Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)  (อ่าน 153095 ครั้ง)

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
หยางหวางเห่อยิ่งกว่าใคร555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ลุงข้างบ้านนนน จัดแจงทุกอย่างเองหมด  :jul3: :jul3: :jul3:

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ตาลุงขี้อวดๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ทำไมตลกอ่าาา... 5555+  :katai4:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
พี่ซันน่ารักจังเลยค่ะ ไม่ด่าแล้วก็ได้

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
เบื่อความรวยของพี่ซันมาก 555 จันทร์มีกองทัพสนับสนุนเพียบ

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 28 Sunflower

สุริยะ หยางยืนมองแม่ของเจ้าลูกกระต่ายที่ยังนอนอยู่บนเตียง ผู้ชายคนนั้นที่ดึงดันจะพาแม่เด็กกลับทันทีที่หายดีนั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่ข้างเตียง

“เงื่อนไขของทางเรา มีสัญญามาเสนอทั้งหมดสามฉบับ แต่ใจความโดยรวมคือสิทธิ์การเลี้ยงดูจะไม่ของแม่เด็กอีกต่อไปครับ”

ทนายความประจำตระกูลเยว่ชี้แจงจุดประสงค์ด้วยท่าทางสุภาพ ตัวทนายเองก็ค่อนข้างเกร็ง เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่ต้องจัดการให้สำเร็จ แถมยังมีสุริยะ หยางยืนคุมอยู่ที่มุมห้องด้วยตัวเอง กับอาเฟยที่พร้อมจะจัดการตลอดเวลาถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น

“แต่...หนูยังอยากเจอลูก พี่ตองบอกว่าหนูมาเยี่ยมได้”

“จะไปเจอมันทำไม ผัวมึงอยู่นี่”

ตาคมหรี่มองท่าทางยื้อหยุดฉุดกระชากกันแล้วก็ส่ายหัว สังคมที่แตกต่าง การวางตัวและคำพูดคำจา ศศิมณฑลเกิดมาพร้อมในตระกูลที่ดี สังคมที่ดี การปล่อยเด็กไปอยู่กับแม่หรือครอบครัวที่มีการใช้ความรุนแรงไม่ส่งผลดีใดๆ

“นั่นลูกหนูนะ ฮือออ”

ลูกที่เคยคิดจะทำแท้ง แต่มาวันนี้ดึงดันอยากจะเป็นแม่ สุริยะ หยางหันไปสบตาชิวซีที่พยักหน้ารับอย่างรู้กัน เจตนาที่จะต้องจัดการให้เด็ดขาดยังยืนยันตามเดิม

แม่ไม่ได้รักลูกตัวเองกันทุกคน การกระทำของเธอที่ผ่านมาได้บ่งบอกแล้วว่าขาดสติยั้งคิดและไม่คิดจะแก้ไข ด้วยอายุ ด้วยความพร้อม และด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง

ผู้หญิงคนนี้ตั้งท้องได้เพราะธรรมชาติสร้างเธอมาแบบนั้น แต่ในความเป็นแม่เธอสอบไม่ผ่าน



“ทางคุณทั้งคู่เป็นคนยืนยันเองแต่แรกในเรื่องการไม่ยุ่งเกี่ยวกับเด็ก ทางเรายินดีจ่ายค่าชดเชยสำหรับการทำสัญญาครับและเป็นการตอบแทนความลำบากที่ผ่านมาจนกระทั่งเด็กคลอด”

ชิวซีเอ่ยด้วยท่าทางสุภาพ สุริยะ หยางเลือกที่จะยืนไพล่หลังมองอยู่ห่างๆ เขาไม่ได้มีวาทะศิลป์แบบชิวซี มันหล่อ มันพูดดี น้ำเสียงนุ่มนวล ให้มันกับทนายจัดการ แล้วถ้าไม่ได้ค่อยเป็นอาเฟยไปจัดการ นั่นหมายถึงวิธีการคงไม่ได้นุ่มนวลเท่าไหร่นัก

“เท่าไหร่?”

“ยี่สิบล้านครับ”

สุริยะ หยางสบถในลำคอเบาๆ เมื่อสองผัวเมียชะงักแล้วทำตาโต ท่าทางโวยวายอยากจะเป็นแม่เด็กหายวับไปทันทีเหลือแค่การมองหน้ากัน สีหน้าหิวเงินแสดงออกมาชัดเจน

“ทันทีที่คุณเซ็นสัญญานี้ สิทธิ์ในการเลี้ยงดูต่างๆ ทางคุณจะไม่เกี่ยวข้องอีก แลกกับเงินยี่สิบล้านในการทำสัญญา”

“แล้วอีกสองฉบับล่ะ”

การเจรจาอาจจะไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะข้อเสนอที่ยื่นให้แม้แต่คนโง่ก็ดูออกว่าคุ้มค่า สุริยะ หยางไม่เสียดายเงินสักบาทเพื่อแลกกับการไม่มีปัญหาในระยะยาว และเงินไม่กี่สิบล้านสำหรับเขามันก็แค่เศษเงิน แจกันที่เผาทิ้งไปยังแพงกว่าไม่รู้กี่เท่า ช่วงนี้ผลประกอบการดีด้วยเลยยิ่งไม่รู้ว่าจะต้องเดือดเนื้อร้อนใจไปทำไม

“สัญญาฉบับที่สองเป็นสัญญาว่าจ้างรายปี คุณสามารถมาเยี่ยมลูกได้ในบางครั้งบางคราวในเงื่อนไขที่ทางเราตั้งไว้ มาทำหน้าที่แม่ในบางครั้ง อาจจะเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง เทศกาลวันแม่ งานโรงเรียนที่ผู้ปกครองต้องเข้าร่วม เพื่อให้เด็กมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เราจะมีค่าเสียเวลาเป็นรายปีให้ ปีละสิบล้าน โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเด็กต้องไม่รู้สึกว่าขาดพ่อหรือแม่ แต่ช่วงเวลาที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ คุณผู้ชายจะต้องไม่มาข้องเกี่ยวหรือปรากฏตัวให้เด็กสับสน และฝ่ายแม่เองต้องไม่ติดต่อมาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก่อน”

“พวกมึงจะหาข้ออ้างไม่ยอมให้เมียกูกลับบ้านใช่ไหม? ถ้าพวกมึงตุกติกไม่ยอมปล่อยเมียกูออกมาล่ะ”

“ทางเราไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นครับ ถ้าพูดกันตามตรงแล้วช่วงเวลาที่ผ่านมาทางเยว่เองก็ไม่ได้มีความประทับใจที่ดีกับทางคุณสองคนเท่าไหร่ ถ้าเราไม่เห็นแก่เด็ก เราคงไม่นำเสนอสัญญาที่ฝ่ายเราเสียบเปรียบแบบนี้ การต่อรองครั้งนี้คุณมีสิทธิ์พูดแค่จะรับหรือไม่รับ จะเอาเงินไปหรือจะไปฟ้องร้องกันในชั้นศาล ซึ่งศาลคงไม่พิจารณาให้แม่ที่ทำแท้งลูกและหนีตามสามีเก่าออกจากบ้านไปเป็นฝ่ายได้รับสิทธิ์เลี้ยงดู ประกอบกับสภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดูที่ต้องขอบอกว่าตระกูลเยว่เป็นถึงเจ้าของธนาคารระดับประเทศ เด็กย่อมมีอนาคตที่ดีกว่า ถึงตอนนั้นทางคุณก็จะไม่ได้เงินสักบาทเดียว ต่างจากทางเราที่อาจจะเสียเวลารอวันที่จะได้เด็กกลับมาสักพัก ซึ่งเรารอได้ แต่จะเสียเวลากันทั้งสองฝ่ายทำไมล่ะครับ? พวกคุณไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ เรื่องค่าใช้จ่ายมาขึ้นศาล ค่าเดินทางต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบเองอีก ดังนั้น...ยอมเซ็นดีกว่าไหมครับ? เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้จ้างคุณในฐานะแม่ให้ทำเรื่องอื่นๆ อีก อยู่ไปวันๆ มีเงินใช้ปีละสิบล้าน ไม่รู้ทั้งชาตินี้จะหาได้แบบนี้ไหม จริงไหมครับ?”

ชิวซียังคงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพอพูดจบก็ดึงแฟ้มสัญญาจากมือทนายมากางออกพร้อมกับยื่นปากกาให้กับแม่เด็ก

“สัญญามีสามฉบับ ฉบับที่สามคือของคุณผู้ชาย เราต้องป้องกันไว้ก่อนเผื่อคุณต้องการทำร้ายเด็ก คุณห้ามยุ่งเกี่ยว ห้ามมาพบ ห้ามมีการติดต่อ ไม่อย่างนั้นสัญญาสองฉบับแรกจะเป็นโมฆะทันที ค่าจ้างที่คุณจะไม่มีตัวตนเราให้ปีละสิบล้านไม่ต่างกัน สัญญาทั้งสามฉบับจะมีผลจนกระทั่งเด็กบรรลุนิติภาวะ เท่ากับว่ายี่สิบปีต่อจากนี้รายได้ของคุณทั้งคู่รวมกันคือยี่สิบล้าน ถ้าต่อไปคุณเลิกกันก็ยังได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ เอาล่ะครับผมเชื่อว่าเงื่อนไขนี้เราพอใจกันทั้งสองฝ่าย ดังนั้นเซ็นครับ ก่อนที่พวกคุณจะไม่ได้สักบาทเดียว ส่วนคุณลูกปลายังไม่บรรลุนิติภาวะ เราจะส่งคนไปติดต่อเจรจากับทางผู้ปกครองให้เซ็นต์ยินยอมเพิ่มเติม ยังไง...เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจจะต้องทำตัวเป็นญาติกันเป็นระยะเวลายี่สิบปี ถ้าคุณประพฤติดีในฐานะลูกจ้าง เราอาจจะอนุญาตให้พาเด็กไปเยี่ยมตากับยายได้ ย้ำอีกครั้งเซ็นครับ”

ชิวซีตรวจเช็คเอกสารอีกครั้งก่อนจะส่งสัญญาให้กับทนายที่ยืนเงียบมาสักพักแล้ว

“คุณกลับบ้านได้ครับตามที่ต้องการ การจ่ายเงินให้เซ็นสำเนาบัตรประชาชนส่งมาวางบิลที่ช่อฟ้าทุกเดือนก่อนวันที่สิบห้า ยี่สิบล้านในสัญญาทั้งสามฉบับเราไม่ได้จ่ายทันทีแต่จะแบ่งเป็นสิบสองเดือน เพื่อป้องกันการผิดสัญญาไม่ทำตามข้อตกลง อยากได้เงินเดือนต่อไปก็มาวางบิลตามวันเวลาที่กำหนด ถ้าเดือนไหนมาวางบิลช้าก็จะได้เงินในรอบจ่ายถัดไป หยุดครับ ห้ามโวยวาย...เพราะคุณเพิ่งเซ็นสัญญาด้วยตัวคุณเอง ข้อแม้ในสัญญายังมีอีกหลายข้อเดี๋ยวถ้าทางเราเซ็นเรียบร้อยแล้วคนของเราจะถือไปคุยกับคุณที่น่านอีกครั้ง อีกอย่างนะครับสิ้นปีอย่าลืมมารับใบทวิ 50 หักภาษี ณ ที่จ่าย คุณเป็นลูกจ้าง คุณมีรายได้ก็ต้องเสียภาษีตามกฏหมาย ส่วนรายได้พวกคุณค่อนข้างสูงจะโดนภาษีปีละเท่าไหร่นั้น ก็แล้วแต่จะจัดการกันเองนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน”

การจัดการเรียบร้อยง่ายยิ่งกว่าซื้อแจกันโบราณซะอีก สุริยะ หยางยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินนำทุกคนออกจากห้อง เรื่องการทำสัญญาให้ได้เปรียบเป็นอะไรที่คนของเขาถนัด

ในสัญญายังมีเงื่อนไขในการหักเงินอีกหลายอย่าง และค่าปรับในการหักก็เป็นหลักล้านเพื่อให้มั่นใจว่าสองผัวเมียนั่นจะไม่กล้าทำผิดสักข้อเดียว

อย่างเช่น...หากอยู่กับแม่แล้วตัวเด็กมีแผลหรือรอยช้ำแม้แต่นิดเดียว หากแม่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าแผลนี้เกิดจากอะไรจะถือเป็นการเจตนากลั่นแกล้ง หักเงินสิบล้านบาท

ดังนั้นศศิมณฑลจะถูกปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง...สุริยะ หยางวางเงินก้อนใหญ่ซื้ออนาคตยี่สิบปีให้เจ้าลูกกระต่ายเรียบร้อยแล้ว ช่างเป็นการใช้เงินที่ให้ความรู้สึกดีกว่าซื้อแจกันหลายเท่า



“ตกลงเรื่องโอนเงินให้เด็กทำไม่ได้ใช่ไหม?”

เงินพิสวาทร้อยล้านดันโอนให้ไม่ได้เพราะจะกลายเป็นว่าศศิมณฑลมีรายได้เข้าเกณฑ์เสียภาษีตั้งแต่อายุไม่กี่วัน การลดหย่อนของเด็กอายุเท่านี้ก็มีเงื่อนไขหลายอย่างที่ทำไม่ได้สะดวกนัก เช่นการซื้อประกันชีวิตไว้หักภาษี ซื้อบ้าน ซื้อกองทุน แค่คิดก็ปวดหัว เพราะเด็กยังทำธุรกรรมเองไม่ได้

สุริยะ หยางส่ายหัวก่อนจะก้าวเดินไปยังแผนกเด็กอ่อน มองดูเจ้าตัวเล็กในตู้อบ ไม่รู้ทำไมถึงมายืนตรงนี้ได้เป็นชั่วโมง...อาจเพราะเขาต้องมาทำหน้าที่แทนกันติชา

กันติชาฟื้นแล้วแต่สุขภาพจิตใจทำให้ทุกคนเป็นกังวล เจ้าตัวยังไม่พร้อมจะพบลูกตัวเอง มีเพียงคำถามไม่กี่คำว่าลูกเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยไหม...และปล่อยตัวเองอยู่ในความเงียบงัน

มือหนากำแน่นข่มอารมณ์ที่ไม่รู้จะจัดการยังไง ตัวเขาเองก็ยังสับสน ยังไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือยังที่จะไปพบกันติชา กลัวว่าตัวเองจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กันติชาแย่ลงไปอีก มาโรงพยาบาลทุกวันแต่ทำได้แค่ยืนอยู่หน้าห้องพักอีกฝ่าย

“คุณ”

เสียงเรียกของเด็กสิบขวบผมยาวทำให้ตาคมละจากตู้อบมามอง คิ้วเข้มเลิกขึ้นประหนึ่งถามว่ามีอะไร? สุริยะ หยางยอมรับตามตรงว่าไม่ชอบหน้าไอ้ว่าที่มังกรของไทยตัวนี้เลย เหอะ...จะมาเป็นมังกร เป็นหนอนไปก่อนไหม?

“มาดูน้องหรอ”

“ใช่”

“แล้วไม่ไปดูน้าตองหรอ”

“เขายังไม่พร้อมจะเจอฉัน”

“ทำไมล่ะ? น้าตองน่าจะอยากเจอนะ ไม่งั้นคงไม่จุดธูปคุยกับคุณทุกวัน”

“ฉันตายไปจากเขาตั้งสองปี”

“ก็ฟื้นแล้วต้องรีบไปเจอสิ ไม่งั้นเมื่อไหร่น้าตองจะรู้ล่ะว่าคุณไม่ได้ตาย แม่บอกว่าน้าตองอยากจะตายตามคุณไป ต้องคอยดูน้าตองไว้ แต่คุณไม่ได้ตายนี่ แล้วถ้าตอนไหนไม่ว่างดูน้าตองเพราะต้องไปโรงเรียนแล้วน้าตองตายเพราะคิดว่าจะได้เจอคุณบนฟ้าล่ะ? ถ้าน้าตองไปอยู่บนฟ้าคนเดียวแล้วไม่เจอคุณ น้าตองก็จะเหงาอีก”

คำพูดเรียบง่ายกลับทำให้สุริยะ หยางตาอ่อนแสงลง ไม่มีอะไรจะพูดแก้ตัวได้เลย กันติชามีอาการของโรคซึมเศร้ามาเป็นปีแล้ว และมันก็แย่ลงไปทุกวัน

“หึ เก่งนี่”

“ใช่ เก่ง สอบได้ที่หนึ่ง”

ทำไมมันคันไม้คันมืออยากกระชากผมยาวๆ ของเด็กนี่จริงๆ ยิ่งมองก็ยิ่งหงุดหงิด ไอ้ท่าทางยืนไพล่หลังมองคนอื่นด้วยหางตา แถมทำสีหน้ารำคาญตลอดเวลาตั้งแต่อายุเท่านี้นี่มัน...

สุริยะ หยางขี้เกียจจะโมโหเด็กสิบขวบเลยหันกลับมายังตู้กระจก ก่อนจะเห็นเงาตัวเองลางๆ สะท้อนกลับมา ท่ายืนไพล่หลัง...ทำหน้ารำคาญตลอดเวลา...เออ ว่ามันไม่ได้ เพราะมันตัวเขาชัดๆ

“ทำต่อไปนะ”

“อะไร”

“ท่าทางแบบนี้ คนรวยเขาทำกัน”

เจิ้น เยว่เอียงคอไม่เข้าใจ ไม่ทันได้ถามคนในกรอปรูปของน้าตองก็เดินหนีไปแล้ว นิสัยไม่ดีแบบน้าตองว่าจริงๆ ด้วย พูดไทยก็ไม่ชัด ไม่รู้เข้าเมืองมาผิดกฏหมายหรือเปล่า เมื่อเช้าเพิ่งดูข่าวรัฐบาลจับพม่าที่ลักลอบเข้าเมืองด้วย



สุริยะ หยางยอมก้าวเท้าเข้ามาในห้องรับรองของกันติชาในที่สุด แต่เป็นเวลากลางคืนที่มืดสนิทมีเพียงแสงจันทร์คืนแรมข้างนอกส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา

กันติชานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงมีเสาน้ำเกลือแขวนอยู่ด้านข้าง ท่าทางซีดเซียวจนน่าเป็นห่วง ระยะเวลาสองปีได้พาความสดใสเหมือนกันยอดใบชาอ่อนหายไปจนหมด

มือหนายกขึ้นแตะผิวแก้มซีดแผ่วเบาราวกับอีกฝ่ายจะแตกสลายง่ายๆ ถ้าสัมผัสแรงเกินไป รัก...ยังรัก และจะรักแม้ในวันที่กันติชาไม่ได้แข็งแรงเท่าเดิม ไม่ได้สดใสเท่าเดิม

เราต่างผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้วทั้งคู่ มันก็คงจะจริงเหมือนที่เจิ้นพูด เราตายจากกันมาสองปีแล้วมันถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องเจอกัน ต้องจับมือกัน แล้วก็ต้องมาแก้ปัญหาด้วยกัน

“อวิ๋นจะยังอยากจับมือกับพี่ไหม...”

เขาอาจจะไม่ใช่คนเดิม การใช้ชีวิตในทะเลทรายอาจทำให้นิสัยเขาเปลี่ยนไป เหมือนกับที่กันติชาก็ผ่านอะไรหลายอย่างมา สองปีที่ผ่านมาอาจจะทำให้เราไม่อาจอยู่ด้วยกันแบบเมื่อก่อนได้อีก

ต่างฝ่ายต่างชินที่จะใช้ชีวิตในอีกรูปแบบไปแล้ว มันอาจจะยากจนสุดท้ายก็ต้องปล่อยมือกันไปอยู่ดี บางทีแค่รักมันอาจจะไม่พอ กันติชาอาจจะรักเขาคนเดิมเมื่อสองปีก่อน แต่ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้ทำให้กันติชารู้สึกได้เหมือนเดิมอีกแล้ว และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตัวเขาเองอาจจะเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้



“พี่ซัน...”

ช่วงนี้ผมเหนื่อยมาก การใช้ชีวิตมันยากขึ้นไปทุกที ผมอาจจะใกล้จะตายแล้วก็ได้ถึงได้เห็นพี่ซันบ่อยๆ อย่างตอนนี้ผมก็เห็นเขานั่งอยู่ข้างเตียงผม...

“คิดถึงพี่ซัน...”

มือของเขาแตะอยู่บนแก้มผม ฝันของผมชัดเจนกว่าทุกครั้ง...ชัดจนผมแตะมือตัวเองบนมือเขาได้ ฝ่ามืออุ่นที่ผมไม่ได้สัมผัสมาเป็นปี มันทำผมร้องไห้ออกมา

“ไม่ร้องสิ”

“ตอง...ตองดีใจ ได้เจอพี่ซัน”

“ทำไมปล่อยตัวเองไม่สบาย...ทำไมไม่ดูแลตัวเองให้พี่”

“ตองพยายามแล้ว...ตองอยากไปอยู่กับพี่ซัน พาตองไปด้วยนะ”

“พี่ก็อยู่กับตองแล้วนี่ไง...เด็กดี...นอนพักเถอะ มันดึกแล้ว”

“ไม่อยากนอน...ตองตื่นมาพี่ซันจะหายไป”

“ไม่หายหรอก พี่ไม่ไปไหนแล้ว”

“จริงๆ นะ...สัญญานะครับ”

“พี่สัญญา”

แล้วคนที่สัญญากับผมก็หายไปในตอนเช้า เหมือนกับหลายๆ คืนที่ผมฝันถึงเขามาตลอดสองปีมานี้ แต่การฝันถึงพี่ซันทำให้ผมสดชื่น พี่จินกับเจิ้นมาหาแต่เช้าก่อนจะกลับไปในช่วงสายเหลือเพียงผมคนเดียวในห้อง

พี่จินไม่ค่อยปล่อยผมอยู่คนเดียวเท่าไหร่ และผมรู้สึกว่ายังมีใครยืนเฝ้าผมอยู่หน้าห้อง เสียงฝีเท้าและการพูดคุยแผ่วเบาแต่ผมก็ยังได้ยิน...

พยาบาลเข้ามาตรวจเหมือนทุกวัน ชวนคุยเรื่องทั่วไป แล้วก็เอ่ยชมว่าแจกันของผมวันนี้ดอกไม้สวยเป็นพิเศษ ผมมองแจกันด้วยความประหลาดใจ ตอนพี่จินกับเจิ้นมาแจกันนี้ไม่ได้ถูกยกเข้ามาด้วยซ้ำ และเป็นแจกันทรงสูงเก่าๆ ไม่ได้เข้ากับการตกแต่งของโรงพยาบาลเลย

ดอกทานตะวันดอกใหญ่ดอกเดียวถูกปักอยู่ในนั้น กลีบสีเหลืองสดใสของมันทำให้ผมยิ้มได้ง่ายๆ วันนี้ผมสดชื่นเป็นพิเศษคงเพราะมีพระอาทิตย์ดวงน้อยอยู่ใกล้ขนาดนี้...เหมือนผมรู้สึกว่าตัวเองได้รับความรักจากดอกไม้

แต่ความสงสัยของผมวนเวียนอยู่กับกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าประตู ในบางทีที่ผมนอนพักสายตามันเหมือนมีคนแง้มประตูเข้ามา แต่พอถามว่าใครประตูก็ปิดลง จริงๆ มันแปลกแบบนี้มาได้สองสามวันแล้วแค่ผมไม่ได้ใส่ใจ ผมเหนื่อยเกินกว่าจะสังเกตสิ่งรอบข้าง

ตาผมมองจ้องไปที่แจกันดอกทานตะวันสลับกับประตูห้องพัก ห้องนี้ไม่มีของมีคมอยู่ใกล้ตัวผมเลยแม้แต่อาหารของโรงพยาบาลผมก็ไม่มีส้อม พี่จินกลัวผมจะฆ่าตัวตาย

ยอมรับว่าผมก็อยากจะตาย มันก้ำกึ่งมากระหว่างจะอยู่หรือว่าจะไป และตอนนี้ผมก็สงสัยมากกว่าว่าคนข้างนอกคือใคร เป็นคนที่ถูกสั่งให้เฝ้าผม? แล้วทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ ด้วย

และความสงสัยก็ทำให้ผมพาตัวลุกจากเตียง หยิบแจกันขึ้นมาโยนทิ้งลงกับพื้น



“ถ้าคุณจะกลัวหยางอวิ๋นตกใจที่คุณยังไม่ตายขนาดนั้นก็อย่าไปเปิดประตูห้องเขาบ่อยๆ สิครับ”

ชิวซีนั่งไขว่ห้างส่ายหัวกับพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจของเจ้านายตัวเอง หลังจากตกใจที่เมื่อคืนหยางอวิ๋นสะลึมสะลือตื่นมาคุยด้วยแล้วดันไปรับปากเขาส่งๆ ว่าจะไม่หายไปทั้งๆ ที่ตัวเองยังทำใจไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นคนมีชะนักติดหลังแบบนี้ไง

“รู้แล้วน่า”

ไม่ได้รู้อะไรเลยต่างหาก...ชิวซีไม่ได้คิดจะเร่งเร้าให้สุริยะ หยางรีบไปเผชิญหน้ากับหยางอวิ๋นเหมือนที่คนอื่นทำ วันเวลายากลำบากที่สุริยะ หยางเผชิญไม่ได้ดีไปกว่าหยางอวิ๋นเลย แล้วที่ยังทำตัวผีเข้าผีออกนี่ก็มีผลจากความเครียดและวิตกกังวลอยู่ด้วยไม่ต่างกัน

ทุกวันสุริยะ หยางต้องมาทำลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าห้องพักพิเศษแล้วก็ไปยืนไพล่หลังอยู่หน้าห้องตู้อบเป็นชั่วโมง สัญญาก็ยังไม่เรียบร้อยเพราะกันติชายังไม่ได้รับรู้อะไรด้วย

“ถึงเวลาแล้วครับ ต้องไปห้องเด็กอ่อน”

กลายเป็นชิวซีต้องจัดการแบ่งเวลาในการทำตัวแปลกประหลาดของสุริยะ หยางหน้าห้องพักห้องนี้กับเวลาที่อีกฝ่ายจะไปยืนมองเด็กให้เหมาะสม แล้วยังต้องโทรทางไกลไปประเทศจีนเพื่อให้แม่บ้านรายงานว่าปลาคาร์ฟทั้งหลายสบายดีไม่มีปัญหา

ที่ต้องเป็นห่วงปลาเพราะมันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจสุริยะ หยางโดยตรง ถ้าปลาสักตัวป่วยหรือตายไปคงยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่

ช่วงนี้เลยต้องระวังให้ทุกอย่างรอบตัวสุริยะ หยางสุขภาพแข็งแรงกันทั้งหมด เหล่าบอดี้การ์ดก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ใครที่ต้องเจอหน้ากันทุกวันก็ต้องมาให้เจ้านายเห็นว่ายังแข็งแรง ใครไม่สบายต้องรีบไปรักษา ถึงจะเป็นเจ้านายลูกน้องแต่ก็อยู่ทะเลทรายด้วยกันมาสองปีเต็มความผูกพันก็มากขึ้นเป็นเรื่องปกติ

“อืม”

สุริยะ หยางถอนหายใจเตรียมจะเดินไปดูเจ้าลูกกระต่ายเหมือนทุกวัน แต่แล้วเสียงข้าวของในห้องแตกทำให้ทุกคนชะงัก ทุกอย่างที่อันตรายถูกเก็บให้ไกลตัวกันติชาหมดแล้ว อันที่แตกก็คงจะเป็น...แจกัน!

“อาเฟย! ”

หยางอวิ๋นอาจจะโยนแจกันแตกแล้วเอาเศษแจกันทิ่มตัวเองฆ่าตัวตายก็ได้ คนที่อยากจะฆ่าตัวตายมันก็ทำอะไรที่ไม่คาดคิดได้ทั้งนั้น แล้วไอเดียเอาแจกันใส่ดอกทานตะวันไปวางไว้ก็เป็นไอเดียของสุริยะ หยางที่จะให้หยางอวิ๋นรู้ว่ายังมีพระอาทิตย์อยู่ข้างๆ

เป็นไงล่ะ วางแจกันวันแรก หยางอวิ๋นจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว



ผมจ้องเขม็งไปที่ประตูห้องตัวเอง ทันทีที่แจกันแตกคนที่เปิดประตูห้องผมเข้ามาคืออาเฟย! ตาผมเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าจะเจอคนที่หายไปจากชีวิตของผมถึงสองปี ผมรีบก้มหน้าคว้าก้านทานตะวันขึ้นมาชี้หน้าอีกฝ่าย

“อย่าเข้ามานะ! ”

“หยางอวิ๋นวางแจ...เอ่อ ทานตะวันลงครับ! ”

“ไม่! ”

“หยางอวิ๋น! ”

“ชิวซี อย่าขยับ! ”

ทั้งคู่ตกใจกับดอกทานตะวันในมือผม เศษแก้วแตกกระจายอยู่ระหว่างพวกเรา ตาผมหรี่ลงเมื่อทั้งคู่ดูแปลกตาไปจากเมื่อสองปีก่อน และคนสุดท้ายที่หน้าตาตื่นเข้ามายิ่งทำให้ผมหัวใจเต้นแรง

สุริยะ หยาง!

ความดีใจและตกใจปนเปกันไปหมด ผมดีใจมากแต่ผมก็โมโหมาก ผมทำอะไรไม่ถูก แสดงว่าโจรที่ผมเห็น คนในฝันที่ผมฝันถึงเมื่อคืนอาจจะเป็นพี่ซันจริงๆ ไม่ใช่ภาพหลอน

เพราะตอนนี้ผมไม่ได้ฝัน ผมคิดว่าโจรที่หน้าเหมือนพี่ซันเป็นผมเองที่ตาฝาดเพราะโจรดำแดดเหลือเกินต่างจากพี่ซันที่ขาวจัดเพราะเขาเป็นคนจีน แต่ตอนนี้ทั้งชิวซี อาเฟย และพี่ซันผิวสีแทนกันทั้งสามคน!

“อวิ๋นใจเย็นๆ”

“ไม่! ถ้าเข้ามา ผมจะ...จะอะไรก็ได้แต่ห้ามเข้ามานะครับ! ”

คำขู่ผมมันปัญญาอ่อนแต่ผมโมโหมาก แล้วทานตะวันมันไม่ได้น่ากลัวเลย แต่เพราะผมโมโหจนรู้สึกปวดหัว โมโหเหมือนตอนที่ทะเลาะกับพี่ซันแล้วตัดผมตัวเองจนกลายเป็นหลวงจีนอยู่เป็นเดือน ตั้งแต่วันนั้นผมพยายามบอกตัวเองว่าอย่าโมโหอีก การโมโหแบบขาดสติจะทำให้ผมทำเรื่องโง่ๆ

แต่ตอนนี้บอกเลยว่าผมไม่สนแล้ว ผมมีสิทธิ์ที่จะโมโหเพราะอะไรก็ไม่รู้แต่ผมแค่อยากจะโมโห! ตาผมกวาดมองพี่ซันขึ้นลงขึ้นลง ผมของเขามีผมสีขาวแซมเยอะกว่าเมื่อก่อน ตัวคล้ำแดด และมีรอยหางตาชัดขึ้นมาก

“อย่าขยับนะอวิ๋น แก้วบาด! ”

“บาดแล้วไง ตายไปเลย! พี่ซันยุ่งอะไรด้วย ผมจะฆ่าตัวตายด้วยดอกทานตะวันนี่แหละ ไม่อยากอยู่แล้ว! ”

พี่ซันตาเบิกกว้างเมือผมกระชากกลีบดอกทานตะวันจนหลุดร่วง คือผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะตายด้วยดอกทานตะวันดอกเดียวได้ยังไง ผมรู้สึกเหมือนกลางอกมีพายุลูกใหญ่ แล้วผมก็ร้องไห้ ร้องจนทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นปาดอกไม้ทิ้งแล้วกอดเข่าตัวเองไว้

ช่วงนี้ผมร้องไห้เก่งเป็นที่หนึ่ง ยิ่งพี่ซันขยับเข้ามาดึงผมไปกอดผมก็ยิ่งร้อง พี่ซันไม่ได้ตาย เขายังอยู่...ผมดีใจมาก มากถึงมากที่สุด แต่ผมก็สับสนมากเช่นกัน มันก็ดูออกว่าพี่ซันรักผมและเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะหายไป

ในความดีใจ ในความโมโห มันเต็มไปด้วยความผิดหวังต่อตัวเองมหาศาล สองปีมานี้ชีวิตผมแย่มาก มันแย่เพราะผมทำตัวเอง แล้วผมก็ไม่รู้ว่าพี่ซันรู้อะไรบ้างเรื่องผม

เขาจะผิดหวังไหมที่ผมใจแตก ทำตัวทุเรศ ที่ผมทำ ที่ผมเป็น...ทั้งติดบุหรี่ ดื่มเหล้า ทำผู้หญิงท้องคนดีที่ไหนเขาทำกัน ไม่มีอะไรดีเลย ถ้าพี่ซันรู้...เขาจะให้อภัยผมได้ยังไง ในเมื่อทุกวันนี้ผมยังให้อภัยตัวเองไม่ได้เลย

แล้วผมก็ยังไม่ได้ไปดูลูกตัวเองสักครั้งเพราะผมกลัว...ผมกลัวว่าสิ่งที่ผมกังวลทั้งหมดมันจะเกิดขึ้น ลูกผมจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา ลูกผมจะไม่มีใครรัก เพราะผมก็ไม่ได้เป็นพ่อที่ดีเลยสักนิด

แม่พิมพ์อย่างผมยังบิดเบี้ยวขนาดนี้ แล้วลูกผมจะโตมาเป็นแบบไหน

“ชู่ว...ตอง พี่อยู่นี่แล้ว ทุกอย่าง...เราคุยกันนะ พี่จะไม่ไปไหน เราค่อยๆ คุย ค่อยๆ ทำความเข้าใจกันดีไหม? พี่มีเรื่องเล่าให้ตองฟังตั้งเยอะ ตองมีเรื่องเล่าให้พี่ฟังบ้างหรือเปล่า?”

“ตองนึกว่าพี่ซัน...ตายแล้ว ตองทำตัวแย่ แต่ตองพยายามทำบุญให้พี่ซัน ตองใส่บาตรทุกอย่างเลยนะ ยาย้อมผม ยาลดความดัน ยาหอม ยาหม่อง ยาแก้ไข้ ตองกลัวพี่ซันไม่สบาย แล้วตองทำบุญไปตั้งเยอะมันก็ไม่ถึงพี่ซันเลยสิ ฮือออ แล้วตองทำไปทำไม พี่ซันยังหัวหงอกอยู่ดี ฮือออ”

ผมสติแตกจริงๆ ผมไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรด้วยซ้ำ ผมพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องเยอะแยะไปหมด อารมณ์ผมหมุนวนไปแบบไร้ทิศทาง แล้วสุดท้ายผมก็รับไม่ไหวหมดแรงทิ้งตัวลงในอ้อมแขนเขา

“ไม่เป็นไรนะ...พี่จะไปย้อมผม ตองไม่ต้องเครียดที่พี่ผมหงอกหรอก...พี่ผิดเอง เดี๋ยวสั่งให้ชิวซีจัดการให้ทันทีเลย พักผ่อนก่อนนะครับ ยาดม ยาหอมพี่มีครบเลยล่ะ เดี๋ยวตองมาดูนะว่าใช่แบบที่ตองอยากทำบุญให้พี่ไหม...”

“ฮึก...พี่ซัน พี่ซันไม่ใช่ผีจริงๆ นะ ตองไม่ได้ฝันใช่ไหม? ตองฝันถึงพี่ซันเยอะมาก...แล้วพี่ซันก็หายไปในตอนเช้า หายไปทุกครั้งเลย ไม่เคย...ไม่เคยอยู่กับตอง”

“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ถึงตองไล่พี่ก็ไม่ไป”

“ถึงตองไล่ ก็ต้องพาชิวซีมานอนหน้าบ้านง้อตองนะ...แบบที่พี่ซันเคยบอกไว้”

เสียงของผมแผ่วลงทุกที ผมเหนื่อยมาก...เหนื่อยมากจริงๆ

“พี่ซัน...อย่าทิ้งตอง”

อย่าทิ้งผมอีก...อย่ากลายเป็นแค่ความฝันที่ผมสร้างขึ้นมาเอง ผมฝันมาสองปีแล้ว ผมไม่อยากฝันอีกแล้ว





================

จริงๆ อยากให้โฟกัสความร้ายกาจของชิวซี 5555555555+ ไปจ้าลูกปลา ไปจ่ายภาษีด้วยนะ แบบที่ฉันต้องจ่าย! ไม่มีเวรกรรมอันใดตามติดชีวิตเราได้หลอนเท่าสรรพากร



ส่วนความใจกว้างของสุริยะ หยางก็แบบที่หลายคนเข้าใจเลยค่ะ เขาผ่านจุดย่ำแย่ที่สุดของชีวิตมาแล้ว กันติชาจะเป็นยังไงก็รับได้หมด ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันจะด้วยฐานะอะไรก็ได้

แต่ขอย้ำว่าพี่ซันอายุสามสิบนะคะ 555555555555 ทำไมทุกคนพร้อมใจกันเรียกลุงหมดแร้ววววววววววววววว



====================

ตรงนี้ต้องอธิบายนะคะ เพราะว่ามันค่อนข้างจะงงนิดนึงสำหรับคนที่ไม่ได้คุ้นเคยกับโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล อาจจะงงๆ ว่าอิหยังของลุงกับตองเขาวะ

คือกันติชากับสุริยะ หยางป่วยใจกันทั้งคู่ค่ะ แต่แสดงออกด้วยวิธีที่แตกต่างกัน เขามีอาการกันคนละอย่าง

อารมณ์ตัวละครก็จะสวิงแบบคนเป็นโรคซึมเศร้าหลายคนเป็น สติแตกบ้าง อารมณ์ดีบ้าง ร่าเริงบ้าง สามวันสี่วันเศร้า แต่ระดับความรุนแรงของกันติชาจะมากกว่าเพราะน้องเริ่มอยากฆ่าตัวตายแล้ว แต่ลุงจะออกแนวย้ำคิดย้ำทำกังวลพะวักพะวงเนาะ



ให้เวลาทั้งคู่หน่อยนะคะ <3 ให้เวลาเราอัพนิยายด้วย 55555555555+ ช่วงนี้ปั่นน้ำไหลไฟดับจริงๆ ค่ะ




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของสรรพากรนะคะคุณแบม 555
เดี๋ยวนี้ขยันจัง  :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
พี่ซันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทูลหัวของบ่าวววววววว บ่าวรักเหลือเกินนนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
555 ตัวร้ายหน้านิ่งคือชิวซี นี่เอง มีการไล่ให้อย่าลืมจ่ายภาษีด้วย กำลังจะซึ้ง เจออวิ๋นบอกทำบุญไม่ถึงพี่ซัน เพราะพี่ซันยังผมหงอกอยู่เลย นี่ถึงกับขำพรวด

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไม่รู้จะเม้นต์อะไรดีนอกจากนั่งขำเอาเป็นเอาตายกับความบ้าบอของทั้งคู่

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เห็นนะ เราเห็นความเชือดนิ่มๆ ของชิวซี
แบบว่า...เราเปย์นะ ฉะนั้นเธอต้องเสียบ้าง หักจ่ายยิบย่อยเหลือเกิน~~~ 555
แต่เป็นผลดีให้มูนนี่โตมาอย่างปลอดภัยทั้งกายใจ
ก็ลุงข้างบ้านเขารวยอ่ะเนาะ จะเปย์เท่าไหร่ก็ด้ายยยย คิกคิก

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ชอบชิวซี่ แสบได้ใจมาก ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงเอ็ม นี่ถ้าไม่ไปใจเต้นกันอาเฟยตอนก่อน ยังแอบคิดว่าคู่นี้น่าจะสมน้ำสมเนื้อ 555

ยังแอบขำปนสงสารลุงซัน จักรพรรดิพระอาทิตย์กลายเป็นพม่าหนีเข้าเมือง!!

แต่ที่รับบทหนักคือน้องตอง สงสารมากกกกก อยากให้เจอเจ้าจันทร์สักที กระต่ายน้อยน่าจะช่วยเยียวยาได้บ้าง...

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตลกอ่ะ ขำไม่ไหวแล้ว รอหนูจั๋นอยู่น๊าาา 'ทำต่อไป คนรวยเค้าทำกัน'

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โธ่...เจิ้น ลุงซันไม่ใช่พม่าลูก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ทำไมต้องขำเบอร์นี้ แนะนำกลูต้านะคะ จะได้กลับมาขาวไวๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจิ้นนี่คือ..มินิพี่ซัน  :m20:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
เกลียดการสอบได้ที่1ของเจิ้น และเกลียดท่าทางคนรวยของทั้งคู่55555555555
อยู่ดีๆพี่ซันก็กลายเป็นพม่าเฉยเลย ตลกมาก :m20:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
หยางจะให้มังกรกลายเป็นหนอนไม่ได้ ไม่เอา ๆ ไม่เกรี้ยวกราดใส่เด็กนะ  :laugh: :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ซัน น่ารัก ดูแลลูกกระต่ายน้อยอย่างดี  :mew1:
ปกป้องจันทร์จากแม่ใจร้ายกับผัวแม่หน้าเงิน
ที่อยู่เฉยๆ ก็ได้เงินสบายๆไม่ให้มายุ่งวุ่นวาย  :m16:
เกลียดแม่ที่ทำแท้งลูกแล้วมาทำเป็นห่วงใยลูก
พอได้ข้อเสนอเงินเป็นสิบล้านก็ตาโตลืมที่ทำท่ารักลูกซะสนิทเลย  :fire: :angry2: :serius2:

สุริยะ  กันติชา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อาการตองน่าเป็นห่วงมากเลยนะ
หวังว่าจะค่อยๆดีขึ้นทั้งตองทั้งหยางหวางเลย TT

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
หูยยย สนุกมาก เข้าใจทั้งสองคนเลย
แค่ได้กลับมาใช้เวลาร่วมกัน ได้รักกัน มีกันเหมือนเดิม ปัญหาอุปสรรคก็จะผ่านพ้นไป ...

จะว่าไปตองก็มีสติพอที่จะวิเคราะห์เรื่องพี่ซันหายไปได้ จากที่บอกว่า ดูออกว่าพี่ซันรักและคงไม่ได้ตั้งใจจะหายไป ... ยังมีมากที่รู้สึก guilty กับความประพฤติของตัวเองที่ทำตัวเองแย่ กลัวพี่ซันผิดหวัง กลัวพี่ซันไม่ให้อภัย ... ซึ่งจริงๆ เฮียแกรู้หมด รับได้ทุกเรื่อง เพราะรักมาก แค่นั้นเอง

ชอบที่พี่ซันบอกว่า พี่อยู่นี่แล้ว ทุกอย่าง...เราคุยกันนะ ใช้คำว่าเรา และจะไม่ไปไหน เราค่อยๆ คุย ค่อยๆ ทำความเข้าใจกัน มีถามด้วยว่าดีไหม? เปิดเลยว่าตัวเองก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเยอะ น่ารักที่ถามอีกว่าตองมีเรื่องเล่าให้ฟังบ้างหรือเปล่า ... คือเปิดมากๆ สุดๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ทั้งเครียดทั้งกังวล กลัวว่าสองปีที่ผ่านมาจะทำให้อยู่แบบเมื่อก่อนไม่ได้  กลัวต้องปล่อยมือ และตนเองจะทนไม่ได้ ...

กันติชาจะเป็นอย่างไรสุริยะหยาง โคตรเข้าใจ รับได้ทั้งนั้น ... แค่อยู่ด้วยกัน ยังรักกัน

เขียนสนุก ชอบตัวละคร แม้แต่เจิ้น รอบทของศศิมณฑลค่ะ เล็กๆ น้อยๆ เช่น เบะปากเมื่อตองสัมผัส หรือสบตากับเจิ้นตาแป๋วจนเจิ้นตกหลุมรัก ไรงี้ 555

ขอบคุณนะคะ จงปั่นต่อไป ให้ว่องค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2018 01:17:18 โดย arjinn »

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมน้า แงง

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ให้อารมณ์สวิงมาก ชอบชอบ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อวิ้นจะเส้าหรือจะตลกอะ พี่ซันก็รับมุก55555 พี่จะไปย้อมผม555555555

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
อธิบายเพิ่มเติมเรื่องสัญญาสามฉบับของตอนที่แล้ว



เอาแบบสรุปใจความสำคัญเลยนะคะ เพราะหลังจากได้รับคำแนะนำจากคนอ่าน แบมก็เขียนตกไปคำสองคำทำให้งงกันไปเลย ขอโทษด้วยค่า 5555+

สัญญาฉบับแรกจ่าย 20 ล้าน ค่าตั้งท้อง

ฉบับสองกับสามจ่ายรวมกัน 20 ล้านต่อปี เป็นเวลา 20 ปี รวม 400 ล้าน

แต่ปีละ 20 ล้านไม่ได้จ่ายทีเดียว แบ่งจ่ายเป็น 12 รอบบิล คือ 12 เดือนค่ะ

ทั้งคู่มีรายได้อยู่ในฐานที่ต้องเสียภาษี 35% เท่ากับว่าต่อปีจริงๆ ได้ 13 ล้าน เพราะภาษี 7 ล้าน ถ้าไม่ลดหย่อนใดๆ

ส่วนมูนนี่ไม่ได้เงินร้อยล้านเพราะถึงจะเป็นทารกก็เป็นบุคคล เสียภาษีที่ 35% เหมือนกัน เท่ากับมีรายได้แค่ 65 ล้านบาท ยังไงก็ไม่คุ้มเพราะหักภาษีไม่ได้ เลยไม่ให้แทน 555+

ปล. คนยังไม่เสียภาษีอาจจะไม่ขำ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ แต่ชาวเราที่เสียภาษีสิ้นปีนี้นึกถึงหน้าชิวซีไว้นะคะ -...-




Chapter 29 Uncle

“เจ้าจันทร์ตอนเกิดตัวเท่านี้”

พี่ซันจับมือผมสองข้างกางออกเล็กน้อยจนเกิดช่องว่างตรงกลาง ศศิมณฑล...ตัวเล็กแบบที่พี่ซันบอกจริงๆ น่าจะประมาณไม้บรรทัด

“ตัวเท่าปลาคาร์ฟพี่เลย เผลอๆ ปลาคาร์ฟพี่ยังอ้วนกว่า เป็นลูกปลาคาร์ฟ พี่เปรียบเปรยเฉยๆ นะ จริงๆ ก็เป็นลูกกระต่ายด้วย”

คำเปรียบเทียบของเขาทำอมยิ้ม พี่ซันทำหน้าจริงจังด้วยอ่ะ...เขาคงไม่ได้คิดว่าเจ้าจันทร์จะเป็นลูกปลาคาร์ฟจริงๆ ใช่ไหม?

“แล้วก็ตัวเบามาก เบากว่ากาน้ำชาพี่อีก ตอนนี้โดนอบอยู่ในตู้ เหมือนเราเอาเด็กไปเข้าไมโครเวฟนั่นแหละ”

พี่ซันทำหน้าจริงจังเหมือนกับว่าคำพูดของตัวเองเป็นการอธิบายเชิงวิชาการ แต่อาเฟยกับชิวซีที่นั่งอยู่ด้านหลังพากันยกยิ้มหมด

“พี่ซัน เขาไม่เอาเด็กเข้าไมโครเวฟกันนะครับ”

“พี่กลัวตองไม่เห็นภาพ พี่ว่าระบบการทำงานน่าจะคล้ายนะ พยาบาลบอกว่าต้องอบไว้ก่อน ถึงเวลาก็จะเอาออกมาได้ แล้วก็มีช่องกลมๆ ให้เรายื่นมือเข้าไปจับได้ แต่เขายังไม่ให้จับ สงสัยกลัวว่าจะยังไม่สุก ไว้รอสุกก่อนเราไปพาเจ้าตัวเล็กออกมากัน พี่ว่าเดี๋ยวคงมีเสียง ติ๊ง เรียกแบบไมโครเวฟ”

คำอธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ ของเขาทำให้ผมยิ้มออก แต่น้ำตามันก็ร่วงลงมาเอง พี่ซันเล่าเรื่องเจ้าจันทร์ให้ผมฟังหลายอย่าง ถึงหลักๆ จะเป็นการที่ลูกนอนอยู่ในตู้อบก็เถอะ...พี่ซันไปดูลูกแทนผม ผม...ผมไม่กล้าไป

“เขา...เขาจะไม่ตายใช่ไหมครับ”

“ไม่ตายหรอก พี่ว่าไมโครเวฟเด็กไม่น่าทำลูกตองไหม้นะ”

“ฮึก...คนละเรื่องแล้วครับ”

พี่ซันจับมือผมไว้ไม่ปล่อย เขาหัวเราะเบาๆ แล้วเช็ดน้ำตาให้ผม พี่ซันไม่ได้เร่งเร้าให้ผมไปดูลูกเลยสักครั้ง เขาทำเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทำเหมือนว่าผมทำตัวปกติ

เราสองคนยังไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก พี่ซันบอกว่าให้ผมแข็งแรงก่อน เรายังมีเวลาทั้งชีวิตไว้คุยกัน พี่ซันใช้เวลาอยู่กับผมเกือบทั้งวัน จนกระทั่งตอนเย็นพี่จินพาเจิ้นมาเขาก็ออกไป แล้วกลับมาใหม่ค่ำๆ มานอนเป็นเพื่อนผม

“กินข้าวเยอะๆ ตอนนี้เจ้าจันทร์อ้วนแซงหน้าอวิ๋นแล้ว เดี๋ยวเขาพาลูกออกมาแล้วเอาอวิ๋นใส่เข้าไปแทน ทีนี้พี่ต้องไปเกาะกระจกดูอวิ๋นโดนอบอีก”

“ใช่ที่ไหนล่ะครับ นี่กินเยอะแล้วนะ”

ผมกินเยอะขึ้นจริงๆ พี่จินกับเจิ้นทำอาหารมาหลายอย่าง เราจะกินข้าวเย็นพร้อมกันแล้วก็กินยาพร้อมกัน พี่จินยังทำเหมือนเดิม ไม่ให้ผมรู้สึกแตกต่าง

“กินให้พี่อีกคำ อ้าม”

พี่ซันจะยกกระติกน้ำชากับขนมธัญพืชมาชวนผมกินเล่นตอนเราดูทีวีกัน บางวันก็เป็นผลไม้หอมๆ รายการทีวีที่เราดูเป็นการ์ตูนทั้งหมด แล้วพี่ซันก็หาว เขาชอบดูการ์ตูนที่ไหนล่ะ แต่เขาไม่อยากให้ผมเครียด

วันต่อมาพี่ซันพาผมไปเดินเล่นในสวนของโรงพยาบาล ผมไม่รู้สึกหน้ามืดเหมือนวันแรกๆ อีก เขาจูงมือผมเดินไปเรื่อยๆ แล้วพาผมหยุดเดินที่หน้าแผนกเด็กอ่อน

“เจ้าจันทร์อยู่แผนกนี้ ในห้องที่คล้ายๆ ห้องเก็บไมโครเวฟ มีหลายอันเลย เด็กโดนอบพร้อมกันที่แผนกนี้แหละ”

ผมหลุดขำออกมา แต่พี่ซันทำหน้างงว่าผมขำอะไร เขาไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าคำพูดดูน่ากลัวขนาดไหนถ้าคิดภาพตาม คนละอย่างกับตู้อบสำหรับเด็กแรกเกิดเลย

“อย่าไปพูดให้คุณหมอได้ยินนะครับ ร้องไห้พอดี”

การออกมาเดินเล่นทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก จะว่าไปพี่ซันก็ดูแปลกตาในชุดลำลอง ปกติเขาชอบแต่งตัวย้อนยุคเป็นคุณชายสมัยก่อน พอมาเป็นเสื้อโปโลกางเกงขายาวผมก็เลยไม่ชินตาเท่าไหร่

แต่ถึงเขาจะแต่งตัวเหมือนเดิมผมก็คงไม่ชินอยู่ดี...ผมไม่ได้เห็นเขามาตั้งสองปี การปล่อยให้พี่ซันจูงมือไปเรื่อยๆ ทำให้ผมได้สังเกตเขาจากด้านหลัง ต้นคอ แผ่นหลังกว้าง ลาดไหล่...ช่วงขายาว ทุกอย่างที่รวมเป็นเขาคือความคิดถึงของผม รูโหว่ในใจผมเหมือนกับได้รับการเยียวยา

ผมสีดำ...เพราะย้อมผม พี่ซันคงจะตกใจตอนผมสติแตกแล้วโวยวายที่เขาผมหงอก ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าเขานะ ผมแซวขาวก็เท่ดีออก

“ยิ้มอะไรหืม?”

“ผมแค่...ไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว”

“พี่จะช่วยเพิ่มความสุขให้ตองเอง”

พี่ซันดึงมือผมขึ้นไปจูบ หัวใจผมอบอุ่น...ผมรู้ว่าเขาจะทำแบบที่พูดจริงๆ เพราะแค่เราจับมือกัน ผมก็มีความสุขมากกว่าสองปีที่ผ่านมารวมกันเสียอีก



ตอนกลับไปที่ห้องพี่ซันพาผมเดินผ่านแผนกเด็กอีกครั้ง เขาไม่ได้พาผมเข้าไปแต่บอกว่าให้ผมพูดทักทายลูกจากตรงนี้ก่อน

“เจ้าจันทร์จะได้ดีใจ แล้วสุกไวๆ รีบออกมาจากตู้อบ”

เขาไม่ได้ทำเพื่อเจ้าจันทร์ แต่พี่ซันทำเพื่อผม ให้ผมค่อยๆ ปรับตัวและผมก็ไม่อยากปิดกั้นตัวเอง แค่...แค่ผมยังไม่แน่ใจและต้องใช้เวลาพอสมควร

“เจ้าจันทร์...นี่...พ่อนะ แล้วนี่ก็...ลุง”



“ฉันได้เป็นลุง! ”

ชิวซีเติมน้ำร้อนใส่กาน้ำชาปล่อยคนดีใจได้เป็น (แค่) ลุงตื่นเต้นไปคนเดียว ตอนนี้หยางอวิ๋นกำลังกินข้าวกับพี่สาวและหลานชาย สุริยะ หยางก็จะใช้เวลาช่วงนี้กลับมาโรงแรมอาบน้ำแต่งตัว

“อวิ๋นคุยกับประตูแผนกเด็กได้แล้ว อีกนิดเขาคงเข้าไปได้”

“ครับ วันนี้แม่เด็กมาดูลูกด้วย เขาอยากอุ้มแต่ว่าพยาบาลยังไม่ยอม ผมเองก็กำชับไว้ว่าถึงเด็กจะแข็งแรงก็อย่าให้เขาเข้ามายุ่งดีกว่า สิทธิ์เรื่องการเลี้ยงดูเป็นของทางเรา ทางโรงพยาบาลให้ความร่วมมืออยู่แล้วครับ เพราะเราจ่าย”

“อืม...เรื่องให้นมล่ะ?”

“ผมติดต่อธนาคารนมไปแทนครับ แฟนของแม่เด็กเคยมีประวัติใช้สารเสพติด ผมไม่อยากเสี่ยงว่าแม่เด็กใช้ด้วยไหม มันไม่ปลอดภัย”

“เหอะ...เป็นประชากรคุณภาพต่ำจริงๆ เมื่อไหร่พวกเขาจะไป?”

“เขาขอเจอหยางอวิ๋นก่อนครับ”

หงุดหงิด แต่จะไม่ให้เจอก็ไม่ได้เพราะยังไงในอนาคตก็คงต้องเจอกันอยู่ดีด้วยเนื้อหาตามสัญญาและมองที่เด็กเป็นสำคัญ

“รออวิ๋นพร้อมกว่านี้ก่อนแล้วกัน เขาคงอยากคุยเรื่องลูก”

ตอนจัดแจงห้องพัก ชิวซีจัดให้พักคนละชั้นเพราะไม่มีใครอยากเจอแม่เด็กกันสักคน ทางเยว่เองก็ยืนยันมาตั้งนานแล้วว่าไม่เอา

“เราต้องคุยกับอวิ๋นเรื่องสัญญาก่อน ค่อยให้เจอกัน”

“ครับ หยางหวาง”

“แล้วเรื่องกำไลข้อเท้า? เรียบร้อยไหม”

“ได้มาแล้วครับ น้ำหนักเบาเหมาะกับเด็กทารก”

ในเมื่อให้เงินไม่ได้ก็เลือกซื้อเป็นกำไลข้อเท้าทำจากทองแท้แทน คุณจินบอกว่าธรรมเนียมไทยจะให้ข้อมือกับข้อเท้าเด็กเป็นของขวัญแรกเกิด ทางคุณจินก็จะซื้อก็เลยต้องแบ่งกัน เยว่ออกเงินซื้อข้อมือ หยางออกเงินซื้อข้อเท้าให้ชิวซีไปซื้อให้

“ทำไมทางเยว่ต้องมาอยากแย่งลูกอวิ๋นกับฉันด้วย ขนาดข้อมือข้อเท้าไม่กี่บาทยังมาขอแบ่ง”

“เขาก็อาจจะคิดว่าคุณไปแย่งเขาเลี้ยงหลานเหมือนกันนะครับ”

“ฉันเป็นลุง! ”

“คุณจินเขาก็เป็นป้าครับ สถานะเท่ากันเลย”

“ฉันเป็นลุงที่เป็นผัวพ่อเด็ก”

“คุณกล้าไปเถียงคุณจินแบบนี้ไหมล่ะครับ”

“เหอะ...พวกเยว่นิสัยเสีย ลูกอวิ๋นโตมาต้องนิสัยเสียตามแน่ๆ ดูไอ้เด็กเจิ้นนั่นสิ ไม่ได้เรื่อง”

ตัวเองนิสัยดีมากเลยครับหยางหวาง ชิวซีคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออก หันไปเทน้ำชาใส่ถ้วยส่งให้คนที่ยังพยายามหาเหตุผลมาพาลตระกูลพระจันทร์ไม่รู้จักเหน็ดจากเหนื่อย

“เนี่ย แค่ใบชาบ้านฉันก็รสชาติดีกว่าบ้านเยว่ไม่รู้กี่เท่า ระดับจักรพรรดิจีนเขาดื่มกันนะ”

หลังจากรับถ้วยชาคืนชิวซีก็ส่งยาดมให้เป็นอันต่อไป กลัวจักรพรรดิจะหน้ามืดเป็นลมไปก่อน



“เวลาอุ้มต้องเอามือรองก้น แล้วยกพาดบ่า”

พี่ซันเอาตุ๊กตากระต่ายไซส์เล็กกว่าปั้นชามาให้ผมลองอุ้ม เขาท่าทางคล่องแคล่วมากจนผมแปลกใจ

“พี่ซันอุ้มเป็นด้วยหรอ”

“พี่เก่ง หมอบอกทีเดียวพี่ก็อุ้มเป็นแล้ว”

ชิวซีมุมปากกระตุก จนผมคิดว่าพี่ซันโม้ให้ตัวเองดูดี ต้องไปแอบซ้อมอุ้มเด็กมาแน่ๆ เลย เผลอๆ ก็ซ้อมกับตุ๊กตากระต่ายเหมือนที่มาสอนผมนี่แหละ

“อีกท่า เขาบอกว่าจะทำให้เด็กหลับสบาย คืออุ้มประมาณอก ให้เด็กหนุนข้อศอก อีกมือรองก้นเหมือนกัน ท่าทำท่านี้ก็จับตัวลูกเหวี่ยงไปมาได้ แต่อย่าเหวี่ยงแรงนะ เดี๋ยวกระเด็น ต้องเบาๆ ตองต้องอ่อนโยนแบบที่พี่ทำ”

ผมหัวเราะออกมากับคำพูดของพี่ซันอีกครั้ง ตอนเขาโยกกระต่ายไปมาแรงๆ จนหูมันเด้งไปเด้งมาแล้วบอกให้ผมอย่าทำนี่คิดได้ยังไงเนี่ย ใครเขาจะทำกันล่ะครับ

“แล้วถ้าลูกร้องก็ไม่ต้องตกใจนะ ส่งให้ชิวซีไปเลย ชิวซีจัดการได้”

ถ้าผมเป็นชิวซี ผมคงลาออกไปนานแล้วจริงๆ



วันต่อมาหลังจากที่เราไปเดินเล่นในสวนกันผมเอ่ยปากขอพี่ซันเข้าไปดูลูก การฟังพี่ซันเล่าถึงลูกทุกวันทำให้ผม...อยากเห็นเขาด้วยตาตัวเอง

ผมค่อยๆ เดินตามพี่ซันไปช้าๆ ปล่อยเขาจูงมือไปที่หน้ากระจกบานใหญ่ ข้างในมีตู้อบอยู่หลายตู้

“ตู้นั้น...ศศิมณฑลของกันติชาอยู่ตรงนั้น”

นิ้วพี่ซันชี้ไปที่มุมหนึ่ง มีเจ้าตัวเล็กจิ๋วนอนอยู่ในนั้นจริงๆ ด้วย ตัว...เล็กเหมือนลูกกระต่ายจริงๆ ผมไม่เคยเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีสิ่งมหัศจรรย์จนกระทั่งผมได้พี่ซันกลับมา...และอย่างที่สองก็คงจะเป็นเขา...ศศิมณฑล

แต่สิ่งที่ผมกังวลคือตัวเขามีสายระโยงระยางติดตามตัวอยู่ด้วย สิ่งมหัศจรรย์ของผมจะหายไปหรือเปล่า? ผมกลัว กลัวไปหมด

“เขา...เขาไม่แข็งแรงหรอครับ”

ขาผมอ่อนแรงจนพี่ซันต้องประคองไว้

“ไม่ใช่เลยอวิ๋น แค่...ปลอดภัยไว้ก่อน เดี๋ยวสักพักเขาก็จะออกมาแล้วไปอยู่อีกห้องที่ไม่ต้องอบ แต่ตอนนี้ลูกอวิ๋นยังขี้หนาวอยู่ แอร์โรงพยาบาลก็นะ เย็นเกินไป โรงบาลคนรวยมีเงินติดแอร์เยอะก็แบบนี้ เลยต้องอบเขาไว้ก่อน จะไม่สบายเอา”

“อื้อ...”

วิธีการพูดของพี่ซันช่วยให้ผมหายกังวลไปได้บ้าง เจ้าตัวเล็กขี้หนาวหรอครับ หืม?



แล้วหลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาระหว่างวันมานั่งเฝ้าลูก มันแปลกมากที่เราสามารถนั่งเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรได้เป็นวันๆ พี่ซันก็มานั่งกับผม พี่จินกับเจิ้นก็มาด้วย

“เจิ้นต้องช่วยน้าตองดูแลน้องนะคะ น้องยังตัวเล็กอยู่”

“ครับ”

“ลูกจะโตขึ้นเรื่อยๆ ไหมครับพี่จิน”

คำถามโง่ๆ แต่ผมทำตัวไม่ถูกนี่...ก็แค่ เขาดูเล็กมากเป็นพระจันทร์จิ๋ว

“โตสิ เผลอแป๊ปเดียวก็โตเป็นต้นไม้เลยล่ะ จำเขาไว้นะตอง ตอนตัวเท่านี้น่ะผ่านไปเร็วมาก ดูเจิ้นสิ พริบตาเดียวจะเป็นหนุ่มละ”

“ครับ...พี่จินผม...ผมมีความสุข”

ผมมีความสุขจริงๆ นะ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนมีบอลลูนอยู่ในตัวเรา แล้วมันก็ทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีขึ้น เพราะลูกบอบบางมาก เขาตัวนิดเดียว ถ้าผมกลับไปติดบุหรี่อีก เจ้าตัวเล็กจะทนได้ยังไง แค่ทนหนาวยังทนไม่ได้เลย



“เดี๋ยวเราต้องให้เขาใส่หมวกอันนี้ แล้วก็ถุงมืออันนี้ แล้วก็ถุงเท้าอันนี้”

พี่ซันเอาชุดเด็กทารกมาให้ผมช่วยดู มันค่อนข้างทำให้ผมตื่นเต้นมากเพราะว่าทุกอย่างเล็กไปหมดเลย ผมว่าผมก็ผ่านประสบการณ์แบบนี้ตอนเจิ้นเกิดมาแล้ว แต่...ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ถ้าชุดนี้มีหมวกกระต่ายด้วย ตอนแรกพี่จะเอามาแค่ชุดกระต่าย แต่มีชุดลูกไก่ กับฟักทองด้วย เอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศ เอาให้ลูกคนอื่นอิจฉาไปเลยที่ชุดเราเจ๋งกว่า พี่อยากตัดชุดจีนด้วยแต่ว่ารอออกจากโรงพยาบาลก่อน”

“พี่ซันซื้อเองหมดเลยหรอครับ”

“พี่เก่งไง”

เขาทำท่าภูมิใจแต่ผมไม่เชื่อหรอก ชิวซียังแอบยิ้มมุมปากอยู่เลย อยู่กับพี่ซันมากี่ปีเขาเคยเลือกซื้อของเองที่ไหน เอะอะก็ชิวซีทั้งหมด ขนาดไปซื้อแจกันเขายังพาชิวซีไปด้วยเลย

“ชุดนี้สำคัญสุด ชุดครอบครัว ไว้ให้พ่อ ลุง ลูก ใส่ด้วยกัน”

ผมกัดปากกลั้นหัวเราะสุดชีวิต ชุดครอบครัวที่ไหนเขาทำ พ่อ ลุง ลูกกัน เขามีแต่พ่อ แม่ ลูก แต่ท่าทางหยิบชุดเสื้อโปโลปักลายหัวใจที่อกข้างซ้ายออกมาอวดผมก็ไม่อยากจะขัด

“พอออกไปข้างนอก เขาก็จะรู้ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน อวิ๋นใส่อันนี้ พี่ใส่อันนี้ แล้วเจ้าลูกกระต่ายใส่อันนี้”

ผมปล่อยพี่ซันนำเสนอเสื้อผ้าของเขาไป แต่ตาผมหันมองไปที่ดอกทานตะวันสามดอกในแจกันพลาสติก สีเหลืองสดใสที่ชิวซีจะเอาดอกใหม่มาเปลี่ยนให้ทุกวัน

“ชอบดอกทานตะวันหรอ?”

“ครับ...เหมือนมีพี่ซันอยู่ใกล้ๆ ตลอดเลย”

“พี่ก็ไม่ได้ไปไหนนี่...อยู่ตรงนี้ ใกล้ๆ อวิ๋น”

พี่ซันละมือจากชุด พ่อ ลุง ลูกชุดที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้มาจับมือผมไว้ สัมผัสของพี่ซันอบอุ่นเหมือนแดดยามเช้าที่เซี่ยงไฮ้...อบอุ่นเหมือนทุกเช้าที่เราตื่นมาพร้อมกัน

“พี่ซัน อวิ๋นคงขาดพี่ซันไม่ได้แล้วจริงๆ ทั้งชีวิตนี้อวิ๋นจะเป็นอะไรก็ได้ แต่อย่าทิ้งอวิ๋นไปอีกนะ...”

“รู้แล้วครับคนดี ถ้าทุกอย่างผ่านไปแล้วเรากลับเซี่ยงไฮ้กัน กลับบ้านเรา”

“อื้อ อยากกลับเซี่ยงไฮ้ อยากกลับไปอยู่กับพี่ซัน กับ ชิวซี”

“อวิ๋น...”

พี่ซันคิ้วขมวดแล้วทำหน้าอึดอัด

“ครับ?”

“พี่ไม่อยากจะขัดนะ แต่ว่าพูดแค่อยากกลับไปอยู่กับพี่ได้ไหม ชิวซีนี่ไม่ต้องเอ่ยถึงก็ได้ ถึงเราจะอยู่ชั้นเดียวกันแต่มันคนละบ้านนะอวิ๋น ถึงมันจะเดินเพ่นพ่านในบ้านเราแต่มันไม่ได้อยู่บ้านเราเข้าใจไหม มันเป็นแค่คนข้างบ้าน”

กลายเป็นว่าผมต้องรีบกอดพี่ซันเอาไว้แน่นๆ สองปีมานี้เขายังไม่เลิกหึงผมกับชิวซีอีก พอผมกอดง้อเขาถึงเลิกบ่นเป็นหมีแล้วซุกหน้าลงกับไหล่ผม

“เหนื่อย”

“ยาดมครับ”

แล้วก็เป็นคนข้างบ้านของพี่ซันที่เอายาดมมาให้ ชิวซีขยิบตาใส่ผมแล้วเดินกลับไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่เดิม ช่วงนี้พี่ซันดูจะเหนื่อยง่ายนิดหน่อย แต่พอกอดเขา...ก็กล้ามแน่นกว่าเดิมนะ สงสัยจะเป็นไปตามวัยล่ะมั้ง แต่ทำไมแก่เร็วจัง

เขาอาจจะแก่วัยกว่าคนอื่นเพราะต้องเจอเรื่องเครียดเป็นประจำ แล้วก็อาจจะกังวลเรื่องผมด้วย ในช่วงที่ผมอ่อนแอแบบนี้ พี่ซันเป็นพลังสำคัญจริงๆ ไม่มีเขาผมก็จินตนาการภาพตัวเองไม่ออกเหมือนกัน

ขอเวลาตองอีกนิดนะ ตองกำลังจะเข้มแข็งขึ้น แล้วตอนนั้นตองจะดูแลพี่ซันเอง...พระอาทิตย์แก่ของตอง



=============

เข้มแข็งไวๆ นะตอง <3

ส่วนสุริยะ หยางนั้นนนน เป็นพระเอกจริงๆ นะคะ ไม่ใช่ตัวตลก 5555+



==========================

ขอแจ้งไว้แบบเกือบจะเป็นทางการว่าดีเทลที่ลุงหยางจะได้เลี้ยงจั๋นแบมจะใส่ไว้ในเล่มเท่านั้นค่ะ เพราะว่า ในปกครอง ก็มีตอนพิเศษในเล่มคือจั๋นวัยเด็ก มันคาบเกี่ยวกัน ก็จะขอเก็บไว้ในเล่มต่อไปนะคะ ไม่งั้นเหมือนเอาตอนพิเศษในปกครอง มาลงเว็บให้อ่านในเรื่องนี้เนอะ แต่สำหรับเรื่องนี้ก็อัพจนจบนะคะ ไม่ต้องห่วงจ้า

แล้วก็ อาเฟยชิวซี ก็จะอยู่ในเล่มค่ะ

ตอนพิเศษก็จะมีหลายๆ พาร์ท จะพยายามให้เยอะที่สุด แต่คงไม่ขนาดตอนพิเศษครึ่งเล่มนิยายแบบในปกครองนะคะ 55555 อันนั้นเยอะจนตกใจตัวเอง














====

สุดท้ายนี้ จบเรื่องนี้แบมขออนุญาตไม่อัพนิยายในไทยบอยแล้วด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ไม่โกรธกันน้า

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เสียดายค่ะ เเต่เป็นกำลังใจให้คุณแบมเสมอค่ะ ติดตามต่อไป~~

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
พี่ซันก็สมกับชื่อเนาะ อบอุ่นเหลือเกิน~~~
คือเห็นภาพเลยว่า ถ้าเขารักใคร เขาทำให้ได้ทุกอย่างจริงๆ โคตรน่ารักอ่ะ

ลุงขี้สปอยล์เอ๊ยยยย 555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด