[แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)  (อ่าน 65177 ครั้ง)

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โอ๋ นุ๋งเท็น คนดี ไม่ร้องนะไม่ร้อง

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องที่เจอมาในอดีตของสองคนนี้มันหนักหนาจริงๆ  แต่ก็ยังมันก็ผ่านไปแล้ว สู้ๆนะทั้งสองคน :กอด1:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ยกมือออกเสียงว่ารออ่านอยู่นะฮะ
 :pig4:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ติดตามแจ็ค เท็น อยู่นะค๊ะ เรื่องนี้หน่วงใจดีจริงๆ

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
แงงงงงงงงงงงงงงงงง สงสารน้องเท็น

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ว่าเรื่องแจ็คทรหดแล้ว เรื่องของเท็นเจ็บปวดหนักเข้าไปอี๊ก โอ๊ย อีป้าอยากกอดรวบเด็กน้อยทั้งสอง
ถ้าเท็นรู้เรื่องแม่ก่อน ก็คงไม่ทำกับแจ็คแน่นอน แต่ในเมื่อมันย้อนอะไรกลับไปไม่ได้
ขอให้อนาคตของทั้งสองสว่างไสว ไร้มลพิษ ด้วยเถิด สาธุ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
รออ่านอยู่ค่ะ  อดีตของเท็นนี่คิดร้ายกับแจ็คเหตุเพราะคนอื่นทั้งนั้นเลย แปลกใจที่ไม่ไปทำกับธีร์ พอคิดว่าเท็นไม่ดีเลยไม่ค่อยสงสารตอนที่เจอแม่อยู่กับชู้ เพราะเท็นก็ทำเรื่องไม่ดีกับคนอื่นไว้เยอะเหมือนกัน ทำร้ายเพื่อนที่รักตัวเองด้วย

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ Ta0b2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งอ่านซอโซ่กับชอกะเชร์จบภายใน3วันก็มาต่อเรื่องนี้เลย เป็นเรื่องแรกที่อ่านทั้งๆที่ยังเขียนไม่จบ รอนะคะㅠㅠㅠㅠ :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารเท็น...
หวังว่าแจ็คจะทลายกำแพงไปเล่นกับเท็นได้เหมือนแต่ก่อน

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
การเล่าเรื่องราวอดีตผสมปัจจุบันโดยไม่มีอะไรบ่งบอก ทำความงงได้จริงๆ

ออฟไลน์ วาย ร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อารมณ์ตอนอ่านเรื่องนี้ก็คือไบโพล่ามากเวอร์
เหวี่ยงไปเหวี่ยงมายิ่งกว่าโรลเลอร์โคสเตอร์ ช่วงตอนปัจจุบันแรกๆก็หน่วงจัดแต่อดีตดันน่ารัก
แต่พอหลังๆที่ปัจจุบันโคตรจะน่ารักอดีตก็ดันหน่วงจนจุกซ่ะงั้น เหมือนกำลังจะปีนขึ้นไปถึงหน้าผาแล้วโดนถีบตกลงไปข้างล่างแต่ก็ดันมีเชือกดึงไว้ไม่ให้ตกอยู่ เหวี่ยงเก่งงงงง แต่แต่งดี๊ดีอ่ะ อ่านครึ่งวันก็คือหมดแล้ว 14 ตอน แล้วดูเหมือนคุณมิ้วจะดองเรื่องนี้ซ่ะด้วย 5555555 คิดถึงทิดธีร์จังเลยข่าาาา 555555

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 15
ฟ้าหลังฝน





เท็นตื่นเพราะน้องสาวไอ้แจ็คปลุกไปกินข้าว ตอนนั้นเขาได้แต่นั่งกุมขมับจากอาการปวดศีรษะซึ่งคงเป็นเพราะหลับจนถึงช่วงเย็น บ้านนี้ยังคงแสดงความเป็นกันเอง และเขาก็อิ่มท้องไปได้อีกวัน

jjack: เสาร์นี้วันเกิดไอ้แหม่ม แม่ให้มาชวนมึงไปกินปิ้งย่างด้วยกัน

เอะอะก็อ้างแม่ เคยมีไหมที่คิดจะงัดปากชวนเขาเอง?

TEN10: เออ

ที่ไปเพราะอยากเจอแม่มันหรอกนะ

jjack: เล่นเกมกัน


...


...ไอ้เวรเอ๊ย



*



“แม่ว่าเท็นกับไอ้แจ็คใครขับรถนิ่มกว่ากัน?”

เขาหันไปถามคุณนายร้านซักรีดที่วันนี้แต่งตัวสวยกว่าทุกวันเมื่อได้มาเดินห้าง และหลังจากสิ้นสุดคำถาม ไอ้คนที่ถูกกล่าวถึงก็แอบชำเลืองมองด้วยหางตา

“ยังต้องถามแม่อีกเหรอ ยังไงก็ต้องเท็นอยู่แล้ว”

“ใช่ พี่แจ็คขับทีหนูโคตรเวียนหัวเลย” แหม่มเสริม พลางเกาะแกะแขนเพื่อนพี่ชายที่ทุกวันนี้เธอสนิทใจจนแทบไม่หลงเหลือความอึดอัดใจแล้ว

พี่เท็นทั้งเอาใจเก่ง ไม่แซะเวลาเธอเขียนฟิควายเหมือนพวกพี่เชร์ทำ แถมยังชอบซื้อขนมมาฝากอีก เนี่ย พี่ชายดีเด่นแห่งปีต้องมาแล้วไหม

“ก็มันไม่ชิน นาน ๆ ทีถึงได้ขับรถยนต์”

“แม่บอกให้เลิกขับมอเตอร์ไซค์แจ็คก็ไม่ฟัง เรื่องนี้ล่ะดื้อเก่งนัก” เธอหยิกสีข้างจนลูกชายคนโตนิ่วหน้าอ้าปากหวอ บิดจนตัวเป็นกุ้งเรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มผมเทาและลูกอีกสองคนที่มาด้วยกัน

“สองเสียงจากแม่กับแหม่ม ชัดเจนเลยว่ากูขับนุ่มกว่าเห็น ๆ”

“เออ พ่อคนปุยนุ่น พ่อสำลีมาเกิด”

“อุ๊ยแม่ พี่แจ็คประชดด้วยอะ...” แหม่มหลบหลังแม่ขณะมองพี่ชายคนโตที่วันนี้ทำตัวประหลาดไปกว่าทุกที

“ถ้าจะกระซิบกระซาบก็อย่าให้ได้ยินสิ”

“โอ๊ะ!” เด็กสาวถูกจับศีรษะโคลง ก่อนสองพี่น้องจะกอดคอกันเดินนำหน้าจนตรงนี้เหลือเพียงเขา แม่ไอ้แจ็คและน้องชายคนเล็กของมัน

มองด้านหลังของพี่ชายคนโตที่ไม่ค่อยได้แสดงความรักต่อคนในครอบครัวนัก แต่เท็นก็รู้สึกได้ถึงความใส่ใจอยู่เสมอ

ไอ้แจ็คเมื่อตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจครอบครัวมากถึงขนาดนี้ ช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กมัธยม ทั้งคู่คิดแค่ว่าจะทำอะไรเพื่อให้ชีวิตสนุกขึ้นดี ซึ่งการโตขึ้นและความรับผิดชอบจากตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวจำเป็นคงทำให้มันเปลี่ยนไปอย่างที่เห็น ทั้งมุมมองความคิดและอะไรหลายอย่างที่ทำให้เท็นมองย้อนตัวเองและพบว่าเขานั้นยังมีความคิดเด็ก ๆ อยู่มากโข

“อ้าว นั่นไงพวกพี่ธีร์”

ว่าไงนะ?

“พี่เชร์ก็มาด้วย พี่เชร์!!!” น้องชายคนเล็กตะโกนเรียกหาชายกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่อีกฟาก วินาทีนั้นเท็นรู้สึกเหมือนโลกค่อย ๆ ถูกกลืนกินจนเป็นสีดำ หลังจากรอบข้างรายล้อมไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่นาน

“อย่าเสียงดังสิลูกรบกวนคนอื่นเขา”

“คิงไปหาพวกพี่ธีร์ก่อนนะแม่”


ให้ตายสิวะ


ขณะที่ใช้เวลาวัน ๆ ไปกับครอบครัวนี้จนเกิดความสนิทใจ เท็นก็แทบลืมไปเลยว่าแม่กับน้อง ๆ ไอ้แจ็คก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกแก๊งขี้ซุยฯ เหมือนกัน ซึ่งเผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ และเท็นรู้สึกได้ถึงลางที่ไม่ดี

และวินาทีที่หัวหน้าทีมหันมาเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ รอยยิ้มที่เคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วิก็เลือนหายไป


ใช่ ไอ้ธีร์คงไม่ชื่นอกชื่นใจที่ได้เห็นหน้าเขาเหมือนกัน




*


เด็กหนุ่มผมสกินเฮดมองขนมและน้ำอัดลมในถุงเซเว่นที่เพิ่งแวะซื้อก่อนเข้าคอนโด แจ็คยืนโง่ ๆ อยู่หน้าประตูมาสักห้านาทีแล้ว ซึ่งเอาเข้าจริงมันน่าจะเป็นห้านาทีที่นับรอบสาม เขาไม่กล้าเสียบกุญแจแล้วไขกลอนเข้าไปเพียงเพราะไม่มั่นใจว่าเพื่อนจะยินดีหรือไม่หากว่าการมาของเขามันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่ฝ่ายเดียว แต่กลับเป็นการรบกวนของไอ้เท็น

ความกังวลและไม่แน่ใจเกิดจากความห่างเหินที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน แจ็คถอนหายใจอีกครั้งพร้อมจัดฉากในความคิดว่าหากเปิดประตูเข้าไปแล้วจะพูดอะไรเป็นอันดับแรก ถ้าเพื่อนทำหน้าเหวอหรือไม่โอเคควรทำอย่างไร พุ่งเข้าไปกระโดดใส่เหมือนท่าไม้ตายนักมวยปล้ำ WWE ที่ทั้งคู่ชอบดูด้วยกันดีไหม หรือว่าจะยืนยิ้มโง่ ๆ แล้วด้นสดไปตามสถานการณ์


เวรเอ๊ย... กับบลูยังไม่เคยเครียดกับการง้อขนาดนี้


“เซอร์ไพรส์...”

เด็กหนุ่มผมสกินเฮดค้างอยู่ในท่าอ้าแขนออกหน้าประตูที่ปิดสนิท ก่อนจะรู้ตัวว่าการซ้อมพูดกับท่าทางแบบนี้มันโคตรงี่เง่าเลย

“กูแวะซื้อขนมมาให้ แค่นี้แหละ”

ขมวดคิ้วทำเสียงห้วนเต๊ะท่าแบดบอยเลียนแบบไอ้ธีร์ ก่อนจะทำมือปัด ๆ เพราะเหม็นกลิ่นความขี้เก๊กที่ใช่ว่าตนเองจะถนัด

“...”

เอาไงดีวะ อย่างนั้นก็ไม่ดีอย่างนี้ก็ไม่ใช่ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเครียดเลยว่าไอ้เท็นจะรู้สึกอย่างไรกับการมาของเขา ทำตัวให้เป็นธรรมชาติหน่อยสิ ถ้ามันยังเคืองก็นั่งหน้าด้านอยู่ตรงนั้นไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะใจอ่อนนั่นแหละ ก็ให้รู้ไปสิวะว่าการสำนึกผิดของคน ๆ หนึ่งจะไม่ส่งผลอะไรเลย

เอากุญแจขึ้นมาเสียบแล้วไขกลอนทันที ไม่มีอีกแล้วเรื่องตั้งหลกตั้งหลัก แจ็คหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน บอกตัวเองว่าตายเป็นตายจะเสียหน้าอย่างไรก็ได้แต่วันนี้ห้ามเสียเพื่อน

ไฟห้องยังเปิดอยู่แสดงว่าไอ้เท็นไม่ได้หายหัวไปไหน โชคดีที่วันนี้มาไม่เสียเที่ยวเพราะถ้าให้กลับไปตั้งหลักใหม่ก็ไม่รู้ว่าความกล้าที่มีอยู่จะหายไปด้วยหรือไม่

แต่พอเดินเข้ามาหยุดกลางห้องก็พบเพียงความว่างเปล่า ‘เข้าห้องน้ำอยู่หรือว่านอน?’ เด็กหนุ่มถามตนเองในใจก่อนทุกอย่างรอบด้วยจะถูกกลืนด้วยความมืด

ไฟดับเหรอ?

แจ็คเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงหวังจะใช้แสงสว่างจากหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นั่น มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าเขาเดินมั่วซั่วชนข้าวของตกแตกจนโดนเพื่อนโกรธซ้ำสอง แต่แสงสว่างยังไม่ทันได้ทำงานเขาก็รู้สึกถึงวงแขนที่สวมกอดมาจากด้านหลังพร้อมศีรษะที่ซบลง

ซึ่งจากส่วนสูงแล้วมันไม่ใช่ไอ้เท็น

เวรแล้วไง... อย่าบอกนะว่าคนที่กอดเขาอยู่ตอนนี้คือเด็กมัน?

“ไปนานแบบนี้คิดว่าจะทิ้งให้อยู่คนเดียวทั้งคืนซะแล้ว”

“...”

แม้ว่าพักหลังจะไม่ค่อยได้คุยกันแต่แจ็คก็คิดว่าคงไม่ได้หูฝาดไป เด็กหนุ่มแกะวงแขนเล็กออกพร้อมหันหลังกลับ กดปุ่มโทรศัพท์กระทั่งจอส่องแสงสว่างเพื่อยืนยันกับตนเองว่าคิดไปเองหรือไม่ ก่อนหัวใจของเขาก็ตกลงไปอยู่บนพื้นหลังจากได้เห็นใบหน้าเด็กผู้หญิงที่ไม่ควรอยู่ในห้องนี้มากที่สุด

“แจ็ค...”

“...”



*



เนื่องจากมาเป็นครอบครัวใหญ่ทางร้านจึงต่อโต๊ะให้ ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าของวันเกิดที่ได้กล่องของขวัญมากมายจากเพื่อนพี่ชาย ยังมีคนนั่งกระอักกระอ่วนแทบตายอยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่ฝั่งตรงข้ามเป็นโซ่ ไม่ใช่สามพี่น้องชวนปวดหัวที่คงทำให้เขาเก็บสีหน้าไว้ไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นคนที่นั่งถัดจากโซ่ไปก็ยังเป็นไอ้ธีร์อยู่ดี

เสียงไอ้เด็กลูกครึ่งพูดเสียงดังจนพี่ตั้บต้องปรามให้เบาลง และพอเป็นอย่างนั้นไอ้ธีร์กับไอ้แจ็คก็หันไปรุมกลั่นแกล้งเหยื่อทางอารมณ์ที่ไม่เคยเจ็บปวดกับสิ่งที่พี่ ๆ มอบให้ แม้ว่าทุกคนจะยิ้มกับภาพตรงหน้า แต่เท็นก็ไม่ได้รู้สึกเฮฮาไปด้วยเลยแม้แต่นิดเพราะเขารู้ดีแก่ใจว่าเป็นส่วนเกิน ต่อให้เก้าอี้จะมีพอสำหรับเก้าคนก็ตาม

“โคนผมพี่เท็นเริ่มดำแล้วล่ะครับ” เขาไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มนั่นจริงใจแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ เด็กอย่างโซ่คงไม่ได้อยากจะร้ายกับเขาด้วยการพูดหักหน้าหรืออะไรก็ตามที่คนอื่น ๆ ทำ

“อ้อ อืม”

“พี่เท็นเคยทำสีทองไหมครับ โซ่ว่าถ้าพี่เท็นทำคงเหมือนหลุดมาจากอนิเมะแน่ ๆ เลย” เด็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยังคงมองมาราวกับคาดหวังว่าจะได้รอยยิ้มกลับไป

เท็นไม่อยากขยับริมฝีปากพูดอะไรทั้งนั้นเพราะเขาให้เกียรติแม่ไอ้แจ็คและเด็กสาวผู้เป็นเจ้าของวันเกิด แต่สายตาไอ้ธีร์ที่มองมาก็วอนตีนจนการห้ามปากเป็นเรื่องยากเหลือเกิน

“วันก่อนโซ่เข้ายูทูป เห็นชาวต่างชาติเอาคลิปพี่เท็นไปตัดต่อมีแต่ช็อตเท่ ๆ ทั้งนั้นเลยครับ คลิปนั้นคนดูตั้งหกแสนวิวแน่ะ”

“จะเอาอะไรกับพวกชอบดูดคลิปคนอื่นไปลงเพื่อเรียกยอดวิว มันก็หวังเงินอย่างเดียว ไม่ได้อยากเยินยออะไรหรอก”

จนได้...
พอเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้ทีไรปากมันก็เอาแต่จะพูดพล่อย ๆ ออกไปทุกที

ทำแบบนี้กับเด็กที่เลือกคุยกับเขาทั้งที่จะให้ความสนใจบทสนทนาบนโต๊ะก็ได้ อันที่จริงโซ่ไม่ควรพูดอะไร เพราะการอดทนนั่งเงียบสักชั่วโมงจนกว่าทุกคนจะอิ่มนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายนักถ้าแลกกับความสบายใจของแม่ไอ้แจ็ค

“คุยอะไรกับมัน?” คนที่สึกจากการบวชได้สักพักผมเริ่มงอกออกมาจากกะโหลกกลวง ๆ นั่นแล้ว และเท็นก็เห็นด้วยกับคำถามของไอ้ธีร์

“ก็เรื่องทั่วไปครับ พี่ธีร์อยากรู้เหรอ?”

“พี่ไม่ได้ถามเพราะอยากรู้ แต่พี่ถามเพราะจะให้เลิกคุย”

“ธีร์” โชคร้ายหน่อยที่ไอ้แจ็คนั่งอยู่ตรงนี้ ก็เลยต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะปัจจุบันระดับความเกลียดที่มันมีต่อเขามันก็ดันลดลงไปบ้างแล้ว หรือไม่ก็อาจจะเกลียดเท่าเดิมแต่ต้องห้ามทัพเพราะเกรงใจแม่ ซึ่งนั่นก็เพื่อนรักปากเรียกตีนหมายเลขหนึ่งจะห้ามก็คงยากหน่อย

ลึก ๆ ก็อยากให้มันโชว์ความดักดานออกมาเยอะ ๆ ให้แม่ไอ้แจ็คเห็นว่าเพื่อนสนิทลูกชายถ่อยอย่างไร แต่พอคิดอีกทีแม่ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว คนทั้งโลกคงไม่มีใครผิดหวังหรือประหลาดใจกับสิ่งที่ไอ้ธีร์เป็น

“ทำไมโซ่ต้องเลิกคุยกับพี่เท็นด้วยล่ะครับ?”

“โซ่ จะเอางี้ใช่ปะ?”

“พี่ธีร์ จะเอางี้ใช่ปะ?”

“อย่ามายอกย้อน เดี๋ยวปั๊ด”

“เป็นอะไรล่ะน่ะ วีนน้องไม่พอแถมยังกัดเพื่อนอีก”

เสียใจนะธีร์ แต่ยกนี้เขาได้ภาษีแม่ไอ้แจ็คว่ะ

“ใครกัด? ใครเพื่อนใคร? แม่ถูกไอ้เชี่ยนี่ซื้อเพราะแค่มันไปที่บ้านบ่อย ๆ เหรอ ไหนตอบให้ลูกชายคนนี้ชื่นใจหน่อยซิ?” คนหัวเกรียนถลึงตาคาดโทษแม่เพื่อนที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้างลูกสาว

“ก็ก่อนหน้านี้ทิดบวชอยู่”

“ก็สึกแล้วไงเนี่ย เอาตำแหน่งลูกชายคืนมาเลย ธีร์ไม่แบ่งให้ใครนะบอกก่อน” ออดอ้อนเก่งที่หนึ่ง คลื่นไส้จะอ้วก เท็นกลอกตาไปทางอื่นพลางยกน้ำขึ้นดื่มเพราะไม่อยากเป็นอย่างที่คิด

“แม่มีลูกหลายคน ทิดมีปัญหาอะไร?”

“เซ็งไง ธีร์ต้องเป็นลูกรักดิ”

“อย่าเลย เพราะที่บวชไปก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่มึงจะได้เกาะผ้าเหลืองด้วยไหม อย่างมึงน่าจะเกาะด้วยได้แค่ผ้าเดียว”

“ผ้าไรวะพี่ตั้บ?” ไอ้เด็กฝรั่งเสริม

“ผ้าขาวเปื้อนขี้”

“5555555555555555555555555”

“ตุ้บตั้บ เดี๋ยวจะกินกันแล้วอย่าพูดเรื่องแบบนั้นสิลูก”

“โทษแม่โทษ”

“5555555555555555555555555”

มองจากหางตาก็รู้สึกได้ว่าไอ้แจ็คกำลังมองอยู่ ถ้าไม่คิดไปเองคาดว่ามันคงเป็นห่วง แต่ถ้าไม่ใช่มันก็คงอยากด่าเขาเรื่องพูดไม่ดีกับโซ่เมื่อครู่นี้ อึดอัดจริง ๆ กับการทำได้แค่นั่งเฉย ๆ เพราะรู้ว่าถ้าหากตอบโต้เมื่อไหร่คนผิดจะกลายเป็นเขาทันที

“เดี๋ยวแม่ไปเข้าห้องน้ำก่อน กินกันเลยนะไม่ต้องรอ”

“พวกผมต้องรออยู่แล้วปะโธ่ แม่ทั้งคนน้อ” ไอ้เด็กลูกครึ่งขมวดคิ้วทำหน้าจริงจังมองตามหญิงผู้เป็นที่รักของเด็ก ๆ ซึ่งกำลังเดินออกจากที่นั่ง และไอ้เด็กพูดมากก็ถูกแม่เขย่าศีรษะอย่างมันเขี้ยว

“แกน่ะกินหนีแม่คนแรกตลอดเลย ทำมาเป็นพูดดี”

“ร๊ากกกกกกกกกกก”

เท็นคงไม่ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าบรรยากาศมันตึงเครียดทันทีที่แม่ไอ้แจ็คไปเข้าห้องน้ำ พี่ตั้บก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เด็กอีกสองคนนั่งนิ่งมองสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ส่วนไอ้เด็กลูกครึ่งกระแซะแขนพี่คนสนิทของมันซึ่งกำลังจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง

“รีบกินรีบกลับ เดี๋ยวกูไปส่งทุกคนเอง”

“เจ้าของวันเกิดเหรอ อ้าปากทีก็สั่ง?”

“แล้วมึงเป็นใครถึงมาอยู่ที่นี่?”

“ธีร์ อย่าทำแบบนี้”

“แล้วกูต้องทำยังไงเพื่อน คีบหมูให้มันเหรอ?”

“พี่ธีร์สลับที่กับคิงดีกว่านะครับ นี่คิง มา --” ยังพูดไม่ทันจบโซ่ก็ถูกคว้าข้อมือไว้เสียก่อน เด็กหนุ่มมองดวงตาอีกฝ่ายซึ่งยังไม่ละห่างไปไหนและพี่เท็นก็เช่นกัน

โซ่เข้าใจทั้งสามฝ่ายว่ารู้สึกอย่างไร พี่แจ็คคงลำบากใจที่เพื่อนทั้งสองคนไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่แจ็คจะทักส่วนตัวมาปรึกษาเขาว่าควรทำอย่างไรดีพี่ธีร์กับพี่เท็นถึงจะยอมเผชิญหน้ากัน ซึ่งการพามาเจอหน้านั้นก็ไม่ได้ยากเท่ากับจะใช้วิธีไหนเพื่อให้ทั้งคู่ยอมคุยกันได้โดยไม่ต้องจบด้วยการทะเลาะ

ส่วนพี่เท็นก็อาจจะอยากเริ่มต้นใหม่ โซ่คิดว่าถ้าคน ๆ หนึ่งจะคิดร้ายกับเพื่อนเก่าก็คงหาทางเอาคืนในแบบที่ตนเองถนัดซึ่งทุกคนก็เคยเห็นกันมาแล้ว และโซ่ก็มั่นใจว่านั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพี่เท็น

ถ้าพี่เท็นนิสัยไม่ไหวจริง ๆ คนอย่างพี่แจ็คคงไม่คิดพากลับเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตอีกแน่ พี่แจ็คเป็นคนรอบรอบแค่ไหนโซ่รู้ดี เขาไม่เคยเห็นรุ่นพี่แสดงออกแบบนี้ โดยเฉพาะการยอมออกตัวห้ามพี่ธีร์เพื่อปกป้องพี่เท็น

พี่แจ็คคงอยากลืมเรื่องผิดใจเมื่อตอนนั้นและโซ่คิดว่ามันดีมาก ๆ แต่พี่ธีร์นี่สิ... ถึงเจ้าตัวจะเคยพูดว่า ‘เดี๋ยวลองพยายาม’ แต่อีกฝ่ายก็ห้ามตัวเองไม่ให้ใส่อารมณ์เรื่องพี่เท็นแค่ตอนคุยกับพี่แจ็คเท่านั้น พี่ธีร์ตอบเออออไปเพื่อให้เพื่อนสบายใจ แต่เบื้องหลังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทุกครั้งที่เห็นว่าพี่แจ็คยอมใจอ่อนจนปล่อยให้คนเดิม ๆ เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง พี่ธีร์ยังจดจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอีกฝ่ายคงนึกไปถึงความเสี่ยงมากกว่าจะให้คิดแง่บวกว่าพี่เท็นจะดีขึ้นได้


‘มันไม่ใช่แค่เรื่องหักหลังทีม แต่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ไอ้เท็นทำคือการทำลายไอ้แจ็คในทุก ๆ ทาง’


พอเป็นอย่างนั้นคนที่รักเพื่อนยิ่งกว่าอะไรจึงโมโหจนทนนั่งโต๊ะเดียวกันนาน ๆ ไม่ไหว


“ที่กูกับมันมาที่นี่ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ มึงคงอยากให้กูกับมันได้คุยกันบ้างสักคำสองคำใช่ไหมวะเพื่อน?”

“พี่มึงใจเย็น...” แหลมก็หมั่นตีนพี่เท็นเพราะความรักพี่มันเข้าตา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากให้พี่ธีร์กับพี่แจ็คต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้ ซึ่งเซนส์ที่โคตรแม่นมันบอกว่าอีกไม่กี่วิข้างหน้า เพื่อนรักอาจจะต้องฉะกันเพราะพี่เท็น

“อืม”

“ได้ งั้นกูพูดก่อน”

พี่ตั้บเห็นท่าไม่ดีจึงสะกิดแหม่มให้พาคิงออกไปข้างนอกพร้อมบอกน้องให้หาทางหลอกล่อแม่ไว้เพื่อไม่ให้เข้ามาเจอสงครามบนโต๊ะ

“มันควรจบตั้งแต่แข่งการกุศลรอบนั้นแล้วไม่ใช่เหรอวะเท็น?”

“...”

“ทำไมถึงยังอยู่ กูขอถามแบบคนกำลังของขึ้นว่าเพราะไม่มีที่ไปแล้วหรืออะไรยังไง?”


น่าแปลก...


ที่ตอนนี้เท็นได้แต่นิ่งเฉย สบตากับอีกฝ่ายเหมือนไก่ที่กำลังถูกเชือดอย่างช้า ๆ ขณะที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถตอกกลับไปได้ทุกคำและยิ้มเหมือนไม่รู้สึกรู้สา เพื่อให้ทุกคนในโลกเข้าใจว่า TEN1O ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด

เพราะกลัวว่าไอ้แจ็คจะรู้สึกแย่ถ้าหากว่าเขางัดปากพูดน่ะเหรอ มันขนาดนั้นแล้วใช่ไหมความรู้สึกที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และมันทำให้เขากล้าทำในสิ่งที่ไม่ชอบงั้นหรือ?

แค่เพราะเห็นว่าคนข้าง ๆ กำลังมองมา และวางมือลงบนหน้าขาเขาราวกับอยากบอกให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

“งั้นพูดมาว่าทำไมกูถึงอยู่ตรงนี้ไม่ได้”

‘มึงเป็นใครถึงมาเที่ยวตัดสินว่ากูควรอยู่ส่วนไหนของโลก?’ นี่คือสิ่งที่เขาคิดแต่ไม่ได้พูด

“กูเป็นเพื่อนมัน กูอยู่กับมันทุกช่วงเวลาที่มึงหักหลังทุกคนไง” ธีร์ชี้หน้าเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “หรือว่าสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีใครอ้าแขนรับมึงแล้ว หรือว่าใช้เวลาสำนึกผิดได้ภายในปีเดียว โอ้โหไวจริงนะ?”

เรื่องสำนึกมันเกิดขึ้นนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่เคยเปิดใจยอมรับเพราะคำว่าทิฐิค้ำคอ แม้กระทั่งตอนที่ตัดสินใจขอลงแข่งทีมอื่นเพราะอยากแสดงให้คนเหล่านี้เห็นว่าเขาเก่งกว่าที่เคยมากแค่ไหน มันเป็นความคิดของเด็กที่ไม่รู้จักโต

หลายอย่างที่รู้ว่ามันผิด แต่ก็ทำลงไปเพียงเพราะไม่อยากกลายเป็นคนน่าสมเพช TEN1O เดินมาไกลเกินกว่าจะพูดคำว่าขอโทษกับคนระหว่างทางแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะละอายใจ อีกส่วนเป็นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับการให้อภัย ซึ่งที่ยังอยู่ตรงนี้กับไอ้แจ็คก็เพราะคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจบ้างสักนิด และให้โอกาสเขาได้กลับไปซ่อมแซมแก้ไขเรื่องราวที่ทำผิดพลาดไป

รู้ว่าให้ลืมไปเฉย ๆ คงไม่ได้ แต่จากนี้ไปเขาจะพยายามทำตัวให้ดีกว่าตอนนั้น

“ทำไมไม่เถียงล่ะ พูดอะไรหน่อยสิ นิ่งแบบนี้เดี๋ยวได้เสียศักดิ์ศรีกันพอดี มึงคือ TEN1O เลยนะ”

“พอได้แล้ว”

“ยากหน่อยว่ะ พอได้พูดแม่งก็ยาวแบบนี้แหละ แต่กูจะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ส่วนหลังจากนี้มึงจะยังไงกับมันก็แล้วแต่เลย”

“วันนี้วันเกิดแหม่มนะครับ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ?” ไอ้ธีร์ดูจะอ่อนลงหลังจากได้ยินเสียงน้องเล็กของทีม แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น

“มึงกลับไปคุยกัน โอเค กูคงแย้งอะไรไม่ได้ แต่ถ้าจะให้กูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือให้ทำอะไรที่เรียกว่าเริ่มต้นใหม่น่ะกูขอบาย”

“...”

“กูขอโทษว่ะแจ็ค ใจกูมันไม่กว้างพอขนาดนั้น แล้วกูขอพูดกับมึงประโยคสุดท้ายนะเท็น ว่าถ้ามึงทำใครสักคนเสียใจโดยเฉพาะไอ้แจ็ค กูตามไปกระทืบมึงถึงบ้านแน่”

ชายหนุ่มผมสกินเฮดเริ่มหายใจติดขัดเพราะโทสะ และพอรู้ตัวว่าทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวแล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากร้านโดยไม่พูดอะไรอีกแล้วแจ็คก็เดินตามออกไปทันที

“กูไปด้วยดีไหมวะ...?” แหลมมองรุ่นพี่ทั้งที่คิ้วตก ซึ่งพี่ตั้บก็ส่ายศีรษะปฏิเสธ ตอนนี้ทั้งไอ้โซ่ พี่เท็น ต่างก็ทำหน้าเหมือนจะคายโรคร้ายออกมาอย่างไรอย่างนั้น

“อ้าว แจ็คกับธีร์ไปไหนแล้วล่ะ?”

“ไปขี้จ้ะแม่” แหลมยิ้มแห้ง ก่อนจะส่งสายตาบอกให้แหม่มรู้ว่าสถานการณ์มันแย่ลง ซึ่งงานนี้ไม่รู้จะขอโทษน้องมันยังไงที่ทำให้วันเกิดกร่อย

“พี่เท็นจะไปไหนเหรอครับ?”

เจ้าของชื่อมองหน้าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันแต่ก็ยังเป็นห่วงเขาอีกงั้นเหรอ เด็กคนนี้นี่มันจริง ๆ เลย

“ดูดหรี่ ไปด้วยกันไหม?”

โซ่ลังเลจึงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า เท็นยิ้มบาง ๆ แล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะวางมือลงบนศีรษะเด็กน้อย

“สูบบุหรี่ไม่ดีหรอก อยู่ตรงนี้แหละ จะได้ย่างหมูให้ทุกคนกิน”

“พี่เท็นจะกลับมาใช่ไหมครับ?” เหมือนได้ถามตัวเองไปด้วย เท็นคว้าซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลางลดระดับสายตาครุ่นคิด ก่อนจะสบตากับโซ่แล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ



*



ความคิดในหัวตีกัน ฝั่งหนึ่งคิดว่าที่ไอ้ธีร์แสดงออกอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้ว เพราะไม่ว่าใครก็คงหัวเสียถ้าหากว่าไอ้เชี่ยตัวหนึ่งที่เคยสร้างเรื่องไม่ดีมากมายมันกลับเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตเพื่อนสนิทอีกครั้ง

แต่อีกฝั่งหนึ่งก็คิดว่า ‘งั้นต้องถูกลงโทษให้อยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตเลยเหรอทุกคนในโลกถึงจะพอใจ คนเลว ๆ อย่างเขายังมีโอกาสกลับตัวได้ไหม ตอนนี้บ้านหลังนั้นเป็นจุดปลอดภัยหนึ่งเดียวในชีวิต TEN1O และเขาไม่อยากเสียมันไปอีกแล้ว’

แต่ใครจะสนใจเสียงตะโกนในความคิดของคนนิสัยไม่ดีกันล่ะ ตามกฎสังคมแล้วคนเลวต้องถูกลงโทษให้เจ็บปวดอย่างสาสมและห้ามมีความสุขไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ

ชายหนุ่มเดินไปทางห้องน้ำพลางหยุดยืนพิงหลังกับผนังระหว่างทางเดินแล้วเงยหน้าขึ้นถอนหายใจ ระหว่างนั้นก็คิดไปว่าถ้าหากเขานิสัยดีเหมือนไอ้แจ็คตั้งแต่แรกเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ แต่ถ้าเป็นคนนิสัยดี บางทีทั้งคู่อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันตั้งแต่แรกก็ได้

เด็กคนนั้นจะไม่ถูกเพื่อนรังแก จะกลายเป็นที่รัก จะมีเพื่อนมากมาย ไม่ต้องหงอยเหงาตามลำพังในโรงเรียนสอนดนตรี และสุดท้ายก็คงไม่ได้รู้จักไอ้เด็กหน้าหมาที่ชื่อแจ็ค

“มาทำอะไรตรงนี้?”

ไม่รู้จะตอบอย่างไร อันที่จริงเท็นไม่ได้คาดหวังไว้ว่าว่าไอ้แจ็คจะโผล่มาหลังจากเดินตามไอ้ธีร์ไป

“ถ้ากูบอกว่าไม่รู้จะนั่งทำหน้ายังไงมันจะแปลกไหม?” ไอ้แจ็คไม่ได้ตอบ มันถูปลายจมูกและเหมือนจะถอนหายใจ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

“ไม่แปลกหรอก กูเข้าใจ” ไม่รู้ทำไม แต่พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแค่นี้หัวใจมันก็พองโตขึ้นมา เหมือนว่าคำพูดทั้งหมดของไอ้ธีร์ทำอะไรเขาไม่ได้เลย “มันขอกลับไปตั้งสติก่อนเพราะไม่อยากทำหน้าอึมครึมบนโต๊ะตอนแหม่มเป่าเค้ก กูอยากพูดว่าไม่ต้องเป็นห่วงมัน แต่พอนึกอีกทีมึงคงไม่ได้คิดอย่างนั้น”

“ก็เออสิ แทนที่จะอดทนนั่งกินให้เสร็จ หลังจากนั้นจะเรียกกูไปด่าก็ยังไม่สาย”

“ที่บอกว่ามันเปลี่ยนไปแล้วน่ะไม่นับอันนี้นะ” เท็นยิ้มขำกับคำพูดอีกคนที่มาพร้อมหน้านิ่ง ๆ แบบนั้น

ไอ้แจ็คขยับมายืนพิงผนังข้าง ๆ กัน ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำประปราย ก่อนจะแบมือออกมาข้างหน้า

“อะไร?”

“ซองบุหรี่”

“จะสูบเหรอ?” เท็นล้วงเอาซองสี่เหลี่ยมออกมาพร้อมไฟแช็ค

“เปล่า จะยึด” ไอ้แจ็คว่าพลางแย่งไปใส่กระเป๋ากางเกงตนเอง “เดี๋ยวมึงหายยาวแล้วอ้างว่าดูดหรี่เพลินอีก”

“ซองแค่นี้ดูดเดี๋ยวเดียวก็หมดแล้ว กลัวกูเศร้าเพราะคำพูดไอ้ธีร์จนหนีกลับบ้านหรือไง?”

“ก็นิดนึง แล้วใครบอกให้มึงนั่งเงียบให้มันด่าฝ่ายเดียวล่ะ?”

“ถ้ากูตอบกลับเดี๋ยวทุกคนก็จะรู้สึกแย่อีก ที่พูดไปเพราะวันนี้วันเกิดแหม่มหรอกนะ กูถึงอยากได้เป็นคนดี”

“แหม่ ประทับใจแทนน้องกูจริง ๆ ขอปรบมือสักสองที” เท็นชำเลืองมองไอ้คนข้าง ๆ ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมทำท่าปรบมือพอใจ จึงชนไหล่มันแรง ๆ จนเสียการทรงตัว

“กูไม่ขอโทษนะที่เรียกให้มึงกับมันมาเจอกัน”

“เก็บคำนั้นไว้ให้ไอ้ธีร์ก็พอแล้ว งอแงเป็นสาวน้อย” เขาส่ายศีรษะหน่าย ๆ

“มันไม่ได้มาคลุกคลีกับมึงทุกวันเหมือนกู -- หมายถึงมันไม่ได้หุงข้าวให้มึงแดกฟรีทุกวันก็เลยไม่รู้ว่ามึงก็ไม่ได้เหี้ยอะไรมาก”

“นั่นปลอบใจเหรอ ขอเตะปากทีดิ”

“กูเรียกไอ้ธีร์มากระทืบมึงอะเอาดิ เดี๋ยวนี้มันเฮี้ยนนะบอกก่อน ยิ่งเพิ่งละจากศีลจากธรรมมาอย่างงั้นว่าได้ที่ไหน”

“เออ กลับไปก่อนไป ถ้าแม่ถามหาก็บอกว่ากูขี้อยู่”

“หาเรื่องหนีทหาร คงไม่ได้ซ่อนบุหรี่ไว้อีกใช่ไหม?” ไอ้แจ็คจับ ๆ คลำ ๆ ตามตัวเขาก่อนจะหยุดที่เป้ากางเกง คนโดนจับจุดตายจึงงอตัวเป็นกุ้งแล้วถลึงตามองเอาเรื่อง

“เล่นเชี่ยอะไรของมึง?” เท็นกวาดสายตามองอย่างหวาดระแวง พอเห็นมนุษย์ป้ามองเหยียดเขากับไอ้แจ็คพร้อมเอามือปิดตาหลานตัวน้อยก็ยิ่งอับอายเข้าไปใหญ่

“ถ้ามาช้าต้องย่างแดกเองนะ”

“พูดเหมือนถ้ากลับไปตอนนี้มึงจะย่างให้กูแดก”

“อ้าว ก็ไม่ได้โง่นี่?”

ไอ้แจ็คยิ้มแล้วยีผมเขาเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไป เท็นมองแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายจนลับสายตา พร้อมความรู้สึกหน่วง ๆ ว่าแม้จะรู้สึกดีที่ไอ้เวรนั่นมาปลอบ แต่เรื่องไม่ลงรอยกับไอ้ธีร์ก็ยังต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ ถ้าหากว่ามีเหตุให้ต้องเผชิญหน้ากัน

แค่คิดก็ถอนหายใจอีกครั้ง เท็นเสยผมสีอ่อนขึ้นแล้วคิดจะเข้าไปนั่งหายใจทิ้งในห้องน้ำสักห้านาที การปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยไม่หลงเหลือความกังวลไว้มันคงดีกว่า อย่างน้อยก็ซื้อความสบายใจให้แม่ไอ้แจ็คกับแหม่มที่เป็นเจ้าของวันเกิดได้ วันนี้เขาทำดีแล้วที่ไม่ได้สวนกลับไปด้วยคำพูดร้าย ๆ แบบที่ไม่มีใครอยากได้ยิน

แต่ยังไม่ทันถึงห้องน้ำชายหนุ่มก็หยุดชะงักเมื่อพอเลี้ยวตรงหัวมุมก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนี้พร้อมเด็กอ่อนในรถเข็นสีฟ้า ดวงตาคู่สวยนั้นมองมาราวกับว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วและคง...

“ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ก็เป็นเท็นจริง ๆ สินะ?”

“...”






*






(ต่อด้านล่างจ้า)





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2019 21:34:04 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0


ตาทั้งสองข้างมันแสบ แต่เท็นรู้สึกดีที่มีการเจ็บปวดเกิดขึ้นที่อื่นบ้างนอกจากหัวใจ เด็กหนุ่มนั่งเหม่อลอยบนแท็กซี่ มองตึกสูงที่บดบังท้องฟ้ามืดครึ้มที่อยู่สุดสายตาก่อนฝนจะเทลงมาอย่างหนัก

เขาแค่นยิ้มกับเรื่องแย่ ๆ ที่เหมือนกำลังซ้ำเติมกันไม่มีผิด จนวูบหนึ่งคิดว่าอยากให้ทุกคนในโลกหยิบมีดขึ้นมาแทงเขาพร้อม ๆ กันเลย เอาให้ตายกันไปข้าง จะได้เข็ดหลาบเสียทีกับการเป็นคนหัวอ่อนที่ไว้ใจคนง่ายโดยไม่รู้จักไตร่ตรองคิด

ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ก็ทำให้สงสัยอยู่แล้วแต่เท็นโง่เองที่มองไม่ออก เพราะไว้ใจว่าเธอคงเป็นคนสุดท้ายที่จะทำร้ายกันน่ะเหรอ มันก็อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลนี้ก็ไม่ได้กลบความโง่ลงไปได้

พ่อก็ไม่เคยอธิบายว่าความจริงเป็นอย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้แม่ล้างสมองเขาอย่างนั้น หรือเพราะกลัวว่าจะต้องรับเลี้ยงเขาถึงได้เลยตามเลย เท็นไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้อีกแล้วหลังจากเจอเรื่องบ้าบอคอแตกมา

คำพูดที่เคยทำให้อบอุ่น คำพูดที่เคยทำให้มีกำลังใจว่าต่อให้อะไรจะเกิดขึ้นเขากับแม่ก็จะอยู่ได้แม้จะถูกหัวหน้าครอบครัวทรยศ แต่สุดท้ายแล้วอย่างไร เท็นรู้สึกเหมือนถูกฆ่าจนตายคามือแม่ทั้งที่ยังหายใจอยู่

เหมือนตัวเล็กนิดเดียวหลังจากได้เห็นกับตาว่าโลกนี้มันช่างกว้างใหญ่และซับซ้อนมากแค่ไหน เท็นยังเด็กเกินไปหรือเขาโตแต่คิดไม่ได้ว่าควรยอมรับทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่รอดในโลกอันโหดร้าย

ไม่มีอารมณ์พูดเอาอกเอาใจใคร ถ้าหากเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นบลูงี่เง่าใส่เขาคงฟิวส์ขาดแน่ แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังเป็นเพียงความคิด เพราะทันทีไขกลอนเปิดประตูเข้าไปด้านใน ใบหน้าคนแรกที่เขาเห็นก็คือ

“แจ็ค เรื่องมัน --”

“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูด”

คนที่ชาไปทั้งตัวไม่ใช่คนที่ถูกห้ามแต่กลับเป็นเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ เขากับไอ้แจ็คสบตากันท่ามกลางความเงียบ สีหน้าอีกฝ่ายนั้นไม่หลงเหลือความใจดีกับแฟนแล้วและตอนนี้เหลือเพียงแววตาเย็นชาที่มองมา

“เพราะแจ็คจะฟังทุกอย่างจากปากไอ้เท็นคนเดียว”

เคยคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากความแตก แต่พอเริ่มคิดเท็นก็รีบตัดบทเพราะไม่อยากจินตนาการถึงความเลวร้ายถ้าหากวันนั้นมาถึง เขากลัวถูกเพื่อนโกรธแต่ก็ห้ามความบ้าบอของตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างที่เริ่มต้นด้วยความคิดน้อยมันพาเขาถลำลึกจนยากที่จะกลับไปแก้ไข

หากไอ้แจ็ครู้เร็วกว่านี้จะเป็นอย่างไร?

ที่รู้ ๆ คือในวินาทีนี้เท็นไม่อยากแม้แต่จะอ้าปากแก้ตัว เด็กหนุ่มรำคาญสีหน้าบลูตอนที่เอาแต่มองเขาสลับกับคนรักที่รวมหัวกันหักหลังมาตลอด ทำไม คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ต้องเลือกเหรอ หรือว่าก็ยังแคร์เขาแต่อยากอธิบายให้ไอ้แจ็คเข้าใจ

แม่เขาจะดิ้นเป็นหนูติดจั่นเหมือนผู้หญิงคนนี้ไหมตอนถูกพ่อจับได้?

แบบนี้ก็น่าคิด

“มึงอยากได้ยินอะไร?”

ใส่มาเลย คำด่าทอ หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้เขาเจ็บปวดอย่างสาสม หรือจะเป็นหมัดที่ต่อยใส่หน้าคนที่กล้าเรียกตัวเองว่าเพื่อนก็ได้ แต่ไอ้แจ็คแค่นิ่งเฉย จ้องมองเขาโดยไม่หันไปสนใจผู้หญิงที่อยู่บนโซฟาอีกตัว

“ทำไมมึงทำแบบนี้วะเท็น?”

น้ำเสียงนั้นดูตัดพ้อ น้อยใจเกินกว่าจะขึ้นเสียงเพราะโทสะ

“กูทำอะไรผิดเหรอ?”

ทั้งที่ยืนอยู่เฉย ๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนแทงด้วยมีด ‘ไม่ มึงไม่ผิดเลย กูเลวเอง’ เขาคิดอย่างนั้น แต่สิ่งที่เจอมาตลอดทั้งวันกลับทำให้เขาอยากประชดชีวิตด้วยการทำให้ทุกคนในโลกเกลียดชังมากกว่าจะสารภาพผิดเพื่อขอโอกาสแก้ไข

“ถามบลูสิ” เด็กสาวเบิกตาโพลง เธอหันมามองเขาราวกับรู้ว่าคำพูดต่อไปคืออะไร “บลูเข้าหากูเอง ส่วนกูก็แค่อยากรู้ว่าเค้ารักมึงจริงไหม?”

“เท็น?”

“ไม่ดีเหรอ จะได้ตัดผู้หญิงสองใจออกไป”

เหมือนบิดมีดที่ปักอยู่กลางอก เท็นกำลังฆ่าตัวตายจากชีวิตเพื่อนสนิทที่ยังคงมองมาอย่างคาดหวังว่าเรื่องที่พูดไปจะไม่ใช่ความจริง

“อย่าล้อเล่นแบบนี้ได้ไหม กูไม่ตลกนะ ถ้ามึงกำลัง --”

“เลิกโง่สักทีเถอะ!!!”

“...”

“กูนอนกับแฟนมึงมาตั้งนานแล้ว เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ทำไมไม่เข้าใจ?!”

เสียงสะอึกสะอื้นของบลูนั้นเบานักถ้าเทียบกับเสียงของเขาที่ตะโกนก้องอยู่ในความรู้สึก มันก็ถูกต้องแล้วที่กล้าโทษผู้หญิงและพูดจาเลวร้ายออกไปเพื่อให้กลายเป็นคนเลวที่สุด

“แจ็ค... บลูขอโทษ...”

“ขอโทษเสร็จแล้วก็ออกไปซะสิ”

“...อะไรนะ?” บลูเงยหน้ามองเขา บางทีเธออาจจะคิดว่าคงหูฝาดไป

“หูแตกเหรอ บอกให้เก็บของแล้วออกไปไง”

“...” บลูคงไม่ได้เตรียมตัวว่าต้องเจอเรื่องแบบนี้ เธอยังคงมองมาพร้อมน้ำตาที่รินไหล ก่อนจะหันไปทางใครอีกคนที่นิ่งเงียบอยู่

ที่ตรงนี้เหลือเพียงเขากับไอ้แจ็คเท่านั้น เท็นอยากให้มันลุกขึ้นจากโซฟาแล้วตรงเข้ามาซัดหน้าเพื่อนเลว ๆ สักสามสี่หมัด เอาให้เลือดกบปากหรือมากกว่านั้นก็ยังได้ อย่างน้อยก็ขอให้มันระบายความโกรธออกมาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งมองอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรเลย

“กูซื้อขนมกับน้ำอัดลมมาฝาก”

“...”

“ถ้ายังไม่กินก็เอาไปแช่ตู้เย็นไว้นะ ส่วนน้ำแข็งกูเอาใส่ฟรีซไว้ให้แล้ว”

“มึงทำบ้าอะไร?”

เท็นมองคนที่ยืนหันหลังให้ก่อนอีกฝ่ายจะหันมาสบตากันในที่สุด จนถึงวินาทีนี้ไอ้แจ็คก็ยังคงรอคำอธิบายดี ๆ แต่ผู้ชายอย่างเขาก็แค่ยืนนิ่งเฉยราวกับไม่รู้สึกรู้สา




แม้ว่าหัวใจมันจะแหลกสลายไปเพราะความโง่งมแล้วก็ตาม





*





คุณได้รับข้อความจาก...
‘พ่อ’
[ ถ้ามาถึงแล้วนั่งรอพ่ออยู่ตรงเลาจ์ก่อนนะ เดี๋ยวพ่อรีบไปหา ]


“ผมขอจอดซ้ายมือได้ไหม ถ้าขับเลยไปมันต้องยูเทิร์นไกล เดี๋ยวไปรับลูกไม่ทันน่ะครับ” เด็กหนุ่มละสายตาจากโทรศัพท์มือถือพลางมองโชเฟอร์ที่หันมายิ้มแห้ง ๆ

หลังจากส่งข้อความไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนพ่อก็ไม่ได้ปล่อยให้รอนานนัก และเด็กที่หมดหนทางในชีวิตก็เลือกหน้าด้านไปหาคนที่คอยประชดประชันมาตลอด เพื่อขอที่พักพิงใหม่และเงินที่ยังจำเป็นต้องใช้ในชีวิต ก็ในเมื่อเลือกที่จะไม่เจอหน้าแม่แล้ว เขาก็ต้องเดินหน้าต่อไปแม้ว่าจะต้องฝืน

“ลูกพี่อายุเท่าไหร่?”

“สิบห้าครับ กำลังเป็นหนุ่มเลย”

“แล้วทำไมถึงยังให้พี่ไปรับอีกล่ะ?”

“ไม่ใช่ให้ไปรับหรอกครับ ผมอยากไปเอง” คนขับแท็กซี่พูดกลั้วหัวเราะพลางหันมารับเงินค่าโดยสาร เท็นมองมือคล้ำ ๆ ที่คงผ่านการทำงานหนักมา ก่อนจะทอนเงินให้โดยไม่คิดห้าบาทที่เกินไป “เขาจะไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน เห็นว่าจะลงแข่งชิงรางวัลอะไรสักอย่างผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เห็นเขาสนุกกับมันผมก็เลยอยากสนับสนุน”

“ฮะ... ลูกพี่โคตรโชคดี” เท็นแค่นหัวเราะพลางมองเงินทอนในมือ

“ไม่หรอกครับ มันคงดีกว่าถ้าผมเกิดมารวยกว่านี้”
 
“รวยแล้วใช่ว่าจะมีความสุขเสียเมื่อไหร่” รอยยิ้มบนใบหน้าคนขับแท็กซี่หายไป ชายวัยสี่สิบกว่า ๆ มองเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งแม้ว่าจะถึงจุดหมายแล้ว “ลูกพี่มีครอบครัวที่ใส่ใจ มีเพื่อนที่ดี และเขาก็คงรักษาทุกอย่างไว้ได้โดยไม่ทำมันพัง”

“...”

คนขับแท็กซี่เริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเด็กหนุ่มเริ่มระบายความในใจออกมาพร้อมน้ำตาซึ่งเขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังเผชิญหน้ากับเรื่องอะไรอยู่

“ผมแม่งโคตรเหี้ยเลย เหี้ยจนคิดว่ามันก็สมควรแล้วที่ต้องเป็นแบบนี้”

เท็นปล่อยโฮออกมาแข่งกับสายฝนที่ยังคงเทลงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่สนอีกแล้วว่าใครจะมองอย่างไร ในเมื่อหัวใจเขามันเจ็บปวดจนเหมือนจะตายเสียให้ได้ในเวลานี้ สีหน้าของไอ้แจ็คก่อนเดินออกไปนั้นเป็นอย่างไรเขายังคงจำได้เป็นอย่างดี

หลังจากนี้จะไม่มีคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทอีกแล้ว นั่นคือความจริงอีกอย่างหนึ่งที่เท็นต้องยอมรับ


 
*



“เท็นหายไปนานแล้วแต่ยังไม่กลับมาเลย แจ็คไปตามเพื่อนหน่อยไหมลูกเผื่อท้องเสียจะได้หายาให้เพื่อนกิน”
 
ไม่ใช่แค่แม่ที่เป็นห่วงเพราะทุกคนที่ยังอยู่บนโต๊ะก็เช่นกัน แจ็คพยักหน้ารับคำสั่งแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกอีกครั้งแต่เจ้าของเบอร์ก็ไม่คิดที่จะรับเหมือนหกสายก่อนหน้านี้

ขายาวเร่งฝีเท้าจนเรียกได้ว่ากึ่งเดินกึ่งวิ่ง ตอนแรกก็มั่นใจไปแล้วว่าไอ้เวรนั่นต้องกลับมาเพราะสังเกตจากสีหน้าท่าทางก็ใช่ว่าจะกลัวไอ้ธีร์จนหนีหางจุกตูดกลับ แต่พอนั่งรอไปสักพักก็ชักจะกังวลแล้ว เป็นอะไรก็ควรบอกเขาบ้างสิ

แจ็คไม่ใช่คนชอบรบกวนพื้นที่ส่วนตัวใคร แต่ถ้าการเคาะประตูห้องน้ำแต่ละบานแล้วทำให้อีกฝ่ายโผล่หน้าออกมาได้ การขอโทษขอโพยชาวบ้านเรียงคนก็คงไม่น่าขายหน้านัก

แต่ระหว่างจมอยู่กับความคิดก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งหยุดยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม แม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันนานแต่จากที่เห็นก็ไม่ต่างจากรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กสักเท่าไหร่ เจ้าของใบหน้าสดใสนั้นยิ้มบาง ๆ ให้ ซึ่งแจ็คก็ทักทายเธอด้วยการยิ้มตอบกลับไปตามประสาคนไม่เจอกันนาน

“บังเอิญนะ นั่นน้องโจหรือเปล่า?”

“ใช่ แจ็ครู้ด้วยเหรอ?” เธอถามพร้อมอุ้มเจ้าตัวน้อยอายุไม่กี่เดือนขึ้นมาให้คนรักเก่าได้เห็นหน้าชัด ๆ

“เห็นผ่านในฟีดเฟซบุ๊กน่ะ หน้าเหมือนบลูเอาเรื่องเลยนะ แจ็คขออุ้มได้ไหม?”

“ได้อยู่แล้ว”

หญิงสาวมองใบหน้าหล่อที่กำลังเล่นอิงแอบกับลูกชายตัวน้อยของเธอ มองความใจดีที่ยังคงมีให้กันจนถึงตอนนี้แม้ว่าจะเคยมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อตอนยังเยาว์วัย

ระหว่างที่ไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวก็ยังเห็นข่าวคราวผ่านบางทางเฟซบุ๊ก สำหรับแจ็คอาจจะรู้เรื่องเธอได้ง่ายเพราะเล่นบ้ากล้องลงรูปตัวเองกับรูปลูกสลับกันไม่เว้นวัน แต่สำหรับเธอนี่สิ ถ้าอยากรู้อะไรก็คงแวะเวียนเข้าไปในเว็บเพจทีมขี้ซุยบราเทอร์ การประสบความสำเร็จของอดีตคนรักเก่าก็ยังเป็นเรื่องที่เธออยากยินดีด้วย

“มากันสองคนเหรอ แล้วแฟนล่ะ?”

“แวะดูการ์ดจอกับอะไรก็ไม่รู้ บลูเลยพาลูกออกมาเดินเล่นก่อนน่ะ”

“โตไวเหมือนกันนะ ตอนงานแต่งเพื่อนยังคุยกันอยู่เลยว่าบลูเพิ่งจะคลอดลูกเอง”

“กินเก่งเหมือนเราตอนยังอ้วนอยู่ไง”

“อ้วนแล้วไม่ดีตรงไหน บ่งบอกว่าเป็นคนมีอันจะกิน”

“แจ็คก็แบบนี้ตลอด” เธอหัวเราะ

“อยากอยู่คุยต่อนะ แต่ว่าแจ็คต้องมีธุระต้องรีบไปน่ะ เอาเป็นว่าถ้ากลับถึงบ้านแล้วเดี๋ยวทักอินบ็อกหา โอเคไหม?” ชายหนุ่มรีบคืนเจ้าจ้ำม้ำให้คนเป็นแม่ แต่ก็ถูกเธอคว้าท่อนแขนเอาไว้เสียก่อน

“จะไปหาเท็นเหรอ?”

“...”

แววตาของบลูเปลี่ยนไป มันไม่ทอประกายไปด้วยความดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว

“บลูเจอมัน?”

หญิงสาวยิ้มพลางพยักหน้าเป็นคำตอบ “คุยกันสอง-สามประโยคน่ะ”

“แล้วมันอยู่ไหนพอจะรู้ไหม?” แจ็คชะเง้อหน้ามอง ถ้าบอกว่าเจอกันงั้นไอ้ลิงหัวเทาก็คงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้

“ไม่รู้สิ เท็นดูสติแตกก่อนจะวิ่งหายไป”

“เกิดอะไรขึ้น?”

หญิงสาวกอดลูกชายบนอก ลดระดับสายตาลงเล็กน้อยพลางนึกไปถึงบทสนทนาก่อนหน้านี้ที่ทำให้เธอประหลาดใจว่าคนจิตใจโหดร้ายอย่างนั้นสามารถแสดงสีหน้าเจ็บปวดได้ด้วยหรือ

“บลูแค่บอกให้เขารู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับแจ็คบ้าง”

“...”

“ทั้งเรื่องที่บ้าน แล้วก็อาการป่วยที่บลูได้รู้ตอนไปหาธีร์”

เธอจำได้ว่าโดนด่าแรงแค่ไหนหลังจากตัดสินใจไปถามไถ่เรื่องแจ็คเพราะไม่สามารถไปเผชิญหน้ากับเจ้าตัวได้ ซึ่งทุกคำพูดมันก็จริงเกินกว่าจะอ้าปากอธิบาย ธีร์จะโกรธแทนก็ไม่แปลกเลย

แจ็คเป็นคนดีเกินไป ดีจนทำให้เธอไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เพราะอีกฝ่ายไม่มีข้อเสียให้ติติงเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างของการนอกใจ หลังจากเรื่องนั้นผ่านไปราว ๆ หนึ่งปีหรืออาจจะมากกว่านั้นเล็กน้อย บลูตัดสินใจติดต่อไปอีกครั้งเพื่อขอโทษ ซึ่งแจ็คก็ให้อภัยและขอให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

“บลูทำแบบนั้นทำไม?”

“ถ้าเขาจะกลับมาหาแจ็คอีกครั้ง เขาก็ควรรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ?”

“บลูอาจจะหวังดีแต่ --”

“เปล่าแจ็ค” เธอตัดบท “บลูก็ยังเป็นผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น แต่คราวนี้ที่พูดไปมันไม่ใช่เพราะหวังดีเพื่อให้เท็นปรับตัวอะไร แต่บลูอยากให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นกับสิ่งที่ทำลงไปบ้าง”

“ให้มันจบ ๆ ไปไม่ได้เหรอ มันจะเจ็บน้อยเจ็บมากแค่ไหน ปล่อย ๆ ไปได้ไหม คนอื่นจะคิดยังไงกับไอ้เท็นแจ็คไม่รู้”

“...” หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้า

“แต่ตอนนี้แจ็คไม่อยากเสียมันไปเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว”




*



ตัดสินใจเรียกแท็กซี่มากกว่าจะตรงไปยังรถส่วนตัวที่จอดไว้ในห้าง และทันทีที่เข้าไปนั่งเบาะด้านหลัง ชายหนุ่มก็ขยำคอเสื้อพร้อมหายใจลึก ๆ แล้วบอกปลายทางกลับบ้านซึ่งถ้าคนขับจะหลอกเขาไปฆ่าทิ้งข้างทางก็คงไม่มีใครอยากแหกปากร้องโวยวายอะไร

สองมือสั่นเทา ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ถ้าหายไปจากโลกนี้เลยมันคงดีกว่าให้อยู่รับรู้ว่านอกจากเรื่องที่ทำลงไปในตอนนั้นมันมีเรื่องอื่นที่เลวร้ายยิ่งกว่า


‘เราแค่สงสัยว่าทำไมเท็นถึงกล้ากลับไปหาแจ็คทั้งที่สร้างเรื่องใหญ่โตไว้ขนาดนั้น?’


นั่นสิ ทำไมถึงกล้านะ?


‘ทั้งที่เท็นก็ไปได้ดีในเส้นทางที่ต้องการแล้ว แต่ทำไมถึงกลับมาหาแจ็คอีกล่ะ?’



ทำไมน่ะเหรอ...


‘รู้ไหมว่าตอนนั้นแจ็คต้องเจอกับอะไรบ้าง?’


เท็นมัวแต่ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้นเพราะกลัวว่าจะรู้สึกผิด


‘แจ็คน่ะ...’



*



“น้อง เอาร่มไหมพี่ให้”

“ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ”

ชายวัยกลางคนมองเด็กหนุ่มผมสกินเฮดที่นั่งเงียบ ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มตรงป้ายรถเมล์มาสักพักแล้ว เสื้อผ้านั้นเปียกปอน แต่ในมือกลับกำโทรศัพท์รุ่นเก่าไว้เพราะมันคือสิ่งมีค่าที่สุด

“ขึ้นสายไหนล่ะ?”

“สาย... สายนี้ครับ”

เด็กคนนี้เหมือนร่างไร้วิญญาณที่กำลังพาร่างเปียกปอนเดินฝ่าฝนไปขึ้นรถเมล์ ชายวัยกลางคนยังคงมองตามเด็กหนุ่มที่เลือกนั่งเบาะเดี่ยวแล้วทอดสายตาออกไปยังนอกกระจก ก่อนรถเมล์จะเคลื่อนตัวออกโดยที่เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นขึ้นถูกสายจริงหรือไม่

แจ็คยังคงรู้สึกเหมือนถูกเอาค้อนตีหัวจนมึนงงไม่หายหลังจากได้รับรู้ความจริง ในทีแรกมันเหมือนความฝัน แต่พอร่างกายเปียกปอนไปด้วยฝนจึงเข้าใจว่าที่เห็นกับตานั่นคือเรื่องจริง แน่นอนว่าเสียใจกับการถูกหักหลัง เสียใจที่คนรักกันทำอย่างนั้น แต่อย่างน้อยก็ยังอยากฟังคำอธิบายจากปากเพื่อน และแน่นอนว่าเขาพร้อมที่จะเชื่อทุกอย่าง

เพราะต่อให้จะรักแฟนมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องให้เลือก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็พร้อมหันหน้าไปหาคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทอยู่ดี

แต่คำพูดเหล่านั้นมันคืออะไร ชั่วขณะหนึ่งแจ็ครู้สึกเหมือนไอ้เท็นเป็นใครสักคนที่เขาไม่เคยรู้จัก มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร แล้วหลังจากนี้ความสัมพันธ์กับเขากับมันจะกลายเป็นแบบไหน แค่คิดก็รู้สึกเหมือนโลกพังแล้ว

กว่าจะกลับถึงบ้านก็สามชั่วโมงกว่า ๆ เด็กหนุ่มเดินเข้าซอยไปพร้อมอากาศชื้นแฉะและฝนโปรย มีเพียงถุงพลาสติกโง่ ๆ ที่ห่อโทรศัพท์เอาไว้ได้ ถ้าหากมันพังไปการติดต่อสื่อสารเรื่องงานจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ คงยากขึ้น

แต่เรื่องเลวร้ายก็ไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะทันทีที่เลื่อนประตูบ้านขึ้น สิ่งแรกที่เห็นก็คือภาพของพ่อแท้ ๆ ของเขา


...ที่ผูกคอตายอยู่กลางบ้าน



เปรี้ยง!!


แสงสว่างวาบจากท้องฟ้าเผยให้ใบหน้าได้ชัดขึ้น เด็กหนุ่มยืนตัวสั่นกับภาพลิ้นจุกปากจากร่างที่แกว่งไปมาช้า ๆ

“พ่อ!!!!!!!!!!!!!”

แจ็คพยายามเรียกสติกลับมาทั้งที่ร่างกายสั่นเทา ก่อนจะรีบเข้าไปอุ้มขาท่านให้ลอยเหนือการขึงของเชือกเอาไว้ เด็กหนุ่มกวาดสายตาไปรอบตัวเพื่อมองหาแม่หรือใครก็ได้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือพ่อของเขา แต่ที่นี่ก็มีเพียงความมืดเท่านั้น

“ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วยครับ!!! ช่วยด้วย!!!!”

เด็กหนุ่มตะโกนจนสุดเสียงหวังให้คนที่อยู่ข้างนอกได้ยิน แต่ทุกอย่างก็ถูกกลบด้วยเสียงฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ แจ็คเงยหน้าขึ้นมองร่างที่แน่นิ่ง ท่ามกลางความหวาดกลัวเขาซึ่งกำลังพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะตัดเชือกเส้นนั้นได้

“ช่วยด้วย!!! ...ใครก็ได้ช่วยพ่อผมที!!!”

ไม่มีใครได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของเด็กผู้ชายที่กำลังจะตายเพราะความเจ็บปวด แจ็คยังคงอุ้มขาพ่อเอาไว้ ทั้งลูบแรง ๆ และเขย่าเรียกหวังว่าพ่ออาจจะฟื้นขึ้นมา แต่เหมือนพระเจ้าจะบอกให้รู้ว่าทุกอย่างมันไร้ค่า และแจ็คต้องอ้าแขนรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในวันนี้

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!”

“แม่... ช่วยพ่อ... มาช่วยพ่อ...”

ถุงผักร่วงลงพื้น สองมือยกขึ้นป้องปากกับภาพสามีที่เธอไม่เคยจินตนาการไว้ คนเป็นภรรยาน้ำตาไหล แม้ว่าจะมีปากเสียงกันบ่อยเรื่องครอบครัวที่ล้มละลายจนใช้ชีวิตลำบาก แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าสามีที่ท้อแท้กับการเริ่มต้นใหม่จะจบชีวิตตนเองลงอย่างนี้

เธอรีบประคองตนเองไปหาสามีที่อยู่กินกันมานานเกินยี่สิบปี ร้องห่มร้องไห้กอดขาสามีกับลูกชายคนโต ขณะที่เด็กน้อยสองคนในชุดเสื้อกันฝนยืนจับมือกันอยู่หน้าประตู ปล่อยโฮเสียงดังจนเพื่อนบ้านหันมาเห็น

เวลาโลกของแจ็คหยุดแน่นิ่งอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เหมือนหัวใจหัวหน้าครอบครัวที่หยุดเต้นไปก่อนที่ใครจะช่วยไว้ได้



*


‘งานศพพ่อแจ็คถูกจัดเงียบ ๆ น้อยคนจะรู้ แต่เราคิดว่าเขาคงรอเท็นอยู่นะ แต่ก็นั่นแหละ เท็นเลือกที่จะหายไป แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น’

‘หลังจากเสียพ่อไปแจ็คก็ทำงานหนักเพื่อหาเงินเข้ามหา’ลัย ไหนจะส่งเสียน้องอีกสองคน ปีห้าสี่บ้านก็น้ำท่วม แจ็คกับครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เช่าเขาอยู่ไปวัน ๆ ต้องตัดใจปล่อยให้ข้าวของพังจนใช้ไม่ได้สักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของจำเป็นหรือไม่เป็น พูดตรง ๆ นะเท็น เราจินตนาการไม่ออกหรอกว่าจะรับมือไหวไหมถ้าเกิดเรื่องทั้งหมดเองกับตัว’

ช่วงเวลาที่เขาพยายามไต่ระดับให้ไปอยู่จุดสูงสุดของวงการ E-Sport ไอ้แจ็คก็คงพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด

‘ธีร์เคยพาแจ็คไปหาหมอเพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนทำงานไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้แล้วคิดอยากตาย เขาต้องกินยาอยู่ตลอด พอรู้อย่างนี้แล้วพอจะนึกภาพออกไหมว่าสิ่งที่เท็นทำอยู่ตอนนี้มันเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน’

‘พอแจ็คอาการดีขึ้น มีเพื่อน มีพี่ มีน้อง มีทีมที่ดีคอยดูแลใส่ใจเท็นก็กลับมา หรือคิดว่าขอโทษแล้วทุกอย่างจะจบ’

‘มันน่าเกลียดนะ ไม่ใช่แค่เท็นหรอก ตัวเราเองก็เหมือนกัน’


เท็นไม่เคยรู้เลยว่าระหว่างนั้นมันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ แม้แต่ตอนที่ไปบ้านร้านซักรีดครั้งแรก ตอนเห็นรอยน้ำท่วมก็ไม่ได้คิดมากอะไร ไม่ได้ถามว่าพ่อหายไปไหน หรือแม้แต่อาการป่วยซึ่งเข้าใจไปว่าที่ไอ้แจ็คเป็นคนเงียบ ๆ คงเพราะโตขึ้นเท่านั้น

‘เราถึงได้พยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะไม่อยากสะกิดแผลใจแจ็คอีก’

‘ทีนี้เข้าใจแล้วหรือยังว่าทำไมเราสองคนถึงสมควรถูกธีร์เกลียด?’


ทันทีที่มาถึงบ้านเจ้าขนสีทองก็กระโดดใส่เจ้านายอย่างรักใคร่ แต่มันก็ต้องส่งเสียงหงิง ๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมเอนหลังพิงผนังอย่างคนไร้เรี่ยวแรง

“พ่อไม่มีค่าพ่อให้พี่ซันปลอบหรอก ไปเล่นที่อื่นเถอะ”

เจ้าขนทองคลอเคลียเจ้านายมันราวกับอยากปลอบใจ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่สุดท้ายเท็นก็อ้าแขนกอดลูกชายสุดที่รักเอาไว้ เพราะมันเป็นหนึ่งเดียวที่เยียวยาเขาในช่วงเวลาโหดร้ายนี้ได้

“...”

ถึงจะชอบมองมาอย่างเย็นชา แต่พอเห็นน้ำตาเจ้าของบ้านลูกสาวคนเล็กก็กระโดดลงมาจากโซฟาแล้วเอาลำตัวคลอเคลียขาคนเป็นทาส เท็นยิ้มทั้งน้ำตา บางทีที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้อาจจะดีมากอยู่แล้ว เขาก็อยู่กับหมากับแมว ส่วนไอ้แจ็คก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพี่น้องในทีมที่ไม่มีวันทำเรื่องแย่ ๆ เหมือน TEN1O 



...ไม่น่ากลับเข้าไปในชีวิตของคนที่เคยขยี้มันจนพังคามือเลย




(ต่อด้านล่างจ้า)

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0




*




‘มึงต้องเอาแผนพวกนั้นมาบอกกู’

‘ทำไมล่ะพี่ ยังไงก็ชนะมันได้อยู่แล้ว หรือว่าพี่กลัวพลาด?’

‘กูเนี่ยนะจะกลัว มึงอย่าถามให้มากเรื่องไปหน่อยเลยเท็น หรืออยากให้กูเอาไปบอกทีมนั้นมันว่ามึงคิดจะทำอะไร?’

‘...’

‘คิดเอาเองว่าจะเลือกทางไหน แต่ที่แน่ ๆ มึงก้าวขามาทางนี้ครึ่งตัวแล้ว’



ไม่ใช่แค่เรื่องหักหลังทีม ไม่ใช่แค่เรื่องคิดน้อย ไม่ใช่แค่เรื่องทำลายความรู้สึกเพื่อน แต่เท็นทำตัวโง่เง่าจนทุกอย่างพังไม่มีเหลือ


ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ไว้บนซิงก์ล้างหน้าก่อนจะเปิดน้ำในอ่าง ความจริงจากปากบลูยังคงกึกก้องในความคิดและคาดว่ามันจะจางหายไปเมื่อเขาตายเท่านั้น ชายหนุ่มก้าวลงไปในอ่างทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้าครบ เขานอนลงไปทั้งอย่างนั้นและให้ความเย็นซึมซับความรู้สึก

น้ำยังคงเย็นเหมือนทุกครั้งแต่คราวนี้มันหนาวจับใจอย่างไม่อยากถามหาเหตุผล เท็นเพ่งมองผนังสีขาวเป็นจุดหยุดสายตา พลางคิดไปว่าคน ๆ หนึ่งสามารถทำลายใครอีกคนได้มากแค่ไหน เท็นเคยคิดอย่างนั้นว่าอยากทำลายไอ้ธีร์ให้แหลกคามือ แต่เขากลับทำได้มากกว่านั้น

ไอ้แจ็คเคยเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน ทำไมทุกวันนี้ถึงได้คุยดีกับเขา ทำไม... จากที่คิดว่าตนเองควรได้โอกาสกลับตัวกลับใจ แต่ตอนนี้เท็นไม่อยากได้แล้ว คนอย่างเขาควรอยู่อย่างเจ็บปวดจริง ๆ

เอาแต่บอกว่าโลกมันโหดร้ายทั้งที่ตนเองใช้ชีวิตอย่างเอาแต่ใจ เขามันน่าสมเพชและไม่ควรได้รับความหวังดีจากใครเลย ไม่ควรสักคนเดียว

ชายหนุ่มค่อย ๆ เอนตัวลงกระทั่งศีรษะจมลงใต้ผืนน้ำ และให้ความเงียบระหว่างนั้นช่วยทบทวนว่าควรทำอย่างไรต่อไป เลิกเล่นเกมอาจเป็นเรื่องดี คงมีคนหัวเราะลั่นอย่างมีความสุขกับมันแน่

ย้ายไปอยู่ต่างประเทศสักพักดีไหม เงินเก็บที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงก็มีมากมายจนสามารถอยู่ได้เป็นปี ๆ

ถ้าแม่ไอ้แจ็คถามถึงล่ะ?

พอเถอะ ไม่เห็นต้องกังวล ก่อนหน้านี้ไอ้แจ็คก็เคยโกหกได้แล้วว่าที่เขาหายหน้าไปเป็นสิบปีก็เพราะเรื่องเรียนต่อ คราวนี้มันก็คงไม่ยากอะไรนัก


‘กูทำอะไรผิดเหรอ?’


ขณะที่เสียงโทรศัพท์ดัง เท็นปล่อยฟองอากาศลอยขึ้นบนผืนน้ำพร้อมภาพความทรงจำในอดีต แม้จะพร่ามัวเมื่อหลับตาแต่มันกลับชัดเจนในความรู้สึก สีหน้าเจ้าของผมสกินเฮดที่มองมาในวันนั้นล้วนเต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างไรในวันนี้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว


‘เท็น...’


ไอ้แจ็คตื่นมาเจอตอนเช้าแบบไหนหลังจากถูกเขาหักหลังอย่างเลือดเย็น?


‘พูดเหมือนจะอยู่’
‘แล้วตั้งแต่กลับมามึงเคยเห็นกูไปไหนหรือยัง?’


ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ภาพเหล่านั้นเริ่มชัดขึ้นจนเหมือนอีกคนอยู่ตรงหน้าสลับไปมาทั้งอดีตและปัจจุบัน ฟองอากาศพวยพุ่งลอยขึ้นเหนือน้ำเมื่อออกซิเจนเริ่มน้อยลง คนที่ควรเจ็บปวดจนคิดอยากตายต้องไม่ใช่ไอ้แจ็ค


‘ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มึงคือเพื่อนรักกูตลอดไป’


“...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”


เสียงตะโกนใต้น้ำช่างเงียบงันนัก... เงียบจนได้ยินเสียงร้องไห้ในใจ

ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นจากแรงดึงมือปริศนา เขาหอบหายใจหนักสำลักน้ำออกมาจนเหมือนว่าจะขาดใจตายเสียให้ได้ สองมือที่ควรจับขอบอ่างในตอนนี้มันวางอยู่ที่ท่อนแขนอุ่นของใครอีกคน มันสั่นเทาไปด้วยความหนาวและความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าทุเลาได้ด้วยวิธีไหน

“มึงคิดจะทำบ้าอะไร?”

“...” เป็นอีกครั้งที่เท็นต้องประหลาดใจกับการโผล่หน้ามาของอีกคน และการเห็นแววตาซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่มาพร้อมความโกรธที่ถ่ายทอดผ่านเสียงลอดไรฟันนั้น

ไอ้แจ็คกำลังรู้สึกอย่างไร?

“ไหนบอกว่าจะกลับไปกินด้วยกันไง กูย่างไว้ให้มึงจนล้นจานแล้ว”

“...”

“แล้วรถมึงอยู่ไหน มึงกลับมายังไง?”

“กู... จอดทิ้งไว้ในห้าง”

ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเสียงสั่น และทำสีหน้าเป็นกังวลถึงขนาดนี้ ไอ้แจ็คตามหาเขาในห้างก่อนหรือว่าตัดสินใจขับรถมาหาถึงที่นี่เลย นั่นคือสิ่งที่เขาประหลาดใจ

“คนอื่นเขากินหมูย่างกันก่อนแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำ แล้วดูมึงสิ”

“มือมึงสั่น”

“เพราะกูหิว”

“แจ็ค กูไม่ได้จะฆ่าตัวตาย”

“อืม”

“มองหน้ากู”

เท็นเสยผมคนที่คุกเข่าอยู่ขอบอ่างเพื่อให้เห็นหน้าได้ชัดขึ้น จนถึงตอนนี้ไอ้แจ็คก็ยังบีบแขนเขาแน่น เหมือนอยากยืนยันกับตนเองว่าคนโง่คนนี้แค่อยากลงไปซ้อมดำน้ำมากกว่าคิดจะจบชีวิตตนเองลง

“อย่าทำแบบนี้”

“แบบไหน?”

มันบ้าเหลือเกินที่กำลังคาดหวังว่าจะได้ยินอะไร ขณะที่ไอ้แจ็คยังไม่หายตกใจหลังจากเห็นว่าเขาลงไปอยู่ใต้น้ำ

“อย่าทำให้กูกลัวว่ามึงจะหายไปอีก”

เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

“กูขอโทษ แจ็ค”

เท็นสวมกอดคนตรงหน้าเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี กอดแบบที่ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะผลักออกหรือไม่ ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับไหล่กว้างพร้อมกระชับกอดจนเสื้อไอ้หน้าโง่ทั้งสองคนเปียกปอนไปด้วยน้ำ และเขารู้สึกดีเหลือเกินที่ไอ้แจ็คขานตอบในลำคอพร้อมให้กอดคืนกลับมาเพื่อให้รู้ว่ามิตรภาพที่เริ่มใหม่อีกครั้งยังไม่สิ้นสุดลงวันนี้

“ขอโทษที่ทำร้ายมึงในวันที่มึงต้องการกูมากที่สุด”

“ไม่เป็นไร ช่างแม่งให้หมด”

แค่ไอ้แจ็คพูดว่าอยากให้ทำอะไรหรือแก้ไขจุดไหน เขาก็พร้อมทำทุกอย่าง ต่อให้ไอ้ธีร์หรือคนทั้งโลกจะต่อว่าหรือเขวี้ยงก้อนหินมาเพื่อต้องการให้เขาเจ็บปวด

เท็นอาจจะเยียวยาบาดแผลใหญ่ในตอนนั้นไม่ได้ แต่เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่สร้างแผลใหม่ให้เพื่อนอีก

“มึงยังมีกู มีร้านซักรีดที่ทำตามสั่งให้มึงแดกได้ทุกวัน”

น้ำในอ่างไม่เย็นอย่างที่ควรเป็นแล้ว เท็นยังคงกอดแจ็คแน่น จดจำคำพูดของเพื่อนทุกประโยคทุกคำเหมือนอยากให้ขึ้นใจ เขาปล่อยให้น้ำตาหยดลงบนบ่าอีกฝ่าย ซึมซับความอบอุ่นจากฝ่ามือที่ลูบลงบนแผ่นหลังเขาอย่างอ่อนโยน

“นี่คือเรื่องที่ควรจำ อย่าให้ใครมาคิดแทนกูอีก เข้าใจไหม?”

เท็นพยักหน้าอย่างว่าง่าย และเขาอดไม่ได้ที่จะยีผมยาว ๆ นั่นจนยุ่งเหยิง

“ทำไงดีวะ กูหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย”

“เออ ร้องไปก่อน ไม่มีใครเห็นหรอก”

“ถ้าล้อกูมึงเจอดีแน่”

“ก็ต้องดูก่อนว่ามึงทำเรื่องขัดใจกูมากน้อยแค่ไหน ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ เหลือแค่เอาโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิป”

“ถ่ายตอนหน้ากูหล่อ ๆ ดิ จะถ่ายตอนน้ำตาแตกเพื่อ?”

“เอาไว้ล้อไง หน้ามึงตอนนี้คงตลกฉิบหาย ขนาดไม่เห็นยังรู้”

“มึงตอนกูลุกจากอ่างก็เหมือนกัน”

“เออ ร้องไห้ต่อไป”

“แล้วมึงยังร้องอยู่ไหม?”

“ร้องอะไรมากมาย กูกำลังมีความสุขอยู่นะ”

ทั้งคู่หัวเราะในลำคอเบา ๆ ทั้งที่ยังไม่ผละตัวออกจากกัน เท็นยังคงกอดอยู่อย่างนั้น และแจ็คก็ไม่คิดที่จะปล่อย

รู้สึกเหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก ราวกับว่าต่อให้มีเรื่องหนักหนาเกิดขึ้นในอนาคตเท็นก็พร้อมเผชิญหน้าโดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น แม้ว่าจะถูกไอ้ธีร์ตะโกนด่าอีกสักร้อยครั้ง เขาก็พร้อมจะยืนฟังเงียบ ๆ จนกว่ามันจะเหนื่อยไปเอง

“เหรอ เหมือนกันเลยสิ”

“ยังไง?”

“เพราะกูเองก็มีความสุขเหมือนกัน”





TBC



ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า พายุลูกสุดท้ายกับคนเขียนที่หายหัวไปเป็นเดือน ๆ

ไม่ไงพี่ ก่อนหน้านี้หนูแพ็คบักแหลมส่งเพิ่งเสร็จ คัมแบ็คแร้วน้า มีเพื่อนบอกเพื่อน มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน ว่ากลับมาอัพต่อแล้วจ้า ซ้วด ๆ แหน่พี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

#ร้องไห้อัดอ่างอาบน้ำบ้านพี่เท็น







ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
โล่งอก ๆๆๆๆ เรื่องอื่นปล่อยมันไปก่อน สองคนเข้าใจกันให้อภัยกัน ดีที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยจุกแต่ก็รู้สึกดี(เอ๊ะ)  คิดถึงคนเขียนนะคะ หายไปน้านนานกลับมาต่อแว้ว  :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TeyJunson

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนานมากอ่ะ นึกว่าจะถูกดองซะแล้ว มาต่อบ่อยๆนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
น้ำตาฉันไหล

เขาเข้าใจกันแล้ว

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ที่สุดของที่สุดหน่วงที่สุด ขอบคุณที่พี่แจ็คยังมีชีวิตอยู่ขอบคุณพี่ธีร์ที่ไม่ไปไหนในความโชคร้ายยังมีความโชคดีในชีวิ่แจ็คที่มีเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างพี่ธีร์แต่น้องเท็นไม่มีใครเลยทุกอย่างมีเหตุและผลของมัน
 น้องเท็นต่อจากนี้ไปต้องรักษาพี่แจ็คไว้ให้ดีๆนะบทเรียนครั้งนี้ได้ให้อะไรหลายๆอย่างกับน้องเท็นมาก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
กว่าจะทำใจอ่านได้​ แง​ มันไม่ง่ายยย​ยยยย
จุกไปหมดแล้ววว​ อยากกอดๆทั้งคู่​ ขอให้ต่อจากนี้เข้าใจกัน​ มีแต่เรื่องดีๆกันน้า​ ฮือ​  :mew2:

ออฟไลน์ Panza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีจังสมกับที่รอ น่าเห็นใจทั้งสองคนเลยต่อไปมีอะไรเปิดใจคุยกันน้า เป็นกำลังใจให้นักเขียนคร้าบ ขอบคุณครับ



Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ RinNam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบตอนนี้

ชอบความจังหวะนรกของทุกสิ่งอย่าง แม่งเอ้ย

แจ็คเก่งมากๆที่ผ่านทุกๆอย่างมาได้ กอดๆๆๆๆ

เราดีใจมากๆๆ ที่ได้อ่านเรื่องของพี่ธีร์ก่อนมาอ่านเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นทุกตอนที่อ่านเรื่องคุณชายธีร์ จะต้องภาวนาให้น้องโซ่ที่แสนดีหนีไปจากอีตาคนงี่เง่านั้นแน่นอน

จริงๆพี่ธีร์ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย เป็นคนที่อยู่ข้างๆแจ็คตลอด แต่เราทีมเท็น 55555555555

ตอนอ่านเรื่องนั้นก็แอบหมั่นไส้ธีร์นิดนึง แต่คือก็อ่านในมุมธีร์อยู่เลยไม่อะไรเท่าไหร่ ยังมีคิดๆบ้างว่าไมเท็นแม่ง แย่จังว่ะ

แต่ตอนนี้คือ เหม็นหน้าธีร์ ทั้งที่ก็รู้นะ ว่าธีร์โดนกระทำเช่นกัน แต่แกไปทำเขาก่อนเว้ย แล้วตอนนี้ธีร์ยังโชคดีมีน้องโซ่อยู่ข้างๆ หนีไปน้องโซ่ หนีปายยยยยยยย

เท็นนนนนนน จริงๆเธอเป็นคนไทป์ที่เราเกลียดนะ แต่แบบ จากการอ่านมาทั้งหมดเราลำเอียง เราทีมเท็นนะ

ต่อไปนี้ก็มีความสุขสักทีเนอะ ไม่ต้องเหงาแล้วนะ

โอ้ยยยยยย อยากมีแจ็คเป็นของตัวเองงง 

 :pig4:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ยาวจุใจเลย ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วน้ำตาไหลออกมาเอง

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 16
แปลก




แหม่มโตแล้ว น้องสาวเขาไม่ใช่เด็กน้อยที่จะงอแงเพียงเพราะพี่ชายไม่ได้นั่งย่างหมูให้กินในวันเกิดของตนเอง ซึ่งคนอื่น ๆ ก็คงเช่นกัน คนเหล่านั้นยังคงสังสรรค์กันต่อไปอย่างสบายใจ หลังจากรู้ว่าไอ้เท็นสบายดี และไอ้ธีร์ก็ฟาดราดหน้ายอดผักที่ไอ้โซ่ซื้อไปฝากจนหมดชามแถมยังมีความหาเรื่องจะไปตบของหวานต่อ แต่ถึงอย่างนั้นแจ็คก็คิดไว้แล้วว่าอีกไปหาเพื่อนที่คอนโด

ไอ้ธีร์ชอบคนง้อ แค่โผล่หน้าไปเพื่อให้มันรู้ว่าเพื่อนคนนี้ยังคงเหมือนเดิม เท่านั้นมันก็กลับไปเป็นผีบ้าผีบอแล้ว

เขาให้เวลาไอ้เท็นอาบน้ำจริง ๆ แบบที่ไม่ใช่เอาหัวจุ่มลงไปในอ่างแล้วกลั้นหายใจ ระหว่างนั้นก็ขับรถออกไปซุปเปอร์เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารง่าย ๆ เพราะตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็คงหิวไม่ต่างกันเลย

สายโทรเข้าจากพี่ใหญ่ทำให้อุ่นใจ พี่ตั้บยังคงพึ่งพาได้เสมอซึ่งเขาขอบคุณพี่นอกไส้และไอ้น้องรักหัวฝีหัวหนองที่พาครอบครัวเขาไปส่งบ้าน

‘ไอ้เท็นมันโอเคแล้วนะ?’ ราวกับว่าที่เขาบอกไปก่อนหน้านี้มันยังไม่ค่อยเคลียร์พี่ตั้บจึงได้ถามย้ำ ถึงจะเป็นหนึ่งในคนที่เจอผลกระทบจากเรื่องสิบปีก่อนเหมือนกัน แต่ความเป็นพี่ตั้บก็ยังคงส่งมาถึงไอ้เท็นอยู่ดี แจ็คคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะยังคงเคืองอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าความรู้สึกในวันนั้นคงจางลงไปแล้วเหมือนกัน อาจจะน้อยกว่าบ้าง แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งเพราะวันนี้ไอ้เท็นไม่ได้ทำตัวประสาทแดกปั่นหัวทุกคนไม่หยุดเหมือนปีก่อน

แจ็คเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ซึ่งไปในทางที่ดีมันคงซื้อใจใครได้หลายคน และแน่นอนว่าเขาคือหนึ่งในนั้น

ตู้เย็นบ้านไอ้เท็นมีแต่อาหารแช่ฟรีซ พอละสายตาไปทางตู้ด้านข้างก็เห็นอาหารหมากับแมวเรียงรายเต็มไปหมด อุดมสมบูรณ์กว่าเจ้าของบ้านเหลือเกิน ไหนจะขนมเอย ของกินจริงจังเอย บอกตามตรงว่าถ้าเป็นสิบกว่าปีที่แล้วเขาคงจินตนาการภาพไอ้เท็นตอนเป็นทาสหมากับแมวไม่ออก

ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงก็ได้ของครบ แม้ว่าจะใช้เวลาไปขนาดนั้นแต่พอกลับมาถึง ไอ้เท็นก็ยังเริงร่าอยู่กับฝักบัวในห้องน้ำ ขายาวก้าวเข้าไปในครัวพร้อมถุงพะรุงพะรัง เก็บผักกับของสดเข้าไปและเลือกที่จะใช้ทำอาหารออกมาวางเรียงเป็นส่วน

“ทำไรวะ?”

เขาหันไปหาเจ้าของเสียงที่ผมเผ้ายังคงเปียกอยู่ ไอ้เท็นโผล่หนังหน้าเข้ามาในครัวพลางทำจมูกฟุตฟิต เห็นท่าทีอย่างนั้นแล้วก็นึกคันตีนบวกกับสบายใจ เพราะถ้ามันยังซึมเหมือนคนใกล้ตายเขาก็คงหลุดพ้นจากอาการเป็นห่วงไม่ได้

“อาหารหมาสูตรสำเร็จ”

“มึงจะอยู่กินด้วยกันใช่ไหม?”

“ทำเยอะขนาดนี้มึงกินคนเดียวหมดหรือไง?” แจ็คเลิกคิ้วมองอีกคนที่ยิ้มออกมาเหมือนดีใจเหมือนไอ้ขนทองลูกรัก เขาจึงกระดิกนิ้วเรียก “มานี่”

ไอ้เท็นเดินมาทันที เหมือนอยากให้เขาช่วยตัดสินหน่อยว่าบ้านหลังนี้เจ้านายหรือเจ้าขนทองนั่นที่เชื่องกว่ากัน มันชะเง้อมองกับข้าวกระทะที่ส่งความหอมอบอวลไปทั่วทั้งครัว ทำตาละห้อยจนเนื้อเพลงโหยหาความรักความเมตตาดังขึ้นในหัว เขาจึงคิดว่าควรเร่งมือเพื่อยัดของเหล่านี้เข้าไปในปากไอ้เท็นโดยไว

“กินเสร็จแล้วกลับเลยไหม?”

“จะให้กูอยู่ทำอะไรต่อล่ะ?”

“ไม่รู้ แต่ยังไม่อยากให้กลับ”

“...”

“อย่าเงียบสิวะ รู้ว่ากูไม่ได้พูดแบบนี้บ่อย ๆ ก็ช่วยตีเนียนตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติไม่ได้หรือไง?” ไอ้เท็นดูเลิ่กลั่กเอาผ้าเช็ดผมตนเองแก้เก้อเพียงเพราะเขายังคงนิ่งไม่ตอบคำถาม

“ถ้ามึงแถกูก็คงตอบได้ทันทีหรอก”

“อยากให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ไหมล่ะ?”

“ไม่ เอาแบบนี้แหละ”

“แบบไหน?”

“ถามวกไปวนมาหาพ่อมึงเหรอ เราคุยเรื่องอะไรกันอยู่หื้อ?” ไม่พูดอย่างเดียว แจ็คทำท่าจะเหนี่ยวหลังมือใส่ซึ่งอีกฝ่ายก็เลิกคิ้วมองพร้อมโยกตัวถอย

“สักค่ำ ๆ ค่อยกลับได้ไหม โทรบอกแหม่มหน่อย”

“มึงคงไม่ได้อ้อนกูอยู่หรอกใช่ไหม ดูทำหน้าทำตา ขนลุกฉิบหาย” แจ็คขมวดคิ้วหรี่ตามองคนเป็นเพื่อนที่เบะปากทำตาละห้อย ไอ้เท็นก็คงอายแต่ดูท่ามันคงไม่อยากหงอยเหงาอยู่คนเดียวในวันแบบนี้

ถึงจะบอกว่าขนลุกแต่ปากเขากำลังกลั้นยิ้มเพราะความเอ็นดู ‘กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว’ งั้นเหรอ แจ็คคงพูดได้ไม่เต็มปากหรอก แต่ถ้าเรียกว่าเริ่มต้นใหม่กับอะไรเก่า ๆ คงเข้าท่ากว่า

“หรือจะให้กูโทรบอกแหม่มเอง”

“โทรดิ ถ้าสำออยเหมือนจะตายจนน้องกูเชื่อแล้วจะยอมอยู่”

“โอเค อะแฮ่ม!!”

ดูมันกระแอมไอวอร์มเสียงซ้อมบทละครกับตัวเอง ต่อให้ความจำเสื่อมก็ดูออกว่ามันกำลังตอแหล แต่เด็กที่เชิดชูพี่เท็นไปแล้วครึ่งตัวอย่างไอ้แหม่มก็คงหลงเชื่อได้อยู่

ตอนเห็นไอ้เท็นจมอยู่ในอ่างน้ำหัวใจเขามันเหมือนจะหยุดนิ่งไป ความตายมันอยู่ใกล้มือแค่ไหนแจ็คเหมือนถูกย้ำให้นึกถึงอีกเป็นครั้งที่สอง แจ็คคิดว่าต่อให้เจอเรื่องราวร้ายแรงแค่ไหนคน ๆ หนึ่งก็ไม่ควรเจอจุดจบที่ความตาย แม้ว่าเมื่อนานมาแล้วเขาเองก็ย้ำคิดกับเรื่องนั้นอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นพอเป็นเรื่องคนรอบข้างที่เขารัก แจ็คก็ไม่อยากให้ใครต้องจากไปด้วยวิธีนั้นเลย

ไอ้เท็นอธิบายหัวชนฝาว่าที่มันทำก็แค่การทรมานตนเองในช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วค่อยโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ แต่ตอนนั้นเป็นจังหวะที่เขาเข้าไปเจอพอดี

‘มึงคิดว่าคนอย่างกูจะฆ่าตัวตายเหรอ บ้าแล้ว’

ใครจะรู้?

‘กูยังไม่อยากตายหรอก ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งไม่อยากตาย’

ตอนนั้นไอ้เท็นเงียบไป เหมือนชั่งใจว่าจะพูดต่อดีไหม เรื่องที่อยากเล่าจะทำให้มันขายหน้าหรือเปล่า?

‘ยิ่งมึงลงทุนขับรถมาจากบางใหญ่แบบนี้ยิ่งทำให้อยากอยู่’
‘ยังไม่แดกเหล้ามึงก็เมาแล้วเหรอ?’
‘จะพูดแค่วันนี้แหละ มึงจำไว้ดี ๆ เลยนะ’

บรรยากาศตอนนั้นช่างกระอักกระอ่วน อาจเป็นเพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหนสารภาพความในใจแบบนี้ แม้แต่ตอนกอดกับไอ้ธีร์ตอนช่วงเวลาลำบาก ร้องไห้หนักเหมือนคนบ้า แต่เขากลับไม่รู้สึกแปลก ๆ อย่างนี้

‘ตอนนั้นกูไม่เคยได้พูดอะไรที่ออกมาจากใจ กูมีแต่โกหก ทำตัวโง่ ๆ เหมือนคนคิดไม่เป็น แล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเพราะน้อยใจมึง หลังจากนี้กูจะไม่ทำแบบนั้นอีก แล้วกูก็อยากให้มึงบอกกูอย่างจริงใจเหมือนกัน’

พูดไม่ออก เป็นเพราะแจ็คไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเจอคำพูดเหล่านี้เขาจึงทำได้แค่ขานรับแบบขอไปทีเท่านั้น

‘อย่ามีความลับกับกูเลยนะแจ็ค’
‘งั้นเวลาเป็นอะไรก็พูดสิวะ’
‘ได้ จากนี้ไปกูจะพูดทุกอย่าง ถึงรำคาญแค่ไหนมึงก็ต้องฟัง ห้ามทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ’
‘อย่าคิดอะไรตื้น ๆ อีก เข้าใจไหม?’
‘จะพยายาม แล้วก็อย่าคิดว่ามึงคนเดียวจะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ตามนี้นะ ถึงกูจะคิดเรื่องดี ๆ ไม่ค่อยได้ แต่กูจะอยู่กับมึงทุกช่วงเวลาเลย กูจะไม่ให้ไอ้เหี้ยธีร์มาขิงใส่แล้ว’
‘เป็นเด็กอนุบาลเหรอ กูต้องหาตรายางมาปั๊มใส่หน้าผากมึงไหม?’

เขาเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายพลางเสยผมเปียก ๆ ขึ้น และแน่นอนว่าไอ้เท็นก็ไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นอยู่ฝ่ายเดียว

‘เมื่อก่อนกูเคยอยากเป็นส่วนหนึ่งของมึงยังไง วันนี้กูก็ยังอยากเป็นอยู่’

มันเป็นความในใจของผู้ชายวัยใกล้สามสิบที่เหมือนได้ย้อนกลับไปตอนอยู่มอต้น ภาพจำของแจ็คยังคงมองเห็นเพื่อนนั่งหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุขกับกีต้าร์ เขารู้สึกดีกับบรรยากาศแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสะดุดกับบางคำซึ่งมันดูลึกซึ้งแปลก ๆ

‘มึงพูดเองนะ’

ทั้งคู่สบตากันในระยะใกล้ วัดใจกับเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่าหลังจากนี้มันต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นแต่ทั้งคู่ก็ยังรอเห็นรอยยิ้มของกันและกัน

‘กูโคตรโล่งเลย’

ไอ้เท็นยิ้มพลางหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำให้เขารู้ว่าโลกนี้ยังคงหลงเหลือสักเรื่องหนึ่งในชีวิตให้คนตรงหน้ายิ้มได้

‘เหมือนกัน’

หลังจากนั้นแจ็คก็ยื่นมือลงไป และเท็นก็คว้าเอาไว้โดยไม่เสียเวลาชั่งใจพร้อมดึงตนเองให้ลุกขึ้นจากอ่าง



*



บุตรแห่งวันเพ็ญ: ลูกพี่กูหายตึงยังน้า เงียบ ๆ หาย ๆ ไม่คุยในกลุ่มเลย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เงียบ read 3 แต่ไม่มีคนตอบนี่มันยังไงกันวะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: กูลงยี่สิบว่าหนึ่งในนั้นต้องมีมึง ไอ้โซ๋
Derya MK12: โธ่ โซ๋เลยเหรอครับ อยู่ดี ๆ ก็ได้ชื่อใหม่
บุตรแห่งวันเพ็ญ: มึงอย่ามาเล่นลิ้น จู๊กมาสเตอร์ เอามายี่สิบ กุมีพร้อมเพย์
Derya MK12: อะไรครับพี่แหลม เข้ามาก็ไถเงินน้องเฉย บางทีโซ่อาจจะอ่านคนที่สามก็ได้นะครับ แน่ะ ตอนนี้ Read 4 แล้ว โซ่ลงสิบบาทเลยว่าหนึ่งในนั้นต้องมีพี่ธีร์
TOOBTUBZA: ต่อให้เป็นมันจริง ๆ มันก็ไม่ออกมายอมรับหรอก สร้างซีนเข้มอยู่
jjack: งานนี้ทำลายสถิตินะ อีกสองวันแห่ขบวนรอบเมรุได้
TOOBTUBZA: โถ ไปดีซะแล้วน้องกู
บุตรแห่งวันเพ็ญ: แพรวถือรูปพี่ธีร์ได้ไหม ไอ้โซ่คงทำใจไม่ได้
แ พ ร ว พ ร า ว: แล้วพี่แหลมจะทำอะไร
บุตรแห่งวันเพ็ญ: จัดอยู่ในแผนกโปรยทาน
jjack: อยากกินอะไรก็เข้าฝันพี่ตั้บนะ รายนั้นฝันถึงของแดกบ่อย
TOOBTUBZA: ถ้าจะมาอย่างนั้นแล้วก็บอกหวยกูด้วย
Derya MK12: ทุกคนจะต้องคิดถึงพี่ธีร์มาก ๆๆๆๆๆๆ แน่เลยครับ T_T
THREE: มาก ๆๆๆๆๆ เลยเหรอโซ่ เดี๋ยวนี้อัปเกรดตบมุกแรงเลยนร้า เดี๋ยวก่อนเดี๋ยว
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ในที่สุดก็ยอมโผล่ออกมาจากหลุม
TOOBTUBZA: ก็ต้องใช้แผนนี้แหละ ไม่งั้นไม่ยอมออกมา
Derya MK12: โซ่เป็นตัวล่อ
jjack: ฟอร์มจัดไง
THREE: แล้วทำไมกูจะฟอร์มไม่ได้?
THREE: ได้เพื่อนคืนแล้วดิ กูมันก็เป็นแค่หมาหัวเน่าสินะ
แ พ ร ว พ ร า ว: หนูเข้าใจความรู้สึกพี่ธีร์อะ จริง ๆ
Derya MK12: อ้าว พี่ธีร์มีทีมแล้วล่ะครับ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เข้ แพรวแม่งโคตรเอา
THREE: เอ้อ มันต้องงี้สิวะ สมแล้วที่เป็นน้องรัก
แ พ ร ว พ ร า ว: เพราะตอนหนูเรียนหญิงล้วนเพื่อนหนูก็เป็นแบบพี่ธีร์ มันเลยบอกให้เพื่อนในกลุ่มแบนหนูอะ
THREE: อ้าว
jjack: จะบอกว่าไอ้ธีร์นิสัยเหมือนเด็กผู้หญิงนั่นเอง
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ไอ้เห้ แตกไปดิ 5555555555555555555555555555555555555555
TOOBTUBZA: กูล่ะสมเพช
THREE: เหี้ย all
Derya MK12: โซ่ก็ด้วยเหรอครับ เดี๋ยวนี้พี่ธีร์ไม่เคยจะละเว้นเลยสินะ
Derya MK12: เดี๋ยวไปกินข้าวดีกว่า แล้วจะแวะมาขำย้อนหลังนะครับ ขอให้ทุกคนสนุกมาก ๆ
THREE: กินไปเลยไม่ต้องมาขำ!!!
jjack: เดี๋ยวกูเลิกงานแล้วไปหา
THREE: เสือก บ้านไม่มีให้กลับไง?
jjack: เออ มึงมีปัญหาไร?
THREE: แวะซื้อเต้าทึงให้กูด้วย น้ำแข็งเยอะ ๆ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: โหยไรว้า ทีตอนกุสั่งนะด่าเอา ๆ ทำไมพอพี่ธีร์สั่งแล้วจัดให้ทันทีอะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: สองมาตรฐานใช่ปะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: อะ อ่าน 4 แต่ไม่ตอบกูอีกละ พวกมึงเป็นเชี่ยไรกันเอ่ย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ตอบหน่อย อย่าไซเบ้อบูลี่



แจ็คยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์กับกลุ่มคนบ้าบอคอแตกที่ไม่มีเรื่องให้ตึงเครียดกันนาน รู้ว่าไอ้ธีร์ยังคงตึงกับเรื่องไอ้เท็น แต่มันก็ดีเหลือเกินที่เพื่อนยอมถอยหลังก้าวหนึ่งโดยไม่ยื่นคำขาดขอให้เลือกเพราะอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนอย่างนั้น

รู้แล้วว่าการพาไปเผชิญหน้ายังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แจ็คจึงตัดสินใจแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เขาก็ได้แต่หวังว่าสองคนนั้นจะยอมหันหน้าเข้าหากันสักครั้ง และพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจมาตลอดสิบสามปี




*



“ถ้าพี่ซันวอแวมากก็อดทนหน่อยแล้วกัน มันดูท่าจะชอบมึงมาก”

เวรกรรมจริง ๆ

“ขออย่างเดียวอย่าขึ้นเสียง มันเป็นหมาเซนซิทีฟ”

“มันเคยบอกมึงเหรอ ทำไมรู้?”

แจ็คมองไอ้ลิงหัวเทาที่ยิ้มร่ากับสีหน้านอยด์แดกของเขาในตอนนี้ ก็จะอะไรอีก อยู่ ๆ ก็โทรมาถามว่าคืนนี้ว่างไหม ต้องการความช่วยเหลือ แล้วพอได้ยินอย่างนั้นมีหรือคนฝั่งประเทศบางใหญ่จะไม่ว่างให้

ก็ตอบรับไปสิว่า ‘ยันเย็นวันอาทิตย์อะ มึงมีไร?’

ตอนนั้นไอ้เท็นถึงได้บอกให้เขามาหาที่บ้าน เพื่อพบว่ามันกำลังจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมบินไปหาปู่ที่ป่วยอยู่ต่างจังหวัด แล้วที่โทรตามก็เพราะอยากได้กรมปศุสัตว์แบบไม่คิดตังค์มาช่วยดูแลหมากับแมวให้

“ขนาดโดนใครไม่รู้มาขึ้นเสียงใส่ยังรู้สึกไม่ดี หมากูน่ารักแบบนี้จะทนได้ยังไง”

“โถ พ่อคนอบอุ่น ไหนเปิดกระเป๋าให้กูดูหน่อยว่าเอาอะไรไปด้วยบ้าง”

เท็นถอยหลังหนึ่งก้าวพลางมองอีกคนที่ทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิบนพื้นแล้วรูดซิปกระเป๋าเป้ ก่อนจะเอาทุกอย่างที่เขายัดเข้าไปออกมากระจาย แต่ยังไม่ทันอ้าปากด่าคนระเบียบจัดไอ้แจ็คก็พับผ้าให้แล้วม้วน ๆ ใส่กลับเข้าไปจนกระเป๋าไม่พองบวมเหมือนตอนแรกแล้ว

“ดีกรีลูกชายคนโตร้านซักรีดก็มาว่ะ ว่าแต่สนใจเป็นขี้ข้ากูไหม จ้างเดือนละห้าพัน”

“งานกูอย่างเนี๊ยบให้แค่นี้เองเหรอ มึงเป็นเศษเล็บในวงการ E-Sport นะเท็น จ้างพ่อบ้านทีต้องสามหมื่นแล้ว”

“เซเลบพอ แต่ก็จริงว่ะ กูมันโคตรของคนดังนี่นะ” หลังจากพูดจบเจ้าของผมยาวก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้ววางมือลงบนศีรษะเขาแรง ๆ จนเหมือนตบแต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าเจ็บ

ไอ้แจ็คเดินหายเข้าไปในครัวจึงชะเง้อมองตาม เพียงอึดใจเดียวมันก็เดินออกมาพร้อมนมสองกล่องกับกล้วยและไม่ลืมที่จะยื่นส่วนหนึ่งให้เขา

“รองท้องก่อน”

ฉิบหายละ ทำไมถึงอยากยิ้มแต่ก็รู้สึกว่ายิ้มไม่ได้

“ดูแลบ้านกูดี ๆ ล่ะขี้ข้า”

“สองพัน”

“...”

“ไม่พอใจ งั้นกูชาร์จเพิ่มเป็นสามพัน”

“มึงหน้าเลือดได้ใครวะแจ็ค อันนี้กูถามจากใจ”

“อยากตอบว่าแม่แต่เดี๋ยวมึงไม่เชื่ออีก”

“เฝ้าบ้านไป แล้วจะรีบกลับมา”

“มึงโอเคกับคนที่นั่นใช่ไหม?” สุดท้ายแจ็คก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ก็คืนนั้นไอ้เท็นเล่าให้ฟังเสียหมดเปลือกว่าตอนมอหกต้องเจอกับอะไร เขาจึงค่อนข้างเป็นกังวลว่ามันจะโอเคไหมถ้าต้องไปนั่งอยู่กับพ่อนาน ๆ

แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อในตอนนั้น แต่ก็ใช่ว่าลูกที่รู้สึกเหมือนถูกทิ้งจะเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหา ทั้งคู่เหมือนรักษาสถานะไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายแหลกสลายไปทั้งหมด

“ตอนนี้ไม่มีอะไรที่กูจะไม่โอเคแล้ว”

“แน่ใจ?”

“ไม่อยากพูดอะ เดี๋ยวมึงขนลุกอีก”

“แล้วเป็นห่าอะไรทำไมชอบพูดเลี่ยน ๆ พักนี้มึงซึ้งเก่งเหรอเท็น?”

“เมื่อก่อนกูก็เป็นแบบนี้ แต่มึงลืมเอง”

ไม่ได้ลืม เรียกว่าไม่ชินดีกว่า เมื่อก่อนคำพูดซึ้ง ๆ มันไม่เคยชวนให้สตันท์แบบนี้นี่หว่า ซึ่งแน่นอนว่าคงเป็นเพราะเขาโตแล้ว

“รหัสไวไฟคือ tenmoonsun นะ”

“มุมโนเนะก็มา”

“โนเนะห่า กูกับลูก ๆ คือหนึ่งเดียวกันเว้ย”

“งี้กูไม่ต้องใส่ชื่อแม่กับน้องอีกสองคนเข้าไปเลยเหรอ?”

ได้ยินอย่างนั้นเท็นทำท่าต่อยมวยแย้บ ๆ ใส่คนที่ยืนกอดอกพิงกับวงกับประตูไร้ซึ่งการสะทกสะท้าน แต่พอเห็นเขากวนตีนนานเกินจำเป็นอีกฝ่ายจึงยกเท้าขึ้นถีบส่งไปหาอูเบอร์ที่เพิ่งมาถึงหน้าบ้าน ซึ่งเขาก็หันกลับไปอีกครั้งเพื่อย้ำกับตัวเองว่าไอ้แจ็คยังอยู่ตรงนั้นจริง ๆ




(จบพาร์ท 1/2)




วันนี้มาแค่นี้ก่อนจ้า ต้องรีบนอน
พรุ่งนี้เจอกันงาน #GYTradeA8 เด้อ หนูอยู่บูธ B3-5 กับ Fictionlog จ้า



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด