[แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)  (อ่าน 65230 ครั้ง)

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ฟินแบบอึดอัด แต่หนูจะรอให้พี่ๆ พร้อมเปิดแผลนะคะ เลิฟๆ

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบมว๊ากกกเท็นภาคนี้น่ารัก  อ่านพาร์ทอดีตก็เศร้าๆ อ่านพาร์ทปัจจุบันก็ฟินๆ ตอนนี้เหมือนคนเป็นไบโพล่าร์มากก :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 13
จุดเปลี่ยน




‘กูถามจริงนะ มึงคบกับไอ้แจ็คใช่ปะวะ?’
‘ยิ่งกว่าผัวเมียแล้วนะแบบนั้น 5555555555’
‘ถ้าเป็นคู่เกย์จริง ๆ กูลงว่าไอ้เท็นรุก’



เด็กหนุ่มขาดเรียนสามวันเพื่อใช้เวลาไปกับการนอนก่ายหน้าผากในคอนโดห้องเล็ก ๆ ที่ก่อนหน้านี้แม่ซื้อให้เพียงเพราะเหตุผล ‘ที่นี่ใกล้โรงเรียน เผื่อเท็นขี้เกียจนั่งแท็กซี่กลับบ้านจะได้ไม่เหนื่อยมากเนอะลูก’ ซึ่งนั่นเป็นเหมือนการโยนอ้อยเข้าปากช้าง เพราะถ้าหากเขาอยากเกเรเมื่อไหร่ก็แค่นอนโง่ ๆ บนเตียงโดยไม่ต้องลุกขึ้นแต่งตัวไปโรงเรียน

ไม่อยากคุยกับใคร แต่เท็นก็ฉลาดมากพอที่จะหาเหตุผลมาอ้างเมื่อไอ้แจ็คโทรมาถามว่าหายไปไหน เพราะสุดท้ายคำว่าไปต่างจังหวัดกับแม่มันก็ยังใช้ได้ อีกทั้งไม่ต้องทนซ้อมทีมตอนกลางคืนอีกด้วย

ตลอดเวลาสามวันเด็กหนุ่มสับสนว้าวุ่นจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะคำถามที่เต็มไปด้วยการเหยียดเพศซึ่งถ้าเท็นแสดงออกว่ายอมรับกับเรื่องเกย์ได้คนเหล่านั้นก็พร้อมจะเข้าใจว่าเขา ‘เป็น’

‘ถ้าไม่จริงอย่างที่พวกนั้นพูดก็ไม่เห็นต้องคิดมากอะไรเลยนี่?’ ใช่ มันก็ถูก แต่พอคิดว่าคนทั้งโรงเรียนอาจมองแบบนั้นเขาก็ปล่อยไปเฉย ๆ ไม่ได้ เท็นไม่อยากเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่นไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ คำว่าเกย์มันรุนแรงเกินกว่าจะแบกรับไว้หลังจากมีโอกาสเข้าไปยืนในสปอตไลท์จนใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจ มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากคนที่ชื่นชอบเขาจะเปลี่ยนไปเพราะข่าวลือบ้า ๆ นั่น การเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงต่อการโดนกลั่นแกล้งไม่ว่าจะทางคำพูดหรือสายตามันก็แย่ทั้งนั้น

ระหว่างขาดเรียนก็สร้างไอดีใหม่ไปฝึกเล่นอย่างหนัก เขาลุกออกจากหน้าโต๊ะคอมแค่ตอนจะเข้าห้องน้ำและตอนนอนเท่านั้น เท็นไม่เคยรู้สึกสกปรกขนาดนี้กระทั่งลดระดับสายตาลงมองถ้วยชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กินเสร็จแล้วแต่ไม่ยอมเอาไปทิ้ง

เขากำลังถูกกลืนกินด้วยการเริ่มเป็นคนในแบบที่ไม่ชอบ มันกัดหร่อนทีละนิดเหมือนโรคร้ายและสักวันเด็กผู้ชายคนนี้จะต้องเปลี่ยนไปจนลืมว่าเมื่อก่อนเคยเป็นอย่างไร

หากขาดเรียนนานเกินกว่ากำหนดที่บอกเพื่อนไว้คงต้องเกิดคำถามอีก ดังนั้นเท็นจึงพยายามฝืนตัวเองลุกจากเตียง กว่าจะไปถึงเก้าโมงเศษ ๆ ทุกสายตาให้ความสนใจทางนี้แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้มองเพราะเหยียดหยัน เท็นรู้สึกดีกับการถูกรักแม้ว่าจะทำเรื่องแย่ ๆ ลงไป

เขาถอนหายใจกับปฏิกิริยาของตนเองที่มีต่อเพื่อนตั้งแต่เห็นหน้ากัน ทั้งการทักทายที่แค่พยักหน้าให้บวกกับถามคำตอบคำจนอีกฝ่ายคงสังเกตได้ไม่ยากถึงความผิดปกติซึ่งเกิดขึ้นกับตัวเขา เท็นไม่อยากเป็นแบบนี้ทุกอย่างมันกดดันให้ผลักไสไอ้แจ็คออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกนินทาว่าร้าย

กระทั่งพักเที่ยงสมาชิกทีม Numb2r ยกเว้นพี่ตั้บได้นัดกันว่าจะคุยเรื่องแข่งรอบหน้าซึ่งต้องหาทางรับมือทีมฝั่งตรงข้ามอย่างจริงจังเพราะฝีมือทางนั้นค่อนข้างเก่งไม่ใช่เล่น

และเท็นตั้งใจว่าจะลาออกจากทีมวันนี้

มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะออกจากเซฟโซน ออกจากจุดที่คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ ไม่เก่งเหมือนคนอื่น พอกันทีกับการเอาแต่ให้ไอ้แจ็คปลอบใจว่าการเล่นเกมมันต้องค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ไอ้ธีร์ดีแต่พูดเหยียดหยาม เขาจะทำให้ไอ้เวรนั่นรู้ว่าต่อให้เล่นทีหลังก็เก่งได้ และจะทำได้ดีกว่าด้วย

“มึง เย็นนี้ไปดูหนังกัน”

ทันทีที่ถึงโรงอาหารเจ้าของผมสกินเฮดก็คว้าไหล่เขาเอาไว้ เท็นคงไม่ได้คิดไปเองว่าวันนี้ไอ้แจ็คผิดปกติตั้งแต่รอยยิ้มบนใบหน้ายันคูปองลดราคาเครื่องดื่มในมือ หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงตอบตกลงทันทีและตั้งตารอให้ถึงบ่ายสี่โมงเพื่อที่จะสะพายเป้ไปสยามกับเพื่อนสนิท

แต่มันสายไปแล้ว

แจ็คยิ้มเก้อมองเพื่อนสนิทที่แกะมือเขาออกพร้อมแววตาไม่คุ้นเคย มันทั้งเรียบเฉย ว่างเปล่าจนวูบหนึ่งทำให้เขารู้สึกใจหาย

นักเรียนมากมายกำลังทยอยกันเข้าไปจับจองที่นั่งเพื่อกินมื้อเที่ยง และแจ็คก็ยังคงรอคำตอบซึ่งเขาหวังว่าไอ้เท็นจะตกลง แต่ผ่านไปเป็นนาทีแล้วอีกฝ่ายก็ยังเฉย

“ที่กูติดมึงไว้น่ะ จำได้ไหม?” แจ็คไม่ใช่คนชอบพูดซ้ำสอง แต่ถ้ามันจะเตือนความจำเพื่อนได้ก็คงไม่เสียหายอะไร อีกอย่างมันคงไม่แปลกถ้าไอ้เท็นจะน้อยใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านไปมันคือความผิดของเขาทั้งหมดที่ปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาขนาดนี้

“...”

เท็นรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำตั้งแต่วินาทีแรกที่ตัดสินใจแกะมืออีกฝ่ายออก พอเอาเข้าจริงเขาก็ไม่ได้มีความกล้ามากพอที่จะปฏิเสธคนที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ในชีวิตได้ แต่อีกใจก็อยากให้อีกฝ่ายเรียนรู้ความผิดหวังเสียบ้าง

และระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็ถูกกดดันโดยสายตาเพื่อนกลุ่มนั้นที่นั่งกินข้าวอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้


‘กูถามจริงนะ มึงคบกับไอ้แจ็คใช่ปะวะ?’
‘เกย์’


“เท็น?”

“เออใช่ ๆ ที่มึงติดกูไว้ตอนนั้น”

เท็นหวังว่าการแสดงละครตบตาคราวนี้จะได้ผล แต่นั่นก็เป็นเพียงความต้องการที่หลีกหนีความจริงไม่ได้ว่าต่อให้เขาจะพยายามกลบเกลื่อนอย่างไร อีกฝ่ายก็ดูออกอย่างง่ายดายอยู่ดีว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง

“โทษทีว่ะ แต่กูคงไปด้วยไม่ได้”

“ทำไมวะ ไม่ว่างเหรอ?”


ว่างสิ ว่างขนาดเอาเวลาไปคิดเรื่องโง่ ๆ จนกลายเป็นแบบนี้แล้ว


“งั้นพรุ่งนี้เป็นไง แวะกินกล้วยกล้วยก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะดูหนังเรื่องไหน ดีไหม?”

ไอ้แจ็คก็ยังคงพยายามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังฝืน น่าตลกดีที่ตอนนี้เด็กหนุ่มทั้งสองคนไม่หลงเหลือความเป็นธรรมชาติให้กันแล้ว จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าอีกฝ่ายมายืนตรงหน้าเขาและพูดมันให้เร็วกว่านี้... เรื่องที่กลัวถูกว่ามองเป็นเกย์มันจะกลายเป็นแค่เรื่องไร้สาระไปหรือเปล่า?

“มีอะไรกันวะ?”

ไอ้ตัวปัญหาระดับโลกเดินเข้ามาถามหลังจากเห็นว่าเขากับไอ้แจ็คหยุดยืนตรงนี้โดยที่ยังไม่ไปหาโต๊ะนั่งกินมื้อเที่ยง เท็นคิดว่าวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะยิ้มรับสีหน้าวอนตีนของไอ้ธีร์ เพราะหลังจากนี้จะไม่มี TEN1O คอยเล่นตำแหน่งรองมือรองตีนให้อีกแล้ว

“มึงมาก็ดีแล้ว กูมีเรื่องจะบอก”

“ว่า?”

อย่าไปกลัว ก็แค่ทำในสิ่งที่ไอ้ธีร์กล้าทำกับคนอื่นจนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมันก็ไม่เห็นจะรู้สึกผิดเลยสักครั้ง และถ้าหากเขาจะทำบ้างก็คงไม่เสียหายอะไรถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำมาตลอด

“กูคงต้องออกจากทีมแล้วว่ะ”

สีหน้าไอ้ธีร์เกินความคาดหมายไปหน่อย ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไหวไหล่หรือขานตอบตกลงแล้วเดินจากไปทำเรื่องไร้สาระแบบที่ชอบทำ แต่ตอนนี้มันกำลังเบิกตากว้างขณะสบตากับเขาราวกับไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

ไอ้แจ็คก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นสันดานเสีย ๆ ของเขามันกลับรู้สึกอยากประชดประชันมากกว่าหันกลับไปรู้สึกผิดกับเพื่อน


‘ขาดเขาคนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก’
‘ใช่ไหมล่ะ?’


“เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ ๆ มึงถึงอยากออก?”

เป็นคำถามของไอ้แจ็คที่มาก่อนคำอธิบายของเขา เด็กหนุ่มตัวสูงสามคนยืนคุยกันอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครห่วงว่าคาบบ่ายกำลังใกล้จะเข้ามาถึงแล้วและยังไม่มีใครได้แตะมื้อเที่ยงสักคำ แต่เท็นคิดว่าควรพูดให้จบตอนนี้เพราะจะได้อึดอัดแค่ครั้งเดียว ดีกว่าอมน้ำลายไว้ในปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนต้องทนไปเรื่อย ๆ

“แม่กูอยากให้เรียนวิดวะอะ พวกมึงก็รู้ใช่ไหมว่าผลการเรียนกูมันไม่ดีเท่าไหร่ พอถึงจุด ๆ หนึ่งกูก็นึกได้ว่าอนาคตมันสำคัญ”

“แต่ทีมเรากำลัง --”

ไอ้ธีร์พูดไม่จบก็ถูกไอ้แจ็คดันไหล่ห้ามไว้เสียก่อน หลังจากนั้นพูดอะไรออกไปบ้างเขาเองก็จำไม่ได้ มันพร่าเบลอเหมือนทุกอย่างหยุดความเคลื่อนไหวเพียงเพราะตัดสินใจทำบางสิ่งลงไปทั้งที่ลึก ๆ ไม่ต้องการอย่างนั้น

มีเพียงสิ่งเดียวที่จำได้ก็คือสีหน้าและแววตาไอ้แจ็คซึ่งเต็มไปด้วยคำถาม คนตรงหน้าไม่ได้เหนี่ยวรั้งหรือพูดหว่านล้อมว่าบางทีมันอาจจะมีหนทางสำหรับการตั้งใจเข้าคณะที่ต้องการและแข่งเกมไปพร้อม ๆ กันได้

แต่ไอ้แจ็คก็เอาแต่มองอยู่อย่างนั้น มองโดยไม่พูดอะไร กระทั่งคำพูดประโยคสุดท้ายหลุดออกมาจากปากเขาซึ่งมันคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต

“ส่วนเรื่องนั้นไม่ต้องเล่าแล้วนะ กูไม่อยากรู้แล้ว”





*





“ย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“โห นานแล้ว”

“คนเดียวเหรอ หรือว่ายังไง?”

“เปล่า เมียกูล่องหนอยู่ตรงนั้นน่ะ ถ้าใส่แว่นสามมิติก็จะมองเห็น”

แจ็คมองหน้าไอ้คนกวนตีนพลางยกเบียร์ขึ้นดื่ม แม้จะหมดไปลังนึงแล้วแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหลับหรือแหกปากร้องเพลงอย่างที่คนเมาเป็นกัน และมันก็เป็นอีกครั้งที่เขาหวนนึกถึงอดีต

จากที่เคยนอนมองดาวบนผืนหญ้าแต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นฟูกนุ่ม ๆ ราคาแพง หากไอ้เท็นบอกว่าทั้งคู่นั่งไทม์แมชชีนมาอนาคตก็คงเชื่อได้ไม่ยาก เพราะแจ็คยังจำกลิ่นหญ้า กลิ่นเหงื่อบนเสื้อนักเรียน และสีหน้าคนข้าง ๆ ได้เป็นอย่างดี 

“ไม่เหงาหรือไง?”

“มึงรู้ว่ากูจะตอบแบบไหน แล้วทำไมถึงยังถาม?”

“เผื่อเหล้าจะทำให้มึงงัดปากพูดออกมาได้กูก็เลยลองดู” แจ็คหัวเราะในลำคอพลางเปิดเบียร์กระป๋องใหม่

“กูมีหมากับแมวเป็นเพื่อนแล้ว”

การไม่ตอบก็คือการให้คำตอบ แจ็คคิดอย่างนั้น

“ทำไมมึงถึงทำงานบริษัทเกม?”

ชายหนุ่มผมยาวเพียงหันไปมองคนที่นั่งพิงประตูกระจกอยู่ข้างตัวพลางฉายแววตาสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เกิดคำถามนี้

“มึงเคยบอกว่าอยากเป็นนักร้อง” เท็นจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ และเขาถามอีกฝ่ายระหว่างนั่งเล่นกีต้าร์ในบ้าน

“กูเสือกขี้อายก่อนก็เลยไม่ได้ส่งเดโมไป”

ชายหนุ่มผมเทาแค่นหัวเราะกับคำตอบที่โคตรแถ แต่ก็ไม่แปลกใจที่ไอ้แจ็คเลือกตอบเลี่ยง ๆ มากกว่าจะอธิบายทุกอย่าง เขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เรื่องนี้เท็นรู้ดี

“นั่นคือความฝันวัยเด็ก แต่พอโตขึ้นกูก็แค่มองเห็นความฝันแบบใหม่ มันก็แค่นั้น”

แต่สุดท้ายมันก็เล่าให้เขาฟัง

เท็นหันไปมองอีกคนที่ยกกระป๋องเบียร์ดื่มพลางถอนหายใจเอาความสุขจากการได้ลิ้มรสความสดชื่นออกมา เขารู้สึกว่าวันนี้มันยาวนานมากตั้งแต่นาทีแรกที่ไปหาไอ้แจ็คถึงบ้าน กระทั่งไปดูหนังกับน้องแพรว หรือตอนนี้ที่ใช้เวลาละเลียดดื่มเอาความขมกลบความอุ่นในใจ

“แล้วมึงล่ะ ทำไมถึงอยู่ตรงนี้ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีทีท่าว่าชอบเกม?”

“...”

เขาควรตอบอย่างไรกับคำถามที่ถ้าอีกฝ่ายใช้เวลาคิดสักนิดก็คงนึกออกได้ว่าเพราะเหตุใด TEN10 ถึงมีชีวิตในวงการเกม ชายหนุ่มผมเทาเพียงยกเบียร์ดื่มเพื่อทิ้งให้ความเงียบทำงาน ถึงการนั่งอยู่ด้วยกันจะเป็นเรื่องที่เขาต้องการ แต่ถ้าให้พูดความจริงไปก็คงไม่ดี

“กูก็แค่ขี้เกียจออกไปทำงานข้างนอก”

“เหรอ?”

“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง?”

“มันเป็นหน้าของคนที่อยากรู้ว่าระหว่างไม่ได้เจอกันมึงคิดอะไร มึงใช้ชีวิตแบบไหนจนกว่าจะถึงวันนี้?”

“เมาแล้วเหรอ เริ่มถามลงลึกละนะ”

แจ็คยิ้มขำกับความจริงที่ว่าเขาเริ่มจะข้ามเส้นที่ทั้งคู่พร้อมใจกันขีดเอาไว้ แต่แล้วอย่างไร เบียร์ที่ดื่มเข้าไปจนต้องวิ่งฉี่มันห้ามความอยากรู้ที่มีอยู่ไม่ได้แล้ว

“กินไปตั้งขนาดนี้ไม่เมาก็ไม่รู้จะให้ว่าไง ถ้ามึงยังไม่ตอบแล้วกูหลับไปก่อนก็ปลุกด้วยล่ะ”


กวนตีน ไอ้แจ็คกำลังกดดันให้เขาพูดชัด ๆ


“ตลกดี ปลายปีก่อนยังทำท่าจะต่อยกันทุกครั้งที่เห็นหน้าอยู่เลย”

“นั่นมึงกับไอ้ธีร์มากกว่ามั้ง”

“แต่มึงกำหมัด กูเห็น”

“ก็ตอนนั้นปากมึงมันน่าต่อย”

“เหรอ แล้วตอนนี้ล่ะ?”

ไอ้เท็นไม่ควรถามลองใจตอนที่เขาดื่มเบียร์ไปเยอะขนาดนี้ และแจ็คไม่อยากรู้สึกดีกับแววตาที่มองมาเหมือนคาดหวังอยากให้เขาตอบว่า ‘ไม่แล้ว’

“ก็ยังอยากต่อยอยู่”

“อ้าว จะเอาไหมล่ะ แลกกันคนละหมัดแล้วรอดูว่าใครจะช้ำนานกว่ากัน?” ไอ้ลิงหัวเทาไม่พูดอย่างเดียว มันถลกแขนเสื้อขึ้นพร้อมเบ่งกล้ามโชว์

“ต่อยกับเด็กปัญญานิ่มกับมึงสู้ให้กูไปนั่งดมขี้แมวอีมูนดีกว่า”

“เรียกลูกกูดี ๆ หน่อย มันมีหัวใจนะ”

“แล้วมึงล่ะ มีไหม?” ก็ถ้าเก่งเรื่องถามลองใจนักก็ต้องเจอเอาคืนบ้าง ซึ่งไอ้เท็นก็ค้างอยู่ท่าวางก้าม พลางขมวดคิ้วมองเหมือนพยายามใช้ความคิด

“ไม่มีก็ตายดิ ถามโง่ ๆ”

“มุกไม่ฉลาด น่าผิดหวังจริง ๆ”

“ทำเป็นพูดนะมึงนะ ตอนงานแต่งก็ทำหน้าเหมือนจะคะย่อนของเก่าออกมาทุกครั้งที่หันมาเจอกู แล้วดูตอนนี้สิ มึงกำลังนั่งกินเบียร์อยู่ในบ้าน TEN10 ผู้ได้รางวัลคนเหี้ยสิบปีซ้อน”

“นี่ไม่ต้องง้างปากมึงก็ด่าตัวเองแทนกูแล้วเหรอ?” เท็นไม่ใช่คนชอบด่าตัวเอง กลับกันแล้วยังรักการถูกชมเสียด้วยซ้ำ แต่อยู่ ๆ เขาก็นึกสนุกขึ้นมาเพียงเพราะว่ามันทำให้อีกฝ่ายหัวเราะได้

“เขาเรียกยอมรับความจริง กูไม่ใช่ไอ้ธีร์นะที่จะหลับหูหลับตาคิดว่าตัวเองเป็นคนดี”

“ถ้าตอนนั้นไม่เถียง แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว”

“จะสักแค่ไหนกัน?”

“เอาเป็นว่าทุกวันนี้มีคนทำให้มันเชื่องได้ อยากลองไปพิสูจน์เองกับตัวไหมล่ะ?”

“มึงอยากเห็นกูกับมันฆ่ากันตายหรือไง?” เท็นค้างอยู่ในท่ายกเบียร์ขึ้นดื่มพลางชำเลืองมองคนข้าง ๆ

“กลัวเปล่า?”

“กูเนี่ยนะกลัวไอ้ธีร์?” ให้ตายเถอะว่ะ ชายหนุ่มผมเทาแค่นหัวเราะกับคำท้าทายที่ย้อนเวลากลับไปเมื่อปีก่อนก็ได้คำตอบแล้วว่าเขาถนัดงานปั่นหัวไอ้เวรนั่นแค่ไหน

“ถ้ากูโทรตามให้มันมาที่นี่มึงจะ...?”

“ถีบมึงตกระเบียงก่อนเลยอันดับแรก”

ดูมัน... ทีงี้ล่ะหัวเราะใหญ่เชียวนะ





*





“เท็น”

ไม่น่าแปลกใจนักที่คนเรียกชื่อเขาคือแฟนสาวของเพื่อนสนิท เด็กหนุ่มเพียงยิ้มเล็ก ๆ ระหว่างสบตากับเธอก่อนจะลากเก้าอี้ออกให้ ซึ่งเจ้าของแก้มสีระเรื่อก็เดินมานั่งด้วยกันเหมือนทุกครั้งที่ ‘บังเอิญ’ ผ่านมาเห็นเขานั่งอยู่ตามลำพังที่ร้านกล้วยกล้วย

“มานั่งคนเดียวอีกแล้ว”

“ไม่รู้สิ เหมือนรู้ว่าถ้ามาตรงนี้จะได้เจอใครบางคน ก็เลยมานั่งโง่ ๆ แบบไม่มีจุดหมาย” คนได้ยินคำหวานเม้มปากกลั้นยิ้มพลางเบือนสายตาไปอีกทาง เท็นเท้าศอกมองภาพเดิม ๆ อีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีดีอะไร ทำไมไอ้แจ็คถึงได้หลงรักนัก?

“แล้วเจอหรือยัง?”

“อืม เจอแล้ว” เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อปลายนิ้วถูกสัมผัส และก็เป็นอีกครั้งที่บลูยอมให้มืออุ่น ๆ ของผู้ชายคนนี้เข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึก

“ถ้าอย่างนั้น... เค้าไปไหนแล้วล่ะ?”

“อืม... เหมือนจะแอบอยู่แถว ๆ นี้นะ” เด็กหนุ่มเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้จนอีกฝ่ายหดคออย่างขลาดอาย

เด็กสาวรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าเสียให้ได้กับอาการใจเต้นแรงที่แจ็คก็ไม่เคยทำให้เป็นแบบนี้ บลูรู้แก่ใจดีว่าเท็นคือไฟที่ไม่ควรเข้าใกล้ แต่ความเหงาและคำหวานที่ออกมาจากปากอีกฝ่ายมันก็ทำให้เธอพ่ายแพ้แก่ความผิดชอบชั่วดีในที่สุด

“ถ้าเค้าหายไปนานแบบนี้เท็นก็จะรอไปเรื่อย ๆ เหรอ?”

“ไม่แน่” เด็กหนุ่มแสร้งขมวดคิ้วขณะจ้องหน้ากับคนข้างตัว ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ ๆ อีกครั้งเพื่อทำให้เธอตายด้วยน้ำมือเขาไวขึ้น “ก็ถ้าบลูไปดูหนังกับเรา...”

“...”

“เรื่องคน ๆ นั้นก็ช่างหัวมันแล้ว”

“แต่...”

“บลูไม่อยากดูหนังกับเราเหรอ?”

“เปล่านะ คือ --”

“อ่า เข้าใจแล้ว บลูเป็นแฟนไอ้แจ็คนี่นะ จะไปดูหนังกับเราได้ยังไง อีกอย่างคงไม่มีใครอยากไปทำเรื่องแบบนั้นกับคนที่ไม่ได้ชอบหรอก”

“เท็น...”

“เดี๋ยวเราโทรหาน้องมอห้าคนนั้นดีกว่า บลูรู้จักใช่ไหมน้องคนตัวผอม ๆ สวย ๆ ที่เดินกับเราวันนั้น”

“ไม่เอา อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม...”

ให้ตาย... คราวนี้เธอเป็นฝ่ายจับไม้จับมือเขาว่ะ

ไหนจะดวงตาคู่นี้ที่มองมาเหมือนอยากอธิบายว่ารู้สึกดีกับเขาเสียยิ่งกว่าอะไรนี่ด้วย สาบานได้ว่าเท็นอยากออกตัวปกป้องอีกฝ่ายจนเนื้อเต้นทุกครั้งที่ถูกไอ้พวกนั้นเอาไปยำในวงเหล้า แต่ยิ่ง ‘บังเอิญ’ เจอกันบ่อยเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งแสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นว่าผู้หญิงแบบนี้ไม่ควรได้รับความรักดี ๆ จากใครเลยสักนิด

“เราจะไปดูหนังกับเท็น เพราะงั้นอย่าไปกับคนอื่นเลยนะคะ...”



ไม่ควรเลย





*





ทุกคนเข้าใจได้ถ้าหากไอ้เท็นอยากให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมากกว่าเกมที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าไร้สาระ ดังนั้นจึงไม่มีใครรั้งเรื่องที่มันขอออกจากทีมกะทันหัน แต่การขาดคนไประหว่างอยู่ในการแข่งขันก็เป็นเรื่องหนักหนาพอสมควร เพราะ Numb2r ต้องหาคนเข้าทีมใหม่และต้องฝึกซ้อมหนักกว่าที่เคยเพราะถ้าหากเข้ากันไม่ได้ แผนจะเอาชนะทีมฝั่งตรงข้ามก็คงเป็นเรื่องยากโข

แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เท็นก็ยังอยู่ใน TeamSpeak ตลอดระหว่างที่ทีมกำลังซ้อมกัน มันช่วยแนะนำให้คนที่มาแทนตำแหน่งตนเอง อีกทั้งยังช่วยออกความเห็นว่าจะต้องวางแผนรับมือทีมฝั่งตรงข้ามอย่างไรก่อนจะแยกตัวไปอ่านหนังสือ

พักนี้เขาเริ่มมีปากเสียงกับบลูเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แจ็ครู้ว่ามันเป็นความผิดของเขาเองที่ไม่สามารถดูแลใส่ใจเธอได้ตามที่ควรจนวูบหนึ่งมีความคิดว่าไม่อยากมีแฟนแล้ว เพราะแค่จัดการเรื่องที่บ้านกับเรื่องตัวเองก็เหนื่อยเต็มที ถ้าต้องมาเจอสงครามประสาทโดนประชดประชันซ้ำ ๆ ความเป็นคนดีของเขาก็คงแบกรับความรักครั้งนี้ไว้ไม่ไหว

แจ็คอยากบอกเลิกบลูให้จบ ๆ อย่างน้อยเธอก็จะได้ไปเจอคนใหม่ที่พอดีกว่า เขาไม่อยากให้เธอทนอยู่กับผู้ชายที่ไม่เหลืออะไรแม้กระทั่งเวลาใส่ใจแฟน แต่พอบอกว่า ‘เราลองห่าง ๆ กันดูไหม?’ บลูก็ร้องไห้กอดเขาไว้แน่นพร้อมขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า

เธอสะอึกสะอื้นจนเหมือนจะขาดใจ และพอเห็นอย่างนั้นใครจะกล้าบอกเลิกได้ สุดท้ายแจ็คก็ต้องทนอยู่กับความรู้สึกผิดกับทุกสิ่งทุกอย่าง มันไม่มีอะไรดีขึ้นสักนิด เพราะถ้าหันไปใส่ใจแฟนก็ทำให้เสียเวลาเอาไปสร้างรายได้เพิ่ม แต่พอทำงานหาเงินก็ไม่มีเวลาให้อะไรสักอย่าง

เหมือนได้สิ่งหนึ่งก็ต้องแลกกับสิ่งหนึ่ง จนเกิดคำถามว่าทุกวันนี้เขาใช้ชีวิตอยู่เพื่ออะไร?

แค่รอดไปวัน ๆ หรือว่ามีเป้าหมายที่ดีกว่า?

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดหยุดยืนอยู่หน้าบ้านกลางดึก มองประตูม้วนที่ถูกพ่นสีโดยคนมือบอนที่อยากโชว์ความสามารถโดยไม่รู้จักที่รู้จักทาง แจ็คแง้มประตูหน้าบ้านขึ้นเพียงเล็กน้อยแล้วคลานเข้าไปเพราะไม่อยากให้ใครต้องตื่นเพราะการมาของเขา พอปิดประตูลงก็เห็นพ่อนอนเมาอยู่บนโซฟาไม้เก่า ๆ ที่เคยบ่นว่าแข็งจนแทบนอนไม่ได้

แจ็คแวะขึ้นไปหาแม่ก่อนจะเข้าห้องตนเอง มันเหมือนกับทุกครั้งที่เขามักจะเห็นเธอนั่งรีดผ้าจนดึกดื่นโดยมีวิทยุเครื่องเล็ก ๆ เปิดคลออยู่เป็นเพื่อน นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เห็นรอยยิ้มของแม่ มันก็คงนานมากพอที่เขาจะปิดประตูลงแล้วกลับไปห้องตัวเองเพราะการทักทายยามเช้าหรือก่อนนอนมันไม่มีผลอะไรกับปฏิกิริยาของแม่

เธอมักจะทำหน้ามึนตึง เหนื่อยล้า และโกรธทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ชีวิตต้องดิ่งลงมาอยู่ในจุดนี้

หลังจากอาบน้ำจนได้ความสดชื่นเรียบร้อยแจ็คก็หยุดยืนมองน้องอีกสองคนที่หลับไปแล้วและนั่นหมายความว่าเขาต้องเบาเสียงให้มากที่สุด คืนนี้ก็ยังเหมือนเดิม เริ่มจากเตรียมแผนการสอน ซ้อมทีม และถ้ายังเหลือเวลาก็ค่อยอ่านหนังสือจนกว่าจะทนฝืนง่วงไม่ไหว

ความฝันใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าหากได้เงินรางวัลครั้งนี้เขาคงเอาให้พ่อไปเช่าแท็กซี่มาขับหรือไม่ก็เอาไปลงทุนกับอะไรสักอย่างที่ต้องเห็นเม็ดเงินชัด ๆ ไม่ใช่ลงกับขวดเหล้าอย่างที่เป็นอยู่

อยู่ ๆ ฝนก็ตกอย่างหนักลงมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เด็กหนุ่มผมสกินเฮดจึงลุกไปปิดหน้าต่างเพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าละอองฝนจะเข้ามาจนทำให้เด็กน้อยอีกสองคนต้องป่วย แต่ผ่านไปเกินนาทีแล้วเขาก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น มองหยดน้ำนับล้านที่ร่วงลงมาจากฟากฟ้าจนทำให้นึกถึงใครอีกคนที่อยู่ห่างไกลจากตรงนี้


คุณกำลังโทรออก...
‘ไอ้หน้าหมา’


ระหว่างกังวล เป็นห่วง กลัวว่าเพื่อนจะเครียดหลังจากถูกกดดันให้อ่านหนังสือเพราะเรื่องคณะที่อยากเข้าเรียน ตอนนั้นแจ็คไม่รู้เลยว่าคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทกำลังพาแฟนของเขากลับไปที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเปียกฝน

และสองคนนั้นก็ทำเรื่องที่เขาไม่คาดคิด... ซึ่งนั่นไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว
 




(ต่อด้านล่างนะคะ)










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2018 20:55:49 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



*





“ทำไมถึงออกจากบลูไวเปอร์?”

สติสตางค์ที่เคยมีเริ่มเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว สังเกตได้จากบทสนทนาที่เริ่มลดน้อยลง แต่สุดท้ายไอ้แจ็คก็ยิงคำถามที่ทำให้คนฟังตื่นเต็มตาจนได้

“ถ้ากูบอกว่าคนพวกนั้นห่วงหน้าตาวงจนไม่สนใจอะไรมึงจะเชื่อไหม?”

“เชื่อ”

“ทำไม?”

“เพราะกูเริ่มเมาแล้ว” เท็นส่ายศีรษะหน่าย ๆ กับไอ้หน้าโง่ที่ยังเปิดเบียร์กระป๋องใหม่ทั้งที่ปากพูดอย่างนั้น

“ความจริงมันมีอะไรมากกว่าที่คนด่า ๆ กัน ทั้งเรื่องที่กูอยากระบาย แล้วก็เรื่องที่คิดว่าช่างแม่งเหอะ คิดไปก็โมโหเปล่า ๆ”

“อย่างเช่น...?”

“เรื่องที่ทีมนั้นอยากได้เด็กใหม่ไฟแรงเข้ามาแทนที่ บวกกับกูตกเป็นกระแสสังคมพอดี อะไร ๆ ก็เลยดูเข้าทางไปหมด”

“แล้วมันจริงอย่างที่คนอื่นพูดไหม?”

“จริงไม่จริงมันขึ้นอยู่กับว่าคน ๆ นั้นอยากมองกูยังไง”

แจ็คละสายตาจากกระป๋องเบียร์แล้วหันไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังจดจ้องอยู่กับท้องฟ้ายามค่ำคืน

“มึงก็รู้ว่าโลกนี้ยุติธรรมแค่ไหน ต่อให้ทำพลาดแค่ครั้งเดียวแต่คนจะจดจำมึงแบบนั้นไปตลอดโดยไม่สนใจว่าก่อนหน้านี้มึงเคยทำดีไปแล้วกี่ครั้ง ทุกคนจะเมินทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจ้องแต่เรื่องเหี้ย ๆ ที่มึงทำลงไป แต่ถ้ายังไม่สะใจก็จะหาเรื่องอื่นมาสร้างประเด็นให้มึงอีกจนได้”

“ไม่แปลกหรอก ใคร ๆ ก็ชอบเรื่องดี ๆ มากกว่าเรื่องที่ทำให้หงุดหงิด ต่อให้เป็นเรื่องของคนอื่นก็ตาม”

“ก็จริงของมึง กูรู้นะว่ากูไม่ใช่ที่รักของใคร ๆ ขนาดที่จะมีคนตั้งกระทู้สาธยายความดีให้ แต่หลัง ๆ มันชักจะเกินไปแล้ว แค่ขยับตัวนิดหน่อยก็หาว่าจงใจประชดประชันแดกดันคนอื่น เหมือนคนทั้งโลกพร้อมใจกันหันมาหากูเพื่อตั้งหน้าตั้งตาจับผิดว่าวันนี้ไอ้เชี่ยเท็นจะทำอะไรนะ อยากด่ามันจังแต่ไม่มีหัวข้อเด็ด ๆ ให้ยกพวกไปยำเลย งั้นลงกับรูปหมามันแล้วกัน อย่างน้อยก็ขอให้ได้ระบายอารมณ์”

“มึงทนอยู่กับความรู้สึกแบบนี้คนเดียวมาเป็นปีเลยหรือไง มีใครสักคนที่รับฟังเรื่องนี้ไหม?”

“ไม่ เชิญมึงสมน้ำหน้าได้”

“กูจะทำอย่างนั้นทำไม นี่มันเรื่องใหญ่นะเท็น มึงควรจะระบายออกมาบ้างไม่ใช่เอะอะเก็บทุกอย่างไว้ในใจเพราะคิดว่าตัวเองโตแล้วต้องอดทนได้ อีกอย่างมึงเลิกได้แล้วไอ้อาการอัปโซเชียลแสดงออกว่าไม่สนไม่แคร์อะไร เพราะการทำแบบนั้นยิ่งทำให้คนเข้าไปด่า”

“ที่จริงก็ไม่มีอะไรที่ทำได้อยู่แล้วนอกจากหายไปจากโลกนี้ เผลอ ๆ ต่อให้ไม่มีกูวนเวียนอยู่ในโซเชียลก็คงโดนขุดขึ้นมาด่าอยู่ดี ส่วนเรื่องคนรับฟังน่ะมึงคิดว่ามันง่ายหรือไงแจ็ค หันไปทางไหนก็มีแต่คนยิ้มให้แต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง เผลอเมื่อไหร่ไม่รอด”

“มึงเลือกที่จะเดินเข้าไปเองทั้งที่รู้ว่าเขามีมีด”

เห็นไหม พอเริ่มพูดความในใจออกมาบรรยากาศก็พังเละเทะไม่เป็นท่า ไหนล่ะความสบายใจที่คิดว่าจะได้ แค่นั่งแดกเหล้าเมา ๆ คนเดียวแต่แรกก็จบแล้ว

“กูหมายความว่ามึงควรจะดูให้ดีก่อนไว้ใจใคร ไม่ใช่เอะอะคนไหนดีด้วยก็ให้ใจเขาหมด”

“กำลังจะด่าว่ากูโง่ล่ะสิ?”

“ใช่ แล้วถ้ายังโดนคนหักหลังซ้ำ ๆ ไม่หยุดกูก็จะด่ามึงไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ”

“พูดเหมือนจะอยู่”

“แล้วตั้งแต่กลับมามึงเห็นกูไปไหนหรือยัง?”

เกลียดที่กำลังเสียใจและดีใจไปพร้อม ๆ กัน เขาต้องหันหน้าไปอีกทางเพื่อปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ซึ่งก็จะขอบคุณมากถ้าหากไอ้แจ็คไม่ได้จ้องอยู่จนเอาไปคิดว่าเขาคนนี้กำลังอ่อนแอ


‘คนเกลียดไอ้เท็นเยอะ ถ้าออกมาพูดปกป้องทีมตอนนี้ก็มีแต่จะดีกับพวกเรา ลอยตัวเหนือดราม่า แถมได้คะแนนเอาใจชาวเน็ตด้วย’
‘จริง เดี๋ยวนี้มันก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรขนาดนั้นแล้ว เอารุ่นน้องมึงมาแทนที่น่าจะได้กระแสกว่า’


“ครั้งแรกเราเป็นคนแปลกหน้าต่อกันก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเพื่อน แล้ววันหนึ่งเราก็กลับไปเป็นคนแปลกหน้าอีกครั้ง”

“แล้วมึงว่าแบบไหนดีกว่ากัน?”

หากอยู่ในสภาพปกติเชื่อเถอะว่าเท็นคงไม่มีวันงัดปากถามอะไรแบบนั้น แต่ตอนนี้ร่างกายเขามันร้อนจนสูบฉีดความกล้าขึ้นมาเต็มขั้น และไอ้แจ็คต้องเข้าใจว่านี่เป็นเพราะพิษแอลกอฮอล์มากกว่าจะเป็นความจริงจากใจ

 “เท็น”

“อะไร?”

“มึงรู้ไหมว่าถ้ากินกระป๋องนี้หมดภายในรวดเดียวแล้วเราจะจำอะไรไม่ได้จนกว่าจะเช้า?”

“...”

ชายหนุ่มผมเทามองกระป๋องเบียร์ที่อีกคนยื่นให้ เหมือนกับเป็นการบอกนัย ๆ ว่าทั้งคู่สามารถพูดความในใจอะไรก็ได้จนกว่าจะรุ่งสาง ซึ่งใจหนึ่งเท็นก็กังวลกับคำเชิญชวนบ้า ๆ นั่น แต่ลึก ๆ มันก็อยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร

“จนกว่าจะเช้า”

ทั้งคู่ชนกระป๋องเบียร์กันแล้วยกดื่มจนหมดรวดเดียวตามที่พูดก่อนจะเรอออกมาประชันว่าเสียงของใครน่าเกลียดกว่ากัน เป็นอีกครั้งที่เท็นหันไปเห็นอีกคนในร่างเด็กมอปลายผมสกินเฮด

“เท็น”

และเขากลัวคำถามหลังจากนี้เหลือเกิน

“อืม”

ถ้าไอ้แจ็คจะรื้อฟื้นเรื่องบาดแผลเมื่อตอนนั้นก็คงไม่แปลก เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านไปในหัวอีกฝ่ายคงเต็มไปด้วยคำถามว่า ‘ทำไม?’ คนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทในวันนั้นถึงหักหลังทีมได้ลงคอ

ไอ้คนพูดน้อยเงียบไปแล้ว อยู่ ๆ ก็ปล่อยให้ค้างอยู่กับความสงสัยกลางอากาศแล้วจ้องมองมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ จนอดคิดไปในทางร้าย ๆ ไม่ได้ว่าไอ้แจ็คกำลังจะพูดประโยคที่ทำให้เขาแสร้งทำเป็นกร้านโลกต่อไปไม่ไหว


‘ที่กูบอกว่า ‘จนกว่าจะเช้า’ นั่นหมายความว่าหลังจากนี้เราไม่ควรมาเจอกันอีก การเป็นคนแปลกหน้ามันอาจจะเหมาะสมแล้วสำหรับกูกับมึง’


ถ้าไอ้แจ็คพูดอย่างนั้นเขาคง --


“ตอนนี้มึงอยากให้เราอยู่ในสถานะไหนวะ?”



คนกำลังเมา ๆ เล่นเอาคำถามนี้ตั้งแต่แรกแล้วกว่าจะไปถึงตอนเช้าเขาจะโต้ตอบอย่างไรล่ะวะไอ้ห่า?





TBC



สำหรับคนที่เซ็ง ๆ ว่าเขาไม่ได้กันสักที เราต้องขอโทษล่วงหน้าเลยเน้อ ด้วยความที่เนื้อเรื่องมันค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ สานสัมพันธ์ตัวละคร เพราะทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วก็แตกหักกันไป 10 ปี ซึ่งถ้าพูดในมุมคนเขียนเราก็คงปิ๊งปั๊งอีกคนไม่ได้ในทันทีแน่ ๆ มันต้องมีเรื่องมีราวกันก่อนน้อ ใจเย็น ๆ นะคะแง เราเข้าใจว่าอยากอ่านฉากหวาน ๆ แต่หลังจากเฉลยปมแข่งรอบชิงไปแล้วอะไร ๆ ก็จะดีขึ้นนะงับ ซึ่งน่าจะอีก 1-2 ตอนน้า


ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
จุกๆไปเลยจ้า​ แงงงงงงงงง​งงงงง

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เท็น กล้าๆ หน่อยลูกกกก พูดไปเลย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เอาจริงถ้านี่เป็นแจ็คก็ไม่รู้จะทนคุยกับเท็นได้เกินชั่วโมงไหม ดูทำแต่ละเรื่อง

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ย้อนอดีตหน่อย...บลูทั้งขี้เหร่ ทั้งนิสัยไม่ดี  ทำไมเท็นยังเอาลง อ่านดูเหมือนจะหลายครั้งด้วย  ส่วนตัวว่าของที่ชวนแหวะ ครั้งเดียวก็แหวะแล้ว

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ที่รักอย่าเพิ่งโกรธน้องเท็นนะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
นอนกับแฟนเพื่อนอ่ะเท็น ถึงแม้เขาจะเล่นด้วยหรือไม่เล่นด้วยมันก็ไม่ควร เห้ออออออ


ขอแก้คำผิดหน่อยนะคะะ คะย้อน=ขย้อน

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
สิ่งที่เท็นทำมันไม่ใช่ไร้เดียงสา แต่มันคือการขาดการชี้แนะด้านจริยธรรมจากคนที่มีประสบการณ์ชีวิต

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 14
หัวใจที่หยุดเต้น




เวลาล่วงเลยผ่านไปจน Numb2r ฟลุ๊คเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในที่สุด ใจหนึ่งก็ดีใจกับไอ้แจ็คแต่พอหันไปอีกทางความรู้สึกเหล่านั้นก็จางหายไปง่าย ๆ เพียงเพราะเห็นท่าทีเวอร์ ๆ ของไอ้ธีร์ ก็พอเข้าใจว่าคนไม่เคยจะพราวด์บ้างมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่โทษทีว่ะ เขาอยากแช่งให้มันแพ้จนขายขี้หน้าจริง ๆ

คิดแล้วก็หงุดหงิดฉิบหายที่จะร้ายก็ทำได้ไม่สุด เพราะทุกครั้งที่นึกสาปแช่งไอ้เวรนั่นจิตใต้สำนึกมันก็ตะโกนบอกให้เพลา ๆ ลงหน่อยเพราะไอ้แจ็คก็อยู่ทีมนั้น


‘ทำไมไม่ออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ ไหนบอกว่าพ่อแม่ให้ตั้งใจเรียนไง?’


โดนเขี้ยวเข็นอย่างไรถึงยอมให้เอาเวลาไปแข่งเกมอย่างนี้ หรือที่พูดก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อทำให้ตัวเองไม่ผิดเวลาไม่ว่างไปกับเขาเท่านั้น ทุกอย่างไม่มีความสมเหตุสมผลเอาเสียเลย แล้วอย่างนี้จะให้เขาคิดในแง่ดีได้อย่างไรกัน?

ทุกวันนี้เรื่องนอนแทบไม่จำเป็นเพราะเวลาซ้อมให้เข้าขากับทีมใหม่เป็นเรื่องสำคัญกว่า มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องแลกว่าถ้าอยากได้บางอย่างก็จะเสียอีกอย่างไป เช่นผลการเรียนที่ดิ่งลงเรื่อย ๆ และกลุ่มเพื่อนฝูงที่ห่างออกมา

อดคิดไม่ได้ว่าถ้าปล่อยให้นานไปกว่านี้เขาคงเป็นอย่างที่ผู้ใหญ่พูดไว้ว่าเกมคือสิ่งทำให้เด็กฉิบหาย เสียคนจนไร้อนาคต

“ไงวะหนอนหนังสือ?”

คนถูกทักยิ้มค้างทันทีที่ได้ยินเสียงผู้มาใหม่ คนที่นั่งอยู่กลางกลุ่มเด็กสาวมอสี่หันไปตามต้นเสียงก่อนความหงุดหงิดจะทวีขึ้นเมื่อเด็กสาวรอบตัวเขากำลังซุบซิบเพียงเพราะตื่นเต้นกับการมาของไอ้ธีร์

ถึงจะยิ้มอยู่แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้มาดีแน่

“ว่าไง?” เท็นยิ้มเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจอยากตะโกนไล่ไอ้เวรนี่ออกไปไกล ๆ องศาสปอร์ตไลท์ที่เคยฉายมายังเขา ยิ่งเด็กสาวกลุ่มนี้ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเพราะเขินไอ้เวรนี่เท่าไหร่ ความคันตีนที่มีต่ออีกฝ่ายก็มากขึ้นเท่านั้น

“เปล่า แวะมาทักเฉย ๆ เห็นว่าช่วงนี้มึงอ่านหนังสือเครียด ๆ”

เสือก


“พี่เท็นเครียดเหรอคะ ตายจริง แล้วพวกหนูก็นั่งชวนคุยอยู่ตั้งนานสองนาน”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ก็ต้องมีเวลาพักบ้างสิ จริงไหม?” ประโยคสุดท้ายหันไปทางคนที่ใคร ๆ เข้าใจว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่ในใจกลับกลายเป็นศัตรูตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“มึงมีอะไรเปล่าธีร์?” เจ้าของชื่อไม่ได้ตอบ อีกฝ่ายเพียงมองเขาก่อนจะกวาดสายตาไปทางรุ่นน้องมอสี่บนโต๊ะ

“ไม่มีอะไร กูได้คำตอบละ”

ไอ้ห่ารากเอ๊ย มีบ้างไหมที่วันไหนจะไม่ทำให้เขาโมโห?





*





“มึงเห็นคะแนนไอ้เท็นยัง?”

“อืม”

“แค่สอบย่อยยังได้เกือบที่โหล่ มึงคิดว่ามันตั้งใจอ่านหนังสือจริง ๆ เหรอวะแจ็ค?”

“อาจจะได้แบบฝึกหัดผิด ๆ มามั้ง ตอนนี้มันก็คงเซ็งเหมือนกัน”

“เซ็งห่าไร กูเห็นนั่งยิ้มหน้าระรื่น อิ๊อ๊ะอยู่กับเด็กมอสี่ไม่สนใครแบบนั้นน่ะเหรอเซ็ง?” หนุ่มป็อปประจำโรงเรียนกล่าวติดหัวเสีย มองเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งเตรียมแผนการสอนบนโต๊ะพร้อมป้องปากกระแอมไอ

ไอ้แจ็คไม่สบายเรื้อรังเนื่องจากพักผ่อนไม่พอ ไหนจะอาหารการกินที่ขอให้ท้องอิ่มก็พอนั่นอีก แล้วอย่างนี้เขาจะเฉยได้อย่างไรกัน?

“มึงปล่อยมันเหอะธีร์ เชื่อกู”

“พี่ไม่ได้เห็นเองกับตาแบบผมพี่ไม่เข้าใจหรอกพี่ตั้บ ผมมีลางว่ามันไม่ได้เฟดตัวออกไปเพื่อตั้งใจเรียนว่ะพูดตรง ๆ”

“มึงก็มองมันแง่ร้ายเกินป๊าย”

“หรือพี่ไม่คิด?”

แจ็คหันไปทางเพื่อนสนิทและรุ่นพี่ที่นั่งจ้องหน้ากันนิ่งหลังจากเจอคำถามที่พี่ตั้บเองก็คงรู้แก่ใจ

พี่ตั้บกับไอ้ธีร์กำลังคุยเรื่องที่เขาไม่อยากตั้งคำถาม ซึ่งแจ็คคิดว่ามันคงเป็นระบบกลไกป้องกันจิตใจอย่างหนึ่งหลังจากเห็นว่าเพื่อนกำลังห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ เขากลัวว่าถ้าคิดตามแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นว่าเขาคือต้นเหตุที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้

ไอ้เท็นกำลังแย่เขารู้ดี แต่พอจะก้าวไปไถ่ถามอีกฝ่ายก็เดินหนีโดยไม่รู้ว่านั่นแค่เรื่องบังเอิญหรือจงใจกันแน่

“ต่อให้เป็นงั้นแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงวะ”

“จะมีอะไรเปลี่ยนล่ะ จริง ๆ เรื่องตั้งใจเรียนให้ทำพร้อมกันก็ยังได้ ใช่ว่าลงแข่งแล้วจะทำให้การเรียนเสียเปล่าวะ?”

“คนเรามันสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองอะ อย่างแรกมึงต้องเข้าใจปากตัวเองที่มีต่อมันเวลาเล่นเกมด้วย ถึงเวลาเที่ยวเล่นด้วยกันมึงจะใส่ใจไอ้เท็นดี แต่ถ้ามึงไม่เคยหยุดบ่นตอนเล่นเกมมันก็คงไม่อยากมานั่งอ่านหนังสือกับมึงหรอก”

“โหพี่ เรื่องบ่นเกมมันก็ผ่านไปสักพักแล้วไหม ผมก็พยายามดีกับมันเพื่อชดเชยส่วนปากหมาของตัวเองไปแล้ว แถมหลัง ๆ ไม่ได้เล่นด้วยกันอีกมันก็ควรหายโกรธบ้าง”

“มึงจะเออออเอาเองว่าคนอื่นควรคิดยังไงไม่ได้หรอกธีร์ อีกอย่างมึงจะให้มันหายปุบปับก็ไม่ได้ เหมือนเวลาไอ้เชี่ยตั้นเคยด่ามึงในเน็ตแล้วมึงจับได้นั่นแหละ ต่อให้มันขอโทษมึงก็ไม่หาย” แจ็คอธิบายให้คนเอาแต่ใจฟัง ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งแล้วพยักหน้าส่ง ๆ เหมือนจะยอมเข้าใจ

“ทีมเราไม่รอดแน่ถ้ายังเป็นแบบนี้”

“แล้วจะเอายังไง มึงจะไปง้อไอ้เท็นให้กลับมาเข้าทีมเราไหมล่ะ?” สมาชิกใหม่ไม่ได้ขี้น้อยใจหรือชอบออกนอกตำแหน่งเหมือนไอ้เท็นก็จริง แต่รายนั้นก็ซื่อบื้อเกินกว่าจะคิดอะไรเองได้ เหมือนสอนอะไรไปก็จำแบบนั้นโดยไม่รู้จักพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์

“พี่ ผมพูดจริงนะ วันนี้ผมกะจะเข้าไปตะล่อมมันเว้ย คือว่าถ้ามีโอกาสก็คงงัดปากขอโทษอะ แต่พอเห็นมันระริกระรี้อยู่ท่ามกลางดงผู้หญิงผมก็ไม่อยากทำละ ตั้งใจเรียนประสาเหรอ มันดูมีความสุขกับการไม่มีพวกเราจนผมหงุดหงิดอะ”

“ปล่อยมันเถอะ”

“ปล่อยไรมึง? ถ้ามันไม่เห็นหัวกูเรื่องนี้พอเข้าใจได้เพราะกูไม่ใช่เพื่อนรักมัน แต่มึงอะ มันเคยมารับรู้บ้างไหมว่ามึงกำลังเผชิญกับอะไรอยู่?”

“มึงจะเอาอะไรกับคนไม่รู้วะธีร์?”

“ถ้ามันไม่รู้ก็ให้กูบอกมันดิเพื่อน กูจะเล่าทุกอย่างเลยเผื่อมันจะตาสว่างมากขึ้น”

ตุ้บตั้บกุมขมับ มองรุ่นน้องสองคนที่เริ่มมีปากเสียงกันเล็ก ๆ ในห้องปูนเก่า ๆ เขาเข้าใจทั้งมุมของไอ้ธีร์และไอ้แจ็ค คนหนึ่งก็เจ็บใจแทนเพื่อนที่ลำบากแทบแย่แต่ไอ้เท็นดันไม่เคยมารับรู้ ส่วนอีกคนก็แบกความทุกข์ไว้กับตัวเพียงเพราะไอ้เท็นไม่อยากรับรู้เรื่องที่อยากเล่าให้ฟังแล้ว

เด็กหนอเด็ก...




*




เท็นจมอยู่กับคำว่า ‘อยากเอาชนะ’ จนมองไม่เห็นเหตุผลใด ๆ อีกแล้ว ทั้งที่ทุกวันนี้ไอ้ธีร์ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร มีบ้างที่คุย ๆ หรือไปกินข้าวด้วยกัน แต่อาการอยากสาปแช่งมันยังคงอยู่ในใจไม่ลดลงไปเลยสักนิด

พอเห็นกระทู้อวย Numb2r ก็ทนอ่านไม่ได้ น้อยคนเหลือเกินที่นึกเสียดายสมาชิกอย่าง TEN10 ที่ออกจากทีมไป และความเก็บกดเหล่านั้นก็ส่งผลให้ความทะเยอทะยานมันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ห่างความเป็นตัวเองเข้าไปทุกที

เท็นรู้สึกเหมือนกำลังกำทรายยัดเข้าปากไม่หยุดและฝืนกลืนมันลงคอ โลกที่เคยเป็นสีเทาถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นสีดำทีละนิด พอรู้ตัวอีกทีมันก็กลืนกินความเป็นคนจนแทบไม่มีเหลือ

เด็กหนุ่มไม่สามารถห้ามตัวเองได้เพียงเพราะคำปลอบใจว่า ‘โลกนี้มันโหดร้าย’ ก็ถ้าทุกคนดีด้วย หรือให้ความจริงใจโดยไม่หักหลังกัน มีหรือมนุษย์จะกลายเป็นปีศาจได้ เขาตั้งคำถามตรงนี้

เท็นเคยเห็นในอินเทอร์เน็ต มีใครสักคนพูดไว้ว่า ‘ก่อนจะกลายเป็นปีศาจร้าย คน ๆ นั้นก็เคยเป็นคนที่เคยมีหัวใจมาก่อน’

ใช่ เพราะมีหัวใจ และให้ใจคนมากเกินไป โลกก็เลยตบรางวัลให้อย่างงดงามอย่างนี้

การแข่งขันสิ้นสุดลงโดยที่เขาไม่ได้ดูการแข่ง ไม่แม้แต่จะไปสถานที่จัดแข่งโดยอ้างว่าต้องไปต่างจังหวัดกับแม่ทั้งที่ความจริงนอนโง่อยู่คอนโด บอกตามตรงว่าสะใจฉิบหายที่ Numb2r ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เขารู้ว่าไอ้แจ็คคงเซ็งอยู่บ้าง แต่มันก็คงไม่คิดอะไรมากเพราะนั่นก็แค่เกม

เท็นเปลี่ยนจากตำแหน่งแทงค์เกอร์เป็นแครี่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาฝึกหนักจนพี่ ๆ ทีมใหม่ให้ความเชื่อใจว่าสามารถลงสนามจริงได้แล้ว อาจเป็นเพราะความเอ็นดูและฝีมือของเขาส่วนหนึ่ง แต่หลัก ๆ ก็คงไม่พ้นอยากตบหน้าไอ้ธีร์

ไต้หวันจะเป็นที่แรกที่เด็กหนุ่มจะได้เปิดตัวในนาม TEN10 เสียที เท็นรู้ว่าพี่คนที่เคยเล่นตำแหน่งนี้หงุดหงิดและไม่อยากยอมรับการเข้ามาแทนที่ แต่อีกฝ่ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าเรื่องแบบนี้ใครดีใครได้

‘แกน่าจะรับสายบ้างถ้ายังเห็นฉันเป็นพ่ออยู่’

ทำไมพ่อต้องทำให้วันดี ๆ ของเขาแย่ลงด้วยประโยคเหล่านั้นด้วยวะ ไม่เข้าใจ นึกอะไรมาเป็นห่วงเป็นใยหลังจากหนีไปเสพสุขกับเมียใหม่ไม่รู้กี่สิบคนแล้ว ตลกดีที่เอาคำว่า ‘พ่อ’ มาอ้างเพื่อให้คนที่เรียกว่าลูกจำใจฟัง สงสัยเพิ่งคิดออกว่าเคยไข่ทิ้งไว้ในท้องผู้หญิงคนหนึ่งจนเนื้อก้อนนั้นโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้ว

‘พูดเหมือนเห็นผมเป็นลูก’

เด็กดีไม่ควรใช้คำพูดแย่ ๆ กับผู้ใหญ่ แต่แล้วอย่างไร เขาจะแหกกฎทุกอย่างที่คนรอบข้างสร้างขึ้นเพื่อให้ตัวเองใช้อำนาจกับเด็กได้ เท็นว่าเชื่อหลายคนคงเกิดคำถามว่าทำไมต้องเป็นคนดีท่ามกลางความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่ ทำไมเด็กต้องเป็นฝ่ายเข้าใจทั้งที่คนเหล่านั้นนั่นแหละที่ไม่เคยเข้าใจลูกตัวเองเลย

‘ผู้ชายคนนั้นมีดีอย่างเดียวคือทำให้ลูกของแม่เกิดมา’

เท็นได้ยินประโยคนี้นับครั้งไม้ถ้วน หลายครั้งที่รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าตายเพราะถูกขยี้ปมนี้  เขาสงสารแม่ แต่อีกใจหนึ่งเหนื่อยฟังเรื่องเหล่านั้นแล้ว มันบั่นทอนทุกอย่างและไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น แต่แม้ว่าเขาจะพยายามปลอบแม่เท่าไหร่เธอก็แค่รับฟัง ผ่านไปอีกวันก็ขุดเรื่องเดิม ๆ ขึ้นมาบ่นอีกราวกับเป็นหุ่นยนต์

แล้วนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขานอนคอนโดบ่อยกว่ากลับบ้านตนเอง
 




*





เพิ่งจะรู้... ว่าฉันเองรักเธอเท่าไหร่ ในวันที่เธอบอกฉันให้ทำใจ ♪
และจากนี้เธอจะต้องไป รักของเราคงเป็นไปไม่ได้ ♫



“ตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่?”

เพลงจากโทรศัพท์มือถือยังคงเล่นคลอไปเรื่อย ๆ เพื่อทำให้บรรยากาศไม่เงียบจนอึดอัด คนที่เหม่อมองฟ้าหันไปปรือตามองอีกคนที่มีสภาพดีกว่าเขามากโข ก็แน่ล่ะ นอกจากปาร์ตี้หมูกระทะกับพวกทีมกาก ๆ นั่นแล้วก็คงมีวงเหล้ากับคนในบริษัทที่ทำให้ไอ้แจ็คดูมีภาษียืนหยัดสู้แอลกอร์ฮอล์ได้ดีกว่าเขา

ไอ้ฉิบหาย ก็เล่นขยี้ทุกเรื่องก็เลยต้องยกดื่มหนีประเด็นไง รู้ตัวอีกทีก็ปวดฉี่จนต้องหามตัวเองเข้าห้องน้ำแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ขนาดไปเอาออกก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้น บางทีเขาน่าจะซ้อมดื่มคนเดียวบ้างจะได้ไม่ต้องเสียหน้าเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้




โลกช่างดูเงียบงัน วันเหล่านั้นไม่อาจย้อนมา ♫
วันนี้ไม่เหลือใคร มีแต่ตัวฉันและน้ำตา ♪
จะต้องทำยังไงให้เธอคืนกลับมาหา ตอนนี้รู้แล้วว่ารักเธอมีค่า... เหลือเกิน ♪





“กำลังคิดว่าหลังจากนี้จะทำหน้ายังไงให้ไม่รู้สึกขายขี้หน้า”

“สิ่งเดียวที่มึงควรอายคือเรื่องทำเสียงน่าขนลุกตอนเล่นกับหมานะ”

“อะไรวะ ใคร ๆ เขาก็ทำเสียงสอง-สาม-สี่ ตอนคุยกับหมาทั้งนั้นแหละ”

“พี่ช่างซ่อมรถแถวบ้านกูเลี้ยงพันธุ์ไทยหลังอานสี่ตา ยังไม่เห็นว่าพี่แกจะทำเสียงแบบนี้”

“ก็พี่มึงไม่มีหัวใจ”

“คนมีหัวใจก็เลย ‘พี่ซันของพ่อไม่ง่วงเหรอครับ มานี่เร็วให้พ่อหอมแก้มทีนึง อุ๊ย ขนเข้าปากพ่อ’”

“ก็แย่แล้ว อย่ามาเพิ่มเติมให้กูดูตุ๊ด กูคือเจ้านายที่รักสัตว์เลี้ยง คนจิตใจหยาบช้าแบบมึงคงเข้าไม่ถึงสินะ” เท็นแค่นหัวเราะแล้วคว้าแก้วเหล้าที่กลายเป็นเครื่องดื่มสำรองหลังจากเบียร์หมดไปแล้ว แต่ยังไม่ทันยกเข้าปากอีกฝ่ายก็แย่งไปเสียดื้อ ๆ

“พอก่อน เดี๋ยวก็อ้วกแตกหรอก กูไม่เก็บกวาดให้นะ”

“ต้องเก็บดิ มึงมาแดกฟรีถึงนี่ก็ควรตอบแทนเจ้าของบ้านบ้าง”

“พอก่อน”

“เออ อีกแก้วเดียว”

“เท็น”

“อะไรของมึงเนี่ย อยู่ดี ๆ มาห้าม เมื่อกี้ยังเหมือนอยากมอมกูอยู่เลย” อาการเมาแล้วแปลงร่างมาแล้ว เท็นขมวดคิ้วมองคาดโทษคนข้าง ๆ ที่ถามว่ามอมจริงหรือเปล่าก็คงตอบว่าไม่ เพราะที่กรอกเข้าปากไปก็ทำตัวเองทั้งนั้น

“มึงเล่นกินอยู่คนเดียวแล้วกูจะเมาได้ยังไง?”

“งั้นก็แดกเข้าไป จะได้เรื้อนเหมือนกัน”

“...” อีกฝ่ายหน้าแดงจนตัดกับสีผม ชายหนุ่มผมยาวรับแก้วนั้นมายกดื่มรวดเดียวแล้ววางลงก่อนจะสบตากับคนข้าง ๆ อีกครั้ง

“รู้อะไรไหมแจ็ค?”

 ผมสีเทาถูกขยี้จนยุ่งเหยิง ใบหน้าที่ใคร ๆ ต่างว่าเย่อหยิ่งกำลังจ้องมองเขาราวกับอยากจะปั่นหัวให้ลุ้นประโยคถัดไป

“สำหรับกูน่ะ มึงตายไปแล้ว”

หากเป็นสิบปีก่อนหัวใจเขาคงแหลกสลายทันทีที่ได้ยินคำนี้หลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย แต่ในนาทีนี้มันไม่ใช่ ไอ้เท็นในวัยยี่สิบแปดดูอ่อนแอเกินกว่าจะทำร้ายใครด้วยคำพูดนี้ได้

“ตายแบบที่ว่ายิงเปรี้ยงเดียวจอด” แจ็คลดระดับสายตามองปลายนิ้วเรียวยาวของอีกคนที่ทำเป็นรูปปืน ก่อนความเงียบจะกลืนกินจนเสียงเพลงเบาลงทนแทบไม่ได้ยินแล้ว

“กูตายไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ในความทรงจำของมึง”

“ยังไง ที่บอกว่าในความทรงจำหมายถึงกูต้องรู้สึกผิดเรื่องมึงไปตลอดชีวิตใช่ไหม ถ้าใช่ให้กราบหมากู ถ้าไม่ใช่ให้ยกแก้ว”

ถ้าเป็นอย่างที่พูดจริง ๆ เท็นจะแหลกแค่ไหนกัน แต่นั่นก็เป็นความจริงซึ่งมีทางเดียวที่จะหลีกหนีได้คือการตายไปจากโลกนี้ เพราะหลังจากหมดลมหายใจแล้วความคิด ความกังวล ความทรงจำทุกอย่างก็จะกลายเป็นอากาศ

แต่อีกฝ่ายกลับเลือกชงเหล้าดื่มจนหมดแก้วแล้ววางลงจนเจ้าขนทองสะดุ้งตื่น

“ไม่กล้ากราบหมากูก็บอก”

“ขนาดพ่อกูกูยังไม่ไหว้ แล้วหมามึงเป็นใคร กูยอมปฏิเสธดีกว่าให้ไหว้หมามึง” เท็นเบ้ปากหรี่ตามองไอ้คนเท่ที่ดึงยางออกจนผมยาวสยายลงมา

“แต่มึงตายแล้วจริง ๆ นะ”

“เหรอ แล้วที่คุยกันอยู่ตอนนี้คือ?”

ตอนถามว่าอยากให้สถานะเป็นแบบไหน ไอ้เท็นก็เอาแต่ยกดื่มแล้วยัดขนมเข้าปากจนแก้มพอง พอมันทะลักออกมาก็แทบอาเจียนจนเขาต้องไปช่วยลูบหลังเอาออก แจ็คไม่ชอบคาดคั้นหรอกนะ แต่เขาเข็ดหลาบเหลือเกินกับเก็บทุกอย่างไว้ในใจจนทุกอย่างแย่ลง จะไม่มีไอ้แจ็คคนที่เอาแต่เงียบเพื่อหนีทุกสิ่งทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว

“ก็ไม่ไง มึงตายจริง แต่กูชุบชีวิตได้”

“เล่นซัพพอร์ทเป็นด้วย?”

“จะเอาไหมล่ะครับ 1-1 ทีกูฟาดยับอะ” ไอ้คนเมายังอวดเก่ง อดไม่ได้ต้องเขกกะโหลกอีกสักทีเอาให้หัวสั่นจนลืมความขิงเมื่อครู่นี้ไปเลย

“อยู่ดี ๆ มาบอกว่ากูตายแล้ว แล้วก็หน้าด้านมาชุบชีวิตกันเนี่ยนะ?”

“ก็นี่คาแรกเตอร์กู ถ้าเป็นโซ่ก็คงอีกแบบนึง เผลอ ๆ อาจจะยอมตายแทนคนอื่นด้วย”

“ชอบเอาไอ้โซ่มาเปรียบอยู่เรื่อย ทำไม มีปมในใจกับน้องมันหรือไง?”

“นิดหน่อย กูแค่เสียดายที่คนดี ๆ แบบนั้นต้องไปเกลือกกลั้วอยู่กับเพื่อนรักมึง... ขำอะไร?” เกิดเสียความมั่นใจขึ้นมาเพราะอยู่ ๆ อีกฝ่ายก็หัวเราะ

“เรื่องนี้กูเห็นด้วย แต่จะทำไงได้ ต่อให้ไอ้ธีร์จะประสาทแดกยังไง ชีวิตนี้ก็คงมีใครสักคนที่อยากอยู่กับมันและพร้อมจะเข้าใจที่มันเป็นแบบนั้น”

“เออ ชีวิตดีเหลือเกินนะห่า”

“อิจฉาสินะ สีหน้ามึงมันฟ้อง”

“ทำไมกูต้องอิจฉา ชีวิตกูมีครบทุกอย่าง”

“ยกเว้น...?”

“ไอ้แจ็คไอ้ฉิบหายเอ๊ย! ตั้งแต่กูเริ่มเบลอมึงก็ขยี้ใหญ่เลยนะ กะจะให้แหกโค้งหัวทิ่มคอหักตายเลยใช่ไหม?” ทั้งด่าทั้งถีบไอ้คนข้าง ๆ แต่คนที่เคยเก่งเรื่องทำหน้าตายก็ยังเอาแต่ขำราวกับว่าสะใจที่เห็นเขาเป็นอย่างนี้

“การอิจฉาไม่ทำให้มึงแพ้หรอกเท็น ตรงนี้ไม่มีใครแข่งกันสักหน่อย”

“แพ้ไม่แพ้ไม่รู้ แต่กูไม่ชอบที่จะถูกมองว่าอิจฉาใคร”

“เพราะมันจะทำให้มึงรู้สึกว่าเป็นคนน่าสงสาร มีปมในใจใช่ไหม ก็อาจจะใช่ แต่มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสักหน่อย มนุษย์โลกเกิดมามีโลภ โกรธหลง คนหนึ่งทำได้ดีจะอิจฉาบ้างมันไม่ใช่เรื่องผิด จะผิดก็ต่อเมื่อมึงใช้ความอิจฉานั้นทำร้ายใคร”

“แล้วกูก็ทำสำเร็จแล้วด้วย”

“นี่คือการยอมรับว่าอิจฉาใช่ไหม?” ไอ้ห่าแจ็คเลิกคิ้วมองเหมือนพร้อมจะหัวเราะแล้ว ไอ้เวรตะไลเอ๊ย ไล่ต้อนกันนี่หว่า

“เออ กูอิจฉาไอ้ธีร์ อิจฉาสิ่งที่มันได้รับทุกอย่างทั้งที่มันไม่ต้องทำห่าอะไรเลย พอใจไหม?”

“พอใจ แต่มึงพูดแบบนี้ก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย มันจะมีสักกี่คนที่ได้ทุกอย่างมาโดยไม่พยายามอะไรเลย มึงโกรธที่มันเคยทำไม่ดีกับมึงได้ แต่อย่าพาลไปเรื่องอื่นจนดูถูกความพยายามของมันเลย ระหว่างที่มึงไม่อยู่มันเหนื่อยกับอะไรหลายอย่าง แต่มันแค่ตั้งใจให้คนเห็นฉากหน้าอย่างนั้น”

“ก็ดีแล้ว ถือว่าเป็นเวรกรรมที่ทำไว้กับกูแล้วกัน”

“ถ้าคิดอย่างนั้นแล้วเกลียดมันน้อยลงไหม?” ไอ้แจ็คมองยิ้ม ๆ แล้วเขาก็คงเตรียมตัวเป็นบ้าได้เลยถ้าหากพยักหน้าตอบว่าใช่

เรื่องความเกลียดมันเจือจางลงไปมากแล้วหลังจากเจอเรื่องร้าย ๆ มาตลอดทั้งปี เอาเข้าจริงคนที่กำลังเผชิญหน้ากับเวรกรรมอยู่มันคือเขาที่เคยทำเรื่องแย่ ๆ กับผู้คนมากมายมาตลอดหลายปีมากกว่าจะเป็นไอ้ธีร์ที่ผิดแค่เรื่องปากหมา

พอถูกด่ามากเข้าจนสภาพจิตใจย่ำแย่ ในสุดวันที่เหลือเพียงหมากับแมวเท็นก็สำนึกได้ว่าทั้งหมดที่พยายามทำลงไปมันไม่ได้ส่งผลอะไรเลย

ต่อให้เล่นเก่งกว่าไอ้ธีร์แล้วอย่างไร ต่อให้ไปแข่งระดับประเทศ ทวีป...?

สุดท้ายคนเหล่านั้นก็มีความสุข แต่ตัวเขากลับพยายามดิ้นรนเพื่อไม่ให้ตกลงมาจากอีโก้ตัวเอง


“กูยังอิจฉาที่มึงทำผมสีเทาแล้วดูดี เพราะกูทำสีนี้ไม่ขึ้น”

“แต่มึงบอกว่ากูทำแล้วเหมือนลิง”

“ก็ดูดีแบบลิงไง มึงสงสัยอะไร?”

“ไอ้ฉิบหาย สุดท้ายก็วกมาหาเรื่องหลอกด่ากูอยู่ดีสินะ มึงนี่มันกวนตีนจริง ๆ ไอ้แจ็ค”

“สร่างเลยดิ”

“เออ ชงเหล้าซิไอ้ขี้ข้า”

“อืม ปากมึงนี่นะ...”
ต่อจากวันนี้ไปจะไม่ให้เธอผิดหวัง  ♫
ให้โอกาสฉันอีก... อีกสักครั้ง...
ได้โปรด... อย่าทิ้งรักไปเลย  ♪





(จบ 1/2)




แวะเอาครึ่งแรกมาให้อ่านก่อนจ้า สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะพี่ ๆ ขอให้ปี 2019 เป็นปีที่ใจดีกับทุกคน เป็นปีที่มีความทุกข์น้อย ๆ มีความสุขให้มาก ๆ ถ้ารู้สึกว่าวันนั้นมันแย่ให้เดินไปชงไมโลร้อน ๆ ซดสักแก้ว หรือจัดชานมไข่มุกนะคะ แล้วอะไร ๆ จะดีขึ้น

ชีวิตอาจจะยาก แต่นี่ก็คือชีวิต อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป แล้วอ้าแขนรับสิ่งใหม่ที่ดีกว่านะคะ และสิ่งใหม่ดี ๆ ที่ว่านั่นก็ไม่ใช่ผู้ชายค่า ณ จุดนี้ก็คือแห้งเว่ออออออออออออออออออออออออออออออออ


ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
HNY 2019 นะคะ

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเห็นเท็นคนเย็นชาง้องแง้ง
ถ้าไม่ใช่กับแจ็คคงไม่มีใครเห็นโหมดนี้แน่

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ถือว่าแจ็คเท็นอยู่ด้วยกันข้ามปีเลยละกันเนอะ แหม โรแมนติก  :hao3:

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณคนเขียน โหมดเท็นๆง้องแง้งนี้น่ารักจริมๆ ขอบคุณและจะรออีกครึ่งหลังนะคะ o13 :mew1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
มาค่ะ แห้งเว่อออออออออออออออออออออออออออออออออออ ไปด้วยกัน

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ออร่าออกมากค่ะว่าพี่แจค ต้องเป็นฝ่ายนำ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 14
หัวใจที่หยุดเต้น (PART 2/2)




ตั้งแต่แข่งแพ้แจ็คก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เหมือนเดินไปจนถึงปลายทางแล้วพบว่าแสงสว่างที่เห็นนั่นคือกระจกไม่ใช่ประตูสู่ชัยชนะ เขาไม่ชอบตัวเองที่หงุดหงิดขึ้นเสียงใส่สมาชิกใหม่ที่เล่นโง่ในรอบสุดท้ายจนเก็บความใจเย็นไว้ไม่อยู่ อาจเป็นเพราะว่ารอบชิงชนะเลิศมันสำคัญและเป็นตัวแปรในชีวิตเขา ด้านมืดทุกอย่างจึงถูกปลดปล่อยออกมาจนทุกคนอึ้ง

ไอ้ธีร์เข้ามาขอโทษที่เสียสมาธิไปหลายครั้งเพียงเพราะเกมอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ หากแครี่เกิดเร็วทีมก็คงมีความหวังมากขึ้นแต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดมันเสียทีเดียว และเขาก็ทำเรื่องเลวร้ายลงไปแล้ว ซึ่งมันคือการพูดว่า ‘ช่างแม่งเหอะ’ ก่อนจะนั่งรถเมล์กลับบ้านโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร

ถ้าไอ้เท็นยังอยู่ทีมด้วยก็คงดีกว่านี้ หรือถ้าเขามีเวลามากพอให้ซ้อม ได้นอนพักจนสมองปรอดโปร่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับไอ้เท็น หรือไม่ต้องเครียดเรื่องการเงินการกินของที่บ้าน การเป็นที่หนึ่งพร้อมเงินรางวัลก็คงอยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่เงินเหล่านั้นจะสำคัญอะไรถ้าหากว่าเขามีสิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้นอยู่แล้ว?



*



เสียฟอร์ม...
เสียฟอร์มจนไม่กล้าไปร้านซักรีดแถวบางใหญ่อีกต่อไปแล้ว

พอตื่นมาพบความแฮงค์เท็นก็นั่งสารภาพบาปกับหมาแมวในห้องนั่งเล่นท่ามกลางความเงียบที่คงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่หัวเราะดังกว่าใครในโลกเพราะท่านอ่านความคิดเขาได้แม้ว่าไม่พูดออกมา

ยิ่งนึกถึงเรื่องที่พล่ามไปเมื่อคืนก็ยิ่งอยากเอาหัวจุ่มน้ำแล้วกลั้นหายใจจนกว่าจะขาดอากาศตายไปให้รู้แล้วรู้รอด เรื่องที่ควรเก็บไว้เป็นความลับจนตายกลับถูกพ่นออกไปง่าย ๆ เพียงเพราะน้ำเมาทำหน้าที่เค้นเอาความในใจออกมาจนแทบหมดเปลือก

แล้วแบบนี้ตอนเจอหน้าไอ้แจ็คอีกครั้งเขาจะต้องทำหน้าอย่างไร ชายหนุ่มจินตนาการสีหน้ามันตอนอมยิ้มเพราะพยายามกลั้นขำได้ ไอ้แจ็คคงพร้อมเอาเรื่องนี้มาล้อถ้าหากว่าเขามีทีท่าว่าจะเถียงชนะไม่วันไหนก็วันหนึ่ง

jjack: กูใส่ชุดนอนมึงกลับบ้านนะ

ตอนเจอข้อความในไลน์ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่เสื้อกับกางเกง ดีแค่ไหนที่มันไม่ทิ้งจดหมายน้อยไว้เหมือนในละคร แต่ก็เข้าใจกันได้ ที่มันรีบกลับบ้านตั้งแต่เขายังไม่ตื่นอาจเป็นเพราะไอ้เด็กฝรั่งนอนรอยาวจนถึงฟ้าสาง

jjack: แล้วก็ฝากซักเสื้อกับกางเกงกูด้วย

แค่นั้นแหละ ภาพหายนะที่ลืมไปชั่วขณะหนึ่งก็ย้อนกลับมาให้นึกถึงว่าเมื่อคืนก่อนจะเปิดวาร์ปทั้งคู่ได้ปิดจ็อบเหล้ากลมนั้นด้วยการวัดออนเดอะร็อกกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อ้วกได้แต่อย่าหลับ เท็นกับแจ็ครู้แค่นี้

ภาพเลือนรางกลับมาขยี้ให้รู้ว่าหลังจากดื่มหมดทุกหยาดหยดแล้วไอ้แจ็คก็ทำท่าจะคะย่อนของเก่าออกมาก่อนจะรีบเอามือปิดปากวิ่งเข้าห้องน้ำเหมือนหญิงสาวแพ้ท้องช่วงเดือนแรก ๆ

เขาตามไปยืนหัวเราะสมน้ำหน้าถึงประตูห้องน้ำชนิดว่าถ้าผนังไม่เก็บเสียงเพื่อนบ้านคงได้ตะโกนด่าพ่อแน่ไม่ต้องสืบ แต่พระเจ้าหรือจะปล่อยให้คนชั่วช้าอย่างเขาได้หัวเราะเยาะคนอื่นนาน ๆ เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงสามวิทุกอย่างที่ยัดเข้าไปก็ตีขึ้นมาถึงคอจนต้องยกมือปิดปากเหมือนกัน

เท็นเอาเท้าเขี่ยอีกคนที่กำลังกอดคอชักโครกสารภาพรัก แต่ไอ้เวรนั่นก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเอาของเสียออกจากปากเสียที

‘!!!’

ไอ้ขี้เมาสองคนแย่งชักโครกกันในสภาพดูไม่ได้ แค่จะทรงตัวยังทำไม่ไหวไหนจะต้องต่อสู้กับคนข้าง ๆ เพื่อแย่งกันกอดคอชักโครกอีก แต่ก็นั่นแหละนะ... สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ทะลักออกมาเปื้อนเสื้อผ้าหน้าผมจนเละเทะทั้งคู่ กลิ่นละมงละมุดอบอวลจนต้องเบ้หน้า

เท็นเป็นคนรักสะอาด เขาถีบไอ้แจ็คถอยไปห่าง ๆ แล้วก้มลงมองสภาพตัวเองที่เลอะไปด้วยอ้วก ซึ่งเขาก็ไม่ลังเลที่จะเปิดฝักบัวล้างตัวแม้ว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบ เอาวะ อย่างน้อยไอ้แจ็คก็คุมโทนได้ไม่สุดทางเพราะสุดท้ายมันก็อ้วกแตกอ้วกแตนเหมือนกัน ถือว่าตีเสมอได้ 1-1 ไม่มีใครเสียเปรียบให้โดนล้อฟรี

พอโดนน้ำตาก็เริ่มสว่างขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มผมเทาหันไปเห็นสภาพอีกคนที่เสื้อผ้าเลอะเทอะไม่ต่างจึงฉีดน้ำใส่จนมันต้องยกมือขึ้นป้อง


‘ห่าเท็น มันเย็นนะไอ้ฉิบหาย’
‘อย่ามาทำบ้านกูสกปรก’
‘แล้วอ้วกพวกนี้ของกูคนเดียวหรือไง?’
‘จะถามมากไปทำไม รีบคลานมานี่’


ตอนนั้นเท็นคิดแค่ว่าอยากให้ไอ้เวรนั่นเลิกทำตัวสกปรกในห้องน้ำบ้านหลังนี้ โอเค ความจริงเขาอยากให้มันล้างตัวเอากลิ่นเน่าออกจะได้ไม่ต้องทนดมกลิ่นเหม็น แต่คนเมาก็คือคนเมา ปกติคิดน้อยแค่ไหนตอนนั้นให้คูณร้อยเข้าไป ทันทีที่ไอ้แจ็คเดินมาหยุดใกล้ ๆ เขาก็ฉีดน้ำอัดหน้าจนมันสำลัก เล่นอะไรเหมือนเด็กปัญญาอ่อนจนลืมว่ามีเส้นสีแดงขีดคั่นกลางความสัมพันธ์เอาไว้

กลิ่นเน่าจากตัวยังคงคละคลุ้ง แต่ชายหนุ่มผมเทาเอาแต่หัวเราะจนไหล่สั่นขณะถูกอีกคนมองอย่างเอาเรื่อง แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักมีขีดจำกัด เท็นรู้สึกว่านาฬิกาทรายจะทำงานทันทีที่เขาเริ่มยิ้ม อย่างเช่นตอนนี้ที่เขากำลังสนุก ไม่กี่วินาทีก็ถูกล็อกคอพร้อมฝักบัวที่ถูกแย่งไป

จนหลายครั้งที่การแกล้งเอาคืนมันเหมือนการกอด และรอยยิ้มบนใบหน้าเขามันเริ่มจางหายไปแล้ว

เสียงหัวเราะของไอ้งี่เง่ากับเม็ดนาฬิกาทรายสีขาวร่วงหล่นลงไปทุกวินาทีพร้อมหัวใจที่เต้นดังจนแทบบ้า

พอถึงตอนนี้เท็นกำลังนั่งทบทวนตัวเองว่าควรปล่อยให้นาฬิกาทรายทำงานอีกครั้งหรือกลับไปทำตัวปกติเหมือนเดิมดี?


TEN10: กูจะเอาไปโยนทิ้งถังขยะ


กดล็อกหน้าจอแล้วทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า มองเข็มวินาทีบนนาฬิกาที่ค่อย ๆ เดินไปอย่างไม่เร่งรีบแต่สม่ำเสมอจนกว่าถ่านจะหมดลง เจ้าขนสีทองส่งเสียงหงิง ๆ ราวกับอยากพูดอะไร รวมถึงแมวนรกที่มองเยาะเย้ยถากถางเหมือนทุกครั้ง

และเขาก็ทำเรื่องขายขี้หน้าพวกมันด้วยการพับขากางเกงขึ้นเพื่อเตรียมตัวไปซักผ้าเลอะอ้วกที่ไอ้แจ็คแช่ไว้ในกาละมังแล้ว



*


หงุดหงิดตัวเองที่เล่นเยอะเกินไปจนกลายเป็นว่าตอนนี้บลูแทบไม่สนใจความเป็นไปของไอ้แจ็คแล้ว มันจะไปไหนมาไหน ไม่โทรหาอย่างไร อยู่ดี ๆ เธอก็กลายเป็นคนเข้าใจง่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น

แต่ก็ดี เลิก ๆ กันไปเลยจะได้จบ

ทุกอย่างมันเลยตามเลยมานานมากแล้ว ตอนแรกก็แค่แกล้งแหย่เล่นแต่บลูกลับเยอะจนคิดว่าอีกไม่นานคงเกิดปัญหาแน่ถ้าไม่รีบจบความสัมพันธ์ตั้งแต่ตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจเธอเหมือนช่วงแรก ๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงอยู่ไหว จนอดคิดไม่ได้ว่าทีกับไอ้แจ็คทำไมไม่ทนงี้บ้างวะ


หรือจะทำอะไรก็ได้ขอแค่มีคนคุย ได้อยู่ด้วยกันตลอดก็พอ?
ความเหงามันเอาชนะทุกอย่างเลยสินะ?


“พรุ่งนี้บลูจะไปดูหนังกับแจ็ค”

“อ่าฮะ ดูให้สนุกล่ะ”

“...”

รู้สึกเหมือนโดนตบกับคำตอบที่มาพร้อมยิ้มตามมารยาท ใบหน้าหล่อหันกลับไปสนใจเกมบนจอคอมพิวเตอร์อีกแล้ว และคงเป็นอีกครั้งที่บลูรู้สึกว่ามันสำคัญกว่าการมีอยู่ของเธอเป็นไหน ๆ

ไม่อยากรู้สึกแบบนี้ แต่เซนส์ผู้หญิงมันมักจะแรงเสมอเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังนอกใจหรือเบื่อกันไปจนความสัมพันธ์คงจบในอีกไม่ช้า ทั้งที่รู้ว่าที่เป็นอยู่มันผิด แต่บลูก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ก่อนหน้านี้อาจเป็นเพราะความเหงา แต่พอผ่านไปสักพักมันก็เปลี่ยนเป็นความรักหลังจากถูกเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป

‘ไอ้บลู แกไม่กลัวแจ็คเสียใจเหรอ สองคนนั้นเขาเป็นเพื่อนกันนะ?’

กลัวสิ กลัวมาก แต่หลังจากเผลอใจครั้งนั้นทุกอย่างก็ถลำลึกจนกลายเป็นว่าตอนนี้เธอมีชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงไปแล้ว ทุกครั้งที่มองหน้าแจ็ค ทุกครั้งที่จับมือกัน เด็กสาวรู้สึกผิดทุกครั้งแต่กลับเห็นแก่ตัวไม่ยอมปล่อยอีกคนไป

แจ็คเป็นคนดีที่ไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้ แต่เธอก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเช่นกัน

“เท็น”

“ว่าไง?”

“เลือกมาว่าจะให้บลูเลิกกับแจ็ค หรือจะให้บลูเลิกกับเท็น?”

เท็นไม่ชอบให้ใครมาทำลายบรรยากาศตอนกำลังเล่นเกมเรื่องนี้บลูรู้ดี แต่เธอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันคาราคาซังไม่มีความชัดเจนให้เธอเลย จะเรียกว่าแฟนก็ไม่ได้แต่ก็มากกว่าเพื่อน ทั้งคู่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน จับมือก็ไม่ได้ ไม่แม้แต่เรื่องโพสต์รูปคู่ลง Hi5 หรือทำอะไรก็ตามที่คนรักทำกัน

หากอยากได้รับความใจดีจากเท็นบลูต้องมาที่คอนโดนี้เท่านั้น และมันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า แต่ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะใจแข็งตัดความสัมพันธ์นี้

“คิดดีแล้วเหรอที่จะหาเรื่องชวนทะเลาะกันตอนนี้?”

“ไม่ได้ชวนทะเลาะ แต่บลูทนไม่ไหวแล้ว”

“แล้วคิดว่าเท็นทนไหวเหรอ?”

“ใครจะรู้ เท็นยังเล่นเกม ยังหัวเราะกับเพื่อนได้อยู่เลยนี่?”

“แล้วที่เป็นอยู่มันแย่กว่ายังไงอะ จะให้เท็นเดินไปบอกไอ้แจ็คเหรอว่าเราเป็นอะไรกันบลูถึงจะพอใจ?”

“แบบนั้นไม่ดีอยู่แล้วแหละ แต่อีกใจบลูก็อยากรู้เหมือนกันว่าเท็นจะกล้าหรือเปล่า?”

ทำไมอยู่ ๆ ผู้หญิงคนนี้ถึงกล้าลุกขึ้นมาแข็งข้อกับเขาพร้อมท้าทายให้ทำในสิ่งที่ผิดเหมือน ๆ กัน?

“ถามจริง บลูอยากให้เท็นเป็นคนเลวที่แตกหักกับเพื่อนเพราะเลือกแฟนเหรอ เท็นต้องเลือกบลูเหรอถึงจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง?”

“ไม่รู้สิ บลูไม่อยากให้เท็นกับแจ็คทะเลาะกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเท็นโกหกพูดเพื่อให้บลูดีใจมันก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

“แปลกดี แล้วมันจะต่างอะไรกับการหลอกตัวเอง มีความสุขกับอะไรแบบนั้นหรือไง?”

ทั้งที่รู้ว่าถ้าความแตกเมื่อไหร่ ผู้ชายคนนี้กับผู้หญิงสองใจก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อไอ้แจ็คไปตลอดชีวิต แต่เธอกลับเอามาท้าเขาเพียงเพราะอยากหัวใจพองโตกับคำโกหกเนี่ยนะ?

“บลูโกรธที่เท็นเอาแต่เล่นเกมก็อ้อนกันดี ๆ นี่... ไม่เห็นต้องเอาเรื่องนั้นมาพูดเลย”

“ไม่พูดวันนี้สักวันก็ต้องพูดอยู่ดี ตอนแรกบลูคิดว่าการมีเท็นมันอาจจะดีขึ้น แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้” เด็กสาวน้ำตาไหลเพราะไม่สามารถกักกั้นความอึดอัดใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

“อยู่กับเท็นมันแย่มากเหรอคะ?”

“...”

เขาโอบแก้มเธอขึ้นมาสบตากัน พร้อมบอกตนเองว่ามันคงไม่ดีแน่ถ้าหากปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้กลับไปออดอ้อนไอ้แจ็คเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น เพียงเพราะว่าวันนี้เขาจริงจังกับการเล่นเกมมากเกินไป

“บลูคงไม่อยากให้แจ็คเสียใจหรอกใช่ไหม?”

ไม่ เด็กสาวส่ายศีรษะปฏิเสธ

“งั้นก็บอกเลิกไอ้แจ็คสิ หลังจากนี้เรื่องของเราจะเป็นยังไงค่อยว่ากัน”

ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างกับคำพูดที่มาพร้อมรอยยิ้มซึ่งไม่อาจคาดเดาว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ วูบหนึ่งสมองว่างเปล่าขาวโพลนเพียงเพราะเธอต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรระหว่างความผิดที่หวานขม กับความถูกต้องที่ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม

“เท็นจะออกไปข้างนอกแป๊บนึง หวังว่ากลับมาถึงบลูจะให้คำตอบที่น่าฟังกับเท็นนะ”



*


“อ้าว ทำไมวันนี้มาเร็วจังเลยล่ะลูก?”

“เท็นเห็นองุ่นกับมะม่วงมันน่ากินก็เลยซื้อมาฝากแม่น่ะครับ ถ้าแช่เย็น ๆ คงกรอบหวานลิ้นมากแม่ว่าไง?”

“แหม มาตั้งไกลเพื่อเอาองุ่นกับมะม่วงมาให้แม่เนี่ยนะ พ่อคุณของแม่ ลำบากเลย มา ๆ นั่งก่อน”

หัวใจพองโตกับคำพูดและการปฏิบัติจากเจ้าของร้านซักรีด ใช่ นั่นไม่ใช่แม่เขา แต่สิ่งที่เธอมอบให้เล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นก็ทำให้รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าเท็นได้อย่างง่ายดาย

“กินข้าวมาหรือยังลูก?”

“เรียบร้อยแล้วครับ ว่าแต่ผมมากวนแม่เปล่าเนี่ย?”

“ไม่เลย พอรีดผ้าเรียบร้อยแม่ก็ว่างจนบ่ายสามโน่น มีเวลานอนดูละคร”

ถึงจะมาที่นี่หลายครั้งแล้วแต่เท็นก็ยังไม่ชิน ความรู้สึกมันเหมือนว่าตรงนี้ยังสดใหม่อยู่เสมอ อาจเป็นเพราะลึก ๆ กลัวว่าสักวันอาจจะไม่ได้มาที่นี่อีก เพียงเพราะคิดว่าตนเองพร้อมจะถูกทุกคนเกลียดได้ตลอดเวลา

เสียงน้ำในห้องครัวดังเพียงครู่ ก่อนเจ้าของร้านซักรีดจะเดินมาพร้อมจานผลไม้ที่ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว “วันนี้แจ็คบอกว่าอาจจะกลับช้าหน่อย เท็นจะอยู่รอเพื่อนไหม?”

“อ๋อ เท็นไม่ได้มาหามันหรอกครับ”

“แค่แวะเอาผลไม้มาให้แม่เฉย ๆ สินะ เฮ้อ อยากมีลูกคนที่สี่เลย”

ทั้งคู่ยิ้มกับบรรยากาศที่โคตรจะธรรมดาแต่ก็ดูพิเศษ เท็นมองผู้หญิงมีอายุที่ยังขยันทำงานซักรีดแม้ว่าลูกชายคนโตจะขอให้เพลาลงบ้าง มือที่เคยสวมแหวนเพชรในตอนนี้เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา เธอปอกเปลือกมะม่วงอย่างช้า ๆ และไม่ลืมที่จะเอาชิ้นแรกให้เขาชิม

“อร่อยหรือเปล่า?”

เท็นยิ้มและพยักหน้า เขาขยับเข้าไปทีละนิดและอ้าปากรอชิ้นที่สองซึ่งคนถูกอ้อนก็ยิ้มขำ

“พอทำแบบนี้แล้วแม่ก็นึกถึงเด็กสามคนนั้นเลย อยากถอนหายใจวันละร้อยรอบ พอโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วก็ไม่มีใครอยากมาอ้อนแม่หรอก ไม่รู้อายอะไรกัน”

“ถ้าเท็นเป็นลูกแม่เท็นจะอ้อนทุกวันเอาให้แม่รำคาญไปเลย”

“ให้มันจริงเถอะ” เธอเบ้ปากมองอีกคนอย่างมันเขี้ยว ก่อนเพื่อนสนิทลูกชายคนโตก็ทิ้งตัวลงมานอนตักเธอเสียดื้อ ๆ “เอ้า เอาเข้าไป”

“ถ้านอนกินแล้วเท็นจะเป็นงูไหมแม่?”

“แม่จะรู้เหรอ แต่ถ้าเป็นแล้วจะฉกใครก็ได้ยกเว้นแม่ เข้าใจนะ?” พอถูกรับมุกก็หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เท็นบดเบียดศีรษะบนตักอุ่น ๆ ของแม่ไอ้แจ็คและอ้าปากรับมะม่วงอีกคำ



*


‘เลิกเล่นเกมได้แล้ว’
 
หลังจากความพยายามไม่ส่งผล โอกาสที่เคยได้พิสูจน์ตัวเองว่าเกมจะช่วยประคองครอบครัวได้จึงมีแค่ครั้งเดียว เด็กหนุ่มผมสกินเฮดนั่งอยู่หน้าหน้าป้ายรถเมล์ ปล่อยให้เสียงความวุ่นวายในกรุงเทพฯ และมลพิษทางอาการช่วยตอกย้ำความย่ำแย่ของชีวิตช่วงนี้จนกว่าจะสาแก่ใจ

พอแข่งแพ้ก็ไม่มีเหตุผลเอาไปอ้างกับครอบครัวแล้ว สุดท้ายเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้ผู้ใหญ่คิดว่าเกมไม่สามารถสร้างเงินทอง สร้างอนาคตให้ได้นอกเสียจากต้องตั้งใจเรียนเพื่อหางานดี ๆ ทำ


‘นึกว่า Numb2r จะเก่ง ที่แท้ก็ท่าดีทีเหลว’
‘ตกม้าตายตอนจบว่ะ 555555555’
‘ชั่วโมงบินมันต่างกัน เด็กเกรียนมอต้นหรือจะสู้เทพที่สู้มาแล้วกี่สังเวียน’


คำชมดี ๆ ก็มี แต่คนเราก็อย่างนี้ เลือกจดจำแต่อะไรแย่ ๆ ที่เอาเข้าจริงมันมีน้อยกว่าคำชมเสียอีก แจ็คหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่อยากเจอหน้าใครเลยแม้แต่พี่ตั้บ ไอ้ธีร์ หรือไอ้นาย คนที่คิดว่าคุยทุกเรื่องในโลกใบนี้ได้ แต่สุดท้ายเขาก็ค้นพบว่าคนเหล่านั้นยังไม่ใช่ สามคนนั้นคือความผูกพัน ความสบายใจ แต่มันยังมีบางเรื่องที่แจ็คอยากเก็บไว้ในใจ และอยากเล่าให้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมากที่สุดได้ฟัง

‘เท็น’

แจ็คมองเบอร์โทรที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์โทรเข้า-ออกมานานแล้ว ทุกวันนี้อย่างดีก็แค่คุย MSN กันเท่านั้น เด็กหนุ่มเสียใจเหลือเกินที่ทุกอย่างออกมาเป็นอย่างนี้ เพราะที่สุดแล้วเขายังต้องการให้ไอ้เท็นอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเลวร้ายหรือวันที่มีความสุขมากที่สุด

 ‘โทรเลยสิ’

ไม่ดี... ที่เป็นอยู่ตอนนี้การคุยกันผ่านเสียงอย่างเดียวก็มีแต่จะกระอักกระอ่วนเปล่า ๆ แจ็คเชื่อว่าหากได้เห็นหน้ากันการพูดคุยคงเป็นไปอย่างเรียบง่ายมากกว่าการได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิด แม้ว่าจะทิ้งระยะห่างความเป็นเพื่อนไปสักพักแล้ว แต่ถ้าหากเขาอยากได้มันคืนก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ซึ่งการขึ้นรถเมล์ไปหาไอ้เท็นที่บ้านก็คือทางเลือกที่ถูกต้องในนาทีนั้น




*



“เท็นอยู่คอนโดไม่ได้กลับบ้านเป็นอาทิตย์แล้วลูก”

“คอนโดเหรอครับ?”

“ใช่จ้ะ เขาไม่ได้บอกแจ็คเหรอ?”

คุณแม่ยังสาวดูลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ ขณะคนขับรถวัยกลางคนเดินออกมาจากห้องครัว แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มควรใส่ใจ แจ็คลูบท้ายทอยพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด คำว่า ‘เท็นอยู่คอนโด’ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวจนรู้สึกได้ถึงระยะห่างที่มีมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“มันไม่ได้เล่าเรื่องคอนโดเลยครับ”

“เป็นงั้นไป แม่ก็ซื้อให้เค้าสักพักแล้ว คิดว่ามันใกล้โรงเรียนดีจะได้ไม่ต้องเทียวนั่งแท็กซี่ไปกลับ ถึงแม่ตั้งใจว่าจะซื้อรถให้เท็นสักคันตอนขึ้นปีหนึ่งก็เถอะ แต่ยังไงแจ็คก็จะพาเท็นเข้ามหา’ลัยฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ซื้อทั้งทีก็เอาให้คุ้ม” เธอว่าพลางจัดคอเสื้อขณะเดินเข้าไปเอาน้ำเปล่าในครัว

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มรับแก้วมาถือไว้ ก่อนคุณแม่ยังสาวจะนั่งลงบนโซฟาทางด้านขวา เธอยังคงกลอกตาล่อกแล่กราวกับกังวลอะไรสักอย่างถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง

“แปลกนะ แม่คิดว่าเขาน่าจะบอกแจ็คเป็นคนแรกซะอีก”

“มันอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญน่ะครับ เพราะเดี๋ยวนี้แจ็คกับเท็นก็ไม่ได้ค้างด้วยกันแล้ว”

“ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะสิ?”

“ไม่ได้ทะเลาะครับแม่ แต่เรื่องนี้แจ็คผิดเอง”

“โถ ๆ เด็กน้อย” เธอมองเด็กหนุ่มอย่างอ่อนใจ พลางขยับเข้าไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันพร้อมลูบศีรษะปลอบ “เพื่อนกันก็ต้องมีปากเสียงกันบ้างมันเรื่องธรรมดา แต่หลังจากรู้สึกผิดจนสำนึกแล้วมันก็ไม่สายที่จะแก้ไขนะแจ็ค เท็นไม่ใช่คนใจร้ายสักหน่อย อาจจะมีบ้างที่เอาแต่ใจ ขี้โวยวาย แต่เด็กคนนั้นไม่ใช่คนใจแข็งอะไรหรอก”

“ต่อให้แจ็คจะทำให้มันรู้สึกแย่ซ้ำ ๆ น่ะเหรอครับ?” เด็กหนุ่มถามอย่างมีความหวัง และคำตอบของคนที่เรียกว่าแม่คงเป็นกำลังสำคัญให้เขามีความกล้ามากขึ้นกว่านี้

“แน่นอน แจ็คเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่เท็นรักมากที่สุดนะ”


‘เคย’ แม่ลืมคำนี้ไป


“คิดอะไรอยู่จ๊ะ?” เธอโอบไหล่เด็กหนุ่มที่ขมวดคิ้วคิดไม่ตก

“ผมกลัวมันไม่อยากคุยกับผม แต่คนแบบมันคงไม่พูดตรง ๆ เพราะมันน่าจะบ่ายเบี่ยงจนกว่าผมจะรู้ตัว”

“งั้นก็ทำให้เท็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสิ”

“ครับ?”

คนเป็นแม่อมยิ้มราวกับมีแผน เธอลุกขึ้นพร้อมชี้นิ้วเพื่อบอกให้รอ ก่อนจะเดินหายไปและกลับมาอีกครั้งพร้อมพวงกุญแจ

“ให้มันรู้ไปสิว่าลูกของแม่จะงอนเพื่อนได้นานแค่ไหน”



พวงกุญแจที่ทำให้แจ็ครู้ว่าบางครั้งการเซอร์ไพรส์ก็ไม่ได้สร้างรอยยิ้มเสมอไป




(ต่อด้านล่างนะคะ)



ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
*




หวังว่าบลูคงไม่ได้รื้อคอมพิวเตอร์เขาเหมือนผู้หญิงงี่เง่าที่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่น เท็นดูนาฬิกาข้อมือขณะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน มันคงดีถ้าจะคุยกับแม่เรื่องเช่าคอนโดใหม่ เพราะจะได้หาคนมาซื้อห้องนี้ไว ๆ เพราะหลังจากนี้เขาจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแบบที่บลูตามไม่เจอ


ไม่สิ... ไปอยู่ในที่ ๆ ใครในโลกก็ตามหาเขาไม่ได้ เท็นอยากให้ทุกคนรู้สึกแย่กับการลืมเขา

ทันทีที่ถึงบ้านก็เปิดประตูบานเล็กเข้าไป เท็นเห็นป้าแม่บ้านกำลังรดน้ำต้นไม้ และสีหน้าเธอก็ดูจะตกใจเหลือเกินที่ได้เห็นหน้าลูกชายของบ้านที่นาน ๆ จะกลับหนหนึ่ง

“คุณเท็น!”

“ยังไม่ตายนะป้า ดูทำหน้าเข้า ว่าแต่แม่อยู่ไหม?” เด็กหนุ่มกวาดสายตามองหาคุณนายของบ้าน วันนี้เขาจะอ้อนให้หนัก ถ้าแม่ไม่ใจอ่อนเห็นทีว่าบลูคงต้องรออีกนาน

“อยู่ค่ะแต่ --”

“แต่...?” เท็นหยอกล้อป้าแม่บ้านด้วยการดึงแก้มยุ้ย ๆ ของเธอก่อนจะเดินเข้าไปพบความว่างเปล่าในห้องนั่งเล่น ปกติถ้าไม่นั่งทาเล็บก็ต้องจิบไวน์ ผิดคาดไปหน่อย ระหว่างที่เขาไม่อยู่สงสัยแม่จะเปลี่ยนงานอดิเรก

ป้าแม่บ้านดูเลิ่กลั่ก เหมือนจะห้ามเขาแต่ก็ปล่อยให้เข้าไป เท็นขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ แต่ก็เดินขึ้นบันไดไปจนหยุดอยู่หน้าประตูห้องของแม่

ค่อย ๆ ย่องเข้าไปสะกิดให้ตกใจเล่นดีกว่า แม่ของเขายังสาวเรื่องหัวใจวายคงไม่เกิดขึ้นหรอก เด็กหนุ่มเลียริมฝีปากพลางหมุนลูกบิด และทันทีที่เปิดเข้าไปเสียงผู้ชายที่อยู่ด้านในก็หยุดความตั้งใจเขาไว้เดี๋ยวนั้น

“ผมก็อยากอยู่กับคุณนาน ๆ แต่แม่ผมป่วย ผมต้องกลับไปดูใจแกนะครับ”

“ส่งเงินให้อย่างเดียวไม่ได้เหรอ ถ้าเธอกลับบ้านแล้วฉันจะอยู่ยังไง?”

“โธ่... ผัวกลับแค่ไม่กี่วันก็งอแงแล้วเหรอคนสวย?”


เดี๋ยว...?


“บอกว่าอย่าเรียกตัวเองอย่างนั้น”

“ผมรู้ว่าคุณชอบ แต่แค่อายที่จะได้ยินมัน”

“ไม่รู้แหละ ฉันไม่ให้เธอกลับ ห้าหมื่นพอไหม โอรให้ใครไปดูแลแม่เธอก็ได้ แต่อย่ากลับเลยนะ”

“ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาผมขอกลับบ้านแค่สามครั้งเองนะ ตอนนั้นคุณนายก็ยังอยู่ได้เลยนี่?”

“ก็ถ้าไม่เล่าเรื่องนังผู้หญิงแถวบ้านที่ชอบมาให้ท่าเธอฉันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก”

“ได้ยินแบบนี้มันชื่นใจจริง ๆ ถ้าคุณผู้ชายได้ยินคงหยิบปืนจ่อหัวผมรอบสองแน่”

รอบสอง...?

“บอกว่าอย่าพูดถึงผู้ชายคนนั้นให้ฉันได้ยินอีก”

“โธ่ ผมกลัวลูกปืนนี่ครับ”

“กล้าไหมล่ะ ถ้าเขามายุ่งกับเธออีกสาบานเลยว่าฉันจะทำให้เท็นเกลียดเขายิ่งกว่าเดิมจนไม่อยากเห็นหน้าอีกตลอดชีวิต”


หนึ่ง...


“เอางั้นเลยเหรอ ว่าแล้วก็คิดถึงลูกเลี้ยงเหมือนกันนะ รายนั้นหายเงียบไปเลย ไม่งั้นคงได้เห็นแม่ตัวเองเล่นชู้กับพ่อเลี้ยงแล้ว”


สอง...


“พูดบ้าอะไรของเธอเนี่ย นี่ ไม่ต้องเลย เมื่อกี้ก็เกือบถูกแขกจับได้แล้วไม่เข็ดหรือไงกัน?”

เพล้ง!!!

แจกันราคาแพงถูกเขวี้ยงลงพื้นจนแตกกระจาย เรียกความสนใจจากชู้รักที่กำลังกอดรัดนัวเนียกันบนเตียง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าลูกชายเพียงคนเดียวที่ยืนน้ำตาคลออยู่ตรงนั้นพร้อมมือทั้งสองที่กำเข้าหากันแน่น ก่อนขายาวจะก้าวเข้ามากระชากคอเสื้อคนขับรถวัยกำหนัดแล้วซัดหมัดใส่หน้าไม่ยั้งก่อนจะล้มลงไปทั้งคู่

“เท็น!!!!”

มีเพียงเสียงวิ้งที่ก้องอยู่ในหู ภาพคนขับรถถูกซัดจนหน้าหันนั้นพร่ามัวหากแต่แขนขวายังคงง้างขึ้นแล้วอัดลงไปซ้ำ ๆ จนเลือดกบปาก

“เท็น!!!! อย่าลูก!!!! พอ!!!!”

คนขับรถที่เคยพูดจาเรียกลูกปืนรีบถดตัวถอยหลังพร้อมปากที่เปรอะไปด้วยเลือด หากแม่ไม่เข้ามากอดเขาเอาไว้สาบานตรงนี้ได้เลยว่าไอ้ห่านี่คงไม่มีโอกาสได้คลานออกไปพูดพล่อย ๆ ถึงเขาแบบนั้นได้อีก

ร่างของคนเป็นแม่สั่นเทา แต่มันคงไม่เท่ามือของเขาในตอนนี้ เท็นแกะมือเล็กออกแล้วก้าวถอยหลังสร้างระยะห่าง คุณหญิงของบ้านมองลูกชายทั้งน้ำตา คำพูดทุกอย่างติดอยู่ที่ปาก แต่เธอก็รู้ดีว่ามันช่วยอะไรไม่ได้

“มีอะไรจะแก้ตัวไหม?”

“เท็น... แม่ --”

“เท็นเข้าใจได้ถ้าแม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน แต่มันต้องไม่ใช่ไอ้เหี้ยนี่ปะ?”

“...” คนขับรถวัยสามสิบห้ายังคงนั่งอยู่บนพื้น และที่น่าโมโหก็คือแม่ยังคงลอบมองมันเป็นระยะราวกับเป็นห่วงนักหนา

“เท็นฟังแม่ก่อนได้ไหมลูก...”

“ฟังอะไร เรื่องโกหกน่ะเหรอ คราวนี้ขอแบบที่ทำให้เชื่อหมดใจหน่อยนะ เท็นจะได้โง่นาน ๆ”

“...”

“ไม่มีใช่ไหม ได้ งั้นเท็นพูดก่อนแล้วกัน ที่เท็นรับไม่ได้ไม่ใช่เพราะมันเป็นคนขับรถ แต่เพราะคำพูดที่มันพ่นออกมาจนทำให้เท็นรู้ว่าตลอดเวลาหลายปีนี้แม่แอบทำอะไรกับมันโดยที่เท็นไม่เคยรู้”

“...”

“ไหนบอกว่าคนนอกใจคือคนเลวไง แม่โกรธที่พ่อเป็นแบบนั้นแล้วทำไมถึงทำเองอะ แล้วมันเรื่องอะไรใครเอาปืนจ่อครั้งที่สอง ครั้งแรกมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่?”

สองมือเย็นเฉียบ เท็นรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมาแทงอกทุกครั้งที่เสียงของเขามันทำร้ายความรู้สึกแม่ เด็กหนุ่มรู้สึกผิด แต่ในขณะเดียวกันสมองมันก็สั่งให้ตะโกนออกไปดัง ๆ เพื่อให้สองคนนั้นรับรู้ว่าทำร้ายเด็กคนหนึ่งไว้เจ็บแสบแค่ไหน

“เท็นถามว่าเมื่อไหร่?!!!”

“ตั้งแต่...”

“...”

แม่หันไปมองหน้าคนขับรถ เห็นว่าขยัน ดึก ๆ ก็ยังขับรถไปรับแม่ที่งานเลี้ยงสมาคมได้ แต่ใครจะรู้ว่าระหว่างนั้นมันมีอะไรเกิดขึ้น

“ตั้งแต่ยังไม่เลิกกับพ่อใช่ไหม?”

ได้โปรดเถอะ ขอให้ไม่ใช่

“อืม...”

แม่งเอ๊ย

“แม่ขอโทษ เท็น แม่เสียใจ แม่รู้ว่าต่อให้พูดอะไรไปเท็นก็คงไม่อยากเข้าใจ แต่แม่กับพ่อมีปัญหากันมานานแล้ว ที่เราฝืนอยู่ด้วยกันก็เพราะลูก”

“อย่าเอาเท็นมาอ้างชีวิตคู่พัง ๆ ของพ่อกับแม่เลย ไม่รักกันแล้ว อยากมีคนใหม่ก็แค่บอกความจริงให้เท็นรู้ยังดีกว่าโกหกไปวัน ๆ จนมาจับได้เองอย่างนี้”

“...”

“เอางี้ แม่ไม่ต้องพูดอะไร แค่พยักหน้าตอบคำถามก็พอ”

เด็กหนุ่มกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามกักกั้นน้ำตาเอาไว้แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเป็นคนโง่ตรงนี้

“ความจริงแล้วคนที่มีชู้คือแม่ใช่ไหม...?”

เท็นได้แต่ภาวนาขอให้คำตอบว่าไม่ใช่ แต่พระเจ้าคงอยากให้เขาเข้มแข็งเพื่อทนอยู่ในโลกใบนี้ต่อไป ท่านจึงให้แม่มอบคำตอบกับเขาเป็นการพยักหน้า

“เท็น... แม่ขอโทษจริง ๆ เรื่องนี้แม่ --”

“...”


ทำไมทุกคนถึงใจร้ายนัก?


เด็กคนนี้ทำอะไรผิดไปหรือ ทำไมเขาถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ จนเหมือนว่าจะไม่มีทางสิ้นสุด แม้แต่แม่ที่คิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ทำเรื่องอย่างนั้น ซึ่งบางครั้งเท็นอาจจะคิดอะไรง่าย ๆ เกินไป

“ที่พยายามให้เท็นไปนอนบ้านเพื่อน ที่ซื้อคอนโดให้”

“...”

“เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหม?”

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จะบิดมีดที่แม่เป็นคนเอาปักอกเขาอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป เด็กหนุ่มกลืนน้ำลาย พอนึกย้อนกลับไปก็เจ็บใจจนแทบไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้อีก

“เรื่องนั้นแม่อธิบายได้นะ แม่อยากให้เท็นอยู่ใกล้โรงเรียนจริง ๆ”

“เหรอ?”

“เท็น...”

“ถ้าไม่อยากให้อยู่เป็นก้างขวางขอนักทำไมถึงไม่ปล่อยให้เท็นไปอยู่กับพ่อตั้งแต่แรก?”

“เพราะแม่รักเท็นไง แม่อยากอยู่กับเท็น”

‘อยากอยู่กับเท็น’ งั้นเหรอ?

จนถึงตอนนี้แล้ว... มีอะไรที่เป็นความจริงบ้าง?

ความจริงที่ทำให้เสียใจแต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่จากเรื่องโกหกหลอกลวง

เสียงฟูมฟายของแม่ไม่ได้ช่วยอะไร น้ำตาที่ไหลออกมานั่นคงมาจากความรู้สึกผิดซึ่งมันเอามาหักลบกับเรื่องที่หลอกลูกชายมานานหลายปีไม่ได้

“คุณเท็นพูดกับคุณแม่ดี ๆ หน่อยได้ไหมครับ เธอร้องไห้จนตัวสั่นแล้ว”

“พ่อกูยังเสือกไม่ได้แล้วมึงเป็นใคร?”

ก้าวร้าวให้ตายไปเลย ถ้าเป็นคนดีไม่ไหวก็เหี้ยให้สุดจะได้จบ ๆ

“ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันกูยังไม่มีให้ ไอ้เรื่องอยากเป็นพ่อเลี้ยงมึงคงต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกสักร้อยรอบ พอถึงตอนนั้นกูจะเก็บไปคิดอีกทีว่าอยากเกิดมาหายใจร่วมโลกกับคนอย่างมึงไหม?”

“เท็น... พอได้แล้วลูก”

คนเป็นแม่ร้องไห้เหมือนจะขาดใจ เธออยากก้าวไปหาลูกชาย แต่ก็รู้ดีว่าหากเข้าใกล้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายถอยออกห่างมากขึ้นเท่านั้น

“ตามสบาย อยากจะเป็นผัวเมียกันจนตายยังไงก็เอาเลย”



*


จากที่คิดว่าต้องกลับดึกก็เป็นอันต้องล่มเมื่ออยู่ ๆ บอสก็เข้าออฟฟิศพร้อมบอกให้ทุกคนกลับไปหาครอบครัวและเริ่มงานใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แจ็คคิดว่าไอ้แหลมคงทำตัวดี ช่วงนี้บอสจึงปล่อยพลังงานบวกออกมาเรื่อย ๆ โดยไม่แปรปรวนติดลบอย่างที่หลายคนกังวลกัน

และทันทีที่กลับมาถึงบ้านก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อพบว่าแม่นั่งอยู่บนโซฟาไม้สักเก่า ๆ โดยมีใครคนหนึ่งนอนหนุนตักอยู่ ซึ่งเจ้าของผมสีเทานั้นคงไม่ใช่น้องชายหัวฝีหัวหนองที่ป่านนี้คงไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนหรือแฟนสาวที่กำลังคบหาดูใจอยู่แน่ ๆ

ขายาวก้าวเข้าไปพลางวางกระเป๋าเป้ลง เขาสบตากับแม่ที่ยิ้มบาง ๆ ขณะลูบกลุ่มผมสีอ่อนนั้นอย่างอ่อนโยนจนเขาได้เห็นไอ้เท็นในอีกมุมที่ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ

แจ็คจะไม่แปลกใจเลยสักนิดถ้าอีกฝ่ายแค่อยากงีบหลับหลังจากเล่นเกมยิงยาวจนเกือบเช้า แต่ที่ทำให้ชะงักก็คือหยดน้ำตาที่ไหลตามสันจมูกแม้ว่าจะหลับไปแล้ว ฝันร้ายเหรอ หรือว่าทั้งคู่คุยเรื่องน่าปวดหัวกัน

ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับเรื่องอะไร และแม่ก็คงเล่าไม่ได้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นจนต้องอับอายขายหน้าเพียงเพราะว่าน้ำตามันไหลออกมาจากผู้ชายที่คนทั้งโลกอยากให้ร้องไห้จนเสียหมามากที่สุด

“นานหรือยัง?”

หวังว่าเสียงของเขาจะดังพอจนแม่ได้ยินและเบาจนไม่ปลุกอีกคนให้ตื่น ซึ่งเธอก็พยักหน้าช้า ๆ และรอยยิ้มแหย ๆ นั่นก็ทำให้รู้ว่าแม่คงเมื่อยขาแทบแย่แล้ว

“เดี๋ยวแจ็คเอง” คุณนายร้านซักรีดประคองศีรษะทุยขึ้นอย่างรู้งาน และลูกชายคนโตก็ค่อย ๆ ช้อนศีรษะรับช่วงต่อได้เป็นอย่างดีโดยไม่ทำให้คนหลับต้องตื่น

“ดูแลเพื่อนหน่อยนะลูก”

แจ็คพยักหน้า แม้ว่าอีกฝ่ายคงอ้าปากเถียงจนคอแหกว่าคนอย่างมันน่ะหรือจะต้องการให้ใครมาดูแล แม่ก็เป็นห่วงตามประสาผู้ใหญ่ แต่เขาจะทำอะไรได้ถ้าหากว่าไอ้เท็นไม่ยอมปริปากเล่าอะไรให้ฟังเลย

“เดี๋ยวแม่ไปอาบน้ำ พอทำกับข้าวเสร็จแล้วค่อยปลุกเพื่อนลุกขึ้นมากินนะลูก”

ลูกชายคนโตพยักหน้าก่อนจะลดระดับสายตาลงเมื่อพบว่าศีรษะทุยเริ่มขยับ ไอ้เท็นยังคงไม่ตื่น และถ้าจะปล่อยให้มันหลับนานกว่านี้อีกหน่อยก็คงไม่เสียหายนัก แจ็คไม่ใช่ผู้ชายที่ให้ความอบอุ่นได้เก่งเหมือนพ่อบ้านลูกหนึ่งอย่างพี่ตั้บ หรือไอ้ธีร์ที่รู้ดีว่าเป็นคนจันไรแต่ยังมีมุมอ่อนโยนกับไอ้โซ่ได้

เขาไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายต้องร้องไห้ แต่การที่ใครคนหนึ่งปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาได้ แสดงว่าคน ๆ นั้นคงต้องการการปลอบใจบ้างไม่มากก็น้อย

แจ็คตัดสินใจวางมือลงบนกลุ่มผมสีอ่อน ในทีแรกแค่เป็นการลองเชิง หากอีกฝ่ายสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสนี้สาบานได้เลยว่าประโยคแรกที่จะพูดกับมันก็คือ ‘กูจะเขกกะโหลกให้ตื่น ตกใจอะไร?’ แต่ถ้าไอ้เท็นยังหลับต่อไป การลูบผมเบา ๆ ปลอบใจโดยที่เจ้าตัวไม่รู้มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่นัก

หากเด็กที่ชอบเล่นกีต้าร์คนนั้นกำลังอ่อนแอจนต้องการที่พักพิงในช่วงเวลาสั้น ๆ
เขาก็จะเป็นหลังคาผุ ๆ พัง ๆ ที่คอยบังแดดและฝนให้เอง



TBC


ยังมีคนอ่านอยู่ไหมคะ ขอเสียงหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
#ยื่นไมค์ขนมอันละห้าบาทไปกลางทุ่งนา




ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เราเองงงงค่าาาาา ยังตามติดละติดตาม

เห้ออออออ เราว่าเท็นใช้วิธีที่ผิดที่ดึงบลูออกจากแจ็คด้วยวิธีนั้น
แก้ตัวยังไงก็ไม่ขึ้น เพราะเท็นใช้สิ่งที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนา คือเรานึกว่าเท็นจะฝังใจแต่ก็ยังยอมเป็นมือที่สาม ในก็คงจะงงๆหน่อย

แต่อาจจะเป็นเพราะความเป็นเด็กอะเนอะ

มาช่วยลุ้นให้รักกันเร็วๆค่ะ อย่องน้อยพี่แจ็คก็มีความตะมุตะมิลูบหงลูบหัวให้แล้ว  :hao6:

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สงสารเท็นเรื่องครอบครัว ตอนหน้าเรื่องความบาดหมางระหว่างแจ็คกับเท็นคงเพราะบลู ในตอนปัจจุบันหวังว่าแจ็คกับเท็นจะค่อยๆปรับความเข้าใจกันได้แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป  รออ่านได้เรื่อยๆค่ะ อยากเห็นสองคนนี้ค่อยๆกลับมาเปิดใจให้กันใหม่อีกครั้ง

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เค้าทั้งสองคนเจ็บปวดไม่ต่างกันเลย

ออฟไลน์ ปานกลาง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โธ่ เท็น เจ้าคือเศร้าแท้ :m15:

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้อนเท็นนนน ฮื้อออ ; w ;


ทำไมใครๆก็ทำร้ายน้อนนนนน โอ๋ๆนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ทำไมสองคนนี้เจอปัญหาชีวิตมาหนักหน่วงขนาดนี้ โอ๋ๆนะ //กอดปลอบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด