลูกอมเปรี้ยวๆ มาหน่อย กูง่วงตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ย กลัวหลับคาห้อง”

“ได้ เดี๋ยวเราซื้อขึ้นไปให้”

พอรับปากแล้วก็แยกกัน ผมแวะเซเว่นข้างๆ คณะเพื่อซื้อลูกอมให้ตั้มกันลืมตอนขากลับ เดินวนอยู่ในนั้นสักพักและตัดสินใจซื้อแซนด์วิชปูอัดสองชิ้น ชามะนาวหนึ่งขวดกับลูกอมเพิ่มอีกหนึ่งถุงใส่แยกกับถุงของตั้ม

คณะบริหารอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ผมเดินแป๊บเดียวก็ถึง ได้ยินเสียงบูมเชียร์ดังลั่น สงสัยว่ารับกันทั้งคณะไม่ใช่แค่สาขา ผมเคยได้ยินว่าพี่พระพายเป็นวินัยคณะ เพราะงั้นเขาน่าจะอยู่แถวนี้

อะ นั่นไง ยืนหน้าเข้มคุมปีหนึ่งอยู่ตรงนั้น

ผมรีๆ รอๆ ไม่กล้าเข้าไป ได้แต่มองอยู่ห่างๆ จนกระทั่งพี่พระพายหันมาทางผม เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากเกือบจะยกยิ้มแต่ดีที่เขารู้ตัวแล้วตีหน้านิ่งเหมือนเดิม พี่พระพายหันไปพูดกับพี่สายฟ้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะเดินออกมาหาผม

“ไงเรา คิดถึงพี่เหรอ มาหาถึงที่เลย”

“เรามาเอาสมุดล่าลายเซ็นที่ฝากพี่ไว้”

“เย็นชาจังนะครับ พี่ถามว่าคิดถึงพี่เหรอก็ไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องซะอย่างนั้น”

“เรายังไม่ได้คิดบัญชีพี่เรื่องหลอกให้เราพูดคำว่าอยู่กินกันนะ” ผมหน้าบึ้ง เอ่ยคาดโทษเขา “เห็นเราชักจูงง่ายหน่อยก็แกล้ง นิสัยไม่ดีเลยพี่พระพาย”

“อ้าว รู้แล้วเหรอ” เขาหัวเราะ ลูบหัวผมแล้วเปลี่ยนเป็นขยี้จนผมต้องปัดมือเขาทิ้ง “พี่หยอกเล่นนะ อย่าโกรธพี่เลย อะนี่สมุด รู้หรอกว่าหนูไม่คิดถึงพี่หรอก”

“ขอบคุณครับ พี่ให้เพื่อนพี่เซ็นให้เราครบห้าคนแล้วเหรอ”

“เรียบร้อยครับ ไม่โดนลงโทษแน่นอน”

“อื้อขอบคุณนะพี่” ผมเริ่มยิ้มออก ยื่นถุงแซนด์วิชจากเซเว่นให้พี่พระพาย “อะพี่ เราซื้อมาฝาก ตอบแทนที่พี่ช่วยเรา คิดว่าพี่คงต้องยุ่งกับการคุมน้องจนไม่ได้กินอะไรแน่ๆ พี่ๆ ที่คณะเราก็เป็น เราเลยซื้อแซนด์วิชปูอัดมาให้รองท้องไปก่อน อ้อ แล้วก็มีชามะนาวกับลูกอม เผื่อพี่พระพายว้ากแล้วเจ็บคอ”

พี่พระพายยื่นมือมารับไป เขามองหน้าผมอึ้งๆ ท่าทางเหมือนทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งก่อนยิ้มกว้างจนตาหยี ฝ่ามือใหญ่วางบนหัวผม จับโยกไปมาเบาๆ ตบท้ายด้วยการลูบหัว

“ขอบคุณครับ น่ารักจังเลยนะเรา”

“เราน่ารักกับพี่ขนาดนี้ พี่ก็เลิกแกล้งเราด้วยนะ”

“ยิ่งน่ารักพี่ยิ่งอยากแกล้งเนี่ยสิ”

“โห มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิพี่” ผมงอแงใส่ พี่พระพายเลยหัวเราะออกมาอีกครั้ง เนี่ย เวลาปกติเขาก็ดูเป็นคนดีนะ ไม่น่ากลัวหรือดูคุกคามเหมือนตอนทำนมดุ๊กดิ๊กเมื่อคืน “อ้อพี่ เย็นนี้พี่กินข้าวไปก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอเรา คณะเราเลิกค่ำๆ อะ”

“อ้าว แล้วหนูจะกลับยังไง?”

“เดี๋ยวเราโบกพี่วินกลับหอก็ได้” ผมตอบ “ปกติเวลาไม่ได้กลับกับพี่เราก็โบกพี่วินนะ ไม่มีอะไรหรอก”

“ช่วงเย็นๆ น่ะไม่เป็นไร แต่นี่เลิกค่ำไม่ใช่หรือไง?”

“เรากลับได้ๆ พี่ไม่ต้องห่วง”

“พี่ถามก่อนว่าเฟนเลิกกี่ทุ่ม”

“เรากลับเองได้พี่พระพายยยย” ผมลากเสียง ดูเหมือนพี่พระพายจะสวมวิญญาณพี่วินัยใส่ผมซะแล้ว

“หนูตอบไม่ตรงคำถามพี่นะเฟน”

“เฮ้อ เราเลิกทุ่มครึ่งน่ะพี่ โบกพี่วินกลับหอสิบห้านาทีก็ถึง”

“เดี๋ยวพี่รอรับ”

“หืม? พี่เลิกค่ำเหมือนกันเหรอ”

“เปล่า ห้าโมงเย็นก็ปล่อยน้องๆ กลับบ้านแล้ว”

“อ้าว งั้นพี่ก็กลับห้องไปก่อนเลย” ผมโบกมือไล่เขา “ไม่ต้องรอนะ เสียเวลา เรากลับเองได้จริงๆ โตแล้ว พี่ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ปกติหนูไม่ดื้อนะเฟน แต่ทำไมวันนี้ดื้อจังเรา” พี่พระพายขมวดคิ้วใส่ พอผมทำท่าจะอ้าปากพูด เขาก็ยกมือห้าม “ไม่เถียงพี่แล้วนะ เดี๋ยวทุ่มครึ่งพี่มารับ แล้วไปกินข้าวเย็นพร้อมกัน ตามนี้นะครับ”

“แต่พี่…”

“พี่เป็นห่วง”

พอพี่พระพายบอกแบบนั้น ผมเลยได้แต่นิ่ง สุดท้ายก็พยักหน้ารับ ยอมทำตามที่พี่เขาต้องการ


[พระพาย]

เฟนขึ้นเรียนแล้ว ส่วนผมเพิ่งได้พัก สาบานเลยว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ต่อให้ไอ้สายฟ้าจะมาเกาะเตียงขอร้องเสียงอ่อนเสียงหวานให้มาช่วยเป็นวินัยคณะ อย่าหวังเลยว่าจะยอมตกลง!

“ขอกินน้ำหน่อย”

“ของกู” ผมรีบคว้าขวดชามะนาวที่เฟนซื้อมาให้ไปซุกไว้ด้านหลัง สายฟ้าหรี่ตามองก่อนเปลี่ยนเป้าหมาย

“แซนด์วิชก็ได้”

“นี่ก็ของกู”

“งั้นลูกอม”

“ของกูเว้ย!” ผมรวบทุกอย่างใส่ถุงแล้วกอดแนบอกแน่น ถลึงตาจ้องหน้าสายฟ้าไม่ยอมให้มันมาแย่งไปง่ายๆ “เฟนซื้อให้กู มึงเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาแย่งของที่น้องตั้งใจให้กูด้วยความรัก”

“กูถามจริง หวงขนาดนี้ สรุปน้องเป็นอะไรกับมึงวะ”

“อ้อ…” ผมขานรับ หลุดยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงหน้าเฟน “เขาเรียกว่าอะไรนะ เพื่อนนอน?”

“เชี่ย งั้นคนนี้เด็ดมากเลยดิ ปกติมึงไม่มีคู่นอนประจำนี่หว่า มึงมันสายเปลี่ยนแนวแล้วแต่อารมณ์ แถมกับเฟน มึงหวงยิ่งกว่าอะไรดี”

“ใจเย็นนะเพื่อน” ผมตบไหล่มันเบาๆ แล้วเฉลยความจริงในที่สุด “เพื่อนนอนจริงๆ แบบ...นอนเป็นเพื่อน ลูบหัวตบตูดเอ่เอ๊กล่อมให้หลับ”

“...”

“น้องเป็นโรคนอนคนเดียวไม่ได้ว่ะ กูเลยเอ็นดูมากกว่าอยากดูเอ็นน้อง”

“กูถามจริง?”

“โอเค ก็อยากดูเอ็นอยู่นิดหน่อย” ผมยอมรับ เฟนน่ะสเป็คผมเลย รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกที่น้องถ่ายรูปส่งมาให้ในเดมตอนนั้นแล้ว ยิ่งมาเจอตัวจริงยิ่งถูกใจ แต่น้องก็ดูใสเกินกว่าที่ผมจะทำอะไรๆ แบบนั้นด้วย เลยได้แต่หักใจตัวเองไว้ “มึง กูว่า...มันแปลกๆ แล้วว่ะ”

“อะไรที่มึงว่าแปลก”

“เมื่อคืนกูมองน้องนอนแล้วพระพายน้อยมันคึกคัก”

“ไม่เห็นแปลกตรงไหน” สายฟ้ามองผม เขาแค่นเสียงเหอะในลำคอ “คนมักมากในกามอย่างมึงถ้าไม่มีอารมณ์กับคนน่ารักแบบนั้นคงตายด้าน”

“ไม่มึง อันนั้นไม่แปลก กูยอมรับ ที่แปลกน่ะหลังจากนั้น” ผมเล่าต่อ “พอกูคึกคัก กูก็นึกว่าตัวเองของขาด ไม่ได้ไปแซ่บๆ กับใครมาพักใหญ่เลยรู้สึกง่ายกว่าปกติ เลยไปดีลมาได้คนนึง นัดคืนนี้สยามทุ่มครึ่ง”

“แล้วไงวะ”

“เมื่อกี้ที่เฟนมาหา น้องบอกน้องเลิกค่ำให้กูกลับไปก่อนเลย พอถามว่ากี่ทุ่ม น้องบอกทุ่มครึ่ง ตรงกับที่กูดีลนัดเย็บไว้” ผมพักหายใจครู่นึง “ที่แปลกคือกูบอกเฟนว่าจะมารับ แล้วกูก็แคนเซิลคนที่ดีลไปเมื่อกี้นี้ก่อนที่มึงจะเดินมานั่งด้วยเนี่ย กูไม่เสียดายด้วยนะ ทั้งที่ควรเสียดาย”

“อะ กูว่ามันเริ่มแปลกแล้ว”

“ใช่มั้ย”

“มึงให้ความสำคัญเฟนมากกว่าพระพายน้อยของตัวเอง” สายฟ้ามองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่มึงตัวจริงใช่หรือเปล่าวะ เหมือนที่ผ่านมากูคิดว่ามึงเป็นฝุ่นควันพิษ จู่ๆ กลายเป็นหมอกกิ่วแม่ปาน”

“มึงลากเข้าเรื่องนี้อีกแล้วนะ”

“ไม่ไง ถ้ามึงเป็น PM2.5 เป็นมลพิษต่อน้อง กูจะได้เอาน้ำฉีดไล่มึง”

“แต่นักวิชาการออกมาบอกว่าใช้น้ำฉีดไม่ช่วยอะไร”

“มึงจะจริงจังทำไม ขนาดสวดมนต์ไล่พายุยังได้เลย”

“สวดแล้วช่วย?” ผมเลิกคิ้ว

“มึงไม่ได้อ่านข่าวเหรอ”

“ไม่ ว่าแต่ใครสวด?”

“คนที่มึงก็รู้ว่าใคร”

“โวลเดอร์มอร์?”

“ไม่ โวลเดอร์มอร์ไม่มีจมูก แต่คนนี้เขามีจมูก” สายฟ้าทำหน้าจริงจัง “ชื่อของเขาก็คือ…”

“คือออ?”

“มึงร้องต่อจากท่อนกูนะ เดี๋ยวรู้เลย” สายฟ้ากระแอม “Hit you with that…”

“DDU-DU DDU-DU DU”

“ตื๋ด ตื่อ ตื่อ ดื๊ด ตื่อ ดื๊ด ตื่อ ดื๊ด ดืด ดืด”

“กูต้องอาเย อาเย อาเย อ้าเย่ มั้ย?” ผมกลอกตา “แล้วขอเถอะ คุยกับมึงทีไรพากูเสี่ยงโดนลากคอทุกรอบ กูว่ามึงเล่นแอคนั้นมากเกินไป ปิดๆ ไปได้แล้วมั้ง”

“ไม่ กูมีอุดมการณ์ของกู มึงพูดแบบนี้แสดงว่าไม่ได้อ่านไบโอทวิตกู”

“จะปิดแอคก็ต่อเมื่ออำนาจคืนสู่มือประชาชน” ผมทวนประโยคที่ท่องได้ขึ้นใจ “กูรู้น่า มึงกรอกหูกูมาหลายรอบแล้ว!”

“รู้แล้วยังจะถามนะครับเพื่อน”

“กลับมาที่เรื่องของกู” ผมเคาะโต๊ะเรียกความสนใจ สบตากับเพื่อนสนิท “เฟนมันน่ารัก กูก็อดแทะเล็มไปเรื่อยตามประสาไม่ได้ แต่พอมากไปกูเนี่ยจะบ้าตาย เกือบอดไม่ไหว”

“เอางี้ มึงเอาวิธีนี้ไปใช้”

“วิธีอะไรวะ”

“สวดมนต์”

“นี่เรายังไม่จบกับสวดมนต์อีกเหรอวะ” ผมแทบจะเอาถุงแซนด์วิชฟาดหน้ามัน ติดที่คิดได้ว่าเฟนอุตส่าห์ซื้อให้เลยยั้งมือไว้ทัน

“เออ ถึงกูจะไม่ชอบลุง แต่ในเมื่อลุงพิสูจน์แล้วว่าสวดมนต์ไล่พายุได้ ทำไมจะสวดให้มึงสงบจิตสงบใจไม่ได้ ประเทศเราเป็นเมืองพุทธ ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่านี้แล้ว”

“กูก็สวดอยู่นะ แต่ไม่ได้ผล”

“มึงสวดบทไหน”

“หมาตายลอยน้ำ”

“ไม่ พระพาย เราจะไม่สวดบทหมาตายลอยน้ำ” สายฟ้ายื่นคำขาด “มันไม่เด็ดขาดพอ”

“แล้วมึงว่ากูควรสวดบทไหน?”

“ปลงสังขาร”

“ฮะ?!”

“ยามหนุ่มยามสาว หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ แก่เฒ่าหนังยานแต่ล้วนเครื่องเหม็น” มันท่องให้ผมฟังเป็นตัวอย่าง สีหน้าจริงจังยิ่งกว่าอ่านสอบ “พอมึงกำหนัดปุ๊บท่องเลยนะ แก่เฒ่าหนังยานล้วนแต่เครื่องเหม็นๆ กูว่าน่าจะช่วยได้มากกว่าหมาตายลอยน้ำตุ๊บป่องของมึง”

“มึงแม่งอัจฉริยะว่ะ กูประทับใจมาก ถ้ามึงลงเลือกตั้งกูจะเลือกมึงเป็นนายก”

“เดี๋ยวกูจะหาเสียงด้วยการแจกหน้ากาก N95 เลย ถูกกว่าแจกเงิ…” สายฟ้าชะงักไป มันส่งเสียงจิ๊จ๊ะ หรี่ตามองหน้าผม “ถุ้ย! เนี่ย บอกกูพาลากเข้าการเมือง มึงเองก็ไม่ต่างกันไอ้เวร”

“ศีลเสมอกันถึงคบกันได้”

“กูสงสารไอ้รัญเลย”

“จริง มันไม่ควรมาคบกับเรา” ผมพยักหน้าเห็นด้วย

“มึงก็รีบกินรีบเสร็จ จะได้ไปคุมน้องต่อ”

“เออๆ”


[เฟน]

“พี่ ไม่ไหวแล้ว ง่วง”

ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าพี่พระพาย เขามารอรับผมจริงๆ ด้วย พี่ปล่อยปุ๊บเดินออกจากลานมาก็เจอเขายืนพิงเวสป้ารออยู่ก่อนแล้ว

“อ้าว พี่ว่าจะพาไปกินกันข้างนอกก่อนค่อยกลับห้อง”

“ไม่ไหวอะพี่ เหนื่อยมาก ซื้อกลับไปกินที่ห้องนะ นะๆๆ” เวลาเหนื่อยๆ งี้ก็กลายเป็นผมอ้อนเขาโดยไม่รู้ตัว

“เบาหน่อยหนู พี่ไม่ไหว”

“อะไรไม่ไหว” ผมเงยหน้าสบตาเขา พี่พระพายทำสีหน้าเลิ่กลั่ก เขาประสานมือกุมตรงเป้าไว้แน่น ริมฝีปากพึมพำอะไรบางอย่างที่ผมจับใจความไม่ได้ “เหนื่อยเหมือนกันเหรอ เนี่ย เราบอกพี่แล้วว่าไม่ต้องรอ พี่ก็ดื้อจะรอเราให้ได้”

“โอเคๆ พี่ผิดเอง ขึ้นรถได้แล้วครับ” พี่พระพายพาดขาขึ้นคร่อมเวสป้าคู่ใจ เขาส่งหมวกกันน็อกให้ ผมรับมาสวมแล้วขึ้นซ้อนท้ายเขา กอดเอวอีกฝ่ายหมับ “เฮ้ย!”

“เป็นไรพี่ ร้องเสียงดังใหญ่โต?”

“หนูกอดพี่ทำไม?!”

“ก็เราง่วงอะ เหมือนจะวูบเลย ถ้าไม่กอดไว้แน่นๆ เราก็ตกสิพี่” ผมอธิบาย หาวหวอดๆ อยู่ในหมวกกันน็อก “พี่รีบขับเถอะ อยากกลับแล้ว”

“แต่มัน…”

“พี่พระพายยยย กลับห้องน้าาาาา”

“โอ๊ยยย เย็นไว้ตัวกู ปลงสังขารๆๆ”

พี่พระพายออกรถ ผมได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่าง แต่ฟังไม่ถนัดเพราะเสียงลมตีจนพัดคำพูดเขาหายไปหมด ฟังออกคร่าวๆ แค่ประโยคท้ายๆ ที่ว่า…

“แก่เฒ่าหนังยานแต่ล้วนเครื่องเหม็น ไม่น่ารัก ไม่ขาว ไม่น่ากอดจูบลูบคลำ สังขารไม่เที่ยง…”

“...”

ผมปล่อยให้พี่พระพายท่องอะไรไปเรื่อยเปื่อย ขี้เกียจทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาคิด แต่ฟังพี่พระพายท่องไปท่องมาก็ชักรู้สึกง่วงกว่าเดิม มือที่กอดเอวเขาไว้ค่อยๆ เลื่อนต่ำลง…

“ชิบ! มือ! เฟนมือหนู!” ผมรู้สึกว่ารถเป๋ไปเสี้ยววินาทีนึงก่อนที่พี่พระพายจะประคองให้กลับมาเป็นปกติ เพิ่มเติมคือเขาจับมือผมที่ลงต่ำให้ขึ้นมาเกาะเอวเหมือนเดิม “หนูจะกอดเอวพี่ก็ได้ แต่จะมาสะกิดพระพายน้อยไม่ได้!”

“สะกิดอะไรของพี่อะ” ผมงึมงำ สะบัดหน้าเรียกสติตัวเองแล้วกอดเอวพี่พระพายไว้แน่นอย่างตอนแรก “เดี๋ยวถึงหอเราขออาบน้ำก่อนนะ พี่สั่งพิซซ่ามารอไว้เลย”

“เนี่ย หนูก็เป็นแบบนี้ว่ะเฟน”

ผมปล่อยเขาบ่นไปเรื่อย บ่นอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่เข้าใจ ตอนนี้ผมทั้งง่วงทั้งหิว อยากกลับถึงห้องไวๆ แทบตายอยู่แล้ว…

“ปลงสังขาร ไม่โด่ ไม่กำหนัด แก่เฒ่าหนังยานแต่ล้วนเครื่องเหม็น!ๆๆๆ”

“...”

เฮ้อ เอาที่พี่พระพายสบายใจแล้วกันนะ

-----------------


บ้านใครฝุ่นเยอะอย่าลืมสวด--- อย่าลืมหาซื้อหน้ากากมาใส่ป้องกันกันนะคะ รักษาสุขภาพกันด้วยเด้อ

หื่นฮากันมาก็หลายตอนแล้ว ให้พี่ พพ ดูเป็นคนดีมั่ง เนี่ย พี่แกก็ไม่ได้เลวร้าย แค่เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่ายเฉยๆ หลังจากนี้น้องน่าจะปลอดภัยเพราะพี่แกได้บทสวดปลงสังขารมาจากพี่สายฟ้าแล้ว 55555

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ มุกแป้กบ้างขำบ้างโบ๊ะบ๊ะไปตามเรื่อง ไม่คิดว่าคนจะอ่านกันเยอะขนาดนี้ พูดจริง เขียนมาก็หลายเรื่อง เรื่องนี้คนอ่านเยอะมากสุดเท่าที่เขียนมาเลย ขอบคุณนะ ทุกคอมเมนต์ และทุกคนที่เล่นแท็กในทวิตเลย หวังว่าจะอยู่ด้วยกันไปจนถึงตอนที่พี่ พพ หายบ้านะคะ

#เพื่อนกล่อมนอน


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฮาาาา  ปลงจงจนลงข้างทางแล้ว จะถึงไหมหอ
เราขอตัวไปสวดมนต์บ้างนะ5555

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
คู่นี้ NC แซ่บแน่นวล

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เราต้องสวดมนต์บทไหน ถึงจะช่วยให้น้องรอดพ้นจากการโดนคุณ พพ. ได้
อิติปิสวนจะไหวไหม

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
พายเธอจะได้กินน้องเฟนของฉันจริงๆหรอ โอ้ยยยยยย ทำไมคนน่ารักๆถึงได้ตกมาอยู่ในเงื้อมมือของคนมักมากในกามได้นะ  :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2019 11:44:24 โดย wikawee »

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องเฟนจะอยู่รอดปลอดภัยได้จนถึงเมื่อไหร่เนี่ย อิพี่มันร้ายเหลือเกิน หนีไปปปปปปป

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แฝดน้องมาเจออิพี่โดนทุบหัวแบะแน่ 555

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชอบความแซะจังเล้ยยยย ตลกพพ.สุด ว่าแล้วก็ไปเปิดฟัง Duu Du Duu Du 55555  :m20:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ต้องสวดบทไหนดี ถึงจะไล่ผีหื่นจากพี่พระพายได้

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ฉันจะโทร 191 ถ้าอิพี่ได้น้องจริงๆ

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ตอนแรกว่าเกลียดหมาตายลอยน้ำสุดแล้วพอมาเจอของสายฟ้าแก่เฒ่าหนังยาน นี่ไปไม่เป็นเลย55555555

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
บทสวดใหม่ขลังกว่าเดิมอีกวุ้ยยยยย อิพี่มันพึ่งได้มาเมื่อเย็นหนูก็มือไม้อ่อนเลยเหรอลูก 55555555555555555

ออฟไลน์ miwmiwzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่รู้จะสงสารใครดี555555

ออฟไลน์ JoobbieChu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องเฟนมีแฝดด้วยอะ ชอบบทสวดปลงสังขารของสายฟ้า ท่องไว้ฮึบไส้นะพี่พระพาย ถึงน้องจะงอแงขี้อ้อนแถมยังอ่อยแบบไม่รู้ตัวพี่ต้องฮึบไว้นะ พี่พายมันหลงน้องขึ่นทุกวันๆ ขนาดยอมทิ้งนัดเย...อะคิดดู๊ว

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากเห็นแฝดน้องเฟนแล้วๆๆๆๆๆๆๆ :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตลกอ่ะ.. ชอบๆ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ pj25

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องเป็นคนตลกแบบซึน ๆ  จริง ๆ  น้องจะทันอีพี่บ้างไหมหนิ  55+++++

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชอบ..บบบบบบบบบ   :mew1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
บางทีก็สงสารพระพายเหมือนกันนะ ถ้าน้องจะขยันทำตัวน่าเอ็นดูขนาดนี้

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แง โปรไฟล์น้องเฟนคือชวนแฮ่กมาก โอ๊ยอิจนังพพ.ก่อนเลยได้ปะ ว่าแต่พี่พพ.จะโดนแฝดของน้องดักตีมั้ย 55555555

Sent from my GT-I8262 using Tapatalk


ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
บทปลงสังขารก็มา555

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :katai1:น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 7

งูน้อยพึงระงับกายา





เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

สวัสดีเช้าวันหยุด วันดีๆ แบบนี้อย่าลืมตื่นมาทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายกเวรกันนะครับ สิ่งร้ายๆ จะได้ออกไปและมีสิ่งดีๆ เข้ามาแทน พี่เทพเป็นห่วง

Notice me senpai! @fcpeetepthor

กำลังตอบกลับถึง @LostDemocracy44

นายเวร* ไม่มีกอไก่ นิ้วเบียดเหรอ



10:25 AM

“ยามหนุ่มยามสาว หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ”

ผมรู้สึกว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างพึมพำข้างหู

“แก่เฒ่าหนังยานแต่ล้วนเครื่องเหม็น…”

...อะไรเหม็นๆ นะ?

“แต่นี่ยังไม่แก่ไง หนังไม่ยาน ยังนุ่มมือเต่งตึง…” เสียงนั้นพึมพำไม่หยุด น้ำเสียงติดจะหอบนิดๆ ผมได้ยินเสียงลมหายใจอีกฝ่ายติดขัดในขณะที่หัวไหล่กับเอวเหมือนโดนอะไรลูบวนไปมา สัมผัสนี้คุ้นเคยเหมือนคุณผีที่มาหาผมเกือบทุกคืนไม่มีผิด ผมยังคงหลับตา แต่รู้สึกว่าตัวเองขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่ากำลังฝันหรือตื่น

“ไม่ๆ อย่าคิดถึงกิเลส หายใจเข้า หายใจออก สังขารไม่เที่ยงล้วนแต่เครื่องเหม็น” เสียงนั้นยังคงท่องบทสวดอะไรบางอย่างต่อไป ผมรู้สึกอุ่นๆ ที่คอ จั๊กจี้เหมือนใครกำลังซุกหน้าลงมา “ไม่เห็นเหม็นเลย หอมจะตายอยู่แล้ว ทั้งหอมทั้งนิ่ม…”

ผมขยับตัวยุกยิก หงุดหงิดที่ถูกรบกวนเวลานอน อยากหลับต่อแทบตายแต่เสียงพึมพำนั้นยังดังกวนใจ ไหนจะอะไรๆ ที่ลูบไหล่ ลูบเอว ซุกคอผมนี่อีก

ในที่สุดผมก็ฝืนความง่วงลืมตาขึ้นมาได้

มุมมองหลังตื่นนอนแปลกไป คล้ายผมอยู่ผิดที่ผิดทาง สายตาผมโฟกัสเข้าที่หน้าอกกว้างของใครบางคนที่ผมนอนหนุนอยู่ มือและเท้าก่ายกอดเขาแทนหมอนข้าง ผมนิ่งคิดไปชั่วอึดใจ สมองหลังตื่นนอนทำงานค่อนข้างช้า มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือ...ใช่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นมือที่ลูบเอวผมอยู่เลื่อนลงต่ำจนแตะก้นผม…

“พี่พระพายทำอะไร!”

“เชี่ย! หมาตายลอยน้ำ!”

“เราไม่ใช่หมา และเรายังไม่ตาย!” ผมเด้งตัวออกจากพี่พระพาย ขยับถอยไปนั่งชิดกำแพงด้านใน เบิกตาจ้องพี่เขาเขม็ง พี่พระพายชันตัวลุกขึ้น เขาอ้ำๆ อึ้งๆ มองหน้าผมอยู่นานแต่ไม่พูดอะไรสักที สุดท้ายเลยได้แต่เสยผมยุ่งๆ ของตัวเองแก้เก้อแล้วหัวเราะแหะๆ ใส่

“พี่ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ อธิบายมาเลยทำไมเราถึงไปนอนซุกพี่แบบนั้น”

“พี่ไม่รู้ พี่ไม่ได้ทำอะไรเราจริงๆ นะ” พี่พระพายอธิบายหน้าตาตื่น เขาทำท่าจะขยับเข้ามาหา แต่ผมยกเท้าขึ้นขู่ ถ้าเข้ามาใกล้คือถีบจริงๆ นะ “อูยยย หนูจ๋า ไม่เอาๆ ไม่ยกแข้งยกขา อย่าลืมว่าใส่ขาสั้นนอน มันร่นลงจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พี่ใจไม่ดี พี่ปลงสังขารไม่ได้ เห็นใจพี่หน่อยเว้ยเจ้าเฟน”

“พี่ทุเรศ!”

“อย่าว่าพี่ พี่ใจบาง” พี่พระพายกุมใจตัวเอง เขาทำหน้าเศร้าปากเบะใส่ผม “พี่ไม่ได้ทำอะไรเราจริงๆ เว้ย เรานั่นแหละ จู่ๆ ก็กลิ้งมานอนซบนอนก่ายพี่เป็นหมอนข้างเลย พี่เป็นผู้ถูกกระทำนะ”

“แต่พี่ก็กระทำเรา!”

“เฮ้ย พี่ทำอะไร ไม่ได้ทำ”

“แล้วมือที่บีบก้นเราเมื่อกี้มันมือใคร!” ผมโยนหมอนใส่หน้าเขา พี่พระพายรีบยกมือขึ้นกัน “มือผีเหรอฮะ?!”

“พี่แค่เผลอไผล พี่ไม่ได้ตั้งใจ” เขาละล่ำละลัก “พี่ฝันว่าพี่ซิ่วไปเรียนเชฟ พี่กำลังนวดแป้งเตรียมทำซาลาเปา”

“ถ้าตั้งใจพี่จะทำมากกว่านี้สินะ”

“หนูก็กล่าวหาพี่เกินไป พี่ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ ไม่ได้มีอารมณ์หรือจะทำมิดีมิร้ายเราสักนิด” พี่พระพายโวยวายใหญ่โต ผมหรี่ตา จ้องหน้าเขา ค่อยๆ ไล่สายตาลงต่ำ พี่พระพายมองตามสายตาผมและหยุดที่เป้ากางเกงตัวเองที่มีซัมติงดุ๊กดิ๊กอยู่ในนั้น “เอ่อ...เรื่องนี้พี่อธิบายได้ ผู้ชายที่สุขภาพดีก็เป็นกันทุกคนตอนเช้า หรือเราไม่เคารพธงชาติ? เฮ้ย แบบนั้นเรื่องใหญ่นะ ถ้าไม่สบายใจยังไงพี่ช่วยเราตรวจ...”

“บ้ากาม!”

“ฮะ…”

“คนบ้ากาม!” ผมคว้าหมอนข้างฟาดใส่พี่พระพายจนอีกฝ่ายยกมือขึ้นกันเป็นพัลวัน “นิสัยไม่ดี แอบมาลูบมาบีบก้นเค้า เราเหรอก็เชื่อใจพี่ ยอมต่อเตียงกับพี่ เห็นใจว่าพี่กลัวผี แล้วนี่คือสิ่งที่พี่ตอบแทนเราเหรอ นี่แน่ะๆๆ”

ผมฟาดไม่ยั้งมือจนพี่พระพายต้องลุกหนี ผมลุกตาม ไล่ฟาดเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นยอมให้มากหน่อยไม่ได้เลยพี่คนนี้ ต้องตีให้เข็ด คราวหลังจะได้ไม่ทำตัวเป็นภัยสังคมกับน้องกับนุ่ง!

“เดี๋ยวเฟนเดี๋ยว เฮ้ย! อะไรอยู่ข้างหลัง!?”

“พี่ว่ามุกนี้มันเก่ามั้ย เป็นเรา เราไม่เล่นนะ คิดใหม่นิดนึง”

“ไม่ พี่ไม่ได้เล่นมุก มันอยู่ข้างหลังเฟนจริงๆ” พี่พระพายก้าวถอยหลัง สีหน้าดูแหยงๆ เห็นแบบนั้นผมเลยเผลอตัวเชื่อเขาแล้วหันกลับไปมองเพื่อเจอกับ…

“ฮือออ พี่!”

“เฮ้ย อย่ากระโดดเกาะพี่เป็นลูกลิงแบบนี้!”

“ไม่เอาาาา เรากลัวแมลงสาบ พี่ไล่มันที!”

“ไล่บ้าอะไรล่ะหนู พี่ก็กลัวเว้ย!” พี่พระพายตะโกนตอบทั้งที่เราอยู่ใกล้กันแค่เขากระเตงอุ้มผมจากด้านหน้า ผมเกี่ยวขาล็อกเอวพี่เขาไว้ มือกอดคอพี่พระพาย ซุกหน้ากับไหล่กว้าง หลับตาปี๋ “ไม่ต้องมาอ้อนมาซุก เรื่องแมลงสาบเรื่องใหญ่ ความน่ารักของเราก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ”

“ฮือออ แต่พี่ก็กอดเอวเราแน่นเลยนะเว้ย!”

“ก็พี่กลัวหนูตก!” พี่พระพายแก้ตัว ก่อนเขาจะร้องลั่นใส่หูผมแล้วพาวิ่งกระเตงจนผมเกือบหน้าหงาย ดีที่กอดคอพี่พระพายเอาไว้แน่น “มันบิน หนู! มันบิ๊น!!! เฮ้ย มันพาเพื่อนมาด้วย มันมีสองตัว หนูวววว!!!”

“หนีออกนอกห้องเร็วพี่!”

“เชี่ย ไม่ได้ว่ะน้อง”

“ทำไมไม่ได้!?” ผมตะโกนถามทั้งที่ยังซุกหน้ากับไหล่พี่พระพาย

“มันเกาะอยู่ที่ประตู!”

ผมเงยหน้าขึ้นมองพอดีกับพี่พระพายตอบ เจ้าปีเตอร์สองตัวเกาะอยู่เหนือประตูทางเข้าที่เป็นทางรอดหนึ่งเดียวของเรา ผมเบะปาก ขนลุกซู่ซ่าขึ้นมาทันที

“เราโดดระเบียงกันมั้ยพี่”

“ถ้าหนูใช้สมองใคร่ครวญสักนิด หนูจะรู้ว่าทำแบบนั้นไม่ได้เว้ยไอ้ตัวน่ารัก!”

“พี่ด่าเราโง่!”

“แต่พี่ก็ชมว่าน่ารัก!”

“ฮืออ พี่ทำไงดี พี่ไปไล่ฟาดมันที พี่เป็นผู้ใหญ่นะ”

“ไม่เอา ขนลุก!”

“พี่ไม่สงสารน้องเหรอ น้องกลัว”

“บอกแล้วไงว่าความน่ารักของหนูมันใช้กับพี่ตอนนี้ไม่ได้” พี่พระพายฟาดก้นผมไปทีนึงจนผมสะดุ้ง ยังไม่ทันได้อ้าปากต่อว่า พี่แกก็หันขวับมาสบตากันซะก่อน “พี่รู้แล้ว!”

“รู้อะไร!”

“รู้ว่าจะให้ใครมาช่วย!”

“ใคร! แล้วเราจะตะโกนใส่หน้ากันแบบนี้อีกนานมั้ย?!”

“ไปเอามือถือมาให้พี่เร็ว วางอยู่ข้างเตียง” พี่พระพายแกะตัวผมออกแล้วดันหลังให้ผมไปหยิบมือถือ ซึ่งมือถือวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง และเตียงใกล้กับประตู

อีพี่บ้า ส่งผมไปเป็นทัพหน้าเนี่ยนะ?!

“พี่!”

“ไปเอามาเร็วก่อนมันจะบินอีกรอบ เห็นมั้ยนั่น มันขยับปีกแล้ว!” พี่พระพายขู่...ความจริงก็ไม่เชิงขู่ เพราะผมเห็นปีเตอร์สองตัวนั้นขยับปีกดุ๊กดิ๊กเตรียมบินอีกครั้ง ผมกลั้นใจก้าวยาวๆ ไปหยิบมือถือพี่พระพายมาส่งให้เจ้าตัวที่รับไปกดเบอร์แทบจะทันที

“ฮัลโหลมึง ช่วยด้วย กูกำลังจะตาย!” พี่พระพายตะโกนใส่ปลายสาย “ไม่ต้องถามมาก ลงมาชั้นห้า ห้อง 505 เร็ว ก่อนที่กูกับน้องจะกอดคอกันโดดระเบียงพิสูจน์รัก!”

“ไหนพี่บอกเราว่าจะไม่โดดระเบียง”

“พี่ขู่ เดี๋ยวมันไม่ยอมมา”

“มันไหน”

“ไอ้สายฟ้า”

“หา พี่เขาอยู่หอนี้ด้วยเหรอ” ผมถาม เพราะเท่าที่อยู่หอนี้มาอาทิตย์กว่ายังไม่เคยเดินสวนหรือเจอกับพี่สายฟ้าเลยสักที “ทำไมเราไม่เคยเห็นเลยล่ะ”

“เออน่า”

“พี่ ตอบ!” ยังไม่ทันที่พี่พระพายจะอ้าปากตอบ เสียงเคาะห้องก็ดังรัวจนผมสะดุ้ง

“เฮ้ยยย คนในนั้นยังมีชีวิตอยู่มั้ย ประตูล็อก มาเปิดที”

“พี่ๆๆ มันบิน! มันบินนนน!” ผมตะโกนเมื่อแรงสั่นสะเทือนจากการเคาะส่งผลให้ปีเตอร์ทั้งคู่กางปีกบินร่อนมาอีกครั้ง ผมยกมือกุมหัว ก้มหน้าวิ่งตัวใครตัวมันกับพี่พระพายที่แหกปากไป แต่ยังพอมีสติวิ่งไปเปิดประตูให้พี่สายฟ้า

“เป็นบ้าอะไรกันวะ เสียงดังลั่นอย่างกับควายถูกเชือด”

“พี่สายฟ้าช่วยด้วย แมลงสาบอยู่ในห้องเรา!”

“มึง มีแมลงสาบอยู่ในห้องกู!”

“ห้องมึง? เดี๋ยวนะ สรุปห้องใคร” พี่สายฟ้าขมวดคิ้วมุ่น เขามองผมสลับกับพี่พระพาย “มึงเป็นเมตน้อง น้องอยู่ห้องนี้ เท่ากับนี่ห้องมึง อ๋อ! ที่แท้มึงย้ายลงมาอยู่ใต้จมูกกูแค่นี้เองสินะ”

“พอก่อนมึง ไล่ปีเตอร์ให้กูก่อน!”

“เดี๋ยวกูคิดบัญชีกับมึงแน่” พี่สายฟ้าคาดโทษพี่พระพาย ผมไม่รู้หรอกว่าเขาสองคนมีเรื่องอะไรกัน แต่ตอนนี้ช่วยไล่ปีเตอร์ไปก่อนได้มั้ย เห็นมันกระพือปีกบินเฉี่ยวหัวทีก็หน้ามืดไปหมดแล้ว “ไหน ไอ้แมลงสาบตัวไหนมันวางอำนาจยึดห้องเพื่อนกู อ๋อ มึงใช่มั้ยอีตัวดี!”

พี่สายฟ้าถอดรองเท้าแตะช้างดาวตัวเองขึ้นมาถือแล้วชี้ไปทางปีเตอร์สองตัวที่เกาะอยู่บนกำแพง

“จะยึดห้องเพื่อนกูเหรอ ตอนมึงมายึดนี่ถามความสมัครใจเพื่อนกูยัง? ห้องนี้เป็นของเพื่อนกู โดยเพื่อนกู แล้วก็เพื่อเพื่อนกู มึงกล้ามาอยู่ได้ยังไง เจ้าของห้องไม่ให้อยู่ยังจะเสนอหน้าอยู่ต่อ!” พี่สายฟ้าไล่ฟาดไปพลางสบถไปพลาง ผมได้แต่มองตามอย่างอึ้งๆ เพราะมาดพี่แกตอนอยู่มอกับตอนนี้เหมือนคนละคนกันเลย “ถ้ามีสมองก็คงคิดนิดนึงแล้วมั้ย ถ้ามีความละอายก็น่าจะหน้าชาบ้างแล้วมั้ย คนเขาเกลียดแกกันทั้งประเทศ ยังไม่รีบสูญพันธุ์ไปอีก จะอยู่บนโลกนี้ต่อทำไม อ๋อออ หรือคิดจะปกครองมนุษย์ด้วยความกลัว ร้ายมากนะไอ้แมลงสาบ กูจะย้ำอีกครั้งว่าห้องนี้ของเพื่อนกู เป็นสิทธิ์ของเพื่อนกูที่จะอาศัยอยู่ในห้องอย่างสบายใจไร้ความกลัว ยัง ยังไม่ไปอีก รู้เลยนะว่ามึงไม่มีทั้งสมอง ทั้งความละอาย อึดทนอย่างกับแมลงสาบ!”

“เอ่อ พี่สายฟ้าครับ ก็นั่นแมลงสาบไง…”

“เฟน อย่าขัดมันเลย” พี่พระพายกระซิบตอบ เขาเกาะไหล่ผมจากด้านหลัง เอาผมเป็นเกราะป้องกันเผื่อตอนแมลงสาบบินผ่านมาทางนี้ “ให้มันได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ดีกว่า ประสิทธิภาพการทำลายล้างจะได้รุนแรง”

ผมเงียบ มองพี่สายฟ้าที่เงื้อช้างดาวฟาดๆๆ ใส่แมลงสาบไม่ยั้งพร้อมบ่นเรื่องสิทธิเสรีภาพอะไรสักอย่างไปด้วย จนสุดท้ายแมลงสาบทั้งคู่ก็เหลือแต่ซาก พร้อมทิ้งรอยคราบไว้บนพื้นและผนังห้องอย่างละตัว…

“สายฟ้าเพื่อนรัก มึงเพื่อนตาย”

“เพื่อนตายที่มึงทิ้งกูลงมาอยู่กับเด็ก บักเปรต!”

“เราควรทำความสะอาดซากแมลงสาบกันก่อนมั้ย หรือพี่ๆ ว่าไง” ผมมองหน้าสองคนสลับไปมา พี่พระพายกับพี่สายฟ้าหันมองผมเป็นตาเดียว “อย่าจ้องเราแบบนั้น เราทำอะไรไม่ถูกนะพี่”

“ไหนอธิบายมาซิว่ามึงมาอยู่ที่ชั้นห้านี่ได้ยังไง”

“ก็กูเป็นเมตน้อง”

“เออ กูรู้ แต่ที่มึงยังไม่บอกกูคือมึงย้ายจาก…”

“สายฟ้าเพื่อนรัก กูซาบซึ้งมากที่มึงลงมาช่วยกูแบบนี้” พี่พระพายพูดขัดก่อนพี่สายฟ้าจะได้พูดจนจบประโยค เขาโอบมือพาดบ่าเพื่อนตัวเองแล้วพาลากไปนั่งที่พื้นห้องตรงกลาง ผมมองตามตาปริบๆ เดินตามไปนั่งข้างพี่พระพาย “มาๆ มานั่งพักกินน้ำกินท่าก่อนดีกว่า”

“กูไม่กิน”

“ต้องกิน” พี่พระพายย้ำ เขาหันมาหาผม “เฟนไปเอาน้ำมาให้พี่สายฟ้าสักแก้วหน่อยครับ พี่เขาอุตส่าห์ลงมาช่วยพวกเราจากการยึดครองของหัวหน้าปีเตอร์”

“อื้อ” ผมพยักหน้า ลุกไปเปิดขวดน้ำรินใส่แก้วมาให้พี่สายฟ้าที่รับไปทั้งที่ยังขมวดคิ้วจนหน้ายับ พี่เขามองผมนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง

“ไปไงมาไงถึงมาเป็นรูมเมตกับไอ้นี่ได้ พี่ว่าจะถามนานแล้ว ไม่มีโอกาสสักที”

“อ้อ…” ผมหันไปทางพี่พระพายแวบหนึ่งก่อนหันกลับมาสบตาพี่สายฟ้า “คือเราทวีตหารูมเมตในทวิตเตอร์แล้วติดแท็กผิด ไปติดเอาแท็กหาเพื่อนนอน แล้วพี่พระพายก็ทักมา…”

“เริ่มต้นมาก็เห็นคุกรำไร”

“มึงก็ว่าไป กูไม่ได้ขนาดนั้น” พี่พระพายแย้ง เขาเล่าต่อจากผม “คือกูน่ะสงสัยอยู่แล้วว่าน้องมันติดแท็กผิดหรือเปล่า เลยแกล้งๆ ลองทักไปคุย กะว่าถ้าน้องไม่รู้เรื่องแท็กนั้นจริงๆ กูจะได้บอกน้องเขาให้ลบ”

“แต่ถ้าได้จริงมึงก็เอา?”

“กูมีจรรยาบรรณ ศีลธรรม และคุณธรรม”

“มีเยอะจนต้องพึ่งหมาตายลอยน้ำกับปลงสังขารเลยเนอะ” พี่สายฟ้ามองพี่พระพายด้วยสายตาดูแคลน ผมขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเขาพูดกันเรื่องอะไรอยู่แต่ไม่กล้าถามแทรก

“เออน่า ทีนี้น้องมันเข้าใจผิดจริงๆ กูเลยบอกน้องว่ามันไม่ใช่แท็กหารูมเมต เนี่ย กูทำความดีนะ อย่าด่ากู”

“แต่ก่อนหน้านั้นพี่พระพายดีลเราจริงจังมากเลยพี่สายฟ้า” ผมรีบฟ้อง ชะงักเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ “เอ่อ เดี๋ยวนะ พี่สายฟ้ารู้เหรอครับว่าพี่พระพายเขาเล่นแอค เอ่อ...แอคนั้นอะ”

“พี่รู้ยันไส้ยันพุงมันทุกขดแล้วครับ อ้าปากมาก็เห็นลิ้นไก่”

“งั้น…” ผมเม้มปาก จ้องหน้าพี่สายฟ้าอย่างไม่แน่ใจ “แสดงว่าพี่ก็เป็น...เอ่อ เป็นเค่อ…”

“พรืดดดดด!”

พี่พระพายหลุดขำออกมาเสียงดัง ส่วนพี่สายฟ้าขมวดคิ้วจนหน้ายับกว่าเดิม เขาจ้องผมเขม็ง ยกนิ้วจิ้มอกตัวเองแล้วถามย้ำเน้นเสียง

“คิดว่าพี่เป็นแบบไอ้พระพายเรอะ?!”

“เอ่อ…”

“พี่ไม่ได้เป็นแบบมัน” พี่สายฟ้าแทบจะยื่นหน้ามาชิดหน้าผม จนพี่พระพายต้องเอื้อมมือมาผลักหัวพี่สายฟ้าออกไป “พี่ไม่ชอบเย็บไปทั่ว น้องเก็ตมั้ย?”

“เย็บ?” ผมทวนคำ

“Yed” พี่พระพายตอบด้วยท่าทีสบายๆ ส่วนผมคล้ายๆ จะหน้ามืด เซ็นเซอร์บ้างก็ได้มั้ย ตรงไปตรงมาเกินไปแล้ว เพื่อนๆ ผมยังไม่เคยมีใครพูดคำนี้ใส่หน้าผมตรงๆ เลยนะ

“พี่...แล้ว เคยอยากเลิกมั่งมั้ย แบบ มันดูไม่ดีปะพี่”

“เห็นแบบนี้แต่พี่เซฟเซ็กส์นะครับ” พี่พระพายตบอกตัวเอง เขายิ้มให้ผม “พี่ยืดอกพกถุง สะอาด มีห้อง ถ้าเฟนไม่เชื่อจะลอง…”

“ไอ้เวร!” พี่สายฟ้าตบหัวพี่พระพายไปทีนึง “เยาวชน อนาคตของชาติ หมาตายลอยน้ำ ปลงสังขาร!”

“เออ ลืม ขอโทษได้มั้ย” พี่พระพายลูบหัวตัวเอง เขาหันมาทางผมอีกครั้ง หัวเราะแหะๆ ทำหน้าซื่อแล้วพูดต่อ “นั่นแหละ พี่เองก็เซฟในระดับนึง วงการนี้มันเข้าแล้วออกยาก เข้าไปปุ๊บก็ตอด จะเอาออกก็รัดแน่นเชียว…”

“เลิกทำตัวจัญไรต่อหน้าเด็กสักที กูขอร้อง ก่อนที่อนาคตของชาติจะแปดเปื้อนไปมากกว่านี้”

“เรางง อะไรตอดๆ รัดๆ พี่ช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อย มันเกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ตรงไหน”

“บางทีนะเฟน” พี่สายฟ้ามองหน้าผม แววตาเห็นอกเห็นใจ “ไม่ต้องสงสัยไปทุกเรื่องที่ออกจากปากมันก็ได้ มันเพ้อเจ้อ พูดจาไปเรื่อย”

“อ้อ…”

“ไปๆ มึงกลับห้องไปได้แล้วไป” พี่พระพายโบกมือไล่เพื่อนตัวเอง “ซักน้องซักกูจนสะอาดหมดแล้ว”

“พอกูมีค่าก็พูดจาหวานหู พอกูไร้ค่ามึงก็ผลักไสไล่ส่ง มิตรภาพเรามันเท่านี้จริงๆ ว่ะ”

“ไม่น้อยใจสิ กูรักมึงนะเว้ย”

“ถ้ารักกูมึงจะไม่ทิ้งกูมาเลยพระพาย แค่นี้ก็รู้แล้ว”

ผมมองพี่ทั้งสองคนสลับกันไปมา หนึ่งตัดพ้อ อีกคนง้อ วินาทีนั้นเองเหมือนดวงตาผมบรรลุธรรมอะไรบางอย่าง ที่แท้...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองเหรอ มิน่าพี่สายฟ้าถึงได้ชอบมองผมด้วยสายตาเหมือนจะมองให้ทะลุ

“เดี๋ยวกูเลี้ยงชาบูตอบแทนมึงเลยเอ้า!”

“พูดแล้วนะ”

“เออ”

“งั้นวันนี้เลย” พี่สายฟ้าลุกยืน ปัดเนื้อปัดตัวแล้วสบตาพี่พระพายที่นั่งอยู่บนพื้น “กูไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน อีกชั่วโมงนึงเจอกันที่รถกู”

“เดี๋ยวๆ ใจเย็น แล้วน้อง…”

“พาน้องมาด้วยสิวะ ถามโง่ๆ”

“เอ้า?!”

“ตามนี้นะ” พี่สายฟ้าสรุปเสร็จสรรพก็เดินดุ่มๆ ออกนอกห้องไป ทิ้งให้ผมกับพี่พระพายนั่งมองตากันปริบๆ

“ก็...ตามนั้น” พี่พระพายยักไหล่ “ไปกินชาบูกัน เดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อน…”

“หยุดเลยพี่พระพาย” ผมรีบห้ามเขาไว้ เขม็งตาจ้องอีกฝ่าย “ไม่ต้องมาเนียนหนีไปอาบน้ำแล้วให้เราเช็ดทำความสะอาดซากปีเตอร์เลยนะ เรารู้แผนพี่หรอก หลบหลังเราไม่พอยังจะให้เราเก็บกวาด พี่แย่อะ ต้องให้เราบอกอีกมั้ยว่าที่แมลงสาบมายึดห้องเราเพราะพี่ชอบซุกขยะ แถมยังลืมปิดประตูระเบียงอยู่บ่อยๆ”

“โหหนู พี่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น…”

“ไม่รู้ล่ะ เราจะอาบน้ำก่อน ส่วนพี่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย พอเราออกมาอย่าให้เห็นว่ายังเลอะเทอะอยู่นะ ถ้ามีเหลือแม้แต่ขาข้างเดียวเราจะเอามันใส่ข้าวให้พี่กิน!”

ผมขู่ทิ้งท้ายแล้วคว้าเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงพี่พระพายโอดครวญแต่ผมไม่สนใจ เปิดน้ำจากฝักบัวให้ดังกลบแล้วฮัมเพลงอาบน้ำอย่างสบายใจ


คิดอีกทีผมไม่น่าตกลงมากินชาบูกับพี่ทั้งสองคนนี้เลย…

“มึงแย่งเบคอนกู!”

“ก็มึงไม่หยิบ” พี่พระพายเทเบคอนลงหม้อต้มหน้าตาเฉย

“กูกำลังจะหยิบ!”

“พี่ๆ พอสักทีได้มั้ย พี่แย่งกันแบบนี้ตั้งแต่ชั่วโมงแรกจนจะหมดเวลากินอยู่แล้ว เราปวดหัว!” ผมบ่นขึ้นมาในฐานะคนที่นั่งคั่นตรงกลาง อยากเอาหัวจุ่มหม้อต้มให้รู้แล้วรู้รอด และแทบจะจุ่มหัวลงไปในนั้นทันทีที่พี่พระพายกับพี่สายฟ้าตีกันจนจานเลือดหมูที่แย่งกันอยู่กระเด็นตกตรงหน้าผม เลือดหมูชิ้นนึงตกใส่หม้อ น้ำกระเด็นโดนผิวผมเล็กน้อยพอให้แสบๆ คันๆ แต่ไม่เท่ากับเลือดหมูอีกชิ้นที่กระเด็นเลอะเสื้อผม

เสื้อสีขาวด้วยประเด็น…

“เฮ้ย!”

ทั้งสองคนประสานเสียงจนคนรอบด้านหันมามอง ผมปวดหัวตุบ ได้แต่ถามตัวเองว่ามานั่งทำอะไรที่นี่ ระหว่างพี่วินัยปีสามทั้งสองคนที่ทำตัวเหมือนอยู่ปอสาม

“หนู แสบมั้ยพี่ขอโทษ!” พี่พระพายละล่ำละลักถาม เขาลนจนหยิบแก้วน้ำเปล่าเทน้ำราดรอยเลอะบนเสื้อผม “เฮ้ย โทษๆ เวร เลอะกว่าเดิมเลย ทำไงดีวะเนี่ย?!”

“พี่…” ผมจับมือเขาไว้ สูดหายใจลึกมองหน้าอีกฝ่าย “พี่หายใจลึกๆ ก่อนนะ นั่นแหละ ดีครับ แล้วก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่ปล่อยเราไปเข้าห้องน้ำ ล้างเนื้อล้างตัว…”

“เดี๋ยวพี่พาไป” พี่พระพายรีบอาสา ผมหน้ามืดขึ้นมาทันที จะห้าม แต่เหมือนไม่ทัน “สายฟ้ามึงอยู่นี่ กูพาน้องไปล้างตัวก่อน”

“โอเคๆ กูรออยู่นี่ มีอะไรให้ช่วยก็โทรมานะ”

แล้วพี่พระพายก็แทบหิ้วผมกระเตงเข้าเอวพาวิ่งไปห้องน้ำข้างนอกที่อยู่ข้างๆ ร้านทันที แต่พอเข้าไปปุ๊บก็พบว่าคนเยอะมากแทบจะเบียดเข้าไปไม่ได้ เลยเปลี่ยนมาเข้าห้องน้ำอีกที่ที่ไกลกว่าเดิมแต่แทบไม่มีคนแทน

“พี่ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ”

“อือ เรารู้” ผมพยักหน้ารับ เปิดก็อกน้ำเอามือรองมาเช็ดๆ รอยเปื้อนที่เสื้อ แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งเลอะจนต้องถอดมันออกมาซักมันตรงนั้นนั่นแหละ

“เชี่ย หนู!”

“อะไรพี่ ตกใจ” ผมหันไปมองเขา พี่พระพายเบิกตาจ้องผม เขามีท่าทีกระสับกระส่าย แววตาล่อกแล่ก หลุบลงต่ำแล้วสะบัดหน้าไปมาสองสามทีก่อนล็อกสายตาไว้ที่ใบหน้าผม คอแข็ง ตาค้าง ดูน่ากลัวอยู่หน่อยๆ

“ยามหนุ่มยามสาว…”

“พี่ เป็นไร ท่องอะไรอีกแล้ว?”

“แก่เฒ่าหนังยาน…” เขายังคงพึมพำอะไรของตัวเองไปไม่ได้ศัพท์ ก่อนสบถออกมาแล้วยกโทรศัพท์โทรหาพี่สายฟ้า ผมได้แต่มองเขาคุยกับอีกฝ่าย สีหน้าซีเรียสจริงจัง “มึง...กูว่าปลงสังขารไม่ได้ผล”

ปลง...อะไรนะ?

“มึงมีอีกบทเหรอ สงบอะไรนะ สงบกำหนัด ไหนมึงลองส่งไลน์มา เออๆ ขอบใจ” พี่พระพายวางสาย เขาหันกลับมาจ้องผมอีกครั้ง แล้วดันหลังผมเข้าไปในห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด ผมสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ “เดี๋ยวพี่ไปซื้อเสื้อมาให้ใหม่ เฟนรออยู่ในนั้นก่อน โอเคมั้ย”

“ฮะ?”

“ทำตามที่พี่บอกน่า คงไม่อยากให้ใครที่มาเข้าห้องน้ำเห็นหนูโป๊ใช่มั้ย?”

“เอ่อ เราใส่กางเกงอยู่ ไม่โป๊นะ…”

“พี่บอกว่าโป๊ก็โป๊น่า” พี่พระพายย้ำ เอามือแตะๆ ดันตัวผมเข้าไปข้างในแล้วปิดประตู เขาสั่งให้ผมล็อกห้องน้ำ พอล็อกเสร็จก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือนไลน์ พี่พระพายเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเขาท่องบทสวดอะไรสักอย่าง ด้วยความสงสัยเลยเอาหูแนบประตูฟัง



อนฺวา กมฺนตฺ โจงฺ ลปฺ

นาคฺโนยฺ พิงฺ รงปฺ กายา

อันว่ากำหนัดจงหลับ

งูน้อยพึงระงับกายา



อนฺวา ราค พิงฺ ลเวนฺ

นาคฺโนยฺ โจงฺ โอตฺโทนฺ ไม โพนฺพิษฺ

อันว่าราคะพึงละเว้น

งูน้อยจงอดทนไม่พ่นพิษ



อนฺวา มนุษฺย ทงฺลายฺ พิงฺ สโงปฺ กมฺนตฺ พิงฺ สโงปฺ จิตฺ สโงปฺ นาคฺโนยฺ

ไม พิงฺ โพนฺพิษฺ ปีฑา พูอินฺ

อันว่ามนุษย์ทั้งหลายพึงสงบกำหนัด สงบจิต สงบงูน้อย

ไม่พึงพ่นพิษเบียดเบียนผู้อื่นเถิด     



บางที…

บางทีนะบางที ผมควรจะเชื่อพี่สายฟ้า ไม่ต้องสงสัยไปซะทุกเรื่องที่พี่พระพายพูดหรือแสดงท่าทีแปลกๆ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นบ้าเข้าไปทุกที

----------------------

แจ็ค ทอล์ก

ขอบคุณบทสวดจาก น้องซอร่า @Lelouch_cc_sor บทสวดนี้ถอดเสียงตามภาษาเฉยๆ ไม่ตรงกับแกรมม่าใดๆ อ่านเอาเฮฮากันนะคะ และขอบคุณมุกจากน้องตี้ด้วย บทนี้ได้รับความร่วมมือในการคิดมุกจากหลายคนมาก อิชั้นซาบซึ้งใจนัก

เนี่ย งูของพี่ พพ ก็จะคึกคักแบบนี้ หลังบทสวดนี้ไม่รู้จะมาอีกกี่บท เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้พี่ พพ ด้วยนะคะ ในส่วนของพี่สายฟ้านั้น...เป็นกำลังใจและช่วยกันหารๆ หน่อยก็ได้ค่ะ (ขอบคุณซอร่าอีกรอบที่ช่วยออกไอเดียเพิ่มเติม ให้เครดิตเพราะเผื่อโดนลากคอจะได้มาหารด้วยกัน)

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและหวังว่าจะได้รอยยิ้มกลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ

#เพื่อนกล่อมนอน

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด