เพื่อนวัยเด็ก #เขื่อนคนสวย {แนวเมะหน้าสวย} | E-Book มาแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนวัยเด็ก #เขื่อนคนสวย {แนวเมะหน้าสวย} | E-Book มาแล้วจ้า  (อ่าน 95980 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เอ้า....อ้อยเข้าไป. อ้อยแรงจริงๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อ่อยเก่งจริงนะเขื่อน

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เขื่อนสุดยอด อ่อยแรงมาก  :laugh:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
โอเพ่นขนาดนี้ วางกับดักรัวๆ

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หายไปนานนนน มาต่อทีทิ้งไว้ให้อยากอ่านต่ออีกกกก

รอติดตามความเจ้าเล่ห์ของนังเขื่อนนะค้าาาา

 :hao6:

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องไผ่ หนูจะโดนงาบแล้วลูก

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เขื่อนอ่อยเข้าไปเดี๋ยวก็ได้กิน :hao6:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ่อยอีกน้องเขื่อนรูกก เอาให้สุดดดด  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
น้องเขื่อนจะดูแลเอง น่ารักจังรออ่านต่อค้าบ

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 12




ริมเขื่อนมองหน้าผมอย่างจริงจัง ทั้งยังใช้มือมาเนียนลูบศีรษะผมอีก แต่ก็ได้แค่แปบเดียวเท่านั้นเพราะผมขยับหัวหนีก่อนจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาให้

“ไปต่อยมวยไป จะได้กลับไปนอนสักที” ผมบอกแล้วขยับตัวหนีออกมา โซฟาไม่ไกลจากสนามมวยคือจุดหมายปลายทางที่เล็งเอาไว้ แอบได้ยินริมเขื่อนหัวเราะร่าตามมาแต่ผมไม่ยอมหันกลับไปมอง

ไม่มีทางที่ผมจะให้เขื่อนมันเห็นหน้าของผมตอนนี้

คงเพราะออกแรงวิ่งบนลู่มานาน หัวใจเลยทำงานดีไม่น้อย เลือดที่สูบฉีดไปตามร่างกายเลยวิ่งมากองไวบนหน้าผมจนหมด แม้แอร์ในฟิตเนสจะแรงแต่ผิวแก้มของผมกลับร้อนผ่าว

‘กูจะดูแลมึงเอง กูสัญญา’

เกลียดว่ะ ไอ้ความรู้สึกหัวใจพองโตแบบนี้เนี่ย

ผมทรุดตัวนั่งบนโซฟาตัวไม่ใหญ่นัก เอนหลังพิงพนักและปล่อยสายตาให้มองเหม่อไปยังเพดาน เสียงตุบตับของนวมกระทบเป้ากับเสียงพูดคุยจอกแจกดังแว่วมาจางๆ ผมที่ยังไม่ได้ถอดหูฟังเลือกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลงในแอพลิเคชั่นฟังระหว่างรอ เพลย์ลิสต์เดิมๆ ที่ฟังจนเบื่อถูกจับมาวนเล่นซ้ำไปเรื่อย

ผมเลื่อนสายตาลงมาที่ริมเขื่อน ผู้ชายร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามบางที่เปียกเหงื่อจนแนบไปตามลำตัว สวมนวมบนมือเรียบร้อย ฝั่งตรงข้ามคือเทรนเนอร์ที่มีเป้าล่ออยู่บนมือทั้งสองข้าง ร่างกายริมเขื่อนดูดีแม้กระทั่งตอนเหงื่อโทรมกาย ทุกครั้งยามที่ออกแรงเหวี่ยงแขนและขา ผมเห็นสายตาทุกคู่ที่มองไปยังริมเขื่อนล้วนพราวระยับอย่างชอบอกชอบใจ

มัดกล้ามขึ้นชัดเมื่อเจ้าของมันเกร็งร่างกายเพื่อออกแรงซัดหมัด ยิ่งยามที่เม็ดเหงื่อไหลผ่าน ใบหน้าสวยแดงก่ำจากการใช้แรง เส้นผมหลุดลุ่ยในทุกการขยับเขยื้อนกาย ราวกับนางอัปสรกำลังร่ายรำด้วยท่วงท่าดุดัน ผมมองริมเขื่อนไม่ละสายตา คว้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอบถ่ายรูปคนตรงหน้าเก็บไว้นับสิบรูป

เสียดายที่ไม่ได้พกกล้องมาด้วย

ผมนั่งเล่นนอนเล่นรอสักพัก นานเป็นชั่วโมงได้กว่าริมเขื่อนจะเสร็จสิ้นธุระกับนวมในมือ ร่างสูงโปร่งในสภาพเปียกทั้งตัวเดินมาหาด้วยรอยยิ้ม มือขวากระพือคอเสื้ออย่างแรงจนมันเลิกขึ้นโชว์อะไรต่อมิอะไรหมดสิ้น

“เพราะแบบนี้ไง ล่อเสือล่อตะเข้” ผมบอกพลางเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อเขื่อนไว้ไม่ให้สะบัดโชว์ลอนหน้าท้องอีก คนตัวสูงยิ้มเผล่อย่างอารมณ์ดี เมื่อผมลุกขึ้นยืนก็เอื้อมมือมาโอบไหล่กันไว้ แย่งกระเป๋าสะพายข้างไปถือก่อนจะลากกันกลับขึ้นห้องพักตามเดิม
ริมเขื่อนมาส่งผมที่ห้องก่อน จากนั้นก็แยกย้ายกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตัวเอง ผมขัดขี้ไคลสระผมอยู่นานก่อนจะออกมานอนแผ่ทั้งๆ ที่ทั้งหัวยังเปียกซก

ขี้เกียจเป่าผมมากเลยครับ เฮ้อ

“ไผ่... ทำไมไม่เป่าผม” คนที่คิดว่าคงไม่เจหน้าแล้วในวันนี้กลับชะโงกหัวเข้ามาในห้องนอนอย่างง่ายดาย ตั้งแต่มันหลุดปากว่ามีกุญแจห้องผมไว้ในมือ ริมเขื่อนก็ไม่เคยเคาะประตูห้องอีกเลย

“นอนด้วยอีกแล้วเหรอ” ผมหาวหวอดขณะถาม

“ใช่” คนตัวสูงเดินเข้ามา กระชากแขนผมให้ลุกขึ้นนั่งก่อนหยิบผ้าขนหนูบนบ่ามาขยี้เส้นผมของผมให้อย่างแผ่วเบา ผมที่ตาจะปิดนั่งคอพับปล่อยให้อีกคนทำอะไรตามใจ

ริมเขื่อนซับน้ำออกจากผมของผมจนหมาด ลุกขึ้นขยับพัดลมหันมาจ่อตัวให้ก่อนบังคับให้ผมนั่งรอจนกว่าผมจะแห้ง เพราะด้วยความที่ผมยังไม่ได้รื้อของใช้ออกจากกล่อง พวกไดร์เป่าผมจึงยังอยู่สักที่ในลังพวกนั้น

“มึงจะย้ายของมาวันไหน” อยู่ๆ ริมเขื่อนก็โพล่งถามขึ้นมา ผมเงยหน้าจากการก้มให้ลมเป่าตรงหลังศีรษะ หันไปมองผู้ชายที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงเดียวกันพร้อมกับเลิกคิ้วถาม “เอ้า เดี๋ยวคุณโจเซฟเขาก็จะมาดูห้องทำสัญญาแล้วป่ะ เห็นเขาบอกว่าอาจย้ายเข้ามาเลยด้วยถ้าทางเราพร้อม”

“เออว่ะ” ผมขึ้นเสียงสูงเมื่อนึกขึ้นได้

คุณโจเซฟคือชาวต่างชาติที่จะมาเช่าห้องของผมอยู่ ด้วยราคาเกินครึ่งแสนที่ผมยังไม่เชื่อหูตัวเองเลยจนตอนนี้ว่าทำไมค่าเช่าแพงจัง แต่ถ้าพูดถึงทำเล ความหรูหราและกว้างขวางของคอนโดนี้ เขื่อนก็บอกว่าสมราคา เพราะต่างชาติเค้าไม่คิดเรื่องถูกแพงกว่าผ่อนเองหรอก เขาแค่จะมาอยู่ชั่วคราว ผมเลยพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ

“ยังไม่ได้จัดห้องเลย” ผมบ่นอย่างขี้เกียจ

“พรุ่งนี้กูหยุด เดี๋ยวมาช่วย”

“ใจดีจังวะช่วงนี้” ผมหยอกพลางทิ้งตัวลงนอน ถึงเส้นผมจะยังไม่แห้งแต่ผมขี้เกียจนั่งตากลมต่อแล้ว เปิดทั้งแอร์ทั้งพัดลม หนาวจะตายชัก ผมบ่นในใจขณะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มที่แย่งจากริมเขื่อนมาใช้คนเดียว

เขื่อนกดโทรศัพท์เล่นสักพักก่อนวางลงแล้วหันมามองหน้าผมยิ้มๆ

“ทำดีหวังผลต่างหาก”

“จะกินอะไร เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ผมตบอกอย่างป๋ามากๆ แต่กลับถูกลากเข้าไปไว้ในอ้อมแขน ริมเขื่อนทั้งพาดมือพาดขามากกผมไว้ แทบจะม้วนผ้าห่มกับตัวผมจนกลายเป็นซูชิโรลอยู่แล้วเนี่ย

“กินมึง”

“...”

กวนตีน!

ผมตวัดหางตาไปมองไอ้ตัวร้าย ตอนแรกว่าจะไม่ดิ้นแล้วนะเพราะไม่มีแรง แต่พอริมเขื่อนพูดมาแบบนี้ผมก็ออกแรงสะบัดร่างกายให้หลุดพ้นจากการถูกตัวหนักๆ ของเพื่อนทับมาเกือบครึ่ง

“มึงปล่อย!” ผมตะโกนอัดหูคนที่ทำเป็นหลับตาพริ้ม

“ดิ้นให้หลุดดิ”

“พ่อมึง”

“เออ พ่อกูอยากคุยกับมึงอยู่เหมือนกัน”

แม่ง แม่งๆๆๆ!

ผมทำปากมุบมิบก่อนจะฉีกฟันงับลงไปบนต้นแขนแน่นไปด้วยมัดกล้ามอย่างหมั่นไส้ ริมเขื่อนร้องโอดโอ๊ย ขยับตัวหนีไปสุดฝั่งเตียงทันที

ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาคลอเบ้า หันมามองกันอย่างตัดพ้อ ทั้งยังกดมุมปากลงจนโค้งอย่างแง่งอน ผมรับประกันได้ว่าภาพที่กำลังมองอยู่ตรงหน้าคือแฟนสาวในอุดมคติอย่างแท้จริง

เห็นแล้วก็อยากจับมาโอ๋แนบอก แต่ต้องห้ามใจเอาไว้เพราะเนื้อแท้กระต่ายตรงหน้ามันไม่ใช่น้องเขื่อนที่น่ารักอีกแล้ว!

“มึงกลับไปนอนห้องมึงเลย ขี้เกียจเห็นหน้า”

“ไผผผผผ่ เอาจริงเหรอ” เสียงออดอ้อนพร้อมร่างสูงที่คลานเข้ามาหาอย่างช้าๆ เส้นผมยาวสลวยปล่อยทิ้งละผิวแก้มและหัวไหล่กว้าง ไม่เท่าการที่ชุดนอนคอกว้างถูกแรงโน้มถ่วงรั้งลงมาจนเห็นไปถึงขอบกางเกงนอน

ผมเผลอมองหัวนมสีอ่อนนั่นอีกจนได้!

“มองอะไร...”

แล้วไอ้เจ้าของนมมันดันรู้ไง

กลบเกลื่อนแทบไม่ทัน ผมรีบเบือนสายตาหนี ซ่อนหูแดงๆ กับอาการร้อนผ่าวทั่วร่างไว้อย่างแนบเนียน โชว์ดีที่อะไรๆ ไม่ได้ตั้งโด่ขึ้นมาเสียก่อน ไม่อย่างนั้นผมจะไปตัดมันทิ้งจริงๆ ด้วย

ตั้งกับใครไม่ตั้ง มาตั้งกับเพื่อนสมัยเด็กที่มองเห็นเป็นน้องนุ่งมาตลอดเนี่ย เฮงซวย!

“มึง ไม่ให้กูนอนด้วยเหรอ กูเหงานะ”

อาจจะมีอีกอย่างที่เหมือนกันมาแต่เล็กจนโต

น้องเขื่อนขี้อ้อนยังไง ริมเขื่อนก็ขี้อ้อนแบบนั้น

ตอนเด็กๆ เด็กชายเขื่อนมักจะอยากกินขนมเป็นประจำ แล้วไม่รู้ว่าเอาแนวคิดที่ว่าต้องขอผมก่อนซื้อของมาจากไหน ถึงได้ชอบวิ่งโร่มาหาแล้วถูไถหัวออเซาะขอซื้อขนมกินก่อนกลับบ้าน ดวงตากลมโตเต็มไปความใสซื่อน่าเอ็นดู ตัวเล็กๆ กับผมเปียสองข้างขับให้คนตรงหน้ายิ่งน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงเสียอีก

ผมมักแพ้สายตาแมวน้อยเสมอ

แต่กับริมเขื่อนตอนโต การอ้อนมันออกจะแตกต่างนิดนึง แม้จะสกินชิพแตะมือไถหัวไม่ต่างกันนัก แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้ฝ่ามือทั้งนุ่มทั้งร้อนนั้นถึงลูบไล้ไปทั่วหน้าอกผมขนาดนี้

“นะมึง อยากนอนด้วย”

อาการช้อนตามองทั้งที่หัวซบอยู่บนไหล่ผมยังไม่เท่ามือนิ่มที่วางทาบบนอกข้างซ้าย ปลายนิ้วนั้นตอนแรกก็แค่นวดเฟ้นร่างกาย สักพักเริ่มยุ่มย่ามเกินกว่าเหตุ เพราะอีกฝ่ายใช้เล็บสะกิดยอดอกผมเล่นเป็นพักๆ

ไอ้ภาพเมื่อเช้าที่เขื่อนเล่นนมตัวเองก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิดทันที

ชิบหายเอ้ย!

ป้าบ!

“โอ๊ย”

ผมเตะก้นริมเขื่อนไปทีนึงก่อนจะพาตัวเองเขยิบมาไกลสุดขอบ รั้งผ้าห่มมาคลุมตัวเองจนเห็นเพียงแค่ตา ริมเขื่อนลูบบั้นท้ายตัวเองเบาๆ พลางทำหน้าเหยเกใส่

“เจ็บ”

“สมน้ำหน้า”

“เล่นแรงจังวะไผ่ ก้นกูเป็นรอยจะทำไง”

“มึงใช้ก้นถ่ายแบบรึไง”

“ใช้สิ เผื่อมึงอยากถ่ายภาพนู้ด กูจะได้ใส่จีสตริงตัวเดียวให้มึงถ่ายไง”

ทุเรศชิบหายเลยโว้ย!









ผมย้ายของมาแล้วครับ ย้ายตั้งแต่สิบโมงเช้า จนหกโมงเย็นแล้วถึงค่อยจัดการอะไรต่อมิอะไรเสร็จ ด้วยความที่ค่าเช่าห้องแพงผมเลยยกพกเฟอร์นิเจอร์มาจัดทำความสะอาดให้อย่างเรียบร้อย ที่ยกมาไว้ห้องริมเขื่อนก็มีแค่ของใช้ส่วนตัวเท่านั้น

ตอนแรกจะขนที่นอนหมอนมุ้งไปด้วย แต่พอเข้ามาดูจริงๆ คือริมเขื่อนมีพร้อมทุกอย่างเลย แม้กระทั่งแปรงสีฟันอันใหม่ก็ยังมี คือจริงๆ ผมมาแค่ตัวพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวยังได้เลยครับ

แต่อย่างหนึ่งที่ออกจะย่ำแย่หน่อยเพราะริมเขื่อนเป็นคนเสื้อผ้าเยอะมาก ขนาดผมเอามานิดหน่อยยังไม่มีที่ให้ผมเก็บเลย ทำได้แค่พักเป็นทบเล็กๆ แล้วยัดไว้มุมหนึ่งของตู้ โดยมีคนตัวสูงย้ำอยู่เสมอว่าใช้เสื้อผ้าด้วยกันก็ได้ จะใช้กางเกงในด้วยเลยก็ได้นะ ผมเลยเตะป้าบเข้าให้อีกครั้งนึง

น้องเขื่อนโตมาเป็นคนแบบนี้ ผมชักอยากเห็นหน้าผองเพื่อนที่หลอมมันมาจริงๆ

“หิวอ่ะ” ผมบ่นเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่เพราะอยู่ห้องโล่งๆ ของตัวเองมานาน ตอนแรกก็กะจะนอนห้องตัวเองไปก่อน แต่ยังไงก็ขนของออกมาขนาดนี้แล้ว วันมะรืนคุณโจเซฟก็จะเข้ามาแล้ว ห้องจะได้เรียบร้อยไม่ต้องทำความสะอาดใหม่อีก

“กินอะไรดี ในห้างไหม” เขื่อนเงยหน้าขึ้นมาจากไอแพดและเสนอความเห็น

ผมพยักหน้า อย่างไรคอนโดนี้ก็ติดรถไฟฟ้า เพราะฉะนั้นการไปห้างคงง่ายกว่า ริมเขื่อนก็เป็นถึงนายแบบชื่อดัง ออกไปข้างนอกทีก็โดนทักโดนแอบถ่ายรูปจนอดสงสารไม่ได้

อย่างน้อยไปห้างตอนสองทุ่มกว่าๆ แบบนี้คนคงไม่เยอะเท่าไหร่

ผมที่อยู่ในชุดเตรียมนอนเลยต้องเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าอันเนืองแน่นเพื่อหาอะไรที่ดีกว่านี้มาใส่ ทว่ากว่าจะค้นเสื้อผ้าตัวเองได้ก็ยากลำบากไม่น้อยเลย ด้วยความที่ริมเขื่อนของเยอะ ผมจึงทุลักทุเลมากในการมุดหัวหาเสื้อผ้าตัวเองที่โดนฝังหลบอยู่ในซอกหลืบ

“เอาชุดกูไปใส่ก็ได้” ร่างสูงเดินมาขนาบข้างก่อนรื้อๆ หาเสื้อยืดกางเกงผ้าขายาวมาให้สวม ผมยอมรับมันมาอย่างไม่อิดออด เพราะหิวจะตายอยู่แล้ว

กว่าจะเปลี่ยนชุดและเดินทางมาถึงห้างที่ใกล้ที่สุดก็ปาไปเกือบชั่วโมง ห้างปิดสี่ทุ่ม และขณะนี้สามทุ่มเศษแล้วคนภายในตึกใหญ่แห่งนี้จึงบางตาลงมาก

ผมกับเขื่อนเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใกล้ที่สุด สั่งอาหารด้วยความหิวโหยก่อนจะปล่อยช่วงเวลาระหว่างรอข้าวผ่านไปด้วยการหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น

“อ๊ะ ริมเขื่อน?”

ท่ามกลางความเงียบบนโต๊ะอาหาร อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงที่ไหนไม่รู้เอ่ยทักเรียกคนที่มาด้วยกันกับผม ร่างกายเงยหน้ามองอย่างอัตโนมัติแม้คนๆ นั้นจะไม่ได้เรียกผมด้วยซ้ำ

เจ้าของเสียงหวานใสคือผู้หญิงสูงชะรูดในชุดกางเกงสกินนี่รัดรูปกับเสื้อเปิดไหล่สีกุหลาบหม่น รูปร่างของเธอดีมากเพราะหน้าท้องที่เผยแก่สายตานั้นมีลอนเล็กๆ สวยงาม ขาก็ทั้งยาวทั้งเร็ว ส่วนใบหน้าเห็นได้ไม่ชัดนัดเพราะมีแว่นกันแดดทรงกลมอันโตปิดอยู่ เห็นเพียงสันจมูกทรงสวยกับริมฝีปากเป็นกระจับแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูนู้ด

“ไม่เจอตั้งนาน” ผู้หญิงคนนั้นขยับเข้ามาหาริมเขื่อนด้วยรอยยิ้ม

คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมก็ยิ้มทักทายกลับ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้มีเหงื่อเม็ดโตไหลซึมจากหน้าผากไม่แคบไม่กว้างของเขาเสียหลายเม็ด

“เชอร์รี่ มาทานข้าวเหรอครับ”

“ค่ะ มากับเพื่อน” เธอชี้นิ้วที่แต่งเล็บมาอย่างดีไปยังกลุ่มเพื่อนสาวที่หน้าร้าน “แล้วนี่ริมเขื่อนมากับ...”

“เพื่อนครับ ชื่อไผ่” ผมออกปากแนะนำตัวเองเมื่อใบหน้าใต้แว่นสีชาหันมามอง เธอยิ้มรับคำทักทายของผม ก่อนจะเบนความสนใจกลับไปหาริมเขื่อนที่นั่งเขย่าขาด้วยท่าทีแปลกประหลาด

ผมขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัยว่าเขื่อนเป็นอะไของมัน

“ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายงานคู่กับเขื่อนเลย” เสียงหวานติดจะอ้อนน้อยๆ ในน้ำเสียง เธอลงทุนนั่งลงข้างๆ เพื่อนของผม ก่อนจะเท้าแขนไว้กับโต๊ะและหันหน้าเข้าหาริมเขื่อน

ตัดผมออกจากวงสนทนาโดยสมบูรณ์

แต่ไม่เป็นไรครับ ผมขี้เสือก ผมสามารถเงี่ยหูฟังทั้งๆ ที่เล่นโทรศัพท์ได้ ผมไม่ได้ต้องการร่วมวงพูดคุย ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมผู้หญิงที่ชื่อเชอร์รี่คนนี้ถึงทำให้ริมเขื่อนแสดงอาการกระวนกระวายออกมา

“ผมไม่ได้รับงานเยอะเหมือนเดิมแล้วน่ะครับ”

“เอ๋ น่าเสียดายจังค่ะ มีตั้งหลายแบรนด์ติดต่อเชอร์รี่มา บอกว่าอยากให้ถ่ายคู่กับเขื่อน แต่เชอร์รี่ก็ติดต่อเขื่อนไม่ได้ เลยต้องถ่ายคู่กับคนอื่น”

ฟังๆ ดูแล้วผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนในวงการ

และคงหวังเคลมไอ้เขื่อนไม่น้อยเลย

นี่ฮอตกับผู้ชายไม่พอ ยังฮอตกับผู้หญิงด้วยสินะ

ผมรวบรวมข้อมูลคนที่หวังเคลมริมเขื่อนไว้ในใจ ออสตินล่ะหนึ่งที่จะติดแบล็กลิสต์ผม ต้องรอดูว่าเชอร์รี่จะแสดงออกคุกคามมากแค่ไหน แต่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงคงได้แค่ยั่วแค่อ่อยเท่านั้นแหละมั้ง

“นั่งนานแบบนี้ เพื่อนไม่รอแย่เหรอครับ” เขื่อนถามอย่างสุภาพ แต่ก็ดูออกว่าคงอยากให้เชอร์รี่ออกไปสักที

“ไม่เป็นไรค่ะ รอกันได้”

“อ่ะ ครับ”

ริมเขื่อนเงียบไปแล้ว ราวกับไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี

“จริงสิ ถ้าช่วงนี้เขื่อนไม่ค่อยได้รับงานเยอะๆ แล้ว คงว่างใช่ไหมคะ” เธอเด้งตัวตั้งตรงราวนึกเรื่องดีๆ ขึ้นได้ “ถ้าอย่างนั้นเราไปเที่ยวด้วยกันไหมคะ”

“ผมยังไม่...”

“ไม่ปฏิเสธเชอร์รี่น้า”

“คือ...”

“เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันสักพักแล้วนะคะ” เธอบอกพลางค่อยๆ ถอดแว่นกันแดดลงจากใบหน้า นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นองค์ประกอบหูตาจมูกปากของเธอได้ครบถ้วน เชอร์รี่เป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ แม้ไม่สวยมากทว่าหน้าตามีเอกลักษณ์ มองแล้วจำได้ขึ้นใจ มองแล้วก็อยากมองอีก โดยเฉพาะยามที่อีกฝ่ายฉีกยิ้มกรีดกรายยั่วยวนอย่างคนมีจริตจะก้าน

“หรือถ้าเขื่อนไม่อยากไปข้างนอก ไปเที่ยวห้องเชอร์รี่ก็ได้นะ”

โว้ๆๆ รุกไม่เบา

ผมที่ไถทวิตเตอร์เล่นกำลังมือสั่น บอกไม่ถูกว่าจะลุ้นหรือจะโกรธดี ไฟหวงในใจกระพือหนัก แต่ความอยากรู้ว่าริเขื่อนจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้กดให้ผมนั่งตีหน้านิ่งอยู่เงียบๆ ตามเดิม

“เชอร์รี่คือผม...”

“เชอร์รี่จะรอนะคะ ห้องเดิมเพิ่มเติมคือมีไวน์ที่เขื่อนชอบแล้วด้วยน้า”

ผมเงียบเมื่อความคิดในหัวเชื่อมต่อเหตุการณ์กับคำพูดต่างๆ จนวุ่น

ห้องเดิม... ไวน์ที่เขื่อนชอบ...

“ไปแล้วนะคะ แล้วเจอกันค่ะ”

จุ๊บ

ลิปสติกนู้ดติดลงบนแก้มของริมเขื่อนอย่างชัดเจน

แต่ที่ชัดเจนกว่านั้นคือความจริงที่ผมเพิ่งค้นพบ ผมมองหน้าริมเขื่อน คิ้วขมวดอย่างพิจารณา ผู้ชายตรงหน้าหันมามองผมแล้วฉีกยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ พลางใช้ทิชชู่เช็ดรอยลิปสติกเป็นพัลวัน

อ๋อ ห้องเดิม...

เชอร์รี่คงไม่ได้หวังเคลมมันหรอก

มันไปเคลมเขามาแล้วต่างหาก!!!


__________________________
Talk: พี่ไผ่ต้องมองน้องเขื่อนใหม่ นอกจากงูพิษแล้วยังเป็นหมาป่าโด้ยยย
กินทั้งวงการรึยังยังไม่รู้ รู้แต่ไม่ซิงแน่ๆ 5555555555555

ตอนหน้า เจ้าเขื่อนจะเอาตัวเข้าแลกแล้วววว //อุ๊ป
ทนได้ทนไป ผมจะอ่อยเอง ริมเขื่อนไม่ได้กล่าว  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อ่านแล้ว อนาคตกลัว เมีย ชัวร์ 5555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ริมเขื่อนเป็นคนวร้ายๆ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ริมเขื่อนมันร้ายยยย แต่เราเห็นแล้วแน่ ๆ ตอนนี้อนาคตเขื่อนมันคงร้ายไม่ออกแน่ ๆ เพราะเห็น ๆ อยู่ว่ามีแววกลัวเมียมากแน่ ๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หึหึหึ  ไผ่ขาจัดการน้องเข่อนคนเกเรเลยค่ะ  ไม่รู้เคลมใครมาบ้าง

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
น้องเขื่อนผู้น่ารักและใสซื่อได้ตายไปแล้วเหลือแต่ริมเขื่อนที่ใช้ร่่างน้องเขื่อนมาหรอกพี่ไผ่นะคะ! //ตะโกนอัดหู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ขอให้ริมเขื่อนคนร้ายๆอดกินไผ่ไปจนว่าจะจบเรื่องไปเล้ยยยย​ ไม่ใช่น้องเขื่อนแพนด้าน้อยก็อดไป

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ว่าแล้วว่าต้องกิ๊กเก่า​ เขื่อนเหงื่อตกเลยสมน้ำหน้า555555555​ ขอให้ไม่ได้กินน้องไผ่​ ร้ายดีนัก

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จะเจออีกกี่รายที่ริมเขื่อนไปเครมมา 555+ ถึงขั้นเหงื่อยแตก ไผ่อย่าไปยอมให้เขื่อนเครมนะถ้ายังไม่ชัดเจน :hao3:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
ร้ายไม่เบาน้องเขื่อน รออ่านต่อค้าบ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
จะรอตอนน้องเขื่อนกลับไปหาข้อแก้ตัวกะพี่ไผ่นะแจ๊ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
สวัสดีค่าทุกคนนน แวะมาแจ้งข่าวไว้ค่ะ   :katai5: :katai5: :katai5:

11-13 ธันวา เราจะหนีไปเที่ยวเชียงฮายนะคะ
จะกลับมาเจอกันใหม่ ไม่ 14 ก็ 15 เน้ออออออ
รอกันสักนิ๊ดดดด รักทุกคนค่าาาาาาาา  :กอด1: :กอด1:

คนอ่านอย่าพึ่งหายไปไหนน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เขื่อนมันร้ายยยยยย   :m20: :m16: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 13



“เขื่อน...”

“ห๊ะ...มะ มีอะไร” ริมเขื่อนสะดุ้ง ปล่อยทิชชู่ในมือล่วงลงพื้นด้วยความตกใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมปฏิกิริยาแรงขนาดนี้ เพราะผมแค่เรียกชื่อพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคำถาม

“คนเมื่อกี้... แฟน?”

ผมหลีกเลี่ยงการพูดคำว่าคู่ขา เพราะมันออกจะกระดากปาก

ไม่ใช่สำหรับผม แต่สำหรับคนที่ผมยังพยายามมองด้วยฟิลเตอร์น้องน้อยมาตลอดต่างหาก

บางทีผมควรปลดฟิลเตอร์พวกนั้นออกได้แล้ว อย่างไรอีกฝ่ายก็โตมาแบบห่างอกผมมานาน ทำงานในวงการนายแบบทั้งในและนอกประเทศ เสือสิงห์กระทิงแรดก็ไม่น้อย ยังไงริมเขื่อนก็ไม่น่าคงความใสไร้เดียงสาไว้ได้แน่นอน เพียงแค่ผมนึกไม่ถึงว่าเด็กชายริมเขื่อนที่เคยร้องไห้เพราะเปิดกางเกงแล้วเจอปิกาจู้จะกลายเป็นจิ้งจอกร้ายแบบนี้

บนโลกนี้ไม่มีอะไรคงที่ถาวรจริงๆ แหะ

“เปล่านะ! ไม่ใช่แฟน”

“อ๋อ โอเค กูเข้าใจ” ผมพยักหน้า ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนเรื่องเพราะเดาได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร แต่เขื่อนดูไม่อยากให้เป็นแบบนั้น คนตัวสูงทิ้งทุกอย่างบนมือแล้วยกก้นย้ายมานั่งข้างๆ ผม ใช้ดวงตาคมสวยมองกันอย่างไม่ลดละ

“ไผ่”

“อะไรของมึง ไปนั่งที่เร็ว ข้าวจะมาแล้ว” ผมพยักเพยิดไปยังพนักงานเสิร์ฟที่เดินถือถาดอยู่ไม่ไกล

“กูยังโสดนะ”

“เออ รู้”

รู้ว่าโสดแต่ไม่ซิงไง

“เลิกหมดแล้วด้วย”

“เลิกอะไรวะ?” ผมถามแต่ไม่ได้มองหน้าคู่สนทนา เพราะมัวแต่ยื่นมือไปรับจานอาหารที่พนักงานในร้านเอามาเสิร์ฟ ริมเขื่อนเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อรอให้พนักงานสาวคนนั้นเดินออกไป

“เลิกติดต่อกับทุกคนเลย”

“หืม?”

“ตั้งแต่มึงย้ายมา สาบานได้เลยว่ากูไม่ได้คุยกับใครเชิงนั้นอีกแล้ว”

“ฮะๆ” ผมหัวเราะ “บอกกูทำไมเนี่ย”

“ต้องบอกดิ เดี๋ยวมึงเข้าใจผิด”

“เข้าใจผิดก็ไม่สำคัญป่ะ กูไม่เอาไปฟ้องแม่มึงหรอก” ผมยักไหล่ขณะจ้วงข้าวเข้าปากด้วยความหิว เดาไปเดามาว่าที่เขื่อนมันรุกรี้รุกรนก็อาจเพราะกลัวผมไปรายงายพฤติกรรมกับคุณน้าล่ะมั้ง ยังไงผมก็เคยวางตัวเป็นพี่ชาย เวลามีเรื่องไม่ดีไม่เหมาะสมบางทีก็ต้องบอกผู้ใหญ่บ้าง จะได้ช่วยกันปรามได้ แต่พอโตมาผมก็ไม่ได้เป็นคนขี้ฟ้องแบบนั้นเสียหน่อย ใครอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ เพราะตัวผมเองยังทำตามใจจนกลายเป็นฟรีแลนซ์ไส้แห้งแบบนี้เลย

“เปล่า ไม่ได้กลัวไปฟ้องแม่”

“แล้ว?”

“กลัวมึงหวง” คนพูดมองมาอย่างจริงจัง สนับสนุนคำพูดตัวเองอย่างเต็มที่ว่าไม่ได้หยอกเล่นแบบปกติ ผมเงียบไปพักหนึ่งเพราะประมวลผลอยู่ จากนั้นจึงหัวเราะออกมาอย่างถูกอกถูกใจ

“เออ หวง”

ตอนเด็กๆ หวงยังไง โตมาก็หวงอย่างนั้นแหละ จนเพื่อนในห้องบอกว่าริมเขื่อนเป็นลูกสาว ส่วนผมเป็นกำนันที่พร้อมจะเอาปืนไล่ยิงทุกคนที่เข้ามาวุ่นวาย ยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก ซึ่งผมก็ยืดอกรับอย่างเสมอมาว่าน้องเขื่อนข้าใครอย่าแตะ

พอได้ยินริมเขื่อนพูดแบบนี้หัวใจมันอุ่นวาบขึ้นมาทันที เสมือนว่าระหว่างเราถึงจะมีช่องว่างของเวลา แต่สายใยความทรงจำมากมายก็ยังไม่ได้เลือนหายไปจนหมด

เขื่อนจำได้ว่าผมเคยเป็นยังไง

ผมจำได้ว่าเขื่อนเคยเป็นยังไง

แค่นี้ความกังวลมากมายในอกก็สลายไปอย่างง่ายดาย ผมที่พยายามทำตัวให้เป็นปกติทั้งที่เต็มไปด้วยกำแพงของความเหินห่างระหว่างเราสองคน มันออกจะน่าอึดอัดไม่น้อย รวมถึงวางตัวไม่ค่อยถูกนัก ทว่าการที่ริมเขื่อนเป็นแบบนี้ คอยย้ำเสมอว่าเขายังไม่ลืมอดีตระหว่างเรา หัวใจผมมันก็พองฟูอย่างคนมีความสุข

ต่อให้อีกฝ่ายจะโตมาเป็นงูพิษยังไง ริมเขื่อนก็ยังเป็นน้องเขื่อนของผมอยู่วันยังค่ำ

ที่ผมต้องการ... มันก็แค่นี้เอง






หลังจากกินข้าวและขึ้นรถไฟฟ้ากลับมาที่คอนโดแล้ว ผมที่ต้องย้ายที่นอนในคืนนี้กลับรู้สึกเก้กังไม่รู้จะทำตัวยังไง ทั้งที่เมื่อเช้าก็เพิ่งแบกของขนเข้ามาจัดแถมยังนั่งเล่นอยู่หลายชั่วโมง แต่พอกลับเข้ามาแล้วมองไปยังเตียง ไอ้ความทรงจำร้ายกาจที่ยังไม่เลือนไปสักทีก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะตอนที่ผมแบกผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ก็แทบอยากวิ่งกลับออกมาเพราะเผลอนึกไปถึงเรื่องราวในวันนั้น แต่ติดอยู่อย่างที่ทำให้ผมยังยืนอยู่ในห้องน้ำโดยไม่เดินออกไป

ท่าทางผมจะสุขภาพดีเกินไป เด็กชายไผ่เงินถึงตื่นขึ้นมายิ้มทักทายกันทันทีที่คิดเรื่องสัปดน

เฮงซวยจังเลยโว้ย

ผมขยี้หัวตัวเองจนยุ่ง ก่อนจะพาสารร่างเปลือยเปล่าไปหยุดใต้ผักบัว ปล่อยให้น้ำเย็นฉ่ำไหลรดผ่านไปอย่างโง่ๆ ไม่แม้จะบีบสบู่มาถูกตัวเลยด้วยซ้ำ ผมแค่อยากปลอบประโลมลูกชายที่ขยันขึ้นให้สงบลงไป

มันไม่ถูกต้องที่เราจะมีอารมณ์แค่คิดถึงหน้าเพื่อน จริงไหม

ไอ้เรื่องวันนั้นที่ต่างฝ่ายต่างใช้... แฮ่ม ใช้มือช่วยกัน ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านไป ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเปิดหนังญี่ปุ่นดูกับเพื่อนแล้วแข่งกันว่าใครอึดทนนานกว่า ผมไม่ค่อยซีเรียสกับการถึงเนื้อถึงตัว แต่พอตัวเองมีปฏิกิริยากับความทรงจำอะไรพวกนี้ จากไม่ซีเรียสก็คงต้องซีเรียสขึ้นมาแล้วแหละ

กว่าผมจะอาบน้ำเสร็จก็นานจนริมเขื่อนมุ่ยหน้า ผมพันผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมาและยืนเช็ดตัวอยู่ที่ผ้าเช็ดเท้าหน้าประตู ในขณะที่คนตัวสูงเบียดกายผ่านทางเดินคับแคบเข้าไปยังห้องน้ำ

“หอม” ระหว่างผู้ชายสองคนเบียดเสียดกันที่หน้าทางเข้า คนหน้าสวยอยู่ๆ ก็โน้มตัวลงมาแตะจมูกที่หลังคอผม ก่อนพึมพำเสียงเบาว่าหอมแล้วผละกายจากไป

ทิ้งผมไว้กับความร้อนผะผ่าวที่ลำคอ กับหัวใจที่เต้นด้วยจังหวะประหลาด

อะไรวะเนี่ย

ผมเบ้หน้า คุ้ยหาชุดนอนตัวเองมาสวมแล้วเดินหนีออกมาที่ห้องนั่งเล่นข้างนอกทันที นาฬิกาข้างผนังบอกเวลาสี่ทุ่มกว่า อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฟุตบอลแมตที่รอคอยจะขึ้นเตะ ผมเลยเลือกทิ้งตัวนั่งบนโซฟากลางห้องแล้วคว้ารีโมทขึ้นมากดเปิดทีวี

หลายคนอาจไม่รู้ว่าผมเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล แม้ตอนแรกๆ จะตามบ้างไม่ตามบ้าง แต่พอเป็นฟรีแลนซ์แล้วเวลาว่างเหลือเฟือ ชีวิตวันๆ เลยนอกจากโพสต์หางานก็เอาเวลาที่เหลือมาหาอะไรทำ และการดูบอลก็เป็นหนึ่งในนั้น

สมัยเรียนการดูบอลของผมกับแกงค์เพื่อนคือการยกโขยงกันไปร้านเหล้า ทำความรู้จักแฟนบอลคนใหม่ๆ แล้วกอดคอร่วมกันเฮร่วมกันน้ำตาตกไปตลอดแมตซ์การแข่งขัน ถ้าแพ้ก็โดนฝ่ายตรงข้ามล้อจนหน้าม้าน แต่ถ้าชนะ ไอ้ผมกับเพื่อนนี่ตัวดี ยิ่งเมายิ่งปากจัด แทบจะโดนกระทืบอยู่หลายรอบ

“มาทำอะไรข้างนอก” เสียงของใครอีกคนที่อาศัยอยู่ร่วมห้องด้วยดังขึ้นด้านหลัง ผมหันไปมองก็พบกับภาพบาดตาอย่างการสวมเพียงบ็อกเซอร์บางจ้อยเดินสยายผมออกมาจากห้องนอน

“รอดูบอล”

“ดูบอลด้วยเหรอ” ริมเขื่อนเลิกคิ้วอย่างสงสัย แน่แหละ ช่องว่างที่เราโตมาอย่างห่างเหินกัน ความชอบอะไรที่เพิ่มขึ้นหรือเปลี่ยนไปจากตอนเด็กย่อมไม่รู้อยู่แล้ว ผมเลยได้แต่พยักหน้าให้แล้วเสริมทับไปด้วยว่าตัวเองสรรเสริญลิเวอร์พูลขนาดไหน

“มึงนอนก่อนก็ได้” ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเขื่อนดูบอลไหม กับพรุ่งนี้อีกคนน่าจะมีงาน ผมเลยได้แต่บอกให้รูมเมทคนใหม่กลับเข้าห้องนอนไปพักผ่อน แต่ริมเขื่อนกลับส่ายหน้าแล้วปีนข้ามพนักพิงโซฟามานั่งยืดขาที่ข้างๆ ผม

“ดูด้วย”

“มึงดูบอล?”

“เปล่า แต่อยากดูกับมึง”

ผมพยักหน้า ไม่ได้ขัดใจอะไร แต่สิ่งที่ขัดใจผมกลับเป็นร่างกายขาวเนียนที่ไม่มีอะไรปกปิดเลยสักชิ้น แอร์ก็เปิดเสียเย็นฉ่ำ แต่ริมเขื่อนกลับทำเหมือนไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ที่ตั้งอุณหภูมิไว้ยี่สิบองศา

“ไม่ไปใส่เสื้อผ้าดีๆ วะ” ผมถามอย่างอดไม่ได้ เห็นแล้วขัดหูขัดตา

“ร้อนจะตาย”

ร้อนพ่อง

ผมกรอกตาอย่างไม่เชื่อ ทำท่าจะผลักไหล่กว้างของคนข้างๆ ให้ลุกไปหาเสื้อผ้าใส่ แต่ริมเขื่อนกลับยิ้มแล้วพูดเรื่องอื่นขึ้นมาขัดเสียก่อน

“เบียร์ไหม มีอยู่ลังนึง”

“นี่ซื้อไว้กินหรือซื้อไว้อาบ” คนบ้าอะไรเก็บเบียร์ไว้เป็นลังในห้อง แต่ริมเขื่อนกลับขยายความให้เข้าใจด้วยการชี้ไปยังกรอบรูปติดผนังมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น

“ไปถ่ายแบบแล้วเขาให้มา”

เป็นของสมนาคุณนั่นเอง

ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ รวมถึงเห็นด้วยกับการกินเบียร์ตอนดูบอล ไม่ได้เสพบรรยากาศแบบนี้สักพักแล้วเพราะพวกเพื่อนๆ ก็ทำงานกันหมด ไม่มีใครมาว่างคอยพาผมไปดูบอลตอนตีหนึ่งตีสองหรอก ผมได้แค่นั่งหน้าคอมฯ หรือทีวีที่บ้านแล้วเชียร์คนเดียวเหงาๆ

“เดี๋ยวกูช่วยยก” ผมว่าพลางยันตัวลุกขึ้นจากโซฟา

เบียร์ลังที่วางอยู่ขอบเคาท์เตอร์ครัวเป็นแบรนด์สัญชาติเยอรมัน รสชาติเท่าที่เคยชิมเมื่อนานมาแล้วต้องบอกเลยว่านุ่มลิ้นลื่นคอกว่าเบียร์ไทยที่กินอยู่บ่อยๆ เสียอีก ริมเขื่อนเป็นคนยกทั้งลังไปที่ห้องนั่งเล่น ในขณะที่ผมถูกสั่งให้หาแก้วและน้ำแข็ง ซึ่งคอนโดริมเขื่อนมีทุกอย่างที่ใช้สำหรับปาร์ตี้จริงๆ

ผมเทน้ำแข็งจากถุงลงถังขนาดกลาง ยกออกไปพร้อมแก้วสองใบ แถมยังมีพวกขนมนมเนยเป็นกับแกล้มสำหรับศึกแดงเดือดในค่ำคืนนี้

ปึง

ผมวางทุกอย่างลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา แรงไปนิดเลยได้ยินเสียงวัตถุกระทบกันดังกังวาน ร่างสูงโปร่งบนโซฟาหันมามองแต่ไม่ได้บ่นอะไร ผมเลยปล่อยเบลอเสมือนว่าเมื่อครู่ไม่เกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็พาตัวเองกลับไปนั่งเอกเขนกบนโซฟาเพื่อรอเวลาฟุตบอลเข้า

บรรยากาศในห้องนั่งเล่นมีเพียงเสียงจากจอโทรทัศน์ดังกลบความเงียบ ในขณะที่ริมเขื่อนไม่ได้พูดอะไรเพราะเอาแต่ไถโทรศัพท์เล่นอย่างเมามัน ต่างจากผมที่เริ่มรินเบียร์ใส่แก้วอย่างอดใจไม่ไหว

อีกแค่ไม่ถึงสิบนาที แมตซ์สำคัญก็จะเริ่มต้น

ผมใจจดจ่อกับจอทีวีโดยไม่เห็นว่าใครบางคนแอบหันมามองพลางลอบอมยิ้มเจ้าเล่ห์ ริมเขื่อนวางมือถือลงแล้วเทเบียร์ใส่แก้วบ้าง จากนั้นก็ยื่นมือออกมาเพื่อขอชน

แกร๊ง

ผมตอบรับอย่างง่ายดาย

เอาตรงๆ ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ เพราะไม่เคยมานั่งกินของมึนเมากับคนข้างๆ มาก่อนเลยสักครั้ง ที่ชนแก้วกันครั้งล่าสุดก็คงเป็นโกโก้ปั่นที่ร้านหน้าโรงเรียน ผมอมยิ้มแล้วแอบลอบมองริมเขื่อน อากัปการยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด จากนั้นลิ้นสีสดก็แลบออกมาเลียรอบริมฝีปากอย่างช้าๆ ผมชอบที่จะเห็นการขยับอย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้ มันดูเซ็กซี่โดยไม่ต้องพยายาม เพราะเวลาริมเขื่อนต้องการแสดงออกเชิงยั่วยวน ผมว่ามันอีโรติกเกินไป พอมองแล้วหน้ามันร้อนๆ จนต้องหลบตาหนี

แค่นั่งอยู่เฉยๆ ความสวยของมันก็ฆ่าคนมองให้ตายง่ายๆ อยู่แล้ว แต่เขื่อนมันรู้ดีว่ามุมไหน ขยับท่าทางยังไงถึงจะใช้เบ้าหน้าพิฆาตนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นมันเลยกลายเป็นนายแบบทรงเสน่ห์ที่ติดอันดับต้นๆ ที่ใครหลายคนต้องการ ด้วยความที่ขายได้ทั้งกลุ่มเป้าหมายชายและหญิง เส้นทางบนอาชีพนี้ของริมเขื่อนเลยดูเหมือนโรยด้วยกรีบกุหลาบไปเสียหมด

“เขื่อน”

“หืม?”

ผมเงียบไปแปบนึงเพราะกำลังเรียบเรียงคำพูด แก้วเบียร์ในมือถูกกระดกจนหมดไปนานแล้วแต่ไม่ได้รับการเติม ริมเขื่อนเลยหยิบขวดเบียร์มารินให้อย่างเอาใจใส่

“ถามจริงๆ นะ กูอยากรู้”

“ถามว่า?”

“ผ่านมาแล้วกี่คนวะ”

“...!”

ริมเขื่อนผงะถอยไปอย่างตกใจ ทั้งดวงตาทั้งริมฝีปากล้วนเบิกกว้างจนน่าตลก ผมหลุดยิ้มทันทีที่มองปฏิกิริยาโต้ตอบนั้น

“ผะ ไผ่หมายถึงอะไร”

“หมายถึงมึงอ่ะ ได้มาแล้วกี่คน”

คนตรงหน้าผมอึกอักเหมือนไม่ค่อยอยากตอบ แต่ผมก็ไม่ละความพยายามที่จะเค้น ด้วยความขี้เสือกที่เต็มเปี่ยมในตัว พร้อมอาการหึงหวงที่แก้ไม่หาย ผลักดันให้ผมจ้องดวงหน้าสวยที่ไม่ได้มีรอยยิ้มสวยประดับอยู่เหมือนปกติ

“กู... ไม่เคยนับ”

“แสดงว่าเยอะ”

“ก็เขาเข้ามาหาเอง กูไม่เคยเข้าหาใครก่อนเลยนะมึง”

“เออ รู้ว่าสวย” อยากจะชมมันหล่อ แต่รู้สึกมันไม่ใช่ ก็เลยเปลี่ยนคำชมใหม่ ซึ่งเรียกใบหน้าเหยเกของริมเขื่อนให้บิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิม

“อยากหล่อ”

“ไม่ชอบให้ชมว่าสวย?” ผมเลิกคิ้ว อันที่จริงก็เพิ่งเคยชมริมเขื่อนว่าสวยออกมาตรงๆ เพราะเมื่อก่อนน้องเขื่อนของผมน่ารักจิ้มลิ้ม ไม่ได้สวยคมพิฆาตคนแบบนี้

“เปล่า ก็รู้ว่ากูหน้าสวย” เขื่อนยอมรับอย่างไม่ได้รังเกียจอะไร “แต่พอมึงชมแล้วกูรู้สึกแปลกๆ”

“ไร้สาระ” ผมบอก “แล้วตกลงนี่คือไม่ซิงถูกมะ”

“อ...อือ”

“ใครเปิดซิงมึงวะ” ผมตาเบิกโพลง ขยับเข้าไปหาด้วยความขี้เสือก ไอ้หวงก็หวงนะ แต่ไม่เท่าความอยากรู้อยากเห็น ด้วยตัวผมเองยังซิงไม่เคยจิ้มใคร แม้จะอยู่ในสังคมของชายฉกรรจ์อย่างคณะวิศวะ แต่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะมีสาวไว้ควงง่ายๆ นะ นอกจากเบ้าหน้าแล้วยังอาศัยอะไรอีกหลายๆ อย่าง อย่างพวกคารมคมคายที่ผมเข้าขั้นติดลบ สุดท้ายเลยยังครองสถานภาพโสดสนิทอย่างไม่ต้องสงสัย

“จะรู้ไปทำไมวะไผ่”

“เอ้า ก็อยากรู้” ผมแย้ง ก่อนจะพึมพำประโยคหลังกับตัวเองเบาๆ “กูไม่คิดว่ามึงจะเรียนรู้โลกกว้างก่อนกูนี่หว่า”

“อยากรู้?”

“เออ”

“อยากลองด้วยป่ะ”

ผมมองคนที่อยู่ๆ ก็ยื่นหน้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจลอยคลุ้งผ่านเข้ามาในจมูก ผมย่นหัวคิ้ว มองริมเขื่อนที่เปลี่ยนสีหน้าเร็วยิ่งกว่ากิ้งก่า เมื่อครู่ยังดูกังวลปนไม่สบายใจอยู่เลย แต่ตอนนี้คนหน้าสวยกลับแปรงร่างเป็นงูพิษอีกแล้ว

“จะเอาคู่ขามึงมาให้กูลองรึไง”

“เปล่า”

“แล้ว?”

“ให้ลองกับกูเนี่ย”

“...กวนตีน”

“นี่กูจริงจังนะ” เขื่อนโน้มหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหู ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมที่พยายามเอนตัวหนีถูกผลักให้ล้มลงไปนอนบนเบาะโซฟา ร่างสูงโปร่งขยับขึ้นมาคร่อมทับก่อนกดริมฝีปากจูบเบาๆ ที่ใบหู “คนแรกของกูก็เป็นผู้ชาย”

ผมนิ่ง มือที่กำลังจะกระชากผมของคนบนตัวออกถึงกับชะงัก

ผู้ชาย?

“เขื่อน นี่มึงเป็น...”

“เปล่า” ริมเขื่อนเลื่อนหน้ากลับขึ้นมา จ้องตรงสบตาผมด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา ฝ่ามือร้อนเริ่มสอดเข้าใต้เสื้อนอนของผมและลูบไล้สะเปะสะปะ ทว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจผมไว้กลับเป็นประโยคต่อมา “เพราะเขาเหมือนมึง กูเลยเอา”

“...”

ผมว่ามันไม่ใช่

ไอ้คำพูดนั้นมันมีบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ก่อนจะได้ท้วงอะไรริมเขื่อนกลับบดริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรง เขาไม่ยอมให้ผมใช้มือผลักไสได้โดยง่าย เพราะร่างใหญ่กว่าทาบทับลงมาจนแนบสนิท กดมือของผมให้จมไปกับแผงอกเปลือยเปล่า รสฝาดของเบียร์จากปลายลิ้นที่สอดเข้ามา ปะปนกับแอลกอฮอล์ในเลือดจนมึนเมา

แม้จอโทรทัศน์จะฉายภาพสนามแอนฟิลล์* (*สนามของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล) และนักเตะจนนวนยี่สิบกว่าคนกำลังเดินเรียงแถวกันเข้าสู่สนาม แต่ผมกลับไม่สามารถปรือตาขึ้นมามองมันได้ เมื่อริมฝีปากที่ทาบทับลงมายังคอยดูดกลืน เกี่ยวพันลิ้นผมไม่ยอมหยุด

“อะ อือ” ผมคราวประท้วงเบาๆ เมื่อยอดอกถูกสะกิดเล่น แต่เหมือนยิ่งร้องคนด้านบนก็ยิ่งได้ใจ เพราะริมเขื่อนทั้งบดทั้งคลึงหน้าอกผมไม่หยุด

“ไผ่... ไผ่” เสียงแหบพร่ากระซิบเรียกชิดริมฝีปาก คนหน้าสวยยอมผละออกห่างเมื่อผมหอบหายใจอย่างหนัก แต่ใบหน้าไม่ได้เลื่อนหนีไปไกลมากนัก เพราะสันจมูกโด่งยันคลอเคลียกับจมูกผมไม่เลิก

“เล่นอะไรของมึง แฮก”

“กูไม่ได้เล่น”

“ไอ้เขื่อน!” ผมเผลอเสียงดังเพราะริมเขื่อนขยับช่วงล่างเข้ามาเสียดสีกับส่วนกลางกายของผมเล่น มันยิ่งกระตุ้นให้อะไรต่อมิอะไรผงาดขึ้น

แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ

เพราะคนด้านบนไม่ได้หยุดเสียดสีสะโพกเข้ามา ทั้งยังก้มลงใช้ริมฝีปากไซร้ไปตามซอกคอของผมอย่างเมามัน ทั้งขบทั้งกัด ดูดสร้างรอยแดงเป็นจ้ำหลายที่ ผมดิ้นแล้ว แต่การถูกคนตัวใหญ่กว่าทิ้งน้ำหนักทับลงมา ก็ทำให้การขัดขืนกลายเป็นสิ่งยากเย็น

“ไผ่...” ริมเขื่อนดูดติ่งหูผมเล่นก่อนเรียกชื่อกันอีกครั้ง “กูรักมึงนะ”

“!!!”


_________________________
Talk: มาแล้วค่า เลทไป 1 วันเพราะเอาโน้ตบุ๊คไปเปลี่ยนฮาร์ดดิสมา
น้องเขื่อนรุกหนักขนาดนี้ พี่ไผ่จะหวั่นไหวบ้างไหมนะ

คิดถึงทุกคนจังเลยค่าาาาาา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
จะรีบมาต่อเลยน้าาาาาา รักทุกคนนน :man1: :man1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด