พิมพ์หน้านี้ - [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 28-08-2018 21:46:02

หัวข้อ: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 28-08-2018 21:46:02
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




==============================================================


เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา
(ภาคต่อจาก #ซอโซ่ล่ามธีร์ #ชอกะเชร์คู่กันต์ เป็นภาคของแจ็คกับเท็นค่ะ)


ตอนที่ 01 : สิบเอ็ดปีก่อน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3879962#msg3879962)
ตอนที่ 02 : ดวงจันทร์ที่หันหลังให้ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3881074#msg3881074)
ตอนที่ 03 : น้ำท่วมปาก (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3884780#msg3884780)
ตอนที่ 04 : จุดเริ่มต้นในวันนั้น (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3886062#msg3886062)
ตอนที่ 05 : เข้าใกล้อีกนิด (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3887987#msg3887987)
ตอนที่ 06 : บรรยากาศเก่า ๆ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3891090#msg3891090)
ตอนที่ 07 : ความจริงที่ไม่อยากยอมรับ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3904571#msg3904571)
ตอนที่ 08 : หวานเย็นโง่ ๆ ในวันที่ร้อนระอุ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3910378#msg3910378)
ตอนที่ 09 : ที่นั่งโซน D ในรอบ 10 ปี (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3917631#msg3917631)
ตอนที่ 10 : ห้องแห่งความลับ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3920227#msg3920227)
ตอนที่ 11 : เรื่องที่แกล้งจำไม่ได้ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3923607#msg3923607)
ตอนที่ 12 : สาเหตุของความหวังดี (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3924277#msg3924277)
ตอนที่ 12 : สาเหตุของความหวังดี (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3924687#msg3924687)
ตอนที่ 13 : จุดเปลี่ยน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3926730#msg3926730)
ตอนที่ 14 : หัวใจที่หยุดเต้น (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3929033#msg3929033)
ตอนที่ 14 : หัวใจที่หยุดเต้น (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3934076#msg3934076)
ตอนที่ 15 : ฟ้าหลังฝน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3949538#msg3949538)
ตอนที่ 16 : แปลก (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3950657#msg3950657)
ตอนที่ 16 : แปลก (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3952677#msg3952677)
ตอนที่ 17 : ปั่น (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3954492#msg3954492)
ตอนที่ 17 : ปั่น (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3956096#msg3956096)
ตอนที่ 18 : อาการผิดปกติ (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3959101#msg3959101)
ตอนที่ 18 : อาการผิดปกติ (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3959851#msg3959851)
ตอนที่ 19 : โคม่า (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3961235#msg3961235)
ตอนที่ 19 : โคม่า (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3961761#msg3961761)
ตอนที่ 20 : ไปข้างนอกไม่ได้เรียกเดท (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3963220#msg3963220)
ตอนที่ 20 : ไปข้างนอกไม่ได้เรียกเดท (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3964166#msg3964166)
ตอนที่ 21 : คิดถึงเกินไป (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3970538#msg3970538)
ตอนที่ 21 : คิดถึงเกินไป (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3979830#msg3979830)
ตอนที่ 22 : กุญแจสำคัญ (PART 1/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3980644#msg3980644)
ตอนที่ 22 : กุญแจสำคัญ (PART 2/2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3982289#msg3982289)
ตอนจบ : เมื่อจุดจบคือการเริ่มต้นใหม่ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3987882#msg3987882)
ตอนพิเศษ : เพราะอีมูนเป็นเหตุ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68264.msg3989391#msg3989391)

หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 28-08-2018 21:47:16
 

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 01
สิบเอ็ดปีก่อน




ถ้าโตขึ้น... ความรู้สึกในวันนั้นมันจะจางลงได้บ้างหรือเปล่า?

 

 



“คนเราแม่งย้อนแย้ง”

 

บทสนทนาที่ขาดตอนไปสักพักถูกจุดขึ้นมาโดยเด็กหนุ่มชุดนักเรียนกางเกงขาสั้นที่นั่งอยู่ข้างตัว แจ็คหันไปมองเสี้ยวหน้าเพื่อนสนิทซึ่งเหม่อมองไปยังแม่น้ำอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาคู่นั้นอัดแน่นไปด้วยความเศร้าเพราะปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา และเขากังวลเหลือเกินเพราะไม่รู้ว่าการนั่งอยู่ตรงนี้มันช่วยเยียวยาอะไรให้เพื่อนได้บ้างหรือไม่?

 

“เมื่อวานคิดอีกอย่าง แต่ผ่านไปแค่วันเดียวก็เปลี่ยนใจแล้ว”

 

“คนเราโตขึ้นทุกวัน ตอนเจอมึงครั้งแรกกูก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มานั่งอยู่ตรงนี้” หลังจากที่เขาพูดจบเท็นก็นิ่งไป ก่อนรอยยิ้มแรกในรอบวันจะแต่งแต้มบนใบหน้าของอีกฝ่าย ซึ่งมันทำให้คนมองมาตลอดทั้งวันใจชื้นขึ้นมาบ้าง

 

“นั่นสิ ใครจะรู้ว่าเด็กสมองกลวงอย่างกูจะเข้าเรียนที่เดียวกับมึงได้”

 

“เพราะใครล่ะ?”

 

“เออ เพราะมึงช่วยเข็นช่วยเคาะกะโหลกให้ไง พอใจยัง?”

 

“พอใจมาก”

 

แจ็คแค่ยิ้มตอนถูกเอาคืนด้วยการยีหัวที่มันเหี้ยนเกรียนจนเรียกว่าสกินเฮด ฟ้ามืดแล้ว และใจของเท็นก็คงมีสีเดียวกับมัน เขาทั้งคู่เป็นเพียงเด็กมอสี่ที่อยากใช้ชีวิตให้สนุก โดยไม่ต้องรับรู้ปัญหาโลกแตกชวนปวดหัวของใครต่อใคร เพราะแค่เรื่องเรียนก็ชวนเครียดมากพอแล้ว

 

แต่คนเราเลือกเสพสุขอย่างเดียวได้ที่ไหน ชีวิตมันยาก ตราบใดที่ยังหายใจนั่นหมายความว่าเขากับไอ้หมอนี่ก็ยังต้องเดินไปข้างหน้า เผชิญกับปัญหาที่เล็กบ้าง ใหญ่โตบ้างแล้วแต่ว่าจะมาในรูปแบบไหน

 

ซึ่งวันนี้เป็นวันของเท็นที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจว่าพ่อกับแม่มันไม่ได้ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกันและกันอีกต่อไปแล้ว

 

“กูถามอะไรอย่างดิแจ็ค”

 

เจ้าของชื่อไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้น เด็กหนุ่มผมสกินเฮดเพียงแค่มองเพื่อนสนิทที่เอาแต่ก้มหน้าจมกับความทุกข์ใจ เท็นมักจะพูดอยู่เสมอว่า ‘เรื่องของกูมันงี่เง่า’ และเขาก็ตอบกลับเพื่อย้ำถึงมิตรภาพให้รู้ว่า ‘งี่เง่าแค่ไหนกูก็อยากฟังอยู่ดี’

 

เรื่องพ่อแม่เลิกกันสำหรับบางคนอาจจะเล็กน้อยนัก แต่กับเท็นไม่ใช่ มันสนิทกับพ่อแม่และเข้าใจมาตลอดว่าทั้งคู่รักกัน กระทั่งได้รู้ความจริงว่าต่างฝ่ายแค่แสดงออกให้ลูกเห็นอย่างนั้น เพราะความจริงแล้วมันมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเอี่ยวด้วย

 

เท็นเลียริมฝีปากอยู่กับความคิดบางอย่างที่เขาคิดว่ามันคงทนเก็บไว้คนเดียวไม่ไหวแล้ว แจ็ควางมือลงบนบ่าเพื่อน บีบเบา ๆ พลางพยักหน้าก่อนจะสบตากัน

 

“มึงจะมีแฟนไหม?”

 

เกินความคาดหมายไปหน่อย แจ็คคิดว่าน่าจะเป็นคำถาม ‘ถ้าพ่อกับแม่มึงเป็นแบบนี้บ้าง มึงจะทำยังไงวะ?’ อะไรเทือก ๆ นั้น

 

“ที่กูถามเพราะพ่อแม่กูคุยกันว่าหลังจากเลิกกันแล้วจะมีคนใหม่เลยหรือเปล่า อะไรทำนองนั้นน่ะ”

 

“แล้วมันเกี่ยวเหี้ยไรกับการที่กูจะมีแฟน?”

 

“ไม่รู้ดิ กูรู้สึกว่าคนรักกันมันก็จะมีบางอย่างที่ผูกติด – เออ อาจจะไม่ได้รักกันมากแต่ยังไงก็ต้องมีความผูกพันกันบ้างใช่ไหมล่ะ แล้วกูรู้สึกว่าต่อให้เค้าเลิกกันไปแล้วก็คงมีคนไม่โอเคถ้าอีกฝ่ายจะมีคนใหม่ แม่กูล่ะคนนึง”

 

“อ่าฮะ?”

 

“ตอนนี้กูก็มีแค่มึง กูเลยอดคิดไม่ได้ว่าถ้าสักวันมึงติดแฟนจนหายหัวแล้วกูจะทำยังไง?” สายตาอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความประหม่า ปัญหาครอบครัวทำให้เท็นกังวลไปหมดว่าคนรอบตัวจะค่อย ๆ หายไปทีละคน

 

“ไอ้ธีร์ไง”

 

“ไม่นับมันดิ มึงก็รู้ว่ากูเคยทนอยู่กับมันเกินห้านาทีได้ที่ไหน” แจ็คยิ้มขำกับความจริงที่รู้อยู่แก่ใจ

 

“เอาน่า มันอาจจะปากหมาไปหน่อย แต่มันไม่คิดร้ายกับใครหรอก”

 

“กูรู้ แต่กูไม่ชอบ มันทำให้กูรู้สึกเหมือนตอนมอต้น”

 

 

 

*

 

 

 

“น่าอิจฉาพิงค์กับแบงค์ รักกันตั้งแต่มอสี่จนวันนี้ได้แต่งงานกัน มันไม่เคยหวั่นไหวกับคนอื่นเลยทั้งที่สังคมก็มีแต่คนหน้าตาดี ๆ แถมรวยอีก”

 

“จริง มันสองคนได้อยู่ห้องเดียวกันแค่ตอนมอสี่นะ มอห้ากับมอหกไอ้แบงค์ไปอยู่อีกห้อง”

 

“คนเรามันต้องไว้ใจกันแค่ไหนถึงจะประคับประคองกันมาจนถึงวันนี้ได้วะ เฮ้อ กูอยากมีแฟนบ้างเลยอะ ไปงานแต่งเพื่อนคนที่สี่แล้วนะเว้ย”

 

หญิงสาวสามคนในชุดเดรสสีกรมท่าลงจากแท็กซี่อย่างท้อแท้ในโชคชะตา เธอคนหนึ่งเงยหน้ามองโรงแรมที่เพื่อนสมัยมอปลายใช้จัดงานแต่ง ขณะที่คนข้าง ๆ เตรียมความพร้อมด้วยการเปิดตลับแป้งเช็กว่าลิปสติกติดฟันหรือไม่ ส่วนอีกคนพยายามตีสนิทกับรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ที่เพิ่งถอยมาจากยูเนียนมอลล์

 

“วันนี้กูจะรับดอกไม้ให้ได้ พวกมึงรอดู”

 

“ขอสักคนทีเท้ออออออ รวยไม่รวยก็ได้หมดอะตอนนี้ เหงาจริงจัง” เธอคนหนึ่งพนมมือขึ้นเหนือศีรษะ ปิดท้ายด้วยการพ่นเพี้ยงหวังให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในงานแต่งที่ผู้คนมากหน้าหลายตามาเจอกัน ซึ่งไม่ได้มีแค่เพื่อนเก่าสมัยมัธยม 

 

และเหมือนว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะได้ยิน ท่านถึงได้ส่งสัญญาณให้ทั้งสามหันหลังกลับไปทันทีที่ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์รุ่น Yamaha M-Slaz ขับเข้ามาโดยชายหนุ่มใส่สูทสีเดียวกันกับเดรสของพวกเธอ แม้จะมีหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้า แต่เหล่าหญิงสาวก็มองตามจนกระทั่งเท้าซ้ายของเขาคนนั้นแตะลงบนพื้น

 

“คุณพระ... ขายาวเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น” เธอคนหนึ่งป้องปาก

 

กระจกแป้งพับกับรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่น่าสนใจอีกแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่ยึดสายตาได้ก็คือชายคนนั้นซึ่งกำลังถอดหมวกกันน็อกออกจนได้เห็นชัด ๆ ว่าคนขับหรือว่ามอเตอร์ไซค์ที่หล่อกว่ากัน

 

เขาดูเร่งรีบ ตั้งแต่การล้วงหายางในกระเป๋ากางเกงมาคาบไว้ด้วยฟันขณะสองมือรวบผมที่ยาวเกือบประบ่าขึ้นมัดอย่างลวก ๆ

 

ให้ตาย ‘เขาเป็นใคร?’ นั่นคือคำถามที่เธอทั้งสามคิดเหมือนกันโดยไม่ได้พูดออกมา

 

เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกมองอยู่ สายตาที่เคยจดจ้องกับขั้นบันไดเบื้องหน้าจึงเปลี่ยนมาทางนี้ ซึ่งคนมองก็ยิ้มอย่างเหนียมอาย แต่การทักทายครั้งนี้คงไม่ได้ผลนัก หนุ่มติสท์ผมยาวคนนั้นจึงส่งแค่สายตาเย็นชากลับมามากกว่าจะยกยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าชู้

 

“กูไม่สวยจนเขามองด้วยสายตาแบบนั้นเลยเหรอวะ?”

 

“อีเหี้ย นั่นแหละสเป๊กกู”

 

“เป็นเพื่อนใครวะ โคตรหล่ออะ”

 

“จะเพื่อนใครล่ะ ก็เพื่อนเรานี่แหละ”

 

“หะ?” ทั้งสองคนหันไปมองหญิงสาวที่ยืนถอนหายใจอยู่ด้านขวาสุด

 

“แจ็คไง แจ็คแฟนเก่าบลู”

 

 

 

*

 

 

แจ็ครู้จักเท็นตอนมอสองที่โรงเรียนสอนดนตรี เขาชอบร้องเพลงและสนใจเครื่องดนตรีอยู่หลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกีตาร์ไฟฟ้า เขาจึงขอพ่อเรียนซึ่งท่านก็อนุญาต

 

แจ็คไม่ใช่คนอัธยาศัยดีเหมือนธีร์ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เงียบจนถึงขั้นเรียกว่าเก็บปากเก็บคำ วันแรกที่เริ่มเรียนกีตาร์ไฟฟ้า เขาตรงเข้าไปนั่งข้าง ๆ เด็กผู้ชายต่างโรงเรียนที่คงคุ้นชินกับที่นี่มากกว่าเขา ซึ่งประโยคปลายเปิดการทำความรู้จักนั้นช่างเรียบง่าย กว่าจะทำให้อีกฝ่ายตอบได้ก็เล่นเอาเหงื่อออกเหมือนกัน

 

‘เราชื่อแจ็คนะ นายเรียนที่นี่นานหรือยัง?’

 

‘...’

 

‘เราชอบร้องเพลง แต่เพิ่งสนใจกีตาร์ไฟฟ้าเมื่อไม่นานมานี้ นายพอจะแนะนำให้เราได้ไหม?’

 

ไม่ได้ผล อีกฝ่ายเอาแต่มองอย่างหวาด ๆ ราวกับกลัวเขาจะเข้าไปทำร้ายอย่างไรอย่างนั้น แจ็คเป็นเพียงเด็กอายุสิบสี่ เขาไม่สามารถรับรู้ได้เพียงแค่มองภาพตรงหน้า และแน่นอนว่าการผูกมิตรยังไม่จบ

 

แจ็คหันไปรูดซิปกระเป๋าเป้เอาหนังสือฝึกเรียนกีตาร์ออกมาให้ดู ซึ่งอีกฝ่ายก็จ้องมองมันอย่างสนใจ เพียงเสี้ยววินาทีที่เขาเห็นว่าดวงตาคู่นั้นเริ่มมีประกาย ก่อนอีกฝ่ายจะเอากระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนตักไปไว้ข้างตัวและแทนที่ด้วยกีตาร์

 

แม้จะรู้สึกได้ถึงเส้นที่อีกฝ่ายขีดไว้ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ยอมให้เขาจับกีตาร์คู่ใจในสามวันถัดมา

 

‘กู... โดนแกล้งทุกวันเลย’

 

แจ็คไม่รู้ว่าเท็นพูดจริงหรือโกหก เขาเชื่อแค่ความรู้สึกของตัวเองว่าแววตาคู่นั้นคงมีความจริงใจมากพอให้กับเพื่อนใหม่คนนี้ แจ็คตั้งใจฟัง อย่างน้อยก็อยากแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ว่ายังมีใครคนหนึ่งอยู่ตรงนี้ และจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจากคนอย่างเขา

 

‘โดนล้อว่าเป็นลูกแหง่เพราะแม่ไปส่งหน้าโรงเรียนทุกวัน กูคงไม่โดนขนาดนั้นถ้าไม่ขี้ฟ้องจนแม่ไปเอาเรื่องเพื่อนถึงโรงเรียน’

 

‘งั้นบอกให้แม่จอดข้างโรงเรียนได้ไหม แล้วมึงก็เดินเข้าไปเอง’

 

‘เค้าเคยฟังกูที่ไหนล่ะ เรื่องเดิมไม่เคยหยุดล้อก็มีเรื่องใหม่เพิ่มมาเรื่อย ๆ อีก ทำไมวะ เพราะกูไม่สู้คนก็เลยคิดว่าจะแกล้งยังไงก็ได้น่ะเหรอ?’

 

‘ไม่มีใครช่วยมึงเลยเหรอ เพื่อนสักคน?’

 

‘ขืนอยู่กับกูก็โดนไปด้วยน่ะสิ’ เท็นหัวเราะ ‘ล่าสุดพี่ที่เป็นดรัมฯไม้หนึ่งมาชอบกู ทุกคนเลยเอาใหญ่’

 

‘พี่เค้ามาชอบแล้วใช่ความผิดมึงที่ไหน?’

 

‘ตรงที่พี่เค้าคบกับพี่มอห้าอยู่ไง มันเลยเป็นเหตุผลที่ใคร ๆ คิดว่ามันก็สมควรแล้วถ้ากูจะโดนแกล้งทุกวันแบบนี้’

 

‘แต่มึงไม่ได้ยุ่งกับพี่เขาแล้วใช่ไหม?’

 

‘ไม่ สาบานได้ หลังจากรู้ว่าพี่เค้ามีแฟนแล้วกูก็ถอยออกมาเลย’

 

‘เปรี้ยวตีนจริง ๆ ตัวก็เท่านี้ดันเล่นพี่มอปลาย’

 

เขาว่าพลางยีผมอีกฝ่าย เท็นยิ้มเล็ก ๆ พลางปัดผมให้เข้าทรง คาดว่ามันคงภูมิใจอยู่ไม่น้อยแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดอย่างยืดอกได้

 

‘รอยแผลนี่ก็มาจากคนพวกนั้นเหรอ?’ แจ็คถามและเท็นก็พยักหน้า

 

‘กูอยากหายไป กูไม่อยากเรียนที่นั่นแล้ว แต่กูก็โง่เกินกว่าจะสอบเข้าโรงเรียนเจ๋ง ๆ ได้ ก็เลยต้องทำใจอยู่โรงเรียนเอกชนแพง ๆ ที่มีแต่พวกเหี้ยนั่นต่อไป’

 

‘คนโง่ที่ไหนจะโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าโหดแบบมึงวะ กูไม่เคยเห็น’

 

‘...’

 

‘มึงจะรู้สึกแย่ก็ไม่แปลก แต่มึงอดทนไว้นะ’

 

‘เพื่อให้ชินกับสิ่งที่พวกมันทำน่ะเหรอ?’

 

‘เปล่า อดทนอยู่กับมันระหว่างที่กูจะช่วยติวให้’

 

‘หะ?’

 

‘เรียนมอปลายที่เดียวกันไหม กูสัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายมึงอีก’

 

 

 

*

 

 

“...”

 

“...”

 

หลังจากเซ็นอวยพรให้เพื่อนสมัยเรียนมอปลายพร้อมรับของชำร่วย เท็นก็โบกมือทักทายคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ออกมาเจอผู้คนมากหน้าหลายตาอย่างนี้ มันก็คงนานมากจนรู้สึกว่าจำได้แค่หน้าหมากับแมวที่บ้าน ดังนั้นการพบปะเพื่อนเก่ามากหน้าหลายตาจึงจบด้วยคำว่า ‘เฮ้ยเป็นไง สบายดีปะ เออ กูก็เรื่อย ๆ ว่ะ’

 

แต่ความกระอักกระอ่วนก็เกิดขึ้นตั้งแต่บ่าวสาวยังไม่ทันตัดเค้ก เพราะทันทีที่เข้าไปถึงงาน ยังไม่ทันกวาดมองเก็บรายละเอียดให้ทั่วเลยด้วยซ้ำสายตาก็พลันไปหยุดกับเจ้าของผมที่รวบมัดขึ้นจนชวนให้รู้สึกแปลกตา

 

“ทางนี้เท็น ทางนี้!” กะจะชิ่งไปหาที่สูบบุหรี่แต่ก็ถูกหัวหน้าห้องรั้งไว้เสียก่อน ‘ปอย’ ตรงเข้ามากอดแขนพร้อมรอยยิ้มขณะที่เขาแทบจะกุมขมับตนเอง

 

“ไงปอยหมุย”

 

“เดี๋ยวตีปากเลย เลิกเรียกชื่อนี้สักทีได้ปะ?!” หญิงสาวมองค้อน ง้างมือขึ้นอย่างเอาจริง แต่เธอก็แพ้รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าหล่ออยู่ดี “ทำไมแกหล่อจังวะ สีผมเด่นกว่าใครในงานนี้เลย”

 

“จะแย่งซีนเจ้าบ่าวไหม ถ้าไอ้แบงค์ตายก็ขอโทษล่วงหน้าด้วย” เท็นยักคิ้ว แกล้งหัวหน้าห้องที่เบ้ปากทำหน้ามุ่ย “เดี๋ยวอีกแป๊บนึงปอยก็จะไปเปลี่ยนเป็นสูทใช่ปะ?”

 

“ไม่อะ ทำไมฉันต้องเปลี่ยนวะ?” เธอฉายแววตาสงสัย

 

“ก็เพื่อนเจ้าบ่าวต้องใส่สูทไม่ใช่ – โอ๊ย!” เขางอตัวเป็นกุ้ง กลั้นขำกับท่าทีของหัวหน้าห้องที่ยังคงเป็นผู้หญิงโก๊ะ ๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแม้เวลาจะผ่านไปสิบเอ็ดปีแล้ว

 

“มานี่เลย โต๊ะเราอยู่ตรงนั้น”

 

“เอ่อ... ปอยคงไม่ได้หมายความว่าเราต้องนั่งกับไอ้ --”

 

“แจ็คเหรอ? ใช่ โต๊ะนั้นแหละ”

 

 

ฟัค!

 

 

หลังจากได้ยินคำตอบ เท็นก็หันหน้าหลบไปอีกทางพลางหลับตาแน่น ก่อนจะสบถโทษโชคชะตา ก็ถ้าครึ่งปีก่อนไม่เปรี้ยวตีนทักไปท้ามันแข่งเกมก็คงไม่ต้องมารู้สึกแบบนี้หรอก

 

เพราะเคยชินกับการท้าดวลแล้วชนะหลายเกม แต่คราวนั้นเป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายทำให้เขารู้ว่ามันไม่เคยทิ้ง DotA เลยแม้จะไม่ได้ฟอร์มทีมลงแข่งเกมนี้ และใช่ สุดท้ายก็แพ้ยับอย่างหมา แอนตี้ได้โอกาสก็ด่าใน Twitch ลากยาวไปถึงรูปหมาแมวในไอจี

 

แต่เวลาจะช่วยเยียวยาอะไรได้ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังนึกขายขี้หน้าอยู่เลยเพราะฮีโร่ของเขาโดนไอ้แจ็คไล่ฆ่าไปหกเจ็ดตัวจนแทบไม่ได้ลืมตาอ้าปากทั้งที่เป็นฮีโร่ความหวังของทีม

 

“ไปโต๊ะไอ้กายแทนได้ไหม เหมือนตรงนั้นจะว่างอยู่พอดี” เขามองโต๊ะถัดไป แม้จะอยู่ใกล้กันแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนหายใจอยู่ใกล้ ๆ อย่างกระอักกระอ่วนล่ะวะ

 

“ตรงนั้นไอ้ป๊อปนั่งแล้วอะ มันแค่แวะไปขี้”

 

“...เวรเอ๊ย”

 

“แกยังตึง ๆ กันอยู่เหรอ ผ่านไปตั้งสิบปีแล้วนะ” ปอยเงยหน้าถามเพื่อนตัวสูง แม้จะไม่สนิทกันมาก แต่เพื่อนทุกคนในห้องต่างก็รู้ว่าเท็นกับแจ็คแตกหักกันด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง ซึ่งก็มีสตอรี่หลายเรื่องให้เลือกเชื่อ และเธอไม่รู้ว่าจะเชื่อแบบไหน เพราะทั้งคู่ก็ไม่เคยออกมาพูดตรง ๆ

 

“ก็ตามที่เห็น”

 

“ยังไงดี งั้นเดี๋ยวฉันขอเดินดูก่อนว่ามีโต๊ะไหนนั่งได้บ้าง ครั้นจะให้แกไปนั่งกับคนไม่รู้จักก็สงสารอีกอะ”

 

“เออ ๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวนั่งกับมันก็ได้” ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อน

 

อีกอย่าง... ไอ้หน้าตายนั่นก็เอาแต่มองมาเหมือนท้าทายว่าเขาจะกล้าไปนั่งด้วยหรือไม่ แต่เรื่องของวันนี้มันไม่เกี่ยวกับความกล้า เท็นแค่หาเหตุผลให้ตัวเองได้แล้วว่าไม่เห็นต้องหลบหน้าไอ้แจ็ค เพราะฉะนั้นการหายใจร่วมกันในโต๊ะงานแต่งสักสามชั่วโมงก็คงไม่แย่นัก

 

“เหยด... โต๊ะนี้ออลสตาร์ว่ะ”

 

“หุบปากไปเลยมึง” เขาผลักศีรษะคนข้าง ๆ ที่เป็นตัวเรียกเสียงหัวเราะประจำห้อง

 

“มาถึงก็เกรี้ยวกราดเลยนะแจ็คฟอร์ส”

 

“แจ็คเหี้ยไรล่ะ มันนั่งอยู่นี่!!!”

 

“อ้าว ใครหัวเทากูก็เรียกแจ็คฟอร์สหมดอะ! 555555”

 

ไอ้พวกเหี้ย ปั่นกันเก่งขนาดนี้เอามีดมาแทงอกกันเลยดีไหม ไอ้แจ็คก็นั่งนิ่งเหมือนคนตายไปแล้วเลยนะ อ้าปากพูดห่าอะไรบ้างก็ได้มั้ง ไม่ใช่ปล่อยให้โดนแซวหนักขนาดนี้

 

“พวกกูล้อเล่นนะ สร้างบรรยากาศอะ เผื่อพวกมึงสองคนจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกัน”

 

“ถ้ากูทำอย่างนั้นแล้วหมาที่บ้านมึงจะหายป่วยไหม ถ้าใช่เดี๋ยวกูทำให้” เออ อย่างน้อยมันก็อ้าปากพูดได้บ้างแล้ว

 

“ไม่ใช่เพราะไอ้เท็นมานั่งนี่หรอก ไอ้แจ็คมันไม่ค่อยพูดอยู่แล้วมึงก็เห็นกันอยู่” ไอ้นายอดีตเพื่อนร่วมทีมอธิบาย ให้ตายเหอะว่ะ ทำไมพวกเวรนี่ต้องสนใจเรื่องเขากับไอ้ศพเดินได้นั่นด้วยวะ ก็แค่มองข้ามไปมันยากนักหรือไง?

 

“นี่ขาดไอ้ธีร์ใช่ไหม มันไม่มาเหรอวะ หรือว่ามัวแต่แคสเกมจนเบลองานแต่งเพื่อนเก่า?”

 

“นั่นดิ แต่จะว่าไปแล้วอาชีพนั้นมันรอดเหรอวะ กูเห็นเด็กแถวบ้านพยายามอัปคลิปลงยูทูปทุกวันแต่คนก็เข้าไปดูทีละร้อยสองร้อยเอง เงินก็ไม่ได้สักบาท”

 

“ชีวิตมันดีกว่ามึงแล้วกัน กูได้ยินมาว่าทีมมึงมีสปอนเซอร์ด้วยใช่ไหมวะแจ็ค แล้วก็ได้เงินจากยูทูปกับทวิชอีก” เพื่อนอีกคนหันไปถามไอ้แจ็ค ซึ่งมันก็พยักหน้าส่ง ๆ เหมือนอยากให้เรื่องจบ ๆ ไป

 

“อย่าเรียกว่ามันเลย ตอนนี้พระธีร์บวชอยู่” ไอ้นายพูดพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มระหว่างที่อาหารเริ่มทยอยเสิร์ฟ

 

อะไรนะ ไอ้ธีร์บวช?

 

“คนอย่างมันอยู่ในศีลในธรรมได้ด้วยหรือไง?” เขาแค่นหัวเราะ ตอนนั้นไอ้แจ็คถึงมองมาทางนี้อย่างเอาเรื่อง ทำไม? พูดถึงเพื่อนรักแค่นี้ถึงกับชักสีหน้าเลยสิ?

 

“ระวังปากหน่อย”

 

จากที่เคยเล่นสนุกก็นั่งหน้าแห้งกันหมดหลังจากรู้สึกได้ถึงกลิ่นมาคุ ทุกคนต่างกลอกตามองแจ็คกับเท็นที่ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร เวรกรรมแท้... ที่แซวไปเพราะคิดว่าทั้งสองฝ่ายคงลืม ๆ ไปบ้างแล้วเพราะเรื่องตอนนั้นมันก็ผ่านไปแล้วตั้งสิบเอ็ดปี

 

“ขี้กลากขึ้นหัวกูแน่ ๆ” คนตลกประจำห้องหัวเราะแห้ง เกาศีรษะตัวเองจนผมยุ่งเหยิงหวังจะให้เพื่อนเปลี่ยนมาหัวเราะตนเองแทนแต่ก็ไม่ได้ผล

 

“จะทำให้ศาสนาเสื่อมเสียเปล่า ๆ มั้ง?”

 

“หัดเป็นห่วงคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?” เท็นไม่ชอบรอยยิ้มประชดที่อีกคนกำลังทำ แต่เขาก็ไม่อยากแพ้ตั้งแต่ตอนนี้

 

“ตั้งแต่ --”

 

“เฮ้ย! โต๊ะนั่นคนผมสีชมพูอย่างสวย พวกมึงดู ๆ” นายอมยิ้มกับความชุลมุนบนโต๊ะ

 

ชายหนุ่มผมเทายกเหล้าขึ้นดื่มย้อมใจ ขณะที่อีกฝ่ายเลือกมองหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะก้มลงไปให้ความสนใจกับโทรศัพท์มือถือ

 

 

 

*

 

 

 

เท็นไม่ได้ทำหน้าอมทุกข์อีกแล้ว อย่างน้อยก็ตอนที่เขาได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนใหม่คนนั้น เราเข้ากันได้ดีจนอดคิดไม่ได้ว่าทำไมโลกถึงเหวี่ยงอีกฝ่ายมาช้าจัง ทำไมถึงปล่อยให้เขาทนอยู่กับเพื่อนจอมปลอมในขณะที่เสียงเพลงที่บรรเลงออกมาจากกีตาร์มันเข้ากับเสียงแจ็คได้ดีขนาดนี้

 

แจ็คเริ่มชวนเขาเล่นเกมออนไลน์จนได้รู้จักกับธีร์กับพี่ตั้บที่เป็นหัวหน้ากิลด์ เท็นยังคงไม่ชินกับการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ เขายังคงมีกำแพงกับทุกคนที่ยื่นมือให้เพราะกลัวว่าจะด้านหลังจะซ่อนมีดเอาไว้ และสุดท้ายเขาก็จะตายเพราะถูกแทงซ้ำ ๆ อีก

 

แต่แจ็คบอกว่าธีร์กับพี่ตั้บเป็นคนดี เขาจึงพยายามเปิดใจรับเพราะเชื่อคำพูดเพื่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครโค่นตำแหน่งนัมเบอร์วันไปจากแจ็คได้ เพราะคนที่ทำให้รู้สึกว่ารักและใส่ใจความรู้สึกเขาจริง ๆ ก็มีแค่มันคนเดียว

 

‘แจ็ค ลองเล่นนี่กัน’

 

‘อะไร?’

 

เท็นไม่ได้อธิบาย คนที่มีกีตาร์โปร่งอยู่บนตักเพียงยิ้มราวกับคิดอะไรอยู่ ก่อนจะจับคอร์ดและเริ่มเล่นเพลงที่ฟังแค่แวบแรกแจ็คก็รู้ได้อย่างทันที

 

‘....คำถามอยู่ข้างใน.... อาจเป็นเพราะฉันนั้นทำไม่ถูก... อาจเป็นเพราะฉันนั้นให้ค่ามากกับมันเมื่อรักฉันเกิด...’

 

เท็นคงยิ้มกว้างมาก แจ็คถึงหัวเราะแล้วเอื้อมมายีผมจนต้องเบี่ยงศีรษะหลบ มือที่เคยเล่นกีตาร์หยุดลงเพื่อปรบมือ แจ็คถึงได้รู้ว่าที่ชวนเล่นเมื่อครู่คืออะไร

 

‘เล่นมาอีกสิบเพลงกูก็ร้องได้อยู่ดี’

 

‘จริงเปล่า?’

 

‘เออ มาเหอะ’

 

แจ็คชอบร้องเพลง แล้วมันก็ทำได้ดีจนถึงขั้นประกวดชนะหลายรายการ แต่อยู่ ๆ มันก็หยุดเพราะเหตุผลว่าอยากให้เป็นแค่งานอดิเรกที่อยากเล่นเพื่อความสบายใจมากกว่าจะฝึกร้องไว้เพื่อการแข่งขัน ที่ลงสมัครไปแต่ละครั้งก็เพราะว่าอาจารย์ขอเท่านั้น

 

เท็นเริ่มเล่นกีตาร์อีกครั้งพร้อมความคาดหวังว่าเพลงต่อไปแจ็คจะเดาถูกหรือไม่ และเสียงฮัมในลำคอในท่อนแรกก็ทำเขาหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

 

‘ฉันเคยบอกรู้สึกจะเมื่อวันก่อนซึ่งเธอก็รู้... ว่าความผูกพัน ทำให้ฉันฝันละเมอ...’

 

เพลงกอดยังคงถูกเล่นและขับร้องไปพร้อมกัน เรากำลังสนุกกับการคาดเดา และเขารู้สึกดีเหลือเกินที่แจ็คร้องได้ทุกเพลงราวกับว่าเราสื่อถึงกัน

 

‘เพลงนี้ไม่ได้แน่นอน’

 

‘ก็ว่ามา’

 

เท็นจับคอร์ดกีตาร์แล้วเริ่มเล่นเพลงใหม่ขณะมองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย

 

‘ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด ก่อนดอกไม้... จะผลิบาน ก่อนความฝัน... อันแสนหวาน’

 

 

*

 

 

ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอมีเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป บนโลกที่โหดร้าย.... เหลือเกิน~♬♪

 

แจ็คฮัมเพลงพลางเขย่าขาเบา ๆ เป็นจังหวะกับเพลงรักเก่า ๆ ที่ทำให้งานแต่งไม่น่าเบื่อจนเกินไป เขาอมยิ้มขณะมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวสบตากันอย่างขลาดอายที่ต้องแสดงความรักกันตรงนั้นต่อหน้าคนอื่น

 

เพลงก่อนของโมเดิร์นด็อกยังคงเล่นต่อไป จนถึงท่อนฮุคหลังที่ทำให้นึกถึงใครอีกคนที่เคยร้องคอรัสให้เมื่อนานมาแล้ว และรอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็ค่อย ๆ จางหายขณะถูกดึงกลับไปในอดีตเมื่อสิบกว่าปีก่อน

 

‘แจ็ค’

 

ชายหนุ่มหันไปตามเสียงในความคิด ก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงนั้นกำลังฮัมเพลงขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายคลิปคู่บ่าวสาว เขาเห็นว่านิ้วทั้งสี่ของไอ้เท็นกำลังขยับ และเพียงครู่เดียวเท่านั้น คนที่ร้องเพลงได้ดีกว่าเล่นกีตาร์จึงรู้ว่านิ้วทั้งสี่นั้น... กำลังเปลี่ยนคอร์ด

 

กาลครั้งหนึ่งแจ็คเคยคิดว่าคนตรงหน้าคงฆ่าเด็กมอต้นที่รักการเล่นกีตาร์คนนั้นไปแล้วด้วยสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ทำให้หิวกระหายความโด่งดัง จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้...

 

 

เขาถึงได้รู้ว่าเด็กมอสองคนนั้นยังคงมีชีวิตอยู่

 

 

 

TBC

 


#นั่งเหม่ออยู่กลางงานแต่งเพราะยังหาผัวไม่ได้

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 28-08-2018 22:05:48
มารอคู่นี้เลย
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 28-08-2018 23:01:56
ทำไมถึงได้แต่งได้ดีแบบนี้คะเราตกบ่วงทั้งสามเรื่องเลยขอบคุณมากๆค่ะขอบคุณจริงๆรอติมตามตอนต่อไปนะคะ จากที่หลงพี่ธีร์ทำไมพี่แจ๊คมาตกเราแรงขนาดนี้ :hao5:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-08-2018 23:10:05
 :katai2-1: :mc4: :katai2-1:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-08-2018 23:27:50
คู่นี้มีอะไรให้ลุ้นด้วยเหรอ 55555 ดราม่ากันมาตั้งเป็นสิบปี หรือปาฏิหาริย์จะมีจริง
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: MeiHT ที่ 28-08-2018 23:42:15
กลัวหน่วงงง แต่อยากให้พี่ซึมเศร้าแมนของเรามีความสุขซะที
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 1 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲#ญอผู้หญิงโศกา (28/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 29-08-2018 10:33:29
เม้นให้ทุกเว็บที่ลงเลยค่าาาาาา ไฟนัลลี่ในที่สุดพี่แจ็คก็คลอดออกมาซักที  :mew1:
ทำไมเท็นดูเคะจังน้าตอนมอต้น โดนบุลลี่อีกตะหาก อะไรทำให้ทั้งสองคนแตกหักจนมองหน้าไม่ติดนะ
ฮือ แล้วพี่แจ็คทำไมโซผัวตั้งแต่มอสองอะคะ งงไปหมด
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 31-08-2018 17:38:16
 

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 02
ดวงจันทร์ที่หันหลังให้

 

 







“มึงว่าพอโตขึ้นเราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่เปล่าวะ?”

 

คนขี้กังวลยิงคำถามมาอีกครั้ง กับเรื่องที่เขาเองก็จินตนาการไม่ออกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

 

“นั่นสิ”

 

“เรียนจบ แต่งงานมีครอบครัว แล้วก็เลี้ยงเด็กจนกว่ามันจะโตเป็นผู้ใหญ่ นั่นคือเป้าหมายชีวิตที่ใคร ๆ ก็บอกว่า ‘ต้องทำให้ได้นะเท็น’ แต่กูก็อดคิดไม่ได้ว่าพอถึงตอนนั้นแล้วเราจะยังเป็นแบบนี้อยู่ไหม หรือว่าต่างฝ่ายต่างแยกทางไปมีชีวิตของตัวเอง?”

 

การเป็นผู้ใหญ่ช่างซับซ้อนนัก หลายครั้งที่แจ็คเห็นพ่อพูดถึงเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมซึ่งนาน ๆ ทีถึงจะมีโอกาสได้เจอกัน ทั้งที่เคยสนิทกันมากจนให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แต่พอเวลาผ่านไปสิ่งแวดล้อมก็ผลักดันให้ทุกคนเดินหาเส้นทางที่ต้องการ จนความสนิทในวันนั้นกลายเป็นเพียงความทรงจำในช่วงเวลาหนึ่ง

 

“มองไร หน้ากูเหมือนโดเรม่อนที่จะพามึงนั่งไทม์แมชชีนไปอนาคตได้เหรอ?” แจ็คคาดโทษเขาที่เอาแต่ถามเรื่องชวนปวดหัว “กูจะรู้ไหมล่ะ ตอนนี้กูเพิ่งอายุสิบหกนะ”

 

“ก็ลองคิดดูเล่น ๆ จะเป็นไร แต่จากสภาพแล้วกูน่าจะหาเมียได้ก่อน”

 

“อ้าปากคุยกับคนอื่นนอกจากกูกับพวกไอ้ธีร์ให้ได้ก่อนไหมครับ ถ้ามึงแต่งก่อนจริงกูจะสาธุให้งาม ๆ” ไม่พูดอย่างเดียว แจ็คพนมมือขึ้นเหนือศีรษะปั่นไอ้ซื่อบื้อที่หัวเราะร่าอย่างพอใจ

 

“มึงต้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กูนะเว้ย ล็อกคิวไว้แล้ว ห้ามตาย ห้ามหายไปไหน”

 

“หาเมียให้ได้ก่อน จริง ๆ” แจ็คทำหน้าเนือยติดตลก

 

“เดี๋ยว ๆ นี่มึงสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?” เท็นถามไอ้หัวสกินเฮดที่อยู่ ๆ ก็เอาซองสี่เหลี่ยมเล็กกว่าฝ่ามือออกมาพร้อมไฟแช็ก มันยังใหม่เอี่ยมไม่เคยถูกแกะ และแจ็คก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วแสดงความไก่อ่อนด้วยการพยายามกะเทาะมันออกมา

 

“วันนี้แหละ”

 

“มึงสูบเป็นไง?” เขาและอีกฝ่ายต่างก็เป็นเด็กที่อยู่ในกรอบไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ดังนั้นการเห็นอีกฝ่ายคาบบุหรี่ไว้แล้วจุดไฟแช็กจึงเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นชิน

 

“แค่ก ๆ”

 

“ไอ้เหี้ยเอ๊ย” เท็นหลุดขำพลางตบหลังเพื่อนสนิทที่สำลักควันอย่างน่าอาย แจ็คลูบอกตนเองทั้งที่ยังกระแอมไอ ก่อนจะหันมาทำหน้าเหยเกใส่เขา

 

“สักหน่อยปะ?” คนถูกชวนไม่ได้คิดอะไรมากมายนัก เท็นยังคงขำแล้วรับบุหรี่ตัวใหม่มาซึ่งคนข้างตัวก็จัดแจงจุดไฟแช็กให้ และเขาก็ได้รู้ว่าตรงนี้ไม่ได้มีไอ้โง่แค่คนเดียว

 

“แค่ก ๆ” เท็นหันหลบไปกระแอมไอ ท่ามกลางเสียงหัวเราะสะใจของเพื่อนสนิท

 

การสูบบุหรี่ไม่ใช่แค่อัดควันเข้าแล้วพ่นออกทางปาก เท็นนั่งนิ่งพลางมองสิ่งในมือที่ทำให้ผู้ชายหลายคนดูเท่เพียงแค่ถือมันไว้ แต่เขากับเพื่อนสนิทกลับทำออกมาจนดูตลก

 

“ขำเชี่ยไรนักหนา?” ไฟสีแดงอ่อน ๆ เริ่มไหม้เข้าหามวนจนส่วนขี้บุหรี่ร่วงลงบนหญ้า ไม่มีใครอัดควันอีกแล้ว เด็กที่อยู่ในชุดนักเรียนมอปลายแค่เอนหลังนอนพิงกับผืนหญ้าทั้งที่ยังถือบุหรี่ไว้อย่างนั้น

 

“ก็ที่เราทำเรื่องโง่ ๆ เพราะคิดว่ามันเท่แต่สุดท้ายก็เละไม่เป็นท่าไง”

 

“แถมยังเหม็นฉิบหายอีกต่างหาก”

 

“ฮะ... กูโดนด่าแน่ถ้าพ่อได้กลิ่น”

 

“รู้อย่างนี้แต่ก็เสือกยื่นให้กูสูบด้วย พ่อกูก็ไม่ได้ใจดีขนาดนั้นนะเว้ย ขากลับแวะซื้อสเปรย์ดับกลิ่นเลย” เท็นบ่นอุบอิบ แต่คนข้าง ๆ กลับหัวเราะชอบใจ

 

“ดึกป่านนี้แล้วคิดว่าพ่อมึงยังจะนั่งรออยู่หรือไง”

 

“เออ ก็จริง แต่เสื้อผ้ามันก็ยังมีกลิ่นอยู่ดีไหม?”

 

“แอบเอาไปขยี้ในอ่างอาบน้ำตากสิ กูก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน” เด็กเกรียนพยายามโตเกินวัยให้คำแนะนำกันและกัน ซึ่งเท็นก็พยักหน้ารับเห็นด้วยกับความคิดนี้ “ทั้งที่สูบไม่เป็น แต่กูเสือกรู้สึกดีมาก”

 

“ทำไมวะ?” ทั้งคู่มองท้องฟ้าในกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน มันไม่มีกลุ่มดาววาววับเหมือนสมุดภาพระบายสีตอนประถมต้น บนนั้นช่างว่างเปล่านัก เหมือนกับอนาคตของเขาที่มองไม่เห็นอะไรเลย

 

“เพราะมึงอยู่ตรงนี้มั้ง”

 

“...” เท็นเห็นหน้าเพื่อนไม่ชัดนัก ที่ตรงนี้มันมืดเกินกว่าจะมองเห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มกว้างแค่ไหนตอนกำลังบอกว่าเขานั้นสำคัญ

 

“จะมีสักกี่คนที่ทำเรื่องบ้า ๆ ไปกับเราได้ทั้งที่มันก็รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรควรไม่ควร”

 

“นั่นสิ”

 

เท็นละสายตาจากคนข้าง ๆ แล้วกลับไปสนใจท้องฟ้าอีกครั้ง เด็กหนุ่มยิ้มออกมาเพียงเพราะเห็นว่าบนท้องฟ้าที่คิดว่าว่างเปล่ามีดวงจันทร์ประดับอยู่เกือบสุดขอบ มันคงอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขากลับเอาแต่มองหาความมืดแล้วปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งเคว้งคว้างจนเพิกเฉยแสงสว่างอยู่ห่างเพียงหางตา

 

“ดูนั่นสิ”

 

“อะไร?”

 

“ดวงจันทร์วันนี้เหมือนมึงเลยว่ะ” แจ็คขมวดคิ้วพร้อมหันมาสบตากับเขาระหว่างรอเฉลยคำตอบ ซึ่งคนที่มีมุกตลกฝืด ๆ อยู่ในใจก็หลุดขำพรืดทั้งที่ยังไม่ได้พูด “...หัวกลมเหมือนกันเปี๊ยบ”

 

“หัวมึงเป็นสี่เหลี่ยมหรือไงไอ้หน้าหมา?”

 

“โอ๊ย!!!!”

 

เท็นรีบยกมือขึ้นบังศีรษะตนเองหลบฝ่ามือที่เพื่อนรักเหนี่ยวมาราวกับจะสั่งสอนให้สำนึก เขายังคงหัวเราะไปกับบรรยากาศที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเรื่องพ่อแม่แยกทางกันเริ่มจางหายไปจากความคิด แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกดีเพราะมีเพื่อนสนิทอยู่ตรงนี้... ข้าง ๆ กัน

 

 

 

*

 

[Pandrift] ความในใจที่ผมอยากพูดถึง TEN10

 

ออกตัวก่อนว่าผมเป็นแฟนคลับเท็นมานาน ตั้งแต่ฝีมือยังอยู่ในระดับที่ไม่มีใครมองจนเขาพัฒนาขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้า ผมมองเห็นความพยายามของเขา ก็เลยนึกเสียดายถ้าคนฝีมือดีขนาดนั้นจะถูกบอยคอร์ตเพราะนิสัยส่วนตัว

โอเค มันอาจจะจริงที่นิสัยเขาไม่น่าคบหาจนทำให้เพื่อนร่วมทีมทนไม่ได้ มันคงมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่บางครั้งมันเป็นเพราะเท็นคนเดียวจริง ๆ เหรอครับ? เพราะล่าสุดผมรู้สึกว่ามันไม่เมคเซนส์เลยสักนิดที่ทีมใหญ่ทีมหนึ่งบีบให้เขาออกเพียงเพราะเกมนั้นไม่ได้รับชัยชนะ

หนำซ้ำสมาชิกในทีมก็ยังออกมาโพสต์แขวะอ้อม ๆ ในเฟซบุ๊ก ถึงจะไม่ได้ระบุชื่อแต่ถ้าอ่านเนื้อความและการตอบโต้ใต้คอมเมนต์ ผมว่าต่อให้เป็นเด็กอนุบาลก็คงเดาถูกว่ากำลังพูดถึงใคร การโบ้ยให้เป็นความผิดเท็นมันสมควรแล้วเหรอครับ ทั้งที่เกมนั้นสมาชิกอีกสองคนทำได้แย่กว่าเขาด้วยซ้ำ

แต่มันก็น่าจะฟังขึ้นอยู่ เพราะการปล่อยให้เท็นโดนชาวเน็ตด่ามันคงดีกับชื่อเสียงทีม อย่างน้อยคนก็หลับหูหลับตาคิดกันไปได้ว่าที่แพ้เพราะมีเท็นอยู่ ไม่ใช่เพราะฝีมือทีมด้อยลง ก็ไม่รู้สินะครับ หลายครั้งที่ผมหงุดหงิดกับสิ่งที่เท็นเป็น แต่ผมรู้สึกว่ามันมากเกินไปไหม

อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดสิครับ ไม่ใช่เอะอะมีอะไรก็ไปลงที่เขา คน ๆ หนึ่งจะต้องเป็นสนามอารมณ์ให้พวกคุณโดยไม่มีมูลเหตุแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ เพลา ๆ กันลงบ้างก็ดีนะครับ

Ancients041

 

 

ความเห็นที่ 1

แต่เขาก็ไม่เห็นหยุดเลยนี่คะ ก่อนหน้านี้ก็ไปท้าพวกพี่แจ็คแข่ง คนไม่ถูกกันควรอยู่ห่าง ๆ กันหรือเปล่าคะ แต่เขาก็เลือกไปวุ่นวายทำให้คนอื่นหัวเสียอยู่เรื่อย ขอโทษที่เห็นใจไม่ลงค่ะ

          BabiizAlice

ความเห็นที่ 4

ถ้ามองในมุมแฟนคลับ ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เรื่องฝีมือเท็นนะครับ แต่ถ้าให้ถอยออกไปหลาย ๆ ก้าวเพื่อมองภาพให้กว้าง ๆ ผมว่านิสัยเท็นก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ถ้าปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ผมคิดว่ามันคงมีสักวันที่เท็นจะเจอทีมที่เปิดใจรับเขา

Vincent

ความเห็นที่ 9

เกลียดมันครับ ตัวฉิบหายแห่งวงการเกม 55555555555555555555555555555555

สมาชิกหมายเลข 6651778

 

 

 

เหมือนทุกครั้งที่เปิดเว็บไซต์แล้วต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ชายหนุ่มเลื่อนนิ้วหัวแม่มือสไลด์จอโทรศัพท์ช้า ๆ อ่านข้ามบ้าง ตั้งใจบ้าง แต่ก็แค่ครู่เดียวก็กดล็อกหน้าจอเพราะคิดว่าควรพอกับการรับรู้ความคิดของคนอื่นที่มีต่อตนเองได้แล้ว

 

งานแต่งไม่เคยสนุกอย่างไรวันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม หลังจากปลีกตัวเข้ามานั่งเล่นมือถือในห้องน้ำอยู่สักพัก ชายหนุ่มผมเทาก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ให้ช่องสี่เหลี่ยมบนนั้นเป็นจุดยึดสายตาระหว่างที่สมองกำลังคิดว่าควรไปอยู่ส่วนไหนของโลก

 

ออกไปด้านนอกหาจุดนั่งสูบบุหรี่ระหว่างรอถ่ายรูปรวมรุ่นดีไหม ใช่ มันเข้าท่าพอสมควรเลยล่ะ พอทุกอย่างจบจะได้กลับไปนอนเล่นกับหมาแมวที่บ้านเสียที

 

เปิดประตูห้องน้ำออกไปพร้อมควานหาบุหรี่ออกมาคาบไว้ขณะขายาวก้าวไปหาพื้นที่โล่งสูดอากาศหายใจหลังจากถูกบีบคอตายในโลกโซเชียลมาเมื่อครู่ จุดนั่งอมควันคงอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก ซึ่งเขาหวังว่าจะมีคนห่วงกินหรือติดลมคุยกับเพื่อนเก่ามากกว่าจะมีใครชิงไปนั่งสูบบุหรี่ตัดหน้าก่อนแล้ว

 

จริงอยู่ที่เท็นเคยเป็นคนรักการเข้าสังคม แต่นั่นก็ก่อนที่เขาจะถูกชาวเน็ตรุมประณามจนทุกวันนี้แทบไม่เหลือที่ยืน จะบอกว่าเปลี่ยนเป็นคนรักสันโดษก็ไม่ใช่ เพราะถ้าจะพูดให้อายตัวเองหน่อยก็คงต้องบอกว่าไม่กล้าคุยกับใครเพราะกลัวถูกตอกหน้ากลับมาด้วยเรื่องแย่ ๆ ที่เคยทำมากกว่า

 

เขาไม่ได้สำนึก เอาเข้าจริงก็แค่ไม่อยากพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ทำให้ต้องถอนหายใจเพราะคำพูดใคร ‘เคยคิดจะกลับตัวเป็นคนดีบ้างไหม?’ ‘ไม่หรอก คนอย่าง TEN10 น่ะเหรอจะเลิกทำตัวเหี้ยใส่คนอื่น ไม่มีทาง’ ใช่ ที่คนพวกนั้นพูดไปก็ถูกทั้งหมด ว่าแต่... ทำไมเขาต้องเป็นคนดีล่ะ ในเมื่อคนเหล่านั้นก็มือถือสากปากถือศีล ด่าทอเขาด้วยคำหยาบสารพัดแต่ก็กล้าชี้หน้าสั่งสอนคนอื่นว่าควรเป็นคนดีให้ได้เนี่ยนะ... ถามจริง?

 

“ถ้าไม่ไหวก็ร้องออกมาเถอะ”

 

อยากพ่นควันออกแต่ก็ต้องอมไว้ในปากเพราะสะดุดกับประโยคเมื่อครู่ซึ่งเหมือนจะพูดกับเขาแต่ก็ไม่ใช่ว่ะ ตรงนั้นมีใครนั่งอยู่ เขามองไม่เห็น แต่ดูเหมือนว่าคนอยากปลีกตัวออกมาจากความน่าเบื่อหน่ายจะไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวแล้ว คู่รักเหรอ หรือว่าใคร?

 

“ให้พี่ไปหาไหม อีกครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว”

 

ผิดคาดเพราะบทสนทนานั้นไม่มีเสียงโต้ตอบ เท็นชะโงกหน้ามองหาต้นเหตุหลังกระถางต้นไม้ ก่อนจะพบว่าชายคนนั้นคือคนที่นั่งทำหน้าเหม็นเบื่ออยู่โต๊ะเดียวกันตั้งนานสองนาน

 

“จะออกไปไหน ตอนนี้มันดึกแล้ว ซอยหอเราก็เปลี่ยว แพรว ฟังพี่หน่อยได้ไหม?”

 

แพรว?

 

หมายถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก ๆ คนนั้นที่เคยได้แชมป์ RoV หรือเปล่า? คิดว่าน่าจะใช่ เพราะเห็นว่าอยู่ก๊กเดียวกัน ก็ถ้าไอ้หมอนั่นไม่ได้จีบสาวชื่อซ้ำกับน้องนุ่งอยู่น่ะนะ?

 

“เลิกเข้าไปส่องเฟซกับไอจีเขาได้แล้ว เดี๋ยว จะวางทำไม เกรงใจอะไรอีก พี่บอกแล้วไงว่าคุยได้ แพรว – เดี๋ยว ให้ตาย...”

 

จากที่คิดว่าควรมีมารยาท อยู่ ๆ ก็อยากเป็นคนส้นตีนขึ้นมาเสียอย่างนั้น เท็นก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงระเบียง มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ส่วนอีกข้างคีบบุหรี่อัดมะเร็งเข้าปอด ก่อนจะพ่นควันให้ลมพัดไปตามทิศจนคนที่นั่งหัวเสียกับโทรศัพท์ตรงนั้นมองมาด้วยแววตาไม่สบอารมณ์

 

“โทษที ไม่รู้ว่ามีคนอยู่”

 

“...”

 

“อ๊ะ ๆ จะรีบไปไหน?” เท็นถอยหลังหนึ่งก้าวขวางคนที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในงาน ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร และคงมีเพียงเขาที่ยกยิ้มอย่างพอใจที่เห็นอีกฝ่ายหัวเสียได้อีกครั้ง

 

“มีอะไร?”

 

“สักหน่อยไหม เผื่ออารมณ์จะดีขึ้นบ้าง” แจ็คลดระดับสายตามองซองบุหรี่ในมืออีกคน ก่อนจะเงยหน้าสบตากันอีกครั้ง

 

จะมาไม้ไหนอีกล่ะ?

 

อีกฝ่ายอมยิ้มชอบใจหลังจากเขาเอาบุหรี่มาคาบไว้แทนที่จะเดินชนไหล่ไปอย่างไม่ใยดี แจ็คไม่อยากหาเหตุผลที่ยังอยู่ตรงนี้ แต่ถ้าเดินหนีก็คงถูกตามวอแวประชดประชันให้หัวเสียกว่าเดิม ซึ่งเขาไม่อยากรู้สึกอย่างนั้น

 

แจ็คล้วงกระเป๋าในสูท แต่ยังไม่ทันเอาไฟแช็กออกมาบุหรี่ก็ถูกจุดให้โดยคนที่ใบหน้าไม่เคยเข้าใกล้กันขนาดนี้มานานแล้ว เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ยาวนาน ที่เขาได้ตั้งคำถามว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

 

“...”

 

“เด็กผู้หญิงก็งี้ เอาใจยาก”

 

“อย่าทำเป็นรู้มากทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย”

 

“เยือกเย็นจริง ๆ” เท็นหัวเราะในลำคอพลางเท้าศอกกับระเบียง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมปล่อยควันบุหรี่ให้ลอยไปกับสายลม “ชอบน้องเค้าสินะ?”

 

“กูต้องตอบเหรอ?”

 

“จะเบลอไปก็ได้ กูแค่หาเรื่องชวนคุยฆ่าเวลา เพราะมึงก็ไม่ได้สนุกกับงานนี้เหมือนกันนี่?”

 

“การคุยกับมึงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการนั่งอยู่ในนั้นนักหรอก”

 

“แต่มึงยังยืนอยู่ตรงนี้ นั่นคือประเด็น” เท็นยกยิ้ม ทอดสายตามองตึกสูงในกรุงเทพฯ ที่ยังคงมีรถวิ่งผ่านอยู่ตลอด “จีบเลยสิ รออะไร?”

 

“มึงไม่ใช่กูรูความรักที่กูอยากได้ความเห็น เพราะงั้นไม่ต้อง”

 

“วงการเกมมันแคบกูเลยพอได้ยินเรื่องน้องแพรวมาบ้าง ก็ถ้าเป็นคนเดียวกันกับที่คุยเมื่อกี้น่ะนะ ที่จริงอาจจะรู้เยอะกว่านี้ถ้าน้องเค้าไม่ได้อยู่ก๊กเดียวกับมึง แต่กูดันรู้จักแฟนน้องเค้าก็เลยได้ยินเรื่องฝั่งนั้นมาบ้างนิดหน่อย” เท็นขมวดคิ้วปั้นหน้ากวน “เหมือนจะเพิ่งเลิกกันแต่ฝ่ายผู้ชายดันมีคนใหม่แล้ว กูพูดถูกไหม?”

 

“...”

 

“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะแจ็ค?” เจ้าของชื่อยังคงให้ความสนใจกับบุหรี่มากกว่าจะตอบคำถามที่เขารู้ว่าไม่มีวันได้ “อยู่ใกล้กันก็เลยรู้สึกเหรอ ถ้าเพราะเหตุผลนี้มึงจะดูลูซเซอร์ยิ่งกว่าเดิมอีกนะ อย่างน้อยมึงก็ควรหาคนที่ไกลตัวหน่อย เพราะถ้าเลิกกันแล้วจะได้ไม่ต้องกล้ำกลืนทำเหมือนปกติเวลานัดกินหมูกระทะหน้าร้านเกม”

 

รู้สึกเหมือนอ้วกตีขึ้นมาถึงคอ กับความคิดด้านหนึ่งที่ตะโกนบอกให้หยุดพูดทำร้ายอีกคนได้แล้ว แต่ความคิดอีกด้านกลับบอกให้ทำต่อไป ยิ่งถูกเกลียดมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เหมือนกับทุกครั้งที่เขาไม่เคยห้ามปากตัวเองได้ มันรีบพูดออกไปไวราวกับว่าอยากปกป้องหัวใจตัวเอง

 

“ถ้าเห็นกูชอบมากจะได้ตามจีบบ้างหรือไง?”

 

“ก็ไม่แน่? – โว้ว ๆๆ”

 

บุหรี่ทั้งสองมวนร่วงลงพื้นพร้อมร่างที่ถูกผลักหลังชนกับผนัง เท็นลดระดับสายตามองมืออีกคนที่ขยำคอเสื้อเขาจนยับคามือ ก่อนจะพบกับแววตาที่คงมอบให้เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

“อย่า... แม้แต่จะคิด”

 

ในนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ใช่... เท็นคงไม่ได้คิดไปเอง

 

“ขอเวลากูเดี๋ยว... ที่มึงเป็นแบบนี้เพราะโมโหที่จีบสาวไม่ติดหรือเพราะเป็นเพราะเห็นกูมางานนี้วะเนี่ย?” เท็นยังคงแสร้งทำหน้าทะเล้น ปั่นประสาทให้โทสะคนตรงหน้าปะทุขึ้นเรื่อย ๆ

 

“ทำไม คนอย่างมึงเคยสนด้วยเหรอว่ากูจะรู้สึกยังไงบ้าง?”

 

ความสนุกดิ่งลงไปอยู่ใต้พื้นเพียงเพราะอีกฝ่ายเลือกพูดความในใจออกมามากกว่าจะตอกกลับอย่างอ้อมค้อมด้วยคำพูดที่ทำให้โมโหทีหลัง อาจจะสักวินาทีหรือมากกว่านั้น ที่เท็นเห็นว่าแจ็คมีท่าทีว่าอยากง้างมือขึ้นมาต่อยแต่ก็ทำได้แค่กัดฟันเอาไว้ 

 

“เพราะคิดมาตลอดไงกูถึงได้เป็นแบบนี้”

 

“งั้นเหรอ?” แจ็คแค่นหัวเราะกับคำตอบที่เอาแต่เข้าข้างตัวเองโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ชายหนุ่มสองคนยังคงสบตากันเพื่อสาดเทความรู้สึกของตัวเองใส่อีกฝ่าย กระทั่งเท็นเป็นฝ่ายปัดมืออดีตเพื่อนสนิทออกจากคอเสื้อตนเอง

 

“รู้ไหมว่ากูได้คำตอบให้คำถามเมื่อตอนนั้นแล้ว” การเป็นผู้ใหญ่ช่างน่ากลัวนัก เด็กมอปลายสองคนนั้นไม่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องมาเผชิญหน้ากันแบบนี้ ด้วยการพูดอย่างไรก็ได้เพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บใจมากที่สุด

 

ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษามิตรภาพที่ดีเอาไว้

 

“ว่าโตขึ้นเราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม?”

 

“...”

 

“มึงคงสงสัยว่าทำไมกูเพิ่งนึกขึ้นได้ เปล่าเลย ความจริงเรื่องนั้นวนเวียนอยู่ในหัวกูตลอด จนโลกเหวี่ยงให้มึงมายืนอยู่ตรงนี้ ข้างหน้ากู”

 

 

‘อาจเป็นเพราะมึงอยู่ตรงนี้มั้ง?’

 

 

“ถ้าเด็กสองคนนั้นมาเห็นกูกับมึงตอนนี้แม่งคงขำจนสำลักน้ำลาย”

 

เท็นยังคงพูดเรื่องลวงโลกที่มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงแม้ว่าเด็กมอปลายสองคนนั้นจะเปิดประตูมิติข้ามมาเห็นตัวเขาและแจ็คในอนาคตได้ บางทีเขาอาจจะหยุดถ้าอีกฝ่ายซัดหมัดมาสักครั้ง แต่แจ็คก็ยังเหมือนเดิม ที่เอาแต่ยืนมองนิ่ง ๆ และให้เพื่อนเก่าคนนี้คาดเดาเอาเองว่ากำลังถูกมองในแง่ลบไปสักเท่าไหร่

 

“เพราะทุกวันนี้ว่าที่เพื่อนเจ้าบ่าวงี่เง่าที่คุยกันไว้แม่งเป็นใครสักคนที่หน้ายังไม่อยากจะมอง”

 

สถานะของทั้งคู่ไม่มีคำว่าเพื่อนหลงเหลืออยู่แล้ว แต่พวกเขากำลังรู้สึกว่าลึก ๆ มันมีความเจ็บปวดถูกฝังอยู่ แต่เพราะทิฐิที่บังตา จึงทำให้ต่างคนต่างทำตัวร้ายกาจใส่อีกฝ่ายจนกว่าจะรู้สึกเจ็บไปเอง

 

ทำทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาเลวแค่ไหน ที่ถูกเกลียดก็สมควรแล้ว เพราะการยิ้มแหย ๆ พร้อมกล่าวทักทายเหมือนคนรู้สึกผิดมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ เท็นจะไม่มีวันพาตัวเองไปอยู่จุดที่ถูกสมเพชเวทนาเด็ดขาด

 

เขาจึงเลือกหันหลังให้ดวงจันทร์ที่ครั้งหนึ่งเคยส่องสว่างในชีวิต มันก็แค่ตอนนี้เท่านั้น เพราะถ้าลืมตาตื่นในตอนเช้า ดวงจันทร์ที่มีอยู่ก็ถูกบดบังด้วยแสงแดดอยู่ดี พรุ่งนี้แจ็คก็จะหายไป เหมือนทุกครั้งที่โลกเหวี่ยงให้ทั้งคู่มาเจอกัน

 

หรือแม้แต่บางครั้งที่เขาพยายามเอาตัวเองเข้าไปวนเวียนอยู่ในชีวิตอีกฝ่าย

 

“มึงไม่เคยเปลี่ยนไปเลย”

 

“...”

 

เท็นหยุดยืนอยู่กับที่โดยไม่หันไปมองเจ้าของคำพูด ซึ่งถ้าแจ็คคิดว่าประโยคนี้มันเจ็บแล้ว ก็ขอบอกไว้เลยว่าธีร์ทำได้ดีกว่านัก

 

“ขอบใจที่ยังจำได้ว่ากูเคยเป็นคนแบบไหน”

 

 

 

*

 

 

 

“ว่าแต่... มึงยังไม่ได้ตอบคำถามกูเลยนี่หว่า”

 

“เรื่องไหนวะ?” หลังจากมองนาฬิกาข้อมือจนรู้ว่าควรกลับบ้านได้แล้ว เท็นก็ยิงคำถามมาอีกครั้ง

 

“เรื่องที่กูถามว่ามึงจะมีแฟนไหม?”

 

“ทำไม มึงไม่อยากให้กูมีหรือไง?”

 

จากสีหน้าของเท็นตอนนี้ แจ็คคิดว่าเพื่อนคงไม่อยากให้เขามีใคร อาจเป็นเพราะกลัวถูกแย่งความสำคัญไปหรืออะไรก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องที่เขาอยากให้อีกฝ่ายเปิดใจและยอมรับให้ได้ว่าทุกคนต้องมีชีวิตของตัวเอง

 

ไม่ใช่ว่าเขาไม่แคร์ แต่เท็นจะอยู่กับเขาตลอดเวลาเพียงเพราะกลัวถูกทำร้ายไม่ได้ โลกนี้อาจจะน่ากลัว แต่แจ็คเชื่อว่าทั้งร้อยคนคงไม่มีใครพร้อมใจกันรุมกระทืบเพื่อนเขาแน่ อย่างน้อยมันต้องมีสักคนที่ยิ้มรับและพร้อมเป็นเพื่อนกับเท็นได้

 

อีกอย่าง มันเป็นเรื่องปกติที่วัยรุ่นจะเริ่มมีความสัมพันธ์อื่นนอกจากมิตรภาพ การมีความรักสักครั้งก็เป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตดูมีสีสันขึ้น ดังนั้นแจ็คจึงอยากให้เท็นลองมีความรักดูสักครั้ง เผื่อจะได้มองเห็นความแตกต่างว่าความรักในโลกใบนี้มีหลายรูปแบบ ไม่ใช่มีแค่ครอบครัวกับเพื่อนเท่านั้น

 

“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น” เท็นเงียบไปเหมือนกำลังทบทวนกับตนเองว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดอะไร “กูรู้ว่าสักวันไม่กูก็มึง ใครสักคนต้องมีแฟนก่อน เอางี้ กูเปลี่ยนคำถาม”

 

“เช่น?” แจ็คขมวดคิ้ว ยิ้มเล็ก ๆ กับสีหน้าโง่ ๆ ของเพื่อนสนิท

 

“สมมติว่ามึงติดเกาะ แล้วเลือกได้แค่อย่างเดียว มึงจะเอาแฟนไปอยู่ด้วยกันไหม?”

 

“คำถามไก่ ๆ”

 

ไอ้หัวสกินเฮดหัวเราะพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ ขณะที่เท็นได้แต่ถอนหายใจยาวกับคำถามตนเอง ก็แค่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับเขามากแค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าถามไปตรง ๆ เพราะกลัวถูกมองว่าเกย์ ซึ่งความจริงเท็นก็แค่รู้สึกว่ามันดีพอแล้วกับการมีกันและกัน ไม่เห็นจำเป็นต้องมีแฟนเข้ามาพ่วงด้วยเลย

 

“ไม่อยากให้กูมีแฟนเพราะกลัวเหงาก็บอก”

 

“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงวะ”

 

“เรื่องอะไรกูจะเอาเค้าไปด้วย เอามึงไปยังจะคุ้มกว่า อย่างน้อยถ้าอยากเลี้ยงหมาก็เกาคางแทนได้”

 

“อ้าว?” เขาขมวดคิ้วสงสัย ขณะที่ใจมันกำลังพองโตเพราะสุดท้ายก็ได้รับความสำคัญจากคน ๆ เดิมอยู่ดี “พ่อมึงพาเลี้ยงหมาตอนติดเกาะเหรอ ก็บอกว่าเอาไปได้แค่อย่างเดียว อีกอย่าง เลี้ยงตัวเองก็แทบจะไม่รอดอยู่แล้วยังจะเลี้ยงหมา”

 

“ก็มึงหน้าเหมือนหมา กูก็คิดไปดิว่าเป็นหมา”

 

“มึงก็หมา แถมโดนไถขี้เรื้อนจนขนเกรียนด้วย” พูดจบก็ขยี้ผมสกินเฮดจนศีรษะโคลง ไอ้คนถูกแกล้งจึงถลึงตามองอย่างเอาเรื่อง

 

“แล้วมึงจะเอาใครไปด้วย ตอบดี ๆ นะ” แจ็คล็อกคอเพื่อนสนิทเข้ามาพร้อมออกแรงเล็กน้อยพอให้อีกฝ่ายส่งเสียงโอดครวญเล่น ๆ

 

เท็นก็ยังคงเป็นเท็น ที่ไม่มีความมั่นใจในอะไรเลยแม้แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อมัน

 

“เอามึงไปด้วย ไว้ลูบหัวเล่นตอนรอคนมาช่วย โอ๊ย! หายใจไม่ออก! แจ็ค! 55555555”

 

“หน้าหมาเอ๊ย”

 

เสียงหัวเราะกับเรื่องจิตนาการช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน เด็กหนุ่มสองคนเล่นต่อสู้กันเหมือนเด็ก ๆ ผลัดกันงัดคอก่อนจะตบแขนซ้ำ ๆ เหมือนนักมวยปล้ำตอนบอกให้รู้ว่ากำลังยอมแพ้

 

ทั้งคู่ทิ้งบุหรี่มวนที่สองลงกับผืนหญ้าพร้อมเอารองเท้าขยี้ดับไฟ ก่อนแจ็คจะเอากระดาษในกระเป๋ามาห่อเศษบุหรี่ไว้เพื่อเตรียมเอาไปทิ้ง คนมองเห็นอย่างนั้นก็อดยิ้มขำไม่ได้ นึกจะเกเรแต่ก็ยังเป็นคนดีมีวินัยเก็บซากขยะไปทิ้งให้ด้วย 

 

เท็นลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือลงไป ซึ่งเพื่อนสนิทก็ยิ้มรับก่อนจะคว้ามือเขาเอาไว้พร้อมดึงตนเองให้ลุกขึ้น ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เด็กหนุ่มไม่อยากให้เพื่อนต้องทนอยู่ตรงนี้เพื่อเขาทั้ง ๆ ที่ในใจก็คงอยากกลับไปเปิดคอมเล่นเกมที่บ้านกับเพื่อนคนอื่น

 

“บีทีเอสยังไม่หมด เดี๋ยวกูเดินไปส่งมึงแล้วค่อยขึ้นแท็กซี่กลับ”

 

“เอาดิ” แจ็คไม่ได้ปฏิเสธเพราะเข้าใจเจตนาของเพื่อนสนิทเป็นอย่างดี ถ้าเท็นสบายใจอย่างนี้ การเดินขึ้นบันไดไปทีละขั้นพร้อมคุยเรื่องโลกแตกก่อนจะแยกกันตรงทางเข้าสถานีก็คงไม่เสียหายอะไร

 

เด็กมอปลายสองคนเหวี่ยงกระเป๋าเป้ไปด้านหลัง กอดคอกันและกันเดินไปข้างหน้าพร้อมตกลงกันว่าเสาร์นี้จะดูหนังเรื่องอะไร แจ็คชอบร้านกล้วยกล้วย เท็นจึงอยากไปก่อนเวลาสักหน่อยเพื่อที่จะได้นั่งอยู่ตรงนั้นนาน ๆ 

 

เขาแค่อยากผลักไสความกลัวจากสิ่งที่เรียกว่าชีวิตออกไปให้ไกลตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว การเรียนที่การแข่งขันเริ่มสูงขึ้น หรืออะไรก็ตามที่จะเข้ามาสั่นคลอนมิตรภาพที่อยากโอบกอดไว้

 

แต่เด็กหนุ่มอายุสิบหกไม่เคยรู้ว่าเขาจะเป็นคนทำให้ความกลัวเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง

 

“ตอนกลางวันดวงจันทร์จะหายไปไหมวะแจ็ค?”

 

เจ้าของชื่อนิ่งไประหว่างใช้ความคิด ก่อนจะหันไปมองคนที่กอดคอเขาซึ่งเท็นคงต้องการคำตอบบางอย่างมากกว่าเรื่องทางวิทยาศาสตร์

 

“เพราะแสงสว่างจากดวงอาทิตย์คงทำให้มันไม่มีตัวตน”

 

แจ็คอมยิ้มกับคนขี้กังวล จึงยีผมเบา ๆ แล้วเงยหน้ามองดวงจันทร์บนนั้นที่มันยังคงสว่างท่ามกลางความมืด

 

“มองไม่เห็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริงไม่ใช่เหรอวะ?”

 

 

.

.

 

 

ตอนนั้นเท็นยิ้มกว้างมากแค่ไหน แจ็คจำได้ดี

 

แต่เท็นคงไม่เคยรู้ว่าแม้จะหันหลังให้สักแค่ไหน ดวงจันทร์บนนั้นก็ยังคงส่องแสงสว่างต่อไป ราวกับว่ามันกำลังรอให้เด็กคนนั้นหันกลับมาเพื่อยอมรับว่ามันมีอยู่จริง แม้หลายครั้งจะถูกกลบโดยแสงแดดยามเช้าจากดวงอาทิตย์ หรือถูกบดบังโดยก้อนเมฆที่สาดเทน้ำตาลงมาเป็นฝน

 

ดวงจันทร์ดวงเดิมยังคงอยู่ตรงนั้น ขณะที่เด็กอายุสิบหกหันหลังเดินหนีมันไปไกลทุกที

 

 

TBC

 

 

คนอ่านบอก อีกนิดนึงกุไปเคลียร์กะนาซ่าละ

 

 

 
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-08-2018 19:46:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-08-2018 19:53:00
ยังไงคะ ต่างฝ่ายต่างแคร์ แล้วจะร้ายใส่กันทำไม
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 31-08-2018 20:09:32
 :เฮ้อ:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 31-08-2018 20:27:18
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 31-08-2018 20:56:32
ยิ่งอ่านยิ่งรักพี่แจ๊ค
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 31-08-2018 21:33:35
โดนตกยาวๆเลยค่ะ สามเรื่องแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 31-08-2018 22:45:56
อึดอัดจ๊นนนนนนนนน​ เท็นตอนเด็กคือรักแจ็คมากแบบอยากให้แจ็คมีแค่ตัวเองแจ็คเหมือนโลกทั้งใบ
แต่มันทำแบบนั้นไม่ได้​ไง​ ตอนแจ็คมีแฟนเท็นเป็นไงบ้างนะ​ แต่ก็คงไม่เจ็บพี่แจ็คที่โดนเพื่อนรักหักหลัวหรอก​ เห้อม
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 01-09-2018 07:10:51
เริ่มสงสารเจ้าเท็น สงสารพี่แจ็คด้วย หน่วงง่ะ แงงงวววว :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 02-09-2018 00:19:32
คำเดียวเลยว่า หน่วง
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 2 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (31/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-09-2018 20:16:03
อึมครึม
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 09-09-2018 18:01:30

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 03
น้ำท่วมปาก



♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: วันนี้เป็นไงมั่ง?
J พูดว่า: เหนื่อย แต่สนุกนะ ซ้อมเพลงใหม่ได้ครึ่งเพลงแล้ว
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: *w*
J พูดว่า: อะไร มีทำตาแป๋ว
J พูดว่า: ทำการบ้านยัง?
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: ยังค่ะ
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: เจ
J พูดว่า: ว่า...?
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: คิดถึงนะคะ
J พูดว่า: หือ วันนี้อารมณ์ไหนอยู่ ๆ มาบอกคิดถึง โดนแม่ดุมาเหรอ?
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: เปล่าค่ะ แค่อยากบอกเฉย ๆ
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: เบื่อไหมคะ ขอโทษนะ
J พูดว่า: ไม่เบื่อค่ะ คิดถึงบีเหมือนกัน


มองแชต MSN พลางอมยิ้มกับข้อความออดอ้อนน่ารักของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันในอินเทอร์เน็ตตั้งแต่มอสาม ทั้งคู่คุยกันโดยไม่บอกชื่อและไม่เคยหน้าตาอีกฝ่าย เพียงเพราะข้ออ้างว่ามันคงตื่นเต้นดีถ้าจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฝั่งตรงข้ามเลย 

และในเมื่อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แจ็คจึงแทนตัวว่า ‘เจ’ และเธอคนนั้นก็คือ ‘บี’

แต่ผ่านไปหนึ่งปีความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้าก็พัฒนาเป็นเพื่อนที่คุยกันได้แทบทุกเรื่อง กระทั่งเดือนก่อนที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง หลังจากแจ็คไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวจึงไม่ได้ออนเอ็มคุยกัน ตอนนั้นเด็กสองคนถึงรู้ว่าความคิดถึงมันมากเกินกว่าเพื่อน

แม้จะคุยกันผ่านตัวอักษร แต่แจ็คกลับรู้สึกได้ถึงความประหม่า เขากลัวและเธอเองก็เช่นกัน กับความสัมพันธ์ที่สนิทสนมแค่ในแชตซึ่งในชีวิตจริงอีกฝ่ายเป็นใครนั่นคือสิ่งที่ทำให้เด็กสองคนกลัวและไม่แน่ใจกับความรู้สึกที่เป็นอยู่


‘มันอาจจะดูฉาบฉวยเพราะเรายังไม่เคยเห็นหน้ากันเลย แต่เราชอบบีนะ’
‘...’
‘ชอบแบบที่เราไม่ได้คาดหวังเลยว่าตัวจริงบีจะเป็นแบบไหน เราอยากคุยกันทุกวันแบบนี้ แล้วก็อยากให้บีมีความสุขทุกวัน ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าทำให้อึดอัดไหม แต่เราก็ทนเก็บเอาไว้ต่อไปไม่ไหวแล้ว’
‘...บีก็’
‘...’
‘ชอบเจเหมือนกันค่ะ ชอบมากเลยด้วย’



ใช่ว่าที่โรงเรียนจะไม่มีผู้หญิงน่ารัก กลับกันแล้วยังมีมากพอจนไอ้ธีร์ไล่จีบทีละคน แจ็คเคยลองคุยกับเพื่อนในห้องแล้วแต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่ ไม่ว่าจะคุยกับใครในหัวของเขาก็มีแต่เรื่องของบีเต็มไปหมด

ตอนที่เห็นเธอตอบมาว่าคิดเหมือนกัน เด็กที่เพิ่งขึ้นมอห้าคนนั้นก็กำหมัดแน่นแล้วลุกกระโดดโลดเต้นอยู่ในห้องราวกับคนโง่

และแม้ว่าจะรู้สึกเหมือนกันแล้วแต่เขากับบีก็ยังไม่มีความคืบหน้าทางความสัมพันธ์ เพราะเธออ้างว่าตัวจริงไม่สวยจึงไม่กล้ามาเจอกัน บีขอเวลาอีกสามเดือนเพื่อดูแลตัวเองให้ดีขึ้น แจ็คยิ้มขำกับข้อความนั้นแล้วตอบไปว่า...


‘ต่อให้บีอ้วนเราก็รับได้ การเป็นผู้หญิงมีเนื้อมีหนังไม่ได้ทำให้ความน่ารักของบีลดลงหรอกนะ’


แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังกังวล ซึ่งแจ็คก็ไม่ได้รบเร้าอะไรอีกเพราะอยากให้อีกฝ่ายสบายใจ จึงทำได้แค่เปิดปฏิทินรอเวลาเพื่อที่จะได้ไปเจอกันครั้งแรก


♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: เดี๋ยวจะไปทำการบ้านแล้ว เจจะเล่นเกมต่อใช่ไหม อย่านอนดึกมากนะคะ
J พูดว่า: โอเคค่ะ เจอกันในฝันนะคะ
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: ._.
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: เค้ารักเจนะคะ
J พูดว่า: รักเหมือนกันค่ะ
J พูดว่า: จุ๊บ ๆ นะหมู
♥ —(••÷[ ]÷••)—  B  —(••÷[ ]÷••)— ♥ พูดว่า: โอ๊ย เค้าลดไปได้ตั้งสองโลแล้วนะ TwT
J พูดว่า: 5555555555555555
J พูดว่า: ไปนอนเลย


มองอีโมจิสายหวานที่อีกคนส่งมาก่อนกดออฟไลน์แล้วก็ถอนหายใจกับความสุขที่แทบมันอัดแน่นอยู่ในอก ทุกอย่างอาจจะเนิบนาบ แต่แจ็คก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มคลั่งรักชนิดว่าทุกอย่างต้องวาบหวามรีบเร่งให้จบลงกับเตียง เขาชอบแบบนี้ ค่อยเป็นค่อยไป ให้กำลังใจกันและกัน หวานบ้าง กวนบ้าง

ระหว่างรอพี่ตั้บกับไอ้ธีร์เข้าเกม แจ็คก็คงมีเวลามากพอที่จะเพ้อพกไปถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เขาไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติกนัก แต่สำหรับผู้หญิงนิสัยน่ารัก ๆ อย่างบีก็ควรได้ดอกกุหลาบสักช่อกับเดทครั้งแรกถูกไหม?

ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อน แจ็คซุ่มเงียบมาตลอดเพราะกลัวคนรอบข้างไม่เข้าใจว่าความรักผ่านทางอินเทอร์เน็ตมันจะดีเหมือนคนเจอกันในชีวิตจริงอย่างไร ดังนั้นเขาจึงอยากรอเวลาอีกสักหน่อย หลังจากได้เจอบีแล้วเขาสัญญาว่าจะพาเธอไปรายงานตัวกับไอ้เท็น ไอ้ธีร์ พี่ตั้บให้ได้


TENZA ¹⁰ พูดว่า:
มึง กูเล่นตัวนี้ดีปะวะ?


มองป๊อปอัพที่เด้งขึ้นมาจากด้านขวาล่างของจอแล้วก็เปิดดูข้อความของเพื่อนสนิทที่ปกติไม่เคยนอนเวลานี้ แต่พอเริ่มติดเกมตามเขาไอ้เท็นก็เริ่มยาวจนถึงเที่ยงคืน-ตีหนึ่ง


J พูดว่า: ก็ดีนะ แต่กูอยากให้มึงลองเล่นตัวอื่นไปก่อนเพราะถ้าลองเล่นแครี่เลยมันอาจจะยากตรงที่มึงต้องตั้งหน้าตั้งตาฟาร์มหาเงินอย่างเดียว ไม่ค่อยเห็นจังหวะปะทะของทีมตัวเองกับฝั่งตรงข้าม
J พูดว่า: ลองเล่นพวกที่ไม่ต้องฟาร์มแต่เก่งได้ด้วยสกิลอะ เอาพอให้จำได้ว่าฮีโร่ตัวนี้มีสกิลอะไรบ้าง ใครแพ้ทางไหน ช่องทางการหนีเป็นยังไง พอถึงตอนนั้นมึงค่อยลองเล่นแครี่ ดีไหม?
TENZA ¹⁰ พูดว่า: จัดไป วันนี้กูฆ่าได้สามตัวเลยนะ
J พูดว่า: แล้วตายไป...?
TENZA ¹⁰ พูดว่า: 10 สมชื่อเลยสัสเอ๊ย
TENZA ¹⁰ พูดว่า: 555555555555555555555555555
J พูดว่า: มึงยังอยู่ในเกมเปล่า?
TENZA ¹⁰ พูดว่า: อยู่ดิ จบเกมเมื่อกี้กูก็ทักมึงเลย
J พูดว่า: งั้นจอยมา เดี๋ยวกูครีห้อง
TENZA ¹⁰ พูดว่า: เดี๋ยว ๆ ยังไงนะ?
TENZA ¹⁰ พูดว่า: จะให้กูเล่นด้วยเหรอ?
J พูดว่า: เออดิ มีเพื่อนอยู่ตรงนี้ทั้งคนมึงยังจะไปเล่นกับใครอีก?
TENZA ¹⁰ พูดว่า: เห้ยไม่เอาอะ กูกาก เดี๋ยวพาทีมแพ้
TENZA ¹⁰ พูดว่า: พวกไอ้เชี่ยโป้ยิ่งขี้หัวร้อนอยู่ เล่นกับมันครั้งเดียวกูก็เข็ดละ


แจ็คกับเพื่อนเริ่มฟอร์มทีม DotA 1 ตั้งแต่มอสี่เทอมสอง โดยมีธีร์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมโดดเด่นเพราะฝีมือการเล่นที่สังคม Battle.Net กับ Thaicybergames ต่างก็รู้จักมัน และเขาพอจะรู้จักคนที่ชอบเล่นเกมอยู่บ้าง จึงไปทาบทามเพื่อนห้องอื่นมาเข้าร่วม ซึ่งทุกคนตกลงกันว่าอยากฝึกให้เข้าขากันก่อนที่คิดจะลงทัวร์นาเมนท์ และแน่นอนว่าตอนนี้ยังเข้ากันแทบไม่ได้เลย

คนหนึ่งเบื่อการเล่นซัพพอร์ทเพราะอ้างว่าไม่ได้ฆ่าเลย ส่วนไอ้ธีร์ก็ชอบไล่ฆ่าจนตัวตาย สารพัดความไม่รู้หน้าที่ตัวเอง ไอ้โป้ก็ขี้หัวร้อนเสียยิ่งกว่าอะไร โดนตุ๋ยทีโวยวาย บางทีก็เผลอตะคอกอัดไมค์ซึ่งบรรยากาศก็ผ่อนคลายลงได้เพราะการห้ามทัพผ่านคำพูดตลก ๆ ของไอ้ธีร์

ไม่มีใครอยากเล่นเกมกับคนที่พร้อมจะโทษเพื่อนตลอดเวลา ดังนั้นไอ้เท็นจึงเฟดตัวไปฝึกเล่นคนเดียวและอ้างว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ถึงจะมาขอเล่นด้วย 


J พูดว่า:ช่วงนี้ติดเกมหนักกว่ากูอีกนะมึงน่ะ
TENZA ¹⁰ พูดว่า: แล้วใครลากกูเข้าวงจรชีวิตแบบนี้ล่ะ ไอ้ห่า นอนวันละสามชั่วโมงมากี่วันละ?
J พูดว่า: สามชั่วโมงนี่นับตอนแอบหลับในห้องเรียนยังวะ?
TENZA ¹⁰ พูดว่า: ยังดิ
J พูดว่า: 55555555555
J พูดว่า: รีบเข้าเกมไว ๆ เดี๋ยวพี่พาไปกินหมู
TENZA ¹⁰ พูดว่า: เอาจริงเหรอมึง กูกดดันนะ กูกากมากอะ
J พูดว่า: แล้วไง กากก็เก่งได้ เดี๋ยวกูช่วย ถ้าเล่นด้วยกันทุกวันสักอาทิตย์นึงมึงน่าจะจับทางได้มากขึ้นแล้ว
TENZA ¹⁰ พูดว่า: ถึงพวกมึงจะเล่นขำ ๆ ก็เหอะ แต่คนอื่นจะไม่ว่าเหรอวะ?
J พูดว่า: ไม่ว่าหรอก ทุกคนเป็นเพื่อนมึง แล้วมึงเป็นเพื่อนกูด้วย
J พูดว่า: และนั่นหมายความว่าเราคือทีมเดียวกัน เข้าใจไหม?




*





“ทีมเหี้ยไร?!!!!”

“หลวงพี่มึง!” แหลมเลิ่กลั่กยกมือปรามกลางอากาศ หันซ้ายขวาดูว่ามีพระสงฆ์หรือสีกาเดินผ่านกุฏินี้หรือไม่ แต่โชคดีว่าละแวกนี้ไม่มีใคร การหลุดคำผรุสวาจาของธีร์เกมเมอร์ในคราบผ้าเหลืองจึงรอดสายตาผู้คนได้แต่น่าจะไม่พ้นบาปกรรม

“หายใจเข้าลึก ๆ สิพระธีร์ ยุบหนอ พองหนอ” หลวงพี่หน้าตาใจดีเดินออกมาประสานมืออย่างสุภาพ สมาชิกทุกคนในขี้ซุยบราเทอร์จึงยกมือไหว้พร้อมสาธุปิดท้าย ซึ่งวันนี้ขาดแค่ไอ้โซ่ น้องมันอ้างว่าไม่อยากมาเพราะกลัวพระธีร์จะตัดทางโลกไม่ได้

หัวคนสิยุบ บวกหนอ ไฝว้หนอแล้วตอนนี้

“อย่าหยาบคายได้ไหมวะพระ หลานนั่งอยู่ตรงนี้” หันไปมองเด็กบนตักพี่ตั้บแล้วก็รู้สึกผิด ก้อนตัวน้อยดูดจุกนมทำตาแป๋วใส่เหมือนอยากถามว่า ‘หลวงอาจะเป็นตัวอย่างให้หนูทั้งอย่างนี้จริง ๆ เหรอค้า?’

“โอเค เอาใหม่ ไหนพูดอีกทีซิเมื่อกี้พระได้ยินไม่ชัด?” คนบวชทดแทนคุณพ่อแม่พยายามหายใจเข้าลึก ๆ แล้ว แต่เรื่องที่ได้ฟังจากปากเพื่อนร่วมทีมก็ทำเอาหัวร้อนปุด ๆ เหลือเกิน

“...” พอจะคุยกันต่อทุกคนก็นิ่งไป ก่อนจะพร้อมใจมองไปทางหลวงพี่ร่วมกุฏิซึ่งยืนยิ้มอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้ และคนที่รู้ว่าเป็นส่วนเกินจึงเดินออกไปเงียบ ๆ อย่างสำรวม

“ทางผู้ใหญ่ติดต่อกูมาว่าอยากให้ทีมเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในงานแข่ง DotA การกุศลด้วย ซึ่งตอนนี้ทีมเรามันยังไม่สมประกอบเพราะขาดมึง – พระธีร์”

“การกุศลไรเยอะแยะ เข้าวัดหยอดตู้บริจาคไหมยังไง?” แหลมเข้าไปนวดไหล่ให้หลวงพี่อย่างขะมักเขม้น ถ้าใส่ฟันยางให้คือรู้เลยว่าจะไปไหนต่อ

“กูพยายามปฏิเสธไปแบบรักษาน้ำใจที่สุดแล้วเพราะทีมเราก็ไม่ได้เล่นเกมนี้กันเป็นหลัก แต่กูไปรู้เบื้องหลังบางอย่างมาว่าผู้ใหญ่แม่งอยากเห็นภาพกีฬามัน ๆ ก็เลยยังรบเร้าขอให้ทีมเราเข้าร่วมด้วยถึงมึงจะบวชอยู่ก็ตาม”

แจ็คเอาหลานมาอุ้มเองเพราะไม่อยากให้เด็กต้องแปดเปื้อนกับความบาปที่สองคนนี้กำลังสร้างขึ้นทางคำพูด

“เอาง่าย ๆ ทางนั้นจะยัดพี่เท็นใส่แทนหลวงมึงแล้วอ้างว่าแค่แข่งการกุศลนะ แต่จริง ๆ คืออยากขายดราม่าให้คนดูมาเสพเยอะ ๆ ว่าทีมขี้ซุยจะเป็นไงถ้าได้สมาชิกเก่าที่เคยหักหลังมาเข้าทีม แซ่บแสบดากลืม”

แหลมจับศีรษะตนเองหลังจากถูกพี่แจ็คผลักเป็นการเตือนว่าไม่ควรหยาบคายกับพระธีร์ ซึ่งก็เข้าใจซึมเศร้าแมน คือถ้าจะมีคนบาปเพราะหยาบกับพระก็ควรยกให้พี่ตั้บคนเดียว เพราะรายนี้ทำมาหมดแล้วตั้งแต่ปล้นโจรยันมีเรื่องกับถังขยะตอนเมาแล้วเดินชน

“แต่ปฏิเสธไปแล้วใช่ไหม?” คนหัวล้านคิ้วโล้นถลึงตายิ้มเหมือนหลุดออกมาจากหนังผี ถ้ามีเดอะนันก็ต้องมีเดอะธีร์แล้วไหมอะนาทีนี้ แต่พี่เขามาในคราบผ้าเหลือง

“มาถามพระก่อน”

“งั้นก็คงรู้คำตอบแล้ว”

“ที่จริงกูตกลงไปแล้ว – เชี้ยยยยยยยยยย!!!” แจ็คกับหลานตัวน้อยถึงกับผงะทันทีที่เห็นว่าหลวงพี่พุ่งเข้าชาร์จพี่ใหญ่จนคว่ำลงไปนอนกับพื้น

“พี่ตั้บมึง!!!!!!!!!!!!!!!”

“พระธีร์!!! มึงต้องหายใจเข้าลึก ๆ – แค่ก!!! -- กูปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ผู้ใหญ่กดดันกูมาก ไม่เป็นผู้จัดการทีมแบบกูมึงไม่เข้า – ใจ – ค่อก!!!”

“เดี๋ยวกูช่วยมึงเองพี่ตั้บ!!!!!!!!!”

ชายร่างท้วมถูกเขย่าคอจนหัวสั่นว่าอุจาดตาแล้ว แต่พอมีไอ้แหลมกระโดดเข้าไปแจมเหมือนลิงเกาะหลังแม่อีกคนก็ยิ่งไปกันใหญ่  แจ็คเอามือปิดตาหลานไว้เพื่อไม่ให้เห็นความอุบาทว์ตรงหน้า ก่อนจะนึกไปถึงเรื่องราวที่ไม่รู้ว่าไอ้เท็นรู้ตัวหรือยัง

ว่ามันจะต้องมาอยู่ทีมเดียวกับเขาในการแข่งงานกุศลครั้งนี้





*





“ผมเข้าใจความหวังดีของพี่นะครับ แต่ถ้าไม่มีทีมให้ลงจริง ๆ ผมไม่แข่งก็ได้ไง เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลย – อ่า... เรื่องนั้น... ครับ ผมรู้ แต่พี่ ผมกับทีมนั้นอยู่ในสถานะแบบไหนก็รู้ใช่ไหม ขืนผม – อะไรนะ พวกมันตกลง? ไม่จริงหรอก พี่ต้องล้อผมเล่นแน่ ๆ”

ชายหนุ่มผมเทาดีดตัวจากโซฟาอย่างตกใจกับเรื่องที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น เขาน่าจะหูฝาดไปหรือไม่ก็คนปลายสายรับสารมาผิด ๆ ถึงได้บอกว่าทีมขี้ซุยบราเทอร์ยอมตกลงรับเขาเข้าทีมแข่งงานการกุศล

ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ยังคงเล่นไปเรื่อย ๆ แต่เท็นกลับรู้สึกว่าห้องนี้มันเงียบจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจตนเอง เรื่องนี้มันไม่ใหญ่โตเกินไปหน่อยหรือไง จะให้เขาไปอยู่ทีมไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ขี้ซุยบราเทอร์หรือเปล่า?

( นะเท็น ถือว่าเห็นแก่พี่ )

“แต่ว่า --”

( พี่ก็โดนกระแสคนดูกดดันมาเหมือนกัน เอาเป็นว่าเล่นขำ ๆ ไม่ต้องซีเรียสได้ไหม ถ้าไม่อยากทนนาน ๆ ก็แค่เล่นให้ตกรอบตั้งแต่คู่แรก แต่เท็นจะยอมให้เป็นแบบนั้นเหรอ? )

อีกฝ่ายกำลังท้าทาย เขารู้ได้อย่างง่าย ๆ ว่าใคร ๆ ก็อยากเห็นความสนุกภายใต้ความแตกแย้ง ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ จะตอบตกลงก็ไม่อยาก แต่ถ้าปฏิเสธไปก็เกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้จักกันมานาน

“พี่แน่ใจเหรอว่าพวกมันยอมให้ผมเข้าทีมด้วย พวกมันเกลียดผมยิ่งกว่าอะไรดี”

( ยอมสิ ไม่เชื่อโทรถามตุ้บตั้บได้ )

“ไม่ดีกว่าครับ คุยแค่วันแข่งก็เกินพอแล้ว” เขาถอนหายใจพลางลดระดับสายตามองหมาโกลเด้นตัวใหญ่ที่ปีนโซฟาขึ้นมานอนพาดคอกับตักเขาอย่างออดอ้อน ขณะที่แมวนรกนั่งจ้องอยู่บนชั้นวางของ

( งั้นแสดงว่าตกลงแล้วใช่ไหม? )

มัดมือชกแบบนี้แล้วจะให้ทำอะไรได้ เท็นถอนหายใจพลางขานตอบคนในสาย เพียงครู่เดียวอีกฝ่ายก็ขอวางเพราะอ้างว่ามีงานต้องทำต่อ

“แม่งเอ๊ย”

แทบเอาตีนก่ายหน้าผากอยู่แล้ว ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนพลางมองเพดานที่ว่างเปล่าแล้วปล่อยให้หมาแมวปีนขึ้นมาบนตัว

“ไม่ใช่ตอนนี้ ซัน มูน ออกไปทั้งคู่เลย”

เท็นเขี่ยเจ้าขนทองลงซึ่งน้องก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย แต่ยังเหลืออีกหนึ่งที่ไม่เคยฟังอะไร เขาจึงต้องช้อนร่างปวกเปียกของแมวบริติชขนสั้นสีเทาออกจากตัว ซึ่งมันก็ยืนจ้องเขาเหมือนกำลังด่าอยู่ในใจก่อนจะกระโดดเหยียบท้องจนแทบงอตัวเป็นกุ้ง

“อีมูน มึง!”

“ม๊าววววววววววว!!!!”


“อีแมวนรก...”

นอกจากจะไม่สำนึกแล้วยังจ้องมาอย่างผู้ชนะด้วย มูนแมวผีเลียอุ้งมือตนเองแล้วกางความคมที่พุ่งออกมาจากซอกนิ้วให้เห็น ก่อนมันจะลับเล็บกับโซฟาเขา... อีกแล้ว!!!!!!!!!!!!!!

“มูน!!!!!!!!!”

“แฮะ ๆๆๆๆ”

“พ่อไม่ได้เรียกซัน ถอยออกไปก่อน!!!” จะห้ามแมวแต่หมาก็คิดว่ากำลังชวนเล่น เจ้าตูบขนท้องยิ้มลิ้นห้อยแล้ววิ่งป้วนเปี้ยนรอบตัวก่อนจะยืนเขย่งสองขาเกาะกับเอวเขาจนเสียหลักล้มลงไปเทกระจาดกับพื้น

“เวรเอ๊ย...”

ได้แต่หลับตานิ่วหน้ากุมศีรษะที่โขกกับสันโต๊ะอย่างแรง แต่ถึงอย่างนั้นสัตว์เลี้ยงที่กำลังสนุกกับเจ้านายควบตำแหน่งทาสก็เอาแต่กลิ้งตัวนอนถู ๆ จมูกกับร่างกายอุ่น ๆ โดยไม่สามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้คนที่นอนแผ่อยู่บนพื้นกำลังเหนื่อยใจแค่ไหนกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

ถึงจะเคยหาเรื่องเข้าไปวอแวกวนประสาท แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากอยู่ทีมเดียวกับพวกบ้านั่นหรือเปล่าวะ?

วันนี้คงไม่มีเรื่องอะไรให้เซอร์ไพรส์อีกแล้ว เท็นคิดอย่างนั้น ชายหนุ่มเกาขนหมาที่ปีนมาซบอกตนก่อนจะเอื้อมตัวไปคว้าเอาสมาร์ทโฟน และจังหวะนั้นแหละที่พระเจ้าได้ให้คำตอบกับเขาว่าวันนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เซอร์ไพรส์



KSBjack: ทำอะไรอยู่?





TBC


*ลับเล็บตรงบันไดทางขึ้นกุฏิหลวงพี่*




หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-09-2018 18:25:23
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-09-2018 19:27:46
 :pig4: บาปกรรมคงไม่ขึ้นหัวนะแหลม
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เค้าคือแมว ที่ 09-09-2018 20:02:02
สมัครสมาชิก เพื่อมาเชียร์ภาคนี้ บอกเลย
ชอบคู่นี้ ขอเท็นเคะนะ จะดีมาก
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-09-2018 20:33:43
ขอต้อนรับการคืนสู่เหย้า
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-09-2018 21:36:34
หลวงพี่นี่สำรวมมาก
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 09-09-2018 21:42:51
ปวดประสาทกับแก๊งค์หลวงพี่เหลือเกินขำจนท้องแข็งแล้วและอีกไม่นานหลวงจะยิ่งปวดหัวก็ว่านี้แน่เพราะแฟนพี่แจ็คจะมาเข้าทีมแล้ว ยุบหนอพองหนอนะคะหลวงพี่ :hao7:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 09-09-2018 22:16:11
มันต้องอย่างเน้ /ตบเข่าฉาดดดด /ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่จัดแมทช์นี้ค่ะ ทีมต้องการคนมาตีกับพระธีร์ค่ะ ฮือออออ น้องหมาน้องแมวน่ารักจังงงงงง คุณเท็นก็น่ารักกกกก ร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ค่ะ ศัตรูที่แข็งแกร่งจะกลายเป็นมิตรที่ทรงพลัง การ์ตูนสักเรื่องเคยว่าเอาไว้ มั้งคะ
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-09-2018 07:32:27
เพิ่งรู้ว่า ซึมเศร้าบอยอยู่นี่


เปิดเจอมองผ่านตั้งหลายครั้ง


ดีนะที่เจอเร็ว ไม่งั้นคงไปเจอเอาตอนจบอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mayyiyi ที่ 10-09-2018 08:25:43
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกบาป555555
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 10-09-2018 09:34:17
โอ้ยหลวงพี่ต้องสำรวมกว่านี้นะคะ ห้ามพูดคำหยาบด้วย
ประโยคสุดท้ายนี่คืออะไรนะคะ พี่แจ็คทักไปหาเท็นหรอ ถามจีงงงงงงงงงงง  :hao4:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: killua1a ที่ 10-09-2018 15:23:59
บาปกรรม​ หลวงพี่
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-09-2018 15:33:48
ต่อ แจ็ค&เท็น ท้ายชื่อเรื่องให้หน่อยก็ดีนะ


เพราะบางทีมองผ่านๆก็ทำให้หลายๆคนพลาดเรื่องนี้ไป


อย่างน่าเสียดายอ่ะ
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 3 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (9/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 10-09-2018 18:23:28
แอบร้องไห้ด้วยเรื่องนี้

มารอดูว่าเค้าจะฟื้นความสัมพันธ์ยังไงนะคะ

แต่บีในอดีตที่เท็นหรือเปล่า แอบรักมาแต่อ้อนแต่ออกไงงี้
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 12-09-2018 19:06:17

 
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 04
จุดเริ่มต้นในวันนั้น

 




 

“เท็น!”

 

กี่ครั้งแล้วที่เขาเอาแต่ตะโกนเรียก แต่เพื่อนสนิทกลับเดินหูทวนลมเหมือนว่าเสียงที่พยายามรั้งเอาไว้มันไม่มีน้ำหนักมากพอ แจ็คเร่งฝีเท้า สุดท้ายเขาก็วิ่งเข้าไปขวางทางไว้ได้ ซึ่งสีหน้าอีกฝ่ายที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นไม่ได้ปลาบปลื้มใจเลยสักนิด

 

“ฟังก่อนสิวะ”

 

เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งยังคงให้ความสนใจกับลูกบาสในสนาม และเสียงพูดคุยของใครก็ตามที่อยู่ละแวกนี้ในเวลาพักเที่ยง แต่เสียงเหล่านั้นก็ไม่สำคัญเท่าคำบางคำที่อยากได้ยินจากปากเพื่อนสนิท ไม่ใช่การสู้กันผ่านความเงียบอย่างนี้

 

แจ็คลดระดับสายตาลงอย่างรู้สึกผิดเพราะเรื่องเมื่อไม่กี่นาทีก่อน มันเริ่มต้นจากการจับกลุ่มทำรายงานซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องเลือกเพื่อนเข้ากลุ่มก่อนเป็นอันดับแรก แต่เพราะงานหินที่ต้องมีจำนวนมากกว่าห้าคน พวกเขาจึงต้องหาใครก็ตามที่ยังว่างอยู่ ซึ่งหัวหน้าห้องก็ชี้ไปทางกลุ่มผู้หญิงสามคนที่เป็นเด็กแก่เรียน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

 

แจ็คกับเพื่อนไม่คิดมากอะไร ดีเสียอีกถ้าจะมีผู้หญิงทำงานเก่งเข้ามาเป็นหัวกะทิ เมื่อตกลงเลือกหัวข้อกันเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็จดอีเมลล์ส่วนตัวให้เพื่อน ๆ เพื่อเอาไปแอดที่บ้าน ตอนนั้นแจ็คถึงได้รู้ว่าเรื่องบังเอิญบางอย่างมันก็อยู่ใกล้ตัวเขาจนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้

 

เพราะเด็กสาวเจ้าเนื้อผิวสีน้ำผึ้งผู้มีดวงตากลมโต คนที่ไม่ค่อยมีบทบาทในห้องนั้นเป็นเจ้าของเมลล์เดียวกับ ‘บี’ เด็กผู้หญิงที่แจ็คคุยด้วยทุกวัน

 

ทั้งคู่เงยหน้าสบตากันหลังจากเห็นอีเมลล์กันและกัน ระหว่างที่ทุกคนกำลังแบ่งสัดส่วนงานที่ต้องรับผิดชอบบีก็ขอตัวออกไปก่อน เธออ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แจ็คจึงตามออกไป ท่ามกลางสายตาเพื่อนในกลุ่มอีกหกคนที่มองมาอย่างสงสัย ซึ่งเท็นเป็นคนเดียวที่ตามเขาออกมา

 

 

‘บี!’

‘บี!’

‘...บลู!’

 

 

เจ้าของชื่อยอมหยุดฝีเท้าในที่สุด แจ็คมองแผ่นหลังเด็กสาวเจ้าเนื้อโดยไม่กล้าขยับเข้าใกล้มากกว่านี้เพราะกลัวเธอจะวิ่งหนีไปอีก หัวใจเขายังคงเต้นแรงนัก มันเกินความคาดหมายไปหน่อยกับการเจอกันครั้งแรกแบบนี้

 

 

‘ไม่จริง เจจะเป็นแจ็คได้ยังไง’

‘บ --’

‘อย่าเข้ามานะ – ห – หยุดอยู่ตรงนั้นเลย’

 

 

แจ็คคิดว่าบลูคงห้ามเสียงฝีเท้าของเท็นที่เพิ่งวิ่งมาถึง เขาเห็นว่าไหล่ของเธอสั่น เด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องไห้ อาจเป็นเพราะความไม่มั่นใจกับสรีระร่างกายของตนเองที่มักจะพูดถึงอยู่เสมอ ‘บี’ เคยบอกว่าคงไม่มีใครสนใจผู้หญิงอ้วน เพราะตัวเธอเองก็ยังชอบคนหน้าตาดี

 

 

‘เลิกกันไหม... เลิกกันไปเลย’

‘หันมาคุยกันก่อนได้ไหม?’

‘ไม่ – แจ็คน่ะ ที่ตามมาก็เพราะสงสารเราใช่ไหม แจ็คไม่ได้ชอบเรา ไม่มีทางเลย เราเป็นแค่ผู้หญิงอ้วน ๆ คนนึง ไม่ได้น่ารัก ไม่ได้น่าทะนุถนอม ส่วนแจ็คอยู่กลุ่มคนดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก’

‘...’

‘ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ใช่คนอย่างที่แจ็คคาดหวังไว้ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง’

 

 

เท็นกำลังสับสนว่าอยู่ในสถานการณ์ไหน เด็กหนุ่มมองเพื่อนสนิทกับผู้หญิงอีกคนที่ยังคงหันหลังให้ จนกระทั่งแจ็คเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเธอแล้วคว้าข้อมืออวบนั้นไว้อย่างใจเย็น

 

 

‘เราเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?’

‘...’

‘จะอ้วน จะเป็นยังไง เราก็รักอยู่ดี’

 

 

บลูยังคงร้องไห้กับการเฉลยความจริงที่ไม่ได้ตั้งตัว แจ็คค่อย ๆ ประคองอีกคนให้หันมามองหน้ากัน ซึ่งเธอก็เอาแต่ก้มอยู่อย่างนั้นจนเขานึกขึ้นได้ว่ายังมีใครอีกคนมองอยู่ แววตาของเท็นเต็มไปด้วยความผิดหวัง ไอ้หมอนั่นคงกำลังรอคำอธิบายว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน เหตุใดเพื่อนที่ไม่เคยมีความลับต่อกันถึงมีความสัมพันธ์แบบนี้กับเพื่อนร่วมห้อง

 

“กูคุยกับเค้าในเอ็มมาสักพักแล้ว ที่ไม่ได้บอกก็เพราะกลัวโดนล้อว่าไร้สาระ กูก็เพิ่งรู้เมื่อกี้เหมือนกันว่าคนที่คุยด้วยคือบลู”

 

“อือ แล้วไงต่อ”

 

“เราไม่เคยรู้จักชื่อ ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ความจริงกูกับเค้าแพลนกันไว้ว่าจะไปเจอกันเดือนหน้า หลังจากนั้นก็ตั้งใจว่าจะพาไปเจอพวกมึง”

 

“อ่าฮะ”

 

“เท็น กูขอโทษที่มีความลับ แต่มันก็แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเอง เรื่องอื่นกูไม่เคยปิดบังมึงเลยนะ”

 

แจ็ครู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นไหน ๆ ซึ่งไอ้ธีร์ก็เคยพูดอย่างเหนื่อยใจว่า

 

‘มึงจะโอ๋มันเกินไปไหมวะ ไอ้ฉิบหาย มึงเป็นเพื่อนมันนะไม่ใช่แฟนถึงจะต้องบอกทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต คนเรามันก็ต้องมีความลับที่ไม่อยากบอกใครบ้างดิ มันไม่ใช่เพราะยังสนิทกันไม่พอ แต่การบอกทุกอย่างก็ไม่ได้ยืนยันความสัมพันธ์นั้นเลยปะ? สมมติถ้ากูไปรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวมึงโดยบังเอิญ วันนั้นกูก็คงไม่ถามหรอกว่าทำไมถึงไม่เล่า กูพร้อมจะ ‘อ๋อออออออ ไอ้เช้ดแม่ อย่างนี้นี่เอง’ แล้วก็กอดคอมึงไปแดกข้าวเหนียวหมูปิ้งโดยไม่ซักไซ้อะไรสักคำ’ 

 

แต่คนเราไม่เหมือนกัน ไอ้ธีร์จะคิดอย่างนั้นก็ไม่ผิด แต่ไอ้เท็นจะเซ็งก็ได้เหมือนกัน

 

สองคนนี้มีความเป็นโลกคู่ขนานที่บางอย่างก็เหมือนกันจนน่าตกใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ต่างกันอย่างสุดขั้ว ไอ้ธีร์เป็นคนที่ง่าย ๆ สบาย ๆ กับความสัมพันธ์ แต่ไอ้เท็นเป็นคนละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ขัดเกลาหล่อหลอมเพื่อนทั้งสองคนนี้ก็ล้วนมาจากสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

ดังนั้นมันคงไม่แปลกนักถ้าหากเท็นจะคิดว่ามิตรภาพระหว่างเราเริ่มมีกำแพงกั้นขึ้นมาแล้ว แต่เขาก็แคร์ความรู้สึกเพื่อนคนนี้มากจนยอมเบลอความเรียบง่ายของไอ้ธีร์ไป แจ็คไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกแย่และคิดว่าไม่จริงใจ

 

“มึงชอบคนแบบนั้นเหรอ?”

 

“แบบนั้นคือแบบไหน?”

 

“อ้วน หน้ามีแต่สิว”

 

“...”

 

“พูดดิว่ามึงชอบทุกอย่างที่เค้าเป็น บอกมาว่ามึงไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะหน้าตาน่ารัก?”

 

เหมือนถูกจี้ใจดำกับเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ยอมรับว่าลึก ๆ แจ็คก็คาดหวังอยู่เหมือนกัน ตามประสาเด็กผู้ชายที่ชอบมองความสวยงาม ยิ่งถ้าเป็นคนนิสัยน่ารักแบบ ‘บี’ ด้วยก็คงรู้สึกดีเข้าไปใหญ่ เขาเป็นเด็กย่างอายุสิบเจ็ดที่อยากมีโมเม้นเดินจับมือกับแฟนหลังเลิกเรียน ถ่ายรูปคู่กัน หรืออะไรก็ตามที่คนเป็นแฟนทำร่วมกัน

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหันหลังให้บลูเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงท้วม ความรู้สึกระหว่างทั้งคู่มาไกลมากนัก แจ็คอยากมองที่จิตใจมากกว่าเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาสวย

 

“กูชอบนิสัยเค้า”

 

“แบบที่คุยกันแค่ในเอ็มน่ะเหรอ?” เท็นถอนหายใจ “ตัวหนังสือน่ะใคร ๆ ก็ทำให้ตัวเองดูดีได้ มึงคิดว่าที่คุยกันมาตลอดนั่นคือนิสัยเค้าจริง ๆ เหรอแจ็ค?”

 

“กูเข้าใจว่ามึงเป็นห่วง แต่ถ้าวันหนึ่งบลูทำให้เห็นว่าเค้าไม่ใช่คน ๆ เดียวกับที่กูเคยรู้จัก วันนั้นกูจะเดินไปบอกเค้าเอง แต่ตอนนี้หายโกรธกูก่อนได้ไหมวะ นะ ๆๆ” แจ็คประสานมือไว้ใต้คาง เบะปากเหมือนเด็ก ๆ หวังจะละลายความโกรธเคืองของเพื่อนสนิท แต่อีกคนกลับถอนหายใจแล้วเบือนสายตาไปอีกทาง

 

“...”

 

“ให้กูเลี้ยงกล้วยกล้วยแบบจัดเต็มอาทิตย์นึงก็ได้”

 

“...”

 

“งั้นสองอาทิตย์” เด็กหนุ่มชูสองนิ้ว แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่สนใจมือถือโง่ ๆ ที่ไม่มีอะไรให้เล่น “เดือนนึงพร้อมตั๋วหนังแบบอันลิมิต!”

 

“ดีล”

 

“อ้าว ไอ้เท็น ไอ้เพื่อนเหี้ย!” แจ็คถลึงตามองไอ้คนชั่วที่กำลังยกยิ้มอย่างพอใจหลังจากไล่ต้อนเขาจนสำเร็จ

 

คนขี้น้อยใจหายไปและแทนที่ด้วยไอ้คนหน้าร้าย ๆ ที่เข้ามากอดคอเขาให้เดินไปด้วยกัน แจ็คยังคงมองเสี้ยวหน้าเพื่อนสนิทอยู่อย่างนั้น มองว่ามันยังหลงเหลือความโกรธเคืองอยู่หรือไม่ แต่การที่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดไปเรื่อยเปื่อยเหมือนว่าเรื่องคบกับบลูเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ที่เคลียร์รอบเดียวแล้วจบ เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ

 

 

 

*

 

 

 

 

KSBjack: ทำอะไรอยู่?

 

เท็นมองแชตในสตีมก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาแล้วหันมาเล่นกับหมามากกว่าจะให้ค่ากับใคร แต่คิดแบบนั้นได้แค่ชั่วอึดใจสุดท้ายเขาก็ลุกไปคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูอีกครั้ง ระหว่างนั้นก็คิดว่าควรตอบกลับไปแบบไหนให้ดูปกติและไม่สะทกสะท้านใด ๆ กับการไปเข้าทีมกระจอกนั่น หรือว่าควรเงียบไปก่อนแล้วปล่อยให้มันร้อนใจจนทักมาขยี้อีกรอบดี?

 

KSBjack: ว่างแล้วมาคุยกันหน่อย

 

ก็รู้ว่าประเด็นหลักคงเป็นเรื่องงานแข่งเกมการกุศล แต่ทำไมถึงเลือกส่งไอ้แจ็คมาคุยแทนที่จะเป็นพี่ตั้บ – อ้อ รายนั้นคงโกรธหนักไม่แพ้ไอ้ธีร์เหมือนกันสินะ ไอ้หมอนี่คงใจเย็นที่สุดในก๊กนั้นแล้ว ว่าแต่ทำไมไม่ส่งโซ่มาล่ะ บางทีเขาอาจจะยอมเพราะรำคาญความโลกสวยของน้องมันก็ได้

 

 

TEN10: ?

KSBjack: เรื่องทีม

TEN10: แล้ว?

KSBjack: ปฏิเสธไปซะ

 

 

เท็นแค่นหัวเราะกับความเย็นชาที่ส่งผ่านมาทางตัวอักษร ให้ตายสิวะ ถ้ามาแบบนิ่ม ๆ อาจจะยอมพูดดีด้วยก็ได้ แต่นี่อะไร มาถึงก็ฮุคใส่เหมือนอยากประกาศสงคราม

 

 

คราวนี้แจ็คมันเริ่มก่อนเองนะ

 

 

TEN10: มึงคิดว่ากูตอบตกลงเหรอ ถามจริง?

KSBjack: ก็ผู้ใหญ่บอกมาอย่างนั้น

TEN10: มึงไปถามใหม่นะแจ็ค จะได้เลิกโง่

TEN10: กูล่ะเชื่อมึงเลย นี่คิดว่ากูอยากเล่นกับทีมมึงจนตัวสั่นหรือไง?

KSBjack: งั้นรออะไรอยู่? ไปคุยกับทางนั้นเลยสิ คนอย่างมึงน่าจะยอมทำทุกอย่างอยู่แล้วขอแค่อยากได้

TEN10: กูควรเจ็บใช่ไหม โอ๊ย ๆๆๆๆ แจ็ค กูจะร้องไห้แล้ว

KSBjack: เรากำลังตกเป็นเหยื่อการตลาด มึงรู้จุดยืนของตัวเองหรือเปล่า?

TEN10: รู้ แล้วกูคนเดียวเหรอที่เปลี่ยนแปลงอะไรได้?

TEN10: ขยับตัวสักนิดสิแจ็ค ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันนักก็พยายามหน่อย

KSBjack: มึงดูสบายใจเกินไปหรือเปล่า มีแผนอะไรอยู่หรือไง?

TEN10: ถ้ามีแล้วมันเรื่องอะไรที่กูต้องบอกมึงล่ะเพื่อน?

TEN10: ไม่เอาน่า ไหน ๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เอ็นจอยกันหน่อยเป็นไง?

KSBjack: ไร้สาระ

KSBjack: ถ้าคิดจะปั่นหัวกูเพราะคิดว่าจะได้ผลเหมือนไอ้ธีร์ก็คิดใหม่

TEN10: ก็จริง แต่ตัวกูไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าจะคิดมากไปทำไม แล้วพวกมึงล่ะ?

TEN10: หัวหน้าทีมก็ยังไม่สึก น่าจะหัวร้อนปุด ๆ จนแอบหนีออกจากวัดมาเพื่อไล่ล่ากูแน่ ๆ

TEN10: ยังไงดีแจ็ค กูนี่กลัวจนตัวสั่น มันจะเป็นยังไงถ้าเกิดกูบังเอิญเล่นแย่จนทำให้ทีมตกรอบแรก ขี้ซุยบาร์เบอร์จะอับอายแค่ไหน?

TEN10: โทษที ๆ บราเทอร์

KSBjack: ตกลงว่าต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นมึงก็จะลงแข่งอยู่ดีใช่ไหม?

TEN10: ถ้าใช่แล้ว...?

TEN10: จะมีคนอกแตกตายไหม เช่นเพื่อนพระของมึงกับพี่ตั้บ?

KSBjack: โอเค งั้นแข่งก็แข่ง

TEN10: ...????

KSBjack: มึงมันเหลือเกิน ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็เจอกันในเกมแล้วกัน

TEN10: ก็เอาสิ ใครจะเป็นหัวหน้าทีมล่ะคราวนี้ อยากได้ตำแหน่งแทนธีร์เกมเมอร์ชั่วคราวไหม กูเป็นให้ได้นะ

KSBjack: ไม่จำเป็น หัวหน้าทีมกูมีคนเดียว มันชื่อธีร์

TEN10: ถ้ามันได้ยินคงหัวใจพองโตยิ่งกว่าตอนได้เอาตัวท็อปของมหาลัยแน่ ๆ สมแล้วที่เป็นเพื่อนรักมัน

TEN10: ก็โอเค ตามนั้น แต่เวลาสั่งงานก็อาจจะฝืดหน่อยนะ เพราะแผนการทีมอ่อน ๆ ของพวกมึงคงดึงกูดำดิ่งตามยากหน่อย

TEN10: ต้องขายหน้าเพราะเล่นกับนูปอีกแล้วสินะ เฮ้อ

KSBjack: Offline

 

 

ใครยั่วโมโหเก่ง?

 

เขาหรือไอ้ซื่อบื้อนั่นที่ทักมาทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครเปลี่ยนอะไรได้ เท็นเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพลางโยนมือถือขึ้นไปบนโซฟาอีกครั้ง ถอนหายใจหนัก ๆ กับการถูกเพิกเฉยทั้งที่คนผิดคือฝ่ายทักมา เขาก็แค่อยู่เฉย ๆ และไม่สามารถปฏิเสธได้ แทนที่จะทักมาพูดดี ๆ ขอให้ร่วมทีมด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาอาจจะยอมฝืนปากตัวเองไว้ อย่างน้อยก็สักนิดนึง

 

คิดไปถึงการแข่งขันที่ใกล้เข้ามา ตอนนั้นเขาคงโดนด่าหนักกว่านี้เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมขวัญใจชาวบ้านแปดเปื้อน ซึ่งนั่นจะสำคัญอะไรล่ะ

 

ไม่มีใครสนใจอยู่แล้วว่า TEN10 จะรู้สึกอย่างไร ขอแค่อัพรูปลงอินสตาแกรมหรือโพสต์อะไรลงเฟซบุ๊กก็ได้ หลังจากนั้นตำรวจโซเชียลก็จะเข้ามาจัดการเขาเอง

 

 

ก็เป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว โดนอีกสักครั้งจะเป็นไรไป

 

 

 

*

 

 

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน หลายครั้งที่เท็นตั้งคำถามว่าคนรอบข้างกำลังเปลี่ยนไปหรือเพราะพวกเขาแค่โตขึ้นจนทัศนคติเปลี่ยนกันแน่ แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ แต่ถึงอย่างนั้นเท็นก็ใจหายอยู่ไม่น้อยที่หลายครั้งหันไปข้างตัวแล้วไม่เจอเพื่อนอยู่ข้างตัว

 

“...”

 

ไม่มีเด็กมอสองในโรงเรียนสอนดนตรีแล้ว โลกหมุนไปทุกวัน เท็นจะฝังตัวเองอยู่กับโลกใบนั้นไม่ได้อีก และแจ็คก็เหมือนกัน ทุกวันนี้เพื่อนสนิทของเขากำลังมีโลกอีกใบที่ทับซ้อนเข้ามา ซึ่งมนุษย์เรียกมันว่าความรัก

 

เป็นตามที่แจ็คเคยพูดไว้ทุกอย่าง ว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะเหงาสักหน่อยหากเพื่อนมีแฟน เท็นก็ควรมีแบบนั้นด้วยใช่ไหม แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อชีวิตเขาช่วงนี้มันสนุกกับการมีเพื่อนมากกว่าจะแบ่งเวลาไปให้ผู้หญิงสักคน

 

แต่แจ็คคงไม่ได้คิดอย่างนั้น ผู้ชายอ่อนโยนอย่างมันคงอยากดูแลผู้หญิงสักคน

 

บลูเริ่มดูดีขึ้นหลังจากเปิดตัวคบกับแจ็ค ผู้หญิงคนนั้นคงรู้สึกแย่ที่เห็นในกระทู้โรงเรียนกล่าวถึงเธอกับเพื่อนสนิทของเขาว่าไม่เหมาะสมกันบ้าง ช้างน้ำกับเทพบุตรบ้าง หลังจากนั้นเด็กสาวหุ่นเจ้าเนื้อจึงเริ่มควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลหน้าตาตนเอง แม้จะยังไม่ผอมสวยหุ่นดีแต่ก็ทำให้ใครหลายคนมองเห็นความเปลี่ยนแปลงไปบ้างจนไม่กล้าว่าอะไรอีก

 

ซึ่งมันอาจเป็นเพราะแจ็คออกตัวปกป้องแฟนอยู่เสมอด้วยล่ะมั้ง?

 

เท็นนั่งนิ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องมืด มอง Hi5 ของคู่รักที่มีรูปถ่ายวันสำคัญและคำบรรยายความรู้สึกต่ออีกฝ่าย แจ็คไม่ใช่คนแสดงออกเก่ง แต่การย้ายบลูไปอยู่ในท็อปคนแรกและให้เขาเป็นอันดับสอง ไอ้ธีร์อยู่อันดับสาม แค่นั้นก็ทำให้รู้ได้แล้วว่ามันรักแฟนแค่ไหน

 

 

‘อย่าคิดมากเลยมึง มันก็แค่มีแฟน ถ้ามึงเหงาเดี๋ยวกูหาสาวให้ เอาปะ?’

 

 

ไอ้ธีร์คงอยากปลอบใจและอยากให้เขาเลิกเป็นไอ้ลูกแหง่ติดเพื่อน แต่เขาไม่ได้ตอบรับข้อตกลงนั้น ซึ่งคนเป็นเพื่อนก็แค่ไหวไหล่แล้ววิ่งลงสนามไปเตะบอลต่อ

 

เท็นไม่ได้อยากให้ใครเข้ามาทดแทนช่องว่างที่หายไป แต่เขาก็เหงาเหลือเกินเมื่อตอนเริ่มเกากีตาร์แล้วไม่มีใครเดาว่าเพลงนี้เป็นของใคร บนผืนหญ้าที่มีเพียงเขานอนมองดวงดาวอยู่ตามลำพังนั้นมันเหงาแค่ไหน ตอนมองหาดวงจันทร์บนนั้น มันเหมือนคนโง่ที่พยายามหาสิ่งมาหล่อเลี้ยงใจว่าแจ็คแค่มีแฟนเท่านั้น แต่ความเป็นเพื่อนของเรายังไม่ไปไหน

 

เท็นไม่อยากเป็นคนงี่เง่าจนใช้ชีวิตไม่ได้ เขาไม่อยากเอาทุกอย่างไปผูกกับแจ็คจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้เคว้งคว้างตามลำพังแล้ว มันอาจส่งผลถึงตัวเพื่อนอีกด้วย เขาไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้แจ็คไม่มีความสุข เพราะความต้องการเดียวของเด็กผู้ชายคนนี้ก็คือการที่เพื่อนมีความสุขเพราะมีเขาอยู่ในชีวิต

 

 

แต่... เรามีความสุขกับเรื่องเดียวกันไม่ได้เหรอ?

 

 

‘ธีร์’

‘ว่า?’

‘ที่บอกว่าจะหาผู้หญิงให้กูสักคนน่ะ’

‘เออ ทำไม มึงสนใจแล้วเหรอ?’

‘ใช่’

‘เหยยยยยยย’

‘ใครก็ได้... ถ้าเอาง่ายยิ่งดี’

 

 

เซ็กส์ครั้งแรกในชีวิตช่างขมปร่า เท็นหอบหายใจหนักตอนสาวหน้าสวยบดสะโพกเคลื่อนไหวบนตัวเขาซ้ำ ๆ ‘มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?’ นั่นคือสิ่งที่เด็กหนุ่มถามตัวเองขณะที่สมองกำลังขาวโพลน เริ่มต้นจากนัดเจอคนที่ไอ้ธีร์แนะนำก่อนจะไปเจอกันหน้าพารากอน

 

พี่สาวกระโปรงสั้นทรงเอเป็นคนยิ้มสวย เธอเริ่มต้นทุกอย่างตั้งแต่การชวนคุย พาไปกินข้าว หรือแนะนำอะไรก็ตามที่เท็นเคยทำหน้าโง่ใส่ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนแทบไม่มีโอกาสตั้งตัว โชคดีที่ว่าอีกฝ่ายรู้งานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องถุงยาง บทรักแสนเร้าร้อนแต่ไร้ความรู้สึกจึงเริ่มต้นขึ้น

 

ดวงตาเหม่อมองเพดาน แผงอกหอบผิดจังหวะกระทั่งกลับเข้าสู่ปกติในที่สุด พี่สาวคนสวยถอดถุงยางให้และก้มลงมาจูบราวกับอยากเชยชมความบ้าคลั่งที่เขาเคยอัดกระแทกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เธอคนนั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ส่วนตัวเขานอนเปลือยกายอยู่บนเตียงกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น

 

โทรเข้า...

‘แจ็ค’

 

หากเป็นก่อนหน้านี้คงรับสายพร้อมความตื่นเต้นว่าเพื่อนจะมีอะไรมาเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้เท็นแค่คว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง และบอกตัวเองว่าไม่ต้องให้ความสนใจแจ็คตลอดเวลาก็ได้ ในเมื่อเพื่อนมีเวลาส่วนตัว เขาเองจะมีบ้างก็คงไม่แปลกนัก

 

เท็นไม่ใช่หนุ่มป็อปในโรงเรียน กลับกันแล้วทุกคนมักจะให้ความสนใจธีร์มากกว่าเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นคนหล่อแถมคารมดี ถัดมาก็เป็นแจ็คที่ให้อารมณ์แฟนในฝัน ยิ่งตอนเปิดตัวว่าคบกับบลูที่เป็นผู้หญิงหุ่นท้วมก็ยิ่งทำให้ได้ใจไปใหญ่

 

ถ้าเกิดว่าเขาเป็นเหมือนธีร์ แจ็คจะเสียใจบ้างหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าหา ถ้าเกิดว่าเขาเป็นฝ่ายที่ไม่มีเวลาให้เพื่อนอีกเลย

 

 

แบบนั้นน่ะ... แจ็คจะรู้สึกเหมือนกันบ้างไหม?

 

 

“เท็น”

 

“ครับ?”

 

“เมื่อกี้น่ะ... ชอบไหม?”

 

พี่สาวคนสวยไล้มือลงบนแผงอกของเขา ก่อนจะเริ่มลงลิ้นปรนเปรอทั้งที่ยังสบตากันอยู่ แจ็คกับบลูก็คงทำอย่างว่ากันไปแล้วสินะ ไม่อย่างนั้นสองคนนั้นคงไม่ตัวติดกันขนาดนี้

 

แต่เซ็กส์ที่มาจากความรักมันจะต่างกับตอนที่เขาทำกับพี่สาวสักแค่ไหนกันล่ะ?

 

เรื่องนั้นน่ะ เท็นจะมีวันเข้าใจมันได้หรือเปล่า?

 

 

“ขึ้นให้อีกรอบก่อนสิ แล้วผมจะตอบ”

 

 

 

TBC


 

 

อนาคินก่อนเป็นคนอีสาน

= ด้าดเวเด้อออออออออออออออออออออออออออออออออออ

 

 

 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: killua1a ที่ 12-09-2018 19:23:06
ซึมเศร้าแมน​  :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 12-09-2018 19:54:10
เท็นมากอดทีค่ะไม่เป็นไรนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-09-2018 21:46:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 12-09-2018 21:49:44
เท็นก็อาจจะซึมเศร้าแต่ไม่มีใครรู้ก็ได้นะ

แม้แต่เท็นเองก็อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้

หน่วงจัง สงสาร

สงสารตัวเองระหว่างรอตอนต่อไปอะค่ะ  :katai1: 555555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: aommyga40 ที่ 12-09-2018 22:04:37
หน่วงมากกกกกกกกก :ling3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-09-2018 22:21:28
นี่คงเป็นคนเหงาที่สุดคนหนึ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้
อดีตเด็กน้อยขี้เหงาคนนั้น กลายเป็นผู้ใหญ่ขี้เหงาแต่เอาความไม่แคร์บังหน้า
เหมือนจะร้ายกาจแต่โคตรน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-09-2018 22:46:33
 :เฮ้อ:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 12-09-2018 23:55:27
หน่วงสุดๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 13-09-2018 06:20:23
ไม่รู้ทำไมอ่านแล้วจะร้องไห้จริงๆนะ​ เราเคยมีเพื่อนที่เป็นแบบเท็นเลย​ นางจะไม่อยากให้เพื่อนสนิทไปมีแฟนรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง​ ตอนแรกเราไม่เข้าใจมากว่าขนาดนั้นเลยหรอ​ ความรู้สึกแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ​ ที่เท็นเป็นแบบนี้อาจจะเพราะมองว่าแจ็คเป็นโลกทั้งใบก็ได้​ ถ้าไม่มีแจ็คเท็นจะอยู่กับใคร.. ฮือ​อินอ่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-09-2018 09:15:30
ความเข้มข้นของซึมเศร้าแมน


กับความดาร์คของเก็บกดแมน


มันช่างเข้ากันราวกับวงจรชีวิตโดนซาตานอยอกล้อ

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 4 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (12/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 13-09-2018 10:35:31
2เรื่องที่แล้ว ฮาๆ เกรียนๆ มีดราม่า?เล็กน้อย แต่เรื่องนี้โอ๊ะหน่วงเน๊าะ มาแบบหม่นๆ เทาๆ รอลุ้นว่าจะเป็นไงต่อค่ะ
   :3123:  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 16-09-2018 22:43:55
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 05
เข้าใกล้อีกนิด


 

 

 

“มีอะไรเหรอแจ็ค?”

 

“ไอ้เท็นไม่รับสายน่ะ”

 

แจ็คขมวดคิ้วมองโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปทางแฟนสาวซึ่งหัดแต่งคอสเพลย์เป็นครั้งที่ห้าตามคำแนะนำของเพื่อนที่บอกว่าอาจทำให้เพิ่มความกล้าขึ้นได้ แต่บลูก็ยังก้ม ๆ เงย ๆ กังวลและคิดไปว่าคนผอมเท่านั้นถึงจะดูสวย เขาไม่อยากให้เธอจมอยู่กับความคิดแบบนั้น จึงตามมาเป็นตากล้องให้เหมือนทุกครั้งจนคราวนี้เริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนที่เลือกไม่รับสาย

 

ท่ามกลางผู้คนมากมายที่แต่งเป็นตัวละครในการ์ตูนยอดฮิตหน้าลานมาบุญครอง แจ็คก้มลงมองมือถืออีกครั้งแต่เท็นก็ยังไม่โทรกลับ โอเค มันอาจจะเป็นวันปกติที่บางทีเพื่อนอาจจะออกไปข้างนอกกับแม่หรือหมกตัวอยู่ในห้องกับการ์ตูนกองพะเนินที่เพิ่งซื้อมา

 

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยต้องคิดมาก แต่เพราะแจ็คไม่ค่อยมีเวลาว่างให้เพื่อนเหมือนอย่างเคยจึงกระวนกระวายกับเรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูก ใช่ เขากำลังรู้สึกผิดและอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไข ซึ่งการทิ้งบลูไว้ตรงนี้ตามลำพังคงไม่ใช่ทางที่ควรเลือกเช่นกัน

 

“เท็นน่าจะเล่นเกมกับธีร์อยู่หรือเปล่า?”

 

“ก็อาจจะใช่” เห็นว่าช่วงนี้เริ่มคุยกันได้บ้างแล้ว และเขาก็ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะประคองความสัมพันธ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปได้อีกนานสักเท่าไหร่ เพราะไอ้ธีร์เป็นคนปากไว มักจะพูดอะไรไปโดยไม่คิดซึ่งผิดกับไอ้เท็นที่เป็นคนเก็บทุกอย่างมาใส่ใจ

 

คนหนึ่งติดเล่นเกินไป อีกคนก็หยิบทุกอย่างมาคิดในแง่ร้ายไปเสียหมด แจ็คเคยพยายามหาตรงกลางให้เพื่อนทั้งสองคน แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาอยู่กับแฟนมากเกินกว่าจะเชื่อมทั้งคู่ให้เข้ากันได้

 

ถึงสองคนนั้นจะเล่นเกมด้วยกันอยู่จริงก็ไม่ได้ทำให้แจ็ครู้สึกดีขึ้น เขาไม่อยากหาเหตุผลมาปลอบใจตัวเองว่าการติดแฟนมันไม่ส่งผลต่อคนรอบข้าง แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้แล้ว นอกจากรอเวลาไปส่งบลูแล้วแวะไปหาเพื่อนที่บ้าน

 

“ยิ้มหน่อยสิ วันนี้บลูแต่งเป็นฮารุฮิมาเพื่อแจ็คเลยนะ” เด็กสาวที่เคยมีหุ่นท้วมในวันนี้ผอมลงไปถึงห้ากิโล เธอกุมมือคนรักพร้อมช้อนตามอง แม้จะรู้สึกน้อยใจที่เห็นแจ็คใจลอยอยู่หลายครั้งแต่บลูก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนักเพราะไม่อยากเป็นแฟนที่งี่เง่า

 

“ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศนะ”

 

“ไม่เลย บลูสิต้องขอโทษ ทั้งที่แจ็คควรจะไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ต้องมาเฝ้าบลูแบบนี้ ขอโทษนะคะ”

 

“ไม่เอาไม่ขอโทษแล้วค่ะ บลูไปยืนตรงนั้นเร็ว แจ็คจะถ่ายรูปให้”

 

“ตรงนี้เหรอคะ?”

 

ไม่รู้ว่ารอยยิ้มตอนนี้จะซ่อนความกังวลไว้ได้หรือไม่ เด็กหนุ่มมองแฟนสาวหุ่นเจ้าเนื้อนิด ๆ พลางกดชัตเตอร์ ก่อนจะนึกถึงคำพูดของไอ้ธีร์เมื่อคืนนี้ที่ทำให้กังวลมากกว่าจะสบายใจ

 

‘ช่วงนี้มันติดสาว มึงไม่ต้องห่วงหรอก เพื่อนเรากำลังจะโตเป็นหนุ่มแล้ว’

 

เรื่องจริงเหรอ? เด็กหนุ่มยังคงเอาแต่คิดเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะเท็นไม่เคยส่งสัญญาณให้รู้มาก่อน และแจ็คก็จดจำเพื่อนสนิทที่มักจะอยู่ติดเขามากกว่าจะหันไปให้ความสนใจผู้หญิงที่ไหน มันเป็นไปได้ด้วยเหรอที่เท็นคิดจะชอบใครโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเลย

 

‘มันอาจจะอยากเล่า แต่ตอนนั้นมึงน่าจะอยู่กับเมียไงเพื่อน’

 

อืม... มันต้องเป็นไปได้อยู่แล้ว

 

 

*

 

 

 

การแข่งรอบแรกช่างทุลักทุเลนัก เป็นเพราะความขัดแย้งที่หาความลงตัวไม่ได้ของขี้ซุยบราเทอร์ แหลมอยากแหกปากอัดหมอนกับเกมที่ควรได้เปรียบแต่ก็เกือบพังเพราะสมาชิกจำเป็นที่ไม่เคยเชื่อฟังคนในทีมเลยสักอย่างเดียว จริงอยู่ว่าพี่เท็นเล่นได้ดี แต่นั่นก็อาจแค่กับบลูไวเปอร์หรือทีมอื่น ๆ ที่เคยเข้า ๆ ออก ๆ มาแล้วนับแสนทีมไหมล่ะ เกมนี้มันเล่นเป็นทีมนะ ลุยเดี่ยวไปคิดว่าจะชนะได้เหรอ

 

EarthIII: ไอ้เท็นเหมือนตัวฟรี ขยะสัส

ToyStory1: สงสารขี้ซุยฯ มีคนอีโก้หมา ๆ อยู่ในทีม คงคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว

YOYOYO: พวกขี้ซุยกลับเกมมึงไปเหอะ ปัญญาอ่อนสัส

241774696: สันดานเดิมไม่เคยเลิกครับ 5555555555555555555

 

โอเค เท็นอาจจะเล่นขวางโลกเพราะอยากกวนตีนสี่คนนั้น แต่พวกในห้องแชตก็ไม่สนเลยว่าขี้ซุยบราเทอร์แทบไม่ฟังคำแนะนำของเขาเลย คนพวกนั้นอาจจะโปรอีกเกม ยอมรับก็ได้ ถึงจะไม่เคยพูดก็เถอะ แต่เกมนี้มันคนละเกมและเขาคลุกคลีอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี เพราะงั้นขี้ซุยบราเทอร์ก็อีโก้จัดไม่ฟังเหมือนกันล่ะวะ

 

แต่แผนทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า หลังจากแพ้เกมแรกเท็นถึงได้มีเวลาพักหายใจ ชายหนุ่มเลื่อนสกรอล์เมาส์อ่านข้อความที่มีทั้งให้กำลังใจและสาปแช่ง บางคนด่าอย่างไร้เหตุผลเพราะหมั่นไส้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ทำให้จุกอยู่ในใจไม่น้อย

 

‘งานนี้ไม่ได้แข่งเพื่อรางวัล แต่เป็นการเล่นเพื่อนำเงินไปช่วยเด็กยากไร้ซึ่งมันขึ้นอยู่กับจำนวนยอดโดเนท ถ้าคุณกับคนในทีมเล่นดี คนก็คงกดโดเนทเงินให้ ทำไมไม่นึกถึงจุดประสงค์ของงานหน่อยล่ะครับว่าจะจัดขึ้นมาเพื่ออะไร ทำไมถึงเอาแต่ใจหลับหูหลับตาเล่นโดยไม่สนทีมเลย?’

 

สุดท้ายคนผิดก็ยังคงเป็นเขา ต่างจากอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับกำลังใจและคำชม ถึงจะโดนด่าบ้างแต่ก็บางตานัก คนเหล่านั้นทำเหมือนว่า TEN10 เป็นตัวแถม ซึ่งมันอาจจะได้ผลถ้าทั้งสี่คนต้องการให้เขาหัวเสีย แต่ฝั่งคู่ต่อสู้ก็ได้เปรียบเพราะสิ่งที่เป็นกันอยู่หรือเปล่าล่ะ เวรเอ๊ย เท็นกับพวกบ้านั่นมีโอกาสตีเสมอได้ในเกมนี้ ซึ่งถ้ายังเอาแต่สนใจหนทางการเล่นของตัวเอง พวกขี้ซุยบราเทอร์ก็มีแต่จะได้คะแนนน่าเห็นใจ

 

“มารวมกลาง กันบ้านแล้วเอาลิน่าคนแรก”

 

ได้ยินเสียงหลุดขำของไอ้เด็กลูกครึ่ง คงมีความสุขมากสินะที่เห็นเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้สงครามประสาทก่อน แต่หลังจากพูดไปไม่ถึงห้าวิทุกคนยอมก็ทำตามอย่างว่าง่ายจนอดประหลาดใจไม่ได้ แต่ก็ดีไปอีกอย่างเพราะเท็นไม่อยากเถียงกับใครในสถานการณ์แบบนี้

 

( เอา Roshan* เปล่าเดี๋ยวกูช่วย )

 

*Roshan = สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ในเกมที่ถ้าตีตายแล้วจะดร็อป Aegis ซึ่งเป็นไอเท็มที่คนได้มันไปจะสามารถเกิดใหม่ได้ทันทีหลังจากโดนฆ่า

 

( ได้ยินที่ถามไหม? )

 

( เท็น? )

 

“มึงคุยกับใคร กูจะไปรู้เหรอ?”

 

( ในทีมมีใครควรถือ Aegis นอกจากมึงอีกไหมล่ะหื้อ? )

 

“คราวหลังก็หัดเรียกชื่อสิ ถ้าแถวนั้นมีผีคงได้แห่เข้าบ้านมึงหมด เล่นพูดลอย ๆ แบบนี้”

 

 

1111111111111: เอาเว้ย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555555

FBIIBF: ตีกัน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555555555

Aonnaka: เออ มันต้องแบบนี้สิวะ พี่เท็นอย่าไปยอมค่ะ น้องเป็นกำลังใจให้

Thonglhor77: ประชดเก่ง กัดเก่งเป็นหมาาาา

 

 

( รีบมา เดี๋ยวกูค้ำให้ )

 

บรรยากาศตอนนี้ต่างไปกว่าทุกครั้ง มันทั้งหัวเสียและรู้สึกดีอยู่ลึก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเท็นไม่อยากยอมรับว่าอย่างหลังมันได้เกิดขึ้นจริง เหมือนว่าเขากับแจ็คยอมถอยหลังคนละก้าวโดยไม่มีใครประชดประชันกันเพื่อเอาชนะ มันเป็นช่วงวินาทีสั้น ๆ ที่ทำให้รู้สึกหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น

 

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นมากนักนอกจากสถานการณ์ในเกม

 

ยอดเงินโดเนทพุ่งขึ้นสูงเรื่อย ๆ หลังจากเห็นว่าขี้ซุยบราเทอร์เริ่มตีเกมกลับขึ้นมาได้ เท็นถนัดเล่นแครี่ซึ่งเป็นตำแหน่งความหวังทีม หากตัวเขาไม่ได้เกิด ช่วงท้ายเกมน่าจะพินาศได้ง่าย ๆ

 

ส่วนไอ้แจ็คเล่นซัพพอร์ทห้า คอยออกของช่วยให้เขาฟาร์มง่ายขึ้นเช่น Observer Ward ที่จะทำให้มองเห็นได้ว่าใครอยู่ในละแวกนั้น ป้องกันการโดนฝั่งตรงข้ามลอบฆ่าเพื่อนร่วมทีม เป็นตำแหน่งสนับสนุนคนอื่นจนตัวตายโดยไม่ห่วงเรื่องไอเทมของตัวเอง

 

โซ่เล่นมิดเลน คนที่ต้องคอยกดศัตรูเลนกลาง ตำแหน่งนี้ต้องเอาอีกฝั่งให้อยู่ไม่อย่างนั้นความฉิบหายจะบังเกิด ส่วนไอ้เด็กลูกครึ่งนั่นเล่นออฟเลน คอยดันป้อมชาวบ้านและบางครั้งก็ตามไปช่วยเพื่อนตุ๋ยฝั่งตรงข้าม พี่ตั้บเป็นซับพอร์ทสี่ที่ช่วยแจ็คซื้อของซัพทีมเช่นกัน แต่ตำแหน่งนี้จะมีของใส่ตัวมากกว่าซัพพอร์ทห้าหน่อย

 

สุดท้ายขี้ซุยบราเทอร์ก็ตีเสมอขึ้นมาได้จากเกมที่สอง

 

หลายคนกรีดร้องหา Thr33Gamer ขวัญใจชาวบ้านแม้ว่าไอ้เวรนั่นจะไม่ใช่ดาวประจำเกมนี้ แต่เป็นเพราะทีมมันอยู่ที่นี่ เขาจึงโดนค่อนแคะอยู่ตลอดรายการ แต่ถึงอย่างนั้นเท็นก็พาขี้ซุยบราเทอร์ผ่านรอบแรกไปได้อย่างขาดลอยในเกมสุดท้าย

 

พอลดทิฐิไม่ทะเลาะกัน การคว้าชัยชนะก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถึงจะกระดากปากเวลาพูดคุยปกติอยู่บ้างแต่ถ้าแกล้งทำเหมือนไม่คิดอะไรก็คงไม่ต้องอายใครทั้งนั้น คำชมส่วนใหญ่ถูกเทไปให้เด็กพูดจาสุภาพและเล่นอย่างสุขุม ไหนจะการซัพพอร์ทของไอ้แจ็คซึ่งทำให้แฟนเกม DotA ถึงกับพากันยุให้ย้ายมาแข่งเกมนี้

 

เท็นกดออกเกมขณะที่ทุกคนกำลังคุยกับแฟน ๆ ในห้องแชตหลังแข่งจบ เขาบิดขี้เกียจพลางเขย่ากระป๋องน้ำอัดลมที่ดื่มหมดไปตั้งแต่ครึ่งเกมแรก จึงลุกไปเปิดตู้เย็นเปิดฝากระดกใหม่แล้วเรอเสียงดังจนหมาสะดุ้งตื่น

 

“อะไร แค่นี้ขวัญอ่อนเหรอ?” พี่ซันไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เขาพูด เจ้าขนทองยิ้มลิ้นห้อยเดินเข้ามาหาเขาพร้อมสั่นหางราวกับมันเข้าใจว่าประโยคเมื่อครู่เป็นการชวนเล่น

 

“เมื่อกี้พ่อเพิ่งพาทีมกากชนะ พูดมาซิว่าพ่อพี่ซันเก่งที่สุด” เขาพูดลอดเสียงไรฟันอย่างมันเขี้ยวพลางฟัดหอมขนสีทองของลูกรักแล้วลุกไปคว้าผ้าขนหนูเตรียมอาบน้ำ มันคงดีถ้าหากว่าเขาจะนอนใช้ความคิดในอ่างเงียบ ๆ แล้วปล่อยให้เรื่องวิเคราะห์เกมเป็นหน้าที่ของคนเก่งในช่องแชต

 

RRRrrrrr!!!

 

แค่สิบวิเท่านั้น... เท็นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วภาวนาว่าขอให้เป็นใครสักคนบนโลกยกเว้นผู้ใหญ่ใจดีที่คงโทรมาเยินยอแล้วปิดท้ายด้วยการขอให้เล่นแบบที่ต้องการในรอบถัดไป กระแสสังคมน่าเบื่อแค่ไหน คงไม่มีใครเข้าใจมันดีเท่าเขาอีกแล้ว

 

 

โทรเข้า...

‘0909xxxxxx’

 

 

ใคร?

 

 

“ครับ?”

 

( ... )

 

คนในสายไม่ได้กล่าวทักทายจนชวนคิดไปว่าคงโทรผิด เท็นขมวดคิ้วพลางละโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์แล้วเอาแนบหูอีกครั้ง “ถ้ายังไม่พูดผมจะวางแล้วนะ”

 

( เดี๋ยว )

 

ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูที่พาดอยู่กับท่อนแขน เขาไม่ได้จำเสียงนั้นได้ดีหรือว่าอะไรหรอกนะ ถ้าไม่ติดที่ว่าเพิ่งมีปากเสียงกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ไประหว่างเล่นเกม ให้ตายสิวะ ไอ้แจ็คโทรมางั้นเหรอ ฟ้าจะผ่าลงกลางหัวไหม วันนี้พยากรณ์อากาศว่าไงบ้าง?

 

( พี่ต๋องให้เบอร์มึงมา เขาบอกว่ากูกับมึงควรโทรคุยกันเรื่องรอบหน้าไว้บ้าง )

 

“อ่าฮะ แล้วไงต่อ?”

 

( นี่เบอร์กู จะเมมไม่เมมก็ได้ มันจำง่ายอยู่ เริ่มต้นด้วยศูนย์เก้าศูนย์เก้า เผื่อมึงนึกออกว่าเกมหน้าอยากให้ใครเล่นตัวไหนพวกกูจะได้ไปซ้อมกัน )

 

พวกกูเฉย... TEN10 ก็เป็นหนึ่งในทีมเหมือนกันนะเว้ย อย่างน้อยก็ในงานนี้

 

“แหม่ ทีงี้ทำเป็นเห็นหัวกู” เขายืนพิงกับผนังพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถึงจะรู้ว่าเปล่าประโยชน์แต่การรู้สึกว่าชนะมันก็เยียวยาช่วงโดนทุกคนเหยียบระหว่างเล่นเกมได้บ้าง

 

( วันนี้ได้แสนสองเพราะคนถูกใจที่เราทะเลาะกันแต่ก็ยังชนะ )

 

“แต่แสนสองนั่นมึงก็ไม่ได้แตะสักบาท แคร์ทำไมวะ?”

 

( ถ้าเกมหน้าเราทะเลาะกันแล้วก็ชนะด้วยมันก็อาจจะได้มากกว่าแสนสอง พอถึงตอนนั้นเด็ก ๆ คงได้ทุนมากขึ้นอีก )

 

“พ่อพระอะไรขนาดนั้น?” เท็นจิ๊ปากรัวพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ อันที่จริงไม่ใช่เรื่องที่ต้องแปลกใจด้วยซ้ำเพราะนิสัยไอ้แจ็คเป็นคนมีน้ำใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะลงทุนมาทะเลาะกันเพื่อยอดเงินแบบนี้

 

( กูไม่ได้พ่อพระ แต่กูรู้ว่าแสงสว่างมันหน้าตาเป็นยังไง )

 

“...”

 

( มึงจะมองกูยังไงก็ได้ แต่เงินโดเนทที่มากขึ้นก็มีแต่จะให้โอกาสคนได้มากกว่าเดิม )

 

“เออ รู้แล้ว เดี๋ยวเกมหน้ากูจะโชว์เทพจนพวกมึงหงอไปเลยเป็นไง?” เขาพูดตัดรำคาญกับเรื่องที่เพิ่งเปิดใจยอม อันที่จริงก็อยากได้ยอดโดเนทเยอะ ๆ เหมือนกันนั่นแหละ เขาก็รักเด็ก แค่ไม่เคยบอกให้ใครรู้

 

แค่ถ้าเป็นเมื่อก่อนไอ้แจ็คจะพูดไงนะ?

 

‘ทำบุญกันเหอะ สงสารเขา’

 

ตอนที่พูดก็คว้าข้อมือเขาแล้วเขย่าเบา ๆ ไปด้วย สุดท้ายคนที่ฟังแต่เพื่อนเสมอมาก็อมยิ้มแล้วพยักหน้าตกลงอย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ

 

( ความจริงกูไม่ได้อยากโทรมาหรอก แต่เห็นมึงออกจากห้องทั้งที่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าเกมหน้าจะเอายังไง ว่าแต่มึงมีแผนบ้างไหม? )

 

“กูเห็นพวกมึงคุยกับแฟนคลับอยู่ก็เลยไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่อไร ส่วนเรื่องแผนกูยังไงก็ได้ มึงลองว่ามาสิ ถ้าอันไหนไม่เวิร์กกูจะได้เบรกไว้ตั้งแต่ตอนนี้”

 

( แผนเหรอ... )

 

แจ็คเงียบไปใช้ความคิด เขาจึงเดินเข้าไปเปิดน้ำในอ่างแล้วกระดิกนิ้วเรียกแมวผีที่นั่งมองทุกการกระทำอยู่บนฝาชักโครก ซึ่งแน่นอนว่ามันแค่มองเหยียดแล้วกระโดดหนีไป

 

( มึงทำอะไรอยู่ เหมือนได้ยินเสียงน้ำ เยี่ยวเหรอ? )

 

“ก็แย่ละ กูจะอาบน้ำ”

 

( โอเค งั้นอาบเลย ถ้าทำธุระเสร็จแล้วก็โทรมาหรือไม่ก็ทักแชตสตรีมก็ได้ กูแสตนบายอยู่หน้าคอมจนถึงตีสอง )

 

“ไลน์ล่ะ?”

 

( หะ? )

 

ได้ยินเสียงวิ้งก้องอยู่ในหูกับคำพูดที่หลุดออกไปก่อนสมองจะยั้งไว้ได้ เท็นรู้สึกว่าสองมือเริ่มเย็นเพราะสิ่งที่โพล่งออกไป หากอีกฝ่ายสวนกลับมาในเชิงที่ชวนทำให้อับอาย เขาก็คงต้องหาทางแถให้ได้ถ้าไม่อยากเสียฟอร์ม

 

“ไลน์ไง กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าเราควรแอดกันไว้” นึกถึงการเผชิญหน้ากันในห้างตอนวันคริสต์มาสปีก่อนเมื่อตอนอยากลากโซ่เข้าบลูไวเปอร์ อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าอย่างไรหลังจากได้ยินคำถามนี้อีกครั้ง จะมึนตึงอย่างรำคาญใจแล้วมองมาด้วยแววตาที่มีให้คนแปลกหน้าเท่านั้น แบบนั้นน่ะ เขาคิดถูกแล้วใช่หรือเปล่า?

 

( เดี๋ยวส่งให้ทางข้อความ )

 

เท็นแลบลิ้นกวนกับคำตอบที่น่าพอใจพลางละโทรศัพท์ออกมาดู ก่อนจะชิงวางสายไปโดยไม่บอกอีกฝ่ายสักคำ มันคงดีกว่าถ้าจะปล่อยให้ไอ้แจ็คสบถด่าบ้างหลังจากคุยกันดี ๆ มาเกินห้านาทีแล้ว ใช่ เขาทำตัวไม่ถูก โอเคไหม เมื่อกี้มันทั้งดีและแย่ แต่จากอารมณ์เนือย ๆ ที่เป็นเส้นตรง อยู่ ๆ ทุกอย่างก็พุ่งเป็นกราฟหุ้น ซึ่งมันคงมาจากรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แต่งแต้มบนใบหน้า

 

รอยยิ้มจากคนที่เคยทำให้มันหายไป

 

 

*

 

 

เด็กวัยรุ่นชอบงานโรงเรียนอยู่แล้ว เท็นหมายถึงคนที่มีหน้าตาในสังคมนั้น ๆ ไม่ใช่พวกโนเนมที่พอหันไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จัก ซึ่งเขาคือหนึ่งในประเภทหลังที่ถูกส่งชื่อให้ขึ้นแสดงโชว์กีตาร์

 

ไม่มีใครอยากมาดูหรอก เท็นไม่ใช่คนดังในโรงเรียนที่ใคร ๆ ก็อยากมาจับจองแถวหน้า แต่ทุกอย่างมันผิดถนัด เพราะทันทีที่ถือกีตาร์ออกมาจากม่านเพื่อขึ้นโชว์แรกของวัน เด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตาเพราะข้างล่างมีนักเรียนยืนส่งเสียงเชียร์อยู่เต็มไปหมด

 

‘เรามักจะมองเห็นคนสำคัญก่อนเสมอ’

 

ใครสักคนเคยพูดไว้ เท็นไม่เคยเชื่อกระทั่งเขาเห็นเจ้าของผมสกินเฮดที่ยืนถือกล้องวิดีโออยู่ท่ามกลางนักเรียนมากมาย ไหนจะมีไอ้บ้าหอบฟางอีกสองสามคนกระโดดโลดเต้นอยู่ด้านหลังพร้อมชูป้ายชื่อเขา วันนี้ไอ้ธีร์มันดีด โดนไอ้แจ็คจ้างมาหรือไงก็ไม่รู้ แต่ภาพเหล่านั้นก็เรียกรอยยิ้มออกมาได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว

 

เท็นไม่ได้เป็นคนมีความมั่นใจ แต่อยู่ ๆ ความรู้สึกเหล่านั้นก็อัดแน่นเต็มอกเพียงเพราะเห็นแจ็คละสายตาจากกล้องพร้อมส่งเสียงเชียร์ อีกทั้งยังชูนิ้วหัวแม่มือให้และตอนนั้นเขาอ่านจากริมฝีปากได้ว่า

 

‘หล่อ!!! ที่!!! สุด!!!’

 

“หล่อเหี้ยไรล่ะ...” เท็นยิ้มพลางพึมพำกับความบ้าบอของเพื่อนสนิท หลายวันที่คุยกันน้อยกว่าพนักงานแลกเหรียญบีทีเอส เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ซึ่งก็ได้ผล

 

“เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนชอบร้องด้วยกัน แล้วมันก็อยู่ตรงนั้น ทุกคนรู้จักแจ็คใช่ไหมครับ?” สิ้นสุดคำถาม เด็กหนุ่มสาวก็ส่งเสียงจนฟังไม่ออกว่าพูดอะไร

 

เจ้าของผมสกินเฮดโดนหันไปให้ความสนใจ และเท็นไม่รู้ว่าที่พูดไปนั้นสมควรแล้วหรือไม่ มันจะเป็นการรื้อความหวังว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เพราะก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะดีขึ้นแล้วหลังจากพยายามไปมีชีวิตในแบบของตัวเอง ถึงจะทุลักทุเลและไม่สนุก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาไม่ต้องเอาใจตัวเองไปผูกอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา

 

ถ้าแจ็คกลับมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแค่วันเดียว พรุ่งนี้จะรู้สึกแย่หรือเปล่า?

 

“อยากขึ้นมาร้องด้วยกันไหม?”

 

ไม่ควรเลย ถ้าหลังจากนี้มันหายหัวไปอีกใครคงเซ็งหนักแน่ ๆ เท็นไม่ควรขายฝันให้ตัวเองกลับไปเป็นหมาหัวเน่าเที่ยวควงสาวแล้วปิดท้ายในม่านรูด แต่ไอ้เวรนั่นก็ดันฝากกล้องไว้กับไอ้ธีร์แล้วพูดอะไรสักอย่างก่อนจะแทรกผู้คนขึ้นมา ซึ่งเขาก็ขยับขาไมค์ให้คนข้าง ๆ ได้ร้องเพลงคู่กับกีตาร์ตัวโปรดที่ไปซื้อด้วยกัน

 

“เย็นนี้ไปกินกล้วยกล้วยกัน”

 

“ดูหนังด้วย”

 

“สองเรื่องเลยเป็นไง?”

 

“ค่อยน่าฟังขึ้นมาหน่อย”

 

 

ทั้งคู่คุยกันทั้งที่สายตาทอดมองไปยังผู้คนข้างล่างเวที แม้จะมองไม่เห็นอีกฝ่าย แต่เขากลับรับรู้ได้ว่าตอนนี้แจ็คก็คงยิ้มอยู่เหมือนกัน 

 

“กูขอโทษนะ”

 

“เลอะเทอะ ร้องเพลงให้เพราะเท่าเสียงกีตาร์กูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

 

เด็กหนุ่มสองคนยิ้มขำก่อนเสียงกีตาร์จะเริ่มบรรเลง ตามด้วยเสียงคุ้นหูที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้งหลังจากเดินหลงอยู่ในป่าทึบ บ้านหลังนี้ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และเป็นตัวเองได้ถึงที่สุด ซึ่งเท็นหวังว่าแจ็คจะคิดอย่างนี้

 

“แต่ก่อนแต่ไรเข้าใจ~ ว่าการเป็นคนรัก คือเรียนรู้กันและกัน~”

 

 

ถึงจะไม่เท่ากัน แต่ขอให้มีสักเศษเสี้ยวบ้างก็ได้

 

 

ในเมื่อเพื่อนพยายามขนาดนี้ เท็นเองก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเป็นกังวลเหมือนกัน ‘ทุกคนมีเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น’ วันนี้เท็นเข้าใจดีแล้ว

 

“แต่ถ้าใครคนหนึ่งไม่ใช่ตัวจริง~ ก็คงต้องจากกัน เหมือนดังเรื่องเธอกับฉัน~~~”

 

 

เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดีเลย

 

 

 

*

 

 

‘เธอบอกเหตุผลที่หยุดความรักระหว่างฉัน~ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะรักเขามากกว่าไหม~~’

 

เปิดเพลงคลอไปกับเสียงองค์ประกอบในเกมซึ่งยังคงขับเคลื่อนอยู่ทุกวินาทีที่ควบคุม งานแข่งการกุศลสายแรกจบไปแล้วและขี้ซุยบราเทอร์สามารถต่อลมหายใจไปวีคหน้าได้ ดังนั้นช่วงระหว่างอาทิตย์แจ็คจึงพอมีเวลาฝึกเล่นเงียบ ๆ ระหว่างบอสไม่เข้าออฟฟิศและตอนเลิกงานแล้ว

 

( แจ็คพี่มาถึงหน้าแล้ว ออกมาได้เลย )

 

“โอเคพี่ เดี๋ยวผมขอเก็บของสามนาที”

 

โชคดีที่ทีมกำลังจะชนะแล้ว แจ็คจึงกวักมือเรียกรุ่นน้องโต๊ะข้าง ๆ ให้มาช่วยเล่นระหว่างหันไปคว้ากระเป๋าเป้ที่มีของจำเป็นทุกอย่าง วันนี้ผู้ใหญ่ใจดีมารับไปกินข้าว ไอ้คนที่หูผึ่งเพราะเรื่องเงินบริจาคให้เด็กยากไร้จึงตอบรับเพราะไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ

 

ถ้าให้พูดพี่ต๋องก็คงเหมือนพี่ชายอีกคนที่ไม่ควรหักหน้าด้วยการปฏิเสธ แจ็คไม่ใช่คนโดดเด่นในสังคมเกมเมอร์ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกรงอกเกรงใจชาวบ้านเขาค่อนข้างมั่นใจเลยว่าโดดเด่นกว่าใคร

 

“พี่แจ็คจะกลับมาอีกปะ?”

 

“กลับดิ มึงเอาไรเปล่า?”

 

“ไม่เอา แต่พี่ไม่เอารถไปเหรอ?”

 

“วันนี้มีคนมารับน่ะ”

 

“เย้ยยยยยยยยย สาวใหญ่จากแถวไหนว้า?!!!” ฝ่ายปั้นโมเดลชะโงกหน้าแซวตามประสาคนขี้เสือก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงตอบขิง ๆ ได้ แต่นี่มันใช่เสียทีไหนกันล่ะ

 

“สปอนเซอร์รับไปกินข้าวเฉย ๆ พี่ ถ้ามีเมียเมื่อไหร่จะตะโกนบอกให้ได้ยินไปถึงปากซอยเลย” คนฟังหลุดขำพรืดกับความจริงที่ไม่ชวนให้ตื่นเต้นเอาเสียเลย ไอ้แจ็คก็ยังเป็นไอ้แจ็ค ไม่เคยมีเรื่องสาวเข้ามายุ่งเกี่ยวตั้งแต่ชาติไหน ตอนนี้ก็ยังแห้งเหี่ยวเหมือนเดิม

 

“งั้นผมยืมมอไซค์ไว้ได้เปล่าพี่ อีกชั่วโมงนึงผมว่าจะแวะไปซื้อข้าวอะ คืนนี้กะจะอยู่ยาว”

 

 “เอาดิ เติมน้ำมันให้กูด้วยล่ะ” เขาตบบ่าไอ้ซื่อบื้อปุ ๆ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้เด็กมันนั่งงงตาแตกกับค่าน้ำมันซึ่งเขาเติมไว้เต็มถังตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว

 

พอไปถึงรถผู้ใหญ่ใจดีก็ยิ้มรับอย่างเป็นมิตร แจ็คไม่ใช่คนเอาใจเก่งอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าพี่ต๋องอยากแนะแนวทางการเล่นเกมหน้าเพื่อยอดโดเนทแจ็คก็พอทำให้ได้อยู่

 

ทั้งคู่ยังไม่ได้เข้าเรื่องประเด็นหลัก บทสนทนาบนรถโดยรวมแล้วเป็นเรื่องอาชีพผู้พัฒนาเกมควบนักกีฬาอีสปอร์ตจนเกิดคำถามว่า ‘ทำหลายอย่างแบบนี้จะมีเวลาให้แฟนเหรอ?’ ซึ่งคนถูกถามก็ได้แค่ยิ้มแล้วบอกว่า

 

 

‘ถ้าเจอคนที่ชอบจริง ๆ ผมจะเอาเวลานอนนั่นแหละไปให้เค้า’

 

 

เซนทรัลเวสต์เกตคือเป้าหมายของวันนี้ จะว่าไปแจ็คก็ไม่ได้กินอาหารขึ้นห้างมาสักพักใหญ่แล้ว ระหว่างเดินออกลานจอดรถจึงนึกถึงครอบครัวที่กินอะไรง่าย ๆ อยู่ทุกวัน ไม่ค่อยได้สังสรรค์มื้อใหญ่ อืม... ศุกร์นี้เอ็มเคท่าจะดี แม่กับน้องชอบกินเป็ด

 

“...”

 

แต่พอไปถึงร้านอาหารก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในนั่นคือหมาบ้าที่ฟลัดสติ๊กเกอร์ใส่ในไลน์เป็นร้อย ไอ้หน้าวอกหัวเทานั่นเห็นเขาแล้ว และพี่ต๋องคงรู้มาก่อนถึงได้โบกมือตอบโต้มันพร้อมดันหลังเขาเข้าไปด้วยกัน

 

“พี่น่าจะบอกผมหน่อย”

 

“อ้าว พี่เห็นว่าคุยไลน์กันได้แล้วก็เลยคิดว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นแล้วซะอีก เอาไงวะ แยกโต๊ะไหม เดี๋ยวพี่ไปนั่งกับแจ็คเอง” กดดันด้วยสีหน้าคนดีแล้วจะทำอะไรได้ แจ็คยิ้มอย่างแห้งพลางเสยผมที่ปรกใบหน้าก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ

 

“ไม่เป็นไรพี่ ผมคุยกันได้ แต่เมื่อเช้ามันกวนตีนผมเฉย ๆ”

 

“เท็นมันก็งี้แหละน่า” พี่ต๋องหรี่ตายิ้มพลางตบหลังคนอายุน้อยกว่า ก่อนทั้งคู่จะนั่งลงฝั่งตรงข้ามไอ้คนแต่งตัวจัด

 

“วันนี้สระผมมาเหรอ สลวยมาแต่ไกลเลย” คนถูกแซวไม่ขำด้วย ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงพนักงานต้อนรับ เพราะสงครามสติ๊กเกอร์หน้าโง่นับร้อยที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาบอกว่า ‘กูไม่ชอบแจ้งเตือนไลน์เยอะ ๆ’

 

“สั่งข้าวก่อนแล้วค่อยตีกัน”

 

แจ็ครวบผมแล้วมัดด้วยยาง ขณะที่คนนั่งฝั่งตรงข้ามทำท่าเกลียวผมล้อเลียน ซึ่งเขาก็เอามือถือขึ้นมาไถเล่นแสร้งเป็นไม่สนใจ และการทักไปหาเพื่อนพระก็ดูจะเป็นหนทางที่ฉุกละหุกฉิบหาย

 

 

jjack: พระธีร์ สวดมนต์ให้อ่านหน่อย

บุตรแห่งวันเพ็ญ: เอาบทไหน กุสลาธัมมาเลยปะ สวดเสร็จเข็นหลวงพี่เข้าเมรุเลย

TUBTUBZA: ไอ้แหลม ไอ้เด็กเหี้ย พี่มึงบวชอยู่นะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

THREE: จริง ให้เกลียดกันบ้าง

TUBTUBZA: เกียจพอไหม

Derya MK12: จริง ๆ ต้องเกียรติแบบนี้ครับพี่ตั้บ...

บุตรแห่งวันเพ็ญ: 555555555555555555555555555555555

TUBTUBZA:
อ้าวเหรอ ขอโทษที่ตอนเป็นเด็กโดดเรียนไปแว๊น

jjack: เร็ว ๆๆๆๆๆ บทอะไรก็สวดมา ตอนนี้มือสั่นแล้ว

THREE: นะโมตัดสระ สองร้อยหะโต ถ้าไดร์หนีบด้วยก็โกไปปากซอย

TUBTUBZA: แหลม กูว่ามึงมาด่าต่อเถอะ

บุตรแห่งวันเพ็ญ: มารศาสนา

Derya MK12: โซ่บอกแล้วใช่ไหมครับว่าอย่าลากโซ่กลับกรุ๊ปนี้ เนี่ย รู้สึกบาปไปด้วยเลย

 

 

 

(ต่อด้านล่างนะคะ)
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 16-09-2018 22:45:33



-----------------------------

 

การวางแผน – ไม่สิ เรียกว่าการขอความร่วมมือให้เกมหน้าสนุกขึ้นถึงจะถูก เอาเป็นว่าทั้งคู่ตอบตกลงกับเรื่องที่ทำเป็นประจำอยู่แล้วซึ่งนั่นก็คือการทะเลาะระหว่างเล่น แต่เรื่องชัยชนะที่เริ่มยากขึ้นนี่สิจะทำอย่างไร?

 

“เฮ้ยโทษทีว่ะ พี่มีธุระด่วนต้องไปทำ ต้องไปแล้ว” พี่ต๋องยังไม่ละสายตาจากโทรศัพท์ เพียงครู่เดียวก็เงยหน้าสบตากับไอ้วอกหัวเทา “พี่รบกวนหน่อยดิเท็น ไปส่งแจ็คที่ออฟฟิศได้ไหม? – เฮ้ยแจ็ค พี่ขอโทษจริง ๆ ที่พามาแล้วไม่ได้ไปส่ง”

 

“ไม่เป็นไร พี่รีบไปทำธุระเถอะ เดี๋ยวผมนั่งรถเมล์กลับได้” เรื่องแค่นี้เล็กน้อยนัก แจ็คไม่อยากให้พี่ต๋องต้องกังวล

 

“ใช่พี่ เดี๋ยวผมไปส่งมันเอง”

 

“กูจะนั่งรถเมล์กลับ เมื่อกี้คงได้ยินนะ?” แจ็คหันไปสบตากับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมขมวดคิ้วเอานิ้ววน ๆ อยู่ใกล้หู

 

“แต่พี่ต๋องฝากมึงไว้กับกู เมื่อกี้ถ้าไม่หูหนวกก็น่าจะได้ยินเหมือนกัน” คนส้นตีนก็ยังเป็นคนส้นตีน ไอ้เท็นพูดหน้าตาเฉยแล้วหันไปยิ้มให้พี่ต๋องที่รีบเอาบัตรเครดิตจ่ายค่าอาหาร มีความล่กอย่างเห็นได้ชัดเพราะธุระด่วนที่จ่อมาอย่างกะไฟลนก้น

 

“ไว้คุยกันนะ ขอโทษจริง ๆ แล้วก็ขอบคุณมากที่ให้ความร่วมมือ”

 

ทั้งสองคนยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ใจดีทันทีที่ออกมาจากร้าน พี่แกเริ่มจากเดินเร็ว ก่อนจะเร่งสปีดเป็นวิ่งร้อยเมตรชายจนหายลับสายตาไป

 

“รีบอะไรขนาดนั้น”

 

“เมียโทรตามแน่ ๆ”

 

ต่างฝ่ายต่างก็พูดลอย ๆ แต่ก็ดูเหมือนกำลังคุยกัน และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่อยากยอมรับ จึงขยับถอยออกห่างคนละหนึ่งก้าวแล้วหรี่ตามองกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

“เท็น มึงใช้โควตาความอดทนกูไปแล้วประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแปดสิบมาจากสติ๊กเกอร์ไลน์ส้นตีนนั่น”

 

“ก็มึงบอกเองว่าถ้ามีอะไรให้ทักได้เลย กูผิดไร หงุดหงิดที่โดนเทกลางห้างก็ไม่ควรมาลงกับกูไหม?”

 

“การที่กูตอบคำถามมึงเวลาคุยกันนั่นไม่ได้หมายความว่าอะไร ๆ จะเปลี่ยนไปจากเดิม กูแค่อยากทำให้เกมมันง่ายขึ้น อย่าเล่นลิ้นให้มากนัก”

 

“โอ้โห พูดจาเหมือนเป็นคนอยู่เหนือกว่าทุกอย่าง” เท็นแค่นหัวเราะมองอีกคน “แต่ก็ถูกของมึงที่ต้องทำให้เกมมันง่ายขึ้น เพราะเกมยากพวกขี้ซุยฯ ก็คงไม่รอด ลำบากกูต้องแบกทีมอีก -- เฮ้อ ทุกครั้งที่ออกเสียงชื่อทีมมึงนี่บอกตามตรงว่ากูกระดากปากมาก ไม่มีชื่ออื่นให้ตั้งแล้วหรือไง เห่ยฉิบหาย” เท็นล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางชำเลืองมองคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าเหม็นเบื่อเขา

 

“กูกลับละ”

 

“พี่ต๋องบอกให้กูไปส่งมึง”

 

“พี่แกกลับแล้ว มึงไม่ต้องทำตามทุกอย่างก็ได้ กูไปทางนี้ มึงไปทางนั้น โอเคไหม เข้าใจแล้วก็เลิกทำหน้าวอนตีนสักที” เท็นทำหน้าเหรอหรา ยิ่งอีกฝ่ายไม่พอใจก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ 

 

RRRRrrrrr

 

เท็นผายมือเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาได้ถูกจังหวะ ไอ้แจ็คยังมองมาอย่างตั้งคำถามว่าทำไมเขาถึงยังยืนอยู่ตรงนี้ทั้งที่ควรไสหัวไป แต่เพราะคำสั่งของพี่ต๋องยังเป็นข้ออ้างได้ เขาจึงยังอยากอยู่สนุกต่ออีกสักหน่อยตามประสาคนว่าง

 

“ว่าไงแม่ แจ็คอยู่เวสต์เกทอะ อะไรนะ ฝนตก? แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหน น้องยังไม่กลับเหรอ อ้าว ทำไมแม่ไม่ปิดประตูหน้าต่างก่อนออกไป? ลืมอีก? โอเค ๆ แจ็คจะรีบกลับ”

 

รู้สึกเหมือนอะไร ๆ ก็ไม่ได้ดั่งใจ จะเสียเวลากลับไปเอามอเตอร์ไซค์ที่ออฟฟิศก็ไม่ได้เพราะกลัวห้องแม่จะน้ำเจิ่งนองจนคืนนี้ต้องระเห็ดไปนอนห้องน้อง เขาต้องรีบไปดูแลความเรียบร้อยของบ้านและทำความสะ --

 

“...”

 

ไอ้วอกหัวเทาชูพวงกุญแจรถแล้วเขย่าเบา ๆ พร้อมยิ้มอย่างผู้ชนะ ยกนี้เหมือนจำเป็นต้องยอมให้โดนฮุคเสยปลายคางเพราะถ้าจะเรียกแท็กซี่ประเทศไทยก็เกรงว่าจะได้ขึ้นชาติหน้า แจ็คหลับตาลงตั้งสติกับความจำเป็นที่ต้องหายใจร่วมกันกับคนที่เผลอไม่ได้เป็นต้องอ้าปากหาเรื่องทะเลาะ ซึ่งเขาหวังว่าอีกฝ่ายจะหักรถกลับทันทีที่ส่งถึงหน้าบ้าน

 

“พอใจมึงยัง?”

 

“พอใจไร มึงต้องใช้คำว่า ‘รบกวนมึงแล้วนะเท็น’ สิถึงจะถูก เดี๋ยว! เดินนำไปอะรู้เหรอว่ารถอยู่ชั้นไหน?!”

 

เท็นยิ้มขำพลางตะโกนไล่หลังอีกคนที่ตอนแรกก็เดินไปแต่สุดท้ายก็หันกลับมาพร้อมเลิกคิ้วถามว่า ‘แล้วมึงจะเดินนำกูได้เมื่อไหร่ดี?’ แจ็คคงเซ็งหนัก เขารู้น่า แต่นั่นใช่เรื่องที่ต้องยอมเสียเมื่อไหร่ เพราะวันน่าเบื่อแบบนี้ควรมีอะไรมาเพิ่มความสนุกให้ และนั่นคือการไปบ้านอดีตเพื่อนรักคนนี้

 

 

TBC
 


อย่าเครียดเรื่องใครเมะใครเคะเลยนร้า ผุ้ชายคนนึงก็อ่อนไหวได้ แต่หนูอะไม่ไหว ปวดขามาก

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2018 23:15:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 16-09-2018 23:29:42
อุ้วววๆๆๆ พี่แจ็คสู้ๆ ตีกันๆๆ 55555555555

ตอนนี้พี่ซันพี่มูนมาน้อยจังอะ แงงง

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-09-2018 23:39:50
มันเริ่มจากตรงไหนเหรอ

ทำร้ายกันขนาดนี้เพื่ออะไรเหรอ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 17-09-2018 00:36:42
เท็นเพลาๆมั่งนะนิสัยชอบกวนพี่แจ็คนะเดียวเราตีเลย  พี่แจ็คชกจูบชกจูบที่สิคะเราหมั่นไส้นังเท็นมากก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-09-2018 01:30:20
 :laugh:



 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mayyiyi ที่ 17-09-2018 03:44:30
พี่ธีร์จะสึกก็ได้นะคะ บวชกับไม่บวชความบาปก็ไม่แตกต่างเลยพี่
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 17-09-2018 03:46:40
คุณคนเขียนทิ้งระเบิดเฉยเลย เท็นแจ็คหรือแจ็คเท็นล่ะทีนี้ 5555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-09-2018 07:45:18
ดีค่ะ น่าจับขังห้องเดียวกัน ตีกันให้หนำใจ จะได้หยุดทะเลาะกันซะที ตอนเป็นเด็กน้อยออกจะรักกันดีแท้ ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: killua1a ที่ 17-09-2018 08:21:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 17-09-2018 15:46:32
จับจัดแตกได้ร๊ะ


แตกหักกัน เพราะเรื่องผู้หญิงชัวร์


แล้วถึงขั้นไม่เผาผีกันนิ่คงเพราะอิโก้ของทุกคน


ซึมเศร้าแมนมีพระธีและพวกเพื่อนๆรองรับ


แต่เก็บกดแมนหัวเดียวกระเทียมลีบ


ต้องใช้ความเก็บกดอดทนของตนเองเข้าสู้
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 5 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (16/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 17-09-2018 21:08:53
แจ็คก็แคร์เท็นมากๆเหมือนกัน​ ไม่งั้นคงไม่กระวนกระวายขนาดนั้น​ ฮือ​ จะร้องไห้ทุกทีเหลย
ขอให้อะไรๆมันดีขึ้น​ อยากรู้จุดแตกหักที่เกิดขึ้นจริงๆ​ ว่าเหตุผลเท็นจะฟังขึ้นมั้ย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 23-09-2018 20:00:04

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 06
บรรยากาศเก่า ๆ


 

 

“จะไม่ขอบคุณกันสักคำเลยหรือไง?”

 

แจ็คค้างอยู่ท่ากำลังจะเปิดประตูรถก่อนจะหันไปสบตากับคนขับที่มองมาอย่างคาดหวังว่าจะได้สิ่งนั้น แจ็คเป็นคนมีมารยาทและรู้จักบุญคุณคน แต่สำหรับผีห่าที่กวนตีนจนได้มาส่งถึงบ้านนี่ต้องนับด้วยเหรอวะ?

 

“ขอบใจ”

 

“ฝืนชัด ๆ”

 

“กูต้องกราบตักมึงเลยไหมถึงจะดูซาบซึ้งใจพอ?” เขาขมวดคิ้วถาม ซึ่งไอ้หน้าวอกหัวเทาก็มองไปข้างหน้าแล้วผิวปากอย่างวอนตีน

 

ข้างนอกฝนตกหนักจนไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ แต่กระเป๋าเป้บนตักก็สำคัญเกินกว่าจะยกขึ้นมาบังเสื้อผ้าหน้าผม แจ็คเอากุญแจบ้านออกมาแล้วเปิดประตูรถ แต่ยังไม่ทันดันออกไปก็ถูกใครอีกคนคว้าคอเสื้อไว้ก่อน

 

“เชี่ยไรมึงอีก?”

 

“กูปวดฉี่ ขอเข้าห้องน้ำแป๊บดิ”

 

“เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้างมึงสร้างสวรรค์วิมานอะไรอยู่?”

 

“อ้าว กูห้ามกระเพาะปัสสาวะได้ด้วยหรือไง ถ้าไม่มีน้ำใจก็บอกจะได้อั้นไปฉี่ปั๊ม”

 

ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงพายุหยดน้ำกระทบหลังคารถ และแจ็คก็ให้คำตอบด้วยการปัดมืออีกคนแล้วผลักประตูออกไป เท็นยิ้มอย่างชอบใจพลางชะเง้อมองด้านนอก เขายังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องหาอะไรสักอย่างมาบังศีรษะสักหน่อย เขาไม่ชอบเวลาเสื้อผ้าเปียก

 

ร่มฟรีตรงเบาะหลังที่เพิ่งได้มาเมื่อหลายวันก่อนคือไอเทมพระเจ้าประทานให้ เท็นกางมันแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอีกคนโดยพยายามไม่ให้รองเท้าราคาแพงเปียกเกินความจำเป็น

 

ชายหนุ่มกวาดสายตาไปโดยรอบกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน รู้ว่าไอ้แจ็คย้ายบ้านนานแล้วแต่ช่วงนั้นทั้งคู่ก็ห่างเหินกันเกินกว่าจะไถ่ถามว่าไปอยู่ไหน ราวเหล็กเต็มไปด้วยเสื้อผ้า มันถูกรีดจนเรียบและห่อด้วยถุงพลาสติก รวมถึงชุดครุยหลากหลายสถาบันในถุงคลุมบ่งบอกถึงความประณีต

 

เหมือนเห็นนักเรียนมอปลายสองคนยืนอยู่ข้างกันในที่แห่งหนึ่ง ก่อนเวลาจะหมุนไปอย่างรวดเร็วพร้อมสิ่งแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนไป มีบางอย่างที่จำได้ แต่บางอย่างที่ลืมไปจนเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น จนที่ตรงนั้นเหลือเพียงเขาคนนี้ไม่มีเพื่อนอยู่ข้างตัว

 

ตรงหน้าเคยเป็นบ้านหลังใหญ่ ก่อนมันจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นห้องแถวหลายชั้นกับกิจการซักอบรีด

 

อาจเป็นเพราะสูญเสียหัวหน้าครอบครัวไปคนเป็นแม่และลูกอีกสามคนจึงใช้ชีวิตลำบากกว่าที่เคย เท็นไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้แจ็คเป็นอยู่อย่างไร จะลำบากมากแค่ไหนกับเงินที่เคยเหลือกินเหลือใช้แต่อยู่ ๆ ชีวิตก็พลิกผันไปอย่างนี้

 

“ทางนั้น” เสียงมึนตึงหยุดความสงสัยทั้งหมดไว้ เท็นมองใครอีกคนที่พยักหน้าส่ง ๆ ไปทางด้านขวามือซึ่งเขาก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

 

แกล้งปลดเข็มขัดกางเกงช้า ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ ตัว แม้จะทาสีผนังใหม่แล้ว แต่รอยสีน้ำตาลอ่อน ๆ ที่กลืนเกือบถึงเพดานก็ยังหลงเหลืออยู่ให้เห็น

 

“แจ็ค” เขาแง้มประตูออกไปมองพ่อบ้านที่กำลังใช้ไม้กวาดอย่างขะมักเขม้น

 

“ว่า?”

 

“รอยอะไรบนผนังวะ?” จะบอกว่ามันคล้ำเพราะความเก่าก็คงไม่ใช่ และเขาหวังว่าไอ้เวรนั่นจะตอบดี ๆ มากกว่าจะหาเรื่องด่ากลับนะ

 

“น้ำท่วม”

 

“...”

 

“ปีห้าสี่ ถ้าจำได้”

 

“อ้อ นั่นสินะ” ไอ้แจ็คยังคงกวาดบ้านเหมือนการเล่าเรื่องรอยคล้ำเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่เขาจำได้ว่าตอนนั้นกรุงเทพฯ โคตรวุ่นวาย โดยเฉพาะคนที่อยู่บางใหญ่-ไทรน้อย

 

 

แล้วตอนนั้น... ไอ้แจ็คกับครอบครัวมันเป็นอยู่ยังไงวะ?

 

 

ตอนที่น้ำท่วมถึงชั้นสอง ตอนเกือบสิบปีก่อนน้องอีกสองคนของมันก็ยังเด็กกันอยู่ ไหนจะแม่...

 

เท็นขมวดคิ้วกับเรื่องที่รู้ว่าไม่ควรถามต่อเพราะอีกฝ่ายคงไม่เต็มใจเล่าให้ฟัง ชายหนุ่มเท้ามือกับผนังพลางกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องน้ำอีกครั้ง ผ่านไปหลายนาทีจึงยอมออกไป ก่อนจะได้ยินเสียงตะหลิวกระทบกระทะซึ่งดังมาจากครัว

 

“อะไร หาทางออกไม่เจอเหรอ?” แจ็คมองอีกคนที่โผล่หน้าเข้ามา ดวงตาคู่นั้นยังไม่เลิกสอดส่องซอกแซกกับบ้านที่เพิ่งมาเหยียบครั้งแรก

 

“ไล่จังนะ” เขาจ้องหน้าอีกฝ่าย เพียงครู่เดียวก็หันมาสนใจมื้อเย็นที่ทำไว้ให้แม่และน้องอีกสองคน “ตามมารยาทมึงควรชวนกูอยู่กินข้าวด้วย”

 

“รู้สึกไหมว่าวันนี้มึงดูอินกับเรื่องมารยาทเป็นพิเศษ?” เท็นหน้านิ่งกับฮุคนี้ ก่อนจะกลอกตาล่อกแล่กกวนประสาท “เมื่อกี้ยังแดกไม่อิ่มหรือไง?”

 

“กูเป็นคนกระเพาะเล็ก กินน้อยแต่หิวบ่อย แล้วเมนูโง่ ๆ ในกระทะมึงก็กลิ่นหอมใช้ได้ด้วย”

 

“ถ้าอยู่บ้านอื่นมึงคิดว่าพูดแบบนี้แล้วเขาจะให้มึงแดกด้วยไหม?”

 

“ทำไมวันนี้มึงถามเยอะจังวะแจ็ค ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายกูคงคิดว่ามึงอยู่ในช่วงเมนส์มา”

 

“อาจจะ แล้วเลือดที่ว่าก็คงจะอาบน้ำมึงได้ถ้ายังวอแวไม่เลิก” รู้เลยว่าไอ้แจ็คหงุดหงิดจัด เพราะทุกครั้งที่เจอกันอีกฝ่ายมักจะจ้องอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเงียบไปเฉย ๆ มากกว่าจะตอกหน้ากันทุกกระบวนท่าอย่างนี้ แต่ก็ดีเหมือนกัน เขาชอบเวลามันตอบโต้มากกว่าปล่อยผ่านเหมือนทุกที

 

“ที่กูยังดึงดันอยู่เพราะจะชวนวางแผนเกมหน้าหรอก”

 

“...”

 

“รู้งี้แล้วยังจะไล่กลับอยู่ไหม หื้อ?” จะบอกว่ารู้จักไอ้เท็นดีก็พูดได้ไม่เต็มปาก แจ็คมองอีกฝ่ายพลางถอนหายใจเงียบ ๆ แล้วคิดไปว่าเหตุผลนั้นมีความจริงแฝงอยู่สักกี่เปอร์เซ็นต์กัน

 

“ถ้ามึงพูดแบบนี้แต่แรกก็คงไม่มีใครต้องเสียน้ำลายไปเปล่า ๆ”

 

“เสียก็แดกน้ำเข้าไปใหม่”

 

“ไปรอข้างนอก”

 

“ตะหลิวเลยนะ” เท็นผงะถอยหลังก้าวหนึ่งพลางลดระดับสายตามองอีกคนที่ตั้งท่าว่าจะโชว์วงสวิงฟาดหน้าเขาด้วยอาวุธทำอาหารที่ถือไว้ “กูเป็นลูกมือให้เปล่า จะทำอะไรกินบ้างล่ะ บอกมาเลยเดี๋ยวกูช่วย”

 

“ไม่ต้อง ชีวิตในครัวกูไม่ได้ลำบากขนาดนั้น”

 

“อย่างเช่นหยิบของในตู้เย็น ขวดซงขวดซอสบลา ๆ กูไม่อยากรู้สึกผิดว่ามากินข้าวบ้านคนอื่นแล้วยังไม่รู้จักหยิบจับอะไรช่วยเจ้าบ้านเลยน่ะนะ”

 

“แยกกระปุกน้ำตาลกับเกลือได้ยังถึงบอกว่าจะช่วยกู?”

 

 

*

 

 

“อะไรของมึงวะเท็น ใส่เกลือเข้าไปเยอะขนาดนั้นแล้วจะแดกยังไง?” แจ็คยิ้มขำพลางมองเพื่อนสนิทที่เหมือนจะตายไปแล้วครึ่งตัว ไอ้เท็นก้มลงมองถ้วยมาม่าซึ่งมีกองเม็ดสีขาว ๆ พูนอยู่ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาราวกับอยากได้ความช่วยเหลือ

 

“เฮ้ย... มันไม่ใช่น้ำตาลเหรอวะ?” ด้วยความเป็นคนติดปรุงทุกอย่างเพราะต่อมรับรสมันโคตรเอาแต่ใจ แจ็คยังคงขำจนน้ำตาไหล ก่อนจะใช้ช้อนตนเองตักกองเกลือเหล่านั้นออกมาทิ้งไว้กับซองมาม่า

 

“ขวดมันฟ้า ๆ เหมือนกันกูก็งงดิ ฉิบหาย”

 

“โรคไตแดกแน่มึง”

 

“นี่ก็ไม่ห้ามกูเล้ย” ไอ้เท็นบ่นอุบอิบพลางคนถ้วยมาม่าที่ผสมแค่น้ำเปล่าโดยไม่มีอย่างอื่นเป็นเครื่องเคียงเพิ่มรสชาติ

 

ในค่ำคืนวันหยุดที่อยู่ติวหนังสือด้วยกัน แจ็คมักจะชวนเท็นลงมาหาของกินกลางดึกซึ่งมาม่ารสหมูสับก็เป็นของโปรดที่ทั้งคู่เห็นตรงกัน

 

แจ็คเอื้อมไปตักของเพื่อนมาชิม รสชาติก็ไม่แย่นักแต่ก็ไม่ใกล้เคียงคำว่าอร่อย ถ้าให้ฝืนกินจนอิ่มท้องก็คงได้ มาม่าก็ยังมีมากพอให้เอามาต้มใหม่ แต่แจ็คกลับเดินไปเปิดตู้แล้วกลับมาพร้อมชามเซรามิกซ์ใบใหญ่ที่นาน ๆ จะได้เอาออกมาใช้สักครั้ง

 

เขาเททั้งสองถ้วยใส่รวมกันแล้วเติมน้ำร้อนอีกนิดหน่อย ความเค็มจากเกลือและเครื่องปรุงรสหมูสับจึงจางลงจนกลายเป็นความอร่อยเหมือนที่เคยแล้ว เท็นดูลุ้นกับชะตาชีวิตในค่ำคืนนี้ พอตักน้ำซุปชิมไปคำแรกก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้รู้ว่าหลังจากนี้การกินมาม่าชามเดียวกันมันคงอร่อยกว่ากินแยกแล้ว

 

 

 

*

 

 

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีไหมลูก?”

 

“สบายดีแม่ แล้วแม่ล่ะเหนื่อยไหม?”

 

มีแค่แม่คนเดียวที่ชวนคุย ซึ่งเท็นก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูก ๆ บ้านนี้จะหันมาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง มื้อเย็นเริ่มต้นตอนฟ้ามืดแล้ว เขายิ้มให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะโดยไม่ได้หันไปให้ความสนใจเด็กอีกสองคนที่เติบโตจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม

 

“แม่ก็เรื่อย ๆ เหนื่อยบ้างสบายบ้าง ว่าแต่เพิ่งกลับไทยเหรอ?” คนถูกถามเลิกคิ้วอ้าปากค้าง ก่อนจะหันไปส่งสายตาเป็นเชิงถามกับลูกชายคนโตซึ่งมันก็เอาแต่ยกน้ำอัดลมดื่มโดยไม่สนใจอะไรใด ๆ

 

“ครับ?”

 

“อยู่อเมริกาตั้งนานคิดถึงอาหารบ้านเราไหมลูก ที่นั่นมีร้านอาหารไทยก็จริง แต่ราคาแต่ละอย่างก็แพงแถมรสชาติก็ห่างไกลความเป็นต้นฉบับด้วย เพราะงั้นกลับมาแล้วก็กินเยอะ ๆ เลยนะ”

 

 “...ครับแม่” เขาขานตอบแต่สายตากลับถลึงใส่ไอ้คนที่ชำเลืองมองอยู่ฝั่งตรงข้าม “ผมจะกินเยอะ ๆ เพราะผมคิดถึงอาหารไทยโคตร ๆ”

 

ตอนแรกคิดไว้ว่าอาจจะต้องรับมือกับสายตาของคนเป็นแม่เพราะเรื่องราวในอดีต หนึ่งเลย... ไม่ว่าใครก็ต้องเข้าข้างลูกตัวเองอยู่แล้ว แต่คราวนี้ผิดคาดไปหน่อยว่ะ แจ็คไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อตอนนั้นแล้วโกหกว่าเรื่องหายหน้าหายตาไปตลอดสิบปีคือการย้ายไปอยู่อเมริกาเหรอ?

 

แต่ไอ้เก็บทุกอย่างไว้โดยไม่เล่าให้แม่ฟังก็สมกับเป็นไอ้แจ็คดีเหมือนกัน

 

“เห็นหน้าเท็นแล้วแม่ก็โล่งใจ” เจ้าของชื่อยกน้ำขึ้นดื่มพลางมองรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าหญิงแก่ “เหมือนได้ลูกชายอีกคนกลับมายังไงก็ไม่รู้ ต่อไปนี้แจ็คก็คงไม่ต้องเหงาอีกแล้วนะลูกนะ”

 

“แจ็คเหงาเหรอ?” ถึงจะคันตีนเพราะเรื่องไปอเมริกาแต่ก็ยอมรับว่าแอบสะใจเล็ก ๆ ที่ได้เห็นสีหน้าไอ้แจ็คแบบนั้น

 

“แม่ไม่ได้หมายความแบบนั้น ที่แม่จะสื่อก็คือแจ็คจะได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเหมือนเมื่อก่อนไง”

 

“เมื่อก่อนก็ส่วนเมื่อก่อน ตอนนี้ผมมีพวกไอ้ธีร์แล้วไม่ต้องมีมันก็ได้”

 

“แม่ ดูมันดิ ผมโคตรเจ็บหัวใจเลย” เท็นขมวดคิ้วรีบหันไปฟ้อง แต่ก็ถูกสวนกลับโดยลูกชายบ้านนี้

 

“แดก ๆ เข้าไปแล้วรีบกลับบ้านมึงซะ”

 

“แจ็ค ทำไมวันนี้หยาบคายจังลูก?” ก็รู้ตัวว่าฟิวส์หลุดไปหลายครั้งแต่ก็เพราะใครกันที่ทำให้เป็นอย่างนี้ แจ็คนั่งเท้าศอกกุมขมับ ดูเหมือนว่าตอนนี้อะไร ๆ จะเข้าทางไอ้หน้าวอกไปหมด

 

“น่าจะโมโหค้างจากที่แม่ลืมปิดหน้าต่างแน่ ๆ”

 

“จริง น้องเห็นด้วย”

 

พี่ใหญ่เอื้อมไปแท็กมือกับน้องอีกสองคนที่ช่วยเสริมอย่างเป็นทีม เท็นเลิกคิ้วมองพลางแค่นยิ้มกับความสามัคคีของครอบครัวนี้ที่ลูกคนเดียวอย่างเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

 

“เข้าใจว่าสนิทกันเลยพูดแรง ๆ ได้ แต่แม่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าบางครั้งคนฟังอาจจะไม่รู้สึกเหมือนคนพูด เราอาจจะเล่นขำ ๆ แต่อีกฝ่ายอาจจะคิดมากอยู่ก็ได้”

 

“แม่พูดถูกครับ”

 

“เข้าข้างกันจังเลยนะ จดทะเบียนเป็นแม่ลูกกันเลยเป็นไง?” ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง และเท็นคงไม่หยุดด้วยการเงียบไปเฉย ๆ อย่างคนแพ้แน่

 

“ได้ไหมล่ะ?”

 

“อิ่มแล้วก็กลับ ๆ บ้านซะไป”

 

“แม่ มันไล่เท็นอะ”

 

“อยู่ปอหนึ่งเหรอ ทำตัวเป็นเด็กขี้ฟ้องเหลือเกินนะ?”

 

“ใช่ ว่าไงเพื่อนปอหนึ่ง?”

 

แหม่มกับคิงค้างอยู่ในท่าถือช้อนส้อม มองสงครามบนโต๊ะอาหารที่ลุกเป็นไฟขึ้นอยู่ทุกขณะซึ่งคงมีแค่แม่คนเดียวที่ไม่รู้ถึงความมาคุนี้

 

 

*

 

 

 หลังจากโชว์ร้องเพลงกับกีตาร์เท็นก็เหมือนก้าวเข้าไปในโลกใบใหม่ เพราะทันทีที่เข้าไปในโรงเรียนก็รู้สึกได้ว่าถูกมองจนผิดปกติ จากประสบการณ์ตอนมอต้นที่ยังฝังจำอยู่ในใจ เขาจึงชำเลืองมองไปรอบตัวอย่างหวาดระแวงว่าคนเหล่านั้นมองมาเพราะคิดร้ายหรือแค่มองตามปกติเท่านั้น

 

ระหว่างทางก็ทบทวนตัวเองว่าเผลอทำผิดอะไรไปไหม หรือว่ามีใครปล่อยข่าวว่าเขาไปนอนกับแฟนคนอื่นมาซึ่งมันเป็นเรื่องจริงครึ่งหนึ่ง ตามประสาเด็กหนุ่มวัยกลัดมันที่คิดว่ามันคงเท่ดีถ้ามีอะไรกับผู้หญิงหลายคน แต่นั่นก็จบแค่บนเตียงไม่ได้สานต่อ หรือว่าผู้หญิงจะปากโป้งเอาไปพูดนะ?

 

แต่ความกังวลทั้งหมดก็ถูกกระทืบให้จมดินโดยน้องมอสี่ที่วิ่งมารุมพร้อมขนมหวาน เด็กกลุ่มนี้เอาแต่ยิ้มแล้วบอกว่าเขาเท่แค่ไหนตอนโซโล่กีตาร์ จนคนถูกใส่ใจถึงกับทำตัวไม่ถูก ก็รู้ว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่แล้วที่จะถูกชอบเพราะเขาก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ แต่เป็นเพราะเท็นแค่ไม่ได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสปอร์ตไลท์เหมือนคนดังในโรงเรียน ช่วงเวลาที่ผ่านไปจึงเรียบง่ายจนเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาก็มีสปอร์ตไลท์เป็นของตัวเองได้เหมือนกัน

 

คิดว่าพวกเธอคงเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่หน้าเวที แต่ผิดถนัด เพราะเด็กสาวเหล่านี้เห็นเขาจากคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงในเว็บบอร์ดโรงเรียน พื้นที่ ๆ มีแต่พวกคนดังเท่านั้นที่ได้รับความสนใจ

 

เด็กหนุ่มรีบวิ่งเข้าห้องเรียนหวังจะปรึกษาเพื่อนแต่แจ็คกับธีร์ก็ยังไม่มาถึง เขาจึงไปห้องคอมเพื่อใช้อินเทอร์เน็ต และเมื่อเข้าไปหน้าแรกก็พบชื่อตนเองอยู่ในกระทู้ HOT พร้อมจำนวนหน้าคอมเมนท์ซึ่งมากกว่าสิบหน้า

 

บ้าไปแล้ว...

 

 

[คลิปงานโรงเรียน] ZEAL – สองรัก (Guitar Cover by TEN 6/3)

เท็นชอบเล่นกีตาร์มาก หวังว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนที่มันชอบมาตลอดหลายปีนะ (:

ผมเชื่อมาตลอดว่าถ้าเราตั้งใจทำสิ่งไหนสิ่งหนึ่งแล้วสักวันต้องมีคนมองเห็น ซึ่งผมคือหนึ่งในนั้น เท็นเป็นคนมีความสามารถ แต่ติดตรงที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ถ้ากระทู้นี้เป็นที่นิยม ผมคิดว่ามันคงไม่ยากนะถ้าจะได้เห็นมันขึ้นไปแสดงบนเวทีอีกครั้ง

แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ดูแล้วรู้สึกยังไงก็คอมเมนต์ไว้ด้านล่างนี้เลยนะครับ ถ้าเจ้าตัวไม่เซ่อเกินไป ผมคิดว่ามันคงได้อ่านความคิดเห็นของทุกคนเข้าสักวัน

ปล. ลิงก์ดาวน์โหลดอยู่ด้านล่าง รบกวนคอมเมนต์กันอย่างสุภาพ อย่าหยาบคายกันเลยนะครับ เพราะขนาดตอนมีคนมาด่าเรา เรายังไม่ชอบเลย (:

 

 

“...”

 

ในห้องคอมเงียบจนไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากคำถามมากมายในหัว เด็กหนุ่มนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมเมาส์ที่ค้างอยู่ตรงกลางคลิปวิดีโอ ชั่วอึดใจเลยมั้งที่เท็นเอาแต่ถามตัวเองว่าคอมเมนต์สิบกว่าหน้ามันเป็นเพราะฝีมือเขาดีจริง ๆ เหรอ ทำไมหลายคนถึงเลือกให้ความสนใจมากถึงขนาดนี้ 

 

หรือว่าจะเป็นคอมเมนต์ชื่นชมไอ้แจ็ค ซึ่งถ้าใช่อย่างนั้นก็คงดีเหมือนกัน เพราะเท็นเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมเสียงเพื่อนมาตลอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงผิดหวังอยู่ลึก ๆ ถ้าหากว่าสุดท้ายเขาจะเป็นได้แค่ตัวประกอบ

 

คลิ๊กเมาส์ซ้ายเบา ๆ จนคลิปเริ่มเล่น เพียงครู่เดียวเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากข้างเวทีพร้อมกีตาร์คู่ใจ เท็นอายสีหน้าเหวอ ๆ ที่เผลอทำให้ทุกคนเห็น เขาควรจะดูดีกว่านี้มากกว่าจะยิ้มแหย ๆ อย่างนั้น แต่นั่นก็เป็นความผิดของเขาเองที่ขาดความมั่นใจไปจนติดลบ ถ้ามีโอกาสอีกก็หวังว่าจะทำให้ดีกว่านี้

 

( น้องขยับให้พี่นิดนึงได้ไหมครับ พอดีพี่จะถ่ายคลิปเพื่อนน่ะ รบกวนขยับให้พี่นิดนึงนะ... โอเคเลย ขอบคุณมากครับผม ไอ้ธีร์ ไอ้นาย มึงชูป้ายสูง ๆ เลยนะเดี๋ยวมันไม่เห็น ยิ่งเซ่อ ๆ อยู่ )

 

( สูงกว่านี้กูคงต้องขึ้นไปยืนบนยอดตึกหนึ่งแล้วล่ะเพื่อน เฮ้ย ๆ ไอ้นาย มันมองมาทางนี้แล้ว!!!! )

 

( เช้ดเข้!!! ไอ้เท็นตอนถือกีตาร์แม่งหล่อสาด )

 

( หล่อที่สุด!!!!!!! )

 

( เชี่ยแจ็ค หูกู!!! )

 

( 5555555555555555555555 )

 

เท็นไม่รู้ตัวว่ากำลังยิ้มเพราะเสียงคนในคลิป ตอนนี้ต่อให้หน้าตาคนบนเวทีจะตลกแค่ไหนก็ไม่เป็นไรแล้ว แม้คนที่อยู่ในวิดีโอจะมีเพียงเขา แต่เท็นกลับรู้สึกเหมือนได้เติมเต็มโดยเพื่อนที่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างล่าง

 

( เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนชอบร้องด้วยกัน แล้วมันก็อยู่ตรงนั้น ทุกคนรู้จักแจ็คใช่ไหมครับ? )

 

เสียงคนดูดังขึ้นไม่ต่างจากที่ได้ยินเองกับหู หลังจากนั้นกล้องก็เริ่มสะบัดเพราะคนถือโดนเขย่าจากเพื่อนที่อยู่รอบข้าง พวกนั้นล้วนยุให้ไอ้แจ็คขึ้นมาร้องเพลงด้วยกัน เท็นจำได้ว่าลึก ๆ ยังกังวลอยู่เลยว่าเพื่อนจะขึ้นมาไหม

 

( งั้นกูฝากกล้องไว้กับมึงนะเชี่ยธีร์ ถือดี ๆ ล่ะ ขืนตกแตกขึ้นมาพ่อกูด่ายับแน่ )

 

( เออน่า ไว้ใจกูได้ ระดับนี้แล้วตกก็ไม่แตก เพราะละเอียดเลย )

 

( ถุย มึงจะโยกตัวอย่างเมามันยังไงก็ได้แต่อย่าให้ไอ้เท็นหลุดเฟรม โอเคไหม? )

 

( จ้าพ่อ สั่งเหมือนสั่งก๋วยเตี๋ยวเลยน้า เส้นไรดีจ๊ะ เล็กใหญ่บะหมี่? )

 

การตัดต่อฝีมือไอ้แจ็คก็ไม่ได้แย่ แต่หลังจากที่มันขึ้นไปบนเวทีคลิปทั้งหมดก็ถูกครอปจนกลายเป็นโฟกัสเขาเพียงคนเดียวเสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นสีหน้าตัวเองตอนเล่นกีตาร์ ไม่เคยรู้ว่ายิ้มเก่งขนาดนี้กระทั่งตอนหันไปหาเพื่อนที่ร้องเพลงอยู่ข้าง ๆ

 

แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อยู่ในเฟรม แต่เท็นกลับจำได้ดีกว่าความสุขตอนนั้นมันมีหน้าตาเป็นอย่างไร กับโลกใบเล็ก ๆ ที่เขาได้คืนมาอีกครั้งหลังจากโดนขโมยไป แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีความสุขจนอยากเก็บมันไว้ในหนึ่งความทรงจำ

 

RRRRrrrrr!!!

 

“ไง?”

 

( ถึงยังวะ กินหมูปิ้งกัน วันนี้มีน้ำเต้าหู้ด้วยนะ ใช่ย่อยที่ไหน )

 

เด็กหนุ่มในห้องคอมนั่งยิ้มเงียบ ๆ ตามลำพังกับความใส่ใจที่ไม่ได้คืนมาแค่ตอนขึ้นเวที เขากำลังได้รับการเยียวยาอีกครั้ง และมันดีเกินกว่าจะเอาเรื่องคิดเล็กคิดน้อยมาบั่นทอนให้ทุกอย่างแย่ลง ดังนั้นการเอาตัวเองไปผูกติดกับเพื่อนอีกครั้งจึงยังเป็นเรื่องต้องห้าม

 

“กูอย่างหิวอะ” เขากดชัตดาวน์คอมพิวเตอร์แล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ เงยหน้ามองเพดานที่มันว่างเปล่าแต่กลับถูกเติมเต็มโดยใครอีกคน “รีบมานะ กูมีเรื่องอยากคุยกับมึงเยอะแยะเลย”

 

 

 

*

 

 

“วันไหนจะมาอีกก็บอกล่วงหน้าสักครึ่งวันนะ แม่จะได้ออกไปตลาดหาซื้อของอร่อย ๆ มาทำให้กิน” สิ้นสุดความหวังดีเท็นก็ชำเลืองมองลูกชายคนโตของบ้านที่ดูท่าว่าจะไม่เห็นด้วย ไอ้แจ็คถอนหายใจแรงกว่าเสียงท่อเด็กแว๊นในซอยนี้อีก

 

“มาได้ปะ?”

 

“กูห้ามได้ไหมล่ะ?”

 

“ดิ๊งด่อง!” คนกวนตีนเดาะลิ้นพร้อมขยิบตาชี้นิ้วกวนตีน แจ็คหลับตาลงถอนหายใจลึก ๆ พลางคิดไปว่าคิดถูกแล้วหรือเปล่าที่ปิดบังแม่เรื่องทะเลาะกัน

 

“กลับดี ๆ นะลูก ถนนมันลื่น อันตราย”

 

“ได้เลยแม่ ถ้าถึงบ้านปุ๊บเดี๋ยวเท็นไลน์บอกมันเลย”

 

“เพื่อ?” แจ็คขมวดคิ้วรีบถามสวนกลับทันทีกับเรื่องไร้เหตุผล มันธุระกงการอะไรที่ต้องรายงานกันขนาดนั้นเหรอ?

 

“มึงจะได้บอกแม่ไงว่ากูปลอดภัยแล้ว” ไอ้เท็นทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อน ให้ตายสิวะ ก็รู้ว่ามันเป็นคนอย่างไร แทนที่จะเข้าใจแล้วปล่อยเบลอ แต่ดันไปตามน้ำไอ้หน้าวอกหัวเทาเสียอย่างนั้น

 

“คนกร้านโลกอย่างมึงยังจะกลัวอะไรอีก?”

 

“กูกลัวหลายอย่างเลย แต่คงไม่เล่าวันนี้หรอกมันดึกแล้ว ไว้จะมาเล่าให้ฟังทีหลังตอนกินข้าว”

 

“กลับบ้านมึงไป”

 

“เอะอะไล่” ไอ้เท็นจิ๊ปากรัว ๆ เขาจึงยื่นร่มของมันไปข้างหน้าเป็นเชิงกดดัน และคนลีลาก็ไม่ยอมรับไปเสียที “สรุปจะไปเอามอเตอร์ไซค์ไหม เดี๋ยวไปส่ง”

 

“ขอบใจ แต่ไม่ต้อง”

 

“ตามนั้น” ไอ้หน้าวอกหัวเทาไหวไหล่แล้วเข้าไปกอดแม่ ก่อนจะผละออกมายิ้มหวานแบบคงมีแต่มันเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าตัวเองตอแหล “ไว้พรุ่งนี้เท็นมาใหม่นะ”

 

 “พรุ่งนี้?” คนได้ยินถึงกับเหวอ ไอ้เชี่ยนี่นึกครึ้มอะไรอีก เห็นว่าแหย่ได้ผลเลยจะมาปั่นเรื่อย ๆ หรือไง?

 

“เอาสิ เดี๋ยวแม่จะเตรียมของอร่อยไว้รอ”

 

“มึงน่าจะมีธุระต้องทำบ้าง ถูกไหม?”

 

“ก็ทำธุระก่อนแล้วค่อยมาตอนเย็นไง ให้กูไปรับปะ?”

 

“ไม่จำเป็น” ไอ้แจ็คยืนขมวดคิ้วกอดอกเหมือนคนพร้อมซัดหน้าเขา เท็นอมยิ้มอย่างพอใจพลางส่งสายตาผู้ชนะให้แล้วถอยไปทีละก้าว

 

“งั้นพรุ่งนี้เจอกัน... ที่นี่”

 

ชายหนุ่มผมเทาชี้ลงบนพื้นขณะสบตากับอีกฝ่าย

 

“นะเพื่อนรัก”

 

แม้ไม่ได้ยินเสียงแต่ก็อ่านปากได้ว่า ‘ไอ้ – เหี้ย’ เท็นหลุดขำออกมาอย่างอารมณ์ดี ผิวปากเข้าไปในรถแล้วรัดเข็มขัดอย่างไม่เร่งรีบ ระหว่างนั้นก็หันไปมองแม่ลูกที่ยืนคุยอะไรกันสักอย่าง เพียงครู่เดียวไอ้คนหน้าตึงเก่งก็โดนหยิกแขนจนสะดุ้ง

 

บรรยากาศวันนี้ไม่ได้ดีเพอร์เฟ็คแต่ก็ไม่แย่ลงไปกว่าที่เคย เขาเห็นว่าดวงตาคู่นั้นหันมามองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้านพร้อมปิดม่านประตูกระจก

 

เท็นสตาร์ทรถแล้วมุ่งตรงกลับบ้าน วันนี้เขามีเรื่องเล่าให้พี่ซันกับน้องมูนฟังเยอะแยะเต็มไปหมด

 

 

 

 

 

 

TBC

 

 

บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: killua1a ที่ 23-09-2018 20:17:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-09-2018 20:31:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 23-09-2018 20:42:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 23-09-2018 20:50:25
เท็นคืออยากกลับเข้าไปอยู่ในชีวิตพี่แจ็คถูกไหม
ตอนหน้าคือจะได้รู้จุดแตกหักแล้วใช่ไหม​ /เกียมทิชชู่ :heaven
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 23-09-2018 20:56:22
เท็นน่ารักจังอะ แงงงงง  หนูรักเค้าาาา   :ling1:

ทั้งปางเด็กน้อยโลกสดใน และปางผู้ใหญ่แบดๆแต่จริงๆก็ยังใสเลยอะ

ไสหัวไปโน่น /พี่แจ็คไม่ได้กล่าว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-09-2018 21:16:14
คนอะไรเพื่อนก็ไม่มี วัน ๆ ต้องคุยกับหมาแมว ทำตัวเองแท้ ๆ
รีบคืนดีกันเถอะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 23-09-2018 21:22:17
หยอดเข้าไปค่ะเท็นหยอดเยอะๆเอาให้พี่แจ็ครำคานได้ยิ่งดีอย่างน้อยเค้าก็คิดถึงเราบ้างหล่ะสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 23-09-2018 22:13:09
แม่ไม่ได้ผิดที่ลืมปิดหน้าต่าง แต่แม่กำลังชักศึกเข้าบ้าน 555555

อยากรู้แล้วว่าอะไรทำให้เด็กสองคนที่สนิทกันขนาดนั้นแตกหักกันมาไกลขนาดนี้ แจ็คดูไม่น่าใช่คนที่โกรธใครไร้เหตุผลนา หรือเพราะบลู ? ตามชื่อเรื่องน่าจะเพราะผู้หญิง ?  :katai1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 24-09-2018 08:53:07
บอกไม่ถูกว่ารู้ึสึกยังไง  :mew2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-09-2018 12:19:40
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hhyuna aii ที่ 24-09-2018 15:51:59
บรรยากาศมันออกแนว เท็นเเจ็ค ยังไงก็ไม่รู้555
อย่าไปหยองค่ะกัปตันแจ็ค ต้องแจ็คเท็น :hao6: :o8:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-09-2018 17:52:22
เก็บกดแมน

อย่าไแกล้งซึมเศร้าแมนดิ

สงสารเขามั่งดิ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 27-09-2018 23:06:12
จะบอกว่าอ่านเรื่องนี้ไปก็รู้สึกเศร้าปนอึดอัดอยู่ลึกๆ  ไปพร้อมกัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 29-09-2018 18:22:05
ตอนนั้นสองคนนี้รักกันมากแต่ตอนนี้ก็...กำลังจะกลับมารักกันใช่มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 6 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (23/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: rodoubles ที่ 19-10-2018 02:41:07
ตอนแรกกะจะอดใจไว้ก่อน กะว่าค่อยมาอ่านตอนที่ไรท์เตอร์เริ่มกลับมาต่อแล้ว เพราะรู้ว่าช่วงนี้ไรท์คงยุ่งกับการรวมเล่มบอสแหลม แต่ใจทรยศบวกกับมือที่เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยนี่มันไม่เคยฟังที่สมองสั่ง กดเข้ามาอ่านได้สองตอน ตอแรกกะจะพอละ อดทนเอา แต่สิ่งที่ตามมาคือค้างคามาก กระสับกระส่าย​หลายวันหลายคืน สุดท้ายก็เลยตกร่องปล่องชิ้น เป็นไงเป็นกันวะ อ่านให้ถึงตอนล่าสุดแล้วรอก็ได้ อ่านเองค้างเองรอเองนักเลงพอ  :m31:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 26-10-2018 19:09:17
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 07
ความจริงที่ไม่อยากยอมรับ




( เชี่ยเท็น มึงเป็นปะเนี่ย ไล่ฆ่าตัวที่วิ่งหนีจนเพื่อนตายในดงตีนแบบนี้มึงจะเล่นแทงค์ไปเพื่อ กูถามก่อน? )

( ธีร์มึงใจเย็นก่อน เกมหน้าเอาใหม่ได้ )

( เกมนี้เล่นกันเป็นทีม หน้าที่ไหนก็ทำแค่นั้น ไม่ใช่เล่นแทงค์แต่เสือกบ้า Kill ไม่สนห่าเหวว่ารูปเกมจะเป็นยังไง ถ้ามึงอยากฆ่าเยอะ ๆ ก็ไปเล่น –apem* กับพวกนูปนะจะได้จบ )



*-apem ใน DotA1 เป็นโหมดที่เล่นง่ายมาก เงินจะขึ้นวิละ 1 แต่ถ้าเป็นโหมด -apem เงินจะเพิ่มทีละ 2 และรูปแบบการเล่นจะดูง่ายกว่าเป็นไหน ๆ ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมองเหยียดว่าคนที่เล่นโหมดนี้จะมีแต่ Noob บางคนเห็นรูปเกมจะแก้ก็กดออกเกมได้ง่าย ๆ ไม่มีสปิริตอย่างกลุ่มคนที่เล่นโหมด ap only



“มันก็แค่เกมปะมึงจะซีเรียสอะไรนักหนา?” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วตอบโต้ทางโปรแกรม TeamSpeak อย่างเหลืออด พักหลังไอ้ธีร์ด่าเขาบ่อยเกินไปแล้ว ไม่รู้จะซีเรียสอะไรนักหนา

( เป็นคนทำทีมฉิบหายก็พูดได้ดิว่าแค่เกม )

“กูไม่อยากแทงค์อย่างเดียว กูอยากฆ่าบ้างมันผิดมากเลยเหรอวะ?” สุดท้ายก็พูดในสิ่งที่ไม่อยากพูด เท็นรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากอีกฝ่ายรับรู้ความในใจ แต่แล้วอย่างไร เขาเหนื่อยเกินกว่าจะทำเป็นพอใจกับตำแหน่งรับมือรับตีนเพื่อให้ไอ้ธีร์ฆ่าทำสกอร์สวย ๆ ไว้ขิงแล้ว

ใช่สิ เล่นตัวเลทเกมก็ต้องสนุกอยู่แล้ว ทั้งได้ฆ่า ได้ฟาร์ม ถ้าไม่มีเพื่อนคอยซัพพอร์ทมีหรือตำแหน่งมันจะลืมตาอ้าปากได้ หน้าที่เท็นมีอะไร? เข้าไปรับดาเมจทุกอย่างแทนเพื่อนแล้วก็ตายไป มันไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย

( ธีร์ มึงยังไม่อาบน้ำไม่ใช่เหรอ ไปอาบไปจะได้มาเล่นกันต่อ )

รู้ว่าพี่ตั้บคงอยากห้ามทัพ แต่ถ้าใครอยากเล่นต่อก็เชิญนั่งรอพระเจ้าอาบน้ำเสร็จไปเถอะ วันนี้มันจบแล้ว เขาไม่อยากหัวร้อนเพราะความประสาทแดกของไอ้เวรนั่นอีก

เท็นถอดหูฟังพร้อมเขวี้ยงลงพื้นอย่างหัวเสีย เป็นอีกค่ำคืนที่จบอย่างห่วยแตกเพราะคน ๆ หนึ่งถนัดเรื่องทำให้วันดี ๆ ของชาวบ้านกลายเป็นอย่างนี้ เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียง นอนมองเพดานโง่ ๆ กับโทสะที่ยังคงคุกรุ่นไม่จางหาย

‘ตอนนี้ไอ้แจ็คทำอะไรอยู่?’

นั่นคือคำถามที่เป็นเชื้อเพลิงปะทุไฟให้โหมขึ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ไอ้เวรนั่นห่างออกไปไกลขนาดนี้ ติดแฟนมากไหม ต้องอยู่คุยโทรศัพท์กุ๊กกิ๊กกันก่อนนอนจนเรื่องเพื่อนก็ช่างหัวมันหรือไง ทำไมถึงปล่อยให้ไอ้ธีร์ทำตัวประสาทแดกใส่เขาไม่หยุด

คว้าเอาโน้ตบุ๊กที่อยู่ข้างเตียงมาเปิดดูเว็บบอร์ดโรงเรียนเพื่อหากระทู้ของเด็กสาวที่เพ้อถึงตัวเขา อย่างน้อยสิ่งเหล่านั้นก็ทำให้ไอ้ขี้แพ้คนหนึ่งมีแรงฮึดขึ้นมาได้ ยอมรับว่าเมื่อก่อนไม่เคยสนใจกระทั่งได้รับสิ่งเหล่านั้น  แต่กระทู้ติดท็อปก็ยังคงเป็นของคนเหี้ย ๆ ที่คิดว่าตัวเองดีเลิศไปเสียทุกอย่าง

‘ชมรมคนรักพี่ธีร์ห้อง 81 เชิญมาแชร์ความน่ารักของพี่เค้าในกระทู้นี้กันค่า >_<’
‘พี่ธีร์ห้อง 81 กับพี่จ๋าห้อง 941 เป็นอะไรกันหรือเปล่าคะ?’
‘รวมรูปพี่ธีร์ห้อง 81 เท่าที่หามาได้ (ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ ^^)’
‘ถ้าเราเขียนฟิคพี่ธีร์ x พี่แจ็ค 81 จะมีคนอ่านไหมคะ ;_;’
‘พี่ธีร์ 81 ชอบคนแบบไหนเหรอคะ?’

อ่านแค่ชื่อกระทู้ก็แค่นหัวเราะแล้ว คนเหล่านั้นหลงรูปลักษณ์ภายนอกของไอ้เวรนั่นโดยไม่รู้เลยว่าความจริงไอ้ธีร์มันทุเรศแค่ไหน ก็แค่ผู้ชายหน้าตาดีที่วัลลาบีอยากมีซีนกับทุกเรื่องจนได้รับความสนใจจากคนรอบด้าน ขี้เก๊กก็ที่หนึ่ง ไม่รู้ชอบเข้าไปได้อย่างไร

‘ไดอารี่ของฉัน... ถึงพี่เท็นห้อง 81’

หนึ่งในกระทู้ที่ไม่ได้ฮอตนัก แต่ก็มีคนเข้าไปอ่านและคอมเมนต์ให้กำลังใจ เท็นไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครและก็ไม่ได้อยากรู้ด้วย คิดว่าแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว เธอคนนั้นเป็นแฟนคลับที่เพ้อฝันจนทำให้เขาเป็นที่รู้จัก ซึ่งมันโคตรจะย้อนแย้งและน่าสมเพชสิ้นดีกับความคิดแบบนี้ ทั้งที่เพิ่งด่าไอ้ธีร์จนเสียหมา แต่เขากลับอยากพาตัวเองให้ไปอยู่ในจุดเดียวกัน เพราะอยากรู้สึกดีกับการเอาชนะอีกฝ่าย

มันสะสมมานานแค่ไหนแล้ว ถึงไอ้ธีร์จะมีมุมดี ๆ แต่มันก็น้อยกว่าเรื่องชั่ว ๆ นัก ทั้งชอบพูดจาหมาไม่แดก เล่นไม่รู้จักกาละเทศ ทำร้ายจิตใจเพื่อนก็เก่งที่หนึ่ง ขี้หัวร้อน ไหนจะเรื่องหักหน้า ถึงเพื่อน ๆ จะบอกว่ามันไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ แต่แทนที่จะบอกให้เขาพยายามเข้าใจความเหี้ยของคน ก็ควรเอาเวลาและน้ำลายไปสั่งสอนให้ไอ้ธีร์ปรับปรุงตัวเองดีกว่าไหม?

‘เด็ก’

รู้ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ถ้าก่อนหน้านี้ได้ใช้ชีวิตอย่างปกติแบบที่มีไอ้แจ็คคอยตบกะโหลกปลอบใจว่า ‘ไอ้ธีร์มันก็ปัญญาอ่อน จะเอาอะไรกับมัน?’ เพียงเท่านั้นเท็นก็คงไม่พาตัวเองไปอยู่สุดขอบทางลงเหว เขาไม่อยากเป็นคนในแบบที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ถ้าไอ้เวรนั่นหัดพูดดี ๆ บ้าง มีหรือปีศาจที่หลับมาตลอดจะตื่นขึ้นมาคิดเรื่องแย่ ๆ

ก็รู้ว่ามะรืนจะลงแข่งครั้งแรกในชีวิต ถ้าเขาทำหน้าที่ผิดตำแหน่งก็แค่บอกเตือนกันอย่างใจเย็นมันยากนักหรือไง โอเค ไอ้ธีร์บอกแล้ว แต่ขอฆ่าตัวเดียวมันไม่ได้เลยใช่ไหม ตอนนี้ก็แค่ซ้อม ถ้าเป็นสนามจริงจะไม่ว่าอะไรเลย


RRRRrrrrrrrrrrr!!!!


เสียงโทรศัพท์ทำให้ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ถึงจะโกรธอยู่แต่เท็นก็คาดหวังว่าจะได้ยินคำแก้ตัวดี ๆ จากไอ้แจ็ค แต่เขาก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะคนที่โทรมากลับเป็นไอ้นาย

“อืม”

( ยังหัวร้อนอยู่สินะ อยากระบายไหม? )

คนที่ควรถามแบบนี้มันอยู่ส่วนไหนของโลก หลังจากสิ้นสุดคำถาม เท็นได้แต่นั่งนิ่ง ๆ บนเตียงพลางทอดสายตาไปยังผนังเบื้องหน้ากับความน้อยใจที่อยู่ ๆ ก็พุ่งสูงติดเพดานเพราะขยี้จุดอ่อนตัวเอง

“ไม่ล่ะ”

( เมื่อก่อนไอ้ธีร์เคยเป็นคนห้ามทัพเวลาพวกไอ้โป้ทะเลาะกันก็จริง แต่พอมันต้องอยู่ในตำแหน่งที่ต้องสั่งเพื่อนทำนั่นทำนี่มันก็เลยซีเรียสไปหน่อยว่ะ มันอยากให้ทีมรู้หน้าที่ อยากให้ทุกอย่างออกมาดีก็เลยเป็นอย่างนั้น มึงเข้าใจมันหน่อยนะ )

“มึงโทรมาเพื่อแก้ตัวให้มันเหรอ?”

( เปล่า กูโทรมาเพราะอยากให้เพื่อนเข้าใจกัน ไม่อยากให้ผิดใจเพราะเรื่องเกม )

“แล้วใครเป็นคนเริ่ม บางทีมันเล่นควาย ๆ เข้าไปตายโง่ ๆ ตั้งหลายครั้งกูเคยออกปากด่าบ้างไหม?”

( ใช่ มันเริ่ม แต่เกมเมื่อกี้มีอริมันอยู่ทีมฝั่งตรงข้ามด้วยมึงก็เห็น ไม่มีใครอยากแพ้คนที่เหม็นขี้หน้ากันอยู่หรอกเพื่อน มึงเข้าใจจุดนี้ใช่ปะวะ? )

“แล้วกูผิดคนเดียวเหรอ อีกคนในทีมก็เล่นห่าอะไรก็ไม่รู้ พี่ตั้บก็เล่นตามใจตัวเองเหมือนกันปะวะ?”

( ทุกคนก็เล่นงง ๆ หมด ทั้งกู มึง ไอ้ธีร์ พี่ตั้บ แล้วก็อีกคน แต่ประเด็นคือเราทุกคนเป็นเพื่อนกันไง ไอ้คนนั้นมันไม่ใช่ ด่าไปก็เปลืองน้ำลายเพราะออกเกมก็ไม่ได้เจอกันแล้ว )

“เหรอ แล้วอะไรที่ทำให้มันคิดว่าเพราะเป็นเพื่อนถึงจะพูดยังไงก็ได้ เพื่อนไม่ใช่คนที่เราต้องรักษาน้ำใจให้มากที่สุดเหรอวะ?”

( อืม กูรู้ เรื่องนี้ไอ้ธีร์ผิด แต่มึงก็อย่าลืมนะว่าก่อนมันจะเป็นแบบนั้นก็เพราะมึงหลุดโพสิชั่น ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง )

“เออ เรื่องนั้นกูผิดจริง แต่มันก็ควรพูดดี ๆ กับกูไหม?”

( พูดกันให้ตายยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจถ้ามึงยังคิดว่าต่อให้อะไรจะเกิดขึ้นไอ้ธีร์ก็ต้องพูดดีกับมึงไว้ก่อน คือมึงต้องเข้าใจนิดนึงนะว่าธรรมชาติของมันเป็นแบบไหน ตอนเกมเสียรูปมันชอบหัวร้อน แต่ถ้าเกมไหนทุกคนทำได้ดีมันก็เป็นผีบ้าผีบอ พูดจาเกรียนแตกเรียกเสียงหัวเราะเหมือนกัน )

“มึงกำลังจะบอกให้กูเข้าใจมัน แต่มันไม่ต้องเข้าใจกูก็ได้?”

( ไม่ใช่อย่างนั้น กูอยากให้พวกมึงเข้าใจกันแล้วยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นได้เหมือนที่เราทุกคนเป็นมาตลอด มึงก็รับข้อเสียไอ้แจ็คได้มาตลอดแล้วทำไมถึงรับที่ไอ้ธีร์เป็นบ้างไม่ได้วะ? )

“ก็ใช่ไง กูเป็นฝ่ายรับข้อเสียทุกคนมาตลอด ไอ้แจ็คก็ติดแฟนทิ้งเพื่อนจนกูต้องทนเครียดอยู่กับคนเหี้ย ๆ แบบไอ้ธีร์ไง”

( โอเค กูเข้าใจมึง )

“มึงไม่ได้เข้าใจกูหรอกนาย”

( อืม มึงจะคิดงั้นก็ได้ เอาเป็นว่าไว้ใจเย็นลงเมื่อไหร่แล้วค่อยมาคุยกันอีกที แค่นี้นะ ฝันดี )




*




เท็นไม่ได้ล้อเล่น วันถัดมาเขาไปบ้านหลังนั้นอีกครั้งและเจ้าของบ้านก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ยกเว้นลูกชายคนโตที่กลับดึกเพราะอ้างว่าต้องอยู่แก้ไขเกมใหม่ที่ใกล้จะเปิดตัว  ถามว่าเสียหน้าไหม... ก็มีบ้าง แต่ไอ้หมอนั่นคิดว่าเขาอยากมาเพราะแรงพิศวาสหรืออย่างไร เขาก็แค่นึกสนุกอย่างปั่นหัวใครสักคนในวันว่าง ๆ ก็เท่านั้น แต่เห็นคนดิ้นจนพยายามหลบหน้าก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจเช่นกัน

เวลาผ่านไปอีกไม่กี่วันการแข่งขันผ่านไปอีกรอบและขี้ซุยบราเทอร์ feat. TEN10 ก็สามารถผ่านเข้าไปได้อย่างไม่ยากลำบากนัก อีกอย่างที่ไม่อยากยอมรับเลยก็คือทุกคนในทีมเล่นได้ดีจนน่าประหลาดใจว่าฝึกซ้อมกันมาอย่างดีหรือมีพรสวรรค์อยู่แล้วกันแน่ ทั้งไอ้เด็กฝรั่งที่ถูกเขาไล่ฟันหลังอย่างง่าย ๆ ในเกมนั้น แต่พอเป็น DotA2 กลับฉลาดมีไหวพริบและเข้าขากับโซ่ได้ดีจริง ๆ

ยอดโดเนทพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าพอใจ ผู้ใหญ่แฮปปี้ ส่วนทีมกะโหลกนั่นกับตัวเขาก็ได้รับคำชมขึ้นมาบ้างแม้ว่าจะมีคนตามด่าแต่ก็ไม่หนาตาเท่าก่อนหน้านี้



‘เทพแบบนี้ต้องฉลอง พี่ตั้บมึงโทรสั่งหมูทะดิ๊!’
‘เอาดิ มึงจะชวนกันต์มาด้วยเปล่ากูจะได้กะจำนวนถูก’
‘รายนั้นไม่ว่างอะ แล้วมึงว่าไงพี่แจ็ค ไอ้โซ่?’
‘เดี๋ยวกูอาบน้ำแป๊บ’
‘ส่วนโซ่ไปแน่นอนครับ’
‘เอ้อ! มันต้องอย่างนี้ดิวะ เดี๋ยวกูทักไปกวนตีนหลวงพี่ก่อน ป่านนี้น่าจะซดน้ำปานะอยู่’
‘ว่าแต่พี่เท็นจะมากินด้วยกันไหมครับ?’



โชคดีที่คำถามหยุดโลกไม่ได้เกิดขึ้นตอนไลฟ์สตรีมอยู่ ชายหนุ่มนิ่งงันไปอยู่ชั่วอึดใจพลางถามตัวเองว่าจะเอาอย่างไร นอนกับหมาแมวที่บ้านเฉย ๆ หรือจะออกไปสร้างบรรยากาศห่วยแตกให้ชาวบ้านชาวช่องเหมือนที่ชอบทำ

แม้จะเล่นเกมเข้าขากันได้ดีแล้ว แต่เท็นก็พอรู้ว่าพี่ตั้บไม่ได้อยากให้คนทรยศกลับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต หากเป็นปีก่อนเขาคงตอบตกลงโดยไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ถึงจะไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็นแต่เท็นก็รู้ตัวดีว่าเขาขวางโลกน้อยลงกว่าที่เคยเป็นแล้ว

‘ไม่ดีกว่า ขี้เกียจ’

และนั่นอาจจะเป็นเรื่องดี ๆ ครั้งแรกในรอบปีที่เท็นมีให้คนอื่น




*




“ช่วงนี้เท็นฮอตมากเลยอะ มีจดหมายสอดใต้โต๊ะวันละไม่รู้ตั้งกี่ซอง”

ในห้องนอนสีหวานแหวว เด็กสาวเปิดประเด็นขึ้นมาเพื่อเรียกความสนใจจากแฟนหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ และมันได้ผล แจ็คยอมเงยหน้าขึ้นมองตาเธอซึ่งเหมือนจะเป็นครั้งที่สองของวันหลังจากครั้งแรกที่เธออ้าปากถามไปว่า ‘วันนี้ไปอ่านหนังสือบ้านบลูไหม?’

“ไม่ดีเหรอ?”

“ดี? ไม่รู้สิ” เด็กสาวยิ้มเจื่อนกับคำถามที่มาพร้อมสีหน้าเรียบเฉย บลูเดาไม่ออกว่าแจ็คกำลังคิดอะไร และคำถามนั้นต้องการคำตอบแบบไหนกับเรื่องที่เธอแค่พูดขึ้นมาเฉย ๆ “เราแค่แปลกใจอะ ก็เท็นไม่เคยป็อปขนาดนี้ เพราะห้องเราก็มีแจ็ค ธีร์ แล้วก็พีมที่ดัง ๆ” บลูเลื่อนแป้นบนโน้ตบุ๊กดูรูปเพื่อนแฟนที่นับวันยิ่งดูดีขึ้นเรื่อย ๆ

“แจ็คว่าดีนะ เพราะหลังจากเป็นที่รู้จักมันก็เริ่มเปิดใจให้คนอื่นมากขึ้น”

“อือ ก็จริง” เธอถอนหายใจเมื่อนึกถึงตอนเพิ่งคบกัน เพื่อนแจ็คทุกคนต้อนรับผู้หญิงอ้วนคนนั้นเป็นอย่างดี ยกเว้นใครคนหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะอยากมองเธอ “ตอนแรกเรากลัวถูกเท็นเกลียดเพราะเหมือนไปแย่งความสำคัญมา แต่พอเห็นว่าเท็นแฮปปี้ขึ้นแล้วก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย”

เด็กหนุ่มมองรอยยิ้มของคนบนจอโน้ตบุ๊กบนเตียง เท็นยังคงเป็นคนเดิมแต่แจ็คก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้รู้สึกห่างเหิน อาจเป็นเพราะความโด่งดังที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไอ้เวรนั่นเริ่มเอาตัวเองไปอยู่ในจุดสนใจ จริงอยู่ที่ทำให้ไอ้เท็นมีสังคม แต่แจ็คก็กลัวว่าเพื่อนจะรับความเยอะเหล่านั้นไม่ได้ถ้าวันหนึ่งมันถูกคนเหล่านั้นคุกคามมากเกินไปจนสูญเสียความเป็นส่วนตัว

ไอ้ธีร์ไม่เหมือนไอ้เท็น คนหนึ่งรักสังคม ชอบอยู่ในจุดที่สปอตไลท์สาดแสงใส่ แต่อีกคนรักสงบ ชอบอยู่เงียบ ๆ หมกมุ่นกับเรื่องที่ชอบ แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องของอดีตเพราะความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอเมื่อมนุษย์โตขึ้น ดังนั้นทุกวันนี้ไอ้เท็นที่เขารู้จักจึงเริ่มหลงใหลแสงสีจากสปอตไลท์เหล่านั้นเข้าไปทุกทีแล้ว

ไอ้ธีร์มันบ้าบอ เรื่องนี้ใคร ๆ ต่างก็เข้าใจ แต่ไอ้เท็นเปิดตัวมาแบบพระเอกในนิยาย เขากลัวว่าคนอื่นจะคาดหวังในตัวมันมากเกินกว่าสิ่งที่เป็น

“แจ็ค”

“อื้ม?”

“ช่วงนี้ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่กับเราแล้วเหม่อบ่อยจังเลย” เด็กสาวกล่าวตัดพ้อ ยิ่งเห็นท่าทีแปลก ๆ เหมือนปิดบังอะไรอยู่แล้วก็ยิ่งกังวล มีคนอื่นหรือเปล่านะ เธอยังเปลี่ยนตัวเองได้ไม่มากพอเหรอ ทุกวันนี้ก็ผอมลงกว่าเมื่อก่อนจนถูกชมว่าสวยขึ้น ถ้าแจ็คมีคนอื่นใจเธอคงพังแน่

“ไม่มีอะไร แจ็คแค่เพลียเพราะต้องอ่านหนังสือแล้วก็อยู่ซ้อมจนดึกน่ะ พอแข่งผ่านรอบแรกแล้วรอบต่อไปก็เลยต้องซ้อมหนักมากขึ้น”

“เพลา ๆ หน่อยได้ไหม เดี๋ยวก็ทรุดหรอก” เธอลูบแขนแฟนหนุ่มแต่อีกฝ่ายเพียงยิ้มบาง ๆ ซึ่งมันดูฝืนเกินกว่าจะออกมาจากใจ

“แจ็คอยากเต็มที่กับมันก่อนจะต้องแยกย้ายกันไปตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมเข้ามหา’ลัยน่ะ” กับเป้าหมายที่ตกลงไว้กับเพื่อนร่วมทีมและพี่ใหญ่อย่างพี่ตั้บ ทุกคนอยากคว้าแชมป์มาให้ได้สักครั้ง ก่อนจะไปฟอร์มทีมกันใหม่หลังจากเข้ามหา’ลัยได้แล้ว

“เข้าใจค่ะ แต่ที่พูดแบบนี้ก็เพราะเป็นห่วงนะ”

“แจ็ครู้ ขอบคุณนะคะ” เขาก้มลงไปจูบหน้าผากแฟนสาวเบา ๆ แล้วสวมกอดเธอเพื่อกลบความว่างเปล่าในใจตอนนี้

ในใจที่เต็มไปด้วยปัญหามากมายซึ่งพร้อมกันถาโถมเข้าหาเด็กอย่างเขาในเวลาเดียวกัน

“เอาถุงยางมาไหมคะ... ของบลูหมดแล้ว...” เธอกล่าวอย่างขลาดอายก่อนจะผละออกมาสบตากัน

“อ่า... เรื่องนั้น” เขาคลายมือออกจากท่อนแขนแฟนสาวแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง “แจ็คก็ไม่ได้เอามาเหมือนกัน”

สายตาของเธอผิดหวัง อาจเป็นเพราะอาทิตย์นี้ทั้งคู่แทบไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเหมือนอย่างเคย ซึ่งบลูคงคิดไปแล้วว่าเป็นเพราะเขาติดเกม ทุกอย่างจึงออกมาเป็นแบบนี้

“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอเซ็ง เรื่องแค่แจ็ครู้ได้ง่าย ๆ แต่เขาไม่สามารถนอนกับเธอได้ทั้งที่มีเรื่องมากมายให้คิดอยู่ในหัว

“เดี๋ยวแจ็คต้องกลับแล้ว ไว้คุยกันในเอ็มนะ”

“ทำไมรีบกลับนักล่ะ เพิ่งได้อยู่ด้วยกันเองนะคะ...”

“ช่วงนี้ที่บ้านแจ็คยุ่ง ๆ เลยไม่มีคนอยู่ดูแลน้องน่ะ ไว้วันหลังจะชดเชยให้นะ” เขาลูบศีรษะเธอเบา ๆ ซึ่งเด็กสาวก็คว้าเอวแกร่งไว้พร้อมออดอ้อนขอไม่ให้กลับ แจ็คต้องโอ๋อยู่สักพักกว่าเธอจะยอม

เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนยืนอยู่หน้าป้ายรถเมล์ มองเสียงการจราจรบนท้องถนนแสนวุ่นวายที่มาพร้อมความร้อนระอุจนเสื้อชื้นไปด้วยเหงื่อ แจ็คเอากระเป๋าสตางค์ขึ้นมาดูเงินที่ก่อนหน้านี้มันเคยอัดแน่นจนพองนูน และจะใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายอย่างไรก็ได้ แต่ปัจจุบันมันฟีบลงจนแทบไม่มีธนบัตรหลงเหลือ

จากที่เคยนั่งแท็กซี่กลับบ้านก็ต้องเปลี่ยนเป็นรถเมล์ราคาเก้าบาท หลังจากที่ครอบครัวถูกโกงไปโดยใครสักคนที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อ ทุกอย่างก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แจ็คไม่มีแม้แต่โอกาสตั้งหลักรับความจริง ซึ่งพ่อกับแม่ก็เช่นกัน บ้านหลังใหญ่ที่อยู่อย่างสุขสบายก็ต้องขายไปใช้หนี้

บ้านห้องแถวที่แม่เคยอยู่ก่อนแต่งงานกับพ่อได้กลายเป็นที่ซุกหัวนอนในวันนี้ แจ็คไม่คุ้นชินกับความเก่าและคับแคบแต่มันก็ไม่ได้ยากสำหรับการปรับตัวนัก เว้นเสียแต่น้องอีกสองคนที่ยังโหยหาอาหารดี ๆ งอแงตามประสาเด็กที่เคยถูกตามใจจนเคยตัว จนแจ็คต้องคอยห้ามเพราะไม่อยากให้ความไม่รู้ของน้องขยี้จุดพ่อจนเกิดความเครียด

แจ็คพยายามไม่สร้างปัญหาให้พ่อกับแม่ต้องกังวลไปกว่าเดิม แต่การปรับเปลี่ยนเรื่องใช้ชีวิตในแต่ละวันก็ค่อนข้างยากเย็นเหลือเกิน ตั้งแต่การเดินทางจากบางใหญ่ไปโรงเรียนซึ่งอยู่แถวพญาไท มันไกลมากจนต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ามืด ไหนจะต้องช่วยแม่ดูแลน้องเพราะไม่มีเงินจ้างแม่บ้านเหมือนเมื่อก่อน

ทุกอย่างเปลี่ยนไป ความเหนื่อยกายมันส่งไปถึงใจจนทำให้การยิ้มเป็นเรื่องยาก

เขาไม่ได้บอกเพื่อน อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งปากมันหนักเกินกว่าจะพูดถึงความเหน็ดเหนื่อยในชีวิตช่วงนี้ได้ และอีกส่วนก็กลัวว่าเพื่อนจะไม่สบายใจจนส่งผลถึงการซ้อมทีม การแข่งครั้งนี้สำคัญกับทุกคนมาก แจ็คไม่อยากเป็นคนทำลายมันกับเรื่องที่ยังแบกรับได้ ก็แค่ไม่ได้สบายเหมือนเมื่อก่อน ส่วนเรื่องซ้อมก็ขออนุญาตแม่แล้วว่าจะขอซ้อมแค่ตอนกลางคืนและจะพยายามหาเงินมาช่วยจ่ายค่าไฟให้ได้



‘มึงว่ากูคบกับน้องมอสี่คนนั้นดีปะ?’
‘คนที่ตัวเล็ก ๆ หน้าหวาน ๆ น่ะเหรอ?’
‘ใช่ น้องเค้าน่าสนใจดี เห็นว่าชอบร้องเพลงด้วย เข้าทางกูเลย’
‘เอาสิ เจอคนชอบอะไรเหมือน ๆ กันน่าจะเข้ากันได้นะ’
‘เออ มึงจะได้รู้สักทีว่าต่อให้ไม่มีมึงก็มีคนที่พร้อมจะร้องเพลงไปกับเสียงกีตาร์ของกู’



ไม่อยากยอมรับว่าลึก ๆ ก็ใจหายเหมือนกัน กับการได้ยินคนสำคัญพูดว่าชีวิตยังคงดำเนินต่อไปได้ต่อให้ไม่มีเพื่อนอย่างเขา ซึ่งมันอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อยากเก็บเรื่องที่บ้านเอาไว้ มันมีความน้อยใจปะปนอยู่กับความที่อยากให้เพื่อนสบายใจในคราวเดียวกัน

แจ็คจะพยายามผ่านพ้นความลำบากที่เป็นอยู่ไปให้ได้ และหวังว่าระหว่างนี้เท็นจะมีความสุขกับอีกเส้นทางหนึ่งที่อาจมองเห็นเขาจางลงไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะสิ้นสุดลง... ใช่ไหม?

ในฐานะลูกชายคนโต แจ็คจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยพ่อแม่ประคับประคองครอบครัว และในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง เขาก็อยากให้เท็นได้เติบโตได้โดยที่ไม่ต้องมีเขาในทุก ๆ เรื่อง อย่างน้อยก็ช่วงเวลายากลำบากแบบนี้ ความย้อนแย้งเกิดขึ้นกับใจเขาแล้ว

“สวัสดีครับ ใช่ครับ... ว่าไงนะครับ? สนใจอยากให้ผมไปสอนหนังสือน้องหลังเลิกเรียน? อ่า... ได้แน่นอนครับ! ใช่ครับผมสามารถเริ่มวันพรุ่งนี้ได้เลย มาบุญครองได้ครับ ผมจะรีบเตรียมแผนการสอนและตั้งใจติวให้น้องอย่างดีที่สุดเลยครับ”

ท่ามกลางความร้อนและเสียงความวุ่นวายบนท้องถนน เด็กหนุ่มยืนอยู่หน้าป้ายรถเมล์พลางกำโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้กับมือกับความดีใจที่เพิ่งเกิดขึ้นตลอดอาทิตย์ หลังจากลงประกาศเรื่องรับสอนพิเศษเด็กประถมไปหลายวันก็มีคนติดต่อมาจนได้ สำหรับการสอนตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงสองทุ่ม รายได้วันละสามร้อยบาทมันก็คุ้มค่ามากกว่าอะไรแล้ว

ใบหน้าคมเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่ถูกกลืนกินด้วยความมืด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแสงสว่างจากดวงจันทร์และกลุ่มดาวที่บอกเขาว่า ‘พรุ่งนี้จะไม่เป็นไร’




*




ต่อด้านล่างนะคะ

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 26-10-2018 19:11:01





“...!!!”

ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นพร้อมหัวใจที่เต้นระส่ำ เท็นหอบหายใจหนักกับฝันร้ายที่ยังคงได้ผลดีถ้าพระเจ้าอยากให้คนอย่างเขาตกใจกลัวกลางดึก มือแกร่งกำคอเสื้อที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ สองขาชันเข้าหาตัวขณะบอกตัวเองว่าเรื่องเมื่อครู่เป็นเพียงความฝันเท่านั้น

ความจริงคือปัจจุบัน... ไม่มีใครเป็นอะไร ทุกอย่างยังปกติดี

ขายาวก้าวไปในครัวเพื่อหาน้ำอัดลมดื่ม เท็นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก่อนจะหันหลังนั่งลงพิงกับประตูตู้เย็นอย่างเหนื่อยอ่อน ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์ เขามองตัวเลขเวลาบนหน้าจอก่อนจะถามตัวเองว่าควรทำอะไรต่อไปหลังจากนี้

คงหลับไม่ลงแล้ว แต่เขาก็ไม่ใช่คนเพื่อนเยอะขนาดที่จะคว้ากุญแจรถขับไปหาใครก็ได้ในตอนตีห้าครึ่ง อาจเป็นเพราะแสงจากตู้เย็นเมื่อครู่พี่ซันถึงเดินเมาง่วงเข้ามา กระดิกหางเบา ๆ พลางคลอเคลียกับแก้มเขาราวกับอยากปลอบใจ

“ขอโทษ พ่อทำให้ตื่นเหรอ?”

เท็นลูบศีรษะเจ้าขนทองที่ทิ้งตัวลงนอนบนตักอย่างออดอ้อน ไม่ว่าเมื่อไหร่... พี่ซันก็จะอยู่เพื่อเขาเสมอในวันที่ตื่นเพราะฝันร้าย เคยอ่านเจอในเว็บที่บอกเล่าว่าฝันร้ายเกิดจากอะไร บางครั้งเป็นเพราะเครียดมากเกินไป หรือก่อนนอนใจจดใจจ่อกับเรื่องแย่ ๆ จนทำให้เก็บเอาไปฝัน

“พี่ซันคิดว่าความฝันจะเกิดขึ้นจริงได้ไหม?”

เจ้าขนทองคงไม่เข้าใจ มันแค่นอนนิ่ง ๆ และเลียฝ่ามือเขาเมื่อเลื่อนเข้าไปใกล้ ๆ ปาก

“เมื่อกี้พ่อฝันร้าย”

เท็นไม่เคยกลัวตายเพราะรู้ว่าคงไม่มีใครเสียใจ กระทั่งเขาฝันว่าคนที่เคยสำคัญกำลังจะตายต่อหน้าต่อตา


‘แจ็ค!!!’


ไม่เข้าใจว่าทำไมในฝันถึงเจ็บปวดขนาดนั้น ทั้งที่เวลาเผชิญหน้ากันเขากับไอ้หมอนั่นก็ดีแต่พูดประชดประชันหรือแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่แคร์ แต่ทำไมในฝันมันถึงเหมือนจริงจนรู้สึกใจหายถึงตอนนี้ ภาพอีกฝ่ายจมกองเลือดและกำลังจะสิ้นลมหายใจนั่นมันสมจริงเกินกว่าจะทำให้ข่มตาหลับต่อได้

เพราะเขากลัวว่าจะฝันเห็นภาพนั้นอีกครั้ง


jjack: วันนี้กูงานยุ่งทั้งวันคงไม่มีเวลาอ่านไลน์ เอาเป็นว่าถ้ามีธุระด่วนหรือจะนัดซ้อมทีมยังไงก็บอกพวกไอ้แหลมเลยนะ ซ้อมนำกูไปเลย
jjack: แวะมาบอกไว้ก่อน เพราะระหว่างวันกูคงไม่ว่าง แล้วก็กลัวลืมด้วย
jjack: หวังว่ามึงคงไม่โง่เปิดเสียงแจ้งเตือนไว้นะ


ในห้องครัวมืด ๆ มีเพียงหมาตัวเดียวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน เท็นไม่คาดคิดว่าข้อความของใครบางคนจะโผล่เข้ามาปลอบใจในเวลาแบบนี้ แม้จะไม่มีคำว่า ‘ไม่เป็นไรนะ’ อยู่ในนั้น แต่เขากลับรู้สึกดีขึ้นกับฝันร้ายเมื่อครู่


TEN10: ทักมาทำห่าไรตอนนี้ คนจะหลับจะนอน


เพียงชั่วอึดใจที่ลุ้นไปว่าอีกฝ่ายจะเปิดอ่านทันทีหรือไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เพราะกลับโทรศัพท์ใส่กระเป๋าไปแล้ว เท็นเอาแต่นั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์พร้อมมองเรื่องโกหกที่เพิ่งส่งไป ซึ่งถ้าอีกฝ่ายตอบอะไรกลับมามันคงดีไม่น้อย


jjack: ใครจะไปรู้ว่ามึงโง่เปิดเสียงไว้ตอนนอน
jjack: ถ้าไม่พอใจก็ไปฟ้องศาลพระภูมิเอานะ


น่าหงุดหงิดเหลือเกินที่รู้ตัวว่ากำลังยิ้ม ยิ่งตอนที่พี่ซันลุกขึ้นจ้องหน้าเขาอย่างสงสัยแล้วก็ยิ่งน่าอายเข้าไปใหญ่ ทั้งที่รู้ว่าเจ้าขนทองคงไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ แต่ก็ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องรับไม่ได้ถ้าจะถูกปลอบจากฝันร้ายโดยคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขา


TEN10: กูไม่ฟ้องศาล แต่จะฟลัดสติ๊กเกอร์แทน
jjack: เอาสิ เดี๋ยวกูบล็อก
TEN10: มึงไม่กล้าหรอก เพราะยังแข่งไม่เสร็จ
jjack: อย่าทำเป็นรู้มาก ไสหัวไปนอนต่อซะ
TEN10: กูนอนไม่หลับแล้ว เพราะมึง
jjack: จัดการตัวเองแล้วกัน โต ๆ แล้วอย่างอแงเหมือนเด็ก
TEN10: อ้าว พูดหมา ๆ ทีกูลั่นสติ๊กเกอร์ไปวันนั้นแล้วดึงหน้าใหญ่เลยนะ
jjack: เท็น มึงแค่วางโทรศัพท์ แล้วหลับตา
TEN10: เดี๋ยวลองทำ ว่าแต่งานยุ่งอะไรขนาดนั้น ไม่มีเวลาซ้อมเลยเหรอ
TEN10: มึงต้องเป็นคนอ่านเกมนะ อีกอย่างพวกกลวง ๆ ในทีมก็ไม่ฟังกูอยู่ดีปะ?
jjack: กูคุยกับทุกคนแล้วมึงไม่ต้องห่วง ถ้าไม่ปากหมาด่ามันก่อนก็คงเล่นได้
TEN10: เรื่องนั้นไว้บอกไอ้ฝรั่งน้องมึงดีกว่าไหม?
jjack: เออ เดี๋ยวกำชับให้ ไปนอนต่อได้แล้วไป
TEN10: ก็บอกแล้วว่าตอนต่อไม่ได้
jjack: งั้นก็แยกย้าย
TEN10: เดี๋ยวดิ
jjack: ว่า?
TEN10: ทำไมมึงตื่นเช้าจังวะ?
TEN10: ที่ทำงานก็ไม่ได้ไกลจากบ้านไม่ใช่เหรอ?
jjack: ทำกับข้าวให้แม่กับน้อง
TEN10: เอาว่ะ พ่อบ้าน
TEN10: ทำแบบนี้ทุกวันเลยดิ?
jjack: อืม
TEN10: ทั้งที่นอนดึกแต่ก็ตื่นเวลานี้เนี่ยนะ?
jjack: กูชินแล้ว
jjack: เหมือนตอนที่มึงติดเกมจนต้องมาหลับเอาในห้องเรียนนั่นแหละ



ไม่อยากยอมรับว่าเรื่องราวในช่วงเวลานั้นจะกลับมาให้ได้คิดถึงอีกครั้ง ตอนที่เท็นเอาจริงเอาจังกับการเล่นเกมเพราะอยากเป็นคนเก่งที่ใคร ๆ ก็อิจฉา เขาละมือจากกีตาร์แล้วหันมาจริงจังกับคีย์บอร์ดเกม แต่เพราะไม่ใช่เป็นคนฉลาดและมีความสามารถเหมือนไอ้ธีร์จึงต้องฝึกหนักเป็นสองเท่า ดังนั้นการนอนดึกตื่นเช้าไปเรียนจึงเป็นปัญหา

วันนั้นขณะที่เพื่อน ๆ กำลังจับกลุ่มคุยเรื่องไร้สาระในคาบที่อาจารย์ไม่เข้า กลุ่มเขาก็หันหน้าเข้าหากันพูดคุยถึงฮีโร่ตัวใหม่ที่สกิลโคตรน่ารำคาญแต่ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เท็นได้แต่นอนฟังและคงหลับในอีกไม่ช้า แม้ว่าแสงแดดจะสาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่าง แต่ความง่วงมันมีมากกว่าเขาจึงฝืนดันทุรังนอนต่อไปกระทั่งความร้อนหายไปเพราะใครบางคนขยับไปยืนบังให้


‘เมื่อคืนเชี่ยแจ็คแม่งสุดสัด ไล่ยัดหน้ายันป้อมไฟ เหมือนเก็บกดมาจากไหน’
‘ไม่ได้หรอก ใครที่ฆ่าไอ้ธีร์ผู้เป็นขี้ข้ากู มันต้องตายเยี่ยงหมาข้างถนน’
‘โหดมากเลยคร้าาาาา’
‘5555555555555555555555555555555555’


แผ่นหลังเจ้าของเสียงนั้นคงร้อนเพราะโดนแสงแดดประเทศไทย แต่เท็นก็ยังคงแกล้งหลับต่อไปกับดวงตาที่ปิดไม่สนิท เงาจาง ๆ ของใครอีกคนในชุดนักเรียนที่ยืนอยู่ตรงริมหน้าต่าง กับเสียงหัวเราะที่พักหลังไม่ค่อยได้ยินนัก...


เท็นอยากให้เวลาหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นตลอดไป



TBC


#กรี๊ดอัดโอ่งมังกรแล้วตะโกนว่าทำม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 26-10-2018 21:32:40
ขอเป็นทาสพี่ซันได้มั้ยคะน่ารักเหลือเกินอยู่ๆข้างๆพี่เท็นต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-10-2018 22:05:09
ชีวิตดราม่า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-10-2018 22:28:39
ชีวิตพี่แจ็คตอนนั้นน่าสงสาร แบกภาระมากมาย โดยไม่ปริปากบอกใคร
ในขณะที่เพื่อนอย่างเท็นนับวันก็สุมแต่ไฟแค้นใส่ตัว
ส่วนพี่ธีร์ความหัวร้อนปากไวของแกนี่สร้างปัญหาให้ชาวบ้านระยะยาวเลยนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 26-10-2018 23:28:28
อึดอัด

กับเก็บกดแมนและซึมเศร้าแมน

แต่ก็เข้าใจนะเวลาคนจะเข้าใจผิดกันอ่ะ

ทั้งเรื่องทั้งเวลาจะประจวบเหมาะลงล๊อค

แบบกู่ไม่กลับจริงๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-10-2018 23:41:24
เด็ก ทำร้ายกันได้มากเพราะไร้เดียงสาและไร้ประสบการณ์
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 26-10-2018 23:57:34
กรี๊ดดดตามคุณคนเขียนแล้วตะโกนว่าทำม๊ายยยยย

ทำไมน้องเท็นน่ารักขนาดนี้ ฮื้ออออออออ น้อนนนนนน  :hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 27-10-2018 00:04:54
ที่นายพูดว่าเท็นรับข้อเสียแจ็คได้ ทำไมรับข้อเสียธีร์ไม่ได้ ก็สองมาตรฐานนั่นแหละ ถึงชื่อว่าเป็นเพื่อนเหมือนกันแต่เลเวลความสนิทก็ไม่มีทางเท่ากันหรอก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 27-10-2018 01:11:51
 :เฮ้อ:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 27-10-2018 06:27:39
ต่างฝ่ายต่างคิดกันเองแล้วก็ไม่พูดมันเลยสะสมจนมาบู้ม!!ทะเลาะกันหนักหน่วง เสียดายเวลาที่เลิกคบกันไปมากๆตั้งสิบปี แต่แก้ไข้อดีตไม่ได้ปัจจุบันเท็นของเราเริ่มปรับตัวละทีนีก็อย่าว้อนทีนมากนักเลยลูกเดี๋ยวจะตีกันตายก่อนดีกันพอดีเอาใจช่วยให้เขากับมารักกันแตรอบนี้ไม่ใช่แบบเพื่อนนะแต่แบบแฟนอิอิ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 27-10-2018 07:58:08
อ่านแล้วไม่รู้จะเม้นอะไรเลยค่ะ​ สงสารพี่แจ็คในอดีตมาก​ ปัญหาครอบครัวแต่ไม่ได้บอกใคร​ กลัวเพื่อนจะคิดมากไปด้วย​ พี่แจ็คก็คงเสียใจเรื่องที่เท็นจะใช้ชีวิตของตัวเอง​ เหมือนตอนที่เท็นเสียใจ​เพราะแจ็คมีแฟน​ เอาจริงแคร์กันยิ่งกว่าคู่รักอีก​ ไม่อยากอ่านตอนแตกหักกันเลยอะ​ กลัวรับมะหวายยยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 27-10-2018 08:44:07
จุดพลุๆๆ มาต่อแว้วววว
แต่แอบมึนนิดช่วงที่สลับอดีต-ปัจจุบัน ถ้าอดีตเป็นตัวเอียงหรือเปลี่ยนสี หรือมีสัญลักษณ์สักนิดจะดีมากเลยค่า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: StarPasO ที่ 28-10-2018 20:39:44
การโดนด่า+ต้องทนเล่นตำแหน่งที่ไม่ชอบเพื่อเพื่อนนี่ทำให้ผิดใจกันได้จริงๆนะ ฮื้อ เข้าใจเท็นมากๆ เป็นตัวละครที่สงสารมาตั้งแต่ซอโซ่ล่ามธีร์แล้ว อาจจะเพราะเคยโดนเหมือนกันด้วย  :hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 28-10-2018 21:30:11
ซึมเศร้าแมน&เก็บบกดแมน น่าเห็นใจทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-10-2018 22:17:55
ตอนพี่แจ็คเป็นโรคซึมเศร้าต้องหน่วงมากแน่เลย :sad4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 30-10-2018 15:26:58
ซันน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 7 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (26/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 02-11-2018 02:39:29
จำตัวละครไม่ได้ โยงไม่ถูก ขี้เกียจกลับไปอ่าน โซ่ล่ามธีร์.
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 11-11-2018 19:33:34



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 08
หวานเย็นในวันที่ร้อนระอุ


 



“แหม่ม แม่บอกว่าให้ดูน้องไง ทำไมปล่อยให้น้องเล่นจนของกระจัดกระจายเละเทะแบบนี้?!”

 

“หนูห้ามแล้วแต่คิงไม่ฟังเลยนี่ ทำไมแม่ต้องตะคอกหนูด้วย?!”

 

“แหม่มเป็นพี่ พี่ต้องดูแลน้อง ช่วยแบ่งเบาภาระแม่บ้างได้ไหม แม่เหนื่อย เคยรู้บ้างหรือเปล่า?!”

 

ไม่ชิน...

 

แจ็คไม่เคยชินเลยสักครั้งกับบรรยากาศตึงเครียดที่โอบรอบบ้านห้องแถวแห่งนี้โดยมีเหยื่อเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หญิงวัยกลางคนที่เคยแต่งตัวดูดี... ในวันนี้สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงเจเจสามตัวร้อยที่ใช้ร่วมกับพ่อ สีหน้าเธอดูอิดโรยกับกองผ้ามหึมาที่มีทั้งต้องซักรีดตลอดตั้งแต่เช้าจนถึงฟ้ามืดและคงยาวไปจนถึงดึกดื่น

 

เด็กสาวตัวน้อยเบะปากร้องไห้อย่างไม่เข้าใจเหตุผล แหม่มยังคงกอดตุ๊กตาหมีไว้แนบอกราวกับว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมแม้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นจะเปลี่ยนแปลงไปจนยากจะปรับตัวได้แล้ว น้องสาวอายุแค่นั้นคงไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดแม่ที่เคยใจดี กอดหอมพาเข้านอนทุกคืนถึงได้กลายเป็นคนตึงเครียดและโมโหง่ายได้ขนาดนี้

 

ท่ามกลางเสียงสะอึกสะอื้น หญิงวัยกลางคนที่เคยส่งเสียงลั่นบ้านชะงักไปทันทีที่เห็นลูกชายคนโตกลับมาหลังฟ้ามืดแล้ว คนเป็นแม่เบือนหน้าไปอีกทางเพื่อหลบสายตาซึ่งอีกฝ่ายคงมองมาอย่างผิดหวังกับสิ่งที่เธอแสดงออกกับลูกสาว

 

“มานี่มา” แหม่มสะอึกสะอื้นอ้าแขนกอดรอบคอพี่ชายที่ก้มลงอุ้มเธอขึ้นและลูบศีรษะปลอบใจ นอกจากตุ๊กตาหมีแล้วก็มีเพียงแจ็คเท่านั้นที่ทำให้เด็กสาวรู้สึกปลอดภัยจากความน่าหวาดกลัวของโลกใบนี้

 

“ข้าวเย็นอยู่ในตู้”

 

“แม่กินแล้วเหรอ?”

 

เธอไม่ตอบ แจ็คมองแผ่นหลังที่แบกรับทุกอย่างเอาไว้เนื่องจากฝากฝังความหวังกับสามีไม่ได้ หัวหน้าครอบครัวที่เคยโดดเด่นในเรื่องสั่งการควบคุมทุกอย่างตั้งแต่เรื่องบริษัทไปจนถึงคนงาน แต่ในวันนี้เสียหลักจนไม่สามารถหยิบจับอะไรให้เป็นชิ้นเป็นงานเพื่อแลกกับเศษเงิน ตอนนี้พ่อทำอะไรอยู่ไม่มีใครรู้ ชีวิตของแจ็คกับแม่ยุ่งยากเสียจนไม่มีเวลาใส่ใจว่าตอนนี้ใครจะทำอะไรอยู่จุดไหนของโลก

 

ลำพังต้องซักรีดผ้าแม่ก็เหนื่อยมากพอแล้ว แต่ด้วยความที่ค่าใช้จ่ายเยอะแม่จึงบอกว่าจะเพิ่มบริการไปรับไปส่งผ้าให้คนในซอยและละแวกใกล้ ๆ ด้วย เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าจะได้อยากมาใช้บริการอีก มันอาจจะเหนื่อยกว่าเดิมเป็นเท่าตัวแต่อย่างน้อยก็ทำให้อุ่นใจเรื่องค่าเทอมลูกและข้าวทุกมื้อที่ทุกคนควรกินให้อิ่ม

 

แจ็ครู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ยาวนาน แม้ว่าจะได้เงินจากการสอนพิเศษ แต่มันก็ช่วยอะไรได้ไม่มากเท่าที่ตั้งใจไว้ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าอยากโตไว ๆ อยากเรียนจบมีงานดี ๆ ทำ อยากเลี้ยงดูทุกคนให้อยู่ได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดกับการเห็นแม่นั่งกินข้าวเหนียวถุงละห้าบาทกับหมูปิ้งแค่ไม้เดียว

 

แม่เลือกที่จะกินพอให้ไม่หิว แกงถุงละยี่สิบที่กินทั้งบ้านก็เลือกตักหมูให้ลูกกับสามี ส่วนตัวเองเอาน้ำแกงราดข้าวและลุกไปทำงานต่อจนบนโต๊ะอาหารเหลือเพียงอดีตหัวหน้าครอบครัวและลูกอีกสามคน

 

‘คิงอย่าอมข้าว’

 

ก่อนหน้านี้แจ็คไม่ค่อยได้ใช้เวลากับน้อง ๆ นัก มันอาจจะเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งที่ทำให้เด็กคนนี้ได้ใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น แต่ในขณะที่เขากำลังพยายามทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ใครอีกคนกลับปล่อยให้ชีวิตลอยไปลอยมาอย่างน่าสิ้นหวัง แจ็คมองพ่อที่ตักหมูใส่จานตัวเองอย่างเคยตัวแล้วปล่อยไว้อย่างนั้นโดยไม่ตักกิน จังหวะนั้นเด็กหนุ่มจึงคิดและตัดสินใจทำบางอย่างลงไป

 

พ่อเงยหน้ามองลูกชายที่ตักหมูจากจานตัวเองให้น้องสาวและน้องชายคนเล็ก เป็นอีกครั้งที่เขาได้เห็นแววตาเรียบเฉย เย็นชาราวกับเป็นคนอื่นซึ่งถ่ายทอดมาจากคนเป็นลูกชายแท้ ๆ อดีตผู้นำครอบครัวลดระดับสายตามองข้าวแข็ง ๆ ราคาถูกที่ไม่เคยอร่อยปาก ก่อนจะเงยหน้ามองลูกชายคนโตอีกครั้งอย่างรู้สึกผิดแล้วตักน้ำแกงใส่ข้าวในจานตัวเอง ฝืนกินมันอย่างจำใจโดยไม่ต่อว่าแจ็คที่ตักหมูออกไปอย่างที่ไม่ควรทำบนโต๊ะอาหาร

 

อาจเพราะเงินเดือนที่เรียกสูงเกินอายุพ่อจึงถูกปฏิเสธอยู่ร่ำไป บทจะได้ใส่สูทไปทำงานให้ครอบครัวโล่งใจสามวันถัดมาก็ต้องกลับมานั่งอยู่บ้านเฉย ๆ เพราะพ่ออีโก้สูงเกินกว่าจะยอมทนฟังคนอายุน้อยกว่าจิกหัวสั่ง แจ็ครู้ว่าพ่อพยายามแล้ว มันยากสำหรับคนที่เคยสบายมาทั้งชีวิต แต่คำถามหนึ่งที่เป็นจุดดำในใจก็คือ... ถ้าแม่พยายามได้... แล้วทำไมพ่อถึงทำไม่ไหวกันล่ะ?

 

‘เมื่อวานแม่ล้มในห้องน้ำ ถ้าพ่อว่าง ๆ จะช่วยแม่ยกตะกร้าผ้าไปตากก็ได้นะ’

‘อืม ได้สิ’

‘ซุปเปอร์ฮีโร่ก็แพ้ศัตรูได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะแพ้ไปตลอด’

‘...’

‘พ่อยังคงเป็นฮีโร่ของแจ็คเสมอนะ ถ้าตอนนี้ยังเหนื่อยอยู่ก็พักทบทวนตัวเองก่อนก็ได้ แต่อย่านานเกินไปล่ะ เพราะตอนนี้แม่เหนื่อยมากจริง ๆ’

 

เพราะประโยคนั้นที่ทำให้พ่อยอมกัดฟันเข้าไปทำงานในตลาด แต่ด้วยสภาพแวดล้อมต่าง ๆ จึงทำให้หมดความอดทนอีกครั้ง และนั่นก็รวมถึงแม่ด้วย

 

‘เลือกงานแบบนี้แล้วจะไปทำอะไรได้ ครอบครัวจะอดตายกันอยู่แล้วคุณเห็นไหม?!’

 

แจ็คนั่งอยู่ในห้องนอนชั้นสาม ใส่หูฟังให้น้องชายคนเล็กแล้วเปิดเพลงเด็กกลบเสียงเหล่านั้นก่อนจะกอดน้องสาวเอาไว้แนบอก สายตาของเด็กหนุ่มมองไม่เห็นอะไรนอกจากลังกระดาษและอะไรต่าง ๆ ที่วางซ้อนทับกันเพราะไม่มีที่เก็บ สิ่งของเหล่านั้นเหมือนปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในบ้านหลังนี้ไม่มีผิด

 

เด็กหนุ่มทนอยู่กับเสียงทะเลาะของคู่ชีวิตที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเรียกแบบนั้นได้อยู่หรือไม่ แต่ก็เพียงครู่เดียวเพราะคนความอดทนน้อยอย่างพ่อก็ให้ความเงียบแก่บ้านหลังนี้ด้วยการเดินหนีออกไปข้างนอกเหมือนอย่างที่เคยทำมาตลอด

 

“แม่ไม่หิว กินเสร็จแล้วก็ล้างจานเอาผ้าคลุมไว้ด้วยนะ แมลงสาปมันเยอะ”

 

“...”

 

บางทีคนที่แบกโลกทั้งใบไว้บนไหล่อาจจะไม่ใช่เด็กอย่างเขา กี่ครั้งแล้วที่แจ็ครู้สึกผิดเพราะต้องเปิดคอมซ้อมทีมกับเพื่อนตอนกลางคืน แม้จะมีเวลากำหนดอย่างชัดเจนว่าต้องเลิกตอนไหน หรือหาเงินเอามาจ่ายค่าไฟเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเอาเงินส่วนนี้ไปทำอย่างอื่นมันคงเกิดประโยชน์มากกว่าเป็นไหน ๆ ซึ่งขณะเดียวกันความคิดอีกด้านหนึ่งก็บอกว่า ‘มึงจะทิ้งเพื่อนไว้กลางทางได้เหรอ การแข่งมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว’

 

“แหม่ม”

 

“อือ”

 

“แม่บ่นเพราะแม่เหนื่อย เข้าใจแม่ใช่ไหม?” เด็กหนุ่มมองดวงหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา เขาจึงไล้มันออกให้อย่างเบามือ

 

“ไม่” เด็กน้อยตอบอย่างไม่ซับซ้อน และแจ็คเข้าใจกับคำตอบของน้องดี

 

“แล้วแหม่มเกลียดแม่หรือเปล่า?” ไม่ เธอส่ายหน้า “ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยมากก็เลยมีโมโหกันบ้าง โอเค บ่อยเลย แต่ถ้าแหม่มอยากให้พ่อกับแม่ยิ้มเยอะ ๆ แหม่มก็ต้องเป็นเด็กดีแล้วก็ช่วยแม่ดูแลน้องนะรู้ไหม?”

 

“แต่คิงดื้อ ชอบหยิกหนูด้วย...”

 

“สอนน้องสิ บอกน้องว่าทำแบบนี้มันไม่ดีนะ แหม่มเป็นพี่ แหม่มโตแล้ว น้องต้องฟังแหม่มแน่”

 

“แล้วถ้าคิงไม่ฟังล่ะ... ถ้าคิงตีหนูจนแดงอีกหนูจะทำยังไง...?”

 

“งั้นก็ขู่ไปเลยว่าพี่แจ็คจะไม่ให้กินขนมอีกแล้ว”

 

“เอาแบบนั้นเหรอ...?”

 

“ใช่ เพราะงั้นพรุ่งนี้เอาใหม่นะ แหม่มกลับมาถึงบ้านปุ๊บก็ถอดถุงเท้าเอาไปแช่ผงซักฟอกในกะละมังสีฟ้ารวมกับของทุกคนเหมือนที่พี่เคยสอนให้ จำได้ใช่ไหม? หลังจากนั้นก็พาคิงมานั่งใกล้ ๆ แล้วคอยดูไม่ให้น้องหยิบอะไรเข้าปาก ตอนนั้นแหม่มก็ทำการบ้านไปด้วย ว่าไง? ไหนบอกซิว่าคนเก่งของพี่ทำได้”

 

“ทำไมทำหลายอย่างจัง หนูงงไปหมดแล้ว”

 

“งั้นเอาใหม่ เราจะมาทบทวนตั้งแต่ข้อแรกเลย เดี๋ยวพี่จะวาดรูปสวย ๆ ให้ แหม่มจะได้เข้าใจง่าย ๆ ดีไหม?”

 

“อื้อ เอารูปไดโนเสาร์สวย ๆ ด้วยนะ หนูชอบทีเร็กซ์!”

 

คนเป็นแม่มองลูกชายคนโตที่อุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นไปบนบ้าน เสียงหัวเราะสดใสนั้นห่างหายจากบ้านหลังนี้ไปนานมากแค่ไหนแล้วเธอได้แต่ครุ่นคิดกับเรื่องนี้ หญิงวัยกลางคนมองฝ่ามือที่เคยเนียนนุ่ม แต่ตอนนี้มันหยาบกระด้างอีกทั้งยังลอกเป็นขุยเพราะถูกผงซักฟอกกัด เหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจนอยากตายไปให้พ้น ๆ ถ้าไม่ติดว่ายังมีลูกอีกสามคนที่ยังน่าเป็นห่วง

 

หลับตาลงแล้วเอนศีรษะพิงกับผนัง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออก ร่างกายที่ทำงานอยู่ทุกวันไม่มีพักมันร้าวจนอยากนอนนิ่ง ๆ เธอต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย แต่ระหว่างนั้นก็คิดไปว่ายังมีลูกชายคนโตที่พอจะแบ่งเบาภาระได้ อย่างน้อยแจ็คก็ยังคิดจะทำอะไรสักอย่างเพื่อหาเงิน

 

 

 

*

 

 

 

“แม่ รองเท้าคิงอยู่ไหนอะ?”

 

“ก็อยู่ในชั้นไง ไม่มีเหรอ?”

 

“ไม่มี แหม่ม พี่เห็นรองเท้าเราไหม คู่สีขาวที่เพิ่งซื้อมาใหม่”

 

“ฉันจะไปรู้กับแกเหรอ ฉันไม่ยุ่งกับตู้ฝั่งตะวันออกอยู่แล้ว เหม็น”

 

“แล้วมันจะหายไปไหน?”

 

เท็นมองลูกชายคนเล็กของบ้านที่วันนี้แต่งตัวแปลกจนผิดสังเกต ปกติเห็นใส่แค่เสื้อยืดเกงเจเจ ไหงวันนี้กลายเป็นยีนส์กับแจ็คเก็ต แถมยังเซ็ทผมจนเจลเยิ้มหัวอีกต่างหาก

 

“พี่เท็นหวัดดีค่ะ” แหม่มยกมือไหว้อดีตเพื่อนพี่ชายที่วันนี้คงมาฝากท้องกับบ้านเธออีกครั้ง เอาจริงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพี่เท็นถึงยังมาทั้งที่พี่แจ็คก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะต้อนรับขับสู้สักเท่าไหร่ เด็กสาวยังคงสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถามเรื่องนี้กับพี่ชายเพราะรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องอ่อนไหว

 

“มาแล้วเหรอลูก ไหนล่ะผ้าห่มที่บอกว่าจะให้แม่ซัก?”

 

“นี่ครับ เท็นวางตรงไหนได้บ้างอะแม่?” ชายหนุ่มชูถุงผ้านวม

 

“ตรงนั้นก่อนก็ได้ลูก เดี๋ยวแม่จัดการเอง”

 

“มันหนักนิดนึง ถ้ายังไงแม่เรียกเท็นได้เลยนะ ยังไงก็กะว่าจะอยู่ถึงเย็น ๆ อยู่แล้ว”

 

“แม่คือหญิงแกร่งแห่งบางใหญ่ซิตี้นะเท็น ผืนแค่นั้นน่ะเด็ก ๆ มาก” ชายหนุ่มยิ้มขำกับคำพูดคำจาแม่อดีตเพื่อนสนิท ท่ามกลางความวุ่นวายของลูกชายคนเล็กที่ยังคงลนลานหารองเท้าอย่างหัวเสีย

 

“แล้วใครเอาไปวะ -- พี่แจ็ค!!!!”

 

“จะร้องทำไมล่ะลูก เดี๋ยวพี่เค้าก็หงุดหงิดหรอก ให้พี่เค้าพักผ่อนหน่อย”

 

“ต้องพี่แจ็คแน่ ๆ คิงรู้เลย!!!” เท็นเห็นว่าแหม่มเม้มปากกลั้นขำ คาดว่าคนบ้านนี้คงหาอะไรเล่นกันเป็นเด็ก ๆ ซึ่งมันคงเป็นภาพแปลก ๆ ดีถ้าหากว่าไอ้คนหน้านิ่งจะเป็นหนึ่งในแผนกลั่นแกล้งนี้ ซึ่งเขาอาจจะคาดหวังมากไป

 

“พี่แจ็คจะไปยุ่งกับรองเท้ากาก ๆ ของแกทำไม สิบโมงแล้วนะเว้ยคิง กว่าจะถึงสยามก็สองชั่วโมงเลยมั้ง ใส่คู่เก่าไปก่อนดิ”

 

“ทำไมรู้ว่าเราจะไปสยาม?”

 

“พี่แกเก่งไง จบ”

 

“แอบอ่านไลน์เราใช่ปะ แย่ว่ะ แม่!!! ดูพี่แหม่มดิ!!!”

 

“แหม่มอย่าแอบยุ่งเรื่องส่วนตัวน้องสิลูก”

 

“หนูขอโทษจ้า” สองแม่ลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทำเอาคนถูกจับได้ว่ามีนัดถึงกับหน้าแดงจัดรีบวิ่งขึ้นบันไดบ้านทันที แต่ก็ได้เพียงสี่ขั้นเท่านั้นหนุ่มน้อยก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าพี่ชายคนโตกำลังเดินลงมาพร้อมรองเท้าที่เขากำลังตามหาอยู่!!!

 

“พี่แจ็ค?!!!”

 

“นัดสาวทั้งทีต้องแต่งหล่อขนาดนี้เลยนะ”

 

“เอารองเท้ามา!!!”

 

“บอกมาก่อนว่าไปกับใคร?” คนน้องพยายามกระโดดคว้าเอารองเท้าคู่ใหม่เอี่ยมที่เก็บเงินซื้อโดยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง แต่พี่ชายกลับยืดแขนจนสุดอีกทั้งยังเอามือดันหน้าเขาเอาไว้เสียอย่างนั้น

 

เท็นเลิกคิ้วมองกับอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่ค่อยชินตา โดยเฉพาะรอยยิ้มของใครอีกคนที่คิดว่าชาติหน้าก็คงได้เห็นยาก สองพี่น้องยื้อดึงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งเจ้าของบ้านหันมาเห็นว่าเขามีตัวตนอยู่ตรงนี้ รอยยิ้มที่เคยเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่จึงค่อย ๆ เลือนหายไปในที่สุด

 

“มาทำเชี่ยไรอีก?”

 

“แม่ ดูมัน” เท็นชี้พี่เสกเวอร์ชั่นเพิ่งตื่นนอน ซึ่งคนที่นั่งรีดผ้าอยู่ก็ยิ้มขำกับความรุนแรงทางคำพูดที่แม่คงคิดว่ามาจากความสนิทสนม

 

“วันนี้หุงข้าวสี่ถ้วยใช่ไหม?”

 

“เท็นไลน์มาบอกตั้งแต่เช้าว่าจะมากินข้าวด้วย แม่ก็เลยฟาดหุงไปหกล่ะ”

 

“ต่อไปนี้ไม่ต้องเผื่อแล้วนะ ถ้ามันหิวก็ปล่อยให้ไปคุ้ยถังขยะเอา”

 

“พูดแล้วก็ท้องร้องเลย ไปกินด้วยกันไหมเพื่อน?”

 

ไอ้แจ็คเสยผมแล้วหันมาชูนิ้วกลางเป็นคำตอบ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว

 

รู้ว่าเป็นเหตุผลสุดงี่เง่าที่หอบผ้านวมมาซักถึงที่นี่แล้วอ้างว่าร้านซักรีดแถวบ้านเซ้งกิจการ ซึ่งแม่ไอ้แจ็คก็คงงงตาแตกเหมือนกันว่าแถวนั้นมีอยู่แค่ร้านเดียวหรืออย่างไร ซึ่งเท็นก็แถไปอย่างหน้าด้าน ๆ แต่การที่แม่ยอมตกลงมันก็เป็นข้ออ้างที่ทำให้หาเรื่องมาที่นี่ได้อีกครั้ง

 

เพราะนอกจากส่งซักผ้าห่มแล้วเท็นก็มีแพลนจะขนเสื้อผ้ามาส่งซักถึงที่นี่ด้วย มองในแง่ดีสิวะ เมื่อก่อนแม่ไอ้แจ็คเคยสุขสบายแต่ตอนนี้ลำบากจนต้องเปิดร้านซักรีด คนที่เคยเห็นหน้าค่าตากันเมื่อสิบปีก่อนก็ต้องอุดหนุนกันบ้าง

 

“ไลน์บอกแม่แต่ไม่บอกกู หมายความว่าไง?” คนที่กำลังหาวัตถุดิบทำในตู้เย็นออกมาทำมื้อเที่ยงพูดโดยไม่หันมามองหน้ากัน เท็นขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์อีกฝั่งที่ถูกรีโนเวทจนดูทันสมัยกว่าอีกฝั่ง ก่อนจะคว้าเอากระป๋องถั่วมาเปิดกินเล่นฆ่าเวลา

 

“มึงเป็นใครทำไมกูต้องรายงานทุกอย่าง?”

 

“ตอบกวนตีนตั้งแต่เริ่มคุยแบบนี้แสดงว่าอยากแดกข้าวคลุกน้ำปลาแล้วมั้ง?”

 

“อ้าวกูพูดจริง กูแค่อยากมากินข้าวกับแม่ไม่ได้อยากมากินกับมึงสักหน่อยไหม?”

 

“งั้นก็ตามใจ” เจ้าของเสื้อกล้ามขาวหันมามองหน้านิ่งแล้วเขวี้ยงแตงกวาใส่ ซึ่งเขาก็รับไว้ได้อย่างทุลักทุเล

 

“ไรวะ?!” ถ้าโดนหัวต้องมีเจ็บอะ ไอ้ห่านี่รุนแรงแต่เช้า

 

“แตงกวาไง”

 

“เออรู้ กูมีตา”

 

“แล้วถามทำไม?”

 

“ก็มึงโยนมาเพื่อ?”

 

“ให้แดกไง หรือถ้าขี้เกียจเคี้ยวจะเอาไว้อมเล่นก็ได้แล้วแต่มึง”

 

“อมห่าไรล่ะ?” ประโยคติดเรทที่มาพร้อมแววตาเรียบเฉยนั่นคืออะไร น่าหัวเสียสิ้นดีที่ทั้งคู่กำลังคิดสวนทางกันและคนที่คิดลึกกลับกลายเป็นเขาเสียอย่างนั้น

 

“กูจะทำกับข้าวไว้ให้”

 

“อะไร พูดเหมือนจะไม่อยู่กินด้วยกัน”

 

“อืม มีนัด”

 

“กับใคร?”

 

“ในเมื่อมึงไม่ต้องรายงานกูเรื่องมาแดกข้าวฟรีที่นี่ กูก็ไม่ต้องรายงานมึงเหมือนกันว่าจะไปไหนมาไหน แฟร์ดีนะ ว่าไงล่ะ?” เท็นเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มขณะมองเจ้าของคำพูด ที่น่าหงุดหงิดคือเขาอยากรู้เรื่องนี้ซึ่งมันคงยากที่จะได้คำตอบจากปากมัน

 

อะไรวะ กวนตีนนิดหน่อยแค่นี้ทำเป็นเอาคืนเหรอ ทั้งที่เป้าหมายก็คือจะมากินข้าวด้วยแล้วก็หาอะไรเล่นกันสักเกมสองเกมหลังจากเมื่อคืนตกรอบไปอย่างสมศักดิ์ศรี ยอดโดเนทก็เป็นที่น่าพอใจด้วย ผู้ใหญ่ยิ้มหน้าบาน ทุกอย่างลงตัวหมด แต่นี่อะไร ไอ้แจ็คแหกตาตื่นมาก็ขัดใจเขาแล้ว มันใช้ได้ที่ไหน?

 

“ไปด้วยดิ”

 

“หะ?” อยากตบปากตัวเองแต่คงไม่ทันแล้ว เท็นยืนเกร็งหน้าขมวดคิ้วจนแทบเป็นเงื่อนพิรอดหักคอ แต่จังหวะนี้ก็คงวกกลับลำไม่ได้ “กูจะไปเจอทิดธีร์นะ?”

 

ฉิบหาย

 

“ว่าไง ยังอยากไปด้วยอยู่ไหม?”

 

“มันสึกแล้วเหรอ?”

 

“กูคงไม่เรียกพระว่าทิด เพราะงั้นก็ตามนั้น”

 

ไอ้ห่าเอ๊ย ทีนี้ด่าได้โดยไม่ติดปากอะไรทั้งนั้นแล้ว ทำไมต้องสึกวันนี้ด้วยวะ ไม่บวชยันภพหน้าไปเลยล่ะไอ้เวรตะไล หรือว่าวัดมันร้อนรุ่มเหมือนนอนลอยอยู่ในลาวานรกก็เลยทนไม่ไหวต้องรีบสึก?

 

อืมนะ ทั้งที่จะด่าไอ้ธีร์ให้คนตรงหน้าฟังเหมือนที่เคยก็ได้ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเก็บคำเหล่านั้นไว้ในความคิดแล้วปล่อยให้เสียงผัดกับข้าวทำลายความเงียบ

 

“จะไปไหนกัน?”

 

“ไม่รู้สิ ปกติกูไม่เคยแพลนกันหรอก มันอยากไปไหนก็แค่ขับรถไป”

 

“สองคนเหรอ หรือว่าไปทั้งแก๊งกาก?” เท็นชะเง้อมองพ่อครัวเป็นระยะ แม้ว่าจะเคยเห็นภาพนี้หลายครั้งแล้วตั้งแต่เริ่มมีแข่งการกุศลแต่เขาก็ยังไม่ชินสักที

 

“ยกเว้นพี่ตั้บ ถามจริงนะ ที่คุ้ย ๆ อยู่เนี่ยอยากเสือกเฉย ๆ หรือว่าอยากไปด้วย?”

 

“กูเนี่ยนะอยากไปเจอเพื่อนพระมึง? ฝันยังดูเวอร์เกินจริงไปเลย” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะพลางโยนถั่วเข้าปาก จังหวะที่ก้มกลับลงมาก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องอยู่เหมือนอยากดูท่าทีอย่างไรอย่างนั้น

 

“ก็คิดงั้นเหมือนกัน”

 

“งั้นก็ไม่ควรถามดิ”

 

“ถ้าถามก็ได้รู้คำตอบชัด ๆ ดีกว่าให้เดาเอาเองไม่ใช่หรือไง?” ไอ้คนหน้านิ่งหันมาอีกครั้งพร้อมกับข้าวที่ตักมาให้ชิม ซึ่งคนจองหองเก่งอย่างเขาก็เล่นตัวเหมือนทุกครั้งก่อนจะก้มลงไปชิมคำเล็ก ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นยักคิ้วบอกให้รู้ว่ารสชาติโอเคแล้ว

 

“มึงก็รู้ว่าถ้ากูกับมันเจอกันแล้วอะไรจะเกิดขึ้น”

 

“เกิดอะไร? กูไม่รู้หรอก”

 

“อย่ามาทำเนียน มึงรู้จักกูกับไอ้ธีร์ดีกว่าใคร”

 

เป็นอีกครั้งที่เท็นอยากตบปากตัวเองเอาให้ตาย ประโยคนี้เป็นเหมือนหลุมลาวาที่พร้อมจะแผดเผาให้เขาตายได้ ‘รู้จักกูดี’ งั้นเหรอ ให้ตายเหอะว่ะเท็น ยกนี้โดนไอ้หน้าตายซัดน็อกแน่ ๆ

 

“ที่บอกว่าไม่รู้เพราะกูคิดว่ามึงคงไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว”

 

“...”

 

“การไปเจอหน้าไอ้ธีร์สักครั้งในฐานะสมาชิกจำเป็นกับงานการกุศลมันก็คงพยายามยั้งปากไว้ได้ คิดว่าอย่างนั้นนะ”

 

“ไม่มีทาง คนอย่างมันคงพร้อมจะหาเรื่องมาด่ากูได้ทุกเมื่อ ยกตัวอย่างเช่นตอนกูไปส่งโซ่หน้าร้านพี่ตั้บ แล้วก็ตอนวันแข่งรอบชิง” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคอกับเรื่องที่เพิ่งผ่านไปไม่นานมานี้ คงไม่ต้องพูดถึงอดีตที่มีแต่ความทรงจำแย่ ๆ

 

คนหนึ่งน้ำมัน คนหนึ่งเป็นน้ำเปล่า มันไม่มีทางหรอกที่เขากับไอ้ธีร์จะกลับมาคุยกันดี ๆ ได้

 

“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้น มึงไม่ได้อยู่กับมันตลอด มึงไม่รู้หรอกว่าโลกนี้หมุนไปไกลจากเดิมตั้งเท่าไหร่”

 

“มากแค่ไหนล่ะ?”

 

พ่อครัวละมือจากการทำเมนูที่สองแล้วหันมาสบตากันอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นยังคงเรียบเฉยจนอ่านความคิดไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นเท็นก็ยังคงพยายาม

 

“มากจนมึงนึกไม่ออกว่าคนที่เคยทำให้มึงเสียใจบ่อย ๆ คนนั้นมันจะพยายามเปลี่ยนตัวเองจนหัดรักษาน้ำใจคนอื่นเป็นแล้วไงล่ะ”

 

 

 

(ต่อด้านล่างนะคะ)
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 11-11-2018 19:36:00
*

 

 

 

“เย็นนี้ไปสยามปะ?”

 

“เย็นนี้เหรอ?” เด็กหนุ่มผมสกินเฮดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าสบตากับเพื่อนสนิทแล้วส่ายศีรษะปฏิเสธ

 

“มีนัดบลูอีกแล้วหรือไง?”

 

แจ็คไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่การไปเดินสยามตอนเย็นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาไม่อยากทำและคงทำไม่ได้ เป็นอีกครั้งที่บทสนทนาของแจ็คกับเท็นเริ่มต้นอย่างง่าย ๆ และจบลงด้วยคำปฏิเสธ ต่างจากเมื่อก่อนที่มันเป็นประโยคบอกเล่ามากกว่าการชวนเพื่อเสี่ยงดวงว่าอีกฝ่ายจะตกลงหรือไม่

 

“โทษทีว่ะ กูไม่ว่าง”

 

ช่องว่างที่ไม่เคยมีตีออกเป็นวงกว้างขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แจ็ครู้สึกได้ด้วยตัวเองผ่านการย้ำคิดก่อนพูด และสีหน้าของเพื่อนสนิทที่คงหงุดหงิดไม่น้อยกับสิ่งที่เขาเป็น

 

“กูขอโทษนะ ไว้วันหลังเรา --”

 

“ช่างเหอะ กูไปกับคนอื่นก็ได้ ไม่มีปัญหาหรอก”

 

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดมองเพื่อนสนิทที่คว้าโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาใครสักคน ดวงตาคู่นั้นมองไปอีกทาง พร้อมจงใจถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ ออกมาเพื่อให้รู้ว่าอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะพักหลังนอกจากตอนซ้อมทีมแล้วเขาก็แทบจะไม่มีส่วนร่วมอะไรกับเพื่อนเลย

 

“ฮัลโหลอ้อมเหรอ เย็นนี้ว่างไหม อ๋อไม่มีอะไร แค่จะชวนไปดูหนังเฉย ๆ อืม โอเค เจอกันหน้าน้ำพุตอนห้าโมงนะ”

 

“...”

 

“กูไปละ ไว้เจอกัน” เท็นกำลังหงุดหงิดแจ็ครู้ดี แต่เขาเพียงยืนอยู่กับที่ตอนอีกฝ่ายเดินจากไปก่อนฝีเท้าคู่นั้นจะหยุดลงพร้อมหันกลับมาพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้ว่าบางทีคำว่าเพื่อนสนิทของทั้งคู่อาจจะเลือนหายไปมากแล้ว “อ้อ ไว้เจอกันที่ว่าอาจจะเป็นชาติหน้าถ้าเราไม่ได้เรียนที่เดียวกัน”

 

คนถูกประชดยังคงยืนนิ่งเฉยใต้ต้นไม้ข้างสนามบาส แจ็คลูบท้ายทายพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนที่ไม่สามารถทำให้อะไรเข้าที่เข้าทางได้ เหนื่อยกับที่บ้านก็เหนื่อย สอนพิเศษก็ต้องทำ พอถูกเพื่อนตึงใส่แบบนี้ก็ไม่อยากขยับตัวไปไหนเลย

 

 

คุณได้รับข้อความจาก...

‘ไอ้ธีร์’

[ คืนนี้ไปค้างด้วยได้ปะ กูทะเลาะกับป๊า ]

 

 

หากเป็นเมื่อก่อนคงตอบตกลงโดยไม่เสียเวลาคิด เด็กหนุ่มยืนจ้องโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นพร้อมถามตัวเองว่าจะเอาอย่างไร เรื่องที่บ้านก็ยังอยากเก็บเป็นความลับไว้ แต่ถ้าไอ้ธีร์มันเครียดจนต้องการที่พึ่งเขาก็ไม่ควรเมินเฉยหรือเปล่า?

 

 

คุณส่งข้อความถึง...

‘ไอ้ธีร์’

[ เป็นไรวะ? ]

 

คุณได้รับข้อความจาก...

‘ไอ้ธีร์’

[ เรื่องไร้สาระอะ ว่าแต่กูไปได้ปะ? ]

 

 

แจ็คไม่ชอบปฏิเสธโดยเฉพาะเรื่องที่อาจทำให้เพื่อนเสียความรู้สึก เด็กหนุ่มผมสกินเฮดเลียริมฝีปากที่แห้งผากพร้อมจิ้มข้อความลงไป ลบ ๆ แล้วพิมพ์ใหม่อยู่อย่างนั้นแต่สุดท้ายไอ้ธีร์ก็เป็นคนตัดสินเรื่องนี้ให้โดยไม่ต้องมีคนลำบากใจ

 

 

คุณได้รับข้อความจาก...

‘ไอ้ธีร์’

[ เฮ้ย ๆๆ ไม่ต้องละ เดี๋ยวกูไปหาพี่ตั้บดีกว่า หาเรื่องแดกเหล้าด้วย ]

[ โทษ ๆ เปลี่ยนใจง่าย 5555555555555555 ]

 

 

เด็กหนุ่มยิ้มออกอย่างโล่งอก นึกขอบคุณพี่ใหญ่ในทีมที่จะว่าไปแล้วก็เป็นที่พึ่งดี ๆ ให้พวกเขาอยู่เสมอ แจ็คพิมพ์ข้อความตอบกลับไปหาเพื่อนสนิท หวังว่าพี่ตั้บจะช่วยตบหัวไอ้ธีร์จนมันโอเคขึ้นได้

 

 

คุณส่งข้อความถึง...

‘ไอ้ธีร์’

[ เออ แดกเผื่อกูด้วย ]

 

 

“แจ็ค”

 

เจ้าของชื่อหันไปตามเสียง และมันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจเหลือเกินที่คนเคยประชดมึนตึงจนเดินหนีไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้กลับมายืนอยู่ในระยะสายตา อีกทั้งยังมีหวานเย็นโง่ ๆ ในมือทั้งสองข้างนั่นอีกด้วย

 

“กูแดกไม่หมดอะ ช่วยหน่อยดิ”

 

แจ็คคงยิ้มกว้างมาก เขาถึงรู้สึกว่าช่วงแก้มมันตึง ๆ จนต้องหุบยิ้มลงเล็กน้อย เด็กหนุ่มผมสกินเฮดตรงเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่ยังหน้างออยู่พลางลดระดับสายตามองมือที่ขึ้นริ้วแดงเพราะความเย็น ก่อนจะรับหวานเย็นโง่ ๆ มาคาบไว้แล้วดึงชายเสื้อตนเองออกมายัดใส่มือให้เพื่อนกำไว้เพื่อทุเลาความเย็นออกไป

 

“ทำห่าไร?”

 

“ปิดทองพระมั้ง ถามอะไรควาย ๆ”

 

“มึงดิควาย” เท็นละมือออกเพราะอยากตบกะโหลกกลม ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยั้งแรงไว้แล้วเปลี่ยนเป็นผลักแทนเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเจ็บเพราะแรงน้อยใจที่มันอัดแน่นอยู่เต็มอก

 

ห่าเอ๊ย ทั้งที่เดินไปไกลแล้วแต่หน้าหงอ ๆ ของไอ้แจ็คก็ตามหลอกหลอนจนตรงไปสยามไม่ได้ เท็นแวะซื้อหวานเย็นที่ชอบกินด้วยกันเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายชอบมันมากแค่ไหน และทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ก็ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นการประชดให้แจ็คเสียความรู้สึกหรือการวิ่งตามความรู้สึกที่เสียไปให้กลับมาด้วยหวานเย็นแท่งนี้

 

“กูขอโทษนะ”

 

“เรื่องอะไร?” เท็นหันไปถามอย่างใคร่รู้ ท่ามกลางสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่าน ริมฝีปากปากของทั้งคู่เริ่มแดงตามสีของหวานเย็นแล้ว ถึงมันจะดูเหมือนเพิ่งทาลิปสติกมาแต่เท็นก็ชอบเพราะมันทำให้เขาทั้งสองดูตลกดี

 

“อะไรก็ตามที่ทำให้มึงรู้สึกแย่ ทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือว่าในอนาคต”

 

“คนเหี้ยไรขอโทษเผื่ออนาคต บ้าเปล่า?” เขาขมวดคิ้ว มองเสี้ยวหน้าเจ้าของผมสกินเฮดที่อมยิ้มเล็ก ๆ กับคำพูดเมื่อครู่นี้

 

“ไม่รู้สิ นอกจากพวกมึงกูก็ไม่สนิทใจกับใครแล้ว อยู่ ๆ ก็คิดว่าถ้ากูรักษาความรู้สึกคนที่แคร์ให้ดีที่สุดมันก็คงดีนะ” แต่ในความเป็นจริงแจ็คทำอย่างนั้นไม่ได้ เขาอ่อนแอเกินไปที่คิดว่าชีวิตที่บ้านก็เหนื่อยมากพอแล้ว จึงไม่สามารถเทคแคร์เอาใจทุกคนได้ แต่ขณะเดียวกันลึก ๆ แจ็คก็เห็นแก่ตัวว่าอยากให้คนรอบข้างเข้าใจทั้งที่ตนเองนั่นแหละที่เลือกเก็บไว้เป็นความลับ

 

“ถ้าแคร์กูแล้วติดหญิงทำไม?”

 

“ติดบ้าไรล่ะ ทุกวันนี้แค่ไปติวกันเฉย ๆ”

 

“พวกมึงเอากันด้วย กูรู้”

 

“มันก็ต้องมีบ้าง ผู้ชายผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองคน”

 

“แล้วไง ทำไมต้องเอากันด้วยวะ?” เท็นไม่ค่อยแสดงมุมเอาแต่ใจ และแจ็คก็รู้ว่าจะรับมืออย่างไร จึงเอื้อมไปเกาคางคนข้าง ๆ จนไอ้คนขี้หงุดหงิดสะบัดหน้าออก “กูจริงจังนะ”

 

“แล้วทำไมมึงต้องไม่ชอบในเมื่อมึงก็เอากับผู้หญิงตั้งหลายคน กูมีแค่บลูคนเดียวด้วยซ้ำ” เด็กหนุ่มผมสกินเฮดยิงคำถามกลับบ้าง และคนข้าง ๆ ก็ขมวดคิ้ว หน้าตึงขณะคิดหาคำตอบมาแย้ง

 

“มันไม่เหมือนกัน กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงพวกนั้น”

 

“แต่มึงก็สอดเข้าไปในนั้นเหมือนกัน”

 

“แต่กูไม่ติด”

 

“ไม่ติดแล้วทำบ่อย ๆ ทำไม?” แจ็คขมวดคิ้ว ปั้นหน้ากวนตั้งคำถามไล่ต้อนเพื่อนสนิทให้จนมุม

 

 

สนใจกูบ้างดิวะ

นั่นคือสิ่งที่เท็นคิด แต่ไม่ได้พูดออกไป

 

 

“เฮ้ย!!!!”

 

“...!!!!” คนขี้ตกใจสะดุ้งสุดตัวจนตกจากเก้าอี้ม้านั่ง ในขณะที่แจ็คแค่ผงะเล็กน้อยก่อนจะหันไปตามต้นเสียงที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาพร้อมหน้ากากผี

 

“เล่นเหี้ยไรของมึงเนี่ยเชี่ยธีร์ หัวใจจะวายไอ้ห่าลากเอ๊ย!” เด็กหนุ่มสกินเฮดหันไปตบหัวเพื่อนสนิทที่กุมท้องขำไม่หยุดกับท่าทางของเขาทั้งคู่

 

“โอย ถ้าเมื่อกี้ตดด้วยคือฮาเลยนะ”

 

“เอ้าขำใหญ่ ถ้าสำลักน้ำลายกูจะหัวเราะให้” แจ็คลุกขึ้นทำท่าจะเหนี่ยวอีกครั้ง แต่ไอ้ธีร์ก็รู้ทันจึงถอยออกไปสองก้าว “ไหนบอกว่าจะไปหาพี่ตั้บไง?”

 

“เดี๋ยวไปละเนี่ย พอดีกูเพิ่งได้ของเล่นมา หลอกไปได้เกือบสิบคนละ เหวอเหมือนกันหมดไอ้ฉิบหาย 55555555555555”

 

“พรุ่งนี้ไอ้ธีร์โดนด่าหน้าบอร์ดโรงเรียนแน่ มึงไปดันกระทู้ด้วยนะแจ็ค”

 

“พวกมึงดูไอ้เท็นดิ ถึงกับก้นกระแทกพื้น” พวกเพื่อนในห้องที่มากับธีร์ระเบิดหัวเราะอย่างชอบใจ เป็นเรื่องปกติที่ใครก็พลาดถูกแกล้งได้ในสังคมเด็กนักเรียนมัธยม แต่นั่นก็ไม่ใช่กับทุกคน โดยเฉพาะเท็น ผู้ที่เกลียดการโดนแกล้งทุกอย่างแม้ว่าจะเพื่อความสนุกหรือจงใจให้ขายหน้า

 

“มึงตกใจเหรอเพื่อน โอ๋ ๆๆๆ”

 

“ไม่ต้องมาจับกู”

 

เท็นปัดมือธีร์ออกแล้วยันตัวลุกขึ้นด้วยตัวเองพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อให้เห็นทั้งสองตาว่าตอนนี้เขากลายเป็นตัวตลกสำหรับทุกคนมากแค่ไหน ไอ้ธีร์ก็ยังคงเป็นไอ้ธีร์ที่ไม่คิดห่าอะไรนอกจากเรื่องปัญญาอ่อน และปรอทความอดทนของเขาเริ่มจะถึงขีดสุดแล้ว

 

ทั้งเรื่องระหว่างซ้อมทีม ตอนแข่งที่ใส่อารมณ์ เรื่องพูดโง่ ๆ ไม่คิด และเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มันสะสมจนกลายเป็นก้อนใหญ่

 

“เฮ้ยกูแค่ล้อเล่นเอง”

 

“ไปล้อกับพ่อมึงที่บ้านเถอะ”

 

“อ้าว แล้วทำไมต้องเล่นพ่อล่ะครับ?” คนที่เพิ่งบอกว่ามีปัญหากับพ่อจนต้องขอมานอนด้วยถึงกับเปลี่ยนสีหน้า แจ็คมองซ้ายขวาและคิดว่าคงไม่ดีแน่ถ้าจะปล่อยให้สองคนนี้คุยกันต่อ

 

“ธีร์มึงจะไปหาพี่ตั้บไม่ใช่เหรอ ไปสิ”

 

“ยังไงครับเท็น พ่อกูเป็นเพื่อนเล่นมึงเหรอครับ?” คนเลือดร้อนถูกเพื่อนร่วมห้องเข้ามาคว้าแขนไว้ตอนตั้งท่าจะพุ่งเข้าใส่ ซึ่งเท็นก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย อีกทั้งยังกำหมัดแน่นเหมือนพร้อมจะสู้ถ้าหากว่าธีร์เป็นฝ่ายเปิดหมัดแรก

 

“อยากรู้ก็ไปถามพ่อมึงดิ”

 

“ถามมึงก่อนเลยเนี่ย เล่นขำ ๆ แค่นี้ต้องจริงจังใช่ไหม หรือจะเอา?”

 

“ธีร์” แจ็คหันไปคว้าคอเสื้อเพื่อนสนิทพร้อมจ้องหน้า เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาอยากเตือนสติให้อีกฝ่ายรู้ว่าควรห้ามตัวเองสักหน่อยหากว่ายังมีคำว่าเพื่อนหลงเหลืออยู่ ซึ่งธีร์ก็ยังมีความบ้าไม่มากพอที่จะทำสวนทางกับคำพูดเขา

 

“เล่นอะไรก็ไม่ได้ น้อยอกน้อยใจเป็นผู้หญิง กลับบ้านไปนั่งพับเพียบเล่นตุ๊กตาเถอะห่า”

 

“...” ก่อนไปธีร์ยังคงทิ้งระเบิดลูกสุดท้ายเอาไว้ แจ็คเข้าใจทั้งสองฝ่ายว่าเท็นมีแผลในใจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพูดเล่นหรือจริงจังอย่างไรมันก็สะกิดใจ ซึ่งธีร์ก็เป็นคนเลือดร้อนจนสามารถพูดเรื่องแย่ ๆ ออกมาได้ทุกเมื่อเพื่อเอาชนะ

 

“มานี่”

 

มือของแจ็คเย็นเฉียบขัดกับอากาศในช่วงเวลานี้ เท็นลดระดับสายตามองเพื่อนสนิทที่คว้าข้อมือเขาให้เดินไปด้วยกันโดยไม่รู้จุดหมาย ถึงจะรู้สึกแย่อย่างถึงขีดสุด... แต่อย่างน้อยในตอนนี้ก็มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นอยู่บ้าง เช่นการที่แจ็คยังอยู่ตรงนี้มากกว่าจะเลือกเดินไปหาไอ้ธีร์เพราะรู้ว่าควรแคร์ใครมากกว่า

 

ห่างไกลจากสายตาผู้คน เด็กหนุ่มทั้งสองหยุดฝีเท้าแล้ววางกระเป๋าลง ก่อนคนผมสกินเฮดจะจับเพื่อนนั่งลงบนหญ้าด้วยกัน

 

“ถ้าจบมอหกกูจะไม่เรียนคณะเดียวกันกับมัน ไม่สิ... กูจะไม่เรียนที่เดียวกันกับมันเด็ดขาด”

 

แจ็คไม่ได้พูดว่า ‘เอาน่า... อย่าคิดมากดิวะ’ เด็กหนุ่มเพียงพยักหน้าพร้อมลูบหลัง และเพราะแบบนั้นเท็นจึงไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะกลัวว่าเพื่อนจะไม่สบายใจ

 

ไอ้หัวเกรียนมันแคร์เพื่อนทุกคน และการที่เท็นมีความอดทนกับไอ้ธีร์มากขนาดนี้ก็เพราะแจ็ค ถึงจะโกรธจนหัวร้อนปุด ๆ แต่พอเพื่อนจับมือตนเองไปแบออกก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับให้ เขาก็รู้สึกเหมือนเรื่องโกรธเคืองในใจมันค่อย ๆ ถูกเช็ดออกไปพร้อม ๆ คราบหวานเย็น

 

“ถ้าเมื่อกี้กูต่อยมัน มึงจะโกรธไหม?” เด็กหนุ่มถามอย่างคาดหวังจากเจ้าของผมสกินเฮด



“กับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น กูให้คำตอบไม่ได้หรอก”



“กูไม่ชอบให้ใครมาแกล้งแบบนั้น เวลาตกใจแล้วมันเหมือนกูกำลังจะตาย ไม่รู้สิ กูอธิบายไม่ถูก แต่การตกใจมันแย่มาก”



“เหมือนตอนฝันว่าตกจากเหวแล้วสะดุ้งตื่นไหม?”



“เออ เหมือนกันเลย แบบนั้นแหละ มึงก็เคยฝันใช่ไหม?” คนหัวร้อนทำตาโต ชี้นิ้วย้ำ ๆ ก่อนจะยิ้มออกมาได้เพราะแจ็คพยักหน้า



“ไอ้ธีร์มันเพิ่งทะเลาะกับพ่อมา คงอยากหาอะไรสนุก ๆ ทำแต่ไม่รู้ว่ามึงจะขวัญอ่อนเรื่องนี้ แต่วันนี้มันรู้แล้ว และถ้าคราวหน้ามันยังทำอีก กูบอกได้เลยว่าคงไม่ต้องถึงมือมึง”



“ทำไมวะ?”



“กูนี่แหละจะเป็นคนตบกะโหลกแม่งเอง เป็นห่าไรเล่นไม่รู้เรื่อง ถ้าเพื่อนไม่ชอบก็ควรให้เกิดขึ้นครั้งเดียวสิวะ”



แจ็คไม่ได้บอกให้เขาเข้าใจไอ้ธีร์ตรง ๆ แต่การอธิบายมาแบบนี้ก็ทำให้เขายอมลดทิฐิลงไปได้บ้างเล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายแสดงออกว่าจะอยู่ฝั่งเขาด้วย และลึก ๆ เท็นก็รู้ว่าไอ้ธีร์มันบ้าบอแค่ไหน



“แต่ยังไงวันนี้ไปสยามไม่ได้ใช่ไหม?” เด็กหนุ่มยังคงคาดหวัง แต่ก็ไม่อยากงี่เง่าบังคับให้เพื่อนไปด้วยกัน



“วันหลังได้ไหม เดี๋ยวเลี้ยงกล้วยกล้วยด้วย”



“มึงยุ่งอะไรนักวะ บอกกูบ้างดิ” เหมือนจะตัดพ้อแต่ก็ค่อนไปทางอยากให้อีกฝ่ายกลับมาใส่ใจกันเสียมากกว่า แจ็คเงียบไปเหมือนว่ากำลังคิดอะไร และเขาไม่ชอบเลยที่เหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังมีเรื่องปิดบัง



“ไว้จะเล่าให้ฟังวันที่ไปกินกล้วยกล้วยกัน โอเคไหม?”



“มึงพูดแล้วนะ?” เด็กหนุ่มชี้หน้าเพื่อนเพื่อย้ำสัญญาที่เพิ่งร่างขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งไอ้หัวสกินเฮดก็ยิ้มพร้อมพยักหน้า



“อืม จะเล่าทุกอย่างเลย”

 

 

 

 

TBC


 

หนูไม่ได้ทิ้งเรื่องนี้น้า แต่ช่วงสิบวันที่ผ่านมาหนูไปหาเลาะหาเสิ่นอยู่จ้า แง เป็นไปได้จะมาลงอาทิตย์ละครั้งนะคะ ร๊ากกกกกกก อย่าเพิ่งทิ้งหนูไป อยู่กับหนูก่อน จะได้รู้พร้อม ๆ กันว่าเรื่องอดีตมันเป็นมายังไงน้าพี่ขา

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 11-11-2018 20:49:48
ไม่รู้จะเม้นประเด็นไหนก่อนดีเรยนะคะ
เรื่องครอบครัวพี่แจ็คตอนช่วงมัธยมคงหนักนาสาหัสจริงๆ​ สงสารมาก​ แม่กับพี่แจ็คต้องแบกรับอะไรหลายอย่างเลย​ แล้วพี่แจ็คก็คนดีเกินกว่าจะทำให้เพื่อนไม่สบายใจตาม​ โคตรพระเอก

ชอบเวลาพี่แจ็คกับเท็นอยู่ด้วยกันมากๆมันดี​  :hao5:
ตอนคุยกันนี่คือ​ แฟนรึป่ะ​ พ่อแง่แม่งอนสุด
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 11-11-2018 21:36:34
ไม่ทิ้งน้าา เรามารอพี่ซันพี่มูนอยู่ที่ท่าน้ำทุกวันเลย ฮืออ รัก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 11-11-2018 22:35:36
แจ๊คคือที่สุดของที่สุดคนบ้าอะไรดีมากๆชอบตอนที่จับมือเท็นมาซุกกับเสื้อเพื่อคลายความเย็นคนดีของเมียยยยยยยทำไมละมุนอย่างนี้คะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-11-2018 23:08:03
ทุกคนต่างมีปม
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-11-2018 23:49:02
ทุกคนมีปัญหา แต่วิธีรับมือกับปัญหาต่างกัน
สงสารแจ็คมาก หนักหนาจริง ๆ
เท็นนี่หวงเพื่อนอย่างกับตัวเองเป็นเมียเขาแหนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 8 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-11-2018 01:53:03
อดีตกับปัจจุบัน ปนกันหมด บางทีอ่านแล้วก็งง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 29-11-2018 18:30:35
 



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 09
ที่นั่งโซน D ในรอบ 10 ปี

 

 



“...!!!”

 

ทันทีที่เข้ามาในห้องน้ำเด็กหนุ่มก็รีบปิดประตูโก่งคออ้วกกับชักโครกกับความรู้สึกที่ว่าทุกอย่างมันตีขึ้นมาที่คอพร้อม ๆ กัน แจ็คพยายามประคองตัวเองไม่ให้ล้มลงไปกับพื้นห้องน้ำห้าง แต่ไม่ว่าจะเอาออกไปสักเท่าไหร่แต่อาการคลื่นไส้ก็ยังคงไม่ดีขึ้น

 

ขยำคอเสื้อนักเรียนจนยับคามือ กับสิ่งที่เป็นอยู่คือการฟ้องว่าเขาใช้งานร่างกายนี้หนักเกินลิมิตแล้ว แจ็คทิ้งตัวนั่งบนพื้นพร้อมพิงผนังห้องน้ำ หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะปาดน้ำใสที่คลออยู่กับดวงตา

 

ระหว่างนั้นก็คิดว่าควรเอาอย่างไรกับชีวิตที่ไม่ดีขึ้นจากเดิมเลย แม่ประสบปัญหาปวดหลังเพราะทำงานหนัก แต่ถึงอย่างนั้นเม็ดเงินก็ไม่ได้มากขึ้นตามกองผ้าที่รับซัก ไหนพ่อจะไปแอบสร้างหนี้เพิ่มอีก ทุกสิ่งทุกอย่างบีบเข้ามาจนหลายครั้งคิดว่าไม่อยากทำอะไรแล้ว

 

สายที่ไม่ได้รับ 15 สาย...

‘BLUE’

 

เคยคิดว่าการมีแฟนคงทำให้มีกำลังใจมากขึ้น แต่นั่นอาจจะใช้ไม่ได้สำหรับทุกคน เพราะตอนนี้แจ็คกำลังเหนื่อยกับทุกสิ่งทุกอย่างจนส่งผลถึงความสัมพันธ์นี้ เด็กหนุ่มไม่กล้าคาดหวังแล้วว่าจะให้แฟนสาวคอยเป็นกำลังใจ เพราะในเมื่อตัวเขาเองก็ดีแต่บั่นทอนความรู้สึกเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะความเปลี่ยนแปลง

 

ไม่แปลกที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะโหยหาสิ่งที่เคยได้รับมาตลอดแต่วันหนึ่งมันกลับลดลง แจ็คเป็นคนสร้างความเคยชินให้เธออย่างนั้น แต่ในวันนี้ก็อายเกินกว่าจะบอกแฟนสาวว่าฐานะทางบ้านย่ำแย่มากแค่ไหน แจ็คไม่มีเงินพาบลูไปกินข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่จะจ่ายค่าแท็กซี่ให้ และนี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่ลึก ๆ แล้วเด็กหนุ่มรับไม่ได้แต่ก็ต้องทำใจอยู่กับมัน

 

 

 

*

 

 

ทั้งที่ตั้งหลักไว้อย่างดิบดีว่าถ้าไอ้แจ็คพาไปเจอไอ้ทิดธีร์แล้วควรทำหน้าอย่างไร กวนตีนให้สุดทางไปเหมือนที่เคยดีไหม หรือว่าเฉยไปแล้วรอตบกะโหลกมันด้วยความนิ่ง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงความคิดเพราะไอ้แจ็คดันโทรไปแคนเซิลนัดพร้อมอ้างเหตุผลว่าท้องเสียซึ่งนั่นโคตรฟังไม่ขึ้น เท็นไม่อยากคิดไปเองว่าอีกฝ่ายอยากหลีกเลี่ยงปัญหาเหมือนเมื่อก่อนที่ต้องมีข้ออ้างสารพัดเพื่อห้ามทัพตอนเขากับไอ้ธีร์มีปากเสียงกัน

 

แต่ไอ้แจ็คคงไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น ก็ดีเหมือนกันที่วันนี้ไม่ต้องทนเห็นหนังหน้าไอ้เวรนั่นจนต้องพูดแย่ ๆ อีกครั้ง

 

ปกติเคยสนที่ไหนว่าใครจะคิดอย่างไรกับคำพูดตัวเอง มันก็คงเป็นอย่างนั้นถ้าหากว่าทุกวันนี้เขาไม่ได้กลับเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่กับครอบครัวไอ้แจ็ค ถ้าจะหาข้ออ้างให้ตัวเองสบายใจหน่อยก็คงบอกว่าเขาคิดถึงแม่มันจนไม่อยากหาเรื่องมาทำให้ขุ่นเคืองใจ

 

วันนี้คนว่างแห่งปีจึงนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้องลูกชายคนโตของบ้านขณะที่ใครอีกคนนั่งเล่นเกมอยู่ห่างจากเตียงไปแค่สามก้าว

 

อาจเป็นเพราะแอร์เย็นสบายไม่ก็ถูกการ์ตูนเล่มเก่ากล่อมให้ง่วงเขาจึงเผลอหลับโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ปกติเป็นคนตื่นง่าย แต่น่าแปลกที่เท็นไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงคีย์บอร์ดซึ่งมันเคยสร้างความน่ารำคาญได้เป็นอย่างดีตอนที่เคยอยากนอนใจแทบขาดแต่ก็ท้องทนฟังเสียงเหล่านั้นเพราะเพื่อนในทีมกำลังตั้งใจซ้อม

 

รู้สึกตัวอีกครั้งเพราะเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ซึ่งเจ้าของเครื่องก็รีบรับสายราวกับว่าไม่อยากให้มันดังนานไปกว่านี้ เท็นยังคงแกล้งหลับตา แสร้งทำเหมือนว่าไม่รับรู้สถานการณ์ที่เป็นอยู่แล้วเสียมารยาทแอบฟังสักหน่อย

 

“ว่าไงแพรว?”

 

แพรวงั้นเหรอ?

 

“อืม อยู่บ้าน – ดูหนังเหรอ วันไหน? วันนี้?”

 

นัดไปดูหนังด้วย?

 

“เรื่องอะไร แล้วมีใครไปบ้าง? อ้าว ไม่ได้ชวนไอ้แหลมเหรอ? โทรไปแล้วแต่บอสรับ? อะไรของมันวะป่านนี้แล้วยังไม่ตื่นอีก”

 

มาอีหรอบนี้คงไม่พ้นชวนกันไปเดท แต่จะแปลกอะไรถ้าน้องคนนั้นคิดจะหันมามองไอ้แจ็คหลังจากเลิกกับแฟนแล้ว

 

“อยากไปกับพี่เพราะพี่พูดน้อย เดี๋ยวเถอะ หงอยเลยอะดิอยู่คนเดียว? บอกแล้วว่ามีอะไรก็โทรหาพี่ ๆ ได้ตลอด เราไม่ใช่คนอื่นนะ”

 

อืม อบอุ่นที่หนึ่ง

 

“ยังไงดี วันนี้ไอ้เท็นอยู่บ้านพี่น่ะ”

 

ควรลืมตาแล้วบอกว่า ‘ก็ไปดิ กูไม่ใช่เด็กสองขวบที่ต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลหรอกนะ’ แต่ตอนนี้เขากลับทำได้ดีแค่นอนนิ่ง ๆ ราวกับในใจมันยังอยากลุ้นว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไร

 

ไอ้แจ็คอาจบอกเด็กคนนั้นว่า ‘โอเค เดี๋ยวพี่ไล่มันกลับบ้านแล้วเราไปดูหนังกัน’ แต่ถ้าผิดคาดกว่านั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้าแบบไหน

 

“ให้มันไปด้วยได้ไหม แพรว จริง ๆ มันไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรเลย ก็แค่คนชอบพูดเรียกตีนเฉย ๆ”

 

ห่าเอ๊ย นั่นคือคำอธิบายที่จะทำให้ผู้หญิงที่ชอบสบายใจหรือไงวะ?

 

“พี่คิดว่ามันไม่เกรียนใส่แพรวหรอก อืม มีแค่พี่กับทิดธีร์แหละที่ต้องรับมือกับปากหมา ๆ ของมัน – ไอ้แหลมกรณียกเว้นสิ ไอ้เปรตนั่นมันเคยอยู่เฉยที่ไหน ฆ่าใครฆ่าได้แต่อย่าด่าพี่ชายสุดที่รักของมัน ปากนี่พร้อมจะวอนตีนก่อนเสมอ”

 

อย่างน้อยไอ้แจ็คก็ไม่หลับหูหลับตาเข้าข้างไอ้เด็กฝรั่ง เพราะปากไอ้เด็กนั่นก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน

 

“โอเคเหรอ? ได้ใช่ไหม? โอเค เดี๋ยวพี่เอาตะกร้อครอบปากไปด้วย -- เปล่า ไม่ได้ให้ไอ้เท็นใส่ เอาให้เราอะ”

 

ได้ยินเสียงโวยวายของคนในสายตามด้วยเสียงหัวเราะของของอีกฝ่าย เท็นกำลังหงุดหงิดเพียงเพราะคิดว่าเด็กคนนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ไอ้เวรนี่อารมณ์ดีได้ นึกภาพออกเลยว่าถ้าเป็นแฟนเมื่อไหร่คนที่เคยเก่งแต่ทำหน้าตายคงยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง

 

“งั้นพี่อาบน้ำก่อน ถ้าถึงแล้วโทรมานะ”

 

เด็กสาวผู้สดใสวางสายไปแล้ว และเท็นก็ได้แต่ถามตัวเองว่าควรตื่นตอนนี้หรือแกล้งตายไปเลยดีเพื่อให้อีกคนวุ่นวายจนหงุดหงิดก่อนไปหาผู้หญิง แต่ยังไม่ทันตัดสินใจก็รู้สึกได้ถึงเงาดำที่ก้าวเข้ามาใกล้ อึดใจหนึ่งที่เขาค่อย ๆ ปรือตามองแล้วก็แทบช็อกเมื่อเห็นว่าใครอีกคนกำลังโน้มตัวลงมา

 

เพื่อหยิบหนังสือการ์ตูนที่อ่านค้างไว้ออกไปวางข้างเตียงตามด้วยดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้

 

“...”

 

ทุกอย่างเงียบเชียบจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น เท็นคิดว่าอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้คงมาจากความห่างเหินมานานเป็นสิบปีเขาจึงไม่คุ้นชินกับการใส่ใจโง่ ๆ อย่างนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ผลัดกันดูแล แต่ที่เป็นอยู่ในวินาทีนี้มันเรียกในแง่ดีอย่างนั้นได้ด้วยหรือ?

 

เขามองเงาลาง ๆ ที่หยุดอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าพร้อมเอาเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ออกมาเตรียมใส่ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูเดินออกไปนอกห้อง ตอนนั้นเท็นถึงกล้าลืมตาขึ้นมาหลังจากกำลังจะตายเพราะความรู้สึกบางอย่างที่อัดแน่นอยู่ในอก ชายหนุ่มกลอกตาล่อกแล่กพลางยกมือขึ้นทาบอกแล้วกดมันลงราวกับว่าจะช่วยให้ก้อนเนื้อที่อยู่ข้างในเต้นเบาลงได้

 

เขาไม่อยากให้คำตอบตัวเองว่าอาการเมื่อครู่คืออะไร เพราะรู้ดีว่าต่อให้เป็นคำตอบไหนมันก็แย่ทั้งนั้น

 

 

 

*

 

 

 

“รู้ใช่ไหมว่าบางครั้งมึงก็เล่นแรงเกินไปจนทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี”

 

“เฮ่อออออออออออออออ นี่จะสวดแล้วใช่ปะ?”

 

“ธีร์ กูจริงจังนะ”

 

เด็กหนุ่มสองคนยืนฉี่ในห้องน้ำในเวลาหลังเลิกเรียน คนถูกดุเพียงแค่เบะปากกับเรื่องที่เถียงไม่ได้ ธีร์เข้าใจว่าไอ้แจ็คจะสื่ออะไร แต่คนรักความสนุกอย่างเขาก็ไม่ชอบบรรยากาศตึงเครียดแบบนี้เลย

 

“กูรู้ว่ามึงไม่ได้คิดอะไร แต่คนอื่นเขาคิดรู้เปล่า?”

 

“เออรู้”

 

“เวลามึงไปตีกับคนอื่นกูทำความเข้าใจได้ กูไม่เคยห้ามปากมึง แต่กับเพื่อนในกลุ่มนี่กูขอเถอะ ทั้งตอนในโรงเรียนแล้วก็เวลาซ้อมทีม”

 

“ที่พูดมาทั้งหมดมึงหมายถึงไอ้เท็นใช่ปะ?”

 

“ถ้าใช่แล้วมันจะทำให้มึงหงุดหงิดกับเรื่องที่กูพูดไหมล่ะ?”

 

“หึ” ธีร์ส่ายศีรษะอย่างไม่โกหก “กูเข้าใจเจตนามึงนะ เอ้อ! กูรู้สึกผิดจริง ๆ เว้ย รู้ว่าบางครั้งเล่นแรงเกินไป แต่เวลาซ้อมทีมกูห้ามตัวเองไม่ได้เพราะไอ้เท็นมันไม่ฟังกูเลย เหมือนมันกำลังจะเอาคืนกูด้วยการทำสวนทางกับคำสั่งไงไม่รู้อะ”

 

จริงอย่างที่ไอ้ธีร์พูด เพราะพักหลังไอ้เท็นมักจะต่อต้านด้วยการไม่ทำตามคำสั่งและนั่นทำให้แผนรวน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแพ้

 

“กูรู้จักมึงสองคนดี มันต้องมีคนนึงยอมอ่อนให้ก่อนว่ะ เป็นไปได้กูก็จะขอบคุณมากถ้าคนนั้นคือมึง”

 

“กูเนี่ยนะ?” เด็กหนุ่มตัวสูงชี้หน้าตัวเอง “ให้กูทำไง เดินไปกอดมันแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ละบอกว่า ‘เพื่อนจ๋าขอโทษน้า’ งี้ปะ?”

 

“ไม่ใช่สิห่า ก็เริ่มต้นจากเลิกแซวมันก่อนไม่ว่าจะเรื่องไหน แล้วก็ใช้สติมากกว่าอารมณ์เวลาเล่นเกม กูว่าอะไร ๆ อาจจะดีขึ้น”

 

“บอกเพื่อนรักมึงด้วย มันชอบยั่วโมโหกู”

 

“เออ เดี๋ยวกูจะค่อย ๆ พูดกรอกหูมันทุกวัน ไม่ต้องบังคับตัวเองภายในครั้งเดียวก็ได้ แต่กูขอให้พยายามหน่อยสักนิด ได้ไหมธีร์ ไอ้เท็นคือเพื่อนมึงนะ”

 

คนถูกสั่งสอนถึงกับหงอยเพราะรู้สึกผิด พอนึกย้อนไปธีร์กับเท็นก็เหมือนน้ำกับน้ำมันที่เข้ากันไม่ได้ แต่ที่อยู่กลุ่มเดียวกันมาตลอดก็เพราะมีไอ้แจ็คกับเพื่อนคนอื่น ๆ คอยเชื่อมเอาไว้ ซึ่งความผิดส่วนหนึ่งก็มาจากปากเขา ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงถอนหายใจแล้วหันไปพยักหน้าเพื่อตอบตกลงว่าหลังจากนี้จะพยายามทำตัวดี ๆ กับไอ้เท็นให้มากกว่านี้

 

“โอเค กูจะพยายาม”

 

“มันต้องอย่างนี้” ทั้งคู่แท็กมือร่วมสาบานหน้าโถฉี่ หลังจากนั้นคนที่เคยทำหน้าหงอยก็อารมณ์ดีขึ้นมาหลังจากรู้ว่าบรรยากาศตึงเครียดจางหายไปแล้ว

 

“เย็นนี้ไปหาพี่ตั้บกัน”

 

“มึงไปเลย กูไม่ว่างว่ะ”

 

“อีกละ ๆๆ” ธีร์เดินไปล้างมือพลางจิ๊ปากมองเพื่อนสนิทที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ อยากรู้แทบแย่แต่ก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะคิดว่าถ้าเพื่อนพร้อมเมื่อไหร่มันคงพูดออกมาเอง

 

 

 

*

 

 

“โทษที รอนานปะ?”

 

“มาก มัวแต่แต่งหน้าทำผมอยู่ล่ะสิ?”

 

“หูย นิดนึงเอง หนูตลกไหมอะ?”

 

“ก็น่ารักดี”

 

“โล่งอกไปหน่อย”

 

เด็กสาวยิ้มกว้างกับคำชมก่อนปากที่ฉีกกว้างจะค่อย ๆ หุบลงทันทีที่หันไปเห็นใครอีกคนที่หน้าตาหล่อโดดเด่นกว่าใคร ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หัวใจเธอเกี๊ยวก๊าวได้เพราะนิสัยที่รู้ว่าไม่น่าจะเป็นมิตร

 

พี่เท็นน่ากลัวอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ต่อให้พี่แจ็คจะเคยเล่าในกรุ๊ปเรื่องนิสัยที่ดีขึ้นแล้วก็เถอะ แต่แววตาที่มองมาตอนนี้เหมือนอยากจะฆ่าเด็กอย่างเธอให้ตาย ๆ ไปไงก็ไม่รู้ TT_TT

 

“พี่เท็นหวัดดีค่ะ”

 

“ครับ” รอยยิ้มนั่นจริงใจแค่ไหนนะ... แพรวยิ้มแหยพลางเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ พี่แจ็คเพื่อหาจุดหลบภัย

 

“อะไร?”

 

“ชอบเดินฝั่งนี้อะ...”

 

“ติ๊งต๊อง” ทั้งคำพูดและมือที่เอื้อมไปยีผมเด็กสาวล้วนทำให้คนมองเบะปากเลี่ยนจะอ้วก เท็นล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เพ่งสายตาไปยังเบื้องหน้าทั้งที่หูยังคงรับรู้ถึงบทสนทนาของสองคนนี้

 

ไม่ชอบความรู้สึกการเป็นส่วนเกินแต่เท็นก็ไม่อยากกลับตอนนี้ ไม่อยากรู้สึกแพ้ทั้งที่ไม่รู้ว่าชัยชนะของเรื่องนี้หน้าตาเป็นอย่างไรน่ะเหรอ เขารู้แค่ว่าถ้ากลับบ้านไปนอนโง่ ๆ คงหัวเสียเพราะเอาแต่คิดว่าสองคนนี้จะสนุกแค่ไหนกับตั๋วหนังสองใบที่นั่งข้างกัน

 

พอมาถึงก็ต้องขมวดคิ้วกับชุดป็อปคอร์นซึ่งไอ้แจ็คสั่งน้ำเพียงสองแก้วทั้งที่มาสามคน โอเค บางทีเท็นอาจจะคิดง่ายเกินไปว่าอีกฝ่ายคงดื่มแก้วเดียวกับเขา เพราะไม่ว่าอย่างไรคนอย่างมันคงยึดหลักให้เกียรติผู้หญิงมาก่อนอคติในใจอยู่แล้ว กระทั่งแพรวบอกว่าเดี๋ยวเธอจะดื่มแก้วเดียวกับไอ้แจ็คเองซึ่งนั่นคงเป็นการเสียสละที่เขาไม่ได้ยินดีจะรับนัก ความสนิทสนมไม่แบ่งเพศของแก๊งขี้ซุยฯ นั้นอาจจะน่ารักถ้าเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าไอ้แจ็ครู้สึกอย่างไรกับเด็กคนนี้

 

หงุดหงิดว่ะ ไอ้มนุษย์หินเอ๊ย แม่งเคยเปลี่ยนอะไรบ้างเปล่าวะ แม้แต่ที่นั่งก็ยังเลือกแถว D ไม่พ้น 8-9-10 ชอบมากใช่ไหมมุมนี้ มันชัด มันเหมือนเดิมมากเลยใช่หรือเปล่า ทำไมไม่ลองเปลี่ยนไปนั่งแถวอื่นบ้าง เท็นเริ่มพาลกับอะไรเดิม ๆ ที่เคยเป็นแต่ในวันนี้มีใครอีกคนเพิ่มเข้ามาด้วย

 

“มึงเข้าไปก่อน”

 

“...” ไอ้แจ็คคงงงที่อยู่ ๆ ถูกตึงใส่ แต่มันก็ไม่ได้ถามว่าเขาเป็นห่าไร คนเงียบเก่งก็เป็นฝ่ายเดินเข้าไปข้างในก่อน และตอนนี้เหลือเพียงเขากับแพรวที่ยังอยู่ตรงนี้

 

เด็กสาวช้อนตามองเป็นเชิงบอกว่าถ้าจะนั่งตรงกลางก็ควรเดินเข้าไปเดี๋ยวนี้ ซึ่งถ้าเขาจะนั่งจริงคงไม่ไล่ไปซื่อบื้อนั่นเข้าไปก่อนหรือเปล่าวะ

 

“เข้าไปสิ พี่จะนั่งซ้าย”

 

“อะ... อ๋อ โอเคค่ะ” ต้องหายใจเข้าลึก ๆ แล้ว เขาจะประสาทแดกแบบนี้ไม่ได้ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ

 

แต่พอเดินตามแพรวเข้าไปปรอทหงุดหงิดพุ่งขึ้นกว่าเดิมตอนเห็นไอ้แจ็ครับกระเป๋าน้องเพื่อให้เก็บกระโปรงก่อนนั่ง สุภาพบุรุษกว่านี้มีอีกไหม แพรวคงเขินตายไปเลยถูกดูแลเอาใจอย่างนั้น ถ้ากลับไปมีใครอัปเดตสเตตัสเฟซบุ๊กว่า In relationship with นี่ก็คงไม่สงสัย

 

คนพยายามโตให้เท่าอายุทิ้งตัวลงนั่งเบาะด้านซ้ายแล้วกำป็อปคอร์นเข้าปาก ไม่ได้หิว ไม่ได้อะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้ปากมันว่างจนต้องพูดอะไรออกไป

 

“แค่ก!!!”

 

“แพรว” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วมองพี่ชาย “ขยับหน่อย”

 

ตอนนั้นเด็กสาวจึงนั่งเอนหลังก่อนพี่แจ็คจะส่งแก้วน้ำให้คนสำลักดื่ม

 

แม้รอบตัวจะมีเพื่อนเป็นสาววายเยอะแต่แพรวก็ไม่ได้เข้าสู่จักรวาลนั้น กระทั่งมีโมเม้นผู้ชายสองคนดูแลใส่ใจกันประกบซ้ายขวาโดยมีเธอนั่งคั่นกลางอยู่ตรงนี้นั่นแหละถึงได้รู้ว่าโลกแฟนตาซีของเพื่อนเป็นอย่างไร แพรวนั่งตาเหลือกมองเสี้ยวหน้าหล่อ ๆ ของพี่ชายตอนมองหน้าพี่เท็นที่ยังคงสำลักจนน้ำตาไหล

 

แล้วมือที่แพรวเคยอิจฉาความเรียวยาวนั่นก็เอื้อมไปลูบหลังให้พี่เท็น กระทั่งเสียงกระแอมไอสิ้นสุดลง

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ถังนั้นน่าจะเป็นรสปาปริก้าของแพรว”

 

“อ้าว งั้นแสดงว่านี่รสออริเหรอ?” เด็กสาวทำตาโตแล้วลองชิม ก่อนจะพบว่าเธอหยิบสลับกับพี่เท็น “จริงด้วยค่ะ แหะ ๆ”

 

“...”

 

เท็นเช็ดน้ำตาและริมฝีปากปากด้วยหลังมือ ตอนนี้เขากำลังขายหน้าอย่างหนักเพราะไอ้ป็อปคอร์นงี่เง่านั่นที่จำได้ดีว่าเคยเหลือเต็มถังเพราะไอตลอดระหว่างกิน 

 

“มีทิชชู่ไหม?”

 

“มี ๆ หนูเอามา” แพรวล้วงกระเป๋าแล้วหยิบออกมาให้ดู ก่อนพี่แจ็คจะพยักหน้าส่ง ๆ เป็นเชิงบอกว่าให้ส่งให้พี่เท็น

 

คนเริ่มทยยอยเข้ามาเรื่อย ๆ และตอนนี้ไอ้แจ็คคงกำลังตั้งใจดูตัวอย่างหนัง เหมือนอย่างที่เจ้าตัวเคยเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เท็นมองจอสี่เหลี่ยมที่เมื่อก่อนมันไม่ได้ใหญ่โตขนาดนี้ แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงบรรยากาศเดิม ๆ แต่เพิ่มเติมความหงุดหงิดเข้าไปด้วย

 

การดูหนังอาจจะราบรื่นกว่านี้ถ้าหางตาไม่เห็นว่าแพรวกำลังหันไปกระซิบกระซาบไอ้แจ็ค ถ้าชวนคุยเรื่องปัญหาหัวใจอาจจะหยวนกันได้ แต่ได้ยินแว่ว ๆ เหมือนว่าจะเป็นการพูดถึงฉากต่อไปของหนัง ซึ่งบางทีเธออาจจะอ่านรีวิวมาหรือเหตุผลอื่นก็ตาม แต่การทำแบบนั้นกับคนที่ชอบอินไปกับทุกวินาทีในหนังนั่นไม่ใช่เรื่องที่น่ารักในสายตาเขาเลยสักนิด

 

“แพรว”

 

“คะ?”

 

“เมื่อกี้คุยอะไรกันเหรอ?”

 

“อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ หนูแค่เมาท์ให้พี่แจ็คฟังว่าพระเอกภาคก่อนจะมาโผล่ภาคนี้ด้วย แล้วก็ตัวร้ายไม่ได้ตายจริง ๆ”

 

“อืม น่าสนใจนะ แต่รู้หรือเปล่าว่าไอ้แจ็คมันชอบดูเองมากกว่าให้ใครสักคนมาบอกว่าฉากต่อไปจะเป็นยังไง?”

 

“...”

 

“อย่าโกรธนะ พี่แค่ไม่อยากให้เราต้องเสียคะแนนกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ”

 

“คะแนนอะไรอะคะ...”

 

“นั่นสิ”

 

พูดเองก็คิ้วกระตุกเอง อยากเอาหัวโขกผนังแรง ๆ สักสามทีเพื่อสมองจะกลับเข้าสู่สภาพปกติจนคิดได้ว่าผู้ชายชื่อเท็นไม่ได้โลกสวยขนาดที่จะเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้ใคร ไม่ว่าจะเป็นตอนมอปลายหรือตอนนี้ ให้ตายสิวะ เขามีวิธีต่อว่าเธอเรื่องสปอยล์ได้ดีกว่านี้ 

 

เด็กสาวหน้าเจื่อนกับความรู้ใหม่ แพรวนั่งนิ่งไป ทั้งอายที่รู้จากปากพี่เท็นคนที่ห่างหายจากพี่แจ็คไปนานตั้งหลายปี ไหนจะรู้สึกผิดที่พูดมากไม่รู้จักกาละเทศะเพียงเพราะคิดว่าพี่แจ็คใจดีแล้วก็คงไม่คิดมากอะไรกับสิ่งที่เธออยากพูด

 

“เป็นอะไร?” แพรวส่ายศีรษะเบา ๆ เป็นคำตอบ ถ้าบอกว่าเพิ่งคุยอะไรกับพี่เท็นก็กลัวจะเป็นการฟ้องมากกว่าเล่าให้ฟัง อีกอย่างพี่แจ็คคงบอกว่า ‘ไม่เป็นไร เล่าได้’ เหมือนกับที่เคยทำให้คนรอบข้างสบายใจมาตลอด

 

แจ็คมองเสี้ยวหน้าอดีตเพื่อนสนิทที่จดจ้องอยู่กับจอหนังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากรู้ว่าเมื่อครู่มีอะไรทำไมแพรวถึงนิ่งไปอย่างนี้ หวังว่าสิ่งที่เขากังวลจะไม่เกิดขึ้นจนทำให้บรรยากาศแย่ลง

 

แต่เพียงอึดใจเดียวไอ้เท็นก็หันมาสบตากัน ตอนนั้นแจ็คถึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือความห่างไกลเพียงเพราะอีกฝ่ายไม่ได้นั่งข้างตัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉากในหนังเปลี่ยนเข้าหาความมืด แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าใครอีกคนยังคงจ้องมองอยู่อย่างนั้นไม่ละสายตาไปไหน

 

ไอ้เท็นกำลังคิดอะไรอยู่? คำถามนั้นมันวนเวียนอยู่ในหัว เสียงเหยียบหญ้าแห้งในจอ เสียงหัวใจเต้นของตัวละครกับฉากสยองขวัญนั้นอาจจะดังเท่า ๆ กันกับคนที่นั่งอยู่ตรงนี้

 

แสงสว่างฉายวาบเพียงเสี้ยววิทำให้เห็นสีหน้าอีกฝ่าย เวลาล่วงเลยผ่านไปชั่วอึดใจชายหนุ่มสองคนจึงเลือกหันหน้ากลับเข้าหาจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แล้วให้ความสนใจกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่กันและกัน โดยมีเด็กสาวนั่งคั่นอยู่ตรงกลางเป็นกำแพงความรู้สึกที่ทั้งคู่ไม่แน่ใจว่าอยากพังลงหรือไม่

 

 

 

TBC

 

 

ไปแบบเนิบ ๆ จ้า ไม่รีบ

ถามว่าเนื้อเรื่องไม่รีบเหรอ เปล่าจ้า ไม่รีบเขียน

*ยิ้มมุมปากแล้วหยิบหมวกกันน็อกเต็มใบขึ้นใส่ก่อนจะปั่นจักรยานไปซื้อส้มตำ*

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 29-11-2018 19:32:15
ดีจัง มาต่อแล้ววว ลุ้นคู่นี้อยู่เด้อออ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-11-2018 20:35:25
โถพ่อคุณ จะหยั่งเชิง หยั่งชายกันอีกนานไหม ป้าลุ้น

ปล.ฝากซื้อส้มตำปูปลาร้าพริกสามเม็ดด้วยถุงนึง กิกิกิ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-11-2018 22:00:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 29-11-2018 23:02:07
อย่าขี่บนทางเท้าน้า เดี๋ยวเป็นประเด็น

เอ๊ะหรือจักรยานไม่นับ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 30-11-2018 01:27:16
น้องเท็นจักต้องเอาตัวและหัวใจของพี่แจ็คมาครอบครองค่ะห้ามเสียไปให้ใคร้อาพี่ซัรกัยนังมูนมาขู่ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 9 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (29/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-12-2018 22:24:42
เป็นจังหวะเนิบ ๆ ที่ทำให้อึดอัดใจ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 06-12-2018 19:34:06


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 10
ห้องแห่งความลับ





“ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยไปนอนบ้านแจ็คเลยล่ะ?”

พอได้ยินแม่ถามแบบนี้เด็กหนุ่มก็สงสัยว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาไม่ได้หันไปบอกแม่ว่า ‘วันนี้จะไปนอนบ้านไอ้แจ็คนะ’ แล้วหลังจากนั้นก็จะเข้าไปกอดออดอ้อนขอโทษที่ทำให้แม่ต้องเหงาอยู่บ้านตามลำพังเพียงเพราะเขาติดเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว กี่ครั้งที่เท็นต้องฝังตัวเองอยู่ในห้องหรือไม่ก็ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนในเกมที่พวกไอ้แจ็ครู้จักเพียงเผิน ๆ เท่านั้น

เขาพยายามสร้างสังคมที่แตกต่างจนทุกวันนี้เป็นที่รู้จัก มีเพื่อนมากขึ้น แต่ก็น่าตลกดีที่ความเหงามันยังคงเดิมไว้ไม่ลดน้อยลง

“มันตั้งใจอ่านหนังสืออะแม่”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งควรไปค้างด้วยกันเลยไม่ใช่เหรอ จะได้ช่วยกันติวไงลูก”

“...”

จะต้องตอบอย่างไรเพื่อให้บทสนทนานี้สิ้นสุดลงไปได้ง่าย ๆ โดยไม่เกิดความน้อยใจ?

คำว่า ‘เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง’ แทบไม่ได้ช่วยอะไร ตราบใดที่ระหว่างการรอไปดูหนังนั้นเขากับไอ้แจ็คก็ยังเป็นเพื่อนที่สนิทกันได้แค่ตอนอยู่ในชุดนักเรียน แต่พอฟ้ามืดความโดดเดี่ยวก็พรากมันไป และเหลือทิ้งไว้แค่ความเหงาที่เขายังโหยหา

“ไปไหม แม่ซื้อขนมมาเมื่อเย็น เอาไปฝากเพื่อนด้วย จะได้กินด้วยกันตอนติวนะ”

“แม่ --”

“ค้างหลาย ๆ วันก็ได้ แม่ไม่ว่าอยู่แล้วถ้าเป็นเรื่องเรียน”

“เท็นไม่อยากไป”

ทั้งคู่สบตากันนิ่งหลังจากได้ยินความชัดเจนจากปากคนเป็นลูก แม่หม้ายลูกติดยิ้มเล็ก ๆ พลางทัดผมกับหูตนเอง ก่อนจะเห็นเด็กหนุ่มกระชับกระเป๋าเป้แล้วเดินขึ้นไปบนห้องโดยไม่พูดอะไรอีก   





*





“จริงเหรอคะพี่เท็น?”

“หะ?” ชายหนุ่มผมเทาเลิกคิ้วมองเด็กสาวที่ชะโงกหน้าถามพร้อมรอยยิ้ม เมื่อกี้ทั้งคู่คุยอะไรกันอยู่เขาเองก็แทบไม่ได้ฟัง

“พี่แจ็คบอกว่าพี่เท็นเล่นกีต้าร์ได้ด้วย เรื่องจริงหรือเปล่าคะ?”

“...” เขาเปลี่ยนโฟกัสไปทางเจ้าของใบหน้าเรียบเฉย พร้อมคำถามที่ว่าเพราะอะไรทำไมหัวข้อสนทนาออกรสหลังหนังจบถึงวกมาเป็นเรื่องของเขาได้

“พอดีแพรวเพิ่งบอกพี่แจ็คว่าอยากร้องเพลงคัพเวอร์ลงยูทูปแต่ยังหาคนมาเล่นกีต้าร์ให้ไม่ได้ พี่แจ็คเลยเล่าให้ฟังว่าพี่เท็นน่ะเล่นกีต้าร์เป็น แต่แพรวไม่ได้หมายความว่าจะขอให้พี่เท็นมาเล่นให้แพรวนะคะ แหะ...”

“หมายถึงเมื่อก่อนนะ ไม่รู้ตอนนี้มันยังเล่นอยู่หรือเปล่า?”

“ไม่ได้เล่นแล้ว”

เป็นบทสนทนาที่บอกให้แพรวรู้ แต่เขากลับรู้สึกว่าทั้งคู่กำลังถาม-ตอบกันกับเรื่องในอดีตที่เลยผ่านไปโดยไม่มีใครอีกคนอยู่ข้าง ๆ

“งั้นเปลี่ยนคำพูดใหม่เป็นมันเคยเล่นได้เมื่อตอนก่อนนู้น”

“นู้นเลยเหรอออ?”

“กวนตีน?”

“5555555555555555555555555555”

แพรวไม่เหมือนบลูเลยสักนิด ทั้งลักษณะการแต่งตัวหรือนิสัยที่ร่าเริงกว่าเป็นไหน ๆ ชั่วขณะหนึ่งมันเกิดคำถามว่าสิบปีที่ผ่านไปไอ้แจ็คได้คบหาดูใจกับใครไปบ้าง ยังคงยึดติดอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหม ทุกวันนี้ชอบคนนิสัยแบบไหน สดใสแบบแพรวหรือว่าอะไรก็ได้ขอแค่ไม่นอกใจมัน?

“หนูว่าผู้ชายเล่นกีต้าร์น่ะมีเสน่ห์สุด ๆ เลย”

“แล้วพี่มีเสน่ห์ไหม?” สิ้นสุดคำถามไอ้แจ็คก็มองหน้าเขา ตอนนี้เท็นไม่อยากคาดเดาเลยว่าแววตาที่มองมานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ หวงเหรอ? หรือว่าแค่สงสัยอะไร?

“หนูควรตอบไงดีอะ?”

“ก็ตอบตามที่คิด” หึงแน่ ๆ สีหน้าไอ้แจ็คเปลี่ยนไปแล้ว

“ถ้าพี่เท็นยังเล่นอยู่ก็คงมีเสน่ห์อะ แต่ตอนนี้ไม่ได้เล่นแล้วหนูก็เลยมองไม่เห็น”

“อยู่เป็นว่ะ” เขาหันไปมองเจ้าของคำพูด เพียงครู่เดียวไอ้แจ็คก็ยิ้มเล็ก ๆ เหมือนถูกใจคำตอบเด็กคนนี้นักหนา “ตอนแรกกลัวมันไม่ใช่หรือไง?”

“ก็กลัว แต่พอพี่เท็นถอดเสื้อให้คลุมตอนดูหนังหนูก็เลยไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว พี่เท็นใจดีอะ เนอะ”

บรรยากาศเริ่มอึดอัดเหมือนฉากนั้นในโรงหนังไม่มีผิด ใช่ เขาชิงตัดหน้าถอดเสื้อให้เด็กคนนี้คลุมเพียงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายทำคะแนนได้ เท็นไม่ได้สนใจว่าการทำดีกับผู้หญิงแล้วจะได้ความรู้สึกแบบไหนกลับคืนมา เขาจะทำอะไรก็ตามที่จะไม่ส่งผลให้หงุดหงิดในภายภาคหน้า มันก็เท่านั้น

ไอ้แจ็คอาจจะหัวเสียแต่ไม่แสดงออก บางทีมันอาจจะขยาดอยู่ในใจว่าคนเลวอย่างเขาจ้องจะแย่งจีบคนที่มันชอบอีกแล้ว ซึ่งก็คงไม่แปลก แต่ก็บ้าเหลือเกินที่ชั่วขณะหนึ่งเท็นคิดไปว่าถ้าอีกฝ่ายเข้าใจอย่างนั้นเขาก็อยากจะอธิบายมันว่าไม่ใช่ความจริง

“เลิกเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

แปลกใจที่คนถามไม่ใช่แพรว และความรู้สึกดีลึก ๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็ยากที่จะยอมรับอีกแล้ว

“นานจนจำไม่ได้”

“ทิ้งไปแล้วหรือยัง?”

“หมายถึงอะไร?”

เด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางได้แต่หันซ้ายขวามองหน้ารุ่นพี่ทั้งสอง ทำไมอยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกอีกแล้ว เหมือนตอนในโรงหนังไม่มีผิด

“กีต้าร์ตัวที่สอง”

“...”

เป็นอีกครั้งที่แพรวรู้สึกว่าอยู่ผิดที่เมื่อพี่แจ็คดึงแขนเธอให้มาเดินข้างหน้าเพียงเพราะว่าพี่เท็นเกือบจะเดินชนเสาจนต้องรีบคว้าออกมาจากจุดเดิม

คนที่ถูกดึงกลับไปในอดีตได้สติกลับคืนมาเพราะสัมผัสจาง ๆ ในความทรงจำแต่ชัดเจนในปัจจุบัน ภาพเด็กสองคนกับกีต้าร์ตัวนั้นได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเพียงเพราะมันถูกพูดถึงโดยไอ้บ้าสติแตกข้างตัวเขา





*




“อยากได้เหรอ กูเห็นมึงมองหลายครั้งแล้ว”

จำได้ว่าวันนั้นฝนตก และชุดนักเรียนของเด็กมอสี่สองคนนั้นเปียกปอนเพราะความชื้นแฉะ ทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องดนตรีซึ่งเป็นทางผ่านทุกครั้งเมื่อมาเดินสยาม และเท็นก็หันไปพยักหน้าบอกให้เพื่อนรู้ว่าเขาหลงรักความสวยงามของกีต้าร์ตัวนั้นมากแค่ไหน

“ไม่บอกแม่ซื้อให้วะ?”

เท็นส่ายศีรษะ เสี้ยววินาทีหนึ่งเขารู้สึกว่ากีต้าร์ตัวนั้นก็กำลังมองเขาเหมือนกัน

“กูอยากมีอะไรสักอย่างเป็นของตัวเองบ้างอะ อะไรก็ตามที่มาจากความพยายามโดยไม่ต้องแบมือขอใคร”

เพราะไอ้แจ็คเป็นคนไม่ค่อยพูด เท็นจึงค่อนข้างลุ้นว่าเพื่อนจะคิดอย่างไรกับเด็กโตไม่เป็นอย่างเขา

“เริ่มเก็บเงินยัง?”

“บ้างแล้ว”

“กี่เปอร์เซ็นต์ของราคาทั้งหมด?” ทั้งคู่เหลือบมองตัวเลขหลายหลักที่โชว์หราเพื่อบ่งบอกคุณค่าของกีต้าร์ตัวนั้น

“ห้าสิบมั้ง คงอีกสักพักใหญ่เลยกว่าจะเก็บครบ” เงินที่ว่าก็เป็นรางวัลจากการสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังได้ ส่วนที่ขยันเก็บเองก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น พอถึงจุดที่ต้องการอะไรสักอย่างเท็นก็สำเหนียกได้ว่าตนเองเป็นเพียงเด็กมอสี่ที่ยังหาเงินเองไม่ได้ พอไม่มีพ่อแม่เขาก็เป็นแค่เด็กโง่ ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเลย

“งั้น...”

“มึงห้ามออกช่วยกูเด็ดขาด” เท็นรีบแย้ง ไอ้คนหัวสกินเฮดได้แต่ยืนทำหน้านิ่งก่อนจะหลุดยิ้มออกมา

“เรื่องอะไรกูจะทำอย่างนั้น เมื่อกี้กูแค่จะบอกว่าถ้ามึงซื้อกีต้าร์ได้เมื่อไหร่กูก็มีอะไรดี ๆ จะให้มึงเหมือนกัน”

“อะไรวะ?” เท็นไม่รู้ว่าตอนนั้นสีหน้าตนเองเป็นอย่างไร มันคงตาโตเป็นประกายเพียงเพราะรู้ว่าจะได้อะไรสักอย่างจากเพื่อนสนิทซึ่งมันต้องทำให้รู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย

“เรื่องอะไรจะบอก?” ไอ้แจ็คไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะปัดฝนบนหัวเกรียน ๆ ของมันใส่เขาอย่างวอนตีน เท็นเลิกคิ้วมองพลางถลกแขนเสื้อเปียก ๆ ขึ้น ตั้งท่าเตรียมไล่เตะก้นไอ้เพื่อนชั่วที่เสือกกวนไม่ดูเวล่ำเวลา คนเขาจะดื่มด่ำไปกับความสวยงามของกีต้าร์ไม่เห็นหรือไงวะ?!




*




คุณได้รับข้อความจาก...
‘น้องแพรว’
[ พี่เท็นนี่แพรวเองน้า ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ หนูหมายถึงเรื่องที่พี่เตือนตอนหนูสปอยล์หนังพี่แจ็ค / เรื่องเสื้อคลุม / แล้วก็เรื่องช่วยหามือกีต้าร์ให้ด้วย ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ TwT วันนี้หนูได้รู้อะไรหลายอย่างจนรู้สึกผิดเลยที่เคยฟังเรื่องพี่จากปากคนอื่น (ไม่ใช่พวกพี่ธีร์นะคะ หนูหมายถึงคนในเน็ตที่พูดถึงพี่เท็นในทางไม่ค่อยดี) ขอโทษที่ตัดสินพี่ แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งกับความใจดีในวันนี้นะคะ ฝันดีจ้า ]




“...”

ชายหนุ่มค้างอยู่ในท่าถอดรองเท้า เขามองข้อความในโทรศัพท์แล้วก็รู้สึกได้ว่านั่นคงมาจากความจริงใจของเด็กคนนั้นจริง ๆ ไม่ใช่เพราะอยากประจบประแจงหรือให้ท่า พูดกันตามตรง... อยู่ ๆ ก็รู้สึกไม่แปลกใจถ้าหากไอ้แจ็คจะตกหลุมรักเด็กสดใสไม่มีพิษไม่มีภัยอย่างแพรว เพราะจากที่สังเกตวันนี้แล้วเด็กคนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีอ่อย หรือให้ความหวังอะไรใด ๆ ทั้งเขาและไอ้เวรนั่นเลยสักนิด กลับกันแล้วยังให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายทั้งสองพาน้องสาวมาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์เสียมากกว่า

พี่ซันวิ่งกระดิกหางออกมาต้อนรับพ่อถึงหน้าประตูด้านใน เขาจึงนั่งลงกับพื้นแล้วอ้าแขนกอดรับลูกชายสุดที่รักพร้อมฟัดหอมให้หายมันเขี้ยว

“มีคนบอกว่าพ่อใจดีด้วย ดูสิ” เขาหันโทรศัพท์ให้เจ้าขนทองดู และพี่ซันก็เอาจมูกไปดม ๆ จอโทรศัพท์ก่อนจะเงยหน้ามองตาแป๋ว “พ่อควรตอบไหม หรือปล่อยเบลอไปแล้วแต่เวรแต่กรรม”

พี่ซันไม่ได้แสดงออกกับเรื่องที่ฟังไม่รู้เรื่อง มันแค่อยู่ตรงนี้ จ้องหน้าเขาเพื่อบอกว่าต่อให้น้ำจะท่วมโลกหรือแผ่นดินไหว เจ้าขนทองแสนซื่อสัตย์ก็จะไม่ไปไหนจนกว่าเขาจะขยับตัว

“ใจดีอะไร พ่อก็แค่ไม่อยากให้สองคนนั้นจู๋จี๋กันต่อหน้าก็แค่นั้น พ่อไม่ชอบความรู้สึกการเป็นมือที่สาม ซันก็รู้”

เขาไหวไหล่พลางมองหน้าจอมือถืออีกครั้ง ระหว่างนั้นก็คิดว่าจะต้องใช้คำพูดแบบไหนกับเจ้าของหัวใจไอ้แจ็คดี?



คุณกำลังส่งข้อความถึง...
‘น้องแพรว’
[ พี่เข้าใจที่แพรวเคยตัดสินพี่จากปากใคร ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพี่จะใจดีอย่างที่แพรวคิด เพราะงั้นอย่าด่วนสรุปแค่เพราะพี่ทำดีแค่ครั้งสองครั้งเลย เดี๋ยวจะเสียใจทีหลัง ]



“หวังว่าเด็กคนนั้นจะเก็บไปคิดนะว่าการตัดสินว่าคนนั้นเป็นคนดี คนนี้ใช้ไม่ได้ก็ควรทำความรู้จักเขาให้นานกว่านี้หน่อย นี่อะไร แค่เอาผ้าคลุมให้ก็คิดว่าโอเคแล้วเหรอ ถ้าไม่มีพวกไอ้แจ็คคอยดูแลป่านนี้จะเป็นไงเนี่ย เฮ้อ ปะพี่ซัน เข้าบ้านกัน”

เจ้าขนทองกระดิกหางแรงกว่าเดิมแล้ววิ่งแซงพ่อไปก่อนจะหยุดรอเป็นพัก ๆ เมื่อถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นว่าลูกสาวผู้เป็นที่รักกำลังนอนอืดมองมาราวกับอยากหาเรื่องว่าทาสผู้ซื่อสัตย์กล้าดีอย่างไรถึงกลับเอาป่านนี้?

“หิวยังหนู?”

“...” ไม่ตอบ สงสัยอยากต่อต้าน

เท็นเดินหายเข้าไปในครัวแล้วกลับมาพร้อมของบางอย่างที่เรียกความสนใจจากแมวหยิ่งยโสได้เพียงแค่เคาะเบา ๆ เท่านั้น ชายหนุ่มยิ้มขำกับท่าทางหมดฟอร์มของลูกสาวที่ร้องเมี้ยวม้าวอย่างหัวเสีย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนโซฟา

“ไหน ทูน่าน้ำเกรวี่ของโปรดใคร? -- อะไรพี่ซัน อันนี้ของน้อง เราน่ะรอก่อน – พี่ซัน – Sit down.” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่มีหรือเจ้าขนทองจะฟัง มันเอาแต่แลบลิ้นเอาขาหน้าวางบนเข่าเขาราวกับว่าจะชิมทูน่าน้ำเกรวี่ให้ได้โดยไม่สนใจนิ้วชี้ที่สั่งให้นั่งลงแม้แต่น้อย

เท็นเปิดฝากระป๋องทูน่าออกแล้วเอาไปวางบนชั้นสูง ๆ เพื่อให้อีมูนปีนขึ้นไปกินเองโดยไม่ต้องต่อสู้กับพี่ซมัน ระหว่างนั้นก็ฉุกคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันได้เพียงเพราะตรงนี้เงียบจนเกินไป


‘ทิ้งไปแล้วหรือยัง?’

‘หมายถึงอะไร?’

‘กีต้าร์ตัวที่สอง’



เท็นเงยหน้ามองบันไดแล้วคิดว่าควรขึ้นไปห้องนั้นหรือไม่ แต่ยังไม่ทันหาคำตอบให้ตัวเองได้ขายาวก็ก้าวขึ้นไปบนชั้นสองแล้วหยุดมองประตูสีขาวที่เป็นห้องเก็บของ ก่อนจะย้อนถามตนเองอีกครั้งว่าควรเปิดเข้าไปไหม นานแค่ไหนแล้วที่เท็นใส่กลอนล็อกกุญแจเพื่อขังความทรงจำทุกอย่างไว้ข้างในโดยไม่คิดจะเปิดประตูอีกครั้งเพื่อให้โอกาสสิ่งเหล่านั้นหายใจ

“...”

อาจจะสามนาทีหรือนานกว่านั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ก่อนจะปิดจมูกจามเพราะฝุ่นที่เกาะกรังสิ่งของมากมายข้างในซึ่งเขาเองก็จำไม่ได้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนถ้าไม่มีรอยปากกาเมจิกสีดำเขียนบอกข้างกล่อง

แต่ในขณะเดียวกันกลับมีของบางอย่างที่เท็นรู้ดีว่าวางอยู่ตรงไหน มันน่าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยเพราะลึก ๆ อยากจะลืมมันไป เขาอยากนึกขึ้นได้เมื่อบังเอิญเปิดเจอมากกว่าจะจดจำได้อย่างขึ้นใจจนถึงทุกวันนี้

กดสวิตซ์ไฟจนแสงสีซีเปียฉายให้ความสว่าง จนถึงตอนนี้เท็นก็ยังตั้งคำถามกับตัวเองว่าควรก้าวเข้าไปทำตามสิ่งที่ใจคิดหรือควรฝังมันไว้ในอดีตเหมือนอย่างเคย มันอาจเป็นอย่างหลังถ้าหากว่าเขายังคงระริกระรี้อยู่กับสังคมจอมปลอมและความโด่งดังซึ่งจับต้องไม่ได้ แต่ในวันนี้เขาก้าวออกมาจากตรงนั้นไกลมากแล้ว และมันคงไกลมากพอที่จะทำให้ยอมโอนอ่อนลงเพียงเพราะได้กลับเข้าไปอยู่ในวงจรชีวิตใครบางคนอีกครั้ง

“...”

เป้าหมายแรกคือกระเป๋าหนังกีต้าร์สามตัวซึ่งตั้งเรียงกันอยู่ ชิ้นแรกเป็นของขวัญสำหรับความชอบที่ได้รับตั้งแต่ประถม ส่วนชิ้นที่สองได้เป็นรางวัลปลอบใจหลังจากบอกพ่อว่าถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน ส่วนชิ้นที่สามนั้นมันมาจากความพยายามของตนเองและครั้งหนึ่งมันเคยมีค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

มันคือของแพงชิ้นแรกในชีวิตที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งต้องใช้ความอดทนเพื่อให้ได้มาครอบครอง เท็นยังจำได้เป็นอย่างดีว่าตอนกอดมันไว้แนบอกนั้นมันสุขใจมากแค่ไหน

เพลงแรกที่เล่นคือ Officially missing you ของ Tamia และเหมือนทุกครั้งตรงที่ว่าเมื่อไหร่เขาเกากีต้าร์ ไอ้เพื่อนคนนี้ก็ร้องตามได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด


‘All I hear is raindrops
Falling on the rooftop
Oh baby tell me why'd you have to go’



 กล่องลังสีน้ำตาลตรงมุมขวามือนั้นไม่ได้เด่นจนสังเกตได้ เท็นหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามันและน่าตลกดีที่เขานึกออกว่าหน้าตาของข้างในนั้นอยู่ในสภาพไหน อาจเป็นเพราะครั้งสุดท้ายที่เห็นมันเขาจ้องอยู่นานก่อนจะตัดสินใจปิดฝากล่องล่ะมั้ง?


‘Just a week ago you were my baby
Now I don't even know you at all
I don't know you at all’



รู้สึกเหมือนความทรงจำพวยพุ่งออกมาเป็นน้ำพุหลังจากเปิดฝากล่องออก ชายหนุ่มจ้องมองของล้ำค่าในอดีตที่ปัจจุบันต้องพยายามบอกตัวเองว่ามันไม่สำคัญอีกแล้ว ตลอดสิบปีที่ผ่านมาไม่ใช่แค่เรื่องการเล่นเกมที่เท็นทำได้ดี แต่ยังมีเรื่องหลอกตัวเองอีกอย่างที่เขาคิดว่าโคตรถนัดไม่แพ้ใครเลย

นัยน์ตาคมมองสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วหนังที่สะสมไว้เพียงเพราะมันเคยติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงนักเรียน สมุดที่มีตราสัญลักษณ์สถาบันข้างหน้า แต่ข้างในนั้นเต็มไปด้วยรูปวาดดราก้อนบอลและแสลมดังค์ซึ่งถูกละเลงโดยเด็กผู้ชายสองคน ไปจนถึงหนังสือเพลงเล่มเก่าที่ปัจจุบันหาไม่ได้อีกแล้ว

และเมื่อเปิดไปยังหน้ายี่สิบสามก็จะพบกับปิ๊กกีต้าร์ที่ถูกแกะสลักเป็นคำว่า ‘10 out of 10’


‘All I hear is raindrops...
And I'm... officially missing you...’



เจ้าของเสียงทุ้มต่ำนั้นยังคงยิ้มขณะร้องท่อนสุดท้ายของเพลง ก่อนมันจะแบมือออกมาพร้อมพยักหน้าเพื่อขอมือจากเขา เท็นจำได้ว่าตอนนั้นมันคงถึงเวลาตามสัญญาแล้ว ซึ่งมันคงบ้ามากถ้าหากว่าไอ้แจ็คจะเอาตุ๊กแกปลอมหรืออะไรสักอย่างที่น่ากลัวใส่มือเขา

แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิด เพราะหลังจากไอ้แจ็คเอามือปิดตาเพียงครู่เดียวเขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างเย็น ๆ ที่ขนาดเล็ก ซึ่งพออีกฝ่ายเอามือออกเขาก็พบกับปิ๊กกีต้าร์ที่ถูกสลักอย่างสวยงาม และในนาทีนั้นเท็นก็ไม่รู้ว่าเขามีความสุขเพราะได้รับของชิ้นนี้หรือว่าเพราะรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าไอ้แจ็คกันแน่

RRRrrrr!!!

ชายหนุ่มสะดุ้งจนอายตัวเอง ให้ตายสิวะ ไม่เคยชินกับการมีสายเข้าเลยสักครั้ง หรือว่าแพรวจะโทรมาเพราะไม่พอใจข้อความเมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกเพราะทั้งโลกก็ไม่มีใครพอใจกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่แล้ว

แต่เท็นคิดมากไป เพราะทันทีที่เห็นเบอร์โทรเข้าความประหลาดใจก็เพิ่มเป็นทวีคูณเพราะเบอร์ที่ขึ้นหน้าจอคือไอ้แจ็ค

“อะไร?”

( ถึงบ้านยัง? )

“ถึงแล้ว ถ้าโทรมาเรื่องแพรวกูวางนะ?”

( เปล่า กูแค่โทรมาบอกว่าผ้าเสร็จแล้ว แม่ให้โทรมาถามเพราะกลัวมึงไม่มีห่มนอน )

คนห่าอะไรจะมีผ้านวมชุดเดียว บ้าปะ? เท็นได้แต่คิดอย่างนั้นแต่ไม่ได้พูดออกไป เพราะสิ่งที่เขาทำตอนนี้คือเงียบเหมือนกำลังลุ้นว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ จะวางสายเลยเพราะหมดธุระแล้วหรือว่าจะชวนคุยต่อซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังมากขนาดนั้น เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายอยากนึกครึ้มชวนทะเลาะเรื่องแพรว

( สรุปมีอีกชุดหรือเปล่า? )

“เออ เดี๋ยวกูไปเอาพรุ่งนี้”

( ตอบให้ตรงคำถามสิ มีผ้าห่มอีกชุดไหม? )

จะถามอะไรนักหนา การบอกว่าจะไปเอาพรุ่งนี้ก็หมายความว่าเขาจะเอาถุงเท้าห่มตัวเองนอนก็ได้ไม่ใช่ไงวะ แล้วมันก็น่าจะเดาออกได้เองด้วยว่าคนอย่างเขาต้องมีชุดผ้านวมอยู่ราว ๆ หก-เจ็ดชุดอยู่แล้ว เปลี่ยนใช้รายวันยังได้

“ถ้าบอกว่าไม่มีแล้วมึงจะแว๊นมอไซค์มาส่งให้เหรอกูถามก่อน?”

ไอ้แจ็คน่าจะคันตีนแล้วหลังจากโดนกวนตีน ก็จะทำไมล่ะ มันควรวางสายไปตั้งแต่เขาให้คำตอบแล้วไม่ใช่ไงวะ กะอีแค่ชุดเครื่องนอนมันไม่ใช่เรื่องเดือดร้อนขนาดนั้นสักหน่อย

( ต้มมาม่ารอแล้วกัน )

“เดี๋ยว อะไรคือต้มมาม่ารอ มึงจะมาบ้านกูเหรอ?”

( อืม เอารสหมูสับนะ )

“อะไรของมึงเนี่ย ชุดเครื่องนอนมันใหญ่แล้วมึงจะขับยังไงได้ เดี๋ยวก็แหกโค้งคอหักตายหรอก”

( แล้วใครบอกว่าจะขับมอเตอร์ไซค์ไป บ้านกูก็มีรถยนต์ )

“...”

( ห้ามใส่เกลือลงไปในมาม่า ถ้าเค็มมึงตาย )

“ไอ้ฉิบหายรสหมูสับมันก็เค็มอยู่แล้วเปล่าวะ?”

( อีกสี่สิบนาทีถึง )

ไอ้ห่าราก ขอด่าหน่อยเถอะ ไอ้เหี้ย มึงมันบ้า โทรมาพูดเองเออเองแล้วก็วาง แบบนี้ใครจะตั้งหลักรับทันวะ แล้วไอ้อาการร้อน ๆ บนหน้านี่มันอะไรกัน ไข้ขึ้นเหรอ ต้องใช่แน่ ๆ วันนี้อากาศไม่ค่อยดี หรือเพราะพี่ซันมานัวเนี่ยวะ ต้องใช่แน่ ๆ เดี๋ยวลงไปจะให้อดข้าวเสียเลย

คนหัวร้อนไร้เหตุผลรีบวิ่งลงมาชั้นล่าง พอเห็นว่าทั้งหมาทั้งแมวกำลังมองมาแล้วก็รู้สึกเหมือนโดนจับผิดอย่างไรอย่างนั้น ราวกับพวกมันรู้ว่าเขาไปทำอะไรมาและเมื่อกี้คุยกับใคร

“มองอะไร?”

“...”

อาจเป็นเพราะฟาดทูน่าน้ำเกรวี่ของโปรดหมดแล้วตอนนี้อีมูนถึงหันมามองเหยียดเขาได้อย่างเต็มที่ พอเห็นว่าเขาตกอยู่ในสภาวะทำตัวไม่ถูกก็เลยจ้องจะเยาะเย้ยสินะ มันก็แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละเว้ย ใช่ว่าจะเป็นทุกวันเสียเมื่อไหร่ ก็แค่ไม่ชินที่ไอ้เวรนั่นจะมาหาถึงบ้านก็เท่านั้น

“มองอะไรนักหนา เดี๋ยวพรุ่งนี้จะอดข้าวนะมูน”

“โฮ่ง!!”

“อะไร ช่วยน้องเหรอ อ๋อใช่สิ แท็กทีมนี่ พอถึงตอนนี้คำว่าพ่อก็ไม่สำคัญแล้วใช่ไหม?”

คราวนี้หันไปพาลหมาบ้าง พี่ซันเดินมากระโดดตะกุยขาหน้าซึ่งคงเป็นเพราะพ่อมันทำตัวผีเข้าผีออกไม่หยุด

“แล้วมาม่าหมูสับอยู่ไหนล่ะ ห่าเอ๊ย จะแดกฟรีแล้วยังเลือกอีกนะ”


คนเราสามารถแสดงออกว่าหัวเสียทั้งที่กำลังอารมณ์ดีได้ด้วยหรือไง?

แม่งบ้าไปแล้ว






TBC


มาม่าอาจจะหมูสับ แต่ถ้าอัพช้าอีกคนเขียนอาจจะโดนสับ



หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-12-2018 19:54:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: OrangeryLemon ที่ 06-12-2018 20:06:49

อ่านไปอ่านมา เท็นน่ารักขึ้นเรื่อยๆ

จริงที่สุดที่เราไม่ควรตัดสินใครจากคำพูดหรือการกระทำแค่ครั้งสองครั้ง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 06-12-2018 20:13:07
โอ้ยยยยยยรักเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆเปิดพรีเลยมั้ยคะตนี้เน่ไม่ไหวแล้วเน่แพ้พี่แจ็คจริงๆน้องเท็นห้ามใจร้ายกับพี่แจ็คนะเดียวให้นังมูนจัดการแน่
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 06-12-2018 20:36:53
อุต้ะ พี่เท็นคิดถึงเค้าก็บอกไปตรงๆ นี่พี่แจ็คแสดงออกแล้วนะว่าเป็นห่วงงงงงงงงงง :hao6:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 06-12-2018 20:47:50
ก็คือฉายาน้องเท็นคนซึนต้องมาจ้ะ
อ่านละมันก็งุ้ยๆขึ้นเรื่อยๆ
โซ๊ยมาม่าไปเล่นกีต้าร์ไป
งุ้ยยยยยยยยย
กระชับคสพไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ดีกันเนอะ

อยากรู้ปมที่ทำให้ทะเลาะกันแล้วอ้ะ
ใช่แค่เรื่องบลูจริงๆหรอ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-12-2018 21:13:48
นุ้งแพรววืดอีกแล้วสิ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: killua1a ที่ 06-12-2018 21:31:09
มาม่าหมูสับใส่น้ำตาลลล   :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-12-2018 22:44:41
หวายยย กระวนกระวายทำตัวไม่ถูกหนุ่มจะบุกบ้าน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 06-12-2018 22:56:41
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งเห็นมุมน่ารักๆของเท็นเต็มไปหมดเลยยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 06-12-2018 23:57:49
น้องซันน้องมูนน่ารักกกก พ่อตัวจริง(เอ๊ะหรือแม่)จะมาแล้วนะเด็กๆ

ว่าแต่พี่แจ็คจะได้เจอน้องๆมั้ยยย งุ้ย แค่คิดก็น่ารัก


 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-12-2018 00:23:16
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 07-12-2018 13:56:53
ตกลงที่ความสัมพันธ์ของซึมเศร้าแมนกับมืดมนแมน

ถึงการแตกหักนี่สาเหตุหลักเกิดจากอิพีธีย์ผู้มั่นหน้ามั่นปากใช่ใหม

แถมอิพี่ธีย์ จนทุกวันนี้แกก็ยังไม่รู้ตัวว่าปากตัวเองนั้นเสียขนาดใหน

วงวาร น้องโซ่555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 07-12-2018 21:39:18
ตอนพูดถึงเรื่องกีตาร์​ ละพี่แจ็คซื้อปิ๊กให้คือแบบ​ ดีมากกกกกก​ ยิ่งตอนน้องเท็นเข้าห้องเก็บของนะ​ แฟลชแบ็คมาเต็มมม​ ฮือ​ ชอบกันมาตั้งแต่มัธยมแล้วแหละค่าาา แต่ไม่รู้ใจตัวเองงงงง​ รอวันที่เค้าจะได้กันนน​ แค่จูบก็ร้องไห้แน้วววว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 08-12-2018 08:41:21
อ่านแล้วแอบเอ็นดูแพรว อยู่ผิดที่ผิดเวลานะ 5555555 อีกอย่างคือร้านซักรีดที่มีดิลิเวอรี่แบบนี้อยุ่ตรงไหนคะ จะไปใช้บริการบ้าง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 10 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (6/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 12-12-2018 19:48:35
พี่เท็นไม่ได้ต้มมาม่ามากี่ปีแล้วนี่ ถึงกับต้องวิ่งหามาม่าหมูสับเชียว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 15-12-2018 20:36:34
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 11
เรื่องที่แกล้งจำไม่ได้



“แม่ถามจริง ๆ นะ ช่วงนี้ทะเลาะกับแจ็คหรือเปล่า?”

“...”

“ใช่ไหม สีหน้าลูกมันฟ้อง”

ในร้านอาหารชื่อดังย่านทองหล่อ เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนนั่งนิ่งขณะถูกคาดคั้นจากผู้เป็นแม่ซึ่งเขาทำได้แค่ถือช้อนกับส้อมเอาไว้ เท็นลดระดับสายตาลงพลางนึกถึงหน้าใครอีกคนที่ช่วงนี้เอาแต่หลับในคาบเรียนและเขาก็ไม่กล้าปลุกแม้ว่าอยากสะกิดชวนให้ตื่นมานั่งคุยเรื่องฝีมือการเล่นเกมของ TEN10 ที่พัฒนาไปกว่าเดิมเพียงเพราะได้เรียนรู้ทริกใหม่ ๆ

ทั้งที่เมื่อก่อนไอ้แจ็คเป็นคนคอยสะกิดปลุกเขาแท้ ๆ แล้วดูตอนนี้สิ... เกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่มันวะ ทำไมอยู่ ๆ ถึงซีเรียสเรื่องผลการเรียนลูกขึ้นมาจนออกปากว่าต้องงดซ้อมเกมดึก ๆ แล้วให้หันไปอ่านหนังสือแทน โอเค จะพยายามเข้าใจส่วนนี้ก็ได้ รู้ว่าพ่อแม่แต่ละคนไม่เหมือนกันจะให้เอาบ้านตนเองเป็นบรรทัดฐานก็คงไม่ถูก ถึงจะสนิทกับพ่อแม่มันประมาณหนึ่งแต่ก็ใช่ว่าจะเคยเห็นทุกมุมทุกด้านเสียเมื่อไหร่ 

แต่คำสั่งของพ่อแม่มันก็ส่งผลถึงทีมอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะพอไอ้แจ็คเลิกซ้อมก็ต้องหาคนมาแทนที่เพื่อให้คนในทีมคุ้นชินกับตำแหน่ง ลำพังฝีมือไอ้แจ็คก็ดีอยู่แล้วแต่ปัญหาอาจจะอยู่ที่เขาผู้ซึ่งไม่ได้ตกหลุมรักตำแหน่งแทงค์เลยสักนิด

และผลก็ออกมาอีหรอบเดิมที่เขากับไอ้ธีร์ต้องปะทะริมฝีปากกันจนพี่ตั้บต้องไล่ไปนอนเหมือนทุกครั้ง ตอนไอ้แจ็คอยู่ทุกอย่างมันโคตรไปได้ดี อาจจะมีแขวะกันบ้างแต่ก็ไม่ได้เลยเถิดถึงขั้นอยากพกคีย์บอร์ดไปโรงเรียนแล้วเขวี้ยงใส่หน้าไอ้ธีร์แล้วถามว่า ‘เป็นเหี้ยไรมากไหมไอ้ห่า?’

พออยู่แบบนั้นทุกวี่ทุกวัน เท็นก็สำเหนียกได้ว่าต่อให้ติดเกาะกับไอ้ธีร์สองคนอย่างไรก็คงฆ่ากันตายมากกว่าจะคิดหาทางเอาชีวิตรอด

“ไม่ได้ทะเลาะ แค่ไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน”

พูดเองก็สะเทือนใจเอง เด็กหนุ่มรู้ว่ามันปัญญานิ่มแค่ไหนกับอาการน้อยเนื้อต่ำใจเพราะเรื่องไม่ได้สนิทกับเพื่อนเหมือนที่เคยอีกแล้ว เด็กหนุ่มเคยเสิร์ชดูในอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงซึ่งเท็นเริ่มรู้สึกไม่ดีเพียงเพราะว่าเขาคือผู้ชายส่วนน้อยที่คิดอย่างนั้น

คนอื่นไม่รู้สึกแบบนี้กันเลยหรืออย่างไร คนเหล่านั้นอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีส่วนร่วมกับเพื่อนหรือเพราะเขาคนนี้อ่อนแอมากจนต้องมีไอ้แจ็คอยู่ข้างตัวเสมอ?

เท็นเอาแต่ถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า และเขารู้ตัวว่าพอรู้สึกแย่ความเป็นธรรมชาติก็เริ่มลดน้อยลง จากที่เคยตบหัวพูดคุยเรื่องไร้สาระไปเรื่อย ทุกวันนี้ในหัวก็เอาแต่คิดว่าจะพูดอย่างไรให้เพื่อนฉุกนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่มันเคยดีมากแค่ไหน

แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ความจริงไอ้แจ็คก็ยังคุยปกติแต่อย่างเดียวที่ไม่เหมือนเดิมก็คือระยะห่างเพียงหนึ่งก้าวที่ทั้งคู่มีให้กันโดยไม่รู้ตัว

เท็นพยายามหาคำตอบดี ๆ ให้ตนเองแล้ว แต่พอเห็นว่าไอ้ธีร์พูดคุยและเล่นหัวไอ้แจ็คได้โดยไม่รู้สึกอะไรถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่จนคิดว่ามีแค่เขาคนเดียวหรือไงที่ต้องการย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาที่ไม่มีช่องว่าง?

สองคนนั้นแค่สนิทกันมากขึ้นหรือว่าเขามันงี่เง่าเกินกว่าจะเข้าใจอะไร ยิ่งคิดก็ยิ่งหมกมุ่นออกจากความน่ารำคาญนี้ไม่ได้ จากที่เคยหันไปชวนไอ้แจ็คคุยก็เอาแต่นั่งเงียบอ่านหนังสือการ์ตูนเพื่อหลีกเลี่ยงบทสนทนา จนกลายเป็นว่าตอนนี้รู้สึกปวดไหล่ไปหมดเพราะแบกโลกทั้งใบเอาไว้

“ทำไมล่ะ ลูกสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ?”

“อือ ตอนนี้ไม่แล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้แม่ฟังซิ”

“ก็ไม่มีอะไร อยู่ดี ๆ มันก็เปลี่ยนไป”

“เขาทำอะไรให้ลูกรู้สึกไม่ดีใช่ไหม?”

“ไม่ มันไม่ได้เปลี่ยนไปแบบนั้น แต่มันแค่หันไปใช้ชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ก็คนมันมีแฟน แล้วก็ดูเหมือนจะสนิทกับเพื่อนในกลุ่มอีกคนมากขึ้นด้วย”

“แล้วตอนนี้ลูกสนิทกับใคร?”

“ไม่มี”

“อ้าว ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ แจ็คก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าลูกเคยโดนแกล้งมาก่อน ทำไมถึงปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวแล้วเอาแต่สนใจเรื่องตัวเอง มีแฟนแล้วก็ทิ้งเพื่อนแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน?” คนแม่เริ่มชักสีหน้า มองลูกชายที่นั่งทำหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก

“มันมีแฟน จะให้ลากเท็นไปไหนมาไหนด้วยก็น่าอึดอัดเปล่า ๆ อีกอย่าง... จะให้มันทนอยู่กับเท็นตลอดไปเพราะเรื่องเคยถูกแกล้งก็คงไม่ได้” เหมือนเอามีดมาแทงอกตัวเอง แค่คิดว่าถ้าตลอดเวลาที่ผ่านมาคือความสงสารมันคงเจ็บดีไม่ใช่น้อย ซึ่งเท็นหวังว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถ้าวันไหนวันหนึ่งเขารู้ว่าความใจดีทั้งหมดมันมาจากความเวทนา โลกเด็กผู้ชายคนนี้คงพังไม่เหลือชิ้นดี

“ไม่ได้นะ ลูกดีกับแจ็คมาก ไม่มีใครรักแจ็คเท่าเท็นหรอกเชื่อแม่สิ ยังไงกัน ทำไมแจ็คทำแบบนี้ ต่อหน้าก็พูดดีแต่ลับหลังก็อีกเรื่องเหรอ แม่โมโหแล้วนะ”

คำพูดแม่แปลก ๆ แต่มันก็จริงเกินกว่าจะอ้าปากปฏิเสธ ใช่ เท็นรักไอ้แจ็คยิ่งกว่าใคร จะมีเพื่อนคนไหนเข้าใจมันกว่าเขาอีก... มีในโลกใบนี้ด้วยหรือไง?

“บางทีเท็นอาจจะน่าเบื่อเหมือนตอนมอต้น ไม่ได้เป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสนุกล่ะมั้ง”

“แจ็คทำแบบนี้ไม่ถูกเลย พอโตขึ้นแล้วก็เริ่มออกลายใช่ไหม ลูกแม่ทั้งรักทั้งหวังดีด้วยตั้งเท่าไหร่เคยสำนึกหรือเปล่า?”

คำยุยงทำให้ความในใจที่สะสมถูกถ่ายทอดออกมาเป็นการออกแรงจากฝ่ามือ เท็นไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการกำช้อนส้อม เหมือนว่าตอนนี้ความคิดฝ่ายดีมันจะต่อต้านความน้อยใจไม่ไหวแล้ว

“แล้วยังไงแม่ เท็นไม่อยากทำให้เพื่อนลำบากใจ ทุกวันนี้มันก็ดูเหนื่อย ๆ”


‘แจ็คไม่ได้ลืมเราหรอก ไม่มีทาง’
‘หลอกตัวเองไปวัน ๆ ไอ้กระจอกเอ๊ย’


“แจ็คเหนื่อยคนเดียวหรือไง ก็ทำเท่ากันทุกอย่าง เรียน ซ้อมเกม ตื่นก็เวลาเดียวกัน แม่ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวแม่ไปคุยให้”

“ไม่เอานะแม่ ถ้าทำแบบนั้นมันโกรธเท็นแน่”

“งั้นก็ทำอะไรสักอย่างสิเท็น อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ แม่ไม่อยากให้ลูกกลับไปเก็บตัวเหมือนตอนมอต้นอีกเข้าใจไหม?”

“...”

“ปะ กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าไปนอนบ้านแจ็ค ให้มันรู้ซะบ้างว่าลูกแม่สำคัญมากแค่ไหน”

เขานิ่งไป ใจหนึ่งก็อยากทำตามที่แม่พูดแต่อีกใจก็กลัวต้องกลับไปรู้สึกแย่เหมือนตอนที่คาดหวังสูงอีก นัดดูหนังเมื่อตอนนั้นก็เหมือนเป็นเรื่องที่พูดมาแล้วจบไป ที่บอกจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังคาดว่าชาติหน้าคงมีสิทธิ์มากกว่า

เท็นไม่ได้มีความมั่นใจเกินร้อยเหมือนก่อนหน้านี้ที่คิดว่าจะโผล่หน้าไปหาอีกฝ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ มันกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กับการกลัวว่าจะถูกโกรธเข้าให้ถ้าหากไปหาถึงบ้านโดยไม่บอกก่อน

“คืนนี้เท็นจะไปค้างบ้านเพื่อน”

“เดี๋ยว เพื่อนที่ไหนลูก ไหนบอกว่าไม่มีเพื่อนสนิทคนอื่นแล้วไง?” คนเป็นแม่เงยหน้ามองลูกชายที่คว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายพร้อมตั้งท่าลุกขึ้นโดยที่อาหารบนโต๊ะเพิ่งเริ่มกินไปได้เพียงไม่กี่คำ

“เพื่อนน่ะมี แต่สนิทไหมก็อีกเรื่อง”

“แล้วยังไง จะค้างแค่คืนนี้หรือว่าหลาย ๆ วัน เงินพอไหมลูก?”

“ไม่ต้องห่วงหรอก เท็นไม่เป็นไร”

เด็กหนุ่มมองคนเป็นแม่ที่รีบควานหากระเป๋าเงินพร้อมเงยหน้ามองเขาราวกับผิดหวังอยู่ไม่น้อย ก็รู้ว่าแม่อยากให้ปรับความเข้าใจกับไอ้แจ็คถึงได้เอาแต่ไล่ให้ไปค้างด้วยกันเหมือนที่เคยเป็น

แต่มันจะมีประโยชน์ได้อย่างไรถ้าคนที่พยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมีแค่เขาเพียงคนเดียว?





*



“ไกลกว่าที่คิด”

“ที่ไกลคือพวกบ้านอยู่แถบปริมณฑลมากกว่าเปล่า?”

“อืมครับ พ่อคนในเมือง”

เจ้าของบ้านยักคิ้ว เขาจึงโยนถุงผ้านวมอัดจนเจ้าตัวเซถอยหลังไปเล็กน้อย ไอ้ลิงหัวเทาขมวดคิ้วมองค้อน แต่นั่นก็เป็นผลจากการกวนตีนต้อนรับแขก

“ไหนมาม่ากู?”

“มาถึงก็ถามเรื่องของแดกเลย”

“ค่าผ้านวมอีกสองร้อย” แจ็คแบมือออกมา และเขาเอาคืนไอ้ลิงหัวเทาสำเร็จแล้ว

“ไอ้ฉิบหาย มึงลงทุนขับรถจากนนฯ มาถึงนี่เพราะเงินสองร้อยหรือไง?”

“ต้มมาม่ายัง?”

“ต้มก็แย่ละ จากบ้านมึงมาถึงที่นี่ใช้เวลาตั้งเท่าไหร่ ขืนต้มไว้คงอืดก่อนพอดี”

“ก็ถือว่ายังมีสมองอยู่บ้าง”

“มาเพื่อกวนส้นตีนกูถูกไหม ทำไมเหรอ ค้างคาใจอะไรตอนน้องแพรวขอไลน์กูหรือไง?” ชายหนุ่มตัวสูงทั้งคู่ยืนนิ่งไปกับคำถามที่คิดว่าสักวันหนึ่งคงได้พูดกันตรง ๆ เรื่องเด็กสาวที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าแจ็ครู้สึกอย่างไร

“คิดอะไรอยู่?”

“...” คนถูกถามไม่ได้โต้ตอบกลับมาอย่างก้าวร้าวกวนตีนเหมือนทุกที ตอนนี้ไอ้เท็นแค่มองหน้าเขาราวกับอยากให้เดาเอาเองหรือไม่ก็ลองทบทวนดูว่าเท่าที่รู้จักกันมาไอ้เท็นจะคิดอะไร

“ถ้าชอบจริง ๆ จะเข้าใจ”

“เข้าใจว่าอะไร?”

“...”

คราวนี้อีกฝ่ายสวนกลับมาทันทีพร้อมสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก

“ก็เข้าใจ”

“มึงจะหลีกทางให้หรือไง ไอ้พระเอก”

“กูจะหลีกได้ไงในเมื่อกูไม่เคยไปยืนขวางทางใครตั้งแต่แรก”

“เหอะ พูดได้ดี”

“กูซีเรียสนะ ถ้ามึงแค่เล่น ๆ หรือเพราะอยากทำให้กูหงุดหงิดก็เลิกคิดเถอะ เพราะมันไม่ตลก”

ไอ้เท็นแค่นหัวเราะแล้วหันไปถอนหายใจอย่างหน่าย ๆ ก่อนจะหันมาสบตากันอีกครั้ง “ถามจริง?”

“เด็กมันซื่อบื้อ ถ้าชอบใครสักคนแล้วตัดใจยาก”

“แพรวบอกมึงเหรอว่าสนใจกู ทำไมดิ้นขนาดนี้?” เริ่มหงุดหงิดแล้ว กะอีแค่คุยดีด้วย ไม่ได้หยอดหรือหว่านล้อมเหมือนที่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่นเลยสักนิด ถ้าเด็กมันคิดก็ถือว่าหัวอ่อนเกินไปแล้ว ซึ่งมันใช่ความผิดเขาคนนี้หรือไง ไอ้แจ็คประสาทแดกฉิบหาย หึงจนพาลหน้ามืดตามัวเลยใช่ไหม


โมโหว่ะ ที่มาไม่ใช่เพราะอยากกินมาม่ารสหมูสับงี่เง่านั่นหรอกเหรอ?


รู้สึกได้ถึงกลิ่นความน่าอึดอัดที่กำลังนำทั้งคู่ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน ยอมรับว่าตั้งแต่แข่ง DotA การกุศลด้วยกันแจ็คก็เริ่มมองอีกฝ่ายดีขึ้น อาจเป็นเพราะไอ้เท็นไม่ได้ทำนิสัยชอบพูดประชดประชันทำท่าเหมือนอยากเอาชนะตลอดเวลาอย่างตอนปลายปีก่อนเพราะอยากได้ไอ้โซ่ไปอยู่ทีมด้วย แม้การพูดคุยจะมีขบกัดกันอยู่บ้างแต่มันก็ดีกว่าที่เคยเป็นไหน ๆ

แจ็ครู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวมัน แม้ว่าเรื่องบาดแผลในตอนนั้นยังคงหลงเหลือตกตะกอนอยู่ แต่ความผูกพันที่เคยมีให้กันก็ทำให้คาดหวังอยู่ลึก ๆ ว่าบางทีทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้ แจ็คไม่กล้านึกถึงเรื่องกลับมาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่การหายจากไปจากชีวิตกันอย่างนั้นมันก็บ้าบอเสียเหลือเกิน

ทุกคนโตเกินกว่าจะฝังใจกับเรื่องราวร้าย ๆ เมื่อครั้งยังเด็ก แม้แต่ไอ้ธีร์ที่ปากบอกว่าเกลียดแทบตาย แต่เขาเชื่อว่าในใจของมันคงไม่คิดอย่างนั้น อาจจะมีเคืองอยู่บ้างแต่คงไม่เท่าเมื่อครั้งแผลยังสดใหม่ ทุกอย่างเลือนรางไปตามเวลา รวมถึงความสนิทที่เคยแน่นแฟ้น ซึ่งมันจะดีขึ้นหรือแย่ลงชายหนุ่มก็ไม่อาจรู้ได้

พอเป็นเรื่องความรักแพรวก็หัวอ่อนเกินกว่าจะปล่อยเลยผ่านไป เด็กคนนั้นมักจะคล้อยตามได้ง่าย ๆ ขอเพียงได้ยินคำหวาน ๆ ตอนดูหนังเสร็จก็รัวมาในไลน์ชมพี่เท็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่หยุด และใช่... เขาเป็นกังวล

“ถ้ามึงชอบน้องเค้ามากก็ขอกูสิ แล้วกูจะเอาไปคิดอีกที”

“อืม กูชอบ”


ไอ้ห่าเอ๊ย ใช้เวลาคิดหน่อยไม่ได้หรือไงวะ?


“แต่ไม่ได้คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์มากไปกว่านี้ มึงอาจคิดว่ากูปอดแหกซึ่งก็ใช่ กูไม่ปฏิเสธ กูไม่อยากให้การรู้สึกดีกับน้องมันมาเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะการเป็นพี่น้องกันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว กูไม่อยากให้คนอื่นอึดอัดถ้าวันหนึ่งกูกับน้องต้องเลิกกัน”

“แล้วไง?”

“และการที่กูมองแพรวเป็นน้องสาวมันคงไม่แปลกอะไรถ้ากูจะกลัวน้องมันเสียใจ”

“หล่อจริง ๆ ถ้ามือว่างกูคงปรบมือให้” เท็นห้ามตัวเองไม่อยู่แล้ว เขาหงุดหงิดตัวเองและไอ้ห่านี่ในเวลาเดียวกัน จะน้อยใจทำซากอะไร เพียงเพราะไอ้แจ็คพูดความจริงมากกว่าจะอ้อมค้อมน่ะเหรอ? “ในสายตามึงกูคงเหี้ยมากสินะ?”

“ก็ประมาณนึง”

“ไอ้ฉิบหายเอ๊ย ไม่ต้องแดกแล้วมาม่าอะ” เท็นทิ้งถุงผ้านวมลงพื้นแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงรีบควานหาเงินออกมายัดใส่มือคนตรงหน้า “กูแถมให้อีกสามร้อยเลย เอาไว้เป็นค่าน้ำมันกับค่ามาม่า!!!”

“โมโหอะไร?”

“นี่มึงโง่หรือมึงโง่เนี่ย เห็นทีกูคงต้องเดินเข้าไปเอาไวท์บอร์ดมาร่างให้ดูทีละข้อแล้วไหมว่าโมโหมึงเรื่องอะไรบ้าง เป็นห่าไรอะ บอกว่าจะเอาผ้านวมมาให้ถึงบ้านแล้วก็ต้มมาม่ารอด้วย พอมาถึง หยุดยืนหน้าประตูบ้านกู เรื่องแรกที่พูดคือกลัวกูไปทำคนของมึงเสียใจ มึงรู้อะไรไหมแจ็ค ตอนนี้กูโคตรอยากต่อยหน้ามึงเลย”

“ก็เอาสิ”

“นี่มึงท้า?”

“ก็ถ้ากล้า?”

ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง และคนที่หัวร้อนกับบทสนทนาเมื่อครู่ก็ง้างหมัดขึ้นขู่เพื่อให้รู้ว่าพร้อมจะทำจริง แค่อธิบายว่า ‘กูเป็นห่วงแพรว ถ้ามึงบอกว่าไม่ได้ชอบน้องกูก็สบายใจแล้ว ปะ เข้าไปกินมาม่ากัน’ แค่นั้นเรื่องก็จบ แล้วดูมันทำ ยืนทำหน้ากวนส้นตีนแล้วก็พูดอะไรไม่รู้ เลอะเทอะฉิบหาย

แต่ความหนักแน่นที่กำไว้ก็อ่อนลงอย่างง่ายดาย เพียงประคำพูดประโยคถัดไปของไอ้หน้าโง่แห่งปี

“แต่ต่อยแล้วต้มมาม่าให้กูด้วย”



*


บ้านเพื่อนที่ว่าคือร้านกล้วยกล้วย เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนนั่งเหม่อลอยอยู่ตามลำพังโดยมีแก้วกล้วยปั่นตั้งอยู่ข้าง ๆ จานกล้วยพองน้องรัก เท็นยังไม่ได้เอาอะไรเข้าปากสักคำเพราะจุกแน่นกับความรู้สึกแย่ ๆ ที่ไม่รู้จะหายไปเมื่อไหร่

“โอเคไหม?” เด็กหนุ่มยิ้มแล้วส่ายศีรษะเป็นคำตอบหลังจากเจ้าของร้านแสดงความเป็นห่วง อาจเป็นเพราะพักนี้เขามาที่นี่ตามลำพัง ผิดแปลกจากเมื่อก่อนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังมีไอ้หัวเกรียนนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วก็กินทุกอย่างบนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย

“เครียดเรื่องเรียนนิดหน่อยครับ”

“เข้าใจเลย เด็กมอหกก็งี้ แต่กินอะไรหน่อยก็ดีนะ ปล่อยไว้นาน ๆ เดี๋ยวหมดอร่อย”

“ครับพี่ ขอบคุณนะครับ”

ขอบคุณที่ไม่ถามว่าทำไมไอ้แจ็คไม่มาด้วย อย่างน้อยเท็นก็ได้เรียนรู้ว่าในโลกยังมีคนเลือกใช้คำถามเพื่อแสดงความเป็นห่วงได้ดีมากกว่าบางคนที่ถามจี้เพราะจะเอาความจริงให้ได้

 “เท็น?”

เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบเด็กสาวในชุดเครื่องแบบสถาบันเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นโบกมือให้ซึ่งเท็นก็เก้ ๆ กัง ๆ ทำตามจนกลายเป็นว่าการทักทายครั้งนี้มันโคตรกระอักกระอ่วน ปกติเขากับแฟนไอ้แจ็คเคยมีจังหวะแบบนี้ที่ไหน ตอนบังเอิญหันไปเจอกันก็แค่ยิ้มให้ตามประสาเพื่อนร่วมห้อง แต่คราวนี้มันต่างออกไปเพราะทั้งคู่ดันมาเจอกันข้างนอกด้วยความบังเอิญ

“พวกแกไปก่อนเลยเดี๋ยวเราตามไป”

กลุ่มเด็กสาวสี่คนพยักหน้าแล้วเดินลงไปด้านล่าง บลูยืนชั่งใจอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนจะตรงเข้ามาหยุดอยู่ข้างโต๊ะ

“นั่งด้วยได้ไหม?” เท็นไม่ได้พูดอะไร เขาแค่มองหน้าอีกฝ่ายแล้วพยักหน้าก่อนเธอจะนั่งลง “รอใครอยู่เหรอ?”

“เปล่า เรามาคนเดียว”

“นึกว่านัดแฟนไว้ซะอีก” บลูยิ้มเล็ก ๆ กับบรรยากาศที่เธอพยายามสร้างให้มันดีขึ้น อันที่จริงเท็นก็พอรู้ว่าเธอกลัว ซึ่งเหตุผลก็เป็นเพราะเขามักจะทำหน้าไม่รับแขกเสมอเมื่อบลูเดินมาชวนแจ็คไปเที่ยวไหนต่อไหน

เท็นรู้ว่าทำตัวไม่ดีกับแฟนเพื่อนแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เขาเกลียดกฎของโลกที่ว่าเพื่อนต้องมีขอบเขต และคนเป็นแฟนมักจะมีสิทธิพิเศษมากกว่า

“ไม่อะ เราไม่มีแฟน”

“อ้าว แล้วที่เห็นเดินด้วยกันบ่อย ๆ นั่นไม่ได้คบกันหรอกเหรอ น้องมอห้าคนนั้น”

“คนไหน?”

“โห จำไม่ได้ด้วย เจ้าชู้นะเนี่ย” เธออมยิ้มพลางชี้หน้า ซึ่งคนถูกจับได้ก็เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก จึงยกน้ำกล้วยปั่นขึ้นดื่มกลบเกลื่อน

เด็กผู้หญิงพวกนั้นก็แค่ควงเล่น ๆ เพื่อให้เป็นกระแส น่าแปลกดี ผู้หญิงไม่ชอบคนเจ้าชู้แต่ก็กรี๊ดกับอะไรแบบนี้เพราะคิดว่ามันเท่ ถามว่าชอบเหรอ ไม่ ไม่เลยสักนิด แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้วมันส่งให้เขาได้มีตัวตน ได้อยู่ในจุดที่ไม่ได้รู้สึกว่ากลายเป็นไอ้ขี้แพ้มันก็โอเค

“เรานึกว่าแจ็คไปสยามกับเท็นซะอีก”

“ห๊ะ?”

“ก็พักนี้แจ็คไม่ค่อยว่าง ทั้งเรื่องอ่านหนังสือแล้วก็ซ้อมทีม เราเลยคิดว่าน่าจะอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ใช่หรอกเหรอ?”

“เปล่า เราก็คิดว่ามันไปกับบลูเหมือนกัน”

“อ้าว”

“อ้าว?”

ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ก่อนเด็กสาวจะเป็นฝ่ายเกาศีรษะกับความงุนงง อยู่ ๆ ก็ดูเหมือนว่าบรรยากาศจะดีขึ้น ซึ่งมันมาเพราะความโล่งใจอย่างหนึ่งที่เท็นได้รู้ว่าอย่างน้อยไอ้เวรนั่นก็ไม่ได้หายหัวไปเพราะติดแฟน

“เราก็นึกว่ามันติดบลูซะอีก”

“ติดอะไรล่ะ ทุกวันนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันเกินชั่วโมงเราก็ดีใจมากแล้วเท็น”

“ไอ้ห่านั่นเป็นแฟนที่ใช้ไม่ได้เลยสินะ” เด็กสาวมองคนข้างตัวที่อยู่ ๆ ก็หลุดยิ้มออกมาเหมือนว่ามีความสุขกับเรื่องอะไรสักอย่างซึ่งเธอไม่รู้

“ยิ้มได้แล้วเหรอ?”

“...ห๊ะ?”

“ก็ตอนแรกเท็นเอาแต่ทำหน้าเศร้า แต่ก็ดีแล้วล่ะ เวลาเท็นยิ้มน่ะน่ารักมาก ๆ เลยนะ”

“...”

เหมือนกำลังปีนขึ้นไปบนหน้าผาสูงชันก่อนจะตกลงมาพร้อมความโง่ของตนเอง เด็กสาวกำมือแน่นจนเผลอจิกเล็บเข้าเนื้อ ถ้าเกิดเท็นชักสีหน้าใส่หรือเดินหนีไปเธอคงรู้สึกแย่ไปจนถึงชาติหน้าแน่เลย

“คือเราหมายความว่าเท็นดูดีแบบเท่ ๆ น่ะ...”

“อย่าพูดแบบนั้นอีก”

“อะ... อือ ขอโทษนะ”

“ไม่ เราไม่ได้โกรธ ไม่ต้องขอโทษหรอก”

“ไม่ ๆ เราเข้าใจว่าเราสองคนไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่จะพูดอะไรก็ได้ ขอโทษนะเท็น เราชอบเป็นแบบนี้ตลอดเลยอะ” เด็กสาวยิ้มแห้ง ๆ ในที่สุดก็กลับไปตึงเหมือนเดิมจนได้ ทั้งที่เกือบจะดีขึ้นแล้วแท้ ๆ

“เราไม่ชินเวลาถูกชม เหตุผลก็มีแค่นี้” เธอมองเด็กหนุ่มตัวสูงที่ให้แก้วกล้วยปั่นเป็นจุดยึดสายตาก่อนจะกลืนความประหม่าลงคอ

“ถ้าอยากชินไว ๆ เท็นก็ลองเข้าไปดูในเว็บโรงเรียนสิ ในนั้นมีแต่คนชมเท็นเยอะแยะเลย”

เด็กหนุ่มไม่ได้บอกว่าเขาทำอย่างนั้นทุกวันสักร้อยครั้งได้ ระหว่างนั้นก็ภาวนาว่าขอให้ใครสักคนพูดว่าเขามีดีกว่าไอ้ธีร์ร้อยเท่าพันเท่า หรือพูดอะไรก็ได้เพื่อปลอบใจตัวเองอย่างคนขี้แพ้

แต่พอถึงตอนนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่าบลูกำลังคิดอะไรอยู่?

แค่แวะมาคุยด้วยเฉย ๆ เพราะอยากเป็นมิตรกับแฟนเพื่อน หรือมีเหตุผลบางอย่างเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยเข้าหาเขาเพราะหวังอะไร?

“ที่บอกว่าชมน่ะ นั่นรวมถึงบลูด้วยไหม?”

“...”

หากอีกฝ่ายตอบทันทีคงรู้สึกดีกว่านี้ อย่างน้อยเท็นก็จะได้โกรธตัวเองที่งี่เง่าพาลไม่ถูกใจแฟนเพื่อนอย่างไร้เหตุผล แต่การที่อีกฝ่ายนิ่งงันไปและมองเขาด้วยสายตาแอบแฝงอะไร นั่นหมายความว่าเธอมีความลังเลไม่แน่ใจซ่อนอยู่

“บลู”

หยดน้ำบนแก้วน้ำปั่นไหลลงโต๊ะ ขณะมือแกร่งค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากระทั่งแตะเข้ากับนิ้วก้อยของเด็กสาว ชั่วเสี้ยววินาหนึ่งจิตใต้สำนึกด้านดีมันบอกว่าถ้าอีกฝ่ายละมือออกแล้วเดินหนีไปก็คงดี เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะได้รู้สึกผิดอย่างเต็มที่และมองผู้หญิงคนนี้เสียใหม่

สัมผัสจากปลายนิ้วเบาบางแต่เขาเชื่อว่ามันกำลังทำให้หัวใจใครอีกคนสั่นได้ สังเกตจากสีหน้าและมือที่ยังวางอยู่จุดเดิมไม่ชักกลับไป

“ถ้าไม่ใช่ให้ส่ายหน้า แต่ถ้าใช่... ช่วยพยักหน้าบอกเราได้ไหม?”

ผู้หญิงที่ไอ้แจ็คบอกว่าน่ารักจากหัวใจมากกว่าหน้าตานั้นจะซื่อสัตย์กับมันสักแค่ไหน เขาจะได้รู้จากคำตอบนี้

“...”

ให้ตาย เจ้าหญิงของไอ้แจ็คกำลังพยักหน้าเป็นคำตอบว่ะ



*


“เท็น!!!”

“อะไร?!!!”

“มึงช่วยจับหมากับแมวมึงไปขังหน่อยได้ไหม ไม่ก็โยนลงหม้อมาม่าไปเลย!!!”

เสียงตะโกนจากด้านนอกทำคนในครัวหลุดขำอย่างห้ามไม่อยู่ ก็จะอะไรอีก มีคนแพ้สัตว์อยู่ข้างนอกนั่น ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังแกะแพ็คหมูสับสำเร็จรูป ซึ่งพอเดินออกไปก็พบภาพชวนหัวเราะให้ลั่นโลก ก็ไอ้คนที่เคยหน้านิ่งกำลังจะตายเพราะถูกเจ้าขนทองจู่โจมฟัดเลียหน้าพร้อมกระดิกหางไม่หยุดนั่นแหละ

“พี่ซันถอยออกมาเร็ว อย่าไปยุ่งกับคนกระจอก”

“โฮ่ง!!! แฮะ ๆๆๆๆๆ”

“...”

สุดท้ายไอ้แจ็คก็พ่ายแพ้ให้ความขี้ตื๊อของเจ้าขนสีทอง จึงนั่งนิ่งปล่อยให้หมาปีนป่ายคลอเคลียตามอำเภอใจ จะไม่ให้ขำได้อย่างไร ก็ผมเผ้าที่มันเกล้าไว้หลุดลุ่ยออกมาราวกับคนเพิ่งถูกปู้ยี้ปู้ยำมาไม่มีผิด

“ตอนแรกเห่ากูแทบคอแหก แล้วตอนนี้เสือกมาหลงรักอะไร?” แจ็คมองเจ้าหมาโกลเด้นตัวโตที่มองเขาตาแป๋ว ผิดกับตอนแรกที่เจ้าของบ้านมันเปิดประตูให้แล้วก็ทำท่าขู่เหมือนเห็นเขาเป็นโจรอย่างไรอย่างนั้น

“มันก็ต้องเช็กก่อนว่ามึงเป็นคนดีไหม” เท็นยืนกอดอกพิงกับผนังมองภาพตรงหน้า รู้สึกสะใจแปลก ๆ คนที่มาดนิ่งอย่างมันหลุดได้เพราะถูกหมาอ้อนหรอกเหรอ?

“เช็กเจ้านายมันก่อนเลยคนแรก”

“กูเป็นคนดีนะ อย่างน้อยก็กับสองตัวนั้น”

“ช่วยมาเอามันออกไปก่อนเถอะ หรือกูต้องไหว้ก่อน?”

เจ้าของบ้านไหวไหล่กับคำพูดประชดประชันแล้วเดินหายไปในครัวก่อนจะเดินกลับมาพร้อมขนมชิ้นเล็ก ๆ หนึ่งกำมือ เท็นกระดิกนิ้วชี้ให้ไอ้คนหน้านิ่งแบมือออก ซึ่งมันก็จ้องหน้าอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะยอมทำตาม

“ไม่ได้ให้มึงนะ อย่าแดกล่ะ”

“เออ กูดูออกว่าไอ้รูปทรงกระดูกนี่มีไว้ให้หมา”

“บอกไว้เผื่อโง่”

“และการบอกกูก็ไม่ได้ทำให้มึงฉลาดขึ้น”

คนได้ปั่นอมยิ้มชอบใจ เขาเห็นว่าไอ้แจ็คเลิกคิ้วพร้อมย้ำของในมือว่าจะให้ทำอะไร เขาจึงหยิบกำใหญ่มาไว้กับตัวแล้วให้อีกฝ่ายแบ่งเป็นสองส่วนกำไว้ ข้างซ้ายมีน้อยกว่า และข้างขวามีมากกว่า

“เคยเห็นในเน็ตที่เขาแกล้งหมาเปล่า?”

“ไม่เคย”

“เน็ตน่าจะเข้าถึงบางใหญ่แล้วนะ นี่มึงหลุดมาจากยุคหินเหรอแจ็ค?”

“กูไม่เคยเห็นแล้วกูผิดตรงไหน มึงรู้ก็เล่ามาสิไอ้ฉิบหาย”

“เอ้า?” คนถูกเขกกะโหลกถึงกับเลิกคิ้วมองงง ๆ มันไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตที่อีกฝ่ายทำแบบนี้ และเท็นเคยคิดว่าครั้งสุดท้ายมันผ่านไปนานมากแล้ว

“ก็แค่สลับมือไปมาให้หมางง อย่างนี้ แล้วก็อย่างนี้ หลังจากนั้นก็ให้มันเลือกว่าจะเอาข้างไหน” พี่ซันจ้องมือพ่ออย่างตั้งใจ

“หมามึงฉลาดขนาดยกขาหน้าขึ้นได้ด้วยหรือไง มันน่าจะดมก่อน”

“อยากรู้ก็ลองทำสิไอ้ควาย พี่ซันฉลาดกว่ามึงอีก อย่างน้อยมันก็จีบหมาข้างบ้านเป็น”

“ปากหมา”

“กูกัดแล้วติดเชื้อนะ ลองไหม?” แจ็คชำเลืองมองไอ้คนพูดมากที่ขบฟันบนล่างเสียง กั่ก ๆๆๆ จนน่าหมั่นไส้ กวนตีนเก่งกว่าใครในโลกแล้วไอ้เวรนี่

ไอ้ขนทองเงยหน้าขึ้นมองตาแป๋วเหมือนอยากถามว่าพ่อมันจะเล่นอะไรอีกแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยกขาหน้าขึ้นวางลงบนมือข้างซ้ายซึ่งพอไอ้เท็นแบมือออกก็พบว่ามีขนมเพียงชิ้นเดียว พี่ซันของพ่อมันไม่รู้ว่าโดนหลอกเข้าให้แล้ว ไอ้ขนทองงับแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนฝันจะสลายเมื่อไอ้เท็นแบมือขวาออกมาเพื่อโชว์ให้เห็นว่ามีขนมกระดูกหมาอีกสี่-ห้าชิ้นอยู่

“บาปไหมแกล้งหมา?”

“มึงลองดู”

“ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?” ไอ้แจ็คถอนหายใจหนัก ๆ ดูท่าจะไม่ถูกกับสัตว์เลี้ยงซึ่งเขาไม่เคยรู้มาก่อน

“ฆ่าเวลาไง เล่นกับพี่ซันแค่เดี๋ยวเดียวมาม่าก็เสร็จพอดี”

“มึงเอาไอ้นี่ออกไปด้วย เมื่อกี้กูลูบนิดเดียวแว้งมากัดเฉย ประสาทแดกเหมือนเจ้านายมันไม่มีผิด”

“มันกัดแค่คนกาก ๆ อะ”

“งั้นมึงก็คงถูกกัดทุกวัน ไหน ขอดูแผลหน่อย รอยสักนั่นก็มีไว้กลบรอยแผลเป็นจากแมวล่ะสิ?”

เท็นต้องพยายามกลั้นขำเอาไว้เพราะถ้าเขาหลุดออกมาเมื่อไหร่ไอ้แจ็คคงได้เป็นฝ่ายชนะแน่ เขาไม่อยากแพ้ ไม่อยากเสียฟอร์ม แล้วก็ไม่อยากยอมรับด้วยว่าบรรยากาศตอนนี้มันดีที่สุดในรอบปีแล้ว

“แมวก็งี้แหละ พอมึงสนใจมัน มันจะไม่สนใจมึง”

“นิสัยเดียวกับพ่อมันเปี๊ยบ แมวเปรต”

“เรียกดี ๆ หน่อย มันเป็นผู้หญิง”

“ตัวเมียก็พอมั้ง อยู่ ๆ ก็นึกอยากเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาเหรอ เอาลูกมึงออกไปได้แล้ว” แจ็คขยับตัวพร้อมพึมพำ ‘ชิ่ว ๆ’ ใส่ไอ้ก้อนขนงี่เง่าที่นอนเบียดขาเขาราวกับสนิทกันมาแต่ชาติปางก่อน

“มันชอบมึงนะรู้เปล่า ปกติกูอุ้มหน่อยก็กางเล็บใส่แล้ว”

“แบบนี้เรียกว่าเลี้ยงเสียข้าวสุก เอาไปปล่อยวัดเลยสิ”

“ก็แย่ละ นั่นลูกกู”

แจ็คไม่ได้โต้ตอบกลับไปเพราะนึกเอ็นดูคำว่า ‘ลูกกู’ ถ้าคำนี้หลุดออกมาจากไอ้มัธยมคนนั้นเขาคงอดไม่ได้ที่จะยีผมจนกว่าจะหายมันเขี้ยว แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เขาทำได้แค่ขำในใจแล้วให้สีหน้านิ่งเฉยกลบทุกอย่าง





(ต่อด้านล่างนะคะ)




หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 15-12-2018 20:38:41
(ต่อจากด้านบนค่ะ)




“เดี๋ยวกูไปทำเองดีกว่า”

“อะไร ไม่ไว้ใจกูเหรอ?”

“อย่าถามเรื่องที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว มึงมีเทปสีขาวไหม ไอ้ที่ข้างนึงด้าน ๆ”

“มี จะเอาไปทำอะไร?” เท็นอุ้มอีมูนเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปในครัว ก่อนมันจะหันมาบอกให้รู้ทางคำพูดว่าการโต้ตอบแบบกวนตีนคงต้องหยุดเพียงเท่านี้

“เอามาเขียนติดข้างขวดให้ว่าอันไหนเกลือ อันไหนน้ำตาล”

“ไอ้...”

“ออกไปรอข้างนอกไป กูขอห้านาที”

เบื่อไอ้แจ็คว่ะ เป็นห่าอะไรชอบพูดให้คนอื่นสตันท์อยู่เรื่อย โดนหมายำจนสมองกลับเหรอ หงุดหงิดจริง ๆ

ขายาวก้าวกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมโยนแมวผีลงบนโซฟาและมันก็แสดงให้เห็นคาตาตรงนั้นเลยว่าไม่มีความอาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่

“ก็สมควรแล้วที่ถูกไอ้แจ็คเรียกอย่างนั้น ก็หนูเล่นทำตัวไม่น่ารักแบบนี้ไง...” เขาชี้หน้าคาดโทษนังตัวแสบที่ปรายตามองดูถูกราวกับจะบอกว่า

‘แร้วงัย กุไม่แคร์จ้า’

แล้วฉายเดี่ยวในครัวบ้านคนอื่นน่ะรู้เหรอว่าอะไรวางอยู่ไหน อยากเข้าไปเสือกแต่ก็กลัวถูกเข้าใจผิดว่ากำลังหาทางเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งมันไม่ใช่เลย เขาก็แค่ไม่อยากให้ครัวเละเทะเพราะความไม่รู้ของคน

แจ็คใช้เวลาหาอุปกรณ์ทำครัวอยู่เพียงครู่เดียวก็ได้ทุกอย่างครบ น่าแปลกไม่น้อยที่เปิดตู้เย็นแล้วพบวัตถุดิบสดใหม่เยอะแยะเต็มไปหมด แถมเวลาหมดอายุก็ยังเหลืออีกตั้งหลายวันซึ่งคาดว่าไอ้เท็นคงเพิ่งซื้อได้ไม่นาน หัดเข้าครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่านี่จะเป็นความรู้ใหม่ที่เขาควรรู้?

แต่ถุงพลาสติกใหม่ที่ถูกขยำยัดใส่ซอกเล็ก ๆ ข้างตู้เย็นก็ฟ้องว่าของในตู้เย็นเพิ่งถูกซื้อมาและมันอาจจะเป็นฉากบังหน้าในการต้มมาม่าครั้งนี้ ทั้งที่มีแค่มาม่าสักสอง-สามซองก็ได้ แต่ไอ้เท็นออกไปซื้อของมายัดใส่ตู้เย็น

เห็นแล้วก็ขำ แต่ถ้าเอาไปล้อก็เกรงว่าจะมีคนปากดีกลบเกลื่อน เพราะงั้นไม่เอาดีกว่า

ต้มมาม่าใส่หมูกับผักเรียบร้อยก็เทใส่ถ้วยชาม ชายหนุ่มไม่ได้ใส่เครื่องปรุงเข้าไปเพียงเพราะนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายชอบกินแบบไหน แจ็คเหลือบไปทางหลอดนมข้นที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากมือมากนัก ระหว่างนั้นภาพของเด็กผู้ชายหน้าตาซื่อบื้อ ๆ ที่ยิ้มได้เพราะได้กินมาม่าใส่นมข้นก็ลอยเข้ามาในความคิด

“...”

แจ็คหยิบหลอดนมข้นขึ้นมาดูใกล้ ๆ ก่อนจะหันไปด้านหลังเพื่อเช็กว่าใครอีกคนกำลังมองอยู่หรือไม่ มันจะดีไหมถ้าเขาแสดงออกว่ายังจำได้ ถ้าทำอย่างนั้นมันจะสร้างความอึดอัดให้ทั้งคู่มากกว่าจะเป็นความผ่อนคลายหรือเปล่า?

RRRRrrrrr!!!!

เสียงโทรเข้าเรียกสติให้หลุดจากความคิด เขาควรปรับสีหน้าให้เป็นปกติเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากถูกถามว่าเป็นบ้าอะไรไป

“แจ็ค แม่มึงโทรมา!!!”

“แม่เหรอ งั้นมึงรับได้เลย บอกว่ากูยังอยู่บ้านมึง!!!”

“เออได้!!!”

แจ็คดึงยางมัดผมออกแล้วเสยผมค้างไว้กลางศีรษะ ขายาวถอยชิดกับเคาน์เตอร์ด้านหลังพลางเงยหน้าขึ้นหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่ภาพความสนิทสนมของเด็กชายทั้งสองคนยังคงวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน


‘กินอะไรพิเรนทร์ ๆ เดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก’
‘ใส่นมข้นแล้วอร่อยนะเว้ย ลองสักคำแล้วจะติดใจ’
‘ไม่ล่ะ ของกูเทพกว่าเยอะ จัดหนักใส่ไข่พร้อมบีบมะนาว’
‘ถุย ๆๆๆ’
‘เชี่ยเท็น น้ำลายมึงเข้าชามกูหมดแล้ว!!!’
‘55555555555555555555’



“ครับแม่?” เท็นกดรีโมทเบาเสียงทีวีลง เพิ่งรู้ว่าอายุก็ขนาดนี้แล้วยังโทรเช็กลูกชายด้วย น่ารักเอาเรื่อง

( มึงกลับยังวะพี่? )

“นี่ใคร?” เขาขมวดคิ้วแล้วละโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์อีกครั้ง ก็เมมไว้ว่าแม่นี่หว่า หรือไอ้แจ็คมันเมมเบอร์ไอ้ธีร์ไว้แบบนี้?

( ลูกชายสุดที่รักเองจ้า แหม่... ทำจำเสียงน้องไม่ได้น้า อยู่ไหนแล้วเอ่ย กูอุตส่าห์แวะมาหาถึงบ้าน แบตก็หมดเลยยืมโทรศัพท์แม่มึงโทรหาเนี่ย )

“...”

( อะไรยังไง แม่เล่าให้ฟังว่ามึงบอกจะเอาผ้าห่มไปส่งบ้านพี่เท็น มีความรีบยัดใส่ถุงจนแม่งง มันอะไรขนาดนั้นวะเพิ่งซักเสร็จปะได้ข่าว เกิดอะไรขึ้นไหนบอกน้อง ลูกค้ากิตติมศักดิ์เกิดอยากได้ของทันทีงี้เลยต้องวิ่งแจ้นไปส่งเหรอ เป็นกู ๆ ด่านะบอกเลย กลางค่ำกลางคืน เอ๊... )


‘แม่ให้โทรมาถามเพราะกลัวมึงไม่มีผ้าห่มนอน’


( เอ้าเงียบ เป็นไรปะเนี่ย ขับรถอยู่เหรอ? )

“อืม”

( อ้าว แล้วไม่บอก เค ๆ ไว้คุยกัน เดี๋ยวกูเปิดคอมเล่นเกมรอ พาสเวิร์ดเดิมเนาะ? )

“อืม”

( นิ่งงี้อารมณ์บ่จอยแน่นอน มาถึงต้องเล่าเว้ยพี่มึง เรื่องนี้ต้องขยายระบายมันออกมา เดี๋ยวน้องจะรับฟังแล้วเอาไปส่อให้ทิดพี่ธีร์ฟังทุกหยดทุกเม็ด )

เขากดตัดสายเพราะไม่มีสติมากพอที่จะฟังต่อแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไอ้แจ็คควรมาที่นี่เพราะแม่ฝากผ้าห่มมาให้เพราะความเป็นห่วงสิ แล้วไอ้คนที่รีบยัดผ้านวมใส่ถุงโดยไม่มีใครสั่งนั่นน่ะ...

เพราะอะไร เหตุผลไหนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ แล้วไอ้หัวใจนี่ก็เต้นเบาลงหน่อยได้ไหม?

“แม่ว่าไง?”

เท็นรีบวางโทรศัพท์ลงพร้อมท่าทีมีพิรุธ เขาพยายามทำให้ดูปกติที่สุดแล้วแต่สีหน้าไอ้เวรนั่นก็แปลกจนไม่รู้ว่าใครจะชนะถ้าหากมีรางวัลให้ความประหลาดในตอนนี้

“แม่แค่ถามว่าจะกลับตอนไหนเฉย ๆ”

“อ๋อ” ชามมาม่าถูกวางลงบนโต๊ะกระจกเขาจึงลงไปนั่งบนพื้น พอได้แล้ว ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปเหตุผลก็คงไม่เกินเรื่องแพรวที่มันอยากมาเคลียร์ถึงที่โดยมีเรื่องผ้านวมเป็นข้ออ้าง

แจ็คดันตะเกียบกับช้อนให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและไอ้เท็นก็รับไว้ก่อนจะมองหาบางอย่าง ซึ่งคงเป็นเครื่องปรุงคู่ใจที่ไม่ได้เอามาด้วย เขามองท่าทีอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นระหว่างถามตนเองว่าจะเอาอย่างไร

กับเรื่องที่ยังจำได้มันแย่ตรงไหน อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดี ๆ ไม่ใช่หรือ?

“เดี๋ยว”

เจ้าของผมสีเทาชะงักในท่ากำลังจะลุกขึ้นก่อนจะลดระดับสายตาลงมองมืออีกคนที่คว้าแขนเขาเอาไว้ ไอ้แจ็คเป็นบ้าอะไร ช่วยทำหน้าให้มันปกติกว่านี้ได้ไหม เขาจะได้คล้อยตามจนลืมเรื่องบ้า ๆ ในหัวไปเสียที

“นมข้นใช่ไหม?”

“...”


ไอ้แจ็คคงบ้าไปแล้ว และเขาเองก็เช่นกัน


มันก็แค่คำถามธรรมดาที่ถ้าพยักหน้าเรื่องก็จบ แต่เท็นกลับนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนว่าร่างกายมันถูกสาปและเสียงที่เคยพูดจากวนประสาทได้ถูกกลืนหายไป

‘ยังจำได้เหรอ?’ เด็กนักเรียนคนนั้นมันตะโกนถามสุดเสียงอยู่ในใจขณะสบตากับอีกฝ่ายท่ามกลางความเงียบในห้องนั่งเล่นแห่งนี้

“ลืมน้ำตาลพอดี เดี๋ยวหยิบมาให้ด้วย”

“เออดี กูขี้เกียจลุก”

เสียงตึกตัก ๆ ดังเหมือนคนมาตีกลองอยู่ข้างหู เท็นกำตะเกียบกับช้อนแน่นพลางหลับตาลงเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกคนเดินเข้าไปในครัวแล้ว

มีสติหน่อย... ก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าไอ้แจ็คความจำดี มันไม่ได้จำได้แค่เรื่องนี้หรอก เรื่องที่เขาเคยทำแย่ ๆ มันก็จำได้ เพราะงั้นอย่าดีใจเกินไปหน่อยเลย

แต่ถ้าดีใจไปแล้วล่ะ แบบนั้นค่อยไปลงโทษตัวเองทีหลังได้ไหม?

ให้ตาย... ต้องแกล้งทำเป็นไม่อร่อยทั้งที่รู้ว่ารสชาติมันดีแค่ไหนสินะ?





TBC





หวีดให้สุดเสียงเพื่อกระตุ้นหนูให้รีบเขียนตอนต่อไปออกมา!!!!!!!!!!!!!!!

#ร้องอัดโอ่งมังกรด้วยเสียงอีมูน









หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 15-12-2018 22:39:16
โอ้ยยย เมื่อไหร่จะได้กัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-12-2018 22:48:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 16-12-2018 00:57:11
หน่องมูนนนนนนน หน่องมูนกรี๊ดนี่ต้องเสียงยังไงนะ  :z3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 16-12-2018 02:16:31
ขอค้างเลยแจ็ค
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 16-12-2018 02:47:46
ที่รักกกกกกกกกกกกมาให้กอดทีคุณทำให้เราดีใจจนเป็นบ้าพี่แจ็คเอ็นดูลูกๆน้องเท็นด้วยนะคะอย่าลืมรักพ่อของน้องๆมากด้วยเขินมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 16-12-2018 08:06:36
เหตุผลที่พี่แจ็คแตกกับน้องเท็นเพราะว่าเท็นลองใจบลูสินะ​ แล้วบลูก็เล่นด้วย​ ไม่มีเจตนาจะแย่ง
ฮือออออออ​ ไม่อยากจะอ่านถึงตอนนั้นเลยย​ กลัวร้อง​ น้องเท็นรักพี่แจ็คขนาดนั้นอ่ะ​ ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนี้​ อะไรคือการรีบยัดผ้านวมคะคุณพี่​ อยากมาเจอเค้าหรอออ​ แน่ะๆ​ อยากอ่านตอนได้กังเร็วๆ​ แค่จุ๊บก็ได้ค่าาา​ นข.ไม่ได้บอกโพ  แต่มันก็ชัดมานานแร้วนะคะว่าแจ็คเท็นนนนนนน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 16-12-2018 08:35:36
เขินแทนเท็นอ่าาา คนซึนคุยกัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 16-12-2018 11:24:46
จะปรับเข้าหากันได้ไหมน๊า :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 16-12-2018 15:28:59
พี่ซัน อิมูน

จิมีพ่อเพิ่มอีกคน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 11 ▲เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่▲ #ญอผู้หญิงโศกา (15/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-12-2018 20:36:36
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน11 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 17-12-2018 17:56:46



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 12 (PART 1/2)
สาเหตุของความหวังดี


“ช่วงนี้เป็นไงบ้าง ดีกับแจ็คหรือยัง?”

เป็นอีกครั้งที่เจอคำถามเดิม ๆ บนโต๊ะอาหารยามเช้า เด็กหนุ่มละสายตาจากถ้วยโจ๊กมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนเป็นแม่ พร้อมบอกตัวเองว่าควรหาคำตอบดี ๆ มาจบเรื่องนี้ถ้าไม่อยากหัวเสียเพราะถูกขยี้ว่าเขากับไอ้แจ็คยังคงห่างเหินกันเหมือนเดิม

“อือ ดีแล้ว”

“เห็นไหม พอลูกลงมือทำอะไรมันก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแบบนี้แหละ” เธอว่าพร้อมเท้าคางมองลูกชายอย่างพอใจ “คืนนี้ไปค้างกับเพื่อนเลยสิ นอนคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจะได้เข้าใจกันมากขึ้น”

“ทำไมแม่ต้องบอกให้เท็นไปนอนบ้านเพื่อนตลอดเลยอะ คิดว่าทำแบบนั้นแล้วจะแน่นแฟ้นกันมากขึ้นหรือไง?”

เด็กหนุ่มชักสีหน้าแสดงความหัวเสียออกไปโดยไม่ตั้งใจจนอีกฝ่ายชะงัก ท่ามกลางความเงียบซึ่งมีเพียงแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ละแวกนั้น เขาวางช้อนลงพลางเบือนสายตาไปอีกทางเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าสวยหายไป

“เท็นหมายถึงนอนไหนก็เหมือนกันเพราะเท็นกับมันโอเคกันแล้ว”

“อ่า นั่นสินะ แม่คงยัดเยียดเท็นเกินไป”

เธอยิ้มเจื่อน และตอนนี้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เข้าสู่ความเงียบ เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาหวิวระหว่างคนโจ๊กในถ้วย สุดท้ายมื้อเช้าก็กลายเป็นหมันเพราะปากเขาอิ่มความหงุดหงิดไปแล้ว

“ไปแล้วนะครับ”

“ตั้งใจเรียนนะลูก”

ความรู้สึกผิดตีขึ้นมาจากท้องจนถึงคอ เขาทำตัวไม่ดีใส่แม่อีกแล้วแต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะเก็บอาการไว้ใต้สีหน้า เด็กหนุ่มคว้ากระเป๋าแล้วออกไปเปิดประตูตู้รองเท้า และมันก็เหมือนทุกครั้งที่เขาต้องเหลือบมองหารองเท้าหนังราคาแพงของพ่อที่เคยเรียงอย่างสวยงามอยู่ฝั่งด้านซ้าย

ที่ตรงนั้นมันว่างเปล่าไปนานเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้รองเท้าหนังเหล่านั้นคงวางเรียงอยู่บนชั้นราคาแพงในบ้านหลังใหม่ ซึ่งช่องถัดไปก็คงเป็นรองเท้าส้นสูงของหญิงสาววัยยี่สิบปลาย ๆ หรือวัยเลขสามต้น ๆ ที่ทั้งสวย หุ่นดี ไม่ใช่ผู้หญิงเริ่มมีอายุแบบที่แม่เขาเป็น

เท็นเลือกที่จะปิดหูปิดตา เพิกเฉยต่อความใส่ใจที่ผู้ชายคนนั้นพยายามมอบให้ในฐานะพ่อมาตลอด

เจ็บใจแทนแม่งั้นหรือ?

ใช่ คนเห็นแก่ตัวที่ทิ้งลูกเมียไปเพราะนอกใจมันน่ารังเกียจแค่ไหนคงไม่ต้องพูดถึง แม่ต้องเสียใจ ต้องร้องไห้เพราะสิ่งที่พ่อทำไว้เท่าไหร่ ให้อภัยได้ก็เก่งแล้ว

แม้จะคิดถึงวันเก่า ๆ แต่เท็นก็ต้องปิดประตูตู้รองเท้าแล้วฝังความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ ก่อนหน้านี้เคยปล่อยวางกับเรื่องนี้ได้เพราะมีไอ้แจ็คเป็นจุดยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ตอนนี้เขาแทบไม่หลงเหลืออะไรแล้วนอกจากสังคมเพื่อนออนไลน์ที่คบกันเพียงเผิน ๆ

ทุกอย่างในชีวิตตอนนี้ช่างล่องลอย เบาหวิว จับต้องอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว



*


“แน่นมาก”

“กินเท่าแมวดมยังกล้าบอกว่าแน่น”

“กระเพาะกูเล็ก กินไปนิดเดียวก็อิ่ม แต่อีกชั่วโมงนึงกูจะหิวอีก”

“รอบนี้ทำแดกเองนะ กูขี้เกียจแล้ว”

คนฟังชะงักกับประโยคที่เหมือนจะบอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าไอ้แจ็คก็ยังคงอยู่ที่นี่แทนที่จะกลับบ้านทันทีที่หมดธุระแล้ว

“ทำให้หน่อยสิวะ มาม่าก็บ้านกู ไหนจะสามร้อยที่ให้ฟรีไปอีก”

“ทวงบุญคุณเหรอ ฝีมือระดับนี้ใช่ว่าอยากแดกแล้วจะสั่งได้นะ ต้องจ่ายเงินก่อน”

“มึงกลายเป็นคนหน้าเลือดตั้งแต่เมื่อไหร่? ห่าเอ๊ย จะเอาแค่ไหนมึงว่ามาเลย มาม่าถ้วยละห้าร้อยกูก็จ่ายได้นะถ้ามันทำให้มึงหุบปากได้” ไอ้ลิงหัวเทายกเท้าขึ้นทำท่าถีบอากาศ และเขาก็ทำตามก่อนจะยันเท้ามันจนตอนนี้กลายเป็นสงครามปัญญาอ่อนที่ไม่มีใครยอมหยุดก่อน

ปกติเคยเล่นแบบนี้ที่ไหน แม้แต่ไอ้แหลมที่เคยทำตัวร่างกายต้องการเบตาดีนตลอดเวลาก็ยังทำให้เขาเล่นแบบนี้ด้วยไม่ได้ จนถึงตอนนี้ความย้อนแย้งก็ยังคงลอยวนอยู่ในความรู้สึก แต่เบื้องลึกใต้สุดของหัวใจมันบอกให้แสดงออกไปตามที่ต้องการบ้าง

แค่เล่นหยอกล้อเหมือนที่เคยคุ้นชินคงไม่เสียหายอะไรนัก ตราบใดที่ปากยังหนักไม่ยอมรับว่ายิ่งคุยกันเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากปรับความเข้าใจให้ทุกเรื่องคลี่คลายก็ตาม

ปัญหาในอดีตมันหนักหนาก็จริง แต่แจ็คก็ไม่อยากเอาเรื่องนั้นมาผลักไสความรู้สึกดี ๆ ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากตายไปเมื่อตอนนั้น ถึงปากจะบอกว่าพอใจกับครอบครัวขี้ซุยบราเทอร์แล้ว แต่ลึก ๆ มันก็ยังคิดถึงเพื่อนสนิทในวัยเด็กอยู่เสมอ


‘บางทีมึงก็เก็บความรู้สึกเก่งจนกูเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร’
‘...’
‘แต่กูก็เข้าใจ เรื่องบางเรื่องมันก็ควรมีชีวิตอยู่ในใจมากกว่าออกมาวิ่งเพ่นพ่านข้างนอกน่ะนะ’


ครั้งหนึ่งไอ้ธีร์เคยพูดแบบนี้ และเขาไม่รู้สึกผิดที่ไม่ได้เล่าให้เพื่อนทุกอย่าง มันจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูด ไอ้เท็นควรอยู่แค่ตรงนั้น หลับอยู่ในความทรงจำของเขาไปจนกว่ามันจะลุกขึ้นมาตะโกนบอกว่าอยากออกไปมีชีวิตข้างนอก


‘ทั้งรักทั้งเกลียดใช่ไหม?’


แจ็คจำได้ว่าเงียบไปหลังจากได้ยินคำถามของพี่ตั้บ ทุกอย่างมันสดใหม่จนตั้งรับไม่ทัน ตอนนั้นสมองมันโล่ง ร่างกายชาไปทั้งตัว และหัวใจมันทำงานช้าลงราวกับว่าเด็กผู้ชายผมสกินเฮดคนนั้นกำลังจะตายในอีกไม่ช้า

‘เกลียดเหรอ?’

เขาหัวเราะให้กับความระยำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วงเวลานั้น อาจจะครู่หนึ่งที่แจ็คย้ำถามกับตัวเองว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมันคือความจริงหรือแค่การฝันระยะยาวที่ไม่มีจุดสิ้นสุด

‘ไม่พี่... ผมไม่เคยเกลียดมันเลย’



*


“เท็น”

“...?” เจ้าของชื่อหันไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนทำหน้าอิดโรยอยู่ข้างตัวในเวลายืนเรียงหน้ากระดานเข้าแถวตอนเช้า

“หันหลังแป๊บนึงดิ”

“อะไรวะ?”

“น่า”

“...”

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร แต่เท็นก็ทำตามอย่างว่าง่ายจนเพื่อนที่ยืนอยู่ทางฝั่งขวาถึงกับเลิกคิ้วมองว่าเขาเป็นบ้าอะไรถึงได้หันหน้ามาทางนี้

ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นที่สงสัย อยู่ ๆ ศีรษะอีกคนก็ซบตรงท้ายทอยเขาพร้อมทิ้งน้ำหนักตัวลงมาจนรับรู้ได้ถึงความเหนื่อยล้า เท็นยืนนิ่ง หน้าผากไอ้แจ็คร้อนจนผิดปกติของอุณหภูมิร่างกายมนุษย์จึงหันไปถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่สบายเหรอวะ?”

“นิดหน่อย”

“ไปนอนห้องพยาบาลไหม เดี๋ยวกูพาไป”

อีกฝ่ายส่ายศีรษะปฏิเสธโดยที่ยังซบอยู่เหมือนเดิมไม่เคลื่อนไหว และที่ทำให้เด็กหนุ่มตัวสูงยืนตัวแข็งทื่อจนแทบไม่กล้าหายใจก็คือการที่อีกฝ่ายเอื้อมมือขึ้นมาวางบนไหล่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกอดรอบคอเพื่อยึดตัวเขาไว้เป็นหลัก

“...”

“ขอโทษนะ” ไอ้แจ็คพูดคำนี้โดยไม่มีต้นสายปลายเหตุอีกแล้ว แต่ก็เป็นเหมือนทุกครั้งที่เท็นรับมันไว้เหมือนว่าคำขอโทษเป็นยาแก้ปวดที่ทุเลาความเศร้าซึมในใจตอนนี้ไว้ได้

“ทำเหี้ยไรกันวะ เล่นหนังเกย์เหรอ?”

“เกย์พ่อง...” เขาพูดเบา ๆ เพราะกลัวเพื่อนตื่น เท็นไม่คิดว่าไอ้แจ็คจะหลับลงได้ระหว่างยืนเข้าแถวยามเช้า แต่การที่เขาเริ่มเซเพราะน้ำหนักตัวที่อีกฝ่ายทิ้งมาก็เป็นคำตอบได้แล้วว่าแม่งหลับได้จริง

เด็กหนุ่มเอื้อมไปจับศีรษะกลม ๆ ของเพื่อนเพื่อยึดไว้ ท่ามกลางเสียงพูดออกไมค์ของอาจารย์นั้นเขาได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจที่มันผิดปกติแต่ก็ไม่กล้าถามตนเองว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

ตกเที่ยงไอ้แจ็คบอกจะอยู่กินขนมปังในห้องเพราะยังเคลียร์รายงานไม่เสร็จ ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากรบเร้าจึงไปกินข้าวกับไอ้นายสองคน และโชคดีเหลือเกินที่ไอ้ธีร์ไม่ได้ไปด้วยเพราะมันมัวแต่หลีสาว ไม่อย่างนั้นมื้อเที่ยงคงจืดชืดเพียงเพราะเงยหน้าขึ้นมองมัน

เป็นครั้งแรกที่เท็นกินข้าวเที่ยงเร็วที่สุดจนไอ้นายทักว่าจะรีบไปไหน ขายาวของเด็กหนุ่มตัวสูงรีบวิ่งไปซื้อน้ำกับแซนวิชก่อนจะขอยาแก้ปวดที่ห้องพยาบาล ถึงจะป่วยอยู่แต่ขนมปังมื้อเที่ยงนั่นจะอยู่ท้องคนกระเพาะควายสักแค่ไหน จะตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสืออย่างไรท้องก็ควรอิ่มก่อน

แค่คิดว่าเพื่อนต้องยิ้มเมื่อเห็นว่ามีอะไรในมือเขาก็มีความสุขแล้ว และตอนนี้มือเท็นว่างพอที่จะจดทุกสิ่งทุกอย่างในโลกได้ขอแค่ไอ้แจ็คอ้าปากขอความช่วยเหลือ ถ้าลำบากก็แค่บอก มันก็รู้ว่าเขาพร้อมจะทิ้งทุกอย่างถ้าเป็นเรื่องของมัน

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ถูกผลักตกเหวซ้ำ ๆ เพราะทันทีที่กลับไปถึงห้องก็พบว่าไอ้แจ็คนั่งกุมขมับโดยมีไอ้ธีร์วางมือลงบนไหล่พร้อมพูดอะไรสักอย่างที่เขาเองก็ไม่อาจคาดเดาได้ ‘คุยอะไรกัน?’ นั่นคือความสงสัยซึ่งไม่รู้ว่าถ้าเดินเข้าไปถามแล้วจะได้คำตอบหรือไม่

เท็นไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มันค่อนข้างชัดว่าตอนนี้ทุกคนในโลกอยากมีความลับกับเขา และคนเหล่านั้นจะตายไปพร้อม ๆ กับมันโดยที่เขาไม่มีทางรับรู้อะไรเลย

เด็กหนุ่มก้มลงมองขวดน้ำ แซนวิช และยาพาราสองเม็ดในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสองคนนั้นอีกครั้งที่ตอนนี้ไอ้ธีร์กำลังกอดคอไอ้แจ็คก่อนจะยีหัวเบา ๆ 

‘กำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่... ทำไมไอ้ธีร์ถึงมีสิทธิ์รู้ได้แต่เขากลับได้แต่ยืนอยู่กับความโง่ตรงนี้’


*



“ถ้าห้าร้อยกูต้มให้อีกรอบได้”

“มึงร้อนเงินเหรอกูถามจริง?” 

“เทียบกับอากาศประเทศไทยหรือนรกดีล่ะ?”

“กวนตีน” ไอ้ลิงหัวเทาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ทำท่ายกเท้าขึ้นอีกครั้งและเขาก็โต้ตอบให้เห็นว่าสู้

“กูจะกลับแล้วนะ”

“...”

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่แจ็คกลับไม่ได้เอื้อมไปคว้ากุญแจรถกับโทรศัพท์มือถือเพื่อบอกว่าความไร้สาระของค่ำคืนนี้สิ้นสุดลงแล้ว เขาเอาแต่จ้องหน้าสำอาง ๆ ของอีกฝ่ายที่มองมาราวกับว่าไม่อยากให้กลับอย่างไรอย่างนั้น

แจ็คไม่ใช่คนชอบคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ถ้าอีกฝ่ายคิดเหมือนกันอยู่บ้าง การนั่งคุยกันต่อไปเรื่อย ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่อยากให้เกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“เออ”


และแจ็คก็ได้รู้ว่ามีแค่เขาคนเดียวที่คิด


“ตั้งใจหลับ”

พูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเอื้อมไปคว้ากุญแจรถกับโทรศัพท์มือถือ คนเป็นเจ้าของบ้านเอื้อมไปหยิบรีโมทมากดเร่งเสียงเตรียมให้ความสนใจกับจอแก้วขนาดใหญ่ อาจจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลหรือทัวร์นาเมนท์เกม MOBA แมตช์สนุก ๆ ที่มีทีมตัวท็อประดับโลกมาเผชิญหน้ากัน ดังนั้นการมาส่งผ้าห่มที่ยาวนานจึงต้องจบลงเพียงเท่านี้

ไม่เห็นแปลกอะไรเลยสักนิด เดี๋ยววันพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืนมันก็โผล่หน้าไปกินข้าวฟรีที่บ้านอีกซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นความเคยชินในอีกไม่ช้า แต่ไอ้ความคิดที่ว่าถ้าได้คุยกันต่ออีกสักครึ่งชั่วโมงก็คงดีนี่มันอะไรกัน เริ่มจะปัญญาอ่อนเข้าไปใหญ่แล้ว

ไอ้ขนทองงี่เง่าเดินกระดิกหางมาส่งถึงหน้าบ้าน มันกระโดดขึ้นเกาะเอวเขาเหมือนไม่อยากให้กลับ ต่างจากเจ้านายมันที่ตอนนี้คงทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาห่มผ้าดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบแล้ว

ตลกที่ดีหันไปอีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะยืนมองอยู่หน้าประตูหรือไม่ แต่พอหันไปก็พบเพียงแมวผีที่นั่งจ้องอยู่ด้านในเหมือนว่านั่นเป็นการอาลัยอาวรณ์อย่างหนึ่งที่แมวหยิ่ง ๆ พึงจะแสดงออกได้

ชายหนุ่มหันหลังให้บ้านหลังนี้พลางไหวไหล่ก่อนจะถอนหายใจกับความคาดหวังบ้า ๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้น บางทีความสัมพันธ์ห่าง ๆ แบบนี้อาจจะพอดีแล้วก็ได้ ดังนั้นการเข้าถึงตัวอีกฝ่ายมากไปคงเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

“แจ็ค!!!”

“...”

ขายาวหยุดยืนอยู่กับที่ ชื่อของเขาไม่ได้ฟังแล้วมีความหวังแบบนี้มานานแล้วกระทั่งหลุดออกมาจากปากไอ้งี่เง่านั่น ชายหนุ่มผมยาวหันไปด้านหลัง ก่อนจะพบไอ้เจ้าของบ้านที่กำลังชูขวดเหล้าขึ้นมาระดับหัวไหล่

“กูเพิ่งนึกออกว่าพรุ่งนี้วันอาทิตย์ เอาสักเมาเปล่า?”



อืม... ก็แค่นั้น



(จบครึ่งแรก)


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน11 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 17-12-2018 19:20:54
ผัวขาาาาาาน้องเค้าง้อแล้ววิ่งกลับเข้าไปเลยค่าาาาาาาาาดีมากค่ะน้องเท็นทำดีที่สุดแต่อย่าหลุดความเอาแต่ใจออกมานะคะพี่ทวงแฟนพี่คืนนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน11 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 17-12-2018 20:37:15
เท็นสู้ๆน้าาาา เป็นกำลังใจให้ทุกคน ทั้งแจ็ค เท็น และคุณนักเขียนน เลิฟฟ ♥  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน11 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 17-12-2018 21:06:01
เอาใจช่วยทุกคน​ ปล่อยวางอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่กันค่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน11 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 17-12-2018 23:07:06
ดีนะแจ็คที่เดินช้า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน11 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-12-2018 00:02:05
ได้ข่าวว่าอายุก็เยอะกันแล้ว อย่ามัวเสียเวลาอ้อมโลกอยู่เลย
กรอกเหล้าเข้าปากแล้วก็เคลียร์กันซะ อะไรที่ยังค้างคา
แล้วก็เดินหน้าจีบกันจริงจัง ๆ แม่ยกลุ้นจนผมหงอกครึ่งหัวแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 18-12-2018 19:57:13
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 12
สาเหตุของความหวังดี (PART 2/2)






“เท็น กูถามจริงนะ มึงคบกับไอ้แจ็คใช่ปะวะ?”

“ห๊ะ?” ทุกสายตาหันไปทางคนหน้าตาดีที่สุดในร้านเหล้าเล็ก ๆ ซึ่งเข้าได้เพราะหนึ่งในกลุ่มเป็นญาติกับเจ้าของร้าน

เท็นเลิกคิ้วมองคนถาม ก่อนจะเรียกสติกลับมาหลังจากเสียศูนย์ไปหลายวินาที “เฮ้ย เล่าให้พวกกูฟังได้นา... ไม่มีอะไรต้องอายหรอก”

“ใช่ ทุกคนที่นี่ก็เพื่อนกันทั้งนั้น ต่อให้มึงเป็นเกย์เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

“ถึงคนอื่นจะมองมึงแปลก ๆ ก็ตาม ใช่ไหมพวกเรา?”

เพื่อนห้องอื่นเป็นเพียงคนที่เล่นเกมด้วยกันทุกวันก่อนจะแยกไปเมื่อถึงเวลาซ้อมทีม คนเหล่านี้กำลังกดดันเขาด้วยสายตาและคำพูด ซึ่งเอาเข้าจริงเท็นไม่ได้รู้สึกสนิทใจกับเพื่อนกลุ่มนี้มากถึงขนาดจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น บทสนทนาที่เกิดขึ้นก็ล้วนเป็นเรื่องเกมหรืออะไรก็ตามที่แทบหาสาระไม่ได้

มีสองสิ่งที่ทำให้เท็นอยากอยู่กลุ่มนี้ต่อไปก็คือหนึ่ง... คนเหล่านี้ไม่คิดจะทิ้งเขาไว้ข้างหลัง และสอง... พวกมันไม่ชอบไอ้ธีร์เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากใครเปิดประเด็นไอ้เวรนั่นขึ้นมา คนอื่น ๆ ก็พร้อมจะด่าตามราวกับเคียดแค้นกันมาตั้งแต่ชาติก่อน




‘กูไม่ได้พูดแบบนี้บ่อย ๆ นะเท็น แต่มึงคิดถูกแล้วเหรอที่ไปอยู่ในทีมที่เอาแต่กดขี่มึง?’
‘...’
‘ฝีมือมึงก็ไม่ใช่กาก ๆ เอาเข้าจริงกูว่าถ้า 1-1 กันยังไงไอ้ธีร์ก็แพ้ มันไม่ได้เล่นเก่งหรอก มันแค่กล้าแสดงความเป็นผู้นำแต่คนอื่นไม่’



เกลียดที่ลึก ๆ ก็คิดอย่างนั้น



‘คนอื่นเล่นแครี่เพื่อทำเกมให้อยู่เหนือกว่าทีมฝั่งตรงข้าม แต่ไอ้ธีร์เล่นเพราะอยากเด่นคนเดียว มึงคิดดู’
‘...’
‘ทั้งที่มึงก็ทำได้ดีเวลาเล่นแครี่แท้ ๆ กูว่าไอ้ธีร์มันกลัวมึงแย่งตำแหน่งก็เลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อกดดัน คือกูก็แอบไปรู้มาว่าพวกนั้นอยากเอามึงออกแต่ไม่กล้าพูดตรง ๆ เพราะเห็นว่ามึงสนิทกับไอ้แจ็ค ก็เลยกะว่าจะรอให้มึงทนไม่ไหวแล้วขอออกเอง’
‘อะไรนะ?’
‘ไม่เชื่อมึงไปถามไอ้อ๋องได้ มันก็ได้ยินเหมือนกู มึงไม่สังเกตเลยไง?’



สังเกต... ว่าคนเหล่านั้นไม่อยากให้เขาอยู่ในทีมด้วยน่ะเหรอ...?



‘ฟังกูนะเท็น อย่างที่รู้ ๆ กันว่าไอ้ธีร์มันระยำหมาแค่ไหน ทำไมเราไม่ให้บทเรียนมันหน่อยล่ะวะ?’
‘บทเรียนอะไร?’
‘ย้ายเข้าทีมพี่กูไง แล้วหลังจากนั้นมึงก็รอดูความผิดหวังของคนได้เลยว่าจะออกมามีหน้าตายังไง?’
‘...’
‘ว่าไงล่ะ?’
‘ไม่ได้ ถ้ากูทำแบบนั้นไอ้แจ็คต้องผิดหวังในตัวกูแน่’
‘มันจะผิดหวังอะไร ไอ้แจ็คต้องเข้าใจมึงอยู่แล้ว มันก็รู้ว่ามึงเจออะไรมาบ้าง แต่ถ้าเกิดมันเลือกเข้าข้างไอ้ธีร์มากกว่าจะเข้าใจมึงนี่สิน่าคิด’



ภาพเหตุการณ์ความสนิทสนมของสองคนนั้นที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันขณะที่เขาค่อย ๆ ห่างออกไปได้เข้ามาในความคิด เด็กหนุ่มรู้สึกว่าไอ้แจ็คคงไม่อยากฟังเหตุผลอะไรถ้าหากว่าตอนนี้ไอ้ธีร์คือเพื่อนคนสำคัญที่สุด



‘อีกอย่างมึงก็บอกเองไม่ใช่เหรอว่าพักนี้ไอ้แจ็คซ้อมน้อยเพราะพ่อแม่มันอยากให้เข้ามอสีชมพู คนตั้งใจเรียนตั้งใจอ่านหนังสือจะมาจริงจังอะไรกับการแข่ง มันไม่โกรธมึงหรอก แค่เกมเอง’






“อะไรที่ทำให้พวกมึงคิดแบบนั้น?”

“ไม่รู้ดิ กูได้ยินคนเล่าต่อ ๆ กันมา ก็พวกมึงสนิทกันขนาดนั้นบางครั้งมันดูเกินเพื่อนอะ ยังไงดีวะ อธิบายไม่ถูก เอาเป็นว่ามันจริงไหมขอตรง ๆ”

“บ้าแล้ว กูกับมันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียนที่นี่ จะสนิทกันแล้วมันผิดปกติตรงไหน อีกอย่าง มึงไม่เห็นเหรอว่าไอ้แจ็คก็มีแฟนอยู่ทั้งคน”

“ก็ถูก แต่มึงไม่ค่อยชอบแฟนมันไม่ใช่เหรอวะ เพื่อนบลูก็มาเล่าให้ฟังว่ามึงหวงไอ้แจ็คยิ่งกว่าอะไร จะไปไหนมาไหนก็ต้องถาม เพราะเค้าเกรงใจมึง”

“ยิ่งกว่าผัวเมียแล้วนะแบบนั้น 55555555555”
 
“เลอะเทอะ การที่บลูเกรงใจกูแล้วมันยังไง กูไม่เคยห้ามสองคนนั้นไปไหนมาไหนด้วยกัน”

ตลกดีที่เท็นกำลังพยายามอธิบายกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นจริง ใช่ เขาไม่ค่อยชอบบลู ไม่ชอบเวลาสองคนนั้นไปไหนมาไหนกัน และมันก็บ้ามากที่รู้ว่าความคิดแบบนี้มันแย่แต่ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน

“แต่เพื่อนเราก็แมน ๆ นะ ถ้าเป็นคู่เกย์จริง ๆ กูลงว่าไอ้เท็นรุก”

“จะว่างี้ก็ไม่ได้ ไอ้แจ็คหล่อขนาดนั้นแถมแฟนก็มี กูลงห้าร้อยเลยว่าบลูโดนเอาจนพรุนแล้ว”

“55555555555555555555555555555”

“แฟนสวยขึ้นขนาดนั้นไม่เอาก็แปลกแล้ว จริงไหมเท็น?”

อยากอาเจียนออกมาเป็นความโสมมของความคิดคนกลุ่มนี้ที่กล่าวถึงผู้หญิงในแง่ไม่ดีอย่างสนุกสนาน เท็นนั่งฟังมลพิษทางคำพูดโดยไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่แสดงออกว่าต่อต้านหรือคิดจะแตกแถว สายตาทุกคนที่เคยมองเห็นเขาเป็นเพื่อนก็จะเปลี่ยนไปซึ่งเท็นไม่อยากกลับไปรู้สึกเหมือนตอนมอต้นอีกแล้ว

จริงอยู่ที่คนกลุ่มนี้ชอบพูดไม่คิดและมีไลฟ์สไตล์แตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง พวกมันไม่มีโมเมนท์อยากหยิบเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่นเพราะชีวิตมีแต่เกมกับพยายามเรียนเพื่อไม่ให้เกรดพังไปกว่านี้ในสถานศึกษาซึ่งมีชื่อเสียงระดับประเทศ แต่ที่ฝีมือการเล่นเกมของเท็นก้าวกระโดดขนาดนี้ก็ต้องยอมรับว่าได้รับคำแนะนำและจำมาจากพวกมันส่วนหนึ่ง

ไหนจะพาไปรู้จักคนดังระดับประเทศที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก เด็กหนุ่มเผลอรู้สึกดีไปกับการถูกให้ความสนใจเพียงเพราะได้เข้าไปเล่นกับตัวท็อปของประเทศจนยอดการติดตาม Hi5 เพิ่มมากขึ้น ไม่รู้ว่าคนอื่นเคยมีจังหวะชีวิตแบบนี้ไหม ไอ้การรู้สึกดีและสมเพชตัวเองไปพร้อม ๆ กันเพียงเพราะกำลังอ้าแขนรับสิ่งที่ตนเองรังเกียจหนา

เช่นการพยายามมีตัวตนในโลกโซเชียลทั้งที่ด่าไอ้ธีร์เอาไว้

ถ้าไอ้แจ็คเลือกจะให้ความสนใจคนอื่นก็ตามใจ เรื่องนี้ใครผิด หวังว่าสักวันคงนึกได้โดยที่ไม่มีใครต้องเดินไปบอก เขาเหนื่อยกับการพยายามเข้าใจทุกอย่างมามากพอแล้ว พอกันทีกับการเอาชีวิตไปแขวนอยู่กับความหวังว่าทุกอย่างจะต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม

“กูชอบผู้หญิง ถ้าเมียมึงอยู่ตรงนี้ก็บอกไว้เลยว่าอย่าปล่อยให้เมาแล้วกัน”

“เชี่ยยยยยย โคตรแบดดดดด”

“ยังไง ๆ พูดแบบนี้หมายความว่าฟันแฟนไอ้แจ็คมาแล้วใช่ไหม?”

“ฟันห่าไรล่ะ กูคุยกับบลูถึงสิบคำยังเหอะ”

“แต่ก็ดีแล้ว ถ้ามึงเป็นเกย์นี่เสียดายของเลย”

“สายเหลือง ๆๆๆ 555555555555555555”

“เออ เวลาพวกเกย์เอากันมันตกลงกันยังไงวะ ใครรุกใครรับ ไอ้คนโดนเสียบมันจะแข็งปะ?”

“...”

บรรยากาศบนโต๊ะเหล้ากลายเป็นขยะอย่างเต็มตัวเพราะจากเมื่อครู่ที่เคยกล่าวหาว่าร้ายผู้หญิงก็เปลี่ยนเป็นพูดเหยียดหยันเรื่องเพศ ที่อธิบายไปทั้งหมดนั่นไม่ได้ทำให้คนพวกนี้เข้าใจหรอก พวกมันแค่อยากหาประเด็นมาคุยกันเพื่อเรียกเสียงหัวเราะโดยไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกอย่างไร เท็นมองแก้วตนเองที่เพิ่งถูกเติมจนเต็มจึงยกกระดกรวดเดียวหมดจนเหลือเพียงน้ำแข็ง ก่อนคนที่นั่งอยู่ข้างตัวจะยกยิ้มแล้วเติมให้ใหม่ในวินาทีถัดมา

“อย่าโกรธเลย พวกมันก็แค่ล้อเล่น”

“อืม”



และครั้งนี้เขาได้เรียนรู้ว่าการถูกบูลลี่ไม่จำเป็นต้องมาจากคนอื่น
แต่มันอาจมาในรูปแบบคนที่เรียกว่าเพื่อนก็ได้



“กูเคยถูกล้อว่าเป็นไอ้หน้าติ๋มเพราะตัวผอมแล้วก็ใส่แว่น ไอ้ห่า คนสายตาสั้นจำเป็นต้องเนิร์ด ต้องติ๋มทุกคนเหรอวะ กูก็แค่ชอบปิดไฟเล่นเกมตั้งแต่เด็ก”

“แต่กูไม่เคยเห็นมึงใส่แว่น”

“ก็แน่ล่ะ กูแก้ปัญหานั้นด้วยการขอเงินแม่ไปทำเลสิกไง”

เด็กหนุ่มสบตากับคนข้างตัวที่วางมือลงบนไหล่กว้างพร้อมคำพูดที่ทำให้ทุกอย่างหลังจากนี้เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงอย่างสิ้นเชิง

“แล้วมึงจะแก้ปัญหาการถูกมองว่าเป็นเกย์ยังไงล่ะเท็น?”






*





“ผ้าขนหนูอยู่ที่เดิม ส่วนชุดนอนมึงก็เลือกเอาเลยว่าจะเอาสีไหน แต่ขออย่างเดียวอย่าเปลือยไข่นอนข้างกู”

แจ็คกวาดสายตามองห้องนอนเพื่อนที่เคยมานอนบ่อยเมื่อก่อนหน้านี้ แต่พอเกิดปัญหาที่บ้านจึงห่างหายไปนานแต่ทุกอย่างก็ยังวางอยู่จุดเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่การมาครั้งนี้มันต่างไปจากเดิมตรงที่เขาไม่ได้มาเพื่อนอนเล่นพักผ่อนหย่อนใจ แต่เป็นเพราะไอ้ธีร์มันจับได้หลังจากถูกตามไปจนถึงบ้านห้องแถวที่บางใหญ่เมื่อหลายวันก่อน


‘กูเคยคิดว่าถ้ามึงพร้อมมึงคงเล่าเอง แต่พักนี้มึงดูเหนื่อย ๆ เกินไป กูสงสัยว่ามึงเป็นอะไรก็เลยแอบตามมา ...มึงมีปัญหาอะไรทำไมไม่เล่าให้กูฟังวะแจ็ค?’
‘...’
‘มึงโอเคไหมเพื่อน?’


ไม่เคยรู้สึกว่าคำนี้มันมีความหมายกระทั่งอีกฝ่ายพูดออกมาพร้อมวางมือลงบนไหล่เขา แจ็คยืนนิ่ง แม้ใจมันอยากพยักหน้าเพื่อบอกให้เพื่อนเข้าใจว่ายังสบายดี แต่เด็กหนุ่มกลับเลือกที่จะส่ายศีรษะตามความจริงหลังจากทนเหนื่อยกับชีวิตจนแทบไม่ไหวแล้ว


‘บ้านกูล้มละลาย กูต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วมันก็ไม่ใช่ที่พักชั่วคราว’
‘...’
‘พ่อแม่กูทะเลาะกันทุกวันจนกูรู้สึกเหมือนจะเป็นโรคประสาท กูเผลอกำปากกาจนมันหักคามือ ทุกวันนี้ไม่มีใครได้กินข้าวอิ่ม กูนอนน้อยจนคำว่างีบคงเหมาะมากกว่า กูรู้สึกเหมือนร่างกายกูทำงานอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีโอกาสได้พักผ่อน ทุกวันหลังเลิกเรียนกูต้องไปสอนพิเศษ หลังจากนั้นก็กลับไปเตรียมแผนการสอน พอเห็นว่าเริ่มดึกแล้วก็เคลียร์งานของตัวเอง แต่ยี่สิบสี่ชั่วโมงของกูมันน้อยเกินไป พอหันไปมองนาฬิกาอีกทีพวกมึงก็เรียกซ้อมแล้ว และกูไม่อยากเป็นตัวถ่วงที่ทำทีมเลยต้องวางทุกอย่างลงแล้วหาเศษเงินไปนั่งร้านเน็ตในซอย กูพอจะรู้จักกับพี่เจ้าของร้านเลยช่วยกวาดร้าน ถูร้าน เก็บขยะ ทำงานแลกค่าชั่วโมงได้บ้าง อย่างน้อยสามชั่วโมงนั้นมันก็ทำให้ได้ซ้อมกับพวกมึง ที่กูขอกลับก่อนไม่ใช่เพราะอยากกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือ แต่กูไม่มีเงินมากพอขนาดนั้น พอกลับมาถึงห้องก็ต้องทำงานที่ค้างไว้ ทุกวันนี้กูไม่ได้นอนบนฟูกแต่มันคือโต๊ะไม้เก่า ๆ ที่กูเผลอหลับไป’
‘...’
‘ล่าสุดพ่อตีน้องประชดกูเพราะกูบอกให้เขาออกไปทำงาน ในมุมผู้ใหญ่กูอาจจะทำเกินไป กูอาจจะไม่ควรพูดอย่างนั้นกับพ่อ แต่ครอบครัวกูกำลังจะตายถ้าเขายังเอาเงินไปซื้อเหล้ากินโดยไม่หางานทำเลย’
‘...’
‘แม่กูปวดหลังจนช้ำเพราะนั่งทั้งวันทั้งคืน ใจกูอยากจะลาออกไปทำงาน แต่กูก็รู้ว่าวุฒิแค่นี้คงได้มากสุดคงเจ็ด-แปดพันซึ่งมันเลี้ยงทุกคนไม่ได้’
‘ทำไมไม่บอกพวกกู มึงก็รู้ว่ากู ไอ้เท็น ไอ้นาย พี่ตั้บพร้อมจะช่วยมึงอยู่แล้ว’
‘ก็เพราะรู้ว่าต้องช่วยไงกูเลยไม่กล้าบอก มึงคิดว่ามันง่ายเหรอธีร์?’
‘...’
‘กูละอายใจถ้าทุกคนจะยื่นมือมาช่วย อาจเป็นเพราะกูเคยสบายมาก่อนหน้ากูเลยหนาเกินกว่าจะยอมรับ อีกอย่างกูรู้ว่าพวกมึงต้องทำอะไรที่ทำให้กูอึดอัด เช่นการจ่ายเงินให้กูทุกอย่างแล้วกูไม่อยากทนอยู่กับความรู้สึกแบบนั้น’
‘เพื่อน เรื่องหน้าหนาหน้าบางค่อยว่ากันทีหลัง นึกถึงตอนนี้ก่อนดิวะ มึงอายุแค่สิบแปดจะแบกห่าอะไรไว้เยอะแยะ มึงกำลังลำบากนะ แล้วกูก็เป็นเพื่อนมึงด้วย’
‘มึงรู้ไหมว่าถ้าไอ้เท็นรู้เรื่องนี้แล้วมันจะทำยังไง?’
‘...’
‘มันจะไปบอกแม่มัน แล้วเค้าก็จะทุ่มเงินหกหลักมาให้กูซึ่งคงไม่หยุดแค่นั้น ไอ้เท็นจะทำทุกอย่างที่คิดว่าดีกับกู แล้วความหวังดีของมันจะทำให้กูกระอักเลือดตายเพราะกูคงสมเพชตัวเองกว่าเดิม’
‘...’
‘ถ้ามึงอยากช่วยกูนะธีร์ มึงไม่ต้องให้เงิน ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะอย่างเดียวที่กูขอก็คือมึงพากูชนะทัวร์ครั้งนี้ได้ไหม หลังจากได้เงินรางวัลแล้วกูจะเอาไปเป็นต้นทุนให้พ่อกูถ้าเขาคิดอยากทำอะไรสักอย่าง’
‘มึงขอแค่นี้เองเหรอ งั้นก็เอาดิวะ’



“มึงว่าไอ้เท็นจะโกรธไหม?” คนถูกถามหันไปตามต้นเสียงที่ทิ้งตัวนั่งลงกับขอบเตียงโดยไม่หันมามองหน้าเขา

“หมายถึงถ้ามันรู้ว่ามึงมาบ้านกูเหรอ?”

“ทุกอย่างเลย”

ธีร์เอากระเป๋าโน้ตบุ๊กที่แสนรักแสนหวงออกมาเปิดในรอบเดือน วันนี้ไอ้แจ็คต้องใช้มันซ้อมทีมและคงเป็นอย่างนี้ไปอีกสักพักเพราะที่บ้านมันจำเป็นต้องยกเลิกการใช้อินเทอร์เน็ตเพราะไม่มีเงินพอสำหรับส่วนนั้น

“ทั้งเรื่องที่กูไม่มีเวลาให้มัน แล้วก็ตอนนี้ที่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป”

ธีร์ไม่ได้ตอบ เขาแค่ไปเอาโต๊ะญี่ปุ่นออกมากางแล้วเปิดโน้ตบุ๊กให้ มันคงดีกว่าถ้าเขาจะเงียบปากหมา ๆ เอาไว้แล้วปล่อยให้ไอ้แจ็คระบายทุกความในใจออกมาบ้างหลังจากทนเก็บทุกอย่างไว้กับตัวมาตลอด

“ตอนแรกกูคิดว่ามันอาจจะไม่ได้ยากขนาดนั้น ก็แค่มีเงินใช้น้อยลงแต่ก็คงไม่ถึงกับขัดสน แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี อะไรก็ไม่ค่อยเอื้อเลยมึงว่าไหม?” เด็กหนุ่มผมสกินเฮดแค่นหัวเราะ “กูคิดว่าเอาไว้ค่อยบอกพวกมึงตอนอะไร ๆ ลงตัวก็คงได้ อย่างน้อยพวกมึงก็จะได้สบายใจว่ากูไม่ได้ลำบากจนแทบกัดก้อนเกลือกิน แล้วกูก็จะได้ไม่ต้องสมเพชตัวเองเพราะสายตาที่เพื่อนมีต่อกูด้วย”

“กูไม่รู้คนอื่นคิดยังไงนะ แต่กูไม่ใช่คนที่จะสมเพชเพื่อนเพราะเรื่องบ้านมันมีปัญหาหรอก”

“อืม” แจ็คขานรับกับความจริงใจที่อีกฝ่ายมีให้ “มันเป็นความหน้าบางของกูเอง ไม่รู้ดิ กูเคยสบายมาตลอด อยากได้อะไรก็ได้ ชีวิตเหมือนอยู่ก้อนเมฆแต่อยู่ ๆ ก็รู้สึกวูบเหมือนถูกเตะลงมา แล้วตอนนี้กูกำลังอยู่กลางอากาศ พุ่งดิ่งลงเร็วมากแต่กลับไม่ถึงพื้นโลกสักที”

“...”

“กูได้แต่ถามตัวเองว่ากูทำอะไรผิดทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ กูเหนื่อยมากธีร์ เหมือนมันไม่มีทางที่จะดีขึ้น”

“เพราะตอนนี้มึงเหนื่อยมากมึงก็เลยสิ้นหวังสัด ๆ ไงล่ะเพื่อน”

“ใช่”

“แต่กูอยู่ตรงนี้นะ พวกไอ้เชี่ยเท็นก็ด้วย”

“...”

แจ็คไม่กล้าเชื่อครึ่งหนึ่งที่อีกคนพูด เพราะลึก ๆ เขาก็รู้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไอ้เท็นมันห่างออกมาหลายก้าวแล้วแม้ว่าบางครั้งบรรยากาศมันคล้ายจะเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดใครนอกจากเขาคนนี้ที่ไม่เคยมีเวลาและเพิกเฉยต่อความรู้สึกไอ้เท็นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร

ไอ้เท็นคิดมาก ขี้น้อยใจมากเท่าไหร่ตัวเขารู้ดีที่สุด

แต่แจ็คกลับเอาแต่คิดว่า ‘ไว้ค่อยบอกหลังจากอะไร ๆ ลงตัวแล้วกัน’ ซึ่งพอเวลาเลยผ่านไปชีวิตกลับยังคงดำดิ่งเหมือนเดิมไม่มีอะไรดีขึ้น รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่ามันอาจจะสายเกินไปแล้วที่จะกลับไปหาเพื่อนและคาดหวังว่าจะได้ความรู้สึกเดิม ๆ กลับคืนมา

“ธีร์”

“ว่า?”

“กูขอยืมห้าร้อยสิ” ธีร์เลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจพลางมองมือที่แบออกมา

“คืองี้นะ กูให้มึงหมื่นห้าก็ยังได้ แต่ขอถามหน่อยได้ไหมว่ามึงจะเอาไปทำอะไร เพราะก่อนหน้านี้กูพยายามยัดเยียดเงินให้ตั้งเท่าไหร่แต่มึงเสือกไม่เอาสักบาท”

หนุ่มป็อปประจำโรงเรียนทำหน้าเหวอระหว่างรอคำตอบ แต่อยู่ ๆ คนที่ทำหน้าอมทุกข์มาตลอดก็ยิ้มออกมาราวกับว่าห้าร้อยบาทจากเขานั้นสามารถนำไปสร้างความสุขให้มันได้ แววตาที่เคยเรียบเฉยแปรเปลี่ยนเป็นส่องประกาย

“กูจะพาไอ้เท็นไปดูหนัง”




และนั่นคือรอยยิ้มสุดท้ายของไอ้แจ็คที่เขาได้เห็น






*





“มีเหล้าแต่อยากแดกเบียร์ อะไรของมึง?”

“ขี้เกียจชง”

“มึงขี้เกียจเดินออกไปมินิมาร์ทก่อนดีกว่าไหม?”

เท็นมองไอ้คนยิ้มยากที่อ้าปากหาวขณะที่เขาทั้งคู่กำลังเดินบนถนนโล่งในหมู่บ้าน ความจริงปากอยากลั่นออกไปว่า ‘เดี๋ยวกูชงเองก็ได้’ แต่ก็ต้องห้ามเอาไว้เพราะขืนพูดอย่างนั้นออกไปก็เกรงว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเพราะนั่นคือการแสดงออกว่ายอมจำนน!

แม้จะเดินไปพร้อมกันแต่ระยะห่างที่มีต่อคกันก็ห่างพอสมควร ไม่มีใครหาเรื่องชวนคุยก่อน และเท็นก็รู้สึกอึดอัดเพราะเขาอยากได้ความเป็นธรรมชาติเหมือนไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้กลับคืนมาแล้ว

“มึงไม่กลับไปหาไอ้เด็กฝรั่งเหรอ มันรออยู่”

“เดี๋ยวกูโทรบอกมันเอง”

“บอกว่า?” ไอ้คนหน้านิ่งทิ้งจังหวะไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมาส่งสายตาเรียบเฉยพร้อมประโยคที่น่ากระโดดถีบขาคู่ให้ติดเสาไฟฟ้า

“ยุ่ง”

“อ้าวไอ้ห่า กูก็ถามดี ๆ”

“ตัดเรื่องขี้เสือกไปได้มึงจะดูเป็นคนน่าคบหามากกว่านี้นะรู้ -- โอ๊ย!”

หมดความอดทนแล้ว เท็นยกเท้าขึ้นถีบเข้าเอวไอ้หน้าหมาจนมันเซไปด้านข้าง เอาให้สาสมกับการกวนตีนไม่ดูเวล่ำเวลา คนอุตส่าห์ถามดี ๆ เพราะถ้ามันทำท่าเหมือนว่าอยากกลับไปหาน้องนุ่งเขาก็จะได้ตัดบทยกเลิกการดื่มในค่ำคืนนี้ไป แล้วดูมันดิ ยังมีหน้ามาขมวดคิ้วอ้าปากหวอกุมสีข้าง เล่นละครเก่ง ออสการ์ปีนี้ต้องยกให้แม่งแล้ว

แต่คงนับว่ามันเป็นการละลายพฤติกรรมอย่างหนึ่ง เพราะหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ลับฝีปากกันไปตลอดทางกระทั่งถึงมินิมาร์ทใจกลางหมู่บ้าน เท็นหยิบขนมกับแกล้มที่ชอบกินก่อนจะชำเลืองไปเห็นทาโร่ซองสีส้มซึ่งเขาจำได้ดีว่าเคยถูกตบหัวเพราะเวฟมันจนไหม้ หลังจากนั้นไอ้เด็กหัวสกินเฮดก็ฉีกซองใหม่แล้วสอนให้เขาทำทุกขั้นตอนว่าควรจับเวลาสักสามสิบวิ แล้วเอาออกมาเป่า ๆ พลิก ๆ คลายความร้อน ทำอย่างนั้นวนไปสักสาม-สี่รอบ สุดท้ายเขาก็ได้กินทาโร่อบกรอบที่เผลอแป๊บเดียวก็หมดจานแล้ว

โอเค หยิบติดมือไปสักสามซองแล้วกัน

ไอ้คนหน้าตายหอบลังป๋องเบียร์ไปวางหน้าแคชเชียร์ เขาจึงตามไปสมทบเพื่อที่จะจ่ายเงิน แต่กระเป๋าหนังสีดำถูกควักออกมายังไม่ทันไรอีกฝ่ายก็ชิงจ่ายเงินตัดหน้าเสียก่อน

“อะไร?”

“ยังมีหน้ามาถามอีก เงินกูไง เอาไปจ่าย”

“เก็บเข้าไป” แจ็คดันมือไอ้คนขี้หงุดหงิดกลับ

“เมื่อกี้มึงยังทำท่าจะรีดไถค่ามาม่าถ้วยละห้าร้อยจากกูอยู่เลยนะ ทีงี้มาทำจ่ายโชว์สาวเหรอ อย่าไปหลงมันนะครับ ไอ้เชี่ยนี่แม่งเสี่ยว” เท็นหันไปยิ้มให้แคชเชียร์สาว และไอ้แจ็คก็ไม่ได้อธิบายอะไรกับความป๋าหลังจากเป็นไอ้ขี้งก ก่อนมันจะตบหน้าด้วยการอุ้มลังป๋องเบียร์ทั้งสองใส่อ้อมแขนเขา

“กูจ่าย ส่วนมึงถือกลับ นั่นแหละเหตุผล”

“เอ้า?”

“กูจะออกไปโทรศัพท์ อยู่เอาเงินทอนกับใบเสร็จด้วย”

“แล้วกูจะเอามือจากไหนไปรับล่ะไอ้ฉิบหาย มึงแหกตาดูบ้างไหม?” เท็นชักสีหน้ามองคนกวนส้นตีน ขณะที่พนักงานกำลังกลอกตาล่อกแล่กยิ้มเจื่อนกับสงครามเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้น

“อ้าปากคาบสิ บ๊อก ๆ”

“บ๊อกพ่อง!!!”

ไอ้เท็นคงสนุกกับการได้ถีบเขา ถึงเอะอะยกขาทำท่าจะยันอยู่ท่าเดียว ชายหนุ่มผมยาวเอี้ยวตัวหลบก่อนจะใช้จังหวะนั้นผลักศีรษะอีกคนจนผมสีเทายุ่งเหยิง

สงครามหยุดลงเพราะคนถือของหนักเริ่มเหนื่อย ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนแจ็คจะเป็นคนหันหลังให้ก่อนจะหลุดยิ้มออกมา ขายาวเดินออกไปหน้ามินิมาร์ทพร้อมคาบบุหรี่ออกจากซอง หลังจากจุดไฟแช็กเสร็จก็คว้าโทรศัพท์ออกมากดโทรออกหาไอ้เด็กกะโหลกที่คงนอนกลิ้งแล้วกลิ้งอีกบนเตียงเขา

( ไงคะดาร์ลิงก์ เค้ายืมที่ชาร์จตัวเองใช้คงไม่ว่ากันนะ )

แค่รับสายก็วอนตีนแล้ว

“นึกไงมาหากูวันนี้ บอสไม่อยู่เหรอ?”

( อยู่ แต่กูมีปากเสียงกันเล็กน้อย กูไม่อยากนอนใต้หลังคาเดียวกันกับคนที่บังคับให้กูแดกน้ำผักปั่นหรอก บ่ไหว )

“ก็เลยหนีมาบ้านกู”

( อือ มึงก็รู้ใช่ปะว่าน้ำผักรสชาติมันเหมือนขี้ )

“เคยแดกเหรอถึงรู้?”

( กูเปรียบเทียบได้ปะ แล้วนี่จะกลับตอนไหน กูเหงาอ่า รีบกลับมาเร้ววว )

แจ็คหันกลับไปด้านหลัง มองไอ้คนหน้าหล่อ ๆ ที่ใส่เพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นถึงเข่าและรองเท้าแตะผิดจากทุกครั้งที่เห็นมันแต่งตัวดีอยู่เสมอ ไหนจะท่าทางเงอะ ๆ งะ ๆ ตอนพยายามรับเงินทอนทั้งที่อุ้มลังกระป๋องเบียร์ไว้นั่นอีก น่าขำน้อยเสียที่ไหน

ตอนนี้จะมัวแต่หัวเราะไม่ได้เพราะต้องทำอะไรสักอย่างกับไอ้แหลมก่อน

“กลับไปหาบอสไป”

( ห๊ะ? )

“ตามนั้นแหละ กลับ”

( เชี่ยไรอะ อยู่ดี ๆ มาไล่ มึงจะกลับดึกเหรอ กูรอได้นะพี่ )

“ไม่เกี่ยวกับดึกไม่ดึก มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าบอสต้องร้อนใจถ้ารู้ว่ามึงออกมาเป็นผีเร่ร่อนข้างนอก”

( ทำไมอยู่ ๆ ถึงดูเป็นห่วงบอสขึ้นมา มึงยังอยู่บ้านพี่เท็นใช่ปะ? )

“คือ --”

( ด้ายยยยยยยยยยยยยย เดี๋ยวมึงเจอกู )

“เดี๋ยว ไอ้แหลม --”

ยังไม่ทันได้โต้ตอบกลับไปเสียงรอสายก็ดังขึ้น ขอลงยี่สิบเลยว่าไอ้เด็กกะโหลกคงโทรฟ้องใครสักคนในกลุ่มและต่อจากนี้คือการประชุมสายยำตีนเหยื่ออย่างเขา

เวรจริง ๆ แทนที่จะปิดจ็อบภายในสองนาที แต่ดันต้องยาวเพราะไอ้เด็กนั่นดันไม่เข้าใจ แจ็คจำเป็นต้องเดินนำหน้าไปเพราะไม่อยากให้ไอ้เท็นได้ยินว่าเขากำลังคุยอะไรกันหลังจากเห็นว่ามันกำลังอุ้มลังกระป๋องเบียร์ออกมาจากมินิมาร์ท

( ฮัลโหลคิตตี้ )

( ทิดพี่ มาจัดการเพื่อนมึงดิ๊ )

“ทิด มึงวางเถอะ”

( เป็นอะไรไหนพูด มีเรื่องบันเทิงอยู่หรือเปล่าเอ่ย? )

( มี ตอนนี้พี่แจ็คอยู่บ้านพี่เท็นยังไม่กลับมาเลย คิดดูนะทิดพี่ว่าเพื่อนมึงเป็นคนแบบไหน ปล่อยให้กูรอเก้ออยู่ในห้องนอนเงียบ ๆ ของมันตามลำพังอะมึงว่าไง? )

“เรื่องใส่ไฟขอให้บอก”

( กูถามจริง มึงอยู่บ้านไอ้เท็นเหรอแจ็ค? )

“กูเอาผ้าห่มมาส่งให้มันเฉย ๆ ไม่มีอะไร”

( ส่งเป็นชั่วโมงแล้วไหม ถ้ารากกูงอกได้ป่านนี้ น่าจะยาวไปจนถึงนรกแล้ว )

“เวอร์ไปนะห่า เดี๋ยวก็กลับแล้วถ้ารอไม่ได้ก็กลับไปแดกน้ำผักฝีมือบอส”

( ถ้าไปส่งผ้าห่มเฉย ๆ ทำไมไปนาน หรือว่ามันปากหมาจนมึงต้องอยู่กระทืบหน้าเอาให้สาสม? )

( แหมทิดพี่ อินกว่ากูอีกนะมึงอะ )

“คือเรื่องมันเป็น --”

( มึงเงียบเลยแจ็ค มึงมีสิทธิ์ที่จะไม่พูดอะไร คำพูดของมึงจะถูกเอาไปใช้ใน!!! -- )

( ชั้นศาล!!! )

( เยี่ยม สมแล้วที่กูเลี้ยงดูด้วยข้าวเปลือกมาอย่างดี... แล้วมึงจะเล่าเมื่อไหร่แจ็ค กูรอฟังนานแล้วนะ )

“พอกูจะเล่ามึงก็แทรกขึ้นมาไงไอ้ฉิบหาย”

( จริง เชี่ยแหลมชอบขัดจังหวะ )

( พี่มันหมายถึงมึงอะ!!! )

( อ้าว กูเหรอ 5555555555555555555555555 )

“มาช่วยถือหน่อยสิวะ กูหนัก!!!”

( นั่นเสียงใคร?!!! )

( ถามควาย ๆ มันอยู่กับไอ้เชี่ยเท็นนั่นคงเป็นเสียงโอบาม่ามั้ง? )

( อ้าว อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้าปะ? )

แจ็คหันไปด้านหลัง มองอีกคนที่แสดงความหงุดหงิดออกมาทางสีหน้าแล้วก็ชั่งน้ำหนักว่าจะเลือกอะไร ระหว่างปล่อยให้อีกคนทนหนักต่อไป หรือว่าปล่อยให้สองคนนั้นค้างอยู่กับความขี้เสือกกลางอากาศแล้วค่อยไปอธิบายทีหลัง

( พี่แจ็คมึง -- )

ชายหนุ่มกดวางสายพลางตรงเข้าไปผลักศีรษะอีกคนเบา ๆ แล้วรับลังกระป๋องเบียร์ชั้นบนมาถือเอง ทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันอย่างหยั่งเชิง ก่อนอีกฝ่ายทำท่ายกเท้าขึ้นเตรียมถีบอีกครั้งและคราวนี้เขาคงไม่ยอมจึงเอาลังเบียร์ไปรับแทนให้มันเป็นตัวประกัน

“คุยเสร็จแล้วหรือไง?”

“ยัง แต่ไว้คุยต่อทีหลังก็ได้”

“ทำไมไม่ไปคุยให้จบ ๆ จะได้ไม่ค้างคา?”

ทั้งคู่หยุดยืนบนถนนเงียบ ๆ ในหมู่บ้านยามค่ำคืนพลางสบตากันระหว่างรอคำตอบที่เท็นเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายจะให้มาแบบไหน แววตาคู่นั้นเหมือนจะมีอะไร แต่บางครั้งก็เฉยชาเกินไปจนเขาสับสน หรือว่าถูกไอ้ธีร์ด่าเรื่องมาที่นี่ก็เลยชิงตัดสายไปก่อน แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นเขาควรจะ...

“เพราะมันมีเรื่องอื่นที่ค้างคากว่า มึงรู้แค่นี้ก็พอแล้ว”




TBC



#หยิบเบียร์สองป๋องมาชนกันอย่างแรงแล้วยกกรอกปากเลียนแบบ Stone Cold Steve Austin

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 18-12-2018 20:55:51
ชอบคู่นี้มากเลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 18-12-2018 21:09:39
 ทิดธีร์มาแค่เสียงก็ฮาและทำให้ทุกคนดูเป็นคนดีขึ้นมาได้แร้วววว เดอะแบกที่แท้
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 18-12-2018 21:33:14
เอาตรงๆตอนนี้อารมณ์เน่สวิงมากกกกกทั้งหน่วงทั้งฟินและประสาทแดกกับเดอะแก๊งค์  แต่ไม่ว่าจะยังงัยก็ห่วงความรู้ึกน้องเท็นที่สุดถึงเ็็็นจะรับบทเป็นผู้ร้ายพี่ก็จะอยู่ทีมน้องค่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-12-2018 21:43:56
โอ๊ยยยย มาทีละท่อน ๆ อิป้าลุ้นนนนน
สงสารแจ๊คสมัยละอ่อน หนักหนาจริง ๆ นะเรื่องครอบครัวนี่
แต่แหม...ยืมเพื่อนห้าร้อยจะพาหนุ่มไปดูหนัง มันใช่เหรอ ๆๆๆ แฟนก็มีไหมล่ะนั่น
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 18-12-2018 21:56:12
ที่พี่แจ็คเจอมันหนักจริงๆ​ ด้วยความที่เป็นคนดีอ่ะถ้าบอกเพื่อยก็จะเครียดด้วย​ โดยเฉพาะน้องเท็นควทำทุกอย่างเพื่อให้แจ็คสบายขึ้นแน่ๆ​ เพื่อนที่เท็นไปกินเหล้าด้วยคือแย่มากกก​ มากกก​ พูดจาเสี้ยมสุด
ลืมไปว่านอกจากเรื่องบลูแล้ว​ ยังมีเรื่องทีมอีก
พี่แจ็คจะต้องพังขนาดไหนอ่ะ​ ตอนหน้าคงรู้เหตุผลของเท็นละ​ อ่านไปก็หน่วงไปป  ปรับความเข้าใจแล้วได้กันเรวเร้ววววว​ #ทีมแจ็คเท็นฟอร์เอเว่อ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ปานกลาง ที่ 18-12-2018 23:30:18
กำลังจะซึ้งแบบเข้าด้ายเข้าเข็ม แหลมกับพี่ทิดทำหลุดโทนอ่ะ เกิดมาทำไมต้องฮากันขนาดนี้อ่ะ5555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-12-2018 00:12:26
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 19-12-2018 07:30:11
กอดน้องแจ๊ค น้องเท็น

โถ๋ลูกแคร์กันขนาดนี้

ทำไมไม่เปิดใจรับฟังความจริงต่างๆของกันและกันล่ะลูก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 19-12-2018 09:31:32
ฟินแบบอึดอัด แต่หนูจะรอให้พี่ๆ พร้อมเปิดแผลนะคะ เลิฟๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน12 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (18/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 20-12-2018 12:05:24
ชอบมว๊ากกกเท็นภาคนี้น่ารัก  อ่านพาร์ทอดีตก็เศร้าๆ อ่านพาร์ทปัจจุบันก็ฟินๆ ตอนนี้เหมือนคนเป็นไบโพล่าร์มากก :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 24-12-2018 20:40:24

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 13
จุดเปลี่ยน




‘กูถามจริงนะ มึงคบกับไอ้แจ็คใช่ปะวะ?’
‘ยิ่งกว่าผัวเมียแล้วนะแบบนั้น 5555555555’
‘ถ้าเป็นคู่เกย์จริง ๆ กูลงว่าไอ้เท็นรุก’



เด็กหนุ่มขาดเรียนสามวันเพื่อใช้เวลาไปกับการนอนก่ายหน้าผากในคอนโดห้องเล็ก ๆ ที่ก่อนหน้านี้แม่ซื้อให้เพียงเพราะเหตุผล ‘ที่นี่ใกล้โรงเรียน เผื่อเท็นขี้เกียจนั่งแท็กซี่กลับบ้านจะได้ไม่เหนื่อยมากเนอะลูก’ ซึ่งนั่นเป็นเหมือนการโยนอ้อยเข้าปากช้าง เพราะถ้าหากเขาอยากเกเรเมื่อไหร่ก็แค่นอนโง่ ๆ บนเตียงโดยไม่ต้องลุกขึ้นแต่งตัวไปโรงเรียน

ไม่อยากคุยกับใคร แต่เท็นก็ฉลาดมากพอที่จะหาเหตุผลมาอ้างเมื่อไอ้แจ็คโทรมาถามว่าหายไปไหน เพราะสุดท้ายคำว่าไปต่างจังหวัดกับแม่มันก็ยังใช้ได้ อีกทั้งไม่ต้องทนซ้อมทีมตอนกลางคืนอีกด้วย

ตลอดเวลาสามวันเด็กหนุ่มสับสนว้าวุ่นจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะคำถามที่เต็มไปด้วยการเหยียดเพศซึ่งถ้าเท็นแสดงออกว่ายอมรับกับเรื่องเกย์ได้คนเหล่านั้นก็พร้อมจะเข้าใจว่าเขา ‘เป็น’

‘ถ้าไม่จริงอย่างที่พวกนั้นพูดก็ไม่เห็นต้องคิดมากอะไรเลยนี่?’ ใช่ มันก็ถูก แต่พอคิดว่าคนทั้งโรงเรียนอาจมองแบบนั้นเขาก็ปล่อยไปเฉย ๆ ไม่ได้ เท็นไม่อยากเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่นไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ คำว่าเกย์มันรุนแรงเกินกว่าจะแบกรับไว้หลังจากมีโอกาสเข้าไปยืนในสปอตไลท์จนใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจ มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากคนที่ชื่นชอบเขาจะเปลี่ยนไปเพราะข่าวลือบ้า ๆ นั่น การเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงต่อการโดนกลั่นแกล้งไม่ว่าจะทางคำพูดหรือสายตามันก็แย่ทั้งนั้น

ระหว่างขาดเรียนก็สร้างไอดีใหม่ไปฝึกเล่นอย่างหนัก เขาลุกออกจากหน้าโต๊ะคอมแค่ตอนจะเข้าห้องน้ำและตอนนอนเท่านั้น เท็นไม่เคยรู้สึกสกปรกขนาดนี้กระทั่งลดระดับสายตาลงมองถ้วยชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กินเสร็จแล้วแต่ไม่ยอมเอาไปทิ้ง

เขากำลังถูกกลืนกินด้วยการเริ่มเป็นคนในแบบที่ไม่ชอบ มันกัดหร่อนทีละนิดเหมือนโรคร้ายและสักวันเด็กผู้ชายคนนี้จะต้องเปลี่ยนไปจนลืมว่าเมื่อก่อนเคยเป็นอย่างไร

หากขาดเรียนนานเกินกว่ากำหนดที่บอกเพื่อนไว้คงต้องเกิดคำถามอีก ดังนั้นเท็นจึงพยายามฝืนตัวเองลุกจากเตียง กว่าจะไปถึงเก้าโมงเศษ ๆ ทุกสายตาให้ความสนใจทางนี้แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้มองเพราะเหยียดหยัน เท็นรู้สึกดีกับการถูกรักแม้ว่าจะทำเรื่องแย่ ๆ ลงไป

เขาถอนหายใจกับปฏิกิริยาของตนเองที่มีต่อเพื่อนตั้งแต่เห็นหน้ากัน ทั้งการทักทายที่แค่พยักหน้าให้บวกกับถามคำตอบคำจนอีกฝ่ายคงสังเกตได้ไม่ยากถึงความผิดปกติซึ่งเกิดขึ้นกับตัวเขา เท็นไม่อยากเป็นแบบนี้ทุกอย่างมันกดดันให้ผลักไสไอ้แจ็คออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกนินทาว่าร้าย

กระทั่งพักเที่ยงสมาชิกทีม Numb2r ยกเว้นพี่ตั้บได้นัดกันว่าจะคุยเรื่องแข่งรอบหน้าซึ่งต้องหาทางรับมือทีมฝั่งตรงข้ามอย่างจริงจังเพราะฝีมือทางนั้นค่อนข้างเก่งไม่ใช่เล่น

และเท็นตั้งใจว่าจะลาออกจากทีมวันนี้

มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะออกจากเซฟโซน ออกจากจุดที่คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ ไม่เก่งเหมือนคนอื่น พอกันทีกับการเอาแต่ให้ไอ้แจ็คปลอบใจว่าการเล่นเกมมันต้องค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ไอ้ธีร์ดีแต่พูดเหยียดหยาม เขาจะทำให้ไอ้เวรนั่นรู้ว่าต่อให้เล่นทีหลังก็เก่งได้ และจะทำได้ดีกว่าด้วย

“มึง เย็นนี้ไปดูหนังกัน”

ทันทีที่ถึงโรงอาหารเจ้าของผมสกินเฮดก็คว้าไหล่เขาเอาไว้ เท็นคงไม่ได้คิดไปเองว่าวันนี้ไอ้แจ็คผิดปกติตั้งแต่รอยยิ้มบนใบหน้ายันคูปองลดราคาเครื่องดื่มในมือ หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงตอบตกลงทันทีและตั้งตารอให้ถึงบ่ายสี่โมงเพื่อที่จะสะพายเป้ไปสยามกับเพื่อนสนิท

แต่มันสายไปแล้ว

แจ็คยิ้มเก้อมองเพื่อนสนิทที่แกะมือเขาออกพร้อมแววตาไม่คุ้นเคย มันทั้งเรียบเฉย ว่างเปล่าจนวูบหนึ่งทำให้เขารู้สึกใจหาย

นักเรียนมากมายกำลังทยอยกันเข้าไปจับจองที่นั่งเพื่อกินมื้อเที่ยง และแจ็คก็ยังคงรอคำตอบซึ่งเขาหวังว่าไอ้เท็นจะตกลง แต่ผ่านไปเป็นนาทีแล้วอีกฝ่ายก็ยังเฉย

“ที่กูติดมึงไว้น่ะ จำได้ไหม?” แจ็คไม่ใช่คนชอบพูดซ้ำสอง แต่ถ้ามันจะเตือนความจำเพื่อนได้ก็คงไม่เสียหายอะไร อีกอย่างมันคงไม่แปลกถ้าไอ้เท็นจะน้อยใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านไปมันคือความผิดของเขาทั้งหมดที่ปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาขนาดนี้

“...”

เท็นรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำตั้งแต่วินาทีแรกที่ตัดสินใจแกะมืออีกฝ่ายออก พอเอาเข้าจริงเขาก็ไม่ได้มีความกล้ามากพอที่จะปฏิเสธคนที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ในชีวิตได้ แต่อีกใจก็อยากให้อีกฝ่ายเรียนรู้ความผิดหวังเสียบ้าง

และระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็ถูกกดดันโดยสายตาเพื่อนกลุ่มนั้นที่นั่งกินข้าวอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้


‘กูถามจริงนะ มึงคบกับไอ้แจ็คใช่ปะวะ?’
‘เกย์’


“เท็น?”

“เออใช่ ๆ ที่มึงติดกูไว้ตอนนั้น”

เท็นหวังว่าการแสดงละครตบตาคราวนี้จะได้ผล แต่นั่นก็เป็นเพียงความต้องการที่หลีกหนีความจริงไม่ได้ว่าต่อให้เขาจะพยายามกลบเกลื่อนอย่างไร อีกฝ่ายก็ดูออกอย่างง่ายดายอยู่ดีว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง

“โทษทีว่ะ แต่กูคงไปด้วยไม่ได้”

“ทำไมวะ ไม่ว่างเหรอ?”


ว่างสิ ว่างขนาดเอาเวลาไปคิดเรื่องโง่ ๆ จนกลายเป็นแบบนี้แล้ว


“งั้นพรุ่งนี้เป็นไง แวะกินกล้วยกล้วยก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะดูหนังเรื่องไหน ดีไหม?”

ไอ้แจ็คก็ยังคงพยายามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังฝืน น่าตลกดีที่ตอนนี้เด็กหนุ่มทั้งสองคนไม่หลงเหลือความเป็นธรรมชาติให้กันแล้ว จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าอีกฝ่ายมายืนตรงหน้าเขาและพูดมันให้เร็วกว่านี้... เรื่องที่กลัวถูกว่ามองเป็นเกย์มันจะกลายเป็นแค่เรื่องไร้สาระไปหรือเปล่า?

“มีอะไรกันวะ?”

ไอ้ตัวปัญหาระดับโลกเดินเข้ามาถามหลังจากเห็นว่าเขากับไอ้แจ็คหยุดยืนตรงนี้โดยที่ยังไม่ไปหาโต๊ะนั่งกินมื้อเที่ยง เท็นคิดว่าวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะยิ้มรับสีหน้าวอนตีนของไอ้ธีร์ เพราะหลังจากนี้จะไม่มี TEN1O คอยเล่นตำแหน่งรองมือรองตีนให้อีกแล้ว

“มึงมาก็ดีแล้ว กูมีเรื่องจะบอก”

“ว่า?”

อย่าไปกลัว ก็แค่ทำในสิ่งที่ไอ้ธีร์กล้าทำกับคนอื่นจนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมันก็ไม่เห็นจะรู้สึกผิดเลยสักครั้ง และถ้าหากเขาจะทำบ้างก็คงไม่เสียหายอะไรถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำมาตลอด

“กูคงต้องออกจากทีมแล้วว่ะ”

สีหน้าไอ้ธีร์เกินความคาดหมายไปหน่อย ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไหวไหล่หรือขานตอบตกลงแล้วเดินจากไปทำเรื่องไร้สาระแบบที่ชอบทำ แต่ตอนนี้มันกำลังเบิกตากว้างขณะสบตากับเขาราวกับไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

ไอ้แจ็คก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นสันดานเสีย ๆ ของเขามันกลับรู้สึกอยากประชดประชันมากกว่าหันกลับไปรู้สึกผิดกับเพื่อน


‘ขาดเขาคนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก’
‘ใช่ไหมล่ะ?’


“เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ ๆ มึงถึงอยากออก?”

เป็นคำถามของไอ้แจ็คที่มาก่อนคำอธิบายของเขา เด็กหนุ่มตัวสูงสามคนยืนคุยกันอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครห่วงว่าคาบบ่ายกำลังใกล้จะเข้ามาถึงแล้วและยังไม่มีใครได้แตะมื้อเที่ยงสักคำ แต่เท็นคิดว่าควรพูดให้จบตอนนี้เพราะจะได้อึดอัดแค่ครั้งเดียว ดีกว่าอมน้ำลายไว้ในปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนต้องทนไปเรื่อย ๆ

“แม่กูอยากให้เรียนวิดวะอะ พวกมึงก็รู้ใช่ไหมว่าผลการเรียนกูมันไม่ดีเท่าไหร่ พอถึงจุด ๆ หนึ่งกูก็นึกได้ว่าอนาคตมันสำคัญ”

“แต่ทีมเรากำลัง --”

ไอ้ธีร์พูดไม่จบก็ถูกไอ้แจ็คดันไหล่ห้ามไว้เสียก่อน หลังจากนั้นพูดอะไรออกไปบ้างเขาเองก็จำไม่ได้ มันพร่าเบลอเหมือนทุกอย่างหยุดความเคลื่อนไหวเพียงเพราะตัดสินใจทำบางสิ่งลงไปทั้งที่ลึก ๆ ไม่ต้องการอย่างนั้น

มีเพียงสิ่งเดียวที่จำได้ก็คือสีหน้าและแววตาไอ้แจ็คซึ่งเต็มไปด้วยคำถาม คนตรงหน้าไม่ได้เหนี่ยวรั้งหรือพูดหว่านล้อมว่าบางทีมันอาจจะมีหนทางสำหรับการตั้งใจเข้าคณะที่ต้องการและแข่งเกมไปพร้อม ๆ กันได้

แต่ไอ้แจ็คก็เอาแต่มองอยู่อย่างนั้น มองโดยไม่พูดอะไร กระทั่งคำพูดประโยคสุดท้ายหลุดออกมาจากปากเขาซึ่งมันคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต

“ส่วนเรื่องนั้นไม่ต้องเล่าแล้วนะ กูไม่อยากรู้แล้ว”





*





“ย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“โห นานแล้ว”

“คนเดียวเหรอ หรือว่ายังไง?”

“เปล่า เมียกูล่องหนอยู่ตรงนั้นน่ะ ถ้าใส่แว่นสามมิติก็จะมองเห็น”

แจ็คมองหน้าไอ้คนกวนตีนพลางยกเบียร์ขึ้นดื่ม แม้จะหมดไปลังนึงแล้วแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหลับหรือแหกปากร้องเพลงอย่างที่คนเมาเป็นกัน และมันก็เป็นอีกครั้งที่เขาหวนนึกถึงอดีต

จากที่เคยนอนมองดาวบนผืนหญ้าแต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นฟูกนุ่ม ๆ ราคาแพง หากไอ้เท็นบอกว่าทั้งคู่นั่งไทม์แมชชีนมาอนาคตก็คงเชื่อได้ไม่ยาก เพราะแจ็คยังจำกลิ่นหญ้า กลิ่นเหงื่อบนเสื้อนักเรียน และสีหน้าคนข้าง ๆ ได้เป็นอย่างดี 

“ไม่เหงาหรือไง?”

“มึงรู้ว่ากูจะตอบแบบไหน แล้วทำไมถึงยังถาม?”

“เผื่อเหล้าจะทำให้มึงงัดปากพูดออกมาได้กูก็เลยลองดู” แจ็คหัวเราะในลำคอพลางเปิดเบียร์กระป๋องใหม่

“กูมีหมากับแมวเป็นเพื่อนแล้ว”

การไม่ตอบก็คือการให้คำตอบ แจ็คคิดอย่างนั้น

“ทำไมมึงถึงทำงานบริษัทเกม?”

ชายหนุ่มผมยาวเพียงหันไปมองคนที่นั่งพิงประตูกระจกอยู่ข้างตัวพลางฉายแววตาสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เกิดคำถามนี้

“มึงเคยบอกว่าอยากเป็นนักร้อง” เท็นจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ และเขาถามอีกฝ่ายระหว่างนั่งเล่นกีต้าร์ในบ้าน

“กูเสือกขี้อายก่อนก็เลยไม่ได้ส่งเดโมไป”

ชายหนุ่มผมเทาแค่นหัวเราะกับคำตอบที่โคตรแถ แต่ก็ไม่แปลกใจที่ไอ้แจ็คเลือกตอบเลี่ยง ๆ มากกว่าจะอธิบายทุกอย่าง เขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เรื่องนี้เท็นรู้ดี

“นั่นคือความฝันวัยเด็ก แต่พอโตขึ้นกูก็แค่มองเห็นความฝันแบบใหม่ มันก็แค่นั้น”

แต่สุดท้ายมันก็เล่าให้เขาฟัง

เท็นหันไปมองอีกคนที่ยกกระป๋องเบียร์ดื่มพลางถอนหายใจเอาความสุขจากการได้ลิ้มรสความสดชื่นออกมา เขารู้สึกว่าวันนี้มันยาวนานมากตั้งแต่นาทีแรกที่ไปหาไอ้แจ็คถึงบ้าน กระทั่งไปดูหนังกับน้องแพรว หรือตอนนี้ที่ใช้เวลาละเลียดดื่มเอาความขมกลบความอุ่นในใจ

“แล้วมึงล่ะ ทำไมถึงอยู่ตรงนี้ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีทีท่าว่าชอบเกม?”

“...”

เขาควรตอบอย่างไรกับคำถามที่ถ้าอีกฝ่ายใช้เวลาคิดสักนิดก็คงนึกออกได้ว่าเพราะเหตุใด TEN10 ถึงมีชีวิตในวงการเกม ชายหนุ่มผมเทาเพียงยกเบียร์ดื่มเพื่อทิ้งให้ความเงียบทำงาน ถึงการนั่งอยู่ด้วยกันจะเป็นเรื่องที่เขาต้องการ แต่ถ้าให้พูดความจริงไปก็คงไม่ดี

“กูก็แค่ขี้เกียจออกไปทำงานข้างนอก”

“เหรอ?”

“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง?”

“มันเป็นหน้าของคนที่อยากรู้ว่าระหว่างไม่ได้เจอกันมึงคิดอะไร มึงใช้ชีวิตแบบไหนจนกว่าจะถึงวันนี้?”

“เมาแล้วเหรอ เริ่มถามลงลึกละนะ”

แจ็คยิ้มขำกับความจริงที่ว่าเขาเริ่มจะข้ามเส้นที่ทั้งคู่พร้อมใจกันขีดเอาไว้ แต่แล้วอย่างไร เบียร์ที่ดื่มเข้าไปจนต้องวิ่งฉี่มันห้ามความอยากรู้ที่มีอยู่ไม่ได้แล้ว

“กินไปตั้งขนาดนี้ไม่เมาก็ไม่รู้จะให้ว่าไง ถ้ามึงยังไม่ตอบแล้วกูหลับไปก่อนก็ปลุกด้วยล่ะ”


กวนตีน ไอ้แจ็คกำลังกดดันให้เขาพูดชัด ๆ


“ตลกดี ปลายปีก่อนยังทำท่าจะต่อยกันทุกครั้งที่เห็นหน้าอยู่เลย”

“นั่นมึงกับไอ้ธีร์มากกว่ามั้ง”

“แต่มึงกำหมัด กูเห็น”

“ก็ตอนนั้นปากมึงมันน่าต่อย”

“เหรอ แล้วตอนนี้ล่ะ?”

ไอ้เท็นไม่ควรถามลองใจตอนที่เขาดื่มเบียร์ไปเยอะขนาดนี้ และแจ็คไม่อยากรู้สึกดีกับแววตาที่มองมาเหมือนคาดหวังอยากให้เขาตอบว่า ‘ไม่แล้ว’

“ก็ยังอยากต่อยอยู่”

“อ้าว จะเอาไหมล่ะ แลกกันคนละหมัดแล้วรอดูว่าใครจะช้ำนานกว่ากัน?” ไอ้ลิงหัวเทาไม่พูดอย่างเดียว มันถลกแขนเสื้อขึ้นพร้อมเบ่งกล้ามโชว์

“ต่อยกับเด็กปัญญานิ่มกับมึงสู้ให้กูไปนั่งดมขี้แมวอีมูนดีกว่า”

“เรียกลูกกูดี ๆ หน่อย มันมีหัวใจนะ”

“แล้วมึงล่ะ มีไหม?” ก็ถ้าเก่งเรื่องถามลองใจนักก็ต้องเจอเอาคืนบ้าง ซึ่งไอ้เท็นก็ค้างอยู่ท่าวางก้าม พลางขมวดคิ้วมองเหมือนพยายามใช้ความคิด

“ไม่มีก็ตายดิ ถามโง่ ๆ”

“มุกไม่ฉลาด น่าผิดหวังจริง ๆ”

“ทำเป็นพูดนะมึงนะ ตอนงานแต่งก็ทำหน้าเหมือนจะคะย่อนของเก่าออกมาทุกครั้งที่หันมาเจอกู แล้วดูตอนนี้สิ มึงกำลังนั่งกินเบียร์อยู่ในบ้าน TEN10 ผู้ได้รางวัลคนเหี้ยสิบปีซ้อน”

“นี่ไม่ต้องง้างปากมึงก็ด่าตัวเองแทนกูแล้วเหรอ?” เท็นไม่ใช่คนชอบด่าตัวเอง กลับกันแล้วยังรักการถูกชมเสียด้วยซ้ำ แต่อยู่ ๆ เขาก็นึกสนุกขึ้นมาเพียงเพราะว่ามันทำให้อีกฝ่ายหัวเราะได้

“เขาเรียกยอมรับความจริง กูไม่ใช่ไอ้ธีร์นะที่จะหลับหูหลับตาคิดว่าตัวเองเป็นคนดี”

“ถ้าตอนนั้นไม่เถียง แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว”

“จะสักแค่ไหนกัน?”

“เอาเป็นว่าทุกวันนี้มีคนทำให้มันเชื่องได้ อยากลองไปพิสูจน์เองกับตัวไหมล่ะ?”

“มึงอยากเห็นกูกับมันฆ่ากันตายหรือไง?” เท็นค้างอยู่ในท่ายกเบียร์ขึ้นดื่มพลางชำเลืองมองคนข้าง ๆ

“กลัวเปล่า?”

“กูเนี่ยนะกลัวไอ้ธีร์?” ให้ตายเถอะว่ะ ชายหนุ่มผมเทาแค่นหัวเราะกับคำท้าทายที่ย้อนเวลากลับไปเมื่อปีก่อนก็ได้คำตอบแล้วว่าเขาถนัดงานปั่นหัวไอ้เวรนั่นแค่ไหน

“ถ้ากูโทรตามให้มันมาที่นี่มึงจะ...?”

“ถีบมึงตกระเบียงก่อนเลยอันดับแรก”

ดูมัน... ทีงี้ล่ะหัวเราะใหญ่เชียวนะ





*





“เท็น”

ไม่น่าแปลกใจนักที่คนเรียกชื่อเขาคือแฟนสาวของเพื่อนสนิท เด็กหนุ่มเพียงยิ้มเล็ก ๆ ระหว่างสบตากับเธอก่อนจะลากเก้าอี้ออกให้ ซึ่งเจ้าของแก้มสีระเรื่อก็เดินมานั่งด้วยกันเหมือนทุกครั้งที่ ‘บังเอิญ’ ผ่านมาเห็นเขานั่งอยู่ตามลำพังที่ร้านกล้วยกล้วย

“มานั่งคนเดียวอีกแล้ว”

“ไม่รู้สิ เหมือนรู้ว่าถ้ามาตรงนี้จะได้เจอใครบางคน ก็เลยมานั่งโง่ ๆ แบบไม่มีจุดหมาย” คนได้ยินคำหวานเม้มปากกลั้นยิ้มพลางเบือนสายตาไปอีกทาง เท็นเท้าศอกมองภาพเดิม ๆ อีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีดีอะไร ทำไมไอ้แจ็คถึงได้หลงรักนัก?

“แล้วเจอหรือยัง?”

“อืม เจอแล้ว” เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อปลายนิ้วถูกสัมผัส และก็เป็นอีกครั้งที่บลูยอมให้มืออุ่น ๆ ของผู้ชายคนนี้เข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึก

“ถ้าอย่างนั้น... เค้าไปไหนแล้วล่ะ?”

“อืม... เหมือนจะแอบอยู่แถว ๆ นี้นะ” เด็กหนุ่มเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้จนอีกฝ่ายหดคออย่างขลาดอาย

เด็กสาวรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าเสียให้ได้กับอาการใจเต้นแรงที่แจ็คก็ไม่เคยทำให้เป็นแบบนี้ บลูรู้แก่ใจดีว่าเท็นคือไฟที่ไม่ควรเข้าใกล้ แต่ความเหงาและคำหวานที่ออกมาจากปากอีกฝ่ายมันก็ทำให้เธอพ่ายแพ้แก่ความผิดชอบชั่วดีในที่สุด

“ถ้าเค้าหายไปนานแบบนี้เท็นก็จะรอไปเรื่อย ๆ เหรอ?”

“ไม่แน่” เด็กหนุ่มแสร้งขมวดคิ้วขณะจ้องหน้ากับคนข้างตัว ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ ๆ อีกครั้งเพื่อทำให้เธอตายด้วยน้ำมือเขาไวขึ้น “ก็ถ้าบลูไปดูหนังกับเรา...”

“...”

“เรื่องคน ๆ นั้นก็ช่างหัวมันแล้ว”

“แต่...”

“บลูไม่อยากดูหนังกับเราเหรอ?”

“เปล่านะ คือ --”

“อ่า เข้าใจแล้ว บลูเป็นแฟนไอ้แจ็คนี่นะ จะไปดูหนังกับเราได้ยังไง อีกอย่างคงไม่มีใครอยากไปทำเรื่องแบบนั้นกับคนที่ไม่ได้ชอบหรอก”

“เท็น...”

“เดี๋ยวเราโทรหาน้องมอห้าคนนั้นดีกว่า บลูรู้จักใช่ไหมน้องคนตัวผอม ๆ สวย ๆ ที่เดินกับเราวันนั้น”

“ไม่เอา อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม...”

ให้ตาย... คราวนี้เธอเป็นฝ่ายจับไม้จับมือเขาว่ะ

ไหนจะดวงตาคู่นี้ที่มองมาเหมือนอยากอธิบายว่ารู้สึกดีกับเขาเสียยิ่งกว่าอะไรนี่ด้วย สาบานได้ว่าเท็นอยากออกตัวปกป้องอีกฝ่ายจนเนื้อเต้นทุกครั้งที่ถูกไอ้พวกนั้นเอาไปยำในวงเหล้า แต่ยิ่ง ‘บังเอิญ’ เจอกันบ่อยเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งแสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นว่าผู้หญิงแบบนี้ไม่ควรได้รับความรักดี ๆ จากใครเลยสักนิด

“เราจะไปดูหนังกับเท็น เพราะงั้นอย่าไปกับคนอื่นเลยนะคะ...”



ไม่ควรเลย





*





ทุกคนเข้าใจได้ถ้าหากไอ้เท็นอยากให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมากกว่าเกมที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าไร้สาระ ดังนั้นจึงไม่มีใครรั้งเรื่องที่มันขอออกจากทีมกะทันหัน แต่การขาดคนไประหว่างอยู่ในการแข่งขันก็เป็นเรื่องหนักหนาพอสมควร เพราะ Numb2r ต้องหาคนเข้าทีมใหม่และต้องฝึกซ้อมหนักกว่าที่เคยเพราะถ้าหากเข้ากันไม่ได้ แผนจะเอาชนะทีมฝั่งตรงข้ามก็คงเป็นเรื่องยากโข

แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เท็นก็ยังอยู่ใน TeamSpeak ตลอดระหว่างที่ทีมกำลังซ้อมกัน มันช่วยแนะนำให้คนที่มาแทนตำแหน่งตนเอง อีกทั้งยังช่วยออกความเห็นว่าจะต้องวางแผนรับมือทีมฝั่งตรงข้ามอย่างไรก่อนจะแยกตัวไปอ่านหนังสือ

พักนี้เขาเริ่มมีปากเสียงกับบลูเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แจ็ครู้ว่ามันเป็นความผิดของเขาเองที่ไม่สามารถดูแลใส่ใจเธอได้ตามที่ควรจนวูบหนึ่งมีความคิดว่าไม่อยากมีแฟนแล้ว เพราะแค่จัดการเรื่องที่บ้านกับเรื่องตัวเองก็เหนื่อยเต็มที ถ้าต้องมาเจอสงครามประสาทโดนประชดประชันซ้ำ ๆ ความเป็นคนดีของเขาก็คงแบกรับความรักครั้งนี้ไว้ไม่ไหว

แจ็คอยากบอกเลิกบลูให้จบ ๆ อย่างน้อยเธอก็จะได้ไปเจอคนใหม่ที่พอดีกว่า เขาไม่อยากให้เธอทนอยู่กับผู้ชายที่ไม่เหลืออะไรแม้กระทั่งเวลาใส่ใจแฟน แต่พอบอกว่า ‘เราลองห่าง ๆ กันดูไหม?’ บลูก็ร้องไห้กอดเขาไว้แน่นพร้อมขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า

เธอสะอึกสะอื้นจนเหมือนจะขาดใจ และพอเห็นอย่างนั้นใครจะกล้าบอกเลิกได้ สุดท้ายแจ็คก็ต้องทนอยู่กับความรู้สึกผิดกับทุกสิ่งทุกอย่าง มันไม่มีอะไรดีขึ้นสักนิด เพราะถ้าหันไปใส่ใจแฟนก็ทำให้เสียเวลาเอาไปสร้างรายได้เพิ่ม แต่พอทำงานหาเงินก็ไม่มีเวลาให้อะไรสักอย่าง

เหมือนได้สิ่งหนึ่งก็ต้องแลกกับสิ่งหนึ่ง จนเกิดคำถามว่าทุกวันนี้เขาใช้ชีวิตอยู่เพื่ออะไร?

แค่รอดไปวัน ๆ หรือว่ามีเป้าหมายที่ดีกว่า?

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดหยุดยืนอยู่หน้าบ้านกลางดึก มองประตูม้วนที่ถูกพ่นสีโดยคนมือบอนที่อยากโชว์ความสามารถโดยไม่รู้จักที่รู้จักทาง แจ็คแง้มประตูหน้าบ้านขึ้นเพียงเล็กน้อยแล้วคลานเข้าไปเพราะไม่อยากให้ใครต้องตื่นเพราะการมาของเขา พอปิดประตูลงก็เห็นพ่อนอนเมาอยู่บนโซฟาไม้เก่า ๆ ที่เคยบ่นว่าแข็งจนแทบนอนไม่ได้

แจ็คแวะขึ้นไปหาแม่ก่อนจะเข้าห้องตนเอง มันเหมือนกับทุกครั้งที่เขามักจะเห็นเธอนั่งรีดผ้าจนดึกดื่นโดยมีวิทยุเครื่องเล็ก ๆ เปิดคลออยู่เป็นเพื่อน นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เห็นรอยยิ้มของแม่ มันก็คงนานมากพอที่เขาจะปิดประตูลงแล้วกลับไปห้องตัวเองเพราะการทักทายยามเช้าหรือก่อนนอนมันไม่มีผลอะไรกับปฏิกิริยาของแม่

เธอมักจะทำหน้ามึนตึง เหนื่อยล้า และโกรธทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ชีวิตต้องดิ่งลงมาอยู่ในจุดนี้

หลังจากอาบน้ำจนได้ความสดชื่นเรียบร้อยแจ็คก็หยุดยืนมองน้องอีกสองคนที่หลับไปแล้วและนั่นหมายความว่าเขาต้องเบาเสียงให้มากที่สุด คืนนี้ก็ยังเหมือนเดิม เริ่มจากเตรียมแผนการสอน ซ้อมทีม และถ้ายังเหลือเวลาก็ค่อยอ่านหนังสือจนกว่าจะทนฝืนง่วงไม่ไหว

ความฝันใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าหากได้เงินรางวัลครั้งนี้เขาคงเอาให้พ่อไปเช่าแท็กซี่มาขับหรือไม่ก็เอาไปลงทุนกับอะไรสักอย่างที่ต้องเห็นเม็ดเงินชัด ๆ ไม่ใช่ลงกับขวดเหล้าอย่างที่เป็นอยู่

อยู่ ๆ ฝนก็ตกอย่างหนักลงมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เด็กหนุ่มผมสกินเฮดจึงลุกไปปิดหน้าต่างเพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าละอองฝนจะเข้ามาจนทำให้เด็กน้อยอีกสองคนต้องป่วย แต่ผ่านไปเกินนาทีแล้วเขาก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น มองหยดน้ำนับล้านที่ร่วงลงมาจากฟากฟ้าจนทำให้นึกถึงใครอีกคนที่อยู่ห่างไกลจากตรงนี้


คุณกำลังโทรออก...
‘ไอ้หน้าหมา’


ระหว่างกังวล เป็นห่วง กลัวว่าเพื่อนจะเครียดหลังจากถูกกดดันให้อ่านหนังสือเพราะเรื่องคณะที่อยากเข้าเรียน ตอนนั้นแจ็คไม่รู้เลยว่าคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทกำลังพาแฟนของเขากลับไปที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเปียกฝน

และสองคนนั้นก็ทำเรื่องที่เขาไม่คาดคิด... ซึ่งนั่นไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว
 




(ต่อด้านล่างนะคะ)










หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 24-12-2018 20:42:12



*





“ทำไมถึงออกจากบลูไวเปอร์?”

สติสตางค์ที่เคยมีเริ่มเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว สังเกตได้จากบทสนทนาที่เริ่มลดน้อยลง แต่สุดท้ายไอ้แจ็คก็ยิงคำถามที่ทำให้คนฟังตื่นเต็มตาจนได้

“ถ้ากูบอกว่าคนพวกนั้นห่วงหน้าตาวงจนไม่สนใจอะไรมึงจะเชื่อไหม?”

“เชื่อ”

“ทำไม?”

“เพราะกูเริ่มเมาแล้ว” เท็นส่ายศีรษะหน่าย ๆ กับไอ้หน้าโง่ที่ยังเปิดเบียร์กระป๋องใหม่ทั้งที่ปากพูดอย่างนั้น

“ความจริงมันมีอะไรมากกว่าที่คนด่า ๆ กัน ทั้งเรื่องที่กูอยากระบาย แล้วก็เรื่องที่คิดว่าช่างแม่งเหอะ คิดไปก็โมโหเปล่า ๆ”

“อย่างเช่น...?”

“เรื่องที่ทีมนั้นอยากได้เด็กใหม่ไฟแรงเข้ามาแทนที่ บวกกับกูตกเป็นกระแสสังคมพอดี อะไร ๆ ก็เลยดูเข้าทางไปหมด”

“แล้วมันจริงอย่างที่คนอื่นพูดไหม?”

“จริงไม่จริงมันขึ้นอยู่กับว่าคน ๆ นั้นอยากมองกูยังไง”

แจ็คละสายตาจากกระป๋องเบียร์แล้วหันไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังจดจ้องอยู่กับท้องฟ้ายามค่ำคืน

“มึงก็รู้ว่าโลกนี้ยุติธรรมแค่ไหน ต่อให้ทำพลาดแค่ครั้งเดียวแต่คนจะจดจำมึงแบบนั้นไปตลอดโดยไม่สนใจว่าก่อนหน้านี้มึงเคยทำดีไปแล้วกี่ครั้ง ทุกคนจะเมินทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจ้องแต่เรื่องเหี้ย ๆ ที่มึงทำลงไป แต่ถ้ายังไม่สะใจก็จะหาเรื่องอื่นมาสร้างประเด็นให้มึงอีกจนได้”

“ไม่แปลกหรอก ใคร ๆ ก็ชอบเรื่องดี ๆ มากกว่าเรื่องที่ทำให้หงุดหงิด ต่อให้เป็นเรื่องของคนอื่นก็ตาม”

“ก็จริงของมึง กูรู้นะว่ากูไม่ใช่ที่รักของใคร ๆ ขนาดที่จะมีคนตั้งกระทู้สาธยายความดีให้ แต่หลัง ๆ มันชักจะเกินไปแล้ว แค่ขยับตัวนิดหน่อยก็หาว่าจงใจประชดประชันแดกดันคนอื่น เหมือนคนทั้งโลกพร้อมใจกันหันมาหากูเพื่อตั้งหน้าตั้งตาจับผิดว่าวันนี้ไอ้เชี่ยเท็นจะทำอะไรนะ อยากด่ามันจังแต่ไม่มีหัวข้อเด็ด ๆ ให้ยกพวกไปยำเลย งั้นลงกับรูปหมามันแล้วกัน อย่างน้อยก็ขอให้ได้ระบายอารมณ์”

“มึงทนอยู่กับความรู้สึกแบบนี้คนเดียวมาเป็นปีเลยหรือไง มีใครสักคนที่รับฟังเรื่องนี้ไหม?”

“ไม่ เชิญมึงสมน้ำหน้าได้”

“กูจะทำอย่างนั้นทำไม นี่มันเรื่องใหญ่นะเท็น มึงควรจะระบายออกมาบ้างไม่ใช่เอะอะเก็บทุกอย่างไว้ในใจเพราะคิดว่าตัวเองโตแล้วต้องอดทนได้ อีกอย่างมึงเลิกได้แล้วไอ้อาการอัปโซเชียลแสดงออกว่าไม่สนไม่แคร์อะไร เพราะการทำแบบนั้นยิ่งทำให้คนเข้าไปด่า”

“ที่จริงก็ไม่มีอะไรที่ทำได้อยู่แล้วนอกจากหายไปจากโลกนี้ เผลอ ๆ ต่อให้ไม่มีกูวนเวียนอยู่ในโซเชียลก็คงโดนขุดขึ้นมาด่าอยู่ดี ส่วนเรื่องคนรับฟังน่ะมึงคิดว่ามันง่ายหรือไงแจ็ค หันไปทางไหนก็มีแต่คนยิ้มให้แต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง เผลอเมื่อไหร่ไม่รอด”

“มึงเลือกที่จะเดินเข้าไปเองทั้งที่รู้ว่าเขามีมีด”

เห็นไหม พอเริ่มพูดความในใจออกมาบรรยากาศก็พังเละเทะไม่เป็นท่า ไหนล่ะความสบายใจที่คิดว่าจะได้ แค่นั่งแดกเหล้าเมา ๆ คนเดียวแต่แรกก็จบแล้ว

“กูหมายความว่ามึงควรจะดูให้ดีก่อนไว้ใจใคร ไม่ใช่เอะอะคนไหนดีด้วยก็ให้ใจเขาหมด”

“กำลังจะด่าว่ากูโง่ล่ะสิ?”

“ใช่ แล้วถ้ายังโดนคนหักหลังซ้ำ ๆ ไม่หยุดกูก็จะด่ามึงไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ”

“พูดเหมือนจะอยู่”

“แล้วตั้งแต่กลับมามึงเห็นกูไปไหนหรือยัง?”

เกลียดที่กำลังเสียใจและดีใจไปพร้อม ๆ กัน เขาต้องหันหน้าไปอีกทางเพื่อปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ซึ่งก็จะขอบคุณมากถ้าหากไอ้แจ็คไม่ได้จ้องอยู่จนเอาไปคิดว่าเขาคนนี้กำลังอ่อนแอ


‘คนเกลียดไอ้เท็นเยอะ ถ้าออกมาพูดปกป้องทีมตอนนี้ก็มีแต่จะดีกับพวกเรา ลอยตัวเหนือดราม่า แถมได้คะแนนเอาใจชาวเน็ตด้วย’
‘จริง เดี๋ยวนี้มันก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรขนาดนั้นแล้ว เอารุ่นน้องมึงมาแทนที่น่าจะได้กระแสกว่า’


“ครั้งแรกเราเป็นคนแปลกหน้าต่อกันก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเพื่อน แล้ววันหนึ่งเราก็กลับไปเป็นคนแปลกหน้าอีกครั้ง”

“แล้วมึงว่าแบบไหนดีกว่ากัน?”

หากอยู่ในสภาพปกติเชื่อเถอะว่าเท็นคงไม่มีวันงัดปากถามอะไรแบบนั้น แต่ตอนนี้ร่างกายเขามันร้อนจนสูบฉีดความกล้าขึ้นมาเต็มขั้น และไอ้แจ็คต้องเข้าใจว่านี่เป็นเพราะพิษแอลกอฮอล์มากกว่าจะเป็นความจริงจากใจ

 “เท็น”

“อะไร?”

“มึงรู้ไหมว่าถ้ากินกระป๋องนี้หมดภายในรวดเดียวแล้วเราจะจำอะไรไม่ได้จนกว่าจะเช้า?”

“...”

ชายหนุ่มผมเทามองกระป๋องเบียร์ที่อีกคนยื่นให้ เหมือนกับเป็นการบอกนัย ๆ ว่าทั้งคู่สามารถพูดความในใจอะไรก็ได้จนกว่าจะรุ่งสาง ซึ่งใจหนึ่งเท็นก็กังวลกับคำเชิญชวนบ้า ๆ นั่น แต่ลึก ๆ มันก็อยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร

“จนกว่าจะเช้า”

ทั้งคู่ชนกระป๋องเบียร์กันแล้วยกดื่มจนหมดรวดเดียวตามที่พูดก่อนจะเรอออกมาประชันว่าเสียงของใครน่าเกลียดกว่ากัน เป็นอีกครั้งที่เท็นหันไปเห็นอีกคนในร่างเด็กมอปลายผมสกินเฮด

“เท็น”

และเขากลัวคำถามหลังจากนี้เหลือเกิน

“อืม”

ถ้าไอ้แจ็คจะรื้อฟื้นเรื่องบาดแผลเมื่อตอนนั้นก็คงไม่แปลก เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านไปในหัวอีกฝ่ายคงเต็มไปด้วยคำถามว่า ‘ทำไม?’ คนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทในวันนั้นถึงหักหลังทีมได้ลงคอ

ไอ้คนพูดน้อยเงียบไปแล้ว อยู่ ๆ ก็ปล่อยให้ค้างอยู่กับความสงสัยกลางอากาศแล้วจ้องมองมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ จนอดคิดไปในทางร้าย ๆ ไม่ได้ว่าไอ้แจ็คกำลังจะพูดประโยคที่ทำให้เขาแสร้งทำเป็นกร้านโลกต่อไปไม่ไหว


‘ที่กูบอกว่า ‘จนกว่าจะเช้า’ นั่นหมายความว่าหลังจากนี้เราไม่ควรมาเจอกันอีก การเป็นคนแปลกหน้ามันอาจจะเหมาะสมแล้วสำหรับกูกับมึง’


ถ้าไอ้แจ็คพูดอย่างนั้นเขาคง --


“ตอนนี้มึงอยากให้เราอยู่ในสถานะไหนวะ?”



คนกำลังเมา ๆ เล่นเอาคำถามนี้ตั้งแต่แรกแล้วกว่าจะไปถึงตอนเช้าเขาจะโต้ตอบอย่างไรล่ะวะไอ้ห่า?





TBC



สำหรับคนที่เซ็ง ๆ ว่าเขาไม่ได้กันสักที เราต้องขอโทษล่วงหน้าเลยเน้อ ด้วยความที่เนื้อเรื่องมันค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ สานสัมพันธ์ตัวละคร เพราะทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วก็แตกหักกันไป 10 ปี ซึ่งถ้าพูดในมุมคนเขียนเราก็คงปิ๊งปั๊งอีกคนไม่ได้ในทันทีแน่ ๆ มันต้องมีเรื่องมีราวกันก่อนน้อ ใจเย็น ๆ นะคะแง เราเข้าใจว่าอยากอ่านฉากหวาน ๆ แต่หลังจากเฉลยปมแข่งรอบชิงไปแล้วอะไร ๆ ก็จะดีขึ้นนะงับ ซึ่งน่าจะอีก 1-2 ตอนน้า

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 24-12-2018 21:08:31
จุกๆไปเลยจ้า​ แงงงงงงงงง​งงงงง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 24-12-2018 21:09:16
เท็น กล้าๆ หน่อยลูกกกก พูดไปเลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-12-2018 21:20:47
เอาจริงถ้านี่เป็นแจ็คก็ไม่รู้จะทนคุยกับเท็นได้เกินชั่วโมงไหม ดูทำแต่ละเรื่อง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 24-12-2018 21:48:03
ย้อนอดีตหน่อย...บลูทั้งขี้เหร่ ทั้งนิสัยไม่ดี  ทำไมเท็นยังเอาลง อ่านดูเหมือนจะหลายครั้งด้วย  ส่วนตัวว่าของที่ชวนแหวะ ครั้งเดียวก็แหวะแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-12-2018 22:30:31
 :a5:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-12-2018 22:36:23
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 25-12-2018 03:14:00
ที่รักอย่าเพิ่งโกรธน้องเท็นนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-12-2018 00:21:13
นอนกับแฟนเพื่อนอ่ะเท็น ถึงแม้เขาจะเล่นด้วยหรือไม่เล่นด้วยมันก็ไม่ควร เห้ออออออ


ขอแก้คำผิดหน่อยนะคะะ คะย้อน=ขย้อน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนที่ 13 เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (24/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-12-2018 00:27:58
สิ่งที่เท็นทำมันไม่ใช่ไร้เดียงสา แต่มันคือการขาดการชี้แนะด้านจริยธรรมจากคนที่มีประสบการณ์ชีวิต
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 31-12-2018 21:18:17



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 14
หัวใจที่หยุดเต้น




เวลาล่วงเลยผ่านไปจน Numb2r ฟลุ๊คเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในที่สุด ใจหนึ่งก็ดีใจกับไอ้แจ็คแต่พอหันไปอีกทางความรู้สึกเหล่านั้นก็จางหายไปง่าย ๆ เพียงเพราะเห็นท่าทีเวอร์ ๆ ของไอ้ธีร์ ก็พอเข้าใจว่าคนไม่เคยจะพราวด์บ้างมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่โทษทีว่ะ เขาอยากแช่งให้มันแพ้จนขายขี้หน้าจริง ๆ

คิดแล้วก็หงุดหงิดฉิบหายที่จะร้ายก็ทำได้ไม่สุด เพราะทุกครั้งที่นึกสาปแช่งไอ้เวรนั่นจิตใต้สำนึกมันก็ตะโกนบอกให้เพลา ๆ ลงหน่อยเพราะไอ้แจ็คก็อยู่ทีมนั้น


‘ทำไมไม่ออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ ไหนบอกว่าพ่อแม่ให้ตั้งใจเรียนไง?’


โดนเขี้ยวเข็นอย่างไรถึงยอมให้เอาเวลาไปแข่งเกมอย่างนี้ หรือที่พูดก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อทำให้ตัวเองไม่ผิดเวลาไม่ว่างไปกับเขาเท่านั้น ทุกอย่างไม่มีความสมเหตุสมผลเอาเสียเลย แล้วอย่างนี้จะให้เขาคิดในแง่ดีได้อย่างไรกัน?

ทุกวันนี้เรื่องนอนแทบไม่จำเป็นเพราะเวลาซ้อมให้เข้าขากับทีมใหม่เป็นเรื่องสำคัญกว่า มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องแลกว่าถ้าอยากได้บางอย่างก็จะเสียอีกอย่างไป เช่นผลการเรียนที่ดิ่งลงเรื่อย ๆ และกลุ่มเพื่อนฝูงที่ห่างออกมา

อดคิดไม่ได้ว่าถ้าปล่อยให้นานไปกว่านี้เขาคงเป็นอย่างที่ผู้ใหญ่พูดไว้ว่าเกมคือสิ่งทำให้เด็กฉิบหาย เสียคนจนไร้อนาคต

“ไงวะหนอนหนังสือ?”

คนถูกทักยิ้มค้างทันทีที่ได้ยินเสียงผู้มาใหม่ คนที่นั่งอยู่กลางกลุ่มเด็กสาวมอสี่หันไปตามต้นเสียงก่อนความหงุดหงิดจะทวีขึ้นเมื่อเด็กสาวรอบตัวเขากำลังซุบซิบเพียงเพราะตื่นเต้นกับการมาของไอ้ธีร์

ถึงจะยิ้มอยู่แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้มาดีแน่

“ว่าไง?” เท็นยิ้มเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจอยากตะโกนไล่ไอ้เวรนี่ออกไปไกล ๆ องศาสปอร์ตไลท์ที่เคยฉายมายังเขา ยิ่งเด็กสาวกลุ่มนี้ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเพราะเขินไอ้เวรนี่เท่าไหร่ ความคันตีนที่มีต่ออีกฝ่ายก็มากขึ้นเท่านั้น

“เปล่า แวะมาทักเฉย ๆ เห็นว่าช่วงนี้มึงอ่านหนังสือเครียด ๆ”

เสือก


“พี่เท็นเครียดเหรอคะ ตายจริง แล้วพวกหนูก็นั่งชวนคุยอยู่ตั้งนานสองนาน”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ก็ต้องมีเวลาพักบ้างสิ จริงไหม?” ประโยคสุดท้ายหันไปทางคนที่ใคร ๆ เข้าใจว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่ในใจกลับกลายเป็นศัตรูตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“มึงมีอะไรเปล่าธีร์?” เจ้าของชื่อไม่ได้ตอบ อีกฝ่ายเพียงมองเขาก่อนจะกวาดสายตาไปทางรุ่นน้องมอสี่บนโต๊ะ

“ไม่มีอะไร กูได้คำตอบละ”

ไอ้ห่ารากเอ๊ย มีบ้างไหมที่วันไหนจะไม่ทำให้เขาโมโห?





*





“มึงเห็นคะแนนไอ้เท็นยัง?”

“อืม”

“แค่สอบย่อยยังได้เกือบที่โหล่ มึงคิดว่ามันตั้งใจอ่านหนังสือจริง ๆ เหรอวะแจ็ค?”

“อาจจะได้แบบฝึกหัดผิด ๆ มามั้ง ตอนนี้มันก็คงเซ็งเหมือนกัน”

“เซ็งห่าไร กูเห็นนั่งยิ้มหน้าระรื่น อิ๊อ๊ะอยู่กับเด็กมอสี่ไม่สนใครแบบนั้นน่ะเหรอเซ็ง?” หนุ่มป็อปประจำโรงเรียนกล่าวติดหัวเสีย มองเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งเตรียมแผนการสอนบนโต๊ะพร้อมป้องปากกระแอมไอ

ไอ้แจ็คไม่สบายเรื้อรังเนื่องจากพักผ่อนไม่พอ ไหนจะอาหารการกินที่ขอให้ท้องอิ่มก็พอนั่นอีก แล้วอย่างนี้เขาจะเฉยได้อย่างไรกัน?

“มึงปล่อยมันเหอะธีร์ เชื่อกู”

“พี่ไม่ได้เห็นเองกับตาแบบผมพี่ไม่เข้าใจหรอกพี่ตั้บ ผมมีลางว่ามันไม่ได้เฟดตัวออกไปเพื่อตั้งใจเรียนว่ะพูดตรง ๆ”

“มึงก็มองมันแง่ร้ายเกินป๊าย”

“หรือพี่ไม่คิด?”

แจ็คหันไปทางเพื่อนสนิทและรุ่นพี่ที่นั่งจ้องหน้ากันนิ่งหลังจากเจอคำถามที่พี่ตั้บเองก็คงรู้แก่ใจ

พี่ตั้บกับไอ้ธีร์กำลังคุยเรื่องที่เขาไม่อยากตั้งคำถาม ซึ่งแจ็คคิดว่ามันคงเป็นระบบกลไกป้องกันจิตใจอย่างหนึ่งหลังจากเห็นว่าเพื่อนกำลังห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ เขากลัวว่าถ้าคิดตามแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นว่าเขาคือต้นเหตุที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้

ไอ้เท็นกำลังแย่เขารู้ดี แต่พอจะก้าวไปไถ่ถามอีกฝ่ายก็เดินหนีโดยไม่รู้ว่านั่นแค่เรื่องบังเอิญหรือจงใจกันแน่

“ต่อให้เป็นงั้นแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงวะ”

“จะมีอะไรเปลี่ยนล่ะ จริง ๆ เรื่องตั้งใจเรียนให้ทำพร้อมกันก็ยังได้ ใช่ว่าลงแข่งแล้วจะทำให้การเรียนเสียเปล่าวะ?”

“คนเรามันสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองอะ อย่างแรกมึงต้องเข้าใจปากตัวเองที่มีต่อมันเวลาเล่นเกมด้วย ถึงเวลาเที่ยวเล่นด้วยกันมึงจะใส่ใจไอ้เท็นดี แต่ถ้ามึงไม่เคยหยุดบ่นตอนเล่นเกมมันก็คงไม่อยากมานั่งอ่านหนังสือกับมึงหรอก”

“โหพี่ เรื่องบ่นเกมมันก็ผ่านไปสักพักแล้วไหม ผมก็พยายามดีกับมันเพื่อชดเชยส่วนปากหมาของตัวเองไปแล้ว แถมหลัง ๆ ไม่ได้เล่นด้วยกันอีกมันก็ควรหายโกรธบ้าง”

“มึงจะเออออเอาเองว่าคนอื่นควรคิดยังไงไม่ได้หรอกธีร์ อีกอย่างมึงจะให้มันหายปุบปับก็ไม่ได้ เหมือนเวลาไอ้เชี่ยตั้นเคยด่ามึงในเน็ตแล้วมึงจับได้นั่นแหละ ต่อให้มันขอโทษมึงก็ไม่หาย” แจ็คอธิบายให้คนเอาแต่ใจฟัง ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งแล้วพยักหน้าส่ง ๆ เหมือนจะยอมเข้าใจ

“ทีมเราไม่รอดแน่ถ้ายังเป็นแบบนี้”

“แล้วจะเอายังไง มึงจะไปง้อไอ้เท็นให้กลับมาเข้าทีมเราไหมล่ะ?” สมาชิกใหม่ไม่ได้ขี้น้อยใจหรือชอบออกนอกตำแหน่งเหมือนไอ้เท็นก็จริง แต่รายนั้นก็ซื่อบื้อเกินกว่าจะคิดอะไรเองได้ เหมือนสอนอะไรไปก็จำแบบนั้นโดยไม่รู้จักพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์

“พี่ ผมพูดจริงนะ วันนี้ผมกะจะเข้าไปตะล่อมมันเว้ย คือว่าถ้ามีโอกาสก็คงงัดปากขอโทษอะ แต่พอเห็นมันระริกระรี้อยู่ท่ามกลางดงผู้หญิงผมก็ไม่อยากทำละ ตั้งใจเรียนประสาเหรอ มันดูมีความสุขกับการไม่มีพวกเราจนผมหงุดหงิดอะ”

“ปล่อยมันเถอะ”

“ปล่อยไรมึง? ถ้ามันไม่เห็นหัวกูเรื่องนี้พอเข้าใจได้เพราะกูไม่ใช่เพื่อนรักมัน แต่มึงอะ มันเคยมารับรู้บ้างไหมว่ามึงกำลังเผชิญกับอะไรอยู่?”

“มึงจะเอาอะไรกับคนไม่รู้วะธีร์?”

“ถ้ามันไม่รู้ก็ให้กูบอกมันดิเพื่อน กูจะเล่าทุกอย่างเลยเผื่อมันจะตาสว่างมากขึ้น”

ตุ้บตั้บกุมขมับ มองรุ่นน้องสองคนที่เริ่มมีปากเสียงกันเล็ก ๆ ในห้องปูนเก่า ๆ เขาเข้าใจทั้งมุมของไอ้ธีร์และไอ้แจ็ค คนหนึ่งก็เจ็บใจแทนเพื่อนที่ลำบากแทบแย่แต่ไอ้เท็นดันไม่เคยมารับรู้ ส่วนอีกคนก็แบกความทุกข์ไว้กับตัวเพียงเพราะไอ้เท็นไม่อยากรับรู้เรื่องที่อยากเล่าให้ฟังแล้ว

เด็กหนอเด็ก...




*




เท็นจมอยู่กับคำว่า ‘อยากเอาชนะ’ จนมองไม่เห็นเหตุผลใด ๆ อีกแล้ว ทั้งที่ทุกวันนี้ไอ้ธีร์ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร มีบ้างที่คุย ๆ หรือไปกินข้าวด้วยกัน แต่อาการอยากสาปแช่งมันยังคงอยู่ในใจไม่ลดลงไปเลยสักนิด

พอเห็นกระทู้อวย Numb2r ก็ทนอ่านไม่ได้ น้อยคนเหลือเกินที่นึกเสียดายสมาชิกอย่าง TEN10 ที่ออกจากทีมไป และความเก็บกดเหล่านั้นก็ส่งผลให้ความทะเยอทะยานมันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ห่างความเป็นตัวเองเข้าไปทุกที

เท็นรู้สึกเหมือนกำลังกำทรายยัดเข้าปากไม่หยุดและฝืนกลืนมันลงคอ โลกที่เคยเป็นสีเทาถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นสีดำทีละนิด พอรู้ตัวอีกทีมันก็กลืนกินความเป็นคนจนแทบไม่มีเหลือ

เด็กหนุ่มไม่สามารถห้ามตัวเองได้เพียงเพราะคำปลอบใจว่า ‘โลกนี้มันโหดร้าย’ ก็ถ้าทุกคนดีด้วย หรือให้ความจริงใจโดยไม่หักหลังกัน มีหรือมนุษย์จะกลายเป็นปีศาจได้ เขาตั้งคำถามตรงนี้

เท็นเคยเห็นในอินเทอร์เน็ต มีใครสักคนพูดไว้ว่า ‘ก่อนจะกลายเป็นปีศาจร้าย คน ๆ นั้นก็เคยเป็นคนที่เคยมีหัวใจมาก่อน’

ใช่ เพราะมีหัวใจ และให้ใจคนมากเกินไป โลกก็เลยตบรางวัลให้อย่างงดงามอย่างนี้

การแข่งขันสิ้นสุดลงโดยที่เขาไม่ได้ดูการแข่ง ไม่แม้แต่จะไปสถานที่จัดแข่งโดยอ้างว่าต้องไปต่างจังหวัดกับแม่ทั้งที่ความจริงนอนโง่อยู่คอนโด บอกตามตรงว่าสะใจฉิบหายที่ Numb2r ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เขารู้ว่าไอ้แจ็คคงเซ็งอยู่บ้าง แต่มันก็คงไม่คิดอะไรมากเพราะนั่นก็แค่เกม

เท็นเปลี่ยนจากตำแหน่งแทงค์เกอร์เป็นแครี่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาฝึกหนักจนพี่ ๆ ทีมใหม่ให้ความเชื่อใจว่าสามารถลงสนามจริงได้แล้ว อาจเป็นเพราะความเอ็นดูและฝีมือของเขาส่วนหนึ่ง แต่หลัก ๆ ก็คงไม่พ้นอยากตบหน้าไอ้ธีร์

ไต้หวันจะเป็นที่แรกที่เด็กหนุ่มจะได้เปิดตัวในนาม TEN10 เสียที เท็นรู้ว่าพี่คนที่เคยเล่นตำแหน่งนี้หงุดหงิดและไม่อยากยอมรับการเข้ามาแทนที่ แต่อีกฝ่ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าเรื่องแบบนี้ใครดีใครได้

‘แกน่าจะรับสายบ้างถ้ายังเห็นฉันเป็นพ่ออยู่’

ทำไมพ่อต้องทำให้วันดี ๆ ของเขาแย่ลงด้วยประโยคเหล่านั้นด้วยวะ ไม่เข้าใจ นึกอะไรมาเป็นห่วงเป็นใยหลังจากหนีไปเสพสุขกับเมียใหม่ไม่รู้กี่สิบคนแล้ว ตลกดีที่เอาคำว่า ‘พ่อ’ มาอ้างเพื่อให้คนที่เรียกว่าลูกจำใจฟัง สงสัยเพิ่งคิดออกว่าเคยไข่ทิ้งไว้ในท้องผู้หญิงคนหนึ่งจนเนื้อก้อนนั้นโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้ว

‘พูดเหมือนเห็นผมเป็นลูก’

เด็กดีไม่ควรใช้คำพูดแย่ ๆ กับผู้ใหญ่ แต่แล้วอย่างไร เขาจะแหกกฎทุกอย่างที่คนรอบข้างสร้างขึ้นเพื่อให้ตัวเองใช้อำนาจกับเด็กได้ เท็นว่าเชื่อหลายคนคงเกิดคำถามว่าทำไมต้องเป็นคนดีท่ามกลางความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่ ทำไมเด็กต้องเป็นฝ่ายเข้าใจทั้งที่คนเหล่านั้นนั่นแหละที่ไม่เคยเข้าใจลูกตัวเองเลย

‘ผู้ชายคนนั้นมีดีอย่างเดียวคือทำให้ลูกของแม่เกิดมา’

เท็นได้ยินประโยคนี้นับครั้งไม้ถ้วน หลายครั้งที่รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าตายเพราะถูกขยี้ปมนี้  เขาสงสารแม่ แต่อีกใจหนึ่งเหนื่อยฟังเรื่องเหล่านั้นแล้ว มันบั่นทอนทุกอย่างและไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น แต่แม้ว่าเขาจะพยายามปลอบแม่เท่าไหร่เธอก็แค่รับฟัง ผ่านไปอีกวันก็ขุดเรื่องเดิม ๆ ขึ้นมาบ่นอีกราวกับเป็นหุ่นยนต์

แล้วนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขานอนคอนโดบ่อยกว่ากลับบ้านตนเอง
 




*





เพิ่งจะรู้... ว่าฉันเองรักเธอเท่าไหร่ ในวันที่เธอบอกฉันให้ทำใจ ♪
และจากนี้เธอจะต้องไป รักของเราคงเป็นไปไม่ได้ ♫



“ตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่?”

เพลงจากโทรศัพท์มือถือยังคงเล่นคลอไปเรื่อย ๆ เพื่อทำให้บรรยากาศไม่เงียบจนอึดอัด คนที่เหม่อมองฟ้าหันไปปรือตามองอีกคนที่มีสภาพดีกว่าเขามากโข ก็แน่ล่ะ นอกจากปาร์ตี้หมูกระทะกับพวกทีมกาก ๆ นั่นแล้วก็คงมีวงเหล้ากับคนในบริษัทที่ทำให้ไอ้แจ็คดูมีภาษียืนหยัดสู้แอลกอร์ฮอล์ได้ดีกว่าเขา

ไอ้ฉิบหาย ก็เล่นขยี้ทุกเรื่องก็เลยต้องยกดื่มหนีประเด็นไง รู้ตัวอีกทีก็ปวดฉี่จนต้องหามตัวเองเข้าห้องน้ำแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ขนาดไปเอาออกก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้น บางทีเขาน่าจะซ้อมดื่มคนเดียวบ้างจะได้ไม่ต้องเสียหน้าเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้




โลกช่างดูเงียบงัน วันเหล่านั้นไม่อาจย้อนมา ♫
วันนี้ไม่เหลือใคร มีแต่ตัวฉันและน้ำตา ♪
จะต้องทำยังไงให้เธอคืนกลับมาหา ตอนนี้รู้แล้วว่ารักเธอมีค่า... เหลือเกิน ♪





“กำลังคิดว่าหลังจากนี้จะทำหน้ายังไงให้ไม่รู้สึกขายขี้หน้า”

“สิ่งเดียวที่มึงควรอายคือเรื่องทำเสียงน่าขนลุกตอนเล่นกับหมานะ”

“อะไรวะ ใคร ๆ เขาก็ทำเสียงสอง-สาม-สี่ ตอนคุยกับหมาทั้งนั้นแหละ”

“พี่ช่างซ่อมรถแถวบ้านกูเลี้ยงพันธุ์ไทยหลังอานสี่ตา ยังไม่เห็นว่าพี่แกจะทำเสียงแบบนี้”

“ก็พี่มึงไม่มีหัวใจ”

“คนมีหัวใจก็เลย ‘พี่ซันของพ่อไม่ง่วงเหรอครับ มานี่เร็วให้พ่อหอมแก้มทีนึง อุ๊ย ขนเข้าปากพ่อ’”

“ก็แย่แล้ว อย่ามาเพิ่มเติมให้กูดูตุ๊ด กูคือเจ้านายที่รักสัตว์เลี้ยง คนจิตใจหยาบช้าแบบมึงคงเข้าไม่ถึงสินะ” เท็นแค่นหัวเราะแล้วคว้าแก้วเหล้าที่กลายเป็นเครื่องดื่มสำรองหลังจากเบียร์หมดไปแล้ว แต่ยังไม่ทันยกเข้าปากอีกฝ่ายก็แย่งไปเสียดื้อ ๆ

“พอก่อน เดี๋ยวก็อ้วกแตกหรอก กูไม่เก็บกวาดให้นะ”

“ต้องเก็บดิ มึงมาแดกฟรีถึงนี่ก็ควรตอบแทนเจ้าของบ้านบ้าง”

“พอก่อน”

“เออ อีกแก้วเดียว”

“เท็น”

“อะไรของมึงเนี่ย อยู่ดี ๆ มาห้าม เมื่อกี้ยังเหมือนอยากมอมกูอยู่เลย” อาการเมาแล้วแปลงร่างมาแล้ว เท็นขมวดคิ้วมองคาดโทษคนข้าง ๆ ที่ถามว่ามอมจริงหรือเปล่าก็คงตอบว่าไม่ เพราะที่กรอกเข้าปากไปก็ทำตัวเองทั้งนั้น

“มึงเล่นกินอยู่คนเดียวแล้วกูจะเมาได้ยังไง?”

“งั้นก็แดกเข้าไป จะได้เรื้อนเหมือนกัน”

“...” อีกฝ่ายหน้าแดงจนตัดกับสีผม ชายหนุ่มผมยาวรับแก้วนั้นมายกดื่มรวดเดียวแล้ววางลงก่อนจะสบตากับคนข้าง ๆ อีกครั้ง

“รู้อะไรไหมแจ็ค?”

 ผมสีเทาถูกขยี้จนยุ่งเหยิง ใบหน้าที่ใคร ๆ ต่างว่าเย่อหยิ่งกำลังจ้องมองเขาราวกับอยากจะปั่นหัวให้ลุ้นประโยคถัดไป

“สำหรับกูน่ะ มึงตายไปแล้ว”

หากเป็นสิบปีก่อนหัวใจเขาคงแหลกสลายทันทีที่ได้ยินคำนี้หลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย แต่ในนาทีนี้มันไม่ใช่ ไอ้เท็นในวัยยี่สิบแปดดูอ่อนแอเกินกว่าจะทำร้ายใครด้วยคำพูดนี้ได้

“ตายแบบที่ว่ายิงเปรี้ยงเดียวจอด” แจ็คลดระดับสายตามองปลายนิ้วเรียวยาวของอีกคนที่ทำเป็นรูปปืน ก่อนความเงียบจะกลืนกินจนเสียงเพลงเบาลงทนแทบไม่ได้ยินแล้ว

“กูตายไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ในความทรงจำของมึง”

“ยังไง ที่บอกว่าในความทรงจำหมายถึงกูต้องรู้สึกผิดเรื่องมึงไปตลอดชีวิตใช่ไหม ถ้าใช่ให้กราบหมากู ถ้าไม่ใช่ให้ยกแก้ว”

ถ้าเป็นอย่างที่พูดจริง ๆ เท็นจะแหลกแค่ไหนกัน แต่นั่นก็เป็นความจริงซึ่งมีทางเดียวที่จะหลีกหนีได้คือการตายไปจากโลกนี้ เพราะหลังจากหมดลมหายใจแล้วความคิด ความกังวล ความทรงจำทุกอย่างก็จะกลายเป็นอากาศ

แต่อีกฝ่ายกลับเลือกชงเหล้าดื่มจนหมดแก้วแล้ววางลงจนเจ้าขนทองสะดุ้งตื่น

“ไม่กล้ากราบหมากูก็บอก”

“ขนาดพ่อกูกูยังไม่ไหว้ แล้วหมามึงเป็นใคร กูยอมปฏิเสธดีกว่าให้ไหว้หมามึง” เท็นเบ้ปากหรี่ตามองไอ้คนเท่ที่ดึงยางออกจนผมยาวสยายลงมา

“แต่มึงตายแล้วจริง ๆ นะ”

“เหรอ แล้วที่คุยกันอยู่ตอนนี้คือ?”

ตอนถามว่าอยากให้สถานะเป็นแบบไหน ไอ้เท็นก็เอาแต่ยกดื่มแล้วยัดขนมเข้าปากจนแก้มพอง พอมันทะลักออกมาก็แทบอาเจียนจนเขาต้องไปช่วยลูบหลังเอาออก แจ็คไม่ชอบคาดคั้นหรอกนะ แต่เขาเข็ดหลาบเหลือเกินกับเก็บทุกอย่างไว้ในใจจนทุกอย่างแย่ลง จะไม่มีไอ้แจ็คคนที่เอาแต่เงียบเพื่อหนีทุกสิ่งทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว

“ก็ไม่ไง มึงตายจริง แต่กูชุบชีวิตได้”

“เล่นซัพพอร์ทเป็นด้วย?”

“จะเอาไหมล่ะครับ 1-1 ทีกูฟาดยับอะ” ไอ้คนเมายังอวดเก่ง อดไม่ได้ต้องเขกกะโหลกอีกสักทีเอาให้หัวสั่นจนลืมความขิงเมื่อครู่นี้ไปเลย

“อยู่ดี ๆ มาบอกว่ากูตายแล้ว แล้วก็หน้าด้านมาชุบชีวิตกันเนี่ยนะ?”

“ก็นี่คาแรกเตอร์กู ถ้าเป็นโซ่ก็คงอีกแบบนึง เผลอ ๆ อาจจะยอมตายแทนคนอื่นด้วย”

“ชอบเอาไอ้โซ่มาเปรียบอยู่เรื่อย ทำไม มีปมในใจกับน้องมันหรือไง?”

“นิดหน่อย กูแค่เสียดายที่คนดี ๆ แบบนั้นต้องไปเกลือกกลั้วอยู่กับเพื่อนรักมึง... ขำอะไร?” เกิดเสียความมั่นใจขึ้นมาเพราะอยู่ ๆ อีกฝ่ายก็หัวเราะ

“เรื่องนี้กูเห็นด้วย แต่จะทำไงได้ ต่อให้ไอ้ธีร์จะประสาทแดกยังไง ชีวิตนี้ก็คงมีใครสักคนที่อยากอยู่กับมันและพร้อมจะเข้าใจที่มันเป็นแบบนั้น”

“เออ ชีวิตดีเหลือเกินนะห่า”

“อิจฉาสินะ สีหน้ามึงมันฟ้อง”

“ทำไมกูต้องอิจฉา ชีวิตกูมีครบทุกอย่าง”

“ยกเว้น...?”

“ไอ้แจ็คไอ้ฉิบหายเอ๊ย! ตั้งแต่กูเริ่มเบลอมึงก็ขยี้ใหญ่เลยนะ กะจะให้แหกโค้งหัวทิ่มคอหักตายเลยใช่ไหม?” ทั้งด่าทั้งถีบไอ้คนข้าง ๆ แต่คนที่เคยเก่งเรื่องทำหน้าตายก็ยังเอาแต่ขำราวกับว่าสะใจที่เห็นเขาเป็นอย่างนี้

“การอิจฉาไม่ทำให้มึงแพ้หรอกเท็น ตรงนี้ไม่มีใครแข่งกันสักหน่อย”

“แพ้ไม่แพ้ไม่รู้ แต่กูไม่ชอบที่จะถูกมองว่าอิจฉาใคร”

“เพราะมันจะทำให้มึงรู้สึกว่าเป็นคนน่าสงสาร มีปมในใจใช่ไหม ก็อาจจะใช่ แต่มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสักหน่อย มนุษย์โลกเกิดมามีโลภ โกรธหลง คนหนึ่งทำได้ดีจะอิจฉาบ้างมันไม่ใช่เรื่องผิด จะผิดก็ต่อเมื่อมึงใช้ความอิจฉานั้นทำร้ายใคร”

“แล้วกูก็ทำสำเร็จแล้วด้วย”

“นี่คือการยอมรับว่าอิจฉาใช่ไหม?” ไอ้ห่าแจ็คเลิกคิ้วมองเหมือนพร้อมจะหัวเราะแล้ว ไอ้เวรตะไลเอ๊ย ไล่ต้อนกันนี่หว่า

“เออ กูอิจฉาไอ้ธีร์ อิจฉาสิ่งที่มันได้รับทุกอย่างทั้งที่มันไม่ต้องทำห่าอะไรเลย พอใจไหม?”

“พอใจ แต่มึงพูดแบบนี้ก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย มันจะมีสักกี่คนที่ได้ทุกอย่างมาโดยไม่พยายามอะไรเลย มึงโกรธที่มันเคยทำไม่ดีกับมึงได้ แต่อย่าพาลไปเรื่องอื่นจนดูถูกความพยายามของมันเลย ระหว่างที่มึงไม่อยู่มันเหนื่อยกับอะไรหลายอย่าง แต่มันแค่ตั้งใจให้คนเห็นฉากหน้าอย่างนั้น”

“ก็ดีแล้ว ถือว่าเป็นเวรกรรมที่ทำไว้กับกูแล้วกัน”

“ถ้าคิดอย่างนั้นแล้วเกลียดมันน้อยลงไหม?” ไอ้แจ็คมองยิ้ม ๆ แล้วเขาก็คงเตรียมตัวเป็นบ้าได้เลยถ้าหากพยักหน้าตอบว่าใช่

เรื่องความเกลียดมันเจือจางลงไปมากแล้วหลังจากเจอเรื่องร้าย ๆ มาตลอดทั้งปี เอาเข้าจริงคนที่กำลังเผชิญหน้ากับเวรกรรมอยู่มันคือเขาที่เคยทำเรื่องแย่ ๆ กับผู้คนมากมายมาตลอดหลายปีมากกว่าจะเป็นไอ้ธีร์ที่ผิดแค่เรื่องปากหมา

พอถูกด่ามากเข้าจนสภาพจิตใจย่ำแย่ ในสุดวันที่เหลือเพียงหมากับแมวเท็นก็สำนึกได้ว่าทั้งหมดที่พยายามทำลงไปมันไม่ได้ส่งผลอะไรเลย

ต่อให้เล่นเก่งกว่าไอ้ธีร์แล้วอย่างไร ต่อให้ไปแข่งระดับประเทศ ทวีป...?

สุดท้ายคนเหล่านั้นก็มีความสุข แต่ตัวเขากลับพยายามดิ้นรนเพื่อไม่ให้ตกลงมาจากอีโก้ตัวเอง


“กูยังอิจฉาที่มึงทำผมสีเทาแล้วดูดี เพราะกูทำสีนี้ไม่ขึ้น”

“แต่มึงบอกว่ากูทำแล้วเหมือนลิง”

“ก็ดูดีแบบลิงไง มึงสงสัยอะไร?”

“ไอ้ฉิบหาย สุดท้ายก็วกมาหาเรื่องหลอกด่ากูอยู่ดีสินะ มึงนี่มันกวนตีนจริง ๆ ไอ้แจ็ค”

“สร่างเลยดิ”

“เออ ชงเหล้าซิไอ้ขี้ข้า”

“อืม ปากมึงนี่นะ...”
ต่อจากวันนี้ไปจะไม่ให้เธอผิดหวัง  ♫
ให้โอกาสฉันอีก... อีกสักครั้ง...
ได้โปรด... อย่าทิ้งรักไปเลย  ♪





(จบ 1/2)




แวะเอาครึ่งแรกมาให้อ่านก่อนจ้า สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะพี่ ๆ ขอให้ปี 2019 เป็นปีที่ใจดีกับทุกคน เป็นปีที่มีความทุกข์น้อย ๆ มีความสุขให้มาก ๆ ถ้ารู้สึกว่าวันนั้นมันแย่ให้เดินไปชงไมโลร้อน ๆ ซดสักแก้ว หรือจัดชานมไข่มุกนะคะ แล้วอะไร ๆ จะดีขึ้น

ชีวิตอาจจะยาก แต่นี่ก็คือชีวิต อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป แล้วอ้าแขนรับสิ่งใหม่ที่ดีกว่านะคะ และสิ่งใหม่ดี ๆ ที่ว่านั่นก็ไม่ใช่ผู้ชายค่า ณ จุดนี้ก็คือแห้งเว่ออออออออออออออออออออออออออออออออ

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-12-2018 22:01:29
HNY 2019 นะคะ

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเห็นเท็นคนเย็นชาง้องแง้ง
ถ้าไม่ใช่กับแจ็คคงไม่มีใครเห็นโหมดนี้แน่
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 31-12-2018 23:12:34
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 01-01-2019 00:10:22
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ถือว่าแจ็คเท็นอยู่ด้วยกันข้ามปีเลยละกันเนอะ แหม โรแมนติก  :hao3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 04-01-2019 18:41:56
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณคนเขียน โหมดเท็นๆง้องแง้งนี้น่ารักจริมๆ ขอบคุณและจะรออีกครึ่งหลังนะคะ o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-01-2019 21:30:07
มาค่ะ แห้งเว่อออออออออออออออออออออออออออออออออออ ไปด้วยกัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (31/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 07-01-2019 22:04:02
ออร่าออกมากค่ะว่าพี่แจค ต้องเป็นฝ่ายนำ  :hao6:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 14-01-2019 23:01:45



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 14
หัวใจที่หยุดเต้น (PART 2/2)




ตั้งแต่แข่งแพ้แจ็คก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เหมือนเดินไปจนถึงปลายทางแล้วพบว่าแสงสว่างที่เห็นนั่นคือกระจกไม่ใช่ประตูสู่ชัยชนะ เขาไม่ชอบตัวเองที่หงุดหงิดขึ้นเสียงใส่สมาชิกใหม่ที่เล่นโง่ในรอบสุดท้ายจนเก็บความใจเย็นไว้ไม่อยู่ อาจเป็นเพราะว่ารอบชิงชนะเลิศมันสำคัญและเป็นตัวแปรในชีวิตเขา ด้านมืดทุกอย่างจึงถูกปลดปล่อยออกมาจนทุกคนอึ้ง

ไอ้ธีร์เข้ามาขอโทษที่เสียสมาธิไปหลายครั้งเพียงเพราะเกมอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ หากแครี่เกิดเร็วทีมก็คงมีความหวังมากขึ้นแต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดมันเสียทีเดียว และเขาก็ทำเรื่องเลวร้ายลงไปแล้ว ซึ่งมันคือการพูดว่า ‘ช่างแม่งเหอะ’ ก่อนจะนั่งรถเมล์กลับบ้านโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร

ถ้าไอ้เท็นยังอยู่ทีมด้วยก็คงดีกว่านี้ หรือถ้าเขามีเวลามากพอให้ซ้อม ได้นอนพักจนสมองปรอดโปร่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับไอ้เท็น หรือไม่ต้องเครียดเรื่องการเงินการกินของที่บ้าน การเป็นที่หนึ่งพร้อมเงินรางวัลก็คงอยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่เงินเหล่านั้นจะสำคัญอะไรถ้าหากว่าเขามีสิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้นอยู่แล้ว?



*



เสียฟอร์ม...
เสียฟอร์มจนไม่กล้าไปร้านซักรีดแถวบางใหญ่อีกต่อไปแล้ว

พอตื่นมาพบความแฮงค์เท็นก็นั่งสารภาพบาปกับหมาแมวในห้องนั่งเล่นท่ามกลางความเงียบที่คงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่หัวเราะดังกว่าใครในโลกเพราะท่านอ่านความคิดเขาได้แม้ว่าไม่พูดออกมา

ยิ่งนึกถึงเรื่องที่พล่ามไปเมื่อคืนก็ยิ่งอยากเอาหัวจุ่มน้ำแล้วกลั้นหายใจจนกว่าจะขาดอากาศตายไปให้รู้แล้วรู้รอด เรื่องที่ควรเก็บไว้เป็นความลับจนตายกลับถูกพ่นออกไปง่าย ๆ เพียงเพราะน้ำเมาทำหน้าที่เค้นเอาความในใจออกมาจนแทบหมดเปลือก

แล้วแบบนี้ตอนเจอหน้าไอ้แจ็คอีกครั้งเขาจะต้องทำหน้าอย่างไร ชายหนุ่มจินตนาการสีหน้ามันตอนอมยิ้มเพราะพยายามกลั้นขำได้ ไอ้แจ็คคงพร้อมเอาเรื่องนี้มาล้อถ้าหากว่าเขามีทีท่าว่าจะเถียงชนะไม่วันไหนก็วันหนึ่ง

jjack: กูใส่ชุดนอนมึงกลับบ้านนะ

ตอนเจอข้อความในไลน์ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่เสื้อกับกางเกง ดีแค่ไหนที่มันไม่ทิ้งจดหมายน้อยไว้เหมือนในละคร แต่ก็เข้าใจกันได้ ที่มันรีบกลับบ้านตั้งแต่เขายังไม่ตื่นอาจเป็นเพราะไอ้เด็กฝรั่งนอนรอยาวจนถึงฟ้าสาง

jjack: แล้วก็ฝากซักเสื้อกับกางเกงกูด้วย

แค่นั้นแหละ ภาพหายนะที่ลืมไปชั่วขณะหนึ่งก็ย้อนกลับมาให้นึกถึงว่าเมื่อคืนก่อนจะเปิดวาร์ปทั้งคู่ได้ปิดจ็อบเหล้ากลมนั้นด้วยการวัดออนเดอะร็อกกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อ้วกได้แต่อย่าหลับ เท็นกับแจ็ครู้แค่นี้

ภาพเลือนรางกลับมาขยี้ให้รู้ว่าหลังจากดื่มหมดทุกหยาดหยดแล้วไอ้แจ็คก็ทำท่าจะคะย่อนของเก่าออกมาก่อนจะรีบเอามือปิดปากวิ่งเข้าห้องน้ำเหมือนหญิงสาวแพ้ท้องช่วงเดือนแรก ๆ

เขาตามไปยืนหัวเราะสมน้ำหน้าถึงประตูห้องน้ำชนิดว่าถ้าผนังไม่เก็บเสียงเพื่อนบ้านคงได้ตะโกนด่าพ่อแน่ไม่ต้องสืบ แต่พระเจ้าหรือจะปล่อยให้คนชั่วช้าอย่างเขาได้หัวเราะเยาะคนอื่นนาน ๆ เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงสามวิทุกอย่างที่ยัดเข้าไปก็ตีขึ้นมาถึงคอจนต้องยกมือปิดปากเหมือนกัน

เท็นเอาเท้าเขี่ยอีกคนที่กำลังกอดคอชักโครกสารภาพรัก แต่ไอ้เวรนั่นก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเอาของเสียออกจากปากเสียที

‘!!!’

ไอ้ขี้เมาสองคนแย่งชักโครกกันในสภาพดูไม่ได้ แค่จะทรงตัวยังทำไม่ไหวไหนจะต้องต่อสู้กับคนข้าง ๆ เพื่อแย่งกันกอดคอชักโครกอีก แต่ก็นั่นแหละนะ... สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ทะลักออกมาเปื้อนเสื้อผ้าหน้าผมจนเละเทะทั้งคู่ กลิ่นละมงละมุดอบอวลจนต้องเบ้หน้า

เท็นเป็นคนรักสะอาด เขาถีบไอ้แจ็คถอยไปห่าง ๆ แล้วก้มลงมองสภาพตัวเองที่เลอะไปด้วยอ้วก ซึ่งเขาก็ไม่ลังเลที่จะเปิดฝักบัวล้างตัวแม้ว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบ เอาวะ อย่างน้อยไอ้แจ็คก็คุมโทนได้ไม่สุดทางเพราะสุดท้ายมันก็อ้วกแตกอ้วกแตนเหมือนกัน ถือว่าตีเสมอได้ 1-1 ไม่มีใครเสียเปรียบให้โดนล้อฟรี

พอโดนน้ำตาก็เริ่มสว่างขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มผมเทาหันไปเห็นสภาพอีกคนที่เสื้อผ้าเลอะเทอะไม่ต่างจึงฉีดน้ำใส่จนมันต้องยกมือขึ้นป้อง


‘ห่าเท็น มันเย็นนะไอ้ฉิบหาย’
‘อย่ามาทำบ้านกูสกปรก’
‘แล้วอ้วกพวกนี้ของกูคนเดียวหรือไง?’
‘จะถามมากไปทำไม รีบคลานมานี่’


ตอนนั้นเท็นคิดแค่ว่าอยากให้ไอ้เวรนั่นเลิกทำตัวสกปรกในห้องน้ำบ้านหลังนี้ โอเค ความจริงเขาอยากให้มันล้างตัวเอากลิ่นเน่าออกจะได้ไม่ต้องทนดมกลิ่นเหม็น แต่คนเมาก็คือคนเมา ปกติคิดน้อยแค่ไหนตอนนั้นให้คูณร้อยเข้าไป ทันทีที่ไอ้แจ็คเดินมาหยุดใกล้ ๆ เขาก็ฉีดน้ำอัดหน้าจนมันสำลัก เล่นอะไรเหมือนเด็กปัญญาอ่อนจนลืมว่ามีเส้นสีแดงขีดคั่นกลางความสัมพันธ์เอาไว้

กลิ่นเน่าจากตัวยังคงคละคลุ้ง แต่ชายหนุ่มผมเทาเอาแต่หัวเราะจนไหล่สั่นขณะถูกอีกคนมองอย่างเอาเรื่อง แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักมีขีดจำกัด เท็นรู้สึกว่านาฬิกาทรายจะทำงานทันทีที่เขาเริ่มยิ้ม อย่างเช่นตอนนี้ที่เขากำลังสนุก ไม่กี่วินาทีก็ถูกล็อกคอพร้อมฝักบัวที่ถูกแย่งไป

จนหลายครั้งที่การแกล้งเอาคืนมันเหมือนการกอด และรอยยิ้มบนใบหน้าเขามันเริ่มจางหายไปแล้ว

เสียงหัวเราะของไอ้งี่เง่ากับเม็ดนาฬิกาทรายสีขาวร่วงหล่นลงไปทุกวินาทีพร้อมหัวใจที่เต้นดังจนแทบบ้า

พอถึงตอนนี้เท็นกำลังนั่งทบทวนตัวเองว่าควรปล่อยให้นาฬิกาทรายทำงานอีกครั้งหรือกลับไปทำตัวปกติเหมือนเดิมดี?


TEN10: กูจะเอาไปโยนทิ้งถังขยะ


กดล็อกหน้าจอแล้วทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า มองเข็มวินาทีบนนาฬิกาที่ค่อย ๆ เดินไปอย่างไม่เร่งรีบแต่สม่ำเสมอจนกว่าถ่านจะหมดลง เจ้าขนสีทองส่งเสียงหงิง ๆ ราวกับอยากพูดอะไร รวมถึงแมวนรกที่มองเยาะเย้ยถากถางเหมือนทุกครั้ง

และเขาก็ทำเรื่องขายขี้หน้าพวกมันด้วยการพับขากางเกงขึ้นเพื่อเตรียมตัวไปซักผ้าเลอะอ้วกที่ไอ้แจ็คแช่ไว้ในกาละมังแล้ว



*


หงุดหงิดตัวเองที่เล่นเยอะเกินไปจนกลายเป็นว่าตอนนี้บลูแทบไม่สนใจความเป็นไปของไอ้แจ็คแล้ว มันจะไปไหนมาไหน ไม่โทรหาอย่างไร อยู่ดี ๆ เธอก็กลายเป็นคนเข้าใจง่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น

แต่ก็ดี เลิก ๆ กันไปเลยจะได้จบ

ทุกอย่างมันเลยตามเลยมานานมากแล้ว ตอนแรกก็แค่แกล้งแหย่เล่นแต่บลูกลับเยอะจนคิดว่าอีกไม่นานคงเกิดปัญหาแน่ถ้าไม่รีบจบความสัมพันธ์ตั้งแต่ตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจเธอเหมือนช่วงแรก ๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงอยู่ไหว จนอดคิดไม่ได้ว่าทีกับไอ้แจ็คทำไมไม่ทนงี้บ้างวะ


หรือจะทำอะไรก็ได้ขอแค่มีคนคุย ได้อยู่ด้วยกันตลอดก็พอ?
ความเหงามันเอาชนะทุกอย่างเลยสินะ?


“พรุ่งนี้บลูจะไปดูหนังกับแจ็ค”

“อ่าฮะ ดูให้สนุกล่ะ”

“...”

รู้สึกเหมือนโดนตบกับคำตอบที่มาพร้อมยิ้มตามมารยาท ใบหน้าหล่อหันกลับไปสนใจเกมบนจอคอมพิวเตอร์อีกแล้ว และคงเป็นอีกครั้งที่บลูรู้สึกว่ามันสำคัญกว่าการมีอยู่ของเธอเป็นไหน ๆ

ไม่อยากรู้สึกแบบนี้ แต่เซนส์ผู้หญิงมันมักจะแรงเสมอเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังนอกใจหรือเบื่อกันไปจนความสัมพันธ์คงจบในอีกไม่ช้า ทั้งที่รู้ว่าที่เป็นอยู่มันผิด แต่บลูก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ก่อนหน้านี้อาจเป็นเพราะความเหงา แต่พอผ่านไปสักพักมันก็เปลี่ยนเป็นความรักหลังจากถูกเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป

‘ไอ้บลู แกไม่กลัวแจ็คเสียใจเหรอ สองคนนั้นเขาเป็นเพื่อนกันนะ?’

กลัวสิ กลัวมาก แต่หลังจากเผลอใจครั้งนั้นทุกอย่างก็ถลำลึกจนกลายเป็นว่าตอนนี้เธอมีชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงไปแล้ว ทุกครั้งที่มองหน้าแจ็ค ทุกครั้งที่จับมือกัน เด็กสาวรู้สึกผิดทุกครั้งแต่กลับเห็นแก่ตัวไม่ยอมปล่อยอีกคนไป

แจ็คเป็นคนดีที่ไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้ แต่เธอก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเช่นกัน

“เท็น”

“ว่าไง?”

“เลือกมาว่าจะให้บลูเลิกกับแจ็ค หรือจะให้บลูเลิกกับเท็น?”

เท็นไม่ชอบให้ใครมาทำลายบรรยากาศตอนกำลังเล่นเกมเรื่องนี้บลูรู้ดี แต่เธอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันคาราคาซังไม่มีความชัดเจนให้เธอเลย จะเรียกว่าแฟนก็ไม่ได้แต่ก็มากกว่าเพื่อน ทั้งคู่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน จับมือก็ไม่ได้ ไม่แม้แต่เรื่องโพสต์รูปคู่ลง Hi5 หรือทำอะไรก็ตามที่คนรักทำกัน

หากอยากได้รับความใจดีจากเท็นบลูต้องมาที่คอนโดนี้เท่านั้น และมันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า แต่ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะใจแข็งตัดความสัมพันธ์นี้

“คิดดีแล้วเหรอที่จะหาเรื่องชวนทะเลาะกันตอนนี้?”

“ไม่ได้ชวนทะเลาะ แต่บลูทนไม่ไหวแล้ว”

“แล้วคิดว่าเท็นทนไหวเหรอ?”

“ใครจะรู้ เท็นยังเล่นเกม ยังหัวเราะกับเพื่อนได้อยู่เลยนี่?”

“แล้วที่เป็นอยู่มันแย่กว่ายังไงอะ จะให้เท็นเดินไปบอกไอ้แจ็คเหรอว่าเราเป็นอะไรกันบลูถึงจะพอใจ?”

“แบบนั้นไม่ดีอยู่แล้วแหละ แต่อีกใจบลูก็อยากรู้เหมือนกันว่าเท็นจะกล้าหรือเปล่า?”

ทำไมอยู่ ๆ ผู้หญิงคนนี้ถึงกล้าลุกขึ้นมาแข็งข้อกับเขาพร้อมท้าทายให้ทำในสิ่งที่ผิดเหมือน ๆ กัน?

“ถามจริง บลูอยากให้เท็นเป็นคนเลวที่แตกหักกับเพื่อนเพราะเลือกแฟนเหรอ เท็นต้องเลือกบลูเหรอถึงจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง?”

“ไม่รู้สิ บลูไม่อยากให้เท็นกับแจ็คทะเลาะกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเท็นโกหกพูดเพื่อให้บลูดีใจมันก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

“แปลกดี แล้วมันจะต่างอะไรกับการหลอกตัวเอง มีความสุขกับอะไรแบบนั้นหรือไง?”

ทั้งที่รู้ว่าถ้าความแตกเมื่อไหร่ ผู้ชายคนนี้กับผู้หญิงสองใจก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อไอ้แจ็คไปตลอดชีวิต แต่เธอกลับเอามาท้าเขาเพียงเพราะอยากหัวใจพองโตกับคำโกหกเนี่ยนะ?

“บลูโกรธที่เท็นเอาแต่เล่นเกมก็อ้อนกันดี ๆ นี่... ไม่เห็นต้องเอาเรื่องนั้นมาพูดเลย”

“ไม่พูดวันนี้สักวันก็ต้องพูดอยู่ดี ตอนแรกบลูคิดว่าการมีเท็นมันอาจจะดีขึ้น แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้” เด็กสาวน้ำตาไหลเพราะไม่สามารถกักกั้นความอึดอัดใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

“อยู่กับเท็นมันแย่มากเหรอคะ?”

“...”

เขาโอบแก้มเธอขึ้นมาสบตากัน พร้อมบอกตนเองว่ามันคงไม่ดีแน่ถ้าหากปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้กลับไปออดอ้อนไอ้แจ็คเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น เพียงเพราะว่าวันนี้เขาจริงจังกับการเล่นเกมมากเกินไป

“บลูคงไม่อยากให้แจ็คเสียใจหรอกใช่ไหม?”

ไม่ เด็กสาวส่ายศีรษะปฏิเสธ

“งั้นก็บอกเลิกไอ้แจ็คสิ หลังจากนี้เรื่องของเราจะเป็นยังไงค่อยว่ากัน”

ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างกับคำพูดที่มาพร้อมรอยยิ้มซึ่งไม่อาจคาดเดาว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ วูบหนึ่งสมองว่างเปล่าขาวโพลนเพียงเพราะเธอต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรระหว่างความผิดที่หวานขม กับความถูกต้องที่ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม

“เท็นจะออกไปข้างนอกแป๊บนึง หวังว่ากลับมาถึงบลูจะให้คำตอบที่น่าฟังกับเท็นนะ”



*


“อ้าว ทำไมวันนี้มาเร็วจังเลยล่ะลูก?”

“เท็นเห็นองุ่นกับมะม่วงมันน่ากินก็เลยซื้อมาฝากแม่น่ะครับ ถ้าแช่เย็น ๆ คงกรอบหวานลิ้นมากแม่ว่าไง?”

“แหม มาตั้งไกลเพื่อเอาองุ่นกับมะม่วงมาให้แม่เนี่ยนะ พ่อคุณของแม่ ลำบากเลย มา ๆ นั่งก่อน”

หัวใจพองโตกับคำพูดและการปฏิบัติจากเจ้าของร้านซักรีด ใช่ นั่นไม่ใช่แม่เขา แต่สิ่งที่เธอมอบให้เล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นก็ทำให้รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าเท็นได้อย่างง่ายดาย

“กินข้าวมาหรือยังลูก?”

“เรียบร้อยแล้วครับ ว่าแต่ผมมากวนแม่เปล่าเนี่ย?”

“ไม่เลย พอรีดผ้าเรียบร้อยแม่ก็ว่างจนบ่ายสามโน่น มีเวลานอนดูละคร”

ถึงจะมาที่นี่หลายครั้งแล้วแต่เท็นก็ยังไม่ชิน ความรู้สึกมันเหมือนว่าตรงนี้ยังสดใหม่อยู่เสมอ อาจเป็นเพราะลึก ๆ กลัวว่าสักวันอาจจะไม่ได้มาที่นี่อีก เพียงเพราะคิดว่าตนเองพร้อมจะถูกทุกคนเกลียดได้ตลอดเวลา

เสียงน้ำในห้องครัวดังเพียงครู่ ก่อนเจ้าของร้านซักรีดจะเดินมาพร้อมจานผลไม้ที่ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว “วันนี้แจ็คบอกว่าอาจจะกลับช้าหน่อย เท็นจะอยู่รอเพื่อนไหม?”

“อ๋อ เท็นไม่ได้มาหามันหรอกครับ”

“แค่แวะเอาผลไม้มาให้แม่เฉย ๆ สินะ เฮ้อ อยากมีลูกคนที่สี่เลย”

ทั้งคู่ยิ้มกับบรรยากาศที่โคตรจะธรรมดาแต่ก็ดูพิเศษ เท็นมองผู้หญิงมีอายุที่ยังขยันทำงานซักรีดแม้ว่าลูกชายคนโตจะขอให้เพลาลงบ้าง มือที่เคยสวมแหวนเพชรในตอนนี้เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา เธอปอกเปลือกมะม่วงอย่างช้า ๆ และไม่ลืมที่จะเอาชิ้นแรกให้เขาชิม

“อร่อยหรือเปล่า?”

เท็นยิ้มและพยักหน้า เขาขยับเข้าไปทีละนิดและอ้าปากรอชิ้นที่สองซึ่งคนถูกอ้อนก็ยิ้มขำ

“พอทำแบบนี้แล้วแม่ก็นึกถึงเด็กสามคนนั้นเลย อยากถอนหายใจวันละร้อยรอบ พอโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วก็ไม่มีใครอยากมาอ้อนแม่หรอก ไม่รู้อายอะไรกัน”

“ถ้าเท็นเป็นลูกแม่เท็นจะอ้อนทุกวันเอาให้แม่รำคาญไปเลย”

“ให้มันจริงเถอะ” เธอเบ้ปากมองอีกคนอย่างมันเขี้ยว ก่อนเพื่อนสนิทลูกชายคนโตก็ทิ้งตัวลงมานอนตักเธอเสียดื้อ ๆ “เอ้า เอาเข้าไป”

“ถ้านอนกินแล้วเท็นจะเป็นงูไหมแม่?”

“แม่จะรู้เหรอ แต่ถ้าเป็นแล้วจะฉกใครก็ได้ยกเว้นแม่ เข้าใจนะ?” พอถูกรับมุกก็หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เท็นบดเบียดศีรษะบนตักอุ่น ๆ ของแม่ไอ้แจ็คและอ้าปากรับมะม่วงอีกคำ



*


‘เลิกเล่นเกมได้แล้ว’
 
หลังจากความพยายามไม่ส่งผล โอกาสที่เคยได้พิสูจน์ตัวเองว่าเกมจะช่วยประคองครอบครัวได้จึงมีแค่ครั้งเดียว เด็กหนุ่มผมสกินเฮดนั่งอยู่หน้าหน้าป้ายรถเมล์ ปล่อยให้เสียงความวุ่นวายในกรุงเทพฯ และมลพิษทางอาการช่วยตอกย้ำความย่ำแย่ของชีวิตช่วงนี้จนกว่าจะสาแก่ใจ

พอแข่งแพ้ก็ไม่มีเหตุผลเอาไปอ้างกับครอบครัวแล้ว สุดท้ายเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้ผู้ใหญ่คิดว่าเกมไม่สามารถสร้างเงินทอง สร้างอนาคตให้ได้นอกเสียจากต้องตั้งใจเรียนเพื่อหางานดี ๆ ทำ


‘นึกว่า Numb2r จะเก่ง ที่แท้ก็ท่าดีทีเหลว’
‘ตกม้าตายตอนจบว่ะ 555555555’
‘ชั่วโมงบินมันต่างกัน เด็กเกรียนมอต้นหรือจะสู้เทพที่สู้มาแล้วกี่สังเวียน’


คำชมดี ๆ ก็มี แต่คนเราก็อย่างนี้ เลือกจดจำแต่อะไรแย่ ๆ ที่เอาเข้าจริงมันมีน้อยกว่าคำชมเสียอีก แจ็คหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่อยากเจอหน้าใครเลยแม้แต่พี่ตั้บ ไอ้ธีร์ หรือไอ้นาย คนที่คิดว่าคุยทุกเรื่องในโลกใบนี้ได้ แต่สุดท้ายเขาก็ค้นพบว่าคนเหล่านั้นยังไม่ใช่ สามคนนั้นคือความผูกพัน ความสบายใจ แต่มันยังมีบางเรื่องที่แจ็คอยากเก็บไว้ในใจ และอยากเล่าให้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมากที่สุดได้ฟัง

‘เท็น’

แจ็คมองเบอร์โทรที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์โทรเข้า-ออกมานานแล้ว ทุกวันนี้อย่างดีก็แค่คุย MSN กันเท่านั้น เด็กหนุ่มเสียใจเหลือเกินที่ทุกอย่างออกมาเป็นอย่างนี้ เพราะที่สุดแล้วเขายังต้องการให้ไอ้เท็นอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเลวร้ายหรือวันที่มีความสุขมากที่สุด

 ‘โทรเลยสิ’

ไม่ดี... ที่เป็นอยู่ตอนนี้การคุยกันผ่านเสียงอย่างเดียวก็มีแต่จะกระอักกระอ่วนเปล่า ๆ แจ็คเชื่อว่าหากได้เห็นหน้ากันการพูดคุยคงเป็นไปอย่างเรียบง่ายมากกว่าการได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิด แม้ว่าจะทิ้งระยะห่างความเป็นเพื่อนไปสักพักแล้ว แต่ถ้าหากเขาอยากได้มันคืนก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ซึ่งการขึ้นรถเมล์ไปหาไอ้เท็นที่บ้านก็คือทางเลือกที่ถูกต้องในนาทีนั้น




*



“เท็นอยู่คอนโดไม่ได้กลับบ้านเป็นอาทิตย์แล้วลูก”

“คอนโดเหรอครับ?”

“ใช่จ้ะ เขาไม่ได้บอกแจ็คเหรอ?”

คุณแม่ยังสาวดูลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ ขณะคนขับรถวัยกลางคนเดินออกมาจากห้องครัว แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มควรใส่ใจ แจ็คลูบท้ายทอยพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด คำว่า ‘เท็นอยู่คอนโด’ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวจนรู้สึกได้ถึงระยะห่างที่มีมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“มันไม่ได้เล่าเรื่องคอนโดเลยครับ”

“เป็นงั้นไป แม่ก็ซื้อให้เค้าสักพักแล้ว คิดว่ามันใกล้โรงเรียนดีจะได้ไม่ต้องเทียวนั่งแท็กซี่ไปกลับ ถึงแม่ตั้งใจว่าจะซื้อรถให้เท็นสักคันตอนขึ้นปีหนึ่งก็เถอะ แต่ยังไงแจ็คก็จะพาเท็นเข้ามหา’ลัยฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ซื้อทั้งทีก็เอาให้คุ้ม” เธอว่าพลางจัดคอเสื้อขณะเดินเข้าไปเอาน้ำเปล่าในครัว

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มรับแก้วมาถือไว้ ก่อนคุณแม่ยังสาวจะนั่งลงบนโซฟาทางด้านขวา เธอยังคงกลอกตาล่อกแล่กราวกับกังวลอะไรสักอย่างถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง

“แปลกนะ แม่คิดว่าเขาน่าจะบอกแจ็คเป็นคนแรกซะอีก”

“มันอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญน่ะครับ เพราะเดี๋ยวนี้แจ็คกับเท็นก็ไม่ได้ค้างด้วยกันแล้ว”

“ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะสิ?”

“ไม่ได้ทะเลาะครับแม่ แต่เรื่องนี้แจ็คผิดเอง”

“โถ ๆ เด็กน้อย” เธอมองเด็กหนุ่มอย่างอ่อนใจ พลางขยับเข้าไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันพร้อมลูบศีรษะปลอบ “เพื่อนกันก็ต้องมีปากเสียงกันบ้างมันเรื่องธรรมดา แต่หลังจากรู้สึกผิดจนสำนึกแล้วมันก็ไม่สายที่จะแก้ไขนะแจ็ค เท็นไม่ใช่คนใจร้ายสักหน่อย อาจจะมีบ้างที่เอาแต่ใจ ขี้โวยวาย แต่เด็กคนนั้นไม่ใช่คนใจแข็งอะไรหรอก”

“ต่อให้แจ็คจะทำให้มันรู้สึกแย่ซ้ำ ๆ น่ะเหรอครับ?” เด็กหนุ่มถามอย่างมีความหวัง และคำตอบของคนที่เรียกว่าแม่คงเป็นกำลังสำคัญให้เขามีความกล้ามากขึ้นกว่านี้

“แน่นอน แจ็คเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่เท็นรักมากที่สุดนะ”


‘เคย’ แม่ลืมคำนี้ไป


“คิดอะไรอยู่จ๊ะ?” เธอโอบไหล่เด็กหนุ่มที่ขมวดคิ้วคิดไม่ตก

“ผมกลัวมันไม่อยากคุยกับผม แต่คนแบบมันคงไม่พูดตรง ๆ เพราะมันน่าจะบ่ายเบี่ยงจนกว่าผมจะรู้ตัว”

“งั้นก็ทำให้เท็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสิ”

“ครับ?”

คนเป็นแม่อมยิ้มราวกับมีแผน เธอลุกขึ้นพร้อมชี้นิ้วเพื่อบอกให้รอ ก่อนจะเดินหายไปและกลับมาอีกครั้งพร้อมพวงกุญแจ

“ให้มันรู้ไปสิว่าลูกของแม่จะงอนเพื่อนได้นานแค่ไหน”



พวงกุญแจที่ทำให้แจ็ครู้ว่าบางครั้งการเซอร์ไพรส์ก็ไม่ได้สร้างรอยยิ้มเสมอไป




(ต่อด้านล่างนะคะ)


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 14-01-2019 23:03:16
*




หวังว่าบลูคงไม่ได้รื้อคอมพิวเตอร์เขาเหมือนผู้หญิงงี่เง่าที่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่น เท็นดูนาฬิกาข้อมือขณะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน มันคงดีถ้าจะคุยกับแม่เรื่องเช่าคอนโดใหม่ เพราะจะได้หาคนมาซื้อห้องนี้ไว ๆ เพราะหลังจากนี้เขาจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแบบที่บลูตามไม่เจอ


ไม่สิ... ไปอยู่ในที่ ๆ ใครในโลกก็ตามหาเขาไม่ได้ เท็นอยากให้ทุกคนรู้สึกแย่กับการลืมเขา

ทันทีที่ถึงบ้านก็เปิดประตูบานเล็กเข้าไป เท็นเห็นป้าแม่บ้านกำลังรดน้ำต้นไม้ และสีหน้าเธอก็ดูจะตกใจเหลือเกินที่ได้เห็นหน้าลูกชายของบ้านที่นาน ๆ จะกลับหนหนึ่ง

“คุณเท็น!”

“ยังไม่ตายนะป้า ดูทำหน้าเข้า ว่าแต่แม่อยู่ไหม?” เด็กหนุ่มกวาดสายตามองหาคุณนายของบ้าน วันนี้เขาจะอ้อนให้หนัก ถ้าแม่ไม่ใจอ่อนเห็นทีว่าบลูคงต้องรออีกนาน

“อยู่ค่ะแต่ --”

“แต่...?” เท็นหยอกล้อป้าแม่บ้านด้วยการดึงแก้มยุ้ย ๆ ของเธอก่อนจะเดินเข้าไปพบความว่างเปล่าในห้องนั่งเล่น ปกติถ้าไม่นั่งทาเล็บก็ต้องจิบไวน์ ผิดคาดไปหน่อย ระหว่างที่เขาไม่อยู่สงสัยแม่จะเปลี่ยนงานอดิเรก

ป้าแม่บ้านดูเลิ่กลั่ก เหมือนจะห้ามเขาแต่ก็ปล่อยให้เข้าไป เท็นขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ แต่ก็เดินขึ้นบันไดไปจนหยุดอยู่หน้าประตูห้องของแม่

ค่อย ๆ ย่องเข้าไปสะกิดให้ตกใจเล่นดีกว่า แม่ของเขายังสาวเรื่องหัวใจวายคงไม่เกิดขึ้นหรอก เด็กหนุ่มเลียริมฝีปากพลางหมุนลูกบิด และทันทีที่เปิดเข้าไปเสียงผู้ชายที่อยู่ด้านในก็หยุดความตั้งใจเขาไว้เดี๋ยวนั้น

“ผมก็อยากอยู่กับคุณนาน ๆ แต่แม่ผมป่วย ผมต้องกลับไปดูใจแกนะครับ”

“ส่งเงินให้อย่างเดียวไม่ได้เหรอ ถ้าเธอกลับบ้านแล้วฉันจะอยู่ยังไง?”

“โธ่... ผัวกลับแค่ไม่กี่วันก็งอแงแล้วเหรอคนสวย?”


เดี๋ยว...?


“บอกว่าอย่าเรียกตัวเองอย่างนั้น”

“ผมรู้ว่าคุณชอบ แต่แค่อายที่จะได้ยินมัน”

“ไม่รู้แหละ ฉันไม่ให้เธอกลับ ห้าหมื่นพอไหม โอรให้ใครไปดูแลแม่เธอก็ได้ แต่อย่ากลับเลยนะ”

“ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาผมขอกลับบ้านแค่สามครั้งเองนะ ตอนนั้นคุณนายก็ยังอยู่ได้เลยนี่?”

“ก็ถ้าไม่เล่าเรื่องนังผู้หญิงแถวบ้านที่ชอบมาให้ท่าเธอฉันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก”

“ได้ยินแบบนี้มันชื่นใจจริง ๆ ถ้าคุณผู้ชายได้ยินคงหยิบปืนจ่อหัวผมรอบสองแน่”

รอบสอง...?

“บอกว่าอย่าพูดถึงผู้ชายคนนั้นให้ฉันได้ยินอีก”

“โธ่ ผมกลัวลูกปืนนี่ครับ”

“กล้าไหมล่ะ ถ้าเขามายุ่งกับเธออีกสาบานเลยว่าฉันจะทำให้เท็นเกลียดเขายิ่งกว่าเดิมจนไม่อยากเห็นหน้าอีกตลอดชีวิต”


หนึ่ง...


“เอางั้นเลยเหรอ ว่าแล้วก็คิดถึงลูกเลี้ยงเหมือนกันนะ รายนั้นหายเงียบไปเลย ไม่งั้นคงได้เห็นแม่ตัวเองเล่นชู้กับพ่อเลี้ยงแล้ว”


สอง...


“พูดบ้าอะไรของเธอเนี่ย นี่ ไม่ต้องเลย เมื่อกี้ก็เกือบถูกแขกจับได้แล้วไม่เข็ดหรือไงกัน?”

เพล้ง!!!

แจกันราคาแพงถูกเขวี้ยงลงพื้นจนแตกกระจาย เรียกความสนใจจากชู้รักที่กำลังกอดรัดนัวเนียกันบนเตียง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าลูกชายเพียงคนเดียวที่ยืนน้ำตาคลออยู่ตรงนั้นพร้อมมือทั้งสองที่กำเข้าหากันแน่น ก่อนขายาวจะก้าวเข้ามากระชากคอเสื้อคนขับรถวัยกำหนัดแล้วซัดหมัดใส่หน้าไม่ยั้งก่อนจะล้มลงไปทั้งคู่

“เท็น!!!!”

มีเพียงเสียงวิ้งที่ก้องอยู่ในหู ภาพคนขับรถถูกซัดจนหน้าหันนั้นพร่ามัวหากแต่แขนขวายังคงง้างขึ้นแล้วอัดลงไปซ้ำ ๆ จนเลือดกบปาก

“เท็น!!!! อย่าลูก!!!! พอ!!!!”

คนขับรถที่เคยพูดจาเรียกลูกปืนรีบถดตัวถอยหลังพร้อมปากที่เปรอะไปด้วยเลือด หากแม่ไม่เข้ามากอดเขาเอาไว้สาบานตรงนี้ได้เลยว่าไอ้ห่านี่คงไม่มีโอกาสได้คลานออกไปพูดพล่อย ๆ ถึงเขาแบบนั้นได้อีก

ร่างของคนเป็นแม่สั่นเทา แต่มันคงไม่เท่ามือของเขาในตอนนี้ เท็นแกะมือเล็กออกแล้วก้าวถอยหลังสร้างระยะห่าง คุณหญิงของบ้านมองลูกชายทั้งน้ำตา คำพูดทุกอย่างติดอยู่ที่ปาก แต่เธอก็รู้ดีว่ามันช่วยอะไรไม่ได้

“มีอะไรจะแก้ตัวไหม?”

“เท็น... แม่ --”

“เท็นเข้าใจได้ถ้าแม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน แต่มันต้องไม่ใช่ไอ้เหี้ยนี่ปะ?”

“...” คนขับรถวัยสามสิบห้ายังคงนั่งอยู่บนพื้น และที่น่าโมโหก็คือแม่ยังคงลอบมองมันเป็นระยะราวกับเป็นห่วงนักหนา

“เท็นฟังแม่ก่อนได้ไหมลูก...”

“ฟังอะไร เรื่องโกหกน่ะเหรอ คราวนี้ขอแบบที่ทำให้เชื่อหมดใจหน่อยนะ เท็นจะได้โง่นาน ๆ”

“...”

“ไม่มีใช่ไหม ได้ งั้นเท็นพูดก่อนแล้วกัน ที่เท็นรับไม่ได้ไม่ใช่เพราะมันเป็นคนขับรถ แต่เพราะคำพูดที่มันพ่นออกมาจนทำให้เท็นรู้ว่าตลอดเวลาหลายปีนี้แม่แอบทำอะไรกับมันโดยที่เท็นไม่เคยรู้”

“...”

“ไหนบอกว่าคนนอกใจคือคนเลวไง แม่โกรธที่พ่อเป็นแบบนั้นแล้วทำไมถึงทำเองอะ แล้วมันเรื่องอะไรใครเอาปืนจ่อครั้งที่สอง ครั้งแรกมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่?”

สองมือเย็นเฉียบ เท็นรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมาแทงอกทุกครั้งที่เสียงของเขามันทำร้ายความรู้สึกแม่ เด็กหนุ่มรู้สึกผิด แต่ในขณะเดียวกันสมองมันก็สั่งให้ตะโกนออกไปดัง ๆ เพื่อให้สองคนนั้นรับรู้ว่าทำร้ายเด็กคนหนึ่งไว้เจ็บแสบแค่ไหน

“เท็นถามว่าเมื่อไหร่?!!!”

“ตั้งแต่...”

“...”

แม่หันไปมองหน้าคนขับรถ เห็นว่าขยัน ดึก ๆ ก็ยังขับรถไปรับแม่ที่งานเลี้ยงสมาคมได้ แต่ใครจะรู้ว่าระหว่างนั้นมันมีอะไรเกิดขึ้น

“ตั้งแต่ยังไม่เลิกกับพ่อใช่ไหม?”

ได้โปรดเถอะ ขอให้ไม่ใช่

“อืม...”

แม่งเอ๊ย

“แม่ขอโทษ เท็น แม่เสียใจ แม่รู้ว่าต่อให้พูดอะไรไปเท็นก็คงไม่อยากเข้าใจ แต่แม่กับพ่อมีปัญหากันมานานแล้ว ที่เราฝืนอยู่ด้วยกันก็เพราะลูก”

“อย่าเอาเท็นมาอ้างชีวิตคู่พัง ๆ ของพ่อกับแม่เลย ไม่รักกันแล้ว อยากมีคนใหม่ก็แค่บอกความจริงให้เท็นรู้ยังดีกว่าโกหกไปวัน ๆ จนมาจับได้เองอย่างนี้”

“...”

“เอางี้ แม่ไม่ต้องพูดอะไร แค่พยักหน้าตอบคำถามก็พอ”

เด็กหนุ่มกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามกักกั้นน้ำตาเอาไว้แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเป็นคนโง่ตรงนี้

“ความจริงแล้วคนที่มีชู้คือแม่ใช่ไหม...?”

เท็นได้แต่ภาวนาขอให้คำตอบว่าไม่ใช่ แต่พระเจ้าคงอยากให้เขาเข้มแข็งเพื่อทนอยู่ในโลกใบนี้ต่อไป ท่านจึงให้แม่มอบคำตอบกับเขาเป็นการพยักหน้า

“เท็น... แม่ขอโทษจริง ๆ เรื่องนี้แม่ --”

“...”


ทำไมทุกคนถึงใจร้ายนัก?


เด็กคนนี้ทำอะไรผิดไปหรือ ทำไมเขาถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ จนเหมือนว่าจะไม่มีทางสิ้นสุด แม้แต่แม่ที่คิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ทำเรื่องอย่างนั้น ซึ่งบางครั้งเท็นอาจจะคิดอะไรง่าย ๆ เกินไป

“ที่พยายามให้เท็นไปนอนบ้านเพื่อน ที่ซื้อคอนโดให้”

“...”

“เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหม?”

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จะบิดมีดที่แม่เป็นคนเอาปักอกเขาอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป เด็กหนุ่มกลืนน้ำลาย พอนึกย้อนกลับไปก็เจ็บใจจนแทบไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้อีก

“เรื่องนั้นแม่อธิบายได้นะ แม่อยากให้เท็นอยู่ใกล้โรงเรียนจริง ๆ”

“เหรอ?”

“เท็น...”

“ถ้าไม่อยากให้อยู่เป็นก้างขวางขอนักทำไมถึงไม่ปล่อยให้เท็นไปอยู่กับพ่อตั้งแต่แรก?”

“เพราะแม่รักเท็นไง แม่อยากอยู่กับเท็น”

‘อยากอยู่กับเท็น’ งั้นเหรอ?

จนถึงตอนนี้แล้ว... มีอะไรที่เป็นความจริงบ้าง?

ความจริงที่ทำให้เสียใจแต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่จากเรื่องโกหกหลอกลวง

เสียงฟูมฟายของแม่ไม่ได้ช่วยอะไร น้ำตาที่ไหลออกมานั่นคงมาจากความรู้สึกผิดซึ่งมันเอามาหักลบกับเรื่องที่หลอกลูกชายมานานหลายปีไม่ได้

“คุณเท็นพูดกับคุณแม่ดี ๆ หน่อยได้ไหมครับ เธอร้องไห้จนตัวสั่นแล้ว”

“พ่อกูยังเสือกไม่ได้แล้วมึงเป็นใคร?”

ก้าวร้าวให้ตายไปเลย ถ้าเป็นคนดีไม่ไหวก็เหี้ยให้สุดจะได้จบ ๆ

“ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันกูยังไม่มีให้ ไอ้เรื่องอยากเป็นพ่อเลี้ยงมึงคงต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกสักร้อยรอบ พอถึงตอนนั้นกูจะเก็บไปคิดอีกทีว่าอยากเกิดมาหายใจร่วมโลกกับคนอย่างมึงไหม?”

“เท็น... พอได้แล้วลูก”

คนเป็นแม่ร้องไห้เหมือนจะขาดใจ เธออยากก้าวไปหาลูกชาย แต่ก็รู้ดีว่าหากเข้าใกล้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายถอยออกห่างมากขึ้นเท่านั้น

“ตามสบาย อยากจะเป็นผัวเมียกันจนตายยังไงก็เอาเลย”



*


จากที่คิดว่าต้องกลับดึกก็เป็นอันต้องล่มเมื่ออยู่ ๆ บอสก็เข้าออฟฟิศพร้อมบอกให้ทุกคนกลับไปหาครอบครัวและเริ่มงานใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แจ็คคิดว่าไอ้แหลมคงทำตัวดี ช่วงนี้บอสจึงปล่อยพลังงานบวกออกมาเรื่อย ๆ โดยไม่แปรปรวนติดลบอย่างที่หลายคนกังวลกัน

และทันทีที่กลับมาถึงบ้านก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อพบว่าแม่นั่งอยู่บนโซฟาไม้สักเก่า ๆ โดยมีใครคนหนึ่งนอนหนุนตักอยู่ ซึ่งเจ้าของผมสีเทานั้นคงไม่ใช่น้องชายหัวฝีหัวหนองที่ป่านนี้คงไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนหรือแฟนสาวที่กำลังคบหาดูใจอยู่แน่ ๆ

ขายาวก้าวเข้าไปพลางวางกระเป๋าเป้ลง เขาสบตากับแม่ที่ยิ้มบาง ๆ ขณะลูบกลุ่มผมสีอ่อนนั้นอย่างอ่อนโยนจนเขาได้เห็นไอ้เท็นในอีกมุมที่ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ

แจ็คจะไม่แปลกใจเลยสักนิดถ้าอีกฝ่ายแค่อยากงีบหลับหลังจากเล่นเกมยิงยาวจนเกือบเช้า แต่ที่ทำให้ชะงักก็คือหยดน้ำตาที่ไหลตามสันจมูกแม้ว่าจะหลับไปแล้ว ฝันร้ายเหรอ หรือว่าทั้งคู่คุยเรื่องน่าปวดหัวกัน

ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับเรื่องอะไร และแม่ก็คงเล่าไม่ได้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นจนต้องอับอายขายหน้าเพียงเพราะว่าน้ำตามันไหลออกมาจากผู้ชายที่คนทั้งโลกอยากให้ร้องไห้จนเสียหมามากที่สุด

“นานหรือยัง?”

หวังว่าเสียงของเขาจะดังพอจนแม่ได้ยินและเบาจนไม่ปลุกอีกคนให้ตื่น ซึ่งเธอก็พยักหน้าช้า ๆ และรอยยิ้มแหย ๆ นั่นก็ทำให้รู้ว่าแม่คงเมื่อยขาแทบแย่แล้ว

“เดี๋ยวแจ็คเอง” คุณนายร้านซักรีดประคองศีรษะทุยขึ้นอย่างรู้งาน และลูกชายคนโตก็ค่อย ๆ ช้อนศีรษะรับช่วงต่อได้เป็นอย่างดีโดยไม่ทำให้คนหลับต้องตื่น

“ดูแลเพื่อนหน่อยนะลูก”

แจ็คพยักหน้า แม้ว่าอีกฝ่ายคงอ้าปากเถียงจนคอแหกว่าคนอย่างมันน่ะหรือจะต้องการให้ใครมาดูแล แม่ก็เป็นห่วงตามประสาผู้ใหญ่ แต่เขาจะทำอะไรได้ถ้าหากว่าไอ้เท็นไม่ยอมปริปากเล่าอะไรให้ฟังเลย

“เดี๋ยวแม่ไปอาบน้ำ พอทำกับข้าวเสร็จแล้วค่อยปลุกเพื่อนลุกขึ้นมากินนะลูก”

ลูกชายคนโตพยักหน้าก่อนจะลดระดับสายตาลงเมื่อพบว่าศีรษะทุยเริ่มขยับ ไอ้เท็นยังคงไม่ตื่น และถ้าจะปล่อยให้มันหลับนานกว่านี้อีกหน่อยก็คงไม่เสียหายนัก แจ็คไม่ใช่ผู้ชายที่ให้ความอบอุ่นได้เก่งเหมือนพ่อบ้านลูกหนึ่งอย่างพี่ตั้บ หรือไอ้ธีร์ที่รู้ดีว่าเป็นคนจันไรแต่ยังมีมุมอ่อนโยนกับไอ้โซ่ได้

เขาไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายต้องร้องไห้ แต่การที่ใครคนหนึ่งปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาได้ แสดงว่าคน ๆ นั้นคงต้องการการปลอบใจบ้างไม่มากก็น้อย

แจ็คตัดสินใจวางมือลงบนกลุ่มผมสีอ่อน ในทีแรกแค่เป็นการลองเชิง หากอีกฝ่ายสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสนี้สาบานได้เลยว่าประโยคแรกที่จะพูดกับมันก็คือ ‘กูจะเขกกะโหลกให้ตื่น ตกใจอะไร?’ แต่ถ้าไอ้เท็นยังหลับต่อไป การลูบผมเบา ๆ ปลอบใจโดยที่เจ้าตัวไม่รู้มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่นัก

หากเด็กที่ชอบเล่นกีต้าร์คนนั้นกำลังอ่อนแอจนต้องการที่พักพิงในช่วงเวลาสั้น ๆ
เขาก็จะเป็นหลังคาผุ ๆ พัง ๆ ที่คอยบังแดดและฝนให้เอง



TBC


ยังมีคนอ่านอยู่ไหมคะ ขอเสียงหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
#ยื่นไมค์ขนมอันละห้าบาทไปกลางทุ่งนา



หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 14-01-2019 23:17:37
เราเองงงงค่าาาาา ยังตามติดละติดตาม

เห้ออออออ เราว่าเท็นใช้วิธีที่ผิดที่ดึงบลูออกจากแจ็คด้วยวิธีนั้น
แก้ตัวยังไงก็ไม่ขึ้น เพราะเท็นใช้สิ่งที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนา คือเรานึกว่าเท็นจะฝังใจแต่ก็ยังยอมเป็นมือที่สาม ในก็คงจะงงๆหน่อย

แต่อาจจะเป็นเพราะความเป็นเด็กอะเนอะ

มาช่วยลุ้นให้รักกันเร็วๆค่ะ อย่องน้อยพี่แจ็คก็มีความตะมุตะมิลูบหงลูบหัวให้แล้ว  :hao6:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 14-01-2019 23:30:21
สงสารเท็นเรื่องครอบครัว ตอนหน้าเรื่องความบาดหมางระหว่างแจ็คกับเท็นคงเพราะบลู ในตอนปัจจุบันหวังว่าแจ็คกับเท็นจะค่อยๆปรับความเข้าใจกันได้แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป  รออ่านได้เรื่อยๆค่ะ อยากเห็นสองคนนี้ค่อยๆกลับมาเปิดใจให้กันใหม่อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 14-01-2019 23:31:25
เค้าทั้งสองคนเจ็บปวดไม่ต่างกันเลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ปานกลาง ที่ 14-01-2019 23:35:58
โธ่ เท็น เจ้าคือเศร้าแท้ :m15:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 14-01-2019 23:51:12
น้อนเท็นนนน ฮื้อออ ; w ;


ทำไมใครๆก็ทำร้ายน้อนนนนน โอ๋ๆนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-01-2019 00:01:36
 o18

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2019 02:43:00
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 15-01-2019 05:30:01
ทำไมสองคนนี้เจอปัญหาชีวิตมาหนักหน่วงขนาดนี้ โอ๋ๆนะ //กอดปลอบ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-01-2019 10:01:24
โอ๋ นุ๋งเท็น คนดี ไม่ร้องนะไม่ร้อง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 15-01-2019 10:33:18
เรื่องที่เจอมาในอดีตของสองคนนี้มันหนักหนาจริงๆ  แต่ก็ยังมันก็ผ่านไปแล้ว สู้ๆนะทั้งสองคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 15-01-2019 12:33:52
ยกมือออกเสียงว่ารออ่านอยู่นะฮะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 15-01-2019 12:48:11
ติดตามแจ็ค เท็น อยู่นะค๊ะ เรื่องนี้หน่วงใจดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 15-01-2019 14:24:56
แงงงงงงงงงงงงงงงงง สงสารน้องเท็น
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-01-2019 20:55:21
ว่าเรื่องแจ็คทรหดแล้ว เรื่องของเท็นเจ็บปวดหนักเข้าไปอี๊ก โอ๊ย อีป้าอยากกอดรวบเด็กน้อยทั้งสอง
ถ้าเท็นรู้เรื่องแม่ก่อน ก็คงไม่ทำกับแจ็คแน่นอน แต่ในเมื่อมันย้อนอะไรกลับไปไม่ได้
ขอให้อนาคตของทั้งสองสว่างไสว ไร้มลพิษ ด้วยเถิด สาธุ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-01-2019 21:14:05
หนักหนาสาหัส
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 15-01-2019 22:59:39
รออ่านอยู่ค่ะ  อดีตของเท็นนี่คิดร้ายกับแจ็คเหตุเพราะคนอื่นทั้งนั้นเลย แปลกใจที่ไม่ไปทำกับธีร์ พอคิดว่าเท็นไม่ดีเลยไม่ค่อยสงสารตอนที่เจอแม่อยู่กับชู้ เพราะเท็นก็ทำเรื่องไม่ดีกับคนอื่นไว้เยอะเหมือนกัน ทำร้ายเพื่อนที่รักตัวเองด้วย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-01-2019 15:21:02
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta0b2 ที่ 22-01-2019 01:05:47
เพิ่งอ่านซอโซ่กับชอกะเชร์จบภายใน3วันก็มาต่อเรื่องนี้เลย เป็นเรื่องแรกที่อ่านทั้งๆที่ยังเขียนไม่จบ รอนะคะㅠㅠㅠㅠ :sad4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 22-01-2019 09:36:51
สงสารเท็น...
หวังว่าแจ็คจะทลายกำแพงไปเล่นกับเท็นได้เหมือนแต่ก่อน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-01-2019 23:35:31
การเล่าเรื่องราวอดีตผสมปัจจุบันโดยไม่มีอะไรบ่งบอก ทำความงงได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: วาย ร้าย ที่ 07-02-2019 00:25:23
อารมณ์ตอนอ่านเรื่องนี้ก็คือไบโพล่ามากเวอร์
เหวี่ยงไปเหวี่ยงมายิ่งกว่าโรลเลอร์โคสเตอร์ ช่วงตอนปัจจุบันแรกๆก็หน่วงจัดแต่อดีตดันน่ารัก
แต่พอหลังๆที่ปัจจุบันโคตรจะน่ารักอดีตก็ดันหน่วงจนจุกซ่ะงั้น เหมือนกำลังจะปีนขึ้นไปถึงหน้าผาแล้วโดนถีบตกลงไปข้างล่างแต่ก็ดันมีเชือกดึงไว้ไม่ให้ตกอยู่ เหวี่ยงเก่งงงงง แต่แต่งดี๊ดีอ่ะ อ่านครึ่งวันก็คือหมดแล้ว 14 ตอน แล้วดูเหมือนคุณมิ้วจะดองเรื่องนี้ซ่ะด้วย 5555555 คิดถึงทิดธีร์จังเลยข่าาาา 555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน14 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (14/01/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 21-02-2019 10:45:45
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 27-02-2019 18:54:20
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 15
ฟ้าหลังฝน





เท็นตื่นเพราะน้องสาวไอ้แจ็คปลุกไปกินข้าว ตอนนั้นเขาได้แต่นั่งกุมขมับจากอาการปวดศีรษะซึ่งคงเป็นเพราะหลับจนถึงช่วงเย็น บ้านนี้ยังคงแสดงความเป็นกันเอง และเขาก็อิ่มท้องไปได้อีกวัน

jjack: เสาร์นี้วันเกิดไอ้แหม่ม แม่ให้มาชวนมึงไปกินปิ้งย่างด้วยกัน

เอะอะก็อ้างแม่ เคยมีไหมที่คิดจะงัดปากชวนเขาเอง?

TEN10: เออ

ที่ไปเพราะอยากเจอแม่มันหรอกนะ

jjack: เล่นเกมกัน


...


...ไอ้เวรเอ๊ย



*



“แม่ว่าเท็นกับไอ้แจ็คใครขับรถนิ่มกว่ากัน?”

เขาหันไปถามคุณนายร้านซักรีดที่วันนี้แต่งตัวสวยกว่าทุกวันเมื่อได้มาเดินห้าง และหลังจากสิ้นสุดคำถาม ไอ้คนที่ถูกกล่าวถึงก็แอบชำเลืองมองด้วยหางตา

“ยังต้องถามแม่อีกเหรอ ยังไงก็ต้องเท็นอยู่แล้ว”

“ใช่ พี่แจ็คขับทีหนูโคตรเวียนหัวเลย” แหม่มเสริม พลางเกาะแกะแขนเพื่อนพี่ชายที่ทุกวันนี้เธอสนิทใจจนแทบไม่หลงเหลือความอึดอัดใจแล้ว

พี่เท็นทั้งเอาใจเก่ง ไม่แซะเวลาเธอเขียนฟิควายเหมือนพวกพี่เชร์ทำ แถมยังชอบซื้อขนมมาฝากอีก เนี่ย พี่ชายดีเด่นแห่งปีต้องมาแล้วไหม

“ก็มันไม่ชิน นาน ๆ ทีถึงได้ขับรถยนต์”

“แม่บอกให้เลิกขับมอเตอร์ไซค์แจ็คก็ไม่ฟัง เรื่องนี้ล่ะดื้อเก่งนัก” เธอหยิกสีข้างจนลูกชายคนโตนิ่วหน้าอ้าปากหวอ บิดจนตัวเป็นกุ้งเรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มผมเทาและลูกอีกสองคนที่มาด้วยกัน

“สองเสียงจากแม่กับแหม่ม ชัดเจนเลยว่ากูขับนุ่มกว่าเห็น ๆ”

“เออ พ่อคนปุยนุ่น พ่อสำลีมาเกิด”

“อุ๊ยแม่ พี่แจ็คประชดด้วยอะ...” แหม่มหลบหลังแม่ขณะมองพี่ชายคนโตที่วันนี้ทำตัวประหลาดไปกว่าทุกที

“ถ้าจะกระซิบกระซาบก็อย่าให้ได้ยินสิ”

“โอ๊ะ!” เด็กสาวถูกจับศีรษะโคลง ก่อนสองพี่น้องจะกอดคอกันเดินนำหน้าจนตรงนี้เหลือเพียงเขา แม่ไอ้แจ็คและน้องชายคนเล็กของมัน

มองด้านหลังของพี่ชายคนโตที่ไม่ค่อยได้แสดงความรักต่อคนในครอบครัวนัก แต่เท็นก็รู้สึกได้ถึงความใส่ใจอยู่เสมอ

ไอ้แจ็คเมื่อตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจครอบครัวมากถึงขนาดนี้ ช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กมัธยม ทั้งคู่คิดแค่ว่าจะทำอะไรเพื่อให้ชีวิตสนุกขึ้นดี ซึ่งการโตขึ้นและความรับผิดชอบจากตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวจำเป็นคงทำให้มันเปลี่ยนไปอย่างที่เห็น ทั้งมุมมองความคิดและอะไรหลายอย่างที่ทำให้เท็นมองย้อนตัวเองและพบว่าเขานั้นยังมีความคิดเด็ก ๆ อยู่มากโข

“อ้าว นั่นไงพวกพี่ธีร์”

ว่าไงนะ?

“พี่เชร์ก็มาด้วย พี่เชร์!!!” น้องชายคนเล็กตะโกนเรียกหาชายกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่อีกฟาก วินาทีนั้นเท็นรู้สึกเหมือนโลกค่อย ๆ ถูกกลืนกินจนเป็นสีดำ หลังจากรอบข้างรายล้อมไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่นาน

“อย่าเสียงดังสิลูกรบกวนคนอื่นเขา”

“คิงไปหาพวกพี่ธีร์ก่อนนะแม่”


ให้ตายสิวะ


ขณะที่ใช้เวลาวัน ๆ ไปกับครอบครัวนี้จนเกิดความสนิทใจ เท็นก็แทบลืมไปเลยว่าแม่กับน้อง ๆ ไอ้แจ็คก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกแก๊งขี้ซุยฯ เหมือนกัน ซึ่งเผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ และเท็นรู้สึกได้ถึงลางที่ไม่ดี

และวินาทีที่หัวหน้าทีมหันมาเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ รอยยิ้มที่เคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วิก็เลือนหายไป


ใช่ ไอ้ธีร์คงไม่ชื่นอกชื่นใจที่ได้เห็นหน้าเขาเหมือนกัน




*


เด็กหนุ่มผมสกินเฮดมองขนมและน้ำอัดลมในถุงเซเว่นที่เพิ่งแวะซื้อก่อนเข้าคอนโด แจ็คยืนโง่ ๆ อยู่หน้าประตูมาสักห้านาทีแล้ว ซึ่งเอาเข้าจริงมันน่าจะเป็นห้านาทีที่นับรอบสาม เขาไม่กล้าเสียบกุญแจแล้วไขกลอนเข้าไปเพียงเพราะไม่มั่นใจว่าเพื่อนจะยินดีหรือไม่หากว่าการมาของเขามันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่ฝ่ายเดียว แต่กลับเป็นการรบกวนของไอ้เท็น

ความกังวลและไม่แน่ใจเกิดจากความห่างเหินที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน แจ็คถอนหายใจอีกครั้งพร้อมจัดฉากในความคิดว่าหากเปิดประตูเข้าไปแล้วจะพูดอะไรเป็นอันดับแรก ถ้าเพื่อนทำหน้าเหวอหรือไม่โอเคควรทำอย่างไร พุ่งเข้าไปกระโดดใส่เหมือนท่าไม้ตายนักมวยปล้ำ WWE ที่ทั้งคู่ชอบดูด้วยกันดีไหม หรือว่าจะยืนยิ้มโง่ ๆ แล้วด้นสดไปตามสถานการณ์


เวรเอ๊ย... กับบลูยังไม่เคยเครียดกับการง้อขนาดนี้


“เซอร์ไพรส์...”

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดค้างอยู่ในท่าอ้าแขนออกหน้าประตูที่ปิดสนิท ก่อนจะรู้ตัวว่าการซ้อมพูดกับท่าทางแบบนี้มันโคตรงี่เง่าเลย

“กูแวะซื้อขนมมาให้ แค่นี้แหละ”

ขมวดคิ้วทำเสียงห้วนเต๊ะท่าแบดบอยเลียนแบบไอ้ธีร์ ก่อนจะทำมือปัด ๆ เพราะเหม็นกลิ่นความขี้เก๊กที่ใช่ว่าตนเองจะถนัด

“...”

เอาไงดีวะ อย่างนั้นก็ไม่ดีอย่างนี้ก็ไม่ใช่ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเครียดเลยว่าไอ้เท็นจะรู้สึกอย่างไรกับการมาของเขา ทำตัวให้เป็นธรรมชาติหน่อยสิ ถ้ามันยังเคืองก็นั่งหน้าด้านอยู่ตรงนั้นไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะใจอ่อนนั่นแหละ ก็ให้รู้ไปสิวะว่าการสำนึกผิดของคน ๆ หนึ่งจะไม่ส่งผลอะไรเลย

เอากุญแจขึ้นมาเสียบแล้วไขกลอนทันที ไม่มีอีกแล้วเรื่องตั้งหลกตั้งหลัก แจ็คหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน บอกตัวเองว่าตายเป็นตายจะเสียหน้าอย่างไรก็ได้แต่วันนี้ห้ามเสียเพื่อน

ไฟห้องยังเปิดอยู่แสดงว่าไอ้เท็นไม่ได้หายหัวไปไหน โชคดีที่วันนี้มาไม่เสียเที่ยวเพราะถ้าให้กลับไปตั้งหลักใหม่ก็ไม่รู้ว่าความกล้าที่มีอยู่จะหายไปด้วยหรือไม่

แต่พอเดินเข้ามาหยุดกลางห้องก็พบเพียงความว่างเปล่า ‘เข้าห้องน้ำอยู่หรือว่านอน?’ เด็กหนุ่มถามตนเองในใจก่อนทุกอย่างรอบด้วยจะถูกกลืนด้วยความมืด

ไฟดับเหรอ?

แจ็คเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงหวังจะใช้แสงสว่างจากหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นั่น มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าเขาเดินมั่วซั่วชนข้าวของตกแตกจนโดนเพื่อนโกรธซ้ำสอง แต่แสงสว่างยังไม่ทันได้ทำงานเขาก็รู้สึกถึงวงแขนที่สวมกอดมาจากด้านหลังพร้อมศีรษะที่ซบลง

ซึ่งจากส่วนสูงแล้วมันไม่ใช่ไอ้เท็น

เวรแล้วไง... อย่าบอกนะว่าคนที่กอดเขาอยู่ตอนนี้คือเด็กมัน?

“ไปนานแบบนี้คิดว่าจะทิ้งให้อยู่คนเดียวทั้งคืนซะแล้ว”

“...”

แม้ว่าพักหลังจะไม่ค่อยได้คุยกันแต่แจ็คก็คิดว่าคงไม่ได้หูฝาดไป เด็กหนุ่มแกะวงแขนเล็กออกพร้อมหันหลังกลับ กดปุ่มโทรศัพท์กระทั่งจอส่องแสงสว่างเพื่อยืนยันกับตนเองว่าคิดไปเองหรือไม่ ก่อนหัวใจของเขาก็ตกลงไปอยู่บนพื้นหลังจากได้เห็นใบหน้าเด็กผู้หญิงที่ไม่ควรอยู่ในห้องนี้มากที่สุด

“แจ็ค...”

“...”



*



เนื่องจากมาเป็นครอบครัวใหญ่ทางร้านจึงต่อโต๊ะให้ ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าของวันเกิดที่ได้กล่องของขวัญมากมายจากเพื่อนพี่ชาย ยังมีคนนั่งกระอักกระอ่วนแทบตายอยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่ฝั่งตรงข้ามเป็นโซ่ ไม่ใช่สามพี่น้องชวนปวดหัวที่คงทำให้เขาเก็บสีหน้าไว้ไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นคนที่นั่งถัดจากโซ่ไปก็ยังเป็นไอ้ธีร์อยู่ดี

เสียงไอ้เด็กลูกครึ่งพูดเสียงดังจนพี่ตั้บต้องปรามให้เบาลง และพอเป็นอย่างนั้นไอ้ธีร์กับไอ้แจ็คก็หันไปรุมกลั่นแกล้งเหยื่อทางอารมณ์ที่ไม่เคยเจ็บปวดกับสิ่งที่พี่ ๆ มอบให้ แม้ว่าทุกคนจะยิ้มกับภาพตรงหน้า แต่เท็นก็ไม่ได้รู้สึกเฮฮาไปด้วยเลยแม้แต่นิดเพราะเขารู้ดีแก่ใจว่าเป็นส่วนเกิน ต่อให้เก้าอี้จะมีพอสำหรับเก้าคนก็ตาม

“โคนผมพี่เท็นเริ่มดำแล้วล่ะครับ” เขาไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มนั่นจริงใจแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ เด็กอย่างโซ่คงไม่ได้อยากจะร้ายกับเขาด้วยการพูดหักหน้าหรืออะไรก็ตามที่คนอื่น ๆ ทำ

“อ้อ อืม”

“พี่เท็นเคยทำสีทองไหมครับ โซ่ว่าถ้าพี่เท็นทำคงเหมือนหลุดมาจากอนิเมะแน่ ๆ เลย” เด็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยังคงมองมาราวกับคาดหวังว่าจะได้รอยยิ้มกลับไป

เท็นไม่อยากขยับริมฝีปากพูดอะไรทั้งนั้นเพราะเขาให้เกียรติแม่ไอ้แจ็คและเด็กสาวผู้เป็นเจ้าของวันเกิด แต่สายตาไอ้ธีร์ที่มองมาก็วอนตีนจนการห้ามปากเป็นเรื่องยากเหลือเกิน

“วันก่อนโซ่เข้ายูทูป เห็นชาวต่างชาติเอาคลิปพี่เท็นไปตัดต่อมีแต่ช็อตเท่ ๆ ทั้งนั้นเลยครับ คลิปนั้นคนดูตั้งหกแสนวิวแน่ะ”

“จะเอาอะไรกับพวกชอบดูดคลิปคนอื่นไปลงเพื่อเรียกยอดวิว มันก็หวังเงินอย่างเดียว ไม่ได้อยากเยินยออะไรหรอก”

จนได้...
พอเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้ทีไรปากมันก็เอาแต่จะพูดพล่อย ๆ ออกไปทุกที

ทำแบบนี้กับเด็กที่เลือกคุยกับเขาทั้งที่จะให้ความสนใจบทสนทนาบนโต๊ะก็ได้ อันที่จริงโซ่ไม่ควรพูดอะไร เพราะการอดทนนั่งเงียบสักชั่วโมงจนกว่าทุกคนจะอิ่มนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายนักถ้าแลกกับความสบายใจของแม่ไอ้แจ็ค

“คุยอะไรกับมัน?” คนที่สึกจากการบวชได้สักพักผมเริ่มงอกออกมาจากกะโหลกกลวง ๆ นั่นแล้ว และเท็นก็เห็นด้วยกับคำถามของไอ้ธีร์

“ก็เรื่องทั่วไปครับ พี่ธีร์อยากรู้เหรอ?”

“พี่ไม่ได้ถามเพราะอยากรู้ แต่พี่ถามเพราะจะให้เลิกคุย”

“ธีร์” โชคร้ายหน่อยที่ไอ้แจ็คนั่งอยู่ตรงนี้ ก็เลยต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะปัจจุบันระดับความเกลียดที่มันมีต่อเขามันก็ดันลดลงไปบ้างแล้ว หรือไม่ก็อาจจะเกลียดเท่าเดิมแต่ต้องห้ามทัพเพราะเกรงใจแม่ ซึ่งนั่นก็เพื่อนรักปากเรียกตีนหมายเลขหนึ่งจะห้ามก็คงยากหน่อย

ลึก ๆ ก็อยากให้มันโชว์ความดักดานออกมาเยอะ ๆ ให้แม่ไอ้แจ็คเห็นว่าเพื่อนสนิทลูกชายถ่อยอย่างไร แต่พอคิดอีกทีแม่ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว คนทั้งโลกคงไม่มีใครผิดหวังหรือประหลาดใจกับสิ่งที่ไอ้ธีร์เป็น

“ทำไมโซ่ต้องเลิกคุยกับพี่เท็นด้วยล่ะครับ?”

“โซ่ จะเอางี้ใช่ปะ?”

“พี่ธีร์ จะเอางี้ใช่ปะ?”

“อย่ามายอกย้อน เดี๋ยวปั๊ด”

“เป็นอะไรล่ะน่ะ วีนน้องไม่พอแถมยังกัดเพื่อนอีก”

เสียใจนะธีร์ แต่ยกนี้เขาได้ภาษีแม่ไอ้แจ็คว่ะ

“ใครกัด? ใครเพื่อนใคร? แม่ถูกไอ้เชี่ยนี่ซื้อเพราะแค่มันไปที่บ้านบ่อย ๆ เหรอ ไหนตอบให้ลูกชายคนนี้ชื่นใจหน่อยซิ?” คนหัวเกรียนถลึงตาคาดโทษแม่เพื่อนที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้างลูกสาว

“ก็ก่อนหน้านี้ทิดบวชอยู่”

“ก็สึกแล้วไงเนี่ย เอาตำแหน่งลูกชายคืนมาเลย ธีร์ไม่แบ่งให้ใครนะบอกก่อน” ออดอ้อนเก่งที่หนึ่ง คลื่นไส้จะอ้วก เท็นกลอกตาไปทางอื่นพลางยกน้ำขึ้นดื่มเพราะไม่อยากเป็นอย่างที่คิด

“แม่มีลูกหลายคน ทิดมีปัญหาอะไร?”

“เซ็งไง ธีร์ต้องเป็นลูกรักดิ”

“อย่าเลย เพราะที่บวชไปก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่มึงจะได้เกาะผ้าเหลืองด้วยไหม อย่างมึงน่าจะเกาะด้วยได้แค่ผ้าเดียว”

“ผ้าไรวะพี่ตั้บ?” ไอ้เด็กฝรั่งเสริม

“ผ้าขาวเปื้อนขี้”

“5555555555555555555555555”

“ตุ้บตั้บ เดี๋ยวจะกินกันแล้วอย่าพูดเรื่องแบบนั้นสิลูก”

“โทษแม่โทษ”

“5555555555555555555555555”

มองจากหางตาก็รู้สึกได้ว่าไอ้แจ็คกำลังมองอยู่ ถ้าไม่คิดไปเองคาดว่ามันคงเป็นห่วง แต่ถ้าไม่ใช่มันก็คงอยากด่าเขาเรื่องพูดไม่ดีกับโซ่เมื่อครู่นี้ อึดอัดจริง ๆ กับการทำได้แค่นั่งเฉย ๆ เพราะรู้ว่าถ้าหากตอบโต้เมื่อไหร่คนผิดจะกลายเป็นเขาทันที

“เดี๋ยวแม่ไปเข้าห้องน้ำก่อน กินกันเลยนะไม่ต้องรอ”

“พวกผมต้องรออยู่แล้วปะโธ่ แม่ทั้งคนน้อ” ไอ้เด็กลูกครึ่งขมวดคิ้วทำหน้าจริงจังมองตามหญิงผู้เป็นที่รักของเด็ก ๆ ซึ่งกำลังเดินออกจากที่นั่ง และไอ้เด็กพูดมากก็ถูกแม่เขย่าศีรษะอย่างมันเขี้ยว

“แกน่ะกินหนีแม่คนแรกตลอดเลย ทำมาเป็นพูดดี”

“ร๊ากกกกกกกกกกก”

เท็นคงไม่ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าบรรยากาศมันตึงเครียดทันทีที่แม่ไอ้แจ็คไปเข้าห้องน้ำ พี่ตั้บก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เด็กอีกสองคนนั่งนิ่งมองสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ส่วนไอ้เด็กลูกครึ่งกระแซะแขนพี่คนสนิทของมันซึ่งกำลังจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง

“รีบกินรีบกลับ เดี๋ยวกูไปส่งทุกคนเอง”

“เจ้าของวันเกิดเหรอ อ้าปากทีก็สั่ง?”

“แล้วมึงเป็นใครถึงมาอยู่ที่นี่?”

“ธีร์ อย่าทำแบบนี้”

“แล้วกูต้องทำยังไงเพื่อน คีบหมูให้มันเหรอ?”

“พี่ธีร์สลับที่กับคิงดีกว่านะครับ นี่คิง มา --” ยังพูดไม่ทันจบโซ่ก็ถูกคว้าข้อมือไว้เสียก่อน เด็กหนุ่มมองดวงตาอีกฝ่ายซึ่งยังไม่ละห่างไปไหนและพี่เท็นก็เช่นกัน

โซ่เข้าใจทั้งสามฝ่ายว่ารู้สึกอย่างไร พี่แจ็คคงลำบากใจที่เพื่อนทั้งสองคนไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่แจ็คจะทักส่วนตัวมาปรึกษาเขาว่าควรทำอย่างไรดีพี่ธีร์กับพี่เท็นถึงจะยอมเผชิญหน้ากัน ซึ่งการพามาเจอหน้านั้นก็ไม่ได้ยากเท่ากับจะใช้วิธีไหนเพื่อให้ทั้งคู่ยอมคุยกันได้โดยไม่ต้องจบด้วยการทะเลาะ

ส่วนพี่เท็นก็อาจจะอยากเริ่มต้นใหม่ โซ่คิดว่าถ้าคน ๆ หนึ่งจะคิดร้ายกับเพื่อนเก่าก็คงหาทางเอาคืนในแบบที่ตนเองถนัดซึ่งทุกคนก็เคยเห็นกันมาแล้ว และโซ่ก็มั่นใจว่านั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพี่เท็น

ถ้าพี่เท็นนิสัยไม่ไหวจริง ๆ คนอย่างพี่แจ็คคงไม่คิดพากลับเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตอีกแน่ พี่แจ็คเป็นคนรอบรอบแค่ไหนโซ่รู้ดี เขาไม่เคยเห็นรุ่นพี่แสดงออกแบบนี้ โดยเฉพาะการยอมออกตัวห้ามพี่ธีร์เพื่อปกป้องพี่เท็น

พี่แจ็คคงอยากลืมเรื่องผิดใจเมื่อตอนนั้นและโซ่คิดว่ามันดีมาก ๆ แต่พี่ธีร์นี่สิ... ถึงเจ้าตัวจะเคยพูดว่า ‘เดี๋ยวลองพยายาม’ แต่อีกฝ่ายก็ห้ามตัวเองไม่ให้ใส่อารมณ์เรื่องพี่เท็นแค่ตอนคุยกับพี่แจ็คเท่านั้น พี่ธีร์ตอบเออออไปเพื่อให้เพื่อนสบายใจ แต่เบื้องหลังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทุกครั้งที่เห็นว่าพี่แจ็คยอมใจอ่อนจนปล่อยให้คนเดิม ๆ เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง พี่ธีร์ยังจดจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอีกฝ่ายคงนึกไปถึงความเสี่ยงมากกว่าจะให้คิดแง่บวกว่าพี่เท็นจะดีขึ้นได้


‘มันไม่ใช่แค่เรื่องหักหลังทีม แต่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ไอ้เท็นทำคือการทำลายไอ้แจ็คในทุก ๆ ทาง’


พอเป็นอย่างนั้นคนที่รักเพื่อนยิ่งกว่าอะไรจึงโมโหจนทนนั่งโต๊ะเดียวกันนาน ๆ ไม่ไหว


“ที่กูกับมันมาที่นี่ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ มึงคงอยากให้กูกับมันได้คุยกันบ้างสักคำสองคำใช่ไหมวะเพื่อน?”

“พี่มึงใจเย็น...” แหลมก็หมั่นตีนพี่เท็นเพราะความรักพี่มันเข้าตา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากให้พี่ธีร์กับพี่แจ็คต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้ ซึ่งเซนส์ที่โคตรแม่นมันบอกว่าอีกไม่กี่วิข้างหน้า เพื่อนรักอาจจะต้องฉะกันเพราะพี่เท็น

“อืม”

“ได้ งั้นกูพูดก่อน”

พี่ตั้บเห็นท่าไม่ดีจึงสะกิดแหม่มให้พาคิงออกไปข้างนอกพร้อมบอกน้องให้หาทางหลอกล่อแม่ไว้เพื่อไม่ให้เข้ามาเจอสงครามบนโต๊ะ

“มันควรจบตั้งแต่แข่งการกุศลรอบนั้นแล้วไม่ใช่เหรอวะเท็น?”

“...”

“ทำไมถึงยังอยู่ กูขอถามแบบคนกำลังของขึ้นว่าเพราะไม่มีที่ไปแล้วหรืออะไรยังไง?”


น่าแปลก...


ที่ตอนนี้เท็นได้แต่นิ่งเฉย สบตากับอีกฝ่ายเหมือนไก่ที่กำลังถูกเชือดอย่างช้า ๆ ขณะที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถตอกกลับไปได้ทุกคำและยิ้มเหมือนไม่รู้สึกรู้สา เพื่อให้ทุกคนในโลกเข้าใจว่า TEN1O ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด

เพราะกลัวว่าไอ้แจ็คจะรู้สึกแย่ถ้าหากว่าเขางัดปากพูดน่ะเหรอ มันขนาดนั้นแล้วใช่ไหมความรู้สึกที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และมันทำให้เขากล้าทำในสิ่งที่ไม่ชอบงั้นหรือ?

แค่เพราะเห็นว่าคนข้าง ๆ กำลังมองมา และวางมือลงบนหน้าขาเขาราวกับอยากบอกให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

“งั้นพูดมาว่าทำไมกูถึงอยู่ตรงนี้ไม่ได้”

‘มึงเป็นใครถึงมาเที่ยวตัดสินว่ากูควรอยู่ส่วนไหนของโลก?’ นี่คือสิ่งที่เขาคิดแต่ไม่ได้พูด

“กูเป็นเพื่อนมัน กูอยู่กับมันทุกช่วงเวลาที่มึงหักหลังทุกคนไง” ธีร์ชี้หน้าเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “หรือว่าสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีใครอ้าแขนรับมึงแล้ว หรือว่าใช้เวลาสำนึกผิดได้ภายในปีเดียว โอ้โหไวจริงนะ?”

เรื่องสำนึกมันเกิดขึ้นนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่เคยเปิดใจยอมรับเพราะคำว่าทิฐิค้ำคอ แม้กระทั่งตอนที่ตัดสินใจขอลงแข่งทีมอื่นเพราะอยากแสดงให้คนเหล่านี้เห็นว่าเขาเก่งกว่าที่เคยมากแค่ไหน มันเป็นความคิดของเด็กที่ไม่รู้จักโต

หลายอย่างที่รู้ว่ามันผิด แต่ก็ทำลงไปเพียงเพราะไม่อยากกลายเป็นคนน่าสมเพช TEN1O เดินมาไกลเกินกว่าจะพูดคำว่าขอโทษกับคนระหว่างทางแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะละอายใจ อีกส่วนเป็นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับการให้อภัย ซึ่งที่ยังอยู่ตรงนี้กับไอ้แจ็คก็เพราะคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจบ้างสักนิด และให้โอกาสเขาได้กลับไปซ่อมแซมแก้ไขเรื่องราวที่ทำผิดพลาดไป

รู้ว่าให้ลืมไปเฉย ๆ คงไม่ได้ แต่จากนี้ไปเขาจะพยายามทำตัวให้ดีกว่าตอนนั้น

“ทำไมไม่เถียงล่ะ พูดอะไรหน่อยสิ นิ่งแบบนี้เดี๋ยวได้เสียศักดิ์ศรีกันพอดี มึงคือ TEN1O เลยนะ”

“พอได้แล้ว”

“ยากหน่อยว่ะ พอได้พูดแม่งก็ยาวแบบนี้แหละ แต่กูจะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ส่วนหลังจากนี้มึงจะยังไงกับมันก็แล้วแต่เลย”

“วันนี้วันเกิดแหม่มนะครับ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ?” ไอ้ธีร์ดูจะอ่อนลงหลังจากได้ยินเสียงน้องเล็กของทีม แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น

“มึงกลับไปคุยกัน โอเค กูคงแย้งอะไรไม่ได้ แต่ถ้าจะให้กูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือให้ทำอะไรที่เรียกว่าเริ่มต้นใหม่น่ะกูขอบาย”

“...”

“กูขอโทษว่ะแจ็ค ใจกูมันไม่กว้างพอขนาดนั้น แล้วกูขอพูดกับมึงประโยคสุดท้ายนะเท็น ว่าถ้ามึงทำใครสักคนเสียใจโดยเฉพาะไอ้แจ็ค กูตามไปกระทืบมึงถึงบ้านแน่”

ชายหนุ่มผมสกินเฮดเริ่มหายใจติดขัดเพราะโทสะ และพอรู้ตัวว่าทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวแล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากร้านโดยไม่พูดอะไรอีกแล้วแจ็คก็เดินตามออกไปทันที

“กูไปด้วยดีไหมวะ...?” แหลมมองรุ่นพี่ทั้งที่คิ้วตก ซึ่งพี่ตั้บก็ส่ายศีรษะปฏิเสธ ตอนนี้ทั้งไอ้โซ่ พี่เท็น ต่างก็ทำหน้าเหมือนจะคายโรคร้ายออกมาอย่างไรอย่างนั้น

“อ้าว แจ็คกับธีร์ไปไหนแล้วล่ะ?”

“ไปขี้จ้ะแม่” แหลมยิ้มแห้ง ก่อนจะส่งสายตาบอกให้แหม่มรู้ว่าสถานการณ์มันแย่ลง ซึ่งงานนี้ไม่รู้จะขอโทษน้องมันยังไงที่ทำให้วันเกิดกร่อย

“พี่เท็นจะไปไหนเหรอครับ?”

เจ้าของชื่อมองหน้าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันแต่ก็ยังเป็นห่วงเขาอีกงั้นเหรอ เด็กคนนี้นี่มันจริง ๆ เลย

“ดูดหรี่ ไปด้วยกันไหม?”

โซ่ลังเลจึงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า เท็นยิ้มบาง ๆ แล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะวางมือลงบนศีรษะเด็กน้อย

“สูบบุหรี่ไม่ดีหรอก อยู่ตรงนี้แหละ จะได้ย่างหมูให้ทุกคนกิน”

“พี่เท็นจะกลับมาใช่ไหมครับ?” เหมือนได้ถามตัวเองไปด้วย เท็นคว้าซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลางลดระดับสายตาครุ่นคิด ก่อนจะสบตากับโซ่แล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ



*



ความคิดในหัวตีกัน ฝั่งหนึ่งคิดว่าที่ไอ้ธีร์แสดงออกอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้ว เพราะไม่ว่าใครก็คงหัวเสียถ้าหากว่าไอ้เชี่ยตัวหนึ่งที่เคยสร้างเรื่องไม่ดีมากมายมันกลับเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตเพื่อนสนิทอีกครั้ง

แต่อีกฝั่งหนึ่งก็คิดว่า ‘งั้นต้องถูกลงโทษให้อยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตเลยเหรอทุกคนในโลกถึงจะพอใจ คนเลว ๆ อย่างเขายังมีโอกาสกลับตัวได้ไหม ตอนนี้บ้านหลังนั้นเป็นจุดปลอดภัยหนึ่งเดียวในชีวิต TEN1O และเขาไม่อยากเสียมันไปอีกแล้ว’

แต่ใครจะสนใจเสียงตะโกนในความคิดของคนนิสัยไม่ดีกันล่ะ ตามกฎสังคมแล้วคนเลวต้องถูกลงโทษให้เจ็บปวดอย่างสาสมและห้ามมีความสุขไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ

ชายหนุ่มเดินไปทางห้องน้ำพลางหยุดยืนพิงหลังกับผนังระหว่างทางเดินแล้วเงยหน้าขึ้นถอนหายใจ ระหว่างนั้นก็คิดไปว่าถ้าหากเขานิสัยดีเหมือนไอ้แจ็คตั้งแต่แรกเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ แต่ถ้าเป็นคนนิสัยดี บางทีทั้งคู่อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันตั้งแต่แรกก็ได้

เด็กคนนั้นจะไม่ถูกเพื่อนรังแก จะกลายเป็นที่รัก จะมีเพื่อนมากมาย ไม่ต้องหงอยเหงาตามลำพังในโรงเรียนสอนดนตรี และสุดท้ายก็คงไม่ได้รู้จักไอ้เด็กหน้าหมาที่ชื่อแจ็ค

“มาทำอะไรตรงนี้?”

ไม่รู้จะตอบอย่างไร อันที่จริงเท็นไม่ได้คาดหวังไว้ว่าว่าไอ้แจ็คจะโผล่มาหลังจากเดินตามไอ้ธีร์ไป

“ถ้ากูบอกว่าไม่รู้จะนั่งทำหน้ายังไงมันจะแปลกไหม?” ไอ้แจ็คไม่ได้ตอบ มันถูปลายจมูกและเหมือนจะถอนหายใจ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

“ไม่แปลกหรอก กูเข้าใจ” ไม่รู้ทำไม แต่พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแค่นี้หัวใจมันก็พองโตขึ้นมา เหมือนว่าคำพูดทั้งหมดของไอ้ธีร์ทำอะไรเขาไม่ได้เลย “มันขอกลับไปตั้งสติก่อนเพราะไม่อยากทำหน้าอึมครึมบนโต๊ะตอนแหม่มเป่าเค้ก กูอยากพูดว่าไม่ต้องเป็นห่วงมัน แต่พอนึกอีกทีมึงคงไม่ได้คิดอย่างนั้น”

“ก็เออสิ แทนที่จะอดทนนั่งกินให้เสร็จ หลังจากนั้นจะเรียกกูไปด่าก็ยังไม่สาย”

“ที่บอกว่ามันเปลี่ยนไปแล้วน่ะไม่นับอันนี้นะ” เท็นยิ้มขำกับคำพูดอีกคนที่มาพร้อมหน้านิ่ง ๆ แบบนั้น

ไอ้แจ็คขยับมายืนพิงผนังข้าง ๆ กัน ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำประปราย ก่อนจะแบมือออกมาข้างหน้า

“อะไร?”

“ซองบุหรี่”

“จะสูบเหรอ?” เท็นล้วงเอาซองสี่เหลี่ยมออกมาพร้อมไฟแช็ค

“เปล่า จะยึด” ไอ้แจ็คว่าพลางแย่งไปใส่กระเป๋ากางเกงตนเอง “เดี๋ยวมึงหายยาวแล้วอ้างว่าดูดหรี่เพลินอีก”

“ซองแค่นี้ดูดเดี๋ยวเดียวก็หมดแล้ว กลัวกูเศร้าเพราะคำพูดไอ้ธีร์จนหนีกลับบ้านหรือไง?”

“ก็นิดนึง แล้วใครบอกให้มึงนั่งเงียบให้มันด่าฝ่ายเดียวล่ะ?”

“ถ้ากูตอบกลับเดี๋ยวทุกคนก็จะรู้สึกแย่อีก ที่พูดไปเพราะวันนี้วันเกิดแหม่มหรอกนะ กูถึงอยากได้เป็นคนดี”

“แหม่ ประทับใจแทนน้องกูจริง ๆ ขอปรบมือสักสองที” เท็นชำเลืองมองไอ้คนข้าง ๆ ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมทำท่าปรบมือพอใจ จึงชนไหล่มันแรง ๆ จนเสียการทรงตัว

“กูไม่ขอโทษนะที่เรียกให้มึงกับมันมาเจอกัน”

“เก็บคำนั้นไว้ให้ไอ้ธีร์ก็พอแล้ว งอแงเป็นสาวน้อย” เขาส่ายศีรษะหน่าย ๆ

“มันไม่ได้มาคลุกคลีกับมึงทุกวันเหมือนกู -- หมายถึงมันไม่ได้หุงข้าวให้มึงแดกฟรีทุกวันก็เลยไม่รู้ว่ามึงก็ไม่ได้เหี้ยอะไรมาก”

“นั่นปลอบใจเหรอ ขอเตะปากทีดิ”

“กูเรียกไอ้ธีร์มากระทืบมึงอะเอาดิ เดี๋ยวนี้มันเฮี้ยนนะบอกก่อน ยิ่งเพิ่งละจากศีลจากธรรมมาอย่างงั้นว่าได้ที่ไหน”

“เออ กลับไปก่อนไป ถ้าแม่ถามหาก็บอกว่ากูขี้อยู่”

“หาเรื่องหนีทหาร คงไม่ได้ซ่อนบุหรี่ไว้อีกใช่ไหม?” ไอ้แจ็คจับ ๆ คลำ ๆ ตามตัวเขาก่อนจะหยุดที่เป้ากางเกง คนโดนจับจุดตายจึงงอตัวเป็นกุ้งแล้วถลึงตามองเอาเรื่อง

“เล่นเชี่ยอะไรของมึง?” เท็นกวาดสายตามองอย่างหวาดระแวง พอเห็นมนุษย์ป้ามองเหยียดเขากับไอ้แจ็คพร้อมเอามือปิดตาหลานตัวน้อยก็ยิ่งอับอายเข้าไปใหญ่

“ถ้ามาช้าต้องย่างแดกเองนะ”

“พูดเหมือนถ้ากลับไปตอนนี้มึงจะย่างให้กูแดก”

“อ้าว ก็ไม่ได้โง่นี่?”

ไอ้แจ็คยิ้มแล้วยีผมเขาเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไป เท็นมองแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายจนลับสายตา พร้อมความรู้สึกหน่วง ๆ ว่าแม้จะรู้สึกดีที่ไอ้เวรนั่นมาปลอบ แต่เรื่องไม่ลงรอยกับไอ้ธีร์ก็ยังต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ ถ้าหากว่ามีเหตุให้ต้องเผชิญหน้ากัน

แค่คิดก็ถอนหายใจอีกครั้ง เท็นเสยผมสีอ่อนขึ้นแล้วคิดจะเข้าไปนั่งหายใจทิ้งในห้องน้ำสักห้านาที การปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยไม่หลงเหลือความกังวลไว้มันคงดีกว่า อย่างน้อยก็ซื้อความสบายใจให้แม่ไอ้แจ็คกับแหม่มที่เป็นเจ้าของวันเกิดได้ วันนี้เขาทำดีแล้วที่ไม่ได้สวนกลับไปด้วยคำพูดร้าย ๆ แบบที่ไม่มีใครอยากได้ยิน

แต่ยังไม่ทันถึงห้องน้ำชายหนุ่มก็หยุดชะงักเมื่อพอเลี้ยวตรงหัวมุมก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนี้พร้อมเด็กอ่อนในรถเข็นสีฟ้า ดวงตาคู่สวยนั้นมองมาราวกับว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วและคง...

“ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ก็เป็นเท็นจริง ๆ สินะ?”

“...”






*






(ต่อด้านล่างจ้า)





หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 27-02-2019 18:55:47


ตาทั้งสองข้างมันแสบ แต่เท็นรู้สึกดีที่มีการเจ็บปวดเกิดขึ้นที่อื่นบ้างนอกจากหัวใจ เด็กหนุ่มนั่งเหม่อลอยบนแท็กซี่ มองตึกสูงที่บดบังท้องฟ้ามืดครึ้มที่อยู่สุดสายตาก่อนฝนจะเทลงมาอย่างหนัก

เขาแค่นยิ้มกับเรื่องแย่ ๆ ที่เหมือนกำลังซ้ำเติมกันไม่มีผิด จนวูบหนึ่งคิดว่าอยากให้ทุกคนในโลกหยิบมีดขึ้นมาแทงเขาพร้อม ๆ กันเลย เอาให้ตายกันไปข้าง จะได้เข็ดหลาบเสียทีกับการเป็นคนหัวอ่อนที่ไว้ใจคนง่ายโดยไม่รู้จักไตร่ตรองคิด

ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ก็ทำให้สงสัยอยู่แล้วแต่เท็นโง่เองที่มองไม่ออก เพราะไว้ใจว่าเธอคงเป็นคนสุดท้ายที่จะทำร้ายกันน่ะเหรอ มันก็อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลนี้ก็ไม่ได้กลบความโง่ลงไปได้

พ่อก็ไม่เคยอธิบายว่าความจริงเป็นอย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้แม่ล้างสมองเขาอย่างนั้น หรือเพราะกลัวว่าจะต้องรับเลี้ยงเขาถึงได้เลยตามเลย เท็นไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้อีกแล้วหลังจากเจอเรื่องบ้าบอคอแตกมา

คำพูดที่เคยทำให้อบอุ่น คำพูดที่เคยทำให้มีกำลังใจว่าต่อให้อะไรจะเกิดขึ้นเขากับแม่ก็จะอยู่ได้แม้จะถูกหัวหน้าครอบครัวทรยศ แต่สุดท้ายแล้วอย่างไร เท็นรู้สึกเหมือนถูกฆ่าจนตายคามือแม่ทั้งที่ยังหายใจอยู่

เหมือนตัวเล็กนิดเดียวหลังจากได้เห็นกับตาว่าโลกนี้มันช่างกว้างใหญ่และซับซ้อนมากแค่ไหน เท็นยังเด็กเกินไปหรือเขาโตแต่คิดไม่ได้ว่าควรยอมรับทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่รอดในโลกอันโหดร้าย

ไม่มีอารมณ์พูดเอาอกเอาใจใคร ถ้าหากเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นบลูงี่เง่าใส่เขาคงฟิวส์ขาดแน่ แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังเป็นเพียงความคิด เพราะทันทีไขกลอนเปิดประตูเข้าไปด้านใน ใบหน้าคนแรกที่เขาเห็นก็คือ

“แจ็ค เรื่องมัน --”

“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูด”

คนที่ชาไปทั้งตัวไม่ใช่คนที่ถูกห้ามแต่กลับเป็นเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ เขากับไอ้แจ็คสบตากันท่ามกลางความเงียบ สีหน้าอีกฝ่ายนั้นไม่หลงเหลือความใจดีกับแฟนแล้วและตอนนี้เหลือเพียงแววตาเย็นชาที่มองมา

“เพราะแจ็คจะฟังทุกอย่างจากปากไอ้เท็นคนเดียว”

เคยคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากความแตก แต่พอเริ่มคิดเท็นก็รีบตัดบทเพราะไม่อยากจินตนาการถึงความเลวร้ายถ้าหากวันนั้นมาถึง เขากลัวถูกเพื่อนโกรธแต่ก็ห้ามความบ้าบอของตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างที่เริ่มต้นด้วยความคิดน้อยมันพาเขาถลำลึกจนยากที่จะกลับไปแก้ไข

หากไอ้แจ็ครู้เร็วกว่านี้จะเป็นอย่างไร?

ที่รู้ ๆ คือในวินาทีนี้เท็นไม่อยากแม้แต่จะอ้าปากแก้ตัว เด็กหนุ่มรำคาญสีหน้าบลูตอนที่เอาแต่มองเขาสลับกับคนรักที่รวมหัวกันหักหลังมาตลอด ทำไม คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ต้องเลือกเหรอ หรือว่าก็ยังแคร์เขาแต่อยากอธิบายให้ไอ้แจ็คเข้าใจ

แม่เขาจะดิ้นเป็นหนูติดจั่นเหมือนผู้หญิงคนนี้ไหมตอนถูกพ่อจับได้?

แบบนี้ก็น่าคิด

“มึงอยากได้ยินอะไร?”

ใส่มาเลย คำด่าทอ หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้เขาเจ็บปวดอย่างสาสม หรือจะเป็นหมัดที่ต่อยใส่หน้าคนที่กล้าเรียกตัวเองว่าเพื่อนก็ได้ แต่ไอ้แจ็คแค่นิ่งเฉย จ้องมองเขาโดยไม่หันไปสนใจผู้หญิงที่อยู่บนโซฟาอีกตัว

“ทำไมมึงทำแบบนี้วะเท็น?”

น้ำเสียงนั้นดูตัดพ้อ น้อยใจเกินกว่าจะขึ้นเสียงเพราะโทสะ

“กูทำอะไรผิดเหรอ?”

ทั้งที่ยืนอยู่เฉย ๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนแทงด้วยมีด ‘ไม่ มึงไม่ผิดเลย กูเลวเอง’ เขาคิดอย่างนั้น แต่สิ่งที่เจอมาตลอดทั้งวันกลับทำให้เขาอยากประชดชีวิตด้วยการทำให้ทุกคนในโลกเกลียดชังมากกว่าจะสารภาพผิดเพื่อขอโอกาสแก้ไข

“ถามบลูสิ” เด็กสาวเบิกตาโพลง เธอหันมามองเขาราวกับรู้ว่าคำพูดต่อไปคืออะไร “บลูเข้าหากูเอง ส่วนกูก็แค่อยากรู้ว่าเค้ารักมึงจริงไหม?”

“เท็น?”

“ไม่ดีเหรอ จะได้ตัดผู้หญิงสองใจออกไป”

เหมือนบิดมีดที่ปักอยู่กลางอก เท็นกำลังฆ่าตัวตายจากชีวิตเพื่อนสนิทที่ยังคงมองมาอย่างคาดหวังว่าเรื่องที่พูดไปจะไม่ใช่ความจริง

“อย่าล้อเล่นแบบนี้ได้ไหม กูไม่ตลกนะ ถ้ามึงกำลัง --”

“เลิกโง่สักทีเถอะ!!!”

“...”

“กูนอนกับแฟนมึงมาตั้งนานแล้ว เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ทำไมไม่เข้าใจ?!”

เสียงสะอึกสะอื้นของบลูนั้นเบานักถ้าเทียบกับเสียงของเขาที่ตะโกนก้องอยู่ในความรู้สึก มันก็ถูกต้องแล้วที่กล้าโทษผู้หญิงและพูดจาเลวร้ายออกไปเพื่อให้กลายเป็นคนเลวที่สุด

“แจ็ค... บลูขอโทษ...”

“ขอโทษเสร็จแล้วก็ออกไปซะสิ”

“...อะไรนะ?” บลูเงยหน้ามองเขา บางทีเธออาจจะคิดว่าคงหูฝาดไป

“หูแตกเหรอ บอกให้เก็บของแล้วออกไปไง”

“...” บลูคงไม่ได้เตรียมตัวว่าต้องเจอเรื่องแบบนี้ เธอยังคงมองมาพร้อมน้ำตาที่รินไหล ก่อนจะหันไปทางใครอีกคนที่นิ่งเงียบอยู่

ที่ตรงนี้เหลือเพียงเขากับไอ้แจ็คเท่านั้น เท็นอยากให้มันลุกขึ้นจากโซฟาแล้วตรงเข้ามาซัดหน้าเพื่อนเลว ๆ สักสามสี่หมัด เอาให้เลือดกบปากหรือมากกว่านั้นก็ยังได้ อย่างน้อยก็ขอให้มันระบายความโกรธออกมาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งมองอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรเลย

“กูซื้อขนมกับน้ำอัดลมมาฝาก”

“...”

“ถ้ายังไม่กินก็เอาไปแช่ตู้เย็นไว้นะ ส่วนน้ำแข็งกูเอาใส่ฟรีซไว้ให้แล้ว”

“มึงทำบ้าอะไร?”

เท็นมองคนที่ยืนหันหลังให้ก่อนอีกฝ่ายจะหันมาสบตากันในที่สุด จนถึงวินาทีนี้ไอ้แจ็คก็ยังคงรอคำอธิบายดี ๆ แต่ผู้ชายอย่างเขาก็แค่ยืนนิ่งเฉยราวกับไม่รู้สึกรู้สา




แม้ว่าหัวใจมันจะแหลกสลายไปเพราะความโง่งมแล้วก็ตาม





*





คุณได้รับข้อความจาก...
‘พ่อ’
[ ถ้ามาถึงแล้วนั่งรอพ่ออยู่ตรงเลาจ์ก่อนนะ เดี๋ยวพ่อรีบไปหา ]


“ผมขอจอดซ้ายมือได้ไหม ถ้าขับเลยไปมันต้องยูเทิร์นไกล เดี๋ยวไปรับลูกไม่ทันน่ะครับ” เด็กหนุ่มละสายตาจากโทรศัพท์มือถือพลางมองโชเฟอร์ที่หันมายิ้มแห้ง ๆ

หลังจากส่งข้อความไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนพ่อก็ไม่ได้ปล่อยให้รอนานนัก และเด็กที่หมดหนทางในชีวิตก็เลือกหน้าด้านไปหาคนที่คอยประชดประชันมาตลอด เพื่อขอที่พักพิงใหม่และเงินที่ยังจำเป็นต้องใช้ในชีวิต ก็ในเมื่อเลือกที่จะไม่เจอหน้าแม่แล้ว เขาก็ต้องเดินหน้าต่อไปแม้ว่าจะต้องฝืน

“ลูกพี่อายุเท่าไหร่?”

“สิบห้าครับ กำลังเป็นหนุ่มเลย”

“แล้วทำไมถึงยังให้พี่ไปรับอีกล่ะ?”

“ไม่ใช่ให้ไปรับหรอกครับ ผมอยากไปเอง” คนขับแท็กซี่พูดกลั้วหัวเราะพลางหันมารับเงินค่าโดยสาร เท็นมองมือคล้ำ ๆ ที่คงผ่านการทำงานหนักมา ก่อนจะทอนเงินให้โดยไม่คิดห้าบาทที่เกินไป “เขาจะไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน เห็นว่าจะลงแข่งชิงรางวัลอะไรสักอย่างผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เห็นเขาสนุกกับมันผมก็เลยอยากสนับสนุน”

“ฮะ... ลูกพี่โคตรโชคดี” เท็นแค่นหัวเราะพลางมองเงินทอนในมือ

“ไม่หรอกครับ มันคงดีกว่าถ้าผมเกิดมารวยกว่านี้”
 
“รวยแล้วใช่ว่าจะมีความสุขเสียเมื่อไหร่” รอยยิ้มบนใบหน้าคนขับแท็กซี่หายไป ชายวัยสี่สิบกว่า ๆ มองเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งแม้ว่าจะถึงจุดหมายแล้ว “ลูกพี่มีครอบครัวที่ใส่ใจ มีเพื่อนที่ดี และเขาก็คงรักษาทุกอย่างไว้ได้โดยไม่ทำมันพัง”

“...”

คนขับแท็กซี่เริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเด็กหนุ่มเริ่มระบายความในใจออกมาพร้อมน้ำตาซึ่งเขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังเผชิญหน้ากับเรื่องอะไรอยู่

“ผมแม่งโคตรเหี้ยเลย เหี้ยจนคิดว่ามันก็สมควรแล้วที่ต้องเป็นแบบนี้”

เท็นปล่อยโฮออกมาแข่งกับสายฝนที่ยังคงเทลงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่สนอีกแล้วว่าใครจะมองอย่างไร ในเมื่อหัวใจเขามันเจ็บปวดจนเหมือนจะตายเสียให้ได้ในเวลานี้ สีหน้าของไอ้แจ็คก่อนเดินออกไปนั้นเป็นอย่างไรเขายังคงจำได้เป็นอย่างดี

หลังจากนี้จะไม่มีคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทอีกแล้ว นั่นคือความจริงอีกอย่างหนึ่งที่เท็นต้องยอมรับ


 
*



“เท็นหายไปนานแล้วแต่ยังไม่กลับมาเลย แจ็คไปตามเพื่อนหน่อยไหมลูกเผื่อท้องเสียจะได้หายาให้เพื่อนกิน”
 
ไม่ใช่แค่แม่ที่เป็นห่วงเพราะทุกคนที่ยังอยู่บนโต๊ะก็เช่นกัน แจ็คพยักหน้ารับคำสั่งแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกอีกครั้งแต่เจ้าของเบอร์ก็ไม่คิดที่จะรับเหมือนหกสายก่อนหน้านี้

ขายาวเร่งฝีเท้าจนเรียกได้ว่ากึ่งเดินกึ่งวิ่ง ตอนแรกก็มั่นใจไปแล้วว่าไอ้เวรนั่นต้องกลับมาเพราะสังเกตจากสีหน้าท่าทางก็ใช่ว่าจะกลัวไอ้ธีร์จนหนีหางจุกตูดกลับ แต่พอนั่งรอไปสักพักก็ชักจะกังวลแล้ว เป็นอะไรก็ควรบอกเขาบ้างสิ

แจ็คไม่ใช่คนชอบรบกวนพื้นที่ส่วนตัวใคร แต่ถ้าการเคาะประตูห้องน้ำแต่ละบานแล้วทำให้อีกฝ่ายโผล่หน้าออกมาได้ การขอโทษขอโพยชาวบ้านเรียงคนก็คงไม่น่าขายหน้านัก

แต่ระหว่างจมอยู่กับความคิดก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งหยุดยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม แม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันนานแต่จากที่เห็นก็ไม่ต่างจากรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กสักเท่าไหร่ เจ้าของใบหน้าสดใสนั้นยิ้มบาง ๆ ให้ ซึ่งแจ็คก็ทักทายเธอด้วยการยิ้มตอบกลับไปตามประสาคนไม่เจอกันนาน

“บังเอิญนะ นั่นน้องโจหรือเปล่า?”

“ใช่ แจ็ครู้ด้วยเหรอ?” เธอถามพร้อมอุ้มเจ้าตัวน้อยอายุไม่กี่เดือนขึ้นมาให้คนรักเก่าได้เห็นหน้าชัด ๆ

“เห็นผ่านในฟีดเฟซบุ๊กน่ะ หน้าเหมือนบลูเอาเรื่องเลยนะ แจ็คขออุ้มได้ไหม?”

“ได้อยู่แล้ว”

หญิงสาวมองใบหน้าหล่อที่กำลังเล่นอิงแอบกับลูกชายตัวน้อยของเธอ มองความใจดีที่ยังคงมีให้กันจนถึงตอนนี้แม้ว่าจะเคยมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อตอนยังเยาว์วัย

ระหว่างที่ไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวก็ยังเห็นข่าวคราวผ่านบางทางเฟซบุ๊ก สำหรับแจ็คอาจจะรู้เรื่องเธอได้ง่ายเพราะเล่นบ้ากล้องลงรูปตัวเองกับรูปลูกสลับกันไม่เว้นวัน แต่สำหรับเธอนี่สิ ถ้าอยากรู้อะไรก็คงแวะเวียนเข้าไปในเว็บเพจทีมขี้ซุยบราเทอร์ การประสบความสำเร็จของอดีตคนรักเก่าก็ยังเป็นเรื่องที่เธออยากยินดีด้วย

“มากันสองคนเหรอ แล้วแฟนล่ะ?”

“แวะดูการ์ดจอกับอะไรก็ไม่รู้ บลูเลยพาลูกออกมาเดินเล่นก่อนน่ะ”

“โตไวเหมือนกันนะ ตอนงานแต่งเพื่อนยังคุยกันอยู่เลยว่าบลูเพิ่งจะคลอดลูกเอง”

“กินเก่งเหมือนเราตอนยังอ้วนอยู่ไง”

“อ้วนแล้วไม่ดีตรงไหน บ่งบอกว่าเป็นคนมีอันจะกิน”

“แจ็คก็แบบนี้ตลอด” เธอหัวเราะ

“อยากอยู่คุยต่อนะ แต่ว่าแจ็คต้องมีธุระต้องรีบไปน่ะ เอาเป็นว่าถ้ากลับถึงบ้านแล้วเดี๋ยวทักอินบ็อกหา โอเคไหม?” ชายหนุ่มรีบคืนเจ้าจ้ำม้ำให้คนเป็นแม่ แต่ก็ถูกเธอคว้าท่อนแขนเอาไว้เสียก่อน

“จะไปหาเท็นเหรอ?”

“...”

แววตาของบลูเปลี่ยนไป มันไม่ทอประกายไปด้วยความดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว

“บลูเจอมัน?”

หญิงสาวยิ้มพลางพยักหน้าเป็นคำตอบ “คุยกันสอง-สามประโยคน่ะ”

“แล้วมันอยู่ไหนพอจะรู้ไหม?” แจ็คชะเง้อหน้ามอง ถ้าบอกว่าเจอกันงั้นไอ้ลิงหัวเทาก็คงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้

“ไม่รู้สิ เท็นดูสติแตกก่อนจะวิ่งหายไป”

“เกิดอะไรขึ้น?”

หญิงสาวกอดลูกชายบนอก ลดระดับสายตาลงเล็กน้อยพลางนึกไปถึงบทสนทนาก่อนหน้านี้ที่ทำให้เธอประหลาดใจว่าคนจิตใจโหดร้ายอย่างนั้นสามารถแสดงสีหน้าเจ็บปวดได้ด้วยหรือ

“บลูแค่บอกให้เขารู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับแจ็คบ้าง”

“...”

“ทั้งเรื่องที่บ้าน แล้วก็อาการป่วยที่บลูได้รู้ตอนไปหาธีร์”

เธอจำได้ว่าโดนด่าแรงแค่ไหนหลังจากตัดสินใจไปถามไถ่เรื่องแจ็คเพราะไม่สามารถไปเผชิญหน้ากับเจ้าตัวได้ ซึ่งทุกคำพูดมันก็จริงเกินกว่าจะอ้าปากอธิบาย ธีร์จะโกรธแทนก็ไม่แปลกเลย

แจ็คเป็นคนดีเกินไป ดีจนทำให้เธอไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เพราะอีกฝ่ายไม่มีข้อเสียให้ติติงเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างของการนอกใจ หลังจากเรื่องนั้นผ่านไปราว ๆ หนึ่งปีหรืออาจจะมากกว่านั้นเล็กน้อย บลูตัดสินใจติดต่อไปอีกครั้งเพื่อขอโทษ ซึ่งแจ็คก็ให้อภัยและขอให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

“บลูทำแบบนั้นทำไม?”

“ถ้าเขาจะกลับมาหาแจ็คอีกครั้ง เขาก็ควรรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ?”

“บลูอาจจะหวังดีแต่ --”

“เปล่าแจ็ค” เธอตัดบท “บลูก็ยังเป็นผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น แต่คราวนี้ที่พูดไปมันไม่ใช่เพราะหวังดีเพื่อให้เท็นปรับตัวอะไร แต่บลูอยากให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นกับสิ่งที่ทำลงไปบ้าง”

“ให้มันจบ ๆ ไปไม่ได้เหรอ มันจะเจ็บน้อยเจ็บมากแค่ไหน ปล่อย ๆ ไปได้ไหม คนอื่นจะคิดยังไงกับไอ้เท็นแจ็คไม่รู้”

“...” หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้า

“แต่ตอนนี้แจ็คไม่อยากเสียมันไปเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว”




*



ตัดสินใจเรียกแท็กซี่มากกว่าจะตรงไปยังรถส่วนตัวที่จอดไว้ในห้าง และทันทีที่เข้าไปนั่งเบาะด้านหลัง ชายหนุ่มก็ขยำคอเสื้อพร้อมหายใจลึก ๆ แล้วบอกปลายทางกลับบ้านซึ่งถ้าคนขับจะหลอกเขาไปฆ่าทิ้งข้างทางก็คงไม่มีใครอยากแหกปากร้องโวยวายอะไร

สองมือสั่นเทา ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ถ้าหายไปจากโลกนี้เลยมันคงดีกว่าให้อยู่รับรู้ว่านอกจากเรื่องที่ทำลงไปในตอนนั้นมันมีเรื่องอื่นที่เลวร้ายยิ่งกว่า


‘เราแค่สงสัยว่าทำไมเท็นถึงกล้ากลับไปหาแจ็คทั้งที่สร้างเรื่องใหญ่โตไว้ขนาดนั้น?’


นั่นสิ ทำไมถึงกล้านะ?


‘ทั้งที่เท็นก็ไปได้ดีในเส้นทางที่ต้องการแล้ว แต่ทำไมถึงกลับมาหาแจ็คอีกล่ะ?’



ทำไมน่ะเหรอ...


‘รู้ไหมว่าตอนนั้นแจ็คต้องเจอกับอะไรบ้าง?’


เท็นมัวแต่ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้นเพราะกลัวว่าจะรู้สึกผิด


‘แจ็คน่ะ...’



*



“น้อง เอาร่มไหมพี่ให้”

“ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ”

ชายวัยกลางคนมองเด็กหนุ่มผมสกินเฮดที่นั่งเงียบ ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มตรงป้ายรถเมล์มาสักพักแล้ว เสื้อผ้านั้นเปียกปอน แต่ในมือกลับกำโทรศัพท์รุ่นเก่าไว้เพราะมันคือสิ่งมีค่าที่สุด

“ขึ้นสายไหนล่ะ?”

“สาย... สายนี้ครับ”

เด็กคนนี้เหมือนร่างไร้วิญญาณที่กำลังพาร่างเปียกปอนเดินฝ่าฝนไปขึ้นรถเมล์ ชายวัยกลางคนยังคงมองตามเด็กหนุ่มที่เลือกนั่งเบาะเดี่ยวแล้วทอดสายตาออกไปยังนอกกระจก ก่อนรถเมล์จะเคลื่อนตัวออกโดยที่เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นขึ้นถูกสายจริงหรือไม่

แจ็คยังคงรู้สึกเหมือนถูกเอาค้อนตีหัวจนมึนงงไม่หายหลังจากได้รับรู้ความจริง ในทีแรกมันเหมือนความฝัน แต่พอร่างกายเปียกปอนไปด้วยฝนจึงเข้าใจว่าที่เห็นกับตานั่นคือเรื่องจริง แน่นอนว่าเสียใจกับการถูกหักหลัง เสียใจที่คนรักกันทำอย่างนั้น แต่อย่างน้อยก็ยังอยากฟังคำอธิบายจากปากเพื่อน และแน่นอนว่าเขาพร้อมที่จะเชื่อทุกอย่าง

เพราะต่อให้จะรักแฟนมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องให้เลือก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็พร้อมหันหน้าไปหาคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทอยู่ดี

แต่คำพูดเหล่านั้นมันคืออะไร ชั่วขณะหนึ่งแจ็ครู้สึกเหมือนไอ้เท็นเป็นใครสักคนที่เขาไม่เคยรู้จัก มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร แล้วหลังจากนี้ความสัมพันธ์กับเขากับมันจะกลายเป็นแบบไหน แค่คิดก็รู้สึกเหมือนโลกพังแล้ว

กว่าจะกลับถึงบ้านก็สามชั่วโมงกว่า ๆ เด็กหนุ่มเดินเข้าซอยไปพร้อมอากาศชื้นแฉะและฝนโปรย มีเพียงถุงพลาสติกโง่ ๆ ที่ห่อโทรศัพท์เอาไว้ได้ ถ้าหากมันพังไปการติดต่อสื่อสารเรื่องงานจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ คงยากขึ้น

แต่เรื่องเลวร้ายก็ไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะทันทีที่เลื่อนประตูบ้านขึ้น สิ่งแรกที่เห็นก็คือภาพของพ่อแท้ ๆ ของเขา


...ที่ผูกคอตายอยู่กลางบ้าน



เปรี้ยง!!


แสงสว่างวาบจากท้องฟ้าเผยให้ใบหน้าได้ชัดขึ้น เด็กหนุ่มยืนตัวสั่นกับภาพลิ้นจุกปากจากร่างที่แกว่งไปมาช้า ๆ

“พ่อ!!!!!!!!!!!!!”

แจ็คพยายามเรียกสติกลับมาทั้งที่ร่างกายสั่นเทา ก่อนจะรีบเข้าไปอุ้มขาท่านให้ลอยเหนือการขึงของเชือกเอาไว้ เด็กหนุ่มกวาดสายตาไปรอบตัวเพื่อมองหาแม่หรือใครก็ได้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือพ่อของเขา แต่ที่นี่ก็มีเพียงความมืดเท่านั้น

“ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วยครับ!!! ช่วยด้วย!!!!”

เด็กหนุ่มตะโกนจนสุดเสียงหวังให้คนที่อยู่ข้างนอกได้ยิน แต่ทุกอย่างก็ถูกกลบด้วยเสียงฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ แจ็คเงยหน้าขึ้นมองร่างที่แน่นิ่ง ท่ามกลางความหวาดกลัวเขาซึ่งกำลังพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะตัดเชือกเส้นนั้นได้

“ช่วยด้วย!!! ...ใครก็ได้ช่วยพ่อผมที!!!”

ไม่มีใครได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของเด็กผู้ชายที่กำลังจะตายเพราะความเจ็บปวด แจ็คยังคงอุ้มขาพ่อเอาไว้ ทั้งลูบแรง ๆ และเขย่าเรียกหวังว่าพ่ออาจจะฟื้นขึ้นมา แต่เหมือนพระเจ้าจะบอกให้รู้ว่าทุกอย่างมันไร้ค่า และแจ็คต้องอ้าแขนรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในวันนี้

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!”

“แม่... ช่วยพ่อ... มาช่วยพ่อ...”

ถุงผักร่วงลงพื้น สองมือยกขึ้นป้องปากกับภาพสามีที่เธอไม่เคยจินตนาการไว้ คนเป็นภรรยาน้ำตาไหล แม้ว่าจะมีปากเสียงกันบ่อยเรื่องครอบครัวที่ล้มละลายจนใช้ชีวิตลำบาก แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าสามีที่ท้อแท้กับการเริ่มต้นใหม่จะจบชีวิตตนเองลงอย่างนี้

เธอรีบประคองตนเองไปหาสามีที่อยู่กินกันมานานเกินยี่สิบปี ร้องห่มร้องไห้กอดขาสามีกับลูกชายคนโต ขณะที่เด็กน้อยสองคนในชุดเสื้อกันฝนยืนจับมือกันอยู่หน้าประตู ปล่อยโฮเสียงดังจนเพื่อนบ้านหันมาเห็น

เวลาโลกของแจ็คหยุดแน่นิ่งอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เหมือนหัวใจหัวหน้าครอบครัวที่หยุดเต้นไปก่อนที่ใครจะช่วยไว้ได้



*


‘งานศพพ่อแจ็คถูกจัดเงียบ ๆ น้อยคนจะรู้ แต่เราคิดว่าเขาคงรอเท็นอยู่นะ แต่ก็นั่นแหละ เท็นเลือกที่จะหายไป แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น’

‘หลังจากเสียพ่อไปแจ็คก็ทำงานหนักเพื่อหาเงินเข้ามหา’ลัย ไหนจะส่งเสียน้องอีกสองคน ปีห้าสี่บ้านก็น้ำท่วม แจ็คกับครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เช่าเขาอยู่ไปวัน ๆ ต้องตัดใจปล่อยให้ข้าวของพังจนใช้ไม่ได้สักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของจำเป็นหรือไม่เป็น พูดตรง ๆ นะเท็น เราจินตนาการไม่ออกหรอกว่าจะรับมือไหวไหมถ้าเกิดเรื่องทั้งหมดเองกับตัว’

ช่วงเวลาที่เขาพยายามไต่ระดับให้ไปอยู่จุดสูงสุดของวงการ E-Sport ไอ้แจ็คก็คงพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด

‘ธีร์เคยพาแจ็คไปหาหมอเพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนทำงานไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้แล้วคิดอยากตาย เขาต้องกินยาอยู่ตลอด พอรู้อย่างนี้แล้วพอจะนึกภาพออกไหมว่าสิ่งที่เท็นทำอยู่ตอนนี้มันเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน’

‘พอแจ็คอาการดีขึ้น มีเพื่อน มีพี่ มีน้อง มีทีมที่ดีคอยดูแลใส่ใจเท็นก็กลับมา หรือคิดว่าขอโทษแล้วทุกอย่างจะจบ’

‘มันน่าเกลียดนะ ไม่ใช่แค่เท็นหรอก ตัวเราเองก็เหมือนกัน’


เท็นไม่เคยรู้เลยว่าระหว่างนั้นมันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ แม้แต่ตอนที่ไปบ้านร้านซักรีดครั้งแรก ตอนเห็นรอยน้ำท่วมก็ไม่ได้คิดมากอะไร ไม่ได้ถามว่าพ่อหายไปไหน หรือแม้แต่อาการป่วยซึ่งเข้าใจไปว่าที่ไอ้แจ็คเป็นคนเงียบ ๆ คงเพราะโตขึ้นเท่านั้น

‘เราถึงได้พยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะไม่อยากสะกิดแผลใจแจ็คอีก’

‘ทีนี้เข้าใจแล้วหรือยังว่าทำไมเราสองคนถึงสมควรถูกธีร์เกลียด?’


ทันทีที่มาถึงบ้านเจ้าขนสีทองก็กระโดดใส่เจ้านายอย่างรักใคร่ แต่มันก็ต้องส่งเสียงหงิง ๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมเอนหลังพิงผนังอย่างคนไร้เรี่ยวแรง

“พ่อไม่มีค่าพ่อให้พี่ซันปลอบหรอก ไปเล่นที่อื่นเถอะ”

เจ้าขนทองคลอเคลียเจ้านายมันราวกับอยากปลอบใจ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่สุดท้ายเท็นก็อ้าแขนกอดลูกชายสุดที่รักเอาไว้ เพราะมันเป็นหนึ่งเดียวที่เยียวยาเขาในช่วงเวลาโหดร้ายนี้ได้

“...”

ถึงจะชอบมองมาอย่างเย็นชา แต่พอเห็นน้ำตาเจ้าของบ้านลูกสาวคนเล็กก็กระโดดลงมาจากโซฟาแล้วเอาลำตัวคลอเคลียขาคนเป็นทาส เท็นยิ้มทั้งน้ำตา บางทีที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้อาจจะดีมากอยู่แล้ว เขาก็อยู่กับหมากับแมว ส่วนไอ้แจ็คก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพี่น้องในทีมที่ไม่มีวันทำเรื่องแย่ ๆ เหมือน TEN1O 



...ไม่น่ากลับเข้าไปในชีวิตของคนที่เคยขยี้มันจนพังคามือเลย




(ต่อด้านล่างจ้า)
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 27-02-2019 19:06:27




*




‘มึงต้องเอาแผนพวกนั้นมาบอกกู’

‘ทำไมล่ะพี่ ยังไงก็ชนะมันได้อยู่แล้ว หรือว่าพี่กลัวพลาด?’

‘กูเนี่ยนะจะกลัว มึงอย่าถามให้มากเรื่องไปหน่อยเลยเท็น หรืออยากให้กูเอาไปบอกทีมนั้นมันว่ามึงคิดจะทำอะไร?’

‘...’

‘คิดเอาเองว่าจะเลือกทางไหน แต่ที่แน่ ๆ มึงก้าวขามาทางนี้ครึ่งตัวแล้ว’



ไม่ใช่แค่เรื่องหักหลังทีม ไม่ใช่แค่เรื่องคิดน้อย ไม่ใช่แค่เรื่องทำลายความรู้สึกเพื่อน แต่เท็นทำตัวโง่เง่าจนทุกอย่างพังไม่มีเหลือ


ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ไว้บนซิงก์ล้างหน้าก่อนจะเปิดน้ำในอ่าง ความจริงจากปากบลูยังคงกึกก้องในความคิดและคาดว่ามันจะจางหายไปเมื่อเขาตายเท่านั้น ชายหนุ่มก้าวลงไปในอ่างทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้าครบ เขานอนลงไปทั้งอย่างนั้นและให้ความเย็นซึมซับความรู้สึก

น้ำยังคงเย็นเหมือนทุกครั้งแต่คราวนี้มันหนาวจับใจอย่างไม่อยากถามหาเหตุผล เท็นเพ่งมองผนังสีขาวเป็นจุดหยุดสายตา พลางคิดไปว่าคน ๆ หนึ่งสามารถทำลายใครอีกคนได้มากแค่ไหน เท็นเคยคิดอย่างนั้นว่าอยากทำลายไอ้ธีร์ให้แหลกคามือ แต่เขากลับทำได้มากกว่านั้น

ไอ้แจ็คเคยเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน ทำไมทุกวันนี้ถึงได้คุยดีกับเขา ทำไม... จากที่คิดว่าตนเองควรได้โอกาสกลับตัวกลับใจ แต่ตอนนี้เท็นไม่อยากได้แล้ว คนอย่างเขาควรอยู่อย่างเจ็บปวดจริง ๆ

เอาแต่บอกว่าโลกมันโหดร้ายทั้งที่ตนเองใช้ชีวิตอย่างเอาแต่ใจ เขามันน่าสมเพชและไม่ควรได้รับความหวังดีจากใครเลย ไม่ควรสักคนเดียว

ชายหนุ่มค่อย ๆ เอนตัวลงกระทั่งศีรษะจมลงใต้ผืนน้ำ และให้ความเงียบระหว่างนั้นช่วยทบทวนว่าควรทำอย่างไรต่อไป เลิกเล่นเกมอาจเป็นเรื่องดี คงมีคนหัวเราะลั่นอย่างมีความสุขกับมันแน่

ย้ายไปอยู่ต่างประเทศสักพักดีไหม เงินเก็บที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงก็มีมากมายจนสามารถอยู่ได้เป็นปี ๆ

ถ้าแม่ไอ้แจ็คถามถึงล่ะ?

พอเถอะ ไม่เห็นต้องกังวล ก่อนหน้านี้ไอ้แจ็คก็เคยโกหกได้แล้วว่าที่เขาหายหน้าไปเป็นสิบปีก็เพราะเรื่องเรียนต่อ คราวนี้มันก็คงไม่ยากอะไรนัก


‘กูทำอะไรผิดเหรอ?’


ขณะที่เสียงโทรศัพท์ดัง เท็นปล่อยฟองอากาศลอยขึ้นบนผืนน้ำพร้อมภาพความทรงจำในอดีต แม้จะพร่ามัวเมื่อหลับตาแต่มันกลับชัดเจนในความรู้สึก สีหน้าเจ้าของผมสกินเฮดที่มองมาในวันนั้นล้วนเต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างไรในวันนี้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว


‘เท็น...’


ไอ้แจ็คตื่นมาเจอตอนเช้าแบบไหนหลังจากถูกเขาหักหลังอย่างเลือดเย็น?


‘พูดเหมือนจะอยู่’
‘แล้วตั้งแต่กลับมามึงเคยเห็นกูไปไหนหรือยัง?’


ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ภาพเหล่านั้นเริ่มชัดขึ้นจนเหมือนอีกคนอยู่ตรงหน้าสลับไปมาทั้งอดีตและปัจจุบัน ฟองอากาศพวยพุ่งลอยขึ้นเหนือน้ำเมื่อออกซิเจนเริ่มน้อยลง คนที่ควรเจ็บปวดจนคิดอยากตายต้องไม่ใช่ไอ้แจ็ค


‘ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มึงคือเพื่อนรักกูตลอดไป’


“...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”


เสียงตะโกนใต้น้ำช่างเงียบงันนัก... เงียบจนได้ยินเสียงร้องไห้ในใจ

ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นจากแรงดึงมือปริศนา เขาหอบหายใจหนักสำลักน้ำออกมาจนเหมือนว่าจะขาดใจตายเสียให้ได้ สองมือที่ควรจับขอบอ่างในตอนนี้มันวางอยู่ที่ท่อนแขนอุ่นของใครอีกคน มันสั่นเทาไปด้วยความหนาวและความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าทุเลาได้ด้วยวิธีไหน

“มึงคิดจะทำบ้าอะไร?”

“...” เป็นอีกครั้งที่เท็นต้องประหลาดใจกับการโผล่หน้ามาของอีกคน และการเห็นแววตาซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่มาพร้อมความโกรธที่ถ่ายทอดผ่านเสียงลอดไรฟันนั้น

ไอ้แจ็คกำลังรู้สึกอย่างไร?

“ไหนบอกว่าจะกลับไปกินด้วยกันไง กูย่างไว้ให้มึงจนล้นจานแล้ว”

“...”

“แล้วรถมึงอยู่ไหน มึงกลับมายังไง?”

“กู... จอดทิ้งไว้ในห้าง”

ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเสียงสั่น และทำสีหน้าเป็นกังวลถึงขนาดนี้ ไอ้แจ็คตามหาเขาในห้างก่อนหรือว่าตัดสินใจขับรถมาหาถึงที่นี่เลย นั่นคือสิ่งที่เขาประหลาดใจ

“คนอื่นเขากินหมูย่างกันก่อนแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำ แล้วดูมึงสิ”

“มือมึงสั่น”

“เพราะกูหิว”

“แจ็ค กูไม่ได้จะฆ่าตัวตาย”

“อืม”

“มองหน้ากู”

เท็นเสยผมคนที่คุกเข่าอยู่ขอบอ่างเพื่อให้เห็นหน้าได้ชัดขึ้น จนถึงตอนนี้ไอ้แจ็คก็ยังบีบแขนเขาแน่น เหมือนอยากยืนยันกับตนเองว่าคนโง่คนนี้แค่อยากลงไปซ้อมดำน้ำมากกว่าคิดจะจบชีวิตตนเองลง

“อย่าทำแบบนี้”

“แบบไหน?”

มันบ้าเหลือเกินที่กำลังคาดหวังว่าจะได้ยินอะไร ขณะที่ไอ้แจ็คยังไม่หายตกใจหลังจากเห็นว่าเขาลงไปอยู่ใต้น้ำ

“อย่าทำให้กูกลัวว่ามึงจะหายไปอีก”

เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

“กูขอโทษ แจ็ค”

เท็นสวมกอดคนตรงหน้าเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี กอดแบบที่ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะผลักออกหรือไม่ ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับไหล่กว้างพร้อมกระชับกอดจนเสื้อไอ้หน้าโง่ทั้งสองคนเปียกปอนไปด้วยน้ำ และเขารู้สึกดีเหลือเกินที่ไอ้แจ็คขานตอบในลำคอพร้อมให้กอดคืนกลับมาเพื่อให้รู้ว่ามิตรภาพที่เริ่มใหม่อีกครั้งยังไม่สิ้นสุดลงวันนี้

“ขอโทษที่ทำร้ายมึงในวันที่มึงต้องการกูมากที่สุด”

“ไม่เป็นไร ช่างแม่งให้หมด”

แค่ไอ้แจ็คพูดว่าอยากให้ทำอะไรหรือแก้ไขจุดไหน เขาก็พร้อมทำทุกอย่าง ต่อให้ไอ้ธีร์หรือคนทั้งโลกจะต่อว่าหรือเขวี้ยงก้อนหินมาเพื่อต้องการให้เขาเจ็บปวด

เท็นอาจจะเยียวยาบาดแผลใหญ่ในตอนนั้นไม่ได้ แต่เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่สร้างแผลใหม่ให้เพื่อนอีก

“มึงยังมีกู มีร้านซักรีดที่ทำตามสั่งให้มึงแดกได้ทุกวัน”

น้ำในอ่างไม่เย็นอย่างที่ควรเป็นแล้ว เท็นยังคงกอดแจ็คแน่น จดจำคำพูดของเพื่อนทุกประโยคทุกคำเหมือนอยากให้ขึ้นใจ เขาปล่อยให้น้ำตาหยดลงบนบ่าอีกฝ่าย ซึมซับความอบอุ่นจากฝ่ามือที่ลูบลงบนแผ่นหลังเขาอย่างอ่อนโยน

“นี่คือเรื่องที่ควรจำ อย่าให้ใครมาคิดแทนกูอีก เข้าใจไหม?”

เท็นพยักหน้าอย่างว่าง่าย และเขาอดไม่ได้ที่จะยีผมยาว ๆ นั่นจนยุ่งเหยิง

“ทำไงดีวะ กูหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย”

“เออ ร้องไปก่อน ไม่มีใครเห็นหรอก”

“ถ้าล้อกูมึงเจอดีแน่”

“ก็ต้องดูก่อนว่ามึงทำเรื่องขัดใจกูมากน้อยแค่ไหน ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ เหลือแค่เอาโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิป”

“ถ่ายตอนหน้ากูหล่อ ๆ ดิ จะถ่ายตอนน้ำตาแตกเพื่อ?”

“เอาไว้ล้อไง หน้ามึงตอนนี้คงตลกฉิบหาย ขนาดไม่เห็นยังรู้”

“มึงตอนกูลุกจากอ่างก็เหมือนกัน”

“เออ ร้องไห้ต่อไป”

“แล้วมึงยังร้องอยู่ไหม?”

“ร้องอะไรมากมาย กูกำลังมีความสุขอยู่นะ”

ทั้งคู่หัวเราะในลำคอเบา ๆ ทั้งที่ยังไม่ผละตัวออกจากกัน เท็นยังคงกอดอยู่อย่างนั้น และแจ็คก็ไม่คิดที่จะปล่อย

รู้สึกเหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก ราวกับว่าต่อให้มีเรื่องหนักหนาเกิดขึ้นในอนาคตเท็นก็พร้อมเผชิญหน้าโดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น แม้ว่าจะถูกไอ้ธีร์ตะโกนด่าอีกสักร้อยครั้ง เขาก็พร้อมจะยืนฟังเงียบ ๆ จนกว่ามันจะเหนื่อยไปเอง

“เหรอ เหมือนกันเลยสิ”

“ยังไง?”

“เพราะกูเองก็มีความสุขเหมือนกัน”





TBC



ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า พายุลูกสุดท้ายกับคนเขียนที่หายหัวไปเป็นเดือน ๆ

ไม่ไงพี่ ก่อนหน้านี้หนูแพ็คบักแหลมส่งเพิ่งเสร็จ คัมแบ็คแร้วน้า มีเพื่อนบอกเพื่อน มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน ว่ากลับมาอัพต่อแล้วจ้า ซ้วด ๆ แหน่พี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

#ร้องไห้อัดอ่างอาบน้ำบ้านพี่เท็น






หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-02-2019 20:06:16
โล่งอก ๆๆๆๆ เรื่องอื่นปล่อยมันไปก่อน สองคนเข้าใจกันให้อภัยกัน ดีที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-02-2019 20:18:44
หายใจหายคอลำบากเลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 27-02-2019 20:55:57
โอยจุกแต่ก็รู้สึกดี(เอ๊ะ)  คิดถึงคนเขียนนะคะ หายไปน้านนานกลับมาต่อแว้ว  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: TeyJunson ที่ 27-02-2019 21:05:33
รอนานมากอ่ะ นึกว่าจะถูกดองซะแล้ว มาต่อบ่อยๆนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-02-2019 22:12:42
น้ำตาฉันไหล

เขาเข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 27-02-2019 22:51:48
ที่สุดของที่สุดหน่วงที่สุด ขอบคุณที่พี่แจ็คยังมีชีวิตอยู่ขอบคุณพี่ธีร์ที่ไม่ไปไหนในความโชคร้ายยังมีความโชคดีในชีวิ่แจ็คที่มีเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างพี่ธีร์แต่น้องเท็นไม่มีใครเลยทุกอย่างมีเหตุและผลของมัน
 น้องเท็นต่อจากนี้ไปต้องรักษาพี่แจ็คไว้ให้ดีๆนะบทเรียนครั้งนี้ได้ให้อะไรหลายๆอย่างกับน้องเท็นมาก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-02-2019 02:07:21
 :เฮ้อ:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 28-02-2019 05:38:21
กว่าจะทำใจอ่านได้​ แง​ มันไม่ง่ายยย​ยยยย
จุกไปหมดแล้ววว​ อยากกอดๆทั้งคู่​ ขอให้ต่อจากนี้เข้าใจกัน​ มีแต่เรื่องดีๆกันน้า​ ฮือ​  :mew2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Panza ที่ 28-02-2019 10:24:28
ดีจังสมกับที่รอ น่าเห็นใจทั้งสองคนเลยต่อไปมีอะไรเปิดใจคุยกันน้า เป็นกำลังใจให้นักเขียนคร้าบ ขอบคุณครับ



Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 28-02-2019 11:33:51
ชอบตอนนี้

ชอบความจังหวะนรกของทุกสิ่งอย่าง แม่งเอ้ย

แจ็คเก่งมากๆที่ผ่านทุกๆอย่างมาได้ กอดๆๆๆๆ

เราดีใจมากๆๆ ที่ได้อ่านเรื่องของพี่ธีร์ก่อนมาอ่านเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นทุกตอนที่อ่านเรื่องคุณชายธีร์ จะต้องภาวนาให้น้องโซ่ที่แสนดีหนีไปจากอีตาคนงี่เง่านั้นแน่นอน

จริงๆพี่ธีร์ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย เป็นคนที่อยู่ข้างๆแจ็คตลอด แต่เราทีมเท็น 55555555555

ตอนอ่านเรื่องนั้นก็แอบหมั่นไส้ธีร์นิดนึง แต่คือก็อ่านในมุมธีร์อยู่เลยไม่อะไรเท่าไหร่ ยังมีคิดๆบ้างว่าไมเท็นแม่ง แย่จังว่ะ

แต่ตอนนี้คือ เหม็นหน้าธีร์ ทั้งที่ก็รู้นะ ว่าธีร์โดนกระทำเช่นกัน แต่แกไปทำเขาก่อนเว้ย แล้วตอนนี้ธีร์ยังโชคดีมีน้องโซ่อยู่ข้างๆ หนีไปน้องโซ่ หนีปายยยยยยยย

เท็นนนนนนน จริงๆเธอเป็นคนไทป์ที่เราเกลียดนะ แต่แบบ จากการอ่านมาทั้งหมดเราลำเอียง เราทีมเท็นนะ

ต่อไปนี้ก็มีความสุขสักทีเนอะ ไม่ต้องเหงาแล้วนะ

โอ้ยยยยยย อยากมีแจ็คเป็นของตัวเองงง 

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 28-02-2019 22:27:06
ยาวจุใจเลย ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วน้ำตาไหลออกมาเอง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน15 | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (27/02/62)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 01-03-2019 09:59:38
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 02-03-2019 23:34:57



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 16
แปลก




แหม่มโตแล้ว น้องสาวเขาไม่ใช่เด็กน้อยที่จะงอแงเพียงเพราะพี่ชายไม่ได้นั่งย่างหมูให้กินในวันเกิดของตนเอง ซึ่งคนอื่น ๆ ก็คงเช่นกัน คนเหล่านั้นยังคงสังสรรค์กันต่อไปอย่างสบายใจ หลังจากรู้ว่าไอ้เท็นสบายดี และไอ้ธีร์ก็ฟาดราดหน้ายอดผักที่ไอ้โซ่ซื้อไปฝากจนหมดชามแถมยังมีความหาเรื่องจะไปตบของหวานต่อ แต่ถึงอย่างนั้นแจ็คก็คิดไว้แล้วว่าอีกไปหาเพื่อนที่คอนโด

ไอ้ธีร์ชอบคนง้อ แค่โผล่หน้าไปเพื่อให้มันรู้ว่าเพื่อนคนนี้ยังคงเหมือนเดิม เท่านั้นมันก็กลับไปเป็นผีบ้าผีบอแล้ว

เขาให้เวลาไอ้เท็นอาบน้ำจริง ๆ แบบที่ไม่ใช่เอาหัวจุ่มลงไปในอ่างแล้วกลั้นหายใจ ระหว่างนั้นก็ขับรถออกไปซุปเปอร์เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารง่าย ๆ เพราะตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็คงหิวไม่ต่างกันเลย

สายโทรเข้าจากพี่ใหญ่ทำให้อุ่นใจ พี่ตั้บยังคงพึ่งพาได้เสมอซึ่งเขาขอบคุณพี่นอกไส้และไอ้น้องรักหัวฝีหัวหนองที่พาครอบครัวเขาไปส่งบ้าน

‘ไอ้เท็นมันโอเคแล้วนะ?’ ราวกับว่าที่เขาบอกไปก่อนหน้านี้มันยังไม่ค่อยเคลียร์พี่ตั้บจึงได้ถามย้ำ ถึงจะเป็นหนึ่งในคนที่เจอผลกระทบจากเรื่องสิบปีก่อนเหมือนกัน แต่ความเป็นพี่ตั้บก็ยังคงส่งมาถึงไอ้เท็นอยู่ดี แจ็คคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะยังคงเคืองอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าความรู้สึกในวันนั้นคงจางลงไปแล้วเหมือนกัน อาจจะน้อยกว่าบ้าง แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งเพราะวันนี้ไอ้เท็นไม่ได้ทำตัวประสาทแดกปั่นหัวทุกคนไม่หยุดเหมือนปีก่อน

แจ็คเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ซึ่งไปในทางที่ดีมันคงซื้อใจใครได้หลายคน และแน่นอนว่าเขาคือหนึ่งในนั้น

ตู้เย็นบ้านไอ้เท็นมีแต่อาหารแช่ฟรีซ พอละสายตาไปทางตู้ด้านข้างก็เห็นอาหารหมากับแมวเรียงรายเต็มไปหมด อุดมสมบูรณ์กว่าเจ้าของบ้านเหลือเกิน ไหนจะขนมเอย ของกินจริงจังเอย บอกตามตรงว่าถ้าเป็นสิบกว่าปีที่แล้วเขาคงจินตนาการภาพไอ้เท็นตอนเป็นทาสหมากับแมวไม่ออก

ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงก็ได้ของครบ แม้ว่าจะใช้เวลาไปขนาดนั้นแต่พอกลับมาถึง ไอ้เท็นก็ยังเริงร่าอยู่กับฝักบัวในห้องน้ำ ขายาวก้าวเข้าไปในครัวพร้อมถุงพะรุงพะรัง เก็บผักกับของสดเข้าไปและเลือกที่จะใช้ทำอาหารออกมาวางเรียงเป็นส่วน

“ทำไรวะ?”

เขาหันไปหาเจ้าของเสียงที่ผมเผ้ายังคงเปียกอยู่ ไอ้เท็นโผล่หนังหน้าเข้ามาในครัวพลางทำจมูกฟุตฟิต เห็นท่าทีอย่างนั้นแล้วก็นึกคันตีนบวกกับสบายใจ เพราะถ้ามันยังซึมเหมือนคนใกล้ตายเขาก็คงหลุดพ้นจากอาการเป็นห่วงไม่ได้

“อาหารหมาสูตรสำเร็จ”

“มึงจะอยู่กินด้วยกันใช่ไหม?”

“ทำเยอะขนาดนี้มึงกินคนเดียวหมดหรือไง?” แจ็คเลิกคิ้วมองอีกคนที่ยิ้มออกมาเหมือนดีใจเหมือนไอ้ขนทองลูกรัก เขาจึงกระดิกนิ้วเรียก “มานี่”

ไอ้เท็นเดินมาทันที เหมือนอยากให้เขาช่วยตัดสินหน่อยว่าบ้านหลังนี้เจ้านายหรือเจ้าขนทองนั่นที่เชื่องกว่ากัน มันชะเง้อมองกับข้าวกระทะที่ส่งความหอมอบอวลไปทั่วทั้งครัว ทำตาละห้อยจนเนื้อเพลงโหยหาความรักความเมตตาดังขึ้นในหัว เขาจึงคิดว่าควรเร่งมือเพื่อยัดของเหล่านี้เข้าไปในปากไอ้เท็นโดยไว

“กินเสร็จแล้วกลับเลยไหม?”

“จะให้กูอยู่ทำอะไรต่อล่ะ?”

“ไม่รู้ แต่ยังไม่อยากให้กลับ”

“...”

“อย่าเงียบสิวะ รู้ว่ากูไม่ได้พูดแบบนี้บ่อย ๆ ก็ช่วยตีเนียนตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติไม่ได้หรือไง?” ไอ้เท็นดูเลิ่กลั่กเอาผ้าเช็ดผมตนเองแก้เก้อเพียงเพราะเขายังคงนิ่งไม่ตอบคำถาม

“ถ้ามึงแถกูก็คงตอบได้ทันทีหรอก”

“อยากให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ไหมล่ะ?”

“ไม่ เอาแบบนี้แหละ”

“แบบไหน?”

“ถามวกไปวนมาหาพ่อมึงเหรอ เราคุยเรื่องอะไรกันอยู่หื้อ?” ไม่พูดอย่างเดียว แจ็คทำท่าจะเหนี่ยวหลังมือใส่ซึ่งอีกฝ่ายก็เลิกคิ้วมองพร้อมโยกตัวถอย

“สักค่ำ ๆ ค่อยกลับได้ไหม โทรบอกแหม่มหน่อย”

“มึงคงไม่ได้อ้อนกูอยู่หรอกใช่ไหม ดูทำหน้าทำตา ขนลุกฉิบหาย” แจ็คขมวดคิ้วหรี่ตามองคนเป็นเพื่อนที่เบะปากทำตาละห้อย ไอ้เท็นก็คงอายแต่ดูท่ามันคงไม่อยากหงอยเหงาอยู่คนเดียวในวันแบบนี้

ถึงจะบอกว่าขนลุกแต่ปากเขากำลังกลั้นยิ้มเพราะความเอ็นดู ‘กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว’ งั้นเหรอ แจ็คคงพูดได้ไม่เต็มปากหรอก แต่ถ้าเรียกว่าเริ่มต้นใหม่กับอะไรเก่า ๆ คงเข้าท่ากว่า

“หรือจะให้กูโทรบอกแหม่มเอง”

“โทรดิ ถ้าสำออยเหมือนจะตายจนน้องกูเชื่อแล้วจะยอมอยู่”

“โอเค อะแฮ่ม!!”

ดูมันกระแอมไอวอร์มเสียงซ้อมบทละครกับตัวเอง ต่อให้ความจำเสื่อมก็ดูออกว่ามันกำลังตอแหล แต่เด็กที่เชิดชูพี่เท็นไปแล้วครึ่งตัวอย่างไอ้แหม่มก็คงหลงเชื่อได้อยู่

ตอนเห็นไอ้เท็นจมอยู่ในอ่างน้ำหัวใจเขามันเหมือนจะหยุดนิ่งไป ความตายมันอยู่ใกล้มือแค่ไหนแจ็คเหมือนถูกย้ำให้นึกถึงอีกเป็นครั้งที่สอง แจ็คคิดว่าต่อให้เจอเรื่องราวร้ายแรงแค่ไหนคน ๆ หนึ่งก็ไม่ควรเจอจุดจบที่ความตาย แม้ว่าเมื่อนานมาแล้วเขาเองก็ย้ำคิดกับเรื่องนั้นอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นพอเป็นเรื่องคนรอบข้างที่เขารัก แจ็คก็ไม่อยากให้ใครต้องจากไปด้วยวิธีนั้นเลย

ไอ้เท็นอธิบายหัวชนฝาว่าที่มันทำก็แค่การทรมานตนเองในช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วค่อยโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ แต่ตอนนั้นเป็นจังหวะที่เขาเข้าไปเจอพอดี

‘มึงคิดว่าคนอย่างกูจะฆ่าตัวตายเหรอ บ้าแล้ว’

ใครจะรู้?

‘กูยังไม่อยากตายหรอก ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งไม่อยากตาย’

ตอนนั้นไอ้เท็นเงียบไป เหมือนชั่งใจว่าจะพูดต่อดีไหม เรื่องที่อยากเล่าจะทำให้มันขายหน้าหรือเปล่า?

‘ยิ่งมึงลงทุนขับรถมาจากบางใหญ่แบบนี้ยิ่งทำให้อยากอยู่’
‘ยังไม่แดกเหล้ามึงก็เมาแล้วเหรอ?’
‘จะพูดแค่วันนี้แหละ มึงจำไว้ดี ๆ เลยนะ’

บรรยากาศตอนนั้นช่างกระอักกระอ่วน อาจเป็นเพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหนสารภาพความในใจแบบนี้ แม้แต่ตอนกอดกับไอ้ธีร์ตอนช่วงเวลาลำบาก ร้องไห้หนักเหมือนคนบ้า แต่เขากลับไม่รู้สึกแปลก ๆ อย่างนี้

‘ตอนนั้นกูไม่เคยได้พูดอะไรที่ออกมาจากใจ กูมีแต่โกหก ทำตัวโง่ ๆ เหมือนคนคิดไม่เป็น แล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเพราะน้อยใจมึง หลังจากนี้กูจะไม่ทำแบบนั้นอีก แล้วกูก็อยากให้มึงบอกกูอย่างจริงใจเหมือนกัน’

พูดไม่ออก เป็นเพราะแจ็คไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเจอคำพูดเหล่านี้เขาจึงทำได้แค่ขานรับแบบขอไปทีเท่านั้น

‘อย่ามีความลับกับกูเลยนะแจ็ค’
‘งั้นเวลาเป็นอะไรก็พูดสิวะ’
‘ได้ จากนี้ไปกูจะพูดทุกอย่าง ถึงรำคาญแค่ไหนมึงก็ต้องฟัง ห้ามทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ’
‘อย่าคิดอะไรตื้น ๆ อีก เข้าใจไหม?’
‘จะพยายาม แล้วก็อย่าคิดว่ามึงคนเดียวจะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ตามนี้นะ ถึงกูจะคิดเรื่องดี ๆ ไม่ค่อยได้ แต่กูจะอยู่กับมึงทุกช่วงเวลาเลย กูจะไม่ให้ไอ้เหี้ยธีร์มาขิงใส่แล้ว’
‘เป็นเด็กอนุบาลเหรอ กูต้องหาตรายางมาปั๊มใส่หน้าผากมึงไหม?’

เขาเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายพลางเสยผมเปียก ๆ ขึ้น และแน่นอนว่าไอ้เท็นก็ไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นอยู่ฝ่ายเดียว

‘เมื่อก่อนกูเคยอยากเป็นส่วนหนึ่งของมึงยังไง วันนี้กูก็ยังอยากเป็นอยู่’

มันเป็นความในใจของผู้ชายวัยใกล้สามสิบที่เหมือนได้ย้อนกลับไปตอนอยู่มอต้น ภาพจำของแจ็คยังคงมองเห็นเพื่อนนั่งหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุขกับกีต้าร์ เขารู้สึกดีกับบรรยากาศแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสะดุดกับบางคำซึ่งมันดูลึกซึ้งแปลก ๆ

‘มึงพูดเองนะ’

ทั้งคู่สบตากันในระยะใกล้ วัดใจกับเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่าหลังจากนี้มันต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นแต่ทั้งคู่ก็ยังรอเห็นรอยยิ้มของกันและกัน

‘กูโคตรโล่งเลย’

ไอ้เท็นยิ้มพลางหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำให้เขารู้ว่าโลกนี้ยังคงหลงเหลือสักเรื่องหนึ่งในชีวิตให้คนตรงหน้ายิ้มได้

‘เหมือนกัน’

หลังจากนั้นแจ็คก็ยื่นมือลงไป และเท็นก็คว้าเอาไว้โดยไม่เสียเวลาชั่งใจพร้อมดึงตนเองให้ลุกขึ้นจากอ่าง



*



บุตรแห่งวันเพ็ญ: ลูกพี่กูหายตึงยังน้า เงียบ ๆ หาย ๆ ไม่คุยในกลุ่มเลย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เงียบ read 3 แต่ไม่มีคนตอบนี่มันยังไงกันวะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: กูลงยี่สิบว่าหนึ่งในนั้นต้องมีมึง ไอ้โซ๋
Derya MK12: โธ่ โซ๋เลยเหรอครับ อยู่ดี ๆ ก็ได้ชื่อใหม่
บุตรแห่งวันเพ็ญ: มึงอย่ามาเล่นลิ้น จู๊กมาสเตอร์ เอามายี่สิบ กุมีพร้อมเพย์
Derya MK12: อะไรครับพี่แหลม เข้ามาก็ไถเงินน้องเฉย บางทีโซ่อาจจะอ่านคนที่สามก็ได้นะครับ แน่ะ ตอนนี้ Read 4 แล้ว โซ่ลงสิบบาทเลยว่าหนึ่งในนั้นต้องมีพี่ธีร์
TOOBTUBZA: ต่อให้เป็นมันจริง ๆ มันก็ไม่ออกมายอมรับหรอก สร้างซีนเข้มอยู่
jjack: งานนี้ทำลายสถิตินะ อีกสองวันแห่ขบวนรอบเมรุได้
TOOBTUBZA: โถ ไปดีซะแล้วน้องกู
บุตรแห่งวันเพ็ญ: แพรวถือรูปพี่ธีร์ได้ไหม ไอ้โซ่คงทำใจไม่ได้
แ พ ร ว พ ร า ว: แล้วพี่แหลมจะทำอะไร
บุตรแห่งวันเพ็ญ: จัดอยู่ในแผนกโปรยทาน
jjack: อยากกินอะไรก็เข้าฝันพี่ตั้บนะ รายนั้นฝันถึงของแดกบ่อย
TOOBTUBZA: ถ้าจะมาอย่างนั้นแล้วก็บอกหวยกูด้วย
Derya MK12: ทุกคนจะต้องคิดถึงพี่ธีร์มาก ๆๆๆๆๆๆ แน่เลยครับ T_T
THREE: มาก ๆๆๆๆๆ เลยเหรอโซ่ เดี๋ยวนี้อัปเกรดตบมุกแรงเลยนร้า เดี๋ยวก่อนเดี๋ยว
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ในที่สุดก็ยอมโผล่ออกมาจากหลุม
TOOBTUBZA: ก็ต้องใช้แผนนี้แหละ ไม่งั้นไม่ยอมออกมา
Derya MK12: โซ่เป็นตัวล่อ
jjack: ฟอร์มจัดไง
THREE: แล้วทำไมกูจะฟอร์มไม่ได้?
THREE: ได้เพื่อนคืนแล้วดิ กูมันก็เป็นแค่หมาหัวเน่าสินะ
แ พ ร ว พ ร า ว: หนูเข้าใจความรู้สึกพี่ธีร์อะ จริง ๆ
Derya MK12: อ้าว พี่ธีร์มีทีมแล้วล่ะครับ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เข้ แพรวแม่งโคตรเอา
THREE: เอ้อ มันต้องงี้สิวะ สมแล้วที่เป็นน้องรัก
แ พ ร ว พ ร า ว: เพราะตอนหนูเรียนหญิงล้วนเพื่อนหนูก็เป็นแบบพี่ธีร์ มันเลยบอกให้เพื่อนในกลุ่มแบนหนูอะ
THREE: อ้าว
jjack: จะบอกว่าไอ้ธีร์นิสัยเหมือนเด็กผู้หญิงนั่นเอง
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ไอ้เห้ แตกไปดิ 5555555555555555555555555555555555555555
TOOBTUBZA: กูล่ะสมเพช
THREE: เหี้ย all
Derya MK12: โซ่ก็ด้วยเหรอครับ เดี๋ยวนี้พี่ธีร์ไม่เคยจะละเว้นเลยสินะ
Derya MK12: เดี๋ยวไปกินข้าวดีกว่า แล้วจะแวะมาขำย้อนหลังนะครับ ขอให้ทุกคนสนุกมาก ๆ
THREE: กินไปเลยไม่ต้องมาขำ!!!
jjack: เดี๋ยวกูเลิกงานแล้วไปหา
THREE: เสือก บ้านไม่มีให้กลับไง?
jjack: เออ มึงมีปัญหาไร?
THREE: แวะซื้อเต้าทึงให้กูด้วย น้ำแข็งเยอะ ๆ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: โหยไรว้า ทีตอนกุสั่งนะด่าเอา ๆ ทำไมพอพี่ธีร์สั่งแล้วจัดให้ทันทีอะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: สองมาตรฐานใช่ปะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: อะ อ่าน 4 แต่ไม่ตอบกูอีกละ พวกมึงเป็นเชี่ยไรกันเอ่ย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ตอบหน่อย อย่าไซเบ้อบูลี่



แจ็คยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์กับกลุ่มคนบ้าบอคอแตกที่ไม่มีเรื่องให้ตึงเครียดกันนาน รู้ว่าไอ้ธีร์ยังคงตึงกับเรื่องไอ้เท็น แต่มันก็ดีเหลือเกินที่เพื่อนยอมถอยหลังก้าวหนึ่งโดยไม่ยื่นคำขาดขอให้เลือกเพราะอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนอย่างนั้น

รู้แล้วว่าการพาไปเผชิญหน้ายังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แจ็คจึงตัดสินใจแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เขาก็ได้แต่หวังว่าสองคนนั้นจะยอมหันหน้าเข้าหากันสักครั้ง และพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจมาตลอดสิบสามปี




*



“ถ้าพี่ซันวอแวมากก็อดทนหน่อยแล้วกัน มันดูท่าจะชอบมึงมาก”

เวรกรรมจริง ๆ

“ขออย่างเดียวอย่าขึ้นเสียง มันเป็นหมาเซนซิทีฟ”

“มันเคยบอกมึงเหรอ ทำไมรู้?”

แจ็คมองไอ้ลิงหัวเทาที่ยิ้มร่ากับสีหน้านอยด์แดกของเขาในตอนนี้ ก็จะอะไรอีก อยู่ ๆ ก็โทรมาถามว่าคืนนี้ว่างไหม ต้องการความช่วยเหลือ แล้วพอได้ยินอย่างนั้นมีหรือคนฝั่งประเทศบางใหญ่จะไม่ว่างให้

ก็ตอบรับไปสิว่า ‘ยันเย็นวันอาทิตย์อะ มึงมีไร?’

ตอนนั้นไอ้เท็นถึงได้บอกให้เขามาหาที่บ้าน เพื่อพบว่ามันกำลังจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมบินไปหาปู่ที่ป่วยอยู่ต่างจังหวัด แล้วที่โทรตามก็เพราะอยากได้กรมปศุสัตว์แบบไม่คิดตังค์มาช่วยดูแลหมากับแมวให้

“ขนาดโดนใครไม่รู้มาขึ้นเสียงใส่ยังรู้สึกไม่ดี หมากูน่ารักแบบนี้จะทนได้ยังไง”

“โถ พ่อคนอบอุ่น ไหนเปิดกระเป๋าให้กูดูหน่อยว่าเอาอะไรไปด้วยบ้าง”

เท็นถอยหลังหนึ่งก้าวพลางมองอีกคนที่ทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิบนพื้นแล้วรูดซิปกระเป๋าเป้ ก่อนจะเอาทุกอย่างที่เขายัดเข้าไปออกมากระจาย แต่ยังไม่ทันอ้าปากด่าคนระเบียบจัดไอ้แจ็คก็พับผ้าให้แล้วม้วน ๆ ใส่กลับเข้าไปจนกระเป๋าไม่พองบวมเหมือนตอนแรกแล้ว

“ดีกรีลูกชายคนโตร้านซักรีดก็มาว่ะ ว่าแต่สนใจเป็นขี้ข้ากูไหม จ้างเดือนละห้าพัน”

“งานกูอย่างเนี๊ยบให้แค่นี้เองเหรอ มึงเป็นเศษเล็บในวงการ E-Sport นะเท็น จ้างพ่อบ้านทีต้องสามหมื่นแล้ว”

“เซเลบพอ แต่ก็จริงว่ะ กูมันโคตรของคนดังนี่นะ” หลังจากพูดจบเจ้าของผมยาวก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้ววางมือลงบนศีรษะเขาแรง ๆ จนเหมือนตบแต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าเจ็บ

ไอ้แจ็คเดินหายเข้าไปในครัวจึงชะเง้อมองตาม เพียงอึดใจเดียวมันก็เดินออกมาพร้อมนมสองกล่องกับกล้วยและไม่ลืมที่จะยื่นส่วนหนึ่งให้เขา

“รองท้องก่อน”

ฉิบหายละ ทำไมถึงอยากยิ้มแต่ก็รู้สึกว่ายิ้มไม่ได้

“ดูแลบ้านกูดี ๆ ล่ะขี้ข้า”

“สองพัน”

“...”

“ไม่พอใจ งั้นกูชาร์จเพิ่มเป็นสามพัน”

“มึงหน้าเลือดได้ใครวะแจ็ค อันนี้กูถามจากใจ”

“อยากตอบว่าแม่แต่เดี๋ยวมึงไม่เชื่ออีก”

“เฝ้าบ้านไป แล้วจะรีบกลับมา”

“มึงโอเคกับคนที่นั่นใช่ไหม?” สุดท้ายแจ็คก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ก็คืนนั้นไอ้เท็นเล่าให้ฟังเสียหมดเปลือกว่าตอนมอหกต้องเจอกับอะไร เขาจึงค่อนข้างเป็นกังวลว่ามันจะโอเคไหมถ้าต้องไปนั่งอยู่กับพ่อนาน ๆ

แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อในตอนนั้น แต่ก็ใช่ว่าลูกที่รู้สึกเหมือนถูกทิ้งจะเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหา ทั้งคู่เหมือนรักษาสถานะไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายแหลกสลายไปทั้งหมด

“ตอนนี้ไม่มีอะไรที่กูจะไม่โอเคแล้ว”

“แน่ใจ?”

“ไม่อยากพูดอะ เดี๋ยวมึงขนลุกอีก”

“แล้วเป็นห่าอะไรทำไมชอบพูดเลี่ยน ๆ พักนี้มึงซึ้งเก่งเหรอเท็น?”

“เมื่อก่อนกูก็เป็นแบบนี้ แต่มึงลืมเอง”

ไม่ได้ลืม เรียกว่าไม่ชินดีกว่า เมื่อก่อนคำพูดซึ้ง ๆ มันไม่เคยชวนให้สตันท์แบบนี้นี่หว่า ซึ่งแน่นอนว่าคงเป็นเพราะเขาโตแล้ว

“รหัสไวไฟคือ tenmoonsun นะ”

“มุมโนเนะก็มา”

“โนเนะห่า กูกับลูก ๆ คือหนึ่งเดียวกันเว้ย”

“งี้กูไม่ต้องใส่ชื่อแม่กับน้องอีกสองคนเข้าไปเลยเหรอ?”

ได้ยินอย่างนั้นเท็นทำท่าต่อยมวยแย้บ ๆ ใส่คนที่ยืนกอดอกพิงกับวงกับประตูไร้ซึ่งการสะทกสะท้าน แต่พอเห็นเขากวนตีนนานเกินจำเป็นอีกฝ่ายจึงยกเท้าขึ้นถีบส่งไปหาอูเบอร์ที่เพิ่งมาถึงหน้าบ้าน ซึ่งเขาก็หันกลับไปอีกครั้งเพื่อย้ำกับตัวเองว่าไอ้แจ็คยังอยู่ตรงนั้นจริง ๆ




(จบพาร์ท 1/2)




วันนี้มาแค่นี้ก่อนจ้า ต้องรีบนอน
พรุ่งนี้เจอกันงาน #GYTradeA8 เด้อ หนูอยู่บูธ B3-5 กับ Fictionlog จ้า


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 03-03-2019 00:10:37
เท็นตอนนี้ดีต่อใจ อรั๊ยยยยย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2019 02:59:09
โล่งๆใจ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 03-03-2019 08:50:21
น้องเท็นทำดีมากกกกกกกค่ะมีอะไรก็เปิดใจพูดให้หมดนะคะยกเว้นเรื่องอะไรที่ไม่ดีกับพี่แจ็คค่ะอย่าพูดให้พี่แจ็ครู้สึกไม่ดีหรือน้อยใจนะคะนึกถึงใจเขาใจเรามากๆนะคะแต่ตอนนี้ดีมากๆแล้วค่ะ มาหอมหัวที
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 03-03-2019 09:57:38
เขาทั้งคู่

เริ่มต้นกันใหม่

ดีใจที่นุ๋งมูนนุ๋งซัน

จะมีแดดดี๋เพิ่ม เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-03-2019 15:23:36
แคร์กันขนาดนี้ย้ายมาอยู่ด้วยกันดีไหม
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 03-03-2019 20:14:44
+1  o13 ขอบคุณครับ :pig4: :katai5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-03-2019 20:41:19
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 03-03-2019 23:08:24
เท็นน่ารักดูขี้อ้อนขึ้นเยอะเลย อรั้ยอยากอ่านพาร์ทต่อแว้วว :katai5: :katai3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (2/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 07-03-2019 18:51:59
ฮื้ออออออ ตามอ่านซีรี่ย์เกมเมอร์ทันหมดแว้วววววว

รักแจ็คเท็นซันมูนมากนะคะ ดีกับหัวจิตหัวใจไปหมดเลยยยย
ตั้งแต่ต้นเรื่องนี่หม่นเท่ามาตลอด ขนาดตอนที่คิดว่าจะทำให้ยิ้มได้นี่ ยังอ่านไปห่อไหล่ไปเลยค่ะ ... แต่คิดว่า หลังจากตอนนี้ไปแล้ว อาจจะอ่านแบบยืดตัวตรงมีความสุขได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยซักกะทีล่ะนะคะ!

รอมาต่อตอนเรื่อยๆ ไปค่าาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 08-03-2019 20:09:04
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 16
แปลก (PART2/2)




เหมือนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาวิ่งอยู่ในหัวอยู่ทุกขณะ ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่บนโซฟามองสัตว์สี่ขาทั้งสองตัวซึ่งจ้องมาเหมือนกำลังสังเกตท่าทีทาสรับใช้จำเป็นว่าจะดูแลรักษาที่นี่ได้ดีเท่าพ่อของมันหรือไม่


ป๊อง!



ไอ้ขนทองหน้าซื่อบื้อคายลูกบอลยางไส้กระดิ่งลงพื้นพร้อมแลบลิ้น ถึงจะไม่ใช่โปรเลี้ยงสัตว์แต่แจ็คก็พอเดาออกได้ว่าพี่ซันของไอ้เท็นกำลังต้องการอะไร อยากชวนเล่นงั้นเหรอ โตแล้วนี่ หัดดูแลตัวเองสิวะ หรือไม่ก็ไปสะกิดแมวมูนนั่น เอาสองอุ้งเท้าเขี่ย ๆ กัน หรือไม่ก็นั่งมองผีเสื้อบินหน้าบ้านก็ได้


“แฮะ!”


“ไม่เล่น” เขาตอบเสียงแข็ง ขมวดคิ้วหน้าดุซึ่งมันเคยใช้ได้ผลมาแล้วกับเด็กลูกร้านขายของชำแถวบ้าน


“งี๊ด...” เจ้าขนทองหงอยพร้อมส่งเสียงน้อยใจในลำคอ ซันหมอบลงต่ำคางติดพื้นและไม่ลืมที่จะช้อนตามองอย่างตัดพ้อ

“...”


เดี๋ยว... ว่าแต่เมื่อกี้ใช่เสียงแมวถอนหายใจหรือเปล่า?


แจ็คชำเลืองมององค์หญิงประจำบ้านก่อนจะสบตากันในที่สุด จะประกาศสงครามเพราะหวงบ้านงั้นเหรอ จะเอาก็ได้นะพ่อมันไม่อยู่แบบนี้จังหวะโคตรดี เมื่อชั่วโมงก่อนก็ทีนึงแล้ว แค่จับหางเบา ๆ แม่งมีหันมาแว้งกัดจนเป็นรอยเฉย มือนี้ยังต้องใช้ล้างจานทำกับข้าวนะโว้ย

ยัง... ยังไม่หยุด ถ้าแน่จริงก็กระโดดลงมาจากตู้ฟิกเกอร์เลยสิ จะเบิ้ลกะโหลกเอาให้สั่น มันอ้าปากฟ้องพ่อมันไม่ได้อยู่แล้ว

“อดทนหน่อย อยู่ด้วยกันแค่คืนเดียว”

พูดทำไม? แจ็คถามตัวเองในใจ พวกมันเป็นแค่สัตว์สี่ขาที่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ไหนจะปัญหาเห็บหมัด ขับถ่ายไม่เป็นที่ เลี้ยงยากพอ ๆ กับเด็กทารกเลย ต่อให้พ่อมันจะพาไปอาบน้ำสระผมแต่งองค์ทรงเครื่องทุกอาทิตย์ก็ตามเถอะ แต่สำหรับแจ็คแล้วพวกมันก็ดีแต่สร้างภาระให้มากกว่าอะไรทั้งปวง บอกหวยก็ไม่ได้ คาบทองมาให้ก็ไม่เคย ไหนล่ะคุณประโยชน์?

“ใครหิวบ้าง?”

“โฮ่ง!”

อ้าว อยู่ดี ๆ ก็ฟังภาษาหมาออกเลยกู แถมองค์หญิงก็เสด็จลงมาจากบัลลังก์ฟิกเกอร์โดยไม่เกรงใจคาแรกเตอร์หยิ่งจองหองเสียด้วย ทั้งคู่นั่งเงยหน้ามองทำตาแป๋ว เลียปากแผล่บ ๆ แล้วเจ้าขนทองก็ขยับเข้ามาหนึ่งก้าวพร้อมผงกศีรษะทั้งที่ยิ้มลิ้นห้อย

“ใจคอคิดจะทำตัวดี ๆ แค่ตอนต้องการอะไรสักอย่างจริง ๆ น่ะเหรอ นิสัยไม่ดีทั้งคู่” ซันกระดิกหาง พอเห็นว่าเขาลุกขึ้นยืนมันจึงกระโดดสองขาใส่ ส่วนองค์หญิงวิ่งนำหน้าไปเล็กน้อยพร้อมเอี้ยวหันมามองเป็นระยะเหมือนกลัวว่าเขาคนนี้จะกลับคำ

พี่เลี้ยงจำเป็นใช้เวลาไปกับการยืนทำความเข้าใจอาหารหมากับแมวตรงนั้นอยู่ราว ๆ ห้านาที พอได้ของที่ต้องการเจ้าก้อนขนทั้งสองก็ก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารในชามของตัวเองและเป็นเจ้าหมาโกลเด้นที่กินเสร็จก่อน

ดวงตากลมโตคู่นั้นมองมาอีกแล้ว หางของมันกระดิกไปมาย้ำให้เขารู้ว่าธรรมชาติของหมานั้นเป็นอย่างไร ซึ่งพ่อของมันคงใช้เวลาเกินครึ่งค่อนชีวิตในการปรนเปรอเอาใจและนี่คือความเคยตัวอย่างหนึ่งของไอ้ก้อนขน

แต่พอถึงจุดหนึ่งแจ็คก็ได้รู้ว่าเขาเป็นฝ่ายแพ้แล้ว เพราะต่อให้หันหน้าไปทางไหนหมาดวงอาทิตย์ก็ยืนจ้องเป็นวิญญาณหลอนเหมือนอยากกดดันขอให้เล่นด้วย

“เออ ๆ ก็ได้ อยากเล่นมากนักใช่ไหม?”

“โฮ่ง!”

“งั้นไปเก็บมา”

ชายหนุ่มเขวี้ยงลูกบอลยางไปตรงทางเดินยาวชนิดว่าเอาให้ลับสายตา ไอ้หมาซันมันต้องใช้เวลาหาบ้างล่ะ และพอเป็นแบบนั้นเขาก็จะได้มีเวลาเหยียดขา เอนกายนอนดูแข่งบาส พี่ซันของพ่อมันซอยขาวิ่งไปตามหาของเล่นโปรดจนแทบลื่นหน้าคะมำ

แจ็คถอนหายใจซ้ำพลางมองไปยังทางเดินซึ่งบางทีลูกบอลมันอาจกลิ้งเข้าไปในครัวแล้ว และเขาภาวนาขอให้มันหายเข้าไปในซอกใดซอกหนึ่ง

เปิดทีวีช่องกีฬาแล้วคว้าหมอนอิง แต่หายใจยังไม่ทันทั่วท้องเจ้าขนทองก็รีบวิ่งคาบลูกบอลกลับมาด้วยความเร็วแบบที่ว่าเสือชีตาร์อาจจะต้องเสียแชมป์ ห่าราก ไฮเปอร์กว่าไอ้เชี่ยแหลมอีกมั้งหมาตัวนี้... น่ากลัวฉิบหาย สัตว์ประเภทนี้สนุกได้แค่วิ่งไปเก็บของที่ถูกโยนซ้ำ ๆ ซาก ๆ แบบนี้น่ะเหรอวะ

ซันเอาคางเกยโซฟาพลางคายลูกบอลยางสุดที่รักก่อนจะนั่งลงรอเล่นรอบต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ มันกำลังยิ้ม ถ้าเขาไม่พยายามอ่านภาษากายหมาเกินไป แจ็คหรี่ตามองพร้อมถามตัวเองว่าจะเอาอย่างไร โกงแม่งเลยดีไหม อยากรู้ว่าพี่ซันของพ่อมันฉลาดจริง ๆ หรือเป็นแค่คำคุยโอ้อวดลูก

“ไปเก็บมา!”

เขาทำท่าเขวี้ยงบอลแล้วไอ้พี่ซันก็ลุกขึ้นอีกครั้ง แต่วิ่งได้ไม่ถึงสองเมตรก็ต้องหยุดชะงักซึ่งมันคงเพิ่งขึ้นได้ว่าไอ้ที่โยนไปเมื่อครู่มีเพียงอากาศเปล่า ๆ หาใดใช่ลูกบอลยางซ่อนกระดิ่งเสียงกุ๊งกิ๊งน่ารักเอาไว้ข้างใน

ซันกลับมาอีกครั้งเพื่อขอให้เล่นใหม่ คราวนี้แจ็คคงต้องยอมรับแล้วไหมว่าไอ้ลูกชายบ้านนี้มันฉลาดจริง ๆ

“สบายเหลือเกินนะ อยากกินก็ได้กิน อยากเล่นก็ได้เล่น ง่วงก็นอน ไม่ต้องทำงานหาเงิน แถมไม่ต้องเป็นหนี้ด้วย”

เขาคาดโทษเจ้าขนทองอย่างอิจฉาพลางยีขนมัน พอเห็นความซื่อบื้อที่มาพร้อมแววตาแป๋ว ๆ แล้วใจก็บอบบางเหมือนถูกป้ายยาเข้าให้โดยไม่รู้ตัว เอาจริง ๆ ก็ยังหมั่นไส้อยู่ แต่ก็ยอมรับว่าพอเห็นหน้าหมา ๆ บวกอุปนิสัยแสนโง่ของมันแล้วก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ยิ่งตอนส่ายหางแล้วเอาหน้ามาถู ๆ กับฝ่ามือเขา ตอนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจพ่อมันขึ้นมาบ้างแล้วว่าทำไมถึงรักถึงหลงกันนัก

“...”

แมวชอบเล่นกับความรู้สึกคน โดยเฉพาะตอนที่คิดว่ามันคงไม่เหลียวแล และตอนนั้นแหละมันจะกระโดดขึ้นมาบนโซฟาแล้วเหยียบทุกอย่างที่เป็นทางผ่านจนกระทั่งได้บดเบียดกับท่อนแขนเขา

“อยู่ดี ๆ ก็รักกันขึ้นมางี้เหรอ?”

“...” มูนไม่ได้ส่งเสียงขานตอบเหมือนพี่ชายมัน เจ้าหน้าหยิ่งแค่นั่งนิ่ง ๆ มองไปทางอื่นทั้งที่อยู่ข้างกายเขา แกล้งตายทำเป็นไม่รับรู้ อยากเล่นด้วยแต่ก็ต้องคีพลุคหยิ่งแบบนี้ได้พ่อมันมาแน่ ๆ

ซันก็ยังคงรอให้เล่นด้วย คนที่รับปากว่าจะดูแลลูกรักให้ดีจึงเขวี้ยงลูกบอลยางไปไกล ๆ อีกครั้งก่อนจะลดระดับสายตาลง มองแมวหน้าดุที่กำลังจ้องตากันเหมือนอยากท้าให้ลองแตะต้องตัวมันอีกสักครั้งและสัญญาว่าคราวนี้จะไม่กัดแล้วถ้าไม่จับหางอีก

ไปกันใหญ่ อยู่ในจุดที่พูดแทนแมวในใจแล้ว รู้ถึงไหนต้องอายถึงนั่นแน่ ๆ

นักรบย่อมมีบาดแผลแจ็คคิดอย่างนั้น ในเมื่อจับหางแล้วถูกกัดก็ไม่ควรแตะต้องจุดเดิมอีก ชายหนุ่มยื่นนิ้วชี้เข้าไปอย่างช้า ๆ ถ้าโดนกัดมาสาบานเลยว่าจะเหนี่ยวกลับเอาให้เสียงดังแป๊ะ แต่สุดท้ายมูนก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะอ้าปากใช้แง่งคม ๆ งับนิ้วเขาที่แตะลงบนศีรษะของมัน


อ้าว ก็ไม่กัดนี่หว่า


ทั้งคู่ยังคงสบตากัน ผ่านไปไม่กี่วิเขาจึงค่อย ๆ เกลี่ยปลายนิ้วจนองค์หญิงหรี่ตาพริ้มพร้อมหดคอลง ก่อนจะยอมศิโรราบทิ้งตัวพิงซบเขาสิ้นสภาพแม่สาวหยิ่งจองหอง

“แฮะ ๆ” ซันกลับมาแล้ว ซึ่งเขาก็เล่นกับมันด้วยวิธีเดิมอยู่อย่างนั้น และเจ้าสี่ขาก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเป็นเอาเสียเลย

แอร์เย็นฉ่ำกับก้อนกลม ๆ ที่นอนทับแขนหนึ่งข้าง คนที่ไม่เคยจะเอ็นดูสัตว์เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่โคตรน่ากลัวซึ่งนั่นก็คืออาการตกหลุมรัก ผ่านไปหลายชั่วโมงแจ็คก็ผล็อยหลับ เด็กน้อยที่สนุกกับลูกบอลยางจึงหยุดมอง ก่อนจะพาตัวเองปีนขึ้นไปนอนบดเบียดบนโซฟาด้วยกัน





*





[Pandrift] สรุปดราม่าทีมขี้ซุยบราเทอร์ หรืออดีตทีม Numb2r เมื่อสิบปีก่อน

ผมเริ่มสนใจทีมนี้ตั้งแต่ได้แชมป์ครั้งแรก หลังจากนั้นก็ติดตามมาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าแฟนคลับ ก็มีบ้างที่เข้าไปดูเวลาสตรีม ทั้งแบบขัดใจและคิดว่าก็โอเคดี ดังนั้นผมจึงเริ่มหาประวัติว่าแต่ละคนมีที่มาอย่างไร จนไปเจอเรื่องดี ๆ เข้า
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนก็คงเห็นว่าทีมนี้มีตัวยืนอยู่หลัก ๆ คือ ธีร์ แจ็ค เชร์ แล้วก็โซ่ มีตัวสำรองเป็นตุ้บตั้บที่เปลี่ยนไปเป็นผู้จัดการทีมแล้ว กับน้องแพรวที่เอาจริง ๆ ก็เล่นงั้น ๆ คงเพราะเอามายืนเป็นตัวสำรองเฉย ๆ เพราะในทีมไม่มีคนอื่นแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็จะมีพวกขาจรแวะมาเล่นด้วยบ้างประปรายเช่นเจมส์ หรือ อาร์ม เพื่อนที่มหาลัยโซ่ ซึ่งถ้าคนติดตามในสตรีมก็น่าจะเห็นเซ็ทนี้อยู่บ่อย ๆ
แต่พักหลังผมเริ่มจับสังเกตได้ว่ามีอะไรเปลี่ยนไป ว่าแจ็คไม่ค่อยได้เล่นกับทีมเท่าที่ควร เพราะเดี๋ยวนี้เขาหันไปเล่นกับเท็น อดีตสมาชิกทีมชื่อดัง ซึ่งหลายคนอาจจะไม่แปลกใจ แต่คนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังก็มาก่อนก็คงงงตาแตกว่า ‘ทำไม TEN1O’ ถึงกลับเข้ามามีบทบาทอีกครั้งทั้ง ๆ ที่คนกลุ่มนี้เคยมีเรื่องผิดใจกันมาก่อน
เอาล่ะ ผมจะมาสรุปให้ฟังเป็นข้อ ๆ แบบเข้าใจง่าย
-   ธีร์ แจ็ค เป็นเพื่อนสนิทกัน
-   แจ็ค เท็น เป็นเพื่อนสนิทกัน
-   แจ็คเป็นเพื่อนกับทั้งสองฝั่ง พอขึ้นมอปลายก็เรียนที่เดียวกัน
-   ธีร์กับเท็นไม่ค่อยถูกกัน แจ็คเป็นคนกลาง
-   ธีร์ก็เหม็นขี้หน้าเท็นตามประสาคนหล่อไม่ชอบให้ใครมายืนเทียบ
-   เท็นก็เหม็นขี้หน้าธีร์เพราะอยากเป็นที่หนึ่งของสายชั้น
-   แต่ทั้งคู่ต้องมาอยู่ทีมเดียวกันเพราะเกรงใจแจ็ค ขณะนั้นตุ้บตั้บผู้เป็นพี่ใหญ่ก็อยู่ในทีมด้วย
-   เท็นวัลลาบี อยากโด่งดัง หลงตัวเองหนัก แย่งแฟนแจ็คเพื่อโชว์ให้เพื่อนรู้ว่ากูเก๋า
-   ธีร์คิดว่าเป็นจังหวะดี เลยเป่าหูให้แจ็คเกลียดเท็น
-   แบ่งเป็นสองฝั่ง เท็นแยกตัวไปอยู่ทีมดัง เพื่อดันตัวเองให้ไปอยู่จุดสูงสุด ส่วนแจ็คกับธีร์ก็พังตั้งแต่แพ้รอบชิง เสียหลักไปสักพักใหญ่ตามประสาเด็กน้อยมอปลายที่ฝีมือยังอ่อนหัด
-   แต่ด้วยสันดานเสีย ๆ จึงทำให้เท็นอยู่ทีมไหนได้ไม่นาน เขาชอบแย่งแฟนชาวบ้าน ชอบบูลลี่คนในทีม สุดท้ายทุกคนต้องรวมตัวกันคว่ำบาตร
-   ธีร์ แจ็ค ตุ้บตั้บ รับสมาชิกใหม่เข้ามาคือเชร์ ทุกคนเป็นสตรีมเมอร์มาเรื่อย ๆ จนได้โซ่เข้าร่วมทีม จึงรวมตัวกันเป็นทีมขี้ซุยบราเทอร์
-   เท็นอิจฉา ตามจองล้างจองผลาญทีมนี้จึงใช้เส้นสายเข้าร่วมทีมที่ได้เข้ารอบชิง ธีร์เห็นเป็นโอกาสดี จึงฝึกซ้อมหนักเพื่อตบหน้าศัตรูคู่แค้นเพื่อแลกความสะใจมากกว่าศักดิ์ศรีของนักกีฬา
-   ธีร์สะใจที่เท็นแพ้ ทุกคนคงได้เห็นภาพที่ทั้งคู่ยืนประจันหน้ากันบนเวที ดูออกได้ง่าย ๆ เลยว่าธีร์พร้อมจะเหยียบเท็นให้จมดิน
-   เท็นโดนคว่ำบาตรอีกครั้งเพราะทำทีมคนอื่นพัง แม้ว่าจะเล่นได้ไม่แย่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สิ่งที่เขาทำลงไปดูดีขึ้น
-   เท็นไม่มีคนคบ จึงคลานซมซานกลับมาคุกเข่าขอโทษแจ็ค (ไม่มีภาพประกอบนะครับ วงในที่เชื่อถือได้เล่าให้ผมฟัง)
-   ด้วยความที่แจ็คเป็นคนไม่ค่อยอะไรกับใคร จึงให้โอกาสอีกครั้ง แต่ขณะเดียวกันธีร์ก็แยกตัวออกไป คาดว่าคงโกรธกับการตัดสินใจของเพื่อน และอีกไม่นานทีมนี้คงต้องแตกอย่างแน่นอน

คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ครับ ผมไม่ได้กล่าวหาหรือใส่ร้ายใครใด ๆ เพราะจากที่รู้มาก็จากข้อมูลเก่า ๆ ในอินเทอร์เน็ต แล้วก็มีคนวงในบอกเล่าให้ฟัง บวกกับเห็นความห่างเหิน การเล่นเกมที่แบ่งแยกเป็นกลุ่มแล้วมันยิ่งชัด อีกไม่นานผมว่าทีมนี้คงแตกอีกซ้ำสองเพราะคน ๆ เดิมอีกแน่

ขี้ซุยบราเทอร์ก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ ผมว่าทีมเขาเป็นที่รักเพราะคาแรกเตอร์ของแต่ละคนมากกว่า ธีร์ก็หล่อ แจ็คนิ่ง เชร์ตลก ส่วนโซ่น่าจะดูดีที่สุดเพราะไม่พูดมากแต่เล่นดีมีฝีมือ แต่ถ้าทีมนี้แตกเพราะคนอย่าง TEN1O ก็คงน่าเสียดายอยู่ (ล่ะมั้ง)

            สมาชิกหมายเลข 1212312121


สุดยอดความเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
กระทู้แนวนี้มาอีกแล้วนะครับ ทำไมชอบคิดแทนคนอื่นจัง แล้ววงในที่ว่านี่ใคร ร้านอาหารไหมยังไง?
            สมาชิกหมายเลข 191991119

ความคิดเห็นที่ 25
ทุกคนก็ปกติดีนะคะ พี่แจ็คก็ยังเล่นกับพวกพี่ธีร์อยู่ตลอดนะ คุณดูสตรีมจริงปะเนี่ย - -‘
            Painny

ความคิดเห็นที่ 33
ปากบอกติดตามแต่ก็หลอกด่าไปด้วย สงสารทีมนี้จริง ๆ เงาแค้นเยอะ 555555555
            Gene666

ความคิดเห็นที่ 41
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยไม่ชอบเท็น แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหมว่าหลังจากเขากลับมาสนิทกับแจ็คแล้วเขาก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อย่างน้อยก็อยู่เงียบ ๆ เป็น ไม่ออกมาตอบโต้คนที่เข้าไปด่า (ถึงเขาจะมีสิทธิ์ปกป้องตัวเองก็เถอะ)
                       เชฟหมู
 
ความคิดเห็นที่ 41-1
เราเห็นด้วยค่ะ รู้สึกได้เลยว่าเขาโอเคขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้นด้วย เราเป็นแฟนคลับพี่เท็นมาได้หลายปีแล้ว เรารู้ว่าเขามีข้อดีข้อเสียยังไง แต่เราก็ยังอยากอยู่เป็นกำลังใจให้เขา พอเห็นเขาไปในทางที่ดีขึ้นเราก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน อีกอย่าง เดี๋ยวนี้รูปในไอจีก็ไม่ได้ลงแค่รูปหมากับแมวแล้วด้วย... แหะ ๆ
         Bellini

ความคิดเห็นที่ 41-2
เดี๋ยวนี้มีรูปพี่แจ็คแล้วค่ะ พี่ซันกับน้องมูนโดนแย่งที่แล้ว คิคิ
         คะน้าไม่ใช่ประโยคขานตอบ

ความคิดเห็นที่ 41-3
น่ารักเนอะคะ T-T
               Bellini

ความคิดเห็นที่ 41-4
      มากค่ะ นอกใจธีร์แหลมแล้ว TwT
               คะน้าไม่ใช่ประโยคขานตอบ



นี่มัน... อะไรกันวะ?


ทั้งที่ควรเป็นกระทู้ปั่นดราม่าแต่ไหงมาสะดุดตากับคอมเมนท์ชวนขนหัวลุกแบบนี้ คิดกันไปเองอีกแล้ว ผู้ชายสองคนสนิทกันก็จับจิ้นเลยเหรอ ธีร์แหลมอะไรนั่นพอเข้าใจได้เพราะพวกมันชอบเล่นอะไรแปลก ๆ แต่เขากับไอ้แจ็คนี่สิ ไม่รู้ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน
 
แค่คุยเล่นกัน ลงรูปมันในไอจีเฉย ๆ ไม่เห็นแปลกอะไร เพื่อนที่ไหนก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น

ว่าแล้วก็เข้าไอจีตัวเอง สไลด์ดูช้า ๆ แล้วก็พบว่าพักหลังเริ่มมีรูปลูกน้อยลงจริง ๆ แถมมีรูปทีเผลอไอ้แจ็คอย่างเยอะ แต่ก็ยังปกติดีนี่หว่า รูปเหล่านั้นมันตลกมากนะใครเห็นเป็นต้องขำปนสมน้ำหน้าไอ้แจ็คอยู่แล้ว ดูสิ ไอ้เวรนั่นเคยหัวเราะอ้าปากแบบนี้เหรอ เขาอยากเรียกให้คนทั้งโลกมามุงดูแล้วหัวเราะ ไม่ใช่ให้มาจับผิดว่าภายใต้กรอบสี่เหลี่ยมนี้มันแฝงนัยยะอื่นอยู่ด้วย

แล้วหัวร้อนทำไม ตอนนั้นเคยไล่ต้อนโซ่เพราะอยากหาเรื่องให้คนจิ้นจนเป็นกระแส แต่ไหงตอนนั้นไม่เห็นจะกระวนกระวายอย่างนี้วะ

เออใช่ เพราะนั่นมันคือความตั้งใจแต่ตอนนี้ไม่ใช่ไง คิดอกุศลกันไปได้ เขากับไอ้แจ็คน่ะเพื่อนกัน

“...”

แต่ก็ยังสลัดเรื่องนี้ออกจากหัวไม่ได้เลยว่ะ เอาไงดีวะ เขาควรปวดหัวกับกระทู้ข้อมูลปลอม ๆ นั่นมากกว่าจะฝังคอมเมนท์สีชมพูฟุ้งฟริ้งไว้ในหัวไม่ใช่เหรอ ไม่ได้การแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงปวดหัวตายเพราะคิดไม่ตกแน่

เพราะงั้นเซลฟี่แล้วลงรูปตัวเองกลบ ๆ ไปหน่อยดีกว่า

เอียงทุกองศาได้มาทุกมุม เท็นเหยียดขาพาดกับโต๊ะพลางรัวนิ้วใส่แคปชั่นพร่ำเพ้อถึงลูกรักทั้งสองที่คงหงอยเหงาอยู่บ้าน คราวนี้จะได้เลิกมโนกันไปต่าง ๆ นานาสักที เห็นไหมว่าไอจีนี้คอนเทนท์หลัก ๆ คือหมากับแมว

“...”

เวร รู้ตัวอีกทีก็จัดไปสิบสองรูปแล้ว งานนี้ตีความได้ถึงสองกรณีเลยว่าล่กจนต้องกลบเกลื่อน หรือไม่ก็หลงตัวเองจนเสียสติ

ก็ช่างดิ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำว่าเขากับไอ้แจ็คเป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่

แต่ช่างได้ยังไม่ถึงไหน ไอ้เวรห้าร้อยคนหนึ่งก็ราดน้ำมันแล้วจุดไฟใส่กอไผ่นั่นจนมอดไหม้ลุกโชนประหนึ่งไฟป่า
 

Liked by jjack and 54 others
Ten10_
คิดถึงลูก พ่อไม่อยู่ไม่รู้คืนนี้จะนอนยังไง
jjack มันนอนไปแปดตื่นแล้วก็ตื่นมาวิ่งรอบบ้าน แล้วกูก็เชื่อว่าคืนนี้ยังไงมันก็หลับ ไม่เชื่อวิดีโอคอลมาดู


ไอ้เหี้ย
คนยิ่งลุกฮือเรื่องนี้กันอยู่ยังมาชี้พิกัดบอกให้รู้อีกว่าอยู่บ้านเขา


jjack มันนอนไปแปดตื่นแล้วก็ตื่นมาวิ่งรอบบ้าน แล้วกูก็เชื่อว่าคืนนี้ยังไงมันก็หลับ ไม่เชื่อวิดีโอคอลมาดู
Ten10_ @jjack คุยในไลน์
jjack @Ten10_ อ้าว ทำไมต้องไลน์?
Ten10_ @jjack แล้วทำไมต้องคุยในนี้ล่ะไอ้ฉิบหาย ไหนบอกไม่ค่อยเล่นไอจีไง?
jjack @Ten10_ ก็ไม่ค่อยเล่น
Ten10_ @jjack แล้วที่โผล่หัวมาเมนท์ตั้งแต่กูเพิ่งลงไปไม่ถึงนาทีนี่คืออะไร?
jjack @Ten10_ ตั้งโนติไว้


...
เฮ้ย ปกติเปล่า
ใคร ๆ เขาก็ตั้งโนติเพื่อนไว้ทั้งนั้นนั่นแหละ
ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน


jjack @Ten10_ หมายถึงว่ากูตั้งโนติทุกคนไว้
Ten10_ @jjack ที่เงียบ ๆ นี่เสือกเรื่องชาวบ้านเพียบสินะมึงอะ
jjack @Ten10_ เออ กูไปละ หมามึงปวดขี้พอดี



สักทีเถอะ เมื่อกี้เผลอกลั้นหายใจด้วย รู้ตัวอีกทีก็แทบตาย

ทำไมมันเป็นการตอบคอมเมนท์ที่ต้องใช้ความคิดขนาดนี้ เขาควรด่าไอ้แจ็คและฟลัดเลขห้าเหมือนว่าการคุยนั่นมันโคตรจะปกติสิ ว่าแล้วก็เลื่อนดูการตอบโต้บทสนทนาเมื่อครู่สักหน่อย เขาหวังว่าที่คุยกันมันจะธรรมดาจนไม่มีใคร –


Apissadaporn พี่แจ็คอยู่บ้านพี่เท็นเหรอคะ แง้
Icezanaka เรียกลูกด้วยอะ งี้ก็ได้คำตอบแล้วสิว่าใครเป็นแม่ให้พี่ซันกับน้องมูน คิคิ
Zamama แม่หรือพ่อ เอาดี ๆ ไอ้เท็นแม่งตุ๊ส 555555555+
   Montanoii @Zamama พูดดี ๆ ได้ไหมคะ ถ้าไม่ชอบพี่เท็นก็ไม่ต้องมาว่าพี่เขาสิ
Hotel777 รูปนี้ดีมากจ้ะพี่ TT_TT


เพราะไอ้แจ็คคนเดียวเลย




*




“ซัน อย่าซน ไปนั่งตรงนู้นก่อนเดี๋ยวค่อยเล่น”

เจ้าขนทองไม่สนใจ พอตื่นรอบอีกรอบก็ฟิตปั๋งเหมือนฟื้นพลังเต็มแม็กซ์จนต้องกระโดดโลดเต้นเสียหน่อย พ่อบ้านจำเป็นหยุดค้างอยู่ท่าจับเครื่องดูดฝุ่น มองคาดโทษเจ้าตัวดื้อที่นิ่งได้แค่ตอนหลับ นอกเหนือจากนั้นก็ดิ้นพล่านอยู่ไม่สุขจนงง

เขาเดินไปตรงโซฟาแล้วตบเบาะเบา ๆ เป็นเชิงสั่ง กว่าซันจะยอมทำตามก็เสียเวลาไปหลายนาที มูนนอนอยู่จุดประจำโดยไม่สนใจร่างกายอุ่น ๆ ของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว หมดสิ้นกันความรักที่เคยมีให้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างหลับเกยก่ายร่างกันบนโซฟา แมวผีนั่นเล่นกับความรู้สึกเขาชัด ๆ เดี๋ยวเมิน เดี๋ยวสนใจ ไม่เห็นชัดเจนเหมือนเจ้าขนทองงี่เง่าที่ร้องขอให้เล่นด้วยตลอดเวลานั่นสักนิด

พอไม่มีใครเข้ามาขัดขวางการทำความสะอาดเขาจึงเริ่มละเลงบ้านหลังนี้พร้อมจัดข้าวของที่เรียงไว้อยู่แล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะรื้อออกมาจัดใหม่ให้เป็นหมวดหมู่ แผ่นเกม Xbox ก็ควรอยู่กับ Xbox จะเอาไปรวมกับจุดที่วางแผ่น PS4 ได้อย่างไรกัน

เขาใช้เวลาทำความสะอาดชั้นล่างอยู่นาน พอเริ่มทำมันก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นไปดูแลชั้นสองด้วย ทั้งทางเดินและห้องนอนราคาแพงหูฉีกของมัน รวมถึงการขัดห้องน้ำที่สะอาดอยู่แล้ว แจ็คอยากทำให้ร่างกายเหนื่อยมาก ๆ คืนนี้จะได้นอนหลับสบาย

แต่พอเดินออกไปก็ต้องหยุดหน้าประตูบานหนึ่ง หลายครั้งที่เดินผ่านแต่ก็ไม่ได้มีความสงสัยว่าจะมีอะไรอยู่ข้างในนั้น แจ็คหมุนลูกบิดแต่มันล็อกเอาไว้ ระหว่างนั้นก็คิดว่าถ้าเข้าไปไม่ได้ นั่นแสดงว่าไอ้เจ้าของบ้านคงไม่อยากให้ใครเข้าไปใช่หรือเปล่า?

ยืนกอดอกมองบานประตูตรงหน้า พลางปรึกษากับความคิดในหัวว่าควรเลิกให้ความสนใจห้องนี้แล้วเดินลงไปให้แมวข่วนเล่นข้างล่างเหมือนเดิมดีไหม แต่คิดอีกทีเขาก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ เพราะสถานะปัจจุบันมันไม่ต้องมีความเกรงใจมาคั่นกลางอย่างเช่นก่อนหน้านี้แล้ว

แจ็คลงไปด้านล่างเพื่อเอากุญแจบ้าน พวงนั้นมีอยู่หลายดอกซึ่งถ้าเปิดไม่ออกก็จะยอมทิ้งเรื่องนี้ไปและไม่สงสัยอะไรอีก คนอย่างไอ้เท็นจะมีความลับอะไรมากมายกัน อยู่คนเดียวอย่างนี้ถ้าไม่เก็บสะสมเงินทองของมีค่าไว้ก็ต้องเป็นศพคนตายที่ขึ้นอืดแล้วราว ๆ ห้าวันแล้วไหมวะ?


แกร่ก


เขาไหวไหล่กับปริศนาที่แก้ไขง่ายกว่าในเกมเสียอีก นึกว่าจะยากกว่านี้อย่างเช่นกุญแจลับต้องอยู่กับตัวมัน หรือไม่ก็ซ่อนอยู่ใต้กระถางต้นไม้ที่กว่าเขาจะนึกออกได้ก็คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่นั่นก็บ้าบอ แจ็คคงหมกมุ่นกับการทำเกมมากเกินไปถึงได้คิดเรื่องเลอะเทอะแบบนั้น แต่ก็ดีที่ไม่ต้องทนสงสัยนาน อยากรู้เหมือนกันว่าข้างในจะซ่อนอะไรไว้บ้าง หวังว่าไอ้เท็นจะทำให้เขาประทับใจ

มือแกร่งควานหาสวิตซ์ไฟ เพียงครู่เดียวแสงสีซีเปียก็สว่างเพื่อให้เขาได้เห็นว่าที่นี่คือห้องเก็บของ ก็ไม่ได้น่าผิดหวังเสียทีเดียว เพราะทันทีที่เห็นอย่างนี้แล้วแจ็คก็ได้แต่คิดว่า ‘อะไรกันล่ะที่คนอย่างไอ้เท็นอยากเก็บไว้ในห้องนี้พร้อมลงกลอนอย่างแน่นหนา?’ ขายาวก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกวาดสายตาไปรอบ ๆ ตัว มองผ้าสีขาวที่คลุมสิ่งของไว้


ก่อนจะเริ่มดึงผืนแรกที่อยู่ใกล้มือออกก่อน





*




(ต่อด้านล่างนะคะ)



หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 08-03-2019 20:11:59



ญาติพี่น้องล้อมปู่อยู่ข้างเตียงคนไข้ เท็นแยกตัวออกมาหายใจข้างนอกหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับความกดดันที่ญาติฝ่ายพ่อมอบให้อย่างน่าหงุดหงิด เขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้น และคิดว่าเด็กสมัยนี้ก็คงมีคนที่จำเป็นต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกับเขาเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็คือการอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่หัวโบราณที่มีตรรกะเพี้ยนยิ่งกว่ามนุษย์อย่าง TEN1O

‘คนรวยคือคนประสบความสำเร็จ’

ก็ไม่เถียง เพราะนั่นก็เป็นเรื่องจริงส่วนหนึ่งที่เห็น ๆ กันอยู่ เท็นไม่สามารถอ้าปากแย้งได้เลยว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตได้มันมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่การเป็นคนรวยอย่างเดียว บางคนอาจจะมีชีวิตคู่ที่ดี ได้ทำงานที่รักแม้ว่าเงินเดือนอาจจะน้อยกว่าที่พ่อแม่คาดหวังไว้ อะไรเหล่านั้นมันขึ้นอยู่กับว่าใครคนหนึ่งจะพอใจ แต่สุดท้ายความรวยก็ยังไม่ใช่คำตอบของเขา

‘แค่มันเลี้ยงตัวเองได้ผมก็พอใจแล้ว’

สีหน้าพ่อตอนพูดโคตรกระอักกระอ่วน นึกเห็นใจเหมือนกันที่ลูกคนนี้ไม่สามารถทำให้ท่านยืดอกอย่างภาคภูมิใจได้

‘งานจากการเล่นเกมเหรอ ไม่เอาน่า จะสามสิบแล้วนะเท็น โตได้แล้ว’

เสียงของลุงแทบไม่ได้แฝงไปด้วยความเป็นห่วงเพราะเขาสัมผัสได้แต่การเหยียดหยัน เท็นแค่ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ และยืนฟังการโอ้อวดถึงลูกชายตนเองที่ได้ดิบได้ดีจากการทำธุรกิจ

เดินหาจุดอัดควันแล้วควักบุหรี่ออกมาสูบ ชายหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้าไร้ดวงดาวแล้วก็เหงาพิลึก คงเป็นเพราะพักหลังเคยชินกับการมีเพื่อน พอออกมาอยู่ในจุดที่โคตรเนือยหนังหน้าแล้วก็อยากชิ่งกลับบ้านจริง ๆ

ป่านนี้ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ และเพราะความอยากรู้เท็นจึงดับความสงสัยด้วยการกดเข้าแอพลิเคชั่นกล้องวงจรปิดในโทรศัพท์มือถือ หวังว่าตอนนี้ไอ้แจ็คจะยังอยู่ที่นั่น เพราะถ้าภาพฉายขึ้นมาแล้วพบว่าลูกรักคาบของมาฟัดจนเละเทะโดยไม่มีคนดูแล งานนี้คงต้องมีตามไปล้างแค้นถึงร้านซักรีด

“ถามจริง?”

ชายหนุ่มเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากเชื่อสายตาที่เห็นว่าไอ้แจ็คกำลังนั่งดูทีวีโดยมีพี่ซันนอนเอาคางเตยตัก แถมมือนั่นก็ลูบขนมันช้า ๆ ทั้งที่ยังให้ความสนใจอยู่กับจอแก้ว เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ไหวต้องแคปรูปไว้ล้อ เวลามันด่าว่าลูกเขากากอย่างนู้นอย่างนี้จะได้เอาคืน

ว่าแต่มูนไปไหน บนชั้นฟิกเกอร์ก็ไม่มี หรือว่าไอ้เวรนั่นไล่ที่ให้ลูกสาวเขาไปนอนในที่ต่ำ ๆ ไม่ได้นะนั่น เห็นอย่างนั้นก็อยู่ในระดับเจ้าหญิงดิสนีย์ มูนต้องอยู่บนที่สูงเท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับเกียรติในบ้านหลังนี้

( ม๊าว... )

( อะไร )

( ม๊าววว )

( ไม่ได้นั่งทับหางเลย ดูสิ แล้วใครบอกให้มานอนตรงนี้ ไปโน่นเลย อะไร ไม่อยากไป? )

( ม๊าว )

( ขนมไหมล่ะ ถ้าได้แล้วต้องเลิกส่งเสียงนะเข้าใจเปล่า? )

เชี่ย... มีพูดกับแมวด้วย...

( ซันลุกก่อน น้องจะกินขนม )

ไอ้ฉิบหาย พูดจากับหมาแมวโคตรน่ารัก – ไม่ เขาหมายถึงว่าคำพูดคำจาของมัน ไม่ใช่ว่าไอ้เวรนั่นจะดูน่ารักขึ้นเพราะคำพูด

บุหรี่เริ่มไหม้จึงรีบกะเทาะลวก ๆ แล้วกดปุ่มหันมุมกล้องให้ไปตามเจ้าของร่างผอมสูงซึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้าไปในครัว แต่ก็แค่ไม่กี่วิเท่านั้นที่เท็นได้มีโอกาสแอบมองเพื่อนสนิทและลูก ๆ ไอ้คนฉลาดก็ถอยหลังกลับมาหยุดอยู่หน้ากล้องจนคนมองต้องผงะเล็กน้อย

“...”

คิ้วคู่นั้นขมวดมุ่น เอียงศีรษะสังเกตความผิดปกติกับกล้องวงจรปิดพร้อมยื่นหน้าเข้ามาจนเขาต้องเอาโทรศัพท์ออกไกล ๆ เท็นหันไปอีกทางก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเพราะสายตาลุงคนหนึ่งที่นั่งอมควันไม่ห่างจากตรงนี้ เขาจึงบี้บุหรี่ทิ้งแล้วเดินออกไปหาพื้นที่ส่วนตัว

( ฮัลโหล )

เจ้าของเสียงมาพร้อมนิ้วที่เคาะกล้องวงจรปิด เท็นหันหน้าไปอีกทางพลางเสยผมระหว่างตั้งสติ แล้วบอกตนเองว่ามันก็แค่การคุยกับเพื่อนผ่านแอปกล้อง ไม่ได้มีเรื่องแปลกอะไรเลยสักนิด

( ไอ้เท็นเหรอ? )

“เออสิ ไม่ใช่กูแล้วจะเป็นใคร?” เสียงแข็งใส่ไอ้แจ็คทำไม อยากเอาหัวโขกผนังจริง ๆ

พี่ซันรีบวิ่งมาทันทีที่ได้ยินเสียงพ่อ พร้อมกระโดดสองขาจนไอ้แจ็คต้องคว้าเอาไว้

( เผื่อเป็นแม่บ้าน หรือพลังงานบางอย่างที่ทำให้กล้องขยับเองได้โดยไม่ต้องใช้แอป )

“กลัวผีก็บอก”

( ลูกมึงน่ากลัวกว่าเยอะ )

“อย่ามา กูเห็นมึงนั่งนัวเนียกันอยู่นานสองนาน หลงรักลูกกูแล้วสินะ”

( แอบดูอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่ส่งเสียงเรียกเลยนี่มันยังไงวะ? )

“กูอยากส่องลูกเฉย ๆ ไม่ได้อยากคุยกับมึงอะ”

( งั้นกลับมาก็อยู่คนเดียวไป ไม่ต้องโผล่หนังหน้าไปหากูที่บ้านนะ )

“ไม่ได้ดิ ล้อเล่นนิดเดียวเองเปล่า ขี้น้อยใจเหรอเราอะ?”

( ว่าไม่ได้ ยิ่งใกล้เลขสามใจก็ยิ่งบอบบาง ถ้าปากมึงพูดไม่น่าฟังกูพร้อมจะบิดมอ’ไซค์หนีกลับบ้านนะ บอกไว้ก่อน )

“กูง้อแต่เมีย เพื่อนไม่ง้อ”

( แล้วผัวล่ะง้อไหม? )

“ผัวเชี่ยไร ใครจะไปมีแบบนั้น?!” สาบานว่าถ้าอยู่ใกล้ ๆ จะถ้าเรื่องเอาตีนยันให้มันล้มสักที

( ไม่รู้ ถามไว้เพราะเมื่อกี้ออปชั่นผัวหาย )

“เพื่อนร่วมทีมชอบผู้ชายหมดมึงเลยเขวไปด้วยหรือไงวะ?”

( ไอ้ธีร์กับไอ้โซ่คบกัน ไอ้แหลมก็ย้ายบ้านเข้าไปอยู่กับเจ้านายกูแล้ว กูอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้ )

“ก็เลยหวั่นไหวกับผู้ชายไปแล้ว?”

( ... )

“อะไร เงียบแบบนี้แสดงว่าใช่ มึงปิ๊งใครวะแจ็ค?” เท็นขมวดคิ้ว เริ่มใจไม่ดีแล้วถ้าอยู่ ๆ ไอ้เวรนี่นึกจะชอบใครอีกครั้ง เขาไม่ชอบเลยให้ตายเหอะว่ะ

( เปล่า อยู่กับมึงทุกวันแบบนี้กูจะไปชอบใครได้ )

“...”


ยังไง ทำไมรู้สึกเหมือนโดนฮุค


( เรื่องนั้นช่างเถอะ ว่าแต่ที่โน่นเป็นไงบ้าง? )

“ก็ปกติดี ญาติมาเยอะปู่ก็แฮปปี้”

( แล้วมึงโอเคไหม? )

“ไม่ค่อยว่ะ แต่อดทนได้อยู่”

( คืนนี้นอนไหน? )

“โรงแรม กูไม่อยากไปนอนบ้านปู่น่ะ ญาติเยอะวุ่นวาย เดี๋ยวก็ดีเบตกันเรื่องลูกใครเก่งที่สุดอีก ปวดกะโหลก กูไม่ได้เกิดมาเพื่อให้ถูกจับไปเปรียบเทียบกับใครเปล่าวะ?”

( กูน่าอิจฉาขึ้นมาทันทีเลย )

“ก็นั่นน่ะสิ”

ทั้งคู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะทิ้งจังหวะให้กับความเงียบ เอาเข้าจริงประโยคนั้นก็ยังคงก้องอยู่ในหัว แม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปแล้ว

( อยากบอกให้อดทน แต่กูคิดว่ามึงก็คงทำอย่างนั้นอยู่แล้วโดยที่กูไม่ต้องพูด )

“พอไม่ได้ใส่สูทผูกไท กูก็กลายเป็นคนไม่มีความสามารถในสายตาญาติ ๆ เลยว่ะ”

( แล้วสายตาคนพวกนั้นสำคัญกับชีวิตมึงหรือเปล่าล่ะ? )

“ถ้าตอนนี้ก็มีบ้าง แต่ถ้าในชีวิตประจำวันก็ไม่”

( งั้นไม่ต้องสนใจได้ไหม คำพูดใครก็ไม่สำคัญเท่าคนที่คอยอยู่ให้กำลังใจมึงแล้วก็สนับสนุนทุกอย่างที่มึงอยากทำหรอก )

“เช่นใคร มึงเหรอ?”

( พูดมาขนาดนี้เดาไม่ออกก็ควายแล้วเท็น )

“ตอบมา มึงหรือเปล่า?”

( เออ กูเอง พอใจไหม สนใจแต่คำพูดกูกับคนที่รักในฝีมือมึงก็พอแล้ว )

ฆ่าตัวตายชัด ๆ เหมือนยื่นมีดให้มันเอามาแทงหน้าอกข้างซ้ายตัวเองเลย บอกไม่ถูกเลยโว้ย ทั้งที่อยากได้ยินคำพูดเหล่านั้นแต่ก็กลัวที่จะได้ยิน

“เห็นหน้ามึงกูก็หิวเลยว่ะ”

( ยังไม่กินข้าวหรือไง? )

“เออ โคตรหิวเลย”

( ไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยกลับมาคุย )

“อยากกินผัดพริกเผาเนื้อ ใส่ข้าวโพดอ่อนเยอะ ๆ”

( แถวนั้นมีร้านตามสั่งไหมล่ะ? )

“ไม่น่าจะมี กูอยากกินจริง ๆ นะแจ็ค”

( ถ้าไม่มีก็แดกอย่างอื่นไปก่อน อย่าง้องแง้ง )

“กูแค่บ่นเฉย ๆ อดทนฟังกูหน่อยได้ไหมล่ะเพื่อน?” พอพูดว่าหิวปุ๊บท้องก็ร้องปั๊บ ซื่อสัตย์กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

( ไว้กลับมาแล้วจะทำให้แดก เพราะงั้นหาอย่างอื่นกระแทกปากก่อนไป )

“ใจดีจังครับขี้ข้า”

( มันถึงเวลาที่มึงจะเรียกกูว่าพ่อแล้วไหมวะ? )

“ก็แย่ละ”

ทั้งคู่หัวเราะ จนถึงตอนนี้ก็แทบจะลืมไปแล้วว่าบรรยากาศในห้องผู้ป่วยมันอึดอัดแค่ไหน คงเป็นเพราะได้พูดคุยกับคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เหมือนอะไร ๆ จะดีขึ้นได้ถ้าโลกของเขามีไอ้แจ็ค

“ทำอะไร เดี๋ยว มึงไปเอามันมาได้ไง?”

เท็นหุบยิ้มทันทีที่เห็นว่าไอ้แจ็คเดินไปหยิบสมุดเล่มใหญ่มาพร้อมชูให้เขาเห็นชัด ๆ ว่าสมุดเฟรนด์ชิปตอนมอหกนั่นไม่ได้อยู่ในห้องเก็บของแล้ว

( เอากุญแจไขเข้าไปไง )

“แต่นั่นมันของส่วนตัวกูนะเว้ย แล้วมึงได้แตะต้องของชิ้นอื่นไหม?” อยู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงหายนะ เท็นขอขีดฆ่าคำว่าโลกของเขาจะดีขึ้นถ้ามีไอ้แจ็คทิ้งไปเพียงเพราะเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ของมันตอนนี้

( ชิ้นอื่นนี่อันไหน หนังสือเพลงที่มีปิ๊กกีต้าร์ข้างใน หรือว่ากีต้าร์ที่มึงเคยบอกว่าเลิกเล่นแล้ว? )

“ไอ้ฉิบหายเอ๊ย... ทำไมมึงขี้เสือกแบบนี้วะแจ็ค?”

( กูแค่จะเข้าไปทำความสะอาดให้เฉย ๆ แล้วดันบังเอิญเจอ ไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลย )

“มีดิ ทุกอย่างในนั้นน่าอายหมดนั่นแหละ”

( มึงเก็บตั๋วหนังไว้เยอะกว่ากูอีก )

“มันแค่ติดกระเป๋ากางเกงมา เดี๋ยวว่าจะเอาไปทิ้งแล้ว”

( มีเวลาทั้งชีวิตเสือกคิดจะเอาไปทิ้งอะไรเอาป่านนี้ ว่าแต่กูเขียนเฟรนด์ชิปได้ไหม? )

ในเล่มนั้นมีลายมือเพื่อนเกือบทุกคนยกเว้นไอ้แจ็ค ไอ้ธีร์ แล้วก็บลู เท็นกุมขมับกับความน่าอายที่ไม่เข้าใจว่ามันแย่ตรงไหน ทั้งที่บอกตัวเองว่ามันก็แค่เฟรนด์ชิปที่ไอ้แจ็คคงอยากเขียนย้อนหลัง แต่อีกใจมันก็คิดไปไกลว่าคำพูดไอ้แจ็คจะออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งเขาตื่นเต้นฉิบหายจนอยากกลับบ้านไปอ่านเดี๋ยวนี้เลย

“มันไม่มีหน้าว่างให้มึงหรอก”

( หน้าสุดท้ายยังว่าง ดูสิ )

ไอ้แจ็คเปิดเฟรนด์ชิปเก่า ๆ ก่อนมันจะลดระดับสมุดเล่มนั้นลงจนเห็นเพียงดวงตาคมคู่นั้น

( มึงเว้นไว้ใครเปล่าวะ? )

เท็นกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ นึกถึงตอนกำลังจะจบมอหกที่ทุกคนแลกกันเขียนให้วุ่น ตอนนั้นผองเพื่อนมากมายต่างมาเขียนเฟรนด์ชิปให้ และเขาก็เอามือปิดหน้าสุดท้ายไว้ เพราะต่อให้ใครคนหนึ่งจะไม่ได้จรดปลายปากกาลงไป แต่เขาก็ยังอยากให้ความว่างเปล่าบนหน้านั้นเป็นของไอ้แจ็คอยู่ดี

“หมาสักตัวนึงน่ะ”

ไม่อยากตอบว่า ‘มึง’ เพราะรู้ตัวว่าจะต้องรู้สึกแปลก ๆ อีกแน่ ไอ้แจ็คไม่ควรถามอะไรโง่ ๆ แบบนั้นเลยไหม ก็แค่เซ็นลงไปก็จบแล้วจะถามอะไรให้มันมากความนัก

( โฮ่ง )

อืม เขามองไอ้คนส้นตีนที่เห่าพร้อมก้มหน้าจรดปลายปากกาลงไปยังหน้าสุดท้าย เท็นไม่รู้จะจัดการตัวเองอย่างไรกับหน้าอกข้างซ้ายที่มันเต้นแรงขึ้นเหมือนมีคนมารัวกลองชุดใหญ่จนตอนนี้เหงื่อออกไม่หยุดแล้ว

มันอะไรกันนักหนาวะ ไอ้ห่าเอ๊ย บอกให้เป็นหมาก็จะเป็นงั้นเหรอ เชื่องว่าพี่ซันก็ไอ้เชี่ยนี่แล้ว




TBC





ใครจะยกพวกตีกันยังไงเท็นไม่สน เพราะเท็นจะตีกับตัวเอง




หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-03-2019 20:43:09
ละอองหวานๆนี้มันอะไรอะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 08-03-2019 21:18:36
น้องเท็นนนนนนนน คุณพี่อิจฉามากกกกกกค่ะหนูต้องดูแลพี่แจ็คดีๆนะคะอย่าปล่อยให้หลุดมือเพราะพี่เค้าคือ best husband ของพี่นะคะมีอะไรต้องพูดกันค่ะ ชอบก็บอกว่าชอบ รักก็บอกว่ารักพี่เขาไปเราต้องซื่อตรงต่อหัวใจค่ะ ไม่งั้นพี่ส่งนังบลูมาเป็นมารนะคะ :hao3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-03-2019 21:55:01
ความตะมุตะมิบังเกิดขึ้นแล้ว


ความครอบครัวแม่ไม่อยู่


พ่อต้องดูแลลูกๆเล่นกับลูก


โอ๊ย ใจฉันบาง เห็นเขาแอ๊วกัน

น่ารักกว่าพี่ซันกับน้องมูน

ก็ความพ่อความแม่ของแจ๊คเท็นนี่แหละ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 08-03-2019 23:08:34
น่ารัก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 09-03-2019 02:28:51
นี่เขากำลังจีบกันโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า ทำไมมันฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งจริงๆเลย //เพื่อนกันแกอะคิดมากกก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 09-03-2019 11:31:10
งุ้ยยยย ทำไมรู้สึกว่ามันมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วอะไรแบบนี้ล่ะคะ
ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน แล้วไหนจะยังก็แจ็คซันมูนแบบที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นแจ็คในมุมที่มานั่งคุยกับหมาแมวอย่างนี้

เราจะมาดูกันว่าระหว่างแจ๊คกับเท็น ใครจะรู้ตัวและบอกความในใจก่อนกันว่าเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ เอาจริงๆ คิดว่าต่างฝ่ายอ่ะต่างก็ต้องรู้สึกยุบยิบอะไรในใจบ้างแหละ เพียงแต่ตอนนั้นยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ อาจจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของทั้งคู่มันคือความสัมพันธ์แบบไหน ความรักความห่วงใยที่มีให้กันมันเป็นในรูปแบบเพื่อนหรือลึกซึ้งกว่านั้น

ชอบการแสดงออกเวลาที่แจ็คอยู่กับเท็นจังเลยค่ะ ปกติกว่าจะพูดอะไรออกมาที แถมหน้าก็นิ่งไปอีก แล้วก็ไม่ขี้เล่นขนาดนี้ แต่กับเท็นนี่คือ ดูเป็นตัวเองสุดสุดไร้การคีพลุคใดๆ หวีดแจ็คเวอร์ชั่นนี้มากกกกกก แอบเกรียน แต่รู้สึกว่าเป็นผู้ชายอบอุ่นมาก ใจบางไปหมดเลยยย T^T
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: วาย ร้าย ที่ 10-03-2019 04:34:05
อหๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แม่ขาเขารักกันนนนนนนนน
ฉันเขินไม่ไหวแล้วคุณณณณณณณ
แก้มจะแตกว้อยยยยยย เอาเล่มมาค่ะ พี่จะเปย์ ฮือออออออออ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 11-03-2019 10:27:29
เดี๊ยนสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง  :katai5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-03-2019 12:19:32
แจ็คเพลา ๆ หน่อยอีกคนใจระรัวไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน16 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (8/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 11-03-2019 23:14:32
บรรยากาศค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว :katai2-1:
สองคนนี้เขาจีบกันแบบซึนๆดีนะคะ ชอบบบบบ :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 13-03-2019 15:17:57
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 17
ปั่น (PART 1/2)




“เฟรนด์ชิปอยู่ไหน?”

“มึงตามมาถึงที่นี่เพราะเรื่องนี้น่ะเหรอ?”

เขามองคนที่ยืนอยู่ด้านล่างสุดของบันไดทางเข้าออฟฟิศ จ้องมาอย่างจริงจังเหมือนอยากบอกว่าที่พูดไปนั่นคือเรื่องใหญ่ระดับโลก พอเขาไม่ตอบก็บึ่งรถมาหาถึงที่ทำงาน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมว่าสถานที่แบบนี้มันเข้าออกง่ายหรือไม่ ดีนะพี่ที่ทำงานเป็นกันเองและบอสก็ไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นมีหรือเขาจะโผล่หน้าออกมายืนตากไข่ข้างนอกได้

“ช่วยไม่ได้ มึงดันไม่ตอบไลน์ โทรไปก็ไม่รับอีก”

“มึง วันนี้วันจันทร์ มันเป็นวันที่คนทั้งโลกเขาตื่นมาทำงานกัน”

“แล้วมันก็เป็นวันที่มึงกวนตีนเมินกูด้วย” ไอ้เท็นว่าพลางจ้ำขึ้นบันไดมาอย่างเอาเรื่องแล้วหยุดอยู่ขั้นที่สูงระดับเดียวกับเขา “แล้วมึงก็ชิ่งกลับบ้านตอนที่กูบอกว่าถึงสนามบินแล้ว เห็นไหม มึงจงใจกวนตีนกูชัด ๆ”

“เลอะเทอะ กูจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?” เขาตีมึนคว้าซองบุหรี่ออกมากะเทาะ แต่ยังไม่ทันได้จุดไฟแช็กไอ้เท็นก็เข้ามาล็อกคอพร้อมออกแรงงัดจนรปภ.ที่อยู่ป้อมหน้าประตูทางเข้าหันมามอง “อั่ก!!!”

“เฟรนด์ชิปกูอยู่ไหน?!!!”

“วางไว้แถว ๆ หน้าทีวีไง -- ถ้าไม่เห็นแสดงว่าไอ้ซันคาบไปยำ”

“ส้นเกือกเถอะ ลูกกูแทะแต่ทิชชู่ไม่เคยแทะอย่างอื่น อย่ามาใส่ร้าย”

“อั่ก!! ไม่งั้นก็อี --”

“ยังอีก?” ไอ้เท็นออกแรงจนเขาต้องตบแขนมันเหมือนนักมวยปล้ำตอนยอมแพ้ แต่ถึงอย่างนั้นไอ้ลิงหัวเทาก็ไม่ยอม “มึงเอาไปซ่อนไว้ไหน?”

“อยากรู้ก็ลองหาเองสิ ดีกรีโปรเพลย์เยอร์อย่าง TEN1O แป๊บเดียวก็หาเจอแล้ว”

“บ้านสองชั้นนะไม่ใช่ห้องเช่ารูหนูที่หันไปปุ๊บจะเห็นปั๊บ”

“หันปุ๊บเห็นปั๊บเลยเหรอวะ?”

“มึงจะลองดีกับกูสินะ?”

“อั่ก!”

“ไม่บอกที่ซ่อนเฟรนด์ชิปไม่เท่าไหร่ แต่เสือกชิ่งหนีกลับทั้งที่กูเอาของฝากมาให้นี่มันน่าเตะก้านคอนัก”

“มีเหรอ ไหนเอามา” ไอ้เท็นยังใช้ความรุนแรงกับเขาแต่ก็เบากว่าในทีแรก แจ็คแบมือออก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังสนุกไปกับการแกล้ง และเขารู้สึกดีเหลือเกินที่บรรยากาศมันไม่ได้แปลกไปกว่าตอนสมัยเรียนมัธยม

“กูทิ้งไปแล้ว”

“ตอแหลกูละ เอามาเร็ว ๆ”

“ทีอย่างนี้แล้วมาเร่ง กวนตีนมากก็ไม่ต้องแดก”

“อะ เรื่องกินเรื่องใหญ่ งั้นเอางี้ไหม ถ้ามึงเอาของฝากมาให้ เดี๋ยวกูบอกจุดซ่อนไอเทมลับ”

“มันใช่เรื่องที่กูต้องยื่นหมูยื่นแมวกับมึงเหรอหื้อ?”

“มันก็แค่เฟรนด์ชิปที่เคยอยู่ในห้องเก็บของเองไม่ใช่เหรอวะ มึงจะเดือดร้อนอะไรนักหนา หรือว่าอยากอ่านหน้าที่กูเขียน?”

“ถ้าใช่แล้วยังไง มึงมีปัญหาไหม?”

ไอ้แจ็คไม่ได้ตอบเพราะจู่ ๆ บรรยากาศก็เปลี่ยนไปเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังมองอยู่ ทั้งคู่ค่อย ๆ หันไปทางด้านขวาก่อนจะพบชายชุดสูทสุภาพยืนอยู่ด้านล่างของขั้นบันไดพร้อมแก้วกาแฟเงือกเขียวในมือ

“บอส?”

ทันทีที่ได้ยินคำนี้หลุดจากปากไอ้แจ็ค เขาก็รีบคลายวงแขนออกจากรอบคอคนสูงพอ ๆ กันพร้อมถอยหลังออกก้าวหนึ่ง เท็นยกมือไหว้ผู้มาใหม่ตามเพื่อน และระหว่างนั้นก็รู้สึกได้ถึงแววตาแปลก ๆ ที่มองมาเหมือนว่ากำลังจับผิดอย่างไรอย่างนั้น

“ไม่มีงานทำเหรอครับแจ็ค?”

สีหน้าลูกจ้างซีดเป็นไก่ต้ม ตอนนี้เท็นเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเพียงเพราะว่าตนเองอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนโดนด่าหรือลดเงินเดือน ซึ่งบอสที่ว่าคงไม่ใช่ชื่อเล่นหรือตำแหน่งรปภ.แน่ ๆ ฉิบหายแล้วแจ็ค โทษทีว่ะ

“พอดีแม่ผมเข้าบ้านไม่ได้ เพื่อนผมก็เลยอาสามาเอากุญแจให้น่ะครับ”

“เพื่อนคุณ?” ชายชุดสูทขมวดคิ้วพลางหยุดสายตาอยู่ที่เจ้าของผมสีเทาซึ่งดูจะประหม่าอยู่ไม่น้อย “นึกว่ามีแค่ธีร์ซะอีกครับ”

“ถึงไอ้แจ็คจะดูเหมือนคนไม่มีใครคบ แต่ผมก็ยังเป็นหนึ่งในส่วนน้อยนั้นครับ”

“หุบปากไป...” แจ็คเอนตัวไปกระซิบเพื่อนเบา ๆ ตอนนี้ทั้งคู่เหมือนเด็กมอปลายที่กำลังถูกครูห้องปกครองเรียกไปอบรมหลังจากทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียน

“ไม่เป็นไรครับ เรื่องแบบนี้เข้าใจกันได้ เพราะกุญแจบ้านผมก็เคยหายเหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่ฝีมือผม เพราะมีคน ๆ หนึ่งเอาไปซ่อน”

“บอสก็ยอมมันเกินไป แข็งข้อบ้างก็ได้ครับมันจะได้ไม่เหลิง” จนถึงตอนนี้แจ็คก็ยังสงสัยว่าเจ้านายของเขาทนได้เด็กกะโหลกนั่นไปได้อย่างไร ปัญญานิ่มก็ที่หนึ่ง ขวางโลกก็ไม่แพ้ใคร

นับว่าเป็นเรื่องดีที่ไอ้แจ็คเคยเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับน้องรักผีห่าของมัน ไม่อย่างนั้นบทสนทนาเมื่อครู่นี้คงมีคนงงแดกอยู่ไม่น้อย

“ว่าแต่บ้านเพื่อนคุณอยู่ในซอยเดียวกันเหรอ?”

“ใช่ครับ / ไม่ใช่ครับ”

สองเพื่อนซี้หันไปถลึงตามองกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ทั้งที่คิดว่าเคยรู้ใจกันแต่ไอ้ห่าเท็นก็เสือกโง่ขึ้นมาฉับพลันอะไรเอาตอนนี้

“สรุป?” ชายใส่สูทเลิกคิ้วมอง พูดกันตรง ๆ เลย เขาว่าบอสไม่ได้อยากรู้ที่มาที่ไปอะไรของไอ้เท็นหรอก แต่บอสน่ะ...

“บางทีผมก็ไปค้างบ้านมันครับ ก็เลยเหมือนอยู่ด้วยกัน”

“มันชอบไปขอข้าวบ้านผมกินน่ะครับบอส”

“มึงก็ชอบกินมาม่าบ้านกูฟรีเหมือนกันเหอะ”

“หกบาทกับสามสิบมึงคิดว่าอะไรแพงกว่ากัน ต้องให้งัดเครื่องคิดเลขขึ้นมาบวกลบไหม?”

คนเป็นเจ้านายมองภาพตรงหน้าพลางยิ้มเล็ก ๆ อย่างประหลาดใจ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นแจ็คมีมุมแบบนี้ ปกติเวลาเล่นกับพวกเชร์ผู้ชายยิ้มยากก็ยังมีเฮฮาบ้าง แต่ก็ไม่เคยเห็นเล่นเป็นเด็กและดูธรรมชาติได้มากอย่างที่เห็น

“ชื่ออะไรเหรอครับ?”

“อ่า เท็นครับผม”

“เอ... ทำไมผมถึงคุ้นชื่อนี้แปลก ๆ นะ... คุณเคยเล่าให้ผมฟังหรือเปล่าแจ็ค?” กันต์หันไปทางลูกจ้างที่รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันทีโดยไม่เสียเวลาคิด แล้วถ้าอย่างนั้นเขาจะไปได้ยินมาจากไหน?

“ชื่อผมอาจจะโหลน่ะ” เท็นยิ้มแห้งพลางมองเพื่อนสนิทกับเจ้านายมันสลับกัน “งั้นผมกลับก่อนนะครับ ได้กุญแจแล้วด้วย เดี๋ยวแม่มันรอ”

“เดี๋ยว”

ยังก้าวบันไดลงไม่ถึงชั้นล่างสุดเท็นก็เอี้ยวตัวหันกลับไป ผู้ชายใส่สูทคนนั้นล้วงมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและยังคงยิ้มเล็ก ๆ ตอนมองมา หรือจะนึกออกแล้วว่าเคยได้ยินชื่อเขาจากปากใครสักคนในแก๊งขี้ซุยบราเทอร์จนเผลอรู้สึกไม่ดีไปด้วย

“คุณเล่นเกมหรือเปล่า?”

“เล่นครับ...?”

“ดีเลย” กันต์เดินไปถึงหน้าประตูก่อนจะหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับไปมองชายหนุ่มผมสีเทาอีกครั้ง “มันคงดีนะครับถ้าคราวหน้าคุณจะมาที่นี่อีก แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องแม่แจ็คทำกุญแจหาย”

“...” เจ้าของชื่อคิ้วกระตุกนิด ๆ ถ้าไม่นับเรื่องบ้าอำนาจกับความประสาทแดกของบอสช่วงปีก่อน ๆ แจ็คก็อยากนับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่ชอบใจกับคำพูดเมื่อครู่

“มันเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตครับ คงไม่ว่างมาที่นี่บ่อย ๆ หรอก”

“อ่า อย่างนั้นเหรอ ผมเห็นเขาว่างพอที่จะมาเอากุญแจให้แม่คุณได้ก็เลยลองชวนดูน่ะ”

“ก็แค่วันนี้ครับ แล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะมานี่ที่ด้วย”

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าแจ็ค หน้าตึงเชียว?”

เท็นมองทั้งคู่สลับกัน อยู่ ๆ บรรยากาศก็เปลี่ยนจากตลกแดกเป็นซีเรียสเสียอย่างนั้น คราวนี้เขาเดาสถานการณ์ไม่ออกเลย

“ผมแค่อยากให้คุณมาเพราะเผื่อว่าจะมีไอเดียเจ๋ง ๆ ให้แจ็คน่ะ ช่วงนี้เขาคงต้องการแรงใจน่าดู” คนเป็นเจ้านายว่าพลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม “อ้อ ผมหมายถึงแรงบันดาลใจน่ะ ขอโทษที่ใช้คำผิด พอดีภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่”

เท็นเลิกคิ้วพร้อมยิ้มแห้ง ๆ รับคำอธิบายที่ผู้ชายคนนั้นควรบอกไอ้แจ็ค ไม่ใช่เขาคนนี้

“พักเที่ยงพอดี เราไปกินตามสั่งด้วยกันสักจานดีไหมครับบอส?”

“ถ้าคุณเลี้ยงมันก็น่าสนใจดีทีเดียว”

“...”

กันต์ลดระดับสายตามองลูกจ้างที่ตบกระเป๋ากางเกงตัวเองโชว์เหมือนอยากบอกว่าพร้อมจ่ายเสมอถ้าเป็นข้าวร้านตามสั่งที่มันสามารถห้ามปากเขาไม่ให้พูดอะไรอีกได้

“งั้นกูกลับนะ?”

“ดี มึงกลับไปเลย” เท็นอ้าปากสบถ ‘เอ้า’ แบบไม่มีเสียงกับคำตอบเพื่อนที่ดูมึนตึงผิดปกติ

อยากเสือกก็อยากเสือก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ควรอยู่ตรงนี้ ชายหนุ่มผมเทาได้แต่หวังว่าเพื่อนกับเจ้านายจะได้คุยกันดี ๆ โดยไม่มีใครถูกหักเงินเดือนไปเพราะเพื่อนมาเพ่นพ่านหน้าบริษัทเกมที่กำลังซุ่มเริ่มโปรเจ็กต์เกมใหม่


*


“ชัดเจนมากว่าคุณโมโหผม ง้อด้วยเงินสามพันได้ไหมครับ ในกระเป๋าผมมีเงินสดอยู่แค่นี้”

กันต์ล้วงกระเป๋าเงินออกมากรีดให้ลูกจ้างที่กำลังจะเลื่อนขั้นเป็นรุ่นน้องคนสนิท พักหลังทั้งคู่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้นเมื่อมีวันซ้อมทีมในบ้านเขากับเชร์ จึงมีการนั่งจับเข่าคุยถึงแพลนการทำเกมใหม่ และแผนการตีตลาดที่จะต้องเรียกประชุมกันอย่างจริงจัง

แต่นั่นก็ไม่เคยทำให้แจ็คแสดงสีหน้าแบบนี้กับเขาเลยสักครั้ง

“ผมไม่ตลก”

“ก็น่าอยู่”

“บอสคิดอะไรอยู่ บอสมีไอ้แหลมทั้งคนแล้วนะครับ”

“อ๋อ”

นอกจากจะไม่แก้ตัวแล้วยังจะยิ้มระรื่นอีก ท่ามกลางสาวออฟฟิศโต๊ะอื่นที่แอบมองเขิน ๆ อยู่เป็นระยะ แจ็คก็กำลังขมวดคิ้วคาดคั้นเอาความจริงจากปากเจ้านาย ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังเดียวกันกับไอ้แหลมอย่างจริงจังมีหรือเขาจะรู้สึกแบบนี้

“เห็นสายตาตัวเองตอนมองเพื่อนผมไหม?”

“ผมมองเท็นไม่ได้เหรอ?”

“คนมีแฟนแล้วเขาไม่มองคนอื่นแบบนั้นหรอกบอส”

“วันนี้กินอะไรดีจ๊ะสุดหล่อ” แม่ค้าเดินมารับออเดอร์พร้อมปากกาและสมุดขนาดเหมาะมือ

“กะเพราไก่สอง จานหนึ่งไม่ใส่พริกนะครับ -- ผมชักอยากรู้แล้วสิว่าคุณโกรธแทนเชร์หรือว่าหวงเพื่อนกันแน่?”

“มันก็ทั้งสองอย่าง เวลางานผมเคารพบอสนะครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังพูดในฐานะพี่ไอ้แหลม”

“แน่ใจมากแค่ไหนครับว่าในฐานะพี่อย่างเดียว?”

“ก็ครับ?”

“ก็ครับคือ?”

“ทำไมวันนี้บอสดูเข้าใจยาก ลองให้ไอ้แหลมมาเห็นบอสมองไอ้เท็นด้วยสายตาแบบนั้นดูไหมล่ะครับ จะได้รู้ไปเลยว่าใครจะระเบิดก่อน”

“ที่คุณพูดก็ถูก แต่คนระเบิดก่อนนี่จะใช่ผมหรือเปล่าเนี่ยสิ?” บอสขมวดคิ้วลูบคางทำหน้าครุ่นคิด แถมยังมองมาแบบกวนตีนอีกด้วย เอาเข้าไป วันนี้ทำไมเจอแต่คนอ้อนตีนไอ้แจ็คเต็มไปหมด

“เพื่อนผมไม่ได้ชอบผู้ชายครับ ปิดจ็อบ” พูดจบก็สับฝ่ามือตัวเองเบา ๆ และบอสก็พยักหน้าช้า ๆ เหมือนว่าจะเข้าใจ

“แล้วคุณชอบไหม?”

“ครับ?”

“คุณน่ะ คิดยังไงกับเรื่องชอบผู้ชายด้วยกัน” คราวนี้มีขยับเก้าอี้ให้นั่งอยู่ที่สบาย เหมือนว่าบอสพร้อมที่จะกระซวกไส้เขาออกมาสาวเล่นแล้วหัวเราะดัง ๆ

“ก็ไม่คิดยังไงครับ ผมเฉย ๆ”

“คุณเคยคิดหรือเปล่าว่าสักวันคุณอาจจะรู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกัน เคยสงสัยไหมว่าทำไมธีร์ถึงคบกับโซ่ได้นานเกินปี หลังจากเลิกกับผู้หญิงที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัย เคยสงสัยไหมว่าทำไมเด็กอย่างเชร์ถึงเลือกผม ทั้งที่เขาเองก็มีโอกาสไปเจอผู้หญิงสวย ๆ”

“บอส ผมว่ามันชักจะออกทะเลแล้ว ที่ผมอยากสื่อก็คือไอ้เวรนั่นมันไม่สนใจบอสหรอก”

“คุณพูดถูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สนใจคนอื่นนี่ครับ?”

“...”

“เรื่องบางเรื่องถ้าไม่มีใครพูดก็คงไม่มีทางรู้ด้วยตัวเองสินะ ใจคนเราซับซ้อนจริง ๆ โดยเฉพาะคนที่มีเส้นต้องห้ามขีดคั่นไว้เต็มไปหมด” กันต์พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ พลางยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

“...”

“ใกล้สงกรานต์แล้ว เชร์ชวนผมไปเล่นน้ำกับพวกคุณด้วยล่ะ บอกตามตรงว่าผมตื่นเต้นชะมัด ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นมานานเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว” บอสเปลี่ยนไปเรื่องอื่นหน้าตาเฉย หลังจากนั้นก็เกิดอาการเดธแอร์บนโต๊ะอาหารที่มีจานกระเพราไก่เป็นตัวช่วยแก้เก้อ

“ผมถามคำเดียว พูดเรื่องนี้แล้วจบเลย บอสครับ บอสสนใจเพื่อนผมหรือเปล่า?”

“เท็นไม่ใช่สไตล์ผม”

“ตอนแรกไอ้แหลมก็ไม่ใช่เหมือนกันบอสยังหน้ามืดรักมันเข้าไปได้เลย”

“แล้วยังไงครับ บ้าบิ่นแบบน้องคุณน่ะจะหาจากไหนได้อีก และถึงหาได้ก็ใช่ว่าผมจะอยากควบสอง อีกอย่าง ผมรักของผม ห้ามใช้คำว่าหน้ามืด” บอสชี้หน้าเขาอย่างเอาเรื่อง “แต่ใช้คำว่าผีเข้าได้”

“เดี๋ยวนี้ตลกเก่ง”

“น้องคุณสอนผมมาดี”

“เรื่องนั้นช่างก่อน เอาเป็นว่ามันไม่ควรมาที่นี่ ผมจะไม่เสี่ยงเด็ดขาด”

“กลัวผมเจอข้อดีเขาเหมือนที่คุณเจอหรือไง?”

“ผม?” ชายหนุ่มผมยาวชี้หน้าตนเอง “ไอ้เท็นมีข้อดียังไงบอสผมถามหน่อย?”

“ผมตอบไม่ได้หรอกเพราะผมไม่ได้สนิทกับเขา แต่คุณน่าจะตอบได้” บอสเอาทิชชู่เช็ดปากด้วยท่าทางแบบผู้ดีเขาทำกัน “ทำไมวันนี้กระเพราเผ็ดจัง”

“ก็จานนั้นมันมีพริก”

“อ้าว แล้วคุณก็กินของผมหน้าตาเฉยเลยนะแจ็ค ปากผมได้ไหม้กันพอดี ให้ตายสิ ผมอยากหาเรื่องหักเงินเดือนคน”

“โดนซะบ้าง” แจ็คเงยหน้ามองเจ้านายที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“ผมเป็นเจ้านายคุณนะ อย่างน้อยก็เวลางาน” คนกินเผ็ดไม่เก่งรีบควักเงินออกมาวางบนโต๊ะแล้วซับเหงื่อตามขมับด้วยทิชชู่

“งั้นหลังเลิกงานเรามาคุยเรื่องนี้กันใหม่”

“สงกรานต์นี้ชวนเท็นไปด้วยสิ เล่นกันหลายคนน่าจะสนุก”

“ผมไม่ชวน”

“งั้นเดี๋ยวผมชวนเอง”

“บอสไม่รู้จักมัน จะไปตามหายังไงให้เจอ?”

“ตอนแรกก็นึกไม่ออกครับ ไป ๆ มา ๆ เลยจำได้ว่าเชร์เคยเล่าให้ฟังเรื่องเพื่อนเก่าของคุณ ก็ถ้าเท็นไม่ได้มีสองคนน่ะนะ”

“อย่าไปฟังไอ้แหลมมาก มันก็พูดไปเรื่อย”

“เมื่อกี้ยังปกป้องน้องอยู่เลย ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้ล่ะครับแจ็ค?”

“เอาที่บอสสบายใจเถอะ” แจ็คเท้าศอกกับโต๊ะพลางกุมขมับ ไม่ว่าใครก็นึกสนุกเวลาได้ปั่นหัวเขาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง ไม่เว้นแต่แฟนมัน

กันต์เห็นท่าทีลูกจ้างคิดไม่ตกแล้วก็ยิ้มพอใจ เขาเอื้อมไปวางมือลงบนบ่ากว้างแล้วตบเบา ๆ แล้วสบตากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะกลับไปตามความคืบหน้าของเกมใหม่

“อย่าลืมเอาเฟรนด์ชิปไปคืนเท็นล่ะ ผมว่ามันคงสำคัญมากไม่แพ้กุญแจบ้านคุณเลย”

“บอส?”

“ผมไม่ได้แอบฟังนะ แต่คุณสองคนเล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันหน้าออฟฟิศอย่างนั้น ผมยืนอยู่ลาดพร้าวหกสิบมองมายังเห็นเลย”

เฮ้ย เดี๋ยวนี้บอสแม่งข้ามขั้นกวนตีนระดับแอดว๊านซ์แล้วเหรอวะ ไอ้เชี่ยแหลม มึง!!!!

“เฟรนด์ชิปซะด้วย ผมไม่ได้ยินคำนี้มานานมากแล้วนะเนี่ย”

“ไปเถอะบอส ไม่ต้องพูดแล้วนะครับ ถือว่าผมไหว้”

“เขียนอะไรลงไปนะ ผมเองก็ชักจะอยากรู้เหมือนเท็นแล้วสิ?”

“...” ได้แต่ลุกขึ้นทำมือหงิกงอเพราะออกเสียงด่าไม่ได้ แจ็คได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเหลืออดพลางทำท่ายืดเส้นยืดสายด้วยการกำหมัดต่อยอากาศ

“ผมเป็นเจ้านายคุณ” ประโยคนี้เบาลงแต่ก็มาพร้อมท่าทางกวนตีนแบบที่เอานิ้วชี้อกตัวเองแล้วชี้หน้าเขาพร้อมเดินถอยหลัง จังหวะนั้นก็ภาวนาขอให้สะดุดก้อนหินเอาจนหงายหลังสักดอกทีเถอะวะ จะได้ความจำเสื่อมไปให้รู้แล้วรู้รอด


เวรเอ๊ย เขาไม่ควรล่กกับเรื่องแบบนี้เลยไม่ใช่หรือไงวะ?




(จบครึ่งแรกจ้า)



บักแหลม มึ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 13-03-2019 16:45:22
พี่แจ๊คล่กแล้วววว 5555555
กราบแนบอกบอสค่ะ ที่มาช่วยชี้โพรงให้กระรอกตัวนี้
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Panza ที่ 13-03-2019 16:58:40
มีคนหวงเพื่อน 1 อัตราจ้ะ5555


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-03-2019 17:44:54
อู๊ยยยยย

ความหึงเพื่อน ความหวงเพื่อน

มาเต็ม มาเต็ม

ความดีความชอบของบอส

คืนนี้ให้อิเด็กกระโหลกออนท็อปให้เลย

อาการออกขนาดเน้พี่แจ็คน่าจะเริ่มรู้ตัวเร็วๆนี้

แล้วพ่อพี่ซันกับอิมูนล่ะ

ใกล้จะรู้ตัวหรือยัง

หรือว่าต้องให้บอสแสดงฝีมืออีกครั้ง

ถ้าบอสทำสำเร็จ

ป้าจะเซ่นไหว้ด้วยอิเด็กกระโหลก

ออนท็อปโต้รุ่ง 1 อาทิตย์

ฮรี่ๆๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-03-2019 18:11:58
งานนี้ทีมบอสค่ะ ปั่นเข้าไป ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 13-03-2019 20:32:46
ยกนี้บอสเอา 100 คะแนน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 13-03-2019 20:37:53
เด็กพี่เชร์ไม่ธรรมดาแล้วสิ สงสารคุนแฟนจังเลยเดียวส่งน้องเท็นไปโอ๋นะคะที่รัก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 13-03-2019 22:24:24
ปั่นเก่งงงง

บอสรีบหรอคะ

ใช่ค่ะ เราก็รีบเหมือนกัน 5555555555

 :katai2-1:

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-03-2019 00:53:00
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: GDNEE ที่ 14-03-2019 01:44:15
บอสส ยูอัปสกิลขึ้นเยอะเลยนะฮะ
ปล.ทำไมพี่แจ็คถึงหึงจนกลายเป็นคนพูดมากอย่างนี้ล่าาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 15-03-2019 08:15:24
โง้ยยยยย ฟินแก้มจะแตกกับคนที่กำลังโดนบอสต้อนจังเลยค่าาาา 555555

รักมาดความกวนซ่งทิงของบอสมาก ไม่คิดว่าบอสจะเป็นคน 'ใส่ใจ' เรื่องของลูกน้องกะเค้าเหมือนกันนะคะ 555555555
แถมยังหมั่นไส้และลำไยในความรักความหลงเชร์แบบผีเข้าง่ะ เหม็น!!!!

ตอนช่วงที่บอกว่า ไม่ว่าใครก็สนุกที่ได้ปั่นหัวแจ็คไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง ไม่เว้นแต่แฟนมัน.... ไม่เว้นแต่แฟนเก่ารึเปล่าคะ หรือนี่อ่านข้ามตกหล่น หรือลืมเรื่องตอนก่อนหน้า หรือคิดมากไปนะ // เดี๋ยวว่างแล้วจะไปนั่งย้อนอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นค่ะ!!!

นี่ระแวงดราม่าในขณะที่คิด(ไปเอง)ว่าตอนนี้เรากำลังมุ่งสู่โซนเขินตัวบิดเพียวๆ แล้วนะ! T.T

รอครึ่งหลังงงง *นั่งเขินบิดตัวรอ*
อยากเห็นคนลนลานอีกเยอะๆ จังเลยค่ะ แค่คิดก็ชิงยิ้มแก้มแตกไปก่อนแล้วอ่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 16-03-2019 10:17:46
พิแจ็คน่ารักจังเว้ยยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 17-03-2019 19:39:26



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 17
ปั่น (PART 2/2)






“โดนเจ้านายหักเงินเดือนไหม?”

ทันทีที่กลับมาถึงบ้านไอ้ลิงหัวเทาก็ชะโงกถามพร้อมลุกลี้ลุกลนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาจนต้องผงะถอยหลังไปตั้งหลัก แจ็คเอานิ้วชี้แตะริมฝีปากตัวเองพลางกวาดสายตามอง ขืนแม่ได้ยินเข้าคงหูผึ่ง เซ้าซี้ถามเอาให้ได้ว่า ‘ไปทำอะไรขัดใจคุณกันต์เขาล่ะลูก เล่นเกมระหว่างทำงานเหรอ หรือว่าแอบอู้หลับแล้วคุณเขาจับได้?’ ซึ่งต่อให้ใช่ทั้งหมดก็คงไม่ทำให้บอสต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะเขายังมีไอ้แหลมเป็นตัวประกันอยู่

“โดนดิ โป๊ะขนาดนั้น”

“จริงดิ เชี่ย...” สีหน้าไอ้เท็นซีดเป็นไก่ต้ม มันขมวดคิ้วกัดปลายนิ้วหัวแม่มือเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างขณะที่ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดบ้านไปชั้นบน “มึงนั่นแหละลีลา ถ้าตอบแต่แรกกูก็ขับรถกลับบ้านไปเล่นเกมละ”

“นั่นที่ทำงานกูไง มึงอะทำอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ โตเป็นควายแล้วยังต้องให้สอนอีก กระบือกลางทุ่งเอ๊ย”

“อ้าว แต่ต้นเหตุแรกมาจากมึงนะแจ็ค มึงเคยเล่าอยู่หลายทีว่าบอสมึงเคยเป็นคนโหด แต่เดี๋ยวนี้ก็ซอฟท์ลงจนเหมือนปุยนุ่นแล้ว กูก็ย่ามใจดิ”

“ทำไม มึงคิดว่าโผล่หน้าไปแล้วพูดว่า ‘ผมคือเทพเจ้า TEN1O แห่งวงการอีสปอร์ตเองครับ ไม่มีใครไม่รู้จักผม’ แล้วบอสกูจะทำหน้าอึ้งทึ่งเสียวแบบนี้เหรอ?” แจ็คทำตาโตอ้าปากหวอ ก่อนจะถูกเพื่อนยันขาจนเข่าอ่อนคาบันได

“แต่กูกล้านะ พูดเสร็จก็เดินกลับไปขึ้นรถแบบหล่อ ๆ แล้วปล่อยให้เจ้านายมึงงง”

“กลับบ้านไปเลยครับคุณ TEN1O วันนี้ผมไม่มีอารมณ์คุยกับควายน่ะ” แจ็คทำมือปัด ๆ ไล่ แต่ไอ้ลิงหัวเทากลับกระชากคอเสื้อจนเขาแทบหงาย

“มันจะหักสักแค่ไหนกัน กูจ่ายให้เท่าเงินเดือนมึงก็ยังได้”

“สามแสน พร้อมเพย์”

“ถุ้ย ไว้ไปหลอกหมาสี่ตาฝั่งตรงข้ามบ้านมึงนะ”

สนุกว่ะ เห็นหน้าไอ้เท็นเป็นแบบนี้แล้วก็ยิ่งอยากหาเรื่องแกล้ง อยากเห็นมันโวยจนหมดคราบกวนตีน หรือทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้มันพาเด็กมัธยมคนนั้นกลับมาอีกครั้งให้หายคิดถึงสักหน่อย

“สรุปโดนหักจริงเหรอวะ?”

“เปล่า กูอำเล่น”

“นั่นไง กูว่าแล้ว” พอเข้ามาถึงห้องนอนเท็นก็ยืนกอดอกพิงหลังกับประตูพลางแค่นหัวเราะ “เพราะหน้าอย่างมึงโกหกไม่เนียนโคตร ๆ”

“เมื่อกี้สายตามึงอย่างตื่น รู้เลยว่าเชื่อจริง อย่ามาเนียน” เขาวางกระเป๋าตามด้วยถอดเสื้อยืดออกก่อนจะโยนใส่หัวไอ้ลิงหัวเทา

ไม่รู้ว่าทำไม แต่แจ็คก็ชอบเหลือเกินไอ้สีหน้าขมวดคิ้วแล้วมองมาเหมือนอยากทำร้ายร่างกายเขาแต่ก็ไม่กล้านั่นน่ะ

“สกปรกฉิบหาย”

“หอมกว่ากลิ่นลูกมึงแล้วกัน”

“ถึงขั้นเอาตัวเองไปเทียบกับลูกกูเลยเหรอ มึงต้องคิดแล้วนะแจ็ค” เท็นทิ้งตัวลงนอนบนเตียง เขาม้วนเสื้อยืดสีดำของอีกคนเป็นก้อนแล้วเขวี้ยงคืนกลับไป ก่อนจะหลุดขำออกมากับจังหวะ Head Shot

“เที่ยวมาล่องลอยเป็นวิญญาณอยู่บ้านคนอื่นนี่ไม่ต้องสตรีมให้คนดูหรือไง?”

“วันนี้พัก ขี้เกียจ”

“กูก็เห็นมึงพักทุกวัน แล้วบอกแฟนคลับยัง?”

“บอกในเพจแล้ว”

“บอกว่า?”

“ไปหาสาวสวย สตรีมอีกทีพรุ่งนี้”

“ทั้งที่ความจริงหนีหมาแมวมาอาศัยข้าวบ้านคนอื่นกิน” ไอ้แจ็คส่ายศีรษะหน่าย ๆ พลางห่อผ้าขนหนูรอบเอวก่อนจะถอดกางเกงยีนส์ “มึงคิดว่าแฟนคลับจะกรี๊ดเพราะคิดว่าพูดแบบนั้นแล้วดูแบดหรือไง?”

“ก็แค่พูดเล่นเฉย ๆ ไม่มีใครใส่ใจหรอก แต่ก็เท่จริงไม่ใช่เหรอวะ ลุคหนุ่มเจ้าชู้”

“หล่อเรียกแบด แต่ถ้าขี้เหร่เรียกเหี้ย”

“แน่นอนว่าพี่เท็นจัดอยู่ในประเภทแรก”

“เลอะเทอะ” ไอ้แจ็คเปิดตู้เสื้อผ้า “อย่าหยุดบ่อยนักสิวะ คนที่กดซับส่วนใหญ่เป็นนักเรียนไม่ใช่เหรอ จะต่อซับเดือนนึงก็เกือบห้าเหรียญ ตีเป็นเงินไทยก็ราว ๆ ร้อยหกสิบ มึงควรไลฟ์บ่อย ๆ คนดูจะได้รู้สึกว่าคุ้มแล้วกับที่จ่ายไป”

“กูสตรีมบ่อยอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้แค่ลดลงเหลืออาทิตย์ละสาม-สี่วัน อีกอย่าง กูก็บอกตลอดว่าไม่ต้องจ่ายเงินซับก็ได้ เอาที่ทุกคนสะดวกใจ”

“ก่อนหน้านี้ติดเกมชนิดว่าเล่นแทบทุกลมหายใจ แล้วดูตอนนี้สิ”

“ก็ตอนนี้ติดมึงอะ”

กริบ...

อยู่ ๆ ก็เกิดเดธแอร์ขึ้นมาทั้งคนพูดและคนฟัง ทั้งที่กำลังจะเอาเสื้อผ้าออกมาจากตู้แล้วแท้ ๆ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้การยัดตัวเองกลับเข้าไปพร้อมปิดประตูตู้น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจพอสมควร

มันก็เป็นเรื่องปกติที่เพื่อนจะติดเพื่อน เขาควรหันไปทำหน้าเอือมพร้อมบ่นว่า ‘จะติดห่าอะไรนักหนา?’ แล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ไม่ใช่มาสตันท์กับคำพูดธรรมดาอย่างนี้

เท็นกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เกร็งตานั่งตัวแข็งสองมือขย้ำผ้าห่มแน่นหลังจากรู้ตัวว่าเผลอพูดผีห่าออกไป ฉิบหายแล้วไง อยู่ ๆ ก็พาตัวเองกลับไปตายที่อาการเดิม ๆ ซึ่งก็รู้ดีว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น

“ง่วงโว้ยยยยยยยยยยย”

เป็นการหาวพร้อมบิดขี้เกียจที่ปลอมเหี้ย ๆ

ชำเลืองมองเพื่อนสนิทที่เริ่มขยับตัวหน้าตู้เสื้อผ้าแล้ว จึงแกล้งทิ้งตัวลงนอนพร้อมใช้ตีนเกี่ยวผ้าห่มขึ้น ก่อนจะหลุดยิ้มได้เมื่ออีกฝ่ายตรงมาทางนี้พร้อมชุดนอนที่ปาใส่หน้าเขาจนมันปิดบังความรู้สึกเอาไว้ได้

“มีแต่เสื้อกับกางเกงเหรอวะ เอาเกงในมาด้วยดิ”

“ไม่มีให้”

“แค่นี้มึงหวงเหรอ แล้วแบบนี้กูจะใส่อะไรนอนอะ เผื่อลุกไปเซเว่นกลางดึกอีก?”

เท็นดึงเสื้อยืดกลิ่นหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มลงเล็กน้อยเพื่อให้ได้เห็นไหล่กว้างกับท้ายทอยที่ต้องยอมรับแล้วว่าเขาชอบมองทุกครั้งเวลาอีกฝ่ายเกล้าผมขึ้น ไอ้แจ็คนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไร บางทีมันอาจจะอยากหามุกเกรียน ๆ มากวนตีนเขาแต่สกิลระดับเด็กอนุบาลแบบนั้นก็คงต้องยากหน่อย

เพราะถ้าคนกาก ๆ อย่างมันอยากให้เขาสตันท์เรื่องกางเกงในก็คงต้องใช้มุก...

“ก็ไปทั้งอย่างนั้นแหละ เล็กแค่นั้นไม่มีใครมองเห็นหรอก”

ไอ้ฉิบหายเอ๊ย!!!!!!!!!!



*



พออาบน้ำกินข้าวเสร็จก็เล่นฟีฟ่าด้วยกันยันตีสอง ไอ้แจ็คเป็นฝ่ายง่วงก่อนจึงพาสารร่างตัวเองไปนอนบนเตียง จนเหลือเพียงเขาที่ยังสนุกกับเกมซึ่งเอาเข้าจริงก็แค่สิบห้านาทีเท่านั้น พอไม่มีเพื่อนนั่งเล่นด้วยก็เหงาพิลึกเลยว่ะ

เท็นหันไปมองอีกคนที่คงหลับไปแล้วเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน ผิดกับเขาที่เร่ร่อนไปเรื่อยไม่เหมือนเมื่อก่อนที่นอนแค่สอง-สามชั่วโมงแล้วก็ลุกมาซ้อมทีมอย่างบ้าคลั่ง

“ปิดเกมแล้วมานอนไหม?” ไม่รู้ว่าคิดดังเกินไปหรือไม่ ไอ้แจ็คถึงได้ลืมตาขึ้นมาเห็นว่าเขากำลังจ้องอยู่อย่างนี้

“มึงก็รู้ว่ากูนอนไม่หลับ”

“นั่งอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ทำให้มึงหลับเหมือนกัน”

เสียงเกมทีวีไม่ดังเท่าเสียงตบเตียงเบา ๆ ของเพื่อนสนิท ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเท็นรู้สึกดีแค่ไหนกับการถูกใส่ใจแม้ว่าไอ้แจ็คง่วงจนตาแทบปิดอยู่แล้ว ทั้งที่จะนอนไปเลยก็ได้แต่มันก็ยังตื่นมาสนใจการมีอยู่ของเขา

ปิดเกมกับทีวีเรียบร้อยแล้ว ไอ้แจ็คเอื้อมไปเปิดโคมไฟเพื่อให้เขาไม่เดินชนข้าวของตอนห้องถูกกลืนด้วยความมืด แม้ว่าจะกลับมานอนด้วยกันหลายครั้งแล้วแต่เท็นก็ยังรู้สึกไม่ค่อยชิน เพราะในใจมันเหมือนพร้อมจะรู้สึกอะไรมากกว่าการแชร์พื้นที่นอนบนเตียงอย่างบอกไม่ถูก

“พรุ่งนี้อยู่บ้านรอรับของด้วย”

“ของไรวะ?” เท็นมองเพื่อนที่หันไปคว้าเอาหมอนข้างมาให้อย่างรู้งาน เพียงเพราะมันจำได้ว่าเขาจะนอนไม่สบายตัวถ้าหากไม่ได้กอดอะไรสักอย่าง

“กูสั่งเยลลี่ให้”

“ห๊ะ?”

พอเห็นว่าเขาขมวดคิ้วทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก ไอ้คนเข้าใจยากก็เอาโทรศัพท์มาเข้ากูเกิลพร้อมเสิร์ชหาข้อมูลบางอย่าง ก่อนจะได้รู้ว่าเพราะอะไรไอ้แจ็คถึงนึกครึ้มซื้อขนมเด็กแบบนั้นให้

“Gummy Sleep?”

“พี่ที่ทำงานกูนอนไม่หลับก็เลยสั่งมาลองกินดู”

“แล้วเขาง่วงไหม?”

“ก็ได้เรื่องอยู่นะ แต่คนอื่นไม่รู้ว่ะ อ่านรีวิวมาบางคนบอกว่าช่วยได้ บางคนบอกช่วยไม่ได้ ก็ต้องรอดูว่าจะได้ผลกับมึงหรือเปล่า?” ทั้งคู่ยังให้ความสนใจกับภาพกระปุกเยลลี่ในกูลเกิล “วันละสองเม็ดก่อนนอน”

“ถ้ามันอร่อยแล้วอยากกินอีกกูจะไม่ฟาดเรียบเลยเหรอวะ?”

“แดกเยลลี่เซเว่นแทนสิ กระปุกนึงไม่ใช่ถูก ๆ” ไอ้แจ็คว่าพลางล็อกหน้าจอก่อนจะเก็บโทรศัพท์

แสดงว่าต้องหลายร้อย แต่ไอ้คนขี้งกซื้อให้เขาเลยนะเว้ย เรื่องนี้อยากจะป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้จริง ๆ ว่าแต่... การที่คน ๆ หนึ่งจะสั่งเยลลี่ช่วยหลับให้เนี่ย... มันต้องใส่ใจกันสักแค่ไหนกันวะ?

ไม่เอาดีกว่า อย่าลืมว่าไอ้แจ็คเป็นมนุษย์ที่รักการใส่ใจคนอื่น เพราะถ้าไอ้ธีร์นอนไม่หลับบ้างมันก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน

“สงกรานต์ไปไหน?”

“ไม่ไปดิ ร้อน”

“อ่อ อ่าฮะ”

“ถามทำไม?” เท็นหันไปมองอีกฝ่ายระหว่างรอคำตอบ แต่ไอ้แจ็คกลับส่ายศีรษะเหมือนว่าอยากเบลอหัวข้อนี้ทิ้ง “มึงจะพาครอบครัวไปไหว้พระก็เลยจะชวนกูด้วยใช่ไหมล่ะ อ้าปากงัดมาสิ”

“ไม่ได้ไหว้มาสามปีแล้วตั้งแต่เห็นรถชนกันต่อหน้าต่อตา แม่กูบอกว่าไปไหว้ตอนไหนก็ได้ถ้าใจศรัทธา แต่อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง” ไอ้แจ็คว่าพลางจ้องเพดานเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

“แล้วมึงจะทำยังไง เล่นน้ำเหรอ?”

“อืม ไปด้วยกันไหม?”

“กับพวกไอ้ธีร์?”

“จะว่างั้นก็ใช่ แต่เดินห่าง ๆ เอา”

“กูบายเลยดีกว่า ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าไม่กูก็มันต้องมีใครสักคนเป็นฝ่ายทำให้บรรยากาศกร่อย” ไอ้เท็นถอนหายใจพลางมองคาดโทษที่เขาชวนอะไรเหมือนคนไม่ได้คิดมาก่อนล่วงหน้า

“แค่เดินเฉย ๆ ไอ้ธีร์ก็โดนรุมปะแป้งจนยับแล้ว มันไม่มีเวลาหันมาแขวะมึงหรอก ไหนจะปกป้องแฟนเด็กมันอีก”

“ถ้าไอ้ธีร์ไม่รอดแล้วกูจะเหลือไหม กูหล่อกว่ามันอีก ไม่ได้ตายคาดงพอดีเหรอ?”

“กูอยู่ด้วยทั้งคนจะกลัวอะไร?”

“โห พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ คิดว่าตัวเองจะรอดง่าย ๆ ไหมอะ?” เท็นขมวดคิ้วพลางส่ายศีรษะหน่าย ๆ ไอ้ห่านี่คิดอะไรตื้น ๆ ไม่โดนรุมปะแป้งให้มากระทืบหน้าไอ้เท็นได้เลย

“งั้นก็โดนไปด้วยกัน”

“ทำไมอยากให้กูไปด้วยจังเลยวะ?” สุดจะทนแล้วนะเว้ย ก็รู้ว่าเขากับไอ้ธีร์ต้องตีกัน ทำไมต้องให้ไปอยู่ในบรรยากาศน่าอึดอัดแบบนั้นด้วย

“กูแค่อยากเล่นสงกรานต์กับมึงอีก”

จบ

โดนเลยกู

ถ้าเอาตีนก่ายหน้าผากได้เท็นคงทำไปแล้ว เล่นพูดกันแบบนี้จะให้ตอบว่าไงดีล่ะ ‘ไม่ไปโว้ย’ งั้นเหรอ ไม่ได้หรอก เพราะไอ้แจ็คไม่ใช่คนที่จะเซ้าซี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ

“เจ้านายกูก็ไป รายนั้นไม่ได้สนิทกับใครเลยนอกจากไอ้แหลม”

“เจ้านายมึงก็ไม่น่ารอดเหมือนกัน หล่อ ๆ แบบนั้นแหละคนชอบนัก” สงกรานต์สมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีหรอกไอ้เอาน้ำสาดเพื่อความสนุกสนาน เดี๋ยวนี้แป้งกระป๋องเดียวก็อยู่ เผลอ ๆ เนียนมือเปล่าไปลูบแก้มสาวก็มี

“ทำไมต้องชมว่าบอสกูหล่อ?” อะไรอีก อยู่ ๆ ก็ขมวดคิ้วทำหน้าตึง

“ก็เจ้านายมึงหน้าตาดี กูพูดผิดตรงไหน?”

“ปกติเห็นแต่หลงตัวเองไปวัน ๆ นึกยังไงไปชมคนอื่นที่เพิ่งเห็นหน้าค่าตากันครั้งเดียว”

“เอ้า แล้วกูต้องเจอกี่ครั้งถึงจะชมได้วะ อิจฉาที่เขาหล่อกว่ามึงอะดิ?”

“หุบปากแล้วนอนไปเลย” ไอ้แจ็คทำมือปัด ๆ แล้วหันหลังให้เขา

เวร เป็นห่านอะไรอยู่ดี ๆ ก็ตึงเฉย หรือว่าไปจี้จุดจนทำให้นึกถึงเรื่องโดนดุเมื่อตอนกลางวัน ต้องใช่แน่

“แจ็ค”

“กูจะนอน”

“เอาจริง เจ้านายมึงหน้าโคตรเหมือนไส้เดือนเข็ดฟัน”

“ตอแหล”

“เอ้าไอ้ห่า แล้วกูต้องทำไงวะ คุยกันอยู่ดี ๆ ก็ทิ้งกูกลางอากาศเฉย กูนอนไม่หลับนะเว้ย เยลลี่งี่เง่านั่นก็ยังไม่มาส่งด้วย มึงมารับผิดชอบกูก่อน”

“เรื่องมึง”

“เพื่อนจ๋า” เท็นก่ายขาพาดเอวคนข้าง ๆ ก่อนจะผงะเพราะไอ้แจ็คหันมาส่งสายตาพิฆาตเข้าให้

“นับหนึ่ง”

“นับถึงร้อยกูก็ไม่ออก พอพูดแบบนี้แล้วเหมือนซีนไล่ผีเลยว่ะ แต่ช่างเถอะ ท่านี้โคตรสบาย”

“สบาย?”

“อ๊าาาา!!! --” ไอ้เท็นแหกปากลั่นทันทีที่เขาจับข้อเท้ามันขึ้นขาแทบแหกจนต้องรีบเอามืออีกข้างตะปบปากมันไว้เพราะกลัวแม่กับน้องจะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายกลางดึก

“นี่ก็เล่นใหญ่ซะ”

“เจ็บนะห่า ไข่แทบขาด”

“เห็นบอกว่าท่านี้สบาย กูเลยช่วยบำบัดให้”

“กูทำให้มึงบ้างปะล่ะ?”

เท็นสูดปากพลางลูบซอกขาตัวเอง ไอ้แจ็คกากว่ะ พอเถียงไม่สู้ก็ต้องใช้กำลัง เราจะต้องทนอยู่ในสังคมกับคนแบบนี้จริง ๆ เหรอครับ

“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้มึงต้องรีบกลับบ้านไปดูหมาแมว ลืมแล้วหรือไง?”

“ครับพ่อ เท็นเข้าใจแล้วครับ”



*



“แจ็ค”

“ว่า?”

“มึงยังกินยาอยู่ไหม?”

ตั้งแต่รู้ว่าไอ้แจ็คป่วยเป็นอะไรเขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามถึงอาการเลยสักครั้งเดียว อาจเป็นเพราะกลัวว่าจะจี้ใจหรือเป็นฝ่ายทำให้เพื่อนกลับมารู้สึกแย่อีกครั้ง เท็นจึงเลือกเก็บความคาใจนี้มาตลอด

“ไม่ได้กินแล้ว” ไอ้แจ็คตอบสั้น ๆ แล้วหันมามองหน้าเขา “กินแค่ตอนเป็น”

“หมายความว่าไงวะ มึงหายแล้วเลยไม่กินงี้เหรอ?”

“เปล่า มันไม่หายหรอก” สายตาไอ้แจ็คที่มองมาคงกำลังคิดอยู่ว่าคนแบบนี้จะเข้าใจได้ไหม ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรถ้ามันจะเกิดความสงสัยในตัวเขา คนที่เข้าใจอะไรยากฉิบหาย “สำหรับคนอื่นกูไม่รู้ แต่สำหรับกูอาการมันจะมาเป็นช่วง ๆ ถ้าเครียดเรื่องไหนก็รักษาเรื่องนั้น พอดีขึ้นก็หยุดเจอหมอ หยุดกินยา แต่ถ้ามีเรื่องใหม่ที่คิดไม่ตกก็ไปหาหมออีกครั้ง”

“อ่า...”

“อย่างตอนแรกที่ไปเพราะกูเครียดกับทุกอย่าง ทั้งเรื่องพ่อตาย เรื่องเรียนต่อมหา’ลัย เรื่องพยายามประคองครอบครัวให้กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เรื่องไม่มีมึงอีกแล้ว ตอนนั้นกูรับความทุกข์ทุกอย่างมาเก็บไว้กับตัวโดยที่ไม่เคยปล่อยอะไรออกไปเลย แต่ก็ต้องทำเหมือนสบายดีไม่มีปัญหา ด้วยร่างกายยังแข็งแรงอยู่ แต่กูรู้สึกเหมือนคนกำลังใกล้ตาย”

เท็นตั้งใจฟัง เขากำลังพยายามเก็บทุกรายละเอียดเพื่อจดจำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอีกฝ่ายต้องเจอกับอะไรบ้าง และต่อไปนี้เขาควรปฏิบัติต่อเพื่อนอย่างไร

“หมอให้ยากูมาสองตัว ตัวนึงช่วยเรี่องความเครียด อีกตัวช่วยเรื่องนอนหลับ”

“แล้วมันช่วยได้ไหม?”

“เยอะเลย” ไอ้แจ็คพูดกลั้วหัวเราะ “จากที่เครียด ๆ กูก็กลายเป็นลอย ๆ เฉย ๆ แต่ไม่ได้หมายถึงลอยแบบเบลอยานะ ลอยที่ว่ามันคือความว่างเปล่า กูไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เครียด ไม่โกรธ ไม่เคือง ไม่มีความสุข ไม่อะไรเลยสักอย่าง”

“แบบนั้นเรียกดีเหรอ?”

“ดีสิ” อีกฝ่ายยังคงยิ้ม “เพราะอย่างน้อยกูก็ไม่ต้องจมอยู่กับเรื่องแย่ ๆ”

“มึงกินยานานแค่ไหน?”

“ครั้งแรกน่าจะสองเดือน หมอให้ยามากินแล้วบอกให้กูสังเกตตัวเองว่าเป็นยังไงบ้าง หลังจากนั้นก็ไปเล่าให้หมอฟังอีกที เหมือนอัปเดตน่ะ แต่ระหว่างนั้นกูก็ต้องปรับเปลี่ยนความคิดไปด้วย หมอให้กูเลิกโทษตัวเอง เลิกดูถูกตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือกูต้องให้อภัยตัวเอง”

“มึงไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะงั้นไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่มึงจะต้องโทษตัวเองแบบนั้น”

“มันไม่ใช่แค่เรื่องมึงนะเท็น มันยังมีเรื่องอื่น ๆ อีก ก็โลกมันดันบังคับให้กูต้องโตเร็วกว่าใครหลาย ๆ คน กูเลยล้างสมองตัวเองว่าต้องทำให้ทุกคนกินอยู่อย่างสบายให้ได้ กูต้องเป็นคนเก่ง กูต้องไม่กาก”

“นั่นสินะ” เท็นมัวแต่มองด้านเดียว จนลืมคิดไปว่าก่อนที่ครอบครัวนี้จะลงตัว ทั้งไอ้แจ็คกับแม่มันก็คงดิ้นรนจนเลือดตาแทบกระเด็นมาก่อน ในขณะที่เขาเดินเที่ยวเล่นสยาม ซื้อของอะไรก็ตามที่อยากได้ ตอนนั้นไอ้แจ็คคงกำลังวางแผนว่าจะใช้เงินห้าร้อยอย่างไรถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด

“ยาก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่คนเราจะหวังพึ่งมันกับสวดมนต์ขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับตัวเองแค่นั้นก็ไม่ใช่ถูกไหม?”

เท็นพยักหน้า มันคงเป็นครั้งที่ล้านแล้วมั้งที่เขาเอาแต่คิดว่าถ้าตอนนั้นยังอยู่ด้วยกัน เขาจะพยายามทำอะไรบ้างเพื่อเพื่อนคนนี้

“แจ็ค”

“อืม?”

“ถ้าตอนมอหกกูไม่ทำแบบนั้น... มึงจะป่วยแบบนี้ไหมวะ?”

สุดท้ายก็กล้าถามสิ่งที่กลัวคำตอบมาตลอด ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ตรงนี้เพื่อเริ่มต้นใหม่ ดังนั้นเท็นก็ควรรับให้ได้กับสิ่งที่เคยทำลงไป แม้ว่าไอ้แจ็คจะย้ำอยู่เสมอว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเพียงอดีต

“น่าจะ... แต่คงน้อยกว่าที่เป็นนิดนึงมั้ง?”

แจ็คไม่ได้โกหกเพื่อรักษาน้ำใจอีกฝ่ายเพราะต่อให้ไอ้เท็นยังอยู่เคียงข้าง การตายของพ่อก็ยังคงเป็นแผลใหญ่สำหรับเด็กผู้ชายคนนั้นอยู่ดี และแจ็คตอนอายุสิบแปดก็หัวดื้อเกินกว่าจะยอมรับเงินจากเพื่อน ไอ้เด็กคนนั้นมันห่วงศักดิ์ศรีมากกว่าปากท้องเสียอีก

แต่ก็ยอมรับว่าสายตาไอ้เท็นทำให้เขาอยากแถไปเรื่อยเปื่อย หรือพูดอะไรก็ได้เพื่อให้อีกฝ่ายไม่ต้องโทษตัวเอง แม้ว่าในช่วงเวลานั้นก็นึกตัดพ้อน้อยใจมันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ

“แล้วยังไงวะ มึงกินยาแค่ตอนเครียดมาก ๆ ใช่ไหม?”

“ไม่นะ มันขึ้นกับจิตแพทย์น่ะ ถ้าเขาจ่ายกูก็กิน แต่กูจะไปหาเขาแค่ตอนที่คอนโทรลความรู้สึกตัวเองไม่ได้ กูจะเล่าให้เขาฟังก่อนว่ากูกำลังเจอกับห่าเหวยังไง แต่เขาจะไม่พูดตรง ๆ นะว่ากูควรทำอะไรหรือคิดแบบไหน แต่เขาจะอธิบายไปเรื่อย ๆ จนกูคิดตาม แล้วกูก็จะนึกออกเองว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน แล้วควรแก้ไขอะไรก่อน กูโชคดีด้วยว่ะที่ได้เจอหมอที่เข้าใจ ไม่ใช่หมอที่มานั่งฟังเพื่อให้ครบเวลาแล้วเอาเงิน”

“มันเป็นเรื่องที่เล่าให้ไอ้ธีร์ฟังไม่ได้เหรอวะ กูเชื่อว่ามันก็เป็นคนหนึ่งที่รู้จักมึงดีที่สุด”

“กับบางเรื่องเพื่อนก็ช่วยเราไม่ได้หรอก เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนเข้าใจ เราสบายใจขึ้นหลังจากได้เล่า แต่เราก็เอามันออกไปจากหัวไม่ได้จนกว่าจะรู้ทางออก ถึงไอ้ธีร์จะพร้อมเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อกู แต่คนที่เข้าใจอาการนี้ดีที่สุดคือจิตแพทย์ เขาเรียนมาหลายปีเพื่อคนแบบกู อีกอย่าง กูเองก็ไม่อยากเอาปัญหาไปให้คนรอบข้างที่กูรัก กูไม่อยากให้ทุกคนเครียดไปด้วย”

“มันห้ามได้ที่ไหน ก็เพราะรักกันถึงต้องเป็นห่วงมันก็ถูกแล้วนี่?”

“ถ้าเป็นมึง มึงจะทำหรือไง?”

“ทำ แล้วกูก็จะนึกถึงมึงเป็นคนแรก”

“...”

ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบ แต่คราวนี้ไม่มีใครเกิดอาการอึดอัดแปลก ๆ จนต้องเบือนหน้าหลบอีกแล้ว เท็นพูดความจริงทั้งหมดที่เขามี และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาก็คงนึกถึงไอ้แจ็คก่อนจิตแพทย์เก่ง ๆ ทั่วประเทศไทย

“ก็แน่ล่ะ ถ้ามึงเก็บเงียบแล้วหนีไปอยู่กับคนอื่นอีกคราวนี้กูตามไปกระทืบแน่”

“มึงก็รู้ว่ากูไม่ไปไหนอีกแล้ว”

“...”

“เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้มึงอย่าเพิ่งไปหาหมอนะ นึกถึงหน้าเหี้ย ๆ ของกูก่อน มีอะไรก็เล่ามา ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวคราวนี้เราไปด้วยกัน”

ตายห่า อยู่ดี ๆ บรรยากาศก็เปลี่ยน แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือหัวใจดันเต้นแรงไปด้วย ไม่เอาน่า... คงเป็นเพราะเห็นไอ้ธีร์กับไอ้โซ่สวีทกันทุกวัน บวกกับเจ้านายกับไอ้น้องเวรย้ายไปอยู่บ้านด้วยกันจนทุกอย่างดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ เขาถึงได้รู้สึกว่าสายตาไอ้เท็นตอนนี้มันไม่เหมือนตอนมัธยม – ไม่สิ จะว่าไปก็เหมือนแต่มันก็...

“อืม”

แจ็คหลบสายตานั้นด้วยการนอนหันหลังให้ มันคงดีกว่าถ้าจะต่างคนต่างหลับไปหลังจากเคลียร์เรื่องต่าง ๆ ในใจไปได้บ้างแล้ว ไม่ใช่การเผชิญหน้ากันในระยะใกล้แล้วพูดประโยคแปลก ๆ ที่ควรจะดูธรรมดาแต่ดันมีผลต่อจิตใจแบบนี้

ผ่านไปไม่รู้กี่นาทีที่เขาจมอยู่กับความคิด แม้จะง่วงจนตาแทบปิดแต่ชายหนุ่มผมยาวก็ยังตาค้างเพราะคำพูดและแววตาหงอย ๆ นั่น ตายห่าของแท้ อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงไอ้แหลมหัวเราะอัดหูอย่างบอกไม่ถูก

“...”

แจ็คชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงวงแขนที่ค่อย ๆ สอดเข้ามาตรงช่วงเอว พร้อมร่างกายอุ่น ๆ ซึ่งกำลังขยับเข้ามาจนชิดกับแผ่นหลังของเขาแล้วตามด้วยหน้าผากที่ซบลงบนลาดไหล่

แจ็คไม่ได้ออกปากถามว่าไอ้เท็นกำลังจะทำอะไร ชายหนุ่มเพียงนอนนิ่ง ๆ เพื่อรอดูท่าทีอีกฝ่าย ซึ่งเขาหวังเหลือเกินว่ามันคงไม่ร้องไห้ออกมาหรือพูดอะไรที่ทำให้ตาค้างไปกว่านี้

“เมื่อกี้น้ำลายกูเลอะหมอนข้าง คืนนี้คงกอดมันไม่ได้แล้ว”

เสียงไอ้คนเก่งแผ่วลงราวกับไม่มั่นใจที่จะพูด รวมถึงการขยับกอดหลวม ๆ แต่แนบแน่นในความรู้สึกจนทำให้นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กมอปลาย ตอนที่เด็กหนุ่มสองคนสลับกันไปค้างที่บ้าน

ในค่ำคืนที่เหมือนกับทุกวัน เด็กหนุ่มผมสกินเฮดลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับไปนอนบนเตียงข้าง ๆ เพื่อน แต่ขณะที่เปลือกตากำลังจะปิดลงอีกครั้ง เด็กหนุ่มคนนั้นก็ต้องเบิกตาโพลงทันทีที่รู้สึกได้ถึงร่างกายอุ่น ๆ ที่บดเบียดเข้ามาจนปลายจมูกซุกลงกับซอกคอเขา พร้อมวงแขนที่ตวัดกอดจนอยู่ ๆ ก็กลายเป็นหมอนข้างมีชีวิต

แต่มันต่างกันตรงที่ตอนนั้นไอ้เท็นหลับสนิท ขณะที่ตอนนี้มันคงรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่

แจ็คหันไปมองศีรษะทุยซึ่งยังคงซบหน้าลงบนไหล่ ท่ามกลางความเงียบที่ได้ยินเสียงความรู้สึกตะโกนแผดลั่นออกมานั้นมันย้ำบอกซ้ำ ๆ ว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันคงไม่ได้หยุดแค่เพื่อนเหมือนที่เคยอีกแล้ว

เขาควรเลิกใสซื่อแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียทีว่าอาการใจเต้นแรงมันไม่เคยเกิดขึ้นกับคนที่เรียกว่าเพื่อน เพราะถ้าเป็นเพื่อนก็คงไม่รู้สึกแบบนี้

อยากโทษความเหงา อยากโทษการสกินชิป หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ความรู้สึกเหล่านี้ก่อตัวขึ้น แต่สุดท้ายแจ็คก็ไม่อยากให้ความรู้สึกที่เป็นอยู่มันมาจากความชั่ววูบหรือความรู้สึกใด ๆ ก็ตามที่ใจร้ายจนเกินไป

เขาลูบศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะจับมือเย็นเฉียบนั้นให้กอดตนเองถนัดยิ่งขึ้น ซึ่งคนที่ได้รับการอนุญาตก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะขยับเข้ามาเพื่อลดช่องว่างระหว่างเรา และเขาก็รู้สึกได้ถึงการถอนหายใจออกอย่างโล่งอก

“เสื้อมึงเลอะน้ำลายกูแน่แจ็ค”

ก็ถ้าเขารักษาทุกอย่างไว้ได้ด้วยคำว่า ‘เพื่อน’

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนมึงหลับกูจะหันกลับไปทำให้เสื้อมึงเลอะบ้าง”

งั้นความรู้สึกที่มากขึ้นมันก็คงเรียกว่าเพื่อนนั่นแหละ





TBC



แจ็ครู้ตัวก่อนหว่ะ

*นั่งกำพระอยู่ในโอ่งแล้วพูดประโยคนี้ซ้ำ ๆ*



ปล. เรื่องอาการซึมเศร้าของแจ็คเราอ้างอิงจากตัวเองนะคะ ยาที่กิน อาการที่เป็น หรือคำแนะนำหมองี้ เรารักษามา 2-3 ปีแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องห่วงนะคะว่าเราจะเอาข้อมูลปลอมมา (บอกไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนมาว่า 555)



หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 17-03-2019 20:41:11
ยังเดาไม่ออกว่าจะ แจ็คเท็น หรือ เท็นแจ็ค แต่รู้สึกดีที่ทั้งคู่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-03-2019 21:02:30
 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 17-03-2019 21:15:52
เอร้ยยยยยยยย   :ling1: นี้มันไม่ใช่แค่เพื่อนแล้วววว มันไม่ช่ายย ตัยแล้วแจ็ครู้ตัวก่อนซะด้วย  :hao7://ขอบคุณนะคะที่มาอัพรัวๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: HeIsMine ที่ 17-03-2019 21:39:58
อาการแจ็คกับเราเหมือนกันเลยตอนหมอเริ่มให้กินยาปรับยาเลยเข้าใจความรุ้สึกแจ็คเลยอ่ะ มันไม่เศร้า ไม่สุข ไม่อะไรเลยลอยไปนิ่งๆจนหมอปรับยาให้เหมาะกับเราก็ดีขึ้น
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 17-03-2019 21:48:27
#แจ็คเท็น แน่ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-03-2019 22:13:59
แจ็ครู้ตัวก่อนในตอนนี้ แต่เท็นน่าจะรู้สึกลึก ๆ ตั้งแต่ตอนโน้นแล้วมั้ง
มันดีจริง ๆ เลยน้า อิอิ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 17-03-2019 23:14:51
หวานๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 18-03-2019 00:41:13
อยากจะวิ่งไปกรี๊ด เขากอดกันแล้วค่ะแม่!! :sad4:
นึกถึงบรรยากาศสมัยวัยรุ่นเลยล่ะสิ
รู้ตัวกันไวๆนะ ทางนี้ลุ้นตัวโก่งแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-03-2019 00:51:42
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 18-03-2019 07:37:27
กลายเป็นเพื่อนชุบแป้งทอดไปละ

ก็มากกว่าเพื่อนไง

ผ่ามพาม!!!

 :katai2-1:

ยิ่งอ่านน้องเท็นยิ่งดูน้ออองงงง น้ออออนนนนน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-03-2019 07:58:35
อู๊ยยยย

พ่อพี่ซัน อิมูน

ทิ้งลูกหนีมานอนห้งปู้จาย

ฮรี่ๆ เขานอนกอดกันแล้วววว

เขาเริ่มรู้ตัวแล้วววววว

เข้าได้กันแล้วววววว

อุ่ยยยผิด

เขายังไม่ไม่ได้ก๊านนนนน

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-03-2019 20:00:51
 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 19-03-2019 22:50:51
โอ้ยยยยยยย ฮือออ ละมุนตุ้นมากค่ะ
เราก็เคยกอดเพื่อนเพราะละเมอ แต่เพื่อนถีบออก 555555
คนเรามันไม่ได้คิดอะไรกันไม่มีมากอดก่อนหรอกยกเว้นตอนเมากับตอนละเมอนะ 5555555

ปรบมือสามที แจ็ค มากกว่านี้ก็ไม่ใช่เพื่อนแล้วว ไม่เอาหนูลูกจีบเท็นไปก่อนเลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 20-03-2019 08:15:44
“ก็ตอนนี้ติดมึงอะ”

แหมมมมมมมมมมม อยากจะกรอกตามองบนแรงๆ จังเลยค่ะ
แล้วก็ตอนที่เท็นเรียกแจ็คเล่นๆ ว่าเพื่อนจ๋านี่มันรู้สึกฟุ้งๆ ในใจยังไงก็ไม่รู้ค่ะ
หลายๆประโยคสำหรับตอนนี้มันดีมากเลยอ่ะ

พาร์ทนี้บรรยากาศส่วนใหญ่คือห้องนอนของแจ็คที่ช่วยเยียวยาจิตใจทั้งคู่ (รวมไปถึงนี่ด้วย 5555) ได้ดีมากจริงๆ นะคะ ไม่ต้องหวือหวามากมาย แค่คุยกัน เล่าเรื่องราว หรือระบายความรู้สึกอะไรที่มันเคยถูกเก็บไว้ แค่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกจิตใจกำลังค่อยๆ ได้รับการเติมเต็มจากอะไรที่ขาดหายไปอ่ะ รู้สึกได้ถึงค่าความสุขและความฟินที่เกิดขึ้นในใจ อ่านไปแล้วน้ำตาก็แอบซึมมาพอให้ได้ซับอยู่เหมือนกันนะคะเนี่ย ดีใจที่เค้าค่อยๆ เข้าใกล้การได้มีสถานะมากกว่าเพื่อนสนิทกันไปเรื่อยๆ แล้ว เย้~

รอตอนต่อไป ลุ้นว่าเท็นจะเริ่มรู้ใจตัวเองในสภาพไหนนะคะ 555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 20-03-2019 20:31:43
แวะมาอีกรอบติดเรื่องนี่หนักมากกกก กะจะดองไว้อ่านหลายๆตอน เพราะกลัวค้างแต่ก็รอไม่ไหว รอตอนใหม่นะคะคุณคนเขียน :mew1: :mew1: แต่ตอนล่าสุดนี้หวานจริง แจ็ครู้ใจตัวเองก่อนแบบนี้จะทำไงน้าา จะรุกจีบเท็นก่อน หรือจะปล่อยเบลอ  :katai4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน17 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (17/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-03-2019 22:56:22
รอเด้ออ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 26-03-2019 22:24:04



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 18
อาการผิดปกติ (PART 1/2)



พอกลับถึงบ้านก็แทบเอาขาก่ายหน้าผาก จนถึงตอนนี้เรื่องเป็นฝ่ายเข้าไปนอนกอดเพื่อนก่อนก็ยังหลอกหลอนในความคิด มันย้ำซ้ำ ๆ ว่าที่ทำไปนั่นไม่ถูกต้อง เพราะถ้าเป็นเรื่องปกติก็คงไม่รู้สึกประหลาดแบบนี้

อยากอ้างว่า ‘เพราะห่างกันไปสิบปีก็เลยไม่ชิน’ แต่อย่างอื่นมันก็ยังดูเชื่อมต่อจากเดิมได้ไม่เห็นมีปัญหาอะไรกระทั่งเริ่มแตะต้องกอดก่าย เมื่อคืนนี้ก็โคตรชัดเลยว่ามันผิดปกติ

ขณะให้อาหารหมากับแมวก็ล่องลอยเป็นวิญญาณ ไอ้แจ็คจะไม่ชอบใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปไหมวะ เมื่อเช้าตื่นไม่ทันด้วยมันไปทำงานก่อน เวรจริง ๆ อยากจะบ้าตาย พอตกดึกทีไรก็กลายเป็นคนอ่อนไหวจนเผลอทำอะไรโง่ ๆ อีกแล้ว

ถ้าถูกตีตัวออกห่างก็ไม่ต้องแปลกใจนะ ผู้ชายวัยใกล้สามสิบที่ไหนมันจะนอนกอดเพื่อนแล้วอ้างว่าหมอนข้างเลอะน้ำลาย คนฉลาดอย่างไอ้แจ็คคงรู้อยู่แล้วว่าเขาตอแหล แต่มันก็เป็นคนดีเกินกว่าจะหักหน้าเพื่อน

เดินวนไปวนมาในบ้านจนพี่ซันงง สุดท้ายก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาหดขาเข้าหาตัวเหมือนเด็กติดยาก่อนจะทึ้งผมสีอ่อนจนยุ่งเหยิง

“...”

แม้หน้าตาจะบึ้งตึงแต่เท็นกลับรู้สึกได้ว่ากำลังถูกอีมูนหัวเราะเยาะ ใช่สิ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อมันเคยเท่มาตลอดไม่เคยหลุดฟอร์มเลยไง กระทั่งกลับมาอยู่กับไอ้แจ็คอีกครั้งเนี่ยแหละถึงได้ไม่หลงเหลือความดีให้เกรงขามอีก

แต่จะพูดอย่างไรดี เท็นรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าตอนนอนคนเดียวนั้นค่อนข้างหลับยากตื่นง่าย ผิดกับตอนนอนกอดไอ้แจ็คที่โคตรหลับลึก นอนสบาย ไม่มีจังหวะสะดุ้งตื่นเพราะใครขยับตัวเลย

‘ความผิดพวกกูงั้นสิ?’

สายตาอีมูนกำลังส่งสารมาอย่างนั้น ซึ่งเท็นก็จ้องตามองลูกรักก่อนจะพยักหน้าบอกให้รู้ว่าการกระโดดเหยียบพ่อมันกลางดึกนั่นไม่ใช่เรื่องที่น่ารักเลย

‘แล้วทีตอนไอ้แจ็คขยับล่ะ มันดีกว่ากูตรงไหน?’

ทำไม เขาไม่มีคำตอบให้คำถามนี้หรอก อยากรู้ก็ไปถามศาลพระภูมิเอาแล้วกัน


โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย


กระวนกระวายจนอยู่ไม่สุขแล้ว ใจมันเอาแต่คิดว่าไอ้แจ็คต้องรู้สึกไม่ดีกับกอดเมื่อคืน และเขาอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อให้รู้ว่าเพื่อนยังปกติดี

หันไปมองลูกทั้งสองตัวพร้อมตบขาเรียก ซึ่งพี่ซันก็แสนรู้รีบกระโดดขึ้นโซฟาขึ้นมานัวเนียพ่อ ผิดกับลูกสาวคนเล็กที่เอาแต่นั่งมองจากบนตู้อย่างหยิ่งจองหอง

“ได้มูนได้”

ว่าแล้วก็ยีหัวเจ้าขนทองแรง ๆ อย่างมันเขี้ยวแล้วตรงเข้าไปในครัวเพื่อเอาเหยื่อมาล่อลูก ซึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดฝากระป๋อง ความหยิ่งจองหองก็หายไปในพริบตาพร้อมสารร่างอ้วน ๆ ที่กระโดดลงมาจากบนตู้

“ทำตัวน่ารักก่อนแล้วพ่อจะให้กิน พี่ซันด้วย” ดีลเสร็จก็จัดท่าทางให้ลูกทั้งสองกอดก่ายกันก่อนจะหามุมถ่ายรูป แม้ว่าสีหน้ามูนจะขัดแย้งกับท่าทางที่ตวัดกอดพี่ชาย แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้ลูกสาวของเขาสวยขึ้นแม้ว่าร่างกายจะเหมือนหมู

พอได้รูปที่ต้องการก็เอาอาหารกระป๋องให้มูน ส่วนพี่ซันได้ขนมไปแทะเล่น เท็นนั่งใจจดใจจ่อกับแอปแต่งรูป เพิ่มสีเป็นโทนอุ่นแล้วกดส่งให้เพื่อนสนิทโดยไม่มีแคปชั่นประกอบ ให้อารมณ์ส่งไปงั้น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร แบบว่าถ่ายเสร็จ ส่งให้ แล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอะไรทำนองนั้น

แต่เสียงเข็มนาฬิกาก็ตอกย้ำว่าเขากำลังรอไอ้แจ็คตอบกลับทุกวินาที แต่รอเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น Read คราวนี้ยิ่งกระวนกระวายเข้าไปใหญ่


1.   ไอ้แจ็คทำงานอยู่ มันยังไม่ว่างเปิดอ่านหรอก
2.   มันเกลียดขี้หน้ามึงแล้วเท็น ลาก่อนนะ


ซึ่งถ้าเป็นข้อสองนี่บอกเลยว่าอาการหนัก เขาจะต้องหน้ามึนให้มาก ๆ ตอนแก้ตัวว่าเมื่อคืนก็แค่ติดหมอนข้างจริง ๆ ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่... ก็เออไง มันจะมีอะไรไปได้อีกล่ะ

ไม่ชอบเปิดเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ ทุกแอปต้องเงียบกริบยกเว้นเสียงโทรเข้า แต่วันนี้เขายอมเปิดให้เสียง ‘ไหล๊!!!’ ดังสักครั้งสองครั้งก็ได้แม้ว่ามันจะเป็นเสียงที่น่ารำคาญโคตร ๆ ก็ตาม

Line!!!

กำลังเหม่อ ๆ ถึงกับสะดุ้งจนแทบตกโซฟา เท็นรีบคว้าเอามือถือขึ้นมากดดูแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อญาติห่าง ๆ ส่งจดหมายลูกโซ่มาให้ แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขานัก เพราะหลังจากถอนหายใจและกะพริบตาไปเพียงครั้งเดียว ไลน์ของใครอีกคนก็เด้งแจ้งเตือนตรงแถบบนสุดของจอ


jjack: หน้าหมาเหมือนพ่อมัน


คนโดนด่าหลุดยิ้มแต่ก็ยังรักษาฟอร์มเอาไว้ได้ พอเห็นว่าเพื่อนยังอ่านและตอบไลน์ก็ถึงคราวสตันท์แดกเพราะไม่รู้จะเอาไงต่อ ตอบโต้แบบปกติงั้นเหรอ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นนั่นแหละ แล้วการคุยแบบไหนล่ะที่มันปกติ?

ไม่สิ คำถามคือแล้วทำไมทุกอย่างถึงไม่มีความปกติอยู่อีกแล้ว?



jjack: วันนี้มาไหม?



เท็นรู้สึกว่าไม่ควรไปบ้านไอ้แจ็คติดกันบ่อยเกินไป เขาควรสร้างระยะห่างที่พอดีเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนเรื่องเยอะเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นไอ้แจ็คก็จะได้มีช่องว่างให้หายใจโดยไม่ต้องอึดอัดด้วย

เท็นจะไม่ทำพลาดซ้ำสองอีก โอกาสในชีวิตคนที่เคยทำตัวแย่ ๆ มาก่อนมันไม่ได้มีเยอะมากขนาดนั้น ถ้ามีสติมากพอเขาก็อยากเตือนตัวเองว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร เท็นควรเป็นผู้ใหญ่ที่น่าคบหาเป็นเพื่อน ไม่ใช่ลูกแหง่ที่เอาตัวเองไปผูกติดกับคนอื่นจนใช้ชีวิตเองลำบาก


TEN1O: คงไม่ว่ะ กูจะสตรีม


ทั้งที่อยากไปทุกวันแล้วอย่างไร ไม่ได้เล่นบ้านลูกบอลวันนึงจะตายไหมก็ลองดูสิวะ


jjack: อ๋อ อืม
jjack: ที่ถามเพราะวันนี้กูจะไปซ้อมบ้านไอ้แหลม


เกือบไปแล้ว ถ้าตอบว่าไปคงได้หน้าแห้งแน่ ๆ เผลอ ๆ มันอาจจะหาเรื่องเบี้ยวนัดทีมเพื่ออยู่กับเขาด้วย เวรกรรมจริง ๆ เริ่มมีอาการคิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนี้แล้วนะ


TEN1O: เออ ไปซ้อมกับทีมบ้าง ยิ่งกาก ๆ กันอยู่ด้วย


แต่น่าหงุดหงิดจริง ๆ

ทั้งที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่เท็นกลับไม่พอใจกับการสร้างระยะห่างที่พร่ำบอกตัวเอง การอยู่ด้วยกันมันดีแค่ไหนเขาเองรู้ดีกว่าใคร แต่บทเรียนในอดีตก็เอาแต่ย้ำอยู่นั่นว่าถ้าไม่อยากให้คำว่าเพื่อนต้องตายก็อย่าทำตัวเยอะให้มันมากนัก


jjack: วันพุธกูเลิกเร็ว


แล้วไงวะ กลับบ้านไปนอนดูดโค้กเย็น ๆ อ่านการ์ตูนแล้วรอสตรีมพร้อมทีมตอนหัวค่ำดิ


jjack: ไปดูหนังกันไหม?
TEN1O: ไป


ไอ้ฉิบหาย ที่ถกเถียงกับตัวเองมาอย่างหนักหน่วงนั่นคืออะไร กูตอบตกลงไวยิ่งกว่าโปรแกรมช่วยเล่นในเกมอีก





*




“โห ผมล่ะเชื่อพี่เลย นอนนอกดีไหมอะวันนี้?”

“เราน่ะใจเย็นก่อน”

“ผมเย็นอยู่แล้วเว้ย แต่พี่ธีร์เนี่ยดิจะเย็นได้ไหม?”

“อย่าเพิ่งไปคิดแทนธีร์เลย ทั้งที่บางทีเขาอาจจะโอเคก็ได้”

“โอเคกับผีดิ ผมรู้จักพี่ผมดีโคตร แล้วพี่อะรู้จักพี่เท็นมากแค่ไหน?”

“เพิ่งรู้จักกันครับ แต่เชร์ก็ไม่ได้รู้จักเท็นเป็นการส่วนตัวนี่ เพราะฉะนั้นเราเสมอกันนะ”

“ไม่เสมอ”

“งอแงใหญ่แล้ว อย่าเถียงให้เหนื่อยเปล่าเลยครับ เอาเป็นว่าพี่อ่านเกมขาด มองเดี๋ยวเดียวก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร?”

“ใครเป็นอะไรไหนพูด?”

“นี่เราเดือดอะไรกัน แพ้เกมมาเลยกะจะลงกับพี่เหรอ เชร์ เราตกลงกันแล้วจำได้หรือเปล่า ห้ามเอาอารมณ์ในเกมมาระบายกับชีวิตข้างนอก เพราะพี่จะเสียใจมาก”

“อย่าพูดเลอะเทอะเข้าเรื่องในบ้านดิ พี่น้องนั่งหน้าหมาอยู่ตรงนี้อายมันบ้างก็ได้”

“...?”

แจ็คกับโซ่ชี้หน้าตัวเองหลังจากถูกพาดพิงโดยคู่รักโลกแตกที่สาดคำพูดใส่กันข้ามโซฟาอย่างไม่มีใครยอมใคร บอสยังคงนิ่งขณะที่ไอ้แหลมกลายเป็นหนูติดจั่นหลังจากรู้ว่าแฟนมันอ้าปากชวนไอ้เท็นไปเล่นสงกรานต์ด้วยกัน

“พี่แจ็ค มึงก็ด้วย”

“กู?”

“ใช่ ได้เพื่อนคืนแล้วชวนไปด้วยทุกที่เลยน้า”

“ก็เหมือนมึงได้บอสแล้วก็พาบอสไปทุกที่ ทีงี้ไม่เห็นยกมาเป็นประเด็นบ้างล่ะ?” โซ่นั่งเม้มปากกลั้นยิ้มมองพี่ชายข้างตัวที่ผายมือไปทางเจ้านายอย่างหน้าตาย ซึ่งพี่กันต์ก็เล่นละครแกล้งใสซื่อไปด้วย

“มันไม่เหมือนกันตรงที่ทุกคนโอเคกับเจ้านายมึงไง”

“...”

“...”

พอไม่มีใครพูดอะไรต่อกันต์กวินทร์จึงชำเลืองตามองลูกจ้างกับคนอายุน้อยสุด มันคงดีถ้าแจ็คจะอ้าปากหามุกมาแถกลับ ไม่ใช่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพหวาดระแวงแบบนี้

“มองแบบนี้หมายความว่ายังไงครับแจ็ค เหมือนคุณอยากบอกว่าที่จริงคุณฝืน แต่ต้องเงียบเอาไว้”

“สีหน้าผมชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอครับบอส...”

“นั่นไง ไล่แม่งออกเลยดิพี่กันต์ เก็บไว้ทำไมลูกจ้างทรยศองค์กรแบบนี้” ไอ้แหลมชี้นิ้วย้ำ เขาจึงเอื้อมไปตบเข่าเจ้านายเบา ๆ อย่างรู้กัน เดี๋ยวนี้เล่นได้บ้างแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงหงอเข้าไปในกะดองเพราะความเกรงใจมันค้ำคอ

“พี่แหลมอินแทนพี่ธีร์มากเลยนะครับ โซ่ดีใจแทนเลย”

“มึงกวนตีนกูเหรอจู๊กมาสเตอร์?”

“เราน่ะพาลไปทั่ว น้องก็พูดดี ๆ”

“ดี?! ไอ้เด็กนี่น่ะทำเป็นใส่ชุดลูกแกะ แต่จริง ๆ คือเสือซ่อนเล็บ คอยขบคอยเขื่อนคนอื่นตลอด!!!”

“ข่วน!!!” พอมีคนตบมุกให้ไอ้แหลมก็ทำท่าลิงทโมนจนบอสต้องกุมขมับ

“โซ่ดูร้ายมากเลยครับ ถ้าพี่ธีร์ได้ยินจะต้องดีใจแน่ที่มีคนเห็นความดาร์กในตัวโซ่”

“จริง”

“มึงไม่ต้องจริงเลยพี่แจ็ค พี่ธีร์เป็นห่วงมึงมากนะเว้ย แล้วดูมึงดิ” ไอ้แหลมมองมาพร้อมจิ๊ปาก ซึ่งเขาเข้าใจว่ามันกำลังคิดอะไร ไม่แปลกเลยที่เพื่อนฝูงน้องนุ่งจะเป็นห่วงเป็นใย แต่ถ้าจะให้ห่างไอ้เท็นเพราะตัดสินมันจากเรื่องในอดีตก็คงทำไม่ได้

“เชร์น่าจะหิวมาก แจ็ค โซ่ มื้อนี้ผมคงต้องรบกวนคุณสองคนแล้วล่ะ ขอเป็นส้มตำเผ็ด ๆ เจ้าเด็ดกับอะไรก็ได้ที่ทำให้เด็กแถวนี้หายตกมันทีนะครับ”

“พี่คิดว่าผมจะหยุดได้ด้วยของกินเหรอ?”

“แล้วได้ไหม?”

“ได้ดิ เอากล้วยบวชชีด้วยนะพี่มึง ในตลาดมีเจ้านึงโคตรเด็ด อร่อยจนน้ำตาไหลออกจากทุกรูบนหน้า”

แจ็คเดินไปรับเงินจากเจ้านายก่อนจะเขกกะโหลกน้องรักหัวฝีหัวหนองที่พูดอย่างไม่รู้จักเหนื่อยถ้าเป็นเรื่องไอ้เท็น โชคดีที่ไอ้ธีร์มันพาน้องชายไปซื้อของก็เลยมาช้า ไม่อย่างนั้นเขาคงไหม้เกรียมเป็นผุยผงเพราะโดนสองพี่น้องกลองแต๊กรุมยำ

“ห้ามดึงปลั๊กออก แบตกูเหลือสองเปอร์เซ็นต์เดียวไม่มีเหลือถึงบ้าน” ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ไอ้แหลมทำท่าเอาตีนจีบปลั๊กพร้อมปั้นหน้าลิงใส่ เขาจึงยึกยักจะเข้าไปชาร์จแต่เด็กนรกก็พาตัวเองหนีจากโทรศัพท์มือถือเขาในทันที

ชายหนุ่มผมยาวตรงไปยังมอเตอร์ไซค์คันโปรดแล้วยื่นหมวกกันน็อกให้น้องเล็ก ก่อนสตาร์ทรถก็เห็นแววตาของอีกคนที่มองมาเหมือนกำลังตั้งคำถาม เขาจึงเลิกคิ้วเป็นเชิงถามก่อนเจ้าจู๊กมาสเตอร์จะรับหมวกกันน็อกไปกอดไว้แนบอก


“นอยด์ไหมครับ ถ้าอารมณ์ไม่ดีพี่แจ็คจะลองเกรี้ยวกราดใส่โซ่ดูสักครั้งก็ได้นะ”

“เอางั้นเหรอ?” เขาหลุดขำ และอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับทันที “งั้นซ้อนท้ายมา เดี๋ยวจะพาเกรี้ยวกราดด้วยการขับปาดหน้ารถชาวบ้าน”

“หูย แบบนั้นไม่ดีนะครับ เสี่ยงตายไปอะ”

พอเห็นว่าพี่ชายยังหัวเราะได้ น้องเล็กจึงสวมหมวกกันน็อคแล้วก้าวขาขึ้นซ้อนท้ายก่อนจะเกาะเอวอย่างรู้งาน พอเป็นเรื่องพี่เท็นทีไรโซ่ก็กังวลทุกที กลัวว่าพี่แจ็คจะเก็บคำพูดทุกคนไปคิดมากจนต้องแอบไปกินยาเงียบ ๆ




*




“โซ่คงไม่บอกให้พี่แจ็คเข้าใจพี่ธีร์ เพราะในโลกนี้ถ้าจะมีคนเข้าใจพี่ธีร์ได้เก่งที่สุด พี่แจ็คก็คือเป็นหนึ่งในนั้น”

“แล้วบอกมันให้เข้าใจพี่แบบนี้หรือเปล่า?”

“ไม่ได้บอกเลยครับ พี่ธีร์ก็เหมือนพี่แจ็คที่ต่างคนต่างรู้จักกันและกันดี แต่อาจจะมีบางครั้งที่พี่ธีร์จะงอแงบ้าง เหมือนชื่อเพลงไงครับ เข้าใจนะแต่ก็ทำไม่ได้” เด็กเด๋อของเพื่อนสนิทว่าพลางหัวเราะ

ทั้งคู่กำลังเดินเลือกวัตถุดิบเพื่อเอาไปทำมื้อเย็นก่อนทำการซ้อมทีมในช่วงค่ำ และแจ็ครู้สึกดีที่ผู้ช่วยวันนี้เป็นจู๊กมาสเตอร์ผู้อ่านเกมขาดไปเสียทุกเรื่องมากกว่าจะเป็นไอ้เด็กปากมากอย่างไอ้แหลม

“พี่ธีร์อาจจะต้องการเวลาเยอะหน่อย แต่โซ่เชื่อว่าสักวันมันจะได้ผล เพราะพี่ธีร์ไม่ใช่คนแข็งกระด้างขนาดนั้น ที่ยังโกรธพี่เท็นอยู่ก็เพราะว่าไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่ค่อยมีกิจกรรมร่วมกัน ไฟมันเลยยังคุอยู่”

“แต่เจอกันบ่อย ๆ ก็ใช่ว่าจะรอด”

“ก็จริงนะครับ โซ่มองจากตอนแข่งการกุศลน่ะ ตอนนั้นพี่แจ็ค พี่ตั้บ พี่แหลมก็ไม่โอเคทั้งนั้น แต่เพราะความจำเป็นที่ทำให้ต้องมาคลุกคลีกัน จากที่เคยเคืองก็เริ่มจางลงเพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงของพี่เท็น”

“...”

“ไม่รู้สิครับ ถ้าพี่เท็นมาในรูปแบบแขวะทีมเราตลอดการแข่งเหมือนตอนนั้น โซ่เชื่อว่าพี่แจ็คก็คงไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ เหมือนกัน พอเห็นแบบนี้แล้วโซ่ก็เลยคิดว่าถ้าพี่ธีร์ได้เห็นมุมที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วของพี่เท็นบ้าง พี่ธีร์อาจจะยอมอ่อนลงก็ได้”

“ยาก ความสัมพันธ์ของสองคนนั้นยุ่งเหยิงกว่าพี่อีก แม้แต่ตอนเป็นเพื่อนกันก็ยังเรียกได้ว่าไม่ชอบขี้หน้า”

“พี่ธีร์เคยเล่าให้โซ่ฟังหลายครั้ง แต่มันก็เป็นมุมมองของพี่ธีร์คนเดียว โซ่ถามได้ไหมครับว่าพี่แจ็คมองสองคนนั้นยังไง?”

“คนนึงพูดไม่คิด อีกคนคิดแต่ไม่พูด เก็บไว้ในใจจนอึดอัด พออึดอัดก็โกรธเงียบ พอเริ่มโกรธก็แสดงอาการต่อต้าน ไอ้คนพูดไม่คิดก็ยิ่งไม่ชอบใจ พูดถากถางไปแล้วทุกอย่างก็วนลูป แต่เราจะไปชี้หน้าด่าว่าใครผิดก็ไม่ได้ ตอนนั้นอายุสิบเจ็ด-สิบแปดแล้วก็จริง แต่ทุกคนเติบโตมาจากการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน คิดอะไรไม่เหมือนกัน”

“ถ้าตอนนั้นพี่ธีร์ขอโทษก่อนพี่เท็นจะยอมใจอ่อนไหม แล้วถ้าพี่เท็นยอมระบายความในใจออกไปบ้างพี่ธีร์จะยอมปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเพื่อนได้หรือเปล่า ถึงจะเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้วแต่โซ่อดคิดไม่ได้เลยครับ”

“พี่ว่าอาจเป็นไปได้ทั้งสองทาง”

“ขึ้นอยู่กับว่าใครจะยอมถอยก้าวหนึ่งก่อนเนอะครับ” แจ็คยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าเห็นด้วย

“สองคนนั้นคิดว่าไม่ได้รัก ไม่ได้ผูกพันกันเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ เพราะต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่ดีต่อกัน จนลืมคิดไปว่าช่วงเวลานั้นมันก็ยังมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นอยู่”

เพราะทิฐิบังตา ความโกรธที่ทำให้ลืมไปว่าตอนดีดกีต้าร์ ร้องเพลงไปด้วยกันบนท้ายกระบะระหว่างเดินทางไปเที่ยวทะเลนั้นมันดีแค่ไหน ตอนที่ทุกคนถอดเสื้อวิ่งหาน้ำที่สาดเข้าฝั่งโดยไม่กลัวอะไร ตอนโดดเรียนไปเล่นเกมเซนเตอร์แล้วเกรียนกันอย่างไม่อาย ตอนต้องยืนเรียงกันก่อนถูกทำโทษ ตอนแอบกินเหล้าในบ้านใครสักคนแล้วเล่าเรื่องผีกลางดึกก่อนจะออกไปลองของในบ้านร้างแล้ววิ่งหนีหางจุกตูดออกมา แต่สุดท้ายทุกคนก็หยุดยืนหอบหายใจแล้วหัวเราะกับเรื่องบ้าบิ่นที่เพิ่งทำร่วมกัน

ไอ้ธีร์กับไอ้เท็นยังจำได้บ้างไหม ว่าความจริงแล้วพวกมันไม่ได้เกลียดกันเข้าไส้จนแทบไม่หลงเหลือความทรงจำดี ๆ ต่อกันเลย

“แต่โซ่ดีใจที่พี่แจ็คไม่เมินพี่เท็นนะครับ” ชายหนุ่มหันไปทางน้องเล็กที่เงยหน้ามองเขาพร้อมรอยยิ้ม “โซ่ก็เหมือนคนอื่น ๆ ที่เห็นพี่เท็นแค่ในโซเชียล แต่พี่แจ็คน่ะรู้จักพี่เท็นมากกว่านั้น และโซ่เชื่อว่าถ้าพี่แจ็คคงไม่คิดจะหันกลับไปถ้าไม่รัก ไม่ผูกพันอะไรกับเพื่อนคนนี้เลย”

“...”

“หายไปเป็นสิบปี รูปร่าง หน้าตา โครงหน้า ลักษณะนิสัยมันต้องเปลี่ยนไปบ้างอยู่แล้ว แต่โซ่เชื่อว่ามันคงมีอะไรบางอย่างที่ยังเหมือนเดิมอยู่ ต่อให้ไม่เต็มร้อยแต่ก็ยังมีเค้าโครงเดิม” เด็กหนุ่มเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง “ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหมนะครับ แต่โซ่ไม่ได้เจอเพื่อนสมัยเรียนมอต้นนานแล้ว พอเจอกันอีกครั้งก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม ทั้งที่มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนไป”

“มันจะมีเรื่องแย่ ๆ เกิดขึ้นไหม ถ้าไอ้เท็นไปเล่นสงกรานต์กับเรา?”

“ถ้ามีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น พี่แจ็คยังมีโซ่นะครับ” จู๊กมาสเตอร์ป้องปากกระซิบพร้อมทำหน้าจริงจัง “เราจะช่วยกันรับมือ เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะต้องเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน”

“มีวิธีรับมือไอ้ธีร์แบบเด็ด ๆ เปล่าวะ กลัวมันไม่ฟังพี่แล้วเดินหนีอีก ขี้เกียจตามไปง้อ” นึกถึงหน้าเพื่อนรักแล้วก็ละเหี่ยใจ งอนทีอาการหนักยิ่งกว่าเมียอีก

“เดี๋ยวโซ่จัดการเอง โซ่มีไม้เด็ด”

“เหรอ อะไรล่ะ แชร์กันบ้างสิ”

“บอกไม่ได้หรอกครับ โซ่ใช้วิธีนี้ได้คนเดียว” จู๊กมาสเตอร์หลบสายตาตอนพูด ถ้ามาแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นวิธีเด็ดและคงน่าอายอยู่ระดับหนึ่งไม่งั้นคงอ้าปากคายออกมาแล้ว

“โซ่”

“ครับ?”

“ย้อนแย้งกับตัวเองบ่อยไหม เช่นเวลาสมองสั่งว่าไม่ให้ทำแต่ก็รั้นที่จะทำ หรือไม่ก็คิดอย่างหนึ่ง แต่อีกไม่กี่วินาทีก็เปลี่ยนใจอะไรทำนองนี้น่ะ”

“บ่อยเลยครับ โดยเฉพาะตอนสับสนข้อสอบมาก ๆ” เด็กเด๋อตอบอย่างซื่อ ๆ

“...”

“พี่แจ็คมีอะไรหรือเปล่าครับ?” เจ้าของชื่อลดระดับสายตาลง มองเพียงขาของคนด้านหน้าที่มาเดินจ่ายตลาดเหมือนกัน ขณะที่เขากำลังทะเลาะกับความคิดตนเองว่าควรพูดดีหรือไม่

หันไปเห็นหน้าตาไม่มีพิษมีภัยของคนน้องแล้วก็เริ่มชั่งใจ ปกติแจ็คมักจะเก็บทุกอย่างไว้แล้วให้ความเงียบสงบตัดสิน แต่เรื่องนี้เขาร้อนรนเกินกว่าจะจัดการเองได้

พอรู้ตัวว่าคิดอะไรมากเกินกว่าเพื่อน ชีวิตก็เริ่มปั่นป่วนจนหาจุดศูนย์กลางไว้ยึดเหนี่ยวไม่ได้เลย ทั้งที่บอกตัวเองให้ทำตัวปกติ อย่าแปลกประหลาดมากไปนักเดี๋ยวไอ้เท็นจะกลัว แต่ยิ่งพยายามทำให้ทุกอย่างเหมือนเดิมเขาก็ยิ่งอยากทำให้พิเศษมากขึ้น

เช่นกับข้าวที่จะทำให้ทุกคนแดกวันนี้ก็อยากขับหนีไปทำให้ไอ้เท็นแดกที่บ้าน ห่าเอ๊ย

“ช่วยตัดสินอะไรอย่างสิ”

“เอางั้นเหรอครับ?” โซ่เลิกคิ้วมองครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ

ในเมื่อใช้เหตุผลกับเรื่องของความรู้สึกไม่ได้ งั้นก็ให้ดวงพาไปแล้วกันวะ

“ผักชีกับถั่วฝักยาวเลือกอะไร?”

เหมือนบรรยากาศรอบข้างหยุดนิ่งไปคล้ายว่าไอ้โซ่จะสตันท์กับคำถาม ในเมื่อตอบรับว่าจะช่วยตัดสินงานนี้ชีวิตไอ้แจ็คก็ขึ้นอยู่กับน้องมันแล้ว ถ้าเลือกผักชีเขาจะกลับบ้านทันทีที่ซ้อมเสร็จโดยไม่ต้องสนใจว่าไอ้เท็นจะไลน์มาหรือไม่ แต่ถ้าไอ้โซ่เลือกถั่วฝักยาวเขาจะบิดมอเตอร์ไซค์ไปหาไอ้เชี่ยนั่นถึงบ้านแล้วยกเรื่องเฟรนด์ชิปมาตอแหลเพื่อให้ได้อยู่ต่อ

“ถั่วฝักยาวไหมครับ เมนูวันนี้ไม่น่าจะเข้ากับผักชี”





*




เป็นการเล่นเกมที่ตายบ่อยอย่างน่าหงุดหงิด เพราะเท็นเอาแต่ชำเลืองมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ดับสนิทโดยไม่มีข้อความไลน์แจ้งเตือนสักอันเดียว ตอนนี้ไอ้แจ็คคงสนุกอยู่กับทีมหรือไม่ก็ซ้อมออฟไลน์อยู่ แล้วนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้โทรศัพท์เขาเงียบแบบนี้ซึ่งมันก็เข้าใจกันได้

แต่เมื่อไหร่เวลาจะผ่านไป ทำไมตอนนี้เพิ่งหกโมง เมื่อไหร่จะเที่ยงคืน จะได้เนียนแกล้งส่งสติ๊กเกอร์ไปกวนตีนหาเรื่องให้มันด่าเล่นสักหน่อย

ไม่ได้สิวะ เวลาแบบนั้นไอ้แจ็คควรได้นอนพักถึงจะถูก ไหนบอกว่าจะสร้างระยะห่างที่พอดีไง?

“เดี๋ยวมาใหม่นะครับ ทำมื้อเย็นให้ซันกับมูนก่อน”

อ้างหมากับแมวแล้วปิดสตรีมดับความฟุ้งซ่าน ชายหนุ่มผมเทาถีบตัวเองออกจากโต๊ะจนเก้าอี้สไลด์ถอยไปกลางห้องแล้วเอนหลังพิงพนักพร้อมเงยหน้ามองเพดาน หลายครั้งที่มีความคิดโง่ ๆ ว่าไม่อยากให้พื้นที่ว่างอะไรนั่นแล้ว เขาอยากเห็นแก่ตัวเหมือนเมื่อก่อนซึ่งไอ้แจ็คอาจจะโอเคก็ได้

แต่ตอนนี้ TEN1O เป็นคนดีได้อย่างไร ความเกรงใจคนอื่นมันเกิดขึ้นกับคนอย่างเขาได้นี่โคตรปาฏิหาริย์

เอาไงดีวะ แกล้งโทรผิดดีไหม ไม่ดีกว่า เพราะไอ้แจ็คคงรู้ว่าโลกของเขานั้นแคบเกินกว่าจะกดโทรผิด งั้นเอางี้ แกล้งหาของไม่เจออาจจะดีก็ได้เพราะวันก่อนมันเพิ่งมาจัดบ้านให้นี่นะ

กดโทรออกแล้วเดินวนไปวนมา ในหัวก็เรียบเรียงบทพูดว่าควรอ้างอะไร สาบานเลยว่าถ้าเกิดมันซ้อมอยู่จะรีบวางสาย แต่ถ้าไม่ก็จะชวนคุยสักหน่อย

พอเห็นสภาพกระวนกระวายของตนเองในกระจกแล้วก็ได้แต่นึกย้อนถามว่าทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้วะ?

“ฮ... ฮัลโหล”

กลายเป็นไก่อ่อนเสียได้ แค่ไอ้แจ็ครับสายถึงกับเสียงหลงเลย น่าอายฉิบ

( พี่เท็นนี่แพรวน้า )

แพรว?

เกือบลืมไปว่าน้องก็เป็นหนึ่งในแก๊งนั้นเหมือนกัน ก็ไม่แปลกที่จะรับสายให้ แต่คนเรามันต้องมือไม่ว่างขนาดไหนถึงให้คนอื่นมายุ่งกับโทรศัพท์ตัวเอง หรือนับว่าสายนี้ไม่ได้สำคัญอะไรมากใครจะรับแทนก็ได้ ด่ามันสักทีดีไหม?

“อ้าวแพรวเหรอ เป็นไงบ้าง ไม่ได้คุยกันนานเลย”

( หนูก็เรื่อย ๆ ค่ะ พี่เท็นทำอะไรอยู่ กินข้าวยัง? )

“เรียบร้อย เออ แล้วไอ้แจ็ค --”

( ใครโทรมาอะ? )

( พี่เชร์ยุ่งอะไรด้วย? )

( ยุ่งดิ โทรศัพท์พี่ของพี่อะ )

( พี่แจ็คก็พี่หนูเหมือนกันปะ? )

( พี่จริงหรา โอ๊ะ ๆ ลืมไปว่าสนิทกันถึงขั้นจำพาสเข้าเครื่องได้ )

( พี่เชร์ก็รู้ แปลกอะไร? )

( แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้าไม่มีสายชาร์จเสียบคาไว้พี่ก็คงคิดว่านั่นเป็นโทรศัพท์แพรวอะ แบบว่าใช้เคสเหมือนกันไรงี้ เคสคู่ซะหน๊อยยยยยย )

( หนูเห็นว่าซื้อสองอันมันถูกก็เลยแบ่งให้พี่แจ็คใช้เฉย ๆ มะ? )

( ไม่ใช่อยากใช้คู่กันหรา? )

( พี่เชร์อย่ามาปั่น เรื่องเยอะจังอะ )

( เหลือแต่เซ็ทหน้าจอโทรศัพท์เป็นรูปพี่แจ็คอะเนาะ เฮ้ย ๆ ใจเย็น อย่าปามาเดี๋ยวโดนกรอบรูปแตก – แพร๊ววววว )


กดวางสายแล้วเสยผมขึ้นค้างไว้กลางศีรษะ อยู่ ๆ ก็รู้สึกหายใจติดขัด หน้าอกข้างซ้ายเต้นตุบ ๆ มือไม้เย็นเฉียบจนต้องใช้เวลายืนนิ่ง ๆ อยู่เป็นนาทีกว่าจะสงบลงได้ ไม่อยากยอมรับว่ากำลังโมโหที่ได้ยินเสียงแซวในเชิงนั้นของไอ้เด็กลูกครึ่ง ที่สำคัญคืออารมณ์มันดีดขึ้นมากกว่าเดิมตอนที่รู้ว่าไอ้แจ็คกับน้องแพรวใช้เคสคู่กัน

ไม่ใช่แค่เกือบลืมว่าน้องอยู่แก๊งนี้ แต่เท็นเกือบลืมเรื่องสำคัญไปว่าครั้งหนึ่งเขาก็เคยเล่นงานไอ้แจ็คด้วยเรื่องแอบชอบน้อง ซึ่งแล้วยังไงวะ จะหงุดหงิดโมโหอะไรนัก จะงี่เง่าเรื่องเพื่อนมีความรักอีกแล้วหรือไงกัน หุบปากแล้วอยู่เงียบ ๆ ดีกว่า

หัดยินดีกับไอ้แจ็คเสียบ้าง ทุกคนไม่เหมือนบลูเสมอไป และต่อให้เหมือนแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเก็บมาคิดมากแบบนี้

แต่จะทำอย่างไรดี เขาไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้อีกแล้ว ใจมันอยากจะเดินโง่ ๆ ไปที่ไหนก็ได้ขอแค่ไล่ความรู้สึกนี้ไปไกล ๆ ก็พอ




*




“กลับมาแล้วครับ”

“ไหนของกิน?”

“ทีงี้ล่ะเสนอหน้าก่อนใครอื่น เตรียมจานยัง?” แจ็คเขกกะโหลกไอ้เด็กเกรียนแล้วยื่นถุงส่วนหนึ่งให้มันเอาไปแกะกินรองท้องก่อน ส่วนที่เหลือกะว่าจะเข้าครัวทำสักสามเมนู และต้องเป็นเมนูไม่เผ็ดเผื่อบอสด้วย

“อย่างนานอะพี่แจ็ค”

“อ้าวแพรว มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“สักพักแล้ว อยู่กับพี่เชร์หนูเกือบเป็นบ้าตาย”

“เพราะทนความหล่อพี่ไม่ได้ บอกทุกคนไปเลย”

“แหวะ จะอ้วก”

“แพรวมายังไง กลับพร้อมกันได้นะเดี๋ยวพี่ธีร์ไปส่ง”

“เออ เราก็กะอยู่ว่าจะติดสอยห้อยกลับไปด้วย แล้วเมื่อไหร่พี่ธีร์จะมา กะว่าจะขอให้ช่วยติวภาษาอังกฤษก่อนซ้อมนี่จะได้เรื่องปะคิดว่า?”

“รายนั้นปล่อยไปก่อน ให้มันใช้เวลาอยู่กับน้องชายบ้าง” แพรวทำหน้าหงอยเขาจึงยื่นขนมครกให้ และเด็กตะกละก็รับไปกินทันทีโดยไม่ห่วงสวย

“งั้นโซ่ก็ได้ ติวให้เราหน่อยดินะ เงิบจริงจังอะ”

“เอาสิ เดี๋ยวตอนกินข้าวมานั่งข้าง ๆ เรานะ”

“จัดไปจ้าจู๊กมาสเตอร์” แพรวหันหลังวิ่งไปเอาหนังสือ แต่ยังไม่ได้เปิดกระเป๋าเป้ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อนึกบางอย่างออก “เออพี่แจ็ค พี่เท็นโทรมาอะ”

“...?”

“แต่หนูไม่ได้ถามว่ามีธุระอะไร คุยกันยังไม่ถึงไหนก็โดนพี่เชร์ป่วนก่อน”

“โทษพี่อีกละ แค่แซวเล่น ๆ เองเปล่าว่ารับสายแทนแควนงี้ ทำมาเปงหัวเสีย” ไอ้แหลมอ้อร้อล่อตีนจึงโดนแพรวฟาดไปหนึ่งดอก

“ก็นั่นแหละ พี่เท็นคงรำคาญมากอะถึงได้วางสายไปเลย”

“จ้า ทุกคนรำคาญไอ้แหลมไปหม้ดดดดด”

“...”

“พี่แจ็คครับ?”

โซ่มองรุ่นพี่พลางสะกิดท่อนแขนแกร่ง แต่พี่แจ็คกลับยืนนิ่งคล้ายว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนดวงตาคู่นั้นจะมองมาพร้อมยัดถุงวัตถุดิบมากมายที่ช่วยกันเลือกมาทำมื้อเย็นใส่มือเขา

“พี่แจ็ค? จะไปไหนน่ะครับ?”

เด็กหนุ่มมองตามแผ่นหลังกว้างของรุ่นพี่ที่กำลังออกไปนอกบ้าน หยิบหมวกกันน็อกสวมก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ยอดรัก ก่อนจะหันมาให้คำตอบที่ยากจะเข้าใจ

“ไปใช้โควตาถั่วฝักยาว”




(จบพาร์ทแรก)

บักแหลม มึ๊งงงงงงงงงง (อีกแล้ว)



















หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 26-03-2019 22:48:05
บักน้องแหลมมม  :z3: ทั้งตลกทั้งมัมโห 55 แหลมทำให้เท็นเท็นใจเสียเลยรู้มั้ย ไปค่ะแจ็ครีบไปใช้โควต้าถั่วฝักยาว เดี๋ยวเท็นเค้าจะคิดไปไกลเด้อออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-03-2019 23:06:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 26-03-2019 23:18:08
 :laugh:

 :L2: :pig4: :L2:

 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-03-2019 23:18:35
ต้องขอบใจน้องแหลมต่างหากที่ทำให้ใครบางคนหึงจนโมโหน่ะ

ปล.น้องโซ่ช่วยเลือกได้ดีมาก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 26-03-2019 23:46:42
คนซึนสองคนเค้ากำลังคิดถึงกันว่ะ >____<
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-03-2019 23:52:41
พี่แจ็คสู้ๆ พี่แจ็คคคคค
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 27-03-2019 00:02:11
แงงงงง๊ ถั่วฝักยาวช่วยชีวิตเท็น 55555
คุณน้องแหลมนี่ก็นะ เปิดประเด็นตลอด :laugh:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 27-03-2019 03:15:38
นังแหลม!!!! คนเค้าจะรักกัน อย่าทำบาป!
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 27-03-2019 07:26:02
อินังแหลมมมมมม มันน่าฟาดดด
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 27-03-2019 08:42:32
เท็นสับสนน่าดู พี่แจ๊คคะรีบไปเลยเด้อออ ในฐานะคนที่บรรลุก่อน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-03-2019 09:11:11
โถ๋ พ่อพี่ซัน อิมูน

นอยย์เอง คิดเองอีกแล้ว

อย่าไปสนใจนังแหลมเลย

มันได้เชื้อปากเสียมาจากพี่ทิดธีย์

นั่นแหละ

พี่แจ็ครีบไปใช้โควต้าถั่วฟักยาว

ก็ใช้ให้คุ้มๆหน่อย

อย่ามัวอมพะนำกันนักเลย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 27-03-2019 15:27:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 28-03-2019 00:10:57
โง้ยยยยยย!! ใครก็ได้ช่วยเอาบอสหลบไปก่อนได้ไหมคะ อยากจะเอามือตบแปะลงบนกะโหลกของบักแหลมแรงๆ ซักที มันน่านัก!!!

ต้องยอมรับเลยนะคะว่าเท็นดูจะอาการหนักกว่าแจ็คอยู่ไม่น้อยเลย
ตลกตอนที่เท็นอ่านสายตามูนแล้วทึกทักไปเองว่ามูนตอบคำถามตัวเองไปแบบนั้น ดูจะไม่แยแสพ่อมันเลย 555555

ตอนแจ็คเสียอาการ ความรู้สึกก็จะแบบอมยิ้มฟินๆ แล้วก็หวีดในใจประมาณว่าเขากำลังจะรู้ใจตัวแล้วอ่ะแกร๊
แต่พอมาเป็นเท็นทำไมถึงรู้สึกว่าดูน่ารักและเสียอาการแบบซึนๆ มาก... แล้วเท็นก็ยังคงความเป็นเท็นอ่ะค่ะ ยิ่งรู้สึกด้วยมากเท่าไหร่ ความกังวลในความสัมพันธ์ ความอยากรักษาไว้ให้ยืนยาว ก็จะคิดเยอะมาก ทำให้เท็นค่อนข้างที่จะพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอรุกล้ำอีกฝ่ายมากเกินไป

ระหว่างสองคนนี้สิ่งที่เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ต่างฝ่ายก็เป็นห่วงความรู้สึกของกันและกันมาก การกลับมาเจอกันครั้งนี้ มันคือการปรับเข้าหากันให้ได้ ประคับประคองไม่ให้มันพลาดไปเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต...และก็ใกล้ความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนเข้าไปทุกที~~

น้องโซ่โผล่มาทีไรก็คือความน่ารัก~
ความไม่มีพิษภัยใดๆ โผล่มาแบบน่ารักเรียบร้อย แต่ก็ได้ใจกันไปตลอด นว้องงงงงงง
ในใจลึกๆ ก็คิดว่า ตอนซอโซ่ล่ามธีร์ ไม่มีฉากคนใจบาปรังแกน้องก็เป็นเรื่องดีอยู่นะคะ จะทำใจให้คนใจทรามมาย่ำยีน้องได้ไหมนะ แค่คิดก็แอบปวดใจจะแย่ 5555555

สุดท้ายนี้....ขอวิ่งไปซื้อถั่วฝักยาวมาตุนไว้เยอะๆ ระหว่างรอครึ่งหลังนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-03-2019 00:26:41
เพื่อนอะไรจะหวงกันขนาดนี้คะแหมมมม
สงสารน้องโซ่ ต้องมาเป็นเหยื่อสังเวยอิพี่ธีร์ให้เป็นคนดี รูกแม่ ไม่รู้ทำบาปทำกรรมอะไรไว้ สู้ๆนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 28-03-2019 11:53:16
  :pig4:

  ซึมเศร้าแมนอะไร๊ ณ วินาทีนี้ ไม่มมี๊ -เร็วกว่า the flash ก็ the Jack เนี่ย

คาดว่าคู่นี้คงมาในรูปแบบคู่รักธรรมดาเหมือนชาวบ้าน ..ใช่มั๊ย /ให้ถั่วฝักยาวทำนายเด้อ

 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: MeiHT ที่ 28-03-2019 13:13:58
พิแจ๊คคคคคคคคคคคคคคคคค พิแจ๊คโซหลัวมาก จริงๆคือตามไปเม้นท์ในทุกแพลตฟอร์มที่พี่มิ้วลง สนุกมากค่ะ รักเท็นสิบมากๆๆๆๆๆ เป็นตัวละครที่น่ารักมาก อยากแกล้งให้ร้องไห้ แล้วก็อยากกอดปลอบมากๆเลยค่ะ เป็นตัวละครที่แตกสลายแต่พยายามแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเข้มแข็ง เป็นไทป์ที่ชอบสุดๆๆๆๆๆ
รักสองคนนี้มากๆ ไม่รู้จะพูดยังไงดี
รอซื้อเล่มเลยแล้วกันนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (26/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 28-03-2019 19:31:03
ที่รักกกกกกก ขับรถระวังๆด้วยไม่ต้องรีบน้องเท็นไม่หนีไปไหน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 29-03-2019 13:31:13


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 18
อาการผิดปกติ (PART 2/2)




“อ้าว ไอ้พ่อครัวไปไหนวะ ทำไมวันนี้มีแต่มือสมัครเล่นลงมาเล่นขายของ?”

คนมาช้าที่สุดตรงตรงไปหยิบแอปเปิ้ลมากัดคำแรกพลางยืนพิงกับตู้เย็น ตอนนี้พี่กันต์คงนั่งทำงานอยู่ชั้นบน และคนที่พร้อมให้คำตอบคงเป็นไอ้แหลมหรือไม่ก็แพรวที่ยืนทำหน้าหงิกตอนกำลังสับไก่อยู่

“ถามไอ้โซ่ดิ มันคงมีคำตอบดี ๆ ให้” แหลมแค่นยิ้มใส่ไอ้ตัวดีที่เนียนโยกกระทะประหนึ่งเชฟระดับโรงแรมห้าดาว ต้องโดนแล้วล่ะจู๊กมาสเตอร์ มึงต้องตายด้วยมือพี่ธีร์

“พี่แหลมว่างที่สุด เพราะงั้นคุยกับพี่ธีร์นำหน้าไปก่อนเลยนะครับ”

“แต่เราเห็นด้วยกับพี่เชร์”

“อ้าวแพรว หักหลังกันนี่”

“ทำไมต้องเกี่ยงกันตอบ มีประเด็นอะไรหรือไง?” ดูจากอาการผิดปกติของน้องนุ่งแล้วชักจะได้กลิ่นแปลก ๆ “ตอนแรกไลน์จี้กูยิก ๆ บอกมาครบแล้ว?”

“ตอนแรกอะครบ”

“อ๋อ จะบอกว่ามันออกไปซื้อของกินเพิ่ม”

“ใช่ ออกไปตามหาถั่วฝักยาวไง”

“ถั่วฝักยาว?” ธีร์เลิกคิ้วมองหน้าน้องชายหัวฝีหัวหนอง พอพูดจบมันก็ดูจะอารมณ์ขึ้น

“โธ่พี่แหลมอินอีกแล้วนะครับ โซ่ผิดตรงไหนเล่า?”

“ผิดดิ มันก็เหมือนผัดกะเพราที่ควรใส่แค่ใบกะเพรา ไม่ใช่ใส่ถั่วฝักยาวเข้าไปแทน พี่ธีร์ กูรู้สึกเสียใจกับมึงจริง ๆ ตอนดูซิวิลวอร์กูไม่เคยอินฉากกัปตันกับบัคกี้รุมกระทืบไอรอนแมน กระทั่งกูเห็นภาพมึงเป็นโทที่สต๊าฟ”

“สตาร์ค!!!”

“แค่นี้ก็เอาเหรอพี่เชร์” แพรวมองรุ่นพี่อย่างเวทนา คิดถูกแล้วที่ครั้งหนึ่งในชีวิตไม่หลงผิดเผลอใจให้

“ต้องเอาแหละ บาทสองบาทก็มีค่า โอเค กูต่อนะ – พวกมึงทุกคนคิดดู โทนี่กับกัปตันเป็นเพื่อนร่วมรบกันมาตั้งเท่าไหร่ อยู่ดี ๆ บัคกี้ก็โผล่หน้ามาแล้วมันก็ได้ทุกอย่างไป แถมทิ้งโทนี่ไว้ข้างหลังอีก กูเจ็บแทนมึงพี่”

“สิ่งเดียวที่กูเหมือนโทนี่คือกูเป็นพระเอก!!!” วิ้งเลย เจอตบหัวดอกนี้แหลมถึงกับช้อนตามองอ้อนตีนพี่ชายสุดที่รัก “กลับมาตรงนี้ก่อน แล้วการที่ไอ้แจ็คไม่อยู่นี่มันเกี่ยวอะไรกับถั่วฝักยาว?”

“ก็ได้ครับ โซ่เล่าเองจะได้ไม่วกเข้ามาร์เวล ตอนไปตลาดพี่แจ็คถามโซ่ว่าจะเลือกอะไรดีระหว่างผักชีกับถั่วฝักยาว โซ่เห็นว่าเมนูวันนี้ไม่เหมาะกับผักชีก็เลยเลือกถั่วฝักยาวแทนเพราะจะทำกับข้าวทั้งทีก็ควรทำให้ถูกสูตร หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ อยู่ ๆ พี่แจ็คก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกไปแล้วบอกว่า ‘พี่จะไปใช้โควตาถั่วฝักยาว’ อะไรสักอย่างนี่แหละครับโซ่ก็จำได้ไม่แม่น พอพี่แหลมถามว่าพี่แจ็คไปไหนโซ่ก็เล่าให้ฟังไงครับ แล้วหลังจากนั้นพี่แหลมก็เชื่อมโยงทุกอย่างเอาเองว่าไปหาพี่เท็นแล้วก็มาโมโหโซ่เฉย”

“เล่าละเอียดทุกขั้นตอนเหมือนถอดร่างพี่เชร์มา” <- แพรว

“มีทำหางตาตก ทำเสียงหงอให้ดูเป็นเหยื่อด้วยนะ” <- แหลม

“มุกเด็ดเขาล่ะ ใช้ตลอดเวลาทำผิดแล้วกลัวโดนดุ” <- ธีร์

“เพราะฉะนั้นทุกคนทำใจร่ม ๆ ไว้ก่อนเถอะครับ เดี๋ยวพี่แจ็คก็กลับมาแล้ว เชื่อโซ่ได้เลย”

“มะเหงกกูนี่ มึงแนะนำพี่แจ็คไปในทางไม่ดีเคยรู้ตัวบ้างไหมจู๊กมาสสะเต้อ”

“จากเรื่องถั่วฝักยาวน่ะเหรอครับ โห ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่แหลมจะตีความไปได้ไกลขนาดนั้น พักหลังพี่กันต์ชวนดูหนังสืบสวนสอบสวนบ่อยก็เลยคิดว่าทุกการกระทำจะต้องมีซิมโบลิกซ่อนอยู่สินะครับ คอหนังนี่อินง่ายจริง ๆ -- โอ๊ะ!” ด้วยความหมั่นตีน จึงตบกะโหลกจู๊กมาสเตอร์โชว์แพรวไปสักดอก แต่ยังไม่ทันได้กร่างก็โดนสวนกลับโดยหัตถ์เทวะของพี่ธีร์ เด็กนี่แตะต้องไม่ได้เลยน้าแสส

“ก็มันรีบไปทันทีหลังได้ยินว่าพี่เท็นโทรมาจะให้กูคิดไง?”

“พี่เชร์เดือดเหมือนผู้หญิงวัยห้าสิบที่ถูกผัวเด็กนอกใจอะ”

“แพรว เรื่องนี้เราไม่ได้ โอเคน้า ผู้ใหญ่เขาจะดีเบตกัน”

“เอาเป็นว่ารอไปก่อน นัดซ้อมคือซ้อม ยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมง ถ้ามันผิดนัดกูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง”

หัวหน้าทีมกัดแอปเปิ้ลสายตามุ่งมั่นเหมือนพร้อมเอาเพื่อนให้ตายถ้าเกิดว่าพี่แจ็คมันกล้าเห็นใครดีกว่าธีร์เกมเมอร์ผู้นี้!!!

เอ้อ!!! พี่กูต้องเหี้ยมโหดแบบกาว ๆ อย่างนี้แหละถึงจะถูกต้อง!!!



*



รองเท้ากีฬาได้เอาออกมาปัดฝุ่นก็วันนี้ และมันก็ถูกใช้งานอย่างหนักภายในเวลาไม่กี่นาทีจนร่างกายตะโกนด่าว่า ‘ไอ้โง่’ เพียงเพราะไม่ได้วอร์มก่อนเริ่มวิ่ง

แต่จังหวะตอนหัวอุ่นใครจะไปคิดอะไรออก เท็นคิดแค่ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเดี๋ยวนั้นเพื่อให้สมองปลอดโปร่งจากอะไรก็ตามที่ทำให้ไม่สบายใจ ซึ่งการออกไปวิ่งรอบหมู่บ้านจนเหงื่อโชกกายเกือบชั่วโมงก็เป็นการตอบโจทย์ที่ดีพอสมควร

ปวดข้อเท้า ปวดเข่าก็ยังดีกว่าปวดหัวล่ะวะ

“...”

บอกทีว่าที่เห็นข้างหน้าคือภาพลวงตา เท็นหยุดฝีเท้าพลางหอบหายใจขณะมองใครคนหนึ่งที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนมอเตอร์ไซค์เหมือนกำลังรอใครสักคนอยู่ ซึ่การคาดเดาครั้งนี้จะไม่ได้โง่เกินไปด้วย

“อะไร?”

“มึงสิอะไร?”

มันสวนกลับว่ะ ฉิบหายแล้ว จังหวะนี้ถ้าเป็นหนังโนแลนก็คงเดาที่มาที่ไปได้ง่ายกว่าทุกครั้ง เจ้าของผมยาวอัดควันคำสุดท้ายแล้วโยนก้นบุหรี่ลงพื้นพร้อมเอารองเท้าขยี้ เกือบจะเท่สุดทางแล้วแต่มันเสือกก้มลงเก็บเอาไปทิ้งถังขยะหน้าบ้านเขาก่อนจะเดินมา

“ออกกำลัง?” ไอ้แจ็คฉลาดเกินกว่าจะเชื่อว่าเขานึกอยากเฮลท์ตี้วิ่งเสริมสร้างกำลังร่างกาย และเท็นก็หน้ามึนมากพอที่จะพยักหน้าพร้อมบิดนู่นนี่นั่นก่อนจะกระโดดย่ำบนที่เหมือนฮึดมาแต่ชาติปางไหน

มันมีนัดซ้อมทีม แต่อยู่ดี ๆ ก็โผล่หน้ามาที่นี่คงไม่ต้องเดาแล้วล่ะว่าใครเป็นคนบอกว่าเขาโทรไป ไอ้เด็กฝรั่งคงสร้างเรื่องให้อีกแน่ ๆ ทำไมถึงเป็นคนจันไรแบบนี้วะ

แต่ถ้าไลน์มาถามว่า ‘โทรมามีอะไร?’ ก็ได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องลงทุนมาถึงที่นี่ด้วย หรือว่ามันโกรธเรื่องไม่รู้จักกาลเทศะเลยตามมาสั่งสอน 

“กูแค่อยากวิ่งจริง ๆ ไม่มีอะไรเลย”

“อืม กูรู้”

“มึงไม่ได้รู้ สายตามึงมันฟ้อง”

“ฟ้องว่า...?”

“ฟ้องว่าไม่เชื่อที่กูพูด”

“แล้วสายตากูมันพูดอะไร?” 

“ก็ใกล้ไป” พอไอ้แจ็คยื่นหน้าเข้ามาร่างกายเขาก็ผงะถอยหลังทันที ก็เล่น Jump Scare แบบนี้ก็ตกใจสิ

“ตรงนี้มืด กลัวมึงมองไม่ชัด”

“กลับไปซ้อมเหอะ ที่โทรไปกูแค่อยากกวนตีนเฉย ๆ ไม่มีอะไรหรอก”

อัปเลเวลขึ้นมาอีกระดับ นั่นคือการไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนเพราะตัวเอง ไม่รู้ว่าไอ้ธีร์คิดอย่างไรกับการมาของไอ้แจ็ค มันจะตึงกันหรือเปล่า ถึงจะไม่ชอบขี้หน้ามันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องอยากให้ไอ้แจ็คเคืองใจหรือเลิกคบไอ้ธีร์ไปเลย

ทึ่งความคิดตัวเองตอนนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนที่ไม่แคร์ใครเลยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดติดลบมากแค่ไหน 

ไอ้แจ็คลดระดับสายตาครุ่นคิด มันมองนาฬิกาข้อมือเหมือนกำลังคำนวณเวลา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา

“กินมาม่ากัน”

ไอ้แจ็คคือสายซัพพอร์ทที่แท้จริงว่ะ มันไม่ต้องทำห่าอะไรเลยแค่โผล่หน้ามาชวนกินมาม่าความไม่สบายใจก็หายไปเป็นปลิดทิ้งแล้ว มันไม่ถามอีกเลยว่า ‘ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ?’  หรือบ่นว่า ‘ไม่มีกูแค่คืนเดียวมันจะตายไหม?’ ไอ้แจ็คแค่อมยิ้มเหมือนว่ามันแค่อยากมากินมาม่าที่นี่แล้วก็กลับไปซ้อมเท่านั้น

“ก็เอาดิ”

ตอนนี้เหงื่อที่ไหลตามโครงหน้าคงมาจากอาการดีใจกับความสำคัญที่ได้รับ หัวใจมันพองโตเป็นเท่าตัว อาจเป็นเพราะเมื่อสิบปีก่อนเคยชินกับความผิดหวังจากการคาดหวัง เท็นจึงรู้สึกพิเศษทุกครั้งที่ได้รับอะไรก็ตามที่ไม่ได้คาดคิด

“แต่ต้องไปมินิมาร์ทนะ เพราะเหมือนว่ามาม่ากับนมข้นจะหมดแล้ว”

เปล่าเลย ทุกอย่างมันอยู่ในตู้พร้อมโยนลงหม้อร้อน ๆ แล้ว เพียงแต่เขาอยากยืดเวลาอยู่กับไอ้แจ็คนานกว่านี้อีกสักหน่อยและหวังว่ามันจะไม่ผลาญเวลาเพื่อนมากไปนัก

“งั้นเดินไปแล้วกัน ประหยัดน้ำมัน”

สองเพื่อนสนิทเดินไปบนถนนในหมู่บ้านที่เงียบสงบ คนเหนื่อยเพราะฝืนวิ่งบำบัดตัวเองเริ่มเก็บอาการไม่ไหวจึงกอดคอเพื่อนให้ลากตัวเองไปด้วย แต่ไอ้แจ็คก็เอามือดันออกอย่างรังเกียจเหงื่อเปียก ๆ และสุดท้ายมันก็ยอมลากเขาไป

วันนี้ไอ้แจ็คก็กลับไปซ้อมทีมทันโดยที่ไม่มีใครต้องหงุดหงิด ด้วยการอ้างว่าเขาจะโดนรุมกระทืบจึงรีบไปช่วย พวกไอ้ธีร์ถึงได้พอใจขึ้นมาหน่อย พอเป็นเรื่องแบบนี้แล้วหยวนได้ทันทีเลยนะพวกเหี้ย



*



วันสงกรานต์มาถึงแล้ว แม้ไอ้ธีร์กับน้องรักของมันจะไม่ค่อยพอใจกับการพาไอ้เท็นมาเล่นด้วย แต่มันทั้งสองคนก็ไม่ได้ประชดประชันแดกดันจนเขารู้สึกแย่ เหมือนจะไม่พอใจแต่ก็อยากตามใจเขาสักครั้งอะไรทำนองนั้น

ไม่ได้คลั่งไคล้การปะแป้งใครขนาดนั้น แจ็คเพียงถือกระป๋องแป้งไว้แล้วเดินไปเรื่อย ๆ ให้ชาวบ้านชาวช่องปะแป้งหรือลูบไล้ลวนลามร่างกาย แต่เริ่มอึดอัดแล้วว่ะ แรก ๆ ก็โอเคอยู่หรอก ไป ๆ มา ๆ โดนจับไข่เป็นใครก็ต้องผวาบ้างแล้ว

หน้าตาหล่อจัดอย่างไอ้ธีร์กับบอสก็โดนรุมเละจนคนที่ต้องช่วยลากออกไปคือแฟนเด็กทั้งสอง ไอ้เท็นดูว่าจะรอดหน่อยเพราะมันใส่แว่นดำกับหมวกบักเก็ตที่เหมือนจะกลัวร้อนแต่ก็ช่วยบดบังหน้าหล่อ ๆ ของมันไว้ได้บ้าง

ไอ้เท็นอ้างว่าไม่อยากให้ใครมาจับซี้ซั้วซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นทีเดียว แต่หวยดันมาตกที่เขา ซึ่งไม่น่าใช่เพราะเรื่องหน้าตาแต่คงด้วยส่วนสูงที่มองเห็นชัดเจนจึงตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย ๆ

“เวรแล้ว พวกไอ้ธีร์หายไปไหน?”

“เมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย สงสัยคงหลับหูหลับตาแหวกหนีกลุ่มข้างหน้าจนลืมมองข้างหลัง” เท็นลดแว่นดำลงเพ่งมองหาไอ้หน้าส้นตีนในดงซอมบี้ใจกลางกรุงแต่ก็ไม่เห็น

“ไม่เป็นไร เดินไปเรื่อย ๆ คงเจอเอง หรือไม่ก็นู่นแหละ บ้านบอส”

“รู้ว่าร้อน ว่าเละขนาดนี้ยังจะเล่นกันอีก”

“ไม่สนุกเหรอ?” ตอนแรกก็ไม่รู้ตัวว่าไม่ควรพูดแบบนี้กระทั่งเจอคำถามไอ้แจ็ค เป็นไงล่ะ รู้สึกผิดเลย

“ไม่ชอบเพราะร้อนเฉย ๆ กูไม่อยากดำไง ผิวกูดีมากมึงก็เห็น” พยายามแถด้วยการถลกเสื้อคลุมลายสก็อตให้ดู แต่ไอ้คนใส่เสื้อยืดแนบผิวจนเห็นหัวนมก็แค่ยืนมองหน้าตาเฉย

“กูน่าจะขุดหลุมฝังมึงไว้หน้าบ้าน แดดจะได้ส่องไม่ถึง”

“บ่นเล่นบ่นขำน่า...” เท็นเอาศอกสะกิดคนที่เหมือนจะงอนเล็ก ๆ โอเค ต่อไปนี้จะพยายามไม่บ่นไปซี้ซั้วแล้ว เพื่อนจะได้ไม่เซ็ง

“ตอนเป็นเด็กเห็นชอบเล่นสงกรานต์”

“ตอนนั้นกูยังหล่อไม่เก่ง แต่ตอนนี้กูหล่อเก่งมากแล้ว”

“ถ้าคนมันจะหน้าตาดี ต่อให้ดำมันก็หล่อเปล่าวะ?”

“คือมึงจะเคลมว่าตัวเองใส่เสื้อยืดแขนสั้นมาเล่นน้ำ ต่อให้หลังจากนี้จะผิวคล้ำคนก็ยังหลงรักน่ะเหรอ? ‘พี่แจ็คคะ หนูขออนุญาตโดเนทนะคะ’ ‘พี่แจ็คมองกล้องแล้วยิ้มให้หน่อยได้ไหมคะ?’” เท็นดัดเสียง ก้มหน้าล้อเพื่อนก่อนจะเป็นฝ่ายปะแป้งมันเสียเอง

“รู้ลึกขนาดนี้แอบดูกูสตรีมสินะ?”

“กูเปิดให้พี่ซันเห่าเล่นเฉย ๆ”

“พูดมากว่ะ ไหนตอนแรกดูหงุดหงิด” แจ็คดึงหมวกดำออกจากศีรษะเพื่อนแล้วเอาไปซ่อนไว้ข้างหลัง ซึ่งไอ้คนห่วงหล่อก็พยายามแย่งอย่างสุดความสามารถ

“ไม่ได้นะเว้ย สีผมกูจะหลุด”

“ก็หยุดทำสีเทาสิ เดี๋ยวมะเร็งได้แดกตายพอดี พักหัวบ้าง”

“ก็พักมานานแล้วถึงได้ทำอีกทีไง” ในที่สุดก็แย่งคืนมาจนได้ เท็นลดแว่นลงไว้ที่สันจมูกก่อนจะยักคิ้วกวนไอ้คนผมยาวที่เสยผมครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะความเกะกะ

“กลับไปเดี๋ยวกูทำสีน้ำตาลให้”

“ทำเป็นหรือไง?”

“เออ มึงไปซื้อสีมาก็พอ จะได้ไม่ต้องเสียค่าจ้างช่าง”

“เอาเรื่องเว้ย แจ็คบาร์เบอร์” เขาหัวเราะพลางมองเพื่อนที่ล้วงเอายางรัดผมออกมา “กูช่วย”

“ไม่เป็นไร กูแค่มัดผม --”

“เออน่า เดี๋ยวทำให้”

ไม่ได้สนใจว่ามีใครมองมา เพราะตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ให้ความสนใจกันและกันมากกว่าคนแปลกหน้าที่เดินสวนไป แจ็คหยุดยืนกับที่เพื่อให้เพื่อนได้ช่วยมัดผมได้ถนัด เขารู้ตัวว่ากำลังยิ้ม แต่ก็พยายามให้ไม่มากเกินไปจนดูผิดปกติ ก่อนจะทั้งคู่จะค่อย ๆ เดินเบียดฝูงคนไปอีกครั้ง

“มึงคิดจะตัดผมไหม?”

“ตอนแพ้พนันแรก ๆ คิด แต่พออยู่ไปสักพักก็ชินทรงนี้ไปแล้ว” เท็นมองอีกคน แล้วก็รู้สึกใจวูบวาบเพราะต้นคอไอ้แจ็คอีกแล้ว

“แบบนี้จะไม่ได้ไว้จนยาวตกหลังเลยเหรอวะ เห็นข้างหลังคงเหมือนผู้หญิง”

“ก็ไม่ได้กะจะไว้ยาวขนาดนั้น แต่อยากลองตัดตอนอกหักดูน่ะ เห็นหลายคนชอบไปตัดผมตอนเสียใจหนัก ๆ”

“แล้วเมื่อไหร่จะได้ตัด รอน้องแพรวตัดริบบิ้นเหรอ?”

นั่นไง ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้

หลังจากสิ้นสุดคำถามก็เดธแอร์ ไอ้แจ็คไม่ตอบแบบนี้เห็นทีว่าจะเป็นลางไม่ดี ระหว่างมันเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ หรือไม่ก็เซ็งที่ถูกถามเรื่องปัญญานิ่ม

“กูไม่ได้ชอบแพรวแล้ว” แจ็ครอให้เสียงโหวกเหวกรอบตัวเบาลงก่อนถึงตัดสินใจพูด เขาอยากให้ไอ้เท็นรู้ไว้แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นแค่เพื่อนกัน ก่อนหน้านี้อาจจะไม่รู้สึกอะไรตอนถูกพวกไอ้แหลมแซวว่าชอบแพรว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่

แจ็คไม่อยากให้ไอ้เท็นเข้าใจและพูดแบบนั้นอีก

“งี้ผมคงได้ยาวตกเข่า”

“พอถึงตอนนั้นมาช่วยกูเปียด้วย”

“มึงไม่โกนหัวล้านครึ่งนึงเลยล่ะ สไตล์แมนจูไปเลย” ไอ้คนหล่อว่าพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ เขาจึงหลุดขำ

“ช่วยสระให้กูด้วย”

“ได้ เดี๋ยวใช้ตีนซักให้”

“สระพอห่า แล้วนั่นเรียกว่าตีนเหรอ กูนึกว่าขาหลัง”

“ขาหลังก็ก้านคอได้นะครับ จะเอาเปล่าล่ะ?”

“ขอโทษนะคะ ขอไลน์ได้ไหม?” สองหนุ่มหยุดสงครามพลางหันไปถามหญิงสาวหน้าตาน่ารักสามคนที่มาพร้อมกัน และดูเหมือนว่าคนถามจะเขินเอามาก ๆ

แต่คนถูกขอนั่นกลับเป็นไอ้แจ็ค ไม่ใช่เขาที่ใส่แว่น ใส่หมวกปิดหน้าปิดตาอย่างนี้

“เอ่อ...”

“เพื่อนเราหันมาเห็นนายแล้วก็ปิ๊งทันทีเลยอะ มีแฟนยังเนี่ย?”

ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ไอ้แจ็คก็ไม่เคยต้องปฏิเสธใครเพราะมันเป็นคนเงียบ ๆ จนผู้หญิงไม่กล้าเข้าหา พอขึ้นมอปลายก็เปิดตัวคบกับบลูเลยโดยไม่มีใครเห็นว่าทั้งคู่จีบกันมาก่อน แต่ตอนมหา’ลัยเขาไม่รู้ว่ะ มันจะใช้ชีวิตแบบไหนวะ ถ้าให้เดาคงเอาแต่ทำงานหาเงิน ไม่น่ามีเวลาไปรักไปชอบใครหรอกมั้ง?

ความอยากรู้อยากเห็นเริ่มขยายใหญ่ชุบแป้งทอด กลับบ้านไปคงต้องชวนคุยเรื่องนี้หน่อยแล้วถ้าไม่ลืมเสียก่อน

“ไม่สะดวกใจให้เหรอคะ หรือว่ามีแฟนแล้ว...” ผู้หญิงคนนี้มาสไตล์บลูเลย ดูเรียบร้อย น่าทะนุถนอม ซึ่งก็คงเป็นสเปกไอ้แจ็คนั่นแหละ แต่ถ้ามันโอเคก็คงตอบไปแล้วเปล่าวะ ไม่ใช่ยืนเลิ่กลั่กทำหน้าเหมือนคนโดนสาปเป็นหินอย่างนี้

จะนับหนึ่งถึงสามนะ ถ้ามันยังไม่ปฏิเสธหรือให้ไอดีไป พี่เท็นจะออกตัวช่วยด้วยวิธีแบบโปรเพลย์เยอร์เขาทำกัน แล้วมันก็คงได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย

หนึ่ง...

“คือ”

สอง -- คืออะไรก็พูดไปสิ หรือว่ากลัวซ้ำรอยโดนเคืองเรื่องมีแฟน ถึงจะไม่ค่อยโอเคเรื่องน้องแพรวแต่ถ้าไอ้แจ็คบอกว่าอยากจริงจังกับใครสักคนเขาก็พร้อมจะพยายามเป็นคนมีเหตุผลให้ได้สักครั้ง

“ผม”

ลีลาจริง สรุปไม่เอาใช่ไหมจะได้ช่วยลูบหลังคายก้อนอึดอัดออกมา แล้วอย่าร้องเสียดายทีหลังล่ะ

สาม...

“มันมีผัวแล้วครับ”

“...”

“...”

“...”

“...”

เท็นขมวดคิ้วเม้มปากแน่น มองหญิงสาวน่ารักด้วยสีหน้าหมอที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดแล้วบอกญาติคนไข้ว่า ‘ขอโทษนะครับ แต่หมอพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว’ มันก็ต้องใช้ไม้นี้ล่ะ ไม่งั้นไอ้แจ็คคง คือ... ไปจนถึงวันลอยกระทง

“ผัวเหรอคะ?”

ท่าทางคงช็อกไม่น้อย ทั้งคนถามและคนโดนจัดบทละครให้ เท็นรีบพยักหน้าตอบก่อนจะรู้สึกหนาวไปจนถึงหน้าขาจนอยากฉี่ราดให้อุ่น

“ใช่ครับ คนข้าง ๆ ผมเอง”

ไอ้เหี้ยแจ็ค...................

เท็นมองเพื่อนตาเหลือก คราวนี้สามสาวยิ้มแห้งจนเหมือนหน้าแล้งมาเยือน

“คือไม่ใช่อย่างนั้น --”

“บางทีก็สลับกันบ้างแล้วแต่วัน ถือคติว่าใครหลับก่อนเป็นเมีย”

มึงไปเรียนรู้คำพูดแบบนี้มาจากไหน?!

หรือว่าการที่เพื่อนฝูงมึงชอบผู้ชายก็เลยซึมซับมา? แต่ก็ไม่ควรลากเขาเข้าไปเอี่ยวด้วยสิวะ ปฏิเสธแล้วก็ให้จบ ๆ ไปจะต่อความยาวสาวความยืดทำไมเนี่ย?! แทนที่จะได้ถอดแว่นออกเพื่อให้สาวเห็นว่าเขาเองก็หล่อไม่แพ้กัน เผลอ ๆ จะได้เก็บสแปร์ให้ด้วย

“อ๋อ ค่ะ... แหะ ๆ”

“แต่ส่วนใหญ่ผมจะนอนทีหลังนะ” ไม่ยอมเป็นเมียใครเด็ดขาด แล้วนี่ก็บ้าจี้แก้ตัวด้วยนะ จะบ้า

“แต่ยกสองก็สลับอยู่ดี บางคนรักสบาย”

“ไอ้เหี้ยแจ็ค?”

“ทำไมหยาบคายล่ะ เมื่อคืนไม่เห็นเรียกแบบนี้เลย?”

มึงจะเอาให้ได้ใช่ไหม ได้แจ็คได้

“ก็บอกแล้วว่าถ้าโมโหเมื่อไหร่จะเป็นคนซาดิสม์ คืนนี้เจอขึงกับเตียงแน่” เท็นชี้หน้าคาดโทษเพื่อน พูดอีกอย่างแต่สื่ออีกอย่าง แต่ไอ้แจ็คก็ดูกลั้นขำจะตายแล้ว สนุกมากไหมมึงอะ?

“ไม่กวนแล้วดีกว่าค่ะ ขอโทษทีมารบกวนนะคะ” สองสาวโอบไหล่เพื่อนเดินออกไป งานนี้คงต้องโอ๋กันด้วยเบียร์สักทาวแล้วไหมวะ เจอทีเด็ดแต่หัววันอย่างนี้

“กูแทบอ้วก”

“ก็ไม่น่าหรอก ตบบทแตกหนักกว่ากูอีกแล้วทำเป็นจะอ้วก” เท็นคว้าคอเพื่อนพร้อมออกแรงบีบจนอีกฝ่ายหดคอลงทั้งที่ยังขำอยู่

“มึงเริ่มก่อน กูแค่ทำให้จบไวขึ้น”

“มันจะจบตั้งแต่แรกแล้วถ้ามึงปฏิเสธไปตรง ๆ เสือกอมลิ้นอยู่นั่น เจอสาวน่ารักหน่อยแล้วใบ้แดกเลยดิ?”

แจ็คไม่ได้เถียง เขาแค่ปล่อยให้เพื่อนด่าแล้วแอบยิ้มขณะทอดสายตาไปข้างหน้า ใครจะสนว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร ที่เงียบไปเพราะคิดอยู่ว่าต้องตอบแบบไหนคนข้าง ๆ ถึงจะพอใจมากที่สุด

“ขึงกับเตียงเนี่ยนะ มึงไปจำจากไหนมา?”

“หนังโป๊สิ มึงคิดว่ากูระลึกชาติได้เหรอ?” เท็นชกแขนอีกฝ่ายเบา ๆ และไอ้แจ็คก็ไม่ยอมแพ้ ทั้งคู่แลกหมัดปุยนุ่นกันก่อนจะเปียกน้ำซึ่งสาดมาจากที่ไกล

แม้จะไม่ชอบอากาศร้อน ๆ ท่ามกลางฝูงคนมากมาย แต่เท็นคิดว่าเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันถ้าหากว่าได้เห็นไอ้แจ็คหัวเราะและยิ้มได้เก่งขนาดนี้

เอาวะ คล้ำลงหน่อยก็ยอมแล้วงานนี้




TBC



สาวสวยคนนั้นคือชั้นเองยังไงล่ะ
// โพกผ้าสามสียืนเต้นเพลงถั่งงัดบนเวทีสงกรานต์ //


ปล.สงกรานต์มีต่อตอนหน้าจ้า

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-03-2019 14:31:37
ทำให้เขายิ้มได้มันก็ใจฟู ๆ อย่างงี้แหละ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-03-2019 14:31:56
 :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 29-03-2019 16:01:36
ออร่า

ความผัว

ความเมีย

ผลัดกันไปมา

มันคืออัลไร

ความเขินแต่เก๊กขรึม

ดึงหน้ากันไป

อย่าหลุดยิ้มกว้างนะ

อีกคนอาจเพ้อลอยไปลอยมา

พี่ธีย์ คงต้องปรับตัวรับมือกับเพื่อนเก่า55555555

อิแหลมอิคนปั่น ปั่นเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 29-03-2019 16:43:20
แหมมมมมม หอมความรัก อากาศร้อนแต่บรรยากาศระหว่างสองคนนี้ นี้หว้านหวาน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 29-03-2019 16:48:35
เกลียดความตบมุกของแจ็ค&เท็น ดูเข้ากันจริงๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 29-03-2019 20:03:06
ผัวขาาาาาาาาา ทำไมเดียวนี้วร้ายยยย ฝากน้องเท็นนีแทนทีค่ะ :hao7
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 29-03-2019 23:26:23
น้องเท็นเท็นรอดูของจริงนะคะ

//พลีชีพประกาศตัวเป็นเรือแจ็คเท็น แหกเป็นแหก !
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 29-03-2019 23:37:50
ฮือออ น่ารักกันจัง  :hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-03-2019 01:05:17
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:

 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 30-03-2019 22:50:35
เป็นเรื่องเป็นราวอ่ะ ...
ไม่อยากกดดัน แต่อยากประกาศจุดยืนจังเลยค่ะ ว่าอยากให้ใครหลับก่อน โอ้ย มันบั่บ... 55555555

นี่รักในความรับผิดชอบต่อสังคมของแจ็คมากจากส่วนลึกของใจเลยค่ะ
การที่ไปสูบบุหรี่แล้วขยี้ด้วยเท้า และจบด้วยการหยิบไปทิ้งถึงขยะนี่คือพระเอกยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่แท้จริงค่ะ อยากจะมอบมงให้มากเลย

เตรียมขันใส่น้ำ ไปดักตีหัวพี่ธีร์ในตอนถัดไปค่ะ!!
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน18 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (29/3/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 31-03-2019 08:45:14
เห้ยดี หลับก่อนเป็นเมียยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 03-04-2019 00:06:17
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 19
โคม่า



การตามหาเพื่อนไอ้แจ็คเริ่มเลยเถิด นอกจากจะไม่เจอพวกไอ้ธีร์แล้วระหว่างทางยังโดนกวักมือเรียกให้ไปดื่มโดยไม่กลัวตำรวจซิวอีก จากกลัวร้อน กลัวหาเพื่อนไม่เจอ ตอนนี้สองเพื่อนซี้แทบลืมเรื่องเหล่านั้นไปหมดหลังจากเหล้าเข้าปากจนแทบสูญเสียความเป็นตัวเอง

จากที่เคยระวังคำพูด อยู่ ๆ ก็กล้าหันไปถามโง่ ๆ โดยไม่กลัวว่าเพื่อนจะชอบคำถามนี้หรือไม่ เช่นการถามว่า ‘มึงมีเซ็กส์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะ?’ ซึ่งไอ้แจ็คหัวเราะแล้วตอบมาอย่างติดตลกว่า ‘สามปีก่อน ชั่วโมงละพันห้า’ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ระเบิดหัวเราะแข่งกับเสียงเพลง

ภาพตัดอีกทีมาอยู่ที่ข้าวสาร ยังไม่ถึงกับเมามาก แต่การที่ชายหนุ่มผมยาวพาสารร่างตัวเองมานั่งร้านเหล้ากับสาวฝรั่งทั้งแก๊งก็เป็นอะไรที่เกินความคาดหมายไปหน่อย สำหรับไอ้เท็นอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เขาเนี่ยสิ... ร้อยวันพันปีเคยพาตัวเองเข้ามานั่งอยู่ตรงนี้เสียที่ไหน ถ้าไม่ใช่เพื่อนฝูงหรือพี่น้องที่ทำงานก็อย่าฝันเลยว่าจะได้นั่งกับผู้หญิง

“So, you’ve been friends since high school? What a relationship.” (เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมอต้นเลยเหรอ ว้าว นานมากเลย)

“Been falling out for 10 years, though.” (แต่ก็เลิกคบกันไปสิบปี) ทุกสายตามองไอ้แจ็คที่ยกถังเหล้าขึ้นดื่มอย่างหน้าตาเฉยหลังจากพูดจบ

“Just a long break from being friends.” (ช่วงพักความเป็นเพื่อนระยะยาวน่ะ) เท็นตอบแก้สถานการณ์เพียงเพราะเห็นสีหน้าของเหล่าสาวตาน้ำข้าวที่มองมาอย่างไม่เข้าใจนัก

“Isn't that just a girl thing? Like those on-and-off friendship, are you kidding?” (ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เดี๋ยวทะเลาะเดี๋ยวดีกันสินะ ว่าแต่ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม?)

“No, it actually happens.” (ไม่ อันนี้เรื่องจริง) แจ็คตอบหน้านิ่ง พอถึงตอนนี้ก็ได้แต่ย้อนถามตัวเองว่าจะพูดทำไม เหล้ากำลังทำให้เขากลายเป็นคนพูดมากเกินไปแล้ว

“What’s the matter? Can ya tell me?” (ทะเลาะกันเรื่องอะไรเหรอ เล่าได้หรือเปล่า?) และผลลัพธ์มันก็ออกมาเป็นอย่างนี้ เขาจึงหันไปมองหน้าไอ้เท็นอย่างเป็นห่วง

“I fuckin’ betrayed him. Don’t ask for details otherwise we gotta take a long break from being friends again.” (ฉันหักหลังไอ้หมอนี่ แต่ไม่ต้องถามนะว่าเรื่องอะไร เดี๋ยวได้พักการเป็นเพื่อนระยะยาวอีก) ไอ้เท็นตอบติดตลก แต่เขากลับรู้สึกได้ว่ามันคงจุกอยู่ไม่น้อยที่ต้องตอกย้ำเรื่องเหล่านั้น

แจ็ควางมือลงบนหน้าขาเพื่อนที่อยู่ใต้โต๊ะเหล้า ตบเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องพาเขาทั้งคู่กลับไปเจ็บปวดกับตรงนั้นอีก

“How generous we gotta be to forgive someone. Only if my friend and I have a crush on the same guy, I don’t even wanna see her face.” (การให้อภัยใครสักคนได้ต้องเป็นคนดีแค่ไหนกัน ฉันนะ แค่เพื่อนชอบผู้ชายคนเดียวกันก็แทบไม่อยากมองหน้าแล้ว)

เริ่มยิ้มไม่ออก เท็นรู้ตัวว่ากำลังหัวเราะโง่ ๆ และถ้านานไปกว่านี้มันคงดูฝืนจนผิดธรรมชาติแน่ เขาควรเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเรื่องอื่น ถ้าไม่อยากให้ตนเองกับคนข้างตัวต้องรู้สึกแย่

“It’s not all about being generous.” (ไม่เกี่ยวกับเรื่องเป็นคนดีหรอก) แต่ก่อนจะอ้าปากชวนเปลี่ยนเรื่องคุย ไอ้แจ็คก็ชิงตัดหน้าเขาด้วยคำพูดที่ทำให้การยิ้มไม่ใช่เรื่องฝืนอีกแล้ว “It’s just I do care him more than the past where I couldn’t change anything.” (แต่เป็นเพราะฉันห่วงเรื่องไม่มีมันในชีวิตมากกว่าเรื่องในอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้)

“Damn... that’s so cool.” (โห... หล่อเลย)

“การมีกูอยู่มันดีใช่ไหมล่ะ?”

“ยิ้มอะไร กูกะตอบให้สาวกรี๊ดไม่ได้ตอบให้มึงเนื้อเต้น”

“เหอะ กะเล่นทีเผลอสินะ...” เท็นเบ้หน้ามองเพื่อน อยากถีบมันสักดอกแต่ก็กลัวการ์ดเข้ามาลากออกไปเพราะเข้าใจผิดคิดว่าคนตีกัน

“Now that you talk again, are you good like before or even better?” (พอกลับมาคุยกันอีกครั้งแล้วเป็นไงบ้าง ยังเหมือนเมื่อก่อนไหม หรือว่าสนิทกันกว่าเดิม?)

“Dunno. Looks like the same but something has changed too.” (ไม่รู้สิ เหมือนจะเหมือนเดิม แต่ก็เปลี่ยนแปลง)

“Ten, you are so drunk. Haha.” (เท็นตอบเหมือนคนเมาเลย ฮ่า ๆ)

“No shit. Get me 30 more buckets and I'll show you that I can drink more.” (พูดเป็นเล่นไป เอามาอีกสามสิบถังฉันก็ยังดื่มได้ไม่เชื่อลองดู) เท็นพูดอย่างไม่โกหก แอลกอฮอล์กำลังพล่านในตัว ตอนนี้ให้อาบเหล้าก็ยังได้

“I'm so done with you.” (หมั่นไส้จัง)

กล้าไปหมด กล้าแม้แต่จะหันไปกระซิบไอ้แจ็คว่า ‘ถ้าได้สาวสักคนต้องแยกกันกลับนะ’ สีหน้าไอ้แจ็คเป็นอย่างไรแอลกอฮอล์ทำให้เขาไม่ทันได้สังเกต ตอนนั้นคิดแค่ว่าต้องพูดบ้า ๆ สักอย่างเพื่อให้ปากไม่ว่าง

‘อยากกลับกับผู้หญิงเหรอ?’ ไอ้แจ็คถามอย่างนั้น ซึ่งในใจเขามันบอกว่า ‘บ้าแล้ว กูอยากกลับกับมึงดิ’ แต่คำพูดที่พ่นออกจากปากดันสวนทางไปอย่างสิ้นเชิง

‘ใช่ คืนนี้กูอยากเอาใครสักคน’

พอถึงตอนนี้เท็นถึงเห็นว่าแววตาของเพื่อนเป็นอย่างไร มันอาจดูปกติเหมือนทุกครั้งถ้าเขาไม่ได้ตีความหมายไปเองว่าไอ้แจ็คไม่ชอบคำพูดนั้น ถึงที่มองมาและพยักหน้าขอไปที ก่อนจะหันไปยกเหล้าดื่ม

มันก็ตลกดีที่จะปลอบใจตัวเองด้วยการไปกับผู้หญิง เพื่อให้ไอ้แจ็คเห็นว่าเขาโอเค อยู่ได้ ไม่จำเป็นต้องยึดมันเป็นหลักในชีวิตทุก ๆ วัน

หลายครั้งที่เก็บไปนอนคิดว่าถ้าคราวนี้ตนเองเป็นฝ่ายมีแฟนก่อน อะไร ๆ จะลงตัวกว่าที่เป็นไหม เขาจะติดแฟนจนเลิกโหยหาการมีอยู่ของไอ้แจ็คหรือเปล่า แต่การที่จะมีใครอีกคนเข้ามา มันคงดีกว่าถ้าเริ่มต้นจากความรัก ไม่ใช่เพราะอยากทุเลาความคิดถึงเพื่อนซึ่งมันเยอะเกินไปจนน่าหงุดหงิด

“I used to have a friend from high school as well. We used to be very close, like we always hang out together. But when we grow up, things just change.” (ฉันเองก็เคยมีเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เราสนิทกันมากแบบที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่พอโตขึ้นอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป)

“You seem regretful.” (เธอดูเสียดายนะ) หญิงสาวอีกคนแซวเธอ

“Of course, I am. I like when we can talk about bullshits more than thinking of how can I get laid by one of the football team.” (แหงล่ะ ฉันชอบตอนที่เราคุยเรื่องไร้สาระกันมากกว่าจะมานั่งคิดว่าจะทำยังไงถึงจะได้นอนกับหนึ่งในทีมฟุตบอล) ทันทีที่พูดจบเหล่าสาวตาน้ำข้าวก็หัวเราะ

“So, you guys just knew each other for couple years only?” (ถ้างั้นพวกเธอก็เพิ่งรู้จักกันสอง-สามปีเองน่ะสิ?) เท็นถามสาวสวยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งพวกเธอก็พยักหน้ารับ

“Even though it's not as long as yours but I can confidently say this. We were so close that there's no space between us.” (ถึงจะไม่นานเท่าพวกนาย แต่ฉันก็พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าเราสนิทกันมากจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกันเลย)

“Is there such a thing?” (มีด้วยเหรอความสัมพันธ์ที่ไม่มีช่องว่าง?) แจ็คถามอย่างใคร่รู้ และพวกเธอก็หัวเราะแล้วรีบพยักหน้าตอบอีกครั้ง

“Why did ask like that? I thought boys use to this kind of relationship.” (ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ ฉันว่าพวกผู้ชายจะชินกับความสัมพันธ์แบบนี้มากกว่าด้วยซ้ำ)

“Dunno. I think it depends on person.” (ไม่รู้สิ ฉันคิดว่ามันขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่า)

“So you mean you're not that close? Even with Ten?” (หมายความว่านายมีช่องว่างเหรอ แม้แต่กับเท็น?) เธอคนหนึ่งถาม ชายหนุ่มผมยาวจึงไหวไหล่ไปอย่างนั้น

“There's no space between us as well. We can talk about everything.” (มันไม่มีหรอก เราสองคนคุยกันทุกเรื่อง) คุยโม้ไปก่อน เรื่องจริงเป็นอย่างไรค่อยว่ากันทีหลัง ขอแค่ไอ้แจ็คไม่พ่นออกไปก่อนว่าความจริงแล้วเขาทั้งคู่ยังมีอีกร้อยล้านเรื่องที่ยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกนานถึงจะเรียกได้ว่าหมดช่องว่างแล้ว

“But Jack seems to have some space between you.” (แต่ดูแจ็คมีช่องว่างกับนายนะ) หญิงสาวมองสองหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพลางสะกิดเพื่อนเมื่อนึกอะไรดี ๆ ออก

“Come on. I stay with him all the time everyday. The only space is when we use restroom. Are we clear?” (ก็พูดไปนั่น ฉันกับมันอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน ช่องว่างเดียวที่มีให้กันคือตอนไปเข้าห้องน้ำน่ะ โอเคนะ) เท็นกอดคอคนข้าง ๆ ที่กำลังดื่มเหล้าโดยไม่สนหมีส้นม้า

“You are that close?” (สนิทกันขนาดนั้นเลย)

“Of course” (แน่นอน)

“Then, will you two do this like us?” (งั้นนายสองคนกล้าทำเหมือนพวกเราไหม?)

เหมือนถูกเอาขวดเหล้าฟาดหัวเมื่อฝรั่งสาวสองคนหันหน้าเข้าหากันพร้อมยิ้มอย่างมีความหมาย ทั้งคู่ยังมองมาทางนี้ตอนจับหัวไหล่กันและกัน ก่อนจะทำให้สองเพื่อนซี้สำลักเหล้าเมื่อเธอทั้งคู่โชว์แลกลิ้น

“ผู้หญิงเค้าเล่นกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติเหรอวะ?” <- แจ็ค

“ไม่รู้ว่ะ แต่มาขนาดนี้ก็น่าจะปกติแล้ว” <- เท็น

มันเกินกว่าที่จะเรียกว่าจุ๊บได้ เมื่อหญิงสาวผมสั้นถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งเหมือนยั่วยวนให้อีกคนทำอะไรสักอย่าง แล้วก็ใช่ สาวผมยาวหน้าอกบึ้มนั่นยิ้มคล้ายว่าได้ใจ ก่อนจะขยับเข้าไปฟาดสาวผมสั้นด้วยการดูดลิ้นซ้ำจนผู้ชายสองคนตรงนี้อ้าปากหวอ

“มีเลียให้ด้วย” เหมือนเสียดายน้ำลายที่เลอะขอบปากถึงได้ฟาดเรียบไม่เหลือ เอาเข้าจริงเท็นก็เพิ่งเคยเห็นผู้หญิงจูบกันจะ ๆ เป็นครั้งแรก ซึ่งมันว้าวอย่างบอกไม่ถูก

“So? If you are so close, can you do thing like this?” (ว่าไง สนิทกันแล้วทำแบบพวกเราได้หรือเปล่า?)

“What?” สองหนุ่มถึงกับงงตาแตกเมื่ออยู่ ๆ ของก็เข้าตัว แจ็คกับเท็นหันมามองหน้ากันเหมือนผีตื่นผี ก่อนจะหันไปหัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อน

“Well, I can do that. But what is the reason for friends to kiss, right?” (ไอ้ทำน่ะทำได้อยู่แล้ว แต่เหตุผลอะไรกันล่ะที่เพื่อนจะต้องจูบกัน จริงไหม?) ไอ้เท็นทำได้ดีเลยทีเดียว เพราะถ้าให้เขาพูดคงต้องบอกว่า

‘Kissing friend? Crazy shit?’ (จูบเพื่อนเนี่ยนะ จะบ้าเหรอ?)

ต่อให้จะรู้สึกมากกว่าเพื่อนแล้วไง อย่างไรเสียมันก็เป็นความรู้สึกฝ่ายเดียว ขืนทำแบบนั้นได้มองหน้ากันไม่ติดพอดี ไอ้เท็นยิ่งเป็นผีเข้าผีออกอยู่ด้วย เขาจินตนาการออกเป็นฉาก ๆ เลยว่าจะไม่ได้เห็นหน้ามันไปอีกกี่วันหลังจากทำเรื่องแบบนั้น

“The reason is that if you can do this kinda thing, it's crystal clear that you're best friend for life. Because if you're into each other, you won't dare to do it. Am I right?” (เหตุผลก็คือ ถ้ากล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ก็ชัดเจนเลยว่าเพื่อนรักเพื่อนตาย เพราะถ้าไม่สนิทใจจริงก็คงไม่กล้าทำ หรือว่าฉันพูดอะไรผิด?)

“There are so many ways to prove.” (มันมีอีกตั้งหลายวิธีที่จะพิสูจน์)

“Yes, and the reason we're here because we want to drink, not to kiss.” (ใช่ แล้วเหตุผลที่เรามานั่งตรงนี้ก็เพราะอยากดื่ม ไม่ใช่อยากจูบกัน)

“It's so weird that you guys are so serious about this. You're not actually that close, aren't you?” (แปลกใจจังที่พวกนายซีเรียส จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้สนิทกันใช่ไหมล่ะ?)

สาวตาน้ำข้าวแม่งปั่นเก่งว่ะ แจ็คขมวดคิ้วพลางพรูลมหายใจเบา ๆ ถ้ายังไม่เลิกสร้างงานสร้างอาชีพให้สาบานเลยว่าเขาจะลากไอ้เท็นเดินออกตรงนี้แล้วไปนั่งกรึ้บแสงโสมให้อีมูนมันมองเล่น เขาเป็นคนอดทนเก่งแต่ต้องไม่ใช่กับเรื่องไร้สาระ

ระหว่างรอพายุลูกสุดท้ายมาจากสาวตาน้ำข้าวฝั่งตรงข้าม ไอ้ส้นตีนข้าง ๆ ก็ดันพัดพายุมาจากทางอื่นด้วยการพุ่งเข้ามาจูบแก้มเขาอย่างแรงโดยไม่เปิดโอกาสให้ตั้งหลัก

มันเกินกว่าจะให้ใจเต้นเมื่อเขารู้สึกถึงแรงกระแทกจากจูบของมันมากกว่าสัมผัสนุ่มนิ่มจากสิ่งที่เรียกว่าริมฝีปาก แจ็คถอนหายใจพลางหันไปมองคาดโทษเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเหยเกเล็ก ๆ พร้อมปากที่ขยับเหมือนกำลังซ่อนอาการบางอย่างซึ่งมันก็ให้คำตอบเดี๋ยวนั้นโดยไม่ให้เขารอนาน

“กูว่าฟันกูเลือดออก”

“กูเป็นคนตบปากมึงเองแหละ ด้วยมือล่องหน”

“อย่าทำหน้าตึงดิเดี๋ยวเขารู้หมดว่าฝืนทำ”

“มึงแคร์ฝรั่งจนยอมทำเรื่องลั่น ๆ แบบนี้เหรอเท็น ไหนตอบมาซิ?”

“เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ มึงเคยได้ยินไหม?” เท็นกลอกตาเลิ่กลั่ก มองเพื่อนสลับกับสาวตาน้ำข้าวที่ต่างมองมาอย่างสะใจ เวรกรรมจริง ๆ แทนที่จะได้โชว์พาวให้สาวดูสักหน่อย แต่ก็ดันลืมไปว่าเพื่อนรักคงไม่ค่อยจอยกับอะไรแบบนี้

“Not that one. A mouth one.” (นั่นไม่นับสิ ต้องจูบปาก)

“Enough joking aroun --” (เล่นพอได้แล้วมั้ --) คนที่ถูกห้ามอาจจะฟัง แต่ไอ้คนข้าง ๆ กลับรั้นทำให้เป็นเรื่อง แจ็คนั่งนิ่งเหมือนถูกดูดวิญญาณไปโดยใครอีกคนที่โอบใบหน้าเขาให้เข้าไปจูบเหมือนไม่อยากยอมแพ้

ไม่มีใครฟันเลือดออกเพราะแรงกระแทก เพราะตอนนี้มีเพียงสองมือที่โคตรสั่นระหว่างโอบใบหน้าเพื่อนเอาไว้ เท็นเพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่องบ้าบิ่นครั้งใหญ่ที่สุดอีกเรื่องในชีวิตลงไปและเขาก็คงแก้ไขไม่ได้ด้วย

เวรเอ๊ย... ถ้าจะโดนไอ้แจ็คถีบข้อหาเล่นไม่รู้เรื่องก็คงยอมก้มหน้าให้บ่นแล้ว แต่เรื่องอื่นเป็นอย่างไรคงต้องเอาไว้ก่อนว่ะ เพราะตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้าตายเพียงเพราะว่าการจูบกับเพื่อนครั้งแรกมันทำให้หัวใจเต้นแรงฉิบหายเลย

สาวตาน้ำข้าวยิ้มกว้างอย่างนึกสนุกที่ปั่นหัวชายหนุ่มทั้งสองได้สำเร็จ ทั้งคู่ถอนริมฝีปากออกจากกันอย่างช้า ๆ พร้อมเปลือกตาที่ค่อย ๆ ลืมขึ้นเพื่อให้ได้ตั้งคำถามกับตนเองว่าหน้าอีกฝ่ายที่กำลังแดงก่ำอยู่ตอนนี้เป็นเพราะฤทธิ์เหล้าหรือเพราะจูบปากแตะปากเมื่อครู่กันแน่?

“...”

หัวเหมือนจะระเบิดเพราะมีแต่คำถามกึกก้องอยู่ในความคิด เท็นกำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้ว เขาจะทำอย่างไรถึงจะต้านประโยคที่ว่า ‘ไม่มีใครใจเต้นแรงกับเพื่อน’ ซึ่งย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า

คราวก่อนไม่เคยให้คำตอบตัวเองอย่างไร คราวนี้ก็คงเหมือนกัน แต่มันยากตรงที่เขาอยากพังกำแพงเหล่านั้นเพียงเพราะความกล้าที่ได้มาจากความมึนเมา แต่อีกใจมันก็แย้งเสียงดังว่า

‘ไม่ได้ ถ้าไม่อยากเสียเพื่อนไปก็อย่าทำ’

แต่แววตาไอ้แจ็คที่มองมาก็ทำให้เขาอยากหันหลังให้ความกลัวเหล่านั้น ก่อนสัญชาตญาณจะเอาชนะทุกอย่างได้ในที่สุด

“Oh my god...”

เหล่าสาวตาน้ำข้าวเบิกตากว้างอย่างตกใจกับสิ่งที่เห็น พวกเธอแทบไม่ได้คาดคิดไว้ว่าหนุ่มหล่อทั้งสองจะจูบกันอีกครั้งซึ่งคราวนี้แทบดูไม่ทันว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน มันเกินกว่าการทำ Challenge เพื่อเอาชนะไปแล้ว เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือคนสองคนกำลังเอนศีรษะเพื่อปรับองศาจูบบดขยี้ริมฝีปากราวกับโหยหากันและกันมานาน

มือเรียวยาวที่เคยยกถังเหล้าขึ้นดื่มในตอนนี้เปลี่ยนเป็นโอบใบหน้าคนที่เรียกว่าเพื่อน ทั้งคู่ปล่อยให้ทุกอย่างเลยตามเลยไป ราวกับว่ามีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นที่จะปลดปล่อยความในใจออกมาได้ ก่อนจะกลับไปสวมบทบาทเพื่อนที่แสนดีเหมือนเดิม

“สวัสดีสงกรานต์ครับทุกคน!!!!”

ซ่า!!!

ชายหนุ่มทั้งสองผละออกจากกันทันทีที่โดนสาดเหล้ามาพร้อมน้ำแข็งเต็มถัง ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเหมือนเพิ่งถูกไฟช็อตพร้อมอาการเลิ่กลั่ก

“We gotta leave now.” (พวกเราต้องไปแล้ว)

“Oh, yeah. Thanks, mate, we had a lot of fun tonight.” (อ่า ใช่ ขอบคุณมากนะ วันนี้พวกเราสนุกมากเลย)

“Yeah... Okay...” เหล่าสาวตาน้ำข้าวยิ้มแห้ง ๆ ขณะเงยหน้ามองสองหนุ่มที่ทำตัวไม่ถูกจนหาทางออกจากโต๊ะไม่เจอ 



*


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 03-04-2019 00:08:09



เสื้อผ้าเปียกกลิ่นเหล้ากับแอร์เย็น ๆ บนแท็กซี่ช่างเข้ากับความอึดอัดในใจ ณ ตอนนี้เสียเหลือเกิน เท็นรู้สึกเหมือนสมองระเบิดไปแล้วราว ๆ ห้าล้านครั้ง และมันคงปะทุอีกซ้ำ ๆ จนกว่าเขาจะกระอักเลือดดำตาย

รู้สึกเหมือนสัมผัสตรงปากยังคงอยู่ไม่ไปไหน แต่คนที่นั่งข้างตัวกลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลหลังถูกความเงียบกลืนกินไปตั้งแต่เดินออกจากร้านเหล้าตรงถนนข้าวสาร

ไม่มีใครพูดอะไรอีก ทั้งการหันไปบอกให้อีกฝ่ายสบายใจว่า ‘เมื่อกี้อย่างฮา ฝรั่งถึงกับหน้าเหวอไปเลย’ หรือการกลบเกลื่อนว่า ‘ไอ้ห่า มึงจูบเป็นเปล่าเนี่ย?’ เพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น

เท็นจูบผู้ชายเป็นครั้งแรกในชีวิต จูบกับคนที่ถูกล้อในช่วงสุดท้ายของการเป็นนักเรียนมอปลายว่า ‘มึงคบกับไอ้แจ็คเหรอวะ?’ ในตอนนั้นเขากลัวสายตาสังคม กลัวถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบเพื่อน แต่มันก็น่าประหลาดเหลือเกินที่ทอมกับดี้คบกันได้อย่างเปิดเผยและมีคนยอมรับได้ ผิดกับผู้ชายสักคนที่ถ้าพูดว่า ‘กูชอบผู้ชาย’ หากเป็นอย่างนั้นสายตาผู้คนมากมายก็พร้อมจะมองเหยียดหยันจนกลายเป็นตัวประหลาดในที่สุด

แต่ตอนนี้เท็นไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เพราะสิ่งเดียวที่กลัวมากที่สุดคือการสูญเสียความสัมพันธ์ครั้งนี้ไปซึ่งแน่นอนว่าต่อให้เอาอะไรมาแลกก็คงไม่ยอม เขาอยากมีไอ้แจ็คอยู่ในชีวิตทุก ๆ วันเหมือนที่มันตอบสาวตาน้ำข้าว เขาอยากพูดคุย อยากกินข้าวด้วย หรือทำอะไรก็ตามที่มันจะทำให้เขาทั้งคู่มีกันและกันจนไม่หลงเหลือคำว่าเหงา

แต่ถ้าความรู้สึกมากเกินกว่าเพื่อนสักวันมันก็ต้องพังไม่ว่าจะด้วยทางไหนทางหนึ่ง ข้อแรก... ไอ้แจ็คอาจจะไม่ได้คิดอย่างนั้น หรืออาจจะคิดใครจะไปรู้ ทุกอย่างมันน่ากลัวไปหมด ทั้งอดีตที่ตัวเขาสร้างไว้ไม่ค่อยดีนัก กับปัจจุบันซึ่งไม่รู้ว่ามันดีมากแค่ไหนสำหรับไอ้แจ็ค และอนาคตที่แม่งโคตรน่ากลัวฉิบหาย

ถ้าต้องเสียไอ้แจ็คไปอีกครั้ง พอถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่า TEN1O จะแสดงออกให้ทุกคนเห็นอย่างไรว่ายังคงเข้มแข็ง หน้าทน ไม่รู้สึกอะไร การได้ไอ้แจ็คกลับมาอีกครั้งมันคือของขวัญชิ้นใหญ่ที่เขาอยากรักษาเอาไว้ไว้ให้ดีที่สุด

“จอดซ้ายมือเลยครับ”

เท็นหลุดออกจากความคิดเมื่อแท็กซี่ขับมาถึงสถานีรถไฟฟ้า ไอ้ที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้อย่างดิบดีว่าจะไปค้างบ้านเขา จะต้มมาม่าใส่เครื่องเยอะ ๆ กินด้วยกันก่อนจะตบด้วยเหล้าสักกลมเอาให้เมาข้ามคืน แต่ทุกอย่างก็พังหมดเพราะไอ้จูบงี่เง่านั่นที่เขาเป็นคนเริ่มเล่นพิเรนทร์

ไอ้แจ็คควักแบงก์ร้อยออกมาหารค่ารถแล้วบอกลากันสั้น ๆ ว่า “แล้วเจอกัน”

ตอนนั้นเขาอยากคว้าข้อมือมันไว้แล้วพูดว่า ‘ไม่กลับได้ไหม อยู่กับกูก่อน’ แต่สิ่งที่เขาทำกลับเป็นการรับเงินไม่กี่บาทนั่นไว้แล้วมองอีกฝ่ายเปิดประตูรถออกไป

“...”

แท็กซี่กำลังออกตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มนั่งกำหมัดแน่นจนแบงก์ร้อยยับคามือพร้อมคำถามในหัวที่ยังคงขยันทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่เอาแล้วได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นความกลัวอะไร วันนี้ TEN1O อยากขอร้องกับพระเจ้าว่าได้โปรดให้เขาได้โลภมากอีกสักหน่อย

เท็นรู้ว่าเขาไม่คู่ควรกับสิ่งที่เรียกว่าความสุขเพราะผู้คนมากมายคงสาปแช่งเอาไว้ แต่ถ้าหากต้องเจ็บปวดจากสายตาคนทั้งโลกอยู่แล้ว สุดท้ายเขาขอมีแค่ไอ้แจ็คไว้คนเดียวได้หรือเปล่า?


เขาขอแค่ไอ้เวรนั่นแค่คนเดียว


“พี่ครับ -- พี่ -- จอดก่อน” โชเฟอร์มองไอ้หนุ่มที่โผล่มาเกาะเบาะก่อนจะหักเลี้ยวซ้าย โชคดีที่ไม่มีใครขับจี้มา ไม่อย่างนั้นคงมีคนพุ่งไปชนกระจกด้านหน้าเพียงเพราะถูกขับชนท้าย

“อะไรน้อง?”

“ผมให้พี่ห้าร้อย รอผมตรงนี้ห้านาทีก่อนได้ไหมครับ อย่าเพิ่งไป”

“อะ... อ้าว?” คนขับแท็กซี่มองไอ้หนุ่มหล่อที่รีบลงจากรถแล้ววิ่งกลับไปยังสถานีรถไฟฟ้าอย่างรวดเร็วราวกับว่าลืมของสำคัญไว้ตรงนั้น

เท็นไม่เคยรู้สึกว่าวิ่งเก่งขนาดนี้ แต่มันคงดีถ้าเส้นชัยยังอยู่โดยไม่หยอดเหรียญแลกบัตรขึ้นรถไฟฟ้าไปแล้ว ช่างหัวทุกอย่างปะไร ตอนนี้เขาอยากอยู่กับไอ้แจ็ค อยากทำเรื่องงี่เง่าด้วยกันเหมือนตอนแรกที่เริ่มความเป็นเพื่อน และเขาก็อยากรู้สึกอย่างนั้นในวันพรุ่งนี้

“...”

คนที่กำลังให้ความสนใจโทรศัพท์มือถือต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครคนหนึ่งหยุดยืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้า ประหลาดอีกแล้ว แค่ไอ้เท็นโผล่มายืนอยู่ตรงนี้ หอบเหมือนหมากำลังจะขาดใจตาย กลับทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ตลอดทางที่นั่งแท็กซี่มาก็กังวลว่าไอ้เท็นจะรังเกียจจูบสุดท้ายที่มันถลำลึก ในหัวคิดมากไปต่าง ๆ นานาว่าแสดงออกชัดเจนเกินไปจนเพื่อนสังเกตได้หรือเปล่า แจ็คไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องกลัวความรู้สึกของเขาที่ตั้งใจซ่อนเอาไว้ แม้ว่าจะเก็บอาการไม่อยู่จนเผลอทำเกินเพื่อนไปหลายครั้งก็ตาม

เขาอยากเป็นคนที่ไอ้เท็นอยู่ด้วยแล้วสบายใจมากที่สุด ไม่ใช่คนที่มันอยากนั่งแท็กซี่หนี

“ไหนบอกว่าจะไปกินมาม่าบ้านกูไง...?”

“อ๋อ นั่นสิ” อยู่ ๆ บรรยากาศก็เหมือนคนหัดพูดกำลังคุยกัน แจ็คกลืนก้อนความประหม่าลงคอ แล้วเก็บโทรศัพท์เข้าไปในซองใส “เมื่อกี้ก็ไม่เตือนกู”

“คราวหลังก็หัดจำบ้างสิวะ” ถึงจะบ่นอย่างนั้น แต่การเห็นไอ้แจ็คยืนอยู่ตรงนี้โดยไม่ขึ้นบันไดไปแล้วก็ทำให้เขารู้สึกดีเป็นบ้า

“เออ กูผิดเอง เดี๋ยวราดนมข้นให้ชุดใหญ่เลยว่าไงล่ะ?”

“ซักผ้าให้กูด้วย สองตะกร้า”

“เกือบทิ้งกูแล้วยังจะเรื่องเยอะอีกเหรอหื้อ?” แจ็คยืนกดอกมองคาดโทษเพื่อนสนิทที่ยังคงหอบหนักไม่หยุด

“ก็มาตามกลับแล้วนี่ไง”

บทสนทนาเหมือนจะเป็นปกติแล้ว จะต่างไปจากเดิมหน่อยก็ตรงที่ไม่มีใครกล้าสบตากันได้เกินสองวินาที แม้ว่าบรรยากาศยังคงอึดอัด แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นขอแค่มีกันและกันอยู่ตรงนี้

“แท็กซี่จอดรออยู่ -- อ้าวไอ้เหี้ย หายไปแล้ว”

“เรียกคันใหม่สิ จะไปยากอะไร”

“ยากดิ กูจ่ายไปตั้งห้าร้อยแล้วบอกให้รอเนี่ย ชิ่งเฉย” เท็นเสยผมขึ้นค้างไว้กลางศีรษะ มองจุดเดิมที่ว่างเปล่าแล้วก็นึกโกรธที่ไม่ได้จำเลขทะเบียนเอาไว้

“อะไรคือจ่ายห้าร้อย อย่าบอกนะว่ามึง?” พอเป็นเรื่องเงินทองของมีค่าแจ็คก็รู้สึกเหมือนมีจำนวนตัวเลขลอยขึ้นมาตรงหน้าประหนึ่งหนังเดอะแมทริกซ์ “ค่ามิเตอร์เมื่อกี้ไม่ถึงร้อย ถ้ามึงอยากขอให้แท็กซี่อยู่ มึงจ่ายก่อนร้อยนึงได้เรื่องนี้น่าจะรู้ใช่ไหม?”

“ก็กูรีบไง”

“โง่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ต่อให้อีมูนมันจะชอบนั่งนิ่ง ๆ แต่กูเชื่อว่าถ้ามันใช้เงินเป็น มันคงยื่นแบงก์ร้อยให้คนขับแล้วเปิดประตูลงไป”

“นั่น นั่นไง เอาลูกกูมาเหยียดกูอีกละ ทำไมล่ะแจ็ค ก็กูกลัวตามมึงไม่ทันอะจบไหม ความผิดมึงแล้วนาทีนี้”

“โบ้ยกูหน้าตาเฉย โง่ซ้อนโง่ซ้อนโง่”

“แดกคำว่าโง่ของมึงกลับคืนไปเดี๋ยวนี้” เท็นทาบฝ่ามือลงบนใบหน้าเพื่อนแล้วผละออก “ห้าร้อยกูแล้วมึงเดือดร้อนอะไร กูรวย กูจะโปรยแบงก์ห้าร้อยลงมาจากข้างบนนี้ก็ยังได้ถ้ากูอยากทำ”

“ปกติก็ปัญญาอ่อนอยู่แล้ว วันนี้มึงเหมือนโดนพระเจ้าเนิร์ฟ*ลงไปอีก” แจ็คส่ายศีรษะหน่าย ๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับจุดเดิมเพื่อตรงไปขึ้นบันได แต่คราวนี้เป้าหมายคือทางไปบ้านไอ้เท็น ไม่ใช่บางใหญ่ซิตี้


*เนิร์ฟ (Nerf) = ถูกลดความเก่งลง


“คราวหลังอย่าลืมนัดต้มมาม่ากูอีก”

เป็นคำสั่งย้ำเรื่องหนึ่ง แต่แจ็คกลับรู้สึกถึงอีกเรื่อง เหมือนไอ้เท็นอยากบอกว่า ‘คราวหน้าอย่าให้กูต้องวิ่งมาตามอีก’ มากกว่าจะห่วงเรื่องกิน ซึ่งเขาก็ขานตอบในลำคอแบบขอไปทีเพื่อให้บรรยากาศระหว่างเขาทั้งคู่ยังเหมือนเดิม

“เสียดายเลยสิ ไม่ได้ลากสาวกลับด้วย?”

“สาวเสิวอะไรไร้สาระ ก็รู้ว่ามีนัดกินมาม่าใครจะเลือกหิ้วแม่สาวตาน้ำข้าวไปด้วยวะ?”

“เปล่า กูจะสมน้ำหน้า”

“อย่ามา กูรู้ว่ามึงสะใจ เพราะมึงคงทนอิจฉากูไม่ไหวถ้าหน้าหล่อ ๆ แบบนี้จะได้สาวไปกิน ส่วนมึงอาจจะแห้วได้เพราะคารมไม่ไหวจริง ๆ”

“สงสัยน้ำเข้าหูว่ะ เมื่อกี้พูดอะไรนะได้ยินไม่ค่อยชัดเลย?” แจ็คขมวดคิ้วเงี่ยหูแกล้ง ก่อนจะถูกเพื่อนล็อกคอจนแทบเสียหลัก

“หิวข้าวเว้ย” เท็นตะโกนอัดหูไอ้คนกวนตีน และมันก็ยิ้มขำไปกับบรรยากาศที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนจูบนั่นไม่ใช่ปัญหาระหว่างเขาทั้งคู่อีกแล้ว

“ตรงนั้นมีฝรั่งสวย ๆ ด้วยเท็น” แจ็คชี้นิ้วไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะถูกอีกคนคว้ามือโง่ ๆ นี้ไว้พร้อมกำแน่นเหมือนไม่อยากเปิดโอกาสให้ไปชี้สาวที่ไหนอีก

“สนใจเรื่องปากท้องเพื่อนก่อนสิครับแจ็ค”

“เออครับ กูได้ยินแล้ว”

“ได้ยินแล้วต้องทำไง?”

จะให้ตอบแบบไหน ‘กินกูรองท้องก่อนไหม?’ แบบนี้เหรอ?

พูดเป็นเล่นไป เขาไม่ใช่บอสสักหน่อยถึงจะได้พูดแบบนั้นกับ...


เพื่อน






(จบครึ่งแรก)





มันอะไร ทำไมมันน้ำเข้าหูเยอะกว่าคนอื่นเขา
#เอาน้ำมนต์เทใส่กระบอกแล้วฉีดอัดใส่ทุกคนที่เดินผ่านสองคนนี้


ปล. ขอบคุณไมๆที่ช่วยแปลไทยเป็น eng ให้จร้า เริ้บ


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-04-2019 01:01:55
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:

 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 03-04-2019 01:19:58
มันจะเป็นเพื่อนกันอีท่าไหน! เลิกซึนได้แล้วหนู
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 03-04-2019 01:34:30
ควรจะต้องขอบคุณสาวฝรั่งทั้งสองใช่มั้ยเนี่ยที่ทำให้ทั้งคู่ก้าวไปอีกขั้น รู้ใจตัวเองทั้งคู่เลย ขอให้เข้าใจกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-04-2019 05:25:25
 :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-04-2019 06:54:26
ตามล่าไอ้คนสาดเหล้าพร้อมน้ำแข็งนั่น จังหวะนรกจริง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-04-2019 09:29:42
ออกจากเฟรนโซนได้และพวกเอ็งง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 03-04-2019 10:43:45
ผัวขาาาาา เมียฟินเหลือเกินจูบกับน้องเท็นแล้วหึงดีมั้ยนิ กรีดร้องงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 03-04-2019 15:54:10
หู้ยยยย ขนาดนี้แล้วนะแจ็คเท็น ใจตรงกันแล้วด้วย คบๆกันไปรุยยยอย่าช้าาา  แต่ก็นั้นแหละมีแค่คนอ่านกับคนเขียนที่รู้ แต่แจ็คและเท็นไม่รู้ :ling1:  แต่ก็ชอบนะที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-04-2019 18:44:26
อ่ะเพื่อนก็เพื่อนจ้าาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 03-04-2019 21:46:43
อยากให้เค้ามีความสุขกันสักที :hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 03-04-2019 22:09:20
สกิลความเนียน

หนาแน่นมากค่ะคู่เพื่อน

อย่าลืมนัดต้มมาม่าเมนูเด็ดอีกนะ

อย่าลืมซักผ้ากันด้วย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 04-04-2019 07:52:15
ใคร!!!!!!
ฝีมือใครสาดเหล้าคะ!!!!!!!
อย่าให้เจอ เดี๋ยวจะเอาตรงแง่งของทีคีบน้ำแข็งตีมือให้ โทษฐานเล่นไรไม่รู้เรื่อง แง่งงงงงงง

ทั้งๆที่ดูเหมือนว่าใจตรงกันแล้ว แต่การก้าวข้ามเฟรนด์โซนของทั้งคู่ โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ ว่าตัวเองอยากขยับสถานะจากที่เป็นอยู่แค่ไหน ถ้าได้รู้ ได้ใครซักคนมากระตุ้นให้เกิดความกล้า เรื่องมันก็อาจจะแฮปปี้ได้ง่ายขึ้นล่ะนะ!

แต่ก็เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง มันเลยอยู่สถานะที่กระอักกระอ่วนแบบนี้... แบบมันจะเป็นยังไงก็ได้ แค่ขอให้ไม่เสียอีกฝ่ายไป ยอมเก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ เพื่อให้สถานะที่ได้รับอยู่ตอนนี้ ไม่ถูกลดลงไปกว่าที่เป็นอยู่

โง้ยยยย สงสารน้องเท็น ยอมให้คนทั้งโลกด่ายังไงก็ได้ แค่ไม่เสียแจ็คไปปปปป ทำไมมันปวดหน่วงในใจจังเลยล่ะคะ แง้~~~~~~~ T.T

ขอโบกแท็กซี่ไปแม็คโครก่อน ว่าจะเหมามาม่าให้แจ็คกับเท็นก่อนที่ตอนต่อไปจะมานะคะ!!
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 04-04-2019 20:23:01



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 19
โคม่า (PART 2/2)



แจ็คไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ตัวเองเมาเพราะเขามักจะเป็นคนเก็บศพคนอื่นอยู่เสมอเมื่อตั้งวงเหล้า แต่ก็ต้องยกเว้นตอนไปเที่ยวกับพวกขี้ซุยฯ ที่มีบอสไปด้วยครั้งแรก ตอนนั้นละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ ก็ถ้าอยู่ในจุดที่คิดว่าโอเค ทุกคนจะปลอดภัยโดยไม่โดนดักตีหัวข้างทางเขาก็พร้อมจะเมาได้ แต่โอกาสนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

แต่วันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่แจ็คได้ปล่อยตัวเองนอนมองท้องฟ้ามืดที่มีลมอ่อน ๆ ยามดึกซึ่งช่วยให้บรรยากาศตอนดื่มเหล้าดียิ่งขึ้นไปอีก ไอ้คนรักสัตว์หันไปเล่นกับหมาแมว แต่ก็ยังมีใจหันมาเติมเหล้าให้เขาอยู่เป็นระยะ

ไม่มีใครพูดถึงเรื่องจูบอีก ทั้งคู่แกล้งตายกันหน้าด้าน ๆ ทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น หลัก ๆ ก็เป็นเพราะการกระอักกระอ่วนเวลาอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องที่ใครต้องการ

การจูบเพื่อนคือหายนะใหญ่ชนิดเทียบเท่ากับภัยธรรมชาติ ถึงจะแกล้งทำเป็นเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่แจ็คพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าการมองปากไอ้เท็นหลังจากนี้ไปคงไม่เหมือนเดิมแล้ว

“ไอ้ธีร์ว่าไงบ้าง?”

“ไลน์มาบ่นชุดใหญ่ว่าปวดไข่ โดนล้วงจนช้ำ” ทันทีที่พูดจบทั้งคู่ก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“แล้วมันบ่นเรื่องอยู่กับกูไหม?”

แจ็คส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไอ้โซ่ไม่สบาย วันนี้กูเลยรอดตัว”

“ถ้าไม่พลัดหลงกันมึงคิดว่าวันนี้จะจบยังไง?” เท็นอยากรู้ว่าเพื่อนจะคาดเดาไปทางไหน ส่วนเขาคิดว่าคงเป็นฝ่ายหนีกลับบ้านมากินมาม่าคนเดียวเพราะไอ้แจ็คคงโดนฝั่งนั้นโทรตามไปกินเหล้าด้วย

“จบที่ตรงนี้เหมือนเดิม”

“ไหงงั้น?”

“เพราะต่อให้ไม่หลงกันไอ้โซ่ก็ป่วยอยู่ดี แล้วไอ้ธีร์ก็คงไม่มีใจไปนั่งแดกอะไรทั้งนั้น เพราะมันจะนอนโอ๋กันจนกว่าเด็กจะหลับคาอก”

“เลี่ยนฉิบ คนอย่างมันมีโมเมนท์แบบนั้นด้วยหรือไง ก็พอจำได้หรอกว่ามันเทคแคร์สาวเก่ง แต่กับคนที่อยู่กันมาเป็นปีแล้วแถมยังเป็นผู้ชายอีก...?”

“เด็กผู้ชายอย่างไอ้โซ่มันทำไม?” แจ็คเลิกคิ้วถามเพื่อนที่กำลังสงสัยในความสัมพันธ์ ซึ่งเขาเองก็เคยคิดอย่างนั้นในช่วงแรกเริ่มเพราะกลัวว่าเพื่อนกับน้องจะไปกันไม่รอด

“ก็ไม่ยังไง กูแค่สงสัย”

“พูดมาเถอะ กูไม่ฟ้องไอ้ธีร์หรอก”

“ฟ้องก็ไม่กลัว เรียกมาสักร้อยธีร์ก็ยังได้”

“โอ้โห ร้อยธีร์เลยนะ?”

“ต่อยปากมึงด้วยร้อยที” เท็นกำหมัดโชว์ ไอ้คนยิ้มยากถึงเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “กูแค่สงสัยว่าเด็กคนนั้นมีอะไรถึงหยุดคนอย่างไอ้ธีร์ได้ มึงก็รู้ว่ามันเคยเป็นยังไง”

“ก็ถูก แต่ตอนมึงหายไปมันก็คบแฟนคนเดียวมาตลอดนะ กลับกันแล้วที่ทำให้แฟนเก่ามันโกรธก็มีแค่เรื่องเกม ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง” ไอ้แจ็คหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ “แล้วน้องกูก็แสนดีขนาดนั้น ถ้าไอ้ธีร์คิดว่ามีใครที่ทำให้มันสบายใจกว่า หรือทำให้มีความสุขกว่ามันคงไปแล้ว”

“พวกมึงไม่ช็อกเหรอที่อยู่ ๆ มันหันไปคบผู้ชายด้วยกัน?”

“ตอนแรกน่ะใช่ แต่รับได้” ไอ้แจ็คพ่นควันบุหรี่ แล้วปล่อยให้ความเงียบทำงานเหมือนอยากให้เขาใช้เวลานี้คิดไปด้วย “เราก็แค่ไม่ชินเวลาเห็นผู้ชายรักกับผู้ชาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นตัวประหลาดนี่”

“แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดแบบนี้ โลกเราหมุนด้วยสังคม โดยเฉพาะโลกที่มีอินเทอร์เน็ตขับเคลื่อนเร็วเหมือนลม”

“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมาใส่ใจขนาดนั้นหรอก” ไอ้แจ็คยิ้มพลางยกเหล้าขึ้นดื่ม “ห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ก็ห้ามความคิดตัวเองก่อน ห้ามไม่ให้ไปสนใจ ห้ามไม่ให้คิดมาก ห้ามทุกอย่างที่จะทำให้ความสุขหายไปจากตัวเรา”

“ที่พูดมามึงทำได้ไหม?”

“ก็ทำอยู่ ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไหลไปตามสิ่งแวดล้อมจนหาจุดยืนให้ตัวเองไม่ได้” เท็นมองรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าเพื่อน “ถ้ามัวแต่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงหันกลับไปมองนาฬิกาอีกทีก็เสียเวลาไปเยอะแล้ว มึงคิดว่าไงล่ะ จะเสียเวลาไปกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ หรือจะใช้มันอย่างมีค่ากับคนสำคัญข้างตัว?”

“ใครที่ว่าสำคัญ มึงหรือไง?”

“ถ้าตอบคนอื่นมึงก็ตอแหลแล้วเท็น”

“โอ๊ย ๆ น้ำเข้าหู” เขาล้อเลียนอีกฝ่ายด้วยการทำท่าเขย่าศีรษะ ซึ่งไอ้แจ็คก็อมยิ้มพร้อมเอื้อมมือมายีผมเขาก่อนจะดึงหูจนต้องร้องโอดครวญ “โอ๊ย เจ็บ ๆ”

“ตัวมึงรุม ๆ นะ ไข้แดกอีกคนแล้วมั้งเนี่ย”

“เปล่า ร้อนเพราะเหล้า ไม่ต้องห่วงหรอก กูระดับคนเหล็ก”

“งั้นกินแก้วสุดท้ายแล้วไปนอน”

“สั่งเป็นพ่อเลย ยังเหลืออีกตั้งเยอะ ไม่จัดก่อนเหรอ?” เท็นมองเหล้าที่ยังเหลือเกือบครึ่งกลม

“เก็บไว้แดกวันหน้าสิวะ ทำเหมือนโลกจะแตกพรุ่งนี้”

“แต่พรุ่งนี้มึงไม่อยู่กับกูอะ”

“อยู่ โอเคไหม?” เขาตอกหน้ากลับไป ไอ้คนได้ยินก็ดูท่าจะพยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถแล้วแต่สุดท้ายมันก็ยิ้มกว้างอยู่ดี

“เบี้ยวนัดขอให้เจี๊ยวเล็ก”

“แช่งอีกร้อยครั้งขนาดมันก็เท่าเดิมอยู่ดี” แจ็คส่ายหน้าหน่าย ๆ

“หมายถึงเล็กอยู่แล้วนั่นเอง”

“ทำคนจุกได้แล้วกัน”

“เอาเรื่องว่ะ” เท็นจิ๊ปากพร้อมปรบมือรัวประทับใจ “อยากให้มึงพูดแบบนี้ตอนสตรีมบ้าง คาดว่าสาว ๆ คงตายเพราะความแบด”

“ใครจะไปพูดแบบนั้น กูมันคนวางตัวดี”

“พูดก็พูดเถอะ มึงลองคิดดูดิว่าถ้ากูคบกับผู้ชาย ตอนเปิดตัวจะมีคนตั้งกระทู้ด่ากูกับแฟนสักกี่ล้านกระทู้?” เป็นคำถามที่สร้างสรรค์ พอคิดดูว่าถ้าตนเองตกอยู่ในสภาพนั้นคำด่านับแสนก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย บางคนคงเหยียดเพศ บางคนคงด่าไปเรื่อยเพราะเหตุผลเดียวคือเกลียดเขา

“เราจะไม่โดนใครด่าถ้าเราไม่เข้ากระทู้ ไอ้ธีร์เคยพูดไว้แบบนี้”

“ก็เพื่อนมึงสุดตีนไง เคยสนใจอะไรที่ไหนกัน?”

“ก็เพราะมันไม่สนใจไอ้อีหน้าไหน มันถึงได้มีความสุขโคตร ๆ จนถึงตอนนี้ไงล่ะ” ไอ้แจ็คยิ้ม “แล้วการรักกันมันไม่จำเป็นต้องบอกให้โลกรู้ก็ได้”

“มึงไม่คิดว่ามันน่าใจหายเหรอ ถ้ามึงบอกว่าไม่จำเป็นต้องไปสนใจสายตาคนอื่น แต่พอรักกันแล้วแต่กลับต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ”

“เรื่องนี้กูว่าแล้วแต่คนจะคิดนะ มันก็ดูเหมือนหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่ถ้ามองอีกแง่ เราก็แค่พาตัวเองออกมาในจุดที่จะทำให้ไม่สบายใจ มันก็แค่นั้น”

“แต่ไอ้ธีร์ก็โชคดีตรงที่สร้างเครดิตเรื่องผู้หญิงไว้เยอะ พอคบกับโซ่คนก็เลยมองว่าเป็นพี่น้องที่สนิทกัน”

“สองคนนั้นมันเข้าใจกัน ขอแค่มีกันและกันทุกวัน เป็นกำลังใจให้กันแค่นั้นก็พอ มันไม่ได้อยากลงรูปจับมือ ลงรูปวันครบรอบเพื่อให้ใครมาอิจฉา”

“หงุดหงิดว่ะ ทำไมคนอย่างมันถึงได้รับสิ่งดี ๆ มากกว่ากู”

“ตรงไหน ตรงที่มีไอ้โซ่น่ะนะ?”

“เออไง ตอนน้องปฏิเสธเข้าทีมกูก็โคตรหนักแน่น ถ้าเป็นเรื่องความรักก็คงไม่แพ้กันอะกูว่า”

“ก็ถูกของมึง”

“ใช่ไหมล่ะ ทีนี้กูอิจฉาเพื่อนรักมึงหรือยัง?” เท็นเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม มองคนข้างตัวระหว่างนึกไปถึงหน้ากวนส้นตีนของไอ้ธีร์ นึกอยากแช่งให้มันเลิกกันแต่ก็กลัวว่าเวรกรรมจะเข้าตัวสักวันหนึ่ง เพราะคนอย่างเขาคงไม่สามารถแช่งใครจนส่งผลได้

“ไม่” พูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มหมดแก้ว อยู่ ๆ ไอ้แจ็คก็ดูเลิ่กลั่กเติมเหล้าใหม่แล้วก็ยกดื่มจนหมดอีก

“ถ้าอ้วกแตกกูยันคว่ำนะบอกก่อน เบา ๆ สิวะ ไหนบอกให้กูแดกแก้วสุดท้าย” เท็นคว้าข้อมืออีกคนที่กำลังจะเติมใหม่ มันถึงยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน

“กูไม่อิจฉาไอ้ธีร์น่ะไม่แปลกหรอก แต่แปลกตรงที่มึงมีกูอยู่ตรงนี้แล้วยังเสือกอิจฉามัน”

“...” เอาแล้วไง สตันท์ไปสักห้าชั่วโมงเลยดีไหมล่ะทีนี้ รู้สึกเหมือนโดนฮุคควบโดนงอนอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้สิวะ จะมาคิดเองเออเองแบบนี้มันถูกต้องที่ไหน

ไอ้แจ็คก็แค่เมามันเลยพูดงี่เง่าออกมา เพราะถ้ามันปกติเต็มร้อยคิดว่าชาติหน้าก็คงไม่ได้ยิน เท็นกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ รู้สึกวูบวาบอยากจะร้อนหน้าอยู่ตลอดเวลา ก็เล่นพูดแบบนี้จะให้ตอบอย่างไรว่าไม่เหมือนกัน

นั่นแฟน ส่วนไอ้นี่ก็...

“กูไปนอนละ”

รีบตัดบทก่อนจะปัญญานิ่มใส่ไอ้เท็นมากไปกว่านี้ ให้ตายเถอะว่ะ เขาพูดแบบนั้นออกไปได้อย่างไร แฟนกันหรือก็ไม่ใช่ สุดท้ายเขาก็สร้างความอึดอัดให้ไอ้เท็นอยู่ดี

“นอนด้วยดิ”

เท็นรีบเข้ามาด้านในพร้อมปิดประตูระเบียงก่อนจะวิ่งไปหยิบรีโมทแอร์มากดเปิดเร่งความเย็น เขาเห็นว่าไอ้แจ็คยืนมองอยู่ตรงปลายเตียงเหมือนอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ ซึ่งคนโง่ที่ดีแต่วิ่งหนีความรู้สึกตัวเองรอบโลกก็ทำอะไรได้ไม่ดีเท่าการเดินไปนอนก่อนพร้อมก่ายขากับหมอนข้าง

“เมาโว้ย” เหมือนไม่มีคำพูดดี ๆ ออกจากปากแล้ว ถึงได้กลบความเงียบด้วยประโยคนี้ เท็นหลับตาพร้อมด่าตัวเองในใจซ้ำ ๆ เป็นอีกครั้งที่เขาอยากย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขคำพูด


‘มึงสำคัญที่สุดในโลกแล้ว รู้บ้างไหม?’


นั่นคือสิ่งที่อยากพูดออกไป แต่ลึก ๆ ก็กลัวว่าเพื่อนจะตีความหมายผิดจนกลายเป็นว่าแทนที่จะรู้สึกดีก็เป็นรู้สึกแย่

“เท็น”

ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้ จากบรรยากาศผ่อนคลายสบายใจอยู่ ๆ ก็อึมครึมไปด้วยเมฆสีเทา ชายหนุ่มเจ้าของชื่อนิ่งไปราว ๆ ห้าวินาที ก่อนจะหันหลังกลับไปเพื่อเห็นว่าตอนนี้หน้าไอ้แจ็คตอนโดนไฟสลัว ๆ มันน่ามองมากแค่ไหน

“คิดยังไงกับจูบนั้น?”

เอางี้เหลยเหรอวะ... เขานึกว่าไอ้แจ็คอยากลืมเรื่องนี้ไปจนกว่าจะตายลงโลงเสียอีก เท็นกลืนน้ำลายอีกครั้ง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนคอจะแห้งเป็นผงอย่างบอกไม่ถูก

“กูต้องคิดอะไรด้วยเหรอ?” ประโยคนี้แผ่วลงเหมือนคนกล้า ๆ กลัว ๆ เท็นวางหมอนข้างพลางประสานมือไว้กลางอกแล้วนอนมองเพดานเหมือนอีกคน “หรือมึงคิด?”

“อืม”


เหี้ย ก็รีบตอบไป


“ถึงเราจะเป็นเพื่อนกัน แต่การจูบผู้ชายด้วยกันคงไม่ใช่เรื่องที่มึงจะประทับใจ บางทีมึงอาจจะขยะแขยง” ไม่รู้ว่าไอ้แจ็คกำลังมีสีหน้าแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เท็นได้รู้ก็คือเขาไม่ได้กังวลเรื่องจูบนั้นอยู่ฝ่ายเดียว “กูใจหายมากตอนมึงเลือกนั่งแท็กซี่กลับ เพราะถ้าเป็นมึงคนที่ไม่ได้จูบกับกู มึงคงรั้งกูไว้แล้วชวนกลับมานั่งกินมาม่าด้วยกัน”

“มึงคิดมากเหรอวะ?”

“แล้วมึงคิดไหม หรือคิดว่ามันก็แค่เรื่องขำ ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้?”

“ขำก็เหี้ยแล้ว” เท็นหายใจเข้าลึก ๆ เขาต้องพยายามรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากเพื่อที่จะเปิดใจพูดเรื่องนี้กับคนข้างตัว “กูต้องเป็นคนแบบไหนถึงจะจูบกับใครก็ได้โดยไม่คิดอะไร โดยเฉพาะมึง”

“งั้นแสดงว่าเสมอกัน คิดมากทั้งคู่”

“...”

“เอาไงดีล่ะ ทำให้มันเคลียร์เลยดีไหมว่าควรลืม ๆ ไปแล้วก็ทำให้ทุกอย่างเหมือนปกติ” ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากรู้ปฏิกิริยาไอ้เท็นเหมือนกัน แจ็คอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะแสดงออกแบบไหน ถ้ามันตอบตกลงเขาก็จะตัดใจให้ได้และพยายามประคับประคองความเป็นเพื่อนต่อไป

เท็นนิ่งงันกับคำถามเมื่อครู่ มันควรเป็นอย่างที่พูดอยู่แล้วไม่ว่าไอ้แจ็คจะพูดหรือไม่ แต่เขากลับใจหายอย่างบอกไม่ถูกกับประโยคเมื่อครู่เหมือนว่าจูบนั่นไม่มีอะไรน่าจดจำจนต้องลืม ๆ ไป

“ก็ถ้ามึงอยากทำ”

“หมายความว่ายังไง?”

“เรากินเหล้าจนเมาก็จริง แล้วกูเป็นฝ่ายเริ่มเล่นพิเรนทร์ก่อน แต่กูจำเรื่องนั้นได้จนถึงวินาทีนี้แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะลืม”

เท็นกำลังสู้กับความกลัว เขาอยากจับมือนี้ไว้เพื่อขอความกล้าแต่มันคงยากสำหรับสถานการณ์ที่ไอ้แจ็คกลับกลายเป็นความกลัวนั้นเสียเอง ต้องพูดออกไปจริง ๆ เหรอไอ้ความรู้สึกที่ซ่อนเอาไว้ในใจ เก็บเอาไว้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?

“กูไม่ได้ขยะแขยงมึง ไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลย”

“...”

“...”

คำตอบนี้ชัดเจนพอหรือยัง มันมากพอที่จะทำให้ไอ้แจ็คยิ้มได้อีกครั้งหรือไม่ เด็กสองคนที่อยู่ในโรงเรียนสอนดนตรีในวันนั้นเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เท็นไม่เคยคิดมาก่อนเลย

“แล้ว...”

เสียงไอ้แจ็คเบาลง แต่ก็ได้ยินชัดเมื่ออยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่มีเพียงเขาทั้งคู่บนเตียงขนาดหกฟุต มือที่เคยร้อนจนโดนทักว่าเหมือนคนมีไข้นั้นเย็นเฉียบขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันก็คงไม่แย่นักเมื่อมืออีกฝ่ายค่อย ๆ ขยับมาเกี่ยวกันทีละนิ้วนั้น ซึ่งนั่นก็เย็นเหมือนน้ำแข็งไม่ต่างกัน

“...มึงโอเคหรือเปล่า?”

ไม่เคยเห็นไอ้แจ็คประหม่าขนาดนี้ แต่ก่อนจะสังเกตคนอื่นเขาควรดูสภาพตัวเองก่อนว่าไม่ได้ต่างกันเลย ทั้งประหม่า กังวลเพราะไม่รู้ว่าต้องวางตัวหรือพูดอะไรเพื่อให้อีกคนไม่รู้สึกแย่

“หมายถึงจูบหรือที่มึงจับมือกูอยู่ตอนนี้ล่ะ?”

สิ้นสุดคำถามนิ้วเรียวที่เกี่ยวกันก็เปลี่ยนเป็นสอดประสานจนแทบไม่เหลือช่องว่าง จะบ้าตายอยู่แล้ว เขาเหมือนเด็กประถมที่เพิ่งชอบใครสักคนเป็นครั้งแรก หัวใจถึงได้เต้นแรงและมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดอย่างนี้

“ทั้งสองเลย”

ฝ่ามือและซอกคอชื้นไปด้วยเหงื่อ เท็นรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนเชือกซึ่งหากมองลงไปก็จะพบกับเหวลึกที่ตกลงไปคงตายไม่เหลือซาก ความรู้สึกที่คาบเกี่ยวอยู่กับคำว่าความกลัวและความสุขนั้น... เขาไม่อยากเสียไอ้แจ็คไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

“ไม่รู้ว่ะ”

ใจหายวาบกับคำตอบ แจ็คค่อย ๆ หันไปมองเจ้าของคำพูดก่อนจะสบตากันในที่สุด เขารู้สึกอยากได้ยานอนหลับสักสองเม็ดแล้วนอนไปยาว ๆ ...ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร ไม่เคยกลัวการมีความรักขนาดนี้จนกระทั่งรู้ตัวว่าความรู้สึกดี ๆ เหล่านั้นมันมีให้ไอ้เท็นไปแล้ว

“งั้นกู... ขอลองดูอีกทีได้ไหมวะ?” 

สั่นทั้งคนถามและคนถูกถาม ชายหนุ่มสองคนสบตากันท่ามกลางความเงียบโดยมีไฟสลัวสีซีเปียที่ทำให้มองเห็นใบหน้ากันและกันได้ แจ็คกับเท็นต่างก็ขยับตัวเข้าหาอีกฝ่าย สุดท้ายคำว่าเพื่อนก็ตายลงอย่างเป็นทางการด้วยจูบนี้

“โอเคไหม?”

“ยังไม่รู้ ขอลองอีกทีก่อน...”

ลมหายใจร้อนสอดประสานหลังจากถอนจูบออกมาเพื่อใช้เวลาเพียงเสี้ยววิยับยั้งชั่งใจว่าการพิสูจน์ครั้งนี้ควรจบลงได้แล้วหรือไม่ แต่สุดท้ายคำขอของฝ่ายก็ทำให้ทุกอย่างเลยเถิดไปเรื่อย ๆ

มือข้างนั้นยังคงจับแน่นเหมือนในทีแรก จูบรสบุหรี่เคล้ากลิ่นเหล้ายังคงคละคลุ้งในปากเมื่อลิ้นไล่กวาดอย่างเอาแต่ใจ ทั้งคู่กอดฟัดนัวเนียไซ้คอจนได้เรียนรู้ความรู้สึกแปลกใหม่จากตอหนวดที่ไม่เคยเจอกับผู้หญิง พวกเขาทิ้งความกังวลทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังเพื่อให้ความสำคัญกับคนตรงหน้ามากที่สุด


พอกันทีกับความกลัวที่คิดเอาเองอยู่ฝ่ายเดียว


“ได้คำตอบหรือยัง?”

ทั้งคู่ซบหน้าผากกันกับคำตอบที่รู้แล้ว แจ็คเสยผมสีเทาขึ้นเพื่อให้มองหน้าหล่อ ๆ ของไอ้เท็นได้ชัด ๆ และรอยยิ้มของมันที่มาพร้อมจูบครั้งใหม่ก็ทำให้หัวใจที่เหี่ยวเฉาดวงนี้สดใสขึ้นมาได้อีกครั้ง

“กู... ต้องพูดอะไรไหมวะ?”

“ไม่ดีกว่า ไม่ว่ากูหรือมึง ถ้ามีใครต้องเขินคงพิลึกพิลั่น”

“เออ... จริง”

ถึงไอ้แจ็คจะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ห้ามอาการร้อนตรงแก้มไม่ได้เลยไอ้ฉิบหาย เขินจะตายห่าแล้วมีใครเข้าใจไหม เขาเพิ่งจูบไอ้แจ็คไป แล้วที่แย่กว่านั้นคือเขาอยากทำแบบนั้นซ้ำ ๆ เหมือนคนเห่อแฟนทั้งที่ยังไม่ได้คำว่าแฟนมานอนกอด

“มึงไม่กลัวพังเหรอถ้าวันนึงกูหรือมึงอาจจะไม่รู้สึกแบบนี้แล้ว”

“กลัว แต่ตอนนี้กูห้ามตัวเองไม่ค่อยได้มึงก็เห็น” แจ็คตอบอย่างขลาดอาย บอกตามตรงว่าเขาไม่เคยเสียฟอร์มขนาดนี้ มีแค่ไอ้เท็นคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เห็น

“งั้นเอาไงดี กูไม่อยากพัง แล้วก็ไม่อยากให้มึงพังด้วย”

“ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มึงโอเคไหม แบบที่กูกับมึงเข้าใจกันสองคน” หลังจากไอ้แจ็คพูดเขาก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย อยู่ ๆ ก็เชื่องเป็นพี่ซัน

“ก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไง”

“เออ เพื่อนกัน” ไอ้แจ็คยักคิ้วหน้านิ่งเขาจึงเลียนแบบมัน แล้วบรรยากาศที่เคยกดดันก็ผ่อนคลายลงจนฟุ้งไปด้วยความสุข “ขยับมานี่”

“จะแดกปากอีกเหรอ?” เท็นถาม ก่อนไอ้คนที่ใคร ๆ ว่าเย็นชาจะขยับเข้ามากอดเขาพร้อมยิ้มแบบที่ไม่ชินเอาเสียเลย

ต่อให้จะรู้จักกันมานานแค่ไหน ต่อให้จะห่างหายไปเป็นสิบปี แต่เท็นพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าเขาไม่เคยเห็นไอ้แจ็คมุมนี้มาก่อน

“อึดอัดหน่อยนะ ขอกอดสักแปดชั่วโมง ตื่นแล้วจะปล่อย”

“มึงเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอวะ?” พอใจตรงกันไอ้นรกก็ฮุคเลยว่ะ ไม่ได้หมายถึงคำพูดนะ หมายถึงสีหน้ากับแววตาตอนนี้ต่างหาก มันจะอ้อนไปไหน?

“เพื่อนกอดเพื่อนไม่เป็นไรหรอก มึงก็คิดมาก”

“พูดงี้สงสัยอยากโดนแดกปาก”

“ก็มาดิครับ” อืมนะ ถึงขั้นทำเสียงหล่อใส่แล้ว

ฉิบหายเอ๊ย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาอยู่หรือเปล่าถึงได้เรื้อนใส่กันขนาดนี้ เท็นไม่รู้ว่าตัวเองหน้าตาตลกแค่ไหนตอนกำลังยิ้มให้อีกฝ่าย เพราะสิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คือรอยยิ้มไอ้แจ็คมันดีกว่าสิ่งไหน ๆ และเขาอยากเป็นคนทำให้มันยิ้มได้แบบนี้ทุก ๆ วัน

“เท็น”

“ว่า...?”

“เลิกบุหรี่กันไหม?”

“ทำไมวะ?”

“เปล่า กูแค่อยากรู้ว่าจูบมึงแบบไม่มีรสบุหรี่จะเป็นยังไงก็แค่นั้น”

“งั้นเดี๋ยวไปแปรงฟัน”

“ไปด้วย”

สองเพื่อนซี้ลุกขึ้นกอดคอกันเดินไปเข้าห้องน้ำ จัดการแปรงฟันแล้วมองหน้ากันผ่านกระจกบานใหญ่ แม้ว่าจะขลาดอายกับความชัดเจนที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่ก็ยังหยอกล้อด้วยการพ่นฟองยาสีฟันใส่กันได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทั้งคู่คิดว่าสถานะยังคงเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

นอกจากกับความเป็นเพื่อนที่เลเวลอัปขึ้นไปอีกระดับหนึ่งก็เท่านั้น






TBC


 



//นั่งพันยาเส้นสูบแล้วมองขึ้นไปบนระเบียงบ้านหลังนั้น//




หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Ashita ที่ 04-04-2019 20:51:25
ขอซื้อคำว่า "เพื่อน" ได้ไหม เอาจริงๆ เพื่อนที่ไหนจูบกันฮะ!  :katai4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 04-04-2019 21:02:12
ไม่ใช่แจ็ค เท็นนะที่โคม่า คนอ่านนี่แหละ ไม่ไหวแล้ววสส
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 04-04-2019 21:34:16
ยังใช้คำว่าเพื่อนกันอีกหรออ  :katai5: แต่ก็โอเค้ สองหนุ่มใจตรงกันแล้ว จุดพลุ  :katai2-1: ฮือชอบพี่แจ็คมุมขี้อ้อนแบบนี้ จะละลายพ่อคนชาเย็น แต่เสียฟอร์มให้เท็นคนเดียว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-04-2019 21:50:58
คุณสองคนไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ ๆ เพราะคนเขียนบอกแล้วว่า สุดท้ายคำว่าเพื่อนก็ตายลงอย่างเป็นทางการด้วยจูบนี้
คุณสองคนเป็นแฟนกัน ย้ำเป็นแฟนกัน แล้วอีกหน่อยก็เป็น ผ.กับม.เข้าใจไหม
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-04-2019 22:04:28
จ้าาาาา​ เพื่อนกันจ้าาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 04-04-2019 22:09:52
เพิ่งรู้ว่าการได้ขึ้นสวรรค์โดยไม่ต้องทำความดีเพียงแค่เน่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ แม่จ๋าเน่มีความสุขเหลือเกินน้องทั้งสองคนเค้าเปิดใจให้กันและกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 04-04-2019 22:17:48
โอ้ยยยย หวานยาวๆ นะ ได้โปรดดด  :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-04-2019 22:21:00
แอบเอากล้อง

วงจรปิดไปติดในห้อง

พ่อพี่ซันอิมูน

คนอะไรพาผู้ชายมากัดปาก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-04-2019 00:02:08
เขาว่าเพื่อนก็คงต้องตามนั้นอ่ะนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-04-2019 01:10:57
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 05-04-2019 04:11:49
เหมือนกลั้นหายใจอ่านจนจบแล้วมีแต่คำว่า โอ้ยเขิลลลจัง อหหห ที่ไม่ใช่โอ้โห  :o8:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 05-04-2019 04:59:12
กรี้ดดดดดดดดดด ชอบความอ้อนของพรี่แจ็ค เค้าเลื่อนสถานะกันแล้วค่าาาาาาา  เขินนนนนนนตัวบิดเป็นเลข 8
ถ้าอิพี่ธีร์รู้นะ ต้องบ้านแตก 5555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-04-2019 10:44:01
เพื่อนที่ไหนมันจูบแลกลิ้นกันเล่า

ไอ้พวกบ้าาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 15:07:29
"วันนี้เขามีเรื่องเล่าให้พี่ซันกับน้องมูนฟังเยอะแยะเต็มไปหมด
" แงงงประโยคนี้คือทัชมากเท็นเหงามากมั้ย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 18:08:36
รักพาร์ทอดีตมากถึงจะหน่วงๆก็เถอะแต่มันดีมากเลยเป็นคนพิเศษของกันและกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 18:53:57
ว่าแล้วแม่เท็นแปลกๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 19:36:54
แจ็คโดนมาหนักจริงๆแต่โชคดีที่มีครอบครัวเพื่อนและทีมที่ดี
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 20:59:51
เพื่อนที่ไหนเขาหวงกันอะแบบนึกออกป้ะ พี่ซันกับอีมูนเกียมมีพ่อเพิ่มได้เลย บอสคือปั่นเก่งติดบักแหลมมาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 23:22:25
คู่นี้เขาปั่นเก่งกันจริงๆ บักแหลมเอ้ยยย555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 05-04-2019 23:56:26
 :katai1: เขาจูบกันแล้วอะแม่ ใครสาดน้ำมาจะตามไปตี!!
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 06-04-2019 00:12:35
เพนเพื่อนกันแดกปากกันขำๆจ้่า  :katai1: :sad4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 06-04-2019 11:52:04
ทำยังไงดีคะ หยุดอมยิ้มไม่ได้เลย แง้~~~~~

มันดจีย์กับใจมากกกกกก
เพราะว่าเค้ากินปากกันแบบ... ต่างฝ่ายต่างก็ชัดเจนในความรู้สึกแล้วอ่ะ กินปากกันก็เพราะอยากกิน ฮือออออ ฟิน ~

อันความสถานะไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ท่าทีที่แสดงออกและความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากนี้ก็ขอให้มีอะไรฟินๆ ชวนยิ้มแก้มแตกเยอะๆ นะคะ ฮืออออออ คราวนี้ก็รอวันเค้าได้กันล่ะนะคะ อิ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 06-04-2019 22:41:11
โพที่เราชิปจะพลิกไม๊
แจ็คเท็น นะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน19 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 09-04-2019 14:05:01
เพื่อนก็เพื่อน :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 09-04-2019 17:29:46


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 20
ไปข้างนอกไม่ได้เรียกเดท (PART 1/2)





เท็นสะดุ้งตื่นหลังจากจิตใต้สำนึกมันทะลุเข้ามาแม้ว่าจะเป็นตอนนอน ชายหนุ่มตัวสูงเบิกตากว้างรีบหันไปมองข้างตัวก่อนความว่างเปล่าจะทำให้เขาหลอนจนต้องนั่งระลึกชาติว่าไอ้ที่ทำให้มีความสุขล้นใจเมื่อคืนนี้นั้นเกิดขึ้นเพียงในฝันหรือว่าเป็นเรื่องจริง

เขากลืนน้ำลายเอื้อก พอตั้งสติได้ก็ลุกลี้ลุกลนวิ่งลงไปด้านล่างจนหมากับแมวสะดุ้งมองเจ้านายเป็นตาเดียวกัน ผู้ชายคนนั้นกำลังกวาดสายตามองหาใครสักคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ และสีหน้าหล่อ ๆ เริ่มดูจะไม่ดีแล้วกระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น

“อะไร?”

“หะ?” คนเพิ่งตื่นอ้าปากค้างมองเพื่อนสนิทที่เข้ามาในบ้านพร้อมถุงพลาสติกใสที่ทำให้มองเห็นวัตถุดิบทำอาหารพร้อมซันกับมูนที่ตรงเข้าไปออดอ้อนราวกับว่าไอ้แจ็คเป็นพ่อที่แท้จริงอย่างไรอย่างนั้น

“เป็นอะไร ท้องเสียหรือไง?”

“หะ... เปล่า”

“หิวไหม?” ปากบอกไม่ได้รักสัตว์แต่ลงทุนวางข้าวของเพื่อนั่งยอง ๆ ไปลูบหัวพี่ซันกับอีมูน พอเห็นว่าเขาไม่ตอบ ไอ้แจ็คจึงเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงย้ำว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้ถามหมากับแมว

“หิว” อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนใบ้ เท็นเอาแต่มองไอ้คนผมยาวที่กำลังยิ้มบาง ๆ ขณะสบตากับเขาเหมือนอยากยืนยันอีกครั้งว่ามันอยู่ที่นี่จริง ๆ

“กินน้ำเต้าหู้รองท้องก่อน ขอครึ่งชั่วโมง”

เห็นเป็นเด็กห้าขวบหรือไงไอ้แจ็คถึงตรงเข้ามายีผมเขาเบา ๆ ก่อนจะเข้าไปในครัวเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ บ้าไปแล้ว... จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อว่าที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ทั้งเรื่องจูบ เรื่องการสารภาพความในใจแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซึ่งค่อนไปทางอ้อมโลกนั่น แต่เขากลับรับรู้และเข้าใจมันได้ง่าย ๆ

บอกตามตรงว่ากว่าจะหลับได้ก็ฟาดไปไม่รู้ตีไหน หลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูกตอนถูกกอดนาน ๆ มันไม่เหมือนคืนที่เขาโกหกว่าหมอนเลอะน้ำลายเลยสักนิดแม้ว่าจะเขินเหมือนกันแต่ก็แตกต่าง

พอไอ้แจ็คหลับเขาถึงได้มีโอกาสได้หายใจหายคอได้กอดคืนบ้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะมีเมียให้กอดบ่อย ๆ เสียที่ไหน หลังจากนี้ไอ้แจ็คต้องเป็นหมอนข้างมีชีวิตซึ่งเขาก็แพลนแล้วว่าจะเอาหมอนข้างไปเผาทิ้ง และมันต้องรับผิดชอบด้วย

“วันนี้จะไม่ไปหาพวกไอ้ธีร์จริง ๆ เหรอ เผื่อมึงอยากไปเยี่ยมโซ่” เท็นเกาะวงกบทางเข้าครัวพลางโผล่หน้าออกไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เคยเกรงใจใครเป็นที่ไหน ไอ้แจ็คจะรู้บ้างไหมว่าเขาเสียหลักเพราะมันฉิบหายเลย

พ่อครัวของบ้านหันมาเลิกคิ้วมองเหมือนอยากถามว่า ‘ถามเชี่ยไรนัก เมื่อคืนก็ตอบไปแล้วไงโว้ย’

“กูมั่นใจว่าไอ้ธีร์คงดูแลไอ้โซ่ดีอยู่แล้ว”

“มึงกับไอ้ธีร์ไม่เหมือนกันเปล่า เอาจริงกูกลัวมึงเซ็งถ้าต้องอยู่กับกูทั้งวัน” คนเพิ่งตื่นผมเผ้าชี้โด่เด่ทำเก๊กยืนกอดอกพิงกับวงกบทางเข้าครัว

“ถ้าเซ็งเมื่อไหร่เดี๋ยวบอก แต่ตอนนี้ไม่ สบายใจยัง?”

“ไม่สบายดิวะ ใครเขาจะรับได้ถ้ามีคนเดินมาบอกว่า ‘กูเซ็งมึงนะ’”

“อีหรอบนี้แสดงว่าอยากได้ยินอะไรที่ทำให้กูต้องอายตัวเองหลังจากพูดจบ”

“ไม่อายหรอก ลองก่อน” พอรู้ตัวว่าไม่ได้ฝันอยู่ก็เริ่มได้ใจ เท็นอมยิ้มขณะมองกดดันอีกคนที่ดูจะเลิ่กลั่กเสียอาการ ก่อนจะหันไปทำกับข้าวต่อ “แจ็ค”

“กูอยากอยู่กับมึงทั้งวันทั้งคืนเลยไอ้เหี้ย ไม่ต้องถามลงลึกกว่านี้แล้วนะ โอเค?”

“โดนไปดิครับ” คนฟังหัวใจพองโต เบ่งบานแข่งกับดอกไม้ไปแล้ว เท็นอมยิ้มชอบใจ เดินเข้าไปสวมกอดเพื่อนสนิทจากด้านหลังแล้วจุ๊บท้ายทอยที่ชอบมองนักหนาก่อนมันจะสะดุ้งจนเขาหลุดขำ

“...”

“ไม่แกล้งละ ๆ”

เท็นหัวเราะร่าอย่างพอใจขณะเดินถอยหลังเตรียมไปแปรงฟัน เขาอยากทำให้ไอ้แจ็คหลุดมาดเยอะ ๆ จะได้รู้สึกว่าไม่ใช่มีแค่ผู้ชายคนนี้คนเดียวที่ใจเต้นแรงอยู่ตลอดเวลา

ขณะคิดอะไรไปเพลิน ๆ นั้นเท็นไม่รู้เลยว่าเพราะจูบท้ายทอยเมื่อครู่ทำให้แจ็คต้องก้มลงมองเป้ากางเกงตนเองที่อยู่ ๆ มันพองตัวขึ้นอย่างน่าอาย



*



ตอนแรกคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไอ้แจ็คก็คงไม่ต่างไปจากเดิม เพราะเพิ่มเติมแค่ความรู้สึกที่เหมือนกัน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเมื่อได้เห็นความแปลกใหม่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการบีบยาสีฟันใส่แปรงให้ ไหนจะพับผ้าห่ม กวาดบ้าน ถูบ้าน หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เท็นรู้สึกว่าถ้ามีเมียสักคนก็คงตื่นมาเจออะไรแบบนี้

วันนี้เป็นวันที่เท็นมีความสุขที่สุดอีกวันหนึ่ง เขารีบล้างหน้า-แปรงฟันให้ไว ก่อนจะออกไปหาเรื่องเป็นลูกมือให้พ่อครัวที่คงถนัดการทำคนเดียวมากกว่า แต่อีกฝ่ายกลับยอมให้เขาช่วยหยิบจับอุปกรณ์ให้กระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

มื้อเช้าตอนเก้าโมงอร่อยไปกว่าทุกวัน แต่กินไปได้สักพักก็เริ่มเคี้ยวยานคางเพราะทั้งคู่เอาแต่ผลัดกันจ้องชนิดว่าพออีกฝ่ายรู้ตัวก็เนียนก้มหน้าลงไปกินข้าวต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ทำสีผมไหม?”

ไอ้แจ็คถามอย่างนั้น และคนที่รักการมีสีผมจัดจ้านก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย เหมือนว่าถ้าไอ้เวรนี่อยากให้ทำอะไรเขาก็พร้อมที่จะคล้อยตามโดยไม่ขัดใจสักคำ

ขณะที่ใครหลายคนกำลังเล่นน้ำปะแป้งกันอย่างสนุกสนาน ชายหนุ่มสองคนได้อาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอกเพื่อเลือกสีย้อมผมให้เข้ากับหน้าหล่อ ๆ ของ TEN1O ซึ่งเชื่อว่าถ้าอัปโหลดรูปลงโซเชียลคงมีใครหลายคนฮือฮา เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาทำแต่สีเทา แดง บลอนด์ทองมากกว่าจะทำสีเข้ม และสุดท้ายเท็นก็เลือกสีน้ำตาลที่เพื่อนสนิทบอกว่าถ้าเขาทำคงดูโอเคดี

ระหว่างเดินทอดน่องก็เจอร้านตัดผม ไอ้แจ็คหันมาถามความเห็นว่า ‘กูตัดผมสั้นดีไหมวะ?’ ตอนนั้นคิดว่าอีกฝ่ายคงมีคำตอบในใจอยู่แล้วแต่แค่ถามเพราะอยากยืนยันให้มั่นใจ


‘ถ้ากูบอกว่าไม่มึงก็จะไม่ตัด?’
‘อืม ถ้ามึงพูดว่าชอบกูก็จะไว้ต่อไปเรื่อย ๆ’


ไอ้ห่า พักกันบ้างเถอะไอ้ฉิบหาย ใจคอก็จะทำให้รู้สึกดีไปจนชาติหน้าเลยไหมคำพูดคำจาเนี่ย


‘งั้นตัดอันเดอร์คัทเลยเป็นไง กูอยากเห็น’


มันมองหน้าเขาแค่ครู่เดียว ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านแล้วคุยกับช่างเหมือนเอาจริงซึ่งก็ใช่ เท็นมองผมยาว ๆ ที่ถูกตัดไปกองบนพื้น ไม่นานนักไอ้แจ็คก็เดินลูบหัวตัวเองออกมาเหมือนคนยังไม่ชินกับผมทรงใหม่

‘ปะ กลับไปย้อมสีผมกัน’

ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนลืมตาอีกครั้งเวลาก็วาร์ปไปตอนบ่ายแก่ ๆ เสียแล้ว  เท็นไม่เคยรู้ตัวว่าใจเต้นแรงกับความหล่อไอ้แจ็คได้ กระทั่งตอนทำสีเสร็จเข้าขั้นตอนล้างผม ทั้งคู่สบตากันขณะสีน้ำตาลไหลลงไปตามกระแสน้ำ และเขาก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวโน้มตัวไปจูบไอ้แจ็คเพื่อบอกโดยไม่ต้องพูดว่าเขารู้สึกอย่างไร

ซึ่งไอ้แจ็คก็จูบตอบเหมือนอยากย้ำอีกครั้งว่าคิดเหมือนกัน



*



“เป็นห่วงพี่แจ็คใช่ไหมครับ?”

ธีร์หันไปหาเจ้าของคำพูด คงเป็นเพราะเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมแบบ Speedrun เพื่อให้ความสนใจอยู่กับตรงนี้ทุกวินาทีมากกว่าจะเอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นล่ะมั้งโซ่ถึงได้ถามอย่างนั้น

“เป็นเพราะอาการพี่ชัดหรือเพราะเรารักพี่มากก็เลยสังเกตความเป็นไปทุกอย่าง?”

“ข้อหลังก็ได้ครับพี่ธีร์จะได้ฟิน”

“แหม่ เขินก็บอก”

“ต้องได้ World Record แน่เลยครับ โซ่เห็นพี่ธีร์เล่นจบเกือบยี่สิบรอบแล้ว” หลังจากโซ่พูดจบธีร์ก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้พร้อมถอนหายใจจนอีกฝ่ายคงได้ยินชัดเจน

“จะให้ทำไง พี่เก็บอาการไม่เก่งเราก็รู้”

“หลังจากเห็นรูปพี่แจ็คในเฟซพี่ธีร์ก็ดูหัวเสียแปลก ๆ ไม่ชอบพี่แจ็คตอนผมสั้นเหรอครับ?”

“ไม่ใช่ไม่ชอบเพราะเรื่องนั้น แต่ไม่ชอบเพราะมันไปตัดอะไรเอาตอนที่อยู่กับไอ้เท็น”

“เนี่ย มาแล้ว”

“อะไร?”

“อาการหวงเพื่อนไงครับ”

“หวง? พี่เนี่ยนะหวง? เลอะเทอะน่าเด็กน้อย แฟนเราเป็นคนใจกว้างดุจแม่น้ำขนาดนี้ให้คิดอย่างนั้นก็แย่แล้ว” ธีร์หมุนเก้าอี้หันเข้าหาแฟนเด็กที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก

“พี่ธีร์กำลังสะกดจิตตัวเองว่าไม่ได้หวงเพื่อนอยู่นะครับ พี่ธีร์คิดว่าตัวเองต้องใจกว้าง ซึ่งมันก็จริงส่วนนึง แต่เป็นเพราะพี่เท็นคือคนที่พี่ธีร์ไม่ชอบ ระบบความรู้สึกก็เลยขัดแย้งไม่อยากให้พี่แจ็คไปอยู่กับพี่เท็นนาน ๆ”

“แล้วมันผิดเหรอที่พี่จะขัดแย้งกับคนที่เคยชัดเจนว่าเคยทำเรื่องแย่ ๆ อะไรไว้ พี่เป็นห่วงไอ้แจ็ค กลัวมันเจ็บซ้ำร้อยอีกรอบ”

“ไม่ผิดเลยครับ ที่พูดไปทั้งหมดก็เพราะว่าโซ่เป็นห่วงพี่ธีร์คนเดียวเลย -- แถมพี่แจ็คนิดนึงด้วยก็ได้” เด็กเด๋อจีบนิ้วมือขึ้นมา ทำหน้าทำตาน่ารักเป็นท่าประกอบ “ถ้าโซ่เป็นพี่ธีร์โซ่ก็คงกลัวเพื่อนเจ็บเหมือนกัน แต่โซ่ไม่อยากให้พี่ธีร์ลืมคำพูดนึงของพี่แจ็คเลย”

“...”

“จำคืนที่เราเครียดตอนซ้อมจนพี่ธีร์เผลอพาลใส่ทุกคนได้ไหมครับ ก่อนที่เราจะแข่งรอบชิงครั้งแรกนู่นน่ะ ตอนนั้นพี่แจ็คพูดกับพี่ธีร์ว่ายังไง?”

“บอกว่าอย่าหลงไปกับชัยชนะจนลืมความสนุกเหมือนไอ้เท็น”

“ไม่ใช่อันนั้นสิครับปัดโธ่” เด็กเด๋อส่ายหน้าหน่าย ๆ

เออก็รู้ว่าไอ้ส้นตีนนั่นมันไม่หลงระเริงเหมือนตอนนั้นแล้ว แต่ขอตอดสักนิดก็ไม่ได้เลยหรา

“พี่แจ็คพูดว่ายังไงอีก ติ๊กต่อก ๆ” 


‘ถ้าตอนนี้ข้างหน้ามีกำแพงสูงขวางอยู่แล้วเราต้องข้ามมันไป ทีมอื่นจะทำไงไม่รู้ แต่กูจะเป็นฐานอยู่ด้านล่างให้มึงปีนขึ้นไปก่อน พอขึ้นไปได้แล้วค่อยก้มลงมาดึงพวกกูนะ’


“พี่แจ็คก็คงอยากให้พี่ธีร์อยู่เป็นฐานที่มั่นคงเหมือนกันถ้าวันหนึ่งพี่แจ็คจะตกลงมาจากกำแพงนั้นอีกครั้ง”

“ไม่รู้ว่ะโซ่ พี่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว พี่รู้ว่าพี่นิสัยแม่งโคตรเด็ก แต่พี่ต้องเป็นผู้ใหญ่ไม่ว่าจะกับเรื่องอะไรก็ตาม พี่พยายามใจกว้างแล้วว่าโอเค ไอ้แจ็คกับไอ้เท็นสนิทกันมานาน มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ถึงจะหายไปสิบปีแต่กลับมาอีกครั้งมันยังไปไหนมาไหนด้วยกันได้โดยไม่มีท่าทีว่าจะมีช่องว่างให้กันนั่นน่ะ” ธีร์ถอนหายใจ “ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าไอ้เท็นจะไม่ทำร้ายไอ้แจ็คอีก”

“พี่ธีร์พยายามแล้วแต่เรื่องความกลัวมันห้ามกันยากใช่ไหมล่ะครับ?” โซ่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ มาตลอดแม้ว่าจะไม่ได้พูด ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองซึ่งโซ่คงเข้าไปยุ่งไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่พี่ ๆ ทั้งสามคนต้องหาทางออกให้เรื่องนี้เอง และเขาหวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี

“เคยเห็นไอ้แจ็คติดใครขนาดนี้ไหม เคยเห็นมันปล่อยออร่าความสุขออกมาบ่อยขนาดนี้หรือเปล่า?”

“ไม่เคยครับ โซ่ก็เลยทึ่งมาก เพราะคนที่ทำให้พี่แจ็คสดใสขึ้นก็คือคนที่เคยทำให้พี่แจ็คเสียใจมาก่อน แต่โซ่ก็อยากเลือกมองข้อดีมากกว่านะ”

“นั่นแหละที่น่ากลัว” พี่ธีร์เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระจกประตูระเบียงพร้อมทอดสายตาออกไปด้านนอก “เพราะตอนนี้ไอ้แจ็คมีความสุขแล้วก็คงพร้อมจะเสียใจได้เพราะมันคนเดียว”

“พี่ธีร์ครับ”

“...” เจ้าของชื่อถอนหายใจ เขาห้ามความประสาทแดกที่เป็นอยู่ไม่ได้ แต่การไม่ขัดขวางเพื่อนหรือแสดงออกทางสีหน้าว่าไม่พอใจนั่นก็เป็นเรื่องที่เขาทำให้ไอ้แจ็คสุด ๆ แล้ว

ธีร์รักเพื่อนคนนี้มากแค่ไหนไอ้เท็นจะรู้บ้างหรือเปล่า เขาขอสาบานเลยว่าถ้ามันคิดจะทำเรื่องโง่ ๆ อีกคราวนี้จะต้องมีคนต้องเจ็บตัว

“ถึงจะผ่านไปนานแล้วแต่โซ่ก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งที่นึกถึงตอนที่พี่ธีร์เล่าให้ฟังว่าเริ่มโดนด่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมใครหลายคนถึงเกลียดธีร์เกมเมอร์ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นก็แค่เล่นเกมไปวัน ๆ ไม่ได้ไปทำร้ายใคร อาจมีบางครั้งที่พูดจาไม่น่ารักไม่เข้าหูคน แต่พี่ธีร์ก็รู้ข้อเสียของตัวเองแล้วก็เอามาปรับปรุง ซึ่งมันทำให้ใครหลายคนยอมเปิดใจแล้วพี่ธีร์ก็ได้แฟนคลับเพิ่ม โซ่รู้สึกดีมากเลยครับที่พี่ธีร์ผ่านตรงนั้นมาได้”

เขามองรอยยิ้มของเด็กเด๋อที่ยังคงเต็มไปด้วยความจริงใจ โซ่ยังคงเป็นโซ่ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่น้องก็อยู่กับเขาด้วยความเข้าใจ และพร้อมจะทำให้หมาบ้าสงบได้ทุกเมื่อด้วยเหตุผล

“ตอนนี้พี่เท็นอาจจะเป็นเหมือนพี่ธีร์ตอนนั้นก็ได้นะครับ แต่คงหนักหน่อยตรงที่เขาทำตัวไม่น่ารักมานานคนก็เลยฝังใจ พอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นก็ไม่รู้ว่ามีใครพร้อมจะให้โอกาสเขาไหม?”

เรื่องนี้ธีร์พร้อมจะเข้าใจคนทั้งโลก แต่พอเป็นไอ้เท็นแล้วการหาตรงกลางก็แทบไม่มี ใจมันพาลแต่จะเอนข้างไปที่ ‘เดี๋ยวสันดานมันก็ออก’ เพียงเพราะความฝังใจในอดีต ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงเข้าใจยาก

“ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ ถ้าวันนี้พี่ธีร์ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร แต่โซ่คิดว่าพี่แจ็คคงดีใจถ้าพี่ธีร์จะยินดีกับการที่เขาได้เพื่อนเก่าคืนมา”

“บทเรียนมันจะได้ผลกับทุกคนไหม นั่นคือสิ่งที่พี่คิด”

“จริงด้วยครับ น่าคิดเลย” เด็กเด๋ออมยิ้มพร้อมตบเบาะเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้เขาไปนั่งตรงนั้นด้วยกัน “พี่ธีร์อยากมารอดูพี่เท็นกับโซ่ไหมครับ ตรงนี้เลยตรงนี้”

ธีร์หันไปมองแฟนเด็กอย่างอ่อนใจ อ้อนแบบนี้ใครจะเป็นหมาบ้าต่อไหว การเล่นเกมแบบสปีดรันคงไม่ใช่เรื่องน่าสนอีกต่อไปแล้วเมื่อตอนนี้การตรงเข้าไปนอนตักน้องเด๋อแล้วง้องแง้งขอความรักนั่นคือสิ่งเดียวที่ฮีลเขาได้ดียิ่งกว่าอะไร

ธีร์ยังเป็นห่วงไอ้แจ็คและหงุดหงิดความเป็นไอ้เท็น แต่ถ้าเพื่อนมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เขาจะยอมกำหมัดกัดฟันเงียบ ๆ แล้วรอรับตัวเพื่อนตอนตกลงมาจากกำแพงก็ได้วะ



*



“วันนี้ทำไรกินแม่?”

“แม่เพิ่งกลับจากวัดยังไม่ได้ทำอะไรเลย เท็นหิวหรือยังล่ะ เดี๋ยวแม่ทำให้เอาไหม?”

“เดี๋ยวเท็นขึ้นไปถามไอ้แจ็คก่อนว่ามันอยากกินอะไร” พูดจบก็หลุดยิ้มเมื่อแม่เอาน้ำมนต์จากวัดมาพรมตัวกับศีรษะเขาพร้อมพึมพำเหมือนกำลังให้พร

“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะลูกนะ เล่นเกมก็ชนะทุกตา”

“เดี๋ยว ๆ นี่แม่เล่นไศยศาสตร์เลยเหรอ?” อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ต่อให้เล่นเกมแพ้ก็ต้องบอกว่าชนะแล้วล่ะอย่างนี้

“ฝีมือเท็นดีอยู่แล้ว ได้พรแม่เพิ่มไปด้วยนี่แหละขลัง”

“งมงาย”

“เอ้าคิง ไปขัดแม่” เขาหันไปเลิกคิ้วมองน้องเล็กของบ้านที่นอนเล่นโทรศัพท์ทำหน้าตาเฉย ไอ้เด็กนั่นถอดแบบไอ้แจ็คตอนมอต้นมาชัด ๆ ต่างกันแค่ไม่ได้ตัดผมสกินเฮด

ขายาวเดินขึ้นไปบนห้องคุ้นเคยด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมเพราะเพิ่มเติมความตื่นเต้นมาด้วย ก่อนหน้าเคยเป็นธรรมชาติอย่างไรวันนี้ติดลบไปอีกร้อย ไม่เจอหน้ากันแค่สามวันเองทำไมคิดถึงมากขนาดนี้ พูดแบบเอาแต่ใจเลยก็ได้ว่าเขาอยากตื่นมาเจอหน้าไอ้แจ็คทุกวันไม่เว้นนักขัตฤกษ์

“หยุด นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ!”

“อะไรครับคุณตำหนวด เก๋าเหรอ?”

อยู่ในจุดที่ได้ยินเสียงก็มีความสุขแล้วว่ะ อาการหนักแล้ว

“ทำอะไรอยู่วะ กินข้าวกัน” เท็นปิดประตูแล้วตรงเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังเก็บของใส่ลังกระดาษอย่างเป็นระเบียบพร้อมเขียนกำกับว่าข้างในนั้นมีอะไร จากห้องที่มีของเยอะอยู่ ๆ ก็โล่งจนชวนให้สงสัย และคำตอบของไอ้แจ็คก็ทำให้เขาอยากจับมันมาฟัดแรง ๆ
 
“เคลียร์ของให้ลูกมึงอยู่” ไอ้แจ็คนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน “วันไหนมาค้างที่นี่หมากับแมวจะได้ไม่เหงา”

คนเราสามารถน่ารักได้แม้กระทั่งตอนทำหน้านิ่งเหรอวะ?

“เอาหมาแมวเข้าบ้านได้เหรอ?”

“ข้างล่างไม่ได้เดี๋ยวขนติดเสื้อผ้าลูกค้า ถ้ามาถึงก็อุ้มลูกขึ้นห้องกูเลย ตรงนี้ให้พี่ซันนอน ส่วนมูนน่าจะชอบหลังตู้เสื้อผ้าไม่ก็ชั้นเก็บหนังสือ”

“แจ็ค”

“อืม?”

“เมื่อกี้มึงเรียกซันกับมูนว่าลูก”

คนถูกท้วงถึงกับสตันท์ไปหลายวิ และทันทีที่ตั้งสติได้แจ็คก็หันไปชี้โบ้จี้เบ๊ก่อนจะลูบท้ายทอยแก้เขิน และการเนียนก้มลงไปจัดของเหมือนในทีแรกก็เป็นทางออกเดียวที่จะช่วยกู้หน้าได้ในเวลานี้

“พ่อหมายเลขสองใจดีกับพี่ซันน้องมูนจังเลยอะครับ” ทนไม่ไหวแล้ว เท็นสวมกอดอีกฝ่ายที่ก้มโก้งโค้งพร้อมแนบหน้ากับแผ่นหลังพลางหลับตาพริ้มโดยไม่สนว่าจะมีใครเขินหรือไม่

“ก็ไม่อยากเป็นพ่อใจร้ายที่ชอบหอบข้าวของมานอนบ้านคนอื่นอะครับ”

“ก็กูคิดถึงมึงนี่หว่า คืนนี้ก็อยากนอนด้วย เอาไงดีวะ โทรเรียกแม่บ้านเข้าไปให้อาหารลูกหรือว่าจะขับรถไปรับลูกเป็นเพื่อนกู”

“ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยไหมล่ะจะได้จบ ๆ”

“อย่าท้า มึงก็รู้ว่ากูทำได้ถ้ากูอยากทำ” เท็นกระชับกอด ก่อนไอ้แจ็คจะยืนขึ้นพร้อมหันมามองเขา

“รอกูมีบ้านใหม่ก่อน”

“หะ?”

“อืม ตามนั้นแหละ” ไอ้คนหน้านิ่งกระแอมไอแก้เขินหลังจากพูดให้เขาช็อก ยังไงวะ หมายความว่าจะให้เขาไปอยู่ด้วยถ้ามันซื้อบ้านใหม่งี้เหรอ?

“แจ็ค ลูก!”

“ว่าไงแม่?!” เสียงสวรรค์ทำให้ต้องคลายมือออกจากอ้อมกอด เท็นเนียนกระโดดขึ้นเตียงพร้อมควานเอามือถือมากดเล่นก่อนเสียงเคาะประตูตามมารยาทจะดังตามด้วยแม่ที่หมุนลูกบิดเข้ามา

“พาเพื่อนออกไปกินข้าวไปลูกมันสายแล้ว เดี๋ยวแม่จะพาคิงไปส่งบ้านเพื่อน”

“เดี๋ยวแจ็คทำกินเองก็ได้”

“ตู้เย็นโล่งเหลือแต่ไข่แจ็คจะทำอะไรให้เพื่อนกินล่ะ ไปลูก ชาบูหมูกระทะอะไรก็กินไปเถอะ กินของอร่อยบ้าง” นอกจากจะพรมน้ำมนต์ให้เขาแล้วแม่ยังลามมาถึงไอ้แจ็คด้วย ทั้งพรมทั้งคุยเรื่องปากท้อง เห็นแล้วก็เอ็นดู

“แม่จะเอาอะไรไหมเดี๋ยวเท็นซื้อมาให้”

“ไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก เราสองคนไปกินกันเถอะ”

“...”

เดี๋ยว แม่พูดถึงข้าวแต่ทำไมเขากับไอ้แจ็คถึงสตันท์แดกกลางอากาศแบบนี้วะ?

“โอเค งั้นถ้ามีอะไรก็โทรมานะ”

“ยำปูม้าก็ได้”

“นั่นไงแม่คุณ พอไอ้เท็นถามก็ไม่บอกไม่เอา” สองแม่ลูกหยอกล้อจี้เอวกันจนคนมองยิ้มขำตามไปด้วย

แม่ลงไปแล้วไอ้แจ็คจึงหันมามองเขาที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะยื่นมือมาให้จับพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้รู้ว่าวันนี้คงมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นตามคำอวยพรของแม่แน่ ๆ




*


“ประเทศกรุงเทพ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว”

“ไม่มีร้านไหนว่างเลยว่ะ ร้านอร่อย ๆ ไม่คิวยาวก็หาที่จอดรถยาก กินอะไรดีวะ?” เท็นมองข้อมูลร้านอาหารในมือถือแล้วก็อยากถอนหายใจแรง ๆ พอเงยหน้าขึ้นก็เจอถนนที่แออัดไปด้วยรถอีก

ทั้งที่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีตามคำอวยพรแต่ไหงมาติดแหงกกลางถนนได้ โคตรเซ็ง เสียเวลาทิ้งไปเปล่า ๆ เลย

“งั้นกินอย่างอื่นได้ไหม หรือว่าอยากกินแซลมอนกับปิ้งย่าง?”

“กูกินอะไรก็ได้ เตี๋ยวข้างทางยังได้เลย ขอแค่หลุดออกจากตรงนี้ได้ก็พอ” เท็นรีบตอบ เขาไม่ได้อยากเป็นคนเรื่องเยอะต้องกินของแพง ตอนแรกที่ชวนก็เพราะอยากพาไอ้แจ็คไปกินของดี ๆ บ้างก็เท่านั้น

“โอเค งั้นก๋วยเตี๋ยวนะ”

นาน ๆ ทีถึงจะได้เป็นคนนั่ง ที่จะพูดก็คือปกติขับเองตลอดเพราะไม่มีเพื่อนคอยขับให้ แต่ก็แปลกใจดีที่วันนี้ไอ้แจ็คยอมทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้ที่บ้านแล้วเลือกขับรถเขา พอคิดอย่างนั้นแล้วก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องหงุดหงิดหัวเสียเพราะเสียงบ่นฟ้าบ่นอากาศ เท็นหันซ้ายทีขวาที ก่อนจะเจออูคูเลเล่ตรงเบาะหลังซึ่งตั้งใจเอามาด้วย

“...”

แจ็คมองคนข้างตัวซึ่งกำลังเกาอูคูเลเล่เพลงคุ้นหู อีกทั้งยังทำหน้าทะเล้นแต่ต่างจากไอ้แหลมตรงที่รายนั้นเห็นแล้วอยากลงไม้ลงมือ ไอ้เท็นทำให้การรถติดบนถนนเส้นนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปด้วยเสียงดนตรีจากปลายนิ้วของมัน

“When your legs don’t work like they used to before... And I can’t sweep you off of your feet...”

อย่างที่รู้ว่าเท็นมักจะเล่นกีต้าร์มากกว่าร้องเพลง เขายอมให้อีกฝ่ายแซวว่าเสียงเหมือนหมาหอนตอนเดือนเก้าก็ได้ถ้ามันทำให้บรรยากาศดีขึ้น ไอ้แจ็คเคาะปลายนิ้วชี้กับพวงมาลัย ก่อนจะทำให้เขาพลาดเล่นเสียงเพี้ยนไปเพราะท่อนร้องจากเสียงทุ้มนุ่มของมัน

“Will your mouth still remember the taste of my love?”

เลือกเพลงได้ดีมากเท็น เลือกได้ดี

คิดว่าคงโดนฮุคตายคาที่แล้ว กระทั่งไอ้แจ็คกำมือป้องปากตนเองเพื่อกลบอาการขลาดอายเขาถึงรู้สึกว่าไม่มีใครเสียเปรียบให้กับหมัดนี้ที่เขาเป็นคนเริ่ม

กระอักกระอ่วนเหมือนเด็กเพิ่งเป็นหนุ่ม เสียงดนตรีเงียบหายไปกลางอากาศและเท็นคิดว่าเขาควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ใครสักคนต้องตายเพราะไม่ชินกับความเขิน

“มึงทาครีมไรเนี่ย แก้มสากโคตร ๆ” เขาเอาหลังมือถูกับแก้มไอ้แจ็ค ก่อนมันจะจับแก้มตัวเองเหมือนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

“ก็ For Men ธรรมดา”

“เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่ทาครีมดี ๆ ได้ เราผู้ชายก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันเข้าใจเปล่า?” ไอ้เท็นดูไม่ทัน มันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอาหลังมือทาบแก้มเขาบ้าง ซึ่งเอาจริง ๆ เรียกว่าตบหน้าอาจจะเข้ากว่า หัวนี่โยกเชียว

“...”

“ไงล่ะ เห็นความต่างยังว่าหล่อแบบธรรมชาติลงโทษอย่างคุณมันสู้หล่ออย่างคนดูแลตัวเองแบบผมไม่ได้”

เท็นยกยิ้มพอใจขณะที่อีกฝ่ายนั่งนิ่งไปเหมือนกำลังประมวลผลว่าแก้มมันกับแก้มเขาแตกต่างกันมากแค่ไหน

“อะไร?” เขาเลิกคิ้วถามเพื่อนที่เอาแต่จ้องมองมาเหมือนอยากพูดอะไร แล้วไอ้แจ็คก็ให้คำตอบเป็นหลังมือที่พลิกลงพร้อมนิ้วที่หยิกแก้มเขาเบา ๆ

“...”

ข้างนอกอาจจะร้อนทะลุสามสิบหกองศา แต่เท็นคิดว่านั่นอาจจะน้อยกว่าอุณหภูมิบนหน้าเขากับไอ้ซื่อบื้อที่เพิ่งทำสิ่งที่ชวนให้เขินกว่าการกอดกันแล้ว หยิกแก้มงั้นเหรอ เท็นไม่เคยทำกับใครแล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครทำแบบนี้กับเขาด้วย ความรู้สึกมันเหมือนถูกสั่งให้กลั้นหายใจนาน ๆ ก่อนจะได้รับการอนุญาตให้หายใจอีกครั้งตอนมันชักมือกลับ

ไอ้แจ็คเหงื่อออกแล้ว และเท็นก็เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ต่างกัน แต่มันก็บ้าเหลือเกินตรงที่เขายังอยากดำดิ่งลงไปอีกเหมือนจะเอาให้ตัวเองสำลักความสุขนี้ตาย ๆ ไปเสีย

“แจ็ค”

“อืม...”

“รถยังไม่ขยับ” หัวใจยังคงเต้นแรงและหน้าเขาเองก็คงแดงไม่แพ้กับคนข้างตัว แต่เท็นก็ยังอยากทำอย่างนี้ในช่วงเวลาที่มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่ด้วยกันในรถ “...อยากจับมือ”

“...”

เขาแบมือออกมาก่อน ถ้าไอ้แจ็คเหนื่อยกับเรื่องเขิน ๆ แล้วมันคงหักหน้าเขาด้วยการจับพวงมาลัยรถแล้วทอดสายตาออกไปด้านหน้า แต่ใครจะสนวะ ถ้ามันไม่ยอมจับก็จะจับเอง เขามันคนเอาแต่ใจอยู่แล้ว

แต่ไอ้คนหน้านิ่งคงไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะสุดท้ายมันก็วางมือลงมาก่อนจะสอดประสานนิ้วกันจนได้

“มือกูสากกว่าแก้มอีกนะ จับได้เหรอ?”

“ไม่เป็นไร แค่ปากนุ่มก็พอแล้ว”

“อ้อ... อืม”

“เหี้ยเอ๊ย... กูนี่ก็หาเรื่องไม่หยุด”

เท็นตบหน้าผากตัวเองทั้งที่มืออีกข้างยังคงสอดประสานกับมืออีกคน เมื่อก่อนเคยคิดว่าคงมีแค่พวกเด็กมอต้นเท่านั้นที่จะเขินตอนหันไปสบตากันกระทั่งเจอกรณีไอ้แจ็ค ทั้งคู่เดี๋ยวมองเดี๋ยวหลบสายตาไป ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมากับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น

ไม่มีใครร้องเพลง Thinking Out Loud ต่อ
เมื่อเขาทั้งคู่ต่างก็คิดออกมาดัง ๆ ผ่านทางสายตาและเรียวนิ้วที่สอดประสานกันแล้ว






(จบครึ่งแรก)






ครึ่งหลังก็ยังไม่ได้กลับบ้าน หนูบอกแค่นี้

ช่วงนี้พายุเข้าเปล่าวะพี่ หนูว่าฝนใกล้จะตกแล้ว ใครตากผ้าไว้ก็เตรียมเก็บผ้าด้วยนะ

#ใส่ถุงมือล้างจานแล้วดีดนิ้วท่าเดียวกับธานอส





หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-04-2019 18:17:04
อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 09-04-2019 18:22:06
ไม่ใช่แค่แจ็คกับเท็นหรอกที่เขิน  คนอ่านก็เขินตายไปเลยจ้าาาาา /กลายเป็นฝุ่น  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 09-04-2019 19:23:56
พอใจตรงกันก็หวานไม่บันยะบันยังเลยนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-04-2019 20:51:01
คนอ่านก็เขินนะเว้ย ไม่ใช่แค่อิสองหนุ่มนี่ จีบกันอยู่นั่น สำลักความหวานกันตายพอดี
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: VIRIDIAN ที่ 09-04-2019 21:03:49
่ดวหน้ดได่ำๆ

ไอ้บ้าาาาาา บ้าเอ้ย นี่มันเรื่องบ้าอะไร  แง ไม่ไหวแล้วแม่ขา อยู่่ไหนมาอุ้มหนูออกไปจากตรงนี้ที
หนูไม่ไหวแล้ว แงแบลบเขิน  แงงงกฟวทด่ำดงฟไ . บ้าบอ เป็นบ้าหรออออออออออ จีบกันขนาดนี้  ฮือออ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 09-04-2019 22:47:35
กลัวใจนักเขียนเหลือเกิน ให้ทั้งสองมีความสุขบ้างนะคะได้โปรด อิชั้นเก็บผ้าเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่เปียกแน่นอน pleasesssssss :ling3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 09-04-2019 23:28:58
บ้าบอออออ
พวกคุณจะหงุงหงิงดุ๋งดิ๋งกันได้เบอร์นี้เลยใช่มะ
14อีกครั้งมากลูก
เขินว้อย

#แจ็คเท็น <โพนี้ที่แม่หวัง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 09-04-2019 23:50:05
ขอยกคำพูดในใจของเท็นมาเลยสำหรับตอนนี้

"ไอ้ห่า พักกันบ้างเถอะไอ้ฉิบหาย ใจคอก็จะทำให้รู้สึกดีไปจนชาติหน้าเลยไหมคำพูดคำจาเนี่ย"

เพิ่มเติมคือ นอกจากคำพูดแล้วก็การกระทำของทั้งคู่ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 10-04-2019 00:06:06
โอ๊ยยยยย อ่านแล้วเขินตัวบิด
แต่ละฉากแต่ละตอน คือทั้งลุ้นทั้งเขิน
มันแบบ ยึกๆยักๆ บ้าจริง! นี่เราหยุดยิ้มไม่ได้ :z3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 10-04-2019 00:29:10
เพิ่งจะหวานกันเอง  :ling3: ขอล่ะค่ะะะะะะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 10-04-2019 07:33:28
เขินตัวบิด งื้ออออออออ

พอใจตรงกันแล้วอะไรฟินๆ แบบนี้มันก็เยอะแยะ พาให้อ่านแบบตัวเขินม้วนไปหมด เมื่อยหน้าไปหมดแล้วค่าาาา

ใจฟูไปหมด ที่เค้ามีโครงการจะซื้อบ้านไปอยู่ด้วยกัน แต่แนะนำว่าถ่าต้องผ่านละแวกไหนที่กำลังมีโครงการก่อสร้างต่างๆ ก็อย่าเพิ่งย้ายเข้านะคะ รถมันจะติดเอา 55555

ปล.ครึ่งหลังก็ยังไม่ได้กลับบ้านนี่หมายถึงใครหรอคะ, เห็นบ่นเรื่องรถติด ก็เลยเอามาลงที่แจ็คกับเท็นด้วยใช่ไหมคะ แนวๆ ว่า จะไม่ใช่แค่ฉันที่จะต้องเจอกับรถติดเพียงคนเดียว พวกเธอก็ด้วย! 5555555
ปล2.น้องโซ่น่ารักมากรูกกกกก ทัศนคติและความคิดของหนูดีตลอด
ปล3.ลำใยธีร์เกมเมอร์ แจ็คน่ะห่วงได้ แต่ห้ามหวงกับเท็นเด็ดขาด!!

รถตอนต่อไป จนกว่าเขาจะออกจากแยกที่ทำให้รถติดได้นะคะ~
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-04-2019 08:57:48
อืมหือ

ถ้าจะอ่อยกันไปอ่อยกันมา

แบบนี้รีบซื้อบ้านใหม่

แล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะจ้ะ

ความเขินอาย

กระจายทั่วชุมชน

ความสุขแผ่ซ่านบานแข่งกับทุ่งทานตะวัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 10-04-2019 09:26:12
ดราม่าที่ผ่านมาเหมือนฝันไป เขิลลลล เท็นขี้อ้อนจังเลยน้าในแชปนี้พันแข้งพันขา ส่วนแจ็คคือเอาใจเท็นมากกก อิจฉาลงทุนตัดอันเดอร์คัทเพื่อเท็นเลยนะ ครึ่งหลังคาดหวังและตั้งตารอนะคะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 10-04-2019 10:49:03
ฉันเขินผู้ชายจีบกันนนน :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 10-04-2019 16:27:46
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (9/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: OffJii ที่ 11-04-2019 07:21:00
เขิลโว้ยยยยยยยฮืออออออเขิล เขิลจนสิเป็นบ้าละเด้ออออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 12-04-2019 23:09:10
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 20
ไปข้างนอกไม่ได้เรียกเดท (PART 2/2)



ไอ้แจ็คน่าจะเพลินกับการหาร้านก๋วยเตี๋ยวจนรู้ตัวอีกทีก็ขับมาถึงอยุธยาแล้ว ไอ้คนหน้ามึนหันมาอ้างว่าเพราะเขาชวนร้องเพลงเพลินถึงได้ไหลยาว แต่สุดท้ายก็ได้กินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเจ้าเด็ดสมใจ ซัดกันไปคนละสี่ชามและตบท้ายด้วยผลไม้ที่ปอกสด ๆ ข้างทาง

เท็นไม่ชอบอากาศร้อน และแดดวันนี้ก็จงใจท้าทายให้เขาคิดว่าจะกล้างี่เง่าบ่นเรื่องนี้ไหม หรือว่าจะปล่อยให้เหงื่อออกแต่แลกกับการได้เห็นรอยยิ้มไอ้แจ็คนาน ๆ ซึ่งวันนี้แดดชนะว่ะ แต่ไม่ใช่เพราะต้องอดทน แต่เป็นเพราะวันนี้เขามีความสุขมากเกินกว่าจะให้ค่ากับเรื่องนั้น

“วันนี้กวนทั้งตอนเที่ยงตอนเย็นเลย รบกวนด้วยนะครับพี่ อ้อ ฝากเรื่องนึงครับสำคัญเลย อย่าลืมเปิดไฟห้องครัวนะครับ พี่ซันกลัวผี เดี๋ยวกลางคืนร้องงิ้ง ๆ แล้วมูนจะหงุดหงิดเอา ครับไม่มีอะไรแล้ว เปิดแอร์ห้องนั่งเล่นทิ้งไว้แค่นั้นน้อง ๆ ก็อยู่ได้แล้วครับ แต่ถ้าเปิดทีวีคลอไว้ก็ได้ครับน้องจะได้ไม่เหงา ครับผม เดี๋ยวเท็นโอนให้เลย”

ฝากฝังลูกรักทั้งสองเรียบร้อยแล้วก็หายห่วง มันเป็นทริปไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก ถึงจะเป็นห่วงลูกแต่แม่บ้านที่มาทำความสะอาดทุกสุดสัปดาห์ก็เป็นคนที่ไว้ได้ รู้สึกผิดกับแม่เพราะท่านคงไม่ได้กินยำปูม้าแล้ว แต่ถ้าจะโทษใครก็ขอให้ไปลงกับไอ้คนที่บอกว่า ‘เปิดห้องนอนสักคืนไหม เปลี่ยนบรรยากาศ’ ซึ่งบางทีเจตนาไอ้แจ็คอาจจะมีแค่นั้นจริง ๆ แต่คนคิดเยอะดันเป็นเขาเอง

พอไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนไอ้แจ็คก็พาแวะเซเว่นซื้อเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ไว้ใส่นอนซึ่งนั่นก็โอเค เท็นเป็นคนแต่งตัวจัดแต่ไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดนั้น

“ถ้าแม่บ้านคุยง่ายขนาดนี้แล้วทำไมวันนั้นถึงเรียกกูไปดูลูกให้?” เท็นชะงักกับคำถามคนขับซึ่งมาพร้อมแววตาที่เหมือนว่าจะดูออกทะลุปรุโปร่ง

“...”

คนถูกถามถึงกับหน้าแห้ง ไอ้แจ็คเหมือนอยากไล่ต้อนให้เขาตอบว่า ‘ก็ถ้าวันนี้ไม่อยู่ด้วยกัน คนที่จะดูแลลูกรักของกูก็ต้องเป็นมึงเท่านั้น’ ซึ่งเขาจะไม่วางยาตัวเองให้เขินอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์รถติดบนถนนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนอย่างแน่นอน

“ก็มึงใช้ฟรี แต่แม่บ้านกูต้องจ้าง”

“มึงจ้างแต่กูแค่ไม่เอาเงินเฉย ๆ”

“มันคือแผนซ้อนแผนไง เพราะกูรู้ว่ามึงไม่เอาก็เลยพูดไปอย่างนั้นว่าจะให้เงิน จำไว้แจ็ค มันคือวิถีของคนฉลาด”

“ไหลไปเรื่อย” ไอ้แจ็คเคาะหัวเขาเบา ๆ พร้อมยีผมจนยุ่งเหยิง ไอ้ส้นตีนนี่มันยังไงกันวะ ชอบทำให้หมดหล่อแล้วก็มาช่วยจัดผมให้ทีหลัง คิดว่าเท่มากมั้งจับพวงมาลัยมือเดียว ถึงปากมันจะบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยได้คบกับใครแต่เขามั่นใจว่าคงทำแบบนี้อวดสาวตลอด

“มึง”

“อือ?”

“ไว้ผมยาวอีกดิ”

“อะไรของมึง?” ไอ้คนขับขมวดคิ้ว “ตอนแรกบอกให้กูตัด แล้วตอนนี้มาบอกให้ไว้ยาว แถมก่อนออกมาก็ตั้งใจเซ็ทผมใหม่เหมือนกูจะไปประกวดเดอะเฟซเมน”

“ท้าเล่น ๆ ไม่คิดว่าจะทำจริงนี่หว่า”

“ที่ผ่านมามีอะไรที่มึงบอกแล้วกูไม่เคยทำบ้างไหม?”

“ตอนมอหกที่มึงบอกจะพากูไปดูหนังแล้วก็เลี้ยงกล้วย ๆ ไง แต่สุดท้ายก็?” เขาเลิกคิ้วมองคาดคั้นเอาคำตอบเพราะอยากเห็นไอ้แจ็คหงอ เผลอ ๆ มันอาจจะง้อด้วยวิธีที่คาดไม่ถึงก็ได้

“ตอนนั้นกูชวนแล้วแต่มึงงอแงไม่ไปเอง”

อ้าวเวร มันไม่ง้อว่ะ

“มึงใช้คำว่างอแงได้เหรอ นั่นเรียกโกรธโว้ย” ทั้งคู่หยั่งเชิงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งจอดไฟแดงตรงสี่แยกไอ้แจ็คถึงได้หันมาบวกกับเขาอีกครั้ง

“กูผิดครึ่งนึงตรงชวนช้า แต่ที่มึงชวดดูหนังคราวนั้นก็เพราะไม่ยอมหายงอนเองทั้งที่กูรวบรวมความกล้าอยู่ตั้งนาน”

“มันจะนานสักแค่ไหนเชียววะ” เท็นเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มมองคนข้างตัวที่คงคิดหนักว่าจะงัดมุกไหนมาสู้กับเรื่องฝังใจเมื่อสิบปีก่อน

แต่รวบรวมความกล้าเลยเหรอ ฟังแล้วน่าเอ็นดูฉิบหาย ได้ยินอย่างนี้ก็รู้สึกอยากย้อนเวลากลับไปลูบหัวเกรียน ๆ ของไอ้เด็กนั่นแล้วจูบสักที

กำลังท่องอยู่ในความคิดเพลิน ๆ ไอ้แจ็คก็คว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมากดเข้ากูเกิ้ล พิมพ์อะไรสักอย่างลงไปก่อนจอจะเปลี่ยนเป็นหน้าแผนที่ ก็แค่แซวเล่นเอง ทำไมมันต้องทำหน้าเหมือนกำลังแข่งเกมรอบชิงด้วยวะ หรือเขาต้องอ้าปากบอกว่าหยอกเล่นมันถึงจะ --

“เดี๋ยว มึงจะไปไหน?”

“อยุธยาซิตี้พาร์ค ซีนีเพล็กซ์”

เขาอ้าปากหวอมองอีกคนเป็นเชิงถามย้ำว่ามันเอาจริงใช่ไหม ซึ่งไอ้แจ็คก็เอาแต่มองถนนสลับกับหน้าจอโทรศัพท์ที่บอกพิกัดว่าโรงหนังชดเชยความหลังเมื่อตอนนั้นอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก

“ประชดกูเหรอ เมื่อกี้ล้อเล่นน่ะ อย่าโกรธดิ”

“ไม่ได้โกรธมึง” ไอ้แจ็คหันมา สีหน้ามันยังคงจริงจังจนเชื่อคำพูดเมื่อครู่ได้ยาก “แต่กูโกรธตัวเองตอนนั้นที่ทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป”

อะไรล่ะวะ...

“อันที่จริงกูคิดมาตลอด” อีกฝ่ายเหมือนชั่งใจว่าจะพูดดีไหม แต่มันก็เลือกพ่นความในใจออกมาจนได้โดยไม่มองหน้าเขา “ว่าถ้ากูบอกมึงทุกอย่างอะไร ๆ ก็อาจจะดีกว่านี้”

“มึงเป็นคนบอกกูเองว่าให้ช่างแม่ง”

“ใช่ไง ตลกไหมที่กูบอกให้มึงลืม ๆ ไป แต่กูเองก็ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องพวกนั้น”

“อ่าฮะ แต่มึงคิดว่าถ้าเล่าแล้วกูในตอนนั้นจะยอมเข้าใจเหรอวะ?” เท็นอยากได้ยินว่าไอ้แจ็คจะตอบอย่างไร แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าอีกฝ่ายรู้จักเขาดีมากแค่ไหน

“ล้านเปอร์เซ็นต์”

เออ ทีอย่างนี้ล่ะมั่นใจเก่ง คนได้ยินก็ยิ้มปากฉีกไปดิ ถ้าไอ้แจ็คบอกว่าอยากทำให้เขามีความสุขตายชดเชยเวลาที่เสียไปก็คงเชื่อ แล้วอย่างนี้เขาจะทำอะไรให้มันได้บ้างวะ อะไรที่ทำให้ไอ้แจ็ครู้สึกว่าโคตรดีเลยที่มีผู้ชายชื่อเท็นอยู่ตรงนี้

“กูในตอนนี้ก็เข้าใจนะ”

“...” ไอ้แจ็คหันมาสบตากับเขาครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองถนน

“ต่อให้มีเรื่องที่ไม่เข้าใจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ถ้ามึงอยากอธิบาย กูก็จะนั่งฟังอยู่อย่างนั้นจนกว่ากูจะเข้าใจ”
 
ไม่เคยรู้สึกจริงจังมากมายถึงขนาดนี้ เหมือนกับว่าเขาไม่กลัวอะไรอีกแล้วขอทั้งเรื่องอนาคตและความรู้สึกของตนเอง เท็นจะโตเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เคยเป็น จะฟังให้มากขึ้นและเลิกคิดไปเองให้น้อยลง

อีกอย่าง... แค่รู้ว่าไอ้แจ็คอยากกลับไปแก้ไขทั้งที่ไม่ต้องก็ได้ หัวใจเขามันก็พองโตแล้ว

“มึงพูดเองนะ”

“ใช่ ขออย่างเดียว” เท็นยังคงมองเสี้ยวหน้าคนขับขณะให้คำมั่นกับคนที่ปากเรียกว่าเพื่อน “อย่าเงียบ อย่าทำให้กูรู้สึกว่าเป็นคนอื่นสำหรับมึง แค่นั้นพอ”

ไอ้แจ็คเงียบไป มันไม่ได้พูดอะไรหรือละสายตาจากถนนมาสบตากับเขาเลยสักนิด ราวกับว่ามันอยากใช้เวลาอยู่กับความเงียบ กระทั่งมันเปิดไฟเลี้ยวซ้ายจอดเทียบข้างทาง

“มึงน่าจะเก็บไว้พูดตอนมือกูว่าง”

เขาชอบสายตาไอ้แจ็คตอนนี้ แววตาที่คนอื่นเคยได้ไป

“ฟังนะ”

มันยังคงประดักประเดิดกับการที่เขากับไอ้แจ็คจะหันหน้าเข้าหากันแล้วพูดเรื่องจริงจังแบบที่เพื่อนสนิททั่วไปคงไม่ทำกัน รวมถึงมือที่กุมไว้อีกครั้งจนเหมือนว่ามันอยากสร้างความคุ้นชินเพื่อไม่ให้รู้สึกขลาดอายอีกหากมีครั้งต่อ ๆ ไป

“อะไรที่ไม่เคยทำตอนนั้น”

ทั้งแววตาและน้ำเสียงนั้นจริงจังกว่าครั้งไหน เท็นรู้สึกได้ว่าไอ้แจ็คคงพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะพูดประโยคถัดไปซึ่งมันคงไม่ได้ใช้กับใครบ่อย ๆ บรรยากาศดูอึดอัดแปลก ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นในใจ และเท็นก็สอดประสานมืออีกคนไว้เพื่อบอกว่าเขาอยากฟังมากแค่ไหน

“หลังจากนี้กูจะทำมันให้หมด”

เวรกรรมตามสนองแล้วเท็น คงเป็นเพราะไปฮุคมันตรงสี่แยกนั้นพอโดนเอาคืนทีถึงกับหุบยิ้มไม่ได้ ก็เอาสิวะ เขาเองก็พร้อมจะทำทุกอย่างแบบที่ไม่ต้องสนใจแล้วว่า ‘อย่างนี้เพื่อนทำกันไหม?’

“เริ่มจากตอนนี้เลยเป็นไง?”

“เช่นอะไร?”

“จับมือกันในโรงหนัง” เท็นตอบฉะฉานมั่นใจ แต่ใบหน้าของเขาก็ร้อนผ่าวเพราะความขลาดอาย ซึ่งไอ้แจ็คก็อมยิ้มพร้อมกระชับมือเขาเป็นคำตอบ

ตอนนั้นทั้งคู่เป็นอย่างไร... เขากับไอ้แจ็คคือเด็กมัธยมสองคนที่สนุกกับเรื่องเดียวกัน เล่นกีฬาหลังเลิกเรียนบ้าง บางทีก็นั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงเล่นใต้ต้นไม้หลังอาคาร

“งั้นให้โควตาปล่อยมือออกไปเช็ดเหงื่อได้สองครั้งตลอดเรื่อง”

ไอ้แจ็คยิ้ม น้อยครั้งที่จะมีเป้าหมายหลังเลิกเรียน พวกเขาแค่หันไปถามกันว่า ‘วันนี้อยากทำอะไร?’ ไปเกมเซนเตอร์ไหม หรือว่าอยากนั่งชิลล์กินกล้วย ๆ แล้วคุยเรื่องไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย หรือนั่งดูหนังโซน D ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านไปนั้นเขาไม่เคยได้จับมือไอ้แจ็คเลย

“ถ้ามีคนปล่อยมือมากกว่านั้นจะโดนอะไร?” เขายอกย้อน และไอ้คนหน้านิ่งก็แกล้งทำเป็นขมวดคิ้วครุ่นคิดตาม

“เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้”

ก็ตอนมอปลายยังไม่รู้ตัวนี่หว่า...



*



กว่าหนังจะเลิกก็เกือบเย็น แต่มาอยุธยาทั้งทีก็อยากไปเดินเที่ยววัดถ่ายรูปเล่นเสียหน่อย แต่ยังไม่ทันเข้าไปก็ถูกแม่ค้าร้านเช่าชุดไทยโบกมือเรียก ซึ่งเขากับไอ้แจ็คก็บ้าจี้ตกลงเช่าชุด เซ็ทถ่ายรูปวันนี้จึงได้เป็นพระเอกละครพีเรียดไปโดยปริยาย

“จะอาบน้ำก่อนไหม?”

“มึงก่อนเลย เดี๋ยวกูเล่นเฟซแป๊บ”

เท็นตื่นเต้นกับรูปเป็นร้อยในโทรศัพท์มากกว่าจะยอมเสียเวลาไปกับการอาบน้ำ ทั้งรูปตัวเองที่ไอ้แจ็คเลือกมุมถ่ายได้ดีจนไม่ต้องลบทิ้ง แล้วก็รูปมันที่เขาแอบถ่ายไปเกือบครึ่งหนึ่ง ทำไงดี... ต่อมติดโซเชียลเริ่มกำเริบ อยากลงรูปไอ้แจ็คใส่ในไอจีตัวเองแต่ก็กลัวมีคนเข้ามาแซวหรือชมว่ามันหล่อ แต่ที่สุดแล้วก็คือเขาไม่อยากให้ไอ้ธีร์รู้จนเคืองไอ้แจ็คเพียงเพราะมันอยู่กับเขา

เสียงฝักบัวในห้องน้ำเริ่มทำให้มองเห็นความแตกต่าง ใช่ มันไม่เหมือนตอนที่ทั้งคู่สลับไปค้างบ้านกัน ยิ่งตอนหันไปเห็นเสื้อคลุมอาบน้ำกับผ้าขนหนูสีขาวที่พับไว้อย่างเป็นระเบียบแล้วก็...

อืม ปกติแหละน่า...

“...”

เสียงฮัมเพลงในห้องน้ำทำให้ต้องละสายตาจากจอมือถืออีกครั้ง คน ๆ นึงมันต้องอารมณ์ดีขนาดไหนกันวะ ปกติไม่เคยเห็นมันร้องเพลงอัดฝักบัว หรือเป็นเพราะว่าห้องน้ำไม่เก็บเสียงก็เลย...

เดี๋ยว

แต่ห้องน้ำไม่จำเป็นต้องเก็บเสียงก็ได้เปล่าวะ แล้วตอนนี้กำลังเลิ่กลั่กอะไร เวรเอ๊ย อยู่ดี ๆ แอร์ก็ไม่เย็น

เท็นพยายามเบนความสนใจไปให้เรื่องอื่นซึ่งการตามข่าวสารเกมก็เป็นตัวเลือกที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้ลงแข่งนานแล้วแต่เขาก็ยังตามอัปเดตทุกความเคลื่อนไหว แพทช์ใหม่ปรับเปลี่ยนอะไร ตัวละครไหนเก่งขึ้นหรือโดนเนิร์ฟบ้างเท็นได้ลองเล่นผ่านทาง Twitch ไปหมดแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ใช้ความรู้เหล่านั้นในสนามแข่งขัน

ฤดูแข่งทัวร์นาเมนท์ใกล้เข้ามาถึงอีกครั้ง นึกย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าตัวเองมาไกลเหมือนกันกว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ ทั้งตอนที่พยายามดิ้นรนปีนขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดโดยไม่นึกถึงสิ่งไหนไปจนถึงตอนที่พอดีลงตัวแล้วแต่ก็รู้สึกว่าอยากได้มากขึ้นอีก

คิดแล้วก็ละอายใจ ถ้าตอนนั้นไอ้แจ็คอยู่ด้วยมันคงเตือนเขามากกว่าจะคล้อยตามสนับสนุนจนเป็นอย่างนั้น หลายครั้งที่ TEN1O เล่นเกมเพราะอยากเอาชนะจนไม่คำนึงถึงความสนุก อยากเป็นที่หนึ่งจนลืมตัวตน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคำพูดของไอ้ธีร์หลังรอบชิงวันนั้นมันแทงใจเขาเข้าอย่างจังจนเสียหลัก


‘ต่อให้แพ้ที่เกาหลีกูก็กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ เพราะตอนนี้กูรู้แล้วว่ารางวัลกับชื่อเสียงในวงการเกมมันใช่ที่สุดของชีวิต แต่สิ่งสำคัญสำหรับกูคือเพื่อน พี่น้อง แล้วก็คนที่กูรัก ขอแค่มีพวกเขากูไม่เอาแชมป์อีกแล้วก็ได้ กูพอใจกับวันนี้แล้ว’
‘แล้วมึงล่ะเท็น?’
‘ทุกวันนี้นอกจากชื่อเสียงเงินทองแล้วมึงเหลืออะไรบ้าง?’


“เป็นอะไรหรือเปล่า?”

ชายหนุ่มหลุดออกจากแผลในอดีตพลางมองเพื่อนสนิทซึ่งยืนอยู่หน้าห้องน้ำในชุดเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ที่ซื้อมาจากเซเว่น เขารู้ตัวว่ากำลังยิ้มโง่ ๆ และปรับสีหน้าให้เป็นปกติไม่ทัน จึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธแล้วลุกไปคว้าเอาผ้าขนหนู

แจ็คมองตามเพื่อนที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมทิ้งความคาใจเอาไว้ สีหน้าไอ้เท็นเมื่อครู่นี้ดูแปลกเกินไปราวกับมีอะไรปิดบังอยู่ แต่ถ้าจะให้ไปเคาะประตูเพื่อคาดคั้นก็คงไม่ใช่เรื่องนัก ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าถ้ามันออกมาแล้วจะเล่าให้ฟังเอง

ผึ่งผ้าขนหนูไว้กับเก้าอี้แล้วคว้ามือถือขึ้นมาเช็กไลน์ มีทั้งพี่ที่ทำงานทักมาเรื่องปัญหาในเกมซึ่งส่วนนั้นรอการแก้ไขได้ กับกลุ่มปัญญานิ่มที่พินไว้ด้านบนสุดซึ่งข้อความเด้งขึ้นเป็นร้อยและแจ็คค่อนข้างมั่นใจว่านั่นคงหาสาระไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

ไถอ่านไปครู่หนึ่งก็คิดว่าคงยาว ชายหนุ่มย้ายไปนั่งบนเตียงพร้อมอ่านความขี้เลื่อยของเหล่าขี้ซุยฯ ที่ตีกันอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนจะรู้สึกได้ถึงโทรศัพท์มือถือของไอ้เท็นที่เกือบไหลตกเตียงเพราะเขาดึงผ้าห่มเมื่อครู่

หน้าจอยังคงเปิดทิ้งไว้ แจ็คไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นขนาดนั้นถ้าต่อมเสือกไม่ทำงานเหมือนตอนเรื่องไอ้แหลมกับบอส งั้นดูแค่หน้าจอนั้นแล้วล็อกก็คงได้มั้ง แต่เขาก็ต้องค้างอยู่ท่านั้นเมื่อพบบางอย่างที่ไอ้เท็นเปิดคาไว้



*


“หลับหรือยัง?”

“ยัง”

หลังจากนอนหันหลังมาพักใหญ่ทั้งคู่ก็พลิกตัวเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมาย แจ็คเอื้อมไปเปิดโคมไฟเล็ก ๆ ตรงหัวเตียงเพื่อให้ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับนาฬิกาที่บอกว่าเวลาตีหนึ่งนั้นยังเร็วเกินไปสำหรับการพักผ่อน

“แปลก ๆ ไหม?”

“โคตร มึงล่ะว่าไง?” ไอ้เท็นย้อนถามในสิ่งที่คิดเหมือนกัน เขาจึงพยักหน้าก่อนทั้งคู่จะหลุดขำออกมากับบรรยากาศน่าอึดอัดทั้งที่ควรชินได้แล้ว

“นึกถึงเมื่อก่อนที่กูกับมึงเกี่ยงกันว่าวันนั้นจะไปนอนบ้านใคร”

“แล้วมึงก็รั้นจะมาบ้านกูให้ได้ แล้วอ้างว่าบ้านกูไกลกว่า” เท็นยังจำได้ราวกับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ กับประเด็นโลกแตกที่ตัดสินง่ายนิดเดียวแต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเด็กผู้ชายสองคนนั้น

“แต่สุดท้ายมึงก็มานอนบ้านกูอยู่ดี”

“พูดก็พูดเถอะ กูชอบกลิ่นห้องนอนมึงมากกว่าห้องตัวเอง” เท็นพูดอย่างไม่โกหก

“นั่นเป็นเหตุผลที่มึงถามกูหรือเปล่าว่าใช้สเปรย์กลิ่นอะไร ส่งผ้านวมซักรีดร้านไหน?”

“ใช่ ซื้อสเปรย์ตามก็แล้ว ส่งซักรีดร้านเดียวกันก็แล้ว แต่ก็ไม่เห็นได้กลิ่นเหมือนห้องมึงเลย”

“ปัญหาโลกแตกแล้วไง?” แจ็คยิ้มขำ

“แต่กูรู้แล้วนะว่าทำยังไงถึงจะได้กลิ่นนั้น”

“ด้วยการ...?” สิ้นสุดคำถาม ไอ้เท็นก็อมยิ้มทะเล้นแล้วขยับเข้ามานอนเบียดจนปลายจมูกเกือบชนกัน

“อยู่ใกล้ ๆ มึงไง”

“หืม กูคือตัวแปรของเรื่องนี้เหรอ?” แจ็คขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่าย เขาขยับเข้าไปอีกเล็กน้อยพร้อมรั้งเอวเพื่อนสนิทเข้ามาใกล้ ซึ่งไอ้เท็นก็ก่ายขากอดเขาแล้วหัวเราะเบา ๆ

“ไม่ได้หยอดนะ กูพูดเรื่องจริง”

“รู้ เผลอทีไรเป็นดมคอกูตลอดแบบนี้ ไม่ชอบก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว”

เขายีผมสีน้ำตาลอย่างเอ็นดู ถึงจะโตแล้วไอ้เท็นก็ยังเป็นลูกหมาเชื่อง ๆ เหมือนตอนวัยมัธยมอยู่ดี ทั้งคู่สบตากัน แจ็คควรจะปล่อยให้บรรยากาศอุ่นในใจฟุ้งไปอย่างนี้ แต่เขาก็มองข้ามเรื่อง ๆ หนึ่งไปไม่ได้

“ถามอะไรอย่างสิ?”

“สองอย่างก็ได้ กูยังไม่ง่วง” เท็นกระชับกอดหมอนข้างมีชีวิต

“ยังอยากแข่งเกมอยู่ใช่ไหม?”

“...”

“กูไม่ได้ตั้งใจยุ่งเรื่องส่วนตัว แต่กูเห็นหน้าจอโทรศัพท์มึงเปิดค้างไว้ก็เลยเห็น” รอยยิ้มบนใบหน้าไอ้เท็นจางหายไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตนักเพราะเขาตั้งใจแล้วว่าจะเป็นคนทำให้มันยิ้มได้อีกครั้ง

“ไม่รู้จะพูดยังไงเลย บอกไม่ถูกว่ะ” ไอ้เท็นถอนหายใจ เขาจึงประคองศีรษะมันขึ้นแล้วสอดแขนเข้าไปใต้ท้ายทอยเพื่อให้มันหนุนนอน “อะไร วันนี้อยากเท่เหรอ?”

“ผลัดกันโอ๋ไง คราวก่อนกูนอยด์แดกเรื่องงาน มึงทั้งรั้งกูลงไปซบไหล่ ทั้งจูบหัวกู น้ำลายนี่เยิ้มเลอะผมไปหมด”

“กูไซ้เบา ๆ เถอะ น้ำลายกูมึงก็แดกไปหมดแล้วจะเอาอะไรมาเยิ้ม?”

“ไอ้แหลมสอนมาว่าถ้าต้องอธิบายให้แก้ตัวเยอะ ๆ ไว้ สมจริงไหมค่อยว่ากันทีหลัง”

“ไอ้เด็กฝรั่งมันเสี้ยมสอนขี้ข้ากูแบบนี้ได้ไง?” ไอ้เท็นส่ายหน้าหน่าย ๆ

“ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร กูแค่อยากรู้ว่ามึงโอเคไหม ถ้าไม่สบายใจก็อยากให้ระบาย”

“ได้อยู่กับมึงแบบนี้กูจะไม่สบายใจได้ยังไง?” เท็นตอบอย่างจริงจัง เขาไม่อยากให้ไอ้แจ็คคิดอย่างนั้นเลย “กูแค่สับสนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน อธิบายไปกลัวมึงงง”

“แต่มึงก็อธิบายรอบสองได้ไม่ใช่เหรอ?” ไอ้แจ็คยิ้ม มาไม้นี้ต่อให้ลิ้นพันกันก็ต้องพูดแล้วไหมวะ

“อือ ใช่ กูอยากแข่ง” เท็นถอนหายใจ สุดท้ายเรื่องที่อยากเก็บไว้ในใจก็ต้องเอามันออกมา “แต่ก็นะ ไม่มีทีมจะลงแข่งคนเดียวยังไงได้ พูดแล้วก็สมเพชตัวเอง”

“ตรงไหน?” แจ็คจ้องหน้าจนอีกฝ่ายยอมสบตากัน “การที่มึงไม่มีทีมมันไม่ได้หมายความว่ามึงไร้ค่าสักหน่อย ก่อนหน้านี้มันอาจจะมีเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้มึงต้องออกมาอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”

“ก็ถูก แต่นั่นมันคือเรื่องชีวิตจริง ไม่เกี่ยวกับเกมนี่หว่า”

“...”

“กูมีมึง มีแม่ มีน้องมึงอีกสองคน มีหมากับแมวใช่ไหม แต่ในเกมกูไม่มีอะไรเลย ที่พูดไม่ได้หมายความว่าน้อยใจนะ ที่กูจะสื่อก็คือถ้ากูจะแข่งเกมอีกครั้งกูไปคนเดียวไม่ได้ บทจะหาทีมก็ไม่มีใครอยากต้อนรับกู ใคร ๆ ก็ขยาดชื่อ TEN1O ไปแล้ว”

“กูทำให้มึงรู้สึกแย่หรือเปล่า?”

“ไม่นะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูคงเศร้าอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ะ กูสามารถคุยกับมึงเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น กูอยากแข่งนะ แต่ถ้าไม่แข่งก็ไม่ตาย ไม่ได้เสียใจอะไรขนาดนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเหมือนมึงอยู่กับสิ่ง ๆ นึงมานาน แต่วันนึงไม่ได้ทำมันแล้วมึงก็เลยคิดถึง”

“อืม กูเข้าใจ”

“กูโอเคจริง ๆ นะแจ็ค ไม่อยากให้มึงคิดเลยว่ากูกำลังเล่นบทพระเอกแกล้งเก็บความเจ็บไว้ในใจ”

“หน้าแบบนี้เหรอพระเอก?” เขาเชยคางไอ้หล่อขึ้นมา แล้วมันก็ยิ้มกว้างให้เห็นว่าเรื่องที่พูดมานั้นจริงทุกอย่าง

“บอกแล้วว่ามีอะไรจะพูด ไม่โกหกหรอก”

“เรื่องนั้นข้ามไปก็ได้ แต่ก็ยังมีเรื่องนึงที่กูยังสงสัยจนถึงวันนี้” ไอ้เท็นฉายแววตาสงสัยหลังจากได้ยินคำถามนี้ “ทำไมมึงกลายเป็นคนขี้เกมไปได้ทั้งที่ตอนแรกไม่มีทีท่าอะไร?”

เขามองตั้งแต่ดวงตาถึงปลายจมูกโด่งรั้นของคนตรงหน้าซึ่งกำลังยิ้มอย่างมีความหมาย แจ็คเชื่อว่าอีกฝ่ายคงมีคำตอบดี ๆ ที่จะทำให้เขาหัวใจพองโตได้หลังจากทนอยู่กับความสงสัยมานานเป็นสิบปี





(ต่อด้านล่างนะคะ)
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 12-04-2019 23:10:58



“ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าใครที่ทำให้ชอบเล่นเกมจนถึงทุกวันนี้?”

“แล้วต้องไล่ต้อนไปทางไหนมึงถึงจะยอมพูดออกมาเองล่ะ?” มันเขี้ยวไอ้แจ็คไม่ไหวแล้ว ต้องจูบจนปากแตกเลยหรือเปล่าไอ้เวรนี่ถึงจะยอมเข้าใจเสียทีว่า TEN1O ชอบเล่นเกมได้เพราะใคร?

“ฉลาดมาทั้งชีวิตแล้วจะมาโง่ตอนนี้เนี่ยนะ?”

เขาขึ้นคร่อมทับกลางลำตัวอีกฝ่ายแล้วโน้มหน้าลงไปใกล้พร้อมจับข้อมือแกร่งขึงกับเตียง แม้จะไม่คุ้นชินกับรูปร่างที่ควรอยู่ในอ้อมแขน แต่เท็นก็ชอบที่จะมองไอ้แจ็คจากมุมนี้

“พอเห็นมึงเป็นแบบนี้อยู่ดี ๆ กูก็อยากโง่ขึ้นมาแล้วสิ”

“งั้นพูดว่า ‘พี่เท็นสั่งสอนแจ็คหน่อยครับ’ แล้วกูจะยอมพูดให้ชื่นใจหน่อยก็ได้” คนอยู่ใต้ร่างหลุดขำทั้งที่ข้อมือยังนาบอยู่กับเตียง

“เป็นน้องเดือนแต่อยากได้ฟีลพี่ชายเหรอ?”

“เอาไม่เอา ถ้าไม่เรียกกูไม่พูด” วันนี้เขาต้องเป็นฝ่ายคุมเกม แต่จากรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อแล้วก็ทำให้หวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนว่ามันมีแผนรองรับไว้แล้วอย่างไรอย่างนั้น

“งอแงใหญ่” หลังจากพูดจบไอ้แจ็คก็ดันตัวเองขึ้นในจังหวะทีเผลอจนเขาหงายหลังล้มลงอยู่ช่วงปลายเตียงก่อนจะถูกขึ้นคร่อม

ไอ้แจ็คลูบข้อมือตนเอง พอเขาจะลุกขึ้นนั่งก็ถูกดันลงไปอีกครั้งพร้อมข้อมือซึ่งโดนกดไว้กับที่นอน ไม่มีผมยาวปกปิดใบหน้าอีกฝ่ายอีกแล้ว ตอนนี้เท็นเห็นหน้าไอ้แจ็คได้อย่างชัดเจนว่ามีแววตาและรอยยิ้มอย่างไรขณะมองมา

“ถ้ากลัวคนอื่นได้ยินพี่เท็นก็กระซิบสิครับ”

ห่าเอ๊ย เข้าใจเพื่อนเกาหลีแล้วว่าทำไมมันอยากให้แฟนเรียกโอป้านัก

“กว่าจะยอมเรียกได้ต้องเอาคืนก่อนเหรอวะ มึงนี่จริง ๆ เลยนะ” เท็นส่ายหน้าหน่าย ๆ ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อนเขาคงไม่รู้สึกอะไรกับท่าทางที่เป็นอยู่

แต่บอกตามตรงว่าตอนนี้เขาคิดแล้วก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ทำให้ไอ้แจ็คหยุดความคิดเลยเถิดไว้เห็นทีว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้างานใหญ่คงเป็นเรื่องพยายามหยุดตัวเอง

“กูเรียกแล้ว ชอบหรือเปล่า?” นั่น แล้วมันก็มาเก็บงานทีหลัง

“ตอบมาก่อนว่าชอบเรียกพี่เท็นไหม?”

ไม่ได้ เขาจะมาแพ้ไอ้อ่อนที่เคยมีแฟนแค่คนเดียวได้อย่างไร งานนี้เดี๋ยว TEN1O จะสอนให้รู้เองว่านอกจากหยอดให้เขินแล้วเขาทำอะไรได้มากกว่านั้น

“อืม” ไอ้แจ็คอมยิ้ม ก่อนมันจะพูดคำว่า ‘ชอบ’ โดยไม่ออกเสียง

จะโทษว่าบรรยากาศเป็นใจหรือโทษที่ไอ้แจ็คตัดสินใจปุบปับค้างที่นี่ แต่นั่นก็ใช่ว่าถ้านอนอยู่บ้านแล้วจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเสียเมื่อไหร่ เขาไม่ชอบอาการทำตัวเหมือนข้าวใหม่ปลามันที่เห่อกันแบบเดี๋ยวกอด เดี๋ยวจูบ เดี๋ยวคิดถึง แต่ก็ต้านความรู้สึกเหล่านี้ไว้ไม่ไหว

เท็นกับแจ็คสบตากันเหมือนว่าอยากตะโกนคำต้องห้ามให้อีกฝ่ายได้ยินชัด ๆ เขายังกลัวอนาคต แต่ตอนนี้กลัวไม่ได้กอดไอ้เวรนี่มากกว่า บ้ากันไปใหญ่แล้วสินะ สิบปีที่ผ่านไปมันนานเกินกว่าจะให้เขานอนเฉย ๆ ได้ บอกตามตรงว่าถ้ารู้ตัวเร็วกว่านี้เท็นคงไม่ปล่อยให้บลูได้มันไป

“คิดอะไรอยู่?” ใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้หลังสิ้นสุดคำถาม เท็นจึงยิ้มบาง ๆ พลางเอื้อมมือขึ้นไปคลึงริมฝีปากหยักก่อนจะถูกอีกฝ่ายงับเอาไว้ราวกับอยากหยอกเหย้า และเขาก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว

ทั้งคู่จูบกันอีกแล้ว พอมาถึงตอนนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสักวันเขาหรือไอ้แจ็คจะเบื่อกับการประกบริมฝีปากพร้อมแลกลิ้นกันจนไอ้นั่นมันแข็งตัวครั้งแล้วครั้งเล่าหรือไม่ แม่เหล็กที่ดึงดูดกันเหรอ? ก็อาจจะใช่ เขาอยากทำทุกอย่างกับไอ้แจ็คไปจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีใครหน้าไหนมาแย่งไปได้อีก

“ชอบอยู่ข้างบนเหรอ?” พอเห็นคนใต้ร่างออกแรงดันเหมือนจะพลิกสถานการณ์แจ็คจึงผละออกมาถาม

“เออ แล้วมึงอยู่ข้างล่างได้ไหมล่ะ?”

“เอาสิ กูชอบดูคนออนท็อป”

“ออนก็เหี้ยแล้วครับพี่แจ็ค” เท็นบีบกรามคนบนร่างจนปากจู๋ คนถูกเรียกพี่เหมือนจะสตันท์ไปเพราะอยู่ ๆ หน้าที่ว่าแดงอยู่แล้วก็แดงเข้าไปใหญ่ เขาจึงยันศอกขึ้นไปจูบอีกครั้ง

ทั้งคู่กอดฟัดนัวเนียจนผ้าห่มกับหมอนตกเตียง ผ้าปูที่เคยขึงแน่นยับยู่ยี่ไม่เหลือความดีแต่ถึงอย่างนั้นสองเพื่อนสนิทก็ยังแลกลิ้น จูบไซ้จุดไวต่อความรู้สึกจนเกิดเสียงครางในลำคอ เสื้อยืดสีขาวที่ยังมีรอยพับหลังแกะจากซองถูกร่นขึ้นสูง ตามด้วยฝ่ามือซึ่งลูบไล้ไปตามความแบนราบไร้อกเนินนูนที่เคยสัมผัสบนเรือนร่างหญิงสาวคนไหน ๆ 

แจ็คคงห่างหายจากเรื่องนั้นมานานเกินไป ร่างกายเขาถึงสั่นเทาเหมือนคนอยากควักความเป็นชายออกมาสอดใส่เข้าไปในตัวคนใต้ร่างแล้วกระแทกกระทั้นจนกว่าอีกฝ่ายจะรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของเขา

ทำไมตอนมัธยมถึงไม่เอะใจ ทำไมถึงคิดจะไปมีใครทั้งที่อยู่กับไอ้เวรนี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นช่างเขลานัก...

“เอาจริงเหรอวะ...?” ไอ้เท็นหอบหนัก ตอนนี้แจ็คถึงได้รู้ว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่ตัวสั่นเมื่อรู้สึกได้ถึงสองมือที่จับบนท่อนแขน

สายตามองเป้าตนเองและอีกฝ่ายที่พองนูนอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นจากจังหวะกอดรัดฟัดจูบเมื่อครู่ที่ทำให้บ๊อกเซอร์เลอะน้ำหล่อลื่นจนเป็นดวงแถมยังแข็งจนเหมือนจะกลายเป็นหิน ไปกันใหญ่แล้ว... เหมือนทั้งคู่กำลังวัดใจกันอยู่ทุกวินาทีว่าคราวนี้ใครจะเป็นคนหยุดก่อน ซึ่งคงเป็นไอ้เท็นที่ต้องพยายาม เพราะใจเขาไม่ได้อยากหยุดเหมือนทุกครั้ง

ไอ้แจ็คโน้มลงมาจนริมฝีปากเกือบแตะกันแต่มันก็ปล่อยค้างไว้อย่างนั้นเหมือนอยากแกล้ง ก่อนมันจะทำให้รู้ว่าตอนนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าจูบซึ่งนั่นก็คือความเป็นชายที่ซ่อนอยู่ในบ๊อกเซอร์ ใช่ ไอ้แจ็คจับมือเขาทาบลงตรงนั้นราวกับอยากให้รู้ว่ามันแข็งได้ดีแค่ไหน

“...”

และเขาก็จับมืออีกฝ่ายมาทาบกับของตนเองเพื่อบอกให้รู้ว่ามันก็อาการหนักไม่แพ้กัน

“พันห้าเมื่อสามปีก่อนเคยทำแบบนี้ให้ไหม?” เท็นไม่เคยจับไอ้นั่นของใคร และตอนนี้เขากำลังนวดคลึงให้จนไอ้แจ็คเกร็งตัวครางหวิว ก่อนมันจะจับมือเขาสอดเข้าไปในบ๊อกเซอร์ของตนเอง

“เลิกพูดถึงคนอื่นได้แล้ว” ไอ้แจ็คคงอยากให้เขาเลิกพูดมาก ถึงได้จับมือออกมาแล้วดันส่วนพองนูนใต้บ็อกเซอร์เสียดสีกับส่วนนั้นของเขา

“มึง...”

“ไม่ได้เหรอ...?”

ไม่ว่าจะเป็นสายตาฉ่ำไปด้วยความต้องการและน้ำเสียงแหบพร่า... เท็นกำลังถูกอ้อน เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย เขารู้สึกคอแห้งอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำแบบนี้กับใคร ไม่เคยรู้ว่าการถูไถเสียดสีความเป็นชายผ่านใต้เนื้อผ้าจะทำให้รู้สึกดีขนาดนี้

“ถามจริง จะเอาเหรอวะ...?”

“วันนี้ยัง...” ไอ้แจ็คส่ายหน้า ก่อนจะรั้งหัวกางเกงตนเองและของเขาลงจนส่วนนั้นดีดผึงออกมา “แต่ขอเอาออกก่อน...”

“ยังไง...?” เท็นมองขนาดของตนเองกับเพื่อนสนิท ต่อให้ไม่เคยทำกับผู้ชาย แต่เขาก็พอนึกออกว่าจะรู้สึกดีแค่ไหนถ้าหากเขาจะจับมันไว้แล้วรูดเบา ๆ

“อา...”

“...”

ยังไม่ทันได้ลองทำอย่างที่คิดเลยด้วยซ้ำไอ้แจ็คก็ดับฝันกันเสียได้ เท็นขบกรามแน่นขณะมองเพื่อนสนิทกอบกุมความเป็นชายไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะเริ่มขยับ... เริ่มต้นอย่างเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะจนได้ยินเสียงเฉอะแฉะจากน้ำหล่อลื่นและเสียงครางติดขัดของทั้งคู่

แม้ว่าจะใจตรงกัน แต่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างก็เคยร่วมรักกับผู้หญิงดังนั้นการจะปล่อยให้เกิดเลยเถิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย เท็นไม่อยากบังคับอีกฝ่าย และตัวเขาก็อยากเป็นคนสอดใส่มากกว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถนัด ซึ่งไอ้แจ็คก็คงคิดอย่างนี้ไม่ต่างกัน

ถามจริง... มันไม่ใช่แค่จูบแล้วกอดเหมือนทุกทีแล้ว ถ้าปล่อยไหลยาวไปมากกว่านี้เขาก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ปากยังเรียกว่าเพื่อนแต่ร่างกายแทบจะเป็นผัวเมีย เสียดสี รูดรั้งจนน้ำที่กักเก็บมานานเหมือนพุ่งออกมารอมร่อ

เสื้อยืดเซเว่นถูกถอดออกไปแล้ว เท็นขยับสะโพกเข้าหาฝ่ามือที่แฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่นพร้อมรั้งท้ายทอยคนบนร่างมาจูบก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกขึ้นคร่อมพร้อมสานต่อเรื่องที่ทำไว้โดยไม่ปล่อยให้เสียจังหวะไป

แจ็คไม่เคยสนใจการดูแลตัวเองเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ สองมือก็ใช้ทำงานในชีวิตประจำวันเหมือนกัน กระทั่งได้รู้ว่าคิดผิดเมื่อความแข็งขืนดั่งหินมันถูกชักรูดด้วยฝ่ามือนุ่ม

“โอเคไหม...?”

หัวใจเต้นหนักคล้ายว่าจะระเบิด เท็นพยักหน้าซ้ำ ๆ ขณะหลับตาผ่อนลมหายใจหนักกับคำถามที่เต็มไปด้วยความประหม่านั่น เขาปล่อยให้คนใต้ร่างร่นบ็อกเซอร์ลงอีกเพื่อการเคลื่อนไหวที่ถนัดถนี่ยิ่งขึ้น เหงื่อจากการร่วมรักภายนอกไหลลงตามผิวกายที่กำลังขยับเร่งความเร็วยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มความเสียวจากการเสียดสี

‘โอเคไหม?’ งั้นเหรอ? ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันเกินกว่านั้นอีก

แจ็คจับข้อมือคนบนร่างพร้อมรั้งให้ลงมานอนข้างกัน ทั้งคู่เอาแต่จูบกันซ้ำ ๆ ก่อนจะผละออกมาหน้าผากชนกันและคราวนี้แจ็คขอเป็นคนออกแรงข้อมือ ร่างกายที่เคยหอมกลิ่นสบู่ถูกแทนด้วยเหงื่อ สองคนที่เรียกกันและกันว่าเพื่อนสนิทครางอื้ออึงในลำคอก่อนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน

“...”

“...”

เสียงหอบหายใจเป็นสิ่งเดียวที่เด่นชัด พอถึงตอนนี้สติเริ่มมา ทั้งเขาและไอ้เท็นต่างก็ขลาดอายจนไม่กล้าสบตากันจึงต้องดึงบ๊อกเซอร์ขึ้นกลบเกลื่อน

“ร้อนว่ะ”

“สงสัยพรุ่งนี้ต้องไปคอมเพลนหน่อยแล้ว”

พูดไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะลอบมองกันและกัน จนถึงตอนนี้ชายหนุ่มทั้งสองก็ได้คำตอบแล้วว่าการสอดใส่เข้าไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เมื่อเขาทั้งคู่สามารถช่วยกันปลดปล่อยได้ด้วยวิธีที่ไม่ต้องมีใครต้องเจ็บ คิดแค่ว่าขอให้ได้อยู่ด้วยกัน มีกันและกันไปกับความสัมพันธ์เรื่อย ๆ ไม่ต้องจำกัดความ เพียงเท่านั้นมันก็มากเกินกว่าอะไรทั้งหมด

แต่ที่ทำไปเมื่อครู่ก็รู้สึกดีจนไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

มันบ้าเหลือเกินที่แจ็คหันไปใช้นิ้วหัวแม่มือไล้เหงื่อออกจากใบหน้าอีกฝ่ายแทนที่จะลุกไปเอากล่องทิชชู่มาเช็ดน้ำขาวขุ่นซึ่งเปรอะหน้าท้องแกร่งและผ้าปูที่นอน

“ต่อให้พยายามเช็ดแต่ที่นอนก็คงเหนียวอยู่ดี ยังไงก็อดทนหน่อยแล้วกัน”

“ก็ใครใช้ให้มึงออกเยอะ ช่วยตัวเองบ้างเปล่า?” เท็นค้อนไอ้ซื่อบื้อที่กำลังลุกไปเอากล่องทิชชู่พร้อมโยนมาและเขาก็รับไว้ได้พอดี

“ก็ออกเยอะพอกันล่ะวะ”

“ของกูน้อยกว่าเห็น ๆ ” เวรเอ๊ย แล้วมันใช่เรื่องที่จะมาใช้คุยกลบเกลื่อนไหมเนี่ย เหมือนคนพยายามแถเพราะถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว

“เออ มึงชนะ” ทั้งคู่ดึงทิชชู่ออกมาเช็ดหน้าท้องให้กันและกัน ระหว่างนั้นก็มองหน้าหยั่งเชิงอย่างมันเขี้ยว

“ถามแต่กูว่าโอเคไหม แล้วมึงล่ะ?” อายจะตายแต่ก็อยากรู้ว่าไอ้แจ็คคิดเหมือนกันหรือไม่ เขาไม่อยากเอาไปเปรียบเทียบว่าทำกับผู้ชายกับผู้หญิงดีกว่ากัน แต่ที่ผ่านไปเมื่อครู่ก็ต้องยอมรับว่าโคตรชอบเลย

“อยากรู้เหรอ?”

ไอ้แจ็คหันมาถามพร้อมสวมเสื้อยืดเซเว่นกลับเข้าไป รอยยิ้มของมันตอนนี้โคตรน่าถีบเลยไอ้ฉิบหาย ไม่ต้องบอกแล้วเพราะเขาเหมือนจะรู้

“ไว้ทำคราวหน้าแล้วจะตอบ”





TBC

ใครมานั่งร้องไห้ข้างโอ่งบ้านหนู!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ursleepingxd ที่ 12-04-2019 23:30:40
โห้ยยยยยย พี่ซันพี่มูนนนน พ่อพวกเธอใจแตกกก ฮื้อออ ทำไมดีอย่างงี้ จะจบแล้วหรอคะ ใจหาย จะร้อง ; - ;
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 12-04-2019 23:50:44
เหม็นฟามรักคนแถวนี้จังข่า
พิแจ็คอ่อนโยนแบบไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 12-04-2019 23:56:26
 :o8: สุดยอดดดดดดดดดดดดดด
ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปนะ สองคนนี้ น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 13-04-2019 00:10:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 13-04-2019 00:12:48
โอ้ยยยยยยยย ละมุนใจ ทำไมยังไม่ได้กัน!!!!  หวานกันแบบมดถึงมือถือแล้วจ่ะแม่
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 13-04-2019 00:15:58
โอ๊ย เม้นไม่ถูกเลย แต่ชอบตอนเท็นบอกเรื่องเกมกับแจ็ค รู้สึกได้จริงๆว่าเท็นพูดความรู้สึกจริงๆของตัวเอง ไม่ปิดบัง ทั้งสองคนต่างก็พยายามแก้ไขทุกอย่างเพื่อชดเชยสิ่งที่ไม่เคยทำและทำให้ต้องไม่เข้าใจกันและแยกกันไปนาน กลับมาดีกันคราวนี้ทั้งคู่เปิดใจให้กันมากๆ ขอให้ธีร์เข้าใจและยอมรับได้ กลับมาเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกันได้อีก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: GDNEE ที่ 13-04-2019 00:35:13
พ่อออ!!!! สุดยอดไปเร้ยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 13-04-2019 00:52:57
ใครจะรุก ใครจะรับ โอ้ยย  :-[
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-04-2019 01:22:11
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:

 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 13-04-2019 01:22:34
เชียร์พี่แจ็คสุดใจ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ใครควรรุกควรรับหรืออะไรยังไง พี่แจ็คควรมาเป็นของเราค่ะ  น้องจะเต๊าะพี่ไปเรื่อยๆจนกว่าพี่จะมีเจ้าของเต็มตัว  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-04-2019 01:52:02
 :-[
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 13-04-2019 05:41:22
มันดีจริงๆคะ ท่านผู้ชมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-04-2019 07:43:53
จ้าาา ทิ้งลูกมาค้างกะปู้จายยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 13-04-2019 08:11:34
ยังตกลงไม่ได้สินะว่าตำแหน่งตำแหน่งพ่อนู๋ซันใครจะรุก ตำแหน่งแม่นู๋มูนใคนจะรับ  :mew4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-04-2019 08:20:11
แงงงงงงงง :katai1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: จอมจุ้น6002 ที่ 13-04-2019 09:15:34
พิแจ็คชนะเลิศค่ะ โซผัวมาก ฟาดมากค่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 13-04-2019 09:39:21
ผัวขาาาาาาทำไมเดียวนี้ร้ายเมื่อก่อนเค้าก็กลัวว่าน้องเท็นจะแกล้งตัวเองแต่ีียคิดผิดคุณร้ายมากน้องเท็นจะทันคุณมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: OffJii ที่ 13-04-2019 12:10:44
 :jul1: เมิดคำสิเว้า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 13-04-2019 13:39:49
 :hao7: :hao7: :hao7: อร้ายยยยยย เขินว้อยยยยย ย ยย
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-04-2019 20:24:05
อยู่ที่เรียนรู้



อยู่ที่ยองรับมัน


ใครจะรุกควาปรึกษากัน


ผลัดกันรุกผลัดกับรับ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-04-2019 23:12:09
เรื่องปริมาณความรักคงไม่มีใครน้อยกว่ากัน แต่ความเจ้าเล่ห์ พี่แจ็คน่าจะเหนือกว่า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 13-04-2019 23:20:06
โงยย น่ารักสถานะยังไม่ชัดเจนแต่ก้รุ้ว่าทั้งคู่เป้นคนพิเศษของกันและกันจริงๆ ไม่ว่าจะ10ปีก่อนหรือตอนนี้ กรี้ดดดด น่ารัก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-04-2019 13:56:03
จะเป็นลมกับพี่แจ็คคคค ฮือออ โซผัวมากค่ะแง้ สำหรับเราไม่สนโพแล้ว แบบนี้ไปเรื่อยๆก็ได้ แต่ก็จะมองน้องเท็นเท็นเป็นน้องอยู่ดีแหล่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 16-04-2019 23:44:03
ใจบางมากค่าาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 17-04-2019 10:29:43
จากที่ได้ติดตามทวิตนักเขียนมีโอกาสที่จะสลับใช่ไหมคะ คือถ้าสลับก็ควรบอกตั้งแต่แรกๆอะค่ะ ฮืออออ  :hao5: :hao5: เสียดายเป็นนิยายที่ชอบมากแท้ๆ เราขอโทษที่คอมเม้นต์เอาแต่ตัวเองแบบนี้แต่เรื่องโพมันเป็นรสนิยมเพราะนี้มันคือนิยาย สามารถเลือกเสพได้ บางคนก็รับได้ บางคนก็รับไม่ได้ เราเองถ้าสลับก็อาจจะคิดอีกทีว่าจะซื้อหรือจะอ่านต่อหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน20 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/4/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 18-04-2019 07:29:24
เพื่อนเค้าได้กันแล้วค่าาาาาา แง้~~~ แค่นี้ทำเขินตัวบิดแล้วววว
เอาจริงๆ ก็มีคาดหวังอยู่เล็กๆ ภายในใจ แต่ไม่เป็นไร เรื่อยๆ แบบนี้ไปนี่ก็ดีกับใจมากแล้วค่ะ แค่เค้าได้อยู่ด้วยกัน เข้าใจกันแค่นั้นก็อุ่นในใจมากแล้วอ่ะ ฮือออออ

*เตรียมบัตรเครดิตรูดค่าห้อง ให้อยู่ด้วยกันต่ออีกสองคืน*
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 03-05-2019 20:06:26


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 21
คิดถึงเกินไป




บรรยากาศในรถอัดแน่นไปด้วยความกระอักกระอ่วนตั้งแต่ออกจากอยุธยามาจนถึงกรุงเทพฯ เริ่มจากตื่นนอนไปจนถึงกินมื้อเช้า เขากับไอ้แจ็คคุยกันแทบนับประโยคได้ซึ่งนั่นก็คือ

‘หิวว่ะ’

‘ใครอาบน้ำก่อน?’

‘อากาศดีเนอะ’

ผิดปกติไปหมดไม่ต้องถามหาความเป็นธรรมชาติ นึกหงุดหงิดตัวเองที่ทำไมทำตัวเป็นไก่อ่อนขนาดนี้วะ เท็นเคยฟันผู้หญิงมาแล้วนับไม่ถ้วน เขารู้วิธีรับมือไม่ว่าใครจะมาไม้ไหน แต่สำหรับไอ้แจ็คไม่ใช่ ทั้งที่คิดว่ารู้จักมันดีและคงง่ายที่จะจัดการ แต่เอาเข้าจริงมันผิดแผนไปหมด

ต่างฝ่ายต่างเงอะงะงุ่นง่าน เหมือนเด็กอ่อนต่อโลกที่พยายามหาความสุขให้ตัวเองด้วยมือ เวรเอ๊ย... จนถึงตอนนี้เขายังจำสีหน้าและเสียงหอบกระเส่าของไอ้แจ็คได้อยู่เลย มันเหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ประจำตัวของมัน และเสียงทุ้มต่ำที่ชอบฟังนักหนาไม่ว่าจะเป็นตอนพูดหรือตอนร้องเพลง

ไงต่อล่ะวะทีนี้ พอถึงบ้านมันแล้วก็แยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะเหรอ เขาไม่ยอมนะโว้ย ถ้าพูดแบบเอาแต่ใจเมื่อคืนเขากับไอ้แจ็คก็แทบได้กันแล้ว จะมาตีหน้ามึนไม่ได้ บอกคำเดียวว่าถ้ามันหันหลังเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปเมื่อไหร่ ไอ้เท็นคนนี้จะตะโกนเข้าไปว่า ‘ลูกชายแม่เป็นของเท็นแล้ว!!!’

“โทรบอกแม่บ้านเรื่องข้าวเช้าลูกหรือยัง?”

นั่น... มันใช้คำว่า ‘ลูก’ อีกแล้ว

“ใครจะพลาด ลูกกูสำคัญกว่ากางเกงในอีก”

“แล้วได้ใส่มาไหม?”

“แจ็ค มึงนี่นะ?” เขาถอนหายใจหนัก ๆ พลางหันไปมองคาดโทษคนขับที่กลอกตามองล่อกแล่กหลังจากทำให้บรรยากาศอึดอัดไปยิ่งกว่าเดิมเพราะมุกปัญญานิ่มนั่น

“...ก็ตอนออกจากห้องน้ำกูยังเห็นมันม้วนอยู่ปลายเตียง”

“กูใส่มาแล้ว จะดูไหมล่ะ?”

“ไม่ดีกว่า กลัวเป็นข่าวหน้าหนึ่ง” ไอ้คนหน้าตายหันมาทำหน้าหลอนใบกระท่อมใส่เขา ก่อนจะกลับไปมองถนนอีกครั้ง “ตายเพราะหันไปดูกางเกงในน่าคงได้อายยมบาล -- โอ๊ย!”

แจ็คละมือจากพวงมาลัยมากุมศีรษะตนเองหลังจากถูกโบกจนหน้าแทบคว่ำ

“อะไรเล่าเอ้อ... แค่ชวนคุย”

“เรื่องกางเกงในน่ะนะ? ที่กูกับมึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ใช่เพราะเมื่อคืนถอดมันออกเหรอวะ?” อายก็อาย แต่ก็อดตอกกลับไม่ได้ แทนที่จะพยายามทำตัวให้เป็นปกติแต่ดันขุดมาให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนเสียอย่างนั้น

“ถอดก็ถอดพร้อมกันแต่ทำเหมือนกูผิดคนเดียว” นั่น ยังจะกล้ายอกย้อน

“ก็ถ้ามึงไม่อมน้ำลายตั้งแต่เช้ากูจะเป็นแบบนี้ไหมล่ะ พอชวนคุยก็เงอะงะหันไปทำอย่างอื่น”

ใช่ ความผิดไอ้แจ็คคนเดียวเลย เขาอุตส่าห์ตั้งหลักตั้งแต่ตอนตื่นนอนแล้วว่าจะพยายามทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ ทุกอย่างชิลล์ สบาย ๆ  แบบว่าสามารถนอนแผ่ปล่อยไอ้แจ็คใช้มือให้ทั้งวันทั้งคืนก็ยังได้ แต่มันน่ะทำเสียหมด ทำตัวประหลาด เงียบ ไม่พูดไม่จา

“ก็ต้องอมไว้บ้างสิ เมื่อคืนโดนมึงแดกหมดจนคอแหบคอแห้ง”

“ผีเข้ามึงแล้วล่ะแจ็ค กูว่ามึงต้องการน้ำมนต์พระ” เท็นขมวดคิ้ว เอามืออังหน้าผากคนข้างตัวที่ดูเหมือนว่าจะพยายามกลั้นยิ้มแต่ก็กักไว้ไม่มิด “ร้อยวันพันปีเคยเล่นแบบนี้กับใครเขาด้วยเหรอ ถ้าน้ำท่วมบางใหญ่อีกคราวนี้ก็ให้รู้ไว้เลยว่าต้นเหตุมาจากประโยคเมื่อกี้”

“มึงก็แค่ไม่เคยเห็น” ไอ้แจ็คแถหน้าตาย เขาจะยอมเชื่อให้ก็ได้ถ้าไม่เคยรู้จักมันมาก่อน

“ตอนนี้มึงกำลังหลอนเพราะทำตัวไม่ถูกมากกว่า” พูดจบก็ต้องชะงักเพราะไอ้คนหน้านิ่งวางมือลงบนศีรษะเขา

“มันใช่ที่กูทำตัวไม่ถูกและมึงก็คงเหมือนกัน แต่เรื่องคำพูดคำจาเหมือนผีเข้าน่ะกูขอแก้ตัวหน่อย” ไอ้แจ็คโคลงศีรษะเขาเบา ๆ เหมือนที่เคยเล่นกับพี่ซัน ก่อนจะหันมาสบตากับเขาอีกครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ยังต้องสนใจเส้นทางบนถนน

“แก้ยังไง ไหนว่ามา” อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างมันจะมาไม้ไหน

“ที่เมื่อก่อนทุกคนไม่เคยเห็นกูเป็นแบบนี้”

ถ้าพูดให้พอใจได้เขาจะยอมกลืนความอายจากเมื่อคืนไปให้หมดเลยเอ้า!

“ก็เพราะกูเลือกแสดงออกแค่กับคนที่รู้สึกดีด้วย”

“อีกละ”

“ถ้าเป็นในเกมมึงต้องพิมพ์ GGWP ให้กูแล้วนะ”

“เชี่ยแม่ง” เท็นกัดฟันมองคนข้างตัวอย่างมันเขี้ยว มันใช่เวลามาพูดจาน่ารักแบบนี้ไหมวะเนี่ย จริงอยู่ที่อยากได้คำตอบแบบน่าพอใจ แต่อันนี้มันเกินความคาดหมายเกินไป ไอ้แจ็คกล้าดียังไงมาทำให้เขาสำลักความสุขวันละร้อย ๆ รอบ

“พูดอะไรบ้างก็ได้” แจ็คกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเพราะเขินคำพูดตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยพูดเอาอกเอาใจใครเป็นที่ไหน ถ้าไม่นับกรณีประจบประแจงบอสไอ้เท็นก็คงเป็นคนแรกเลย

“กูพูดมาตลอดทางแล้วมึงยังอยากได้ยินเสียงกูอยู่อีกหรือไง?”

“อืม อยากให้พูดทั้งวันเลย” แจ็คอมยิ้ม หันไปมองอีกคนเป็นระยะกับบรรยากาศซึ่งเหมือนว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

“คนบ้าไรจะพูดทั้งวัน”

“คนเหี้ยชื่อเท็น”

“ทำให้ดีใจแล้วก็ตบหัวกูด้วยการด่าเหรอ ไอ้หน้าหมา” อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เท็นรู้สึกว่าแก้มไอ้แจ็คมันน่าดึง น่ากัด น่าขย้ำ เขาถึงเอื้อมมือไปดึงเบา ๆ ก่อนมันจะเอนศีรษะตามแรงดึงอย่างเอาอกเอาใจ

“อย่าเล่นมุกแบบนี้กับใครอีกนะ แพรวก็ไม่ได้”

“มีร่างกฎแล้วเหรอ งั้นกูห้ามมึงบ้างดีไหม?”

“เอาดิ แวะบีทูเอสซื้อไวท์บอร์ดใหญ่ ๆ มาคนละอัน” เท็นรู้ตัวว่ากำลังเสียฟอร์ม เสียจนแทบไม่เหลืออะไรให้เก๊กอีกแล้ว แต่จะให้ทำไงได้... นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นตัวเองกระทั่งได้กลับมาอยู่ในชีวิตมันอีกครั้ง

เป็นคนเอาแต่ใจแบบที่ไอ้แจ็คน่าจะรับไหว เพราะคราวนี้ทุกอย่างที่ทำให้งี่เง่าได้ก็มีแค่เรื่องของมันทั้งนั้น...


*


“สวัสดีค่ะบอส”

“วันนี้มาก่อนเวลาเลยนะครับบอส พร้อมสุดอะไรสุด”

“ผมรีบมาเชือดคนงานไม่คืบหน้าในห้องประชุมน่ะ คุณคือหนึ่งในนั้นหรือเปล่าล่ะสุกิจ?”

“โธ่... ไม่เอาไม่โหดสิครับ วันนี้เพิ่งวันจันทร์เอง”

พนักงานในโถงกว้างต่างหัวเราะคิกคักกับมุกตอนใกล้ รวมถึงแจ็คที่ชำเลืองมองเจ้านายอยู่ห่าง ๆ เขารู้สึกดีทุกครั้งที่มีการประชุมงาน เพราะมันเป็นสัญญาณว่าเกมใหม่ที่กำลังพัฒนาต้องเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนยิ่งขึ้น

“เที่ยงนี้กินข้าวไหนครับแจ็ค?”

“อย่าบอกว่าบอสทิ้งอาหารในโรงแรมมาเพื่อหากินอะไรแถวนี้?” แจ็คหรี่ตามองเจ้านายที่เท้าแขนกับคอกกั้นโต๊ะอย่างอารมณ์ดี วันนี้ไปโดนตัวไหนมา เขาอยากถามอย่างนี้

“เชร์ชวนผมไปเที่ยวเกาะล้าน แถมบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายเองโดยที่ผมไม่ต้องออกเลยสักบาทเดียว”

“เหมือนบอสกำลังขิงยังไงก็ไม่รู้สิครับ” แล้วดูสีหน้าปริ่มสุขล้นใจนั่น เกาะล้านที่ว่านี่มีสอง-สามพันก็ไปได้แล้วเปล่าวะ คนทำทริปประหยัดในพันดริ๊ฟท์ออกจะเยอะ

“เรียกว่าเล่าเรื่องความน่ารักของแฟนให้ฟังคงรื่นหูกว่า” แจ็คลูบหน้าตัวเองพลางเท้าคางมองจับผิดเจ้านายที่ยังคงยืนอยู่ตรงนี้หลังจากขิงเสร็จแล้ว “ไม่ซึ้งสินะครับ ไม่ว่ากัน คนไม่มีแฟนคงเข้าใจยากอยู่แล้ว”

“บอสน่าจะมีตารางแยกเตียงนอนกับไอ้แหลมสักอาทิตย์ละสองวัน รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้นิสัยเหมือนกันจนอดคิดไม่ได้ว่าบอสกินน้องผมไปแล้วหรือเปล่า?”

“น้องคุณต่างหากที่กินผม”

“เวลาผมพูดเรื่องนึงอย่าพยายามดึงไปอีกเรื่องนึงสิครับบอส ผมหมายถึงกินตัวไม่ได้หมายถึงกินแบบนั้น แล้วก็เลิกทำหน้าอีโรติกได้แล้ว”

“หน้าแบบไหนที่เรียกว่าหน้าอีโรติก?” บอสแกล้งตีหน้าซื่อฉายแววตาสงสัย

“แบบที่เป็นอยู่นี่แหละครับ” แจ็คถอนหายใจหน่าย ๆ บางทีบอสก็ดูเป็นเจ้านายลุคน่าเกรงขาม แต่บางครั้งก็เหมือนเด็กขี้อวด ซึ่งคนเราจะอวดสิ่งใดบนโลกก็ได้แต่ต้องไม่ใช่เรื่องไอ้เชี่ยแหลมเปล่าวะ?

“แล้วเท็นเคยทำหน้าแบบนี้หรือเปล่า?”

‘แจ็ค... เร็วหน่อย... จะเสร็จแล้ว...!’

เหี้ย ทั้งภาพทั้งเสียงมาเต็ม

“ทำไมต้องไอ้เท็นครับ?”

คนถูกถามไหวไหล่แสร้งไร้เดียงสาอีกครั้ง เขาจะโดนบอสกวนส้นตีนทั้งที่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงจริง ๆ เหรอวะ

“ไปชงกาแฟดื่มกันไหม?” คนเป็นเจ้านายหันไปมองรอบตัวจนเขารู้ว่าตอนนี้กำลังตกเป็นที่สนใจจากเพื่อนร่วมงาน แม้ว่าบทสนทนานั้นจะยังไม่มีอะไร แต่การที่บอสมายืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก ใคร ๆ ยิ่งเพ่งเล็งอยู่ว่าเขาเป็นเด็กเส้น

“น้ำตาลสิบก้อนเลยเป็นไง ความรักของบอสมันหวานหอมซะขนาดนี้” กันต์พอใจกับเสียงบ่นพึมพำของลูกจ้างที่สุดท้ายก็ยอมลุกมาตามคำเชิญของเขา



*


“ไปเที่ยวอยุธยามาสนุกไหม?”

“ไอ้แหลมมันรายงานบอสแม้กระทั่งเรื่องนี้เหรอครับ?” แจ็คละสายตาจากเครื่องบดกาแฟแล้วหันไปทางเจ้านายที่กอดอกกึ่งนั่งกึ่งยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์

“สำหรับเด็กคนนั้นเรียกว่านินทาน่าจะดีกว่าครับ”

“พูดมากที่หนึ่ง” ไอ้แหลมรู้โลกรู้ที่แท้

“ต่อให้คุณไม่ได้ลงรูปใส่ชุดไทยเหมือนเท็น แต่รูปก๋วยเตี๋ยวที่คุณลงในไอจีมันก็อยู่อยุธยานี่นะ...” บอสอมยิ้มเหมือนมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

“จะปั่นผมอีกแล้ว?”

“เปล่า” กันต์รับแก้วกาแฟมาถือไว้พลางมองท่าทีลูกจ้าง “เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็มีอินเทอร์เน็ต ผมกดไลก์รูปคุณเสร็จมือก็ดันลั่นไปกดอ่านคอมเมนท์ ถึงได้รู้ว่าแฟนคลับคุณกำลังคิดอะไรกัน”

“ก็แค่แซวเล่น ๆ น่ะครับ ตามประสาสาววาย”

“จริงเหรอแจ็ค?” เจ้าของชื่อกำลังถูกขยี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องลนลานทำตัวไม่ถูกอีกต่อไปแล้ว ครั้งแรกที่ถูกบอสปั่นหัวในตอนนั้นแจ็คยังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่

“มันก็แล้วแต่ว่าคนอื่นอยากมองผมกับไอ้เท็นแบบไหน”

“ว้าว” กันต์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อว่ามันจะหลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย “ผมชอบคำตอบคุณ”

“ผมไม่ห้ามถ้าบอสจะคิดแบบนั้น คนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ทุกคนมีอิสระในการคิด”

“แม้แต่คนที่ยัดเยียดให้คุณสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนน่ะเหรอ รู้ไหมว่าล่าสุดมีคนเขียนฟิคชั่นคู่คุณกับเท็นแล้วนะ แต่เรื่องนี้แพรวเป็นคนขยาย”

แจ็คยกกาแฟขึ้นดื่มพร้อมคิดตามสิ่งที่อีกฝ่ายพูดถึง ต่อให้เขากับไอ้เท็นจะไม่ใช่เซเล็บดาราดัง แต่ที่เป็นอยู่ก็คงเรียกว่าบุคคลสาธารณะได้ ความเป็นส่วนตัวลดหายไปแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด

“ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกแฟนคลับจับจิ้นหรอกครับบอส ก่อนหน้านี้แค่ผมป้อนข้าวไอ้ธีร์เพราะมันไม่ยอมละมือจากเมาส์กับคีย์บอร์ดคนก็เอาไปเขียนฟิคอยู่พักนึง ตอนผมซักผ้าให้ไอ้แหลมก็ยังถูกเคลมว่าเป็นผัวมันเลย”

“เด็กสมัยนี้ใช้ไม่ได้จริง ๆ ผัวเผออะไรกันเลอะเทอะไปใหญ่” บอสกอดอกขมวดคิ้ว อยู่ดี ๆ ก็อิน

“ล่าสุดแพรวถ่ายรูปผมตอนใส่หมวกกันน็อกให้ไอ้โซ่ก็กลายเป็นฟิคยอดฮิตอยู่พักนึง”

“ทำไมพวกเขาดูสลับไปคนนั้นคนนี้กันง่าย ๆ?”

“บอสต้องคุยกับน้องสาวผม รายนั้นน่าจะอธิบายได้ดีกว่า”

บทสนทนาเงียบหายเมื่อมีพนักงานเดินเข้ามากดน้ำดื่มก่อนจะออกไปภายในนาทีถัดมา กันต์ไม่ได้พูดเรื่องความสัมพันธ์ที่ดูออกอย่างง่ายดายไปตรง ๆ อาจเป็นเพราะวันนี้เขาพอใจกับท่าทีของแจ็คแล้ว มันไม่เหมือนกับตอนนั้นที่ยังดูสับสน ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น

“ผมชอบที่ทุกวันนี้คุณสดใสขึ้น”

“เหรอครับ ว่าแต่นิยามคำว่าสดใสของบอสเป็นยังไง?”

“ความแตกต่าง” ชายวัยกลางคนว่าพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อก่อนคุณก็มีความสุข แต่ตอนนี้คุณมีความสุขมากกว่า”

“บอสพูดเหมือนสังเกตผมอยู่ตลอดเวลาทั้งที่เข้าออฟฟิศแค่อาทิตย์ละสองครั้ง” แจ็คพูดกลั้วหัวเราะ

“งั้นผมจะเรียกคนที่นั่งทำงานข้างคุณทุกวันมาถาม” บอสเดินออกไปหยุดอยู่ตรงหน้าทางเข้าพร้อมตะโกนเรียก ก่อนรุ่นพี่ที่ทำงานร่วมกันจะตรงมาที่นี่

“อะไรเหรอครับบอส?”

“คุณว่าแจ็คแตกต่างไปจากเดิมไหม?”

“แตกต่างเหรอครับ?” รุ่นพี่ขมวดคิ้วพลางเพ่งมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “น่าจะทรงผมมันไหมครับบอส ก่อนหน้านี้ไว้ยาว ตอนนี้ตัดสั้นอย่างหล่อ”

“แค่นี้แหละที่ผมอยากได้ยิน กลับไปทำงานได้แล้วครับ”

“แค่นี้?”

“ครับ” บอสยิ้มพร้อมโบกมือลา ก่อนรุ่นพี่จะเดินออกไปอย่างงง ๆ “เห็นไหมว่าคนที่นั่งข้างคุณทุกวันยังสังเกตได้แค่ทรงผมที่เปลี่ยนไป”

“เรียกเขามาแค่นี้?” แจ็คเลิกคิ้วมองเจ้านาย ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างภูมิใจ ไอ้อาการไม่ยอมแพ้คนนี่มันเลิกกันไม่ได้จริง ๆ สินะ ตั้งแต่ตอนขอซื้อรองเท้าเก่า ๆ ของเขาต่อหน้าไอ้แหลมแล้ว

“แค่อยากให้รู้ว่าผมจริงใจ”

“ซาบซึ้งแล้ว ผมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจริง ๆ ก็ได้”
 
“ผมบอกว่าแตกต่าง ไม่ได้บอกว่าเปลี่ยนแปลง” บอสยกกาแฟร้อนขึ้นจิบ “คุณก็ยังเป็นคุณ ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่เท็นแค่เข้ามาทำให้คุณได้เห็นตัวเองอีกแบบหนึ่ง”

“...”

“ไม่รู้สิแจ็ค ผมรู้สึกว่าความสุขมันแบ่งเป็นพาร์ท ความสุขที่ได้มาจากเกมก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่ง ความสุขจากการได้กินของอร่อย ความสุขจากการได้ไปเที่ยว หรือความสุขที่มาจากการมีใครสักคนก็เหมือนกัน”

“ว่ากันตามตรง บอสดูออกหรือแค่พยายามปั่นหัวผม”

“ผมเป็นใครครับ?”

บอสสบตากับเขาราวกับอยากให้คาดเดาคำตอบนี้ กันต์กวินทร์คือผู้บริหารทั้งโรงแรมชื่อดังและบริษัทเกมที่เกือบจะเจ๊งแต่ก็ฟื้นตัวกลับมาได้อีกครั้ง กันต์กวินทร์เป็นคนฉลาด และที่สำคัญเป็นคนที่รู้ตัวว่าชอบผู้ชายมานานกว่าเขา

“ตอนแรกผมแค่หาเรื่องแหย่คุณเล่น แต่พอเห็นคุณปล่อยออร่ามีความสุขออกมาเรื่อย ๆ ผมก็ได้แต่คิดว่านั่นใช่คุณจริง ๆ เหรอ?” เป็นเพราะฟังเรื่องคนในทีมจากปากเชร์มานานเขาจึงซึมซับเรื่องราวเหล่านั้น บวกกับเห็นเองด้วยตา การมองความแตกต่างของแจ็คจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้กันต์รู้สึกดี

“ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้”

“ผมไม่มีแผนจะเล่าให้ใครฟังซะด้วยสิ” กันต์รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับแจ็ค หลัก ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องรู้สึกดีกับผู้ชายด้วยกัน แต่มันยังมีเรื่องธีร์ที่ยังต้องสะสางซึ่งไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงหรือไม่

“ผมออกอาการชัดขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ธีร์จะดูออกหรือเปล่าครับ?”

“เรื่องนั้นผมคงบอกไม่ได้ แต่ถ้าเขารู้เมื่อไหร่ ผมก็อยากให้คุณอธิบายให้เขาเข้าใจด้วยความจริงใจทั้งหมดที่คุณมี”

“...”

“คุณรักธีร์ ธีร์ก็รักคุณ ผมคิดอยู่เสมอว่าถ้าเราเข้าใจกันมากพอ ปัญหาไหนก็คงจบได้ด้วยดี ต่อให้ระหว่างนั้นจะมีตึง ๆ ไม่คุยกันบ้าง แต่ถ้าเราสำคัญสำหรับเขาจริง ๆ ยังไงเขาก็จะกลับมา”

“ไม่รู้สิ ผมเข้าใจเหตุผลของมันทั้งสองคนที่ไม่อยากกลับมาเป็นเพื่อนกันอีก แต่การที่ผมเทียวไปหาไอ้เท็นสลับกับไอ้ธีร์แบบนี้มันก็อึดอัดเหมือนกัน”

ไอ้เท็นก็รู้สึกไม่ดีเพราะคิดว่าแย่งเขามาจากไอ้ธีร์ ส่วนไอ้ธีร์ก็นอยด์เงียบเพราะรู้สึกเหมือนถูกแย่งเพื่อน จริงอยู่ที่ทุกคนโตจนอายุจะสามสิบแล้ว แต่เรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้อายุหรืออะไรก็ช่วยแก้ไขไม่ได้เลย

“ตอนนี้คุณคงมีเรื่องให้คิดเต็มไปหมด แต่ไม่เป็นไรนะแจ็ค” กันต์วางมือลงบนบ่ารุ่นน้องคนสนิทที่มีสถานะเป็นลูกจ้าง “อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ แต่ระหว่างนั้นอย่าจมอยู่กับความไม่สบายใจเลย ช่วงเวลาที่ยังมีความสุขได้ก็กอบโกยมันให้พอ”

“พูดน่ะมันง่าย”

“ก็เหมือนคุณตอนที่ผมมีทีท่าว่าจะจีบเชร์ไม่ติดนั่นแหละ”

“เหมือนถูกเอาคืนยังไงก็ไม่รู้สิ” แจ็คพรูลมหายใจออกพลางเสยผมขึ้น แม้จะอึดอัดกับเรื่องไอ้ธีร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการได้บอกเล่าความในใจบวกกับได้รับคำปลอบจากบอสนั้นมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเป็นเท่าตัว

“ดีใจที่คุณยอมพูด”

“มันไม่ใช่ผมเลย ผมควรจะเงียบมากกว่าจะกระวนกระวายแบบนี้” 

“คนเราไม่ได้มีด้านเดียวสักหน่อย อย่างเชร์ตอนอยู่กับพวกคุณก็เป็นอีกแบบนึง ตอนอยู่กับผมก็เป็นอีกแบบนึง ผมก็มีมุมที่มีแค่แม่ที่เคยเห็นเหมือนกัน”

“กับบางเรื่อง เราก็เล่าให้เพื่อนฟังไม่ได้ใช่ไหมครับบอส?”

“ครับ คุณพูดถูก” ชายวัยกลางคนตอบอย่างเข้าใจ สำหรับบางคนอาจจะเล่าทุกเรื่องได้ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะพูดไม่ได้เลยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกี่ยวกับเพื่อนคนนั้นโดยตรง

กันต์ยังคงยิ้มขณะมองสีหน้าอีกฝ่ายที่ยังคงแฝงไปด้วยความกังวลอยู่เล็กน้อย ถ้ามองในมุมของคนรู้จัก แจ็คก็เป็นคนดีเกินกว่าที่เขาจะเพิกเฉยไม่สนใจได้ ผู้ชายละเอียดอ่อนที่มักจะใส่ใจคนรอบข้างไม่ว่าจะเรื่องอะไร คนที่นึกถึงคนอื่นอยู่เสมอก็ควรมีความสุขบ้าง

“ถ้าผมพังเมื่อไหร่...”

“ผมจะถือแก้วกาแฟรอฟังคุณอยู่ตรงนี้”

“...”

“แต่คุณคงไม่พังอีกหรอก เพราะคุณเคยพังไปแล้ว” กันต์ยิ้มอย่างเข้าใจ “แต่ถ้าวันไหนคุณพังอีก ผมก็เชื่อว่าคุณจะประกอบมันใหม่ได้”

“ยอม วันนี้บอสหล่อจริง ๆ” แจ็คยิ้มขำ และคนถูกชมก็ทำท่ายืดอกภูมิใจกับเรื่องซึ่งมีเพียงเขาและอีกฝ่ายที่รู้กันแค่สองคน

“แจ็ค เพื่อนมาหาอีกแล้ว!!!”

“...”

“...”

ทั้งคู่สบตากันหลังจากได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอก กันต์ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าซึ่งมีท่าทีเลิ่กลั่กก่อนจะรีบออกไปหา ‘เพื่อน’ ที่ลงทุนมาถึงบริษัท

“บอกว่าถ้าถึงแล้วให้โทรมาไง”

“พอดีพี่ในทีมมึงบอกให้เข้ามาพร้อมกันได้ กูกลัวน้ำแข็งในชานมละลายก็เลยไม่ได้โทรขอมึงก่อน ทำไมวะ มึงจะโดนด่าเหรอ?” เท็นรีบแก้ตัวเพราะกลัวโดนดุ ก็รู้ว่าที่นี่เป็นที่ทำงาน แต่เขาก็เคยมาแล้วหลายครั้ง อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ถือวิสาสะเข้ามาเองด้วย

“แล้วนี่เอาอะไรมาแจกชาวบ้านอีก?” แจ็คมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ พอเป็นเรื่องนัดกินข้าวหรือนัดไปทำอะไรไอ้เท็นมันไม่เคยจะสาย มีแต่จะมาก่อนเวลาแถมมีอะไรติดไม้ติดมือมาให้คนอื่นอีกต่างหาก

“ซื้อมาฝากพี่ในทีมมึงไง ให้ไปแล้วส่วนนึงแต่พี่เอ๋ไม่อยู่เลยเหลือสองแก้ว”

“งั้นผมขอแก้วนึง” ทั้งคู่หันไปมองชายชุดสูทที่เข้ามาแทรกกลางพร้อมคว้าแก้วชานมไปเตรียมเจาะ แต่เท็นก็รีบคว้าเอาไว้ได้ทัน

“แก้วนี้ไม่ได้ครับพี่กันต์ หวานน้อยเอ็กซ์ตร้าไข่มุกของไอ้แจ็ค”

“...?”

“...”

เหมือนเวลาหยุดนิ่ง เท็นยิ้มเจื่อนพลางดึงหลอดจากมือเจ้านายเพื่อน ก่อนจะเจาะแก้วใหม่แล้วยัดใส่มือให้อย่างรู้งาน ก็รู้ว่ามันแค่ชานมไข่มุกที่ออกไปซื้อใหม่ก็ได้ แต่แก้วนี้ของไอ้แจ็คใครก็ห้ามมาแย่งไป โอเคนะ?

“ยังไงไอ้แจ็คยังไง ชีวิตนี้จะไม่พาสาวมาอวดกันเลยใช่ไหม โว๊ะ” เสียงรุ่นพี่แซวดังมาจากด้านข้าง แจ็คจึงทำมือปัด ๆ ขอให้เลิกพูดจาเลอะเทอะเสียที

“ก็มันบอกว่าถ้ามีเมื่อไหร่เดี๋ยวจะพามาโชว์ตัว นี่ก็รออยู่เด้อ”

“หรือว่าที่พามาบ่อย ๆ นี่?!”

“ไม่ใช่แค่เพื่อน?!”

“ไม่มีงานทำกันหรือไงหื้ม?” กันต์หยุดสงครามก่อนที่จะมีใครยิงปืนใหญ่ เขาไม่อยากให้แจ็คต้องอึดอัดเพราะเพื่อนร่วมงานแม้ว่าสิ่งที่พูดมาจะเป็นความจริง แต่พอหันไปข้างตัวก็พบว่า ‘สองเพื่อนสนิท’ ได้ปล่อยความผิดปกติออกมาอย่างชัดเจนโดยการใส่ใจกันและกันจนเกินเหตุ

“เออ กูเจาะเองได้”

“ยุ่งไร เดี๋ยวกูทำเอง กูเป็นคนซื้อมา”

“งั้นแดกแทนกูเลยไหม เคี้ยว ๆ แล้วกลืนลงไปให้หมดเลยนะ”

“ได้” เท็นงับหลอดแล้วดูดชานมอึกใหญ่พร้อมเคี้ยวโชว์ พอคนท้าเห็นว่าของอร่อยถูกเพื่อนชิงตัดหน้าชิมคำแรกไปจึงบีบกรามอีกฝ่ายจนปากจู๋

“เฮ้อออออออออออ หมั่นไส้จริง ๆ” เท็นขยับไปยืนข้างเพื่อนสนิทเมื่ออยู่ ๆ พี่กันต์ก็บ่นอุบอิบก่อนจะงับหลอดชานมแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานโดยทิ้งเขาไว้กับความสงสัยว่าหมั่นไส้นั่นคือหมั่นไส้อะไร

“เจ้านายมึงเป็นไรวะ?” เท็นดูดชานมอีกครั้งก่อนจะเกือบสำลักเพราะถูกเพื่อนแย่งแก้วไป

“ไม่รู้ น่าจะเป็นเรื่องต้องกินข้าวเที่ยงคนเดียว แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญแล้ว ก่อนอื่นจ่ายเงินกูมาห้าบาทค่าดูดชานม”

“เอ้า เงินกูซื้อไหมอะครับพี่” ดูมัน ยังมีหน้ามาแบมืออีก ขอบคุณสักคำก็ไม่มี

“เงินคุณแล้วไงอะครับ ผมจะเอา”

“อ้าว ร้องจังเลยอะ อยากได้นักก็เอาไป กระเป๋าเงินผมงอกเงินออกมาได้เองอยู่แล้ว” เท็นล้วงกระเป๋าเงินออกมาฝาดลงฝ่ามือไอ้ขี้งก

“เอ็กซ์ตร้าไข่มุกจริงเหรอวะ ทำไมได้นิดเดียว” แจ็คยกแก้วชานมขึ้นระดับศีรษะพลางก้มมองก้นแก้ว

“มันไม่นิดหรอก ตะกี้ผมดูดเยอะไปหน่อยว่ะ” ทั้งคู่เดินออกมาจากบริษัท ก่อนเท็นจะหยุดฝีเท้าบนขั้นบันไดเมื่ออยู่ ๆ ไอ้แจ็คก็หยุดเดินพร้อมรอยยิ้มแบบที่เขาไม่เข้าใจ

“แล้วดูดความคิดถึงผมไปด้วยเปล่าวะ ใจวูบวาบเลย”

“โห่ ไอ้ส้นตี๊น” เท็นมองไอ้คนพยายามหยอด เดี๋ยวสักพักมันจะเขินตัวเองเพราะเล่นมุกกะโหลกกะลาอะไรแบบนี้

เท็นคว้าข้อมืออีกคนให้เดินลงมาด้วยกันพร้อมแก้วชานมหวานน้อยที่คงเลี่ยนตายได้ถ้าดื่มเข้าไปตอนนี้ ก็แล้วอย่างไร สตรีมเกมอีกทีก็ตอนสองทุ่ม เล่นเกมไปก็แล้ว แต่เหมือนว่าเขาเอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับเวลาเที่ยงวันเพื่อที่จะได้ออกมากินข้าวกับไอ้แจ็ค

“เท็น”

“เออ”

ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนยังคงกังวลกับเรื่องที่คิดไม่ตก แต่พอได้เห็นหน้าไอ้เท็นใกล้ ๆ แบบนี้ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี แค่มันมาหาที่นี่ แสดงออกว่าการได้อยู่กับเขานั้นมันดีเสียยิ่งกว่าอะไร... วันนี้ก็กลายเป็นวันดี ๆ อีกวันแล้ว

“เปล่า แค่คิดถึงเฉย ๆ”




(จบครึ่งแรก)




ยังไม่ได้เทเรื่องนี้จ้า พอดีว่าเดือนที่แล้วกลับต่างจังหวัดด้วย แล้วพอกลับมาก็วุ่นวายหลายอย่างเพราะทำเรื่องย้ายที่อยู่ เพิ่งย้ายเสร็จเมื่อวานก่อน แต่กว่าจะเก็บของ จัดของให้เข้าที่ก็ลามมาหลายวันเรย ขอโทษที่ให้รอเด้อจ้า ครึ่งหลังจะรีบมาต่อไว ๆ นะคะ แต่อาทิตย์นี้กับอาทิตย์หน้าเราก็อาจจะยังยุ่ง ๆ อยู่เพราะติดธุระติดกันหลายวัน + กับต้องแพ็คน้องโซ่+บักแหลมรอบรีปริ๊นท์ส่งด้วย แต่เอาเป็นว่าจะพยายามไม่หายนานแร้ว

ส่วนเรื่องเปิดพรีเล่ม ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ เรายังไม่อยากรีบพรีตอนที่ยังไม่รู้จำนวนหน้า บวกกับช่วงนี้ยังยุ่ง ๆ เลยยังจัดการอะไรได้ไม่ดี เพราะงั้นรอก่อนเด้อออออออออออ นั่งอยู่ในโอ่งเย้นเย้นนนนนนนนนนน












หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 03-05-2019 20:23:48
โหย พอรู้ใจเข้าใจเปิดกันแล้วก็สาดโมเม้นกันไม่หยุดเลย >_<
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 03-05-2019 20:44:39
บอสเท่ มากค่ะ จับพิรุธ เก่งไปอีก
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ปานกลาง ที่ 03-05-2019 21:17:29
ชาไข่มุกหวานน้อยจริงเหรอค่ะ เลี่ยนมากกกก อิจฉาค่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 04-05-2019 00:25:43
บทนี้พี่กันต์หล่อมากจริงๆ สู้ๆนะแจ็ค
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2019 01:35:55
หวานใส่กันขนาดนี้เป็นใครก็ดูออกเถอะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 04-05-2019 01:52:46
โอ๊ยยยยย เขินนนนนน :o8:
คิดถึงด้วยคนนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 04-05-2019 07:34:56
นักอ่านที่เหลือเป็นไงกันบ้างทางนี่เตรียมเผาแล้วไปสู่ขิตแล้วค่ะ ..แม่จ๋าเน่ชอบกินชานมไข่มุกเอ็กตร้าหวานน้อยนะคะทำบุญไปให้ลูกที ฟินเวอร์รรรรรรร
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-05-2019 08:53:51
 :z1:


  :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 04-05-2019 13:47:35
หมั่นไส้ความขิงของบอส
แต่ไหนเลยจะสู้ความหวานของสองหนุ่มเขา แจ็ค&เท็น
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-05-2019 15:43:44
โอ๊ย

เบาหวาน

ขึ้นตา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 04-05-2019 17:30:38
บอสหนุ่มข้อย กลายเป็นชายกลางคนซะละ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-05-2019 21:11:22
เบาหวานขึ้นตา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-05-2019 09:25:09
จ้าาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: TeyJunson ที่ 06-05-2019 12:32:11
 :o8:รักบอสค่ะ 555 ชอบ ชานมไข่มุก  มันน่าจะหวาน แต่ไหงเลี่ยนอ่ะ อิจอย่างแรง  :katai1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 08-05-2019 01:10:32
 :jul1: หวานจังเลย
เพิ่งมาอ่านยิงรวดเดียวจนตามมาทันตอนล่าสุด
 ชอบมากๆๆๆๆ ชอบโมเม้นท์เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
ละก็มารู้ใจกันทีหลัง ฮึ่ยยยย !!!! ชอบ #แจ็คเท็น #เท็นแจ็ค  :ling1:

ว่าแต่ทำไมบอสกลายเป็นคนฮาแบบนี้ไปได้คะ ไอ่แหลมเมิงทำไรบอสสสสสส 555555
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: martiney ที่ 10-05-2019 18:05:14
รออ่านอย่างใจจดจ่อ   :mew6:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 17-05-2019 13:05:48
ตามมาจากสองแรกสนุกจ้าอย่าลืมกลับมาต่อด้วยนะ(ไม่กลับมาเดี๋ยวเทนะ) อยากเห็นมุมหลอดของแจ็คกับอยากเห็นคนสติแตกเพราะสองคนนี้รักกัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 17-05-2019 14:07:57
นักเขียนจ๋า มาต่อได้แล้วจ้า
คนอ่านรออยู่
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 20-05-2019 18:33:44
โอ้ยยย ไข่มุกหวานน้ำตาลข้นสุด รักทุกช่วงเวลาที่แจ็คเท็นอยู่ด้วยกัน

บอสนี่... กวนมากนะคะ อ่านไปแล้วนิ้วกระดิก อยากตียังไงก็ไม่รู้ล่ะค่ะ 555555

รอความบันเทิงในตอนต่อไปค่าาาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: martiney ที่ 21-05-2019 22:00:37
มาต่อเถอะน้าาาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 28-05-2019 22:30:56
 :z13: มาหรือยังน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (3/5/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Happyjanjii ที่ 02-06-2019 01:34:23
 :mew2:รอน๊า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 04-06-2019 20:56:51



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 21
คิดถึงเกินไป (PART 2/2)



Tina_00 บริจาค 100฿: ขออนุญาตโดเนทนะคะ ปล.วันนี้พี่แจ็คดูดีจังเลยค่ะ ใส่เสื้อสีเหลืองด้วย

คนถูกทักขณะสตรีมถึงกับชะงัก แจ็คมองกล้องเหนือจอคอมพ์ก่อนจะลดระดับสายตามองเสื้อยืดที่สวมอยู่ซึ่งแน่นอนว่าในตู้เสื้อผ้าเขาไม่เคยมีสีสว่างสดใสแบบนี้

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มกล่าวเหมือนทุกครั้งที่แฟนคลับโดเนทให้ เขาเลือกที่จะไม่พูดถึงว่าเสื้อสีเหลืองตัวนี้มาจากไหน แต่สุดท้ายเขาก็หลบหนีมันไม่พ้น

Miniicie: คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นพี่เท็นใส่เลย
Senpai_123: ผมกำลังจะซื้อเมาส์ใหม่ ช่วงใกล้จะปิดไลฟ์พี่แจ็คช่วยแนะนำรุ่นสำหรับเล่นเกม FPS หน่อยได้ไหมครับ?
Pondcool: บริษัทพี่แจ็คฝึกงานโหดไหมครับ ผมเห็นพี่แหลมรอดมาได้เลยว่าจะลองขอไปฝึกที่นั่นดูบ้าง
Maiden_: เสื้อใครไม่รู้ แต่ที่รู้คือหนูชอบเวลาพี่แจ็คใส่เสื้อสีอื่นนอกจากสีดำ 5555
Candybee: ไม่ได้ตามพี่เท็นก็เลยไม่รู้ว่าใช่เปล่า แต่พี่แจ็คอาจจะอยากเปลี่ยนสไตล์ก็ได้ ใครจะรู้ (แซวเล่นนะคะ)

ชายหนุ่มถูนิ้วชี้กับปลายจมูก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องตอบคำถามเกี่ยวกับไอ้เท็นซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนักสำหรับคนที่ทุกวันนี้แทบจะตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แจ็คคิดว่าแฟนคลับคงอยากรู้ว่าความจริงแล้วเรื่องราวเป็นอย่างไร ที่ทะเลาะกันตอนมอหกนั้นจริงแค่ไหน มันรุนแรงขนาดที่เคยตาต่อตาฟันต่อฟันกันบนเวทีรอบชิงงานปีก่อนแต่วันนี้เขากับไอ้เวรนั่นดันกลับมาสนิทกันเสียอย่างนั้น และที่คนให้ความสนใจมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งก็คงไม่พ้น

‘ถ้าพี่แจ็คกับพี่เท็นดีกันแล้ว แล้วพี่ธีร์ล่ะดีด้วยไหม ถ้าดีแล้วทำไมไม่เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันสามคนเลย แล้วถ้าไม่ยอมดีด้วย ตอนนี้พี่แจ็คกับพี่ธีร์อยู่กันยังไง?’

หลายครั้งที่เห็นคำถามในเว็บบอร์ดเกี่ยวกับเรื่องทีม ทั้งคนที่แค่ถามเพราะอยากรู้ และคนที่ปั่นกระแสให้กลายเป็นดราม่า

แจ็คไม่ชอบเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่อาจทำให้ปวดหัวในภายหลัง แต่คราวนี้คงอยู่เฉยไม่ได้ เขาควรให้ความสบายใจกับไอ้เท็น รวมถึงไอ้ธีร์ที่ตกเป็นประเด็นถูกพูดถึงจนอาจทำให้หัวใจไม่พอใจได้

จริงอยู่ที่ไอ้ธีร์เป็นคนค่อนข้างตายด้านกับดราม่า แต่ในฐานะเพื่อนสนิท แจ็คก็อยากเป็นคนจัดการทุกอย่างโดยไม่ส่งผลกระทบต่อมัน เขาอยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าต่อให้มีไอ้เท็นกลับมาในชีวิต เพื่อนคนนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม

“เสื้อไอ้เท็นแหละครับ ใส่กลับมาตอนไปค้างบ้านมัน”

Niim: ค้างด้วยง่ะ ._.
UnicornQQ: เห็นพี่กลับมาสนิทกันแบบนี้ เป็นไปได้ไหมครับที่พี่เท็นจะกลับเข้าทีมด้วย?

ยาก... เอาเข้าจริงแทบจะเป็นไปไม่ได้
ตราบใดที่ไอ้ธีร์ยังไม่ปล่อยวางเรื่องเมื่อตอนนั้น หรือไอ้เท็นที่ยังฝังใจว่าไอ้ธีร์เป็นคนปากร้ายแค่ไหน อย่าว่าแต่เล่นเกมด้วยกันเลย แค่มองหน้ากันเฉย ๆ โดยไม่มีใครพูดค่อนแคะก่อนก็ถือว่าดีมากโขแล้ว

“คงต้องไล่ไอ้แหลมออกจากทีมก่อนนั่นแหละไอ้เท็นถึงจะมีตำแหน่งให้ลง”

Joyly: อย่าทำแหลม 55555555555555555555555555555
YesterDAYll: ไล่มันออกเลยครับผมรำคาญเสียงมัน
ErikaJung: พี่แจ็คอย่าจุดธูปเรียกสิ เดี๋ยวผีจอย Discord เข้ามาด่านะ
Gokung: 55555555555555555555555555555

“อันนั้นล้อเล่น ใครจะไปกล้าไล่น้องรักหัวฝีหัวหนอง ส่วนเรื่องไอ้เท็นจะลงแข่งด้วยไหมคงไม่สำคัญแล้ว เพราะอย่างที่เคยบอกว่าผมกับทีมก้าวข้ามผ่านจุดที่อยากเป็นที่หนึ่งไปตั้งแต่ชนะครั้งแรก”
 
แจ็คเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งพลางมองไปยังรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่ใส่กรอบติดไว้บนผนัง วันนั้นซึ่งเขาจำได้ดีว่าทุกคนมีความสุขมากแค่ไหน รอยยิ้มของเพื่อนร่วมทีมที่เกิดขึ้นกับเรื่องเดียวกัน และชัยชนะที่ทำให้นึกย้อนกลับไปว่าทีมเล็ก ๆ ทีมนั้นก็สามารถก้าวไปถึงจุดนั้นได้ ขอแค่มีความพยายาม ความสามัคคี และไว้ใจกัน

เป็นอีกวันที่แจ็คจะจดจำเอาไว้ว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดอีกเรื่องที่เขาจะไม่มีวันลืม

“ทุกวันนี้ลงแข่งเอาฮา ชนะบ้างแพ้บ้างมันเป็นเรื่องปกติ พวกผมตั้งใจว่าจะเน้นความสนุกเป็นหลัก จะไม่เครียดเพราะซ้อมหนัก หรือป่วยไปเพราะเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนซ้อมจะไม่ได้พยายามเลยนะ ไม่รู้ว่ะ เอาเป็นว่าไอ้เท็นจะลงทีมด้วยไหมก็ไม่สำคัญแล้ว ทุกวันนี้ได้เล่นเกมด้วยกันมันก็สนุกดี”

Pongsathon: ถ้าเท็นไม่ได้ลงแข่งกับทีมคุณ แล้วเขาจะลงแข่งกับทีมอื่นไหมครับ?

“ผมตอบแทนไม่ได้ซะด้วยสิ เรื่องนี้คงต้องถามมันเองตอนสตรีม”

Bumbim: นึกว่าตอบแทนได้เพราะเปงแฟนกัน ._ .
UwUzz: โห ผู้กล้า...
Icezypink: เรายังไม่กล้าเล่มุกนี้เลย ถ้าโดนแอดมินแบนก็ขอไว้อาลัยล่วงหน้านะคะ
Bumbim: แซวเล่นค่าพี่แจ็ค อย่าแบนน้องน้าแง้
Plengna: 5555555555555555

ชายหนุ่มมองแชตที่กำลังคึกครื้น ปกติคนดูของเขาเคยแซวเก่งแบบนี้เสียที่ไหน ครั้งแรกมันเริ่มตอนที่ไอ้เท็นเสนอหน้าเข้ามาในกล้อง แล้วก็พูดจาบ้าบอคอแตกจนเหมือนละลายพฤติกรรมคนดูที่ไม่ค่อยกล้าเล่นอะไรกับเขามากนัก จากที่แชตไม่ค่อยลื่นไหลก็กลายเป็นกล้าพูดคุยมากขึ้นและเริ่มมีเรื่องให้แซว

“เดี๋ยวเถอะ”

Oleang บริจาค 100฿: พูดคำว่าเดี๋ยวเถอะแล้วทำสีหน้าแบบเมื่อกี้อีกทีได้ไหมคะ?

“ไม่ล่ะ”

Sandy_YY บริจาค 200฿: ขอโทษนะคะ แต่หนูอยากให้พี่แจ็คดุอีกจัง UwU

“ชอบก็ชอบ แต่หยุดโดเนทกันได้แล้ว ขนมไม่ต้องซื้อกินเหรอ?”

____Mint บริจาค 100฿: ก็ค่าขนมของหนูเป็นของพี่นี่คะ

“เหลือเก็บไว้จ่ายค่าเน็ตด้วยแล้วกัน พอถึงตอนนั้นมางอแงว่าไม่ได้ดูผมเล่นสดไม่รู้ด้วยแล้วนะ”

Honey_lu บริจาค 100฿: คิดซะว่าเป็นสปอนเซอร์เดทหน้าแล้วกันค่ะ เพราะตอนพี่ไปยุดยาด้วยกันพวกหนูไม่ได้ช่วยออก

Aoyly: เช้ดดดดดดดดดดดดดดด
BesideJack: วันนี้ตัวแทนหมู่บ้านเยอะนะคะ 5555555555555555
CoCo111: สงสารพี่แจ็คจังครับ พวกสาววายอย่างคลั่ง

เขาทำหน้าเนือยมองคนดูผ่านกล้องหวังจะให้หงอกันบ้างแต่ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะไม่ได้ผล เพราะแทนที่ผู้คนจะหยุดแต่กลับมียอดโดเนทเพิ่มมาเรื่อย ๆ ทีละห้าสิบบ้าง ร้อยนึงบ้าง ชักจะเริ่มป่วนเหมือนคนดูช่องไอ้ธีร์ ไอ้แหลมแล้ว

“ดื้อจังเลยพวกคุณ”

TEN1O บริจาค 1,000฿: ก็รู้ว่าทำหน้าแบบนี้แล้วสาวจะชอบแต่ก็ยังทำ คิดดูเอาแล้วกันครับว่าเจ้าของช่องนี้ขี้อ่อยไหม

“...”

เขามองข้อความโดเนทที่เด้งขึ้นมากลางจอก่อนคนดูจะฮือฮากันในช่องแชตอย่างสนั่นหวั่นไหว ช่องของ KSBjack เคยมีคนแห่เข้ามาดูกันอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้เสียเมื่อไหร่ หนำซ้ำไอ้เท็นยัง Host ช่องเขาไปเพื่อเรียกให้แฟนคลับช่องตัวเองมาดูช่องเขาอีกด้วย

Randy: TEN1O ช่วยออกไปหน่อยครับ จะดูพี่แจ็คเล่นเกม
Jeth5555: จริง ไม่รู้จะโผล่มาทำไม
Hana: แง ๆ ไม่บ่นกันนะคะ เห็นใจพี่แจ็คหน่อยน้า
UwUzz: เขาเพื่อนกันค่ะ
__Oat: ก็เข้ามาป่วนทุกทีอะ เหมือนอยากโชว์พาว
Pongsathon: แล้วมันต่างจากตอนธีร์เกมเมอร์มาโดเนทให้แจ็คตรงไหน อย่าอคติให้มันมากนักเลยครับ
Randy: ไม่รู้ดิ ผมเข้าช่องไหนก็อยากดูเจ้าของช่องนั้นเล่น ไม่ได้อยากดูคนอื่นมาหาซีน
Bumbim: แรงเกินไปมั้งนายยยย
Joyly: โอย ๆ ใจเย็นจ้า เดี๋ยวพี่แจ็คไม่สบายใจน้า T_T
ErikaJung: จริงค่ะ อยากให้พี่แจ็คหยุดสตรีมไปสอง-สามวันอีกเหรอ?
TEN1O: แค่แวะมากวนมันเฉย ๆ ไม่ได้จะอยู่นานขนาดนั้น เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว
Randy: แล้วไปได้ยัง?

แจ็คมองสถานการณ์ที่แย่ลงเรื่อย ๆ แต่ไหนแต่ไรช่องเล็ก ๆ ของเขานั้นสงบสุขไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แต่พักหลัง ๆ ก็เริ่มมีบ้างที่คนดูจะบ่นอุบอิบเวลาไอ้เท็นโผล่มา แต่นั่นก็เป็นเสียงส่วนน้อย แต่ก็ไม่คิดว่าเสียงส่วนน้อยในวันนั้นจะระเบิดออกมาเพราะทนไม่ไหวในวันนี้

Thr33Gamer บริจาค 1,111฿: ไปทะเลาะกันที่อื่นครับ ผมจะดูเพื่อนเล่นเกม

“...”

UnicornQQ: โดน
Hana: พ่อมา
Niim: ใจเย็นเด้อทุกคน พี่ธีร์โกรธแล้ว

“งั้นวันนี้พอก่อนดีกว่า ไว้เจอกันใหม่คราวหน้านะ”

แจ็คไม่ได้อยากหนีปัญหา แต่ถ้าขืนฝืนสตรีมต่อไปก็มีแต่จะเป็นเรื่องเปล่า ๆ ไอ้ธีร์จะพยายามปกป้องเขาแม้ว่าสุดท้ายแล้วคนที่จะโดนด่าก็คือตนเอง ส่วนคนดูก็คงแสดงออกว่าไม่ชอบไอ้เท็นเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าตนเองจ่ายเงินแล้วก็สามารถเลือกได้ว่าอยากเห็นอะไรหรือไม่อยากเห็นอะไร และสุดท้ายไอ้เท็นก็ต้องเก็บไปคิดมากโดยไม่ยอมเล่าให้เขาฟัง

jjack: ปิดคอมแล้วลงไปเล่นกับลูก เดี๋ยวอีก 15 นาทีโทรหา
TEN1O: อะไร กูโอเคนะ
jjack: อืมรู้ แต่ปิดคอมก่อน
TEN1O: แล้วทำอะไร 15 นาที ไปนั่งมองเพดานสงบสติอารมณ์เหรอ
TEN1O: กูไม่ได้ตั้งใจให้สตรีมมึงพังนะแจ็ค กูแค่อยากเข้าไปกวนตีนแล้วก็กลับไปเล่นเกม
jjack: ทำไมต้องแก้ตัวเหมือนคิดว่ากูจะไม่เข้าใจ?
TEN1O: ไม่รู้ กูทำตัวไม่ถูกแล้ว เมื่อกี้ลนเหี้ย ๆ
TEN1O: ความรู้สึกเหมือนพ่อแม่แฟนไม่ชอบขี้หน้ายังไงอย่างนั้น
jjack: ใครแฟนมึง?
TEN1O: หมายถึงเพื่อนครับ ผมพิมพ์ผิด

มีการส่งสติ๊กเกอร์น้ำตาคลอมาให้ จนถึงวินาทีนี้ก็ยังซ่าได้อยู่

jjack: สิบห้านาที ห้ามไปอ่านคอมเมนท์อะไรทั้งนั้น ถ้าอยากอ่านก็รออ่านพร้อมกัน เข้าใจไหม?
TEN1O: เออ รู้แล้วพ่อ
TEN1O: มึงเป็นห่วงกูกว่าที่กูเป็นห่วงตัวเองอีก 55555
TEN1O: มึงก็อย่าคิดมากล่ะ หลังจากนี้กูจะไม่เข้าไปเกรียนช่องมึงแล้ว คนดูจะได้ไม่โกรธ
jjack: เปลี่ยนจาก 15 นาทีเป็นชั่วโมงนึง
TEN1O: อ้าว ทำไมอะ?
TEN1O: กูพูดจริงนะ ไม่ได้ประชด ไม่ได้น้อยใจห่าไรเลย อย่าโกรธดิวะ
TEN1O: ชั่วโมงนึงนานเกินไปนะ นึกถึงใจคนคิดถึงมั่งดิสัด
jjack: กูไม่คุยตอนขับรถ จบนะ
TEN1O: ขับไปไหน
jjack: ไปหามึงไงควาย
TEN1O: อ้าว ก็ได้ดิงี้
TEN1O: 5 นาทีนะ มึงต้องมาถึงที่นี่ภายใน 55 นาทีอะ ถ้าช้าแม้แต่นาทีเดียวมึงจะกลายเป็นไอ้คนผิดสัญญาทันที
jjack: คิดถึงผมก็บอกมาเหอะครับ งอแงใหญ่
TEN1O: แล้วคุณมีปัญหาไหมล่ะครับ ผมก็คิดถึงของผมอะ
jjack: อาบน้ำตัวหอม ๆ รอเลย
TEN1O: มาอาบให้หน่อยดิวะ ผมขี้เกียจ
jjack: ยิ้มยัง?
TEN1O: ตั้งแต่วินาทีแรกที่มึงทักมาแล้ว

แจ็คหวังว่าไอ้เท็นจะยิ้มอย่างที่โม้ไว้จริง ๆ เขามองข้อความสุดท้ายที่ตอบกลับไปด้วยสติ๊กเกอร์ ก่อนจะกดโทรหาเพื่อนสนิทที่ป่านนี้คงหัวร้อนเพราะเห็นเขาเจอสถานการณ์อย่างนั้น

( เออ )

“ไง? 1,111 บาทที่โอนมานี่จะให้กูพาไปกินอะไร?” ไอ้ธีร์ไม่ได้ตอบโต้อย่างกวนประสาทเหมือนทุกครั้ง แจ็คได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจ และเขาพร้อมจะรอฟังถ้าหากเพื่อนอยากใช้เวลาไปกับความเงียบสักหน่อย

( ขอโทษว่ะ กูไม่น่าทำแบบนั้นเลย )

“ขอโทษทำไม เมื่อกี้มึงอย่างหล่อเลยนะ”

( หล่อเชี่ยไรล่ะ พอเป็นแบบนั้นคนดูอาจจะพาลโกรธมึงไปด้วยก็ได้ กูน่าจะสงบสติอารมณ์หน่อย อย่างน้อยการยิงมุกแบบฉลาด ๆ ก็อาจทำให้สงครามหยุดลงได้ )

แจ็คยิ้มบาง ๆ พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง วันนี้ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมจนมองไม่เห็นกลุ่มดาวเหมือนอารมณ์ของเขาและไอ้ธีร์ในตอนนี้ไม่มีผิด

“กูแคร์คนดูนะ แต่มึงก็อย่าลืมว่ากูก็แคร์มึงเหมือนกัน”

( เออรู้ แต่กูก็ไม่ควรทำแบบนั้นถูกไหม ตอนนี้กูโคตรหงุดหงิด ไม่อยากไปวอแวโซ่เพราะน้องอ่านหนังสืออยู่ ทำไมกูจัดการตัวเองไม่เก่งเลยวะ? )

“ใครมันจะไปเก่งทุกเรื่อง แต่ไอ้เมื่อกี้น่ะช่าง ๆ มันไปเถอะ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล”

( บอกตัวเองเหอะ ตัวเครียดเก่งเลยมึงอะ )

ไอ้ธีร์ถอนหายใจแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง

“กูไม่มีทางโกรธเจตนาดีของมึงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไร”

( ทุกเรื่องเลยเหรอ? )

“อืม รวมถึงเรื่องไอ้เท็นด้วย” เขาว่า “มึงคงมีอะไรในใจหลายอย่างที่ทั้งพูดไปแล้ว แล้วก็ที่ไม่อยากพูดใช่ไหม?”

( เออ แต่กูไม่พูดหรอก กูอยากเป็นเพื่อนที่มึงคิดว่าเลือกไม่ผิด ไม่ใช่ได้คำว่าเพื่อนมาเพราะเรียนที่เดียวกัน )

“ไอ้อย่างหลังมาจากไหน กูไม่เคยมีเพื่อนแบบนั้น”

( อย่ามา มึงโอเคแน่นะที่กูทำตัวกะโหลกแบบนั้น กูเฟลจริงอะ กลัวมึงต้องแดกยาเพราะกดดันอีก )

“เลอะเทอะ กูเลิกแดกยาไปนานแล้วมึงก็รู้ อีกอย่าง เรื่องที่เป็นอยู่ก็ไม่ได้รุนแรงต่อใจกูอะไรขนาดนั้น กลับกันกูดันแฮปปี้ที่เห็นมึงดิ้นแทน”

( แล้วไอ้เท็นเป็นไง แม่งก็รู้ว่าเข้าไปดูมึงแล้วจะโดนด่าก็ยังเสนอหน้าโดเนท )

“นั่นสิ ถีบสั่งสอนเลยดีไหม?”

( อย่า ถ้ากูทำจริงมึงจะเป็นคนแรกที่ร้องไห้เพราะทนดูไม่ได้ )

“โหดMAXอะครับเพื่อนผม”

( กูขอหมัดเดียวไอ้เท็นได้ร่วงไปจูบรากมะม่วงแน่ )

“เก็บมือมึงไว้เจ็บตอนเขกกะโหลกไอ้แหลมเถอะห่า”

( ทำไม กลัวไอ้เท็นตายคามือกูสินะ )

ไอ้ธีร์แค่นหัวเราะ

( กูโอเคแล้ว ขอบใจที่โทรมาเช็กอาการ )

“เรื่องธรรมดา” แจ็คกล่าวอย่างไม่ยี่หระ หนักกว่านี้ก็เคยรับมือมาแล้ว ไอ้ธีร์ตอนก่อนโน้นน่าปวดหัวกว่านี้ร้อยเท่าเลย

( หลังจากวางสายกูแล้วมึงจะทำไรต่อ สตรีมหรือนอน? )

“กูว่าจะไปหาไอ้เท็นหน่อย”

( ก็ตัวติดกันเกิ๊น... หรือว่ามันรู้สึกแย่จนมึงต้องรีบไปกอดไปโอ๋เหมือนตอนมัธยม? )

“เปล่าเลย กลับกันแล้วไอ้เท็นยังทำตัวปัญญานิ่มเพื่อให้กูสบายใจด้วยซ้ำ”

( เหอะ เดี๋ยวนี้อัปเกรดแล้วสิ ก็อย่างว่าล่ะนะ มันคงรู้แล้วว่าการแสดงความงี่เง่าออกมาแบบชัดเจนเหมือนตอนนั้นมันไม่ได้ผลแล้ว โดยเฉพาะตอนอายุใกล้สามสิบ )

“มึงน่ะอคติ”

( ก็กูมองมันดีกว่านี้ไม่ได้ เคยคิดจะพยายามแล้วครั้งนึง แต่พอคิดอีกทีก็ไม่เอาดีกว่า ความหลังมันฝังใจ )

“ทุกคนมีข้อดี ข้อเสีย เคยทำตัวไม่ดีก็ปรับปรุงตัวได้ ซึ่งมึงก็ทำให้ทุกคนเห็นมาแล้วมึงน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใคร”

( โอเค ไอ้เท็นอาจจะปรับปรุงตัวเพื่อมึง แต่กูก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าสักวันหนึ่งมันกลับไปทำเหมือนเดิมแล้วจะเป็นยังไง )

“คิดเผื่ออนาคตเป็นเรื่องดีนะธีร์ แต่กูก็ไม่อยากมานั่งหวาดระแวงว่าใครจะหักหลังกูวันไหน เพราะตลอดเวลาที่อยู่กับมึงกูก็ไม่เคยคิดแบบนั้น”

( โธ่แจ็ค มึงอย่าใสได้ไหม ไอ้เท็นมัน -- )

“กูว่ามันก็ป่วยเหมือนกัน”

( ...หะ? )

ไอ้ธีร์เงียบไปหลังจากที่ถูกเขาโต้กลับด้วยประโยคเมื่อครู่ แจ็คถอนหายใจกับเรื่องที่เขาไม่รู้ว่าจะได้ผลไหมถ้าหากเล่าให้คนที่มีอคติคับใจฟัง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นไม้ตายสุดท้ายแล้วที่สร้างความหวังว่าไอ้ธีร์อาจจะยอมอ่อนลงบ้างหลังจากได้ยินเรื่องต่อไปนี้

“จากอาการของมันกูคิดว่าใช่”

( ... )

“มันถูกด่ามากกว่าเราตอนลงแข่งรอบนั้นเป็นร้อยเท่า ธีร์ ไอ้เท็นต้องใช้ชีวิตอยู่กับคำพูดแย่ ๆ ทุกวันโดยที่มันไม่มีใครรับฟังความรู้สึกมันเลย แม้แต่คนที่เรียกว่าเพื่อนในวงการเกมก็เทมัน เพราะคนพวกนั้นเลือกเกาะกลุ่มเดียวกันมากกว่าจะยื่นมือมาช่วย”

( ก็เป็นสิ่งที่มันทำตัวเองไม่ใช่หรือไง? )

“ใช่ แต่กูขอถามมึงหน่อย” แจ็คถามวัดใจ “ว่าถ้ากูเป็นแบบนั้น มึงจะเลือกยืนฝั่งตรงข้ามกูหรือว่าจะอยู่ตรงนี้ด้วยกัน?”

( เปรียบเทียบกันได้ที่ไหน มึงไม่ได้เป็นคนหักหลังเพื่อนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้วเปล่าวะ? )

“มันผ่านไปแล้วธีร์ ตอนนี้ไอ้เท็นมันได้รับบทลงโทษที่โคตรสาสมแล้ว มันนอนไม่หลับ พอหลับก็สะดุ้งตื่นทุก ๆ สองชั่วโมง ไม่มีบ้านเพื่อนให้ไป ไม่มีทีมให้อยู่ คนดูส่วนใหญ่ก็ทิ้งมัน มึงคิดว่าคนที่เจอเรื่องแบบนั้นทุกวัน ๆ มันจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไหม?”

( ... )

“จากคนที่ไม่เคยแคร์ห่าอะไร ทุกวันนี้มันกลายเป็นคนกังวลกับทุกอย่างว่าคนนั้นคนนี้จะโกรธไหมกับสิ่งที่มันทำ”

( ... )

“บางคนรู้ตัวว่าป่วยถึงได้ไปให้หมอรักษา แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองป่วยล่ะ?”

คนปลายสายยังคงเงียบ แจ็คคิดว่าตอนนี้ไอ้ธีร์คงพูดไม่ออกกับสิ่งที่คนอย่างเขาพ่นออกมาไม่หยุด หรือไม่มันอาจจะกำลังพยายามคิดตามบ้างสักนิด

“กูถามไอ้ธีร์คนนั้น คนที่มันเคยยิ้ม เคยหัวเราะกับไอ้เท็น ตอนที่ทุกคนยังมองเห็นกันและกันเป็นเพื่อน”



*



“ขับมอ’ไซค์มาไม่ดูฟ้าฝนเลย”

เท็นมองคนตรงหน้าที่ตัวเปียกโชกจนต้องรีบไปเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้ พี่ซันกับมูนก็เหมือนกัน เห็นพ่อหมายเลขสองตัวเปียกแบบนี้ก็กลัวจะไม่สบายจึงรีบมาดูใกล้ ๆ ไอ้แจ็คเอาแต่จ้องหน้าเขา เหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็คงเลือกเก็บไว้ในใจ ซึ่งเท็นก็ไม่อยากรบเร้าขอให้เล่า

“รถยนต์มีก็ไม่ขับ หรือถ้าขี้เกียจขับทีหลังก็บอกดิ มึงก็รู้ว่ากูพร้อมจะไปหาที่บ้านอยู่แล้ว”

“รถมันติด ขับมอเตอร์ไซค์ไวกว่า” ไอ้แจ็คตอบแค่นั้นแล้วปล่อยให้เขาเช็ดผมให้ “อีกอย่างกูก็ไม่อยากรอด้วย”

“แต่กูรอมึงได้งี้เหรอ?”

“ก็รอไปแล้วนี่ มาเร็วกว่าที่บอกไว้ตั้งเจ็ดนาทีด้วย ว่าได้ที่ไหน?”

“มึงซิ่งมากูรู้ ถนนลื่น ๆ งี้รถล้มขึ้นมาจะทำไง?” ไม่เคยห่วงใครเรื่องอุบัติเหตุกระทั่งมาเจอไอ้เชี่ยนี่ คนห่าอะไรชอบทำให้เป็นห่วง

“ถ้าไม่ตายก็นอนพักฟื้น ส่วนมึงก็คงไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลเพราะทนละสายตาจากกูไม่ได้”

“เออ มึงพูดถูก เพราะงั้นช่วยห่วงตัวเองหน่อยได้ไหมล่ะ กูไม่ชอบตัวเองเวลากระวนกระวายใจโดยเฉพาะเรื่องของมึง”

จากที่เคยทำหน้าหงอยก็เริ่มยิ้มออกมาได้ แจ็ครู้สึกดีเหลือเกินกับการเลือกมาที่นี่มากกว่าจะนอนก่ายหน้าผากกับเรื่องที่เกิดขึ้นในสตรีมและตอนคุยโทรศัพท์กับไอ้ธีร์

“หิวเปล่า เดี๋ยวต้มมาม่าให้”

“กอดกูก่อนได้ไหม เรื่องอื่นค่อยว่าทีหลัง” เท็นไม่อยากเชื่อเลยว่าคนตรงหน้าจะมองมาพร้อมอ้าแขนออกอย่างออดอ้อนแบบนั้น

“...เอาเรื่องเว้ย” พอจะเข้าไปกอดไอ้คนที่งุ้งงิ้งเมื่อครู่ก็ถอดเสื้อออกเหมือนกลัวว่าเขาจะเปียกไปด้วย เท็นยิ้มขำกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่รู้ว่าจะใจเต้นแรงหรือเป็นห่วงไอ้เวรนี่ดี “อย่าทำแบบนี้ตอนสตรีมนะ ถอดซ่งถอดเสื้องี้ไม่ได้”

“ทำไม หึงเหรอ?”

“มาก” เท็นตอบอย่างไม่โกหก “หัวนมมึงกูมองได้คนเดียว”

“ถ้าถอดออกได้กูจะให้มึงเก็บไว้ตรงหัวเตียงเลยเท็น” คนถูกแขวะยิ้มกว้างพร้อมทำท่าจะบีบหัวนมแต่มือไอ้เชี่ยแจ็คเสือกไวกว่า มันปิดหัวนมตัวเองไว้พร้อมส่ายหน้าอย่างรู้ทัน

“หลังจากนี้กูจะไม่ไปกวนมึงตอนสตรีมแล้ว จะไม่มีใครต้องเซ็งเวลาเห็นชื่อกูอีก มึงก็จะได้ไม่ต้องเครียดเวลาคนดูโวยวายด้วย เพราะงั้นสบายใจได้แล้วนะ” เท็นเกาคางเพื่อนสนิท เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะสบายใจขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของเขา

“ต้องรักกูมากแค่ไหนถึงยอมกันได้ขนาดนี้วะ?”

“อย่ามาหลอกให้พูด เพราะกูจะไม่ลั่นคำนั้นออกไปเด็ดขาด”

“นิดนึงก็ไม่เลยเหรอ?” เขาว่าไอ้แจ็คกำลังแกล้งทำตาใสออดอ้อนซึ่งเอาเข้าจริงแล้วเหมือนคนกำลังอ้อนตีนมากกว่า

“เออ มึงก็ห้ามพูดเหมือนกัน”

“ว่าเหตุผลมา” ไอ้แจ็คพูดพร้อมถอดกางเกงออกจนเหลือแต่บ๊อกเซอร์ที่เปียกชุ่มไม่แพ้ยีนส์ตัวเก่งของมัน

“เดธแอร์ตายห่า มึงคิดว่าการดึงเข้าสู่สถานการณ์ปกติหลังจากพูดแบบนั้นมันง่ายเหรอ แค่บอกว่าคิดถึงมึงกูก็หน้ามืดแล้ว”

“แต่คำนี้กูพูดได้โดยไม่เขินนะ เพราะกูน่ะคิดถึงมึงเหี้ย ๆ”

“โห เหี้ย ๆ เลยนะแจ็คนะ” เท็นหรี่ตามองไอ้หล่อที่กำลังยิ้มกว้างซึ่งเขามั่นใจว่าน้อยคนนักที่จะเคยเห็นมุมนี้

“เดี๋ยวกูอาบน้ำเสร็จแล้วมาทำมาม่ากินด้วยกัน มึงว่าไง?”

เท็นได้แต่พยักหน้าแล้วยืนโง่หลังจากถูกไอ้แจ็คจูบแก้มจนหน้าโยก อะไรของมันวะ วันนี้ถึงเนื้อถึงตัวจัด หรือว่านี่เป็นวิธีปลอบใจตัวเองหลังจากเซ็งคนดูในสตรีม?
 


*



ทั้งคู่กินมาม่าแล้วเล่น PS4 ด้วยกันเหมือนทุกครั้งและพูดคุยเรื่องปัญญาอ่อนด้วยกันโดยไม่สนใจอายุ กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงตีหนึ่งจึงพักสายตาด้วยการเข้าห้องนอน

Derya MK12: ตอนนี้พี่เท็นอาจจะรู้สึกไม่ดีอยู่ แต่โซ่แค่อยากบอกว่าวันนี้พี่เท็นสุดยอดเลยนะครับ
Derya MK12: การห้ามตัวเองไม่ให้ตอบโต้มันคงเป็นเรื่องยากมาก แต่พี่เท็นก็ทำแบบนั้น ซึ่งโซ่ไม่รู้ว่าพี่เท็นทำเพื่อหยุดดราม่า หรือเพราะเป็นห่วงพี่แจ็ค (เพราะโซ่ก็ห่วงเหมือนกัน)
TEN1O: พี่แค่ไม่อยากให้ใครมาด่าไอ้แจ็คเพราะพี่ มันก็เท่านั้น
Derya MK12: ครับ เหตุผลแค่นั้นของพี่เท็นมันมีค่ามากจริง ๆ
Derya MK12: โซ่จะนอนแล้วนะครับ
Derya MK12: ขอให้ฝันคืนนี้ไม่ใจร้ายกับพี่เท็นนะ ราตรีสวัสดิ์ครับ ^^

เท็นยิ้มบาง ๆ พลางส่ายศีรษะกับข้อความที่คุยกันไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เด็กนั่นยังคงเป็นพลังบวกเสมอ แม้ว่าจะไม่ได้สนิทกัน ไม่ได้อยู่ทีมด้วยกัน แต่โซ่ก็ยังแวะเวียนมาแสดงความเป็นห่วงอยู่เรื่อย ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้รู้สึกห่างเหิน

ขณะแปรงฟันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ไอ้แจ็ค พอออกไปด้านนอกก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดเพราะมันเลือกเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อให้เขาได้ยินด้วย

( กูไม่รู้จะทำไงแล้วว่ะแจ็ค กูเก็บเรื่องนี้มาทั้งวัน จะเล่าให้ไอ้ธีร์ฟังก็กลัวมันเซ็ง )

“ปฏิเสธไปไม่ได้เหรอ?”

( กูก็ปฏิเสธทางอ้อมแล้วเพราะไม่อยากให้ใครต้องอึดอัด แต่พี่ต๋องอยากให้เราไปเที่ยวทริปนี้จริง ๆ ประมาณว่าอยากได้รูปไปลงโซเชียลว่า เออ เพราะงานแข่งการกุศลรอบนั้นของเขานะที่ทำให้มึงกับไอ้เท็นกลับมาคุยกันได้จนถึงทุกวันนี้ )

“ความจริงไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้นี่ ถ้าพี่ต๋องอยากได้รูปเราก็แค่นัดกินข้าวก็ได้”

( คงคิดว่าแบบนั้นมันจัดฉากได้ไง แต่ไปทะเลน่ะของจริง )

“กูไม่อะไรนะพี่ตั้บ ไอ้แหลมก็คงเหมือนกัน ส่วนไอ้เท็น...” ไอ้แจ็คหันมามองเขาเหมือนอยากได้คำตอบ

คนที่เตรียมตัวพร้อมนอนได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงปลายเตียงขณะทบทวนกับตัวเองว่าควรทำอย่างไรดี พี่ตั้บก็เป็นอีกคนที่ถูกเขาหักหลัง แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ออกอาการเท่าไอ้ธีร์ แต่คนมีความผิดติดตัวคนนี้ก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่พี่ตั้บจะหายโกรธแล้ว

ไอ้แจ็คยื่นมือมาราวกับว่าจะมอบความมั่นใจให้ เท็นกังวลเหลือเกินกับความรู้สึกผิดในใจ ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากพูดว่าขอโทษมากกว่าให้คำตอบเรื่องพี่ต๋อง

“พี่ตั้บ”

( ... )

นั่นไง... ตอนนี้อีกฝ่ายคงกำลังถอนหายใจหรือกลอกตามองบนเพราะได้ยินเสียงเขา

“ผมยังไงก็ได้พี่ เอาที่ทุกคนสะดวกเลย”

ไอ้แจ็คกุมมือเขาพร้อมสอดประสาน ชั่วอึดใจหนึ่งเท็นนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่จำเป็นต้องร่วมทีมกับเหล่าขี้ซุยบราเทอร์เพื่อแข่งการกุศล ตอนนั้นเขาแทบไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร และมันน่าตลกดีที่ตอนนี้คนอย่าง TEN1O พร้อมจะยอมทำทุกอย่างถ้ามันแลกมากับความสบายใจของทุกคน

“ถ้าพี่ต๋องกดดัน เดี๋ยวผมหาวิธีแกล้งป่วยได้พี่”

เขาไม่อยากเป็นตัวปัญหาจนถูกเกลียดซ้ำ ๆ อีกแล้ว

( ไอ้เท็น )

“...อือ”

( บอกตามตรงว่าใจกูยังมีขุ่นอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับไอ้ธีร์ของกูมันยังจางกว่ามาก กูไม่ได้รังเกียจการหายใจใกล้ ๆ มึง มันไม่มีอะไรแย่ขนาดนั้นหรอก เออ ตามนั้น )

“...”

( เพราะงั้นปัญหาตอนนี้อยู่ที่ไอ้ธีร์ ซึ่งกูไม่รู้ว่ามันจะคิดยังไงถ้ามึงจะไปด้วย อย่างมันน่าจะเนียนหนีทหารได้เพราะตอนที่ทุกคนลงแข่งมันบวชอยู่ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นกูก็กลัวมันนอยด์แดกเงียบ ๆ )

“ผมไม่ไปคงดีกว่า ขอบคุณนะพี่ แล้วก็ขอโทษสำหรับทุก ๆ เรื่องเลย”

( อะไรของมึงวะ ถ้ากูไม่โทรมามึงเคยคิดจะเข้ามาขอโทษกูด้วยตัวเองไหม? )

“...” เท็นหันไปทำหน้าหงอใส่คนข้าง ๆ ซึ่งกำลังกลั้นขำที่เขาถูกพี่ตั้บดุ “ผมมันป๊อด พี่ก็รู้”

( กูไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละห่า สรุปยังไงแจ็ค มึงจะไปคุยกับไอ้ธีร์เองหรือว่าให้กูไปคุย? )

“เดี๋ยวกูจัดการเอง”

( ใช้คำว่าจัดการเลยนะ ) เสียงเมียพี่ตั้บแทรกเข้ามาในสาย

( หรือเราควรพึ่งไอ้โซ่วะ ไอ้ฉิบหายเอ๊ย กูปวดหัวจริง ๆ )

แจ็คเงียบระหว่างประมวลผลความเสียหายที่จะเกิดขึ้นถ้าหากว่าทีมเขารับปากทริปสร้างภาพของพี่ต๋อง ก่อนจะมองหลังมือตนเองที่ถูกคลึงเบา ๆ โดยคนข้างตัวซึ่งกำลังมองมาเหมือนอยากบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’


ใช่ งานนี้จะต้องไม่มีใครเป็นอะไร
หรือถ้าจะมี... ก็ให้มันเป็นครั้งสุดท้าย
จะเจ็บก็เจ็บหนัก ๆ ครั้งเดียวไปเลย
เพราะทุกคนเหนื่อยกับปัญหาเรื้อรังจากอดีตเต็มทีแล้ว


“กูว่าเราควรพึ่งกันและกัน”




TBC



หายไปนานจริง ๆ หายไปแพ็คน้องโซ่กับบักแหลมรอบรีปริ๊นท์ส่ง แล้วก็มีอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้เขียนไม่ออก แง้ ขอโทษด้วยนะคะ ตอนหน้าน่าจะจบแล้ว หรือถ้ามันยาวไปเราก็อาจจะหั่นเป็นสองตอน แล้วก็จะมีสเปอีก 1 ตอนให้อ่านในเว็บนะคะ ส่วนอีก 4 ตอนอ่านในเล่มจ้า

วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. นี้เราไปงาน BL Market อยู่บูธ D6 นะคะ เอาน้องโซ่กับบักแหลมไปขาย ใครขี้เกียจรอรอบสต๊อกหรือพรีไม่ทันก็ไปสอยในงานได้เลยจ้า






หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-06-2019 21:47:47
ทุกอย่าง​ต้อง​ผ่าน​ไป​ด้วยดี​
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-06-2019 22:22:47
อย่าพึ่งจบได้ไหม อยู่ให้หนุ่ม ๆ ทะเลาะกันอีกนิดหน่อย ชุ่มชื่นหัวใจ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 04-06-2019 22:25:59
 :ling3: สู้ไปด้วยกันนะ แจ็ค เท็น
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 04-06-2019 23:05:20
แจ็คเท็นอยู่ด้วยกัน หวานกันตลอดเลย ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ ไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านแจ็คเท็นอีกเยอะๆ รอแจ็คเท็นรวมเล่มนะคะ หวังว่าคงมีตอนพิเศษแถมให้ถ้ามีรวมเล่ม
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 04-06-2019 23:48:03
เรื่อง มันผ่านมาแล้ว
คำนี้มันปลดล็อกอะไรหลายๆอย่างได้จริงๆ
ใครปล่อยวางได้ก่อนก็สุขก่อน
อยากให้พี่ธีร์ทำได้ไวๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: GDNEE ที่ 05-06-2019 01:34:42
ฮือออ พี่ธีร์​หนูเข้าใจความรู้สึกพี่นะ แต่พี่เท็นก็ได้รับบทเรียนแล้วจริงๆ ทั้ง10ปีที่ผ่านมาด้วย แล้วทั้งตอนที่รู้ความจริงจากแฟนเก่าพี่แจ็ค​ด้วย 10 ปีนี่มันไม่ใช่น้อยๆเลยกับการที่ระหกระเหิน​อย่างนั้นอะ ฝั่งพี่ธีร์​ก็เหมือนกันรู้ทุกอย่างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้พูดก็ไม่ได้ แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วมันก็ผ่านไปแล้ว อดีตมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับผลที่มันเกิดขึ้น พี่แจ็ค​เก่งมากอะที่ปล่อยวางได้ขนาดนี้ ด้วยนิสัยด้วยแหละ เรื่องที่ผ่านมาของพี่แจ็ค​ไ่ม่ใช่น้อยๆเลย สุดยอดมาก ยิ่งพอนึกถึงตอนที่พี่เท็นรู้เรื่องทุกอย่าง แล้วพี่แจ็ค​ขี่รถไปหายิ่งทำให้รู้เลยอะว่าพี่แจ็ค​ไม่ได้โกรธอะไรพี่เท็นเลย คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดจริงๆ เพราะพี่แจ็ค​ไม่ยอมบอกเอง อีกคนก็ไม่ถาม ไม่สืบ ไม่เสาะ แต่มันก็ทำให้เรื่องมันดำเนินมาในทางนี้นี่เนอะ สุดจัดปลัดบอกจริงๆ รอตอนต่อไปนะคะ :mew1:
ปล. บอสนี่ก็สมกับเป็นบอสจริงๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 05-06-2019 08:06:14
ขอผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 05-06-2019 08:17:26
เป็นธรรมดาของที่คนมีปัญหาที่เรื้อรังมานานยากที่จะเข้าใจกัน เข้าใจนะเพราะก็เคยเป็นจากที่เป็นเพื่อนกันดีๆแต่มีปัญหากันรุนแรงถึงจะเคลียร์กันแล้วแต่ทุกวันนี้เจอกันก็แค่ทักทายกันเฉยๆเหมือนมันไม่สนิทใจเหมือนตอนที่ดีกัน เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านมันไปได้ด้วยดี สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 05-06-2019 12:16:04
แฟนคลับพี่แจ็คทำไมร้ายกาจ

เขาไม่เรยทะเลาะกะเพื่อนเหรอ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 06-06-2019 14:49:00
รู้สึกสึกถึง ความละโมบของตัวเองตอนเห็นคำว่า tbc อยากเสพตัวอักษรอีกเยอะๆ จังเลยค่ะ แง~~~~

พักหลังหลังที่อ่านญอผู้หญิงโศการู้สึกได้ว่าจะกินมาม่าบ่อยขึ้น อ่านแล้วต้องลุกขึ้นไปต้มมาม่ากินโดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์กินเกือบทุกสัปดาห์เลยค่ะ เนี่ย ป่วยอยู่บ้านอยู่ดีๆ คอมเม้นท์เสร็จก็ได้เมนูของมื้อที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้เลยล่ะค่ะ ฮื้อออ อินแรงมาก

ในพาร์ท 2/2 นี่รู้สึกหลายอารมย์จังเลยค่ะ ทำให้เขินๆ ฉากที่ 'เพื่อน' เขาอยู่ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างฮีลจิตใจให้กัน
ไหนจะฉากที่ทำให้รู้สึกแย่ตามไปด้วยจากคอมเม้นท์แย่ๆ ในช่องแชท
น้ำตาไหลในตอนที่แจ็คคุยกับธีร์เรื่องที่คิดว่าเท็นก็มีอาการป่วยแบบเดียวกับแจ็ค และตอนพี่ตั๊บได้คุยตรงๆกับเท็นพร้อมกับคำขอโทษที่น้องมันพูดกับพี่
อีกทั้งความน่ารักตลอดกาลของน้องโซ่~

อารมย์หลากหลายโหนไปมาภายในไม่กี่นาทีนี่เองค่ะ 55555555
รอตอนจบที่ยังไม่อยากให้จบนะคะ (/เดินไปตั้งหม้อเตรียมนำ้ ต้มมาม่ากิน)
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 06-06-2019 16:40:03
แล้วมันจะผ่านไป

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน21 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (4/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 07-06-2019 13:21:01
เห็นใจแจ็คกับเท็นมากๆ สู้นะคะทั้งสองคน  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 07-06-2019 21:16:35



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 22
กุญแจสำคัญ (PART 1/2)





เท็นใช้เวลาไปกับการนอนคิดตลอดทั้งคืนว่าจะรับมือกับทริปเที่ยวทะเลสร้างภาพที่ใกล้จะถึงนี้อย่างไร เขาโอเคถ้าให้แกล้งนั่งยิ้มแล้วจับนู่นนี่กินเป็นตัวประกอบฉากขณะคนอื่น ๆ พูด แล้วก็ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้คนดูมากหลายเข้าใจว่าปัญหารุงรังที่ลากยาวมาสิบเอ็ดปีมันถูกแก้ไขแล้วเพราะแข่งงานการกุศลคราวนั้น

เข้าใจดีเรื่องภาพลักษณ์องค์กรหรือหน้าตาในสังคมของผู้ใหญ่ รวมถึงสิ่งที่จะทำให้ผู้คนพอใจ ซึ่งเอาเข้าจริงเท็นคิดว่าคนดูอาจจะไม่ได้อยากเห็นซีนเขากอดคอดื่มเหล้ากับไอ้ธีร์ หรือระเบิดหัวเราะเพราะได้ยินมุกตื้น ๆ ของตัวโจ๊กประจำทีมอย่างไอ้เด็กฝรั่ง ทุกคนอยู่ในสังคมแบบไหนเท็นรู้ดี มันคือสังคมที่ผู้คนหลงใหลในดราม่าและความสะใจมากกว่าจะยินดีกับมิตรภาพที่เคยทำหายไป

ถ้าเป็นคลิปเขากับไอ้ธีร์แหกปากทะเลาะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แบบนั้นน่าจะทำยอดวิวได้เยอะกว่าแบบนี้เป็นไหน ๆ เลย

แต่ถ้ามองอีกแง่พี่ต๋องก็คงมีความหวังดีอยู่ในแผนการตลาด แกคงอยากจับเขาใส่ตะกร้าล้างน้ำเผื่อว่าคนที่เกลียดจะแปรเปลี่ยนมาเป็นแฟนคลับได้ ซึ่งมันก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในวงการโซเชียลมาแล้ว สำหรับคนที่เคยปากร้ายแต่สุดท้ายถ้ายอมขอโทษแล้วบอกว่า ‘สำนึกผิดแล้วครับ’ ยอมให้สังคมด่าต่ออีกสักหน่อยเดี๋ยวคนก็ให้อภัยแล้ว

พูดอย่างมั่นใจว่ามันต้องส่งผลดีต่อเขา ก็เล่นปูทางให้สร้างภาพเสียขนาดนี้เห็นทีว่าคงต้องปลอมกันทั้งรายการ หลังจากถ่ายคลิปเสร็จค่อยแอบไปกระดกเหล้าเพียว ๆ สักอึกใหญ่ย้อมใจทีหลังเอา

‘ทุกคนพร้อมให้อภัยกันได้เสมอ ถ้ามีน้ำใจนักกีฬา’

ภาพมโนช่างสวยงาม ความจริงเป็นอย่างไรจะให้ปล่อยตามยะถากรรมก็คงไม่ได้ ถ้าไอ้ธีร์ตอบตกลงไปด้วยนั่นคือปัญหาใหญ่กับการปั้นหน้ายิ้ม หรือแสร้งหันไปคุยกันเหมือนเพื่อน ซึ่งเรื่องยากที่สุดก็คงเป็นการห้ามปากไม่ให้ตอบโต้กลับถ้าหากมันเริ่มค่อนแคะประชดประชัน

แต่ถ้ามันไม่ไปด้วยก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องดีไหม เพราะอย่างไรเสียคนในโซเชียลก็คงอยากให้มันเข้ามานั่งเผชิญหน้ากับเขาบ้างหลังจากเห็น TEN1O มีกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนในทีมครบทุกคนแล้ว


‘ไอ้ธีร์มันจะไปด้วย’

นั่นไม่ได้เกินความคาดหมาย และเท็นคิดว่าเขาน่าจะพร้อมกับการรับมือเพื่อนเก่าคนนี้



*



“อะไรนะ?”

“พี่ต๋องส่งตากล้องมาเอง พวกมึงเอาของไปเก็บในบ้านเลย”

ธีร์ขมวดคิ้วจ้องหน้าเพื่อนสนิท ก่อนจะเหลือบไปยังชายหน้าหนวดสองคนที่ยืนสะพายกล้องอยู่ใกล้ ๆ รถตู้ซึ่งทางผู้ใหญ่ใจดีก็ช่างจัดหามาให้

“เดี๋ยวกูเอาไปเก็บเอง พวกมึงตกลงกันเลยว่าจะเอาไง เดี๋ยวขึ้นรถแล้วจะเตี๊ยมไม่ทัน” พี่ตั้บรับขาตั้งกล้องเข้าไปเก็บในบ้านบอสซึ่งเป็นอีกแลนด์มาร์คหนึ่งของทีม

“มึงโอเคไหม กลับตอนนี้ยังทันนะ อ้างว่าติดธุระหรือป่วยกะทันหันก็ได้” แจ็คเป็นห่วงเพื่อนเพราะเขาไม่อยากให้ไอ้ธีร์ต้องไปนั่งทนกับการถูกถ่ายทำตลอดเวลาโดยไม่รู้ว่าส่วนไหนจะถูกตัดไปใช้บ้าง

“กูแค่หงุดหงิด พี่แกชักจะเอาใหญ่แล้ว ได้คืบเอาศอกเหรอ ไหนตอนแรกบอกให้พวกเราถ่ายกันเองไงวะ?” ธีร์บ่นอย่างอดไม่ได้ คนบางคนก็ใช้ความเป็นผู้ใหญ่มาเอาแต่ใจจนไม่คำนึงถึงความรู้สึกเด็ก

“ตากล้องบอกว่ามันมีเรื่องคำถามจากคนทางบ้านด้วยน่ะครับ อีกอย่าง พี่ต๋องอยากได้มุมดี ๆ เพราะถ้าถ่ายกันเองในเฟรมต้องมีคนหายไป” โซ่เป็นคนอธิบายเรื่องที่ตากล้องได้แจ้งทันทีที่มาถึง

“นั่นไง เริ่มมีคำถามละ กูว่าต้องมีขยี้” ธีร์แค่นยิ้มพร้อมหายใจเข้าลึก ๆ

“ถามอีกครั้งว่าไหวไหม?” แจ็คยืนกอดอกมองเพื่อน

“ไม่ไหวก็แย่แล้วครับพี่ กูโอเคกับทุกดราม่านะ แต่กูไม่ชอบการถูกถามเรื่องที่ไม่อยากพูดถึง ซึ่งกูมั่นใจว่ามันต้องมีคำถามพวกนั้น”

“มองแง่ดี พี่ต๋องอาจจะกรองคำถามมาอย่างดีแล้วก็ได้นะเว้ย” วันนี้แหลมขอโลกสวยสักหน่อย

“แหม พี่แกเล่นจัดทริปมัดมือชกแบบนี้ มึงยังคิดอีกเหรอว่าจะได้นั่งริมหาดล้อมกองไฟอย่างสบายใจ” ไอ้ธีร์พูดมาก็ถูกทั้งหมด

“พี่ธีร์น่าจะตอบคำถามดราม่าได้นะครับ แต่ที่โซ่กังวลก็คือถ้าเจอคำถามชวนหัวร้อนพี่ธีร์จะเก็บอาการได้ไหม?” เด็กเด๋อถาม และทุกคนก็พร้อมใจกันตอบว่า

“ไม่ได้”

“ใจจ้า” คนเป็นหัวหน้าทีมมองค้อนเพื่อนผองและน้องนุ่งที่ยืนทำหน้าเหมือนอยากบอกว่าไม่ได้ล้อเล่น

“เดี๋ยวโซ่ไปนั่งข้าง ๆ พี่เท็นแล้วกันครับ พอพี่ธีร์หัวร้อนจะได้หันมาเจอหน้าโซ่”

“อันนี้อ้อนอยู่ถูกปะ?” ธีร์มองแฟนเด็กอย่างเอ็นดู แล้วเด็กเด๋อก็ยิ้มพร้อมพยักหน้า
 
“ถ้าบอกว่าได้ผลกูจะอ้วกจริง ๆ ด้วย” แจ็คหรี่ตาดูอาการเพื่อน และไอ้คนหลงแฟนก็ทำตัวปัญญาอ่อนขึ้นมาทันที

“พร้อมยังพี่?!”

“เออแป๊บนึง!” ธีร์ตะโกนบอกตากล้องที่พร้อมจะเก็บทุกอย่างไปตัดต่อ ไม่ว่าจะเป็นซีนเลิ่กลั่กหรือซีนประดิดประดอยที่เขากับไอ้เท็นจำเป็นต้องทำถ้าหากว่าบังเอิญหันหน้าไปเจอกัน

ตอนนี้ไอ้เท็นนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงม้านั่งตรงสวนหน้าบ้าน เด็กเด๋อที่เป็นห่วงทุกคนในโลกจึงเดินไปหาอย่างรู้งาน และชวนคุยแบบที่เขานึกไม่ออกว่าเป็นเรื่องอะไร

“เอาคนมาตามถ่ายแบบนี้เราคงขอคลิปไปตัดต่อเองไม่ได้” แจ็คส่ายศีรษะ เนือยกับความผิดแผนที่เกิดขึ้น

“แกก็คงอยากได้ซีนหลุดปากพูดด้วยแหละกูว่า” ธีร์มองไปยังใครอีกคนที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมบทสนทนาครั้งนี้ ซึ่งจังหวะนั้นไอ้เท็นก็หันมาสบตากับเขาเช่นกัน

“กูเริ่มสงสารมึงขึ้นมาแล้วพี่ธีร์ เพราะมึงคงเป็นคนเดียวที่ต้องกัดฟันขมิบดากไม่ให้ลุกไปง้างขาหลังเตะปากพี่เท็น” เพราะถ้าถ่ายกันเอง เดือดดาลแค่ไหนก็ยังตัดออกจากคลิปได้ แต่ผู้ใหญ่ใจดี๊ใจดีก็ดันส่งใครไม่รู้มาให้ เกิดตัดต่อให้คลิปกลายเป็นไฟคนที่จะฉิบหายก็คงไม่พ้นแชมป์มีประเด็นสังคมอย่างพี่ธีร์กับพี่เท็น

“เออ กูจะพยายามแล้วกัน” หัวหน้าทีมกล่าวพร้อมสีหน้าเหนื่อยล้าต่อโลก

“แล้วจะเอายังไง?” พี่ตั้บถามสรุปให้ และไอ้ธีร์ก็จ้องมองไปยังไอ้เท็นที่กำลังมองมาทางนี้เช่นกัน

“อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด”



*


ระหว่างทางไอ้ธีร์ถูกปลุกให้มาตอบคำถามโง่ ๆ ที่ตากล้องบอกว่ามันเป็นส่วนสั้น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในคลิปเท่านั้นเพราะพาร์ทสำคัญอยู่ตอนรอบกองไฟ ในทีแรกสีหน้ามันค่อนข้างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะแสร้งบิดขี้เกียจแล้วเข้าโหมดกวนตีนได้อย่างที่เคยทำมาตลอด

ไอ้เท็นก็พยายามได้ดีสำหรับการตอบคำถามพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่วันนี้ต้องยก MPV ให้ไอ้โซ่ คนกลางที่พยายามหล่อเลี้ยงสถานการณ์ไว้ด้วยการช่วยเขากับพี่ตั้บแบกไอ้เท็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชวนคุยหรือพยายามดึงให้ตากล้องสนใจตนเองทั้งที่ปกติเด็กคนนี้ไม่เคยทำ

ไปถึงที่พักก็บ่ายกว่า ๆ ทางผู้ใหญ่จัดที่นั่งวิวดีในร้านอาหารไว้ให้และการนั่งกินก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องเก็บภาพเคลื่อนไหวไว้เพื่อเอาไปประกอบคลิป ดังนั้นช่วงเวลาที่ไม่ต้องตอบคำถามโง่ ๆ พวกเขาจึงได้หายใจหายคอกันโล่งหน่อย

หลังจากกินข้าวเสร็จก็มีสัมภาษณ์เดี่ยวเกี่ยวกับเกมที่ชอบในตอนนี้ จะเป็นเกมไหนก็ได้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเกมที่ต้องแข่ง มีหลายเกมที่น่าสนใจแต่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เท็นจึงใช้โอกาสนี้แนะนำแต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนชอบมันหรือไม่

พอสัมภาษณ์เสร็จจึงพาตัวเองออกมาข้างนอก เขายังพอมีเวลาเดินถ่ายรูปริมหาดเล่นขณะที่เหล่าขี้ซุยฯ ถูกกล้องจับจ้องอยู่ เอาเข้าจริงวันนี้ก็ไม่ได้แย่แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าดี ที่บอกว่าไม่แย่เพราะเขากับไอ้ธีร์ยังไม่ทะเลาะกันจนถูกนำไปตัดต่อให้เกิดประเด็น และการที่เขาอยู่คนเดียวตรงจุดนี้ก็ให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ

“เท็น”

เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก เขาเลิกคิ้วมองใครอีกคนที่กำลังถ่ายรูปเขาด้วยกล้องฟิล์ม ก่อนจะลดมือลงพร้อมยิ้มบาง ๆ

“สัมภาษณ์เสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม” แจ็คเดินตรงมานั่งบนชิงช้าไม้ตัวเดียวกัน เขาจึงขยับชิดขอบให้ “แซงคิวพี่ตั้บมา สุดเปล่าล่ะ?”

“คนอย่างมึงเนี่ยนะจะแซงคิวใคร เป็นห่วงกูก็บอกมาเถอะน่า”

“ก็พูดไป ผมรีบเพราะอยากถ่ายรูปเล่นกับคุณหรอก” ไอ้แจ็คไม่พูดอย่างเดียว มันยกกล้องขึ้นอีกครั้งแล้วกดชัตเตอร์ใส่หน้าเขาตอนจังหวะทีเผลอ “ทำหน้าแบบนี้ รูปออกมาหน้าเหี้ยแน่นอนครับ”

“ผมเคยบอกคุณยังว่าเทพบุตรส่งผมมาสู้กล้องทุกตัวบนโลกใบนี้?” เท็นเสยผมพลางลูบปลายคางเป็นท่าประกอบตอนไอ้แจ็คทำท่าจะถ่ายรูปอีกครั้ง แต่มันก็กวนตีนหันกล้องใส่หน้าตัวเอง เขาจึงรัดคอมันจนร้องเสียงหลง

“อะ... โอ๊ย!”

เท็นยิ้มขำกับทุก ๆ อย่างที่อีกฝ่ายเป็น ณ ตอนนี้ ถ้าไอ้แจ็คบอกว่าได้ยินเสียงความเหงาจากใจเขาที่มันตะโกนเข้าไปในบ้านพักก็คงเชื่อ แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าเหงาอีก เท็นได้แต่ยิ้มโง่ ๆ โดยหาเหตุผลมาแถไม่ถูกว่าเพราะอะไรเขาถึงมีความสุขเสมอเมื่ออยู่กับคน ๆ นี้

“ถ้าพวกไอ้ธีร์รู้ว่ามึงพูดงี้ได้นะ”

“โดนล้อยันเข้าโลง เผลอ ๆ เปิดฝาโลงมาล้อต่อด้วย”

ทั้งคู่หัวเราะกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มันพิเศษสำหรับเท็นเหลือเกิน แน่นอนว่าไอ้แจ็คตอนเป็นคนสดใสน่ะดีกว่าตอนเงียบขรึมเป็นไหน ๆ เพราะอย่างน้อยสิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออกมาก็ทำให้เท็นรู้ว่าอาการซึมเศร้าไม่ได้ถือมีดจ่อคอมันขณะที่เขานั่งอยู่ข้าง ๆ แบบนี้

และพอมาคิดดูอีกที... การอยู่ที่นี่มันก็ไม่ได้เหงาอะไรขนาดนั้นนี่นะ...

“กูไม่ได้ไปไหน รู้ใช่ไหม?”

“อืม”

“จะอยู่ข้าง ๆ ตลอดเลย อย่าคิดว่ากำลังอยู่ตัวคนเดียวล่ะ”

มันจะมีอะไรดีไปกว่าการมีใครสักคนเข้าใจโดยที่เขาไม่ได้พูด เท็นยิ้มพลางพยักหน้า ปล่อยให้มืออุ่น ๆ ของคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทลูบศีรษะเบา ๆ แล้วลืมตากวาดดูรอบข้างว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือไม่ ก่อนจะเป็นฝ่ายกุมมือแจ็คเอง

“นึกถึงตอนไปทะเลตอนมอห้าว่ะ”

“หลังกีฬาสีเหรอ หรือว่าตอนไอ้นายอกหัก?” แจ็คมองเสี้ยวหน้าคนข้าง ๆ ซึ่งกำลังมองเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่แกล้งเพื่อนด้วยการรวมใจกันอุ้มไปโยนลงน้ำ

“ทุกครั้งเลย”

เสียงหัวเราะเด็กเหล่านั้นดังมาถึงตรงนี้ วูบหนึ่งเขามองเห็นเงาตนเองและเพื่อนสมัยมอปลายทุกคนที่เคยใช้เวลาอยู่ร่วมกัน มันเป็นวันหยุดสั้น ๆ แต่ก็ทำให้อิ่มเอมใจกับคำว่ามิตรภาพเหลือเกิน

แจ็คค่อย ๆ สอดประสานเรียวนิ้วกับคนข้างตัว เขาเผลอคิดแทนไปว่าอนาคตของเด็กเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร เจ็ด-แปดคนนั้นจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหมหากเข้าสู่วัยใกล้สามสิบ?

“คิดอะไรอยู่?” แจ็คถามโดยไม่หันไปมองคนข้าง ๆ เท็นเงียบไปนาน อาจจะสักเกือบนาที แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ยอมให้คำตอบกับเขา

“คิดว่าเมื่อก่อนทำอะไรลงไปบ้าง”

เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเท็นก็ตระหนักได้ ว่าตั้งแต่ประถม มัธยม มหาลัย จนถึงตอนนี้ที่ทุกช่วงเวลานั้นมันช่างต่างกันเหลือเกิน ตอนประถมเท็นเป็นเด็กรวยคนหนึ่งที่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ มีเพื่อนเล่นด้วยกัน แต่พอขึ้นมอต้นเขาก็ถูกกลั่นแกล้ง

มอปลายเหมือนจะดีแต่ก็แย่เสียอย่างนั้น ส่วนมหาลัยคงไม่ต้องพูดถึง ทุกอย่างล้วนจอมปลอม ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาเองหรือเพื่อนที่เรียนด้วยกัน

เท็นพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ตนเองคิดว่าต้องการ ทั้งที่ความจริงแล้วทุกอย่างมันว่างเปล่า ทั้งจับต้องไม่ได้และทำให้นึกเสียดายเวลา

“มีแต่เรื่องร้ายแรงแบบที่ถ้าเจอเองกับตัวก็ไม่รู้ว่าจะให้อภัยได้ไหม กูเคยทำเรื่องน่าอายมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งเรื่องคิดเอาชนะไอ้ธีร์จนลืมไปว่าต่อให้ชนะได้จริง ๆ กูก็ไม่ได้มีความสุขอะไรขนาดนั้น แล้วก็เรื่องไปจำแนวเล่นโปรต่างชาติเพราะอยากชนะพวกมึง ตอนนั้นให้เหตุผลห่วยแตกกับตัวเองว่า ‘ก็กูไม่มีเวลาซ้อมเหมือนพวกมึง ก็แก้ปัญหาด้วยทางลัดนั่นแหละ’”

“อย่างน้อยมึงก็ลอกเก่ง”

“มึงด่ากูด้วยใช่ไหม กูรู้”

“ไม่แรงหรอก วางใจได้” สิ้นสุดคำพูดไอ้แจ็คทั้งคู่หลุดขำอีกครั้ง

“การให้อภัยคนอื่นมันเป็นยังไงวะ มันโล่งอก มันสบายใจมากหรือเปล่า กูเคยคิดว่าคนบางคนที่เคยให้อภัยคนอื่นก็เพราะว่าเขาไม่อยากเป็นคนใจร้ายในสายตาใคร ๆ” เท็นหันไปถามคนข้าง ๆ

“มันก็คงมีคนแบบนั้นอยู่จริง แต่คนที่ให้อภัยเพราะอยากปลดล็อกความรู้สึกตัวเองก็มี” แจ็คมองหน้าเท็น “อย่างพี่ตั้บก็ไม่ได้ให้อภัยมึงเพราะเห็นแก่หน้ากูหรอกนะ แต่เป็นเพราะมันไม่อยากเอาเรื่องนั้นมาทำให้ตัวเองไม่สบายใจอีก ‘โกรธมึงแล้วได้อะไร?’ มันว่าอย่างนั้น อีกอย่างพี่ตั้บก็เป็นพ่อคนแล้ว มันอยากเป็นตัวอย่างให้ลูกในทุก ๆ เรื่อง”

“แล้วมึงล่ะ ทำไมถึงให้อภัยกูง่ายกว่าคนอื่นเขา”

“ให้พูดตอนนี้จะดีเหรอ?” เท็นคงกลั้นยิ้มกับคำตอบไม่ได้หรอก บอกตามตรงว่าเขาชอบเหลือเกินตอนไอ้แจ็คพูดอ้อมโลกแต่ก็คือการหยอดให้คนฟังชอบใจ

“งั้นรอเมาก่อนก็ได้” เท็นกระชับมืออีกฝ่าย ถ้าไม่ติดว่าเด็กกลุ่มนั้นอยู่ใกล้ เขาจะจับมือมันขึ้นมาจุ๊บจนกว่าจะเขินเลย

“กลัวไม่ได้พูดน่ะสิ”

“ไม่พูดแล้วจะทำอะไร แดกปากกูหรือไง?” เท็นเลิกคิ้วถาม

“เออ แดกจนกว่าจะปากแตกเลย” สีหน้าไอ้แจ็คตอนนี้โคตรน่ามันเขี้ยว ทำไงดี มือเขามันชักจะอยู่ไม่สุข อยากจับคนมาจูบ มากอด แล้วก็หอมแก้มแม่งจนกว่าจะร้องขอให้หยุด หรือไม่ก็ชิงกัดปากมันก่อนที่มันจะแดกปากเขา

“ที่นี่สวยดีนะ ถ้ามีเวลาก็อยากจะมาอีก”

“เอาสิ ชวนแม่กับน้อง” ทั้งคู่ไกวชิงช้าเบา ๆ ก่อนไอ้แจ็คจะหันมาหรี่ตามองเขา

“ใครเขาจะชวนพ่อแม่ มึงนี่นะ”

“อ้าว แล้วผมจะรู้ไหมล่ะครับ ถ้าคุณอยากให้ผมเข้าใจก็พูดมาตรง ๆ เลยว่าอยากมาทะเลกับผมสองต่อสอง”

“เออ ผมอยากมาเดินเตะทรายเก็บปูเสฉวนกับคุณสองคนน่ะ มันได้ไหมล่ะครับหรือต้องขออนุญาตคนดูในสตรีมคุณก่อน?” ไอ้แจ็คเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม มองเขาเหมือนคาดคั้นเอาคำตอบ

“ที่นี่มีปูเสฉวนที่ไหน มั่วว่ะ”

“เตะเปลือกหอยให้บาดตีนเล่นก็ได้นี่ครับ คุณก็เรื่องเยอะจังเลย” สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็หวงไม่อยากให้ใครเห็นไอ้แจ็คมุมนี้ แต่อีกใจก็อยากให้ทุกคนในโลกเห็นกับตาว่ามันทำแบบนี้กับเขาคนเดียว

“กี่คืนอะครับ พาลูกผมมาด้วยได้เปล่า?”

“คุณอยากอยู่กี่วันเดี๋ยวผมลางาน ส่วนเรื่องลูกผมอนุญาต” ทั้งคู่ยิ้มขำก่อนจะเอนศีรษะชนกัน

“คืนนี้มันจะต้องออกมาดีใช่ไหมวะแจ็ค?”

“ดีสิ”

เจ้าของชื่อตอบเพียงเท่านั้น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วถอยหลังออกไปห่าง ๆ เพื่อให้ได้มุมที่ทำให้ TEN1O ดูดีมากที่สุด เขายกกล้องขึ้นเตรียมถ่ายคนที่ยังนั่งอยู่บนชิงช้า และไอ้เท็นก็โพสต์ท่าแบบที่ทำให้เขาอยากเก็บรูปเหล่านี้ไว้คนเดียว

“ยังไงก็ต้องดี กูเชื่ออย่างนั้น”

เท็นรู้สึกได้ว่าความจริงน่าจะสวนทางกับคำพูดไอ้แจ็ค เพราะคงมีคำถามโลกแตกอีกมากมายที่ตากล้องเก็บไว้ยิงเขาในค่ำคืนนี้

กับคำถามที่เท็นบังเอิญเห็นในกระดาษที่ตากล้องเผลอวางไว้



คำถาม 5 : ในอนาคตวางแผนไว้อย่างไร ธีร์จะพาทีมไปในเส้นทางไหน?
คำถามจากคนดู (เรียบเรียงคำพูดให้ดีก่อนอัดวิดีโอนะ) : เท็นรู้สึกยังไงตอนทิ้งเพื่อนไปอยู่ทีมอื่น?




(จบครึ่งแรก)




โอ้เมื่อมีไฟไฟไฟลุกขึ้นแจ่มจ้าาาาาาา
ตอนต่อไปจะมาเร็ว ๆ นี้น้า ส่วนวันอาทิตย์นี้หนูเอาน้องโซ่กับบักแหลมไปขายงาน BL Market นะจ๊ะ อยู่ถึงบ่ายสามจ้า ใครจะมาสอยสองเล่มนี้ก็มาเด้อ





หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-06-2019 22:21:25
ตากล้องมาถ่ายทางนี้ มีคนแอบสวีตกันสองคนจ้า เรื่องทะเลาะอะไรนั่นมันเอ้าท์แล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 07-06-2019 23:17:03
 :hao6: ตากล้องเก็บภาพหวานๆ ไปลงคลิปด้วยนะ
เราจะรอดู
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 07-06-2019 23:55:26
ทำไมการคุยด้วยคำว่า คุณ กับ ผม ของแจ็คกับเท็นถึงดูน่ารักจังเลย

ตอนหน้า หวังว่าทุกอย่างระหว่างเท็นธีร์จะผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 08-06-2019 00:20:10
แงงงงงงงง คำถามส้นตีนมากเด้อ เกลียด
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-06-2019 01:22:20
จะมีใครเห็น​ไหม​นะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-06-2019 01:54:49
หวานกันจนทะเลจืดดด
ส่วนคำถามก้นะ เหมือนจะแทงกันให้ตายอะ
แต่เท็นก้จะได้โอกาสเปิดใจจริงๆซะที
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 08-06-2019 07:55:25
 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 08-06-2019 12:13:23
คำถาม นี่เพิ่มความแรงของคนไหมนาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 08-06-2019 12:39:59
สังคมบนโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่ชอบเสพย์ดราม่า

เท็น เกียมคำตอบอย่างไรไว้หนอ T T
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 10-06-2019 08:27:46
โอ้ยยยย อยากจะรู้ว่าตอนนี้น้ำทะเลตรงที่ทั้งคู่อยู่รสชาดมันจะเป็นยังไงหรือคะ เค็มไหม หรือว่าหวานจนต่อมรับรสมันเพี้ยนไปหมดแล้วอ่ะคะะะะะ

ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็ยังอยากบอกอยู่เสมอ ว่าชอบตอนที่แจ็คและเท็นอยู่ด้วยกันแบบนี้ คุยเล่นกวนกันไปเรื่อยๆ สักพักก็หยอดๆ จีบๆ กันไปมาให้ทั้งตัวเองและอีกฝ่ายได้เขินแบบไปไม่เป็น มันดจีย์~ กับหัวจิตหัวใจมากจริงๆ เลยนะคะ

รอคอยตอนจบที่ยังไม่อยากให้จบนะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-06-2019 09:50:53
ต้องมีตากล้อง1คนมาถ่ายภาพเก็บใว้แล้วแน่ๆ

เพราะช่างภาพมา2คน

คนนึงอยู่กับกลุ่มพี่ธีย์

 อีกคนต้องแฝงในเงามืดข้างชิงช้าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 10-06-2019 15:46:06
ตอนนี้เห็นใจเท็นมากๆ เอ็นดูไปหมด เท็นคือลูกรักไปแล้ว

เราว่าที่เท็นเป็นแบบนั้น เพราะไม่มีคนให้ปรึกษา ไม่มีคนคอยห้าม หรือเตือนสติ

ทั้งตอนเด็กที่อยู่กับแจ็ค เราไม่อยากว่าแจ็คนะ แต่ที่แจ็คทำ ที่ทิ้งเพื่อนไปหาแฟน

ที่บอกว่าทิ้งเพราะ ตอนที่อยู่ด้วยกันคือแชร์กันทุกอย่าง ตัวติดกันตลอด แจ็คคือที่ยึดเหนี่ยวของเท็น

แต่เท็นกลับไม่ได้เป็นที่ยึดเหนี่ยวของแจ็คอ่ะ พอมันเวลาหายไป แค่นิดเดียวก็รู้สึก

และมันเฟลมากๆ (อินมากเพราะเคยเป็นแบบนั้น)

อะไรหลายๆอย่างมันหล่อหลอมให้เท็นเป็นแบบนั้น

เราไม่โทษเท็นเลยที่ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป

แต่ตอนนี้ เราว่าสถานการณ์มันเลวร้ายกับเท็นเกินไป

ช่วยให้เท็นหลุดจากความรู้สึกแบบนั้นทีนะแจ็ค  :กอด1:

ปล.สู้ๆน้าคนเขียน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (1/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (7/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 11-06-2019 22:06:26
หวานแล้วก็เตรียมตัวรับความวุ่นวาย ลุ้นไปด้วยกันจ้า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 13-06-2019 18:47:20


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 22
กุญแจสำคัญ (PART 2/2)



แจ็คพยายามคิดว่าทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี แต่สายตาของเขาก็เอาแต่จับจ้องมองคนที่นั่งถัดจากพี่ตั้บ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นห่วงไอ้เท็นจนแทบไม่หลงเหลือสมาธิไปใส่ใจปาร์ตี้รอบกองไฟปลอม ๆ

ตรงนี้คงมีแค่ไอ้แหลมที่ดูปกติถ้าไม่นับตากล้องอีกสองคน ส่วนคนอื่น ๆ ก็เรียกได้ว่าฝืน ไอ้ธีร์ถูกถามโง่ ๆ ว่า ‘ที่เลิกกับแฟนเป็นเพราะเกมหรือเปล่า ได้ข่าวว่ามีมือที่สาม เป็นเรื่องจริงไหม?’

‘เอาจริงนะ ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าผมจะไม่มีวันโทษเกม มันคนละเรื่องกันเลย’

แน่นอนว่ามันกลัวไอ้โซ่ไม่สบายใจ แต่ไอ้ธีร์ก็ลืมไปว่าแฟนมันเป็นเด็กดีและเข้าใจอะไรได้ง่ายเกินกว่าจะมาหงอยเพราะคำถามที่รู้ดีว่าจงใจปั่น

‘หัวหน้าทีมผมไม่เชี่ยอย่างที่ใคร ๆ คิดหรอกนะครับ’
‘จริง เพราะเชี่ยได้มากกว่านั้น’
‘ผ่ามพาม!’

พอเห็นว่าแฟนเด็กยิ้มให้เป็นการบอกว่าไม่เป็นไร ไอ้ธีร์จึงเก็บสีหน้าไว้ได้พร้อมตบมุกไอ้แหลมกับพี่ตั้บ ซีนนี้คงเอาไปใส่ซาวด์เอฟเฟ็คฮา ๆ ได้

คำถามผ่านไปหลายข้อมีทั้งคำถามที่เข้าหูและที่ชวนให้ขมวดคิ้ว อยากเคืองพี่ต๋องแต่ก็เข้าใจว่าพี่แกคงคิดไปเองว่าทุกคนกลับมาเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจแล้ว ความจริงเป็นอย่างไรมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลี่ยงที่จะพูดถึง

‘พี่เท็นรู้สึกยังไงกับกระแสโซเชียลที่มาทางแง่ลบมากกว่าบวก’

ยังเป็นคำถามที่พอตอบได้ ตอนนั้นไอ้เท็นยังคงปกติดี วูบหนึ่งแจ็ครู้สึกเหมือนได้เห็น TEN1O คนนั้น คนที่ตอบโต้ได้อย่างฉะฉานโดยไม่แคร์ใคร ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงคิดว่านั่นเป็นนิสัยของมันคนใหม่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เพราะแจ็ครู้ดีว่าที่ไอ้เท็นเป็นอยู่ก็แค่พยายามเข้มแข็งเพื่อไม่ให้คนอื่นพบจุดอ่อนเท่านั้น

‘ปกติครับ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ผมบังคับให้ทุกคนมารักไม่ได้นี่นะ’

เขาเห็นว่าไอ้ธีร์เบ้ปากนิด ๆ

“พี่แจ็คคิดยังไงกับทีมตัวเองครับ แบบว่าอยากลาออกจากงานไปเป็นนักกีฬาเต็มตัวไหมถ้ามีต้นสังกัดใหญ่ติดต่อมา?” คำถามแบบนี้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย

“ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกทุกคนอยากอยากเป็นจริง ๆ แต่บ้านเรายังไม่ได้สนับสนุนตรงนี้มากเลยทำให้ทิ้งงานประจำหรือการเรียนไม่ได้ หลังจากแข่งทัวร์นาเมนท์ใหญ่จนได้แชมป์ก็เกิดคำถามว่าความจริงแล้วทุกคนต้องการอะไร พวกเราอยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเต็มตัวจริง ๆ หรือเปล่า?”

เขาเว้นจังหวะไป เอาเข้าจริงแจ็คก็อยากจะให้คำตอบนี้ยืดเวลาคลิปเพื่อกินเวลาคำถามไร้สาระข้ออื่น

“พวกเรารักที่จะอยู่ตรงนี้ แต่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเต็มตัวก็ยังไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคน ตอนแรกมีแค่ไอ้ธีร์คนเดียวที่พร้อมเพราะมันว่างงาน”

“ว่างไรครับ กูสตรีมทุกวันเหอะ” คำตอบของหัวหน้าทีมเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง

“พี่ตั้บเลี้ยงลูก ดูแลร้านเกม ส่วนไอ้แหลมฝึกงาน ไอ้โซ่เรียนหนัก ผมเองก็ต้องพัฒนาเกม หลายครั้งที่เก็บไปนอนคิดว่าจะเอายังไงดี ควรทิ้งการเป็นผู้พัฒนาเกมไปเลยดีไหมหรือจะเลิกเล่นเกมง่ายกว่าถ้าจะต้องเลือก? ผมเคยหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จนวันหนึ่งที่พี่ตั้บนัดทุกคนมานั่งกินหมูกระทะด้วยกันหน้าร้าน มันเป็นคนมองน้อง ๆ อยู่ตลอดก็เลยดูออกง่ายนั่นแหละว่าทุกคนอึดอัดกับสิ่งที่ทำอยู่มากแค่ไหน ไม่ใช่เพราะไม่รักกับตรงนี้นะครับ แต่เป็นเพราะทุกคนโฟกัสไปที่การซ้อมเพื่อแข่งให้ชนะมากเกินไป จนลืมไปว่าการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมันไม่ต้องบ้าระห่ำซ้อมไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อแชมป์ขนาดนั้นก็ได้ เพราะพวกเรายังมีความชอบอื่นที่ต้องทำอยู่”

“แต่ถ้าไม่ซ้อมก็เสียเปรียบทีมอื่นเปล่าพี่ ชั่วโมงบินเยอะกว่าย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว”

“ก็จริงครับ ก็อย่างที่บอกว่าพวกเราแข่งเพราะอยากแข่ง ชนะก็เป็นเรื่องดี ถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เล่นเกมมีแพ้มีชนะอยู่แล้ว เรื่องใช้เวลาซ้อมทั้งวันทั้งคืนให้เป็นเรื่องของคนที่พร้อมทำตรงนี้ดีกว่า”

“พวกพี่ดูเหมือนไม่จริงจังกันเลยอะ อันนี้พูดตรง ๆ ได้ใช่ไหม ไม่ว่ากันนะครับ”

“พวกเราจริงจังได้เท่าที่ทำได้แหละครับ”

“ถ้าผมเป็นพวกพี่นะ สมมติถ้าไม่ซ้อมจริงจังแต่ลงแข่งแล้วแพ้บ่อย ๆ ผมคงไม่มีใจอยากแข่งต่อ แหะ ๆ” ตากล้องอีกคนพูดถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง อย่างน้อยเรื่องแพ้ก็ยังเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ครั้งสำหรับทีมเขา

“มันก็แล้วแต่คนนะ อย่างที่ไอ้แจ็คบอกนั่นแหละว่าตอนแรกทุกคนก็อยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเต็มตัว แต่พอเวลาผ่านไปความคิดก็เปลี่ยน” ไอ้ธีร์เสริม

“ยังไงครับ?”

“รู้ไหมว่านักกีฬาอีสปอร์ตจะเริ่มมีประสิทธิภาพช้าลงตอนอายุเท่าไหร่?” แจ็คเป็นฝ่ายยิงคำถาม และตากล้องทั้งคู่ก็หันไปมองหน้ากัน

“ไม่รู้ดิพี่ สักสามสิบห้าไหม?”

“ยี่สิบแปดถึงสามสิบก็เริ่มคิดอะไรช้าแล้วครับ ระบบประมวลผลเสียเปรียบพวกเด็กอายุยี่สิบต้น ๆ เป็นไหน ๆ”

“อ่า มันเกี่ยวด้วยเหรอพี่?”

“เกี่ยวสิ ร่างกายคนเรามันก็แก่ตัวไปตามเวลานั่นแหละ” ไอ้ธีร์พูด “เพราะงั้นพวกเราเลยไม่ฝักใฝ่การเป็นนักกีฬาฟูลไทม์ ก็นะ เรื่องที่น่าทำยังมีอีกเยอะ”

“เป็นอาชีพที่ค่อนข้างอายุสั้นเหมือนกันนะ แล้วถ้าเริ่มมีอายุพวกนักกีฬาอีสปอร์ตเขาจะไปทำอะไรกินล่ะ?” ตากล้องถามอีกครั้ง

“เยอะแยะไป ทำงานเบื้องหลังก็ได้ มีหลายฝ่ายให้เข้าไปคลุกคลีกับตรงนั้นถ้าคุณยังชอบเกมอยู่ ต่อให้ไม่ได้ลงแข่งแล้วก็ยังเล่นมันทุกวันได้” ทุกคนหันไปทางไอ้เท็นที่อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาหลังจากเป็นฝ่ายนั่งฟังอยู่นาน

“เช่น?”

“สตรีมก็ได้ เป็นยูทูปเบอร์ก็ได้ หรือจะเป็นฝ่ายประสานงานในองค์กรก็ได้”

“แล้วพวกพี่คิดไว้ยังว่าจะไปทำอะไรต่อถ้าวันหนึ่งไม่ได้ลงแข่งแล้ว?” ตากล้องรัวคำถามไม่หยุด คราวนี้เขาพยักหน้าให้หัวหน้าทีมเป็นคนตอบกับเรื่องที่พวกเขาเคยคุยกันมาสักพักแล้ว

“พวกเราตั้งใจว่าจะทำรายการเกี่ยวกับเกมน่ะ”

“เออน่าสนใจอะ พวกอัปเดตข่าวสารเกมไรงี้เปล่าพี่?”

“ประมาณนั้นเลย”

“โอเคงั้นคำถามต่อไปนะครับ ข้อนี้เป็นคำถามของเชร์” กล้องแพลนไปยังเด็กลูกครึ่ง “เป็นเกย์จริงเปล่าครับ?”

เชี่ย อย่างฮุค

“ผมไม่ได้เป็น แต่แฟนผมเป็น -- ผ่ามพาม!!” พูดเองตบมุกเอง ทุกคนเลิ่กลั่กกลอกตามองกัน มันก็น่าคิดอยู่หรอก ก็มันเล่นลงรูปใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่กันต์บ่อยขนาดนั้น พอมีคนไปทักก็ไม่เห็นจะปฏิเสธเหมือนตอนที่ถูกจับจิ้นกับพวกเขา แต่ไอ้แหลมก็เลอะเทอะไปเรื่อยจนเหมือนว่าคำตอบเมื่อครู่เป็นเรื่องขำ ๆ ไปจนได้นั่นแหละ

“คำถามนี้ของโซ่ จู๊กมาสเตอร์ในตำนาน”

“...ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แหะ” เด็กน้อยยิ้มอย่างขลาดอายพลางลูบท้ายทอย

“ด้วยฝีมือการเล่นที่เหมือนกินแผ่นเกมมาเกิด ไม่คิดจะไปเล่นเกมที่ดังที่สุดในตอนนี้แล้วหาทีมเทพ ๆ อยู่เหรอครับ มีคนเสียดายฝีมือคุณนะ”

“เกมที่ดังที่สุดไม่ใช่เกมที่สนุกที่สุดสำหรับโซ่น่ะสิครับ ความชอบโซ่ไม่ค่อยเหมือนคนส่วนใหญ่ด้วย ส่วนเรื่องฝีมือก็ขอบคุณมากเลยนะครับที่ชม แต่ไม่มีอะไรน่าเสียดายหรอกครับ เพราะฝีมือโซ่ที่เล่นไปมันไม่สูญเปล่าเพราะมีคนในทวิชกับยูทูปคอยตามดูอยู่ตลอดเลย”

“ตัดส่วนนี้ออกจากคลิปได้ไหม กูเลี่ยนทุ่งดอกไม้” ไอ้แหลมทำท่าจะคายของเก่า เรียกเสียงหัวเราะจากพี่ ๆ ได้เป็นอย่างดี

“พี่แหลมก็อิจฉาโซ่อยู่เรื่อยเลยนะครับเนี่ย”

“แล้วที่มีข่าวลือว่าพี่เท็นเคยไปล่อซื้อโซ่เข้าทีมบลูไวเปอร์นี่จริงมากแค่ไหนครับ อันนี้คำถามจากทางบ้านนะ”

หลายคนยิ้มค้างกับคำถามใหม่ แจ็ครู้สึกได้ถึงลางร้ายที่เริ่มคืบคลานมาทีละนิด และมันเข้าถึงตัวไอ้เท็นก่อน

“อืมครับ เคย”

ไม่ใช่แค่แจ็คคนเดียวที่หันไปมองเจ้าของคำพูด ตอนนี้แววตาคู่นั้นเรียบเฉยเกินกว่าจะจับจุดอ่อนได้ แต่ถึงอย่างนั้นแจ็คก็ยังไม่สบายใจกับการให้คำตอบข้อนี้

“แล้วเป็นไงต่อครับ?”

“ตอนนั้นพี่เท็นแค่ชวนเล่น ๆ น่ะครับ โซ่ยังตื่นเต้นอยู่เลยที่ทีมดังมาชวนเข้าทีมด้วย รู้สึกเป็นเกียรติมาก” เด็กเด๋อรีบแก้สถานการณ์ให้โดยไม่มีใครร้องขอ แต่ดูเหมือนว่าไอ้เท็นจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือนี้สักเท่าไหร่นัก

“ผมโดนปฏิเสธ เพราะโซ่รักทีมมากเกินกว่าจะทิ้งไปหาชื่อเสียงที่ผมพยายามหลอกล่อน่ะ”

แจ็คสบตากับอีกฝ่ายพร้อมส่ายหน้าช้า ๆ เป็นเชิงห้าม ‘ไม่ต้องพูดขนาดนั้นก็ได้’ เขาบอกในใจและหวังว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ แต่ไอ้เท็นกลับเงียบไป ตอนนั้นแจ็ครู้สึกได้ถึงลางบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สบายใจยิ่งไปกว่าเดิม

“ทำไมต้องอยากให้โซ่เข้าทีมบลูไวเปอร์อะครับ?”

ไอ้ธีร์หันไปสบตากับไอ้เท็นหลังจากสิ้นสุดคำถาม กับเรื่องที่เคยได้คำตอบแล้วน่ะ แจ็คไม่อยากให้ใครก็ตามมาขยี้จนบรรยากาศแย่ลงเลย แต่เขาก็หยุดคำถามเพียงเท่านี้ไม่ได้

“ตอนนั้นผมแค่อยากแย่งมา มันก็เท่านั้น”

“เพราะอะไรพี่ เพราะเรื่องตอนมอปลายที่คนเขาลือกันว่าพวกพี่ทะเลาะกันหรือเปล่า แล้วถ้าใช่นั่นเรียกว่าเป็นการเอาคืนพวกพี่ธีร์ได้ไหม?”

“...”

“...”

เกินขอบเขตไปแล้ว ถ้าเป็นเพื่อนที่เพิ่งดีกันคงหัวเราะแห้ง ๆ แล้วยอมรับความผิดในอดีตได้อาจมีความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายนักถ้าหากว่าเปิดใจคุยกันแล้ว แต่วินาทีนี้มันไม่ใช่ ไอ้ธีร์กับไอ้เท็นยังคงติดอยู่กับอดีตที่ไม่เคยสะสาง ในความทรงจำของทั้งคู่มีแต่เรื่องราวแย่ ๆ ฝังอยู่ในใจ ซึ่งการอธิบายอะไรก็ตามออกมาในตอนนี้ก็มีแต่จะเป็นการจุดชนวนมากกว่าเคลียร์เรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจชาวเน็ต

“พวกนี้มันหยอกกันเล่นน่ะไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เหลือคำถามอีกเยอะไหม ไม่มีอะไรมาถามผู้จัดการทีมบ้างเหรอ เหงาปากนะครับ” พี่ตั้บพยายามเปลี่ยนบรรยากาศแม้ว่าจะไม่ใช่คนถนัดเรื่องนี้ แต่ที่เป็นอยู่ก็ยากที่จะกู่กลับแล้ว เมื่อไอ้ธีร์กับไอ้เท็นยังไม่ยอมละสายตาจากกัน

“โอเคครับงั้นคำถามต่อไป ในอนาคตพี่ธีร์คิดว่าจะพาทีมไปในทิศทางไหนอะครับ – แต่อันนี้ตอบไปแล้วงั้นข้ามเลยดีกว่า คำถามนี้ขอถามพี่เท็นอีกทีนะครับว่าพี่รู้สึกยังไงตอนออกจากทีม Numb2r เพื่อไปอยู่ทีมที่เก่งที่สุด ณ ตอนนั้น แล้วเพราะอะไรที่ทำให้ต้องออกจากทีมครับ?”

เท็นไม่ได้ตกใจกับคำถามที่เคยเห็นมาก่อนแล้ว ชายหนุ่มนั่งนิ่ง ปล่อยให้เสียงฟืนแตกในกองไฟช่วยทำลายความเงียบ ซึ่งถ้าโกหกไปไอ้แจ็คและคนอื่น ๆ คงไม่คิดอะไร ส่วนไอ้ธีร์ก็คงคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องประดิดประดอยคำพูดให้สวยหรูเกินจริง

แต่ไม่ว่าจะอธิบายไปในทางไหน TEN1O ก็เปลี่ยนความคิดใครไม่ได้อยู่ดี เขาควรโกหกหรือพูดความจริงดีล่ะ ทางไหนที่เขาสามารถเสี่ยงได้บ้าง ต่อให้ปากจะบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’ แต่เอาเข้าจริงจะมีใครหน้าไหนอยากถูกด่า

ต้องตอบแล้ว เขาไม่มีเวลามานั่งคิดขนาดนั้นว่าจิตวิทยาแบบไหนถึงจะดี เพราะตอนนี้ทุกคนคงไม่เกลียดเขามากไปกว่าที่เคยแล้ว

ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นอย่างไรถ้าหากว่าวันนี้เท็นจะพูดความจริงสักครั้ง ความจริงที่คิดว่าคงไม่มีวันได้พูดมันนอกจากยมบาลจะถามตอนตกนรกไป

“ผมเสียใจ”

แค่เปิดประโยคไอ้ธีร์ก็แค่นหัวเราะเหมือนว่ามันเก็บอาการไม่ไหวแล้ว ก็แน่ล่ะ ใครจะไปเชื่อว่าคนเลว ๆ อย่าง TEN1O จะกล้าพูดคำว่าเสียใจ ทั้งที่ปีก่อนยังยิ้มเยาะ ตอบโต้อย่างฉะฉานในงานแข่งขันอย่างนั้น

“แม้แต่ตอนที่ผมคิดร้ายกับคนในทีม ผมก็ยังเสียใจอยู่”

“อาการโลดเต้นในโซเชียลตอนได้ไปแข่งไต้หวันนั่นเรียกว่าเสียใจด้วยไหมวะเพื่อน?” แจ็คหันไปมองคนข้างตัวจนไอ้แหลมต้องระเบิดหัวเราะกลบเกลื่อนเหมือนว่าคำถามไอ้ธีร์โคตรตลก

“ตอนนั้นไม่เกี่ยว”

“แล้วตอนไหนที่เรียกว่าเสียใจ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิวะ” คนตลกเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง ตากล้องหันไปสบตากันเมื่อหน้าที่ถามไม่ใช่ของตนเองอีกต่อไปแล้ว

“ยอมรับว่าครั้งนึงกูคิดอะไรเป็นเด็ก ไม่สิ ตลอดเวลาที่ผ่านมากูทำตัวเป็นเด็กมาตลอด แต่เรื่องนี้จะโทษกูคนเดียวก็ไม่ได้หรือเปล่านะ?” เท็นไม่อยากยอมแพ้ เขายอมรับความผิดในส่วนที่ทำลงไป แต่ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ไอ้ธีร์ก็ต้องจุกกับความชั่วช้าที่เคยทำกับเขาเหมือนกัน

“งั้นโทษใครดี ทุกคนในโลกเลยว่าไง?”

“พี่ธีร์ครับ”

“ไม่ต้องไปไกลขนาดนั้นก็ได้ เดินไปส่องกระจกซะสิจะได้รู้คำตอบ”

“โอ้โห คำพูดคำจา คิดว่ากูจะเจ็บมากไหมอะครับ ทุกคนผิดหมดยกเว้นมึงงี้เหรอหื้อ?”

“หยุดถ่ายก่อน” แจ็คหันไปห้ามตากล้องแล้วมองเพื่อนทั้งสองคนที่ยังตอบโต้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“ใช่ มันจริงที่ตอนนั้นกูบ้าบอโทษทุกคน ทั้งครอบครัว เพื่อน หรือใครก็ตาม ก็ถ้าไม่พากันทำเหมือนกูเป็นเศษสวะกูจะคิดอะไรแบบนั้นได้เหรอ มึงเองก็คือหนึ่งในนั้น”

“กูทำอย่างนั้นเมื่อไหร่ มึงช่วยอธิบายชัด ๆ หน่อยซิ?” ไอ้ธีร์เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม

“ทุกอย่างที่มึงทำเหมือนไม่เคยเห็นกูเป็นเพื่อนไง”

คนถูกกล่าวหาถึงกับเลือดขึ้นหน้า สองมือกำหมัดแน่นกับเรื่องผิดเพี้ยนที่อีกคนพูด จริงอยู่ที่เมื่อก่อนเขาเคยพูดไม่ดีกับไอ้เท็น และชอบแกล้งจนลืมคิดว่ามันจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งถ้าเอาเรื่องนั้นมาพูดเขาอาจจะยอมเงียบเพราะความผิดจุกอกในใจก็ได้ แต่ไอ้การบอกว่าเขาไม่เคยเห็นว่าแม่งเป็นเพื่อนนี่ชักจะเกินไปหน่อยว่ะ

“แต่คนอย่างมึงไม่เคยรู้ตัวหรอก คิดว่าตัวเองถูกเสมอ อยู่ยอดพิรามิดที่ทุกคนต้องยอมให้”

เท็นรู้สึกคลื่นไส้เหมือนจะอ้วกความในใจออกมา เขาไม่สามารถห้ามปากตัวเองได้อีกต่อไป ไม่แม้แต่จะหันไปสบตากับไอ้แจ็คเพื่อตั้งสติแล้วสงบสติอารมณ์ ชายหนุ่มปล่อยให้ตนเองสาดความเจ็บปวดเหล่านั้นใส่คนที่เป็นต้นเหตุ ถึงจะรู้ดีว่าต่อให้พูดความจริงจนคอแห้งเป็นผงอย่างไรคนอย่างไอ้ธีร์ก็ไม่มีวันสำนึกได้

“แล้วมันใช่เรื่องที่ทำให้มึงต้องทำลายทุกอย่างไหม โกรธกูก็มาลงกับกูคนเดียวสิวะ จะต่อยหน้า จะด่า จะหอกหักอะไรทำได้ทั้งนั้น แต่มึงเสือกเลือกหักหลังทุกคนไปอยู่ทีมฝั่งตรงข้าม ตอนที่เล่าแผนให้พวกนั้นฟังน่ะมึงคิดอะไรอยู่?”

‘กูถูกบังคับให้เล่า’ ถ้าบอกอย่างนี้แล้วจะมีใครเชื่อไหม?

พอเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบคำถามธีร์จึงเข้าไปกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้นยืน “ทำไม อยู่ดี ๆ ก็เป็นใบ้ขึ้นมาหรือไง หรือว่าความจริงมันคายออกมายาก เพราะเคยชินกับการโกหก?”

เท็นพยายามแกะมือแกร่งออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายบ้าง ตอนนี้ทั้งคู่กระชากลากดึงกันจนห่างออกไป แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ยังได้ยินเสียงคำพูดคำจาเสียดแทงที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันและกันอย่างชัดเจน

ท่ามกลางสายตาทุกคนที่ตกใจไม่แพ้กัน แหลมคือคนแรกที่ลุกขึ้นเตรียมจะวิ่งไปห้ามรุ่นพี่ แต่ก็ถูกแจ็คคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

“อะไรของมึงวะพี่?!” เด็กลูกครึ่งขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นพี่แจ็คส่ายหน้าห้ามไม่ให้เขาเข้าไปขวางทั้งคู่

โซ่มองสองคนนั้นด้วยความเป็นห่วง เด็กหนุ่มกลัวเหลือเกินว่าพี่ธีร์จะน็อตหลุดจนลงไม้ลงมือ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่แจ็คคงรู้สึกแย่แน่ ทั้งคู่ยังคงกระชากลากดึงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ขณะที่พี่ตั้บหันไปเอามือปิดเลนส์กล้องไว้หลังจากรู้ว่าถูกแอบถ่ายอยู่

“ปล่อยพวกมันเถอะ”

ทั้งสามคนมองหน้าแจ็คซึ่งก็คงเป็นห่วงทั้งคู่ไม่ต่างกัน แววตาคู่นั้นยังคงทอดมองไปยังเพื่อนสนิททั้งสอง พวกเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของแจ็คจากการเป็นคนกลาง

“ทำไมถึงกล้าใช้คำว่าเพื่อน ไม่อายปากตัวเองหน่อยเหรอ?”

“คนที่ต้องอายปากน่าจะเป็นมึงมากกว่ามั้ง กูไม่เคยหยุดสงสัยได้เลยว่าทำไมมึงถึงกล้ากลับมาหาคนที่เคยเอามีดแทงหลังไว้ จะบอกว่าจนตรอกก็คงแรงไป งั้นใช้คำว่าหน้าหนาน่าจะเหมาะกว่า”

“มึงเข้าใจอะไรผิดเปล่าธีร์ ทุกวันนี้กูพยายามเข้าหามึงหรือเปล่าก็ไม่ ไอ้แจ็คคือคนเดียวที่กูอยากได้คืน ต้องให้พูดกรอกหูอีกทีไหมเผื่อสมองกลวง ๆ ของมึงจะตามไม่ทัน?” เท็นไม่ได้อยากพูดแบบนี้ทั้งที่พี่ตั้บกับโซ่ยืนมองอยู่ แต่ปากเขามันก็ดีแต่พ่นคำร้าย ๆ ออกไปเพราะอยากเอาชนะ

“นั่นแหละที่กูวางใจไม่ได้ คนอย่างมึงน่ะเหรอจะกลับตัวกลับใจไม่วายได้แว้งกัดคนอื่นอีก ตั้งแต่วันแรกที่คิดจะไปมึงเคยนึกถึงหน้าคนที่เรียกว่าเพื่อนบ้างไหม?!”

“นึกสิ!!! กูนึกอยู่ตลอด!!! แต่ตอนนั้นกูทำอะไรได้บ้าง?!!! จะหันหลังกลับก็ทำไม่ได้เพราะกูทนกับสิ่งที่พวกมึงทำกับกูไม่ไหวแล้ว!!!”

“พวกมึงที่ว่าคือใคร ไอ้แจ็คด้วยไหม หรือว่าพี่ตั้บ ไอ้นาย? ตอนนั้นมีใครบ้างที่ทำให้มึงเสียใจได้นอกจากกูคนที่รู้ตัวแล้วว่าปากไม่ดี?!!!” ธีร์ต้องการคำตอบที่ทำให้เขาหุบปากได้ ไอ้เท็นจะงี่เง่ากับเขาแค่ไหนก็ว่ามาแต่ต้องไม่ใช่การพาลไปถึงคนอื่น “แล้วถ้าทุกคนที่มึงพูดถึงคือกูคนเดียว มึงต้องเห็นชีวิตกูฉิบหายก่อนหรือเปล่ามึงถึงจะพอใจ?!!!”

“ใช่ กูอยากให้มึงเจอแต่เรื่องฉิบหาย กูอยากให้ทุกคนเกลียดมึงเหมือนที่กูเป็น!!!”

“งั้นก็เกลียดกูจนตายไปเลยไอ้เหี้ย!!!”

ตั้บวางมือลงบนศีรษะน้องเล็กที่ตกใจจนสะดุ้งเมื่อไอ้ธีร์ออกหมัดแรกใส่หน้าไอ้เท็น ไอ้แหลมยังคงยืนอยู่ไม่สุข มันเอาแต่หันไปมองไอ้แจ็คว่าเมื่อไหร่จะอนุญาตให้เข้าไปหาไอ้ธีร์ ขณะที่ตอนนี้คนที่ใจแหลกสลายไม่แพ้สองคนนั้นก็คือเจ้าของร่างผอมสูงงที่ยืนอยู่ตรงนี้

หมัดแรกชาไปทั้งหน้า และเท็นไม่ได้ปล่อยให้ตนเองต้องเจ็บปวดฝ่ายเดียวเมื่อครั้งนี้เขามีโอกาสได้เอาคืนกับสิ่งที่อยากทำมาตลอด ชายหนุ่มง้างหมัดต่อยหน้าอีกคนจนแทบคว่ำ ก่อนจะใช้จังหวะนั้นเข้ารวบตัวจนล้มลงไปกลิ้งกับผืนทรายกันทั้งคู่

สำหรับผู้ชายสองคนที่คุยกันด้วยโทสะคงไม่มีเหตุผลดี ๆ จากไหนมาช่วยแก้ไขได้แล้ว ทั้งคู่ยื้อดึงกัน แลกคนละหมัดทุกครั้งที่มีจังหวะ มันรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนต่อยหรือคนถูกต่อย และคนที่ยืนมองอยู่จากตรงนั้น

ไม่มีใครสนเสื้อผ้าราคาแพงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยทรายและน้ำทะเล ธีร์คว้าคอเสื้ออีกฝ่ายให้ลุกขึ้น และเท็นก็มีสติมากพอที่จะสวนหมัดไปก่อน ทั้งคู่โถมเข้าหากันอีกครั้ง ธีร์รัวหมัดติดกันสามครั้งก่อนเท็นจะเอาแขนบล็อกไว้แล้วสวนกลับไปจนร่างกายเสียการทรงตัว

ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวเสียใจ เพราะเรื่องเหล่านั้นทั้งคู่เคยพบเจอและผ่านมันไปแล้ว

“จะโกรธกูยังไงก็ได้ แต่ไอ้แจ็คเคยทำอะไรให้หรือไงมึงถึงได้หักหลังมันแบบนั้น?!!!”

ภาพรอยยิ้มแรกของเด็กหนุ่มมอสองคนนั้นลอยเข้ามาในความคิด เท็นยังจำได้ดีว่าแววตาของแจ็คประหม่าแค่ไหนตอนรวบรวมความกล้าเข้ามาทักเขาก่อน แม้แต่ตอนที่อีกฝ่ายมีแฟน... เท็นก็หาเหตุผลอะไรมาอ้างไม่ได้เลยว่ามันมีเรื่องไหนบ้างที่แจ็คทำให้เขาต้องเจ็บปวด

หวงเพื่อนงั้นเหรอ มันไม่ใช่เรื่องที่ฟังขึ้นเลยสักนิด

“พูดมา!!! อธิบายเหตุผลคับโลกของมึงสิว่าเพราะเกลียดกูมากถึงไปลงกับไอ้แจ็ค!!!”

เท็นไม่สามารถอธิบายความผิดใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเขาได้เลย แม้ว่าแจ็คจะให้อภัยแล้ว แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างความจริงได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยทำเรื่องผิดพลาดไปอย่างคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี

“คนอย่างไอ้แจ็คมันเคยทำไม่ดีกับใครด้วยหรือไง ไม่หรอกเท็น ยิ่งเป็นมึงกูยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กูพยายามทำความเข้าใจว่ามึงอาจจะเผลอไปกับอะไรก็ตามที่ทำให้มึงกับบลูแอบคบกัน กูพยายามไม่คิดเรื่องนั้น แต่ช่วงเวลาที่มันลำบาก ตอนที่มันคิดจะฆ่าตัวตายน่ะมึงอยู่ที่ไหน?!!!!”

“...”

เขาอ่อนไหวง่ายเหลือเกินเมื่อเป็นเรื่องไอ้แจ็ค เท็นปล่อยให้ไอ้ธีร์กระชากคอเสื้อตนเองจนร่างกายเซไปตามแรง ขณะที่ตอนนี้สายตาของเขามันเอาแต่จ้องมองไปยังใครอีกคนที่เป็นเจ้าของหัวใจ

ชายหนุ่มรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นมันเลวร้ายแค่ไหน พอถูกตอกย้ำอีกครั้งเขาก็รู้สึกอยากจะตาย ๆ ไปเสีย ผู้ชายที่ชื่อเท็นไม่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้ คนอย่างเขาไม่มีค่าใด ๆ เลย

“ที่กูทำมันผิดมากขนาดที่ต้องทำลายกันขนาดนี้เลยเหรอ บอกกูสิเท็น คิดอะไรอยู่ก็พูดมันออกมา!!! บอกให้กูรู้ในสิ่งที่กูเคยมองข้ามไป!!!”

“กูขอโทษ...”

“...”



(ต่อด้านล่างนะคะ)
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 13-06-2019 18:49:01

มือที่เคยกำคอเสื้ออีกคนแน่นหยุดชะงัก ดวงตาที่คลอไปด้วยหยดน้ำซึ่งกลั่นออกมาจากความเสียใจในอดีตนั้นไม่ได้ทำให้ภาพตรงหน้าพร่ามัวไปเลย หมัดที่เตรียมซัดหน้าอีกฝ่ายนั้นถลอกจนแดง มันค้างอยู่กลางอากาศเพียงเพราะเห็นว่าเท็นกำลังตัวสั่นจนน้ำตาไหลอาบแก้มกับประโยคแผ่วเบานั้น

“กู... ขอโทษ...!!!”

“...”

เสียงสะอึกสะอื้นตรงหน้าไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้น แต่ธีร์รู้สึกเหมือนมันดังก้องราวกับว่าอีกฝ่ายตะโกนมันอยู่ข้างหู สองมือที่เคยทำร้ายร่างกายอดีตเพื่อนนั้นไม่มีที่วาง เขาเพียงแค่ยืนหอบหายใจขณะที่คนตรงหน้าเขาเหมือนจะสติหลุดไปแล้วหลังจากปล่อยโฮออกมา

“กูขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่กูทำลงไป กู --” เท็นรู้ตัวว่าเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง และเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย เขาเหมือนกำลังจะตายเพราะความผิดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทุกอย่างมันย้ำเตือนว่าผู้ชายอย่างเท็นนั้นแย่แค่ไหน

เป็นอีกครั้งที่ย้อนมาทบทวนตนเองว่ากล้าดีอย่างไรถึงคิดจะขอไอ้แจ็คไว้แล้วเลือกเป็นศัตรูกับไอ้ธีร์ต่อไป ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วคนกลางจะไม่สบายใจ แต่เขาก็ยังเลือกเห็นแก่ตัวได้ลง

“กูมันโง่แล้วกูก็รู้ว่าไม่มีอะไรมาลบล้างเรื่องที่เกิดขึ้นได้ กูมันห่วยแตก ระยำ เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก แต่ทุกวันนี้กูไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว กูพยายามเป็นคนดีเพื่อชดเชยตอนที่กูไม่ได้อยู่กับไอ้แจ็คในช่วงเวลานั้น มึงช่วยเข้าใจกูหน่อยได้ไหมวะ...”

ไม่ใช่เรื่องที่ธีร์คาดไว้เลยว่าจะได้เห็นน้ำตาอีกฝ่ายกับสองมือที่กำเสื้อเขาแน่น ยิ่งตอนที่แลกหมัดกันจนเลือดกบปากอย่างนี้ มือที่กำแน่นค่อย ๆ คลายออก ธีร์ยังคงจ้องมองศีรษะคนตรงหน้าซึ่งก้มลงพร้อมไหล่ที่สั่นเทา

พอเอาเข้าจริง คนจิตใจหยาบช้าอย่างธีร์ก็ไม่สามารถทนด่าไอ้เท็นต่อได้โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่ามันกำลังฟูมฟายเพราะรู้สึกผิดอย่างนี้

“กูเกลียดมึงจริง ๆ ธีร์ แต่ในขณะเดียวกันกูก็หลอกตัวเองมาตลอดว่ากูไม่ได้รักมึง ทั้งที่ความจริงแล้วกูคาดหวังมาตลอดว่าสักวันหนึ่งมึงจะหันมาทำดีกับกูบ้าง...”

“...”

ตอนนั้นพวกเขาเป็นอย่างไร?

ตอนที่ยังใส่ชุดนักเรียน... ตอนที่ต่างฝ่ายยังมีกันและกันในชีวิต เป็นคนสำคัญที่ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องนึกถึงและไม่ลืมที่จะชวนไปด้วย

ธีร์เคยเป็นคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน เขาได้รับการยอมรับจากใครต่อใครจนได้ใจ หลายครั้งที่ธีร์ลืมนึกถึงความรู้สึกคนอื่น มันมีทั้งจำได้และหลงลืมไปตามกาลเวลา แต่ถึงอย่างนั้นบทเรียนชีวิตก็เริ่มสอนให้เขารู้ว่าควรทำและไม่ควรทำอะไร

หลายครั้งที่เคยต่อว่าเพื่อนตอนเล่นเกม แม้ในใจจะไม่ได้คิดร้าย แต่เมื่อโตขึ้นธีร์ก็รู้ว่าการแก้ตัวว่า ‘ทำไมต้องคิดมากกับเรื่องแค่นี้’ มันใช้ไม่ได้กับผู้ถูกกระทำ ธีร์ยอมรับในส่วนที่ตนเองได้สร้างบาดแผลให้เท็น แต่ถึงอย่างนั้นก่อนหน้านี้เขาก็ไม่สามารถทำใจให้อภัยอีกฝ่ายได้เลย

“ที่ทำทุกอย่างเพราะกูอยากให้ทุกคนคิดว่ากูไม่ได้จนตรอก กูยังมีที่ให้ไป กูอยู่เหนือกว่าคนอื่น ทั้งที่ความจริงแล้วกูกลัวการอยู่คนเดียวมากกว่าอะไรทั้งนั้น กูพยายามทำให้ตัวเองโดดเด่นเพราะอยากได้รับความสนใจ เพราะในชีวิตจริงมันไม่มีอะไรมาเติมเต็มหัวใจกูได้แล้ว ส่วนเรื่องบลู... กูไม่ได้ชอบเธอเลย ตอนนั้นกูแค่คิดว่าจะทำยังไงก็ได้ขอแค่ให้ผู้หญิงคนนั้นทิ้งไอ้แจ็ค กูอยากได้มันกลับมา ชีวิตกูมันดูมีค่าแค่ตอนมีมันเท่านั้น มึงเข้าใจหรือเปล่าวะ...?”

ถ้าเป็นสิบปีที่แล้ว ธีร์คงแค่นหัวเราะกับประโยคเมื่อครู่เพราะคิดว่า ‘มันมีด้วยเหรอคนที่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อน’ จนกระทั่งมีใครสักคนเข้ามาเปลี่ยนความคิดเขา เด็กคนนั้นที่ทำให้ธีร์ได้รู้ว่าคนอื่นมีสิทธิ์ที่จะคิดและรู้สึกอย่างอิสระ โดยไม่ต้องไปชี้หน้าบอกว่าแบบนั้นมันไม่มีจริง

“สิบปีที่ผ่านมา กูอยู่กับความสุขจอมปลอมแบบที่มึงเคยตราหน้าไว้ ไม่มีวันไหนเลยที่กูรู้สึกว่าได้เป็นตัวเอง กูฝืนมานานมากเกินไปแล้วธีร์ แม้กระทั่งเมื่อกี้ที่กูพยายามตอบโต้มึงด้วยคำพูดแย่ ๆ นั่น กูก็รู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างมันพังลงไปอีกแล้วและคงไม่มีอะไรทำให้กูยืนขึ้นได้อีก กูเหนื่อยธีร์... กูยอมแล้ว ถ้าเป็นไปได้กูก็อยากขอโทษทุกคน ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยมีแผลในใจเพราะกู...”

โซ่จับมือพี่แจ็คไว้ก่อนจะสอดประสานเรียวนิ้ว เด็กหนุ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันคือการปลอบรุ่นพี่หรือว่าปลอบตัวเองกันแน่ เสียงของพี่เท็นที่เคล้าไปด้วยน้ำตานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มันถูกส่งมายังทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้โดยไม่ต้องตะโกนบอกให้รู้ว่าในหัวใจดวงนั้นมันพังไม่เป็นท่ามากแค่ไหน

“กูรู้ดีว่าต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่มาพูดอีกสักร้อยครั้งมึงก็คงไม่ให้อภัย แต่มึงฟังไว้หน่อยได้ไหมวะธีร์ คำขอโทษจากปากเพื่อนเหี้ย ๆ คนนี้ มึงช่วยรับไว้ได้ไหม...”

“...”

ธีร์ไม่รู้ตัวว่าหยดน้ำอุ่น ๆ มันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ... เราทั้งคู่ไม่สามารถหยุดน้ำตาได้ น่าแปลกเหลือเกินที่ก่อนหน้านี้เขาโมโหจนเหมือนอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย แต่พอเห็นว่าคนที่เคยหยิ่งจองหองกำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้า และพยายามอธิบายความเจ็บปวดในใจจนแทบฟังไม่เป็นภาษา... หัวใจเขาก็รู้สึกเหมือนมันพังลงไปไม่ต่างกันเลย

“ทำไมเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้?”

ทั้งคู่สบตากัน ธีร์เลียริมฝีปากและพยามกลืนความอ่อนแอลงไป ระหว่างทบทวนทุกอย่างว่าแท้จริงแล้วความผิดครั้งนั้นมันรุนแรงแค่ไหน ใครต้องเป็นคนแบกรับไว้ ชายหนุ่มเอาแต่คิดว่าตนเองยอมรับผิดในส่วนที่เคยทำแย่ ๆ แล้ว และอคติว่ามันก็สมควรที่ไอ้เท็นจะเจอเรื่องห่วยแตกมาตลอดเพราะเรื่องที่มันก่อไว้นั้นร้ายแรงกว่าเขามากโข

“ถ้ามึงเดินมาหากูแล้วพูดคำว่าขอโทษตั้งแต่แรก...”

เขามัวแต่คิดว่าแผลของตนเองใหญ่แค่ไหนจนลืมเงยหน้ามองว่าคนที่ยิ้มได้ก็อาจจะเจ็บปวดอยู่เหมือนกัน

เวลาสิบปีที่เสียไป... ทุกคนมัวแต่จมอยู่กับความโกรธ จนแทบลืมไปแล้วว่าช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันนั้นมันดีมากแค่ไหน

ตอนกอดคอกันถ่ายรูปตลก ๆ แล้วเอาไปแปะบนบอร์ดในห้องนอน

ตอนลองแทงบอลเป็นครั้งแรกจนหมดตัว ตอนนั้นพวกเขาต้องหารเศษเหรียญกันซื้อมาม่าหนึ่งถ้วย กินกันคนละไม่กี่คำ แต่มันก็อิ่มไปทั้งหัวใจ

วันเหล่านั้นมันช่างมีค่า แต่ก็ถูกความไม่เข้าใจเพียงไม่กี่ครั้งกลบไปจนมิด

“กูก็จะได้บอกมึงว่ากูก็ขอโทษเหมือนกัน”

หัวใจเหมือนถูกราดด้วยทิงเจอร์ มันเจ็บปวดแต่ขณะเดียวกันก็ช่วยเยียวยาบาดแผลไปด้วย มันเป็นเวลาที่ควรจะยิ้ม แต่เท็นกลับร้องไห้หนักกว่าเดิมกับภูเขาลูกใหญ่ที่เขาไม่เคยคิดว่าจะยกมันออกไปจากบ่าได้

น้ำตาบนใบหน้าธีร์ยังคงไหล ทั้งคู่ห้อภัยกันกับความผิดพลาดในวัยเด็กด้วยการสวมกอดอีกฝ่าย ตุ้บตั้บไม่สามารถห้ามน้ำตาได้ ชายหนุ่มร่างท้วมหันหลังให้พลางเงยหน้าขึ้นแล้วพรูลมหายใจทางริมฝีปาก

รู้สึกเหมือนเรื่องมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานอย่างไรอย่างนั้น เหมือนว่าเขาเพิ่งเห็นไอ้เด็กนักเรียนสามคนนั่นสะพายเป้เดินท่าเรียกตีนเข้ามาในร้านเกมพร้อมคำทักทายที่สุดแสนจะปีนเกลียว ใช่ ช่วงเวลาแบบนั้นแหละที่เขายังจำได้

ช่วงเวลาที่มีธีร์ แจ็ค เท็น อยู่ด้วยกันไม่ใช่แค่ธีร์กับแจ็คเพียงสองคน

“...”

ธีร์ได้แต่ลูบศีรษะปลอบประโลมอีกฝ่าย ยิ่งนึกถึงเรื่องที่ไอ้เท็นอาจจะป่วยจริง ๆ แล้วก็รู้สึกผิดอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาพูดจาทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายไปสักเท่าไหร่ ซึ่งมันคงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ไอ้เท็นจะได้ยินมัน

“...”

ริมหาดกับจุดที่ทุกคนอยู่นั้นไม่ได้ไกลมากนัก ธีร์หันไปสบตากับเพื่อนสนิทที่ยืนมองอยู่ตรงจุดเดิมไม่ไปไหน เขาพยายามทำอย่างเต็มที่แล้วไอ้แจ็ครับรู้ได้ใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัยคนที่ไม่คิดว่าจะให้ได้ รวมถึงการพูดคำว่าขอโทษกับคนที่ปากบอกว่าเกลียดมาตลอดสิบเอ็ดปี ซึ่งไอ้แจ็คก็ยิ้มบาง ๆ พร้อมพยักหน้าราวกับอยากบอกว่าผู้ชายคนนี้ทำดีที่สุดแล้ว และไอ้เท็นก็คงเหมือนกัน


รอยแผลเป็นในวันนั้นยังคงอยู่
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้เรียนรู้ก็คือ




...มันไม่เจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว





TBC


คนแบบพี่ธีร์มันไม่ได้ใจแข็งอะไรขนาดนั้นร้อก แข็งได้อย่างเดียวนั่นแร๊ะ
(ปากแข็งๆๆๆ)
#ดันโอ่งลงทะเลแล้วกระโดดเข้าไปข้างในพร้อมปิดฝามิดชิดโดยไม่คิดจะออกมาพบเจอโลกภายนอกอีก







หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 13-06-2019 19:10:55
ซึ้งมากอะตอนนี้ รู้สึกถึงความเจ็บปวดของทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 13-06-2019 19:56:38
ขอบคุณนะพี่ธีร์
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 13-06-2019 20:22:13
กอดๆ ปลอบใจเท็น  :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-06-2019 20:23:08
ฉากเรียกน้ำตา​เลยนะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 13-06-2019 20:32:42
โคตรพระเอกเลย ธีร์&เท็น
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-06-2019 21:05:55
คิดไม่ถึงว่าจะเสียน้ำตาเพราะสองคนนี้
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 13-06-2019 22:02:18
น้ำตานองหน้าเลยกับตอนนี้
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 13-06-2019 23:12:06
รู้สึกขอบคุณตัวเองที่อ่านตอนอยู่ในห้อง ไม่ใช่ที่สาธารณะ .... แต่ยังไงพรุ่งนี้ต้องตาบวมแน่ๆอ่ะ
เนี่ย... พอจะพิมพ์อะไรน้ำตามันก็เอ่อมาอีกแล้วอ่ะค่ะ
10 ปี กับความโดดเดี่ยว มีแค่ตัวเองมาตลอด ทั้งที่ลึกๆ แล้ว ก็อยากจะมีใครซักคนที่เข้าใจกันจริงๆ แล้วก็อยู่ข้างกันแบบนี้ ซึ่งแจ็คก็เป็นคนนั้น ที่เท็นอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ต่างฝ่ายต่างก็เติมเต็มให้กัน และเข้าใจกัน ดูๆ แล้ว เท็นก็ยอมลงทุกอย่างเลย ถึงแม้ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็คงไม่อยากทำให้แจ็คต้องเจ็บปวดอ่ะ
สงสารกับความคิดวูบนึงของเท็น ที่อยากให้ตัวเองหายไป อยากจะกอด หอมหัว ลูบหลัง ทำยังไงก็ได้ ให้แผลในใจมันเบาบางที่สุด โอ้ย... หมอนเปียก ช่วงนี้ฝนตกด้วย มันจะขึ้นราไหมคะเนี่ย  :m15:

รอคอยตอนต่อไปนะคะ ระหว่างนี้คงเอาหมอนไปผึ่งพัดลมก่อนล่ะนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-06-2019 23:37:12
 :pig4:
:hao5:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 14-06-2019 00:31:43
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาไหลพรากๆเลยจ้า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 14-06-2019 00:31:55
ฮือออ น้ำจาจะไหล มันเป็นตอนที่เหมือนเป็นการปลดล็อคทุกความรู้สึกที่เท็น แจ็ค ธีร์และตัวละครอื่นๆต้องแบกจากผลของการกระทำในอดีต จากนี้มันจะไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว เหลือเพียงความทรงจำ ดีใจกับเท็น แจ็ค ธีร์มากจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-06-2019 08:25:24
รัองไห้หนักมาก สงสารเท็น  :o12:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 14-06-2019 08:57:48
ดีใจกับเท็น แจ็ค ธีร์  และคนอื่นๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 14-06-2019 15:45:40
ฮือๆ

ยิ้มทั้งน้ำตา

จุกในใจ

แต่ก็อิ่มเอมใจเช่นกัน

สามสหาย เขาคืนดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 14-06-2019 18:04:15
เป็นตอนที่อ่าแล้วได้ทั้งน้ำตาและรอยยิ้ม  ขอบคุณคนแต่งในความอิ่มของอารมณ์ :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 14-06-2019 22:02:29
ตอนนี้มีน้ำตาซึมด้วย :mew6: เคลียร์กันแล้วเจ็บตัวครั้งนี้ถือว่าคุมนะเท็นธีร์  o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-06-2019 01:08:35
คืนดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 18-06-2019 16:11:27
เข้าใจกันแล้ว อย่าทำร้ายใจกันอีกนะ แก่แล้ว 5555

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-06-2019 23:28:40
 o18


 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:

 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Lalinnovel ที่ 20-06-2019 08:54:25
ชอบมากๆเลยยยย :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 25-06-2019 13:04:59
 o13
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน22 (2/2) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (13/6/62)
เริ่มหัวข้อโดย: martiney ที่ 29-06-2019 22:45:00
รออ่านตอนต่อไปอยู่น้าาาาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 06-07-2019 21:57:51

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 23 (ตอนจบ)
เมื่อจุดจบคือการเริ่มต้นใหม่



เท็นไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสะดุ้งตื่นเพราะกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงความฝัน แม้ความเจ็บบนใบหน้ายังคงอยู่ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่กล้าปักใจเชื่อว่าพระเจ้าจะให้อภัยเขาง่าย ๆ คนอย่างเท็นเหมือนต้องจมอยู่กับความทุกข์ทรมานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตาย นั่นคือสิ่งที่เขาคิดมาตลอด

กวาดสายตาไปรอบห้องระหว่างทบทวนว่าจบหมัดสุดท้ายแล้วเป็นอย่างไร ไอ้ธีร์ตบบ่าเขาเบา ๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายแยกตัวไปก่อนใช่ไหม ใช่ มันเกิดขึ้น หลังจากนั้นไอ้แจ็คก็ตรงเข้ามาหาและชวนเขากลับห้อง

ไม่มีใครพูดอะไรอีกหลังจากนั้น ซึ่งคนฉลาดอย่างมันคงรู้ได้ไม่ยากว่าคนโง่อย่างเขาคิดอะไร ในทีแรกไอ้แจ็คบอกว่าจะออกไปซื้ออุปกรณ์ทำแผล แต่เพียงครู่เดียวมันก็กลับมาพร้อมสำลีกับเบตาดีนซึ่งได้มาจากเด็กรอบคอบอย่างโซ่ที่พกพาติดกระเป๋ามาด้วย

เท็นไม่ได้ต้องการยาดี ๆ จากไหน เขาแค่อยากกอดไอ้แจ็คเพื่อยืนยันกับตนเองว่าทุกอย่างคือเรื่องจริงไม่ใช่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นจนเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะ ซึ่งร่างกายอุ่น ๆ กับมือที่เอื้อมมากอดตอบก็ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นว่าหมัดที่แลกกันไปนั้นได้ปลดปล่อยความทุกข์ใจในอดีตจนหมดสิ้นแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอ?”

“...”

เขาเอาแต่จ้องหน้าคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาพร้อมถุงพะรุงพะรังเต็มมือ จนถึงตอนนี้ก็ไม่กล้าคิดเต็มร้อยว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะต้องราบรื่น ซึ่งถ้าถามว่าเท็นกลายเป็นคนกลัวทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก็คงตอบได้ง่าย ๆ ว่าตั้งแต่เริ่มอยากได้คำว่าเพื่อนอีกครั้ง

“เห็นมึงนอนอยู่เลยไม่อยากปลุก กูซื้อกาแฟกับขนมปังมาให้ อ้อ... มีโจ๊กด้วยนะ ถึงจะไม่ใช่เจ้าโปรดแถวบ้านกู แต่จากหน้าตาก็คิดว่าน่าจะอร่อย”

“มึงได้นอนบ้างไหม?” เท็นไม่สนใจมื้อเช้าที่อีกฝ่ายกำลังเอาออกจากถุง ตอนนี้เขาสนแค่ว่าไอ้แจ็คได้พักผ่อนบ้างหรือยังหลังจากเกิดเรื่องขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน

เท็นค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่อยู่เฉย หลับตานอนอย่างสบายใจ คนที่แคร์คนอื่นเก่งกว่าตัวเองอย่างไอ้แจ็คคงตรงเข้าไปหาไอ้ธีร์และพี่น้องมัน พร้อมทำอะไรก็ตามเพื่อให้ทุกคนสบายใจขึ้น

“น่าจะเกือบสี่สิบนาทีถ้าจำไม่ผิด” ไอ้แจ็คคงรู้ตัวว่าโกหกไม่เนียน ซึ่งคนนอนไม่พอก็เอาแต่อมยิ้มขณะยื่นขนมปังให้เขา “กูตื่นเพราะหิว เดี๋ยวอิ่มจะไปนอนต่อแล้ว”

ถูกอ่านใจออกจนหมดเปลือก เท็นรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กมัธยมในโรงเรียนสอนดนตรีคนนั้นอีกครั้ง คนที่มีแต่ความกังวลและไม่มั่นใจกับอะไรสักอย่างเดียว

“กูอยากให้มึงรีบกินรีบไปนอน แต่ถ้าทำแบบนั้นเดี๋ยวจะเป็นกรดไหลย้อน เพราะงั้นอดทนไปนอนในรถตอนขากลับได้ไหมวะ?” เท็นสบตากับอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง และเพียงครู่เดียวไอ้แจ็คก็ยิ้มพลางพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะย้ายมานั่งข้าง ๆ เขา

“เข้าใจเรื่องกรดไหลย้อน แต่ถ้าให้อดทนรอหลับบนรถตอนขากลับก็กลัวจะทนไม่ไหว” แจ็คยิ้มกับตนเองก่อนจะหันไปสบตากับอีกฝ่ายที่มองมาอย่างสงสัย “กูจะนอนบนเตียงตรงนั้น เพราะเราสองคนจะกลับกันพรุ่งนี้”

“พรุ่งนี้? เราสองคน?” อยากให้ไอ้เท็นเห็นหน้าตัวเองเหลือเกิน มันทั้งตลกและน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน “หมายถึงกูกับมึงน่ะเหรอ?”

“อยู่กันแค่นี้คิดว่ากูหมายถึงลิงที่ไหนล่ะ” แจ็คหัวเราะ “พวกนั้นจะกลับกันตอนเที่ยง กูว่ามันคงดีกว่าถ้ามึงกับไอ้ธีร์จะให้เวลากันหน่อย” แจ็คอธิบายพร้อมอ้าปากเป็นเชิงบอกให้อีกฝ่ายทำตาม เขาจะได้ยัดขนมปังเข้าปากมันเสียที “จะได้ไม่ต้องอึดอัดเวลาอยู่บนรถด้วยกัน”

“มันยังรู้สึกแย่อยู่ใช่ไหม?” สีหน้าไอ้เท็นเก็บความกังวลไว้ได้ไม่มิด ซึ่งเขาก็พยักหน้า

“แต่ไม่ใช่เพราะถูกมึงต่อยนะ” แจ็คเว้นจังหวะไประหว่างนึกถึงหน้าเพื่อนสนิทที่นั่งคุยกันตลอดทั้งคืน “แต่เป็นเพราะมันรู้สึกผิดกับมึงน่ะ”

“...”

“มึงสองคนมีหลายอย่างที่ต่างกันสุดขั้ว แต่ก็มีบางมุมที่เหมือนกันจนแทบเรียกว่าแฝด ยกตัวอย่างเช่นเรื่องขี้งอน” เขาส่ายศีรษะหน่าย ๆ ที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้ตอนอายุใกล้จะสามสิบแล้ว “มึงอยากให้มันแสดงออกว่าแคร์ อยากให้มันรู้สึกผิดบ้าง ส่วนมันก็อยากได้ยินคำขอโทษ อยากให้มึงสำนึกผิดเหมือนกัน”

“ด่ากูในใจอยู่ล่ะสิ?”

“มันก็ต้องมีบ้าง เพราะถ้าด่าออกเสียงเดี๋ยวหาว่ากูซ้ำเติมอีก”

“เอาสักหมัดไหมล่ะจะได้เสมอกัน” เท็นบีบกรามคนข้าง ๆ จนปากจู๋ ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบในห้องพัก ก่อนแจ็คจะเป็นฝ่ายจับข้อมือเขาอาไว้

“ถ้าจูบตอนนี้จะเจ็บแผลหรือเปล่า?”

“น่าจะ แต่สักทีคงไม่น่าถึงขั้นโคม่าหรอกมั้ง?” พอได้ยินคำตอบจากไอ้คนปากเก่งแจ็คก็ยิ้มขำ ก่อนจะเอียงใบหน้าปรับองศารับจูบที่อีกฝ่ายเป็นคนเริ่มก่อน

ไอ้เท็นจูบเหมือนคนไม่กลัวเจ็บ แม้ว่าเขาจะระวังแล้วแต่มันกลับบดขยี้หนักกว่าเดิมจนถอนริมฝีปากออกร้องเสียงหลง

“นั่นไง”

“เพราะไอ้เหี้ยธีร์เลย แม่ง” คนเจ็บบ่นอุบอิบ แจ็คจึงก้มลงเล็กน้อยพลางเพ่งมองรอยแผลตรงริมฝีปากอีกคน ยังปากดีได้อยู่ แบบนี้ค่อยสมกับเป็นไอ้เท็นหน่อย

คำพูดประโยคเดียวที่ต่างฝ่ายอยากได้ยิน คนอื่นคงคิดว่าทำไมไอ้เท็นกับไอ้ธีร์ถึงยอมลดทิฐิแล้วขอโทษกันไปเรื่องจะได้จบ ๆ แต่ทุกอย่างมันง่ายนิดเดียวเสมอเพราะไม่ใช่เรื่องตัวเอง คงมีแค่คนที่เผชิญเรื่องราวเหล่านั้นถึงจะเข้าใจที่สุดว่าการอ้าปากขอโทษแต่ละครั้งมันมีความยากมากน้อยแค่ไหน
 
“ถ้าตอนนั้นกูยอมเป็นฝ่ายขอโทษมันก่อน มึงคิดว่าไอ้ธีร์จะให้อภัยกูไหมวะ?”

“กูคิดว่าไม่” แจ็ครู้จักไอ้ธีร์ดีที่สุด ไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนนี้ เขายังคงยืนยันว่ามันเป็นคนดี แต่ไอ้ธีร์ตอนอายุสิบแปดที่เพิ่งถูกทำร้ายความรู้สึกคงไม่ใจกว้างให้อภัยได้เท็นได้ง่าย ๆ “มึงก็เหมือนกัน ต่อให้เป็นฝ่ายยอมขอโทษก่อน แต่ถ้าใจยังมีอคติกับมันอยู่ ขอโทษให้ตายสักร้อยรอบคำว่าเพื่อนของมึงสองคนก็ยังมีความหมายเท่ากับคนอื่น”

“นั่นสินะ” เขาเห็นด้วยกับไอ้แจ็ค เอาเข้าจริงเท็นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในช่วงเวลานั้นมันมีอะไรที่จะทำให้ทุกอย่างลงตัวได้ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีอคติต่อกัน

ในช่วงเวลานั้นใช่ว่าเท็นจะไม่มีความคิดดี ๆ มันเคยมีเสี้ยววินาทีสั้น ๆ ที่เขาคิดว่าถ้าเกิดเปิดใจให้กว้างแล้วทำความเข้าใจไอ้ธีร์หน่อย มันอาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้ แต่ตอนนั้นเขาก็เอาแต่คิดว่าเป็นความผิดไอ้ธีร์ฝ่ายเดียว ทั้งที่มันก็แย่ทั้งคู่ที่ไม่เคยหันหน้าเข้าหากัน และปรับตัวเข้าหาสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น

แต่เขากับมันเลือกที่จะปล่อยให้อารมณ์ควบคุมทุกอย่าง

“แต่ไอ้ธีร์โอเคแล้วใช่เปล่าวะ?”

“ได้ฟาดหน้ามึงไปตั้งหลายชุดไม่โอเคขึ้นก็แย่ละ”

ทันทีที่พูดจบเท็นก็หรี่ตามองคนข้าง ๆ พร้อมเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม พูดก็พูดเถอะ ไอ้ธีร์ก็เจ็บหนักเหมือนกันล่ะวะ เผลอ ๆ เขาได้ออกหมัดเยอะกว่าด้วย งานนี้คนที่คุ้มคือ TEN1O เห็น ๆ

“มันฝากมาให้” ไอ้แจ็คโยนถุงเล็ก ๆ มาและเขาก็รับไว้ได้พอดี “มันเป็นคนออกไปซื้อเองเลยนะ”

“กะจะให้กูสำนึกบุญคุณว่างั้น มันซื้อให้เพราะต้องซื้อของตัวเองด้วยน่ะสิ”

“มึงก็เห็นความดีมันหน่อยเท้ออออ” เท็นยิ้มจนเจ็บแผลกับเสียงยานคางจากปากไอ้แจ็คที่ไม่ได้ยินบ่อย ๆ

เขากำลังดีใจกับถุงยาโง่ ๆ นี่อย่างเก็บอาการไม่ได้ แต่ถ้าจะให้นั่งน้ำตาคลอเพราะนึกซาบซึ้งไอ้ธีร์ล่ะก็... ยังเร็วไปล้านปีว่ะ

“เดี๋ยวกูขอนอนสักสามชั่วโมงนะ”

“ทำไม ก็นอนยาวไปเลยดิไหน ๆ ก็ไม่ต้องรีบกลับอยู่แล้ว”

“เสียดายเวลา” เท็นมองตามแผ่นหลังเจ้าของคำพูดที่ลุกขึ้นยืนบิดเนื้อบิดตัวก่อนจะหันมายิ้มให้เขา “ผมอยากไปเที่ยวกับคุณก่อนกลับกรุงเทพอะ งงอะไรวะ?”

“งั้นคุณก็ไม่ต้องนอนเลยดิวะ ผมเสียดายเวลาสามชั่วโมง”

“งั้นก็ลุกไปเตรียมตัวเลยครับ ผมพร้อมตั้งแต่เมื่อวานแล้วเผื่อคุณไม่รู้”

เท็นยกเท้าขึ้นยันหลังไอ้คนขี้คุย ซึ่งไอ้แจ็คก็ถอยหลังมาก้าวหนึ่งเขาจึงออกแรงยันมันจนเซไปด้านหน้า ไม่มีอีกแล้วบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกังวล พอถึงตอนนี้เท็นก็ได้รู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปจมอยู่กับความกลัวอีกแล้ว

ตราบใดที่ยังมีไอ้แจ็คอยู่ตรงนี้



*


ใช่ว่าแลกหมัดปรับความเข้าใจแล้วทุกอย่างจะจบ เท็นนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์พลางอ่านแถลงการของพี่ต๋องในเฟซบุ๊กถึงทริปสัมภาษณ์ทีมขี้ซุยบราเทอร์และ TEN1O ที่จำต้องเลื่อนไปก่อนเนื่องด้วยเหตุผลบางประการ เขารู้สึกผิดที่ทำให้ผู้ใหญ่เสียงาน แต่ในขณะเดียวกันก็นึกขอบคุณทริปนั้นที่ทำให้เขากับไอ้ธีร์หายเป็นหมาบ้า

เท็นตั้งใจจะไปขอโทษพี่ต๋องถึงที่และขอรับผิดชอบทุกอย่างด้วยการอัดคลิปให้ใหม่โดยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่คงต้องขอเวลาพี่แกหน่อยเพราะไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขากับไอ้ธีร์จะมองหน้ากันได้โดยไม่มีใครออกหมัดก่อน

แต่แผนที่วางไว้คงล่มแล้วเพราะคนที่เพิ่งนึกถึง อยู่ ๆ แฟนคลับเขาก็เข้ามาโพสต์ให้กำลังใจในเฟซบุ๊กและไอจีอย่างล้นหลามแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันผิดปกติเกินไป เท็นยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกระทั่งเห็นรูปหน้าช้ำ ๆ ของไอ้ธีร์ที่ถูกแคปมาจากไอจีมันพร้อมแคปชั่นว่า

‘หายกันแล้วนะห่า ยาที่ให้ไปอะทาด้วย ใครหายช้าเป็นหมา เคนะ’

เท็นเพิ่งได้เรียนรู้ว่าคนเรารู้สึกอบอุ่น่ใจได้แม้ว่าใบหน้าปราศจากรอยยิ้ม ชายหนุ่มนั่งนิ่ง บอกตามตรงว่าให้ตายอย่างไรก็คงไม่ชิน เท็นนั่งจ้องรูปนั้นอยู่สักพักโดยไม่ได้ตอบข้อความใครก่อนจะคว้ามือถือเอามาเสิร์ชชื่อไอจีไอ้ธีร์เพื่อเข้าไปเช็กดูว่าคอมเมนท์ใต้รูปนั้นไปในทิศทางไหน ซึ่งคราวนี้แฟนคลับของมันก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขานัก มากสุดก็คอมเมนท์ประมาณว่า

‘อยากสะใจที่รู้ว่าพี่ต่อยพี่เท็นนะครับ แต่พอเห็นหน้าพัง ๆ ของพี่แล้วผมก็ขอสะใจตรงนี้ก่อน’

อาจเป็นเพราะโพสต์ของพี่ต๋องที่ทำให้คนดูเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นคลิปทริปของขี้ซุยบราเทอร์ถึงล่มทั้งที่สมาชิกหลายคนในนั้นก็อัปรูปลงให้เห็นอยู่ว่าไปทะเลด้วยกัน สิ่งที่ไอ้ธีร์ทำมันมีความเสี่ยงแค่ไหนทำไมเท็นจะไม่รู้ การโพสต์รูปหน้ายับ ๆ ลงแบบนั้นก็มีแต่จะทำให้คนอื่นสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งการคาดเดาก็คงไม่ได้ยากอะไรเลย

แต่ไอ้ธีร์ก็คงเป็นไอ้ธีร์ คนที่เลือกดาหน้าเข้าหาปัญหามากกว่าจะซุกไว้ใต้พรมเหมือนเขา มันคงเลือกให้ทุกคนรู้ความจริงไปเลยว่าร่องรอยบอบช้ำที่เกิดขึ้นมาจากการสะสางความในใจกับอดีตเพื่อนชั่ว ๆ ที่เคยทำเรื่องไม่ดีไว้มากมายโดยไม่แคร์ว่ากระแสสังคมจะโต้กลับมาแบบไหน และเท็นหวังว่าคนจันไรอย่างไอ้ธีร์คงทบทวนมาดีแล้วว่าจะรับมืออย่างไร


jjack: ตื่นยัง?
TEN1O: สักพักแล้ว
jjack: เห็นแล้วใช่ไหม?
TEN1O: ทั้งของพี่ต๋อง ทั้งของไอ้ธีร์เลย
jjack: โอเคเปล่า?
TEN1O: เป็นห่วงเหรอ?
jjack: เออครับ เป็นห่วงมาก ทีนี้จะตอบผมได้ยัง?
TEN1O: ไอ้ธีร์ยอมเชือดคอตัวเองให้ดูขนาดนั้น ผมยิ่งกว่าโอเคอีก
jjack: 555555555555555555555555
TEN1O: ขำไร -_-
jjack: มันไลน์มาบอกกูตั้งแต่เช้าแล้วว่าถ้ามึงสะใจให้ด่าพ่อแทนด้วย เพราะมันต้องใช้ความกล้ามากที่จะโพสต์แบบนั้น
jjack: แต่ถ้าโอเคก็ดีแล้ว


เขาจะโอเคเต็มร้อยได้อย่างไรในเมื่อเห็นไอ้ธีร์ทำอย่างนั้น จริงอยู่ที่เมื่อก่อนเกลียดมันเข้ากระดูกดำ แต่พอเห็นมันพยายามทำดีด้วยก็พังไม่เป็นท่าเลย เอาง่าย ๆ ตอนนี้เท็นกำลังรู้สึกผิดที่เห็นอีกฝ่ายออกหน้ารับความอับอายอยู่ฝ่ายเดียว


TEN1O: ตอนนี้กูโคตรอยากเจอมึงเลยว่ะแจ็ค
jjack: ทำงานอยู่เนี่ยสิ แต่ตอนเที่ยงผมไม่มีนัดกินข้าวกับใครนะ เผื่อคุณอยากจองคิว
TEN1O: ไม่ได้อยากกินข้าวกับคุณอะครับ ผมอยากกอด
jjack: ผมก็อยาก
TEN1O: งั้นตอนเที่ยงไปหานะ
jjack: อย่ามาช้าล่ะ ผมจะรอ (:


เพราะอยู่ใกล้มืออีมูนเลยถูกจับมาถูกับหน้า แม้ว่าเจ้าตัวจะส่งเสียงขู่ฟ่อแต่เท็นก็ยังฟัดหอมลูกสาวสายโหดเพราะเขาไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วกับผีเสื้อที่บินสวนกันเหมือนนกแตกรังในวันมีภัยธรรมชาติ

เขาจะตายเพราะมีความสุขไหม เท็นอยากซึมซับความรู้สึกแบบนี้นาน ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากได้รับมากเกินไปเพราะกลัวว่าวันไหนวันหนึ่งพระเจ้าจะมาทวงคืนไปเพราะท่านเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนอย่างเขาไม่ควรมีสิ่งที่เรียกว่าความสุขนาน ๆ

หลังจากนึกอย่างนั้นได้ก็สบตากับพี่ซัน เจ้าหมาหน้าซื่อที่มองมาเหมือนอยากบอกว่าขณะที่เขามีไอ้แจ็คคอยปลอบ คอยอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ไอ้ธีร์ก็คงกำลังแบกรับคำพูดคนอีกมากมายที่ไม่ได้มีแค่ด้านดี


TEN1O: มีอะไรที่กูพอจะทำได้ไหมวะแจ็ค?
TEN1O: จริงอยู่ที่กูโดนด่ามาเยอะแล้ว แต่ถ้ากูเงียบแล้วปล่อยให้ไอ้ธีร์โพสต์แบบนั้นอยู่ฝ่ายเดียวกูก็กลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด มันต้องมีคนคิดว่ากูกับมันทะเลาะกันมากกว่าจะเข้าใจว่าเพิ่งปรับความเข้าใจกัน
TEN1O: กูอยากให้ทุกอย่างมันเท่ากัน ไม่ใช่ใครคนหนึ่งต้องออกมารับแทนเพราะคิดว่าตัวเองเข้มแข็งกว่า
jjack: อะไรที่ทำได้น่ะเหรอ


ไอ้แจ็คปล่อยให้เขาจ้องโทรศัพท์อยู่เกินครึ่งนาทีเหมือนประโยคที่จะพิมพ์ต่อไปนี้มันต้องอธิบายยาวในรวดเดียว หรือไม่มันก็คงอยากให้เขาร้อนใจไปกับการรอ

jjack: เป็นตัวของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่มึงควรเป็นที่สุดเวลาอยู่กับเพื่อน



*


เรื่องรอยแผลบนใบหน้าเกมเมอร์สองคนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลมาเกือบอาทิตย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ในเว็บบอร์ดดัง แท็กทวิตเตอร์ หรือการอัดคลิปสรุปลงยูทูป มีให้เลือกเสพทุกทาง บางคนมีข้อมูลที่เป็นความจริงซึ่งก็คงไม่ได้มาจากไหนนอกจากปากของ TEN1O ที่เคยระบายให้เพื่อนใหม่ฟังจนถูกเอาไปเล่าต่อจนถึงตอนนี้ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนพูดไปเรื่อยเปื่อย ปรุงแต่งสารพัดจากเรื่องที่ฟังมาอีกทีแต่อธิบายรู้ลึกเหมือนเรียนในห้องเดียวกัน

ก็เหมือนทุกครั้งที่ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ แล้วการอธิบายทุกอย่างก็คงไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากทำให้เรื่องยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น เท็นเลือกที่จะปล่อยผ่านไปโดยไม่เข้าไปอ่าน บทเรียนตลอดสิบปีที่ผ่านมามันสอนให้ชายหนุ่มรู้แล้วว่าคนเราไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ว่าทุกคนคิดกับตนเองอย่างไร


ต่อให้โดนด่าแรงแค่ไหนมันก็คุ้มค่าแล้วกับสิ่งที่ได้คืนมา


พี่ซันไม่ต้องตื่นมาปลอบพ่อกลางดึกอีกแล้ว อย่างน้อยก็ช่วงนี้ที่เขาสามารถนอนยาวได้ถึงเช้าโดยไม่สะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย เท็นรู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ทั้งที่ทุกวันยังเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่เคย เท็นไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำว่าเพื่อนสนิทจากไอ้ธีร์และคนในทีมขี้ซุยฯ เพราะการได้เคลียร์กับมันซึ่ง ๆ หน้าโดยไม่หลงเหลือความขุ่นเคืองใจต่อกันเพียงเท่านั้นมันก็เกินพอแล้ว

เท็นกำลังทำความรู้จักกับคำว่า ‘ปล่อยวาง’ เพื่ออยู่กับปัจจุบันที่พอดีโดยไม่โลภมากว่าจะต้องได้มากกว่านี้ ซึ่งความไม่รู้จักพอมันมีแต่จะทำให้เขาไม่มีความสุข

“ทำไมถึงชวนเราออกมา?”

เท็นเห็นเด็กผู้หญิงอวบซ้อนทับร่างคนตรงหน้า แต่แววตา น้ำเสียง และคำถามที่ส่งมานั้นต่างจากเมื่อตอนมอหกอย่างสิ้นเชิง ไม่มีบลูที่ยิ้มเก่งและพร้อมจะยอมเขาทุกเรื่องอีกแล้ว ซึ่งเท็นก็ไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดกับสิ่งที่อีกฝ่ายเลือกแสดงออกหลังจากที่เขารวบรวมความกล้าติดต่อเธอไปหาเพราะอยากนัดเจอกันสักครั้ง

“เราจะกลับถ้าเท็นบอกว่าแค่เรียกมาเยาะเย้ยเรื่องคืนดีกับธีร์แล้ว”

“เราไม่ได้คืนดีกับมันหรอก เรากับมันก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำมานานแล้ว”

บลูไม่ต่างจากวันที่เจอกันในห้างครั้งล่าสุด เขายังจำทุกคำพูดของเธอในวันนั้นได้เป็นอย่างดี วันที่ทำให้คนโง่คนนี้ตาสว่างว่าเคยทำร้ายไอ้แจ็คไว้มากมากมายเท่าไหร่ 

“สั่งอะไรก่อนไหม กาแฟ หรือว่าน้ำผลไม้ดี?”

“เราไม่ได้ตั้งใจจะนั่งนานขนาดนั้น เท็นมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ เราฝากลูกไว้กับแม่ไว้แค่ไม่กี่ชั่วโมง”

“อ่า นั่นสินะ” ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงหมดความอดทนแล้วลุกออกไปโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร บลูมีสิทธิ์ที่จะขยะแขยงการมีตัวตนของเขา เพราะเรื่องเมื่อตอนนั้นมันค่อนข้างรุนแรงกับหัวใจเด็กผู้หญิงอย่างเธอเหลือเกิน

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันไม่ใช่เท็นเลยนะรู้ตัวหรือเปล่า?” บลูนั่งกอดอกแค่นยิ้มขณะมองมา และเขาก็พอนึกออกว่าตอนนี้ตนเองคงมีสภาพแบบที่ไม่ชอบเอาเสียเลย

“ตอนนี้บลูก็ไม่ใช่บลูคนนั้นเหมือนกัน”

“...” ดูเหมือนว่าคำพูดของเขาจะเป็นเชื้อเพลิงมากกว่าน้ำดับไฟ แววตาของเธอจึงถ่ายทอดความไม่พอใจออกมาอย่างเก็บไม่มิด “มีอะไรก็รีบพูด เพราะถ้าจะเรียกมาเพื่อพูดจาค่อนแคะเราก็คงไม่อยากทนนั่งฟังนาน ๆ”

“เราควรเงียบเพื่อให้บลูเข้าใจว่าเราสำนึกผิดหรือตอบว่า ‘นั่นสิ ไม่ใช่เราเลย’ มากกว่าจะพูดอย่างนั้น ขอโทษนะถ้าทำให้ไม่พอใจ แต่ที่พูดไปอย่างนั้นก็เพราะเราอยากไม่อยากให้บลูเอาแต่คิดว่าเราคนเดียวคือคนที่ควรมองเห็นความผิด เพราะตอนนั้นเราสองคนก็ทำมันด้วยกัน”

“...”

“เรารู้ตัวดีบลู แล้วก็เข้าใจทุกอย่างถ่องแท้แล้วด้วย ไม่ว่าจะตอนที่พยายามทำร้ายทุกคนหรือตอนที่ไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าบลูคิดว่าเราควรจมอยู่กับความรู้สึกผิดมากกว่าอะไร เราบอกไว้ตรงนี้เลยว่าบลูสมหวังมานานมากแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเราไม่เหลือเพื่อนที่จริงใจสักคนเดียว แต่นั่นคือผลจากการกระทำทุกอย่าง แล้วมันก็สมเหตุสมผลดีแล้ว”

เท็นทิ้งจังหวะไปเพื่อรอดูท่าทีอีกฝ่าย ซึ่งการที่หญิงสาวยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ลุกเดินหนีออกไปมันก็เป็นข่าวดีสำหรับนาทีนี้

“ที่พูดไปอาจดูเหมือนชวนทะเลาะ แต่เราก็อยากบอกให้บลูรู้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลยสักนิด เราแค่อยากให้บลูเข้าใจว่าต้นเหตุมันเกิดจากเรา แต่บลูก็คือส่วนหนึ่งเหมือนกัน บลูจะโกรธเราแค่ไหนก็ได้เพราะเราทำเรื่องแย่ ๆ กับบลูไปมากมายจริง ๆ แต่อย่าทำเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียวได้ไหม เราเองก็เสียใจแล้วเราก็รู้สึกผิดกับบลู”

หญิงสาวสบตากับชายหนุ่มที่เธอเคยรัก พร้อมความจริงที่ว่าเธอนั้นยัดเยียดความผิดให้คนตรงหน้ามาตลอด บลูไม่อยากยอมรับว่าเธอมองข้ามความผิดของตนเองแล้วโบ้ยว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเท็นทั้งนั้น

ลึก ๆ บลูกลัวและรู้สึกผิดกับแจ็ค แต่ก็โทษอีกฝ่ายว่าถ้าไม่ใช้ความดีความอบอุ่นเข้าหาก่อนมีหรือคนอย่างเธอจะหวั่นไหว แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องที่เอาไว้หลอกตัวเองเมื่อครั้งยังเป็นเด็กไร้เหตุผล พอโตขึ้นหญิงสาวก็ได้เรียนรู้ว่าการโทษคนอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความผิดในใจนั้นมันช่วยแค่ตอนที่เธออยากได้รับความเห็นใจ แต่ความผิดที่มากับความจริงนั้นยังคอยตอกย้ำมาตลอดซึ่งหญิงสาวหลีกหนีมันไม่ได้

บลูไม่อยากยอมรับเพราะคิดว่าเท็นคงเป็นคนหนึ่งที่ชาตินี้คงไม่มีวันเข้าใจอะไร และการตอบตกลงมาเจอกันในวันนี้นั้นยอมรับว่าเธอมาเพราะคาดหวังคำขอโทษและสีหน้าหงอย ๆ มากกว่าจะเป็นการพูดถึงความผิดที่เคยทำร่วมกัน


แม้จะเข้าใจทุกอย่าง แต่การออกปากให้อภัยผู้ชายคนนี้ก็ช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกิน


“ผ่านไปสิบเอ็ดปี มันนานเกินไปถ้าจะอธิบายเรื่องที่บลูรู้ดีอยู่แล้ว แต่เราก็ยังอยากขอโทษอยู่ดี ไม่ว่าจะเรื่องที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ”

“เท็นคิดว่ามันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นเหรอ?”

“ไม่เลย เราคงไม่คาดหวังถึงขนาดนั้น” ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ขณะสบตากับหญิงสาวตรงหน้า ท่ามกลางเสียงดนตรีเบา ๆ ที่เปิดคลอในร้านกาแฟในช่วงสายของวันศุกร์

“เราไม่ได้ใจดีเหมือนแจ็คนะ แค่มองหน้าเท็นนาน ๆ เรายังทำไม่ได้เลย”

“บลูจะได้อดทนแค่วันนี้วันเดียว ถ้าได้พูดทุกอย่างจนหมดเรื่องคาใจแล้วเราสัญญาว่าจะไม่โผล่มาทำให้ปวดหัวอีก”

คนอย่างเท็นกำลังพูดอย่างเจียมตัวกับเธองั้นเหรอ ฟ้าจะผ่า ฝนจะตกไหม ใจหนึ่งก็คิดว่าอีกฝ่ายคงคิดอยากขอโทษจริง ๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้มีแผนอะไรอยู่หรือไม่

“บอกตามตรงว่าเราค่อนข้างแปลกใจ”

“...”

“คนอย่างเท็นขอโทษใครเป็นด้วยเหรอ หรือเพราะอยากสร้างภาพให้แจ็ครู้สึกดีขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้นเราบอกไว้เลยนะว่ามันเปล่าประโยชน์ เพราะทุกวันนี้เรากับแจ็คเป็นแค่เพื่อนในเฟซบุ๊ก เขาไม่สนหรอกว่าเราจะโอเคกับเท็นหรือเปล่า”

“แจ็คมันไม่รู้ว่าเรามาเจอบลู”

“...”

“ถ้ามันรู้มันคงอยากห้ามมากกว่าจะสนับสนุนให้เรามานั่งตรงหน้าบลูแบบนี้”

ไม่ว่าใครก็คงเดาออกได้ง่าย ๆ ว่าการไปเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่เคยทำร้ายจิตใจนั้นจะมีผลลัพธ์อย่างไร บางคนอาจนั่งร้องไห้เสียใจก่อนให้อภัย แต่เท็นคิดว่าไอ้แจ็คมันคงรู้เหมือนกันว่าบลูจะมาแบบไหน หลังจากถูกเขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมาในวันนั้น

“ถ้าอยากจดจำแบบนั้นก็ไม่เป็นไรนะเราเข้าใจ จุดประสงค์ที่เราเรียกบลูมาวันนี้ไม่ใช่เพราะอยากให้ยกโทษหรือขอกลับไปเป็นเพื่อนกัน เพราะสิ่งเดียวที่เราอยากทำมากที่สุดตอนนี้คือขอโทษ”

เธอทั้งโกรธและไม่อยากเชื่อ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปสิบเอ็ดปีแล้วแต่ความรู้สึกเมื่อตอนนั้นเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ตอนแจ็คเข้ามาในห้อง ตอนที่สองเพื่อนสนิทกำลังจะแตกหัก พร้อมคำว่าผู้หญิงไร้ค่าที่ออกมาจากสายตาแม้เท็นจะไม่ได้พูดมัน

เธอทั้งเสียใจ โกรธ สับสนปนเปกันไปหมด บลูกลายเป็นคนโง่ที่พยายามหาทางตามไปถึงไต้หวันเพื่อแสดงให้เท็นเห็นว่าเธอไม่ยอมแพ้ให้ความรักและพร้อมจะเป็นคนเลวในสายตาแจ็คขอแค่เขาให้โอกาสเธอ

มันทั้งบ้าและขาดสติ แต่ตอนนั้นเด็กสาวโง่ ๆ คนหนึ่งไม่สามารถปล่อยมือใครไปสักคนได้เพราะเธออ่อนแอเกินไป จะกลับไปหาแจ็คก็ละอายใจ แต่การวิ่งขอความรักจากคนที่ไม่เห็นค่าก็ไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเลย

บลูอยู่กับความเจ็บปวดที่มาจากความโง่เง่าของตนเองนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ ตอนนั้นมองเห็นแค่คำว่าความรักโดยที่ไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร บางทีสิ่งที่รู้สึกอาจเป็นเพียงความเหงาหรือความเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากเสียใครไป บลูละอายใจแต่ก็ไม่กล้ายอมรับความผิดในส่วนของตนเองต่อหน้าเท็น

โชคดีที่มีสามีใจเย็นและเข้าใจ เธอจึงพยายามปรับมุมมองความคิดให้กว้างขึ้นจนทุกวันนี้เป็นคนที่ดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว แต่พอเป็นเรื่องเมื่อตอนมอหกมันก็เหมือนมีใครเอามีดมากรีดแผลเก่าให้เธอต้องเจ็บเพราะความรู้สึกที่เผลอไผลไป ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวที่อยากได้นั้นทำร้ายคนรักดี ๆ อย่างแจ็คโดยอ้างว่า ‘ไม่ได้ตั้งใจ’ ไม่ได้เลย

มีโอกาสหลายครั้งที่จะยับยั้งชั่งใจ แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็เลือกที่จะปล่อยให้เลยเถิด

ในวันที่รวบรวมความกล้าทักไปหาแจ็ค... วันนั้นบลูไม่กล้าคาดหวังว่าจะได้รับการให้อภัยเช่นกัน ตอนนี้บลูเห็นเงาตนเองซ้อนทับที่นั่งของเท็น มองเห็นความรู้สึกผิดจากแววตาคู่นั้นที่พยายามบอกให้รู้แม้ว่าอคติของเธอมันยังบังอยู่มากมาย




(ต่อด้านล่างนะคะ)


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 06-07-2019 21:59:43
วันนั้นกับวันนี้ต่างกันแค่ไหน ก็คงเป็นการให้อภัยจากปากแจ็คโดยไม่มีการพูดจาค่อนแคะแม้แต่ประโยคเดียว ขณะที่เธอพยายามฆ่าเท็นให้ตายคามือด้วยความเจ็บปวดในอดีต

“ขอโทษที่เราเข้าไปเป็นความทรงจำแย่ ๆ ในชีวิตช่วงหนึ่งนะ”

ความรู้สึกมากมายประดีประดังเข้ามาพร้อมกันจนเรียบเรียงไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ หญิงสาวเม้มริมฝีปากพลางลดระดับสายตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตาพร้อมมือที่วางอยู่บนหน้าขาซึ่งค่อย ๆ กำเข้าหากัน

มันคือสิ่งที่อยากได้ยินมาตลอดหรือเปล่า? หญิงสาวเองก็ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ ๆ คือคำพูดนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อจิตใจ อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอยั้งปากไม่ให้พ่นคำพูดแย่ ๆ ออกไปได้

“เราคิดอยู่นานว่าจะเอายังไงดี ปล่อยเลยผ่านไปเลยดีไหม ยังไงก็ใช้ชีวิตกันคนละทางไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องเผชิญหน้าอะไรกันอยู่แล้ว ผู้ชายเลว ๆ แบบเราคงกล้าเลือกวิธีนั้นได้โดยไม่ต้องละอายใจเลย”

“นั่นสิ มันไม่ส่งผลอะไรต่อชีวิตกันและกันเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่รู้อย่างนี้แล้วยังจะพยายามทำไม?” บลูเงยหน้าขึ้น แววตาของเธอซ่อนความสงสัยไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว “ทำไปเพื่ออะไรเหรอเท็น?”

มันเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มถามตนเองก่อนตัดสินใจเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายมาที่นี่ และสิบเอ็ดปีที่ผ่านไปเท็นไม่เคยคิดว่าคำตอบมันจะออกมาอย่างง่ายดายแบบนี้

“เหมือนเราเคยเล่นเกมไม่ผ่านเลยลักไก่ใช้สูตรโกงเพื่อข้ามมันไป แล้วพอโตขึ้นก็นึกได้ว่าถ้าวันหนึ่งเกิดตายไปทั้งที่ยังไม่ได้เคลียร์ด่านนั้นให้จบเราก็คงนอนตายตาไม่หลับ ก็เลยอยากกลับไปแก้ไขให้มันถูกต้องน่ะ”

“...”

“จะผ่านหรือไม่ผ่านมันไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพราะอย่างน้อยเราก็ได้พยายาม บลูคิดอย่างนั้นไหม?”

เจ้าของชื่อไม่ได้พยักหน้าเห็นด้วยหรือปฏิเสธว่า ‘ไม่’ ให้คนฟังหน้าชา บลูเพียงจ้องมองมาเหมือนอยากรู้ว่าภายในสมองกลวง ๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างในหัวผู้ชายคนนี้มันคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งคู่ปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก และพอถึงตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้วที่จะแยกทางกับผู้หญิงคนนี้ คนที่เขาเคยทำร้ายด้วยความตั้งใจ

“เรารบกวนเวลาบลูมามากแล้ว ยังไงก็ขอบคุณนะที่ยอมทนนั่งฟังทั้งที่จะไม่มาก็ได้”

“...”

“หลังจากนี้ก็ขอให้เจอแต่คนดี ๆ อยู่ท่ามกลางคนที่รักและเข้าใจ ขอให้บลูเป็นภรรยากับคุณแม่ที่มีความสุขเก่ง ๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยนะ”

เท็นรู้ว่าคำอวยพรของเขาไม่ได้มีค่ามากถึงขนาดนั้น แต่มันก็คงดีกว่าการลุกไปจ่ายเงินแล้วออกไปจากร้านโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ในเมื่อวันนี้ได้พูดอย่างที่ตั้งใจแล้ว การอวยพรครั้งสุดท้ายมันคงไม่ได้ทำให้บรรยากาศแย่ลงไปกว่าเดิมนักหรอกมั้ง...

“รถเราจอดฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวเราไปเช็กบิลแล้วจะออกทางขวามือ” เท็นชี้นิ้วไปทางด้านหลัง มันคงดีถ้าบลูจะเลือกไปทางซ้ายแทนที่จะเดินไปทางเดียวกันแล้วพบว่าเขายังยืนอยู่ข้างรถเพราะยังหากุญแจไม่เจอ

ชายหนุ่มโบกมือลาด้วยสีหน้าและท่าทางสุดแสนจะอึดอัด แถมยังกล้าพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘บาย’ ด้วย ...ให้ตาย ทุกอย่างดูโง่ไปหมด ตั้งแต่จำความได้ครั้งแรกก็คงเป็นตอนเพิ่งรู้จักไอ้แจ็คที่เขาดูกล้า ๆ กลัว ๆ อย่างนี้

“เดี๋ยว”

ขายาวหยุดชะงักเพราะเสียงที่เรียกรั้งท้าย ชายหนุ่มหันกลับไปด้านหลังก่อนจะพบว่าหญิงสาวที่เคยพูดจาทิ่มแทงจิตใจกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนกำลังลุกขึ้นยืนพร้อมมองมาด้วยแววตาที่เขาคาดเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร

“มีธุระต่อหรือไง บลูยังไม่ได้สั่งกาแฟสักแก้วเลยนะ”

ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ก่อนที่เท็นจะเป็นฝ่ายยิ้มออกมาก่อน ชายหนุ่มกลับไปนั่งที่เดิมแม้ว่ายังนึกไม่ออกถึงบทสนทนาต่อไป เขากับบลูต่างก็โตขึ้นเมื่อนึกถึงสิบเอ็ดปีก่อน มันมากจนทั้งคู่สามารถยิ้มออกมาได้แม้ว่าในใจยังคงหลงเหลือร่องรอยบาดแผลอยู่


และปล่อยวางความโกรธเคืองไว้กับอดีต



*


ถนนในกรุงเทพฯ ยังคงติดแหงกจนแทบไม่ขยับ เท็นพรูลมหายใจทางริมฝีปากพลางเคาะปลายนิ้วกับพวงมาลัยระหว่างเดินทางไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่ออัปเกรดคอมพิวเตอร์สุดที่รัก ความจริงสภาพการใช้งานของมันยังดีจนเรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ค แต่เขาอยากได้ลื่นมากกว่านี้ แบบที่ไอ้แจ็คเห็นต้องร้องว้าว

บลูกลับถึงบ้านแล้ว เขารู้ได้จากรูปคู่กับลูกตัวน้อยที่ส่งมาให้ผ่านทางแชตเฟซบุ๊ก แม้จะไม่มีคำพูดประกอบ แต่เท็นก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เธอยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเต็มร้อย แต่อย่างน้อยการยอมถอยหลังคนละก้าวก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเกลียดกันต่อไปเรื่อย ๆ

ระหว่างรถติดบนถนนก็เปิดดูเพจเกมเพื่ออัปเดตข่าวสาร แม้จะเป็นการแข่งขันกระชับมิตรเอาฮา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาอยากลงแข่ง มันเป็นเพราะความเคยชินตลอดสิบปีที่ผ่านมาที่ไม่ว่างานไหนก็ต้องมี TEN1O พอถึงตอนที่ทำได้แค่มองเฉย ๆ จึงทำให้โหยหาการแข่งขันมากกว่าที่เคย


jjack: กูซื้อไอ้นี่มา มึงคิดว่าลูกจะเล่นเปล่าวะ?


เท็นยิ้มขำกับข้อความที่มาพร้อมรูปของเล่นหมากับแมว ซึ่งเจ้าตัวคงแอบสั่งซื้อข้ามน้ำข้ามทะเลจากต่างประเทศโดยไม่บอกไม่กล่าวสักคำ เขาจับสังเกตได้จากซองพลาสติกตรงฉากหลังที่มีภาษาอังกฤษและภาษาจีนปะปนกันอยู่


TEN1O: ก็ต้องลองดูแล้วว่ามันอยากเอาใจพ่อใหม่ไหม?
jjack: ปกติลูกชอบเล่นอะไร?
TEN1O: เล่นผมอะ คุณคิดว่าไง?
jjack: กลัวคุณหัวล้านสิครับ ต้องคิดอะไรอีก
TEN1O: คนละผมดิไอ้ห่า กูเนี่ยกู
jjack: 555
TEN1O: ว่าแต่ซื้อให้แค่ลูกเหรอครับ แล้วพ่อมันล่ะ นึกถึงบ้างหรือเปล่า?
jjack: อยากได้อะไรก็บอกผมสิครับ ตัดพ้อเอาแบ๊วเหรอ
TEN1O: หัดเดาหน่อยแจ็ค เซอร์ไพรส์ผม
jjack: ผมไม่ค่อยชอบทำอะไรแบบนั้นเพราะไม่อยากให้คุณช็อกตายเพราะดีใจน่ะ
TEN1O: แต่ผมอยากลองช็อกสักครั้งในชีวิตว่ะ จัดให้หน่อยได้ไหมวะ?
jjack: งั้นคืนนี้คุณมาค้างบ้านผม เดี๋ยวสอนให้
TEN1O: ใครจะสอนใคร เดี๋ยวมึงรู้


แม้บนถนนจะรถติดจนแทบขยับไม่ได้ แต่เท็นก็ยังคงยิ้มกับข้อความของ ‘เพื่อนสนิท’ ที่ทักมาทุกครั้งเมื่อละสายตาจากงานหรือกิจวัตรประจำวัน มันกลายเป็นความเคยชินไปแล้วที่เท็นใช้ชีวิตกับการมีอยู่ของไอ้แจ็ค และเขาอยากให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ


jjack: มาไหม?
TEN1O: ท้ามาขนาดนี้ไม่ไปก็เสียเชิงแย่เปล่าวะ?
jjack: โอเค จะได้บอกแม่หุงข้าวเพิ่ม


 แม้จะเป็นร้านซักรีดเล็ก ๆ แต่บรรยากาศและความรู้สึกที่มอบให้เขานั้นมันใหญ่โตเกินกว่าจะอธิบายได้ เท็นรักความธรรมดาที่แสนเรียบง่ายของครอบครัวไอ้แจ็ค ชอบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจนรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งในบ้านหลังนั้น

น้องสาวและน้องชายของมันก็เป็นกันเอง พักหลังเขาจึงแวะซื้อขนมไปให้ทุกครั้งเพราะอยากแย่งตำแหน่งเพื่อนพี่ชายที่ดีที่สุดมาจากโซ่ ซึ่งเด็กคนนั้นค่อนข้างทำคะแนนไว้ได้สวยจนน่าหมั่นไส้นิด ๆ 

ไหนจะแม่ไอ้แจ็คที่ใจดีจนน่าเกรงใจ ท่านทั้งคุยเก่ง เป็นที่ปรึกษาที่พอได้รับคำแนะนำเมื่อไหร่เป็นต้องได้ทางออกทุกที ไหนจะดูแลและรักเขาไม่ต่างจากลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองอีก แม่ไอ้แจ็คน่ะ --

แม่...

“...”

สายตาจับจ้องอยู่กับคำว่าแม่บนหน้าจอโทรศัพท์ขณะนึกถึงใบหน้าใครอีกคนที่ไม่ได้เจอมานานกว่าสิบปี เท็นรู้สึกว่ามันเนิ่นนาน แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจแตกสลายในวันนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ความอึดอัดตีรวนเข้ามาในอกไม่ต่างจากรถบนถนน แม้แสงสว่างจากหน้าจอจะดับไปแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังฝังตนเองให้จมอยู่กับความรู้สึกบางอย่างที่พยายามลืมทุกครั้งเมื่อนึกถึง ลืมว่าครั้งหนึ่งได้ตัดสินใจหายไปจากชีวิตผู้หญิงที่ให้เขาลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ ปิดกั้นทุกหนทางรับรู้และการติดต่อ

นอกจากเป็นเพื่อนที่แย่ เป็นความทรงจำไม่ดีของบลู เท็นก็ยังเป็นลูกชายที่ไม่เอาไหน เด็กหนุ่มอายุสิบแปดคนนั้นเอาแต่โทษว่ามันเป็นความผิดของทุกคนในโลกที่ผลักไสให้เขาเป็นคนเลวร้าย และหายใจมาจนถึงตอนนี้ได้ด้วยการหลอกตัวเอง

เท็นกล้าขอโทษทุกคน แต่เลือกเพิกเฉยการมีตัวตนของผู้หญิงที่เรียกว่าแม่ ชายหนุ่มปลอบใจตัวเองว่าก็สมควรแล้วที่ท่านสูญเสียเขาไป เท็นเอาความเจ็บใจยึดหลักเป็นหนึ่งโดยไม่สนว่านอกจากการแอบคบหากับคนขับรถแล้ว ผู้หญิงคนนั้นรักลูกชายคนนี้มากแค่ไหน

เพราะถ้าตัดเรื่องใส่ร้ายพ่อกับเรื่องผัวเก็บออกไป เท่าที่จำได้แม่ก็แทบไม่เคยทำร้ายจิตใจเขาเลย

เท็นตระหนักได้ว่านิสัยเสียส่วนหนึ่งของเขาเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่ถูกตามใจมากเกินไป เด็กคนนั้นควรได้รับความผิดหวังหรือเสียใจจากการถูกสั่งสอนบ้าง แต่เขาแทบไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นจนกล้าจองหองกับพ่อแม่

แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเธอเสียทีเดียว แม่ก็แค่เพิ่งมีลูกคนแรกจึงไม่รู้ว่าควรเลี้ยงดูแบบไหนเด็กผู้ชายคนหนึ่งถึงจะเติบโตมาเป็นคนดีที่มีความสุขได้ ผู้หญิงที่ไม่เคยลำบากกับอะไรจึงใช้เงินกับการตามใจหล่อเลี้ยงลูกชายเพียงคนเดียว

แม่พยายามด้วยวิธีของแม่แล้ว มันก็ผิดที่ตัวเขาด้วยที่ไม่รู้จักเรียนรู้และทำความเข้าใจว่าโลกใบนี้มันกว้างแค่ไหน แม่ตามใจลูกได้ทุกอย่าง แต่ลูกชายคนนี้กลับโกรธจึงหาทางหนีไปจากชีวิตเธอโดยไม่ยอมคิดอีกแง่ว่าแม่ก็อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน

แม่จะรักใครก็ได้ทั้งนั้น เหมือนที่พ่อทำ และเท็นก็คงเสียใจถ้ามีใครหนีไปจากชีวิตเพราะเขาแค่อยากรักใครสักคน แต่เท็นช่างเป็นลูกชายที่ใจร้ายเหลือเกินที่คิดว่าแม่จะอยู่ได้แม้ว่าไม่มีเขา ซึ่งความจริงเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่เท็นก็รู้อยู่แก่ใจ

ใช่ แม่อยู่ได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านไปนั้นแม่สุขสบายจริงหรือไง ทำไมถึงไม่คิดได้ให้ไวกว่านี้

ชายหนุ่มกดโทรหาใครอีกคนที่เป็นความสบายใจ แม้อีกฝ่ายเพิ่งให้รอยยิ้มมาแต่ว่าเท็นก็ทำหายไปแล้วและไม่รู้เลยว่าวันนี้มันจะกลับมาหาเขาอีกทีเมื่อไหร่

ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ใช้ไปกับการรอสาย ซึ่งไอ้แจ็คก็ไม่เคยปล่อยให้เขาต้องรอนานนอกเสียจากว่ามันจะถูกเจ้านายเรียกพบส่วนตัว และเพียงครู่เดียวอีกฝ่ายก็กดรับ แต่เท็นกลับไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน

( ว่าไง ถึงกับโทรมาเลยเหรอ? )

ทั้งที่ควรเป็นไปได้ด้วยดีเหมือนทุกครั้ง รอเวลาไอ้แจ็คเลิกงาน หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวเย็นที่บ้านมัน อยู่เล่นเกมกันจนดึกดื่น คลอเคลียกอดจูบเหมือนอย่างที่ทำจนกลายเป็นเรื่องปกติอะไรทำนองนั้น แต่สิ่งที่คิดไว้ก็พังไม่เป็นท่าแล้ว

“แจ็ค”

( ว่าไง เป็นอะไรหรือเปล่า? )

อาจเพราะน้ำเสียงและความเป็นตัว TEN1O ในโลกออนไลน์ที่ทำให้ไอ้แจ็ครู้ได้ทันทีว่าเขาคงกำลังรู้สึกแย่ เท็นไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน หรือบางทีเขาแค่อยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายเพราะคิดว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้นเท็นก็คงผ่านมันไปได้ขอแค่ได้รับกำลังใจจากคน ๆ นี้

“งานยุ่งอยู่ไหม?”

( กูว่างมากเลยตอนนี้ )

“ไม่เอาดิ อย่าโกหก”

( เออ ยุ่ง แต่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าต่อให้ทำงานจนตัวขวิดแค่ไหนก็จะหาเวลามาคุยด้วยจนได้ อย่ากังวลนักสิวะ )

เท็นเงียบไป ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนแข็งกร้าวอย่างเขากลายเป็นคนไม่หลงเหลือความมั่นใจจนกลัวไปหมดอย่างนี้ เสียงคลิ๊กเมาส์ เสียงแป้นคีย์บอร์ดเข้ามาในสายเป็นระยะ รวมถึงเสียงเพื่อนร่วมงานที่หันมาถามความเห็นเกี่ยวกับปัญหาของตัวเกมที่ต้องรีบแก้ไข เท็นจึงหลับตาลงพลางหายใจเข้าลึก ๆ

( ให้ไปหาหรือเปล่า? )

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้น ที่โทรหาก็เพราะอยากได้ยินเสียง”

( แน่ใจเหรอ จากระดับเสียงของมึงกูสัมผัสได้แต่กลิ่นมาคุมากกว่าจะเป็นอารมณ์อยากโรแมนติกนะ? )

“แค่นึกถึงเรื่องบางเรื่องแล้วไม่สบายใจเฉย ๆ แต่ได้ยินเสียงมึงกูก็ดีขึ้นแล้ว”

( แล้วมันพอไหม? )

“ถ้าตอบว่าไม่มึงจะ...”

( กอดมึงไว้จนกว่ามึงจะหายรู้สึกแย่กับทุกเรื่องในโลก )



(ต่อด้านล่างนะคะ)


หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 06-07-2019 22:03:04
เห็นไหม คิดไม่ผิดเลยที่เลือกโทรหาอีกฝ่ายมากกว่าจะจมกับความทุกข์อยู่กับตัวเอง ริมฝีปากหยักค่อย ๆ ยิ้มออกมาได้แล้ว แม้ว่าในใจยังคงหม่นหมอง แต่เขาคิดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามันคงดีขึ้นเพราะได้รับกำลังใจจากคนในสาย

“กูรักมึงว่ะแจ็ค รักแบบที่ไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงความรู้สึกแบบนี้ถึงจะลดลง”

( อาการคิดมากของคุณแม่งอยู่ในระดับไหนวะอยู่ ๆ ก็โพล่งมาอย่างนี้ หัวใจผมยังต้องเต้นนะ งานการก็ยังทำไม่เสร็จ )

“เต้นหน่อยเหอะ เพราะตอนที่พูดอยู่กูก็เหมือนจะหน้ามืดแล้ว เขินจะตายห่า”

( เหรอ งั้นอยากให้บอกรักกลับไหม? )

“มีอย่างที่ไหนมาถามอะไรแบบนั้นวะ มึงเป็นเปล่าเนี่ยแจ็ค?”

( ก็ต้องถามก่อน ผมไม่อยากให้คุณขับรถไปชนตูดใครเพราะใจเต้นกับคำพูดผม )

คนในสายพูดกลั้วหัวเราะ และเขาก็เช่นกัน “ช่วยบอกทีสิว่ากูต้องทำได้”

( ถ้าอยากได้ยินเพราะต้องการกำลังใจกูก็จะพูดให้ แต่ต่อให้คอกูแห้งจนพูดไม่ได้ กูก็อยากให้มึงรู้เอาไว้ว่าไม่มีวันไหนที่กูไม่เชื่อมั่นในตัวมึงเลย )

“ต่อให้กูจะมีเรื่องไม่ดีในอดีตเยอะจนแทบไล่เก็บไม่หมดน่ะเหรอ?”

( อืม ตอบแบบไม่คิดด้วย ไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องที่มั่นใจอยู่แล้ว )

“เบื่อคุณตรงที่น่ารักพร่ำเพรื่อว่ะ”

( ผมไม่ชอบคำว่าน่ารักนะ แต่ถ้ามันออกมาจากปากคุณทุกวันผมจะยอมฟังให้ก็ได้ )

ยิ้มของทั้งคู่มันกว้างขึ้นตามระยะเวลาที่ได้คุยกัน เท็นกดเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อฟังเสียงคนในสายระหว่างเข้ากูเกิลเสิร์ชหาชื่อผู้หญิงคนหนึ่งจนขึ้นรูปเธอมากมาย

แม่ยังคงสวยไม่เปลี่ยนไป หลังจากได้รับกำลังใจจากแจ็คแล้วเท็นก็เปลี่ยนเป้าหมายการเดินทางเมื่อรถบนถนนค่อย ๆ เคลื่อนตัว เหมือนทุกอย่างเป็นใจที่ไม่ทำให้ถนนเส้นนี้รถติด ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังจุดหมายก่อนรถจะเทียบทอดหน้าบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นตา ไอ้แจ็คคงรู้และเข้าใจสถานการณ์มันถึงเลือกอยู่ในสายแล้วพูดจาไปเรื่อยเปื่อยทั้งที่ควรวางสายเพื่อไปทำงานต่อ

“บอกหน่อยว่ากูจะผ่านทุกอย่างไปได้”

( ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรอีกไหม เพราะต่อให้ผ่านไม่ได้คนอย่างมึงก็คงหาสูตรโกงมาใช้อยู่ดี )

เท็นหัวเราะจนตาหยีเพราะถูกรู้ทัน แม้ว่าลึก ๆ จะคิดอย่างนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาค่อนข้างประหม่ายิ่งกว่าตอนนัดเจอบลูเสียอีก

( คุณคือ TEN1O คนเก่งของโลกใบนี้นะ ยังมีเรื่องอะไรให้ต้องกลัวอีกเหรอวะ ผมนึกไม่ออกหรอก )

“นั่นสิ” ชายหนุ่มยิ้มพลางถอนหายใจเอาความทุกข์ออกไปเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวางสาย

ประตูหน้าบ้านบานเล็กยังคงไม่ล็อกตอนกลางวันเหมือนเดิม และเขาก็ใช้ทางนั้นตรงเข้าไปในสถานที่ที่คุ้นเคยมาตลอดครึ่งชีวิต

สองมือชื้นไปด้วยเหงื่อ ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ความทรงจำเก่า ๆ ก็ย้อนกลับมาให้นึกถึง แต่ผิดกับเมื่อก่อนตรงที่ทุกอย่างในหัวมันมีแต่ความทรงจำดี ๆ มากกว่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวที่เคยสร้างความเจ็บปวดให้

“คุณเท็น...?”

เจ้าของชื่อยิ้มพร้อมยกมือไหว้ป้าแม่บ้านที่ตอนนี้แก่ตัวไปมากจนผมที่เคยดำถูกกลืนไปด้วยสีเทา เธอยกมือขึ้นป้องปากทั้งน้ำตาคลอ ส่วนมือที่ว่างก็ชี้ไปนู่นนี่นั่นเหมือนทำตัวไม่ถูก เขาจึงพยักหน้าเพื่อบอกให้รู้ว่าทุกอย่างจะโอเค

ฝีเท้าหยุดลงเมื่อเห็นด้านหลังใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา พร้อมเสียงกระดิ่งของเล่นที่มาพร้อมเสียงอิงแอบคล้ายว่าเล่นกับเด็ก

“คุณผู้หญิงคะ...” คนถูกเรียกหันหลังมา ก่อนดวงตาคู่นั้นจะเบิกกว้างราวกับว่าไม่อยากเชื่อสายตาตนเองที่เห็นเขายืนอยู่ตรงนี้

กระดิ่งในมือร่วงลงก่อนเท็นจะได้เห็นว่าคนถูกเอ็นดูด้วยเสียงอิงแอบนั้นเป็นใคร เมื่อเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวโตรีบตะครุบลูกบอลกระดิ่งนั้นไว้ ก่อนจะถูกแมวบริติชช็อตแฮร์สีขาวเข้าไปแย่ง

ชั่ววินาทีสั้น ๆ เท็นรู้สึกเหมือนเห็นพี่ซันกับมูน แต่ต่างกันตรงที่สีของแมวตัวนั้นมันต่างกับลูกสาวตัวแสบของเขาอย่างสิ้นเชิง แม่ยังคงสวยแต่ท่านแก่ตัวลงต่างจากรูปที่เห็นในกูเกิล ซึ่งคงเป็นเพราะข้อมูลเหล่านั้นมันเก่าแล้ว แต่ที่ชัดเจนก็คือความจริงที่ว่าเขาทิ้งแม่ไปนานจนแทบนึกไม่ออกว่าเธอต้องแก่ไปจากเดิมมากแค่ไหน

“แม่”

“...”

น้ำตาหยดลงอาบใบหน้าแม่เพียงเพราะคำ ๆ เดียวที่ออกมาจากปากลูกชาย และเขาเองก็ทนเข้มแข็งต่อไปไม่ได้หลังจากเห็นอีกฝ่ายกำลังสะอื้นจนตัวสั่นอย่างนั้น

“เท็นกลับมาแล้วครับ...”

ไม่มีคำถามหรือการก่นด่าแม้แต่คำเดียว เพราะตอนนี้สิ่งที่ทั้งคู่ต้องการมากที่สุดคือการโอบกอดกันและกันเอาไว้ เท็นรู้สึกได้เลยว่าหัวใจเขามันถูกเติมเต็มทั้งที่ยังคงแตกสลาย ขณะที่วงแขนเล็ก ๆ ที่เคยอุ้มเขาในวัยเด็กกำลังตวัดกอดเอาไว้แน่น ๆ ราวกับอยากยืนยันกับตัวเองว่าลูกชายยืนอยู่ตรงนี้จริง ๆ

“เท็น... เท็นลูก...”

ชายหนุ่มซบใบหน้าลงกับไหล่แคบพลางกระชับกอดให้แน่นยิ่งขึ้น เขาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเท่าที่จะไหลได้ และแม่ก็คงเหมือนกัน

มันอาจเป็นความโชคดีในความรู้สึกผิดที่ยังกลับมาทัน เพราะถ้ามาตอนที่ไม่เห็นแม่อยู่ตรงนั้น แต่เป็นที่ไหนสักแห่งที่เขาไม่มีวันตามไปได้... แบบนั้นชายหนุ่มคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิต

เท็นยังคงมีโอกาสได้แก้ตัวอีกครั้ง และเขาจะพยายามดูแลแม่ให้ดีที่สุด



*


“เท็นยังไม่เปิดเครื่องอีกเหรอลูก?”

คนถูกถามพยักหน้าพลางมองจอโทรศัพท์มือถือที่กดโทรออกไปแล้วห้าครั้ง แจ็คไม่ใช่คนชอบเซ้าซี้ แต่ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าจะมากินข้าวเย็นและค้างด้วยกัน ไอ้เท็นก็ควรโผล่หัวมาที่นี่มากกว่าจะปิดเครื่องแล้วหายหัวไปหรือเปล่า?

พอนึกถึงบทสนทนาแปลก ๆ ตอนบ่ายแล้วก็นึกเป็นห่วง แจ็คถอนหายใจอย่างคนหมดความอดทนก่อนจะคว้าเอากุญแจรถพร้อมเสื้อแจ็คเก็ตออกมาสวมจนคนเป็นแม่ที่กำลังเก็บจานชามถึงกับเลิกคิ้วมอง

“ถ้ามันมาถึงแล้วโทรบอกแจ็คนะ”

“โอเค ถ้าเจอเท็นแล้วก็ไลน์บอกแม่ด้วยล่ะ แม่เป็นห่วง”

ลูกชายพยักหน้าก่อนจะออกไปขึ้นมอเตอร์ไซค์คู่ใจ นอกจากครอบครัวกับพวกขี้ซุยฯ แล้วแจ็คก็ไม่เคยต้องแบ่งความเป็นห่วงให้ใครที่ไหนกระทั่งไอ้เท็นโผล่มาเขย่าต่อมความหวั่นไหวในใจ ซึ่งตอนนี้ไอ้ความรู้สึกที่ว่านั่นมันกำลังทำร้ายเขาด้วยความหวาดกลัว

อุบัติเหตุเหรอ หรือว่าไปเจออะไรมาจนต้องปลีกตัวไปอยู่คนเดียว แจ็คเป็นห่วงไอ้เวรนั่น เพราะพักหลังมันเก็บทุกอย่างมาคิดจนอาการหนักกว่าเขาแล้ว


*


ไม่ได้ขับรถเร็วขนาดนี้มานานแค่ไหน ชายหนุ่มบิดคันเร่งซอกแซกตามรถยนต์บนถนนเส้นใหญ่จนมาถึงบ้านของใครอีกคนในเวลาเร็วกว่าที่เคย และตอนนั้นเขาก็ได้เห็นคนที่ตามหากำลังเดินลงมาจากรถเหมือนกัน

“...”

“แจ็ค?”

เขากำลังโกรธ ใช่ แต่ความเป็นห่วงมันก็มีมากมายเกินกว่าจะขับรถกลับบ้านไปโดยไม่ยอมไถ่ถามสักคำ แจ็คถอนหายใจอย่างหัวเสีย ขายาวตรงเข้าไปหาคนตรงหน้าก่อนจะรั้งเข้ามากอดซึ่งการที่ไอ้เท็นไม่ร้องเสียงหลงเพราะมีบาดแผลตามร่างกายมันก็เป็นข่าวดีโคตร ๆ แล้ว

“มึงนี่แม่ง...”

“กูขอโทษ พอดีกูไปเจอแม่มาแล้วขากลับแบตมันหมดกูเลยแวะมาเอาสายชาร์จไปชาร์จในรถ ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน”

“กอดให้กระดูกหักเลยดีไหม?”

คนถูกเป็นห่วงอมยิ้มก่อนจะกระชับกอดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น เท็นไม่อยากให้ไอ้แจ็คหัวเสียเลยโดยเฉพาะเรื่องของเขา แต่ก็ยอมรับว่าการเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้เพราะความเป็นห่วงก็อดรู้สึกดีไม่ได้จริง ๆ

“ทำไมถึงไปเจอแม่ล่ะ?”

“บลูด้วย”

“หะ?” แจ็คผละอ้อมกอดออกมาสบตากับคนตรงหน้า พร้อมเลิกคิ้วถามอย่างประหลาดใจกับเรื่องที่ได้ยิน

“พอถึงจุด ๆ หนึ่งกูก็คิดได้ว่าไอ้ธีร์ไม่ใช่คนเดียวที่กูต้องขอโทษน่ะ ตอนเช้าก็เลยนัดเจอบลู ส่วนตอนบ่ายก็ไปหาแม่”

“ผลออกมาเป็นไง?” สีหน้าไอ้แจ็คเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่มิดเลย เห็นแล้วน่าเอ็นดูเป็นบ้า

“GGWP”

แจ็คยิ้มขำพลางยีผมคนตรงหน้ากับคำตอบที่ยังกวนประสาทได้อยู่ “งั้นที่โทรหากูตอนกลางวันก็เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?”

เท็นพยักหน้าอย่างไม่อาย เขารู้สึกดีจะตายถ้าไอ้แจ็คจะยิ้มได้เพราะเขา

“ตาบวมเลยสิ ร้องไห้ตอนคุยกับบลูหรือแม่ล่ะ?”

“เพราะบลูก็เหี้ยแล้วครับพี่” ทั้งคู่ยิ้มขำขณะกอดคอกันเข้าไปในบ้าน จนถึงตอนนี้แจ็คก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียวเพราะความเป็นห่วงเพื่อนสนิทมันจุกอก

พอเปิดประตูเข้าไปหมากับแมวก็เข้ามารุมเหมือนคิดถึงพ่อมันนักหนา เท็นทิ้งตัวบนพื้นให้ลูก ๆ ถ่ายทอดความรักก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจเขา

“บอกกูทีว่าแม่กินข้าวแล้ว ไม่งั้นกูคงรู้สึกผิดมาก”

“ใครจะไปรอมึงเหรอ ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ” แจ็คแค่นหัวเราะขณะสบตากับคนที่กำลังหัวเราะชอบใจ ก่อนเสียงท้องร้องจะหักหน้าเขาแบบโคตรได้จังหวะ

“หื้ม...?”

“เวรเอ๊ย ผมกลับบ้านละ คุณแม่งไปชาร์จแบตให้เต็มเหอะไป”

“โหยอย่างอนดิ ถ้าเป็นแบบนี้ต้องอยู่ให้ผมง้อก่อน” เท็นรีบเข้าไปสวมกอดเพื่อนสนิทจากด้านหลังพร้อมเอาคางเกยไหล่ เขารู้ว่าต้องทำอย่างไรอีกฝ่ายถึงจะสำลักรอยยิ้มตาย และมันต้องได้ผล

“ผมก็เป็นห่วงไปดิ ก็นึกว่าคุณเป็นอะไรไป”

“ขอโทษครับพ่อ เท็นจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”

“อย่าทำให้ใจหายอีกเข้าใจไหม?” แจ็คเอื้อมมือขึ้นมาลูบศีรษะคนที่จุ๊บซอกคออ้อนเขาไม่หยุด และไอ้เท็นก็ขานตอบในลำคออย่างว่าง่าย

RRRrrrrr!!!

โหมดโรแมนซ์หยุดลงเพราะเสียงโทรเข้า เท็นเห็นชื่อไอ้ธีร์ขึ้นบนหน้าจอ ไอ้แจ็คจึงกดรับสาย

“เออว่าไง อืม กูอยู่บ้านไอ้เท็น เปล่า มาแดกข้าวเฉย ๆ เดี๋ยวกลับแล้ว มึงมีไร อ่า... ยังไงนะ? เอาดี ๆ มึงอย่าเมา ธีร์ กูไม่ตลกด้วยนะ”

ตอนแรกเท็นรู้สึกเหมือนทุกอย่างจะจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง แต่อยู่ ๆ ไอ้ธีร์ก็โทรมาเพื่อทำให้รู้ว่าเขาไม่ใช่พระเอกหนังที่จะได้รับเรื่องดี ๆ แบบนั้น ไอ้แจ็คมองมาขณะฟังคนในสายพูด ไอ้ธีร์อาจจะอยากซ้อมทีมก็ได้อย่าคิดมากไป เท็นได้แต่หวังว่ามันคงไม่ของขึ้นแล้วกลับไปโกรธเขาอีกครั้งหรอกนะ

“กูต้องไปแล้วว่ะ”

“ซ้อมเหรอ?” บอกตามตรงว่าหงอยแล้วก็เสียดาย เขายังไม่หายคิดถึงไอ้แจ็คเลยทำไมต้องรีบไปด้วยวะ แต่ทั้งหมดก็ทำได้แค่คิดในใจ เท็นไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะไม่อยากสร้างความลำบากใจให้คนตรงหน้า

“ไม่เชิง มันเรียกประชุมทีมบ้านบอสเรื่องลงแข่ง DotA 2 งานกระชับมิตรน่ะ ก็พังงานสัมภาษณ์พี่ต๋องไปก็ต้องชดใช้กรรมกันหน่อย”

เท็นรู้ว่าหน้าเขามันคงโคตรโง่เลยตอนทำเป็น ‘อ๋อ’ เหมือนเข้าใจทุกอย่างดี มันไม่แปลกอะไรเลยถ้าทีมขี้ซุยฯ จะลงแข่ง DotA 2 อย่างมีความสุขหลังจากเคลียร์ปัญหากับเขา คนที่ทำให้หยุดเล่นเกมนี้ไป


แต่ซึมแปลก ๆ ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย


“เป็นอะไร เซ็งเหรอ?”

“เปล่า กูแค่หิวข้าวเฉย ๆ” ชายหนุ่มยิ้มให้คนที่ทาบมือลงกับแก้มเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เท็นจะไม่ทำให้ไอ้แจ็คเครียดเด็ดขาด

“งั้นหยิบสายชาร์จแล้วไปรับกูด้วย ไม่อยากเอารถไปหลายคัน”

“อะไร?”

เท็นคว้ามือแกร่งที่กำลังจะชักกลับพร้อมเลิกคิ้วถามและเขาต้องการได้คำตอบภายในสามวินาทีนี้ ซึ่งไอ้แจ็คก็กลั้นยิ้มเหมือนคนกำลังมีแผนคิดจะแกล้งกันอย่างไรอย่างนั้น

 “ทำไมกูถึงต้องไปรับ มึงก็ขับมอเตอร์ไซค์มาปะวะ?”

ตอบสิแจ็ค พูดอะไรสักอย่างเพื่อให้อาการเนื้อเต้นมันดับลงสักที

“ก็ถ้าไปด้วยกันก็จะได้กลับพร้อมกันไง กูพูดถูกไหม?”

“จะให้ไปรองี้เหรอ?” ไม่อยากคิดว่าตนเองเซนส์ดี แต่สีหน้าและรอยยิ้มไอ้แจ็คในตอนนี้กำลังจะทำให้เขาเป็นบ้าอยู่แล้ว

“รออะไรอีก มีประชุมก็ต้องอยู่ฟังด้วยกันไหมวะ?”

ไอ้คนเรื่องเยอะชักมือกลับพร้อมส่ายหน้าหน่าย ๆ เท็นมองตามเพื่อนสนิทที่เดินออกไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบ้านก่อนจะหันมายิ้มให้เขา

“ในฐานะแครี่ประจำทีมขี้ซุยบราเทอร์น่ะ ไอ้ธีร์มันบอกกูมาอย่างนี้”

“...”

“เข้าใจแล้วก็หยิบสายชาร์จแล้วขับไปรับกูที่บ้าน อย่างงนาน เดี๋ยวไอ้เชี่ยธีร์เปลี่ยนใจกูไม่รู้ด้วยนะ”

“อ... อะไรล่ะ มันให้ตำแหน่งความหวังทีมกับเทพอย่างกูแล้วจะมาแคนเซิลทีหลังไม่ได้เปล่าวะ... เฮ้ยแจ็ค!!! เดี๋ยวกูรีบขับตามหลังไป ระหว่างรอก็เกลี้ยกล่อมเลี้ยงไข้ไอ้ธีร์ไว้ก่อนนะโอเคไหม?!!!”

เท็นตะโกนตามไอ้ส้นตีนที่หันหันมาเดินถอยหลังเลิกคิ้วทำท่าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่หัวใจของเขามันพองโตจนแทบกลายเป็นบอลลูนแล้ว

TEN1O ยังมีสิทธิ์ได้ลงแข่งอยู่เหรอ... เขาแทบไม่อยากเชื่อ โดยเฉพาะทีมที่มีไอ้ธีร์เป็นหัวหน้าทีมด้วย

ความรู้สึกการยกทุกอย่างออกจากบ่าเป็นอย่างไร ในที่สุดผู้ชายอย่างเท็นก็ได้เข้าใจมันเสียที เท็นหันไปทางหมากับแมวที่มองมาเหมือนว่าพวกมันเองก็ลุ้น ก่อนเขาจะยิ้มให้ลูกทั้งสองที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาตลอด


คุณได้รับข้อความจาก...
‘แค่เพื่อนครับ’
[ กูซ่อนเฟรนด์ชิปไว้ตรงซอกหลังตู้หนังสือ ]


ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาบอกเอาตอนนี้ แต่ความอยากรู้อยากเห็นที่มีมันก็เอาชนะความรีบไปหาทีมขี้ซุยบราเทอร์นิดหน่อย เท็นรีบวิ่งไปตามจุดที่บอกเพราะอยากรู้ว่าไอ้แจ็คเขียนอะไรลงไป มันจะลึกซึ้งแค่ไหน หรือว่ามีประโยคทิ่มแทงใจให้เจ็บจี๊ด ๆ เล่นกันแน่?

เฟรนด์ชิปที่ว่าเก่าอยู่แล้วยิ่งดูโทรมไปอีกเมื่อถูกฝุ่นเกาะ ชายหนุ่มรีบปัดออกจนกระแอมไอพร้อมเปิดไปยังหน้าสุดท้ายที่อีกฝ่ายเคยบอกว่าจะละเลงลงในค่ำคืนที่มาอยู่เฝ้าบ้านให้เขาวันนั้น

แต่บนหน้ากระดาษไม่ได้มีตัวหนังสือมากมายอย่างที่คาดหวังไว้ ไม่ว่าจะเป็นคำด่า หรือประโยคที่ชวนทำให้ใจเต้นแรง เพราะมีเพียงรูปเก่า ๆ รูปหนึ่งเท่านั้นที่ติดอยู่ตรงกลางความว่างเปล่า

รูปถ่ายที่ยืนยันว่าครั้งหนึ่งเด็กหนุ่มสามคนนั้นเคยรักกันมากแค่ไหน พร้อมแคปชั่นเล็ก ๆ ใต้รูปว่า ‘กูเก็บไว้ในกระเป๋าเงินมาตลอด แล้วตอนนี้กูอยากส่งต่อให้มึงดูแลมัน’

น้ำตาหยดแรกร่วงลงบนรูปหลังจากอ่านข้อความจบ เท็นรีบใช้ท้องแขนเช็ดออกเพราะกลัวว่าความทรงจำเมื่อตอนสามคนนั้นยังเป็นเด็กมอห้าจะยับเพราะความสุขที่ถูกขับออกมาเป็นน้ำตา ช่วงเวลานั้นพวกเขามีความสุขแค่ไหนกันนะ ทุกคนต่างก็เครียดแต่ก็ยังสนุกไปกับการซ้อมด้วยกัน และถ้วยรางวัลที่ได้มาจากการเป็นแชมป์ก็เพราะความพยายามจากประธานสีอย่างไอ้แจ็ค มือกล้องเอนเตอร์เทรนเก่งอย่างไอ้ธีร์ และทีมคัลเลอร์การ์ดที่มีเขาเป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงสมาชิกสีแดงทุกคนไม่ว่าจะรุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือเพื่อนร่วมชั้น

ช่วงเวลาที่เคยมีกันและกัน อาจจะมีกระทบกระทั่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่เคยรักกันเลย

ในวันนี้เท็นรู้แล้ว... เขารู้และเข้าใจดี และรูปถ่ายใบนี้จะไม่ใช่รอยยิ้มเดียวของทั้งสามคนที่เหลืออยู่ เพราะต่อจากนี้เป็นต้นไปเท็นจะสร้างมันขึ้นใหม่และพยายามแคร์คนรอบข้างให้มากขึ้น แต่ก็จะไม่ลืมการซื่อสัตย์กับตัวเอง

เท็นจะพูดเมื่อไม่สบายใจกับการกระทำของเพื่อน และพร้อมจะขอโทษเมื่อรับรู้ว่าเผลอทำร้ายจิตใจใครไป


ซึ่งเขาหวังว่าไอ้แจ็คและไอ้ธีร์จะพร้อมเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน


(https://sv1.picz.in.th/images/2019/07/07/KWLMFf.md.jpg)




THE END



ที่ฝนตกตอนนี้ไม่ใช่เพราะพายุเข้า แต่เป็นเพราะน้ำตาของดิชั้นตอนเขียนนิยายเรื่องนี้
มาถึงตอนจบของซีรีส์เกมเมอร์แล้วจ้ะพี่ หนูหวังว่าทุกคนจะชอบมัน แม้ว่าหนูอาจจะทำให้พอใจหรือไม่พอใจบ้าง อย่าถือสากันเลยนะคะ

อ่านจบแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เล่าให้หนูฟังหน่อยน้า คอมเมนท์ของทุกคนมีค่ากับใจหนูมาก ๆ เพราะนอกจากทำให้หนูมีแรงใจเขียนต่อแล้ว ก็ยังทำให้หนูได้ฝึกการอ่านด้วยค่ะ

รักทุกคนนะคะ ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยน้า เริ้บ

หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-07-2019 23:23:33
ความผิดพลาดในอดีตใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้แก้ไข
ของเท็นนับว่ายังดีเพราะคู่กรณียังอยู่ครบไม่ได้สูญหายไปไหน
การถอยหลังกลับมาพิจาณาก็เพื่อที่เราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 07-07-2019 00:05:13
ขอบคุณคนแต่งค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 07-07-2019 00:06:17
น้ำตาไหลพรากกกก :hao5:
ในที่สุดก็มีวันนี้ เหมือนได้โล่งอกไปพร้อมๆกับเท็นเลยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: martiney ที่ 07-07-2019 00:30:25
สมกับที่ได้ตามอ่านของเช็ตนี้ ประทับใจมาก เขียนดีมาก ได้ทุกมุมของความรู้สึกเลย จะรอติดตามเรื่องใหม่น้า
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 07-07-2019 00:38:43
  :pig4: :pig4:

 อ่านเรื่องนี้แล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เวลาเป็นของมีค่า และเป็นอะไรที่แปลกประหลาดในตัวของมันเอง อาทิเช่น มันเคยมีช่วงนึงที่กลุ่ม แจ็ค เท็น และธีร์ เคยมีเรื่องราวหมางใจกันไปต่างๆนานา แต่พอโตขึ้น อาจจะด้วยโตแล้วทั้งร่างกายและความคิด ความขุ่นเคืองที่มีต่อกันก็เบาบางเหมือนโดนชะล้างไปตามกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกผูกพันก็ยังคงอยู่ที่เดิม เหมือนกับว่าวันเวลาทำอะไรความรู้สึกที่มีต่อกันไม่ได้เลย ..ประหลาดนะ /คนอ่านเนี่ยแหละ

ขอบคุณนักเขียนมากมายที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างเหล่าเกมเมอร์ออกมาในรูปแบบที่แตกต่างแต่เหมือนกันในความน่ารักของความรัก

   :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-07-2019 02:15:26
เคลียร์...
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 07-07-2019 02:24:19
 :hao5:  เป็นตอนจบที่ดีมากกกกค่ะ 
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 07-07-2019 03:07:59
อิ่มใจมากค่ะ เหมือนชีวิตคนนึงมี่พังไปหมด สุดท้ายก็ค่อยๆซ่อมกลับมาได้ที่ละส่วนเพราะมีคนอยู่ข้างๆกัน  งุ้ยยยยยย น่ารัก และ ดีต่อใจค่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kingkongkaew ที่ 07-07-2019 04:51:35
ดีใจแทนเท็นที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี ได้กลับมาคืนดีกับเพื่อนและได้กลับไปหาคุณแม่ รวมทั้งเคลียร์เรื่องราวที่ติดค้างกับบลู ทุกคนที่มีปัญหาอาจจะไม่โชคดีเหมือนเท็น เท็นโชคดีที่มีแจ็คที่เข้าใจ ให้อภัย และอยู่เคียงข้างจนสามารถผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี โดยส่วนตัวแล้วเชื่อเหมือนแจ็คที่ว่าทุกอย่างคลี่คลายไปได้เพราะทุกคนโตขึ้น และยอมละทิฐิของตนเอง ยอมเป็นฝ่ายยอมและถอยออกมาคนละก้าว เมื่อใจร้อน ดึงดันเอาชนะเหมือนช่วงวัยรุ่น เชื่อว่าโตขึ้นความคิดก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ดีใจที่แจ็คคอยอยู่เป็นกำลังใจให้เท็น และทั้งสองคนก็ต่างเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน

เสียดายที่เรื้องนี้จบลงเพราะยังอยากอ่านฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างแจ็คกับเท็นอยู่ แต่ก็เป็นตอนจบที่ดีมากๆค่ะ หวังอยากให้มีตอนพิเศษให้หายคิดถึงแจ็คเท็นนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 07-07-2019 08:15:02
มีความสุขมากๆนะเท็น-แจ็ค

หนูทุกข์มานานเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 07-07-2019 10:59:59
 :L2: รักแจ็คเท็นนะะะะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: sexysunn ที่ 07-07-2019 13:37:50
สนุกมาก  อยากให้มีต่อให้เพื่อนๆ จับผิดว่านางคนแอบคบกัน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย ที่ 07-07-2019 15:53:50
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ o1

ในที่สุดปมต่างๆในชีวิตของเท็นก็ได้รับการคลี่คลายแล้วเจ๊ยินดีด้วยค่ะ :กอด1:

แต่สถานะของแจ็คกับเท็นละคะตกลงมันยังไงกันแน่เฮ้ย :o211:

เหมือนมันยังไม่เคลียร์เท่าไหร่นะเหมือนมันยังไม่จบมันไม่ชัดเจนโอ๊ยอิเจ๊เครียดหลายเด้ :katai1:



หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 07-07-2019 23:43:47
ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวดีๆมาให้อ่านร้าาา
สนุกมาก เราอ่านทุกเรื่องเลย
เรื่องนี้อบอุ่นนะ อุ่นจนร้อนเลย 555
ชอบทุกตัวละครเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-07-2019 19:32:30
 :katai2-1: o13 :katai2-1:


 :กอด1: :L2: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 08-07-2019 22:21:40
รู้สึกดีจังเลยค่ะ....
เป็นความรู้สึกที่อิ่มเอมใจมากเลยอ่ะ แม้กระทั้งช่วงแรกของพาร์ทสุดท้ายจะทำให้น้ำตารื้น แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันคือน้ำตาแห่งหวังและเรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้านี้อ่ะ

ชอบมากทุกครั้งที่แจ็คกับเท็นหยอดคำหวานใส่กัน พูดแทนตัวและฝ่ายตรงข้ามด้วยคุณกับผม... อาจจะปกติสำหรับการแทนตัวเองแบบนี้ในเรื่องอื่นๆ แต่สำหรับเรื่องนี้ เวลาเจอประโยคกึ่งหยอดกึ่งกวนแบบนี้  มันก็ทำให้เขินไม่หยอกเลยนะคะ

ขอบคุณสำหรับเซ็ทเกมเมอร์ที่สามนี้นะคะ ดีกับใจ แล้วก็สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Gade_ka ที่ 08-07-2019 23:37:19
ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ที่รู้คือมันดีมาก มากที่สุด ㅠㅠ
เราตามอ่านมาตั้งแต่น้องโซ่จนถึงพี่แจ็ค บอกเลยว่าเป็นอะไรที่โคตรครบรส เราตอบไม่ได้ว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุด เพราะมันดีคนละแบบ และประทับใจเราคนละส่วน
แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้คือรักเซ็ทเกมเมอร์มาก ดีใจที่มีเล่มครบทุกเล่ม

... แต่ไหนๆ ก็ขอพูดถึงญอผู้หญิงสักหน่อย เอาจริงเรื่องนี้คือจี๊ดใจเรามาก เพราะเราเป็นคนค่อนข้างเซนซิทีฟเรื่องเพื่อน เราเข้าใจนะ เข้าใจทั้งเท็น เข้าใจทั้งธีร์ เข้าใจทั้งแจ็คเลย
มันมีพาร์ทของความไม่รู้ ความไม่เข้าใจ ความเป็นเด็ก และความผิดจังหวะเต็มไปหมด ต่างฝ่ายต่างทำร้ายกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้นตอนที่เท็นกับธีร์เคลียร์กันที่ริมทะเลนั่น จึงเป็นอะไรที่เราชอบมาก การปลดล็อคความรู้สึกของทั้งเท็นและธีร์ผ่านการต่อยกันเป็นอะไรที่โคตรสมเหตุสมผลสำหรับเรา เป็นตอนที่เราร้องไห้เพราะอินหนักมาก โชคดีที่รู้ตัวว่าจะร้องเลยล็อคตัวเองนอนอ่านคนเดียวในห้องและปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างบ้าคลั่ง แบบ.. ประทับใจมากจนอยากกรี๊ดอัดโอ่ง ㅠㅠ
ส่วนความสัมพันธ์ของเท็นกับแจ็ค คือพูดยังไงดี เราว่ามันดีมากที่ทั้งสองจะคบกันไปแบบนี้มากกว่าพยายามหาชื่อสถานะอ่ะ มันเหมือนคนทั้งคู่ผ่านอะไรมาเยอะมากกว่าที่จะนั่งมองหาชื่อเรียกความสัมพันธ์แล้ว .. ซึ่งการได้อยู่กันไปเรื่อยๆ แบบนี้มันคงน่าจะมีความสุขมากกว่า

แต่ว่าเล่มพิเศษเรากดเลือกแจ็คเท็นไปนะ ... อ่าว 55555555

สุดท้ายขอบคุณนักเขียนมากนะคะสำหรับนิยายดีๆ ทั้งสามเรื่อง สัญญาว่าจะติดตามต่อไปเรื่อยๆ เป็นเงาแค้นเลยจ้าาา


... อ่ะ! ล้อเล่น 5555555555555555

เริ้บพี่แจ็คนะคะ #ตะโกนอัดโอ่ง
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 09-07-2019 05:23:45
เพิ่งได้มาตามอ่านจนจบ ขอบคุณสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีมีคุณภาพนะคะ เป็นนิยายที่มีพลังมากๆ สอนประสบการณ์ชีวิต ให้แง่คิด และได้รับพลังบวกกลับไปเยอะมากๆ เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนสร้างสรรค์ผลงานที่ดีต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 11-07-2019 01:02:58
เดินทางมาถึงตอนจบจนได้ พอจบเซ็ทเกมเมอร์จริงๆแล้วเราก้อดใจหายไม่ได้เลย
ตามอ่านมาตั้งแต่น้องโซ่ที่คอยหวงลูก มาอ่านของแหลมที่หวีดพี่กันต์ แล้วก้เรื่องนี้
แจ็คเท็นเป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกเต็มอิ่มมาก มัน fulfill อะไรบางอย่างในใจเราได้อะ
คนเราผิดพลาดเสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะระมัดระวังแค่ไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่สุดท้ายเราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำพลาดอะไรซักอย่าง
แต่เมื่อเราผิดพลาดแล้ว สิ่งสำคัญคือเราได้บทเรียนมั้ย เราสำนึกกับความผิดนั้นรึป่าว
แล้วเราพร้อมที่จะยอมรับผิดและเดินหน้าแก้ไขมันมากแค่ไหน ซึ่งแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากันเลย
เวลาหลายปีที่แจ็ค เท็น และธีร์ ต้องจ่ายไปกับความผิดพลาดครั้งนี้มันไม่น้อยเลย
แต่พอคืนดีกันได้ เวลาที่เสียไปมันก้ดูจะไม่ได้มากเท่าไหร่ แถมดูจะคุ้มค่าซะด้วยซ้ำ
เพราะเรารู้ว่าเวลาต่อจากนี้มันจะดีและยาวนานกว่าเวลาที่เราเสียไปมาก
เราจะดูแลมันอย่างดี เพราะเราได้บทเรียนมาแล้ว ว่าทำยังไงถึงจะรักษาความสัมพันธ์และคนรอบข้างไว้ได้
อ่านเรื่องนี้แล้วมันเต็มอิ่มมากเลยแบบที่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
เราสงสารแจ็คที่ต้องสูญเสียเพื่อนคนสำคัญไปโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองพลาดอะไรไป
แจ็คไม่มีโอกาสแม้แต่จะแก้ตัวหรือแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองด้วยซ้ำ
แต่ก็สงสารเท็นมากกว่า เพราะบทเรียนราคาแพงที่เค้าต้องรับมันมาตั้งหลายปีด้วยตัวคนเดียว
มันก้ใช่ที่เค้าทำตัวเอง แต่มันเหมือนว่าสังคมและอีโก้ของเค้าผลักเท็นไปยืนอยู่ที่ปากเหวคนเดียว
และไม่ยอมที่จะให้เค้าได้เดินกลับมาเลย จนสุดท้ายข้างในเค้าก้พังทลายไปแบบนั้น
ถ้าอจ็คไม่กลับมาในชีวิตเท็นตอนนั้น นี่ไม่อยากคิดเลยอะ
เพราะขนาดแจ็คกลับมาและฮีลเท็นเร็วขนาดนั้นแล้ว ก็ยังมีเอฟเฟคที่แสดงออกมาตลอดเลย
ความไม่มั่นใจว่าตัวเองสมควรจะมีความสุข ความกลัวว่าความสุขตรงนี้จะหายไปจนไม่กล้ายึดถือความสุขนั้นไว้
น้องไม่กล้าที่จะมีความสุขจริงๆอะตอนนี้ แต่มันกำลังเป็นไปในทางที่ดีอะ รู้สึกได้ว่าทีมขี้ซุยบราเทอร์จะต้องรับน้อง

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ มันดีมากๆทั้งสามเรื่องเลย
ส่วนตัวเรารักเรื่องนี้ที่สุด รอติดตามผลงานต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอน23 (ตอนจบ) เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 11-07-2019 11:18:33
ซึ้ง :sad11: น้ำตาคลอดีใจที่เท็นเคลียร์จบหมด แต่อยากอ่านตอนเท็นกับแจ๊คแบบหนาวๆอีกจะมีตอนพิเศษลงเว็บมั้ยเอาแบบคุยกันงุงงิงๆอยากอ่าน
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (6/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: หน่วยกล้าวาย ที่ 12-07-2019 20:26:59



SPECIAL 01
เพราะอีมูนเป็นเหตุ



“พวกมึงเป็นเหี้ยไรกัน?”

“...”

“...”

เกินครึ่งชั่วโมงแล้วที่ทุกคนรู้สึกได้ถึงความกระอักกระอ่วนเพราะท่าทางของหัวหน้าทีมและสมาชิกใหม่ดูเก้ ๆ กัง ๆ จนระหว่างทางการวางแผนทีมจึงประหลาดซึ่งตุ้บตั้บทนดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

“เด็กปีหนึ่งตอนเข้ารับน้องยังไม่ประดักประเดิดเเมือนพววกมึงเลย เอ้า ไหนว่ามาจะยังไง ใครซับ* ใครเข้าป่า* ใครแครี่* ใครท็อป*?”


ซับ (Support) = ตำแหน่งช่วยเหลือเพื่อนในทีมเป็นหลัก ไม่เน้นฆ่า
เข้าป่า (Jungle) = สายตัดขาดจากโลกใบนี้เพราะตีแต่ครีปในป่าฟาร์มเงิน จะออกมาสู้กับชาวบ้านอีกทีก็ตอนมีของแล้ว
แครี่ (Carry) = ตำแหน่งความหวังของทีม แต่จะเก่งช่วงกลาง ๆ ถึงปลายเกม ต้องได้รับการดูแลจากเพื่อน ๆ เอาง่าย ๆ เป็นตำแหน่งพระเอกที่จะรุ่งหรือร่วงก็ขึ้นอยู่กับว่าทีมได้เปรียบมากน้อยแค่ไหน และคนเล่นตำแหน่งนี้สามารถฟาร์มหาเงินได้ไวมากเท่าไหร่
ท็อป (TOP) = ตำแหน่งดูแลเลนบน (ฝั่งซ้าย)



“พี่ธีร์บอกกูเล่นมุกจองท็อปเพราะเป็นตัวปังในวงการไม่ได้เลย”

“แต่ที่ว่างอยู่ก็มีแค่ตำแหน่งนั้นนะครับพี่แหลม คนไม่หล่อแบบพี่ธีร์ก็เล่นได้”

“โซ่”

“5555555555555555555555555” ทุกคนระเบิดหัวเราะออกมาโดยไม่มีใครห้ามใคร พอเป็นเรื่องกระทืบซ้ำคนล้มพวกเขาก็ไม่เคยที่จะพลาดเลยทีเดียว

ไอ้แจ็คนั่งอมยิ้มชอบใจหลังจากเห็นว่าคนในทีมสนุกไปกับการยำไอ้ธีร์ บอกตามตรงว่าตอนแรกเท็นตื่นเต้นและดีใจสุด ๆ จนแทบเก็บสีหน้าไม่อยู่ แต่พอต้องเผชิญหน้ากันจริง ๆ ทั้งเขาและไอ้ธีร์ก็เกิดอาการเลิ่กลั่กหาความเป็นตัวเองไม่เจอ

มันประดักประเดิดอย่างที่พี่ตั้บว่านั่นแหละ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ก็เขากับไอ้ธีร์ยังไม่ชินการหันหน้าเข้าหากันดี ๆ โดยไม่ต้องพูดจาค่อนแคะหรือง้างหมัดซัดหน้ากันเป็นการทักทาย

“ไอ้โซ่เข้าป่าแหละ มันดูมีสติสุดแล้วในนี้ แถมฟาร์มเงินไวด้วย” ไอ้เด็กฝรั่งคงพยายามดึงกลับเข้าเรื่อง แต่สายตาที่มองเขาก็ยังเหมือนเด็กอนุบาลเจอคนแปลกหน้า

“เดี๋ยวกูซับไอ้เท็น ส่วนเชี่ยแหลมให้อยู่เลนกลางไปเพราะมันถนัด” วันนี้ไอ้แจ็คดูจริงจัง สังเกตได้ปากกาที่จดทุกอย่างลงไปในสมุด “ส่วนมึงอยู่บนไหวไหมธีร์?”

“แจกตำแหน่งให้คนอื่นครบแล้วค่อยมาถามกูว่าไหวไหมอะนะ?” ธีร์หรี่ตาเบ้ปากใส่เพื่อนสนิท

“มา กูจะอธิบายให้ฟัง ข้อแรกไอ้แหลม ถึงมันจะจู๊กกากแต่มันตีดอทมาตั้งแต่ตอนที่พวกเรายังไม่ฟอร์มทีมนะมึงอย่าลืม ชั่วโมงบินน้อยที่ไหน อีกอย่างมันถนัดมิดเลน* ด้วย ในนี้คงไม่มีใครคุมซอยเก่งเท่ามันแล้ว ส่วนไอ้โซ่ก็เล่นกับไอ้เจมส์ ไอ้อาร์มตลอด ถึงจะไม่ได้เล่นทุกวันแต่ก็เป็นงานกว่ามึงแน่นอน”

“ทำไมกูรู้สึกเหมือนถูกมึงเรอใส่หน้าด้วยกลิ่นกระเทียมวะเพื่อน?”


มิดเลน (Middle Lane) = ในเกม MOBA คือเลนตรงกลาง


“พูดแบบนี้กูว่าเคี้ยวขี้แล้วพ่นใส่หน้าพี่ธีร์เลยดีกว่า” เด็กฝรั่งพูด

“โอเค๊ กูรับเหตุผลคนอื่น ๆ ได้ ว่าแต่มึงล่ะแจ็ค ไปแอบเล่นจนเก่งกว่ากูตอนไหนหื้อ?” ธีร์นั่งกอดอกเอนหลังพิงโซฟาพร้อมเลิกคิ้วมองระหว่างรอคำตอบ ก็รู้อยู่หรอกว่าไอ้แจ็คเล่นกับไอ้เท็นทุกวัน แต่อยากได้ยินคำตอบที่ต้องงัดออกมาจากปากมันแค่นั้นแหละ อยากให้มันกระอักกระอ่วนเป็นเพื่อนเขาบ้าง

“ก็เล่นไอ้แหลมไง”

“เหวย ๆๆๆๆๆๆๆ มึงโม้แล้วซึมเศร้าแมน มึงเล่นแต่กับพี่เท็นอย่ามาอ้างกู” คนถูกพาดพิงทั้งสองถึงกับนิ่ง ทุกสายตามองเท็นสลับกับไอ้คนหน้านิ่ง ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไรถ้าทุกคนจะเข้าใจไปว่าแจ็คตีโดต้ากับเท็นเพราะติดเพื่อน ไม่ใช่เพราะรู้กันหมดแล้วว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนชุบแป้งทอดกัน

“ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าทุกคนเป็นงานหมดยกเว้นมึงคนเดียวน่ะธีร์เกมเมอร์”

“เซ็งจัด” ธีร์แค่นหัวเราะพลางปรายตามองสมาชิกใหม่ “เพราะมึงเลยไอ้เท็น”

“อะไร ทำไมกู?” คนถูกโบ้ยความผิดเลิกคิ้วมองพร้อมชี้หน้าตัวเอง

“เพราะมึงเล้ย ไม่งั้นป่านนี้กูได้เป็นแชมป์โลกแล้ว”

“เหรอ ถึงเจอคนแบบกูอีกร้อยคนแต่ถ้ามึงเก่งจริงก็คงไม่เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยหรอกเปล่าวะ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มึงติ๋มเองชัด ๆ”

“ติ๋มที่หน้า หนึ่ง-หนึ่งได้นะครับกูตบยับอะหัวเกรียนหัวทองหัวเทาก็มาเหอะ”

“อ้าวมาดิครับ เปิดคอมเลย”

“อ้าวมาาาา”

“เม้ง! ยกที่หนึ่ง!” แหลมทำมือตัดฉากตรงกลาง “มุมแดงคือธีร์เกมเมอร์ผู้มีแฟนคลับนับแสนแต่คนเกลียดเกินล้าน ส่วนเท็นสิบอยู่มุมน้ำเงิน อันนี้ด่าไม่ได้เพราะยังไม่สนิทกันเพราะงั้นติดไว้ก่อน แต่ถ้า -- แตก!!! แอนตาซินจะไม่แจกสักบาทเพราะ...?!!!”

“เขาไม่ได้จ่าย” ซึมเศร้าแมน พี่ธีร์ พี่ตั้บ ไอ้โซ่ ต่างก็ตอบประสานเสียงเหมือนนัดกันมาจากบ้าน

“พอเห็นพวกมึงสามัคคีกันแบบนี้กูก็สบายใจ”

“นั่นคำพูดกู” พี่ตั้บโพล่งขึ้นมาแหลมจึงระเบิดหัวเราะลั่น ดั่งใครว่าไว้ว่ามิตรที่ดีคือมิตรที่ตบมุกให้ เหล่าขี้ซุยบราเทอร์คือพี่น้องที่แสนดีกว่าใคร ๆ เพราะไอ้แหลมไม่มีใครคบแล้ว

แจ็คหันไปมองไอ้เท็นที่หลุดขำออกมาโดยไม่รู้ตัวกับมุกไก่กาอาราเล่ บรรยากาศเริ่มถูกผ่อนคลายไปกว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมุกกาก ๆ หรือบทสนทนาไร้สาระและเสียงหัวเราะ ไอ้ธีร์กลับไปพูดจาวอนตีนเหมือนปกติ และแจ็คเข้าใจดีว่าทุกอย่างต้องใช้เวลากว่าไอ้เท็นกับไอ้ธีร์จะหันหน้าเข้าหากันได้ แต่เขาก็รู้สึกดีเหลือเกินที่พี่ตั้บ ไอ้โซ่ ต่างก็ช่วยทำให้ไอ้เท็นผ่อนคลายขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปล่อยให้ไอ้ธีร์ต้องรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง

ส่วนไอ้แหลมอินกว่าใครอื่นเนื่องจากไอ้ธีร์เป็นพี่ชายสุดที่รัก ความรู้สึกด้านลบของมันก็ยังคงมีอยู่เพราะช่วงแข่งปีก่อนที่มีปากเสียงกันพูดจาถากถางหาว่าไอ้แหลมเป็นคนนอกไม่เคยรู้เรื่องตอนมอหก เด็กกะโหลกที่ถูกมองข้ามความรักที่มันมีต่อพี่ ๆ จึงฝังใจมาตลอด ดังนั้นมันจึงไม่มีส่วนของความทรงจำดี ๆ มาหักลบ และคงไม่สะดวกใจรู้สึกด้านบวกด้วยภายในไม่กี่วัน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กกวนตีนแต่ก็พอมีเหตุผลอยู่บ้างอย่างมัน แจ็คเชื่อว่าหลังจากนี้อีกสักพักไอ้เท็นจะกลายเป็นพี่ชายอีกคนที่ไอ้แหลมสนิทใจด้วย พอคิดอย่างนี้แจ็คก็รู้สึกดีล่วงหน้าไปแล้ว

“ตกลงไอ้ธีร์คุมเลนบนนะ เคาะตามนี้ ไอ้แจ็คจดเลย”

“วันนี้พี่แจ็คท็อปฟอร์มเหรอวะ ดูเป็นงานเป็นการสุด ปกติเห็นวาร์ปไปดูดหรี่แล้วค่อยมานั่งฟังสรุปทีหลัง” แหลมอดแซวไม่ได้ หรือต้องทำเท่ต่อหน้าเพื่อนเก่า เห็นแล้วอยากหาเรื่องมาแหกหน้ามันจริง ๆ

“พูดถึงเรื่องนี้แล้วกูก็มีเรื่องอยากให้พวกมึงโหวตกันหน่อย” ตุ้บตั้บว่าพลางกวาดสายตามองเด็ก ๆ ทีละคน “เรื่องหัวหน้าทีม”

“พี่ตั้บจะไล่พี่ธีร์ออกเหรอครับ?”

“ยัง!!!” ทุกคนโพล่งใส่น้องเล็กพร้อมกัน และเด็กที่พยายามเป็นคนตลกก็ยิ้มเขินพลางลูบท้ายทอย

“เผลอไม่ได้เลย” แหลมหรี่ตามองรุ่นน้อง ไอ้นี่มันเริ่มร้ายขึ้นทุกวัน

“จริง คราวก่อนก็ Friendly fire* กูไปทีนึง เหตุผลเพราะโดนกูแซวว่าสูงน้อย” ธีร์ระบายความคับอกคับใจ เด็กใสซื่อคนนั้นหายไปแล้ว เดี๋ยวนี้เหลือเพียงเด็กน้อยที่เอามีดจ้วงท้องเขาพร้อมทำหน้าเด๋อ ๆ ไร้ความผิด

*Friendly Fire = ยิงทีมเดียวกันตาย

“กลับมาก่อน เรื่องหัวหน้าทีมทำไมวะพี่ตั้บ?” แจ็คมองนาฬิกาข้อมือ ยิ่งคุยก็ยิ่งเลอะเทอะไปเรื่อย

จริงอยู่ที่เคยชินกับบรรยากาศแบบนี้แล้วเขาก็อยากให้ไอ้เท็นเข้ากับทุกคนได้ แต่มันเพิ่งมาอย่างเป็นทางการครั้งแรกซึ่งแจ็คไม่อยากให้มันรู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่กับคนพวกนี้จนรู้สึกว่าอีหยังวะเพราะสาระที่หาแทบไม่ได้

“กูว่าจะให้มึงเป็นหัวหน้าทีม DotA” เด็กทุกคนนั่งเงียบรอฟัง ก่อนตุ้บตั้บจะขอสมุดจากแจ็คมาดู “เกมอื่นไอ้ธีร์ก็ยังเป็นหัวหน้าทีมเหมือนเดิม แต่ถ้า DotA กูอยากให้ไอ้แจ็คเป็น เพราะเล่นซัพพอร์ทมันจะมีวิสัยทัศน์กว้างกว่า มีเวลาสังเกตสิ่งแวดล้อม การเคลื่อนไหวได้มากกว่าคนอื่น อย่างหน้าที่ไอ้เท็นคือการพยายามลาสครีป*หาเงินให้ได้มากที่สุดถูกไหม มันไม่ควรละสายตาจากตรงนั้นไปอ่านเกมเลยเพราะจะทำให้เสียสมาธิ และคนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน”


*ลาสครีป (Last shot Creep) = คือการฆ่ามอนสเตอร์ในจังหวะสุดท้าย หากทำแบบนี้จะได้เงินไวกว่ามาก


“แล้วตอนแข่งการกุศลที่กูไม่อยู่นี่ใครคุมทีม?”

“ไม่เชิงคุมครับ เหมือนใครเห็นอะไรก็พูด ช่วย ๆ กัน ส่วนใหญ่จะเป็นพี่เท็น เพราะพี่เค้าอ่านเกมเก่งกว่าพวกเราเยอะเลย” โซ่อธิบาย ส่วนพี่แจ็คจะถามไถ่ตลอดว่าต้องการความสะดวกเพิ่มตรงไหนบ้าง พี่เขาจะได้จัดการซัพพอร์ทให้

“ตอนนั้นมันจำเป็นเพราะพวกเราแทบไม่ได้คุยกัน แต่ตอนนี้ถ้ามีใครสักคนมาทำหน้าที่นั้นเต็มตัวมันก็จะดีมาก” เท็นอธิบายอย่างไม่ห่วงเท่อีกต่อไปแล้ว พอถึงตอนนี้เขาก็อยากเล่นเกมให้สนุก มากกว่าจะเล่นเพราะอยากเด่น หรืออยากเอาชนะใครเหมือนอย่างที่เคย

“มึงว่าไงเพื่อน?” ธีร์หันไปถามแจ็คเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากรับหน้าที่นี้ไว้หรือไม่ ก็ไอ้เพื่อนมันเป็นคนไม่ค่อยอะไร ถึงจะชอบเล่นเกม แต่การออกคำสั่งให้คนอื่นทำตามที่ตนเองพูดก็ยังไม่ใช่ทางที่พวกเขาจะคุ้นชิน

“กูไม่ถนัด แต่จะลองดูก็ได้”

“เดี๋ยวช่วย ยังไงก็อยู่เลนเดียวกันอยู่แล้ว” เท็นหันไปให้กำลังใจคนข้างตัวเพื่อบอกให้รู้ว่าการเป็นผู้นำครั้งแรกของแจ็คนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย เขาเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาแล้ว ดังนั้นทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี

แต่ในขณะที่กำลังยิ้มให้กำลังใจไอ้แจ็ค สายตาของทุกคนก็มองมาก่อนที่เท็นจะได้เห็นว่ามันเลิ่กลั่กมากแค่ไหน โอเค คนพวกนี้คงยังไม่ชินกับความสนิทสนมหรือการแสดงความเป็นห่วงด้วยคำพูดไม่ใช่การตบหัวลูบหลังอย่างที่ทำกันขำ ๆ มาตลอด

“เอาเป็นว่าตามนั้น” แจ็คกระแอมไอ และสายตาไอ้ธีร์ ไอ้แหลมที่พร้อมใจกันมองมาอย่างจับผิดเพราะท่าทีแปลก ๆ ของเขานั้นก็ยิ่งทำให้วางตัวปกติไม่ได้

“ส่วนเรื่องเสื้อทีมเดี๋ยวจัดการให้ภายในอาทิตย์นี้นะ เลขข้างหลังชื่อมึงนี่ตัวโอใช่ปะวะหรือว่าเลขศูนย์?”

“ตัวโอบ้านอีแตงอ่อนเรียกตัวเลขเหรอวะพี่ตั้บ -- อ๊า!!! กูหยอกเล่น!!!” ยังกวนตีนพี่ใหญ่ไม่ทันจบไอ้แหลมก็โดนคว้าท้ายทอยด้วยมือเดียว ซึ่งมันก็หดคอไว้เป็นเต่าอยากกลับเข้ากระดอง

แจ็คคิดได้ว่าสาระของวันนี้คงหมดแล้ว เขาจึงลุกขึ้นยืนทำท่ามองนาฬิกาเพื่อบอกให้พวกขี้กากได้รู้ว่าพวกมันปัญญานิ่มกันมาจนถึงป่านนี้ ซึ่งถ้าได้กลับบ้านไปเล่นเกมหรือนอนเปิดซีรีส์ดี ๆ ในเน็ตฟลิกซ์ดูคงเข้าท่ากว่าเป็นไหน ๆ

“ไรมึงไร วันนี้วันศุกร์” <- ไอ้ธีร์

“กูทำงานมาทั้งวัน กูจะรีบกลับไปพักผ่อน มึงมีไร?” <- ไอ้แจ็ค

“บ้านใคร ถ้าบ้านพี่เท็นกูไม่นับว่าเป็นการพักผ่อนเพราะพวกมึงต้องหาเกมเล่นแน่ ๆ ใช่ไหมพี่ตั้บ?” <- ไอ้เด็กฝรั่ง

“การเล่นเกมก็เป็นการพักผ่อนนะครับ ถึงบางครั้งจะเหนื่อยบ้างแต่ก็ยังสนุกอยู่ดี” <- โซ่

“แล้วพวกมึงเสือกอะไร มันจะค้างบ้าน จะไปเปิดห้องตีหรี่ก็เรื่องของมันไหม?” <- พี่ตั้บ

“ผมทิ้งหมากับแมวไว้ที่บ้านอะพี่ ปกติต้องให้ข้าวเย็นแล้ว” ไม่ชินกับการโกหก และตอนนี้เท็นก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่าทำไมถึงอยากหาเรื่องกลับบ้านนัก แค่เพราะไอ้แจ็คพูดออกไปแบบนั้นเลยทำให้รู้สึกว่ามันอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนน่ะเหรอ เออ ใช่ก็ได้

“แบบนี้ต้องรีบกลับเลยนะครับ สงสารน้อง” โซ่หันไปพูดกับพี่ ๆ แม้ว่าธีร์กับแหลมจะยังแสดงสีหน้าออกอย่างชัดเจนว่าอยากรั้งให้อยู่ด้วยกันก่อน แม้ว่าสาระสำคัญจะคุยกันเสร็จไปแล้ว และคงมีเวลาเตรียมตัวซ้อมอีกหลายวัน แต่ทุกคนก็ชอบบรรยากาศที่มีกันและกันมากกว่า

“ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็ไลน์มานะ”

“เป็นหัวหน้าทีมได้ไม่กี่นาทีมึงก็เข้มจัดแล้วเหรอวะพี่?” ไอ้แหลมทำหน้ากวนตีน แจ็คจึงยักคิ้วใส่

“คราวหลังเอาหมากับแมวมาด้วยสิครับ เดี๋ยวพี่ช่วยดูแลให้ แต่ขอเป็นวันเสาร์อาทิตย์นะ” ทุกคนหันไปทางคนมาใหม่ที่ไม่รู้ว่าแอบฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ บอสกับแก้วชาร้อนในชุดนอนนั้นต่างจากพวกขี้ซุยฯ แถวนี้มากแค่ไหน ก็คงเป็นท้องฟ้ากับใต้เหวลึก

“ไหนว่างานเยอะต้องเคลียร์ยาว ๆ ไง จังหวะไคลแม็กซ์เมื่อไหร่มีซีนเมื่อนั้นเลยน้า”

“พี่แวะลงมาชงชาเฉย ๆ มีใครตั้งใจซะที่ไหนกันล่ะ อีกอย่างพี่ก็แค่อยากเล่นกับหมาเท่านั้น เราน่ะชอบมองพี่เป็นคนชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านอยู่เรื่อย”

“หมายถึงเสือกปะพี่กันต์?”

“ครับ ขอบคุณธีร์มากนะที่ช่วยอธิบายให้พี่” บอสยิ้มขณะสบตากับไอ้คนที่ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างไม่อยากเก็บอาการ

“บอสก็เล่นกับไอ้แหลมทุกวันอยู่แล้ว น่าจะทดแทนหมาไอ้เท็นได้นะครับ”

“อ้าว นี่น้องมึงไงพี่?”

“55555555555555555555555”

คราวนี้หวยลงที่ไอ้เด็กฝรั่ง พี่ ๆ ทุกคนยกเว้นไอ้แจ็คกับสปอนเซอร์ทีมอย่างพี่กันต์จึงโถมตัวไประเบิดหัวเราะหัดหูจนมันต้องเอานิ้วอุดไว้ บรรยากาศแปลก ๆ ไม่คุ้นชินแต่ก็รู้สึกอบอุ่นดี แค่คิดว่าสักวันเท็นจะได้เป็นหนึ่งในบรรยากาศเกรียน ๆ แบบนี้เขาก็อดขำไม่ได้เลย



*



ไอ้แจ็คเลือกกลับบ้านเขามากกว่าจะให้ไปส่งอย่างที่เคยตกลงไว้ อยู่ ๆ เท็นก็กลายเป็นคนพูดน้อยขึ้นมาซึ่งเหตุผลก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้อีกคนเปลี่ยนใจถ้าจะถามถึงเรื่องให้ไปส่ง ใครจะยอมเสี่ยงกัน คนเราควรเสียเวลาไปกับการถามอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ เขาไม่เอาด้วยหรอก

คืนวันศุกร์ในวัยใกล้สามสิบเหมือนตอนอยู่มัธยมตรงไหน เท็นก็คงอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่ามันคือคืนที่เขาอยากใช้เวลาร่วมกันกับไอ้แจ็คมากยิ่งกว่าอะไรในโลกใบนี้ อาจจะเล่นเกม ดูหนัง หรือว่าเปิดฝากระป๋องเบียร์ดื่ม ทุกอย่างมันดีไปหมดขอแค่ใช้เวลาร่วมกันกับมัน

เท็นขอไปอาบน้ำก่อนเพราะเหนียวตัวจากการออกไปทำภารกิจสู้โลกตั้งแต่เช้ายันดึก ระหว่างยืนอยู่ใต้ฝักบัวก็นึกชมตัวเองในใจ ทั้งเรื่องกล้าไปเผชิญหน้ากับบลูโดยไม่รู้เลยว่าเธอจะทนนั่งฟังถึงสามนาทีหรือไม่ และเรื่องกล้าขอโทษแม่จนได้ปลดล็อกความรู้สึก

ชายหนุ่มตระหนักได้แล้วว่าต่อให้เรื่องราวตอนอายุสิบแปดจะรุนแรงต่อใจแค่ไหน วันนั้นเขาเจ็บปวดได้ แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเลยไปเพราะความโกรธเคืองก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า ๆ เท็นคิดถึงช่วงเวลาที่ได้นั่งกินข้าวกับแม่ ได้เห็นรอยยิ้มของท่าน และอะไรก็ตามที่ลูกชายคนหนึ่งจะได้ใช้เวลาร่วมกันกับผู้หญิงที่เรียกว่าแม่

ตั้งแต่ขึ้นรถไอ้แจ็คก็ยิงคำถามมาทันทีว่าเขาโอเคดีหรือไม่ ใช่ มันยิ่งกว่าโอเคอีก แต่เท็นไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม ในหัวตอนนี้คิดไปถึงการประชุมทีมครั้งหน้าแล้ว และเท็นตั้งใจไว้จะยิงมุกดูสักครั้งเพื่อให้ตนเองกลมกลืนกับทีมขี้กาก

ในส่วนของเพื่อนทีมเก่าที่เคยเอาเขาไปนินทาด่าว่าเสีย ๆ หาย ๆ นั้นคงไม่จำเป็นต้องติดต่อไปเพื่อขอเคลียร์อะไร เท็นได้เรียนรู้แล้วว่าคำขอโทษของเขามันมีค่าแค่คนที่ต้องการได้ยินมัน ซึ่งคนพวกนั้นก็ไม่ใช่กลุ่มคนที่อยากให้ค่าเสียด้วยสิ

บอกตัวเองว่าบางคนแค่ผ่านมาเพื่อให้บทเรียนกับชีวิต ทั้งเรื่องคาดหวังว่าเพื่อนจะรักและหวังดีด้วย หรือเรื่องที่ทำให้นึกย้อนมองตนเอง เท็นรู้ตัวว่าไม่ใช่คนดีนัก แต่ระหว่างทางก็ใช่ว่าเขาจะหลอกใช้ ถีบหัวส่งใครอย่างที่ชาวเน็ตเอาไปพูดปากต่อปากจนกลายเป็นนิสัยติดตัวเขา เท็นเคยเป็นคนดีที่ให้ใจเพื่อนเกมเมอร์ด้วยกัน แต่นั่นก็ก่อนที่เขาจะจับได้ว่าความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อน บางครั้งมันก็มีไว้ฉาบหน้าคำว่า ‘ผลประโยชน์’

โดยรวมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จะโทษว่าพวกนั้นแย่อย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะเท็นเองก็เลือกเข้าหาความสัมพันธ์แบบนั้นด้วยความเต็มใจเช่นกัน... งั้นเอาเป็นว่าเจ๊า ๆ ไปจะได้ไม่มีอะไรติดค้าง อะไรที่ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อย เพราะตอนนี้เท็นรู้แล้วว่าควรทุ่มเทความจริงใจให้กับใคร

“โอ๊ย!!!”

เสียงดังมาจากด้านล่างเรียกความสนใจคนที่กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่บนห้อง เท็นเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะลงบันไดไปเพื่อพบว่าไอ้แจ็คกำลังล้างมืออยู่ในครัวโดยมีพี่ซันนั่งเป็นกำลังใจให้อยู่ห่าง ๆ

“เป็นอะไรวะ?”

“ลูกสาวมึงข่วนน่ะสิ” พูดจบแจ็คก็หันไปโชว์ร่องรอยบาดแผลจากเล็บแมว และพอรู้ว่าเขาเจ็บตัวไอ้เท็นก็รีบตรงเข้าเข้ามาประคองมือไปดูใกล้ ๆ แม้ว่าจะแผลเล็กนิดเดียว แต่ถ้าเป็นเรื่องเขาไอ้เวรนี่ก็พร้อมจะเนื้อเต้นตลอดเวลาเลยสินะ ทำไมไอ้เท็นมันน่ารักจังวะ งงเหี้ย ๆ

“แมวกูเป็นไรมากไหม?”

“...”

แจ็ครู้ตัวว่าตอนนี้หน้าคงเหวอโคตร ๆ ไอ้เท็นถึงพยายามกลั้นขำจนไหล่สั่น ชายหนุ่มชักมือกลับพร้อมดีดน้ำหมาด ๆ ใส่หน้ามันแล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ถูกพ่ออีแมวตัวร้ายสวมกอดจากข้างหลังเสียก่อน

“โอ๋ ๆ ล้อเล่น”

“ปล่อย กูจะไปจ้วงไส้แมวมึง”

“อย่าโหดดิ นั่นลูกผมกับคุณนะ”

“ถามจริง?” แจ็คเลิกคิ้วมองคนที่ยืนกอดอยู่ข้างหลัง “ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่านั่นไม่ใช่ลูกคนอื่น?”

“พูดซะกูเป็นแม่สาวสุดแซ่บเลย” เท็นผลักหัวคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว “ถ้าไม่รับเป็นพ่อเด็กก็ออกจากห้องครัวไป”

“มันยังไงวะ ปกติเขาต้องไล่กลับบ้าน” แจ็คขำ นอกจากจะทำเท่ไล่แปลก ๆ แล้วยังกุมมือเขาไว้อีกด้วย

“ไม่ได้อยากให้กลับบ้านก็เลยไล่ออกจากครัวไงวะ” เท็นจับมือเพื่อนสนิทชุบแป้งทอดมาดูอีกครั้ง “เดี๋ยวทายาก็หายแล้ว เลิกบ่นลูก หรือว่าอยากให้ผมพาคุณไปให้หมอจิ้มก้น?”

“ก็แย่ละ แผลแค่นี้หายใจสองทีก็หาย” แจ็คถอนหายใจใส่ไอ้คนที่ยักคิ้วกวนตีนอยู่ข้าง ๆ

“เดี๋ยวพี่เท็นทายาให้เองครับ เบา ๆ ซอฟท์ ๆ ไม่เจ็บ”

“ผมทำเองได้ คุณไม่ต้องเสือก” เขาเอามือดันหน้าอีกฝ่ายออก พอเดินมาถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นอีมูนนอนอยู่ข้างทีวีพร้อมมองมาเหมือนอยากบอกว่า

‘ไงล่ะมึง ทีหลังอย่าซ่ากับแมวบ้านนี้’

เขาก็แค่อุ้มมาฟัดเพราะมันเขี้ยว แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะผิดจังหวะไปสักหน่อย มูนถึงได้ดิ้นทุรนทุรายแล้วก็ฝากรอยแผลไว้เป็นที่ระทึกแบบนี้

“ปะ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูช่วย”

“เท็น กูแค่โดนแมวข่วน ไม่ได้เป็นง่อย” เหลือเชื่อเลย ถ้าแขนขาหักก็ว่าไปอย่าง

“เวลาแผลโดนน้ำมันแสบนะ มึงจะอดทนยังไงไหว?” ไอ้เท็นเลิกคิ้วปั้นหน้าพูดเหมือนว่าเรื่องนี้มันใหญ่โตระดับประเทศ

“อย่ามา ถ้าจะพยายามขนาดนี้ทำไมไม่เรียกกูไปอาบพร้อมกันตั้งแต่แรก?” แจ็คเปลี่ยนเป็นคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้พร้อมจ้องหน้าคาดคั้นจะเอาคำตอบ ซึ่งไอ้เท็นก็นิ่งไปก่อนจะอมยิ้มเล็ก ๆ

“เรียกได้... เหรอวะ?”

“...”

“...”

คำถามไอ้เท็นเหมือนได้ถามตัวเองไปด้วย จากบรรยากาศที่เคยฟุ้งไปด้วยความกวนประสาทอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นความกระอักกระอ่วนเพราะทั้งคู่เริ่มมีความคิดว่าการอาบน้ำคนเดียวมันไม่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว

“มัวแต่คุย มึงน่ะให้ข้าวลูกหรือยัง?” แจ็ครู้ว่าเป็นการเปลี่ยนเรื่องโง่ ๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศชวนเขินตายหายไปได้ มันมีแต่จะเพิ่มระดับความขลาดอาย แต่อีกใจเขาก็อยากวกกลับไปเรื่องนั้นอีกครั้ง

“ให้แล้วดิ จะลืมได้ไงวะเรื่องสำคัญขนาดนั้น” ไอ้เท็นพูดก่อนมันจะจับไปวางบนศีรษะที่ยังไม่แห้งดี “มึงว่ามันเหนียว ๆ เหมือนล้างแชมพูไม่หมดเปล่าวะ...?”

ประโยคนี้เบาจนแทบเหมือนกระซิบ ทั้งคู่ต่างขลาดอายกับสิ่งที่เป็นอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกที่เหมือนจะระเบิดจากอกได้อย่างไร ทั้งที่เคยกอด จูบ หรือทำมากกว่านั้นมาแล้ว แต่บอกตามตรงว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะไม่ตื่นเต้น ไหนล่ะความคุ้นชิน ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกไม่ต่างจากเด็กประถมแอบปิ๊งเพื่อนห้องข้าง ๆ เลย

“อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนซกมกเหรอ?” แจ็คลูบกลุ่มผมคนตรงหน้า ก่อนมือของเขาจะถูกประคองไปจูบหลังมือซ้ำ ๆ

“หายเจ็บนะ”

“...” ยิ่งกว่าการไม่ชินสิ่งที่ทำกับไอ้เท็นก็คือการไม่ชินตัวเองเวลาเขิน ทำไมไอ้เวรนี่มันฮุคหนักจังวะ ทั้งเรื่องถามว่าอาบน้ำด้วยกันได้ไหม ไหนจะไอ้อาการจูบมือโอ๋อีก ถ้ามันมายืนหลับตาทำปากจู๋ใส่เขาก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าตัวเองจะฟอร์มหลุดขนาดไหน

“หายเจ็บยัง?”

“มันจะหายทันทีได้ยังไงล่ะ?” แจ็คยิ้มขำมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ พอเห็นว่าเขายังไม่หาย ไอ้เท็นจึงจูบย้ำลงไปอีก แต่คราวนี้มันพลิกข้อมือแล้วจูบไปทั่วจนเหลือเพียงจุดแมวข่วนเท่านั้นที่ยังไม่ถูกสัมผัส

“หายเจ็บยัง?”

อะไรของมัน ปลอบเป็นเด็กแปดขวบเลยเด็กชายเท็น

“หายเจ็บยัง?” คนเอาใจเก่งเงยหน้าขึ้นถามและทำท่าจะจุ๊บซ้ำทันทีหากเขาตอบว่า ‘ยัง’ แจ็คไม่ได้ไม่ชอบสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำ แต่เขาคิดว่าตอนนี้การยืนเฉย ๆ ให้อีกฝ่ายจูบมือไปเรื่อย ๆ มันคงเสียเปรียบเกินไปหน่อย

“หายแล้ว ทีนี้ยังไงต่อล่ะ?” แจ็คใช้มืออีกข้างยีผมคนตรงหน้าจนยุ่งเหยิง ไอ้เท็นอมยิ้มกลอกตาล่อกแล่กเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ ก่อนมันจะขยับเข้ามาใกล้ราวกับกลัวว่าใครจะได้ยินประโยคต่อจากนี้

“ถ้าหายเจ็บแล้วผมจะเข้าไปเปิดน้ำในอ่าง ระหว่างนั้นคุณก็รีบแก้ผ้าแล้วตามผมเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูสองผืนนะ?”

คนกระซิบก็คงเขินอยู่ไม่น้อย ถึงได้รีบวิ่งเข้าไปด้านในพร้อมส่งเสียงระบายออกมาอย่างนั้น แจ็คยังคงยืนนิ่ง เขาหายใจลึก ๆ พลางเอาหน้าผากทาบกับผนังเผื่อว่าความเย็นของมันจะดูดเอาความร้อนบนใบหน้าออกไปได้บ้าง

ไอ้เท็น ไอ้ฉิบหาย

ต่อให้เคยใกล้ชิดระยะเผาขนกันสักแค่ไหน แต่ไอ้เท็นคิดว่าการแก้ผ้าอยู่ในอ่างน้ำด้วยกันแบบนั้นมันจะจบได้แค่การช่วยเพื่อนถูหลังเหรอวะ ใสซื่อเกินไปแล้ว ถึงจะไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้นแต่ก็ใช่ว่าชาตินี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น ซึ่งตัวเขาเองและไอ้เท็นก็คงมีลิมิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน

เหนื่อยมาทั้งวันแทนที่จะหาเรื่องพักผ่อน อาบน้ำ นอนเล่นเกมหรือดูหนังอะไรก็ว่าไป แต่อยู่ ๆ แจ็คก็นึกขึ้นได้... ว่าพรุ่งนี้แม่งวันเสาร์

“เท็น!”

“ว่า?!” เจ้าของชื่อโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าเพื่อนสนิทชุบแป้งทอดอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนพร้อมหัวเข็มขัดซึ่งถูกปลดออกอย่างลวก ๆ

โอเค เท็นเป็นคนราดน้ำมันแล้วจุดไฟเอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากแกล้งให้ไอ้แจ็คเขินเล่น ต่อให้ตัวเองก็แทบเอาตัวไม่รอดก็เถอะ แต่เรื่องได้กอดได้ฟัดในอ่างถือว่าเป็นกำไรให้ชื่นใจ แต่เขาคงใช้เวลากับการคิดเรื่อยจนเกินไป เพราะพอละสายตาจากหัวเข็มขัดขึ้นไปก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาด้วยแววตาแบบที่รู้ว่ามีไว้มองเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“มาช่วยถอดกางเกงให้ผมหน่อย”

แผลข่วนจากอีมูนช่างสาหัสจนทำให้เพื่อนชุบแป้งทอดถอดกางเกงด้วยตัวเองไม่ได้ เท็นปล่อยให้น้ำอุ่นไหลลงอ่างเบา ๆ ขณะตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย และสุดท้ายเขากับไอ้แจ็คก็โถมจูบใส่กันโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

เสียงน้ำล้นอ่างเรียกความสนใจจากคนที่นอนฟัดจูบอยู่บนเตียง แต่การเดินไปปิดน้ำก็ช่างเป็นเรื่องเสียเวลาเกินกว่าใครคนหนึ่งจะยอมถอนริมฝีปากออก ค่าน้ำจะสักกี่แสนกี่หมื่นกัน มนุษย์โลกทุกคนควรลำดับความสำคัญว่าสิ่งไหนต้องมาก่อนหรือมาหลัง และแน่นอนว่าลำดับแรกไม่ใช่การกังวลเรื่องค่าน้ำซึ่งกำลังไหลไปตามพื้น


มันไหลไป... เหมือนกับมือแกร่งที่กำลังลูบไล้ตามหน้าท้องเพื่อนชุบแป้งทอด





TBC (ในเล่ม)




*เงยหน้ามองชื่อตอน*
อะไรดี ๆ โทษแมวไปก่อน แล้วค่อยไปจ่ายค่าน้ำทีหลัง
========================
ปล่อยน้ำไหลทิ้งแล้วกินปากเพื่อนชุบแป้งทอดน่ะแค่น้ำจิ้ม
ส่วนที่เหลือในเล่มก็เตรียมโอ่งไว้รอหนูนะพี่นะ
ส่วนใครที่อ่านจบแล้วคอมเมนท์หรือติดแท็กทวิตเป็นกำลังใจให้คนเหงา 2019 อย่างหนูได้นะคะพี่ ร๊ากกกกกกกกกกก





หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 12-07-2019 21:32:47
น้ำตาไหลไม่ไหวแล้ววววว :o12:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Gade_ka ที่ 12-07-2019 21:50:16
//ไปราชบุรี ซื้อโอ่งมาสักสิบใบขณะรอเล่ม  o18
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 13-07-2019 00:14:16
จุดนี้ก้คืออ ปล่อยให้ไหลไปปปป
ค่าน้ำอะไรอย่าไปแคร์! คนเราต้องเรียงลำดับความสำคัญให้ถูก 5555555
ช่วงแรกๆคือดีใจที่เท็นไม่เลิ่กลั่กเท่าที่คิด น้องได้รับการต้อนรับดีมาก
อบอุ่นใจแทนเท็นที่จะได้มีคนที่ควรแคร์จริงๆซักที
ส่วนช่วงหลังก้คือ หืดหาดมากแม่! ต้องไปขอบคุณน้องมูน เจ้าหญิงของเราาา
ค่าน้ำแพงไม่ว่าแต่ระวังน้ำท่วมนะคะแหมม โซฮ้อตกันเหลือเกินน
รอเล่มค่าาา
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-07-2019 03:21:18
สักนิดเถอะ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 13-07-2019 05:58:02
 :3125:  มาทำให้อยากแล้วจากไป
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 13-07-2019 11:49:36
กรี๊สสสสสสสส!!!  :sad4: :sad4: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 14-07-2019 17:40:50
เฮ้อออออ กำลังมันเลย :pighaun:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 18-07-2019 11:38:52
มูนบอก"แล้วฉันเกี่ยวไรจะกินกันอย่าเอาฉันไปเกี่ยว" :z1:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 18-07-2019 16:18:26
ขอบคุณฮะ ปิดฉากขี้ซุยบราเธอร์ได้อย่างสวยงามทุกคน
เป็นเรื่องที่ดีมากๆๆๆๆ รู้สึกอบอุ่น ดีใจกับแจ๊คและเท็นที่ผ่านวันแย่ๆมาจนถึงวันนี้
ชอบการคุยกันของคู่นี้ อบอุ่น อ่อนหวาน เข้าใจกันและกัน ชอบมากกกกกกกกก
 o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 11-03-2020 17:28:27
แงงงงง เป็นเรื่องที่ทำใหเราร้องไห้กับมิตรภาพมากๆ มันดีจริงๆ ขอบคุณมากๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 20-03-2020 10:16:29
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 22-03-2020 01:17:24
สนุกมาก ๆ ครับ เป็นเรื่องที่มีครบทุกอารมณ์จริง ๆ


ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 08:38:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 14-03-2024 20:28:05
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)