#น้องคนดีมีรอยสัก - แจ้งข่าวรูปเล่ม [24/09/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #น้องคนดีมีรอยสัก - แจ้งข่าวรูปเล่ม [24/09/19]  (อ่าน 332183 ครั้ง)

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ถ้าแค่กอดตอบ จะให้อภัยนะคราม!! อย่าทำพี่คนดีเสียใจอีก ชิ!!  :hao3:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
คนดีก็คือคนดี!!!!

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
พี่คนดี ฮืออออออออ คนดีสมชื่ออะ ปมครอบครัวเก่านี่จบมั้ย ทำไมเหมือนยังไม่จบ เหมือนจะมีอะไรตามมา :katai1:

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โมโหอ่ะ ไม่ให้พี่คนดีกับนังครามแล้วได้มั้ย เอาคืนมาาาา ถนอมใจพี่เค้าน่อยได้มั้ย ฮือออออออแล้วนังเอื้อนี่ยังไง รื้อฟื้นให้ได้อะไรเธอเลือกทางนั้นเอง รำคาญโว้ยยยยย

รักพี่คนดีอ่ะ ไม่อยากให้ต้องเจอคนร้ายๆ แง้

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ดีแบบคนดีไม่มีอีกแล้วนะคราม อย่าทำให้พี่เขาเสียใจน่ะ :a5:

ออฟไลน์ Pankwun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ห้ามทำคนดีเสียใจเด็ดขาดดดเชียววว

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
นังคารม ฉันจะบอกพี่คู้กับโต้ซังให้จัดการแก

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
เหมือนเก่า



“ครามครับ” คนดีเรียกผมในตอนที่ผมกำลังง่วนอยู่กับการนั่งทบทวนวิชาเรียนเพราะอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะเริ่มสอบปลายภาคแล้ว
“ว่าไงคนดี” ผมละสายตาออกจากหนังสือ นึกแปลกใจว่าทำไมถึงเข้ามาหาตอนนี้ ปกติถ้าผมอ่านหนังสืออยู่เขาไม่เคยเฉียดมาใกล้ด้วยซ้ำ ผมดึงอีกคนให้นั่งลงบนตัก วางคางที่ไหล่บางแล้วกอดเขาไว้หลวมๆ
“พี่คู้ฝากมาถามว่าครามรับงานถ่ายแบบไหมครับ ทำแค่สองวันช่วงหลังสอบ”
ผมเลิกคิ้ว
“งานอะไรคะ”
“ถ่ายแบบเสื้อผ้าของพี่คู้ครับ”
“แล้วคนดีไม่ทำแล้วเหรอ”
คนดีจับมือผมที่ลูบตรงเอวเขาไว้พร้อมอธิบาย
“แต่ก่อนพี่คู้เขาทำเสื้อผ้าแบบ unisex ครับ แล้วทีนี้ลูกค้ามีแต่ผู้หญิง พี่คู้เลยอยากหานายแบบที่ลุคเท่ห์ๆบ้าง จะได้ขยายฐานลูกค้าครับ”
ผมอมยิ้ม มองผมที่ยาวขึ้นของเขา มองคนที่พูดเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อน พอนึกได้แบบนี้แล้วก็นึกออกว่าเราคบกันจะปีแล้ว เพราะผมเจอเขาช่วงนี้ปีที่แล้วในห้องเรียนรวม
“ครามเท่ห์เหรอ”
คนดีหันมามอง ตรงติ่งหูเขาแดงขึ้นนิดหน่อย
“ไม่รู้ครับ”
“คนดีไม่รู้ได้ไง” ผมเย้า
“พี่คู้บอกว่าครามน่าจะเหมาะ” เขาบ่ายเบี่ยง ดูก็รู้ว่าเขิน ความขี้เขินนี่เองที่ผมเห็นว่าทำยังไงก็ไม่ดีขึ้น พอเป็นแบบนี้ยื่งอยากแกล้ง
“ในสายตาคนดี ครามคงไม่เท่ห์เลยเนอะ” ผมแกล้งทำหน้าหงอย คนดีจับมือผมขึ้นแนบแก้ม
“ครามหยุดแกล้ง”
ผมหัวเราะ ใช้มือบีบแก้มอีกคนเบาๆ อยากขุนให้มีน้ำมีนวลกว่านี้หน่อย แต่คนดีกินน้อย แถมยังไม่กินจุกจิก ผมเลยไม่รู้ต้องทำยังไง
“ครามอยากทำงานนะ จะได้มีตังค์ไว้พาคนดีไปเที่ยว” ผมว่า คนดีเขาทำงานก่อน ส่วนตัวผมยังเรียนอยู่เวลาไปไหนมาไหนคนดีก็มักจะขอออกตังค์ให้เพราะเขาเห็นว่าผมยังต้องเรียนซึ่งผมไม่ชอบใจเลย
ก่อนหน้านี้ผมเคยเปรยกับน้องแนนว่าอยากทำงาน แต่ปีสี่เรียนค่อนข้างเยอะ เลยไม่รู้จะต้องไปทำงานอะไร ทำได้ก็แค่ช่วยงานที่โรงงานแม่บ้าง
“เดี๋ยวผมบอกพี่คู้ให้นะครับ” คนดีบอก เขาทำท่าจะปีนลงจากตักแต่โดนผมกอดไว้แน่น เขายิ้มเมื่อผมไม่ยอมปล่อย
“ตั้งใจอ่านหนังสือนะครับ” มือบางวางลงที่ผมของผมแล้วลูบเบาๆเหมือนเวลาที่ผมชอบทำให้เขา คนดีเริ่มที่จะกอดผมก่อนบ้าง จับตัวผมก่อนบ้าง ถึงบางทีจะยังดูตระหนกแต่แค่นี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว
“ถ้าครามได้ A คนดีจะให้อะไร”
คนโดนถามทำหน้างง เขามองมือที่ลูบที่ก้นนิ่มมือ
“เดี๋ยวพาไปกินขนม”
ผมส่ายหน้า
“ไม่เอา อย่างอื่นได้ไหม”
“ผมไม่รู้ว่าครามอยากได้อะไร” เขาว่าหน้าเครียด
“คนดีรู้ แต่คนดีไม่อยากพูด” ผมว่า ยิ่งทำให้คนที่ดูเครียดหน้างอยิ่งกว่าเดิม คนดีก้มหน้าลงกับปลายเท้า ผมเห็นใบหูที่แดงจัดของเขา
“คุณหมีก็ทำทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
ผมหลุดขำพร้อมกับลุกขึ้นบิดขี้เกียจ อดไม่ได้ที่จะดึงเขาเข้ามากอด
“คุณหมีนี่นิสัยไม่ดีเลยเนอะ ชอบแกล้งลูกเจี๊ยบ”
“หยุดเลยนะครับ” อีกคนว่าเมื่อผมทั้งขำทั้งพยายามนัวเนีย คนดีตีแขนผมไปหลายรอบจนแดง เจ้าตัวถึงเดินออกจากห้องไปบ่นไปว่ารู้แบบนี้ค่อยคุยดีกว่า
ผมมองตามหลังคนตัวเล็กกว่า มองขาเพรียวสวยของเขาที่สวมแค่กางเกงขาสั้นตัวบาง มันน่าสนใจกว่าหนังสือเป็นไหนๆ และเหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
“หยุดมองเลยตุณหมี”
ผมเลิกคิ้วมองหน้าดุๆของลูกเจี๊ยบ
“ดุน่ากลัวจังเลยค่ะ”
.
.
.
.

“น้องผิวดีอยู่แล้วเนอะ ลงบางๆพอ”
คราวนี้กองถ่ายแบบของพี่คู้เป็นการถ่ายในสตูดิโอต่างจากครั้งที่แล้ว ผมนั่งสูดกลิ่นเครื่องสำอางค์ที่โดนพี่ช่างแต่งหน้าจัดการจับพลิกหน้าไปมา พึ่งรู้ว่าผู้ชายเองก็ต้องแต่งหน้าเยอะแบบนี้ด้วย
“มีรองพื้นโทนชมพูกว่านี้ไหม อันนี้มันติดเหลือง น้องเขาขาว” ผมฟังพี่ช่างแต่งหน้าสองคนคุยกันพลางเหลือบไปมองคนที่จ้องอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พึ่งเข้าใจว่าโดนจ้องแล้วเขินเป็นยังไง
“มองครามทำไม” ผมถาม คนที่จ้องอยู่เลยทำตาโตเหมือนโดนจับได้ว่าแอบมอง คนดีหลบตาก่อนจะบ่นเบาๆให้ได้ยิน
“คุณหมีหวงตัว มองก็ไม่ได้”
ผมยิ้มๆ ถ้าอยู่บ้านจะดึงมาฟัดให้
“คนดี มาช่วยดูชุดให้พี่หน่อย” สุดท้ายเขาก็โดนพี่ชายเรียกไปใช้งาน
ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจศิลปะอะไรนักแต่ก็พอมองออกว่าคนดีเขาค่อนข้างเลือกเสื้อผ้าเก่ง เขาจะเลือกใส่แต่อะไรก็ตามที่เหมาะกับรูปร่างเขาแล้วทำให้เขาดูดี ผมเองก็แอบคิดว่าพี่คู้เองอาจจะเหมือนโต้ซัง โต้ซังที่ทำร้านสักขึ้นมาเพื่อคนดี พี่ชายเขาอาจจะออกแบบเสื้อผ้าพวกนี้โดยมีน้องชายเป็นแรงบันดาลใจก็ได้ เสื้อผ้าถึงได้มีแต่แนวที่คนดีใส่ประจำ

งานของคนดีวันนี้คือเป็นคนจัดชุดให้นายแบบหลายคน ผมเห็นเขาดูจากรูปร่างของแต่ละครแล้วร่างแบบลงสมุดไว้ พอมาเจองานจริงถึงได้ดูไม่ลำบากมากเพราะเขาคุ้นเคยกับเสื้อผ้าพี่ชายอยู่แล้ว
“ของพี่เคนเป็นชุดนี้นะครับ เข้าไปเปลี่ยนในนั้นนะ เดี๋ยวออกมาผมจะช่วยดู”
ผมเหลือบมองคนดีที่ดูคุ้นเคยกับนายแบบหลายคน
“คนดี มันตึงตรงไหล่ พี่กลัวเสื้อจะขาด” คนที่พึ่งเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาบอก
“เดี๋ยวผมดูให้ครับ” คนดีจับไหล่และเอวเขาเหมือนโอบกลายๆ ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนั้น ผมรู้ว่ามันเป็นงาน พอยิ่งมองกลับยิ่งหวง
“ตาละห้อยเลยมึง” เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเดินมาทักทายผมพร้อมกับขำ ผมยกมือไหว้พี่คู้
“ผมก็คิดว่าคนดีจะดูแลผมคนเดียว” ผมว่า แต่พี่ชายเขากลับทำหน้าเบื่อๆ
“มึงฝันเอา” พี่คู้ว่า ตอนที่คุยเรื่องค่าจ้างกับพี่คู้ถึงรู้ว่าผมเป็นตัวแถม เพราะตอนแรกมีนายแบบครบแล้วแต่มีคนยกเลิกงานไป ผมถึงได้มาเสียบแทน
“มึงแม่งขาวจังวะ แล้วคนอื่นผิวแทนหมดเลย ตากล้องกูจะจัดแสงยังไงเนี่ย” พี่คู้บ่นแล้วเดินไปหาพวกพี่ตากล้อง ผมนั่งให้พวกพี่ช่างแต่งหน้าจัดการหน้าและผมอยู่สักพัก คนดีก็มาเรียก
“ครามแต่งหน้าเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”
“เรียบร้อยแล้ว” พี่ช่างแต่งหน้าตอบแทน
“งั้นไปเปลี่ยนชุดกัน”
ผมเดินตามคนตัวเล็กกว่า เห็นเสื้อคอกว้างที่เอียงแล้วตกลงไหล่ขวาถึงได้เอื้อมมือไปดึงขึ้นให้ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าใส่แล้วมันทำให้คนมองวุ่นวายใจขนาดไหน
“อันนี้ชุดครามชุดแรกนะครับ”
วันนี้ผมต้องเปลี่ยนทั้งหมด 5 ชุด ผมหยิบเสื้อเชิ้ตตัวสีขาวเรียบๆแต่มีดีเทลด้านหลังขึ้นมาพร้อมกับกางเกงขายาวสีครีม มองคนหน้าสวยที่ดูวุ่นวายกับเสื้อผ้าอีกหลายตัว
“กลัวเสื้อขาวโดนหน้าแล้วเลอะจังเลยคนดี” ผมว่า คนดีถึงละมือออกจากราวแขวนผ้า
“เดี๋ยวผมช่วยเอง”
.
.
.
.
“กับคนอื่นก็ทำแบบนี้เหรอคะ” ผมถามคนที่กำลังกลัดกระดุมให้
“ครับ” เวลางานคนดีมักจะจริงจังเสมอ นี่คงเป็นสิ่งที่ผมว่าเขาเทห์
“ครามย่อตัวลงนิดนึงนะครับ” เขาว่า ผมย่อเข้าลงให้เขาจัดปกเสื้อให้ คนดีเห็นว่ามันเรียบร้อยแล้วถึงจะเดินออกไปนอกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ออกไปไหนคะ”
“รอข้างนอกครับ ให้ครามเปลี่ยนกางเกง” ถึงจะรู้ว่าเป็นเวลางาน ผมก็อดที่จะแหย่เขาไม่ได้
“ไม่เอา อยู่กับครามนะ” ผมดึงมือลูกเจี๊ยบไว้
“คราม...อย่าแกล้ง”
“เปล่าแกล้ง” คนดีหันหน้าออกจากตัวผม ปล่อยให้ผมเปลี่ยนกางเกง แต่หนียังไงก็คงไม่พ้นเพราะห้องนี้เป็นกระจกทั้งหมด ผมเดินเข้าไปเกือบชิดกับตัวเขา อยากกอดแรงๆแต่กลัวเสื้อจะยับเลยแตะแค่ที่สะโพกเบาๆ
“กางเกงหลวมนิดนึง หันมาดูให้ครามหน่อย” คนดีหันกลับมาด้วยแก้มแดงจัด ผมแตะที่แก้มเขา
“ต้องใช้เข็มกลัดไว้ครับ” คนดีมองสะโพกผม เขาจับขอบกางเกงของผมพับที่สะโพกสองข้าง ก่อนจะเอาเข็มกลัดมากลัดซ่อนไว้ข้างในเป็นอันเรียบร้อย
“จะถึงคิวครามแล้ว ขอกำลังใจหน่อยเร็ว” ผมเร้าหรืออีกคนที่ทำท่าจะออกไปจากห้อง คนดีจ้องหน้าผมครู่เดียวก่อนจะจับมือผมไปจูบ คงเพราะไม่อยากทำให้หน้าผมเลอะ
“คุหมีตั้งใจทำงานนะครับ” ลูกเจี๊ยบว่าเสียงเบา ผมกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม
“ไอ้คราม! ตามึงแล้ว” ในที่สุดเสียงสวรรค์ก็เรียก
“กับคนอื่นพี่คู้ไม่เห็นโหดแบบนี้เลยลูกเจี๊ยบ” ผมว่า คนดีขำร่วน ก่อนจะดันหลังผมออกจากห้องแต่งตัว
.
.
.
.
การถ่ายแบบสำหรับคนที่เคยผ่านงานมาแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับผมที่เกร็งไปทุกท่าทำเอาพี่ตากล้องปวดหัวอยู่ไม่น้อย กว่าจะเสร็จเลยทุลักทุเลกว่าคนอื่นเกือบชั่วโมง ผมกลับมาเปลี่ยนชุดแล้วนั่งมองคนที่ยิ้มไปทำงานไป ใครชวนคุยก็คุยกับเขาไปเรื่อย

เท่าที่ผมสังเกต คนดีไม่ใช่คนคุยยากถ้าจะคุยกับเขาแบบผิวเผิน กลับกันถ้าจะให้นับเป็นเพื่อนหรือคนสนิทแล้ว เขาค่อนข้างมีระยะห่างที่มากพอตัว แต่กับเพื่อนพี่ชายเขาคนนี้น่าจะเป็นข้อยกเว้น พวกเขาคงจะสนิทกันมานานแล้ว
“คนดีนี่ดูยังไงก็ไม่เหมือนไอ้คู้เลยว่ะ” เพื่อนของพี่คู้ว่าพลางจับผมนิ่มมือของคนดี คนดียิ้ม ก่อนจะถาม
“แล้วพี่เคนว่าใครหล่อกว่าครับ”
ผมนั่งมองเพื่อนของพี่ชายเขาที่วันนี้น่าจะโดนรบเร้าให้มาถ่ายแบบเสื้อผ้าชุดใหม่เหมือนกัน เห็นสายตาที่มองคนดีแล้วพอจะรู้...ว่าคงคิดไม่ซื่อเท่าไหร่
“คนดีหล่อกว่า” พี่เคนชม คนโดนชมยิ้มจนตาปิด
“ดีมากเลยพี่เคน เดี๋ยวผมจะเลี้ยงขนมนะ”
พี่คู้ที่โดนพูดถึงหันมามองทางน้องชาย
“ตามใจกันเข้าไป ถ้าอย่างคนดีหล่อคนทั้งโลกก็หล่อกันหมด” พี่คู้ว่า ทำเอาคนดีหน้างอ เท่าที่ผมดูพี่น้องคู่นี้คงชอบแกล้งกัน
“พี่เคน พี่เคนต้องเข้าข้างผมนะ” คนดีว่า มือเพรียวสวยยื่นไปเขย่าแขน พี่เคนกอดคอคนของผมไว้หลวมๆ ผมลอบถอนหายใจแล้วหันไปสบตาพี่คู้ที่มองอยู่ก่อน
“เก็บสีหน้าไม่อยู่เลยนายแบบใหม่กู”​ พี่คู้ว่าพลางขำ ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาคนดี วางมือบนผมนุ่มนั่นบ้างพร้อมกับมองเพื่อนพี่ชายเขาให้เต็มตา...ให้รู้ไว้ว่าคนข้างหน้านี้เป็นของใคร
“น้องครามเริ่มถ่ายเซ็ทสองนะครับ”
ผู้ช่วยตากล้องบอกเสียงดัง ผมถึงได้เดินเข้าไปในฉากที่เซ็ทไว้แล้ว
.
.
.
.
ผ่านไปแค่ไม่ถึงเดือนผมก็ถึงเวลาฝึกงาน ผมบอกตัวเองมาตลอดว่าจะสอบข้าราชการแต่สุดท้ายก็เลือกฝึกงานที่สนามบินเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองอยากทำอะไรกันแน่ เป็นเวลาเดียวกับที่คนดีเริ่มเรียนขับรถเพราะผมทำงานไม่ค่อยเป็นเวลาทำให้ไปรับเขาไม่ได้
“ครามฝึกงานสนุกไหม”
วันนี้ผมกลับเกือบเที่ยงคืน ร่างกายที่ใช้มาตั้งแต่เช้าเหนื่อยจนอยากจะทิ้งตัวลงไปบนเตียงโดยที่ไม่อาบน้ำ แต่เพราะไม่ได้นอนคนเดียวถึงทำแบบนั้นไม่ได้
“สนุกดี วิ่งวุ่นทั้งวันเลยลูกเจี๊ยบ”
ช่วงนี้ผมกับคนดีเจอกันแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง หน้าที่ของเราแต่ก่อนสลับกันแทบจะทุกอย่าง ผมไม่ได้ไปรับไปส่งคนดีอีกแล้ว ผมเกรงใจเขาหลายเรื่องเพราะงานเขาเองก็หนักพออยู่แล้ว งานบ้านก็กลายเป็นคนดีที่จะต้องทำ พวกกับข้าวกลายเป็นคนดีจะต้องไปหาซื้อมาไว้แทน
“คนดีทำเองเหรอ”
ผมมองข้าวผัดที่มีเนื้อสัตว์วางอยู่บนโต๊ะ คนดีพยักหน้าน้อยๆ
“ไม่เห็นต้องทำเลย ครามกินแบบคนดีก็ได้” ผมบอกเขา พร้อมกับตักมันเข้าปาก รสชาติมันค่อนข้างจืดสำหรับผม
“ผมไม่ได้ชิมครับ ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า แต่อยากให้ครามกินเหมือนที่เคยกิน” เขาว่า หน้าตาคนดีกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“อร่อย” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้เขา แต่เดิมผมเองไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วถ้าจะต้องกินเหมือนเขาแค่มื้อเย็นของวัน เพราะตอนเช้ากับกลางวันผมกินที่ทำงานอยู่แล้ว
แต่ยิ่งเห็นแบบนี้...ผมก็หายเหนื่อย
ในขณะที่ผมเองอยากทำอะไรหลายๆอย่างให้เขา คนดีเองก็คงเหมือนกัน

“ขอครามกอดหน่อย คิดถึงจังเลย”
ผมอาบน้ำให้เร็วเพื่อที่จะออกมากอดคนบนเตียง
“เราเจอกันทุกวันนะครับ”
คนที่นอนดูทีวีว่า ดูหงุดหงิดที่ผมขัดขวางการดูหนังที่เขาชอบ
“วันละไม่กี่ชั่วโมงเอง ถ้าทำงานจริงๆแล้วเจอลูกเจี๊ยบแค่แป๊ปเดียวแบบนี้ครามน่าจะเฉาตาย”
เขาหัวเราะเมื่อผมจี้เข้าที่เอวบาง แขนเพรียวสวยยกขึ้นเมื่อรู้ว่าเสื้อจะโดนถอดออกไป
“แล้ววันนี้กลับบ้านยังไง” เขาพึ่งหัดขับรถ ถึงบางวันผมจะทิ้งรถไว้บ้างแต่ผมก็ยังไม่อยากให้เขาขับรถไปไหนมาไหนคนเดียว ทำให้เวลากลับมาที่นี่คนดีต้องเบียดคนบนรถไฟฟ้าอย่างช่วยไม่ได้
“พี่เคนมาส่งครับ”
ชื่อที่หายไปจากสารระบบผมเกือบเดือนวกกลับเข้ามาอีกครั้ง
“บ้านพี่เขาอยู่แถวนี้เหรอคะ”
“เปล่าครับ พี่เคนไปหาแล้วก็วนมาส่ง”
ชื่อของเพื่อนพี่คู้ทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมาเสีอดื้อๆ เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันถึงได้ดูออก ว่าเขามองคนดีแบบไหน
“พี่เขาไปหาทำไมคะ”
“พอดีพี่เคนเขาอยากสักครับ เลยคุยกันเยอะเลย ไม่ได้เจอกันนานด้วย”
ถ้าอยากสักจริงทำไมถึงต้องมาคุยกับคนดี เพื่อนตัวเองก็มี… ผมเก็บคำถามพวกนั้นไว้ในใจ
“พี่เคนอยากให้ผมดูลายให้ครับ”
“สนิทกันเหรอคะ” ผมถามพร้อมกับดึงกางเกงขาสั้นของเขาออก
“สนิทครับ คราม…เดี๋ยว”
ผมก้มลงฟัดที่หน้าอกแบนราบ ใช้ฟันขบจนยอดอกชูเด่น ก่อนจะก้มลงจูบคนที่อยู่ใต้ร่าง
“ครามอยากไปรับคนดีเหมือนเดิม” ผมว่าพร้อมกลับลูบแก้มเขาเบาๆด้วยมือซ้าย ส่วนมืออีกข้างลูบไปทั่วขาเพรียวสวย
“ครามต้องทำงาน” คนดีว่าทั้งพยายามดึงมือผมออกจากขาตัวเอง  ผมเคยเบาใจว่าคนดีจะไม่สนิทกับใครมากกว่าพี่เพนท์หรือพี่สา แต่ผมพึ่งรู้ว่าไม่ใช่แบบนั้นเสียทีเดียวคนดีแค่ไม่ได้เล่าให้ฟัง…. ผมบอกตัวเองว่าให้ดูไปก่อน ผมจะไม่ใจร้อนแต่ผมไม่ไว้ใจคนที่เข้ามาใกล้คนดีทั้งนั้น
“สนิทกับพี่เคนมานานยัง”
“อื้อ” คนดีไม่ตอบแต่ครางลั่นเมื่อผมสอดนิ้วเข้าไปในตัวเขา คนสวยของผมเม้มปากแน่น ตากลมโตสั่นระริก ถึงจะบอกว่าผมจะค่อยๆดู แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่หึง
“พรุ่งนี้วันหยุด”
ผมไล่มองผิวเนียนมือที่เริ่มเห่อแดง รอยสักเล็กๆบนตัวเขาหลายที่ขยับไปมาเหมือนจะเชิญชวนให้เข้าไปขบกัด ผมมองช่องทางร้อนที่ดูดนิ้วกลางผมหนึบ ร่างกายเขายั่วผมเหลือเกิน
“คืนนี้ คุณหมีขอนะคะ”
.
.
.
.


ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
บ่ายวันหยุดคนดีเข้ามาที่ร้านเพราะนัดพี่เคนไว้ ผมที่กะว่าจะนอนดูหนังที่ห้องเปลี่ยนใจตามเขาออกจากบ้านทันที ลูกเจี๊ยบอยู่ที่ไหนผมเองก็ต้องอยู่ที่นั่น
“พี่เคน ตรงนี้ครับ”
ผมมองผู้ชายตัวสูงพอๆกันก้าวเข้ามาในร้าน เขามีผิวสีแทน ร่างกายดูดีเหมือนคนชอบออกกำลังกาย ผมที่ห่างหายจากยิมและลูกบาสไปนานเห็นว่าคงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองใหม่
“ไอ้คู้ล่ะ”
“เดี๋ยวมาครับ” คนดีว่า วันนี้ลูกเจี๊ยบรวบผมหน้าที่ยาวมากแล้วไปมัดไว้ข้างหลัง ทำให้เห็นใบหน้าชัด เขาใส่จิวสีเงินตรงมุมริมฝีปากสองข้างที่ไม่ได้มาสักพักแล้ว เขาสวมเสื้อแขนยาวตัวโคร่งและกางเกงผ้าขาสั้นเห็นน่องขาว รู้แบบนี้ผมน่าจะกัดตรงนั้นด้วย
“พี่เคนครับ นี่คราม น่าจะเคยเจอแล้ว”
คนดีหันมาหาผม ทางนั้นยกมือรับไหว้แบบเสียไม่ได้ ในขณะที่ผมกำลังพิจารณาคนข้างหน้า เพื่อนพี่คู้เองก็มองผมอยู่นานเหมือนกัน แต่ไม่ทันไรเขาก็หันไปสนใจคนที่พึ่งเดินมา
“โต้ซังสวัสดีครับ”
“สวัสดีเคน โดนคนดีหลอกมาเหรอ” พ่อของคนดีพูดกลั้วหัวเราะ เขาหันมายิ้มทักทาย ผมถึงได้ยกมือไหว้
“ลูกค้าใหม่ครับ” คนดีบอกพ่อของเขา ดูบรรยากาศการพูดคุยก็รู้ว่าเป็นคนกันเอง
“เคนเคยสักยังนะ”
“เคยแล้วครับโต้ซัง แต่อยากสักทับ”
“แล้วลายอะไร ดูไว้หรือเปล่า”
“ตอนแรกผมออกแบบเอง แต่เห็นของคนดีสวยกว่า เลยให้น้องทำให้ครับ”
ผมที่ไม่รู้ว่าควรจะแทรกบทสนทนาตรงไหน ถอยออกมานั่งที่โซฟาใกล้กัน เห็นว่าช่วงนี้ของวันลูกค้าแน่นมาก คนดีเดินนำพาเพื่อนพี่คู้เข้าไปสัก ส่วนผมก็นั่งเล่นมือถือรอเรื่อยๆ ไม่ทันไรโต้ซังก็เดินมาหา
“กินอะไรกันยัง”
“ยังเลยครับ โต้หิวไหม เดี๋ยวผมไปซื้อข้าวให้ก่อน”
ผมมาที่นี่บ่อยจนเคยชิน หรือไม่ก็เป็นเพราะโต้ซังเองใจดีมาก ผมถึงรู้สึกว่าเข้ากับที่บ้านคนดีได้ดี
“โต้กินแล้ว คนดีหลอกคนมาได้อีกแล้ว แต่ก่อนโต้ชวนเจ้าเคนสักตั้งนาน ไม่เห็นจะยอม ทีคนดีชวนกลับง่ายเชียว” เจ้าของร้านว่าพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามผม
“เขาชวนครามบ้างไหม”
“ไม่เลยครับ เอาแต่ห้าม” ผมตอบตามจริง คนดีบอกว่ามันจะติดอยู่กับร่างกายไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นเขาถึงไม่อยากเห็นผมสักเพราะแค่อยาก
“เคนจะสักลายนี้ ตอนแรกคนดีหวงลายนี้มากนะเพราะชอบเอง แต่ก็กล้าให้เคน” พ่อคนดีว่าพร้อมกับยื่นรูปในไอแพดให้ผมดู ผมเห็นมันเป็นลายจิ้งจอกเหมือนที่ต้นคอเขาแต่มีป่าสนและดอกไม้ปนกันอยู่ในรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มันสวยเหมือนคนที่วาดมันออกมา
“เพราะสนิทกันมั้งครับ เลยกล้าให้” ผมว่าพร้อมกับยิ้มให้โต้ซังแต่ในใจกลับหนักอึ้ง
เราคุยกันอยู่ไม่นานพ่อของคนดีก็ต้องกลับไปงานต่อ ผมมองตรงมุมห้องไกลๆเห็นคนดียืนคุยไปหัวเราะไปกับเพื่อนพี่ชาย ผมจะไม่คิดมาเลยถ้าเขาไม่คอยแต่จะจับหัวหรือแตะตัวคนของผม

“อ้าว มาไวว่ะ” พี่คู้เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมยกมือไหว้พี่คู้กับแฟนสาวที่น่าจะอายุมากกว่าผมไม่ถึงสองปี
“พี่คู้คะ เดียร์ลืมของที่รถ”
“ลืมอะไร ให้พี่ไปช่วยไหม”
พี่เดียร์ส่ายหน้าก่อนจะเดินกลับออกไปนอกร้าน เหลือแค่ผมกับพี่ชายคนดี
“ได้ยินว่าคนดีพาไอ้เคนมาเหรอ”
“ครับ”
“เออ เห็นรูปมึงในไอจีร้านยัง ใช้ได้อยู่นะ สาวๆกดหัวใจเต็ม” พี่คู้ขำ ผมเห็นตั้งแต่วันก่อนแล้วพยักหน้ารับ
“บ้านผมกับเพื่อนผมก็แซวพี่” โดยเฉพาะน้องแนนกับไอ้แซมที่โทรมาหาเพื่อแซวโดยเฉพาะ พอกลุ่มเพื่อนผมรู้ว่าเป็นแบรนด์เสื้อผ้าของบ้านคนดีก็หาว่าผมหลงเมียจนยอมมาถ่ายแบบให้ เพราะแต่ก่อนผมไม่ชอบงานพวกนี้เลย ถ้ารู้ว่าผมจะให้ค่าทำงานกับคนดีหมดคงไม่รู้จะแซวต่อกันยังไง
“เพื่อนกูอยากจ้างมึงด้วยนะ ถ่ายงานง่ายๆนี่แหละ แต่ของแบรนด์ใหญ่ในห้าง”
“รับพี่ เอามาเลย”
“ดี งั้นเดี๋ยวกูให้เบอร์ไปเลยนะ”
ผมขอบคุณพี่คู้แต่ตาก็ยังมองไปที่เตียงสักมุมในสุด ตรงนั้นมองออกไปเป็นวิวนอกกระจก แต่ตาผมกลับมองอยู่แค่คนของตัวเอง
“ไอ้เคนนี่ฮีโร่คนดีเลยนะ คนดีเลือกเรียนอาร์ตก็เพราะมัน”
ผมหันมามองพี่ชายแฟน
“ตอนเด็กๆคนดีก็ไม่รู้จะเรียนอะไร คือมันวาดรูปเก่ง แต่ก็ไม่มั่นใจในตัวเอง ให้ไอ้เคนติวให้เป็นปี”
ผมพยักหน้ารับ
“กูว่าแม่งเป็นรักแรกของคนดีว่ะ”
ผมถอนหายใจ ก่อนจะหันไปทางพี่คู้ที่ดูเหมือนกำลังสนุก
“หน้ามึงเหมือนมีคำถามไง กูถึงบอก”
พี่คู้หัวเราะร่วน ก่อนจะมองไปที่น้องชายตัวเอง ผมไม่เข้าใจเจตนาที่พี่คู้ต้องการจะสื่อแต่ที่รู้ๆตอนนี้ผมที่บอกให้ตัวเองใจเย็นกลับหัวร้อนขึ้นมาเฉยๆ
“แต่ก่อนกูว่ามันไม่กล้าจีบน้องกูหรอก แต่กลับมารอบนี้ไม่แน่”
เห็นที่คนดีบอกว่าพี่คู้ชอบแหย่น่าจะเป็นเรื่องจริง และที่สำคัญเขาแหย่ผมขึ้นง่ายมากเสียด้วย
“ผมไหว้ล่ะพี่” ผมยกมือขึ้นไหว้ ยิ่งทำให้พี่ชายเขาสนุก
“พี่คู้แกล้งอะไรคราม” คนดีเดินกลับเข้ามาหา มองพี่ชายตัวเองก่อนจะมองตรงมาที่ผม พี่คู้ยักไหล่ก่อนจะตบไหล่น้องชายแล้วเดินไปหาแฟนตัวเองที่พึ่งกลับเข้ามา คนดีทักทายแฟนพี่ชายก่อนจะหันมาหากัน
“เสร็จแล้วเหรอ” ผมถามคนที่หายไปเกือบชั่วโมง
“ยังครับ รอช่างสักเสร็จเดี๋ยวเข้าไปดูอีกรอบ เราออกไปกินข้าวกันก่อนไหม” ผมพยักหน้าเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า
“ป่ะ” ผมยื่นมือให้เขา คนดีเอื้อมมือมาจับอย่างเคย
.
.
.
.
กลับมาจากกินข้าว ผมปล่อยให้คนดีเขาร้านไปก่อนเพราะอยากเข้าห้องน้ำ แต่ผมว่าผมคงเลือกเวลาผิดไปหน่อย
“อ้าว ว่าไง”
แปลกที่เพื่อนพี่คู้ทักผมก่อน ผมโค้งให้น้อยๆเพราะไม่อยากคุย อยากจะเดินออกไปให้พ้นๆถ้าไม่ได้ยินคำถามเขาก่อน
“คบกับคนดีเหรอ”
“ใช่...ครับ” เมื่อกี้ผมเกือบลืมหางเสียงไป
“ได้ยินว่าเรียนยังไม่จบนี่ จะดูแลเขาได้เหรอ”
ถ้าเป็นพี่คู้ถามผมจะคิดว่าเขาถามด้วยความหวงน้องชาย แต่สำหรับพี่เคน...มันไม่ใช่เรื่องของเขา
“แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่”
ผู้ชายอีกคนมองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เพราะฉะนั้นผมเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนับถือเขา
“กูกลับมาหาเขาช้าไปว่ะ ถ้าเร็วกว่านี้หน่อยนะ”
แต่เดิมผมไม่ใช่คนใจเย็น แต่กับคนกวนตีนแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วยมาก
“พี่มีอะไร พูดออกมาเลยก็ได้”
ผมรำคาญเต็มทน แต่เพื่อนพี่คู้กลับเอาแต่ยิ้ม
“กูว่าจะมาขอคืน”
.
.
.
.
ผมรับซองสีขาวจากพี่คู้กับงานอีกชิ้นที่พี่คู้หาให้มาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เอาไปทำอะไร ผมเดินออกมาข้างนอกระเบียงคอนโดตัวเองยามดึกหลังจากอาบน้ำจะเข้านอนแล้ว เห็นคนกำลังนั่งเหม่ออยู่ตรงเก้าอี้ที่หันออกนอกระเบียง คนดีมองตรงไปที่วิวข้างนอก ริมฝีปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาแล้วก้มลงจรดจมูกลงที่กระหม่อมอีกคน
“คราม…” คนดีเรียกผมเสียงแผ่ว หน้าตาที่ดูคิดมากเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง
“ครามให้” ผมยื่นซองสีขาวในมือให้เขา คนดีส่ายหน้าไปมา
“ของครามนะครับ”
“ให้คนดีเก็บไว้” ผมว่าพร้อมกับนั่งลงข้างเขา
“แต่ว่า”
“เดี๋ยวครามหางานทำเพิ่ม ถ้าได้ครบแล้ว เราไปเที่ยวกันนะ”
คนดีพยักหน้า ผมยิ้มให้เขาบ้าง ก่อนจะจับมือของเขาไว้
“เหนื่อยไหม” เขาถามถึงงานที่ผมพึ่งไปทำกับเพื่อนพี่คู้มาอีกงาน
“เหนื่อยแต่ก็ได้ตังค์” ผมว่า มองจมูกที่มีจิวรูปดาวเล็กๆ ก่อนจะถามคนที่ไม่ยอมเข้าไปนอน
“มาทำอะไรตรงนี้”
“ผมคิดอะไรนิดหน่อยครับ”
“บอกคุณหมีได้ไหมคะ”
เขามองหน้าผม ก่อนจะค่อยๆบอก
“มันเป็นเรื่องไร้สาระครับ เรื่องงานด้วยปนกับอะไรหลายๆอย่าง”
ผมไม่รู้ว่าพวกศิลปินเขาคิดอะไรซับซ้อนในหัวมากมาย ถึงทำให้คิ้วเรียงสวยขมวดปมแน่น มือที่จับกันอยู่ค่อยๆคลายออกเมื่อผมสอดนิ้วเข้าไปประสาน ก่อนจะจับให้มันแน่นขึ้น
“บางทีผมก็คิดเยอะ ผมก็ไม่ค่อยชอบ”
ผมมองคนที่ยิ้มไปพูดไป แต่ก็ยังไม่เข้าใจใจความที่เขาจะสื่อ
“พี่เคนมาชวนไปเรียนต่อโทด้วยกันที่อิตาลี่ครับ พี่เคนเขาทำงานที่นั่น เขากลับมาแป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับไปแล้ว” คนดีบอก กลายเป็นฝ่ายผมที่ขมวดคิ้วแทน
คำว่ามาขอคืนของผู้ชายคนนั้นติดอยู่ในหัวผมมาหลายวันแล้ว ผมทำเป็นไม่พูดถึง ไม่เล่าให้คนดีฟังเพราะผมยังไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หลังจากวันที่ได้ยินคำนั้นผมไม่เคยไปฝึกงานด้วยความสบายใจเพราะผมรู้ว่าคนที่คอยมาส่งคนดีกลับบ้านเป็นใคร
“อิตาลี...ผมก็อยากไป”
ผมมองคนที่ยังไม่หันมาสบตากัน มองมือของเราที่จับกันไว้ ผมไม่ใช่คนใจเย็นนัก แต่ในเวลานี้ผมกลับไม่รู้จะต้องพูด ผมเข้าใจว่าแฟนที่ดีควรจะสนับสนุนกันไปในทางที่ดี
แต่กับเขา...ผมไม่อยากปล่อยไปไหนทั้งนั้น
“แต่ผมไม่ได้จะไปนะครับ ไม่อยากกวนโต้ซังไปมากกว่านี้ อยู่ไทยคนเดียวยังไม่รู้จะรอดหรือเปล่า”
คนดีว่าพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นว่าผมเงียบไปนาน
“ทำไมครามไม่โตกว่าคนดีเนอะ” ผมว่า พี่สาวและเพื่อนผมชอบพูดว่าสังคมของคนทำงานต่างจากชีวิตวัยเรียนโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เหนื่อยในตอนเรียนจะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงามเมื่อหายเหนื่อย แต่กับชีวิตการทำงานมันไม่ใช่แบบนั้น
ไม่ใช่แค่เรื่องเงินที่ผมช่วยเขาไม่ได้ แต่เพราะผมไม่ได้โตพอที่เขาจะปรึกษาได้ต่างหาก
“คนดีอยากไปเรียนอะไรที่นั่นคะ” ผมถามเขา พยายามไม่ใส่ความรู้สึกหนักอึ้งในอกลงไปในคำถาม
“อยากไปเรียนอะไรที่ลึกกว่าเดิมครับ”

คนดีเขาจบ fine art สาขา painting แต่ตอนนี้ทำงานในสตูดิโอที่ทำงานกับ graphic design เป็นหลัก คนดีเขาเก่งมาตั้งแต่สมัยเรียน เขาทำทั้งงานส่วนตัวและงานประจำ สำหรับผมที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นเรื่องอนาคตเท่าที่ควร มองเห็นลูกเจี๊ยบตัวเล็กๆที่กำลังจะกางปีกบินไปสักที่
“พี่เคนเพื่อนพี่คู้เขาจบตรีที่นู่นครับ เขาแนะนำให้ผมลองไปต่อโทดูเพราะจะได้คอนเนคชั่นกับหลายๆที่ด้วย ได้ฝึกฝีมือด้วย”
ผมพยักหน้ารับ ฟังเขาพูดอย่างตั้งใจ
“พี่เคนเขาจบช่างภาพจากที่นั่นมาครับ เก่งมากๆ เดินทางไปทั่วโลกเลย” คนพูดพูดด้วยแววตาชื่นชม
“คนดี” ผมเรียกชื่อเขา คนดีหันมามอง
“ครับ”
“เข้าไปข้างในนะ ข้างนอกฝุ่นเยอะ” ผมดันหลังอีกคนให้เข้าไปข้างใน คนดีมองมือผมที่จับไหล่เขาไว้
“คราม เป็นอะไรครับ”
ผมส่ายหน้า นึกถึงตอนมัธยมที่ตัวเองคบแฟนเป็นเด็กมหาลัย มันให้ความรู้สึกคล้ายๆกัน ในขณะที่คนดีเขาคิดไปถึงอนาคตอันไกล ผมกลับกำลังพะวงกับการฝึกงานและสอบ ผมเองไม่เคยคบกับใครแล้วรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเขาแบบนี้เลย
“พี่เคนคนนั้น เขาชอบคนดีใช่ไหม” ผมรู้ว่าผมงี่เง่า แต่ผมก็แค่อยากถาม คนดีนิ่งไปก่อนจะส่ายหน้า
“เราสนิทกันตั้งแต่เด็กแล้ว”
ตากลมสวยหลุบต่ำลงพื้น ผมเชยคางเขาให้มองตรงมา
“แล้วคนดี...”
นอกจากผมเห็นสายตาของเพื่อนพี่คู้ที่มองคนของผมแล้ว ผมยังเห็นสายตาของลูกเจี๊ยบที่ดูออกว่าปลื้มเขาอยู่ไม่น้อย
“ตอนเด็กๆผมเคยปลื้มพี่เคนครับ แต่พี่เขามีแฟนอยู่แล้ว” คนตัวเล็กกว่าว่า คนดียิ้มเพื่อพยายามให้ผมไม่เสียใจ เขารักษาสัญญาของเราว่ามีอะไรจะบอกกันทุกอย่าง แต่ผมกลับอารมณ์ร้อน
“แล้วถ้าพี่เขาไม่มีแฟนแล้วล่ะ คนดีจะทำยังไง” ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรถาม มันเป็นเรื่องอดีต แต่เรื่องไหนที่เป็นเรื่องของเขาผมกลับวู่วามอยู่เสมอ
“ทำไม….ถึงพูดแบบนี้ครับ” คนดีมองหน้าผมก่อนจะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ผมรีบดึงตัวเขาเข้ามากอด
“ครามขอโทษนะคะ” ผมกอดเขาไว้แน่น
.
.
.
.
“เป็นอะไรวะ” พี่ที่ทำงานด้วยกันถามผม วันนี้ผมลงมาช่วยขนกระเป๋า งานสนามบินเหมือนจะดูเทห์แต่พอทำจริงๆกลับเหนื่อยไม่หยอกเหมือนกัน
“ผมทำแฟนโกรธว่ะพี่” ผมว่าตามตรง เพราะผมเองที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดี เมื่อวานนี้คนดีเงียบลงไปจากปกติที่เงียบอยู่แล้ว ผมที่เอาแต่ขอโทษเขาไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ผมพยายามเงียบและไม่คุยเรื่องนั้นต่อเพื่อรักษาความรู้สึกเราไว้
ผมที่บอกให้เราแชร์ทุกอย่างด้วยกัน...กลับพูดอะไรไม่ออกเลย
“แฟนโกรธก็หาคนคุยใหม่แก้ขัดสิวะ หน้าตาออกจะดี” พี่เขาพูดไปขำไป ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนอาจจะตลกกับมุกแบบนี้หรือไม่ก็อาจจะทำด้วยซ้ำ
“อย่าเลยพี่” ผมปฏิเสธ
“ก็คุยๆไปเฉยๆ”
ผมพอเข้าใจพี่เขา เพราะผมเคยเป็น แต่พอมีคนดีผมก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก
“อย่าเลยพี่” ผมแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่อยากคุยเรื่องนี้ไปมากกว่าที่เป็นอยู่
“เมียดุเหรอวะ”
“ไม่งั้นก็เมียสวยแน่เลยมึง” พี่อีกคนว่า ผมรีบพยักหน้ารับ
“ก็ สวยครับ”
“ไม่มีถ่อมตัวเลยมึง”
“เรื่องนี้ไม่ได้ครับพี่" ผมหัวเราะไปกับเขา รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย

วันนี้ผมเลิกงานหกโมงครึ่ง ผมออกมารอรถบัสเวียนออกจากสนามบินเหมือนเคย แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นรถตัวเองจอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ผมรู้ว่าคนดีมีใบขับขี่แล้ว หลังๆผมปล่อยให้เขาขับรถไปห้างใกล้บ้านบ้าง แต่ไม่เคยปล่อยให้เขาไปไหนมาไหนคนเดียวแบบนี้

“เป็นไหนครับน้อง” เจ้าของยิ้มสวยถามในตอนที่ผมเปิดประตูฝั่งคนขับออก แค่เห็นหน้าเขาผมก็ลืมเรื่องที่อยู่ในใจเกือบทั้งหมด ผมอยากจะดุเขาว่าทำไมถึงได้กล้าขับมาที่นี่ แต่สิ่งที่ผมทำคือการข่มความรู้สึกหงุดหงิดลงไป ไม่อยากให้รอยยิ้มเขาหายไปเหมือนเมื่อวาน
“อย่าลืมกดมิเตอร์นะ อย่าเห็นว่าสวยแล้วจะขับยังไงก็ได้”
ผมว่าก่อนจะขึ้นมานั่งข้างเขา มองคนที่ดูประหม่ากับพวงมาลัยตรงหน้า เหมือนตอนที่น้องแนนขับรถใหม่ๆ
“ทำไมถึงมานี่คะ”
“มารับครามไง” ลูกเจี๊ยบว่า
“ต่อไปนี้ผมจะได้กลับบ้านเองได้ แล้วไม่ต้องเบียดคนด้วยนะครับ” เขาว่า คนดีรู้ว่าผมไม่ชอบใจที่พี่เคนไปรับเขาเกือบทุกวัน เขาถึงได้ขับรถออกมาเองแบบนี้ ผมนอกจากจะดูแลเขาไม่ได้แล้วยังทำให้เขาคิดมากอีก
“ครามอยากกินอะไร เดี๋ยวผมพาไปนะ”
วันนี้คนดีใส่เสื้อฮู้ดตัวใหญ่กับกางเกงยีนส์ขากระบอก รวบผมสั้นประบ่าไว้ข้างหลัง จิวสีเงินที่ไม่ได้เห็นมาสักพักปักอยู่ที่แก้มสองข้าง คนดีบอกว่าที่สตูดิโอไม่ได้มีข้อห้ามเรื่องการแต่งตัวเลย มีบ้างถ้าต้องคุยกับลูกค้า
“กลับบ้านเราดีกว่า เดี๋ยวครามทำสลัดเต้าหู้ที่คนดีชอบให้”
ผมบอกก่อนจะลูบผมที่ยาวมากแล้ว
“คนดีมานั่งดีกว่าค่ะ มันจะมืดแล้วอันตราย ให้ครามขับนะ”
.
.
.
.
“สลัดต้นนี้เป็นสลัดที่ครามปลูกเองกับมือ”
ผมว่าพร้อมกับชี้ไปในชามสลัด คนดีย่นจมูก
“ผมปลูกต่างหาก”
เขาพูดถึงผักออแกนิคที่เจ้าตัวเพาะไว้ตรงระเบียง คนดีเขามือเย็นปลูกอะไรก็ขึ้น ต่างจากผมที่แม้แต่กระบองเพชรยังดูแลไม่ไหว
“นี่คนดี”
ผมมองคนที่ง่วนอยู่กับการล้างผัก ผมรู้ว่าคนดีทำทุกอย่างเพื่อให้เรากลับมาเป็นเหมือนเก่า แต่ผมไม่อยากให้เรื่องเมื่อวานมันติดค้างอยู่ในใจเราทั้งคู่
“ครับ”
“เรื่องพี่เคน ครามขอโทษนะ” ผมแตะไหล่เขา ทัดปอยผมที่ปรกลงมาบนหน้าเรียวให้ ผมพึ่งรู้ว่าทั้งการกระทำและคำพูดของผมไม่ได้ให้เกียรติคนของตัวเองเลย ในขณะที่คนดีเลือกที่จะไว้ใจคนอย่างผม ผมกลับหึงหน้ามืดตามัว
“ผมปลื้มพี่เคนมากก็จริง แต่ผมไม่ได้รักแบบที่รักครามนะ” เขาว่า
“ผมไม่รู้หรอกครับว่าถ้าตอนนี้ผมไม่รู้จักครามแล้วผมจะไปกับพี่เคนไหม แต่ตอนนี้...ผมอยู่กับครามนะ”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ...ผมแม่งเกลียดตัวเองฉิบหาย…
“ครามคือคุณหมีจ๋อย” คนดีว่า นิ้วมือที่เปียกของเขาแตะลงที่แก้มผม
“เหรอคะ”
“ใช่ครับ เมื่อวานคุณหมีดูเศร้ามากเลย”
“ครามนิสัยไม่ดีเลยว่าไหม” ผมแนบแก้มเข้ากับมือเย็นของเขา มันทำให้ผมรู้สึกสงบขึ้นอย่างน่าประหลาด
“สำหรับคนดี คุณหมีดีที่สุดแล้วครับ”














TBC.
หาทาลงให้ตอนนี้ยากมากเลย 555555
ตอนแรกมาแบบคนดีร้องไห้ เขียนเองปวดใจเองเลยนั่งไล่แก้อยู่นานเลยค่ะ
ถ้ารู้สึกว่าตรงไหนแปลกๆบอกได้เลยนะคะ เพราะเราเองสลับไทม์ไลน์ไปมาเยอะมากเพราะกลัวนังครามจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง สุดท้ายก็โดนพี่เขาง้อง่ายๆ กลายเป็นหมีงอแงไปเลย 555555 


ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
งืออออออออออ  2คนนี้น่ารักดดดด ตอนแรกก็หมั่นไส้นังคราม อยากจะเอาน้องคนดีมาไว้เอง แต่คิดอีกที ครามนั่นแหล่ะดูแลน้องคนดีได้ดีสุดแล้วล่ะ

สลับกันดูแลเนาะครามเนาะ

ถ้าจำไม่ผิดไรท์บอก15ตอนจบใช่มั้ย ใกล้จบแล้วสิ ไม่นะะะะะะะะะะะะ  :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Faii0518

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณหมีงอแงเป็นเด็กถูกแย่งของรักของหวงเลยนะคะ น่าสงสารจริงๆ แต่เป็นเราก็หวงลูกเจี๊ยบค่ะ น่ารักซะขนาดนี้ นี่ถ้าพี่คนดียอมไปเรียนต่อจริง คุณหมีต้องตรอมใจแน่ๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คนดีน่ารักและดูชัดเจนอยู่นะคราม อย่านอยด์ไปเลย อิอิ

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อิจฉานังคราม อยากได้พี่คนดี แงงงงง คนดีสมชื่อเลย พี่คนดีผู้ปราบหมีด้วยมือเปล่า

Sent from my GT-I8262 using Tapatalk


ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เคนก้อนิสัยแย่  คนดีมีแฟนแล้วยังจะเข้ามาเป็นมือที่สามอีก เมื่อก่อนตัวเองไม่กล้าจีบคนดีเองแท้แท้  ทีงี้กลับกล้าทำนิสัยแย่ แย่ ไม่แมนเลย(ว่ะ)  :m16:

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ครามต้องเชื่อใจคนดีนะ แล้วตัวเองก็ต้องเข้มแข็งด้วย อย่าให้อิพี่เคนมาปั่นสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2019 19:03:50 โดย HanATarO »

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สมมมมม 5555 รู้ยังเวลาตัวเองใจดีกะคนอื่น

เค้ารู้สึกยังไง ฮ่า ๆ อิหมีจ๋อยมากตอนนี้

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ๊ยยยนึกว่าจะดราม่ายาว งอแงงี่เง่าเหรอจ๊ะคราม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Ashita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คนดีไม่ใช่สิ่งของค่ะ คนมาก่อนแต่ไม่ทำอะไรจะมาขอคืนได้ยังไง เคยเป็นเจ้าของเขาตอนไหนหรือคะ

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คนดีก็คือคนดีอะเนอะ แต่เราเขาใจความรู้สึกครามนะเจอแบบนี้ก็ต้องมีคิดมากกันบ้างแหละ แล้วการที่ครามพุดกับเพื่อนร่วมงานแบบนั้นเราว่าคุณหมีน่ะดีมากเลย อบอุ่นที่สุดเลยคุ่นี้^^

ออฟไลน์ grayliette

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ว้ายยยย หมีจ๋อยไปเลย คนดีใจดีมากเลยลูกกก

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คุณหมีก็หวงของคุณหมีน้าาาา

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เอาเข้าจริงแล้วเราเข้าใจครามนะที่ทำหรือพูดแบบนั้นทั้งโดนโต้ซังพี่คู้ใหนจะเคนอีกมาพูดแบบนั้นให้ฟังเป็นใครคงไม่โอเคแล้วได้มาฟังจากปากของคนดีอีกว่าปลื้มเคนอีกใหนจะคำห้อยท้ายยังบอกว่าตอนนั้นเคนมีแฟนแล้วเป็นใครก็คงคิดทันทีว่าแล้วถ้าไม่มีแฟนล่ะจะทำยังใงยิ่งกับครามและคนดีที่รู้เรื่องส่วนตัวกันน้อยมากไม่แปลกถ้าคนขึ้หึงอย่างครามจะคิดแบบนั้น  เราว่าถ้าครามไม่โพล่งถามออกมาก็คงไม่เข้าใจกันคงคิดไปไกลมากกว่านี้แน่  :เฮ้อ: 

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
หูยยยยย อิจฉาอิคราม พี่คนดีน่ารักที่สุดดดดด "คุณหมีจ๋อย" ดูพี่คนดีเรียกสิ น่าร้ากกก ถ้าเป็นคนอื่นเรียก จะไม่ฟังแล้วน่ารักแบบนี้เลยนะ / พี่คนดีอะไรก็ดียยยยย์

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮืออออน่ารักกก

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ร้ากกกกกกกกกกก ลูกเจี๊ยบกับคุณหมี

ครามคงรู้สึกไม่ดี ที่อยู่ๆคนที่แฟนตัวเองปลื้ม มาบอกว่าขอคืน ยิ่งคนดีไม่ชอบพูด ยิ่งทำให้อึดอัดเข้าไปใหญ่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด