เพื่อนวัยเด็ก #เขื่อนคนสวย {แนวเมะหน้าสวย} | E-Book มาแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนวัยเด็ก #เขื่อนคนสวย {แนวเมะหน้าสวย} | E-Book มาแล้วจ้า  (อ่าน 95756 ครั้ง)

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เขื่อนจะร้อนรนเพื่อ...กลัวพี่มันจะเข้าใจผิดหรือ เราว่าเขื่อนคงไม่ซิงแล้วแน่ ๆ และคงจะผ่านประสบการณ์มาเยอะแน่ ๆ ถึงได้ร้อนรนซะขนาดนั้น กลัวอิพี่มันจะโกรธที่รู้หรือค่ะเขื่อนคนสวย

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หื้มมม ร้อนตัวปะคะะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยังไงๆ..........   :z3: :z3: :z3:
เขื่อน พาไผ่ไปสตูเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ  :mew1:
กับเพื่อเอาไผ่เป็นไม้กันหมาปะ  :hao3:
หรือเพื่อบอกให้คนที่มาจีบเขื่อนว่าเขื่อนมีตัวจริงแล้ว  :m20: :laugh:

เขื่อน  ไผ่   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เขื่อนเธอร้ายมากก

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เขื่อนจ้องจะแอ้มหนักมาก5555 รอวันไผ่ใจอ่อนนน

ออฟไลน์ Josett

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เขื่อนร้อนตัวทำไมอะะะ ไปทำอะไรไม่ดีมาหรือเปล่า
ถ้าทำไผ่เสียใจนะ จะไม่ยอมให้ไผ่คุยด้วยเลยย

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 7



“ไผ่ ตื่นได้แล้ว” เสียงอ่อนโยนของใครสักคนดังลอดเข้ามาในห้วงความฝันที่ผมกำลังยืนท้าลมอยู่บนยอดภูเขาสูง ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าค่อยๆ ถูกความมืดมิดขยับเข้ากลืนจนหมด จากนั้นผมก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาจากความฝัน มือใหญ่จับต้นแขนของผมไว้และเขย่าเรียกเบาๆ

“อื้อ กี่โมงแล้ว” ผมยืดแขนบิดขี้เกียจ พร้อมกับบิดตัวเป็นเกลียวจนกระดูกสะโพกลั่นดังกร๊อบ

“หกโมงแล้ว ถ้าไม่รีบออกเดี๋ยวรถจะติด”

ผมพยักหน้า ยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินหาววอดคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ผมใช้เวลาในนั้นแค่สิบห้านาทีก็เดินตัวเปียกพันผ้าขนหนูรอบเอวออกมา

ภายในห้องนอนไม่พบร่างของแขกไม่ได้รับเชิญอีกแล้ว ผมเลยผิวปากหวือ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าด้วยอาการลีลาเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องรีบแต่งตัวเพราะเขื่อนคงกลับห้องตัวเองไปแล้ว ผมรื้อๆ ดูเสื้อผ้าที่ดูดีกว่าเสื้อยืดกางเกงยีนส์มาใส่ อย่างน้อยก็ติดตามนายแบบชื่อดังไปทำงาน ไม่อาจพาสารร่างเซอร์ๆ ผสมซกมกไปให้ขายขี้หน้าได้

ผมคว้าเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายใบไม้ออกมาสวม ด้วยเนื้อผ้าบางเบาทำให้ไม่จำเป็นต้องรีด กางเกงวันนี้ก็ใส่เป็นกางเกงผ้าสีดำ เป็นชุดที่เรียบร้อยที่สุดเท่าที่ผมจะมีในตู้ ถ้าไม่นับพวกชุดทำงานที่พับเก็บใส่ถุงพลาสติกไว้ในหลืบตู้น่ะนะ

ผมยังไม่ได้ติดกระดุมเสื้อเพราะอากาศวันนี้ร้อนจนพัดลมเอาไม่อยู่ ที่ไม่ได้เปิดแอร์เนื่องจากใช้งานมาทั้งคืนจึงควรพักมันบ้าง ผมสำรวจปลั๊กไฟและเครื่องใช้อื่นๆ ในห้องนอนว่าปิดเรียบร้อยดีไหม คว้าเอากระเป๋าคาดอกใบเล็กมาถือพร้อมยัดๆ โทรศัพท์ กุญแจห้อง กับกระเป๋าตังค์เข้าไปอย่างลวกๆ กวาดตามองรอบห้องอีกครั้งแล้วเดินเตะเท้าออกมาจากห้องนอน

คนที่ผมนึกว่ากลับห้องไปแล้วยืนอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวขนาดเล็กที่วางชิดผนัง มีเก้าอี้ไว้สำหรับสองที่ ในมือมันกำลังทาแยมบนขนมปังสองแผ่นแล้วจัดใส่จานไว้อย่างเรียบร้อย ข้างๆ กันมีนมถั่วเหลือสองกล่องตั้งไว้

“เอามาจากไหนวะ” ผมถาม เพราะเมื่อวานผมไม่ได้ออกไปซื้อของเข้าห้องอย่างที่ตั้งใจไว้ ทำให้ไม่มีอาหารใดเลยอยู่ในคอนโดห้องนี้ แม้กระทั่งน้ำเปล่าสักขวดก็ยังไม่มี

“ห้องกู”

“มึงกลับไปเอามาจากห้อง?”

“อืม” เขื่อนพยักเพยิดให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ “กินเร็ว อีกสิบนาทีจะออกแล้ว”

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา ใกล้หกโมงครึ่งเข้าไปทุกที วันนี้เป็นวันธรรมดา ผมนึกสภาพท้องถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนออกจึงรีบยัดทุกอย่างลงท้องด้วยความไวแสง

เมื่อเอาจานไปวางรองน้ำในซิงค์เรียบร้อยผมก็หมุนตัวกลับไปหยิบนมกล่องมาเจาะดูด คล้องกระเป๋าคาดอกไว้บนไหล่ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว

“ไผ่”

“อะไร” ผมถามทั้งๆ ที่ยังดูดนมอยู่ เขื่อนมองสำรวจทั่วตัวผมก่อนจะขมวดคิ้วหน้าผากยับย่น “อะไรของมึง”

“ทำไมไม่ติดกระดุม”

“หืม” ผมเลิกคิ้ว ก้มลงมองตัวเอง ก็พบว่าชายเสื้อเชิตทั้งสองข้างยังปลิวไสว เผยแผงอกกับหน้าท้องแบนราบราวกับไม่ได้สวมเสื้อท่อนผม “ลืมๆ แปบ”

ผมบอกแล้วรีบดูดนมในกล่องให้หมด แต่นมถั่วเหลืองที่เขื่อนเอามาให้ก็เยอะจนท้องจะแตกอยู่แล้วก็ยังไม่ถึงก้นกล่องเสียที ผมเลยคายหลอดดูดในปากออกเพื่อจะวางมันไว้ก่อน แต่เขื่อนกลับดันมือผมไม่ให้ทำตามต้องการ ผมเลยขมวดคิ้วด้วยความฉงน

“น่าเกลียด” เขื่อนพูดแบบนั้นแล้วขยับตัวเข้ามาติดกระดุมเสื้อให้ผมแทน

“อะไรของมึง”

“คราบนมในปากมึงอ่ะน่าเกลียด”

ผมเบิกตาโต รีบใช้ลิ้นกวาดรอบโพรงปากตัวเองเพื่อจัดการคราบนมแบบที่เขื่อนบอกทันที เห็นสีหน้าเหยเกของคนตรงหน้าพร้อมกับท่าทีไม่ยอมสบตาก็ตัดสินกับตัวเองว่ามันคงทุเรศจริงๆ นั่นแหละ

แค่คิดว่ามีคราบนมสีขาวขุ่นยืดออกมาจากปากแบบเด็กๆ แต่ตัวเท่าควายแถมเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ขนทั้งร่างของผมก็ชวนกันลุกชันในทันที

“ขอโทษ” ผมบอกอย่างสำนึกผิด ยอมปล่อยให้เขื่อนค่อยๆ ดันกระดุมสีใสเข้ารังดุมที่ละเม็ดอย่างช้าๆ

กว่าจะเสร็จก็หลายนาที ผมไม่รู้ว่าเขื่อนมันจะอ้อยอิ่งไปไหน นิ้วเย็นชืดของมันก็ขยันแตะมาโดนหน้าอกหน้าท้องของผมจนสะดุ้งโหยงไปหลายรอบจากความเย็น ผมรีบดูดนมกล่องในมือจนหมด ในขณะเดียวกันกระดุมเม็ดสุดท้ายก็ถูกกลัดเรียบร้อยแล้ว

“ขอบใจมึง” ผมบอก เดินไปโยนกล่องน้ำบุบบี้ลงถุงดำแล้วก้าวดุ่มๆ ตามหลังคนตัวสูงที่ดูเงียบลงไปอย่างน่าแปลก

เขื่อนพาผมเดินไปที่อาคารจอดรถด้านหลัง ด้วยความที่เป็นคอนโดหรูซึ่งลูกค้าล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงและร่ำรวยเงินทอง (ซึ่งแม่กับพ่อผมช่วยกันผ่อนเลยไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แต่ถ้าผมเป็นคนจ่ายคงไม่มีปัญญามาอยู่ที่นี่) ทำให้ด้านหลังถูกสร้างขึ้นมาเป็นอาคารจอดรถเล็กๆ ขนาดสี่ชั้น เพื่อสะดวกต่อเหล่าลูกค้าที่มีรถยนต์ส่วนตัวกันอยู่แล้วแทบทุกห้อง

รถยนต์สีดำทรงสปอร์ตเงาวับอยู่ที่จอดประจำหมายเลขห้อง ผมคุ้นตาดีเพราะเคยได้นั่งมาตั้งแต่เบาะยังไม่ลอกพลาสติกออก ผมเปิดประตูเมื่อเจ้าของปลดล็อคให้ กลิ่นน้ำหอมภายในชวนให้ย่นจมูกอยู่หน่อยๆ อาจเพราะเขื่อนเพิ่งเปลี่ยนเป็นอันใหม่กลิ่นมันเลยยังฉุนจมูกไปนิด ผมเอนหลังพิงเบาะหนังสีน้ำตาลอย่างสบายตัว รูดเข็มขัดนิรภัยมาคาดก่อนจะถือวิสาสะกดเปิดวิทยุเพื่อฟังเพลง

“ไกลป่ะ”

“แถวรามอินทรา”

“รถติดตายชัก”

“ถึงได้รีบออกไง” เขื่อนว่าแบบนั้นก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนรถออกจากซองจอด ผมมองวิวต่างๆ ผ่านกระจกด้านข้าง อีกฝั่งของถนนมีรถสัญจรมากแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาแค่หกโมงครึ่ง โชคดีที่เส้นทางของพวกเราคือย้อนออกไปนอกตัวเมือง เขื่อนจึงไม่ต้องเมื่อยขาเหยียบเบรกหยุดรถบ่อยๆ

กว่าจะมาถึงสตูดิโอที่นัดไว้ก็ราวๆ ชั่วโมงเศษ ผมกระโดดลงมาจากแคมรี่สีดำ จัดเสื้อผ้าที่ยับย่นจากการไถไปกับเบาะรถให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบก้าวขานายแบบขายาวชะรูดที่เดินล้วงกระเป๋าเข้าไปโดยไม่รอ

“นัดคุณวัชรไว้ครับ” เขื่อนหยุดคุยกับพนักงานต้อนรับ ก่อนจะได้รับการเชื้อเชิญให้เดินตามพนักงานผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาทำหน้าที่นำทาง

สตูดิโอนี้เป็นสถานที่ไว้สำหรับเช่าถ่ายภาพ ดูจากด้านนอกน่าจะมีประมาณห้าชั้น แบ่งออกเป็นห้องทั้งกว้างและใหญ่ตามราคา รวมถึงการตกแต่งภายในที่มีหลากหลายแนวมากๆ

ผมกวาดสายตามองด้วยความสนใจ สำหรับช่างภาพแล้ว นี่คือการเก็บข้อมูลที่ดีอย่างหนึ่ง ผมมองการตกแต่งตั้งแต่ที่เคาท์เตอร์ต้อนรับ จนเดินมาขึ้นลิฟต์และหยุดอยู่หน้าห้องๆ หนึ่งในชั้นสูงสุดด้วยดวงตาแพรวพราว และเมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วพบกับสถานที่ที่ถูกเซ็ตไฟและช่างกล้องมีชื่อเสียงคนหนึ่งในประเทศไทย หัวใจผมก็เต้นราวจะหลุดออกมาจากอก

“พี่วัชร?” ผมพึมพำชื่อผู้ชายมีอายุที่ยืนเช็คกล้องอยู่กลางห้องเบาๆ

เขื่อนหันมามองก่อนจะอมยิ้มขำ

“เป็นอะไรมึง ตาเป็นประกายเชียว”

“มึงไม่เห็นบอกว่าพี่วัชรเป็นตากล้อง” ผมหันไปมองคนด้านข้างอย่างคาดโทษ ถ้ารู้มาก่อนว่าเป็นช่างภาพคนนี้ คนที่ภพกดติดตามไอจีและแฟนเพจของเขาไว้และคอยกดไลค์อยู่ตลอด ผมคงเตรียมตัวเตรียมคำพูดที่ดีกว่านี้มาทักทายพี่เขา
ส่วนคนฟังกลับยักไหล่เหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่

“พี่วัชรถ่ายกูออกบ่อย”

“เขื่อน!” ผมโวยวายด้วยความอิจฉา แต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อทีมงานภายในห้องหันมาเห็นแล้วเอ่ยทักทายนายแบบหน้าสวยของเรา

“เขื่อน มานั่งรอก่อนๆ” พี่ผู้หญิงรูปร่างท้วมเล็กน้อยกวักมือเรียก ผมยกมือไหว้ในขณะที่เขื่อนเพียงแค่โบกมือทักทาย ทุกอย่างสลับกันราวกับผู้ชายข้างๆ หยิบเอาเชื้อลูกครึ่งในตัวผมออกไปจนหมด

“นี่... ผู้จัดการ?” พี่คนนั้นเดินเข้ามาหาและยิ้มทักผมอย่างสงสัย

“เพื่อนครับ” เขื่อนเป็นคนตอบ ผมยกมือสวัสดีเขาอีกรอบก่อนจะแนะนำตัวเอง

“ไผ่ครับ”

“นี่คบแต่เพื่อนหน้าตาดีเหรอริมเขื่อน”

พวกเขาหัวเราะ ในขณะที่ผมยิ้มแห้งๆ

พวกเราถูกจัดให้นั่งรอที่มุมหนึ่งของสตูฯ เพราะนายแบบอีกคนกำลังเดินทางมา มีทีมงานบางส่วนเข้ามารุมแต่งหน้าให้เขื่อนในระหว่างรอ ส่วนผมก็ลอบมองพี่วัชรที่ได้ยกมือไหว้ไปแล้วหนึ่งรอบแต่ไม่กล้าเข้าไปคุยอะไรมาก ท่วงท่าของผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังยกมือสั่งทีมงานให้จัดแสงไฟตามต้องการดูดีไปหมด ผมยิ้มเขินๆ เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ใกล้ไอดอลเพียงแค่เอื้อมมือ

“ออสตินมาแล้วค่ะ ทีมงาน!”

ผมหันไปทางประตูพร้อมๆ กับผู้คนในสตูดิโอทั้งหมด

เกิดความวุ่นวายเล็กๆ เมื่อทีมงานประมาณสามคนรีบจัดที่เพื่อแต่งตัวให้นายแบบคนที่สอง ผมหรี่ตาเพ่งมองคนที่ได้ชื่อว่า ‘จีบรีมเขื่อน’ ด้วยความสนใจ และเมื่อผู้ชายคนนั้นปรากฎตัว ดวงตาผมก็เบิกกว้างแทบถลนออกมาจากเบ้า

ฝรั่งร่างสูง กล้ามแขนเป็นมัดแน่นกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้นที่ถูกเซ็ทปัดข้างมาอย่างดี หนวดเคราบนหน้าเสริมให้เขาดูหล่อเหลาเป็นอย่างมาก รวมถึงดวงตาสีฟ้ากระจ่างที่ขนาดผมยังอดจ้องมันไม่วางตา

ราวกับร่างกายถูกแช่เข็ง หัวใจของผมบีบรัดอย่างประหลาด โดยเฉพาะในตอนที่ริมเขื่อนเดินออกมาจากห้องแต่งตัวในชุดแบบชาวจีนโบราณ ผมยาวสยายเต็มกลางหลังพร้อมใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มออกมาขับความงามให้โดดเด่น ร่างสูงโปร่งภายใต้ชุดรุ่ยร่ายสีขาวสะอ้านเดินเข้าไปทักทายผู้มาใหม่ด้วยความสนิทสนม

“Hi”

“Hey, Babe” คิ้วของผมกระตุก เมื่อหนุ่มฝรั่งร่างใหญ่คนนั้นยกยิ้มกว้างแล้วทักทายริมเขื่อนด้วยคำว่า Babe

เมื่อทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ผมถึงได้รู้สึกว่าหนุ่มต่างชาติคนนั้นตัวสูงใหญ่สมชาติพันธ์ เขื่อนที่สูงกว่าผมหลายเซนต์ยังอยู่ในระดับจมูกของเขา ร่างกายก็คล้ายบอบบางลงมากเมื่อเทียบกับกล้ามเนื้อแน่นหนันและไหล่กว้างใต้เสื้อยืดสีดำรัดรูป ผมกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นข่มอารมณ์หวงน้องเล็กๆ ในอก

ตอนมัธยมเขื่อนจะคบผู้หญิงคนไหนต้องมาบอกมาให้ผมแสกนก่อนเสมอ แต่ในปัจจุบัน ความสนิทสนมที่หายไปขยายช่องว่างระหว่างเราให้มากขึ้น ผมเผลอรู้สึกไม่ดีกับความคิดตัวเองที่ว่า ชีวิตของเขื่อนไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมอีกแล้ว เขาจะคบจะรักจะชอบใคร ผมไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจได้อีก

หัวใจผมเจ็บปวดกับความเหินห่างที่ตัวเองไม่เคยมองเห็นมันเลยจนกระทั่งในวันนี้ ที่ผมไม่มีสิทธิ์แม้จะโวยวายห้ามไม่ให้เขื่อนคบใคร

ผมกลายเป็นแค่คนสนิทในอดีต ที่เหลือแค่ความเป็นเพื่อนที่มอบให้แก่กัน

“ไผ่ เป็นอะไร” ใครบางคนในชุดสีขาวหมดจด ช่วงเอวคาดทับด้วยผ้าขลับด้ายทองเป็นรูปกระเรียนกางปีนบิน เส้นผมถูกเสยขึ้นโชว์หน้าผากทว่าก็ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง เป็นริมเขื่อนที่ไม่รู้มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาแตะมือลงบนบ่าของผมอย่างเป็นห่วง

ผมกลืนน้ำลายลงคอ เงยหน้ามองเพื่อนหน้าสวยแล้วยิ้มให้แทนคำตอบ

“คนเมื่อกี้ ที่จีบมึง?”

เขื่อนยิ้มแหยๆ ก่อนตอบ “อืม”

“คุยๆ กันอยู่เหรอ”

“เปล่านะ!” เขื่อนรีบตอบเสียงดังอย่างลนลาน

“กูเห็นสนิทกัน”

“ไม่ใช่นะไผ่ ถ่ายแบบด้วยกันบ่อยเฉยๆ”

ผมหัวเราะท่าทางร้อนรนจนเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้า โบกมือไล่คนที่แต่งตัวเสร็จแล้วไปรอเข้าฉาก เพราะออสตินก็เพิ่งเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อเมื่อสักครู่

ทหารอเมริกากับหนุ่มงามเมืองจีน

ผมมองเข้าไปในฉากที่เป็นเพียงโซฟาสไตล์เก่าๆ ด้านหลังเป็นฉากไม้โดยมีภาพวาดภูเขาและน้ำทะเลแขวนอยู่ เขื่อนในวันนี้นับว่าเป็นชายงามล้ำ หากเขาเกิดในยุคสมัยโบราณจริงๆ ก็คงนับว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง ใบหน้าสวยถูกปรับให้นิ่งเฉยและเย็นชา ในมือมีพัดน้ำงามโบกเบาๆ

ร่างสูงใหญ่ของชายชาติทหารก้าวเข้ามาโดยมีปืนกลเบาปลอมในมือ ออสตินไม่ได้สวมหมวกจึงสามารถมองเห็นดวงตาสีอ่อนน่าหลงใหลของเขาได้อย่างชัดเจน

ผมมองความแตกต่างที่ลงตัวอย่างประหลาดด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากตอนแรก แม้จอภาพจะคอยฉายรูปที่คุณวัชรถ่ายโชว์เรื่อยๆ แต่ผมกลับมองมันโดยไม่ตื่นเต้นอีกแล้ว

อะไรกันความรู้สึกนี้

ไอ้ความรู้สึกหวงแต่ทำอะไรไม่ได้นี่คืออะไรกันนะ

ผมต้องยอมรับให้ได้ว่า ริมเขื่อนโตแล้วและไม่ใช่น้องตัวเล็กๆ ของผมอีกต่อไป ต่อให้ตอนนี้ผู้ชายสองคนในฉากจะใกล้ชิดกันเกินพอดี แขนแกร่งสอดโอบเอวของเขื่อนแล้วกระชับให้ร่างทั้งสองแนบสนิทกัน ใบหน้าของพวกเขาหันไปมองสบตา พร้อมฝรั่งร่างยักษ์ที่โน้มหน้าเข้าใกล้พร้อมหลับตาพริ้ม เคลิบเคลิ้มกับกลิ่นหอมจากกายผู้ชายในอ้อมแขน

เพราะเป็นถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอมชื่อดังที่มีคอนเซปต์ว่าเข้าได้กับทุกเพศทุกเชื้อชาติ จึงเน้นที่ความแตกต่างของนายแบบและท่วงท่า เมื่อได้สูดดมแม้คนตรงหน้าจะเป็นชายก็ย่อมสยบต่อความยั่วยวนน่าหลงใหลของน้ำหอมกลิ่นนี้

ผมมองความใกล้ชิดของพวกเขาทั้งสองคน

มองใบหน้าที่โน้มเข้าหากันเรื่อยๆ มองริมเขื่อนที่ยังคงตีหน้าเย็นชาแต่พยายามผลักหน้าอกของอีกฝ่ายให้ออกห่าง มองการรุกรานที่ไม่ค่อยจะแนบเนียนเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีทีมงานคนไหนเอ่ยคัดค้าน เท่านั้นยังไม่พอ ผู้หญิงหลายคนยังแอบเก็บภาพแล้วคุยกันด้วยความระริกระรี้

ผมพ่นลมหายใจอีกครั้งด้วยความจนใจต่อความรู้สึกหวงน้องของตัวเอง

กว่าจะเสร็จเซ็ตแรก ผมก็คล้ายจะขาดอากาศหายใจตาย เขื่อนรีบผลักร่างของคู่นายแบบออกจากตัว ก่อนจะก้าวยาวๆ มาหาผมจนแทบจะวิ่งอยู่รอมร่อ

“ไผ่!”

“อะไรของมึง”

“มันไม่มีอะไรจริงๆ นะ”

“กูว่าอะไรยัง” ผมถามยียวน “ไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหรอ”

“ใส่ชุดเดิม เขาจะเปลี่ยนฉากเฉยๆ”

ผมพยักหน้า มองเลยร่างสูงโปร่งของเพื่อนตัวเองไปด้านหลัง ออสตินกำลังเดินยิ้มเข้ามาหา เขาสบตากับผมก่อนจะผงกหัวทักทายเล็กๆ

“เขื่อน” สำเนียงไม่ชัดจนแทบฟังไม่ค่อยออกว่าเรียกชื่อเขื่อน แต่คนตรงหน้าผมก็ยังหันไปราวกับคุ้นชิน เขื่อนขยับตัวเข้ามายืนข้างๆ ผม เบียดจนงงว่าเป็นอะไรของมัน

“นี่ใคร” ออสตินถามด้วยภาษาอังกฤษ ผมที่ไม่ได้มีปัญหากับภาษาบ้านเกิดของแม่ก็เลยโพล่งแนะนำตัวออกไปอย่างเป็นมิตร แม้จริงๆ อยากจะเกรี้ยวกราดแล้วบอกว่าอย่ามายุ่งกับน้องเขื่อนของผมนะใจจะขาด

“ไผ่ครับ เป็นเพื่อนของเขื่อน”

ริมเขื่อนอ้าปากพะงาบๆ เหมือนอยากแย้งอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา

“ผมออสติน” เขาบอกพร้อมยื่นมือมาหมายจะจับทักทาย

ผมตอบรับด้วยการยื่นมือกลับไป เขย่าสองสามทีก่อนจะรีบชักกลับมาเก็บไว้บนตัก ออสตินเลิกสนใจผมในทันที เขาหันกลับไปมองหน้าคนสวยที่ยืนตัวบิดไปมาอย่างอยู่ไม่สุข

“ตอนเที่ยงไปทางข้าวด้วยกันไหมครับ” ออสตินถามเสียงนุ่ม

“ไม่สะดวกครับ ผมมากับไผ่” เขื่อนก็ปฏิเสธอย่างว่องไวเช่นกัน

ผมไม่สอดเข้าไปบอกว่าไม่เป็นไร มึงไปได้แน่นอน

ไอ้ความหวงน้อง สายเลือดบราค่อนในตัวมันถ่วงปากผมอยู่

“ชวนเพื่อนของคุณไปด้วยก็ได้”

เขื่อนมองผม ก่อนจะขยับตัวเข้าไปกระซิบบางอย่างใกล้ๆ คู่สนทนา

ออสตินหันมามองหน้าผมแล้วขมวดคิ้ว เขาชี้นิ้วมาพลางร้องถามเสียงดัง

“เขาเหรอ!?”

“ครับ หวังว่าจะเข้าใจ” เขื่อนตอบ แต่ออสตินกลับยักไหล่

“แต่ผมก็ยังมีสิทธิ์นะ”

ผมมองริมฝีปากกระจับบางที่บดเข้าหากันอย่างอึดอัดใจ เขื่อนดูเหมือนคนพยายามระงับโทสะแล้วฉีกยิ้มฝืดๆ ออกมา เขานั่งลงเบียดผมอีกครั้ง ยื่นแขนมาโอบไหล่กันก่อนจะกระชากตัวผมเข้าไปแสดงความสนิทชิดเชื้อ

“ผมว่าคุณไม่มี”

“...?” ผมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เท่าไหร่ แต่แค่เขื่อนปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างจริงใจ หัวใจเหี่ยวแห้งของผมก็คล้ายกับได้รับการรดน้ำชุ่มฉ่ำ

ผมยังเป็นคนสำคัญของริมเขื่อนอยู่สินะ

คิ้วที่ขมวดเป็นปมแน่นของผมค่อยๆ คลายออก ก่อนที่อารมณ์จะเบิกบานขึ้นมาเล็กน้อย

“นายแบบเข้าประจำที่ด้วยค่ะ”

เสียงเรียกของทีมงานทำให้บทสนทนาถูกตัดจบลง เขื่อนกับออสตินต้องเดินเคียงกันไปเข้าฉากที่ถูกเซ็ทให้เป็นผ้าม่านโปร่งแสงสีแดง ด้านหลังมีประตูกระจกที่วางภาพทิวทัศน์จากตึกสูงไว้ด้านหลัง ริมเขื่อนถูกขยับสาบเสื้อให้ย่นลงมาจนเผยแผงอกขาว เสื้อผ้าดูหลุดรุ่ยกว่าเดิม เซ็กส์แอพพีลของเขาก็ยิ่งสาดโครมออกมาจนหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

ร่างสูงโปร่งยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เอียงข้างทอดสายตามองวิวด้านนอก ในมือมีขวดน้ำหอมถือเอาไว้ ในขณะที่ออสตินอยู่ที่ฝั่งของเฟรม ซึ่งถูกจัดให้ดูเหมือนคนละห้อง มีแผ่นไม้กั้นไว้ตรงกลาง หนุ่มฝรั่งถอดเครื่องแบบด้านบนออกจนเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวด้านใน นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้นวมสีน้ำตาลอ่อน เหม่อมองออกไปราวยังคิดถึงกลิ่นหอมที่เคยได้ดอมดมไม่เลิกรา

จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อชัตเตอร์ลั่นไปนับสิบ ริมเขื่อนยังยืนอยู่ที่เดิม ในขณะที่คนตัวสูงใหญ่เดินเข้าไปร่วมในฉากเดียวกัน ยืนเคียงข้างด้วยรอยยิ้มกว้าง ในขณะที่คนเย็นชาก็ยังแสดงอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี

ยั่วยวนแต่ก็ไกลเกินเอื้อม

นิยามของเขื่อนในสายตาผมเป็นเช่นนั้น

คล้ายจะเชื้อเชิญ แต่ก็ผลักไสให้ออกห่าง

ราวกับราชินีผู้สูงศักดิ์ที่ออสตินเป็นได้เพียงทหารรับใช้ที่สมควรนั่งก้มหน้าอยู่แทบฝ่าเท้า

ผมมองดวงตาคมสวยที่ปรายตามองคนร่วมเฟรมอย่างเย็นชา มือก็พรมน้ำหอมลงบนต้นคอพร้อมเชิดหน้าขึ้นโชว์เรียวคอระหงส์ เสื้อผ้าที่รุ่มร่ามของเขาปกปิดกล้ามแขนแน่นอย่างคนชอบต่อยมวยได้เป็นอย่างดี เขื่อนดูราวกับภาพวาดหนุ่มงามในตำนาน ผู้ที่สามารถล่มเมืองได้เพียงรอยยิ้มเดียว

“เปลี่ยนท่าครับ” พี่วัชรตะโกนบอก ทีมงานรีบเข้าไปบรีฟท่าที่ต้องการ ผมเห็นริมเขื่อนสายหน้า ต่างจากออสตินที่ยิ้มกว้างตาพราว

“ใช้มุมกล้องช่วยนะคะ ไม่ต้องห่วง”

เขื่อนถอนหายใจยาวเหยียด แอบเหลือบตามามองผมอย่างกังวลใจ

ผมยิ้มให้ แม้จะไม่รู้ว่าสายตาราวหมาน้อยที่เพิ่งพังห้องมานั้นคืออะไรก็ตา

พวกเขาทั้งสองคนขยับไปนั่งบนโซฟาที่อยู่อีกฝั่งของไม้กั้น ออสตินทิ้งตัวลงบนที่วางแขน ในขณะที่เจ้าบงใบหน้างดงามนั่งลงบนโซฟาในระยะที่ไม่ไกลกันนัก

ริมเขื่อนถอนหายใจอีกครั้ง แต่เมื่อพี่วัชรให้สัญญาณว่าจะถ่ายแล้ว เขาก็ปรับอารมณ์ตัวเองกลับมาอย่างว่องไว เขื่อนเงยหน้ามองคนที่นั่งสูงกว่า ที่ข้างตัวมีขวดน้ำหอมจัดวางไว้อย่างสวยงาม ส่วนออสตินก็ยื่นมือมาเชยคางสวยของอีกคนไว้ โน้มหน้าเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าหลงใหลคลั่งใคล้

ผมกลืนน้ำลายเมื่อจมูกของพวกเขาชนกัน

“เฮ้ย” และก็เผลอร้องลั่นเสียงดัง เมื่อริมฝีปากของทั้งสองฝ่าย... ประกบกัน!


____________________
Talk: มาดึกมากๆ เลยค่ะ แง้
พอดีวันนี้วันเกิดเรา เลยออกไปฉลองกับครอบครัวมา กว่าจะได้กลับมาปั่นก็ดึกแล้ว

เอาแล้วๆๆๆๆ เขื่อนคนสวยของเรา จะตกไปเป็นเมียชาวบ้านไหม มาลุ้นกัน!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สุขสันต์วันเกิดนะจ้ะคนเขียน นิยายสนุกมาก ติดตามและเป็นกำลังใจให้จ้ะ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หึงก้อรับเหอะไผ่ หวงน้องไว้กอดคนเดียวล่ะสิ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ไผ่หวงแรงมากกก งุ้ยยย
เขื่อนรน5555

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ MinorMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ม่ายยยย น้องเขื่อนของแม่

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พีไผ่อกแตกตายแน่ๆ 55555

HBD. ค่ะไรท์

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เฮ้ยยยยยย!!! ม่ายยนะ เขื่อนลูกกก อย่าไปเป็นเมียใครนะ ยังไม่ได้แอ้มน้องไผ่เลย ฮือออ

ปล. สุขสันต์วันเกิดนะค้าาา ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้เราได้อ่านกันนะคะ จะรอติดตามเรื่อยๆค่าาาา

       ขอบคุณที่ยอมรับคความเห็นของเราน้าาาา เนื้อเรื่องน่ารักมากๆค่ะ

 :bye2:

ออฟไลน์ Josett

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จริงๆเราควรหวงเขื่อนใช่ม้ะ ทำไมนี้หวงไผ่ฟ้ะะ แงงงงง ชอบนายเอกแบบไผ่อะดูมึนๆดี555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยีงไงก็ เขื่อน  ไผ่   :impress2:

เขื่อน  ไผ่   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เฮ้ย!! ด้วยคน ไผ่มีหวังได้เข้าไปหาเรื่องออสตินแน่ ๆ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ชอบแนวเมะหน้าสวย

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
ขอเวลาเพิ่มอีก 2-3 วันค่า
อาทิตย์นี้ปั่นโปรเจคใจจะขาด เพราะอาทิตย์หน้าต้องส่งแล้ว

 :hao5: :hao5: :hao5: พอเครียดงานแล้วเราเขียนไม่ออกสักประโยค
จะรีบปรับอารมณ์แล้วมาลงต่อโดยไว!!  :sad4:

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 8



เขื่อนโดนบดขยี้ริมฝีปากจนเขาต้องยอมหลุดจากบทแล้วใช้กล้ามแขนแน่นๆ ผลักคนตัวใหญ่กว่าออกไป เขื่อนใช้หลังมือปาดลงเช็ดคราบน้ำลายออก จับจ้องไปยังอีกคนด้วยสายตาไม่พอใจ

“Don’t touch me!” ดูท่าคนสวยจะหัวเสียเกินกว่าจะคุมอารมณ์ได้อีกแล้ว

ทีมงานตกอยู่ในความวุ่นวาย รีบวิ่งเข้าไปห้ามทัพและประนีประนอมอารมณ์ของนายแบบ ออสตินสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกง แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากก่อนจะครางออกมาเสียงต่ำ

“Your lips… so sweet”

ผึ่ง!

คราวนี้ดูท่าจะเป็นผมที่หงุดหงิดเสียเอง

ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินดุ่มๆ ไปตรงกลางระหว่างนายแบบทั้งสองคน ส่วนสูงทำให้ต้องเงยหน้าเพื่อจ้องตาฝรั่งตัวใหญ่ที่ยังเย้าแหย่ริมเขื่อนไม่เลิก น่าเสียดาย ที่ถึงแม้ขนาดตัวผมจะใหญ่เกือบเท่าเพื่อน แต่นั่นก็ไม่พอที่จะยืนบังริมเขื่อนเอาไว้ได้มิดเหมือนเมื่อก่อน

“What did you do?” ผมถาม พยายามใจเย็นที่สุดแล้ว แต่มือกลับกำหมัดแน่นจนคนริมเขื่อนที่หัวร้อนอยู่ข้างหลังต้องขยับมาแตะไหล่ผมไว้ ดูท่าเขาจะอารมณ์เย็นลงแล้ว

แต่ไม่ใช่กับผม

ตัวโตเป็นหมีควายขนาดนี้แล้วยังโดนรังแกเหมือนเดิมเลยรึไงเนี่ย

“Relax bro”

“Don’t do it again” ผมปรามเขาเล็กน้อย เพราะมือหนาบนบ่าบีบเบาๆ ให้พอได้แล้ว ผมถอนหายใจ ยอมถอยเท้าลงมาหนึ่งเก้า และให้ริมเขื่อนเป็นคนขยับขึ้นมาเคลียร์

เรื่องจบลงอย่างง่ายๆ เมื่อทีมงานเข้ามาขอโทษขอโพยแล้วคุยกับออสตินให้ ทางพี่วัชรเองก็ดูหงุดหงิดไม่น้อยที่นายแบบนอกบท สินค้าไม่ได้ต้องการฉากจูบจริงๆ แบบนั้น เขาแค่อยากได้ซีนมุมกล้องเพื่อความน่าค้นหาแล้วปล่อยให้คนดูไปคิดต่อเอาเอง
ผมพ่นหายใจ เดินกลับไปที่เก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะขอโทษคนอื่นไปด้วยระหว่างทาง นั่งรอเขื่อนกับออสตินเข้าฉากเพื่อถ่ายแก้ช็อตเมื่อสักครู่ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

เขื่อนก็เข้าวงการมานาน ไม่รู้ว่าที่ชอบไปต่อยมวยจนตัวล่ำขนาดนี้เพราะเจอเสือสิงกระทิงแรดมาเยอะรึเปล่า

นึกแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลย เฮ้อ





กว่าเขื่อนจะเสร็จงานก็เลทไปครึ่งชั่วโมง พวกเราเก็บของและบอกลาพี่ๆ ทุกคนในสตูฯ จนครบ ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่วัชรอยู่นิดหน่อยพอให้กระชุ่มกระชวย ส่วนออสตินนั้นผมเลือกที่จะบอกลาแบบผิวเผิน ในขณะที่ริมเขื่อนเมินไปเลยแบบง่ายๆ

เมื่อต่างคนต่างเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย ก็เป็นผมที่เปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน

“มึงเจอแบบนี้ตลอดเลย?”

“เปล่าหรอก นี่ครั้งแรก”

“ใช่เหรอ?”

“ครั้งแรกที่โดนหนักขนาดนี้อ่ะ” เขื่อนบอกแล้วหันมายิ้มแห้งๆ ให้

ส่วนผมนี่คิ้วกระตุกจึกๆ เลย

“มันทำอะไรมึงบ้าง” ผมถามด้วยความเป็นห่วง ไม่ได้กระชากเสียงหรืออะไร

“ก็เนียนกอดบ้าง โอบบ้าง” สายตาของคนตรงหน้าดูอ่อนลงเหมือนกำลังออดอ้อน “แต่ก็แค่เวลางานที่เลี่ยงไม่ได้นะ นอกรอบไม่มีเลยนะไผ่”

“ร้อนตัว กูไม่ได้จะไปต่อยใครซะหน่อย โตแล้ว” ผมขำกับท่าทีร้อนรนของเขื่อน ความงุ่นง่านในใจถูกชะล้างไปอย่างง่ายดาย “แต่ถ้ากูตัวใหญ่กว่านี้ เมื่อกี้นี่ฟาดไปแล้ว”

“โห เก่ง”

“เออดิ รังแกได้ไง กูปกป้องมาตั้งนาน”

“ปกป้องอะไรทิ้งกูไปห้าหกปี”

“...”

เงียบเลยครับ

เหมือนความผิดบาปมันพุ่งกระแทกอก

“เฮ้ยไผ่ ไม่ร้องไห้ดิ”

ไร้สาระ ผมไม่ได้ร้องไห้!

ผมพุ่งศีรษะไปชนต้นแขนของเขื่อนอย่างแรง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องแล้วบอกให้ออกรถได้แล้ว กะเพราะน้อยๆ ส่งเสียงร้องโครกครากดังกว่าฟ้าร้องตอนฝนตกเสียอีก

พวกเราแวะห้างใกล้ๆ แถวนี้ โชคดีที่วันธรรมดาคนจึงไม่เยอะมาก ร้านอาหารจึงสามารถเดินเข้าไปนั่งได้เลยโดยไม่ต้องรอคิว แต่เสียใจ ผมมันคนจน เลยต้องลากนายแบบชื่อดังมากินอาหารที่ฟูดคอร์ทชั้นบนสุดข้างๆ โรงหนัง

“วันนี้เดี๋ยวกูเลี้ยง” ผมยื่นบัตรค่าอาหารที่มีเงินอยู่ร้อยนึงในนั้นให้คนตัวสูงข้างๆ

“ซึ้งใจร้องไห้แล้วเนี่ย” ความกวนตีนของเขื่อนไม่เคยจบเคยสิ้น มันยิ้มหวานแล้วโค้งตัวรับบัตรในมือผมไปแบบเล่นใหญ่ คนที่มองอยู่แล้วเพราะหน้าตาของเขื่อนยิ่งมองหนักเข้าไปใหญ่

ผมกับเขื่อนแยกกันไปซื้อข้าวก่อนจะถือถาดมาเดินหาที่นั่ง แม้คนจะน้อยแต่ก็เป็นตอนเที่ยง ทำให้บริเวณที่นั่งใกล้ๆ ถูกจับจองไปจนหมด ผมต้องมุดตัวเข้ามาในหลืบ ฝ่าฝูงชนและบรรดาเก้าอี้มากมายเพื่อจับจองโต๊ะตัวหนึ่งมุมในสุด

“เดี๋ยวจะไปซื้ออะไรบ้าง” เขื่อนถามขึ้นมาเมื่อเราหย่อนก้นลงเก้าอี้เรียบร้อย

“พวกตะกร้าผ้า ของใช้บลาๆ เออ กางเกงในด้วย” ผมไล่ลิสต์รายการในหัว จริงๆ มีของจิปาถะเยอะแยะเต็มไปหมด บางอย่างผมก็ต้องทิ้งแล้วซื้อใหม่ โดยเฉพาะพวกอันเดอร์แวร์ที่โดนคุณแด๊ดจับโยนลงถุงดำเนื่องจากมันย้วยจนน่าเกลียด “เดี๋ยวว่าจะซื้อโต๊ะทำงานด้วย”

“มาอยู่กับกูไหม จะได้ไม่ต้องซื้อของเยอะ”

“หืม” ผมเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยว เบิกตากว้างมองข้อเสนอนั้นอย่างตกใจ “จะบ้าเหรอ”

“เงินเก็บมึงพอเหรอ มึงบอกว่างานไม่ค่อยมี”

“ก็เริ่มมีบ้างแล้ว” ผมตอบเสียงอ่อย

ถ้าเปิดเข้าแอพธนาคารตอนนี้ก็จะพบถึงความแห้งแล้งจนน่าสงสาร ผมเพิ่งเริ่มมีงานได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่ของแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่าจ้างผมต่อครั้งไม่ได้หลายหลักเหมือนเด็กชายเขื่อนผู้มีเบ้าหน้าฟ้าประทานนี่

“ปล่อยห้องให้คนอื่นเช่าไง ได้เงินมาใช้ต่อเดือนก็หลายหมื่นอยู่นะ”

“...” หูผมดันกางด้วยความสนใจ เมื่อพูดถึงเงินหลักหมื่นขึ้นมา

“เนี่ย เพื่อนของเพื่อนกูเขาก็หาคอนโดอยู่ ถ้ามึงสนใจกูคุยให้ จะได้ไม่ต้องเสียค่านายหน้า” เขื่อนเสนอขายของราวกับกำลังขายตรง ส่วนผมตาวาววับ วางตะเกียบลงทันที

เกิดที่ไทย โตที่ไทย คีบตะเกียบเป็นครับเพราะแม่ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยว

“ปกติคอนโดเขาปล่อยเช่าเท่าไหร่อ่ะ” ผมถาม

“อยู่ที่ทำเล ถ้าที่ที่เราอยู่ เผลอๆ เกินครึ่งแสนถ้าให้ต่างชาติเช่า”

ผมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก อยากต่อสายหาแม่เลยว่าแม่ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ ทำไมค่าเช่าถึงสูงขนาดนี้ แต่จริงๆ ผมก็พอรู้อยู่แล้วว่าคอนโดหรูใจกลางเมืองแถมติดรถไฟฟ้า คงไม่ใช่ล้านสองล้านอ่ะ

“แต่ว่า...” ผมก็ยังลังเลนิดหน่อย

ใจนึงคือไปแล้ว เก็บของย้ายไปนอนกับเขื่อนแล้วแบมือรอรับเงินค่าเช่าเรียบร้อย

ส่วนอีกใจนึงก็ยังเกรงใจ รู้จักกันมาแต่เด็กก็จริง แต่เราก็หายไปจากกันหลายปีอยู่

“แต่อะไร”

“เกรงใจมึง เดี๋ยวไปเป็นภาระ”

“เดี๋ยวนี้มีคำว่าเกรงใจในพจนานุกรมมึงแล้วเหรอ”

โอโห ผมนี่ลุกเลย

โตแต่ตัวได้ไหม ไอ้ความกวนตีนนี่อย่าโตตามเลย เมื่อก่อนที่หัวอ่อนๆ ไผ่ยังงั้นไผ่ยังงี้น่ารักจะตาย แล้วดูเดี๋ยวนี้ดิ!

“ไม่ต้องเกรงใจ ตอนแรกกูก็บอกคุณน้ากับคุณอาว่าให้มึงมาอยู่ด้วยกันได้ ห้องตั้งกว้าง แต่เขากลัวมึงงอแงเลยซื้อห้องให้แทน”

“งอแง? ดูใช้ศัพท์” ผมเบ้ปากบ่น “ถ้ากูไปอยู่ด้วยนี่ได้จริงเหรอวะ”

เงินตั้งครึ่งแสนนะ

แถมห้องก็ไม่ได้หายไปไหนด้วย

ผมที่กระเป๋าแห้งเกิดความโลภขึ้นมาในจิตใจ

“ได้ดิ กูอยู่คนเดียว เหงาจะตาย” เขื่อนส่งยิ้มตาหยีมาให้ “เดี๋ยวกูถามเพื่อนให้ก่อนเรื่องคนเช่า แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันก็ได้นะ”

“เอางั้นก็ได้” ผมพยักหน้ารับ ได้ต่อเวลาตัดสินใจ

แต่จริงๆ ก็เอนไปทางข้อเสนอนั้นครึ่งตัวแล้ว

เลนส์ตัวใหม่ที่เปิดเข้าเว็บไปเช็คดูบ่อยๆ แต่ไม่กล้าซื้อถึงกับสั่นเลยทีเดียว





ผมแวะซื้อพวกอาหารคาวหวานมาใส่ตู้เย็น รวมถึงน้ำเปล่าสองแพ็ก กับพวกของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นต่างๆ ไม่ได้หยิบอะไรที่มากกว่านั้นเพราะเขื่อนห้ามเอาไว้ด้วยเหตุผลว่าอาจจะได้ย้ายห้องมาอยู่ด้วยกัน

ผมกับเพื่อนตัวสูงช่วยกันขนข้าวของลงจากรถแล้วแบกขึ้นไปบนห้อง ยัดๆ มันเก็บเข้าที่แบบลวกๆ ก่อนที่จะแยกย้ายมานอนกดโทรศัพท์เล่นบนเตียงคนละมุม

ริมเขื่อนไม่ยอมกลับห้องตัวเอง อ้างว่าจะคุยเรื่องคนเช่าให้ เผื่อผมอยากสอบถามอะไรจะได้ถามได้เลย

ผมปล่อยให้เพื่อนจิ้มมือถืออย่างเมามัน ในขณะที่ตัวเองก็โพสรูปของเขื่อนที่ถ่ายวันนั้นลงเว็บไซต์ พูดคุยกับคนที่เข้ามาสอบถามก่อจะปิดดีลด้วยการโอนเงินค่ามัดจำและนัดแนะเวลา

“ไผ่”

“ว่า?”

“คนนี้เขาบอกว่าสนใจเช่าห้อง” เขื่อนยื่นหน้าจอมือถือมาให้ดู เป็นผู้ชายชาวต่างชาตวัยทำงาน ดูแล้วมีสง่าราศีของความรวยจับอยู่ทั่วตัว “จะทำสัญญาเช่าสองปีเพราะเขาย้ายมาประจำบริษัทลูกที่ไทย”

ผมมองรูปนั้นแล้วพยักหน้า

“เพื่อนของเพื่อนมึงแก่เนอะ” ผมบอกอย่างนั้นเพราะคนในรูปก็ดูแล้วอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบ

“ลูกพี่ลูกน้องเว้ย เพื่อนคนนั้นเขาได้ห้องแล้ว”

“อ๋อ” ผมพยักหน้า “แล้วเขาให้ค่าเช่าเท่าไหร่วะ”

“หกหมื่น”

“ห๊ะ!”

“จริงๆ กูเสนอไปเจ็ดหมื่นห้าด้วย มึงโอเคไหม”

“ห๊ะ!!”

ผมช็อคตาตั้ง ตอบอะไรไม่ถูกนอกจากอ้าปากค้างใส่

เขื่อนหัวเราะ ยัดนิ้วเข้ามาในปากผมสามนิ้วถ้วนจนผมต้องกระเด้งตัวหนี

“ไอ้เขื่อน!”

“มึงตกลงไหม เร็ว กูจะได้ตอบ”

“เออๆ ตอบเลย” ผมชะโงกหัวเข้าไปดูจอสนทนาของเขื่อนด้วยความสนใจ อ่านข้อความสักพักด้วยใจที่เต้นตึกตัก ตอนแรกก็คิดว่าคงได้สักหมื่นสองหมื่นเพราะเวลาเช่าหอพักข้างนอกมันก็แค่ห้าหกพันเอง

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเขาจะเข้ามาทำสัญญา มึงก็ไปศึกษามาแล้วกัน”

“ได้!” ผมรับคำเสียงใส “คุณเขื่อนต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม หิวรึเปล่าผมจะไปสั่งอาหารมาให้ หรือปวดเมื่อยเนื้อตัวบ้างไหมครับ ผมนวดให้ได้นะ”

ด้วยความที่อารมณ์ดี ผมเลยทำมือขยุกขยิกเหมือนกำลังนวดไหล่หยอกล้อริมเขื่อนให้ได้หัวเราะ แต่คนหน้าสวยกลับยักไหล่แล้วส่งยิ้มมาให้เฉยๆ

อะไรว้า

ผมอุตส่าห์แฮปปี้ หลังจากมีเรื่องเครียดอยู่ในหัวมาเป็นสัปดาห์ จะช่วยเล่นด้วยหน่อยก็ไม่ได้

“ทำอย่างอื่นดีกว่าไผ่”

“ทำอะไร”

ผมมองหน้าที่อยู่ๆ ก็ฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา

เขื่อนตบพื้นที่ข้างตัวแล้วเหยียดแขนออกเป็นเชิงให้ผมทิ้งตัวนอนตรงนั้น

“มาหาป๋าสิคะอิหนู”

“ไอ้สัส” ผมเตะป๊าบเข้าที่ก้นของริมเขื่อน แต่สุดท้ายก็ยอมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มัน “กูไปอยู่กับมึงได้แน่ๆ นะ”

“เออดิ อยากให้มาอยู่ด้วยจะตาย”

“เป็นลูกแหง่ติดกูรึไง”

“นอนคนเดียวมันเหงา”

“ลืมไปว่าน้องไผ่กลัวผี” ผมกระแซะไหล่ หยิบเอาเรื่องเก่าๆ มาแซว เพราะไม่มีข้อมูลเชิงปัจจุบันให้พูดถึงเท่าไหร่ อันที่จริงช่วงนี้ผมจะทั้งคิดทั้งพูดถึงอดีตบ่อยๆ

คงเพราะผมทั้งรู้สึกผิดแล้วเสียดายความสัมพันธ์ของพวกเราล่ะมั้ง

ไอ้ตอนไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่พอมาเจอ มาเล่นกัน บรรยากาศเก่าๆ มันก็วกกลับมา บางทีหัวใจผมมันก็หน่วงเพราะคิดได้ว่าความสนิทของเราสองคนมันไม่ได้เท่าเดิมแล้ว ถึงจะเล่นหัว ตบตีกันเหมือนเคย แต่แล้วยังไง ทุกอย่างก็ชัดเจนในใจอยู่ดี

ระยะเวลาห้าหกปี ผมกลายเป็นคนที่รู้เรื่องเขื่อนน้อยที่สุดไปซะแล้ว

“กลัวจังเลย มากอดหน่อย” เขื่อนได้ทีเล่นใหญ่ รวบตัวผมไปกอดแล้วกดหน้าให้จมอยู่ในอก ผมดิ้นเพราะหายใจไม่ออก แต่ไอ้กล้ามแขนแน่นปั่กนี่ไม่สะเทือนเลยสักนิด

“อ่อยอู!! (ปล่อยกู)”

ผมพยายามหมุดหัวออกมาจากแรงกอดรัดจนหัวเหอกระเซอะกระเซิง เขื่อนยอมคลายแรงแต่เลื่อนแขนไปโอบเอวผมไว้แทน ลำตัวของเราเลยยังแนบชิดกันอยู่

“แรงเยอะจังวะ” ผมบ่นขณะลูบๆ ผมให้กลับคืนทรง

“ไผ่”

“อะไรมึง”

“วันนี้กูโดนคนอื่นจูบมาอ่ะ”

“อย่าพูดดิ พูดแล้วกูหงุดหงิด” ด้วยความที่ระดับการนอนของผมอยู่ต่ำกว่า ทำให้ต้องเงยหน้าจนสุดคอเพื่อสบตากับคู่สนทนา เขื่อนเองก็โน้มหัวลงมาถูจมูกกับผมเล่น

เป็นคนที่ติดสกินชิพมาตั้งแต่เด็กเลย เพราะเมื่อก่อนก็ชอบให้ผมกอดให้ผมอุ้ม บางทีก็ยื่นแก้มยื่นเหม่งมาให้จุ๊บวันละสิบรอบ

“หงุดหงิดเหมือนกัน”

“เล่นมวยนี่ ไปต่อยดิ” ผมแซว แต่ใจจริงก็อยากให้ต่อยจริงๆ เหมือนกันนั่นแหละครับ เพราะผมต่อยเองไม่ได้ไง ไม่ออกกำลังกายจนแขนลีบไปหมด จะเอาแรงที่ไหนไปสู้คนตัวยักษ์แบบออสตินได้

“ไม่เอา ไม่อยากมีเรื่อง” เขื่อนทำปากยื่นปากยาว “ช่วยกูหน่อย”

“ช่วยอะไร กูไม่ไปต่อยแทนมึงนะ”

“บ้าเหรอ” เขื่อนบ่นกระปอดกระแปดว่าใครจะให้ผมไปทำแบบนั้น

“จะไปรู้เหรอ”

“อย่าขัดอารมณ์ดิไผ่”

“อะไรของมึง”

“เฮ้อ” เขื่อนถอนหายใจออกมายาวเหยียด แต่ผมสะใจแล้วที่ได้กวนตีนกลับ นานมากๆ เพราะปกติจะเป็นอีกฝ่ายที่แกล้งผมสำเร็จอยู่ฝ่ายเดียว

“ปล่อยได้แล้ว ร้อน” ผมบอกพลางเริ่มขยับตัว

“เดี๋ยวก่อน”

“หืม?”

“จูบหน่อย”

“...ห๊ะ”

“ล้างปากให้กูหน่อย”

“เขื่อน มึงจะบ้-”

“ล้างปากให้กูหน่อย นะครับ


_________________________
Talk: กลับมาแล้วค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา //โดนตรบ
หายไปไหนมา อ๋อ หายไปทำโปรเจคมาค่า แง้ เพิ่งพรีเซนต์ไป โดนสั่งแก้ด้วย ร้อง  :hao5:
จะไม่หายไปแล้วว ฮืออ คิดถึงทุกคน

มีฟีดแบ็คบ่นๆ เจ้าไผ่มาบ้าง เราก็เลยกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเขียนเหมือนกัน กลัวไม่ถูกใจ กลัวรำคาญเจ้าเด็กไผ่
ฮืออออ เอ็นดูพี่ไผ่ด้วยค่าาา เอ็นดูหนูด้วย จะตั้งใจปรับปรุงอย่างดีเลยค่ะ

เรื่องนิสัยพี่ไผ่ เราวางไว้โดยอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวด้วยบางส่วน แบบเวลาเราหวงเพื่อนอะไรงี้
เราเคยหวงเพื่อนสนิทนะคะ หึงเหมือนชอบมันเลย แต่จริงๆ ไม่ใช่ค่ะ เป็นอารมณ์หึงหวงคนของเรา ไผ่เลยออกมาประมาณนี้ ผิดพลาดประการใดพร้อมแก้ไขตะเหมอ  :mew2:

ปล. ตอนรีเสิร์ทหาราคาเช่าคอนโด เราช็อคไปเหมือนกันค่ะ ฮือ ไม่คิดว่าจะแพงยังงี้
หรือถ้ามันถูกไปสำหรับคนที่มีข้อมูล ช่วยสะกิดด้วยนะคะ ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
มีการร้องขอจูบล้างปาก  หมั่นไส้ไอ้ฝรั่งนั่น ฮึ่ย!!!

ส่วนค่าเช่า ไม่แน่ใจ แต่ค่าผ่อนดาวน์แถวในเมืองเท่าที่เพื่อนเคยบอกก็ประมาณ 40,000 ได้อ่ะนะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ล้างปากกันก่อนนอนก็ดีนะไผ่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด