เพื่อนวัยเด็ก #เขื่อนคนสวย {แนวเมะหน้าสวย} | E-Book มาแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนวัยเด็ก #เขื่อนคนสวย {แนวเมะหน้าสวย} | E-Book มาแล้วจ้า  (อ่าน 95950 ครั้ง)

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เพื่อนวัยเด็ก


มีคนบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนเปลี่ยนแปลงไปในทุกเสี้ยววินาที
แต่ผมไม่ทันคิดว่าเด็กชายริมเขื่อนที่ผมปกป้องมาด้วยแรงกายแรงใจในวัยเด็ก
เจ้าของหน้าตาน่ารักราวกับเด็กผู้หญิง ตัวเล็กๆ สูงไม่ถึงไหล่
โตมาจะเป็นนายแบบชื่อดังที่ชอบการต่อยมวยเป็นชีวิตจิตใจ

"เขื่อน"
"หืม?"
"มึงแดกน้องเขื่อนกูเข้าไปเหรอ"
"เปล่าซะหน่อย"
"ไม่เชื่อ"
"เอาลิ้นมึงมาสำรวจสิ"




ผลงานที่ผ่านมา
- จรดฟ้า|เจ้าสกาย -- Loading










Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2019 20:08:43 โดย หะมายด์เอง »

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทนำ


“ถอยออกไปจากเขื่อนนะ!” ผมตวาดลั่นขณะพุ่งตัวเข้ากลางวงของนักเลงหัวโจกประจำห้อง ยืนจังก้าขวางหน้าเจ้าตัวน้อยที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนพื้น หัวเหอกระเซิงรวมถึงมีแผลถลอกบนหัวเข่า ผมกัดฟันชี้หน้าเพื่อนร่วมชั้นเรียงตัว “รังแกเขื่อนอีกแล้วเหรอ!”

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” คนที่ตัวใหญ่ที่สุดขยับเข้ามายืนประชันหน้ากับผม พลางยกมือกอดอกเหมือนไม่กลัวเสียงตะคอกอย่างก้าวร้าว ผมโกรธหน้าดำหูแดง กระทืบเท้าตึงตังลงพื้น

“นายผลัก ฉันเห็น!”

“เปล่านี่”

“โกหก!!”

“ไผ่” เสียงเรียกแผ่วเบาพร้อมแรงดึงชายเสื้อเรียกให้ผมหันหน้าไปมอง เจ้าเด็กตัวเล็กบนพื้นเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมา ริมฝีปากกระจับเล็กเม้มแน่น ดวงตาคู่สวยยังมีหยาดน้ำคลอเต็มหน่วย

ผมเห็นแบบนั้นยิ่งโมโห ทำท่าจะพุ่งเข้าไปซัดหมัดใส่หัวโจกประจำชั้นปอสี่ทับห้า แต่ชายเสื้อกลับถูกกระตุกรุนแรงขึ้น พร้อมกับเสียงสั่นระริกที่ยังพยายามห้ามปรามผมอยู่

“ไม่เอา ฮึก อยากกลับบ้าน”

ผมเม้มปาก ชี้หน้าไอ้หัวโจกที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันอย่างคาดโทษ

“อย่าให้เห็นว่าแกล้งเขื่อนอีกนะ!” ผมว่าแบบนั้น มองเมินหน้าตายียวนกวนโมโหแล้วหันหลังกลับไปหาคนบนพื้น ผมย่อตัวลง ดึงมือเรียวเล็กมากุมก่อนจะค่อยๆ พยุงคนที่เตี้ยกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขื่อนยิ้มตาปิดให้แทนคำขอบคุณ ในขณะที่ผมมองสำรวจบาดแผลและรอยฝุ่นบนชุดนักเรียนแบบเดียวกับที่ผมสวมอยู่ด้วยความหงุดหงิด

เขื่อนก็ตัวแค่นี้ สูงได้ไม่ถึงไหล่ผมด้วยซ้ำ โดนผลักทีก็ล้มกระเด็นไปไกล เสื้อสีขาวเปื้อนขี้ดินเป็นปื้นใหญ่ กางเกงก็มีรอยขาดเพราะขูดกับพื้นคอนกรีต

ยิ่งมองยิ่งโมโห อยากกลับไปฟาดปากไอ้พวกนั้นสักที เรื่องนี้ต้องถึงหูคุณครูประจำชั้นแน่ๆ ผมเอาตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัวของเด็กชายริมเขื่อนเป็นประกัน!

“ไผ่ไม่เอา อย่าโมโห” คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามามองตาแป๋ว ทำปากยื่นแก้มป่องอย่างออดอ้อน อารมณ์ของผมสวิงลงมายังจุดเหยือกแข็งทันที เมื่อเจ้าตัวเล็กกระพริกตาปริบๆ อย่างออดอ้อน

ผมวางฝ่ามือลงบนศีรษะที่ถักเปียเรียบร้อย ใบหน้าหวานเลยยิ่งเหมือนเด็กผู้หญิงเข้าไปใหญ่ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขื่อนโดนแกล้งโดนล้อบ่อยๆ และผมก็เป็นฝ่ายวิ่งตามไปช่วยทุกที ทันบ้างไม่ทันบ้าง เจ็บตัวเองบ้างก็บ่อยๆ แต่ก็แลกกับการที่คนตรงหน้าเลิกร้องไห้

ผมก็ถือว่าคุ้ม

“ไม่โมโหแล้ว”

“ดีจัง” เขื่อนฉีกยิ้มจนตาหยี ส่วนผมเผลอยิ้มตามไปแบบโง่ๆ

“แต่เขื่อนเป็นแผลหมดเลย” ผมย่อตัวลง ชี้นิ้วไปที่หัวเข่าถลอกจนเลือกซิบ คนตัวเล็กกว่าส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก ปลายผมเปียสะบัดตีแก้มพึบพับจนผมต้องบอกให้หยุดเพราะเจ็บแทน

“เดี๋ยวให้แม่นาใส่ยาให้” เขื่อนพูดถึงแม่ตัวเองพลางทำท่าแหยงๆ เมื่อพูดถึงการทำแผล ผมหัวเราะเบาๆ ลูบหัวเพื่อนวัยเดียวกันที่ดูยังไงก็น้องชายชัดๆ ด้วยความเอ็นดู

ผมเอียงคอ พิจารณาใบหน้าหวานกว่าผู้หญิงของอีกคนเงียบๆ

...บางทีอาจจะเป็นน้องสาวมากกว่าแฮะ










และนั่นคือเรื่องราวในวัยเด็กเมื่อสมัยประถมสี่ของผมกับเพื่อนข้างบ้าน

ผ่านมาสิบกว่าปี โลกเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน

แต่ริมเขื่อนยังไม่เปลี่ยน

ใบหน้ารูปไข่ยังมีผิวที่เนียนกริบ แก้มตอบจมูกโด่งเป็นสัน คิ้วโก่งสวยได้รูป ดวงตาเรียวคมกับแพขนตาสีดำขลับ ริมฝีปากสีแดงสดเป็นกระจับเล็ก พอหลอมรวมกับทรงผมยาวสลวยจนถึงกลางหลัง ใครๆ ก็ไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้ชาย

ตอนเด็กหน้าหวานเหมือนเด็กผู้หญิงอย่างไร โตมาก็สวยดุจนางฟ้าซาตายแบบนั้น

แต่ติดอยู่อย่างเดียวที่เขื่อนมันเปลี่ยนไป

สันดานของมันเนี่ย!

“ไผ่”

“ออกไป!”

“ไผ่ครับ”

“ไอ้เขื่อน มึงล้วงอะไร!!” ผมตะโกนลั่นห้อง ดิ้นรนหนีคนที่ขยายร่างเป็นยักษ์อย่างทุลักทุเล ฝ่ามือร้อนแทรกเข้ามาในเสื้อยืดของผม ลูบไล้ไปทั่วท้องจนเผลอกลั้นหายใจจนจะขาดอากาศตาย ผมทั้งดิ้นทั้งถีบ แต่ก็สู้แรงของคนที่ทาบทับอยู่ด้านบนไม่ได้สักนิด
ใบหน้าสวยๆ ของมันส่งยิ้มหวานฉ่ำเคลือบยาพิษมาให้ เขื่อนพ่นลมหายใจร้อนลงบนผิวคอของผม ก่อนจะบรรจงวางริมฝีปากจุมพิตที่กระดูกไหปลาร้าแผ่วเบา

“ฮือ” ผมร้อง มือทั้งสองถูกรวบไว้บนอก นัยน์ตาสีรัตติกาลมองสบเข้ามาในตาของผม สื่อประกายความหมายบางอย่างที่เล่นเอาตัวของผมสั่นสะท้าน ผมหอบหายใจแรง ทุกแรงเคลื่อนจากฝ่ามือทิ้งไอร้อนไปตามระยะทางที่ลากผ่าน เขื่อนกัดริมฝีปากล่างเบาๆ ส่งสายตายั่วเย้าก่อนจะโน้มหน้าเข้าใกล้ ปลายจมูกโด่งแตะลงบนข้างแก้ม ชะโลมผิวของผมด้วยลมหายใจร้อนชื้น

“ข...เขื่อน กูไม่เล่น”

“กูก็ไม่เล่นครับ”

“ไอ้เหี้ย ออกไป”

“ไผ่แรงน้อยจัง กูจับไว้หลวมๆ เอง” ดวงตาคมสวยเหลือบมองข้อมือของผมที่ถูกรวบไว้ด้วยมือข้างเดียว ผมเม้มปาก สะบัดหน้าหนีด้วยความหงุดหงิด

ไอ้อดีตอันสวยงามที่ผมเคยปกป้องมันน่ะเหรอ

หายไปพร้อมกับกล้ามแขนกับซิกซ์แพ็กบนท้องมันไงครับ!!

ผมฟึดฟัด ยังคงพยายามจะผลักคนด้านบนให้ออกไปให้ได้ แต่เขื่อนกลับแค่หัวเราะเบาๆ ใช้มือข้างที่ว่างเกี่ยวปอยผมตัวเองขึ้นมาม้วนเล่น แถมผิวปากหวือสบายอารมณ์

ผมโคตรหงุดหงิด ยิ่งมองหน้าสวยคมกว่าผู้หญิงของมันก็ยิ่งหงุดหงิด

มึงเอาน้องเขื่อนกูไปไว้ที่ไหนวะไอ้หมีควาย!




_______________________________
Talk: มาเปิดเรื่องใหม่ได้ไงทั้งๆ ที่ #เจ้าสกาย ยังไม่จบ
ฮืออออ เราจะอัพสลับกันนะคะ
ระหว่างสองเรื่องนี้

จะอัพบ่อยๆ เลย จะพยายาม สู้!!!
ฝากเมะหน้าสวยไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

แอบแปะรูปตย.เจ้าเขื่อน
ปล.ไม่ใช่อิมเมจนะคะ ขอเรียกเป็น ref ดีกว่า


นายแบบ: 星野 Xing Ye (ซิงเหย่)
http://www.weibo.com/u/2477021675
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2018 23:38:17 โดย หะมายด์เอง »

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เขื่อนคนสวยรุกไผ่???  :a5: o22

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
ชอบเมะไทป์นี้ อิอิ
ปล เราชอบ ผช คนนี้เช่นกันค่ะ ตอนนี้ผมสั้นแล้วกร๊าวมาก

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อ๊ากกกกกก ซิงเย่ :ling1:

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :laugh: มาแล้วนิยายที่รอคอย เพราะนี้ชอบอ่านสายเมะสวยมากก 

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ติกตามเลยค่ะ~

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
นางเขื่อนนางเพื่อนอกตัญญู..คิดแทงเพื่อนข้างหลัง  :haun4: ไผ่ไม่ได้กล่าวเรากล่าวเอง  :hao6:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7:  :hao7:  :hao7: โอ๊ยยยย ชอบมากกกก เขื่อนโตมาอย่างแข็งแรงและแข็งแกร่ง.... 5555  :laugh: สงสารแต่นายเอกของเรา...กลายเป็นรับแบบน่ารักน่าฟัดไปเลย  :hao7:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องเขื่อนจะปกป้องพี่ไผ่เอง! (???) น่ารักดีค่ะชอบๆ ติดตามเลยๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 1

คุณว่าเด็กผู้ชายจะมีพัฒนาร่างกายเร็วมากขนาดไหน

ผมในวัยสิบขวบตัวสูงกว่าเพื่อนในชั้น แม้กระทั่งเด็กผู้หญิงก็ยังไม่สูงเท่าผม ร่างกายอยู่ในวัยเจริญเติบโตเร็วกว่าคนในวัยเดียวกันเพราะมีเชื้อฝรั่ง และตอนที่ขึ้นประถมห้า ผมก็เริ่มได้รับความสนใจมากมายจากเด็กผู้หญิง เวลาเข้าเรียนวิชาพละ ผมมักจะได้รับเสียงเชียร์จากสาวๆ เพราะเท่และดูสมชายกว่าพวกเพื่อนคนอื่น

ต่างจากริมเขื่อน ที่สูงเพียงแค่หน้าอกของผม ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักทำให้คุณแม่ให้เขื่อนไว้ผมยาวและจับถักเปียมาโรงเรียนทุกวัน ผมที่เป็นเพื่อนข้างบ้านก็เอ็นดูเขื่อนเหมือนน้องชาย เพราะนอกจากจะหน้าตาน่ารักราวเด็กผู้หญิง ยังมีนิสัยขี้อ้อนและติดผมแจ วันไหนไม่มีการ์ตูนเรื่องโปรดก็จะชอบหอบหมอนข้างที่ใหญ่กว่าตัวเดินมาเคาะประตูบ้านของนอนด้วย ผมสถาปนาตัวเองเป็นพี่เรียบร้อยตั้งแต่เจ้าเด็กเขื่อนถูกหัวโจกที่โรงเรียนรังแกจนร้องไห้กลับบ้านตอนอยู่ปอสาม

เขื่อนเป็นเด็กร้องไห้ง่ายแต่ก็พยายามฮึบสุดพลัง คุณคิดดูว่ามันจะน่ารักแค่ไหนตอนมองหน้าแบบนั้นของเขา ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนเดียวและเกิดก่อนเขื่อนสองเดือน ผมไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้รักและหลงน้องเจ้าน้องชายต่างครอบครัวคนนี้ได้จริงๆ
เขื่อนน่ารักมาตลอด จนเมื่อพวกเราอายุมากขึ้นร่างกายก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปตามกลไกธรรมชาติ ส่วนสูงผมพุ่งพรวดมาเป็น 175 เซนติเมตรในตอนมอสอง จากนั้นก็หยุดไปอย่างรวดเร็ว ต่างจากเขื่อนที่ค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี จนในช่วงมอสาม เขื่อนล่อส่วนสูงไปถึง 186 เซนติเมตร

ครับ สูงปรี๊ดโดยไม่ต้องพยายาม ในขณะที่ผมโหนบาร์ทุกวันในช่วงที่เขื่อนเริ่มสูงไล่เลี่ยกัน สถานะความเป็นพี่ทำให้ผมไม่ยอม แต่ก็สูงขึ้นมาได้แค่สองเซ็นต์ สิริรวมคือผมสูง 177 และเขื่อนสูง 186

แพ้ขาดลอยไปในยกนี้

แต่ก็ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติที่น้องชายจะสูงกว่า ผมคิดแบบนั้นเพราะเห็นตัวอย่างมาจากเพื่อนหลายๆ คนที่มีพี่น้อง ผมเลยทำใจได้ อีกอย่างหน้าตาของเขื่อนก็ยังน่ารักเหมือนเคย ตานิดจมูกหน่อย ผมก็ยังไว้ยาวไม่เปลี่ยน เขายังน่าเอ็นดูแม้จะสูงปรี๊ดเสียขนาดนั้น อาการติดผมยังมีเหมือนเดิม โตเป็นควายแค่ไหนก็ยังชอบมานอนเบียดกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

จนกระทั่งถึงวัยเข้ามหาวิทยาลัย

ผมเพียรอ่านหนังสือจนสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการวัดคุม ในขณะที่เขื่อนผู้อ่อนด๋อยในวิชาสายวิทยาศาตร์อย่างหนักต้องแยกไปเรียนมอเอกชนชื่อดังในคณะนิเทศน์

พวกเราแยกกันเป็นครั้งแรก ผมจำได้ว่าเขื่อนน้ำตาคลอตอนนั่งรถมาส่งผมเข้าหอพักก่อนจะแยกไปเข้าหอตัวเองบ้าง มหา’ลัยของเราอยู่กันคนละฟากฝั่งของกรุงเทพ ในปีแรกเขื่อนยังดั้นด้นมาหาผม แม้มันจะลำบากเพราะไม่มีใครมีรถยนต์ส่วนตัว แต่เขื่อนก็ยังพยายามมาหาเกือบทุกอาทิตย์

จนการเรียนอันโหดร้ายในมหา’ลัยแยกเราออกจากกัน

พวกเรามีสังคมใหม่ ห่างเหินกันไป ไม่ค่อยได้ติดต่อ เจอกันอีกทีคือตอนกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านตอนปิดเทอม เขื่อนเปลี่ยนแปลงขึ้นทุกปี ดูดีขึ้น รูปร่างดีขึ้น ในขณะที่ผมสะโหลสะเหลเฉียดตายเพราะเรียนหนักชิบหาย ปั่นโปรเจคส่งทุกเทอมจนดวงตาดำเป็นหมีแพนด้า

พอเรียนจบ พวกเราก็ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเคย เขื่อนเข้าวงการนายแบบไปแล้วตั้งแต่ตอนเรียนปีสอง ใบหน้าของเขาสวยมาก แต่รูปร่างดีเพราะชอบต่อยมวยเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นเขาจึงมีเอกลักษณ์มากพอให้คนจดจำ เขื่อนดังมากๆ ในวงการ เขาได้ขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง ได้ถ่ายแบบให้แบรนด์ระดับโลก เขางานยุ่งจนแทบไม่ได้นอน แถมยังไปซื้อคอนโดอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อสะดวกแก่การเดินทาง

ส่วนผม... ไม่ได้มีอนาคตอันรุ่งโรจน์แบบเขาหรอกครับ

ผมค้นพบว่าวิศวะไม่ใช่ทางตัวเองตอนปีสาม ซึ่งมันสายไปมากๆ สำหรับการซิ่วไปเรียนใหม่ ผมเลยกัดฟันทนเรียนจนได้ใบปริญญามาในเกรดที่ไม่ได้ย่ำแย่นัก การไปฝึกงานและร่วมทำโปรเจคสหกิจกับบริษัททำให้ผมรู้ว่าผมไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในวิชาชีพนี้ได้จริงๆ ในขณะที่การถ่ายรูปคือสิ่งที่ผมเพิ่งค้นเจอตอนปีสี่เทอมสองที่มีเวลาว่างจากการเรียน

ผมสมัครเป็นพนักงานออฟฟิตได้สองปีก็ลาออกมาทำฟรีแลนซ์ถ่ายภาพ มีงานบ้างไม่มีงานบ้าง แต่พ่อกับแม่ก็ยังยอมให้ผมเกาะต่อไป เพราะพวกท่านเข้าใจผมดี

ตอนที่ผมทนเรียนต่อไม่ไหว ผมกลับมาร้องไห้กอดแม่ทุกอาทิตย์เลยครับ มันเหนื่อยมากจริงๆ กับการฝืนทำอะไรบางอย่างที่เราไม่ชอบ และมองไปทางไหนก็ไม่เจอทางออกเลยนอกจากคำว่าอดทน

แต่พอโตขึ้นผมก็เริ่มเครียด การเกาะพ่อแม่กินเริ่มทำให้ผมรู้สึกผิดและอับอาย โตเป็นควายแล้วจำนวนเงินเก็บในธนาคารของผมยังอยู่ที่หลักพัน ผมมองงานฟรีแลนซ์ที่ไม่มีคนจ้างมาหลายอาทิตย์แล้ว สกรอเม้าส์ดูเพจ ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ของตัวเองด้วยความเบื่อหน่าย

ผลงานของผมไม่ได้เตะตาผู้คนขนาดให้เขาเลือกจ้างผม มีคนฝีมือดีอยู่ในตลาดช่างภาพอีกมาก แต่ผมก็พยายามทำเต็มที่ที่สุด โปรโมตสุดชีวิตเท่าที่จำทำได้ แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบกริบ

ผมเครียดมาหลายเดือนแล้วครับ

ญาติๆ ก็ชอบถามว่าทำงานอะไร เมื่อไหร่จะซื้อรถ อวดลูกอวดหลานของตัวเองจนผมที่ตอนแรกไม่สนใจต้องมานั่งเครียดกัดนิ้วตัวเองอยู่หน้าคอมแบบนี้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมเคาะเล็บลงบนโต๊ะ มองภาพในแกลอรี่ของตัวเองอย่างพิจารณา ส่วนมากก็มีแค่วิว อุปกรณ์เครื่องใช้ และก็เพื่อนที่ยืมตัวมาเป็นนายแบบนางแบบ ใช้เวลาพิจารณาอยู่อย่างนั้นว่าขาดอะไรไปบ้าง กระทั่งแม่เปิดประตูเข้ามาผมก็ยังไม่รู้ตัวเลย

“ไผ่”

“เหวอ!” ผมสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองผู้หญิงชาวต่างชาติวัยกลางคนที่กำลังขมวดคิ้วมองอยู่ไม่ไกล

“ไม่ลงไปกินข้าว” สำเนียงภาษาไทยที่เพี้ยนบ้างตรงบ้างผมฟังจนชิน นายแม่ของผมเป็นสาวชาวอเมริกา ย้ายมาทำงานที่ไทยตั้งแต่วัยรุ่น พบรักและแต่งงานกับพ่อของผมที่เป็นหนุ่มไทยแท้ แต่ตอนนี้ระหองระแหงกันอยู่เหตุเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันสักเรื่อง

“เดี๋ยวผมลงไป ทำงานแปบนึงครับ” ผมอ้าง ตอนนี้เครียดจนกินข้าวไม่ลง น้ำหนักลดไปตั้งสองโล แต่ผมกระเดือกอะไรไม่ลงจริงๆ ครับ หลายคืนแล้วที่นอนก่ายหน้าผากคิดวิธีกระตุ้นยอดขายของตัวเอง

การทำฟรีแลนซ์นี่ยากจัง

“ไม่กินข้าวเลยทั้งวันได้ยังไง”

“แม่” ผมเบ้ปาก ทำหน้าตาหน้าสงสาร แต่คุณนายกลับส่ายหน้าแล้วโยนหนังสือในมือใส่ตักผม โดยไม่สนใจเลยว่ามันจะฟาดหน้าผมก่อนตกไปที่ตัก

“It’s yours. แม่น้องเขื่อนฝากมาให้”

“อะไรเหรอครับ” ผมถามพลางหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดู

ก็ไม่น่าถาม...

“จะได้ไม่ต้องไปหาซื้อให้เปลืองเงิน” แม่ผมพูดไทยเก่งมาก เพราะทำงานบริษัทมานานหลายปี ทุกคนไม่ต้องตกใจกันนะครับ

“ฝากขอบคุณด้วยนะแม่”

“Don't forget about lunch”

“Yes, sir!” ผมรับคำ คลี่ยิ้มบางก่อนจะหยิบนิตยสารในมือขึ้นมาพิจารณาดูทีละหน้า

เขื่อนได้ขึ้นปกอีกแล้วครับ ผมมองใบหน้าสวยที่ล้อมรอบด้วยกรอบผมยาวตรงสีดำสนิท เขาเชิดหน้าขึ้น เอียงข้างน้อยๆ จนเห็นสันดั้งโด่งสวย ริมฝีปากบางเผยอขึ้น แผ่ความสวยเซ็กซี่ออกมาจนผมอดภูมิใจไม่ได้

ยังไงก็น่ารักเหมือนเดิม

แม้ว่าพอโตขึ้นเขื่อนจะไม่มีภาพลักษณ์ใสๆ แบ๊วๆ แบบตอนเด็กอีกแล้ว เขาสวยจนผู้หญิงยังอาย ถูกจัดอันดับให้เป็นคนหน้าสวยอันดับหนึ่ง ชนะนางเอกชื่อดังหลายคนมาอย่างขาดลอย ครองแชมป์ชายหนุ่มที่เพศเดียวกันอย่างได้เป็นแฟนมาสามปีซ้อน แต่ผมก็ยังมองว่าน้องเขื่อนน่ารักเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ผมเปิดพิจารณารูปภาพในด้านในช้าๆ เขื่อนมักจะถูกจับแต่งตัวทุกลุคทุกแนว นี่ถ้าเขาไม่บ้าต่อยมวยจนกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ ผมว่าคงมีงานที่ให้แต่งหญิงมารอจ่อคิวเป็นแสนแน่ๆ

คิดดูเถอะ ขนาดใส่สูทผูกไทด์ ผมยังว่าเขาสวยเลย

นี่ผมไม่ได้หลงเพื่อน อวยเพื่อนจนเกินไปนะ

เขื่อนสวยจนผู้หญิงไม่กล้าคบด้วยเลยครับ แฟนเก่าของเขาสองสามคนเคยบอกเลิกเพราะทนมีแฟนสวยกว่าตัวเองไม่ได้ จากนั้นเขื่อนเลยไม่คบใครอีกเลยสักคนเดียว ซึ่งมันก็ดีแล้ว ผมหวงน้องชายอย่างกับจงอางหวงไข่ แต่แค่ไม่เคยแสดงออกไปเท่านั้นเอง นี่ถ้ายังตัวติดกันเหมือนเมื่อก่อน ผมคงแยกเขี้ยวคู่ใส่ทุกคนที่เข้ามาจีบเขื่อนแน่ๆ

สัญชาตญาณต้องปกป้องมาแต่เด็กน่ะครับ

“ไผ่!”

“ไปแล้วครับ” ผมตะโกนตอบนายแม่ที่เริ่มหัวเสีย ยัดนิตยสารเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มาเข้าชั้นหนังสือที่มีแต่หนังสือแบบเดียวกันอัดแน่นอยู่ ถูกต้อง นี่คือคอแลคชั่นริมเขื่อนที่ทั้งซื้อเองทั้งแม่ของเขื่อนเอามาให้ฟรี ผมเก็บไว้ทุกเล่มตั้งแต่เขื่อนเดบิวต์

แต่ตอนที่กำลังตบๆ สันหนังสือให้เท่ากัน อยู่ๆ ผมก็คิดอะไรดีๆ ออก

ผมมองรูปโปสการ์ดพร้อมลายเซ็นต์ที่เจ้าตัวอัดกรอบเอามาให้เองอย่างพิจารณา เหลือบไปมองจอคอมพิวเตอร์แวบหนึ่งก็กลับมาที่รูปอีกครั้ง

มือเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มือถือจากโต๊ะคอมฯ เลื่อนรายชื่อผู้ติดต่อหาคนในรูปอย่างว่องไว

[ตู๊ดดด... ตู๊ดดด- ว่าไง]

“เขื่อน ว่างป่ะ”

[พักเบรกอยู่อ่ะ คุยได้] เสียงนุ่มลอดมาตามสาย

ผมคลี่ยิ้มกว้าง สาวเท้าออกจากห้องเพราะแม่ตะโกนบ่นมาอีกครั้ง ขณะปากก็ยังขยับถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเพื่อนก่อน ผมไม่กล้าพูดเลย เขื่อนชอบงอนเพราะผมไม่ค่อยเป็นฝ่ายติดต่อไปก่อน เดี๋ยวขอความช่วยเหลือเลยจะถูกว่าว่าถ้าเป็นเวลาปกติก็ไม่คิดถึงกันหรอก

“เป็นไงมั่ง”

[เหนื่อย นอนไม่พอเลย] ผมนึกออกเลยว่าหน้าสวยๆ ต้องกำลังบึ้งตึง

“แล้วทำไมต้องรับงานเยอะๆ”

[อยากเก็บเงินไว้เลี้ยงไผ่ตอนแก่]

ผมหัวเราะ เขื่อนชอบเล่นมุกแบบนี้ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าผมลาออกมาทำฟรีแลนซ์ ส่วนผมก็ชอบใจ หยอดกลับตลอดว่าจะนั่งกระดิกเท้ารออีกคนมาเลี้ยง

“รีบมาเลี้ยงดิ ตอนนี้ไม่มีตังค์กินข้าวละ”

[มึงกินข้าวบ้านไม่ใช่เหรอ]

“ทำมาเป็นรู้ทัน”

[โทรมามีแค่นี้? เหลือเวลาพักอีกแค่ห้านาทีอ่ะ]

“เปล่า ก็...” ผมอ้ำอึ้งเมื่ออยู่ๆ ก็ต้องเข้าเรื่องกระทันหัน ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนบอกให้เขื่อนเตรียมตัว ผมเลยยิ่งลำบากใจเข้าไปใหญ่

เขื่อนก็งานเยอะอยู่แล้ว

เขาจะมีเวลาว่างมาช่วยผมไหมนะ

[ไผ่ เดี๋ยวต้องไปแล้ว]

“ช่วงนี้มึงว่างบ้างป่ะ”

[อืม... พี่นัท ผมมีวันว่างอีกทีวันไหนอ่ะครับ]

[พรุ่งนี้ช่วงเช้า แล้วก็ว่างอีกทีพุธหน้าเลย] มีเสียงผู้หญิงที่ผมจำได้ว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวดังลอดเข้ามาในสาย ผมอ้าปากค้าง มองปฏิทิน วันนี้เพิ่งวันอาทิตย์เองนะ แต่พรุ่งนี้เช้าก็ไม่ทันถ่ายแบบหรอก ผมยังไม่มีคอนเซ้ปต์ สถานที่อะไรหัวเลย อีกอย่างก็ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัว

ยังไงพรุ่งนี้เช้าก็ไม่ทัน!

[ไผ่ ได้ยินป่ะ]

“อะ อื้อ”

[มีอะไรรึเปล่า]

“ก็มีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ”

[น้องเขื่อนคะ เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ] ผมต้องเงียบลงเพราะได้ยินเสียงจากปลายสาย สื่อว่าเวลาพักของเขื่อนได้หมดลงแล้ว [ไผ่ กูต้องวางแล้ว]

“อื้อ ได้ ว่างแล้วโทรกลับมาหน่อย”

[ต้องไปออกงานอ่ะ ไว้พรุ่งนี้เช้ามาหากูที่คอนโดดิ บอกแม่ทำกับข้าวมาให้กูด้วย]

ผมเม้มปาก ขี้เกียจไปคอนโดเขื่อนมากเพราะอยู่ใจกลางเมือง รถติดโคตรๆ สงสัยต้องยอมเสียเงินนั่งรถไฟฟ้าไปแทน แต่ผมที่ไม่มีเวลาคิดอะไรมากจึงต้องรับปากเพราะเขื่อนต้องไปเตรียมตัวแล้ว ผมมองจอโทรศัพท์หลังจากสายตัดไป ไม่คิดมาก่อนว่าเขื่อนจะงานยุ่งขนาดนี้

ปกติผมไม่ค่อยได้ติดต่อไปก่อนเพราะเคยโทรไปแล้วอีกฝ่ายติดงานอยู่ เลยตัดสินใจรอให้เขื่อนติดต่อมาเอง ทำแบบนั้นจนติดเป็นนิสัย เพราะพวกเราห่างกันมาหลายปีและต่างฝ่ายต่างโตขึ้น การจะกลับมาคุยเล่นและติดกันแบบเด็กๆ คงเป็นเรื่องยาก
ต่างคนต่างก็มีชีวิตของตัวเอง

แต่ชีวิตช่วงนี้ผมต้องพึ่งเขื่อนว่ะ

เขาต้องมาเป็นนายแบบให้ผมถ่ายลงพอร์ตงาน ผมมั่นใจว่ามันจะต้องโด่งดังแน่ๆ ถ้าผมถ่ายงานออกมาแบบพีคๆ ผมต้องการให้คนในเฟสบุ๊คแชร์ภาพของผมออกไปเป็นวงกว้าง ให้เพจผมเป็นที่รู้จัก เป็นกระแส ให้คนพูดถึงและเข้ามาเยี่ยมชมเยอะๆ อย่างน้อยหนึ่งในพันวิวก็ต้องมีลูกค้าผมสักคน

แต่อย่างแรกผมต้องขอร้องให้เขายอมมาเป็นนายแบบให้ผมให้ได้ก่อน!

พรุ่งนี้ผมจะไปบุกคอนโดเขาแต่เช้า ผมรับรองเลยว่าเขาไม่มีทางปฏิเสธพี่ชายคนนี้ได้แน่ๆ เขารักผมจะตายไป

___________________________
Talk: งื้อ ขอบคุณทุกเสียงตอบรับ
ดีใจจังเลย ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้
5555 มันเป็นไทป์เมะที่แรร์พอสมควร
กลัวมากเลยค่ะว่าจะแป้ว  :hao5: :hao5: รักทุกคนเลยยย

เขื่อนคนสวย เป็นนิยายที่จะออกกับสำนักพิมพ์อ่านนานนะคะ
มาอ่านและคอมเม้นติชมกันเย้อๆ น้า

ตอนนี้หมดสต๊อกที่เขียนไว้แล้ว อาจจะช้านิดนึง
จะอัพสลับกับเจ้าสกายน้า <3  :katai5:


ฝากเจ้าสกายไว้ด้วย
จ ร ด ฟ้ า #เจ้าสกาย
---> ฟีลกู๊ด ดีต่อใจ ใครๆ ก็ชอบ  :กอด1:

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :pig4:
สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ขอe-book version ด้วยค่ะ please....please ....  :call:

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 2




ผมตื่นแต่เช้า เผื่อเวลาเดินไปเคาะประตูบ้านข้างๆ เพื่อรับกับข้าวนานาๆ ชนิดที่คุณป้านา แม่ของริมเขื่อนตื่นมาเตรียมให้ตั้งแต่เช้ามืด วันนี้คุณนายของผมเลยสบายไม่ต้องทำอาหาร มีเวลาทะเลาะถกเถียงกับพ่อเรื่องอะไรสักอย่าง อันที่จริงก็เถียงกันประจำเพราะทัศนคติไม่ตรงกันมาแต่ไหนแต่ไร ผมไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ครับเพราะชินแล้วแถมยังได้รับความรักอย่างหนักหน่วงจากทั้งสองคน

“Mom, I’m out” ผมตะโกนบอกคุณนายของบ้านที่เห็นเดินผ่านมาแวบๆ ในขณะที่กำลังพยายามสวมรองเท้าผ้าใบราคาไม่กี่พัน คุณนายชะโงกหน้าออกมามองแล้วโบกมือบ๊ายบาย “บอกพ่อให้ด้วยนะครับ”

“โอเค”

ผมกระชับถุงกับข้าวในมือก่อนจะเดินย่ำเท้าออกไปหน้าหมู่บ้านเพื่อโบกวิน คอนโดของเขื่อนอยู่ใจกลางเมือง ผมที่สามารถยืมรถคนในบ้านไปได้ไม่ไหวจะฝ่าการจราจรยอดแย่ในช่วงเช้าของวันทำงาน เลยตัดสินใจหิ้วกระเตงทุกอย่างไปขึ้นรถไฟฟ้าแทน
คนยืนรอคิววินก็ยาวเป็นหางว่าว คนในรถไฟฟ้าก็อัดจนหน้าผมแนบไปกับประตูรถ กว่าผมจะมายืนในล็อบบี้ของคอนโดหรูราคาแพงผมก็มีสภาพไม่ต่างจากคนไร้บ้าน ด้วยเหงื่อที่โทรมกายจนเริ่มส่งกลิ่นแปลกๆ กับทรงผมยุ่งเหยิงและหน้ามันมะเมื่อม

ผมเบ้ปากด้วยความหงุดหงิด ใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าแล้วกดโทรศัพท์โทรออกหาเขื่อน

“ถึงแล้ว ลงมารับกูที”

มีเสียงตอบรับว่าโอเค ผมเลยกดวางสายแล้วเดินไปนั่งรอที่บริเวณรับรองแขก

บริเวณนี้ตกแต่งได้เรียบหรูแถมยังมีพนักงานรักษาความปลอดภัยยืนอยู่หลายจุด และจากการที่นั่งรอมาสักพัก ก็ทำให้ผมได้เห็นดาราหลายคนเดินโฉบผ่านไปผ่านมา พอก้มมามองสภาพตัวเองที่มีแค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็เริ่มรู้สึกว่า ผมควรแต่งตัวให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่นึกจะใส่อะไรมาก็ใส่

ผมมองนาฬิกาบนข้อมือครั้ง เผลอเขย่าขาดุ๊กดิ๊กเมื่อกังวล กำลังจะหยิบมือถือมากดโทรเร่งเขื่อนแล้วถ้าไม่ติดว่าเห็นร่างสูงชะรูดของเพื่อนเดินออกจากลิฟต์อยู่ไกลๆ

ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก คว้าถุงกับข้าวมาถือแล้วรีบเดินดุ่มๆ เข้าไปคนตัวสูงกับแว่นตาสีชาทันที เขื่อนยิ้มให้ผมเป็นการทักทาย ถ้ามีหางหางก็คงกระดิกจนก้นสั่น

“ไผ่! คิดถึง ไม่ได้เจอตั้งสองเดือน”

“ไม่กลับบ้านเอง” ผมบอก รู้สึกเขินๆ อยู่เหมือนกันด้วยความที่ไม่ค่อยเจอกัน แต่ก็ยังพยายามวางตัวเหมือนสนิทม๊ากมากแบบสมัยเด็ก

ผมเดินตามเขื่อนเข้าไปในลิฟต์ มองหมายเลขชั้น 20 สว่างวาบก่อนที่แรงเคลื่อนตัวของห้องโดยสารจะเริ่มทำให้ผมหูอื้อหน่อยๆ
เขื่อนรับถุงกับข้าวไปถือไว้เอง เขาผิวปากหวืออย่างคนอารมณ์ดี ส่วนผมก็แอบใช้หางตาลอบสำรวจอดีตน้องชายที่บัดนี้ตัวโตจนยืนบังกันมิด

ผมสีดำขลับของเขาถูกมัดรวบเป็นก้อนกลมอยู่กลางศีรษะ แต่ดูแล้วคงรีบน่าดูเพราะมีปอยผมหลุดร่วงเต็มไปหมด แว่นตาสีชาทรงกลมอันใหญ่ตั้งอยู่บนดั้งโด่งสวย ผมไม่เห็นดวงตาของเขา แต่ก็รู้ว่าถ้าเขื่อนถอดแว่นตาออกจะเห็นขนตายาวเป็นแพและกรอบตาคมสวย เสื้อสีขาวคอวีปาดลึกจนผมหวิวๆ ในใจ ไหนจะคางเรียวสวยกับริมฝีปากเป็นกระจับสีแดงระเรื่อ

ผมเม้มปาก หลุบสายตาหนีภาพตรงหน้าด้วยอาการหน่วงๆ ในอก

ไม่น่าเลย

เขื่อนไม่น่าโตเลยจริงๆ

อีกหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่ค่อยมาหาเขาทั้งๆ ที่ผมว่างจะตายอยู่แล้ว นั่นก็เพราะผมทำใจไม่ได้

คุณครับ น้องชายคนที่ผมเฝ้าฟูมฟักดูแลตั้งแต่เด็ก ตัวเล็กๆ แก้มแดงๆ ที่มักจะมีเปียผมสองข้างขยับไปมาบนหัวไหล่ จับใส่ชุดอะไรก็น่ารัก ยิ้มทีดวงตาก็โค้งเป็นเส้นสวย แถมยังชอบเดินมากระตุกชายเสื้อแล้วบอกว่า ‘เขื่อนรักไผ่ที่สุดในโลกเลย’

กับผู้ชายสูง 186 เจ้าของมัดกล้ามลอยสวยที่ผมเห็นแล้วนึกอิจฉา แม้ใบหน้าจะสวยยิ่งกว่าสตรีนางใดบนโลก แต่นิสัยกลับไม่ใช่น้องเขื่อนคนเดิมของผมอีกแล้ว

ไม่มีอีกต่อไปกับเสียงน่ารักๆ ที่บอกว่าผมเก่งที่สุด

ไม่มีอีกต่อไปกับดวงตาใสซื่อที่มักมองมาที่ผมดวงประกายชื่นชม

เหลือแค่ไอ้ริมเขื่อน นายแบบชื่อดังที่วางท่าเก๊กหล่อเป็นที่หนึ่ง กวนประสาทเป็นที่หนึ่ง และเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง

ผมแอบลูบอกปลอบใจตัวเอง มาเจอหน้าเขื่อนตอนโตทีไรก็อดโอดครวญไม่ได้จริงๆ เหมือนผมต้องทำใจยอมรับว่าได้สูญเสียน้องชายที่น่ารักไปให้แก่กาลเวลาโดยสมบูรณ์แล้ว

แย่ชะมัดเลย ผมคิดถึงน้องเขื่อนของผมอ่ะ

“กินข้าวด้วยกันเลยไหม” เจ้าของพูดขัดความคิดของผมเมื่อเราก้าวเท้าเข้ามาในห้องของเขื่อน ผมที่ไม่ค่อยได้มาเหยียบที่นี่ก็ยังอดตื่นตาตื่นใจกับความกว้างและวิวเมืองกรุงที่นอกหน้าต่างนั้นไม่ได้ สายตาของผมจึงกวาดมองสำรวจไม่หยุด

“ยังอ่ะ แต่เหลือไว้ให้หน่อยดิ ยังไม่ได้กินข้าวเช้า” ผมว่าก่อนจะเดินดุ่มๆ เข้านอนเกลือกกลิ้งที่โซฟากลางห้องโดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตก่อน

“งั้นเดี๋ยวค่อยกินพร้อมกัน” เขื่อนว่าอย่างนั้น จับเอาถุงกับข้าวยัดตู้เย็นจนหมดก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ กัน “แล้วตกลงมีเรื่องอะไร”

“ก็...” ผมเกิดอาการอึ่กอั่ก อยู่ๆ ก็เข้าเรื่องเลยโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ไอ้พวกคำพูดที่เตรียมมาถึงกับหายไปกับสายลม “คือว่า...”

“...” เขื่อนก็เงียบ รอฟังผมพูดอย่างตั้งใจ

“แบบ ช่วงนี้กูไม่ค่อยมีงาน”

“จะยืมเงิน?”

“เปล่า!” ผมร้องลั่น ส่ายหน้าเป็นพัลวัน

“อ้าว ถ้าไม่ยืมเงินแล้วอะไรล่ะ”

“ก็... แบบ มึงพอจะมีเวลาว่างสักวันไหม สัก 2-3 ชั่วโมงก็ได้”

“ไม่ขายตรงนะไผ่”

ไอ้บ้า!

ผมแทบจะทิ้งหัวตัวเองลงกระแทกพื้น ขมับปวดตุบๆ แบบคนไมเกรนขึ้น เนี่ย เนี่ย น้องเขื่อนของผมโตมาแล้วเป็นแบบนี้อ่ะครับคุณ ผมถึงได้นึกอยากย้อนเวลากลับไปเอาน้องเขื่อนคนเดิมคืนมาไง ไม่เข้าใจเลย ผมเลี้ยงมากับมือแท้ๆ ปกป้องดูแลสุดความสามารถ ไม่รู้ใครมันทำให้นิสัยน้องเขื่อนของผมเปลี่ยนมาในทางเลวร้ายสุดๆ แบบนี้

ผมจะไปเผาบ้านมัน!

“เขื่อน ฟังกูก่อน” ผมบอกด้วยเสียงแผ่วเบาเหมือนคนหมดแรงจะพูด ไอ้คนหน้าสวยแต่ร่างยักษ์ถึงยอมสงบปากลง “คือกูแค่จะมาขอให้มึงช่วยเป็นนายแบบให้หน่อย”

“กู?”

ผมพยักหน้า หันไปมองสบตาอย่างเว้าวอน

ช่วยกูเถอะ เห็นแก่ที่กูดูแลมึงมาตั้งแต่เด็ก

“ค่าตัวกูแพงนะ” เขื่อนบอกด้วยรอยยิ้มร้ายๆ

นี่เพื่อนไง เพื่อนเอง

ไผ่เงินเพื่อนข้างบ้านเขื่อนไง ที่ยอมไปต่อยกับหัวโจกรุ่นพี่ปอหกที่มารังแกเขื่อนจนปากแตกกลับมาบ้าน แล้ววันต่อมาก็โดนเรียกพบผู้ปกครองไงเขื่อน

“เท่าไหร่” แม้ผมจะอยากเดินหนีออกจากห้องตอนนี้ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะความหวังที่จะอัพเกรตตัวเองให้เป็นที่รู้จักอยู่ใกล้แค่เอื้อม

“หลักหมื่นนะ นี่ราคากันเอง”

“กูเพิ่งบอกว่ากูไม่มีงาน”

ไม่มีงานก็เท่ากับไม่มีเงินไงครับ สมการตามหลักความเป็นจริงของโลก

“สำหรับไผ่ กูให้ผ่อนจ่าย”

“ฟรีไม่ได้เหรอ” ผมทำเสียงมุบมิบในลำคอ “ถือว่าช่วยเพื่อน กูถ่ายสี่ห้ารูปเอง”

“อะไรนะ?”

“เปล๊า!”

ใครจะไปกล้าตอบ

คือถ้าผมกับเขื่อนสนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ ก็คงดี ผมคงไม่ต้องมานั่งรู้สึกเกรงอกเกรงใจมันที่จะขอช่วยฟรีๆ แบบนี้ คงกล้าที่จะพูดไปเลยแบบตรงๆ ว่า ‘มาเป็นนายแบบให้กูหน่อย ฟรีนะ’

แต่เสียดายที่มันไม่ใช่ความจริง

หรือผมควรตีสนิทเขื่อนอีกครั้งดีครับ?

แต่ผมยังทำใจให้ภาพเขื่อนตอนโตมาลบภาพน้องเขื่อนในความทรงจำของผมไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าผมจะชอบหน้าตาของเขาตอนโตเอามากๆ จนเก็บสะสมนิตยสารไว้จนครบก็เถอะ

“เดี๋ยวค่าตัวกูบอกอีกที ต้องไปถามผู้จัดการก่อน” เขื่อนพูดขึ้นมาเมื่อผมนั่งเม้มปากหันหน้าหนีเพราะกำลังเซ็ง ยิ่งเขื่อนพูดก็ยิ่งเซ็ง ผมเลยหันขวับไปสบดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น กดหัวคิ้วใส่ก่อนจะกระแทกเสียงไปว่า

“เออ!”

“หงุดหงิดอะไรเนี่ย” เขื่อนหัวเราะ ดวงตาคู่สวยหยีลงเป็นเส้นโค้งสวยเหมือนเคย ผมมองทุกองค์ประกอบบนใบหน้ามนเรียวที่ดูราวกับภาพวาด ในหัวใจก็พลันคิดถึงเด็กน้อยตัวเล็กที่ผมมักเดินจูงมือกลับบ้านอยู่ทุกเย็น

รอยยิ้มก็ยังน่ารักเหมือนเคย

อยากให้คนตรงหน้าหยุดไว้เป็นเพียงแค่ ริมเขื่อน.jpg ไม่ต้องขยับปากพูด ไม่ต้องแสดงนิสัยกวนประสาทออกมา ผมพร้อมจะกลับไปเทิดทูนบูชาเขื่อนอีกครั้ง และสัญญาว่ายุงสักตัวก็จะไม่ให้ไต่ ไรสักตัวก็จะไม่ให้เข้ามาตอม จะปรนนิบัติพัดวีสุดความสามารถที่พี่ชายคนนี้จะทำได้

คิดถึงจังเลยนะ น้องเขื่อนคนนั้นน่ะ

“คิดอะไรอยู่”

เฮือก!

ผมที่เหม่อลอยจนประสาทตาตัดภาพจากความเป็นจริงไปเป็นภาพเสมือนวัยเด็กสะดุ้งสุดตัว กระพริบตาปริบๆ เพื่อปรับโฟกัส ก่อนจะเห็นว่าสันดั้งของใครอีกคนลอยห่างอยู่แค่เพียงหนึ่งฝ่ามือ

เขื่อนโน้มทั้งหน้าทั้งตัวเข้ามาใกล้ จนผมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของเขา เสื้อคอวีก็เปิดจนเผยไปถึงขอบกางเกงยางยืด ผมเห็นกล้ามหน้าท้องของเขาชัดทุกลูก รวมถึงแผ่นอกที่น่าจะแข็งปั่กเลยทีเดียว

ที่แย่กว่า คือใบหน้าของเขาอยู่ในระยะที่เห็นรูขุมขนชัดเจน ลมหายใจกลิ่นยาสีฟันที่เขาใช้มาตั้งแต่เด็ก กับริมฝีปากบางสวยที่คลี่ยิ้มจางๆ เพราะท่าทีน่าตลกของผม

“อะ ออกไปก่อน” ผมบอกด้วยเสียงตะกุกตะกัก รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาอย่างง่ายดาย

เขื่อนยอมถอยออกไป ผมเลยได้โอกาสหายใจหายคอบ้าง

คนร้ายกาจ เขารู้ว่าตัวเองหน้าตาดีแค่ไหน และเขาก็รู้ว่าผมแพ้ทางหน้าสวยๆ ของเขามาแต่ไหนแต่ไร เขาถึงชอบแกล้งยื่นหน้าเข้าใกล้บ่อยๆ ส่วนผมก็เขินมันทุกรอบ

ก็หน้าเขาสวยกว่าผู้หญิงอีกนะ เป็นสเปคสำหรับผู้ชายครึ่งค่อนประเทศเลยด้วย

“เออไผ่ ไหนๆ ก็มาแล้ว ช่วยตากผ้าหน่อย”

“...” ผมเหรอ

ผมเลิกคิ้ว มองคนที่กระเด้งตัวลุกจากโซฟาแล้วเดินดุ่มๆ ไปยังระเบียงห้อง มีเครื่องซักผ้าขนาดเล็กตั้งอยู่ตรงนั้น พร้อมกับตะกร้าสีดำวางอยู่ข้างกัน เขื่อนเปิดฝาถังปั่นแล้วรวบๆ เอาเสื้อผ้าออกมาใส่ตะกร้า ผมเห็นดังนั้นก็เดินตามไปอย่างงงๆ

นี่คือ... ผมต้องช่วยตากผ้าเหรอ

ผมถามตัวเองอีกครั้ง มองเหล่าไม้แขวนเสื้อที่เขื่อนส่งมาให้ ผมรับไว้ แล้วหยิบเสื้อยืดออกมาจากตะกร้าตัวหนึ่ง สะบัดเบาๆ แล้วจับยัดใส่ไม้แขวน

ต้องตากจริงๆ สินะ

ผมถอนหายใจ ยอมช่วยหยิบเสื้อผ้าที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งจากน้ำยาใส่ไม้แขวนเสื้อทีละตัว พยายามเมินพวกชั้นในกับบ็อกเซอร์ด้วยการเขี่ยๆ ทิ้งไปข้างๆ หยิบเฉพาะเสื้อกับกางเกงมาแขวน

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะกลับเลยป่ะ” เขาถามขณะกำลังแขวนชั้นในกับราวหนีบ

“อื้อ มึงมีงานบ่ายนี่”

“เดินแบบเปิดตัวเครื่องสำอางค์เฉยๆ”

“อ่าฮะ”

“ไปดูป่ะ”

ผมส่ายหน้าหวือทันที

ไม่เอาหรอกครับ เขื่อนไปออกงานทีไร มีทั้งผู้ชายผู้หญิงไปตามกรี๊ด ผมขี้เกียจไปอยู่ท่ามกลางฝูงชนอันทะลักทลาย ตอนแรกๆ ที่เขื่อนเข้าวงการ เคยไปตามพร้อมกับที่บ้านของเขื่อน หลังจากนั้นก็เข็ดกันหมด คุณป้านาแทบจะเป็นลมจนผมต้องพาแกออกมาตั้งแต่งานเริ่มได้ชั่วโมงนิดๆ

“ไม่เคยไปเชียร์เลยอ่ะ” เขื่อนทำปากยื่นปากยาว ผมก็ได้แต่กรอกตาเพราะรู้ว่ามันแกล้ง

“คนเยอะ”

“เสร็จงานแล้วจะได้คุยกับพี่นัทเรื่องงานไผ่ไง”

“...” นี่สรุปคือผมต้องจ่ายเงินจริงๆ ใช่ไหมครับ

ผมมองหน้าเขื่อนแล้วสะบัดผ้าในมืออย่างแรงใส่เขา มีหยดน้ำกระเซ็นไปโดนพอสมควร ทำไปเพราะความหมั่นไส้ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นผสม

แม่ง ไอ้คนเห็นแก่เงิน

“มึงก็ไปคุย ว่างตอนไหนก็ไลน์มาบอก” ผมว่าแบบตัดจบประเด็น

“ก็ได้” เขื่อนยอม “แล้วจะถ่ายแนวไหนอ่ะ”

ผมที่ยังไม่ได้คิดคอนเซ็ปต์ไว้จึงหุบปากฉับ สื่อเป็นนัยว่ากูก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

“ยังไม่ได้คิดเหรอ?”

“อืม”

“แล้วจะเอารูปไปทำอะไรอ่ะ”

“ใส่พอร์ตเฉยๆ อยากเรียกเรตติ้ง” ผมบอกตามตรง ไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้วเพราะมันเป็นเรื่องของการตลาดล้วนๆ เขื่อนที่พอจะเข้าใจก็พยักหน้ารับพร้อมส่งเสียงอืมในลำคอยาวๆ

“อยากได้ภาพเรียกเรตติ้งเหรอ”

“ใช่ พีคๆ อ่ะ แต่จริงๆ แค่เอามึงมาถ่ายได้ก็เรียกคนได้เยอะอยู่” ผมบอก ไม่ได้อยากชมเขื่อนเลยนะเอาตรงๆ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เขาเป็นนายแบบชื่อดัง พวกช่างภาพฟรีแลนซ์ไม่มีทางได้ถ่ายภาพเขาได้หรอก คนที่ได้ไปเดินแบบต่างประเทศ ได้ถ่ายโฆษณาให้แบรนด์ระดับโลก คุณคิดว่าค่าตัวเขาเท่าไหร่กัน

ผมยังไม่กล้าเดาเลยครับ ตอนที่เขื่อนบอกหลักหมื่น ใจผมนี่คิดไปถึงเลขเก้าแล้ว ไม่มีทางที่จะเป็นหมื่นสองหมื่นแน่ๆ อ่ะ กระเป๋าตังค์ผมนี่สั่นริกๆ เลย

“จะจ้างกูถ่ายทั้งทีเลยนะ ไม่คิดคอนเซปต์ว้าวๆ ไปเลย”

จะเน้นคำว่าจ้างทำไมวะเขื่อน

“นู้ดเลยไหมล่ะ” ผมว่าอย่างประชดประชัน

“เอาดิ ถ้าไผ่ต้องการ” เขื่อนบอกพร้อมแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่าง ก่อนจะกัดปากยั่วยวนเบาๆ มือขวาก็ยกขึ้นดึงยางรัดผมออก ทำให้ผมสีดำขลับแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง เขาส่งสายตาเชิญชวนมาให้ พร้อมกับโน้มตัวลงพอให้คอเสื้อเปิดวับแวมๆ

โอเครู้เรื่อง

ไม่ต้องถามให้มาก ใจผมแม่งเต้นจนจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว

คือผมไม่ได้หวั่นไหวหรือแอบชอบเขื่อนเลยสักนิด ผมขอบอกไว้ก่อนเผื่อมีคนเข้าใจผิด แต่การที่ผมหน้าแดงใจสั่นอยู่แบบนี้ ผมอยากจะให้ทุกคนมาเห็นภาพที่ผมกำลังเห็น พนันร้อยทั้งร้อย ไม่ว่าใครก็ต้องเขิน ขนาดพ่อผมยังหลงไอ้เขื่อนจะเป็นจะตาย นับประสาอะไรกับพี่ชายที่เคยหลงน้องเขื่อนยิ่งชีพคนนี้

แม่งเอ้ย!

ผมโยนเสื้อยืดในมือลงถัง หมุนตัวเดินออกมาจากระเบียงในทันที

“กูกลับละ บาย”

อยู่ไม่ได้ครับ แบบนี้ผมอยู่ไม่ได้!

_________________________
Talk: แต่งนิยายสามเรื่องสลับกันยากมากๆค่ะ
คาแรคเตอร์มันจะผสมปนเปกันไปหมดเลย แง้
จริงๆ ต้องอัพเขื่อนคนสวยตั้งแต่เมื่อวาน แต่ตบตีกับตัวเองอยู่ว่าตกลงนิสัยเขื่อนเป็นยังไง
ฮือออออ  :hao5: :hao5:

ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด ข้ออภัยไว้ ณ ที่นี้ เราเต็มที่ในทุกๆ งานเลยนะคะ
หวังว่าจะถูกใจกันนน แนะนำติชมได้เสมออออออ

รักยอดวิวและคอมเม้น
ตอนหน้าเรามาถ่ายแบบกันดีกว่า --- เรามีไทม์แมชชีน!!!  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2018 23:34:58 โดย หะมายด์เอง »

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ผ่อนจ่ายด้วยอะไรหนอ  :hao6:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 3



เวลาผ่านมาเร็วมากหลังจากที่ผมไปขอความช่วยเหลือและวันต่อมาเขื่อนก็ส่งไลน์มาบอกเรื่องวันที่ว่างกับค่าจ้างที่พุ่งไปถึงเกือบครึ่งแสน แถมยังเสริมมาด้วยว่า ผ่อนเดือนละสามพันก็ได้นะ

ผมแทบปามือถือทิ้งทันทีที่อ่านจบ แต่ก็ต้องจำใจกดส่งสติกเกอร์โอเคไปอย่างโง่ๆ

เอาไว้ดูผลลัพธ์หลังจากกระตุ้นยอดขายครั้งนี้ของผมก่อน เผลอๆ ถ้าได้งานเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ มันก็คงคุ้มที่จะจ่ายค่าจ้างให้นายแบบชื่อดังในราคาค่าตัวที่ลดลงมาแล้วหลายสิบเปอร์เซ็นต์

หลังจากที่ดีลงานกับเขื่อนเสร็จ ผมก็ใช้เวลาว่างอีกสองสามวันก่อนถึงวันถ่ายเพื่อคิดคอนเซปต์และเตรียมอุปกรณ์ กล้องลูกรักที่ยังผ่อนไม่หมดถูกนำมาเช็ดถูอย่างทะนุถนอม รวมถึงหนังสือนิตยสารต่างๆ ที่ผมเอาออกมากางเต็มเตียงเพราะต้องการดูว่าเขื่อนมุมไหนจะดึงดูดคนที่สุด

แต่พอมานั่งพิจารณาแต่ละภาพ ก็พบว่าไม่ว่ามุมไหนใบหน้าที่สวยราวเทพธิดาก็ดูดีไปเสียหมด

ผมเครียดจนประสาทจะเสียเพราะคิดไม่ออกว่าจะถ่ายคอนเซปต์ไหนดี นิตยสารกว่าห้าสิบเล่มต่างหยิบจับแนวต่างๆ สวมลงบนตัวของเขื่อนจนเกือบหมด ตั้งแต่ชุดนักเรียนไปจนถึงนักรบที่มีใบหน้างามล่มเมือง

เอาเป็นว่าหลังจากที่คิดไม่ออก ก็เลยไลน์ไปขอความช่วยเหลือจากเขื่อนอีกครั้ง แถมอีกฝ่ายยังบอกว่าโอเค เดี๋ยวเตรียมเสื้อผ้าไว้รอ

ทำให้วันนี้ ณ เวลานี้ผมมายืนสะพายกระเป๋าอุปกรณ์อยู่ในคอนโดสุดหรูของอดีตน้องเขื่อนผู้น่ารักอีกครั้ง

“ถ่ายในห้องนี่แหละเนอะ” เขื่อนว่ามาอย่างนั้นหลังจากที่ผมออกปากชวนเขาไปเช่าสตูดิโอข้างนอก

“ถ่ายในห้อง? คอนเซปต์อะไร” ผมถามด้วยความสงสัยพลางขยับไปวางของพะรุงพะรังลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่ไม่มีใครนั่ง ทั้งผมและเขื่อนต่างยืนคุยกันอยู่กลางห้อง โดยที่อีกฝ่ายยังใส่เพียงแค่ชุดนอนอย่างคนเพิ่งตื่นทั้งๆ ที่นี่ก็ปาไปเที่ยงวันแล้ว

“แฟนหนุ่มไง” เขื่อนยกยิ้มมุมปาก ยกขวดน้ำในมือขึ้นกระดกโดยไม่ใช้หลอด

ผมมองลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง กรอบหน้าสวยเมื่อเชิดขึ้นก็ต้องกับแสงไฟบนเพดาน บางส่วนของใบหน้าจึงขึ้นเป็นเงาดำ ขับเน้นส่วนสันจมูกและคางได้รูปให้เด่นชัดขึ้นกว่าเดิม

ผมเคยบอกหรือยัง ว่าถ้าเขื่อนได้เป็นอันดับหนึ่งของใบหน้าที่เป็นสเปคของผู้ชายในประเทศ ผมก็จะเป็นหนึ่งในจำนวนคนที่โหวตเขาทันทีโดยไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะเวลาที่เขื่อนปล่อยผมให้ยาวสยายเต็มแผ่นหลัง บางส่วนตกละข้างแก้มลงมา ใบหน้าของเขาก็คล้ายหวานขึ้นมาอีกสิบส่วน รอยยิ้มมุมปากที่เคยมองว่าร้ายกาจกลับกลายเป็นดั่งน้ำผึ้งอาบยาพิษ

ผมเคยคิดจะตกแต่งเขาเป็นเจ้าสาวในตอนที่ขึ้นมัธยมต้นและเขื่อนเริ่มเปลี่ยนจากน่ารักจิ้มลิ้มเป็นคนสวยโดยสมบูรณ์
แต่ผมเชื่อแล้วว่าคนทุกคนบนโลกไม่มีใครเพอร์เฟค

พระเจ้าประทานใบหน้าที่สามารถก่อสงครามกลางเมืองให้ได้แต่กลับยัดเหยียดหนอนชาเขียวที่หว่างขาให้เขา ในขณะเดียวกันพระเจ้าก็มอบร่างกายที่สูงใหญ่กับกล้ามเนื้อหนั่นแน่นที่โคตรจะขัดตานี้มาให้ด้วย

ผมมองความไม่เข้ากันด้วยคิ้วขมวด แม้ว่าเขื่อนจะกินน้ำจนหมดขวดแล้วหนัมาจ้องตาผมกลับด้วยความสงสัย ผมก็ยังขมวดคิ้วเป็นปมแน่นกลางหน้าผากอยู่ดี

“ไผ่?”

“จะถ่ายกันที่ไหน” ผมปัดความคิดไร้สาระออกไปแล้วเดินไปรื้อกล้องออกมาจากกระเป๋า พร้อมกับกางฉากรับแสงขนาดพกพาให้เรียบร้อย

“ห้องนอนๆ จัดไว้ให้แล้ว” เขื่อนบอกแล้วเดินเข้ามาช่วยยกอุปกรณ์เข้าไปด้านใน

เมื่อมองเข้ามาภายในห้องจากตรงกรอบประตู บริเวณซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิ้วด์อิน ถัดมาในส่วนติดกันเป็นห้องน้ำที่งับประตูปิดเรียบร้อย ที่เหลือคือพื้นที่โล่งที่มีเตียงควีนไซส์วางอยู่ตรงกลาง ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งหมดทำให้มองเห็นวิวของความวุ่นวายในกรุงเทพมหานครได้จนทั่ว ผ้าม่านสีขาวถูกเลื่อนปิดมาครึ่งหนึ่งเพื่อกันแสง

ผมเช็คแดดและเห็นว่ามันกำลังดีแล้ว ฉากรับแสงถูกนำไปวางในที่ที่เหมาะสม ผมตั้งขาตั้งกล้องไว้ปลายเตียง คอยวิ่งไปมาเพื่อเช็คทิศทางแสงและภาพบนจอกล้องให้ถูกใจที่สุด เขื่อนหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำสักพักแล้ว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะแต่งตัวยังไง แต่ด้วยความที่เป็นการทำงานแบบเพื่อนๆ กัน ทุกอย่างเลยไม่ต้องเป๊ะๆ ตามแบบแผนเพราะผมไม่มีแผนมาตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ

“แบบนี้โอเคป่ะ”

ผมที่กำลังมุดอยู่หน้ากล้องสะดุ้งเฮือกเพราะอยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง เขื่อนมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ผมเลยหันกลับไปมองพร้อมเตรียมจะอ้าปากบ่นโทษฐานที่ทำให้ตกใจ แต่กลับกลายเป็นว่าทุกถ้อยคำกระจุกรวมกันอยู่ที่หลอดลมจนหมด

ดวงตาของผมเบิกกว้าง มองผู้ชายร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล เส้นผมของเขาถูกหวีเรียบร้อยไม่ได้ยุ่งเหมือนตอนแรกแล้ว ในขณะเดียวกันใบหน้าของเขาก็ได้รับการทาแป้งและลิปมันสีแดงระเรื่อบนริมฝีปาก

แต่ที่แย่กว่านั้นคือเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นที่ยังไม่พ้นชายเสื้อผมเลยด้วยซ้ำ

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พยายามมองเมินเรียวขายาวที่เขื่อนโกนขนจนโล่งเตียนสำหรับเวลาถ่ายแบบ หลุบสายตาหันมองไปมองพื้นข้างๆ ก่อนจะตอบรับไปอย่างตะกุกตะกัก

“อะ โอเคแล้ว”

เขื่อนยิ้มรับ สาวเท้าเดินไปที่เตียงก่อนจะคลานเข่าขึ้นไปช้าๆ อย่างจงใจ เสื้อตัวโคร่งปิดบังกล้ามหน้าท้องของเขาจนหมด รวมถึงใบหน้าคมสวยที่ขับให้ขนาดตัวที่ใหญ่กว่าผมดูหดเล็กลงเวลามองผ่านเลนส์กล้อง

ผมกลืนน้ำลายอีกครั้ง มองคนตัวสูงที่ดูบอบบางขึ้นมาถนัดตาเมื่อเขาสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มแล้วทำท่าคล้ายกำลังนอนหลับ ผมคล้องสายสะพายกล้องไว้ที่คอ ก้าวเดินเข้าไปหานายแบบด้วยใจที่เต้นระรัว

“จะถ่าย... แล้วนะ” ผมบอก ยกกล้องคู่ใจขึ้นทาบดวงตาและมองลอดผ่านเลนส์กล้อง แสงแดดที่สอดเข้ามาตกลงกระทบใบหน้าของเขื่อนพอดี อย่างกับนางฟ้านางสวรรค์ที่มีแสงเรืองรองออกมาจากกาย ผมเม้มปาก กดชัตเตอร์ไปหนึ่งทีเพื่อจับภาพตรงหน้า
เขื่อนเมื่อได้ยินเสียงชัตเตอร์ลั่นก็เริ่มขยับเปลี่ยนท่าด้วยความชำนาญ จากที่เหมือนหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียสมจริง ริมฝีปากบางกระจับมีรอยยิ้มเล็กๆ ติดอยู่ แขนขาวทั้งสองข้างเหยียดออกบิดขี้เกียจ

ผมกดชัตเตอร์อีกครั้ง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว

ท่วงท่าถูกเปลี่ยนทุกครั้งหลังจากผมจับภาพเสร็จ คล้ายสะท้อนออกมาเป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ตื่นมาแล้วกับทักทายแฟนสาวหรืออาจจะแฟนหนุ่มซึ่งใช้กล้องเป็นตัวแทนคนรัก

เขายิ้มด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนตอนที่ขยับลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มถูกดันออกจนเผยขาขาวเรียบเนียนข้างหนึ่งออกมา ทั้งๆ ที่เป็นหุ่นผู้ชายสุขภาพดีแท้ๆ แม้ว่าจะไม่ได้ตัวใหญ่ขนาดนั้นแต่ก็คือหุ่นนายแบบที่ลอนบนหน้าท้องชัดและสามารถอุ้มผมทุ่มพื้นได้ด้วยมือเดียว แต่ทำไมพอองค์ประกอบทุกอย่างรวมกัน มันถึงได้ไม่ต่างจากการเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของแฟนหนุ่มอยู่กันนะ

ผมเม้มปากไม่ยอมคลาย แม้ว่าตอนนี้จะกดชัตเตอร์ไปหลายรูปแล้ว อันไหนใช้ได้ใช้ไม่ได้ค่อยมาคัดอีกที แต่เท่าที่มองผ่านๆ จากสายตา ผมคิดว่าใช้ได้เกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ริมเขื่อนเป็นคนที่ไม่ว่าหันมุมไหนก็ถ่ายออกมาสวย จะซ้ายจะขวาจะก้มจะเงย ไม่สามารถฆ่าเขาให้ตายลงได้

ยิ่งตอนที่อ้าปากหัวเราะอย่างสดใส ผมยอมรับเลยว่าเหมือนได้รับน้องเขื่อนคนเดิมของผมกลับคืนมา

ผมตกอยู่ในภวังค์ที่อดีตกับปัจจุบันตบตีกัน ความคิดถึงตีรวนในหน้าอก รวมถึงอาการหวงที่จะเกิดขึ้นเฉพาะกับน้องริมเขื่อนตัวเล็กของผมคนเดียวก็เกิดกำเริบขึ้นมา

ผมเดินเข้าไปดึงชายเสื้อเชิ้ตให้ล่นลงมาปิดต้นขาขาว พร้อมกันผ้าห่มที่พาดทับไปครึ่งตัว

เขื่อนมองผมอย่างงงๆ ในการกระทำ ซึ่งพอผมสบเข้ากับดวงตาคมสวย ก็เกิดรู้สึกตัวเลยแก้เก้อด้วยการจับเขาขยับเปลี่ยนท่าทางไปมาเหมือนไม่พอใจสักที

จะให้เขารู้ไม่ได้!

ก็ตั้งแต่เราห่างกันแล้วเขื่อนเริ่มเข้าวงการ ผมไม่เคยหวงหรือรู้สึกอะไรกับเขื่อนเวอร์ชั่นนี้เลยนอกจากหลงใหลในใบหน้าสวยๆ นั่น ต่อให้เขื่อนแก้ผ้าเหลือแค่อันเดอร์แวร์ตัวเดียว ผมก็ยังซื้อนิตยสารมาเก็บแล้วพิจารณาสนใจแค่ใบหน้าของเขา

เขื่อนที่ตัวใหญ่เป็นหมีควายแบบนี้ผมไม่เคยหวงเลยสักนิด

“เปลี่ยนชุดไหม” ผมถามเมื่อถ่ายไปสามสิบกว่ารูป แต่เขื่อนกลับส่ายหน้าแล้วใช้มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดแทน

“ทำอะไร” ผมถามขึ้นมาอีกครั้ง

“การถ่ายแบบไม่ได้ขึ้นอยู่กับชุดเสียหน่อย” รอยยิ้มร้ายกาจผุดพรายขึ้นบนใบหน้าสวยนั่นอีกครั้ง

ผมมองกระดุมเสื้อที่ค่อยๆ หลุดออกจากรัง เผยท่อนบนเปล่าเปลือยกับผิวเรียบเนียนไร้ไขมันส่วนเกิน หน้าท้องของเขาสวยมากจนถ้าผู้หญิงมาเห็นคงต้องขอจับขอสัมผัสสักครั้งให้ได้เป็นบุญมือ

เมื่อกระดุมถูกปลดออกจนหมดเสื้อเชิ้ตทั้งสองด้านก็อ้าออกกว้าง กางเกงขาสั้นสีดำของเขาเข้ารูปพอสมควรจนเห็นอะไรต่อมิอะไรที่พองลมขึ้นมาอวดโฉม

ใบหน้าของเขาไม่ใช่หนุ่มใสซื่ออ่อนโยนอีกต่อไป แค่ยิ้มโดยไปไม่ถึงตา แค่กระตุกมุมปากเล็กๆ เก็บฟันขาวไว้ด้านใน อารมณ์ของภาพก็เปลี่ยนเหมือนเทดากับซาตาน

เขื่อนขยับตัวไปพิงหัวเตียง นั่งไขว่ขาอวดเรือนร่างที่อีกนิดก็ไม่ต่างกับแก้ผ้า เขาขยับหันข้าง เหลือบตากลับมามองกล้องแล้วยกมุมปากฝั่งที่ถ่ายเห็นขึ้น

กลายเป็นสวยสังหารไปอย่างง่ายดายเลยแหะ

แชะ แชะ แชะ

ผมกดภาพรัวๆ อีกครั้ง ปีนขึ้นไปนั่งชันเข่าอยู่บนเตียงเพราะต้องการซูมใบหน้าที่เต็มไปด้วยอินเนอร์ของเขื่อนให้ชัดๆ นั่นทำให้หัวเข่าของผมเคลื่อนไปด้วยสีข้างคนนายแบบชื่อดัง เขื่อนหลุบตามองบริเวณที่เราสัมผัสกัน ผมสะดุ้งทำท่าจะขยับตัวนี้ แต่เขากลับแตะมือลงบนหน้าขาก่อนจะไล้ปลายนิ้วเบาๆ ให้ขนทั่วร่างพร้อมใจกันลุกชัน

“เขื่อน!” ผมปรามเสียงดัง แต่เขื่อนกลับช้อนตามองเหมือนจะถามว่าเขาทำอะไรผิด

ด้วยความที่ผมอยู่ในมุมที่สูงกว่า อากัปแบบนี้นับว่ากระแทกใจเข้ามาเต็มๆ ที่จุดอ่อน

สติผมแทบจะหลุดลอยไปแล้ว แต่ก็ยังพยายามโฟกัสกับการหามุมถ่ายภาพต่อไป เขื่อนก็ยังคงขยับตัวเปลี่ยนท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เขาขยับเข้ามาใกล้ผมทุกครั้งที่มีการกดชัตเตอร์ก็ตาม

“ไผ่...” ทำไมเขาต้องทำเสียบแหบใส่ผม ผมไม่เข้าใจ!

“มี อ...อะไร” ผมตัวกระตุกตอนที่เขากระชากข้อเท้าผมอย่างแรงจนล้มก้นจ้ำเบ้า “เจ็บ!”

ผมโวยวาย แต่เขื่อนไม่สนใจ เขากำลังขมวดคิ้วมองพิจารณาอะไรบางอย่าง ก่อนจะคว้ามือข้างหนึ่งของผมให้ทาบลงบนข้างแก้มของเขาเอง

ใบหน้าของเขาเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว เขาขยับให้นิ้วโป้งของผมแตะลงบนริมฝีปากล่าง เอนหน้าซุกซบลงบนอุ้งมือชื้นเหงื่อของผม ก่อนที่อากัปช้อนตามองจะกลับมาอีกครั้ง

“...”

ผมนิ่ง นิ่งไปเลยเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ขึ้นจอฟ้าเวลามีอาการเออเร่อ

“ไผ่ ไม่ถ่ายเหรอ”

“อ๊ะ” ผมสะดุ้งเมื่อเขื่อนร้องเรียก รีบยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพตรงหน้าแม้หัวใจจะเริ่มเต้นแรงยิ่งกว่าทุกที

แย่แน่ๆ

อะไรคือการมีใบหน้าของเจ้าสาวในอุดมคติมาทำท่าออดอ้อนอยู่ตรงหน้า

ผมเกลียดเวลาที่แพขนตาดำขลับขยับชึ้นลงช้าๆ เพราะมันทำให้ใจผมสั่นแรงกว่าที่เป็นอยู่!

ผมไม่รู้ว่ารูปที่ถ่ายไปหลังจากนั้นมันจะยังใช้ได้กี่รูป เพราะผมกดรัวๆ โดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ยิ่งทุกอย่างมันเริ่มหนักข้อขึ้นเพราะเขื่อนย้ำมาว่า

“ธีมแฟนหนุ่มไง แบบนี้แหละค่อยสมจริง”

ผมเลยถูกใช้ร่างกายบางส่วนเข้าไปเป็นพร็อพประกอบ โดยมีเขื่อนเป็นผู้กำกับจัดท่าทางด้วยตัวเองเพราะสมองผมระเบิดบึ้มไปสักพักแล้ว

หลังจากถ่ายเขื่อนในสภาพเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยไปได้สักพัก พวกเราก็เปลี่ยนโลเคชั่นกันเข้าไปในห้องน้ำ ผมคิดตามไม่ทันเลยยอมให้เจ้าของห้องจูงมือไปอย่างง่ายๆ

ห้องน้ำของคอนโดหรูย่านใจกลางเมืองนี่ใหญ่ชะมัด

ผมกวาดตามองด้วยความสนใจ ปกติเวลามาที่นี่ไม่ค่อยได้เข้าห้องน้ำเพราะอยู่ไม่นานก็กลับแล้ว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นถึงความอลังการสมกับราคาแสนแพงของมัน

อ่างน้ำสีขาวถูกรองน้ำเอาไว้จนได้ระดับที่พอเหมาะอยู่ก่อนแล้ว เขื่อนบอกให้ผมไปเดินหามุม ส่วนตัวเขานั้นกำลังติดกระดุมเสื้อแล้วพาร่างสูงชะลูดก้าวเข้าไปในอ่าง

เพราะมันเป็นแค่น้ำใสๆ ไม่ได้ตีฟองสบู่ฟูฟ่อง ยามที่เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกน้ำจึงสามารถเห็นได้ถึงทุกส่วนสัดบนร่างกายท่อนผม
ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมภาพตรงหน้ามันกลับดูเซ็กซี่กว่าเมื่อตะกี้ที่เขื่อนปลดกระดุมออกจนหมด

ยิ่งช่วงหน้าท้องที่เสื้อแนบเสียจนเห็นลอนทั้งหกบนนั้นพร้อมลายกล้ามเนื้อข้างๆ อากาศภายในห้องน้ำห้องนี้ก็คล้ายจะร้อนระอุขึ้นเสียเฉยๆ

เขื่อนเอนตัวนอนลง ปล่อยใบหน้าและศีรษะจมไปใต้น้ำก่อนจะพุ่งตัวขึ้นมาในทันที หยดน้ำกระเซ็นมาทางผมจนต้องรีบตะครุบกล้องไว้ในอ้อมแขน เกือบจะอ้าปากด่าอยู่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะภาพตรงหน้าทำเอาผมลืมวิธีเปล่งเสียงพูดไป

เส้นผมยาวเปียกแนบแก้มแล้วช่วงไหล่กว้าง กับใบหน้าสวยคมที่หยดน้ำพราวระยับอยู่เต็มไปหมด

ผมคว้ากล้องขึ้นจับภาพนั้นเพราะเขื่อนกระแอมเรียกในลำคอ จากตอนแรกถ่ายมุมกว้างให้เห็นภายในห้องน้ำที่ถูกจัดระเบียบไว้จนสะอาดน่าอยู่ ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปถ่ายมุมใกล้มากขึ้น รอบนี้เคลื่อนไม่ได้เปลี่ยนท่าทางมากนักเพราะอ่างแคบเกินกว่าจะออกท่าทาง

เขาเพียงแค่นอนพิงหลังและส่งอารมณ์ออกมาทางสายตา

คราวนี้หัวใจผมเต้นแผ่วเบา ริมฝีปากกระจับบางที่กำลังถูกฟันขาวขบกัดยั่วยวนทำให้ผมลืมที่จะหายใจ บางส่วนของร่างกายเกิดกระตุกด้วยความอึดอัด

ตอนแรกมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรมากมาย

จนกระทั่งเขื่อนปัดป่ายมือข้างหนึ่งลงไปที่เป้ากางเกง อีกข้างแตะบนหน้าอกข้างซ้ายพร้อมกับแอ่นอกเชิดหน้าขึ้น ดวงตาของเขาหลับพริ้ม ทว่าสีหน้ากลับเป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาได้ชัดเจนจนถึงที่สุด

สีหน้าของคนที่กำลังสะท้านเสียว

ผมไม่มีสติพอที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพตรงหน้าได้อีก เมื่อเขื่อนส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาจากลำคอเพื่อความสมจริง ฝ่ามือข้างขวาก็เริ่มขยำต้นขาของตัวเองเบาๆ ใบหน้าขาวแดงระเรื่อขึ้นมาพร้อมกับหยดน้ำที่ติดอยู่ตรงหางตาคล้ายกับคนตรงหน้ากำลังร่ำไห้

หัวใจมันแม้จะเต้นช้าแต่ก็กระแทกลงมาอย่างหนักหน่วง

ความอึดอัดที่กลางลำตัวแสดงอาการหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ และผมก็ไม่อาจละสายตาออกมาจากภาพยั่วยวนตรงหน้าได้เลย กล้ามหน้าท้องของเขาขยับเคลื่อนตามแรงหายใจและอาการบิดกาย

ผมกลืนน้ำลายก้อนที่ใหญ่ที่สุดของวันลงคอ

เฮือก!

ผมสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆ ใครอีกคนลืมตาแล้วเหลือบมามองกัน เขื่อนเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้จับกล้องขึ้นมาถ่ายอีกต่อไป และเมื่อดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นค่อยๆ ไล่สำรวจผมช้าๆ เขาก็คลี่ยิ้มบางๆ ออกมาเหมือนได้รู้เรื่องสนุกอะไรบางอย่าง

“ไผ่...” เสียงแหบพร่านั่นมาอีกแล้ว และคราวนี้ผมก็เลือกจะปล่อยให้มันจางไปกับอากาศ

“พักก่อน หิวน้ำ” ผมพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เขื่อนจะได้พูดอะไร ก่อนจะหันกายเตรียมหนีออกจากห้องน้ำที่ร้อนจนเหงื่อผมแตกพลั่กๆ

แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัวไปได้ถึงก้าวที่สาม เสียงน้ำกระฉอกออกจากอ่านก็ดังสวนขึ้นมา พร้อมกับความเปียบชื้นที่โอบรัดรอบบั้นเอวและลำตัว

ผมตัวแข็ง ไม่กล้าขยับไปไหน

“อะ อะไรของมึง”

“จะไปไหน”

“ไปกินน้ำไง”

“หิวน้ำจริงๆ เหรอ” เสียงทุ้มนั้นดังขึ้นชิดใบหู พร้อมกับไอร้อนที่พ่นพรูเข้ามาจนตัวผมสั่นระริก ขนแขนพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนตรง ในขณะที่เสื้อผ้าของผมก็เริ่มเปียกแชะจนรู้สึกไม่สบายตัว

“แปบเดียว ดะเดี๋ยวกูกลับมา”

“ไผ่”

เฮือก!

ผมสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อริมเขื่อนยังไม่เลิกวุ่นวายกับใบหูของผม เขาหัวเราะเบาๆ กะชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นก่อนจะค่อยๆ ไล้ปลายนิ้วจากเอวลงต่ำไปเรื่อยๆ

“ทำไมมึงแข็ง?”


_________________
Talk: อะไรแข็ง!!!!!!!  :hao7: :hao7:
มาช้าอีกแล้ว งอแงงง อยากมีเวลาเขียนนิยายสต็อคไว้จังเลย
แต่ก็อยากอัพสลับกันทั้งสองเรื่องงงงง ฮือออ จะพยายามรีบปั่นยิกๆๆ

แนะนำติชมได้นะคะะะะ รักทุกคนเลยยยย จุ้บ

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ได้กินน้ำแล้วมั้งจังหวะนี้  :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฬ้ายยยยย  เขื่อนอย่าแกล้งเดะ อิอิ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :ling1: เขินมากกกก  :ling1: ติดงอมแงมค่ะ  :hao7: ติดทั้งสองเรื่องเลย  :hao7:

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนุก​  ติดตามจร้า
มาไวไวเน้ออออ

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 4



“ทำไมมึงแข็ง?”

คำถามนั้นเขย่าหัวใจของผมอย่างหนักหน่วง พร้อมทั้งแช่แข็งทุกส่วนของร่างกายให้ไม่อาจขยับหนี

ผมยืนนิ่งและกลั้นลมหายใจ ช่วงท้องยังมีฝ่ามืออุ่นร้อนทาบทับลงมา หลังจากนั้นเขื่อนก็ค่อยๆ สอดแขนซ้ายเข้าโอบรอบบั้นเอวของผมแล้วดึงกระชับให้ร่างกายของเราสองคนแนบชิดกัน

“มึงมีอารมณ์กับกูเหรอ?” เสียงทุ้มนั้นกระซิบถามชิดใบหู

ไอร้อนจากลมหายใจถูกพรูเข้าใส่ด้วยความตั้งใจ ผมตัวแข็งตรง เส้นขนบริเวณหลังคอพร้อมใจกันลุกชันพร้อมกับอาการเสียวซ่านที่แล่นพล่านไปตามกระดูกไขสันหลัง เส้นไหมสีดำยาวสลวยตกระลงมาคลอเคลียที่หัวไหล่และลำคอของผมเมื่อเขื่อนโน้มหน้าเข้ามาหา

ผมไม่ได้ตอบคำถามเลยสักคำ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่จะกล้าพูดออกไปได้ ในเมื่อส่วนที่อยู่กลางกายยังดุนดันให้เกิดความอึดอัดจนนึกอยากสอดมือเข้าไปจัดที่จัดทางให้เรียบร้อย

ไม่อาจยอมรับได้เลยว่าเผลอมีอารมณ์กับริมเขื่อนไปจริงๆ

“ไผ่...” เสียงแหบพร่านั้นเรียกร้องให้ผมตอบคำถามของเขาอีกครั้ง พร้อมกับริมฝีปากชื้นที่กดเข้ามาตรงกกหู

ผมสะดุ้งได้สติ จึงได้ออกแรงดิ้นรนหมายจะพาตัวเองออกมาจากพันธนาการแสนอันตราย

“เขื่อน ปล่อยกู กูจะไปกินน้ำ”

“มึงหิวน้ำจริงๆ เหรอ”

“เออสิวะ” ผมขึ้นเสียงและออกแรงผลักแขนที่โอบเอวอยู่สุดแรง และมันได้ผลเมื่อเขื่อนยอมจำนน เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นราวกับผู้ร้ายที่ถูกตำรวจจ่อปืนใส่ ผมเลยได้โอกาสขยับขาพาตัวเองออกมาจากห้องน้ำนั้นทันที ไม่แม้จะกันกลับไปมองหน้าของใครอีกคนสักนิด

รู้แค่ว่าต้องออกจากที่ตรงนี้เดี๋ยวนี้!

“เฮ้ออ” ผมพ้นลมหายใจระหว่างที่เดินไปยังห้องครัว เปิดตู้เย็นหยิบน้ำมารินใส่แก้วแล้วกระดกลงคออักๆ ซัดไปทั้งหมดสามแก้วก็เริ่มรู้สึกร่างกายเย็นลง อะไรๆ มันก็สงบกลับไปแล้ว

ผมทิ้งสายตาไปที่ประตูห้องนอนของเขื่อน แอบเบ้ปากเพราะเริ่มไม่อยากกลับเข้าไปแล้ว คิดว่าภาพที่ได้มาร้อยกว่ารูปนี้ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการ

คงถึงเวลาต้องกลับบ้านสักที

ผมล้างแก้วแล้วเอาคว่ำไว้ที่ข้างซิงค์อยากเรียบร้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าสุดปอดแล้วก้าวเดินเข้าไปในห้องนอนที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายแบบนั้นอีกครั้ง

“เขื่อน กูว่าพอแค่นี้แหละ...ว่ะ”

ผมไม่ได้สามารถพูดจบประโยคได้เลย เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วมองเห็นภาพตรงหน้าเต็มๆ ตา

ภาพของผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งที่นั่งเอนหลังพิงหมอนอยู่บนเตียง เส้นผมยาวที่เปียกชื้นยังถูกปล่อยสยายแม้มีบางช่วงเริ่มจับกันเป็นก้อน ใบหน้าสวยแดงระเรื่อพร้อมกับริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อยจนเห็นฟันกระต่ายเล็กๆ โผล่พ้นออกมา ดวงตาปรือปรอยฉ่ำไปด้วยน้ำตาสีใส พร้อมกับเรือนร่างที่แทบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว

ริมเขื่อนสวมเพียงอันเดอร์แวร์สีดำสนิทที่แนบกับตัวจนเห็นส่วนโค้งเว้าชัดเจน มือเรียวสวยแต่ยังคงมองออกว่าเป็นมือผู้ชายกำลังลูบไล้ไปตามร่างกายตัวเองอย่างแช่มช้า

ปลายนิ้วชี้บนขยี้แผ่นอกให้ขึ้นรอยแดง ขาขวาก็ยกขึ้นชันเข่าเผยสัดส่วนที่นูนเด่นให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา สะโพกแกร่งขยับเล็กน้อยสอดประสานกับแรงเคลื่อนของข้อมือที่ลูบวนอยู่ด้านล่าง และเมื่อดวงตาสีนิลหันมาเห็นผม เขาก็กัดริมฝีปากยั่วหนึ่งที่แล้วส่งเสียงเครือครางในลำคอดังออกมาให้ได้ยิน

“กู กู...” ผมหาเสียงตัวเองไม่เจอ เลยได้แต่อ้าปากพะงาบๆ อย่างน่าสมเพช

“ไผ่ ถ่ายสิ แค่หน้านะ” เขื่อนร้องเรียกผมด้วยเสียงที่ยังแหบพร่าและทุ้มต่ำ

“คือกู-” และก็เป็นผมเองที่ยังตั้งสติไม่ได้ จึงทำได้แค่ร้องอืมเอ่อไปเรื่อย จนคนบนเตียงยกนิ้วชี้กระดิกเรียกพร้อมส่งสายตาเชิญชวน

“มาถ่ายสิไผ่”

เหมือนมีมนต์สะกด เหมือนมีแรงดึงดูดจากหลุมขนาดใหญ่ที่กระชากร่างผมให้เดินเข้าหาโดยไม่อาจต้านทาน

ผมไม่รู้ว่าพาตัวเองมายืนข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายืนสบตาดวงตาสีดำสนิทที่เยิ้มไปด้วยอารมณ์ปรารถนานั้นนานแค่ไหนแล้ว กล้องที่คล้องคออยู่ถูกยกขึ้นมาช้าๆ แม้ว่าสายตาของผมจะยังจับจ้องใบหน้าสวยที่กำลังคลี่ยิ้มยวนใจ ดั่งปีศาจสาวแสนร้ายกาจที่หมายหลอกล่อให้ผมเข้าไปติดกับดัก

ผมแนบรูกล้องไว้ที่ดวงตา มองความงดงามตรงหน้าผ่านเลนส์กล้อง แม้จะถ่ายโคลสอัพแต่ผิวที่เรียบเนียนของเขื่อนก็ยังรับกับแสงไฟที่ตกกระทบลงมาเป็นอย่างดี

ผมกดชัตเตอร์ด้วยปลายนิ้วสั่นระริก

กดมันอีกครั้งเพราะหัวใจเต้นระรัวจนไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้

และกดมันเป็นครั้งที่สามเพราะดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมามองกล้อง พร้อมกับฟันขาวที่กัดลงบนริมฝีปากล่างอีกครั้ง

หลังจากนั้นผมก็วางกล้องไว้บนโต๊ะข้างเตียง ดึงผ้าห่มผืนหนาที่ถูกเตะไปกองไว้ปลายเท้าขึ้นมาตลบคลุมคนที่ยังไม่หยุดไล้ผิวกายตัวเองเล่น เขื่อนร้องลั่นด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาถูกคลุมทับปิดความสวยหยาดเยิ้มที่กำลังเป็นพิษร้ายแก่ตัวผม ในขณะที่ผมนั้นรีบลุกขึ้นจากเตียง หมายจะหนีออกไปสงยสติอารมณ์ที่ไหนสักที่ที่ห่างไกลจากคนช่างยั่วอย่างริมเขื่อนให้มากที่สุด

หมับ!

“จะไปไหน” คนที่ควรจะยังอยู่ใต้ผ้าห่มกลับพุ่งเข้ามาคว้าแขนผมที่กำลังจะหมุนลูกบิดประตูห้องนอน เขื่อนออกแรงกระชากอย่างแรงจนผมปลิวเข้าสู้อ้อมแขนแกร่ง จากนั้นทุกอย่างก็หมุนคว้างอย่างรวดเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อผมถูกดันเข้าชิดผนังแล้วจับพลิกตัวให้หันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย

“มึงจะไปไหน” เขื่อนถาม

“ปล่อย” ผมบอก เบนสายตาเลี่ยงสบกับดวงตาที่ยังมีหยดน้ำพร่างพราวอยู่เต็มเบ้า

“ไผ่ มองหน้ากูหน่อย”

“ไม่ ปล่อยกู”

“มองหน้ากูหน่อยครับ” เขื่อนพยายามจับปลายคางผมให้หันกลับมา แต่ผมก็ขืนหน้าเอาไว้อย่างสุดแรงจนกล้ามเนื้อที่คอขึ้นรอยนูนชัด

“เขื่อน กูจะกลับบ้านแล้ว”

“เป็นอะไร”

“ไม่ได้เป็นอะไร”

“ไม่มองหน้ากันงี้คือไม่เป็นอะไร?”

“...” ผมเงียบ เม้มปากเข้าหากันเพราะไม่สามารถสรรหาคาเถียงได้

เขื่อนขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนสันจมูกแตะลงที่โหนกแก้มของผม เขาเบียดร่างกายเข้ามาแนบชิดจนผมแทบจะสิงเข้าไปในผนังห้องอยู่แล้ว กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กับไอร้อนจากตัวอีกฝ่ายส่งผลให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อยากหลุดพ้นออกไปจากตรงนี้สักที แต่เพราะสู้แรงเขื่อนไม่ไหว เลยยังตกอยู่ในพันธนาการของร่างกายสูงใหญ่ที่ปิดทุกทางออกไว้ด้วยท่อนแขนแกร่ง

“มึงจะออกไปทั้งอย่างนี้เหรอ” เขื่อนกระซิบตอนที่แนบริมฝีปากลงมาบนแก้ม ผมผลักอกเขาอย่างแรง แม้มันจะทำให้เขาขยับเล็กน้อยแต่เขื่อนก็รีบเคลื่อนกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมภายในเสี้ยววิ ผลสุกท้ายคือผมก็ยังถูกจับกุมไว้ในท่าเดิม แขนสองข้างโดนรวบด้วยมือข้างเดียว พร้อมกับท่าทางคุกคามที่มากขึ้นทุกที

เขื่อนใช้เข่าข้างขวาของตัวเองบดเข้ามาที่เป้ากางเกงของผม!

“ไอ้เขื่อน!” ผมร้องลั่น เริ่มดิ้นรนอีกครั้งแต่ทุกการขยับก็ทำให้เกิดการบดเบียดที่รุนแรงขึ้น

มันไม่ได้ทำให้เจ็บเพราะเขื่อนรู้ว่าจะยั้งขาตัวเองยังไงตอนผมดิ้น ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ดีว่าต้องลงแรงไปตรงจุดไหน ร่างกายผมจะได้อ่อนปวกเปียกอย่างที่เขาต้องการ

ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเพราะอะไรทำไมสถาณการณ์แบบนี้ถึงเกิดขึ้น

เข่าของคนตัวสูงยังเสียดสีอย่างต่อเนื่องไม่หยุด พร้อมทั้งริมฝีปากร้อนที่เคลื่อนจูบอยู่ที่ข้างแก้มด้านขวา เอวของผมถูกท่อนแขนแกร่งโอบเอาไว้รอบ รั้งกายให้เราสองคนแนบกันสนิท

และในตอนท้าย ริมฝีปากนั้นก็บดจูบเข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว!

“อื้อ”

ผมร้องครางประท้วงในลำคอ เบี่ยงหน้าหนีแต่เขื่อนก็ยังตามมาฉกจูบไปได้ทันท่วงที เขาคว้าคางของผมไว้ บีบลงที่แก้มเพื่อกดกรามทั้งบนล่างให้แยกออกจากกัน ผมเผยอปากตามแรงบังคับ ส่งผลให้ลิ้นร้อนแทรกเข้ามากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นของผมเล่นอย่างย่ามใจ

“อื้อ อื้ออ!!” ผมต้านทานสุดแรงเกิด แต่ช่วงล่างที่ยังถูกเสียดสีอยู่นั้นกลับดูดเรี่ยวแรงผมให้หายไปกว่าครึ่ง ผมตัวอ่อนปวกเปียก ยินยอมรับจูบร้อนแรงนั้นเมื่อฝ่ามือหนาเริ่มรุกรานเข้ามาที่ตัวตนกลางกาย

เพราะมันไม่เคยถูกสัมผัสโดยบุคคลอื่น เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมแตะลงมา ร่างทั้งร่างของผมก็กระตุกเกร็งด้วยความตกใจ ก่อนที่มันจะสั่นระริกและอ่อนยวบยามที่เขื่อนแทรกมือเข้าไปในขอบกางเกงแล้วรั้งเจ้าตัวเล็กด้านในให้ตั้งตรงตามความยาวของมัน

“ขะ เขื่อน ไม่เอา” ผมร้องบอกตอนที่จูบร้อนผละออกไป เสียงมันตะกุกตะกักเพราะผมยังหอบแฮก

“ไผ่” เขื่อนผละจูบออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ขยับหน้าออกห่าง ทำให้ทุกๆ การพูดริมฝีปากของเราเสียดสีกับไปมา ผมตาปรือปรอย พยายามเพ่งมองผ่านม่านน้ำตาที่คลอจนแทบล้นออกจากเบ้า ไม่ต่างจากแพขนตายาวของคนตรงหน้าที่ก็ชื้นฉ่ำ ริมฝีปากของเขื่อนบวมเจอจากแรงบดขยี้ มันเผยอขึ้นแม้ไม่ได้ตั้งใจ ผมมองลิ้นเล็กสีแดงที่ค่อยๆ แลบออกมาเลียขอบปาก มองจมูกโด่งสวยที่คลอเคลียผิวแก้มของผม

“ให้กูช่วย” คนตัวสูงกระซิบเสียงแผ่ว ข้อมือแกร่งก็ขยับรูดรั้งสิ่งในมือนั้นเป็นจังหวะ

ขาของผมสั่น ทุกการขยับส่งผลให้ร่างกายผมกระตุกริกๆ ผมกลั้นลมหายใจอีกครั้งจากความกระสันที่สาดเข้าโครมใหญ่ เผลอซุกหน้าเข้ากับซอกคอขาวแล้วโอบแขนรอบลำตัวหนา

เขื่อนหายใจแรงขึ้น ได้ยินเสียงกัดกรามดังกรอดแว่วมาเบาๆ ผมไม่รู้เป็นเพราะอะไรเพราะมัวแต่สะท้านเสียวกับสัมผัสที่ไม่เคยพบเจอ มันให้ความรู้สึกดีกว่าทำด้วยตัวเองประมาณสิบเท่า ผมที่มีแม่นางทั้งห้าเป็นภรรยามาโดยตลอดถึงกับไม่อาจยืนอยู่บนขาตัวเองได้อีกต่อไป

ร่างของผมล่วงไปกองที่พื้น แม้จะมีอ้อมแขนแกร่งช่วยรั้งแต่เขื่อนก็ไม่สามารถสู้น้ำหนักของผมได้ ผลคือเราทั้งคู่ทรุดนั่งในท่าประหลาดๆ ผมชันเข่าทั้งสองข้าง เอนหลังพิงหนังและยังโอบกอดร่างกายได้รูปของคนตรงหน้าไว้แน่น ปากก็ขบกัดหัวไหล่ขาวจนขึ้นรอยฟัน น้ำลายสีใสไหลเปื้อนเล็กๆ จนผิวหนังบริเวณนั้นแวววาว ฝ่ามือของเขื่อนยังไม่ปล่อยออกจากตัวตนของผม เขาคุกเข่า ขยับท่าให้พวกเราแนบชิดกันอย่างถนัดถนี่ พร้อมกับเริ่มตอกมือด้วยความรุนแรงและระรัวเร็วมากกว่าเก่า

“ยะ อย่า อ๊ะ” สะโพกของผมลอยเหนือจากพื้น ทั้งพยายามหดตัวหนีความรู้สึกที่มากจนเกินรับไหว แต่เขื่อนกลับไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น เขาป้อนจูบให้ผมอีกครั้ง มัวเมาผมด้วยเรียวลิ้นเล็กกับดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยแรงอารมณ์

ผมไม่ได้หลับตาตอนได้รับจูบดูดดื่ม อีกฝ่ายก็เหมือนกัน เราต่างสบดวงตาที่สื่อความต้องการอยู่เนิ่นนาน ขยับผิวปากเคลื่อนไปมาตอบสนองสัมผัส ผมจ้องเข้าไปในแก้วตาสีดำสนิท ก่อนที่ทัศนียภาพตรงหน้าจะพร่าเลือนเมื่อก้อนอารมณ์ม้วนตัวกันกระจุกอยู่ที่ส่วนปลาย

“ขะ เขื่อน เขื่อน อื้อ!” ผมเกี่ยวแผ่นหลังเนียนละเอียดนั้นไว้แน่น จิกนิ้วทั้งห้าลงไปในจังหวะที่ร่างกายกระตุกเกร็ง ช่วงล่างเปรอะเปื้อนจากของเหลวบางอย่างจนเหนอะหนะ กลิ่นคาวของมันลอยอบอวลทั่วห้อง แต่เขื่อนก็ยังไม่ยอมหยุดขยับมือ เขาปาดสิ่งนั้นจนทั่วตัวตนของผม ขยับรูดรั้งจนเกิดสัมผัสประหลาดขึ้น

ผมครางฮือ มุดหน้าลงซูดกลิ่นกายหอมที่ซอกคอของเขาอีกครั้ง ในขณะที่เขื่อนเองก็เบียดกายเข้ามายิ่งกว่าเก่า เขาพ่นลมหายใจใส่รูหูของผม ใช้ลิ้นเล็กๆ สะกิดติ่งเนื้อเบาๆ แล้วครอบฟันขบเม้มอย่างกลั่นแกล้ง

“ไผ่ครับ”

“ฮ้า ฮ้า”

“ช่วยกูด้วย”

“ไม่เอา!” ผมได้สติทันทีที่ได้ยินคำขอร้องนั้น ผ่ามือที่โอบกอดเขื่อนเปลี่ยนเป็นผลักอกเขาอย่างแรง อีกฝ่ายที่ไม่ได้ตั้งตัวก็กระเด็นออกไปประมาณหนึ่ง

ผมรีบหุบขา เก็บซ่อนความหน้าอายเอาไว้พร้อมกับแกล้งตีสีหน้าโกรธเคืองปิดกั้นความเขินอาย

แม่ง นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!

ผมอยากสบถ อยากกรีดร้องออกมาเมื่อจำได้ทุกอย่างว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ใบหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นมาจนแทบทอดไข่ดาวสุก ไม่กล้าขยับตัวเลยสักนิดแม้ว่าเสื้อผ้าขะยังกองอยู่ที่ข้อเท้าไม่ได้หลุดไปไหน

ไอ้เขื่อนทำบ้าอะไรของมันวะ

ผมอยากถาม แต่ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังขยับเข้ามาใกล้

“ออกไป ไอ้เขื่อน อย่ามาใกล้กู”

“ไผ่”

“ไอ้เหี้ย กูบอกให้ถอยออกไป” ผมแหกปาก ยกตีนขึ้นถีบอกคนที่คลานเข่าเข้ามาหา แต่อีกฝ่ายกลับจับข้อเท้าของผมไว้ ก่อนจะกดจูบลงที่ปลายนิ้วพร้อมช้อนตาขึ้นมองกันอย่างอ้อนวอน

“กูขอโทษ” เขื่อนบอกเสียงหวาน แถมยังจุมพิตซ้ำๆ ลงที่ฝ่าเท้า

มึงทำอะไรไอ้หมีควาย!

ผมชักเท้าหนี ส่งผลให้เขื่อนสามารถคลานเข้ามาใกล้ได้ในที่สุด เขาพยายามขยับหน้าหามุมสบตากับผม ในขณะที่ผมก็หลบเลี่ยงสุดความสามารถ

“ไผ่ ช่วยกูหน่อย”

“ไปตายที่ไหนก็ไป!”

“ไผ่ครับ”

แม่งๆๆๆๆๆ

ทำไมต้องมาทำสีหน้าออดอ้อนวะ

ทำไมต้องช้อนตามองแล้วกระพริบตาช้าๆ พร้อมกับหลุบตาลงบ้างเหมือนตัดพ้อต่อว่า

แล้วไอ้ริมฝีปากสีแดงก่ำที่บวมเจ่อชวนให้เข้าไปย่ำยีนั่นอีก

ผมกัดปากตัวเอง หันหน้าหนีภาพยั่วยวนตรงหน้า เจ้าของใบหน้าสวยที่ยังอยู่ในท่าคลานเข่า กับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการมากมาย ผิวกายขาวแดงระเรื่อพอๆ กับแก้มเนียน

ผมเกลียดที่ตัวเองดันมีอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้ว ชิบหาย!

“มึง กูไม่ไหวแล้ว” ไผ่บอกเสียงเบา เขาพลิกตัวกลับมานั่งชันเข่าท่าเดียวกับผม ก้อนกล้ามเนื้อที่หน้าท้องขึ้นชัดเพราะท่อนบนที่หดตัว กางเกงแนบเนื้อสีดำถูกรั้งลงไปเกาะที่ต้นขา และคนตรงหน้าก็ค่อยๆ สอดมือเข้าไปปรนเปรอส่วนนั้นของตัวเองเบาๆ
ผมไม่ได้มองการกระทำนั้นของเขา เพราะสายตาดันติดอยู่บนใบหน้าที่เริ่มเหยเกจากความเสียวซ่าน หน้าอกขาวกับเม็ดสีชมพูแอ่นสูง เสียงครางผะแผ่วในลำคอ

ผมคิดว่าเขื่อนตั้งใจสบตาและส่งความเว้าวอนปนกระหายอยากมาให้

“อ...อืม ไผ่” เขาครางเรียกชื่อผม อ้าปากตะครุบอากาศพร้อมเชิดหน้าขึ้นสูง

บังเกิดความรู้สึกอยากยำยีคนตรงหน้าขึ้นในจิตใจ

เลือดของชายหนุ่มวัยกลัดมันกำลังพุ่งพล่าน หัวใจของผมเต้นแรง ความรู้สึกกำลังควบคุมสมองทีละนิด จนในที่สุดผมก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ วางมือลงบนหลังมือที่ขยับขึ้นลงอยู่ที่ตรงนั้น

“เขื่อน” ผมเรียกเขาและจ้องดวงตาหวานฉ่ำไม่ละหนี

คนตัวสูงคลี่ยิ้มบางๆ ยอมถอนมือตัวเองออกมาให้ผมสัมผัสสิ่งนั้นได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เขารูดอันเดอร์แวร์ออกทางปลายเท้า ขยับแขนโอบตัวผมให้เลื่อนเข้าไปใกล้

“อย่างนั้น” เขื่อนว่าเสียงสั่นเมื่อผมค่อยๆ ขยี้ปลายยอดพร้อมกอบกุมไว้เต็มกำมือ

ผมมองใบหน้าที่กำลังบิดเบี้ยวมากขึ้นทุกทียามที่มือของผมขยับ เสียงครางฮือฮาพร้อมน้ำตาสีใสทีจับตัวเป็นก้อนกลมที่หัวตา
ผมอยากทำให้สีหน้านั้นบิดเบี้ยวยิ่งกว่านี้

อยากได้ยินเสียงหวานร้องให้ดังมากกว่าเก่า

กรอบหน้าสวยเมื่อแต่งแต้มด้วยอารมณ์ใคร่ยากนั้นกลับดูงามล้ำยิ่งกว่าเก่า ผิวกายขาวแดงระเรื่อตัดกับเส้นไหมสีดำสนิท เมื่อมันคลอเคลียไปกับหัวไหล่และแผ่นอกเนียนละเอียด ก็ยิ่งขับให้ภาพตรงหน้าน่ามองมากยิ่งขึ้น

น้องเขื่อนของผมขยับตัวบิดกาย ยันสะโพกสวนเข้ามารับแรงกระแทกจากข้อมือ ผมรู้สึกถึงไอร้อนระอุจากร่างกายเปลือยเปล่า เห็นดวงตาพราวระยับปรือปรอยน่าเอ็นดู

ถึงแม้ตัวจะหนา กล้ามจะแน่นมากแค่ไหน เขื่อนก็ยังน่ามองในทุกท่วงท่าที่ขยับ

ผมรูดให้แรงขึ้น ขยี้ให้หนักข้อ และซึมซับทุกการขยับของกล้ามเนื้อบนใบหน้านั้นด้วยความหฤหรรษ เราจูบกันนัวเนียในตอนที่เขื่อนดึงร่างผมให้ลอยเข้าไปหา อารมณ์ของเขาเคลื่อนมาถึงจุดบนสุดของยอดเขาสูงชัน ก่อนที่จะหล่นกระแทกมาที่ทะเลกว้างจนหยาดน้ำกระเซ็นเปื้อนเลอะเทอะ

เสียงหอบหายใจของเขาดังประสานกับเครื่องปรับอากาศ

เขื่อนยังจูบผมไม่เลิกแม้ทุกอย่างจะจบลงแล้ว ส่วนผมก็ถูกมัวเมาให้เคลิ้มรับความหวานที่แตะละเลียตส่งตรงถึงปลายลิ้น ร่างของผมถูกผลักเอนลงนอนตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ แต่เมื่อความเย็นจากพื้นประเบื้องปะทะเข้ากับแผ่นหลัง ผมก็ลืมตาโพลงด้วยความตกใจในทันที

“อื้อ!” ผมผลักหน้าผากของคนที่หลับตาพริ้มออก กดเข่ากระแทกต้นขาแข็งที่แรกอยู่ตรงหว่างขา

“กูเจ็บ” เขื่อนโอดครวญ แต่ผมไม่สนใจ รีบกระโจนพุ่งเข้าห้องน้ำก่อนจะกดล็อกกลอนให้แน่นหนา

ผมถูกหน้าสวยๆ นั่นล่อลวง

เขื่อนมันเป็นงูพิษชัดๆ!

แล้วหลังจากนี้ผมจะมองหน้าเพื่อนตัวเองต่อไปยังไง ผมไม่สามารถน้องเขื่อนในฟิลเตอร์ใสซื่อน่าปกป้องได้อีกแล้วใช่ไหม เพราะไอ้เขื่อนร่างยักษ์มันทลายกล่องความทรงจำของผมจนเละเทะไปหมด

“ไผ่ กูอยากอาบน้ำ”

“เรื่องของมึง”

“มึง... มันเหนียว”

แล้วคำพูดมันก็ทำให้ผมก้มลงมองมือตัวเองที่ยังเต็มไปด้วยความเหนอะหนะ

หลังจากนั้นสมองผมก็เตะประตูห้องน้ำดังปัง! ไปหนึ่งทีก่อนจะลากตัวเองไปใต้ฝักบัวแล้วกดสบู่เหลวออกมาหลายปั้มเพื่อชำระไอ้ของเหลวน่าขยะแขยงบนมือทิ้งไปให้หมด

ผมจะไม่มาเหยียบห้องนี้อีกแน่ๆ

ไม่มีวัน!


_____________________
Talk: ไม่ - รอด!!!!!
นังเขื่อนมันเป็นงูพิษ งูพิษที่ผมยาวๆ หน้าสวยๆ ที่รู้ดีกว่าจะใช้ประโยชน์จากหน้าตาตัวเองยังไง
ข่นร้ายกาจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ

ขออภัยที่มาช้าค่า แง้ๆๆๆๆ
แนะนำติชมได้เสมอนะคะ ตรงไหนไม่ดี อ่านแล้วขัดหูขัดตา
พร้อมน้อมรับนำไปแก้ไขน้า ขอบคุณค่า รักกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2018 14:06:37 โดย หะมายด์เอง »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao6:  :hao6:  :hao6: เขื่อนมันร้ายใช่เล่นนะเนี่ย....  :hao7:  :hao7:  :hao7:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องเขื่อนคนสวยทำพี่ไผ่ใจบางไปหมดแล้วว :ling1:

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด