บทที่50
ความวุ่นวายโกลาหล
ทีมแรกที่ถูกสัมภาษณ์คือทีมdoghunter00ของเมษา เฉินเล่อคิดว่าชื่อนี้แม่มโคตรเสร่อแต่ในเมื่ออากิระเป็นคนเสนอขึ้นมาเลยไม่รู้จะเถียงอะไร
คนที่พิธีกรเลือกสัมภาษณ์คนแรกคือสายหมอก นักกีฬาe-sportอันดับหนึ่งผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ววงการ
“นี่เป็นการรวมทีมเพื่อลงแข่งขันแบบกลุ่มครั้งแรกของคุณตื่นเต้นไหมครับเศียรมังกร”
พิธีกรเริ่มจากคำถามเบาๆ เรียกน้ำย่อยก่อน สายหมอกยิ้มแล้วตอบคำถามด้วยท่าทีสบายๆ
“ผมตั้งใจจะรวมทีมของตัวเองนานแล้วกับเฉินเล่อ ก็พอดีว่ารุ่นน้องของผมdoghunter00เขามาชวนพอดีเท่านั้นเอง”
“ถ้างั้นขอผมไปถามคนอื่นบ้าง คืออย่างนี้ พวกเราในงานต่างรู้ดีว่า ตัวจริงของdoghunter00คือคุณ เมษา ชัยมงคล ลูกชายของคุณธันวา ชัยมงคล ผู้ผลิตเกม Military strategy ซึ่งจัดงานแข่งเกมชนกับงานของพวกเรา ผมอยากทราบว่าเพราะอะไรคุณถึงมาแข่งในงานของคู่แข่งdoghunter00ช่วยเล่าให้พวกเราฟังทีครับ”
คำถามของพิธีกรกระตุ้นเหล่าผู้ชมได้เป็นอย่างดี ทุกคนในฮอลล์ต่างอยากรู้กันทั้งนั้น
“ผมมาแข่งเพราะมีคนโยนถุงมือใส่หน้าผม” เมษาตอบคำถามอย่างไร้อารมณ์
“โอ้...ถึงขนาดทำให้คุณทิ้งงานของครอบครัวมา แสดงว่าการแข่งครั้งนี้คงจำเป็นมากแน่ๆ”
“ใช่ เพราะผมจะสะใจมากถ้าหากทีมของผมชนะในการแข่งขัน”
เมษาใช้สายตาคมเหมือนเหยี่ยวจ้องมองไปยังภาริชซึ่งนั่งอยู่ในโซนผู้บริหาร เพราะว่าอยู่ไม่ไกลกันนักทั้งคู่จึงสบตากัน ภาริชยิ้มหวานประดุจนางฟ้า
ยิ้มได้ก็ยิ้มไปเถอะ เมษาเอาแต่จินตนาการวินาทีที่ภาริชใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะต้องคุกเข่าขอขมาเขาต่อหน้าคนทั้งฮอลล์ ถึงตอนนั้นอยากรู้นักคนอย่างนายมันจะโทษว่าเป็นความผิดของนรินทร์ที่พ่ายแพ้ไหม มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว คนที่ยโสห่วงหน้าตาตัวเองต้องมาคุกเข่าต่อหน้าคนมากมาย ยังไงก็แล้วแต่นรินทร์ต้องได้เห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้เสียที
“ผมอยากทราบจริงๆ ครับว่าใครเป็นคนโยนถุงมือใส่หน้าคุณ”
“เอาไว้ทีมผมเป็นผู้ชนะของงานเมื่อไหร่ คุณจะได้เห็น เพราะไอ้หมอนั่นมันต้องคุกเข่าขอขมาผมต่อหน้าคนในงาน”
“โอ้ๆ ๆ ๆ” พิธีกรดูตกใจ คนในงานคนอื่นๆ ก็เช่นกัน
“นี่มันเป็นการท้าทายครั้งใหญ่เลยนะครับ คุณบอกพวกเราทีเถอะว่าเขาคือใครกัน”
แต่จนแล้วจนรอดเมษาก็ไม่ปริปากบอก สุดท้ายพิธีกรก็ยอมแพ้ไป เมื่อหันไปถามเฉินเล่ออีกฝ่ายก็เอาแต่บอกว่าชัยชนะในการแข่งจะพิสูจน์ทุกอย่าง เฉินเล่อขี้เกียจพูดเยอะ
เป็นเรื่องช่วยไม่ได้พิธีกรจึงไล่สัมภาษณ์ทีมอื่นๆ ต่อไป จนมาถึงทีมยอชินซึ่งเป็นทีมเด็ดอีกทีมหนึ่ง
“ขอคารวะท่านราชินีผู้งดงาม” พิธีกรโค้งคารวะที่เบื้องหน้าคิมยองแอ เรียกได้ว่าเป็นคนกินเป็นอยู่เป็นอย่างแท้จริง
“ฉันขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม” คิมยองแอยิ้มสวย แน่ล่ะนี่มันเป็นการสัมภาษณ์อยู่แล้ว พิธีกรต้องอยากให้หล่อนพูดแน่นอน
“เมื่อเดือนก่อนมีคนกังขาในความสำเร็จของฉันค่ะ”
แค่ประโยคขึ้นต้นก็ทำเอาแฟนคลับของคิมยองแอหัวร้อนไปตามๆ กัน แฟนคลับของคิมยองแอเรียกตัวเองว่านัมชินหรือความหมายก็คือแฟนหนุ่ม คนพวกนี้มีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่ทำตามการชี้นำของยองแอ เช่นยกพวกถล่มคู่กรณีของหล่อนในโลกโซเชียล และตามเอาใจช่วยในทุกทีที่หล่อนปรากฏตัว
พวกนัมชินมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเรื่องฝีมือที่แท้จริงของคิมยองแอ อันที่จริงพวกเขาก็รู้แก่ใจอยู่แล้วแหละว่าคิมเยจีเป็นส่วนสำคัญในการก้าวขึ้นไปด้านบนของไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบในตอนนี้ แต่ทว่าทุกครั้งที่เห็นน้ำตาของคิมยองแอคำพูดที่ควรใช้สั่งสอนไอดอลของตัวเองก็กลายเป็นแรงกระตุ้นอันฮึกเฮิมจนตามไปถล่มคู่กรณีจนย่อยยับมากกว่า
“ใครกันวะที่มันกล้ารังแกยองแอนูน่าของพวกเรา”
“อยากเห็นหน้าว้อย”
“ยองแอออนนี่บอกพวกเรามาสิ พวกเราอยากรู้ใจจะขาดแล้ว”
เสียงก่นด่าโวยวายดังโกลาหล เยจีกับลูกทีมอีกสองคนเป็นกังวลเพราะรู้ว่าไม่สามารถหยุดยั้งความบ้าคลั่งของยองแอและพวกแฟนคลับได้
ตอนนี้จะเล่นละครก็ต้องเล่นให้สุด คิมยองแอยกมือขึ้นปาดน้ำตา เธอหลั่งน้ำตาต่อหน้าคนในฮอลล์
“ฉันรู้ว่าทุกคนต่างครหาในฝีมือของฉัน แต่คราวนี้เพื่อพิสูจน์ความสามารถ ฉันจะเป็นคนบัญชาการและวางแผนในการแข่งครั้งนี้ทั้งหมด”
จากนั้นคิมยองแอก็หันตัวไปยังทิศทางที่นรินทร์นั่งอยู่ ทั้งคู่ประสานสายตากัน หล่อนคิดว่าอีกฝ่ายจะกลัว ทว่าไม่ได้มีอะไรที่ใกล้เคียงอยู่ในดวงตาคู่นั้นเลย
น่าโมโห ฉันจะขยี้แกให้ยับเลย
“คราวนี้ถ้าฉันชนะก็ต้องขอให้คุณหยุดคิดเรื่องที่ฉันเอาแต่พึ่งพาพี่สาวของฉันด้วยนะคะคุณmaddog01”
เยจีถึงกับกุมขมับ ไม่รู้ว่ายัยน้องสาวแสนโง่ของเธอคิดบ้าๆ อะไร ทำแบบนี้มันโง่มาก เท่ากับว่าเธอประกาศเป็นศัตรูกับพี่ภาริชซึ่งๆ หน้าเลย คิดหรือว่าคนอย่างภาริชจะยอมให้ใครมารังแกคนของเขาง่ายๆ
เยจีถึงกับหันไปมองดูอากัปกิริยาของภาริช เห็นว่าฝ่ายนั้นยิ่งทียิ่งยิ้มหวานขึ้นเรื่อยๆ พี่ชายคนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักเอาแต่ยิ้ม ไอ้รอยยิ้มนี่แหละที่ทำให้เขาเป็นคนอันตราย เพราะไม่รู้ว่าโกรธเสียใจหรือว่าดีใจกันแน่
เวลานี้เสียงที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าของพวกนัมชินดังกระหึ่มจนน่ากลัว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในโซนของตัวเองเพราะว่าจงใจจับกลุ่มเหมาซื้อที่นั่งเฉพาะบริเวณนั้นกันก็ตาม
“ไอ้เหี้ยmaddogมึงเก่งนักหรือถึงรังแกได้แต่ผู้หญิง”
“มึงมันต้องแพ้เว้ย มึงมันต้องแพ้มึงล้างคอรอไว้ได้เลย”
แต่ใช่ว่าแฟนคลับฝ่ายmaddog01จะยอมมีเสียงโวยวายปกป้องดังกระหึ่มไม่แพ้กัน
“พวกมึงนั่นล่ะเอาแต่ตามตูดสาวเมือง k มึงแน่ใจได้ไงว่าอีนังนั่นมันไม่พูดโกหก”
เสียงแฟนคลับคนหนึ่งของฝั่งmaddogโต้กลับไป เสียงนี้ปลุกระดมพวกเดียวกันให้ปะทะกับพวกนัมชิน
“จริงด้วย พวกมึงกามขึ้นสมองจนไม่รู้สี่รู้แปดไงวะ”
“มึงกล้าดียังไงมาว่ายองแอออนนี่ของพวกกูโกหก”
“ไอ้เหี้ยmaddogมึงเปิดเผยตัวจริงแล้วมาอธิบายสิวะ”
เสียงโวยวายของผู้ชมทั่วฮอลล์ทำให้พีธีกรต้องรีบวิ่งไปหาตัวmaddog01
“เอ่อคนไหนคือmaddog01ครับ” พอพิธีกรพูดออกไมค์ ทุกเสียงก็พากันเงียบลง ทุกสายตาจดจ้องมายังบริเวณที่นั่งของทีมmaddog01
ใครจะไปคิดว่าสาวน้อยทอมบอยผู้หน้าตาน่ารักฉิบหายจะเป็นคนรับไมค์ไป ทำเอาพวกนัมชินชักเขวเพราะภาพลักษณ์ที่ดูสะอาดบริสุทธิ์ของคนคนนั้นทำให้งุนงงเหมือนกัน
“ผมวิจารย์ว่าคุณคิมยองแอไม่เก่งจริง เพราะผมเห็นว่าคนสำคัญที่นำพาทีมชนะทุกครั้งคือพี่เยจี”
ยองแอฟังแล้วกำหมัดแน่น ยังกล้าพูดอีกนะ ไอ้เด็กนี่ไม่กลัวพวกแฟนคลับของเธอถล่มหรือไง
“ผมรู้ว่าผมพูดจารุนแรงไป แต่คุณคิมยองแอก็ท้าดวลกับผมเพื่อรักษาศักดิ์ศรีตัวเอง ดังนั้นถ้าผมแพ้ ผมจะยอมรับว่าผมคิดผิด”
ดูเหมือนว่าคำพูดตรงไปตรงมาของนรินทร์จะทำให้พวกนัมชินสงบลง ถึงมีพวกที่ยังบ่นไม่เลิกก็ตาม
“ก็ถ้าผมพูดจารุนแรงเกินไปก็ขอโทษด้วยครับ ยังไงก็ตามการแข่งขันครั้งนี้สำคัญกับผมและคุณคิมยองแอมาก ไม่ว่ายังไงก็อยากให้ทุกอย่างจบลงอย่างราบรื่นและขาวสะอาด”
นรินทร์ไหว้ขอโทษคิมยองแอต่อหน้าผู้คนในฮอลล์ มันแสดงถึงสัมมาคารวะขั้นพื้นฐานที่ต่อให้พวกนัมชินอยากจะตะโกนด่าต่อไปแค่ไหนก็ต้องระงับอารมณ์ไว้ก่อน
ตามปกติพวกเขาก็ถูกเรียกว่าเป็นพวกแฟนคลับอันธพาลอยู่แล้ว และพร้อมจะขย้ำศัตรูของคิมยองแอเสมอ แต่พูดกันตามตรงไม่เคยมีคนไหนที่มารยาทดียอมไหว้ขอโทษตั้งแต่แรกแบบนี้มาก่อน ก็เพราะคู่กรณีของคิมยองแอส่วนใหญ่ถูกเจ้าหล่อนยั่วโทสะบิดเบือนภาพลักษณ์ให้กลายเป็นสีดำ มันทำให้หนุ่มๆ นัมชินไม่รู้สึกผิดอะไรต่อการเหยียบย่ำคนเหล่านั้น
“ก็นับว่ารู้มารยาทใช้ได้นี่”
“ยองแอนูน่าแสดงให้หมอนั่นมันเห็นเลยว่าใครแน่จริง”
“ยองแอออนนี่ แสดงให้มันเห็นว่ามันพูดผิด”
“คิมยองแอ เราอยู่ข้างเธอน้า ถล่มพวกมันให้ย่อยยับในการแข่งครั้งนี้เลย”
“คิมยองแอ คิมยองแอ”
กระแสการรังแกที่เธอวางเอาไว้ถูกบิดเบือนไป กลายเป็นการประกาศท้าดวลกันอย่างขาวสะอาดและแฟนคลับของทั้งสองกลุ่มยอมรับกันได้ไปเสียนี่
คราวนี้พิธีกรร่วมรีบเอาไมค์มาจ่อปากเธอ คงต้องการให้เธอพูดอะไรซักอย่าง
“ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังค่ะ” คิมยองแอยิ้มหวานก่อนจะนั่งลงแล้วไม่เปิดปากพูดอะไรอีก
ในเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้วก็ฉวยโอกาสสัมภาษณ์ทีมmaddog01ไปเลยแล้วกัน พิธีกรฉีกยิ้มกว้างเริ่มทำรายการต่อไป
“เอ...ผมสงสัยนะ ทำไมคุณตะวัน โยธาบดี กับfordถึงมาอยู่ตรงนี้เอ่ย พวกคุณเป็นใครกันแน่ครับ”
พิธีกรจ่อไมค์โครโฟนมาที่ฟอร์ด ทำเอาคนถูกถามเกาแก้มแก้เขิน
“ก็ไม่มีอะไรมากครับผมก็แค่มือใหม่ที่จับพลัดจับพลูมาร่วมทีมเฉยๆ”
“เอ้าไม่ธรรมดานะครับ ใครๆ ก็รู้ว่าคุณคือ ฟอร์ด พัชรกานต์กุล น้องชายของบอสใหญ่ของเรา เอาล่ะเราจะไม่ล้วงลึกเรื่องนั้น เอาเป็นว่าสิ่งที่คุณคาดหวังจากการแข่งครั้งนี้คืออะไรครับ”
“สะสมประสบการณ์ครับ”
“แค่นั้นหรือ” พิธีกรทำเสียงเหมือนไม่เชื่อใครจะไปคิดว่าตะวันจะแย่งไมค์ไปจากมือ
“จริงๆ พวกเรามาถล่มคนต่างหาก โดยเฉพาะพวกที่วอนเว้าเป็นพิเศษ”
ด้วยน้ำเสียงและใบหน้าทรงเสน่ห์ของตะวันที่ขึ้นไปอยู่บนจอยักษ์ทำเหล่าแฟนคลับสาวๆ หวีดร้องเสียงดัง
“พี่ตะวัน พี่ตะวันเท่มากค่ะ”
“ถล่มมันให้ยับเลยค่ะ น้องพร้อมตามพี่เสมอ”
“อีพวกติ่ง ถึงกรี๊ดแค่ไหนเขาก็ไม่เอาพวกหล่อนหรอก”
แน่นอนว่าพวกนัมชินต้องโวยวายอยู่แล้ว เพราะท่าทีแข็งกร้าวของตะวันมันคือการท้าทายคิมยองแอของพวกเขาชัดๆ ตอนนี้พวกนัมชินกับแฟนคลับของตะวันเลยซัดกันนัวเนีย
ตะวันหัวเราะชอบใจ รู้สึกผิดเสียที่ไหน เขากำลังเดือดจัด เขาโมโหยัยหน้าปลวกยองแอที่ทำให้ลูกพี่ต้องไหว้ขอโทษต่อหน้าผู้คนมากมาย ถ้าพูดถึงเรื่องยกแฟนคลับถล่มกันล่ะก็ ตะวันมั่นใจว่าเขามีพาวเวอร์มากกว่า แฟนคลับหนากว่า
แล้วมันก็ใช่ด้วย คิมยองแอเป็นนักเล่นเกมอาชีพและเป็นนางแบบร่วมด้วยบางครั้ง แต่เจ้าหล่อนมีแต่แฟนคลับผู้ชายล้วนๆ พวกผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบเธอ แน่ล่ะผู้หญิงส่วนใหญ่มีสัญชาติญานพวกหล่อนสามารถรับรู้ได้ว่าใครดีใครแหลเป็นพิเศษ
กลับกันตะวันเป็นระดับซูเปอร์ไอดอล เป็นนักร้องนักแสดงและนายแบบ นอกจากเป็นที่ใฝ่ฝันของพวกสาวๆ ยังเป็นต้นแบบให้หนุ่มทำตามในทุกด้าน มันจะเทียบกันได้ไง
“เอาจริงๆ นะ กูว่ามันตลกว่ะ ที่จะมาประกาศเรียกร้องความสนใจในงาน” หนึ่งในแฟนคลับหนุ่มของตะวันเปิดประเด็น
“ใช่ๆ คิมยองแอนี่ชอบเปิดประเด็นดราม่าอยู่เรื่อย”
“พวกมึงพูดบ้าอะไรวะ มันยุติธรรมกับนางฟ้าของพวกกูป่าว ถูกเหยียดขนาดนั้นให้เก็บไว้ในใจหรือไง”
พวกหนุ่มนัมชินเถียงกลับ เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง ทำเอาพิธีกรงุนงงไปหมดแล้ว 30 ปีที่ทำงานด้านนี้มาไม่เคยเจอการทำงานที่ไหนที่จะวุ่นวายขนาดนี้
“พวกมึงเป็นไรวะ พวกกูจบแล้วไงเหี้ย maddogมันก็ไหว้ขอโทษพวกกูแล้ว พวกกูก็ยอมให้แข่งอย่างขาวสะอาดแล้วไงวะสัด เป็นเหี้ยอะไร”
จังหวะที่ความสับสนอลม่านเริ่มลุกลามไป จู่ๆ ภาริชก็เดินไปบนเวที แล้วเริ่มพูดด้วยเสียงเรียบเรื่อย
“ทุกคนช่วยอยู่ในความสงบหน่อย”
มีใครฟังเสียที่ไหน ภาริชได้แต่ยิ้มๆ เขาส่งสัญญาณให้เปิดระดับเสียงสูงสุดก่อนจะพูดใส่ไมค์ด้วยเสียงที่ดุดันและทรงอำนาจ
“เงียบ”
ก็เสียงไมค์มันดัง แล้วน้ำเสียงก็โหดได้ใจแท้ ทำให้พวกแฟนคลับที่โต้เถียงต่างเงียบอย่างเสียไม่ได้
“ในเมื่อทุกท่านต่างจริงจังกับการดวลของผู้เข้าแข่งขันขนาดนี้ ผมจะเปิดให้ลงทะเบียนทายผลชนะในเกมทุกเกมของบริษัทผม ไม่ว่าคุณจะทายผลแพ้ชนะถูกหรือผิด ทุกๆ คนที่ลงทะเบียนเข้ามาจะได้เงินในเกมคนล่ะ 5แสน และอุปกรณ์ระดับ ss < super special >คนล่ะห้าชิ้น นอกจากนั้นผู้ที่ทายผลได้ถูกต้องเราจะสุ่มเลือกจากระบบมาคนหนึ่งจากเกมทุกเกมที่เปิดให้ลงทะเบียน ผมจะแจกรถรุ่นล่าสุดจากบริษัทsonyaที่พวกคุณคงได้เห็นในโฆษนาแล้ว ซึ่งเกมของบริษัทผมที่เปิดให้บริการก็มีมากกว่า10เกม ผู้โชคดีที่จะได้รถคันงามไปก็ตามจำนวนนั้น”
เสียงฮือฮาดังไปทั่วงาน ขึ้นชื่อว่าการพนันกับของฟรีใครมันก็อยากได้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าคนในงานส่วนใหญ่เป็นนักเล่นเกมตัวยงกันทั้งนั้น มันจึงทำให้การแจกไม่อั้นครั้งนี้หยุดความวุ่นวายลงได้ แต่ละคนพร้อมใจฟังเงื่อนไขแล้วหยิบมือถือของตัวเองลงทะเบียน ความวุ่นวายจึงสงบลงในที่สุด
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
55555มาซะเย็นเลยงิ อืมเกมทั้งหมดที่เราเขียนมีหลายอย่างมาจากเกมจริง
แล้วเราเอามาขยำทำอีกทีนะคะ พอดีมีนักอ่านถามมา
อ่า...ตอนหน้าคงได้เริ่มแข่งเกมแล้วล่ะมั้ง
แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ