Chapter 26 desert
ตาคมมองรอยเท้าอูฐที่ทอดยาวไปตามเนินทรายสุดลูกหูลูกตา ผิวคร้ามแดดและเลอะเทอะไปด้วยเศษทรายลบเลือนผิวขาวเผือดแบบคนจีนไปจนหมด เสียงทอดถอนใจดังขึ้นแผ่วเบาก่อนจะหันกลับมาดึงสายเชือกให้อูฐเดินต่อ
ร่างกายขยับเอียงซ้ายเอียงขวาไปตามจังหวะ ก่อนจะหันไปไปทางขวาหาคนที่เอียงไปเอียงมาข้างกัน รายนั้นก็ดำขึ้นเยอะ แต่มันยังหล่อเหมือนเดิม เหอะ...
สองปีแล้วที่ถูกส่งมากักบริเวณที่เยว่หยาเฉวียน คนในสายของหยาง ซั่งคุณโดนบังคับจับเกษียณกันหมด สุริยะ หยางก็เช่นกัน แต่กำหนดการถูกกักบริเวณของเขามีระยะเวลาแค่สองปี เพื่อตัดขาดการติดต่อกับสายอำนาจเดิมมามีปัญหากับรัฐบาลใหม่
สุริยะ หยางรับใช้ประเทศในฐานะคนดูแลทรัพย์สิน ศิลปะชาติ แต่ช่วงหลังจุดยืนต่อการเมืองค่อนข้างเลือกฝ่ายเลยโดนไล่มาอยู่มณฑลซินเจียง จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมที่กินพื้นที่มาในทะเลทรายโกบี
เยว่หยาเฉวียนหรือบึงพระจันทร์เสี้ยวไม่ใช่เมือง ไม่ใช่มณฑล แต่เป็นโอเอซิสในทะเลทรายที่ไกลจากตัวเมืองออกมา มีอาคารแบบจีนตรงกลางล้อมรอบไปด้วยอาคารชั้นเดียวแบบบ้านขุนนางจีนสมัยโบราณ ไม่มีรั้วเพราะมีทะเลทรายล้อมรอบ กับบึงน้ำขนาดใหญ่พอประมาณและบริเวณสีเขียวที่ตอนนี้เอาไว้ปลูกผัก
การใช้ชีวิตทุกอย่างถูกจับตามอง มีคนของรัฐบาลมาตรวจดูเป็นระยะป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศและการสร้างฐานอำนาจใหม่
พอแต้มต่อทางการเมืองเปลี่ยนเขาก็ไม่คิดจะขัดขืนให้เป็นปัญหา ขนาดพ่อกับแม่ยังถูกส่งไปอยู่คนละฟากประเทศ เลือกจะเดินทางสายนี้ก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง
“ข้างหน้าคือเยว่หยาเฉวียนแล้วครับ”
คนทางซ้ายที่โยกไปโยกมาบนอูฐก็คืออาเฟย สองคนนี้ยังคงทำตัวผูกติดกับเขาโดนเนรเทศมาด้วยกัน จริงๆ คือเขาโดนคนเดียว ส่วนอาเฟยสังกัดรัฐบาลอยู่แล้วก็ถูกส่งมา มาถึงซินเจียงก็เจออดีตคนข้างบ้านหน้าหล่อตามมาด้วย
“ไม่มีเงินจ้างมึงนะชิวซี”
“ผมยังได้เงินเดือนปกติครับ ผู้บริหารอาณาจักรพระอาทิตย์ไม่ได้ไล่ผมออก”
เบื่อมันจริงๆ แต่ต้องยอมรับว่าพอมาอยู่กลางทะเลทรายจริงๆ แล้วชีวิตมันไม่ง่ายเลย ระยะสามเดือนแรกป่วยหนักจนต้องเชิญหมอในเมืองมารักษา อาเฟยแจ้งข่าวไปที่รัฐบาลถึงได้หมอประจำตระกูลจากเซี่ยงไฮ้นั่งฮอล์มาดูแลถึงที่
รัฐบาลไม่ได้อยากให้เขาตาย ใครจะอยากมาดูแลสมบัติ เจรจากับตลาดมืดแถมไม่รู้ว่าจะโกงกินเมื่อไหร่ จริงๆ เขาก็โกง แต่เผาบ้านตัวเองก่อนเลยรอด หลักฐานหายไปหมดเหลือแต่เขม่าขี้เถ้า
สภาพอากาศของทะเลทรายมันเลวร้าย กลางวันร้อนจัดกลางคืนหนาวจัด แถมอาหารการกินก็ไม่ได้ชั้นหนึ่งเหมือนตอนอยู่เซี่ยงไฮ้ แพ้อาหาร แพ้อากาศจนหงุดหงิดตัวเอง เพราะไม่เคยใช้ชีวิตลำบากต่อให้สุขภาพดีแค่ไหนก็กลายเป็นผัก
สามเดือนแรก...สุริยะ หยางเกือบตายในทะเลทราย
หลังจากปรับตัวได้ก็เข้าเดือนที่สี่เดือนที่ห้าไปแล้ว กิจกรรมอย่างเดียวที่มีให้ทำคือการขี่อูฐไปตามรอยเส้นทางสายไหม บางทีก็ไปแค่กับทีมอาเฟย บางทีชิวซีก็ไปด้วย
ชิวซียังเป็นคนนอกในสายตารัฐบาล แม่บ้านของอาณาจักรพระอาทิตย์ก็เช่นกัน สุริยะ หยางซื้อบ้านพักที่มีบริเวณในตัวเมืองไว้เพื่อเลี้ยงปลาคาร์ฟ
อาเฟยกับชิวซีย้ายปลาคาร์ฟกับตุ๊กตากระต่ายหนีตามมาด้วยก่อนจะเผาบ้านเขาทิ้ง ทั้งคู่บอกว่าทำใจฆ่าลูกเขาไม่ลง ความกดดันในตอนนั้นเลยดีขึ้นเยอะ อย่างน้อยชิวซีก็สั่งทำสระปรับอุณหภูมิแบบที่อาณาจักรพระอาทิตย์ให้ปลาอยู่ ส่วนเจ้าของปลาก็อยู่กลางดินกินกลางทราย ตัวดำเป็นถ่านเหลือแต่ฟันที่ขาว
การเดินทางหลายวันจบลงเมื่อมาถึงเยว่หยาเฉวียน แม่บ้านคนเดียวเตรียมอาหารไว้คอยอยู่แล้ว สุริยะ หยางถึงหมวกปีกกว้างกับแว่นตากันแดดออก ตามด้วยเสื้อแขนยาวเหลือเพียงกางเกงเลอะฝุ่นตัวเดียว นั่งลงกินข้าว
อาเฟยกับชิวซีก็นั่งลงในโต๊ะเดียวกัน อยู่กลางทะเลทรายกันมาเป็นปีขั้นตอน’ นายก่อนลูกน้องทีหลัง ‘ก็หายไปกลายเป็นเพื่อนกันไปมากกว่า หลังจากเขาเกือบตายก็มีแต่สองคนนี้ที่ช่วยเหลือ ถึงจะรำคาญๆ ก็ต้องจำใจคบต่อไป
กลิ่นชาจักรพรรดิอย่างดีหอมกรุ่นจนสุริยะ หยางครางแผ่วเบาด้วยความพอใจ
“รายงานเรื่องหยางอวิ๋นครับ”
บอดี้การ์ดอีกคนที่ถูกส่งเข้าเมืองไปเดินเข้ามารายงาน สุริยะ หยางถูกสั่งห้ามติดต่อใคร แม้แต่กลุ่มบอดี้การ์ดก็ถูกจับตามอง เลยทำได้แค่ส่งคนที่ไม่สะดุดตามากนักไปสืบข่าว ซึ่งคนไม่สะดุดตาก็คือลูกน้องปลายแถวที่ไม่รู้ว่างานที่สั่งให้ทำมันจะสำเร็จไหม ข่าวคราวที่ได้มาก็ช่างปะติดปะต่อไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย
“อืม...”
“ช่วงนี้สนิทสนมกับเด็กผู้หญิงครับ”
“เด็กผู้หญิงนี่อายุเท่าไหร่? เจ็ดแปดขวบ? อวิ๋นไปเลี้ยงเด็กหรอ?”
“อายุสิบแปดสิบเก้าครับ”
เท่านั้นถ้วยชาในมือก็ถูกกระแทกลงกับโต๊ะ
“สิบแปดสิบเก้ามันเด็กผู้หญิงตรงไหนวะ! ”
มือหนาดึงแฟ้มมาเปิดดู ก่อนจะเจอเด็กผู้หญิงคนดังกล่าว กับหยางอวิ๋นนั่งคุยกันในร้านเหล้า ยิ้มแป้นแล้นเชียวนะ...ฟันขบกันแน่นด้วยความโมโห ก่อนจะยัดแฟ้มคืนบอดี้การ์ดไปแล้วโบกมือไล่
“ทำไมไม่ติดต่อเขาไปล่ะครับ ไม่เห็นต้องตัดขาดตัวเองจากหยางอวิ๋น”
“ที่นี่ไม่ปลอดภัย อาเฟยจะโดนคำสั่งให้ยิงฉันทิ้งตอนไหนก็ไม่รู้ ร้อนก็ร้อน อวิ๋นมาก็ลำบาก ป่วยง่ายขนาดนั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าไอ้ลุงเจียงจะให้อิสระฉันจริงๆ ไหม จะพาเมียมาโดนขังด้วยทำไม ให้เขามีชีวิตที่ดีไปสิ”
บ่นไม่จริงจังนัก แต่คนสนิทเท่านั้นที่รู้ว่าสุริยะ หยางผ่านวันและคืนในโกบีด้วยความลำบากขนาดไหน การสั่งกักบริเวณเหมือนการเชือดไก่ให้ลิงดูว่าใครสนับสนุนผิดฝ่ายจะต้องเจอแบบไหน โชคดีที่ตำแหน่งหยางหวางกับผลงานที่เคยทำให้รัฐบาลมาตลอดช่วยไว้ แต่ถึงจะช่วยก็ยังต้องโดนลงโทษไม่ต่างกัน
การโดนลงโทษมันกัดกินจนสุริยะ หยางมีสภาวะเครียดอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน ยังดีที่รัฐบาลอนุญาตให้จิตแพทย์มาหาได้เดือนละครั้ง ทุกคนไม่ว่าชิวซีหรืออาเฟยสามารถมีวันหยุดกลับไปอยู่ในเมืองได้ แต่หยางหวางต้องอยู่ในทะเลทรายเท่านั้น
“เราขี่อูฐไปชายแดนจีนได้ไหม ทะลุพม่า ไปกรุงเทพฯ?”
ในช่วงแรกถึงกับต้องระวังเจ้านายเหนือหัวขี่อูฐหนีข้ามประเทศ
“ถ้าตองแต่งงาน ฉันจะทำยังไง?”
“เตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวครับ คุณก็เคยจะแต่ง ก็แฟร์ดี”
สุริยะ หยางถลึงตาใส่คนข้างบ้าน จะอยู่เซี่ยงไฮ้หรืออยู่นี่ชิวซีก็ยังเป็นเพื่อนคุยยามดึกเช่นเดิม ถึงจะคุยกับมันแล้วหงุดหงิดแต่ก็ดีกว่าไปคุยกับอาเฟย
“อยากให้ตองลืมฉัน แต่ก็ไม่อยากให้ลืม...ฉันอยากให้อวิ๋นมีความสุข สองปีมันนานนะ ฉันไม่อยากให้เขาเศร้านานขนาดนั้น แต่ถ้าเขาลืมฉัน...เฮ้อ”
“แล้วถ้าหยางอวิ๋นมีคนอื่นจริงๆ ล่ะครับ”
“ก็ค่อยแย่งกลับมาสิวะ แจกันจักรพรรดิฉันยังขโมยรัฐบาลมาได้ อวิ๋นคนเดียวจะยากอะไร”
“เขาอาจจะไม่รักคุณแล้ว?”
ขายาวยกถีบคนปากเสีย แต่ชิวซีเอนตัวหลบก่อนจะหรี่ตามองเจ้านายด้วยความรำคาญ
“กลับไปเลี้ยงปลาเลยไป”
“คุณก็ใจร้ายกับตัวเองเกินไป”
ชิวซีพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล สุริยะ หยางทางหนึ่งก็ต้องการปกป้องหยางอวิ๋น แต่อีกทางก็ทำร้ายตัวเองเช่นกัน หยางอวิ๋นมีคนของเยว่ แต่สุริยะ หยางไม่มีใครเลย แม้แต่ปลาก็ยังต้องไปเลี้ยงที่อื่นเพราะการพามันมาอยู่ด้วยมันจะตาย
หยางหวางกังวลว่าทุกอย่างที่อยู่รอบตัวจะต้องตายไป...ทั้งๆ ที่ตัวเองต่างหากจะตายคนแรก
“แย่กว่าการที่เขามีความสุขกับคนอื่น คืออยู่กับฉันแล้วเขาจะตาย ชิวซี...ไม่แน่ว่าอีกสิบปีฉันก็ยังต้องอยู่ที่นี่ อยู่ไปจนแก่รัฐบาลถึงยอมปล่อยฉันไป ถึงวันนั้นถ้าอวิ๋นมีความสุข มีครอบครัว มีคนรักไปแล้ว ฉันเชื่อว่าเราทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่ทางที่ดีเป็นผัวเหอะ ถึงอวิ๋นจะอายุหกสิบ ฉันก็อยากเป็นผัวอวิ๋นอยู่ดี หวังว่าตอนนั้นเมียอวิ๋นคงแก่ตายไปแล้ว”
“ลูกเขาจะยอมให้พ่อมีแฟนเป็นผู้ชายหรอครับ? จริงๆ คุณอาจจะแก่ตายก่อนเขาก็ได้ ถ้าหยางอวิ๋นหกสิบคุณก็เจ็ดสิบ...คุณไม่น่าอายุยืนนะครับ”
“ปากหมานะมึง แล้วฉันต้องทำความรู้จักับลูกอวิ๋นด้วยหรอ? ตอนนั้นลูกคงโตแต่งงานไปแล้วมั้ง ต่างคนต่างอยู่ไปดิ”
“เผื่อคุณได้ออกไปพรุ่งนี้ แล้วลูกหยางอวิ๋นคลอดพอดี”
“เมียฉันยังเรียนไม่จบ จะให้รีบมีลูกอะไรนักหนา”
“ผมก็แค่สมมุติ”
“ถึงตอนนั้นก็คงเป็นลุงข้างบ้านช่วยเมียเลี้ยงลูกไง จะเป็นอะไรได้อีกล่ะ แค่คิดก็ช้ำใจ เมียหนีไปมีเมีย เหอะ...แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ได้เจอกัน อยู่นี่แล้วปลงชิบหาย อีกนิดก็คงจะบวชได้”
“บาปหนาอย่าเลยครับ บวชไปก็มารศาสนาเปล่าๆ”
สุริยะ หยางถลึงตาใส่คนสนิทอีกรอบก่อนจะยกกาเติมชาอีกครั้ง ตาคมมองทอดยาวไปสุดเนินทรายในความมืดมืดเบื้องหน้า
หวังว่ากันติชาจะมีความสุข ใช้ชีวิตให้มีความสุขแทนเขาที่ยังต้องอยู่กับทะเลทรายไม่รู้ถึงเมื่อไหร่
แขนแกร่งเหวี่ยงร่างบอดี้การ์ดลงกับผืนทรายก่อนเสียงเฮจากคนสองสามคนจะดังขึ้น อีกกิจกรรมกลางทะเลทรายคือการฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แรงๆ ก็เป็นเพียงการออกกำลังกาย แต่หลังๆ มามันก็ชักเบื่อเลยเอาการต่อสู้พื้นเมืองมาหัด จัดกีฬาแข่งอูฐก็ทำมาแล้ว
“ตอง กินน้ำเร็ว”
สุริยะ หยางตั้งชื่ออูฐประจำตัวว่าตอง ถึงหน้าอูฐจะไม่น่ารักเท่ากันติชาก็เถอะ แต่มันก็เป็นเครื่องแทนใจอย่างหนึ่ง แถมตองก็เป็นอูฐเหนืออูฐแข่งวิ่งชนะอูฐอาเฟยทุกนัด เก่งจริงๆ
เหลืออย่างเดียวที่ไม่ได้ทำในทะเลทรายนี่คือการไปเข้าร่วมกับพวกกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง ในตอนตัดสินใจเดินตามเส้นทางสายไหมจนเข้าเขตทะเลทรายกลางทวีปเอเชีย เคยได้เห็นพวกนั้นผ่านๆ โชคดีที่เนินทรายบังตาเลยพากันกลับไม่ได้เดินทางไปถึงเปอร์เซียเดิมในอดีต แค่นี้ก็ไม่รู้จะรอดตายไหม ยังไม่อยากรีบไปตายเพราะโดนฆ่า
“รายงานเรื่องหยางอวิ๋นครับ”
“หยางหวาง คนของรัฐบาลมาครับ”
อาเฟยรีบร้อนเดินเข้ามาแจ้ง บอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่รายงานเรื่องกันติชาเลยรีบถอยหลังหายไปในประตูอีกฝั่ง ก่อนสุริยะ หยางจะลุกขึ้นเดินไปยังโถงชั้นหนึ่งเพื่อพบคนของรัฐบาล
“มีคำสั่ง เรียกหยางหวางกลับเข้ารับตำแหน่ง ให้ไปรายงานตัวที่ปักกิ่งอาทิตย์หน้า อนุญาตให้เดินทางออกจากมณฑลซินเจียงได้เร็วสุดมะรืนนี้ ก่อนหน้านั้นยังต้องอยู่ในเขตเยว่หยาเฉวียน ยินดีด้วยครับหยางหวาง”
ทหารรายงานจบก็จากไปทิ้งบรรยากาศเงียบสลัดอยู่สักครู่ ก่อนทุกคนจะเฮกันออกมา การอยู่กลางทะเลทรายมาสองปี ถึงจะเข้าเมืองได้แต่ก็ใช่ว่าจะได้กลับบ้าน คราวนี้จะได้กลับจริงๆ สักที
“ชิวซีกลับไปก่อน ไปเตรียมบ้านที่เซี่ยงไฮ้ให้เรียบร้อย อาเฟยเรียกคนรายงานกลับมารายงานเรื่องอวิ๋น ส่งตองไปหาบ้านใหม่ที่เลี้ยงอูฐเป็นด้วย ดูแลมันดีๆ”
บอดี้การ์ดคนเดิมรีบวิ่งเข้ามาพร้อมแฟ้มจากนักสืบเอกชน
“รายงานล่าสุด หยางอวิ๋นกำลังจะแต่งงานครับ เจ้าสาวท้องได้ห้าเดือนแล้ว”
ชิวซียังไม่ทันก้าวเท้าออกไป รีบหันขวับมามองเจ้านายตัวหนาที่ขาอ่อนแรงจนตัวเอียง อาเฟยรีบเข้าไปประคอง
“เอายาลดความดันมา! ”
“เมีย...เมียฉันมีเมีย! ไอ้ชิวซีปากหมา มึงไปฝังตัวเองในทรายไป! ”
คนพาลคว้ากาน้ำชาบนโต๊ะเขวี้ยงใส่คนสนิททันที คนโดนทำร้ายหลบทันก่อนมือจะคว้ากาส่งให้บอดี้การ์ดอีกคนที่ถือกล่องยาเข้ามาแล้วรีบออกไป
สุริยะ หยางมองบ้านที่ถูกสร้างขึ้นใหม่บนยอดอาณาจักรพระอาทิตย์แล้วถอนหายใจ ชิวซีจัดการทำบ้านใหม่ในช่วงเขาติดอยู่กลางทะเลทรายเข้าปีที่สอง ทุกอย่างถูกสั่งให้ทำเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน พวกปลาคาร์ฟถูกย้ายกลับมาในสระควบคุมอุณหูมิ ลายสีส้มขาวของปลาตัดกับเงาต้นอวี้หลานที่ทอดลงมายังผืนน้ำ
ลมเย็นบนยอดตึกทำให้บรรยากาศเย็นสบาย ต่างกับจิตใจที่ปั่นป่วนหมุนวนไปหมด หงุดหงิดจนโมโหแต่ก็ทำได้แค่ยืนให้อาหารปลาเหมือนเดิม
ความตั้งใจจะไปประเทศไทยทันทีที่พ้นจากการกักบริเวณมีอันต้องชะงัก เมื่อข่าวการแต่งงานของหยางอวิ๋นถูกรายงานขึ้นมา แต่สุริยะ หยางไม่เชื่อสนิทใจนักจึงตัดสินใจส่งชิวซีไปดูด้วยตัวเอง
“รอบคอบเข้าใจไหม?”
“ครับ”
เขาไม่กล้าไปเองและยังไปไม่ได้ ถึงจะได้ชีวิตเดิมกลับมาแต่ก็ไม่ควรรีบร้อนออกนอกประเทศ แถมยังกลัวว่าถ้าเจอกันติชาแล้วจะโดนอีกฝ่ายเมินจะทำยังไง ที่เจ็บใจกว่าคือถ้าอีกฝ่ายพาเมียมาแนะนำตัวแล้วบอกว่านี่เมียใหม่ผมครับพี่ซัน แค่คิดก็โมโห! อยากให้มีความสุขได้ แต่พอรู้ว่าอวิ๋นมีความสุขจริงๆ นี่มันทำใจไม่ได้
ความขัดแย้งในจิตใจไม่รู้จะสงบลงเมื่อไหร่เลยทำให้ต้องมายืนตากลมมองปลามีตุ๊กตากระต่ายหนึ่งตัวหนีบอยู่ในอ้อมแขน ไม่แน่ใจว่ากันติชาจะยังต้องการเขาอยู่ไหมด้วยซ้ำ
“อาเฟย เป็นนายจะทำยังไง”
“ฆ่าเมียกันติชาทิ้งครับ”
“ท้องอยู่นะ”
“ถ้าเดินทางไปเดือนหน้า เด็กก็คลอดพอดี”
“ถ้าอวิ๋นรักเมียเขา ฉันไม่อยากให้อวิ๋นเสียใจ แล้วลักพาตัวเด็กมา...มีปัญญาเลี้ยงหรือไง เด็กนะไม่ใช่ปลาที่ปล่อยว่ายน้ำไปมาในบ่อได้ นมก็ไม่มี”
อาเฟยเลือกจะสงบปากสงบคำ ตั้งแต่กลับมาสุริยะ หยางต้องพบจิตแพทย์เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการปรับตัวและการใช้ชีวิต มียาหลายตัวที่แพทย์สั่งให้เฉพาะ แล้วการหยุดงานไปสองปีเต็มทำให้ตอนนี้ต้องเข้าประชุมตามงานหลายอย่าง
“เราเอาอูฐมาเลี้ยงที่เซี่ยงไฮ้ดีไหม...ถึงจะคนละตอง ก็ตองเหมือนกัน”
อาเฟยอยากจะโดดบ่อปลาหนีไปจากเจ้านายจริงๆ ...ชิวซีรีบกลับมาสักที เขารับมือหยางหวางไม่ถูกจริงๆ
ชิวซีกลับมาหลังจากสองอาทิตย์ผ่านไป ก่อนจะแปลกใจที่เจออูฐในสวนกับบอดี้การ์ดที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เรื่องของกันติชาหนักหนากว่าที่คิด แต่กับจักรพรรดิพระอาทิตย์แผลใจก็เหวอะหวะไม่ต่างกัน
“หยางหวาง”
เสียงเรียกแผ่วเบาทำให้อาเฟยรีบเดินมากอดคนทีหายไปสองอาทิตย์เต็มๆ หัวใจของคนถูกกอดเต้นผิดจังหวะแม้สีหน้าจะยังนิ่ง
“จัดการที ฉันทำไรไม่ถูก คุยไม่เก่งเหมือนนาย ทำได้แค่สั่งให้พาอูฐขึ้นฮอล์มา”
“อะ อืม...”
รายงานจากจิตแพทย์ถูกส่งให้ชิวซีดู หยางหวางไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงนอกจากมีสภาวะวิตกกังวลที่หลงเหลือจากการใช้ชีวิตในโกบี ดังนั้นไอ้เรื่องพาอูฐมาอยู่ด้วยก็เป็นแค่กิจกรรมแก้เครียด
“อูฐมันอยู่นี่มันจะป่วยนะครับ อากาศที่นี่เย็นกว่าที่ซินเจียง”
“ฉันรู้ ฉันพูดเล่น แต่อาเฟยดันพามาจริง เลยต้องเลี้ยงมันไปก่อน ยังไม่มีคนว่างพามันไปส่ง เอ้าตองอ้าปาก กินข้าว...เก่งมากเด็กดี”
มือลูบเจ้าตองลมกรดแชมป์วิ่งอูฐแห่งเยว่หยาเฉวียน ชิวซีรู้ว่าสุริยะ หยางกำลังทำเป็นสนใจอย่างอื่นเพราะหวาดกลัวกับข่าวคราวเรื่องกันติชา แต่จะให้มาพูดอ้อมไปอ้อมมาก็ไม่ได้
“เรื่องที่ประเทศไทย...ผู้หญิงคนนั้นกับหยางอวิ๋นทำข้อตกลงแยกทางกันหลังเด็กคลอด เยว่จะเป็นฝ่ายรับเด็กไว้ และกันติชามีสภาวะโรคซึมเศร้า”
“รู้ขนาดนั้นได้ยังไง?”
“ผมติดต่อขอเข้าพบเจ้าบ้านเยว่อย่างเป็นทางการ ทางนั้นยังคงติดต่อทางธุรกิจกับอาณาจักรพระอาทิตย์ ตอนนี้คนของเยว่กังวลว่าหยางอวิ๋นจะฆ่าตัวตาย เขาดีใจที่คุณยังอยู่ ผมขอให้ทางนั้นเก็บเรื่องของคุณไว้ก่อน การรับรู้ว่าคุณยังอยู่อาจจะทำให้หยางอวิ๋นสับสนและทำอะไรที่เราคาดไม่ถึง”
“อวิ๋นจะฆ่าตัวตาย?”
“เขาผอมลงมากครับ และเก็บตัวเงียบ เจ้าบ้านเยว่บอกว่าเขาทำใจได้เรื่องคุณก็ตอนคุณจากไปเกือบจะครบปี แต่เรื่องการมีลูกมันทำให้ทุกอย่างแย่ลง...หยางหวางผมเจอรูปคุณกับกระถางธูปที่ห้องหยางอวิ๋นด้วย ที่เขาเก็บตัวในห้อง เขาจุดธูปคุยกับคุณ...คุณตายจากเขามาแล้วสองปี และเขายังทำใจได้ไม่ดีนัก เขาติดบุหรี่และติดเหล้า พี่สาวของเขา คุณจิน บอกผมว่าเขาพลาดในคืนครบรอบวันตายของคุณ วันที่...อาณาจักรพระอาทิตย์ไฟไหม้”
มือที่กำลังป้อนอาหารอูฐชะงัก ตาคมปิดตาแน่นข่มอารมณ์ก่อนหยาดน้ำตาบางๆ จะถูกแขนเสื้อปาดทิ้งไป สองปีที่ทั้งเขาและหยางอวิ๋นต้องอดทนกันทั้งคู่ ในวันนี้เขาดีขึ้น แต่อวิ๋นที่เขาเข้าใจว่ามีชีวิตใหม่แล้วกลับกำลังป่วย
“ชิวซี...ฉันต้องทำยังไง ฉันไม่ได้อยากตายจากอวิ๋น เข้าใจไหม?”
“ครับ คุณเกือบตายที่ทะเลทรายมาแล้ว แล้วเราไม่คิดว่ารัฐบาลจะปล่อยคุณตามกำหนดเวลา”
“พาทั้งคู่มาอยู่ที่นี่ เขาอยู่กับเยว่ก็จะถูกตั้งคำถามว่าจะมาแย่งตำแหน่งกับหลานอวิ๋น ไหนจะมีลูกอีก อาณาจักรพระอาทิตย์ที่นี่ไม่มีทายาท ฉันจะยกมรดกหมื่นล้านให้ลูกเขาเอง รวยกว่าธนาคารช่อฟ้าบ้าบอนั่นตั้งเยอะ เราปล่อยอวิ๋นอยู่ไทยนานกว่านี้ไม่ได้ ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เรากลัวเขาหนีออกจากบ้าน แต่อวิ๋นจะตายเข้าใจไหม? ไปจัดการซะ”
“ถ้าพาเด็กมา เด็กจะเป็นหยางหวางคนต่อไป”
ตำแหน่งนี้มีแต่ตายกับตาย ถึงไม่ตายก็ถูกไล่ไปอยู่ทะเลทราย อิสระในการใช้ชีวิตจะหายไป
“ชิวซี คิด ใช้สมอง ไปคิดแผนเอ แผนบี แผนซีมา ต้องไปรับอวิ๋นกับลูกมาก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน เยว่อาจจะรักอวิ๋น แต่อวิ๋นเป็นเด็กมีปัญหา เขาคิดว่าตัวเองเป็นเสี้ยนหนามหลาน ตอนนี้มีลูกขึ้นมาอีกไม่วันใดก็วันหนึ่งก็ต้องถูกตั้งคำถามว่าเด็กคนนี้มาแย่งสมบัติเจิ้นไหม แต่ที่นี่ไม่มีใครให้แย่ง มีแต่ฉันกับปลาทั้งบ่อ”
“หยางหวางคุณเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกคุณได้จริงๆ ใช่ไหมครับ เลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่าย แล้วนั่นก็ลูกหยางอวิ๋นกับคนอื่น ไม่ได้มีสายเลือดคุณเลย...”
“ชิวซี! ฉันเกือบตายมาแล้วกลางทะเลทราบ กับอีแค่เลี้ยงลูกเมียเก่าเมียฉันมันไม่ยากหรอก อูฐยังเอามาเลี้ยงที่เซี่ยงไฮ้ได้ ปลายังย้ายตามไปซินเจียงได้ กับแค่เด็กคนเดียว อย่ามาตั้งคำถามเรื่องนี้อีก ฉันอยู่ในจุดที่มาไกลเกินกว่าจะมาคิดแค่ว่าเขามีลูกกับคนอื่น ฉันตายจากเขาไปสองปี เป็นผีอยู่ไหนก็ไม่รู้
เขาไม่ได้นอกใจฉันเข้าใจไหม? ฉันตายจากเขาไปเอง แล้วตอนนี้เขากำลังจะตาย ไม่เจออวิ๋นมาสองปีมันยังมีจุดสิ้นสุด แต่ถ้าอวิ๋นตายนั่นหมายความว่าตลอดชีวิต แล้วฉันจะไปหาอวิ๋นได้จากที่ไหน นอกจากตายห่าตามไป? ก็ตายไม่ได้อีก อาเฟยยืนหัวโด่อยู่นั่นฉันคงได้ตายหรอก”
ชิวซีหัวเราะเบาๆ กับอาการโมโหของสุริยะ หยาง แต่ต้องยอมรับว่าทุกคนนับถือคนๆ นี้ก็เพราะทุกการกระทำ ทุกการตัดสินใจ หยางหวางไม่เคยลังเล ใจกว้างเป็นมหาสมุทรแต่เด็ดขาดสมเป็นจักรพรรดิพระอาทิตย์ รักลูกน้องและยอมใจร้ายกับตัวเองเพื่อคนอื่น
“คุณจินบอกว่า หยางอวิ๋นเผากงเต๊กให้คุณด้วย ช่วงแรกเขาทำบุญให้คุณทุกวัน”
“เออ ยกมือสาธุเมียฉันซะสิ อาจจะเพราะอวิ๋นทำบุญให้นี่ไงถึงหายดีไม่ตายไปในทะเลทรายตั้งแต่สามเดือนแรก สงสัยอวิ๋นจะทำบุญหนักจัดใหญ่ ตอนนี้ฉันกินแมงป่องทะเลทรายได้แล้วด้วยซ้ำ รสชาติห่วยแตก แดกไปได้ยังไงวะ”
ชิวซีส่ายหัวกับอาการขี้หงุดหงิดของเจ้านาย คิดซะว่าเป็นอารมณ์ตกค้างจากสภาวะเครียดแล้วกัน
“ผมห่วงเรื่องแม่เด็กมากกว่า ทางเยว่ก็กังวล ตอนนี้เขาไม่อยากได้เด็ก แต่ลูกหยางอวิ๋นก็ถือเป็นทายาทของเยว่ ในอนาคตแม่เด็กอาจจะกลับมาเรียกร้อง สายสัมพันธ์ในครอบครัวอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ครับ ถ้าเด็กเลือกแม่”
“เรื่องนั้นค่อยปรึกษากับเยว่ตอนไปไทย เตรียมเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดู ค่าใช้จ่ายอะไรไว้ด้วย เยว่อาจจะเตรียมการเรื่องนี้แล้ว แต่เราต้องจ่ายหนักในก้อนแรกก่อนเพื่อให้เหยื่อติดกับทำสัญญายินยอมซะ”
“เขาอาจจะเรียกหลายล้าน”
“ชิวซี...ฉันรวย”
--------------------------
พี่ซันมาแล้วจ้า ไม่ได้ตั้งใจหายไปไหน แต่เกือบตายในทะเลทรายเหมือนกันเด้อ ความอวดรวยกลับมาแล้ว
และนี่คือเยว่หยาเฉวียนที่โดนส่งไปอยู่ค่ะ ปัจจุบันเปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว จะเป็นทริปทัวร์เส้นทางสายไหมนะคะ ได้ขี่อูฐด้วย ใครสนใจไปเที่ยวได้จ้า มีหลายทัวร์ให้เลือกค่ะ ไม่ควรไปเองเพราะมันต้องข้ามทะเลทราย
