บทที่54
คำขอร้อง
หลังจากการแข่งในช่วงแรกจบลง ในที่สุดทีมที่เข้าแข่งขันก็เหลือเพียง 10 ทีมเท่านั้น ดังนั้นทางผู้จัดจึงให้ผู้เข้าแข่งขันได้พักผ่อนช่วงระยะเวลาหนึ่งตามอัธยาศัยในเวลาต่อมา
เนื่องจากการแข่งขันของทีมตัวเองจบลงไปก่อนนรินทร์จึงแวะไปดูทีมของเมษาแข่งในขณะที่คนอื่นไปเข้าห้องน้ำซื้อขนมกัน จวบจนเมษาแข่งเสร็จแล้วนั่นแหละ พวกตะวันจึงมาชวนเขาไปนั่งทานขนม
นรินทร์นั่งเล่นนั่งทานขนมเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วบอกเพื่อนในทีมว่าขอไปธุระซักครู่ ในตอนนั้นตะวันที่เอามือถือของนรินทร์ไปนั่งเล่นเกมกับฟอร์ดเงยหน้าขึ้นถามทันที
“ให้ไปด้วยไหมลูกพี่”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”
หลังจากปฏิเสธ นรินทร์ก็ออกไปหาห้องน้ำ โชคร้ายจริงๆ ที่ไม่ว่าที่ไหนคนก็แน่นมากเหลือเกิน ดังนั้นจึงหาห้องน้ำไปเรื่อยจนไปจบที่ห้องน้ำที่ห่างไกลที่สุด
“เอ...ดูเหมือนจะว่างแฮะ”
นรินทร์ชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างในที่นี่ไม่มีผู้คนซักนิด พอดูไปรอบๆ ก็พบข้อเสียซึ่งเหมือนว่าไม่มีโถสำหรับยืนทำธุระที่ด้านนอกด้วย ดังนั้นนรินทร์จึงต้องเข้าไปข้างในห้องเล็กอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วพอจะเปิดประตูก็พบว่ามันเปิดไม่ออก นรินทร์ยอมรับว่าตกใจจริงๆ แต่สิ่งแรกที่ทำคือค้นหามือถือในกระเป๋าและนึกได้ว่าเขาให้ตะวันยืมไปเล่นก่อนออกมานั่นเอง
“ใครก็ได้ ช่วยทีครับ”
นรินทร์ตัดสินใจตะโกนและทุบประตู เขาทำอย่างนั้นอยู่ถึง 7 ถึง8 นาที เสียงประกาศเรียกผู้คนให้เข้างานเพื่อเริ่มการแข่งขันต่อไปบอกเตือนนานแล้ว คาดว่าการแข่งขันคงเริ่มขึ้นแล้วจริงๆ แต่เขายังติดอยู่ในห้องน้ำเหมือนเดิม
นี่มันหมายความว่าทีมของเขาอาจถูกปรับแพ้ เท่ากับว่าพี่ภาริชต้องคุกเข่าขอมารุ่นพี่เมษาต่อหน้าหน้าผู้คนในฮอลล์ทั้งหมด แค่คิดร่างกายก็สะท้านเยือก ทว่าจะเอาแต่ร้องไห้ไม่ได้ นรินทร์ใช้มือทั้งสองข้างตบที่แก้มตัวเองอย่างแรงเรียกสติให้กลับมา
ก่อนอื่นต้องหาวิธีที่จะออกไปให้ได้
เมื่อมีสติแล้วนรินทร์ก็มองไปทั่วห้องน้ำและพบว่าเจ้าห้องน้ำนี่มันมีช่องว่างให้สามารถปีนออกไปห้องด้านข้าง ดังนั้นการเริ่มต้นดิ้นรนอย่างทุกลักทุเลจึงเริ่มขึ้น
เสียงประกาศเตือนให้ผู้คนกลับเข้างานดังไปทั่ว พี่สายหมอกกลับเข้ามาในงานช้ากว่ากำหนด 5 นาที ขณะเดียวกันนรินทร์ที่ยังไม่กลับมาทำเอาทีมmaddog01เริ่มกระวนกระวายใจ
ถ้านรินทร์กลับมาแข่งไม่ทันก็เท่ากับว่าทีมของเขาจะเป็นฝ่ายชนะ
เมษาคลี่ยิ้มพออกพอใจ เขารู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุที่นรินทร์กลับมาไม่ทันอาจเป็นเพราะต้นกล้าก็เป็นได้
ในตอนที่กำลังอารมณ์ดีโคตรๆ เขาก็เดินไปหาพรรคพวกของนรินทร์ เมษาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องถามถึงนรินทร์จากตะวันที่กำลังถูกเพื่อนในทีมตำหนิเรื่องที่นำมือถือนรินทร์มาเล่นจนเจ้าตัวไม่ได้เอาติดไป
“นรินทร์หายไปไหน” เมษาถาม
ตะวันหันมาพูดด้วยเสียงแข็งกร้าว
“ไม่เกี่ยวกับแกเว้ย”
“เกี่ยวสิ ทางนี้ยังไงก็อยากชนะอย่างขาวสะอาดนะ”
ก็ว่าไปนั่น ไอ้ขาวสะอาดก็อยากอยู่ แต่ถ้าชนะได้แน่ๆ มันก็ดีกว่าไม่ใช่หรือ มาร่วมแข่งขันไม่ทันกำหนดแบบนี้ตามกฎทีมจะต้องถูกปรับแพ้อย่างแน่นอน ทว่าใครจะคิด จู่ๆ ทีมงานของภาริชก็นำของจำนวนมากขึ้นไปบนเวที เมษาสังเกตเห็นสิ่งนั้นเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเดาะลิ้นอย่างหัวเสีย
ดูเหมือนว่าภาริชคนนั้นจะแก้สถานการณ์เพื่อนรินทร์ได้อย่างดี ฉลาดนักนะชวนคนดูเล่นเกมจับฉลาตามหมายเลขที่นั่ง คาดว่าด้วยจำนวนของฟรีที่ขนขึ้นไปบนเวที การแจกของครั้งต้องกินระยะเวลาพอสมควรแล้วดูท่าว่าทุกคนก็พึงพอใจกับมันมากเสียด้วย
เมษาตวัดตามองหาภาริชและพบว่าไอ้หมอนั่นเดินมายังทีที่เขากับเพื่อนร่วมทีมของนรินทร์ยืนอยู่
“ฉันพบที่อยู่ของนรินทร์แล้ว ไม่ต้องห่วงนะจะไปพาตัวมา”
ภาริชจงใจพูดให้เมษาได้ยิน ดีจริงๆ ที่เจ้านี่อยู่ตรงนี้พอดี
“ลูกพี่อยู่ที่ไหน”
“ถูกมือดีขังไว้ในห้องน้ำ ฉันตรวจดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว”
กล้องวงจรปิด
เมษากำหมัดแน่น นี่เท่ากับว่านอกจากลงมือพลาดต้นกล้ามันยังถูกบันทึกภาพเอาไว้อย่างโง่ๆ อีกด้วย ทำไมไอ้หมอนั่นมันถึงได้เป็นตัวไร้ประโยชน์เสมอๆ
คิดด้วยอารมณ์ที่กรุ่นโกรธมากขึ้นทุกที เมษากระแทกเท้าเดินออกจากห้องจัดงาน หามุมสงบโทรไปหาต้นกล้าโดยไม่รู้ว่าสายหมอกแอบตามออกมา
“แกเป็นคนลงมือขังนรินทร์ไว้ในห้องน้ำสินะ”
ต้นกล้าไม่นึกว่าเมษาจะโทรมาหา ทว่าเสียงของฝ่ายนั้นดุดันเสียจนเขาหวาดหวั่น
“อืม” ต้นกล้าตอบเสียงสั่น “ฉันเป็นคนทำ”
< “ไอ้โง่ แกรู้หรือเปล่าว่ามีกล้องวงจรปิดนะห๊า” >
ต้นกล้าไม่นึกมาก่อน เขาไม่นึกถึงเรื่องนั้นเลย “ม..ไม่รู้” เขาตอบเสียงแผ่วหวิว
คำตอบของต้นกล้ามันยิ่งทำให้เมษาเดือดดาล
“ไอ้หน้าโง่เอ๊ย มันจะเป็นหลักฐานอย่างดี ให้ตำรวจมาจับแกไงไอ้เวร”
พูดถึงตำรวจมันก็ทำให้ต้นกล้ากลัวขึ้นมาบ้าง แต่สิ่งที่มันทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังที่สุดกลับเป็นคำพูดและการกระทำของเมษา
“อย่าคิดนะว่ากูจะช่วยมึง มึงมันเป็นตัวถ่วงในชีวิตกูมาแต่ไหนแต่ไร”
เมษาคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องทนกับสวะไร้ประโยชน์อย่างต้นกล้าอีกต่อไป ถึงเวลาเหยียบย่ำมันตามความรู้สึกที่แท้จริงได้เสียที
“กูจะบอกอะไรให้นะต้นกล้า กูเกลียดลูกเมียน้อยอย่างมึง ยิ่งมึงมองกูด้วยสายตาเปื้อนราคะตลอดเวลากูยิ่งขยะแขยง ที่กูทำดีกับมึงยอมให้มึงป้วนเปี้ยนใกล้ๆ เพราะกูจะได้จับตาดูพฤติกรรมมึง บอกตรงๆ นะกูก็คิดอยู่พักหนึ่งว่ามึงมันมีค่าพอที่จะสามารถแย่งชิงมรดกของตระกูลชัยมงคลไปจากกูได้ แต่ตอนนี้กูรู้แล้วว่ามึงมันแค่สวะ อ้อสมัยเด็กๆ คนที่ปล่อยข่าวลือเรื่องมึงทำให้มึงถูกรังแก กูนี่แหละเป็นคนทำ ที่นี้มึงจะได้ตาสว่างเลิกตามตูดกูเสียที แล้วก็อย่าหวังจะได้ล้างแค้น มึงต้องถูกตำรวจจับแน่ๆ หนีไปสิวะต้นกล้า มึงไสหัวกลับบ้านตายายที่บ้านนอกของมึงไป อย่ามาทำให้กูเดือดร้อนอีก”
สายหมอกยืนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ คาดว่าตอนนี้ต้นกล้าคงทั้งเจ็บทั้งเสียใจร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดแน่ๆ คงขาดรุ่งริ่งเหมือนตุ๊กตาผ้าที่ถูกกรรไกรตัด ต้นกล้าจะโทรเรียกเขาให้ออกไปหาไหม หรืออาจจะไม่ เขารู้ว่าต้นกล้าดื้อรั้นกว่านั้น คราวนี้ด้วยหัวใจที่แหลกสลายอาจเตลิดหนีไปก็เป็นได้
สายหมอกตัดสินใจว่าจะทิ้งให้ต้นกล้าอยู่อย่างอิสระเพียงสองวัน จากนั้นเขาจะไปลักพาตัวฝ่ายนั้นมาไว้ในที่ของเขา
ในที่สุดนรินทร์ก็ปีนออกมาจากห้องน้ำเล็กได้เสียที เขาหอบแฮ่กๆ แต่โคตรจะดีใจเลย ดังนั้นจึงไม่ยืนหอบนานนักรีบถลาไปยังประตูใหญ่ผลักประตูออกไป ผลที่ได้มันทำให้เด็กหนุ่มหน้าตึงทันที
นรินทร์ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงเมื่อพบว่าประตูตรงนี้ก็ถูกล็อคเหมือนกัน
“คงไปแข่งขันไม่ทันแล้วสินะ” นรินทร์ทำหน้าเศร้า รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาอีกแล้ว เขาเห็นภาพคนรักคุกเข่าขอขมารุ่นพี่เมษาผ่านเข้ามาในความคิดซ้ำไปซ้ำมา
“ไม่ จะยอมแพ้ไม่ได้ ยังไงก็แล้วแต่ขอให้ออกไปได้ก่อน”
นรินทร์เริ่มมองไปรอบตัวอีกครั้งและพบว่ามีหน้าต่างบานขนาดที่เขาพอจะมุดออกไปได้อยู่บริเวณกำแพงด้านบนข้างๆ อ่างล้างหน้า
ปีนยากแน่ๆ แต่ก็ต้องปีน ดังนั้นนรินทร์จึงเดินปรี่ไปยังบริเวณนั้นตัดสินใจปีนขึ้นอ่างล้างหน้าอย่างทุลักทุเล พยายามเอื้อมมือไปจับขอบหน้าต่าง
“ต้องถึงต้องถึงสิน่า”
จังหวะที่พยายามเอื้อมมือจนสุดแล้วคว้าจับไว้ได้ นรินทร์ไม่ได้ยินเสียงปลดล็อคที่ด้านนอกเลยเขาจดจ่อกับการเหวี่ยงตัวเพื่อจะใช้มืออีกข้างจับกรอบหน้าต่าง แล้วมันก็พลาดเขาร่วงลงไปด้านล่าง
“ริน”
นรินทร์ได้ยินเสียงพี่ภาริช เขาเห็นอีกฝ่ายเปิดประตูแล้ววิ่งเข้ามาหา ร่างของเขาที่ร่วงลงไปด้านล่างถูกคนรักช้อนรับเอาไว้ได้ทัน
“เก่งจังเลยน้า อุตส่าห์ตั้งใจปีนเพื่อจะหาทางออกไปด้วย” ภาริชยิ้มหวานให้คนในอ้อมกอด
นรินทร์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย เขาใช้มือทั้งสองข้างคว้าชุดสูทของคนรักมากำแล้วถามด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง
“ผมถูกตัดสิทธิในการแข่งขันแล้วใช่ไหมครับ”
ภาริชหัวเราะเบาๆ แล้วเกาะมือนรินทร์ออกจากสูทของเขา
“อย่ากังวลไป พี่แก้ปัญหาเรื่องนั้นให้แล้ว”
“’ ง...งั้นหรือ...” นรินทร์รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเขารีบดีดตัวลุกขึ้นยืน “ผมต้องรีบกลับเข้างาน”
ทว่าภาริชกลับคว้ามือนรินทร์เอาไว้ หยุดยั้งเจ้าหมาน้อยไม่ให้วิ่งกลับเข้างานตามต้องการ
“รินรู้ไหมว่าใครขังริน”
พอถูกเตือนสติขึ้นมานรินทร์ก็นึกขึ้นได้ ลืมไปเลยว่ามันต้องมีคนลงมือสิ
“เขาเป็นใครครับ”
ภาริชยิ้มหวาน เขารู้ว่าประโยคที่เขากำลังจะพูดต่อไปมันอาจทำให้คนรักรู้สึกแย่ แต่ในเมื่อน้องชายคนหนึ่งอย่างสายหมอกขอร้องมา แถมฝ่ายนั้นยังปฏิญาณตนว่าจะยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างขอแค่ช่วยเหลือในเรื่องนี้เท่านั้น
เขากับสายหมอกเป็นพันธมิตรกันก็จริง แต่การที่จะได้มีบุญคุณต่อกันถึงขั้นยอมศิโรราบนั้นไม่ได้ง่ายแน่นอน สายหมอกเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่า ควรแก่การสร้างบุญคุณและเก็บไว้ใช้ประโยชน์ ทว่าหากนรินทร์ไม่เห็นด้วยเรื่องคำขอร้องนี้ก็นับว่าไม่ต้องพูดกันแล้ว
“ต้นกล้า”
นรินทร์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ รุ่นพี่พฤกษาคนนั้นอีกแล้วหรือ รุ่นพี่เกลียดชังเขาขนาดนี้เลยหรือ
“ตามปกติเราสามารถใช้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดเล่นงานเขาทางกฎหมายได้ แต่มีคนขอร้องว่าอย่าทำแบบนั้น”
“เขาเป็นใครครับ” นรินทร์สงสัย รุ่นพี่พฤษาคนนั้นมีเพื่อนที่สนิทพอสามารถพูดขอร้องพี่ภาริชได้เลยหรือ
“นรินทร์ตัดสินใจเถอะนะ ว่าจะจัดการยังไงกับเจ้าต้นอ่อนนั่นดี”
พี่ภาริชบอกให้เขาตัดสินใจ ดังนั้นนรินทร์จึงใช้ความคิดอย่างหนัก เขาโกรธรุ่นพี่พฤกษามาก นั่นเพราะถ้าพี่ภาริชแก้สถาณการณ์ไม่ได้นั่นเท่ากับว่าคนรักของเขาต้องเสียศักดิ์ศรีคุกเข่าขอขมาต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่คนที่มาขอร้อง คนคนนั้นมีอิทธิพลทางความคิดต่อพี่ภาริชมาก อาจเป็นคนสำคัญไม่ทางใดทางหนึ่ง
“คนที่มาขอร้องให้ช่วยรุ่นพี่พฤษาสำคัญกับพี่ภาริชมากหรือครับ”
“อืม..ก็เป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่พี่ให้ความเอ็นดูในฐานะน้องชายมานาน มีความผูกพันธ์ค่อนข้างมาก แล้วเขาก็เป็นคนที่พี่วางตำแหน่งเอาไว้ให้เป็นมือขวาของพี่ในอนาคต”
“ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากแตกหักกับเขาคนนั้นสินะครับ”
“แต่ถ้ารินอยากเอาเรื่องเจ้าต้นอ่อนนั่นพี่ก็ไม่ได้สนใจหรอก”
“งั้นช่างมันก็ได้ครับ ยังไงเราก็กลับไปแข่งทันใช่ไหมล่ะ”
“จะดีหรือ รินไม่อยากล้างแค้นหรือไง”
นรินทร์ส่ายหน้าไปมา เขาคิดว่าการล้างแค้นตามอารมณ์อาจทำให้พี่ภาริชเสียประโยชน์ที่ควรได้รับ
“ถ้าพี่ภาริชต้องเสียมือขวาไปเพราะการตัดสินใจของผม ผมคงรู้สึกแย่”
ภาริชยิ้มกว้าง รู้สึกประทับใจในความคิดอ่านที่ทำลงไปเพื่อผลประโยชน์ของเขาของนรินทร์ คนรักคนนี้นอกจากจะยอมตีรันฟันแทงกับผู้คนไปทั่วเพื่อศักดิ์ศรีของเขา ยังยอมละทิ้งโอกาสแก้แค้นเพื่อให้เขาไม่เสียผลประโยชน์
น่ารักเกินไปแล้ว
ภาริชคว้าคนรักมากอดแล้วจูบลงไปอย่างดูดดื่ม ยองแอพูดผิดทั้งหมดเรื่องที่กล่าวหาว่านรินทร์เป็นตัวไร้ประโยชน์ นรินทร์ทำทุกอย่างเพื่อเขามากมายในแบบของนรินทร์ และต่อให้ไม่สามารถทำประโยชน์ให้เขาได้ เอาแค่เด็กคนนี้เป็นคนที่เขารักก็มีค่ามากพอโดยไม่ต้องทำอะไรแล้ว
เขาเข้าใจความรู้สึกของสายหมอกในที่สุด ทีแรกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ตามตื้อรักคนที่ไม่สนใจและไม่สร้างประโยชน์ใดๆ ให้กับตนเองอย่างเจ้าต้นอ่อนนั่น
เพราะว่าความรักนี่แหละ มันทำให้เกิดความคิดที่ว่า ต่อให้คนคนนั้นไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้ได้ แต่คนคนนั้นก็ยังมีค่ามากมายมหาศาล ภาริชมีความคิดแบบนั้นกับนรินทร์จึงเข้าใจความรู้สึกที่สายหมอกมีต่อตัวปัญหาอย่างต้นกล้าจนได้
ภาริชหวนนึกถึงช่วงเวลาที่สายหมอกโทรมาขอร้องเขาเรื่องของต้นกล้า ที่ฟังดูไร้สติไร้เหตุผลสิ้นดี
“ให้ต้นกล้าโดนตำรวจเล่นงานไปจะไม่ดีกว่าหรือ” ภาริชหัวเราะเสียงชั่วร้าย เขากำลังแนะนำเรื่องดีๆ ให้ในฐานะรุ่นพี่
“หรือว่าสงสารขึ้นมาซะแล้ว”
<” สงสารนั่นแหละครับ เพราะอย่างนั้นถึงอยากให้ช่วยเรื่องนี้” >
“ตลกจังทั้งที่ต้อนให้จนมุมแบบนั้นน่าจะทำให้ได้มาง่ายๆ กว่านี้แท้ๆ เอาเถอะ ไม่รับปากนะ สำหรับฉันการตัดสินใจของนรินทร์ถือเป็นสำคัญ”
<” แค่อยากลองขอร้องดูเท่านั้นครับ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” >
ไม่บ่อยนักหรอกที่สายหมอกจะขอร้องเขาเพื่อคนอื่น เห็นได้ชัดว่าจริงจังกับเจ้าต้นอ่อนนั่นมากแค่ไหน
ทว่าในความเป็นจริงภาริชกับสายหมอกรู้ดีมันเป็นเพราะอะไรสายหมอกคนนั้นถึงไม่อยากให้ต้นกล้าถูกตำรวจจับเหตุผลนั้นเพียงแค่...
ถ้าต้นกล้าโดนตำรวจจับหรือมีญาติมาประกันตัวและควบคุมดูแล สายหมอกอาจพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้คนที่เขาปรารถนามาไว้ในมือตลอดกาล มันก็เท่านั้นเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หายไปสามวัน5555 มัวแต่ดูซีรีย์ ยอมรับผิดค่ะ แถมออกบู๊ตทุกวันกลับมาแทนที่จะนั่งเขียนนิยาย
นั่งดูซีรีย์เฉย555555 มีตั้ง6ซีซั่นตะบี้ตะบันดูแบบถึงตีสองครึ่งทุกวัน ในที่สุดก็คอมพลีสซักที
พอดีว่าติดเน็ตฟลิกต้องใช้งานให้คุ้ม5555
พี่สายหมอกกับต้นกล้าวุ่นวายแท้ๆ เลยน้า ลำบากพี่ภาริชกับนรินทร์ต้องมาช่วยจัดการ
แหม.............มีคนลุ้นคู่พี่หมอกกับต้นกล้าไหมคะ ขอเสียงหน่อยยยย
ท่าทางจะมีน้อยแน่ๆ 55555
แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ