23
ผมเฝ้าเก็บทุกรายละเอียดการเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างสูง ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีอะไรผิดแปลกแม้เพียงนิด หรือสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจ อึดอัด หรือรู้สึกไม่ดีของเขา ผมจะยังให้เทมหยุดอยู่บ้านต่อไป ผมไม่สนใจว่าเทมจะเรียนไม่ทันเพื่อน ไม่สนใจว่าเขาจะซ้ำชั้นหรืออะไรทั้งนั้น เรียนไม่ทัน ผมก็สอนเขาได้ ถ้าเลวร้ายขนาดขาดเรียนนานจนต้องซ้ำชั้น ผมก็เรียนเพิ่มอีกปีเป็นเพื่อนเขา มันไม่ใช่ปัญหาเลย
สิ่งเดียวที่ผมสนใจและห่วงใยคือความรู้สึกเขาเท่านั้น มันสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด
"หมูหย็องครับ หมูหย็อง เทมหากระเป๋านักเรียนไม่เจอ" เทมปุระที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินมาหาผมที่นั่งรอเขาอยู่ ผมมองสำรวจคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มให้ กวักมือเรียกเด็กน้อยเข้ามาใกล้ ก่อนจะเริ่มปลดกระดุมที่เขากลัดผิด ใส่เรียงให้ถูกต้องเสียใหม่
"กระเป๋า ยังอยู่ในล็อกเกอร์ที่โรงเรียนครับ วันนี้เราไปกันตัวเปล่าแล้วกันนะครับเทม"
"แต่สมุดสะสมสติ๊กเกอร์ของเทมอยู่ในกระเป๋า ถ้าไม่มีสมุด แล้วคุณลุงสันจะแปะสติ๊กเกอร์ให้เทมที่ไหนล่ะครับ"
ผมผูกเนคไทให้เขาเรียบร้อย มองผลงานที่ออกมาสมบูรณ์แบบบนเรือนร่างที่สมบูรณ์ด้วยความพอใจ แล้วจึงเอ่ยตอบคนที่สีหน้าเป็นกังวล
"งั้นเดียวเราหาสมุดว่างๆสักเล่มไปให้คุณลุงติดก่อนไหมครับ แล้วเทมค่อยตัดกระดาษแล้วเอาไปแปะที่สมุดเล่มหลักอีกที แบบนี้ดีไหมครับ"
ผมเสนอทางเลือกให้เด็กน้อยที่ดูไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องใหญ่นี้ดี แม้จะดูยุ่งยากกว่าการรอถึงพรุ่งนี้ แล้วค่อยเอาไปติดทีเดียว แต่การได้ทำอะไรเดิมๆ การใช้ชีวิตประจำวันเป็นแบบเป็นแผน สำหรับเด็กพิเศษแล้วถือว่าเป็นเซฟโซนครับ เขาจะรู้สึกปลอดภัย และสบายใจกว่า รอยยิ้มกว้างถูกส่งมาให้ผมทันที เป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าเขามีความสุขมากกับทางเลือกที่ผมเสนอ
"หมูจลาดจังเลยครับ งั้นเดียวเทมไปหาสมุดก่อนนะ ขอบคุณที่ช่วยแต่งตัวนะครับ"
"ฉลาดครับเทม ไม่ใช่จลาดนะ เทม! เทมครับอย่าวิ่ง" ไม่ทันแล้วครับ เด็กน้อยของผมวิ่งวุ่นหาสมุดไปทั่วห้อง เขายังมีท่าทางที่ควบคุมไม่ค่อยอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ อาการคล้ายๆสมาธิสั้น ที่จะทำอะไรรวดเร็วทันทีทันใด คิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าเขาจะค่อยๆนิ่งลง และควบคุมตัวเองได้ดีเหมือนเดิม
พอเจ้าตัวค้นหาสมุดว่างเปล่าเจอ ก็รีบวิ่งเอามาให้ผมดูทันที
"หมูหย็องครับ หมูหย็อง เล่มนี้ได้ไหมครับ"
"ลายกระดาษมันคนละแบบกันนะครับเทม หมูจำได้ว่าหมูซื้อเล่มสำรองไว้ให้เทมอยู่นะครับ ลองหาในตู้หนังสือดูหรือยัง ชั้นที่สามด้านขวามือ...นี่ไงครับ เหมือนกันเลยใช่ไหม"
"เหมือนกัน เหมือนกัน เหมือนกันเลย" ผมยิ้มให้กับคนตรงหน้าที่กอดหนังสือไว้แน่นแล้วยิ้มตาหยี
เห็นเขาไม่กังวลเรื่องไปโรงเรียนแล้วผมก็เบาใจ ตั้งแต่เมื่อคืน ผมก็บอกเทมไปแล้วครับ ว่าพวกสิงห์ออกจากโรงเรียนไปหมดแล้ว ส่วนเหตุผลที่ออกผมก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร ปฏิกิริยาของเทมที่ได้ยินชื่อพวกมัน ทำเอาผมอยากจะย้อนเวลาไปบีบคอมันให้แน่นๆและนานกว่าเดิมสักสิบนาที อาการที่ดีขึ้นดูจะทรุดลงในช่วงระยะเพียงหนึ่งคำพูด จนผมต้องบอกเขาซ้ำๆ ว่าพวกนั้นไม่อยู่แล้ว เทมถามย้ำกับผมอีกหลายครั้งทั้งชั่วโมงจนเริ่มวางใจ
พอรู้ว่าไม่มีพวกนั้นเทมก็ดูกลับมาเป็นปกติรวดเร็วขึ้น และไม่ได้ต่อต้านโรงเรียนขึ้นมาอีก
RRRRRRrrrrrrr
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นชื่อบนจอแล้วก็รู้สึกอยากหยุดอยู่บ้านกับเทมปุระไปอีกสักยี่สิบวัน ผมตั้งใจจะไม่รับสาย แต่เด็กน้อยของผมก็ตื่นเต้นกับชื่อบนจอเหลือเกิน ผมใจแข็งทำลายสายตาวิบวับนั่นไม่ลง ได้แต่เคลื่อนปลายนิ้วไปรับสาย
"ครับน้ำ"
[ ฮัลโหลลลลลลลลลลลลล! ถึงโรงเรียนหรือยวงงงงงงงงงงเทมมมมมมมมม! ]
"ไม่ใช่เทมครับ"
[ อ้าว หมู มึงมารับโทรศัพท์ทำไม กูจะคุยกับเทม ]
"นี่เบอร์ผมนะครับ ถ้าไม่ให้ผมรับจะเป็นใคร"
[ เอ้า ก็มึงไม่ให้เทมใช้โทรศัพท์ กูจะติดต่อยังไง กูขอเบอร์บ้านเทม มึงก็ไม่ให้ จะให้กูติดต่อยังง๊ายยย บอกกูที๊ หรือจะให้ถามกระจกวิเศษหรือไงวะ แบบกระจกวิเศษเอย บอกข้าเถิด เจ้าหญิงเทมผู้งามเลิศในปฐพีจะมาโรงเรียนหรือยังจ๊ะ มันก็ไม่ได้ไหมวะ เดี๋ยวแม่เลี้ยงใจร้ายจะตามมาเอาแอ็ปเปิ้ลพิษให้กูกิน ข้อหาขโมยกระจกนางอีก ]
ตั้งแต่ผมไม่ให้พวกเขาหรือว่าใครเข้ามาเยี่ยมเทมตั้งแต่วันวุ่นวายนั่น น้ำกับเต้และคนอื่นๆ ก็สลับกันโทรมาหาเทมทุกวันเลยครับ และมันก็ทำให้โทรศัพท์ผมแทบลุกเป็นไฟ ด้วยสายที่โทรเข้าตลอดทั้งวัน ทุกชั่วโมง จนผมทนรำคาญไม่ไหวกดปิดเครื่องไป เพิ่งเปิดเจ้าเครื่องมือสื่อสารอีกครั้งเมื่อเช้า ไม่ทันไรมารผจญก็โทรมาเสียแล้ว
"เทมเป็นผู้ชายนะครับน้ำ เทมเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่ได้นะ ต้องเป็นเจ้าชายสิ"
เสียงของไอ้น้ำดังขนาดที่ว่าผมไม่ได้เปิดลำโพง แต่ร่างสูงที่ยืนข้างกันยังได้ยินเสียชัดครบทุกประโยค เทมดูขำกับเพื่อนของตัวเองที่บ่นเสียยืดยาว ก็เป็นเรื่องดีครับที่พอเทมได้คุยกับทุกคนก็ดูกระตือรือร้นอยากกลับไปเรียน แต่ผมก็อดเสียดายเวลาที่ได้อยู่กันสองคนกับเขาไม่ได้อยู่ดี และที่สำคัญ เวลาที่เหลือน้อยนับถอยหลัง ก็ไม่อยากถูกขัดด้วยเสียงโทรศัพท์นะครับ...
[ ถ้ามึงเป็นเจ้าชาย งั้นไอ้หมูแม่งต้องเป็นแม่มดใจร้ายแน่เลยวะ เป็นแม่เลี้ยงใจร้ายที่ลอบฆ่าลูกเลี้ยงตัวเองที่ไปอ่อยเจ้าชาย แต่แม่มดเวอร์ชั่นนี้คงไม่ต้มยาพิษแล้วเอาแอ็ปเปิ้ลจุ่ม น่าจะผลักลูกเลี้ยงลงหม้อต้มแม่งเลยมากกว่า แม่งใช่มาก... ]
"โทรมามีอะไรครับน้ำ ถ้าไม่มีก็แค่นี้นะครับ" ผมรู้สึกหน้าตึงๆขึ้นมากับประโยคของมัน จนรู้สึกไม่อยากเสวนา และไม่อยากให้คนของผมเสวนาไปด้วยมากกว่านี้
[ เดี๋ยวๆๆๆๆ ใจเย็นจ้าแม่มด เอ้ย หมู กูจะถามว่ามาโรงเรียนกันหรือยัง เมื่อคืนวันก่อนกูลืมบอก ปีนี้กีฬาสีเริ่มเร็วหน่อย ให้พวกมึงเอาชุดพละมาทิ้งไว้ที่โรงเรียนได้เลย ]
ผมเลิกคิ้วให้กับคำบอกของน้ำ...นี่มันเดือนกันยาเองนะครับ
ปกติโรงเรียนผมจะมีกีฬาสีช่วงเดือนตุลาครับ เพราะอากาศจะได้ไม่ร้อน และจะได้ถูกจับไปรวมกับสามเดือนกิจกรรม สามเดือนกิจกรรมเป็นชื่อเรียกของสามเดือนสุดท้ายของปีของโรงเรียนผมครับ เพราะท้ายๆปี เรียกได้ว่ามีงานใหญ่หลายงานติดต่อกันเลย ลอยกระทงเอย คริสต์มาสเอย และถัดไปก็งานเลี้ยงอำลาที่จัดควบคู่งานวันปีใหม่อีก เรียกได้ว่าสามเดือนสุดท้ายของปีมีกิจกรรมเยอะกว่าเรียนอีกครับ
แถมเทอมสองเป็นเทอมที่ผมจะยุ่งจนหัวหมุนมากๆ งานสภากองท่วมหัวจนอยากลาออก แล้วค่อยกลับมาสมัครเรียนใหม่เฉพาะเทอมหนึ่ง แล้วนี่ทำไมจู่ๆงานกีฬาสีก็ถูกย้ายมากระทันแบบนี้ล่ะครับ ทีมสภาทำอะไรกัน
[ อย่า! กูรู้ว่ามึงจะถามกูว่าทำไม กูก็ไม่รู้ แต่ในบอร์ดประกาศเลื่อนมาเร็วกว่าเดิม เลยมาบอกข่าวพวกมึงเฉยๆ ]
"ไม่ถามคนไม่มีสมองหรอกครับ ถ้ามีเรื่องจะบอกเท่านี้ งั้นนก็แค่นี้นะครับ"
ผมกดตัดสาย ไม่รอฟังเสียงโวยวายของมันที่ตะโกนตะแง้วๆออกมา เทมดูตาวาววับกับคำว่ากีฬาสี
ไม่อยากบอกเลย...ไม่อยากทำลายความหวัง และความสนุกของเขาด้วย แต่ก็มีแต่ต้องทำเท่านั้นครับ
"ปีนี้...หมูขอให้เทมไม่ลงแข่งกีฬานะครับ..."
ผมเบือนสายตาหลบเจ้าลูกแก้วสีน้ำตาลที่สั่นไหว ใบหน้าเปื้อนยิ้มตอนนี้คงจะหุบลง และกลายเป็นใบหน้าเตรียมพร้อมร้องไห้แล้วแน่ๆ ผมหลับตารอฟังเทมที่ต้องประท้วงไม่ยอม แต่ผมก็คงจะอ่อนข้อให้เขาไม่ได้ งานกีฬาสีของโรงเรียนผม แน่นอนว่าโรงเรียนที่ขึ้นชื่อกิจกรรม ต้องซ้อมกันโหดมากครับ เทมชอบลงแข่งวิ่งวิบาก ไม่เคยชนะเหรียญทองเลยก็จริง แต่ก็ไม่เคยหลุดจากที่สาม เป็นกิจกรรมส่วนรวมไม่กี่อย่างที่เขาเอ่ยปากขอทำเอง
"ท-ท-ท-ทำไมล่ะครับหมูหย็อง เทม เทมไม่สบายหายแล้วนะครับ ไม่ตัวร้อน ไม่ไอแค่กๆแล้ว เดิน...เดินก็ ม-ไม่เอียงๆแล้วนะครับ ลง ลงแข่งไม่ได้เหรอครับ"
เสียงเขาดูสั่น สั่นมาถึงหัวใจของผม ถ้ายังสบตากันอยู่ผมต้องยอมแพ้เขาแน่ๆ
"มันเร็วเกินไปนะครับเทม ไว้เป็นปีหน้า หรือปีอื่นๆได้ไหมครับ"
ผมกลั้นใจหลับตาพูดออกไป บอกตรงๆคือผมยังไม่ไว้ใจอาการของเขา ถ้าเกิดเขาถูกกดดันในตอนซ้อมล่ะ ถ้าเป็นปกติ เขาคงแค่กลัวหรืองอแง แต่ตอนนี้ ตอนที่หัวใจเขาเพิ่งสมานกัน ผมกลัวมันจะเลยเถิด ไหนจะซ้อมวิ่งอีก เทมยังควบคุมร่างกายตัวเองไม่ค่อยได้เลย เกิดเขาวิ่งแล้วมีอุบัติเหตุจะทำยังไง...ผมจะไม่เสี่ยง ผมจะไม่ยอมเสี่ยงเด็ดขาด
"แต่ แต่ แต่ว่า...ฮึก เทม เทม อยากแข่งนี่ครับ ฮือออออออออ"
อา...ในน้ำตาที่หลั่งรินออกมาทั้งชีวิตของเขา แม้แต่ครั้งเดียว ผมก็ไม่อยากเป็นเหตุผลที่ทำให้มันไหลออกมาเลย ผมปวดแปลบกลางอก ดึงร่างสูงเข้ามากอดเอาไว้
"ฮือ เทม เทมอยากแข่งครับ อยะ-อยากแข่ง"
เทมปุระเอ่ยเสียงสั่นคลอ น้ำตาเม็ดโตไหลลงบนบ่าผมไม่หยุด ผมลูบผมนุ่มไปมา ผมรู้ว่าสุดท้ายเขาจะเชื่อฟังที่ผมพูด เพราะเทมให้ความสำคัญกับทุกคำของผมเสมอ เขาสะอื้นฮักอยู่บนไหล่ พึมพำเสียงน่าสงสาร ว่าเขาอยากลงแข่งมากแค่ไหน จนผมแทบจะใจอ่อน
"ฮึก ถะ-ถ้าเทมไม่ได้แข่ง ฮึก...เทมก็จะ ฮึก เทมก็จะไม่ได้กินขนมกรอบกรอบในปี๊บแล้วใช่ไหมครับ ฮืออออออออออ ขนมปี๊บของเทมมมมม"
นั่นแหละครับ...
เหตุผลการลงแข่งกีฬาสีของเด็กน้อยของผม เขาอยากทานขนมในถังสีเงินๆนั่นแหละครับ
ขนมประจำงานกีฬาสี ของรางวัลโง่ๆที่แข่งแทบตายแต่ให้ขนมบ้าบอมาตอบแทน
เรื่องมันเกิดเพราะเมื่อหลายปีก่อน ไอ้สารเลวเต้ลงแข่งบาสแล้วชนะ ได้ขนมปี๊บมาถังใหญ่ มันเอามาแบ่งเพื่อนในห้อง แล้วเทมก็ทานไปด้วย ตอนนั่นผมไม่อยู่ครับ แล้วเทมที่ทั้งชีวิตตั้งแต่เจอกันกับผม เขาก็ไม่ได้ทานขนมไร้สาระหรือไม่มีประโยชน์แบบนั่นอีกเลย พอได้กลับมาทานก็ติดใจยกใหญ่ งอแงอยากทานตลอดเวลา
ผมก็ทำใจไม่ได้ที่จะให้เขากินขนมที่กรรมวิธีการทำไม่ได้มาตรฐาน ไม่รู้ส่วนผสมมาจากยังไง สะอาดไหม ใช้ของดีหรือเปล่า แค่คิดว่าเทมจะทานของน่ากลัวแบบนั้นผมก็ทำใจไม่ได้แล้วครับ แต่เทมก็ยังคงงอแง อย่างที่รู้กันถ้าเป็นเรื่องขนมเทมจะดื้อและตั้งใจเป็นพิเศษ
จนผมต้องจำใจลากคอไอ้เต้มาพูดให้ บอกเขาว่ามันเป็นขนมที่ต้องชนะกีฬาสีเท่านั้นถึงจะได้มา ไม่มีขายทั่วไป
ผมก็นึกว่าเทมปุระจะยอมแพ้ ที่ไหนได้ เด็กน้อยของผมฮึดสู้ แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเพื่อเจ้าขนมก๊องแก๊งนั่น ถึงขนาดยอมไปลงแข่ง ยอมไปเจอคนแปลกหน้าเลยครับ
ส่วนผมพอเห็นแบบนั้น จะกลับคำก็ไม่ได้เสียแล้ว จะห้ามไม่ให้เขาทานก็ไม่ได้ เขาตั้งใจเสียขนาดนั้น เรื่องมันบานปลายเลยเถิด จะให้ผมไปซื้อให้ หรือจะแอบสั่งทำพิเศษมาให้เขา ก็ไม่ทัน ผมไม่อยากเป็นคนโกหกในสายตาเทม แม้จริงๆแล้วผมจะบีบคอไอ้เต้ให้เป็นคนไปพูดก็เถอะ...
นั่นแหละครับที่มาของแรงฮึดของเทมปุระ แรงจูงใจทุกปีที่จะลงแข่งกีฬาสี และต้นเหตุที่ทำให้เด็กน้อยของผมงอแงอยู่บนไหล่ของผมตอนนี้ ก็เพราะอยากทานเจ้าขนมสองกิโลร้อยนั่นแหละครับ...
"ไม่ร้องนะครับเทม ไว้หมูจะพาไปทานเค้กร้านโปรดแทนดีไหมครับ?"
"ฮึก ฮือ ต-แต่ว่า เค้กมีทั้งปี แต่ แต่ แต่ว่าขนมปี๊บมีปีละครั้งนะครับหมูหย็อง ฮือ ขนมแห่งเกลียดตะยดนะ"
"เกียรติยศครับเทม..."
"ฮืออออออ เกียรติยศ"
ไอ้ขนมถังๆสีเงินนั่นมันกลายไปเป็นขนมที่มีคุณค่าขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเทม...ผมล่ะเสียใจกับตัวเองในอดีตจริงๆ ที่ใจร้อนรีบอธิบายเทมไปแบบนั้น จนต้องมาปวดหัวในตอนนี้
เทมดูไม่มีทีท่าจะหยุดร้องไห้จนผมปวดหนึบไปทั้งใจจนจะตายอยู่แล้ว ผมกอดร่างสูงแน่นอยู่นาน ลูบหัวปลอบก็แล้ว ลูบหลังปลอบก็แล้ว
ผมเกลียดเหงื่อ เกลียดการกระทำโง่ๆ เกลียดกีฬาที่ดูทำให้เสียภาพพจน์ที่ดี เช่นกีฬาบ้าๆที่วิ่งๆไปแล้วก็ต้องเป่าแป้ง เพื่อใช้ปากคว้านหาของ กระโดดไปมาเพื่อกินขนมปังที่ห้อยอยู่ หรือทำตามภารกิจอย่างเดินไปพาคนที่เกลียดมาวิ่งเข้าเส้นชัย
ผมเกลียดมัน
แต่ผมรักเขา
รักเขามากพอที่จะตัดสินใจ
"เด็กดี หยุดร้องไห้นะครับ"
"เทมเสียใจ ฮึก"
"หมูรู้ครับ ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องร้องไห้นะครับเทม...ปีนี้หมูจะแข่ง หมูจะลงแข่งแล้วเอารางวัลมาให้เทมเองนะ"
ตัดสินใจลงแข่งเพื่อชนะเอารางวัลที่เขาอยากได้มาให้ แม้ความจริงผมจะอยากเดินไปสั่งแม่บ้านให้ไปซื้อให้ที่ตลาดก็ตามทีเถอะ
"จริงเหรอครับ" เทมเงยหน้าพรวดออกมาจากไหล่ของผม ดวงตาเขาขึ้นสีแดงเพราะการร้องไห้ที่ยาวนาน เจ้าตัวซูดน้ำมูกก่อนจะรีบถามผมย้ำๆ
"จริงเหรอ จริงเหรอหมูหย็อง แต่ แต่ว่าหมูหย็องไม่ชอบกีฬาปิ้งแดดนี่ครับ เทม เทมอยากทานขนม แต่ แต่ว่าก็ไม่อยากให้หมูหย็องทำสิ่งที่ไม่ชอบด้วย ไม่...ไม่ทานก็ได้ครับ"
"กีฬากลางแจ้งครับเทม ไม่ใช่ปิ้งแดดนะ"
"กีฬากลางแจ้งครับ"
ผมยิ้มให้เด็กน้อยที่ดูทั้งตื่นเต้นและสับสนจนลนลานไปหมด น้ำตาที่แห้งเหือดทำเอาผมใจชื้น
ในคำว่ายอมของเขามันมีคำว่าอยากทานแปะหราเด่นชัดอยู่นะครับ และจากเหตุการณ์สะเทือนใจของเขา ผมถือว่าผมเห็นแก่ตัวเองมากเหมือนกันที่ไปห้ามเขาในสิ่งที่อยากทำ เพื่อความสบายใจของผม ที่จริงอะไรที่ทำให้เขามีความสุข ผมไม่อยากขัดหรอกครับ แต่อะไรที่มันไม่ดีต่อเขา ผมก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน...
รอยยิ้มของเขาสำคัญต่อผมมาก ผมชอบเขาตอนมีความสุข และตอนเขาทานมันเขาก็มีความสุข และความสุขของเขามันเหนือกว่าคำว่าไม่ชอบของผมมาก
"หมูก็อยากลองแข่งกีฬาสีดูสักครั้งเหมือนกันครับ"
"จริงเหรอครับ"
"จริงส่วนหนึ่งครับ"
"จริงส่วนหนึ่งคืออะไรเหรอครับ"
"จะสายแล้วนะครับเทม"
"จริงด้วย! สติ๊กเกอร์ของเทม สมุดๆๆๆ"
ผมเปลี่ยนเรื่องเบนความสนใจของเขาไป และโชคดีจริงๆที่เด็กน้อยผมคล้อยตามอย่างง่ายดาย เราออกจากห้องตอนหกโมงสี่สิบห้า เทมที่ตาปูดเพราะร้องไห้แต่ดูอารมณ์ดีจัดดูเป็นภาพที่ขัดแย้งและน่ารัก เขาร้องเย้ๆดูมีความสุขไปตลอดทาง และผมก็ยิ้มมองภาพนั่นอย่างสุขใจไปจนถึงโรงเรียน
ผลัวะ
"โอ้ย! อะไรวะไอ้หมู ตีกูทำไมเนี่ย" พอถึงห้องเรียน พอเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เป็นตัวต้นเหตุ ผมก็แอบพาลไม่ได้ จนเดินตรงเข้ามาโบกหัวมันหนึ่งที จนมันที่กำลังจะทักทายพวกผมยกมือกุมหัวอย่างงงงวย ผมส่งยิ้มที่ไปไม่ถึงตาให้มัน
"แมลงเกาะหัวน่ะครับ"
"ใช่เหรอวะ..." ผมยิ้มไม่ตอบอะไร
"อ้าว พวกมึงมากันแล้วเหรออออออออ" น้ำที่เพิ่งมาถึงห้อง เดินตรงเข้ามาหาพวกผมที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว
"เต้ๆๆๆ น้ำๆๆๆๆ ปีนี้! ปีนี้นะ ปีนี้" เทมที่ดูตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นประโยค พอเห็นเพื่อนมากันครบ เหมือนในที่สุดความอดทนก็สิ้นสุดลง เขาเม้มปากกลั้นยิ้มไว้ตั้งแต่ลงจากรถ พอเจอลุงยามก็ตรงเข้าไปคุยฟุ้งให้ฟังใหญ่ ว่าปีนี้ผมจะลงแข่งกีฬาสี ตื่นเต้นดีใจจนไม่ได้สังเกตสายตาคนรอบตัวที่มองมาที่ผมกับเขา ซึ่งผมถือว่ามันเป็นเรื่องดี พอขึ้นมาถึงห้อง ก็บอกผมว่าอย่าเพิ่งบอกเต้กับน้ำนะ เขาจะบอกเอง แล้วก็อมยิ้มแก้มป่องรอน้ำมานี่แหละครับ
"อะไรวะเทม ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆพูดๆโว้ยยย ไม่ได้จะหนีไปไหนเล้ยยย"
"เออ ใจเย็นๆมึง เกิดไรขึ้น ไหนบอกพ่อสิลูก"
"เอ เต้ไม่ใช่พ่อเทมนะครับ ไม่ได้เป็นแฟนคุณแม่นี่น่า"
"แค่ก แค่ก มุกโว้ย มุก ล้อเล่นอ่ะล้อเล่น"
"อ๋อๆๆๆ"
"แล้วตกลงมีอะไรวะ"
"คือว่า คือว่า ปีนี้นะ ปีนี้นะ หมูจะลงแข่งกีฬาสีล่ะ!!!"
"ก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็แค่ไอ้หมูลงแข่งกีฬาสี...!!!!!...."
"!!!"
"หาาาาาาา มึงพูดว่าอะไรนะ!? / หาาาาาาา มึงพูดว่าอะไรนะ!?"
ผมขมวดคิ้ว เมื่อจู่ๆไอ้เต้กับไอ้น้ำก็หันคอแทบหักมาตะโกนถามผม สองเสียงของแฝดนรกแหกปากประสานเสียงพร้อมกันดังไปทั่วห้อง เรียกสายตาทุกคนหันมามองเป็นจุดเดียว
"ไอ้หมูจะลงแข่งกีฬาสี / ไอ้หมูจะลงแข่งกีฬาสี!"
พวกมันถามย้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง หน้าตาพวกมันสองคนตลกมากครับ เหมือนโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ
"อะไรนะ!? หมูจะลงแข่งกีฬาสี!?"
เอ่อ...แม้แต่คนในห้องที่เหลือก็ตะโกนด้วยเสียงตกใจตามไปด้วย แล้วนี่แอบฟังพวกผมคุยกันหรือไงครับ พอผมหันไปมองรอบๆ ทุกคนก็แกล้งก้มหน้าลงอ่านหนังสือ จัดกระเป๋าต่อไปแบบไม่เนียน ไม่ได้ซ่อนหูที่กางออกเหมือนพร้อมตั้งใจแอบฟังเต็มที่
ไอ้น้ำเอามือมาวางบนหน้าผากผม ทำท่าเหมือนกับจะวัดไข เทมที่พอเห็นฝ่ามือคนอื่นมาสัมผัสผมก็มุ่ยหน้า รีบปัดมือไอ้น้ำที่เอาแต่อ้าปากค้างออกทันที
"ไม่เอานะ ไม่แตะหมูหย็องนะ"
"เออๆ โทษๆ กูลืมตัวว่ะ แค่จะวัดไข้มัน นึกว่าแม่งไม่สบายนะเนี่ย หรือมันไม่สบายจริงๆ เอ๊ะ หรือมันไปเดินแล้วลื่นล้ม หัวโขกที่ไหนหรือเปล่าวะ"
"มึง กูดูพยากรณ์อากาศเมื่อกี้ ฝนไม่ตกนะเว้ย เฮ้ย หรือพายุจะเข้าทีเดียวแบบถลมประเทศเลยวะ"
ผมอยากจะถอนหายใจกับพวกมันที่เล่นใหญ่ ไอ้เต้หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูพยากรณ์อากาศ ไอ้น้ำก็หยิบโทรศัพท์มาทำเป็นโทรหาโรงพยาบาลให้ส่งรถฉุกเฉินมารับผม
"จริงๆนะ หมูบอกว่าจะลงแข่งเอารางวัลให้เทม"
"รางวัลปีนี้เขาให้เครื่องบินส่วนตัวเป็นรางวัลเหรอวะมึง ทำไมไอ้หมูถึงยอมลงแข่ง"
"ใช่เหรอวะ กูก็เห็นแม่งให้แต่ขนมปี๊บทุกปีอ่ะ"
"ใช่ๆๆๆๆๆ ขนมปี๊บของเทมๆๆๆๆ หมูจะเอามาให้เทม"
"วิ่งวิบากที่มึงแข่งป่ะ ปีนี้โหดนะเว้ย ห้องไอ้กานต์ปีนี้มันบอกจัดเต็มมาก"
"อ้อออออออออออออออออออออออออออ ทำเพื่อเทมนี่เอง กูก็นึกว่าแม่งไม่สบาย ไม่ก็โดนเอเลี่ยนมายึดร่าง ถึงได้สมองกลับคิดจะลงแข่งกีฬาสี ปกติแค่แม่งเดินออกไปข้างนอกก็หงุดหงิดแล้วแท้ๆ โอ้ยย"
ผมเหยียบเท้าไอ้น้ำใต้โต๊ะ เมื่อมันเริ่มพูดมากเกินไป ผมเหลือบตาไปมองเทม กลัวเขาจะคิดมาก ดีว่าเจ้าตัวกำลังคุยฟุ้งใกับเต้เรื่องการลงแข่งเลยไม่ทันฟังน้ำ
"น้ำว่าอะไรนะครับ เรียกเทมหรือเปล่า เมื่อกี้เทมคุยกับเต้อยู่"
"เปล่าๆ กูแค่จะถามว่าแล้วปีนี้มึงจะแข่งกีฬาอะไรไหม"
ไอ้น้ำยิ้มเหยเกเมื่อผมสบตากดดันมัน เทมที่พอได้ยินคำถามจากน้ำก็หันมาทางผม ใบหน้าดูสงสัยทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัว เอียงคอส่งคำถามมาให้ผม เหมือนเด็กน้อยที่รอพ่อแม่ตัดสินใจให้
"ปีนี้เทมไม่แข่งครับ เป็นกองเชียร์เฉยๆ"
"ปีนี้เทมไม่แข่งครับ เป็นกองเชียร์เฉยๆ"
เทมยิ้มกว้างเมื่อได้คำตอบ ก่อนจะคัดลอกคำพูดผมไปตอบคำถามน้ำ ไอ้น้ำทำหน้าละเหี่ยใจกรอกตาไปมาใส่ผมสองคน
"เออๆ เอาที่พวกมึงสบายใจ"
ไอ้เต้กับไอ้น้ำกำลังเค้นคอผมให้สารภาพอยู่ครับ
"กูว่ามึงชัดๆอ่ะหมู ในไอจี ในทวิตเขาแอบถ่ายรูปมึงอยู่ที่สถานีได้ด้วย แคปชั่น 'หนุ่มฝรั่งนายแบบสุดหล่อควงแฟนหนุ่มเที่ยว แสนใจบุญแจกเหรียญบนบีทีเอส' กูนี่อยากจะหำ เอ้ย ขำ แม่งคงแลกเหรียญแล้วไม่มีที่เก็บอ่ะดิ มนุษย์ไม่เก็บเหรียญอย่างมันอ่ะ บ้านนอกที่แท้ทรู ไม่เคยขึ้นรถไฟฟ้า ว้าย ว้าย"
"เออ มึงกับไอ้เทมชัดๆ! พวกมึงแม่ง แอบหนีเที่ยวกันก็ไม่บอกพวกกู นี่ไม่อยากจะโม้ พวกกูควงสาวไปเที่ยว ตรงนี้นะ อะฮืม อะฮืม บะเริ่มเทิ่ม ใหญ่อย่างงี้!"
"ในคาเฟ่กูไดิยินเสียงโทรศัพท์มึงด้วย มึงใช่ไหม!"
"มึงใช่ไหมบักดิมิทรี ยอมรับมา!"
แรงสะกิดที่ต้นแขนทำให้ผมหันหน้าออกจากวงสนทนา ทิ้งพวกมันแหกปากถามต่อไปโดยไม่สนใจ
"หมูหย็อง หมูหย็อง เทมไปห้องน้ำนะครับ"
ไอ้ความรู้สึกเดจาวูนี่มันคืออะไรกันครับ เหตุการณ์คล้ายๆเหมือนเคยเกิดขึ้นนี่มัน...คำว่าเข้าห้องน้ำของเทมปุระ ทำเอาแฝดนรกชะงักกึก มันกุมท้องทำท่าโอดโอย
"โอ้ยยยยยย ปวดฉี่โว้ยยยยยยย"
"เออว่ะ ปวดฉี่ชิบหายเลย จะราดอยู่แล้ว"
"เทมมึงจะไปฉี่เหรอวะ ได้ยินแว่วๆ กูไปด้วยดิ"
"อะไรนะ ใครจะไปห้องน้ำ กูไปด้วยๆๆ"
"เต้กับน้ำก็ปวดเหรอๆๆ งั้นไปห้องน้ำกันนะ แต่ว่าแบบนี้ห้องน้ำอาจารย์ก็เข้าไม่ได้น่ะซี่คนเยอะ"
"ไปข้างล่างก็ได้ กูไม่ปวดขนาดนั้น หรือมึงจะเข้าก่อนก้ได้ เดี๋ยวพวกกูยืนรอแล้วค่อยไปเข้าแถวกัน"
"เออ กูไม่ได้ปวดขนาดนั้นอ่ะ รอมึงก่อน"
"อ้าว ไหนน้ำกับเต้บอกว่า..."
"เออน่ะ ลุกๆ จะไปห้องน้ำใช่มะ มาๆๆ รีบๆไป เดี๋ยวเข้าแถวช้า โดนประกาศดุใส่ไมค์น่าอายนะมึง"
"จริงด้วยครับ งั้นไปห้องน้ำกันนะ"
ผมเบิกตามองพวกมันสองคนที่จู่ๆก็เกิดนึกจะมาปวดห้องน้ำพร้อมกันแล้วอดหัวเราะไม่ได้
"อืม หมูก็อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน"
"หมูหย็องด้วยเหรอ โหๆๆๆ เท่จังเลย ปวดห้องน้ำพร้อมกันเลย"
เทมยิ้มร่าเริงแล้วเดินนำออกจากห้อง เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าตอนนี้ตัวเองได้กลายเป็นเจ้าหญิง ที่มีองครักษ์ถึงสามคนกำลังพิทักษ์พาไปเข้าห้องน้ำ ผมหัวเราะในลำคอมองเพื่อนทั้งสองคน พวกมันหลบสายตาทำเป็นผิวปาก ชมนกชมไม้ไม่ยอมสบตากับผม ทีกับเรื่องดีๆนี่ทำแล้วดันหน้าบาง ทำเขินอายนะครับ ผมล่ะงงกับพวกมันจริงๆ
"อ้าว ไปไหนกันวะ" อเล็กซ์ที่เดินผ่านมาถามพวกผม
"เทมปวดฉี่ จะไปห้องน้ำ" ไอ้เต้หันไปตอบเสียงดัง
"อ้าวเหรอ เออ มึงพูดแล้วก็ก็ปวดขึ้นมาเลยว่ะ ไปด้วยๆๆๆ"
แล้วก็ได้องครักษ์เพิ่มมาอีกหนึ่งคน
"อ้าว พวกมึงไปไหนอะ"
ไม้กับธันวาที่เดินคู่กันมา เมื่อเห็นพวกผมเดินลงบันมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็ถาม
เหตุการณ์เดจาวูนอกจากเทมเข้าห้องน้ำช่วงเช้า ก็คือเจ้าหญิงได้องครักษ์คุ้มครองเพิ่มหลังจากประโยค
"อ๋อ เทมไปเข้าห้องน้ำ"
"รู้ใจกูจัง ไปด้วยๆ แหม ส้มตำเจ้ดาเมื่อคืนทำพิษกูซะแระ ตดปู้ดป้าดปี้ดปู้ดตั้งแต่เช้า ต้องไประเบิดสักหน่อย" ธันวา
"ไปด้วย" ไม้ เหรัญญิกของสภาผู้แสนเงียบขรึม ขอไปด้วยด้วยถ้อยคำสั้นๆ
ในระหว่างทางไปห้องน้ำ ขบวนของเจ้าหญิงเทม ยังได้รับผู้ร่วมทางเพิ่มมาอีกหลายคน
ไม่เว้นแม้กระทั่ง
"อ้าว พวกเธอจะไปไหนกัน" เปียและหญิงที่เพิ่งเดินออกมาจากทางไปห้องน้ำก็ทักขึ้น
"เทมจะเข้าห้องน้ำ" เสียงหลายคน หลายเสียงประสานกันจนเป็นเสียงดัง
"อุ้ย เหมือนจะลืมหวีไว้ในห้องน้ำอ่ะเปีย"
"เออ เราก็ว่าเราลืมอะไรสักอย่างไว้ที่ห้องน้ำนะหญิง"
"เพราะงั้นก็..."
"ไปด้วยดิ / ไปด้วยดิ"
องครักษ์หญิง...
แทบจะเป็นจะต้องจดบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ของโรงเรียนสิงหสารสารทวิทยา กับการเข้าห้องน้ำพร้อมกันมากกว่ายี่สิบคน ไม่ใช่สิ...ต้องบอกว่าเข้าหนึ่งคน
"123456...โห โห เยอะจังเลย ทุกคนปวดพร้อมกันเลย ห้องน้ำจะพอไหมนะ หมูหย็องครับ หมูหย็อง ห้องน้ำโรงเรียนเรามีกี่ห้องครับ จะไม่พอหรือเปล่า เทมวิ่งขึ้นไปเข้าข้างบนดีไหมครับ"
"หึหึหึๆ พอสิครับเทม"
เพราะคนเข้าน่ะมีคนเดียว
ที่เหลือน่ะ
ผู้ติดตามมาส่งล้วนๆ แน่นอนว่าการเข้าห้องน้ำครั้งนี้...
เป็นไปอย่างราบรื่นครับ
end 23 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง