[แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)  (อ่าน 65164 ครั้ง)

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ต่อ แจ็ค&เท็น ท้ายชื่อเรื่องให้หน่อยก็ดีนะ


เพราะบางทีมองผ่านๆก็ทำให้หลายๆคนพลาดเรื่องนี้ไป


อย่างน่าเสียดายอ่ะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
แอบร้องไห้ด้วยเรื่องนี้

มารอดูว่าเค้าจะฟื้นความสัมพันธ์ยังไงนะคะ

แต่บีในอดีตที่เท็นหรือเปล่า แอบรักมาแต่อ้อนแต่ออกไงงี้

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

 
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 04
จุดเริ่มต้นในวันนั้น

 




 

“เท็น!”

 

กี่ครั้งแล้วที่เขาเอาแต่ตะโกนเรียก แต่เพื่อนสนิทกลับเดินหูทวนลมเหมือนว่าเสียงที่พยายามรั้งเอาไว้มันไม่มีน้ำหนักมากพอ แจ็คเร่งฝีเท้า สุดท้ายเขาก็วิ่งเข้าไปขวางทางไว้ได้ ซึ่งสีหน้าอีกฝ่ายที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นไม่ได้ปลาบปลื้มใจเลยสักนิด

 

“ฟังก่อนสิวะ”

 

เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งยังคงให้ความสนใจกับลูกบาสในสนาม และเสียงพูดคุยของใครก็ตามที่อยู่ละแวกนี้ในเวลาพักเที่ยง แต่เสียงเหล่านั้นก็ไม่สำคัญเท่าคำบางคำที่อยากได้ยินจากปากเพื่อนสนิท ไม่ใช่การสู้กันผ่านความเงียบอย่างนี้

 

แจ็คลดระดับสายตาลงอย่างรู้สึกผิดเพราะเรื่องเมื่อไม่กี่นาทีก่อน มันเริ่มต้นจากการจับกลุ่มทำรายงานซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องเลือกเพื่อนเข้ากลุ่มก่อนเป็นอันดับแรก แต่เพราะงานหินที่ต้องมีจำนวนมากกว่าห้าคน พวกเขาจึงต้องหาใครก็ตามที่ยังว่างอยู่ ซึ่งหัวหน้าห้องก็ชี้ไปทางกลุ่มผู้หญิงสามคนที่เป็นเด็กแก่เรียน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

 

แจ็คกับเพื่อนไม่คิดมากอะไร ดีเสียอีกถ้าจะมีผู้หญิงทำงานเก่งเข้ามาเป็นหัวกะทิ เมื่อตกลงเลือกหัวข้อกันเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็จดอีเมลล์ส่วนตัวให้เพื่อน ๆ เพื่อเอาไปแอดที่บ้าน ตอนนั้นแจ็คถึงได้รู้ว่าเรื่องบังเอิญบางอย่างมันก็อยู่ใกล้ตัวเขาจนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้

 

เพราะเด็กสาวเจ้าเนื้อผิวสีน้ำผึ้งผู้มีดวงตากลมโต คนที่ไม่ค่อยมีบทบาทในห้องนั้นเป็นเจ้าของเมลล์เดียวกับ ‘บี’ เด็กผู้หญิงที่แจ็คคุยด้วยทุกวัน

 

ทั้งคู่เงยหน้าสบตากันหลังจากเห็นอีเมลล์กันและกัน ระหว่างที่ทุกคนกำลังแบ่งสัดส่วนงานที่ต้องรับผิดชอบบีก็ขอตัวออกไปก่อน เธออ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แจ็คจึงตามออกไป ท่ามกลางสายตาเพื่อนในกลุ่มอีกหกคนที่มองมาอย่างสงสัย ซึ่งเท็นเป็นคนเดียวที่ตามเขาออกมา

 

 

‘บี!’

‘บี!’

‘...บลู!’

 

 

เจ้าของชื่อยอมหยุดฝีเท้าในที่สุด แจ็คมองแผ่นหลังเด็กสาวเจ้าเนื้อโดยไม่กล้าขยับเข้าใกล้มากกว่านี้เพราะกลัวเธอจะวิ่งหนีไปอีก หัวใจเขายังคงเต้นแรงนัก มันเกินความคาดหมายไปหน่อยกับการเจอกันครั้งแรกแบบนี้

 

 

‘ไม่จริง เจจะเป็นแจ็คได้ยังไง’

‘บ --’

‘อย่าเข้ามานะ – ห – หยุดอยู่ตรงนั้นเลย’

 

 

แจ็คคิดว่าบลูคงห้ามเสียงฝีเท้าของเท็นที่เพิ่งวิ่งมาถึง เขาเห็นว่าไหล่ของเธอสั่น เด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องไห้ อาจเป็นเพราะความไม่มั่นใจกับสรีระร่างกายของตนเองที่มักจะพูดถึงอยู่เสมอ ‘บี’ เคยบอกว่าคงไม่มีใครสนใจผู้หญิงอ้วน เพราะตัวเธอเองก็ยังชอบคนหน้าตาดี

 

 

‘เลิกกันไหม... เลิกกันไปเลย’

‘หันมาคุยกันก่อนได้ไหม?’

‘ไม่ – แจ็คน่ะ ที่ตามมาก็เพราะสงสารเราใช่ไหม แจ็คไม่ได้ชอบเรา ไม่มีทางเลย เราเป็นแค่ผู้หญิงอ้วน ๆ คนนึง ไม่ได้น่ารัก ไม่ได้น่าทะนุถนอม ส่วนแจ็คอยู่กลุ่มคนดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก’

‘...’

‘ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ใช่คนอย่างที่แจ็คคาดหวังไว้ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง’

 

 

เท็นกำลังสับสนว่าอยู่ในสถานการณ์ไหน เด็กหนุ่มมองเพื่อนสนิทกับผู้หญิงอีกคนที่ยังคงหันหลังให้ จนกระทั่งแจ็คเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเธอแล้วคว้าข้อมืออวบนั้นไว้อย่างใจเย็น

 

 

‘เราเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?’

‘...’

‘จะอ้วน จะเป็นยังไง เราก็รักอยู่ดี’

 

 

บลูยังคงร้องไห้กับการเฉลยความจริงที่ไม่ได้ตั้งตัว แจ็คค่อย ๆ ประคองอีกคนให้หันมามองหน้ากัน ซึ่งเธอก็เอาแต่ก้มอยู่อย่างนั้นจนเขานึกขึ้นได้ว่ายังมีใครอีกคนมองอยู่ แววตาของเท็นเต็มไปด้วยความผิดหวัง ไอ้หมอนั่นคงกำลังรอคำอธิบายว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน เหตุใดเพื่อนที่ไม่เคยมีความลับต่อกันถึงมีความสัมพันธ์แบบนี้กับเพื่อนร่วมห้อง

 

“กูคุยกับเค้าในเอ็มมาสักพักแล้ว ที่ไม่ได้บอกก็เพราะกลัวโดนล้อว่าไร้สาระ กูก็เพิ่งรู้เมื่อกี้เหมือนกันว่าคนที่คุยด้วยคือบลู”

 

“อือ แล้วไงต่อ”

 

“เราไม่เคยรู้จักชื่อ ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ความจริงกูกับเค้าแพลนกันไว้ว่าจะไปเจอกันเดือนหน้า หลังจากนั้นก็ตั้งใจว่าจะพาไปเจอพวกมึง”

 

“อ่าฮะ”

 

“เท็น กูขอโทษที่มีความลับ แต่มันก็แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเอง เรื่องอื่นกูไม่เคยปิดบังมึงเลยนะ”

 

แจ็ครู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นไหน ๆ ซึ่งไอ้ธีร์ก็เคยพูดอย่างเหนื่อยใจว่า

 

‘มึงจะโอ๋มันเกินไปไหมวะ ไอ้ฉิบหาย มึงเป็นเพื่อนมันนะไม่ใช่แฟนถึงจะต้องบอกทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต คนเรามันก็ต้องมีความลับที่ไม่อยากบอกใครบ้างดิ มันไม่ใช่เพราะยังสนิทกันไม่พอ แต่การบอกทุกอย่างก็ไม่ได้ยืนยันความสัมพันธ์นั้นเลยปะ? สมมติถ้ากูไปรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวมึงโดยบังเอิญ วันนั้นกูก็คงไม่ถามหรอกว่าทำไมถึงไม่เล่า กูพร้อมจะ ‘อ๋อออออออ ไอ้เช้ดแม่ อย่างนี้นี่เอง’ แล้วก็กอดคอมึงไปแดกข้าวเหนียวหมูปิ้งโดยไม่ซักไซ้อะไรสักคำ’ 

 

แต่คนเราไม่เหมือนกัน ไอ้ธีร์จะคิดอย่างนั้นก็ไม่ผิด แต่ไอ้เท็นจะเซ็งก็ได้เหมือนกัน

 

สองคนนี้มีความเป็นโลกคู่ขนานที่บางอย่างก็เหมือนกันจนน่าตกใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ต่างกันอย่างสุดขั้ว ไอ้ธีร์เป็นคนที่ง่าย ๆ สบาย ๆ กับความสัมพันธ์ แต่ไอ้เท็นเป็นคนละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ขัดเกลาหล่อหลอมเพื่อนทั้งสองคนนี้ก็ล้วนมาจากสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

ดังนั้นมันคงไม่แปลกนักถ้าหากเท็นจะคิดว่ามิตรภาพระหว่างเราเริ่มมีกำแพงกั้นขึ้นมาแล้ว แต่เขาก็แคร์ความรู้สึกเพื่อนคนนี้มากจนยอมเบลอความเรียบง่ายของไอ้ธีร์ไป แจ็คไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกแย่และคิดว่าไม่จริงใจ

 

“มึงชอบคนแบบนั้นเหรอ?”

 

“แบบนั้นคือแบบไหน?”

 

“อ้วน หน้ามีแต่สิว”

 

“...”

 

“พูดดิว่ามึงชอบทุกอย่างที่เค้าเป็น บอกมาว่ามึงไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะหน้าตาน่ารัก?”

 

เหมือนถูกจี้ใจดำกับเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ยอมรับว่าลึก ๆ แจ็คก็คาดหวังอยู่เหมือนกัน ตามประสาเด็กผู้ชายที่ชอบมองความสวยงาม ยิ่งถ้าเป็นคนนิสัยน่ารักแบบ ‘บี’ ด้วยก็คงรู้สึกดีเข้าไปใหญ่ เขาเป็นเด็กย่างอายุสิบเจ็ดที่อยากมีโมเม้นเดินจับมือกับแฟนหลังเลิกเรียน ถ่ายรูปคู่กัน หรืออะไรก็ตามที่คนเป็นแฟนทำร่วมกัน

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหันหลังให้บลูเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงท้วม ความรู้สึกระหว่างทั้งคู่มาไกลมากนัก แจ็คอยากมองที่จิตใจมากกว่าเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาสวย

 

“กูชอบนิสัยเค้า”

 

“แบบที่คุยกันแค่ในเอ็มน่ะเหรอ?” เท็นถอนหายใจ “ตัวหนังสือน่ะใคร ๆ ก็ทำให้ตัวเองดูดีได้ มึงคิดว่าที่คุยกันมาตลอดนั่นคือนิสัยเค้าจริง ๆ เหรอแจ็ค?”

 

“กูเข้าใจว่ามึงเป็นห่วง แต่ถ้าวันหนึ่งบลูทำให้เห็นว่าเค้าไม่ใช่คน ๆ เดียวกับที่กูเคยรู้จัก วันนั้นกูจะเดินไปบอกเค้าเอง แต่ตอนนี้หายโกรธกูก่อนได้ไหมวะ นะ ๆๆ” แจ็คประสานมือไว้ใต้คาง เบะปากเหมือนเด็ก ๆ หวังจะละลายความโกรธเคืองของเพื่อนสนิท แต่อีกคนกลับถอนหายใจแล้วเบือนสายตาไปอีกทาง

 

“...”

 

“ให้กูเลี้ยงกล้วยกล้วยแบบจัดเต็มอาทิตย์นึงก็ได้”

 

“...”

 

“งั้นสองอาทิตย์” เด็กหนุ่มชูสองนิ้ว แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่สนใจมือถือโง่ ๆ ที่ไม่มีอะไรให้เล่น “เดือนนึงพร้อมตั๋วหนังแบบอันลิมิต!”

 

“ดีล”

 

“อ้าว ไอ้เท็น ไอ้เพื่อนเหี้ย!” แจ็คถลึงตามองไอ้คนชั่วที่กำลังยกยิ้มอย่างพอใจหลังจากไล่ต้อนเขาจนสำเร็จ

 

คนขี้น้อยใจหายไปและแทนที่ด้วยไอ้คนหน้าร้าย ๆ ที่เข้ามากอดคอเขาให้เดินไปด้วยกัน แจ็คยังคงมองเสี้ยวหน้าเพื่อนสนิทอยู่อย่างนั้น มองว่ามันยังหลงเหลือความโกรธเคืองอยู่หรือไม่ แต่การที่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดไปเรื่อยเปื่อยเหมือนว่าเรื่องคบกับบลูเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ที่เคลียร์รอบเดียวแล้วจบ เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ

 

 

 

*

 

 

 

 

KSBjack: ทำอะไรอยู่?

 

เท็นมองแชตในสตีมก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาแล้วหันมาเล่นกับหมามากกว่าจะให้ค่ากับใคร แต่คิดแบบนั้นได้แค่ชั่วอึดใจสุดท้ายเขาก็ลุกไปคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูอีกครั้ง ระหว่างนั้นก็คิดว่าควรตอบกลับไปแบบไหนให้ดูปกติและไม่สะทกสะท้านใด ๆ กับการไปเข้าทีมกระจอกนั่น หรือว่าควรเงียบไปก่อนแล้วปล่อยให้มันร้อนใจจนทักมาขยี้อีกรอบดี?

 

KSBjack: ว่างแล้วมาคุยกันหน่อย

 

ก็รู้ว่าประเด็นหลักคงเป็นเรื่องงานแข่งเกมการกุศล แต่ทำไมถึงเลือกส่งไอ้แจ็คมาคุยแทนที่จะเป็นพี่ตั้บ – อ้อ รายนั้นคงโกรธหนักไม่แพ้ไอ้ธีร์เหมือนกันสินะ ไอ้หมอนี่คงใจเย็นที่สุดในก๊กนั้นแล้ว ว่าแต่ทำไมไม่ส่งโซ่มาล่ะ บางทีเขาอาจจะยอมเพราะรำคาญความโลกสวยของน้องมันก็ได้

 

 

TEN10: ?

KSBjack: เรื่องทีม

TEN10: แล้ว?

KSBjack: ปฏิเสธไปซะ

 

 

เท็นแค่นหัวเราะกับความเย็นชาที่ส่งผ่านมาทางตัวอักษร ให้ตายสิวะ ถ้ามาแบบนิ่ม ๆ อาจจะยอมพูดดีด้วยก็ได้ แต่นี่อะไร มาถึงก็ฮุคใส่เหมือนอยากประกาศสงคราม

 

 

คราวนี้แจ็คมันเริ่มก่อนเองนะ

 

 

TEN10: มึงคิดว่ากูตอบตกลงเหรอ ถามจริง?

KSBjack: ก็ผู้ใหญ่บอกมาอย่างนั้น

TEN10: มึงไปถามใหม่นะแจ็ค จะได้เลิกโง่

TEN10: กูล่ะเชื่อมึงเลย นี่คิดว่ากูอยากเล่นกับทีมมึงจนตัวสั่นหรือไง?

KSBjack: งั้นรออะไรอยู่? ไปคุยกับทางนั้นเลยสิ คนอย่างมึงน่าจะยอมทำทุกอย่างอยู่แล้วขอแค่อยากได้

TEN10: กูควรเจ็บใช่ไหม โอ๊ย ๆๆๆๆ แจ็ค กูจะร้องไห้แล้ว

KSBjack: เรากำลังตกเป็นเหยื่อการตลาด มึงรู้จุดยืนของตัวเองหรือเปล่า?

TEN10: รู้ แล้วกูคนเดียวเหรอที่เปลี่ยนแปลงอะไรได้?

TEN10: ขยับตัวสักนิดสิแจ็ค ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันนักก็พยายามหน่อย

KSBjack: มึงดูสบายใจเกินไปหรือเปล่า มีแผนอะไรอยู่หรือไง?

TEN10: ถ้ามีแล้วมันเรื่องอะไรที่กูต้องบอกมึงล่ะเพื่อน?

TEN10: ไม่เอาน่า ไหน ๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เอ็นจอยกันหน่อยเป็นไง?

KSBjack: ไร้สาระ

KSBjack: ถ้าคิดจะปั่นหัวกูเพราะคิดว่าจะได้ผลเหมือนไอ้ธีร์ก็คิดใหม่

TEN10: ก็จริง แต่ตัวกูไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าจะคิดมากไปทำไม แล้วพวกมึงล่ะ?

TEN10: หัวหน้าทีมก็ยังไม่สึก น่าจะหัวร้อนปุด ๆ จนแอบหนีออกจากวัดมาเพื่อไล่ล่ากูแน่ ๆ

TEN10: ยังไงดีแจ็ค กูนี่กลัวจนตัวสั่น มันจะเป็นยังไงถ้าเกิดกูบังเอิญเล่นแย่จนทำให้ทีมตกรอบแรก ขี้ซุยบาร์เบอร์จะอับอายแค่ไหน?

TEN10: โทษที ๆ บราเทอร์

KSBjack: ตกลงว่าต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นมึงก็จะลงแข่งอยู่ดีใช่ไหม?

TEN10: ถ้าใช่แล้ว...?

TEN10: จะมีคนอกแตกตายไหม เช่นเพื่อนพระของมึงกับพี่ตั้บ?

KSBjack: โอเค งั้นแข่งก็แข่ง

TEN10: ...????

KSBjack: มึงมันเหลือเกิน ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็เจอกันในเกมแล้วกัน

TEN10: ก็เอาสิ ใครจะเป็นหัวหน้าทีมล่ะคราวนี้ อยากได้ตำแหน่งแทนธีร์เกมเมอร์ชั่วคราวไหม กูเป็นให้ได้นะ

KSBjack: ไม่จำเป็น หัวหน้าทีมกูมีคนเดียว มันชื่อธีร์

TEN10: ถ้ามันได้ยินคงหัวใจพองโตยิ่งกว่าตอนได้เอาตัวท็อปของมหาลัยแน่ ๆ สมแล้วที่เป็นเพื่อนรักมัน

TEN10: ก็โอเค ตามนั้น แต่เวลาสั่งงานก็อาจจะฝืดหน่อยนะ เพราะแผนการทีมอ่อน ๆ ของพวกมึงคงดึงกูดำดิ่งตามยากหน่อย

TEN10: ต้องขายหน้าเพราะเล่นกับนูปอีกแล้วสินะ เฮ้อ

KSBjack: Offline

 

 

ใครยั่วโมโหเก่ง?

 

เขาหรือไอ้ซื่อบื้อนั่นที่ทักมาทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครเปลี่ยนอะไรได้ เท็นเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพลางโยนมือถือขึ้นไปบนโซฟาอีกครั้ง ถอนหายใจหนัก ๆ กับการถูกเพิกเฉยทั้งที่คนผิดคือฝ่ายทักมา เขาก็แค่อยู่เฉย ๆ และไม่สามารถปฏิเสธได้ แทนที่จะทักมาพูดดี ๆ ขอให้ร่วมทีมด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาอาจจะยอมฝืนปากตัวเองไว้ อย่างน้อยก็สักนิดนึง

 

คิดไปถึงการแข่งขันที่ใกล้เข้ามา ตอนนั้นเขาคงโดนด่าหนักกว่านี้เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมขวัญใจชาวบ้านแปดเปื้อน ซึ่งนั่นจะสำคัญอะไรล่ะ

 

ไม่มีใครสนใจอยู่แล้วว่า TEN10 จะรู้สึกอย่างไร ขอแค่อัพรูปลงอินสตาแกรมหรือโพสต์อะไรลงเฟซบุ๊กก็ได้ หลังจากนั้นตำรวจโซเชียลก็จะเข้ามาจัดการเขาเอง

 

 

ก็เป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว โดนอีกสักครั้งจะเป็นไรไป

 

 

 

*

 

 

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน หลายครั้งที่เท็นตั้งคำถามว่าคนรอบข้างกำลังเปลี่ยนไปหรือเพราะพวกเขาแค่โตขึ้นจนทัศนคติเปลี่ยนกันแน่ แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ แต่ถึงอย่างนั้นเท็นก็ใจหายอยู่ไม่น้อยที่หลายครั้งหันไปข้างตัวแล้วไม่เจอเพื่อนอยู่ข้างตัว

 

“...”

 

ไม่มีเด็กมอสองในโรงเรียนสอนดนตรีแล้ว โลกหมุนไปทุกวัน เท็นจะฝังตัวเองอยู่กับโลกใบนั้นไม่ได้อีก และแจ็คก็เหมือนกัน ทุกวันนี้เพื่อนสนิทของเขากำลังมีโลกอีกใบที่ทับซ้อนเข้ามา ซึ่งมนุษย์เรียกมันว่าความรัก

 

เป็นตามที่แจ็คเคยพูดไว้ทุกอย่าง ว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะเหงาสักหน่อยหากเพื่อนมีแฟน เท็นก็ควรมีแบบนั้นด้วยใช่ไหม แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อชีวิตเขาช่วงนี้มันสนุกกับการมีเพื่อนมากกว่าจะแบ่งเวลาไปให้ผู้หญิงสักคน

 

แต่แจ็คคงไม่ได้คิดอย่างนั้น ผู้ชายอ่อนโยนอย่างมันคงอยากดูแลผู้หญิงสักคน

 

บลูเริ่มดูดีขึ้นหลังจากเปิดตัวคบกับแจ็ค ผู้หญิงคนนั้นคงรู้สึกแย่ที่เห็นในกระทู้โรงเรียนกล่าวถึงเธอกับเพื่อนสนิทของเขาว่าไม่เหมาะสมกันบ้าง ช้างน้ำกับเทพบุตรบ้าง หลังจากนั้นเด็กสาวหุ่นเจ้าเนื้อจึงเริ่มควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลหน้าตาตนเอง แม้จะยังไม่ผอมสวยหุ่นดีแต่ก็ทำให้ใครหลายคนมองเห็นความเปลี่ยนแปลงไปบ้างจนไม่กล้าว่าอะไรอีก

 

ซึ่งมันอาจเป็นเพราะแจ็คออกตัวปกป้องแฟนอยู่เสมอด้วยล่ะมั้ง?

 

เท็นนั่งนิ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องมืด มอง Hi5 ของคู่รักที่มีรูปถ่ายวันสำคัญและคำบรรยายความรู้สึกต่ออีกฝ่าย แจ็คไม่ใช่คนแสดงออกเก่ง แต่การย้ายบลูไปอยู่ในท็อปคนแรกและให้เขาเป็นอันดับสอง ไอ้ธีร์อยู่อันดับสาม แค่นั้นก็ทำให้รู้ได้แล้วว่ามันรักแฟนแค่ไหน

 

 

‘อย่าคิดมากเลยมึง มันก็แค่มีแฟน ถ้ามึงเหงาเดี๋ยวกูหาสาวให้ เอาปะ?’

 

 

ไอ้ธีร์คงอยากปลอบใจและอยากให้เขาเลิกเป็นไอ้ลูกแหง่ติดเพื่อน แต่เขาไม่ได้ตอบรับข้อตกลงนั้น ซึ่งคนเป็นเพื่อนก็แค่ไหวไหล่แล้ววิ่งลงสนามไปเตะบอลต่อ

 

เท็นไม่ได้อยากให้ใครเข้ามาทดแทนช่องว่างที่หายไป แต่เขาก็เหงาเหลือเกินเมื่อตอนเริ่มเกากีตาร์แล้วไม่มีใครเดาว่าเพลงนี้เป็นของใคร บนผืนหญ้าที่มีเพียงเขานอนมองดวงดาวอยู่ตามลำพังนั้นมันเหงาแค่ไหน ตอนมองหาดวงจันทร์บนนั้น มันเหมือนคนโง่ที่พยายามหาสิ่งมาหล่อเลี้ยงใจว่าแจ็คแค่มีแฟนเท่านั้น แต่ความเป็นเพื่อนของเรายังไม่ไปไหน

 

เท็นไม่อยากเป็นคนงี่เง่าจนใช้ชีวิตไม่ได้ เขาไม่อยากเอาทุกอย่างไปผูกกับแจ็คจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้เคว้งคว้างตามลำพังแล้ว มันอาจส่งผลถึงตัวเพื่อนอีกด้วย เขาไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้แจ็คไม่มีความสุข เพราะความต้องการเดียวของเด็กผู้ชายคนนี้ก็คือการที่เพื่อนมีความสุขเพราะมีเขาอยู่ในชีวิต

 

 

แต่... เรามีความสุขกับเรื่องเดียวกันไม่ได้เหรอ?

 

 

‘ธีร์’

‘ว่า?’

‘ที่บอกว่าจะหาผู้หญิงให้กูสักคนน่ะ’

‘เออ ทำไม มึงสนใจแล้วเหรอ?’

‘ใช่’

‘เหยยยยยยย’

‘ใครก็ได้... ถ้าเอาง่ายยิ่งดี’

 

 

เซ็กส์ครั้งแรกในชีวิตช่างขมปร่า เท็นหอบหายใจหนักตอนสาวหน้าสวยบดสะโพกเคลื่อนไหวบนตัวเขาซ้ำ ๆ ‘มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?’ นั่นคือสิ่งที่เด็กหนุ่มถามตัวเองขณะที่สมองกำลังขาวโพลน เริ่มต้นจากนัดเจอคนที่ไอ้ธีร์แนะนำก่อนจะไปเจอกันหน้าพารากอน

 

พี่สาวกระโปรงสั้นทรงเอเป็นคนยิ้มสวย เธอเริ่มต้นทุกอย่างตั้งแต่การชวนคุย พาไปกินข้าว หรือแนะนำอะไรก็ตามที่เท็นเคยทำหน้าโง่ใส่ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนแทบไม่มีโอกาสตั้งตัว โชคดีที่ว่าอีกฝ่ายรู้งานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องถุงยาง บทรักแสนเร้าร้อนแต่ไร้ความรู้สึกจึงเริ่มต้นขึ้น

 

ดวงตาเหม่อมองเพดาน แผงอกหอบผิดจังหวะกระทั่งกลับเข้าสู่ปกติในที่สุด พี่สาวคนสวยถอดถุงยางให้และก้มลงมาจูบราวกับอยากเชยชมความบ้าคลั่งที่เขาเคยอัดกระแทกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เธอคนนั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ส่วนตัวเขานอนเปลือยกายอยู่บนเตียงกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น

 

โทรเข้า...

‘แจ็ค’

 

หากเป็นก่อนหน้านี้คงรับสายพร้อมความตื่นเต้นว่าเพื่อนจะมีอะไรมาเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้เท็นแค่คว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง และบอกตัวเองว่าไม่ต้องให้ความสนใจแจ็คตลอดเวลาก็ได้ ในเมื่อเพื่อนมีเวลาส่วนตัว เขาเองจะมีบ้างก็คงไม่แปลกนัก

 

เท็นไม่ใช่หนุ่มป็อปในโรงเรียน กลับกันแล้วทุกคนมักจะให้ความสนใจธีร์มากกว่าเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นคนหล่อแถมคารมดี ถัดมาก็เป็นแจ็คที่ให้อารมณ์แฟนในฝัน ยิ่งตอนเปิดตัวว่าคบกับบลูที่เป็นผู้หญิงหุ่นท้วมก็ยิ่งทำให้ได้ใจไปใหญ่

 

ถ้าเกิดว่าเขาเป็นเหมือนธีร์ แจ็คจะเสียใจบ้างหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าหา ถ้าเกิดว่าเขาเป็นฝ่ายที่ไม่มีเวลาให้เพื่อนอีกเลย

 

 

แบบนั้นน่ะ... แจ็คจะรู้สึกเหมือนกันบ้างไหม?

 

 

“เท็น”

 

“ครับ?”

 

“เมื่อกี้น่ะ... ชอบไหม?”

 

พี่สาวคนสวยไล้มือลงบนแผงอกของเขา ก่อนจะเริ่มลงลิ้นปรนเปรอทั้งที่ยังสบตากันอยู่ แจ็คกับบลูก็คงทำอย่างว่ากันไปแล้วสินะ ไม่อย่างนั้นสองคนนั้นคงไม่ตัวติดกันขนาดนี้

 

แต่เซ็กส์ที่มาจากความรักมันจะต่างกับตอนที่เขาทำกับพี่สาวสักแค่ไหนกันล่ะ?

 

เรื่องนั้นน่ะ เท็นจะมีวันเข้าใจมันได้หรือเปล่า?

 

 

“ขึ้นให้อีกรอบก่อนสิ แล้วผมจะตอบ”

 

 

 

TBC


 

 

อนาคินก่อนเป็นคนอีสาน

= ด้าดเวเด้อออออออออออออออออออออออออออออออออออ

 

 

 

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เท็นมากอดทีค่ะไม่เป็นไรนะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เท็นก็อาจจะซึมเศร้าแต่ไม่มีใครรู้ก็ได้นะ

แม้แต่เท็นเองก็อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้

หน่วงจัง สงสาร

สงสารตัวเองระหว่างรอตอนต่อไปอะค่ะ  :katai1: 555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ aommyga40

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นี่คงเป็นคนเหงาที่สุดคนหนึ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้
อดีตเด็กน้อยขี้เหงาคนนั้น กลายเป็นผู้ใหญ่ขี้เหงาแต่เอาความไม่แคร์บังหน้า
เหมือนจะร้ายกาจแต่โคตรน่าสงสาร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ไม่รู้ทำไมอ่านแล้วจะร้องไห้จริงๆนะ​ เราเคยมีเพื่อนที่เป็นแบบเท็นเลย​ นางจะไม่อยากให้เพื่อนสนิทไปมีแฟนรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง​ ตอนแรกเราไม่เข้าใจมากว่าขนาดนั้นเลยหรอ​ ความรู้สึกแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ​ ที่เท็นเป็นแบบนี้อาจจะเพราะมองว่าแจ็คเป็นโลกทั้งใบก็ได้​ ถ้าไม่มีแจ็คเท็นจะอยู่กับใคร.. ฮือ​อินอ่ะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ความเข้มข้นของซึมเศร้าแมน


กับความดาร์คของเก็บกดแมน


มันช่างเข้ากันราวกับวงจรชีวิตโดนซาตานอยอกล้อ

สู้ๆ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
2เรื่องที่แล้ว ฮาๆ เกรียนๆ มีดราม่า?เล็กน้อย แต่เรื่องนี้โอ๊ะหน่วงเน๊าะ มาแบบหม่นๆ เทาๆ รอลุ้นว่าจะเป็นไงต่อค่ะ
   :3123:  :pig4:  :กอด1:

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 05
เข้าใกล้อีกนิด


 

 

 

“มีอะไรเหรอแจ็ค?”

 

“ไอ้เท็นไม่รับสายน่ะ”

 

แจ็คขมวดคิ้วมองโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปทางแฟนสาวซึ่งหัดแต่งคอสเพลย์เป็นครั้งที่ห้าตามคำแนะนำของเพื่อนที่บอกว่าอาจทำให้เพิ่มความกล้าขึ้นได้ แต่บลูก็ยังก้ม ๆ เงย ๆ กังวลและคิดไปว่าคนผอมเท่านั้นถึงจะดูสวย เขาไม่อยากให้เธอจมอยู่กับความคิดแบบนั้น จึงตามมาเป็นตากล้องให้เหมือนทุกครั้งจนคราวนี้เริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนที่เลือกไม่รับสาย

 

ท่ามกลางผู้คนมากมายที่แต่งเป็นตัวละครในการ์ตูนยอดฮิตหน้าลานมาบุญครอง แจ็คก้มลงมองมือถืออีกครั้งแต่เท็นก็ยังไม่โทรกลับ โอเค มันอาจจะเป็นวันปกติที่บางทีเพื่อนอาจจะออกไปข้างนอกกับแม่หรือหมกตัวอยู่ในห้องกับการ์ตูนกองพะเนินที่เพิ่งซื้อมา

 

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยต้องคิดมาก แต่เพราะแจ็คไม่ค่อยมีเวลาว่างให้เพื่อนเหมือนอย่างเคยจึงกระวนกระวายกับเรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูก ใช่ เขากำลังรู้สึกผิดและอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไข ซึ่งการทิ้งบลูไว้ตรงนี้ตามลำพังคงไม่ใช่ทางที่ควรเลือกเช่นกัน

 

“เท็นน่าจะเล่นเกมกับธีร์อยู่หรือเปล่า?”

 

“ก็อาจจะใช่” เห็นว่าช่วงนี้เริ่มคุยกันได้บ้างแล้ว และเขาก็ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะประคองความสัมพันธ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปได้อีกนานสักเท่าไหร่ เพราะไอ้ธีร์เป็นคนปากไว มักจะพูดอะไรไปโดยไม่คิดซึ่งผิดกับไอ้เท็นที่เป็นคนเก็บทุกอย่างมาใส่ใจ

 

คนหนึ่งติดเล่นเกินไป อีกคนก็หยิบทุกอย่างมาคิดในแง่ร้ายไปเสียหมด แจ็คเคยพยายามหาตรงกลางให้เพื่อนทั้งสองคน แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาอยู่กับแฟนมากเกินกว่าจะเชื่อมทั้งคู่ให้เข้ากันได้

 

ถึงสองคนนั้นจะเล่นเกมด้วยกันอยู่จริงก็ไม่ได้ทำให้แจ็ครู้สึกดีขึ้น เขาไม่อยากหาเหตุผลมาปลอบใจตัวเองว่าการติดแฟนมันไม่ส่งผลต่อคนรอบข้าง แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้แล้ว นอกจากรอเวลาไปส่งบลูแล้วแวะไปหาเพื่อนที่บ้าน

 

“ยิ้มหน่อยสิ วันนี้บลูแต่งเป็นฮารุฮิมาเพื่อแจ็คเลยนะ” เด็กสาวที่เคยมีหุ่นท้วมในวันนี้ผอมลงไปถึงห้ากิโล เธอกุมมือคนรักพร้อมช้อนตามอง แม้จะรู้สึกน้อยใจที่เห็นแจ็คใจลอยอยู่หลายครั้งแต่บลูก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนักเพราะไม่อยากเป็นแฟนที่งี่เง่า

 

“ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศนะ”

 

“ไม่เลย บลูสิต้องขอโทษ ทั้งที่แจ็คควรจะไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ต้องมาเฝ้าบลูแบบนี้ ขอโทษนะคะ”

 

“ไม่เอาไม่ขอโทษแล้วค่ะ บลูไปยืนตรงนั้นเร็ว แจ็คจะถ่ายรูปให้”

 

“ตรงนี้เหรอคะ?”

 

ไม่รู้ว่ารอยยิ้มตอนนี้จะซ่อนความกังวลไว้ได้หรือไม่ เด็กหนุ่มมองแฟนสาวหุ่นเจ้าเนื้อนิด ๆ พลางกดชัตเตอร์ ก่อนจะนึกถึงคำพูดของไอ้ธีร์เมื่อคืนนี้ที่ทำให้กังวลมากกว่าจะสบายใจ

 

‘ช่วงนี้มันติดสาว มึงไม่ต้องห่วงหรอก เพื่อนเรากำลังจะโตเป็นหนุ่มแล้ว’

 

เรื่องจริงเหรอ? เด็กหนุ่มยังคงเอาแต่คิดเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะเท็นไม่เคยส่งสัญญาณให้รู้มาก่อน และแจ็คก็จดจำเพื่อนสนิทที่มักจะอยู่ติดเขามากกว่าจะหันไปให้ความสนใจผู้หญิงที่ไหน มันเป็นไปได้ด้วยเหรอที่เท็นคิดจะชอบใครโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเลย

 

‘มันอาจจะอยากเล่า แต่ตอนนั้นมึงน่าจะอยู่กับเมียไงเพื่อน’

 

อืม... มันต้องเป็นไปได้อยู่แล้ว

 

 

*

 

 

 

การแข่งรอบแรกช่างทุลักทุเลนัก เป็นเพราะความขัดแย้งที่หาความลงตัวไม่ได้ของขี้ซุยบราเทอร์ แหลมอยากแหกปากอัดหมอนกับเกมที่ควรได้เปรียบแต่ก็เกือบพังเพราะสมาชิกจำเป็นที่ไม่เคยเชื่อฟังคนในทีมเลยสักอย่างเดียว จริงอยู่ว่าพี่เท็นเล่นได้ดี แต่นั่นก็อาจแค่กับบลูไวเปอร์หรือทีมอื่น ๆ ที่เคยเข้า ๆ ออก ๆ มาแล้วนับแสนทีมไหมล่ะ เกมนี้มันเล่นเป็นทีมนะ ลุยเดี่ยวไปคิดว่าจะชนะได้เหรอ

 

EarthIII: ไอ้เท็นเหมือนตัวฟรี ขยะสัส

ToyStory1: สงสารขี้ซุยฯ มีคนอีโก้หมา ๆ อยู่ในทีม คงคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว

YOYOYO: พวกขี้ซุยกลับเกมมึงไปเหอะ ปัญญาอ่อนสัส

241774696: สันดานเดิมไม่เคยเลิกครับ 5555555555555555555

 

โอเค เท็นอาจจะเล่นขวางโลกเพราะอยากกวนตีนสี่คนนั้น แต่พวกในห้องแชตก็ไม่สนเลยว่าขี้ซุยบราเทอร์แทบไม่ฟังคำแนะนำของเขาเลย คนพวกนั้นอาจจะโปรอีกเกม ยอมรับก็ได้ ถึงจะไม่เคยพูดก็เถอะ แต่เกมนี้มันคนละเกมและเขาคลุกคลีอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี เพราะงั้นขี้ซุยบราเทอร์ก็อีโก้จัดไม่ฟังเหมือนกันล่ะวะ

 

แต่แผนทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า หลังจากแพ้เกมแรกเท็นถึงได้มีเวลาพักหายใจ ชายหนุ่มเลื่อนสกรอล์เมาส์อ่านข้อความที่มีทั้งให้กำลังใจและสาปแช่ง บางคนด่าอย่างไร้เหตุผลเพราะหมั่นไส้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ทำให้จุกอยู่ในใจไม่น้อย

 

‘งานนี้ไม่ได้แข่งเพื่อรางวัล แต่เป็นการเล่นเพื่อนำเงินไปช่วยเด็กยากไร้ซึ่งมันขึ้นอยู่กับจำนวนยอดโดเนท ถ้าคุณกับคนในทีมเล่นดี คนก็คงกดโดเนทเงินให้ ทำไมไม่นึกถึงจุดประสงค์ของงานหน่อยล่ะครับว่าจะจัดขึ้นมาเพื่ออะไร ทำไมถึงเอาแต่ใจหลับหูหลับตาเล่นโดยไม่สนทีมเลย?’

 

สุดท้ายคนผิดก็ยังคงเป็นเขา ต่างจากอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับกำลังใจและคำชม ถึงจะโดนด่าบ้างแต่ก็บางตานัก คนเหล่านั้นทำเหมือนว่า TEN10 เป็นตัวแถม ซึ่งมันอาจจะได้ผลถ้าทั้งสี่คนต้องการให้เขาหัวเสีย แต่ฝั่งคู่ต่อสู้ก็ได้เปรียบเพราะสิ่งที่เป็นกันอยู่หรือเปล่าล่ะ เวรเอ๊ย เท็นกับพวกบ้านั่นมีโอกาสตีเสมอได้ในเกมนี้ ซึ่งถ้ายังเอาแต่สนใจหนทางการเล่นของตัวเอง พวกขี้ซุยบราเทอร์ก็มีแต่จะได้คะแนนน่าเห็นใจ

 

“มารวมกลาง กันบ้านแล้วเอาลิน่าคนแรก”

 

ได้ยินเสียงหลุดขำของไอ้เด็กลูกครึ่ง คงมีความสุขมากสินะที่เห็นเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้สงครามประสาทก่อน แต่หลังจากพูดไปไม่ถึงห้าวิทุกคนยอมก็ทำตามอย่างว่าง่ายจนอดประหลาดใจไม่ได้ แต่ก็ดีไปอีกอย่างเพราะเท็นไม่อยากเถียงกับใครในสถานการณ์แบบนี้

 

( เอา Roshan* เปล่าเดี๋ยวกูช่วย )

 

*Roshan = สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ในเกมที่ถ้าตีตายแล้วจะดร็อป Aegis ซึ่งเป็นไอเท็มที่คนได้มันไปจะสามารถเกิดใหม่ได้ทันทีหลังจากโดนฆ่า

 

( ได้ยินที่ถามไหม? )

 

( เท็น? )

 

“มึงคุยกับใคร กูจะไปรู้เหรอ?”

 

( ในทีมมีใครควรถือ Aegis นอกจากมึงอีกไหมล่ะหื้อ? )

 

“คราวหลังก็หัดเรียกชื่อสิ ถ้าแถวนั้นมีผีคงได้แห่เข้าบ้านมึงหมด เล่นพูดลอย ๆ แบบนี้”

 

 

1111111111111: เอาเว้ย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555555

FBIIBF: ตีกัน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555555555

Aonnaka: เออ มันต้องแบบนี้สิวะ พี่เท็นอย่าไปยอมค่ะ น้องเป็นกำลังใจให้

Thonglhor77: ประชดเก่ง กัดเก่งเป็นหมาาาา

 

 

( รีบมา เดี๋ยวกูค้ำให้ )

 

บรรยากาศตอนนี้ต่างไปกว่าทุกครั้ง มันทั้งหัวเสียและรู้สึกดีอยู่ลึก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเท็นไม่อยากยอมรับว่าอย่างหลังมันได้เกิดขึ้นจริง เหมือนว่าเขากับแจ็คยอมถอยหลังคนละก้าวโดยไม่มีใครประชดประชันกันเพื่อเอาชนะ มันเป็นช่วงวินาทีสั้น ๆ ที่ทำให้รู้สึกหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น

 

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นมากนักนอกจากสถานการณ์ในเกม

 

ยอดเงินโดเนทพุ่งขึ้นสูงเรื่อย ๆ หลังจากเห็นว่าขี้ซุยบราเทอร์เริ่มตีเกมกลับขึ้นมาได้ เท็นถนัดเล่นแครี่ซึ่งเป็นตำแหน่งความหวังทีม หากตัวเขาไม่ได้เกิด ช่วงท้ายเกมน่าจะพินาศได้ง่าย ๆ

 

ส่วนไอ้แจ็คเล่นซัพพอร์ทห้า คอยออกของช่วยให้เขาฟาร์มง่ายขึ้นเช่น Observer Ward ที่จะทำให้มองเห็นได้ว่าใครอยู่ในละแวกนั้น ป้องกันการโดนฝั่งตรงข้ามลอบฆ่าเพื่อนร่วมทีม เป็นตำแหน่งสนับสนุนคนอื่นจนตัวตายโดยไม่ห่วงเรื่องไอเทมของตัวเอง

 

โซ่เล่นมิดเลน คนที่ต้องคอยกดศัตรูเลนกลาง ตำแหน่งนี้ต้องเอาอีกฝั่งให้อยู่ไม่อย่างนั้นความฉิบหายจะบังเกิด ส่วนไอ้เด็กลูกครึ่งนั่นเล่นออฟเลน คอยดันป้อมชาวบ้านและบางครั้งก็ตามไปช่วยเพื่อนตุ๋ยฝั่งตรงข้าม พี่ตั้บเป็นซับพอร์ทสี่ที่ช่วยแจ็คซื้อของซัพทีมเช่นกัน แต่ตำแหน่งนี้จะมีของใส่ตัวมากกว่าซัพพอร์ทห้าหน่อย

 

สุดท้ายขี้ซุยบราเทอร์ก็ตีเสมอขึ้นมาได้จากเกมที่สอง

 

หลายคนกรีดร้องหา Thr33Gamer ขวัญใจชาวบ้านแม้ว่าไอ้เวรนั่นจะไม่ใช่ดาวประจำเกมนี้ แต่เป็นเพราะทีมมันอยู่ที่นี่ เขาจึงโดนค่อนแคะอยู่ตลอดรายการ แต่ถึงอย่างนั้นเท็นก็พาขี้ซุยบราเทอร์ผ่านรอบแรกไปได้อย่างขาดลอยในเกมสุดท้าย

 

พอลดทิฐิไม่ทะเลาะกัน การคว้าชัยชนะก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถึงจะกระดากปากเวลาพูดคุยปกติอยู่บ้างแต่ถ้าแกล้งทำเหมือนไม่คิดอะไรก็คงไม่ต้องอายใครทั้งนั้น คำชมส่วนใหญ่ถูกเทไปให้เด็กพูดจาสุภาพและเล่นอย่างสุขุม ไหนจะการซัพพอร์ทของไอ้แจ็คซึ่งทำให้แฟนเกม DotA ถึงกับพากันยุให้ย้ายมาแข่งเกมนี้

 

เท็นกดออกเกมขณะที่ทุกคนกำลังคุยกับแฟน ๆ ในห้องแชตหลังแข่งจบ เขาบิดขี้เกียจพลางเขย่ากระป๋องน้ำอัดลมที่ดื่มหมดไปตั้งแต่ครึ่งเกมแรก จึงลุกไปเปิดตู้เย็นเปิดฝากระดกใหม่แล้วเรอเสียงดังจนหมาสะดุ้งตื่น

 

“อะไร แค่นี้ขวัญอ่อนเหรอ?” พี่ซันไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เขาพูด เจ้าขนทองยิ้มลิ้นห้อยเดินเข้ามาหาเขาพร้อมสั่นหางราวกับมันเข้าใจว่าประโยคเมื่อครู่เป็นการชวนเล่น

 

“เมื่อกี้พ่อเพิ่งพาทีมกากชนะ พูดมาซิว่าพ่อพี่ซันเก่งที่สุด” เขาพูดลอดเสียงไรฟันอย่างมันเขี้ยวพลางฟัดหอมขนสีทองของลูกรักแล้วลุกไปคว้าผ้าขนหนูเตรียมอาบน้ำ มันคงดีถ้าหากว่าเขาจะนอนใช้ความคิดในอ่างเงียบ ๆ แล้วปล่อยให้เรื่องวิเคราะห์เกมเป็นหน้าที่ของคนเก่งในช่องแชต

 

RRRrrrrr!!!

 

แค่สิบวิเท่านั้น... เท็นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วภาวนาว่าขอให้เป็นใครสักคนบนโลกยกเว้นผู้ใหญ่ใจดีที่คงโทรมาเยินยอแล้วปิดท้ายด้วยการขอให้เล่นแบบที่ต้องการในรอบถัดไป กระแสสังคมน่าเบื่อแค่ไหน คงไม่มีใครเข้าใจมันดีเท่าเขาอีกแล้ว

 

 

โทรเข้า...

‘0909xxxxxx’

 

 

ใคร?

 

 

“ครับ?”

 

( ... )

 

คนในสายไม่ได้กล่าวทักทายจนชวนคิดไปว่าคงโทรผิด เท็นขมวดคิ้วพลางละโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์แล้วเอาแนบหูอีกครั้ง “ถ้ายังไม่พูดผมจะวางแล้วนะ”

 

( เดี๋ยว )

 

ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูที่พาดอยู่กับท่อนแขน เขาไม่ได้จำเสียงนั้นได้ดีหรือว่าอะไรหรอกนะ ถ้าไม่ติดที่ว่าเพิ่งมีปากเสียงกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ไประหว่างเล่นเกม ให้ตายสิวะ ไอ้แจ็คโทรมางั้นเหรอ ฟ้าจะผ่าลงกลางหัวไหม วันนี้พยากรณ์อากาศว่าไงบ้าง?

 

( พี่ต๋องให้เบอร์มึงมา เขาบอกว่ากูกับมึงควรโทรคุยกันเรื่องรอบหน้าไว้บ้าง )

 

“อ่าฮะ แล้วไงต่อ?”

 

( นี่เบอร์กู จะเมมไม่เมมก็ได้ มันจำง่ายอยู่ เริ่มต้นด้วยศูนย์เก้าศูนย์เก้า เผื่อมึงนึกออกว่าเกมหน้าอยากให้ใครเล่นตัวไหนพวกกูจะได้ไปซ้อมกัน )

 

พวกกูเฉย... TEN10 ก็เป็นหนึ่งในทีมเหมือนกันนะเว้ย อย่างน้อยก็ในงานนี้

 

“แหม่ ทีงี้ทำเป็นเห็นหัวกู” เขายืนพิงกับผนังพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถึงจะรู้ว่าเปล่าประโยชน์แต่การรู้สึกว่าชนะมันก็เยียวยาช่วงโดนทุกคนเหยียบระหว่างเล่นเกมได้บ้าง

 

( วันนี้ได้แสนสองเพราะคนถูกใจที่เราทะเลาะกันแต่ก็ยังชนะ )

 

“แต่แสนสองนั่นมึงก็ไม่ได้แตะสักบาท แคร์ทำไมวะ?”

 

( ถ้าเกมหน้าเราทะเลาะกันแล้วก็ชนะด้วยมันก็อาจจะได้มากกว่าแสนสอง พอถึงตอนนั้นเด็ก ๆ คงได้ทุนมากขึ้นอีก )

 

“พ่อพระอะไรขนาดนั้น?” เท็นจิ๊ปากรัวพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ อันที่จริงไม่ใช่เรื่องที่ต้องแปลกใจด้วยซ้ำเพราะนิสัยไอ้แจ็คเป็นคนมีน้ำใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะลงทุนมาทะเลาะกันเพื่อยอดเงินแบบนี้

 

( กูไม่ได้พ่อพระ แต่กูรู้ว่าแสงสว่างมันหน้าตาเป็นยังไง )

 

“...”

 

( มึงจะมองกูยังไงก็ได้ แต่เงินโดเนทที่มากขึ้นก็มีแต่จะให้โอกาสคนได้มากกว่าเดิม )

 

“เออ รู้แล้ว เดี๋ยวเกมหน้ากูจะโชว์เทพจนพวกมึงหงอไปเลยเป็นไง?” เขาพูดตัดรำคาญกับเรื่องที่เพิ่งเปิดใจยอม อันที่จริงก็อยากได้ยอดโดเนทเยอะ ๆ เหมือนกันนั่นแหละ เขาก็รักเด็ก แค่ไม่เคยบอกให้ใครรู้

 

แค่ถ้าเป็นเมื่อก่อนไอ้แจ็คจะพูดไงนะ?

 

‘ทำบุญกันเหอะ สงสารเขา’

 

ตอนที่พูดก็คว้าข้อมือเขาแล้วเขย่าเบา ๆ ไปด้วย สุดท้ายคนที่ฟังแต่เพื่อนเสมอมาก็อมยิ้มแล้วพยักหน้าตกลงอย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ

 

( ความจริงกูไม่ได้อยากโทรมาหรอก แต่เห็นมึงออกจากห้องทั้งที่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าเกมหน้าจะเอายังไง ว่าแต่มึงมีแผนบ้างไหม? )

 

“กูเห็นพวกมึงคุยกับแฟนคลับอยู่ก็เลยไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่อไร ส่วนเรื่องแผนกูยังไงก็ได้ มึงลองว่ามาสิ ถ้าอันไหนไม่เวิร์กกูจะได้เบรกไว้ตั้งแต่ตอนนี้”

 

( แผนเหรอ... )

 

แจ็คเงียบไปใช้ความคิด เขาจึงเดินเข้าไปเปิดน้ำในอ่างแล้วกระดิกนิ้วเรียกแมวผีที่นั่งมองทุกการกระทำอยู่บนฝาชักโครก ซึ่งแน่นอนว่ามันแค่มองเหยียดแล้วกระโดดหนีไป

 

( มึงทำอะไรอยู่ เหมือนได้ยินเสียงน้ำ เยี่ยวเหรอ? )

 

“ก็แย่ละ กูจะอาบน้ำ”

 

( โอเค งั้นอาบเลย ถ้าทำธุระเสร็จแล้วก็โทรมาหรือไม่ก็ทักแชตสตรีมก็ได้ กูแสตนบายอยู่หน้าคอมจนถึงตีสอง )

 

“ไลน์ล่ะ?”

 

( หะ? )

 

ได้ยินเสียงวิ้งก้องอยู่ในหูกับคำพูดที่หลุดออกไปก่อนสมองจะยั้งไว้ได้ เท็นรู้สึกว่าสองมือเริ่มเย็นเพราะสิ่งที่โพล่งออกไป หากอีกฝ่ายสวนกลับมาในเชิงที่ชวนทำให้อับอาย เขาก็คงต้องหาทางแถให้ได้ถ้าไม่อยากเสียฟอร์ม

 

“ไลน์ไง กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าเราควรแอดกันไว้” นึกถึงการเผชิญหน้ากันในห้างตอนวันคริสต์มาสปีก่อนเมื่อตอนอยากลากโซ่เข้าบลูไวเปอร์ อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าอย่างไรหลังจากได้ยินคำถามนี้อีกครั้ง จะมึนตึงอย่างรำคาญใจแล้วมองมาด้วยแววตาที่มีให้คนแปลกหน้าเท่านั้น แบบนั้นน่ะ เขาคิดถูกแล้วใช่หรือเปล่า?

 

( เดี๋ยวส่งให้ทางข้อความ )

 

เท็นแลบลิ้นกวนกับคำตอบที่น่าพอใจพลางละโทรศัพท์ออกมาดู ก่อนจะชิงวางสายไปโดยไม่บอกอีกฝ่ายสักคำ มันคงดีกว่าถ้าจะปล่อยให้ไอ้แจ็คสบถด่าบ้างหลังจากคุยกันดี ๆ มาเกินห้านาทีแล้ว ใช่ เขาทำตัวไม่ถูก โอเคไหม เมื่อกี้มันทั้งดีและแย่ แต่จากอารมณ์เนือย ๆ ที่เป็นเส้นตรง อยู่ ๆ ทุกอย่างก็พุ่งเป็นกราฟหุ้น ซึ่งมันคงมาจากรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แต่งแต้มบนใบหน้า

 

รอยยิ้มจากคนที่เคยทำให้มันหายไป

 

 

*

 

 

เด็กวัยรุ่นชอบงานโรงเรียนอยู่แล้ว เท็นหมายถึงคนที่มีหน้าตาในสังคมนั้น ๆ ไม่ใช่พวกโนเนมที่พอหันไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จัก ซึ่งเขาคือหนึ่งในประเภทหลังที่ถูกส่งชื่อให้ขึ้นแสดงโชว์กีตาร์

 

ไม่มีใครอยากมาดูหรอก เท็นไม่ใช่คนดังในโรงเรียนที่ใคร ๆ ก็อยากมาจับจองแถวหน้า แต่ทุกอย่างมันผิดถนัด เพราะทันทีที่ถือกีตาร์ออกมาจากม่านเพื่อขึ้นโชว์แรกของวัน เด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตาเพราะข้างล่างมีนักเรียนยืนส่งเสียงเชียร์อยู่เต็มไปหมด

 

‘เรามักจะมองเห็นคนสำคัญก่อนเสมอ’

 

ใครสักคนเคยพูดไว้ เท็นไม่เคยเชื่อกระทั่งเขาเห็นเจ้าของผมสกินเฮดที่ยืนถือกล้องวิดีโออยู่ท่ามกลางนักเรียนมากมาย ไหนจะมีไอ้บ้าหอบฟางอีกสองสามคนกระโดดโลดเต้นอยู่ด้านหลังพร้อมชูป้ายชื่อเขา วันนี้ไอ้ธีร์มันดีด โดนไอ้แจ็คจ้างมาหรือไงก็ไม่รู้ แต่ภาพเหล่านั้นก็เรียกรอยยิ้มออกมาได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว

 

เท็นไม่ได้เป็นคนมีความมั่นใจ แต่อยู่ ๆ ความรู้สึกเหล่านั้นก็อัดแน่นเต็มอกเพียงเพราะเห็นแจ็คละสายตาจากกล้องพร้อมส่งเสียงเชียร์ อีกทั้งยังชูนิ้วหัวแม่มือให้และตอนนั้นเขาอ่านจากริมฝีปากได้ว่า

 

‘หล่อ!!! ที่!!! สุด!!!’

 

“หล่อเหี้ยไรล่ะ...” เท็นยิ้มพลางพึมพำกับความบ้าบอของเพื่อนสนิท หลายวันที่คุยกันน้อยกว่าพนักงานแลกเหรียญบีทีเอส เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ซึ่งก็ได้ผล

 

“เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนชอบร้องด้วยกัน แล้วมันก็อยู่ตรงนั้น ทุกคนรู้จักแจ็คใช่ไหมครับ?” สิ้นสุดคำถาม เด็กหนุ่มสาวก็ส่งเสียงจนฟังไม่ออกว่าพูดอะไร

 

เจ้าของผมสกินเฮดโดนหันไปให้ความสนใจ และเท็นไม่รู้ว่าที่พูดไปนั้นสมควรแล้วหรือไม่ มันจะเป็นการรื้อความหวังว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เพราะก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะดีขึ้นแล้วหลังจากพยายามไปมีชีวิตในแบบของตัวเอง ถึงจะทุลักทุเลและไม่สนุก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาไม่ต้องเอาใจตัวเองไปผูกอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา

 

ถ้าแจ็คกลับมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแค่วันเดียว พรุ่งนี้จะรู้สึกแย่หรือเปล่า?

 

“อยากขึ้นมาร้องด้วยกันไหม?”

 

ไม่ควรเลย ถ้าหลังจากนี้มันหายหัวไปอีกใครคงเซ็งหนักแน่ ๆ เท็นไม่ควรขายฝันให้ตัวเองกลับไปเป็นหมาหัวเน่าเที่ยวควงสาวแล้วปิดท้ายในม่านรูด แต่ไอ้เวรนั่นก็ดันฝากกล้องไว้กับไอ้ธีร์แล้วพูดอะไรสักอย่างก่อนจะแทรกผู้คนขึ้นมา ซึ่งเขาก็ขยับขาไมค์ให้คนข้าง ๆ ได้ร้องเพลงคู่กับกีตาร์ตัวโปรดที่ไปซื้อด้วยกัน

 

“เย็นนี้ไปกินกล้วยกล้วยกัน”

 

“ดูหนังด้วย”

 

“สองเรื่องเลยเป็นไง?”

 

“ค่อยน่าฟังขึ้นมาหน่อย”

 

 

ทั้งคู่คุยกันทั้งที่สายตาทอดมองไปยังผู้คนข้างล่างเวที แม้จะมองไม่เห็นอีกฝ่าย แต่เขากลับรับรู้ได้ว่าตอนนี้แจ็คก็คงยิ้มอยู่เหมือนกัน 

 

“กูขอโทษนะ”

 

“เลอะเทอะ ร้องเพลงให้เพราะเท่าเสียงกีตาร์กูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

 

เด็กหนุ่มสองคนยิ้มขำก่อนเสียงกีตาร์จะเริ่มบรรเลง ตามด้วยเสียงคุ้นหูที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้งหลังจากเดินหลงอยู่ในป่าทึบ บ้านหลังนี้ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และเป็นตัวเองได้ถึงที่สุด ซึ่งเท็นหวังว่าแจ็คจะคิดอย่างนี้

 

“แต่ก่อนแต่ไรเข้าใจ~ ว่าการเป็นคนรัก คือเรียนรู้กันและกัน~”

 

 

ถึงจะไม่เท่ากัน แต่ขอให้มีสักเศษเสี้ยวบ้างก็ได้

 

 

ในเมื่อเพื่อนพยายามขนาดนี้ เท็นเองก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเป็นกังวลเหมือนกัน ‘ทุกคนมีเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น’ วันนี้เท็นเข้าใจดีแล้ว

 

“แต่ถ้าใครคนหนึ่งไม่ใช่ตัวจริง~ ก็คงต้องจากกัน เหมือนดังเรื่องเธอกับฉัน~~~”

 

 

เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดีเลย

 

 

 

*

 

 

‘เธอบอกเหตุผลที่หยุดความรักระหว่างฉัน~ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะรักเขามากกว่าไหม~~’

 

เปิดเพลงคลอไปกับเสียงองค์ประกอบในเกมซึ่งยังคงขับเคลื่อนอยู่ทุกวินาทีที่ควบคุม งานแข่งการกุศลสายแรกจบไปแล้วและขี้ซุยบราเทอร์สามารถต่อลมหายใจไปวีคหน้าได้ ดังนั้นช่วงระหว่างอาทิตย์แจ็คจึงพอมีเวลาฝึกเล่นเงียบ ๆ ระหว่างบอสไม่เข้าออฟฟิศและตอนเลิกงานแล้ว

 

( แจ็คพี่มาถึงหน้าแล้ว ออกมาได้เลย )

 

“โอเคพี่ เดี๋ยวผมขอเก็บของสามนาที”

 

โชคดีที่ทีมกำลังจะชนะแล้ว แจ็คจึงกวักมือเรียกรุ่นน้องโต๊ะข้าง ๆ ให้มาช่วยเล่นระหว่างหันไปคว้ากระเป๋าเป้ที่มีของจำเป็นทุกอย่าง วันนี้ผู้ใหญ่ใจดีมารับไปกินข้าว ไอ้คนที่หูผึ่งเพราะเรื่องเงินบริจาคให้เด็กยากไร้จึงตอบรับเพราะไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ

 

ถ้าให้พูดพี่ต๋องก็คงเหมือนพี่ชายอีกคนที่ไม่ควรหักหน้าด้วยการปฏิเสธ แจ็คไม่ใช่คนโดดเด่นในสังคมเกมเมอร์ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกรงอกเกรงใจชาวบ้านเขาค่อนข้างมั่นใจเลยว่าโดดเด่นกว่าใคร

 

“พี่แจ็คจะกลับมาอีกปะ?”

 

“กลับดิ มึงเอาไรเปล่า?”

 

“ไม่เอา แต่พี่ไม่เอารถไปเหรอ?”

 

“วันนี้มีคนมารับน่ะ”

 

“เย้ยยยยยยยยย สาวใหญ่จากแถวไหนว้า?!!!” ฝ่ายปั้นโมเดลชะโงกหน้าแซวตามประสาคนขี้เสือก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงตอบขิง ๆ ได้ แต่นี่มันใช่เสียทีไหนกันล่ะ

 

“สปอนเซอร์รับไปกินข้าวเฉย ๆ พี่ ถ้ามีเมียเมื่อไหร่จะตะโกนบอกให้ได้ยินไปถึงปากซอยเลย” คนฟังหลุดขำพรืดกับความจริงที่ไม่ชวนให้ตื่นเต้นเอาเสียเลย ไอ้แจ็คก็ยังเป็นไอ้แจ็ค ไม่เคยมีเรื่องสาวเข้ามายุ่งเกี่ยวตั้งแต่ชาติไหน ตอนนี้ก็ยังแห้งเหี่ยวเหมือนเดิม

 

“งั้นผมยืมมอไซค์ไว้ได้เปล่าพี่ อีกชั่วโมงนึงผมว่าจะแวะไปซื้อข้าวอะ คืนนี้กะจะอยู่ยาว”

 

 “เอาดิ เติมน้ำมันให้กูด้วยล่ะ” เขาตบบ่าไอ้ซื่อบื้อปุ ๆ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้เด็กมันนั่งงงตาแตกกับค่าน้ำมันซึ่งเขาเติมไว้เต็มถังตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว

 

พอไปถึงรถผู้ใหญ่ใจดีก็ยิ้มรับอย่างเป็นมิตร แจ็คไม่ใช่คนเอาใจเก่งอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าพี่ต๋องอยากแนะแนวทางการเล่นเกมหน้าเพื่อยอดโดเนทแจ็คก็พอทำให้ได้อยู่

 

ทั้งคู่ยังไม่ได้เข้าเรื่องประเด็นหลัก บทสนทนาบนรถโดยรวมแล้วเป็นเรื่องอาชีพผู้พัฒนาเกมควบนักกีฬาอีสปอร์ตจนเกิดคำถามว่า ‘ทำหลายอย่างแบบนี้จะมีเวลาให้แฟนเหรอ?’ ซึ่งคนถูกถามก็ได้แค่ยิ้มแล้วบอกว่า

 

 

‘ถ้าเจอคนที่ชอบจริง ๆ ผมจะเอาเวลานอนนั่นแหละไปให้เค้า’

 

 

เซนทรัลเวสต์เกตคือเป้าหมายของวันนี้ จะว่าไปแจ็คก็ไม่ได้กินอาหารขึ้นห้างมาสักพักใหญ่แล้ว ระหว่างเดินออกลานจอดรถจึงนึกถึงครอบครัวที่กินอะไรง่าย ๆ อยู่ทุกวัน ไม่ค่อยได้สังสรรค์มื้อใหญ่ อืม... ศุกร์นี้เอ็มเคท่าจะดี แม่กับน้องชอบกินเป็ด

 

“...”

 

แต่พอไปถึงร้านอาหารก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในนั่นคือหมาบ้าที่ฟลัดสติ๊กเกอร์ใส่ในไลน์เป็นร้อย ไอ้หน้าวอกหัวเทานั่นเห็นเขาแล้ว และพี่ต๋องคงรู้มาก่อนถึงได้โบกมือตอบโต้มันพร้อมดันหลังเขาเข้าไปด้วยกัน

 

“พี่น่าจะบอกผมหน่อย”

 

“อ้าว พี่เห็นว่าคุยไลน์กันได้แล้วก็เลยคิดว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นแล้วซะอีก เอาไงวะ แยกโต๊ะไหม เดี๋ยวพี่ไปนั่งกับแจ็คเอง” กดดันด้วยสีหน้าคนดีแล้วจะทำอะไรได้ แจ็คยิ้มอย่างแห้งพลางเสยผมที่ปรกใบหน้าก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ

 

“ไม่เป็นไรพี่ ผมคุยกันได้ แต่เมื่อเช้ามันกวนตีนผมเฉย ๆ”

 

“เท็นมันก็งี้แหละน่า” พี่ต๋องหรี่ตายิ้มพลางตบหลังคนอายุน้อยกว่า ก่อนทั้งคู่จะนั่งลงฝั่งตรงข้ามไอ้คนแต่งตัวจัด

 

“วันนี้สระผมมาเหรอ สลวยมาแต่ไกลเลย” คนถูกแซวไม่ขำด้วย ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงพนักงานต้อนรับ เพราะสงครามสติ๊กเกอร์หน้าโง่นับร้อยที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาบอกว่า ‘กูไม่ชอบแจ้งเตือนไลน์เยอะ ๆ’

 

“สั่งข้าวก่อนแล้วค่อยตีกัน”

 

แจ็ครวบผมแล้วมัดด้วยยาง ขณะที่คนนั่งฝั่งตรงข้ามทำท่าเกลียวผมล้อเลียน ซึ่งเขาก็เอามือถือขึ้นมาไถเล่นแสร้งเป็นไม่สนใจ และการทักไปหาเพื่อนพระก็ดูจะเป็นหนทางที่ฉุกละหุกฉิบหาย

 

 

jjack: พระธีร์ สวดมนต์ให้อ่านหน่อย

บุตรแห่งวันเพ็ญ: เอาบทไหน กุสลาธัมมาเลยปะ สวดเสร็จเข็นหลวงพี่เข้าเมรุเลย

TUBTUBZA: ไอ้แหลม ไอ้เด็กเหี้ย พี่มึงบวชอยู่นะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

THREE: จริง ให้เกลียดกันบ้าง

TUBTUBZA: เกียจพอไหม

Derya MK12: จริง ๆ ต้องเกียรติแบบนี้ครับพี่ตั้บ...

บุตรแห่งวันเพ็ญ: 555555555555555555555555555555555

TUBTUBZA:
อ้าวเหรอ ขอโทษที่ตอนเป็นเด็กโดดเรียนไปแว๊น

jjack: เร็ว ๆๆๆๆๆ บทอะไรก็สวดมา ตอนนี้มือสั่นแล้ว

THREE: นะโมตัดสระ สองร้อยหะโต ถ้าไดร์หนีบด้วยก็โกไปปากซอย

TUBTUBZA: แหลม กูว่ามึงมาด่าต่อเถอะ

บุตรแห่งวันเพ็ญ: มารศาสนา

Derya MK12: โซ่บอกแล้วใช่ไหมครับว่าอย่าลากโซ่กลับกรุ๊ปนี้ เนี่ย รู้สึกบาปไปด้วยเลย

 

 

 

(ต่อด้านล่างนะคะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2018 23:11:44 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



-----------------------------

 

การวางแผน – ไม่สิ เรียกว่าการขอความร่วมมือให้เกมหน้าสนุกขึ้นถึงจะถูก เอาเป็นว่าทั้งคู่ตอบตกลงกับเรื่องที่ทำเป็นประจำอยู่แล้วซึ่งนั่นก็คือการทะเลาะระหว่างเล่น แต่เรื่องชัยชนะที่เริ่มยากขึ้นนี่สิจะทำอย่างไร?

 

“เฮ้ยโทษทีว่ะ พี่มีธุระด่วนต้องไปทำ ต้องไปแล้ว” พี่ต๋องยังไม่ละสายตาจากโทรศัพท์ เพียงครู่เดียวก็เงยหน้าสบตากับไอ้วอกหัวเทา “พี่รบกวนหน่อยดิเท็น ไปส่งแจ็คที่ออฟฟิศได้ไหม? – เฮ้ยแจ็ค พี่ขอโทษจริง ๆ ที่พามาแล้วไม่ได้ไปส่ง”

 

“ไม่เป็นไร พี่รีบไปทำธุระเถอะ เดี๋ยวผมนั่งรถเมล์กลับได้” เรื่องแค่นี้เล็กน้อยนัก แจ็คไม่อยากให้พี่ต๋องต้องกังวล

 

“ใช่พี่ เดี๋ยวผมไปส่งมันเอง”

 

“กูจะนั่งรถเมล์กลับ เมื่อกี้คงได้ยินนะ?” แจ็คหันไปสบตากับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมขมวดคิ้วเอานิ้ววน ๆ อยู่ใกล้หู

 

“แต่พี่ต๋องฝากมึงไว้กับกู เมื่อกี้ถ้าไม่หูหนวกก็น่าจะได้ยินเหมือนกัน” คนส้นตีนก็ยังเป็นคนส้นตีน ไอ้เท็นพูดหน้าตาเฉยแล้วหันไปยิ้มให้พี่ต๋องที่รีบเอาบัตรเครดิตจ่ายค่าอาหาร มีความล่กอย่างเห็นได้ชัดเพราะธุระด่วนที่จ่อมาอย่างกะไฟลนก้น

 

“ไว้คุยกันนะ ขอโทษจริง ๆ แล้วก็ขอบคุณมากที่ให้ความร่วมมือ”

 

ทั้งสองคนยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ใจดีทันทีที่ออกมาจากร้าน พี่แกเริ่มจากเดินเร็ว ก่อนจะเร่งสปีดเป็นวิ่งร้อยเมตรชายจนหายลับสายตาไป

 

“รีบอะไรขนาดนั้น”

 

“เมียโทรตามแน่ ๆ”

 

ต่างฝ่ายต่างก็พูดลอย ๆ แต่ก็ดูเหมือนกำลังคุยกัน และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่อยากยอมรับ จึงขยับถอยออกห่างคนละหนึ่งก้าวแล้วหรี่ตามองกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

“เท็น มึงใช้โควตาความอดทนกูไปแล้วประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแปดสิบมาจากสติ๊กเกอร์ไลน์ส้นตีนนั่น”

 

“ก็มึงบอกเองว่าถ้ามีอะไรให้ทักได้เลย กูผิดไร หงุดหงิดที่โดนเทกลางห้างก็ไม่ควรมาลงกับกูไหม?”

 

“การที่กูตอบคำถามมึงเวลาคุยกันนั่นไม่ได้หมายความว่าอะไร ๆ จะเปลี่ยนไปจากเดิม กูแค่อยากทำให้เกมมันง่ายขึ้น อย่าเล่นลิ้นให้มากนัก”

 

“โอ้โห พูดจาเหมือนเป็นคนอยู่เหนือกว่าทุกอย่าง” เท็นแค่นหัวเราะมองอีกคน “แต่ก็ถูกของมึงที่ต้องทำให้เกมมันง่ายขึ้น เพราะเกมยากพวกขี้ซุยฯ ก็คงไม่รอด ลำบากกูต้องแบกทีมอีก -- เฮ้อ ทุกครั้งที่ออกเสียงชื่อทีมมึงนี่บอกตามตรงว่ากูกระดากปากมาก ไม่มีชื่ออื่นให้ตั้งแล้วหรือไง เห่ยฉิบหาย” เท็นล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางชำเลืองมองคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าเหม็นเบื่อเขา

 

“กูกลับละ”

 

“พี่ต๋องบอกให้กูไปส่งมึง”

 

“พี่แกกลับแล้ว มึงไม่ต้องทำตามทุกอย่างก็ได้ กูไปทางนี้ มึงไปทางนั้น โอเคไหม เข้าใจแล้วก็เลิกทำหน้าวอนตีนสักที” เท็นทำหน้าเหรอหรา ยิ่งอีกฝ่ายไม่พอใจก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ 

 

RRRRrrrrr

 

เท็นผายมือเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาได้ถูกจังหวะ ไอ้แจ็คยังมองมาอย่างตั้งคำถามว่าทำไมเขาถึงยังยืนอยู่ตรงนี้ทั้งที่ควรไสหัวไป แต่เพราะคำสั่งของพี่ต๋องยังเป็นข้ออ้างได้ เขาจึงยังอยากอยู่สนุกต่ออีกสักหน่อยตามประสาคนว่าง

 

“ว่าไงแม่ แจ็คอยู่เวสต์เกทอะ อะไรนะ ฝนตก? แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหน น้องยังไม่กลับเหรอ อ้าว ทำไมแม่ไม่ปิดประตูหน้าต่างก่อนออกไป? ลืมอีก? โอเค ๆ แจ็คจะรีบกลับ”

 

รู้สึกเหมือนอะไร ๆ ก็ไม่ได้ดั่งใจ จะเสียเวลากลับไปเอามอเตอร์ไซค์ที่ออฟฟิศก็ไม่ได้เพราะกลัวห้องแม่จะน้ำเจิ่งนองจนคืนนี้ต้องระเห็ดไปนอนห้องน้อง เขาต้องรีบไปดูแลความเรียบร้อยของบ้านและทำความสะ --

 

“...”

 

ไอ้วอกหัวเทาชูพวงกุญแจรถแล้วเขย่าเบา ๆ พร้อมยิ้มอย่างผู้ชนะ ยกนี้เหมือนจำเป็นต้องยอมให้โดนฮุคเสยปลายคางเพราะถ้าจะเรียกแท็กซี่ประเทศไทยก็เกรงว่าจะได้ขึ้นชาติหน้า แจ็คหลับตาลงตั้งสติกับความจำเป็นที่ต้องหายใจร่วมกันกับคนที่เผลอไม่ได้เป็นต้องอ้าปากหาเรื่องทะเลาะ ซึ่งเขาหวังว่าอีกฝ่ายจะหักรถกลับทันทีที่ส่งถึงหน้าบ้าน

 

“พอใจมึงยัง?”

 

“พอใจไร มึงต้องใช้คำว่า ‘รบกวนมึงแล้วนะเท็น’ สิถึงจะถูก เดี๋ยว! เดินนำไปอะรู้เหรอว่ารถอยู่ชั้นไหน?!”

 

เท็นยิ้มขำพลางตะโกนไล่หลังอีกคนที่ตอนแรกก็เดินไปแต่สุดท้ายก็หันกลับมาพร้อมเลิกคิ้วถามว่า ‘แล้วมึงจะเดินนำกูได้เมื่อไหร่ดี?’ แจ็คคงเซ็งหนัก เขารู้น่า แต่นั่นใช่เรื่องที่ต้องยอมเสียเมื่อไหร่ เพราะวันน่าเบื่อแบบนี้ควรมีอะไรมาเพิ่มความสนุกให้ และนั่นคือการไปบ้านอดีตเพื่อนรักคนนี้

 

 

TBC
 


อย่าเครียดเรื่องใครเมะใครเคะเลยนร้า ผุ้ชายคนนึงก็อ่อนไหวได้ แต่หนูอะไม่ไหว ปวดขามาก

 

 

 

 

 

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อุ้วววๆๆๆ พี่แจ็คสู้ๆ ตีกันๆๆ 55555555555

ตอนนี้พี่ซันพี่มูนมาน้อยจังอะ แงงง

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
มันเริ่มจากตรงไหนเหรอ

ทำร้ายกันขนาดนี้เพื่ออะไรเหรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เท็นเพลาๆมั่งนะนิสัยชอบกวนพี่แจ็คนะเดียวเราตีเลย  พี่แจ็คชกจูบชกจูบที่สิคะเราหมั่นไส้นังเท็นมากก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ mayyiyi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ธีร์จะสึกก็ได้นะคะ บวชกับไม่บวชความบาปก็ไม่แตกต่างเลยพี่

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณคนเขียนทิ้งระเบิดเฉยเลย เท็นแจ็คหรือแจ็คเท็นล่ะทีนี้ 5555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดีค่ะ น่าจับขังห้องเดียวกัน ตีกันให้หนำใจ จะได้หยุดทะเลาะกันซะที ตอนเป็นเด็กน้อยออกจะรักกันดีแท้ ๆ

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
จับจัดแตกได้ร๊ะ


แตกหักกัน เพราะเรื่องผู้หญิงชัวร์


แล้วถึงขั้นไม่เผาผีกันนิ่คงเพราะอิโก้ของทุกคน


ซึมเศร้าแมนมีพระธีและพวกเพื่อนๆรองรับ


แต่เก็บกดแมนหัวเดียวกระเทียมลีบ


ต้องใช้ความเก็บกดอดทนของตนเองเข้าสู้

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
แจ็คก็แคร์เท็นมากๆเหมือนกัน​ ไม่งั้นคงไม่กระวนกระวายขนาดนั้น​ ฮือ​ จะร้องไห้ทุกทีเหลย
ขอให้อะไรๆมันดีขึ้น​ อยากรู้จุดแตกหักที่เกิดขึ้นจริงๆ​ ว่าเหตุผลเท็นจะฟังขึ้นมั้ย

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 06
บรรยากาศเก่า ๆ


 

 

“จะไม่ขอบคุณกันสักคำเลยหรือไง?”

 

แจ็คค้างอยู่ท่ากำลังจะเปิดประตูรถก่อนจะหันไปสบตากับคนขับที่มองมาอย่างคาดหวังว่าจะได้สิ่งนั้น แจ็คเป็นคนมีมารยาทและรู้จักบุญคุณคน แต่สำหรับผีห่าที่กวนตีนจนได้มาส่งถึงบ้านนี่ต้องนับด้วยเหรอวะ?

 

“ขอบใจ”

 

“ฝืนชัด ๆ”

 

“กูต้องกราบตักมึงเลยไหมถึงจะดูซาบซึ้งใจพอ?” เขาขมวดคิ้วถาม ซึ่งไอ้หน้าวอกหัวเทาก็มองไปข้างหน้าแล้วผิวปากอย่างวอนตีน

 

ข้างนอกฝนตกหนักจนไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ แต่กระเป๋าเป้บนตักก็สำคัญเกินกว่าจะยกขึ้นมาบังเสื้อผ้าหน้าผม แจ็คเอากุญแจบ้านออกมาแล้วเปิดประตูรถ แต่ยังไม่ทันดันออกไปก็ถูกใครอีกคนคว้าคอเสื้อไว้ก่อน

 

“เชี่ยไรมึงอีก?”

 

“กูปวดฉี่ ขอเข้าห้องน้ำแป๊บดิ”

 

“เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้างมึงสร้างสวรรค์วิมานอะไรอยู่?”

 

“อ้าว กูห้ามกระเพาะปัสสาวะได้ด้วยหรือไง ถ้าไม่มีน้ำใจก็บอกจะได้อั้นไปฉี่ปั๊ม”

 

ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงพายุหยดน้ำกระทบหลังคารถ และแจ็คก็ให้คำตอบด้วยการปัดมืออีกคนแล้วผลักประตูออกไป เท็นยิ้มอย่างชอบใจพลางชะเง้อมองด้านนอก เขายังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องหาอะไรสักอย่างมาบังศีรษะสักหน่อย เขาไม่ชอบเวลาเสื้อผ้าเปียก

 

ร่มฟรีตรงเบาะหลังที่เพิ่งได้มาเมื่อหลายวันก่อนคือไอเทมพระเจ้าประทานให้ เท็นกางมันแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอีกคนโดยพยายามไม่ให้รองเท้าราคาแพงเปียกเกินความจำเป็น

 

ชายหนุ่มกวาดสายตาไปโดยรอบกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน รู้ว่าไอ้แจ็คย้ายบ้านนานแล้วแต่ช่วงนั้นทั้งคู่ก็ห่างเหินกันเกินกว่าจะไถ่ถามว่าไปอยู่ไหน ราวเหล็กเต็มไปด้วยเสื้อผ้า มันถูกรีดจนเรียบและห่อด้วยถุงพลาสติก รวมถึงชุดครุยหลากหลายสถาบันในถุงคลุมบ่งบอกถึงความประณีต

 

เหมือนเห็นนักเรียนมอปลายสองคนยืนอยู่ข้างกันในที่แห่งหนึ่ง ก่อนเวลาจะหมุนไปอย่างรวดเร็วพร้อมสิ่งแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนไป มีบางอย่างที่จำได้ แต่บางอย่างที่ลืมไปจนเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น จนที่ตรงนั้นเหลือเพียงเขาคนนี้ไม่มีเพื่อนอยู่ข้างตัว

 

ตรงหน้าเคยเป็นบ้านหลังใหญ่ ก่อนมันจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นห้องแถวหลายชั้นกับกิจการซักอบรีด

 

อาจเป็นเพราะสูญเสียหัวหน้าครอบครัวไปคนเป็นแม่และลูกอีกสามคนจึงใช้ชีวิตลำบากกว่าที่เคย เท็นไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้แจ็คเป็นอยู่อย่างไร จะลำบากมากแค่ไหนกับเงินที่เคยเหลือกินเหลือใช้แต่อยู่ ๆ ชีวิตก็พลิกผันไปอย่างนี้

 

“ทางนั้น” เสียงมึนตึงหยุดความสงสัยทั้งหมดไว้ เท็นมองใครอีกคนที่พยักหน้าส่ง ๆ ไปทางด้านขวามือซึ่งเขาก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

 

แกล้งปลดเข็มขัดกางเกงช้า ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ ตัว แม้จะทาสีผนังใหม่แล้ว แต่รอยสีน้ำตาลอ่อน ๆ ที่กลืนเกือบถึงเพดานก็ยังหลงเหลืออยู่ให้เห็น

 

“แจ็ค” เขาแง้มประตูออกไปมองพ่อบ้านที่กำลังใช้ไม้กวาดอย่างขะมักเขม้น

 

“ว่า?”

 

“รอยอะไรบนผนังวะ?” จะบอกว่ามันคล้ำเพราะความเก่าก็คงไม่ใช่ และเขาหวังว่าไอ้เวรนั่นจะตอบดี ๆ มากกว่าจะหาเรื่องด่ากลับนะ

 

“น้ำท่วม”

 

“...”

 

“ปีห้าสี่ ถ้าจำได้”

 

“อ้อ นั่นสินะ” ไอ้แจ็คยังคงกวาดบ้านเหมือนการเล่าเรื่องรอยคล้ำเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่เขาจำได้ว่าตอนนั้นกรุงเทพฯ โคตรวุ่นวาย โดยเฉพาะคนที่อยู่บางใหญ่-ไทรน้อย

 

 

แล้วตอนนั้น... ไอ้แจ็คกับครอบครัวมันเป็นอยู่ยังไงวะ?

 

 

ตอนที่น้ำท่วมถึงชั้นสอง ตอนเกือบสิบปีก่อนน้องอีกสองคนของมันก็ยังเด็กกันอยู่ ไหนจะแม่...

 

เท็นขมวดคิ้วกับเรื่องที่รู้ว่าไม่ควรถามต่อเพราะอีกฝ่ายคงไม่เต็มใจเล่าให้ฟัง ชายหนุ่มเท้ามือกับผนังพลางกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องน้ำอีกครั้ง ผ่านไปหลายนาทีจึงยอมออกไป ก่อนจะได้ยินเสียงตะหลิวกระทบกระทะซึ่งดังมาจากครัว

 

“อะไร หาทางออกไม่เจอเหรอ?” แจ็คมองอีกคนที่โผล่หน้าเข้ามา ดวงตาคู่นั้นยังไม่เลิกสอดส่องซอกแซกกับบ้านที่เพิ่งมาเหยียบครั้งแรก

 

“ไล่จังนะ” เขาจ้องหน้าอีกฝ่าย เพียงครู่เดียวก็หันมาสนใจมื้อเย็นที่ทำไว้ให้แม่และน้องอีกสองคน “ตามมารยาทมึงควรชวนกูอยู่กินข้าวด้วย”

 

“รู้สึกไหมว่าวันนี้มึงดูอินกับเรื่องมารยาทเป็นพิเศษ?” เท็นหน้านิ่งกับฮุคนี้ ก่อนจะกลอกตาล่อกแล่กกวนประสาท “เมื่อกี้ยังแดกไม่อิ่มหรือไง?”

 

“กูเป็นคนกระเพาะเล็ก กินน้อยแต่หิวบ่อย แล้วเมนูโง่ ๆ ในกระทะมึงก็กลิ่นหอมใช้ได้ด้วย”

 

“ถ้าอยู่บ้านอื่นมึงคิดว่าพูดแบบนี้แล้วเขาจะให้มึงแดกด้วยไหม?”

 

“ทำไมวันนี้มึงถามเยอะจังวะแจ็ค ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายกูคงคิดว่ามึงอยู่ในช่วงเมนส์มา”

 

“อาจจะ แล้วเลือดที่ว่าก็คงจะอาบน้ำมึงได้ถ้ายังวอแวไม่เลิก” รู้เลยว่าไอ้แจ็คหงุดหงิดจัด เพราะทุกครั้งที่เจอกันอีกฝ่ายมักจะจ้องอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเงียบไปเฉย ๆ มากกว่าจะตอกหน้ากันทุกกระบวนท่าอย่างนี้ แต่ก็ดีเหมือนกัน เขาชอบเวลามันตอบโต้มากกว่าปล่อยผ่านเหมือนทุกที

 

“ที่กูยังดึงดันอยู่เพราะจะชวนวางแผนเกมหน้าหรอก”

 

“...”

 

“รู้งี้แล้วยังจะไล่กลับอยู่ไหม หื้อ?” จะบอกว่ารู้จักไอ้เท็นดีก็พูดได้ไม่เต็มปาก แจ็คมองอีกฝ่ายพลางถอนหายใจเงียบ ๆ แล้วคิดไปว่าเหตุผลนั้นมีความจริงแฝงอยู่สักกี่เปอร์เซ็นต์กัน

 

“ถ้ามึงพูดแบบนี้แต่แรกก็คงไม่มีใครต้องเสียน้ำลายไปเปล่า ๆ”

 

“เสียก็แดกน้ำเข้าไปใหม่”

 

“ไปรอข้างนอก”

 

“ตะหลิวเลยนะ” เท็นผงะถอยหลังก้าวหนึ่งพลางลดระดับสายตามองอีกคนที่ตั้งท่าว่าจะโชว์วงสวิงฟาดหน้าเขาด้วยอาวุธทำอาหารที่ถือไว้ “กูเป็นลูกมือให้เปล่า จะทำอะไรกินบ้างล่ะ บอกมาเลยเดี๋ยวกูช่วย”

 

“ไม่ต้อง ชีวิตในครัวกูไม่ได้ลำบากขนาดนั้น”

 

“อย่างเช่นหยิบของในตู้เย็น ขวดซงขวดซอสบลา ๆ กูไม่อยากรู้สึกผิดว่ามากินข้าวบ้านคนอื่นแล้วยังไม่รู้จักหยิบจับอะไรช่วยเจ้าบ้านเลยน่ะนะ”

 

“แยกกระปุกน้ำตาลกับเกลือได้ยังถึงบอกว่าจะช่วยกู?”

 

 

*

 

 

“อะไรของมึงวะเท็น ใส่เกลือเข้าไปเยอะขนาดนั้นแล้วจะแดกยังไง?” แจ็คยิ้มขำพลางมองเพื่อนสนิทที่เหมือนจะตายไปแล้วครึ่งตัว ไอ้เท็นก้มลงมองถ้วยมาม่าซึ่งมีกองเม็ดสีขาว ๆ พูนอยู่ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาราวกับอยากได้ความช่วยเหลือ

 

“เฮ้ย... มันไม่ใช่น้ำตาลเหรอวะ?” ด้วยความเป็นคนติดปรุงทุกอย่างเพราะต่อมรับรสมันโคตรเอาแต่ใจ แจ็คยังคงขำจนน้ำตาไหล ก่อนจะใช้ช้อนตนเองตักกองเกลือเหล่านั้นออกมาทิ้งไว้กับซองมาม่า

 

“ขวดมันฟ้า ๆ เหมือนกันกูก็งงดิ ฉิบหาย”

 

“โรคไตแดกแน่มึง”

 

“นี่ก็ไม่ห้ามกูเล้ย” ไอ้เท็นบ่นอุบอิบพลางคนถ้วยมาม่าที่ผสมแค่น้ำเปล่าโดยไม่มีอย่างอื่นเป็นเครื่องเคียงเพิ่มรสชาติ

 

ในค่ำคืนวันหยุดที่อยู่ติวหนังสือด้วยกัน แจ็คมักจะชวนเท็นลงมาหาของกินกลางดึกซึ่งมาม่ารสหมูสับก็เป็นของโปรดที่ทั้งคู่เห็นตรงกัน

 

แจ็คเอื้อมไปตักของเพื่อนมาชิม รสชาติก็ไม่แย่นักแต่ก็ไม่ใกล้เคียงคำว่าอร่อย ถ้าให้ฝืนกินจนอิ่มท้องก็คงได้ มาม่าก็ยังมีมากพอให้เอามาต้มใหม่ แต่แจ็คกลับเดินไปเปิดตู้แล้วกลับมาพร้อมชามเซรามิกซ์ใบใหญ่ที่นาน ๆ จะได้เอาออกมาใช้สักครั้ง

 

เขาเททั้งสองถ้วยใส่รวมกันแล้วเติมน้ำร้อนอีกนิดหน่อย ความเค็มจากเกลือและเครื่องปรุงรสหมูสับจึงจางลงจนกลายเป็นความอร่อยเหมือนที่เคยแล้ว เท็นดูลุ้นกับชะตาชีวิตในค่ำคืนนี้ พอตักน้ำซุปชิมไปคำแรกก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้รู้ว่าหลังจากนี้การกินมาม่าชามเดียวกันมันคงอร่อยกว่ากินแยกแล้ว

 

 

 

*

 

 

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีไหมลูก?”

 

“สบายดีแม่ แล้วแม่ล่ะเหนื่อยไหม?”

 

มีแค่แม่คนเดียวที่ชวนคุย ซึ่งเท็นก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูก ๆ บ้านนี้จะหันมาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง มื้อเย็นเริ่มต้นตอนฟ้ามืดแล้ว เขายิ้มให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะโดยไม่ได้หันไปให้ความสนใจเด็กอีกสองคนที่เติบโตจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม

 

“แม่ก็เรื่อย ๆ เหนื่อยบ้างสบายบ้าง ว่าแต่เพิ่งกลับไทยเหรอ?” คนถูกถามเลิกคิ้วอ้าปากค้าง ก่อนจะหันไปส่งสายตาเป็นเชิงถามกับลูกชายคนโตซึ่งมันก็เอาแต่ยกน้ำอัดลมดื่มโดยไม่สนใจอะไรใด ๆ

 

“ครับ?”

 

“อยู่อเมริกาตั้งนานคิดถึงอาหารบ้านเราไหมลูก ที่นั่นมีร้านอาหารไทยก็จริง แต่ราคาแต่ละอย่างก็แพงแถมรสชาติก็ห่างไกลความเป็นต้นฉบับด้วย เพราะงั้นกลับมาแล้วก็กินเยอะ ๆ เลยนะ”

 

 “...ครับแม่” เขาขานตอบแต่สายตากลับถลึงใส่ไอ้คนที่ชำเลืองมองอยู่ฝั่งตรงข้าม “ผมจะกินเยอะ ๆ เพราะผมคิดถึงอาหารไทยโคตร ๆ”

 

ตอนแรกคิดไว้ว่าอาจจะต้องรับมือกับสายตาของคนเป็นแม่เพราะเรื่องราวในอดีต หนึ่งเลย... ไม่ว่าใครก็ต้องเข้าข้างลูกตัวเองอยู่แล้ว แต่คราวนี้ผิดคาดไปหน่อยว่ะ แจ็คไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อตอนนั้นแล้วโกหกว่าเรื่องหายหน้าหายตาไปตลอดสิบปีคือการย้ายไปอยู่อเมริกาเหรอ?

 

แต่ไอ้เก็บทุกอย่างไว้โดยไม่เล่าให้แม่ฟังก็สมกับเป็นไอ้แจ็คดีเหมือนกัน

 

“เห็นหน้าเท็นแล้วแม่ก็โล่งใจ” เจ้าของชื่อยกน้ำขึ้นดื่มพลางมองรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าหญิงแก่ “เหมือนได้ลูกชายอีกคนกลับมายังไงก็ไม่รู้ ต่อไปนี้แจ็คก็คงไม่ต้องเหงาอีกแล้วนะลูกนะ”

 

“แจ็คเหงาเหรอ?” ถึงจะคันตีนเพราะเรื่องไปอเมริกาแต่ก็ยอมรับว่าแอบสะใจเล็ก ๆ ที่ได้เห็นสีหน้าไอ้แจ็คแบบนั้น

 

“แม่ไม่ได้หมายความแบบนั้น ที่แม่จะสื่อก็คือแจ็คจะได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเหมือนเมื่อก่อนไง”

 

“เมื่อก่อนก็ส่วนเมื่อก่อน ตอนนี้ผมมีพวกไอ้ธีร์แล้วไม่ต้องมีมันก็ได้”

 

“แม่ ดูมันดิ ผมโคตรเจ็บหัวใจเลย” เท็นขมวดคิ้วรีบหันไปฟ้อง แต่ก็ถูกสวนกลับโดยลูกชายบ้านนี้

 

“แดก ๆ เข้าไปแล้วรีบกลับบ้านมึงซะ”

 

“แจ็ค ทำไมวันนี้หยาบคายจังลูก?” ก็รู้ตัวว่าฟิวส์หลุดไปหลายครั้งแต่ก็เพราะใครกันที่ทำให้เป็นอย่างนี้ แจ็คนั่งเท้าศอกกุมขมับ ดูเหมือนว่าตอนนี้อะไร ๆ จะเข้าทางไอ้หน้าวอกไปหมด

 

“น่าจะโมโหค้างจากที่แม่ลืมปิดหน้าต่างแน่ ๆ”

 

“จริง น้องเห็นด้วย”

 

พี่ใหญ่เอื้อมไปแท็กมือกับน้องอีกสองคนที่ช่วยเสริมอย่างเป็นทีม เท็นเลิกคิ้วมองพลางแค่นยิ้มกับความสามัคคีของครอบครัวนี้ที่ลูกคนเดียวอย่างเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

 

“เข้าใจว่าสนิทกันเลยพูดแรง ๆ ได้ แต่แม่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าบางครั้งคนฟังอาจจะไม่รู้สึกเหมือนคนพูด เราอาจจะเล่นขำ ๆ แต่อีกฝ่ายอาจจะคิดมากอยู่ก็ได้”

 

“แม่พูดถูกครับ”

 

“เข้าข้างกันจังเลยนะ จดทะเบียนเป็นแม่ลูกกันเลยเป็นไง?” ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง และเท็นคงไม่หยุดด้วยการเงียบไปเฉย ๆ อย่างคนแพ้แน่

 

“ได้ไหมล่ะ?”

 

“อิ่มแล้วก็กลับ ๆ บ้านซะไป”

 

“แม่ มันไล่เท็นอะ”

 

“อยู่ปอหนึ่งเหรอ ทำตัวเป็นเด็กขี้ฟ้องเหลือเกินนะ?”

 

“ใช่ ว่าไงเพื่อนปอหนึ่ง?”

 

แหม่มกับคิงค้างอยู่ในท่าถือช้อนส้อม มองสงครามบนโต๊ะอาหารที่ลุกเป็นไฟขึ้นอยู่ทุกขณะซึ่งคงมีแค่แม่คนเดียวที่ไม่รู้ถึงความมาคุนี้

 

 

*

 

 

 หลังจากโชว์ร้องเพลงกับกีตาร์เท็นก็เหมือนก้าวเข้าไปในโลกใบใหม่ เพราะทันทีที่เข้าไปในโรงเรียนก็รู้สึกได้ว่าถูกมองจนผิดปกติ จากประสบการณ์ตอนมอต้นที่ยังฝังจำอยู่ในใจ เขาจึงชำเลืองมองไปรอบตัวอย่างหวาดระแวงว่าคนเหล่านั้นมองมาเพราะคิดร้ายหรือแค่มองตามปกติเท่านั้น

 

ระหว่างทางก็ทบทวนตัวเองว่าเผลอทำผิดอะไรไปไหม หรือว่ามีใครปล่อยข่าวว่าเขาไปนอนกับแฟนคนอื่นมาซึ่งมันเป็นเรื่องจริงครึ่งหนึ่ง ตามประสาเด็กหนุ่มวัยกลัดมันที่คิดว่ามันคงเท่ดีถ้ามีอะไรกับผู้หญิงหลายคน แต่นั่นก็จบแค่บนเตียงไม่ได้สานต่อ หรือว่าผู้หญิงจะปากโป้งเอาไปพูดนะ?

 

แต่ความกังวลทั้งหมดก็ถูกกระทืบให้จมดินโดยน้องมอสี่ที่วิ่งมารุมพร้อมขนมหวาน เด็กกลุ่มนี้เอาแต่ยิ้มแล้วบอกว่าเขาเท่แค่ไหนตอนโซโล่กีตาร์ จนคนถูกใส่ใจถึงกับทำตัวไม่ถูก ก็รู้ว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่แล้วที่จะถูกชอบเพราะเขาก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ แต่เป็นเพราะเท็นแค่ไม่ได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสปอร์ตไลท์เหมือนคนดังในโรงเรียน ช่วงเวลาที่ผ่านไปจึงเรียบง่ายจนเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาก็มีสปอร์ตไลท์เป็นของตัวเองได้เหมือนกัน

 

คิดว่าพวกเธอคงเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่หน้าเวที แต่ผิดถนัด เพราะเด็กสาวเหล่านี้เห็นเขาจากคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงในเว็บบอร์ดโรงเรียน พื้นที่ ๆ มีแต่พวกคนดังเท่านั้นที่ได้รับความสนใจ

 

เด็กหนุ่มรีบวิ่งเข้าห้องเรียนหวังจะปรึกษาเพื่อนแต่แจ็คกับธีร์ก็ยังไม่มาถึง เขาจึงไปห้องคอมเพื่อใช้อินเทอร์เน็ต และเมื่อเข้าไปหน้าแรกก็พบชื่อตนเองอยู่ในกระทู้ HOT พร้อมจำนวนหน้าคอมเมนท์ซึ่งมากกว่าสิบหน้า

 

บ้าไปแล้ว...

 

 

[คลิปงานโรงเรียน] ZEAL – สองรัก (Guitar Cover by TEN 6/3)

เท็นชอบเล่นกีตาร์มาก หวังว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนที่มันชอบมาตลอดหลายปีนะ (:

ผมเชื่อมาตลอดว่าถ้าเราตั้งใจทำสิ่งไหนสิ่งหนึ่งแล้วสักวันต้องมีคนมองเห็น ซึ่งผมคือหนึ่งในนั้น เท็นเป็นคนมีความสามารถ แต่ติดตรงที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ถ้ากระทู้นี้เป็นที่นิยม ผมคิดว่ามันคงไม่ยากนะถ้าจะได้เห็นมันขึ้นไปแสดงบนเวทีอีกครั้ง

แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ดูแล้วรู้สึกยังไงก็คอมเมนต์ไว้ด้านล่างนี้เลยนะครับ ถ้าเจ้าตัวไม่เซ่อเกินไป ผมคิดว่ามันคงได้อ่านความคิดเห็นของทุกคนเข้าสักวัน

ปล. ลิงก์ดาวน์โหลดอยู่ด้านล่าง รบกวนคอมเมนต์กันอย่างสุภาพ อย่าหยาบคายกันเลยนะครับ เพราะขนาดตอนมีคนมาด่าเรา เรายังไม่ชอบเลย (:

 

 

“...”

 

ในห้องคอมเงียบจนไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากคำถามมากมายในหัว เด็กหนุ่มนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมเมาส์ที่ค้างอยู่ตรงกลางคลิปวิดีโอ ชั่วอึดใจเลยมั้งที่เท็นเอาแต่ถามตัวเองว่าคอมเมนต์สิบกว่าหน้ามันเป็นเพราะฝีมือเขาดีจริง ๆ เหรอ ทำไมหลายคนถึงเลือกให้ความสนใจมากถึงขนาดนี้ 

 

หรือว่าจะเป็นคอมเมนต์ชื่นชมไอ้แจ็ค ซึ่งถ้าใช่อย่างนั้นก็คงดีเหมือนกัน เพราะเท็นเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมเสียงเพื่อนมาตลอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงผิดหวังอยู่ลึก ๆ ถ้าหากว่าสุดท้ายเขาจะเป็นได้แค่ตัวประกอบ

 

คลิ๊กเมาส์ซ้ายเบา ๆ จนคลิปเริ่มเล่น เพียงครู่เดียวเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากข้างเวทีพร้อมกีตาร์คู่ใจ เท็นอายสีหน้าเหวอ ๆ ที่เผลอทำให้ทุกคนเห็น เขาควรจะดูดีกว่านี้มากกว่าจะยิ้มแหย ๆ อย่างนั้น แต่นั่นก็เป็นความผิดของเขาเองที่ขาดความมั่นใจไปจนติดลบ ถ้ามีโอกาสอีกก็หวังว่าจะทำให้ดีกว่านี้

 

( น้องขยับให้พี่นิดนึงได้ไหมครับ พอดีพี่จะถ่ายคลิปเพื่อนน่ะ รบกวนขยับให้พี่นิดนึงนะ... โอเคเลย ขอบคุณมากครับผม ไอ้ธีร์ ไอ้นาย มึงชูป้ายสูง ๆ เลยนะเดี๋ยวมันไม่เห็น ยิ่งเซ่อ ๆ อยู่ )

 

( สูงกว่านี้กูคงต้องขึ้นไปยืนบนยอดตึกหนึ่งแล้วล่ะเพื่อน เฮ้ย ๆ ไอ้นาย มันมองมาทางนี้แล้ว!!!! )

 

( เช้ดเข้!!! ไอ้เท็นตอนถือกีตาร์แม่งหล่อสาด )

 

( หล่อที่สุด!!!!!!! )

 

( เชี่ยแจ็ค หูกู!!! )

 

( 5555555555555555555555 )

 

เท็นไม่รู้ตัวว่ากำลังยิ้มเพราะเสียงคนในคลิป ตอนนี้ต่อให้หน้าตาคนบนเวทีจะตลกแค่ไหนก็ไม่เป็นไรแล้ว แม้คนที่อยู่ในวิดีโอจะมีเพียงเขา แต่เท็นกลับรู้สึกเหมือนได้เติมเต็มโดยเพื่อนที่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างล่าง

 

( เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนชอบร้องด้วยกัน แล้วมันก็อยู่ตรงนั้น ทุกคนรู้จักแจ็คใช่ไหมครับ? )

 

เสียงคนดูดังขึ้นไม่ต่างจากที่ได้ยินเองกับหู หลังจากนั้นกล้องก็เริ่มสะบัดเพราะคนถือโดนเขย่าจากเพื่อนที่อยู่รอบข้าง พวกนั้นล้วนยุให้ไอ้แจ็คขึ้นมาร้องเพลงด้วยกัน เท็นจำได้ว่าลึก ๆ ยังกังวลอยู่เลยว่าเพื่อนจะขึ้นมาไหม

 

( งั้นกูฝากกล้องไว้กับมึงนะเชี่ยธีร์ ถือดี ๆ ล่ะ ขืนตกแตกขึ้นมาพ่อกูด่ายับแน่ )

 

( เออน่า ไว้ใจกูได้ ระดับนี้แล้วตกก็ไม่แตก เพราะละเอียดเลย )

 

( ถุย มึงจะโยกตัวอย่างเมามันยังไงก็ได้แต่อย่าให้ไอ้เท็นหลุดเฟรม โอเคไหม? )

 

( จ้าพ่อ สั่งเหมือนสั่งก๋วยเตี๋ยวเลยน้า เส้นไรดีจ๊ะ เล็กใหญ่บะหมี่? )

 

การตัดต่อฝีมือไอ้แจ็คก็ไม่ได้แย่ แต่หลังจากที่มันขึ้นไปบนเวทีคลิปทั้งหมดก็ถูกครอปจนกลายเป็นโฟกัสเขาเพียงคนเดียวเสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นสีหน้าตัวเองตอนเล่นกีตาร์ ไม่เคยรู้ว่ายิ้มเก่งขนาดนี้กระทั่งตอนหันไปหาเพื่อนที่ร้องเพลงอยู่ข้าง ๆ

 

แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อยู่ในเฟรม แต่เท็นกลับจำได้ดีกว่าความสุขตอนนั้นมันมีหน้าตาเป็นอย่างไร กับโลกใบเล็ก ๆ ที่เขาได้คืนมาอีกครั้งหลังจากโดนขโมยไป แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีความสุขจนอยากเก็บมันไว้ในหนึ่งความทรงจำ

 

RRRRrrrrr!!!

 

“ไง?”

 

( ถึงยังวะ กินหมูปิ้งกัน วันนี้มีน้ำเต้าหู้ด้วยนะ ใช่ย่อยที่ไหน )

 

เด็กหนุ่มในห้องคอมนั่งยิ้มเงียบ ๆ ตามลำพังกับความใส่ใจที่ไม่ได้คืนมาแค่ตอนขึ้นเวที เขากำลังได้รับการเยียวยาอีกครั้ง และมันดีเกินกว่าจะเอาเรื่องคิดเล็กคิดน้อยมาบั่นทอนให้ทุกอย่างแย่ลง ดังนั้นการเอาตัวเองไปผูกติดกับเพื่อนอีกครั้งจึงยังเป็นเรื่องต้องห้าม

 

“กูอย่างหิวอะ” เขากดชัตดาวน์คอมพิวเตอร์แล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ เงยหน้ามองเพดานที่มันว่างเปล่าแต่กลับถูกเติมเต็มโดยใครอีกคน “รีบมานะ กูมีเรื่องอยากคุยกับมึงเยอะแยะเลย”

 

 

 

*

 

 

“วันไหนจะมาอีกก็บอกล่วงหน้าสักครึ่งวันนะ แม่จะได้ออกไปตลาดหาซื้อของอร่อย ๆ มาทำให้กิน” สิ้นสุดความหวังดีเท็นก็ชำเลืองมองลูกชายคนโตของบ้านที่ดูท่าว่าจะไม่เห็นด้วย ไอ้แจ็คถอนหายใจแรงกว่าเสียงท่อเด็กแว๊นในซอยนี้อีก

 

“มาได้ปะ?”

 

“กูห้ามได้ไหมล่ะ?”

 

“ดิ๊งด่อง!” คนกวนตีนเดาะลิ้นพร้อมขยิบตาชี้นิ้วกวนตีน แจ็คหลับตาลงถอนหายใจลึก ๆ พลางคิดไปว่าคิดถูกแล้วหรือเปล่าที่ปิดบังแม่เรื่องทะเลาะกัน

 

“กลับดี ๆ นะลูก ถนนมันลื่น อันตราย”

 

“ได้เลยแม่ ถ้าถึงบ้านปุ๊บเดี๋ยวเท็นไลน์บอกมันเลย”

 

“เพื่อ?” แจ็คขมวดคิ้วรีบถามสวนกลับทันทีกับเรื่องไร้เหตุผล มันธุระกงการอะไรที่ต้องรายงานกันขนาดนั้นเหรอ?

 

“มึงจะได้บอกแม่ไงว่ากูปลอดภัยแล้ว” ไอ้เท็นทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อน ให้ตายสิวะ ก็รู้ว่ามันเป็นคนอย่างไร แทนที่จะเข้าใจแล้วปล่อยเบลอ แต่ดันไปตามน้ำไอ้หน้าวอกหัวเทาเสียอย่างนั้น

 

“คนกร้านโลกอย่างมึงยังจะกลัวอะไรอีก?”

 

“กูกลัวหลายอย่างเลย แต่คงไม่เล่าวันนี้หรอกมันดึกแล้ว ไว้จะมาเล่าให้ฟังทีหลังตอนกินข้าว”

 

“กลับบ้านมึงไป”

 

“เอะอะไล่” ไอ้เท็นจิ๊ปากรัว ๆ เขาจึงยื่นร่มของมันไปข้างหน้าเป็นเชิงกดดัน และคนลีลาก็ไม่ยอมรับไปเสียที “สรุปจะไปเอามอเตอร์ไซค์ไหม เดี๋ยวไปส่ง”

 

“ขอบใจ แต่ไม่ต้อง”

 

“ตามนั้น” ไอ้หน้าวอกหัวเทาไหวไหล่แล้วเข้าไปกอดแม่ ก่อนจะผละออกมายิ้มหวานแบบคงมีแต่มันเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าตัวเองตอแหล “ไว้พรุ่งนี้เท็นมาใหม่นะ”

 

 “พรุ่งนี้?” คนได้ยินถึงกับเหวอ ไอ้เชี่ยนี่นึกครึ้มอะไรอีก เห็นว่าแหย่ได้ผลเลยจะมาปั่นเรื่อย ๆ หรือไง?

 

“เอาสิ เดี๋ยวแม่จะเตรียมของอร่อยไว้รอ”

 

“มึงน่าจะมีธุระต้องทำบ้าง ถูกไหม?”

 

“ก็ทำธุระก่อนแล้วค่อยมาตอนเย็นไง ให้กูไปรับปะ?”

 

“ไม่จำเป็น” ไอ้แจ็คยืนขมวดคิ้วกอดอกเหมือนคนพร้อมซัดหน้าเขา เท็นอมยิ้มอย่างพอใจพลางส่งสายตาผู้ชนะให้แล้วถอยไปทีละก้าว

 

“งั้นพรุ่งนี้เจอกัน... ที่นี่”

 

ชายหนุ่มผมเทาชี้ลงบนพื้นขณะสบตากับอีกฝ่าย

 

“นะเพื่อนรัก”

 

แม้ไม่ได้ยินเสียงแต่ก็อ่านปากได้ว่า ‘ไอ้ – เหี้ย’ เท็นหลุดขำออกมาอย่างอารมณ์ดี ผิวปากเข้าไปในรถแล้วรัดเข็มขัดอย่างไม่เร่งรีบ ระหว่างนั้นก็หันไปมองแม่ลูกที่ยืนคุยอะไรกันสักอย่าง เพียงครู่เดียวไอ้คนหน้าตึงเก่งก็โดนหยิกแขนจนสะดุ้ง

 

บรรยากาศวันนี้ไม่ได้ดีเพอร์เฟ็คแต่ก็ไม่แย่ลงไปกว่าที่เคย เขาเห็นว่าดวงตาคู่นั้นหันมามองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้านพร้อมปิดม่านประตูกระจก

 

เท็นสตาร์ทรถแล้วมุ่งตรงกลับบ้าน วันนี้เขามีเรื่องเล่าให้พี่ซันกับน้องมูนฟังเยอะแยะเต็มไปหมด

 

 

 

 

 

 

TBC

 

 

บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 

 

 

 

 

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2018 20:03:53 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด