หัวใจขายฝาก
บทที่ 20
จอมภพไม่ยอมรับงานอีเวนท์ต่างๆที่ติดต่อผ่านมาทางค่ายละครหรือแม้แต่ติดต่อมาทางปาณัท แม้ว่าละครที่ออกอากาศจะเป็นที่กล่าวถึงขนาดไหน แฟนคลับต่างบ่นเสียดายเมื่อไม่เห็นพระเอกออกงาน จนกระทั่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ละครจะออกอากาศ เขาก็ยังไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ
“จอม แกไม่ไปออกงานนู้นงานนี้เหมือนคนอื่นในเรื่องบ้างเหรอ”
เพื่อนสาวๆในคณะที่เป็นแฟนละครถามด้วยความแปลกใจ เพราะรู้กันดีว่าก่อนหน้านี้จอมภพงกเงินรายได้ขนาดไหน จอมภพได้แต่ฏิเสธเพื่อน
“ไม่ไป ขี้เกียจ คนในวงการบันเทิงที่เจอมาไม่ค่อยถูกใจ”
รู้ว่าไม่อาจเหมารวมได้ คนอื่นๆที่ไม่เคยเจออาจจะเป็นคนดี แต่ที่พบเจอมาจากเรื่องนี้มีแต่ทำให้ปวดหัว
“เสียดายแทนน่ะแก ถ้าไปนะ หูวว แฟนคลับแกต้องกรี๊ดแน่เลย ว่าแต่ว่า ฉันถ่ายรูปแกหน่อยนะจอม ยิ้มซิ”
เขาแยกเขี้ยวให้เพื่อนก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา ชายหนุ่มหยุดเล่นกับเพื่อนเมื่อโทรศัพท์ที่ตั้งระบบสั่นไว้เตือนว่ามีสายเข้า จอมภพรับสายเมื่อหน้าจอแสดงว่าเป็นเบอร์ของโนเอล เพื่อนใหม่ที่เคยพบกันเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
“ฮัลโหล จอม” เสียงของโนเอลทักทายมาก่อน “สบายดีไหม ผมดูละครของคุณด้วยนะ เล่นแข็งเป็นต้นไม้เลยว่ะ ยกเว้นฉากบนเตียงนะ”
จอมภพหัวเราะ โนเอลเป็นคนอารมณ์ดี เขาสบายใจเมื่อได้คุยกับเพื่อนใหม่ต่างวัยอีกครั้ง
“สบายดีครับ คุณโนเอลคิดยังไงโทรหาผมครับเนี่ย”
“คืองี้ คืนนี้ผมรับงานให้ห้องเสื้อแต่นายแบบไม่พอน่ะ จอมว่างไหม อยากลองมาชิมลางเดินแบบไหมล่ะ งานง่ายๆเล็กๆ เดี๋ยวมีค่าจ้างให้”
ชายหนุ่มนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าจะลองอะไรใหม่ๆ โนเอลกับชาวีก็เป็นคนที่ไม่น่ามีเบื้องหลังอะไรร้ายแรง และวันนี้ปาณัทบอกไว้แล้วว่าจะกลับดึกเพราะไปสังสรรค์กับลูกค้า
“ได้สิครับ ต้องไปที่ไหนครับคุณโนเอล”
เมื่อเรียนคลาสบ่ายเสร็จจอมภพก็ไปที่ออฟฟิศของโนเอลตามที่นัดไว้ เขาได้ลองสวมเสื้อผ้าหลายชุดและได้ฝึกเดินแบบชนิดเร่งด่วนจากการสอนของโนเอลและชาวีนั่นเอง ไม่ใช่เรื่องยากเลยเพราะจอมภพเป็นคนหน้านิ่งอยู่แล้ว รูปร่างเขาก็เหมาะกับเสื้อผ้าจนโนเอลชมเปาะ
“ดีๆ เวลาจริงจอมก็เดินตามที่รันคิวไว้นี่แหละ พอถึงจุดที่มาร์กไว้ก็หยุดก่อนเทิร์นกลับ ไม่ยากใช่ไหม ถ้าติดใจเดี๋ยวงานหน้ามาเดินอีกนะ”
เมื่อถึงเวลางานจริง เขาก็เดินแบบได้อย่างราบรื่น จอมภพเริ่มชอบงานนี้เพราะมันไม่ต้องเสียเวลามาก มาซ้อมรันคิวลองชุด เมื่อถึงเวลาก็มาแต่งหน้าแต่งตัวเดินแบบ จบงานรับเงินหลักหมื่น ชาวีบอกกับเขาว่าจอมภพได้เปรียบเพราะกำลังมีชื่อเสียงจากละครหากจะเบนสายมาทางสายนี้ก็ให้รีบคิด
เมื่อเลิกงานกลับมาถึงบ้านแล้ว ในห้องมีเพียงแสงไฟสลัว ปาณัทหลับสนิทอยู่บนเตียงทั้งที่ยังคงใส่แว่นและข้างกายมีหนังสือตกอยู่ จอมภพมองภาพนั้นอย่างสะท้อนใจ ตอนนี้เขารู้แล้วว่ารักปาณัทมากขนาดไหน และการที่มีปาณัทอยู่เคียงข้างในทุกวันของชีวิตคือสมบัติที่ดีที่สุดที่ภวัตผู้เป็นบิดามอบให้
ชายหนุ่มดึงแว่นออกจากใบหน้าที่หลับสนิทอย่างเบามือ เขาโน้มกายไปหอมหน้าผากของปาณัท จอมภพสัญญากับตัวเองว่าเขาจะทำทุกอย่างให้ตนเองได้อยู่กับปาณัทตลอดไป
ละครจบลงไปแล้วเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีมาก ฝ่ายบัญชีโอนเงินมาให้จอมภพตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ในสัญญา จอมภพโล่งใจที่ระหว่างนี้เขาไม่ได้พบกับชานนท์อีก เขาคิดว่าชานนท์คงจะวางมือจากเขาแล้วเมื่อถูกปฏิเสธขั้นเด็ดขาด แต่ยามสายของวันจอมภพก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆก็มีสำนักข่าวชื่อดังลงข่าวเรื่องภาพหลุดแชทดาราปริศนาที่เคยขายตัวมาก่อนเข้าวงการ
คำใบ้ในข่าวบอกว่าเป็นดาราหน้าใหม่ที่ผลงานชิ้นแรกเพิ่งจบไป กระแสโซเชียลก็มุ่งตามหากันยกใหญ่ว่าใครคือพระเอกปริศนาคนนั้น และหลายคนพุ่งเป้ามาทางเขาจนกลายเป็นข่าวดังเพียงไม่กี่ชั่วโมง
“จอม เห็นข่าวหรือยัง” ปาริชาติโทรหา ฟังเสียงแล้วรู้ว่ากำลังโมโหจัด “ก็แชทกับคุณสุมาลีนั้นแหละ ปิดชื่อปิดเสียงเพราะกลัวโดนฟ้อง แต่คนเอาไปให้นักข่าวก็คงมีอยู่คนเดียว ไอ้ชานนท์นั่นแหละ”
“เห็นแล้วครับ เป็นห่วงก็แต่พี่เปา”
จอมภพกังวลอยู่เรื่องเดียว กลัวปาณัทจะเสื่อมเสียไปด้วย ส่วนตัวเขาไม่ได้มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว
“ไม่หรอก ข่าวมันไม่ถึงเปาหรอก เดี๋ยวคงมีนักข่าวแห่กันไปขอสัมภาษณ์นะ จอมคิดให้ดีก่อนตอบก็แล้วกัน ส่วนไอ้เวรนั่น คุณสุคงไม่ปล่อยไปหรอก”
สนทนากับปาริชาติแล้วจอมภพก็รีบไปหาปาณัทที่โรงงาน สีหน้ามีแต่ความยุ่งยากกังวลจนปาณัทที่นั่งทำงานในห้องถึงกับตกใจ
“จอม เป็นอะไร”
ร่างสูงก้าวตรงเข้าไป เขาดึงปาณัทเข้าสู่อ้อมกอด กดท้ายทอยของปาณัทให้จมไปกับแผงอกของเขา
“ไอ้เลวนั่น มันเล่นผมเข้าจริงๆ แชทที่ผมเคยคุยกับพี่สุมาลีหลุดออกไป”
เมื่อรู้สาเหตุแล้วปาณัทจึงเข้าใจ เขาลูบหลังจอมภพราวกับกำลังปลอบโยนเด็กชายตัวน้อยทั้งที่จริงคนที่กอดเขาอยู่ตัวใหญ่กว่าเป็นคืบ
“ไม่เป็นไรนะจอม ทุกอย่างมีทางออก อย่างที่เราเคยคุยกันว่าทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของจอม ผมจะเป็นกำลังใจให้อยู่ตรงนี้”
“ผมรู้ว่าพี่เปาไม่ไปไหน แต่ผมขอกอดพี่เปาสักครู่เถอะนะ ปัญหานี้มันใหญ่กว่าที่คาดไว้”
ปาณัทจูงมือจอมภพมาที่เก้าอี้โซฟารับแขก เขานั่งลงโดยมีร่างสูงที่นั่งตามพร้อมกับซุกศีรษะไว้บนตักเหมือนเด็กขาดความอบอุ่น มือเรียวลูบผมสีดำสนิทเบามือแทนกำลังใจที่มอบให้ จนกระทั่งจอมภพถอนหายใจยืดยาว เขาดันกายลุกนั่งสบตากับปาณัทด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น ชีวิตต้องการแค่เท่านี้ ใครสักคนที่จะอยู่เคียงข้างจริงๆ ยามมีปัญหาที่ต้องแก้ไข
“ขอบคุณพี่เปานะครับ ผมดีขึ้นมากแล้ว”
เสียงโทรศัพท์มือถือของจอมภพดังขึ้น ชาวีนั่นเองที่โทรเข้ามา จอมภพรีบรับสายของรุ่นพี่ในวงการนายแบบ
“เฮ้ย จอม พี่เห็นข่าวเอ็งแล้วนะ” ชาวีตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นข่าวที่แพร่สะพัดไปทั้งโซเชียลในแวดวงบันเทิง “เอ็งจะเอาไง งานเดินแบบที่ตกลงกันคืนนี้จะมาไหวหรือเปล่า พี่ว่านักข่าวต้องมากันแน่นเลยว่ะ”
จอมภพนิ่งคิด เขาคิดว่าเขาพร้อมที่จะรับมือแล้ว
“ไหวครับ แต่จะไม่รบกวนงานของคุณโนเอลใช่ไหมพี่ชาวี”
“ไม่หรอก งานห้องเสื้อของคนรู้จักโนเอลน่ะ ฝึกนายแบบรุ่นใหม่ไปในตัว งั้นเอางี้ พี่จะจัดที่ให้เอ็งให้นักข่าวสัมภาษณ์ก็แล้วกัน ทำใจดีๆนะโว้ย พี่เคยโดนมาก่อน พี่เข้าใจ”
ชาวีวางสายไปแล้ว จอมภพจึงเล่าให้ปาณัทฟังถึงเรื่องที่เขาลองไปเดินแบบให้โนเอล คืนนี้โนเอลให้เขาไปทำงานอีกครั้งและหลังงานจบเขาจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ปาณัทยิ้มให้กำลังใจ
“สู้ๆ จอมทำได้อยู่แล้ว”
จอมภพคลี่ยิ้มออกจนได้ เขาดึงปาณัทเข้ามาจูบจนแทบสำลัก
“พี่เปานี่เหมือนเด็กเลย ไม่รู้ว่าผมกับพี่ใครอายุมากกว่ากันแน่ แต่ก็แบบนี้แหละที่ผมรัก ถ้าไม่ติดว่าต้องไปทำงานให้คุณโนเอล ผมจะจับพี่ปล้ำตรงนี้เลย”
ปาณัทหัวเราะ เขาดึงแก้มจอมภพอย่างมันเขี้ยว
“ปล้ำผมตรงนี้รับรองคนงานทั้งโรงงานแห่มาถ้ำมองน่ะสิ จอมไปทำงานเถอะ ผมจะรอจอมที่ห้องไม่ชิงนอนหลับไปก่อนแน่ๆ”
จอมภพหอมแก้มปาณัทอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะไปทำงานกับโนเอล และก็เป็นอย่างที่คิด นักข่าวมากันหลายสำนัก จอมภพต้องพยายามตั้งสมาธิไปกับการเดินแบบ โดยมีกำลังใจจากชาวี
“ใจเย็นไอ้น้อง มีสติไว้ อย่าไปหลงกลกับคำถามวกไปวนมาของนักข่าวนะ ไม่งั้นเอ็งได้อารมณ์เสียแล้วก็เข้าทางพวกนั้นแน่ จะพูดอะไรก็พูดทีเดียวจบ เข้าใจไหม”
จอมภพพยักหน้ารับ เขามุ่งมั่นกับงานเดินแบบจนเสร็จงานจึงได้ออกไปบริเวณที่โนเอลจัดที่ไว้ให้ ทั้งไมโครโฟนและโทรศัพท์มือถือ ต่างยื่นตรงเข้ามาแทบจะชนใบหน้า คำถามเรื่องแชทหลุดและงานในอดีตของเขาประดังกันเข้ามาจนฟัง
ไม่ทัน จอมภพสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนยิ้มบางๆให้นักข่าว
“ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ให้ความสนใจนะครับ ผมจะขอตอบแค่ครั้งเดียว ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง มันก็ไม่ได้เป็นผลอะไรต่อใครเลย มันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆของคนในแชทนั้น คนเรามีอดีตด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาอดีตนั้นมาเป็นบทเรียนสอนเราในวันนี้ หรือเอามาทำลายตัวเอง ก็แล้วแต่ใครเลือกอะไร ส่วนแฟนคลับของผมจะเสียใจหรือไม่หากเป็นเรื่องจริง ผมคิดว่าพวกเขาคงรู้ดีว่าผมเป็นคนอย่างไร และพวกเขาคงมองที่ผลงานของผมในวันนี้หรือในอนาคตมากกว่าจะสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้ ขอบคุณครับ”
ชานนท์ดูข่าวจอมภพให้สัมภาษณ์แล้วได้แต่เบะปาก ฉลาดที่จะพูดเหลือเกิน ไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เห็นหน้าหล่อเหลาตอบคำถามอย่างมั่นใจก็ยิ่งเคียดแค้น เขาไม่เคยถูกใครปฏิเสธนอกจากผู้ชายคนนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่รอให้ละครออกอากาศจนจบแล้วค่อยให้คู่ขาเก่าปล่อยแชทนั้นออกมา
เดินไปเปิดประตูห้องพักเมื่อได้ยินเสียงเคาะ ชานนท์ให้เบสเดินเข้ามาภายในห้อง ระยะหลังเบสเป็นคู่ขาประจำของเขา ชายหนุ่มมีประโยชน์ทั้งรูปร่างหน้าตาและสิ่งอื่นที่ชานนท์ถูกใจ
“ว่างเหรอวันนี้”
เบสดึงชานนท์มากอดจูบอย่างรู้ใจ เขาดึงซองพลาสติกบรรจุสารเสพติดออกจากกระเป๋าเสื้อไปโรยบนโต๊ะรับแขกก่อนจะใช้ไฟแช็กจุดให้ความร้อนจนกลายเป็นไอระเหย ชานนท์ชะโงกหน้าไปสูดกลิ่นควันของมัน ไม่นานเขาก็ลอยเคลิ้มและปล่อยให้เบสจัดการกับร่างกายของเขา จนกระทั่งสติเริ่มกลับคืนมา
“เบส เพื่อนเราอยากได้บ้าง มีเหลือเยอะไหม จะได้เอาไปขายต่อมัน”
เบสหัวเราะ เขาคว้ากระเป๋าเป้แล้วดึงออกมาหลายซองส่งให้ชานนท์
“วันหลังนัดกันปาร์ตี้สิ รับรองสนุก หลายๆคนโคตรมัน”
เบสบอกเช่นนั้นก่อนจะจัดเขาเสียอีกยกก่อนจะขอตัวกลับไป ชานนท์ยังนั่งนิ่งอยู่บนพื้นใกล้กับโต๊ะรับแขกนั่นเอง จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูอีกครั้ง เบสคงลืมของแล้วกลับมาใหม่
“เบส ลืมอะไรเหรอ เข้ามาสิ ไม่ได้ล็อกประตูไม่ใช่เหรอ”
ประตูถูกผลักเข้ามา แต่ไม่ใช่เบส ชานนท์ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อกลุ่มคนที่กรูเข้ามานั้นคือตำรวจ บางคนใส่ชุดเครื่องแบบ บางคนนอกเครื่องแบบแต่มีบัตรพนักงาน
“คุณชานนท์ใช่ไหมครับ เราได้รับข่าวมาว่าคุณมาสิ่งเสพติดในครอบครอง”
“ไม่ ไม่นะ ไม่จริง”
ชานนท์ร้องไห้โหยหวนเมื่อเขาถูกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งรวบตัวไว้ และอีกหลายคนกำลังค้นห้อง ซองใส่สารเสพติดที่เพิ่งได้มาจากเบสกลายเป็นของกลางสำคัญ รวมถึงร่องรอยของการเสพที่ทิ้งไว้บนโต๊ะ และคำพูดปิดท้ายของหัวหน้าชุดจับกุมทำให้ชานนท์คล้ายตกนรกทั้งเป็น
“คุณถูกจับในข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครอง และถ้าหากน้ำหนักของมันเกินที่กฎหมายกำหนด อาจจะมีข้อหาซื้อขายยาเสพติดด้วยนะครับ ตอนนี้ลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วไปโรงพัก ลุกขึ้นมาครับ”
มีต่ออีกนิด....