Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)  (อ่าน 125807 ครั้ง)

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
สงสารปั้นชาอะ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
สนุกมากกับการเมืองที่ซับซ้อน แถมยังมีเรื่องการมุ้งมาเกี่ยวอีก หุหุ ...
อยากรู้ทำไมต้องสัญญาว่าจะให้ตองกับพี่ซัน ...
ตองฉลาด ชอบๆ เจ้าแผนการ มีการปรับตัว เปลี่ยนวิธีคิดตลอด เก่ง ...
ว่าแต่ อะไรคือเหตุแห่งความต้องไปมีเมียของตอง รอคอยอย่างใจจรดใจจ่อค่ะ ...

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ขนาดไม่ลงรายละเอียดเยอะเรายังทึ่งเลยค่ะ 5555 ถ้าพี่คนเขียนลงเยอะนี่เราคงได้งงไปสิบวันแน่ๆ // น้องเค้าร้ายนะคะ อ้อนผัวไทม์  :katai5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยังกะเรียนการตลาด เด็กไอทีอย่างเรามึนตึ๊บ 555

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เจอกันซะที พ่อกระต่าย
รักน้องอวิ้นขนาดนี้ อาการหนักมาก และหื่นมากเช่นกัน
แต่ชอบเวลาอวิ้นอยู่กับครอบครัวหยางนะ

ไม่อยากให้อวิ้นไปเจอแม่จันทร์เลย
สงสารพี่ซัน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ทั้งคำพูดทั้งความคิดทำไมมันน่าหยิกขนาดนี้อ่ะตอง โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
ตอนนี้ก็ยังพอขำออกอยู่หรอก ถ้าแม่จันมาก็ไม่รู้จะเป็นยังไง T_____________T

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
การเมืองเป็นเรื่องซับซ้อนจริงๆ  :hao4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พ่อตองคือดจีย์จริงๆนึกไม่ออกเลยว่าพ่อตองจะหนีไปมีมูนนี่ได้ตอนไหน ;-;

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
คือ... ขอชมอวิ๋นหน่อยนะ คนอะไร ทั้งร้าย ทั้งแรด!! พิษสงรอบตัวจริงๆ 555

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ร้ายมากเว่ออะน้องตอง ตอนจั๋นโตพี่ซันเขารู้ยังว่าเมียเขาไม่ใช่กระต่ายอะ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อวิ๋นในคราบกระต่ายน่ากลัวมาก แผนไหนล่มไม่รู้ แต่แผนอ้อนผัว กับแผนทำให้ผัวรักผัวหลงนี่บอกเลย อวิ๋นทำได้เนียนและสำเร็จมาก

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
พ่อแม่สามีรักอวิ๋น ชอบชอบชอบ

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 23

หลังจากผมได้กลับมาอยู่บ้าน มาเป็นกระต่ายในกรงพระอาทิตย์ สถานการณ์ก็ตึงเครียดขึ้น เรื่องที่ผมโดนลักพาตัวกลายเป็นประเด็นที่พี่ซันถือโอกาสใช้ต่อรองกับรัฐมนตรีหวง

เหตุการณ์โดนลักพาตัวของผมออกข่าวอยู่หลายวัน กระทบไปถึงชื่อเสียงของโรงเรียนที่มีมาตรการความปลอดภัยพิเศษแต่กลับปล่อยให้มีการลักพาตัวเกิดขึ้น

อาณาจักรพระอาทิตย์มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการประณามพฤติกรรมน่าอาย แม้ในข่าวจะไม่พูดว่าใครเป็นคนลักพาตัวผม แต่วงในนั้นรู้ทั่วกันว่าเป็นลิลลี่

เกมการเมืองของฝั่งรัฐมนตรีหวงน่ากลัวมาก แต่ที่ผมสงสัยคือรุ่นพี่ลู่ชิงอวิ๋น ทำไมรุ่นพี่ถึงร่วมมือกับเอ็ดเวิร์ดทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ให้สัญญาณอะไร แล้วคนที่ต้องไปทิเบตมันไม่ควรจะเป็นผม แต่เป็นลิลลี่ต่างหาก

ผมโดนขังอยู่ในบ้านในฐานะ ‘คนที่ยังตกใจและหวาดกลัว’ มีกระเช้าปลอบใจมากมายมาจากคู่ค้า รัฐมนตรี คนใหญ่คนโต

พวกเขาไม่ได้อยากจะมาปลอบใจผมหรอก แต่อยากจะเอาใจสุริยะ หยาง ผมเลยได้ขนมอร่อยๆ มากินเยอะเลย อยู่บ้านผมก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะนอกจากกิน ให้อาหารปลา เล่นโยคะ

แล้วพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอาณาจักรพระอาทิตย์เราก็เพิ่มบอดี้การ์ดอีกเท่าตัวแบบไม่ต้องกลัวผิดสังเกต รัฐมนตรีหวงพอใจมาก

ชิวซีเองก็มีท่าทีระมัดระวัง การหายไปของผมถึงพี่ซันจะได้ประโยชน์แต่นั่นมันคือความหละหลวม ผมเลยมีชิวซีเป็นเพื่อนสนิทหน้าหล่อที่พี่ซันก็ไม่พอใจเท่าไหร่

อาเฟยดูใส่ใจผมมากขึ้นเช่นกัน จากการที่ผมได้เลื่อนฐานะเป็นลูกสะใภ้ในดวงใจ ผมคิดว่าพ่อแม่พี่ซันก็เลยดูแลผมไปด้วย

แต่ถึงผมจะไม่ได้ไปเรียน โรงเรียนก็ส่งอาจารย์มาสอนถึงบ้าน เพราะพี่ซันฟ้องโรงเรียนด้วยข้อหาป้องกันหละหลวม ตอนนี้ใครก็ตามใจสุริยะ หยางกันทั้งนั้น

เขารับบทคนน่าสงสารนี่ แล้วไหนจะมีภาพข่าวที่หมอ พยาบาลแห่กันมาที่อาณาจักรพระอาทิตย์เพราะมาตรวจร่างกายผม จริงๆ คือผมไม่ได้เป็นไรเลย หมอมาตรวจพี่ซันเยอะกว่าผมอีก เพราะเขาโมโหจนความดันขึ้น

สุริยะ หยางอายุไม่ถึงสามสิบกลับความดันขึ้นเป็นคนแก่ ผมอาจจะมีผัวแก่กว่าที่คิด คือผมไม่โดนพี่ซันโกรธเลยสักนิดเพราะผมเป็นผู้เสียหาย เบะปากนิดนึงเขาก็สบถสามภาษาใครก็เข้าหน้าไม่ติด

คือตอนนี้ผมแบบว่าผัวรักผัวหลงมาก แต่ผมไม่ได้ใช้โอกาสนี้เอาแต่ใจอะไรกับพี่ซันหรอก แค่เขาต้องกินยาลดความดัน โดนหมอดุทำหน้าหงุดหงิดผมก็เหนื่อยแทนแล้ว

แต่ผมใช้โอกาสนี้ยึดคนของพี่ซันเอาไว้แบบที่ผมเคยอยากจะทำ ผมรู้ว่าตุ๊กตาตัวสำคัญในชีวิตของพี่ซันเป็นใคร ตอนนี้ทุกคนไม่มีใครกล้าขัดใจผม แค่เอ่ยปากเล็กน้อยทุกคนก็พร้อมจะตามใจ

ผมว่าตอนนี้คนของพี่ซันน่าจะรักผมมากกว่าพี่ซันอีก สุริยะ หยางเป็นเจ้านายที่ค่อนข้างแข็ง เขาไม่ได้พูดจานุ่มนวลและสร้างกำแพงกับลูกน้อง ผมไม่โทษพี่ซันหรอก เพราะรอบตัวเขาไม่มีใครไว้ใจได้

หน้าที่ของช้างเท้าหลังแบบผมคือการซื้อใจคนเหล่านี้ ผมไม่มีอะไรให้พวกเขาทรยศ ผมหัวเราะไปกับคนของพี่ซัน ช่วยแม่บ้านจัดโต๊ะ เอ่ยทักทายบอดี้การ์ดที่ผมเจอบ่อยๆ

ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ผมเก็บมาใส่ใจ ทุกคนย่อมเป็นคนสำคัญ ผมจะค่อยๆ สร้างความเชื่อใจระหว่างชั้นเจ้านายกับชั้นใต้ปกครอง

ถ้าทุกคนรักสุริยะ หยางพวกเขาจะไม่ทำร้ายพี่ซัน...ผมฆ่าชิวซีหรืออาเฟยให้พี่ซันไม่ได้หรอก วิธีที่ง่ายที่สุดคือทำให้เขาไม่อยากฆ่า



“ชิวซี ส่งอันนั้นให้หน่อยครับ ผมอยากเติมอีกนิด”

กิจกรรมสร้างสัมพันธ์อันดีของผมกับชิวซีคือการหัดทำอาหาร ผมต้องทำให้ชิวซีสนิทใจกับผมก่อน เพราะหน้าที่เขาคือฆ่าอาเฟยเพื่อปกป้องพี่ซัน ผมถือว่าเราอยู่ทีมเดียวกัน 80% อีก 20% เผื่อเขาทรยศ

“หยางอวิ๋นครับ ผมว่ามันจะเค็ม”

“จริงอ่ะ...งั้นใส่ซอสอันไหนดี”

“เดี๋ยวผมปรุงให้เองดีกว่า”

“ขอบคุณครับ ชิวซีเก่งจัง”

“ทำไรกัน! ”

แล้วบางทีก็จะมีคนแก่ไม่พอใจเข้ามาขัด วันนี้พี่ซันมีประชุมกับผู้ถือหุ้น เขาใส่ชุดสูทและกำลังจะกระชากเนคไทตัวเองออก ผมรีบวางตะหลิวถลาเข้าไปกอดเอวแกร่งไว้ ก่อนจะเขย่งตัวจุ้บปากคนโมโห

อย่าเพิ่งโมโหสิ เดี๋ยวความดันขึ้นนะครับ

“คิดถึงพี่ซันจัง”

“คิดถึงพี่แล้วมาอยู่กับมันทำไม เลิกคุยกับมันเลยนะ พวกหล่อๆ แบบนี้ไว้ใจไม่ได้”

“อวิ๋นหัดทำกับข้าว กะจะเซอไพรส์พี่ซันอ่ะ ทำไมขึ้นมาเร็วจัง”

“หืม หัดทำอาหารแล้วทำไมไม่เรียกแม่บ้าน มันทำอาหารไม่ได้เรื่องหรอก อาหารปลาพี่ยังอร่อยกว่า”

“ไม่โมโหสิครับ ป่ะ อวิ๋นช่วยเปลี่ยนชุดเนอะ ชิวซีฝากทำต่อหน่อยนะครับ”

“บอกว่าอย่าพูดกับมันไง หันไปคุยกับกระทะมึงโน่น ชิ่วๆ”

แก่แล้วยังจะพาล!



แล้วมื้อเย็นพี่ซันก็ไม่แตะจานที่ชิวซีกับผมช่วยกันทำเลย ผมเลยชวนเขาคุยเรื่องข่าวบันเทิงของดาราแทน จริงๆ ผมไม่ได้ชอบดูนะ แต่พี่ซันเครียดมาก ถ้าชวนคุยเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การเมืองเขาคงปวดหัว คุยเรื่องดารานี่แหละ

รอยที่หางตาของพี่ซันลึกขึ้นจนเห็นได้ชัด ผมที่ย้อมดำไปเริ่มสีหลุดกลับมาขาวๆ เทาๆ บ้าง ผมเลยแอบให้ชิวซีไปซื้อพวกครีมบำรุงมา จับเขานอนหนุนตักแล้วโบกครีมเข้าไป บรรดาวิตามินราคาแพงอีก

พวกผลไม้เย็นๆ แก้ร้อนอกร้อนใจด้วย ผมอยากให้เรื่องพวกนี้มันผ่านไปเร็วๆ จัง เพราะพี่ซันเครียดแล้วเขาไม่มีอารมณ์ทำการบ้านอ่ะ

นี่ผมแห้งเหี่ยวมาหลายวันแล้ว อยากกอดผัวก็กอดไม่ได้ ผัวเครียด ทำได้แค่นัวๆ เนียๆ ให้กระชุ่มกระชวยแล้วก็นอนกอดกัน เขามีเรื่องคิดเยอะไปหมด

ส่วนคนเครียดรอบตัวผมอีกคนคือเจิ้น หลานชายผมกำลังจะต้องไปเป็นตัวแทนโรงเรียนแข่งคณิตศาสตร์ พี่จินปลื้มมาก แต่เจ้าอ้วนดันเครียดเพราะกลัวแพ้

“ถ้าคนเราไม่เคยแพ้ จะเรียนรู้ความหอมหวานของชัยชนะได้ยังไง?”

“ก็แพ้แล้วเสียใจ”

“ในอนาคตมีเรื่องให้เสียใจอีกเยอะ เช่น แฟนทิ้ง”

“แฟนทิ้งต้องเสียใจหรอ”

“ช่ายย อยากกอดไม่ได้กอด พ่อแม่เขาคัดค้านไง”

“ไม่อยากมีหรอกแฟน”

“ไม่เชื่อหรอก อีกหน่อยก็อยากมี คอยดูนะจะมีคนน่ารักๆ มาทำให้หวั่นไหว แล้วเขาก็ไม่คิดอะไรด้วย เราคิดของเราคนเดียว รักเขาข้างเดียว”

“ถ้ามีก็บอกรักเขาสิ เขาจะได้รู้”

เจ้าอ้วนเถียงงง ฮึ่ยยย

“ก็อาจจะบอกไม่ได้ก็ได้ ก็เลยต้องเก็บเอาไว้ คับอกคับใจ”

“มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

“เป็นไปได้สิ สมมุติว่ามีแฟนเด็ก เด็กว่าสักสิบปี เขายังไม่โต เราก็บอกเขาไม่ได้ เพราะเราคิดว่าเขาจะไม่เข้าใจ”

ผมเอาสถานการณ์ตัวเองสอนหลานคงไม่ผิด พี่ซันไม่คิดจะบอกอะไรผมเพราะเขาคิดเองว่าผมยังเด็ก ผมยังอ่อนแอ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย

“ก็มีแฟนแก่กว่า”

“เด็กกว่าสิ เราจะได้เท่ไง จูงมือแฟนไปโรงเรียน”

“ต้องจูงมือด้วยหรอ”

“ถึงเวลาก็อยากจูงเองแหละ ใครๆ ก็อยากจับมือแฟน”

“ไม่เห็นเข้าใจเลย”

“พวกไม่เคยมีความรักก็เงี้ยะแหละ เชยสุดๆ”

เจ้าอ้วนเจิ้นโวยวายใส่ผมแล้วก็วางสายไป ความสุขของผมคือการแกล้งหลานจริงๆ นะ อีกสักพักก็จะปิดเทอมอีกแล้ว แต่ปีนี้พี่ซันไม่ให้ผมกลับเพราะสถานการณ์ยังไม่ค่อยดี แล้วผมก็ยังต้องอยู่ในตึกไปก่อน

จะว่าไป...ผมก็เริ่มเบื่อบ้านแล้วอ่ะ พี่ซันก็ไม่อยู่ด้วย อยากไปเที่ยวบ้างจัง



งานแต่งงานของตระกูลหยางกับตระกูลหวงเลื่อนออกไปในที่สุด ข่าวลือวงในแพร่สะพัดว่ารัฐมนตรีหวงทำลายความเชื่อใจระหว่างสองตระกูล ทั้งๆ ที่หยางหวางหนุนหลังรัฐมนตรีอย่างออกนอกหน้ามาโดยตลอด

กระแสข่าวการเมืองช่วงนี้รัฐมนตรีหวงเรียกว่าดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด ต่างกับคนของรัฐมนตรีหยาง ผู้ที่จะเป็นคนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อ ที่มีกระแสนิยมขึ้นมา

พี่ซันตอนนี้ก็รับบทเป็นคนกลาง ไม่ไปมาหาสู่ใคร ความเครียดของเขาเริ่มลดลง ผมเองก็ไปโรงเรียนเพื่อไปสอบ ทุกคนยังเหมือนเดิม แต่คนที่หายไปคือลิลลี่

เอ็ดเวิร์ดเข้ามากอดผมแล้วเอ่ยขอโทษผมใหญ่โต เจ้าเพื่อนโกลเด้นตัวใหญ่ลากผมไปปรับความเข้าใจ รีบอธิบายว่าเข้าใจผิดไปว่าผมกับลิลลี่รักกัน มันโดนพ่อโทรทางไกลมาด่าเพราะสุริยะ หยางส่งข่าวไปบอก ตระกูลหวงไม่ได้โดนหางเลขอะไรเพราะตระกูลนี้สนับสนุนคนของหยาง

นี่คืออีกเรื่องที่พี่ซันโมโห จะด่ามันเต็มที่ก็ไม่ได้ จะทำให้ผิดใจกันก็ไม่ได้ เลยทำได้แค่ตักเตือนไป แล้วยังต้องไปเจอหน้ามันตามงานต่างๆ อีก ส่วนผมก็จะเลิกคบมันก็ไม่ได้อีก! เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันแบบจำใจคบ

“แล้วทิเบตเป็นไง?”

“ฉันนอนอยู่แต่ในบ้านพักตากอากาศ ก็ไกด์ไม่มีอ่ะ ฉันไม่กล้าออกจากบ้านเลย รอพ่อกลับมารับ มาถึงโดนพ่อทำโทษอีก โคตรซวย”

สมน้ำหน้า!



“นี่ หยางอวิ๋น ถ้ายังไงเราไปเที่ยวปักกิ่งกันไหม? ถือว่าฉันขอโทษที่ทำให้นายเจอเรื่องแย่ๆ รับรองว่าคราวนี้เราจะได้ไปเที่ยวจริงๆ ไม่เหมือนทิเบต หรือนายอยากไปทิเบตอีก? ฉันพาไปใหม่ได้นะ”

ผมแทบอยากจะวิ่งหนีมัน ตอนนี้ผมกำลังไปหาลู่ชิงอวิ๋นที่ห้องสภานักเรียน โดยมีโกลเด้นตัวใหญ่ที่สลัดยังไงก็ไม่หลุดติดมาด้วย แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะสลัดมันจริงจังนัก เพราะผมต้องการพยานยืนยันว่าลู่ชิงอวิ๋นยังไงกันแน่

“รุ่นพี่ลู่ครับสวัสดีครับ /ไงประธานลู่ เฮ้ ไปเล่มเกมบ้านฉันไหม”

เอ็ดเวิร์ดยกมือทักทายแบบง่ายๆ ก่อนจะหันมาพยายามชวนผมไปเที่ยวบ้านมันต่อ

“หยุดก่อนเอ็ดเวิร์ด ฉันมีเรื่องต้องถามรุ่นพี่ลู่ แล้วก็นายด้วย”

ลู่ชิงอวิ๋นลุกขึ้นจากโต๊ะประธานสภานักเรียน เดินล้วงกระเป๋ามาเอนตัวพิงโต๊ะใกล้ๆ

“ยินดีต้อนรับกลับมานะหยางอวิ๋น ทิเบตสนุกไหม?”

“ทำไมรุ่นพี่ยอมให้เอ็ดเวิร์ดพาผมไป เอ็ดเวิร์ดบอกว่ารุ่นพี่ช่วยปิดกล้อง ใช่ไหมเอ็ด?”

“ใช่ เอ๊ะ ก็ตอนนั้นรุ่นพี่บอกว่านายอยากไปเที่ยวทิเบตอยู่แล้ว”

“รุ่นพี่กับเอ็ดสนิทกันหรอครับ”

ผมว่าเขาช่วยเหลือกันง่ายไปหน่อย อยู่ๆ มีคนชวนไปปิดกล้องวงจรปิดก็ไปด้วยง่ายๆ มันก็ไม่ใช่ หรือเอ็ดเวิร์ดเองที่ไปขอร้องให้เขาช่วยทำผิดง่ายๆ มันก็ไม่ใช่อีก

“อ๋อ สนิทกันสิ...แม่ฉันเป็นน้าชิงอวิ๋น เอ้ยประธานลู่ ฉันก็หลายชายตระกูลนักการเมืองนะเห็นแบบนี้”

ตาผมเบิกกว้างเพราะเจอการเชื่อมโยงที่ผมไม่รู้มาตลอด จริงๆ รัฐมนตรีลู่ก็เป็นอีกคนที่ถูกเอ่ยชื่อว่าสนิทกับรัฐมนตรีหยาง

“พี่ตั้งใจให้ผมโดนลักพาตัว”

“ก็ใช่”

“อ้าวพี่ นี่ผมมงงไปหมดแล้วนะ”

เอ็ดเวิร์ดทำหน้าหมางง แต่ผมไม่อยากจะใส่ใจเพราะผมสนใจใบหน้ายิ้มๆ ของลู่ชิงอวิ๋นมากกว่า เขาชอบลิลลี่ไม่ใช่หรอ? ถ้าผมโดนลักพาตัวมันก็จะกลายเป็นลิลลี่ที่ซวย

“ผมนึกว่าพี่ชอบ...”

“ฉันมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ หยางอวิ๋น”

ลู่ชิงอวิ๋นเลือกหน้าที่มากกว่าหัวใจ คนแบบที่พ่อพี่ซันเป็น แบบที่กล้าจะทิ้งทุกอย่างเพื่ออุดมการณ์ ความคิดที่ว่าลู่ชิงอวิ๋นเหมาะจะเล่นการเมืองของผม...ไม่ผิดเลยสักนิด

“หน้าที่อะไรกัน”

“เฮ้อ...เอ็ดเวิร์ด ทำไมนายไม่รู้อะไรเลยนะ แบบนี้ไงคุณแม่ถึงบอกให้ฉันดูแลนายประจำ”

“ฉันโตแล้วไม่ต้องการคนดูแลหรอก ฉันไปทิเบตมาแล้วนะ! ไปเองด้วย! ”

มึงหลง ไอ้โง่! แค่ต้องเปลี่ยนรถไฟก็ไปไม่ถูกแล้ว!

ท่าทางเอือมระอาของผมรุ่นพี่ลู่คงมองเห็นเขาเลยแอยยิ้มแล้วขยิบตา ผมโล่งใจที่ลู่ชิงอวิ๋นกับพี่ซันอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ในทางกลับกันผมก็กาหัวคนนี้ไว้แล้วเหมือนกัน บุคคลไม่น่าคบอีกคนในประเทศนี้ เลือดเย็นทั้งๆ ที่อายุยังน้อย ผมยังไม่กล้าขนาดเขาเลยด้วยซ้ำ ถ้าต้องให้ทิ้งพี่ซันเพื่ออุดมการณ์ผมคงทำไม่ได้

มันจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมทิ้งพี่ซันได้ลงจริงๆ หรอ?

“หยางอวิ๋นเราไปกันเหอะ ชิงอวิ๋นแม่งนิสัยไม่ดี ไม่น่าคบเลย”

มึงกล้าพูดเนอะ มึงไม่น่าคบกว่าเขาอีก!



วันหยุดปิดเทอมของผม พี่ซันพาผมกลับมาบ้านรัฐมนตรีกลางดึก เรามาด้วยรถเล็กที่ไม่เป็นจุดสนใจนัก แล้วเขาก็ทิ้งผมไว้กับคุณหญิงหยาง

“อยู่ที่นี่ รอพี่มารับ นะ...”

แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป พี่ซันบอกแค่จะไปธุระที่ปักกิ่ง แต่สีหน้ากังวลของคุณหญิงหยางมันดูออก พี่ซันคงกำลังจะต้องไปเจอเรื่องอันตราย

“ระวังตัวไว้หยางอวิ๋น เราเป็นคนข้างหลังต้องอย่าทำให้เขากังวล”

“ครับ”

เกิดการประท้วงที่ปักกิ่ง รัฐบาลฆ่ากลุ่มผู้ชุมนุมจนจัตุรัสเทียนอันเหมินเต็มไปด้วยซากศพ รัฐบาลใช้การเจรจาต่อรองก่อนแต่ไม่เป็นผลเลยทำให้เกิดการฆ่าผู้ชุมนุม

ผมกับคุณหญิงหยางกุมมือกันไว้แน่น ข่าวพวกนี้มันน่ากลัวและกระทบกับชนชั้นปกครอง เพราะจีนอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้ประชาธิปไตย แต่รัฐบาลกลัวว่าจะมีชาติตะวันตกอยู่เบื้องหลัง

“หยางอวิ๋น เธอรู้ใช่ไหม? ถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องหนีไป... ซันพาเธอมาไว้กับฉันเพราะจะให้ฉันพาเธอหนี ตอนนี้มีการเรียกประชุมกลุ่มคอมมิวนิสต์ทั้งหมด ฉันไม่รู้ว่าซันจะเกี่ยวข้องมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าอำนาจเปลี่ยนมือเขาก็อันตราย สามีฉันเขาเกี่ยวเต็มๆ อยู่แล้ว ฉันไปไหนไม่ได้ แต่เธอต้องหนีไป เธอไม่ใช่คนของจีนด้วยซ้ำ เราไม่ขอสัญชาติให้เธอ เพราะเธอยังกลับไปได้”

“ผะ...ผมไม่เข้าใจ”

“ตามมานี่”

ผมถูกดึงให้เดินตามคุณหญิงหยางไปตามทางเดิน ด้านหลังมีอิงอิงเก้าเท้าตามมาเร็วๆ เราเข้าไปที่ห้องริมสุดทางเดิน คล้ายกับพิพิธภัณฑ์เก่าแก่เหมือนศาลาพระอาทิตย์ที่เป็นห้องเก็บของสะสมส่วนตัวพี่ซัน

“ตราประทับอาณาจักรพระอาทิตย์ กับ กุญแจห้องเก็บสมบัติของชาติ.... ซันเอามาไว้ที่นี่เมื่อคืน ตำแหน่งหยางหวางต้องมีคนทำต่อ เธอเก็บเอาไว้ ฉันเชื่อว่าซันจะไม่เป็นไร เขาจะต้องมีของพวกนี้ไว้ต่อรองกับรัฐบาล สมบัติของจีนที่เราต้องตามกลับมายังกระจายอยู่ทั่วโลก อยู่ในตลาดมืด เธอต้องเก็บเอาไว้แทนเขา”

“มันอาจจะ...ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้...ใช่ไหมครับ?”

พอทุกคนตกใจ ผมก็ตกใจไปด้วย...ทำไมกลายเป็นว่ามันดูเป็นเรื่องใหญ่ทั้งๆ ที่ผมก็ยังสบายดีอยู่ที่บ้าน หรือว่าที่ผมโดนขังไว้ที่บ้านไม่ใช่เพราะเอาชื่อผมไปสร้างสถานการณ์ต่อรองกับรัฐมตรีหวง แต่เพราะมันกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลง? ผมที่ได้รับสารแค่จากชิวซีบ้าง คนรอบตัวพี่ซันบ้างก็เลยไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด

“เธอรู้ไหมทำไมซันต้องไปอยู่บ้านบนยอดตึก”

“เพราะว่ามันสะดวก...”

“เพราะมันเป็นป้อมปราการ เธออยู่บนนั้นเธอจะปลอดภัย ใครจะไปใครจะมาคนรอบข้างเห็นหมด...แต่ อาณาจักรพระอาทิตย์โดนคนแทรกซึมเข้ามาหลายรอบแล้วแต่เธอไม่รู้”

ความจริงที่ผมเพิ่งรู้ทำให้มือผมมันสั่น ของในมือของผมหนักอึ้งจนเหมือนจะถือไว้ไม่ไหว

“พี่ซัน...พี่ซันจะเป็นอะไรไหมครับ”

“ไม่มีใครรู้...หยางอวิ๋น...เราทุกคนต่างมีหน้าที่ การเมืองมันซับซ้อน...แล้วเราเองก็อาจจะหลงทางเพราะมัน เราอาจจะเป็นคนที่ตายอยู่ในเขาวงกตเพื่อเป็นทางผ่านให้คนอื่นข้ามไป”



ผมนอนมองกล่องตราบริษัทเครือพระอาทิตย์ที่ผมคุ้นเคย แต่มันต่างออกไปที่อันนี้ทำจากทองคำ และลวดลายมีบางอย่างที่ไม่เหมือน กับกุญแจทรงโบราณที่มีเลขรหัสสลักอยู่หนึ่งแถว

มันน่าจะเป็นรหัสความปลอดภัยมากกว่าจะเป็นกุญแจโบราณๆ ภาระของผมหนักอึ้งจนน่าหวาดหวั่น แต่ที่ผมกังวลคือสถานการณ์ที่ปักกิ่ง ข่าวไม่ได้รายงานละเอียดมากนัก อาจจะเพราะป้องกันประชาชนลุกฮือกันออกมาร่วมประท้วง

กังวลจนนอนไม่หลับ...ห่วงพี่ซัน...อยากให้เขากลับมา คราวนี้มันไม่ใช่แค่ไปซื้อของในตลาดมืดแบบที่เขามักจะทำ แต่มันมีคนตาย...สถานการณ์มันรุนแรงมาก แล้วผมที่เป็นคนข้างหลังก็ทำได้แค่นั่งรอนอนรอ

ความกังวลทำให้ผมกอดเจ้าปั้นชาไว้แน่น ในค่ำคืนที่เงียบสงัดเต็มไปด้วยความอึดอัดจนผมข่มตาหลับไม่ได้...เสียงฝีเท้าคนหลายคนดังมาจากด้านนอกทำให้ผมดันตัวลุกขึ้น

ถ้าผมหลับสนิทอาจจะไม่ได้ยิน แต่ฝีเท้าคนกลุ่มนี้ค่อนข้างเร่งรีบและผมยังตื่นอยู่ มือรีบคว้ากล่องตราประทับและกุญแจ พาตัวเองหลบไปอยู่ใต้เตียง

ห้องนอนพี่ซันเป็นเตียงแบบจีนโบราณที่มีผ้าม่านทิ้งตัวลงมาปิดคลุมจนถึงพื้น ช่องว่างใต้เตียงยังมีผ้าผืนหนาอีกผืนปิดช่องไว้ ผมพาตัวเองมาหลบไว้

ดึกๆ แบบนี้คนที่รีบไม่น่ามีเหตุผลอะไรดีๆ สถานการณ์แบบนี้ไม่น่าใช้พี่ซันที่อยากจะเซอไพรส์ผมด้วยกองทัพกระต่าย

“หยางอวิ๋น หยางอวิ๋นอยู่ไหนคะ”

“อิงอิง ผมอยู่นี่”

ผมรีบออกมาจากใต้เตียง อิงอิงและบอดี้การ์ดสามสี่คนยืนอยู่กลางห้อง

“รีบไปค่ะ”

“ไปไหนครับ”

“ประธานาธิบดีหยางถูกให้ออกจากตำแหน่งค่ะ เติ้งเสี่ยวผิงเลือกคนอื่นแล้วค่ะ”

ความซับซ้อนของประเทศจีนคือแม้ประธานาธิบดีก็ไม่ได้มีอำนาจสูงสุด ในยุคนี้คือเติ้ง เสี่ยงผิงต่างหากที่อยู่เบื้องหลังและมีบทบาทในการเป็นผู้นำของประเทศ

“ละ แล้วพี่ซัน...”

“ไปก่อนค่ะ ยังไงต้องไปก่อน กลับไทยไปก่อนค่ะ ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว”

ค่ำคืนยังคงเงียบสงบ มีแต่เสียงฝีเท้าของกลุ่มเราที่วิ่งไปที่รถเล็ก มีเพียงบอดี้การ์ดคนเดียวในกลุ่มที่ไปกับผม เราเดินทางกันแค่สองคนไปสนามบิน บอดี้การ์ดเลือกซื้อไฟลท์บินไปไทยที่เร็วที่สุด ไม่มีเฟิร์สคลาส ไม่มีบิซิเนสคลาส เป็นเพียงที่นั่งชั้นประหยัด

พาสปอร์ตของผมอยู่ในมืออีกฝ่าย ผมไม่รู้ว่าเอกสารของตัวเองมาอยู่กับเขาได้ยังไง....ถ้าไม่ใช่พี่ซันเตรียมไว้ก่อนแล้ว เวลาผ่านไปครู่เดียวผมก็มานั่งอยู่ในเครื่องบินกับบอดี้การ์ดที่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

การกวดขันของเจ้าหน้าที่เข้มงวดจนผมระแวง แต่เพราะผมถือพาสปอร์ตชาวต่างชาติเลยไม่ค่อยมีปัญหา ผมเข้ามาอยู่จีนด้วยวีซ่านักเรียน การเข้าออกประเทศจีนจึงเป็นเรื่องปกติ แต่บอดี้การ์ดที่มากับผม มีพาสปอร์ตอเมริกันนั่นทำให้ผมแปลกใจ เขาดูอายุยังน้อยมาก มากจนไม่น่าใช่บอดี้การ์ดด้วยซ้ำ

“คุณ...เป็นใครครับ หมายถึง ชื่ออะไรครับ คุณดูยังเด็ก”

“เราให้บอดี้การ์ดจริงๆ มากับคุณไม่ได้...ผมเป็นน้องชายพี่อิงอิง ผมถือสัญชาติอเมริกันด้วยความบังเอิญ เราสองคนเท่านั้นที่ตอนนี้ออกประเทศจีนได้โดยไม่มีปัญหา เพราะผมก็ถือวีซ่านักเรียนเหมือนกัน”

“ผมกังวล”

“ผมเองก็กังวล แต่เราทำอะไรไม่ได้แล้ว เราได้สิทธิ์ที่จะหนีไปที่คนอื่นอุตส่าห์เสียสละมาให้ ผมคิดว่า เราควรใช้ชีวิตให้เต็มที่...เผื่อคนที่จากไป”

“ผมไม่อยากให้ใครจากไป”

“ผมรู้...ผมเองก็ไม่ ผมแค่อยากปลอบใจคุณ”

ไฟบนเครื่องบินปิดลง บทสนทนาจบ ณ ตอนนั้น.... ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทไม่เห็นแม้แต่ดาว...คืนเดือนมืดแบบนี้พระอาทิตย์ของผมเป็นยังไงบ้าง...ไม่รู้เลย



=================

หลังจากตลกคาเฟ่กันมาสองสามตอน เราก็ต้องกลับมาสู่โลกความเป็นจริงกันนะคะ 555555555

คือฉากเรื่องนี้แบมเลือกช่วงประธานาธิบดีหยาง ซั่งคุนค่ะ อยู่ในกลุ่มเติ้ง เสี่ยวผิง เหตุการณ์สำคัญช่วงนี้ก็การประท้วงที่เทียนอันเหมินนั่นเอง มันจะไม่งงนะคะ เพราะเราไม่ได้ใส่ดีเทลเยอะ แล้วไม่ได้อิงไทม์ไลน์จริงๆ เท่าไหร่นัก หรืองงแล้ว? 55555555555



ใครสนใจไปหาอ่านได้ค่ะ ประวัติเติ้ง เสี่ยวผิงน่าสนใจมาก



เอาเป็นว่าไม่ลงลึกค่ะ มีแค่นี้ สรุปง่ายๆ สำหรับคน งง การเมือง ก็คือ คุณลุงพี่ซัน (ประธานาธิบดีหยาง) โดน ถอดจากตำแหน่ง พออำนาจเปลี่ยนมือ ลูกหลานก็ได้รับผลกระทบ หยางอวิ๋น เลยโดนส่งหนีไปก่อน เหมือนข่าวการเมืองไทยทั่วไปค่ะ







ส่วนพี่ซันนั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน to be con.



หลังจากนี้ก็ไม่ค่อยการเมืองแล้วค่ะ การมุ้งจะมาแทน 55555555+ มุ้งของกันติชาอ่ะค่ะ จะมีลูกละ








ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น้องตองงงงงงงงงงง ถึงจะรู้ว่าพี่ซันจะรอดแต่นุก็ยังเครียด :katai1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่ซันนนน จะเป็นไรมั้ยเนี่ยยย

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ต้องผ่านไปให้ได้.. :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 ตองเก่งกาจมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ๊ยยย เครียดดด

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แต่ตองน่าจะไปเปิดสำนักนะ เดาอนาคตเจิ้นแม่นเชียะ 5555555555555555

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
การเมืองส่งผลต่อการมุ้งจริงๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
น้องเครียดดดดดดดดดด :hao7:

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
เป็นเหตุผลให้อิพี่ซีนสามารถออกนอกประเทศได้ง่ายขึ้น ให้เจ้าจันทร์ปลดทรัพย์สะดวกๆ ปะเนี่ย 555

จริงๆในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่ สงสารอวิ๋น สงสารพี่ซัน ¥___¥

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ลุ้นลุ้นลุ้นทุกบรรทัด จะยังไง  รอการมุ้งต่อไป

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องตอง ต้องเข้มแข็งไว้นะ

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 24 Yue

สุริยะ หยางสะบัดชายเสื้อด้วยความหงุดหงิด ขายาวก้าวไปตามทางเดินของกู้กงจื่อจิ้นเฉิงหรือพระราชวังกู้กง การประท้วงที่จตุรัสเทียนอันเหมินนอกจากรัฐบาลจะกังวลเรื่องอำนาจทางการปกครองแล้ว สิ่งที่ต้องกังวลมากกว่าคือพระราชวังแห่งนี้ พระราชวังต้องห้ามที่มีมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ เป็นที่ประทับของกษัตริย์มาแล้ว 24 พระองค์รวมแล้วสองราชวงศ์

และพระราชวังนี้ดันอยู่ใกล้กับจตุรัสเทียนอันเหมิน ถ้าเกิดการประท้วงรุนแรงสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือวังจะถูกกลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ามา วังนี้นอกจากจะเก่าแก่ทางประวัติศาสตรย์ ยังเต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมเดิมที่สืบทอดมาเป็นร้อยปี ทิศทางฮวงจุ้ย ต้นไม้มงคล และตำหนักรวม 9,999 ห้อง สูญเสียอะไรไปไม่ได้เลย!

ความคาดหวังของรัฐบาลช่างสวนทางกับความเป็นจริง แต่เพราะคณะรัฐบาลตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง เขาในฐานะคนดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติย์พ่วงตำแหน่งยามเฝ้าวังเก่ากิตติมศักดิ์ก็เลยต้องมาอยู่ตรงนี้

นอกจากจะต้องประสานงานกับฝ่ายกลาโหมให้ทหารมาล้อมรอบวังแล้ว ยังจะต้องส่งคนของตัวเองคอยตรวจตราทุกๆ บริเวณของพระราชวัง

“หยางอวิ๋นออกนอกประเทศไปแล้วครับ”

เสียงรายงานจากชิวซีทำให้ความกังวลลดทอนไปหลายส่วน นอกจากจะมีการประท้วงแล้วยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนการปกครอง ตระกูลหยางที่คนเข้าใจว่าแค่นามสกุลเหมือนกันตามประสาคนจีนส่วนมากจะต้องโดนเพ่งเล็งไปด้วย เขาเองก็อาจจะต้องถูกเรียกตัว อะไรก็ไม่แน่นอน ส่งอวิ๋นกลับไปก่อนก็สบายใจกว่า

ร่างสูงทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นหน้าตำหนักไถ่เหอ เป็นตำหนักที่ตั้งอยู่บนแท่นหินหยกขาวสูงถึงสองเมตร มีบัลลังก์มังกรอยู่ด้านในใช้สำหรับว่าราชการมาทุกสมัย

“อาเฟย”

“ครับหยางหวาง”

“พื้นที่วังนี้ฐานลึกถึงสิบห้าเมตร ป้องกันศัตรูลอบขุดโพรงเข้ามาทำร้ายกษัตริย์”

“ครับ”

“กำแพงวังรอบด้านสูงสิบเมตรป้องกันสงคราม”

“...”

“บ้านฉันอยู่สูงถึงยอดตึก พื้นบ้านสูงเป็นร้อยชั้น กำแพงสูงเป็นกิโล ยังมีคนเข้ามาได้...อย่าประมาท บอกคนของเราระวังตัวให้ดี ในทางกลับกันระวังทหารไว้ให้ดี ถึงฉันจะสั่งพวกเขาได้แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนของเรา ถ้ารัฐบาลเปลี่ยน...”

“ครับ หยางหวาง”

มือหนากดลงกับแผ่นกระเบื้องบนผืน ก่อนจะเงยหน้ามองผ่านเข้าไปยังบัลลังก์มังกร ราชวังจักรพรรดิไม่ใช่ที่ควรอยู่เลยด้วยซ้ำ บนลานนี่คนตายมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคน การแย่งอำนาจมีทุกยุคทุกสมัย อำนาจเก่าตายไปอำนาจใหม่เข้ามาแทนที่ วัฎจักรที่ไม่มีวันจบสิ้น

“หยางหวาง! รัฐบาลเปลี่ยนแล้วครับ มีคำสั่งเรียกตัวทุกฝ่าย”

คนสนิทอีกคนรีบวิ่งเข้ามารายงาน สุริยะ หยางรีบดันตัวขึ้นยืน กลุ่มบอดี้การ์ดของอาเฟยขยับเข้ามายืนล้อมรอบ ชิวซีเองก็เช่นกัน

“ใครได้ตำแหน่ง?”

“เจียง เจ๋อหมิง”

ฟันกรามขบแน่น...ขั้วอำนาจฝั่งตรงข้ามเป็นฝ่ายชนะ การพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีหยางซั่งคุน ประธานาธิบดีจีนทุกคนล้วนมีเติ้ง เสี่ยวผิงสนับสนุน...แต่คนต่อไปไม่ได้เป็นคนที่กลุ่มเขาเลือก

“หยางซั่งคุนล่ะ”

“ถูกสั่งให้ออกจากราชการครับ”

“อาเฟย ส่งคนไปรายงานตัว บอกว่าสถานการณ์รอบวังตึงเครียด ฉันจะไปช้า ป้องกันสมบัติชาติเป็นเรื่องใหญ่ หยางหวางรับหน้าที่นี้มาหลายชั่วอายุคน ขอให้รัฐบาลเข้าใจด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยังยืนยันว่าจะปกป้องสมบัติชาติต่อไป”

บอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบวิ่งออกไป สุริยะ หยางก้าวเท้านำกลุ่มคนสนิทเดินผ่านตำหนักจักรพรรดิเข้าไปยังเขตพระราชวังชั้นใน ทหารของรัฐบาลยังปฏิบัติงานกันปกติ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาถึงเขาเร็วนัก

“อาเฟย...ถ้าพ่อฉันไม่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อ พวกนายมีทางเลือกสองทาง คือทำงานให้รัฐบาลใหม่กับลาออก พวกนายเป็นบอดี้การ์ดที่รัฐบาลจ้างมา คำสั่งอื่นคงจะตามมาเร็วๆ นี้ เมื่อถึงเวลาเลือกก็ต้องเลือก เพราะหยางหวางคนต่อไปอาจจะไม่ใช่ฉัน”

“หยางหวาง...”

“ชิวซี ถ้าพ่ออยู่ไม่ได้แม่ก็อยู่ไม่ได้ นายไม่ได้เกี่ยวอะไรแต่แรก ไปซะ อยากไปไหนก็ไป หน้าที่ดูแลฉันจบลงแล้ว”

“หยางหวาง...”

คนสนิทสองคนที่มาเจ้านายคนละคนชะงัก แต่ทว่าแผ่นหลังกว้างยังคงยืนหยัดและก้าวเดินไปตามทางของตำหนักใน การตัดสินใจของหยางหวางไม่มีแม้แต่การลังเล

“แค่อย่างสุดท้าย อาเฟย...ชิวซี ในฐานะที่อยู่กันมาหลายปี ฉันขอแค่...เก็บกวาดอาณาจักรพระอาทิตย์ซะ ทำลายให้หมด ก่อนที่รัฐบาลจะส่งคนมา อย่าให้เหลืออะไร...แม้แต่ปลา”

คำสั่งด้วยน้ำเสียงมั่นคงทำให้คนสนิทหัวใจไหววูบ หยางหวางรักบ้านของตัวเองขนาดไหนใครๆ ก็รู้ ปลาทุกตัวก็ไม่ใช่ว่าใครจะไม่เคยเห็นยามจักรพรรดิพระอาทิตย์ดูแลพวกมัน เรียกมันว่าลูกคำแล้วคำเล่า แจกัน ภาพวาดบนอาณาจักรที่รักนักรักหนา

“อย่าลังเล ถึงเวลาต้องทำก็ต้องทำให้เด็ดขาด รีบไปซะ”

“ครับ”

สิ้นเสียงรองเท้าของลูกน้องคนสนิทที่รีบร้อนออกไป ขายาวก็หยุดเดินก่อนจะยกมือหนาขึ้นนวดขมับ บ้านทั้งหลังที่เตรียมไว้หลายปีเพื่ออยู่กับอวิ๋นคงจะต้องปล่อยมันไปแล้ว

เราค่อยสร้างบ้านกันใหม่นะ...อดทนก่อน แล้วพี่จะไปรับกลับมา



“เกิดการจราจลที่เซี่ยงไฮ้ในย่านเศรษฐกิจ มีผู้ร้ายลอบวางระเบิดเครือบริษัทหยาง เชื่อว่าต้องการข่มขู่รัฐบาลเพราะตระกูลหยางทำธุรกิจที่สนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก ด้านผู้บริหารยังไม่ออกมาแถลงข่าวใดๆ จำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับการยืนยัน ข่าวต่อไป...รัฐบาลจีนเปลี่ยนผู้นำ เจียงเจ๋อหมินขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีภายใต้การสนับสนุนของเติ้ง เสี่ยวผิง...”

“ตอง! ”

ผมร้องไห้ออกมาเหมือนคนเป็นบ้า ภาพบ้านผมกับพี่ซันไฟไหม้ในทีวีมันเลวร้ายมาก บ้านของเรา...เก๋งจีนในสวน บ่อปลาของพี่ซัน ตุ๊กตากระต่ายหูยาวหลายตัว ไม่เหลืออะไรแล้ว

“พี่จิน...บ้าน บ้านตอง”

“โธ่ตอง”

“เป็นอะไรอ่ะ”

เจ้าอ้วนในชุดนักเรียนประถมทิ้งกระเป๋านักเรียนแล้ววิ่งเข้ามากอด ผมพูดอะไรไม่ออกสักคำทำได้แค่ร้องไห้ และร้องไห้ ข่าวการประท้วงและการเปลี่ยนรัฐบาลถูกพูดถึงอย่างมากในหลายวันนี้ เพราะจีนถูกมองว่ากำลังจะเป็นมหาอำนาจใหม่แทนสหรัฐ

แต่ผมไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นประธานาธิบดี ใครจะยึดอำนาจ ใครจะไปท้วง ผมแค่อยาก...อยากรู้ว่าสุริยะ หยางอยู่ไหน เขาเป็นยังไง เขา...เขายังอยู่ไหม



ข่าวของพี่ซันหายไปจากผมได้หนึ่งปีแล้ว สถานการณ์ในจีนกลับสู่ความสงบแต่ข่าวจากตระกูลหยางไม่มีมาเลยสักครั้ง ทุกความสูญเสียมีระยะเวลาเยียวยาของมัน แม้แต่ผมก็เลิกร้องไห้ในที่สุดแล้วกลับไปเรียน

เจิ้น เยว่ทำตัวติดกับผมราวกับเพื่อนสนิท การมีหลานอยู่ด้วยทำให้ผมดีขึ้น ช่วงที่ผ่านมาผมเหมือนไม้หลักปักเลนที่โดนกระแสน้ำทะเลพัดแกว่งไปมา พอมีเรื่องเจิ้นให้ต้องใส่ใจผมก็ดีขึ้นทีละนิด

“จะเรียนเศรษฐศาสตร์หรอ”

“ใช่”

“ทำไมล่ะ”

“ก็บ้านทำธนาคาร ก็ต้องเรียนเกี่ยวกับเงิน”

“สอบเข้ามหาวิทยาลัยยากไหม”

“ยาก แต่บังเอิญเก่งอ่ะ เลยเข้าที่ไหนก็ได้”

เจ้าอ้วนเบะปากใส่ผมแล้วก็หันไปสนใจโจทย์คณิตศาสตร์ตัวเองต่อ ความเสียใจทำให้ผมเรียนเก่งขึ้น เพราะการโฟกัสกับการเรียนทำให้ผมยุ่งจนลืมเสียใจ

“ตอง ช่วยพี่เปลี่ยนหลอดไฟหน่อยสิจ๊ะ”

“ครับพี่จิน”

พี่จินเป็นอีกคนที่ช่วยให้ชีวิตผมหลังจากกลับมาอยู่กับเยว่ไม่รู้สึกแปลกแยกเกินไปนัก พี่จินยังเหมือนเดิม ดูแลผม ใส่ใจผมและทำให้รู้สึกว่าเรายังเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิม

“มีตองนี่ดีจังเลย น้องชายพี่เท่จัง”

ผมหัวเราะไปกับคำพูดของพี่จิน ก็แค่ปีนบันไดมาเปลี่ยนหลอดไฟห้องนอนเอง บ้านเรามีคนงานผู้ชายอยู่เหมือนกัน แต่บางอย่างทำเองก็เร็วกว่า

“ไม่เท่อย่างเดียวนะครับ หล่อด้วย”

“จ้าพ่อคนหล่อ เดี๋ยววันนี้พี่ทำบัวลอยให้กิน สูตรใหม่อร่อยแน่นอน”

หนึ่งปีมานี้ผมน้ำหนักลดลงเยอะมากจนพี่จินกังวล ก็เลยกลายเป็นทำอาหารขุนผมให้กลับมาน้ำหนักเท่าเดิม แต่คนที่กินดีมีความสุขน่าจะเป็นเจ้าอ้วนมากกว่า

“อย่าลืมกินยานะตอง”

“ครับพี่จิน”

“เจิ้น ไปกินยาเป็นเพื่อนอาตองเร็ว”

ผมต้องกินยาแก้วิตกกังวลตั้งแต่เกิดเรื่องที่จีน ส่วนเจิ้นกินวิตามินเป็นเพื่อนผม พี่จินเองก็กินวิตามินบำรุงเหมือนกัน ถึงเวลากินยาเลยไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่แปลกประหลาด



ผลการยืนคะแนนสอบเข้ามหาลัยของผมไม่มีปัญหาอย่างที่คิด ชีวิตของผมช่วงนี้ไม่มีเรื่องทุกข์ใจอะไรเลยยกเว้นความคิดถึง พี่จินเคยพูดกับผมแค่รอบเดียวตอนที่ผมสติแตกในช่วงแรกๆ ว่า ตอนนี้ผมต้องใช้ชีวิตให้มีค่า เพราะพี่ซันไม่ได้ไปไหน เขายังอยู่ในใจของผม แล้วถ้าเขารู้ว่าผมไม่มีความสุข เขาก็จะไม่มีความสุข

บอดี้การ์ดที่พาผมกลับมาไทยก็อยู่ไทยแค่เดือนเดียวก็กลับอเมริกาไป เขาไม่ใช่คนในแต่แรกอยู่แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในจีนเป็นยังไง แต่เขามาส่งผมและรอเวลาตามที่อิงอิงสั่งไว้เท่านั้น

ชีวิตผมช่วงสามสี่ปีที่จีนเหมือนกับความฝัน หลักฐานที่บอกว่ามันคือเรื่องจริงก็มีตราประทับตระกูลหยางกับกุญแจโบราณและกระต่ายปั้นชา ปั้นชาเริ่มเก่าแล้ว ด้ายตรงหูเลยหลุดออกมา พี่จินก็หยิบไปเย็บให้มันเลยกลับมาสุขภาพดีเหมือนเดิม

“ทำไมชอบกระต่าย”

“เพราะกระต่ายน่ารัก”

“น่ารักยังไงหรอ”

“ก็ถ้าเราเจอคนตัวเล็กๆ น่ารักแล้วเอากระต่ายให้เขาถือ มันก็ยิ่งน่ารักไง”

ทฤษฎีสุริยะ หยาง ซื้อกระต่ายให้ผมเพราะคิดว่าผมน่ารักเหมือนกระต่าย เจิ้นทำหน้างงกับคำอธิบายแต่ก็ยื่นมือมาขอกระต่ายไปอุ้ม

“แล้วเราจะเจอคนน่ารักตอนไหนอ่ะ”

“ถึงเวลาก็รู้เองแหละว่าเราจะต้องให้กระต่ายกับใคร เพราะคนน่ารักที่เราอยากจะให้กระต่ายกับเขาคงมีคนเดียวในโลก”

“เข้าใจยากจัง”

“โตก่อนก็เข้าใจเอง อีกไม่กี่ปี ทนสงสัยไปก่อนนะ”

เจิ้นทำน่าสงสัยแล้วก็ถอนหายใจ พอเด็กๆ ทำท่าเลียนแบบผู้ใหญ่มันก็ขำจริงๆ อ่ะ

“แล้วน้าตองเคยให้กระต่ายใครไหม?”

“ไม่หรอก...พอดีน่ารักเลยเป็นฝ่ายได้รับกระต่ายแทนไง”

“น่ารักตรงไหน น่าเกลียดจะตาย ตาถั่ว”

“น้าไม่เหมาะกับกระต่ายหรอ? ออกจะน่ากอดเหมือนกัน”

เจิ้นส่ายหัวรัวๆ แล้วก็ส่งกระต่ายคืนมา เจิ้น เยว่ในวัยเก้าขวบเริ่มมีเค้าลางของการเปลี่ยนแปลงเป็นวัยรุ่น อีกปีสองปีคงสูงพุ่งชะรูดเป็นต้นมะพร้าว พี่เขยของผมก็ตัวสูง เจ้าบ้านเยว่ก็ตัวสูง พี่จินเองก็เป็นผู้หญิงตัวสูงเท่าๆ กับผมที่เป็นผู้ชายด้วยซ้ำ

“แล้วถ้าเจอคนน่ารักต้องไปซื้อกระต่ายที่ไหนอ่ะ”

“ฮันแน่...เจ้าชู้นะเรา ก็เอายี่ห้อนี่ดิ นุ่มดี กอดนุ่ม หูยาว คนน่ารักต้องกอดกระต่ายหูยาวๆ”

“อือ ถึงเวลาต้องพาไปซื้อนะ”

“เอาตัวที่น่ารักอันดับสองของโลกเลยนะ”

“ทำไมไม่ได้อันดับหนึ่ง”

“เพราะอันดับหนึ่งคือตัวนี้”

โอ้ยขำ ขำจริงๆ หลานชายผมขมวดคิ้วทำปากขมุบขมิบแล้วก็ถอนหายใจแถมยังส่ายหัวปลงอีก การมีหลานน่าแกล้งนี่เป็นรางวัลชีวิตอย่างหนึ่งเลยน้า



ชีวิตมหาวิทยาลัยของผมเริ่มพร้อมๆ กับการที่เจ้าบ้านเยว่เริ่มสนใจธุรกิจร้านชา ผมเคยทำให้สุริยะ หยางมาก่อนก็เลยได้รับหน้าที่คอยดูแลร้านชาสาขาแรกของเยว่

เราเปิดเป็นช็อปของฝากอยู่ในห้างแห่งหนึ่ง สินค้าเป็นชาที่ปลูกในไทย ไม่ได้ทำกำไรเลยในไตรมาสแรกแต่เป็นความชอบส่วนตัวของเจ้าบ้านเยว่

บ้านเราเป็นบ้านจีน ชาเป็นอะไรที่ผมคุ้นเคย ชาที่ปลูกในไทยยังไม่ได้คุณภาพเท่ากับชาจีนของร้านในเครือพระอาทิตย์ แต่มันก็น่าซื้อเป็นของฝากมากกว่าจะดื่มเอง

กิจกรรมมหาลัยทำให้ผมมีเพื่อนเยอะขึ้น นิสัยที่ติดตัวมาจากจีนที่ผมแก้ไม่หายคือการกลืนไปกับเพื่อนทุกกลุ่ม หัวเราะไปกับเรื่องที่ผมไม่ได้สนใจ กลายเป็นว่าผมมีคอนเน็คชั่นกับเพื่อนหลายกลุ่มโดยที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้คอนเน็คชั่นนี้ทำอะไร

จนกระทั่งเข้าเทอมสอง การมีเพื่อนเยอะก็ส่งผลให้ร้านชาของผมมีกำไรมากขึ้น สังคมในมหาวิทยาลัยมีแต่ลูกคนรวย ที่สนับสนุนกิจการของกันและกัน มิตรภาพในวงการธุรกิจ ผมไม่ได้ชอบเท่าไหร่ แต่ผมทำมันได้ดี

แล้วผมก็กลายเป็นคนเที่ยวกลางคืนตามเพื่อน เราอายุไม่ถึงแต่กฏหมายไม่ได้แข็งนักโดยเฉพาะในกลุ่มลูกหลานคนมีเงิน

“เฮ้ยตองมีบุหรี่ปะ”

“มีๆ เอาแบบร้อนหรือเย็น?”

ที่บ้านไม่ได้มีใครว่าเรื่องเที่ยวกลางคืนเพราะผมไม่ได้กลับดึกอะไรมากมาย ไม่ได้เมาหนัก แล้วเพื่อนกลุ่มผมก็มีแต่ลูกตระกูลคู่ค้ากับเยว่

พี่ซันหายไปจากผมเข้าปีที่สอง ผมก็ยังคิดถึงเขาเหมือนเดิมแค่ไม่ได้เศร้าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลังๆ ผมก็ทำใจได้ว่าพี่ซันคงไปอยู่เป็นพระอาทิตย์บนท้องฟ้า ไม่งั้นเขาคงไม่ปล่อยผมอยู่นี่มานานขนาดนี้

ผมทำใจได้ขนาดที่ว่าตื่นมาทำบุญกับพี่จินตอนเช้าก็กรวดน้ำขอให้พี่ซันมีความสุข พี่จินยังขำ แซวว่าถ้าพี่ซันได้ยินคงโมโห ผมทำบุญทั้งยาดม ยาหอม ยาแก้ความดัน แล้วบางทีก็ทำบุญด้วยชาราคาแพง ทำอาหารเหลาชุดใหญ่แบบที่พี่ซันชอบบ้าง ล่าสุดวันตรุษจีนก็เผายาย้อมผมไปให้ด้วย อยู่บนนั้นเดี๋ยวโดนคนอื่นล้อว่าผมหงอก

ในห้องนอนผมตอนนี้ก็มีรูปพี่ซันใส่กรอบแขวนอยู่พร้อมกระถางธูปเล็กๆ เป็นรูปพี่ซันสมัยก่อนที่ยังดูเด็ก เจ้าบ้านเยว่ถ่ายไว้เมื่อนานมาแล้วสมัยพี่ซันมาไทย

พี่ซันเองก็เคยมาไทยเหมือนกันตอนอายุสิบสองสิบสาม ก่อนเขาจะไม่ได้ออกนอกประเทศอีกด้วยภาระหน้าที่ ตอนนี้เวลาผมเครียดๆ บางทีก็มาจุดธูปคุยกับเขา ฐานะพี่ซันในใจผมไม่เคยลดลง ผมเองก็คงไม่มีวันเปิดใจให้ใครได้อีก

“ไว้ตองรวยจะหาซื้อแจกันเผาไปให้นะ ตอนนี้ไม่มีเงิน พี่ซันอยู่บนสวรรค์อย่าไปขโมยแจกันเทวดานะครับ เดี๋ยวโดนทำโทษไม่ได้มาเกิดใหม่นะ ช่วงนี้ตองติดบุหรี่อ่ะ โคตรแย่ ถ้าเราจูบกันต้องโดนพี่ซันดุแน่เลย... ตรุษจีนปีหน้าจะเอาเหล้ามาจุดธูปให้นะ เดี๋ยวนี้เป็นเด็กไม่ดีแล้วครับ เมาบ่อย”

รูปพี่ซันในกรอบยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผมเหมือนเดิม ผมนั่งบ่นไร้สาระจนธูปหมดดอกก็ลุกขึ้น สายตาหันไปเห็นเจิ้นยืนชะเง้ออยู่ตรงประตู

“คุยกับเขาอีกแล้วหรอ”

“อือ อดไม่ได้น่ะ”

“คุยแล้วเขาได้ยินไหม?”

“ได้ยินมั้ง? แต่แค่ตอบไม่ได้เฉยๆ เพราะเขาตายแล้ว”

“ไม่ตายหรอก แม่บอกว่าคนตายไม่ได้ไปไหน แต่ยังอยู่ในใจ เหมือนตอนคุณย่าตาย”

“ใช่...เขายังอยู่ในใจ เลยต้องใช้ชีวิตให้ดีเขาจะได้ภูมิใจ”

“น้าตอง...อย่าตายตามเขาไปนะ”

ผมดึงหลานเข้ามากอด ผมผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดมาแล้ว ผมดีขึ้นกว่าตอนนั้นมากทีเดียว เจิ้นเคยพูดหลายครั้งว่าอย่าตามพี่ซันไป ยังไปไม่ได้หรอก...ผมยังอยากดูแลหลาน ยังอยากอยู่กับพี่จิน ยังอยากช่วยงานเจ้าบ้านเยว่อยู่ ยังอยากใช้ชีวิตอิสระที่พี่ซันไม่เคยมีแทนเขา

“ไม่ตายหรอก ปล่อยสุริยะ หยางเป็นผีไปคนเดียวก่อน รู้ไหมป่านนี้โวยวายสวรรค์แตก ตกนรกไปแล้วมั้ง”

“ทำได้ด้วยหรอ”

“คนแบบสุริยะ หยางคงเป็นผีน่ารำคาญ สมมุติเขาให้ลงกะทะทองแดง ก็คงถามยมทูตว่ากะทะนี่อายุกี่ปี ทำจากอะไร ราคาเท่าไหร่ ถ้าถูกใจก็ขอซื้อกะทะผีอีก หรือปีนต้นงิ้วก็คงถามยมทูตอีกว่าเป็นต้นไม้มงคลไป ปลูกถูกหลักฮวงจุ้ยหรือเปล่า ถ้ายิ่งไปสวรรค์นะยิ่งสงสารเทวดาเลย ของดีๆ แพงๆ คงเยอะ โดนขโมยหมดแน่”

“ทำไมนิสัยไม่ดีเลย”

“เจอคนหน้าตาแบบนี้อย่าไปเข้าใกล้ จำไว้นะ”

เจิ้นทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ผมหลอกหลานสำเร็จแล้ว การหลอกเจิ้นให้สงสัยนี่เป็นความสุขของชีวิตเลยล่ะ เดี๋ยวโตขึ้นจะหลอกไม่ได้แล้ว ตอนนี้ต้องรีบหลอกไว้ก่อน

ขอโทษนะครับพี่ซันที่แอบนินทา ไว้ทำบุญคราวหน้าอวิ๋นจะเผาชาไปให้นะ



==========================

เวรกรรมของกันติชาเขานะคะ แกล้งหลานมาก 5555555555555555 โดนแย่งมูนนี่แน่

ส่วนพี่ซันขนาดเป็นผีก็ยังโดนเมียจิกกัด

ฉากตอนต้นเรื่องเป็นพระราชวังกู้กงค่ะ ใครมีโอกาสไปเที่ยวปักกิ่งต้องไปให้ได้ สวยมากค่ะ ใหญ่อลังการตระการตา แนะนำให้ไปแบบมีไกด์นะคะ เขาจะเล่าเกร็ดประวัตินั่นนี่ให้ฟัง



#อาณาจักรพระอาทิตย์ เป็นนิยาย Irony หรือ Ironic คือการย้อนแย้ง

เช่น พี่ซันเป็นพระเอก ชอบกระต่าย ชอบปลา ชอบอะไรเล็กๆ จุกจิก ขี้หึง

แต่นายเอกแบบอวิ๋น ที่ตัวเล็กๆ กลับวางแผน ชอบคิด และแอบเป็นผู้นำในแบบผู้ตาม

เป็น irony แบบ Dramatic Irony คือคนอ่านรู้ทันตัวละคร แต่ตัวละครยังไม่รู้ อย่างที่ทุกคนรู้ว่าพี่ซันไม่ตายหรอก 555+ แต่ตัวละครในเรื่องยังไม่รู้ค่ะ



ตัวละครที่แบมชอบมาตั้งแต่ภาคเจิ้นยันภาคนี้คือคุณแม่เจิ้นค่ะ เป็นพลังงานบวกในชีวิตของทุกตัวละคร

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด