...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)  (อ่าน 305325 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 ชอบพี่ทิศมากเลย

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ค่าาาา นางเอก ก็นางเอก

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
พี่ทิศเป็นนางเอก555

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เขิล...

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ถึงขั้นตามทุกคนนี่คือร้ายแรงมากนะ
แถมยังทำผวากันทั้งคู่ไปอีก

พิทักษ์คือเป็นคนสังเกตมากเลย และถึงจะเคืองน้อง
แต่ก็มีอะไรมากลบให้คิดทางบวกไปบ้าง
แถมตอนนี้มีสัญญากันแล้ว ไม่มีคืนคำแน่นอน

จิณถึงอุ่นใจเลยหรอ ไม่ธรรมดานะ อย่าเขวซะก่อนล่ะ
สงสารจิณ ถึงต้องเรียกร้อง และพยายามช่วยตัวเองหลายอย่าง
แต่อย่าถึงขั้นเอาตัวเองไปเสี่ยงเลย เชื่อว่าทิศจะรั้งได้

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ทิศแหมมมม เริ่มมองน้องจิณดีขึ้นแล้วซิ :hao3:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พี่ทิศสุดยอด  :katai2-1:

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอออออออออออ
พฤหัสแล้วเด้อ

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จิ้มไหว้ก่อน น๊า

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เนี่ยแหละ คนที่จะมาปราบจิณได้ อิอิ

ปล. ถ้าเทียบกับของขวัญ ใครจะเร่าร้อนกว่ากันฮะ 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มารอๆ

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
……………………..
   ตอนที่ 5



บ้านของคุณเทียมเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่ยกพื้นเล็กน้อย ตั้งอยู่ท่ามกลางอาณาเขตกว้างขวาง ถูกตีล้อมด้วยกำแพงสูงหนา หากไม่ใช่เพราะพิทักษ์ ประตูรั้วอัลลอยก็คงไม่เปิดต้อนรับง่ายดายอย่างนี้


จิณณะกวาดตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ ทั้งๆที่เป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น มีลูกน้องมากมาย แต่นอกจากคนงานที่กำลังดูแลต้นไม้และสวนเขียวขจี ก็มองไม่เห็นคนอารักขาแต่อย่างใด


 คนที่ยืนรออยู่ที่ประตูบ้านคือชายวัยกลางคนชื่อมิตรเป็นคนสนิทของคุณเทียม ติดตามลุงของพิทักษ์มานับสิบปี จึงรู้จักมักคุ้นกับหลานชายของคุณเทียมดี พิทักษ์เดินนำจิณณะไปหาแล้วยกมือไหว้ ก่อนจะแนะนำปลัดหนุ่มและลูกน้องของลุงได้รู้จักกัน


“คุณเทียมรออยู่ทางนี้ครับ”


ความสุภาพเรียบร้อยของคนในบ้านของผู้มีอิทธิพลที่สุดในจังหวัด หนำซ้ำยังเป็นอดีตนักการเมืองระดับประเทศทำให้ปลัดอำเภอตัวเล็กๆอย่างจิณณะเกือบจะกังขาอยู่แล้ว


จนกระทั่งชายคนนั้นหมุนตัวออกเดินนำ เขาถึงได้เห็นวัตถุบางอย่างที่เหน็บอยู่ด้านหลัง


...ปืนพก...


จิณณะถอนหายใจเบา เขาน่าจะรู้ดีว่าให้อย่างไรคุณเทียมก็เป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ของจังหวัด บ้านแสนสงบบนพื้นที่กว้างขวางที่ดูไม่มีใครคอยตรวจตรานั้น ไม่น่าจะใช่...


ดวงตากวาดมองไปรอบตัว ตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งสังเกตว่าคนงานคนสวนที่เมื่อครู่นี้ดูแลต้นไม้พุ่มไม้อยู่รอบๆ กำลังจับตามองมาที่เขา


...ไม่สิ ไม่ใช่ที่นี่ไม่มีคนคอยอารักขา...


...แต่มีแบบไม่เปิดเผยต่างหาก...


“ตามมาได้แล้ว ไม่ต้องไปมอง” เสียงของพิทักษ์ดังขึ้นเบาๆ ฉุดสติของจิณณะให้ละสายตาจากคนเหล่านั้น เขาสบตากับหลานชายของคุณเทียมอึดใจหนึ่ง สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้าวเท้าเข้าบ้านไปพร้อมกัน

...........................

คุณเทียมอยู่เฉลียงหลังบ้าน พร้อมด้วยสุนัข 3 ตัวที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ แต่พอหันมาเห็นหลานชายพาแขกผู้ไม่เคยมาที่นี่ติดตามมาด้วย เขาก็หันไปสั่งคนงานแถวนั้นให้พาสุนัขทั้ง 3 ตัวไปที่อื่นเสียก่อน


บรรยากาศที่เฉลียงด้านหลังมีแต่ความเงียบ จิณณะผู้เคยออกตัวว่ามีไฝที่ปาก เกิดอาการอับจนทางคำพูดขึ้นมาดื้อๆ ทั้งๆที่เขาพบเจอคุณเทียมก็หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็รู้สึกว่าชายวัยหกสิบคนนี้ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆเลย


เป็นอดีตนักการเมืองระดับประเทศ


เป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น


แม้ปัจจุบันจะเข้าสู่วงการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ แต่ชายผู้นี้ไม่เคยออกปากว่าล้างมือจากวงการอำนาจและผลประโยชน์แต่อย่างใด


พิทักษ์เหลือบมองคนข้างกายที่นั่งเงียบ เขาเห็นลูกกระเดือกเคลื่อนขึ้นลงราวกับเจ้าตัวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่พูดอะไรออกมา


“ลุงคงรู้จักจิณอยู่แล้ว”


หลานชายของคุณเทียมกลายเป็นคนออกปากเอง เมื่อนั้นจิณณะถึงได้สติหันมอง พิทักษ์กำลังมองตรงไปยังผู้เป็นลุง ใบหน้าเรียบเฉย ดวงตาสงบไม่บอกอารมณ์


“แล้วก็คงได้ยินมาบ้าง เรื่องผม...กับจิณ”


คุณเทียมเองก็นั่งเฉย สีหน้าเรียบ ทว่าดวงตาจับจ้องหลานชายที่กำลังพูด จิณณะกลืนน้ำลายอีกอึก สายตาของคุณเทียมนั้นราวกับมีดคมที่พร้อมจะผ่าร่างคนพูด


พิทักษ์ต้องโตมากับสายตาแบบนี้เวลาสารภาพอะไรสักอย่างอย่างนั้นหรือ


หากเป็นเขา คงอกแตกตายตั้งแต่สารภาพครั้งแรกแล้ว


“ที่ผมมา เพราะอยากมาบอกลุงด้วยตัวผมเอง แล้วก็อยากพาจิณมาไหว้ลุงด้วย”


ทว่าพิทักษ์คงพบเจอสายตาแบบนี้ของผู้เป็นลุงมาตั้งแต่เด็กจนโต ถึงยังคงพูดต่อได้ด้วยสีหน้าและสายตาที่เรียบสงบไม่ต่างจากคุณเทียมเสียเท่าไร

“คิดดีแล้วหรือ” ผู้อาวุโสกว่าเอ่ยปาก คราวนี้ชายหนุ่มสองคนชะงักงัน สายตาของคุณเทียมมองปลัดหนุ่มทีหนึ่ง ก่อนจะเบนไปยังหลานชาย แล้วจ้องมองพิทักษ์นิ่งนาน


“โดยเฉพาะทิศ คิดดีแล้วใช่ไหม”


จิณณะรู้สึกเหมือนคำถามนี้ของคุณเทียมไม่ได้หมายถึงเรื่องที่พวกเขาออกตัวว่าคบหากัน แต่คุณเทียมจงใจถามถึงเรื่องอื่น


 “ทิศจะเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้ และถ้าถึงวันนั้น ทิศจะถอยไม่ได้อีก แน่ใจแล้วหรือ”


ว่ากันว่าบางครั้งคุณเทียมก็เป็นคนตรงไปตรงมา รวมถึงครั้งนี้ที่ถามตรงเผงต่อหน้าจิณณะผู้ที่กำลังชักจูงหลานชายของเขาเข้าสู่เส้นทางเดือดร้อน


คนถูกถามสบตากับผู้เป็นลุง เริ่มแน่ใจว่าคุณเทียมรู้อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นโดยที่เขาไม่ต้องพูด และบางทีคุณเทียมอาจจะเดาได้แล้วว่าจิณณะอยู่ในที่เกิดเหตุ คำเตือนว่าเขาจะเดือดร้อนเพราะ ‘เรื่องนี้’ จึงไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกเสียจากเรื่องคืนนั้น


นี่คือคำเตือนจากผู้มีอิทธิพลในจังหวัดและมีสถานะเป็นลุง


พิทักษ์รู้ดีว่าเขาเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ที่แสนเปราะบาง ถ้าหากอยากมีชีวิตยืนยาว ก็ไม่ควรใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยงกับภัยอันตรายหรือสถานที่อโคจร แต่...เขาก็รู้ว่ามนุษย์ไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะครั้งนี้ ที่เขาเองก็ไม่เห็นประโยชน์อะไรในการช่วยเหลือจิณณะมากไปกว่าอีกฝ่ายเป็นหลานชายของแม่เลี้ยง


บุญคุณที่จิดาภาเลี้ยงดูเขามาอย่างนั้นหรือ


ก็ใช่


ชั่วขณะหนึ่งที่เขาหันมองข้างกาย รายนั้นดูเหมือนจะลืมหายใจ ลืมพูด ลืมแม้กระทั่งกะพริบตา


จากคนกวนโมโห พูดเก่งราวกับผีเจาะปากมาพูด กลับได้แต่นั่งนิ่งทำได้แค่กลืนน้ำลายเป็นครั้งคราว


อาจจะเป็น ‘นี่’ ที่พิทักษ์เองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ทั้งหมดของจิณณะในเวลานี้ที่ทำให้เขาตัดสินใจตกปากรับคำ


“ผมตัดสินใจแล้วครับลุง” หลานชายของคุณเทียมคนนี้สมกับเป็นหลานที่คุณเทียมเอ็นดู เพราะทุกคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังและจะไม่มีวันถอยกลับ


จิณณะรู้สึกเหมือนร่างเกร็งขึงกับน้ำเสียงของคนข้างกาย ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจกำลังทำงานอย่างหนัก เขารู้ดีว่าเรื่องคราวนี้ตนเองเป็นต้นเหตุดึงคนนอกที่แทบไม่รู้จักกันเลยอย่างพิทักษ์เข้ามาพัวพัน และอย่างที่คุณเทียมว่า...หากเข้ามาแล้ว จะก้าวถอยหลังไม่ได้อีก


แต่ถึงอย่างนั้น พิทักษ์ก็ยัง... ‘ตัดสินใจแล้ว’


ถ้าเรื่องคราวนี้จบลง และเขารอดตายไปได้ บุญคุณครั้งนี้ของพิทักษ์...เขาจะไม่ลืมเลย


คุณเทียมฟังคำตอบของหลานชายแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบา ก่อนจะเหลือบมองข้าราชการหนุ่ม ดวงตาของชายวัยหกสิบผู้มากประสบการณ์จับจ้องจนชายหนุ่มอายุคราวลูกแทบลืมหายใจ แต่สุดท้ายเจ้าของบ้านก็เผยยิ้มจาง


“ในเมื่อทิศตัดสินใจแล้ว ลุงก็ไม่ห้าม มีอะไรก็แวะมาหาลุงได้เสมอ” น้ำเสียงของคุณเทียมเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่ใจดี แตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง จิณณะเหมือนจะหายใจได้ขึ้นมาหน่อย ก็มีอันต้องผงะเมื่อลุงของพิทักษ์ลุกจากเก้าอี้แล้วผายมือออก


“มาให้ลุงกอดต้อนรับหลานคนใหม่หน่อย”


ปลัดหนุ่มกะพริบตาปริบๆ หันมองพิทักษ์แต่ฝ่ายนั้นพยักพเยิดให้ทำตาม เขาก็เลยลุกขึ้นยืน ก่อนจะถูกคุณเทียมดึงไปกอด จิณณะยังไม่ทันตั้งสติดี เสียงของเจ้าของบ้านก็ดังขึ้นที่ข้างหู


“ฉันไม่ได้ให้หลานฉันช่วยฟรีๆหรอกนะ”


น้ำลายของคนฟังแห้งเหือดไปทั้งปากทั้งคอ ก่อนจะสะดุ้งอีกทีเมื่อฝ่ามือของคุณเทียมตบลงกลางหลังหนักๆ แล้วจึงคลายกอดออก พลางหันไปยิ้มให้พิทักษ์


“ไปทานข้าวกันเถอะ ป่านนี้ตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว”


อีกครั้งที่จิณณะรู้สึกเหมือนตนเองยังเก็บรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปไม่ครบ ก็ถูกเจ้าของบ้านกระทุ้งเข้าอีกรอบ


“อ้อ สัปดาห์หน้ามีงานแต่งงานลูกของเพื่อน แต่ลุงไปไม่ได้ ทิศกับจิณไปแทนหน่อยได้ไหม” ออกปากแล้วก็ทิ้งสายตาไว้ที่จิณณะราวกับจะบอกว่า นี่เป็นเงื่อนไขแรกที่คุณเทียมยื่นให้เพื่อแลกกับการที่พิทักษ์จะช่วยเหลือ


ปลัดหนุ่มรู้ดีว่านี่ไม่ใช่คำถามหาความสมัครใจ แต่เป็นคำสั่งของคนที่เขาคิดจะเข้ามาอยู่ใต้ปีก


คุณเทียมไม่ใช่ผู้ใหญ่ใจดีที่ยอม ‘จ่าย’ โดยไม่ได้อะไรตอบแทน


ในเมื่อคราวนี้การจ่ายของเขา คือการยินยอมให้หลานชายก้าวเท้าเข้าไปสู่เส้นทางที่ตนเองรู้ดีว่าไม่ปลอดภัย ค่าตอบแทนของมันจึงต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา


และจิณณะ...ต้องรู้ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ!

…………………………..

คุณกอบกุลไม่เคยนึกชิงชังลูกหลานคนไหนในสายเลือดมากเท่านี้มาก่อน


จิณณะคือหลานชายนอกคอก เลี้ยงไม่เชื่อง เป็นคนในครอบครัววงศ์กีรติที่ไม่เคยพินอบพิเทาหล่อน และที่ร้ายที่สุดคือก่อนหน้านี้เขาขบถอย่างไร วันนี้ก็เขาก็ยังขบถอย่างนั้น หนำซ้ำยังดึงคนอื่นมาร่วมขบถด้วยย่างไม่ไว้หน้าหล่อนเลยสักนิด!


“งานแต่งลูกชายท่านนพพรเมื่อคืน...คุณกอบคงทราบแล้ว ว่าหลานชายคุณกอบไปพร้อมกับหลานคุณเทียม”


หญิงชราวัย 72 ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย แต่วันนี้ก็ยังร้อนๆหนาวๆเพราะการกระทำของหลานชาย


หล่อนพยายามยืดตัวให้ตรง อย่างน้อยก็เพื่อให้ท่าทีดูสง่าผ่าเผยไม่ใช่อ่อนข้อให้คนที่เรียกตัวหล่อนมา


ท่านเสรี


คลังอำนาจที่หล่อนอยากเกี่ยวดอง


“อย่างที่ดิฉันเคยเรียนท่านไป ตาจิณ...เป็นคนแผลง เรื่องบางเรื่องที่เขาทำ จะถามหาความหมาย หรือความรู้สึกสลักสำคัญอะไรไม่ได้หรอกค่ะ”


“รวมถึงเรื่องของหลานคุณเทียมด้วยหรือ” ชายชราที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ย้อนถาม


“นั่นหลานคุณเทียมเชียวนะ”


คุณกอบกุลรู้ดีว่าหล่อนกำลังถูกต้อนให้ยอมรับความจริงว่าจิณณะจะไม่สามารถเป็นเครื่องเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลของหล่อนและท่านเสรีได้แล้ว แต่...หากหล่อนยอมอย่างง่ายดาย ก็คงเสียชื่อเสียงที่สั่งสมมานานหลายสิบปี


“ดิฉันคิดว่าคุณเทียมเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะดูออกว่าสองคนนั้นแค่เล่นสนุก” หญิงชรายกยิ้มเล็กน้อย พลางจ้องมองชายผู้เป็นเจ้าของห้องทำงานโอ่อ่า


“แต่เมื่อเวลาผ่านไป จิณณะต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง” โลกที่คุณกอบกุลเป็นผู้สร้างและกำหนด โลกที่คุณกอบกุลวาดหวังว่าตระกูลของหล่อนจะเติบโตและมั่งคั่งด้วยเงินทองและอำนาจบารมี


ถ้าเพียงแต่จิณณะแต่งงานกับลูกสาวของท่านเสรี


 “ท่านเองก็ทราบดีว่าโลกนี้มีแค่เงินทองไม่ได้ เหมือนที่จะมีแค่อำนาจบารมีไม่ได้ แต่ถ้าทั้งสองอย่างรวมกัน สั่งดินให้กลายเป็นฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก”


ภายในห้องทำงานใหญ่โตเงียบสงัดไปชั่วอึดใจ สายตาของชายชราจับจ้องไปที่คุณกอบกุลผู้ที่เขาเรียกตัวมาพบหลังจากเรื่องของจิณณะและพิทักษ์ไปร่วมงานแต่งงานของลูกชายรัฐมนตรีคนหนึ่งเมื่อคืนนี้


เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาขอพบคุณกอบกุลเกี่ยวกับหลานชายคนที่หล่อนคิดจะหมายมั่นให้แต่งงานกับลูกสาวของเขา


หากจะว่าลูกสาวของเขาไม่มีปัญญาหาสามีเองก็ไม่ใช่ แต่เพราะหลานชายของคุณกอบกุลนั้นเข้าตาหล่อนเช่นกันต่างหาก


...ไม่ใช่เพราะจิณณะเป็นปลัดอำเภอ แต่เป็นเพราะนามสกุลวงศ์กีรติและทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่คุณกอบกุลจัดสรรปันส่วนให้ลูกหลานทุกคนทั้งๆที่หล่อนยังมีชีวิตอยู่นี่ต่างหากล่ะ...


จิณณะคือมหาเศรษฐีในคราบข้าราชการตัวกระจ้อย หนำซ้ำยังมีถังเงินถังทองของคุณย่าหนุนหลังอีกต่างหาก


อย่างไรก็ตาม แม้จิณณะจะเข้าตา แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ฐานะเทียบเท่าหรือดีกว่า


ท่านเสรีเอนหลังพิงพนักอย่างวางเชิง แม้ใจจะอยากร่วมเกี่ยวดองกับตระกูลของหญิงชราตรงหน้า แต่เขาจะไม่หงายไพ่ทั้งหมดเพื่อให้หล่อนผยอง


“อาทิตย์ก่อน ผมเพิ่งพบคุณชัย  วิมลกิตติ คุณกอบคงพอรู้จัก ลูกชายคุณชัยเป็นพ่อหม้ายลูกสาม หลานชายคุณชัยก็ยังโสด เป็นคนหนุ่มไฟแรงตั้งใจทำงานทั้งคู่ ผมกับคุณชัยก็คนคุ้นเคยกันดี” เขาเอ่ยเป็นนัย ดวงตาจับจ้องหญิงชราแล้วย้ำหนักแน่น


“หลานคุณกอบ...ไม่ใช่ตัวเลือกเดียว เอาเป็นว่าคราวนี้ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หวังว่าคุณกอบจะทำให้หลานชายแค่เล่นสนุกอย่างมีขอบเขต เพราะถ้ามีข่าวลือเสียๆเกี่ยวกับหลานคุณกอบและหลานคุณเทียม ผมคงต้องพิจารณาข้อตกลงของเราใหม่”


คุณกอบกุลยกยิ้มเล็กน้อยราวกับเป็นการรับปาก ก่อนจะยกมือไหว้ขอตัวลา


หญิงชราเดินออกจากห้องทำงานของท่านเสรี เลขานุการของหล่อนที่นั่งรออยู่ข้างหน้าก็รีบเข้าประคองทันที


“ไปที่ว่าการอำเภอ”


“คะ?!”


“ฉันจะไปหาไอ้หลานตัวแสบ!!”


นาตยาเป็นเลขานุการส่วนตัวของคุณกอบกุลมาหลายสิบปี หล่อนกล้าสาบานว่าตอนถูกคนอื่นโกงเงินหลายสิบล้าน คุณกอบกุลยังไม่โกรธเท่าตอนนี้เลย!

………………………..

คุณกอบกุลผู้ร่ำรวยสวมชุดผ้าไหมราคาแพงและเพ็ชรนิลจินดาบนหู คอ นิ้ว แตกต่างจากชาวบ้านในอำเภอที่แวะเวียนมาที่ที่ว่าการมากนัก ดังนั้นเมื่อหล่อนก้าวเท้าเข้ามาในอาคารราชการ ก็เกิดเป็นเสียงเซ็งแซ่จากเจ้าหน้าที่ชั้นล่างขึ้นไปถึงชั้นบน ไม่ต้องส่งนาตยาไปแจ้งใครว่ามาที่นี่เพื่ออะไร ชายหนุ่มในชุดเสื้อโปโลกางเกงสแล็กก็วิ่งลงมาจากชั้นสอง


ใครๆก็ว่า ‘จิณณะ’ เป็นหลานชายที่หน้าตาเหมือนสามีที่จากไปของคุณกอบกุลมากที่สุด สามีที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวจากไปในวัยหนุ่ม ปล่อยให้หล่อนล้มลุกคลุกคลานเลี้ยงลูกอีกสามมาเพียงลำพัง หากเขากลับชาติมาเกิดเป็นหลานชายคนนี้จริง ก็สมควรแล้วที่หล่อนจะชิงชังเขายิ่งกว่าหลานคนไหนๆ


“สวัสดีครับ คุณย่า” จิณณะยกมือไหว้ หน้าตาดูงุนงงเล็กน้อยหลังจากกวาดตามองซ้ายมองขวาแล้วพบว่าหล่อนบุกมาที่นี่เพียงผู้เดียว


“คุณย่ามาคนเดียวหรือครับ” เขาถาม การที่คุณกอบกุลผู้ไม่ปลื้มกับอาชีพรับราชการของเขาบุกมาที่นี่ก็ว่าประหลาดแล้ว หนำซ้ำหล่อนยังมาเพียงลำพัง ไม่มีทั้งบิดามารดาของเขามาด้วย


“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับแก!”


ทั้งสีหน้า ทั้งน้ำเสียงของหญิงชรา หากเป็นลูกหลานคนอื่น หรือเป็นพนักงานในอาณาจักรธุรกิจของหล่อน คงตัวสั่นหัวหดรีบจัดแจงเวลาให้ว่างเดี๋ยวนี้เพื่อจะได้พูดคุยกับคุณกอบกุล ทว่าจิณณะ...ไม่ใช่


หลานชายนอกคอกเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู นาฬิกาแบบสปอร์ตราคาหลักพันที่ใช้สมบุกสมบันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนวันนี้ก็ยังไม่พัง แค่รูปแบบและยี่ห้อนาฬิกาบนข้อมือของหลานชาย คุณกอบกุลก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ว


“ตอนนี้ยังอยู่ในเวลาราชการครับคุณย่า” หนำซ้ำคำพูดของ ‘ข้าราชการ’ ก็ยังทำให้คนฟังที่ไม่ได้เห็นชอบกับการที่ลูกหลานจะมาประกอบอาชีพนี้ยิ่งขุ่นนัก


“จิณณะ!” คุณกอบกุลขึ้นเสียง พอดีกับที่วรชิตลงจากชั้นสองมาเห็นเหตุการณ์ เขาเพ่งสายตาอยู่อึดใจหนึ่ง ก็ถึงกับตาเหลือกเมื่อนึกออกว่าหญิงชราที่ยืนประจันหน้า ท่าทางเหมือนกำลังจะปล่อยระเบิดลงกลางที่ว่าการในเวลานี้คือคุณกอบกุล


ย่าของจิณณะ


ย่าที่จิณณะเล่าให้ฟังว่าเกลียดอาชีพของหลานชายอย่างกับอะไรดี


ในขณะที่จิณณะเองก็เคยออกปากว่าตนเองคือหลานนอกไส้ นอกคอกและขบถที่สุดในวงศ์ตระกูล


แล้วย่าคนนั้นกับหลานอย่างจิณณะ


“โทร.ไปที่สนามกอล์ฟ!” วรชิตหันไปสั่งใครสักคนที่ลงมาด้วยกัน


“ท...โทร.ทำไม”


“โทร.ตามคุณพิทักษ์!!” หากจะตาม ‘ใคร’ มาห้ามทัพ ย่อมไม่ใช่ครอบครัวที่อยู่กรุงเทพฯและต้องใช้เวลาในการเดินทางร่วมชั่วโมง แต่ควรเป็นคนใกล้...ซึ่งจิณณะก็เคยพูดเองว่า...คือคนรักของตน


“หะ? คุณพิทักษ์?”


“คุณพิทักษ์เป็นแฟนปลัดจิณ! โทร.ตามเขามา!”


วรชิตสั่งแล้วรีบพุ่งตัวลงบันไดไปเป็นคนห้ามทัพรายแรก ใจหวังให้พิทักษ์มาไวๆ เพราะคาดว่าคนห้ามทัพคนเดียวไม่น่าจะพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหลานนอกคอกอย่างจิณณะพูดประโยคเด็ดเสียงดังฟังชัดไปทั่วทั้งโถงที่ว่าการ


“ผมเป็นข้าราชการ จะให้เอาเวลาราชการมาใช้เพื่อคุยกับคุณย่า ประชาชนทั้งประเทศที่จ่ายภาษีมาเป็นเงินเดือนให้ผม จะรู้สึกยังไงล่ะครับ”


“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะทำให้แกออกจากราชการวันนี้!!!” คุณกอบกุลระเบิดโพล่งอย่างหมดความอดทน แต่หลานชายยังมีความอดทนสูงส่งเพราะยักไหล่เหมือนไม่แยแสสักนิด


“ถ้าทำได้ คนที่เซ็นให้ผมออกจากราชการ ได้เจอกันในสื่อแน่นอน”


วรชิตที่ตอนแรกอุทิศตนจะมาเป็นคนห้ามทัพได้แต่อ้าปากค้าง


อย่าว่าแต่คุณกอบกุลร้ายกาจเลย จิณณะก็สมเป็นไม้เบื่อไม้เมามาแต่อ้อนแต่ออกเช่นกัน


นี่มันมวยคู่เอกของวันนี้ชัดๆ!!

.............................

พิทักษ์กำลังประชุมงานอยู่กับพนักงานฝ่ายการตลาดของสนามกอล์ฟเพื่อเปิดตลาดรับนักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากต่างประเทศ แต่ตอนที่ยังไม่ได้ข้อสรุปลงตัว เลขานุการก็ส่งโน้ตเข้ามาบอกว่ามีเรื่องด่วน


‘คนที่ที่ว่าการแจ้งว่าคุณกอบกุลมาค่ะ ตอนนี้คุณจิณกำลังมีปัญหา’


เป็นประโยคสั้นๆแต่พิทักษ์เห็นภาพชัดเจน อย่างน้อยก็เพราะเขาเคยอยู่ในเหตุการณ์ที่จิณณะกับคุณกอบกุลปะทะกันมาแล้ว และเขากล้ายืนยันว่าคนที่กำลังมีปัญหา ไม่ใช่จิณณะ แต่รายนั้นเป็นคนก่อปัญหาต่างหาก


ชายหนุ่มสั่งให้ประชุมต่อไป ส่วนเขาขอตัวออกไปทำธุระ ไม่กี่นาทีต่อมา รถยนต์สัญชาติยุโรปของพิทักษ์ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าอาคารที่ว่าการ เขากำลังจะก้าวขึ้นบันไดเตี้ย ก็ปรากฏว่าชายหนุ่มคนหนึ่งรีบก้าวเท้าเข้ามาหาพร้อมกับยกมือไหว้ พิทักษ์ยกมือไหว้ตอบเช่นกัน


“คุณพิทักษ์ ผมให้คนโทร.ไปตามคุณเอง ตอนนี้คุณกอบกุลอยู่ข้างบน” วรชิตแจ้ง


ย่าของจิณณะถูกพาขึ้นชั้นสองและรับรองในห้องนายอำเภอไปแล้ว ส่วนปลัดอำเภอผู้ออกตัวว่าจะไม่ใช้เวลาราชการเพื่อเรื่องส่วนตัว แยกไปทำงานที่โต๊ะตนเอง เหลือก็แต่วรชิตที่ใช้เวลาราชการเพื่อเรื่องของเพื่อนร่วมงานอยู่ตรงนี้


“แล้วจิณอยู่ที่ไหน”


“ที่โต๊ะทำงานครับ”


“คุณกอบกุลมาที่นี่ทำไม พอจะทราบไหมครับ” พิทักษ์ถาม เรื่องที่เขาได้ยินมาคือหญิงชราเกลียดอาชีพนี้ของหลานชายจับใจ แต่วันนี้กลับมาถึงที่นี่


“ผมได้ยินแต่ว่าคุณกอบกุลจะให้ไอ้จิณออกจากราชการ”


วรชิตเองก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่เรื่องที่ได้ยินโดยทั่วกันคือหญิงชราขู่จะให้หลานชายออกจากราชการ ส่วนคนหลานก็ขู่กลับมาถ้าใครเซ็นให้ออก จะได้เจอกันในสื่อ


ร้ายพอกันไหมล่ะ คู่นี้


พิทักษ์ฟังแล้วขมวดคิ้วมุ่น นอกจากเรื่องที่คุณกอบกุลจะบังคับจิณณะแต่งงานแล้ว ยังมีเรื่องบังคับจะให้ออกจากราชการอีก หรือเพราะบังคับเรื่องแต่งงานไม่ได้ เลยจะบังคับเรื่องงานแทน?


“อยู่ข้างบนใช่ไหมครับ พาผมไปพบหน่อยได้ไหม”


หากปล่อยจิณณะให้พูดคุยกับคุณกอบกุลเพียงลำพัง พิทักษ์มองเห็นแต่ความหายนะล้วนๆ อย่างน้อย เขาก็ก้าวเท้าลงเรือลำเดียวกับจิณณะแล้ว จะปล่อยไปเหมือนไม่รู้เห็นก็คงไม่ได้


“ทางนี้เลยครับ”


วรชิตเดินนำพาขึ้นไปยังห้องทำงานของนายอำเภอ พอชายหนุ่มเจ้าของสนามกอล์ฟก้าวเข้าห้องก็สบตาเข้ากับหญิงชราที่หันมามอง หล่อนถึงกับทำตาเขม็ง ทว่าพิทักษ์ก็ยังเป็นพิทักษ์ เขานิ่งสงบ ยกมือไหว้ทั้งย่าของจิณณะและนายอำเภอ


“มาก็ดี! ให้ใครไปเชิญหลานชายของฉันมาที! จะได้คุยกันทีเดียว!!” คุณกอบกุลวางอำนาจเป็นนิสัย แม้จะอยู่ในสถานที่ที่หล่อนไม่ใช่เจ้าของแต่อย่างใด นายอำเภอรีบหันไปพยักพเยิดให้วรชิตไปตามหลานชายของคุณกอบกุลมา


อึดใจเดียว วรชิตก็วิ่งกลับมา และหลังจากนั้นอีกหนึ่งนาที คนที่ถูกตามตัวก็เดินเอื่อยเฉื่อยมาถึง ก่อนจะทำตาโตเล็กน้อยที่พบว่าในห้องทำงานของนายอำเภอ มีพิทักษ์ยืนอยู่ด้วย


“อ้าว พี่ทิศ มาทำไม” พิทักษ์ไม่ตอบ แต่ส่งสายตาให้เงียบ ก่อนจะหันมาทางหญิงชรา


“ถ้าคุณกอบกุลอยากคุย ไปคุยที่สนามกอล์ฟของผมดีไหมครับ จะได้เป็นส่วนตัว”


นายอำเภอและวรชิตเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ใครอีกคนโพล่งปฏิเสธอย่างรวดเร็ว


“ไม่ไป” แถมเจ้าตัวยังยืนเต๊ะพิงกำแพงกอดอก ราวกับจะปักหลักมั่นอยู่ที่นี่


“นี่มันเวลาราชการ เกิดผมถูกคนเอาไปโพสต์ลงเน็ตจะทำยังไง เสียชื่อเสียง โดนตั้งกรรมการสอบ ขั้นไม่ขยับกันพอดี”


พิทักษ์มองเห็นปัญหาบานปลายที่มาจากความกวนประสาทของจิณณะ เขาขยับไปยืนขวางระหว่างสองย่าหลานเอาไว้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเห็นหน้ากันน่าจะดีกว่า


“ถ้าอย่างนั้นก็คุยกันที่นี่ก็ได้ครับ ที่นี่พอจะมีห้องประชุมว่างใช่ไหม” ท้ายประโยคเขาหันไปถามนายอำเภอ


“ใช้สถานที่ราชการ...” แต่เสียงจากข้างหลังเขายังดัง พิทักษ์หันไปมองแล้วส่งสายตาให้เงียบ ก่อนจะหันกลับมาที่คุณกอบกุลและนายอำเภออีกครั้ง


“ขอใช้ห้องประชุมหน่อยนะครับ”


นายอำเภอรีบพยักหน้ารัวๆ แล้วหันไปสั่งวรชิตที่ยังยืนตะลึง “ไอ้ชิต! ให้คนไปเปิดห้องประชุมที”



วรชิตกะพริบตาปริบๆอยู่หลายที ก่อนจะรีบพยักหน้างกๆแล้ววิ่งออกจากห้องไป ทว่าสติของเขายังคงติดอยู่ที่ภาพเมื่อครู่ที่เห็น


ภาพที่พิทักษ์หันมามองจิณณะ


แค่มอง...ไม่ต้องพูดอะไรแต่กลับทำให้คนอย่างจิณณะเงียบสนิทไม่มีหลุดออกมาสักแอะ


...เออเว้ย! คุณพิทักษ์ปราบไอ้จิณซะอยู่หมัดสมกับเป็นแฟนกันจริงๆด้วย!...


.............................


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2019 21:14:56 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8

ห้องประชุมของที่ว่าการนั้นมีขนาดเล็ก สภาพเก่าแต่ก็ยังได้รับการดูแลรักษาอย่างดี คุณกอบกุลไม่ได้ให้ราคาอะไรกับสถานที่ราชการในต่างจังหวัดอยู่แล้ว พอเลขานุการหาเก้าอี้ตัวที่ดีที่สุดให้หล่อนนั่ง หล่อนก็นั่งแล้วตวัดสายตาไปจ้องหลานชายและ...คนรักของหลานชาย


“เมื่อคืนไปไหนกันมา?!”


“หะ? คุณย่ามาถึงนี่เพื่อถามผมเรื่องนี้หรือครับ” จิณณะทำตาเหลือกย้อนถามแบบไม่คิดจะตอบสักนิด


“ฉันถาม!”


“จิณ...” พิทักษ์ดึงแขนคนที่ยืนอยู่ข้างกายเอาไว้ราวกับจะบอกว่าให้เป็นหน้าที่ของเขา


“เมื่อคืนผมกับจิณไปงานแต่งงานลูกชายท่านนพพร คุณลุงของผมติดธุระไปไม่ได้ พวกผมเลยไปแทน” คุณกอบกุลขมวดคิ้วฉับ


“นี่หมายความว่าคุณเทียมรู้เรื่องนี้...”


“ครับ คุณลุงทราบเรื่องของผมกับจิณแล้ว”


หญิงชราพิงพนักเก้าอี้อย่างคาดไม่ถึง หล่อนไม่คิดว่าเรื่องจิณณะกับพิทักษ์เป็นเรื่องจริง แต่หากเป็นเรื่องโกหก เพราะอะไร สองคนนี้ถึงยอมขยายวงโกหกให้กว้างออกไป แล้วสุ่มเสี่ยงกับการคุมเรื่องราวไม่ได้?


...หรือจะเป็นเรื่องจริง?...


...ไม่มีทาง! คนอย่างจิณณะน่ะหรือมีคนรัก!!...


…ยิ่งมีในเวลาที่กำลังจะถูกจับแต่งงานอย่างนี้ ดูอย่างไรก็รู้ว่าแหกตา!!!...


“หรือคุณย่าคิดว่าเราไม่กล้าบอกใครหรือครับ?” จิณณะย้อนถาม ก่อนจะหัวเราะพรืด


“...ผมแวะไปกินข้าวเที่ยงกับพี่ทิศทุกวัน ส่วนเพื่อนผมที่นี่เขาก็รู้กันหมดแล้วว่าผมกับพี่ทิศเป็นอะไรกัน เออ...ว่าแต่พี่ทิศมาที่นี่ทำไม ไหนว่ามีประชุมบ่ายไม่ใช่หรือ” ประโยคหลัง จิณณะหันมาถามคนข้างกายที่เพิ่งเจอกันเมื่อตอนเที่ยง พิทักษ์ยังคงเน้นทานข้าวเที่ยงในคลับของสนามกอล์ฟเช่นเคยเพราะต้องประชุมงานต่อ เขาก็เลยยกเรื่องที่รู้หมาดๆเมื่อตอนเที่ยงขึ้นมาอวดอ้างสรรพคุณของการเป็น ‘แฟนที่ดี’ ที่รู้ตารางงานของ ‘แฟน’ เสียเลย


“มีคนโทร.ไปตาม...” พิทักษ์ไม่อยากบอกว่าคนที่โทร.ไปตาม ระบุด้วยว่าจิณณะกำลังมีปัญหา แต่เท่าที่เห็นคือคนอื่นในนี้ต่างหากที่มีปัญหา ไม่ใช่สองย่าหลานที่กำลังจะโยนระเบิดใส่กันอยู่รอมร่อหรอก


“นั่นไง!” ปลัดอำเภอหนุ่มดีดนิ้วดังเป๊าะ แล้วหันไปยกยิ้มให้ต้นตระกูลของตนเอง


“ถ้าคนที่นี่ไม่รู้ว่าพี่ทิศกับผมเป็นอะไรกัน แล้วเขาจะโทร.ไปตามพี่ทิศมาทำไม”


คุณกอบกุลสูดลมหายใจลึก ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิดงุ่นง่านกับชายหนุ่มสองคนเบื้องหน้า


“คิดจะทำอะไรต่อไป?! จะให้คนรู้กันทั้งประเทศไหม?!”


“ก็สมควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือครับ” คำตอบยียวนอย่างนี้ มาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากจิณณะ คุณกอบกุลถลึงตาอ้าปากจะตอบโต้ แต่พิทักษ์กลับเอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ


“ผมเข้าใจดีว่าเราอยู่ในสังคมที่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสนุกปาก ผมเองก็ไม่อยากให้จิณมีปัญหา แต่เรื่องที่เราไปงานด้วยกันเมื่อวาน ผมไม่คิดว่าเสียหาย ผมไปในฐานะหลานของลุงเทียม ส่วนจิณ...ไปในฐานะคนของผม” พิทักษ์ตอบ ในขณะที่จิณณะเงียบ ไม่ใช่เงียบเพราะเจ้าตัวอยากเงียบ แต่เพราะถูกดึงแขนเอาไว้


“แต่การที่หลานฉันเป็นคนของคุณกำลังจะทำให้เขามีปัญหา!”


พิทักษ์อยากบอกเหลือเกินว่าก่อนที่จิณณะจะกลายมาเป็นคนของเขา เจ้าตัวก่อปัญหามาแล้วล่วงหน้า ถึงได้ต้องมาอาศัยพึ่งพาเขาและคุณเทียมอยู่นี่อย่างไรล่ะ


“ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้เขามีปัญหามากไปกว่านี้ครับ” ยังคงเป็นชายหนุ่มเจ้าของสนามกอล์ฟที่เอ่ยปากกับคุณกอบกุล ส่วนจิณณะผู้แสนพูดเก่งนั้นคันปากยิบๆ รู้สึกอยากพูดอยากคุยกับย่าของตนเองบ้าง แต่ติดที่มือของคนข้างกายยังจับแขนเขาไม่ปล่อย


แล้วก็ดันรู้สึกยุกยิกกับแขนข้างที่ถูกจับเสียด้วย จะบิดออกก็ถูกกุมหนักกว่าเดิม เพิ่งเห็นก็ตอนนี้ว่าผู้ชายที่ตัวไล่ๆกันอย่างเขาและพิทักษ์ แต่มือของอีกฝ่ายกลับจับแขนเขาได้แทบรอบ


มือใหญ่...เป็นใบลาน ตอนเด็กๆต้องแอบขโมยของใครแน่ๆเลย!


คุณกอบกุลมองชายหนุ่มสองคนตรงหน้า หากมีแค่หลานชายของหล่อน รับรองว่าวันนี้หล่อนคงได้ระเบิดลงกลางที่ว่าการ ตามด้วยการทำยังไงก็ได้ให้ราชการเฉดหัวจิณณะออกจากตำแหน่ง แล้วจากนั้นหล่อนจะลากเขากลับกรุงเทพฯไปอยู่ใต้โอวาทอย่างที่ควรจะเป็น


แต่...เรื่องที่อยากให้เกิดกลับไม่เป็นดังคาด เพราะพิทักษ์มาที่นี่ และทำให้หลานชายของหล่อนสงบปากสงบคำ ทำให้คุณกอบกุลเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร


ภายในห้องเหลือเพียงความเงียบ เมื่อต่างคนต่างหยั่งเชิงกัน ต่างคนที่ว่าคือคุณกอบกุลกับพิทักษ์ ส่วนจิณณะนั้นเอาแต่ขยับแขนยุกยิกเพื่อจะให้หลุดจากการถูกจับให้ได้


และเพราะความเงียบ เสียงเอะอะเอ็ดตะโรจากข้างนอกจึงดังลอดเข้ามาให้ได้ยิน ปลัดหนุ่มผู้ทำงานที่นี่มานานและรู้ดีว่าเสียงเอะอะที่ดังเข้ามาถึงภายในห้องประชุมนี้ไม่ใช่เรื่องปกติเลยต้องหันไปมองประตู


“มีอะไรหรือ” พิทักษ์หันมาถาม เพราะคนซนหยุดขยับแขนแล้ว แถมยังหันไปมองข้างหลังอีก


“ข้างนอกเสียงดัง” จิณณะหันมาตอบ เพียงเท่านั้นคนที่จับแขนเขาอยู่ก็ยอมปล่อยมือออก ข้าราชการหนุ่มหมุนตัวเดินไปเปิดประตูแล้วชะโงกหน้าออกไปดู เขาไม่เห็นใครส่งเสียงอะไรอีกแล้ว หนำซ้ำส่วนที่เป็นสำนักงานยังแทบร้างผู้คน ใครคนหนึ่งวิ่งออกมาจากโต๊ะทำงานเป็นคนสุดท้าย เขาเลยรีบเรียกเอาไว้


“มีอะไรหรือ”


“บ้านปลัดชิตไฟไหม้!”


คนฟังตาเหลือกโต


“มีคนโทร.มาบอก นี่ดับเพลิงกำลังไปแล้ว!”


แล้วคนแจ้งข่าวก็วิ่งลงจากชั้นสองไป จิณณะนิ่งงัน ใจโหวงเหวงประหลาด ไฟไหม้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่เลวร้ายที่สุดคือการวางเพลิง


...วางเพลิง!...


ถ้าบ้านพักของวรชิตถูกวางเพลิง ก็มีแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่จะทำแบบนี้


พวกที่คิดว่าวรชิตอยู่กับทองสุกในคืนนั้น!


จิณณะหันกลับมามองหญิงชรา ดวงตาของเขาไม่ได้ร่าเริง กวนประสาทเหมือนหลานชายนอกคอกคนเมื่อครู่อีกแล้ว ทว่ากลับเป็นสายตาที่จริงจังและเต็มไปด้วยความกังวล


“ย่ากลับกรุงเทพฯไปก่อน” เป็นคำพูดเรียบๆ ที่ไม่มีวี่แววชวนทะเลาะแต่อย่างใด พิทักษ์รู้สึกถึงความผิดปกติของน้ำเสียงนี้ แต่คุณกอบกุลผู้ยังคงไม่พอใจกับหลานชายกลับคิดว่าหล่อนถูกไล่


“แต่ฉันยังคุยกับแกไม่จบ!”


“ผมบอกให้กลับกรุงเทพฯไปไง!” น่าจะเป็นครั้งแรกที่จิณณะขึ้นเสียงกับหล่อน เขาหายใจถี่จนแผ่นอกขยับขึ้นลง ความกังวลประเดประดังเข้ามาไม่หยุด และสิ่งหนึ่งที่เขารู้คือจะให้คุณกอบกุลอยู่ที่นี่ไม่ได้


ไม่ปลอดภัย


อันตรายกำลังเข้ามาใกล้ตัว


“คุณเลขาฯช่วยพาคุณย่ากลับกรุงเทพฯไปที แล้วถ้าไม่มีอะไรสำคัญก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก หรือถ้ามีอะไรสำคัญก็โทร.มา เดี๋ยวผมเข้าไปหาเอง!” จิณณะสั่ง ก่อนจะหันไปทางพิทักษ์ พวกเขาสบตากันอึดใจเดียว ปลัดหนุ่มก็หมุนตัวก้าวเท้าออกจากห้องประชุมไป พิทักษ์หันมาไหว้คุณกอบกุลแล้วจึงออกจากห้องตามไปอีกคน


หญิงชราได้แต่นั่งนิ่งอยู่ในห้องด้วยความตกตะลึง


ทั้งๆที่หล่อนเป็นย่าของจิณณะมา 20 กว่าปี แต่จิณณะเมื่อครู่นี้กลับไม่ใช่หลานชายจอมยียวนที่หล่อนรู้จัก และในความตกตะลึงนั้น คุณกอบกุลกลับสะท้อนใจอย่างน่าประหลาด


สายตาอย่างนั้นของจิณณะ หล่อนไม่เคยเห็น ทว่าชั่วขณะหนึ่งที่เขามองพิทักษ์โดยปราศจากคำพูด พวกเขาสื่อสารกันด้วยสายตาและความรู้สึกที่แผ่ออกมาจากตัว


ไม่ใช่ความรู้สึกรักใคร่ชวนสะอิดสะเอียน แต่เป็นอะไรบางอย่างที่ทำเอาหญิงชราผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งความรู้สึกของหนุ่มสาว วัยกลางคน มาจนถึงบั้นปลายได้แต่เม้มปากแน่น


...ไม่...ไม่มีทาง...


สองคนนั่น...เป็นเเค่เรื่องตบตาหล่อนเท่านั้น!!!!!

..........................


เป็นแค่เหตุไฟไหม้กองใบไม้แห้งข้างบ้านพักข้าราชการของปลัดวรชิต


พวกคนในที่ว่าการพากันโล่งอกโล่งใจ ก่อนจะกลายเป็นหัวเราะกับความแตกตื่นแล้วจึงพากันกลับไปทำงาน ทว่าเจ้าของบ้านยังคงยืนนิ่งมองกองเถ้าถ่าน


“ไอ้ชิต...” จิณณะไม่ได้กลับไปพร้อมคนอื่นๆ เขารอจนกระทั่งทุกคนกลับออกไปหมดแล้ว จึงได้เดินเข้ามาหยุดยืนข้างเพื่อนร่วมอาชีพ


วรชิตยังมองกองเศษใบไม้อยู่อย่างนั้น


“กูไม่ได้กวาดใบไม้มากองแบบนี้...” เป็นคำพูดแสนแผ่วแต่ทำให้คนฟังหัวใจแกว่งหนักกว่าเดิม


“หมายความว่าไง”


“กูไม่รู้ว่ากองนี่มาจากไหน”


“อาจจะเป็นชาวบ้าน หรือว่า...คนอื่น มึงจ้างใครมาดูแลบ้านให้ไหมละ”


“ไม่มี...”


จิณณะอับจนคำพูดขึ้นมาทันที เขาเหลือบมองพิทักษ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่พอเห็นวรชิตทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เขาก็รีบนั่งลงข้างเพื่อน


“พวกมันมายุ่งกับกูทำไมวะ...” เจ้าของบ้านครวญ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น


จะว่าวรชิตเป็นปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันสร้างชื่อเสียงกระฉ่อนมีเรื่องกับชาวบ้านหรือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นก็ไม่ใช่ เรื่องบางเรื่อง ไหลตามน้ำได้ก็ไหล แต่บางเรื่องต้องแข็งขันและยืนหยันในจุดยืนและหน้าที่ความรับผิดชอบเขาก็ทำ อาจมีขัดแข้งขัดขาใครบ้างแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นต้องขู่อาฆาตกันอย่างนี้


“มึง...ลางานสักพักไหม กลับกรุงเทพฯไปก่อน หรือไม่ก็ไปเมืองนอก...” จิณณะแนะนำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เห็นสภาพเพื่อนร่วมงานที่รู้จักกันดีมาหลายปีก็ยิ่งหดหู่ ที่แย่ยิ่งกว่าคือเขาคิดว่าคนที่คิดร้ายกับวรชิตกำลังลงมือผิดคน


มันสมควรจะเป็นเขา


ไม่ใช่วรชิตเพื่อนของเขา!


“แต่ถ้าพวกมันจะฆ่ากู อยู่ที่ไหนกูก็ไม่รอด...” วรชิตเครียดเกินกว่าจะใส่ใจว่าพิทักษ์ซึ่งไม่สนิทสนมกับเขายังยืนอยู่ด้วย เวลานี้ความกลัวตายทำให้สภาพจิตใจอ่อนแอจนแม้แต่นั่งยังโอนเอน


“ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ที่นี่ ทำตัวเป็นปกติ แล้วผมจะขอให้คุณลุงช่วยส่งคนมาคอยดูแลอีกที” พิทักษ์เอ่ยปาก ทั้งจิณณะและวรชิตหันมอง แม้จะรู้ดีว่าลุงของคนเสนอเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ในจังหวัด และวรชิตเองก็เป็นข้าราชการ แต่เวลานี้ความกลัวตายทำให้คนกำลังถูกปองร้ายยอมรับความช่วยเหลืออย่างไม่มีทางเลี่ยง


“ขอบคุณครับ”


“กลับที่ว่าการกันก่อนเถอะ ตรงนี้เดี๋ยวให้คนมาทำความสะอาด”


ยิ่งมองเห็นเถ้าถ่านของกองใบไม้แห้งที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่ามาจากไหน วรชิตก็จะยิ่งเครียด จิณณะดึงเพื่อนออกจากที่เกิดเหตุ พาไปที่รถของพิทักษ์ที่ขับพาเขามา ก่อนจะหันไปทางเจ้าของรถ พวกเขาสบตากัน แล้วเป็นฝ่ายจิณณะที่เบือนสายตาหนี เอ่ยปากโดยไม่ยอมมองหน้า


“พี่ทิศพาพวกผมไปส่งที่ที่ว่าการหน่อยนะ”


เป็นประโยคที่ไม่มีความหมายอะไรเลย และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอก แต่จิณณะกลับพูดขึ้นมา เวลานี้ไม่ใช่เวลายียวนกวนโมโห ไม่ใช่เวลาหาเรื่องชวนทะเลาะ เพราะฉะนั้นเลยคิดได้อย่างเดียวว่าเจ้าตัวพูดเพื่อเลี่ยงประเด็นและกลบพิรุธ


และพิรุธที่ว่าคือเรื่องที่จิณณะคิดจะทำ


พิทักษ์มองร่างสูงโปร่งของปลัดหนุ่มที่เปิดประตูขึ้นนั่งในรถของเขา


จิณณะต้องคิดจะทำอะไรสักอย่างแน่ๆ และสังหรณ์บอกเขาว่ารายนี้ไม่เคยทำเรื่องเล็กๆเสียด้วย!!

..........................

รถหรูของเจ้าของสนามกอล์ฟขับมาจอดที่ที่ว่าการเพื่อส่งปลัดอำเภอ 2 คน จากนั้นก็ขับออกไป พวกเขากลับขึ้นสำนักงาน แยกย้ายกันนั่งโต๊ะของตนเอง


จนกระทั่งเลิกงาน จิณณะก็ออกจากที่ว่าการขึ้นรถยนต์ส่วนตัวขับตรงดิ่งไปยังอีกอำเภอหนึ่ง


เพราะไม่เคยมาจึงต้องแวะถามชาวบ้านมาตลอดทาง แน่นอนว่าหน้าตาอย่างหนุ่มกรุงเทพฯไม่เป็นที่รู้จักของคนแถวนั้น แต่เพราะหมู่นี้เจ้าตัวสวมเสื้อโปโลที่สกรีนด้านหลังเป็นชื่อที่ว่าการอำเภอ พอลงจากรถแต่ละที พวกชาวบ้านจึงรู้กันหมดว่าเขาเป็นคนในราชการ ความร่วมมือในการบอกทางจึงมาในระดับที่น่าพอใจมาก


จุดหมายปลายทางของเขาคือบ้านของมารดาของภรรยาม่ายของทองสุก นับตั้งแต่ทองสุกตาย บ้านที่ถูกยิงถล่มก็ถูกปล่อยเอาไว้อย่างนั้น ส่วนภรรยาย้ายกลับมาอยู่กับมารดา


“ปลัด...” จิณณะลงจากรถ ยังไม่ทันมองหา เสียงทักก็ดังมาจากข้างหลัง


ชมพู่ภรรยาของทองสุกลงจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วยกมือไหว้เขา หล่อนยังอยู่ในชุดสีเข้ม หน้าตาแม้ไม่ซีดเซียวเท่าวันแรกๆที่เกิดเรื่อง แต่ก็ยังนับว่าไม่ได้ดีมากเท่าไร


“มาหาฉันหรือจ๊ะ” หล่อนถามหน้าตาสงสัย ปลัดหนุ่มจากต่างอำเภอยกยิ้มเล็กน้อย แล้วชูถุงกับข้าวในมือให้ดู เขาแวะซื้ออาหารอีสานหลายอย่างจากร้านอร่อยใกล้ที่ว่าการเพื่อมาเป็นใบเบิกทางบ้านหลังนี้


“แวะมาเยี่ยม เลยซื้อกับข้าวมาฝากด้วย”


เดิมทีก็สนิทสนมกับสองสามีภรรยาพอสมควร เพราะปลัดหนุ่มโสดอย่างจิณณะเคยถูกชวนไปทานข้าวที่บ้านเกิดเหตุหลายครั้งนับตั้งแต่ย้ายมาประจำที่จังหวัดนี้ การจะมาขอร่วมมื้อเย็นอีกสักมื้อในวันนี้ จึงไม่ประดักประเดิดนัก แต่...ก็ควรมีของติดไม้ติดมือมาด้วย


“ขอบใจจ๊ะ ปลัดเข้ามาในบ้านสิ เจอแม่ฉันรึยัง” หญิงชาวบ้านร่างอวบยิ้มจาง รับถุงอาหารมาเปิดดูก็พบว่ามีอาหารหลายอย่าง หล่อนไม่ตะขิดตะขวงใจเพราะอย่างไรเสียก็คิดจะชวนเขาทานข้าวด้วยอยู่แล้ว


ข้าราชการหนุ่มเดินตามหญิงม่ายเข้าบ้านอย่างไม่เกี่ยงงอน เสียงทักทายของเขาที่มีต่อมารดาของชมพู่นั้นดังลอดออกมาจากประตูบ้าน และเขาหวัง...


...หวังว่าการมาอย่างเอิกกะเหริก และการจอดรถถามทางแทบจะทุกๆกิโลเมตร จะทำให้การมาของเขา ดังไปถึงหูคนที่เขาอยากให้ได้ยิน และระแคะระคายว่าสิ่งที่กำลังทำนั้น ลงมือผิดคน!...


คนที่อยู่กับทองสุกในคืนเกิดเหตุ ไม่ใช่วรชิต


แต่เป็นเขาต่างหาก!

ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)

แก้ปัญหาด้วยการก่อปัญหาใหม่ค่ะ ฮ่าฮ่า จริงๆแล้ว การแก้ปัญหาในหลายๆเรื่อง โดยไม่สร้างปัญหาใหม่เป็นอะไรที่ยากมากๆเลยนะคะ เมื่อเราทำอะไรสักอย่าง ก็มักจะส่งผลไปถึงเรื่องอื่นๆด้วยอยู่เสมอ แต่ปลัดโชคดี คิดจะก่อปัญหาใหม่เมื่อไร ก็มีคนอ่านเกมออกตลอดเลย ฮ่าฮ่า 


ตอนนี้มีเอ็กตร้ามาแต่ชื่อ จ่ายสักสองร้อยแล้วกันนะ มาสามชื่อก็ฟาดไปหกร้อยละ ฮ่าฮ่า (อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าบัวเป็นพวกใช้ตัวละครคุ้ม เพราะฉะนั้นก็อาจเห็นชื่อเอ็กตร้ามาเรื่อยๆนะคะ)


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดค่ะ


เจอกันใหม่พฤหัสหน้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2019 19:21:44 โดย Dezair »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หอมหัวลูกเอ้ยยยยย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ อยากปลุกทองสุกมาถามว่าไปเหยียบเท้าใครเข้า เดือดร้อนกันไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
โมเมนต์แค่มองตากันก็รู้ใจนี่ฟินมาก55

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
คุณกอบกุลน่าจะเริ่มเชื่อแล้วแหละถึงแม้จะไม่อยากเชื่อก็ตาม พี่ทิศเป็นคนที่พึ่งพาได้ รัก :mew1:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
คนพี่ก็ทำทุกวิถีทาง แต่คนน้ิงเล่นไม่ฟังเลย
ซ่าเหลือเกินนนนน

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
พี่ทิศจะปวดหัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ 555

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
สนุกค่ะ

ความจิณณะคือ ความดื้อไม่ยอม เร็ว แมนพอ แต่น่ารัก ไม่นานๆ
ความพี่ทิศคือ เท่ห์และปกป้อง ลึกๆ คงพอใจจิณมานานแล้ว ถามใจตัวเองดีๆ
ความคุณย่ากับความลุงเทียนนี่ น่าจะเรื่องฝีปากเป็นหลัก

ยังมีอะไรให้ติดตามอีกเยอะ

รอสัปดาห์หน้านะคะ นานจัง :(


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ borntobeyours

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ทิศนี่อ่านจิณออกทุกอย่างเลยอะ ผู้ชายแบบนี้หาได้ที่ไหน!

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ขยันเพิ่มปัญหาจริง ๆ เลย
ว่าแต่ครอบครัววิมลกิตตินี่มากับเขาด้วยเหรอ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ตายแล้ววววววว คุณปลัดเปิดประตูกวักมือเรียกแขกแล้วววว  :ling3:

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
เชื่อว่าพี่ทิศ.. หลานคุณเทียม ปกป้องคนของเขาได้แน่ :a2:
 ..ว่าแต่ ลูก-หลาน บ้านวิมลกิตติ  มีคนจอง + มีคนของเขา  แล้วนะคะ ท่านเสรี  o18 :katai3:
 
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นทุกหยาดหยด

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
นังปลัดด นังตัวดีย์ ขยันเรียกแขก ขยันหาเรื่อง ซนจนอยากเพิ่มขิกหลังชื่อตำแหน่งมัน
คุณพี่ทิศขนาดบอกจำใจช่วยไปงั้นๆนะ ถ้าคุณเขาช่วยเพราะรักจะขนาดไหนอะ
คุณเทียมจะให้ปลัดจ่ายค่าเสียหายหลานชายเป็นอะไรถึงจะคุ้มละงานนี้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอยยยย ลุ้นมาก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เป็นห่วงคุณปลัด  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด