Chapter 16 : พี่ตามใจหนู
“ตกลงเด็กนั่นคือลูกของคุณพ่อเหรอคะ” นาราแปลกใจเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นตกใจ เธอเพิ่งเห็นรูปจากโทรศัพท์ของคุณแม่ น้องที่เธอตามหาจริงๆ อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ยัยเด็กที่เชนบอกว่าเป็นน้องสาวนั่นไง
“ใช่ ลูกรู้จักใช่ไหม” หญิงสาวพยักหน้ารับคำพูดของมารดา จะไม่รู้จักได้ยังไงกัน เธอเคยเจอเด็กคนนี้หลายรอบและไม่ค่อยถูกชะตาเอาเสียเลย
“เด็กที่ชื่อนุ่มนิ่มเป็นน้องสาวของเชนค่ะ”
“แบบนี้ยิ่งคุยง่ายเลย ไปคุยกับเชนว่าเราอยากรับอุปการะเด็กคนนั้น อย่างน้อยก็ในฐานะญาติเพราะลูกเป็นพี่สาวของนุ่มนิ่ม”
นาราถอนหายใจ เธอไม่ได้อยากมีน้อง โดยเฉพาะน้องอย่างนุ่มนิ่ม ไหนคุณแม่บอกว่าลูกคนใหม่ของคุณพ่อเป็นผู้ชาย แต่นุ่มนิ่มมองยังไงก็เด็กผู้หญิงชัดๆ เป็นพวกเบี่ยงเบนตั้งแต่ยังเด็ก ให้ตายเถอะ น่ารังเกียจ
“หนูไม่เห็นถึงความจำเป็นที่เราต้องเอาเด็กนั่นมาเลี้ยงเลยสักนิด” นาราบ่น เลยโดนมารดามองตาขวาง
“สมบัติที่พ่อเขายกให้เด็กนั่นไม่ใช่น้อยๆ นะ อย่างน้อยถ้าเลี้ยงไว้เราก็จะมีสิทธิ์แบ่งมรดกในฐานะผู้เลี้ยงดู” คุณแม่อ้างเหตุผลไปเรื่อย นาราได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าแม่จะอยากได้สมบัติของเด็กนุ่มนิ่มไปทำไม ลำพังเธอกับแม่ตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไรสักหน่อย
“หนูจะคุยกับเชนให้ก็แล้วกัน” นาราบอกส่งๆ แต่จะไปคุยกับเชนให้เพราะแม่จะได้ไม่เซ้าซี้อีก แต่เชื่อเถอะว่าเชนไม่ยอมหรอก เห็นทั้งรักทั้งหวงน้องสาวมากขนาดนั้น
…
“นุ่มนิ่มไม่ใช่สิ่งของ ผมคงทำตามที่คุณแม่ของคุณต้องการไม่ได้” เชนปฏิเสธทันทีหลังจากได้คุยกับนารา เขาไม่ต้องคิดนานเมื่อเธอบอกว่าอยากรับนุ่มนิ่มไปอยู่ด้วย พูดเหมือนกับน้องเป็นสิ่งของที่จะพาไปนู่นไปนี่ได้ตามใจ
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าต้องได้ยินคำตอบแบบนี้จากคุณ” นาราแค่นหัวเราะ คำตอบของชายหนุ่มไม่ผิดจากที่เธอคิดไว้ คุณแม่คงต้องผิดหวังแล้ว จะมาพรากน้องสาวคนโปรดไปจากพี่ชายคงจะยากหน่อยงานนี้
“น้องสาวของเชนคงจะไม่รู้ว่าตัวเองมีสมบัติเป็นสิบๆ ล้านที่คุณพ่อยกให้” เธอเข้าประเด็นหลังจากอ้อมค้อมมานาน เชนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาพอจะรู้จากคุณยายมาบ้างแล้วถึงเรื่องนี้
“กว่าน้องจะมีสิทธิ์ครอบครองก็ต้องรอจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ถ้าคุณกับคุณแม่ต้องการผมจะช่วยจัดการในส่วนนี้ให้” เชนคิดว่าเขามีทางออกหลายทางที่ไม่ใช่ยอมให้น้องไปอยู่กับนารา ยายหนูไม่สนใจเรื่องเงินทองด้วยซ้ำจากที่เขาเคยพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา นุ่มนิ่มไม่รู้แม้กระทั่งว่าก่อนเสียชีวิตคุณพ่อยกมรดกให้เท่าไหร่
“พอเป็นเรื่องของน้องสาวแล้วคุณทุ่มเทจังเลยนะ แค่เด็กคนเดียวแท้ๆ แถมยังไม่ได้มีความผูกพันทางสายเลือดอีก” นาราค่อนแขวะ เชนจริงจังกับเรื่องของนุ่มนิ่มจนเธอหงุดหงิด และชายหนุ่มยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไร้เยื่อใยกับเธอแล้ว
“นุ่มนิ่มไม่ใช่แค่น้องสาว แต่เธอเป็นมากกว่านั้น” เชนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง นารามองหน้าเขาก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างดูแคลน
“ตลกกันไปใหญ่แล้วเชน เด็กนั่นไม่ใช่ผู้หญิงด้วยซ้ำ แล้วอายุของนุ่มนิ่มแทบจะเป็นลูกคุณได้อยู่แล้ว”
“ผมรักนุ่มนิ่ม”
นาราถึงกับหน้าชา เธอบีบมือตนเองแน่นเมื่อได้ยินเชนบอกว่ารักคนอื่นต่อหน้า
“เรื่องของเรา…”
“ระหว่างเรามันจบไปนานแล้ว ตอนที่หนูนายังอยู่ เราสองคนได้ทำหน้าที่พ่อและแม่อย่างดีที่สุดแล้วนารา ตอนนี้อย่างมากที่สุดผมให้คุณได้แค่ความเป็นเพื่อน” เชนรู้ว่าเธอจะพูดอะไร เขาเอ่ยขึ้นเสียก่อน คิดว่านาราคงจะตอบกลับมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวตามนิสัยของเธอ แต่ผิดคาดเมื่อนาราเพียงแค่ยิ้มน้อยๆ
“จริงจังเหรอคะ กับเด็กคนนั้น”
“ผมอยากดูแลนุ่มนิ่ม อยากเฝ้ามองน้องโตขึ้นในทุกๆ วัน” เขายิ้มเมื่อคิดถึงความสดใสของน้อง เชนอยากจะอยู่ในทุกๆ ช่วงเวลาในชีวิตของน้อง เขาอยากเห็นนุ่มนิ่มโตขึ้นมาอย่างดี โดยมีเขาอยู่ข้างกาย
นาราไม่พูดอะไรต่อ คำตอบของอีกฝ่ายชัดเจนอยู่แล้ว ระหว่างเธอกับเชนคงไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก พยายามมาตั้งนานแต่กลับสูญเปล่า เชนไร้เยื่อใยกับเธอสุดๆ ไปเลย
เธอย้ำกับเชนอีกครั้งว่าให้ช่วยจัดการเรื่องของนุ่มนิ่มให้ด้วยเพราะคุณแม่คงจะไม่ยอมง่ายๆ พออีกฝ่ายรับปากจึงบอกลากันตรงนั้น
มือสวยยกขึ้นเสยผมตนเองอย่างเซ็งๆ ขณะเดินออกมาจากคอนโดของอดีตคนรัก กำลังอารมณ์ไม่ดีแบบนี้เธออยากไปช็อปปิ้งคลายเครียด นาราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน รอสายไม่นานปลายสายก็กดรับ
“นี่ คุณตำรวจ ไปช่วยถือของให้ฉันหน่อยสิ”
…
นุ่มนิ่มเปลี่ยนจากนอนคว่ำลุกขึ้นนั่งเมื่อประตูห้องเปิดออก มองพี่เชนที่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ แต่น้องกำลังงอนอยู่เพราะพี่นารามาหาพี่เชนอีกแล้ว
“พี่นารากลับไปแล้วเหรอคะ” นุ่มนิ่มถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง พี่เชนเพิ่งจะกลับมาเมื่อวานนี้เอง วันนี้สัญญากับน้องว่าตอนบ่ายจะพาไปดูหนังแต่กลับต้องเปลี่ยนไปดูรอบค่ำแทนเพราะพี่นาราคนเดียวเลย
“กลับไปแล้วค่ะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” เชนยิ้มขำ บีบแก้มน้องเบาๆ อย่างมันเขี้ยว นุ่มนิ่มปัดมือพี่เขาออกและเบะปากใส่อย่างแสนงอน
“พี่นารามาทำไม”
“มาคุยธุระเฉยๆ ค่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก” พอตอบไปแบบนั้น เจ้าตัวเล็กหรี่ตามองเขาอย่างจับผิด คุยเรื่องนารานานๆ เชนกลัวว่าบรรยากาศจะมาคุเขาเลยเปลี่ยนเรื่อง
“หนูทำอะไรอยู่คะ”
“ดูคลิป”
“ไหนคะ คลิปอะไร” เชนมองโทรศัพท์มือถือของน้องที่เปิดคลิปวิดีโอทิ้งไว้ นุ่มนิ่มก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วๆ ไป ที่ชอบดูคลิปแต่งตัวแต่งหน้า ดูจบก็มาอ้อนว่าอยากได้ลิปสติกสีเหมือนบิวตี้บล็อกเกอร์ในคลิป
“เนี่ยๆ พี่เขาไปทำหน้าอกมา ส๊วยสวยแหละ” จากที่กำลังงอนๆ หายเป็นปลิดทิ้ง นุ่มนิ่มขยับเข้ามาใกล้พี่ อวดให้ดูว่ากำลังดูอะไรอยู่ เชนไม่ค่อยเข้าใจมากนักว่าผู้หญิงสวยในคลิปกำลังพูดอะไรเพราะเขาไม่ค่อยเข้าใจศัพท์แปลกๆ ของคนในคลิปที่เป็นสาวประเภทสอง แต่นุ่มนิ่มก็อธิบายให้ฟังจนเลยจะเข้าใจบ้าง
“เห็นว่าทำหน้าอกเจ็บเหมือนโดนรถบรรทุกทับเลยแน่ะ”
“แล้วแบบนี้หนูยังจะอยากทำไหมคะ” เชนถาม ถ้ามันเจ็บขนาดนั้นเขาก็ไม่อยากให้น้องทำเพราะเป็นห่วง แต่เจ้าตัวพยักหน้ายืนยันว่าอยากทำแถมยังบอกว่าไม่กลัวอีกต่างหาก
“ทำนมเจ็บน้อยกว่าทำน้องเยอะ พี่เขาบอก”
“อะไรคือทำน้องคะ ?” คนเป็นพี่เริ่มจะงงอีกแล้ว ช่างสรรหาศัพท์แปลกๆ ที่ผู้ชายเข้าใจยากมาพูดอยู่เรื่อย
“ก็…” นุ่มนิ่มหน้าแดง ไม่รู้จะตอบยังไงดี ดวงตาสวยก้มต่ำมองกระโปรงของตนเอง เท่านั้นเชนก็เข้าใจแล้วว่าน้องหมายถึงอะไร
“พี่เข้าใจแล้วค่ะ” เขาหัวเราะอย่างเอ็นดู เลยโดนน้องตีแขนดังเพี้ยะ
“หัวเราะอะไรคะ!”
“เปล่าค่ะ” เชนปฏิเสธแต่ยังกลั้นขำ นุ่มนิ่มบ่นใส่ว่าพี่เชนไม่เข้าใจผู้หญิง เลื่อนดูคลิปในช่องเดิมไปเรื่อยๆ พลางเอนหัวซบไหล่กว้าง
“ถ้าหนูทำพี่เชนจะว่าอะไรไหม” น้องเงยหน้าขึ้นมอง เชนเคยบอกกับน้องหลายครั้งว่าอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเมื่อโตขึ้นนุ่มนิ่มอาจจะเปลี่ยนใจ แต่พักหลังมานี้เจ้าตัวเล็กพูดบ่อยขึ้นจนเขาไม่อยากขัดใจ น้องเป็นผู้หญิงเลยรักสวยรักงามเป็นเรื่องธรรมดา
“ไม่หรอกค่ะ พี่เคารพการตัดสินใจของหนู” พอเขาบอกไปน้องก็ยิ้มอย่างดีใจ เห็นน้องดีใจขนาดนี้เชนก็ไม่อยากห้ามแล้ว คงต้องหาข้อมูลหน่อยแล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง เขาจะได้เป็นที่ปรึกษาให้น้องได้
…
หลังจากที่คุยกันวันนั้น กลายเป็นว่าพี่เชนจริงจังมากกว่าน้องเสียอีก หาข้อมูลอย่างละเอียดรวมถึงโรงพยาบาลที่จะพาน้องไปคุยกับคุณหมอ บอกประมาณว่าต้องปรับฮอร์โมนหรือฉีดฮอร์โมนอะไรสักอย่างเพื่อล้างฮอร์โมนเพศชายในร่างกายของน้อง
พี่เชนบอกว่าซื้อยามากินเองอันตราย เรื่องแบบนี้ปรึกษาคุณหมอดีกว่าจะได้ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายในอนาคต นุ่มนิ่มเพิ่งรู้ตอนนี้แหละว่ากว่าจะเป็นผู้หญิงเต็มตัวได้มีหลายขั้นตอนและยุ่งยากขนาดนี้ ตอนเริ่มเทคฮอร์โมนก็ซื้อมากินเอง อาศัยถามเอาจากรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์
“เขาบอกว่าช่วงสองเดือนแรกคุณหมออาจจะให้ทานฮอร์โมนก่อน หลังจากนั้นค่อยฉีด แต่เราค่อยไปคุยกับคุณหมออีกทีนะคะ” พี่เชนพูดโดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากไอแพดเลย นุ่มนิ่มซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก เดินเข้าไปนั่งตักและกอดคอพี่เขาไว้
“พี่เชนขา ฮื่อ ไม่เห็นต้องลำบากเพื่อหนูขนาดนี้เลย” เด็กอารมณ์อ่อนไหวน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าพี่จะจริงจังกับเรื่องของน้องถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็ได้
“แค่นี้เองไม่ลำบากสักหน่อยค่ะ ปรึกษาคุณหมอจะได้รู้วิธีดูแลตัวเองที่ถูกต้องไงคะ”
“หนูรักพี่เชน” นุ่มนิ่มหอมแก้มเอาใจพี่ เชนหัวเราะ ลูบผมน้องและบอกว่ารักเหมือนกัน ในตอนนั้นเองที่นุ่มนิ่มเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“คือว่า…เรื่องโรงเรียนของหนู”
“ทำไมคะ”
“พี่เชนจะว่าอะไรไหมถ้าหนูอยากเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเพื่อน” น้องบอกอย่างกล้าๆ กลัวๆ พี่เขาจะหาว่าเรื่องมากหรือเปล่านะ แต่นุ่มนิ่มอยากเรียนที่เดียวกับมิ้ม อย่างน้อยจะได้มีเพื่อน
“ตามใจหนูเลยค่ะ ดีซะอีก หนูจะได้มีเพื่อน” เชนเลือกโรงเรียนไว้สองสามแห่งเพื่อให้น้องตัดสินใจ แต่ถ้านุ่มนิ่มอยากเรียนที่เดียวกับเพื่อนเขาก็ไม่ว่าอะไร เจ้าตัวเล็กจะได้ไม่เหงาเพราะมีเพื่อนที่รู้จักกันอยู่แล้ว
“แฟนหนูใจดีที่สุดเลย” น้องยิ้มกว้าง เชนใจสั่นกับความน่ารัก ไหนจะสรรพนามที่นุ่มนิ่มเรียกเขาอีก แพ้ราบคาบไปเลยทีนี้
…
วันนี้เป็นวันเสาร์แต่นุ่มนิ่มตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเพื่อนจะมาที่ห้อง น้องบอกพี่เชนไว้เมื่อสองวันก่อนว่ามิ้มกับเภาจะมาเพื่อคุยเรื่องเรียนกัน น้องตื่นเช้ามาทำขนมให้เพื่อน พี่เชนเพิ่งซื้อเตาอบใหม่ให้ เลยได้โอกาสโชว์ฝีมือทำคุกกี้ที่เพิ่งได้สูตรมาหมาดๆ ครั้งก่อนลองผิดลองถูกเลยไหม้ไปเสียเยอะ รอบนี้พอใช้ได้แล้ว ชิมเองก็คิดว่าอร่อยดี ให้เพื่อนชิมคงไม่เสียหน้าหรอก
ปากเล็กคาบคุกกี้ที่เพิ่งนำออกจากเตาหมาดๆ กัดชิมแล้วอร่อยกว่าซื้อที่ร้านอีก อีกหน่อยเปิดร้านขายขนมท่าจะดี ชื่อร้านขนมคุณนุ่มนิ่มก็เข้าท่า
“ตัวเล็ก ทำอะไรคะ” เสียงทุ้มดังขึ้น พี่เชนตื่นแล้ว นุ่มนิ่มหันไปมองโดยที่ปากยังคาบขนมอยู่ นิ้วเล็กชี้ให้พี่เขาดูว่ากำลังอบคุกกี้
“คุกกี้เหรอคะ ไหนพี่ขอชิมหน่อยว่าอร่อยไหม” เชนเข้ามาใกล้น้อง คว้าเอวบางเข้าไปใกล้และก้มลงมาชิมคุกกี้ชิ้นที่น้องคาบอยู่ จากกินขนมกลายเป็นกินปากน้องแทนเพราะขนมหมดไปนานแล้ว นุ่มนิ่มตีอกกว้างเบาๆ เมื่อพี่เขาผละออกไป โดนขโมยจูบแต่เช้าเลย
“ลิปหนูเลอะหมดเลย” นุ่มนิ่มบ่น เพิ่งจะทาลิปกลอสมาแต่โดนพี่เชนกินไปหมดแล้ว แถมยังเลอะปากจนเหนียวด้วย พี่เชนบ้า
“เพื่อนๆ จะมากี่โมงคะ” เชนถาม ปล่อยน้องให้ไปทำขนมต่อ นุ่มนิ่มจัดคุกกี้ใส่โหลแก้วและตอบ
“นัดกันตอนสิบเอ็ดโมงค่ะ ถ้าเช้ากว่านี้มิ้มจะไม่ตื่น”
“เปลี่ยนชุดด้วยนะคะ กระโปรงมันสั้นเกินไป” เขาว่ากระโปรงของนุ่มนิ่มเริ่มสั้นขึ้นทุกวันแล้ว ถึงข้างบนจะเป็นเสื้อแขนยาวแต่กระโปรงสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเป็นคืบ ถ้าน้องโตกว่านี้เขาต้องปวดหัวมากแน่ๆ
“ไม่เอา หนูร้อน ใส่ยาวๆ แล้วมันอึดอัด” พอโดนบ่นเรื่องแต่งตัวก็เดินหนีไปแล้ว เชนอยากจะตีก้นสักทีสองที แต่ไม่อยากบ่นมากให้เสียบรรยากาศเพราะเดี๋ยวเพื่อนน้องจะมาแล้ว
…
เชนนั่งทำงานอยู่ในห้องยังได้ยินเสียงคุยกันและเสียงหัวเราะดังแว่วมา เพื่อนของนุ่มนิ่มคงจะมากันแล้ว น้องบอกว่าเป็นเพื่อนผู้ชายสองคน คนชื่อมิ้มเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่อยู่ที่เชียงใหม่ ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนของมิ้มอีกที และกำลังจะเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนของน้องด้วย
เขาคิดว่าควรจะไปทักทายเพื่อนของน้องสักหน่อย ไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กๆ ทำอะไรกันอยู่ ได้ยินแต่เสียงของนุ่มนิ่มพูดเจื้อยแจ้วอยู่คนเดียวเลย เจ้าเด็กแสบ
ชายหนุ่มเดินมาที่โซนห้องนั่งเล่น นุ่มนิ่มเอาของกินมาแบ่งเพื่อนเต็มไปหมด ไหนว่าจะคุยเรื่องเรียนกันแต่เขาเห็นว่ากำลังเปิดหนังดูกันอยู่ นุ่มนิ่มนั่งอยู่ที่พื้นหัวเราะคิกคักกับเด็กผู้ชายหน้าคม ส่วนเพื่อนอีกคนนั่งดูหนังอย่างตั้งใจเชียว
“นุ่มนิ่ม เพื่อนๆ มากันแล้วเหรอคะ” เชนเรียกน้อง นุ่มนิ่มลุกขึ้นและเดินเข้ามาหา เกาะแขนเขาก่อนจะแนะนำเพื่อนๆ ให้รู้จัก
“นี่ๆ เพื่อนหนู คนนี้ชื่อมิ้ม ส่วนนี่เภาค่ะ” เขายิ้มให้เด็กๆ อย่างเป็นมิตร รับไหว้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนรอยยิ้มจะเลือนหายไปเมื่อเสียงทุ้มของเด็กที่ชื่อเภาพูดขึ้น
“สวัสดีครับ คุณพ่อของนุ่มนิ่ม”
เชนถึงกับไปต่อไม่เป็น ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี และถ้าเขามองไม่ผิด เด็กตรงหน้าราวยิ้มราวกับกำลังกวนโมโห ในตอนนั้นเองที่เขาคิดว่าไม่ถูกชะตากับเพื่อนคนนี้ของน้อง
สาบานได้ว่าเขาไม่ได้ดูแก่ขนาดนั้น วันนี้ใส่ชุดลำลองธรรมดาและยังไม่ได้เซ็ตผม คงไม่ได้ดูมีอายุถึงขนาดจะเป็นพ่อของนุ่มนิ่มได้หรอก
คุณพ่อบ้าอะไรกันวะ ไอ้เด็กนี่
TBC.
พี่เชนไม่ถูกใจสิ่งนี้
#เรื่องของหนูนิ่ม