พิมพ์หน้านี้ - #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: lucifer miumiu ที่ 30-07-2018 13:16:24

หัวข้อ: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 30-07-2018 13:16:24
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทนำ + บทที่1 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 30-07-2018 13:17:08
Maddog01 คือชื่อนักเล่นเกมที่เป็นตำนาน เขาเป็นใครที่ไหนไม่มีใครเคยเห็นหน้า ตลอดหนึ่งปีมานี้เขาโผล่จากความมืด สร้างชื่อเสียงและชื่อเสียไปทั่ววงการเกม แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถแข่งเกมชนะเขาได้อยู่ดี จัดได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่น่าเสียดายคนหนึ่ง คนแบบนี้หากสามารถนำมาร่วมทีมในการแข่งขันe-spotได้คงเป็นขุมกำลังอันแสนมีค่าอย่างแน่นอน

ภาริช พัชรกานต์กุล ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาอย่างหาตัวจับยากฟังฟอร์ดน้องชายของเขาเล่าเกี่ยวกับ Maddog01 ในสายตาของฟอร์ด พี่ชายที่ดูไม่อินังขังขอบแม้เรื่องที่เล่ามาจะสุดยอดแค่ไหนก็นับเป็นเรื่องปกติแล้ว

พี่ภาริชไม่เพียงมีรูปร่างหน้าตาดูดีเกินมาตรฐาน ด้วยเส้นผมและดวงตาสีดำขลับเหมือนหยดหมึกและเค้าโครงหน้าที่ผสานเข้ากันเป็นอย่างดีของชนชาติfและt พร้อมพรั่งทั้งเรือนกายสูงใหญ่กำยำ บวกเพิ่มมันสมองสุดเลอเลิศกับมารยาทอันงามสง่า ดังนั้นไม่ว่าเดินนั่งนอนก็เหมือนเจ้าชายพระองค์หนึ่งเลยทีเดียว

ทว่านับตั้งแต่พบเห็นตัวละครดาร์คเอลฟ์หนุ่มรูปงามตามจีบตัวละครโลลิอกแบนของตัวเอง ท่านพี่ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดูหมกมุ่นและก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้าจออย่างไม่เคยเป็น



ทันทีที่ดาร์คเอล์ฟหนุ่มรูปงามปรากฏตัว เหล่าอวาตาร์ของผู้เล่นก็แหวกทางให้กับmaddog01ประดุจพบเห็นราชา การมาของผู้เล่นในตำนานที่เป็นเสมือนภูติพรายในครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะว่าgmเปิดกิจกรรมล่าบอสตัวใหม่ล่าสุด ระดมพลเหล่าเกมเมอร์ทั้งเซิร์ฟเวอร์ให้มารวมตัวกันเพื่อโค่นบอสประจำแพทที่มีชื่อว่าอีเดน

ตามปกติmaddog01จะเป็นนักเล่นเกมประเภทฉายเดี่ยว แต่กระนั้นก็มีหลายครั้งที่เข้ากลุ่มล่าบอสกับคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันภาริชเองจัดว่าเป็นนักเล่นเกมมือดีคนหนึ่ง นอกจากนั้นเขายังเป็นประธานหนุ่มแห่งบริษัทผลิตเกมรายใหญ่ของโลกในขณะนี้

Ghiblisoft แค่ชื่อก็การันตีได้แล้วว่าผลิตแต่เกมดังทั้งนั้น ยิ่งหลังจากภาริชขึ้นกุมบังเหียนบริษัทถึง 6 ปี ผลประกอบการยิ่งพุ่งสูงขึ้นจนติดเพดาน ตามปกติเขาจะแอบเล่นเกมคลายเครียดเป็นพักๆ ด้วยแอคเค้าท์ที่ชื่อว่าGhiblicat ซึ่งเป็นแอคเค้าท์ที่โด่งดังมากในวงการเกม

ทว่าครั้งนี้ไม่สามารถตั้งชื่อนี้ได้ เพราะเขาเข้ามาเล่นเกม Guardiano del Paradiso ช้าเกินไปทำให้พวกตั้งชื่อเลียนแบบนำชื่อประจำของเขาไปลงทะเบียนเสียหมด ด้วยเหตุนี้สาวน้อยโลลิอกแบนในชื่อแอคเค้าท์ว่า โกรธเกรี้ยว จึงปรากฏบนโลกแห่งเกม

ตามปกติสำหรับตัวละครเลเวล 20 ต้นๆ ไม่ควรหาญกล้าล่าบอสเลเวล 98 กับใครเขา ถ้าเกิดฟอร์ดน้องชายตัวดีซึ่งตอนนี้มีตัวละครเลเวล 90 แล้วอาสาพามาทั้งคอยปกป้อง ภาริชคงไม่เสียเวลาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้เลเวลลดลง

สุดยอดสาวงาม : พี่จ๋า ไม่ต้องกลัวนะ น้องคนนี้จะปกป้องพี่จ๋าอย่างดี

ฟอร์ดคุยกับภาริชผ่านไมค์ ตัวละครสาวเผ่านางฟ้าสุดเซ็กซี่กำลังแอ่นตัวไปมาตามแอคชั่นที่ฟอร์ดเลือกใช้ ดูแล้วช่างน่าหมั่นไส้เสียเหลือเกิน

โกรธเกรี้ยว : ถ้านายอยากปกป้องฉันจริงก็ไม่ควรพามาที่นี่ ควรพาฉันไปเก็บเลเวลตามเสต็ป

สุดยอดสาวงาม : โอ้ยโหยว พี่สาวโกรธซะละ เอาน่าพี่สาวยืนหลบๆ มุมก็พอ น้องคนนี้ไม่ปล่อยให้พี่ตายแน่ๆ สาบานเลย

ทั้งที่สาบานแล้วแท้ๆ แต่การล่าบอสดันเริ่มขึ้นโดยที่เจ้าน้องชายลืมชวนเขาเข้ากลุ่ม แถมยังกระโดดตีบอสเหยงๆ ลืมภาริชไปเสียสนิท เขาไม่อยากเตือนให้เสียเวลาและได้แต่ขยับเม้าท์ไปมาเพื่อหลบการโจมตีของบอสตัวขนาดยักษ์ ทว่าต่อให้มือไวหรือพลิ้วแค่ไหนยามที่บอสใช้ทักษะสตั๊นด้วยไฟฟ้ามาตามพื้นจนตัวละครของเขาก็ติดอาการชาทันที

จากนั้นตามด้วยทักษะค้อนแห่งสายฟ้า ภาริชไม่สามารถหลบได้และลงไปนอนกองเป็นศพกับพวกหนีไม่ทันคนอื่นๆ ส่วนเจ้าน้องตัวดีนะหรือมันลืมไปเลยว่ามีพี่ชายอยู่ ทั้งอย่างนั้นโดยไม่คาดคิดกลับมีคนชุบชีวิตตัวละครสาวอกแบนโลลิของเขา แถมยังส่งคำขอเชิญเข้าตี้มาให้ด้วย

Maddog01 : กดตกลงเลยยาหยี

ยาหยีเป็นคำเรียกที่ชวนหงุดหงิดอย่างบัดซบ แต่ไหนๆ ก็ชุบชีวิตเขาแล้วจะเอาแบบนั้นก็ได้

Maddog01 : Genial (เยี่ยม)

พิมพ์มาเป็นภาษาสเปนซะด้วย ภาริชกระตุกยิ้ม

โกรธเกรี้ยว : Eres un español? (คุณเป็นชาวเสปนหรือไง)

Maddog01 : non (ไม่) พี่ชายเป็นคนไทยน้องเอ๋ย

คราวนี้เป็นอิตาลีปนภาษาไทย น่าสนใจดีนี่ ภาริชยิ้มกว้างกว่าเดิม

โกรธเกรี้ยว : Parlo un po 'di italiano (ฉันพูดภาษาอิตาลีได้นิดหน่อย)

Maddog01 : ...

คราวนี้ดาร์คเอลฟ์หนุ่มนาม Maddog01ส่งจุดมาให้สามจุดตามด้วยอิโมจิคอนเหงื่อตกรัวๆ ไม่เพียงเท่านั้นตัวละครยังตั้งท่าแอคชั่นร้องไห้อีกด้วย ดังนั้นเขาจึงกดให้ตัวละครอกแบนโลลิของเขาทำท่าหัวเราะแล้วพิมพ์ภาษาไทยตอบกลับ

โกรธเกรี้ยว : จริงๆ ทางนี้ก็พูดได้แค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น แค่หยอกเล่นนะอย่าถือสา

แทนที่จะโกรธจู่ๆ ฝ่ายตรงข้ามก็ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนสิ่งของ เขาไม่มีไอเท็มอะไรให้แลก แต่พอลองกดตกลงดูกลับเป็นว่าตนเองได้รับของชิ้นหนึ่งมา มันเป็นไอเทมสำหรับการจัดแอคชั่นตัวละครแถมเป็นแบบท่าคู่จัดอยู่ในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างหนึ่ง

แอคชั่นท่าจุมพิตที่หลังมือ : ยามที่กดใช้คุณจะสามารถจุมพิตมือฝ่ายตรงข้ามที่มีแอคชั่นนี้ หรือสามารถให้อีกฝ่ายที่มีเหมือนกันจุมพิตมือคุณได้

พออ่านคำอธิบายจนจบมุมปากข้างหนึ่งของเขายกโค้งขึ้น ภาริชกดปุ่มใช้ไอเทมเพื่อให้มันมาบรรจุในท่าแอคชั่นของเขาทันที

Maddog01 : กดใช้ไอเทมหรือยังยาหยี

โกรธเกรี้ยว : กดแล้ว

ภาริชพิมพ์ตอบ แทบจะในทันทีอวาตาร์ดาร์คเอล์ฟหนุ่มจุมพิตลงบนหลังมือของตัวละครที่เขาบังคับ เกือบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ นั่นก็เพราะคำพูดสุดลิเกของพ่อ Maddog01 ที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอพร้อมการจุมพิต

Maddog01 : Bitte akzeptiere meine Liebe, Göttin. (โปรดรับรักผมเถอะแม่เทพธิดา)

<อืม...> ภาริชแสยะยิ้มตรงหน้าจอ นี่เขาเจอเรื่องน่าสนุกเข้าให้แล้ว เล่นตัวละครผู้หญิงมันบันเทิงแบบนี้นี่เอง







หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทนำ + บทที่1 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 30-07-2018 13:23:14
บทที่1

โลลิอกแบน เจ้าสาวของmaddog01

เวลาที่นัดพบกันคือ 1 ทุ่ม ซึ่งสำหรับภาริชแล้วเป็นเวลาที่ดี ยังไงก็แล้วแต่เขาไม่ใช่พวกว่างที่สามารถนั่งเล่นเกมได้ทั้งวัน ช่วงเช้าจนถึงเกือบค่ำ เขามีงานบริหารที่ต้องตั้งใจทำให้ดีและต้องไม่วอกแวก ทว่าวันนี้ในช่วงเวลาพักเที่ยง เขากลับเปิดโน้ตบุ๊กแวะเข้าไปดูในเกม Guardiano del Paradiso ดูสิว่า maddog01 ยังอยู่ในเกมหรือเปล่า

น่าเสียได้ที่ไม่พบว่าฝ่ายนั้นออนไลน์ แต่ยังไงวันนี้เวลา 1 ทุ่ม พวกเขาก็นัดกันแล้วที่หน้าค่ายของผู้ทรยศซึ่งอยู่ในแมพของเกม เวลาผ่านไปจนเลิกงานภาริชเดินทางกลับบ้านพร้อมคนขับรถ เขาไม่เร่งรีบนักยังพอมีเวลาเหลือ เมื่อถึงคฤหาสน์พัชรกานต์กุลก็พบฟอร์ดที่ดักรอตบเขาไปเล่นเกมด้วย

“วันนี้ผมจะพาพี่ไปเก็บเลเวลเอง”

ฟอร์ดยกนิ้วโป้งอย่างหมายมั่น เขาต้องการไถ่โทษที่เมื่อวานทิ้งพี่ชายไป แถมหลังจากฆ่าบอสอย่างยากลำบากก็พบว่าพี่ชายไม่อยู่แล้ว ทักไปก็ไม่ตอบ ไปเคาะเรียกที่หน้าห้องก็เงียบ สงสัยว่าจะโกรธน่าดูเลย

“แย่หน่อยนะ วันนี้ฉันนัดคนเอาไว้แล้ว”

ฟอร์ดงงเป็นไก่ตาแตก คนที่แม่มหยิ่งอย่างพี่ชายและไม่ยอมพิมพ์โต้ตอบกับใครง่ายๆ นี่นะ หาเพื่อนในเกมได้ปัจจุบันทันด่วนอย่างนี้เลยหรือ ปกติเพื่อนๆ ในเกมอื่นก็มาจากที่เขาแนะนำให้ทั้งนั้น

อยากเห็น อยากเห็นเพื่อนคนนั้นของพี่ชายจนตัวสั่นสะท้าน ดังนั้น “พี่จ๋า ฉันขอไปดูพี่เล่นที่ห้องของพี่ได้ไหมจ๊ะ”

ฟอร์ดดัดจริตให้เหมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ก็รู้ดีว่าพี่ชายชอบ พี่ภาริชอยากได้น้องสาวมากกว่าน้องชาย สมัยยังเด็กๆ จนถึงมัธยมต้นก็มักบังคับให้เขาแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิง จวบจนเขาตัวสูงพรวดขึ้นมาถึง 180 ซ.ม ท่านพี่ถึงได้เลิกทำเวรทำกรรมกับเขา

“นายมันขี้เหร่ ตัวสูงแถมหนาปึก ขัดลูกตาจริง”

คำพูดนี้ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน ไม่อยากจะบอกว่า คุณพี่ พี่นั่นแหละที่ตัวสูงปรี๊ดตั้ง 190 ซ.ม แถมยังตัวหนาแบบคนฝึกศิลปะการต่อสู้มาอย่างช่ำชองด้วย

“ก็ตามใจสิ” ภาริชอนุญาติแล้ว ฟอร์ดเดินตามหลังต้อยๆ แทบจะเข้าไปสิง

“อย่าเข้าใกล้มาก เหม็นกลิ่นสาปผู้ชายตัวโตๆ”

“อะไรเล่า พี่ชอบแบบเด็กหนุ่มโชตะกะพวกโลลิหรือไง”

ฟอร์ดโวยวาย ดูได้จากรสนิยมการสร้างตัวละครก็รู้ละ ตัวละครชายแม่มไม่เคยสร้างเป็นหนุ่มสมชายชาตรี ชอบเด็กหนุ่มโชตะ ตัวเล็กรูปงาม พอริจะสร้างตัวละครหญิงก็ดันตามรูปแบบเดิม โลลิอกแบน รสนิยมน่ากลัวเกินไปแล้ว

“ก็น่ารักจะตายไปไม่ใช่หรือไง” ภาริชแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มมารร้ายที่ทำให้ฟอร์ดขนลุกชัน พี่ชายแม่มต้องเป็นประเภทแต่งงานกับเด็กอายุน้อยกว่าแน่ๆ เฒ่าหัวงูเอ๊ย

จากนั้นฟอร์ดก็ตามภาริชเข้าไปในห้องส่วนตัว พี่ชายใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออนไลน์ในเวลา 1 ทุ่มตรงเป๊ะ

“เอ้า เลเวล 39 แล้วหรา งั้น อีกเลเวลก็ไปอัพคลาสสองได้แล้วสิ พี่เล่นอาชีพอะไรเนี่ย”

ฟอร์ดดูจากอุปกรณ์ที่ตัวละครโลลิของพี่สวมใส่ ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์สายเวทย์มนต์เบื้องต้นที่ดีที่สุดในเวลานั้น เขาผิวปากหวือ

“สมเป็นพี่เลย ถึงจะเล่นคนเดียวแต่ก็หาเงินมาซื้ออุปกรณ์แพงๆ ได้ นี่พี่เล่นเป็นเมจสินะ ผมแนะนำให้พี่ไปเล่นซอร์เซอเรอร์ที่เน้นสายโจมตีดีกว่า วิซาร์ดที่เน้นดีบัฟเป็นหลัก”

ฟอร์ดแนะนำอย่างผู้ชำนาญการ ดีเหมือนกันเขาเองก็เล่นคลาส Knight of Light ที่เน้นการแท้งค์และฮีลตัวเองได้อยู่ หากมีพี่ชายมาคอยทำดาเมจมันจะดีมากๆ

“ฉันเป็น Believer และจะเปลี่ยนอาชีพเป็นpriest”

“เอ่อ...ถ้าพี่จะเล่นKung Fu Master พี่ควรอัพคลาสเป็นmonkนะ”

“ฉันเป็น Believer และจะเปลี่ยนอาชีพเป็นpriest”

แม่มเหมือนฟังเรื่องเหลือเชื่อ ฟอร์ดรู้สึกคล้ายกับเกิดอาฟเตอร์ช็อก พี่ชายที่ชอบพูดว่าอาชีพสายรักษาแม่มไร้ประโยชน์ แถมยังชอบฉายเดี่ยวโดยไม่มีพระคอยรักษาแต่อย่างใด คนที่บอกว่าให้ตายก็จะไม่เล่นอาชีพสายรักษาที่ทำตัวเหมือนเป็นปลิงเกาะคนอื่นไปวันๆ

“ไหนเพ่เคยบอกว่า ไม่ชอบอาชีพที่ต้องเอาแต่เกาะคนอื่นเพื่อให้เลเวลอัพไง”

“ก็มีคนมากราบขอร้อง”

“ใครฟะ”

ฟอร์ดมองตามมือภาริชที่จิ้มไปยังตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มรูปงาม

นั่นมันmaddog01ในตำนานไม่ใช่หรือ ตัวจริงไหมนี่

“เฮ้ยของจริงหรือ ตัวจริงหรือพี่” ฟอร์ดแทบจะกระโจนเข้าไปจ้องติดจอ

เวลานี้maddog01ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง มีตัวละครอีกสองตัว ชื่อแอคเค้าท์ว่า ชานมไข่มุกโคตรอร่อย กับ Silver fox13 แอคเค้าท์ชื่อดังที่มักตามติด maddog01 ไปทุกเกมเหมือนขี้ปลาทอง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่ทิ้งเราไปเมื่อวาน บอกมานะว่าหายไปไหน

ตัวละครสาวสายโลลิหัวม่วงโดดเหยงๆ ไปมารอบๆ ตัวดาร์คเอล์ฟหนุ่มรูปงาม วันนี้ชานมไข่มุกไม่ยอมแพ้เด็ดขาด เขาจะต้องลากลูกพี่ไปลงดันเจี้ยนด้วยกันให้ได้

ระหว่างที่โดดเหยงๆ ข้างๆ ตัวก็มี Necromancer หนุ่มเผ่าอมนุษย์ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหิน Silver fox13 ไม่พูดไม่จาปล่อยให้ ชานมไข่มุกโคตรอร่อยป่วนประสาท maddog01ตามอัธยาศัย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่ต้องบอกพวกเรามาให้หมด ข้ากับเพื่อน Silver fox13 ติดตามพี่ไปทุกที่ด้วยความภักดี ลูกพี่ยังมีความลับกับพวกเราอีกหรือ

ดูเหมือนว่ากำลังถูกซักฟอกอย่างหนัก ไอ้ที่หายไปฟอร์ดเดาว่าคงมาเก็บเลเวลกับพี่ชาย เข้าไปในสถานการณ์นี้คงไม่ดี แต่เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของพี่แล้วคิดว่าคงไม่พ้นรีบเสนอหน้าไปหาแน่ๆ

โกรธเกรี้ยว : มาเร็วจังนะ

ภาริชบังคับตัวละครโลลิของเขาให้เดินเข้าไป maddog01รีบวิ่งเข้ามาหาเขาทันที ทำให้ชานมไข่มุกโคตรอร่อยใช้อีโมจิคอนแสดงอารมณ์เป็นเครื่องหมายคำถามยาวๆ อย่างต่อเนื่องจนรกช่องข้อความไปหมด เพราะอยู่ใกล้ๆ กันในแมพ ดังนั้นข้อความของชานมไข่มุกจึงขึ้นเป็นพรืด ทำให้ดันข้อความสนทนาของเขากับmaddog01เป็นระยะๆ

maddog01 : คิดถึงเจ้าเหลือเกินยาหยี

ไม่พูดเปล่าดาร์คเอล์ฟหนุ่มยังจุมพิตมือตัวละครของเขา นั่นทำให้ชานมไข่มุกมากระโดดเหยงๆ รอบๆ พวกเขาทั้งรัวอีโมจิคอนรูปเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

แบบนี้มันน่าแกล้งยังไงไม่รู้ ภาริชแสยะยิ้มที่ชวนให้ฟอร์ดขนลุก

จังหวะนั้นmaddog01ก็ส่งคำขอแลกเปลี่ยนของมาอีกแล้ว คราวนี้เป็นท่าแอคชั่นคู่อันใหม่ ภาริชกดรับแล้วอ่านข้อมูลไอเทม

แอคชั่นจูบอย่างดูดดื่ม : ถ้ากดใช้คุณจะสามารถจูบกับคนที่มีแอคชั่นนี้ กลับกันอีกฝ่ายก็สามารถจูบคุณได้

คนที่อยู่หน้าจอโดยเฉพาะฟอร์ดถึงกับจังงัง ไอ้หมอนี่มันกล้าลวนลามพี่ชาย พี่ชายที่โหดเหี้ยมปานซาตานคนนั้น สงสัยต้องถูกแกล้งถูกด่าถูกรังแกเป็นการตอบแทนแน่ๆ คิดแล้วก็ลอบมองดูสีหน้าภาริช ปรากฏว่าอีกฝ่ายคลี่ยิ้มแบบนางฟ้า

โอ๊ยน่ากลัวฉิบหองเลย ฟอร์ดคร่ำครวญในใจ เริ่มประเมินการว่าmaddog01นี่คงเป็นเหยื่อคนใหม่ของพี่

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่บอกมานะว่ายัยอกแบนนี่เป็นใคร ลูกพี่นอกใจผมหรา

ชานมไข่มุกดิ้นพล่านไปรอบๆ ดาร์คเอล์ฟหนุ่มและตัวละครของภาริช โดยมี Silver fox13 เป็นฉากหลัง

น่ารังแก ภาริชแสยะยิ้ม หลังจากกดรับไอเทม เขาก็กดใช้แอคชั่นกับmaddog01ทันที ภาพสองตัวละครจูบกันทำเอาชานมไข่มุกพิมพ์คำพูดออกมาไม่เป็นภาษา ก่อนจะกดแอคชั่นทรุดลงไปกองกับพื้น ระรัวอีโมจิคอนร้องไห้ออกมาเต็มหน้าช่องสื่อสาร

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาด อย่าบอกนะว่าลูกพี่จะแต่งงานกับยัยอกแบนนี่ ทีกับเค้าที่ขอร้องลูกพี่ไปทุกเกม ลูกพี่ยังไม่เคยแล

อีโมจิคอนร้องไห้กำลังรุกรานหน้าช่องสื่อสาร แต่maddog01สนใจที่ไหน เพราะกำลังรัวอีโมจิคอนใบหน้าเขินอายถี่ยิบแข่งกับชานมไข่มุก จากนั้นพี่แกก็คุกเข่าตรงหน้าตัวละครของภาริช ขอแต่งงานดื้อๆ

Maddog01 : แต่งงานกับข้านะแม่เทพธิดา

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ม่ายยยยยยยยยยยยย

ชานมไข่มุกลงไปตีอกชกหัวบนพื้น

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : หล่อนใช้ความอ่อนแอกับอกแบนๆ หลอกล่อลูกพี่ใช่ไหม คิดจะมาเกาะลูกพี่อัพเลเวลล่ะสิ

ตามจริงก็ว่าจะเลิกแกล้งหรอก แถมการแต่งงานในเกมมันก็น่ารำคาญไม่น้อย ภาริชไม่ถนัดแชร์ของในช่องเก็บหรือในคลังไอเทมกับใคร ยิ่งถ้าถูกตามเจออัตโนมัติบนแมพได้นี่ยิ่งน่ารำคาญ ทว่าคำพูดอวดดีของชานมไข่มุกกับความน่ารักแบบเด๋อๆ ของmaddog01ทำให้ตัดสินใจไม่ยาก

ฟอร์ดจ้องดูใบหน้าของภาริชตาแทบถลน พี่ชายแม่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ต้องยอมแต่งงานกับเจ้าmaddog01แน่ๆ เพราะต้องการแกล้งให้ชานมไข่มุกดิ้นต่อไปแล้วก็นิสัยของmaddog01ก็คงโดนใจสายมารร้ายอย่างคุณพี่เป็นแน่แท้

โกรธเกรี้ยว : ก็เอาสิ แต่งกับนายก็ได้

เป็นคำตอบที่แม่มสร้างความสะท้านให้กับชานมไข่มุกเสียเหลือเกิน ที่นี่ก็ตั้งหน้าร้องไห้คร่ำครวญเป็นคลื่นข้อความอีโมจิคอนชุดใหญ่ แต่maddog01กับภาริชสนใจที่ไหน

Maddog01 กดแลกเปลี่ยนไอเทมกับเขาอีกหน คราวนี้ส่งของมาให้มากมายทั้งเงินจำนวนมากไอเทมสำหรับคลาสต่อไปรวมถึงแหวนหนึ่งวง

ภาริชกระหยิ่มยิ้มย่อง นี่มันโคตรคลังสมบัติเคลื่อนที่ ไม่ต้องเสียเวลาหาเองแถมยังได้เล่นสนุก เล่นตัวละครผู้หญิงนี่มีแต่เรื่องบันเทิงจริงๆ

Maddog01 : ได้รับแหวนแล้วนะ

โกรธเกรี้ยว : อืม

จากนั้นคนถามก็ส่งคำขอแต่งงานมาให้ ภาริชผิวปากหวือมองดูชานมไข่มุกคร่ำครวญปานโลกถล่มก่อนกดตกลงรับคำขอ พวกเขาแลกแหวนกันจากนั้นทางระบบก็ประกาศการแต่งงานในช่องประกาศความสัมพันธ์ให้รู้ทั่วกัน

ชานมไข่มุก : ลูกพี่ทำลงไปแล้วจริงๆ แล้วที่เค้าพยายามมาตลอดหนึ่งปีมันคืออะไร เค้าเจอลูกพี่ก่อนยัยอกแบนนี่อีกนะ เค้าอุตส่าห์ยอมเป็นสาวอกแบนไปทุกเกม ทั้งที่ความจริงเค้าชอบนมตู้มๆ นมเป็นนมตูดเป็นตูด ลูกพี่ใจร้าย

แล้วชานมไข่มุกก็ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปด้วยความงอน ทิ้งให้ Silver fox13 คู่หูยืนหน้านิ่งอยู่ตรงจุดเดิม

Silver fox13 : ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกmaddog01 ไอ้เจ้าชานมก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เสนอหน้ามาใหม่

Maddog01 ทำท่ากอดอกแล้วพยักหน้า แสดงความรู้สึกถึงความเข้าใจ จากนั้นก็เริ่มใช้คำพูดเขี่ย Silver fox13ไปให้พ้นทาง

Maddog01 : ข้าอยากพาแม่ยอดยาหยีภรรยาใหม่ของข้าไปล่ามอนเตอร์เพื่อเปลี่ยนคลาสตามลำพัง เจ้าคงเข้าใจนะ

Silver fox13 : เข้าใจแล้วหัวหน้า แต่พอนางอัพคลาสเป็นpriestเมื่อไหร่ หัวหน้าต้องเอาเข้าตี้เรา ตอนนี้เรามีNecromancerคือข้า Gunnerคือชานม แล้วก็Force Blader คือตัวท่าน ยังขาดตัวแท้งค์และพวกสายรักษาอยู่ คราวนี้เวลาลงดันล่าบอสจะได้อุดจุดตายซักที

จากนั้น Silver fox13 ก็หันมาคุยกับตัวละครของภาริช

Silver fox13 : ถ้าไปได้ดีก็อยากให้เธอตามเราไปทุกเกมนะ พวกเราเป็นกลุ่มเล่นเกมที่ดีและสนิมสนมกันมาก

ตอนนี้เองที่ภาริชเคาะนิ้วลงที่ข้างเม้าท์และทำท่าครุ่นคิด

“พี่ผมขอแจมด้วยได้ไหม ผมบอกหรือยังว่าผมเป็นแฟนตัวยงของmaddog01”

ฟอร์ดลองร้องข้อจากพี่ชาย ทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสจะโดนแกล้งมากกว่า 80 เปอร์เซ็น

“เอางั้นรึ”

ภาริชกระตุกยิ้มมุมปาก คำพูดของเขาจำแนกไม่ได้ว่าตอบคำถามฟอร์ดหรือโต้ตอบกับ Silver fox13 กันแน่

“เอาสิ”

ภาริชตอบคำถามฟอร์ดพร้อมกับพิมพ์คำพูดเดียวกันลงไปในช่องคำพูด maddog01 ดีใจจนใช้ตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มของเขาจุมพิตตัวละครโลลิอกแบนของภาริช สามครั้งติดกัน

คนที่อยู่หน้าจอแสยะยิ้มดั่งมารร้าย ในขณะที่ฟอร์ดน้องชายมองดูmaddog01ด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย

โคตรน่าสงสารเลยว้อย ต้องมากลายเป็นของเล่นของพี่ชายแบบเน้

ฟอร์ดแค่คิดเท่านั้นไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                   เจอเรากะเรื่องใหม่อีกแล้ว ถ้าชอบนิยายเรื่องนี้ ก็ช่วยคอมเม้นทเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

                 ส่วนหากมีข้อผิดพลาดตรงไหน ช่วยกันแนะนำได้นะคะ แต่อย่าด่าแรงน้า เราขี้ใจน้อย
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทนำ + บทที่1 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 30-07-2018 15:53:01
บทที่2

เป็นแฟนกันดีไหมเอ่ย

“เล่นอาชีพpriestสนุกไหมครับคุณพี่”

“ก็ไม่เลว” ภาริชทำหน้านิ่งเมื่อฟอร์ดถาม แถมขณะที่เล่นเขายังเปิดโน้ตบุ๊คอีกเครื่องทำงานไปด้วยยังได้ เพราะอาชีพสายนี้ไม่ต้องกดใช้ทักษะบ่อยครั้ง แค่ตามหลังสนับสนุนและอยู่ให้ถูกที่ถูกทางเป็นพอ

“ไหนเพ่บอกว่าไม่ชอบเล่นอาชีพสายซับพอร์ตเพราะมันเหมือนปลิงไงเล่า คุณพี่กลายเป็นปลิงจริงๆ แล้วนะตอนนี้ ที่นี่มันสุสานผู้วายชนม์ไม่ใช่หรือพี่ พี่ใช้ทักษะฮีลโจมตีอันเดดได้เน่ พี่อยู่เฉยๆ ทำไมครับ”

“นายไม่ได้อ่านที่หน้าจอหรือไง คุณสามีของฉันเขาบอกให้อยู่เฉยๆ ปล่อยเป็นหน้าที่ของเขาเอง อีกอย่างนายลืมไปหรือเปล่าที่นี่มอนสเตอร์เลเวลมากกว่าฉัน 10 เลเวลเลยนะ นายอยากเห็นพี่ชายคนนี้ถูกยำตีนจนเลเวลลดหรือไง”

ฟอร์ดบึนปากอยู่ข้างๆ ภาริช นึกถึงจุดประสงค์ที่maddog01พาพี่ชายมาก็เพื่อให้ดูดค่าประสบการณ์ตั้งแต่ต้นมันถือเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่คุณพี่จะสบายไปไหม เล่นนั่งทำงานไปด้วย ดื่มชาไปด้วย ทานเค้กด้วย โอ้ยแม่มจะน่าอิจฉาเกินไปแล้ว

แถมสไตล์การเล่นของmaddog01นั้นเห็นได้ชัดว่าช่ำชอง หลังจากเข้ามาในดันเจี้ยนสุสานผู้วายชน ก็สั่งให้พี่ชายเดินตามเฉยๆ จากนั้นพี่แกก็ลากมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลไปอัดมุมห้องตีรัวๆ ให้ตายทีละตัวและไม่ลืมสั่งให้พี่ฮีลเวลาที่เลือดลดและบัพ

ตามจริงพี่maddog01คนนี้น่าจะเลเวลสูงสุดของเกมในเวลานี้แล้ว ไอ้มอนสเตอร์ระดับ 60-65 เลเวลนี่สะกิดพี่แกแทบไม่ได้เลย ดังนั้นพี่แกจึงวิ่งลากมาอัดมุมมากกว่า 30 ตัว ตัวละครของพี่ชายมีความเสี่ยงแค่เฉพาะเวลาบัพให้กับmaddog01เท่านั้น ทุกครั้งที่บัพพวกมอนสเตอร์จะเปลี่ยนเป้าหมายหันมาตีคุณพี่ แต่maddog01ดันมีทักษะ hate ซึ่งเป็นทักษะล่อมอนสเตอร์ให้มาหาของพวกสายแท้งค์ ทำให้ฟอร์ดรู้ในทันทีว่าพี่แกเลือกอาชีพรองเป็น knightแน่ๆ

ในเกม Guardiano del Paradiso เมื่อเลเวลครบ 80 สามารถเลือกอาชีพสายรองจากคลาสที่ 2 ได้ ฟอร์ดเองก็เลือกอาชีพ Archer เพราะอยากได้ทักษะวางกับดักและทักษะโจมตีไกลเท่านั้นเอง

“ท่านพี่ขอรับ”

“ว่าไง” ภาริชตอบอย่างเฉื่อยชา มือข้างหนึ่งคลิกเม้าท์ออกคำสั่งบัพให้กับตัวละครดาร์คเอล์ฟรูปงามที่ตั้งหน้าตั้งตาตีมอนสเตอร์อย่างบ้าคลั่ง เลเวลของเขากำลังขึ้นทีละนิดไม่เร็วมากนัก แต่มันดีกว่าไปเก็บเลเวลด้วยตัวเองเยอะ

สำหรับpriestเลเวล 50 อย่างเขา ถ้าเก็บเลเวลตามสเต็ปเพียงลำพังคงลำบากหน่อยเพราะต้องลงดันเจี้ยนที่เป็นสุสานเพียงอย่างเดียว แถมในสุสานมันไม่ใช่มีเพียงอันเดดมันยังมีมอนสเตอร์ประเภทอื่นอีก เรียกได้ว่าเป็นการเล่นที่อยากลำบากไม่น้อยสำหรับอาชีพสายนี้

ตีก็เบา แต่หากอยากตีแรงและติดคลิก็ควรถือคถาที่ตีบวกและเพิ่มทักษะ ระหว่างที่ตามตูดดาร์คเอล์ฟหนุ่ม ภาริชเปิดเว็บไซด์ดูแนวทางการเล่นสลับกับทำงานไปด้วยเป็นระยะๆ และพบว่าอาชีพสายนี้นอกจากเก็บเลเวลลำบาก ยังสิ้นเปลืองเงินทองมากอีกด้วย ดังนั้นพวกที่เล่นอาชีพนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นสายเติมเงินกันไปเสียเกือบหมด

“ท่านพี่ตกลงแล้วนะขอรับว่าจะให้น้องชายผู้นี้ร่วมแจมกับท่านพี่ด้วย” ฟอร์ดรีบทวงข้อตกลงทันที เขากลัวว่าพี่ชายจะแกล้งลืม

“อ้อ...ไม่ลืม” ภาริชหมุนเก้าอี้มาหาฟอร์ด เขาแสยะยิ้มร้าย “ของแลกเปลี่ยนล่ะ”

“อุ๊ยตาย” ฟอร์ดใช้มือทั้งสองข้างจับแก้มและทำสีหน้าตกใจอย่างโอเวอร์แอคติ้ง “งั้นเอาเป็นเต้นระบำให้ดูดีมะ ท่านพี่ชอบนี่ขอรับ” ตอนนี้เองที่ภาริชหันมาดูอย่างจริงจัง ฟอร์เริ่มต้นทำตามที่พูดร้องเพลงและเต้นไปด้วย

“ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา แล้วมันก็ถูกไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ”

“เสียบตูดให้มันจริงจังหน่อยได้ไหม แล้วก็นายเต้นช้าบรรลัยอย่างนี้มันจะไปสนุกได้ไง”

“โอ๊ะเคะ” ฟอร์ดทำสัญลักษณ์มือที่บอกว่าโอเค แล้วเริ่มร้องเล่นเต้นแรงเสียบตูดหนักกว่าเดิม ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของmaddog01 จริงๆ ถ้าได้ตามเกาะพี่แกคงเอาไปอวดพวกเพื่อนๆ จนเป็นที่อิจฉา

ก็maddog01คนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นนักเล่นเกมในตำนาน พี่แกยังเป็นนักแคสเกมชื่อดังที่มียอดผู้คนติดตามถึง 6 ล้าน subscribe ไม่เพียงแค่นั้นพี่แกยังวาดโดจินขาย เป็นลายเส้นที่งดงามและเนื้อหาโจ๋งครึ่มน่าติดตามมากมาย

ตัวตนที่แท้จริงของmaddog01ไม่มีใครรู้ เพราะพี่แกไม่เปิดเผยตัว ไม่เคยไปปรากฏตัวในงานเกมไหน หรือแม้แต่โฆษนาที่ติดต่อมาพี่แกยังปฏิเสธไปหากต้องไปแสดงตัวตน คนที่ลึกลับมีชื่อเสียงและเก่งกาจแบบนี้ สำหรับวงการเกมและวงการแคสถือเป็นไอดอลที่หลายคนใฝ่ฝัน

“ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา แล้วมันก็ถูกไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ท่านพี่ขอรับพอใจแล้วหรือยัง”

ฟอร์ดถามแต่ไม่หยุดเต้น เขาเต้นเป็นรอบที่สิบแล้วนะนี่

ภาริชคลี่ยิ้มประดุจนางฟ้าแบมือมาตรงหน้า ฟอร์ดเข้าใจทั้งที่ไม่อยากจะเข้าใจ เขารีบวางมือลงบนมือของพี่ชายส่ายตูดไปมาเหมือนสุนัข “พี่แม่มชอบให้ผมทำท่าอุบาทว์” ฟอร์ดบ่นอุบอิบแต่ยังทำตาม

“ไหนวางคางลงมาบนมือสิ” ภาริชสั่ง ฟอร์ดรีบทำตามแถมยังส่งสายตาวิ๊งวับให้ คนสั่งแสยะยิ้มร้าย

“นายนี่มันไร้ศักดิ์ศรีจริงๆ นะ เป็นลูกผู้ชายเสียเปล่า ไม่คิดจะสู้กับฉันเพื่อให้ได้ชัยชนะและเป็นฝ่ายกุมอำนาจเลยหรือไง”

“เพ่คิดว่าผมไม่เข็ดหรือไง พี่เล่นล็อคคอผมแล้วจี้เอวจี้เท้าจนผมหมดแรง ตัวใหญ่อย่างควายผมไม่กล้าเสี่ยงหรอก”

ตอนนี้เองที่ภาริชถอนหายใจ “น่าสมเพชเกินไปแล้ว นี่เป็นน้องชายของฉันจริงๆ หรือนี่ นายน่าจะเกิดเป็นผู้หญิงนะ ถ้าเป็นแบบนั้นคงมีชีวิตไม่ต่างจากเจ้าหญิงแน่ๆ”

“เกรงใจครับคุณพี่ เอาเร็วสิครับผมทำตามที่สั่งละนะ รีบบอกคุณmaddog01ไปสิว่าจะเอาผมไปแจมด้วย”

ภาริชหมุนเก้าอี้กลับไปยังหน้าจอโดยมีฟอร์ดเกาะหลังแล้วสวดเร่งด้วยคำว่า ‘เร็วๆ ’ เสมือนคำสาป พอเพ่งหน้าจอก็พบว่าmaddog01 กดอีโมจิคอนร้องไห้รัวๆ มา ภาริชไล่ดูช่องสนทนาก่อนหน้านั้นไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านมุมปากเขาก็ยิ่งยกโค้งขึ้น

Maddog01 : ที่รักยาหยีเป็นอะไรไป

Maddog01 : ที่รักโกรธเค้าหรา อย่านิ่งไปสิ

Maddog01 : ที่รักหรือว่าเบื่อดันเจี้ยนนี่แล้ว เราเปลี่ยนบรรยากาศกันดีไหม

Maddog01 : ที่รักหรือว่าอยากได้ชุดใหม่ เด๋วข้าจะซื้อกาชาปองให้เจ้าน้า

Maddog01 : ที่รัก ยาหยี เน็ตไม่ดีหรือจ๊ะ อย่าทิ้งเค้าไว้แบบนี้เซ่

Maddog01 : TT

และอื่นๆ อีกมากมาย ตอนนี้พี่แกรัวอีโมจิคอนร้องไห้มาเป็นจำนวนมาก

โกรธเกรี้ยว : พอดีว่าคุยกับคนอื่นอยู่น่ะ

ภาริชพิมพ์ตอบ

Maddog01 : ร..เหรอคุยกับใครอะ

โกรธเกรี้ยว : ผู้ชายคนหนึ่ง

ตอนนี้เองที่ดาร์คเอล์ฟหนุ่มแสดงแอคชั่นแสนงอนด้วยการก้มหน้าเตะพื้นหลายๆ ที พอทำครั้งที่ 10 ได้ ภาริชก็พิมพ์ถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

โกรธเกรี้ยว : หึงหรือไง

Maddog01 : เปล่าเลย

ดาร์เอล์ฟหนุ่มกอดอกแล้วสะบัดหน้า

โกรธเกรี้ยว : ถ้าไม่หึงเราก็เลิกคุยกันเรื่องนี้ แล้วไปเก็บเลเวลกันต่อดีไหม

“คุณเพ่ ผมอุตส่าห์เต้นแร้งเต้นกาตั้งนาน คุณพี่จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” ฟอร์ดที่อยู่ด้านหลังแทบโดดเหยงๆ แต่พอสังเกตสีหน้าคุณพี่ เมื่อเห็นรอยยิ้มมารร้ายเขาก็สงบเสงี่ยมในบัดดล พี่แม่มกำลังสนุกอยู่

Maddog01 : งอน

ดาร์คเอล์ฟหนุ่มกอดอกและสะบัดหน้ารัวๆ หลาย10 ครั้ง

โกรธเกรี้ยว : ทำยังไงถึงจะหายงอนน้า

หลังจากพิมพ์เสร็จ ภาริชก็กดแอคชั่นซึ่งแอบซื้อมาสั่งให้ตัวละครโลลิอกแบนของเขาหอมแก้มดาร์คเอล์ฟหนุ่ม หอมไปหนึ่งครั้งยังเงียบ ดังนั้นจึงมีครั้งที่สองและสาม

<อืม...นึกว่าจะมีปฏิกิริยาตามที่คิดเสียอีก น่าเสียดายจัง> ภาริชคิดในใจ แต่แทบจะในทันทีmaddog01กดอีโมจิคอนเขินอายมารัวๆ แถมแอคชั่นของดาร์คเอล์ฟยังเป็นท่าบิดตัวไปมาด้วยความเขินแบบสุดๆ

Maddog01 : บ้า...เจ้าแอบซื้อแอคชั่นนี้มาเพื่อมาง้อข้าโดยเฉพาะสินะที่รัก แหมเค้าก็กะว่าจะส่งแอคชั่นนี้ให้เจ้าอยู่พอดี

ว่าแล้วดาร์คเอล์ฟหนุ่มก็หันมาจูบตัวละครของภาริชรัวๆ ฟอร์ดไม่คิดเลยว่าพี่maddog01จะเป็นพวกหื่นได้ใจขนาดนี้ ตามจริงพี่ชายควรจะโกรธ เพราะนิสัยท่านพี่ไม่ชอบให้ใครมาตีสนิท แต่ทว่าพอหันไปมองพี่แกคลี่ยิ้มราวกับนางฟ้า

<น่ากลัวฉิบหายเลย> ฟอร์ดถอยหลังไปนั่งท่าคุกเข่าแล้วกราบเบญจางคประดิษฐ์ “ท่านพี่เรื่องขอแจมของกระผมถือว่าไม่ได้พูดก็แล้วกัน” เขายอมขาดทุนดีกว่าเข้าไปเสี่ยงในเวลาที่ท่านพี่เกิดอารมณ์อยากจิsmใส่ใคร

“เอางั้นรึ” ภาริชหันมารอยยิ้มประดุจนางฟ้ายังอยู่บนใบหน้า

“ขอรับนายท่าน” ฟอร์ดตะโกนรับเสียงแข็งขัน

“แต่ว่าฉันสัญญากับนายแล้ว นายอยากให้พี่เป็นคนตระบัดสัตย์ผิดคำพูดอย่างน่ารังเกียจสินะ”

“ใช่ครับ” ฟอร์ดพยักหน้าก่อนจะส่ายหน้าไปมารัวๆ “เอ้ยไม่ใช่ครับ”

“งั้นก็รออยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่ชายจะพูดกับคุณสามีเอง”

โกรธเกรี้ยว : จริงๆ ที่ยอมเปลืองตัวขนาดนี้เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องนาย

Maddog01 : เรื่องอะไรบอกข้ามาได้เลยแม่ยอดขมองอิ่ม

ดาร์คเอล์ฟหนุ่มตีอกตัวเองดังปึกๆ

โกรธเกรี้ยว : คนที่พูดด้วยเมื่อกี้คือน้องชายของฉันเอง เขาอยากเก็บเลเวลกับพวกเราด้วย

Maddog01 : ก็ได้อยู่นะ น้องของเจ้าอาชีพและเลเวลเท่าไหร่ล่ะ

โกรธเกรี้ยว : เลเวล 90 แล้ว อาชีพ Knight of Light เป็นสายแท้งค์ที่ Silver fox13 บอกว่ากำลังต้องการไงล่ะ

ตอนนี้เองที่maddog01ทำท่าครุ่นคิดรัวๆ หลายๆ ทีก่อนจะพิมพ์ถามมา

Maddog01 : เป็นน้องชายจริงๆ นะ หรือว่าเป็นแฟนตัวจริงของเจ้า

พออ่านจบภาริชก็ทำท่าครุ่นคิดบ้าง เขาเคาะนิ้วลงที่ข้างเม้าท์เสียงดังก็อกๆ ฟอร์ดมองดูว่าพี่ชายจะตอบยังไง พูดถึงเรื่องแฟนพี่ชายแม่มโสดสนิท เพราะเอาแต่ทำงาน อีกอย่างนิสัยขี้แกล้งมันทำให้หลายๆ คนทนรับพี่แกไม่ไหว

Maddog01 : เน่ ทำไมเงียบไปล่ะ มีแฟนแล้วหรา

Maddog01 : อ่า...มีแฟนแล้วจริงๆ ด้วยสินะ

Maddog01 : ที่รัก น้องชายคนนั้นคือแฟนตัวจริงของเจ้าใช่หรือไม่

การรัวคำถามมาถี่ๆ แทนที่จะทำให้ภาริชรำคาญกลับกลายเป็นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับฟอร์ดนี่เป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ

Maddog01นายช่างน่าสงสาร ฟอร์ดยืนไว้อาลัยให้กับตำนานที่มีชีวิตอย่างmaddog01

โกรธเกรี้ยว : ไม่ใช่แฟน เป็นน้องชายจริงๆ แล้วก็ถ้าไม่รังเกียจ นายกับฉันเรามาคบเป็นแฟนอย่างจริงจังก็ได้นะ

อุ๊ยตายแล้ว พี่ชายแม่มโคตรรุกเลยว้อย ฝั่งนั่นเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่รู้หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่ฟอร์ดคนนี้รู้ว่า ท่านพี่ล็อคออนนายmaddog01คนนี้เอาไว้แล้ว

Maddog01 : ...

Maddog01ไม่เพียงส่งจุดมา เขายังส่งอีโมจิคอนเหงื่อตกมารัวๆ เต็มหน้าช่องสนทนา

Maddog01 : ขอโทษนะ เราไม่ใช่ผู้ชายที่ดีสำหรับเธอหรอก อย่าเสียเวลากับเราเลย

ผิดท่า ฟอร์ดคิดว่าตอนนี้เขาได้เห็นตัวจริงของmaddog01แล้ว แม้จะแค่เศษเสี้ยว ดูเป็นคนที่สุภาพน่ารักกว่าที่คิด ขณะเดียวกันเขาลอบมองสีหน้าของท่านพี่ พี่แกทำสีหน้าครุ่นคิดอีกแล้ว

ภาริชเอนหลังบนพนักเก้าอี้เขากอดอกแล้วมองดูตัวละครดาร์คเอล์ฟรูปงามที่กำลังก้มหัวขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน เหมือนว่าจะรุกเร็วไป เขาไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาจริงจังแบบนี้ เป็นคนเอาจริงเอาจังกว่าที่คิด ทั้งที่แกล้งรับเป็นแฟนแล้วเล่นสนุกเฉยๆ ก็ได้แท้ๆ

โกรธเกรี้ยว : เสียดายจัง ทั้งที่คิดว่าถ้าได้เป็นแฟนกับคนน่ารักอย่างนายฉันคงไม่มีเบื่อแน่ๆ

Maddog01 : ขอโทษนะ

โกรธเกรี้ยว : แต่ในเกมนี้เราเป็นสามีภรรยากันนะ ถ้าทำตัวห่างเหินหรือตีเนียนหายไป ฉันจะตามราวีนายไปทุกที่ อิอิ

Maddog01ส่งอีโมจิคอนเหงื่อตกมารัวๆ

โกรธเกรี้ยว : เป็นเพื่อนกันนะ ฉันรู้สึกว่าถ้าได้เป็นเพื่อนกับนายคงมีเรื่องสนุกอีกเยอะ

Maddog01 : แน่นอนอยู่แล้วแม่ยอดยาหยี รักเจ้าละเกิน

Maddog01กลับมาเจ้าชู้ยักษ์อีกครั้ง พี่แกทั้งหอมแก้มสลับกับจูบตัวละครของภาริชรัวๆ

หลังจากสัญญาว่าจะพาฟอร์ดไปเข้าตี้ด้วยในวันพรุ่งนี้ ภาริชก็เก็บเลเวลกับmaddog01จนถึงเที่ยงคืนก่อนจะกล่าวคำร่ำลาแล้วล็อคเอ้าท์ออกจากเกม

“พี่คงไม่ได้ชอบmaddog01จริงๆ ใช่ไหม พี่ถูกใจเขาจริงๆ นะหรือ”

ภาริชกระตุกยิ้ม “ไปนอนได้แล้ว”

พี่ชายเลี่ยงตอบคำถามเขาแถมยังออกคำประกาศิตมา ฟอร์ดลังเลที่จะออกไปจากห้อง ก็มันสงสัยอะ แต่ไม่กล้าเซ้าซี้ทำเพียงพยายามลืมๆ มันไปคิดเสียว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

หลังจากฟอร์ดออกไปภาริชก็กลับไปที่pcและเริ่มต้นค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับmaddog01ในโลกโซเชียล แม้แต่ตัวเองยังแปลกใจว่าทำไมเขาถึงสนใจเจ้าหมอนั่นถึงขนาดนี้



++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ว่างจัดเลยเขียนเพิ่มอีกตอน5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่2 เป็นแฟนกันดีไหมเอ่ย 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 30-07-2018 20:46:22
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่2 เป็นแฟนกันดีไหมเอ่ย 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 31-07-2018 08:03:00
สนุก
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่2 เป็นแฟนกันดีไหมเอ่ย 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 31-07-2018 10:22:46
บทที่3

หนึ่งวันของภาริช

หลังจากกล่าวคำล่ำลากับภรรยาสาวในเกม maddog01ก็ล็อคเอ้าท์ออก เขาเอนตัวไปบนพนักเก้าอี้ หัวใจยังคงเต้นระรัวด้วยความดีใจที่ได้ผูกมิตรภาพกับเจ้าของแอคเค้าท์ที่ชื่อว่าโกรธเกรี้ยว

“เป็นคนที่ดีจริงๆ เลยน้า” ที่สำคัญไม่ทักหรือปฏิเสธการเล่นโรลเพลย์ที่เขาบังคับให้ทำตามด้วย ไม่รังเกียจคำพูดคำจาแปลกๆ ของเขาเหมือนคนอื่นๆ เหมือนเมื่อสมัยแรกเริ่มเล่นเกมใหม่ๆ

สมัยนั้นmaddog01วันจำได้ว่าเพราะเขายังไม่มีชื่อเสียง พอเล่นโรลเพลย์เป็นตัวละครในเกมอย่างจริงจังก็มักจะถูกหัวเราะแถมตบท้ายด้วยว่านายเป็นจูนิเบียวหรือไง

เป็นจูนิเบียวมันผิดตรงไหนล่ะ ก็แค่อยากใช้คำพูดคำจาที่ฟังดูเท่ เขาแค่อินไปกับคาแรคเตอร์ตัวอวาตาร์ในเกม ก็แบบนั้นมันสนุกนี่ อีกอย่างถึงจะทำแบบนี้ พี่ชายของเขาไม่เห็นว่ามันแปลกหรือตำหนิอะไรเลย ทำไมคนภายนอกถึงได้ยุ่งยากอะไรขนาดนี้นะ

จำได้ว่าสมัยทำคลิปใหม่ๆ ก็มีคอมเมนต์ล้อเลียนวิธีการพูดของเขาเหมือนกัน แต่ก็นะหลังจากที่เขาโด่งดังด้วยจำนวนผู้คนที่มาติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ไอ้คำพูดคำจาที่คนอื่นเคยนินทาก็กลายเป็นถูกอกถูกใจคนพวกนั้นไปแทนเสียนี่ เพราะอย่างนี้ไงทำให้หลายครั้งเกิดความรู้สึกไม่ไว้ใจใครง่ายๆ

ส่วนเหตุผลที่เขาไปทักโกรธเกรี้ยวนั้นเป็นเพราะตัวละครโลลิอกแบนสร้างมาได้ตรงความชอบเขาพอดี แถมเป็นความคิดชั่วแล่นด้วยซ้ำที่อยากตีสนิทกับคนไม่รู้จัก

<ช่างเป็นคนที่ใจดีและน่ารักจริงๆ เลยน้า> คิดอย่างนั้นเพราะแม้เขาจะปฏิเสธคำขอเป็นคนรักฝ่ายนั้นก็ไม่โกรธแถมยังยอมเป็นเพื่อนกับเขาง่ายๆ ด้วย แต่ว่า อาจเป็นเพราะชื่อเสียงของเขาก็ได้นี่ พอคิดแบบนี้ก็สลดใจยังไงไม่รู้ maddog01คอตก

ก็แค่แวบเดียวเท่านั้นเขายังมีงานแคสเกมที่ถ่ายเอาไว้เมื่อตอนกลางวัน ต้องตัดต่อคลิปก่อนที่จะปล่อยออกไปในชาแนลของเขา ระหว่างที่ทำงานอย่างหมกมุ่นความกังวลเมื่อครู่ก็ค่อยๆ หมดไป เวลาตีสามหน่อยๆ maddog01ปล่อยคลิปตัวล่าสุดออกมา จากนั้นจึงค่อยคลานไปขึ้นเตียงแล้วหลับลึกเป็นคนตายเหมือนทุกที



หลังจากภาริชเข้าประชุมเพื่อวางแผนโปรโมทเกมด้วยการจัดแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลกจบลง ภาริชก็เดินออกจากห้องประชุมคนแรก ผลของการประชุมนั้นเป็นที่พอใจอย่างมาก มั่นใจว่าการจัดงานแข่งในครั้งนี้ต้องกระตุ้นให้ผู้เล่นสนใจซื้อเกมมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ไม่เพียงเท่านั้นการจ้างนักแคสที่มีภาพลักษณ์กับบุคลิกด้านดีหลายคนให้แคสเกมของบริษัทอย่างต่อเนื่องยังช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นอีก 2 เปอร์เซ็น มีแต่เรื่องที่ทำให้เขาบันเทิงใจทั้งนั้น

โปรเจคที่จะจัดงานแข่งขันล่าสุดนี้คือเกม Battle of the units หรือเรียกย่อๆ ว่า bou เป็นเกมแนวbattle royale ที่ Ghiblisoft พัฒนาขึ้นและกำลังฮิตติดลมบน การกระตุ้นยอดซื้อในขั้นแรก ภาริชลงทุนจ้างนักแคสที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งให้แคสและรีวิวอย่างต่อเนื่อง เมื่อทุกอย่างไปได้สวย เขาไม่รอช้าที่จะวางกลยุทธ์กระตุ้นขั้นที่สองด้วยการจัดงานแข่งระดับภูมิภาคเพื่อปูทางไปสู่การแข่งระดับโลก

พวกบริษัทลูกในประเทศต่างๆ จะจัดงานแข่งระดับภูมิภาคพร้อมกันทั่วโลกตามแผนที่ถูกบอกเอาไว้ในการประชุมผ่าน Video Conference ที่ผ่านไปเมื่อครู่ แผนงานในครั้งนี้ ภาริชยอมทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพราะมั่นใจว่าผลลัพธ์ที่จะได้กลับมามันต้องคุ้มค่าสมน้ำสมเนื้อแน่นอน

“คุณทานข้าวกลางวันที่ไหนณภัทร” ภาริชถามเลขาส่วนตัวที่เดินตามเขามาตลอดทาง

“น้องสาวทำมาให้ครับ”

“อ้าวคุณมีน้องชายไม่ใช่หรือ ที่คุณกังวลอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับปัญหาไม่กล้าพบปะผู้คน เอ..อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ ฮิคกี้...”

“ฮิคิโคโมริครับ”

“แล้วเป็นยังไงเขาดีขึ้นไหม” ภาริชหันไปมองดู ณภัทรยิ้มอ่อนใจแล้วส่ายหน้าแทนคำตอบ

“งั้นรึ” สำหรับภาริชแล้วไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นเลขาผู้เยือกเย็นของตนแสดงสีหน้าเช่นนี้ เรื่องของน้องชายเป็นเพียงเรื่องไม่กี่อย่างที่ทำให้ณภัทรดูมีความเป็นมนุษย์กับเขาบ้าง

“แล้วน้องสาวนี่ล่ะ คุณไม่เคยพูดถึงนี่” ภาริชถามไปอย่างนั้นๆ แค่อยากต่อบทสนทนากับเลขาที่พูดน้อยยิ่งกว่าน้อยอีกหน่อย

“เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องจากต่างจังหวัดที่มาอาศัยที่บ้านเพื่อเรียนต่อในระดับวิทยาลัยน่ะครับ พอมีเธอมาอยู่ก็ช่วยแบ่งเบาภาระได้มากเลย”

“อ้อ...หมายถึงช่วยดูแล ฮิคกี้หนุ่มในบ้านอีกแรงสินะ”

“ก็ประมาณนั้นนั่นแหละครับ”

“พยายามหน่อยนะ คนป่วยทางใจต้องใช้เวลารักษา”

ภาริชตบบ่าณภัทรก่อนจะแยกไปทานอาหารกลางวัน เลขาฯ ส่วนตัวคนนี้ ไม่เคยเล่าซักครั้งเกี่ยวกับสาเหตุที่น้องชายต้องมาเป็นแบบนี้ ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ละลาบละล้วง แต่คิดว่าการเก็บตัวจนไม่ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันนานหลายปีจนถึงกับต้องเรียนแบบโฮมสคูลจนถึงทุกวันนี้ อาการและบาดแผลทางใจคงหนักพอดู

ฟอร์ดน้องชายของเขาเองก็อายุไล่เลี่ยกับเด็กนั่น อีกไม่นานจะจบหลักสูตรมัธยมปลาย ชีวิตในรั้วมหาลัยถือเป็นก้าวหนึ่งก่อนวัยทำงานที่สำคัญ ตามจริงจะเรียนในมหาลัยระบบเปิดอยู่ที่บ้านก็คงได้ แต่ปัญญาหวาดกลัวโลกภายนอกนี้ ณภัทรจะทำอย่างไรให้น้องชายคนนั้นยอมออกจากบ้านไปสอบ คงเป็นโจทย์ที่น่าปวดหัวของณภัทรจริงๆ

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าณภัทรคนนั้นกลับมีความคิดคล้ายๆ กันกับเขามากทีเดียว สำหรับเขาถ้าฟอร์ดกลายเป็นฮิคกี้ขึ้นมาเขาคงจะดูแลอย่างดี และคงไม่พ้นทิ้งมรดกไว้ให้จำนวนมากเผื่อว่าเขาตายไปก่อน ตามด้วยการสั่งเสียให้พวกลูกๆ ดูแลคุณอาให้ดีที่สุด

พอคุยกันเรื่องนี้ ณภัทรที่เงียบขรึมเสมอก็ร่าเริงคุยสนุกขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกรักน้องยิ่งชีพ อาจเป็นเพราะพ่อกับแม่ตายไปทำให้ต้องดูแลน้องคนเดียว ยิ่งพูดคุยกันด้วยหัวข้อนี้ เลขาฯ ผู้เย็นชาก็ยิ่งแสดงความเป็นตัวเองออกมา

ทั้งบ้านทั้งเงินประกันและพินัยกรรมก็ตั้งใจว่าจะยกให้น้องชายที่เป็นฮิคกี้จนหมด พอถามว่าถ้าเกิดมีผู้หญิงที่ชอบขึ้นมาล่ะ แล้วถ้าหล่อนรังเกียจน้องชายสุดที่รักขึ้นมา

<ผมคงไม่แลกสิ่งสำคัญที่มีกับสิ่งที่อยากได้หรอกครับ ผมไม่กล้าพอ>

เป็นคำตอบที่สมกับเป็นสุดยอดพี่ชายจริงๆ พอถามไปว่าทำไมถึงรักน้องชายมากขนาดนี้ เลขาฯ วัย 33 ปีก็ตอบกลับมาว่า

<ผมเลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะ เหมือนเป็นลูกชายคนหนึ่ง เป็นความผูกพันที่ยังไงก็ตัดไม่ขาด>

คำตอบนี้ทำให้คิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับฟอร์ด ภาริชยังจำสมัยที่รีบกลับมาอย่างกะทันหันเพราะบิดามารดาตายในอุบัติเหตุได้ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะเรียนต่อที่ประเทศaในระดับปริญญาโท แต่ก็ตัดสินใจกลับมาดูแลฟอร์ดที่ยังเล็กและบริหารธุรกิจของครอบครัวไปพร้อมกับเรียนต่อปริญญาโทในประเทศแทน

ด้วยความรักแน่นแฟ้นที่มีต่อพี่น้องซึ่งเหมือนกัน ทำให้บ่อยครั้งภาริชเผื่อแผ่ความเอ็นดูไปให้น้องชายฮิคกี้ของณภัทรด้วย ล่าสุดก็พึ่งยกpcชุดใหม่เอี่ยมราคาแพงให้ไป โดยบอกณภัทรไปว่าเป็นโบนัสเพิ่มที่ฝ่ายนั้นทำงานให้เขาอย่างดี แต่ก็นะยังเป็นคนฉลาดรู้แกวเขาไปเสียหมด เลขาฯ ส่วนตัวทำหน้าไม่สบายใจ สุดท้ายก็รับไปอยู่ดี ก่อนจะตอบแทนด้วยการทำงานหนักขึ้นเป็นเท่าตัว

ก็ดีใจนะที่ขยัน แต่ไม่อยากให้คนอื่นหาว่าเขาใช้แรงงานลูกจ้างหนักเกินควร ดังนั้นบ่อยครั้งจึงใช้อำนาจบังคับไล่ให้ณภัทรกลับบ้านไปหาน้องชายเสีย อย่ามาทำงานเพิ่มให้เหนื่อยเกินเงินที่จะได้รับ

เมื่อมาถึงร้านอาหารjที่เขาโปรดปราน ภาริชสั่งอาหารมาสองสามอย่าง ระหว่างรอเขาเข้าไปดูคลิปของmaddog01ที่พึ่งปล่อยออกมา เมื่อวานเขาค้นหาข้อมูลของคนคนนี้ถึงตีสาม พอจะรู้คร่าวๆ แล้วว่า maddog01เป็นคนจำพวกไหน



จูนิเบียว เป็นคนประเภทนั้นนั่นแหละ

สมัยช่วงแรกๆ ที่โผล่มาเมื่อ 4 ปีก่อน maddog01 น่าจะเป็นเด็กมัธยมต้น ตอนนั้นยังทำคลิปรีวิวของเล่นจำพวกฮีโร่แปลงกายสลับกับแคสเกมอยู่บ้าง แต่เพราะความเบียวบวกกับการปรากฏตัวในคลิปด้วยภาพลักษณ์เด็กสวมหน้ากาก ก็เลยเป็นกระแสให้คนเหยียดหยามสนุกปาก

จะเรียกว่าเข้มแข็งดีหรือเปล่านะ ยิ่งถูกด่าก็ยิ่งผลิตคลิปต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรีวิวเกม รีวิวอนิเมะ ทำคลิปพากย์เสียงต่างๆ สุดท้ายด้วยความสามารถในการเล่นเกมและเอนเตอร์เทนในระดับสูง ก็กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงในระดับต้นๆ จนได้

ยอดผู้ติดตามที่สูงถึง 7.5 ล้านคนในตอนนี้ การันตีคุณภาพความเป็นนักเอนเตอร์เทนได้อย่างดี ยังไม่รวมถึงโดจินที่เจ้าตัววาดและนำไปวางขายในโลกออนไลน์ ด้วยลายเส้นที่สวยบาดตา มันทำให้ได้รับความนิยมจนกลายเป็นกระแสอยู่ตอนนี้

4 ปี ที่โลดแล่นอยู่ในโลกออนไลน์ เพราะความเป็นตัวเองและมุ่งมั่น ทำให้ในที่สุดก็กลายเป็นตำนาน ทุกวันนี้ยังไม่เคยมีใครเห็นตัวจริงของmaddog01 พวกผู้ติดตามมักจะเห็นเพียงแค่ชายตัวเล็กสวมหน้ากาก แต่เพราะความลึกลับนี้ล่ะมั้ง มันยิ่งทำให้โด่งดังมากขึ้นไปอีก

<น่าสนุก เราไม่ได้พบเจอใครที่ทำให้รู้สึกสนุกแบบนี้มานานแล้ว> ภาริชกระตุกยิ้มมุมปาก ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาน้อยนิด แต่เห็นได้ชัดว่าmaddog01เป็นเด็กที่ไร้เดียงสาค่อนข้างมาก ยังมีความคิดเด็กๆ อายุตอนนี้ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฟอร์ด

อยู่ในวัยกำลังกินนอน แต่ถ้าดูจากผลงานที่ผลิตออกมาราวกับเครื่องจักร มันทำให้เขาเดาเอาว่า เด็กนั่นก็น่าจะเป็นฮิคกี้ ไม่อย่างนั้นจะมีเวลาว่างพอทำเรื่องมากมายขนาดนี้ได้ยังไง

แม้จะคิดว่ารอบตัวของเขามีเด็กประเภทนี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งนอกจากน้องชายของณภัทร เขาก็ไม่เห็นว่ามันแปลกตรงไหน โลกใบนี้สังคมนี้ล้วนโหดร้าย ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่จิตใจอ่อนแอและไม่พร้อมจะก้าวเดินด้วยตนเอง พวกเขาจำเป็นต้องมีครอบครัวช่วยผลักดันให้กลับมาเป็นปกติ

ส่วนกับmaddog01คนนี้ ภาริชรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดต่อเขาอย่างมาก อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอเด็กที่มีลักษณะซื่อๆ อย่างนี้มานานแล้ว ในโลกโซเชียลการตกลงคบเป็นแฟนกันอย่างง่ายๆ และผิวเผิน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไป

แม้แต่เด็กประถมยังคบหากับคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันง่ายๆ เพราะยังไงก็ไม่มีทางเห็นหน้ากัน เมื่อสนิทสนมแล้วระยะหนึ่งอาจนัดพบเพื่อสานสัมพันธ์ พอไม่ถูกใจก็ห่างหายกันไป วนเวียนอยู่แบบนี้

ภาริชเองก็มีเด็กสาวหลายคนมาสานสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มากมาย แต่ก็เป็นไปได้ไม่สวย เพราะความปากร้ายและชอบรังแกของเขา บางทีนิสัยที่ไม่ดีของพวกหล่อนมันก็ทำให้เขานึกอยากสั่งสอนนิดๆ หน่อยๆ สุดท้ายก็พากันหนีหายไปหมด

ทว่าmaddog01คนนี้ ปฏิเสธเขาตรงๆ ไม่ต้องการความรักฉาบฉวยจอมปลอม แถมยังถ่อมตัวทั้งที่ตนเองจะใช้ชื่อเสียงหลอกเล่นสนุกกับคนที่มีภาพลักษณ์เป็นสาวน้อยอย่างเขาก็ได้

<เหมือนว่าเราจะถูกใจมากกว่าที่คิดแฮะ> คำพูดเมื่อวานที่บอกว่าจะตามราวีไปทุกทีหากmaddog01หายหน้าไป ภาริชไม่ได้พูดเล่นเลยซักนิด

“อยากจะให้ถึงเวลาที่นัดกันแล้วสิ” ภาริชหัวเราะหึหึ นึกอยากเร่งเวลานิดหน่อยถ้าทำได้เหมือนกัน แต่พอกลับเข้าบริษัทเขาก็ตั้งใจทำงานอย่างจริงจังเหมือนทุกครั้ง ไม่ได้แสดงความกระวนกระวายหรือหมกมุ่น

ภาริชก็ยังคงเป็นภาริช เขาสามารถแยกแยะเวลางานกับเวลาส่วนตัวได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้จะแอบใช้เวลาว่างเล็กๆ น้อยๆ แอบขุดเอาผลงานเก่าๆ ของmaddog01ขึ้นมาดูเรื่อยๆ ก็ตาม



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จริงๆ มีคนรู้จักแบบผิวเผินเป็นนีทหลายคน เป็นน้องชายของรุ่นน้องเราทั้งนั้น

แต่นีทมันไม่เท่เอาซะเลย ดังนั้นจึงมาลงที่ฮิคกี้แทน

  แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่4 ความโกรธเกรี้ยวของmaddog01 31/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 31-07-2018 12:55:23
บทที่4



ความเกรี้ยวกราดของmaddog01

เมื่อถึงเวลาใกล้ 1 ทุ่ม ฟอร์ดก็ถือโน้ตบุ๊คมารอภาริชอยู่แล้ว พอคนเป็นพี่ชายกลับมาถึงเห็นความพรั่งพร้อมของน้องชายตัวน้อยมุมปากข้างหนึ่งก็ยกโค้งขึ้นทันที

“แหม...เตรียมพร้อมจังนะ” ภาริชถอดเสื้อสูทยื่นให้คนรับใช้ที่รอรับอยู่แล้ว

“แน่นอนขอรับท่านพี่”

ฟอร์ดเดินตามภาริชต้อยๆ เข้าห้อง เขาเปิดเกมรอแล้ว ส่วนท่านพี่นะหรือเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเนิบนาบ อาบน้ำอ้อยอิ่ง ไม่ได้รู้เล๊ยว่าน้องชายแม่มตื่นเต้น อยากปะกับmaddog01ไอดอลในดวงใจละ

“รีบทวงสัญญาจังนะ กลัวฉันจะเบี้ยวหรือไง” ภาริชเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นฟอร์ดยึดพื้นที่บนเตียงเขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก

“อยากสนิทสนมกับพี่ชาย ถึงขนาดมาเล่นด้วยถึงห้องเลยหรือจ๊ะ”

เวรล่ะ...ท่านพี่ทำสายตาของนักล่า ฟอร์ดถอยกรูดไปห่างๆ จนอยู่อีกฝากของเตียง

“ท่านพี่ไม่เอาจับล็อคคอแล้วจี้เอวนะ”

“นายเคยชอบไม่ใช่หรือไง” ภาริชหัวเราะเจ้าเล่ห์

“โอ๊ย...นั่นมันตั้งกะสมัยไหนแล้ว เดี๋ยวนี้โตแล้วไม่เล่นมวยปล้ำ”

สมัยยังเด็กฟอร์ดเป็นแฟนตัวยงของนักมวยปล้ำในลีกของประเทศaดังนั้นทุกครั้งที่เรียนรู้ท่าโจมตีเท่ๆ มาเขาก็อยากทดลองใช้มัน เป้าหมายในการซ้อมมือมักเป็นพี่ชายเสมอ

“เสียดายจัง กลายเป็นคนขี้ขลาดไปแล้วสินะ” ภาริชทำหน้าเสียดายก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าpcเปิดเครื่องแล้วล็อคอินเข้าเกม

วันนี้เขานัดmaddog01ไว้ที่สวนลอยฟ้าบาบิโลน เลเวลของเขาตอนนี้ประมาณ 65 ได้ ก็น่าจะตามไปดูดค่าประสบการณ์ในดันเจี้ยนระดับ80-85 ได้แล้ว

สุดยอดสาวงาม : พี่จ๋าน้องมาแล้ว

ตัวละครเผ่านางฟ้าอกตู้ม วาร์ปมาหาอวาตาร์สาวโลลิอกแบนของภาริชที่npcตรงหน้าทางเข้าสวนลอยฟ้าบาบิลอน ตอนนี้ฟอร์ดยังไม่เห็นแม้แต่เงาของmaddog01 หรือว่าการเอ่ยปากขอคบด้วยของท่านพี่เมื่อวานจะทำให้ไก่ตื่นจนเตลิดหนีไปแล้ว

ฟอร์ดลุกขึ้นจากเตียงย่องไปดูสีหน้าของพี่ชาย พบว่าใบหน้านั้นมืดทมึนและแผ่รังสีที่บอกชัดถึงความไม่พอใจออกมาก่อนจะค่อยๆ แสยะริมฝีปาก ดูแล้วช่างเป็นวิธีการยิ้มของมารร้ายเสียเหลือเกิน

“นายคิดว่าถ้าฉันทักเขาไปทางช่องส่วนตัว เขาจะตอบไหม”

พี่แม่มกำลังดูแผนที่ นี่เป็นอภิสิทธิของคู่แต่งงานที่จะมองเห็นอีกฝ่ายและสามารถวาร์ปไปหาได้ตลอด เวลานี้maddog01 อยู่ในดินแดนรกร้าง เป็นพื้นที่ล่าสำหรับคนที่เลเวล90ขึ้นไป

“ฉันควรทักหรือวาร์ปไปหาเขาดี” ภาริชใช้นิ้วมือเคาะลงที่ข้างเม้าท์ดังก๊อกๆ รอยยิ้มบนใบหน้าช่างอ่อนโยนใจดีประดุจนางฟ้า

<ก็คิดไว้อยู่ว่าการรุกขอเป็นแฟนอย่างเมื่อวานอาจทำให้ฮิคกี้ผู้ใสซื่อหวาดกลัว แต่ขนาดขู่ไปแล้วว่าจะตามราวีไปทุกที่ยังกล้าหนีแบบนี้ คงลำบากใจกับคำขอคบของเราน่าดูสินะ>

แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบปล่อยเหยื่อไปง่ายๆ ลงว่าได้ถูกใจก็จะวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่อย่างนั้น เป็นนิสัยที่คนสนิทสนมกันมากเท่านั้นที่รู้ ซึ่งความจริงข้อนี้ฟอร์ดเองก็เข้าใจดีเชียวล่ะ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นพี่ชายตื้อใครก่อนแบบนี้ ตามปกติถ้าถูกหนีพี่แกจะไม่ตามให้เสียเวลา เพราะว่าเคารพในการตัดสินใจของคนอื่น

แต่ว่ากับmaddog01คนนี้คงพิเศษแน่ๆ พี่ชายแม่มเล็งเป้าเหยื่อตัวนี้ไว้แล้ว ไม่งั้นคงไม่คิดทักไปทั้งที่มีแววว่าถูกหลบหน้าอย่างนี้ล่ะมั้ง ขณะที่คิดแบบนั้นจู่ๆ พี่ชายก็หัวเราะหึหึ

“จริงๆ ฉันคงคิดมากไป สถานะแต่งงานของฉันกับเขาก็ยังอยู่ดีนี่นะ”

ภาริชตรวจสอบดูแล้ว maddog01ไม่ได้ขอหย่าเขาแต่อย่างใด เกมนี้ถ้าหากอยากสิ้นสุดความสัมพันธ์ ใครคนใดคนหนึ่งสามารถกดยกเลิกได้ในทันที ก็ถ้าต้องการหลบหน้าจริงป่านนี้คงตัดการติดต่อทุกทางไปแล้ว

“แล้วเราเอาไงดีขอรับท่านพี่” ฟอร์ดที่อยู่ด้านหลังถาม เขาเองก็เห็นแล้วว่าmaddog01ยังไม่หย่าร้างกับตัวละครของพี่ชาย

“นั่งรอไปก่อนแถวๆ นี้”

“โอเค” ฟอร์ดตอบ

จากนั้นพวกเขาก็พาตัวละครไปนั่งหลบมุมในที่ปลอดภัย ฟอร์ดเห็นว่ารอเฉยๆ มันก็หน้าเบื่อ จึงเปิดสองจอเพื่อให้ตัวละครสำรองนั่งขายของไปด้วย แต่ก็เปลี่ยนใจแล้วเดินหาอาวุธให้ตัวละครเผ่านางฟ้าของตนเองดีกว่า

“โอ๊ย...อยากด้ายยยย”

ภาริชหมุนเก้าอี้กลับหลังไปมองฟอร์ดที่ร้องวี้ดว้าย น้องชายตัวดีชี้โบ้ชี้เบ้เรียกเขาไปดูที่หน้าจอตนเอง

“พี่ดูดิ ชุดเซ็ตอาวุธอาวาลอน อาวุธเกรดssที่ได้จากการตีบอสเท่านั้น โถ่เอ๊ยราคาเหยียบหลัก100ล้าน ต้องเก็บเงินซื้อให้ได้” ฟอร์ดกำมืออย่างหมายมาด

“ก็เติมบัตรซื้อไปสิ ยุ่งยากตรงไหน”

ฟอร์ดบึนปากใส่พี่ชาย “เพ่ยังไม่รู้อีกหราครับ ว่าผมไม่ใช่สายเติมเงิน”

“ทำไม ยังไม่ละทิ้งอุดมการณ์ยุ่งยากแบบนั้นอีกรึ” ภาริชยืนกอดอก แววตาของเขาบอกชัดและกำลังมองฟอร์ดว่าทำเรื่องไร้สาระ นี่คงจะถูกเพื่อนคนไหนพูดจากระทบจิตใจที่แสนอ่อนแอบอบบางมาอีกล่ะสิ

น้องชายของเขาเป็นคนเซนซิทีฟมาก แค่มีคนพูดว่าอิจฉาที่บ้านมีเงินมากมาย ก็ถึงกลับไม่ยอมเอาของมีราคาซึ่งเหมาะสมกับฐานะไปใช้ที่โรงเรียน เพราะกลัวเพื่อนน้อยใจ นี่มันลามมาถึงการเล่นเกมด้วยแล้วรึ

“ไหนเล่าให้พี่ชายฟังสิว่าเกิดอะไรขึ้น” ภาริชไปนั่งข้างๆ ฟอร์ด เขาชอบฟังเรื่องรอบตัวของน้องชาย ในฐานะผู้ปกครองที่ดี การจะสอดส่องเป็นประจำไม่ใช่เรื่องแปลก

“ไปเติมเงินให้ใครเขาเห็นจนคนพวกนั้นอิจฉาหรือไง”

“เอาน่า ผมก็แค่อยากให้พวกปากหอยปากปูรู้ว่าถึงไม่เติมบัตรผมก็เทพได้” ฟอร์ดยิ้มเจื่อน ไม่อยากให้พี่ชายวุ่นวายใจกับเรื่องไร้สาระของเขา พี่ภาริชเองมีงานให้ต้องสะสางอีกมาก แถมทำไปเพื่อหาเลี้ยงเขาอีก เรื่องเล็กๆ แค่นี้ ถึงเวลาที่เขาควรจัดการด้วยตัวเองได้แล้ว

“เลิกคบไปดีกว่าไหมเด็กพวกนั้น” ภาริชยีหัวฟอร์ดไปมาอย่างเอ็นดู เขาขี้เกียจซักถามให้มากความแล้ว กับเด็กวัยนี้หากบังคับมากไปก็จะต่อต้านกลับมา

“อีกไม่นานก็จะเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว คงไม่ได้เจอกันอีก”

“งั้นรึ” ภาริชเหยียดยิ้ม เขาชะโงกหน้าดูการบังคับตัวละครของฟอร์ด “แล้วนี่เลือกคณะที่จะเรียนไว้หรือยัง”

“คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม หลักสูตรเกมและอินเทอร์แอคทีฟ ของมหาลัยb”

ฟอร์ดตอบโดยไม่ได้มองหน้าภาริช เขายังกดสำรวจดูราคาอุปกรณ์จากร้านค้าที่เหล่าผู้เล่นวางขายกันเอง

“ไม่เรียนสายบริหารรึ”

ฟอร์ดส่ายหน้าไปมา ก่อนจะนั่งครุ่นคิดว่าจะตอบอะไรดี ถึงเลี่ยงไม่บอกตรงๆ พี่ชายก็น่าจะรู้ว่าเขาคิดอะไร

“ผมไม่อยากให้คนอื่นมองว่าผมวัดรอยเท้ากับพี่ แถมผมหัวไม่ไปทางด้านนั้นเลย ที่สุดแล้วผมชอบเล่นเกมมาก อยากพัฒนาเกมด้วยตัวเอง ถ้าเกิดเรียนสายนี้ อีกหน่อยผมอาจได้เป็นหัวหน้าโปรเจคในการผลิตเกมต่างๆ ของบริษัทเรา”

ภาริชเข้าใจสิ่งที่ฟอร์ดพูดมาเป็นอย่างดี พวกปากหอยปากปูและพวกญาติซึ่งเขาไม่เคยจะเห็นหัวซักนิด ชอบมาพูดจาไร้สาระให้ฟอร์ดฟัง การที่เห็นน้องชายของเขาเป็นภาระหรือด้อยค่ากว่าเขา นำมาเปรียบเทียบลดทอนคุณค่าไปอย่างนี้ คงเป็นน้องชายของพ่อที่เคยมาพึ่งใบบุญเสมอๆ

เวลานี้ก็เปิดบริษัทของตัวเอง กิจการพอไปวัดไปวาได้ ทั้งที่คิดว่างานน่าจะยุ่งแถมมีลูกๆ ของตัวเองให้ดูแลแท้ๆ แต่ยังอุตส่าห์แวะเวียนมาทำลายความมั่นใจของฟอร์ดอีกนะ จริงสิลืมไปว่าลูกของอาก็เรียนที่เดียวกับฟอร์ดเหมือนกัน

“นายเจอคุณอาวิทย์ที่โรงเรียนรึ”

“เขาอาสามาส่งผมที่บ้านบ่อยๆ”

ภาริชฟังแล้วกระตุกยิ้ม “สงสัยว่าพี่ต้องไปขอบคุณคุณอาเขาหน่อยแล้ว”

“โอ๊ยไม่ต้องหรอกท่านพี่ คราวหน้าผมจะกลับเองแล้วขอรับ”

“งั้นก็ดี”

ฟอร์ดลอบถอนหายใจ โชคดีไปที่พี่ไม่ไปเล่นงานคุณอา ถึงแม้จะรู้ดีว่าหากพี่ชายออกหน้าคุณอาคนนั้นคงไม่กล้าหือก็ตามแล้วก็คงสงบปากสงบคำ แต่คงไม่พ้นต้องฟังวาจาเสียดสีจากลูกๆ ของคุณอาอีกนั่นแหละ

“อ๊ะพี่ ดูเหมือนว่าmaddog01จะมาแล้วนะ” ฟอร์ดรีบปิดหน้าจอที่สองทันที เมื่อเห็นตัวละครของคนที่เฝ้ารอวาร์ปมาตรงจุดnpc

<มาจนได้นะ> ภาริชเหยียดยิ้ม เขายังนั่งดูหน้าจอโน้ตบุ๊คของฟอร์ดอยู่ maddog01ปรากฏตัวพร้อมกับ Silver fox13 และกำลังเดินมายังจุดที่ตัวละครของเขารออยู่

maddog01 : ยาหยีรอนานไหมจ๊ะ

ฟอร์ดมองดูภาริชเดินเนิบๆ กลับไปที่pcของตัวเอง

โกรธเกรี้ยว : เกือบ 20 นาที ไม่สิ 30 นาทีน่าจะได้ ฉันมาก่อนเวลาตั้งนาน

โอ๊ยพี่ชายช่างร้ายกาจ ไม่รีรอที่จะแทงมีดย้ำไปบนแผลแห่งความผิดบาปของฝ่ายตรงข้ามเลยว้อยยยย ฟอร์ดชักสงสารmaddog01แบบสุดๆ ตอนนี้ตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มส่งอีโมจิคอนเหงื่อตกมา ทั้งยังแสดงแอคชั่นก้มหัวขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน และสิ่งที่พี่ชายทำคือราดเกลือลงบนบาดแผลซ้ำอย่างสะใจ

โกรธเกรี้ยว : นานมาก นานจนคิดว่าถูกทิ้งแล้ว นี่รู้สึกกังวลกลัวจะถูกเกลียดจนไม่กล้าทักไปเลย

ภาริชกดอีโมจิคอนร้องไห้รัวๆ ในขณะที่maddog01รัวอีโมจิคอนเหงื่อตกขึ้นมาจนรกจอไปหมดเลย

อ่า...นี่ตกลงว่าจะไม่ไปไหนไม่ทำอะไรนอกจากรัวอีโมจิคอนกันใช่ไหมครับคุณพี่

ฟอร์ดยิ้มเจื่อน คิดหาวิธีแก้สถานการณ์ตอนนี้ แต่พี่ชายแม่มกำลังสนุก พี่แกคลี่ยิ้มประดุจนางฟ้าอยู่หน้าจอpc ยิ่งmaddog01แสดงความกระวนกระวายมากเท่าไหร่ พี่ชายยิ่งมีความเปี่ยมสุขสูงขึ้นตามไปด้วย

Silver fox13 : พวกเราสองคนไปล่าบอสตัวหนึ่งในดินแดนรกร้างเพื่อเอาชุดเซ็ตอาวุธอาวาลอนน่ะ

Silver fox13 พิมพ์บอกให้รู้ แต่ข้อความถูกดันไปเร็วมากจนเกือบอ่านไม่ทัน เพราะmaddog01รัวอีโมจิคอนร้องไห้สลับกับขอโทษเหมือนคำสาปเลย เวลานี้ภาริชหยุดรัวอีโมจิคอนร้องไห้แข่งกับmaddog01แล้ว

โกรธเกรี้ยว : ขอบใจนะที่อุตส่าห์เผื่อแผ่ความใจดีให้น้องชายของฉันด้วย

หลังจากพิมพ์ข้อความจบ ภาริชก็กดแอคชั่นให้ตัวละครของเขาจูบกับดาร์คเอลฟ์หนุ่ม maddog01รัวอีโมจิคอนรูปหัวใจมาสองสามชุด

maddog01 : น้องของเจ้าก็เหมือนกับน้องของข้า

ดาร์คเอล์ฟหนุ่มทุบอกดังปึก

จากนั้นฟอร์ดก็ได้รับการส่งคำขอแลกเปลี่ยนจากmaddog01 “เอ่อท่านพี่ ผมควรรับไว้ดีไหมอะ”

“รับไปเถอะ ขอบคุณพ่อหมาน้อยนั่นด้วยนะ”

“เข้าใจละ” จากนั้นฟอร์ดก็กดรับไปไอเทม จังหวะนั้นจู่ๆ ก็มีตัวละครจากเผ่า Hell หรือถ้าให้เรียกภาษาชาวบ้านคือเผ่าปีศาจวิ่งมาหาmaddog01 ตอนนั้นยังไม่มีใครเอะใจจนพี่ตัวละครชื่อแอคเค้าชากุหลาบคอดฟินจูบตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มของmaddog01อย่างดูดดื่มหลายต่อหลายครั้ง

ชากุหลาบคอดฟิน : จำไว้นะ ยัยผู้หญิงอกแบน สามีเจ้าคือเมียของข้า

ทุกคนเดาได้ทันทีว่านี่คือใคร ก็พี่ชานมไข่มุกโคตรอร่อยไงล่ะจะใครอีก

ชากุหลาบคอดฟิน : เป็นไงล่ะ เจ็บใจล่ะสิยัยอกแบน เขาเป็นของข้าแล้ว วะฮ่าๆ ๆ ๆ

ตัวละครหนุ่มเผ่าhellหน้าตาหล่อเหลาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ใครจะไปคิดล่ะว่าในตอนนั้นmaddog01จะโกรธเกรี้ยวน่าดู ที่รู้ก็เพราะพี่แกเปิดระบบpvpจนชื่อแอคเค้าท์กลายเป็นสีแดง

ภาริชกระตุกยิ้ม เขารู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ดังนั้นจึงยกชาขึ้นจิบด้วยท่าทีสบายๆ มองดูหายนะของคนที่บังอาจมาชิงรักหักสวาทกับตัวเอง

maddog01 : ตายซะเถอะแก

maddog01 รัวทักษะและเทคนิคทั้งหมดที่มีเข้าใส่จนชากุหลาบคอดฟินตายในพริบตา

<เล่นบ้าๆ ไอ้บ้านี่เล่นบ้าๆ เราอุตส่าห์อยากทำเท่ต่อหน้าโกรธเกรี้ยวแท้ๆ >

ใครเล่าจะรู้ว่าที่หน้าจอ เด็กหนุ่มเจ้าของแอคเค้าท์ชื่อดังmaddog01 โกรธจนน้ำตาซึม เขาตั้งใจวางมาดอวดหล่อแทบตาย ดันมาเล่นมุกเกย์ไม่ถูกที่ถูกเวลา <ก็ถ้าโกรธเกรี้ยวเธอไม่ใช่สาววาย ไม่สิถ้าเธอเป็นสาววาย เธอไม่ติดใจจับคู่เขากับไอ้ชานมนี่หรอกเร๊อะ แม่มตัดสินใจแล้วจะฆ่า ไล่ฆ่าไปจนกว่าจะหายแค้น>

แล้วmaddog01ก็ทำอย่างที่คิดจริงๆ พี่แกตามไปที่จุดเกิดของชากุหลาบคอดฟินในเวลาไม่นาน ฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอีกฝ่ายเลเวลลดและต้องร้องขอชีวิต กลายเป็นตำนานโจษจันของเกม Guardiano del Paradiso ให้มาเล่าซ้ำๆ ได้ไม่รู้จบ

“คอดโหดเลย”

ฟอร์ดพึมพำอยู่หน้าจอ พอหันไปมองพี่ชายก็พบว่า คุณพี่กำลังตัวสั่นเพราะหัวเราะอย่างไร้เสียง

ท่าทางจะสนุกน่าดูเลยนะครับท่านพี่ ฟอร์ดทำสีหน้าละเหี่ยใจ แต่กลับรู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกดีที่จะคบหากับคนพวกนี้ทั้งที่พึ่งรู้จักกันมากกว่าเพื่อนที่คบด้วยมาสามปีในชั้นมัธยมปลายเสียอีก

“ดีจังเลยน้า ที่maddog01เข้ามาจีบพี่ ดูสิผมได้ของฟรีเกรดssมาเลยแหละ”

ฟอร์ดกดสวมใส่อุปกรณ์ ไม่ไกลนักmaddog01ยังตบตีชากุหลาบคอดฟินที่มาเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุด

ภาริชไม่รู้ว่าความโกรธของฮิคกี้น้อยๆ จะหมดสิ้นเมื่อไหร่ แต่คิดว่ามองดูคนถูกรังแกแบบนี้ก็สนุกดีเหมือน ค่ำคืนนั้นกว่าจะได้ไปเก็บเลเวลปกติก็เกือบๆ สามทุ่มได้ ไฟแห่งความแค้นของmaddog01นั้นช่างรุนแรงร้ายกาจเหลือเกิน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แบบว่าวันนี้เบิ้ลสองตอน เพราะพรุ่งนี้จะไปหาหมอ



วันนี้ว่างหยุด มีความหัวแล่นจัดไปซหน่อย



แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่4 ความโกรธเกรี้ยวของmaddog01 31/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 31-07-2018 17:03:52
สองตอนรวด :katai3:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่4 ความโกรธเกรี้ยวของmaddog01 31/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-07-2018 18:07:47
ชอบบบบบบบบบบบบบบ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านเทพยุทธ์กลอรี่หน่อยๆเลย   :mew1:
แมดด๊อก น่าจะเป็นน้องชายของเลขาภาริชสินะ
รอตอนต่อไปนะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่4 ความโกรธเกรี้ยวของmaddog01 31/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 31-07-2018 22:51:23
 :hao3: มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่4 ความโกรธเกรี้ยวของmaddog01 31/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 01-08-2018 21:06:58
บทที่5

ความลับของmaddog01

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ใจร้าย ใจร้ายที่สุด เค้าอุตส่าห์ตั้งใจเก็บเลเวลเซเมะหนุ่มมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะแท้ๆ

ข้อความคร่ำครวญของชานมไข่มุกขึ้นมาบนหน้าจอเป็นระยะๆ ไม่มีใครสนใจเขาเลยซักคนทำเอาชายหนุ่มเจ้าของแอคเค้าท์ที่อยู่หน้าจอpcเริ่มจะรู้สึกน้อยใจขึ้นมาจริงๆ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อยกำลังอิจฉาเจ้าของแอคเค้านามโกรธเกรี้ยว คนคนนี้พึ่งรู้จักmaddog01แค่ไม่กี่วันแท้ๆ กลับสามารถขอให้ลูกพี่สุดที่เลิฟยอมแต่งงานในเกมด้วยได้ ไม่สิยัยอกแบนโลลิมันหว่านเสน่ห์จนลูกพี่ขอนางแต่งงานต่างหากนี่หว่า



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่ทำอย่างนี้ได้ไง เค้ามาก่อนยัยนั่น เค้าเป็นคนเจอเพชรเม็ดงามอย่างลูกพี่ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว เค้าไม่ยอมน้า ยังไงลูกพี่ต้องเห็นเค้าสำคัญมากกว่ายัยนั่นสิ



พิมพ์ไปพิมพ์มาก็คือเรียกร้องความสนใจ ภาริชยิ้มละไมพลางจิบชาในถ้วย ดูเหมือนว่าmaddog01จะทำเมิน ทุกคนเมิน แต่ฟอร์ดบ่นหงุงหงิงอยู่บนเตียง

“แบบนี้จะไม่สวยม้าง...ท่านพี่ เราสองคนคงไม่มาทำให้เขาวงแตกใช่ป่าว”

“สนใจด้วยหรือ” ภาริชไม่ได้หันไปมอง ไม่ใช่เพราะมีสมาธิกับการเล่นเกม แต่ตั้งใจอ่านข้อความของชานมไข่มุกที่ขึ้นแทรกตลอดสลับกับบทสนทนาของคนอื่นๆ

Maddog01 : นี่ที่รักถ้าข้าจะชวนเจ้า ไปเล่นเกมอื่นด้วยเจ้าจะไปไหม



Maddog01ถามหลังจากพากลุ่มมายังที่ปลอดภัย ใครจะไปคาดคิดว่าจู่ๆ ชานมไข่มุกก็ของขึ้นจนได้ สาวโลลิอกแบนผมม่วงกระทืบเท้าตึงตังด้วยความโมโหก่อนจะประกาศในสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนเอือมระอา



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ยัยอกแบน เรามาpvpกัน ถ้าหล่อนแพ้ หล่อนต้องไม่โผล่หน้ามาให้ลูกพี่เห็นอีก



เอาแล้วว้อยยยยย มีผู้หญิงมาชวนตีแล้ว ฟอร์ดเหลือบมองพี่ชาย รอดูว่าภาริชจะแก้สถานการณ์ยังไง

ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มที่อยู่หน้าจอpcเจ้าของแอคเค้าท์ในตำนานmaddog01กำลังกรุ่นโกรธได้ที่ทีเดียว

“เจ้าชานมนี่มันยังไง ก็เห็นอยู่ว่าโกรธเกรี้ยวเขาเล่นอาชีพสายซัพพอร์ต ต้องสั่งสอนให้หายบ้าซักหน่อยแล้ว”

Maddog01หักนิ้วดังกร๊อบๆ ตั้งท่าจะพิมพ์ด่าชานมฯ ให้สำนึก ไม่สิอาจจะดวลpvpแทนที่รักของเขาด้วย ถ้าไม่ติดว่าได้ยินคำเตือนจาก Silver fox13เสียก่อน

“อย่าราดน้ำมันบนกองไฟ maddogน้อย เจ้าชานมมันกำลังอิจฉาและคิดว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม หากนายเลือกปกป้องคนที่มาที่หลังอย่างโกรธเกรี้ยว เจ้าชานมจะเสียใจมาก นายไม่อยากคบเป็นเพื่อนกับเจ้านั่นอีกแล้วหรือไง”

คำเตือนของ Silver fox13 ทำให้เด็กหนุ่มชะงัก สำหรับเขาถึงจะทำเป็นไม่เห็นค่าชานมฯ มาโดยตลอด แต่ลึกๆ แล้ว หมอนั่นก็เป็นคนที่จริงใจกับเขามากคนหนึ่ง

แม้ว่าหมอนั่นจะพูดมาก น่ารำคาญ ช่างตื้อ ไร้สาระ หื่น แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งเขาเลยตลอด 4 ปี ยังคงตามเกาะเป็นสตอล์กเกอร์ถึงแม้ว่าเขาจะทำเป็นไม่สนใจและเย็นชาใส่

<ลำบากใจจัง> maddog01คอตก เขาหันไปทำตาละห้อยใส่ Silver fox13 ที่มาสิงอยู่ในห้องเดียวกันแต่เช้า “ทำยังไงดี มิวซัง”

“อยู่เฉยๆ ให้โกรธเกรี้ยวแก้สถานการณ์เองดูก่อน” Silver fox13แนะนำ

ที่แนะนำอย่างนี้ก็เพื่อตัวmaddog01เอง แล้วอีกอย่างอยากดูเหมือนกันว่า โกรธเกรี้ยวจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ตามปกติมิวซังคนนี้เป็นคนหวงเพื่อน หวงพี่น้อง โดยเฉพาะกับmaddogน้อยที่อุตส่าห์เลี้ยงดูปูเสื่อมาเป็นอย่างดี กับไอ้เจ้าชานมกว่าจะยอมให้ผ่านด่านตนเองไปได้ก็ใช้เวลาดูทั้งลองใจอยู่นานพอสมควร

<เจ้าชานม หาเรื่องได้ถูกจังหวะ ถ้าเกิดผ่านด่านชานมไปไม่ได้ ก็ไม่สมควรปล่อยให้เข้ามาวอแวกับmaddogน้อย>



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ว่าไงล่ะ ถ้าไม่ยอมpvpก็ไสหัวไปซะ

ชานมไข่มุกรู้ว่าพูดจารุนแรงไปหน่อย แต่ความน้อยใจที่สะสมมาเป็นสามปี นับตั้งแต่เพียรพยายามขอแต่งงานกับลูกพี่ไปเสียทุกเกมมันมาระเบิดเอาวันนี้ ทั้งๆ ที่คิดว่าอีกฝ่ายควรเป็นสาวน้อย แต่ในทางกลับกันเจ้านี่อาจเป็นผู้ชายก็ได้ใครจะรู้ เพราะอย่างนั้นถึงได้กล้ารังแกแบบดุดันขนาดนี้



โกรธเกรี้ยว : ถ้าแข่งเป่ายิ้งฉุบล่ะก็ จะยอมดวลด้วยก็ได้นะ



เป่ายิ้งฉุบ คุณพี่ฉลาดมากๆ

ฟอร์ดไม่คิดว่าพี่ชายจะแก้สถานการณ์แบบนี้ แถมmaddog01ก็ถึงกลับปรบมืออยู่หน้าจอpcรีบสนับสนุนวิธีการทันที

Maddog01 : ดีเลย แข่งเป่ายิ้งฉุบนี่แหละ ตกลงนะเจ้าบ้าชานม



วิธีการที่นำเสนอมา ช่างเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด ทั้งชานมไข่มุกทั้ง Silver fox13 ตระหนักว่านี่ไม่เพียงเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา แต่ต้องมีความสุขุมในระดับหนึ่ง ตามปกติ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงทั่วไปคงไม่คิดการแข่งขันแบบนี้ได้เร็วขนาดนี้ และยิ่งถ้ารู้ตัวว่ามีคนปกป้อง เจ้าหล่อนคงจะขอให้คนคนนั้นช่วย

แต่ถึงmaddog01จะนิ่งไม่พูดไม่จา ไม่ยื่นมือเข้าปกป้อง โกรธเกรี้ยวก็ไม่ตีโพยตีพาย จริงๆ แล้วชานมไข่มุกคาดการณ์ไว้แล้วว่า สถานการณ์นี้ต้องสร้างความอึดอัดให้maddog01 ใช่สิก็เป็นแผนที่เขากับ Silver fox13วางเอาไว้เพื่อทดสอบ แต่เกินครึ่งเขานี่แหละที่ตั้งใจหาเรื่องอย่างจริงจัง

ก็มันน้อยใจนี่หว่า



Maddog01 : ว่าไงละไอ้เจ้าบ้าชานม เจ้าจะยอมรับข้อเสนอของภรรยาข้าไหม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ก็ด้ายยย แต่ว่านะฉันไม่ยอมแพ้หล่อนแน่ๆ



ดังนั้นการดวลเป่ายิ้งฉุบจึงเริ่มขึ้น ตัวละครอกแบนโลลิทั้งสองตัวยืนประจันหน้ากัน

“พี่ พี่จะเลิกคบกับmaddog01จริงๆ หรือ มันน่าเสียดายน้า”

“ช่วยไม่ได้ ถ้าหากว่าระหว่างฉันกับเขาไม่มีพรหมลิขิต ก็คงต้องทำตามนั้น”

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ชานมไข่มุกฯ บอกแค่ว่าไม่ให้โผล่หน้ามาให้เห็นอีก แต่ไม่ได้ระบุว่าไม่ให้พบกันในเกมอื่น และไม่ได้รวมถึงแอพหรือสื่อโซเชียลที่มีอีกจำนวนมาก “นายมันยังรอบคอบน้อยเกินไปนะชานม” ภาริชยิ้มมุมปาก

ภาริชไม่มีท่าทางเดือดร้อนอะไรทั้งนั้น เป่ายิ้งฉุบครั้งแรกเขาแพ้ แต่ก็ยังยกชาขึ้นดื่มด้วยท่าทางไม่ยี่หระ

“พี่ไม่ได้ถูกใจmaddog01หรือพี่ถ้าพี่แพ้พี่จะอดเจอหน้าเขาในเกมเลยนะ”

ถ้าพี่ไม่ได้เจอmaddog01เท่ากับว่าเขาเองก็ไม่มีสิทธิด้วยสิ สำหรับแฟนตัวยงอย่างเขาการได้พูดคุยใกล้ชิดขนาดนี้ มันเป็นเรื่องสุดยอดไปเลยนี่ แถมเขาอยากเรียนรู้เทคนิคเล่นเกมจากคนคนนี้อีกมาก เอาล่ะจะอะไรก็แล้วแต่เถอะ ก็แค่อยากทำความรู้จักกับไอดอลของตัวเองเท่านั้นแหละ

“ไปอ่านดูเงื่อนไขของชานมให้ดีๆ แล้วจะเข้าใจ” ภาริชไม่ได้หันมามองฟอร์ดแต่กดแอคชั่นเป่ายิ้งฉุบ รอบที่สองเขาชนะชานมไข่มุก



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : หน่อยแน่ อย่าดีใจไปนะ รอบสุดท้ายฉันชนะแน่นอน

ชานมไข่มุกประกาศ maddog01ลุ้นระทึก ขณะเดียวกันฟอร์ดไล่อ่านข้อความท้าดวลของชานมฯ อย่างตั้งใจอีกครั้ง

“อ๊ะ เจ้าชานม นี่ไม่รอบคอบเลยนี่หน่า” ฟอร์ดหัวเราะ เป็นจังหวะเดียวกับที่ภาริชเป่ายิ้งฉุบครั้งที่สามชนะพอดี



Silver fox13 : รู้ผลแล้ว โกรธเกรี้ยวชนะ



เมื่อได้ยินคำประกาศ แต่ละตัวละครแสดงแอคชั่นแตกต่างกันไป maddog01 กับ สุดยอดสาวงาม ตัวละครของฟอร์ดกระโดดกอดกันเพราะอยู่ใกล้ๆ ชานมไข่มุกฯ นั่งร้องไห้ มีเพียงโกรธเกรี้ยวและ Silver fox13 เท่านั้นที่ไม่แสดงอาการใดๆ



Silver fox13 : ในเมื่อชนะแล้วก็ต้องมีรางวัล ข้าจะบอกความลับของmaddogน้อยให้เจ้าฟัง



Maddog01มัวแต่ดีอกดีใจอยู่หน้าจอpc เขากดแอคชั่นตบมือรัวๆ ไม่หยุด ดังนั้นจึงไม่ได้รู้เลยว่า Silver fox13 กำลังเผาเขาครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต



Silver fox13 : maddog01 เป็นฮิคิโคโมริที่ไม่ออกจากบ้านมา 4 ปีแล้ว

ว่ากันว่าก่อนพายุจะมาทุกอย่างจะเงียบสงบmaddog01เองก็กำลังตกตะลึงเช่นเดียวกัน ความลับที่ไม่อยากให้โกรธเกรี้ยวหรือใครรู้ถูกเปิดเผยเสียแล้วในวันนี้



+++++++++++++++++++++++++++++++++



                   กว่าจะว่างเขียนกะมืดพอดี  แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่5 ความลับของmaddog01 1/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 01-08-2018 22:00:50
รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่5 ความลับของmaddog01 1/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 02-08-2018 10:31:11
บทที่6

รางวัลจากsilver fox13

“ม่าย...น้า ความลับของเรา โกรธเกรี้ยวรู้หมดแล้ว” เด็กหนุ่มฮิคกี้ซึ่งอยู่หน้าจอpcกรีดร้องโหยหวน มิวซังหรือ Silver fox13 ทำเพียงแค่มองเท่านั้นก่อนจะก้มหน้าไปดูหน้าจอโน้ตบุ๊คของตัวเอง ภายในห้องจึงเกิดบรรยากาศที่เงียบงันแบบแปลกๆ

“เอ่อพี่maddog01นิ่งไปเลยนะนี่” ฟอร์ดตั้งข้อสังเกต



สุดยอดสาวงาม : โทษทีนะmaddog01เขาเป็นอะไรหรือเปล่า

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ...

ชานมเองก็ยังตกใจเลย ไม่คิดว่าอยู่ๆ Silver fox13 จะบอกเรื่องที่maddog01เป็นฮิคิโคโมริให้โกรธเกรี้ยวรู้เร็วอย่างนี้ ขนาดตัวเขาเองยังต้องรอจนถึง 1 ปี เชียวนะ



Silver fox13 : คงช็อคน่ะ จริงสิ ถ้านายเป่ายิ้งฉุบชนะฉันล่ะก็จะบอกที่อยู่ของmaddog01ให้รู้ด้วยนะ

มิวซังฉวยโอกาสที่maddogน้อยซึ่งตกใจจนเอ๋อไปแล้ว เป่ายิ้งฉุบกับภาริช แล้วภาริชก็ดันชนะอีก



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มีสติสิ Silver fox13 จะเอาที่อยู่ของลูกพี่ไปบอกยัยอกแบนแล้วนะ ลูกพี่ไม่กลัวยัยนั่นไปตามสตอร์กถึงที่บ้านหราลูกพี่

ขานมโดดเหยงๆ ไปรอบตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่ม maddog01พึ่งได้สติตอนที่สัญญาณเตือนดังติ๊งของจดหมายข้อความในเกมที่ชานมส่งมาเป็นการส่วนตัว แต่มันก็ช้าเกินไป Silver fox13 บอกที่อยู่ของเขาให้โกรธเกรี้ยวฟังแล้ว

ตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มลงไปเกลือกกลิ้งร้องไห้ที่พื้น แถมmaddog01 ยังรัวอีโมจิคอนร้องไห้มาจำนวนมหาศาล

“โอ๊ย...ท่าทางจะเสียเซลฟ์ มากเลยนะนั่น”

ก็ถ้าเป็นเขาถูกเผยความจริงที่ว่าคือฮิคกี้ เขาก็คงออกอาการนี้เหมือนกัน ฟอร์ดรู้สึกสงสารmaddog01สุดๆ เลยตอนนี้

“พี่ทำอะไรซักอย่างสิ”

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่คิดอีกทีเขาไม่น่าขอให้พี่ช่วยเลย ท่านพี่เป็นประเภทเคยชนะมาตลอด ฟอร์ดคิดว่าท่านพี่ไม่น่าจะเข้าใจความรู้สึกของผู้แพ้ เขาเกรงว่าท่านพี่จะพูดจารุนแรง ทว่า...



โกรธเกรี้ยว : ไม่อยากให้ฉันรู้ขนาดนั้นเลย

โกรธเกรี้ยว : หรือว่านายรังเกียจฉัน

โกรธเกรี้ยว : เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือ



“โอ๊ะ...” ฟอร์ดอุทานเบาๆ เหมือนว่าพี่ชายกำลังปลอบโยนmaddog01อยู่นะ

เวลานี้maddog01หยุดคร่ำครวญตีโพยตีพายแล้ว เด็กหนุ่มเจ้าของแอคเค้าท์รัวแป้นเพื่อจะโต้ตอบกับโกรธเกรี้ยว แต่ก็พิมพ์แล้วลบหลายครั้ง ไม่ว่าจะประโยคไหนก็รู้สึกไม่มั่นใจเลย ท่าทางหดหู่ของmaddogน้อยอยู่ในสายตาของมิวซังโดยตลอด

ใครจะไปคาดคิดมิวซังเดินมาที่หน้าจอของmaddogน้อย แล้วจัดการรัวแป้นพิมพ์คำถามแทนคนที่ไม่กล้า



Maddog01 : เธอไม่รังเกียจผมหรือ

Maddog01 : ผมนะเป็นคนขี้แพ้ที่ไม่กล้าสู้ความจริงจนเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้านเลยนะ

โกรธเกรี้ยว : ก็แค่รอเวลาไม่ใช่หรือ คนที่ยอมพ่ายแพ้หรืออ่อนแอ คงไม่พยายามสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ออกมาทั้งที่ถูกคลื่นคำวิจารย์ด้านลบจากโลกโซเชียลโจมตีจนเป็นอย่างทุกวันนี้หรอก

โกรธเกรี้ยว : ทั้งคลิปต่างๆ ที่ทำออกมา หรือแม้โดจินที่ขายบนโลกออนไลน์ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจมากแค่ไหน ฉันเชื่อว่าซักวันนายจะต้องออกสู่โลกภายนอกได้ จริงสิ ได้ข่าวว่าอีกไม่นานจะมีการแข่งขัน Battle of the units ฉันได้ยินจากคนวงในนะ พวกเรารวมกลุ่มตั้งทีมไปแข่งกันดีไหม



“เขาว่างั้นแหนะmaddogน้อย” มิวซังหันมาถาม maddog01ดูสับสนต่อคำพูดของโกรธเกรี้ยวน่าดู

จริงๆ maddogน้อยซาบซึ้งต่อข้อความของโกรธเกรี้ยวอย่างมาก ข้อนี้มิวซังเองก็รู้ แม้แต่ชานมที่อิจฉาโกรธเกรี้ยวยังเลือกที่จะอ่านข้อความเงียบๆ เพราะทีแรกคิดว่าโกรธเกรี้ยวจะนำเรื่องความเป็นฮิคิโคโมริมาเป็นหัวข้อซักถาม เหมือนอย่างปฏิกิริยาของใครหลายคนที่เข้ามาป้วนเปี้ยนรอบลูกพี่ และ silver fox13 ก็ลองใจคนเหล่านั้นก่อนเขี่ยทิ้งไปให้พ้นวงโคจร

<ยัยนี่เป็นคนประเภทเดียวกับเขา> ชานมคิดอย่างนั้น ความสุขุมเป็นผู้ใหญ่แบบนี้มันทำให้นึกถึงเด็กสาวที่ถูกขัดเกลานิสัยมาเป็นอย่างดี ถึงแม้จะพยายามเข้าข้างตัวเองว่าโกรธเกรี้ยวอาจเสแสร้งก็ตาม



Maddog01 : เจ้าอ่านโดจินของข้าด้วยงั้นรึ

Maddog01กดอีโมจิคอนเหงื่อตก มาเป็น 10-20 ชุด

Maddog01 : เจ้าคงคิดว่าข้านี่ลามกต่ำช้ามาก

ตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มลงไปนั่งกุมหัวตัวเอง

คำชวนของโกรธเกรี้ยวถูกเฉไฉไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งsilver fox13 และชานมไข่มุกต่างรู้ดีว่าการจะหลอกล่อให้maddog01ออกจากบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งคู่พยายามมามากกว่า 3 ปีแล้ว



โกรธเกรี้ยว : จริงๆ เห็นแค่หน้าปก ยังไม่ได้ซื้ออ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องร้องไห้หรอก

ภาริชพูดความจริง ก็ว่าจะซื้ออยู่ แต่ยังไม่มีเวลาว่างอ่านเลยไม่ได้ซื้อมาซักที แค่ไล่ดูคลิปตลอด 4 ปี ยังดูไม่ครบเลยด้วยซ้ำ

Maddog01 : ดีแล้วไม่ต้องซื้อหรอก ไว้ข้าจะวาดโดจินน่ารักๆ ที่เหมาะกับเจ้าให้เอง

โกรธเกรี้ยว : โดจิน 18+ หรือ

Maddog01 : ไม่จ้ายยยยยยยยย เป็นโดจินใสใสกุ๊งกิ๊งสิ สัญญาเลยว่าจะเขียนว่าให้อ่านแน่ๆ

โกรธเกรี้ยว : สัญญานะ

Maddog01 : แน่นอน

โกรธเกรี้ยว : จริงสินี่มันเที่ยงคืนแล้ว ต้องเลิกเล่นแล้วล่ะ ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า

ภาริชหมายถึงฟอร์ด แต่คนฟังนอกจากน้องชายตีความเป็นตัวโกรธเกรี้ยวเอง

Maddog01 : คืนพรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ

โกรธเกรี้ยว : ราตรีสวัสดิ์

โกรธเกรี้ยวล็อคเอ้าท์ออกไปแล้ว maddogน้อยยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้าจอคอม

Maddog01 : เธอไม่รังเกียจฉันด้วย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ข้าเองก็ไม่ได้รังเกียจลูกพี่ตอนที่รู้เรื่องนี้นะ

Maddog01 : เธอชมฉันด้วยนะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ข้าเองก็ชมลูกพี่บ่อยไป

ไม่รู้ทำไมชานมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะmaddog01ดูดีใจเอามากๆ เลยไม่ได้ขัดคอไปมากกว่านั้น

Silver fox13 : โกรธเกรี้ยว ชวนพวกเราตั้งทีมแข่งเกม Battle of the units จะเอายังไง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : พอได้ยินอยู่บ้างจากข่าววงในแต่ยังไม่ได้ประกาศออกมานี่

ยังไม่ทันปรึกษากันให้ได้ข้อสรุป ก็เป็นอย่างที่ชานมคิด maddog01ล็อคเอ้าท์ออกจากเกม คงไม่อยากออกจากบ้านไปแข่งเกมจริงๆ นั่นแหละ ทว่านี่เป็นโอกาสอันดี ถ้าเกิดโกรธเกรี้ยว สามารถทำในสิ่งที่เขากับมิวซังไม่สามารถทำได้ เขาจะยอมหลีกทางให้ฝ่ายนั้นก็ได้ ถึงแม้จะไม่อยากเพราะตัวเองก็ชอบmaddog01มากเหลือเกิน



“ไม่อยากไปแข่งเกมตามที่โกรธเกรี้ยวชวนงั้นหรือmaddogน้อย” มิวซังถาม maddogน้อยนิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนจะหันมาหัวเราะแฮะๆ แทนคำตอบ และไม่ยอมเอ่ยถึงหัวข้อนี้อีกเลย

<ใช่ว่าจะไม่อยากออกไป แต่มันกลัวนี่> maddog01หันกลับมาที่หน้าจอ มือข้างขวากำเม้าท์แน่น เขานึกถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายนั่นอีกแล้ว ความอับอายความเจ็บปวดแม้ลืมไปบ้างแล้ว แต่เมื่อไปสะกิดก็ทำให้ความรู้สึกหวนกลับมาง่ายๆ

จังหวะนั้นเสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้อง “ทานของว่างกันไหม” พี่ชายนั่นเองmaddog01ขานรับอย่างร่าเริง

“คร๊าบ...ท่านพี่...จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

<กินของว่างก่อนแล้วค่อยตัดต่อคลิปแล้วก็... อ้อต้องไม่ลืมทำสตอรี่บอร์ดของโดจินที่จะให้โกรธเกรี้ยวด้วย>

Maddog01เดินครึ้มอกครึ้มใจออกไปด้านนอก โดยไม่รู้ว่าท่าทางอารมณ์ดีผิดปกติอยู่ภายใต้การสังเกตของมิวซังตลอดเวลา



ในเวลาใกล้ๆ กัน ทางฝากของภาริช ฟอร์ดยังไม่ยอมออกจากห้องของพี่ชายแล้วไปนอนซักที

“ท่านพี่ ทำไมถึงชวนmaddog01ไปแข่งเกมล่ะ ท่านพี่แข่งไม่ได้นี่ เป็นผู้บริหารจะไปแข่งกับคนทั่วไปได้ไง”

“ก็ครบพอดีไม่ใช่หรือ” ภาริชหมุนเก้าอี้หันมาเผชิญหน้า รอยยิ้มของพี่ชายทำเอาฟอร์ดงงไปหมด

“ชานม silver fox13 maddog01 แล้วก็นาย ครบทีม 4 คนเลยไม่ใช่หรือไง ในงานเราจัดแข่งแบบทีมและแบบเดี่ยว นายไปรวมทีมกับmaddogซะ เท่านี้ก็แข่งได้แล้ว”

“ท่านเพ่...เผด็จการไปไหม บังคับผมเลยหรา ถามผมยังว่าต้องการไหม”

ฟอร์ดรู้ดีว่า หากพี่ชายตกลงใจแล้ว ต่อให้ต้องใช้แผนเลวร้าย ท่านพี่ก็ต้องทำความต้องการให้สำเร็จจนได้ เขาที่เป็นน้องชายถูกแผนการมืดและอ่อนโยนชี้นำอย่างละมุนละม่อมจนต้องทำตามไปเสียทุกครั้ง คราวนี้คงไม่พ้นจากมือมารของปีศาจร้ายอีกละมั้ง

“ทำไมนายเองก็เคยอยากไปแข่งเกมไม่ใช่หรือไง ได้รวมกลุ่มกับยอดฝีมือไม่ดีตรงไหน”

“ช่าย...อยากแข่ง แล้วได้รวมทีมกับยอดฝีมือมันก็ดี แต่คุณพี่ครับ คุณmaddog01 เขาเป็นฮิคกี้ พี่เข้าใจความหมายสินะ ผมว่าเขาไม่ออกจากบ้านไปแข่งกับผมหรอก ดูปฏิกิริยาต่อคำชวนของพี่สิ เขาเมินเลยใช่ปะ”

ตอนนี้ที่ภาริชทำหน้าครุ่นคิด “ฉันไม่เคยมีเพื่อนเป็นฮิคกี้มาก่อน แต่ก็ว่าจะลองดูซักตั้ง”

ยิ่งรู้ที่อยู่ของเด็กนั่นด้วยแล้ว แผนการของเขาก็พอเป็นรูปเป็นร่างอยู่หรอก ใครจะไปคิดว่าพ่อฮิคกี้น้อยคนนั้นดันอยู่ใต้จมูกของเขานี่เอง





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ถ้าชอบกแสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่6 รางวัลจากsilver fox13 2/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 02-08-2018 10:52:36
อร๊ายภาริชหาน้องเจอแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่6 รางวัลจากsilver fox13 2/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 02-08-2018 16:37:10
ชอบมากฮะ เขียนได้ดี ดำเนินเนื้อเรื่องได้ไว อ่านแล้วไม่งงด้วย
บางเรื่องที่เกี่ยวกับเกม คนที่ไม่ได้เล่นจะงงว่าพูดถึงอะไร
ตัวเราก้อไม่ได้เล่นเหมือนกัน ตอนแรกที่เริ่มอ่านยังเสียวๆว่าจะรอดไหม
ไปๆมาๆอ่านยาวรวดจนถึงตอนล่าสุดเลย แล้วยังอยากอ่านต่ออีกมากๆ
มั่นใจได้เลยฮะ ว่าแต่งได้สนุก ขอให้มีความพยายามและเวลาว่างแต่งมาให้อ่านอย่างสม่ำเสมอนะฮะ
จะรออ่านอย่างแน่นอน ขอบคุณคร้าบบบบบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่6 รางวัลจากsilver fox13 2/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 02-08-2018 22:03:26
มาต่อน้า :hao3:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่6 รางวัลจากsilver fox13 2/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 03-08-2018 07:22:32
รอ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่6 รางวัลจากsilver fox13 2/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 03-08-2018 10:33:17
บทที่7

การตัดสินใจของภาริช

ณภัทรมองดูนรินทร์หรือเจ้ารินน้องชายที่เขาเลี้ยงมาด้วยตัวเองตั้งแต่อ้อนแต่ออก รินเกิดมาเมื่อตอนเขาอายุได้ 15 เป็นน้องชายที่อายุห่างกันหลายปี และหลังจากคุณแม่คลอดน้องชายร่างกายก็อ่อนแอมากก่อนจะจากไปในเวลาไม่นาน เพราะว่าเขาสงสารเจ้ารินที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางได้รับความรักจากคุณแม่อีกแล้ว ดังนั้นณภัทรจึงทำตัวเป็นแม่ให้น้องชายผู้น่าสงสารเสียเอง

ณภัทรตั้งใจดูแลรินอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พอเขาเรียนจบคุณพ่อก็มาป่วยหนักและตายตามคุณแม่ไปอีกคน นับแต่นั้นเขาก็กลายเป็นเหมือนพ่อและแม่ของเจ้ารินไปโดยสมบูรณ์

น้องชายที่ยังเล็กนั้นว่าง่ายและน่ารัก ณภัทรไม่เคยรู้สึกเหนื่อยต่อการเลี้ยงดู นอกเหนือไปจากคุณพ่อคุณแม่ฝากฝังเอาไว้ก่อนตาย เขาคิดเสมอว่ารินเป็นน้องชายที่เขารักมาก เป็นผู้ร่วมสายเลือดที่ใกล้ชิดที่สุด แถมยังเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของตัวเอง

แต่ไหนแต่ไรน้องชายที่ยังเล็กก็สามารถดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี และไม่เคยทำตัวเป็นภาระมาโดยตลอดณภัทรจึงทุ่มเทตัวเองให้กับงานที่รักได้อย่างเต็มที่ ทว่าเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเรื่องร้ายๆ ก็เกิดโดยที่เขาไม่อาจช่วยอะไรได้เลย

แผลในใจของเจ้ารินหนักหนาเสียจนไม่มีความกล้าที่จะออกจากบ้าน ดังนั้นเขาจึงอดโทษตัวเองไม่ได้ที่ปล่อยปละจนพี่น้องของเขาต้องกลายเป็นฮิคิโคโมริ สิ่งที่ทำในตอนนี้ก็มีเพียงการเป็นกำลังใจและคอยสนับสนุนจนกว่าน้องชายจะลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง

“ว้าวช็อคโกแล็ตบงบง” คนที่คลั่งช็อคโกแล็ตอย่างรินดีใจจนตาลุกวาว

ถึงแม้ว่าพี่ชายจะซื้อขนมมาให้ทานบ่อยๆ แต่ของมีราคาแบบนี้ซื้อกินบ่อยๆ คงไม่ดี เขาเองที่เป็นคนบอกว่าไม่จำเป็นต้องซื้อของแพงให้ก็ได้ นั่นก็เพราะนานๆ ได้กินทีมันถึงจะมีคุณค่านั่นแหละ

“maddogน้อยปกติไม่ค่อยกินอะไรเลยทั้งวัน พอเป็นช็อคโกแล็ตนี่วิ่งเข้าใส่ทุกที”

มิวซังค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาใกล้ๆ ริน เธอเห็นว่าพี่ณภัทรดูมีความสุขที่ได้มองน้องชายสุดที่รักเคี้ยวขนมตุ้ยๆ จริงๆ maddogน้อยก็น่ารักมากในสายตาของเธอเหมือนกัน

มิวซังหรือนิษิตา อายุมากกว่าmaddogน้อย 1 ปี เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกับอีกฝ่ายมากที่สุด เมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่รู้ว่ารินถูกรังแกจนไม่อยากออกจากบ้านอีกแล้ว เธอถึงกับเดินทางมาหาญาติผู้น้องที่นี่ โชคยังดีที่รินยังคงเปิดใจและไม่ผลักไสเธอเหมือนทำกับคนอื่นๆ

ด้วยเหตุนี้พี่ณภัทรจึงฝากเธอตามดูแลเจ้าริน มิวซังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญเลย รินก็เหมือนน้องชายของเธอคนหนึ่ง ถึงจะเปลี่ยนร่างกลายเป็นmaddog01 เธอก็ยังคงดูแลเจ้ารินอย่างดีเสมอ ยิ่งย้ายมาอยู่ด้วยกันเพราะต้องมาเรียนที่เมืองb เธอยิ่งเฝ้าเอาใจใส่มากขึ้นอีกในระดับเดียวกับแม่ที่ดูแลลูกอ่อน

ถามว่าทำเกินไปไหม ตอบได้เลยว่าไม่ คนที่ไม่เคยเห็นนรินทร์เมื่อสมัยที่เริ่มป่วยทางใจใหม่ๆ ไม่มีวันเข้าใจทั้งความรู้สึกของเจ้ารินและคนเป็นญาติที่สนิทกันอย่างเธอรวมถึงพี่ณภัทร ด้วยเหตุนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มิวซังจึงพยายามอย่างมากเพื่อลบเลือนรอยแผลบอบช้ำ คิดว่าซักวันmaddog01จะกลับไปใช้ชีวิตภายใต้แสงตะวันในโลกภายนอกอีกครั้ง

“อร่อยจังเลย” maddog01 เคี้ยวช็อคโกแล็ตไปยิ้มไป มองดูแล้วช่างมีความสุขเสียจริง

“คราวหน้า ถ้าคุณภาริชเจ้านายของพี่แวะมาบ้านเราอีก นายต้องออกมาขอบคุณเขาบ้างแล้วนะ”

พอพี่ชายพูดอย่างนี้ ขนมแสนอร่อยก็ฝืดคอmaddog01นิดหน่อย แต่ยังไม่หยุดกิน เจ้ารินค่อยๆ ใคร่ครวญถึงหลักเหตุผลในการเผยตัวตนเพื่อจะขอบคุณตามที่พี่ชายสั่ง

จะว่าไปเขาชอบคุณภาริชมากทีเดียว เจ้านายของพี่คนนั้นแวะเอาของฝากมาให้อีกทั้งยังยอมเสียสละเวลาเขียนจดหมายโต้ตอบกับเขาทางกระดาษ แถมของที่ได้มาจากพี่ภาริชก็นับวันยิ่งมากขึ้นๆ จดหมายที่โต้ตอบเองก็มากขึ้นตามลำดับจนเขาเริ่มรู้สึกคนคนนั้นเป็นเหมือนไอดอล

ครั้งล่าสุดที่ได้pcราคาแพงระยับมา พี่ภาริชคนนั้นก็อาสาเอาของมาส่งให้ที่บ้าน แต่สิ่งที่เขาทำก็เหมือนทุกครั้ง คือแอบมองเจ้าชายจากซอกมุม เขาหลบไปหลบมาเพื่อไม่ให้พบและเผชิญหน้าโดยตรง

จริงๆ แล้วพี่ชายของเขาก็มีหน้าตากับรูปลักษณ์ติดจะเลิศเลอมากคนหนึ่ง แต่คุณภาริชซึ่งเห็นครั้งแรกเมื่อ 4 ปีทำให้เกิดความคิดประมาณว่าคนคนนี้เป็นเจ้าชายมาจากไหนหรือเปล่า แถมยังใจดีมากให้ของเขาตั้งมากมายและก็ไม่เคยคิดบังคับให้เขาแสดงตัวให้เห็นอีกด้วย

อันที่จริงแล้วเขาเองก็มีความคิดหลายครั้งที่จะแสดงตัวให้เห็น แต่ดันกลัวว่าถ้าหากอีกฝ่ายรู้จักตัวตนของเขาอาจจะลดความเอ็นดูและถูกมองว่าเป็นคนไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวคนหนึ่ง เพราะอย่างนั้นตลอด 4 ปีที่พี่ภาริชแวะเวียนมา จึงไม่ได้ออกมาเผชิญหน้า ทั้งยังคอยแอบมองเจ้าชายที่แวะเยี่ยมเยียนพร้อมด้วยของขวัญเรื่อยไป

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่กล้าที่จะขอบคุณไอดอลคนนั้นด้วยตัวเอง แต่เด็กหนุ่มก็แอบหมายมั่นเอาไว้ว่าวันหนึ่งตัวเองจะมีความกล้าพอ

“ก็ถ้าไม่อยากพี่ก็ไม่บังคับนะ แต่เจ้านายพี่เขาเอ็นดูรินอยู่นะ ยังไงก็แล้วแต่ควรขอบคุณเขาซึ่งๆ หน้าซักครั้ง ถึงแม้ว่าหลายครั้งเราจะฝากจดหมายขอบคุณให้พี่นำไปให้ก็ตาม”

“อื้อ...”

ดูเหมือนว่าจะไปได้สวย การที่เจ้ารินยอมออกมาพบปะพูดคุยกับคนอื่นเพิ่มขึ้นณภัทรมองเห็นเป็นสัญญาณที่ดี ตามจริงอยากให้เจ้ารินแสดงตัวเพื่อขอบคุณเจ้านายของเขานานแล้ว ตลอด 4 ปีที่ทำงานเป็นลูกน้อง คุณภาริชไม่เพียงเป็นเจ้านายที่ดี แต่ต้องเรียกว่าเป็นสุดยอดเจ้านายด้วยซ้ำ อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องเผื่อแผ่ความเอ็นดูให้น้องชายของเขาเลย แต่ก็คงเป็นเพราะว่าเจ้ารินอายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของเจ้านายนั่นแหละ



ฟอร์ดยังอาบน้ำอยู่ในห้อง ส่วนภาริชนะหรือเขากำลังตรวจดูข้อความสนทนาในแอพคุยจากช่องทางต่างๆ ของเจ้าน้องชายอยู่ เขากับตัวแสบไม่เคยมีความลับต่อกันเลย ถ้าให้พูดตามตรงภาริชเป็นคนขี้หวงและค่อนไปในทางห่วงมากเกินไป

ดังนั้นจึงมักตรวจตราดูคนรอบๆ ตัวฟอร์ดอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เล็ก ทว่าพอน้องชายขึ้นมัธยมปลาย ภาริชเห็นเป็นโอกาสดีที่จะลองปล่อยให้ดูแลตัวเอง ใครจะไปคิดล่ะว่าระยะเวลา 2-3 ปี พวกเหลืบไรกลับตามมาเกาะแกะน้องชายของเขาแบบนี้

ภาริชไล่รื้อข้อมูลสนทนาขึ้นมาดูคร่าวๆ และพบว่า เพื่อนของน้องชายซึ่งเป็นเหมือนบัดดี้ที่สนิทกันตอนนี้ เป็นคนประเภทที่ไม่อาจเรียกว่าเพื่อนได้เลย

เจ้าเด็กต้นกล้าที่เป็นเพื่อนสนิทคนนี้ ดูเหมือนเป็นเพื่อนมัธยมปลายที่ฟอร์ดมีเพียงคนเดียว ไม่แค่รู้สึกว่าเจ้าหมอนี่คอยกีดกันไม่ให้ฟอร์ดคบกับเพื่อนคนอื่น แต่ยังขโมยเวลาทำให้ฟอร์ดเหินห่างเพื่อนสมัยมัธยมต้นไปด้วย

การกีดกันแบบนี้ไม่ใช่เพราะพิศวาสหรือรักฟอร์ดอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าข้อความสนทนาในแต่ละข้อความเต็มไปด้วยการเสียดสีและอิจฉา น้องชายของเขาถึงแม้ตัวใหญ่มาดแมน แต่แท้ที่จริงแล้วค่อนข้างใจดีเกินไปทั้งยังอ่อนต่อโลก เกี่ยวกับนิสัยอันนี้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง

“อ๊ะ...ทำอะไรน่ะพี่” ฟอร์ดออกมาจากห้องน้ำก็เห็นภาริชเล่นมือถือของเขาอยู่ ที่ถามไม่ได้รังเกียจหรือมีความลับอะไร แต่แค่สงสัยเพราะพี่ชายไม่ได้สอดส่องมือถือของเขาเกือบ 3 ปีแล้ว

“ต้นกล้านี่เพื่อนนายหรือฟอร์ด”

โอ๊ยจับประเด็นที่เขาไม่อยากพูดถึงเสียด้วย ต้นกล้าเป็นคนที่ทำให้ฟอร์ดปวดหัวมากที่สุดตอนนี้

“จริงๆ กับต้นกล้าพึ่งมาสนิทกันช่วงปีสอง ปีแรกจนถึงปีสองเทอมแรก ผมมีเพื่อนที่เป็นบัดดี้อยู่แล้ว ส่วนต้นกล้าเขาเข้ามาตีสนิทกับพวกผมก่อนที่บัดดี้คนนั้นจะย้ายบ้านไปต่างประเทศ หลังจากนั้นผมกับต้นกล้าก็เป็นคู่หูมาโดยตลอด”

“หมอนี่ออกลายเมื่อไหร่”

ถามว่าออกลายเมื่อไหร่นะหรือ ฟอร์ดยิ้มเจื่อนๆ คงเป็นซักประมาณ 5 เดือนก่อนได้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนนั้นเปลี่ยนไปเพราะอะไร แต่จู่ๆ ก็กลายเป็นคนที่พูดจาแต่ละคำชวนให้เขาลำบากใจ แถมยังว่าร้ายเพื่อนคนอื่น บางครั้งก็พูดจาตำหนิให้ฟอร์ดรู้สึกผิดไปหมด

“นายไม่มีเพื่อนคนอื่นให้คบแล้วหรือฟอร์ด” เท่าที่ภาริชดูข้อความสนทนา เด็กที่ชื่อต้นกล้ามักจะพูดเสียดสีฟอร์ดด้วยความอิจฉาเสมอๆ

“คนอื่นก็มาชวนผมให้ไปรวมกลุ่มด้วยบ่อยๆ แต่ก็นะมีข้อแม้ว่าห้ามเอาต้นกล้าไปด้วย หมอนั่นโดดเดี่ยวและไม่เป็นที่ชื่นชอบเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่ามันน่าสงสาร บวกกับคุณครูก็ฝากฝังผมเอาไว้”

“ก็เลยปล่อยให้เขาป้วนเปี้ยนทำลายชีวิต จนถึงกับฉุดนายลงต่ำหรือ นี่ เราไม่ได้ไปเรียนติวกับเพื่อนในห้องเพราะเจ้าต้นกล้านี่บอกวันนัดผิดใช่ไหม นายไม่รอบคอบเลยนะ”

พูดถึงเรื่องนี้ฟอร์ดก็หดหู่ขึ้นมาทันที ลงทะเบียนเรียนติวที่พลาดไปนั้นเป็นการติวที่พวกเพื่อนๆ วางแผนกัน โดยขอให้รุ่นพี่ที่เก่งๆ ซึ่งสอบติดในแต่ละคณะมาช่วยดูแนวข้อสอบให้ จริงๆ ช่วงนั้นฟอร์ดป่วยและไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไม่มีเพื่อนคนไหนแจ้งข้อความผ่านแอพlให้เขารู้เลยซักคน ด้วยเหตุนี้จึงพลาดเรื่องดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

“เพราะอย่างนี้ก็เลยขอเงินพี่ไปลงเรียนพิเศษข้างนอกสินะ”

ฟอร์ดพยักหน้า ภาริชถามข้อสงสัยต่อเสียงด้วยเนิบนาบ “แล้วตกลงว่าได้เรียนไหมล่ะ”

คราวนี้ฟอร์ดถอนหายใจก่อนตอบ “ต้นกล้าเอาแต่ชวนเถลไถลจนตอนนี้ผมต้องเลิกอ่านข้อความที่เขาส่งมาเป็นครั้งคราว

“ถึงว่าสิส่งข้อความมาตัดพ้อเสียดสีน่าดูเลยนี่” ภาริชยื่นส่งมือถือให้ฟอร์ดดู พอรู้ว่าพี่ชายอ่านข้อความทั้งหมดแล้วฟอร์ดก็ยิ้มเจื่อน



ต้นกล้า : เป็นอะไรหนักหนาถึงไม่ยอมอ่านข้อความ วันนี้กูจะเล่นเกม Guardiano del Paradiso มึงต้องมาช่วยกูเก็บเลเวลนะฟอร์ด



ภาริชเห็นฟอร์ดถอนหายใจรัวๆ “ตกลงว่านับจากนี้จะไม่มาเล่นเกมกับพี่แล้วสินะ น่าเสียดายจังอุตส่าห์มีโอกาสตีสนิทกับmaddog01ทั้งที”

“ท่านพี่อย่าพูดอย่างนั้นสิ” ฟอร์ดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“เลิกคบไปไม่ดีกว่าหรือไง”

“อีกไม่นานผมจะเรียนจบมัธยมปลายแล้วคงไม่ได้เจอกันอีก”

ฟอร์ดมั่นใจอย่างนั้นเพราะคณะหรือมหาลัยที่เลือกเรียนก็ไม่ตรงกัน ก็แค่ทนดูแลหมอนั่นไปกว่าจะจบมัธยมปลายเท่านั้น

“ทนได้ก็เอา” ภาริชลุกจากเตียงเดินตรงไปที่ประตูห้อง “รีบจัดกระเป๋าแล้วลงไปทานข้าว เดี๋ยววันนี้พี่ไปส่งที่โรงเรียนเอง”



หลังส่งฟอร์ดเข้าเรียนเรียบร้อย ภาริชก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัท เมื่อวานเขาวางแผนที่จะไปเยือนบ้านของmaddog01 ทันทีที่ได้ที่อยู่มาจากsilver fox13 เขาก็มั่นใจแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหมาน้อยคือใคร

เป็นน้องชายของณภัทรเลขาของเขาไม่ผิดแน่ ตลอด 4 ปี ที่เขาแวะเวียนไปที่บ้านของเลขาฯ อีกทั้งให้ของขวัญกับฮิคกี้น้อยจำนวนมาก ก็คิดอยู่ว่าไม่อยากได้อะไรตอบแทน เพราะของที่ให้ไปทั้งหมดเกิดจากความเอ็นดูด้วยเหตุผลที่เป็นน้องชายของเลขาฯ คนสนิท แถมยังเป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับฟอร์ดด้วย

จะว่าสงสารที่ต้องป่วยทางใจจนไม่กล้าออกจากบ้านก็ใช่ หากเป็นฟอร์ดที่ต้องเป็นแบบนั้น ภาริชคงน้ำตาตกใน ดังนั้นจึงเกิดความคิดอยากเผื่อแผ่ความใจดีไปให้ และน้องชายของณภัทรก็ตอบแทนน้ำใจด้วยการเขียนจดหมายขอบคุณส่งผ่านพี่ชายซึ่งเป็นเลขาฯ ของเขาเสมอๆ

ลายมือสวยๆ กับคำพูดสุภาพที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเกรงอกเกรงใจ ทำให้เขาเพิ่มความเอ็นดูเจ้ารินมากขึ้นเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เวลาซื้อของให้ฟอร์ดก็มักมองหาของให้เจ้ารินไปด้วย ใครจะไปคิดล่ะว่าเด็กน้อยนั่นคือmaddog01ที่เขาเกิดความรู้สึกถูกอกถูกใจนักหนา

“สมควรที่maddog01จะก้าวออกจากบ้านไปเผชิญโลกภายนอกได้แล้วหรือยังน้า” ภาริชพูดกับตัวเอง

กับเด็กน้อยที่เขาเอ็นดูทั้งที่แค่ส่งจดหมายตอบโต้กันตามธรรมเนียมตลอด 4 ปี กับเจ้าmaddog01ที่สะกิดเอาความกระหายใคร่อยากของเขาจนต้องตามติดกลายมาเป็นคนเดียวกันอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน

แบบนี้หรือเปล่านะที่เรียกว่าหนีกันไม่พ้น ทั้งที่คิดว่าไม่ควรไปตอแยเพราะเป็นเด็กอายุน้อยกว่าแถมเป็นน้องของเลขาฯ ส่วนตัวแท้ๆ แต่พอปะกันในโลกโซเชียลด้วยอีกรูปลักษณ์หนึ่งพร้อมการแสดงออกอีกแบบหนึ่ง เขาก็ยังเลือกที่จะถูกใจเจ้ารินในฐานะmaddog01อยู่ดี

ภาริชตัดสินใจเมื่อคืนไปแล้ว เขาไม่ต้องการติดต่อสื่อสารผ่านทางจดหมายขอบคุณตามธรรมเนียมเพียงอย่างเดียวหรือแค่สวมบทบาทเป็นสาวน้อยภรรยาของดาร์คเอล์ฟหนุ่ม แต่ในชีวิตจริงเขาก็ต้องการคืบความสัมพันธ์ไปด้วยอย่างช้าๆ เช่นกัน

ภาริชคิดว่าหากสองภาพลักษณ์ของเขาสามารถทำให้maddog01กล้าออกจากบ้านไปเผชิญโลกภายนอกได้ คงเป็นความสำเร็จอีกอย่างที่เขาภาคภูมิใจทีเดียว



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ถ้าเกิดว่าเราเขียนข้อมูลเกมไม่แน่นต้องขออภัยด้วยนะคะ



แนะนำติชมได้นะคะ เราจะพยายามเอาไปปรับปรุง



แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่7 การตัดสินใจของภาริช 3/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-08-2018 13:10:46
ณภัทร และภาริช เป็นพี่ชายที่แสนดีของน้องจริงๆ    :mew1:
ใส่ใจ ดูแลน้องเลยไปถึงเพื่อนๆที่มาคบน้อง

ต้นกล้า ที่อิจฉาฟอร์ด กีดกันทั้งเพื่อน ทั้งการเรียน
ที่ฟอร์ดไม่รูเวลานัดหมายการติวของรุ่นพี่
นี่ก็คงเพราะต้นกล้ารับปากกับเพื่อนๆ
ว่าจะบอกเวลานัดติวกับฟอร์ดเองแน่เลย แต่ก็ไม่บอกฟอร์ด :mew2:
จริงอย่างที่ภาริชว่าเพื่อนแบบนี้เลิกคบไปเลย

แอบคิดว่าต้นกล้านี่แหละที่เคยรังแกริน  :angry2: :angry2: :angry2:
แกล้งริน รังควาน จนรินไม่อยากออกจากบ้าน จนเป็นโรคฮิคิโคโมริ

รอวันที่ฮิกกี่น้อยกล้าออกจากบ้าน :hao3: :hao3: :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่7 การตัดสินใจของภาริช 3/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 03-08-2018 15:55:39
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่7 การตัดสินใจของภาริช 3/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 03-08-2018 20:25:29
โอ๊ยอยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่7 การตัดสินใจของภาริช 3/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 04-08-2018 06:58:13
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่7 การตัดสินใจของภาริช 3/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 04-08-2018 10:25:28
บทที่8

นุ่มเหมือนน้องหมาเลยนะ

“ใกล้จะถึงวันเกิดของเจ้าฟอร์ดแล้ว พอดีว่าฉันซื้อเครื่องเล่นเกมส์ vr แต่พวกญาติก็ซื้อของขวัญแบบเดียวกันฝากมาให้ ฉันก็เลยคิดว่าจะยกเครื่องหนึ่งให้น้องชายนาย ดีกว่าเก็บเอาไว้ทั้งสองเครื่อง เจ้ารินมีหรือยังณภัทร”

ภาริชถามณภัทร เรื่องที่บังเอิญซื้อมาเซอร์ไพรส์วันเกิดชนกับญาติๆ ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เพราะอย่างนั้นเขาจึงตั้งใจจะหาของขวัญให้ฟอร์ดใหม่ และถือโอกาสนี้ใช้เป็นข้ออ้างบุกไปหาmaddog01ตัวจริงเสียเลย

ตามจริงเรื่องบุกไปหาไม่ใช่เรื่องยากอะไร ความสัมพันธ์ของเขากับณภัทรค่อนข้างดี ในความเป็นจริงก็เสมือนเพื่อนที่สนิทกันคนหนึ่ง แต่เจ้าเลขาฯ คนนี้กลับแบ่งแยกความเป็นเพื่อนกับเจ้านายชัดเจน

ในเวลางานหรืออยู่ที่บริษัทก็จะไม่ให้ใครเห็นความสัมพันธ์ในรูปแบบนั้น ณภัทรไม่ฉวยโอกาสโดยอาศัยฐานะเพื่อนเหมือนที่ใครหลายคนพยายาม เพราะอย่างนี้พวกเขาถึงสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีหรอกครับ แต่จะให้น้องชายผมรับของแพงแบบนั้นมันมากเกินไป”

ณภัทรก็ย่อมต้องปฏิเสธอยู่แล้ว แต่ก็รู้ว่าคงไม่สามารถสู้ฝีปากของเจ้านายได้ บางทีก็คิดว่าพวกคนรวยช่างมีงานอดิเรกที่แปลกประหลาด เขาไม่ค่อยเห็นใครเอ็นดูลูกหลานชาวบ้านได้มากเท่ากับภาริช

หรือว่าเป็นเพราะจดหมายขอบคุณของเจ้ารินที่ส่งไปนะ แต่ในจดหมายเหล่านั้นไม่ได้มีเนื้อหาใจความอะไรมาก ฉบับแรกๆ ที่โต้ตอบกันนั้น แค่ขอบคุณตามมารยาทที่ควรทำ แต่พอนานๆ เข้า กลายเป็นว่าเจ้ารินสนุกที่ได้ติดต่อกับเจ้านายของเขาและเริ่มเห็นคุณภาริชเป็นเสมือนไอดอลคนหนึ่ง

ด้วยแค่เพราะข้อความเล็กๆ น้อยเช่นว่า ‘อยู่บ้านเฉยๆ ก็หาเงินได้นะ ลองทำคลิปลงเว็บyเอาไหม’ ภาริชเสนอความคิดและเจ้ารินเลือกจะทำตามคำแนะนำ แต่ก็ไม่ยอมบอกความคืบหน้าให้ภาริชทราบ

เจ้ารินโกหกคุณภาริช ยอมเป็นคนไม่เอาอ่าวในสายตาของอีกฝ่าย มากกว่ายอมให้เห็นสภาพที่เละเป็นโจ๊กจากการถูกล้อเลียนในโลกโซเชียล

‘ก็มันน่าอาย แถมถ้าคุณภาริชรู้ว่าคำแนะนำของเขาก่อปัญหาให้ผม เขาคงรู้สึกแย่มากแน่ๆ เลย’

จวบจนเวลาผ่านไป 4 ปี เจ้ารินก็ยังไม่ได้ขอบคุณเจ้านายของเขาให้เป็นเรื่องเป็นราว ความลับของmaddog01ยังเป็นปริศนาให้คนบนโลกโซเชียลขบคิดและตั้งทฤษฎีต่อไป ณภัทรคิดว่าเจ้ารินคงสบายใจมากกว่าหากไม่มีใครรู้ตัวจริงของmaddog01

“อย่าปฏิเสธ” ภาริชคลี่ยิ้มประดุจนางฟ้า ณภัทรเห็นสีหน้าแบบนี้แล้วขนลุกทุกที

“นายไม่เข้าใจหรือณภัทร ฉันจะมีเครื่องเล่นเกมvrไว้ในบ้านตั้งสองเครื่องทำไม มีไว้เครื่องเดียวนี่แหละจะได้มีข้ออ้างชวนเจ้าฟอร์ดเล่นเกมด้วยกันอย่างสนิทสนม”

“เอาอย่างนั้นหรือครับ” ณภัทรไม่สบายใจเลยกับรอยยิ้มประเภทนี้ของภาริช มาแบบนี้ทีไรเขามักจะถูกเย้าแหย่ให้วุ่นวายใจเสมอๆ ความช่างรังแกของเจ้านายคนนี้เกือบ 5 ปี ที่ทำงานด้วยกันมา เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

“เอาล่ะ...ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเอาเจ้าเครื่องเล่นนี่ไปให้น้องชายนายด้วยตัวเอง ค่าตอบแทนก็เลี้ยงข้าวฉันซักมื้อก็แล้วกัน นายจะได้สบายใจขึ้นไง”

“เข้าใจแล้วครับ มีอะไรที่ทานไม่ได้บ้างไหมครับ”

“ฉันทานได้ทุกอย่าง”



เย็นวันเดียวกันนั้นภาริชได้ไปเยือนบ้านของmaddog01ตามตั้งใจเอาไว้ เวลานี้เขานั่งอยู่ในห้องรับแขก ส่วนณภัทรกับน้องสาวพากันลงครัวทำอาหารมื้อเย็น จริงๆ แค่รอเฉยๆ คงไม่มีอะไรให้บันเทิงใจ แต่เพราะเจ้าวิญญาณน้อยที่มักผลุบโผล่ผ่านตาแวบๆ ทุกครั้งที่มาที่นี่ คราวนี้ยอมให้เขาเห็นเสี้ยวหน้าอันแสนน่ารักครึ่งหนึ่งโผล่พ้นกรอบประตู

“เจ้ารินหรือ” ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนโยน ทว่าทันทีที่ถูกทักอีกฝ่ายก็สะดุ้งก่อนเข้าไปหลบหลังประตูไม่ให้เขาเห็นตัว

จะรีบร้อนทำไมในเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านั้นเขายังทนกับความขี้กลัวของเด็กนี่ได้ ก็คิดอยู่ว่ายังไงคงไม่ได้พูดคุยอย่างที่ต้องการในทีแรกอยู่แล้ว

“จริงสิพอดีว่าพี่มีเครื่องเล่นเกมแบบvrสองเครื่อง วันนี้เลยเอามาให้เรา แล้วก็แวะมาทานข้าวด้วย ณภัทรบอกเราเรื่องพี่หรือยัง”

ภาริชต่อบทสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าตอบก็ดี ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร เขาใจเย็นพอที่จะค่อยๆ คืบเข้าหาอย่างช้าๆ

ขณะเดียวกันที่หลังประตูเจ้ารินกำลังเรียกความกล้าให้ตัวเอง ทั้งๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะแสดงตัวเพื่อขอบคุณพี่ภาริช แต่กลับไม่มีความกล้าเอาเลย

<ทำไงดี ถ้าพี่ภาริชเห็นตัวจริงของเขาแล้วผิดหวังล่ะ ถ้าเกิดว่าเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาแล้วล้อเลียนล่ะ เขาจะพูดจาดูถูกเราเหมือนอย่างคนอื่นๆ ไหม> แค่คิดว่าไอดอลของตนเองจะพูดจาร้ายกาจใส่ความกล้าในการเผชิญหน้าก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

“รินมาทำอะไรตรงนี้”

เจ้ารินสะดุ้งเบาๆ เมื่อมิวซังเดินมาพบว่าเขาซ่อนตัวอยู่หลังประตู

“ป...เปล่า” เจ้ารินกล่าวเสียงหวิว กลัวว่าภาริชจะได้ยินบทสนทนาของเขากับมิวซัง

“ไปรอที่ห้องทานข้าว ฉันจะเชิญคุณภาริชไปเหมือนกัน”

ดังนั้นเจ้ารินจึงรีบวิ่งปรู๊ดไปยังห้องทานข้าวทันที



หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทานข้าว ภาริชก็ส่งยิ้มให้เจ้าริน ตอนที่เห็นเสี้ยวหน้าครึ่งหนึ่งที่ห้องรับแขก ยังคิดว่าเป็นใบหน้าที่ดูดีใช้ได้ แต่พอมาดูกันชัดๆ ก็รู้สึกว่านี่มันน่ารักเกินไปแล้ว แถมตัวเล็กผอมบางแบบนี้ ทำให้เข้าใจผิดได้เหมือนกันว่าเป็นน้องสาวมากกว่าน้องชาย

ขณะที่ทานข้าวอยู่นั้น ภาริชรู้สึกได้ว่าเจ้าฮิคกี้น้อยแอบมองเขาตลอดเวลา ภาริชทำเป็นไม่สังเกต แต่รู้สึกถึงสายตาที่เฝ้ามองทุกอิริยาบถของเขาอย่างชัดเจน หลังจากทานข้าวเสร็จณภัทรขอให้เขาไปรอที่ห้องรับแขกอีกครั้งโดยที่อีกฝ่ายกับน้องสาวจะจัดเก็บล้างสิ่งที่พวกเขากินกันก่อน

ภาริชเดินกลับไปห้องรับแขก ในตอนนั้นได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาแผ่วๆ จากด้านหลัง

“เรียกเบาขนาดนี้ พี่แทบไม่ได้ยินเลยนะครับ” ภาริชหมุนตัวกลับไปหาเจ้ารินและพบว่าอีกฝ่ายยังดูประหม่ามากพอดู

“อ...เอ่อ...” เจ้าฮิคกี้น้อยไม่กล้าสู้ตาของเขา ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนโยน รออย่างใจเย็นจนกว่าเด็กน้อยจะตั้งสติได้

“ข...ขอบ...ขอบคุณครับ”

“ในที่สุดก็รวบรวมความกล้ามาขอบคุณพี่ซึ่งๆ หน้าได้ซักทีนะ จะว่ายังไงดีล่ะ พี่รอวันนี้มาได้ซักระยะหนึ่งแล้วนะ”

“ร...รอผมหรือ” เหยื่อตัวน้อยของเขาทำเสียงตะกุกตะกัก ตายล่ะ เขาชอบแบบนี้เสียด้วยสิ ส่วนดำมืดในใจกำลังส่งเสียงเกรียวกราวให้รุกต่ออย่างรวดเร็ว

“พี่ขอลูบหัวเราได้ไหม”

เจ้าฮิคกี้น้อยสะดุ้งเบาๆ ใช้สายตาหวาดระแวงเล็กๆ มองมา ความไม่ไว้ใจกับความอยากรู้อยากเห็นของเจ้ารินกำลังต่อสู้กัน มันช่างชัดเจนทั้งจากแววตาและท่าทาง

<แย่จังทำสายตาแบบนี้ มันกระตุ้นเร้าสุดๆ เลยไม่ใช่หรือไง>

“ไม่ใช่อะไรหรอกนะ พอเห็นเราแล้วนึกถึงน้องชาย ทำให้อยากลูบหัวขึ้นมาเลยล่ะ”

ภาริชคลี่ยิ้มประดุจนางฟ้า ในสายตาของเจ้ารินดูไม่เป็นพิษเป็นภัย แถมรอยยิ้มนี้ยังทำให้อีกฝ่ายดูสวยเหมือนเทพบุตร เพราะว่ามัวแต่จ้องมองคนสวยอย่างเหม่อลอย จึงปล่อยให้อีกฝ่ายยื่นมือมาลูบหัวตัวเองโดยไม่ต่อต้าน

มือใหญ่ให้สัมผัสที่ดีมาก ดังนั้นจึงยืนนิ่งๆ ให้ภาริชทำตามใจชอบ

“นุ่มเหมือนขนหมาพันธ์รีทรีฟเวอร์เลยนะ ใช้แชมพูยี่ห้ออะไรแชมพูน้องหมาหรือเปล่า”

เพราะรอยยิ้มของนางฟ้านี่แหละ เจ้ารินเลยไม่รู้สึกว่าถูกแกล้งแต่อย่างใด แต่ก็คิดอยู่นะว่าขนเจ้าหมาพันธ์นั้นคงนิ่มมาก คงเป็นคำชมนั่นแหละ ฮิคกี้น้อยคิดแบบนั้นจริงๆ

ตอนนี้พี่ภาริชยังลูบหัวเขาไม่เลิก ความกลัวของเจ้ารินลดน้อยลงไปทุกที นั่นเป็นเพราะการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของอีกฝ่ายนั่นแหละ นึกว่าเป็นคนดุๆ และสุขุมเสียอีก ที่ไหนได้เป็นคนที่ใจดีแถมยิ้มเก่งมากๆ เลยด้วย

“พี่ว่าพี่กลับดีกว่า คราวหน้าพี่จะเอาแชมพูหอมๆ มาฝากเรานะ เราจะได้ขนนุ่มแล้วก็หอมฟุ้งทุกวันเลยไง”

อยากจะบอกเหลือเกินว่าพี่ภาริชใช้คำผิดไปนิด แต่จะผมหรือขนก็เหมือนกันมั้ง เจ้ารินไม่ถือสาเรื่องนี้เท่าไหร่

“บอกณภัทรด้วยนะว่าพี่ขอกลับก่อนเพราะมีธุระ อ้อพี่ทิ้งเครื่องเกมไว้ในห้องรับแขกไปเอาด้วยนะ”

เจ้ารินไปส่งภาริชที่หน้าประตู จากนั้นเขารีบไปเอาเครื่องเล่นเกมvrแล้วกลับเข้าห้อง

<ตื่นเต้นจัง ใจมันยังเต้นตึกตักไม่เลิก นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยที่เขาพูดคุยซึ่งๆ หน้ากับคนอื่นนอกจากพี่และมิวซัง อย่างนี้เรียกว่าเราก้าวหน้าหรือเปล่านะ>

จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร หลายครั้งที่เจ้ารินพยายามออกจากบ้านเผื่อกลับไปสู่โลกภายนอก แต่มันก็เหลวเป๋วด้วยความกลัวของเขาเอง จริงๆ ครุ่นคิดมาได้หลายชั่วโมงแล้วว่าจะลองออกไปเดินแถวหน้าบ้านดูดีไหมนะ

ก็คิดว่าถ้าได้ไปส่งพี่ภาริชถึงรถคงเข้าทีเหมือนกัน จริงๆ เขาเองก็อยากไปแข่งเกมตามข้อเสนอของโกรธเกรี้ยวที่น่ารักด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลเขาไม่สามารถทำในสิ่งที่คิดได้ เพราะกลัวเกินกว่าจะก้าวเท้าออกไปจากเขตปลอดภัยของตัวเอง

<ทำไมเราช่างน่าสมเพชแบบนี้นะ> ขณะที่คิดเช่นนั้นเจ้ารินก็เปิดถุงบรรจุเครื่องเกมvr ด้านในเขาพบโปสเตอร์ใบหนึ่ง เขาลองอ่านดูแล้วพบว่าเป็นโปสเตอร์โฆษนาเชิญชวนให้ไปลงทะเบียนแข่งเกม Battle of the units ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่นาน

“จริงสิ เกมนี้เป็นเกมที่บริษัทของพี่ภาริชพัฒนานี่นะ หรือว่านี่เป็นโปสเตอร์ตัวอย่าง”

ขณะที่พลิกโปสเตอร์ในมือไปมาและใคร่ครวญถึงความน่าจะเป็นมากมาย เสียงก๊อกๆ ก็ดังที่หน้าต่าง เจ้ารินเดินไปที่บริเวณนั้นแล้วลองแง้มม่านดูเล็กน้อย ทันทีที่เห็นต้นกำเนิดเสียงเขาก็สะดุ้งเบาๆ แล้วซ่อนตัวหลังผ้าม่าน

“มาอีกแล้ว”

เจ้ารินไม่มีทางลืมหน้าตาของผู้ชายคนนี้ไปได้ ไม่ใช่ว่าคนคนนี้หล่อเหลาดูดีหรือมีชื่อเสียงโด่งดังอะไร แต่เพราะเป็นคนที่ลงมือรังแกจนทำให้เขาไม่กล้าออกไปเผชิญโลกภายนอกอีกแล้ว

ทุกวันนี้แค่เห็นหน้าอีกฝ่ายเขายังกลัวจนตัวสั่น ทั้งทื่รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่คนคนนั้นก็ยังเพียรพยายามตามตื้อเขาทั้งในโลกโซเชียลและในโลกแห่งความเป็นจริงตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

<เลิกยุ่งกับฉันซักทีได้ไหม ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับนาย> หากหวีดร้องหรือกล้าตะโกนด่าซึ่งๆ หน้าได้ เจ้ารินคงทำไปแล้ว แต่เพราะไม่กล้าไง ดังนั้นแม้กระทั่งในเกม เขายังคอยหลบเลี่ยงผู้ชายคนนั้นเสมอมา

ตามจริงที่เขาต้องโดดเดี่ยวในโลกโซเชียล มีเพียงแค่ ชานมฯ และsilver fox13เป็นเพื่อนเล่น ก็ล้วนแล้วแต่ความใจร้ายของผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น

ผู้ชายคนนี้คงเกลียดเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่คอยหาเรื่องพวกเพื่อนในเกมหรือแย่งเอาเพื่อนๆ ไปจากเขาบ่อยๆ จนที่สุดข่าวลือว่า แอคเค้าท์ชื่อดัง maddog01 กับแอคเค้าท์ชื่อดัง Dog hunter00 เป็นศัตรูกันก็แพร่ไปในโลกโซเชียลอย่างครึกโครม

แอคเค้าท์ชื่อดัง Dog hunter00 แตกต่างกับ maddog01โดยสิ้นเชิง maddog01ทำตัวลึกลับ แต่ Dog hunter00 นั้นขายความเป็นตัวเอง พวกเขาต่างมีฐานแฟนของกันและกัน นอกจากนั้นยังถูกจับมาเปรียบเทียบกันเสมอๆ

พวกแฟนคลับของmaddog01ส่วนใหญ่เป็นคนดีและมีมารยาท ในขณะที่แฟนคลับของ Dog hunter00 มักเป็นกลุ่มคนที่ชอบปะทะ ขอแค่ Dog hunter00 พูดจาชักนำ คนพวกนั้นก็พร้อมจะเฮโลกันไปถล่มศัตรูจนย่อยยับ

ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของเขากับ Dog hunter00 ดำเนินมาได้ 4 ปี ที่ทุกอย่างยังไม่ปะทุ เพราะอีกฝ่ายคอยคุมเชิงและเขาเองก็นิ่งสงบ ทว่าพวกแฟนคลับของแต่ละฝ่ายนั้นร้อนระอุได้ที่ ถ้าเกิดว่าแม่ทัพอย่างพวกเขาลั่นกลองรบเมื่อไหร่คงได้เห็นการนองเลือดบนโลกโซเชียลแน่ทีเดียว

เสียงเขวี้ยงก้อนหินมากระทบกับหน้าต่างของเขายังดังอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนจะไม่ยอมเลิกตื้อง่ายๆ ทั้งๆ ที่คิดว่าจดหมายอโหสิกรรมที่ถูกส่งไปคงทำให้อีกฝ่ายหยุดทำบ้าๆ แต่ดันได้ผลกลับตาลปัตร ผู้ชายคนนั้นเริ่มรังแกเขาหนักมากขึ้นกว่าเมื่อสมัยตนยังเป็นรุ่นน้องของอีกฝ่ายที่โรงเรียนเสียอีก

ตอนนี้เสียงเงียบไปแล้ว เจ้ารินแอบแง้มผ้าม่านดู และพบว่ามิวซังกำลังพูดคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่

<ไปซักทีเถอะ อย่ามาหลอกหลอนราวีกันอีกต่อไปเลย> ขณะที่ภาวนาอย่างนั้น พลันอีกฝ่ายหันมาพอดี เจ้ารินสะดุ้งแล้วหลบหลังม่านแทบไม่ทัน

ทั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายเพลาๆ การพยายามเข้ามาวุ่นวายรอบๆ ตัวเขาไปแล้ว ไม่อยากจะคิดว่าถ้าคนคนนั้นพบกับโกรธเกรี้ยวในเกม ผู้ชายคนนั้นอาจจะแย่งโกรธเกรี้ยวไปจากเขาเหมือนแย่งคนอื่นๆ อีกไหม

<ไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาด>

สำหรับเจ้ารินไม่ว่าจะคิดยังไงก็รู้สึกว่ายอมไม่ได้ กับโกรธเกรี้ยวเขามีความรู้สึกอย่างแรงกล้ากว่าใครคนอื่นๆ ที่ผ่านมา คราวนี้จะต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้ เขาต้องทำได้อย่างแน่นอน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีผู้อ่านเดาข้อมูลถูกด้วยน้า แหม...เหมือนมานั่งในใจเรา

อีกอย่างพออ่านความคิดเห็นเราก็ยิ้ม 

มีนักอ่านเห็นคุณภาริชเป็นเคะด้วย เราก็ชอบเคะแนวนี้น้า

แต่คุณภาริชเมะนะคะคุณ5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่8 นุ่มเหมือนน้องหมาเลยนะ 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 04-08-2018 12:59:10
รุ่นพี่หล่อมั้ยคะอิอิ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่8 นุ่มเหมือนน้องหมาเลยนะ 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 04-08-2018 16:20:54
ซึนปะรุ่นพี่อ่ะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่8 นุ่มเหมือนน้องหมาเลยนะ 4/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 05-08-2018 10:10:31
บทที่9

มาเปย์เจ้าmaddog01กันดีกว่า

การที่รีบกลับบ้านแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าถูกกระตุ้นเร้าอย่างหนักหน่วง สัญชาติญาณความเป็นsในตัวถูกปลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าเอ๋อๆ ว่าง่ายรวมถึงความไร้เดียงสาเหมือนกระดาษขาวของเจ้าฮิคกี้น้อย

“เกือบๆ จะเข้าไปกอดเพราะหมั่นเขี้ยวแล้วเชียว” ภาริชไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังแสยะยิ้มดั่งมารร้าย พอปะเข้ากับเงาของตัวเองในกระจกหน้ารถ เขายิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม

“เรานี่น้า พอเจอคนถูกใจที่ไร พาลอดใจไม่ได้ทุกที”

จริงๆ แล้วนอกเหนือจากความน่ารักที่ทำเอาเพ้อไม่เลิก อีกอย่างที่ลืมไม่ได้คือการเอาโปสเตอร์ตัวอย่างของการแข่งเกมไปทิ้งเชื้อเอาไว้ ก็หวังว่ามันจะกระตุ้นความสนใจของเจ้ารินเพิ่มมากขึ้น

“สงสัยว่าวันนี้โกรธเกรี้ยวจะปรากฏตัวให้ทันเวลานัดไม่ได้แล้วสิ”

ภาริชก็คาดการณ์เอาไว้แล้ว ข้อแก้ตัวมีเยอะแยะมากมายดังนั้นจึงไม่กังวลอะไร หลังจากกลับถึงบ้านก็พบว่าฟอร์ดกำลังเล่นเกมอยู่ในห้องของเขาด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง

<ท่าทางเคร่งเครียดจังนะ> ภาริชเห็นฟอร์ดขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปม ดังนั้นจึงเดินไปหาแล้วชะโงกหน้าดูหน้าจอ

สิ่งที่ภาริชเห็นคือสภาพที่ฟอร์ดถูกสั่งให้ทำนั่นนี่ ถูกตำหนิทั้งที่ไม่มีความผิด แถมกำลังถูกเพื่อนในตี้ซักฟอกอย่างหนักถึงเรื่องที่มาของอาวุธเซ็ตอาวาลอน แต่ก็นั่นแหละในเมื่อฟอร์ดบอกจะจัดการเอง เขาก็เคารพการตัดสินใจของน้องชาย ดังนั้นจึงเดินไปที่pcล็อคอินเกมเพื่อไปหาmaddog01ตามนัด

ภาริชนัดกับพวกmaddog01ไว้ตรงวิหารแห่งแสง ด้วยตั้งใจว่าจะไปตีมอนสเตอร์เพราะหนังสือทักษะของอาชีพHigh priest ซึ่งเขาต้องการหาได้จากที่แห่งนั้นเพียงที่เดียว เมื่อเข้าเกมไปภาริชก็เปิดแผนที่ขึ้นมา

เขาพบว่าmaddog01รออยู่แล้ว ดังนั้นภาริชจึงกดปุ่มวาร์ปที่เป็นอภิสิทธิสำหรับคู่แต่งงานไปหาทันที

โกรธเกรี้ยว : ขอโทษนะที่มาช้า พอดีว่าแวะไปทานข้าวที่บ้านเพื่อน แล้วก็ดันมัวแต่แวะลูบขนเจ้ารีทรีฟเวอร์ จนเพลินมือไปหน่อย

พูดถึงเจ้าสุนัขพันธ์นี้ในความคิดของmaddog01เขารู้สึกว่ามันน่ารักมากจริงๆ เขาอยากเลี้ยงเจ้าตัวนี้มากทีเดียว ถ้าไม่ติดที่สุนัขจะต้องพาไปเดินเล่นทุกวัน คิดถึงตรงนี้maddog01ก็นั่งหดหู่อยู่หน้าจอpc ซึ่งอยู่ในสายตาของมิวซังตั้งแต่แรก

silverfox13 : maddogน้อยเคยอยากเลี้ยงเจ้าหมาพันธ์นี้มาก แต่ก็เพราะต้องพาเดินเล่นเลยไม่กล้ารับมาเลี้ยง



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ทั้งที่ข้าอุตส่าห์ไปขอซื้อเพื่อนในราคาถูกมาให้ลูกพี่แล้วแท้ๆ สุดท้ายคนที่เลี้ยงก็คือข้าอยู่ดี

จริงๆ แผนการหาลูกหมาให้เลี้ยง ชานมฯ กับsilverfox13 ใช้เวลาในการหลอกล่อmaddog01อยู่นานจนในที่สุดmadog13ก็กลายเป็นมาเนียคลั่งรีทรีฟเวอร์ไปเลย แต่ก็นั่นแหละสุดท้ายลูกพี่ก็ดันไปเลี้ยงหมาพันธ์นี้ในเกมจำลองชีวิตแทนเสียนี่ นับว่าเสียเวลาลงมือเปล่าๆ แท้ๆ

โกรธเกรี้ยว : ถ้าเลี้ยงหมาไม่ได้ก็เลี้ยงแมวสิ เอาเป็นแมวแร็กดอลล์ พวกมันน่ารักขี้อ้อนว่าง่าย เหมาะกับการเลี้ยงแบบระบบปิดนะ

พอโกรธเกรี้ยวจุดประกายmaddog01ก็หยิบแท็ปเล็ตหาข้อมูล ทันทีที่ได้ยลโฉมและเรียนรู้นิสัยของพวกมันคร่าวๆ maddog01ก็ตกหลุมรักครั้งใหญ่

“มิวซังดูสิน่ารัก แถมยังขี้อ้อน แล้วเจ้านี่ก็มีนิสัยแบบหมาด้วยนะ”

มิวซังเองก็กำลังใช้แท็ปเล็ตหาข้อมูลไปพร้อมกัน

“แต่มันมีโรคทางสายพันธ์ ถ้าจะเลี้ยงคงต้องหิ้วจากฟาร์มของเมืองนอก คงต้องคัดสายพันธ์ดีๆ เลย”

“งั้นต้องหาข้อมูลก่อนสินะ”

Maddog01ดูร่าเริงขึ้นเยอะทั้งที่เมื่อช่วงหัวค่ำดูกังวลเรื่องรุ่นพี่ซึ่งเคยรังแกแวะมาตื้ออีกแล้วจนไม่เป็นอันทำอะไรแท้ๆ นี่คืออานุภาพของโกรธเกรี้ยวสินะ

Maddog01 : อยากได้เจ้าแมวแร็กดอลล์จังเลยน้า....

Maddog01กดอีโมจิคอนรูปหัวใจสองสามชุด ภาริชลูบไล้ปลายคางก่อนจะกดแท็ปเล็ตค้นหาฟาร์มดีๆ แล้วก็ตัดสินใจได้ไม่ยาก ชายหนุ่มลงมือเปย์ให้เจ้าฮิคกี้น้อยนี่อีกแล้ว แถมไม่รู้สึกว่าขนหน้าแข้งร่วงอะไร

ชานมไข่มุกโครตอร่อย : ดูท่าจะแพงอยู่นะ

ใครจะไปคิดล่ะว่าเพ่ชานมเองก็เตรียมเปย์maddog01เหมือนกัน เขามีคนรู้จักทำฟาร์มเจ้าแมวพันธ์นี้อยู่ เอาจริงๆ ขอมาเลี้ยงฟรีๆ เลยยังได้ แต่เขาจะเก็บเป็นความลับเซอร์ไพรส์maddog01

“หึหึ ที่นี้นายจะได้เห็นประโยชน์ของฉันซักที” ชานมฯ หัวเราะอยู่หน้าจอคอม เขาหยิบมือถือโต้ตอบกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของฟาร์มด้วยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง

Silverfox13 : ว่าแต่สุดยอดสาวงามไม่ได้มารวมกลุ่มกับเราด้วยหรือ

มิวซังตั้งข้อสังเกต

Maddog01 : จริงด้วยน้องของเจ้าไปไหนหรือที่รัก

พอมีคนตั้งคำถามเกี่ยวกับฟอร์ด ภาริชก็เริ่มวางแผนอย่างคนเจ้าเล่ห์ เขาอยากให้น้องชายหลุดจากการถูกเกาะแม้กระทั่งในเกม ดังนั้นจึงเริ่มต้นพูดถึงเรื่องฟอร์ดเล็กๆ น้อยๆ

โกรธเกรี้ยว : น้องชายของฉันเขาต้องไปเล่นกับเพื่อนบ้างน่ะ

โกรธเกรี้ยว : แต่กังวลมากเลยเพื่อนคนนั้นนิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่

โกรธเกรี้ยว : หลายๆ ครั้งก็มักจะพูดจาทำร้ายจิตใจน้องชายของฉันเสมอ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แค่หยอกล้อตามประสาเพื่อนหรือเปล่า

โกรธเกรี้ยว : ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ

Maddog01 : น้องชายของเจ้าถูกรังแกบ่อยๆ หรือ

โกรธเกรี้ยว : ก็ไม่เชิง แต่ตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลายมาก็กลายเป็นคนที่มีเพื่อนน้อยอย่างน่าใจหาย



หลังจากกลับบ้านมาฟอร์ดก็ถูกบังคับให้ล็อคออนเพื่อไปเก็บเลเวลกับต้นกล้า ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาอยากไปรวมกลุ่มกับพี่ชายและmaddog01มากกว่า แต่ก็นะถูกเสียดสีที่โรงเรียนจนสุดท้ายต้องทำตามความเอาแต่ใจของบัดดี้คนนั้น

วันนี้ทั้งวันฟอร์ดเจอแต่เรื่องไม่ค่อยดีนัก เริ่มตั้งแต่ไปเจอหน้าบัดดี้อย่างต้นกล้าที่โรงเรียนตอนเช้าเลย

“ไงมึง...กูทักไปตั้งเยอะไม่ตอบเลยนะ”

ต้นกล้ายืนเอามือล้วงกระเป๋า หมอนี่ไม่ใช่ผู้ชายที่ตัวสูงมากนัก ตัวค่อนข้างแบบบางหน้าตาก็กระเดียดไปทางผู้หญิงหน่อยๆ

“เฮ้อ...ก็มัวแต่เล่นเกมกับพี่ชายนั่นแหละ” ฟอร์ดเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำของตนเอง

“อะไร นี่มึงเล่นเกมกับพี่ชายหรือ ถึงว่าเงียบหายไป กูอุตส่าห์ตั้งใจจะชวนมึงเข้ากิลDragonlessแล้วเชียว กูอุตส่าห์ใช้คอนเนคชั่นของกูเชียวนะ”

ฟอร์ดคิ้วกระตุกแวบหนึ่ง แต่ใบหน้ายิ้มแย้มใจดีเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาเสมอแม้อารมณ์เสียก็ยังคลี่ยิ้มออกมาได้ ซึ่งนั่นทำให้ต้นกล้าหงุดหงิดแม่มทุกครั้ง

“ตกลงมึงจะทิ้งให้กูเสียหน้าหรือไง กูอุตส่าห์บากหน้าไปขอร้องเพื่อนกูเชียวนะ”

เพื่อนที่ว่าคงหมายถึง Doghunter00แอคเค้าท์ชื่อดังซึ่งเป็นเสมือนคู่แข่งของmaddog01ไอดอลของเขา ฟอร์ดจำได้ดีตอนที่เขาบอกให้ต้นกล้ารู้ว่าใครคือไอดอลของเขา ต้นกล้าก็พูดจาไม่ดี แถมทำทีจะแนะนำให้เขาเข้ากิลของ Doghunter00

แต่ก็นะ...มันเหมือนเอาแครอทมาล่อให้ลาวิ่ง ต้นกล้าทำเหมือนจะแนะนำเขาเข้ากลุ่มทว่าก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย จนในที่สุดเขาก็รู้สุกเหมือนถูกปั่นหัวไปวันๆ นอกจากนั้นสิ่งที่ทำให้เขาเลิกหวังนั่นมาจากพี่น้องฝาแฝดลูกของคุณอาวิทย์นั่นเอง

เขาพึ่งมารู้ที่หลังว่าอิงภพกับอิงฟ้าเป็นบุคคลสำคัญเสมือนแขนซ้ายขวาของ Doghunter00 ทั้งคู่พอรู้ว่าเขาใช้เส้นสายของต้นกล้าขอเข้ากิลก็พากันมาเหยียดหยามจนเขาเสียความรู้สึกอย่างหนัก

“ขอโทษนะ...ต้นกล้ากูคงไม่เข้ากิลDragonless”

“มึงแน่ใจนะ”

“อื้อ” ฟอร์ดผงกหัว

“ก็ตามใจ แต่วันนี้มึงต้องมาเล่นเกมกับกูนะ”

“อ่า...” รับคำไปทั้งที่ไม่เต็มใจซักนิด แต่คิดว่าแป๊บๆ ต้นกล้าก็คงเบื่อแล้วกลับไปเล่นกับพวก Doghunter00เหมือนเดิม “ก็ได้”

“เออ...วิชาแรกเป็นชั่วโมงแนะแนว พวกห้อง 1 ก็จะเข้าคลาสร่วมกับเรา แย่เนอะ มึงไม่ถูกกับอิงภพแล้วก็อิงฟ้านี่”

ฟอร์ดถอนหายใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาไม่น่าแสดงอาการให้ต้นกล้ารู้เลย

“ปล่อยเขาเถอะ”

“อ้อจริงสิ กูว่าจะเรียนต่อที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม หลักสูตรเกมและอินเทอร์แอคทีฟ ของมหาลัยb มึงว่ามันเหมาะกับกูไหมล่ะ”

ฟอร์ดย่นคิ้วจนชนเข้าหากัน เป็นอีกเรื่องแล้วที่ต้นกล้าแม่มเลียนแบบ หมอนี่มักจะแอบค้นหาว่าเขาชอบอะไรและคิดทำอะไร จากนั้นก็เลียนแบบและพยายามแข่งไปทุกเรื่องเลย

จริงๆ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร เข้าใจว่าการแข่งขันระหว่างเพื่อนถือเป็นสิ่งปกติ แต่พอนานเข้ายิ่งรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายทำตัวเป็นศัตรูทั้งจงใจแกล้ง ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่ร้ายเท่ากับมารู้ว่าอิงฟ้ากับอิงภพดันเลือกคณะและวิยาลัยที่เดียวกับเขาด้วยเช่นกัน เป็นเรื่องบัดซบมาก ฟอร์ดหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



“ว่าไงคุณส่วนเกิน”

ในชั่วโมงแนะแนวพอปะหน้ากันอิงภพก็เข้ามาตอแยด้วยเหมือนทุกที ที่ข้างๆ น้องสาวฝาแฝดอิงฟ้าส่งยิ้มเยาะมาให้

“น่าอายจังเลยน้า ที่หัวไม่ดีจนถึงกับต้องเลี่ยงคณะบริหาร กลัวว่าคนอื่นจะเปรียบเทียบนายกับพี่ภาริชหรือไง”

อิงฟ้าหัวเราะร่วนในขณะที่อิงภพแฝดพี่กระตุกยิ้มชอบใจ

“คุณพ่อจะฝากฉันไปฝึกงานที่ Ghiblisoft พี่ภาริชเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยสิ”

อิงภพยิ้มเยาะ เขาคิดว่าเรื่องนี้จะต้องทำให้ฟอร์ดเสียความรู้สึกมากแน่ๆ แล้วเขาก็ชอบทำแบบนี้เสียด้วยสิ สำหรับไอ้เจ้าคนที่ไม่มีอะไรเหมาะสมพอจะเป็นน้องชายของพี่ภาริชได้เลย เป็นเขามากกว่าเสียอีกที่คู่ควรกับตำแหน่งน้องชายที่รักของพี่ภาริช

สำหรับพี่ภาริชที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็ดูดีไปเสียหมด แถมยังฉลาดทำอะไรๆ ก็สำเร็จทุกเรื่องไป พี่ชายคนนั้นทำให้อิงภพรู้สึกใจเต้นทุกครั้งแม้จะไม่ได้เจอหน้าก็ตาม แค่เพียงได้ฟังเรื่องราวของพี่ภาริชเขาก็สามารถยิ้มแก้มปริทั้งวันเลยยังได้

“งั้นหรือยินดีด้วยนะ” ฟอร์ดพยายามปั้นยิ้ม แต่จริงๆ เขาเสียความรู้สึกมากที่ถูกตัดหน้า ที่แรกตั้งใจจะขอไปฝึกงานที่บริษัทของท่านพี่อยู่เหมือนกัน แต่อิงภพคนนี้พยายามแย่งความฝันความหวังของเขาไปเรื่อย เขาไม่รู้เลยว่าแอบไปได้ยินความตั้งใจของเขาจากไหน

ทว่า...ไอ้ที่มั่นใจและรู้มานานคือเรื่องอิงภพอิจฉามาโดยตลอดที่เขาเป็นน้องชายของท่านพี่ อิงภพเห็นพี่ภาริชเป็นไอดอลผู้ยิ่งใหญ่เสมอมาและคงรู้สึกว่าเขาซึ่งเป็นน้องที่แท้จริงเกะกะลูกตาจนทนไม่ได้

“ว้า...อย่างนี้เราสองคนก็ต้องมาแข่งกันอีกแล้วเนอะ ฉันไม่ออมมือนะฟอร์ด”

อิงภพเดินนำอิงฟ้าแล้วพากันออกจากห้องแนะแนวไป คนพวกนี้ทิ้งความรู้สึกแย่ไว้ให้ฟอร์ด แต่ก็เหมือนทุกๆ ครั้ง ที่ต้นกล้ากับอิงภพมักจะแข่งกับเขาไปเสียทุกเรื่อง ทั้งที่คิดว่าทำใจได้บ้างแล้วถึงอย่างนั้นก็ยังเสียความรู้สึกอยู่ดี

“ฟอร์ดกูเข้าห้องแนะแนวก่อนนะ”

“อือ” ฟอร์ดตอบอย่างไร้อารมณ์ ปั้นหน้ายิ้มไม่ไหวจริงๆ ให้ตายเถอะ หลังจากต้นกล้าเข้าไปจู่ๆ ก็ถูกเพื่อนในห้องเรียกเอา เขาหันไปพูดด้วย

“ต้นกล้าจะไปเรียนคณะเดียวกับนายหรือฟอร์ด” เป็นอาร์ทเพื่อนในห้องที่พยายามชวนเขาให้ไปเข้ากลุ่มบ่อยๆ ข้างๆ ตัวของหมอนั่นมีน้ำรินหัวหน้าห้องยืนอยู่ด้วย

“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่า คนแย่ๆ อย่างนั้นให้เลิกคบไปเถอะ มาเข้ากลุ่มเราเถอะฟอร์ด เอาแค่มาติวก่อนเรียนจบก็ได้” น้ำรินขยับแว่นตาให้เข้าที่

เธอจำได้ว่าเคยเล่าวีรกรรมของต้นกล้าให้ฟอร์ดฟัง แต่เจ้าคนแสนดีกลับพูดว่า ‘เรื่องอดีตน่า ป่านนี้คงกลับตัวแล้ว’ แล้วผลเป็นยังไงล่ะเพื่อนคนอื่นๆ ก็รู้ดีว่าต้นกล้าคบกับฟอร์ดแบบไหน

“ยังจำวีรกรรมของต้นกล้าที่ฉันเคยเล่าให้ฟังได้ไหม เรื่องรังแกกันที่เลยเถิดในชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนเรา”

“จำได้สิเป็นข่าวครึกโครมแต่โรงเรียนปิดเอาไว้” ฟอร์ดตอบ

ตอนนั้นเขาเองก็เรียนชั้นมัธยมต้นของที่นี่ ข่าวคราวที่ว่ารุ่นพี่รวมหัวกันรังแกรุ่นน้องและต้นกล้ารุ่นพี่ในเวลานั้นเล่นเลยเถิดเกินไป เป็นผลให้รุ่นพี่คนอื่นหวาดกลัวจนต้องห้ามและไปฟ้องอาจารย์ ดังนั้นต้นกล้าถึงถูกพักการเรียนทั้งยังซ้ำชั้นหนึ่งปี

“กูเชื่อว่าคนเรากลับตัวได้นะฟอร์ด แต่บางคนแม่มก็เลวได้ทั้งชีวิตนั่นแหละ” อาร์ทเตือนฟอร์ด

“พวกเราจัดติวข้อสอบกับรุ่นพี่อีกรอบ หวังว่าคราวนี้นายจะไม่พลาดนะ” น้ำรินยิ้มๆ ก่อนจะพากันปลีกตัวไปเพราะเห็นว่าต้นกล้าออกมาจากห้องแนะแนวแล้ว



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



สนุกกันบ้างไหม แสดงความคิดเห็นกันบ้างก็ดีนะค้าTT 5555

ขอบคุณที่อุตส่าห์เข้ามาอ่านนะคะ รักนะจุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่9 มาเปย์เจ้าmaddog01กันดีกว่า 5/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 05-08-2018 11:50:22
รออออออมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่9 มาเปย์เจ้าmaddog01กันดีกว่า 5/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-08-2018 14:50:50
พ่อ นิสัยไม่ดี ลูกก็นิสัยไม่ดีเหมือนกัน
อิงภพ อิงฟ้า ชื่อก็เพราะแต่นิสัยเลว
มันสืบทอดทางสายเลือดโดยตรงเลยนะเนี่ย   o22
ร้ายกับน้องชายเขา แต่ใจเต้นกับพี่ชายเขา ตลกจัง คิดได้ไง  :m20: :laugh:

ต้นกล้า ยังเกเรอินไม่หยุด แถมมารังควานถึงบ้าน นิสัยเลวววววววววววว
อย่างนี้ติดกล้องแล้วถ่ายเป็นหลักฐาน แจ้งข้อหาบุกรุกทำร้ายร่างกาย
นี่สงสัยต้นกล้าแอบชอบอินหรือเปล่า แต่ใช้การแกล้งเข้าหา   :hao3:
เพราะไม่น่ายืดเยื้อ เรื้อรัง เนิ่นนาน

ฟอร์ด หัวอ่อน ใจอ่อนอีกนะ รู้นิสัยเลวๆของต้นกล้ายังยอมคบต่ออีก
อย่างนี้ต้องแกล้งบอกเพื่อนๆว่าเปลี่ยนใจจะเข้ามอ.อื่น ดูซิจะมีคนเปลี่ยนตามมั้ย
ไม่ก็เปลี่ยนไปเข้ามอ.อื่นจริงๆแต่ไม่บอกต้นกล้า ให้หงายเงิบไปเลย   กร๊ากกกกก  :z3: :z3: :z3:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่9 มาเปย์เจ้าmaddog01กันดีกว่า 5/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 05-08-2018 22:19:50
ถถถถฟอร์ดเด๋วพี่กอดปลอบนะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่9 มาเปย์เจ้าmaddog01กันดีกว่า 5/8/61
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 06-08-2018 10:13:16
บทที่10

Sapling

Sapling : ยอมรับมาซะดีๆ เถอะน่าฟอร์ดว่ามึงเติมบัตรซื้อเซ็ตอาวาลอน

เพราะว่าฟอร์ดเงียบไม่ตอบโต้และเอาแต่ตีมอนสเตอร์เนียนๆ เหมือนไม่ได้อ่านข้อความ คนที่มักรังแกคนอื่นแถมชอบเอาชนะอย่างต้นกล้าจึงยิ่งเดินหน้าพิมพ์ข้อความทิ่มแทงหนักกว่าเดิม

Sapling : เป็นลูกคนรวยนี่มันดีจังเลยว่ะ มีเงินให้ใช้ไม่หมด มึงนี่น้า ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่น่าพูดอุดมการณ์สวยหรู น่าอายฉิบหาย

สุดยอดสาวงาม : ฉันเปล่าเติมบัตร ได้เป็นของขวัญมาจากmaddog01ต่างหาก

Sapling : หะ

ใครจะไปคิดล่ะว่าไอ้ฟอร์ดมันจะเอ่ยถึงmaddog01ขึ้นมา ต้นกล้าโคตรจะเกลียดตัวตนที่แท้จริงของไอ้มัน แค่ได้ยินชื่อก็นึกถึงคลิปจูนิเบียวอันน่าขนลุก ไม่เพียงแค่นั้นเขายังสามารถจดจำใบหน้าของไอ้เจ้านั่นได้เป็นอย่างดี

ไอ้ที่ลงมือรังแกไปเมื่อ 4 ปีก่อนไม่หนักหนาซักนิด ก็แค่บังคับถอดเสื้อผ้าแล้วถ่ายรูปเอาไว้ดูเล่น ใครจะไปคิดล่ะว่ายังไม่ทันถ่ายรูปเมษาถึงขนาดเข้ามาห้ามและโกรธเขาเสียอีกด้วย ทั้งๆ ที่เมษาก็พูดเองว่าเกลียดคนประเภทไอ้นรินทร์แท้ๆ แต่ใจจริงดันชอบมันมากเหลือเกิน

บอกเองแท้ว่าเกลียดไอ้พวกหน้าหวานที่ทำตัวเหมือนผู้หญิง พูดเองว่าอยากสั่งสอนให้เรียนรู้วิธีการเข้าสังคมที่ถูกต้อง ก็นี่ไงผู้ชายแมนๆ ต่อให้ถูกจับถอดเสื้อก็ไม่ควรอายไม่ใช่หรือวะ ทว่าเมษากลับเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เพียงเพราะอยู่ๆ ไอ้นรินทร์มันต่อต้านขึ้นมาและเขาก็ชกมัน

อยากอวดดีสู้กลับทำไมล่ะ ก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนั้น แต่คนขี้แพ้ก็ยังขี้แพ้อยู่ดี แค่โดนรังแกโดนต่อยนิดหน่อยถึงกลับไม่กล้าออกจากบ้านเลย ควายเอ๊ย ทำไมไอ้ควายขี้ขลาดอย่างนี้เมษาถึงได้ชอบเข้าไปลงนะ

เมษาแม่มชอบมันถึงขนาดตามตื้อไปหาที่บ้านตลอด 4 ปี แถมยังตามราวีป้วนเปี้ยนไปรอบๆ เพื่อให้ได้มีส่วนร่วมกับไอ้นรินทร์ ยอมถึงขนาดเลียนแบบสร้างตัวตนกลายเป็นdoghunter00อย่างทุกวันนี้

ทำไมวะ ทำไมเมษาต้องไล่ตามไอ้เหี้ยนั่นด้วย ทั้งๆ ที่เขาก็แสดงออกชัดเจนว่าพร้อมจะเป็นคนข้างกาย เขาพร้อมจะเดินเคียงข้างเมษาไปตลอด เขาแสดงความรู้สึกนี้ให้เมษาทราบทุกครั้ง แต่ฝ่ายนั้นกลับให้เขาเป็นได้แค่เพื่อน

โคตรเกลียดไอ้เหี้ยนรินทร์เลย โคตรเกลียดมันเลย



Sapling : มึงโกหกสินะฟอร์ด มึงคลั่งmaddog01จนถึงกับโกหกเลยหรือวะ

สุดยอดสาวงาม : กูไม่ได้โกหก

Sapling : งั้นมึงต้องพากูไปเก็บเลเวลกับเขาสิวะ ถ้ามึงไม่ได้โกหก

สุดยอดสาวงาม : ได้



“โอ๊ย...ตาย...” พิมพ์รับปากต้นกล้าไปด้วยเพราะความโกรธจนขาดสติ หลังจากรู้ว่าทำอะไรลงไป ฟอร์ดก็เอามือกุมหัวครางงุ้งงิ้งจนภาริชหมุนเก้าอี้กลับมาดู

“เป็นอะไรไป” ภาริชถาม เขาเดาว่าคงทะเลาะกันหนักกว่าเก่า ตอนนี้ฟอร์ดมีสีหน้าดุดันและใช้มือกุมหัว นานๆ ที่จะได้เห็นใบหน้าเข้มๆ สมชายของเจ้าน้องคนนี้เสียที

“ท่านพี่ถ้าผมจะพาต้นกล้าไปเล่นกับพวกmaddog01ด้วยคิดว่าจะเป็นอะไรไหม”

ฟอร์ดหันมาขอร้องด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้ ภาริชลุกจากที่นั่งตัวเองเดินไปดูหน้าจอโน้ตบุ๊คของน้องชาย เขาเลื่อนอ่านข้อความสนทนาของฟอร์ดและต้นกล้า

“หึ...” ภาริชแค่นหัวเราะก่อนจะหันไปสบตากับฟอร์ด “ช่างมีน้ำอดน้ำทนเหลือเกินนะเจ้าน้องโง่”

หลังจากด่าเสร็จภาริชก็เดินกลับไปนั่งที่เดิมและเริ่มพิมพ์ข้อความพูดคุยกับกลุ่มของmaddog01



ตัวละครโกรธเกรี้ยวจู่ๆ ก็ถอนหายใจออกมารัวๆ maddog01สังเกตเห็นเป็นคนแรก

Maddog01 : มีอะไรหรือที่รัก เจ้ามีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า

โกรธเกรี้ยว : ไม่มีอะไรหรอก ฉันไม่อยากรบกวนนายเท่าไหร่

Maddog01 : มีอะไรก็พูดมาเถอะ เจ้ามาทิ้งเชื้อแบบนี้ข้าสงสัยนะ



ใช่โคตรสงสัยเลย จริงๆ ตั้งแต่เมื่อกี้ที่โกรธเกรี้ยวทิ้งเชื้อเรื่องของน้องชาย maddog01ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมานิดหน่อย นั่นก็เพราะเขาเข้าใจดีว่าคนถูกรังแกรู้สึกยังไง ดังนั้นจึงอดเป็นห่วงสุดยอดสาวงามไม่ได้



โกรธเกรี้ยว : คือว่า...น้องชายถูกบังคับให้พาเพื่อนที่เกเรมากคนนั้นมาเข้ากลุ่มของพวกเราน่ะ

Silverfox13 : ทำไมเพื่อนคนนั้นถึงอยากมาเล่นกับพวกเราล่ะ

โกรธเกรี้ยว : มันเริ่มมาจากเพราะเห็นชุดเซ็ตอาวาลอน ปกติน้องชายของฉันภูมิใจที่เป็นผู้เล่นสายไม่เติมเงิน แต่พอเพื่อนคนนั้นเห็นเข้าก็เสียดสีประมาณว่าเติมเงินอะไรทำนองนั้น สุดท้ายน้องชายเลยบอกว่ามีคนให้ แต่ฝ่ายนั้นหาว่าน้องชายโกหกต้องการหลักฐานนะสิ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : พวกเพื่อนกรียนๆ นิสัยแย่สินะ

โกรธเกรี้ยว : จะว่านิสัยไม่ดีก็ใช่ บ้านของเราค่อนข้างมีเงิน น้องชายต้องคอยเกรงใจไม่กล้าเอาของที่เหมาะกับฐานะไปใช้เลยซักครั้ง เพราะโดนเพื่อนที่เป็นคู่หูคนนี้เสียดสีตลอด แถมที่ร้ายกว่านั้นยังคอยกีดกันเพื่อนคนอื่นไม่ให้มาคบกับน้องชายอีก

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ฟังดูแล้วเจ้าสาวงามสุดยอดนี่คงเป็นเด็กผู้ชายที่หยองกรอดยอบแยบพิลึก

Maddog01 : เขาเรียกว่าละเอียดอ่อนและคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นต่างหากเจ้าโง่ชานม



Silverfox13หรือมิวซังเข้าใจความรู้สึกของmaddogน้อยดี นี่คงเอาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดสาวงามไปแล้ว การที่มีอารมณ์ร่วมขนาดนี้เพราะถูกรังแกเหมือนกัน แถมสุดยอดสาวงามคือน้องชายของโกรธเกรี้ยวคนนั้นด้วย



Silverfox13 : ให้สุดยอดสาวงามพาหมอนั่นมาได้เลย



“ได้หรือมิวซัง” maddogน้อยหันมา เขายิ้มจนแก้มปริ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่ามิวซังคงไม่อนุญาต มิวซังเป็นเหมือนผู้ปกครองที่ตัดสินใจเรื่องยากๆ ให้หลายต่อหลายครั้ง

“ก็เป็นน้องชายของผู้หญิงที่maddogน้อยพึงใจไม่ใช่หรือไง นี่มันเป็นโอกาสดีที่จะทำคะแนนเลยนะ”

มิวซังยิ้มมุมปาก ปกติเป็นผู้หญิงยิ้มยาก พอยิ้มทีดันกลายเป็นดูเจ้าเล่ห์จนน่าหวาดผวา แต่maddogน้อยไม่ได้คิดอย่างนั้นเพราะกำลังอายม้วนต้วน

“ม..ไม่ใช่นะ...ไม่ได้คิดทะลึ่งลามกเลย จริงๆ นะ” maddogน้อยยกมือขึ้นปฏิเสธไปมาในอากาศดูแล้วน่ารักและน่าขันเสียเหลือเกิน

“จ้ะ ไม่มีใครคิดว่าmaddogน้อยทะลึ่งหรอก ก็แค่เขียนโดจิน18+”

มิวซังยิ้มกว้างมากขึ้น ในขณะที่maddog01แทบจะหลั่งน้ำตา วันนี้มิวซังแกล้งเขาหนักน่าดูเลย ต้องหงุดหงิดอะไรแน่ๆ

“หงุดหงิดอะไรหรือมิวซัง”

“นิดหน่อย แค่รู้สึกขัดแย้ง ที่ไม่สามารถคัดกรองคนเหมือนทุกครั้งได้ แต่ก็นะ ถ้าเพื่อสาวน้อยที่maddog01ชอบ เราก็ต้องแลกอะไรบางอย่าง จากนี้ไปต้องกล้าๆ แล้วจีบให้ติดนะ สู้ๆ “

มิวซังกำหมัดแล้วชูขึ้นเหมือนนักชกที่ชนะสังเวียน จะให้เขาสู้ก็ได้อยู่ แต่ไม่มั่นใจเลยซักนิด มิวซังอยากให้เดินหน้าจีบโกรธเกรี้ยว จริงๆ เขาชอบฝ่ายนั้นมากพอดู

<ถ้าเรากล้าพอคงสามารถไปพบเธอคนนั้นในโลกแห่งความเป็นจริงได้สินะ>

maddogน้อยสะบัดหน้าไปมา เขายังไม่อยากคิดถึงเรื่องอนาคต ตอนนี้แค่ต้องการสนิทสนมทำความรู้จักกับโกรธเกรี้ยวที่น่ารักในโลกของเกมอย่างนี้ไปก่อน <แต่ว่าถ้าได้เจอตัวจริง เราคิดว่าโกรธเกรี้ยวต้องน่ารักมากแน่ๆ >

อาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของmaddogน้อยมิวซังเห็นแล้วทั้งหมด ก็ถ้าเกิดว่าการมีคนรักทำให้เจ้ารินอยากออกไปสู่โลกภายนอกอีกครั้ง เธอจะสนับสนุนทุกทาง แต่ก่อนอื่นต้องหาวิธีไม่ให้ถูกหลอกหรือหักอกเสียก่อน

ยังต้องสังเกตท่าทีและการกระทำของโกรธเกรี้ยวอีกมาก หากฝ่ายนั้นมีแผนทำร้ายความรู้สึกของmaddogน้อยเมื่อไหร่ เธอพร้อมจะกลายเป็นแม่เสือเขี่ยสาวน้อยคนนั้นไปให้พ้นทางทันที



เพราะว่ากลุ่มของmaddog01อนุญาตให้ฟอร์ดพาต้นกล้าไปเล่นด้วยได้แล้ว ภาริชจึงหันไปพูดกับน้องชายของเขา

“จะพามาก็ได้นะ”

“เอ๊ะ...maddog01อนุญาตด้วยหรือท่านพี่”

ทีแรกฟอร์ดเตรียมใจรับความผิดหวัง ก็พวกเขาไม่ได้สนิทกัน อยู่ๆ ลากคนอื่นไปเพิ่มมันน่าเกลียด

“พี่อุตส่าห์ใช้มารยาล้านเล่มเกวียนเชียวนะ แต่ขอเตือนเอาไว้หน่อยนะ บางทีการอดทนก็ไม่ใช่เรื่องถูกเสมอไป”

“แต่ว่าท่านพี่สอนให้ผมอดทน”

ใช่ภาริชเคยสอนฟอร์ดอย่างนั้น การอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม ต้องรู้จักประนีประนอมและรับฟังความเห็นของผู้อื่น การทำตัวแข็งกร้าวหรือปะทะมากเกินไปรั้งแต่จะทำให้กลายเป็นเป้า นี่คือสิ่งที่เขาพร่ำบอกฟอร์ดหลายครั้ง

“แต่กับคนนิสัยแย่หรือคนเลว เราไม่จำเป็นต้องอดทนหรอกนะ คนแบบนั้นสมควรเขี่ยทิ้งหรือหนีให้ห่าง การอดทนเกลือกกลั้วไม่ใช่นิสัยของคนฉลาด เจ้าน้องโง่เอ๊ย...เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้หรือไง”

“ผมก็แค่คิดว่าต้นกล้าน่าสงสาร ใบหน้าหวานๆ เวลาเสียใจมันทำให้บางครั้งผมอดทนไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ได้”

ฟอร์ดคิดแบบนั้นจริงๆ เขารู้สึกว่าใบหน้ายามเศร้าของต้นกล้าเป็นอะไรที่ดึงดูดเขาหลายครั้ง

“พูดเหมือนตกหลุมรักเลยนะ” ภาริชแสยะยิ้ม

“ไม่ใช่หรอกท่านพี่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะ...”

ฟอร์ดนิ่งเงียบและไม่พูดไม่จา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงเดินหน้าจีบต้นกล้าอย่างจริงจัง แต่เดี๋ยวนี้เขาแทบมองไม่เห็นความน่ารักเหมือนเมื่อสมัยเป็นเพื่อนกันใหม่ๆ ต้นกล้าทำลายความรู้สึกดีๆ ของเขาไปจนเกือบหมด ที่ยังคบหาด้วยในตอนนี้ก็แค่ฝางเส้นสุดท้ายเท่านั้นเอง

“แค่ฝางเส้นสุดท้าย ผมอยากทำดีกับเขาก่อนจะแยกย้ายกันไป”

“หมายความว่าต่อให้เจอกันอีกนายจะเห็นเจ้านั่นเป็นคนอื่น”

ฟอร์ดหัวเราะเจื่อนๆ เขาขยี้หัวไปมาจนยุ่ง “ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหน แต่ตัดสินใจไว้แล้วครับท่านพี่ อย่าเป็นห่วงไปเลย”

ฟอร์ดก้มหน้ากลับไปยังจอโน้ตบุ๊คอีกครั้ง จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มแสยะดั่งมารร้ายของภาริช

<ให้ตายเราก็ไม่ยอมมีน้องสะใภ้ที่เลวร้ายอย่างนี้แน่ ถ้าเกิดเจ้าต้นกล้ามันไม่ทำลายตัวเอง เห็นทีเราคงต้องช่วยอีกแรง> ภาริชตัดสินใจจะขอดูท่าทีไปก่อน ยุแยงให้แตกกันเป็นเรื่องง่าย อย่าว่าแต่ตอนนี้ในใจของฟอร์ดหมดรักเจ้าต้นกล้านั่นแล้วด้วย

<ให้ตายสิเผลอแผลบเดียวพวกแมลงวี่ก็มาตอมน้องชายของเราจนได้ ถึงกับแทรกเข้ามายึดพื้นที่ในใจได้เลยทีเดียวนะนี่ เรานี่ปล่อยปละละเลยไปมากจริงๆ >

“เอาล่ะพาเจ้าเพื่อนคนนั้นวาร์ปมาหาได้เลย พวกพี่รอนายอยู่แล้ว”

ฟอร์ดทำตามที่ภาริชสั่ง เท่านี้ต้นกล้าจะได้เลิกหาว่าเขาโกหกแล้วหยุดเสียดสีซักที



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                บางทีความรักก็ไม่มีเหตุผล และถ้าคิดว่ามีเพื่อนแย่ๆ มาเกาะก็ควรจะตัดทิ้งไปนะคะ

                 แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่10 sapling 6/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 06-08-2018 15:19:42
ฟอร์ดน้อยแสนดี
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่10 sapling 6/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-08-2018 16:34:36
คนเลวอย่างต้นกล้าไม่สมควรได้เพื่อนดีๆแบบฟอร์ด
และไม่สมควรมีใครคบอีก ให้ไม่มีเพื่อน คนรักไปตลอดน่ะถูกต้องแล้ว
เลวด้วยนิสัย สันดานภายในตัวเอง
ทีเกเร แกล้งริน ถึงขั้นให้แก้ผ้าถ่ายรูป มันเลวแบบสมควรถูกระแบบเดียวกันกลับ

ชอบที่ภาริชสอนน้อง "บางทีการอดทนก็ไม่ใช่เรื่องถูกเสมอไป”
“แต่กับคนนิสัยแย่หรือคนเลว เราไม่จำเป็นต้องอดทนหรอกนะ
คนแบบนั้นสมควรเขี่ยทิ้งหรือหนีให้ห่าง
การอดทนเกลือกกลั้วไม่ใช่นิสัยของคนฉลาด
เจ้าน้องโง่เอ๊ย...เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้หรือไง”

ฟอร์ด ไม่โง่ แต่เป็นคนดี ขี้สงสาร(กับงูพิษ) ที่ใจอ่อนไปหน่อยเท่านั้น   :hao3:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่10 sapling 6/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 07-08-2018 10:31:34
บทที่11

ความหน้าด้านของ Sapling

ในที่สุดฟอร์ดก็พาต้นกล้าในชื่อแอคเค้าท์ Saplingมาเข้ากลุ่มจนได้ ตัวละครหนุ่มเผ่าhellเลเวล22ตัวนี้มีอาชีพเป็น Believer ส่วนอุปกรณ์ที่ติดตัวนั้นอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปยังดีมาก

Sapling : ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีโอกาสได้พบmaddog01ตัวจริง นายไม่ได้โกหกจริงๆ ด้วยว่ะฟอร์ด

ต้นกล้าจงใจใช้คำพูดให้ดูดี ตัดสินใจที่จะสร้างภาพ เพราะต้องการเข้าไปอยู่วงในสืบเรื่องของคนที่เกลียดขี้หน้าเสียหน่อย เขาไม่ลังเลเลยแม้ต้องใช้ฟอร์ดเป็นเครื่องมือ

Sapling : ผมเป็นแฟนตัวยงของmaddog01เลยนะ

Maddog01 : งั้นรึ ถ้างั้นก็ยินดีต้อนรับเจ้าเข้าตี้ของเรานะ จริงสิเจ้าจะเล่นอาชีพอะไรล่ะ พวกข้าจะได้พาไปเก็บเลเวลถูก

Sapling : High priest

ต้นกล้าไม่ได้โกหก เขาเล่นอาชีพนี้เพื่อสนับสนุนเมษาโดยเฉพาะ กิล Dragonlessยังขาดแคลนอาชีพนี้อีกมาก ว่ากันว่าอาชีพนี้เล่นยากแถมยังต้องเสียเงินเติมบัตรจำนวนมหาศาล ดังนั้นจึงหาคนเล่น High priestได้น้อย เขาเองก็อยากทำให้เมษาประทับใจ เพราะอย่างนั้นจึงเล่นอาชีพสายนี้ทั้งที่ไม่ชอบซักนิด



Maddog01 : โอเคงั้นพวกเราก็ไปเก็บเลเวลกันเถอะ



หลังจากผ่านไปสามชั่วโมงฟอร์ดดูโล่งใจที่ต้นกล้าไม่ก่อเรื่อง อีกฝ่ายตามดูดค่าประสบการณ์โดยไม่ปริปากบ่นซักคำ ทำให้นึกถึงความสัมพันธ์เก่าๆ ก่อนที่ต้นกล้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างทุกวันนี้

ตอนนี้พวกเขายังอยู่กันที่วิหารแห่งแสงmaddog01ตัดสินใจตามหาหนังสือทักษะของอาชีพHigh priestให้ครบแล้วปล่อยให้ Sapling ดูดเลเวลไปพลางๆ

maddog01ก็คิดอยู่ว่าหากเก็บทักษะของโกรธเกรี้ยวครบแล้ว จะไปล่ามินิบอสหาทักษะสำคัญที่ขาดของอาชีพpriestให้กับ Saplingเป็นรายการถัดไป

ถึงแม้จะรู้จากโกรธเกรี้ยวมาแล้วว่า Saplingเป็นคนนิสัยยังไง แต่ในเมื่อน้องชายของโกรธเกรี้ยวพามาเขาก็ไม่อยากหักหน้า อีกอย่างยังไม่มีเหตุผลที่ต้องไล่ไป อีกทั้งมิวซังเองก็ไม่ได้ปริปากบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงเลยตามเลยปฏิบัติกับอีกฝ่ายเหมือนรุ่นพี่ในเกมที่ดีคนหนึ่ง

Maddog01 : โอ้ว ที่รักข้าได้ทักษะชุบหมู่ของHigh priest ด้วย

ปกติทักษะชุบหมู่นี่เป็นของหายากมาก มันจะตกจากมินิบอสที่เกิดบ่อยๆ ทว่าเปอร์เซ็นการตกของแรร์ไอเทมนี้ต่ำยิ่งกว่าต่ำ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการวนตีอย่างดุเดือดและอดทน เกี่ยวกับเรื่องนี้ภาริชรู้เพราะหาข้อมูลมาแล้ว

Maddog01 : เจ้าเอาไปเก็บไว้นะยาหยี จุ๊บๆ

การแสดงออกถึงความรักทั้งคำพูดคำจาทำให้ต้นกล้าประหลาดใจเอามากๆ เขาไม่คิดมาก่อนว่าไอ้จูนิเบียวอย่างนรินทร์มันมีแฟนในเกมด้วย

Sapling : โกรธเกรี้ยวกับmaddog01เป็นคู่รักกันหรือครับ

โกรธเกรี้ยว : ใช่แล้วแต่แค่ในเกมนะ ชีวิตจริงก็รออยู่ว่าใครบางคนจะสนใจไหม

แล้วตัวละครอกแบนลิก็หัวเราะคิคิ การโจมตีอันนี้ส่งผลกระทบต่อmaddog01อย่างมาก พี่แกกดอีโมจิคอนเขินมารัวๆ การทำแบบนี้ยิ่งทำให้ข้อสันนิษฐานของต้นกล้าชัดเจนขึ้นอีก

ไอ้นรินทร์มันมีแฟน ถ้าเอาเรื่องนี้คาบไปบอกเมษา หมอนั่นอาจจะตัดใจ...ไม่สิ หาเรื่องให้เมษาอาละวาดตบตีไอ้นรินทร์น่าจะดีกว่า ต้นกล้ากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่หน้าจอpcในหัวเริ่มวางแผนเลวๆ อย่างช่ำชอง

หลังจากภาริชหยอดจีบmaddog01ไป พ่อหมาน้อยก็ส่งคำขอแลกเปลี่ยนมา เขากดตกลงและได้หนังสือทักษะชุบหมู่มาไว้ในช่องเก็บของของตัวเอง ใครจะไปคาดคิดล่ะว่า Saplingจะส่งข้อความลับมาหาเขา

Sapling : โกรธเกรี้ยว ผมขออุปกรณ์เก่าๆ ของคุณได้ไหม ไหนๆ เราก็เล่นอาชีพเดียวกัน นะครับ

<ขอของงั้นรึ> ภาริชแสยะยิ้มอยู่หน้าจอpc แล้วส่งข้อความลับกลับไป

โกรธเกรี้ยว : เอาสิ

จังหวะที่ Sapling เปลี่ยนมาใช้อาวุธที่ดีที่สุดของคลาส Believer ทุกคนก็รู้ทันทีว่าโกรธเกรี้ยวเป็นผู้ให้ของ แต่ทุกคนไม่ได้คิดอะไร ยกเว้นฟอร์ดกับsilverfox13

Silverfox13ส่งข้อความลับมาหาภาริชทันที

Silverfox13 : เขามาขอของเธองั้นรึ

โกรธเกรี้ยว : ใช่

จากนั้นsilverfox13ก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาอีก ภาริชพอจะเดานิสัยของคนคนนี้ได้อยู่บ้าง silverfox13เป็นคนประเภทชอบเอาใจใส่พวกพ้องมากเป็นพิเศษ แล้วถ้าให้อนุมานเพิ่มเจ้าของแอคเค้าท์นี้คงเป็นมิวซังลูกพี่ลูกน้องของเจ้าริน

“พี่...ต้นกล้ามันมาขออุปกรณ์จากพี่หรือ พี่ไม่จำเป็นต้องให้ก็ได้นะ” ฟอร์ดมายืนอยู่ข้างหลังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้และกำลังทำสีหน้าเคร่งเครียด

“ทำไมล่ะ” ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนโยน รู้ว่าวิธียิ้มแบบนี้คือกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง แต่พอเป็นเรื่องนิสัยเสียของต้นกล้า ฟอร์ดก็ลืมความร้ายกาจของท่านพี่ไปเลย

“ถ้าให้ไปครั้งหนึ่งแล้วจะได้ใจน่ะสิ ทีนี้จะขอเรื่อยๆ เลยนะ”

“งั้นก็ดีสิ น่าสนุกดีออก” ภาริชยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

ในเมื่อท่านพี่เห็นเป็นเรื่องสนุกฟอร์ดก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เขาเดินกลับไปที่โน้ตบุ๊คของตัวเองทำหน้าที่ตัวแท้งค์ที่ดีต่อไป

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เอ้า...นี่ข้าได้ทักษะพิเศษของอาชีพ Knight of Light ง่ะลูกพี่

ดูเหมือนว่าจะเป็นทักษะชุบชีวิตของอาชีพ Knight of Lightที่หาโคตรยาก maddog01รู้สึกว่านี่มันเป็นวันโคตรโชคดีเลย

Maddog01 : ถ้าอย่างนั้นเอาให้สุดยอดสาวงามไปนะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ok

ระหว่างที่ชานมกดแลกเปลี่ยนสิ่งของกับสุดยอดสาวงาม ต้นกล้าก็ส่งข้อความลับมาหาฟอร์ด

Sapling : กูขอทักษะชุบของมึงนะฟอร์ด กูมีตัวสำรองเป็นอาชีพKnight of Light

Sapling : มึงอะสนิทกับเขา จะขอให้เขาหาของแบบนี้ให้เมื่อไหร่ก็ได้นี่

Sapling : หรือมึงจะให้กูไปขอให้เขาหาให้กูเพิ่มก็ได้นะคนพวกนี้ดูใจดีด้วยสิ

Sapling : กูว่าถ้ากูขอร้องยัยโกรธเกรี้ยว แฟนของmaddog01เขาต้องช่วยพูดให้กูแน่ๆ ว่ะ

สุดยอดสาวงาม : มึงไม่ต้องไปขอคนอื่นหรอก เดี๋ยวกูให้มึงเอง

ฟอร์ดกดแลกเปลี่ยนของกับต้นกล้าทันที เขาไม่อยากให้ต้นกล้าทำเรื่องน่าเกลียดกับพี่ชายและคนอื่นๆ

สุดยอดสาวงาม : คราวหน้าถ้ามึงอยากได้อะไรมาขอกูนะ อย่าไปยุ่งกับคนอื่นโดยเฉพาะพี่โกรธเกรี้ยว

ต้นกล้าอ่านประโยคนี้แล้วยิ้มอยู่หน้าจอ แค่รับปากนะได้แต่จะทำตามหรือเปล่านั้นเป็นอีกเรื่อง

Sapling : อิอิ ขอบใจมึงมากนะฟอร์ด



“เป็นเด็กที่นิสัยน่ารักน่าชังจริงๆ”

“ท่านพี่” ฟอร์ดตกใจ เพราะไม่รู้ตัวเลยว่าภาริชมายืนดูหน้าจอของตัวเอง

“ทนเอานะฟอร์ด นายจะทนจนเรียนจบมัธยมปลายใช่ไหม” ภาริชโปรยยิ้ม

ฟอร์ดปวดหัวปวดกระเพราะไปหมด ภาวนาอย่าให้ต้นกล้าก่อเรื่องอย่างที่กลัว



Sapling : ฟอร์ด มึงส่งข้อความลับไปขอmaddog01ไม่สิคุณพี่โกรธเกรี้ยวให้ไปขอพวกmaddog01หาทักษะชุบหมู่ให้กูด้วยสิ มึงสนิทกับพวกเขานี่ ได้ใช่ไหมล่ะ



ฟอร์ดแข็งค้างไม่คิดว่าต้นกล้ามันจะหน้าด้านขนาดนี้ ในตอนนั้นท่านพี่ก็ผลักหัวเขาแล้วยึดพื้นที่รัวแป้นพิมตอบกลับข้อความของต้นกล้า

“พี่ทำอะไรน่ะ” ฟอร์ดโวยวาย เมื่อเห็นข้อความที่พี่ชายพิมพ์เขาก็ตาเหลือก

สุดยอดสาวงาม : ได้สิ เพื่อเพื่อนรักอย่างมึงกูทำได้ทุกอย่าง

“พี่บ้าไปแล้ว...” ฟอร์ดยกมือขึ้นกุมหัว ส่วนภาริชนะหรือยืนแสยะยิ้มดั่งมารร้ายก่อนจะเดินเนิบนาบกลับไปยังที่ของตัวเอง

โกรธเกรี้ยว : นี่ฉันมีเรื่องจะขอร้องนาย ได้ไหม

ภาริชส่งข้อความลับไปหาmaddog01 ทว่าคนที่รู้เห็นข้อความนี้มีsilverfox13ด้วย

maddog01 : ว่ามาเลยยาหยี

โกรธเกรี้ยว : ช่วยหาทักษะชุบหมู่ให้อีกอันสิ

maddog01 : จะเอาไปขายหรือ ถ้าเจ้าขาดเงินขอข้าก็ได้นี่ ไม่สิคลังสมบัติเราเป็นของส่วนรวมเจ้าเอาไปใช้ได้เลยที่รัก

ภาริชยิ้มละไมกับข้อความน่ารักๆ ของmaddog01 และคิดในหัวว่า

<ถ้านายเปย์พี่ในเกม พี่ก็ควรเปย์นายกลับนอกเกมสินะ> อดหัวเราะไม่ได้แล้วเขาก็หัวเราะเสียงต่ำอย่างอารมณ์ดีออกมา

โกรธเกรี้ยว : ไม่ใช่ๆ น้องชายของฉันเขาอยากได้น่ะ

maddog01 : มีตัวสำรองเป็นHigh priestหรือไง

โกรธเกรี้ยว : .....

การที่โกรธเกรี้ยวเงียบไปทำให้maddog01ต้องนั่งอนุมาน คนที่คิดออกเร็วกว่าคือมิวซังที่อยู่ด้านหลัง

“Saplingเพื่อนของสุดยอดสาวงามคงอยากได้น่ะแหละ” มิวซังกล่าวสรุปก่อนจะเดินกลับไปยังหน้าจอของตัวเอง

“เป็นนิสัยที่ประหลาดนะ กล้าขอของกับคนที่พึ่งรู้จักกันวันเดียว ไม่สิ...ต้องบอกว่าฉลาด ใช้เพื่อนเป็นม้าเที่ยวขอของจากคนอื่น”

พฤติกรรมอย่างนี้ไม่ค่อยดี แต่สำหรับคนทั่วไปคงเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงก็ไม่มีทางเห็นตัวจริงอยู่แล้วจะทำน่าเกลียดแบบไหนคงไม่ละอาย แต่นี่ถึงขนาดใช้ให้เพื่อนบากหน้าขอของให้ตัวเองไปเรื่อย

<ถ้าอยากได้ก็น่าจะมาขอเอง หรือว่าเกรงใจ> เอาเถอะเขาจะล่าของให้ก็ได้ ในเมื่อเป็นคำขอของโกรธเกรี้ยว



maddog01 : เดี๋ยวเราอยู่ล่าทักษะชุบหมู่กันอีกชิ้น ที่รักนี่มันเที่ยงคืนแล้ว เจ้ากับสุดยอดสาวงามคงได้เวลานอนแล้วมั้ง ต้องไปเรียนนี่ ฝันดีนะพรุ่งนี้ค่อยมาเอาของนะจ๊ะ จุ๊บๆ



ตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มส่งจูบให้โกรธเกรี้ยว ในสายตาของต้นกล้าแม่มช่างเป็นเรื่องที่ขยะแขยงและน่าหมั่นไส้พิลึก ดีล่ะตัดสินใจแล้ว ไม่เพียงเอาเรื่องของโกรธเกรี้ยวไปบอกเมษาเขาตั้งใจจะหาผลประโยชน์จากไอ้นรินทร์ให้มากที่สุด

ให้แม่มหาของให้กูจนครบ ไม่สิ ต้องเอาไอเทมจากมันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยังไงฟอร์ดมันก็ต้องช่วยอยู่แล้ว

จากนั้นต้นกล้าก็ล็อคเอ้าท์ออกไปพร้อมกันแล้วหยิบมือถือติดต่อหาเมษาหรือเจ้าของแอคเค้าท์ชื่อดังdoghuter00ผู้ชายที่เขาหลงใหลมาตลอด



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เวลาเล่นเกมต้องรู้จักมารยาทกันนิดหนึ่งนะคะ

อย่าคิดแต่ว่ายังไงเขาก็ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

มันจะติดกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดีนะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้เราบ้างนะคะTT
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่11 ความหน้าด้านของsapling 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 07-08-2018 13:23:56
สงสารฟอด
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่12 แผนการของคนเป็นพี่ 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 07-08-2018 18:12:49
บทที่12

แผนการณ์ของคนเป็นพี่

ค่ำวันนี้เรื่องที่ชวนให้กระตุกยิ้มรัวๆ คือการที่บริษัทคู่แข่งประกาศจัดแข่งเกมMilitary strategy ในวันเดียวกับ Battle of the units แถมมาประกาศให้รู้ทั่วกันตัดหน้าแบบนี้ มันชวนให้คิดว่าท้าตีแล้วก็มีสปายแฝงอยู่ในบริษัทของเขา

บริษัทชัยมงคลเป็นบริษัทผลิตเกมคลื่นลูกใหม่ การที่ใครๆ เห็นว่าบริษัทนี้เป็นคู่แข่งของ Ghiblisoft ก็เพราะว่ามักผลิตเกมแนวเดียวมาชน แถมคล้ายกันจนแอบคิดได้ว่าเป็นฝาแฝดอย่างไรอย่างนั้น แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ฝั่งนั้นก็ตั้งใจเลียนแบบผลสำเร็จของ Ghiblisoftอยู่แล้ว

การที่ภาริชไม่ถือสาเรื่องแบบนี้เพราะมันมีเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่ง เป็นเหตุผลที่ถ้ารู้แล้วก็จะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงปล่อยเฉยให้บริษัทชัยมงคลผลิตงานสร้างคอนเทนต์คล้ายๆ กันเรื่อยไปออกมา แต่ก็นะคราวนี้มันน่าจับมาตีนิดหน่อยการจัดงานแข่งเกมชนกันไม่เกิดประโยชน์เสียเท่าไหร่ มันจะกลายเป็นแย่งทรัพยากรและผู้สนับสนุนด้านต่างๆ กันเอง

เห็นทีต้นคิดคงมาจากหัวสมองน้อยๆ ของธันวา ชัยมงคล ผู้ถือหุ้นและผู้บริหารหลักคนปัจจุบัน

“หึ...” ภาริชหัวเราะ เขากำลังคิดว่าจะลงมือกดดันไปดีไหม แต่ก็ตัดสินใจจะปล่อยไปก่อน จริงๆ เรื่องแข่งเกมยังไม่รีบขนาดนั้น ที่เขารอรีไม่ประกาศออกไปเพราะยังอยู่ในช่วงเตรียมการ แล้วก็กำลังพยายามวางแผนให้maddog01ออกจากบ้านมาแข่งเกมในงานที่เขาจัดขึ้น

Paris : ณภัทรฉันคิดว่า คงมีสปาย นายช่วยสืบหาให้ฉันทีนะ

Napat : เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบสืบหาทันที

หลังจากติดต่อณภัทรผ่านทางแอพlเสร็จ ภาริชก็ติดต่อลูกน้องของตัวเองในบริษัทแม่ที่ประเทศf เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยคนนักที่จะทราบ เนื่องจากบิดามารดาของแม่ที่ตายไปเป็นมหาเศรษฐีชาวf ในช่วงสมัยที่ภาริชอายุ 17 เขาสามารถทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นได้เป็นกอบเป็นกำ

จากนั้นหลังเข้าเรียนในระดับวิทยาลัยที่ประเทศaไม่นาน เขาก็รับเอาบริษัทเล็กๆ ของท่านตาท่านยายมาบริหารต่อและผลักดันบริษัทแห่งนี้จนกลายเป็นฐานมั่นจนมีชื่อเสียงในระดับโลกได้ในเวลา 4 ปี

ท่านตาท่านยายดีใจมากกับความสำเร็จของเขา แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหรือผู้ถือหุ้นของบริษัททั้งหมดคือเขา เพราะว่าสมัยนั้นเขายังเป็นเด็กแล้วก็เกลียดความวุ่นวายเป็นที่หนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงจ้างคนมานั่งตำแหน่งประธานคอยรับคำสั่งจากเขาอีกที

ที่จริงแล้วเมื่อถึงเวลาประชุมก็ยังเป็นตัวเขาเองที่คอยออกคำสั่งกับเหล่าผู้จัดการผ่านทาง Video Conference คราวนี้ก็เหมือนกัน เนื่องจากเวลาของประเทศfกับtต่างกัน 5 ชั่วโมง การประชุมรอบบ่ายสามของที่นั่นจึงกลายเป็น 2 ทุ่มของประเทศt

ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ตั้งใจเล่นในการลงดันเจี้ยนพิเศษกับพวกmaddog01แต่ก็ล็อคอินเข้าไปรอตรงบริเวณที่ปลอดภัยพูดคุยกันเป็นพักๆ โดยอ้างว่าต้องทำรายงานนิดหน่อย หลังจากภาริชประชุมเสร็จเรื่องวุ่นวายในเกมก็เกิดขึ้นแทบจะในทันที

ภาริชเห็นฟอร์ดยิ้มเจื่อน ดังนั้นจึงหันไปดูหน้าจอคอมของตัวเองและพบว่าชานมโวยวายอยู่ในช่องทางสื่อสารของตี้

ขานมไข่มุกโคตรอร่อย : เป็นอะไรไปวะสาวงามทำไมไม่ยอมชุบชิวิตข้า นี่รอนานจนโมโหแล้วนะ

ภาริชจำได้ว่าพวกmaddog01มาลงดันเจี้ยนพิเศษเพื่อตีบอสลับเอาทักษะพิเศษของอาชีพHigh priestให้กับเขา ทักษะนั้นคืออมตะหมู่ชั่วระยะ มันจะทำให้เมื่อถูกโจมตีพลังชีวิตคนในตี้จะไม่ลดลงชั่วระยะเวลา 2 นาที ซึ่งมันเป็นทักษะที่ชี้เป็นชี้ตายของการpvpแบบกลุ่มมาก

แถมถึงจะเข้ามาตีบอสลับก็ใช่ว่าของจะตกได้ทุกครั้ง วันนี้ก็นับเป็นรอบที่ 6 แล้วที่maddog01นำพวกเข้ามาล่าบอสเพื่อตกของ ใครล่ะจะไปคิดว่ารอบนี้ขานมไข่มุกจะตายทั้งที่ปกติเป็นคนระมัดระวังตัวมาตลอด

ขานมไข่มุกโคตรอร่อย : ฉันจำได้ว่าให้หนังสือทักษะชุบกับนายไป ยังไม่กดรับทักษะอีกหรือวะ นายเก็บไว้ทำเพื่อ

ขานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่รู้ล่ะนายรีบใช้มันแล้วชุบฉันเดี๋ยวนี้

ฟอร์ดกดดันจนไม่รู้จะยังไง ส่วนไอ้ต้นกล้าตัวแสบนะหรือแม่งนิ่งเงียบเหมือนไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

สาวงามสุดยอด : ตอนนี้ไม่มีแล้ว

ขานมไข่มุกโคตรอร่อย : อะไรวะ นายเอาไปขายหรือไง

ฟอร์ดนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ ใครจะไปคิดล่ะว่าอยู่ๆ ต้นกล้ามันก็ยอมรับความผิดขึ้นมา

Sapling : ขอโทษครับ พอดีว่า สาวงามเขาเอาทักษะนั้นมาให้ผม แล้วผมก็ใช้ไปกับตัวละครสำรองแล้ว

ถึงจะยอมรับก็ไม่ได้หมายความว่าต้นกล้าจะคืนซักหน่อย เขาแสยะยิ้มอยู่หน้าจอที่ด้านหลังพลพรรคไม่ว่าจะเป็นอิงภพอิงฟ้าหรือว่าเมษากำลังจับตาดูการเล่นของเขาในครั้งนี้อยู่

ขานมไข่มุกโคตรอร่อย : ทำไมนายทำตัวทุเรศอย่างนี้วะ

ทั้งฟอร์ดทั้งต้นกล้าคิดว่าชานมด่าสาวงามสุดยอด ฟอร์ดแทบอยากทำให้ตัวเองหายไปจากโลกนี้ ถ้าไม่ติดว่าคนที่โดนด่าไม่ใช่เขา

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : Sapling นายก็รู้ว่าทักษะนั้นสำคัญกับสาวงาม แถมไอ้ทักษะนั่นฉันเป็นคนให้เขา ต่อให้สาวงามยกให้นาย นายก็ควรมีมารยาทไม่รับของไม่ใช่หรือวะ

ทั้งต้นกล้าและฟอร์ดต่างนิ่งอึ้งไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นแบบนี้ แถมชานมยังโวยวายออกช่องสื่อสารของตี้จนคนอื่นๆ รู้กันไปทั่ว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ยังไง Sapling นายจะรับผิดชอบยังไง อย่าว่าแต่ตอนนี้ฉันตายและไม่มีใครชุบ

สาวงามสุดยอด : เออ...ผมว่าผมมีใบชุบติดตัวอยู่นะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่ฉันไม่รับของนาย Sapling ต้องรับผิดชอบ ฉันต้องการใบชุบจาก Sapling

ชานมไข่มุกยื่นคำขาด ต้นกล้าโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่หน้าจอ แม่มเด็กหรือไงวะถึงได้พยายามเอาชนะกูให้ได้ โอเคกูยอมแพ้ก็ได้

ต้นกล้าลงมือชุบขานมไข่มุกขึ้นจากความตายโดยใช้ใบชุบที่แสนราคาแพง เขายังไม่อยากบาดหมางแตกหักกับmaddog01เวลานี้ แต่ก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องปอกลอกเอาคืนให้มากกว่าเดิม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ก็แค่เนี้ย คราวหลังนะ ถ้าอยากได้อะไร ให้บอกออกมาในช่องสื่อสารกลุ่ม อย่าไปแย่งของจากคนอื่นเขาอีก มันน่าเกลียด

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : นายเองก็เหมือนกัน คิดถึงความรู้สึกของฉันที่เป็นคนให้บ้าง ของที่ฉันให้นายเพราะอยากให้เกิดประโยชน์กับนายไม่ใช่กับคนอื่น

สาวงามสุดยอด : ครับพี่ชานม

ไม่รู้ทำไม ฟอร์ดเกิดความปลื้มใจในตัวชานมไข่มุกขึ้นมาอย่างแปลกๆ ตั้งแต่เล็กจนโตคนที่ด่าเพื่อสั่งสอนเขานอกจากพี่ชายแล้วก็ไม่มีใครเลย คนส่วนใหญ่มักจะนินทาสอเสียดเพราะอิจฉาหรือสมเพชเขาที่ไม่มีอะไรสู้พี่ชายเสมอมา

คนคนนี้ทำตัวเหมือนท่านพี่เลย อุตส่าห์ใจดีสั่งสอนเขาทั้งที่ไม่จำเป็น ฟอร์ดคิดว่าตัวเองรู้สึกดีกับชานมสุดๆ ถึงขนาดที่ว่าถ้ามีหางคงกระดิกออกมา

ทั้งที่คิดว่าตัวเองคงถูกต้อนจนมุมแต่พอพี่ชานมออกโรงทุกอย่างก็กลับเข้าที่เข้าทางโดยง่าย เมื่อกี้ก็เกือบแย่แล้ว เพราะต้นกล้ามันโยนความผิดให้เขา ฟอร์ดเริ่มจะรู้สึกชิงชัง ไม่บ่อยครั้งนักที่จะคิดแบบนี้กับต้นกล้า แต่ระยะหลังมันเกิดขึ้นจริงเหมือนอย่างเวลานี้

Sapling : สาวงามเราขอโทษนะ เราไม่ควรเอาแต่ใจขอของจากนาย จากนี้ไปเวลาเราอยากได้อะไรเราจะขอจากพวกพี่ๆ ด้วยตนเอง

ฟอร์ดขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าต้นกล้ายังไม่สำนึก กลายเป็นความผิดพลาดของเขาเปิดโอกาสให้ต้นกล้ามันทำเรื่องหน้าด้านโดยชอบธรรม

maddog01 : เอ้าในเมื่อชุบชานมขึ้นมาแล้ว ก็พร้อมตีบอสแล้วสิ พวกเจ้าอย่าลืมว่าต้องสับกลไกจากห้องเล็กนั้นพร้อมกันกับพวกข้านะ

เพราะว่าก่อนจะเข้าไปห้องบอส พวกเขาต้องแยกกันไปฆ่ามินิบอสเพื่อสับกลไกแต่ละห้อง maddog01คิดว่าแยกกันทำงานน่าจะเร็วขึ้นจึงทำให้ตี้ของพวกเขาแตกออกเป็นสองกลุ่มย่อย ได้แก่ maddog01กับsilverfox13และทางฝั่งฟอร์ดคือสุดยอดสาวงาม ชานม และ Sapling

เวลานี้ก็ตีมินิบอสเสร็จแล้ว ดังนั้นทั้งสองกลุ่มจึงสับกลไกแล้วไปรวมตัวกันอีกครั้ง ภาริชกลับมาบังคับตัวละครตัวเองแล้วอย่างจริงจัง การล่าบอสลับครั้งที่ 4 เริ่มต้นขึ้น พวกmaddog01ใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการฆ่ามัน และผลที่ได้ในครั้งนี้เรียกได้ว่าประสบผลสำเร็จ พวกเขาได้รับทักษะพิเศษของHigh priest มาหนึ่งชิ้น

maddog01 : เยี่ยม...ได้มาซักที ที่รักมาเอาไปสิจ๊ะ

maddog01กดคำขอแลกเปลี่ยนกับโกรธเกรี้ยว ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ Saplingจะส่งข้อความที่ทำให้ฟอร์ดคิ้วกระตุก

Sapling : พวกพี่ๆ ล่าบอสตัวนี้ไปจนกว่าจะตกทักษะพิเศษนี่อีกที่ได้ไหมครับ ผมเองก็จะเล่น High priest ให้หาเองผมคงไม่มีปัญญาแน่ๆ

ฟอร์ดเม้มปากเข้าหากัน ต้นกล้าแม่มโกหก ถ้าหมอนี่อยากได้doghunter00ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว

สุดยอดสาวงาม : มึงกำลังทำอะไรต้นกล้า

ฟอร์ดทักไปหาในช่องติดต่อส่วนตัว

สุดยอดสาวงาม : มึงมีกิลDragonlessหนุนหลังมึงจะขอให้พวกนั้นหามาให้ซักกี่ชิ้นก็ได้

Sapling : ถถถ ฟอร์ดกูแค่ต้องการสนิทสนมกับพวกพี่เขา มึงกลัวกูแย่งเพื่อนไปหรือไง

ฟอร์ดกัดฟันกรอด เขาโมโหขึ้นเรื่อยๆ แล้วกับการกระทำและคำพูดคำจาของต้นกล้า



“แหม น่ารักน่าชังจริงๆ ด้วยนะ”

“ท่านพี่”

ฟอร์ดตกใจ พี่ภาริชย่องมาดูหน้าจอของเขาอีกแล้ว จริงสิตามนิสัยของท่านพี่ย่อมต้องไม่เอาคนอย่างต้นกล้าไว้แน่ ท่านพี่เกลียดคนแบบนี้จะตาย ดังนั้นฟอร์ดจึงยิ้มออก อีกเดี๋ยวท่านพี่ต้องสั่งสอนต้นกล้ามันแน่ๆ แต่ทว่า...กลับเป็นในทางตรงกันข้ามจนฟอร์ดอ้าปากค้าง

โกรธเกรี้ยว : งั้นเอาของฉันไปก่อนก็ได้นะ

“เอ๊ะ” ฟอร์ดอุทานเสียงดัง เขาโดดไปเกาะเก้าอี้พี่ชายรัวคำถามอย่างคำสาป

“ทำไม...ทำไมถึงยอมละท่านพี่”

ถึงจะรัวคำถามแต่ภาริชเหมือนนจะไม่สนใจฟอร์ดเลย

โกรธเกรี้ยว :นายคงไม่ว่าอะไรนะที่รัก ถ้าฉันจะให้ Sapling และขอให้นายล่าบอสอีกเพื่อฉัน

ที่หน้าจอของต้นกล้า เมษายื่นหน้าเข้าไปจ้องจนเกือบชิด เขากำลังเฝ้ารอคำตอบของmaddog01เพื่อประเมินความสัมพันธ์ของmaddog01กับโกรธเกรี้ยว

maddog01 : ได้เลยจ้ะยาหยี เพื่อที่รักข้าทำได้ทุกอย่าง

ฟอร์ดยิ้มเจื่อนๆ ไม่คิดว่าmaddog01จะตามใจพี่ชายถึงขนาดนี้ นี่แสดงว่าชอบพี่ชายเอามากๆ เลย จังหวะนั้นเขาได้ยินเสียงทำนองที่ดังขึ้นในเวลามีคนกดคำขอแลกเปลี่ยนจากโน้ตบุ๊คของเขา

ฟอร์ดกลับไปดูหน้าจอตัวเองและพบว่าชานมเป็นคนขอแลกเปลี่ยนกับเขานั่นเอง เขากดรับและได้ของมามันคือทักษะชุบของอาชีพ Knight of Light ที่ต้นกล้าปล้นไปจากเขา

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : นี่เป็นของส่วนตัวของฉันนายเอาไป

ชานมส่งข้อความสนทนาลับมา ฟอร์ดคาดไม่ถึงว่าจะได้รับความใจดีจากอีกฝ่ายมากขนาดนี้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : คราวหน้าคราวหลังถ้าเจ้า Saplingมาเอาเปรียบนายอีกอย่าไปยอม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ถ้าเกิดนายป๊อด ก็บอกอาเฮียคนนี้เดี๋ยวเฮียจัดการให้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เข้าใจใช่ไหมเจ้าโง่

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไหนทำไมไม่พิมพ์กลับมาละวะ เอ๋อแดกหรือไงวะ

ฟอร์ดรีบพิมพ์โต้ตอบกลับไปไม่ทัน

สุดยอดสาวงาม : ขอบคุณครับพี่ชานม เอ่อ... ผมขอไอดีlของพี่ไว้ติดต่อส่วนตัวได้ไหมครับ



“ตายแหล่ว...” ฟอร์ดกุมขมับแล้วร้องครวญคราง เขากำลังคิดว่าตัวเองดูเหมือนโรคจิตที่อยู่ๆ ก็ไปขอติดต่อส่วนตัวแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจมันเรียกร้องให้ทำอย่างนี้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ได้สิไอ้น้อง

แล้วชานมไข่มุกก็ให้ไอดีแอพlกับฟอร์ด การที่เขายอมให้ไปง่ายๆ อย่างนี้ นั่นเป็นเพราะคำขอร้องจากโกรธเกรี้ยวในฐานะพี่สาวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

วันนั้นหลังจากโกรธเกรี้ยวล็อคเอ้าท์ออกไปพร้อมสุดยอดสาวงามรอบหนึ่งเจ้าหล่อนก็กลับเข้ามาในเกมใหม่

โกรธเกรี้ยว : มีเรื่องจะขอร้อง

Maddog01 :เรื่องอะไรหรือที่รัก

สำหรับmaddog01ที่ปลื้มๆ โกรธเกรี้ยวก็คงยอมทุกอย่าง แต่ไม่ใช่กับชานมคนนี้แน่ๆ หากไม่มีเหตุผลเขาไม่ทำตามง่ายๆ

โกรธเกรี้ยว : ถ้าหากว่าSapling มาขอของจากพวกเราอีกก็ขอให้ช่วยมอบของให้ตามความเอาแต่ใจของเขาด้วยนะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ทำไมเราต้องทำอย่างนั้นด้วย ฉันไม่ชอบคนที่มีนิสัยขอเอาอย่างเดียว อีกอย่างเธอมีสิทธิอะไรมาสั่งเราแบบนี้

โกรธเกรี้ยว : ฉันจะจ่ายของที่พวกคุณให้Sapling ด้วยบัตรเติมเงินของฉันเอง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : บ้าหรือเธอทำอย่างนั้นทำไม

ชานมไข่มุกเป็นคนแรกๆ ที่หัวเสีย ในขณะที่maddog01กับsilverfox13ฟังเงียบๆ

โกรธเกรี้ยว : น้องชายของฉันชอบเด็กคนนี้ และเป็นหลายๆ ครั้งที่โดนเอาเปรียบโดนแกล้ง น้องชายยอมทนเพราะว่าชอบเด็กคนนี้มาก

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : อ่าว โง่นี่

โกรธเกรี้ยว : นั่นสิโง่จริงๆ ด้วย

Silverfox13 : แต่ทำแบบนี้มันจะได้อะไร ช่วยบอกเหตุผลทีสิ ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดี เราคงทำแบบที่เธอว่าไม่ได้

โกรธเกรี้ยว : ฉันยอมจ่ายเพื่อให้Saplingแสดงความละโมบมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าฟอร์ดเห็นเนื้อแท้ของSaplingอีกหน่อยคงเข้าใจ ถึงเด็กคนนั้นจะบอกว่าพอจบมัธยมปลายก็จะเลิกคบกับSapling

โกรธเกรี้ยว : แต่ถ้าปล่อยนานไปหากน้องชายยังตัดไม่ขาด ก็ไม่รู้ว่าคนๆ นี้จะเกาะน้องชายของฉันไปอีกนานแค่ไหน ถึงน้องชายจะบอกว่าต้องเลิกคบแน่ๆ เมื่อจบมัธยมปลาย แต่ถ้าอีกฝ่ายมาขอร้องเพราะเดือดร้อนล่ะ จะเป็นยังไง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เป็นเจ้าบ้าที่ใจดีไปเรื่อยสินะ

โกรธเกรี้ยว : ใช่แล้วล่ะ เป็นเจ้าบ้าที่ใจดีและฉันก็เลี้ยงดูเขามาให้ซื่อบริสุทธิ์แบบนั้น

โกรธเกรี้ยว : เพราะงั้นในฐานะพี่แล้ว ก็อยากจะปกป้องน้อง ด้วยการทำให้น้องเจ็บที่สุดตอนนี้ จะได้เติบโตสักที

โกรธเกรี้ยว : จะได้รู้ว่าคนที่หวังแต่จะเอาประโยชน์ สุดท้ายแล้วก็จะกอบโกยไม่มีที่สิ้นสุด

โกรธเกรี้ยว : โชคยังดีว่านี่คือโลกของเกม เพราะงั้นมันจะจบแค่เพียงในเกม

โกรธเกรี้ยว : พวกคุณจะยอมร่วมมือกับฉันไหม

ชานมจำได้ว่าตอนนั้นถึงกับน้ำตาซึมเพราะความรักในฐานะพี่สาวของโกรธเกรี้ยว ผู้หญิงคนนี้ยอมเป็นมารร้ายเพื่อน้องชายที่รัก คนใจอ่อนอย่างชานมย่อมยอมร่วมมืออยู่แล้ว ขณะที่จะพิมพ์ตอบตกลงก็ถูกmaddog01ตัดหน้าไปก่อน

Maddog01 : ที่รักข้าจะช่วยเอง น้องของเจ้าก็คือน้องช้าเช่นกัน

ตัวละครดาร์คเอล์ฟหนุ่มกอดตัวละครสาวอกแบนโลลิไว้ในอ้อมกอด

สำหรับmaddog01การกระทำของโกรธเกรี้ยวทำให้นึกถึงพี่ชายกับมิวซัง เขาเองในยามที่ถูกย่ำยีมาจนบอบช้ำ หากไม่มีทั้งสองคนนั้นก็คงไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้

ถึงว่าตนเองยังอยู่ในสถานะของคนพ่ายแพ้ เป็นฮิคิโคโมริที่ไม่กล้าสู้แสงตะวัน แต่เขาเลือกทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะกับโกรธเกรี้ยว เขาจะเป็นคนช่วยฉุดน้องชายคนนั้นจากโคลนตมเอง เขาไม่อยากให้น้องชายของโกรธเกรี้ยวต้องมามีสภาพคล้ายเขาในตอนนี้

เวลานี้คนที่เข้าใจmaddog01ว่าคิดอย่างไรคงมีแต่silverfox13 maddogน้อยคงเห็นเงาตนเองในตัวของสาวงามสุดยอด เพราะว่านับตั้งแต่รู้เรื่องราวการถูกกลั่นแกล้งของน้องชายคนนั้นก็มีบ่นให้ฟังบ่อยๆ ด้วยความเป็นห่วงทั้งที่ไม่ใช่เรื่องซักนิด

maddogน้อย เป็นห่วงสาวงามสุดยอดเพราะคิดว่าเด็กคนนั้นเป็นเพื่อนคนหนึ่งของตัวเองแล้ว แม้จะระยะเวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่การที่เป็นเช่นนี้เนื่องการเป็นคนที่ถูกรังแกเช่นเดียวกัน

ก็ดีแล้ว การได้ปกป้องคนอื่นจะทำให้คนคนนั้นเติบโตขึ้น maddogน้อยยิ่งเข้มแข็งและโตเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ หนทางที่จะออกไปสู่โลกภายนอกก็ยิ่งใกล้เข้ามาเท่านั้น

Silvrfox13 : เธอไม่ต้องจ่ายเงินเราหรอกโกรธเกรี้ยว เราเป็นเพื่อนกัน เรื่องแค่นี้ช่วยกันได้อยู่แล้ว

ชานมไข่มุกโคตรรอร่อย : จริงด้วย ไม่ต้องจ่ายหรอก แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงซักนิด

การประชุมเพื่อฟอร์ดในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดี นับจากนี้เจ้าน้องชายจะได้เห็นความละโมบอันไม่สิ้นสุดของต้นกล้า ภาริชอยากรู้เหมือนกันว่าความอดทนของน้องชายของเขาอยู่ในระดับไหนกันแน่



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เราติดธุระสองสามวันนะคะ ดังนั้นสองสามวันนี้อาจไม่ลง

เราก็เลยใช้เวลาว่างแต่งเพิ่มมาเบิ้ลอีกตอน

จะรีบกลับมาแต่งค่ะ ไม่อยากผิดนัดกับนักอ่านล่ะนะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่12 แผนการของคนเป็นพี่ 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 07-08-2018 20:21:31
 :katai3:หายสามวันควรเบิ้ลสามนะอิอิ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่12 แผนการของคนเป็นพี่ 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-08-2018 22:24:08
ฟอร์ด นายจะอดทนไปถึงไหน  เซ็งฟอร์ด  มีอารมณ์กับเขาบ้างไหมเนี่ย  :z3: :z3: :z3:
ต้นกล้า นิสัยเลววววววววววววว ร้ายยยยยยยยยยยยยย อย่างนี้   :angry2:
หน้าด้าน เห็นแก่ตัว เพิ่งเข้ามา
ไม่สนิทคุ้นเคย ยังกล้าขอของเขาใหญ่เลย  รับไม่ได้  โคตรแย่ๆๆๆๆๆๆ  :fire:
   
ภาริช  สั่งสอน เอาคืนให้หนักๆเลย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่12 แผนการของคนเป็นพี่ 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 08-08-2018 10:36:46
มาต่อเร็วนะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่13 คำเชิญชวนของชานม 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 08-08-2018 11:34:56
บทที่13

คำเชิญชวนของชานมฯ

Sapling : วันนี้มึงมีธุระที่ไหนหรือเปล่า มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ

ข้อความของต้นกล้าเด้งมาหาแต่เช้า วันนี้เป็นวันหยุดฟอร์ดจึงว่างทั้งวัน แต่เขาก็ไม่อยากเห็นหน้าต้นกล้าในวันดีๆ แบบนี้เสียเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่กดเข้าไปอ่านและไม่ยอมตอบกลับ

“ใครส่งข้อความมา”

ภาริชถาม สีหน้าเครียดๆ ของน้องชายทำให้บรรยากาศทานอาหารยามเช้ากร่อยไปนิด

“เจ้าต้นกล้าหรือเปล่า”

ฟอร์ดพยักหน้าตอบแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ

“เช้านี้ฉันจะไปรับลูกแมวมาหนึ่งตัว นายจะไปด้วยกันไหม”

“ลูกแมว....อ๋อ...อย่าบอกนะว่าพี่จะซื้อให้maddog01 พี่จะไปบ้านของเขาหรือ”

ฟอร์ดยอมรับว่าตกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าท่านพี่จะจริงจังกับmaddog01มากขนาดนี้

“เอาจริงๆ ฉันเคยไปบ้านเขามาหลายครั้งแล้วตลอด 4 ปี เขาเป็นน้องชายของณภัทร”

“พี่ณภัทรเลขาฯ ของท่านพี่อะนะ”

นับเป็นข้อมูลใหม่ที่ฟอร์ดไม่คาดคิดมาก่อน เขาเคยเจอพี่ณภัทรหลายครั้ง เลขาฯ ของท่านพี่คนนี้ใจดีและรอบรู้มาก แต่เขาไม่คิดว่าน้องชายของคนที่สมบูรณ์พร้อมขนาดนั้นจะกลายเป็นฮิคกี้ไป ก็เขาไม่เคยถามนี่นะ

จังหวะที่อ้าปากจะคุยต่อต้นกล้าก็ส่งข้อความมารัวๆ ฟอร์ดแค่ยกมือถือดูคร่าวๆ เลือกที่จะเมินเฉย ถ้าไม่ติดว่าพี่ชานมฯ ส่งข้อความมาหา ดังนั้นเขาจึงเลือกอ่านแค่คนที่อยากคุยด้วย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เฮ้ยแอดเป็นเพื่อนกันในแอพlแล้วไม่คิดจะคุยกับฉันเลยหรือวะ

ท่าทางกระตือรือร้นของฟอร์ดทำให้ภาริชลุกเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ แล้วอ่านข้อความไปพร้อมกัน

Ford : เอ่อผมเห็นพี่ขึ้นสถานะว่าไม่ว่างตลอดเลยไม่กล้าทักไปกวนนะครับ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เอ่อนั่นแหละ ไม่กวนอะถูกแล้ว ทางนี้ยุ่งมากแถมต้องการความช่วยเหลือจากคนหน้าตาดีอย่างนายด้วย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : นายสูงเท่าไหร่วะ

Ford : ก็ประมาณ 180 ไม่สิ ที่วัดล่าสุดรู้สึกจะ 183 ครับ

พออ่านข้อความของฟอร์ดชานมฯ ก็อดเดาะลิ้นไม่ได้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : นายสูงกว่าฉันอีกหรือวะเนี่ย

Ford : พี่สูงเท่าไหร่ครับ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : 178 แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของฉันเท่าไหร่หรอกโว้ย



“นายแอดเป็นเพื่อนกับชานมตั้งแต่เมื่อไหร่ฟอร์ด”

ฟอร์ดหันไปก็ปะเข้ากับรอยยิ้มประดุจเทพธิดาของท่านพี่ โอ๊ยตายแล้ว...นี่คงไม่ได้วางแผนแกล้งใครอีกใช่ไหม

“ง่าเดี๋ยวก่อนนะท่านพี่ ผมขอคุยกับพี่ชานมให้เสร็จก่อน”



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : มาช่วยงานกันหน่อยเด๊ะ แล้วจะได้ค่าขนมกับประสบการณ์ดีๆ



ช่วยงานงั้นรึ ฟอร์ดไม่รู้เลยว่างานอะไร แถมพี่ชานมฯ ก็เป็นคนที่ยังไม่เคยเห็นหน้า ถึงจะรู้สึกดีก็เถอะแต่มันแปลกๆ อยู่นะ เขาลังเลนิดหน่อยแต่ในใจลึกๆ คืออยากไป

“ไปสิ”

“เอ๊ะ...” ฟอร์ดหันไปมองพี่ชายหน้าเหรอหรา “ท่านพี่จะอนุญาตให้ผมไปจริงๆ นะ”

“ทำไมล่ะ ยังดีกว่าไปหาเจ้าต้นกล้าไม่ใช่รึ”

“แต่ท่านพี่ตั้งใจชวนผมไปรับลูกแมวด้วยกัน”

“นายไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้าไปช่วยชานมฯ จะได้ทั้งเงินทั้งประสบการณ์เชียวนะ”

ภาริชลุกจากเก้าอี้ เขาใช้สายตาเป็นประกายมองดูฟอร์ด เขารู้อยู่แล้วเรื่องของชานมฯ อีกฝ่ายมาบอกเขาเรื่องที่จะช่วยดึงน้องชายออกห่างจากต้นกล้าให้เอง เจ้าชานมฯ คนนั้นเป็นพวกเต็มไปด้วยพลัง ก็คิดอยู่ว่าฟอร์ดคงได้อะไรดีๆ จากหมอนั่นเยอะ

“งั้นผมไปนะ”

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เฮ้ยทำไมเงียบล่ะ ตกลงจะมาไหม

ข้อความของชานมเด้งขึ้นมาระหว่างที่ฟอร์ดคุยกับภาริช

“เอาสิ” ภาริชออกคำสั่งช่วยผลักดันฟอร์ดอีกทาง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าฟอร์ดเองก็อยากไป แค่ลังเลเท่านั้นแหละ



ชานมไข่มุกโคตรอร่อยเป็นแอคเค้าท์ชื่อดังในวงการเกม ว่ากันว่าเป็นเสมือนมือซ้ายของmaddog01เช่นเดียวกันกับsilverfox13 ทว่าทั้งสามคนนั้นเหมือนๆ กันคือไม่เปิดเผยหน้าตาและฐานะ ความเป็นปริศนาของสามแอคเค้าท์ชื่อดังมันกลายเป็นเสน่ห์มากล้นสำหรับพวกแฟนคลับเหลือเกิน

ไม่มีใครคิดหรอกว่าsilverfox13ที่แสนเงียบขรึมชาญฉลาดเป็นเด็กผู้หญิง และไม่มีใครคิดหรอกว่าชานมไข่มุกโคตรอร่อยเจ้าของตัวละครอกแบนโลลิตลอดกาลจะเป็นดารานายแบบชื่อดังที่สุดของวงการบันเทิงในตอนนี้

ตะวัน โยธาบดี นั่งรอเป้าหมายของตนกับผู้จัดการส่วนตัว รอบข้างของเขาเต็มไปด้วยพวกสาวๆ ที่ชม้ายมองมาด้วยสายตาระยิบระยับ แน่ล่ะด้วยเรือนกายสูงโปร่งกับกล้ามเนื้อสมส่วน อีกทั้งหน้าตาที่จัดว่างดงามจนต้องเหลียวหลัง ท่วงท่าการวางตัวเดินเหินงามสง่า การพูดการจาก็ดูเปิดเผย จึงทำให้ได้รับตำแหน่งดาราขวัญใจมหาชน 4 ปี ซ้อนเลยทีเดียว

ทั้งที่คิดว่าตัวเองนี่เป็นชายรูปงามสุดๆ แล้ว แต่พอเห็นเจ้าเด็กที่นัดไว้เดินตรงมาหาอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ก็เกิดความรู้สึกที่ว่าเหนือตะวันยังมีอวกาศด้วยหรือนี่

ตะวันหรือชานมฯ เลิกคิ้ว สาวงามสุดยอดที่เห็นจากรูปในแอพlว่าดูดีมากแล้ว ทว่าตัวจริงนี่เรียกเป็นเทพบุตรได้เลย ด้วยผมและดวงตาสีเฮเซลนัททำให้รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นลูกครึ่ง

แถมรูปร่างยังดีมากสังเกตได้แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าปิดบัง เรือนกายของอีกฝ่ายไม่หนาจนดูจนน่าเกลียดแต่ออกไปทางกล้ามเนื้อแบบลีน นี่เห็นได้ชัดว่าฝึกฝนทั้งเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ

“เอ่อ...พี่ชานมหรือครับ”

ฟอร์ดเริ่มไม่แน่ใจ แต่ข้อมูลที่พี่ชานมให้มาตรงกับคนคนนี้ทุกอย่าง ทว่า...ผู้ชายคนนี้คือดารานายแบบชื่อดัง เทพบุตรที่ได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนตลอด 4 ปีเลยนะ

“เอ๋อ...จนหมดความหล่อเลยนะเจ้าโง่” ตะวันเบ้ปากยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย “นี่คือผู้จัดการของฉันพี่ภูมิ เขาจะแจกแจงเรื่องงานให้นายรู้อีกทีนะเจ้าบื้อ”

“สวัสดิ์ดีครับ น้อง....เอ่อ น้องชื่ออะไรนะ” ผู้จัดการร่างเล็กหน้าตาใจดีขยับแว่นตากรอบทองให้เข้าที่

แม้ภายนอกจะรักษาความนิ่งและสง่าสมเป็นผู้จัดการมือทองไว้ได้ แต่ในใจเหมือนกำลังจุดพลุเฉลิมฉลอง ตอนแรกก็กลุ้มใจว่าจะหาคนมาแทนมาวินเด็กในสังกัดที่ดูดีแต่หน้าแต่ไม่รู้จักเอางานเอาการยังไงดี

ที่ตั้งใจไว้ตอนแรกก็แค่หาคนแทนชั่วคราว แต่กับเจ้าหนูนี่ ภูมิหมายมั่นเอาไว้แล้วว่าต้องจับมาเซ็นสัญญาให้ได้ เชื่อมือผู้จัดการมือทองได้เลย

“ฟอร์ดครับ ผมชื่อฟอร์ด พัชรกานต์กุล”

“โอเค งั้นเราไปกันได้หรือยังพี่ภูมิ เดี๋ยวทีมงานเขาจะรอนานนะ” ตะวันลุกขึ้นยืนก่อนใคร ทำให้ฟอร์ดต้องลุกขึ้นตามทั้งที่พึ่งมานั่งได้แป๊บเดียว

“เอ่อ...พี่ชา...พี่ตะวันเราจะไปไหนครับ”

“สตูดิโอ...นายสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะช่วยงาน ห้ามหนีห้ามปฏิเสธ”

ใครจะไปคิดล่ะว่าการมาหาชานมฯ ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวแรกสู่วงการบันเทิงของฟอร์ด และเขาก็ไม่ได้ออกจากวงการนี้ง่ายๆ เพราะตะวันหรือแม้แต่พี่ภาริชคอยผลักดันจนในที่สุดเขาเองนั่นแหละที่เริมชอบมันขึ้นมา



ภาริชกลับบ้านมาพร้อมลูกแมวพันธ์แร็กดอลล์ตัวผู้ที่แสนน่ารัก เขาคิดว่าจะให้ลูกแมวพักผ่อนหนึ่งวันก่อนจะพาไปมอบให้เจ้าฮิคกี้น้อยพร้อมกับแชมพูหอมๆ

“จะดีใจไหมน้า...” ภาริชใช้มือจิ้มๆ พุงของลูกแมวที่นอนหลับบนโต๊ะทำงานของเขา “ว่าไง นายคิดว่าเจ้าฮิคกี้น้อยจะดีใจไหม”

ภาริชยกโค้งมุมปากขึ้น แค่นึกถึงสีหน้าดีใจหรือเอ๋อๆ ของเจ้ารินเขาก็สนุกแล้ว <ต้องอดใจรอให้ถึงวันพรุ่งนี้หรือนี่> แต่ก็นะเขาไม่ตื่นเต้นกับการเซอร์ไพรส์ใครอย่างนี้นานแล้ว ตั้งแต่มีเจ้าmaddog01เข้ามา ชีวิตเขาก็ดูมีสีสันมากมายเต็มไปหมด ก่อนหน้านั้นกำลังเบื่อหน่ายกับความเปล่าเปลี่ยวพอสมควร

“คุณท่านค่ะ คุณฟอร์ดกลับมาแล้วนะคะ”

สาวใช้รายงานที่หน้าห้องโดยไม่เปิดประตูเข้ามารบกวน ภาริชลุกขึ้นอุ้มเจ้าลูกแมวไปด้วย จริงๆ ก็รู้จากชานมฯ แล้วว่าวันนี้ฟอร์ดทำอะไรบ้าง ภาริชนั้นแอดเพื่อนในแอพlกับพวกmaddog01ไว้ก่อนหน้าแล้ว เขาไม่กลัวตัวตนถูกเผยเท่าไหร่

แถมรูปของเขาที่แสดงให้เห็นเป็นรูปกระต่ายน้อยน่ารักน่าชังขนาดนั้นคงไม่มีใครคิดสงสัยหรอก เขาเองถ้าไม่ถามก็ไม่ตอบ แต่ถ้าถามคงบอกออกไปตรงๆ ไม่คิดปิดบัง ทั้งอย่างนั้นก็ไม่เห็นมีใครสนใจถามซักราย

“ไง...เจ้าบื้อ”

“พี่เรียกผมเหมือนพี่ตะวันเลย”

ฟอร์ดวางกระเป๋าแล้วลดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างอ่อนล้า

“วันนี้ทำอะไรมาบ้าง” ภาริชถาม เขานั่งลงข้างๆ ฟอร์ด

“ถ่ายแบบของนิตยสารxxxคู่กับพี่ตะวัน”

“สนุกไหม”

พอพี่ชายถาม ฟอร์ดก็ระลึกถึงเหตุการณ์ช่วงนั้น

“กรี๊ด...ดีมากค่ะน้องฟอร์ดเป็นธรรมชาติมากค่า”

ตากล้องสาวประเภทสองคนนั้นเอาแต่พร่ำชมจนฟอร์ดเริ่มจะสงสัยว่ามันดีจริงหรือ เขาไม่ได้คลี่ยิ้มดูสะดุดตาหรือแปลกพิศดาลอะไรเลย แค่ทำตามที่พี่ตะวันบอกก่อนหน้านั้น

‘ตอนนายยิ้มให้นึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดนะ เป้าหมายคราวนี้ของงานคือเด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มที่ดูมีความสุขที่สุด’

ความสุขของฟอร์ดคือตอนที่รู้ว่ายังมีพี่ชายเหลืออยู่ ตอนที่พ่อแม่ตายใหม่ๆ พี่ชายเป็นคนที่คอยพยุงเขาเอาไว้จนเป็นอย่างทุกวันนี้ ฟอร์ดยังจำความสุขเมื่อครั้งที่พี่ภาริชบินกลับมาจากต่างประเทศได้ เพราะอย่างนั้นงานวันนี้จึงจบไปอย่างราบรื่น

“ยิ้มสวยนี่หว่า มีความสุขขนาดนั้นคิดถึงเรื่องอะไรวะ” ตะวันถาม เขากำลังรอคำตอบจากฟอร์ด จริงๆ ก็รู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่รูปหล่อเกินมาตรฐาน ยิ่งพอมายิ้มจากใจด้วยแบบนี้ แม้แต่ตัวเองยังเหมือนถูกทำดาเมจ

“น้อยคนนักนะเฟ้ย ที่ท่านตะวันคนนี้จะรู้สึกติดใจ นายทำสำเร็จแล้วนะไอ้น้อง”

ตะวันหัวเราะแล้วตบบ่าฟอร์ดป้าบๆ

ฟอร์ดรู้สึกดีมากทีเดียวกับการปฏิบัติตัวที่ตะวันมีต่อตัวเอง “ผมนึกถึงตอนที่ท่านพี่บินกลับมาหาเมื่อครั้งพ่อกับแม่ตายใหม่ๆ นะครับ ตอนนั้นมีความสุขมากเลย เพราะว่าในที่สุดก็มั่นใจได้ว่าตัวเองจะไม่ถูกทิ้ง”

ตะวันทำหน้าขรึม “ทำไมถึงคิดว่าจะถูกทิ้ง”

“ท่านพี่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเรา แถมคุณตาคุณยายยังหมายมั่นให้พี่ไปสืบกิจการที่นั่นต่อ ทำให้ผมแอบคิดว่าท่านพี่คงไม่กลับมาอีกแล้ว ผมกลัวแทบตาย กลัวว่าคุณอาวิทย์จะเข้ามาเป็นผู้จัดการมรดก ทั้ง ที่จริงๆ มันเป็นไปไม่ได้ ก็ยังเด็กล่ะนะ แถมอาวิทย์ก็ขู่ด้วยสีหน้าจริงจังเสียด้วย”

“นายนี่มันโง่บื้อมาตั้งแต่ยังเด็กสินะ” เมื่อตัดสินใจได้ ตะวันก็ดีดนิ้วดังแปะ “ฉันตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่นี้ไปนายมาเป็นเด็กในอาณัติของฉัน รับรองนายจะรุ่งโรจน์ในฐานะดารานายแบบตามก้นฉันมาติดๆ ตกลงนะ”

“เอ๊ะ...เอ่อ...ผมว่า....ไม่ดีมั้ง” ฟอร์ดยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้คิดถึงการเข้าวงการบันเทิงในรูปแบบนี้มาก่อน

“ไม่ดีอะไรวะ นายมันมีพรสวรรค์ ทั้งรูปร่างหน้าตาก็แสนจะดูดีเกินมาตรฐาน แถมวิธีการทำงานก็ใช้ได้ อย่าโง่หน่อยเลยน่า เรื่องดีๆ ไม่ได้มีเข้ามาทุกวันนะโว้ย

“จริงด้วยๆ เรื่องดีๆ กำลังจะเกิดขึ้นนะน้องฟอร์ด นี่คือเอกสารสัญญา เอาไปให้ผู้ปกครองดูนะ แล้วนี่ก็เบอร์ติดต่อของพี่ภูมิเอง อย่าลืมให้ผู้ปกครองโทรมานะ”

ภูมิผู้จัดการมือทองส่งซองเอกสารให้ฟอร์ด เขาหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ว่ายังไงจะต้องได้เด็กนี่มาเข้าสังกัดให้ได้ ไม่ยอมให้หลุดมือไปเด็ดขาด



หลังจากเล่าทุกอย่างให้ภาริชฟังฟอร์ดก็สบายใจขึ้นมาก เขาอยากขอคำปรึกษาจากท่านพี่ว่าควรเอายังไงดี

“พี่ว่าผมควรเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งเดียวกับพี่ตะวันไหม”

ภาริชคลี่ยิ้มเขาอ่านเอกสารสัญญาจบในเวลาไม่นาน “นายชอบไหมล่ะ”

“ผมชอบงานแบบนี้นะ ตอนที่ทำงานในสตูดิโอรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง”

“งั้นก็เอาสิ ดีกว่าเอาเวลาว่างไปถมให้กับเจ้าเด็กต้นกล้านั่นตั้งเยอะ”

พูดถึงมารผจญ มารผจญก็ติดต่อมาทันที

Sapling : วันนี้มึงจะเล่นเกมกับกูไหมฟอร์ด

Sapling : มึงเป็นอะไรไม่ตอบเลยทั้งวัน

Sapling : มึงงอนอะไรกูรึไงฟอร์ด



สงสัยว่าคงต้องตอบกลับไปบ้างแล้ว ฟอร์ดกดๆ จิ้มๆ หน้าจอมือถือพิมพ์ตอบกลับไป

Ford : ก็กูไม่ได้ว่างทั้งวันนี่

Ford : กูเองก็มีงานมีการต้องทำนะ

Sapling : มึงนี่นะทำงาน คนที่มีเงินมากจนไม่ต้องทำงานอย่างมึงนี่นะ

Ford : ใช่

Sapling : มึงทำงานอะไร

Ford : ถ่ายแบบ

Sapling : มึงโกหกใช่ไหมฟอร์ด

Ford : ไม่ได้โกหก พี่ชานมพากูไปเจอผู้จัดการที่ชื่อ ภูมิ ไกรลาศ



ต้นกล้าทำหน้าปั้นยากอยู่หน้าจอมือถือ ภูมิ ไกลลาศ นี่ทำไมจะไม่รู้จัก ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้จัดการมือทองที่ปั้นดารานายแบบให้โด่งดังสุดขั้วมาหลายต่อหลายคน ยิ่งกับคนล่าสุด นายตะวัน โยธาบดี นี่ยิ่งการันตีในฝีมือ

“ไหนว่าจะนัด นายคนที่ชื่อว่าฟอร์ดออกมาได้ไง ต้นกล้า”

ต้นกล้าเงยหน้าขึ้น รีบปั้นหน้ายิ้มประจบประแจงเมษาทันที

“ก็หมอนั่นมันดันไม่ว่าง” ต้นกล้าทำเสียงอ่อยๆ เมษายกมือขึ้นกอดอกแล้วเอนหลังพิงโซฟา

คนที่เขาแอบหลงรักคนนี้นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเอามากๆ แล้ว ยังมีหน้ามีตามีฐานะ เมษา เป็นลูกชายคนเดียวของ ธันวา ชัยมงคล ทายาทผู้ที่จะขึ้นมากุมอำนาจบริษัทชัยมงคลคนต่อไป ดังนั้นไม่ว่าจะเดินเหินหรือทำอะไรก็ตาม เมษาก็เต็มไปด้วยสง่าราศรีของคนมีอันจะกิน

ต้นกล้ารักทุกอย่างที่คนคนนี้เป็น ถึงแม้ว่าปีสองปีมานี้จะมีใจเอนเอียงไปหาฟอร์ดบ้างก็ตาม ก็ฟอร์ดมันใจดีกับเขามากนี่ แล้วที่โรงเรียนเขาก็ไม่มีใครนอกจากมัน

ทว่าถึงแม้ฟอร์ดจะหน้าตาดีกว่าเมษา แต่นิสัยของสัตว์ประเภทกินพืชนี่ไม่ใช่แบบที่ชอบซักนิด ความที่ใจดีและซื่อบริสุทธ์มากเกินไปมันทำให้น่าเบื่อ แถมทำตัวเป็นคนดีเสียเหลือเกิน คอยห้ามคอยสั่งสอนด้วยคำพูดที่เหมือนเขาเป็นเด็กๆ ทำให้อดไม่ได้ที่จะเสียดสีรังแกให้หายคับข้องใจ

คนที่ไม่เอาไหนอย่างฟอร์ดนะหรือจะเป็นนายแบบ แป๊บๆ ก็เลิกทำงานนี้แล้วมั้ง ไม่เห็นมีอะไรต้องห่วงเลย ยังไงหมอนั่นก็ไม่มีทางพ้นจากมือเขาไปได้หรอก คิดได้อย่างนั้นต้นกล้าก็ปัดเรื่องของฟอร์ดทิ้งแล้วฉีกยิ้มประจบเอาใจเมษาที่อยู่ตรงหน้าแทน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



น้องฟอร์ดนางเป็นคนซื่อๆ อาจมีหลายส่วนขัดใจนักอ่านหน่อยนะคะ5555



นางจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ นางยังแค่อายุ17 เท่านั้นเอง



แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่13 คำเชิญชวนของชานม 8/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 08-08-2018 17:58:48
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่13 คำเชิญชวนของชานม 8/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-08-2018 19:56:44
รำคาญต้นกล้ามากๆ  :serius2:
อยากให้เจอกรรมสนองบ้าง   :z6:
ที่ผ่านมามีแต่ทำไม่ดีกับคนอื่นตลอด    :fire:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่13 คำเชิญชวนของชานม 8/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 09-08-2018 09:33:27
เกลียดอิต้นกล้า
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่14 เป้าหมายของแต่ละคน 9/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 09-08-2018 11:05:21
บทที่13

เป้าหมายของแต่ละคน

ต้นกล้ายังคงสงสัยว่าฟอร์ดพูดจริงไหม ดังนั้นสิ่งแรกที่ทำเมื่อพบกับชานมฯ ในเกมคือถามเรื่องโมเดลลิ่งที่ฟอร์ดเคยโม้เอาไว้

Sapling : พี่ชานมฯ ๆ ฟอร์ดเล่าให้ผมฟังว่าพี่พาฟอร์ดไปแนะนำกับโมเดลลิ่ง จริงหรือเปล่าครับ

ต้นกล้าถามขณะที่ทุกคนกำลังเก็บเลเวลกัน คราวนี้พวกเขามาล่าของให้กับ Sapling ตามที่อีกฝ่ายรบเร้าขอเอาไว้

สำหรับmaddog01และsilverfox13 ทั้งคู่ต่างรู้เรื่องของชานมดี ชานมฯ เปิดเผยตัวให้พวกเขาทราบนานแล้ว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ใช่มีอะไรหรือไงไอ้น้อง

Sapling : พี่พาผมไปพบโมเดลลิ่งด้วยสิ ผมก็อยากเข้าวงการเหมือนกัน



ฟอร์ดอับอาย และไม่คิดว่าจะมีอะไรอย่างอื่นให้อับอายได้มากเท่ากับตอนนี้ ต้นกล้ามันกล้าเสียมารยาทตื้อขอให้คนอื่นทำตามความเอาแต่ใจอีกแล้ว ทำกับเขายังพอว่า แต่นี่มันกับพี่ชานมฯ เขาไม่อยากให้หมอนั่นไปวุ่นวายกับพี่ชานมฯ ดังนั้นจึงรีบพิมพ์ข้อความลับไปหาต้นกล้า

สาวงามสุดยอด : มึงจะทำอะไรอีกต้นกล้า

สาวงามสุดยอด : จู่ๆ ไปขอพี่เขาแบบนั้น

สาวงามสุดยอด : มึงสนใจวงการนี้ด้วยหรือไง

สาวงามสุดยอด : เมื่อวานมึงยังด่ากูอยู่เลยนี่ ว่าคนโง่ๆ อย่างกูเข้าวงการนี้ไปก็เสียผู้เสียคน

สาวงามสุดยอด : มึงบอกเองว่าวงการนี้มีแต่เรื่องสกปรกๆ คนดีๆ ไม่เข้าไปเกลือกกลั้วกันไง

Sapling : ก็เพราะกูไม่เหมือนมึงไงฟอร์ด

ฟอร์ดโมโหคนเดียวอยู่หน้าจอ แต่อารมณ์ก็เย็นลงทันที เมื่อได้อ่านคำถามของพี่ชานมฯ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : นายสูงเท่าไหร่วะ

ต้นกล้านิ่งงันไป เขาไม่กล้าตอบ เพราะรู้ดีว่าอุปสรรคของตัวเองคืออะไร ทว่าฟอร์ดไม่รีรอที่จะตอบคำถามนั้นแทน

สาวงามสุดยอด : เพื่อนผมมันสูงแค่170 เองพี่

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : งั้นก็ไม่ได้หรอก เตี้ยเกิ๊น

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ นายน่ะไม่ได้หรอก Sapling นายมันไม่มีความพยายาม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เห็นได้จากความรักสบาย ขอของคนอื่นไปเรื่อยก่อนที่จะลองหาด้วยตัวเอง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : คนในวงการบันเทิง ค่อนข้างเคร่งวินัย แถมเข้ามาแล้วต้องพยายาม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : นายมันขาดไปทุกอย่างเลยนะ

“ไอ้เหี้ย” ต้นกล้าสบถหน้าจอpc โดยมีอิงภพหัวเราะชอบใจ

“มันด่ามึงแรงวะ ต้นกล้า จะว่าไปมึงเองก็จัดอยู่ในประเภทที่เขาว่าจริงๆ นะ”

“ใครใช้ให้มึงผสมโรงด่ากูหะอิงภพ” ต้นกล้าตะคอก

ถ้าไม่ติดว่าอิงภพมันรวยและมีอิทธิพล เขาคงไม่ปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตายืนข้างเมษาอย่างนี้แน่ อีกอย่างหนึ่งอิงภพมันมีคนที่ชอบอยู่แล้วมันชอบพี่ชายของไอ้ฟอร์ด เขาก็เลยละเว้นมันเอาไว้แบบนี้

อิงภพยักไหล่ ในขณะที่เมษาจับตาดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ

แม่มเอ๊ยมึงกล้าดียังไงถึงมาด่ากูต่อหน้าคนเยอะแยะวะ ต้นกล้าโกรธจนกำเม้าท์เอาไว้แน่น แต่เพราะยังอยากสอดแนมและไถของอีกเยอะจึงทำตัวสงบเสงี่ยม

Sapling : ขอบคุณที่สั่งสอนครับพี่ชานม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : รู้ตัวก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องสอนมาก

“เหี้ยอะไรวะ มึงไม่ต้องมาสอนกูหรอก”

ต้นกล้าตะคอกออกมาเสียงดัง ยิ่งทำให้อิงภพหัวเราะหนักมากขึ้นไปอีก

“ใจเย็นๆ” เมษาตบบ่าของต้นกล้าเบาๆ “อย่าให้เสียเรื่องสิ”

เมษายังต้องการรู้เรื่องของmaddog01 โดยเฉพาะเรื่องแฟนสาวของmaddog01ที่ชื่อว่าโกรธเกรี้ยว เขายังต้องการให้ต้นกล้าสอดแนมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสาวคนนั้นมากกว่านี้

จากนั้นการหาของก็กินระยะเวลายาวนานไปจนถึงเวลาเที่ยงคืนของวัน สุดยอดสาวงามกับโกรธเกรี้ยวต่างก็พากันล็อคเอ้าท์ทำให้ต้นกล้าต้องทำตามไปด้วย

“รู้อะไรเกี่ยวกับแอคเค้าท์ที่ชื่อว่าโกรธเกรี้ยวบ้าง ต้นกล้า”

เมษาถามทันทีที่ต้นกล้าล็อคเอ้าท์ออก คนถูกถามส่ายหน้าไปมาแล้วถอนหายใจ

“ไม่รู้เลยเมษา เราพยายามถามเอาจากคนนั้นคนนี้ แต่ไม่มีใครตอบอะไรมากไปกว่ายัยนั่นเป็นพี่สาวของฟอร์ด”

เมษาขมวดคิ้วเข้าหากัน “หรือว่าเป็นภาริชคนนั้น” เมษารู้จักฟอร์ดดีจากคำบอกเล่าของอิงภพและยิ่งเหมือนเป็นตัวตุ่นในสวนหลังบ้านของภาริชเพราะอิงภพอีกนั่นแหละที่นำมาเล่าให้ฟังไม่รู้จักเบื่อ

“ไม่ใช่เด็ดขาด พี่ภาริชมีแอคเค้าท์ประจำของตัวเองอยู่แล้วชื่อ Ghiblicat นายเองก็รู้นี่ เป็นแอคเค้าท์ที่โด่งดังจะตาย” อิงภพค้านทันที ก็ถ้าเกิดพี่ภาริชเปลี่ยนแอคเค้าท์ก็ต้องแพลมบอกเขาบ้างแหละ พวกเราสนิทกันถึงขนาดนั้น

“งั้นอาจจะเป็นเพื่อนคนอื่น” เมษาสันนิษฐาน

ข้อสันนิษฐานอันนี้ทำเอาต้นกล้าไม่พอใจ เขาอยู่ข้างๆ ฟอร์ดมันมาตั้งนาน ไม่เห็นมีท่าทีจะสนใจผู้หญิงที่ไหน มันมัวแต่คอยดูแลเขา แถมยังอุตส่าห์ลงทุนเขี่ยคนออกไปตั้งมากมาย ยังมีอีหน้าไหนหลุดรอดมาได้อีกหรือนี่

“ต้นกล้า นายลองไปถามฟอร์ดดูซิว่าผู้หญิงที่ชื่อโกรธเกรี้ยวคนนั้นเป็นใคร”

ต้นกล้าเกือบๆ จะไม่ได้ฟังที่เมษาสั่ง เพราะมัวแต่กัดเล็บและคิดว่าฟอร์ดทำเรื่องลับๆ ล่อๆ ทรยศตัวเองอย่างร้ายกาจ

ต้องถามกันต่อหน้า เพราะถ้าถามไปทางแอพคงบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมตอบง่ายๆ อีกอย่างฟอร์ดไม่ชอบโกหก แค่ยืนจ้องตากันเขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายโป้ปดหรือเปล่า

ถึงจะเป็นของที่ไม่ชอบ แต่เมื่อมันอยู่ในมือแล้ว คนอย่างต้นกล้าไม่ยอมให้ใครมาแย่งเอาไปง่ายๆ หรอกนะ



หลังจากล็อคเอ้าท์ออกมาแล้วสิ่งแรกที่ภาริชทำคือถามเรื่องการเรียนของฟอร์ด

“อาทิตย์หน้ามีสอบสินะ”

“ใช่แล้วท่านพี่ ผมมีสอบปลายภาค เสร็จแล้วอาจจะไปกินเลี้ยงจบการศึกษากับเพื่อนในห้อง”

“เอาอย่างนี้ไหม พี่จองโรงแรมห้าดาวให้ พวกนายไปฉลองกันที่นั่น เอาเป็นบุฟเฟ่นะ”

“เอ๊ะ ท่านพี่จะเป็นป๋าให้พวกผมหรา” ฟอร์ดฉีกยิ้มกว้างคิดว่าเพื่อนๆ คงดีใจกันแน่ๆ และก็คงคาดไม่ถึงว่าคนอย่างเขาจะใจป้ำขนาดนี้

“เอาเร็วสิ ไปเสนอตัวกับแม่งานซะ เดี๋ยวไม่ทันการนะ”

“ขอบคุณคร๊าบท่านพี่”

ถ้ามีหางฟอร์ดคงกระดิกไปแล้ว เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาน้ำริน หัวหน้าห้องและแม่งานของรุ่นเขา

Ford : ว่างไหมน้ำริน

น้ำใสไหลริน : ว่ามาเลยฟอร์ด

น้ำใสไหลริน : ว่าแต่ตกใจนะนี่ ที่นายทักมาก่อน

Ford : 555+ ปกติเราดูอึมครึมสินะ

น้ำใสไหลริน : มีเมฆที่ชื่อว่าต้นกล้าคอยปกคลุมตลอดเวลาไง

ฟอร์ดยิ้มเจื่อนๆ พอเงยหน้าไปดูรอบๆ ก็พบว่าพี่ภาริชนั่งดูหน้าจอของเขาอยู่ข้างๆ ท่านพี่คลี่ยิ้มประดุจนางฟ้า วางแผนอะไรหรือเปล่านะ ระแวงนิดหน่อยแต่ก็ลืมๆ มันไปเพราะได้สนทนาอย่างออกรสกับน้ำริน

Ford : พี่ชายเราบอกว่าจะออกทุนให้เราไปจัดเลี้ยงที่โรงแรมน่ะ คือมันจะช้าเกินไปไหมถ้าเราเสนอตัว

น้ำใสไหลริน : อุ๊ยตาย ถ้าคุณพี่ชายออกทุนมันจะต้องหรูหราอลังการมากแน่ๆ

น้ำใสไหลริน : ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม

Ford : จริง

น้ำใสไหลริน : เยี่ยมเลย ฉันต้องรีบเอาไปประสานงานกับอาร์ทก่อน จริงสิ

น้ำรินส่งลิงค์บางอย่างมาให้

น้ำใสไหลริน : นี่เป็นข้อมูลของคณะแบบเดียวกันในมหาลัยอื่นที่นายน่าจะเดินทางไปเรียนได้สะดวก

น้ำใสไหลริน : ฉันกับอาร์ทเป็นห่วงนายมาก ยังไงเราก็เรียนร่วมกันมาตั้ง 3 ปี

น้ำใสไหลริน : อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนประสบความสำเร็จนะ

น้ำใสไหลริน : อ้อ...อย่าหาว่าฉันใจดำนะ กับเพื่อนคู่หูของนาย เป็นคนเดียวที่ฉันไม่ค่อยอยากเข้าไปแตะ นายคงเข้าใจนะฟอร์ด

ฟอร์ดเข้าใจดี เพราะท่าทีของต้นกล้าที่มีต่อเพื่อนคนอื่นๆ ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ แถมผลจากการกระทำในอดีตยังตามมาหลอกหลอนหมอนั่น เพราะแบบนี้ไงเขาถึงปล่อยมือไม่ได้ซักที

น้ำใสไหลริน : เริ่มต้นใหม่นะฟอร์ด ไปที่ใหม่ๆ เจอแต่คนดีๆ สู้ๆ นะ

จังหวะเดียวกันพี่ชานมฯ ก็ส่งข้อความมา ฟอร์ดรีบพิมพ์ขอบใจให้น้ำรินก่อนเปิดอ่านข้อความของพี่ชานมอย่างกระตือรือร้น

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ตกลงว่าพี่นายเซ็นสัญญาแล้วหรือยัง พรุ่งนี้จะมาที่สตูดิโอไหม

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ฉันหมายถึงสัญญาน่ะเซ็นหรือยัง พี่ภูมิรออยู่นะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : พรุ่งนี้11 โมงเช้า มาที่xxxxxxxxxxนะ ฉันจะรอ

“พี่เซ็นให้นายแล้วนะฟอร์ด” ภาริชฉีกยิ้มกว้าง “แต่พี่ไม่ไปด้วยนะ จะให้ให้ทนายไปจัดการแทนพี่ พรุ่งนี้พี่ตั้งใจจะเอาลูกแมวไปให้เจ้าฮิคกี้น้อยเหมือนกัน”

“เอางั้นเลยนะท่านพี่” ฟอร์ดเห็นว่ายิ่งนานพี่ชายยิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ

“ก็ต้องอย่างนั้นสิ”

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เฮ้ยตอบด้วยสิวะ อย่าเงียบเด้

ฟอร์ดรีบพิมพ์ตอบกลับไปแทบไม่ทัน

Ford : ครับพี่ตะวัน

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ดีมาก

ฟอร์ดไม่รู้หรอกว่า พี่ตะวันคนดีกำลังยิ้มพออกพอใจน่าดู แล้วเขาก็ไม่รู้อีกว่าพี่ตะวันคนนั้นเป็นเกย์ด้วย แล้วก็พี่คนนั้นรู้สึกถูกชะตาแถมยังแอบล็อคเป้าฟอร์ดเอาไว้นิดหน่อย

ช่วยไม่ได้นี่ก็เด็กมันน่ารักโดนใจ ไม่ได้หมายถึงจะทิ้งเจ้าmaddogน้อยผู้น่ารักนะ นั่นนะมันmy Favorite ของเขา แต่ไม่ได้รู้สึกกิ๊วก๊าวกับใครในทีแรกที่สบตาแบบนี้นานมาก

ปกติเขาชอบแบบหนุ่มน้อยน่ารักมากกว่า แม้ฟอร์ดจะตัวโตไปหน่อย ก็ยังให้ความรู้สึกแบบหนุ่มน้อยน่ารักอยู่ดี เหมือนกับกระต่ายตัวเล็กๆ อย่างไรอย่างนั้น พอยิ่งได้สัมผัสนิสัยใจคอเขายิ่งอยากทำตัวเป็นป๋าดันคอยดูแลทนุถนอมกล่อมเกลี้ยงให้กลายเป็นสุดยอดเพชรขึ้นมา อะไรที่มันถูกใจถ้าปล่อยให้หลุดมือก็ไม่ใช่คนอย่างตะวันแล้ว

“นายเสร็จฉันแน่เจ้าหนู”

ตะวันคลี่ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่งดงามจนพวกสต๊าฟมองกันตาค้างไปเลย



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                 555พี่ตะวันจะรุก แต่ไม่รุใครจะรุกใคร5555

                พี่ภาริชกะmaddogน้อยมีบทอยู่เรื่อยๆ นะคะ จะกลับมาที่คู่หลักแน่นอนค่า

               ช่วงนี้เป็นเนื้อเรื่องของฟอร์ดกับต้นกล้าพี่ชานมอย่าเบื่อไปก่อนนะคะ

                แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่14 เป้าหมายของแต่ละคน 9/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 09-08-2018 14:54:13
 :katai3:ใครรุกก้อด้าย
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่15 รอยยิ้มแปลกๆ 10/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 10-08-2018 13:07:10
บทที่14

               รอยยิ้มแปลกๆ

ฟอร์ดนัดกับพี่ตะวันและพี่ภูมิที่หน้าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง เมื่อเจอหน้ากันพี่ตะวันก็ส่งยิ้มมาให้พร้อมทั้งกวักมือเรียกให้ตามเข้าไปด้านใน

หลังจากหาที่นั่งได้ฟอร์ดก็แนะนำทนายประจำครอบครัวให้ทั้งคู่รู้จัก “นี่คือลุง เสงี่ยม ครับ เป็นทนายที่พี่ของผมให้มาจัดการเรื่องสัญญาแทน”

“ผม ภูมิ ไกลลาศ” ผู้จัดการมือทองรีบแนะนำตัว

ในเวลาที่พวกผู้ใหญ่สองคนเริ่มคุยธุระกัน ฟอร์ดก็พึ่งรู้ตัวว่าพี่ตะวันกำลังจ้องมองเขาอยู่แถมยิ้มอีกด้วย

“หน้าตานายนี่มันเป็นแบบที่ฉันชอบเลยนะ”

“ครับ” ฟอร์ดงงนิดหน่อยที่จู่ๆ พี่ตะวันก็ชมซึ่งๆ หน้าแบบนี้ ก็บ่อยอยู่ที่ถูกชมว่าหน้าตาดี แต่ไม่เคยเจอใครชมตรงๆ อย่างนี้มาก่อน

“นิสัยที่เหมือนพวกสัตว์เล็กๆ นั่นก็ด้วยน้า...”

ตะวันหัวเราะหึหึในคอ ฟอร์ดต้องเบือนหน้าหนีหลบสายตาอันร้อนแรงซึ่งจ้องมองมา

อ่า...คิดไปเองหรือเปล่านะว่าเราถูกรุกจีบอยู่ ม...ไม่มั้ง ไม่มีใครรุกจีบใครตั้งแต่แรกเจอหรอก ไม่ใช่ท่านพี่ซักหน่อย

“เฮ้...ไปซื้อของกินมาซิ หิวจะแย่ นายไม่หิวหรือไง” ตะวันสั่ง เขาเอนหลังไปยังพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางเกียจคร้าน

“รอหน่อยนะครับ”

ตะวันผิวปาก ไม่คิดว่าฟอร์ดจะเป็นคนใช้ง่ายขนาดนี้ ตามปกติเด็กวัยนี้ต้องมีต่อต้านบ่นอุบอิบกันบ้าง แต่เจ้านี่ว่าง่ายเหมือนลูกหมาสั่งให้ทำก็ทำไม่บ่นซักนิด แถมยังรู้งานบริการ เข้าอกเข้าใจคิดถึงว่าใครต้องการอะไร นำอาหารมาเสิร์ฟได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

“นายเป็นพวกชอบดูแลคนอื่นสินะ เหมือนพวกหมาอะไรแบบนี้” ตะวันถามขณะเอาเฟรนช์ฟรายส์เข้าปาก

“โดนด่าว่าจิกจนเหมือนไก่มากกว่านะครับ” ฟอร์ดคลี่กระดาษห่อเบอร์เกอร์ “ถูกด่าว่ายุ่งวุ่นวายมากเกินไป จนรู้ได้เลยว่าถูกเกลียดแล้ว”

“หมายถึงไอ้เจ้า Saplingใช่ไหมนั่นน่ะที่พูดเนี่ย”

ฟอร์ดยิ้มเจื่อนๆ ไม่คิดว่าพี่ตะวันจะเดาถูก ในขณะที่ตะวันพอเห็นรอยยิ้มคนอายุน้อยกว่าเขาก็คิดว่าตัวเองเดาได้ไม่พลาด

“นายมันยอมคนอื่นมากเกินไปไง”

จากนั้นดูเหมือนว่าการเจรจาของพวกผู้ใหญ่จะไปได้ดีและฟอร์ดกำลังกินอาหารใกล้หมด ในขณะที่ตะวันทานเรียบร้อยแล้วลุกขึ้นเดินไปยังจุดสั่งอาหารด้วยตัวเอง

พี่ตะวันหายไปประมาณ 5 นาที ก็กลับมาพร้อมของหวานหน้าตาน่ากิน

“อ๊ะบิงซู” ฟอร์ดดูท่าทางดีใจ แถมจู่ๆ ก็คลี่ยิ้มน่ารักๆ ออกมา ทำเอาตะวันและภูมิตาพร่า เป็นรอยยิ้มอันเจิดจ้าสดใสเสียเหลือเกิน

“นายชอบบิงซูหรือไง” พอตั้งสติได้ ตะวันก็ถามสิ่งที่สงสัย

“ผมชอบของหวาน แต่นานๆ ทีจะได้กิน”

“ทำไมล่ะ”

ฟอร์ดเกาแก้มแล้วยิ้มเจื่อนๆ “ถูกล้อเลียนมานะครับว่าเป็นผู้ชายเสียเปล่าดันชอบของหวาน”

“ฉันว่าเจ้าSaplingนี่มีปัญหานะ”

“พี่ไม่ใช่คนแรกที่พูดอย่างนี้” ฟอร์ดลงมือตักกินบิงซู จากนั้นก็ยิ้มแก้มปริอยู่คนเดียว

ท่าทางดีอกดีใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาทานมันช่างน่ารัก โดนใจจนตะวันจ้องตาไม่กระพริบ แม่มน่ารักทะลุลิมิตเลยพับพ่าสิ ก็คิดอยู่นะว่าmaddog01ตัวจริงก็น่ารักแบบนี้เหมือนกัน แต่พอมาเจอดาเมจอันรุนแรงของฟอร์ดทำเอาเขาเคลิ้มไปจนได้

ตะวันนั่งเท้าค้างมองดูฟอร์ดกินทั้งส่งยิ้มเยิ้มๆ ไปให้ คนถูกมองเริ่มจะรู้สึกถึงสายตาร้อนแรง มองแบบนี้ให้เกิดความรู้สึกเขิน ฟอร์ดไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย เขาละเลียดกินบิงซูทั้งที่ใบหน้าเห่อร้อนจนเป็นสีแดงเรื่อ

ใครจะไปคาดคิดละว่าจู่ๆ พี่ตะวันจะยื่นมือมาเช็ดขอบปากให้ ฟอร์ดยิ้มค้างมองดูอากัปกิริยาของอีกฝ่าย เขากำลังตกใจ ไม่คิดว่าคนคนนี้จะกล้าเอาเศษบิงซูที่เปื้อนปากเขาไปเล็มกินต่อด้วยท่าทางอันแสนเย้ายวน ดวงตาคู่สวยประกายวิบวับแฝงไว้ด้วยความขี้เล่นจนฟอร์ดใจเต้นโครมคราม

“กินเลอะเทอะจังนะ” ตะวันหัวเราะหึหึ ไม่ได้สนใจเลยว่าคนอื่นจะมองยังไง

ฟอร์ดเองก็ไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ความสนใจของเขาถูกดึงไปที่ตะวันจนหมด เขาเขินอายจนต้องก้มหน้าก้มตากิน ใบหน้ายังร้อนผ่าวไม่เลิก พอแอบเหลือบมองดูอีกฝ่าย ก็พบว่าพี่ตะวันจ้องมองมาทั้งยังยิ้มเยิ้มแบบแปลกๆ ไม่เลิก

“ท่ากินน่ารักจังน้า...”

นอกจากท่านพี่ยังมีคนแปลกๆ แบบเดียวกันอยู่ในโลกนี้เหลืออยู่ด้วยสินะ โลกเรานี่ช่างกลมแท้ อุตส่าห์เดินมาชนคนประเภทเดียวกันแบบนี้เสียได้

ฟอร์ดแทบจะไม่มีสมาธิกินเลย นั่นก็เพราะเขินอายไปหมด แถมเจ้าหัวใจยังเต้นแรง เพราะใบหน้าและรอยยิ้มที่เหมือนกับหลงใหลเขาเสียเต็มประดา แบบนี้เขาเข้าใจถูกไหมว่าพี่ตะวันกำลังรุกจีบอยู่

รินรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าพี่ภาริชจะมาทานข้าวที่บ้าน เขาตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อวาน พอเป็นเรื่องของคนคนนี้จิตใจของรินมักไม่ค่อยสงบลงง่ายๆ ความเป็นจริงข้อนี้มิวซังเองก็รู้ดี

“ริน...แค่คำขอบคุณต่อหน้า ไม่จำเป็นต้องปั้นแต่งขนาดนั้นหรอก นายเสียเวลากับการร่างคำขอบคุณมาทั้งคืนแล้วนะ เอาอย่างนี้ บอกคุณภาริชไปแค่ว่า ผมชอบเครื่องเกมvrมากขอบคุณพี่ภาริชนะครับ แค่นี้เอง”

“ร...หรือ มิวซัง แค่นั้นก็ได้หรือ ไม่คิดว่ามันดูไม่จริงใจไปหน่อยหรือ ฉันรู้สึกว่ามันยังแสดงความดีใจของฉันไม่เพียงพอ”

“บ้า คำขอบคุณน่ะ แค่พูดออกไปใครๆ ก็ดีใจทั้งนั้น ปั้นแต่งมากไป มันดูเสแสร้งประจบประแจงนะ เอาเป็นแค่ยิ้มสวยๆ แล้วกล่าวขอบคุณสั้นๆ เท่านั้นก็พอ”

“แต่อยากให้พี่ภาริชดีใจนี่หน่า”

มิวซังสังเกตเห็นความจริงจังที่เจ้ารินมีต่อคุณภาริชมานานพอสมควรแล้ว ตลอด 4 ปี ที่รินติดต่อกับเขาคนนั้นผ่านทางจดหมาย หรือแม้แต่การแอบมองดูยามที่เขามาเยี่ยมที่บ้านด้วยสายตาเป็นประกาย คิดดูดีๆ แล้วมันจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก...ความรัก

แต่ว่าเธอไม่อยากให้เจ้ารินรู้ตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่สิเจ้าตัวคงเข้าใจความรู้สึกนี่แล้วก็เป็นได้ ตามจริงเธออยากให้นรินทร์ ได้มีคนรักเป็นสาวน้อยน่ารัก ไม่ใช่หนุ่มหล่อร่างโตแบบนี้ สำหรับเธอโกรธเกรี้ยวก็เป็นตัวเลือกที่ดี

โกรธเกรี้ยวคนนั้นทั้งนิสัยความคิดความอ่านเรียกได้ว่าไม่มีที่ติ แถมยังเข้าใจความเป็นmaddog01ได้ดีเยี่ยม ทั้งไม่รังเกียจตัวตนแท้จริงซึ่งเป็นฮิคิโคโมริของทางนี้เลย

มิวซังประทับใจทั้งคุณภาริชและโกรธเกรี้ยวแต่ถ้าเป็นไปได้เด็กผู้หญิงย่อมต้องดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเจ้ารินเลือกคุณภาริช เธอก็พร้อมจะเอาใจช่วยอย่างเต็มที่ ขอแค่เป็นคนที่เจ้ารินพอใจเท่านั้นพอ

“ริน คุณภาริชมาแล้วนะ รินกับมิวไปต้อนรับคุณภาริชที พี่ยังต้องจัดการกับอาหารในครัวอีกนิดหน่อย”

เพราะอย่างนี้รินถึงได้เลิกหมกหมุ่นกับการร่างคำขอบคุณเสียที



สิ่งแรกที่ภาริชเห็นคือเสี้ยวหน้าอันน่ารักของเจ้ารินที่หลบหลังกรอบประตู เขาคลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วกวักมือเรียกให้เข้ามาหา

“มาเถอะ ริน” มิวซังเดินนำหน้าเข้าไปในห้องรับแขก เธอไหว้คุณภาริช อีกฝ่ายรับไหว้ด้วยท่าทางสง่างาม ขนาดที่ว่าคนรสนิยมสูงอย่างมิวซังยังต้องยอมรับว่าคนคนนี้ช่างงดงามดูดีเกินมาตรฐานทุกท่วงท่าจริงๆ

“อ...เอ่อ...”

เจ้ารินยืนตัวแข็งเบื้องหน้าภาริช ท่าทางเก้อเขินดูไม่เป็นธรรมชาติแบบนั้น มันน่ารักดีเหมือนกัน แต่ก็น่าสงสารถ้าจะปล่อยทิ้งให้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้

“ชอบเครื่องvrที่พี่ให้ไปไหม”

“ชอบครับ....ผมชอบมาก...ขอบคุณพี่ภาริชมากเลยครับ”

<พูดออกไปแล้ว> นรินทร์เหมือนยกภูเขาออกจากอก แถมพี่ภาริชก็ยิ้มจนตาหยีด้วย คงดีใจกับคำขอบคุณของเขา

“พี่เอาแชมพู ที่เคยบอกว่าจะเอามาให้คราวก่อนมาแล้วนะ”

ภาริชหยิบเอาขวดหนึ่งมาจากถุงยื่นให้เจ้าริน

“เอ๋...พี่ภาริชซื้อผิดแล้วครับ นี่มันแชมพูแมวนะ”

<พี่ภาริชเองก็มีมุมเอ๋อๆ กับเขาด้วยเหมือนกัน คนที่มีภาพลักษณ์เป็นเจ้าชายก็พลาดได้แฮะ>

เจ้ารินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะมีโอกาสได้เห็นจุดอ่อนของคนที่ดูสมบูรณ์พร้อม ท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องแบบนั้นน่าหมั่นเขี้ยวในสายตาภาริชเหลือเกิน

“ได้ใจอะไรกันครับ” ไม่พูดเปล่ายังหยิกแก้มของนรินทร์เบาๆ ทำเอาคนถูกกระทำยิ้มค้าง “หัวเราะเยาะพี่หรือ เป็นเด็กนิสัยไม่ดีเลยนะ”

“ข...ขอโทษครับ” นรินทร์ลนลาน ภาริชละมือจากแก้มนิ่มแล้ว กำลังสนุกสนานกับความรู้สึกผิดของเจ้าฮิคกี้น้อย แต่ก็นั่นแหละตัวแสบไม่ได้คิดว่าตัวเองทำไม่ดีอะไรเท่าไหร่นัก

นรินทร์ถูแก้มที่ถูกหยิกเบาๆ เขาแอบช้อนตาดูว่าพี่ภาริชโกรธจริงไหม พอเห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มกว้างก็รู้ทันทีว่าไม่ได้ถือสา แต่ก็สมควรขอโทษอีกฝ่ายอยู่ดี ที่มันตลกคือดันกลายเป็นการกระทำที่ซ้ำซากไม่เลิก

“ขอโทษนะครับพี่ภาริช ขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจกวนโมโหเลยนะ”

“พี่รู้ครับ แต่ก็ต้องลงโทษอยู่ดี สิ่งที่พี่จะให้ มันจะทำให้เราลำบากไปทั้งชีวิตเลยแหละ”

“เอ๋...” นรินทร์หน้าเสีย <พี่ภาริชโกรธเราขนาดนั้นเลยหรือนี่> เขาอดกัดริมฝีปากไม่ได้ พี่ภาริชกลายเป็นเกลียดเขาเหมือนคนอื่นๆ ไปแล้ว เพราะความไร้มารยาทของเขาหรือเปล่านะ <เศร้าจังเลย>

ไม่รู้คิดไปเองไหมว่าเหมือนหัวใจกำลังแตกร้าว นรินทร์นั่นเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมาได้ซักระยะแล้ว เพียงแต่พยายามไม่คิดถึงมัน 3 ปีมาแล้วนะที่ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องนี้โดยไม่ได้บอกใคร

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ เงยหน้าขึ้นมารับโทษเสียดีๆ”

นรินทร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเหมือนจะร้องไห้นั่นช่างน่ารักเหลือเกิน การแกล้งให้ทำสีหน้าแบบนี้ไม่ใช่เป้าหมายของเขาหรอก แต่ก็คิดว่าหยาดน้ำตาของเจ้ารินต้องสวยงามมากแน่ๆ ทั้งอยากเห็นและไม่อยาก

<เรานี่มันช่างขัดแย้งในตัวเองจริงๆ >

“ไม่ชอบลูกแมวพันธุ์แร็กดอลล์หรือเจ้าริน”

พอเงยหน้ามาก็พบลูกแมวที่ยื่นมาหา นรินทร์จังงัง แต่เจ้าลูกแมวร้องเหมียวๆ แถมแววตาน่ารักน่าชังมากเสียจน อดยิ้มไม่ได้

“รับไปจากมือพี่สิครับ”

นรินทร์รับลูกแมวมาอุ้ม เจ้าตัวเล็กช่างขี้อ้อนแถมยังทำตัวปวกเปียกในอุ้งมือ

“น่าร๊ากกกกก”

“ชอบไหมครับ”

“ชอบมาก ขอบคุณครับพี่ภาริช”

“นี่เป็นการลงโทษอันใหญ่หลวงเลยนะ รินต้องหาข้าวเก็บกระบะทราย อาบน้ำ พามันไปหาหมอตอนที่มันป่วย รินต้องทำให้ได้นะครับ”

“เอ่อ...” จริงๆ เขาทำได้ทุกอย่าง แต่ให้ออกจากบ้านพาไปหาหมอนี่มัน

ภาริชรู้ทันว่าเจ้ารินคิดอะไรเขายื่นหน้าไปคุยระดับเดียวกับสายตาของคนตัวเล็ก

“รินต้องเป็นคนพามันไปหาหมอนะครับ เพราะมันเป็นแมวของริน”

“เอ๊ะ...เอ่อ...อยาก...คืนแมวจัง”

“พี่ไม่รับคืนครับ มันเสียมารยาทไม่ใช่หรือ พี่อุตส่าห์ให้ของเรานะ ผู้ใหญ่ให้ของต้องรับไว้สิครับ”

“เอ๊ะ...”

“สัญญากับพี่นะว่าจะดูแลมันอย่างดี”

“เอ่อ...”

“ตั้งชื่อมันด้วยสิครับ”

เหมือนถูกพี่ภาริชกดดัน อยู่ๆ ให้มาตั้งชื่อแบบนี้ ทั้งที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงได้ไหม ทำเอานรินทร์สับสนไปหมดเลย

“เอ่อ...อลิซาเบธ” นรินทร์ช้อนตาขึ้นมองดูสีหน้าภาริช เมื่อเห็นรอยยิ้มก็โล่งใจ คิดว่าตัวเองทำได้ดีแล้ว แต่ว่า...

“มันเป็นตัวผู้ครับริน พี่ว่าอลิซาเบธคงไม่ดีมั้ง แต่ถ้าเป็นแมวดุ้นก็เข้าเค้าอยู่นะ”

นรินทร์รู้สึกว่าพี่ภาริชวัยรุ่นเอามากๆ รู้จักคำว่าสาวดุ้นด้วยแน่ๆ เอาคำว่าดุ้นกับแมวมารวมกันเป็นแมวดุ้น หมายถึงเจ้าแมวตัวผู้ที่ดันมีชื่อเป็นตัวเมียสินะ ล้ำมากๆ

นรินทร์ใช้สายตาเป็นประกายมองดูภาริช คิดว่าคนคนนี้คงพูดภาษาเดียวกันกับเขาแน่ๆ โดยไม่รู้เลยว่าสายตาของตัวเองกระตุ้นเร้าด้านมืดของอีกฝ่าย

ภาริชคลี่ยิ้มประดุจนางฟ้า เขาใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว สายตาเทิดทูนแบบนี้มันทำให้เขาแทบทนไม่ได้

“อย่ามองพี่แบบนั้นสิ พี่จะอดใจไม่ไหวเอานะ”

“เอ๋...” นรินทร์ไม่รู้ว่าภาริชหมายถึงอะไรกันแน่ แต่อีกฝ่ายยิ้มสวยดูใจดีเสียเหลือเกิน แถมอีกฝ่ายยื่นหน้ามาใกล้เรื่อยๆ แล้วนะ เขาสงสัยว่าพี่ภาริชตั้งใจทำอะไรกันแน่

“อะแฮ่ม” เสียงกระแอมกระไอของมิวซังหยุดทุกสิ่งได้จริงๆ

“คุณภาริชรับน้ำอะไรดีคะ”

“พี่เอากาแฟดีกว่าครับ” ภาริชยิ้มๆ เดินกลับไปนั่งโซฟา

“รินไปช่วยยกขนมกับฉันที คุณภาริชจะได้รองท้องไปก่อน”

“อื้อ”

มิวซังเดินนำเจ้ารินไป จริงๆ เธอสังเกตทั้งคู่เงียบๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้ แล้ว คุณภาริชคนนี้ ไม่บังเอิญไปหน่อยหรือที่ซื้อลูกแมวพันธุ์แร็กดอลล์มาให้เจ้าริน แถมบรรยากาศสีชมพูระหว่างลูกพี่ลูกน้องของเธอกับคนคนนี้ มันช่าง

<อา...ก็ถ้ามันจะทำให้เจ้ารินออกไปสู่โลกภายนอกได้ล่ะก็> เธอจะยอมหลับตาข้างหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้คุณภาริชเล่นสนุกตามใจชอบหรอกนะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                ไม่คิดว่าเรื่องใครรุกใครจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ 

                ฝากติดตามกันต่อด้วยนะคะ ถึงแม้คนที่หวังจะไม่ใช่รุกก็ตาม55555

               ไม่สปอยน้า แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่15 รอยยิ้มแปลกๆ 10/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 10-08-2018 18:03:53
รอออ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่15 รอยยิ้มแปลกๆ 10/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-08-2018 22:56:33
ฟอร์ด กับตะวัน ตกลงกันไม่ได้ ว่าใครรุก ใครรับ
ก็ให้สลับกันก็ได้นะ  :-[

ตะวัน รุกจีบฟอร์ดแล้ว    :o8:
ฮ่าๆๆๆๆ ต้นกล้า นางนกทั้งเมษาทั้งฟอร์ดแน่  :katai2-1:
นางจะเสียดายฟอร์ดมั้ยนะ   :hao3:
ภาริช ก็เดินหน้าเข้าหาริน   :impress2:

ภาริช  ริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่15 รอยยิ้มแปลกๆ 10/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 10-08-2018 23:17:26
เราเพิ่งมาเจอเรื่องนี้ได้ไงเนี่ยยยยยยย ฮือ สนุกมากเลยค่า ชอบบบบ
พี่ตะวันก็ดี พี่ภาริชก็ดี จ้องน้องปานจะกินกันเลยนะ แหมมมมม
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่15 รอยยิ้มแปลกๆ 10/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 11-08-2018 01:28:27
รอตอนต่อไปจ้าาา สนุกมากๆเลย
ขอให้ไม่มีดราม่าต้นกล้า เมษาเน้อออ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่15 รอยยิ้มแปลกๆ 10/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 11-08-2018 10:45:32
อร๊ายยยยยชอ๊อบชอบ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่16 คำตอบของฟอร์ด 11/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 11-08-2018 11:13:45
บทที่16

คำตอบของฟอร์ด

“นายกลับยังไง” ตะวันถามฟอร์ด

“เอ่อคงกลับพร้อมลุงทนายมั้งครับ”

“แล้วถ้าฉันอาสาไปส่งล่ะ”

“เอ่อ...ก็ได้มั้งครับ”

“เอาตามนี้นะ” ตะวันลุกขึ้นยืนคว้ามือฟอร์ดมากุมแล้วฉุดให้เดินตาม ทั้งคู่เดินออกจากร้านอาหารทิ้งให้ผู้ใหญ่สองคนตกลงเรื่องสัญญาต่ออีกหน่อย

“ลุงเสงี่ยมผมไปก่อนนะครับ” ฟอร์ดไม่ลืมบอกลาทนายประจำครอบครัว อีกฝ่ายยิ้มและผงกหัว

“เราจะไปไหนครับพี่ตะวัน”

ถึงแม้จะตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานที่ที่จะถูกพาไป แต่ความคิดความอ่านไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นเลย มันกลับจดจ่อกับมือของตัวเองที่ถูกพี่ตะวันกุมเอาไว้ แถมยังกล้าเอามือเขากับตัวเองยัดใส่กระเป๋าแจ็คเก็ตซุกไว้ด้วยกันอย่างสนิทสนม เพราะอย่างนั้นเลยทำให้ตอนนี้พวกเขาเดินไปตามทางแบบใกล้ชิดจนเกินงาม

น่าอายจัง หรือว่าคนคนนี้เป็นพวกชอบสกินชิฟ แต่กับคนที่พึ่งเจอหน้ากันมาทำแบบนี้ทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนะนอกจากจีบ

ตะวันพาฟอร์ดไปถึงรถส่วนตัว ฟอร์ดไม่คิดว่ารถของพี่ตะวันจะหรูหราขนาดนั้น รถคันที่ว่าเป็นรถรถสปอร์ตยี่ห้อsonyaที่ขายดีติดอันดับต้นๆ และฟอร์ดเองก็ชอบรถยี่ห้อนี้เพราะเหตุผลส่วนตัวหลายอย่าง

“พี่ชอบรถยี่ห้อนี้หรือครับพี่ตะวัน”

“อื้อ...ฉันชอบที่ ยี่ห้อนี้ผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเสมอ แถมยังราคาไม่แพง ที่รออยู่ตอนนี้เลยคือรถบินได้ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮบริดที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้”

“ยอดไปเลยใช่ไหมล่ะครับ” ฟอร์ดยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

“นายดูแบบ...ดีใจอย่างกับเรื่องของตัวเอง” ตะวันเปิดประตูรถให้ฟอร์ดเข้าไปนั่ง

“เปล่าๆ ครับ แค่เป็นแฟนคลับของเจ้าของบริษัทนี้”

“นายหมายถึง คุราฮาชิ โคเฮย์ ประธานบริษัทหรอกหรือ”

จริงๆ แล้วไม่ใช่ ฟอร์ดหมายถึงเจ้าของที่แท้จริงต่างหาก แต่เขาทำแค่ยิ้มๆ ไม่ได้สาวความต่อ

“เฮ้...นายชอบผู้ชายที่มีภาพลักษณ์แบบผู้บริหารหรือไง” ตะวันเคลื่อนรถไปข้างหน้า ไม่ได้หันมามองฟอร์ดแต่ตั้งใจขับรถ ถึงแม้จะอยากหันไปพูดคุยจ้องตากับอีกฝ่ายก็ตาม

“แค่คิดว่าเท่ดีเท่านั้นเองครับ ผมเองก็เคยอยากเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ความฝันของผมคือได้เป็นหัวหน้าโปรเจคสร้างเกมซักเกม”

“งี้เอง” ตะวันยกโค้งมุมปาก “แล้วพวกนายแบบล่ะ ไม่ชอบบ้างหรือไง”

ฟอร์ดหันควับไปมองดูเพื่อค้นหาความจริงจากสีหน้ายิ้มแย้มของคนพูด คุณพี่พูดอะไรมาเนี่ย รุกผมหนักเกินไปแล้วนะ

ตะวันปลายมองมา เมื่อเห็นสีหน้าอึ้งๆ ของฟอร์ดก็ฉีกยิ้มกว้างยิ่งขึ้น “ว่าไงล่ะ คบกับคนในวงการเดียวกันตื่นเต้นออกนะ”

“คบกันเองจะไม่เป็นปัญหาหรือไงครับ” ฟอร์ดเสมองไปข้างทางลดเผื่อจะลดระดับความร้อนแรงภายในที่แคบๆ อย่างนี้ลง

“ตื่นเต้นดีจะตาย”

“ผมไม่ยอมคบกับใครแค่เพราะอยากตื่นเต้นนะครับ” ฟอร์ดตั้งใจบอกความคิดของเขาให้ตะวันฟังกรายๆ จู่ๆ อีกฝ่ายก็เทียบรถข้างทาง แล้วพูดคุยด้วยอย่างจริงจัง

“ฉันจริงจังนะ เราไม่ลองมาคบกันดูหน่อยหรือ”

“เดี๋ยวนะพี่ ไหงเป็นอย่างงั้นไปได้ล่ะครับ” พอหันกลับไปก็พบว่าตะวันขยับกายเข้ามาใกล้และกำลังทาบมือลงบนเบาะของเขาด้วย

รุกหนักเกินไปแล้วนะ เกิดมาไม่เคยเจอใครรุนแรงกับเขาอย่างนี้มาก่อน

“ว่าไง มาลองคบกับฉันดูไหม ลองศึกษากันดูไปก่อน ถ้าไม่ชอบถึงตอนนั้น ค่อยกลับไปเป็นเพื่อนก็ยังไม่สาย”

คนคนนี้ขนตายาวจัง เพราะว่าตะวันยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากจึงเห็นองค์ประกอบทั้งหมดชัดเจน เขาชอบดวงตาหงส์กับขนตางามงอนของอีกฝ่ายจัง

“นี่...ฉันรอคำตอบอยู่นะ”

“ถ้าพี่ไม่รังเกียจผม จะเอาอย่างนั้นก็ได้ครับ”

จากนั้นฟอร์ดก็แทบจำไม่ได้ว่ากลับถึงบ้านมาได้ยังไง ไม่สิพี่ตะวันมาส่งเขาที่หน้าบ้าน ทันทีที่กลับขึ้นมาบนห้องพออยู่ลำพังเขาก็ถอนหายใจ

นี่เราบ้าบิ่นไปหรือเปล่านะที่จู่ๆ ไปตอบตกลงคบกับพี่ตะวันแบบนั้น แต่ว่าเขาชอบดวงตาคู่นั้นจัง แถมคนคนนั้นก็ดูดีไปหมดถึงแม้จะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม จริงๆ ก็ไม่ถึงกับถูกบังคับโดยไม่ได้ตั้งตัวหรอก แต่เพราะว่าสำหรับเขาพี่ตะวันน่ารักเกินห้ามใจ

ไม่รู้ทำไมสลัดความคิดนี้ไม่หลุดจากหัวเลย ว่าแต่ถ้าท่านพี่รู้คง...

ฟอร์ดขนลุกชันขึ้นมาทันที ถึงไม่บอกตอนนี้ พี่ชายก็ต้องรู้ที่หลัง หากให้ทราบด้วยตัวเองมีหวังถูกแกล้งวนไปแบบไม่จบง่ายๆ แน่ อาจจะต้องเล่าให้ท่านพี่ฟังสินะ

“ไม่อยากเลยแฮะเรา” ฟอร์ดเกาหัวแกรกๆ แต่ถ้าไม่เล่าแล้วถูกจับได้ที่หลังก็กลัวหายนะมาเยือน



หลังจากทานข้าวเสร็จภาริชไม่ยอมกลับง่ายๆ เขาใช้เวลาร่วมกับครอบครัวของนรินทร์เป็นเวลานาน เล่นเกมvrบ้างเล่นเกมการ์ดบ้าง การที่เจ้ารินเล่นกับเขาอย่างสนุกสนานมันทำให้ภาริชอารมณ์ดีไปทั้งวัน และในที่สุดมื้อเย็นก็มาถึงจนได้

“เรื่องเตรียมงานแข่งเกม Battle of the unitsไปถึงไหนแล้ว” ภาริชเปิดประเด็นเรื่องงานช่วงที่ทานมื้อเย็นกันต่อหน้านรินทร์และมิวซัง

“ทุกอย่างใกล้สมบูรณ์แล้วครับ เหลือแต่คุณภาริชระบุวันมา ก็สามารถเริ่มยิงโฆษนาออกไปได้เลย”

“อืมมาจัดงานชนกันแบบนี้ เท่ากับแย่งทรัพยากรกันทุกด้านเลยนะ น่ารักซะจริง”

“แย่งทรัพยากรนี่หมายถึงสปอนเซอร์หรือครับพี่ภาริช” นรินทร์ถาม

นี่แหละสิ่งที่ภาริชรอคอยอยู่ ที่อุตส่าห์เอาเรื่องงานมาพูดในเวลาพักผ่อนก็เพราะอย่างให้เจ้ารินสนใจ

“รินรู้จักเกม Military strategy ของบริษัทชัยมงคลไหม เจ้าของบริษัทนี้ชื่อธันวา ชัยมงคล บริษัทนี้มักผลิตคอนเทนต์และเกมคล้ายๆ กันกับของพี่มากมาย คราวนี้ถึงกับจัดงานแข่งเกมชนกับพี่ น่ากลุ้มใจมาก แย่งทรัพยากรที่รินว่ามันไม่เพียงแค่สปอนเซอร์เท่านั้น มันยังรวมถึงบรรดายอดฝีมือแอคเค้าชื่อดังที่จะมาร่วมแข่งขัน หากไม่มีคนพวกนั้นงานก็กร่อยกันพอดี”

ตอนนี้เองที่นรินทร์ก้มหน้าครุ่นคิด พูดถึงนามสกุลชัยมงคล มันทำให้ภาพใบหน้าของรุ่นพี่เมษาลอยขึ้นมา บริษัทของคนคนนั้นเป็นคู่แข่งกับพี่ภาริชคนที่เขาเทิดทูน แถมดูท่าว่าจะเป็นตัวร้ายที่คอยบ่อนทำลายไอดอลของเขาด้วย

พอได้ยินสิ่งที่พี่ภาริชคุยกับพี่ชายของเขาว่าบริษัทชัยมงคลอาจส่งสปายมาสอดแนมในบริษัทของพี่ภาริช เขาก็เกิดความรู้สึกร่วมขึ้นมา ทำไมนะคนนามสกุลชัยมงคลถึงได้ใจร้ายเจ้าเล่ห์กันแบบนี้ รุ่นพี่เมษาก็ดี คุณพ่อของเขาก็ดี คนพวกนี้ชอบทำเรื่องร้ายกาจอยู่เรื่อยๆ

“ฉันก็หวังว่าถ้าเปิดตัวงานแข่งเกมออกไป พวกแอคเค้าท์ดังๆ จะเลือกมาแข่งที่งานของฉันมากกว่าจะไปแข่งเกม Military strategyล่ะนะ”

“พี่ภาริช ไม่ลองเลื่อนงานดูละครับ”

“ไม่รู้สิ ต้องดูสถานการณ์ไปก่อน” ภาริชยิ้มหวานให้นรินทร์ที่เสนอความคิดอย่างกล้าหาญ เขาชอบให้เด็กคนนี้มีส่วนรวม

“จริงๆ ถ้าได้แอคเค้าท์ชื่อดังอย่างmaddog01มาแข่งด้วยก็ดีนะ เพราะทางฝั่งนั้นต้องเอาdoghunter00แอคเค้าท์ชื่อดังที่เป็นลูกชายมาชูโรงอยู่แล้ว ถ้าทางนี้ได้แอคเค้าท์ระดับเดียวกันมา ก็จะสบายใจขึ้นมากเลย”

หลังจากภาริชเปรยความคิดด้วยรอยยิ้มอ่อนอกอ่อนใจ มิวซังก็หันมามองดูสีหน้าของนรินทร์ เธอเห็นความขัดแย้งบนใบหน้าของเจ้าตัวแสบ

นี่คงอยากช่วยคุณภาริชสินะ แต่ก็กลัวไม่กล้าออกไปนอกบ้าน มิวซังหรี่ตาลงลอบมองดูภาริชเจ้านายของพี่ณภัทร คนคนนี้ฉลาด ทุกอย่างที่ทำลงไปเพื่อดึงให้เจ้ารินออกจากบ้าน ทำไมเขาถึงตั้งใจทำเพื่อนรินทร์ถึงขนาดนี้ เพราะว่าชอบอย่างนั้นหรือ หรือแค่เอ็นดูกันแน่

แล้วถ้าหากว่าข้อสันนิษฐานของเธอเป็นจริง โกรธเกรี้ยวกับคุณภาริชน่าจะเป็นคนเดียวกัน คนคนนี้ก็ไม่ได้คิดปิดบังตัวเองด้วย มีแต่เจ้ารินนี่แหละที่คิดไม่ถึง

แต่ถ้ามันจะทำให้นรินทร์ดีขึ้น เธอจะเงียบเอาไว้แล้วดูท่าทีต่อไปอีกซักหน่อย อีกอย่างยังไม่มีหลักฐานระบุชัดเจนมากกว่านี้ ฟันธงลงไปมันก็เหมือนกับใส่ร้ายนั่นแหละ

“จริงสิ...ต้องกลับแล้วล่ะ” ภาริชพูดกับณภัทรก่อนจะหันมายิ้มให้กับนรินทร์ “คราวหน้าพี่จะแก้ตัวเอาแชมพูหอมๆ มาให้ใหม่นะ ชอบพูแมวที่เอามารินคงใช่ไม่ได้หรอกใช่ไหม”

“ขอบคุณเจ้านายพี่ด้วยสิริน” ณภัทรสั่งเจ้าริน

เขาไม่ได้เห็นเป็นอย่างอื่นนอกจากแค่ว่าภาริชเอ็นดูน้องชายของเขาในฐานะคนอายุมากกว่าเท่านั้นเอง การที่มีคนมาใจดีด้วยขนาดนี้ต้องเป็นเพราะความน่ารักของเจ้ารินอยู่แล้ว ขนาดพี่ชายอย่างเขายังปลื้มๆ คุณภาริชที่ชอบอะไรน่ารักๆ จะอดใจไหวได้ยังไง ณภัทรคิดแค่นี้จริงๆ

“ขอบคุณครับพี่ภาริช” นรินทร์กล่าวขอบคุณเป็นจังหวะเดียวกับที่ภาริชใช้มือขยี้หัวเขาเบาๆ

“พี่รับรองว่าขนนุ่มๆ แบบรีทริฟเวอร์จะต้องยิ่งนุ่มกว่าเดิมแน่ๆ เชื่อมือพี่ได้เลย”

ท่าทางพี่ณภัทรจะชอบหมามาก นรินทร์ยังไม่เคยลองสัมผัสขนเจ้ารีทริฟเวอร์แต่ก็คิดว่ามันต้องนุ่มและน่ารักมากแน่ๆ ถูกเปรียบเป็นเจ้าตัวนั้นก็น่าดีใจเหมือนกันแฮะ เจ้าสิ่งมีชีวิตน่ารักและนุ่มแบบนั้นใครๆ ก็ต้องชอบอยู่แล้ว

<ว่าแต่รู้สึกดีจังน้า...อุ้งมือของพี่ภาริชเนี่ย...>

นรินทร์หลับตาพริ้มขณะถูกลูบหัวไปมา ในสายตาของภาริชมันช่างเป็นภาพที่ทำให้เขาเหลือจะทนจริงๆ

<หมั่นเขี้ยว อยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หนำใจ>

ว่าแล้วก็ถอนมือจากนรินทร์ หากว่ายังคลอเคลียแบบนี้ต่อไปมีหวังทำเรื่องร้ายกาจลงไปแน่ๆ

“งั้นกลับก่อนนะ”

ในที่สุดก็ตัดใจกลับบ้าน เขายังต้องเข้าไปเล่นเกมตามที่นัดเอาไว้กับmaddog01แล้วก็ต้องกลับไปดูเจ้าฟอร์ดด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง อ้อ...ยังมีประชุมอีกด้วย วันนี่เขาสนุกจนลืมเรื่องอื่นๆ ไปสิ้นเลย เจ้ารินนี่ร้ายกาจจริงๆ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

               

                  พี่ตะวันรุกแรง จนพี่ภาริชต้องพ่ายเลย555555

                  แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่16 คำตอบของฟอร์ด 11/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 11-08-2018 14:50:52
ร้ายยยยย
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่16 คำตอบของฟอร์ด 11/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-08-2018 19:20:22
หุ หุ ตะวันรุกหนักขอคบฟอร์ดแล้ว  :katai2-1:
ต่างฝ่ายต่างประทับใจกัน เยี่ยมไปเลย  :z3:

ภาริช ติดอยู่กับรินทั้งวัน  :o8:
แถมแผนที่จะชักพารินออกนอกบ้านเริ่มฉายแวว
ริน ที่ไม่ชอบนามสกุลเมษาอยูแล้ว  :z6:
ที่มาทำตัวร้ายกับบริษัทของไอด้อลตัวเอง ย่อมอยากช่วยภาริชและ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่16 คำตอบของฟอร์ด 11/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 11-08-2018 21:16:57
รุกแรงงงงงงงง :hao7:
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่16 คำตอบของฟอร์ด 11/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 11-08-2018 21:48:20
รออ่านตอนต่อไปนะค้าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่17 ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไว 12/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 12-08-2018 10:25:02
บทที่17

ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไปไวมาก

“ฟอร์ดล่ะ” สิ่งแรกที่ทำทันทีที่ถึงบ้านคือถามหาน้องชายจากคนรับใช้

“คุณฟอร์ด อยู่ในห้องค่ะคุณท่าน”

พอได้คำตอบภาริชก็เดินตรงไปยังห้องส่วนตัวของฟอร์ด เขาเคาะประตูสามครั้งก่อนรอให้ฟอร์ดมาเปิดประตูให้

“กลับมาแล้วหรือท่านพี่”

“อา...กลับมาแล้ว”

ภาริชเดินตามฟอร์ดเข้าไปด้านใน และพบว่าข้าวของจำพวกเครื่องแต่งกายวางระเกะระกะไปหมด

“หือ...ซื้อเสื้อผ้าใหม่หรือไง เยอะใช้ได้นี่”

ฟอร์ดทำหน้ากระอักกระอ่วน พยายามเรียบเรียงคำพูดในหัวเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้าแล้วก็เรื่องพี่ตะวัน

“ทำไมถึงซื้อซะเยอะล่ะ ปกติไม่ใช่คนพิถีพิถันในเรื่องการแต่งตัวนี่”

“ก็...มีคนอาสาซื้อให้” ฟอร์ดลังเลที่จะพูด แต่ใคร่ครวญดูแล้ว เล่าออกมาตอนนี้ดีกว่าให้พี่ชายทราบที่หลัง

“ใคร”

“พี่ตะวัน”

จากนั้นฟอร์ดก็เล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ภาริชฟัง เขาลำรึกถึงภาพความทรงจำช่วงนั้นไปด้วย มันเป็นเรื่องราวก่อนที่จะถูกพามาส่งที่บ้าน

ฟอร์ดถูกพามายังห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง ตะวันลางจูงเขาเข้าไปในร้านที่ดูหรูหรา ใช่ว่าฐานะทางบ้านของเขาจะจ่ายไม่ได้ แต่สำหรับเขาที่ค่อนข้างสมถะ ไม่บ่อยครั้งที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของราคาแพงแบบนี้

หลังจากลองเสื้อผ้าในร้านแรกจนพอใจ อันที่จริงพี่ตะวันต่างหากที่ชอบมัน ฟอร์ดก็หยิบเครดิตการ์ดที่พี่ชายให้มายื่นส่งให้พนักงาน ทว่ากลับถูกตะวันขวางเอาไว้

“ฉันพานายมาฉันก็จะจ่ายให้นาย” ตะวันพูดด้วยท่าทีเขื่องโข เขาเอามือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงดูทะมัดทะแมงดูดีไปหมด

พี่จะทำตัวเป็นป๋าให้ผมหรือครับ คุณพี่ทุ่มขนาดนี้กับคนที่เพิ่งคบกันไม่ถึงชั่วโมงเลยหรา

แบบนี้มันประสบการณ์ใหม่ เนื่องจากครอบครัวของเขารวยมาก ดังนั้นฟอร์ดจึงรับหน้าที่เปย์มาโดยตลอด ไม่เคยมีใครมาเปย์เขาแบบนี้

“ไม่ดีมั้งครับ”

ในตอนนั้นตะวันก็ใช้แขนคล้องคอฟอร์ดแล้วกระซิบข้างหูด้วยเสียงเร้าอารมณ์จนฟอร์ดขนลุก ที่ร้ายไปกว่านั้นคือประโยคคำพูดที่ฟังยังไงก็แม่มเป็นการลวนลามชัดๆ ทำเอาคนฟังหน้าแดงไปทั้งใบหน้า

“นายก็รู้ใช่ไหมว่าทำไมผู้ชายอย่างเราถึงซื้อเสื้อผ้าให้คนรัก”

“พี่ตะวันอยากถอดเสื้อให้ผมหรือ”

“อยากดูตอนนายเปลือยจังแฮะ” ตะวันกับฟอร์ดสบตากันในระยะใกล้ ไม่ได้รู้เลยว่าแม่พนักงานสาวแทบกรี๊ดด้วยความฟิน ถ้าเป็นไปได้หล่อนก็อยากเรียกเพื่อนที่แคชเชียร์มาหวีดกับเธอด้วยกัน

“เร็วไปแล้วครับ ผมว่า...ผมซื้อเองดีกว่า นะครับ อย่าทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นปลิงเกาะพี่เลย เราพึ่งคบกันไม่ใช่หรือครับ ไม่อยากให้ใครคิดว่าผมคบกับพี่เพื่อเงิน เอาเป็นว่าผมจะเลือกซื้อตามที่พี่ชอบแล้วผมจ่ายเงินเองนะครับ”

ดีเลิศค่า พนักงานสาวแอบเห็นด้วยในใจ นี่มันคู่รักดีเด่น ไม่ยอมแฟนเปย์ให้ตัวเองฝ่ายเดียว แต่เลือกที่จะรักษาศักดิ์ศรีและความเท่าเทียม ดีงามเหลือเกินค่า ตอนแรกหล่อนก็นึกว่าน้องคนนี้เป็นเด็กเสี่ยของนายแบบตะวัน ที่แท้ก็แฟนตัวจริงนั่นเอง

แหมดูดีๆ จริง พวกเขาสองคนช่างเป็นคู่รักที่ดูดี

การที่พนักงานสาวเห็นเรื่องราวความรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องปกติเป็นเพราะว่าสังคมโลกในปัจจุบันยอมรับการแต่งงานของเพศเดียวกันเป็นเรื่องสากลไปแล้ว แถมการสมรสยังได้รับการรองรับจากกฎหมายคู่ชีวิต มีการจดทะเบียนและได้สิทธิรวมถึงสวัสดิการจากรัฐทุกอย่าง

“นายนี่น้า ทำไมมันน่ารักจัง”

ตะวันหอมแก้มฟอร์ด แล้วแม่สาวพนักงานก็ร้องกรี๊ดออกมาเบาๆ

“เดี๋ยวนะ” ภาริชขัดคอขึ้นมากระทันหัน ทั้งยังดีดนิ้วใส่หน้าผากน้องชายจนต้องชะงัก

การขัดคอระหว่างที่เขาเล่าเรื่องให้ฟังของพี่ชาย ทำให้ฟอร์ดหลุดจากความทรงจำ เขายิ้มเจื่อนๆ ให้พี่ภาริช นึกอยู่แล้วว่าท่านพี่ต้องขัดจังหวะหรือล้อเลียนอะไรซักอย่าง ยิ่งทำเสียงและหน้าตาประหนึ่งมารร้ายอย่างนี้ด้วยแล้ว แย่เลยแฮะต้องถูกย่ำยีจนเละแน่ๆ

“ฉันเข้าใจไม่ผิดใช่ไหม ว่านายกับชานมฯ คบกันเป็นคนรัก”

“พี่จะให้ผมเลิกกับเขาหรือ”

“นั่นสินะ...ไม่คิดบ้างหรือว่ามันเร็วไปหน่อย”

ฟอร์ดก็คิดว่ามันเร็วไปเหมือนกัน ตามปกติเขาต้องปฏิเสธ แต่นี่กลับรับปากคบหาอย่างหน้าชื่นตาบาน เพราะว่าเขาชอบองค์ประกอบหลายๆ อย่างบนใบหน้าของพี่ตะวัน คิดว่าถ้าได้มองบ่อยๆ คงมีความสุข เท่านั้นจริงๆ

ภาริชมองดูฟอร์ดครุ่นคิดอย่างคร่ำเคร่ง ตามปกติถ้าเขาออกความเห็นชี้นำ เจ้าน้องชายคนนี้จะทำตามความประสงค์ของเขาในทันที แต่คร่าวนี้กลับมีความคิดเป็นของตัวเอง มันน่าทึ่งที่น้องชายซึ่งเอาแต่ตามตูดเขามีความคิดอ่านเป็นของตัวเองในที่สุด

เรื่องคบหากันเป็นแฟนกับตะวัน ภาริชก็คิดว่ามันเร็วไปมาก แต่นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ฟอร์ดใกล้จะ 18 สามารถคิดเองเลือกเองได้ เขาไม่ต้องการขีดเส้นกั้นให้น้องชายขนาดนั้น เขาจะยอมหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้ฟอร์ดเรียนรู้เอาจากตะวัน แต่ถ้าตะวันทำให้น้องชายเขาเจ็บ เรื่องนี้รับรองว่าไม่จบลงง่ายๆ

อีกอย่างเวลานี้เขาต้องการให้ตะวันช่วยดึงฟอร์ดออกจากต้นกล้า การมีแฟนซักคนจะทำให้ฟอร์ดเลิกสนใจต้นกล้าไปได้เสียที

“ถ้าเจ็บกลับมาก็ต้องยอมรับให้ได้นะว่านายเลือกเอง”

ไม่อยากเชื่อว่าท่านพี่จะยอมให้เขาคบกับพี่ตะวันง่ายๆ ฟอร์ดถามด้วยอาการละล่ำละลัก

“ท่านพี่จะไม่ขัดขวางหรือดุด่าผมเลยหรือไง”

“ทำไมล่ะ พี่เองก็จะจีบmaddog01เหมือนกัน ถ้าขจัดคู่แข่งอย่างเจ้าชานมฯ ไปได้พี่ก็จะสบายนะ”

“จริงสิ พี่ตะวันก็ดูจะคลั่งไคล้maddog01น่าดู” ฟอร์ดพึมพำ ก่อนจะปัดข้อมูลนั่นทิ้งไปเพราะไม่เห็นด้วย พี่ชายไม่น่าคิดอะไรตื้นๆ แบบนั้น

“ท่านพี่อย่าพูดล้อเล่นสิครับ พูดความจริงมาเถอะว่าทำไมถึงยอมให้ผมคบกับพี่ตะวันง่ายๆ”

“เอางั้นรึ” ภาริชยิ้มละไม ฟอร์ดนั่งหลังตรงรอคอยคำตอบอย่างจดจ่อ

“ก็...นายโตแล้ว อีกไม่นานจะอายุ 18 ฉันคงบังคับอะไรนายมากไม่ได้ แต่ฉันจะเฝ้าดูนายคอยเป็นกำลังใจให้นายรวมถึงฉุดนายให้ลุกขึ้นตอนล้มลง ยังมีอะไรที่คนเป็นพี่ชายต้องทำอีกหรือ”

“ท่านพี่” ฟอร์ดซบศีรษะลงบนไหล่ของภาริช รู้สึกตื้นตันต่อความรักของพี่ชายที่มีต่อเขา “ดีใจจริงๆ ที่มีพี่อยู่ข้างๆ”

“แต่ซักวันคนที่จะอยู่ข้างกายนายคือคนรักใช่ไหม ดังนั้นเรียนรู้เอานะ ถ้าเสียใจหรือล้มก็คลานกลับมาหาพี่”

สำหรับกับนายตะวันคนนี้ก็นับว่าพอไหวอยู่ นิสัยใจคอจากที่ได้สัมผัสระหว่างการเล่นเกมก็นับว่าดี รูปร่างหน้าตาก็ดี การศึกษาก็ดี หน้าที่การงานก็เยี่ยม ถ้าฟอร์ดอยากลองก็เห็นว่าไม่มีอะไรน่าขัด

“ว่าแต่นายรู้นะว่าคู่รักเพศเดียวกันเขาทำรักกันยังไง”

ฟอร์ดแข็งค้างไม่คิดว่าท่านพี่จะเข้าประเด็นนี้ทันที เขารีบผละออกจากพี่ชาย เงยหน้าขึ้นมองดูปฏิกิริยาอีกฝ่าย แล้วพบว่าท่านพี่กำลังคลี่ยิ้มประดุจนางฟ้า

“เอาเป็นว่าพี่จะสั่งgvมาให้นายเรียนรู้ ขอบคุณพี่ชายที่แสนดีคนนี้เสียด้วยล่ะ”

ภาริชหยิบมือถือขึ้นมากดๆ เลื่อนๆ สั่งสินค้าจากเว็บไซด์ ฟอร์ดนั่งเหงื่อตก ไม่คิดว่าท่านพี่จะลงมือไวขนาดนี้

“ม...ไม่ต้องก็ได้ขอรับ ผมพอรู้เรื่องแบบนี้อยู่บ้าง”

“ไม่หรอกนายไม่รู้จริงหรอก ต้องเรียนรู้เทคนิคเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นเวลาขึ้นเตียงนายจะกลายเป็นหมูให้เขาเชือดเปล่าๆ”

“ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง” ฟอร์ดปาดเหงื่อ เขายังไม่ได้คิดไปถึงขั้นขึ้นเตียงกับพี่ตะวันเลย ไหงท่านพี่เปิดประเด็นร้อนฉ่าแบบนี้เล่า แกล้งกัน แกล้งกันชัดๆ

“น้อยไปสิเจ้าหมาโง่ เอาจริงๆ ฉันไม่สนใจนะว่านายจะรับหรือรุก แต่ถ้านายเป็นฝ่ายยอมอยู่ข้างล่างเป็นสาวน้อยไร้ชั้นเชิง คิดแล้วก็ปวดใจเหมือนกันนะ จริงสิ ฉันเองก็มีgvในคอลเล็คชั่นไม่น้อยระหว่างที่รอของที่สั่งไปก็เอาของฉันไปดูก่อน รอเดี๋ยวนะ”

“เดี๋ยวท่านพี่” ฟอร์ดร้องโหยหวน คิดว่าต้องหยุดยั้งท่านพี่ให้จงได้

“อาราย หรืออยากได้พวกอุปกรณ์ด้วยก็ได้นะ”

รอยยิ้มประดุจนางฟ้าของพี่ดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว นี่จะแกล้งให้ผมไม่กล้าออกไปสู้หน้าผู้คนเลยใช่ไหมครับ

“ขอร้องล่ะท่านพี่ ไม่เอาอุปกรณ์ แค่หนังก็พอครับ”

เพราะไม่สามารถทำอะไรกับท่านพี่ที่เป็นประหนึ่งจอมมารได้เลย สุดท้ายมีแต่ต้องยอมศิโรราบยอมแพ้โดยดุษฎี

หลังจากท่านพี่ออกจากห้องไปฟอร์ดก็หวนนึกถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้นอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่เขาเกิดความประทับในตัวพี่ตะวัน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อพี่ตะวันขับรถมาส่งตรงหน้าบ้านของเขา

“ถึงแล้ว” ตะวันจอดรถแล้วหันมายิ้มให้ฟอร์ด

“ขอบคุณครับพี่ตะวัน” ขณะที่จะลงจากรถตะวันก็พูดบางอย่างกับเขาเสียก่อน

“นายคงคิดว่าฉันรุกเร็วไปจนดูไม่จริงใจ”

ฟอร์ดหันไปมองดูตะวัน อีกฝ่ายทำสีหน้าจริงจังกว่าปกติมาก

“ฉันเป็นคนร้อนแรงอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร เวลาชอบใครก็มักจะพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะทำได้ แต่ทุกคนที่ฉันเข้าหา ฉันมีความคิดจริงจังที่ว่าอยากจะเรียนรู้ความเป็นคนคนนั้น ฉันรู้ว่าพูดจาล่วงเกินนายไปมาก”

ตะวันเอามือขยี้หัวไปมา ในสายตาฟอร์ดเป็นอาการของคนสับสนที่ดูน่ารักชะมัด แถมตอนนี้พี่เขาหน้าแดงนิดๆ ยิ่งทำให้มีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก

“เอาเป็นว่าโทษที่ฉันแม่มดันเกิดเป็นคนราศีสิงห์ ที่เต็มไปด้วยพลังและความโลภโมโทสันต่างๆ นานา ไม่สิฉันแค่เป็นคนที่เวลาต้องการอะไรขึ้นมาแล้วมันจะเร่าร้อนรุนแรงอย่างเฉียบพลัน หรือว่าจะโทษว่าฉันเป็นคนกรุ๊ปเลือดบีที่ความรักจุดติดง่าย เฮ้อ...เอาเถอะฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันเป็นแค่ไอ้หนุ่มกลัดมันวัย 21 ที่หื่นเกินไป”

“ผมก็กรุ๊บเลือดบีเหมือนกันนะ อย่าไปโทษกรุ๊ปเลือดเลยครับ”

พอเห็นฟอร์ดหัวเราะเบาๆ ความกดดันที่ตะวันมีก็ลดน้อยลงไป

“นั่นสิเนอะ เอาเป็นว่าโทษที่ฉันหื่นเกินไป ขอโทษนะที่ทำเหมือนกับนายเป็นคนง่ายๆ เกินไป ฉันทำไปตามสัญชาตญาณน่ะ”

“งั้นพี่ต้องควบคุมสัญชาตญาณบ้างนะครับ”

ไม่รู้คิดยังไง ฟอร์ดเลือกที่จะจุมพิตลงบนริมฝีปากของตะวันแผ่วเบา

“จูบแรกของเรานะครับ คิดว่าพี่คงอยากได้”

กลายเป็นว่าคนที่อึ้งจนแข็งค้างกลับกลายเป็นพี่ตะวัน ฟอร์ดค่อยๆ ลงจากรถปิดประตูแล้วมองดูอีกฝ่ายพักหนึ่ง แล้วคนถูกจูบก็ขับรถออกไปโดยไม่พูดอะไรซักคำ

“พี่ตะวันเขินหรือว่าตกใจกันแน่นะ”

ฟอร์ดยกมือขึ้นคลึงริมฝีปากตัวเอง เขาชอบจูบกับพี่ตะวันจัง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะจุมพิตซ้ำอีก พี่เขาจะว่าอะไรหรือเปล่านะ

เรื่องนี้ต้องเป็นความลับจะให้ท่านพี่รู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ฟอร์ดพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่เขาไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มกำลังเกลื่อนทั่วใบหน้าของเขาเลยทีเดียว

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันหืม...”

ฟอร์ดสะดุ้ง เมื่อพบว่าพี่ภาริชกลับมาที่ห้องของเขาพร้อมด้วยแฟลชไดร์ฟสองสามอัน

“มามะมาเรียนรู้บทอัศจรรย์ของชายกับชายกันเถอะ พี่จะให้คำปรึกษาอย่างละเอียดเอง”

ถ้าร้องไห้ได้ฟอร์ดก็อยากร้องไห้เสียเหลือเกิน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



55555 ไม่รุว่าพี่ภาริชจะแกล้งอีกเยอะไหม แต่พี่เขาควรเริ่มไปรุกนุ้งmaddog01บ้างแล้วนะ

ปล่อยใ้เพ่ชานมทำคะแนนน้องตัวเองไปมากแล้ว

                   ตอนเขียนก็คิดแบบนี้ล่ะค่ะ555555

                  แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่17 ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไว 12/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 12-08-2018 11:09:13
น้องฟอร์ดมีติวเตอร์ส่วนตัวเป็นท่านพี่ภาริชนี่เอง 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่17 ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไว 12/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 12-08-2018 13:19:46
อยากมีพี่แบบนี้บ้างงงงงงง
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่17 ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไว 12/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-08-2018 15:34:51
พี่ภาริช ดูช่ำชองสุดๆ ยังไง    serius2: :really2:  :z3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่17 ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไว 12/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 12-08-2018 18:24:16
สอนอะรัยกันค้าาา :katai3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 13-08-2018 10:31:59
บทที่18

ความโกรธของต้นกล้า

ภาริชนั้นมีมือถือไว้ใช้อยู่สองสามเครื่องดังนั้นทำให้มีแอคเค้าในแอพlมากกว่าหนึ่งเช่นกัน ระหว่างที่นั่งดูหนังgvและคอยหยอกเย้าฟอร์ดmadog01ก็ส่งคลิปมาทางกลุ่มสนทนาให้ทุกคนดู ฟอร์ดเองก็พึ่งถูกตะวันชวนเข้ากลุ่มไม่กี่ชั่วโมงมานี้จึงได้เห็นด้วยทางมือถือของตัวเอง

Maddog01 : น่ารักไหม นี่พี่ภาริชให้มา

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ใครให้มา นี่มันเป็นการตัดหน้ากันชัดๆ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ข้าเองก็ซื้อมาให้ลูกพี่เหมือนกันนะTT

Silverfox13 : นายซื้อมาด้วยหรือชานมฯ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ใช่สิTT

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่รู้ล่ะลูกพี่ต้องรับเจ้าแร็กดอลล์ของข้าไปด้วย TT

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เสียความรู้สึกว้อยอุตส่าห์จะเซอร์ไพรส์เอาไปให้ถึงบ้านแท้ๆ

ชานมฯ บ่นงุ้งงิ้งยาวเหยียด ภาริชอ่านแล้วกระตุกยิ้ม จังหวะนั้นนึกได้ว่าเจ้าหมอนี่กับน้องชายของเขาคบกันอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองสีหน้าของฟอร์ดในเวลานี้

<เจ้าน้องตัวดีทำสีหน้าว่างเปล่าก็เป็นแฮะ คบกันไม่ทันไรรู้จักหึงแล้วเรอะ>

แม้แต่ภาริชยังทราบเลยว่าฟอร์ดรู้สึกอย่างไร แต่เจ้าตัวกลับไม่เข้าใจตัวเองขนาดนั้น ฟอร์ดอ่านข้อความไปก็อึดอัดใจไป

Ford : พี่ตะวันจะเอาลูกแมวไปให้maddog01ที่บ้านหรือครับ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ฉันไปบ้านลูกพี่บ่อย ไปดูความน่ารักกิ๊วก๊าวที่คุ้มสุดๆ สมกับที่อุตส่าห์เหนื่อยไปหา



<ตายล่ะ สายตาเย็นชานี่มันอะไรกัน> ภาริชลอบหัวเราะ เจ้าชานมฯ คนนี้ หาเรื่องใส่ตัว โง่เป็นธรรมชาติหรือไง ถึงได้กล้ากิ๊วก๊าวชายอื่นต่อหน้าคนที่ตัวเองขอคบ

<ดีเหมือนกัน เจ้านี่ทำให้ฟอร์ดมีชีวิตชีวาขึ้นมา ปกติเอาแต่เก็บความรู้สึกเพราะเกรงใจคนอื่น ยิ้มทั้งที่ไม่มีความสุขก็เคย ให้ระเบิดอารมณ์ดูบ้างก็ดี คนเป็นพี่ชายอย่างเรารอดูเรื่องสนุกแค่นั้นพอ>

Ford : ผมขอไปบ้านของmaddog01ด้วยได้ไหม

Silverfox13 : จะมาก็ได้นะ เนอะmaddogน้อย

Maddog01 : เอ่อก็ได้ แต่นายคงไม่ได้พาโกรธเกรี้ยวมาด้วยใช่ไหม

Maddog01ไม่อยากพบหน้าโกรธเกรี้ยวตอนนี้ เขากลัวว่าถ้าอีกฝ่ายเห็นเขาแล้วจะผิดหวัง

โกรธเกรี้ยว : ไม่อยากให้ฉันไปหรือไง

Maddog01 : เปล่าๆ นะ แค่ว่า....



“อ๊าก....ลำบากใจจัง”

ที่หน้าจอนรินทร์ขยี้หัวตัวเองไปมา มิวซังทำแค่ถอนหายใจ ตามจริงถ้าmaddogน้อยชวนโกรธเกรี้ยวมา ก็เป็นทางหนึ่งที่จะพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของเธอ แต่คิดอีกทีทำนิ่งไว้ก่อนคงเป็นผลดีมากกว่า



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : จริงสิ นายไปบ้านmaddogกับฉันก็ดีเลย จะได้ไปดูความน่ารักของmaddog01ด้วยกัน รับรองจะติดใจ

Ford : พูดจาน่าเกลียดจังเลยครับ พูดอย่างกับmaddog01เป็นสัตว์ในกรงของสวนงั้นแหละ



<มีแขวะด้วยแฮะ น้องชายเรานี่ก้าวหน้าเร็วจริง> ภาริชยิ้มละไม สีหน้าของฟอร์ดตอนนี้เย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง แต่ในเวลาต่อมาเมื่อรู้สึกว่าพูดแรงเกินไปเจ้าตัวดีก็ว้าวุ้นใจไปหมด

“ทำไงดี ผมพูดแรงเกินไปแล้ว”

“ไม่มีใครเขาคิดเล็กคิดน้อยหรอกน่า ดูเจ้าชานมพิมพ์ตอบมาสิ”



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่ใช่หรอก เหมือนพวกกระต่ายในทุ่งหญ้าเขียวขจีต่างหาก น่ารักอ่อนนุ่มแบบนั้นเลย

Ford : แสดงว่าmaddog01ต้องน่ารักมากสินะ

Ford : ไม่เหมือนผมที่ตัวโตเกินกว่าจะใช้คำว่าน่ารัก



ภาริชระเบิดหัวเราะออกมาทันทีที่อ่านข้อความของน้องชาย เจ้าฟอร์ดกลายเป็นคนร้ายกาจไปแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวแสบเวลาหึงจะร้ายกาจขนาดนี้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เฮ้ ไม่ขนาดนั้นหรอก นายน่ะ น่ารักคนละแบบกับลูกพี่นะ

Ford : ครับคนละแบบ แต่ก็ยังสู้maddog01ไม่ได้สินะ



ชานมฯ ไข่มุกส่งสติ๊กเกอร์เหงื่อตกมารัวๆ

เป็นครั้งแรกเลยที่นรินทร์เห็นชานมฯ แสดงอาการแบบนี้ สนิทสนมกับน้องชายของโกรธเกรี้ยวมากขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ <น่าอิจฉานิดๆ แฮะ>

“คบกันอยู่หรือเปล่า เจ้าชานมฯ กับสุดยอดสาวงาม”

“เอ๋...” นรินทร์ตกใจกับข้อสันนิษฐานของมิวซังอย่างมาก

<คบกันหรือ มันเร็วเกินไปหรือเปล่า สองคนนี้แค่เจอหน้ากันครั้งเดียวหรือเปล่านะ>

“ม...ไม่น่าใช่มั้งมิวซัง”

“ก็คอยดูกันไป แต่ฉันมั่นใจว่าพวกเขาคบกัน”

นรินทร์รู้สึกแปลกๆ ที่เพื่อนๆ ของเขาคบหากันเองนิดหน่อย แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทั้งคู่

<แต่ว่า ไหงพวกเขาคบกันเร็วแบบนี้นะ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ หรือว่าต้องเตรียมแหวนแต่งงานในเกมไว้ให้ทั้งสองคนนะ>

ว่าแล้วนรินทร์ก็พาตัวละครของตัวเองไปยังคลังสมบัติ เขาเอาของออกมาจำนวนหนึ่ง ถ้าทั้งสองคนเป็นแฟนกันจริง เขาต้องมอบไอเทมรับขวัญเสียหน่อยแล้ว



ต้นกล้าเริ่มไม่เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เพราะสามชั่วโมงที่เข้าตี้เก็บเลเวลกับพวกไอ้นรินทร์ ไอ้เจ้าชานมฯ นี่ เอาใจใส่และแสดงออกกับฟอร์ดเกินงามประหนึ่งคบกันอยู่อย่างไรอย่างนั้น



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ที่รักระวังอย่าไปตรงนั้นนะ มอนฯ ตรงนั้นอันตรายมาก มามะมาหลบหลังสามีคนนี้ดีกว่า



นี่ยังเป็นแค่ส่วนน้อย ที่น่าขนลุกกว่านั้นคือการเปย์ไอเทมทั้งหมดที่ได้ให้ฟอร์ดมันจนหมด คำพูดคำจาก็ส่อ พฤติกรรมก็ส่อ นี่มันอะไรวะ นี่กูพลาดอะไรไปกันแน่

ต้นกล้าตั้งใจจะพิมพ์ถามฟอร์ดในช่องทางลับแต่คิดไปคิดมา เขาโมโหว่ะ เดือดดาลอย่างบอกไม่ถูก จึงตั้งใจพิมพ์ถามในช่องกลุ่ม



Sapling : ฟอร์ดมึงคบกับพี่ชานมฯ หรือวะ

Sapling : อ๊ะขอโทษครับ ผมพิมพ์ผิดช่อง

พิมพ์ผิดที่ไหน ตั้งใจต่างหากล่ะ เขารอคำตอบแล้วชานมฯ ก็ตอบได้รวดเร็วเสียด้วย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ใช่นะสิ

Silverfox13 : สรุปคบกันแล้วจริงๆ สินะ



มิวซังหันไปมองดูmaddogน้อย ที่ยื่นหน้าเข้าไปอ่านข้อความจนแทบจะติดจอ

“เป็นแฟนกันแล้วจริงๆ หรือนี่” นรินทร์พึมพำ



Maddog01 : อย่างนี้ของที่ข้าเตรียมมาก็มีประโยชน์สิ ว่าไงสาวงามแต่งงานกับชานมฯ ไหม

โกรธเกรี้ยว : ดีเลย ในเมื่อคบกันแล้ว แต่งงานในเกมก็ดีเหมือนกันนะ

ฟอร์ดหันควับไปมองดูภาริช คนเป็นพี่ส่งยิ้มน่ารักๆ มาให้ รู้เลยว่าสุดท้ายคงขัดใจท่านพี่ไม่ได้ ตอนนี้ก็แค่กังวลกลัวต้นกล้ามันก่อเรื่องมากกว่าเดิมเท่านั้น แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

Maddog01 : มามา มาเอาแหวนไป วันนั้นดีจริงๆ ที่น้องสาวของภรรยาข้า จะแต่งงานกับมือซ้ายของข้า

คำพูดของจูนิเบียวมาเต็ม ภาริชหัวเราะเบาๆ ที่หน้าจอ ยิ่งนานวันยิ่งเอ็นดูเจ้านรินทร์มากขึ้นไปทุกที

โกรธเกรี้ยว : ดีจังเลยน้า มีงานมงคลติดๆ กันเลย



ใครเล่าจะรู้ว่าตอนนี้ต้นกล้าเดือดจัดและล็อคเอ้าท์ออกไปเงียบๆ ไม่มีใครสังเกตนอกจากภาริชที่นั่งยิ้มหยันอยู่หน้าจอ

<เจ้าเด็กนี่ พึ่งจะรู้ค่าของฟอร์ดงั้นรึ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ ก็แค่หมาหวงก้างตัวหนึ่ง>



ต้นกล้ากระฟัดกระเฟียดอยู่หน้าจอ เขาล็อคอินออกมาเพราะถ้าอยู่ต่ออาจอาละวาดฟาดงวงฟาดงาได้ แต่การออกจากเกมกะทันหันทำให้กลุ่มของเมษาไม่พอใจ คนแรกที่โวยวายคืออิงภพ

“ออกจากเกมทำไมวะต้นกล้า กูกำลังดูเพลินๆ เลย”

“เรื่องของกู” ต้นกล้าเก็บโน้ตบุ๊คของตัวเองเข้ากระเป๋าแล้วเดินกระแทกเท้ากลับบ้าน

เมษามองไล่หลังโดยไม่ได้ตามไปห้ามแต่อย่างใด เขาพอจะได้ข้อมูลของผู้หญิงที่ชื่อแอคเค้าท์ว่าโกรธเกรี้ยวพอสมควร และเขาคิดว่าถ้าลงมือจีบ ก็น่าจะทำได้ไม่ยาก

เขาไม่ได้จีบเพราะชอบหล่อนแต่อย่างใด แต่แค่ต้องการแสดงให้นรินทร์รู้ว่าไม่มีใครจริงใจกับอีกฝ่าย และไม่มีใครรู้เรื่องของหมอนั่นไปมากกว่าเขาอีกแล้ว

<เมื่อไหร่นายจะเข้าใจซักทีนะ ว่าคนที่เข้าใจนายที่สุดก็คือฉัน>

เมษาไม่เคยท้อถอย 4 ปี ที่เขาล้มเหลวไม่ได้ทำให้เขาเบื่อหน่าย ไม่ว่าจะเป็นการเขี่ยผู้คนที่น่ารำคาญออกจากนรินทร์ หรือว่าการทำทุกวิถีทางให้หมอนั่นหันมาสนใจ

แต่สิ่งหนึ่งที่เมษาไม่เคยเข้าใจเลยคือ การกระทำที่ผ่านมาของตนเองนั้น มันทำให้นรินทร์โดดเดี่ยวและเป็นการรังแกที่ร้ายแรงกว่าเมื่อสมัยเรียนมาก เมษาแค่ทำตามสัญชาตญาณ หึง อิจฉา โกรธ เขาแค่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้นรินทร์หันมาสนใจตัวเองแค่คนเดียวเท่านั้น



ต้นกล้าเดินกระแทกเท้าไปตามถนนฟุตบาท ตั้งใจว่าจะเรียกแท็กซี่กลับบ้านเพราะมันดึกแล้ว แต่ก็ตัดสินใจแวะซื้อน้ำมาดื่มดับกระหาย ที่ร้านสะดวกซื้อนั่นเขาเห็นสิ่งที่แทบไม่เชื่อสายตา

“นั่นมัน” ต้นกล้าคว้านิตยสารชื่อดังมาดู ที่หน้าปกเป็นนายแบบตะวันยืนคู่กับฟอร์ด

ใช่ไอ้ฟอร์ดนั่นแหละ ต้นกล้ากัดริมฝีปากตัวเอง ฟอร์ดที่อยู่ในภาพช่างดูดีหล่อเหลาราวเทพบุตรแถมคนที่ยืนข้างกันก็งดงามยิ่งกว่าภาพวาด ภายในใจเกิดความคิดว่าเหมาะสมกัน แต่เขาไม่อยากยอมรับ

ความคิดบ้าๆ ไอ้หน้าโง่อย่างฟอร์ดคนอย่างตะวันคนนั้นไม่เหลียวตามองหรอกน่า แต่ไอ้เจ้าชานมฯ นั่นกลับยอมคบหากับฟอร์ดมัน ชอบไอ้ฟอร์ดถึงขนาดดันให้เข้าวงการเลยหรือวะ

สงสัยว่าคงเป็นสาวแก่แม่ม้าย ไม่ก็กระเทยแก่ที่หวังหลอกฟันเด็กชาย <ไอ้ฟอร์ดแม่มโง่ มึงอยากเด่นอยากดังถึงขนาดพลีร่างให้ไอ้แก่ชานมฯ เลยหรือวะ คอยดูนะ พรุ่งนี้เจอกัน ถ้ากูไม่เสียดสี ก็ไม่ใช่คนอย่างกูแล้ว กูคือต้นกล้านะ ไม่สิเอาน้ำเย็นเข้าลูบดีกว่า ยังไงกูก็ไม่ยอมให้ฟอร์ดมันหลุดมือไปแน่>

คนอย่างต้นกล้าถ้าอะไรที่อยู่ในมือจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาดถึงแม้สิ่งนั่นจะไม่ใช่ของที่ชอบก็ตาม

ต้นกล้ากำหมัดแน่น จากนั้นนำนิตยสารไปจ่ายเงิน เขาซื้อมันเพื่อเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะใช้คุยกับฟอร์ด <อยากจะรู้จริงว่าฟอร์ดมันจะทำหน้ายังไง>

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อีกสองสามตอนก็จะกลับมาโฟกัสที่คู้หลักอีกครั้งนะคะ5555

มีแฟนคลับพี่ภาริชกะเจ้ารินท้วงแล้ว

ที่เขียนอยู่ตอนนี้มันก็นำไปสู่เหตุการณ์สำคัญหลายอย่างเหมือนกันน้า

ทนกันหน่อยนะคะ เราไม่ได้ออกทะเลน้า 

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 13-08-2018 11:59:35
ไม่เป็นไรค่ะ รักทุกคู่ค่ะ รอดูว่าต้นกล้าจะแสดงความน่ารังเกียจได้เบอร์ไหน
ขอให้น้องฟอร์ดตัดใจได้สักที  กะเหตุการณ์สนคราวนี้ 
 :3123:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 13-08-2018 12:53:28
……


นั่นนน. ท่านพี่สนับสนุนน้องฟอร์ดออกเรือนละ


……


 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:


หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-08-2018 13:38:07
ไม่ออกทะเลน้าาาาาาา ..............
ปูทางไปหลายทางเลย...........

ตะวันเอ๊ย.........คบฟอร์ดแล้ว
แต่ยังฃื่นชมริน อ่อยริน เปย์ริน ต่อหน้าต่อตาฟอร์ด    :really2: :really2: :really2:

ต้นกล้า นางเป็นได้แค่ต้นอ่อน
ไม่เติบโตจนเป็นไม้ใหญ่หรอก..........
ถ้านางยังเอาแต่ใจ สายตาคับแคบ  เห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่นอย่างนี้   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ริน น่ารัก มีไปค้นหาของขวัญให้ฟอร์ดด้วย  :mew1:
ภาริช  ริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 13-08-2018 14:02:57
รอวันที่ต้นกล้าจะออกไปจากชีวิตน้องเลยค่ะ นิสัยแย่มากๆคนอะไร
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 13-08-2018 17:52:03
นังต้นกล้าร้ายเกินไปนะแกร
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 13-08-2018 18:11:36
รอดู Dark side ของฟอร์ด 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่18 ความโกรธเกรี้ยวของต้นกล้า 13/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 13-08-2018 23:27:16
โอ้ยยยยรอออ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่19 แตกหัก 14/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 14-08-2018 10:37:34
บทที่19

แตกหัก

วันรุ่งขึ้นต้นกล้าไปโรงเรียนโดยถือนิตยสารเล่มที่มีรูปของฟอร์ดไปด้วย เขาย่างสามขุมเข้าไปในห้องเรียนแล้วพบว่าเป้าหมายนั่งเล่นมือถืออยู่ สีหน้าท่าทางดูอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน เหมือนว่ากำลังพิมพ์โต้ตอบกับใครซักคน

ยิ้มอะไรนักหนาวะ มีความสุขมากหรือไง

ต้นกล้ากระแทกเท้าปึงๆ พอไปถึงก็แย่งมือถือมาจากมือของฟอร์ดแล้วอ่านดู

“เอาคืนมา”

ฟอร์ดพูดกับต้นกล้าดีๆ หลายครั้งแล้วที่อีกฝ่ายทำตัวแบบนี้กับเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงยิ้มๆ หยอกเย้าประมาณว่า อยากรู้ว่าเขาคุยกับใครหรือไง ทว่าในตอนนี้เขาค่อนข้างไม่พอใจจนเริ่มโมโหขึ้นมาแล้ว

เพราะการขอของต้นกล้าที่เริ่มจะน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ กับตัวเองนั้นไม่เป็นไร ทว่าพอเห็นท่านพี่กะคนอื่นๆ โดนเอาเปรียบมากๆ เข้าก็โกรธขึ้นมา เลยไม่คิดจะง้อตอนที่ต้นกล้าออกเกมไปโดยไม่บอกกล่าว นอกจากนี้หลังทำเสียมารยาทด้วยการล็อคเอาท์จากเกมโดยไม่ล่ำลา เช้าขนาดนี้ยังไม่วายทำเรื่องแย่ๆ เหมือนเดิม

เวลานี้ชักเริ่มจะรู้สึกรับพฤติกรรมไม่ไหว จนไม่ค่อยอยากพูดคุยหรือวุ่นวายด้วยอีกแล้ว

“แหมคุยกับพี่ชานมฯ ซะด้วย มึงรู้อะไรปะ เขาให้มึงเท่าไหร่เขาก็จะเอาคืนจากมึงเท่านั้น เดี๋ยวนี้มึงริขายตูดให้ผู้ชายด้วยกันแล้วหรา”

มั่นใจว่าเป็นผู้ชายเพราะดูจากคำพูดในการสนทนากับฟอร์ด ก็นั่นแหละพวกสายเปย์ส่วนใหญ่แม่มหน้าตาอัปลักษณ์ทั้งนั้น

“ฟอร์ดถ้ามึงอยากลองของแปลกคราวหลังบอกกูก็ได้ พวกต่ำๆ มีอยู่เยอะแยะ ไม่ต้องไปหาในเน็ตหรอก”

“เอาคืนมา”

เป็นครั้งแรกเลยที่ฟอร์ดมีสีหน้าดุดันแบบนี้ ต้นกล้าถึงกับชะงักแล้วยื่นมือถือคืนให้ จากนั้นนะหรือก็สบถด่าในใจที่หลังไง คนอย่างไอ้ฟอร์ดมีอะไรน่ากลัวตรงไหนวะ แม่มเอ๊ยอยู่ๆ ก็ปั้นหน้าดุอย่างหมา ทำเอาตกใจหมด

แล้ววันนั้นทั้งวันฟอร์ดก็ไม่พูดกับต้นกล้าอีกเลย เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายทำแบบนี้กับเขา ต้นกล้าทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด อุตส่าห์ง้อชวนคุยเป็นระยะๆ แต่ฟอร์ดกลับเมินเฉย

พอมีผัวแล้วเมินกูหรือฟอร์ด มึงแรดขนาดคิดทิ้งกูเลยหรือวะ กูเป็นเพื่อนมึงไม่ใช่หรือไง ตะวันได้แต่เก็บคำพูดบาดหูเอาไว้ เพราะรู้ดีถ้าตะโกนบอกไป คราวนี้ฟอร์ดอาจปะทะตรงๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

ต้นกล้ากลัวจะเป็นแบบนั้น นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เกิดความรู้สึกแบบนี้กับฟอร์ด น่าอัปยศฉิบหาย คนอย่างเขานี้นะกลัวไอ้ฟอร์ด กับไอ้คนที่เจอหน้าก็กระดิกหางให้นี่นะ แม่มรสชาติบัดซบอย่างนี้คืออะไรกันวะ

รับไม่ได้ รับไม่ได้จริงๆ

ยิ่งมาเห็นอีกฝ่ายพิมพ์ข้อความแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ต้นกล้ายิ่งโมโห มึงมีความสุขแต่ปล่อยให้กูไม่สบายใจนี่นะฟอร์ด มึงมันเป็นเพื่อนที่แย่มาก

วันนั้นทั้งวันไม่เพียงแต่ไม่ได้คุยกับฟอร์ดเลย อีกฝ่ายยังกลับบ้านไปคนเดียวด้วยสีหน้าชื่นมื่นจนน่าหมั่นไส้ ตอนที่แอบอ่านหน้าจอฟอร์ดแวบๆ ได้ความว่าหมอนี่นัดคนเอาไว้ ดังนั้นต้นกล้าจึงแอบตามไปอย่างลับๆ

“ขอบคุณที่เอารถมารับนะครับพี่ตะวัน”

“ก็สัญญากันแล้วนี่ว่าวันนี้จะไปบ้านของmaddog01 แต่ก่อนหน้านั้นเราไปทานขนมกันก่อนนะ”

ที่แท้ก็นัดดารานายแบบขวัญใจมหาชนเอาไว้ ต้นกล้ามองดูฟอร์ดก้าวขึ้นรถไป เขายกมือขึ้นมากัดเล็บตัวเอง ความริษยาเพิ่มขึ้นทุกขณะ ไม่รู้เลยว่าอิจฉาฟอร์ดหรือนายแบบคนนั้นกันแน่



ร้านที่ตะวันพามาคือร้านคาเฟ่ชื่อดัง ที่นี่มีเค้กน่ากินมากมายแถมยังจัดร้านด้วยบรรยากาศน่ารักๆ จนฟอร์ดที่มีรสนิยมชอบความโมเอ้เช่นเดียวกับภาริชอิ่มอกอิ่มใจเสียเหลือเกิน

“ถ้าท่านพี่ได้มาด้วยคงดีใจแน่ๆ ท่านพี่ชอบร้านน่ารักๆ แบบนี้ แต่ไม่ค่อยได้มากินเท่าไหร่ เพราะใครๆ ก็คิดว่าภาพลักษณ์ของท่านพี่ไม่เหมาะสม” ฟอร์ดเผลอหลุดเรื่องภาริชออกมาโดยไม่ตั้งใจ ตะวันเข้าใจว่าคนรักหมายถึงโกรธเกรี้ยว

“ทำไมล่ะเด็กผู้หญิงทุกคนเหมาะกับขนมหวานทั้งนั้น หรือว่าถูกรังแกหรือเปล่า”

ฟอร์ดยิ้มเจื่อน นึกขึ้นได้ว่ากลุ่มของmaddog01เห็นท่านพี่เป็นผู้หญิง ความจริงนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรพูด พี่ชายต้องเป็นฝ่ายบอกความจริงด้วยตัวเอง สุดท้ายก็ไม่พ้นพูดจาเลื่อนเปื้อนผสมความจริงเข้าไปด้วย

“จะว่าถูกรังแกไหม น่าจะเพราะภาพลักษณ์ภายนอกไม่เข้ากันเลยมากกว่า พี่เป็นคนที่เหมาะกับกาแฟดำ หรืออะไรๆ ที่สมชาย ทั้งที่เป็นคนใจดีและชอบของหวานมาก”

“อ้อ...ที่แท้ก็ถูกคนทั่วไปกดดันจนไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้สินะ ลำบากหน่อยนะผู้หญิงที่ฉลาดและอ่อนโยนแบบนั้น”

คุณพี่เข้าใจผิดไปไกลแล้วครับ โอ๊ยผมไม่รู้จะทำไงดีแล้ว

ฟอร์ดยิ้มอยู่ก็จริง แต่ในใจวุ่นวายสับสน เขาไม่ชอบโกหก แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเอาความลับของท่านพี่ไปปูด เพราะนี่มันเป็นเรื่องของท่านพี่ล้วนๆ

“ว่าแต่อยากลองเล่นลูกแมวหน่อยไหม” ตะวันรู้ดีว่าไม่ควรเอาแมวออกจากตะกร้ามาเล่นบนโต๊ะในร้านคาเฟ่ ดังนั้นจึงยื่นให้ฟอร์ดรับไปทั้งตะกร้า

ฟอร์ดแง้มฝาตะกร้าแล้วจ้องลงไปด้านใน เจ้าแมววัย 4 เดือนร้องครางเบาๆ มันกำลังออดอ้อนให้เขาสนใจ อดไม่ได้ที่จะใช้มือลูบไล้มัน

“น่ารักจัง แบบนี้maddog01ต้องชอบแน่เลย” ฟอร์ดไม่ได้มีใจอิจฉาหรืออะไร เขาพอเข้าใจว่าพี่ตะวันเคยปลื้มๆ maddog01มาก่อน ตัวเขาเองก็เป็นแฟนคลับ เพราะอย่างนั้นเลยอยากพบตัวจริงของไอดอลเท่านั้นเอง

ไม่สิจริงๆ ก็งอนอยู่นะที่พี่ตะวันให้ความสนใจmaddog01มากเกินไป แต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ก็แค่อยากหยอกเย้าให้พี่ตะวันทำสีหน้าลำบากใจ

“พี่ตะวันนี่รักmaddog01จริงๆ นะ แล้วผมล่ะ”

ทั้งคู่ไม่ได้รู้เลยว่าต้นกล้าแอบมองดูอยู่ไม่ไกลนัก เพราะไม่รู้ไง และตะวันก็ไม่ใช่คนที่จะสนใจสายตาคนรอบข้างด้วย ดังนั้นจึงกล้าพูดคำรักแถมยังเชยคางฟอร์ดก่อนจุมพิตลงไป

“ฉันจริงจังกับนายขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ ไม่ได้โกหก”

“ไม่คิดมาก่อนเลยว่ามึงจะเป็นพวกมั่วขนาดนี้”

ฟอร์ดขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าต้นกล้าจะแอบตามมา

“นี่มึงคบสองเลยสินะ กับชานมช่วยดันมึงให้เป็นดาราแล้วก็กับนายคนนี้เพื่อสนองตัณหาของมึง มึงมันสกปรกว่ะฟอร์ด อ้อลืมไปกับคนในเกมไม่ต้องจริงใจอยู่แล้วเนอะ สงสัยเจ้าชานมนั่นมันจะน่าเกลียดทั้งหน้าตาและจิตใจ จนคนที่ดีแต่เปลือกอย่างมึงรับยังไม่ได้ ก็เลยต้องเอาตูดมายื่นให้คนที่ดีกว่ากันเยอะสินะ มึงทำกูผิดหวังเลยนะฟอร์ด”

ฟอร์ดเย็นยะเยือก แต่คนที่ขึ้นจริงๆ กลับเป็นตะวัน ทั้งที่คนถูกด่าคือฟอร์ดและถึงด่าชานมฯ อีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าเขาคือใครอยู่ดี ทั้งอย่างนั้นตะวันยังเลือกปกป้องคนรักโดยไม่สนใจคนรอบข้าง เขายืนขึ้นแล้วกระชากคอเสื้อไอ้คนที่เตี้ยกว่ามาก

“พูดให้ดีๆ นะน้อง ถ้าขอโทษพี่จะให้อภัย”

“ทำไมครับเป็นดาราแล้วคิดจะต่อยใครก็ได้เหรอ มึงดูสิฟอร์ดผู้ชายที่มึงเลือกเป็นพวกใช้กำลังอย่างที่มึงเกลียดเลย มึงกลืนน้ำลายตัวเองอยู่นะนี่”

ตะวันเดาะลิ้น ไอ้เด็กนี่มันเหมือนหมาบ้า สงสัยว่าต้องลงมือซักที ตะวันเองก็ไม่ใช่คนใจเย็นเสียด้วยสิ

“พี่ตะวัน อย่าไปสนใจคนพาลที่ไม่มีใครเขาอยากคบเลยครับ” ฟอร์ดลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปคว้ามือของตะวัน

“คลายมือจากคอเสื้อของเขาเถอะครับ เดี๋ยวสิ่งสกปรกจะติดมือเปล่าๆ”

“มึงว่าอะไรนะฟอร์ด” ใบหน้าของต้นกล้าบิดเบี้ยว คนที่สุภาพเกินไปอย่างฟอร์ดนี่นะด่าเขา แถมแม่มด่าเจ็บว่ากูเป็นสิ่งโสโครกด้วย

“พี่ตะวันปล่อยมือเถอะครับ พวกสิ่งปฏิกูลส่งกลิ่นเหม็นแบบนี้ ไปเกลือกกลั้วด้วยพี่จะติดกลิ่นไม่ดีมา”

“จริงด้วย เหม็นชะมัด เหม็นเกินไปแล้วนะนี่” ฟอร์ดคลายมือจากคอเสื้อของตะวัน มือของเขายังถูกฟอร์ดกุมไว้อยู่

“ถ้าเป็นไปได้ ไม่สิทางที่ดีอย่ามาพูดคุยหรือเข้าใกล้กูให้มากจะดีกว่านะต้นกล้า กูไม่รู้ว่าตอนนี้จะอดทนมึงได้ต่อไปอีกแค่ไหน”

ฟอร์ดพูดด้วยเสียงเยียบเย็น แววตาเย็นชาจนต้นกล้าถึงกับหนาวเยือก สำหรับฟอร์ดต้นกล้าจะด่าเขายังไงก็ได้ แต่ไม่ควรเหยียบย่ำคนของเขา ไม่ว่าใครทั้งนั้น เรื่องนี้ถ้าต้นกล้าสังเกตดีๆ ก็ควรจะรู้นิสัยเขาได้แล้ว หลายครั้งและหลายหนเขาแสดงให้เห็นตลอด

เรื่องความรักพวกพ้องซึ่งคนอย่างต้นกล้าไม่ควรจะไม่รู้เรื่องนี้ เพราะว่าตลอดสองปีต้นกล้าเป็นคนที่ฟอร์ทะนุถนอมปกป้องเป็นอย่างดี ขนาดนี้แล้วต้นกล้าก็ไม่ได้เห็นคุณค่าของเขาเลยสินะ

ฟอร์ดถอนหายใจทันทีที่ขึ้นไปนั่งบนรถ ตะวันคว้ามือของฟอร์ดไปลูบคลึงปลอบโยน

“ผมพูดจาไม่ดีไปแล้ว รู้สึกแย่จัง”

“หมอนั่นโดนแบบนี้ยังน้อยไป ว่าแต่นี่เท่ากับว่าตัดสัมพันธ์กันแล้วสินะ”

“ก็ไม่เชิงครับ ผมแค่จะไม่ไปยุ่งกับเขาอีก เท่านั้นเอง”

“น้อยเกินไปแล้ว จริงๆ ควรเอาไปด่าให้เพื่อนในห้องฟังด้วยนะ” ตะวันแยกยิ้มแยกเขี้ยวให้ฟอร์ดดู เขามีความคิดที่ว่ากับศัตรูไม่ต้องไปสนใจไม่ต้องปรานี เพราะคนที่เกลียดยังไงมันก็เกลียดเราอยู่ดี

“อย่าให้ถึงกับต้องเป็นการรังแกกันเลยครับ ผมเกลียดเรื่องแบบนี้มาก”

“ว่าแต่ไอ้หมอนั่นชื่อจริงชื่ออะไรนะ อยากรู้จัง”

“พฤกษาครับ พฤกษา เอื้อมบุญ”

จู่ๆ ตะวันก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา ฟอร์ดแปลกใจว่าทำไมคนที่เอาแต่ยิ้มอย่างพี่ตะวันมีสีหน้าแบบนี้

“เป็นอะไรหรือครับพี่ตะวัน”

“ฟอร์ดตอบพี่มาตามตรงนะ นายพฤกษาคนนี้ ฟอร์ดคบหามานานเท่าไหร่แล้ว”

“เราพึ่งคบกับเมื่อเทอมสองของปีสองเองครับ”

ในที่สุดตะวันก็คลายความกดดัน เขายิ้มอีกครั้ง มันทำให้ฟอร์ดสบายใจไปด้วย

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นครับ พี่ตะวันเหมือนโกรธมาก”

“ฉันไม่ได้โกรธนาย” ตะวันเอามือลูบหัวฟอร์ดเบาๆ “แต่พี่เกลียดไอ้หมอนั่น ไอ้พฤกษามันเป็นคนที่รังแกนรินทร์จนไม่กล้าออกจากบ้านอีกเลย”

“พี่หมายถึงmaddog01สินะครับ”

“ใช่ ไอ้คนพรรค์นี้ ไม่นึกว่าแม้แต่กับคนที่พี่รักอย่างนาย ก็ยังกล้ารังแกอีก ผ่านมา 4 ปีแล้วเลวยังไงก็เลวอย่างนั้นเลยสินะ”

“พี่ตะวันช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าmaddog01ถูกรังแกยังไง”

“อา...ถ้านายอยากจะฟังล่ะก็”



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนหน้าถ้าไม่พลาดอะไรตั้งใจจะย้อนอดีตของmaddog01นะคะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่19 แตกหัก 14/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 14-08-2018 10:50:33
ความจริงเปิดเผยแล้ว น้องฟอร์ดรู้ท่านพี่ก็ต้องรู้ หึหึ เล่นผิดคนแล้ว ดูท่าท่านพี่จะหลงน้องรินไปแบบสุดโต้งแล้ว
พอมารู้สาเหตุนึกภาพ ต้นกล้า ยังไม่รวมเมษา แล้วก็แฝดนรกไม่ออกจริงๆ โจทย์เยอะนะเนี้ย ค่อยๆ เก็บค่ะท่านพี่  :katai3:
 :L2:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่19 แตกหัก 14/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-08-2018 13:37:00
ขอโทษนะไรท์ 
ตรงนี้พิมพ์ผิด  ต้องเป็นต้นกล้า หรือเปล่า
พอมีผัวแล้วเมินกูหรือฟอร์ด มึงแรดขนาดคิดทิ้งกูเลยหรือวะ
กูเป็นเพื่อนมึงไม่ใช่หรือไง ตะวันได้แต่เก็บคำพูดบาดหูเอาไว้


ฟอร์ด แตกหักไปเลย กับคนเลวๆอย่างต้นกล้า
ต้นกล้า ทำเลวๆกับคนอื่น ยังคิดว่าทำถูกต้อง  :really2:
เสียมารยาท กับทุกคน  :z6:
คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางสินะ เหอะ.....  :fire: :angry2:

ตะวัน ก็รู้ด้วยว่าคนที่แกล้งริน คือต้นกล้า
หึ......ชื่อก็ดีทั้งตันกล้า พฤกษา  แต่จิตใจดำมืด
มีอดีตที่ถูกกระทำมาหรือเปล่า เลยมองทุกอย่างเป็นลบไปหมด
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่19 แตกหัก 14/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 14-08-2018 18:15:00
รออออนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่19 แตกหัก 14/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 14-08-2018 23:09:27
 o13
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่19 แตกหัก 14/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 15-08-2018 18:26:44
แวะมารอจ้าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่20 ความจริงที่ได้ฟัง 16/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 16-08-2018 06:17:49
บทที่20

ความจริงที่ได้ฟัง

นรินทร์ไม่เคยบอกใครเลยว่าการไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนทำให้เขาไม่มีความสุข นั่นเป็นเพราะเมื่อไปที่นั่นเขาดันเป็นเป้าหมายการรังแกของคนคนหนึ่ง

ทั้งที่ไม่ได้ไปทำให้อะไรให้อีกฝ่ายแท้ๆ แต่ดูเหมือนเขาจะถูกรุ่นพี่เมษาเกลียดขี้หน้าอย่างรุนแรง ไม่รู้กี่ครั้งที่หนังสือการ์ตูนซึ่งเขาชอบถูกอีกฝ่ายแย่งไปแล้วนำไปโยนทิ้ง บ้างก็เอาไปโยนให้คนอื่นๆ ดูว่าเขาอ่านหนังสืออะไรและเอามาเป็นที่ล้อเลียนกันด้วยความสนุกสนาน

ที่สำคัญปมด้อยอย่างการเป็นคนตัวเล็กนี่ก็อย่างหนึ่งที่อีกฝ่ายหยิบยกขึ้นมาพูดเสมอๆ และทำให้เขาต้องอับอาย

“นายนี่นอกจากจะตัวเล็กแล้ว นิสัยก็ยังปวกเปียก น่ารังเกียจชะมัด นายคิดว่าตัวเองเป็นเด็กผู้หญิงหรือไง”

เมื่อเมษาพูดจบเขามักจะยืนกอดอกจ้องมองมาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกความไม่พอใจทุกครั้ง และทุกครั้งเขาก็ต้องถูกเพื่อนๆ หัวเราะเยาะ

ด้วยความที่รุ่นพี่เมษาเป็นนักเรียนระดับหัวกระทิ หน้าตาหล่อเหลา แถมที่บ้านยังมีฐานะจึงที่นิยมมากทั้งในหมู่ผู้ชายและผู้หญิง เมื่อเขาตั้งท่าเป็นศัตรูกับใคร คนผู้นั้นก็ย่อมจะถูกเกลียด นรินทร์แทบจะหาคนที่พูดกับเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งอาจารย์ก็ยังพลอยมองเขาไม่ดีไปด้วย

แม้จะไร้ที่พึ่งพิงและเป็นทุกข์ขนาดไหนนรินทร์ก็ไม่เคยปริปากบอกพี่ชายแท้ๆ เลยแม้แต่คำเดียว เนื่องเพราะเมื่อไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว พี่ชายจึงเป็นคนเดียวที่แทบจะรับภาระทั้งหมด เขาช่วยพี่ชายได้เพียงงานบ้านและการไม่ทำตัวเป็นภาระเท่านั้น

แต่การไม่ปริปากบ่นและก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมกลับทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นคนสนิทของรุ่นพี่เมษายังมองเขาอยู่เสมอด้วยสายตาเกลียดชัง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร รุ่นพี่พฤกษาถึงได้เกลียดเขาเสียมากมายจนถึงขนาดไม่อยากจะอยู่ร่วมด้วย อาจเป็นเพราะรุ่นพี่พฤกษาปลื้มและนับถือรุ่นพี่เมษาคนนั้นมากจึงทำให้รู้สึกไม่พอใจเขาตามรุ่นพี่คนนั้นไปด้วย

เขาเองก็ไม่ได้อยากจะถูกเกลียด และไม่ได้อยากจะโดดเดี่ยว ทั้งที่พยายามจะพัฒนาตัวเองให้ดูแข็งแกร่งขึ้น จะได้ไม่เป็นที่รกหูรกตา กลับกลายเป็นว่ายิ่งทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

แต่จะให้เขาไปก้มหัวขอโทษ คร่ำครวญโวยวายนรินทร์ก็รู้สึกว่ามันไร้ศักดิ์ศรีเกินไป จริงอยู่ว่าร่างกายเขาอ่อนแอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องจำนนถึงขนาดต้องไปกราบข้อร้องให้อีกฝ่ายเลิกรังแกตัวเอง

จนเมื่อถึงเวลาที่รุ่นพี่เมษาคนนั้นต้องไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศเป็นเวลาสามเดือน สามเดือนนั่นแหละที่นรินทร์รู้ว่าการรังแกและนรกที่แท้จริงเป็นยังไงเมื่อรุ่นพี่เมษาคนนั้นสั่งให้รุ่นพี่พฤกษาจับตามองเขาเอาไว้

“เฮอะ คนอย่างแกมันไม่คู่ควร” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่รุ่นพี่พฤกษาพูดกับนรินทร์ก่อนที่การกลั้นแกล้งต่างๆ จะประดังเข้ามา

ทั้งโต๊ะนักเรียนที่ถูกขีดเขียนจนเละเทะ เก้าอี้ที่มักจะหายไป รองเท้าที่ถูกเทน้ำใส่จนชุ่ม หรือหายไปแล้วพบอีกครั้งในถังขยะ หากลืมกระเป๋าทั้งเอาไว้หนังสือที่อยู่ข้างในก็จะถูกเอามาฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่มีใครยอมพูดคุยด้วยแม้แต่คำเดียว นรินทร์ถูกปฏิเสธคนผู้คนในโรงเรียนโดยสิ้นเชิง

“ไอ้พฤกษามันชอบไอ้เมษาแน่ๆ เพราะว่าอิจฉาที่เมษามันคอยป้วนเปี้ยน แม้นรินทร์จะมองว่าอีกฝ่ายทำไปเพราะไม่ชอบก็ตาม ดังนั้นเจ้านั่นจึงฉวยโอกาสที่ไอ้เจ้าเมษาไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศสามเดือน รังแกนรินทร์จนสะบักสะบอมทุกวัน”

ตะวันยิ่งนึกถึงเหตุการณ์นั้นเขาก็ยิ่งโมโห เรื่องนี้กว่านรินทร์จะยอมเล่าให้ฟังก็หลังจากที่ตามตื้อครบ3 ปี แต่เท่าที่เขาฟัง ดูยังไงก็เหมือนว่าไอ้เมษาคนนั้นกำลังชอบนรินทร์อยู่แต่แรก เพียงแต่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง ไม่มีทางที่เขาเราจะมานั่งจับจดและจับผิดอยู่ตลอดเวลากับคนที่ตัวเองไม่ได้สนใจ

“รุ่นพี่เมษา คือเมษา ชัยมงคลใช่ไหมครับ รุ่นพี่คนนั้นโด่งดังมากที่โรงเรียนของผม เป็นนักเรียนที่สร้างชื่อเสียงในทางดีงามมาตลอด” ฟอร์ดนิ่งคิด เขาไม่เคยว่ารุ่นที่คนนี้รังแกใคร หรือเรื่องการกลั้นแกล้งในโรงเรียน แต่จะว่าไป เพราะก่อนหน้านี้เขามัวยุ่งอยู่กับชีวิตตัวเอง ไหนจะเรื่องการตายของพ่อกับแม่ ไหนจะเรื่องที่พี่ภาริชกลับมาจากต่างประเทศและทำเรื่องเป็นผู้ปกครองของเขาแทนที่จะเป็นอาตามความต้องการของอา

“เจ้านั่นมันจุ้นจ้าน วุ่นวายกับนรินทร์ไม่หยุดหย่อน พี่คิดว่ามันชอบนรินทร์แต่ฟอร์มจัดหรือไม่ก็ไม่รู้ใจตัวเอง มันคงรู้ตัวเอาตอนที่นรินทร์ปฏิเสธมันอย่างจริงจังนั่นแหล่ะ”



หลังจากถูกรังแกอย่างหนักในโรงเรียน วันนั้นเป็นวันที่รุ่นพี่เมษากลับมาจากเรียนแลกเปลี่ยน นรินทร์ที่ถูกแกล้งทุกวันมาตลอดสามเดือนชินชาเสียแล้ว ดังนั้นนรินทร์จึงไม่ได้สนใจคนคนนั้นอีกเพราะคิดว่ายังไงเสียก็แค่อดทนจนกว่าจะเรียนจบเท่านั้น เขาไม่ต้องการจะเป็นภาระหรือทำให้พี่ชายต้องกังวล

“ตกใจอะไร แค่จะลูบหัวเท่านั้นล่ะน่า” เมษาสถบเมื่ออีกฝ่ายหดตัวหลบทันทีที่เขายื่นมือไปหา

ก็เพราะยื่นมือมากะทันหันนั่นหละถึงได้หวาดระแวง ระหว่างที่รุ่นพี่ไม่อยู่เขาถูกรุ่นพี่พฤกษาสั่งคนมารังแกจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าใครในโรงเรียนแล้ว

“จริงสิฉันเอาของฝากมาให้ นายชอบอ่านหนังสือเลยซื้อที่คั่นหนังสือทำจากดอกไม้แห้งมา เอาไปใช้นะ เหมาะกับหนอนหนังสืออย่างนายดี”

แม้จะยังเจือน้ำเสียงออกคำสั่งแต่นรินทร์ก็รู้สึกได้ถึงความใจดีแบบแปลกๆ ของรุ่นพี่เมษา แต่เย็นวันนั้นเขากลับถูกรังแกหนักกว่าเดิม จากเหตุการณ์นี้ถึงได้รู้เหตุผลของการกลั่นแกล้งเขาอย่างหนัก เพราะว่ารุ่นพี่พฤกษาชอบรุ่นพี่เมษาและคิดว่าเขาให้ท่าจนรุ่นพี่เมษามีใจ

ถูกเรียกไปยังโรงยิมที่ไร้เงาอาจารย์แล้วถูกบังคับให้ถอดเสื้อผ้าด้วยผู้คนจำนวนนับสิบคน เขาถูกพลักล้มลงไปกับพื้นแล้วถูกจ้องมองด้วยสายตาดูแคลน รุ่นพี่พฤกษาต้องการถ่ายภาพน่าอับอายของเขาไปประจาน นรินทร์คิดยังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด เป็นครั้งแรกที่เขาสู้ผลที่ได้คือถูกต่อยตบตีไม่ยั้ง ไม่ยอมให้เสื้อผ้าถูกกระชากออกไป คิดว่าคงตายแน่ๆ แต่รุ่นพี่เมษาก็โผล่มาห้าม

ทั้งที่ถูกดึงเขามาไว้ในอ้อมกอด แต่กลับไม่รู้สึกถึงความปลอดภัย คิดแค่เพียงว่าไม่อยากออกมาเผชิญกับผู้คนอีกแล้ว เพราะว่าเขาไม่มีใครเลย แม้แต่เพื่อนในห้องที่คิดว่าเชื่อถือได้ ก็ยังเมินเฉยส่งเขามาให้รุ่นพี่พฤกษารังแก หรือไม่ก็ลงมือช่วยเหยียบย่ำ

พอสะบัดตัวหลุดออกมาได้นรินทร์ก็รีบกลับบ้านแล้วประประตูด้วยเนื้อตัวสั่นเทา น้ำตาไหลอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง ความเข้มแข็งภายนอกที่เขาเพียรพยายามสร้างขึ้นมาถูกทำลายลงไปอย่างไม่มีชิ้นดี ทั้งที่ไม่ได้คิดจะเป็นภาระ แต่ทว่าเขาไม่อาจจะก้าวขาออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียนได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว

นรินทร์ไม่รู้ว่าจะเชื่อใจใครได้อีก นอกจากหลบซ่อนตัวอยู่ในปราการอันแข็งแกร่ง ที่ที่มีพี่ชายที่แสนใจดีคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาตลอดมา

หลังจากที่ไม่ยอมไปโรงเรียนและออกจากบ้าน รุ่นพี่เมษาคนนั้นก็ตามตื้อมาตลอด นรินทร์ไม่ยอมออกไปพบหน้า ทว่าคนที่เขาเปิดใจกลับเป็นคุณภาริช เจ้านายของพี่คนนั้น

นรินทร์ทำตามคำแนะนำ เขาทำคลิปปล่อยตามสื่อต่างๆ หัดเรียนการวาดรูปอย่างจริงจัง ฝึกภาษาเพื่อที่จะเล่นเกมตามที่พี่ภาริชบอกมาตลอด

“ถ้าไม่ไปโรงเรียนก็เรียนด้วยตัวเองที่บ้านสิ รู้จักการศึกษานอกระบบมั้ย”

ในจดหมายของพี่ภาริชว่าไว้อย่างนั้น จากนั้นเมื่อบอกสิ่งที่ต้องการให้พี่ณภัทรทราบ พี่ก็ดีใจจนหลั่งน้ำตา

“พี่นึกว่าเราเสียใจจนไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว”

เพราะคำแนะนำของพี่ภาริชทำให้ชีวิตของนรินทร์มีความหมาย ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ หายใจทิ้งไปวันๆ

“มิวซังรู้สึกขอบคุณคุณภาริชมาโดยตลอด ฉันเองก็คิดคล้ายๆ แบบนั้น เพราะถ้าไม่มีคนคนนั้น นรินทร์อาจสิ้นหวังหมดอาลัยไปก็ได้”

อย่างนี้นี่เอง ท่านพี่ไม่ยอมเล่าให้ฟังเลยว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ ไม่สิท่านพี่เองก็คงไม่รู้แน่ๆ เพราะตอนที่เจอmaddog01มาจีบในเกมครั้งแรกก็ไม่ได้มีท่าทีรู้จักอะไร ฟอร์ดคว้ามือที่กำแน่นด้วยความโกรธของตะวันมาลูบปลอบโยน

ถ้าเป็นตนเองถูกรังแกแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนได้ไหม ทั้งถูกรุ่นพี่รังแก ทั้งถูกเพื่อนร่วมห้องเมินเฉย ใครมันจะไปมีความสุขได้ ตลอดสามเดือนที่ไม่มีรุ่นพี่เมษาคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น

“ผมรู้มาว่ารุ่นพี่เมษาในฐานะแอคเค้าท์ชื่อดังdoghutter00ไม่ถูกกับmaddog01คอยตามชิงดีชิงเด่นหาเรื่องทะเลาะตลอด อย่างนี้เรียกว่าชอบได้หรือครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิด”

ตะวันแค่นเสียงดังเฮอะ “ก็ไอ้เมษามันเด็ก ไม่รู้จักการแสดงความรักที่ถูกต้อง ไม่รู้จักทะนุถนอม มันอยากให้นรินทร์สนใจ เรียกร้องทุกอย่างแม้กระทั่งรังแก คงเพราะคิดว่ามีแต่วิธีนี้ที่จะทำให้นรินทร์หันไปมองมันล่ะมั้ง โง่เอ๊ยมันยิ่งทำให้นรินทร์เกลียดหนักกว่าเดิม การที่คอยแย่งเพื่อนหรือกีดกันคนออกจากนรินทร์มันทำให้นรินทร์เสียใจเพราะความโดดเดี่ยว”

“แต่ผมได้ยินว่ามีแอคเค้าท์มากมายที่คบหาเป็นพันธมิตรกับmaddog01นี่ครับ หรือไม่ใช่”

“ก็คนมันมีดีไง ต่อให้ถูกกีดกันแค่ไหน คนดีๆ ก็ย่อมต้องเข้าหาคนดีๆ ยังมีคนอีกมากที่อยากเป็นเพื่อนกับmaddog01โดยไม่สนใจไอ้doghunter00ไงล่ะ"

“รวมถึงพี่ตะวันด้วยใช่ไหมครับ ผมภูมิใจจังที่มีคนรักใจดีแบบนี้”

คำชมทำให้ความดุดันของตะวันลดลง เขาหันไปมองหน้าฟอร์ด อีกฝ่ายส่งยิ้มราวกับนางฟ้ามาให้ เป็นยิ้มที่สวยจริงๆ

“ขอจูบได้ไหม นายน่ารักจนฉันแบบ...”

“เอาสิครับ ในเมื่อจอดรถแล้วจะจูบก็ได้”

เมื่อได้รับคำอนุญาตตะวันก็จู่โจมทันที ความรู้สึกแรกระหว่างจูบกันฟอร์ดคิดว่า...

พี่รุนแรงกับผมเกินไปแล้วนะ

“ตายอดตายอยากมาจากไหนครับ”

หลังจากถอนจูบฟอร์ดก็ดุอีกฝ่ายทั้งยังยิ้มละไม ตะวันเกาหัวแกรกๆ เหมือนพึ่งจะรู้ตัวว่าทำเกินไปหน่อย

“ขอโทษ นายน่ารักเสียจนอยากขยำขยี้เลยให้ตายสิ”

“อืม...” ฟอร์ดทำท่าครุ่นคิดก่อนจะยิ้มออกมา “พี่ตะวันใช้จูบกับผมเป็นที่ระบายความโกรธ คราวหน้าถ้าจะรุนแรงกับผมแบบนี้อีก อยากให้เป็นเพราะตัวผมนะ”

“ขอโทษ”

ตะวันห่อไหล่ ฟอร์ดรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายมีหูและหางที่กำลังลู่ลงพื้น ท่าทางสำนึกผิดของพี่ตะวันดูน่ารัก กับคนที่ผผึ่งผายสง่างามตลอดเวลามาทำแบบนี้ โดยเฉพาะกับตัวเองมันทำให้ฟอร์ดปลื้มใจเอามากๆ

“พี่ไม่ต้องขอโทษผม เราลงจากรถกันดีกว่า ถึงบ้านของmaddog01แล้วใช่ไหมครับ”

“อ่า...ใช่ เราลงไปกันเถอะ”

ตะวันคว้าตะกร้าลูกแมวลงจากรถก่อนจะอ้อมมาเปิดประตูให้ฟอร์ด

จริงๆ ก็โรแมนติคอยู่หรอกกับการที่อีกฝ่ายเป็นสุภาพบุรุษด้วยตลอดเวลา แต่ว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนะ ฟอร์ดคิดว่าบางทีก็อยากจะปฏิบัติตัวดูแลพี่ตะวันให้พี่เขาเป็นเหมือนราชินีของตัวเองบ้างเหมือนกัน

“ไปกัน” ตะวันคว้ามือของฟอร์ดไปจับ เขาพาคนรักหมาดๆ เดินไปกดกริ่งบริเวณเสาของประตูรั้ว ไม่นานนักก็มีเด็กสาวหน้าตางดงามเดินมาเปิดประตู

“ขอบใจที่มานะ เจ้ารินตื่นเต้นน่าดูเลย ที่จะได้พบสาวงามสุดยอด”

ฟอร์ดเคยเห็นผู้หญิงที่หน้าตาดีมาก็มาก แต่ค่อยมีใครให้บรรยากาศแบบคนคนนี้เลย

“ฉันชื่อมิวหรือชื่อในวงการคือsilverfox13ยินดีที่ได้รู้จักนะสาวงาม”

“เอ๊ะ...เป็นผู้หญิงหรือครับ” ฟอร์ดแปลกใจนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับตกตะลึง

“ฉันดูเหมือนผู้ชายมากเลยหรือไง”

แม้มิวซังทำหน้านิ่งๆ แต่ก็เห็นรอยยิ้มบางๆ ที่บอกชัดว่าค่อนข้างพึงพอใจ

“มิวซังก็แบบนี้แหละ มีความสุขที่ได้หลอกคนว่าเป็นผู้ชาย อย่าไปทำท่าทีปลาบปลื้มเด็ดขาดเดี๋ยวจะลอยเปล่าๆ”

“อยากจะกลับบ้านโดยไม่ได้เข้าไปข้างในเลยสินะ พี่ตะวัน” มิวซังยิ้มหวาน

อุ๊ยตาย รู้สึกเหมือนเห็นคนพันธุ์เดียวกันกับท่านพี่เลย ฟอร์ดหันไปมองพี่ตะวันก็พบว่าอีกฝ่ายยืนคอตกยอมแพ้มิวซังโดยสมบูรณ์

“ขอเข้าไปเถอะนะ ไหนๆ ก็มาแล้ว”

“งั้นก็อย่าปากพล่อยสิคะพี่ตะวัน” มิวซังหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินนำพวกเขาเข้าไปในบ้าน

จะได้เห็นmaddog01แล้ว เขาจะได้พบตัวจริงของไอดอลของตัวเองเสียที ฟอร์ดยอมรับว่าเป็นวินาทีที่ตื่นเต้นจริงๆ 
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่20 ความจริงที่ได้ฟัง 16/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 16-08-2018 09:15:41
ฟอร์ดรู้ เดี๋ยวพี่ภาริชต้องรู้ แก้แค้นให้น้องด้วยนะคะพี่
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่20 ความจริงที่ได้ฟัง 16/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 16-08-2018 11:09:36
น้องฟอร์ดน่ารักเน๊าะพี่ตะวัน  :katai3:
 :L1:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่20 ความจริงที่ได้ฟัง 16/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-08-2018 13:56:05
ชังน้ำหน้าทั้งเมษา ทั้งต้นกล้า  เลววววววววววว   :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่20 ความจริงที่ได้ฟัง 16/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 16-08-2018 16:09:48
พี่ชายต้องล้างแค้นน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่20 ความจริงที่ได้ฟัง 16/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 16-08-2018 21:15:50
รออออ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่21 เริ่มขยับตัว 17/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 17-08-2018 14:01:35
บทที่21

เริ่มขยับตัว

เพราะเป็นการพบกันครั้งแรกกับสุดยอดสาวงามล่ะมั้งเลยทำให้นรินทร์โผล่ออกมาให้เห็นเสี้ยวหน้าแค่ครึ่งหนึ่งก่อนเท่านั้น เมื่อฟอร์ดเห็นใบหน้าน่ารักๆ ก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมพี่ตะวันถึงได้คลั่งไคล้maddog01เสียเหลือเกิน

“เอ่อหวัดดีนายคือสาวงามสินะ”

นรินทร์หลบอยู่หลังบานประตูครึ่งหนึ่ง เขาใช้สายตาช่างสังเกตมองดูฟอร์ดตั้งแต่หัวจรดเท้า คนคนนี้หน้าตาดีมากเป็นพิเศษในหมู่คนหน้าตาดี แต่ถ้าให้นึกถึงคนรูปงามก็ยังแพ้พี่ภาริชอยู่นิดหน่อย จะว่าไปมีน้องชายหล่อสุดๆ แบบนี้ โกรธเกรี้ยวคงเป็นคนสวยน่าดู

“เรียกฉันว่าฟอร์ดดีกว่านะ”

แนะนำตัวไม่ทันเสร็จดีเท่าไหร่ ตะวันก็ทำเสียงกรีดกร๊าดผิดจริตนายแบบหนุ่มรูปงาม

“อรั๊ย...ลูกพี่ ข้าไม่ได้เห็นหน้าลูกพี่มาพักหนึ่งแล้ว มามะออกมาจากห้องเถอะมาให้ดูหน้าชัดๆ หน่อย”

ฟอร์ดกระพริบตาปริบๆ กับท่าทางที่ดูบ้าๆ บอๆ ของคนรักหมาดๆ ส่วนนรินทร์เบ้ปากแสดงชัดเจนว่ารำคาญ

“เจ้ามันน่าเกลียด คนรักยืนอยู่ข้างๆ แท้ๆ ยังกล้ามาเต๊าะข้าอีกนะ”

ตอนนี้เองที่ตะวันเหมือนพึ่งรู้สึกตัว เขารีบหันไปดูสีหน้าของคนรัก ฟอร์ดทำเพียงแค่ยิ้มๆ เมื่อเห็นว่าไม่โกรธแน่ๆ จึงหันไประริกระรี้กับนรินทร์ต่อไป

“ถถถ ลูกพี่ล่ะก็ลูกพี่เป็นmy favoriteของข้าเลยนะ”

ตะวันยังหยอดไม่เลิก ฟอร์ดไม่ได้หึงหรือขุ่นเคืองแต่ไอ้ที่ข้องใจจริงๆ คือ พวกพี่คุยภาษาจูนิเบียวกันเป็นปกติหรือไง

“เอาเถอะๆ อย่ามัวแต่คุยไร้สาระตรงนี้ ไปคุยกันที่ห้องรับแขกดีกว่า”

มิวซังตักเตือน จังหวะนั้นนรินทร์ผลุบออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว ฟอร์ดผงะเพราะเห็นความไวในการวิ่งไปยังอีกห้องของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นไอดอลของเขา

“โทษทีนะฟอร์ด เจ้ารินคงตื่นเต้นที่ได้พบนายครั้งแรก” มิวซังยิ้มๆ แล้วเดินนำไป

เมื่อไปถึงห้องรับแขก ในที่สุดเขาก็ได้เห็นmaddog01เต็มตัวซักที นี่มันโคตรจะเป็นรสนิยมของท่านพี่เลยนะนี่ ดวงตากลมโตเส้นผมดูอ่อนนุ่มผิวขาวละเอียดตัวเล็กหน้าหวาน แถมอาการประหม่าเหมือนสาวน้อยบริสุทธิ์ โอ๊ยตายเป็นเหยื่อชิ้นโตของท่านพี่แน่ๆ

“เออให้ฉันเรียกนายว่าอะไรดี” ฟอร์ดถามขณะนั่งลงบนโซฟา

“เรียกรินก็ได้” นรินทร์ตอบ เขาตื่นเต้นมาก แล้วสิ่งแรกที่อยากรู้ก็เป็นเรื่องของโกรธเกรี้ยว

“โกรธเกรี้ยวเธอเป็นคนยังไงหรือ ช่วยบอกทีสิ”

“โอ๊ะ...” ตายล่ะถามเข้าประเด็นเลย เรื่องทีท่านพี่เป็นผู้ชายเขาไม่แน่ใจว่าท่านพี่อยากปิดบังไว้ไหม ไม่อยากโกหกแต่ตัดสินใจเล่าให้คลุมเครือไว้ก่อนดีกว่า

“ท่านพี่ไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของเพศเดียวกันเท่าไหร่นัก อืม...”

“ทำไมล่ะ” นรินทร์ถาม เขาพยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโกรธเกรี้ยวถึงแม้จะไม่กล้าพบหน้าตอนนี้เพราะอายความเป็นตัวเองก็ตาม

“เพราะท่านพี่เป็นคนมีความสามารถรอบด้าน สมัยเด็กก็เก่งทั้งดนตรี กีฬาและเรื่องเรียน ก็เลยมีบ่อยครั้งที่เพศเดียวกันมาหาเรื่องรังแก”

“สรุปคือถูกรังแกมาตั้งแต่วัยเด็กว่างั้น” ตะวันพูดสิ่งที่คิดออกมา “คนประเภทเดียวกันก็เลยดึงดูดกันสินะ เพราะงั้นเลยมาสนิทกับลูกพี่งั้นสิ”

ผิดไปไกลเลยครับพี่ตะวันมันไม่ใช่อย่างที่คิด แต่ไม่กล้าบอกความจริง ฟอร์ดพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเล่าต่อโดยปิดบังนิสัยชั่วร้ายของท่านพี่เอาไว้ “ถูกรังแกน่ะใช่ แต่ท่านพี่ก็รอดพ้นมาได้ตลอด ที่ถูกเกลียดก็คงเพราะมีเพศตรงข้ามเข้าหาท่านพี่เยอะมาก”

“หน้าตาดีหรือ หน้าตาน่ารักสินะ” นรินทร์ถามด้วยเสียงตื่นเต้น แต่ฟอร์ดข้ามประเด็นเรื่องหน้าตาไป

“ไอ้ที่เข้ามาทั้งหมดคงเป็นเพราะบ้านเรามีเงิน เพราะงั้นไม่นานนักก็เลิกกัน เพื่อนเพศเดียวกันก็ไม่ชอบหน้าท่านพี่ ส่วนพวกคนที่มาจีบก็มาเพราะเงินล้วนๆ น่าเป็นห่วงมากเลย”

“หน้าตัวเมียจังนะมาจีบเพราะอยากได้เงินของผู้หญิง” ตะวันย่นคิ้วเข้าหากัน เขาไม่ชอบพวกผู้ชายประเภทนี้เลย

ในขณะเดียวกันมิงซังกลับเห็นเป็นอีกอย่าง เธอตีความจากที่ฟอร์ดเล่าเห็นเป็นชีวิตของชายหนุ่มลูกผู้ดีมีเงินเสียมากกว่า และยิ่งคิดไปในทางที่โกรธเกรี้ยวคือคุณภาริชมากขึ้นไปอีก

“ถูกรังแกบ่อยๆ เลยหรือโกรธเกรี้ยวน่ะ” นรินทร์ถาม เขาอยากรู้ว่าโกรธเกรี้ยวต้องมาประสบชะตากรรมเดียวกับเขาไหม

“ตอนเด็กๆ ถูกรังแกหนักเลย เพราะว่าเล่นดนตรีได้หลายชนิด แหมถูกหาว่าเล่นเพราะอยากตีสนิทกับเพศตรงข้ามด้วยนะ พวกเด็กๆ สมัยนั้นนี่แรงกันอย่างเหลือเชื่อ”

“ก็เด็กวัยประถมมักจะเลียนแบบผู้ใหญ่ล่ะนะ มีแฟนบ้างอิจฉาบ้างก็ไม่แปลก” ตะวันสรุปง่ายๆ

แต่ฟอร์ดคิดว่ายิ่งเล่า คนอื่นๆ ยิ่งเข้าใจผิดมากไปทุกทีโดยเฉพาะMaddog01

“ฟอร์ดต้องดูแลพี่สาวให้ดีๆ นะ อย่าปล่อยให้ใครมารังแก”

นรินทร์เอ๋ย...ท่านmaddog01ไม่มีใครกล้ารังแกท่านพี่หรอกนะ โอ๊ยเหมือนจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาเองที่เล่าครึ่งๆ กลางๆ เพราะท่านพี่ยังไม่ได้อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล

จากนั้นฟอร์ดก็ยิ่งไม่สบายมากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าเรื่องที่เล่าออกไปพี่ตะวันกับนรินทร์ตีความแบบไหนก็ไม่รู้ท่านพี่จึงกลายเป็นเด็กสาวหน้าตาไม่สวยซึ่งมักถูกรังแกมาตลอดแต่เด็กไปโดยปริยาย บ้าจริง ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย



ภาริชนั่งเซ็นเอกสารในห้องทำงานส่วนตัวที่บริษัท หลังจากอนุมัติในสิ่งที่ต้องการครบ เขาก็ลุกขึ้นยืนเปลี่ยนอิริยาบถไล่ความเมื่อยล้า จังหวะนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น

“ขอเข้าไปนะครับคุณภาริช”

เป็นณภัทรนั่นเอง ภาริชเอ่ยปากอนุญาต “เข้ามาเลย” ณภัทรเดินเข้ามาพร้อมเอกสาร เขามีเรื่องสำคัญต้องรายงานให้เจ้านายทราบ

“ผมสืบได้ความมาแล้วนะครับเรื่องสปาย”

“จัดมา ฉันพร้อมฟังแล้ว” ภาริชกอดอกยืนพิงขอบโต๊ะรอฟังสิ่งที่ณภัทรรายงาน อีกฝ่ายยื่นเอกสารบางอย่างมาให้ เขาพลิกอ่านคร่าวๆ พบว่าเป็นประวัติของพนักงานสามสี่คน

ภาริชอ่านประวัติของ บุพชาติ เอื้อมบุญ คนคนนี้แม้อายุเข้าเลขสามแล้วแต่หน้าตายังจัดว่าสะสวยอยู่มาก

“เป็นนางสาวนี่...แต่มีลูกชาย แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือไง” ภาริชสนใจนิดหน่อย อาจเป็นเพราะหน้าตาท่าทางในรูปของบุพชาติที่หวานฉ่ำราวกับแตงโม เห็นได้ชัดว่าเป็นคนมีเสน่ห์

“เธอมีลูกตั้งแต่อายุ 15 นะครับ แล้วก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่เป็นสปายให้กับบริษัทชัยมงคล”

“ข้อมูลล่ะได้มากพอหรือยัง”

“เธอมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับProject Manager ของเกมใหม่ที่กำลังพัฒนาครับ ซึ่งไม่แปลกที่จะมีโอกาสเล่าเรื่องงานให้ฟัง”

“สืบเรื่องรอบตัวหล่อนมาหรือยัง” ภาริชถามก่อนจะพลิกดูผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ

“ผมส่งคนไปจัดการแล้วครับ อีกไม่นานน่าจะรวบรวมบางอย่างได้”

ภาริชยิ้มรับ ณภัทรยังคงจัดการเรื่องงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย ตอนนี้เขากลับไปอ่านประวัติของบุพชาติ เอื้อมบุญอีกครั้ง

“ลูกชายของคุณบุพชาติคนนี้เรียนโรงเรียนเดียวกับเจ้าฟอร์ดเลย พฤกษา เอื้อมบุญ หึ บังเอิญจัง สงสัยว่าเจ้าตัวดีจะรู้จักไหมนะ”

“ไม่ลองไปถามดูล่ะครับ” ณภัทรเสนอแนะ

“นั่นสิ จะได้ช่วยงานนายอีกแรงไง”



หลังเลิกงานภาริชตรงดิ่งกลับบ้านไปหาฟอร์ด คิดว่าคงกลับมาจากบ้านของเจ้ารินแล้วแน่ๆ มันก็ตรงตามที่คิดไว้เสียด้วย เจ้าน้องชายเปิดโน้ตบุ๊ครอเขาอยู่แล้วในห้องนอน

“วันนี้รีบเล่นเกมจังนะ”

“อ้อ...ผมรู้สึกวุ่นวายใจหลายอย่างเลยเข้าเกม หาที่สงบใจซักหน่อย”

“เรื่องอะไร ไหนเล่าให้พี่ชายคนฟังซิ” ภาริชนั่งลงข้างๆ ฟอร์ด เขาชะโงกหน้าดูหน้าจอ พบว่าเจ้าน้องชายกำลังนั่งขายของในเมืองเริ่มต้น

“ผมเลิกคบกับต้นกล้าแล้วนะ”

“อ้อ...”

“พี่ไม่ตื่นเต้นหน่อยรึ” ฟอร์ดพยายามหาความตื่นเต้นในดวงตาของพี่ชาย กลับพบว่าอีกฝ่ายแค่ยิ้มน้อยๆ เท่านั้น

“ก็คิดอยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้ซักวัน แค่จะช้าหรือเร็ว ว่าแต่เรื่องวุ่นวายใจมีเท่านี้หรือไง”

“ไม่แค่นี้หรอกท่านพี่”

ฟอร์ดไม่รู้ว่าจะเล่าจากตรงไหนดี ท่าทางลำบากใจของน้องชายภาริชสังเกตเห็นแต่แรก

“เล่ามาเถอะ พี่รอฟังอยู่”

ด้วยเหตุนี้ฟอร์ดจึงพรั่งพรูเรื่องเกี่ยวกับนรินทร์ออกมาจนหมด ภาริชฟังแล้วขมวดคิ้วบ้างกระตุกยิ้มบ้าง ตัวละครในชีวิตจริงดาหน้าออกมาเยอะแยะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ฟังเรื่องของเจ้าริน โดยเฉพาะสาเหตุที่ฝ่ายนั้นไม่ออกจากบ้านอีกเลย

“เดี๋ยวนะ พฤกษา เอื้อมบุญ นี่คือเจ้าต้นกล้างั้นสิ” ภาริชตั้งคำถาม

“ใช่พี่”

ความเชื่อมโยงกันแบบแปลกๆ นี้ ทำให้ภาริชสนใจเอามากๆ พฤกษา เป็นลูกบุพชาติซึ่งทำงานฝ่ายบุคคลในบริษัทของเขา พฤกษาเป็นเพื่อนของเมษาที่ช่วยกันรังแกเจ้าริน และเมษาเองก็เป็นลูกชายคนเดียวของธันวา ชัยมงคล ประธานบริษัทชัยมงคล

คิดถึงตรงนี้ภาริชก็แสยะยิ้มร้ายกาจ ทำเอาฟอร์ดตื่นตระหนก

ท่านพี่โกรธไม่ได้เห็นท่านพี่โกรธจริงจังแบบนี้นานแล้ว คงจะชอบนรินทร์เอามากๆ แน่ๆ เลย

ฟอร์ดไม่ได้รู้ว่ารอยยิ้มแบบนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องเจ้ารินอย่างเดียว มันยังเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่ส่อให้เห็นชัดเรื่องการขัดขาในโลกธุรกิจอีกด้วย ความเชื่อมโยงที่มีมากเกินไป ทำให้อดคิดไปถึงเรื่องชู้สาวที่อาจเป็นไปได้

แม่แตงโมหวานฉ่ำคนนั้น บางทีอาจเป็นเมียเก็บของธันวา ชัยมงคล ได้ข่าวเป็นนักรักที่แจกน้ำเชื้อไปทั่วคนหนึ่ง ภาริชนึกถึงเรื่องที่ณภัทรรายงานเพิ่มเติมเมื่อตอนยังอยู่ที่บริษัท

“ตอนนี้บริษัทชัยมงคลกำลังผลิตโปรเจคเกมลับที่มีเนื้อหาคล้ายกับเรามากอีกเกมหนึ่ง เจ้านายจะปล่อยผ่านเหมือนเดิมไหมครับ”

ณภัทรคิดว่าไม่น่าใช่ ถ้าจะปล่อยผ่านคงไม่ขยับสืบหาสปายแน่ๆ



หลังจากกลับมาสู่ความเป็นจริงภาริชก็แค่นหัวเราะต่อหน้าฟอร์ด ดูแล้วช่างสมเป็นมารร้าย การที่เขายอมปล่อยให้ชัยมงคลผลิตเกมที่คล้ายกันออกมาแถมยังลอกคอนเทนต์ไปเรื่อย เพื่อเป็นการกระตุ้นพนักงานของ Ghiblisoft ให้รู้สึกว่ามีคู่แข่งบ้าง

Ghiblisoft แทบจะเป็นมือหนึ่งซึ่งผลิตเกมยอดฮิตติดอันดับต้นๆ มาตลอด เป็นเหมือนราชาที่ไร้คู่ต่อกร ส่วนอีกสาเหตุที่เขาละเว้นบริษัทชัยมงคลเอาไว้ให้ลอกชิ้นงานของบริษัทเขาไปเรื่อยๆ นั้น...

“พี่ว่าคงต้องขยับบ้างซักหน่อยแล้วมั้ง จริงๆ อยากปล่อยให้อีกฝ่ายเล่นสนุกแบบนี้นานๆ หน่อย”

แต่เริ่มจะไม่พอใจเอามากๆ หลักๆ คงเป็นเพราะเรื่องของเจ้าริน รวมถึงเริ่มไม่เห็นประโยชน์ที่จะปล่อยให้ลอกงานอีกต่อไปแล้ว

ภาริชเปิดโน้ตบุ๊คติดต่อหาลูกน้องที่ควบคุมบริษัทของเขาที่มีสาขาใหญ่ในประเทศfผ่าน Video Conference เขาอยากจะสั่งงานอีกฝ่ายเสียหน่อย



คุราฮาชิ โคเฮย์ รับหน้าที่เป็นประธานแทนเจ้าของที่แท้จริงมานาน 10 ปีแล้ว แต่ถึงจะรับหน้าที่นั้น คนที่บริหารบริษัทก็ยังเป็นเจ้าของที่แท้จริงอยู่ดี

โคเฮย์มีความภาคภูมิใจในงานที่ทำและพึงพอใจที่ได้เห็นการเติบโตของบริษัทนี้เป็นอย่างมาก บริษัทผลิตรถยนต์sonya เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกินส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไปเกินครึ่ง

เนื่องจากนโยบายที่ดีเยี่ยมของผู้กุมอำนาจที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปตั้งโรงงานตามประเทศต่างๆ หรือแม้แต่การจัดซื้ออะไหล่ราคาถูกจากคนท้องที่เพื่อให้ต้นทุนลดลงแต่ก็ยังเป็นอะไหล่ที่ตรงตามมาตรฐาน จึงทำให้สามารถส่งออกขายในราคาย่อมเยาตามประเทศต่างๆ ได้

เนื่องจากรถยนต์ของsonyaราคาถูกและคุ้มค่ามากกับเทคโนโลยีที่ได้รับ ทำให้ประเทศยักษ์ใหญ่ต้องตอบโต้ด้วยการสร้างกำแพงจำกัดการนำเข้า แต่ทั้งอย่างนั้นยอดขายรถยนต์ทั่วโลกก็ยังพุ่งสูงเป็นจรวดอยู่ดี

เวลานี้โคเฮย์ยังอยู่ในบริษัท เขาเปิดโน้ตบุ๊คและได้รับสัญญาณติดต่อมาจากประธานตัวจริงดังนั้นจึงตอบรับแล้วเริ่มพูดคุยด้วยทันที เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนคนนั้นจะสั่งงานผ่านทาง Video Conference



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอโทษที่มาช้านะคะ5555 

พยายามจะคลายปมให้ดีที่สุด รู้สึกว่ามันยากจังเลยค่ะ

แนะนำติชมได้นะคะ แต่อย่าด่าแรงเราขี้ใจน้อยและป็อดมากๆ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่21 เริ่มขยับตัว 17/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 17-08-2018 14:27:41
เชื่อมโยงไปหมด หึหึ ท่านพี่ขยับแล้ว บังอาจแตะต้องเจ้าริน รอดูผลค่ะ  :katai2-1:
 :L2:  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่21 เริ่มขยับตัว 17/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 17-08-2018 14:30:28
เรื่องเริ่มเข้มข้นล้าววว รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่21 เริ่มขยับตัว 17/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 17-08-2018 18:34:58
สั้นนนนน :katai1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 เศียรมังกร 18/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 18-08-2018 11:19:40
บทที่22

เศียรมังกร

ต้นกล้ากำหมัดแน่นเขายังยืนตัวสั่นเทิ้มอยู่ในร้านคาเฟ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่วะ ต้นกล้าไม่เข้าใจทำไมอยู่ๆ ฟอร์ดถึงได้ทำตัวแย่ๆ กับตนเองแบบนี้

ถูกไอ้ฟอร์ดทิ้ง คนอย่างต้นกล้านี่นะ รู้สึกรับไม่ได้ แต่มันก็กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว รสชาติบัดซบอย่างนี้เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันได้มันมา เจ็บใจ เจ็บปวด

จนถึงตอนนี้ต้นกล้ายังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรตนเองถึงรวดร้าวสาหัสไม่น้อยไปกว่าตอนที่ทราบความในในของเมษาเรื่องที่คนคนนั้นรักชอบนรินทร์จนโงหัวไม่ขึ้น

ต้นกล้าก็เป็นแบบนี้ มักจะพลาดสิ่งดีๆ ไปด้วยความหลงงมงาย เขาพลาดจากฟอร์ดเพราะมัวแต่หลงใหลในตัวเมษาทั้งยังมองไม่เห็นความดี เฝ้าแต่อิจฉาความมีอันจะกินรวมถึงไม่ชอบใจในนิสัยอันซื่อบริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่มีเพชรเม็ดงามในมือแท้ๆ แต่ก็ยังขว้างมันทิ้งไปด้วยตัวเอง

ต้นกล้าเดินกลับบ้านด้วยความเคว้งคว้าง แค่คิดถึงคำปรามาสเหยียดหยามของฟอร์ดในใจก็ทั้งโกรธและปวดร้าวจนเกินทน มันไม่เคยพูดจาร้ายกาจกับเขาอย่างนี้ มึงกลายเป็นคนอย่างนี้เพราะไปคบหากับไอ้ชานมนั่น เป็นความผิดของไอ้นรินทร์นั่นแหละ มันคงตั้งใจใช้ไอ้ชานมมาแย่งฟอร์ดไปจากกู

ต้นกล้าผลักไสความผิดไปให้นรินทร์หรือmaddog01ทั้งที่รู้แก่ใจว่าอีกฝ่ายไม่น่ารู้ตัวจริงภายใจแอคเค้าท์ของตนเอง แต่ถ้าไม่ปักใจเชื่ออย่างนี้ อัตตาตลอด18ปีของตนเองคงพังทลาย คนอย่างต้นกล้าไม่มีวันล้มลงง่ายๆ

และถึงจะยืนโกรธในร้านคาเฟ่ก็ไม่ได้อะไร เขาจึงกลับบ้านในสภาพขุ่นเคืองเจ็บปวดรวมถึงสับสน อารมณ์ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากฟอร์ดเป็นผู้ทำให้เกิด เมื่อถึงบ้านความรู้สึกอ้างว้างมันก็ประทุขึ้นมา ต้นกล้าหดหู่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จังหวะนั้นเสียงเรียกเข้าจากมือถือก็ดังขึ้น เป็นเมษานั่นเอง

< “ออกมาหาที่บ้านของฉัน มีเรื่องสำคัญ” >

“เข้าใจแล้วจะไปเดี๋ยวนี้แหละ รอก่อนนะเมษา” เพียงได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ต้นกล้าก็ชุ่มชื้นขึ้นทันใด ถ้าหากไม่ติดว่าคนเป็นแม่มาได้ยินบทสนทนาของเขา

“จะไปเลียแข้งเลียขาลูกเมียหลวงอีกแล้วรึไอ้กล้า” บุพชาติเดินนุ่งผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ วันนี้มีไปสัมภาษณ์งานนอกสถานที่ดังนั้นเธอจึงเลิกงานเร็วกว่าปกติ

“เรื่องของผม” ต้นกล้าเดินไปคว้ากระเป๋าโน้ตบุ๊คของตัวเองที่วางเตรียมไว้แล้ว ทำท่าจะออกจากบ้าน แล้วก็ได้ยินคำพูดแทงใจของคนเป็นแม่ นั่นคือความจริงที่เขาไม่ต้องการนึกถึงมัน

“ไอ้กล้าแกยังไม่เลิกรักไอ้เมษามันอีกหรือไง แกกับมันเป็นลูกพ่อเดียวกับมันนะ”

เรื่องปวดหัวของบุพชาติคือการที่ต้นกล้าไม่เคยรู้เลยว่าใครเป็นพ่อตลอดหลายปี เกี่ยวกับเหตุผลข้อนี้คือ เธอจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าถ้าเป็นเมียเก็บ จะได้รับเงินจำนวนมากโดยไม่ขาดถ้าไม่หาเรื่องเอาลูกที่ไม่อยากให้เกิดเดินหน้าแย่งมรดกกับลูกตามกฎหมายของคุณธันวา

ตามจริงก็ไม่ได้ตั้งใจให้ต้นกล้ามันเกิดมาแบบนี้หรอก แต่ทำไงได้ในเมื่อมันมีมาแล้วก็ต้องเลี้ยงดู แถมข้อแลกเปลี่ยนของคุณธันวายังทำให้เธอสุขสบายมีเงินเลี้ยงลูกเรียนต่อและไม่ผูกมัดมากนัก แถมเธอยังมั่นใจในลีลาของตัวเองรวมถึงมันสมอง

ไม่อย่างนั้นเธอจะเป็นคู่หูคนสำคัญบนเตียงและเป็นมือไม้ในการช่วยเหลือทางธุรกิจได้อย่างไร ข้อผิดพลาดเพียงเรื่องเดียวในชีวิตเธอคือการที่ต้นกล้าดันไปหลงรักเมษา ทันทีที่จับได้ถึงความคิดนั้น เธอก็ไม่รีรอบอกความจริงให้ลูกชายฟังแต่เนิ่นๆ

บุพชาติไม่คิดมาก่อนเลยว่าเด็กอายุแค่13จะรักใครจริงจังขนาดนี้ แถมยังก่อเรื่องก่อราวเพราะความหึงหวง เท่านั้นไม่พอเมื่อสารภาพรักออกไป บอกให้เมษารู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องลงมือรังแกคนอื่น

ไอ้คนที่ชอบดันตอบกลับมาว่ารู้อยู่แล้วเรื่องที่เราเป็นพี่น้องกัน นี่เท่ากับคุณนายสูงอายุซึ่งเป็นเมียหลวงคนนั้นคงตามสืบเรื่องคาวๆ ของสามีมากพอดู แต่ก็จะทำอะไรเธอได้ ทุกวันนี้เจ็บออดๆ แอดๆ เลี้ยงลูกให้ได้อย่างใจยังทำไม่ได้เลย

น่าสมเพชเสียเหลือเกินคนเป็นเมียหลวงก็ใช่ว่าจะได้ดีมีสุขเหมือนอย่างเธอในตอนนี้นี่ สำหรับเธอขอแค่มีเงินมาให้ ไม่จำเป็นต้องยกย่องออกหน้าก็ยังได้ แค่มีเงินมาให้ตลอดก็พอแล้ว ถึงแม้จะรู้ตัวลึกๆ แล้วเธอมีใจให้ธันวามากทีเดียวไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมเป็นสปายให้ต่อเนื่อง แล้วก็ใครจะไปอดใจกับเงินจำนวนมากที่ได้รับจากการทำงานในด้านต่างๆ ให้แบบนี้ล่ะ

มันทำให้เธอสบายแล้วต้นกล้าก็สบายไปด้วย มีอะไรไม่ดีตรงไหน “จริงสิ ตากับยายอยากให้แกไปเยี่ยมบ้าง แกรักพวกเขานี่ โทรไปหาแล้วหรือยัง”

“โทรไปแล้วไม่ต้องให้แม่มาสั่ง” ต้นกล้ากระแทกเท้าออกจากบ้าน สำหรับเขาตากับยายยังสมเป็นพ่อแม่มากกว่าบุพชาติกับธันวาเสียด้วยซ้ำ คนที่อบรมเลี้ยงดูเขามาส่วนใหญ่ก็คือคุณตาคุณยาย ก่อนที่แม่จะแย่งเขามาจากท่านสองคนจนเป็นแบบทุกวันนี้

ต้นกล้ารีบเดินทางไปยังคอนโดของเมษา เกือบปีได้แล้วที่อีกฝ่ายออกมาอาศัยอยู่ตามลำพัง ดังนั้นที่ห้องชุดแห่งนั้นจึงกลายเป็นฐานทัพให้คนระดับสูงของกิลDragonlessมารวมตัวกัน หนึ่งในนั้นคือคนที่ต้นกล้าเกลียดขี้หน้าเสียเต็มประดา

“หมอนี่มาด้วยหรือนี่” ต้นกล้าเบ้ปาก เมื่อเห็นเจ้าของแอคเค้าท์เศียรมังกร มือวางอันดับต้นๆ ในวงการเกมที่เก่งไม่แพ้ใคร แถมยังมีชื่อเสียงเทียบเคียงกับmaddog01 และ doghunter00มาตลอด ไม่คิดว่าเมษาจะดึงคนคนนี้มาเป็นพวกได้แล้ว หลังจากเที่ยวตามจีบอยู่นาน

“ไงสาวน้อย มาด้วยหรือจ๊ะ” อีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ปีสามของเมษา ต้นกล้ารู้นานแล้ว ที่ไม่ชอบขี้หน้าเพราะคนคนนี้ชอบพูดจาเกี้ยวพาเขาทุกครั้งที่พบหน้าอย่างไร้สาระ ถึงจะหน้าตาดูดีใช้ได้ก็เถอะ แต่ไม่ชอบขี้หน้าก็คือไม่ชอบอยู่ดี วันนี้ทำไมยอมมาที่นี่ด้วยนะ

“ไหงวันนี้รุ่นพี่หมอกถึงมาที่นี่ด้วยล่ะ” ต้นกล้าหมายถึง นายสายหมอก เจ้าของแอคเค้าท์ชื่อเศียรมังกรซึ่งยืนส่งยิ้มที่เดาความคิดไม่ได้มาให้นี่แหละ โคตรเกลียดรอยยิ้มแบบนี้เลย

“วันนี้นายจะไปรวมตี้กับพวกนรินทร์หรือเปล่า” เมษาเปิดประเด็นทันที ไม่สนใจคำถามก่อนหน้านั้นของต้นกล้า

“ขอโทษนะ ฟอร์ดมันเป็นบ้าอะไรไม่รู้ ป่านนี้มันคงเอาเรื่องที่เรากับมันเลิกคบกันไปโพนทะนาแล้ว”

เมษาขมวดคิ้วเข้าหากัน “ไม่หรอกมั้ง เอาเป็นว่าแค่พาฉันไปแนะนำให้คนที่ชื่อโกรธเกรี้ยวก็พอ รู้ที่เก็บเลเวลประจำของยัยนั่นดีสินะ”

“ก็รู้...แต่นายจะไปตีสนิทยัยนั่นทำไม”

“ฉันจะจีบยัยนั่นไง” เมษาเฉลยสิ่งที่คิดให้ต้นกล้าทราบ สีหน้าของคนฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่คิดจะแย่งของสำคัญของไอ้นรินทร์ ไม่ใช่เพราะอยากแกล้ง แต่แค่หึงเท่านั้น นายจะรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดนะเมษา

“เดี๋ยวนะ...นี่จะให้คนสวยเป็นนกต่อให้มึงหรือไงเมษา”

“พี่หมอก เรื่องนี้พี่อย่ายุ่งเลย พี่จะปวดหัวเปล่าๆ” เมษาพูดกับสายหมอกเสียงขรึม แปลกใจนิดหน่อยที่ปกติคนซึ่งไม่ก้าวก่ายเรื่องของใครวุ่นวายกับเรื่องนี้

“อ้าว...ก็กูอยากยุ่งนี่ มึงใช้ต้นกล้าเป็นนกต่อ มึงคิดบ้างไหมว่ามันจะโดนอะไรที่หลังบ้าง ต้นกล้าเป็นเพื่อนมึงนี่”

ต้นกล้าใช้สายตาเศร้าๆ มองดูเมษา เขาไม่คิดว่าคนอื่นอย่างสายหมอกจะคิดแทนเขาเสียนี่ ทว่าคนที่เฝ้าหลงรักมานานกลับไม่สนใจคำทัดทานของรุ่นพี่สายหมอกซักนิด

“ก็แค่ พาไปรู้จักเองนี่ครับ ไม่เห็นมากมายอะไร”

“ถ้ามีปัญหาไอ้ต้นกล้ามันจะโดนเล่นหนักเลยนะ” สายหมอกยืนกอดอก ท่าทางบอกชัดว่าไม่ชอบความคิดของเมษาเท่าไหร่

“เรื่องของกูครับพี่หมอก กูอยากทำพี่มึงไม่ต้องมาเสือก”

หลังจากพูดจาไม่ดีใส่สายหมอกต้นกล้าก็หยิบโน้ตบุ๊คจากกระเป๋ามาเปิด ไม่ได้รู้เลยว่ามีคนมองแผ่นหลังด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย ต้นกล้ามักจะพลาดคนดีๆ ที่เข้ามาแบบนี้เสมอเพราะหลงงมงายกับตัวตนของเมษา

ความรักรวดร้าวที่ไม่มีทางสมหวังทั้งชีวิต เพราะความเป็นพี่น้องกัน มันทำให้ต้นกล้าเป๋และคลั่ง แต่คนอย่างต้นกล้าจะรู้ไหมว่าเรื่องราวการวิ่งไล่ตามเมษาด้วยความรักอย่างไม่ลดละ

สายหมอกเองก็ทราบดี เพราะรู้จักต้นกล้ามาได้เกือบสองปีแล้ว และเมษาเองก็เล่าถึงความไม่สบายใจที่ต้นกล้าไม่ยอมเลิกรักตนเองเสียทีให้รุ่นพี่คนนี้ฟัง

การที่สายหมอกยอมมาเข้าพวกกับเมษาทั้งที่ชอบทำตัวสันโดษในเกมมากกว่ารวมฝูง นั่นเป็นเพราะอยากเข้าใกล้ต้นกล้าให้มากกว่านี้ บางทีคิดว่าตนเองหลงชอบของแปลกเข้าให้แล้ว คงเป็นเพราะความชอบดูแลคนอื่นของเขาพอเห็นคนไม่ได้เรื่องได้ราวที่มีหลายอย่างโดนใจก็ทำให้นึกอยากเอาใจใส่ขึ้นมา

เขาเป็นคนชอบของที่มีตำหนิ เพราะคิดว่าถ้าได้มาอยู่ในมือ ของสิ่งนั้นจะไม่มีใครแย่งเอาไปอย่างแน่นอน อย่าว่าแต่ต้นกล้ามีสิ่งที่เขาชอบหลายอย่างรวมกันด้วยยิ่งแล้วใหญ่

สายหมอกชอบความไม่ได้เรื่องได้ราวของต้นกล้านี่แหละ

“พอดีว่าเราแอดเพื่อนกับยัยนั่นไว้” ต้นกล้าพูดกับเมษา ดังนั้นจึงดูสุภาพน่ารักเป็นพิเศษ

“เดี๋ยวส่งข้อความทักไปถามว่าอยู่ไหนก็น่าจะได้”



Sapling : พี่โกรธเกรี้ยว อยู่ไหนครับ

โกรธเกรี้ยว : มีอะไรหรือเปล่า

Sapling : พี่ช่วยมาหาผมที่แมพพื้นที่ล่าของอันเดบารันหน่อยสิครับ

โกรธเกรี้ยว : เข้าใจแล้วจะไปหานะ รอหน่อย

Sapling : พี่มาคนเดียวนะครับ เป็นธุระสำคัญที่ผมจะคุยกับพี่คนเดียว



ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมมาไหม แต่เมื่อเห็นโกรธเกรี้ยวตอบตกลง ต้นกล้าก็หันมายิ้มให้เมษาจนตาหยี ไม่ได้รู้เลยว่าปฏิกิริยาน่ารักๆ ของตัวเองถูกจับตาดูโดยสายหมอกตลอด



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



สงสารต้นกล้านิดหน่อย55555 ไม่ได้ออกทะเลนะเอ้อ :ling3:

แต่คู่2 คู่สามที่งอกมานี่มันกะเกี่ยวกับเนื้อเรื่องอยู่น้า5555 :ling3:

แสดงความคิดเห็นกันบ้างน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 เศียรมังกร 18/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 18-08-2018 12:54:05
มีซาดิสมาติดสะแหล่วต้นกล้าเอ้ย
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 เศียรมังกร 18/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 18-08-2018 13:13:21
เฮ้อ...สรุปเมษาเลวสุด หลอกใช้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ถึงต้นกล้าจะไม่ดีโดยสัน_านก็เถอะ คงต้องมีคนมาปราบใช่ป่ะค่ะ
เดะได้รู้จร้าว่าไปแตะเจ้ารินแล้วน้องโกธรเกรี้ยวจะเกรี้ยวกราดได้เบอร์ไหน หึหึ คงได้เห็นคนกระอักเลือด เชือดแบบนิ่มๆ
ตายแบบไม่รู้ตัวงี้  o18

 :L2:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 เศียรมังกร 18/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 18-08-2018 14:57:00
รออออ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 ท้าทาย 19/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 19-08-2018 11:12:48

บทที่23

ท้าทาย

โกรธเกรี้ยว : โทษทีมีคนเรียกให้ไปพบ ขอเวลาซักครู่หนึ่งนะ

ภาริชพิมพ์ข้อความบอกทุกคนในตี้ คนที่กล้าถามเป็นคนแรกเลยคือชานมฯ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ใครมาเรียกไป

สุดยอดสาวงาม : จะใครเสียอีกล่ะครับก็ไอ้ต้นกล้าน่ะสิ



ภาริชยิ้มละไม “ช่างฟ้องจังนะ เจ้าตัวแสบ” เขาพูดกับฟอร์ด

คนถูกบ่นยักไหล่ “ท่านพี่จะทำอะไรไม่รู้นะ แต่ผมไม่อยากให้ไปพูดคุยกับพวกต้นกล้ามัน”



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ต้นกล้ามันเรียกไปทำไมโกรธเกรี้ยว

โกรธเกรี้ยว : Saplingเขาบอกมีธุระจะคุย แถมให้ไปคนเดียว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : พวกเราตามไปคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ

โกรธเกรี้ยว : ได้สิ มันเป็นสิทธิของพวกนายอยู่แล้ว

พอบอกให้ตามไปได้คนที่ดีใจที่สุดคงเป็นmaddog01เมื่อตอนเย็นเขาได้ฟังเรื่องความสัมพันธ์ของฟอร์ดกับรุ่นพี่พฤกษามาแล้ว ไม่คิดเลยว่ารุ่นพี่เมษาจะส่งคนมาสอดแนมเขาแบบนี้ ทั้งที่อาจไม่ใช่แต่อดเข้าใจเป็นอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ

แถมทั้งที่ก่อเรื่องกับฟอร์ดไม่นานนัก ตกกลางคืนยังกล้าส่งข้อความมาหาพี่สาวของเขาอีก ช่างเป็นคนที่นิสัยแย่จริงๆ ทำไมนะคนพวกนี้ถึงได้ตามราวีเขาไม่เลิก

จากนั้นภาริชก็พาพรรคพวกแห่ไปหาSapling ที่นั่นนอกจากตัวละครเผ่าhellของต้นกล้า ยังมีตัวละครเผ่าhumanอาชีพninja masterยืนอยู่ข้างๆ ด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครที่หัวตัวละครมีชื่อบอกให้ทราบว่าเป็นdoghunter00



“ก็นึกอยู่แล้วว่าต้องแห่กันมาหมดเลย” เมษาพูดกับตัวเอง

“ก็เป็นธรรมดานี่ ใครๆ ก็ต้องหวงผู้หญิงของตัวเองทั้งนั้น” สายหมอกพูด “มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดว่าจะหลอกคนอื่นเขามาคนเดียวได้ง่ายๆ” จงใจพูดเตือนสติต้นกล้า แต่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาว่าเขาคิดอะไรอยู่ สายหมอกทราบนิสัยของต้นกล้าดีอยู่แล้ว ยิ่งสอนยิ่งเตือนยิ่งต่อต้าน

“พี่มึงไม่ต้องเสือกเรื่องของผม” ต้นกล้าเถียงกลับมาอย่างที่คิด สายหมอกทำเพียงยิ้มๆ

“ก็แค่เป็นห่วง”

ต้นกล้าเลือกที่จะทำเมินสายหมอกไปเลย คนถูกเมินนึกขำ เขาอยากจะเห็นตอนที่อีกฝ่ายไม่เหลือใครนอกจากเขาจริงๆ เพราะอย่างนั้นถึงได้พยายามอ่อนโยนกระตุ้นให้ต้นกล้าวิ่งไปในทางตรงข้ามให้สุดทาง จะพังและวิ่งกลับมาหาเขาเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา เขาเป็นคนใจเย็นมากเสียด้วยสิ

สำหรับเขามีแต่ของสวยๆ ที่พังแล้วเท่านั้นแหละ ที่รู้สึกว่าจะไม่มีใครมาแย่งเอาไป



Doghunter00 : ฉันไม่ขอพูดอ้อมค้อมล่ะนะ เธอมาเข้ากิลของฉันดีกว่า



ความไม่อ้อมค้อมหรือพูดพล่ามของนายเมษาคนนี้ทำให้ภาริชถึงกับผิวปากอย่างอารมณ์ดี

“เป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองน่าดูเลยนะ”

“ก็รุ่นพี่เมษาคนนี้เขาเป็นหัวกะทิเลยนะท่านพี่”

ภาริชหมุนเก้าอี้ไปหาฟอร์ด “ยอดเยี่ยมขนาดไหน”

“ก็ขนาดที่ว่าสอบเข้ามหาลัยjได้เลยครับ”

“อ้อ...ดีกว่าที่คาด” ภาริชหมุนตัวกลับไปและพบว่าชานมฯ เปิดศักราชจู่โจมdoghunter00ด้วยคำพูดแล้ว



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ตลกหรือไงมึง กล้ายังไงวะชวนผู้หญิงของศัตรูไปเข้ากิลตัวเอง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : อ้อ...สันดานชอบแย่งของเห้ๆ ของมึงแก้ไม่หายสินะเมษา

Sapling : มึงสิเห้ไอ้กะเทยแก่ มึงนั่นแหละมีสันดานชอบแย่งของคนอื่น

กลายเป็นต้นกล้าที่เป็นเดือดเป็นแค้นแทน เขาเอาความโกรธที่ถูกฟอร์ดเขี่ยทิ้งผสมกับความไม่พอใจที่เมษาถูกด่าระเบิดออกมาในคราวเดียว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : อ้าวๆ กะเทยไหนครับ พี่ไม่เห็นเลย ว่าแต่เสียงสัมภเวสีที่ไหนเนี่ย รบกวนจัง



สายหมอกเห็นข้อความของชานมฯ แล้วขำ ต้นกล้าหันมามองสายตาของอีกฝ่ายโกรธเกรี้ยวและคลุ้มคลั่ง คงกำลังหึงเมษา สายหมอกรู้ดี คนที่ตัวเองชอบไปจีบคนอื่นไม่ว่าเรื่องจริงหรือหลอกลวงใครก็เจ็บทั้งนั้น



Doghunter00 : นี่...ถ้าเธออยากเล่นเกมนี้ให้สนุกเธอก็ควรมาเล่นกับพวกฉันดีกว่า จริงสิ ถ้าจะให้ดียกเลิกการเป็นคู่แต่งงานกับนรินทร์ไปซะ จะดีกับเธอมากกว่านะ

โกรธเกรี้ยว : ดียังไง

ภาริชพิมพ์ถามแล้วยกน้ำชาขึ้นจิบ

Doghunter00 : เธอรู้หรือยังว่านรินทร์เป็นพวกไม่ออกจากบ้าน

Doghunter00 : เอาจริงๆ นะคนแบบนี้ดูแลตัวเองยังทำไมได้ นับประสาอะไรกับดูแลคนอื่น



ตะวันอ่านข้อความแล้วโมโหหนัก เขาพิมพ์ข้อความด่าออกไปหยาบคายสุดๆ แต่ระบบก็ขัดขวางไม่ให้ข้อความของเขาเผยแพร่เกือบทุกคำ แม่มพิมพ์ด่าไม่ได้ดั่งใจเลยว้อย

Silverfox13 : ใจเย็นก่อนชานมฯ maddogน้อยท่าทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่

มิวซังส่งข้อความลับให้ตะวัน เธอสังเกตเห็นท่าทางผิดปกติของเจ้ารินได้ระยะหนึ่งแล้ว เด็กน้อยของเธอนั่งกำเม้าท์แน่นส่วนมือข้างที่เหลือก็ขย้ำเสื้อตัวเองจนเกร็งไปหมด ไม่มีใครทราบความรู้สึกของเด็กคนนี้ดีกว่าเธอ คงกลัวว่าจะถูกโกรธเกรี้ยวทิ้ง



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่เป็นอะไร มิวซัง

Silverfox13 : สภาพไม่ดี เจ้ารินเครียดมากตอนนี้ อยากให้นายอยู่เฉยๆ ดูท่าทีไปก่อน

โกรธเกรี้ยว : ฉันไม่สนใจเรื่องที่maddog01เป็นฮิคกี้หรอกนะ

โกรธเกรี้ยว : มันสำคัญที่ว่าเขาเป็นเด็กดีก็พอแล้ว

โกรธเกรี้ยว : แล้วฉันก็ไม่อยากเข้ากิลหรือแต่งงานกับนาย

โกรธเกรี้ยว : ขอโทษนะ นายมันดูไม่แมนเอาซะเลย สู้maddog01ไม่ได้ซักนิด

โกรธเกรี้ยว : ยังไงฉันก็ชอบคุณสามีของฉันมากกว่า

Doghunter00 : เธอจะบอกว่าไม่รังเกียจที่นรินทร์เป็นพวกไม่เอาไหนงั้นสิ

เมษาขมวดคิ้วเข้าหากัน ผู้หญิงคนนี้เล่นด้วยยาก คงไม่ใช่ว่าชอบนรินทร์เข้าจริงๆ หรอกนะ

ขณะเดียวกันนรินทร์แทบจะยื่นหน้าเข้าไปติดจอ เขาอ่านข้อความของโกรธเกรี้ยวซ้ำไปซ้ำมา คนคนนี้เข้าใจเขาจริงๆ ด้วย เป็นเด็กสาวที่ใจดี แล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีของเขาจริงๆ

“ดีใจด้วยนะmaddogน้อย” มิวซังที่มาอยู่ข้างหลังเมื่อไหร่ไม่รู้ลูบหัวนรินทร์

สำหรับมิวซัง เธอรู้สึกขอบคุณโกรธเกรี้ยวมากจริงๆ ถ้าหากเธอคนนั้นคือคุณภาริชก็นับว่าคนคนนั้นเป็นเสมือนเทพผู้ปกป้องรินมาโดยตลอด ทำให้เธอไม่คิดโกรธอีกต่อไปหากทั้งคู่เป็นคนเดียวกัน ถึงจะหลอกลวงเรื่องตัวตนแต่เขาก็ทำเพื่อเจ้ารินเสมอมา

โกรธเกรี้ยว : ทำไมล่ะคนที่ชอบรังแกหรือแย่งของคนอื่นไม่น่าเกลียดกว่าหรือไง

โกรธเกรี้ยว : คนที่ทำตัวเป็นผู้ดีแต่จิตใจไม่ได้สูงส่งนี่มีอยู่เยอะแยะเลยนะ พวกสิ่งปฏิกูลที่มีกลิ่นเหม็นนี่เยอะจริงๆ

Sapling : ยัยทุเรศอย่าดีแต่ปาก ถ้าเธอกล้านักก็มาpvpกัน

คนที่อารมณ์พลุ่งพล่านดันกลายเป็นต้นกล้าไปเสียนี่ เพราะคำว่าปฏิกูลที่มีกลิ่นเหม็นคำเดียว มันช่างเหมือนคำด่าของฟอร์ด จริงสิพวกมันรู้จักกันคงเล่าให้กันฟังไปแล้ว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : อ้าวๆ อย่านึกว่าทางนี้ไม่กล้านะ ว่าแต่มึงกล้าท้าpvpกับอาชีพ High priestเท่านั้นสินะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ถถถ ลืมไป มึงเองก็แค่High priestเหมือนกันหนิเนอะ ถึงว่ากล้าจัง



“ให้ยืมแอคเค้าท์ของฉันไปดวลpvpไหม” สายหมอกที่อยู่ด้านหลังต้นกล้าเสนอ

“ขอบคุณ” ต้นกล้าพูดด้วยเสียงที่ฟังดูแห้งแล้ง

แต่ต้นกล้าเห็นเป็นความคิดที่ดี ตัวละครHigh priestของเขาไม่น่าดวลpvpกับใครได้ แถมตัวละครอีกตัวยังเลเวลไม่เท่าไหร่ด้วย เขาอยากชนะ จะได้เหยียดหยามยัยโกรธเกรี้ยวนั่นและฟอร์ดไปพร้อมๆ กัน

ทว่าต้นกล้าไม่ได้รู้เลยว่าสายหมอกนั่นวางแผนการเอาไว้ สายหมอกทำเหมือนใจดีมีเมตตา แต่เบื้องหลังนั้นกำลังแอบแทงมีดเข้าใส่

ถ้าคิดซักหน่อยการเอาไอดีคนอื่นไปเล่นมันก็ผิดมารยาทอยู่แล้ว เจ้าต้นอ่อนที่น่ารักนี่ไม่มีทางหลุดมือเขาไปอีกแล้วล่ะมั้ง ไม่คิดว่าจะตกหลุมง่ายขนาดนี้

“แต่...อาจจะไม่ดีก็ได้มั้งถ้าเอาไอดีของฉันไปเล่น อย่าเอาไปดีกว่านะ”

“ทำไมจะไม่ดีล่ะครับพี่สายหมอก ผมคิดไว้แล้วว่าจะสั่งสอนพวกมันยังไง”

เมษายิ้มเหี้ยม แค่คิดว่ายัยโกรธเกรี้ยวนั่นเวลาอยู่ในที่ลับจะฉอเลาะกับนรินทร์ยังไงก็รู้สึกหงุดหงิดโมโหขึ้นมาจนควบคุมตนเองไม่ได้ นรินทร์อยู่ในกำมือเขามาตั้งนาน ใครจะยอมให้ยัยโง่นั่นมาแย่งเอาไปง่ายๆ

สำหรับสายหมอกแล้วเมษายังไม่โตและไม่ฉลาดเลย ถ้าเป็นเขา เขาจะอ่อนโยนกับmaddog01ให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็จะปล่อยให้คนอื่นแกล้งต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งมีเงามืดเท่าไหร่ก็ควรจะทำตัวให้เป็นแสงสว่างที่เจิดจ้าเท่านั้น หากมีหัวคิดเสียหน่อยน่าจะรู้ว่าควรวางตัวยังไง

เละ ถูกเกลียดหนักกว่าเดิมแน่ๆ แถมเจ้าเมษาก็ไม่รู้ตัวเสียด้วย ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา เพราะเป้าหมายของเขามีแค่ต้นกล้าเท่านั้นด้วยสิ



Doghunter00 : ถ้าจะpvpเรามาpvpกลุ่ม ฝั่งละ4 คนกันไหมล่ะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : อย่าคิดว่าจะกลัวนะเว้ย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : มาพนันกันด้วยเลยดีไหม ถ้าพวกมึงแพ้ พวกมึงห้ามมาป้วนป้วนวุ่นวายกับพวกกูอีก

Doghunter00 : ได้ แต่ถ้าพวกฉันชนะ ยัยโกรธเกรี้ยวคนนั้น ต้องห้ามเสนอหน้ามาให้นรินทร์เห็นอีกไม่ว่าจะไหนรูปแบบไหนก็ตาม

Maddog01 : ฉันไม่มีวันแพ้แน่

นรินทร์พิมพ์โต้ตอบกับเมษาหลังจากที่นิ่งอยู่นาน เขาไม่มีวันยอมให้รุ่นพี่เมษาสมปรารถนา ไม่ยอมสูญเสียเพื่อนที่ดีอยากโกรธเกรี้ยวไปเด็ดขาด

Doghunter00 : สรุปว่ารับคำท้า

Maddog01 : ตอนนี้เลยก็ยังได้

Doghunter00 : ยังก่อน ฉันยังไม่พร้อม เอาเป็นวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืนแล้วกัน พอพร้อมแล้วฉันจะทักไป

ที่ยังไม่พร้อมเพราะว่ายังขาดอิงภพกับอิงฟ้าสองคนนั้นไปเที่ยวต่างเมืองกับครอบครัวคาดว่าอีกวันสองวันคงจะกลับ จริงๆ เอาคนอื่นในกิลมาก็ได้ แต่เมษาไม่ไว้ใจ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : อ้อไอ้คนท้าคนแรกก็ต้องมาร่วมpvpด้วยนะเว้ย จะรอเชือดแม่มคอยดู

Sapling : กูไม่กลัวมึงหรอกกะเทยแก่

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : คำก็ไอ้แก่สองคำก็กะเทย มึงรุจักกูหราห๊ะ

สุดยอดสาวงาม : พอเถอะครับพี่ชานมฯ อย่าไปเถียงหรือเกลือกกลั้วกับเขาเลย

เมื่อได้รับการเตือนสติ ตะวันก็ลดความร้อนแรงลงหน่อย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : พี่ก็ไม่ได้จะหาเรื่องใครนะ แต่พวกเลวไม่จำเป็นต้องพูดดีด้วยหรอก



“เหี้ยเอ๊ยกล้าดียังไงถึงด่ากูคนละดอกสองดอกแบบนี้”

ต้นกล้าโมโหจนเกือบอาละวาด ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าเมษาต้องรักษาอาการเอาไว้

“คืนนี้ค้างที่นี่กับพี่สายหมอกซะต้นกล้า ให้พี่เขาสอนวิธีใช้ตัวละครของพี่เขา จะได้ใช้เป็น”

เมษาล็อคเอ้าท์ออกจากเกมแล้วปล่อยให้สายหมอกเข้าแทนที่ สายหมอกดัดนิ้วมือไปมาดังก็อกๆ ก่อนส่งยิ้มเจิดจ้าไปให้ต้นกล้า

“ปิดเครื่องแล้วมานั่งข้างๆ พี่ เดี๋ยวพี่จะสอนนายเล่นอาชีพ Kung Fu Master เล่นยากซักหน่อยนะเพราะมันมีท่าคอมโบที่ต้องขยับนิ้วให้ไวเลยแหละ”

ต้นกล้าขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่ชอบสุงสิงกับผู้ชายคนนี้ แต่ยอมรับว่าค่อนข้างชอบรอยยิ้มอบอุ่นเป็นกันเองของอีกฝ่าย ถ้าไม่ติดว่ารุ่นพี่สายหมอกแสดงโจ่งแจ้งเกินไปว่าชอบพอและต้องการจีบเขาจนดูไม่มีชั้นเชิง ทำไมนะรอบตัวของเขาถึงได้มีแต่คนประเภทนี้

คนประเภทที่ดูใสสะอาดซื่อบริสุทธิ์เสียจนเขาไม่กล้าหันไปมองดูตรงๆ ต้นกล้ารู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนที่ดีและคู่ควร แต่อีกใจหนึ่งก็บอกตัวเองว่าไม่ใช่อย่างนั้น เขาแค่เกลียดพวกที่ชอบทำดีเสแสร้งเท่านั้นแหละ เท่านั้นจริงๆ



Silverfox13 : ตกลงว่าโกรธเกรี้ยวจะเข้าร่วมpvpกลุ่ม 4 คนด้วยสินะ

โกรธเกรี้ยว : จะไม่รบกวนใช่ไหมถ้าจะpvpด้วยอาชีพHigh priest

Maddog01 : ได้สิ พวกเราไม่ได้สายรุกขนาดนั้น มีโกรธเกรี้ยวอยู่มันจะสมดุลดี

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : งั้นเราต้องมาวางแผนกันหน่อย คาดว่าฝั่งนั้นไอ้เจ้า Saplingมันก็ใช้High priestเหมือนกัน

สุดยอดสาวงาม : แถมยังมีทักษะสกิลกับไอเทมราคาแพงที่ปอกลอกพวกพี่ไปด้วยนะ น่าเป็นห่วง

Silverfox13 : ไม่หรอกเจ้าSaplingนั่นเป็นมือใหม่ ไม่ได้มีทักษะการขยับนิ้วที่เร็วอะไรเลย ผิดกับโกรธเกรี้ยว ที่ทำทุกอย่างคล่องแคล่วและคิดมาเป็นอย่างดี

Maddog01 : ถูกที่มิวซังพูดทุกอย่าง ใครๆ ก็คิดว่าสายซัพพอร์ตเล่นง่าย แต่ทุกครั้งที่บัพหรือฮีล

Maddog01 : ต้องคำนวณทั้งเลือดคนในตี้ ระยะเวลาในการใช้ทักษะครั้งต่อไปและค่าร่ายที่ตัวเองมี มันจุกจิกยุ่งยาก แต่โกรธเกรี้ยวทำได้ไม่มีที่ติ

Maddog01 : ขอบคุณนะโกรธเกรี้ยว ผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีกับผมถึงขนาดนี้

จู่ๆ นรินทร์ก็พิมพ์ขอบคุณ ภาริชที่ครุ่นคิดบางอย่างเหลือบไปเห็นพอดี เขายิ้มละมุนละไม เจ้าหมาน้อยของเขาช่างเป็นเด็กที่อ่อนหวาน

โกรธเกรี้ยว : ขอบคุณเหมือนกันนะ ที่ตอนนั้นเข้ามาทักกัน ไม่งั้นฉันคงไม่ได้สนุกอย่างนี้ แถมอาจจะไม่ได้รู้จักความดีของนายเลย ขอบคุณนะนรินทร์

ที่ภาริชครุ่นคิดคือเมื่อครู่ณภัทรส่งข้อมูลของบุพชาติ เอื้อมบุญมา เขามัวแต่อ่านข้อมูลน่าสนใจอันนั้น เขากำลังแสยะยิ้มกับสิ่งที่ได้มา การจะลงมือเมื่อไหร่นั้น มันง่ายนิดเดียว

คุณบุพชาติคนนี้ใช้อำนาจในฐานะฝ่ายบุคคลส่งสปายเข้ามาแฝงเรื่อยๆ สรุปคือสองสามคนที่เป็นผู้ต้องสงสัยซึ่งณภัทรหามา ล้วนแล้วแต่เป็นคนของธันวา ชัยมงคลทั้งนั้น

จะไล่ออกตอนนี้ก็ยังสนุกไม่พอ ในเมื่อก็ลอกเกมไปเยอะแล้ว เอาเป็นรอจังหวะเหมาะกว่านี้เสียหน่อย ขอเล่นสนุกกับคนเป็นลูกซักนิดแล้วกัน นอกจากนั้นเขาต้องการหลักฐานแน่นหนามากกว่านี้



หลังจากโกรธเกรี้ยวกับสุดยอดสาวงามล็อคเอ้าท์ออกไป พี่ณภัทรก็มาเคาะประตูเรียกตรงหน้าห้อง

“เจ้าริน มากินขนมสิ คุณภาริชเขาฝากช็อคโกแลตมาให้เราเยอะเลยนะ”

นรินทร์หูพึ่งกับสองคำ พี่ภาริชกับช็อคโกแลตของโปรดของเขาทั้งสองอย่างเลย ดังนั้นจึงรีบแจ้นออกไปหาของชอบทิ้งให้มิวซังยิ้มอ่อนใจ

“เหมียว...” เจ้าลูกแมวพันธุ์แร็กดอลล์วัยสี่เดือนสองตัวพันแข้งพันขาเธอ

“อลิซาเบธ อัลเบิร์ต ดูเจ้านายของแกสิ พอได้ยินชื่อของคุณภาริชหรือช็อคโกแลตก็รีบแจ้นไปจนลืมพวกแกเลยนะ ใช้ไม่ได้จริงๆ”

นรินทร์ยิ่งนานวันก็ยิ่งแสดงออกชัดว่ามีใจให้คุณภาริชคนนั้น เด็กน้อยของเธอคงรู้ตัวถึงความในใจตัวเองดีแล้วล่ะมั้ง เจ้ารินไม่ใช่คนเล่นละครเก่ง คิดกับใครยังไงก็มักแสดงออกมาอย่างซื่อบริสุทธิ์

ถ้าคุณภาริชคนนั้นรักเจ้ารินตอบกลับก็ดีสิ เธอกลัวว่าคนคนนั้นจะแค่หลอกเล่นสนุกกับเด็กเฉยๆ เท่านั้นเอง



++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เราเข้าใจเรื่องที่เราเขียนแล้วอาจจะขัดใจนักอ่านหลายท่านเลย

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแนะนำชี้แนะ

แต่ถึงเราจะเขียนไม่ตรงตามที่นักอ่านชอบ

แต่อยากให้ช่วยกรุณาติดตามเราต่อไปนะคะTT

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 ท้าทาย 19/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 19-08-2018 11:28:53
สายหมอกเพิ่งออกมาสองตอน แต่ความร้ายมาเต็มมาก
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 ท้าทาย 19/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 19-08-2018 13:13:27
น้องรินสู้ๆ เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย อ่านแล้วสนุกค่ะ ขนาดเราไม่ได้เล่นเกมส์ยังอ่านแล้วเข้าใจเลย แอบเชียร์พี่ภาริชทุกตอนว่าเมื่อไหร่จะหลอกล่อน้องรินออกจากบ้านได้ซักที
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 ท้าทาย 19/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 19-08-2018 17:49:27
เอาใจช่วยเพ่หมอกนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 ท้าทาย 19/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 19-08-2018 20:34:36
ต่างคนต่างความเห็นจ้า สนุกดีค่ะ  o13 อย่าไปคิดมาก เราก็รอลุ้นท่านพี่ว่าจะจัดการยังไง ท่าจะเอาคืนหนักน่าดู
และรอลุ้นว่าเจ้ารินน้อยจะทำยังไงเกิดรู้ว่าโกธรเกรี้ยวกะพี่ภาริชคือคนเดียวกัน
 :L2:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่22 ท้าทาย 19/8/61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-08-2018 20:50:29
ไรท์ เขียนตามใจไรท์เลย  ชอบบบบบบบบบบบบบบ   :mew1: :mew1: :mew1:

ต้นกล้า ก็มีคนชอบอย่างจริงใจ   :hao3:
แม้ดูเหมือนจะมีเล่ห์เหลี่ยม
แต่ก็เหมาะกับต้นอ่อนต้นนี้แหละ

ริน น่ารัก พอได้ยินคำว่าภาริช กับชอคโกแลต วิ่งฉิว ลืมแมวเลย   :mew1:
ภาริช  ริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 20-08-2018 11:14:28
บทที่24



ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า

         

      เป็นวันที่เอกสารมากองสุมอยู่ตรงหน้าภาริชมากที่สุดในรอบสัปดาห์ มากเสียจนบางอย่างต้องโยนให้ณภัทรช่วยจัดการให้ เวลานี้พ่อเลขาฯ ส่วนตัวดูเอกสารอย่างคร่ำเคร่งจนปิดการสื่อสารทุกทางไปเรียบร้อยแล้ว



แถมอีกเดี๋ยวจะต้องแวะไปนอกเมืองเพื่อไปดูโรงงานผลิตแทนเขาที่ยังต้องเซ็นเอกสารต่ออีกด้วย

       

        “คุณภาริชครับ” ณภัทรเคาะประตูก่อนเข้ามา

         

     “ผมจะออกไปที่โรงงานผลิตของเราที่นอกเมืองก่อนนะครับ นี่คือเอกสารที่ผมจัดการไปคร่าวๆ แล้วเหลือแต่ลงนามเท่านั้น”

       

       “อืม....ไปดีมาดีนะ ว่าแต่เจ้ารินชอบช็อกโกแลตที่ฉันฝากไปให้ไหม”

       

        ณภัทรฉีกยิ้มกว้าง คนคนนี้พอเป็นเรื่องของน้องชายจะมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ



 “ชอบมากครับ ถึงแม้ผมจะคิดว่ามันจำนวนมหาศาลเกินไปก็ตาม เดี๋ยวนี้นะเอะอะๆ ก็พี่ภาริช จนผมอิจฉาคุณไปหมดแล้ว”

       

       ภาริชหัวเราะน้อยๆ ต่อความอิจฉาของณภัทร “ก็ฉันอยากให้เขาชอบฉันนี่ เลยขนของบรรณาการไปให้จนหมดหน้าตัก”

         

     ภาริชจ้องมองดูว่าณภัทรจะทำสีหน้าแบบไหนเมื่อมีผู้ชายด้วยกันมาบอกชอบน้องชายตัวเอง คนเป็นพี่ยิ้มจนแก้มปริ ไม่ได้คิดเลยว่าเจ้านายหวังเคลมน้องตัวเองซักนิด

         

      “โชคดีนะครับที่เจ้ารินได้รับความเอ็นดูจากเจ้านาย”

         

      “อยากจะเอ็นดูให้เยอะๆ มากๆ เลยล่ะ” ภาริชยิ้มหวานประดุจนางฟ้า ส่วนณภัทรกระพริบตาปริบๆ

         

     รู้ตัวได้ซักทีนะ แต่ยังอุตส่าห์เข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น ทำไมน้าถึงไม่เข้าใจพฤติกรรมที่บอกชัดของเขาซึ่งมีต่อเจ้านรินทร์

           

    “เจ้านายเลิกแกล้งผมเถอะครับ ต่อให้แสดงความหื่นกระหายกว่านี้ ผมก็ไม่คิดว่าเจ้านายจะเป็นพวก Pedophilia(โรคใคร่เด็ก)หรอกนะครับ”

         

      “นรินทร์ไม่เด็กแล้ว” ภาริชทำสีหน้าจริงจังมากๆ “ปีหน้าจะ 18 แล้วนี่ อีกอย่างดีออกจะตาย เจ้ารินน่ะต่อให้อายุ 20 แต่ตัวก็ยังคงเล็กผอมบางน่ารักนุ่มนิ่มแบบนี้เขาเรียกว่าโชตะแบบถูกกฎหมายสินะ”

           

    ภาริชแสยะยิ้มร้าย จะว่าจงใจแหย่ก็ใช่ แต่จริงๆ ลึกๆ มีรสนิยมชอบอะไรก็แล้วแต่ที่มีอยู่ในตัวนรินทร์หมดเลย เหมือนฟ้าส่งมาให้เขาเลยใช่ไหมล่ะแบบนี้ ไม่แค่นั้นนะเจ้ารินยังเป็นเด็กดี ซื่อบริสุทธิ์อย่างหาได้ยาก เขาชอบและคิดว่าคงจะหลงมากขึ้นอีกเรื่อยๆ แน่

           

    “พอเถอะครับ” ณภัทรกุมขมับ เขาปวดหัวกับเจ้านายขี้แกล้งนี่เต็มทน “ผมว่าผมไปเยี่ยมดูโรงงานเลยดีกว่า”

         

     “ดูเสร็จแล้วกลับบ้านไปเลยก็ได้นะ” ภาริชหมุนตัวกลับไปนั่งเก้าอี้ พยักหน้ารับคำขอบคุณจากเลขาฯ ส่วนตัวแล้วหมกมุ่นกับงานเอกสารต่อไป

         

      หลังจากนั่งทำเอกสารต่อไปได้อีก 20 นาที เสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ระบุชื่อ จริงๆ จะไม่รับ แต่ก็ตัดสินใจรับมันเสียหน่อย

         

     “ภาริชครับ”

         

     < “พี่ภาริช....ผมรินเองนะ” >

         

     “อ้าว....รินเองหรือมีอะไร”

         

      < “อลิซาเบทอาเจียนไม่หยุดเลย”>

         





     วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ไม่มีใครอยู่บ้าน มิวซังไปเรียน ส่วนพี่ณภัทรก็ไปทำงาน หลังจากออกกำลังกายด้วยเครื่องปั่นจักรยานราวสองชั่วโมงได้และอาบน้ำจนหอมกรุ่น นรินทร์ก็นั่งละเลียดทานช็อกโกแลตอย่างมีความสุข รอบตัวมีเจ้าแมวสองตัวคลอเคลียพัวพันไปมา

           

   “มีความสุขจัง”



นรินทร์วางกล่องที่ยังเหลือช็อกโกแลตไว้ที่พื้น แล้วลุกไปยังpc เพื่อดูว่าขายของได้หรือเปล่า ปรากฏว่ามีคนมาซื้อของที่วางขายจนเกลี้ยง เขามัวแต่ดีใจหมกมุ่นกับการเอาของมาขายเพิ่มจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเลย

           

   กระทั่งได้ยินเสียงอลิซาเบธพยายามอาเจียน “อลิซาเบธเป็นอะไรไป”

         

     นรินทร์รีบเข้าไปดูอาการและพบว่าเจ้าแมวน้อยอาเจียนไม่เลิก อาการน่าเป็นห่วงจนเกิดกลัวขึ้นมา

       

       “ต..ต้องโทรหาพวกพี่ๆ” นรินทร์กดโทรหามิวซังกับณภัทรมือไม้สั่น ทว่าไม่มีใครรับสายเลย

         

     กลัวๆๆ เขากลัวไปหมด ตอนนี้เจ้าอลิซเบทโกงคออย่างทรมาน พลันนึกได้ว่าในจดหมายที่ตอบโต้กับพี่ภาริชมีเบอร์โทรของพี่เขาอยู่ นรินทร์ถลาไปเปิดกล่องที่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีก่อนจะโทรหาที่พึ่งสุดท้าย

       

       <”เราดูให้ทั่วสิว่า อลิซาเบทกินอะไรเข้าไปบ้าง”>

       

       นรินทร์มองหาไปรอบๆ แล้วพบว่ามีแค่ช็อกโกแลตที่เขาเผลอวางทิ้งไว้บนพื้นเท่านั้น

       

       “มะ....มีแต่ช็อกโกแลต”

         

      <”ริน พวกหมาแมวกินช็อกโกแลตไม่ได้ มันเป็นพิษ รินต้องพามันไปหาหมอ”>

       

       “ต...แต่ว่า ให้ออกจากบ้าน”

     

      เจ้ารินไม่กล้าออกจากบ้าน เรื่องนี้ภาริชรู้ดี <”พี่เข้าใจ เอาอย่างนี้พี่จะไปหารินที่บ้าน รอพี่ไม่นานหรอก”>

           

    นรินทร์โล่งใจได้ครู่เดียว ทว่าอลิซาเบททั้งอาเจียนทั้งโก่งคอดูทรมานมากขึ้นไปทุกที



<ถ้าอลิซาเบทตายล่ะ>

       

     “ต...ต้องพาไปหาหมอ”

         

     เป็นครั้งแรกเลยที่นรินทร์มีความตั้งใจอย่างแรงกล้า เขาคว้ากระเป๋าเงินและกระเป๋าเป้ใส่แมว

       

        “อลิซาเบทขอโทษนะที่ต้องให้อยู่ในที่แคบๆ ทั้งที่กำลังอาเจียน”

         



     ภาริชเหยียบคันเร่งแทบจะมิด พอมาถึงบ้านของนรินทร์ก็พบว่าไม่มีใครอยู่ ดังนั้นจึงกดโทรหานรินทร์ด้วยใจที่กระวนกระวาย

           

    “ริน เราไปไหน พี่มาถึงหน้าบ้านเราแล้วนะ”

           

    < “ผมอยู่คลีนิคxxxที่xxxครับ”>

           

    “เราไปคนเดียวหรือ”

         

      “อื้อ...ก็ใช่....”

       

        “งั้นรอพี่ก่อนนะเดี๋ยวพี่จะไปหา”

         

    ภาริชขับรถตรงไปยังคลินิก เขาบอกไม่ถูกว่าควรดีใจหรือเสียใจดี เจ้ารินถึงกลับกล้าออกจากบ้านเพื่อพาลูกแมวไปรักษา นี่เท่ากับว่าการให้เลี้ยงสัตว์เป็นความสำเร็จที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

           

    หลังจากมาถึงคลินิกภาริชเห็นนรินทร์นั่งจ๋องตรงเก้าอี้บนตักมีตะกร้าซึ่งอลิซาเบทอยู่ในนั้น

           

    “รอพี่นานไหม แล้วอลิซาเบทได้ตรวจแล้วหรือไง”

           

    “ตรวจแล้ว” นรินทร์หน้าแดงก่ำ เขารู้สึกอับอายจนแทบไม่กล้าเล่าเรื่องอาการของอลิซาเบทให้พี่ภาริชฟัง

           

   “อลิซาเบทเป็นอะไร”

         

     “...” นรินทร์พึมพำเสียงเล็กและเบาทั้งยังก้มหน้าหลบตา

         

      “อะไรนะพี่ไม่ได้ยิน”

         

     “สำรอกก้อนขน” นรินทร์ลอบมองดูสีหน้าของภาริช แล้วก้มกลับลงไปใหม่อีกครั้ง

         

      “อย่างนี้ พี่ก็ดีใจเต็มที่ได้แล้วสิ”

         



      “ดีใจอะไรครับ” นรินทร์เงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าภาริชยิ้มกว้างมากจนเห็นเขี้ยว ท่าทางดีใจสุดๆ เลย

         

      “ก็รินยอมออกจากบ้านแล้วนี่ครับ”

           

    การถูกเตือนสติอีกครั้ง ทำเอานรินทร์อยากจะเคลื่อนย้ายพริบตากลับไปที่บ้านในทันที ตอนแรกกังวลว่าถ้าหมอเห็นหน้าเขาอาจจะไม่ยอมรักษาอลิซาเบทให้ อาจไล่ตะเพิดหรือพูดจาดุด่า

         

     แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ทั้งหมอทั้งพยาบาลใจดีกับเขามาก แถมยังแนะนำนั่นนี่ให้มากมาย แล้วก็คนอื่นๆ ที่พาสัตว์เลี้ยงมาหาหมอทุกคนเป็นกันเองทั้งนั้น

           

   “ในเมื่อออกจากบ้านมาแล้ว งั้นวันนี้เราไปเที่ยวกันดีไหมครับ ฉลองก้าวแรกสู่โลกภายนอกของริน”

           

    “อ...เอ๋...ม...ไม่ดีกว่ามั้งครับ”

               “อย่าปฏิเสธพี่สิครับ พี่ว่าจะพาเราไปร้านที่มีช็อกโกลาติเย่ประจำ เอ...เรารู้จักร้านbitter sweetไหมครับ ร้านที่ขายช็อกโกแลตโดยเฉพาะตรงในกลางเมืองb ไม่อยากไปหรือ”

             

  “อ..เอ่อ..” อยากไปสิ ร้านนั้นน่ะ มันเป็นร้านชื่อดังที่แนะนำในอินเตอร์เน็ต เขาเคยฝันว่าซักวันต้องไปให้ได้ซักครั้ง  แต่ไม่กล้าไปยังที่คนพลุกพล่าน เวลานี้ความกลัวกับความอยากเริ่มจะขัดแย้งกันแล้ว นรินทร์กอดตะกร้าใส่แมวเอาไว้แน่น

             

  “ฟูลคอร์สช็อกโกแลต ที่เริ่มด้วยซุปช็อกโกแลตเย็น ตามด้วยบงบงช็อกโกล่า ต่อด้วยช็อกโกแลตเชอร์เบท แล้วจานหลักจะเอาเป็นฟอนดันช็อกโกล่า เครป หรือ เค้กช็อกโกแลตสดก็ได้นะ”

           

   ภาริชหัวเราะหึหึด้วยความเจ้าเล่ห์ จริงๆ แสวงหาสิ่งนี้เพื่อหลอกล่อให้เจ้ารินให้ออกจากบ้านมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ยิ่งมาเห็นสีหน้าที่พร้อมจะน้ำลายหกได้ตลอดเวลาของเป้าหมายยิ่งรู้ว่ามันได้ผลระดับระเบิดปรมาณู             

           

   

           

    ภาริชยิ้มหวานราวนางฟ้า ““ก็ถ้าไม่อยากกินก็น่าเสียดายนะ พี่มีตั๋วคอร์สทานฟรี ฟรีแถมทานได้ไม่อั้น สงสัยว่าคงต้องไปชวนคนอื่นแล้วมั้งนะ”



 เล่นตัวเสียหน่อยเอาให้คิดว่าไม่มีโอกาสอีกแล้ว “ยังไงก็ต้องรีบหาคนเสียบแทนแหละมันใกล้หมดอายุแล้วด้วย”


ภาริชไม่ลังเลจะตอกย้ำหัวตะปูลงไปอีกครั้ง  “รินไม่อยากไปเนอะ…แล้วนี่พี่จะหาใครไปด้วยได้ คงต้องทิ้งไปเปล่าๆ สินะ?”
 


<เอาล่ะ พี่ตั้งใจกดดันเราขนาดนี้แล้ว ถ้ายังไม่ติดกับ พี่คงรู้สึกเหมือนรบแพ้เลยนะนรินทร์>

             

  “เอ่อ...ไปก็ได้ครับ”

             

  แววตาดูมีความลังเล แต่คนอย่างภาริชหรือจะเปิดโอกาสให้กลับคำ เขารีบฉุดให้เจ้ารินไปที่รถแล้วขับห้อไปยังร้านbitter sweet รวดเร็วราวกับมีเวทมนต์



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามเราและแสดงความคิดเห็นนะคะ เราดีใจมั่กๆค่า



อยู่อ่านนิยายเราจนจบด้วยนะคะ 555 เราขอร้อง



แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 20-08-2018 11:38:44
ดีใจมาก ภาริชทำสำเร็จแล้ว น้องรินติดกับคนพี่ซะแล้ว เข้าใจเอาของกินมาล่อนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 20-08-2018 15:04:07
 :hao7:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 20-08-2018 15:43:34
.....เราเข้าใจเรื่องที่เราเขียนแล้วอาจจะขัดใจนักอ่านหลายท่านเลย
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแนะนำชี้แนะ
แต่ถึงเราจะเขียนไม่ตรงตามที่นักอ่านชอบ
แต่อยากให้ช่วยกรุณาติดตามเราต่อไปนะคะTT.....

ไม่ได้อ่านคอมเม้นท์อื่นๆนะฮะเลยไม่รู้ว่าทำไมคุณลูซิเฟอร์ฯเขียนแบบนี้ เอาเป็นว่ามาให้กำลังใจล่ะกัน
อยากบอกว่าแต่งเรื่องได้สนุกมากๆ จากตอนแรกๆที่หลงเข้ามาอ่าน ตอนนี้เลยติดงอมแงม รอว่าเมื่อไหร่จะมาอัพอีก
ชอบฮะ สนุกดี อ่านได้เพลิน มีเรื่องของคนรอบข้างเข้ามามีบทบาทแถมยังสนุกด้วย รออ่านต่อไปจนจบกันเลยทีเดียว 555+
ยังไงก็ติดตามแน่นอนฮะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 20-08-2018 16:05:32
 :mc4: ก้าวแรกจ้าเจ้ารินน้อย สู้ๆ ท่านพี่มีความเจ้าเล่ห์ไปอีก  o13
 :L2:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 20-08-2018 18:38:07
ออกจากบ้านล้าววว ดีใจๆ 55555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 20-08-2018 20:27:53
พึ่งเข้ามาอ่านจ้า อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย รอติดตามตอนหน้าน๊า  :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-08-2018 21:40:49
เย้ๆๆๆ................  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รินน้อย กล้าออกจากบ้านแล้ว   :ling1:
  :bye2:
ภาริช ใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อให้รินพัฒนาได้ผลจริงๆ
ความรักสัตว์ ห่วงสัตว์ ทำให้รินพาแมวไปหาหมอได้ เยี่ยม 
ออกมาแล้วไหนๆ ก็ไปกินช็อคโกแลตในเมืองได้อีก
อันนี้อุบายภาริชล้วนๆ  ชอบบบบบ  :katai2-1:

ภาริช  ริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 20-08-2018 23:25:28
พาริช...ริน...ฟินค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่23 ไปทานช็อกโกแลตกันดีกว่า 20/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 21-08-2018 06:37:50
……


แล้วพี่ภาริชก้อพาน้องรินออกเดตละจ้าาาา :)


 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:






หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่26 ช็อกโกแลตแสนอร่อย 21/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 21-08-2018 10:14:02
บทที่25

ช็อกโกแลตแสนอร่อย

ภาริชมองปฏิกิริยาของนรินทร์ด้วยความรู้สึกปลื้มปิติ เหมือนว่าฮิคกี้น้อยจะมีความสุขเอามากๆ เพราะตั้งแต่มาถึงที่ร้าน bitter sweet ดวงตาของตัวแสบก็เปล่งประกายวิบวับ ท่าทางตื่นเต้นเปี่ยมสุขมันทำให้คิดถูกแล้วที่พามาที่นี่

“ว้าว”

นรินทร์ยิ้มจนแก้มปริเมื่อบริกรนำชามซุปสีขาวมาวางตรงหน้าพวกเขาทั้งคู่ ซุปตัวนี้ไม่ใช่อาหารคาวแน่นอน เพราะถึงจะเรียกว่าซุป แต่เจ้าสิ่งนี้เป็นช็อกโกแลตเข้มข้น ด้านบนมีลวดลายทำจากครีมและคุ้กกี้ป่นลอยอยู่ดูแล้วสวยงามชวนรับประทาน

“ค่อยๆ กินนะ”

เจ้ารินผงกหัวหงึกๆ ตลกดีนะ นรินทร์ตื่นเต้นเหมือนเด็กเล็กๆ การที่มีความสุขเวลาได้กินของอร่อยนี่เขาก็เข้าใจ แต่ไม่คิดว่าจะออกอาการเยิ้มขนาดนี้

“เป็นไง” ภาริชรอให้นรินทร์ตักทานคำที่สองแล้วถาม ทว่าทีแรกเห็นกรี๊ดกร๊าดวี้ดว้ายน่าดู พอได้ทานจริงกลับมีมารยาทจนน่าตกใจ

“อร่อย”

ด้วยเหตุนี้ภาริชจึงกินซุปไปมองดูนรินทร์ละเลียดอาหารอย่างมีมารยาท แววตาคู่สวยบ่งบอกชัดว่ากำลังซาบซึ้งที่ได้ทาน

“มีความสุขขนาดที่ว่าถึงถูกออกบังคับให้ออกจากบ้านก็ไม่เสียดายเลย”

ภาริชหัวเราะหึหึ อดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไปให้ณภัทรดู อีกอย่างอยากเก็บภาพความน่ารักนี้เอาไว้ดูเอง

“ถ้าไม่มีคนมองก็อยากจะเลียจานให้สะอาดไปเลย” นรินทร์มองคราบบนจานด้วยท่าทางเสียดาย เจ้าซุปนี่มันอร่อยมาก จนรู้สึกว่าดีแล้วที่ยอมตามพี่ภาริชมา แต่ว่าก็ยังไม่ถึงกับดึงดูดจนอยากออกมาทานบ่อยๆ

“จะเลียไม่ได้นะ ถึงเราจะน่ารักเหมือรีทริฟเวอร์ก็เถอะ” ภาริชหัวเราะยังคงเก็บภาพความทรงจำด้วยมือถือต่อไป ตอนนี้เองสังเกตเห็นดวงตาแป๋วๆ มองมายังซุปซึ่งยังทานไม่หมดของเขา

ภาริชแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทานไหม พี่ว่าพี่พอแล้วกับซุปนี่”

“ม...ไม่เอาสิครับ พี่ภาริชทานเถอะ” เจ้ารินสะบัดหน้าเมินไปอีกทาน แต่ไม่วายเหล่มองดูซุปของภาริช แบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกว่าน่าเอ็นดู

หลังจากจานทั้งหมดบนโต๊ะว่างเปล่าพนักงานก็เก็บจานตามด้วยนำบงบงช็อกโกล่าสองที่มาวางตรงหน้า

“บงบงช็อกโกแลตค่ะ ที่หนึ่งเป็นรสส้มยูสุพลาลีน (ช็อกโกแลตสอดไส้คาราเมลกับเฮเซลนัท) ส่วนอีกที่เป็นบิทเทอร์ที่ออกรสขมนิดๆ นะคะ ไม่ทราบว่าท่านไหนยูสุท่านไหนบิทเทอร์คะ”

“ของผมยูสุของตัวเล็กเป็นบิตเทอร์ครับ” ภาริชบอก

พนักงานมองสลับระหว่างพวกเขาสองคนแล้วยิ้ม ก็เข้าใจนะว่านรินทร์ดูน่ารักเหมือนเด็กสาว คงคิดไปเองว่าของที่พวกเขาทานน่าจะสลับกันมากกว่า ช่วยไม่ได้เขาไม่ชอบทานรสขมเท่าไหร่นัก ของหวานมันก็ต้องทานหวานๆ สิถึงจะถูก

“ทานให้อร่อยนะคะ” พนักงานสาวจากไปแล้ว พอหันกลับมามองนรินทร์ก็พบว่าฮิคกี้น้อยกำลังมองบงบงช็อกโกแลตรสยูสุของเขาอยู่ ภาริชยิ้มหวานประดุจนางฟ้า

“แลกกันหนึ่งชิ้นไหมครับ”

“ได้หรือครับ”

“ได้สิ แต่ว่าพี่จะขออัดคลิปเราต่อนะ”

นรินทร์ไม่ได้สนใจเรื่องอัดคลิปเลย พออนุญาตให้แลก ก็จัดแจงเอาของตัวเองมาวางสลับกับของเขาหนึ่งชิ้นก่อนลงมือกัดกินบงบงช็อกโกล่าอย่างรวดเร็ว

“อร่อย บงบงช็อกโกล่ารสยูซุนี่อร่อยมาก ไม่แพ้รสบิทเทอร์เลย”

เจ้านรินทร์เคี้ยวไปยิ้มไป อร่อยจนถึงกับหุบยิ้มไม่ได้ แม้แต่ภาริชเองยังเผลอยิ้มตามไปด้วย คลิปที่อัดอยู่ในตอนนี้ต้องเป็นผลงานชิ้นเอกของเขาแน่ๆ ไม่เพียงแต่เขาพอใจณภัทรเองก็ต้องตกหลุมความน่ารักน่าชังของน้องชายตัวเอง

“รู้สึกคาดหวังกับเชอร์เบทแล้วสิ”

หลังจากทานบงบงช็อกโกล่าหมดเจ้ารินก็พึมพำคนเดียว เขาอยากทานช็อกโกแลตอร่อยๆ แบบนี้ทุกวันเลย แต่ถ้าจะอย่างนั้นก็ต้องออกกำลังกายอย่างหนัก แล้วก็ต้องออกจากบ้านซึ่งเป็นปราการอันแข็งแกร่งของตัวเอง รู้สึกลังเลจัง

และแล้วเจ้าเชอร์เบททำจากไวท์ช็อกโกแลตก็ถูกส่งมาตรงหน้า เนื่องจากปริมาณไม่มากนักจึงทำให้นรินทร์ไม่เต็มอิ่ม ยังอยากทานอีก อยากทานอีกเรื่อยๆ โชคดียังเหลือจานหลักอยู่ จากนั้นฟอนดันช็อกโกแลต กับเครปที่ชุ่มด้วยซอสช็อกโกแลตก็ถูกส่งออกมาปิดท้ายรายการ

“....”

นี่มันสวรรค์ชัดๆ เป็นสวรรค์ที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลต นรินทร์ยิ้มจนแก้มปริอีกแล้ว คราวนี้ก็เหมือนเดิมเจ้ารินขอชิมเครปของภาริชด้วยเพราะดูท่าทางน่าอร่อย ระหว่างที่ทานภาริชเองก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขเหมือนกัน เพราะว่าได้รับของสะสมมาจากเจ้ารินแล้วเป็นคลิปจำนวนมาก

ภาริชไม่รีรอที่จะส่งคลิปทั้งหมดไปหาณภัทรผ่านทางแอพlเป็นเวลาเดียวกับที่ณภัทรกลับถึงบ้านและกำลังตกใจที่น้องชายคนเดียวหายไปพอดี

ส่งคลิปไปได้ได้ซักพักณภัทรก็โทรกลับมาหา ภาริชรับสายด้วยเสียงร่าเริง

“น่ารักใช่ไหม เจ้ารินดีใจเหมือนรีทริฟเวอร์ได้ทานเนื้อติดกระดูกเลยนะ”

< “คุณภาริช น้องผมยอมออกจากบ้านแล้วหรือครับ” > เสียงทางฝั่งนั้นดูตื่นเต้น ภาริชหัวเราะหึหึ

“ผลงานชิ้นโบแดงของฉันเลยนะ”

<” ออกจากบ้านแล้วจริงๆ ด้วย” > น้ำเสียงที่บอกชัดว่าดีใจลอดออกมาทางมือถือ <” ต้องฉลองแล้ว” >

ณภัทรวางสายไปอย่างกะทันหัน ภาริชยิ้มๆ สงสัยว่าคงเตรียมอาหารมื้อค่ำชุดใหญ่ไว้รอฉลองแน่ๆ แล้ว จังหวะที่คิดอย่างนั้นคนคุ้นเคยก็มายืนค้ำหัว ภาริชพอเห็นหน้าอีกฝ่ายก็ยกยิ้มให้

“อร่อยไหมภาริช”

“ต้องขอบใจนายนะโรรองที่ให้ตั๋วทานฟรีมา”

โรรอง เปอตี เป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่เจอกันเมื่อครั้งไปเรียนต่อที่ประเทษa โรรองเป็นลูกครึ่งประเทศtกับfเหมือนเขา ดังนั้นจึงสนิทสนมอย่างรวดเร็ว

“นี่นะหรือเจ้าชายน้อยที่นายเล่าให้ฟังอย่างเปี่ยมสุข น่ารักแบบที่ฉันจินตนาการเลยนะ”

“อย่ามาจีบตัดหน้าแล้วกัน” ภาริชไม่ได้กลัวว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้นรินทร์ตกใจเลย เขาอยากให้รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ แต่ฮิคกี้น้อยดันมีความสุขกับการกินมากเกินไปจนไม่สนใจฟังคนอื่นพูดเลย

“ท่าทางมีความสุขจังนะ ทานให้อร่อยนะครับ”

“ครับ” นรินทร์ตอบรับ จริงๆ รู้ว่าโรรองมายืนคุยกับพี่ภาริชตั้งนานแล้ว แต่เพราะกลัวคนแปลกหน้าจึงไม่กล้าทักและทำเป็นเมินอย่างผิดมารยาทโดยไม่ตั้งใจ แถมตอนนี้พึ่งมารู้สึกผิดหลังจากคนคนนั้นไป

“ผมเสียมารยาทหรือเปล่า”

“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ เจ้าโรรองชอบของน่ารัก ได้เห็นท่าทางกินสุดน่ารักของเรา หมอนั่นก็พร้อมให้อภัยแล้ว”

“อ..พี่ภาริชบางทีก็ชอบพูดจาแปลกๆ” นรินทร์ก้มหน้าหลบตา พี่ภาริชไม่รู้หรอกว่า คนถูกชมว่าน่ารักนอกจากจะดีใจแล้วยังรู้สึกเขินแปลกๆ อีกด้วย แต่ว่าคำว่าน่ารักมันใช้กับผู้ชายไม่ได้เลยนะ

“อยากให้พี่ชมผมว่าเท่จังมากกว่า” นรินทร์บ่นอุบอิบ

“เอางั้นรึ” ภาริชฉีกยิ้มประดุจนางฟ้า

“นรินทร์เท่จังเลย ตอนละเลียดกินขนมก็เท่ เท่มากแม้กระทั่งทานขนมจนเลอะปาก แถมท่าทางเลียขนมที่ติดขอบปากยังเท่มากอีกด้วยนะ เท้...เท่ เท่จนพี่ใจละลายไปเลยล่ะ”

“งะ...” นรินทร์เหงื่อตกกับคำชมของภาริช “ไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ นี่มันเหมือนแกล้งกันเลยนะ”

“หน้าเหยเกตอนถูกแกล้งก็เท่นะ เท่จนพี่เคลิ้มไปเลยแหละ ดูสิ อัดคลิปไว้ดูเลยเนี่ย”

นรินทร์คอตก บางทีก็รู้สึกว่าพี่ภาริชนี่จัดการยากแบบแปลกๆ แถมเขาเองก็เป็นคนยอมให้พี่อัดคลิปเอาไว้ด้วย

“พี่ส่งคลิปไปให้พี่ชายเราดูด้วยนะ เขาชอบน่าดูเลย”

ตอนนี้เองนรินทร์ก็นึกขึ้นได้ว่ามือถือเขาสั่นต่อเนื่องมาได้พักหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงหยิบขึ้นมาดูก็ปรากฏว่า พี่ชายส่งข้อความดีใจมาจำนวนมาก

พี่ณภัทรดีใจที่เราออกจากบ้านได้ขนาดนี้เลยหรือ

“ดีใช่ไหมล่ะที่ออกจากบ้านมา ได้ทานของอร่อยได้เห็นผู้คนมีความสุข อีกเดี๋ยวกลับไปจะได้เห็นรอยยิ้มของณภัทรด้วยนะ”

“อืม...ขอบคุณครับพี่ภาริช”

นรินทร์ขอบคุณจากใจจริง ทว่าพอเห็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นบนใบหน้าของคนอายุมากกว่า หัวใจก็เต้นตึกตักขึ้นมาฉับพลัน มันหยุดไม่ได้แถมยังเต้นแรงขึ้นทุกทีๆ

นรินทร์ก้มหน้าลงต่ำ ใบหน้าของเขาแดงซ่าน มือทั้งสองข้างกำไว้แน่นบนหน้าตัก เขารู้ตัวมาตั้งนานแล้วว่าชอบพี่ภาริช ชอบมาตั้งแต่ทำเพียงแค่โต้ตอบกันทางจดหมาย และนับจากได้พบหน้ากันความชอบก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นรู้สึกว่ามันเป็นความรัก

เขาไม่เคยรักใครมาก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องทำแบบไหนและทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้

“นรินทร์พี่ว่าเรากลับบ้านกันเถอะนะ”

“อื้อ...”

อยากปรึกษาใครซักคนจัง

ดังนั้นหลังจากถึงบ้านนรินทร์ใช้เวลาในห้องน้ำราว 15 นาที ส่งข้อความไปปรึกษากับคนที่คิดว่าน่าจะไว้ใจได้ที่สุด นั่นคือโกรธเกรี้ยว เขาคิดว่าถ้าเป็นเด็กสาวที่แสนใจดีคนนั้นเธอจะต้องไม่หัวเราะเยาะความรู้สึกที่เขามีแน่นอน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บางทีก็รู้สึกว่าเขียนยากจัง5555

อยากไปงานจับมือbnk48จังเลยน้า เบี้ยน้อยหอยน้อย

ความโอตะเรายังมีไม่มากพอสินะ นี่ทุ่มเทไปกับหนังสือกับเกมอย่างเหลือเชื่อ5555

สุดท้ายเอาวะไปดูหนังbnkก่อนเป็นการนำร่องเปย์ครั้งแรก

เพื่อbnk48 คามิโอชิเฌอปราง กับโอชิปันจ้า 

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่26 ช็อกโกแลตแสนอร่อย 21/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 21-08-2018 11:12:00
ถ้ารินรู้ว่าพี่ภาริชกับโกรธเกรี้ยวเป็นคนเดียวกันจะเป็นยังไงน้ออออ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่26 ช็อกโกแลตแสนอร่อย 21/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 21-08-2018 11:38:18
ความน่ารัก เอ้ยเท่ห์กระแทกตาจ้า โอ๊ยลูกจ๋าจะน่าฟัดไปไหน เอ๊ะๆ เจ้ารินน้อยก็คิดปรึกษาถูกซะด้วย  :กอด1:
 :L2:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่26 ช็อกโกแลตแสนอร่อย 21/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 21-08-2018 17:03:46
ปรึกษาถูกคนด้วยนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่27 ความจริง 22/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 22-08-2018 10:55:13
บทที่26

ความจริง

Maddog01 : เธอเคยมีคนที่ชอบแล้วไม่กล้าบอกไหม

ภาริชขมวดคิ้วเข้าหากัน เจ้าหมาน้อยส่งข้อความส่วนตัวมาให้ขณะที่เขานั่งรอณภัทรกับมิวซังเตรียมอาหารในห้องครัว

โกรธเกรี้ยว : ใครคือคนที่นายชอบ

ไม่รีรอที่จะถามออกไป เขาสงสัยว่าใครกันที่ทำให้เจ้ารินชอบได้ เกริ่นมาอย่างนี้ อย่าบอกนะว่าชอบตัวตนของเขาในเกม

<นี่นายชอบโกรธเกรี้ยวอย่างนั้นหรือ แบบนี้ไม่ดีเลย ถ้าจะชอบอยากให้เป็นตัวเราที่อยู่นอกเกมมากกว่า>

Maddog01 : ....

Maddog01 : คนคนนั้นเป็นพี่ชายที่ใจดีมาก เขาเป็นเจ้านายของพี่ชายฉันเอง

มุมปากของภาริชยกโค้งขึ้นมาเอง ห้ามมันไม่ได้ พอเงยหน้าขึ้นเห็นเงาตัวเองในตู้กระจก ก็พบว่าตัวเองแสยะยิ้มได้โหดร้ายชะมัด <บ้าเอ๊ย ดีใจทีไรยิ้มออกมาได้สยดสยองเกินคาดทุกที>

โกรธเกรี้ยว : ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่

นรินทร์ไม่โต้ตอบกลับเป็นเวลาเกือบห้านาที สงสัยเขาจะรุกถามมากเกินไปหน่อย

<ช่วยไม่ได้ นี่เราตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่ได้เหยียบย่ำศัตรูให้จมเสียอีกนะ>

โกรธเกรี้ยว : รินอยากรู้ตัวจริงของฉันไหม

ภาริชยิ้มละไมขณะพิมพ์ตอบโต้กับนรินทร์ เขารู้สึกว่าไม่อยากให้นรินทร์เปิดเผยความในใจกับเขาในลักษณะนี้ แถมมันจะน่าสงสารมากถ้าเกิดรู้ความจริงว่าเขาคือคนเดียวกับโกรธเกรี้ยว

โกรธเกรี้ยว : ฉันอยากนัดพบกับริน

โกรธเกรี้ยว : เธออยากพบกับฉันไหม

Maddog01 : ทำไมจู่ๆ ถึงอยากพบกันล่ะ ตอนที่ฟอร์ดมาหา เธอยังไม่มาหาผมเลยหนิ

โกรธเกรี้ยว : นั่นเพราะฉันไม่ว่าง แต่ตอนนี้ฉันอยากพบเธอ

Maddog01 : อย่าเลย...ถ้าเธอเห็นตัวจริงของผมเธอจะผิดหวังนะ

โกรธเกรี้ยว : ทำไมคิดอย่างนั้น

จากนั้นเจ้ารินก็เงียบไม่โต้ตอบกลับมาอีกเลย รู้สึกตัวอีกทีมิวซังก็นำกาแฟร้อนๆ มาให้ตรงหน้า ภาริชส่งยิ้มให้เธอ มิวซังทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็นิ่งไปเพราะนรินทร์เดินคอตกเข้ามาในห้อง

“เป็นอะไรไปล่ะริน คอตกมาเชียว” มิวซังถาม ท่าทางของนรินทร์เหมือนกับไม่สบายใจเอามากๆ

“โกรธเกรี้ยวบอกว่าอยากเจอหน้าน่ะสิ”

มิวซังลอบมองภาริชจากทางหางตา ภาริชรู้ตัวทันทีว่าถูกมองเขาส่งยิ้มเป็นกันเองไปให้

“เจอกันก็ดีแล้วนี่ นัดกลุ่มเลยเป็นไง”

“แต่...เด็กผู้หญิงน่ารักๆ คงไม่อยากมีเพื่อนน่าอายอย่างฉันหรอกมิวซัง พอเธอเจอฉันอาจจะไม่มาเล่นเกมด้วยอีกเลยก็ได้”

“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะนรินทร์” มิวซังปวดหัวตึบๆ โรคคิดเล็กคิดน้อยนี่แก้ไม่หายจริงๆ ขณะเดียวกันภาริชเองก็รู้สึกไม่ต่างกับคนเป็นพี่สาวซักนิด

ภาริชยกกาแฟขึ้นจิบ <ถ้าเกิดว่าเจ้ารินไม่ยอมพบโกรธเกรี้ยว อีกหน่อยความสัมพันธ์จะอีรุงตุงนังจนแก้ไม่ได้>

“ป่านนี้คนคนนั้นคงเสียใจจนร้องไห้แล้วมั้ง” ภาริชกดดันเจ้าริน

“ไม่ถึงขนาดนั้นมั้งครับ”

ภาริชยิ้มหวานให้เจ้ารินที่เริ่มจะกังวล นรินทร์ไม่สบายขึ้นมาแล้วถ้าเกิดว่าโกรธเกรี้ยวจะเสียใจเพราะเรื่องนี้

“พี่จะต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าหากว่ารินไม่ยอมให้พี่พบหน้า”

มิวซังหันไปมองภาริชอย่างไม่อยากจะเชื่อหู เดี๋ยวนะ นี่คนคนนี้กล้าพูดจาประหนึ่งบอกรักตรงๆ แถมต่อหน้าเธออีกด้วยหรือ มิวซังหันกลับไปดูเจ้ารินและพบว่า ใบหน้าที่น่ารักนั้นมีสีแดงระเรื่อนิดๆ

“พี่คิดว่าตอนนี้เขากำลังเสียใจมากๆ แน่”

นรินทร์ก้มหน้าลงหลบสายตาที่เต็มไปด้วยพลังทำลายของภาริช เขาไม่ตอบอีกฝ่ายว่าตัดสินใจเรื่องโกรธเกรี้ยวยังไง จังหวะนั้นพี่ชายก็มาเรียกให้ทุกคนไปห้องทานข้าว

ระหว่างทานอาหารนรินทร์ลอบมองพี่ภาริชหลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็รู้และส่งยิ้มมาให้ตลอด เขาสับสนหลายอย่างทั้งเรื่องที่ชอบพี่ภาริชทั้งเรื่องที่โกรธเกรี้ยวอยากเจอ หมู่นี้ทำไมหลายๆ อย่างมันรุมเร้าเข้ามาจังเลย

พี่ภาริชบอกว่าโกรธเกรี้ยวจะเสียใจ เขาไม่อยากให้เธอคนนั้นมีความรู้สึกแบบนั้น หรือว่าควรนัดพบกับเธอดี พอได้ข้อสรุปเป็นรูปเป็นร่างนรินทร์ก็ส่ายหัวไปมา ยังไม่อยากให้เห็นตัวเขาตอนนี้นี่ เอาเป็นว่าหาเวลาเหมาะๆ เอาเป็นเวลาเหมาะๆ

นรินทร์นั่งครุ่นคิดจนเหม่อทำให้ลืมทานไปเลย สุดท้ายณภัทรต้องหันมาจิ้มๆ อาหารมาวางในจานของน้องชายตัวเอง

“รินทานให้เยอะๆ นะ พี่ตั้งใจทำเพื่อเราเลยนะ”

“ครับ” หลุดจากความคิดอันสับสนชั่วระยะเวลาหนึ่ง พอเงยหน้าไปก็ปะเข้ากับภาริชที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

เขาไม่ควรเอาแต่กังวลจนทำให้คนอื่นเป็นห่วง นี่มันเวลากิน ดังนั้นนรินทร์จึงกลับมาตั้งใจทานอาหารแสนอร่อยตรงหน้า ท่าทางที่กระตือรือร้นขึ้นทำให้ณภัทรมีความสุข

ไม่รู้นะว่าเจ้าตัวเล็กกังวลอะไร แต่ถ้าทานได้แบบนี้ คงหายไม่สบายใจแล้วมั้ง ณภัทรอมยิ้มมองดูนรินทร์ที่ตั้งใจทานในสิ่งที่เขาทำมาให้ น้องชายของเขาออกจากบ้านแล้ว เรื่องน่าดีใจแบบนี้มันยอดเยี่ยมไปเลย



หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วภาริชก็ขอตัวกลับบ้าน นรินทร์เดินมาส่งที่หน้าประตู พวกเขาล่ำลากันอย่างอ้อยอิ่ง

“คราวหน้าพี่จะพาเราไปเที่ยวที่บริษัทของพี่ ไปดูการทำงานของนักสร้างเกมของบริษัทพี่ ดีไหม”

“จริงๆ ผมอยากเป็นนักสร้างเกม คิดมานานแล้ว” นรินทร์พึมพำเบาๆ ภาริชเป็นคนไม่กี่คนที่เขากล้าบอกความฝันให้ฟัง

“งั้นก็ทำมันซะสิ ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง จะได้ไม่เสียใจภายหลัง”

“ครับ”

ท่าทางว่าง่ายนั้นช่างน่ารักน่าชัง สายตาที่มองมาบอกชัดว่าหลงใหลเทิดทูนเขามากเหลือเกิน มันทำให้อดใจไม่ไหว ภาริชขยับตัวเข้าไปประชิดนรินทร์จนเกินงาม เขาใช้สายตาอย่างผู้ล่าจ้องมองอีกฝ่าย

“รู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงเอ็นดูเราเหลือเกิน”

นรินทร์ผู้ไม่รู้สึกถึงอันตรายตอบคำถามด้วยท่าทางฉะฉาน “เพราะพี่ภาริชเป็นคนใจดีมากไงครับ”

ภาริชหัวเราะน้อยๆ ต่อประโยคคำพูดใสซื่อของนรินทร์ <น่ารักเกินไปแล้ว มองพี่เป็นคนดีขนาดนั้นเลยหรือ ทั้งๆ ที่พี่มองเราด้วยสายตาหื่นกระหายขนาดนี้น่ะนะ>

“ก็มีรินนี่แหละที่พูดว่าพี่ใจดีแบบนี้”

ภาริชเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ เขาตั้งใจจะหอมแก้มนรินทร์ ถ้าไม่ติดว่ามิวซังเรียกนรินทร์ไปเสียก่อน

“ริน ไปช่วยพี่ณภัทรล้างจานที”

“อื้อ...ผมไปก่อนนะครับ”

นรินทร์วิ่งหายไป แต่ก็มีมิวซังเดินออกมาส่งตรงบริเวณที่เขาจอดรถแทนที่ ขณะที่กำลังจะไปถึงรถ สาวน้อยก็เปิดบทสนทนากับภาริช

“คุณตั้งใจจะเผยตัวจริงให้นรินทร์รู้จริงๆ นะหรือ”

ภาริชหมุนตัวกลับไปมองสาวน้อย ในหัวประมวลคำถามของเธออย่างฉับไว “ใช่”

เป็นเด็กสาวที่แสนฉลาดเหลือเกิน แต่ไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องถามอีกฝ่ายว่ารู้เมื่อไหร่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยปิดบังตัวตนที่แท้จริงเลยซักครั้ง ถ้าคิดดูให้ดีจะรู้ว่าจุดเชื่อมโยงระหว่างเขากับโกรธเกรี้ยวมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกแมวที่เด็กๆ คุยกับโกรธเกรี้ยวแต่เขาดันซื้อมาให้อย่างกับนกรู้

นอกจากนั้นเรื่องของฟอร์ด ถ้าพบปะพูดคุยสนิทสนมถึงขั้นพบกันก็น่าจะรู้นามสกุลจนถึงสืบหาญาติพี่น้องได้ง่ายๆ เห็นไหมล่ะเขาไม่เคยปิดบังตัวตนเลยซักนิด

“คุณทำอะไรๆ เพื่อเจ้ารินมากมาย แต่ขอเตือนถ้าทำให้รินร้องไห้เมื่อไหร่ ฉันนี่แหละที่จะสั่งสอนคุณเอง”

“เป็นคำเตือนของคุณแม่สินะ” ภาริชยิ้มหวานประดุจเทพธิดา “ไม่ต้องห่วงนะ กับคนที่ฉันชอบหรือรัก ฉันจะดีกับเขามากเป็นพิเศษ”

มิวซังนิ่งงันไม่นึกว่าคนเป็นผู้ใหญ่อย่างภาริชจะกล้าบอกรักคนอายุน้อยกว่าให้คนอื่นฟังง่ายๆ โดยไม่มีชั้นเชิงใดๆ เธอทำเพียงแค่มองอีกฝ่ายขึ้นรถและขับออกไป เธอควรจะเชื่อในสิ่งที่ผู้ใหญ่เจ้าเล่ห์คนคนนั้นพูดดีไหม

แต่เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของทั้งคู่ที่มีต่อกัน ก็คิดว่าบางอย่างก็ควรปล่อยมันไปตามที่ควรเป็น เธอไม่สามารถปกป้องนรินทร์ตลอดเวลาได้ เธอทำได้แค่อยู่เคียงข้างเวลาที่รินเจ็บหรือล้มลง การปกป้องมากไปมันจะทำให้นรินทร์อ่อนแอและไม่ได้เรียนรู้สิ่งสำคัญจากความเจ็บปวดที่จะเข้ามาตลอดชีวิต เธอไม่อยากเป็นครอบครัวที่ทำร้ายนรินทร์ทางอ้อมแบบนั้น



หลังล้างจานเสร็จนรินทร์กลับเข้าไปในห้อง เสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้น เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วพบว่าโกรธเกรี้ยวส่งข้อมูลบางอย่างมา

“นี่มัน ข้อมูลของคณะของมหาลัยนี่หน่า”

ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลคณะที่เกี่ยวกับการสร้างเกมโดยตรงทั้งนั้น ที่แรกก็ไม่คิดอะไร แต่มันสะกิดใจนิดๆ เขาพึ่งพูดเรื่องอาชีพที่อยากทำกับพี่ภาริช บังเอิญจังที่โกรธเกรี้ยวส่งข้อมูลวิชาคณะที่เกี่ยวข้องกันมาให้

โกรธเกรี้ยว : ถ้าอยากเป็นนักสร้างเกมต้องเลือกเรียนคณะพวกนี้นะ

โกรธเกรี้ยว : ถ้าจะให้ดีเลือกเรียนมหาลัยเดียวกันกับฟอร์ดสิ

โกรธเกรี้ยว : จะได้มีเพื่อนไง แล้วก็ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะได้สบายใจด้วย

โกรธเกรี้ยวนี่ช่างเหมือนพี่ภาริชจริงๆ คิดถึงตรงนี้จู่ๆ นรินทร์ก็หน้าแดงขึ้นมา ไม่ใช่โกรธแต่อับอาย



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องนี้เองก็อยากรวมเล่มด้วยน้า มีคนสนใจบ้างไหมคะ

อ้อสำหรับที่ตามอ่านท้าชะตาเปลี่ยนรัก เราใกล้เขียนตอนพิเศษเสร็จแล้วค่า

จะเปิดพรีแน่นอนนะ รอหน่อยนะคะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่27 ความจริง 22/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 22-08-2018 13:37:36
น้องรินคนซื่อ จะฉุกใจคิดหรือเปล่าน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่27 ความจริง 22/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 22-08-2018 14:18:19
 :mc4: เจ้ารินน้อยรู้แล้ว  :o8:
 :3123:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่27 ความจริง 22/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-08-2018 16:00:06
ภาริช แสดงตัวตนให้รินรู้แบบชัดเจน   :-[ :-[ :-[
ริน ก็ต้องเขินอายสิ   :mew1:

ภาริช  ริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่27 ความจริง 22/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 22-08-2018 18:35:32
รู้ล้าวใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่28 คำสัญญากับอิงภพ 23/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 23-08-2018 11:43:39
บทที่27

คำสัญญากับอิงภพ

Maddog01 : ทำไมถึงเป็นโกรธเกรี้ยวแต่ไม่ใช่ Ghiblicatล่ะครับ

ภาริชอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมา นรินทร์ส่งคำถามนี้มาหาโกรธเกรี้ยว ทว่าจากเนื้อหามันบ่งชัดว่าฮิคกี้น้อยรู้ความจริงเรื่องตัวตนของโกรธเกรี้ยวแล้ว ภาริชจำต้องหาที่จอดรถเพื่อพิมพ์ตอบกลับอย่างจริงจัง

โกรธเกรี้ยว : เพราะว่าพี่ไม่สามารถใช้ชื่อGhiblicatลงทะเบียนได้น่ะสิ

โกรธเกรี้ยว : มีคนลงทะเบียนชื่อนั้นไปแล้ว

นรินทร์อ่านข้อความแล้วก็พอนึกออก จะว่าไปเขาเห็นแอคเค้าท์เลียนแบบเต็มไปหมดGhiblicatเองก็เป็นแอคเค้าท์ชื่อดัง พี่ภาริชเองก็เหมือนกัน เพราะเป็นผู้บริหารในวงการเกม ดังนั้นจึงเสมือนเป็นหน้าเป็นตาของวงการคนหนึ่ง

ถ้าเกิดว่าพี่ภาริชเข้าหาเขาด้วยชื่อแอคเค้าท์Ghiblicat เขาจะรู้ได้ทันทีว่าพี่เป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นถ้าคิดให้ดีในนามโกรธเกรี้ยว พี่ภาริชก็ไม่ได้โกหกเขาด้วยคำพูดเลยซักครั้ง

โกรธเกรี้ยวไม่เคยบอกว่าตนเองเป็นผู้หญิง ไม่เคยติ๊ต่างคะขาในเกม แถมจากคำบอกเล่า ฟอร์ดก็ไม่เคยพูดซักครั้งว่าโกรธเกรี้ยวเป็นพี่สาว มีแต่เขากับชานมฯ ที่เข้าใจกันไปเอง แล้วมิวซังล่ะ มิวซังรู้หรือเปล่า

พอเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่ามิวซังมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอกำลังดูหน้าจอมือถือของเขาเช่นกัน

“มิวซังเรื่องของโกรธเกรี้ยว รู้แล้วหรือเปล่า”

“รู้ตั้งแต่คุณภาริชซื้อแมวมาให้แล้ว”

นรินทร์หน้าแดงไปถึงใบหู รู้สึกอับอาย ไม่ใช่แค่ความซื่อบื้อของตัวเองเท่านั้น ที่สำคัญเขาดันเอาความในใจไปปรึกษากับเจ้าตัวอีกต่างหาก

“เรื่องที่เราคุยกันเกี่ยวกับแมว รู้กันแค่ในกลุ่มเท่านั้น แต่คุณภาริชก็ยังบังเอิญซื้อเจ้าแร็กดอลล์มาให้ แถมฟอร์ด นามสกุลอะไรเราก็รู้กันดีแล้ว พัชรกานต์กุลใช่ไหม ถ้าค้นหาทางอินเตอร์เน็ตมันก็จะเด้งขึ้นมาให้ดูทันที ฟอร์ดเป็นน้องชายของคุณภาริช พวกเขาไม่มีพี่สาวน้องสาว ที่สำคัญคนนามสกุลเดียวกันที่เป็นผู้หญิงก็มีแค่อิงฟ้า พัชรกานต์กุล เจ้าของแอคเค้าท์MelonPunchหนึ่งในมือเท้าของdoghunter00นะ ฉันจำเป็นต้องสืบอย่างเข้มงวด เพราะกลัวว่าเมษาคนนั้นจะใช้พวกมาหลอกแกล้งนายอีก แต่พอรู้ว่าเป็นคุณภาริชก็โล่งใจทันที”

เมื่อได้ยืนคำอธิบายนรินทร์ก็กระจ่างชัดมากขึ้น ป้ายบอกทางมันโจ่งแจ้งขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าพี่ภาริชไม่เคยคิดปิดบังตัวเองเลย น่าอับอาย น่าอับอายเกินไปแล้ว

“ตกลงจะเอายังไง คืนนี้จะเล่นเกมกับคุณภาริชตามปกติไหม หรือว่าจะงอนเล่นตัวซักหน่อยดี”

นรินทร์ส่ายหน้าไปมา เขาไม่อยากทำแบบนั้น ถึงแม้มันจะน่าอาย แต่ไม่ว่ายังไงก็อยากเล่นเกมกับคนที่ชอบ ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ภาริชเขาคงรักษามาดให้ดูดีกว่านี้

“โธ่เอ๊ย” นรินทร์ยีหัวตัวเองไปมา เขาระเบิดความเป็นตัวตนด้านจูนิเบียวไปจนหมดเปลือกแล้วด้วย

แต่พี่ภาริชก็ไม่เห็นรังเกียจหรือล้อเลียนเลยนี่ <แสดงว่าเขาชอบที่เราเป็นแบบนี้หรือเปล่า>

นรินทร์กลับมาขยี้หัวไปมาอีกแล้ว

<เราต่างหากที่ชอบพี่เขาแถมยังเสร่อไปปรึกษาเรื่องชอบกับเจ้าตัวอีกต่างหาก พี่ภาริชไม่เคยพูดซักคำว่าชอบเรา>

ขณะที่ขยี้หัวจนดูวุ่นวายไปหมด มิวซังที่ยืนดูนานแล้วก็กล่าวเตือนสติด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ

“คุณภาริชเคยถามใช่ไหม ว่าทำไมเขาถึงเอ็นดูรินเหลือเกิน”

“แต่อาจจะแค่เป็นแบบน้องหรือพวกหมาแมวก็ได้นี่” นรินทร์ครวญครางพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดงก่ำ ชัดเจนว่าสับสนมาก

“ตอนนั้นน่ะ ถ้าฉันไม่เรียกริน รินก็จะถูกจูบแล้วนะ” มิวซังกระซิบที่ข้างหู

พอคิดว่าอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงก็ได้ นรินทร์ก็เหมือนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมา เขาหน้าแดงก่ำ คำพูดคำจาก็ตะกุกตะกัก การขยับร่างกายแข็งทื่อราวหุ่นยนต์

“จริง...จริง...หรือ”

“จริง รินอาจจะไม่รู้ตัว แต่ในสายตาของฉันคุณภาริชเขามองรินด้วยแววตาที่เหมือนจะกลืนกินตลอดเวลา”

“ไม่อยากเชื่อเลย” นรินทร์ชันเข่าขึ้นแล้วซบใบหน้าลงไป

ปากบอกไม่อยากเชื่อ แต่ในใจกลับพองโตจนคับอก

<เราอยากให้ข้อสันนิษฐานของมิวซังเป็นความจริง ไม่ใช่แค่เรามโนไปเอง>



ทันทีที่ภาริชขับรถถึงบ้านเสียงเตือนข้อความก็เด้งเข้ามาในมือถือ เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าอิงภพส่งข้อความมาหา

Paris : ว่าไงตัวแสบ

อิงภพ : คิดถึงพี่ภาริชจังเลยครับ ผมพึ่งกลับถึงบ้านเมื่อเช้านี่เอง

อิงภพส่งภาพถ่ายและคลิปมาให้ดูเยอะแยะ ภาริชดูผ่านๆ เพราะข้อความสนทนาเด้งขึ้นมาเร็วมาก

อิงภพ : เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว ผมตั้งตารอฝึกงานช่วงปิดเทอมที่บริษัทของพี่ไม่ไหวแล้วครับ

Paris : มาฝึกกับพี่ พี่จะเข้มงวดนะ ไม่ใจดีด้วยหรอก

อิงภพ : พี่ภาริชจะใจร้ายกับผมได้ลงหรือครับ

Paris : หึหึ

ภาริชหมายความตามนั้นจริงๆ ฝึกงานก็คือฝึกงาน ต่อให้เป็นฟอร์ดเขาก็ไม่คิดจะผ่อนปรนให้แน่ๆ

อิงภพ : จริงสิวันนี้ผมจะมีpvpกลุ่มที่อารีน่าในเกม Guardiano del Paradiso ถึงจะไม่เป็นทางการก็เถอะ แต่ถ้าpvpกันที่นี้ก็จะเป็นการจัดลำดับในเกมด้วย pvpครั้งนี้ค่อนข้างสำคัญ พี่ช่วยให้กำลังใจผมหน่อยสิครับ

Paris : pvpกับใคร

ภาริชถามไปอย่างนั้น แต่รู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว เพราะแอคเค้าท์ชื่อดัง Spiritstormที่ดันเป็นมือขวาของdoghunter00ก็คือลูกพี่ลูกน้องคนนี้

ตามปกติก็ควรจะอวยพรให้ เพราะต่อหน้าเขาอิงภพเป็นเด็กที่เชื่อฟังน่ารัก จนทำให้เมินความพยายามที่จะแข่งขันกับฟอร์ดทุกเรื่องไปเสีย สำหรับเขาการที่ฟอร์ดมีคู่แข่งถือเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้น้องของเขาแกร่งและไม่ปล่อยตัวเฉื่อยแฉะ แล้วมันก็ได้ผลดีทีเดียว

ฟอร์ดไม่เคยบ่นเรื่องอิงภพให้ฟัง แต่ยิ่งมีคู่แข่งก็ยิ่งพยายาม ผลที่ได้มันเยี่ยมยอด ทั้งผลการเรียนทั้งด้านกีฬาไม่ได้ทำให้เขาอับอายเลย ดังนั้นจึงไม่โกรธอิงภพแม้จะรู้สึกว่ารังแกฟอร์ดก็ตาม ออกจะเอ็นดูนิดๆ ที่อุตส่าห์มาเป็นคู่มือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้น้องชาย

แต่ว่าเรื่องจะให้กำลังใจหรืออวยพรให้ชนะการแข่งpvpกับเจ้านรินทร์ของเขานี่เห็นทีคงไม่ได้

อิงภพ : กับพวกmaddog01ครับ พวกนี้ค่อนข้างตึงมือ ผมรู้สึกกังวลนิดหน่อย

ภาริชหัวเราะขึ้นจมูก อิงภพกำลังออดอ้อนเขาเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ เด็กคนนี้ชอบเขาไปในทางชู้สาว รู้ตั้งนานแล้ว

Paris : ถ้าแพ้ขึ้นมาพี่จะปลอบใจก็แล้วกัน

อิงภพ : ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ ผมต้องชนะสิ

Paris : เอาเป็นว่าถ้าแพ้พี่จะซื้อขนมให้

อิงภพ : แล้วถ้าผมชนะล่ะ

อิงภพ : พี่ภาริชต้องพาผมไปเที่ยวเมืองนอกสองต่อสองนะ

ภาริชแสยะยิ้มดั่งมารร้าย ตัวแค่นี้คิดอ่านจับผู้ชายด้วยร่างกายหรือไง แล้วคิดว่าจะชนะmaddogน้อยของเขาได้ง่ายๆ งั้นรึ อย่าหาว่าหลงเข้าข้างคนที่ตัวเองชอบเลย แต่ดูจากฝีมือในด้านpvpแล้ว อันดับหนึ่งของการpvpในเกมประเภท mmorpgนั้น

maddog01มักติดอันดับหนึ่งเสมอ อาจจะสลับกับแอคเค้าท์เศียรมังกรบ้างในบางเกม ลดหลั่นลงมาก็ชานมฯ และsilverfox13 แล้วก็ตามด้วยGhiblicatแอคเค้าท์ของเขา

ซึ่งdoghunter00จัดอยู่ในทำเนียบเป็นอันดับที่6ส่วนอิงภพกับอิงฟ้าก็ถือว่าใช้ได้อยู่ในอันดับไม่เกิน 20 ขึ้นๆ ลงๆ ตามกาลเวลา ถามว่าtop5อันดับส่วนใหญ่อยู่ฝั่งไหน แค่นี้ก็เดาได้แล้วใครจะชนะ ถึงแม้ว่าเขาจะดันเล่นอาชีพสายซัพพอร์ตที่มีทักษะต่อสู้ไม่มากนักก็ตาม

Paris : เอาสิ ถ้าเราpvpชนะ พี่จะยอมไปกับเราก็ได้ ไปด้วยกันซักสัปดาห์ดีไหมล่ะ

อิงภพ : รักพี่ภาริชที่สุดเลย



อิงภพหัวเราะคิกๆ ดูแล้วน่าหมั่นไส้เหลือเกินในสายตาต้นกล้า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตั้งใจฝึกใช้ตัวละครโดยมีสายหมอกกำกับอย่างใกล้ชิด ก็ยังอุตส่าห์หันไปเหน็บอีกฝ่ายได้

“น่าขยะแขยง”

“เรื่องของกู” อิงภพตวัดสายตากร้าวใส่ต้นกล้า ก่อนจะเดินมาดูหน้าจอเพราะพี่ภาริชไม่ว่างคุยด้วยแล้ว

“โอ้ยตาย ขยับนิ้วได้เหมือนก้อนหินมาก” อิงภพมองด้วยสายตาเหยียดหยาม

“แบบนี้จะแข่งpvpไหวหรือห๊ะ การแข่งคราวนี้สำคัญกับกูนะมึง”

คนถูกค่อนคอดกัดฟันกรอด ทำไมจะไม่รู้ขีดจำกัดของตัวเอง ต้นกล้าเข้าใจเรื่องนั้นดีเลย หลายชั่วโมงที่ฝึกมือกับรุ่นพี่สายหมอก เขาก็เริ่มตระหนักในความอ่อนด้อยของตนเองไปพร้อมๆ กับสำนึกได้ถึงความเก่งกาจของรุ่นพี่ที่เขาไม่ค่อยอยากสุงสิงด้วยคนนี้

“เอาน่า...พี่ว่าพอไหวอยู่นะ สำหรับคนที่เพิ่งเล่นไม่กี่ชั่วโมง ทำคอมโบติดกันได้หลายท่าอยู่ เล่นให้ชำนาญอีกหน่อยก็ใช้ได้แล้ว”

ต้นกล้าลอบมองดูสายหมอก รู้สึกดีนิดๆ ที่อีกฝ่ายช่วยพูดให้ ทว่าพอรุ่นพี่คนนี้หันมาสบตาแล้วยิ้มสดใสต้นกล้าก็รีบหลบตาทันที หมอนี่ทำไมถึงชอบยิ้มอยู่เรื่อยเลยนะ ยิ้มสวยยิ่งกว่าเจ้าฟอร์ดเสียอีก กับเมษายังไม่เคยยิ้มจริงใจกับเขาขนาดนี้เลย

สีหน้าแสนสับสนของต้นกล้าตกอยู่ในสายตาของสายหมอกโดยตลอด ไม่มีใครเห็นรอยยิ้มร้ายกาจมุมปากของเขา ท่าทางพยศถือตัวของอีกฝ่ายกระตุ้นเร้าจนนึกอยากจับมาขย้ำขยี้ให้หนำใจ น่ารักน่าชังจนเกือบอดใจไม่ไหวเลย

“รุ่นพี่หมอก พี่ว่าต้นกล้ามันพร้อมหรือยัง” เมษาถาม จากการประเมินด้วยตาของเขาก็พอไปวัดไปวาอยู่ แต่จะให้เป็นตัวหลักเห็นทีคงไม่ได้

“เอาเป็นว่าให้ต้นกล้าจับคู่กับเด็กที่ชื่อโกรธเกรี้ยวเอาไว้ ยังไงฝ่ายนั้นก็เป็นหน้าใหม่แถมเล่นอาชีพ High priest ต้นกล้าน่าจะเอาอยู่ คงทำประโยชน์ให้ทีมได้มากที่สุดในรูปแบบนี้ละนะ”

สายหมอกแนะแนวทางที่ตรงกับความคิดของเมษามากทีเดียว ตามที่เขาคิดไว้จะให้ต้นกล้าประกบไล่ฆ่ายัยโกรธเกรี้ยวซึ่งรับหน้าที่ซัพพอร์ต จากนั้นเพราะมั่นใจว่าsilverfox13ต้องลงpvpกลุ่มในอาชีพ Necromancerด้วยแน่ๆ อาชีพนี้เป็นสายซัมมอน ร่างกายอ่อนแอ ส่วนเจ้าชานมเองก็เป็นgunner จริงๆ ไม่น่าห่วงทั้งคู่เพราะอิงภพที่มีตัวละครอาชีพ Master of Element ซึ่งสามารถโจมตีหมู่ได้

แถมตัวละครของอิงฟ้าซึ่งมีอาชีพเป็นpoet<นักกวี> ซึ่งสามารถทั้งร้องทั้งเต้น หมายถึงบัพและดีบัพได้หลากหลาย ตั้งใจว่าจะให้จับคู่กับอิงภพช่วยกันจัดการเล่นงานชานมฯ กับsilverfox13ให้อยู่หมัด

สำหรับ Master of Element ที่ใช้เวทย์มนตร์โจมตีกลุ่มได้แถมรุนแรง ต่อให้เจอกับgunnerที่เป็นสายดวลตัวต่อตัวก็ไม่น่าห่วง ยิ่งมีตัวแจกบัพและดีบัพครบเครื่องอย่างpoetด้วยแล้วอาชีพ Necromancer ที่เป็นสายซัมมอนนี่ไม่ใช่ปัญหาซักนิด

ส่วนกับนรินทร์เขาตั้งใจว่าจะดวลตัวต่อตัวด้วยซักหน่อย อาชีพNinja Masterของเขาถ้าอาศัยจังหวะเหมาะคลิติคอลใส่ต่อให้เป็น Force Blader อย่างนรินทร์ก็คงรับมือไม่ง่ายนักหรอก

“อิงฟ้าพร้อมหรือยัง ส่งข้อความไปถามสิ” เมษาบอกอิงภพ

“ยัยนั่นเตรียมพร้อมอยู่ที่บ้านแล้ว” อิงภพชูมือถือให้ดูข้อความตอบโต้ระหว่างตัวเองกับน้องสาวฝาแฝด

เมษายิ้มมุมปาก pvpครั้งนี้เขาหมายมั่นว่าจะต้องเขี่ยยัยผู้หญิงคนนั้นออกไปจากชีวิตนรินทร์ให้ได้ แค่ระแวงว่าผู้หญิงคนนั้นคืบหน้าเข้าหานรินทร์ไปถึงไหนในใจก็เหมือนมีไฟสุ่มจนแทบเก็บความโมโหเอาไว้ไม่อยู่

เขาไม่ยอมให้ยัยผู้หญิงโสโครกคนนั้นแย่งชิงสิ่งที่เขาพยายามแต่ไม่ได้มาซักทีไปเด็ดขาด



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อยากได้ไอแพดหรือแทปเล็ตมาไว้เขียนนิยายนอกสถานที่จุงเบย

โน้ตบุ๊คหนักมาก จริงๆ เขียนในมือถือก็ได้แหละ แต่มันแก้ไขเนื้อหาลำบาก5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่28 คำสัญญากับอิงภพ 23/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 23-08-2018 12:06:50
 :katai1: มั่นใจกันเหลือเกิน ตบให้ตายจ้า ตบใส่คริรัวๆเลย  :fire:

น้องน่ารัก โอ๊ยอยากฟัดแก้ม แต่กลัวโดนฆ่า เจ้าที่เขาแรงแตะไม่ได้หรอกคนนี้
 :L2:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่28 คำสัญญากับอิงภพ 23/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 23-08-2018 12:15:47
แข่งคราวนี้ทีมไหนจะแพ้ ทีมไหนจะชนะเนี่ยอยากรู้ๆ เชียร์น้องรินเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่28 คำสัญญากับอิงภพ 23/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 23-08-2018 16:34:18
ตื่นเต้น :hao3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่28 คำสัญญากับอิงภพ 23/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-08-2018 19:20:41
ริน น่ารัก   :mew1: :mew1: :mew1:

ต้นกล้า รู้ตัวซะที ใครดีกับตัวเอง  :เฮ้อ:

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่28 คำสัญญากับอิงภพ 23/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 23-08-2018 21:35:44
ไม่ได้เล่นเกม เลยไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็สนุกดี 
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า4
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 24-08-2018 11:01:41
บทที่28

ดวลเดือด

เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ ทั้งdoghunter00และmaddog01นำพาคนในทีมมายังอารีน่า สถานที่แห่งนี้คลาคร่ำไปด้วยผู้เล่นซึ่งมาวัดฝีมือกันเกือบทุกวัน สำหรับเกมนี้อันดับหนึ่งในการpvpเดี่ยวยังคงเป็นของmaddog01ตามด้วยเศียรมังกร ดังนั้นทันทีที่พวกmaddog01ปรากฏตัวก็เรียกได้ว่ากลายเป็นจุดสายตาของผู้เล่นแทบจะในทันที

ดาบใหญ่สะท้านภพ : ท่านmaddog01วันนี้ก็มาpvpกับเขาด้วยรึ ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันนาน

ภาริชเห็นการเปิดบทสนทนาของตัวละครเผ่ามนุษย์อาชีพdark lordแล้วอดหัวเราะไม่ได้ ทีแรกนึกว่าเจ้ารินไม่มีเพื่อนคนอื่นในเกมเสียอีก แต่ดูจากผู้คนที่เข้ามาห้อมล้อมก็เรียกได้ว่าเป็นที่ชอบพอต่อคนจำนวนมาก

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : วันนี้ลูกพี่มาสั่งสอนคนเว้ย คอยดูไว้นะไอ้หนู เดี๋ยวจะมีคนได้อับอาย

หลังจากคำประกาศของชานมฯ พวกdoghunter00ก็โผล่มา ไม่เพียงมือซ้ายมือขวาอย่างSpiritstormและMelonPunch ยังมีคนที่ไม่น่าเชื่อรวมอยู่ด้วย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เฮ้ยเศียรมังกรมาทำไรวะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แล้วไอ้ Saplingมันไปไหน

คนที่โวยวายคนแรกเลยคือชานมฯ ตอนนี้ผู้เล่นมากมายต่างพากันสนอกสนใจข้อความสนทนาของทั้งสองกลุ่ม

เศียรมังกร : ก็กูนี่แหละSapling ไม่ได้มีกฎห้ามไม่ให้ยืมไอดีคนรู้จักมาเล่นซักหน่อย

เศียรมังกร : คิดว่ากูจะpvpกลุ่มด้วยไอดีกระจอกๆ หรือวะ

ต้นกล้าพออกพอใจอยู่หน้าจอ เพราะรู้สึกว่าเหนือกว่าขึ้นมาแล้วที่ได้ตัวละครของสายหมอกมาครอบครอง ดูเอาสิขนาดไอ้ชานมฯ ยังหวาดหวั่นจนร้อนตัวเลย ทว่าไม่คาดคิดว่าตัวละครโลลิอกแบนของชานมฯ จะยืนหัวเราะเสียอย่างนั้น

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : 5555+ เอาล่ะในเมื่อมึงยอมรับว่าฝีมือปั้นตัวละครของมึงกาก

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : กูยอมให้มึงเล่นลูกไม้เอาตัวละครของเศียรมังกรมาเล่นก็ได้

จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ สำหรับกูขอแค่ชนะก็พอแล้ว ต้นกล้ากระหยิ่มยิ้มย่อง ทุกอากัปกิริยาอยู่ในสายตาของสายหมอกทั้งหมด ดังนั้นจึงยกโค้งมุมปากขึ้นมาต่อท่าทีลำพองของต้นกล้า

จากนั้นทั้งสองทีมจึงไปลงทะเบียนกันที่npc พอรายชื่อแอคเค้าท์ที่จะpvpกลุ่ม 4 คนปรากฏ เมษาก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน

Doghunter00 : silverfox13ไม่ได้เข้าร่วมpvpครั้งนี้ด้วยหรือไง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ทำไมไม่ได้มีกฏข้อไหนบังคับให้silverfox13ต้องลงนี่หว่า

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : เนอะ ฟอร์ด

สุดยอดสาวงาม : พี่พูดมากเกินไปแล้วครับ

จังหวะที่สองตัวละครหยอกล้อกัน Spiritstormหรืออิงภพก็แสดงนิสัยที่ทำกับฟอร์ดลับหลังภาริชบ่อยครั้ง หากอิงภพรู้ว่าโกรธเกรี้ยวคือใครคงไม่กล้าที่จะทำแบบนี้แน่ๆ

Spiritstorm : มึงจะช่วยไรได้มากวะฟอร์ด คนที่ไม่เอาอ่าวอย่างมึง สงสัยคงมาทำให้พี่ภาริชเสียหน้าระดับประเทศแหงๆ

สุดยอดสาวงามนิ่งเงียบแถมยังส่งข้อความลับไปหาชานมฯ ให้เงียบอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครตอบโต้อิงภพเลย

Spiritstorm : เอาจริงๆ นะ มึงไม่ละอายใจบางหรือที่เกิดมาเสียชาติเกิด มึงมันไม่เคยมีเศษเสี้ยวของความเก่งกาจสมกับที่เป็นน้องของพี่ภาริชเลยนะ

Spiritstorm : มึงแม่มถ่วงความเจริญว่ะ เอาจริงๆ นะมึงไม่น่าใช่น้องชายของพี่ภาริชหรอก กูจะพิสูจน์ให้เห็นจากการpvpง่ายๆ ครั้งนี้แหละ

ภาริชยิ้มคนเดียวอยู่หน้าจอคอม “อิงภพเขาว่างั้นแหนะฟอร์ด” หมุนเก้าอี้กลับไปหาฟอร์ดและพบว่าเจ้าน้องชายนอกจากไม่โกรธยังยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เมื่อเห็นว่าน้องชายตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่กังวลอีก แต่ไม่คิดเลยว่าน้องชายจะถูกด่ากับดูถูกถึงเพียงนี้

ก็พอรู้อยู่ว่าอิงภพอิจฉาฟอร์ด หึงหวงฟอร์ดเพราะตัวเขาเป็นสาเหตุ และเข้าใจว่ารังแกกันมาจนเป็นนิสัย แต่ถึงขั้นดูถูกสายสัมพันธ์ความเป็นสายเลือดเดียวกันนี่มันมากไป เขาไม่เคยคิดเลยซักครั้งว่าน้องชายไม่คู่ควรในการเป็นผู้ร่วมสายเลือดของเขา

พี่น้องกันไม่จำเป็นต้องเหมือนหรือเก่งแบบเดียวกัน และในความคิดของเขา ฟอร์ดไม่ได้กระจอกงอกง่อยเช่นที่อิงภพปรามาสเลยซักนิด

“ฟอร์ดพี่ขอออกคำสั่งว่านายต้องจัดการกับอิงภพให้ได้นะ”

“จะพยายามครับท่านพี่”

“ไม่ใช่พยายาม แต่เป็นรับทราบครับสิ ...รู้ไว้ก่อนเลยว่าถ้าแพ้ขึ้นมา จะมีบทลงโทษ”

ฟอร์ดมองพี่ชายคลี่ยิ้มแล้วขนลุกวาบ งานนี้ถ้าแพ้ขึ้นมาจริงๆ คงจะโดนแกล้งหนักแน่ๆ ดังนั้น ครั้งนี้ไม่ว่ายังไง จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด



หลังจากอิงภพเหยียดหยามจนพอใจ doghunter00ก็นำทีมของตัวเองเข้าสู่ลานประลอง maddog01ก็เช่นกัน ทุกคนเตรียมพร้อมพอสัญญาณดังขึ้น ก็เริ่มจัดกระบวนจู่โจมทันที

ภาริชเปิดฉากด้วยการบัพให้คนในทีมตัวเองด้วยความเร็วสูงนิ้วของเขาคล่องแคล่วมากในเวลาเพียงสองนาทีเท่านั้นก็สามารถกดบัพให้คนในทีมได้ครบทุกคน

“ยัยนี่มันไม่ธรรมดา” เมษาเดาะลิ้นหน้าจอคอม “ต้นกล้าไปประกบหล่อนตามแผน”

ต้นกล้าทำตามแผนที่วางไว้ทันที เขาบังคับตัวละครของเศียรมังกรไปประกบติดกับโกรธเกรี้ยว โจมตีอย่างเกรี้ยวกราด ด้วยหมัดคชสาร ทักษะอันนี้ค่อนข้างรุนแรงและจะทำให้อีกฝ่ายติดสถานะชาประมาน 1 นาที ต้นกล้าตั้งใจใช้ทักษะนี้ก่อนแล้วค่อยรัวคอมโบสองชุดตามที่เรียนมาจากสายหมอก คาดว่าเพียงเท่านี้ตัวละครสายอาชีพ High priest ก็จบชีวิตง่ายๆ แล้ว

แต่ใครจะคาดคิดว่าการโจมตีของตัวละครชั้นเลิศในหมู่อาชีพ Kung Fu Master อย่างเศียรมังกรจะไม่สามารถทำอะไรโกรธเกรี้ยวได้ ร่างกายของโกรธเกรี้ยวเวลานี้เรืองแสงสีทอง นอกจากไม่เกิดสถานะชา ยังไม่ได้รับดาเมทแม้แต่นิดเดียวอีกด้วย

“ทักษะ Holy Force ไม่อยากเชื่อว่าจะล่าจากบอสที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงเดือนในระยะเวลารวดเร็วอย่างนี้”

สายหมอกพึมพำ

เป็นเรื่องที่รู้กันดีในหมู่ผู้เล่นว่า ทักษะ Holy Forceเป็นทักษะของอาชีพสาย High priest ซึ่งมากับแพทใหม่สามารถหาได้จากการตีบอสตัวล่าสุดที่ชื่อว่าอีเดน แถมเปอร์เซนการตกยังยากมาก

เอาเวลาไหนไปตีมากันนะหรือว่าซื้อมาจากคนอื่น เอาเถอะ แบบนี้มันก็ดีกับเขานั่นแหละ ทีแรกก็ห้าสิบๆ กับชัยชนะของต้นกล้า เพราะไอ้เปอร์เซนนี่แหละที่มันทำให้หงุดหงิด เขาอยากให้ต้นกล้าแพ้อย่างราบคาบ ถึงตอนนั้นระหว่างเมษากับคนที่เขาชอบคงมีรอยร้าวเล็กๆ พอให้เขาเข้าไปแทรกได้

doghunter00 : เอามาจากไหนกัน บอกทีสินรินทร์ ฉันจำได้ว่าคนที่ตกสิ่งนี้ได้จากการฆ่าบอสมีคนเดียวในเซิร์ฟแล้วก็ไม่ใช่นายด้วย

maddog01 : ไม่รู้สิ โกรธเกรี้ยวเขาจัดการเอาเองฉันไม่ได้ให้อะไรเขาเลย

เมษาและนรินทร์ต่างคุมเชิงกันเขายังไม่ได้ปะทะกันแต่อย่างใด ในขณะที่เหล่าลูกน้องซัดกันนัวเนียไปแล้ว อิงภพกับอิงฟ้ากำลังตึงมือเพราะคู่ต่อสู้ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

สำหรับอิงภพใครจะไปคิดว่าอาชีพ Knight of Light จะสร้างแรงกดดันให้มากขนาดนี้ นอกจากความอึดที่ไม่ธรรมดายังสามารถฮิลตัวเองได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้นไอ้การพุ่งเข้ามาจู่โจมตามติดไปเรื่อยๆ และคอยสตั๊นจนทำให้การร่ายถูกยกเลิกบ่อยๆ มันทำให้อิงภพหงุดหงิดอย่างเหลือเชื่อ

Spiritstorm : อิงฟ้าผูกขาไอ้ฟอร์ดเอาไว้ทีสิ

MelonPunch : ไม่ได้หรอกพี่ แค่หลบการโจมตีต่อเนื่องของเจ้าgunnerนี่ฉันก็ไม่ไหวแล้ว

สองพี่น้องถูกโจมตีอย่างหนัก แต่ใครจะคิดว่าคนที่โดนเล่นจนสะบักบอมกลับเป็นต้นกล้า Kung Fu Master ที่โดน High priestเปิดฉากโจมตีอย่างป่าเถื่อน

ด้วยทักษะHoly Force ทำให้ต้นกล้าไม่สามารถทำอะไรโกรธเกรี้ยวได้เลยตลอดหนึ่งนาที ตามจริง 1 นาทีมันก็ไม่นานเท่าไหร่ แต่มันก็มากพอแล้วสำหรับภาริช

ต้นกล้าถูกภาริชซัดด้วยคถาธาตุธาตุไฟอย่างหนักหน่วง การโจมตีเน้นๆ รุนแรงมหาศาล แถมทักษะทั้งหมดไม่ได้มาจากอาชีพเสริม แต่ทั้งความเร็วความแรงและสถานะอมตะมาจากสายอาชีพHigh priest ล้วนๆ

เท่านั้นยังไม่พอ อาวุธที่โกรธเกรี้ยวใช้ทุบลงมายังเป็นอาวุธระดับssrตีบวกมาจนถึงขั้นสูงสุด เรียกได้ว่าราวกับแห่งเทพสงครามลงมาจุติเลยทีเดียว

“โธ่เว้ยๆ ๆ ๆ ๆ” ต้นกล้าคำรามเสียงดัง

เขาอุตส่าห์ใช้ตัวละครที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ หากมาแพ้ให้อาชีพ High priest นอกจากขายหน้าเขาก็ไม่รู้ว่าเมษาจะโกรธมากแค่ไหน เขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย เวลานี้ต้นกล้าปั้มขวดเลือดเติมพลังชีวิตรัวๆ ไม่อย่างนั้นคงสิ้นชีพไปนานแล้วภายใต้กระบองธาตุไฟของโกรธเกรี้ยว

“ไม่ต้องกลัวอีกไม่นาน ทักษะ Holy Forceก็จะหมดแล้ว กะจังหวะให้ดีแล้วใช้ทักษะมังกรสะบัดหาง”

มังกรสะบัดหางเป็นการโจมตีด้วยลูกแตะที่ว่องไวที่สุดในบรรดาทักษะของ Kung Fu Master ตามที่ฝึกมาถ้าโจมตีด้วยทักษะนี้สามารถคอมโบต่อเนื่องไปได้อีกสามสี่ชุด ต้นกล้าฝึกพอสมควรแล้วเขามั่นใจมันจะต้องทำให้โกรธเกรี้ยวจบชีวิตได้ในพริบตา

“3...2...1...” สายหมอกนับถอยหลังการสิ้นสุดทักษะHoly Force ของโกรธเกรี้ยว “เอาเลย” เขาให้สัญญาณแก่ต้นกล้า

ทว่าใครจะไปคาดคิดว่าโกรธเกรี้ยวจะใช้ทักษะเคลื่อนหนีอย่างรวดเร็วหลบการโจมตีด้วยมังกรสะบัดหางได้

“ไม่ต้องห่วงทักษะมังกรเหินจะตามติดไปอย่างรวดเร็วใช้มันซะแล้วต่อด้วยหมัดคชสาร”

แต่ก็นะความมือไม่คล่องของต้นกล้าเป็นสิ่งที่สายหมอกคาดการณ์เอาไว้แล้ว ฝึกแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันจะไปขยับนิ้วว่องไวดั่งใจสั่งได้อย่างไร กระบวนท่าไม่ต่อเนื่องเป็นผลให้โกรธเกรี้ยวใช้ทักษะโจมตีหนักหน่วงเพียงหนึ่งเดียวของอาชีพ High priest สวนมา smashed holy เป็นทักษะตอบโต้ที่สามารถทำให้ถึงตายได้ในครั้งเดียวสำหรับที่มีพวกเลือดน้อย

และตัวละครของต้นกล้าก็เลือดน้อยเพราะดาเมทรัวๆ ก่อนหน้านั้นแล้วด้วยเช่นกัน การปะทะของท่าหมัดคชสารกับ smashed holy สร้างดาเมจให้แก่ทั้งคู่สุดท้ายจบชีวิตแบบตายตกตามกัน

การต่อสู้อันดุเดือดในครั้งนี้ตกอยู่ในสายตาของผู้เล่นจำนวนมาก ข้อความที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิมเร่าร้อนรัวมาเกือบร้อยถึงสองร้อยข้อความ

การpvpครั้งนี้แต่เดิมก็เป็นที่จับตาอยู่แล้ว แต่มันอาจจะน้อยไปหน่อยเพราะsilverfox13ไม่ได้ออกโรง นอกจากนั้นยังมีแอคเค้าท์โนเนมอีกสอง ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะสู้ขุนพลของฝั่งdoghunter00ได้

แต่นี่ขนาด High priest ยังทำได้ไม่เลวขนาดนี้ ผู้เล่นซึ่งเฝ้ามองดูรู้สึกว่าการpvpหมู่ครั้งนี้คาดหวังได้ว่าจะต้องมันแน่ๆ

“มาได้เท่านี้เองรึ”

หลังจากตายตกไปตามกันกับตัวละครของต้นกล้า ภาริชก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เขาไม่ได้เสียความรู้สึกหรือเจ็บใจ จริงๆ สู้กับอาชีพสายครบเครื่องอย่าง Kung Fu Master ได้ขนาดนี้ก็นับว่าไม่เลว ไม่ได้คาดหวังจะให้อาชีพสายซัพพอร์ตไล่ฆ่าใครได้อยู่แล้ว

ภาริชปรับหน้าจอเปลี่ยนมุมไปดูการต่อสู้ของคนอื่น เห็นว่านรินทร์กับdoghunter00ยังคุมเชิงกันอยู่ สงสัยต้องกระตุ้นซักหน่อยแล้ว

โกรธเกรี้ยว : การแข่งครั้งนี้ พี่มีพนันลับๆ เอาไว้กับลูกพี่ลูกน้องที่ชื่ออิงภพเจ้าของแอคเค้าท์ Spiritstorm

โกรธเกรี้ยว : ถ้าพวกเราแพ้พี่จะต้องไปเดตค้างคืนกับเด็กคนนั้นหนึ่งอาทิตย์สองต่องสอง

โกรธเกรี้ยว : กลัวจัง...พี่จะถูกเด็กคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำไหมนะ

ภาริชหัวเราะแผ่วๆ หน้าจอคอม ไม่รู้ว่าจะช่วยกระตุ้นmaddogน้อยได้ไหม แต่หลังจากส่งข้อความไปได้ 2 นาที maddog01ก็เปิดฉากจู่โจมdoghunter00ทันทีเช่นกัน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เราของดลงหนึ่งวันนะคะ พรุ่งนี้เราต้องไปช่วยเพื่อนย้ายบ้าน5555

รอหน่อยนะคะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 24-08-2018 12:10:06
งานนี้น้องรินต้องชนะสถานเดียวแล้ว แพ้ไม่ได้แล้วจ้า ไม่งั้นพี่ภาริชต้องไปเดตกับคนอื่นเป็นอาทิตย์นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 24-08-2018 13:30:57
มาโบกป้ายไฟเชียร์รินรินจ้าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 24-08-2018 14:26:45
ท่านพี่มันร้ายยยยยย  :m20:
คิดหรือว่าเจ้ารินน้อยของเราจะยอม ตายแน่จ้า ขอไว้อาลัยเลย  :katai5:
 :L2:  :pig4:  o13
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-08-2018 15:38:20
โฮ่........อย่างนี้ริน เล่นเต็มที่ แรงชัด จัดเต็มไปเลย    :z3:
ชนะแน่  เรื่องไร ให้พี่ภาริช ไปเที่ยวกับอิงภพ
ที่จ้องฟัน เอ๊ย.....ยอมถูกฟัน  กร๊ากกกกก    :m20: :laugh: :m20:

อิงภพ เปิดเผยด้านเลวร้ายที่มีต่อฟอร์ด 
ให้ภาริช ได้ยินได้ฟังชัดๆ ถนัดหูเลย  :serius2: :really2: :angry2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 24-08-2018 17:13:16
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 24-08-2018 21:48:21
รอน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-08-2018 22:35:35
หวังให้ต้นกล้าได้บทเรียนที่จะเปลี่ยนตัวเอง
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 25-08-2018 17:50:43
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่30 ความต่างของอันดับ1กับ6 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 26-08-2018 10:44:33
บทที่29

ความแตกต่างของอันดับ 1 และอันดับ6

จริงๆ จิตใจของนรินทร์ปั่นป่วนด้วยข้อความลับของภาริชที่ส่งมาให้ เขาหึง แม้ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน แต่ความกังวลอันนี้ต้องมีความหมายอย่างนั้นแน่ๆ เขาตัดสินใจสู้ตายเขาไม่อยากให้พี่ภาริชไปนอนค้างกับคนอื่น ยิ่งเห็นว่าพี่ภาริชก็ไม่ชอบด้วยเหมือนกันก็ยิ่งฮึกเหิม ดังนั้นการpvpครั้งนี้แพ้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ทันทีที่เริ่มขยับตัวละครนรินทร์ก็มีสมาธิทันที มือไม้ของเขาขยับคล่องแคล่วว่องไว สมกับเป็นบุคคลที่มีความสามารถในด้านpvpเป็นอันดับหนึ่ง

ตัวละครนินจามาสเตอร์ของเมษาใช้ทักษะคาถาลูกบอลเพลิงโจมตีใส่maddog01ที่พุ่งเข้ามา ทว่าคนถูกโจมตีก็ขยับนิ้วบังคับให้ตัวละครม้วนตัวหลบไปด้านข้างแล้วจู่โจมด้วยดาบจากทิศทางนั้น เป็นการลองเชิงจู่โจมแบบธรรมดา ซึ่งเมษาเองก็มีชั้นเชิงสมกับเป็นอันดับ 6 ในการpvp

เมษาใช้ทักษะหุ่นฝางซึ่งเป็นท่าเคาน์เตอร์แอทแทคสับเปลี่ยนตำแหน่งตัวละครไปอยู่ที่ด้านหลังของนรินทร์ ตามด้วยทักษาดาบสายฟ้า ใครๆ ก็คิดว่าmaddog01คงโดนโจมตีเน้นๆ แต่เจ้าตัวกลับใช้ทักษะพุ่งหนีไปด้านหน้าหลบการทำร้ายได้ทันถ่วงที

เมษาไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ให้เสียไปเขาใช้ท่าเท้าลมกรดไล่ตามคราวนี้ใช้ทักษะเงาลวงตา ทักษะนี้จะสร้างร่างลวงตาขึ้นมา 8 ร่าง ส่วนตัวละครจริงนั้นถูกทำให้ล่องหน เป็นทักษะชั้นสูงหายาก แถมยังเหมาะต่อการpvpเสียด้วย

ดูเหมือนว่าmadog01จะตกที่นั่งลำบากกับทักษะที่ค่อนข้างขี้โกง แต่ไม่ได้มีแค่maddog01เท่านั้นอิงภพกับอิงฟ้าเองก็ถูกกดดันอย่างหนักเช่นกัน

Spiritstorm : อิงฟ้า สลัดไอ้gunnerนั่นให้หลุดแล้วมาช่วยกันจัดการไอ้ฟอร์ดมันก่อน

Spiritstorm : ถ้าจัดการไอ้ฟอร์ดมันได้ เราสองคนค่อยไปช่วยกันเล่นงานเจ้าgunnerกันต่อ

อิงฟ้าไม่อยากบอกพี่ชายฝาแฝดเลยว่าแค่ขยับหลบการจู่โจมก็ทำเอามือเธอชาไปหมด การเคลื่อนไหวโจมตีในแต่ละทักษะของgunnerในมือของนักpvpติดอันดับสามช่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนเธอแทบสู้ด้วยไม่ไหว ทว่าถ้าหากร่วมมือกันกับพี่ชายก็ควรมีโอกาสชนะดังนั้นเธอจึงใช้ทักษะก้าวเท้าไวสองเท่าวิ่งหลบไปเพื่อประกบตัวละครของฟอร์ดจากด้านหลัง

ชานมไข่มุกโครตอร่อย : นั่นแน่ หันหลังให้อาชีพgunnerไม่ใช่ความคิดที่ดีนะน้องสาว

ชานมไข่มุกโครตอร่อย : ฉันไม่ยอมให้เธอไปเล่นงานแฟนของฉันแน่

อาชีพgunnerนั้นเป็นอาชีพที่เน้นpvpมากที่สุดอาชีพหนึ่ง ดังนั้นทักษะต่างๆ จึงมีไว้เพื่อไล่ตามและพิฆาตศัตรูหลากหลายท่วงท่า Rain storm เองก็เป็นท่วงท่าที่ทำให้ถึงตายในทันทีได้ท่าหนึ่ง

ตะวันใช้ทักษะกระโดดสองชั้นตามไปอยู่เหนือศีรษะของpoetตัวละครของอิงฟ้าเปิดฉากยิ่งกระหน่ำลงมาราวห่าฝน ท่าrain storm เป็นท่ารัวที่ต้องขยับมืออย่างรวดเร็วและยิ่งรัวทักษะได้ไวเท่าไหร่จำนวนคริติคอลก็จะมากเท่านั้น

อิงฟ้าโดนคริติคอลเน้นๆ ด้วยดาเมท 5000 8000 และ10000 ยังไม่นับรวมดาเมทปกติอีกนับไม่ถ้วนส่งผลให้ตัวละครจบชีวิตลงแถบจะในพริบตา

“บ้าเอ๊ย...” เมษาสบถอย่างหัวเสีย เมื่อพบว่าอิงฟ้าตัวซับพอร์ตของกลุ่มตายไปอย่างไร้ประโยชน์

“อิงภพสลัดคู่ต่อสู้แล้วมารวมกลุ่มกันเดียวนี้” เมษาออกคำสั่ง ใช่ว่าอิงภพไม่อยากทำตาม แต่มันทำไม่ได้ไง



ชานมไข่มุกโครตอร่อย : น้องสาวไม่มีทางไปแล้วนะจ๊ะ

อิงภพไม่อยากยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้เลย แต่ถูกประกบด้วยอาชีพที่ทั้งถึกและอึดอย่าง Knight of Light กับอาชีพเน้นpvpอย่างgunnerเรียกได้ว่าจบสิ้นแล้ว ถึงแม้จะพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายด้วยการร่ายเวทย์โจมตีที่รวดเร็วขึ้น แต่มันก็เบามากจนไม่สามารถสร้างดาเมทแก่ตัวละครสายแท้งค์ของฟอร์ดได้เลย

แถมทักษะเวทย์ชุดใหญ่ก็จะถูกทักษะสตั๊นของ Knight of Light ที่แม่มแม่นยำอย่างเหลือเชื่อทำให้การร่ายถูกยกเลิกไปแทบทุกครั้ง

“เชี่ยเอ๊ย กูต้องแพ้ไอ้ฟอร์ดหรือวะเนี่ย”

แล้วก็เป็นจริงดั่งพูด ฟอร์ดกับชานมฯ ร่วมมือกันปลิดชีพอิงภพไปอย่างสวยงาม อิงภพถึงกับคอตก ส่วนเมษาโมโหดุดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาตวัดสายตาดุร้ายมองไปยังต้นกล้าแวบหนึ่ง คนถูกมองรู้ตัวทันที

ต้นกล้ารู้ตัวว่าความผิดพลาดที่ปล่อยให้ตัวเองตายตกไปตามกันกับยัยโกรธเกรี้ยวนั้นร้ายแรง ตามแผนที่วางไว้เขาควรปลิตชีพยัยนั่นแล้วตามไปประกบช่วยกันเล่นงานนรินทร์ร่วมกับเมษา

ต้นกล้าเสียใจ ไม่เพียงแค่เรื่องทำประโยชน์ให้เมษาไม่ได้ ยังมาพ่ายแพ้อย่างคนไร้ค่า แถมเมษาก็ใช้สายตาเกลียดชังมองมาที่เขา หัวใจมันรวดร้าว เขาเจ็บปวดเหลือเกิน แต่ไม่คิดว่ามือข้างหนึ่งจะถูกกุมเอาไว้

เขาหันมองมองพบว่ารุ่นพี่สายหมอกเป็นคนทำนั่นเอง คนคนนั้นใช้รอยยิ้มอ่อนโยนปลอบใจเขา แต่เพราะไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่จึงสลัดมือออกมองเมินไม่สนใจความรู้สึกของรุ่นพี่ กลับไปตั้งใจส่งแรงอธิษฐานขอพรให้เมษาชนะการpvpกับนรินทร์ถึงแม้มันจะเปล่าประโยชน์แล้วก็ตาม

Doghunter00 : ตกลงว่าจะรุมสินะ



เมษารู้นิสัยจูนิเบียวของนรินทร์ดี ไอ้ความเป็นพระเอกแบบโง่ๆ นี่แหละที่เป็นจุดอ่อน ดังนั้นจึงหาโอกาสไม่ให้ตัวเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูปจนเกินไป

อย่างน้อยต้องโค่นนรินทร์ให้ได้ไม่อย่างนั้นก็เสียชื่อเสียงที่สั่งสมมานานจนหมด เขาจงใจพูดจาเสียดสีให้นรินทร์ยอมสู้กับเขาตัวต่อตัว ในสภาพที่สูสีและยังไม่มีใครบาดเจ็บนี้ เปอร์เซ็นที่เขาจะชนะยังครึ่งต่อครึ่ง ย่อมดีกว่าถูกรุมตีปิดทางชนะอยู่แล้ว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ยังกล้าพูดหมาๆ อีกนะ เอางั้นก็ได้กูจะเปิดโอกาสให้มึงดวลตัวต่อตัวกับลูกพี่

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แต่มั่นใจได้เลยลูกพี่ต้องฆ่ามึงได้แน่ๆ ว่ะเมษา

“รอดูกันไปก่อนสิ” เมษาพึมพำ เขาฝึกฝนการใช้ทักษะต่างๆ ของนินจามาสเตอร์มาอย่างคล่องแคล่ว เรียกได้ว่ามั่นใจเอามากๆ

เวลานี้ตัวละครของเขากับนรินทร์ต่างผลัดกันโจมตีและหลบเป็นการต่อสู้อันดุเดือดที่วัดกันด้วยความไวของนิ้วมือโดยแท้จริง เวลานี้เสียงเอาใจช่วยรอบลานประลองกระหึ่มเป็นข้อความมากกว่า 300 ข้อความไปแล้ว

นั่นเป็นเพราะว่าdoghunter00และmaddog01ที่เอาแต่คุมเชิงกันมานานในที่สุดก็ปะทะกันเสียที ซึ่งทุกคนก็รู้กันอยู่ว่าdoghunter00มักจะตามราวีmaddog01ไปทุกเกมและเป็นmaddog01เองที่นิ่งเฉยไม่เอาความอย่างน่าประหลาด คราวนี้ในที่สุดก็ลงมือชำระแค้นจนได้

แน่นอนว่าอันดับหนึ่งด้านpvpที่ได้มาไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย การฟาดฟันกับเศียรมังกรจนได้ชัยชนะสลับกันไปมานั้นเห็นได้ชัดถึงความเร็วนิ้วที่เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาด maddog01กับเศียรมังกรอยู่ในระดับนั้นนั่นแหละ

สายหมอกรู้บทสรุปของการสู้ยืดเยื้อนี้ดี เขายังจำการpvpระหว่างตัวเองและmaddog01ได้ ถ้าให้ว่ากันความเร็วนิ้วของเขากับmaddog01ไม่มีใครน้อยหน้ากว่าใคร แต่ความอึดกับแรงใจนี่สิ ที่maddog01จัดได้ว่าไม่ธรรมดา

ยิ่งเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อมากเท่าไหร่ จะยิ่งเห็นชัดว่าใครเหนือกว่า แล้วมันก็เป็นอย่างที่สายหมอกคาด ความเร็วในการขยับนิ้วของเมษาลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นไปตามที่เขาปรารถนา ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ด้วยนิสัยของเมษาคงผลักความรับผิดชอบไปให้ต้นกล้าเต็มๆ ไม่มีใครเห็นรอยยิ้มแสยะบนใบหน้าของผู้ชายมีภาพลักษณ์เหมือนขุนนางยุโรปคนนี้

เมื่อมือของเมษาไม่ได้ขยับคล่องว่องไวอย่างทีแรกอีกแล้ว มันจึงส่งผลให้ไม่สามารถหลบการคอมโบด้วยทักษะต่างๆ ของmaddog01ได้อีก ด้วยทักษะต่อเนื่องอันรวดเร็วและรุนแรงของนรินทร์จำนวน 4 ชุด มันก็ให้ตัวละครของเมษาจบชีวิตลงไปในที่สุด

ราชาก็คือราชานักล่ากระจอกที่มีลำดับpvpแค่อันดับ 6 มีหรือจะสามารถต่อกรได้ ในสายตาของผู้เล่นนับล้านคนที่คู่ควรมีแต่เศียรมังกรเท่านั้น การpvpหมู่ครั้งนี้นำพาให้ฟอร์ดถูกจัดอันดับในทำเนียบเป็นครั้งแรก คนที่เสียหน้าไม่ได้มีเพียงเมษา อิงภพเองก็รู้สึกเหมือนถูกทำลายความมั่นใจ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : มึงแพ้แล้วเมษา เท่านี้มึงก็เลิกยุ่งกับพวกกูได้

ใครจะไปคิดเล่าว่าคนอย่างเมษาจะดื้อด้านไร้เหตุผลกว่าที่คิด ที่ผ่านมาสิ่งที่maddog01กับพรรคพวกประสบยังถือว่าแค่จิ๊บๆ

Doghunter00 : ถ้าแน่จริงล่ะก็มาแข่งตีปราสาทแย่งชิงพื้นที่กันไหมล่ะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ห๊ะ...มึงบ่นอะไรของมึง มึงบ้าป่าวเนี่ย

Doghunter00 : ไม่กล้าสินะ จริงสิ ไม่มีคนคบด้วย จะหาคนที่ไหนมาเข้ากิล

Doghunter00 : นายมันไม่มีปัญญาสร้างกิลด้วยไม่ใช่หรือนรินทร์

Doghunter00 : ว่าไงแข่งกันแย่งพื้นที่ปราสาท อีกสองสัปดาห์จะมีการเปิดพื้นที่ใหม่ให้ร่วมกิจกรรม

Doghunter00 : คราวนี้ถ้าฉันแพ้ พวกฉันจะลบไอดีแล้วเลิกเล่นเกมนี้ไปเลย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : มึงหน้ามึนมากนะเมษา มึงแพ้แล้วไม่มีสิทธิมายื่นเงื่อนไข

Doghunter00 : หรือว่าไม่กล้ารับปาก จริงสิ กลัวจะเสียหน้ากับยัยโกรธเกรี้ยวถ้าแพ้ใช่ไหม

Doghunter00 : บอกตรงๆ นะนรินทร์ ผู้หญิงที่จะชอบจูนิเบียวแถมฮิคิโคโมริอย่างนาย

Doghunter00 : ถ้าไม่หน้าตาอัปลักษณ์ ก็เป็นพวกมุดอยู่ในรูเหมือนนายนั่นแหละ พวกน่าสมเพช

Maddog01 : ก็ได้ฉันรับคำท้า

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ลูกพี่ไม่ต้องรับคำท้ามันก็ได้นี่ เราชนะอย่างขาวสะอาด แต่พวกมันโกงใช้ไอดีคนอื่นมาเล่นนะ

Maddog01 : คราวนี้ฉันก็จะชนะอีก

Doghunter00 : ถ้าอย่างนั้นหากฉันชนะ นายต้องออกมาพบฉันข้างนอกสองต่อสอง

Maddog01 : นายจะไม่มีทางชนะอยู่แล้ว

ตะวันไม่อยากให้นรินทร์ไปรับปากแบบนั้น แต่ในเมื่อลูกพี่มั่นอกมั่นใจ ลูกน้องอย่างเขาก็มีแต่ต้องช่วยทุกทางให้ลูกพี่รับชัยชนะ สร้างกิลก็ยากเท่าไหร่หรอกเว้ย ของกล้วยๆ

โกรธเกรี้ยว : แน่ใจนะว่าจะชนะเขาได้

ภาริชส่งข้อความลับไปหานรินทร์

Maddog01 : ผมอยากบดขยี้เขา เอาให้รู้ไปเลยว่าเขาไม่มีทางชนะผมได้

โกรธเกรี้ยว : อะไรที่ทำให้ฮึกเหิมขนาดนั้น

นรินทร์ลังเลที่จะพิมพ์บอกไป แต่ก็ตัดสินใจบอกตามตรง

Maddog01 : เพราะว่าเขาดูถูกพี่ภาริช จะเหยียดหยามผมยังไงก็ได้ แต่ถ้าเป็นกับพี่ผมไม่ชอบ



<นายมันน่ารักเกินไปแล้ว อุตส่าห์เป็นเดือดเป็นแค้นที่พี่ด้วย ทั้งที่มันไม่จำเป็น> ภาริชยิ้มละไมอยู่หน้าจอ

<เห็นทีว่าพี่ต้องเอ็นดูเราให้มากๆ หน่อยสินะ>

โกรธเกรี้ยว : ถ้าเราชนะอีกครั้งนี้ กลุ่มเราไปเที่ยวทะเลกันดีไหม ไปด้วยกันทั้งหมดเลย

โกรธเกรี้ยว : เอาเป็นซักอาทิตย์ เป็นไง นรินทร์อยากไปไหม

นรินทร์ไม่ตอบในทันที เขาลังเล แต่สีหน้าบอกชัดว่าอยากไปเที่ยวเล่นกับภาริช

“ไปเที่ยวทะเลก็ดีเหมือนกันนะ รินไม่ได้ไปมาตั้ง 4 ปีแล้ว”

มิวซังวางมือบนไหล่ของนรินทร์ แถมยังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ ด้วยเหตุนี้นรินทร์ถึงตัดสินใจได้ซักที

เขาอยากไปเห็นทะเลของจริงอีกครั้ง แถมยิ่งได้ไปกับกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน โดยเฉพาะกับคนที่เขาชอบ ก็ยิ่งไม่อยากพลาด ถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจว่าการออกนอกบ้านครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี มันจะดีอย่างที่ตั้งหวังไว้

Maddog01 : ผมอยากไปเที่ยวทะเลกับพี่ภาริชครับ ไม่สิกับทุกคนด้วย

โกรธเกรี้ยว : งั้นคราวนี้ก็ต้องชนะนะ แย่งชิงพื้นที่มาครอบครองให้ได้ พี่จะช่วยนายเอง

ในที่สุดmaddog01ก็เริ่มเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่ doghunter00ก็เช่นกัน การชิงพื้นที่ปราสาทแห่งใหม่ในครั้งหน้า ไม่ใช่แค่การยึดพื้นที่ธรรมดา แต่ยังต้องโค่นบอสตัวใหม่ในแพทเสริมที่กำลังจะอัพเดตในอีกไม่นาน การรวบรวมกำลังพลในเซิร์ฟเวอร์ของสองคู่แข่งเริ่มต้นแล้วนับแต่บัดนี้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เราเป็นคนที่เขียนฉากต่อสู้ไม่เก่งแถมไม่เคยเขียนแนวหรืออ่านแนวเกมออนไลน์มาก่อน

ถ้าไม่ถึงใจก็ขอโทษด้วยนะคะ55555+ TT

ส่วนต้นกล้าความทุกข์ทรมาณของนางคงเริ่มต้นขึ้นแล้ว

พี่สายหมอกรอตะครุบนางอยู่ คงได้เวลาเฉลยปมของนางบ้างแล้วล่ะค่ะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่30 ความต่างของอันดับ1กับ6 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 26-08-2018 11:06:18
 :z6: เมษาขี้แพ้ชวนตีมาก ตบสักทีสิท่านพี่ ทำตัวน่ารังเกียจ ทีมแพ้โทษแต่คนอื่น สมควรแล้วที่เจ้ารินน้อยของเราจะรังเกียจ
รอเขาไปทะเลกัน  :katai5:
 :L2:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่30 ความต่างของอันดับ1กับ6 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 26-08-2018 14:02:41
โถสนเสียงหมามันทำไมละคะน้องริน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่30 ความต่างของอันดับ1กับ6 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 26-08-2018 15:22:06
เมษานี่แพ้แล้วก็ยังจะหน้าด้านเนาะ รำคาญจริงๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่30 ความต่างของอันดับ1กับ6 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 26-08-2018 16:03:02
น้องรินรีบเลยลูก เตรียมเก็บของไปเที่ยวทะเลกับพี่ภาริชได้เลย
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่30 ความต่างของอันดับ1กับ6 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-08-2018 22:46:20
นานๆเข้าเล้าที ห่างหายจากการอ่านนิยาย
มาตั้งแต่เริ่มทำงาน วันนี้ว่างๆเลยเข้ามาส่อง
กดเข้ามาอ่านเรื่องนี้เพราะสงสัยว่าฮิคกี้คืออะไร
ส่วนตัวก็พอรู้จักอาการแบบนี้บ้างจากการ์ตูน
นิยายเกมก็อ่านมาบ้าง แต่เล่นเกมไม่เป็นเลย
รู้สึกต้องใช้สมองเยอะ ไม่ค่อยถนัด5555+
แต่ถึงจะเล่นเกมไม่เป็น ก็อินกับเรื่องนี้ได้จ้า
คนอ่านผูกเรื่องสนุกมาก ทุกตัวละครดูมีความเชื่อมโยง
เห็นนักเขียนจะกังวลช่วงที่เป็นตอนตะวันกับฟอร์ดบ่อย ไม่รู้ว่าใครเม้นอะไรไป แต่สำหรับเรา
มันคือเนื้อเรื่องอ่ะ ไม่ใช่การยัดเข้ามาเป็นคู่รอง
ไม่ได้ออกทะเล และสอดคล้องกับเนื่องเรื่อง
ชอบทุกคู่ในเรื่องเลยนะ แม้แต่ต้นกล้าก็ลุ้นให้นางเจอคนมาดัดนิสัยสะ พี่หมอกนี่ก็ดูรว้ายๆเหมาะกับนังดี เพราะน้องฟอร์ดดีเกินไป555
คู่พี่ภาริชกับน้องรินก็น่ารัก ดูเหมือนจอมมารกับเทวดาตัวน้อง /แอ่ฟฟฟ/ ใครต่อยเลา *_*;
เรื่องนี้สนุกม้ากกกกก ชอบมากๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ คุณเขียนได้ดีมากค่ะ


*กระซิบ*เอาจริงๆยังเดาไม่ออกว่าคู่ตะวัน×ฟอร์ดใครรุกใครรับ ตอนแรกเดาว่าตะวันรับ (ชอบรับแก่กว่าค่ะ ก้าววใจ) แต่พออ่านไปอ่านมาถ้าคู่นี้สลับกันก็คนไม่แปลก5555 แต่ยังไงก็แล้วแต่คนเขียนนะ รอลุ้นกันไป  ขอบคุณค่ะ♡

 :L2: :L2: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 27-08-2018 13:45:25
บทที่30

วิ่งไปตามแผน

เมษาวางแผนไว้ในหัวแล้วว่าจะจัดการยังไงกับสงครามแย่งชิงพื้นที่ครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้พันธมิตรร่วมด้วย ซึ่งนั่นไม่ยากเลยสำหรับคนที่มีชื่อเสียงแบบเขา

“เมษา...ให้ฉันเข้าร่วมสงครามกิลได้ไหม ฉันอยากทำประโยชน์ให้นาย”

เมษาตวัดสายตาเย็นชามองต้นกล้า ช่างกล้าพูดออกมานะว่าจะทำประโยชน์

“ด้วยตัวละคร High priest และฝีมือกากๆ ของนายนะหรือ จะช่วยอะไรฉันได้”

ต้นกล้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เขาใช้มือสองข้างขยุ้มชายเสื้อเอาไว้แน่น ขอบตาร้อนผ่าวแต่ยังดื้อขอร้องให้ตัวเองได้มีส่วนร่วม

“ให้ฉันเข้าร่วมเถอะนะเมษา ฉันอยากแก้มือ”

เมษาเดาะลิ้นด้วยความหงุดหงิด แต่ติดที่ว่าจู่ๆ รุ่นพี่สายหมอกดันออกโรงเสียนี่

“ให้แก้มือก็ได้นี่ ฉันจะให้ต้นกล้ายืมตัวละครของฉันอีก”

“รุ่นพี่หมอก ผมไม่โง่นะ ถึงเอาตัวละครของพี่มาใช้ คนฝีมือห่วยมันก็ห่วยอยู่ดี”

“เอาอย่างนี้ไหม จะว่าไปนายชวนให้ฉันฟอร์มทีมแข่งเกมกับนายมาซักระยะแล้วถ้านายให้โอกาสต้นกล้าฉันจะร่วมทีมกับนายโดยไม่มีเงื่อนไข”

ต้นกล้าเงยหน้าขึ้นไปมองดูสายหมอกอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำไมคนคนนี้ต้องทำเพื่อเขาขนาดนี้ จังหวะที่ใช้สายตามองค้นหาความจริง รุ่นพี่สายหมอกก็หันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน ต้นกล้าหลบสายตามองต่ำทันที เขาไม่กล้าสู้แววตาอันเต็มไปด้วยความเมตตาของอีกฝ่าย เขารู้สึกผิด ไม่รู้ทำไมเกิดความคิดแบบนี้กับผู้ชายคนนี้

บรรยากาศสีชมพูอมม่วงระหว่างต้นกล้ากับสายหมอกอยู่ในสายตาของเมษาโดยตลอด ก็คิดมานานแล้วว่ารุ่นพี่สายหมอกชอบต้นกล้า คิดว่าถ้าหากทำให้ต้นกล้าเลิกรักเขามันก็จะดี ไม่คาดมาก่อนไม่เพียงมีประโยชน์ด้านนั้น ต้นกล้ายังสามารถเป็นเงื่อนไขที่ทำให้รุ่นพี่สายหมอกเข้าทีมของเขาอีกด้วย

จะว่าไปแค่มีตัวถ่วงคนเดียวในกิลมันก็ไม่หนักหนาอะไร แต่หากได้ยอดฝีมืออย่างรุ่นพี่สายหมอกมาฟอร์มทีม การแข่งเกมของบริษัทที่ครอบครัวเขาบริหารที่จะจัดขึ้นในอีกไม่นานคงสามารถประกาศศักดาอย่างยิ่งใหญ่ แถมชื่อเสียงของเขากับรุ่นพี่สายหมอกย่อมต้องดึงดูดสปอนเซอร์และผู้คนมหาศาลมาร่วมงานแน่ๆ มีแต่ได้กับได้ไม่ใช่หรือไง

“ก็ได้”

“จ...จริงหรือ” ต้นกล้าร่าเริงขึ้นทันตาเห็น

“แต่นายต้องใช้เวลาฝึกปรือกับรุ่นพี่สายหมอกให้มากหน่อย วันนี้นายกลับไปซะ ไม่มีธุระด้วยอีกแล้ว”

เสียใจนิดๆ ที่เมษามีท่าทีเย็นชายิ่งกว่าทุกครั้ง แต่อย่างน้อยก็ได้โอกาสแก้ตัวมาแล้ว นับว่าดีมากเกินพอ

“พี่ขับรถไปส่งนะต้นกล้า”

“อ..อื้อ..” จริงๆ จะปฏิเสธ แต่พอเห็นใบหน้าที่แสนใจดี มันก็ทำให้ยอมตามเขาไปง่ายๆ

ทว่าอารมณ์เศร้าเสียใจที่ถูกเมษาหมางเมินมันทำให้ต้นกล้าไม่มีความสุข แม้จะออกจากคอนโดมาพร้อมรุ่นพี่สายหมอก เมษาก็ไม่มาส่งหน้าบ้านหรือหันมามองเลย คนที่เขาเฝ้ารักทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน

ต้นกล้ากอดตัวเองด้วยความเหน็บหนาวไม่ใช่ว่าอากาศในรถเย็นแต่เพราะความอ้างว้างโดดเดี่ยวล้วนๆ

“แอร์เย็นหรือ” สายหมอกไม่รอคำตอบเขาลดระดับเครื่องทำความเย็นให้ทันที

“ขอบคุณนะ” ต้นกล้าพึมพำเสียงแผ่ว

“ขอบคุณสำหรับหลายๆ เรื่อง”

“พี่ทำเพราะว่าชอบนาย”

ต้นกล้าพอจะรู้เลาๆ อยู่แล้ว เขาไม่ตอบอะไรรุ่นพี่สายหมอกทั้งนั้น

“รู้ไหมทำไมพี่ถึงชอบเรา”

“...”

“ครั้งแรกที่พี่เจอเรา คือตอนที่เราพาสุนัขที่ทานยาเบื่อของคนในหมู่บ้านไปหาหมอ”

ต้นกล้าระลึกถึงเหตุการณ์นั้นได้ทันที นั่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่ารุ่นพี่สายหมอกอยู่หมู่บ้านเดียวกัน

“มันเป็นสุนัขจรจัด ไม่มีใครสนใจมัน แต่คนที่พามันไปรักษาได้อย่างทันท่วงทีก็มีแต่เรา แถมบ่อยครั้งที่พี่เห็นเราเอาหมาจรจัดมาดูแลรวมถึงหาบ้านใหม่เรื่อยๆ พี่ประทับใจมาก โดยเฉพาะรอยยิ้มเวลาที่นายอยู่กับพวกหมาเหล่านั้น”

“พี่แอบตามดูผมหรือไง”

“ก็พี่ชอบนายนี่”

“โรคจิตฉิบหาย”

“ถามหน่อยได้ไหมคนที่ใจดีอย่างเราทำไมถึงเริ่มรังแกคนอื่น แล้วทำไมถึงดีได้กับเฉพาะแค่พวกสัตว์เท่านั้น”

“เพราะว่าพวกมันไม่เจ้าเล่ห์และไม่ทรยศผมยังไงล่ะ” ต้นกล้าหลับตาอย่างขมขื่น เขาหวนนึกถึงอดีตอันไม่น่าอภิรมย์ ช่วงวัยเด็กที่เขาอยากลืมมัน

“เล่าให้พี่ฟังได้ไหมว่าเพราะอะไร”

“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่จำเป็นต้องเล่า” ต้นกล้าไม่ได้แข็งกร้าวอย่างทุกที เขารู้สึกอ่อนแอและปวดร้าว

“ถ้างั้นมาคบเป็นคนรักของพี่ดีไหม พี่จะดูแลต้นกล้าเอง”

“จอดตรงนี้แหละ”

สายหมอกทำตามที่ต้นกล้าสั่ง อีกฝ่ายเปิดประตูรถเตรียมจะลงแต่เขาก็คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน

“เป็นพี่ไม่ได้หรือ ทำไมถึงต้องเป็นเมษาคนเดียว”

สายหมอกกับต้นกล้าประสานสายตากัน เขาค้นหาความจริงในดวงตาคู่นั้น แววตาของต้นกล้ารวดร้าวสับสนอย่างเห็นได้ชัด

“เพราะว่าเมษาเป็นคนเดียวที่ยื่นมือมาให้ผมจับในตอนที่ไม่มีใคร”

ต้นกล้าสลัดแขนให้หลุดจากการจับกุมของสายหมอกแล้วลงจากรถวิ่งหายไปในความมืด สายหมอกเอนหลังพิงเบาะเขาหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ลืมตาอย่างช้าๆ

“อย่างนี้นี่เอง” สายหมอกยิ้มมุมปาก คงเป็นวิธีเดียวกันที่เขาตั้งใจใช้มันกับต้นกล้า

“แต่ว่าเมษาเขาไม่ได้รักหรือใส่ใจเราเหมือนพี่หรอกนะ” ยิ่งได้มายากก็ยิ่งสนุก รอบนี้เขาจงใจทำดีให้ขนาดนี้ ทั้งยังบอกรักออกมาให้ดูอ่อนหวานจริงใจมากที่สุดทั้งที่รู้ว่าต้นกล้ายังไงก็ต้องปฏิเสธ

ตอนนี้น่ะดิ้นรนหนีจากมือของเขาไปเถอะ เวลาที่ต้องกลิ้งกลับมาจะได้สะบักสะบอมมากๆ หน่อย ถึงตอนนั้นมั่นใจว่าต้นกล้าคงไม่มีสายตาไปไว้มองใครนอกจากเขาอีก

เป็นเวลาสองปีแล้วที่สายหมอกเฝ้าตามดูต้นกล้าด้วยความชอบพอที่ทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่พบกันครั้งแรก เขากับต้นกล้าช่วยกันพาหมาจรจัดไปส่งคลินิก เจ้าหมารอดอย่างหวุดหวิด วินาทีที่ต้นกล้ารู้ว่ามันรอดตาย อีกฝ่ายก็คลี่ยิ้มจากจากก้นบึ้งหัวใจออกมา มันบ่งบอกถึงความรักความสุขเจิดจ้าจนตาเขาแทบพร่า

จากนั้นพอแอบตามดูพฤติกรรมเพราะลืมรอยยิ้มนั้นไม่ได้ ก็พบว่าต้นกล้ามักจะคอยเก็บหมาแมวมารักษาและหาบ้านให้อยู่เป็นประจำ และหลังจากตามดูอย่างเงียบๆ อยู่นาน ถึงได้รู้ว่า คนที่เขาชอบใจคนนี้ มีปัญหาทางด้านการคบหาผู้คน

ต้นกล้าไม่เชื่อใจใครเลย มักจะปกป้องตัวเองด้วยการทำตัวร้ายกาจหยาบกระด้าง เด็กคนนี้มีความสุขและรู้สึกปลอดภัยได้แค่เฉพาะเวลาอยู่รวมกับพวกสัตว์ที่ไม่สามารถทรยศตัวเองได้มากกว่าผู้คนที่พูดภาษาเดียวกัน คนเพียงหนึ่งเดียวที่ยึดติดมีแค่เมษาคนนั้น เจ้ารุ่นน้องที่คอยตามตื้อให้เขาร่วมทีมมาตลอด

เขายอมให้เมษาตีสนิทเพราะอยากเข้าใกล้ต้นกล้าล้วนๆ ทีแรกนึกว่าการเข้าหาด้วยความจริงใจอ่อนโยนมันจะได้ผลง่ายๆ แต่เปล่าเลย ดังนั้นความหงุดหงิดและอิจฉาที่ไม่เคยเป็นมาก่อนถึงได้ก่อตัวขึ้น

เขามีนิสัยเสียที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก เขามักจะลุ่มหลงของสวยงามมากเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่ยื้อแย่งมาด้วยวิถีการสกปรกหรือด้วยแผนการแบบไหนก็แล้วแต่ เขามีความกลัวว่าของในมือจะถูกแย่งกลับไป ดังนั้นของทุกชิ้นเขาต้องทำให้มันมีตำหนิ เพื่อให้คนอื่นเห็นว่ามันพังแล้วและจะไม่แย่งมันไป

เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด แล้วต้นกล้าก็เป็นสิ่งที่สวยงามแถมมีตำหนิติดตัว ทุกอย่างตรงตามเงื่อนไขที่เขาจะรักได้ทั้งหมด เพราะอย่างนั้นแม้ต้องทำเรื่องร้ายกาจเขาก็ไม่ลังเลเลย สองปีที่พยายามมาในที่สุดก็มีโอกาสจนได้ แถมเมษาก็ช่วยทำให้มันเข้ารูปเข้ารอยง่ายขึ้น เขาจะรอวันที่ต้นกล้าไม่เหลือใครนอกจากเขา ซึ่งมันก็อีกไม่นานนักหรอก



หลังจากต้นกล้าสาวเท้าวิ่งอย่างสุดแรงจนมาถึงบ้าน เขาก็ขังตัวเองเอาไว้ในห้อง ต้นกล้ายอมรับว่ากำลังสับสน เขาพยายามหนีความจริงเรื่องที่รุ่นพี่สายหมอกคนนั้นแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในซอกเล็กๆ ของเขาได้สำเร็จ

รอยยิ้มและคำพูดของสายหมอกทำให้ต้นกล้าอบอุ่นในหัวใจไม่น้อย แต่เขาไม่อาจทิ้งความทรงจำดีๆ ที่มีร่วมกับเมษามาตลอดหลายปีได้ บุญคุณความรักที่มีมาอย่างยาวนานมันทำให้เขาไม่สามารถสลัดมันแล้ววิ่งไปหาสายหมอก

รู้ว่าตัวเองช่างโง่ เขากำลังจะทิ้งโอกาสเหมือนกับที่เขาทิ้งฟอร์ดไปก่อนหน้านั้น เพียงเพราะว่ามือของเมษาที่ยื่นมาให้ในตอนที่เขาไม่มีใครเพียงครั้งเดียว

“ทำไมคนที่เรารักถึงไม่รักเราตอบนะ” ต้นกล้าซบใบหน้าลงกับเข่าทั้งสองข้าง

คำตอบนี้ ต้นกล้ารู้อยู่แก่ใจ เพราะว่าพวกเขาคือพี่น้องพ่อเดียวกันยังไงล่ะ แถมเขายังเป็นลูกเมียน้อย แค่เมษาทำดีด้วยทั้งที่รู้ความจริงข้อนี้ คนคนนั้นก็เมตตาเขามากแล้ว แต่เขาก็ยังโลภอยากได้ไม่มีที่สิ้นสุด

ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางได้มาก็ยังดันทุรัง เขาควรจะทำอย่างไรดี ควรวิ่งตามหัวใจตัวเองต่อไปหรือควรหยุดพักดี เพราะว่าเขาเป็นคนที่โง่มากดังนั้นจึงทำได้แค่เพียงวิ่งไล่ตามเงาของเมษาต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต



ภาริชเรียกประชุมเหล่าผู้จัดการแต่ละแผนกตั้งแต่เช้า หัวข้อการประชุมที่ว่าคือการเปิดตัวงานแข่งเกม Battle of the units หรือเรียกย่อๆ ว่า bouที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ต้น แถมยังไม่คิดจะเลื่อนวันแข่งที่จัดชนกับเกม Military strategy ของบริษัทชัยมงคลแต่อย่างใด

นั่นก็เพราะว่าเขาได้หลักฐานการส่งสปายมาสอดแนมอย่างครบถ้วนแล้ว ภาริชกำลังเล็งจังหวะในการแจ้งความจับคนกลุ่มนี้ สำหรับคู่แข่งทางความรักหรือทางธุรกิจเขาได้วางแผนจัดการเอาไว้พอหอมปากหอมคอ

จะเมษา ชัยมงคล คนลูกหรือ ธันวา ชัยมงคลคนพ่อก็ดี หรือแม้กระทั่งคุณบุพชาติ เอื้อมบุญ หรือต้นกล้า เขาตัดสินใจว่าจะเช็คบิลในอีกไม่นาน ขอเพียงแค่จังหวะเหมาะๆ เท่านั้น

ธันวา ชัยมงคลไม่มีทางรู้เลยว่าผู้ถือหุ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นของบริษัทชัยมงคลในเวลานี้คือภาริชเอง เพราะเขาซื้อหุ้นนั้นมาในนามบริษัทsonya และยิ่งไม่มีทางรู้ว่าใครคือเจ้าของบริษัทเป็นเพราะเขาไม่เคยเปิดเผยตัวตนในนามของผู้บริหารและเจ้าของsonyaเลยตลอดหลายปี



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                   อดีตของต้นกล้าจะค่อยๆ เผยออกมาทีละนิดนะคะ 

                   วันนี้ลงช้ากว่าปกติ5555 เพราะมัวแต่เขียนๆ แก้ๆ นี่แหละ

                   ยอมรับว่าคู่ต้นกล้ากับพี่หมอกนี่เขียนยากกว่าคู่อื่นมาก จริงๆ อยากแรงให้ถึงที่สุดสำหรับพี่หมอก

                   เราใจบาง ทั้งที่อยากย่ำยีต้นกล้าสุดๆ แต่ก็ความมีมนุษยธรรมเรามันสูงลิบลิ่ว

                   ถ้ายังไม่สะใจกันก็ขออภัยนะคะ ในความคิดเราคนเลวแค่ไหนก็มีสิทธิจะได้โอกาสแก้ตัวซักครั้ง

                   แต่ถ้าได้โอกาสแล้วยังเลว ก็ควรได้รับโทษหนักๆ 

                   สำหรับต้นกล้า เราจะพาไปตามทางเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะลงเอยกับพี่หมอกยังไง

                   ขอให้อดทนกับนางหน่อยนะคะ อดทนกับแนวคิดเรา เราใจบางย่ำยีใครไม่ได้มากนักหรอก
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 27-08-2018 14:09:23
แต่ละคนในนี้ก็มีที่มาที่ไปเน๊าะ ว่ากันไปตามท้องเรื่องคะ สู้ๆ เรารออ่านอยู่จ้า  :กอด1:
รอดูผลของกรรมของแต่ละคนที่ไปรังแกเจ้ารินตัวน้อย หึหึ
 :L2:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 27-08-2018 17:18:05
เกมส์นี้ใครจะถึงเส้นชัยก่อน มาตามดูกัน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 27-08-2018 17:23:49
พี่ภาริชนี่แหละบอสใหญ่ของเรื่อง 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 27-08-2018 21:06:41
หมอกอย่ารุนแรงกับต้นกล้ามากไปนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-08-2018 21:58:36
ต้นกล้า มีปัญหาการคบคน  :mew2:
แต่ไปได้ดีกับการช่วยหมาแมวที่บาดเจ็บ ถูกวางยา
นี่เป็นข้อดี ข้อเดียวของต้นกล้า  :hao3:
เมื่อไหร่จะรู้คิดว่าใครดี และรักตัวเอง
ที่เป็นเพราะตัวตนของตัวเองจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 27-08-2018 23:40:52
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ปกติเราไม่เล่นเกมส์ แต่เราก็นึกภาพตอนทั้งสองทีมแข่งกันออก เพราะคนเขียนบรรยายได้ชัดเจนดีมากเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 28-08-2018 19:27:00
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 วิ่งไปตามแผน 27/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 29-08-2018 17:50:21
ให้ความรู้สึกเหมือน RO
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 ริมฝีปาก 29/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 29-08-2018 18:11:21
บทที่31

ริมฝีปาก

โกรธเกรี้ยว : พรุ่งนี้เราแวะไปสำรวจมหาลัยที่มีคณะเกี่ยวกับการสร้างเกมกันนะ

เพราะพี่ภาริชส่งข้อความนี้มา แถมมิวซังยังเอาไปบอกพี่ณภัทร มันก็เลยกลายเป็นถูกคะยั้นคะยอให้ต้องออกมานอกบ้านจนได้ นรินทร์ต้องนอนแต่หัวค่ำตื่นแต่เช้า แล้วเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะพี่ภาริชอุตส่าห์เจียดเวลางานพาเขาไปเยือนหลายๆ มหาลัยที่เปิดการสอนในด้านที่เขาเคยบอกว่าสนใจ

“ฟอร์ดเองก็อยากจะเรียนคณะนี้เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้รินมาเรียนที่เดียวกับฟอร์ดดีไหม จะได้มีเพื่อนไง”

“ครับ”

เวลานี้นรินทร์กับภาริชอยู่ในร้านอาหารของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พวกเขาใช้เวลาสำรวจมหาลัยจนเวลาผ่านไปถึงบ่าย 3 เกือบบ่าย 4 แล้ว

นรินทร์รู้สึกมีแรงใจ สภาพแวดล้อมของมหาลัยทั้ง 8 แห่งที่แวะไปดู ที่เขาชอบที่สุดคงเป็นมหาลัยb เพราะว่ามันใกล้บ้านเขามากนั่นแหละ

“รินชอบมหาลัยที่ไหนมากที่สุด” ภาริชถาม

“ผมชอบมหาลัยbเพราะมันใกล้บ้าน”

“งี้เอง อืม...ฟอร์ดเองก็น่าจะชอบเหมือนกัน เพราะงั้นถ้าถึงเวลาพี่จะพาเราไปสมัครเรียนพร้อมกันกับฟอร์ดเลย ดีไหม”

“ครับ” นรินทร์ผงกหัวเบาๆ มีความกังวล ถ้าหากเขาเข้ากับอาจารย์และเพื่อนร่วมคณะหรือพวกรุ่นพี่ไม่ได้จะเป็นอย่างไร

“เรากังวลอยู่ใช่ไหม”

“อื้อ...” รินพยักหน้ารับ

“พี่คิดว่ารินต้องทำได้ ขนาดพาลูกแมวออกไปหาหมอที่คลินิกยังทำได้ เรื่องไปเรียนทุกวันให้จบมันจิ๊บๆ อีกอย่างรินต้องรับภาระดูแลฟอร์ดด้วยนะ”

“เอ๊ะ...ให้คนอย่างผมดูแลฟอร์ดน่ะนะ”

พี่ภาริชพูดกลับกันหรือเปล่า ฟอร์ดดูยังไงก็สามารถดูแลตัวเองได้แน่ๆ

“ฟอร์ดค่อนข้างเป็นคนอ่อนโยน ใจดีเกินไป ทั้งยังไร้เดียงสา รินต้องดูแลอย่าให้คนไม่ดีมากล้ำกรายได้นะ พี่ฝากน้องชายของพี่ด้วยนะริน” ภาริชยิ้มหวาน

นรินทร์พยักหน้ารับเบาๆ คิดในหัวว่าตัวเองจะทำได้ไหมนะ แต่พอเห็นสีหน้าเชื่อมั่นของพี่ภาริชก็ตัดสินใจลองดูซักตั้ง

“ผมจะพยายามครับ”

“อืม...ถ้ารินรับปากอย่างนี้พี่ก็สบายใจ” ภาริชหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะสั่งบิงซูช็อกโกแลตมาเป็นของหวานตบท้ายรายการให้นรินทร์ทาน คนถูกเอาใจแววตาระยิบระยับเมื่อบริกรนำสิ่งนั้นมาวางตรงหน้า

ภาริชยกมุมปากโค้งขึ้น ท่าทางมีความสุขของนรินทร์ชวนให้นึกอยากบันทึกความทรงจำไว้ ดังนั้นเขาจึงหยิบมือถือขึ้นมาอัดคลิปเอาไว้แล้วส่งไปให้ณภัทรที่ต้องทำงานแทนเขาดู

ณภัทรส่งสติ๊กเกอร์กรี๊ดกร๊าดมารัวๆ ช่างเป็นพี่ชายที่บ้าเห่อน้องชายเสียจริงๆ ภาริชหัวเราะข้อความมุ้งมิ้งของณภัทร ส่วนนรินทร์มีความสุขกับการกินโดยไม่ได้สนใจคนอื่นเอาเสียเลย เปิดโอกาสให้ภาริชใช้แอพแต่งคลิปสนุกๆ

“รินๆ ดูนี่สิ” ภาริชยื่นคลิปที่ใช้แอพแต่งให้นรินทร์ดู

ในคลิปเป็นนรินทร์กำลังนั่งทานบิงซู แต่ภาริชแต่งเติมให้คนในคลิปกลายเป็นน้องหมู คนถูกแกล้งเกาหัวแกรกๆ พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นพี่ภาริชยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางดูมีความสุขที่ได้แกล้ง

“เป็นน้องหมูก็ดีออกจะตาย ได้กินๆ นอนๆ เล่นโคลนสนุกออก” นรินทร์โคลงศีรษะไปมาแล้วทำท่าจะตักบิงซูทานต่อ แต่พี่ภาริชดันพูดประโยคชวนให้คิดออกมา

“แต่หมูเนี่ย เขาเลี้ยงเอาไว้กินนะ พอขุนเต็มที่เขาก็เอามากินกัน ตอนนี้คงเป็นช่วงที่ต้องขุนอยู่สินะ พี่ต้องต้องขุนรินนานแค่ไหนนะ ถึงจะกินได้เนี่ย แล้วเคี้ยวขนมตุ้ยๆ แบบนี้ คงไม่ใช่คิดจะกินพี่ด้วยหรอกนะ”

ภาริชยิ้มราวกับนางฟ้า ส่วนนรินทร์นะหรือถึงกับอึ้งกิมกี่ เวลาต่อมาเขาก็หน้าแดงระเรื่อ

จากนั้นคนวางระเบิดก็ก้มหน้าก้มตากินขนมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมพอเห็นดวงตาเบิกกว้างของเขาอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มละไมมาให้ ทำเอานรินทร์ต้องก้มหน้าหลบแล้วพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

พี่ภาริชชอบพูดแปลกๆ อยู่เรื่อย คงเห็นเขาเป็นเด็กแน่ๆ เลย ถึงได้แกล้งแซวมาอย่างนี้....ไม่น่าจะมีความหมายไปในทางชู้สาวหรอก.......มั้ง??

พอมองไป ก็โดนมองกลับอีกครั้ง ทั้งที่หน้าสวยขนาดนี้แต่กลับดูสมเป็นผู้ชายมากกว่าพี่ณภัทรพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองเยอะ และเพราะตัวสูงมากเวลาเดินคู่กันทำให้นรินทร์รู้สึกราวกับว่าตัวเองกลายเป็นคนแคระเลยทีเดียว

แต่ว่าทำไมดูน่ารักได้ขนาดนี้ละเนี่ย....ยิ้มให้แบบนี้เหมือนกำลังถูกอ่อยอยู่ยังไงยังงั้น

“เดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้เราไปดูหนังกันนะ พี่น่ะ นานๆ ครั้งจะได้ออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้ ก็เลยคิดว่าถ้าได้ไปโรงหนังบ้างคงดี”

“ครับ...” นรินทร์รับคำ เล่นพูดมาอย่างนี้ใครจะกล้าปฏิเสธ ไม่รู้ทำไม เวลาพี่ภาริชพูดอะไรมาเขาถึงหาทางปฏิเสธไม่ได้เลยสักครั้ง ดังนั้นนรินทร์จึงถูกพามาที่จุดขายตั๋วของโรงหนัง เขาไม่ได้มาที่แบบนี้ 4 ปีแล้ว จึงทำให้ตื่นเต้นมากพอดู

“คนเยอะมากเลย พี่ขี้เกียจซื้อตั๋วหน้าเคาน์เตอร์จัง”

“พี่ภาริชครับ เราสามารถซื้อตั๋วผ่านทางแอพธนาคารได้นะครับ” นรินทร์หยิบมือถือขึ้นมาเปิดแอพธนาคารให้ภาริชดู

“อ้อ...พี่ลืมไปเลย งั้นรอเดี๋ยวนะ” ภาริชหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา แต่ถูกนรินทร์ห้ามเอาไว้

“ให้ผมจ่ายค่าตั๋วหนังให้นะครับ ตอนนี้ในแอพมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เหลือที่นั่งแค่ 80 บาทเท่านั้นเอง”

“แต่...พี่อยากนั่งเก้าอี้พิเศษแบบโซฟา เพราะงั้นให้พี่ซื้อเองดีกว่านะ”

“ไม่ได้ครับ” นรินทร์ยืนกรานอย่างหนักแน่น แค่ตั๋วหนังเขาเองก็สามารถจ่ายให้พี่ภาริชได้

“พี่อยากนั่งโซฟาเราเลือกแบบโซฟาก็ได้ พี่ภาริชดูแลผมทั้งวันแล้ว ให้ผมออกค่าตั๋วให้พี่เถอะครับ นะ ผมอยากเลี้ยงหนังพี่ภาริช”

นรินทร์ส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ ภาริชเอียงคอมองก่อนจะคลี่ยิ้มสวย

“เอางั้นนะ” ภาริชถามเพื่อยืนยันความตั้งใจของนรินทร์

“นะครับ”

“ก็ได้ ถ้านรินทร์อยากเป็นป๋าเปย์ให้พี่นักละก็ แต่รายการอื่นๆ ต่อจากนี้พี่จ่ายเงินจองไว้ล่วงหน้าแล้วคงต้องไว้วันหลัง”

“เอ๋...” ยังมีต่อจากนี้อีกหรือ ถ้าดูหนังเสร็จก็น่าจะเกือบๆ 1 ทุ่ม พี่เขาจะพาไปไหนกันแน่นะ แต่ก็ไม่มีเวลาถามเพราะถูกภาริชคะยั้นคะยอให้รีบซื้อตั๋ว เวลาค่อนข้างพอเหมาะพอเจาะ อีกแค่ 15 นาทีเท่านั้น ก็ได้เวลาหนังฉายพอดี

“เอาล่ะไปซื้อขนมกินกันดีกว่านะ” ภาริชฉวยจับมือนรินทร์ลากไปยังหน้าจุดขายของของโรงหนัง

นรินทร์จ้องมองมือที่ถูกจับเขม็ง พี่ภาริชจะรู้ตัวไหมนะว่าเขาดีใจ แถมยังคิดลึก แต่จะไม่ให้รู้เด็ดขาด เขาจะเงียบเอาไว้ ดังนั้นจึงเนียนบีบมือของภาริชให้แน่นขึ้น แล้วจับมืออีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นไปจนถึงเวลาเดินเข้าโรงหนัง

“รินชอบดูหนังผีสินะ”

“อื้อ” นรินทร์ตอบ เวลานี้โรงหนังยังมืดอยู่และยังไม่ฉายตัวอย่าง

“ไม่กลัวหรือไง”

“ก็กลัวครับ แต่ไอ้ตัวอย่างหนังที่เอามาเผยแพร่ให้ดูตามอินเตอร์เน็ตมันเชิญชวนให้อยากรู้ตอนจบทุกทีเลย”

“งั้นหรือ...” ภาริชหัวเราะเบาๆ “แต่พี่ไม่ค่อยเข้าใจพวกหนังประเภทนี้เท่าไหร่ พี่เป็นคนตกใจยากน่ะนะ เพราะงั้นเวลาดูหนังพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเบื่อจนเผลอหลับประจำเลย ถ้าพี่หลับก็อย่าโกรธนะ”

“อะอื้อ...แต่ถ้าผมกลัวจนคว้ามือพี่มากอดหรือข่วน พี่ภาริชก็อย่าโกรธผมนะ”

“ถึงกับจะข่วนพี่เลยหรือครับ ตั้งใจจะทำสัญลักษณ์ไว้บนตัวพี่หรือเปล่าน่ะ ที่จริงถ้าเป็นรินพี่ก็ไม่รังเกียจนะ”

ภาริชคลี่ยิ้มหวานให้ ส่วนนรินทร์นะหรือหน้าแดงก่ำอีกแล้ว เขาไม่ได้คิดลึกขนาดนี้สักหน่อย พูดไปพูดมา ก็ยิ่งเหมือนกับว่าวันนี้เขาพูดจาแทะโลมพี่ภาริชทั้งวัน

เพราะว่าพี่ภาริชยิ้มแบบนั้นนั่นแหละ ดังนั้นถึงแม้จะตกใจกลัวเวลาผีโผล่มาหลายๆ ฉาก ก็ไม่กล้าไปกอดหรือขย้ำแขนของภาริชทำได้แค่เพียงตั้งใจดูแล้วใช้มือจิกโซฟาอย่างแมวตัวหนึ่ง

ทว่าขณะที่ฉากในหนังน่ากลัวขึ้นทุกทีแล้ว ร่ำๆ จะไม่ไหว เขาต้องการหาที่พึ่ง คิดว่าต้องขอยืมแขนพี่ภาริชซักหน่อยพอหันไปก็เห็นคนข้างๆ หลับคาโรงไปเสียแล้ว

“พี่ภาริช...” นรินทร์กระซิบเสียงไม่ได้ดังไปกว่าเสียงตัวละครในโรง

ตอนนี้จิตใจของเขาจดจ่อกับพี่ภาริชมากกว่าผีบนหน้าจอขนาดยักษ์เสียอีก นรินทร์ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆ หูอีกฝ่าย

“พี่ภาริชครับ” ภาริชนิ่งไม่ไหวติง

สุดท้ายก็เปิดโอกาสให้นรินทร์แอบมองดูใบหน้ายามหลับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ขนตายาวจัง หน้าตาเวลาหลับยิ่งดูสวย โดยเฉพาะที่ริมฝีปาก เป็นสีชมพูระเรื่อ เหมือนกลีบดอกไม้เลย

อยากจูบจัง....

นรินทร์เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เป้าหมายช้าๆ เด็กหนุ่มไม่ต่อต้านแรงปรารถนาด้านมืดของตัวเองเลยซักนิด ในสายตาของเขาตอนนี้เห็นชัดเพียงแค่ริมฝีปากคู่งามตรงหน้า

แค่คิดว่าถ้าแนบจูบลงไปมันจะนุ่มนิ่มซักแค่ไหนกันนะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                   มาช้าเลยขอโทษนะ ตอนนี้งานเราหนักขึ้นอาจจะเปลี่ยนจากอัพทุกวันเป็นวันเว้นวันหรือสองวันครั้งนะคะ



                   แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 ริมฝีปาก 29/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-08-2018 20:31:21
ค้างงงงงงงงงงงงงงง  :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 ริมฝีปาก 29/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 30-08-2018 06:39:08
อรํ๊ย :katai3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 ริมฝีปาก 29/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 30-08-2018 13:35:15
วั้ยยยย ทำไมน้องรุกแรงแบบนี้ 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 ริมฝีปาก 29/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-08-2018 22:07:51
น้องน่ารักกกกก

ดูแลสุขภาพด้วยน้าาคุณนักเขียนน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่31 ริมฝีปาก 29/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 30-08-2018 22:19:11
น้องงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 31-08-2018 00:07:41
บทที่32

จูบ



"ตั้งใจจะลวนลามพี่เหรอครับ" นรินทร์ผงะเมื่อจู่ๆ ภาริชก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน

นี่มันน่ากลัวกว่าหนังผีเสียอีก คนที่คิดจะแอบจูบใจเต้นรัวราวกับกลอง ซ้ำยังกลัวคนตรงหน้ารังเกียจขึ้นมาจับใจ

แย่แน่ ต้องถูกเกลียดแน่ๆ ... ทั้งที่คิดแบบนี้ ทว่าพี่ภาริชกลับทำเพียงกระพริบตาเท่านั้น พร้อมกับค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา

“จะจูบก็ได้นะ”

“อ๊ะ”

นรินทร์ผงะ ไม่คิดว่าพี่ภาริชจะเอ่ยอนุญาติออกมาเอง

“เรื่องเดทวันนี้ตั้งใจขอบคุณที่ช่วยปกป้องพี่ไม่ให้ต้องไปนอนค้างกับคนอื่นสองต่อสอง ส่วนจูบนี่ ให้เป็นรางวัลที่ชนะก็แล้วกัน”

นรินทร์ปั่นป่วนไปหมด ไม่คิดว่าจู่ๆ พี่ภาริชก็พูดออกมาแบบนี้ เขารู้สึกว่าใบหน้าตัวเองตอนนี้ร้อนไปหมดด้วยความอับอาย

คงไม่ใช่ว่าพี่ภาริชตื่นอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ ดูท่าทางแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นคงไม่ลืมตาขึ้นมาได้จังหวะพอดีแบบนี้

“แต่ถ้าจูบแล้วละก็ต้องรับผิดชอบพี่ด้วย”

ภาริชหัวเราะหึหึในลำคอ เขาขยับตัวคร่อมนรินทร์เอาไว้ ทำเอาคนที่อยู่ใต้ร่างตัวแข็งค้างไปเลย

“พี่ชอบสีหน้าแบบนี้ของเราจัง เหมือนกำลังเรียกร้องให้พี่รังแกยังไงก็ไม่รู้”

สีหน้าของนรินทร์ตอนนี้ตลกมาก ภาริชอดไม่ได้ที่จะเป็นคนประทับจูบลงไปเอง ทั้งที่เป็นเพียงรสสัมผัสที่บางเบาราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ แต่กลับทำให้นรินทร์รู้สึกราวกับเวลาหยุดลงชั่วขณะหนึ่ง

“ทีนี้รินต้องรับผิดชอบโดยการคบกับพี่ในฐานะคนรักแล้วล่ะนะ”

นรินทร์ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ กับผลสรุปที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าทุกอย่างโดนคนตรงหน้าวางแผนมาแล้วอย่างดี ไหนจะที่นั่งแบบโซฟานี่อีก ทั้งปลีกวิเวกจากผู้คน

แล้วสภาพที่ถูกกดเอาไว้จนขยับไม่ได้ แถมใบหน้าอีกฝ่ายที่ยื่นมาชิดใกล้ขณะรอคำตอบในระยะประชิดจนมองเห็นรายละเอียดบนใบหน้าอย่างชัดเจน เขาจะไปมีปัญญาปฏิเสธได้ยังไง

“ถ...ถ้าพี่ไม่รังเกียจผ..ผม ได้โปรดเป็นแฟนกับผมเถอะ” อย่าว่าแต่นรินทร์แอบชอบอีกฝ่ายมาตลอด ดังนั้นแม้จะฉุกละหุก หรือตกอยู่ในสถานการณ์ประหลาด ลึกๆ ในใจก็มีความยินดีแฝงอยู่



"ด้วยความยินดีเลยล่ะ"

ภาริชฉีกยิ้มกว้าง ในที่สุดก็สมใจเขาสักที อดใจไม่ได้ที่จะกดจูบลงไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากระทำในฐานะคนรัก สัมผัสนุ่มหยุนชวนให้นรินทร์ฝันเคลิ้มและเมามาย คราวนี้ไม่ใช่แค่แตะเบาๆ เท่านั้น เขาสอดลิ้นเข้าไปด้วย

ทำให้นรินทร์รู้สึกเหมือนถูกหลอมละลายราวกับช็อกโกแลตที่เขาชอบทาน สมองขาวโพลนไปหมด เกือบลืมกระทั่งการหายใจ นานทีเดียวกว่าที่ภาริชจะปล่อยมือ

“หึหึ” ภาริชหัวเราะเบาๆ นั่นเพราะสีหน้าเหม่อลอยของคนใต้ร่าง

จากนั้นภาริชขยับไปนั่งดูหนังตามปกติ สำหรับนรินทร์ทั้งที่ฉากผีโผล่โคตรจะน่ากลัว แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกใดๆ ทั้งนั้น ในหัววนเวียนคิดถึงแต่รสสัมผัสนุ่มนิ่ม

หนังผีหนังเผออะไรนอกจากไม่น่ากลัว ยังดูไม่รู้เรื่องอีกด้วย หลังจากหนังจบภาริชจูงมือนรินทร์ออกจากโรงหนัง เป็นเวลาทุ่มกว่าๆ เกือบสองทุ่ม เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ คิดว่าควรแก่เวลาได้ซักที

ดังนั้นจึงพานรินทร์ขึ้นรถแล้วขับตรงไปยังโรงแรมระดับ 5 ดาว เจ้าฮิคกี้น้อยยังคงเอ๋อ เพราะอย่างนี้นี่แหละกระทั่งถูกพามาในห้องสวีทสุดหรูแล้วถึงค่อยตื่นตระหนก

“เอ๊ะ..เอ่อ...”

รู้ตัวจนได้ ภาริชลอบยิ้มร้าย อยากจะดูสิว่าเจ้าฮิคกี้จะทำอย่างไรต่อไป

นรินทร์ตกใจสุดๆ เมื่อพบว่าตนเองถูกพาเข้ามาในห้องสวีทของโรงแรมระดับห้าดาว ตอนแรกๆ ก็สงสัยอยู่ว่ามาทำไม คิดว่าพี่ภาริชอาจชวนมาทานอาหารที่ภัตตาคารของที่นี่

แต่กลายเป็นว่าเขาถูกพาเข้าห้อง เขาขอคบอีกฝ่ายวันนี้เองนะ หรือว่าเขาแสดงท่าทางให้ท่าออกมาโดยไม่รู้ตัว พี่ภาริชก็เลยคิดจะเผด็จศึกในคืนนี้ ไม่นะ มันเร็วเกินไปไม่ใช่หรือ

นรินทร์มองดูเตียงเลิศหรูอลังการสลับกับมองดูภาริช สีหน้าบอกชัดว่ากังวลและสับสนสุดๆ ใบหน้าจึงสลับระหว่างเขียวกับแดง ใช่ว่าเขาจะไม่เคยคิดเรื่องทะลึ่ง นับตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบพี่ภาริช เขาก็แอบ... ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองลอบอ่านการ์ตูนboy love เพื่อศึกษาหาความรู้

บ้าเอ๊ย...ศึกษาอะไรกันว้า เพราะว่าดันรู้มากแบบแก่แดดนั่นแหละ เวลานี้เลยคิดถึงแต่เรื่องอีโรติค กับพี่ภาริชเนี่ย

“พี่...ภาริช...ผ...ผม...” นรินทร์น้ำตารื่นนิดๆ นึกอยากร้องไห้ ในความไม่ได้เรื่องได้ราวของตนเอง

ถ้าเป็นคนอื่นถูกเชื้อเชิญอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ ก็ต้องพร้อมรบทันที ไม่ให้เสียเชิงชาย

“ผ...ผม...ยังไม่พร้อม”

“ทำไมยังไม่พร้อมล่ะ เอาน่ามาตรงระเบียงของห้องดีกว่า”

“อ..เอ๊ะ...ไม่ทีเตียง...แต่เป็นระเบียงเหรอ...”

นรินทร์ถูกภาริชลากไปยังระเบียงที่กว้างมากเหลือเกิน บริเวณนั้นนอกจากกว้างแล้วยังมีสวนสวย มองเห็นดวงดาวได้ แถมยังสามารถดูแสงไฟยามค่ำคืนจากตึก รถราและทิวทัศน์สวยด้านล่างแบบชัดเจนสุดๆ

“ร...เรา...จะ...กัน...ที่นี่หรือครับ”

“ใช่” ภาริชคลี่ยิ้มละไม “เราจะกินข้าวกันที่นี่ ดูสิวิวสวยมากเลยเนอะ”

นรินทร์เข่าทรุดทันที เมื่อสิ่งที่คิดไว้กลายเป็นอย่างอื่น เรียกได้ว่าทั้งดีและไม่ดี ภาริชเห็นท่าทางน่ารักๆ นั่นแล้วหัวเราะเสียงต่ำ

ถ้าหากคาดเอาไว้ไม่ผิด เจ้ารินต้องคิดทะลึ่งลามกอยู่แน่ๆ ถึงมันจะมาจากการจงใจแกล้งของเขาก็เหอะ

“คิดลามกอะไรอยู่หรือครับ”

“ป..เปล่า” นรินทร์ส่ายหัวพัลวัน ดูแล้วตลกสุดๆ

“ถ้ารินอยากทำทะลึ่งกับพี่ก็ได้อยู่นะ เพราะเราเป็นแฟนกันแล้ว....” ภาริชเคลื่อนกายเข้าไปหานรินทร์ที่ยังนั่งกองอยู่บนพื้น

“ว่าไงครับ รินอยากเริ่มอะไรก่อนดี”

"......” นรินทร์ได้แต่อึ้ง ไม่คิดว่าคนที่อ่อนโยนใจดีมากก่อนบทจะรุกก็รุกหนักจนตั้งตัวไม่ติด

“ถ้าอย่างนั้น” ภาริชฉุดให้นรินทร์ยืนขึ้น ชักนำให้คนตัวเล็กกว่าเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

“จูบพี่สิครับ พี่อุตส่าห์เป็นฝ่ายจูบตั้งสองครั้ง รินเองก็ต้องจูบพี่คืนบ้างสิครับ หรือว่ารินรังเกียจ.....”

"เปล่าครับ ไม่ได้รังเกียจ...."

"งั้นก็จูบสิครับ..."

นรินทร์รู้สึกเหมือนถูกเสียงของไซเรนหลอกหลอน ไม่รู้ทำไมเขาใช้มือคล้องคอพี่ภาริช เขย่งปลายเท้าป้อนจูบไปหาคนที่เขาชอบมากเหลือเกิน ความรู้สึกนี้คือรักหรือไม่ไม่รู้ แต่เขาไม่สามารถหยุดมันได้อีกแล้ว

เป็นจูบที่แผ่วหวิวเหมือนกับจูบครั้งแรกในโรงหนัง ทั้งอย่างนั้นกลับรู้สึกเต็มตื่นในอก นรินทร์มีความสุขเคลิบเคลิ้มยินดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

จูบกับคนที่ชอบมันดีอย่างนี้นี่เอง

จากนั้นนรินทร์ก็ทานอาหารค่ำกับภาริช เขาจำแทบไม่ได้ว่าทานอะไรไปบ้าง รู้แต่ว่าอาหารอร่อย ใบหน้าของพี่

ภาริชก็อร่อย มีความสุข เขามีความสุขสุดๆ ไปเลย

หลังทานอาหารเสร็จ ภาริชพานรินทร์ส่งกลับบ้าน เขารู้สึกได้ถึงความอาวรณ์ที่เด็กน้อยมีต่อเขา

“เป็นเด็กดี วันนี้รีบนอนซะนะครับ อีกไม่นานต้องแข่งชิงพื้นที่กันแล้ว รินหาคนเข้ากิลได้แล้วหรือยัง”

“กิลเรามีแค่พวกเราห้าคนก็พอแล้วครับ แต่ถ้าพันธมิตรล่ะก็ ผมเตรียมไว้พร้อมแล้ว เพราะอย่างนั้น สงครามแย่งชิงปราสาทพี่ไม่ต้องกังวลเลยครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ภาริชใช้มือเกลี่ยแก้มนิ่มของนรินทร์ไปมา เขาหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ

นรินทร์ใช้มือจับบริเวณที่ถูกหอม ตรงนั้นร้อนผะผ่าว

พี่ภาริชไปแล้ว นรินทร์ยืนส่งอีกฝ่าย รอจนรถคันงามของคนรักห่างออกไปไกลลับตา



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



มาลงดึกเลยค่า แสดงความคิดเห็นเป้นกำลัใจกันบ้างนะคะ







หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 31-08-2018 07:29:28
หวาน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: TNM ที่ 31-08-2018 08:13:14
น่ารักงุงิมาก (ชั้นหลงรักแบดบอยแบบเมษาเข้าให้แล้วล่ะ แงๆๆฟ เหมือนแกรี่ในยากนักรักนี้มากรักที่สุดในโลกเลย)
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 31-08-2018 08:34:05
พี่ภาริชหลอกเด็ก หรือเด็กก็ยอมให้หลอก 55555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 31-08-2018 09:17:42
จากลาสบอสมาเป็นท่านเทพโอ้วางแผนไว้หมดแล้วสิเนี้ย เจ้ารินตัวน้อยๆ จะไปไหนรอดเนี้ย ร้ายจริงๆ  o13

 :L2:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-08-2018 18:30:35
พี่จ๋าาา อย่าแกล้งน้อยเยอะ5555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 31-08-2018 22:23:17
ฟินบอกเลอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 01-09-2018 11:11:28
หวานมากๆ ฟินสุดๆเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่32 จูบ 30/8/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 04-09-2018 22:37:21
แวะมารอจ้าาาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 05-09-2018 08:30:45
บทที่33

ผู้ที่อยู่เหนือกว่า

เสียงเตือนจากข้อความดังขึ้น ภาริชหยิบมือถือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นชานมไข่มุกโคตรอร่อยส่งข้อความมาหา

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : วันนี้ฉันว่าง ขอพาฟอร์ดไปเที่ยวเล่นสักหน่อยนะตอนหลังเลิกเรียน

โกรธเกรี้ยว : ได้สิ แล้วจะกลับกี่โมงล่ะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่แน่ใจ ฉันอยากจะชวนทานอาหารค่ำที่บ้านของฉัน แล้วนั่งดูหนังด้วยกันแบบโต้รุ่งไรงี้ พรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร

ภาริชหัวเราะน้อยๆ ดูหนังหรือทำอะไรกันแน่ล่ะ แต่ก็เอาเถอะ เมื่อวานนี้ทั้งวันเขาเองก็เพิ่งมีเดตกับรินมา แถมยังเพิ่งตกลงคบหา จึงทำให้ยังอารมณ์ดีอยู่มาก ยิ่งเมื่อนึกถึงน้องชายที่เป็นห่วงว่าเขาจะขย้ำเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะแล้วก็นึกขำ

ฟอร์ดเองก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยแท้ๆ ยังไวไฟตกลงคบหากับเจ้าตะวันที่เป็นนายแบบอย่างหน้าตาเฉยตัดหน้าคนเป็นพี่อย่างเขาไปได้ ทำเอาเขาเซ็งที่กว่าตัวเองจะก้าวหน้ากับรินได้ขนาดนี้ก็ใช้เวลาเป็นปีๆ

แถมที่น้องชายเขาเป็นไปได้ขนาดนี้ก็เพราะตะวันนี่แหละ.....แล้วเจ้านั่นระรื่นชวนน้องชายชาวบ้านไปเที่ยวเล่น ค้างคืนอีกต่างหาก

โกรธเกรี้ยว : อย่าคิดทำทะลึ่งกับฟอร์ดล่ะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : จ้า...

ตะวันแลบลิ้นให้มือถือตัวเองอย่างเจ้าเล่ห์แสนกล สาวน้อยเอ๋ยเธอไม่เข้าใจวงจรชีวิตรักของผู้ชายซักนิด ผู้ชายน่ะเวลาได้ใกล้ชิดกับคนรักมันก็อยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงเป็นธรรมดา อย่าว่าแต่เขานึกอยากชวนไปเที่ยวที่คอนโดของเขาสองต่อสองเลย

จุดประสงค์ก็รู้ๆ กันอยู่ เขาอยากใกล้ชิดแนบแน่นกับฟอร์ดขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง อย่าหาว่าใจเร็วเลยนะ ก็ไอ้ความน่ารักนั่นมันทำให้อดใจไม่ไหวจริงๆ หลังๆ เวลาเจอกันตอนไปถ่ายแบบด้วยกัน ขยันทำดาเมจใส่เขาเหลือเกิน

ตัดสินใจแล้วยังไงวันนี้ต้องคืบหน้าไปอีกขั้นให้ได้ อย่างน้อยก็ขอจูบซักหลายๆ ที อันที่จริงหลังจากจูบแรกและหนที่สองเขากับตะวันก็ไม่ได้แนบชิดกันอีกเลย ต่างคนต่างก็ไว้ตัวจนน่าอึดอัด น่าหงุดหงิด น่าหงุดหงิดสุดๆ

หลังจากตัดสัมพันธ์กับต้นกล้าไป ฟอร์ดก็ไม่พูดกับต้นกล้าอีกเลย อีกฝ่ายก็เมินเขาเสมือนไม่มีตัวตนเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ย้ายที่นั่ง หรือแสดงออกอย่างชัดเจนเกินไปว่ามิตรภาพของเขากับต้นกล้าได้ขาดไปเรียบร้อยแล้ว

เขาไม่ต้องการให้เป็นราวเป็นราวใหญ่โต แต่ต้นกล้าก็มองฟอร์ดในฐานะศัตรูไปแล้ว เพราะอย่างนั้นนอกจากเรื่องเรียนที่จำเป็นจริงๆ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่คุยหรือปฏิสัมพันธ์กันไปมากกว่านั้น



ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : วันนี้หลังเลิกเรียนเราไปดื่มกันที่บ้านพี่นะ พี่จะไปรับนายที่โรงเรียน บอกโกรธเกรี้ยวแล้ว

Ford : ผมเป็นเยาวชนนะครับ ดื่มไม่ได้ อีกอย่างผมคออ่อนมาก ท่านพี่เลยห้ามเด็ดขาดจนกว่าจะอายุถึง

ฟอร์ดไม่ได้รู้เลยว่าเผยจุดตายของตนให้จิ้งจอกรู้เข้าเสียแล้ว ตะวันเผยสีหน้าชั่วร้ายจนแม้แต่พี่ภูมิผู้จัดการคนดียังสะดุ้งตกใจ

“ทำสีหน้าชั่วร้ายอย่างนั้นทำไมตะวัน พี่กลัวนะเนี่ย”

ตะวันสนใจที่ไหน เขาหัวเราะหึหึอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้ามืดทะมึนดูโฉดชั่วเหมือนตัวร้ายที่จ้องตะครุบเหยื่อของตัวเอง

“อ่า...อย่าไปก่ออาชญากรรมนะตะวัน พี่ไม่อยากไปประกันตัวเรานะ”

ฟังเสียที่ไหน ยิ่งคิดถึงผลสำเร็จของแผนการ ตะวันยิ่งย่ามใจ ไปเดตกันสองต่อสองที่บ้านของเขา ตะวันก็หมายมั่นว่าจะได้คืบหน้าแนบชิดกับฟอร์ดซักนิดซักหน่อย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ดื่มเป็นพวกไวน์คูลเลอร์ก็ได้นี่ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ เด๋วพี่ดื่มคนเดียวก็ได้นะ

Ford : ไม่ได้ครับกฏยังไงก็ต้องเป็นกฎ พี่ตะวันไม่รู้หรอกครับว่าพี่ผมเข้มงวดขนาดไหน

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ช่วยไม่ได้ งั้นฟอร์ดก็กินน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมไปก็แล้วกัน เพราะงั้นไปบ้านพี่นะ

Ford : ผมปฏิเสธได้ด้วยหรือ พี่ตะวันเอาแต่ใจจะตาย

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ขอโทษน้า...ที่เอาแต่ใจ แต่ว่าพี่ชอบฟอร์ดจริงๆ นะ

Ford : ผมก็ชอบพี่เหมือนกัน



หลังจากโต้ตอบกันเสร็จ ฟอร์ดก็กลับไปตั้งใจเรียนเหมือนเดิม จวบจนเลิกเรียน เขาเก็บกระเป๋าเตรียมออกไปรอพี่ตะวันที่หน้าโรงเรียน พอเงยหน้าขึ้นต้นกล้าก็เดินไปถึงหน้าประตูห้องเรียนแล้ว ที่นั่นมีคนมายืนรอต้นกล้าอยู่

นี่ก็วันที่ 6 แล้ว ที่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มารับต้นกล้าถึงหน้าห้องเพื่อกลับบ้านด้วยกัน

“บอกแล้วว่าไม่ต้องมารับถึงหน้าห้องเรียน” ต้นกล้าบ่นเสียงเขียว

“พี่อยากมารับนายนี่ อยากเจอเร็วๆ”

เพื่อนร่วมห้องพากันจ้องมองด้วยความพิศวง ไม่ใช่เรื่องที่ต้นกล้าคบหาผู้ชาย แต่เป็นเรื่องที่อีกฝ่ายมีคนมาหลงชอบแบบหัวปักหัวปำต่างหากที่น่าสนใจ แถมผู้ชายคนนี้ยังหล่อระดับเดียวกับขุนนางยุโรป ดูยังไงก็ต้องเป็นลูกครึ่งชาวต่างชาติจากประเทศไหนซักแห่ง

ความหล่อเลิศจนทิ่มตา เมื่อถูกจับคู่เข้ากับต้นกล้าที่หน้าตาค่อนไปทางผู้หญิงและเรือนกายไม่สูงมากนัก มันก็ทำให้สาววายในห้องแอบกรี๊ดเบาๆ ถึงจะไม่ชอบนิสัยต้นกล้ามากนักก็ตาม

ฟอร์ดมองตามหลังต้นกล้าด้วยความเป็นห่วงนิดๆ ถ้าหมอนี่ไม่ถูกหลอกก็จะดีหรอก คิดแล้วก็ส่ายหัวไปมา

<เรานี่น้า ถึงขนาดนี้ยังอุตส่าห์ห่วงต้นกล้า ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลยสักนิด...>

จากนั้นฟอร์ดก็ออกจากห้องเรียนตรงไปยังประตูโรงเรียน ที่นั่นรถสปอร์ตสุดหรูของพี่ตะวันจอดรออยู่ และพี่ตะวันก็ยืนพิงประตูรถแผ่รัศมีแห่งเทพเฉิดฉายจนคนที่เดินผ่านตาพร่าไปหมด ราวกับหลุดออกจากจากหนังสือการ์ตูนทำเอาเขาเผลอยิ้มออกมา

“ฟอร์ด” ตะวันโบกมือให้ฟอร์ด เขาดีใจที่ได้เห็นหน้าคนรัก

“เด่นเกินไปแล้วครับ” ฟอร์ดยิ้มให้อีกฝ่าย ในใจก็นึกหวงนิดๆ ที่คนของเขามีแต่สาวๆ มาเหลียวมองด้วยความสนใจ มีหลายคนด้วยซ้ำที่ใจกล้าถึงขนาดเข้ามาทักทายเพื่อขอทางติดต่อเชื่อมสัมพันธ์

“ธรรมดาน่า ก็พี่เป็นคนหน้าตาดีนี่นา แค่นี้ยังน้อยเกินไป ถ้าลองถอดแว่นตาออกให้คนรู้ว่าเป็นใครสิ รับรองโรงเรียนแตก....ปะ เราไปกันดีกว่า”

ตะวันเปิดประตูรถให้ฟอร์ดขึ้นไปนั่ง แล้วกระโดดขึ้นรถบ้างก่อนจะขับรถตรงไปที่คอนโดหรูของตัวเอง



ชั้นบนสุดบนตึกสูงระฟ้าใจกลางกรุงคือที่พักอาศัยของคนดังอย่างตะวัน ที่ๆ เขาเรียกมันว่าห้อง แต่สำหรับคนอื่นมันกว้างกว้างบ้านเดี่ยวปกติธรรมด้วยซ้ำ เพราะมันกินพื้นที่ทั้งชั้นไปเลย แถมยังมีสระว่ายน้ำอีกต่างหาก

การตกแต่งสไตย์ลอฟท์ที่ดูเรียบๆ เท่ๆ บ่งบอกรสนิยมเจ้าของได้เป็นอย่างดีสมกับที่เป็นคนดังแถวหน้าของประเทศ ทำเอาฟอร์ดอดแกล้งพูดไปไม่ได้ว่าเขาเป็นที่เท่าไหร่แล้วที่ถูกหิ้วตัวมาที่บ้าน ซึ่งคำตอบก็ไม่ต่างกับที่เขาคิดเท่าไหร่ว่าอีกฝ่ายคงจะตอบว่าเขาเป็นคนแรก เพียงแต่ว่าตะวันพูดอย่างหนักแน่นกว่าที่คาดเอาไว้

ที่ผ่านๆ มาก็เคยเล่นๆ อยู่บ้าง แต่จบที่โรงแรม และก็มักเป็นความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนเท่านั้น คนที่ตะวันขอคบและคิดจะจริงจังด้วยนั้นคือฟอร์ดเป็นคนแรก

กับแกล้มมากมายหลายอย่างเรียงรายบนโต๊ะเตี้ยที่ชุดโซฟาหรู เบื้องหน้ามีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่พร้อมด้วยเครื่องเสียงอลังการ เวลานี้พี่ตะวันนั่งเบียดมาข้างๆ แขนข้างหนึ่งกอดคอดึงตัวเขาให้ไปแนบชิดสนิทสนม

ตะวันเป็นคนชอบสกินชิพ เสพติดการกอดการนัวเนียมากถึงมากที่สุด ฟอร์ดรู้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะว่าทุกครั้งที่เจอหน้ากัน คนรักที่อายุมากกว่าคนนี้จะมือถึงไม้ถึงตลอดเวลา

“นานๆ จะได้แตะตัวเราแบบนี้ซักทีพี่แทบขาดใจตาย”

ที่ว่านานๆ นี่คือนานๆ ถี่ใช่ไหมครับ พี่กอดฟัดลูบคลำผมจนเฉามือทุกครั้งที่เจอกันแล้วเนี่ย ฟอร์ดแค่คิดไม่ได้พูดออกไป เขาทำเพียงแค่ยิ้มนิดๆ ให้อีกฝ่าย

“นี่...เราก็คบกันมาได้เกือบเดือนแล้ว ฟอร์ดไม่อยากดู๋ดี๋กับพี่หรือไง” ตะวันกระซิบข้างหู กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจากกายของเขาจนรู้สึกได้ ตะวันกรึ่มๆ นิดๆ แต่ไม่ได้เมาจนคงสติไม่อยู่

“พี่เมาแล้วครับ” ฟอร์ดหน้าแดงซ่านเมื่อโดนตะวันเม้มปากเบาๆ ที่ติ่งหู เขานึกถึงช่วงเวลาโหดร้ายที่ท่านพี่ติวเข้มเรื่องการทำรักของชายกับชายเมื่อไม่นานมานี้ พี่ตะวันอยากทำเรื่องอย่างว่ากับเขาตอนนี้หรอกหรือ ไม่ใช่ว่ามันเร็วเกินไปหน่อยรึไง

เพราะมัวแต่ใจเต้นราวกับกลอง แถมยังประหม่านั่นแหละเลยไม่ได้ดูว่าไอ้แก้วที่ตัวเองหยิบมาดื่มแก้เขินคือแก้วของใคร ฟอร์ดดื่มเหล้าในแก้วของตะวันเข้าไปหลายอึก กว่าจะรู้ตัวก็เกิดอาการมึนเมาเฉียบพลัน หน้าแดงก่ำแถมตาเยิ้มไปอีกด้วย

“อืม...ฟอร์ดดื่มได้นี่ เอาอีกแก้วไหม” ดูเป็นตาลุงที่ประสงค์ร้ายสุดๆ หนุ่มกลัดมันวัย 21 คะยั้นคะยอเทเหล้าให้คนอายุน้อยกว่าดื่มแก้วถัดไป แล้วฟอร์ดก็ไม่ปฏิเสธเพราะเมาไปเรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายเทให้เท่าไหร่ ฟอร์ดก็รับมาดื่มเท่านั้น

"ฟอร์ดครับ รังเกียจพี่รึเปล่า ทำไมถึงไม่อยากทำกับพี่บ้างเลยล่ะ" ตะวันกลายสภาพเป็นไม้เลื้อยอย่างสมบูรณ์แบบ มือที่เหมือนเเถววัลย์ ไม่ก็ปลาหมึกลูบไล้ไปทั่วร่างคนอายุน้อยกว่าอย่างไม่อาจห้ามใจ

หากจะพูดว่าเพราะรูปลักษณ์ที่ถูกใจแล้วคงไม่ใช่เหตุผลที่ตะวันนึกชอบฟอร์ดขึ้นมา เขาชอบความใสซื่อของฟอร์ดมากที่สุด ทั้งที่ใจดีอ่อนโยนและอ่อนต่อโลกถึงขนาดนี้ แต่พอเพื่อนหรือคนที่ดีกับตัวเองต้องลำบากหรือเดือดร้อนแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะวางเฉย

ฟอร์ดดีกับต้นกล้าเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อน ดังนั้นถึงแม้จะต้องลำบากก็ไม่ปริปากบ่น กลับกันเมื่อต้นกล้ามาเอาเปรียบคนที่ดีกับตัวเอง ฟอร์ดถึงทนไม่ได้

ลำพังตัวเองเดือนร้อนยอมได้ แต่คนอื่นมาเดือดร้อนกลับยอมไม่ได้.....

นิสัยนี้นี่แหล่ะที่ทำให้ตะวันสนใจฟอร์ดขึ้นมาอย่างจริงจัง เพราะลำพังแค่คนหน้าตาดีที่จะเข้ามา ก็มีอยู่ในชีวิตตะวันมากมาย แต่คนที่นิสัยเหมือนฟอร์ดกลับไม่มีแม้แต่คนเดียว

ถึงจะตัวโตไปหน่อย แต่ก็น่ารักเกินจะห้ามใจ ตะวันคิดอย่างนี้จริงๆ

“ไม่ใช่พี่ตะวันคนเดียวซักหน่อยที่อยากทำเรื่องอย่างว่า” เมาแล้วฟอร์ดเมาแล้วจริงๆ ใบหน้าเป็นสีแดงก่ำซ้ำยังเริ่มพูดในสิ่งที่ปกติไม่มีทางที่จะพูดออกมา

“ผมเองก็อยากเป็นหนึ่งเดียวกับพี่เหมือนกัน”

“คิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”

ตะวันเผยสีหน้าหื่นกระหาย คำถามที่ไม่รอคำตอบอีกต่อไป เขาเข้าไปกอดจูบนัวเนียอีกฝ่าย พรมจูบไปทั่วใบหน้าซุกไซ้ซอกคอแดงเถือกอย่างห้ามใจไม่อยู่ ลิ้นร้อนๆ แทรกเข้าไปในโพลงปากของฟอ์ดอย่างหิวกระหาย ราวกับปรารถนาจะกลืนกินอีกฝ่ายลงไป

มีอารมณ์ขึ้นมาแล้ว จริงๆ ก็คาดหวังเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ตะวันปลดเสื้อของฟอร์ดออกอย่างคล่องมือ เผยให้เห็นเรือนร่างสมบูรณ์แบบไร้ส่วนเกินท่อนบนของฟอร์ดที่ชวนให้กระโจนเข้าใส่

“พี่ขอได้ไหม พี่จะรับผิดชอบนายไปทั้งชีวิตเอง พี่สาบาน” ตะวันลากลิ้นที่ข้างใบหูฟอร์ดก่อนจะงับเบาๆ เรียกเสียงครางเบาๆ จากคนถูกกระทำที่ตัวนี้รู้สึกร้อนไปหมดทั้งร่างกาย

“สาบานเลยเหรอครับ.....อึก” ฟอร์ดตั้งคำถามแต่ไม่ได้ปฏิเสธแถมยังส่งยิ้มหวานเยิ้มมาให้ มันทำให้ตะวันฮึกเหิม

“แน่นอนพี่ไม่ผิดคำสาบานแน่ๆ”



หลังจากลั่นสาบาน ตะวันก็เริ่มพรมจูบดูดดื่มจากปากไล่เม้มเรื่อยจากเนินอกไล่ลงมาจนถึงสะดือ นัวเนียอยู่แถวนั้นอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะปลดกระดุมรูดซิบกางเกงกอบกุมเอาเครื่องเพศของฟอร์ดออกมา

ทำไมมันใหญ่จังวะ ตะวันบ่น ย่นจมูกกับขนาดที่มโหฬารของฟอร์ดน้อย แต่ว่าความเป็นรุกไม่ได้อยู่ที่ส่วนสูงหรือขนาดเจ้าโลกเว้ยยย มันอยู่ที่ลีลาต่างหาก เดี๋ยวจะจัดการให้หลอมละลายเลยคอยดู

คิดดังนั้นตะวันก็จัดการโลมเลียเครื่องเพศตรงหน้า เขาละเลียดทุกอณูไม่ว่าจะเป็นส่วนที่ตั้งตรงขึ้นมาแล้วหรือเจ้าส่วนกลมๆ ทั้งสองอัน

“พ...พี่ตะวัน” ฟอร์ดครางเสียงหวาน ยิ่งกระตุ้นให้ตะวันย่ามใจ เขาทั้งใช้มือรูดรั้งทั้งครอบปากลงไป

ตะวันเคยทำแบบนี้กับพวกแฟนเก่าๆ เยอะแยะ เขาคบได้ทั้งชายและหญิง นอกจากนั้นกับผู้ชายเขายังคุ้นชินมากเพราะปรนเปรอให้ในฐานะฝ่ายรุกที่ช่ำชองมาอย่างยาวนาน

“พี่ตะวันผมไม่ไหวแล้ว” ฟอร์ดครางเสียงแผ่ว ตะวันได้ยินแล้วยิ้มกริ่มภาคภูมิใจในตัวเองที่กระตุ้นอารมณ์ของคนไร้เดียงสาขึ้นมาจนถึงขีดสุด

สงสัยว่าจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะอีกฝ่ายโถมเข้ามากอดจูบอย่างดุดันจากนั้นก็จับพลิก ตะวันถูกฟอร์ดคร่อมทับลงมา

“อยากออนท็อปหรือครับ จะดีหรือฟอร์ดยังมือใหม่นะ...”

ยังพูดไม่จบประโยคดี ฟอร์ดก็กดจูบลงมา เป็นจูบป่าเถื่อนดุดันจนเกินจินตนาการ น้ำหนักที่มากกว่าทำให้ตะวันขัดขืนไม่ไหว แต่เมื่อขัดขืนจนสุดพลังก็ทำได้เพียงสลัดตัวออกมาเพียงชั่วเสี้ยวหนึ่ง สายตาที่ฟอร์ดมาลงมาในตอนนี้มันราวกับดวงตาสัตว์ป่าที่ส่องประกายในความมืด ตะวันสร่างเมาในทันที

"เฮ้ยยยย หยุดก่อน ฉันไม่รับ...อ๊ะ...." รู้สึกดีเกินจิตนาการ ตะวันหลุดเสียงครางแผ่วหวิวออกมาในที่สุด ตอนนี้เขาหยุดอะไรไม่ได้แล้ว........

...........................

.............

ฟ้าสว่างคาตา......



ตะวันค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ร่างกายเขารวดร้าวและเต็มไปด้วยรอยกัดรอยจูบ ส่วนฟอร์ดนะหรือตอนนี้หลับสนิท หน้าพริ้ม อิ่มเอมเป็นที่สุด

บ้าเอ๊ย...

ตะวันซบหน้าลงบนฝ่ามือทั้งสองข้าง

ลูกหมาน่ะใช่ แต่ดันเป็นหมาป่าไปเสียได้ ขายหน้าว้อย

นี่คนที่เป็นรุกมาตลอดอย่างเขาต้องมาถูกกินแบบนี้หรือนี่ แถมยังบทรักมาราธอนยันฟ้าสาง ที่เพิ่งจะเสร็จหมาดๆ ไปนี่มันอะไรกัน เมื่อมองนาฬิกาก็รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี่เอง โชคดีที่วันนี้ไม่มีงาน แล้วก็ช่วงนี้ไม่มีงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ หรืองานที่ต้องโชว์เนื้อหนัง ไม่งั้นสภาพตอนนี้คงต้องเป็นที่อับอายแน่ๆ

“พี่ตะวัน...ตื่นแล้วหรือครับ”

ตะวันสะดุ้ง เขาหันไปยิ้มแห้งๆ ให้ฟอร์ด อุตส่าห์ระมัดระวังไม่ทำเสียงแล้วแท้ๆ กลับไปปลุกอีกฝ่ายขึ้นมาซะได้

“พี่จะว่าอะไรไหม...ถ้าผมอยากทำแบบเมื่อกี้นี้อีกรอบ”

ฟอร์ดถามด้วยอาการงัวเงีย เลื่อนตัวมาหนุนตักตะวันแล้วกอดเอวเอาไว้หลวมๆ ราวกับจะออดอ้อน

“หะ..ห๊ะ”

แต่เดียวก่อน สถานการณ์นี้พลิกโอกาสได้นี่ ท่าทางยังไม่ตื่นเต็มที่เหมือนคนละเมออยู่ แถมเรี่ยวแรงก็คงใช้ไปหมดเรียบร้อยแล้ว.....

“ก็ได้ แต่ฟอร์ดท่าทางจะเหนื่อย เพราะงั้นคราวนี้ให้พี่...”

ถูกกระชากลงไปนอนบนเตียงอย่างกะทันหัน ฟอร์ดทาบทับลงมา

“ให้พี่อะไรเหรอครับ....” ฟอร์ดส่งยิ้มน่ารักๆ มาให้ ตะวันได้แต่ฉีกยิ้มอันทรงเสน่ห์ซึ่งติดอันดับชายหนุ่มที่ทำให้สาวๆ หลงใหลออกมาโต้ตอบ

ใจละลาย ไอ้ตะวันนั่นแหละที่ใจละลาย ทำไมเจ้าหมาป่าห่มหนังแกะตัวนี้มันถึงได้น่ารักแบบนี้นะ

“ผ..เพลามือกับพี่บ้างนะ พี่ร้าวไปหมดทั้งตัวแล้ว...”

ไม่เคยขอความเมตตากับใครแบบนี้มาก่อน แต่ที่เป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร น่าจะเป็นเพราะเขารักฟอร์ดมากนั่นแหละ

“ต...แต่เดี๋ยวคราวหน้า คราวหน้าให้พี่เป็นฝ่ายทำบ้าง”

ถูกจูบลงมาอย่างแนบแน่นสกัดกั้นคำร้องขอความเท่าเทียมไปจนหมด โชคดีจริงๆ ที่วันนี้เป็นวันเสาร์ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดของทั้งคู่

ไม่สิ โชคไม่ดีเลยสักนิด..... นี่เขาต้องถูกทำอีกครั้งเจ้าสัตว์ป่านี่ถึงจะพอ

มิน่าล่ะถึงไม่ห้ามไม่ให้เขาพาฟอร์ดมาค้าง โกรธเกรี้ยวที่เธอพูดว่าอย่าหาว่าไม่เตือนน่ะ หมายถึงแบบนี้นี่เองสินะ......



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                     หายไปหลายวันเลย เราไปออกบู๊ตที่เมืองทองมาจ้า ขออำภัยที่ให้รอนานนะ

                     แล้วก็ข่าวดีของข้าพเจ้าเอง คือจ้างวาดปกแล้ว ได้คิดประมาณปลายเดือนตุลา 5555

                       นักวาดคนไหนขออุบไว้ก่อนน้า อิอิ รอดูกันได้นะจ๊ะ

                        ถ้าวาดปกเสร็จเขียนเรื่องจบจะเปิดพรีแน่นอน 

                          แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 05-09-2018 08:44:33
จะกินเด็ก ดันเจอเด็กกิน จากหมาน้อยกลายร่างเป็นหมาป่า :m20: สงสารพี่ตะวันดีป่าวน้า
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 05-09-2018 09:10:51
วางแผนจนตัวเองถูกกินซะนี่ 55555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 05-09-2018 12:18:40
ตะวันคิดจะกินหมาป่าเหรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 05-09-2018 18:31:13
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 05-09-2018 19:01:43
ท่านพี่ติวให้แค่นี้ก็เดาได้ว่าใครจะโดนกิน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-09-2018 20:01:31
ลูกหมาน่ารักๆ  กลายเป็นหมาป่าซะแล้ว    o22 o22 o22
น้องฟอร์ด จะแพ้พี่ภาริชได้หรือ  :serius2:
พี่หมาป่า  น้องจะหมาบ้านได้ไง........  :m20: :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 05-09-2018 21:35:00
……


5555.  ขำตะวัน. จะขอรุกบ้างยังแพ้รอยยิ้มน้องฟอร์ดเลยอ่ะ


 :really2:  :really2:  :really2:  :really2:  :really2:  :really2:


…………




หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-09-2018 22:30:54
กินหัว กินหาง กินกลางตลอดตัววว
เตือนแล้วน้าาาา 555555555+
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่33 ผู้ที่อยู่เหนือกว่า 5/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 06-09-2018 08:30:31
รอนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 06-09-2018 11:42:43
บทที่34

ผู้ที่เหลือรอด

บุพชาติ เอื้อมบุญกำลังอิ่มเอมใจกับความสำเร็จ เธอพึ่งได้รับยอดโอนจากธันวา ชัยมงคล จำนวน 1 ล้าน ซึ่งเป็นรางวัลจากการปิดงานสอดแนมครั้งล่าสุดของเธอ เห็นได้ชัดว่าภาริช พัชรกานต์กุล กำลังสับสน ตามปกติคนสติดีๆ คงไม่มีใครกล้าจัดงานแข่งเกมประเภทเดียวกันชนกับคนอื่นตามหลังแน่ๆ

จากการประชุมเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอสามารถทำนายอนาคตได้นิดหน่อย คาดว่างานแข่งเกมครั้งนี้ธันวาคงเป็นฝ่ายกำชัยชนะอย่างแน่นอน จังหวะที่กระหยิ่มยิ้มย่อง เสียงเตือนเรียกเข้ามือถือก็ดังขึ้นต่อเนื่อง บุพชาติรับสาย

<” นี่มันหมายความว่ายังไงห๊ะบุพ” >

บุพชาติไม่เข้าใจที่ธันวาถาม

ธันวา ชัยมงคลส่งคลิปบางอย่างมาจากทางlผีซึ่งใช้ปกปิดตัวจริงให้บุพชาติเปิดดู ข้อมูลในคลิปทำเอาดวงตาของเธอเบิกกว้าง

<” ทำไมงานแข่งถึงได้เปลี่ยนตัวเกมกะทันหัน ตอนนี้มันยิงโฆษณาออกไปทั่วทุกช่องทางแล้ว” >

อย่าว่าแต่ธันวางุนงงเลย บุพชาติเองก็เหมือนกัน ทำไมงานแข่งครั้งนี้ถึงกลายเป็นเกม Last battle แทนที่จะเป็น Battle of the units ไปได้

ว่ากันตามจริงเกม Last battle มีฐานแฟนและมีชื่อเสียงมากกว่า Battle of the units หรือว่าเกม Military strategy เป็นไหนๆ สองเกมหลังนั้นเป็นเกมแนว battle Royal ในขณะที่ Last battle เป็นเกมแนววางแผนในรูปแบบเกม Shooter

เมื่อเริ่มเล่นเกมผู้เล่นจะถูกแบ่งทีมออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายละ4คนในลักษณะทีมรับทีมรุก และมีข้อบังคับแยกย่อยไปตามแมพที่เล่น ยกตัวอย่างเช่นแมพชิงตัวประกัน ที่ฝั่งรับต้องป้องกันไม่ให้ฝ่ายรุกชิงตัวประกันไปได้

อาคารที่หลบซ่อนในแมพสามารถทำลายได้ ฝ่ายรุกสามารถบุกเข้ามาได้ทุกทิศทุกทาง ดังนั้นสถานการณ์ในเกมจึงเหมือนจริงมาก นั่นทำให้มีผู้เล่นนิยมเล่นเกมนี้มากกว่า130ล้านแอคเค้าท์ และเหล่าเกมเมอร์ก็รองานแข่งอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว

ตอนที่ภาริชประการทำโปรเจคแข่งขันของ Battle of the units เธอก็พอรู้ว่าบ้างว่า เจ้านายคนนั้นทำโปรเจคของ Last battle ควบคู่ไปด้วยอย่างช้าๆ ใครจะไปคิดละว่าเขาจะเปลี่ยนแผนประกาศของแข็งออกมา โดยไม่แจ้งให้ใครทราบเลย

<” ตกลงมันยังไงบุพชาติ รู้ไหมว่าโปรเจคของฉันมันได้รับผลกระทบแล้ว “>

<” ผู้สนับสนุนรายใหญ่หลายเจ้าที่ยังไม่ลงนาม เริ่มจะหันไปสนใจงานแข่งเกมของภาริชมันแล้วนะ” >

บุพชาติเอื้อมบุญไม่รู้ตัวเลยว่าภาริชแอบดูการกระทำของหล่อนผ่านทางกล้องมอนิเตอร์อยู่ และไม่มีทางรู้ว่าการประชุมในครั้งก่อนเป็นแค่ประชุมตัดสินใจแบบหลอกๆ ให้พวกสปายตายใจเท่านั้น

ประชุมที่แท้จริงภาริชเขาทำมันผ่าน Video Conference ปกติโปรเจคงานแข่งเกม Last battleก็เป็นความลับมากอยู่แล้ว ยิ่งพอจับสปายได้ เขาก็ยิ่งไม่เปิดโอกาสให้สปายรู้มันง่ายๆ อีก

เกือบสองเดือนมานี้ เขาใช้ให้ณภัทรเร่งการผลิตในด้านต่างๆ ให้พร้อมมากยิ่งขึ้น ทั่งที่อันที่จริงมันสมบูรณ์แบบในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะประกาศงานแข่งไหนออกไปภาริชก็พร้อมทั้งนั้น

ในมอนิเตอร์ภาริชเห็นณภัทรนำตำรวจไปจับกุมสปายของแต่ละแผนก และท้ายสุดก็เป็นคุณบุพชาติคนนั้น พอนึกถึงเด็กที่ชื่อต้นกล้าผู้เป็นลูก เขาก็ยิ้มน้อยๆ คาดว่าคงวุ่นวายตกใจน่าดู กว่าจะรู้ว่าแม่บังเกิดเกล้าถูกจับคงเป็นหลังแข่งชิงพื้นที่ไปแล้วมั้ง

ไม่นึกสงสารซักนิด แต่เขาสนุกที่ได้เห็นหายนะของกลุ่มคนที่ขวางทางเขารวมไปถึงเหล่าเด็กที่ร่วมกันรังแกเจ้าริน แต่ว่ามันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ เขายังไม่ได้เช็คบิลธันวา ชัยมงคล กับเมษา ชัยมงคล ตามที่ตั้งใจไว้



ผู้เล่นจำนวนมากแห่กันมายังพื้นที่แห่งใหม่ของแพท หลังจากgmประกาศเปิดตัวบอสและพื้นที่ครอบครองแห่งใหม่ ใครๆ ก็หมายมั่นที่จะได้มันมาอยู่ในกำมือ เวลาพันธมิตรของdoghunter00กับพันธมิตรของmaddog01ประจันหน้ากันโดยมีผู้นำของแต่ละฝั่งเริ่มตกลงกติกา

doghunter00 : ในเมื่อพวกเราแต่ละกลุ่มมีพันธมิตรร่วม ดังนั้นกติกาก็เอาเป็นไม่ว่าจะเป็นกิลนายหรือกิลพันธมิตรของนาย ไม่ว่ากิลไหนจะยึดพื้นที่ได้หากเป็นพวกเดียวกันก็ขอให้ฝั่งนั้นชนะตกลงไหม

maddog01 : เข้าใจแล้ว

doghunter00 : อย่าลืมสัญญาล่ะ ถ้านายแพ้ นายจะต้องออกมาพบฉันนอกบ้านสองต่อสอง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : มึงเองก็ต้องทำตามสัญญานะเว้ย ลบไอดีเลิกเล่นเกมนี้ไปซะ คราวนี้มีพยานเยอะแยะ มึงจะเบี้ยวแบบหน้าด้านๆ ไม่ได้แล้วนะเว้ย

ระหว่างที่ชานมฯ ปลุกระดมคนให้เป็นพยาน ไม่มีใครรู้ว่าต้นกล้าปวดร้าวในใจต่อความคิดและคำพูดของเมษา ต้นกล้าจ้องเขม็งไปยังหน้าจอ มองดูตัวละครของนรินทร์ด้วยความริษยา

คราวนี้เขาต้องทำประโยชน์ให้เมษาให้ได้ ไม่สิ เขาต้องแสดงให้เห็นว่าเขาเหนือกว่าไอ้นรินทร์มันให้ได้

จังหวะที่คิดเช่นนั้น สายหมอกก็ตบหลังเขาเบาๆ แล้วส่งยิ้มมาให้ คงอยากเอาใจช่วย จริงๆ รู้สึกอบอุ่นใจ แต่ต้นกล้าแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ

Gm : เทวทูตแห่งแสงนาธาเนียลกำลังจะปรากฏ พวกท่านต้องปราบเขาก่อนจะเข้าทำลายคริสตัลที่ปรากฏหลังจากนาธาเนียลตาย ผู้ทำลายคริสตัลได้คนคนนั้นจะได้รับพื้นที่วิหารแห่งแสงเป็นที่ทำการกิล นอกจากนั้นยังได้รับนาธาเนียลเป็นnpcพิเศษคอยคุ้มกันพื้นที่อีกด้วย

ทันทีที่gmประกาศจบ ผู้เล่นในเกมก็ฮือฮากันน่าดู ไม่เคยมีพื้นที่ไหนที่สามารถยึดครองได้แล้วจะมีบอสแถมมาเป็นผู้พิทักษ์คอยปกป้อง ตามปกติพวกเขาต้องเสียเงินจำนวนมากสร้างnpcขึ้นเอง นี่มันเป็นอภิมหาโปรเจคอันล้ำค่าจริงๆ

Gm : คำเตือน บอสนาธาเนียลกำลังจะปรากฏตัว ผู้เล่นไม่สามารถออกจากพื้นที่ที่กำหนดได้จนกว่าจะมีผู้ครอบครองวิหารแห่งแสง หากว่าตายในการล่า ถ้าไม่มีการชุบชีวิตในระยะชุบ ผู้เล่นคนนั้นจะถูกส่งออกนอกพื้นที่ล่า ไม่สามารถกลับเข้าร่วมการล่าได้อีกจนกว่าจะมีผู้ถือครองวิหาร

พอสิ้นคำประกาศของgmเจ้าบอสนาธาเนียลก็บินลงมาจากฟากฟ้า แม้แต่แรงกระพือปีกยังสร้างดาเมจให้ผู้เล่นได้ โชคดีที่ภาริชบัพคนในกิลด้วยทักษะอมตะหมู่ชั่วคราวที่ตนเองมี จึงทำให้ไม่ได้รับดาเมจจำนวนมากและล้มตายไปในทันทีอย่างคนกลุ่มอื่นๆ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แม่มเอ๊ย จะเลิศหรูอลังการเกินไปแล้วนะว้อย อย่างนี้สิถึงจะสนุก

Silverfox13 : ไม่ได้ตื่นเต้นกับการล่าบอสอย่างนี้มานานแล้วนะ

มิวซังไม่รอช้าใช้ทักษาเรียก Hell Knight ออกมาถึงเจ็ดตัว ค่าร่ายของหล่อนหมดทันที แต่ของแบบนี้ใช้ขวดมานาเติมเอาก็ได้ ซึ่งการกระทำแบบนี้มันบ่งบอกได้ว่าsilverfox13มีเงินให้ถลุงมากพอ อาจหมายถึงเป็นผู้เล่นเติมเงิน หรือเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจก็ได้

นั่นเป็นเพราะขวดมานานั้นค่อนข้างแพงมากในเกมนี้ แตกต่างจากขวดเลือดที่มีราคาถูก ตามปกติถึงไม่ใช้ขวดมานาปั้มพลังงาน มานาของผู้เล่นก็จะขึ้นมาค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว แต่หลายคนที่จำเป็นต้องใช้มานาจำนวนมากและต่อเนื่องซึ่งอาชีพ Necromancer เองก็เป็นอาชีพที่เผาผลาญมานาในจำนวนมหาศาล

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : วู้มิวซังจะโหมโรงแต่แรกเลยหรือค้าบ

ตะวันผิวปาก ปกติ Hell Knight ก็เป็นมอนเสตอร์ระดับสูงที่ล้มมันได้ยากอยู่แล้ว นี่ถึงกับเรียกออกมาเจ็ดตัว มั่นใจว่าคงต้องการอัญเชิญ dark lordออกมาแน่ๆ แล้วก็เป็นจริงเสียด้วย มิวซังอัญเชิญdark lordออกมา

แต่เธอไม่หยุดแค่นั้น เธอเผาผลาญขวดมานาไปจำนวนมากเพื่ออัญเชิญdark lordออกมา13ตน เมษาขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนได้ทักษะอันโหดร้ายนั้นมาแล้ว

ก็ดี เขาตั้งใจจะอยู่แบบเงียบๆ ปกป้องตัวเองรอเวลาบอสตายแล้วค่อยเปิดฉากpvpอย่างจริงจัง กติกาครั้งนี้ได้ฟังแต่แรกก็รู้ทันที ว่าการต่อสู้ที่แท้จริงมันอยู่หลังจากบอสนาธาเนียลตายต่างหาก เขาจะปล่อยให้พวกนรินทร์เผาผลาญไอเทมที่มีให้หมด ถึงตอนนั้นมั่นใจว่าตัวเองจะชนะแน่ๆ

ในที่สุดมิวซังก็อัญเชิญ God of nightmare ออกมาจนได้ ร่างกายของมันใหญ่โตพอๆ กับบอสนาธาเนียลเลยทีเดียว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ยะฮู้ ทำดีมากมิวซัง

ไม่เพียงแค่ชานมชื่นชมsilverfox13เท่านั้น ผู้เล่นคนอื่นๆ ยังพลอยนับถือมิวซังไปด้วย นี่มันสมแล้วที่เป็นผู้เล่นระดับต้นๆ ในโลกของเกม ดูท่าการชิงพื้นที่ครั้งนี้ คนที่น่ากลัวจริงๆ คงเป็นกลุ่มของmaddog01นั่นเอง

God of nightmare ทำให้ผู้เล่นคนอื่นสบายมากยิ่งขึ้น God of nightmareเป็นตัวแท้งค์ชั้นเลิศที่ดึงความสนใจจากนาธาเนียลไป มันทำให้พวกผู้เล่นสร้างดาเมจใส่บอสได้รัวๆ การล่าบอสครั้งนี้จบลงง่ายๆ แบบไม่เหนื่อยแรงจนรู้สึกขอบคุณsilverfox13กันถ้วนหน้า

ทว่าใครจะคาดคิดว่าวินาทีที่บอสนาธาเนียลตาย มันจะระเบิดร่างออกเป็นเป็นเสี่ยงๆ สร้างดาเมจอันรุนแรงครั้งสุดท้ายส่งผลให้ผู้เล่นทั้งหมดตายเรียบในทันที ทว่าผู้เล่นที่ยืนอยู่ ณ ตอนนั้นกลับมีเพียง Kung Fu Master ของเศียรมังกร และ Force Blader ของmaddog01ที่ยังยืนตระหง่านท่ามกลางศพของผู้เล่นนับร้อย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันที่7-9 เราต้องไปออกบู๊ตอีกแล้วค่าTT คงหายไปสามวันเลย เราจะกลับมาอีกครั้งวันที่10-11นะคะ 

มาแน่ค่ะไม่ดองนาน เราต้องไปออกบู๊ตที่หอประชุมสิริกิต เริ่มงาน10โมงเช้าเลิกสองทุ่ม 

กลับมาก็เปื่อยแล้วจ้า 5555 รอกันหน่อยนะคะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 06-09-2018 16:41:20
รอนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 06-09-2018 17:14:17
พี่เศียรจะคิลหรือช่วย ความเป็นมาไม่แน่ชัดอะเฮียคนนี้
 :L1:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 06-09-2018 19:21:11
ตัดจบได้ค้างมาก
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-09-2018 20:08:43
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 06-09-2018 20:54:59
กำลังเข้มข้นเลย รอจ้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 06-09-2018 22:45:57
โอ้ยยย เอาไงดี ตายจริงหรอออ ลุ้นๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่34 ผู้ที่เหลือรอด 6/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-09-2018 14:25:29
แอบรอเทออยู่นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 12-09-2018 13:19:08
บทที่35

สิ้นหวัง

ทำไมถึงมีเพียงเศียรมังกรและmaddog01ที่ไม่ตาย ผู้เล่นแถวหน้าส่วนใหญ่สามารถเดาได้ในทันที

“พี่หมอกในตัวละครของพี่มีหุ่นตายแทนตนหรือน้ำตาแห่งเทพอย่างใดอย่างหนึ่งใช่ไหม”

เมษาก็สามารถคาดเดาได้ สายหมอกยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้า

“ฉันมีหุ่นตายแทนตน ส่วนmaddog01น่าจะมีน้ำตาแห่งเทพ”

สายหมอกสูดลมหายใจเข้าลึก ทั้งหุ่นตายแทนตัวและน้ำตาแห่งเทพเป็นไอเทมระดับหายากพิเศษซึ่งมีเพียงชิ้นเดียวในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ แถมเป็นไอเทมสิ้นเปลืองที่ใช้ครั้งเดียวแล้วจะหายไปด้วยหากนำมาติดตัว การที่พี่สายหมอกและนรินทร์จงใจใช้มัน เท่ากับว่าจริงจังในการตัดสินนี้มาก

“ต้นกล้าลุกออกมาแล้วให้พี่หมอกเล่นแทนซะ”

เป็นครั้งแรกที่ต้นกล้าไม่อยากทำตามคำประกาศิตของเมษา เขาอยากเอาชนะนรินทร์และแสดงให้คนที่เขาชอบเห็นว่าตนเองมีคุณค่า แต่หากเมษาตั้งใจอะไรแล้วเขามักไม่ยอมให้เป็นอย่างอื่น นี่เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่ต้นกล้าใช้สายตาอ้อนวอนสายหมอก

ต้นกล้าไม่รู้เลยว่าเจ้าของรอยยิ้มอ่อนโยนคนนั้น ภายในใจกำลังสนุกปลาบปลื้มและสะใจต่อการยอมศิโรราบเป็นครั้งแรกของต้นกล้า

จะทำยังไงกับเจ้าสิ่งมีชีวิตอ่อนแอนี่ดีนะ ดวงตาเว้าว้อนเหมือนสัตว์เล็กที่มองมานี่ทำเอาเขาสั่นสะท้านจนอยากรังแกให้ร้องไห้ให้มากๆ ถ้าร้องไห้คงจะน่ารักมากแน่ๆ แค่คิดสายหมอกก็คลี่ยิ้มหวานออกมา

ในสายตาต้นกล้ากลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นราวกับพระโพธิสัตว์ที่มาโปรดมวลมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น เมษายิ้มอย่างมีเมตตามากกว่าครั้งไหนๆ การที่จะทำให้ตกมาอยู่ในมือนั้นไม่ยากแค่ใจดีให้มากหน่อยในขณะที่เหยื่อถูกตีหัวอย่างรุนแรงหลายต่อหลายครั้งจากน้ำมือคนอื่น

คนเราเวลาที่ถูกเล่นงานสะบักสะบอมในยามไม่มีใคร เมื่อมีมือหนึ่งยื่นมาจับ เป็นเรื่องแน่นนอนที่คนคนนั้นจะคว้ามืออบอุ่นเอาไว้อย่างไม่ลังเล แม้ต้นกล้าจะดื้อไปซักหน่อยไม่ยอมคว้าเขาเอาไว้ในทันที แต่ก็อีกไม่นานนักหรอก

“ฉันไม่จำเป็นต้องเล่นนี่ ตามสัญญาฉันจะเข้าทีมนายโดยไม่มีเงื่อนไขถ้านายยอมให้ต้นกล้าเข้าร่วมการตัดสินแพ้ชนะครั้งนี้ใช่ไหม สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ฉันไม่ได้รับปากเป็นมือเป็นเท้าให้นายแข่งขันในครั้งนี้นะ”

เมษาระบายลมหายใจอย่างหงุดหงิด ไม่คิดว่าพี่สายหมอกจะเอาเรื่องคอขาดบาดตายของเขามาทุ่มเทให้กับต้นกล้าเพียงคนเดียว โมโห แต่ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่นั่งลงเงียบๆ รอดูผลลัพธ์ที่เดาได้อยู่แต่แรกแล้ว เขากำลังพยายามสะกดข่มอารมณ์เกรี้ยวดราด ไม่อยากให้หุ้นส่วนสำคัญในอนาคตอย่างเมษาเห็นท่าทางน่าอายอันนั้น

“ขอบคุณนะเมษา เราจะพยายามให้ดีที่สุด”

“อืม พยายามให้เต็มที่” เมษาตอบ

“ต้นกล้าทำเหมือนที่เราซักซ้อมมากับพี่ทั้งอาทิตย์ พี่อนุญาตให้เราใช้ไอเทมของพี่ได้ทุกอย่าง ขอแค่เราชนะก็พอ”

เมษาหันควับไปมองดูสายหมอก ให้ใช้ได้ทุกอย่างเลยหรือ ไอเทมในคลังหรือแต่ละชิ้นที่เศียรมังกรมีติดตัว เป็นระดับssrแถมยังเอาไปแลกเป็นเงินจริงได้ในจำนวนมหาศาลทั้งนั้น อย่าบอกนะว่าพี่สายหมอกรักจริงหวังแต่งกับต้นกล้า

ดูเหมือนว่าผู้เล่นคนอื่นๆ จะรอวินาทีนี้อย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดเศียรมังกรก็เปิดฉากจู่โจมเข้าใส่maddog01ก่อนด้วยท่วงท่าที่รุนแรงที่สุด มังกรทะยานฟ้าเป็นท่าหมัดที่พุ่งเข้าโจมตีด้วยความเร็วสูงสุดแถมต้นกล้ายังคอมโบต่อด้วยลูกเตะมังกรสะบัดหางและตามติดไปหวังคว้าจับmaddog01เพื่อจับทุ่มด้วยทักษะที่เรียกว่ามือมังกร

มันรวดเร็วมากแต่นรินทร์ก็ไวพอกันความว่องไวของมือทำให้หลบได้ทุกดอก ด้วยความเร็วมือของต้นกล้าทำยังไงก็สู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ช้าแบบนี้ มีหวังเป็นไอ้ต้นกล้าเป็นคนเล่นแน่ๆ

ดาบใหญ่สะท้านฟ้า : ต้นกล้านี่ใคร

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ไม่สำคัญหรอก แค่ไอ้คนที่เอาแอคเค้าของเศียรมังกรมาpvpคราวก่อนไง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : คราวนี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้เศียรมังกรคิดยังไง ถึงให้คนอื่นยืมตัวละครมาทำจนเสียชื่อแบบนี้

ผู้เล่นคนอื่นๆ ต่างอ่านข้อความของชานมฯ ทั้งนั้น แล้วรับรู้กันไปทั่วว่าคนที่บังคับตัวละครเศียรมังกรตอนนี้ ไม่ใช่นายสายหมอกนักเล่นเกมในตำนานคนเดิม และสิ่งที่ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์อย่างถ้วนทั่วคือวิธีการเล่นที่แตกต่างไปจากตัวจริงโดยสิ้นเชิง

คนอย่างเศียรมังกรมีกึ๋นพอไม่จำเป็นต้องใช้ไอเทมหายากหรือไอเทมเติมเงินราคาแพงบัพในขณะต่อสู้เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบกว่ามาก่อน แต่ไอ้เจ้าต้นกล้าคนนี้เผาผลาญไอเทมซึ่งหายากและมีราคาแพงอย่างเมามัน ชนิดที่ว่าใครเป็นเจ้าของตัวละครต้องร้องขอชีวิตน้ำตาตกในไปตลอดช่วงชีวิตอันยาวนาน

ตัวละครของmaddog01กับเศียรมังกรผลัดกันโจมตีไปมา maddog01นั้นหลบการโจมตีของต้นกล้าได้ทุกครั้งแล้วสวนกลับอย่างรุนแรงด้วยท่วงท่าที่ถึงตายตลอด แต่ที่อีกฝ่ายยังยืนอ่ได้นั่นเป็นเพราะขวดยาฟื้นฟูพลังชีวิตที่ชื่อว่า

The ultimate power of life

เจ้าขวดยาชนิดนี้มีส่วนผสมในการปรุงที่หายากซึ่งได้จากบอสสามตัว แน่นอนว่าบอสไม่ได้ตกของง่ายๆ และส่วนผสมของมันมีขายตามท้องตลาดในราคาสูงลิบลิ่ว ชนิดที่ว่าหากให้มาใช้ปั้มรัวๆ ไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งอย่างต้นกล้า เจ้าของแอคเค้าท์จะต้องล้มละลายแน่นอน

และเจ้าขวดยา The ultimate power of life ชิ้นนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ต้นกล้ายืนต่อกรกับนรินทร์ต่อไปได้เรื่อยๆ เจ้าขวดยาชนิดนี้ เพียงการกดใช้ครั้งเดียวพลังชีวิตจะขึ้นมาเต็มหลอดในทันที ไม่ว่าจะมีเลือดมากน้อยเท่าไหร่

ตามปกติขวดยาระดับล่างๆ เวลาใช้เติมพลังชีวิต พลังชีวิตจะค่อยๆ ฟื้นฟูอย่างช้าๆ ไม่รวดเร็วแบบอย่างเจ้าขวดยาอภิมหาหายากชิ้นนี้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แม่มเอ๊ยไอ้เศียรมังกรมันมีเก็บไว้เท่าไหร่กันแน่วะ

ตะวันสบถหน้าจอคอม เริ่มเป็นห่วงนรินทร์จนนั่งไม่ติดที่

โกรธเกรี้ยว : อย่าเป็นห่วงไปเลยยังไงนรินทร์ก็ต้องชนะ

สุดยอดสาวงาม : อย่างที่ท่านพี่พูดนั่นแหละพี่ชานมฯ พี่อย่ากังวลมากไปสิครับ

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : แต่ว่า

Silverfox13 : นายไม่มั่นใจในตัวลูกพี่ของนายเลยหรือไง

พอถูกเตือนสติตะวันก็กลับมามั่นใจอีกครั้ง

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : จริงสิลูกพี่จะแพ้มือใหม่อย่างต้นกล้าง่ายๆ ได้ไง ลูกพี่ สู้ๆ นะ

จากนั้นตะวันก็พิมพ์ข้อความส่งแรงใจรัวๆ ยาวเหยียดจนรกช่องข้อความไปหมด เขาไฟลุกท่วมตัวเลย ยังไงคราวนี้ลูกพี่ก็ต้องชนะอยู่แล้ว ขนาดคนที่มาที่หลังอย่างโกรธเกรี้ยวยังเชื่อมั่น คนที่อยู่กับลูกพี่มา4ปีอย่างเขาก็ต้องเชื่อมั่นเช่นกัน



กลับมาที่การต่อสู้อีกครั้ง ต้นกล้าใช้ขวดยาเพิ่มความเร็วอย่างspeed of god ที่เป็นไอเทมบัพซึ่งหาได้ยากระดับเดียวกันกับ The ultimate power of life บัพตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะงั้นระดับความเร็วในการโจมตีจึงพอๆ กับนรินทร์แล้วในตอนนี้

เมษาชะโงกหน้าดูอย่างระทึก ทั้งที่ไม่คาดหวัง แต่ก็คาดหวังขึ้นมาเสียแล้ว ถ้าต้นกล้าชนะครั้งนี้ เขาจะให้อภัยความผิดพลาดในคราวก่อนก็ได้

ใครจะไปคาดคิดว่านรินทร์ใช่ว่าจะสิ้นไร้ไม้ตอก เขากลับเร่งความเร็วมือขึ้นอีกคราวนี้ใช้ท่าคอมโบไม้ตายอันโด่งดังของอาชีพ Force Blader แม้ต้นกล้าจะบัพเพิ่มความเร็วแต่ด้วยประสบการณ์ยังเทียบไม่ได้กับนรินทร์ จึงทำให้เกือบเสียท่า

“กดใช้ร่างทองคำไม่บุบสลาย” สายหมอกกระตุ้นเตือนอย่างรวดเร็วต้นกล้าตอบสนองในทันที

เขาฝึกซ้อมกับสายหมอกมาเป็นอาทิตย์ วาดภาพสถานการในการpvpไว้เป็นร้อยๆ รูปแบบ เหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็เช่นกัน สายหมอกคาดเอาไว้แล้วว่านรินทร์ต้องรีบปิดการต่อสู้ด้วยท่าไม้ตายอันโหดร้ายอันนี้

แต่ท่าไม้ตายนี้มีจุดอ่อนมันเผาผลาญมานาในระดับมหาศาลแถมยังมีดีเลย์หรือระยะเวลาในการรอใช้ทักษะครั้งต่อไปยาวนานมาก ซึ่งมันจะเปิดโอกาสให้ต้นกล้าใช้ท่าไม้ตายของเศียรมังกรสวนไปได้เช่นกัน

ร่างทองไม่บุบสลายจะทำให้ร่างกายเป็นอมตะราวๆ 2 นาที ซึ่งมันรับคอมโบยาวๆ ของmaddog01ได้จนหมด จากนั้นต้นกล้าจึงสวนกลับด้วยท่าคอมโบที่สร้างชื่อให้กับเศียรมังกร ท่ายูไลพันมือเป็นท่วงท่าที่ระดมโจมตีด้วยหมัดรัวๆ ติดต่อกัน

ซึ่งคริติคอลจะมากขึ้นและทบทวีตามจำนวนการกดคลิกทักษะในแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้ความชำนาญและต่อเนื่อง เกี่ยวกับการฝึก ต้นกล้าเพียรพยายามจนสามารถกดคอมโบได้มากกว่า20ครั้งแล้ว แม้จะเทียบไม่ได้กับสายหมอกที่สามารถกดได้มากกว่า80ครั้ง แต่maddog01ในสภาพสูญสิ้นมานาแถมยังถูกโต้กลับอย่างฉับพลันต้องมีบาดเจ็บหนักบ้างอย่างแน่นอน

แถมต้นกล้ากับสายหมอกยังวางแผนปิดท้ายรายการด้วยระเบิดจักรกลอันรุนแรงโดนสิ่งนี้เข้าไม่มีทางรอดไปได้แน่ๆ ใครจะคิดเล่ะว่าชั่วเสี้ยววินาทีที่ทักษะยูไลพันมือสิ้นสุดลงเพราะต้นกล้ามือชาจนรัวทักษะต่อไม่ไหว เป็นครั้งแรกเลยที่คู่ต่อสู้ใช้น้ำยาบัพในการดวลตัวต่อตัว

นรินทร์นั้นเลือดลดลงไปครึ่งหลอดเพราะมานาที่จะใช้ทักษะหลบหลีกต่างๆ นั้นไม่มีก็กลับมาพร้อมรบอีกครั้งด้วยขวดบัพชนิดพิเศษที่ชื่อว่าคำอวยพรของทวยเทพ เจ้าสิ่งนี้มันจะทำให้พลังชีวิตพลังมานาและค่าดีเลย์ของทักษะต่างๆ ที่ใช้ไปกลับมาเต็มในพริบตา

นรินทร์ไม่อยากใช้มันเลย และไม่เคยมีคนที่ทำให้เขาต้องใช้ไอเทมโคตรโกงอย่างนี้มาก่อน สำหรับการดวลกับเศียรมังกรหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา พวกเขาเองก็ไม่เคยใช้มันเหมือนกัน เพราะว่าต่างคนต่างก็หยิ่งผยองในแบบของตัวเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้ มันทำให้เสียศักดิ์ศรีนิดหน่อย แต่การต่อสู้ครั้งนี้นรินทร์จะแพ้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าเขาแพ้ศักดิ์ศรีของพี่ภาริชจะถูกทำลาย เขาไม่ยอมปล่อยให้คนที่พูดจาว่าร้ายพี่ภาริชชนะไปง่ายๆ แน่ และเขาเองก็ไม่ชอบพ่ายแพ้เสียด้วย

นรินทร์งัดทักษะก้นหีบคอมโบไม้ตายที่สร้างชื่อให้แก่เขาออกมา พยุหะเทพมนตรา เป็นท่าคอมโบพื้นๆ ที่รัวทักษะเวทมนตร์โจมตีใส่รัวๆ ยิ่งรัวคอมโบได้มากเท่าไหร่จะยิ่งคริติคอลมากขึ้นเท่านั้น ลักษณะการโจมตีคล้ายกันกับยูไลพันมือของเศียรมังกร

ซึ่งการที่นรินทร์กับสายหมอกสามารถทำให้ท่วงท่าพื้นๆ ทรงพลานุภาพได้ขนาดนี้ เพราะความเร็วมือและทักษะที่ผลัดกันเป็นอันดับหนึ่งของโลกในฐานะเกมเมอร์นั่นเอง

เพราะว่ามัวแต่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกต้นกล้าจึงถูกพิชิตไปตามที่สายหมอกคาดเดาเอาไว้ เขาแสยะยิ้ม ก็คิดไว้แล้วว่าmaddog01ต้องมีไอเทมที่ชื่อว่าคำอวยพรของทวยเทพ เขาเองก็มีเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาจงใจเก็บไอเทมชิ้นนี้เอาไว้ไม่ให้ต้นกล้ารู้

อีกทั้งยังแอบพนันการกระทำของmaddog01เอาไว้ในใจ คาดว่าหากฝ่ายนั้นไม่อยากพ่ายแพ้คงต้องยอมลดอัตตาลงมาแล้วทำทุกวิถีทางเพื่อชนะเหมือนกัน รวมถึงทักษะก้นหีบที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ อันนี้เช่นกัน แล้วmaddog01ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เจ้าหมอนั่นมอบความตายให้ต้นกล้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สายหมอกกำลังรอดูเรื่องสนุก เขารอให้เมษาเปิดฉากทำร้ายจิตใจต้นกล้าอยู่นานแล้ว

ต้นกล้าหน้าซีดเผือด นี่เขาแพ้แล้วหรือนี่ ทั้งที่อุตส่าห์ตั้งใจวางแผนฝึกฝนอย่างดี แต่ในที่สุดเขาก็แพ้อีกจนได้

“เมษาฉันขอโทษ” ต้นกล้าใช้สายตาของสัตว์ตัวเล็กกับเมษา

แต่ใครจะรู้ว่าคนอย่างเมษานั้นมีความอดทนต่ำ และเขาก็อดทนกับต้นกล้ามานานระยะหนึ่งแล้ว ครั้งแรกยังพอทนแต่นี่มันครั้งที่สองแล้ว มันจะไม่มีครั้งที่สามอีกต่อไป

“ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันซะต้นกล้า”

“เมษา”

ต้นกล้าผวาเข้าไปคว้ามือเมษาเอาไว้แต่อีกฝ่ายสลัดออกอย่างแรง ทำเอาต้นกล้าน้ำตาซึมทันที

“ฉันทนทำดีกับนายตั้งเท่าไหร่ นายตอบแทนฉันอย่างนี้หรือต้นกล้า”

ทันทีที่เมษาทวงถึงบุญคุณต้นกล้าก็ระลึกถึงมันได้ทันที เขาย้อนนึกถึงช่วงสมัยที่ยังอยู่ป4 เขาถูกแม่พาตัวมาจากตายายย้ายมาอาศัยที่เมืองb ปกติต้นกล้าก็เป็นเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ต่ำอยู่แล้ว เขาขี้อายและเข้ากับใครได้ยาก กว่าจะสนิทกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่ามันก็ใช้เวลานาน

หลังจากย้ายมาในโรงเรียนชั้นนำในปัจจุบันซึ่งมีการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลาย เขาก็กลายเป็นคนไม่มีเพื่อน แถมยังถูกล้อเลียนว่าไม่มีพ่อ มีแม่ที่คลอดลูกตั้งแต่ในวัยเรียน ถูกโดดเดี่ยวให้อยู่เพียงลำพังในโรงเรียนตลอดครึ่งปี

จากนั้นมีหัวหน้าห้องมาทำดีคอยดูแลอยู่บ้าง ด้วยความที่ไร้เดียงสาเขาทั้งซาบซึ้งในน้ำใจและเกาะติดหัวหน้าห้องคนนั้น แต่ก็มาได้ยินความจริงที่ว่าอีกฝ่ายยอมทำดีด้วยความไม่เต็มใจ ยอมเป็นเพื่อนเพราะแค่อาจารย์ฝากฝังเท่านั้น

เพราะความกลัวว่าจะโดดเดี่ยวอีก จึงต้องปั้นหน้ายิ้มอย่างอกตรม ตลอดการเรียนในประถม4เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลย พอย้ายขึ้นไปประถม 5 ก็เหมือนเดิมถูกกีดกันจากเพื่อนๆ ด้วยเรื่องเดิมๆ เพิ่มเติมคือข่าวที่หาว่าเขาเป็นลูกเมียน้อย

ถูกรังแกอย่างหนัก ในตอนนั้นคนที่ยื่นมือมาคว้าให้จับมีเพียงเมษาเท่านั้น คนคนนี้สอนให้เขารู้จักการต่อสู้สอนให้เขาโต้กลับ จนทุกวันนี้เขาสามารถยืนตระหง่านโดยไม่กลัวใครอีกต่อไป เมษาไม่เคยปล่อยมือจากเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แต่ต้นกล้าไม่มีทางรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เมษาทำดีด้วยคืออะไร หากรู้ขึ้นมา เขาคงใจสลายอีกครั้งเป็นแน่ ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายๆ เรื่องของพวกผู้ใหญ่ที่เมษาเองก็เห็นว่าสมควรแล้วจึงยอมเลี้ยงต้นกล้าไว้ในมือ

ทว่าตอนนี้ความอดทนมันหมดลง และเวลานี้เขามั่นใจแล้วว่าอย่างไรคุณพ่อก็คงไม่คิดเอาต้นกล้ามาเผยอเทียบเคียงแย่งสมบัติพัสถานกับเขาแน่ๆ ถือเสียว่าที่ยอมเกลือกกลั้วด้วยในระยะเวลาหลายปี ก็นับเป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะลงทุน

เมษารู้จากคุณแม่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ต้นกล้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกับเขาแล้ว เขารู้จากคุณแม่ว่าต้นกล้าเป็นลูกเมียน้อยของพ่อ และเขาถูกคุณแม่สั่งจับตาดูต้นกล้าเอาไว้ การที่ต้นกล้าถูกรังแกก็มีสาเหตุมาจากเขานี่แหละ ก็แค่ระบายอารมณ์โกรธเกรี้ยวที่พ่อดันมีเมียน้อยแถมมีลูกอย่างต้นกล้าโผล่มา

จากนั้นเมื่อถูกคุณแม่สั่งสอนให้เลี้ยงเอาไว้ในมือเขาจึงเปลี่ยนแผนเลิกย่ำยีแล้วเลี้ยงเอาไว้ เขาพยายามสร้างนิสัยและชี้นำให้อีกฝ่ายทำเรื่องแย่ๆ ให้มากเข้า คุณพ่อจะได้รู้ว่าต้นกล้าไม่มีอะไรเทียบเคียงเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว

หลายปีมานี้นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทว่านั่นไม่ได้หมายความถึงต้องอดทนที่จะยอมให้มันมาพังเรื่องที่เขาหมายตาเอาไว้ถึงสองครั้ง นี่คงได้เวลาเขี่ยทิ้งให้พ้นทางแล้ว

“เมษาให้ฉันแก้ตัวอีกครั้งนะ” ต้นกล้าวอนขอทั้งน้ำตา เขาไม่กล้าจับมือเมษาอีก นั่นเพราะสายตาเย็นชาราวกับขั้วโลกที่มองมา

“ยังกล้าขอแก้ตัวอีกนะ ฉันพอกับนายแล้ว ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้เห็นอีกนะ”


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หายไปเกินกำหนดต้องขออำภัยไปออกบู๊ตที่สิริกิตมา

ต่อด้วยไปสัมนาที่รร.ฮอลิเดยอินบางกอกหัวข้อfood and fast track ของสวทชในฐานะตัวแทนบริษัท

สัมนามานี่อยากเขียนนิยายแนวธุรกิจอาหารเลยเนี่ย5555

พอกลับมาว่างนะปรากฏว่าตัวชาตไฟโนตบุคระเบิดอีก เป็นตอนกลางคืนที่เขียนนิยายเสรจพอดีเมื่อวานเลยค่ะ

ตกอกตกใจนึกว่าชอตจนโนตบุคเราพังไปแล้ว ปรากกฏว่าเซฟทีคัทตัดไฟทันเลยเสียเงินแค่ค่าสายไป300บาทเท่านั้น555

เดชะบุญนิยายยังอยู่ครบTT แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-09-2018 16:23:22
ระเบิดเลยหรือค่ะ คนโดนป่าวน้อ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:
ถึงขีดสุดแล้ว รอดูจุดจบของเมษาแลพ่อ พร้อมกับแฝดนรกและครอบครัวจ้า
เราพร้อม  :z6: ซ้ำมากตอนนี้  :laugh:
    :katai2-1:  :pig4:  o13
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 12-09-2018 18:07:56
รอวันที่ต้นกล้าตาสว่างจากเมษาซักที
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 12-09-2018 18:55:08
รออ่านตอนต่อไปนะค้าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-09-2018 19:50:54
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
สงสารเจ้าต้นกล้าเหมือนกันนะ
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคอยสอน
แถมถูกหล่อหลอมมาด้วยเจตนาที่ไม่ดีเลย
กลัวเหลือเกินว่านางจะหนีเสือปะจระเข้
ดูถูกหลอกลวงจากทุกคนตลอด
เชื่อว่านางจะเป็นคนดีกว่านี้
ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้นะ

ยังไงก็ ดูแลสุขภาพด้วยน้า
รอตอนต่อไปจย้าาาาา♡♡♡♡
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 13-09-2018 01:25:01
ต้นกล้าโชคดีซักที ที่จะได้หลุดพ้นจากเมษา
แล้วมีแบคหนาๆแบบสายหมอก
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 13-09-2018 16:01:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่35 สิ้นหวัง 12/9/61 หน้า6
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 13-09-2018 16:44:25
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 13-09-2018 16:53:55
บทที่36

แผนการณ์



ต้นกล้าไม่รู้เลยว่ามาอยู่บนรถของสายหมอกได้อย่างไร เขาเหมือนร่างไร้วิญญาณเพียงเพราะแค่ถูกเมษาตัดสัมพันธ์เท่านั้น



“เป็นพี่ไม่ได้หรือต้นกล้า”



สายหมอกถาม ร่างของต้นกล้าสั่นระริก อีกฝ่ายหันหน้าออกไปทางนอกหน้าต่างรถ แต่สายหมอกเห็นสีหน้าทรมานใจของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน



น่ารัก สีหน้าแบบนี้มันเกินจะทน ทั้งอย่างนั้นมันก็ยังไม่ถึงใจเพราะว่าต้นเหตุของมันไม่ได้มาจากเขา ถ้าหากว่าต้นกล้าร้องไห้อย่างน่ารักแบบนี้ด้วยตัวเขาเป็นคนทำมันจะดีซักแค่ไหนนะ



“คบกับพี่เถอะนะลืมเมษามันไปเถอะ” สายหมอกขยับตัวไปหาต้นกล้าแล้วดึงช่วงบนของฝ่ายนั้นมากอดไว้หลวมๆ



“พี่จะไม่ทำให้ต้นกล้าผิดหวังเหมือนเมษาแน่ๆ”



ก็คิดอยู่ว่าคงไม่ได้มาง่ายๆ เพราะต้นกล้าผลักเขาออกแล้ววิ่งลงจากรถก่อนจะเรียกรถแท็กซี่จากไป สายหมอกไม่ตามเขาคิดว่าการตื้อรักประมาณนี้จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกต่อต้าน



แต่เขาเลือกที่จะโทรหาต้นกล้าซ้ำๆ หลายสาย ปรากฏว่าเจ้าตัวปิดมือถือ ดังนั้นจึงจงใจส่งข้อความไปหา



สายหมอก : พี่ไม่เคยดีพอสำหรับต้นกล้าเลยใช่ไหม



สายหมอก : ต้องให้พี่ทำยังไงถึงจะเป็นคนคนนั้นได้







หลังจากกลับถึงบ้าน ต้นกล้าพบว่าไม่มีใครอยู่ แปลกมากปกติเวลานี้แม่ของเขาต้องอยู่ที่บ้านแล้ว ด้วยความสงสัยจึงเปิดมือถือขึ้นมา และพบกับข้อความของสายหมอก ข้อความตัดพ้อนั้นทำเอานิ่งงัน



ต้นกล้าไม่เข้าใจทำไมสายหมอกถึงต้องจริงจังกับเขาถึงขนาดนี้ เขาไม่เคยทำดีกับอีกฝ่ายเลย ไม่เคยพูดดีด้วย ตามจริงคนคนนั้นควรทิ้งเขาไปเหมือนฟอร์ดสิ คนคนนั้นควรทิ้งเขาไปเหมือนเมษา



พอนึกถึงเมษาต้นกล้าก็หลั่งน้ำตาออกมา การอยู่เพียงลำพังทำให้สามารถร้องไห้อย่างจริงจังได้เสียที เขานั่งกอดเข่าน้ำตาไหลออกมาเป็นสายๆ การถูกคนเพียงคนเดียวที่ตนยึดเหนี่ยวรังเกียจมันเจ็บปวด เขาอยากให้ใครซักคนปลอบโยน แต่ก็ไม่กล้าใช้สายหมอกเป็นเครื่องมือเพื่อสลายความปวดร้าวออกไป



ขณะที่รู้สึกอ้างว้างเสียงมือถือก็ดังขึ้นมาเป็นเบอร์ของคุณตาที่เมืองs ต้นกล้ารับสายรู้สึกดีใจที่ได้ยินเสียงคนที่ตนรัก



“คุณตาหรือครับต้นกล้านะครับ”



<” ต้นกล้าใจเย็นไว้นะลูก แม่ของหนูถูกตำรวจจับ แต่ตายังขึ้นไปหาเราไม่ได้เพราะคุณย่าเองก็เพิ่งเข้าห้องฉุกเฉินไป ตาจะส่งทนายไปหาเรานะลูก” >



“คะ คุณยายเป็นยังไงบ้างครับ”



คุณตาเงียบไปชั่วอึดใจหนึ่ง <” เราคงต้องทำใจเอาไว้หน่อยนะต้นกล้า” >



คนที่เขารักและไว้ใจมากที่สุด นอกจากเมษาแล้วก็มีคุณตาคุณยาย เรื่องของคุณยายมีผลกระทบทางจิตใจมากกว่าเรื่องแม่ถูกตำรวจจับเสียอีก



ทำยังไงดี เขาไม่อยากอยู่คนเดียวในเวลานี้เลย กลัว เขากลัวเหลือเกิน



โดยไม่มีเหตุผล ต้นกล้าส่งข้อความไปหาสายหมอก



Sapling : มาหาที่บ้านหน่อยได้ไหม



สายหมอกยิ้มละไมต่อข้อความของต้นกล้าที่ส่งมา เขาหักพวงมาลัยมุ่งหน้าไปหาเจ้าสัตว์เล็กน่าสงสารที่รอคอยเขาอยู่ทันที





ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ว่าไงเมษามึงแพ้แล้ว ต่อให้เอาตัวละครของเศียรมังกรมาใช้มึงก็แพ้อยู่ดี



ตะวันไม่รอช้าตอกย้ำความเป็นจริง เอาให้รู้ชัดกันไปเลย อีกฝ่ายจะได้ไม่กล้าเผยออีก



Silverfox13 : ตามสัญญาพวกนายต้องลบไอดีแล้วเลิกเล่นเกมนี้ไป





“นี่เราต้องลบจริงๆ หรือวะเมษา” อิงภพหน้าเสียเล็กน้อย เขาทุ่มเทกับเกมนี้มาก อยู่ๆ ให้มาลบตัวละครก็รู้สึกไม่อยาก



“ทำตามสัญญา”



คำประกาศิตของหัวหน้าทีมอย่างเมษาใครจะขัดได้ เอาเถอะยังมีเกมใหม่ให้เล่นอยู่ ดังนั้นอิงภพจึงทำเพียงยักไหล่





Doghunter00 : ฉันจะลบไอดีแล้วเลิกเล่นเกมนี้ตามสัญญา



ใครจะไปคิดเล่าว่าคนดื้อด้านอย่างสายหมอกจะยอมง่ายๆ ไม่เพียงนรินทร์แปลกใจ มิวซังเองก็เช่นกัน



ใครจะรู้ว่าเมษาคิดยังไง รูปแบบการคิดของคนคนนี้ไม่ซับซ้อน เมษาเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขายังมีหลายวิธีที่จะเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับนรินทร์อีกมาก เขามีหูตาแพรวพราว ดังนั้นจึงได้ยินข่าวลอยลมมาบ้างว่าพวกนรินทร์จะฉลองชัยชนะด้ยการไปเที่ยวทะเลที่xxx



ข่าวนี้ก็ไม่ได้หลุดออกมาจากคนอื่นคนไกล ก็ไอ้เจ้าชานมฯ ที่จ้อไม่หยุด ดูเหมือนว่าหมอนั่นมันก็ไม่ได้คิดปิดบังอะไร อยากจะเยาะเย้ยเขาก็เชิญ แต่นั่นทำให้เมษามีโอกาสได้พบนรินทร์ตัวเป็นๆ อีกครั้ง



เมษารู้ตัวว่าชอบนรินทร์ แต่ไม่เข้าใจความย้อนแย้งของตัวเองนัก เขาอยากทะนุถนอม ทว่าเมื่อนรินทร์ขัดขืนเขาก็อยากบดขยี้สั่งสอนให้อีกฝ่ายอยู่ในโอวาท ความหยิ่งผยองในศักดิ์ศรีที่นรินทร์มี เขาไม่ได้มองว่ามันน่ารัก เมษาเห็นเป็นเพียงความพยายามที่จะต่อต้านเขาเท่านั้นเอง



“ที่นี้จะตัดใจจากmaddog01ได้แล้วสินะ”



หลังจากลบแอคเค้าท์ทิ้ง อิงภพก็บิดขี้เกียจไปมา เขาสังเกตเห็นสีหน้าไม่ยอมแพ้ของเพื่อนสนิทคนนี้



“ฉันดูเป็นคนที่ยอมแพ้ง่ายขนาดนั้นเลยเชียวหรือ”



“ก็ไม่น่าใช่แฮะ”



“ฉันจะไปที่เมืองxxxอาทิตย์หน้าจะไปด้วยกันไหมล่ะ”



“อะไรจะไปเที่ยวทะเลหรา”



“ที่ชวนนายนี่เพราะแค่คิดว่าพ่อของนายมีหุ้นอยู่ในโรงแรมนั้น ฉันแค่จะใช้เส้นสายของนายเท่านั้นแหละ”



“อ้อ...”



เมษาคงหมายถึงโรงแรมxxx มันเป็นโรงแรมของครอบครัวพัชรกานต์กุลซึ่งตกทอดมาจากรุ่นปู่ เจ้าของหุ้นในขณะนี้นอกจากพี่ภาริชก็มีของคุณพ่อด้วยอีกประมาณ 3 เปอร์เซ็น ตามจริงมันมีมากกว่านั้น ทว่าช่วงสองสามปีก่อน พ่อของเขาเทขายหุ้นให้พี่ภาริชเพื่อหาทุนเพิ่มสำหรับลงทุนในธุรกิจหลักของครอบครัว



“ช่วยจองโรงแรมที่นั่น แล้วดูให้หน่อยสิว่า มีชื่อของนรินทร์ไปพักที่นั่นไหม”



อิงภพโคลงศีรษะไปมา ยอมใจในความดื้อด้านช่างตื้อของเมษาเสียจริงๆ “ก็ได้”



จากนั้นอิงภพก็ส่งข้อความไปหาผู้จัดการโรงแรมที่เขาค่อนข้างสนิท ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอานิสงส์ของพี่ภาริชนั่นแหละ หลายต่อหลายครั้งที่ครอบครัวของอิงภพกับพี่ภาริชไปรวมญาติกันที่โรงแรมนี้ ดังนั้นอิงภพจึงมีความทรงจำดีๆ เต็มไปหมด



อิงภพ : พี่ไพลิน ช่วยค้นให้หน่อยสิครับ



อิงภพบอกชื่อนามสกุลของนรินทร์ตามที่เมษาสั่ง



ไพลิน : น้องอิงไม่มีในฐานข้อมูลของคนคนนี้นะคะ





“เขาบอกมาว่าไม่มีแหนะ” อิงภพหันมาบอกเมษา อีกฝ่ายครุ่นคิดพักหนึ่ง

“บางทีอาจจะจองในนามของไอ้คนชื่อฟอร์ดหรือไม่อาจจะเป็นพี่ชายของหมอนั่นก็ได้”



“พี่ภาริชน่ะนะ” อิงภพไม่เห็นด้วย แต่มันก็เป็นไปได้ ดังนั้นจึงพิมพ์ถามผู้จัดการไพลินไป





อิงภพ : พี่ภาริชหรือว่าฟอร์ดได้จองห้องเอาไว้หรือเปล่าครับพี่ไพลิน



อิงภพรอพักหนึ่งก็ได้คำตอบ



ไพลิน : ทำไมต้องจองด้วยล่ะค่ะ บ้านพักตากอากาศของคุณภาริชอยู่ใกล้ๆ โรงแรมเรานี่เอง



ไพลิน : เกี่ยวกับเรื่องนี้คุณภาริชได้แจ้งให้พี่พาแม่บ้านไปเตรียมที่นั่นเอาไว้แล้วค่ะ



ไพลิน : คิดว่าน่าจะให้คุณฟอร์ดกับเพื่อนไปพักที่นั่น



อิงภพ : เข้าใจล่ะ งั้นพี่ไพลินจองห้องพิเศษของโรงแรมให้ผมสองห้องแล้วกันนะ ผมจะไปเร็วๆ นี้



เมษาหรี่ตาดูข้อความสนทนาของอิงภพกับคนอีกฝั่งอย่างไม่ประสงค์ดีเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะรู้สึกไม่พอใจกับการที่นรินทร์ออกจากบ้านได้โดยที่ไม่ใช่ฝีมือของตัวเอง ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายจะไประรื่นกับยัยผู้หญิงที่ชื่อว่าโกรธเกรี้ยว มันทำให้ไฟริษยาในใจลุกโชติช่วง



การไปของเขาคราวนี้ไม่เพียงแค่ไปเพื่อพบหน้านรินทร์ที่ไม่ได้เห็นมาหลายปี เขายังอยากพบหน้าของยัยโสโครกที่กล้าล่อลวงนรินทร์อีกด้วย ยังไงก็แล้วแต่คราวนี้เขาหวังที่จะปรับความสัมพันธ์อันเลวร้ายเก่าๆ อยากพูดจากับนรินทร์ดีๆ



การที่เขาต้องทำรุนแรงหลายต่อหลายครั้งมันก็เป็นความผิดของนรินทร์ไม่ใช่หรือ ถ้าหมอนั่นไม่ดื้อไม่ทิฐิจนเขาโมโห ใครมันจะไปอยากรังแกคนที่ชอบล่ะ







หลังจากพิมพ์ข้อความคุยกับอิงภพเรียบร้อย เนื่องด้วยไพลินเป็นพนักงานในสังกัดของภาริชที่จงรักภักดีเป็นอันดับหนึ่ง คุณภาริชเจ้านายคนนี้ช่วยเหลือครอบครัวของเธอเอาไว้มาก ดังนั้นแม้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่หากไม่ชอบมาพากลเธอก็ส่งข้อความไปรายงานเจ้านาย



ภาริชแสยะยิ้มทันทีเมื่อเห็นข้อความที่ไพลินส่งมา ไม่คิดว่าการไปทะเลครั้งนี้จะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นเสียได้ เจ้าอิงภพกะเมษาจับคู่กันจองโรงแรมในช่วงเวลาเดียวกันกับเขา เรื่องนี้ใช้สมองซักหน่อยก็เดาได้ไม่ยาก คงไปได้ยินข่าวที่กลุ่มของmaddog01จะไปเที่ยวที่นี่กันจากคนพูดมากอย่างตะวัน



ถ้ากล้าก็มา เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเมษาจะดิ้นรนได้ถึงขนาดไหน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เดี๋ยวเราจะหายไปออกบู๊ตอีกสองสามวันนะคะ รอกันหน่อยนะคะ 

ใจจริงอยากปั่นรัวๆ ทุกวันเหมือนเดิม แต่มันเหนื่อย555 คราวนี้ต้องไปเซนทรัลเวสเกส

ไปทั่วแคว้านแล้วเนี่ย แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 13-09-2018 17:08:33
เรื่องมันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ววว ติดเรื่องนี้งอมแงม 55555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-09-2018 18:23:23
หึหึ  เมษาเด็กน้อยเอ้ยจงมาเจอกับตัวจริงอย่างพี่ภาริชเสีย 5555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 13-09-2018 19:27:10
งานนี้เมษาน่าเป็นห่วงที่สุด
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-09-2018 20:25:17
ไรท์ ทำงานหนักเลย  :mew2:
แต่ยังมาลงนิยายให้คนอ่าน  สู้ ๆ นะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ต้นกล้า จะมีคนที่มาชอบอย่างจริงใจซะที  :mew1:

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 14-09-2018 08:18:59
รอน้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่36 แผนการณ์ 13/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-09-2018 23:07:57
พักผ่อนให้สดชื่นก่อนน้าาค่อยมาต่อ /ปาใจใส่รัวๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกีนเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 17-09-2018 16:14:49
บทที่37

คนกันเองทั้งนั้น

“พี่กลับไปเถอะ ผมอยากอยู่คนเดียว”

หลังจากที่เขาปลอบอีกฝ่ายด้วยการนอนกอดเอาไว้แน่นๆ ตลอดทั้งคืน พอเช้าวันใหม่ก็ถูกผลักไสอย่างคาดไม่ถึง มุมปากของสายหมอกคว่ำลงเล็กน้อย นั่นเป็นสีหน้าแห่งความกระวนกระวายใจอย่างแท้จริง แม้ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนมากนัก

คนอย่างเขากำลังกลัวว่าต้นกล้าจะหลุดมือ นั่นเป็นเพราะเวลานี้ถูกผลักออกแถมอีกฝ่ายหันหลังให้ไม่หันมามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ การกระทำที่เหนือความคาดหมายไปไกล ความผิดหวังไปจากที่ต้องการทำให้เปลือกหนากระเทาะออกเล็กน้อย

เพราะความดื้อด้านอย่างร้ายกาจของต้นกล้านี่แหละ มันทำให้เมษารู้ตัวว่าเขาต้องการอีกฝ่ายมากจริงๆ และจะเสียไปไม่ได้เด็ดขาด เขาชอบรักเจ้าหมอนี่ ถึงขนาดที่ใบหน้าบิดเบี้ยวน้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็รวดร้าว

“ยังไงพี่ก็แทนที่เมษาไม่ได้สินะ พี่ไม่เคยมีตัวตนในสายตาของต้นกล้าเลยสิ”

คำตัดพ้อมาจากใจของเขาจริงๆ ไม่ได้ปั้นแต่งซักนิด สายหมอกกำลังเป๋ เพราะปฏิกิริยาของต้นกล้าอยู่นอกเหนือการณ์คำนวณ ทว่าเมื่อสังเกตเห็นคนที่หันหลังให้เนื้อตัวสั่นเทา คิดให้ดีๆ แล้วการที่เป็นแบบนี้ย่อมไม่ใช่หมายถึงไร้เยื่อใยต่อเขาแน่

ดังนั้นเขาจึงลองเดิมพันดูอีกครั้ง เขาจะถอยออกไปเงียบๆ แล้วรอให้ต้นกล้าเดินมาหาเขาเอง ทว่าคราวนี้หากต้นกล้ายังดื้อหรือคิดตีตัวออกห่างจากเขาจริง สายหมอกคิดว่าไม้นวมคงไม่เหมาะกับเด็กน้อยอีกต่อไป

กักขัง หน่วงเหนียว ข่มขืน กดดัน เขาเป็นคนที่ทำเรื่องแบบนั้นได้โดยไม่คิดอะไร แถมด้วยอิทธพลและเงินที่ตัวเองมีก็ทำได้ไม่ยาก แค่พาออกนอกประเทศไปหมอนี่ก็จะเป็นของเขาแล้ว ตามแผนที่วางเอาไว้เมื่อเขาเรียนจบปริญญาตรีก็จะบินไปเมืองนอกทันที ดังนั้นจึงมีความต้องการที่จะนำต้นกล้าตามติดไปด้วยในฐานะสมบัติชิ้นสำคัญของเขา

“จะไม่พูดอะไรกับพี่ซักคำเลยหรือ ถึงพี่จะไปต้นกล้าก็ไม่เสียใจสินะ”

ต้นกล้ากอดตัวเองเอาไว้ในเวลาต่อมา แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร เขาต้องการใครซักคนในเวลานี้มาก ทั้งอย่างนั้นกลับไม่อาจลบภาพของเมษาออกไป

ด้วยใจที่สับสนลังเล เขาเกิดความคิดที่ว่ามันไม่ยุติธรรมต่อพี่สายหมอก ผู้ชายคนนี้ดีเกินไป ดีเกินกว่าที่คนแย่ๆ อย่างเขาจะรั้งเอาไว้ ทั้งยังไม่กล้ายึดเหนี่ยวด้วยแรงทั้งหมดที่มี นั่นเป็นเพราะไม่คิดว่าจะสามารถรักอีกฝ่ายได้หมดใจทั้งที่ยังมีเยื่อใยของเมษาที่เขาไม่สามารถแก้ออกได้

เกลียดตัวเองที่ยังรักเมษาอย่างโง่งม เกลียดตัวเองที่ไม่หน้าด้านใช้พี่สายหมอกเป็นเครื่องมือให้ลืมความเสียใจ เหมือนอย่างที่ทำกับคนอื่น ความรู้สึกที่มีต่อสายหมอกต้นกล้าเลือกที่จะไม่พยายามทำความเข้าใจ นั่นเพราะหากเข้าใจเมื่อไหร่คงกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ต่างออกไปจากนี้

เสียงของพี่สายหมอกฟังดูเจ็บปวด เขาไม่กล้าหันไปมองดู พยายามคิดถึงเรื่องของเมษาเพื่อจะได้ใจแข็งไม่ลากคนดีๆ อย่างพี่สายหมอกมาเกลือกกลั้วกับตัวเอง เขาดีเกินไปสำหรับเรา ดีเกินไปมากจริงๆ

ต้นกล้าไม่ได้รู้เลยว่าสายหมอกลอบสังเกตสีหน้าตัวเองจากกระจกหน้าต่าง ใบหน้าที่ทั้งเศร้าและอาดูรถูกสะท้อนออกมาจากสิ่งนั้น ด้วยเหตุนี้สายหมอกจึงสามารถคาดเดาความรู้สึกของคนดื้อด้านได้อย่างชัดเจน

ความตระหนักรู้อันนี้ทำให้จิตใจที่หวั่นไหวหวาดกลัวนิ่งขึ้นและกลับมาเยือกเย็นดั่งเดิม แผนการของเขาคือรออย่างสงบพักหนึ่ง หากว่าต้นกล้าไม่เดินเข้ามาหา เขาจะเริ่มใช้ไม้แข็งกับคนคนนี้ไม่ปรานีเจ้าหมอนี่อีกต่อไป

“แสยะยิ้มแบบนี้ให้พ่อที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นปีเลยรึอากิระ”

คุราฮาชิ โคเฮย์ สังเกตสีหน้าลูกชายคนเดียวมาได้พักหนึ่งแล้ว นานทีเดียวที่ไม่ได้พบหน้าลูกชาย 4 ปีที่เจ้าตัวแสบย้ายมาอยู่กับแม่ยายที่ป่วยหนักตามคำขอในประเทศt ก็คิดอยู่ว่าเจ้าลูกชายคนนี้คงเบื่อ แต่กลายเป็นว่าการห่างจากพ่ออย่างเขาไม่ทำให้ลูกคนนี้เหงาหงอยอะไร

สำหรับอากิระที่เขาประคบประหงมอย่างเต็มที่ หลังจากสายฝนภรรยาของเขาตายไป เขาก็ดูแลเจ้าลูกคนนี้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เงินมีเท่าไหร่ก็ทุ่มเทให้จนหมด เวลาอาศัยอยู่ที่ประเทศfก็ราวกับเจ้าชาย

ที่ประเทศtนี่ก็ไม่ต่าง พ่อตาแม่ยายของเขาเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศtดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนสายหมอกก็เป็นลูกหลานของบุคคลที่มีอำนาจและเงินอยู่ในมือ ด้วยเหตุนี้แม้ลูกของเขาจะอยู่ไกลแค่ไหนคนเป็นพ่อก็ไม่ห่วงเลยซักนิด

“เอาล่ะถึงที่แล้วเลิกแสยะยิ้มชวนขนลุกนั้นซักที ทำตัวให้มีราศีเข้าไว้ ต่อหน้าคุณภาริชอย่าให้เสียชื่อพ่อ”

สายหมอกยิ้มละไม กับพี่ภาริชเขาสนิทสนมกับฝ่ายนั้นเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่อีกฝ่ายจัดงานเลี้ยงให้ผู้บริหารระดับสูงของเครือข่ายในมือ คุณพ่อก็มักจะพาเขามาด้วยเสมอๆ งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นในคฤหาสน์ส่วนตัวของพี่ภาริชที่ประเทศt เป็นงานเล็กๆ ไม่เอิกเกริกแถมยังเป็นงานภายในที่ชวนมาแต่ระดับสูงเท่านั้น

“ไม่ได้พบกันนานนะสายหมอก” ทันทีที่พบหน้ากันพี่ภาริชก็ทักเขาก่อนพ่อเสียอีก

“ตัดสินใจได้หรือยังเรื่องที่พี่เสนอไป”

พี่ภาริชคงหมายถึงข้อเสนอที่ให้เข้าเข้าทำงานในบริษัทที่ประเทศfของตัวเอง คนคนนี้หมายมั่นจะให้เขากุมบังเหียน Ghiblisoftในประเทศfแทนที่คนที่กำลังเกษียนไป

“ผมตัดสินใจได้แล้วครับ ผมยินดีที่สุด”

“เยี่ยมไปเลย เห็นหน้าพี่คงรู้แล้วใช่ไหมว่าพี่พอใจแค่ไหน”

สายหมอกกับภาริชยิ้มให้กัน โคเฮย์รู้สึกปลื้มปิติกับความก้าวหน้าของลูกชาย

“เดี๋ยวผมขอคุยกับสายหมอกตามลำพังเสียหน่อย ซักพักผมจะให้คนตามคุณไปหาผมที่ห้องหนังสือ คงไม่ว่านะโคเฮย์”

“ตามสบายเถอะครับคุณภาริช”

จากนั้นภาริชก็พาสายหมอกเดินทอดน่องสบายๆ ไปยังห้องหนังสือของเขา สิ่งแรกที่ถามอีกฝ่ายคือเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับความรัก

“เจ้าสัตว์อ่อนแอที่นายล่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

“ดื้อเกินไป จนผมคิดว่าอาจจะต้องใช้ไม้แข็งกันบ้างแล้ว”

ภาริชได้ฟังก็หัวเราะเบาๆ ไม้แข็งของสายหมอกไม่ธรรมดาแน่ๆ เขารู้จักเด็กนี่ค่อนข้างดี พฤติกรรมป่าเถื่อนดุดันเคยเห็นกับตามาหลายครั้ง ครั้งนี้ที่สามารถอดทนกับต้นกล้าได้นานขนาดนี้ ถือว่าน่าแปลกใจด้วยซ้ำ แต่ถ้าคิดดีๆ ก็ไม่แปลก คงจะจริงจังกับเจ้าเด็กนั่นน่าดู

“ฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวที่นายหวงแหนเป็นพิเศษมาก่อน ถึงแม้เราจะเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่งของฉัน แต่ขอโทษนะ ฉันใช้นักสืบไปสืบเรื่องของเจ้าสัตว์เล็กที่นายล่าอยู่ตอนนี้มาแล้ว”

ภาริชส่งยิ้มให้สายหมอก “รู้ดีใช่ไหม ว่าพี่ไม่ค่อยอดทนกับคนที่เป็นศัตรูเท่าไหร่ ถ้าเราชอบเจ้าต้นอ่อนนั่นจริงอยากให้ดูแลดีๆ อย่าให้มาป้วนเปี้ยนกับคนของพี่ แล้วก็เรื่องที่นายไปร่วมมือกับเมษาก็ไม่ต้องกังวล พี่ไม่ติดใจเอาความทั้งนั้น ดีเสียอีกที่จะได้ทราบข่าววงในง่ายขึ้น”

“พี่ภาริชอยากให้ผมอยู่กับพวกนั้นนานแค่ไหนครับ”

“นายเบื่อเมื่อไหร่ก็ตีตัวออกห่างได้เลย นายเองก็คงอยากเกาะเมษาเอาไว้ในช่วงนี้เพราะเจ้าต้นอ่อนนั่นเหมือนกัน พี่เข้าใจ”

เหมือนว่าพอมาถึงห้องหนังสือก็พบกับพ่อของเขาและ คาร์ล ซีมัวประธานของบริษัทผลิตสินค้าดิจิตอลหนึ่งในประธานเงาของเครือข่ายธุรกิจอีกอย่างที่ขายของไปทั่วโลกโดยไม่มีใครรู้จักเจ้าของที่แท้จริงเหมือนกันรออยู่แล้ว

“ผมต้องออกไปรอข้างนอกไหม” สายหมอกถาม

“ไม่ต้อง เรื่องนี้นายเองก็เป็นคนในเหมือนกันแม้จะไม่มากก็ตาม รู้เอาไว้ดีกว่า เวลาพี่สั่งงานจะได้เข้าใจได้ดีขึ้น”

จากนั้นสิ่งที่ได้รู้มาก็ทำให้สายหมอกนึกสงสารเมษาเป็นครั้งแรก คำสั่งที่ภาริชมีต่อพ่อของเขาและคาร์ลก็คือให้พ่อของเขาขายหุ้นของบริษัทชัยมงคลที่มีอยู่ถึง 30 เปอร์เซนในนามบริษัทsonyaออกไปทั้งหมด

ก่อนจะสั่งให้คาร์ล ซีมัว ช้อนซื้อหุ้นกลับมาให้ได้ถึง51เปอร์เซนในนามบริษัทไม่ว่ายังไงก็ตาม หากว่าสายหมอกไม่ได้เรียนบริหารและเขาไม่ได้ตามกระแสของตลาดหุ้นในตอนนี้คงไม่เข้าใจ

เวลานี้ข่าวลือเรื่องสปายที่บริษัทชัยมงคลส่งมาในGhiblisoftเริ่มกระจายไปในหมู่ผู้ถือหุ้น อีกทั้งข้อกังขาจากการที่ออกเกมและคอนเทนต์เหมือนๆ กันราวกับฝาแฝดก็เป็นชนวนให้สงสัยอยู่แล้ว การที่พี่ภาริชสั่งให้พ่อของเขาเทขายหุ้นทิ้ง มันจะไปกระตุ้นความหวาดกลัวให้นักลงทุนที่ระแวงในระยะนี้พากันขายหุ้นในมือทิ้งจนหมด

เทคโอเวอร์บริษัท

สายหมอกเดาสิ่งที่พี่ภาริชต้องการได้ไม่ยาก นึกอยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้ เพียงแต่มันเร็วขึ้นเพราะเจ้าmaddog01ที่ทรงสเน่ห์คนนั้นนั่นเอง พอคิดถึงหน้าเมษาเขาก็แสยะยิ้มออกมา

ในยามที่แม้แต่ตำแหน่งประธานรุ่นต่อไปก็ไม่สามารถไขว่คว้าเอาไว้ได้ คนที่หลงใหลก็หลุดมือ แถมของตายอย่างต้นกล้าก็ไม่อยู่แล้ว คงน่าสมเพชพิลึก

“คราวนี้อย่าให้พลาดและต้องทำให้แนบเนียน โดยเฉพาะคาร์ลอย่าให้คนอื่นสืบมาถึงฉันได้”

หลังจากแจกแจงแผนการให้เรียบร้อย ภาริชก็ชวนสายหมอกไปแนะนำให้ฟอร์ดรู้จัก สองคนนี้ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน ถ้ารู้ว่าไม่ใช่คนอื่นไกลคงตกใจน่าดู แค่คิดว่าฟอร์ดจะทำสีหน้าเหวอแค่ไหน ภาริชก็เผลอคลี่ยิ้มออกมา



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



มาแว้วววววว อรั๊ยมีใครได้ดูmvเพลงเธอคือเมโลดี้ของbnkหรือยังค้า

อร๊ายยย อิชั้นฟินกับฉากหอมแก้มมาก เฌอสวย ปัญเท่เป็นเรื่องปกติ 

มิวสิคนี่คือดีงาม แต่คุณเนยในฐานนะเซนเตอร์เพลงนี้ทพดาเมจอิชั้นอย่างรุนแรง

อร๊าย สวยค่า เลิศค่า โอชิเพิ่มอีกล้าว ตายๆๆๆๆๆๆๆ

ตอนนี้มาสั้นหน่อยนะคะถ้าไม่ติดงานที่มากเกินไปพรุ่งนี้จะงอกออกมาอีกตอน

บทสรุปของความสัมพันธ์ระหว่างสายหมอกต้นกล้าใกล้เข้ามาแล้ว

                  เมษาเองก็ยังดิ้นรนต่อไปอีกหน่อยเช่นกัน ความด้านไม่ธรรมดาค่ะ

                  ลุ้นกันนะคะ แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกันเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 17-09-2018 18:24:36
ร้ายกาจม๊ากกกกกก :hao3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกันเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-09-2018 18:42:22
ตัวร้ายที่แท้ทรูคือภาริช 555555+

ปล.ชุดในเธอคือเมโลดี้น่ารักมาก
ชอบชุดไทยประยุกต์ โทนสีชุด
แล้วท่อนฮุกติดหูมาก เผลอฮัมทั้งวัน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกันเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-09-2018 20:45:46
ใครร้ายสุด รู้กันล่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกันเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-09-2018 22:23:05
จริงเล้ย.......... คนกันเองทั้งนั้น  :m20:  :laugh:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกันเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 17-09-2018 22:49:17
เจ้าแผนการจริงๆพี่ภาริช
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่37 คนกันเองทั้งนั้น 17/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 17-09-2018 23:53:22
 :hao7:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่38 เป้าหมายอันแสน... 18/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 18-09-2018 18:46:40
บทที่38

เป้าหมายอันแสน...

คนที่ตื่นเต้นที่สุดกับการไปเที่ยวแบบหมู่คณะเห็นทีคงเป็นตะวัน เจ้าตัวไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ยกหัวข้อนี้มาพูดไม่หยุด เวลานี้ก็กำลังราวีฟอร์ดผ่านทางโทรศัพท์ น่าปวดหัวมากจริงๆ ทั้งๆ ที่ยังไงก็ต้องเจอกันที่สนามบินในอีกไม่นานแล้ว

“พี่ตะวัน คงไม่ใช่ว่าพี่ขับรถไปคุยกับผมไปนะ” ฟอร์ดถามด้วยความเป็นห่วง

< “พี่ให้ พี่ภูมิขับรถมาส่งสิจ๊ะ โถ่...น่ารักจังเป็นห่วงพี่มากเลยสิ” >

“ก็ใช่น่ะสิ เราเป็นคนรักกันนี่”

ฟอร์ดพูดได้ดูเป็นธรรมชาติมากเสียจนภาริชต้องหัวเราะเบาๆ

เจ้าคู่รักของน้องชายเขาคนนี้ หลงฟอร์ดจนหน้ามืดตามัว แต่ไม่ใช่แค่ฝ่ายนั้นหรอกที่ออกอาการ เจ้าตัวดีของเขาเองถ้าตะวันไม่โทรมาหาก็จะกระวนกระวายเช่นกัน

ขณะเดียวกันใครจะรู้บ้างล่ะว่าตะวันนั่งหน้าแดงแปร๊ดอยู่ตรงเบาะหลังโชคดีที่พี่ภูมิไม่เห็น ไม่อย่างนั้นคงถูกถามไม่เลิกแน่ๆ แถมจากนั้นฟอร์ดยังเหมือนนกรู้ปักธงใส่เขาอีกหนึ่งดอก

< “อยากเห็นหน้าพี่ตะวันจัง อาทิตย์นี้เราสองคนต่างงานยุ่งเลยไม่ได้เจอกันเลย ดีจังเลยนะที่จะได้เจอหน้าพี่ทั้งวันไปตลอดอาทิตย์” >

“น่ารักสัตว์ๆ” คำอุทานทำเอาพี่ภูมิที่ขับรถอยู่เบาะหน้าหันมามอง ตะวันสนใจที่ไหน พี่แกเริ่มวางแผนแก้มืออย่างละเอียดละออ

คราวนี้แหละเขาจะเป็นฝ่ายรุกจนฟอร์ดต้องร้องขอชีวิต ตะวันมั่นใจในเทคนิคของตัวเองมากๆ แต่ก่อนอื่นต้องจัดการให้เขากับฟอร์ดได้นอนห้องเดียวกันก่อน ดังนั้นจึงส่งข้อความไปหาโกรธเกรี้ยว เจรจาอย่างลับๆ โดยไม่ให้ใครรู้

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : โกรธเกรี้ยว ฉันขอนอนห้องเดียวกับฟอร์ดได้ไหม

ภาริชยกโค้งมุมปากเมื่ออ่านข้อความของตะวันที่ส่งมา เขาพิมพ์ตอบกลับไปว่า

โกรธเกรี้ยว : ได้สิ

โกรธเกรี้ยว : แต่ต้องขอเตือนไว้หน่อยในฐานะพี่นะว่าฟอร์ดไม่ใช่ลูกหมาตัวเล็กๆ เชื่องๆ อย่างที่นายคิด

โกรธเกรี้ยว : สมัยที่ยังเด็กฟอร์ดเคยถูกคนร้ายลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ครั้งสองครั้ง

โกรธเกรี้ยว : หลังจากที่รอดมาได้ ฉันก็จับเขาเข้าโปรแกรมฝึกศิลปะการต่อสู้ ร่วมไปถึงเข้าค่ายแบบทหาร

โกรธเกรี้ยว : พูดตามตรง ฟอร์ดเป็นผู้ชายที่อันตรายมากเลยนะ

คุณพี่สาวจะขู่อะไรก็ขู่ไปเถอะ ถึงคราวที่แล้วเขาจะถูกฟอร์ดลงมือกินไปก่อนหน้า แต่ก็คงเพราะเขาเองก็ดื่มเข้าไปมากจนเมาแล้วนั่นแหล่ะ จึงได้พลาดพลั้งเอาง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ลูกหมาน้อยน่ารักนั่นไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่เห็นความเป็นชายเถื่อนหรือรัศมีของความเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้หรือทหารซักนิด

มั่นใจว่าคงขู่เพื่อไม่ให้เขาทำมิดีมิร้ายน้องชายตัวเองแน่ แต่คราวนี้ฟอร์ดน้อยต้องไม่รอดมือเขาเด็ดขาด ตะวันเตรียมอุปกรณ์สำหรับการนี้มาแล้ว ฟอร์ดไม่มีทางขัดขืนเขาได้อย่างแน่นอน

ชานมไข่มุกโคตรอร่อย : ตกลงเธออนุญาตแล้วนะ ตกลงนะ

โกรธเกรี้ยว : ก็ได้

ช่างเป็นหมูที่ไม่กลัวน้ำร้อนเสียจริงๆ <สำนวนหมายถึงคิดสู้กล้าสู้> ภาริชนึกอยากเห็นสีหน้าตลกๆ ของตะวันเหลือเกิน ดังนั้นจึงคิดสอนกลเม็ดอะไรบางอย่างให้ฟอร์ด

“ฟอร์ด รู้ไหมว่าจุดเสียวที่สุดของผู้ชายเวลามีเซ็กส์นอกจากข้างในก้นมันอยู่ตรงไหน”

ภาริชถามขณะเลื่อนๆ กดๆ หาคลิปgvเป็นภาพประกอบ

ฟอร์ดสะดุ้งโหยงไม่คิดว่าพี่ชายจะด้านพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนขับรถ “พี่พูดบ้าอะไรของพี่เนี่ย”

“เอาไปดูสิ” ภาริชยื่นคลิปในมือถือให้ฟอร์ดดู ซึ่งมันเป็นภาพหนังgvในฉากที่ฝ่ายรุกกำลังใช้ลิ้นกับจุดซ่อนเร้นบริเวณบั้นท้ายของฝ่ายรับ

“เห้ย....” ฟอร์ดเบิกตากว้าง เขาหน้าแดงก่ำ แต่ไม่ยอมละสายตาจากคลิปนั้น

“คราวที่แล้วได้ใช้ลิ้นบริเวณนี้กับเจ้าชานมไหม”

ฟอร์ดส่ายหน้า “ผมไม่ได้คิดว่ามันสกปรกนะ แต่ตอนนั้นเป็นครั้งแรกของกันและกัน เลยไม่กล้าทำถึงขนาดนี้”

ฟอร์ดมักจะตอบคำถามภาริชอย่างตรงไปตรงมาเสมอ พวกเขาพี่น้องไม่เคยมีความลับต่อกัน

“งั้นคราวนี้ต้องใช้เทคนิกทั้งหมดที่มีแล้วนะ ดูเหมือนว่าเพราะนายไม่เก่ง ฝ่ายนั้นเลยไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นรับเสียที”

“ท่านพี่รู้ได้ยังไง” ฟอร์ดถาม ภาริชยิ้มละไมแทนคำตอบ

“จริงๆ กับพี่ตะวัน ให้ผมรับผมก็ไม่รังเกียจ แต่...”

ฟอร์ดนึกถึงสีหน้าเย้ายวนของตะวันในยามที่เป็นฝ่ายถูกกระทำแล้วเผลอเลียริมฝีปากอย่างนักล่า ภาริชเห็นสีหน้าประหนึ่งเสือร้ายของน้องชาย ภายในใจก็ยินดีปรีดา เขาใช้มือคล้องคอเจ้าน้องตัวแสบแล้วกระซิบที่ข้างหูเสียงยั่วเย้า

“ศึกษากลวิธี อย่าให้เจ้าเหยื่อคิดไปเองว่าเป็นผู้ล่า”

จากนั้นสองพี่น้องก็ใช้เวลาคุยเรื่องเพศรสอย่างจริงจัง โดยไม่ได้สนใจหรือสงสารคนขับรถที่ต้องมานั่งฟังเรื่องสัปดนแต่อย่างใด

ในวันนัดรวมตัว คนที่ตื่นเต้นไม่แพ้ตะวันคงเป็นนรินทร์ เขาไม่ได้ไปทะเลนานถึง 4 ปีแล้ว แถมยังไปค้างกับพี่ภาริชและกลุ่มเพื่อนสนิทอีกด้วย ดังนั้นวันนี้จึงตื่นเช้าเสียยิ่งกว่าพี่ณภัทรกับมิวซังเสียอีก

“รินเสื้อผ้าจัดแล้วใช่ไหม ขนมที่พี่ซื้อเตรียมให้เราล่ะเก็บใส่กระเป๋าแล้วหรือยัง”

มิวซังมองดูสองพี่น้องคุยกันกระหนุงกระหนิงแล้วอมยิ้ม พี่ณภัทรคงรอเวลานี้มานานแล้ว คงกำลังปลื้มแน่ๆ ที่น้องชายหัวแก้วหัวแหวนกลับเป็นคนปกติได้เสียที เห็นได้จากไม่มีการคัดค้านเรื่องที่เจ้านายจะพาน้องไปเที่ยวเล่นนานๆ ไกลๆ เลยซักนิด

พี่ณภัทรจะรู้ตัวไหมนะ ว่าเจ้านายตัวเองกำลังหวังเคลมเจ้ารินอยู่ ถ้ารู้เข้าจะตกใจไหมหรือว่าดีใจที่เจ้ารินได้ผู้ชายดีๆ เป็นคู่รัก ทว่าเรื่องอนาคตคิดไปก็ปวดหัว สู้เธอเฝ้ามองอย่างเงียบๆ ดีกว่า เอาจริงๆ คนซื่อๆ อย่างพี่ณภัทร กว่าจะรู้ตัวเจ้ารินคงกลายเป็นของคุณภาริชไปทั้งกายใจแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้เธอสงสัยจนติดหมัด ค่ำวันนั้นคุณภาริชพานรินทร์ไปเที่ยวจนดึกดื่นค่อนคืน สองคนนี้ได้เสียกันไปแล้วหรือยังนะ เพราะอย่างนั้นระหว่างที่นั่งรถไปยังสนามบิน มิวซังจึงส่งข้อความถามนรินทร์ตรงๆ

Silverfox13 : คราวก่อนที่ไปกับคุณภาริชจนดึกดื่น รินได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคุณภาริชหรือเปล่า

ข้อความของมิวซังทำเอานรินทร์แทบกรี๊ด ใบหน้าเขาแดงก่ำเป็นกุ้งต้ม โชคดีที่พี่ณภัทรตั้งใจขับรถอยู่

Maddog01 : ทำไมมิวซังถามอย่างนี้ล่ะ

Silverfox13: ก็รินชอบคุณภาริช แถมยังคบกันแล้วนี่

Maddog01 : มิวซังรู้ได้ยังไงว่าเราคบกัน

Silverfox13: ฉันเป็นผู้ปกครองของรินคนหนึ่งนะจะไม่รู้ได้ไง

Silverfox13: ว่าไงล่ะกับคุณภาริชได้นอนด้วยกันไปหรือยัง

Maddog01 : พี่ภาริชไม่ใช่คนฉวยโอกาสแบบนั้นนะมิวซัง

ตอนนี้เองที่มิวซังหันมามองใบหน้าของนรินทร์ ทั้งคู่ประสานสายตากัน

Silverfox13: เรื่องจริงหรือ จิ้งจอกตัวนั้นไม่ได้ทำไม่ดีไม่ร้ายกับรินเลยหรือ

Maddog01 : เราสองคนจูบกันแค่นั้นเองนะ

นรินทร์พิมพ์ตอบด้วยท่าทางลนลาน เขาไม่อยากให้มิวซังเข้าใจพี่ภาริชผิด

Silverfox13: เข้าใจแล้ว

Silverfox13: แต่ฉันคิดว่า คราวนี้คุณภาริชอาจจะอยากเผด็จศึกรินบนเตียงก็ได้นะ

“เอ๊ะ” รินร้องอุทานออกมาเบาๆ โชคดีที่พี่ณภัทรตั้งใจขับรถเอามากๆ เขาแค่ส่งยิ้มให้ผ่านทางกระจกหน้าเท่านั้น

Maddog01 : ไม่หรอกมั้งมิวซัง

Silverfox13: คุณภาริชเองก็เป็นผู้ชายนะ เอาเถอะ ฉันจะทำเป็นมองไม่เห็นก็แล้วกัน

นรินทร์อยากจะพิมพ์ตอบกลับไปว่ามิวซังพูดไร้สาระ แต่เพราะมัวแต่คิดถึงฉากวาบหวิวของพี่ภาริชนั่นแหละ ภาพฉากร่วมรักของการ์ตูนboy love ยังอยู่ในสมองอย่างชัดเจน

เขาศึกษามันเพราะเริ่มสนใจพี่ภาริชมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งที่อยากรู้มากกว่านี้ เขายังไม่กล้าหาญไปดูหนังgv เอาจริงๆ แค่หนังสือการ์ตูน เขาก็กลายเป็นเด็กที่แก่แดดแก่ลมมากพอแล้ว

ทว่าทั้งที่ปฏิเสธคำอนุญาตอันแสนจะใจกว้างของมิวซัง นรินทร์กลับแอบคาดหวังอย่างเด็กแก่แดดนิดๆ แม้จะกลัวการเชื่อมร่างกายเข้าหากันแบบคู่รัก แต่เขาก็อยากผูกพันกับพี่ภาริชอย่างลึกซึ้งแม้จะเป็นเพียงแค่น้อยนิดก็ตาม

ไม่ว่าจะกอดจูบหรือมากกว่านั้น เขาเองก็อยากจะทำเช่นนั้นกับพี่ภาริช นรินทร์หน้าแดงก่ำ ทำไมเขาเป็นคนใจเร็วด่วนได้แบบนี้ แก่แดด แก่แดดเกินไป คิดว่าผู้ใหญ่อย่างพี่ภาริชต้องไม่ชอบแน่ๆ

<เราควรเลิกคิดเรื่องทะลึ่งพวกนี้ ยังไงเราก็คบกับพี่ภาริชแล้ว เรื่องความสัมพันธ์ทางกาย ไม่เห็นต้องรีบซักนิดเลย>

“นรินทร์เองก็เป็นผู้ชายนี่น้า”

มิวซังพึมพำเหมือนรู้ความคิดของเจ้ารินดี แน่ล่ะหน้าแดงไปจนถึงหู แถมยังกระวนกระวาย ยิ้มบ้างหน้าบูดบ้าง คงคิดตามเรื่องที่เธอจุดประเด็นแน่ๆ

“อายุตั้ง 17 แล้วจะคิดเรื่องพวกนี้ก็ไม่แปลกหรอก”

“มิวซัง” นรินทร์อยากเอาหัวมุดลงไปในดินตอนนี้เลยถ้าทำได้ แถมพี่ณภัทรก็เข้าร่วมวงสนทนาด้วยแล้วเพราะสงสัย สุดท้ายนรินทร์ต้องแก้ตัวมั่วๆ เอาตัวรอดไปจนทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาซะดึกแต่ก็มานะ55555

มาลุ้นกันว่าพี่ตะวันจะทำสำเร็จไหมนะ หรือไม่ต้องลุ้นดี5555

ลุ้นพี่ภาริชกะรินด้วยนะ5555 หรือไม่มีให้ลุ้นดีอิอิ

อ้อยังมีเมษากับอิงภพที่มาครบทีมอื้อหือ เขียนยากจังเว้ย

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่38 เป้าหมายอันแสน... 18/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-09-2018 20:20:06
เด็กน้อยน่ารัก
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่38 เป้าหมายอันแสน... 18/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 18-09-2018 23:22:50
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่38 เป้าหมายอันแสน... 18/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-09-2018 11:00:19
งุ้ยยยยย...........อ่านไปยิ้มไป อย่างกว้างขวางซะด้วย  :laugh:  :laugh:
สงสารตะวันดีหรือเปล่านะ แต่ชอบบบบมากกว่านะ   :o8:   :-[   :impress2:
ถถถถถถ ก็ฟอร์ดน่ะหมาป่า
แต่รูปลักษณ์ให้ตะวันมองเป็นแค่ลูกหมา
ยิ่งได้กลเม็ดเด็ดพรายจากท่านพี่อัลฟ่าภาริชด้วย
ตะวันได้ครางหนักทั้งคืนแน่  :z1: :pighaun: :haun4:
รออย่างใจจดใจจ่อ  :z3: :z3: :z3:

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่39 ห้องที่ดีที่สุด 19/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 19-09-2018 13:32:36
บทที่39

ห้องที่ดีที่สุด

“ฟอร์ด” พอตะวันเห็นฟอร์ดก็รีบเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงทันที ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมาถึงคนแรกและพวกภาริชก็ตามมาติดๆ

ทีแรกเพราะความรักหลงทำให้นัยน์ตามืดบอดมองไม่เห็นหนุ่มรูปงามประหนึ่งเทพบุตรที่ยืนอยู่ข้างๆ ทว่าพอสกินชิฟจนหนำใจ ทักษะการสังเกตรอบตัวก็กลับมาเป็นปกติ

ตะวันปลายตามองอีกฝ่าย ผู้ชายคนนี้สูงใหญ่กว่าฟอร์ด แถมหน้าตาดีไม่แพ้กัน เป็นหนุ่มรูปสวยที่มีกลิ่นอายของสัตว์ป่าชั้นสูง ที่สำคัญดูท่าทางจะเป็นพวกสายรุก อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนี่มันเล็งฟอร์ดเอาไว้

สายตาที่ดูเป็นปฏิปักษ์ของตะวันทำให้ภาริชคลี่ยิ้มละมุนละไม เขาสามารถเดาได้ว่าคนรักของน้องชายคนนี้คิดอะไรอยู่ รู้ความคิดแต่ไม่ยอมแก้สถานการณ์ให้เพราะกำลังสนุกสุดๆ

ท่าทางกร่างๆ ของนายแบบหนุ่มที่ก้าวมายืนประจันหน้า ทั้งยังใช้มือกวาดฟอร์ดให้ไปหลบด้านหลัง มันชัดเจนว่าอีกฝ่ายแสดงความเป็นเจ้าของน้องชายของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงชั่วร้าย

ในสายตาของตะวันเจ้าสัตว์ป่ารูปงามนี่กำลังประกาศความเป็นศัตรูกับตนเองอย่างชัดเจน การที่คนในวงการเกมอย่างตะวันไม่รู้จักหน้าภาริชเลยนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะภาริชเป็นคนที่รักษาความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างดี ถึงแม้ภาริชเองก็เป็นนักเล่นเกมในระดับต้นๆ แต่ก็ไม่ได้เอาหน้าไปโผล่ตามสื่อต่างๆ ง่ายๆ ถ้าไม่เป็นแฟนคลับของเขาจริงๆ ก็จะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเขายากซักหน่อย

“พี่จำได้ว่าทริปนี้ของเรามีแต่คนในนี่ฟอร์ด ไหงนายพาเจ้าสัตว์ป่าตัวนี้มาด้วย”

ทีแรกฟอร์ดก็งงๆ ต่ออาการของคนรัก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็บรรลุจนได้ ภาริชยังคงยืนหัวเราะหึหึอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

“ไม่ใช่แล้วพี่ตะวัน คนคนนี้เขาก็คือพี่โกรธเกรี้ยวไง”

“ห๊ะ” ตะวันหันกลับไปมองหน้าของฟอร์ดสลับกับภาริช เขางงไปหมดแล้ว

“พี่ตะวันรู้นามสกุลของผมใช่ไหม พัชรกานต์กุล อย่าบอกนะว่าพี่ไม่รู้จักบอสของบริษัทGhiblisoft ภาริช พัชรกานต์กุล”

ต้องรู้จักอยู่แล้วสิ แต่ตะวันไม่ได้สนใจรูปร่างหน้าตา อีกอย่างเขาคิดว่าฟอร์ดน่าจะเป็นญาติห่างๆ เหตุผลก็เพราะเข้าใจว่าโกรธเกรี้ยวเป็นผู้หญิง

“อ่า...” ตะวันพูดอะไรไม่ออก เอาง่ายๆ คือจัดการกับสถานการณ์อันคาดไม่ถึงไม่ถูก

“ฉันไม่เคยพูดใช่ไหมว่าเป็นผู้หญิง” ภาริชยิ้มหวาน

“แล้วท่านพี่ก็ไม่เคยปิดบังตัวตนด้วยนะครับ พี่ตะวันน่าจะเดาได้จากนามสกุลของผม” ฟอร์ดเสริม

“มิวซังยังจับได้เรื่องตัวตนของฉันในระยะไม่นานเลยนะ” ภาริชหัวเราะน้อยๆ ยิ่งเห็นท่าทางแข็งค้างของตะวันก็ยิ่งสนุก จังหวะนั้นมิวซังกับนรินทร์ก็เดินทางมาถึงพอดี เสียงของมิวซังดังมาทำให้ตะวันหลุดจากอาการแข็งทื่อทั้งร่าง

“มากันเร็วจังนะ” มิวซังถาม

แต่หาได้อยู่ในสายตาของตะวันไม่ คุณตะวันรีบถลาไปหานรินทร์ไวกว่าแสง

“ลูกพี่...” ตะวันกอดรัดฟัดเหวี่ยงนรินทร์ เจ้าตัวเล็กดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอด

“ลูกพี่ที่น่าสงสาร ลูกพี่จะไม่ขายหน้าคนเดียวนะที่เข้าใจผิดว่าโกรธเกรี้ยวเป็นผู้หญิง”

“อ้อ...เอ่อ...” นรินทร์ทั้งงงทั้งอึ้ง แต่ยังพอเข้าใจได้บ้าง เขากำลังจะบอกความจริงแต่มิวซังตัดหน้าเสียก่อน

“นรินทร์รู้ตั้งนานแล้ว เหมือนฉันนั่นแหละ อีกอย่าง คุณภาริชกับรินเป็นคนรักกัน ไม่ต้องให้นายมาเป็นห่วงหรอก”

“อะไรนะ” ตะวันร้องเสียงหลง บิดคอไปมามองดูภาริชสลับกับนรินทร์

“ลูกพี่ๆ ๆ ๆ ลูกพี่จริงนะหรือ” ตะวันจับไหล่ของนรินทร์ทั้งสองข้างแล้วเขย่าไปมา

“ลูกพี่มีแฟนแล้วหรือนี่ ทำไมไม่บอกกันเลยล่ะ ทั้งที่เราสนิทกันขนาดนี้แท้ๆ”

ภาริชยังครื้นเครงได้นิดหน่อย แต่เห็นได้ชัดว่าฟอร์ดเริ่มอารมณ์เสีย คนเป็นพี่ชายสังเกตเห็นหน้าบูดบึ้งนั้นก่อนใคร คิดอยู่ว่าเจ้าตะวันหาเรื่องใส่ตัวเสียแล้ว

“พี่ตะวัน” ฟอร์ดเรียกคนรักด้วยเสียงนิ่งเรียบ เจ้าตัวไม่ได้ยิน ยังคงมุ้งมิ้งนัวเนียกับนรินทร์ดูแล้วชวนให้หงุดหงิดมากสำหรับฟอร์ด

“พี่ตะวัน คนรักของพี่อยู่ทางนี้นะครับ”

ยังดีที่ตะวันยังสำเหนียกตัวอยู่บ้าง เสียงของฟอร์ดหวานมาก แต่พอหันหน้าไปดูกลับพบใบหน้านิ่งและเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็งทำเอาตะวันต้องรีบเข้าไปเอาใจ

“พี่ไม่ได้นอกใจนะ แค่คุยกับลูกพี่เฉยๆ”

“เรื่องของคนอื่นเขาพี่ไม่ต้องสนใจขนาดนั้นหรอกครับ” ฟอร์ดกล่าวเสียงเข้ม ตะวันแม้กังวลจนคอหดแต่ไม่วายเถียงอยู่ดี

“คนอื่นที่ไหนนี่ลูกพี่เชียวนะฟอร์ด ลูกพี่มีแฟนเชียวนะ”

เขาเป็นถึงมือซ้ายของลูกพี่ อุตส่าห์ถนอมกล่อมเกลี้ยงอย่างดี อยู่ๆ มีคนมาคว้าไปครองง่ายๆ เขาก็ต้องตกใจและซักถามอย่างละเอียดอยู่แล้ว

“เขาสำคัญยิ่งกว่าผมที่เป็นคนรักของพี่อีกหรือครับ” ฟอร์ดทำสีหน้าเศร้าๆ พาให้ตะวันพลอยปวดร้าวไปด้วย แต่ยังไม่วายอยากเผือกเรื่องของนรินทร์

“แต่...ลูก...เฮ้อ...” ตะวันคอตก เขาสำนึกได้ในที่สุด ลูกพี่สำคัญก็จริง ทว่าเขาควรนึกถึงความรู้สึกของฟอร์ดมากกว่า

“มืออยากจับไหมครับ” ฟอร์ดแบมือมาข้างหน้าเขา ตะวันวางมือลงไป พวกเขาสองคนจับมือกันแน่น ราวกับประกาศให้ทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มี

นรินทร์มองดูความสนิทสนมของฟอร์ดกับตะวันด้วยความอิจฉา เขาเองก็อยากจับมือกับพี่ภาริชเดินบ้าง ไม่คาดคิดว่าคนที่เฝ้าถวิลจะรู้ความคิดของเขา อีกฝ่ายเดินเข้ามาหาแล้วกระซิบข้างหู

“จับมือพี่เดินไปนะครับ”

ภาริชไม่รอคำตอบเขาคว้ามือนรินทร์ไปกุมไว้ กลายเป็นการจับกลุ่มกันเดินไปตามทางของคนรักสองคู่

มิวซังส่ายหน้าอย่างระอา ประเจิดประเจ้อกันน่าดู ถึงอย่างนั้นก็เข้าใจนะ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกอะไรที่เป็นสาวโสดท่ามกลางชายหนุ่มที่จับกันเป็นคู่ๆ จริงๆ ไปเที่ยวคราวนี้เธอเองก็คิดหนีไปทำกิจกรรมของเธอคนเดียวเหมือนกัน

พอดีว่าสถานที่ท่องเที่ยวในคราวนี้ มันใกล้กับงานคอนเสิร์ตรวมนักร้องชื่อดังที่เธอต้องไปทุกปี ดังนั้นสามสี่วันเธอก็จะไปรวมกลุ่มกับพวกแฟนด้อมซึ่งล้วนแต่เป็นพวกคอเดียวกันทั้งนั้น เผลอๆ เธออาจจะปล่อยพวกหนุ่มๆ ทิ้งโดยไม่สนใจด้วยซ้ำ

จากนั้นภาริชก็พาทั้งกลุ่มขึ้นเครื่องบินตรงไปยังเมืองxxxแล้วนั่งเรือไปต่อยังเกาะoooการเดินทางช่างแสนสะดวกสบาย เพราะพวกเขานั่งชั้นเฟิร์สคลาสแล้วไปต่อด้วยเรือส่วนตัว เมื่อไปถึงเกาะก็มีรถคันหรูหรามารอรับ จวบจนถึงบ้านพักตากอากาศเรียกได้ว่ามีแต่ความสบายราวกับราชา

“สวยจัง” นรินทร์ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศภายในบ้านตากอากาศมากทุกอย่างดูดีไปหมดตั้งแต่ข้างนอกยันข้างใน แถมห้องนอนยังมีถึง 4 ห้อง ไม่รวมห้องนั่งเล่นห้องครัวและห้องสันทนาการ

“เอ๊ะแต่ว่ามีห้อง 4 ห้อง งั้นต้องมีคนนอนด้วยกันสิครับ” นรินทร์เอียงคอมองดูภาริช พอจะเดาได้ว่าพี่ภาริชอาจนอนกับฟอร์ดที่เป็นน้องชาย

“ฟอร์ดจะนอนห้องเดียวกับตะวัน”

“เอ๊ะ” นรินทร์ทำหน้าเหรอหรา พอมองไปยังสองคนที่ว่าก็เห็นแค่หลังไวๆ เจ้าตะวันตัวดีจูงมือฟอร์ดไปเลือกห้องก่อนใคร ได้ยินเพียงเสียงหงุงหงิงฉอเลาะของตะวันเท่านั้น

“งั้น...ฉันไปเลือกห้องก่อนนะ” มิวซังยิ้มๆ ปล่อยให้นรินทร์ยืนคุยกับภาริชไป

“รินไปเลือกห้องดีกว่านะ เดี๋ยวห้องน่ารักๆ จะถูกแย่งไปหมด หรือว่าจะให้พี่พาไปดู”

ภาริชไม่รอคำตอบจับมือนรินทร์จูงไปยังห้องที่รออยู่ เมื่อไปถึงก็พบว่าตะวันจับจองห้องที่ชอบไปแล้ว เป็นห้องที่มีสระน้ำยื่นออกไปยังส่วนของทะเลประดับประดาด้วยต้นไม้สวยงามและหินสวยๆ จนเลิศหรูอลังการ เวลาเล่นน้ำกับคนรักสองต่อสองคงโรแมนติคน่าดู ตะวันก็หมายใจเอาไว้อย่างนั้นนั่นแหละ

“ดีจัง...” นรินทร์ดูจะอิจฉา แต่ภาริชก็ลากนรินทร์ไปยังห้องต่อไปที่มิวซังจับจองไว้แล้ว

“ว้าว” ห้องของมิวซังนั้นตอนกลางคืนคงสวยน่าดู ส่วนของหลังคานั้นทำด้วยกระจก สามารถใช้รีโมตปิดหลังคาเพื่อกันแดดหรือเปิดหลังคาเพื่อดูดาวยามค่ำคืนก็ยังได้ นรินทร์มองห้องนั้นด้วยความอิจฉา

“ไปดูห้องของพี่กัน” ภาริชพานรินทร์ไปยังห้องของตัวเอง ห้องนั้นตกแต่งด้วยสีขาว แต่พื้นห้องทำด้วยกระจก เพราะงั้นจะเห็นทะเลและปลาสวยๆ แหวกไหว้อยู้ใต้เท้า นรินทร์ทอดถอนหายใจด้วยความอิจฉาอีกครั้ง

“คงไม่เหลือห้องดีๆ ไว้ให้ผมแล้วแน่เลย”

“ไม่หรอก” ภาริชยิ้มๆ แล้วจูงมือพานรินทร์ไปยังห้องที่ลึงลงไปด้านล่าง

“ห้องของริน สวยที่สุดและน่ารักที่สุด พี่อุตส่าห์เสียสละให้เราเลยนะ”

เมื่อลงไปด้านล่างก็พบว่าห้องทั้งห้องจมอยู่ใต้ทะเล รอบด้านห้องเป็นกระจกทั้งหมด ดังนั้นจึงเห็นทะเลสวยๆ ปะการังและฝูงปลาที่แหวกว่ายหลากสีสัน เป็นภาพที่งดงามตระการตาที่สุด

“จริงๆ ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของพี่ พี่สละให้เรา เพราะอยากให้เราได้พักห้องที่สวยที่สุด ชอบไหม”

นรินทร์ไม่ตอบในทันที เพราะมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ทุกห้องของบ้านพักแห่งนี้สวยไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องนี้ งดงามกว่าห้องไหนๆ

“ขอบคุณมากนะครับพี่ภาริช” นรินทร์ขอบคุณจากใจจริง การได้มาทะเลครั้งแรกใน 4 ปี ของเขา แค่เริ่มต้นจากห้องพักก็วิเศษที่สุด พี่ภาริชเอาใจใส่เขามากจริงๆ

“แทนคำขอบคุณ อยากให้จูบพี่จะดีกว่า เอาเป็นที่แก้มเบาๆ หนึ่งครั้ง”

แค่ที่แก้มนรินทร์ไม่เห็นว่าเสียหายตรงไหน เขายินดีที่จะทำ ดังนั้นจึงเขย่งปลายเท้าประทับริมฝีปากไปบนแก้มของคนตัวสูงกว่า โชคดีที่อีกฝ่ายก้มลงมาช่วยอีกแรงไม่งั้นคงจะจูบไม่ถึงแน่ๆ

“รินเคยดำน้ำหรือเปล่า เอาไว้เราไปดำน้ำตื้นกันดูก่อนหรือว่าไปล่องเรือดี แล้วตอนเย็นๆ เราจัดปาร์ตี้อาหารทะเลที่ริมหาดกันดีไหม รินชอบทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”

“ผมชอบกุ้ง ถ้าได้กินกุ้งตัวโตๆ น้ำจิ้มซีฟู้ดก็ดีครับ”

“เราทานเผ็ดได้สินะ แม่ครัวที่พี่จ้างขึ้นชื่อเรื่องทำอาหารรสชาติจัดจ้านถึงใจเลยล่ะ”

“ทานได้ครับ ผมกับมิวซังค่อนข้างทานเผ็ด”

“งั้นดีเลย รินเก็บกระเป่าไปก่อนอีกเดี๋ยวแล้วออกไปเจอกันที่ห้องนั่งเล่นนะครับ”

“ครับ”

พี่ภาริชไปแล้ว นรินทร์วางกระเป๋าแล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงน้ำที่เด้งดึ๋งให้ความรู้สึกดีสุดๆ

จะต้องสนุกมากแน่ๆ การมาเที่ยวครั้งนี้คงได้เก็บเป็นความทรงจำดีๆ ไปอีกนานแสนนาน ได้มาเที่ยวกับคนรักและคนที่ไว้ใจยังไงมันก็ต้องดีอยู่แล้ว

นรินทร์ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงดื่มด่ำกับความรู้สึกดีๆ พักหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นรื้อเอาของที่จำเป็นออกมา



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                     ลัลลา ได้ร่างปกของเรื่องท้าชะตาเปลี่ยนรักมาแล้วค่ะ คุณจิระกับเพทายงามมาก 

                       อยากอวดอยากโชว์มากเลยค่ะ 55555 แต่ขอเกบไว้ก่อนรอลงสีก่อนน้าแล้วจะเอามาอวดโฉมเต็มๆ

                     ใกล้จะได้เปิดพรีแล้วค่า

                      แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่39 ห้องที่ดีที่สุด 19/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 19-09-2018 14:57:52
วิวสวยถูกใจเจ้ารินน้อย สร้างความประทับใจแบบสุดๆ  :กอด1:
แต่ยังรอชมพี่ภาริชจัดการพวกแขกไม่ได้รับเชิญอยู่  :z6:
 :3123:  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่39 ห้องที่ดีที่สุด 19/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 19-09-2018 21:40:18
รอดูตอนพี่ภาริชจัดการพวกเมษานะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่39 ห้องที่ดีที่สุด 19/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 20-09-2018 08:15:46
รออออ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่40 ความตั้งใจ 21/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 21-09-2018 17:55:17
บทที่40

ความตั้งใจ

ตะวันมีนิสัยกล้าได้กล้าเสียมาแต่ไหนแต่ไร เขารอจังหวะให้คนอื่นๆ ออกจากบ้านพักไปเสียก่อน แล้วทำการกินรวบฟอร์ดอย่างรวดเร็วไม่มีการพูดพล่ามทำเพลงใดๆ ทั้งนั้น

พี่ตะวันอยู่ๆ จับผมมัดแบบนี้มันแปลกๆ นะครับ” ฟอร์ดถูกตะวันใช้เชือกรัดข้อมือเอาไว้

คนรักคร่อมอยู่บนตัวของเขา ดูแล้วช่างล่อแหลมเสียเหลือเกิน จะว่าไปพี่ตะวันก็ทำหน้าหื่นกระหายน่าดู ฟอร์ดรู้ทันทีว่าอะไรต้องเกิดขึ้นต่อไป

“พี่ตะวัน ทำไมวันนี้รุนแรงกับผมจัง”

ฟอร์ดถามด้วยเสียงที่ติดจะออดอ้อนนิดๆ ส่วนตะวันนะหรือกำลังทึ้งเสื้อผ้าที่ติดกายเขาออกไปทีละชิ้น

ฟอร์ดอย่าโทษพี่นะ เพราะนายนั่นแหละทำให้พี่ต้องใช้มาตรการนี้”

“พี่ตะวันผมเจ็บมือจัง”

เพราะถูกจับพลิกไปมาทั้งที่ถูกมัดทำให้บางท่วงท่าก็จะมีการทับมือตัวเองบ้าง ตะวันชะงัก พอเห็นสีหน้าหมาหงอยของฟอร์ดแล้วเกิดสงสารขึ้นมา

“ทนหน่อยนะฟอร์ด อีกเดี๋ยวจะสบายแล้วนะ”

ฟอร์ดถอนหายใจ พี่ตะวันดูมุ่งมั่นมาก อยากเป็นฝ่ายรุกเขาขนาดนั้นเชียว ตอนนี้ถูกจับแก้ผ้าจนเปลือยเปล่า สายตาของคนรักร้อนแรงเสียจนฟอร์ดเขิน

“นายเนี่ยกล้ามเป็นมัดๆ เลย ทั้งที่เป็นแค่เด็กมัธยมปลายแท้ๆ”

คราวที่แล้วเพราะดื่มเข้าไปมาก็เลยไม่ทันได้สังเกต ตะวันลากนิ้วไปตามลอนกล้ามบริเวณหน้าท้อง ผิวกายของฟอร์ดเรียบลื่นเหมือนผ้าไหม ขณะเดียวกันก็แกร่งกร้าวเหมือนเหล็กกล้า ดูอันตรายไปทั่วทุกสัดส่วน

“ฝึกอะไรมาบ้างเนี่ย ร่างกายถึงได้สมบูรณ์แบบอย่างกับหน่วยคอมมานโด”

เขาไม่เชื่อโกรธเกรี้ยวหรือภาริชพี่ของฟอร์ดเลยสักนิดที่บอกว่าส่งฟอร์ดไปฝึกป้องกันตัวมา ตามปกติแล้วครอบครัวที่มีเงินแบบนี้ส่วนมากมักจะส่งลูกส่งหลายเข้าโรงยิม ศึกศิลปะป้องกันตัวอย่างพวกยูโด คาราเต้ หรือมากสุดก็มวยไทยพอให้พูดอวด เพื่อสร้างความมั่นใจในตัวเอง

ซึ่งตะวันเองก็ผ่านการฝึกแบบนี้มาบ้างเหมือนกัน ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า แถมเขายังได้สายดำมาแล้วจึงไม่ได้หวั่นเกรงคำขู่ของภาริชเลยสักนิด

และถ้าเขาเอาจริงแล้วละก็ ต่อให้เป็นการ์ดตัวโตๆ เขาก็คว่ำได้สบายมาก อย่าว่าแต่ฟอร์ดที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกขนาดนี้ เขาถึงได้เลือกจะมัดอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนเพราะกลัวว่าถ้ามีการขัดขืนกันขั้นมาอาจจะพลาดพลั้งทำให้ฟอร์ดต้องเจ็บตัว

เขาน่ะ เป็นคนที่ถนอมคนรัก ดังนั้นถึงเลือกจะใช้เชือกนี่แหละ ไม่ได้มีความคิดอยากกลั้นแกล้งรังแกคนรักสักนิด แม้ว่าฟอร์ดในตอนนี้จะน่ารักจนใจละลายขนาดไหนก็ตาม

“เอ่อ...ก็...” ยังไม่ทันที่ฟอร์ดจะได้ไล่เรียงรายละเอียด

ตะวันก็ลากปลายลิ้นไปบนลอนกล้ามตรงหน้าท้อง ฟอร์ดสูดลมหายใจเข้าด้วยความเสียวกระสัน เขารู้สึกดีมากจริงๆ

“พี่ตะวัน....อย่า....”

ฟอร์ดครางเสียงหวิว เขาพยายามห้ามคนรักอย่างสุดความสามารถ มือไม้ของตะวันลูบโลมไปทั่วเรือนร่างของเขา ก่อนจะฉกริมฝีปากตรงยอดอกสีชมพู ยิ่งรู้สึกดีเข้าไปอีก แถมคนบนร่างยังใช้มือกับความเป็นชายของเขาปรนเปรอทั้งบนและล่างอย่างเชี่ยวชาญ

คนถูกกระทำครางเสียงงุ้งงิ้งเบาๆ ขัดใจตะวันยิ่งนัก “ร้องเสียงดังๆ ก็ได้นะฟอร์ด พี่อยากได้ยิน”

ทั้งอย่างนั้นฟอร์ดก็ยังครางเสียงเบาเหมือนแมวอยู่ดี ตะวันจึงขยับเลื่อนลงไปใช้ปากเล่นงานเจ้าน้องชายอันแสนใหญ่โต มันเป็นเรื่องที่ลำบากมากเพราะมันคับปากไปหมด แต่ไม่คณามือผู้เชี่ยวชาญอย่างเขาหรอก

ตะวันใช้เทคนิคท้งหมดที่มีโลมเลียจนสิ่งนั้นชื้นแฉะ ตั้งใจมอบความสุขสมเพื่อให้ฟอร์ดพร้อมสำหรับการรับเขาเข้าไป

“พี่ตะวันผมไม่ไหวแล้ว”

“ไม่ไหวก็ปล่อยออกมา” ตะวันหัวเราะคิกๆ มั่นใจในกลเม็ดของตัวเองมาก

เขาไม่ได้รู้เลยว่าฝีมือการมัดของตัวเองเข้าขั้นห่วยแตก ยิ่งคนที่ถูกฝึกวิธีการแก้มัดมาแล้วอย่างฟอร์ดด้วย ดังนั้นเหตุการณ์จึงกลับตาลปัตร จากที่เป็นฝ่ายรุกก็ถูกฟอร์ดที่กระชากเชือกออกแล้วจับเขาพลิกลงไปนอนใต้ร่าง ตะวันตกใจจนตาเหลือกลาน

“เป็นความผิดพี่ตะวันเองนะ ผมบอกแล้วว่าอย่า....”

ฟอร์ดประทับจูบลงมาปิดกั้นเสียงร้องด้วยความหวาดผวาของตะวัน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะใช้สิ่งที่เรียนรู้มาจากท่านพี่ ทุ่มเทจนหมดหน้าตัก ให้พี่ตะวันมีความสุขที่สุดให้ได้

อันที่จริงเขาตั้งใจว่าจะอดทนอดกลั้นจนถึงตอนกลางคืน แต่พี่ตะวันดันปลุกความปราถนาของเขาขึ้นมา แถมยังเป็นความปราถนาที่เขาจินตนาการมานับครั้งไม่ถ้วนในช่วงที่ไม่เจออีกฝ่าย



เพราะงั้นเขาคงจะอดใจอ่อนโยนให้ไม่ได้จริงๆ .....

.................



หลังกลับจากดำน้ำตื้นมาก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ทั้งคู่คิดจะทำอาหารปิ้งย่างกันที่ริมชายหาด ดังนั้นนรินทร์จึงอาสามาตามฟอร์ดกับตะวันไปทานพร้อมๆ กัน ส่วนมิวซังนับจากออกไปข้างนอกก็ยังไม่กลับมาง่ายๆ คาดว่าคงสนุกสนานกับพวกกลุ่มแฟนด้อมของตัวเอง

นรินทร์เดินตรงไปยังห้องของตะวันและฟอร์ดเขายกมือเตรียมจะเคาะประตู ถ้าไม่ติดว่าได้ยินเสียงครางไม่หยุดจากทั้งคู่ดังลอดออกมา คนยืนฟังหน้าแดงแปร๊ด ตัวแข็งค้างทำอะไรไม่ถูก

นรินทร์กำลังอึ้ง ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะพัฒนาไปถึงขั้นนี้แล้ว เอายังไงดี อีแบบนี้ทั้งคู่คงไม่ออกมาทานข้าวเย็นแน่ จะให้กลับไปบอกพี่ภาริชว่ายังไง อายก็อาย ขาก็ก้าวไม่ออก แล้วจู่ๆ ก็มีฝ่ามือตบลงมาบนบ่า

“อ๊ะ” นรินทร์เอามือปิดปาก กลัวจะส่งเสียงดังจนคนข้างในรู้ตัว เขาตกใจจนสะดุ้ง พอหันไปมองก็พบว่าพี่ภาริชยืนอยู่ข้างหลัง

“เราไปทานกันสองคนก็ได้ ปล่อยพวกเขาสนุกกันไป”

เมื่อพี่ภาริชพูดถึงคำว่าสนุก นรินทร์ก็ก้มหน้าหงุด ใบหน้าแดงก่ำมากขึ้นทุกที ตอนนี้ลามไปจนถึงหู

“อย่ามัวแต่ยืนนิ่งสิริน หรือว่าอยากฟังต่อ”

นรินทร์เงยหน้าขึ้นส่ายหัวและโบกมือปฏิเสธรัวๆ เขาไม่ได้อยากฟังขนาดนั้น

“งั้นก็ไปกันเถอะ พี่หิวแล้ว”

ภาริชไม่รอคำตอบเขาจูงมือลากนรินทร์ที่ตัวแข็งทื่อให้เดินตามมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เขาได้ยินเสียงร้องขอความเมตตาจากตะวัน แสดงว่าไอ้ที่เสี้ยมสอนไปนับว่าได้ผล

ภาริชกับนรินทร์กลับมาที่ชายหาดอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่าเจ้าฮิคกี้น้อยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ท่าทางเสียงเร้าอารมณ์ของเจ้าสองคนนั้นจะทำให้เตลิดไป

“อย่ามัวแต่คิดถึงเสียงเย้ายวนพวกนั้นสิ คิดถึงพี่ที่อยู่ตรงหน้าสิครับ”

เหมือนจะไม่ค่อยเข้าหัวนรินทร์ อีกฝ่ายตกอยู่ในห้วงภวังค์ ดูท่าเสียงของเจ้าพวกนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้เจ้าตัวเล็ก

“ถ้ายังไม่สนใจพี่อีก พี่จะจูบเราแล้วนะ”

แล้วภาริชก็ทำลงไปจริงๆ มันได้ผลนรินทร์กลับมามีสติเสียที คนตัวเล็กกว่าอ้าปากพะงาบๆ

“เราคงไม่ได้คิดแก่แดดอะไรใช่ไหม หรือว่าสนใจเรื่องพวกนี้อยู่”

“ป..เปล่า” นรินทร์ลนลาน หันไปคว้าเอากระเป๋าเป้เทขนมออกมาจนหมดหวังจะกินแก้เก้อ ดูท่าทางสับสนวุ่นวายสุดๆ

“รินเรากำลังจะทานอาหารเย็นกันแล้ว พี่ว่าไม่ค่อยดีเนอะที่จะทานขนมขบเคี้ยว”

ภาริชหัวเราะ ทว่าดวงตาเจ้ากรรมสังเกตเห็นหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งที่ปนอยู่ในกองขนม เขาคว้ามาเปิดดูแล้วพบว่าเป็นการ์ตูนyaoi 18+ เล่มหนึ่ง

“รินอ่านอย่างนี้ด้วยหรือครับ”

ทีแรกเจ้าตัวยังงุนงง แต่พอภาริชชูให้ดู นรินทร์ก็ขนลุกชันเหมือนแมว เขาไม่รู้เลยว่าไอ้การ์ตูนyaoi18+มันติดมาตอนไหน

“พี่คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมเนี่ย ว่าการที่เราศึกษาของแบบนี้ เพราะว่าพี่เป็นต้นเหตุ”

นรินทร์ทำอะไรไม่ถูกแล้ว ยิ่งพี่ภาริชขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะหนีกลับเริ่มคาดหวังแบบแปลกๆ

“แก่แดดจังเลยน้า เรากำลังทำให้พี่คิดลึกนะนี่”

คิดลึกแบบไหน นรินทร์ไม่กล้าเดา แต่ก็อดคาดหวังไม่ได้ว่าคงไม่ต่างกับที่เขาคิด เขาใช้สายตาอ้อนวอนช้อนมองภาริช

“ดูสิใช้สายตาหวานเยิ้มมองพี่ขนาดนี้” ภาริชใช้มือเชยคางคนตัวเล็กกว่าเพื่อจะดูสีหน้าของนรินทร์ให้ถนัดๆ ใบหน้าหวานที่ซับด้วยสีเลือดช่างน่ามองเหลือเกิน เขาคิดว่ามันทั้งน่ารักและสวย

ภาริชค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นรินทร์คิดไปเองว่าอีกฝ่ายจะจูบ ถ้าเป็นกับคนที่ชอบเขาก็ไม่ปฏิเสธ ดังนั้นจึงหลับตายอมรับมันโดยดุษฎี ทว่าใครจะคิดว่าภาริชจะดีดนิ้วลงมาบนปลายจมูก นรินทร์ลืมตาขึ้นมาแล้วพบรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูของคนรัก

“อย่าคิดทะลึ่งสิ พี่จะรอเราจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะนะครับ อีกแค่สองปีเอง”

ใบหน้าที่ทั้งตกใจทั้งเสียดายของนรินทร์ดูชัดเจนมาก มันน่ารักจนภาริชแทบอดใจไม่ไหว ทว่าเพราะเขาจริงจังกับนรินทร์ในแบบของเขา

ด้วยความจริงจังจึงคิดที่จะเข้าตามตรอกออกทางประตู เขาไม่อยากด่วนได้จนเกิดปัญหา มันไม่ใช่เรื่องของเขากับนรินทร์เท่านั้น ยังมีณภัทรที่เป็นผู้ปกครอง เขาต้องการการยอมรับจากญาติพี่น้องเพียงคนเดียวของเจ้ารินด้วย

สุดท้ายแล้วการทำรักมันจะไม่ใช่แค่การปลดเปลื้องทางอารมณ์ แต่ครั้งแรกของพวกเขาจะกลายเป็นเครื่องหมาย ของคำมั่นสัญญาที่จะอยู่เคียงข้างกันและกันไปตราบนานเท่านาน

ภาริชจริงจังถึงขั้นนั้น เขาจะไม่ทำให้นรินทร์แปดเปื้อนไปก่อนที่อีกฝ่ายบรรลุนิติภาวะและถ้าเป็นไปได้มันต้องเป็นหลังจากที่เขาแต่งงานกับนรินทร์อย่างเอิกเกริกยกย่องเทิดทูนในฐานะนายหญิงของบ้านพัชรกานต์กุล

“อย่าทำหน้าเสียดายถึงขนาดนั้นสิครับ” ภาริลูบหัวนรินทร์ไปมา

“พี่ตั้งใจจะสู่ขอเราจากณภัทรเลยนะ”

เวลานี้ดวงตาของนรินทร์เป็นประกาย นั่นเพราะได้รับรู้ความจริงใจของคนรัก

<พี่ภาริชเขาถนอมเราเพราะว่าคิดจริงจัง ดีใจเหลือเกิน>

“เราอย่าไปเอาอย่างพวกสัตว์ป่าพวกนั้นเลยเนอะ ค่อยๆ เป็นค่อยไปนะครับ”

ภาริชหมายถึงตะวันกับฟอร์ด นรินทร์ผงกหัวเบาๆ ใบหน้าที่น่ารักเปื้อนยิ้มแห่งความปิติ เห็นได้ชัดว่ามีความสุขมากแค่ไหน ทว่าความสุขกลับไม่ได้อยู่ด้วยนาน

นรินทร์เห็นเงาของคนสองคนเดินตรงมาหา หนึ่งในนั้นต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่เขาก็ลืมไม่ลงแน่ๆ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เมษาจะปรากฏตัวตอนหน้าแล้ว5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่40 ความตั้งใจ 21/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 21-09-2018 18:24:27
ท่านพี่ต้องป้องเจ้ารินนะค่ะ
 :L1:   :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่40 ความตั้งใจ 21/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 21-09-2018 19:17:41
อยากได้NC TT
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่40 ความตั้งใจ 21/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-09-2018 22:53:50
ตะวันเอ๊ย........ วางแผนเสียดิบดี :m20: :laugh:
สุดท้ายก็ต้อง......รับเหมือนเดิม   :serius2:
เสียดายรายละเอียด nc  นี่สิ   :hao5: :sad4: :heaven

มีเมษา อิง เข้ามายุ่งเกี่ยว   :hao3:
ความตั้งใจของภาริช ที่จะไม่ทำตามสัตว์ป่าทั้งคู่
จะมั่นคงไม่แปรเปลี่ยนได้จริงหรือ   :really2: :really2: :really2:

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่40 ความตั้งใจ 21/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 21-09-2018 23:29:39
ต้องจัดการเมษาขั้นเด็ดขาดใ้ห้ได้นะพี่ภาริช
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่40 ความตั้งใจ 21/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 23-09-2018 19:54:25
คู่ฟอร์ดกับตะวันนี่ทำแต้มนำคู่พี่ชายไปไกลลิบเลย 55555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 24-09-2018 20:31:47
บทที่41

แมงเม่าบินเข้ากองไฟ

ภาริชเห็นท่าทางกังวลปนหวาดกลัวของนรินทร์เขาก็กวาดตามองไปรอบตัวทันที สายตาของเขาปะเข้ากับคนสองคนที่เดินตรงเข้ามาหา หนึ่งในนั้นคืออิงภพและอีกคนคือเมษา เขาเคยเห็นเจ้าโง่คนนี้ผ่านทางโซเชียลแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวจริง

หน้าตาไม่เลว กิริยาท่าทางก็ดูเข้าที สมแล้วที่เป็นลูกคนมีเงินและมีชื่อเสียงคนหนึ่ง

“พี่ภาริช” อิงภพพอเห็นว่าเป็นภาริชก็วิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าแช่มชื่น ทั้งยังถือวิสาสะโถมเข้ากอดอีกฝ่ายอย่างสนิทสนมเกินงาม

“คิดถึงพี่ภาริชจังเลยครับ”

ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้อิงภพ เขาค่อยๆ แกะลูกพี่ลูกน้องออกจากตัวอย่างนุ่มนวล เพราะปฏิกิริยาที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานจึงไม่ทำให้ใครรู้ว่า ภายในใจของเขาคิดอย่างไรกับการถึงเนื้อถึงตัวอันนี้

“พี่ภาริชคนคนนี้เป็นใครกันครับ” อิงภพปลายตามองนรินทร์ด้วยหางตา

“นี่คือmaddog01หรือนรินทร์ เราไม่เคยเห็นตัวจริงของเขาเลยสินะ”

คราวนี้อิงภพใช้สายตาไม่สุภาพมองนรินทร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่นะหรือตัวจริงของmaddog01 น่ารักเกินไป ดูดีเกินไป แถมไม่ใช่ว่าที่มาอยู่ตรงนี้กำลังวางแผนออเซาะหรือจับพี่ภาริชอยู่หรอกนะ

“พี่ภาริชมาเที่ยวทำไมไม่บอกผมล่ะครับ ถ้าผมรู้คงขอตามมาด้วยแล้ว”

อิงภพเกาะแขนภาริชออเซาะราวกับคู่รัก นรินทร์มองดูความสนิทสนมของทั้งคู่ด้วยหัวใจที่เหี่ยวฟีบเหมือนถูกปล่อยลม

จริงสิพี่ภาริชเขาดูดีขนาดนี้ มีคนน่ารักๆ คอยคลอเคลียอยู่ข้างๆ แบบนี้ก็ไม่แปลก

นรินทร์มัวแต่น้อยใจจนลืมไปเลยว่าเมษาปรากฏตัวอยู่ที่ตรงหน้า แถมไม่ได้รู้ถึงสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองดูอากัปกิริยาของเขาแบบไม่คลาดสายตา

ในความคิดของเมษา นรินทร์ช่างสมกับที่เขารอคอยมาตลอด ในความทรงจำคนตรงหน้าน่ารักเหมือนตุ๊กตาแค่ไหนผ่านไป 4 ปีความน่ารักนั้นก็ไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่อายุที่มากขึ้นกลับเพิ่มความเย้ายวนบางอย่างขึ้นมาด้วย

“พี่ไม่สะดวก เพราะพี่มากับคนรัก”

“เอ๊ะ”

ทั้งนรินทร์กับอิงภพพากันตกใจ

สำหรับกับนรินทร์วินาทีต่อมาหัวใจของเขาก็ฟูฟ่องทันที เขามีความสุขที่ภาริชพูดออกไปเช่นนั้น

ส่วนอิงฟ้าทีแรกรู้สึกปวดแปล๊บในใจ แต่คิดดูให้ดีแล้วคนก่อนๆ ที่คบด้วยก็เลิกกันไปในระยะเวลาไม่นานไม่เห็นจะน่าเป็นห่วงตรงไหน

“แล้วเขาเป็นใครกันครับแนะนำให้ผมรู้จักได้ไหม”

“ก็อยู่ตรงหน้านายแล้วนี่ไง”

คราวอิงภพตกใจอีกครั้ง เมษาก็ด้วยเหมือนกัน เขาใช้สายตาดุดันมองสลับระหว่างนรินทร์กับภาริช สองคนนี้คบกันได้ยังไง เมษาคิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจสาเหตุ

“พี่อย่าบอกนะว่า พี่คบกับเจ้าmaddog01นี่” อิงภพชี้นิ้วไปยังคนที่สวยน่ารักจนน่าหมั่นไส้ ยิ่งอีกฝ่ายก้มหน้าหลบสายตาด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน เขาก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมด

“คุณพบกับนรินทร์ที่ไหน แล้วทั้งสองคบกันได้ยังไง”

เมษาถามเสียงกร้าว ภาริชอมยิ้มก่อนจะขยับตัวหันไปประจันหน้ากับฝ่ายนั้น

<แววตาใช้ได้นี่> ภาริชพูดคุยกับเมษาด้วยท่าทางเป็นกันเองผิดกับอีกฝ่ายที่แสดงตัวเป็นศัตรูอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันเป็นเจ้านายของพี่ชายเขาแล้วเราก็คุยกันผ่านทางจดหมายมาตลอด 4 ปี นอกจากนั้นฉันยังเล่นเกมกับเขามาตลอดในแอคเค้าท์ที่ชื่อว่าโกรธเกรี้ยว”

เมษาได้ยินแล้วกัดฟันกรอด ในขณะอิงภพตกใจจนหน้าเสีย

นี่เรา...เราทำเรื่องไม่น่ารักให้พี่ภาริชเห็นตั้งมากมายไปแล้ว

“พ...พี่ภาริช คงไม่ได้ ล้อเล่นใช่ไหมครับ ล้อเล่นใช่ไหม” อิงภพปากคอสั่น นี่เท่ากับว่าภาพลักษณ์น่ารักๆ ที่เขาให้พี่ภาริชเห็นมาตลอดได้ถูกทำลายไปแล้ว ไม่เพียงแค่อกหัก ยังอาจถูกเกลียดอีกด้วย

“พี่จะล้อเล่นทำไมครับ อิงภพรู้นิสัยพี่ดีไม่ใช่หรือ”

“ถ..ถ้างั้น พี่จะไม่โกรธไม่เกลียดผมใช่ไหม” อิงภพยังคงเกาะแขนภาริชอยู่ แต่มือไม้ที่สั่นเทาบอกชัดว่ากำลังกลัวและวิตกอย่างมาก

ก็ถ้าเกลียดเขาแล้ว อย่าว่าแต่รออย่างมีความหวังจนกว่าพี่ภาริชจะเลิกกับไอ้นี่เลย เจอหน้าก็อาจจะไม่ได้เจอด้วย

“พี่ไม่ถือโทษกับการทะเลาะวิวาทของเด็กๆ หรอก ในสายตาพี่อิงภพจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่น่ารักตลอดไป”

“ตลอดไป” อิงภพพึมพำอย่างเหม่อลอย

นี่มันเป็นคำพูดตัดรอนที่ทำร้ายจิตใจกันมากกว่าขับไล่ไปให้พ้นเสียอีก เรียกได้ว่านับจากนี้และตลอดไปเขาไม่มีหวังได้เป็นคนรักของพี่ภาริช เพราะไม่ว่าอย่างไร คนที่เขาชอบก็จะมองเขาเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น

อิงภพคลายมือออกจากแขนของภาริชแล้วเดินคอตกจากไปเพียงลำพังอย่างเงียบๆ

จากนั้นภาริชก็กลับไปสนใจกับเจ้าของสายตากราดเกรี้ยวอย่างเมษาด้วยท่าทีสบายๆ

“นายกำลังถูกหมอนี่หลอกเท่านั้นแหละนรินทร์ ผู้ชายคนนี้ก็แค่เล่นสนุกกับนายแค่ชั่วครั้งชั่วคราว”

“แต่มันไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่นะ” เป็นครั้งแรกที่นรินทร์เถียงเมษา แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังใช้สรรพนามแทนตัวเขาได้น่ารักน่าชังเหมือนเดิม

“นายจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะจริงใจกับนาย ดูเขาสิ คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านอย่างนี้จะมาสนใจกับฮิคิโคโมริที่ได้แต่เล่นเกมอย่างนายทำไม”

นรินทร์เจ็บปวดที่อีกฝ่ายพูดได้ตรงกับความคิดที่ซ่อนอยู่ในใจของเขา จริงๆ ก็คิดเหมือนกันว่าตนเองไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่ภาริชได้เลย

“อย่างมากก็คงจะแค่เล่นสนุกใช่ไหมล่ะครับ กับเด็กที่ไม่มีอะไรดีเลย ใช่ไหมล่ะ” เมษาถามภาริช เขามั่นใจว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ต่อให้พูดโกหกออกมาก็ต้องแสดงสีหน้าที่แท้จริงแม้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงตั้งใจจับผิดภาริชอย่างจริงจัง

ส่วนนรินทร์ที่โดนดูถูกนั่นไม่มีปากเสียงเขาก้มหน้าลงต่ำด้วยความหดหู่

“นายคิดว่าอะไรคือข้อพิสูจน์ว่าใครคนหนึ่งมีค่าไม่มีค่ากัน” ภาริชถามเมษา เขาใช้สายตามองดูนรินทร์ที่ก้มหัวลงซ่อนใบหน้าเอาไว้ด้วยความเอ็นดูและสงสาร

“ก็การกระทำยังไงครับ สำหรับนรินทร์ที่เอาแต่มุดหัวไม่ออกจากบ้านถึง 4 ปี เท่ากับว่าเขาใช้ชีวิตไร้ค่ามาโดยตลอด”

“แต่สำหรับฉัน ไม่ว่านรินทร์จะเป็นแบบไหนเขาก็มีค่านะ เพื่อให้เขาเปล่งประกายอย่างที่สุด ไม่ว่าต้องทำยังไงฉันก็จะคอยผลักดันเขาจากด้านหลังตลอดไป”

“คุณคิดว่าผมไม่เคยทำมาก่อนหรือไง” เมษาตะคอก เขาหัวเสียหึงหวงผู้ชายคนนี้จนคุมสติไม่อยู่

“ผมไปหาเขาทุกวันที่บ้านพยายามชักชวนปลอบโยนเขาให้ออกมาเผชิญโลกภายนอก แต่สิ่งที่เขาทำคือมุดหัวอยู่ในรู เอาแต่เล่นเกม ทำเรื่องไร้สาระ ผมน่ะไม่ชอบเล่นเกมซักนิดถึงแม้ทางบ้านจะมีธุรกิจทางด้านนี้ เพื่อให้เข้ากับหมอนี่ได้ ผมยอมกระโดดเข้ามาในวงการเพียงเพราะนรินทร์”

“อย่างนี้นี่เอง” ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนหวาน รู้สึกโกรธที่เด็กคนนี้โยนความผิดทุกอย่างให้นรินทร์จนหมด ช่างเป็นคนที่โลกหมุนรอบตัวเองเสียจริงๆ

“คนเราแต่ละคนมีคุณค่าแตกต่างกันไป คุณค่าของนรินทร์อยู่ความน่ารักแล้วเขาก็เล่นเกมเก่งสำหรับฉันแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”

“ก็แค่เล่นเกม เขาไม่ได้เก่งไปกว่าผมหรอก” เมษาไม่ยอมแพ้ คนคนนี้พูดแต่ละอย่างชวนให้โมโหทั้งนั้น ทุกคำพูดล้วนแสดงถึงความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อนรินทร์จนอยากจะอ้วก

“แต่นายแพ้คนรักของฉันถึงสองครั้ง ปกติคนแพ้ซ้ำซากอย่างนายไม่มีสิทธิมาพูดแบบนี้นะ” ภาริชยิ้มหวานราวกับนางฟ้า

เมษาเกลียดรอยยิ้มของภาริชเสียเหลือเกิน เขาบันดาลโทสะ กำหมัดทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ทว่าจู่ๆ ภาริชก็ขยับเข้ามาใกล้ คนคนนี้ตัวสูงมาก ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมอง

“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้านายคิดว่าไอ้การแข่งครั้งที่ผ่านๆ มา มันวัดความสามารถไม่ได้ คราวนี้ลองมาแข่งกับนรินทร์ในงานแข่งเกม Last battle ที่ฉันจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ คราวนี้เอาเป็นครั้งสุดท้ายนะคนแพ้ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าใครเหนือกว่าใครมีคุณค่ามากกว่า อย่างนี้ดีไหม”

“คุณเล่นตลกอะไร ทำไมผมต้องไปแข่งเกมในรายการของคู่แข่งด้วย”

เมษายังไม่เข้าใจว่าคนคนนี้ต้องการอะไรกันแน่

“รินครับ รินพร้อมที่จะแข่งกับเมษาเขาอีกรอบไหม”

นรินทร์เงยหน้าขึ้นมานิดหน่อย เขาหดหู่จนไม่กล้ามองหน้าใคร แต่พอเห็นรอยยิ้มและแววตาอ่อนโยนของพี่ภาริชเขาก็รู้สึกดีขึ้น

“ถ้าพี่ภาริชเห็นว่าดีผมจะทำตามนั้น”

ใครจะไปคิดว่าทั้งคำพูดและท่าทางของนรินทร์ที่มีต่อภาริชจะไปกระตุ้นโทสะของเมษาจนความยับยั้งชั่งใจหายไปหมด เขาริษยาหึงหวงเสียหน้า ที่ต้องมาพ่ายแพ้คนอย่างภาริช

จังหวะที่โกรธจนน่ามืดตามัวนั้น ภาริชก็ขยับเข้ามากระซิบที่ข้างหู เป็นเสียงที่เบามากและพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน

“จะหดหางหนีไปก็ได้นะ เพราะยังไงคนอย่างนายก็ต้องแพ้ให้รินอีกไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม คนที่เกิดมาเป็นผู้แพ้อย่างนายยอมรับความจริงแล้วไสหัวไปให้พ้นจะดีกว่าน่า อย่ามาเกะกะทางเดินของฉัน”

ดวงตาของเมษาลุกช่วงไปด้วยประกายไฟแห่งความแค้น ดวงตาคู่นั้นดุดันจนนรินทร์ถึงกับสะดุ้ง คนตัวเล็กไม่ได้เห็นสีหน้าของพี่ภาริช ถ้าได้เห็นแล้วล่ะก็คงคิดว่ามีอะไรซักอย่างสิงสู่ในร่างคนรัก

แน่นอนว่าภาริชจงใจไม่ให้นรินทร์เห็น เขาแสดงสีหน้าดูหมิ่นหยาบช้ากับเมษาจนไม่ต่างจากตัวร้ายในละครหลังข่าวเลยซักนิด รอยยิ้มที่หยามหมิ่นอีกทั้งแววตาที่มองกดต่ำลงมาเหมือนกับมองพวกมดปลวกอย่างนี้ ไม่เคยมีใครใช้มันมองดูเมษามาก่อน

เมษาเคียดแค้นโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่นระริก เขายอมรับคำท้าทายอันนี้เหมือนแมงเม่าที่กระโจนเข้ากองไฟ

“ได้ เรามาแข่งกันอีกหน แต่ถ้าคราวนี้ฉันชนะ นายต้องคุกเข่าขอขมาฉันต่อหน้าคนในงานแข่งเกม”

“ไม่เพียงแต่ต้องชนะนรินทร์นะ แต่นายต้องเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันด้วย ทางนี้ก็เหมือนกันถ้าไม่ได้ที่หนึ่งในการแข่งขัน ฉันจะถือว่าแพ้และทำตามที่นายต้องการ”

“พี่ภาริช” นรินทร์ผวากอดแขนภาริช เขาไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองจะพนันอะไรบ้าๆ แบบนี้

“แล้วถ้าฉันแพ้ล่ะนายต้องการอะไร” เมษาถามกลับ อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยที่เห็นสีหน้าเป็นกังวลและหวาดกลัวของนรินทร์

“ไม่ต้องการอะไรเลย” ภาริชคลี่ยิ้มละมุนละไม เขาใช้มือลูบศีรษะปลอบโยนนรินทร์อย่างเบามือ

<เพราะว่าต่อให้ฉันแพ้ นายก็จะไม่เหลืออะไร เพราะทุกอย่างของนายมันจะกลายเป็นของฉัน>

“สำหรับฉันแค่ต้องการให้นรินทร์สามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวเองฉันก็พอใจแล้ว และฉันก็มั่นใจว่านรินทร์จะชนะนายอีก”

“พี่ภาริช” นรินทร์น้ำตาคลอเพราะคำพูดและการกระทำของภาริช เด็กน้อยโถมเข้ากอดคนรักเอาไว้แน่น

“ผมจะไม่แพ้เด็ดขาด” นรินทร์ไม่ได้พูดแค่กับตัวเอง ยังรวมถึงเมษาและภาริชด้วย

“คราวนี้ผมก็ต้องชนะรุ่นพี่” นรินทร์ใช้สายตาแข็งกร้าวมองมาที่เมษาเป็นครั้งแรก

ยิ่งนรินทร์ดื้อด้านมั่นใจอย่างนี้ มันก็ยิ่งกระตุ้นโทสะของเมษาให้รุนแรงขึ้นอีก

“คราวนี้ฉันจะบดขยี้นาย จะได้รู้เอาไว้ว่านายมันอ่อนแอปกป้องแม้แต่ศักดิ์ศรีของชายคนรักยังทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปกป้องตัวเองยิ่งไม่ปัญญาทำ”

เมษาพูดด้วยความรู้สึกที่ทั้งรักทั้งแค้นปะปนกันไป ความหึงหวงริษยาท้วมทนเกินกว่าที่จะคิดอย่างมีสติ

ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องสั่งสอนคู่รักคู่นี้ให้ได้ ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมพอดี เขาในตอนนี้มีหมากชั้นเลิศอย่างพี่สายหมอกอยู่ในมือ เมื่อร่วมกับฝีมือการเล่นของเขาแล้ว การจะชนะก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ลงซะมืดเลย5555 พี่ภาริชร้ายไหมคะ5555 รุสึกสงสารเมษาเลยทีเดียว

                 ตอนนี้เรากำลังรอคิวปกน้องรินกับพี่ภาริชอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ 

                     คิวคือปลายตุลา โอ๊ยอยากเหนแล้ว แสดงความคอดเหนเปนกำลังใจบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 24-09-2018 21:40:49
ภาริชร้ายมากกกกกกกกกกสะใจค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 24-09-2018 22:07:25
พี่สายหมอกคือตัวแปรสำคัญเลย รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 24-09-2018 22:28:11
สายหมอกที่หวังพึ่งก็..
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-09-2018 23:29:21
โถๆๆๆๆ เด็กน้อยยยย
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 25-09-2018 07:27:13
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่41 แมงเม่าบินเข้ากองไฟ 24/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 26-09-2018 00:26:24
ติดตามค่า
 :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 27-09-2018 21:27:17
บทที่42
ความลับที่รู้กันไปทั่ว

ธันวา ชัยมงคลกำลังหงุดหงิดเพราะพวกตำรวจมาป้วนเปี้ยนรอบตัวเขาเต็มไปหมด แถมวันนี้กรรมการบริหารที่ล้วนแล้วแต่เป็นญาติพี่น้องของเขาทั้งนั้น พากันมารวมในห้องประชุมอย่างพร้อมหน้า

“นี่มันยังไงกันธันวา” พี่สาวคนดีเปิดฉากด่าธันวาก่อนใคร เธอเป็นคนที่ถือหุ้นถึง20เปอร์เซ็น มีหุ้นของบริษัทมากรองลงมาจากเขา

“ถามจริงๆ เถอะแกลอกผลงานของGhiblisoft จริงๆ ใช่ไหม แกดูสิตอนนี้มูลค่าของบริษัทเราในตลาดหุ้นกำลังดิ่งลงจนฉันแทบอยากจะร้องไห้ แกคิดบ้างไหมว่าแกกำลังทำบริษัทที่พี่น้องของแกก็มีส่วนได้ส่วนเสียพังพินาศคามือแก”

“ใจเย็นๆ ก่อนน่าคุณพี่” ธันวาเอาน้ำเย็นเข้าลูบ จังหวะที่พยายามปลุกปลอบให้พี่สาวคนดีสงบ เจ้าน้องชายคนเล็กผู้ที่มีหุ้น 11 เปอร์เซ็น ก็ดูดน้ำด้วยหลอดจนเกิดเสียงซูดๆ น่ารำคาญและไร้มารยาทที่สุด

ตุลา ชัยมงคล ไอ้น้องชายผู้อ่อนต่อโลกและถูกประคบประหงมจนเกินงาม มีนา ชัยมงคลพี่สาวคนโตมักจะคอยให้ท้ายดูแลเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง อาจเพราะมันช่างฉอเลาะและอายุห่างกับพี่น้องมากจนคล้ายลูกมากกว่าน้องชาย

“มีมารยาทหน่อยตุลา” ธันวาเสียงกร้าว การมีตัวตนของตุลาสร้างความหงุดหงิดให้เขาเสมอๆ ตุลาทำแค่เพียงยักไหล่

“แกจะสนเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไม แกต้องตอบคำถามฉันมากกว่า ว่าแกไปทำชั่วอะไรไว้ เป็นจริงอย่างเขาลือกันไหม”

ธันวาเงียบกริบ เขาไม่ปริปากพูดอะไร นั่นเป็นคำตอบที่ชัดเจนเสียจนมีนาหัวเสียอย่างรุนแรง

“ฉันอุตส่าห์ไว้ใจให้แกบริหาร ทั้งๆ ที่ถ้าเอาหุ้นของฉันกับตุลารวมกันหนึ่งในเราสองคนขึ้นเป็นผู้บริหารแทนแกก็ยังได้”

“พี่ก็พูดอย่างนี้ตลอด พี่เอาแต่รักห่วงไอ้คนไม่เอาไหนอย่างตุลา” ธันวาทุบโต๊ะดังปัง

เขาอดทนกับความลำเอียงของพี่สาวมานานแล้ว คราวนี้ระเบิดออกมาเพราะความเครียดที่ตำรวจคอยมาป้วนเปี้ยนรอบๆ ไม่หยุด

“แล้วแกจะเอายังไง ตอนนี้ข่าวเน่าๆ ของแก มันทำให้ใครต่อใครเทขายหุ้นของบริษัทเราทิ้งในราคาถูก มูลค่าหุ้นก็ตกเอาๆ แกคิดว่าแกจะกู้สถานการณ์ยังไง

“เอาเป็นว่าพี่คอยดูอยู่เงียบๆ แล้วกัน” ธันวาสะบัดตูดหนีพี่น้องของตัวเอง เขาเบื่อที่จะฟังเรื่องพวกนี้ เขาเครียดเกินพอแล้ว

“แกไม่เข้าใจธันวา แกก็รู้นี่ว่าสามีของฉันต้องฟอกไตทุกสัปดาห์ แกรู้ไหมว่าค่าใช้จ่ายมันเท่าไหร่”

มีนาลุกขึ้นยืนหมายจะเดินตามไปบ่นให้ธันวาที่เดินหนีฟัง ถ้าไม่ติดว่าน้องชายคนรองพูดเรื่องร้ายกาจออกมา

“พี่ก็ไปขอเงินจากน้องชายสุดที่รักของพี่สิ ไอ้ตุลามันฉลาดคงทำอะไรเพื่อผัวพี่กับพี่ได้อยู่แล้ว”

ธันวาพูดอย่างเราะร้าย คนฟังอย่างมีนาทรุดนั่งหมดแรงบนเก้าอี้ ปล่อยให้ธันวาเดินจากไปง่ายๆ

“คุณพี่อย่าเสียใจครับ” ตุลาเข้าไปปลอบโยนพี่สาวเหมือนทุกครั้ง สำหรับมีนาน้องชายคนนี้ยังอ่อนหวานและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้ดีเสมอ

“ผมไม่รู้ว่าพูดไปคุณพี่จะด่าผมไหม แต่สามีของคุณพี่ตอนนี้ก็มีโรคแทรกซ้อนขึ้นหลายอย่างคงต้องใช้เงินอีกระยะยาว ผมเองก็ต้องการเงินไปลงทุนในกิจการใหม่ของผมเช่นกัน ถ้าคุณพี่ไม่รังเกียจ ผมสามารถหาคนซื้อหุ้นของเราในราคาสูงที่สุดเหมือนตอนที่หุ้นของเรายังแข็งตัวอยู่ได้นะครับ”

“แต่มันจะดีหรือตุลา การที่อำนาจควบคุมยังเป็นของครอบครัวเราเพราะหุ้นของพวกเราที่รวมกันสามคนทำให้เรามีหุ้นถึง51เปอร์เซ็นนะ”

“พี่ผมมีความฝันนะ ความฝันที่จะเปิดบริษัทของตัวเองซึ่งผมจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ผมขอบอกพี่ตามตรงผมจะขายหุ้นของบริษัท6เปอร์เซ็น ส่วนพี่ผมจะแนะนำพี่ให้ผู้ซื้อ คุณพี่จะขายหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณพี่เอง แต่อย่าลืมนะครับว่ายังไงโรคแทรกซ้อนของพี่เขยก็รอไม่ได้”

มีนาก้มหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ แต่ไหนแต่ไรมาคนที่เข้าใจเธอมากที่สุดก็เป็นตุลา และตุลาเองก็มักทำให้เธอเจอแต่เรื่องดีๆ เสมอ แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าการรวมหัวกันปลดธันวาออกจากตำแหน่งประธานเป็นทางออกที่ถูกต้องมากกว่าก็ตาม

ทว่าเธอไม่ได้เรียนเกี่ยวกับบริหารโดยตรงมา เธอแทบไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เธอไม่รู้ว่าปลดธันวาลงมาแล้วจะให้ใครบริหารแทน อาจเป็นตุลาแต่ความบาดหมางที่ตามมาล่ะ เธอเบื่อเรื่องวิวาทและความน้อยใจที่ธันวามีต่อเธอเต็มที

เธอต้องการเงินจำนวนมากในตอนนี้เพื่อสามีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาของเธอ

“ช่วยแนะนำคนที่ต้องการซื้อหุ้นให้พี่ทีสิตุลา”


วันนี้เป็นคืนสุดท้ายที่พวกภาริชจะค้างในบ้านพักตากอากาศ ดังนั้นพวกเขาจึงมารวมตัวกันพร้อมหน้าจัดปาร์ตี้อาหารทะเลริมหาด ตะวันอาสาเป็นพ่อครัวโดยมีลูกมืออีกถึงสามคนช่วยกันปรุงอาหารอย่างสนุกสนาน ส่วนภาริชนะหรือเขาเปิดโน้ตบุ๊คเสียบหูฟังแล้วพูดคุยเรื่องงานกับคาร์ล ซีมัว

<“เมื่อซักครู่ผมเพิ่งปิดดีลกับคนในครอบครัวชัยมงคลไป จริงๆ ควรแจ้งคุณภาริชก่อน แต่เห็นว่าโอกาสมันเข้ามากะทันหันผมเลยตัดสินใจซื้อทันที”>

“เวลานี้นายรวบรวมหุ้นได้ถึงเท่าไหร่แล้ว” ภาริชถาม จังหวะนั้นเขาทอดตามองไปยังนรินทร์ที่สนุกสนานกับการทำอาหารน่าดู ใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนรักไม่ว่าจะดูกี่หนก็น่ารักจริงๆ

<“ถ้ารวมกับที่เพิ่งได้มาจากพวกครอบครัวชัยมงคลก็เป็นจำนวนถึง51เปอร์เซนแล้วครับ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะไปจบที่60เปอร์เซ็นพอดี”>

ภาริชหัวเราะ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าดูชั่วร้ายเสียเหลือเกิน โชคดีที่นรินทร์ไม่ได้อยู่แถวนี้ เขาไม่ค่อยอยากให้คนรักเห็นด้านชั่วร้ายของตัวเองซักเท่าไหร่

“เอาให้ถึงที่สุด ได้มาถึง 60 เปอร์เซ็นก็เป็นเลขที่สวยดี”

ความวุ่นวายในตลาดหุ้นและการเทขายกันจ้าละหวั่นของนักลงทุนทำให้ภาริชคิดว่าการที่จะได้หุ้นมาถึง 60เปอร์เซ็นมันก็พอเป็นไปได้อยู่ จริงๆ ได้มาแค่51เปอร์เซ็นเขาก็พอใจมากแล้ว แต่ถ้ามันจะมากกว่านั้นก็ไม่เสียหายอะไร

“พี่ภาริชไปทานข้าวกันเถอะครับ” นรินทร์เดินมาหา ภาริชเก็บโน๊ตบุ๊คแล้วทำตามที่คนรักอายุน้อยกว่าว่า วันนี้เขาพอใจกับทุกๆ อย่าง

จะว่าไปการมาเที่ยวครั้งนี้มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น เขาวางแผนทริปครั้งต่อไปในใจแล้ว ทว่าในตอนนั้นนรินทร์ก็สะกิดภาริชที่แขนเบาๆ

“อะไรครับ”

“พี่ภาริชไม่ดูแลฟอร์ดหน่อยหรือครับ”

“เรื่องอะไร”

คิดไปคิดมานรินทร์ก็รู้สึกกระดากปากยังไงไม่รู้ หลายวันมานี้ตะวันกับฟอร์ดเอาแต่คลุกอยู่ในห้อง จะออกมาก็แค่ทานข้าวเท่านั้น แถมทุกครั้งที่เผลอเดินผ่านจะได้ยินเสียงครวญครางบาดหูทุกครั้งไป

เมื่อตอนกลางวันเขาได้มีโอกาสอยู่กับตะวันสองต่อสอง และเผลอพูดเรื่องไร้มารยาทออกไปจนได้ นรินทร์นึกถึงเรื่องราวในคราวนั้น

“ฝ่ายรับนี่เจ็บมากไหม”

ตะวันสะดุ้งโหยงต่อคำถามของลูกพี่

“ลูกพี่ถามทำไม” ตะวันปากคอสั่น แถมยังลนลานจนดูตลก เขาไม่อยากให้ลูกพี่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายรับมันเสียเชิงชาย

“ลูกพี่” ตะวันทำหน้าขรึมมากถึงมากที่สุด “ผมไม่ใช่ฝ่ายรับนะ ไม่รู้หรอกว่าตอนโดนทำจะเจ็บไม่เจ็บ”

“งั้นฟอร์ดเป็นฝ่ายรับหรือ” นรินทร์หน้าเสียทันที “ฟอร์ดเอาแต่ร้องว่าเจ็บแถมบอกให้นายเพลามือลงหน่อย จ...คงเจ็บมากเลยสินะ”

“ใช่ๆ เจ็บมาก” ตะวันไม่รู้หรอกว่าคำพูดของตัวเองไปกระตุ้นความกังวลให้นรินทร์ ต่างคนต่างครุ่นคิดแต่เรื่องตัวเอง

สำหรับตะวันนั้นพอพูดถึงเรื่องเจ็บใบหน้าของเขาก็แดงซ่าน ไอ้เจ็บมันก็มีนิดหน่อยแต่มันรู้สึกดีมากจนต้องระบายออกด้วยการกัดและข่วนฟอร์ดจนยับ ที่ลูกพี่ได้ยินฟอร์ดครวญครางก็เพราะอย่างนั้นนั่นแหละ

ส่วนรินทร์นะหรือ เด็กน้อยกำลังต่อสู้กับความต้องการและความหวาดกลัว เขาอยากเป็นหนึ่งเดียวกับพี่ภาริช แต่ถ้ามันต้องเจ็บขนาดนั้น ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างต่างกับที่จินตนาการเอาไว้

สิ่งที่เขาคิดคือพี่ภาริชคงปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยน แต่ทุกครั้งที่เผลอได้ยินเสียงจากกิจกรรมเข้าจังหวะของตะวันกับฟอร์ด ก็รู้สึกว่าสองคนนี้ต้องมีรสนิยมแบบsmแน่ๆ เลย

พี่ภาริชคงไม่มีรสนิยมแบบนั้นใช่ไหมนะ หรือว่าบางทีอาจจะเป็นโชคดีแล้วที่พี่ภาริชบอกว่าจะไม่ล่วงเกินเขาจนกว่าถึงเวลาบรรลุนิติภาวะของเขา

จังหวะนั้นต่างคนก็ต่างเงยหน้าขึ้นสบตากัน ตะวันกระดากและเขินอาย ส่วนนรินทร์กลับเต็มไปด้วยคำถาม

“ทำรุนแรงแบบนั้นมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ นะหรือ”

ตะวันอยากจะกรีดร้องออกมาให้ดังๆ ลูกพี่ถามอะไรเนี่ย เขาจะบอกได้ไงว่าจริงๆ การที่ฟอร์ดรุนแรงกับเขานิดๆ มันก็ดีสุดๆ ไปเลย

“ไม่รู้สิลูกพี่ แต่ฟอร์ดบอกว่าชอบอยู่นะ ทางนี้เองก็เผลอลงมือไปเต็มทีเสียด้วยสิ”

ตะวันภาวนาอย่าให้ลูกพี่รู้ตัวเลยว่าเขานั่นแหละที่เป็นฝ่ายรับ น่าขายหน้าเสียเชิงชายสุดๆ เลย

กลับมาที่ปัจจุบัน นรินทร์เริ่มตอบคำถามที่คั่งค้างไว้ของภาริช

“ผมผ่านไปหน้าห้องของตะวันทีไรก็ได้ยินฟอร์ดร้องว่าเจ็บจน...” นรินทร์ก้มหน้าลงซ่อนความอาย

“ฝ่ายรับนี่น่าสงสารต้องทนเจ็บถึงขนาดนั้น”

นรินทร์ไม่รู้ว่าตัวเองพูดเรื่องน่าอายอย่างนี้ออกไปกับพี่ภาริชได้ยังไง เขายืนตัวแข็งทื่อไปแล้ว ให้ตายสิอยากมุดหัวลงดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด

“ฝ่ายรับที่ว่านั้นหมายถึงฟอร์ดงั้นรึ”

นรินทร์ผงกหัวขึ้นลงเบาๆ ทั้งยังก้มหน้าหลบตาภาริช

<เจ้าตะวันคนนั้นคงกลัวเสียหน้า> ภาริชแสยะยิ้มร้ายกาจ “ฟอร์ดมานี่หน่อยสิ”

นรินทร์สะดุ้งเขาเงยหน้าขึ้นมองภาริช ไม่เข้าใจว่าพี่ภาริชเรียกฟอร์ดมาทำไม หรือว่าจะเล่าเรื่องความเผือกของเขาให้เจ้าตัวฟัง แถมฟอร์ดก็เดินมาแล้วด้วย

“เป็นฝ่ายรับเจ็บไหม”

ฟอร์ดขมวดคิ้วกับคำถามแรกของพี่ชาย ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ มาถามแบบนี้

“นี่เรากำลังจะทานข้าวไม่ใช่หรือครับ ไหงท่านพี่มาพูดเรื่องทะลึ่งแบบนี้เนี่ย”

“เอาน่า พี่กับนรินทร์อยากรู้ เล่าหน่อยสิ”

“นรินทร์นะหรืออยากรู้” ฟอร์ดหันไปถาม นรินทร์ตัวแข็งทื่อไปแล้ว

ท่านพี่วางแผนแกล้งใครซักคนหรือเปล่านะ จริงๆ จะปฏิเสธไม่เล่าก็ได้ แต่ถ้าขัดขืนคำบัญชาเขาเองก็คงโดนไม่ใช่น้อย

“ถามว่าเจ็บไหมหรือ พี่ตะวันบ่นว่าเจ็บๆ ทั้งกัดทั้งข่วน แต่ไม่เคยบอกให้ผมหยุดทำเลยนะ”

“แสดงว่าชอบหรืออาจจะจะรู้สึกดีสุดๆ” ภาริชหัวเราะชอบใจ

ซึ่งขณะนั้นนรินทร์ประมวลผลประโยคคำพูดของฟอร์ดอย่างรวดเร็ว

“ตะวันไม่ได้เป็นฝ่ายรุกหรอกหรือ”

“รินโดนเจ้าตะวันหลอกมาแล้วนะครับ” ภาริชยิ้มหวาน เขาใช้มือลูบหัวคนรักอย่างทะนุถนอม

“อ๊ะนี่แสดงว่า พี่ตะวันคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายรับ รินเรื่องนี้ขอให้ทำเป็นเข้าใจอย่างที่พี่ตะวันต้องการเถอะนะ”

ฟอร์ดขอร้องอย่างจริงจัง นรินทร์พอจะเข้าใจความรู้สึกของฟอร์ด คงไม่อยากให้ตะวันเสียใจและเสียหน้า ดังนั้นเขาจึงรับปากไป

“ฟอร์ดทำอะไรอยู่ พาลูกพี่มาทานข้าวเร็ว” ตะวันกวักมือเรียกเหยงๆ

ดังนั้นฟอร์ดจึงชวนพวกเขาไปทานข้าวที่ริมหาดอีกที จังหวะทีนรินทร์จะเดินตามฟอร์ดภาริชก็กระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงเย้ายวน

“รินไม่ต้องกลัวนะครั้งแรกของเราพี่จะไม่ทำให้รินเจ็บ”

นรินทร์หันไปมองดูใบหน้าคนพูดแทบจะในทันที พี่ภาริชยิ้มหวานเหมือนนางฟ้า สวยดูดีจนเขาเขินอายอย่างบอกไม่ถูก

“ไปกันเถอะทุกคนรออยู่นะ” ภาริชจับมือ กระตุ้นให้นรินทร์เดินตาม

นรินทร์ไม่กังวลเรื่องเจ็บหรือไม่เจ็บอีกต่อไป เพราะพี่ภาริชต้องปฏิบัติกับเขาอย่างอ่อนโยนแน่ๆ ก็พี่ภาริชเป็นคนอ่อนโยนใจดีนี่นะ เหมือนเจ้าชายในนิทานไม่ผิดเลยแหละ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฟิคชั่นล็อคนี่ทำเราลำบากมากจริงๆ จะอัพตั้งแต่วันที่แล้ว

ตอนนี้กะยังไม่เสถียร นอยมาก ตอนต่อไปจะรีบปั่นออกมานะคะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 27-09-2018 21:44:25
รอตอนต่อไปนะค้าา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-09-2018 21:48:11
ขยี้ตาแล้วอ่านบรรทัดสุดท้ายใหม่ 5555555+
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 27-09-2018 22:01:38
ชื่อเดือนกันทั้งตระกูลเชียว
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 28-09-2018 00:48:21
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-09-2018 04:07:43
โฮะๆ...............เจ้าชายภาริชที่แสนอ่อนโยน  o18 :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-09-2018 05:05:25
ชักจะอยากรู้วาาพี่ภาริชจะอ่อนโยนจริงรึ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่42 ความลับที่รู้กันไปทั่ว 27/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 28-09-2018 15:21:08
อยากได้nc :hao5:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 28-09-2018 20:29:17
 
บทที่43
เปิดตัวอย่างกะทันหัน

“ทำไมลูกพี่พึ่งมาเล่าเรื่องของไอ้เมษาในวันสุดท้ายล่ะเนี่ย”

ตะวันไม่เชิงโวยวาย เขาแค่อยากให้ลูกพี่เล่าเรื่องที่พนันกับเมษาให้เร็วกว่านี้เท่านั้น ยิ่งได้ยินการกระทำที่ชัดเจนว่าไอ้หมอนั่นเหยียดหยามลูกพี่จากปากภาริชเขาก็ยิ่งโมโห

“สรุปว่ารินจะลงแข่งเกม Last battle เพราะพนันกับเมษาคนนั้นสินะ”

มิวซังตัดบทคำบ่นที่กำลังพร่างพรูจากปากตะวัน ถ้าหากการแข่งขันนี่ถูกกำหนดเอาไว้ก็ควรสร้างทีมแล้วฝึกซ้อมโดยเร็วที่สุด

“อื้อ...เพราะว่ายังไม่แน่ใจ ว่าจะเอายังไงดีกับการแข่งคราวนี้ดี แต่ปรึกษากับพี่ภาริชจนสรุปได้แล้วก็เลย”

นรินทร์หันไปหาฟอร์ด เริ่มขอร้องในสิ่งที่คิดเอาไว้

“ฟอร์ดมาเข้าทีมแข่งขันกับเราเถอะ นอกจากตะวันกับมิวซังก็มีนายนี่แหละที่ฉันไว้ใจ”

“ไม่มีปัญหา” ฟอร์ดตกลงทันที

“จะว่าไปการแข่งครั้งนี้เปิดให้ลงทะเบียนแล้วสินะ” ตะวันถามภาริช

“เรื่องลงทะเบียน เดี๋ยวฉันจะจัดการให้” ภาริชรับปากเป็นมั่นเหมาะ ทำให้ทุกคนสบายใจขึ้น แต่จังหวะนั้นคนที่สำเหนียกถึงความเป็นจริงได้ก่อนใครคือตะวัน

“เดี๋ยวนะ พวกเราลืมอะไรไปหรือเปล่า”

“อะไรหรือ” นรินทร์ยังไม่เข้าใจที่ตะวันต้องการพูด แต่มิวซังทราบทันทีว่าหมายถึงอะไร

“น่าจะเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เคยเปิดเผยตัวตนเลย โดยเฉพาะริน ในโลกโซเชียลทุกคนเห็นแต่รินที่สวมหน้ากาก”

“จริงด้วยลูกพี่ แค่มิวซังกับผมเปิดตัวก็เรียกได้ว่าป่าช้าแตกแน่ๆ ถ้าหากลูกพี่ไปแข่งในงาน ต้องกลายเป็นจุดสนใจ ระดับเดียวกับbig bangเห็นๆ”

“เอ่อ...จะขนาดนั้นเลยหรือ” นรินทร์ชักเริ่มเกรงๆ แล้วสิ ยิ่งตะวันทำสีหน้าโอเวอร์แอคติ้งสุดๆ ยิ่งทำให้หวั่นวิตก

“ถือโอกาสเปิดเผยตัวจริงกันเลยดีไหม” มิวซังออกความเห็น เธอคิดว่ามันถึงเวลาสำหรับรินแล้ว

“เห็นด้วย ลูกพี่ก็ใส่หน้ากากไปนะพอถึงเวลาแนะนำตัว ลูกพี่ก็เผยตัวอย่างยิ่งใหญ่ ถอดหน้ากากโชว์ ดีใช่ไหมล่ะแบบนี้”

“อย่างนั้นก็เป็นจุดสนใจน่าดูเลยสิ” ฟอร์ดออกความเห็น

“ช...ใช่เป็นจุดสนใจมากเกินไป แบบนั้นไม่ดีมั้ง” นรินทร์ยิ้มแหยๆ แค่ไปอยู่ในที่คนพลุกพล่านก็กังวลมากแล้ว หากต้องถูกจับตาดูมากเกินไป เขาคงไม่ไหวแน่ๆ

“อืม...พี่ขอเสนอนะ รินก็ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องใส่หน้ากาก ทำตัวแบบคนปกติ ลงทะเบียนแข่งในชื่อของmaddog01อย่างเรียบง่าย พี่ว่าแบบนี้น่าจะเหมาะสมที่สุด” ภาริชส่งยิ้มให้นรินทร์ เจ้าตัวเล็กคิดว่าความคิดของคนรักเข้าท่าที่สุด แต่ตะวันไม่เห็นด้วย

“ไม่ๆ ลูกพี่เปิดตัวอย่างอลังการสิ เอางี้ไหม ลูกพี่ใส่ชุด iron man ไปแข่งตลอดรายการเลย เท่านี้ก็ไม่มีใครเห็นหน้าลูกพี่ล่ะ แถมยังแสดงเอกลักษณ์ความเป็นตัวลูกพี่ได้ด้วยนะ”

“เสร่อจังเลยครับ ความคิดแฟนของใครเนี่ย”

ภาริชด่าแต่ใบหน้านั้นยิ้มแย้มราวกับนางฟ้า ฟอร์ดนี่เหงื่อเริ่มแตก เพราะคิดว่าท่านพี่คงจงใจเสียดสี ทั้งอย่างนั้นคนที่หน้าด้านทำอะไรตรงๆ ไม่เคยกลัวใคร แถมบางทีความรู้สึกยังช้าอย่างตะวัน ดันไม่รู้สึกอะไรเลย

“เอ้า ก็ถ้ามันไม่ดี เอางี้ไหมพวกเราแต่งเป็นขบวนการห้าสี น่าสนุกดีออก”

“มันก็ยังขาดคนไปหนึ่งคนอยู่ดี นี่แน่ใจนะว่าออกมาจากความคิดของมนุษย์”

ภาริชยิ้มหวานขึ้นอีกระดับ ส่วนตะวันท่าทางไม่ยอมหยุดง่ายๆ

“ทำไมล่ะ หรือว่ามันอลังการเกินไป งั้นเอาเป็นหน้ากากแฟนซีธรรมดากันทั้งแก็งก็ได้นะ”

“พอเถอะครับพี่ตะวัน” ฟอร์ดพยายามหยุดยั้งความคิดบรรเจิดของคนรัก เห็นได้ชัดว่าท่านพี่อยู่ในอารมณ์smอยากย่ำยี ไม่สิกำลังเหยียบย่ำด้วยคำพูดแท้ๆ แต่พี่ตะวันดันไม่รู้ตัวซักนิด กลายเป็นเขานี่แหละที่ทนไม่ได้แทน

“เอาเป็นว่ารินแต่งตัวธรรมดา ทำตัวเหมือนมนุษย์ปกติเนอะ” ภาริชตัดบททันที ในขณะที่ตะวันยังบ่นงุ้งงิ้งว่าน่าเบื่อและไม่เด่นเลยซักนิด

สำหรับนรินทร์เขาเชื่อใจพี่ภาริชทุกอย่าง ถ้าพี่เขาบอกว่าแบบนี้ดี นรินทร์ก็พร้อมที่จะทำตาม

“ถ้างั้นหลังจากเรากลับไป ก็ควรเริ่มฝึกกลยุทธอย่างจริงจังได้แล้วนะ” มิวซังกล่าวสรุป

“เอ่อคงต้องให้ผมผ่านสัปดาห์สุดท้ายของการสอบไปก่อน หลังจากนี้ผมมีสอบทั้งอาทิตย์เลย”

ฟอร์ดก็เกือบลืมเรื่องสอบจบการศึกษาไปเหมือนกัน ดีที่ว่าก่อนหน้านั้นเขาอ่านหนังสือเตรียมไว้เยอะแล้ว จึงมั่นใจว่าสอบคราวนี้น่าจะผ่านฉลุย

“จริงสิ ถ้าสอบเสร็จก็ต้องเตรียมหามหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อใช่ไหม ได้ยินจากรินมาว่า ฟอร์ดกับรินจะเรียนที่เดียวกันคณะเดียว ยังไงก็ฝากนายดูแลรินด้วยนะ”

“ได้อยู่แล้วมิวซัง” ฟอร์ดรับปากก่อนจะหันไปยิ้มให้นรินทร์ “เอาไว้เราสองคนไปสมัครเรียนพร้อมกันนะนรินทร์”

หลังจากการประชุมสำคัญจบลง พวกเขาก็พากันเดินทางกลับเมืองb การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก ช่วงเย็นๆ ของวันก็อยู่ที่สนามบินปลายทางแล้ว ณภัทรที่มารอรับท่าทางมีความสุขดี เขารีบเดินเข้ามาหาพวกนรินทร์

“ไปเที่ยวสนุกไหมริน”

นรินทร์ผงกหัวตอบคำถามณภัทรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตอนนั้นเองที่ณภัทรพึ่งสังเกตเห็นว่าเจ้านายกับน้องชายของเขาจับมือกันอยู่

“แหม...นี่เราสนิทกับเจ้านายพี่ถึงขั้นเดินจับมือเลยรึ จะว่าไปสมัยก่อนก็เดินจับมือพี่ตลอดเลยเหมือนกันนะ”

นรินทร์สลัดมือภาริชออกทันที ภาริชหัวเราะน้อยๆ กับอาการของคนรัก

“นายนี่น้า ทำไมถึงได้หัวช้าอย่างนี้ จริงๆ ก็คิดว่าน่าจะได้เวลาบอกความจริงกับนายเหมือนกัน ฉันกับนรินทร์เราคบกันเป็นคนรักอยู่”

ทุกคนไม่มีใครคาดว่าภาริชจะเปิดเผยความจริงกะทันหันแบบนี้ ณภัทรถึงกับยิ้มด้วยใบหน้าที่ดูโง่ๆ อึ้งกิมกี่จนนรินทร์ต้องเข้าไปปลอบโยน

“พี่ครับ....พี่ณภัทร” นรินทร์ลูบมือลูบหลังพี่ชาย หลังจากนั้นไม่กี่นาทีณภัทรก็คว้ามือนรินทร์เอาไว้แน่น

“รินกลับบ้าน”

คนเป็นพี่ลากน้องชายก้าวฉับๆ หนีจากภาริช มิวซังรีบเดินตาม ส่วนนรินทร์หันกลับมามองคนรักด้วยสายตาวิตกตลอดทางจนลับตาไป

“ท่านพี่” ฟอร์ดลอบมองดูสีหน้าของพี่ชาย แล้วก็พบว่าภาริชยืนยิ้มมีความสุขอยู่ไม่ได้กังวลหรือกลัวอะไรซักนิด

“แหม...คงมั่นใจมากสิท่า ว่ายังไงก็ต้องผ่านด่านคุณพี่ชายของลูกพี่ไปได้” ตะวันอยากจะเหน็บเสียเหลือเกิน ที่ไว้หน้านี่เพราะฟอร์ดคนเดียวเลย

“พี่ตะวัน” ฟอร์ดสะกิดคนรักด้วยปลายนิ้วรัวๆ ไม่อยากให้คนรักหาเรื่องใส่ตัวด้วยการปะทะกับท่านพี่

"รู้แล้วน่า จริงๆ เปิดเผยแล้วเข้าตามตรอกออกตามประตูก็ดี อย่างนี้สิมันถึงจะดีต่อลูกพี่ งั้นก็พยายามหน่อยนะ”

ตะวันใช้มือตบบ่าภาริชดังป้าบๆ ก่อนจะหันไปจูบลาฟอร์ดที่แก้ม

“ตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะฟอร์ด พี่ภูมิมารับพี่แล้ว แล้วเจอกันนะ”

“ครับ” ฟอร์ดโบกมือลาตะวัน พอคนรักไปจนลับตา ก็ลอบมองดูพี่ชายด้วยหางตาอีกครั้ง

“ท่านพี่ ไหงถึงได้รุกเข้าหาผู้ใหญ่อย่างไม่มีชั้นเชิงแบบนี้ล่ะครับ”

“ก็แค่คิดว่าทำให้เหมาะกับนิสัยของณภัทรที่สุด คนอย่างณภัทรยิ่งปล่อยให้ช้าหรือไปรู้เองที่หลัง ยิ่งจะต่อต้าน เอาไว้วันพรุ่งนี้หรือมะรืนฉันจะพาผู้ใหญ่ไปขอหมั้นนรินทร์”

“รวดเร็วเกินไปแล้วครับเพ่ พี่จะไม่ให้พี่ณภัทรหายใจหายคอเลยรึ”

“ตีเหล็กต้องอาศัยตอนที่กำลังร้อนได้ที่นี่แหละ”

ภาริชยิ้มละมุนละไม จริงๆ ถึงณภัทรจะปฏิเสธ เขาก็พร้อมเข้าสู่สงครามในระยะยาวแล้ว ต่อให้ต้องเสียเวลาเสียเงินทองมากกว่านี้เขาก็ยอมรับมันได้ เขาจริงจังถึงขนาดวาดฝันและวางแผนสำหรับอนาคตระหว่างเขากับรินอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

จริงจังถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ตัวเองยังตกใจกับความเวิ่นอันบรรเจิดที่มีต่อนรินทร์ซึ่งนับวันมันก็มากขึ้นทุกทีแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เหนื่อยกะฟิคช่นล็อคมากกว่าจะอัพได้โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย โมโห
แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 28-09-2018 20:34:17
ตลกพี่ตะวัน มีความบรรเจิดจริงๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-09-2018 20:50:18
พี่ณภัทรก็น่ารักอยู่นะ 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: summerkiss ที่ 28-09-2018 21:08:04
นอกจะติดตามใน Fic แล้วก็มาตามในนี้ด้วยเช่นกัน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 29-09-2018 08:23:51
พอกันหัวร้อนมากอ่ะกับfixรอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 29-09-2018 11:40:29
พี่ภาริชจะผ่านด่านพี่ภัทรได้มั้ยนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 29-09-2018 15:36:07
 o13 รอร่วมงานหมั้นจ้า   :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่43 เปิดตัวอย่างกะทันหัน 28/9/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-09-2018 17:12:02
ณภัทร  หวงน้องมากๆ.....  :hao3: :hao3:
มีความรู้สึกว่าณภัทร จะเป็นเคะนะ    :impress2:
ว่าแต่จะมีใครโผล่มาเป็นคู่กับณภัทรมั้ยนะ   :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 01-10-2018 13:13:48
บทที่44

ความรู้สึกของณภัทร

ตลอดระยะการเดินทางจนถึงบ้าน ณภัทรยอมรับว่าเขาสับสนงงงวยไปหมด ไหงน้องชายของเขากับเจ้านายถึงกลายเป็นคนรักกันไปได้ แล้วทำไมคนเป็นพี่ชายอย่างตัวเองถึงไม่สังเกตให้ดีกว่านี้

ไม่สิถ้านึกย้อนให้ดีๆ เจ้ารินมักยิ้มอย่างมีความสุขเสมอยามเมื่อนึกและพูดถึงคุณภาริช และจะยิ่งกระตือรือร้นก้าวออกจากบ้านเมื่อเจ้านายของเขาคนนั้นเป็นผู้ชี้นำ

“มันตั้งแต่เมื่อไหร่ริน”

ในที่สุดพี่ณภัทรก็ยอมเปิดปากพูดเสียที หลังจากกลับมานั่งคิดเงียบๆ คนเดียวตรงโซฟา ปล่อยให้นรินทร์กับมิวซังอยู่เฝ้าด้วยความเป็นห่วง

“เราคบกันตั้งแต่ตอนที่ไปสำรวจมหาวิทยาลัยครับ” นรินทร์พูดเสียงแผ่ว เกรงว่าณภัทรจะโกรธ เขารีบเสริมต่อไป เพราะต้องการให้เข้าใจในความจริงจังของตัวเอง

“ผมชอบพี่ภาริชตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน”

ณภัทรเงยหน้าขึ้นสบตากับนรินทร์จนได้ เมื่อได้เห็นแววตาอันแสนจริงจังของน้องชาย เขาก็ตระหนักถึงบางสิ่ง ตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว น้องชายของเขามักจะว่าง่ายอะไรก็ได้ไปเสียหมด คนอื่นต่างบอกกับเขาว่านรินทร์ช่างเป็นเด็กดีเลี้ยงง่าย ทว่าในสายตาเขามองเห็นแต่ความกลัวของน้องชายมาตลอด

การที่รินต้องกลายเป็นคนว่าง่ายยอมคนเก็บความต้องการของตัวเองไปเสียหมดแบบนี้ อาจเป็นเพราะบรรดาพวกญาติๆ และคนรักหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็เป็นได้

มีอยู่หลายๆ ครั้งที่พวกคนรักที่ผ่านเข้ามามองว่านรินทร์เป็นตัวถ่วงในชีวิตเขา แม้แต่พวกญาติๆ ก็ยังพูดลอยลมให้นรินทร์รู้สึกแย่

หลายต่อหลายครั้งที่ณภัทรต้องเลิกกับแฟนเพราะความไม่พอใจที่คนเหล่านั้นรังเกียจการมีอยู่ของนรินทร์ พวกเธอแสดงออกลับหลังเขาบ้าง ต่อหน้าเขาบ้าง ที่ร้ายที่สุดคงเป็นการแนะนำให้เขาส่งน้องชายไปโรงเรียนประจำ เพื่อให้หล่อนกับเขาใช้ชีวิตด้วยกันแค่สองคน

ไม่สิมีที่ร้ายๆ พอกันอยู่บ้างก็พูดจาว่ากล่าวเหมือนนรินทร์เป็นปลิงที่คอยเกาะกินเขา พวกหล่อนไม่ได้มองความพยายามของนรินทร์มีค่า ไม่ว่าน้องชายของเขาจะหาเงินจากการแคสเกมและการเล่นเกมได้มากมาย พวกเธอหรือไม่ว่าจะญาติๆ ก็ยังมองนรินทร์ว่าทำเรื่องไร้สาระรวมถึงเป็นมนุษย์ที่ไร้ค่าอยู่ดี

กลับกันเขาที่เป็นพี่แท้ๆ มองเห็นความพยายามของนรินทร์มาตลอด ไม่ว่าจะการเรียนภาษา การเรียนวาดภาพที่ทำด้วยตัวเองทั้งหมด หรือแม้แต่การขวนขวายศึกษาต่อไปในระบบโฮมสคูล เขาไม่เคยเห็นน้องชายว่างเว้นหรือทำตัวไร้ประโยชน์ซักนิด มีแต่ความมุ่งมั่นและพยายามมาตลอด

จริงสิเรื่องนี้นับว่าต้องขอบคุณคุณภาริชโดยตรง ถ้าคิดดูให้ดีแล้วที่รินเป็นอย่างทุกวันนี้ล้วนมาจากคำแนะของภาริชเสริมด้วยความพยายามของรินจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย เจ้านายคนนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องชายของเขาก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แม้จะเป็นอย่างช้าๆ ก็ตาม

แม้แต่คนที่พาให้นรินทร์ก้าวออกจากบ้านก็ยังเป็นคุณภาริช แบบนี้แล้วมันน่าแปลกใจตรงไหนกันที่นรินทร์จะรักคนคนนั้น

“รินไม่เคยบอกพี่เรื่องที่รักชอบคุณภาริชเลย” ในที่สุดณภัทรก็เปิดปากพูดเสียทีหลังจากที่นั่งเงียบครุ่นคิดอยู่นาน

“ผมไม่อยากให้ใครรู้ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางสมหวัง ผมเป็นแค่คนขี้แพ้ ส่วนพี่ภาริชเป็นเจ้านายของพี่เป็นคนอื่น” นรินทร์ก้มหน้าลงต่ำ เขาคิดถึงช่วงเวลาข่มขื่นที่ต้องหักห้ามความรู้สึกและตัดใจจากภาริชที่ไม่มีทางเอื้อมถึง

“แต่ว่าถึงแม้จะบอกตัวเองว่าไม่คู่ควร ผมก็ยังชอบพี่ภาริชมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้สมหวังกลายเป็นคนรักของพี่ภาริช ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขกว่าใครๆ “

นรินทร์พร่างพรูความรู้สึกและความดีงามของภาริชออกมาอย่างต่อเนื่อง

“พี่ภาริชทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีค่า เขาทำให้ผมรู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำแต่เรื่องไร้สาระ และว่างเปล่ากลวงโบ๋เหมือนที่คนอื่นๆ คิด”

นรินทร์หมายถึงเมษา พี่ภาริชจะรู้ไหมว่า เขาไม่สามารถหันไปมองคนอื่นได้อีกต่อแล้วนอกจากพี่ภาริช เพราะคำพูดและการกระทำของพี่ภาริชในตอนนั้น มันทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ปลอดภัย และรัก เขารักพี่ภาริชที่ทุ่มเททั้งยังคอยปกป้องเขาแม้จะเป็นคนอื่น แม้ว่าเขาเป็นคนไร้ค่า

พี่ภาริชบอกว่าเขาไม่ไร้ค่า บอกว่าแค่น่ารักกับเล่นเกมเก่งเขาก็มีคุณค่ามากพอแล้ว ทั้งที่ในสายตาคนอื่นๆ มันไม่เพียงพอ แต่พี่ภาริชกลับมองต่างกันออกไป ตั้งแต่ตอนนั้น นรินทร์ก็ตัดสินใจว่าจะทำตัวเองให้มีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ

เริ่มจากปกป้องศักดิ์ศรีของคนรักและศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาจะตั้งใจเรียนเพื่อตัวเองและเพื่อพี่ณภัทรที่ดูแลเขามาตลอด นอกจากนั้นเพื่อให้สามารถเดินเคียงข้างพี่ภาริชได้อย่างไม่อายใคร เขาจะทำทุกอย่างแม้ต้องลำบากมากก็ตาม

จังหวะที่บอกเล่าความในใจยืดยาว ณภัทรก็ได้ยินเสียงเรียกเข้ามือถือ เขาหยิบขึ้นมาดูและพบว่าเจ้านายตัวแสบของเขาโทรมา

<” คงไม่ใช่ว่ากำลังต่อว่ารินอยู่นะ” > เสียงเย้ายวนทรงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ดังมาจากปลายสาย เจ้านายของเขาคนนี้ไม่รู้จักคำว่าสลดเลยหรือไงนะ

“ผมเป็นคนมีเหตุผลพอครับ ไม่เหมือนเจ้านายหรอก ถ้าใช้เหตุผลยั้งคิดก็จะรู้ว่าไม่ควรหลอกล่อเด็กที่อายุแค่17 อย่างนี้”

ณภัทรเตรียมจะเทศนาสั่งสอนเจ้านายของเขายาวเหยียด เตรียมคำต่อว่าเอาไว้มากมาย ทว่า

<” ฉันจะพาผู้ใหญ่ไปเจรจาเกี่ยวกับการขอหมั้นนรินทร์ พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ” >

“ห๊ะ...อะ...อะไรนะครับ”

ท่าทางเงอะงะงุนงงของณภัทรทำให้นิษิตาที่ฉลาดเป็นเลิศเดาได้ไม่ยาก ภาริชคนนั้นคงใช้ไพ่ตายแล้ว เดาว่าคงส่งคนมาสู่ขอนรินทร์จากพี่ณภัทร ไม่สิอาจเป็นการขอหมั้น ก็ดีทำแบบนี้มันก็เหมือนเป็นการให้เกียรตินรินทร์รวมถึงคนเป็นครอบครัวอย่างพี่ณภัทร

“ล้อเล่นใช่ไหมครับ ผมยังไม่ได้กดดันอะไรอย่างเช่นจะแจ้งความจับเจ้านายเลยนะ”

<” ไม่ได้ทำเพราะกลัวจะถูกจับ แต่อยากจองตัวเอาไว้ก่อน และมาคิดดูให้ดีฉันอยากทำให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่า” >

ณภัทรพูดอะไรไม่ออก แต่เข้าใจว่านี่เป็นการให้เกียรติน้องชายของเขามากที่สุดแล้ว ถ้าให้แต่งงานคงทำไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง ดังนั้นขอหมั้นไว้ก็ถูกต้อง จังหวะนั้นณภัทรก็นึกอะไรบางอย่างที่สำคัญออกมาได้ เขาโวยวายเสียงดังไปหาภาริชที่อยู่ปลายสาย

“ไม่ใช่ว่าคุณล่วงเกินน้องชายผมไปแล้วนะ ไหนบอกมาสิว่าคุณกับน้องชายผมทำอย่างว่าไปหรือยัง”

“พี่ณภัทร” นรินทร์พยายามจะอธิบาย แต่ณภัทรฟังเสียที่ไหน เขาตะโกนโวยวายใส่ภาริชผ่านทางมือถือ

<” ฉันให้เกียรติคนที่คบหาด้วยทุกคน โดยเฉพาะกับริน ฉันไม่หักหาญหรือแตะต้องเขาไปมากกว่าจูบ” >

“ก็ลองทำดูสิ ต่อให้เป็นเจ้านายผมก็จะฟ้องคุณ”

<” ใจเย็นลงหน่อยณภัทร นายเห็นฉันเป็นคนเลวขนาดนั้นเลยหรือ” >

ตอนนี้ณภัทรค่อยๆ เย็นลง เขาคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล “คุณก็ไม่แย่หรอกครับเจ้านาย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นน้องชายของผม”

<” รักใครชอบใครต้องมีเหตุผลด้วยหรือ” >

นั่นสิความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่และตลอดเวลา บางครั้งมีเหตุผลมากมายให้รัก บางครั้งมันก็เกิดขึ้นกะทันหันแบบระบุไม่ได้ว่าเพราะอะไร ณภัทรพอเข้าใจความจริงข้อนี้

< “นรินทร์เป็นคนคนเดียวที่ทำให้ฉันนึกภาพอนาคตระหว่างตัวเองกับคนอื่นออก คิดว่าแปลกไหมที่ฉันนึกภาพฉันแก่ตัวลงเรื่อยๆ โดยมีน้องชายของนายอยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลา” >

“คุณจริงจังกับนรินทร์จริงๆ หรือครับ” ณภัทรถาม แต่ภาริชตัดบทง่ายๆ

<” อย่าเสียเวลาอภิปรายเลย พรุ่งนี้เตรียมตัวรอผู้ใหญ่ทางฝั่งฉันไปคุยเรื่องหมั้นของฉันกับนรินทร์จะดีกว่า” >

ภาริชวางสายไปแล้ว ณภัทรทำงานกับภาริชมาหลายปีรู้สันดานนิสัยของคนคนนี้มากกว่าใคร อะไรที่อยากได้ที่ตัดสินใจแล้วจะไม่มีทางยอมแพ้หรือปล่อยมือง่ายๆ เจ้านายของเขาจะทำทุกวิถีทางให้ได้มา เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการก็ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเขาคนนั้นได้

แสดงว่าคงจริงจังกับนรินทร์มากจริงๆ เทียบกับผู้หญิงคนอื่นที่คบกันง่ายๆ แล้วเลิกไป ไม่เคยมีใครที่ภาริชพูดถึงการพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอให้เขาฟังเลยซักคนเดียว

แต่ว่ามันรวดเร็วเกินไปไหม ไม่สิเขาลืมไปว่าเจ้านายของเขามันโรคจิตหน่อยๆ พฤติกรรมชอบเลี้ยงต้อย ไม่สิในบรรดาผู้หญิงที่ผ่านๆ มา ก็มีเด็กวัยรุ่นวัยเรียนมาติดบ่วงด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ยักจริงจังขนาดนี้ ก็เห็นปล่อยเด็กพวกนั้นเดินจากไปง่ายๆ

ให้พูดกันจริงๆ เด็กพวกนั้นเทียบความน่ารักกับนรินทร์น้องชายของเขาไม่ได้เลย ณภัทรเคยต้องจัดการดูแลคนรักเก่าๆ ของภาริชบ่อยครั้งเพราะถูกไหว้วาน แต่ละคนเห็นเจ้านายของเขาไม่ต่างจากธนาคารหรือเครื่องประดับชิ้นงามที่มีไว้อวดคนอื่นทั้งนั้น

ซึ่งไม่ต่างจากตัวเจ้านายเองที่ก็มองคนรักจอมปลอมเหล่านั้นด้วยสายตาว่างเปล่าทั้งที่ใบหน้ามีรอยยิ้ม รู้ได้เลยว่าทางฝั่งนี้ก็มองเหล่าคนพวกนั้นเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่หาซื้อมาเท่านั้น

คุณภาริชเป็นคนฉลาด ฉลาดมากจนเกินไป ดังนั้นคนไว้ใจใกล้ตัวจึงมีไม่มากนัก การที่คนแบบนั้นจะรักใครขึ้นมาสักคน คนๆ นั้นย่อมต้องมีจิตใจที่ดีงามมากเสียจนคนขี้ระแวงคนนี้รู้สึกวางใจ

เพราะงั้นสินะ ถึงได้ตกหลุมรักน้องชายที่มีนิสัยตรงไปตรงมาของเขา.....

ณภัทรรู้สึกภูมิใจที่นรินทร์ไม่มีทางทำกับคนรักของตัวเองราวกับกระเป๋าเงิน หรือหวังใช้ประโยชน์จากผู้อื่นแน่ เขาเลี้ยงนรินทร์มากับมือจะมีนิสัยแย่ๆ แบบนั้นได้อย่างไร ยิ่งสรรหาข้อดีของน้องชายตัวเองได้มากเท่าไหร่ ณภัทรก็ยิ่งไม่แปลกใจที่เจ้านายคนนั้นจะหลงรินอย่างหัวปักหัวปำ

ทว่าไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะยกน้องชายให้ปีศาจจอมเอาแต่ใจอย่างเจ้านายง่ายๆ ไม่ใช่หรือ เข้าใจที่นรินทร์รักผู้ชายคนนั้น ถึงอย่างไรเขาก็ต้องคิดให้รอบคอบ ณภัทรต้องการเวลาครุ่นคิดเพียงลำพัง

นรินทร์มองดูณภัทรลุกขึ้นจากโซฟาเดินกลับเข้าห้องไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม การที่พี่ชายไม่พูดอะไรซักคำมันทำให้เขากังวล นรินทร์ทำท่าจะเดินตามไป แต่ถูกมิวซังรั้งเอาไว้

“ให้พี่ณภัทรได้คิดอะไรบ้างเถอะ”

“แต่ว่า...” นรินทร์อยากตามไปอธิบาย เขากังวลตั้งแต่พี่ชายโวยวายว่าจะแจ้งตำรวจจับพี่ภาริชแล้ว

“รินอยู่เฉยๆ เถอะนะ การที่รินไปตื้อพี่ณภัทร มันจะเติมเชื้อไฟความบาดหมางมากกว่าช่วยให้พี่ณภัทรเข้าใจ”

นรินทร์คิดว่ามิวซังพูดถูกดังนั้นจึงลดตัวลงนั่ง แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี

“ฉันกลัวว่าพี่ณภัทรจะกีดกันไม่ให้เจอหน้าพี่ภาริชอีก”

“ก็ปกตินะ คนเป็นพ่อแม่ทุกคนต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว ก็ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างนั้นจริง รินก็ต้องทำใจนะ รินต้องใช้เวลาพิสูจน์ตนเอง พัฒนาตัวเอง แสดงให้รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่และพร้อมตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ถ้าพี่ภาริชรักรินจริง เขาต้องรอได้ และพร้อมจะพิสูจน์ตนเองไปพร้อมๆ ริน ให้คนที่รักรินเห็นและยอมรับ”

“แล้วมันจะนานเท่าไหร่ละมิวซัง”

“นรินทร์ไม่มั่นใจในความรักของรินกับคุณภาริชหรือไง”

“ฉันรักพี่ภาริช มั่นใจว่าจะไม่เปลี่ยนไปง่ายๆ แต่พี่ภาริชเขาจะคิดยังไงฉันไม่รู้” นรินทร์หดหู่เล็กน้อย ถ้าเกิดพี่ภาริชรำคาญและไม่อยากรอคอยอีกต่อไปล่ะ ถ้าเกิดเขาเจอคนอื่นที่ดีกว่าและง่ายกว่าล่ะ

“ให้เวลาพิสูจน์สิริน รินยังเด็ก พี่ภาริชไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตของรินนะ อย่าปิดโอกาสตัวเอง ที่พี่ณภัทรกังวลก็ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ”

“มิวซังขอกอดได้ไหม” นรินทร์เข้าใจที่มิวซังสื่อทุกอย่าง เข้าใจว่าการอดทนรอคือทางเลือกที่ดีที่สุด แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บ ดังนั้นจึงอยากกอดรัดใครซักคนเอาไว้

“พี่ภาริชบอกว่า จะไม่แตะต้องฉันจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ อย่างนี้หมายถึงเขาจริงใจได้ไหม”

“เขาพูดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”

“อื้อ” นรินทร์พยักหน้าแล้วพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“มิวซัง ฉันเป็นเด็กไม่ดีใช่ไหม ที่เอาแต่คิดว่าอยากเป็นหนึ่งเดียวกับพี่ภาริช ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ภาริชสื่อเท่าไหร่แถมยังเก็บมาน้อยใจเล็กๆ คิดว่าตัวเองอาจไม่มีเสน่ห์พอ”

“นั่นสินะ คุณภาริชเนี่ย ผิดจากที่ฉันวาดภาพเอาไว้เยอะเลย”

ทีแรกคิดว่าเป็นพวกหมาป่าที่จะตะครุบเหยื่อซึ่งหมายตาเอาไว้อย่างตะกละตะกลามเสียอีก

ทั้งสองคนไม่ได้รู้เลยว่าณภัทรกลับมายังห้องรับแขกอีกครั้ง แถมได้ฟังเรื่องเมื่อครู่ชัดจนเต็มสองหู เขายังต้องการเวลาครุ่นคิดเรื่องนี้มากขึ้นอีกหน่อย ถึงแม้ว่าเอาจริงๆ เจ้านายที่ร้ายกาจอย่างกับปีศาจจะไม่ยอมให้เวลาเขามากไปกว่านี้ก็ตาม



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไอ้ที่หวีดสุดๆ ตอนนี้คือโอชิปัญได้เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลที่5 แล้วค่า ปรบๆๆๆๆมือ

รอมานานแล้วค่า แถมซิงเกิ้ล6 จะมีเลือกตั้งอร๊ายยยยย มันเป็นสงครามค่า 5555

                  กลับมาที่เนื้อเรื่อง ลุ้นกันปะว่าพี่ณภัทรจะทำไงกับความสัมพันของนรินทร์กับพี่ภาริช

                  น้องๆ ที่อ่านเข้าใจไหมคะว่าทำไหมเราเขียนและวางพลอตออกมาแบบนี้

                  เราไม่ได้บอกว่าคนที่เลือกความรักมากกว่าหรือเห็นว่าความรักสำคัญมากที่สุดผิด

                  แต่อยากให้น้องๆ คิดถึงอนาคตข้างหน้า และคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ

                   เรื่องนี้เราพยายามชูความสำคัญของเรื่องนี้ แต่จริงๆ รสนิยมของเราอะ

                    คอดผิดศีลธรรม ชอบnc ชอบโชตะ หนุ่มยัน มาโซ โซ่แส้กุญแจมือ รักระหว่างพี่น้อง

                    อย่าให้บรรยายเยอะ55555 เรื่องนี้เป็นลูกกวาดมาก บางทีเรื่องหน้าอาจจะมาแนวดาร์คไร้เหตุผลใดๆ ก็ได้นะ

                   มันเป็นตามฟิลลิ่ง อิอิ

                   แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 01-10-2018 13:45:57
นุ้งรินนนน น่าเอ็นดูจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 01-10-2018 16:46:37
สนุกมากอ่ะเรื่องนี้ ชอบบบบบบบ ขนาดไม่เล่นเกมส์แต่เราอ่านรู้เรื่องนะ ชอบปมในเรื่องด้วย รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 01-10-2018 19:16:44
ผ่านอะไรมาเยอะจริงจริง :mew6:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 02-10-2018 06:49:59
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 02-10-2018 07:54:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่44 ความรู้สึกของณภัทร 1/10/61 หน้า8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-10-2018 10:19:26
ไรท์ ชอบอะไรดาร์กๆ
แต่ก็ยังชอบโอชิปัญ เซ็นเตอร์ซิงเกิ้ล ก็แสดงว่าปกติค่าาาาาา   :mew1:

ณภัทร วางใจได้
คนที่เข้าใจ รู้นิสัยสันดานภาริชก็มีณภัทรนี่แหละ   
ขนาดว่าไม่เคยสนใจใครขนาดจะขอหมั้น
มีแต่นรินทร์คนเดียวเท่านั้น ที่ภาริชวาดฝันจะอยู่กันไปจนแก่เฒ่า OMG    o22 o22 o22
ใช่เลย  ภาริช คนขี้ระแวงไม่ไว้ใจใคร
ย่อมติดกับคนที่นิสัยซื่อตรงแบบริน  เพราะตรงกันข้ามกับตัวเอง  กร๊ากกกกก  :m20: :laugh:

ภาริช  นรินทร์     :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่45 อันดับสองของวงการ 2/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 02-10-2018 13:45:57
บทที่45

อันดับสองของวงการ

ต้องบอกว่าณภัทรคิดจนแทบไม่ได้นอน เขาได้หลับจริงๆ ตอนตีห้าแล้วตื่นขึ้นมาในเวลา 9 โมงเพราะคุณภาริชโทรปลุก

<” เตรียมตัวแล้วหรืออีกชั่วโมงฉันจะพาผู้ใหญ่ของฉันเข้าไปคุย” >

หลังจากแจ้งให้ทราบภาริชก็ตัดสายทันที ณภัทรอยากร้องคำราม นี่จะไม่ให้ผมได้ตั้งตัวเลยหรือไงวะ ตามจริงตลอดทั้งคืนณภัทรคิดไตร่ตรองอย่างดีแล้วว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องของนรินทร์กับเจ้านายของตัวเอง ดังนั้นจึงลุกจากเตียงรีบอาบน้ำแต่งตัว พอเรียบร้อยก็พบนรินทร์กับมิวซึ่งตื่นนานแล้วและกำลังช่วยกันทำอาหารเช้า

“ตื่นแล้วหรือครับพี่ณภัทร”

นรินทร์ดูหงอยอย่างชัดเจน ณภัทรเข้าใจความรู้สึก น้องชายของเขาหลงรักเจ้านายตัวแสบเข้าเต็มเปา อะไรๆ มันแก้ไขไม่ทันแล้ว

“พี่ณภัทรนั่งลงเถอะค่ะทานข้าวเช้ากัน” มิวจัดจานลงบนโต๊ะ ส่วนนรินทร์นำอาหารมาวางตาม โจ๊กปูกับไข่ตุ๋น ชวนให้น้ำลายสอ ดังนั้นณภัทรจึงไม่ได้รอช้าจัดการกับมื้อเช้าอย่างรวดเร็ว

ทว่าระหว่างทานรู้สึกได้ถึงสายตาของนรินทร์ เขาหันไปยิ้มให้เจ้าตัวเล็กเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา

“อีกชั่วโมงคุณภาริชจะพาผู้ใหญ่มาเจรจาขอหมั้นรินนะ”

“พี่ภาริชส่งข้อความมาบอกแล้วครับ” นรินทร์หลบตาเล็กน้อยขณะบอกเรื่องราวของตัวเอง

ณภัทรเดาะลิ้น หงุดหงิดกับพฤติกรรมของเจ้านายตัวเองนิดหน่อย “อืม”

นรินทร์วิตกกังวล พี่ณภัทรที่ร่าเริงใจดีเงียบขรึมผิดปกติ หรือว่าโกรธที่เขาคุยกับพี่ภาริช นรินทร์ไม่กล้าปริปากถามเรื่องนั้น หลังมือเช้าจบ ครอบครัวของพวกเขาก็พากันมานั่งจับกลุ่มในห้องรับแขกครบทุกคน นั่งอยู่อย่างนั้นจวบจนได้ยินเสียงกริ่งที่หน้าบ้าน

“ฉันไปเปิดให้เอง” มิวซังลุกไปหน้าบ้าน นรินทร์นั่งแทบไม่ติดที่ คาดว่าต้องเป็นพี่ภาริชแน่ๆ

แล้วก็จริงเสียด้วยพี่ภาริชเดินเข้ามากับชายคนหนึ่ง นรินทร์เคยเห็นหน้าเขาบ่อยครั้งจากสื่อต่างๆ แทบทุกแขนง

<ถึงกับเชิญผู้ว่าเมืองbมาเลยรึ> ณภัทรยืนขึ้น เชื้อเชิญให้เจ้านายกับผู้มีอำนาจที่อีกฝ่ายเชิญมา คนคนนี้ตั้งใจมากดดันบังคับให้เขายอมรับให้ได้หรือไงวะ

“เอาล่ะผมจะไม่พูดอ้อมค้อมล่ะนะ” หลังจากนั่งลง ผู้ว่าเมืองbก็เข้าประเด็นที่ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้อยู่แล้ว

“ทางเรามีความตั้งใจที่จะหมั้นนรินทร์น้องชายของคุณเอาไว้เสียก่อน เหตุผลที่มาคราวนี้เพราะผมได้ฟังเรื่องราวจากภาริชคร่าวๆ ว่านรินทร์กับภาริชต่างก็รักกันแม้ว่าอายุอาจต่างกันก็ตาม แล้วด้วยวัยของนรินทร์ที่ยังไม่เหมาะสม ทางเราเล็งเห็นว่าให้หมั้นกันไว้ก่อนจะดีที่สุด”

จากนั้นทนายที่ภาริชพามาด้วยก็เสนอของหมั้น อ่านดูเอกสารแล้วช่างอลังการเลิศหรู จนต้องเงยหน้าขึ้นมองดูภาริชทุกครั้งที่พบว่าในแต่ละรายการนี่มันช่าง <ของหมั้นหรือสินสอดกันแน่วะ>

เจ้านายคนนี้ทั้งที่เป็นลูกครึ่งประเทศfแถมยังไปอยู่ที่นั่นมาหลายปี สมควรได้รับอิทธิพลทางแถบนั้นมากกว่า กลับเข้าใจวัฒนธรรมของคนประเทศนี้ดีกว่าใคร เล่นทุ่มเงินทุ่มทองลงมามากมายเพียงแค่ของหมั้น ที่เอาจริงๆ แค่แหวนก็พอแล้ว ถ้าเขาเป็นคนโลภซักหน่อยคงไม่รีรอขายน้องกินแน่นอน

“แบบนี้มันมากเกินไป ผมกับนรินทร์ไม่เอาเปรียบแน่นอน จะรับแค่แหวนหมั้นเท่านั้น” ณภัทรยื่นเอกสารรายการหมั้นคืนทนาย

“หมายความว่านายยอมรับแล้วสินะใช่ไหม” ภาริชยกโค้งมุมปาก

“ไม่ครับ ผมยังไม่ตัดสินใจรับหมั้นคราวนี้”

“มีอะไรที่คุณไม่พอใจรึ” ผู้ว่าเมืองbถาม

“น้องของผมยังเด็ก อย่าว่าแต่แต่งงาน ให้ผูกมัดด้วยการหมั้นก็เร็วไปเหมือนกัน” ณภัทรหันไปจ้องตาภาริช อากัปกิริยาดูจริงจัง

“เอาเป็นว่าผมจะไม่กีดกัน การสานสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับน้องชายผม ผมอนุญาต แต่จะขอให้ทุกอย่างอยู่ในสายตาของผมทั้งหมด และเพื่อไม่ให้เป็นการปิดกั้นโอกาสดีๆ ที่นรินทร์อาจได้เลือก ผมยังไม่ต้องการรับหมั้นให้นรินทร์มีห่วงผูกคอเอาไว้”

ภาริชกระตุกยิ้มต่อคำประกาศของณภัทร “ถ้าฉันฟังไม่ผิดนายไม่ยอมให้ฉันหมั้นกับนรินทร์ แต่อนุญาตให้เราคบเป็นคนรักอย่างเป็นทางการได้สินะ”

“ผมห้ามอะไรใครได้หรือไง ผมไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ แล้วนี่ผมเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้อยู่นะ ทั้งกับรินแล้วกับเจ้านาย”

ไม่ว่ายังไงณภัทรก็ยังไม่อยากให้รินถูกผูกมัดเอาไว้ตอนนี้ รินยังเด็กหากวันหน้าพบเจอคนที่ชอบมากกว่า คิดหรือว่ามันจะง่ายหากถูกบ่วงของคุณภาริชรัดเอาไว้แล้ว

“ผมยอมรับการคบหาในฐานะคนรักระหว่างรินกับเจ้านาย ยังไงก็แล้วแต่อยากให้คุณภาริชให้เกียรติผมและน้องของผม เข้าตามตรอก ไม่ล่วงเกินและทำอะไรคิดถึงหน้าผมบ้าง”

“เข้าใจแล้ว เอาอย่างนี้ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นในเมื่อพี่แฟนอย่างนายยอมรับในตัวฉันแล้ว พรุ่งนี้ฉันขอพารินไปเที่ยวเล่นฉลองการคบหาอย่างเป็นทางการซักหน่อยก็แล้วกัน”

ณภัทรเม้มปากเข้าหากันแน่น เจ้านายคนนี้ไม่รีรอใช้สถานะของตัวเองรุกเข้าหานรินทร์ทันที ถึงแม้จะหนักใจแต่ณภัทรก็ยอมอนุญาต

“ได้สิครับ แต่ผมขอขีดเส้นเวลาซักหน่อย ห้ามกลับบ้านเกินหนึ่งทุ่มก็แล้วกัน”

คนที่ดีใจที่สุดเห็นทีจะเป็นรินทร์ ถึงไม่ได้หมั้นกับพี่ภาริช เท่านี้มันก็เกินกว่าที่คาดไปแล้ว

หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อยภาริชก็พาคนของเขาจากไป นรินทร์เสียดายที่ไม่ได้พูดดุยกับคนรักซักคำ ทว่ามีข้อความส่งมา

โกรธเกรี้ยว : พี่อดใจรอให้ถึงวันเดตฉลองการคบหากันอย่างเป็นทางการของเราในวันพรุ่งนี้ไม่ไหวเลย

โกรธเกรี้ยว : ในเมื่อพี่ตัดสินใจอู้งานแล้ว เราก็ต้องเที่ยวกันให้คุ้มเนอะ



“ร้ายจริงๆ คุณภาริชคงกะโยนงานของวันพรุ่งนี้ให้พี่ทำจนหมด”

นรินทร์ยิ้มแหยๆ เมื่อพบว่าพี่ณภัทรชะโงกหน้าอ่านข้อความในมือถือของตัวเอง

“เอาล่ะ พี่ว่าจะทำงานที่ค้างไว้ซักหน่อย” ณภัทรลุกขึ้นจากโซฟา ตั้งใจกลับไปทำงานเอกสารในห้อง

“ขอบคุณนะครับพี่ณภัทร”

คำขอบคุณของนรินทร์ทำให้เขาหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า “พี่แค่อยากให้เรามีความสุข” เขาลูบหัวนรินทร์เบาๆ ด้วยความเอ็นดู เขาไม่แน่ใจว่าการเปิดโอกาสให้รินคบหากับเจ้านายตัวร้ายเป็นเรื่องที่ถูกต้องไหม แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของนรินทร์เขาก็คลายใจ

ณภัทรคิดว่าการที่เขาตัดสินใจทำแบบนี้มันคงดีกับนรินทร์ที่สุดแล้ว



ในวงการe-spotชื่อของเศียรมังกรเรียกได้ว่าโด่งดังในระดับนานาชาติ สายหมอกคนนี้เดินสายแข่งเกมไปทั่วทุกมุมโลกและได้รับรางวัลมามากมายจนเรียกได้ว่าเขาคือมือหนึ่งของวงการนี้เลยทีเดียว

เวลานี้ชื่อที่ติดอันดับtop5ในวงการe-spotมีดังนี้

เศียรมังกร
Chen Le<เฉินเล่อ>
คิม ยองแอ <บุตรสาวอันเป็นที่รัก>
คิม เยจี <ฉลาดเฉลียว>
Killer bee
4 อันดับแรกนั้นล้วนเป็นลูกครึ่งลูกเสี้ยวที่มีสัญชาติประเทศtทั้งนั้น ดังนั้นเสือสิงห์หงส์และมังกรเหล่านี้จึงกระจุกตัวแย่งชิงความโดดเด่นรวมถึงสร้างชื่อเสียงให้ประเทศtอย่างต่อเนื่อง และตรงหน้าของเมษา อันดับ1และ2ในวงการe-spotก็มากันพร้อมแล้ว

สาวน้อยอิงฟ้าเป็นคนที่ตื่นเต้นกว่าใคร เธอไม่คิดฝันว่านอกจากได้พบตัวจริงยังจะได้ร่วมทีมกับคนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ถึงแม้ว่าเสียดายแทนพี่ชายฝาแฝดซึ่งถอนตัวไปเพราะสาเหตุที่ไม่ยอมบอกแม้แต่เธอก็ตามเถอะ

“ขอบคุณพี่สายหมอกจริงๆ ครับที่อุตส่าห์หาคนมาเสียบแทนคนที่ขาดไปให้”

เมษาขอบคุณด้วยความจริงใจ เขากำลังลำพองที่ได้หมากชั้นเลิศมาเพิ่มอีกหนึ่ง ถ้าไม่ติดว่าเฉินเล่อพูดจาปากคอเราะร้ายออกมาเสียก่อน

“ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ยเศียรมังกร นายจะให้ฉันฟอร์มทีมกับนักแคสที่ไม่เคยเข้าแข่งขันแม้แต่ครั้งเดียวนี่นะ”

เมษาหรี่ตามองด้วยความไม่พอใจ ดูเหมือนว่าเฉินเล่อก็รู้ตัวว่าถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร มีอะไรที่คนอย่างเฉินเล่อต้องเกรงใจเขาใช้สายตาของผู้ที่เหนือกว่ามองเหยียดกลับ

“เข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับ” เมษาเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว เขาปั้นยิ้มเอาไว้ก่อนถึงแม้จะเริ่มเกลียดขี้หน้าอีกฝ่ายเสียแล้ว แต่เพื่อผลประโยชน์ไงก็ต้องนอบน้อมเอาไว้

“แต่คุณคงเห็นฝีมือของผมจากคลิปต่างๆ ดีแล้ว เทคนิคของผมก็ไม่น่าเกลียดอะไร”

“แคสเกมกับแข่งจริงจังมันเหมือนกันที่ไหน” เฉินเล่อกระตุกยิ้ม เขามองเมินไปอีกทาง ถอนหายใจและทำท่าเหมือนเมษาอ่อนต่อโลกเสียเต็มประดา

“อย่าว่าแต่เราไม่เคยเล่นเกมด้วยกัน นายคิดว่านายจะตามทันและเข้าใจกลยุทธของมืออาชีพอย่างเราหรือเปล่า”

“สอนผมสิครับ ผมหัวไวพอ” เมษาไม่ใช่คนอารมณ์เย็นนัก เขาปั้นหน้ายิ้มได้ไม่นานเท่าไหร่ ส่วนคนฟังอย่างเฉินเล่อทำแค่แค่นเสียงดังเฮอะเท่านั้น

“งั้นมาพูดถึงเรื่องหัวหน้าทีม ฉันต้องเป็นหัวหน้าทีม มีใครขัดข้องไหม”

เส้นเลือดบนขมับของเมษาปูดบวมทันทีที่ได้ยินคำพูดของเฉินเล่อ ไอ้ลูกครึ่งแดนมังกรเนี่ยยโสโอหังมากเกินไปแล้ว

“พี่สายหมอกไม่ได้บอกเขาก่อนที่จะชวนมาเข้าทีมหรือครับ”

สายหมอกยิ้มละไม เขาหันไปพูดกับกับเฉินเล่อด้วยเสียงนุ่มนวล

“เล่อ นายลืมไปที่ฉันบอกไปแล้วหรือไง เรื่องที่เมษาเขาเป็นหัวหน้าทีม”

“โอ๊ะ นึกว่าล้อเล่นนะนี่ นี่เราจะตั้งทีมทั้งทีทำไมไม่เลือกหัวหน้าจากความสามารถล่ะ”

เมษากัดฟันกรอดต่อสีหน้าล้อเลียนของเฉินเล่อ ไอ้หมอนี่ถ้าไม่พูดกันตรงๆ เห็นทีจะไม่รู้เรื่อง

“คุณต้องการเงินเท่าไหร่คุณเฉิน”

“เอ๋ ไหงเรามาพูดถึงเรื่องเงินกันได้เนี่ย” เฉินเล่อหัวเราะด้วยใบหน้าชั่วร้าย

“อยากได้เท่าไหร่บอกมาตรงๆ เถอะ” เมษาเย็นชาขึ้นทั้งน้ำเสียงและใบหน้า

เฉินเล่อยิ้มด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนชอบอกชอบใจ เขายื่นหน้าเข้าไปหาเมษา

“อย่ามาดูถูกกันนะไอ้ลูกเจี๊ยบ” สีหน้าของเฉินเล่อยังคงยิ้มหวาน แต่วาจาเฉือดเฉือนอย่างที่สุด

“ฉันยอมมาร่วมทีมกับแก เพราะวางแผนตั้งทีมกับอากิระไว้ตั้งแต่ต้น แกมันแค่ตัวแปรห่วยๆ ที่ทำให้ฉันต้องมาติดกับ เงินแกฉันไม่เอาหรอก แต่แค่มาทดสอบดูฝีมือตัวเองว่าร่วมทีมกับพวกตัวถ่วงฉันกับสายหมอกยังสามารถพยุงทีมให้ชนะได้ไหม”

“ถ้างั้น...ก็แสดงความสามารถให้พอนะครับ เพราะถ้าคุณทำทีมแพ้มันคงจะน่าขายหน้า”

เฉินเล่อหัวเราะร้ายกาจ เขาไม่อินังขังขอบต่อคำพูดของเมษา “คำพูดนั้นคืนให้ก็แล้วกัน”

เป็นการเริ่มต้นฟอร์มทีมที่ไม่ดีเอาเสียเลย แต่เมษาก็ถอยไม่ได้แล้ว คนอย่างเฉินเล่อถ้าปล่อยให้ไปสร้างทีมเองมันจะกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาแพ้พนันกับนรินทร์ได้เหมือนกัน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                   ได้ร่างปกmaddog01มาแล้วค่ะ แต่ที่ยังไม่มาอวดเพราะตอนนี้จำนวนหน้ามันเยอะมากเมื่อปรับเป็นa5แล้ว

                    เลยจะแบ่งเป็นสองเล่มค่า ต้องวาดปกสองรูปเลย จะเอามาอวดทีเดียวนะคะ5555

                    ตัวละครใหม่ดาหน้ากันมามากมาย ก็นักแข่งเกมe-spotทั้งหลายนะแหละค่ะ

                    แต่ไม่ได้กะให้มันเยอะจนงงนะคะ เพราะนี้แค่แข่งในประเทศ 

                    แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่45 อันดับสองของวงการ 2/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 02-10-2018 18:46:39
มาต่อนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่45 อันดับสองของวงการ 2/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-10-2018 21:13:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่45 อันดับสองของวงการ 2/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 03-10-2018 07:35:45
 :hao3:ขุ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่45 อันดับสองของวงการ 2/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-10-2018 14:12:11
อดใจรอชมการแข่งขันแทบไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่46 การปรากฏตัวของคิมยองแอ 4/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 04-10-2018 14:40:34
บทที่46

การปรากฏตัวของคิมยองแอ

หลังจากบังคับนัดเดตกับนรินทร์ได้สำเร็จ ภาริชก็ไม่รีรอพาคนรักตัวน้อยมาที่ร้านจิวเวลรี่ ใครจะรู้บ้างว่าคุณภาริชผู้แสนดีสั่งแหวนคู่สำหรับเขากับนรินทร์ไว้ได้สองสามสัปดาห์แล้ว

“สวัสดีค่ะคุณภาริช มารับแหวนที่สั่งทางร้านไว้ใช่ไหมคะ” ผู้จัดการสาวมืออาชีพพยักหน้าให้พนักงานร้านที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“ใช่ครับ”

“รอซักครู่นะคะ เชิญนั่งทางนี้ก่อนได้เลยค่ะ” นั่งรอเพียงไม่นาน พนักงานคนที่หายเข้าไปในห้องเก็บสินค้าก็กลับมาหาภาริริชอีกครั้ง

วินาทีที่เจ้าหล่อนนำแหวนมาอวดโฉม นรินทร์ก็ตกตะลึง แม้จะถูกออกแบบมาให้ดูเรียบๆ สมเป็นแหวนที่ผู้ชายจะใส่ แต่ตัวเรือนทำด้วยทองคำขาว ประดับด้วยเพชรน้ำดีจนทำให้ดูหรูหรากว่าแหวนเพชรเม็ตโตๆ ที่เสียอีก

“พี่ภาริชนี่มันเหมือนแหวนแต่งงานมากกว่า แหวนคู่ไว้ใส่เล่นนะครับ”

แค่คาดเดาราคานรินทร์ก็แอบเหงาตก เขาเองหวังจะเทียบเคียงหรือมอบสิ่งที่เท่าเทียบกันกับสิ่งที่ภาริชคอยมอบให้อยู่เสมอให้คู่ควรกับการเป็นคนรัก สงสัยว่าหากเขาตั้งใจจะเป็นฝ่ายเปย์พี่ภาริชคงต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเสียแล้ว

พอเห็นอาการของนรินทร์ภาริชหัวเราะน้อยๆ เขายิ้มจนหวานให้นรินทร์ด้วยความพึงพอใจ

“รินไมชอบหรือ”

“จะว่าชอบก็ชอบครับ แต่ว่ามันแพงไปหน่อย”

“ใส่ติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาเป็นการตอบแทนแล้วกันนะครับ พี่ก็จะใส่เหมือนกัน”

ภาริชหยิบแหวนวงเล็กกว่าออกมาจากถาด “ยื่นมือมาให้พี่สิครับ มือซ้ายนะ”

นรินทร์ทำตามอย่างว่าง่าย ภาริชบรรจงใส่แหวนลงไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของคนรัก เป็นจังหวะที่แขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาพอดี

“อุ้ย ไม่นึกว่าจะได้เจอนายที่นี่นะภาริช”

เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวกระตุ้นความทรงจำที่เกี่ยวกับตัวตนของฝ่ายนั้นซึ่งเกือบลืมไปหมดแล้วขึ้นมา ภาริชหันไปส่งยิ้มให้

“ไม่ได้เจอกันนาน มาทำอะไรที่นี่”

เป็นสองพี่น้องนักกีฬาe-sportชื่อดัง คิมยองแอ กับคิมเยจีนั่นเอง จังหวะนั้นเธอสังเกตให้ภาริชประคองมือของนรินทร์รวมถึงแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายด้วย

“ว้าย...สวยจัง เอ๋ หรือว่านี่เด็กใหม่ของคุณ”

คิมยองแอสำรวจตรวจดูนรินทร์ด้วยดวงตาอย่างจาบจ้วง ทำเอานรินทร์รู้สึกไม่ดีเลย

“ก็...สวย น่ารักอยู่หรอก แต่นี่นายเปลี่ยนรสนิยมมากินผู้ชายด้วยกันแล้วหรือไง”

“ยองแอ” คิมเยจีกระซิบเตือนเบาๆ แต่คิมยองแอสนใจที่พี่สาวพูดเสียที่ไหน

“ว่าไงคะหรือว่าช้ำใจจากผู้หญิงดีๆ สวยๆ เลยต้องหันไปหาผู้ชายด้วยกัน”

ภาริชยิ้มละมุนละไม เขาคุ้นชินกับนิสัยหลงตัวเองและไร้มารยาทของคิมยองแอดี จะว่าไปสมัยที่คบกันเขาก็เอาใจปรนเปรอหล่อนด้วยความคิดที่อยากรู้เหมือนกันว่าหล่อนจะเอาแต่ใจฟุ้งเฟ้อและสันดานเสียได้ถึงขั้นไหน

“นรินทร์ผู้หญิงคนนี้คือคนรักเก่าของพี่”

นรินทร์ยกมือไหว้คิมยองแอในฐานะคนอายุน้อยกว่า แต่อีกฝ่ายสนที่ไหน

“พูดอะไรของนายน่ะภาริช เรายังไม่ได้เลิกกันเสียหน่อย แค่ห่างกันไปเดือนสองเดือนเพราะต่างคนต่างมีธุระต่างหาก”

คิมยองแอเธอหมายความตามนั้นจริง เธอยังไม่ได้ตัดสัมพันธ์กับภาริชด้วยคำพูดเสียหน่อย

“แย่จังนะ” ภาริชยิ้มหวานปานเทพธิดา “ตอนนี้ฉันคบกับนรินทร์ในฐานะคนรักแล้วด้วยสิ”

ภาริชคว้านรินทร์เข้ามาโอบแล้วจุมพิตเบาๆ ลงไปบนแก้มคนรัก

“จะคบกันนานเท่าไหร่ล่ะ ใครๆ ก็รู้ว่านายคบกับใครไม่ได้นาน มีแต่ฉันเท่านั้นแหละที่คบกับนายได้เป็นปี”

คิมยองแอมั่นอกมั่นใจว่าเด็กผู้ชายคนนี้ก็แค่ตัวคั่นเวลาของภาริชอีกคนหนึ่ง ที่มั่นใจขนาดนั้นเป็นเพราะในบรรดาคนที่ผ่านมาเธอกับเขาคบหากันนานที่สุด และเธอเองก็เป็นคนที่ภาริชปรนเปรอเอาอกเอาใจด้วยเงินทองกับเวลามากกว่าใครๆ

“นี่รู้ไว้เสียด้วยนะหนุ่มน้อย นายคนนี้น่ะ เป็นผู้ชายที่เบื่อง่าย คนนุ่มนิ่มจำเจไร้สีสันอย่างเธอ สร้างความตื่นเต้นให้เขาไม่ได้หรอกอีกหน่อยเขาจะเบื่อเธอ”

คิมยองแอสะบัดผมหยักศกที่ปรกระใบหน้าไปมาด้วยท่วงท่าที่งดงามราวนางพญา ในสายตานรินทร์เธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่เหมือนนางพญาผึ้ง

เธอสวยมั่นใจแถมประสบความสำเร็จในวงการเกมจนโด่งดัง นรินทร์เริ่มรู้สึกแย่นิดหน่อยนั่นเพราะเขาเผลอนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเธอ

“จริงสิ ไหนๆ ก็มาเจอกันแล้ว พวกเราไปทานอาหารกลางวันด้วยกันดีไหม ฉันอยากฟังว่าพวกนายสองคนคบกันได้ยังไง”

นรินทร์อึดอัดกับคำพูดเชิงบังคับของคิมยองแอ เขาอยากปฏิเสธแต่ไม่รู้ว่าพี่ภาริชคิดยังไง

“เห็นจะไม่ได้หรอก บังเอิญฉันกับนรินทร์กำลังออกเดต ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากอยู่กับคนรักสองต่อสอง”

ภาริชปฏิเสธคิมยองแออย่างสุภาพ ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มที่แสนอ่อนโยน

“ผมจะจ่ายเงินแล้ว” ภาริชหันไปยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานประจำร้าน

ดูเหมือนว่าผู้หญิงเอาแต่ใจอย่างคิมยองแอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ใบหน้าสวยเฉี่ยวคมดุยิ่งขึ้นเมื่อเธอรู้สึกว่าภาริชปฏิเสธความต้องการของเธอ

“ขอตัวก่อนนะ”

ภาริชรับบัตรเครดิตคืนแล้วพาตัวคนรักจากไป คิมยองแออดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้า คนเป็นพี่สาวอย่างคิมเยจีคุ้นชินกับพฤติกรรมแบบนี้

“เรามาเลือกแหวนกันดีกว่ายองแอ”

“ไม่...ฉันจะตามภาริชไป”

“แล้วแหวนที่สั่งเอาไว้”

“ก็เดี๋ยวค่อยมาเอาไง ทำไมพี่ถึงหัวช้าอย่างนี้นะ ไปเร็ว”

คิมยองแอเดินนำคิมเยจีไปยังรถสปอร์ตคันหรู เธอขับรถไล่ตามภาริชไปห่างๆ



บรรยากาศระหว่างภาริชกับนรินทร์ระหว่างการขับรถมีแต่ความเงียบ ภาริชเป็นคนเปิดบทสนทนาก่อน

“รินงอนพี่หรือครับ”

“ป..เปล่านะครับ” เสียงของนรินทร์ผิดคีย์และดูสูงกว่าปกติ เห็นได้ชัดว่ามีอะไรในใจ

“พี่ไม่ได้ชอบยองแออีกแล้ว มันเป็นเรื่องในอดีต”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ภาริชเล่าเรื่องของเธอคนนั้นให้ผมฟังได้ไหมครับ”

นรินทร์รู้ว่าตัวเองเอาแต่ใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากรู้เกี่ยวกับเธอคนนั้น



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คราวนี้มาสั้นๆ ด้วยเวลาที่จำกัดมากๆ เพราะต้องไปออกนอกาถานที่ยาวๆ

แต่ก็อยากลงให้อ่านอะนะ เลยขออนุญาติลงเท่าที่จะเขียนได้แล้วกันนะคะ

                    ถึงจะบอกว่าสั้นนี่มันก็4หน้านะ น้อยกว่าโค้วตาปกติหน้าเดียวเอง

                   ขออภัยล่วงหน้านะคะ

                    จะว่าไปนังตัวร้ายโผล่มาแล้ว55555 

                    แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่46 การปรากฏตัวของคิมยองแอ 4/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 04-10-2018 20:09:53
อิผีเกาหลี
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่46 การปรากฏตัวของคิมยองแอ 4/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-10-2018 21:52:45
สาวๆสมัยนี้ ่างเอาแต่ใจตัวเองกันเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่46 การปรากฏตัวของคิมยองแอ 4/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 05-10-2018 08:08:37
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่47 เพชรกับหินข้างทาง 5/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 05-10-2018 14:32:10
บทที่47

เพชรกับหินข้างทาง

“ทำไมต้องไล่ตามขนาดนี้ ในเมื่อตอนนี้เธอก็มีคุณมาร์คที่คบหากันอยู่แล้ว”

คิมเยจีถามน้องสาว

“พี่จะไปรู้อะไร ฉันน่ะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองอยู่แล้ว”

คิมเยจีเม้มปากเข้าหากัน หลายครั้งที่เธอนึกอยากเตือนน้องสาวแต่เลือกที่จะไม่พูด นั่นเป็นเพราะว่าความอิจฉาซึ่งอัดแน่นอยู่ภายในใจ ตั้งแต่สมัยเด็กแล้วความเฉิดฉายที่ราวกับดอกไม้บานของยองแอมักกลบตัวตนของเธอไปจนหมด

อย่าว่าแต่ยองแอเป็นคนชอบเรียกร้องความสนใจ ในขณะที่เธอแตกต่างไปอย่างสุดขั้ว เยจียังจำเมื่อครั้งที่ยองแอพบภาริชใหม่ๆ ได้ กับคนคนนั้นเธอรู้จักเขาก่อนมานานหลายปี

และเธอก็ค่อนข้างชอบเขา แต่ไม่ว่าอย่างไรยองแอก็มักชอบและพอใจของชิ้นเดียวกับเธอเสมอ สุดท้ายไม่ว่าจะคนหรือสิ่งของก็ตกไปอยู่ในมือน้องสาวที่อายุห่างกันแค่ปีเดียว

แม้จะโกรธหรือริษยาแต่ต่อมาก็ทำใจได้ทันที ถึงต้องอกตรมเสมอๆ ก็ยังยินดีกับความสำเร็จของยองแอ ทว่ายองแอไม่รู้ว่ากับภาริชเยจีจริงจังด้วยมากกว่าครั้งไหนๆ ดังนั้นยามที่ยองแอโผบินไปหาผู้ชายคนใหม่ จึงมีการวิวาทเล็กๆ ระหว่างเธอกับยองแอเกิดขึ้น

คำพูดของยองแอที่ทำให้เยจีเจ็บปวดที่สุดก็คือ “ถ้าพี่อยากได้ภาริชล่ะก็เอาไปสิ ฉันยกให้”

เยจีได้แต่กัดฟันกรอด เธอยืนตัวสั่นเทิ้ม คุณภาริชไม่ใช่สิ่งของซักหน่อยถึงจะเที่ยวยกให้ใครง่ายๆ อีกอย่างคุณภาริชเห็นเธอเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เยจีรู้ตัวดีดังนั้นเธอจึงไม่ตามตื้อและคิดว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มันก็ดีแล้ว

เพราะว่าเธอโกรธ เยจีจึงปล่อยให้ยองแอทำอะไรก็ตามที่จะเดินไปสู่หายนะ หลังจากน้องสาวทำลายกำแพงอันเป็นขอบเขตความอดทนของเธอลงไป เธอก็ไม่เคยพูดเตือนหรือหยุดยั้งความเอาแต่ใจของยองแออีกเลย

“ก่อนหน้านั้น เธอก็พูดเองว่าคุณมาร์คทำธุรกิจที่น่าจะทำเงินได้มากกว่า ถ้าแต่งงานกับเขาอนาคตเธอน่าจะสบายกว่าแต่งกับคุณภาริชไม่ใช่หรือ”

“นั่นมันก่อนที่จะรู้นิสัยมาร์คต่างหาก” จากนั้นยองแอก็พร่างพรูความคิดเอาแต่ได้ของตัวเองออกมายาวเหยียด

ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีเชื้อสายแดนมังกรปะปนของมาร์ค ไม่ว่าจะระบบรายรับรายจ่ายแบบกงสีที่ยองแอรับไม่ได้ หรือแต่มารดาของมาร์คที่เป็นผู้หญิงหัวเก่า รวมถึงความมัธยัสถ์ซึ่งแตกต่างจากคนจ่ายหนักเหมือนคุณภาริช

“ฉันเดินหมากตานี้พลาดไปเองเยจี แล้วฉันก็ตั้งใจว่าจะกลับมาทวงที่ของฉันคืน”

หน้าด้าน

เยจีด่าน้องสาวของเธอในใจ ยองแอคนนี้ยังไม่รู้จักภาริชดีเหมือนเธอ ยองแอไม่รู้ว่าเธอกับภาริชคบหาเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหน มันค่อนข้างนานจนเธอรู้นิสัยใจคอของภาริชเกือบปรุโปร่ง เพราะถ้าเธอไม่ทราบเธอคงไม่ยอมให้ยองแอมาแย่งไปง่ายๆ



“ยองแอเป็นน้องสาวของเยจีเพื่อนที่เรียนปริญญาตรีที่เดียวกับพี่ เยจีคนนั้นเธอเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเพราะอย่างนั้นถึงได้เข้าเรียนระดับปริญญาไวกว่าปกติ ตอนที่เจอกันครั้งแรกพี่อายุ17 และเยจีอายุ13”

ภาริชเริ่มเล่าตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เขากับยองแอพบกันระหว่างขับรถไปตามทาง

“ในสายตาของพี่เยจีเป็นน้องสาวที่น่ารักและฉลาดคนหนึ่ง แถมเธอยังเล่นเกมเก่งและพวกเราก็จับคู่เล่นเกมด้วยกันบ่อย เธอคนนี้เป็นคนหนึ่งที่ทำให้พี่เข้ามาฝังตัวในวงการเกมจนถึงทุกวันนี้”

“ผมไม่เข้าใจ ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่ถึงคบกับคุณยองแอ ไม่คบกับพี่เยจีล่ะครับ”

“พวกเราพอใจในความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แล้วน่ะสิ” ภาริชยิ้ม เขาครุ่นคิดเล็กน้อยพยายามรื้อเอาความทรงจำของผู้หญิงที่เขาเลิกสนใจแล้วออกมา

“อ้อจริงสิ ตอนที่พบยองแอครั้งแรก เป็นเวลาที่พี่ต้องการคนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เกมใหม่ของพี่ ช่วงนั้นพี่หมายมั่นให้เยจีมาเป็นภาพลักษณ์ของเกม ก็ไม่คิดนะว่าครั้งนั้นพี่นัดเยจีมาทานข้าวกลับมียองแอติดตามมาด้วย”

ภาริชขับรถลงไปยังลานจอดใต้ดินของโรงแรม เขาเล่าเรื่องของยองแอต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเสียงเนิบนาบ

“ยองแอเป็นผู้หญิงที่ร้อนแรงเหมือนเปลวไฟ พร้อมเผาผลาญคนที่อยู่ใกล้และตัวเองเสมอ”

ภาริชจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองแล้วหันไปยิ้มให้นรินทร์ใครจะไปคิดล่ะว่า คนตัวเล็กกว่าจะโถมเข้าใส่จับกดเขาเอาไว้ใต้ร่าง เป็นครั้งแรกเลยที่คนรักแสดงความหึงหวงออกมาจากสีหน้าและดวงตาอย่างชัดเจน เขารู้สึกทึ่ง ตกใจ รวมถึงใจเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ผมไม่ยอมยกพี่ภาริชให้ใครแน่ๆ พี่ของผมแล้ว”

นรินทร์แนบจูบลงมา ที่ทำให้ภาริชตกใจกว่านั้นคือ เด็กน้อยพยายามรุกด้วยจูบแบบผู้ใหญ่ ถึงแม้จะเงอะงะไร้ชั้นเชิงแต่มันกระตุ้นอารมณ์ใคร่ของเขาได้เป็นอย่างดี

ทีแรกนรินทร์คล้ายเป็นคนนำ ทว่าไม่นานนักภาริชก็โต้กลับด้วยความชำนาญที่มากกว่า พวกเขาสลับมุมประกบปากไปมา คนรักตัวน้อยของเขาก็ไม่ยอมแพ้พยายามไล่ตามจังหวะอย่างไม่ลดละ

บรรยากาศภายในรถร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภาริชขยับตัวเปลี่ยนตำแหน่งให้นรินทร์ลงไปนอนบนเบาะ หลังจากคลอเคลียที่ปากอยู่นานเขาก็ซุกใบหน้าลงไปบนซอกคอหอมๆ ไล่จูบที่บริเวณนั้นจนไปถึงไหปลาร้า

ภาริชรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรแล้วก็เข้าใจว่านรินทร์คงไม่ต่างกัน แต่หลังจากที่ลากปลายลิ้นจากไหปลาร้าไปจนถึงซอกคอ คนใต้ร่างก็ตัวสั่นระริก เขาเงยหน้าขึ้นมองดูและพบว่าคนรกหลับตาปี๋ด้วยความกลัว

ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ แต่กลับกลัวขึ้นมาเสียได้ พี่ภาริชไม่เคยแสดงตัวตนด้านนี้ให้เขาเห็นมาก่อน คนรักที่อายุมากกว่าเร่าร้อนเหมือนไฟ พร้อมจะลวกเขาได้ตลอดเวลา

ทุกสัมผัสที่ถูกแตะลงมานั้นร้อนฉ่าราวกับถูกนาบด้วยเหล็กเผาไฟ นรินทรั้งรู้สึกดีและวิตกไปพร้อมกัน อยากรวมเป็นหนึ่งกันเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็หวาดกลัวว่ามันอาจจะไม่เหมือนเดิม

“เราไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ พี่ทำเรากลัวหมดแล้ว” ภาริชจุมพิตเบาๆ ที่ปลายจมูกนรินทร์

คนตัวเล็กกว่าลืมตาโพลง ความน้อยใจสับสนเล็กๆ ทำให้พูดเรื่องที่ไม่กล้าพูดออกไป

“ผมคงเป็นเด็กกะโปโลที่ไม่มีเสน่ห์จริงๆ ด้วย”

แทบจะในทันทีภาริชประกบปากจูบลงมา นรินทร์ถูกรุกด้วยปากและลิ้นอย่างเร่าร้อนหนักหน่วงยิ่งกว่าก่อนหน้านั้นเสียอีก หลังจากผละจูบเขาก็หอบอย่างหนักเพราะหายใจแทบไม่ทัน

นรินทร์มองดูภาริชด้วยดวงตาที่ปรือปรอย เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นโฉมหน้าประดุจเสือร้ายของคนรัก ฝ่ายนั้นเลียริมฝีปากราวกับเสือร้ายที่พร้อมขย้ำ แววตาที่เต็มไปด้วยราคะทอดมองมาอย่างหิวกระหาย

“อย่ายั่วพี่ให้มากไปนัก พี่ไม่อยากผิดสัญญากับณภัทร หรือว่า”

ภาริชลูบมือไปตามเนินเนื้อนรินทร์อย่างยั่วเย้า “เราสองคนช่างเรื่องณภัทร ช่างเรื่องศีลธรรมไป ต่อให้พี่ต้องติดคุกมันก็น่าเสี่ยงอยู่นะ”

“ม..ไม่เอาครับ” นรินทร์ส่ายหัวไปมา เขานึกขึ้นได้ถึงความเป็นเยาวชนของตัวเอง ถ้าหากพลาดพลั้งไปใครมาเห็นพี่ภาริชจะลำบาก

“ทำไมล่ะ” ภาริชเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาเข้าใจดีว่านรินทร์กลัวอะไร

“ถ้าพี่ภาริชต้องมาเดือดร้อนเพราะความอยากอันไร้เหตุผลของผมมันคงไม่ดีแน่”

“ถ้างั้นเรามาสงบสติอารมณ์กัน...แล้วค่อยลงไปทานข้าวดีไหมครับ”

ภาริชขยับตัวนอนกอดนรินทร์บนเบาะ พวกเขาสองคนกอดกันหลวมๆ โชคดีเป็นของพวกเขาที่ลานจอดรถใต้ดินแทบไม่มีใคร

นรินทร์กับภาริชไม่คิดเลยว่าฉากรักวาบหวามของพวกเขาจะตกอยู่ในสายตาของสองพี่น้องตระกูลคิมตั้งแต่แรกจนจบ

ไอ้เด็กนี่มันร้ายกว่าที่คิด

“เห็นหน้าตาหงิ่มๆ แต่ร่านใช่ย่อย”

เยจีมองดูยองแอด้วยสายตาว่างเปล่า แล้วมันผิดกับเธอตรงไหน น้องสาวเธอเองก็นอนกับภาริชในวันแรกที่ได้พบเหมือนกัน ตัวเองทำได้แล้วคนอื่นทำไมได้หรือไง

อย่าว่าแต่เขี่ยภาริชทิ้งแล้ววิ่งไปหาคนใหม่ที่ดูรวยกว่าเลย พอเขาไม่ดีไม่ปรนเปรอเท่าภาริชยังหน้าด้านถือว่าตัวเองเป็นผู้คุมเกมวิ่งกลับมาหาคนที่ทิ้งไปได้อีกหรือ

เพราะเห็นแกความเป็นพี่น้องหรอกนะ เธอถึงไม่ใส่ใจเอาความอะไร นอกจากนั้นเพราะความเวทนาที่เธอมีให้น้องสาวคนนี้ หากว่าไม่มีเธอซักคนคงไม่มีใครคอยอยู่ข้างกายยองแออีกแล้ว ด้วยนิสัยชอบแย่งของๆ คนอื่นไปทั่ว มันทำให้น้องสาวคนนี้ หาเพื่อนที่จริงใจไม่ได้อีกเลย

คนรอบตัวของยองแอเข้ามาเพราะผลประโยชน์ หรือไม่ก็แค่อยากชิมรสหวานจากเกสรของดอกไม้ที่ยังผลิบานอย่างงดงามเท่านั้นเอง

“พี่รู้อะไรไหม อะไรที่มันเคยเป็นของฉัน ถ้าฉันยังไม่อนุญาตใครก็มาเอาไปไม่ได้ทั้งนั้น”

แล้วยองแอก็หัวเราะชอบใจ “พี่ไม่คิดว่าฉันทั้งสวยและมีประโยชน์กว่าเจ้าเด็กนั่นหรอกหรือ”

เธอเป็นนักเล่นเกมอาชีพนะ แถมเป็นนางแบบ เธอเป็นผู้หญิงที่ทำประโยชน์ให้ภาริชได้ทุกๆ ด้าน อย่าว่าแต่เธอยอมทิ้งเงินที่ ธันวา ชัยมงคลเสนอให้จำนวนมหาศาลเพื่อชักชวนเธอไปลงแข่งเกมในรายการของฝ่ายนั้นแลย เธอยังยอมทิ้งมันไปได้

ก็เธอเลือกภาริชไง แค่หัวข้อนี้ก็เท่ากับเธอมีประโยชน์มีความสามารถมีคุณค่ามากกว่าเด็กที่ทำได้แค่เป็นคู่นอนบนเตียงเท่านั้นอยู่แล้ว

คนฉลาดอย่างภาริชต้องรู้อยู่แล้วว่าอะไรคือเพชรอะไรคือหินข้างทาง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



พูดถึงคุณเนย ณ bnkเขาว่ากันว่า คุณเนยโชคไม่ค่อยดีเหมือนมายูยุ คุณเนยเราจะโอชิคุณด้วยอีกคนน้า

โอเคหวีดbnkพอละ เขียนไปก็รู้สึกว่าคนที่นิสัยไม่ดีที่สุดในเรื่องคงเป็น

แม่นางคิมยองแอนี่แหละ555 

แสดงความคิดเห็นกันบ้างน้า บางทีเราก็อยากรู้ความคิดของนักอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่47 เพชรกับหินข้างทาง 5/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 05-10-2018 14:59:37
จ่ะ พี่ภาริชเขารู้ไงว่าใครเพชรใครหิน ถ้าไม่มีพี่สาวก็ไม่มีใครอยู่กับเธอแล้ว เป็นอีกคนที่ต้องจัดการค่ะ
มั่นหน้ามั่นโหนกเกินไปล่ะ รวบยอดกะตระกูลเดือนเลย  :beat:
น้องรินผู้น่ารักใจเย็นๆ นะจ๊ะ พี่ภาริชไปไหนไม่รอดแน่นอน น้องเล่นหึงหวงได้ใจสั่นขนาดนี้  :o8:

    :L2:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่47 เพชรกับหินข้างทาง 5/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 05-10-2018 17:13:37
น้องนรินทร์ดูเติบโตขึ้นเยอะเลย ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่47 เพชรกับหินข้างทาง 5/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 05-10-2018 20:54:18
ถ่านเข้าใจว่าตัวเองเป็นเพชร
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่47 เพชรกับหินข้างทาง 5/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-10-2018 22:25:56
ขำแม่นั่งยองๆไม่มีใครเข้าข้างแม้แต่พี่ตัวเอง /กลั้นขำ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 06-10-2018 16:08:13
บทที่48

ประกาศสงคราม



“อุ๊ยบังเอิญจังนะภาริช”



ก็รู้อยู่ว่าไม่ใช่บังเอิญ ภาริชยังยิ้มละมุนละไมแม้ว่าการปรากฏตัวของคิมยองแอจะเป็นเหมือนก้อนหินที่คาอยู่ในรองเท้า

ด้านหลังยองแอ เยจีผู้เป็นพี่สาวค้อมหัวขอโทษโดยไม่ปริปากพูด เธอขายหน้าเหลือเกินกับพฤติกรรมของน้องสาว



“ในเมื่ออุตส่าห์เจอกัน ขอนั่งทานอาหารด้วยเลยแล้วกันนะ”



ยองแอนั่งลงอย่างถือวิสาสะก่อนจะเรียกบริกรมาสั่งอาหาร ในขณะที่เยจีไม่ยอมนั่งลงและเธอกำลังคิดว่าจะปลีกตัวไปนั่งที่อื่น



“เอ่อ...นั่งลงเถอะครับ”



เยจีไม่คิดว่าคนรักตัวน้อยของภาริชจะเชื้อเชิญให้เธอนั่ง เธออ้าปากจะปฏิเสธแต่ยองแอคว้าข้อมือบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ



“นั่งเถอะเยจี มัวยืนอยู่ทำไมล่ะ”



สุดท้ายเยจีก็ต้องนั่งลงจนได้และไม่คิดว่าคนรักของภาริชจะชวนเธอคุยอย่างเป็นกันเอง



“พี่ภาริชสมัยที่เรียนปริญญาตรีเป็นยังไงบ้างครับ” นรินทร์ถามด้วยแววตาเป็นประกาย เขาอยากรู้เรื่องของคนรักจากมุมมองคนอื่น แล้วก็คุณเยจีคนนี้ก็เป็นเพื่อนของพี่ภาริชแถมดูใจดีมาก



“เอ...นั่นสินะได้เผาพี่ภาริชก็น่าจะดีเหมือนกัน” เยจีทำท่าใคร่ครวญว่าจะเล่าเรื่องอะไรดี



“อย่าพูดจาโกหกเหลวไหลล่ะ” ภาริชเย้าแหย่เยจี



บรรยากาศครึกครืนเป็นกันเอง แต่ยองแอหาโอกาสเข้าไปแทรกไม่ได้เลย เธอทนนั่งนิ่งอึดอัดปล่อยให้เยจีพล่ามๆ ๆ ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์



จวบจนหัวข้อเรื่องที่เยจีมีส่วนทำให้ภาริชสนใจวงการเกมถึงกับลงทุนเปิดบริษัท ยองแอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากปากภาริชและเยจีมาก่อน เธอมองดูพี่สาวด้วยความคิดที่ต่างไปจากเดิม



“ถึงเยจีจะเป็นแรงบันดาลใจขั้นต้น แต่คนที่ทำให้บริษัทของภาริชรุ่งโรจน์ในวงการก็คือฉันไม่ใช่หรือคะ”



ทั้งภาริชทั้งเยจีต่างรู้ดีว่ายองแอกล่าวอ้างถึงอะไร หล่อนคงหมายถึงผลงานในฐานะพรีเซ็นเตอร์นั่นเอง เอาจริงๆ ภาริชก็ยอมรับว่าเธอคนนี้ทำได้มากทีเดียว



“ต้องขอบใจเธอสำหรับผลสำเร็จที่ผ่านมาล่ะนะ” ภาริชชูแก้วขึ้นเล็กน้อยแทนคำขอบคุณ



“แน่นอนสิคะ ฉันน่ะมีประโยชน์ให้คุณในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องงาน ในฐานะคนรักที่สามารถนำไปโอ้อวดได้อย่างไม่อายใคร แถมที่ฉันมาคราวนี้ เพราะอยากช่วยคุณโปรโหมตงานแข่งเกม ถึงขนาดนี้แล้วคุณก็น่าจะคิดได้ว่าใครคู่ควรใครด้อยค่า”



ยองแอส่งยิ้มเยาะไปให้นรินทร์ และเธอก็คิดว่าพูดถึงขนาดนี้แล้วภาริชก็ควรเข้าใจ



“นรินทร์เองก็จะลงแข่งเกมครั้งนี้ด้วยนะ” ภาริชกล่าวเสียงเนิบนาบจังหวะนั้นบริกรนำอาหารมาเสิร์ฟพอดี



“อุ๊ย...ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย” ยองแอหัวเราะเสียงดังแบบไร้มารยาทเหลือเกิน คราวนี้เยจีถึงกับต้องก้มหัวขอโทษคนอายุน้อยกว่าอย่างนรินทร์



“นี่พ่อหนูพื้นที่ตรงนั้นมันสำหรับมืออาชีพนะ ไม่ใช่สนามเด็กเล่น”



“ผมรู้” เป็นครั้งแรกที่นรินทร์เปิดปากพูดกับยองแอ เด็กหนุ่มไม่ได้มีท่าทีประหม่า แต่ทุกคำพูดท่าทางล้วนเต็มไปด้วยความมั่นใจ



“ผมศึกษาการแข่งของพวกมืออาชีพหลายคนนานมากแล้วรวมถึงคุณด้วย”



ยองแอแสยะยิ้ม “งั้นก็รู้แล้วสิว่าระดับของเราสองคนมันเทียบกันไม่ได้”



นรินทร์เม้มปาก เขารวบรวมความกล้าที่จะพูดความจริง ปกติเขาไม่ทำร้ายจิตใจใครโดยเฉพาะผู้หญิง มิวซังสอนเขามาให้เป็นสุภาพบุรุษ



“ความสำเร็จของคุณทุกครั้ง มีผู้อยู่เบื้องหลังมาตลอด คุณต้องขอบคุณพี่เยจีที่คอยซัพพอร์ทเก็บกวาดทุกอย่างให้คุณตามหลัง เห็นได้ชัดว่าคุณไม่มีทางชนะได้เลยถ้าปราศจากคนอุดรูรั่วอย่างพี่เยจี คุณได้ขอบคุณพี่สาวที่ทำงานอย่างหนักเพื่อผลักดันคุณขึ้นมาหรือยังครับ”



เยจีไม่อยากเชื่อว่าเด็กที่ท่าท่างนุ่มนิ่มไร้เดียงสาอย่างนรินทร์จะกล้าพูดเรื่องที่ไม่มีใครกล้าทำต่อหน้ายองแอ เกี่ยวกับเรื่องนี้น้องสาวของเธอรู้ดีแก่ใจ แต่ทำเป็นไม่สนมัน เพราะมีแต่คำนินทาที่หล่อนว่าไร้สาระจากปากพวกขี้อิจฉาสุดขี้ขลาด ทว่าไม่เคยมีใครฉะกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้



“แก...แกจะรู้อะไร เยจีก็เหมือนเสนาธิการ แต่ราชินีน่ะมันคือฉัน ต่อให้เสนาธิการฉลาดแค่ไหน ถ้าไม่มีผู้นำอย่างฉันมันก็เปล่าประโยชน์ แล้วอีกอย่างพวกมือใหม่ไร้ชื่อเสียงไร้ความสามารถอย่างแกอย่าสะเออะมาวิจารย์ฉันจะดีกว่า”



ยองแอไม่รักษามารยาทอีกต่อไป เยจีเห็นท่าไม่ดีจึงคิดจะปรามน้องสาวของเธอบ้าง ถ้าไม่ติดว่าภาริชจู่ๆ ก็หัวเราะชอบใจ



“ฉันไม่คิดว่าmaddog01จะด้อยไปกว่าเธอนะยองแอ”



ยองแองงว่าจู่ๆ พูดถึงmaddog01ขึ้นมาทำไม นักเล่นปริศนานั่นไม่ได้อยู่ที่นี่เสียหน่อย แต่พอเห็นสายตาของภาริชที่บอกความนัยด้วยการทอดมองไปหาคนรักเธอก็แสยะยิ้มเยาะหยัน



“ล้อเล่นหรือไงคะภาริช ไอ้เด็กนี่นะนะ”



“เด็กนี่คือตัวจริงของเจ้าของฉายาราชาไร้มงกุฎหรอกหรือ” แม้แต่เยจียังอดตะลึงไม่ได้ เธอไม่คิดฝันมาก่อนว่าจะได้เห็นตัวจริงของคนที่เธอชื่นชมเขาอย่างไม่ตั้งตัวแบบนี้







ในช่วงเวลาเดียวกันคนที่ตกใจไม่ได้มีแค่สองสาวพี่น้องตระกูลคิม เฉินเล่อซึ่งรู้เป็นครั้งแรกระหว่างประชุมทีมว่าคู่แข่งครั้งนี้มีmaddog01อยู่ด้วยก็ออกความเห็นด้วยความหงุดหงิด



“ถ้าต้องแข่งกับราชาไร้มงกุฎกับมือซ้ายมือขวาของเขา ทำไมเราสองคนไม่ฟอร์มทีมด้วยความจริงจังมากกว่านี้ห๊ะอากิระ”



เมษาคิ้วกระตุกทันที เห็นเฉินเล่อนั่งฟังเงียบๆ อยู่นานนึกว่าจะปรับตัวได้แล้ว



“มันเป็นความฝันของนายไม่ใช่หรือไงอากิระ ที่จะตัดสินว่าใครเป็นที่หนึ่งระหว่างนายกับmaddog01อย่างเป็นทางการเพื่อลบคำครหาของเกมเมอร์คนอื่นๆ ไป”



เฉินเล่ออยู่ในวงการมานานเขารู้ดี ใครหลายๆ คนมักพูดว่า หากmaddog01แข่งเกมอาชีพเมื่อไหร่ราชาจอมปลอมอย่างเศียรมังกรต้องตกอันดับ เพราะเหตุนี้นี่แหละอากิระถึงได้หมกหมุ่นกับการท้าดวลในการจัดอันดับกับmaddog01คนนั้นตามเกมต่างๆ



ผลจากการที่พลัดกันแพ้ชนะ ทำให้คนทั่วไปรู้ว่าฝีมือของทั้งคู่สูสีกัน แต่นี่มันจะเป็นครั้งแรกที่อากิระได้แข่งกับคู่แข่งอย่างเป็นทางการ การดวลที่สำคัญขนาดนี้ ต้องมาถูกไอ้นักแคสที่พอมีชื่ออยู่บ้างย่ำยี เฉินเล่อต้องรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่อเพื่อนสนิทรวมถึงไม่พอใจอยู่แล้ว



“มันเป็นสิ่งที่ฉันลั่นสาบานไว้แล้วเล่อ” สายหมอกยิ้มแล้วตบบ่าเพื่อนเบาๆ “อีกอย่างแบบนี้มันจะได้แฟร์กัน ทางนั้นก็มือใหม่ในการแข่งขันเหมือนคนทางฝั่งเรานี่แหละ”



เฉินเล่อแค่นเสียง “จะบอกว่าไว้ไมตรีงั้นรึ มากเกินไปแล้วไหม เราเสียเปรียบเต็มๆ ไม่ใช่หรือไง ไอ้พวกลูกเจี๊ยบฝั่งเรา แพ้ราชาไร้มงกุฎมากี่ครั้งแล้ว”



“ฝ่ายผมอาจจะกลายเป็นคนที่ต้องแบกคุณก็ได้ใครจะรู้” เมษาคำรามรอดไรฟัน ในขณะที่เฉินเล่อหัวราะเยาะหยัน



“ปากดี”



สาวน้อยอิงฟ้าพยายามก้มหน้าก้มตาดูดน้ำไล่บรรยากาศร้อนระอุ ในขณะที่สายหมอกยิ้มแล้วส่ายหน้าน้อยๆ จริงๆ แล้วคำพูดของเฉินเล่อกระทบความรู้สึกของเขาสุดๆ



สายหมอกเคยวาดฝันว่าจะได้แข่งกับmaddog01อย่างจริงจังในฐานะมืออาชีพ คราวนี้คิดว่าคงตั้งใจทุ่มฝีมืออย่างจริงจัง จะไม่มีความเกรงใจพี่ภาริชใดๆ ทั้งนั้น เพราะเรื่องนี้เขาได้บอกไปตรงๆ แต่เนิ่นๆ แล้ว



พี่ภาริชนอกจากไม่โกรธยังหัวเราะน้อยๆ แล้วพูดว่า



‘ถ้ามีตัวถ่วงขนาดนั้นแล้วยังชนะได้ นายมันก็เหนือกว่านรินทร์โดยไม่มีข้อกังขา’



เขาก็หวังว่าตนเองจะชนะ ขณะที่คิดเช่นนั้นใบหน้าที่น่ารักของต้นกล้าก็แทรกเข้ามาในความคิด เขาหยิบมือถือส่งข้อความไปหาคนที่เขาปรารถนาจะได้มาไว้ในครอบครอง



Akira : มาดูการแข่งเกมของพี่ได้ไหม หรือถ้าไม่อยากมาดูพี่ นายมาเป็นกำลังใจให้เมษาก็ได้



ต้นกล้าอ่านข้อความแทบจะในทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ตอบอะไรกลับมา สายหมอกกระตุกยิ้มมุมปาก



การจะลักพาตัวนายไปซ่อนไว้ในที่ลับของฉันมันไม่ยากเลยซักนิด เพราะความดื้อดึงของนายนะเราสองคนถึงต้องมาจบลงแบบนี้



โฉมหน้าที่แท้จริงอันร้ายกาจนี้ แม้แต่คนเป็นพ่ออย่างโคเฮย์ยังไม่รู้ ก็เห็นจะมีแต่ภาริชนี่แหละที่มองทะลุผ่านหน้ากากของสายหมอกได้อย่างปรุโปร่ง







กลับมาที่ความระอุได้ที่ในภัตตาคารของโรงแรมอีกครั้ง คิมยองแอถลึงตามองดูนรินทร์ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยากไม่เชื่อสายตา นี่นะหรือราชาไร้มงกุฎที่ทุกคนว่ากันว่าทัดเทียมหรืออาจจะเหนือกว่าเศียรมังกร



“เฮอะ ล้อกันเล่น ล้อกันเล่นแน่ๆ” ยองแอหัวเราะ มันจะกลายเป็นเจ้าเด็กนี่ไปได้อย่างไร ทว่าเมื่อมองเห็นสีหน้าจริงจังของภาริชสีหน้าของเธอก็เริ่มจริงจัง



“ต่อให้นายเป็นตัวจริงก็เถอะ แต่ฉายามันไม่จริงเสมอไป” ยองแอเชิดหน้าอย่างยโสขยับขานั่งไขว่ห้าง ลีลาท่าทางของเธอไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องชื่นชมในความสง่า



“เอาอย่างนี้ไหมล่ะเรามาแข่งกัน”



“แบบไหนครับ” นรินทร์ยอมรับคำท้าง่ายๆ อาจเป็นเพราะเขาหงุดหงิดกับนิสัยของคนคนนี้



“ก็แค่ดวลกันในการแข่งเป็นทางการครั้งนี้ ถ้าฉันชนะฉันจะยอมรับว่านายมีคุณค่าพอจะยืนเคียงข้างภาริช แต่ถ้านายแพ้นายต้องไสหัวให้ห่างจากภาริชนะโอเคไหม”



เยจีขมวดคิ้วเข้าหากัน นี่มันเอาแต่ได้ชัดๆ ยองแอบอกว่าจะยอมรับแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกราวีตามตื้อแย่งชิงภาริชจากนรินทร์ แถมยังบังอาจรุกคืบขับไล่ศัตรูอีกต่างหาก นี่มันนิสัยแย่เกินไปแล้ว



“ก็ดีนี่ครับ อืม...”



นรินทร์เว้นจังหวะครุ่นคิด เป็นครั้งแรกเลยที่ภาริชเห็นคนรักยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ช่างเหมือนเจ้าปีศาจตัวน้อยจริงๆ ทั้งน่ารักและน่าค้นหา



“ก็หวังว่าคราวนี้พี่เยจีจะช่วยอุดรูรั่วจากความไม่เก่งของคุณได้เหมือนทุกครั้ง”



“ก็ดี” ยองแอกระแทกเสียงสูง เธอโมโหแต่พยายามรักษาภาพลักษณ์ จะไม่ยอมให้ศัตรูที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเห็นว่ามันปั่นหัวเธอได้สำเร็จ



“ขอตัวนะภาริช ฉันต้องไปวางแผนการเล่นในฐานะหัวหน้าทีมแล้วล่ะ”



ยองแอก้าวเท้าฉับๆ โดยมีเยจีตามไปติดๆ เมื่อคนเป็นพี่สาวไล่ตามทัน สิ่งแรกที่ออกจากปากของน้องสาวทำให้เธอแทบไม่เชื่อหู



“การแข่งครั้งนี้ทั้งหมด ฉันจะเป็นคนวางกลยุทธเอง เธอไม่ต้องยุ่งนะ”



เห็นทีว่าคำพูดยั่วยุของmaddog01จะได้ผล ยองแอเดินไปเหยียบกับดักเข้าเต็มเปา



“เยจีฉันขอเตือนพี่นะ ว่าอย่าคิดว่าตัวเองมาก่อนแล้วจะเผยอเทียบฉันได้ ถ้าภาริชเขาสนใจผู้หญิงจืดๆ อย่างพี่ เขาคงไม่มาคบหากับฉันหรอก”



ทั้งที่คิดว่าจะกล่าวเตือนสติยองแอในฐานะพี่น้อง ทว่าคำพูดของน้องสาวคนดี มันทำให้เส้นด้ายบางๆ ที่ยึดเหนี่ยวพวกเธอเอาไว้ขาดสะบั้น







หลังจากสองพี่น้องตระกูลคิมจากไป ภาริชก็เอื้อมมือไปจับมือของนรินทร์ที่วางบนโต๊ะ



“คนรักรักของพี่ห้าวหาญมาก พี่ไม่คิดเลยว่านอกจากจะพยายามรักษาศักดิ์ศรีของพี่จากการย่ำยีของเจ้าเมษา รินยังยอมต่อสู้ฟาดฟันเพื่อไม่ให้ยองแอมาแย่งพี่ไป ตอนนี้พี่ดีใจจนบรรยายไม่ถูกแล้วเนี่ย”



“ก็ผมบอกแล้วว่าพี่เป็นของๆ ผม” นรินทร์เสียงแข็งกร้าวนิดๆ ดูเข้มแข็งทีเดียว ทว่าเวลาต่อมาสีหน้าก็ค่อยๆ อ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ



“ผมไม่เคยร้ายใส่ใครอย่างนี้มาก่อนเลย” นรินทร์กุมขมับ “แต่มันทนไม่ไหวจริงๆ แค่คิดว่าเขาจะมาแย่งพี่ภาริชไป ผมก็เลือดขึ้นหน้า”



“นรินทร์ต้องปกป้องพี่นะครับ รู้ไหมว่าพี่น่ะอ่อนแอมากกว่าที่นรินทร์คิดเสียอีกนะ”



ภาริชแสร้งทำท่าปาดน้ำตา หากเป็นคนอื่นไม่ว่าฟอร์ด มิวซัง หรือตะวันมาเห็นคงรู้สึกพะอืดพะอมและหมั่นไส้ แต่ในสายตาของนรินทร์กลับเห็นว่าคนรักช่างน่ารักน่าทะนุถนอมเสียเหลือเกิน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

555555 จริงๆคิดไว้คร่าวๆ ละว่าจะให้แข่งเกมกันยังไง แต่ก็นะถ้าออกมาไม่ถึงใจ

ก็อย่าว่าเราแรงมากนะ ไม่ใช่โปรในด้านเล่นเกม แต่ชอบแนวนี้มากเลยเขียนค่า

ว่าไป5555 ตอนนี้เหมือนทำไมมีแต่คนร้ายๆ ดุดันกะะไม่รุ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 06-10-2018 16:50:32
ท่ามกลางความเกรี้ยวกราดของทุกคน พี่ภาริชดูชิลสุดแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-10-2018 18:14:59
เยจี.........ยะโส โอหังได้เต็มๆไปเลย
มั่นหน้า มั่นโหนกจริงๆ
ถามภาริชไหม ว่าเอานางไหม เหอะ.......

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 06-10-2018 22:57:45
5555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-10-2018 06:16:57
โอ้ยย พี่ภาริชตัวเล็กตัวโน้ยยยยย 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 07-10-2018 18:49:28
หมันไส้จังจา
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 07-10-2018 22:06:30
อ่านรวดเดียวจบ มีเรื่องอยากคอมเม้นต์เยอะมากกก ต้องขอรวบรวมสติก่อนนะคะ  :o8:

เริ่มแรก เข้ามาอ่านเพราะสงสัยว่าฮิคกี้คืออะไร ฮา... แต่พอคุ้นคำว่าฮิคิโคโมริ (ใช่หรือเปล่านะ) จากนิยายที่เคยอ่านอยู่เรื่องหนึ่ง
พออ่านตอนแรกก็รู้สึกว่าภาษาไม่ค่อยลื่นเท่าไร แต่คาแรคเตอร์ตัวละครน่าสนใจมาก พวกกับเนื้อเรื่องแนวเกมที่เราสนใจ ทำให้เราอ่านต่อมาเรื่อยๆ
ซึ่งก็ค้นพบว่า การเขียนมันเป็นเอกลักษณ์ จากที่อ่านไม่ค่อยลื่น ก็เริ่มติดแบบงอมแงมเลยค่ะ

เนื้อเรื่องก็วางไว้ดี อ่านเพลินเหมือนอ่านเว็บตูน แถมตัวละครยังเป็นแนวที่ชอบ แม้จะไม่ค่อยชอบโชตะก็เถอะ
แต่พวก S หรือโซ่แส้อะไรนี่ก็..........  o18

ขอพูดถึงตัวละครหน่อยแล้วกันค่ะ เพราะเราชอบหลายตัวมากกกกกกกกกกก
- คนแรก ทั่นพี่ภาริช เปิดตัวมาด้วยคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนว่าเป็น S แถมยังแอบเป็นบราค่อน แต่ก็ไม่วายเป็นบราค่อยสาย S อีก
ด้วยความเมพ หล่อ รวย เริงอำนาจ และเป็นสัตว์ป่าชั้นสูง เราค่อนข้างจะชอบพี่ท่านเป็นอันดับแรกๆเลย

- คนที่สอง น้องฟอร์ด คนนี้ก็ร้ากมากกกกก เด็กอะไรทำไมน่าเอ็นดู คาแรคเตอร์พระเอกโชเน็น แต่น่าเสียดายที่มีพี่ชายเป็น S แบบเข้มข้น น้องฟอร์ดเลยกลายเป็นเด็กน่าเอ็นดูแบบนี้  ถ้าจะให้เลือกเป็นแฟน ก็อยากได้น้องเขานี่แหละ (//ถูกพี่ชานมตบ) เราชอบซีนพี่น้องคู่นี้อยู่ด้วยกันมาก มันแบบ บอกไม่ถูกอะ แต่ชอบมาก ยิ่งตอนคุยเรื่อง 18+ กันนี่แบบ...ทั่นพรี่! ทำไมสอนน้องขนาดนี้ เราต้องสอนกันแบบนี้เลยสินะคะ  :ling1:

- อีกคนที่ขาดไม่ได้ก็คือเศียรมังกร สาย S แบบพี่ภาริช เป็น S สายดาร์กที่เรารู้ความคิดเค้าทีไรก็ขนลุกตลอด ยิ่งตอนหลังๆมานี่ยิ่งกลัวเลยค่ะ เป็นคนน่ากลัวมาก วิธีการก็น่าพรั่นพรึง ตอนแรกสารภาพเลยว่าไม่ชอบใจที่ต้นกล้าจะมีคนมารักด้วย เพราะนิสัยนางอะนะ เราเองก็ชอบน้องฟอร์ดมากๆด้วย แต่พอรู้ตัวตนเศียรมังกร เราคิดว่ามันคงสมควรแล้วอะแหละ แม้ปูมหลังนางจะน่าสงสารก็เถอะ แต่เราก็ไม่สงสารหรอกนะ

ตอนพี่ภาริชกับเศียรมังกรคุยกันแล้วพี่ภาริชพูดว่า "เจ้าสัตว์อ่อนแอที่นายล่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" นี่คือแบบ หนึ่งในซีนที่เราชอบมาก พวกนักล่าเค้าคุยกันอะโนะ นี่ยังแอบคิดว่าพี่ภาริชจะทำแบบเดียวกับหรือทำได้มากกว่าที่เศียรมังกร(จะ)ทำมั้ย เพราะเค้าก็ไม่ดูธรรมเลย แต่คงไม่ได้รู้เนอะ เพราะ Maddog ก็ตกลงปลงใจกับพี่ภาริชอยู่แล้ว

สุดท้ายก็ไม่รู้ต้นกล้าจะเปิดใจให้หรือเปล่า ถ้าไม่ก็อาจจะต้อง R.I.P. ไว้ล่วงหน้า แต่ก็ไม่แน่ คนเขียนแอบใจอ่อนอยู่นิดๆหรือเปล่าน้า

เท่านี้พอหอมปากหอมคอ โดยรวมก็สนุกมาก อ่านแล้วชอบมากๆๆๆๆๆค่ะ แต่ก็มีเรื่องอยากเสนอคนเขียนนิสนึง
อยากให้มีหมายเหตุให้พวกศัพท์ที่ดูยากๆสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกมหน่อยค่ะ หรือศัพท์เฉพาะบางตัว อย่าง S นี่ เราว่าบางคนก็ไม่รู้จักนะ ถ้ามีหมายเหตุเขียนไว้จะดีมากๆเลยค่ะ

อีกอย่างคือชื่อตัวย่อ (อันนี้ก็เป็นอีกที่ชอบนะ ใช้เป็นสัญลักษณ์แทน) อยากให้ใช้ตัวใหญ่ค่ะ เช่น แอพ L ประเทศ F อะไรแบบนี้ มันดูอ่านง่ายกว่า แล้วก็เว้นวรรคนิดหน่อย ไม่เขียนติดกันเกิน อย่าง แอพl พอเขียนแบบนี้แล้วอ่านยากค่ะ

ติดตามน้า รอตอนใหม่ค่ะ คนเขียนสู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่48 ประกาศสงคราม 6/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-10-2018 22:38:23
คือแบบบเห็นเวลาพี่ภาริชอ้อนน้องทีไรละหมั่นไส้ทุกที 555  ถถถ   น้องช่างไร้เดียงสาไม่รู้ทันมารยาของตาเฒ่า
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 08-10-2018 14:52:55
บทที่49

พวกเขาคือใครกันนะ



ในที่สุดวันแข่งเกมก็มาถึง วันนั้นมีงานแข่งเกมถึงสองงานจัดชนกัน อันได้แก่งานของบริษัทชัยมงคลและงานของบริษัท Ghiblisoft ทว่าในขณะที่งานของธันวาไม่คึกคัก แต่งานที่ภาริชจัดขึ้นกลับเต็มไปด้วยนักแข่งระดับแนวหน้าของประเทศ นักข่าว และเหล่าเกมเมอร์รวมถึงแฟนบอยแฟนเกิร์ลมาร่วมงานอย่างคับคั่ง



สิ่งที่ทำให้ธันวา ชัยมงคล ตกใจและเจ็บใจที่สุดคือ ทำไมเจ้าลูกชายของตัวเองถึงไปแข่งขันในรายการของคู่แข่งโดยที่เขาไม่ทราบเลย



เสียงเรียกเข้ามือถือดังรัวๆ เมษารับสายของผู้เป็นพ่อทั้งที่รู้ว่าจะต้องโดนต่อว่า



<” แกทำบ้าอะไรห๊ะไอ้ลูกโง่ แกควรมาแข่งในงานของฉันที่เป็นพ่อแกสิ” >



<” แกรู้บ้างไหมสถานการณ์ของบริษัทตอนนี้มันย่ำแย่แค่ไหน แล้วแกยังกล้าหักหน้าพ่อของแก ทำเรื่องโง่ๆ ด้วยการโปรโหมตงานให้คู่แข่งอีกรึ” >



เมษาขี้เกียจอธิบาย โดยเฉพาะพูดกับคนที่กำลังโมโห ไม่ว่าเขาจะงัดเหตุผลล้านแปดก็คงโดนด่าว่าอยู่ดีดังนั้นเขาจึงตัดสายทิ้งไปและไม่สนใจเสียงเรียกเข้าอีกเลย



เวลานี้แต่ละทีมแข่งไปลงชื่อในงาน จำนวนทีมที่เข้ามาร่วมรายการมีถึง40ทีมด้วยกัน เรียกได้ว่าอุ่นหนาฝาคั่งไม่ว่าจะผู้แข่งขัน สปอนเซอร์ นักข่าว หรือว่าคนดูที่ซื้อตั๋วเข้ามาชมการแข่งขันในงาน



ทีมของเมษานั้นเมื่อถึงเวลาปรากฏตัวก็สร้างความฮือฮามากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเศียรมังกร เฉินเล่อ หรือว่าตัวเขาเอง ต่างมีฐานแฟนคลับจำนวนมากตามเอาใจช่วย ดังนั้นวินาทีที่เผยโฉมเสียงกรี๊ดเสียงเชียร์จึงดังสนั่นไปทั่ว



ส่วนอีกทีมที่โด่งดังและมีเสียงเฮไม่แพ้กันคงเป็นทีม ยอชิน<เทพธิดา> ซึ่งเป็นทีมหญิงล้วน และสาวๆ ที่เรียกเสียงคำรามของเหล่าชายหนุ่มจนลั่นฮอลล์ คงไม่พ้นสองพี่น้องตระกูลคิม คิมยองแอและคิมเยจี



ทั้งสองคนต่างเป็นสาวงามที่หาได้ยาก ด้วยบุคลิกที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว ทำให้พวกเธอกวาดเอาหนุ่มๆ มาไว้เป็นฐานแฟนในจำนวนมหาศาล



หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย สิ่งแรกที่ยองแอทำคือมองหาภาริชในงานและพบว่าภาริชถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์อยู่



“ยองแอจะไปไหน”



เยจีคว้ามือน้องสาวของเธอเอาไว้ “เธอควรจะอยู่ตรงนี้กับทีมของเธอ”



ยองแอเบ้ปาก เธอรำคาญตรรกะของพี่สาว แต่ถ้าคิดให้ดีเธอควรรักษาภาพลักษณ์ของกัปตันทีมยอชิน ไม่ควรทิ้งลูกทีมไว้กับรองกัปตัน



“ถึงพี่ไม่เตือนฉันก็รู้หรอกน่า”



ระหว่างที่นั่งรอในส่วนของผู้เข้าแข่งสิ่งที่ทำให้ยองแอหงุดหงิดที่สุดน่าจะเป็นกระแสปากต่อปากของผู้เข้าแข่งและผู้ชม ตลอดเวลามักได้ยินข่าวและเสียงซุบซิบพูดคุยถึงการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของmaddog01กับพรรคพวก



เธอไม่เข้าใจว่าตื่นเต้นอะไรกันขนาดนั้น เพราะฉายาราชาไร้มงกุฎที่คนแต่งตั้งให้อย่างนั้นหรือ อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ไอ้ฉายาแบบนั้นมันเป็นคำเหยียดกันไม่ใช่หรือไง เป็นราชาที่ไร้มงกุฎมันน่าภูมิใจตรงไหน น่าสมเพชด้วยซ้ำไป



แถมฝีมือของไอ้หมอนั่นกับพรรคพวก เธอก็คิดว่าคงไม่เท่าไหร่ เพราะถ้าเก่งจริงคงรีบเสนอหน้ามาแข่งในหมู่มืออาชีพนานแล้ว แถมก่อนหน้านั้น พูดตรงๆ เธอไม่ได้สนใจการมีตัวตนของmaddog01มาก่อน



ทว่าพอรู้ว่าไอ้หมอนั่นเป็นคู่แข่ง เธอก็ยอมสละเวลาอันมีค่าศึกษาเกี่ยวกับเจ้านั่นนิดหน่อย ขนาดดูผ่านๆ ยังรู้สึกขบขันและสมเพช ไอ้คลิปแต่ละคลิปที่อยู่ในโลกโซเชียลนั่นมันอะไร ดูบ้าๆ บอๆ ขาดๆ เกินๆ ยังไงไม่รู้



ไม่เข้าใจเลยว่าภาริชชอบเจ้าเด็กสติไม่เต็มคนนั้นตรงไหน เธอไม่ค่อยเข้าใจศัพท์ของพวกคนกลุ่มจำพวกนั้นเท่าไหร่ แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าพวกโอตาคุกับจูนิเบียวนี่เป็นพวกน่ารังเกียจน่าขยะแขยงใช้ได้



เพราะแบบนี้เลยยิ่งไม่เข้าใจภาริชเข้าไปใหญ่ว่าเห็นอะไรดีในตัวไอ้หมอนั่น ยิ่งนำมาเปรียบเทียบกับตัวเองยิ่งพบแต่ความแตกต่างอันเหนือชั้น ตอนนี้เธอคิดได้อย่างเดียวคือภาริชอาจต้องการเรียกร้องความสนใจหรือทำให้เธอหึง ถ้าไม่แบบนี้ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าอะไรคือสาเหตุ



ที่แท้ก็อยากให้เธอหึง อยากให้สนใจ ภาริชนี่ก็มีอะไรน่ารักๆ เหมือนกัน



ขณะที่คิดอย่างลำพองใจอยู่นั้นเสียงฮือฮาจากคนในฮอลล์ก็ทำให้ยองแอต้องมองไปรอบๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าทีมสุดท้ายของรายการจะมาถึงแล้ว และพวกแฟนคลับก็รอเวลานี้อย่างใจจดจ่อ



“เอ๊ะนั่นคือทีมmaddog01ใช่หรือเปล่า”



เด็กสาวสะกิดแฟนหนุ่ม เขาและเธอต่างเป็นสาวกตัวเอ้ของmaddog01 silverfox13 และชานมไข่มุกโคตรอร่อย พอรู้ว่านักเล่นปริศนาทั้งสามจะเปิดเผยตัวตนและเข้าแข่งขันในงานครั้งนี้ ไม่เพียงแค่พวกเธอเหล่าเกมเมอร์และแฟนคนอื่นๆ ก็พากันตีตั๋วเพื่อมารอดูอย่างบ้าคลั่ง



“เอ๊ะ” แฟนหนุ่มชะโงกหน้าดูอย่างตั้งใจ ไม่รู้ว่าเขาตาฝาดไปไหม แต่ในกลุ่มคนนั้นมีตะวัน โยธาบดี นักแสดงและนายแบบชื่อดังสุดๆ ไม่เพียงแค่นั้นคนที่เดินอยู่ข้างก็เป็นนายแบบดาวรุ่งดวงใหม่fordที่แฟนสาวของเขาคลั่งไคล้อย่างหนัก



“กรี๊ดพี่ตะวันกับfordพวกเขามาทำไม”



แฟนสาวจับเขาเขย่าไปมา คุณเธอเอ๊ยไม่เกรงใจแฟนเธอบ้างหรา แฟนเธออยู่ตรงนี้นะแม่คุณ



ไม่เพียงแค่แฟนสาวของเขาเท่านั้นตอนนี้แม่พวกผู้หญิงในงานต่างพร้อมใจกันกรี๊ดและหวีดจนลั่นฮอลล์ไปหมดแล้ว



ทว่าใช่พวกหนุ่มๆ จะขาดแคลนวัตถุดิบ ในกลุ่มมีเด็กสาวหน้าตางดงามเป็นพิเศษปะปนอยู่ในนั้น มีถึงสองคนเลยนะ คนหนึ่งเป็นสาวน้อยผมสั้นท่าทางทอมบอย ใบหน้าที่น่ารักนั้นต่อให้ไม่ต้องแต่งตัวสวยๆ เหมือนผู้หญิง เหล่าชายหนุ่มในงานก็ยังเคลิ้มกันถ้วนหน้า



ส่วนสาวน้อยอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันเธอช่างสวยปราดเปรี้ยวในเสื้อเอาลอยและกางเกงยีนสุดเท่มองแล้วเหมือนพวกเกิร์ลกรุ๊ปมากกว่านักแข่งเกมอาชีพเสียอีก



“โอ๊ย ตายกลุ่มนี้มันอะไรกันนี่ พวกนักแสดงที่จ้างมาเปิดงานหรือไง”



ทว่าพอเห็นคนพวกนี้ลงชื่อแข่งขันในชื่อทีมmaddog01เสียงผู้คนในฮอลล์ก็กระหึ่มกว่าเดิม



“maddog maddog01คนนั้นน่ะนะ”



“แล้วคนไหนอะ”



“แล้วไหงตะวัน กับfordถึงได้อยู่ร่วมทีมได้”



“silverfox13 คือคนไหน คนไหนคือชานมมุกฯ แล้วใครคือmaddog01”



เสียงฮือฮาของผู้ชมทำเอาทีมอื่นรู้สึกกร่อยไปตามๆ กัน แต่พวกเขาไม่ได้สนใจกันมากนัก มีเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้สึกไม่พอใจ



คนแรกคือเมษา เขาไม่ชอบใจสายตาของคนอื่นๆ ที่มองนรินทร์ด้วยแววตาวับวาว เขาไม่พอใจที่นรินทร์โดดเด่นเป็นที่จับตามอง มีหลายครั้งที่คิดว่าการที่ฝ่ายนั้นหลบหน้าหลบตาผู้คนมันก็ดีแล้ว แต่ไหนแต่ไรเขาอยากให้นรินทร์มองแต่ตัวเองและมีเขาคนเดียวเป็นที่พึ่งพิง



ทั้งอย่างนั้นนรินทร์กลับเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งนานวันก็ยิ่งเด่น ไม่ว่าเขาจะพยายามปิดฝากล่องซ่อนนรินทร์ไว้ในที่ลับเท่าไหร่ เจ้าตัวก็พยายามพังกล่องมันออกมา แถมไอ้ตัวขโมยปลายังมาคว้าของที่เขาซ่อนเอาไว้ไปเสียอีก



ดีใจมากหรือไงนรินทร์ที่ถูกผู้ชายผู้หญิงชั้นต่ำพวกนั้นมองดูด้วยสายตากระหายใคร่ พอใจหรือไงที่ถูกสรรเสริญเยินยอ ที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ต้องเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นแน่ๆ



ขณะเดียวกันคิมยองแอถึงกลับกัดเล็บตัวเองด้วยความริษยา นี่มันจะเด่นเกินหน้าเธอเกินไปแล้ว ไอ้พวกตาถั่ว นั่นมันเด็กผู้ชายชัดๆ มองยังไงเห็นเป็นผู้หญิงไปได้ ไอ้พวกขุดทองล่อตูดน่ารังเกียจ ขอแค่ไม่มีหางก็เอาได้หมดใช่ไหม



ยองแอเดือดดาลในใจ เธอดูถูกเหยียดหยามคนทั้งฮอลล์ไปหลายสิบประโยค แต่มันไม่ดีขึ้นเลย กลุ่มหนุ่มสาวหน้าตางดงามอะไรกัน เธอยังหน้าตาดีกว่าพวกมันเสียอีก ยองแอคิดว่าพวกmaddog01จงใจเรียกร้องความสนใจด้วยการมาลงชื่อเป็นกลุ่มสุดท้าย

เจ้าแผนการอะไรอย่างนี้นะ คิดจะแย่งชิงความเด่นไปจากเธอมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก



หลังจากผู้เข้าแข่งขันมากันครบทุกทีม ภาริชก็ถูกเชิญให้ขึ้นไปกล่าวเปิดงานบนเวที ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก และรายการถัดมาพิธีกรก็เดินตรงมายังที่นั่งของบรรดาผู้เข้าแข่งเพื่อสัมภาษณ์ความเห็น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้มาสั้นหน่อยนะคะ ก็ประมาน4หน้าเอ4นะ5555

ที่น้อยเพราะฟิลลิ่งมันไม่มาTT คิดว่าพรุ่งนี้น่าจะโอเค555

จะแข่งเกมกันละ ยอมรับว่ารู้สึกเขียนยากมันจะอืดๆ หน่อย

ถ้าเนื้อหาการแข่งขันไม่ถึงใจก็ขออภัยล่วงหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 08-10-2018 15:56:18
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-10-2018 18:12:28
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :3123: :L1: :pig4: :L2:
เมษากับนั่งยองๆควรจับมือไปด้วยกัน ตรรกะเพี้ยนไปหมด
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-10-2018 19:18:25
คนเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง ยังไงก็ปิดหูปิดตาเข้าข้างตัวเองอยู่นั่นเอง
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-10-2018 21:47:12
โลกนี้มีแต่ยองแอ เท่านั้นสินะ
ที่เด่นเลิศ เชิดสวยที่สุด คิดเองเออเองหรือเปล่า  :m16: :serius2: :เฮ้อ:
ภาริชจะให้ยองแอที่หน้าด้านหึง.......... เพื่อ ?  :really2: o22 :a5:

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 09-10-2018 00:21:16
ตื่นเต้นจัง
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 09-10-2018 09:19:01
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-10-2018 13:56:34
5555+ เข้าใจคำว่า"มโน" จากความคิดของยองแอนี่เอง
 
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่49 พวกเขาคือใครกันนะ 8/10/61 หน้า9
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 09-10-2018 16:23:37
เจ้อ้อแอยังไม่รู้ตัวอีกรึนั้น พี่สาวเหมือนจะตัดหางปล่อยวัดนางล่ะ รอชมจุดจบของแก๊งค์ตระกลูเดือนกะยัยมโนแจ่ม
เจ้ารินสู้ๆ นะค่ะ  :กอด1:
 :L1:   :pig4:   :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 09-10-2018 17:44:54
บทที่50

ความวุ่นวายโกลาหล

ทีมแรกที่ถูกสัมภาษณ์คือทีมdoghunter00ของเมษา เฉินเล่อคิดว่าชื่อนี้แม่มโคตรเสร่อแต่ในเมื่ออากิระเป็นคนเสนอขึ้นมาเลยไม่รู้จะเถียงอะไร

คนที่พิธีกรเลือกสัมภาษณ์คนแรกคือสายหมอก นักกีฬาe-sportอันดับหนึ่งผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ววงการ

“นี่เป็นการรวมทีมเพื่อลงแข่งขันแบบกลุ่มครั้งแรกของคุณตื่นเต้นไหมครับเศียรมังกร”

พิธีกรเริ่มจากคำถามเบาๆ เรียกน้ำย่อยก่อน สายหมอกยิ้มแล้วตอบคำถามด้วยท่าทีสบายๆ

“ผมตั้งใจจะรวมทีมของตัวเองนานแล้วกับเฉินเล่อ ก็พอดีว่ารุ่นน้องของผมdoghunter00เขามาชวนพอดีเท่านั้นเอง”

“ถ้างั้นขอผมไปถามคนอื่นบ้าง คืออย่างนี้ พวกเราในงานต่างรู้ดีว่า ตัวจริงของdoghunter00คือคุณ เมษา ชัยมงคล ลูกชายของคุณธันวา ชัยมงคล ผู้ผลิตเกม Military strategy ซึ่งจัดงานแข่งเกมชนกับงานของพวกเรา ผมอยากทราบว่าเพราะอะไรคุณถึงมาแข่งในงานของคู่แข่งdoghunter00ช่วยเล่าให้พวกเราฟังทีครับ”

คำถามของพิธีกรกระตุ้นเหล่าผู้ชมได้เป็นอย่างดี ทุกคนในฮอลล์ต่างอยากรู้กันทั้งนั้น

“ผมมาแข่งเพราะมีคนโยนถุงมือใส่หน้าผม” เมษาตอบคำถามอย่างไร้อารมณ์

“โอ้...ถึงขนาดทำให้คุณทิ้งงานของครอบครัวมา แสดงว่าการแข่งครั้งนี้คงจำเป็นมากแน่ๆ”

“ใช่ เพราะผมจะสะใจมากถ้าหากทีมของผมชนะในการแข่งขัน”

เมษาใช้สายตาคมเหมือนเหยี่ยวจ้องมองไปยังภาริชซึ่งนั่งอยู่ในโซนผู้บริหาร เพราะว่าอยู่ไม่ไกลกันนักทั้งคู่จึงสบตากัน ภาริชยิ้มหวานประดุจนางฟ้า

ยิ้มได้ก็ยิ้มไปเถอะ เมษาเอาแต่จินตนาการวินาทีที่ภาริชใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะต้องคุกเข่าขอขมาเขาต่อหน้าคนทั้งฮอลล์ ถึงตอนนั้นอยากรู้นักคนอย่างนายมันจะโทษว่าเป็นความผิดของนรินทร์ที่พ่ายแพ้ไหม มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว คนที่ยโสห่วงหน้าตาตัวเองต้องมาคุกเข่าต่อหน้าคนมากมาย ยังไงก็แล้วแต่นรินทร์ต้องได้เห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้เสียที

“ผมอยากทราบจริงๆ ครับว่าใครเป็นคนโยนถุงมือใส่หน้าคุณ”

“เอาไว้ทีมผมเป็นผู้ชนะของงานเมื่อไหร่ คุณจะได้เห็น เพราะไอ้หมอนั่นมันต้องคุกเข่าขอขมาผมต่อหน้าคนในงาน”

“โอ้ๆ ๆ ๆ” พิธีกรดูตกใจ คนในงานคนอื่นๆ ก็เช่นกัน

“นี่มันเป็นการท้าทายครั้งใหญ่เลยนะครับ คุณบอกพวกเราทีเถอะว่าเขาคือใครกัน”

แต่จนแล้วจนรอดเมษาก็ไม่ปริปากบอก สุดท้ายพิธีกรก็ยอมแพ้ไป เมื่อหันไปถามเฉินเล่ออีกฝ่ายก็เอาแต่บอกว่าชัยชนะในการแข่งจะพิสูจน์ทุกอย่าง เฉินเล่อขี้เกียจพูดเยอะ

เป็นเรื่องช่วยไม่ได้พิธีกรจึงไล่สัมภาษณ์ทีมอื่นๆ ต่อไป จนมาถึงทีมยอชินซึ่งเป็นทีมเด็ดอีกทีมหนึ่ง

“ขอคารวะท่านราชินีผู้งดงาม” พิธีกรโค้งคารวะที่เบื้องหน้าคิมยองแอ เรียกได้ว่าเป็นคนกินเป็นอยู่เป็นอย่างแท้จริง

“ฉันขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม” คิมยองแอยิ้มสวย แน่ล่ะนี่มันเป็นการสัมภาษณ์อยู่แล้ว พิธีกรต้องอยากให้หล่อนพูดแน่นอน

“เมื่อเดือนก่อนมีคนกังขาในความสำเร็จของฉันค่ะ”

แค่ประโยคขึ้นต้นก็ทำเอาแฟนคลับของคิมยองแอหัวร้อนไปตามๆ กัน แฟนคลับของคิมยองแอเรียกตัวเองว่านัมชินหรือความหมายก็คือแฟนหนุ่ม คนพวกนี้มีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่ทำตามการชี้นำของยองแอ เช่นยกพวกถล่มคู่กรณีของหล่อนในโลกโซเชียล และตามเอาใจช่วยในทุกทีที่หล่อนปรากฏตัว

พวกนัมชินมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเรื่องฝีมือที่แท้จริงของคิมยองแอ อันที่จริงพวกเขาก็รู้แก่ใจอยู่แล้วแหละว่าคิมเยจีเป็นส่วนสำคัญในการก้าวขึ้นไปด้านบนของไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบในตอนนี้ แต่ทว่าทุกครั้งที่เห็นน้ำตาของคิมยองแอคำพูดที่ควรใช้สั่งสอนไอดอลของตัวเองก็กลายเป็นแรงกระตุ้นอันฮึกเฮิมจนตามไปถล่มคู่กรณีจนย่อยยับมากกว่า

“ใครกันวะที่มันกล้ารังแกยองแอนูน่าของพวกเรา”

“อยากเห็นหน้าว้อย”

“ยองแอออนนี่บอกพวกเรามาสิ พวกเราอยากรู้ใจจะขาดแล้ว”

เสียงก่นด่าโวยวายดังโกลาหล เยจีกับลูกทีมอีกสองคนเป็นกังวลเพราะรู้ว่าไม่สามารถหยุดยั้งความบ้าคลั่งของยองแอและพวกแฟนคลับได้

ตอนนี้จะเล่นละครก็ต้องเล่นให้สุด คิมยองแอยกมือขึ้นปาดน้ำตา เธอหลั่งน้ำตาต่อหน้าคนในฮอลล์

“ฉันรู้ว่าทุกคนต่างครหาในฝีมือของฉัน แต่คราวนี้เพื่อพิสูจน์ความสามารถ ฉันจะเป็นคนบัญชาการและวางแผนในการแข่งครั้งนี้ทั้งหมด”

จากนั้นคิมยองแอก็หันตัวไปยังทิศทางที่นรินทร์นั่งอยู่ ทั้งคู่ประสานสายตากัน หล่อนคิดว่าอีกฝ่ายจะกลัว ทว่าไม่ได้มีอะไรที่ใกล้เคียงอยู่ในดวงตาคู่นั้นเลย

น่าโมโห ฉันจะขยี้แกให้ยับเลย

“คราวนี้ถ้าฉันชนะก็ต้องขอให้คุณหยุดคิดเรื่องที่ฉันเอาแต่พึ่งพาพี่สาวของฉันด้วยนะคะคุณmaddog01”

เยจีถึงกับกุมขมับ ไม่รู้ว่ายัยน้องสาวแสนโง่ของเธอคิดบ้าๆ อะไร ทำแบบนี้มันโง่มาก เท่ากับว่าเธอประกาศเป็นศัตรูกับพี่ภาริชซึ่งๆ หน้าเลย คิดหรือว่าคนอย่างภาริชจะยอมให้ใครมารังแกคนของเขาง่ายๆ

เยจีถึงกับหันไปมองดูอากัปกิริยาของภาริช เห็นว่าฝ่ายนั้นยิ่งทียิ่งยิ้มหวานขึ้นเรื่อยๆ พี่ชายคนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักเอาแต่ยิ้ม ไอ้รอยยิ้มนี่แหละที่ทำให้เขาเป็นคนอันตราย เพราะไม่รู้ว่าโกรธเสียใจหรือว่าดีใจกันแน่

เวลานี้เสียงที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าของพวกนัมชินดังกระหึ่มจนน่ากลัว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในโซนของตัวเองเพราะว่าจงใจจับกลุ่มเหมาซื้อที่นั่งเฉพาะบริเวณนั้นกันก็ตาม

“ไอ้เหี้ยmaddogมึงเก่งนักหรือถึงรังแกได้แต่ผู้หญิง”

“มึงมันต้องแพ้เว้ย มึงมันต้องแพ้มึงล้างคอรอไว้ได้เลย”

แต่ใช่ว่าแฟนคลับฝ่ายmaddog01จะยอมมีเสียงโวยวายปกป้องดังกระหึ่มไม่แพ้กัน

“พวกมึงนั่นล่ะเอาแต่ตามตูดสาวเมือง k มึงแน่ใจได้ไงว่าอีนังนั่นมันไม่พูดโกหก”

เสียงแฟนคลับคนหนึ่งของฝั่งmaddogโต้กลับไป เสียงนี้ปลุกระดมพวกเดียวกันให้ปะทะกับพวกนัมชิน

“จริงด้วย พวกมึงกามขึ้นสมองจนไม่รู้สี่รู้แปดไงวะ”

“มึงกล้าดียังไงมาว่ายองแอออนนี่ของพวกกูโกหก”

“ไอ้เหี้ยmaddogมึงเปิดเผยตัวจริงแล้วมาอธิบายสิวะ”

เสียงโวยวายของผู้ชมทั่วฮอลล์ทำให้พีธีกรต้องรีบวิ่งไปหาตัวmaddog01

“เอ่อคนไหนคือmaddog01ครับ” พอพิธีกรพูดออกไมค์ ทุกเสียงก็พากันเงียบลง ทุกสายตาจดจ้องมายังบริเวณที่นั่งของทีมmaddog01

ใครจะไปคิดว่าสาวน้อยทอมบอยผู้หน้าตาน่ารักฉิบหายจะเป็นคนรับไมค์ไป ทำเอาพวกนัมชินชักเขวเพราะภาพลักษณ์ที่ดูสะอาดบริสุทธิ์ของคนคนนั้นทำให้งุนงงเหมือนกัน

“ผมวิจารย์ว่าคุณคิมยองแอไม่เก่งจริง เพราะผมเห็นว่าคนสำคัญที่นำพาทีมชนะทุกครั้งคือพี่เยจี”

ยองแอฟังแล้วกำหมัดแน่น ยังกล้าพูดอีกนะ ไอ้เด็กนี่ไม่กลัวพวกแฟนคลับของเธอถล่มหรือไง

“ผมรู้ว่าผมพูดจารุนแรงไป แต่คุณคิมยองแอก็ท้าดวลกับผมเพื่อรักษาศักดิ์ศรีตัวเอง ดังนั้นถ้าผมแพ้ ผมจะยอมรับว่าผมคิดผิด”

ดูเหมือนว่าคำพูดตรงไปตรงมาของนรินทร์จะทำให้พวกนัมชินสงบลง ถึงมีพวกที่ยังบ่นไม่เลิกก็ตาม

“ก็ถ้าผมพูดจารุนแรงเกินไปก็ขอโทษด้วยครับ ยังไงก็ตามการแข่งขันครั้งนี้สำคัญกับผมและคุณคิมยองแอมาก ไม่ว่ายังไงก็อยากให้ทุกอย่างจบลงอย่างราบรื่นและขาวสะอาด”

นรินทร์ไหว้ขอโทษคิมยองแอต่อหน้าผู้คนในฮอลล์ มันแสดงถึงสัมมาคารวะขั้นพื้นฐานที่ต่อให้พวกนัมชินอยากจะตะโกนด่าต่อไปแค่ไหนก็ต้องระงับอารมณ์ไว้ก่อน

ตามปกติพวกเขาก็ถูกเรียกว่าเป็นพวกแฟนคลับอันธพาลอยู่แล้ว และพร้อมจะขย้ำศัตรูของคิมยองแอเสมอ แต่พูดกันตามตรงไม่เคยมีคนไหนที่มารยาทดียอมไหว้ขอโทษตั้งแต่แรกแบบนี้มาก่อน ก็เพราะคู่กรณีของคิมยองแอส่วนใหญ่ถูกเจ้าหล่อนยั่วโทสะบิดเบือนภาพลักษณ์ให้กลายเป็นสีดำ มันทำให้หนุ่มๆ นัมชินไม่รู้สึกผิดอะไรต่อการเหยียบย่ำคนเหล่านั้น

“ก็นับว่ารู้มารยาทใช้ได้นี่”

“ยองแอนูน่าแสดงให้หมอนั่นมันเห็นเลยว่าใครแน่จริง”

“ยองแอออนนี่ แสดงให้มันเห็นว่ามันพูดผิด”

“คิมยองแอ เราอยู่ข้างเธอน้า ถล่มพวกมันให้ย่อยยับในการแข่งครั้งนี้เลย”

“คิมยองแอ คิมยองแอ”

กระแสการรังแกที่เธอวางเอาไว้ถูกบิดเบือนไป กลายเป็นการประกาศท้าดวลกันอย่างขาวสะอาดและแฟนคลับของทั้งสองกลุ่มยอมรับกันได้ไปเสียนี่

คราวนี้พิธีกรร่วมรีบเอาไมค์มาจ่อปากเธอ คงต้องการให้เธอพูดอะไรซักอย่าง

“ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังค่ะ” คิมยองแอยิ้มหวานก่อนจะนั่งลงแล้วไม่เปิดปากพูดอะไรอีก

ในเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้วก็ฉวยโอกาสสัมภาษณ์ทีมmaddog01ไปเลยแล้วกัน พิธีกรฉีกยิ้มกว้างเริ่มทำรายการต่อไป

“เอ...ผมสงสัยนะ ทำไมคุณตะวัน โยธาบดี กับfordถึงมาอยู่ตรงนี้เอ่ย พวกคุณเป็นใครกันแน่ครับ”

พิธีกรจ่อไมค์โครโฟนมาที่ฟอร์ด ทำเอาคนถูกถามเกาแก้มแก้เขิน

“ก็ไม่มีอะไรมากครับผมก็แค่มือใหม่ที่จับพลัดจับพลูมาร่วมทีมเฉยๆ”

“เอ้าไม่ธรรมดานะครับ ใครๆ ก็รู้ว่าคุณคือ ฟอร์ด พัชรกานต์กุล น้องชายของบอสใหญ่ของเรา เอาล่ะเราจะไม่ล้วงลึกเรื่องนั้น เอาเป็นว่าสิ่งที่คุณคาดหวังจากการแข่งครั้งนี้คืออะไรครับ”

“สะสมประสบการณ์ครับ”

“แค่นั้นหรือ” พิธีกรทำเสียงเหมือนไม่เชื่อใครจะไปคิดว่าตะวันจะแย่งไมค์ไปจากมือ

“จริงๆ พวกเรามาถล่มคนต่างหาก โดยเฉพาะพวกที่วอนเว้าเป็นพิเศษ”

ด้วยน้ำเสียงและใบหน้าทรงเสน่ห์ของตะวันที่ขึ้นไปอยู่บนจอยักษ์ทำเหล่าแฟนคลับสาวๆ หวีดร้องเสียงดัง

“พี่ตะวัน พี่ตะวันเท่มากค่ะ”

“ถล่มมันให้ยับเลยค่ะ น้องพร้อมตามพี่เสมอ”

“อีพวกติ่ง ถึงกรี๊ดแค่ไหนเขาก็ไม่เอาพวกหล่อนหรอก”

แน่นอนว่าพวกนัมชินต้องโวยวายอยู่แล้ว เพราะท่าทีแข็งกร้าวของตะวันมันคือการท้าทายคิมยองแอของพวกเขาชัดๆ ตอนนี้พวกนัมชินกับแฟนคลับของตะวันเลยซัดกันนัวเนีย

ตะวันหัวเราะชอบใจ รู้สึกผิดเสียที่ไหน เขากำลังเดือดจัด เขาโมโหยัยหน้าปลวกยองแอที่ทำให้ลูกพี่ต้องไหว้ขอโทษต่อหน้าผู้คนมากมาย ถ้าพูดถึงเรื่องยกแฟนคลับถล่มกันล่ะก็ ตะวันมั่นใจว่าเขามีพาวเวอร์มากกว่า แฟนคลับหนากว่า

แล้วมันก็ใช่ด้วย คิมยองแอเป็นนักเล่นเกมอาชีพและเป็นนางแบบร่วมด้วยบางครั้ง แต่เจ้าหล่อนมีแต่แฟนคลับผู้ชายล้วนๆ พวกผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบเธอ แน่ล่ะผู้หญิงส่วนใหญ่มีสัญชาติญานพวกหล่อนสามารถรับรู้ได้ว่าใครดีใครแหลเป็นพิเศษ

กลับกันตะวันเป็นระดับซูเปอร์ไอดอล เป็นนักร้องนักแสดงและนายแบบ นอกจากเป็นที่ใฝ่ฝันของพวกสาวๆ ยังเป็นต้นแบบให้หนุ่มทำตามในทุกด้าน มันจะเทียบกันได้ไง

“เอาจริงๆ นะ กูว่ามันตลกว่ะ ที่จะมาประกาศเรียกร้องความสนใจในงาน” หนึ่งในแฟนคลับหนุ่มของตะวันเปิดประเด็น

“ใช่ๆ คิมยองแอนี่ชอบเปิดประเด็นดราม่าอยู่เรื่อย”

“พวกมึงพูดบ้าอะไรวะ มันยุติธรรมกับนางฟ้าของพวกกูป่าว ถูกเหยียดขนาดนั้นให้เก็บไว้ในใจหรือไง”

พวกหนุ่มนัมชินเถียงกลับ เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง ทำเอาพิธีกรงุนงงไปหมดแล้ว 30 ปีที่ทำงานด้านนี้มาไม่เคยเจอการทำงานที่ไหนที่จะวุ่นวายขนาดนี้

“พวกมึงเป็นไรวะ พวกกูจบแล้วไงเหี้ย maddogมันก็ไหว้ขอโทษพวกกูแล้ว พวกกูก็ยอมให้แข่งอย่างขาวสะอาดแล้วไงวะสัด เป็นเหี้ยอะไร”

จังหวะที่ความสับสนอลม่านเริ่มลุกลามไป จู่ๆ ภาริชก็เดินไปบนเวที แล้วเริ่มพูดด้วยเสียงเรียบเรื่อย

“ทุกคนช่วยอยู่ในความสงบหน่อย”

มีใครฟังเสียที่ไหน ภาริชได้แต่ยิ้มๆ เขาส่งสัญญาณให้เปิดระดับเสียงสูงสุดก่อนจะพูดใส่ไมค์ด้วยเสียงที่ดุดันและทรงอำนาจ

“เงียบ”

ก็เสียงไมค์มันดัง แล้วน้ำเสียงก็โหดได้ใจแท้ ทำให้พวกแฟนคลับที่โต้เถียงต่างเงียบอย่างเสียไม่ได้





“ในเมื่อทุกท่านต่างจริงจังกับการดวลของผู้เข้าแข่งขันขนาดนี้ ผมจะเปิดให้ลงทะเบียนทายผลชนะในเกมทุกเกมของบริษัทผม ไม่ว่าคุณจะทายผลแพ้ชนะถูกหรือผิด ทุกๆ คนที่ลงทะเบียนเข้ามาจะได้เงินในเกมคนล่ะ 5แสน และอุปกรณ์ระดับ ss < super special >คนล่ะห้าชิ้น นอกจากนั้นผู้ที่ทายผลได้ถูกต้องเราจะสุ่มเลือกจากระบบมาคนหนึ่งจากเกมทุกเกมที่เปิดให้ลงทะเบียน ผมจะแจกรถรุ่นล่าสุดจากบริษัทsonyaที่พวกคุณคงได้เห็นในโฆษนาแล้ว ซึ่งเกมของบริษัทผมที่เปิดให้บริการก็มีมากกว่า10เกม ผู้โชคดีที่จะได้รถคันงามไปก็ตามจำนวนนั้น”

เสียงฮือฮาดังไปทั่วงาน ขึ้นชื่อว่าการพนันกับของฟรีใครมันก็อยากได้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าคนในงานส่วนใหญ่เป็นนักเล่นเกมตัวยงกันทั้งนั้น มันจึงทำให้การแจกไม่อั้นครั้งนี้หยุดความวุ่นวายลงได้ แต่ละคนพร้อมใจฟังเงื่อนไขแล้วหยิบมือถือของตัวเองลงทะเบียน ความวุ่นวายจึงสงบลงในที่สุด



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



55555มาซะเย็นเลยงิ อืมเกมทั้งหมดที่เราเขียนมีหลายอย่างมาจากเกมจริง

แล้วเราเอามาขยำทำอีกทีนะคะ พอดีมีนักอ่านถามมา

อ่า...ตอนหน้าคงได้เริ่มแข่งเกมแล้วล่ะมั้ง

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 09-10-2018 18:01:01
เนี่ยยยย รักพี่เค้าตรงนี้แหละะะ /เดินไปลงทะเบียน555
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-10-2018 18:20:09
ป๋ามาก
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 09-10-2018 19:59:14
วิธีแก้ปัญหามันง่ายนิดเดียวเนอะคะคุณพี่  o18
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 09-10-2018 20:46:38
อู้วว... ขอตัวไปลงทะเบียนก่อนนะค่ะ ไปรอดูเพื่อความสะใจ คนจริงเขาไม่ดราม่า ยกตนข่มท่านหรอก :katai3:
 :L1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 09-10-2018 23:29:32
เงินเอาอยู่หุหุ
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-10-2018 09:52:38
อู้วว... ขอตัวไปลงทะเบียนก่อนนะค่ะ ไปรอดูเพื่อความสะใจ คนจริงเขาไม่ดราม่า ยกตนข่มท่านหรอก :katai3:
 :L1: :pig4: :L2:

ไปด้วย..........
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 10-10-2018 15:51:19
บทที่51

หายนะที่คลืบคลานอย่างช้าๆ

เวลานี้ทีมต่างๆ ถูกจับคู่แข่งเรียบร้อยแล้ว แล้วทีมยอชินของคิมยองแอกับทีมmaddog01ของนรินทร์ก็ได้เจอกันตั้งแต่นัดแรก

“ว้าวนี่มันเป็นแมตหยุดโลกเลยนะครับเนี่ย ใครมันจะไปคิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ใช่มะคุณโรม”

“ผมล่ะตื่นเต้นจริงๆ เลยครับคุณเอก ไม่ตื่นเต้นได้ไงล่ะก็เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนกัปตันของทั้งสองทีมประกาศดวลกัน ยังไม่รวมพวกแฟนคลับที่พร้อมจะลุยกันให้เละอีกนะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”

“โอ๊ย...พวกเราคนชาติเดียวกันไม่ตีกันหรอกครับ อ่าวๆ ดูเหมือนว่าทั้งสองทีมพร้อมแล้วนะครับ”

ในที่สุดผู้เล่นทั้งสองทีมก็เข้าไปล็อคอินในแอคเค้าท์ตัวเอง พวกแฟนคลับฝั่งmaddogรอมานานแล้ว พวกเขารู้แล้วว่าmaddog01คือใครและประทับใจกันไป ก็เคยจินตนาการกันอยู่นะว่าmaddog01ต้องเป็นโอตาคุหยองกรอดสายเอนเตอร์เทน แต่ใครจะคาดว่ากลายเป็นคิ้วท์บอยสุดน่ารักแบบนี้ไปได้

ที่เหลือทุกคนเลยมาลุ้นกันว่าford ตะวันและสาวสวยคนนั้นคือใครกันแน่ และแล้วรายชื่อแอคเค้าท์รวมถึงใบหน้าของผู้เล่นก็ปรากฏบนจอยักษ์

“ตายแล้วชานมไข่มุกโคตรอร่อยคือพี่ตะวันหรือเนี่ย”

“เฮ้ยนึกว่าเป็นผู้หญิงมาตลอด ทีแรกเข้าใจว่าเป็นแม่สาวเปรี้ยวปรีดคนนั้นซะอีก”

“พี่ตะวันชอบเล่นตัวผู้หญิง เหมือนที่หนูชอบเล่นตัวผู้ชายเลยค่า”

“โธ่เว้ยถึงว่ากูจีบไม่เคยติดที่แท้ก็เป็นผู้ชายนี่เอง”

แต่ที่ตกใจกว่าคือsilverfox13ที่เงียบขรึมดุดันคนนั้นกลับกลายเป็นหญิงสาวที่ไม่ต่างจากไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเลย เรื่องนี้มันทำให้เกมเมอร์หลายคนประหลาดใจมาก

“โอ๊ยขอคารวะแม่นาง “

“เธอช่างเท่เหลือร้าย”

“พี่silverfox13ถึงพี่เป็นผู้หญิงหนูก็ยังรักพี่นะ”

“เป็นผู้หญิงสิดีฉันไม่ชอบผู้ชายอยู่แล้ว”

ดังนั้นคนที่เหลือในแอคเค้าท์สุดยอดสาวงามก็คือฟอร์ด แม้จะไร้ชื่อเสียงก็ตามแต่พวกแฟนๆ ของทีมmaddog01ก็ยังเอาใจช่วย

“สู้ๆ น้าford”

“แข่งครั้งแรกไม่ต้องเกร็งนะโว้ยเอาสบายๆ”

“เอาล่ะครับตอนนี้ทั้งสองทีมกำลังสุ่มเลือกแมพ ตามกติกาเราจะแข่งกันสามแมพ แต่ถ้ามีทีมได้ชนะไปก่อนถึงสองแมพทีมนั้นก็จะชนะไปเลยนะคร๊าบ” โรมอธิบายให้ผู้ชมฟัง

“ในที่สุดทั้งสามแมพก็ออกมาแล้วครับ ทั้งสามแมพเป็นแมพยอดนิยมที่ง่ายทั้งรุกและรับ โชคดีนะครับที่ไม่ต้องชิงตัวประกันหรือกู้ระเบิดกันเลย” เอกบรรยาย จากนั้นโรมก็ช่วยเสริม

“บางทีการเผชิญหน้าครั้งนี้อาจจบได้รวดเร็วกว่าที่คิดก็ได้นะครับ”

“อ้าวๆ งั้นก็แย่สิครับคนดูคาดหวังความมันหยดติ๋งอยู่นะนี่”

“เริ่มแล้วครับคุณเอก”

เกมlast battelนั้นมีตัวละครให้เลือกถึง20ตัวละคร แบ่งออกเป็นฝั่งAttackerและฝั่งDefenderที่มีสกิลติดตัวและแก็ดเจ็ตแตกต่างกันไป สำหรับการแข่งในแมพแรกฝั่งmaddog01เป็นฝ่ายบุกและฝั่งยอชินเป็นฝ่ายรับ

สำหรับทีมยอชินที่คิมยองแอวางแผนการรบของทีมด้วยตัวเอง เธอตั้งใจระบุลงไปแม้กระทั่งตัวเล่นของคนในทีมซึ่งเกี่ยวกับเรื่องมันทำให้เยจีถึงกับต้องขมวดคิ้ว ตามปกติเยจีเป็นมันสมองให้กับทีมมาโดยตลอด เธอมักสร้างภาพสถานการณ์ต่างๆ ไว้ในหัวเป็นร้อยๆ รูปแบบ

จากนั้นเธอจะเลือกแผนการมาใช้เมื่อดูแล้วว่าอีกฝ่ายเลือกตัวละครแบบไหนมาเป็นตัวเดินเกมบ้าง จะหาว่าเธอถ่วงเวลาก็ได้ แต่เธอมักจะรอเวลาเลือกตัวละครเป็นคนสุดท้ายเพื่อดูฝั่งตรงข้ามกับฝั่งตัวเอง แล้วนำตัวละครที่คิดว่าซัพพอร์ททีมได้มากที่สุดมาใช้

แต่นี่น้องสาวของเธอบังคับให้เธอทำตามแผนที่หล่อนคิดว่าดี ไม่มีการดูกระแสของการเลือกตัวละครใดๆ ทั้งนั้น แถมตัวละครที่เลือกให้คนในทีมอีกสองคนไม่ว่าจะเป็นมิ้นท์หรือแอน ก็ทำให้พวกเธอกังขา อันที่จริงจะใช้ตัวละครฝั่งAttackerมาเล่นเป็นทีมรับมันก็ได้

แต่นี่มันเป็นการวางกลยุทธแบบไหนที่ฝั่งทีมรับใช้ตัวละครAttackerถึงสามคนส่วนหัวหน้าทีมเป็นตัวละครDefenderตามปกติ ตัวละครของคิมยองแอนั้นคือSilent walk เป็นตัวละครฝั่งDefenderยอดนิยม

ตัวละครตัวนี่มีสกิลติดตัวมากมายแต่ไม่มีแก็ดเจ็ตให้ใช้ เพราะตัวสกิลก็เรียกได้ว่าค่อนข้างโกงและชี้เป็นชี้ตายได้ดีทีเดียว

เนื่องจากมีสกิลย่องเงียบที่ต่อให้วิ่งก็ไม่มีเสียงจึงทำให้สามารถย่องไปข้างหลังฝ่ายตรงข้ามแล้วเฉือดได้ง่ายๆ แถมปืนที่ถืออยู่ยังเป็นปืนแบบพิเศษที่เก็บเสียงและไม่ทำให้ตายทันที มันจะเปิดโอกาสให้ใช้สกิลinvestigateซึ่งเป็นสกิลล้วงความลับ

หลังจากกดใช้สกิลจะสามารถเห็นผู้เล่นฝั่งตรงข้ามแม้ว่าจะมีกำแพงหรือสิ่งกีดขวาง แถมยังเห็นกันได้ทั้งทีมของผู้ใช้สกิล

แผนของยองแอคือเธอตั้งใจจะเปิดแมพล้วงที่อยู่จากตัวละครโง่ๆ ซักตัวแล้วให้คนในทีมที่เล่นตัวละครฝั่งAttackerถล่มให้ยับแบบม้วนเดียวจบ

เยจีเคยเตือนน้องสาวแล้วว่านี่มันบ้ามากๆ แต่ยองแอพูดว่าถ้าไม่ได้ลองจะรู้หรือไงว่ามันแย่หรือดี เยจีไม่เข้าใจความคิดของน้องสาวเลย นี่หล่อนอยากชนะแน่หรือเปล่า

มิ้น เยจีและแอนถูกยองแอสั่งให้หาที่หลบดีๆ อย่าเข้าปะทะก่อน พวกเธอถูกสั่งให้รอจังหวะ ทว่ามิ้นและแอนส่งข้อความลับหากันโดยไม่พูดออกไมค์

Mint : ทำยังไงดีแอน เราไม่มีแก็ดเจ็ตกับดักไว้สำหรับตั้งรับ หรือแม้แต่กำแพงเหล็กไว้ป้องกันการทะลวงบุกเข้ามา แย่แน่ๆ แบบนี้แย่แน่ๆ

แอนไม่โต้ตอบกลับไป เธอเข้าใจนิสัยของมินท์ดี เธอเป็นคนแตกตื่นง่าย แต่ฝีมือก็ใช่ว่าจะด้อย เพียงแค่วิตกง่ายเท่านั้น แอนหันไปมองดูพี่เยจีว่าทำอะไรอยู่ สีหน้าของพี่สาวดูไม่ค่อยดีนัก

ดูเหมือนว่าคิมยองแอจะตกเหยื่อได้ในที่สุด แอคเค้าท์สุดยอดสาวงามกลายเป็นเหยื่อ ยองแอย่องเงียบไปทางด้านหลังยิงด้วยปืนพกจนอีกฝ่ายร่วงลงไปคลาน เจ้าหล่อนรีบใช้สกิลinvestigate ทว่าใครจะคาดคิดอยู่ๆ ก็มีกระสุนสตั๊นยิงมาจากทิศทางไหนก็ไม่รู้มันทำให้เธอล่วงลงไปนอนตายโดยไม่รู้ตัว

“โอ้ๆ ๆ ๆ คนที่ฆ่าเธอคือmaddog01ครับ เหนือชั้นเหนือชั้นมาก”

จากสายตาของผู้ชมผู้บรรยายที่รู้แต่แรกแล้วก็คือการจับคู่ของตัวละครฝั่งAttackerสองตัวที่silverfox13กับmaddog01ใช้

ตัวหนึ่งเป็นตัวละครที่มีแก็ดเจ็ตส่องรอยเท้าของทุกคนได้ ส่วนตัวละครของmaddog01นอกจากมีกระสุนสตั๊นกับกระสุนระเบิดกำแพงที่ยิงออกไปได้สูงสุดอย่างละถึง4นัด เขายังสามารถยิงกระสุนสะท้อนไปมาตามมุมไปหาศัตรูได้อีก

ซึ่งจากสายตาของคนดูทั้งหมดsilverfox13กับmaddog01จับคู่ไล่ตามคิมยองแอมาแต่ต้น ใช้สุดยอดสามงามเป็นเหยื่อล่อ หลบมุมแล้วยิงกระสุนสะท้อนไปหาจากบนบันไดในจังหวะที่คิมยองแอกำลังจะใช้สกิลinvestigate

เยจีถึงกับเดาะลิ้นด้วยความหัวเสีย แถมตอนนี้มินท์ก็ถูกชานมไข่มุกเล่นงาน อีกฝ่ายพังกำแพงเข้ามาหามินท์กับแอนที่อยู่ร่วมกันยิงกราดด้วยกระสุนที่รุนแรงอันเป็นคุณสมบัติได้เปรียบของฝั่งAttackerตายตกไปติดๆ กันในพริบตา

เยจีเหลืออยู่ตัวคนเดียวแล้ว เธอปรายตามองไปยังยองแอ ดูเหมือนน้องสาวของหล่อนจะตกใจกับเหตุการณ์อันไม่คาดฝันจนนิ่งงันไป เหลือตัวคนเดียวแม่มไม่ใช่เรื่องตลก ยิ่งถูกมือดีสามคนรุมซ้ำเธอจะรอดชีวิตได้อย่างไร

เสียงเฮของฟังกองเชียร์maddog01ดังลั่น ทำเอาพวกนัมชินกร่อยไปถนัดตา คิมยองแอเองก็รู้สึกอับอาย เธอยังไม่เข้าใจว่าตัวเองแพ้ได้อย่างไร

“ยองแอออนนี่ อย่ายอมแพ้ นี่มันแค่รอบแรก”

“ใช่แล้วยองแอนูน่า ยังเหลืออีกสองตา ฮึดสู้สิ”

เสียงพวกนัมชินส่งแรงใจมาทำให้ความมั่นใจของหล่อนกลับมาอีกครั้ง

จริงด้วยนี่มันแค่รอบแรกเท่านั้น ยังเหลืออีกสองครั้ง จริงๆ ต่อให้เธอตาย คนที่เหลือมันก็ควรเอาชนะให้ได้สิ ยัยมินท์กับยัยแอนมัวทำอะไร ทำไมถึงโง่ปล่อยให้ตายง่ายๆ แล้วยังเยจีอีกไหนว่าเก่งนักไง ที่แท้ก็ไม่เท่าไหร่นี่

“ขณะที่ฉันวางแผนและทำเกมมาเป็นอย่างดี ฉันหรืออุตส่าห์ไว้ใจพวกเธอให้อุดรอยรั่ว แต่ดูสิพอฉันตายทุกคนก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือนคนไม่มีมือเท้า คราวนี้ช่วยทำตัวให้มีประโยชน์บ้างนะ”

ยองแอด่าเหมารวมโดยไม่มองหน้าลูกทีมเลย มิ้นท์ที่ค่อนข้างจิตใจอ่อนไหวแทบอยากร้องไห้ ในขณะที่แอนเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เธอหันไปหาเยจีถามด้วยสายตาว่าจะไม่ทำอะไรเลยหรือ

“ยองแอพวกเราจะทำตามแผนของเธอเป็นอย่างดี แต่ถ้าแพ้คราวนี้เธอจะมาโทษพวกเราไม่ได้อีกนะ”

“ก็ถ้าพวกพี่ทำตามแผนของฉันอย่างดีแล้วใช้สมอง ฉันจะแพ้แบบรอบแรกหรือ”

จังหวะนั้นแอนก็ส่งข้อความลับมาให้เยจีจากหน้าจอpcระหว่างเลือกตัวละคร

Ann : ฉันมาร่วมทีมนี้เพราะเทิดทูนพี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าชอบความเอาแต่ใจของน้องสาวพี่นะ

Ann : ถ้าคราวนี้เราต้องแพ้ ฉันจะขอถอนตัวจากทีม

Ann : แต่ถ้าพี่จะตั้งทีมโดยไม่มีน้องสาวของพี่ ฉันจะดีใจมาก และฉันจะเอามิ้นท์ออกจากทีมไปกับฉันด้วย

เยจีไม่ตอบแอนกลับไป เธอได้แต่ถอนหายใจ หายนะของยองแอมาเร็วกว่าที่คิด สำหรับเธอทั้งมิ้นท์ทั้งแอนเป็นผู้ร่วมทีมที่สำคัญมาก การจะหาคนที่เข้าใจเราทุกสถานการณ์มันยากจริงๆ หากต้องการอยู่ในวงการอาชีพต่อไป เธอก็เลือกมิ้นท์กับแอนมากกว่าน้องสาว

คงถึงเวลาต้องแยกย้ายกันเสียที



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                        ถ้าคนที่เล่นเกมมาเยอะจะรู้ทันทีเลยค่ะว่าเราเอาต้นแบบมาจากเกมไหน55555

                       รู้สึกแข่งเกมครั้งนี้เขียนยากมากๆๆๆๆๆๆ

                       มันจะอืดๆ ตันๆ แต่ดันเสร่ออยากเขียนไงคะ

                      ถ้าเจอช่องโหว่หรืออะไรแปลกๆ ติได้นะคะ แต่อย่าด่าเรา

                     สำหรับเรื่องในวงการเกมนี่ เราเซ็ตอัพเเปนในแบบของเราเองหมด

                     เพราะงั้นมันจะมีที่แบบไม่เหมือนของจริงๆ หลายอย่าง

                     เราก็ไม่ได้เชี่ยวในวงการขนาดนั้น 

                     แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 10-10-2018 16:28:59
เยี่ยมจ้าเจ้าริน ทีมนี้เขาของจริงไม่พูดมาก และดูท่าจะมีคนโดนขับออกจากทีม เอะๆๆ ลาออกจากทีมยัยออแอ มาตั้งทีมใหม่นิเน๊าะ วางแผนเอง เล่นเอง พอไม่ได้ดังใจก็ด่ากราดไหวป่ะเนี้ย สมควรโดนเขี่ยทิ้ง เหลืออีกทีมรอดูเลย
  :กอด1:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-10-2018 19:12:18
ของคุณที่เขียนให้อ่านน้าาา
เรื่องเกมนี่ไม่ถนัดดลยค่ะ555
แต่ชอบนะ สนุกๆๆ ขอบคุณมากๆค่ะ
รอดูคุณนั่งยองๆโดนเทค่าา
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 10-10-2018 19:32:40
เป็นคนไม่เล่นเกมส์แต่อินไปกับบรรยากาศตอนนี้มาก 5555
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-10-2018 19:56:17
วางแผนให้ตัวเองตายได้อย่างรวดเร็ว  :z3:
แถมไม่รู้ตัวว่าทำไมตาย   o22
แล้วยังไปพาลเพื่อนร่วมทีม นี่ทั้งเก่งทั้งฉลาดจริงหรือ   :really2: :really2: :really2:
เยจี แอน ตั้งทีมใหม่ไปเลย
มารองรับอารมณ์คนแบบนี้ทำไม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 10-10-2018 20:58:10
มั่นหน้าว่ะ :z6:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 11-10-2018 06:41:05
รอออ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่51 หายนะที่คืบคลานอย่างช้าๆ10/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 12-10-2018 12:42:37
อ่านทันแล้วววว สนุกมาก ชอบชอบ
ถึงไม่รู้เรื่องเกมส์แต่ก็นอ่านสนุก ตื่นเต้นดี
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 14-10-2018 11:55:10
บทที่52

คืนเงินมาสิ

ทำไมถึงเข้าวงการเกมนะหรือ คนทั่วไปและแฟนคลับรับทราบกันว่าคิมยองแอโลดเล่นอยู่ในวงการนี้เพราะหล่อนชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ คนคนนั้นคือเยจี

คิมยองแอเข้ามาโลดแล่นในวงการe-sportจากวันแรกจนถึงบัดนี้ก็หนึ่งปีแล้ว เหตุผลที่เธอมาเข้าวงการนี้เป็นเพราะภาริช เยจียังจำวันแรกที่น้องสาวของเธอพบกับภาริชได้ดี

มันเป็นวันที่เธอนัดคุยกับภาริชเรื่องงาน ช่วงเวลานั้นเธอเป็นนักกีฬาe-sportที่มีชื่อเสียงมานานแล้ว บริษัทของพี่ภาริชเองก็เช่นกันพวกเขาทั้งสองคนต่างไปได้ดีในวงการเกมที่นับวันเม็ดเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาลขึ้นทุกที

เรื่องที่ภาริชพบกับยองแอเป็นเรื่องบังเอิญ ช่วงนั้นยองแอพบว่ามีคนโรคจิตตามติดเธอตลอดเวลา ระหว่างที่รอตำรวจค้นหาตัวคนร้าย มันทำให้น้องสาวเกาะติดเธออย่างกับตุ๊กแก

แล้วยองแอก็ได้พบกับภาริช เป็นเรื่องปกติที่น้องสาวมักจะชอบของหรือผู้คนแบบเดียวกับเธอ รสนิยมพวกเธอตรงกันอย่างเหลือเชื่อ แล้วก็ไม่ผิดจากที่คิด ยองแอเดินหน้าหาภาริชอย่างหนักหน่วง แค่วันเดียวที่ได้พบหน้าหล่อนก็ส่งตัวเองไปหาภาริชถึงหน้าเตียง

เยจียังจำข้อความแรกที่ทำให้เธอตกใจได้เป็นอย่างดี ยองแอส่งข้อความมาหาเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นรูปอาหารเช้าของโรงแรม



ยองแอตัวน้อย : อาหารเช้าแรก



เยจีอยู่กับยองแอมาตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ เธอเข้าใจความคิดอ่านของน้องสาวดี เวลามีผู้ชายเข้ามาในชีวิตหล่อนมักชอบเอาช่วงเวลาของตัวเองมาโอ้อวดเสมอๆ



พี่ใหญ่ตระกูลคิม : เขาเป็นใคร



ยองแอตัวน้อย : ภาริชไงล่ะ ฮิฮิ



เยจีไม่แปลกใจเท่าไหร่ ตามนิสัยของยองแอถ้าไปบวกกับพี่ภาริชที่ไม่ปฏิเสธคนที่เข้าหามันก็แบบนี้ แต่ก็นะเขาคนนั้นก็เป็นประเภททิ้งไปอย่างง่ายดายหรือหากอีกฝ่ายตีจากไปก็ไม่ไล่ตาม

วันแรกๆ ยองแอดูมีความสุขที่ได้นอนกับพี่ภาริช เธอเอาแต่โอ้อวดเซ็กส์แสนวิเศษของเธอกับเขา ทว่าหลังจากนั้นเธอก็หงุดหงิดกระวนกระวายขึ้นทุกที เพราะว่าหลังจากนอนกันภาริชก็ไม่ติดต่อเธออีกเลย

ยองแอยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้และเริ่มต้นเรียกร้องความสนใจด้วยการเข้าวงการe-sportตามแบบอย่างเธอ เวลานั้นเพราะเธอสงสารน้องสาว ดังนั้นจึงทำทุกวิถีทางช่วยยองแอ ก็อย่างที่คนทั่วไปครหายองแอนั่นแหละ

ยองแอเป็นมือใหม่และไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเกมมากนัก อาจเพราะว่าเธอชนะมาตลอดจากการร่วมทีมกับพี่สาวอย่างเยจี การมีเยจีอยู่มันทำให้ต่อให้เธอเล่นได้ไม่ดีทีมก็ยังชนะ

เยจียังจำครั้งแรกที่ยองแอมาอ้อนวอนขอให้ช่วยได้ สมัยแรกๆ หล่อนว่าง่ายและทำตามพี่สาวอย่างเธอตลอด แต่พอมีชื่อเสียงโด่งดังเฉียบพลันเพราะหน้าตาและบุคลิกอันดึงดูด ตามติดด้วยพี่ภาริชติดต่อกลับมาหาต้องการให้ยองแอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ความมั่นใจของเธอก็กลับมาอีกครั้ง

ผลจากความพยายามช่วยของเยจีและผลจากการรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับพี่ภาริช มันส่งให้เธอทะยานไปสู่แถวหน้าของวงการ ท่ามกลางคำครหายองแอไม่รู้ไม่สนแถมพร้อมปะทะคนที่มาขวางทุกคน

ถ้าพูดกันตามตรงฝีมือเล่นเกมยองแอยังเป็นลูกเจี๊ยบที่ต้องให้พี่สาวอย่างเธอคอยช่วยผลักดันเสมอๆ เกมอื่นๆ ยังพอไปวัดวาได้ แต่เกม last battleยองแอเพิ่งเริ่มฝึกเล่นได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น

เหตุผลที่เธอมาลงแข่งเกมเพราะต้องการคืนดีกับภาริช ความมั่นหน้าที่คิดว่าตัวเองแน่นี่มาจากไหน อย่างแรกก็เพราะยองแอขึ้นไปอยู่แถวหน้าของวงการในฐานะซูเปอร์รุกกี้ อย่างที่สองเพราะคำเยินยอของพวกนัมชิน และอย่างที่สามเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น้องสาวของเธอดึงดันเอาชนะโดยปราศจากการควบคุมของเธอ

มันมาจากคำพูดยั่วยุของmaddog01รวมไปถึงแรงกระตุ้นที่อยากแย่งชิงพี่ภาริชคืนมา ผลของเกมแข่งครั้งที่สองนี้เธอรู้จุดจบดี มิ้นเล่นเกมได้ไม่ดีเท่าปกติเพราะเธอเกร็งและไม่เข้าใจแผนการของยองแอ แอนไม่มีใจจะแข่งอีกแล้วเธออยากไปให้พ้นจากการแข่งบ้าๆ นี่ และตัวเธอเองที่ตั้งใจทำตามแผนการอ่อนหัดของน้องสาวอย่างจริงจัง

ผลมันก็ออกมาแล้ว ความพ่ายแพ้ก็มาเยือน แถมmaddog01ยังสอนการเล่นตัวละคร Silent walkให้ยองแอเห็นกับตาว่าต้องใช้ยังไง ยองแอตายเป็นคนแรกอีกแล้วเธอตกหลุมพรางของพวกmaddog01เข้าเต็มเปา จากนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามทุกอย่างมันเร็วมากเห็นได้ชัดว่าทีมเวิร์คของฝั่งนั้นดีมากแค่ไหน

ทีมยอชินพ่ายแพ้อีกครั้งอย่างหมดท่าและน่าอับอาย



นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

ยองแอตัวสั่นระริกเธอกำเม้าท์เอาไว้แน่นไม่ยอมลุกไปไหน มิ้นท์เห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปเตือนสติผลที่ได้กลับเป็นทำคุณบูชาโทษ

“อย่ามาแตะนะ” ยองแอปัดมือมิ้นท์และผลักออก สาวน้อยเกือบหงายหลังถ้าหากแอนไม่เอาตัวเข้ามารับ เหตุการณ์นี้ตกอยู่ในสายตาคนทั่วทั้งฮอลล์

“เธอนี่มันบ้ามากๆ และไม่สำนึกอะไรเลย” แอนพูดด้วยเสียงเยียบเย็น ถึงกับทำร้ายร่างกายคนในทีมเธอรับไม่ไหวจริงๆ

“ฉันกับมิ้นท์ขอลาออกจากทีมยอชิน” แอนถอดเสื้อทีมปาใส่หน้ายองแอ ตามด้วยถอดเสื้อที่เธอบังคับถอดออกจากตัวมิ้นท์แล้วนำมาใส่อัดหน้าเป็นหนที่สอง

“แก...กล้าดียังไงเอาเสื้อสกปรกโยนใส่หน้าฉันหา...” ยองแอปัดเสื้ออกจากหน้าก่อนจะทำท่าทางไม่ยี่หร่ะ

“อยากไปไหนก็ไป คนอย่างแกคิดว่าไปรอดก็เอา”

แอนดันตัวมิ้นให้เดินไปตามทางไม่ได้สนใจคำพูดร้ายๆ ของยองแอแต่อย่างใด

นี่หล่อนไม่หันกลับมาง้อหรือมีท่าทีหวาดกลัวอะไรเลยงั้นหรือ นี่เอาจริง แค่อยู่ๆ มากระด้างกระเดื่องก็สร้างความงงให้มากพอแล้ว แถมนี่มันไม่ได้เป็นการล้อเล่น คิมยองแอพยายามเก็บอาการวิตกกังวลเอาไว้

ยองแอคุยกับพี่สาวของเธอ อุตส่าห์หันไปยืนทำท่าสวยๆ อวดความมั่นใจออกคำสั่งกับเยจีเหมือนทุกที

“สงสัยว่าพี่คงต้องหาเพื่อนร่วมทีมใหม่แล้วล่ะ”

“อืม...ฉันตั้งใจจะตั้งทีมใหม่”

“เอ๊ะ” คิมยองแอไม่เข้าใจว่าเยจีเกิดบ้าอะไรขึ้นมา เธอพูดสิ่งที่คิดในใจ

“พี่บ้าหรือเปล่าทีมยอชินในตอนนี้พาวเวอร์ฟูลแค่ไหน ทั้งแฟนคลับสปอนเซอร์ พี่จะให้ฉันยุบทีมไปตั้งทีมใหม่ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ”

“ทีมยอชินฉันยกให้เธอยองแอ”

กล่าวจบเยจีก็เดินลงจากเวทีแข่งไปไม่หันมามองหรืออธิบายอะไร ยองแองง เธองงไปหมดแล้ว

“ดะ...เดี๋ยวสิพี่ พี่เยจีกลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน”

ยองแอไล่ตามพี่สาวออกไปด้านนอก ไล่ตามจนทันก็คว้ามือของเยจีให้หยุดคุย

“พี่เป็นบ้าอะไรแน่”

“เปล่าแค่คิดว่าอยากสยายปีกบินด้วยตัวเอง ฉันว่าฉันพึ่งพาภาพลักษณ์ของเธอมากเกินไป”

เยจีหมายความตามนั้นจริงๆ ภาพลักษณ์หรูหราของยองแอมีส่วนช่วยโปรโหมตเรียกสปอนเซอร์ให้เข้ามาได้มากมาย อย่างน้อยน้องสาวคนนี้ก็ยังมีประโยชน์ ทว่าคำพูดนี้ทำให้ยองแอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“อีกอย่างสไตล์การเล่นเราไม่เหมือนกัน ฉันเองก็มีความทะเยอทะยาน”

“พี่จะบอกว่าอยากเป็นหัวหน้าทีมในทีมใหม่ของตัวเองหรือไง” ยองแอกัดฟันกรอด

“โถ่ที่แท้ก็อยากแข่งกับฉัน ฉันน่าจะรู้ว่าพี่เก็บกด คงเจ็บใจที่แพ้ฉันไปทุกเรื่องสินะ ก็ลองดู อยากตั้งทีมใหม่ก็เชิญยังไงพี่ก็ไม่รอดหรอกถ้าปราศจากฉัน”

กล่าวจบยองแอก็สะบัดก้นเดินหนี เธอกลัวสับสนและไม่อาจทนอยู่ที่นี่ได้อีก เธอพ่ายแพ้ให้เจ้าmaddog01อย่างน่าอับอายไม่พอยังมาถูกเขี่ยทิ้งจากทั้งเพื่อนร่วมทีมและพี่สาว ตั้งแต่เกิดจนถึงป่านนี้ไม่เคยมีวิกฤติใดในชีวิตที่สั่นคลอนเธอเท่านี้มาก่อน

ใช่ว่าการแข่งเมื่อครู่นี้จะไม่ได้อะไร ยองแอเริ่มตระหนักถึงฝีมืออันน่ากลัวของmaddogและความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง การแข่งในแมพสุดท้ายอีกฝ่ายเล่นเหมือนตั้งใจสอนเด็กตัวเล็กๆ มากกว่าจะขยี้คู่แข่งด้วยซ้ำไป

เจ้าหมอนั่นกำลังบอกเธอว่าตัวละครที่เธอใช้ก่อนหน้านั้นที่จริงแล้วมันควรใช้อย่างไร

เจ็บใจ

คิมยองแอร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ไม่เคยมีใครทำให้เธอเสียหน้าอย่างนี้มาก่อน แถมเธอยังมาถูกเพื่อนและพี่สาวสลัดทิ้ง เธอไม่มั่นใจว่าจะฟอร์มทีมที่ดีเท่าเดิมได้อย่างไร

เวลานี้เธอเหมือนลูกนกที่ถูกถีบตกจากรัง มันแย่มากแย่มากจริงๆ จังหวะนั้นเมื่อเธอเดินไปถึงรถซูเปอร์คาร์คันหรูของเธอก็พบว่าภาริชยืนรออยู่ตรงนั้น

เขามาหาเธอ มาปลอบใจหรือ ยองแอรีบเดินเข้าไปหาภาริชแผดเสียงร้องไห้ปานขาดใจ

“คุณ...คุณมาหาฉันแล้ว ฉันดีใจจริงๆ”

ทว่าสิ่งที่ภาริชทำคือยื่นแหวนสำหรับผู้ชายวงหนึ่งคืนมาให้ เธอจำมันได้ดีมันเป็นแหวนสั่งทำที่เธอมอบให้เป็นของแทนใจกับภาริช

“ค..คืนมาทำไม”

“ฉันไม่ชอบเก็บของของผู้หญิงในอดีตเอาไว้กับตัว เดี๋ยวใครเขาจะเข้าใจผิด”

ภาริชยิ้มหวาน เหมือนทุกครั้งผู้ชายคนนี้มักจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอๆ

“แล้วก็ขอบคุณนะสำหรับความวุ่นวายที่เธอสร้างในวันนี้”

“อ...อะไร อย่าบอกนะว่าคุณโกรธเรื่องนี้” ยองแอยืนตัวสั่นเทาเพราะไม่เคยเห็นแววตาและรอยยิ้มชั่วร้ายของภาริชมาก่อน แถมจู่ๆ อีกฝ่ายก็หัวเราะด้วยท่าทางมีความสุขและสะใจ

“มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง นี่มันเป็นการโฆษนาที่ดีสุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรือ”

เสียงหัวเราะของภาริชดูชั่วร้ายเสียเหลือเกิน

“ดูผลลัพธ์ที่เธอทำสิ การท้าดวลของเธอกับนรินทร์ทำให้สื่อต่างๆ พากันลงมาเล่นข่าวโดยที่ฉันไม่ต้องเสียเงินโปรโหมตเพิ่มซักนิด แถมโปรโมชั่นที่ฉันประกาศออกไป มันทำให้มีผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว จะลงทะเบียนรับของฟรีมันก็ต้องมีแอคเค้าท์ในเกมเธอไม่น่าโง่นี่”

“...ง...งั้นคุณก็ต้องขอบคุณฉันสิ”

“ใช่ต้องขอบคุณ” ภาริชแสยะยิ้มชั่วร้ายเสียเหลือเกินคิมยองแอรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่รู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังขอบคุณซักนิด

“รับของของเธอคืนไปสิ” ภาริชสั่ง ไม่รู้ทำไมเธอถึงรับมาด้วยมือสั่นเทา อาจเป็นเพราะว่าเธอตกใจกับรอยยิ้มและท่าทางน่ากลัวของภาริช

“คุณจะเขี่ยฉันทิ้งหรือไง”

“เธอก็ทำแบบนั้นนี่”

เขาคงหมายถึงเรื่องที่เธอแอบไปคบกับมาร์ค

“คุณจะไม่ให้ฉันได้มีสิทธิเลือกหรือไง ฉันว่าคุณน่าจะเป็นคนแฟร์ๆ กว่านี้ อีกอย่างตอนนี้ฉันเลือกคุณแล้ว คุณดีที่สุดไม่เหมือนคนอื่น”

ยองแอโผเข้าหาจะกอดภาริชแต่ถูกภาริชผลักออกเบาๆ แข้งขาที่อ่อนอยู่แล้วเพราะความกลัวสับสนทำให้เธอล้มก้นจ้ำเบ้า

“ไม่มีใครจริงจังกับดอกไม้ที่ซื้อมาดูเล่นชั่วครั้งชั่วคราวหรอกนะ”

ยองแอกัดฟันกรอด เธอไม่ยอมให้มันจบลงง่ายๆ อย่างนี้แน่ เธอใช้สายตาเคียดแค้นมองดูภาริช เธอจะจองล้างจองผลาญให้ถึงที่สุด

แต่ในวินาทีถัดมาเธอถึงค่อยรู้ตัวว่าทำผิดพลาดไปอย่างร้ายกาจ ใบหน้าคนตรงหน้ายังคงมีรอยยิ้มแต่สายตาว่างเปล่าที่มองลงมานั้นเย็นชาราวกับกำลังมองเศษขยะที่น่ารังเกียจ

“ยองแอที่รัก ยังจำสัญญากู้ที่เราทำกันไว้ได้ไหม”

“อ๊ะ” ยองแอร้องเสียงหลง เธอลืมเรื่องนั้นไปแล้ว เงินกู้อันนั้นเธอทำเมื่อครั้งสมัยอยากได้รถซูเปอร์คาร์คันที่เธอขับอยู่ปัจจุบันนี้ เธออยากให้ภาริชซื้อให้แต่อยากทำตัวให้ดูดีหน่อย

เลยปฏิเสธของฟรีจากภาริชแล้วเสนอสัญญากู้ยืมที่สมน้ำสมเนื้อ มีการร่างเอกสารต่อหน้าทนายอย่างชัดเจน ทว่าหลังจากภาริชปรนเปรอเธออย่างดีทุกอย่าง เธอก็ลืมเรื่องนั้นไปสนิท ภาริชไม่เคยทวงเงินหรือพูดเรื่องนั้นอีก

และเธอคิดว่าเขาคงรักเธอเข้าเต็มหัวใจแล้วอย่างแน่นอน มั่นใจว่ายังไงภาริชก็คงฉีกทำลายสัญญานั้นไปแล้ว

“นี่ก็หนึ่งปีแล้ว รถราคา50ล้านคันนี้ เธอกู้ยืมฉันไปซื้อด้วยดอกเบี้ยจำนวน3เปอร์เซ็น แต่ก็ไม่ได้ผ่อนจ่ายมาเลยนี่นะ”

ภาริชยิ้มหวานเหมือนนางฟ้า

“รีบๆ หาคืนมาให้ฉันดีกว่า อย่าให้ต้องถึงกับต้องจ้างทนายฟ้องเรียกร้องเอาเลย”

“ฉ...ฉันจะหาจากไหน”

ภาริชไม่ตอบเขาทิ้งเธอไว้ที่ตรงนั้นอย่างเดียวดาย

ในความเป็นจริงคิมยองแอไม่ได้รวยอะไร บ้านของเธอมาจากชนชั้นกลาง การที่เยจีพี่สาวของเธอได้ไปเรียนเมืองนอกก็มาจากความสามารถของเจ้าตัวเองทั้งนั้น หากพ่อแม่หรือแฟนคลับของเธอรู้ว่าเธอมีปัญหาเรื่องนี้ภาพลักษณ์เด็กดีของเธอต้องด่างพล้อยแน่

เธอต้องหาเงินคืน ต้องหาเงินมาคืนภาริชให้ได้ แต่ว่าจะหามาด้วยวิธีไหน แวบหนึ่งเธอคิดถึงเสี่ยแก่ๆ หน้าตาไม่ดีที่มาตามจีบทั้งเสนอเงินให้เธอมากมาย ก็แค่ยอมเป็นเมียเก็บของเขา

แน่ล่ะเธอต้องปฏิเสธสิ หมอนั่นมันอัปลักษณ์แถมยังมีเมียแล้ว นางฟ้าอย่างเธอไม่มีทางยอมลดตัวไปเกลือกกลั้วด้วยหรอก แต่ว่าถ้าให้คำนวนดอกเบี้ยจากเงินต้น50ล้านตลอดหนึ่งปี เธอก็รู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับกำลังจมดิ่งลงสู่ทะเลลึก



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ไปเที่ยวบ่อน้ำร้อนมา555แถวๆ สวนผึ้ง เอไปเองจำไม่แม่นน่าจะราชบุรีนะ555ไปมาสามวันเลยอิอิ

แช่น้ำร้อนนี่ฟินมาก อยากไปออนเซนของแท้ที่ญี่ปุ่นจังเลยน้า

อืมใกล้จะได้แข่งกับเมษาและเศียรมังกรแล้วงานยากอีกแล้วววว

อ่อยTTจะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะ กรุณาอย่าด่าเรานะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 14-10-2018 13:45:50
มั่นหน้า มั่นตัวเองเกิ๊นเป็นไงสุดท้ายไม่เหลือใคร แถมโดนทวงหนี้อีก สุดยอดเลยค่ะท่านภาริช
 :L1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 14-10-2018 16:04:27
รอไฟนอลแมทช์นะค้าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-10-2018 17:13:56
มั่นในความเป็นผู้นำ เป็นคนเก่ง เป็นคนสวย ใครๆก็ยอมรับ
โดยไม่มองตัวเองเลย ว่าไม่จริงสักนิด  :เฮ้อ: :really2: :serius2: :serius2:
นางฟ้า(ไม่จริง)ทำตัวเองตกสวรรค์    :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 14-10-2018 18:34:11
สมน้ำมะหน้าจัดหนักไปภาริส
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 14-10-2018 22:32:57
จะว่าพี่ภาริชร้ายก็ต้องบอกว่าร้าย
แต่ยองแอก็ทำตัวเองนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 15-10-2018 18:03:29
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่52 คืนเงินมาสิ 14/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 16-10-2018 23:51:45
จมไม่ลง ก็ตะกายไม่ขึ้นเลย
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 17-10-2018 12:04:59
บทที่53

ความชั่วช้าที่ทำไปเพื่อเมษา

ขณะเดียวกันในเวลาที่ทีมของคิมยองแอแข่งกับทีมของนรินทร์ ทีมdoghunter00ของเมษาก็กำลังแข่งขันไปพร้อมกัน

ทีมเวิร์คของทุกคนไหลลื่นไปด้วยดี แม้แต่เด็กสาวที่ไม่เคยเป็นมืออาชีพมาก่อนอย่างอิงฟ้าก็สามารถปฏิบัติตามแผนของกลุ่มได้อย่างดีเยี่ยม เมษารู้สึกโล่งใจกับความเป็นงานของทุกคนถ้าไม่ติดว่าเฉินเล่อแม่มวางแผนให้เขาเป็นตัวล่อโดยไม่บอกกล่าว ส่งผลให้ตัวละครของเขาจบชีวิตลงเป็นตัวแรกถึงสองแมพที่แข่งขันในคราวนี้

รอบแรกยังไม่เท่าไหร่เขายังนิ่งเฉยและระวังตัวมากขึ้น แต่พอเป็นรอบที่สองที่ถูกใช้ให้เป็นเบี้ยทิ้ง เมษาก็เลือดขึ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าการกระทำโดยพละการของเฉิ่นเล่อจะทำให้ทีมชนะ แต่เมษาหัวเสียอย่างหนัก

หลังจากลงเวที เมษาเดินอาดๆ ไปหาเฉิ่นเล่อ “ขอพูดอะไรด้วยหน่อยได้ไหม”

ดังนั้นเมษากับเฉินเล่อจึงปลีกตัวออกมาที่ด้านนอกและแล้วการโต้เถียงก็เปิดฉากขึ้น สายหมอกกับอิงฟ้าเองก็อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน

“ทำแบบนี้หมายความว่าไง”

เฉินเล่อทำหน้าเหรอหรา เอาจริงๆ แสร้งทำ ใช่ว่าไม่รู้ความหมายที่เมษาเป็นคนพูด

“อย่ามาตอแหล นายเข้าใจที่ฉันถามดีอยู่แล้ว” เมษาจ้องมองเฉินเล่อด้วยดวงตาแข็งกร้าว อีกฝ่ายส่งยิ้มเยาะมาให้

“แกนี่มันเข้าใจยากนะ ทีมชนะก็ดีแล้วนี่ จริงมะ อากิระ อิงฟ้า”

เฉินเล่อขอความเห็นจากเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน สายหมอกนั้นทำเพียงแค่ยิ้มๆ ส่วนอิงฟ้าแม้จะเห็นด้วยกับเฉินเล่อแต่ยังไม่กล้าสนับสนุน สำหรับเธอการใช้เพื่อนเป็นนกต่อถือว่าปกติธรรมดามาก กระนั้นก็เข้าใจความรู้สึกของเมษาดี คนคนนี้เคยชี้เป็นชี้ตายกุมอำนาจในกลุ่มมาโดยตลอด เมื่อถูกใช้เป็นเบี้ยทิ้งในการแข่งขันอย่างเป็นทางการขนาดนี้คงยังทำใจรับไม่ได้

“เห็นมะ ไม่มีใครคัดค้าน ไม่มีใครเข้าข้างแกนาเว้ยเมษา อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงน่า ดูอิงฟ้าสิ เธอยังสมชายมากกว่านายเลยนะ”

“นายพูดเกินไปแล้วนะเล่อ” สายหมอกปรามเพื่อนสนิทของตัวเอง ทว่าเมษาที่โกรธจัดเตะถังขยะดังโครมแล้วเดินกระแทกเท้าหนักๆ ปลีกตัวออกไป

“เฮ้ย...จะไปไหน”

เฉินเล่อตะโกนถาม “นี่มันใกล้จะแข่งรอบต่อไปแล้ว แม่มอย่ามาทำให้เสียงานดีกว่าน่า”

“ฉันตามไปดูเอง” สายหมอกบอกกับทุกคน เขาค่อยๆ เดินตามหลังของเมษาไป เห็นทีว่าต้องพูดกันให้รู้เรื่องซักหน่อย



ต้นกล้าไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงมาที่งานแข่งเกมครั้งนี้ เหตุผลที่มาเยือนนั้นสับสนปนเปไม่หมด เขามาเพราะอยากเอาใจช่วยเมษา แต่อีกใจหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะคนชวนคือสายหมอก

สภาพการแข่งขันในงานช่างดูวุ่นวาย เหตุการณ์ที่คิมยองแอหาเรื่องแกล้งmaddog01ต้นกล้าก็อยู่ในเหตุการณ์ เขาเคยเกลียดนรินทร์จนเข้าใส่ ทว่าไม่รู้ทำไมในตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันไม่รุนแรงอีกต่อไปแล้วมันอันตรธานหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่

ภายในใจของต้นกล้ามีผู้ชายอยู่สองคน คนคนนั้นคือเมษาคนที่เขารักมาตลอดนับแต่สมัยเด็ก อีกคนคือสายหมอกผู้ชายที่ดีและเอาใจใส่เขาและอยู่เคียงข้างในเวลาที่ไม่มีใครหลายต่อหลายครั้ง

ต้นกล้าไม่ได้สนใจการแข่งขันของนรินทร์เลยซักนิด เขาเอาแต่เฝ้ามองดูเมษาด้วยความเป็นห่วง เหมือนว่าการแข่งในแต่ละแมพเมษาทำได้ไม่ดี ยิ่งเขาพ่ายแพ้และแสดงสีหน้าผิดหวัง ต้นกล้าก็รู้สึกเจ็บปวดแทนจนอยากเข้าไปปลอบ

ดังนั้นจึงแอบตามกลุ่มของเมษาไปติดๆ และพบว่าเมษาทะเลาะกับเพื่อนในทีมแล้วแยกตัวออกมา ด้วยความคิดชั่ววูบต้นกล้าก็แค่อยากปลอบใจคนที่เขายังรักอยู่ก็เท่านั้นเอง

“เมษา” ต้นกล้าเข้าไปขวางทางเดินของเมษา อีกฝ่ายพอเห็นเขาก็แสดงสีหน้าไม่พอใจทันที

แม้ว่าจะกลัวและรู้สึกแย่ต่อสายตาที่มองมาเหมือนมองพวกสิ่งไร้ค่า ทว่าเพราะความยึดติดมันทำให้ต้นกล้ามีความกล้าเผชิญหน้ากับเมษา

“ป...เป็นยังไงบ้าง” ต้นกล้าถามเสียงสั่น เขาควบคุมความกลัวความตื่นเต้นไม่ได้

“นายมาทำไมที่นี่ ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าโผล่หน้ามาให้เห็นอีก”

“ฉ...ฉันแค่อยากมาเชียร์ มาเอาใจช่วย”

“งั้นก็ไม่ต้องโผล่หน้ามาก็ได้นี่ เห็นหน้านายแล้วมันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด”

“เห็นนายทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีม ก็เลยอยากมาคุยด้วยเท่านั้น” ต้นกล้าไหล่ตก เขาหลบตาเมษา เพราะว่าไม่กล้าสู้แววตา ที่ยิ่งทียิ่งเต็มไปด้วยความเดือดดาล

“จะบอกว่าอยากจะช่วยปลอบฉันงั้นรึ ปลอบฉันที่ถูกเฉินเล่อมันแว้งกัดน่ะนะ”

“อืม” ต้นกล้าตอบทั้งที่ก้มหน้าลงต่ำ โดยไม่ทันตั้งตัวเมษาเดินเข้ามาประชิดเฉยคางเขาให้เงยหน้าขึ้น

“ถ้าอยากช่วยก็ควรทำอะไรให้เป็นประโยชน์กว่านี้ คิดสิคิด” เมษาตะคอกเสียงดัง

“คนไม่มีประโยชน์อย่างนายมันก็น่าจะทำอะไรได้บ้าง อยากให้ฉันอารมณ์ดี หรือมีความสุข ก็ลงมือทำอะไรซักอย่างที่มันจะช่วยฉันได้บ้าง อะไรก็ได้ที่มันจะทำให้ฉันชนะการแข่งกับนรินทร์ ถ้าทำไมได้ก็ไสหัวไปให้พ้นทาง อย่าสะเออะมาให้เห็นรกหูรกตาอีก”

กล่าวจบเมษาก็สะบัดตัวหนีไปอีกทาง เขาไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดสายหมอกยืนดูโดยตลอด

“อ้าวมาอยู่ตรงนี้เอง” สายหมอกยิ้มน้อยๆ เขาทำทีว่าเจอเมษาโดยบังเอิญ

“พี่หมอกมาตามผมหรือ ไม่ต้องห่วงผมจะกลับเข้างานแล้ว”

“มีเรื่องจะพูดด้วยหน่อย” สายหมอกพูดด้วยเสียงเยียบเย็น เป็นโทนเสียงเย็นชาที่เมษาได้ยินเป็นครั้งแรก

ซึ่งในจังหวะที่สายหมอกพูดประโยคนี้กับเมษาเขาชำเลืองมองดูต้นกล้าจากมุมกระจกอีกฝาก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความลังเลผสมกับความเศร้าของคนที่เขาชอบดูแล้วช่างน่าสงสาร แต่อันที่จริงแล้วเขากำลังเดือดจัด

สีหน้าแบบนั้นมันควรจะเป็นของเขาเพียงคนเดียว เขาอยากจะเฉือนเนื้อของเจ้าเมษาออกทีละชิ้นๆ นัก ท่าทางเหม่อลอยด้วยแววตาที่ปราศจากอารมณ์ของต้นกล้ามันยิ่งตอกย้ำตัวตนของเมษาว่าไอ้หมอนี่มันอยู่เหนือกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รู้สึกว่าแค่ถูกพี่ภาริชเทคโอเวอร์บริษัทไปมันยังไม่สาสมด้วยซ้ำ

“นายพอจะรู้เรื่องระหว่างพี่กับmaddog01ใช่ไหม”

“พี่คงหมายถึงฉายาราชาไร้มงกุฎของนรินทร์”

เมษาย่อมต้องรู้ดีอยู่แล้ว เพราะอย่างนี้แหละเขาถึงเข้าหารุ่นพี่สายหมอกเอาเขามาเป็นพวกของตัวเอง ตามตื้ออย่างหนักไม่ลดละเป็นระยะเวลานาน

“นายรู้ใช่ไหมว่าการแข่งครั้งนี้สำคัญกับพี่มาก”

เมษาสะดุ้งตกใจกับแววตาของสายหมอก ดวงตาคู่นั้นมันช่างสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลให้เขา แต่ยังพอทำใจดีสู้เสือได้

“การแข่งขันคราวนี้ก็สำคัญกับผมเช่นกัน เพราะผมพนันกับพวกนรินทร์เอาไว้ มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของผม”

สายหมอกมองด้วยหางตาและเห็นว่าต้นกล้ากำลังแอบฟังอยู่ ใบหน้าที่อ่อนแอและสับสนช่างน่ารักน่าทะนุถนอมเกินห้ามใจ แต่สีหน้านี้มันไม่ได้เกิดจากตัวเขา

“ถ้าอย่างนั้นขอให้ฟังพี่เอาไว้นะ เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะ อยากให้ลืมเรื่องบาดหมางส่วนตัวกับเฉินเล่อไปซะ”

“เข้าใจแล้วครับ” เมษาสูดลมหายใจอัดเข้าปอด จริงอย่างที่พี่สายหมอกพูด เขาไม่ควรงี่เง่าให้เสียการเสียงาน ดังนั้นจึงเดินนำกลับเข้าไปในตัวงานอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าพี่สายหมอกใช้สายตามองไล่หลังต้นกล้าที่หมุนตัวเดินกลับไปอีกทาง



‘ถ้าอยากช่วยก็ควรทำอะไรให้เป็นประโยชน์กว่านี้ คิดสิ’

‘คนไม่มีประโยชน์อย่างนายมันก็น่าจะทำอะไรได้บ้าง อยากให้ฉันอารมณ์ดี หรือมีความสุข ก็ลงมือทำอะไรซักอย่างที่มันจะช่วยฉันได้บ้าง อะไรก็ได้ที่มันจะทำให้ฉันชนะการแข่งกับนรินทร์ ถ้าทำไมได้ก็ไสหัวไปให้พ้นทาง อย่าสะเออะมาให้เห็นรกหูรกตาอีก’

‘การแข่งขันคราวนี้ก็สำคัญกับผมเช่นกัน เพราะผมพนันกับพวกนรินทร์เอาไว้ มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของผม’

คำพูดของเมษาวนเวียนอยู่ในหัวของต้นกล้า

ต้นกล้าเดินเหม่อลอยไปตามทางอย่างคนไร้วิญญาณ เขาไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ แต่ทันทีที่นรินทร์เดินผ่านหน้าไปโดยบังเอิญ ร่างกายมันก็ไล่ตามไปโดยอัตโนมัติ

ทำอะไรซักอย่างให้ชนะ

เมษาบอกเขาอย่างนั้น แล้วเขาควรทำอะไร สมองที่สับสนและไม่ชัดเจนสั่งการให้กระทำอย่างขาดสติ ต้นกล้าเดินตามหลังนรินทร์ไปอย่างช้าๆ ตามความรู้สึกอันไร้เหตุผลที่มาจากก้นบึ้งอันดำมืด

นรินทร์เดินพล่านไปทั่วก่อนจะไปจบที่ห้องน้ำในบริเวณลึกลับที่ผู้คนไม่สนใจ ต้นกล้ารอให้นรินทร์เข้าห้องน้ำไป ต้นกล้ารู้ว่ามันผิด ถึงแม้จะไม่ได้แค้นเคืองนรินทร์หรืออิจฉาอะไรอีกต่อไป ทว่ามีเพียงคำพูดของเมษาวนเวียนหลอกหลอนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดังนั้นจึงลงมือขังนรินทร์ในห้องน้ำ ล็อคทั้งหน้าห้องน้ำเล็กและประตูใหญ่ ก่อนจะเอาป้ายห้ามเข้ามาวางไว้ตรงต้นทาง ซึ่งมันทำให้ไม่มีใครรู้ว่านรินทร์ติดอยู่ในนั้น แน่ล่ะระยะทางกว่าจะเดินไปถึงห้องน้ำแห่งนี้มันลึกค่อนข้างมาก น่ากลัวว่าคงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของนรินทร์แน่ๆ

ต้นกล้ารู้ว่าตัวเองทำเรื่องโง่ๆ เขากอดตัวเองด้วยร่างกายที่สั่นเทาราวกับลูกนก แต่คิดไม่ออกแล้วจริงๆ ว่าควรทำอย่างไรแล้วลงมือทำไปแบบนั้นทำไม แวบหนึ่งเขาเห็นภาพใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของสายหมอกปรากฏในความคิดออย่างชัดเจน

อยากเจอคนคนนั้นอยากเจอพี่สายหมอก

ต้นกล้าไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนเองตกอยู่ในการจับตามองของสายหมอก เขาให้เมษากลับเข้างานไปก่อนแล้วเดินตามต้นกล้ามาติดๆ

ใครจะคิดเล่าว่าต้นกล้าจะรักเมษาถึงกลับยอมทำเรื่องสกปรกยิ่งกว่าการรังแกในโรงเรียน เพื่อให้หมอนั่นมันชนะได้ทุกอย่างดั่งหวัง นายยอมเป็นคนเลวถึงขนาดนี้เชียวหรือ เพื่อมัน เพื่อผู้ชายที่มีค่าไม่ต่างจากสวะตัวหนึ่ง

นายกำลังทำให้พี่เจ็บปวด ทั้งยังริษยาจนแทบทนไม่ไหว ทำไมนะ ทำไมความรักของพี่ถึงไม่สื่อถึงนายเลย นายต้องให้พี่พยายามมากแค่ไหนกัน

คิดถึงตรงนี้สายหมอกก็เหยียดยิ้มขมขื่น มันทำให้ยิ่งรู้ตัวว่าตนเองจริงจังกับต้นกล้ามากมายถึงเพียงนี้

จะว่าไปนี่มันก็เกินเวลาพักมาแล้วด้วย ให้เขาลงมือช่วยmaddog01ทันทีมันก็ได้อยู่ แต่ว่าเขามีแผนการสำหรับต้นกล้าเอาไว้แล้ว คราวนี้เชื่อว่าทุกอย่างมันจะอยู่ในกำมือของเขาโดยสมบูรณ์

สายหมอกหยิบมือถือต่อสายหาภาริช

<” ว่าไง” > ภาริชกรอกเสียงมาตามสาย ฝ่ายนั้นท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ

<” พี่ภาริชอยู่ที่ไหนครับ” >

<” หึ พึ่งทำเรื่องสนุกๆ จบลงไป” >

ภาริชหมายถึงการเขี่ยคิมยองแอไปให้พ้นจากทางเดินของเขา

” ผมมีเรื่องขอร้อง และอยากให้พี่ช่วยเมตตาเอ็นดูซักหน่อย”

<” ว่ามาเลย” >

หลังจากสายหมอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับนรินทร์และต้นกล้ารวมถึงเรื่องที่อยากให้ช่วยจนจบ เขาก็เดินกลับไปในงานอีกครั้ง จังหวะที่กลับเข้างานดันเดินชนคนกลุ่มหนึ่งมันทำให้มือถือส่วนตัวของเขาตกพื้นและพังไปในทันที

ช่วยไม่ได้สงสัยว่าต้องใช้มือถือและเบอร์สำรองไปก่อน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักเพราะอย่างนั้นสายหมอกจึงไม่ค่อยยี่หร่ะ ถึงแม้ว่าเบอร์อันใหม่นี้เขาจะไม่ได้บันทึกชื่อของต้นกล้าเอาไว้ และไม่ได้ใช้ติดต่อใครเลยนอกจากญาติๆ กับพี่ภาริช

“หลังจากที่นายพังจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว ฉันจะลักพาตัวนายไปซ่อนในที่ซึ่งอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักเอง”

สายหมอกพึมพำเบาๆ เขายกโค้งมุมปากขึ้น แทบรอให้ถึงตอนนั้นไม่ไหว บุคคลที่เขาจะเอาไปซ่อนในที่ลับคนนั้นย่อมไม่ใช่ใครอื่น เขาหมายถึงต้นกล้านั่นแหละ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

55555 มาแว้ว นี่กำลังกลุ้มใจเลย คือปกมันเกรงว่าจะมาไม่ทันแน่ๆ เลยอ่า โอ้ยปกแรกได้สิ้นเดือนนี้

ส่วนปกที่สองยังไม่ได้บรีฟเลยว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย รู้อย่างนี้จ้างวาดไว้แต่เนิ่นๆ กะดีแล้ว

เหนื่อยใจ

สองสามวันที่หายไปเพราะมัวแต่เที่ยวเล่นค่ะ ข้ออภัย5555 ไปดูเวนอมมาสองรอบ

อร๊ายยยยย ดูหนังล่ะตามทวีตอย่างหนัก#veddie จากนั้นตามไปอ่านคอมมิคมาร์เวล

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เรือกูไม่ต้องพายแล้วคร่า อฟชเขาเล่นเองเลยค่า

โอ๊ยเอ็ดดี้มีท้องให้เวนอมด้วย มีการบอกรักกันจับมือกัน นี่มันไม่ใช่แนวฮีโร่แล้วม้างงง

นี่มันแนวโรแมนติค ในหนังว่ากร๊าวใจแล้วในคอมมิคนี่ทำเอาสั่นสะท้านนนนนนนนนนนนนนนน

พอๆๆๆๆ จบแล้วค่ะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 17-10-2018 13:11:37
มารอทุกวันเลยยยย
สงสารนรินทร์ โดนแกล้งตลอด
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 17-10-2018 13:37:56
ใกล้ปิดจ๊อบแล้วสินะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 17-10-2018 15:47:20
จะว่าสงสารก็สงสาร เอาเถอะรอดูบทสรุป
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 17-10-2018 19:36:08
เรื่องต่อไปนี้เหมือนจะดีแล้ว
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-10-2018 20:13:28
ต้นกล้า.....ต้นอ่อนที่ไร้ความดีในจิตใจ   :fire: :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 17-10-2018 23:00:39
รอจร้า
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่53 ความชั่วช้าที่ทำเพื่อเมษา 17/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 18-10-2018 23:54:10
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่54 คำขอร้อง 21/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 21-10-2018 17:54:39
บทที่54

คำขอร้อง

หลังจากการแข่งในช่วงแรกจบลง ในที่สุดทีมที่เข้าแข่งขันก็เหลือเพียง 10 ทีมเท่านั้น ดังนั้นทางผู้จัดจึงให้ผู้เข้าแข่งขันได้พักผ่อนช่วงระยะเวลาหนึ่งตามอัธยาศัยในเวลาต่อมา

เนื่องจากการแข่งขันของทีมตัวเองจบลงไปก่อนนรินทร์จึงแวะไปดูทีมของเมษาแข่งในขณะที่คนอื่นไปเข้าห้องน้ำซื้อขนมกัน จวบจนเมษาแข่งเสร็จแล้วนั่นแหละ พวกตะวันจึงมาชวนเขาไปนั่งทานขนม

นรินทร์นั่งเล่นนั่งทานขนมเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วบอกเพื่อนในทีมว่าขอไปธุระซักครู่ ในตอนนั้นตะวันที่เอามือถือของนรินทร์ไปนั่งเล่นเกมกับฟอร์ดเงยหน้าขึ้นถามทันที

“ให้ไปด้วยไหมลูกพี่”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

หลังจากปฏิเสธ นรินทร์ก็ออกไปหาห้องน้ำ โชคร้ายจริงๆ ที่ไม่ว่าที่ไหนคนก็แน่นมากเหลือเกิน ดังนั้นจึงหาห้องน้ำไปเรื่อยจนไปจบที่ห้องน้ำที่ห่างไกลที่สุด

“เอ...ดูเหมือนจะว่างแฮะ”

นรินทร์ชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างในที่นี่ไม่มีผู้คนซักนิด พอดูไปรอบๆ ก็พบข้อเสียซึ่งเหมือนว่าไม่มีโถสำหรับยืนทำธุระที่ด้านนอกด้วย ดังนั้นนรินทร์จึงต้องเข้าไปข้างในห้องเล็กอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วพอจะเปิดประตูก็พบว่ามันเปิดไม่ออก นรินทร์ยอมรับว่าตกใจจริงๆ แต่สิ่งแรกที่ทำคือค้นหามือถือในกระเป๋าและนึกได้ว่าเขาให้ตะวันยืมไปเล่นก่อนออกมานั่นเอง

“ใครก็ได้ ช่วยทีครับ”

นรินทร์ตัดสินใจตะโกนและทุบประตู เขาทำอย่างนั้นอยู่ถึง 7 ถึง8 นาที เสียงประกาศเรียกผู้คนให้เข้างานเพื่อเริ่มการแข่งขันต่อไปบอกเตือนนานแล้ว คาดว่าการแข่งขันคงเริ่มขึ้นแล้วจริงๆ แต่เขายังติดอยู่ในห้องน้ำเหมือนเดิม

นี่มันหมายความว่าทีมของเขาอาจถูกปรับแพ้ เท่ากับว่าพี่ภาริชต้องคุกเข่าขอมารุ่นพี่เมษาต่อหน้าหน้าผู้คนในฮอลล์ทั้งหมด แค่คิดร่างกายก็สะท้านเยือก ทว่าจะเอาแต่ร้องไห้ไม่ได้ นรินทร์ใช้มือทั้งสองข้างตบที่แก้มตัวเองอย่างแรงเรียกสติให้กลับมา

ก่อนอื่นต้องหาวิธีที่จะออกไปให้ได้

เมื่อมีสติแล้วนรินทร์ก็มองไปทั่วห้องน้ำและพบว่าเจ้าห้องน้ำนี่มันมีช่องว่างให้สามารถปีนออกไปห้องด้านข้าง ดังนั้นการเริ่มต้นดิ้นรนอย่างทุกลักทุเลจึงเริ่มขึ้น



เสียงประกาศเตือนให้ผู้คนกลับเข้างานดังไปทั่ว พี่สายหมอกกลับเข้ามาในงานช้ากว่ากำหนด 5 นาที ขณะเดียวกันนรินทร์ที่ยังไม่กลับมาทำเอาทีมmaddog01เริ่มกระวนกระวายใจ

ถ้านรินทร์กลับมาแข่งไม่ทันก็เท่ากับว่าทีมของเขาจะเป็นฝ่ายชนะ

เมษาคลี่ยิ้มพออกพอใจ เขารู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุที่นรินทร์กลับมาไม่ทันอาจเป็นเพราะต้นกล้าก็เป็นได้

ในตอนที่กำลังอารมณ์ดีโคตรๆ เขาก็เดินไปหาพรรคพวกของนรินทร์ เมษาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องถามถึงนรินทร์จากตะวันที่กำลังถูกเพื่อนในทีมตำหนิเรื่องที่นำมือถือนรินทร์มาเล่นจนเจ้าตัวไม่ได้เอาติดไป

“นรินทร์หายไปไหน” เมษาถาม

ตะวันหันมาพูดด้วยเสียงแข็งกร้าว

“ไม่เกี่ยวกับแกเว้ย”

“เกี่ยวสิ ทางนี้ยังไงก็อยากชนะอย่างขาวสะอาดนะ”

ก็ว่าไปนั่น ไอ้ขาวสะอาดก็อยากอยู่ แต่ถ้าชนะได้แน่ๆ มันก็ดีกว่าไม่ใช่หรือ มาร่วมแข่งขันไม่ทันกำหนดแบบนี้ตามกฎทีมจะต้องถูกปรับแพ้อย่างแน่นอน ทว่าใครจะคิด จู่ๆ ทีมงานของภาริชก็นำของจำนวนมากขึ้นไปบนเวที เมษาสังเกตเห็นสิ่งนั้นเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเดาะลิ้นอย่างหัวเสีย

ดูเหมือนว่าภาริชคนนั้นจะแก้สถานการณ์เพื่อนรินทร์ได้อย่างดี ฉลาดนักนะชวนคนดูเล่นเกมจับฉลาตามหมายเลขที่นั่ง คาดว่าด้วยจำนวนของฟรีที่ขนขึ้นไปบนเวที การแจกของครั้งต้องกินระยะเวลาพอสมควรแล้วดูท่าว่าทุกคนก็พึงพอใจกับมันมากเสียด้วย

เมษาตวัดตามองหาภาริชและพบว่าไอ้หมอนั่นเดินมายังทีที่เขากับเพื่อนร่วมทีมของนรินทร์ยืนอยู่

“ฉันพบที่อยู่ของนรินทร์แล้ว ไม่ต้องห่วงนะจะไปพาตัวมา”

ภาริชจงใจพูดให้เมษาได้ยิน ดีจริงๆ ที่เจ้านี่อยู่ตรงนี้พอดี

“ลูกพี่อยู่ที่ไหน”

“ถูกมือดีขังไว้ในห้องน้ำ ฉันตรวจดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว”

กล้องวงจรปิด

เมษากำหมัดแน่น นี่เท่ากับว่านอกจากลงมือพลาดต้นกล้ามันยังถูกบันทึกภาพเอาไว้อย่างโง่ๆ อีกด้วย ทำไมไอ้หมอนั่นมันถึงได้เป็นตัวไร้ประโยชน์เสมอๆ

คิดด้วยอารมณ์ที่กรุ่นโกรธมากขึ้นทุกที เมษากระแทกเท้าเดินออกจากห้องจัดงาน หามุมสงบโทรไปหาต้นกล้าโดยไม่รู้ว่าสายหมอกแอบตามออกมา

“แกเป็นคนลงมือขังนรินทร์ไว้ในห้องน้ำสินะ”

ต้นกล้าไม่นึกว่าเมษาจะโทรมาหา ทว่าเสียงของฝ่ายนั้นดุดันเสียจนเขาหวาดหวั่น

“อืม” ต้นกล้าตอบเสียงสั่น “ฉันเป็นคนทำ”

< “ไอ้โง่ แกรู้หรือเปล่าว่ามีกล้องวงจรปิดนะห๊า” >

ต้นกล้าไม่นึกมาก่อน เขาไม่นึกถึงเรื่องนั้นเลย “ม..ไม่รู้” เขาตอบเสียงแผ่วหวิว

คำตอบของต้นกล้ามันยิ่งทำให้เมษาเดือดดาล

“ไอ้หน้าโง่เอ๊ย มันจะเป็นหลักฐานอย่างดี ให้ตำรวจมาจับแกไงไอ้เวร”

พูดถึงตำรวจมันก็ทำให้ต้นกล้ากลัวขึ้นมาบ้าง แต่สิ่งที่มันทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังที่สุดกลับเป็นคำพูดและการกระทำของเมษา

“อย่าคิดนะว่ากูจะช่วยมึง มึงมันเป็นตัวถ่วงในชีวิตกูมาแต่ไหนแต่ไร”

เมษาคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องทนกับสวะไร้ประโยชน์อย่างต้นกล้าอีกต่อไป ถึงเวลาเหยียบย่ำมันตามความรู้สึกที่แท้จริงได้เสียที

“กูจะบอกอะไรให้นะต้นกล้า กูเกลียดลูกเมียน้อยอย่างมึง ยิ่งมึงมองกูด้วยสายตาเปื้อนราคะตลอดเวลากูยิ่งขยะแขยง ที่กูทำดีกับมึงยอมให้มึงป้วนเปี้ยนใกล้ๆ เพราะกูจะได้จับตาดูพฤติกรรมมึง บอกตรงๆ นะกูก็คิดอยู่พักหนึ่งว่ามึงมันมีค่าพอที่จะสามารถแย่งชิงมรดกของตระกูลชัยมงคลไปจากกูได้ แต่ตอนนี้กูรู้แล้วว่ามึงมันแค่สวะ อ้อสมัยเด็กๆ คนที่ปล่อยข่าวลือเรื่องมึงทำให้มึงถูกรังแก กูนี่แหละเป็นคนทำ ที่นี้มึงจะได้ตาสว่างเลิกตามตูดกูเสียที แล้วก็อย่าหวังจะได้ล้างแค้น มึงต้องถูกตำรวจจับแน่ๆ หนีไปสิวะต้นกล้า มึงไสหัวกลับบ้านตายายที่บ้านนอกของมึงไป อย่ามาทำให้กูเดือดร้อนอีก”

สายหมอกยืนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ คาดว่าตอนนี้ต้นกล้าคงทั้งเจ็บทั้งเสียใจร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดแน่ๆ คงขาดรุ่งริ่งเหมือนตุ๊กตาผ้าที่ถูกกรรไกรตัด ต้นกล้าจะโทรเรียกเขาให้ออกไปหาไหม หรืออาจจะไม่ เขารู้ว่าต้นกล้าดื้อรั้นกว่านั้น คราวนี้ด้วยหัวใจที่แหลกสลายอาจเตลิดหนีไปก็เป็นได้

สายหมอกตัดสินใจว่าจะทิ้งให้ต้นกล้าอยู่อย่างอิสระเพียงสองวัน จากนั้นเขาจะไปลักพาตัวฝ่ายนั้นมาไว้ในที่ของเขา



ในที่สุดนรินทร์ก็ปีนออกมาจากห้องน้ำเล็กได้เสียที เขาหอบแฮ่กๆ แต่โคตรจะดีใจเลย ดังนั้นจึงไม่ยืนหอบนานนักรีบถลาไปยังประตูใหญ่ผลักประตูออกไป ผลที่ได้มันทำให้เด็กหนุ่มหน้าตึงทันที

นรินทร์ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงเมื่อพบว่าประตูตรงนี้ก็ถูกล็อคเหมือนกัน

“คงไปแข่งขันไม่ทันแล้วสินะ” นรินทร์ทำหน้าเศร้า รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาอีกแล้ว เขาเห็นภาพคนรักคุกเข่าขอขมารุ่นพี่เมษาผ่านเข้ามาในความคิดซ้ำไปซ้ำมา

“ไม่ จะยอมแพ้ไม่ได้ ยังไงก็แล้วแต่ขอให้ออกไปได้ก่อน”

นรินทร์เริ่มมองไปรอบตัวอีกครั้งและพบว่ามีหน้าต่างบานขนาดที่เขาพอจะมุดออกไปได้อยู่บริเวณกำแพงด้านบนข้างๆ อ่างล้างหน้า

ปีนยากแน่ๆ แต่ก็ต้องปีน ดังนั้นนรินทร์จึงเดินปรี่ไปยังบริเวณนั้นตัดสินใจปีนขึ้นอ่างล้างหน้าอย่างทุลักทุเล พยายามเอื้อมมือไปจับขอบหน้าต่าง

“ต้องถึงต้องถึงสิน่า”

จังหวะที่พยายามเอื้อมมือจนสุดแล้วคว้าจับไว้ได้ นรินทร์ไม่ได้ยินเสียงปลดล็อคที่ด้านนอกเลยเขาจดจ่อกับการเหวี่ยงตัวเพื่อจะใช้มืออีกข้างจับกรอบหน้าต่าง แล้วมันก็พลาดเขาร่วงลงไปด้านล่าง

“ริน”

นรินทร์ได้ยินเสียงพี่ภาริช เขาเห็นอีกฝ่ายเปิดประตูแล้ววิ่งเข้ามาหา ร่างของเขาที่ร่วงลงไปด้านล่างถูกคนรักช้อนรับเอาไว้ได้ทัน

“เก่งจังเลยน้า อุตส่าห์ตั้งใจปีนเพื่อจะหาทางออกไปด้วย” ภาริชยิ้มหวานให้คนในอ้อมกอด

นรินทร์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย เขาใช้มือทั้งสองข้างคว้าชุดสูทของคนรักมากำแล้วถามด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง

“ผมถูกตัดสิทธิในการแข่งขันแล้วใช่ไหมครับ”

ภาริชหัวเราะเบาๆ แล้วเกาะมือนรินทร์ออกจากสูทของเขา

“อย่ากังวลไป พี่แก้ปัญหาเรื่องนั้นให้แล้ว”

“’ ง...งั้นหรือ...” นรินทร์รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเขารีบดีดตัวลุกขึ้นยืน “ผมต้องรีบกลับเข้างาน”

ทว่าภาริชกลับคว้ามือนรินทร์เอาไว้ หยุดยั้งเจ้าหมาน้อยไม่ให้วิ่งกลับเข้างานตามต้องการ

“รินรู้ไหมว่าใครขังริน”

พอถูกเตือนสติขึ้นมานรินทร์ก็นึกขึ้นได้ ลืมไปเลยว่ามันต้องมีคนลงมือสิ

“เขาเป็นใครครับ”

ภาริชยิ้มหวาน เขารู้ว่าประโยคที่เขากำลังจะพูดต่อไปมันอาจทำให้คนรักรู้สึกแย่ แต่ในเมื่อน้องชายคนหนึ่งอย่างสายหมอกขอร้องมา แถมฝ่ายนั้นยังปฏิญาณตนว่าจะยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างขอแค่ช่วยเหลือในเรื่องนี้เท่านั้น

เขากับสายหมอกเป็นพันธมิตรกันก็จริง แต่การที่จะได้มีบุญคุณต่อกันถึงขั้นยอมศิโรราบนั้นไม่ได้ง่ายแน่นอน สายหมอกเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่า ควรแก่การสร้างบุญคุณและเก็บไว้ใช้ประโยชน์ ทว่าหากนรินทร์ไม่เห็นด้วยเรื่องคำขอร้องนี้ก็นับว่าไม่ต้องพูดกันแล้ว

“ต้นกล้า”

นรินทร์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ รุ่นพี่พฤกษาคนนั้นอีกแล้วหรือ รุ่นพี่เกลียดชังเขาขนาดนี้เลยหรือ

“ตามปกติเราสามารถใช้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดเล่นงานเขาทางกฎหมายได้ แต่มีคนขอร้องว่าอย่าทำแบบนั้น”

“เขาเป็นใครครับ” นรินทร์สงสัย รุ่นพี่พฤษาคนนั้นมีเพื่อนที่สนิทพอสามารถพูดขอร้องพี่ภาริชได้เลยหรือ

“นรินทร์ตัดสินใจเถอะนะ ว่าจะจัดการยังไงกับเจ้าต้นอ่อนนั่นดี”

พี่ภาริชบอกให้เขาตัดสินใจ ดังนั้นนรินทร์จึงใช้ความคิดอย่างหนัก เขาโกรธรุ่นพี่พฤกษามาก นั่นเพราะถ้าพี่ภาริชแก้สถาณการณ์ไม่ได้นั่นเท่ากับว่าคนรักของเขาต้องเสียศักดิ์ศรีคุกเข่าขอขมาต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่คนที่มาขอร้อง คนคนนั้นมีอิทธิพลทางความคิดต่อพี่ภาริชมาก อาจเป็นคนสำคัญไม่ทางใดทางหนึ่ง

“คนที่มาขอร้องให้ช่วยรุ่นพี่พฤษาสำคัญกับพี่ภาริชมากหรือครับ”

“อืม..ก็เป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่พี่ให้ความเอ็นดูในฐานะน้องชายมานาน มีความผูกพันธ์ค่อนข้างมาก แล้วเขาก็เป็นคนที่พี่วางตำแหน่งเอาไว้ให้เป็นมือขวาของพี่ในอนาคต”

“ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากแตกหักกับเขาคนนั้นสินะครับ”

“แต่ถ้ารินอยากเอาเรื่องเจ้าต้นอ่อนนั่นพี่ก็ไม่ได้สนใจหรอก”

“งั้นช่างมันก็ได้ครับ ยังไงเราก็กลับไปแข่งทันใช่ไหมล่ะ”

“จะดีหรือ รินไม่อยากล้างแค้นหรือไง”

นรินทร์ส่ายหน้าไปมา เขาคิดว่าการล้างแค้นตามอารมณ์อาจทำให้พี่ภาริชเสียประโยชน์ที่ควรได้รับ

“ถ้าพี่ภาริชต้องเสียมือขวาไปเพราะการตัดสินใจของผม ผมคงรู้สึกแย่”

ภาริชยิ้มกว้าง รู้สึกประทับใจในความคิดอ่านที่ทำลงไปเพื่อผลประโยชน์ของเขาของนรินทร์ คนรักคนนี้นอกจากจะยอมตีรันฟันแทงกับผู้คนไปทั่วเพื่อศักดิ์ศรีของเขา ยังยอมละทิ้งโอกาสแก้แค้นเพื่อให้เขาไม่เสียผลประโยชน์

น่ารักเกินไปแล้ว

ภาริชคว้าคนรักมากอดแล้วจูบลงไปอย่างดูดดื่ม ยองแอพูดผิดทั้งหมดเรื่องที่กล่าวหาว่านรินทร์เป็นตัวไร้ประโยชน์ นรินทร์ทำทุกอย่างเพื่อเขามากมายในแบบของนรินทร์ และต่อให้ไม่สามารถทำประโยชน์ให้เขาได้ เอาแค่เด็กคนนี้เป็นคนที่เขารักก็มีค่ามากพอโดยไม่ต้องทำอะไรแล้ว

เขาเข้าใจความรู้สึกของสายหมอกในที่สุด ทีแรกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ตามตื้อรักคนที่ไม่สนใจและไม่สร้างประโยชน์ใดๆ ให้กับตนเองอย่างเจ้าต้นอ่อนนั่น

เพราะว่าความรักนี่แหละ มันทำให้เกิดความคิดที่ว่า ต่อให้คนคนนั้นไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้ได้ แต่คนคนนั้นก็ยังมีค่ามากมายมหาศาล ภาริชมีความคิดแบบนั้นกับนรินทร์จึงเข้าใจความรู้สึกที่สายหมอกมีต่อตัวปัญหาอย่างต้นกล้าจนได้

ภาริชหวนนึกถึงช่วงเวลาที่สายหมอกโทรมาขอร้องเขาเรื่องของต้นกล้า ที่ฟังดูไร้สติไร้เหตุผลสิ้นดี

“ให้ต้นกล้าโดนตำรวจเล่นงานไปจะไม่ดีกว่าหรือ” ภาริชหัวเราะเสียงชั่วร้าย เขากำลังแนะนำเรื่องดีๆ ให้ในฐานะรุ่นพี่

“หรือว่าสงสารขึ้นมาซะแล้ว”

<” สงสารนั่นแหละครับ เพราะอย่างนั้นถึงอยากให้ช่วยเรื่องนี้” >

“ตลกจังทั้งที่ต้อนให้จนมุมแบบนั้นน่าจะทำให้ได้มาง่ายๆ กว่านี้แท้ๆ เอาเถอะ ไม่รับปากนะ สำหรับฉันการตัดสินใจของนรินทร์ถือเป็นสำคัญ”

<” แค่อยากลองขอร้องดูเท่านั้นครับ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” >

ไม่บ่อยนักหรอกที่สายหมอกจะขอร้องเขาเพื่อคนอื่น เห็นได้ชัดว่าจริงจังกับเจ้าต้นอ่อนนั่นมากแค่ไหน

ทว่าในความเป็นจริงภาริชกับสายหมอกรู้ดีมันเป็นเพราะอะไรสายหมอกคนนั้นถึงไม่อยากให้ต้นกล้าถูกตำรวจจับเหตุผลนั้นเพียงแค่...

ถ้าต้นกล้าโดนตำรวจจับหรือมีญาติมาประกันตัวและควบคุมดูแล สายหมอกอาจพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้คนที่เขาปรารถนามาไว้ในมือตลอดกาล มันก็เท่านั้นเอง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หายไปสามวัน5555 มัวแต่ดูซีรีย์ ยอมรับผิดค่ะ แถมออกบู๊ตทุกวันกลับมาแทนที่จะนั่งเขียนนิยาย

นั่งดูซีรีย์เฉย555555 มีตั้ง6ซีซั่นตะบี้ตะบันดูแบบถึงตีสองครึ่งทุกวัน ในที่สุดก็คอมพลีสซักที

พอดีว่าติดเน็ตฟลิกต้องใช้งานให้คุ้ม5555

                   พี่สายหมอกกับต้นกล้าวุ่นวายแท้ๆ เลยน้า ลำบากพี่ภาริชกับนรินทร์ต้องมาช่วยจัดการ

                    แหม.............มีคนลุ้นคู่พี่หมอกกับต้นกล้าไหมคะ ขอเสียงหน่อยยยย

                    ท่าทางจะมีน้อยแน่ๆ 55555

                     แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่54 คำขอร้อง 21/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 21-10-2018 18:36:53
นุ้งรินทร์มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่มากๆเลยอ่ะ
เราเข้ามารออ่านทุกวันเลย 55555 รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่54 คำขอร้อง 21/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-10-2018 20:09:57
ต้นกล้า ไม่ต้องมโนเรื่องเมษาต่อแล้ว  ตัดใจไปเล้ย
ในเมื่อเมษาบอกความในใจที่รังเกียจตัวเองซะขนาดนั้น  :angry2: :fire:
รักคนที่เขารักเราดีกว่าเนาะ ก็สายหมอกไง จะใครล่ะ   o18

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่54 คำขอร้อง 21/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 21-10-2018 22:50:58
มาต่อไวไวนาจา
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่54 คำขอร้อง 21/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 22-10-2018 09:48:10
รินทำดีมากรูก
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่55 แมพใหม่ที่ไม่เคยมีคนเห็น 24/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 24-10-2018 12:34:26
บทที่55

แมพใหม่ที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน

“ลูกพี่” ตะวันกอดรัดฟัดเหวี่ยงนรินทร์แน่นทันทีที่อีกฝ่ายปรากฏตัว

การแข่งขันในรอบถัดไปยังไม่เริ่มขึ้นเพราะยังอยู่ในช่วงเล่นเกมของคนดูซึ่งภาริชจัดกิจกรรมขึ้นมา

“ปล่อยก่อนหายใจไม่ออก”

เพราะนรินทร์เตือนด้วยเสียงอู้อี้นี่แหละตะวันถึงยอมปล่อยอีกฝ่าย

“ริน ใครกันที่เป็นคนขังรินเอาไว้” มิวซังเข้าประเด็นเป็นคนแรก นรินทร์จำต้องพาเพื่อนร่วมทีมปลีกตัวออกไปคุยที่สงบด้านนอก

“ไอ้พฤกษาอีกแล้วหรือวะ” ตะวันพูดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด

นรินทร์เชื่อว่าหลังบอกออกไปตะวันต้องโวยวายเป็นคนแรกแน่แล้วก็จริงเสียด้วย

“ในเมื่อภาริชมันมีหลักฐานทางกล้องวงจรปิดก็น่าจะลงโทษไอ้พฤกษามันได้นะ” ตะวันออกความเห็นอย่างแข็งกร้าว

พูดถึงลงโทษ ฟอร์ดสับสนนิดหน่อย ก็พอเข้าใจนิสัยแย่ๆ ของต้นกล้า แต่ถ้าต้องถึงตำรวจเขาก็สงสารอยู่ไม่น้อย

“ฉันจะไม่แจ้งความหรอก”

“ห๊ะ” ตะวันแทบไม่อยากเชื่อหู ในขณะที่ฟอร์ดอยากฟังเหตุผลของนรินทร์เสียเหลือเกิน โชคดีที่ตะวันถามให้

“มันเพราะอะไรลูกพี่”

นรินทร์นิ่งเงียบ เขาไม่อยากให้ตะวันโวยวายหากรู้ว่าพี่ภาริชเป็นคนขอร้อง

“บอกไม่ได้หรือลูกพี่” ตะวันถึงจะช่างโวยวายทว่าเขารู้กาลเทศะดี ดูจากสีหน้าเข้าใจถึงความลำบากใจของลูกพี่เพราะอย่างนั้นก็เลยตัดใจ

“นรินทร์ต้องบอกพวกเราในซักวันแน่ พี่ตะวันอย่าหงุดหงิดไปเลย” มิวซังตบหลังตะวันเบาๆ

จะว่าไปตะวันก็รู้นิสัยลูกพี่ดีอยู่ ลูกพี่คงปกป้องใครซักคนหรืออะไรซักอย่าง

“เอาเถอะถ้าลูกพี่พร้อมต้องบอกกันนะว่าเพราะอะไร”

“ถ้างั้นเรากลับเข้าไปในงานดีไหม ผมว่าข้างในน่าจะเล่นเกมกันเสร็จแล้ว”

ด้วยคำเตือนของฟอร์ดทุกคนจึงกลับเข้าไปในงาน จริงอย่างที่ฟอร์ดว่าพิธีกรจับคู่แข่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว 10ทีมที่เหลือถูกจับแข่งขันกันแยกออกเป็น 5 คู่ และทีมที่maddog01ได้เจอก็คือทีมhunter00

“รออยู่นานแล้วว้อย” ตะวันกำหมัดด้วยความฮึกเหิม นรินทร์เองก็รออยู่แล้วเหมือนกัน

ทีแรกคิดว่าคงจะตื่นเต้นจนประหม่า แต่สภาพจิตใจกลับเยือกเย็นสงบนิ่ง การแข่งครั้งนี้เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของพี่ภาริช เขาจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด

“เอาล่ะ การแข่งเริ่มต้นอีกครั้งแล้วนะครับคุณโรม” เอกหนึ่งในพีธีกรคู่หูเริ่มต้นบรรยายบรรยากาศการแข่งขันอีกครั้ง

“คุณดูสิ ใครจะไปนึกว่าทีมคู่เอกจะได้เจอกันเร็วกว่าที่คิด maddog01ราชาไร้มงกุฎกำลังจะได้ต่อสู้กับเศียรมังกรราชาแห่งวงการe-sportต่อหน้าต่อตาพวกเราเลยนา คุณรู้สึกยังไงครับคุณโรม”

“โคตรตื่นเต้นเลยครับ ผมนะนะบอกตามตรงเป็นแฟนตัวยงของเศียรมังกร โคตรของโคตรจะไม่พอใจที่เศียรมังกรถูกครหาในด้านฝีมือที่แท้จริง”

โรมค่อนข้างฮึกเหิม เขาเองก็เป็นคนหนึ่งที่รอเวลานี้มานาน การแข่งขันครั้งนี้มันจะพิสูจน์คำกล่าวหาที่ว่าหากmaddog01เข้าวงการe-sportเมื่อไหร่เศียรมังกรไม่มีวันได้เป็นที่หนึ่งแน่นอน

“เอ้าๆ คุณโรม ใจเย็นๆ นะครับ เราเป็นพิธีกร จะมาเอียงกระเท่เร่แบบนี้ไม่ได้นะครับ”

“แต่ผมก็มีสิทธิจะเชียร์ใครเป็นพิเศษไม่ใช่หรือไง” โรมเถียง

“โอเค งั้นผมจะเชียร์ฝั่งmaddog01เอง มันจะได้สมดุล” เอกหัวเราะฮาฮา ก่อนจะเริ่มทำงานต่อไป

“คุณดูสิคุณโรมการแรนดอมแมพทั้งสามออกมาครบแล้วนะครับ โอ้สองแมพแรกเป็นแมพเดียวกันเลย ที่สำคัญนี่มันเป็นแมพใหม่ที่ยังไม่ได้อัพเดทให้ใครเล่นเลยด้วย หินงานนี้หินแน่ๆ ครับ”

“ดูเหมือนว่ามีเงื่อนไขในการช่วยตัวประกันสำหรับฝั่งบุกด้วยนะนี่” โรมเสริมในสิ่งที่เอกแสดงความเห็น

“คดว่าความยากครั้งนี้คือการที่ต่างคนต่างไม่รู้สภาพของแมพเลยซักนิด งานช้างเลยนะครับ แต่ผมว่าถ้าใครความจำดีกว่าในแมพที่สองก็จะได้เปรียบอย่างแน่นอน”

ในที่สุดการแข่งของmaddog01กับทีมhunter00ก็เริ่มขึ้น ทีมของนรินทร์เป็นทีมรับซึ่งจับตัวประกันเอาไว้ในห้องหนังสือแห่งหนึ่ง จากการที่คุยกันในทีมอย่างฉับไว ตะวันเสนอตัวเองออกไปวางกับดักอีกทั้งสำรวจห้องต่างๆ ไปด้วย เพราะคราวหน้าทีมของพวกเขานี่แหละที่ต้องบุกมาช่วยตัวประกัน

ฟอร์ดเสนอตัวตามไปประกบด้วย แม้ว่าตะวันจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มิวซังเห็นว่าตัวละครที่ฟอร์ดเลือกมานั้นมีแกดเจ็ตกล้องวงจรปิดอยู่การให้เขาออกไปติดตั้งมันตามห้องต่างๆ มันจะให้คนในทีมเห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูตามไปด้วย

ทั้งอย่างนั้นนรินทร์ก็เตือนทั้งคู่ว่าอย่าออกไปไกลนัก ด้วยเหตุนี้คนที่อยู่เฝ้าตัวประกันกับนรินทร์จึงเป็นมิวซัง ทั้งคู่เริ่มต้นทำงานของตัวเอง พวกเขาติดตั้งกำแพงเหล็กตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันการทลายกำแพงเข้ามา

รวมไปถึงหน้าต่างก็เช่นกัน นรินทร์กับมิวซังวนไปรอบๆ ห้อง ดูอย่างละเอียดเมื่อแน่ใจแล้วพวกเขาสองคนก็ปักหลักส่องดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ฟอร์ดนำไปติดขณะออกสำรวจกับตะวัน

“แม่มคฤหาสน์หลังนี้โคตรกว้าง ลูกพี่เชื่อเถอะว่ามันต้องทีทางลับยั้วเยี้ยไปหมด” ตะวันพาฟอร์ดมาจนถึงห้องเก็บของไม่สิน่าจะเรียกว่าห้องทำงานเล็กชั้นใต้ดินที่ค่อนข้างลึกลับมากกว่า

ขณะที่ฟอร์ดติดตั้งกล้องวงจรปิดอีกแห่ง ตะวันคนดีก็พบบางสิ่ง มันเป็นสถานที่ใช้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์แฮกกล้องวงจรปิดของอีกฝ่าย เท่ากับว่าถ้าพวกเขามาถึงห้องนี่อย่างเร็วกล้องวงจรปิดของทีมรับอย่างhunter00จะใช้ไม่ได้อีกเลยจนกว่าอุปกรณ์แฮกของทีมเขาจะถูกทำลาย

ตะวันพิมพ์บอกข้อมูลที่ได้รับมาไปในช่องสื่อสารกลุ่มแทนการพูดออกไมค์ทันที จากนั้นเขากับฟอร์ดก็พากันออกจากห้องทำงานเล็กนั้น ตะวันคิดว่าควรจะสร้างที่มั่นในจุดนี้เพื่อปกป้องตัวเองได้แล้ว

ทว่าเพราะย่ามใจไปหน่อยเลยถูกกระสุนจากโดรนตัวเล็กของฝั่งhunter00เล่นงานจนลงไปนอนคลาน แถมเจ้าโดรนนั่นยังยิงทำลายกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นอย่างแม่นยำ โชคดีที่ฟอร์ดไหวตัวทันจึงยิงทำลายโดรนอันนั้นทิ้งไปเสีย

“โอ้ๆ ๆ ดูเหมือน แอคเค้าhunter00คุณเมษาของเราจะเปิดเกมรุกได้ดีครับ” โรมหมายถึงการที่เมษาใช้โดรนของตัวเองเล่นงานและทำลายกล้องวงจรปิดนั่นแหละ

และเพราะฟอร์ดมัวแต่เข้าไปทำการรักษาแผลให้ตะวันจนลืมการป้องกันตัวก่อน ซึ่งก็ไม่แปลกนักสำหรับมือใหม่อย่างฟอร์ด เขาลืมสนใจหน้าต่างบานโตทำให้เฉินเล่อยิงเจาะรูกระจกก่อนที่อิงฟ้าจะโยนแกตเจ็ตระเบิดแสงของตัวเองเข้ามาในห้องที่ฟอร์ดกับตะวันอยู่

ผลของระเบิดแสงมันจะทำให้หน้าจอของตะวันกับฟอร์ดมีลายเป็นเส้นๆ และมีเสียงวิ้งๆ รบกวนโสตประสาทไปหมด เหตุการณ์ชุลมุนอันนี้ส่งผลให้เฉิ่นเล่อกับอิงฟ้าสามารถปลิดชีพคู่หูคู่รักได้อย่างละมุนละม่อม

“โอเค ส่งโดรนเข้าไปอีก” สายหมอกสั่งงานกับเมษา งานของเมษานั้นคือการใช้โดรนสำรวจพื้นที่ให้กับทีมดังนั้นเขาจึงยังซ่อนตัวอยู่ด้านนอก ส่วนสายหมอกเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วเขาก็เข้าไปสมทบกับเฉินเล่อและอิงฟ้า

นรินทร์ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าห้องหนังสือห้องนั้นมันมีทางลับรอดหูตาของนรินทร์อยู่ ซึ่งเมษาจะแอบเข้าไปจัดการกับอีกฝ่ายในทางนั้น ส่วนอิงฟ้ากับเฉินเล่อพวกเขาไต่กำแพงขึ้นมาทางหน้าต่างเป็นตัวดึงความสนใจชั้นดี ขณะเดียวกันเมษาที่สำรวจคฤหาสน์ก็ต้องทำลายกล้องวงจรปิดของฟอร์ดที่ติดตั้งไว้ไปด้วย

แม้ว่ากล้องวงจรปิดจะถูกทำลายไปทีละชิ้นสองชิ้นแต่นรินทร์ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไร เขากลับรู้สึกสนุกขึ้นมานิดๆ แล้วจนเกือบจะลืมเลือนไปว่าผลแพ้ชนะคราวนี้มันอาจทำให้คนรักต้องคุกเข่าขอขมาเมษา

สถานการณ์ตอนนี้ทีมของนรินทร์เหลือแค่เขากับมิวซัง ใช่ว่าจะไม่อยากทำอะไร แต่แผนการรับที่ดีที่สุดคือยึดที่มั่นอย่างสงบเตรียมตอบโต้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และแล้วทีมของhunter00ก็เปิดฉากรุก

เฉิ่นเล่อใช้ระเบิดจัดการกับหน้าต่างที่ถูกปิดเอาไว้ เป็นเช่นเดิม อิงฟ้าโยนระเบิดแสงของตัวเองเข้ามามิวซังหลบไม่ทันมีแต่นรินทร์เท่านั้นที่ไวกว่า ดังนั้นเอฟเฟคของระเบิดแสงจึงไม่เกิดขึ้นกับเขา

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก ดังนั้นนรินทร์จึงไม่ทันสังเกตเสียงกระเทาะจากกำแพงด้านหลัง ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมันคือทางลับที่มีไว้ส่งเสื้อผ้าลงไปยังห้องซักรีดด้านล่าง

สายหมอกไต่ขึ้นมาจากข้างล่างและเปิดประตูช่องทางที่ถ้ามองจากทางฝั่งนรินทร์กับมิวซังที่อยู่ในห้องไม่มีทางเห็นแน่ๆ เพราะตรงบริเวณนั้นถูกปิดทับด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายงดงาม

ตามจริงสายหมอกไม่ได้หวังว่าทางลับมันจะพามาเจอกับmaddog01อย่างพอเหมาะพอเจาะอย่างนี้ มันเป็นความบังเอิญจากการคาดเดาล้วนๆ

ขณะที่มิวซังถูกก่อกวนด้วยระเบิดแสงจนหน้าจอเป็นเส้นๆ และเกิดเสียงรบกวนวิ้งๆ อิงฟ้าก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่างและเหยียบเข้ากับกำดักของมิวซังที่แอบวางเอาไว้ตรงนั้น นรินทร์จัดการยิงกระสุนไปสามสี่นัดส่งสาวน้อยไปสวรรค์แทบจะในทันที

จังหวะนั้นด้วยความที่เป็นคนหูไวมาก เขาได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง นรินทร์หมุนตัวกลับไป ทว่ามันยังไม่ทัน เศียรมังกรสาดกระสุนเข้าใส่ร่างของนรินทร์จนล้มลงไปกองแทบจะวินาทีเดียวกับที่หมุนตัวไปเห็นหน้าอีกฝ่าย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมิวซังที่พอหายจากอาการมึนของระเบิดแสง เธอก็ต้องมาตายจากกระสุนของเฉินเล่อที่ปีนเข้ามาด้านในจากหน้าต่างในเวลาต่อมา

“เป็นไงล่า เห็นฝีมือของเศียรมังกรหรือยัง” โรมทุบโต๊ะดังปัง แมทการแข่งตาแรกก็ทำเอาคนดูและผู้บรรยายไฟลุกพรึบกันแล้ว ทุกคนในฮอลล์ต่างหันมาสนใจการแข่งของทีมmaddog01กับทีมhunter00กันหมด

เนื่องจากการวางแผนและทำงานเป็นทีมที่นำโดยเศียรมังกรอันเหนือชั้น แถมทั้งที่เป็นแมพใหม่ซึ่งยังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำทั้งสองทีมทำเรื่องที่ขาดความเป็นโปรฯ แต่อย่างใด

และถึงแม้ทีมmaddog01จะแพ้ในแมพนี้ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่พอตัว ส่วนทีมhunter00ก็ช่างเก่งกาจสมกับที่มีแชมเปียนส์และรองแชมเปียนส์ของวงการเกมอยู่ในทีมด้วย

“นรินทร์” มิวซังหันไปมองดูสีหน้าของลูกพี่ลูกน้อง เธอกลัวว่าเด็กคนนี้จะกังวลกับการพ่ายแพ้ แน่ล่ะศักดิ์ศรีของคนรักอยู่ในมือไม่เครียดสิแปลก

ทั้งอย่างนั้นแทนที่จะพบสีหน้าหวาดหวั่น เธอกลับได้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นสนุกสนานของนรินทร์ เชื่อว่าความท้าทายและการได้แข่งกับคนที่เก่งจริงๆ คงไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวรินเข้าแล้ว

ถ้านรินทร์สนุกและไม่กดดันตัวเองเธอก็สบายใจ

จังหวะนี้เองนรินทร์เริ่มพิมพ์ข้อความวางแผนกับคนในทีมอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่ตะวันกับฟอร์ดสำรวจห้องต่างๆ ก่อนตาย ทั้งคู่ก็ได้อะไรมามากพอสมควรแล้ว ดังนั้นแมพหน้าพวกเขาก็คิดว่าทีมของตนเองควรชนะได้

“เอาล่ะเริ่มแผนการโต้กลับกันเถอะ” นรินทร์บอกกับทีมของเขา

การแข่งในแมพที่สองจะเริ่มขึ้นอีกในไม่กี่นาทีข้างหน้า



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



การครีเอตสถานะการณ์ในการแข่งเกมนี่แม่มโคตรยากจริงๆ ค่ะ

โอ้ยยยยยยยยยยยยย อยากกรีดร้องโวยวาย กว่าจะเขียนตอนนี้ได้เรานั่งคิดตั้งนาน

                 นักอ่านอาจคิดว่ายังไม่มันถึงใจเท่าไหร่ แต่เราคิดเยอะคิดหนักจริงๆ น้าTT

                  5555555 ตอนหน้าจะงานช้างกว่านี้อีก ถ้าหายไปนานกะใ้ห้เข้าใจว่าเรากำลังพยายามคิดอยู่นะคะ

                   และถ้าออกมาไม่มั่นดั่งใจหวังก็อย่าสาปเราแรงนักTT

                    555555 ความมั่นใจมีบ้างไหมเนี่ยในฐานะนักเขียน และคนที่อยากเขียนออกมา5555

                   หายไปสามวันก็ไปนั่งดูซีรีย์มาค่ะก็ ซีรีนั้นคือlimitless ยาเปลี่ยนสมองคน

                  โอ้ยดูแล้วปลื้มมากสนุกมาก อยากเขียนนิยายแนวนี้บ้าง โอ้ยตาย ดูไปจิ้นไปค่า

                   พระเอกกับพี่บอสใหญ่ของเรื่องนางมีโมเม้นต่อกันมากมาย เป็นวัตถุดิบในการชิปอย่างดี

                   เราก็พยายามลืมๆ แม่นางเอกของเรื่องไป แช่งให้นางตายทุกตอน5555 แต่นางแม่ม

                  อึดค่ะอยู่รอดได้ทุกสถานะการที่มีคนตามค่า อรั๊ยรุสึกขัดใจค่ะ

                  โอเค พอดีกว่า แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่55 แมพใหม่ที่ไม่เคยมีคนเห็น 24/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 24-10-2018 17:24:50
ลุ้นจิงจิง
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่55 แมพใหม่ที่ไม่เคยมีคนเห็น 24/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-10-2018 23:35:30
สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่55 แมพใหม่ที่ไม่เคยมีคนเห็น 24/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-10-2018 11:22:26
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่55 แมพใหม่ที่ไม่เคยมีคนเห็น 24/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 25-10-2018 20:25:55
ลุ้นมากๆเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่56 ผู้ที่พ่ายแพ้ 28/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 28-10-2018 15:08:44
บทที่56

ผู้ที่พ่ายแพ้

บรรยากาศในฮอลล์เริ่มคึกคักมากยิ่งขึ้นอาจเป็นเพราะว่าหลังจากการแข่งห้าคู่นี้จบลง การแข่งขันรอบรองชนะเลิศและรอบชนะเลิศจะอยู่อีกไม่ไกล

แถมการแข่งขันอันร้อนแรงระหว่างทีมmaddog01กับทีมhunter00ก็ระอุได้ที่ทีเดียว ผู้คนทั้งหมดต่างพุ่งความสนใจไปที่การแข่งในแมพที่สองซึ่งกำลังเริ่มขึ้น

“เอาล่ะครับคราวนี้ทีมmaddog01ต้องเป็นฝ่ายบุกไปช่วยตัวประกันบ้างแล้ว คุณโรมคิดว่าการแข่งขันคราวนี้จะเป็นอย่างไรครับ” เอกพิธีกรร่วมถามคุณโรมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ คุณโรมขมวดคิ้วเขากำลังครุ่นคิดคาดเดาต่างๆ นานา และผลสรุปที่ได้คือ

“คาดเดาไม่ได้เลยครับ” ถ้าให้ว่ากันตามตรงโรมเองก็เป็นนักเล่นเกมตัวยงคนหนึ่ง ดังนั้นขณะที่ดูการเล่นของทั้งสองทีมบนหน้าจอเขาก็คาดเดากระแสบางอย่างได้คร่าวๆ

“มันมีตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้ชนะถ้าอีกทีมยังคาดไม่ถึงนี่สิ”

“โอ้...งั้นเราจะไม่พูดถึงเจ้าตัวแปรนี้กันนะครับ เพราะการแข่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ให้ผู้ชมติดตามดูกันเลยดีกว่า”

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นทันหลังจากทั้งสองทีมเลือกตัวละครจนครบ ทีมของเศียรมังกรมาเกิดในห้องหนังสือที่เดียวกับทีมของmaddog01พร้อมตัวประกัน วินาทีที่ทุกคนพร้อมเขาก็ออกคำสั่งให้ทุกคนพาตัวประกันย้ายไปห้องอื่นทันที

เนื่องจากว่าห้องเดิมนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการบุกได้ง่ายและmaddog01ก็น่าจะรู้ข้อด้อยนั้นดีแล้ว ถึงแม้ตามจริงสายหมอกอยากยึดห้องเดิมเอาไว้มากกว่าด้วยปัจจัยที่ว่าตัวเขาเองก็รู้จุดเด่นจุดด้อยของห้องนั้นดีแล้วจากในการแข่งครั้งก่อนก่อน ทว่านี่มันเป็นการแข่งขันแบบทีมในเมื่อเฉิ่นเล่อกับเมษาออกความเห็นแย้งที่พอมีเหตุผลถึงสองเสียงมา

ขณะเดียวกันเศียรมังกรก็รู้สึกว่าการย้ายห้องสมเหตุสมผลอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงมาอยู่ในห้องนอนที่มิดชิด และเริ่มต้นสร้างกำแพงเหล็กตามมุมต่างๆ รวมถึงปิดหน้าต่างห้องเอาไว้ ส่วนเมษานั้นยังคงเลือกตัวละครที่มีแกดเจตพิเศษเป็นการบังคับโดรน ทว่าเจ้าโดรนตัวนี้มีความสามารถในการวางกล้องวงจรปิดตามที่ต่างๆ โดยเจ้าของมันไม่ต้องขยับไปไหนเลยซักก้าว

จัดว่าเป็นตัวละครที่มีความสามารถขี้โกงตัวหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วข้อเสียก็เยอะตามมาเช่นกัน เนื่องจากอาวุธที่สามารถถือได้นั้นมีแต่อาวุธเบาที่ไม่สามารถยิงใครให้ตายได้ในนัดเดียว แถมระยะการยิงยังสั้นมาก กระสุนปืนเองก็โหลดได้น้อยเพราะมันเป็นแค่ปืนพกเท่านั้น

ทั้งหมดเพื่อแลกกับความสามารถในการใช้โดรนที่สามารถโจมตีโดยไม่ต้องเอาตัวไปเสี่ยงแถมยังติดตั้งกล้องวงจรปิดในที่ต่างๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นตอนนี้ในห้องอันเป็นที่ตั้งแสนมั่นคง ทีมของเศียรมังกรจึงอยู่ครบกันถ้วนหน้า

แน่นอนว่าการวางแผนตั้งรับอันนี้เรียกว่าเซฟตัวเองได้ดีเยี่ยม แต่ความผิดพลาดทั้งหมดทั้งมวลมันมาจากเมษาที่ใช้โดรนของตัวเองได้อย่างไม่คุ้มค่า หากคนที่ใช้โดรนเป็นตัวเศียรมังกรเอง ในการแข่งคราวที่แล้วซึ่งไม่มีใครสามารถแตะต้องเมษาได้เลย ในสถาณการณ์เดียวกันเศียรมังกรคงพบห้องทำงานลับที่สามารถติดตั้งเครื่องแฮกเอาไว้ตั้งนานแล้ว

ความผิดพลาดอันไม่น่าให้อภัยอันนี้ส่งผลร้ายแรงให้กับทีมอย่างใหญ่หลวง ซึ่งมันทำให้ตัวละครที่เต็มไปด้วยความสามารถของเมษาไร้ประโยชน์ไปในทันทีที่ตะวันพาฟอร์ดไปติดตั้งเครื่องแฮกในห้องทำงานลับ ซึ่งผลที่ได้ทำให้กล้องวงจรปิดไม่ฉายภาพของคนที่เดินผ่านหน้ากล้องไปเลย

พวกเศียรมังกรจะเห็นเพียงแค่ห้องและทางเดินว่างเปล่า ซึ่งไม่มีการบุกเข้ามาใดๆ ทั้งนั้น เศียรมังกรกับเฉิ่นเล่อรู้ตัวแทบจะพร้อมๆ กัน

“เลิกติดตั้งกล้องได้แล้วเมษา ใช้โดรนตามหาพวกมันจะดีกว่า แล้วอย่าลืมทำลายกล้องวงจรปิดให้หมด”

เศียรมังกรออกคำสั่งด้วยเสียงเยียบเย็น

ความผิดพลาดแรกของเศียรมังกรคือเลือกที่จะไม่ฟังความต้องการของตัวเอง ความผิดพลาดอย่างที่สองคือปล่อยให้คนไม่ละเอียดรอบคอบไปทำงานสำคัญ

โดรนของเมษาถูกตะวันกับฟอร์ดลอบทำลาย เมษาสบถอย่างหัวเสียและเตรียมส่งโดรนตัวใหม่ออกไป จังหวะนั้น เฉิ่นเล่อและอิงฟ้าไปที่กำแพงเหล็ก พวกเขาสองคนเจาะรูมันเล็กน้อยเพื่อให้สามารถเล็งยิงคนจากอีกฝาก

ทว่าเพราะเสียงเจาะรูมันดังปึงปังจึงไม่มีใครได้ยินเสียงเจ้าระเบิดแบบอัตโนมัติแกดเจ็ตหุ่นยนต์ระเบิด เจ้าแกตเจ็ตอันนี้สามารถเจาะผนังกำแพงได้ทั้งเหล็กและปูน แต่ข้อเสียของมันคือเจ้าของแกตเจ็ตต้องอยู่ในระยะไม่ห่างจากตัวหุ่นยนต์เพื่อบังคับมัน

การที่maddog01พาsilverfox13เข้ามาใกล้ห้องที่เศียรมังกรจับตัวประกันเอาไว้โดยพวกนั้นรู้ตัว ทั้งหมดต้องขอบคุณความช่างสังเกตของตะวันนั่นเอง ด้านบนห้องนอนที่พวกเศียรมังกรอยู่นั้นมีห้องใต้หลังคาลับซ่อนอยู่และสามารถเข้าออกได้จากหลายทาง

เนื่องจากคฤหาสน์ในแมพนี้ใหญ่โตและมีทางลับมากมาย แม้คนช่างสังเกตอย่างmaddog01กับเศียรมังกรก็ยังเผอเรอได้พอๆ กัน

เจ้าตุ่นระเบิดเจาะเพดานลงมาอย่างเงียบเฉียบเป็นจังหวะเดียวกับที่ตะวันและฟอร์ดบุกมาถึงหน้าห้องที่พวกเศียรมังกรอยู่พอดี ทราบกันไหมว่าเพราะเหตุใดถึงสามารถระบุที่อยู่ของทีมhunter00ได้อย่างง่ายดายละมุนละม่อมเช่นนี้

เพราะการวางเครื่องแฮกในห้องลับนั้นทำให้ทีมของmaddog01สามารถใช้กล้องวงจรปิดของเมษาได้เช่นกัน ท่านผู้อ่านคงจำได้ว่าเศียรมังกรสั่งให้เมษาทำลายกล้องวงจรปิดให้หมด ทว่าเมษากลับมะงุมมะงาหราอย่างน่าบัดซบ

เขาส่งโดรนออกไปกี่ตัวก็ถูกคู่รักคู่รบลอบทำลายโดรนทิ้งอย่างง่ายดาย เมษาหัวเสียกับเรื่องนี้มาก วินาทีที่ตะวันกับฟอร์ดมาถึง ตะวันโยนระเบิดเข้าใส่กำแพงเหล็ก ไม่ได้เพื่อทำลายกำแพงอย่างเดียวแต่เพื่อกลบเกลื่อนเสียงเจาะเพดานลงมาของเจ้าหุ่นยนต์ระเบิดที่มีรูปลักษณ์เหมือนตุ่น

เสียงหุ่นยนต์หล่นลงมาดังตุบเศียรมังกรเป็นคนหูไวตาไวที่สุดเขาหันไปทางต้นเสียงและพบว่าเจ้าหุ่นยนต์ระเบิดที่เขาคุณเคยกับมันดีกำลังวิ่งตรงมาหา เศียรมังกรมีความเยือกเย็นติดตัวเสมอๆ ถึงแม้จะรู้ว่าด้วยระยะใกล้ขนาดนี้คงหนีไม่พ้นแน่ แต่ไม่มีความลนลานใดๆ ทั้งนั้น กระสุนที่เขาติดตัวมาค่อนข้างรุนแรงดังนั้นสมควรยิงให้มันระเบิดพังไปได้

ทว่าขณะเดียวกันเศียรมังกรรู้ความร้ายกาจของแกตเจ็ดอันนี้ดี การยิงมันสามารถทำให้มันหยุดได้ แต่มันจะระเบิดแล้วปล่อยสะเก็ดไฟออกมาทำร้ายเขาได้เช่นกัน แต่มันจะไม่ทำให้เขาตาย อย่างน้อยเมษาที่ยังว่างอยู่สามารถรักษาเขาได้ทันท่วงที

ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงเศียรมังกรก็รู้ว่าเขากำลังปลอบใจตัวเองเท่านั้น ยังไงก็แล้วแต่เขาทราบแต่แรกว่าคนที่อยู่บนเพดานควรมีกันสองคน ระหว่างให้เมษารักษาตัวเองกับใช้หมอนั่นยิงทะลุเพดานขึ้นไปเล่นงานคนด้านบน ตามความเป็นจริงปืนขอเมษาเรียกได้ว่าง่อยและผลการโจมตีเบามาก

ดังนั้นเขาจึงเรียกให้เมษามาทำแผลให้แทน มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรซักอย่างใช่ไหม บางทีเศียรมังกรก็เกลียดสิ่งที่ตัวเองมักเดาได้ถูกเสมอ maddog01โยนระเบิดควันลงมาตามรูที่หุ่นยนต์ตุ่นก่อนหน้านั้นเจาะ

มันทำให้ทั้งห้องเต็มไปด้วยควันขาวฟุ้งกระจาย silverfox13ส่งเจ้าหุ่นยนต์ตุ่นลงมาอีก มันวิ่งเข้าใส่อิงฟ้าและเฉิ่นเล่อที่กำลังยิงสกัดไม่ให้ตะวันกับฟอร์ดเข้ามาในห้อง เพราะควันขาวๆ นี่ทำให้ทัศนียภาพของทั้งคู่ไม่ชัดเจนดังนั้นจึงถูกระเบิดเล่นงานตกตายไปพร้อมๆ กัน

จบกันแล้ว

เศียรมังกรถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมาเบาๆ

“โอ้..คุณโรมดูสิครับ ดูเหมือนว่าคราวนี้ทีมhunter00จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แล้วครับ เป็นการต่อสู้ที่เยี่ยมยอดจริงๆ”

เอกตีไหล่โรมดังป้าบๆ คนถูกตีพ่นลมหายใจออกทางจมูกด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

“ผมจะบอกให้คุณรู้นะว่าจุดอ่อนของทีมอยู่ตรงไหน”

“ว่ามาเลยครับ” เอกยิ้มกว้างรอฟังคู่หูของตัวเอง

“มันเป็นผลสืบเนื่องจากการแข่งในคราวที่แล้ว ทั้งที่แมพนี้กับแมพก่อนคืออันเดียวกัน และทีมhunnter00ก็ได้เปรียบจากการใช้โดรนสำรวจได้มากและนานกว่า มันต้องเป็นความผิดพลาดของผู้แข่งhuntter00อยู่แล้วที่หูตาไม่ไวพอ ไม่สามารถสำรวจสิ่งต่างๆ แล้วนำไปแจ้งคนในทีมได้จนครบถ้วน”

พอผู้บรรยายพูดอย่างนี้เมษาก็แยกเขี้ยวทันที เขารู้สึกถึงสายตาดูแคลนของเฉินเล่อ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดแต่อย่างใด เขาสาดสายตาท้าทายเพื่อนร่วมทีมตัวแสบก่อนจะหันไปมองดูสายหมอกและพบว่าฝ่ายนั้นกำลังยิ้มพออกพอใจอยู่

“ดี...ดีจริงๆ “

สายหมอกกำลังสนุกอย่างมาก เมษากับเฉินเล่อเห็นชัดสองตา ที่สำคัญทางฝั่งmaddog01นรินทร์เองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากนี้

พวกเขาสองคนกำลังสนุก พวกเขาตื่นเต้นที่ได้สู้กับทีมที่สมน้ำสมเนื้อกับตัวเองและแล้วการแข่งกันในแมพที่สามก็เริ่มขึ้น คราวนี้ไม่ได้อยู่ในแมพเดิมอีกต่อไป ในการแข่งที่สามทีมmaddog01กับhunter00จะได้แข่งกันในแมพยอดนิยมที่ต่างคนต่างก็คุ้นชิน

การต่อสู้อย่างสมน้ำสมเนื้อจบลงใน 15 นาที ผลลัพธ์ที่ได้นำมาสู่ชัยชนะแก่ทีมของเศียรมังกร นรินทร์เอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก เขาแพ้แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บปวดผิดหวัง การที่ได้สู้ยิบตาสมน้ำสมเนื้อกับเศียรมังกรมันช่างดีและสนุกเหลือเกิน

เขายังใจเต้นไม่หยุด ทว่าในความเป็นจริงเขาแพ้แล้ว หากว่าทีมของรุ่นพี่เมษาต่อสู้จนได้รับชัยชนะอย่างแท้จริงในการแข่งขันพี่ภาริชจะต้องคุกเข่าขอขมา คิดถึงตรงนี้ความตื่นเต้นสนุกสนานก็ลดลงอย่างเฉียบพลัน ความรู้สึกหดหู่เข้ามาแทนที่

ทุกคนในทีมต่างเข้าใจความรู้สึกของนรินทร์ดีจึงไม่มีใครปริปากพูด หลังจากแข่งเสร็จทั้งสองทีมต้องจับมือกัน นรินทร์ยื่นมือไปหาเศียรมังกรอย่างเลื่อนลอย อีกฝ่ายคว้ามือจับเอาไว้แน่น

“ฉันจะเฝ้ารอการแข่งขันระหว่างฉันกับนายอีก ดูสิฉันต้องทุมสุดตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพื่อเอาชนะนาย ไม่ว่าใครได้มาเห็นการแข่งขันของนายกับฉันในครั้งนี้ ใครๆ ก็ต้องภูมิใจทั้งนั้น”

คำพูดของเศียรมังกรคล้ายกับเตือนสติให้นรินทร์ได้คิด สิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดจากการแข่งแพ้ คือปฏิกิริยาของพี่ภาริชที่มีต่อเขา นรินทร์กล้าหันไปมองดูพี่ภาริชได้ในที่สุดและพบว่าคนรักของเขาคลี่ยิ้มอ่อนโยนมาให้

จังหวะนั้นพี่ภาริชชี้นิ้วไปยังห้องvipทางด้านบน นรินทร์เข้าใจความหมายในทันทีอีกฝ่ายต้องการให้เขาไปหาที่นั่น ทว่าขณะที่เวียนจับมือไปจนถึงเมษาความเครียดก็ถาโถมกลับมาอีกครั้ง

“ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าผู้ชายคนนั้นมันรักนายจริงหรือเปล่า”

นรินทร์เข้าใจในสิ่งที่เมษาสื่อออกมาทันที ความกลัวเริ่มทวีมากขึ้นทุกทีๆ หากพี่ภาริชตัดสัมพันธ์เพราะความพ่ายแพ้ของเขาทำให้คนรักต้องเสียศักดิ์ศรีคุกเข่าขอขมารุ่นพี่เมษาท่ามกลางฝูงชนอย่างน่าอับอาย ถึงตอนนั้นเขาคงทำใจไม่ได้

เมื่อจับมือจนครบนรินทร์เดินไปยังห้องvipอย่างเลื่อนลอย วิญญาณของเขาใกล้หลุดออกจากร่างเต็มที ทว่าทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็ถูกคนข้างในคว้าไปกอดรัดแล้วประทับจูบลงมา



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                 ไปงานสัปดาห์หนังสือมากวาดไป20กว่าเล่ม ทั้งไลท์โนเวลนิยายแปลนิยายไทย 

                  ที่หายไปนี่ลบๆ แก้ๆ นิยาย รวมถึงอ่านหนังสือที่ซื้อมาด้วยค่า5555

                    เข้าโค้งสุดท้ายของนิยายเราแล้วนะคะ ใกล้จะจบแล้วน้า

                    ขอเสียงคนแอบอ่านและคนอ่านด้วยช่วยกันเม้นบอกเราทีก็ดีน้าTT

                    maddog01พ่ายแพ้แล้ว อย่านอยกันน้า5555 

                    หวังว่าจะสนุกสนานกับนิยายของเรานะคะ

                   แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้าง อย่าลืมคอมเมนท์กันน้า เราขอร้องTT
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่56 ผู้ที่พ่ายแพ้ 28/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 28-10-2018 16:55:28
ให้กำลังใจนุ้งรินทร์ พี่ภาริชต้งไม่โกรธหนูแน่นอนนน
รอตอนต่อไปนะค้าาา
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่56 ผู้ที่พ่ายแพ้ 28/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 28-10-2018 22:18:26
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่56 ผู้ที่พ่ายแพ้ 28/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 29-10-2018 08:43:10
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่57 คำขอโทษของนรินทร์ 30/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 30-10-2018 14:56:57
บทที่57

คำขอโทษของนรินทร์

นรินทร์ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของภาริช เป็นครั้งแรกที่เขาต่อต้านเพราะว่าความรู้สึกกังวลทำให้ไม่สามารถจมดิ่งไปกับการจูบอันแสนหวานของคนรักได้เลย ภาริชจำต้องผละออกอย่างเสียไม่ได้ถึงจะยังกอดอีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ

“เป็นอะไรไป” ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนโยน เขาใช้ปลายนิ้วคลึงหัวคิ้วที่ย่นจนชนกันของนรินทร์คลายออก สีหน้าของคนรักไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้ว่าน้ำเสียงของเขาที่ใช้พูดด้วยจะอ่อนหวานซักแค่ไหน

ดังนั้นเขาจึงช้อนอุ้มคนรักพาไปวางลงบนโซฟา ภาริชเชยคางคนรักขึ้นมาสบตาและพบว่าดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำ

“ร้องไห้ทำไมหืม...”

“ผมขอโทษที่แพ้” พอถูกกระตุ้นน้ำตาก็ทะลักทลายเป็นสายๆ ท่าทางสำนึกผิดและเสียใจมองดูแล้วช่างเปราะบางน่ารักจนหัวใจกระตุก

“ร้องไห้ทำไมรินทำดีที่สุดแล้ว แค่คุกเข่าขอขมาเมษาต่อหน้าคนจำนวนมากพี่ไม่ยี่หระซักนิด”

คำพูดของภาริชยิ่งส่งเสริมจินตนาการของนรินทร์ไปในทางเลวร้ายมากขึ้น เด็กน้อยรู้สึกย่ำแย่กว่าเดิมเขาหยุดร้องไห้ไม่ได้แม้ว่าไม่อยากฟูมฟายเหมือนคนอ่อนแอ

“สงสัยว่าพี่คงต้องปลอบให้เราเลิกงอแงและคิดมากแล้วมั้ง”

ภาริชกดจูบลงไปบนริมฝีปากของคนรัก เขาสำรวจซอกซอนด้วยปลายลิ้นอย่างหนักหน่วงสลับกับกัดเล็มริมฝีปากแสนนุ่มนิ่มราวมาชเมลโล่แสนอร่อย นรินทร์ขัดขืนในทีแรกจากนั้นไม่นานก็คล้อยตามการชักนำจนหยุดสะอื้นและหมกหมุ่นกับจูบในที่สุด

ภาริชไม่หยุดแค่จูบมือไม้ของเขาลูบโลมไปใต้เสื้อผ้า นรินทร์สะท้านกายเยือกแม้จะรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ทว่าเขายินยอมพลีร่างกายให้กับคนรัก ไม่ว่าอะไรที่สามารถชดเชยให้พี่ภาริชได้เขายอมทำทุกอย่าง ถึงแม้มันอาจดูโง่มากก็ตาม กระนั้นเขายอมเป็นคนโง่ปล่อยให้คนรักชักจูงและทำตามใจปรารถนาจนถึงที่สุด

นรินทร์ใช้มือทั้งสองข้างโอบรัดแผ่นหลังของภาริชเอาไว้ ในขณะที่ภาริชปลดกระดุมของนรินทร์ออกจนหมดเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียน เจ้าตุ่มไตสีชมพูเรื่อสองจุดล่อตาล่อใจจนยากต้านทาน

ภาริชครอบริมฝีปากลงไปดูดกลืนครั้งแล้วครั้งเล่าจนส่วนนั้นเปียกชุ่ม นรินทร์สะอื้นจนน้ำตาคลอไม่รู้ว่าเพราะเสียใจที่คนรักต้องคุกเข่าหรือรู้สึกดีจากการย่ำยีด้วยปากกันแน่

ภาริชล้วงมือเข้าไปในกางเกงกอบกุมเครื่องเพศของคนรักที่ติดไฟแห่งราคะจนพองโต เขาสำรวจและขยับมือไปมาสร้างความเกษมสันต์ให้คนใต้ร่าง เพลิงแห่งราคะลุกโชนเผาผลาญจนร่างหลอมละลาย ดวงตาฉ่ำวาวไปด้วยหยาดใสที่มองมามันแฝงไว้ด้วยความรักอันลึกซึ้ง

นรินทร์ตัวน้อยสั่นระริกไปทั้งร่างด้วยความรู้สึกหลากหลายปนเป ทั้งวาบหวาม ปวดร้าว มีความสุขและกังวลใจ หากสามารถหยุดเวลาแห่งความสุขนี้ได้ชั่วกัปชั่วกัลป์ ไม่ต้องกังวลว่าทีมของรุ่นพี่เมษาจะชนะ ไม่ต้องกลัวคนรักคุกเข่าต่อหน้าฝูงชนจนเสื่อมศักดิ์ศรี ถ้าสามารถจมอยู่ในห่วงแห่งความปรารถนาอย่างนี้ตลอดไปได้คงจะดีที่สุด

“ต่อให้พี่ต้องไปคุกเข่าต่อหน้าคนมากมาย พี่ก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก” ภาริชไม่ได้พูดสิ่งที่คิดในใจออกไป

เขาขยับกายครอบครองเครื่องเพศของนรินทร์ด้วยปากและลิ้น สำรวจชอนไชทุกซอกมุมของบริเวณนั้นอย่างไม่รังเกียจ การกระทำกับเครื่องหมายความเป็นชายของตนเองราวกับขนมหวานแบบนั้นทำให้นรินทร์แทบลืมความเป็นจริงไป

เด็กน้อยมัวมากับรสสัมพันธ์อันดื่มด่ำ มือไม้อยู่ไม่สุขต้องขย้ำขยี้เส้นผมอ่อนนุ่มของคนรักที่กำลังซุกซ่อนใบหน้าไปกับส่วนล่างของตัวเอง นรินทร์จิกปลายเท้าลงบนโซฟาเหยียดเกร็งถูไถด้วยความเสียวสะท้านจนสุดทน มุกใสๆ ร่วงหล่นจากหางตา ไม่ได้มาจากความเศร้าแต่มันคือธารใสอันเต็มไปด้วยความสุขล้วนๆ

“อย่าเสียใจไป ต่อให้ต้องคุกเข่า พี่จะไม่มีวันทอดทิ้งรินเด็ดขาด”

ภาริชตอกย้ำความมั่นใจลงไปก่อนจะจัดการกัดกินอย่างหิวกระหาย สูบเอาเลือดเนื้อเมล็ดพันธ์นับล้านจากนรินทร์ไป ร่างกายของคนใต้ร่างบิดเกร็งเมื่อสรวงสวรรค์มารออยู่ตรงหน้า ทำนบน้ำพังทลายลงเมื่อถึงเวลาของมัน นรินทร์ได้เรียนรู้ว่าการได้เห็นดวงดาวเป็นหมื่นเป็นแสนดวงโดยไม่ต้องรอถึงยามค่ำคืนมันเป็นเช่นไร

เขาอยากจะรักพี่ภาริชให้มากกว่านี้ นรินทร์คาดหวังที่จะทุ่มเทชดเชยให้มากกว่านี้ เพราะงั้นทันทีที่ภาริชหยุดมือแล้วทำท่าจะทำความสะอาดสวมเสื้อผ้าให้เขาใหม่

คนรักตัวน้อยก็เป็นฝ่ายโถมทับภาริช ประกบจูบอีกฝ่ายอย่างไร้ชั้นเชิงมือไม้ป่ายปัดไปด้านล่างของคนรักพยายามรูดซิปและคว้านหาเจ้าสิ่งที่เขาเองก็มีเหมือนกัน

“แบบนี้มันจะผิดสัญญากับณภัทรนะ” ภาริชตักเตือนคนรัก นรินทร์เม้มปากเข้าหากัน

“ผมเป็นคนอยากทำเองพี่ภาริชไม่ผิด อีกอย่างเราไม่ต้องบอกใครเก็บไว้เป็นความลับของเราสองคนก็ได้”

นรินทร์แนบจูบปิดกั้นคำพูดใดๆ ก็ตามที่มันจะทำให้ตนเองไขว้เขว เพราะว่ามัวแต่ปิดตาพรมจูบด้วยความพยายามจึงไม่เห็นรอยยิ้มอันแสนร้ายกาจและเต็มด้วยความยินดีปรีดาของภาริช

การที่คนรักรุกเข้าหาอย่างเย้ายวนและไร้เดียงสามันกระตุ้นเร้าภาริชเสียจนไม่นึกอยากห้ามการกระทำที่ทั้งโง่ทั้งไร้เดียงสาอีกต่อไป

นรินทร์ขยับเลื่อนกายลงไปจดจ้องความเป็นชายที่เหยียดขยายอย่างอลังการด้วยดวงตาเบิกกว้าง ภาริชยกยิ้มมุมปากเขาสัมผัสได้ถึงความกลัวจากคนรัก

“ถ้าไม่ไหวจะเลิกตอนนี้ก็ได้นะ พี่ช่วยตัวเองได้”

แทนคำตอบนรินทร์จรดปากลงไปโดยไม่เสียเวลาคิด สำหรับภาริชทั้งที่มีงกเงิ่นไร้ชั้นเชิงแต่สีหน้าเย้ายวนจริงจังกับสัมผัสเปียกชื้นที่ได้รับจากคนรักมันดีอย่างไม่ต้องกังขา

ภาริชขยับปรับเปลี่ยนท่าเสียใหม่ให้ทั้งตนเองและนรินทร์สามารถปรนเปรอมอบความสุขให้แก่กันและกันได้ นรินทร์ไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างได้ ดังนั้นขณะที่คนตัวเล็กซุกใบหน้าลงกับเบื้องล่างของเขา บั้นท้ายขาวๆ ของอีกฝ่ายก็มาอยู่ตรงหน้าภาริชเช่นกัน

นรินทร์ใช่ว่าจะไร้เดียงสา แม้ไม่เคยมีประสบการณ์จริง แต่สำหรับเด็กที่เขียนทั้งโดจินชิแนวลามกหรือกระทั่งศึกษาเรื่องทางเพศของผู้ชายด้วยกันมาก่อนหน้านั้นแล้วพอเข้าใจการกระทำของคนรักได้ ดังนั้นแม้จะเขินหรือกระดากในความไร้ยางอายของตัวเองอยู่บ้าง ขณะเดียวกันก็คาดหวังกับการกระทำของคนรัก

“น่ารักจังเลยนะ” ภาริชปัดมือเบาๆ ยั่วเย้าเจ้ากลีบดอกเบญจมาศสีชมพูที่อยู่เบื้องหน้า คนรักสะท้านเกร็งจนดอกเบญจมาศหุบกลีบดูแล้วเย้ายวนเกินห้ามใจ

แม้ว่าร่างทั้งร่างจะสั่นระริกด้วยความกลัวอย่างไม่ประสาแต่ในเมื่อไม่ได้ย้ายบั้นท้ายหนีไปแถมยังตั้งอกตั้งใจดูดกลืนเจ้าสิ่งใหญ่โตอย่างอาจหาญ ภาริชจึงไม่เกรงใจนวดคลึงเจ้าดอกเบญจมาศ สอดแย้มเกสรหวานๆ ชอนไชด้วยปลายนิ้วและลิ้นจนคนรักต้องหวีดร้องเบาๆ

ถึงถูกสำรวจล้ำลึกอย่างเร่าร้อน ถึงจะสั่นสะท้านไปทั้งร่างด้วยความรู้สึกดีจนเกือบวิปลาสไป แต่นรินทร์ไม่ได้หยุดปรนเปรอคนรัก ภายในปากของเขาเต็มไปด้วยคนรักที่อัดแน่นจนคับไปหมด ปลายนิ้วที่ยิ่งนานยิ่งลึกเข้ามาในกายทำให้ที่สุดแล้วก็ไม่สามารถทำดั่งใจได้อีก

นรินทร์ครางเครือทั้งน้ำตา ไม่มีสติพอจะเป็นฝ่ายทำให้คนรักมีความสุขได้อีกแล้ว เด็กน้อยจมอยู่กับความหฤหรรษ์ที่ถูกป้อนให้เพียงฝ่ายเดียว แม้จะรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ตนเองต้องเป็นฝ่ายมอบความสุขเพื่อชดเชยต่างหาก กระนั้นกลับลืมเลือนสิ่งนั้นไปก่อนดำดิ่งไปในห้วงลึกของราคะอันเร่าร้อน

“อยากให้พี่ทำยังไงต่อไปดีหรือว่าจะให้พี่หยุด รินไม่สงสารพี่ณภัทรเลยหรือ” ภาริชถาม

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กาจเกลื่อนไปทั่วใบหน้า นรินทร์ไม่รู้สึกถึงอันตรายจากคำพูดล่อลวงนั้นเลย กลับคิดว่ารอยยิ้มนั้นช่างทรงเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ เด็กหนุ่มหลงใหลคนรักจนยากจะถอนตัว

“พี่ภาริชเก็บไว้เป็นความลับของเราสองคนนะครับ”

โชคดีที่ห้องvipนี้เก็บเสียงแถมหน้าต่างกระจกขนาดยักษ์ยังมีม่านอัตมัติรูดปิดไว้อย่างมิดชิด ในห้องนี้มีเพียงแค่คู่รักปราศจากคนอื่นรับรู้ ส่วนกล้องวงจรปิดเวลานี้บอดี้การ์ดคนสนิทของเขาจับตาดูอยู่ทันทีที่เห็นเขากอดจูบนัวเนียฝ่ายนั้นก็ต้องรู้งานอยู่แล้ว

“เทวดาตัวน้อยกลายเป็นปีศาจไปซะแล้วสิ” ภาริชเย้าแหย่คนรัก เขาเสียเวลาอีกนิดมอบจูบและเค้นคลึงดอกเบญจมาศอย่างอ้อยอิ่ง

“โชคดีจังที่พี่พกถุงยางมาด้วย ที่นี่อะไรๆ มันก็ไม่สะดวก อย่างน้อยๆ พี่ไม่ควรทำให้เราลำบาก”

นรินทร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน รู้สึกแปลกๆ ที่คนรักพกถุงยางติดตัวเอาไว้แบบนี้ แต่จะคิดมากทำไม เขาไม่อยากให้เรื่องเหลวไหลมาทำลายความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาทำแบบนี้เพื่อปลอบโยนคนรักเพื่อเหนี่ยวรั้งไม่ให้คนรักทอดทิ้งตัวเอง ดังนั้นเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้เขาจะไม่เอามาใส่ใจ

เสียงลมหายใจหอบกระชั้นของคนรักช่างเร้าอารมณ์ รอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้าของคนรักยามกดร่างเข้าหาอย่างป่าเถื่อนแสนจะน่าหลงใหล

ในความไร้เดียงสาของนรินทร์มียั่วเย้าดั่งปีศาจอยู่ในนั้น สะโพกผอมบางราวกับจะหักได้ขยับสอดคล้องกับการโหมกายของภาริช เป็นจังหวะลึกล้ำที่เข้ากันได้ดีเสียจนเกือบห้ามใจไว้ไม่ได้ มุกน้ำตาที่บ่งบอกถึงความสุขและความเจ็บปวดของคนใต้ร่างกลิ้งลงบนโซฟาหนานุ่มจนเปียกแฉะ

มือไม้ที่ลูบโลมบนแผ่นหลังกว้างของเขาเพื่อลดความเสียวกระสันของตนเอง ยิ่งทำให้ภาริชรู้สึกคึกคักปานพญามังกร ถึงแม้จะอยากทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะสาแก่ใจ ทว่าไม่สามารถปล่อยตามอารมณ์ได้เพราะงานแข่งขันครั้งนี้มันยังไม่จบ

เจ้าเด็กเมษากำลังรอให้เขาไปคุกเข่าต่อหน้าผู้คนมากมาย

จริงสิเขาไม่ได้บอกความในใจของเขาให้ฝ่ายนั้นรับรู้แต่แรก

<เพราะว่าต่อให้ฉันแพ้ นายก็จะไม่เหลืออะไร เพราะทุกอย่างของนายมันจะกลายเป็นของฉัน>

การเทคโอเวอร์บริษัทสำเร็จตามที่เขาต้องการ แถมความสัมพันธ์กับพี่น้องตระกูลชัยมงคลไปได้ดีกว่าที่คาด ถึงแม้ว่าจะออกคำสั่งให้ตรวจเช็คบัญชีบริษัทอย่างวางอำนาจก็ตาม มีนาและตุลา ชัยมงคลก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

ไม่เพียงแค่เขาจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในคดีส่งสปายมาคราวก่อน ผลการสอบบัญชีที่พบว่าธันวายักยอกเงินบริษัท มีนาและตุลาก็ยื่นหลักฐานให้ผู้มีอำนาจทางกฎหมายไปแล้วด้วย

หลังจากการแข่งขันคราวนี้เสร็จจะคุกเข่าหรือไม่ไม่สำคัญสำหรับเขาซักนิด ภาริชมองไกลไปจนถึงวันเรียกประชุมบอร์ดบริหารที่มีนาและตุลาจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า เขาจะไปที่นั่นด้วยตนเองแล้วเก็บเกี่ยวชัยชนะอันหอมหวาน

ใครจะเป็นฝ่ายได้หัวเราะถึงตอนนั้นก็จะได้รู้กัน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                 เห็นมีคนถามว่าพี่ภาริชต้องคุกเข่าไหม55555 เดากันได้แล้วมั้ง5555

                  บางคนอาจจะนอยแต่ชัยชนะกับความสำเร็จมันต่อจากนี้ค่า มารอดูกันว่าคนชนะอย่างเมษา

                 นางจะกร่างใส่พี่ภาริชได้มากขนาดไหน55555
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่57 คำขอโทษของนรินทร์ 30/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 30-10-2018 16:27:00
นุ้งรินนนน ลูกแกะกลายเป็นแมวจอมยั่วไปแล้ว
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่57 คำขอโทษของนรินทร์ 30/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 30-10-2018 18:11:54
น้องรินติดบ่วงพี่ภาริชซะแล้ว
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่57 คำขอโทษของนรินทร์ 30/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-10-2018 21:53:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่57 คำขอโทษของนรินทร์ 30/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 31-10-2018 08:13:43
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่57 คำขอโทษของนรินทร์ 30/10/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 31-10-2018 19:47:06
 :hao7:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่58 ความลำพอง 3/11/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 03-11-2018 12:22:18
บทที่58

ความลำพอง

หลังจากที่ภาริชกับนรินทร์ลงมาจากห้องvipการแข่งขันด้านล่างก็จบลงพอดี ผู้ชนะ รองชนะเลิศและทีมอันดับสามต่างขึ้นไปรอรับรางวัลบนเวทีแล้ว ณภัทรพอเห็นน้องชายของตัวเองเดินมาด้วยกันกับภาริชสิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวของเขาคือคำบริภาษเช่นว่าไอ้ปีศาจร้ายจอมปลิ้นปล้อนเอ๊ย

“ผมนึกแล้วว่าคุณต้องผิดสัญญา” ยิ่งมองดวงตาที่เยิ้มฉ่ำของน้องชายตัวเองแล้วยิ่งคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้

ขณะเดียวกันคำพูดของณภัทรกระตุ้นให้นรินทร์ออกมาปกป้องคนรักทันที

“พี่ณภัทรผมต่างหากที่เป็นฝ่ายยั่วยวนพี่ภาริช”

ดูเอาเถอะขนาดเจ้าตัวเองยังปกป้องตัวมารร้ายอย่างนี้ เรื่องรักชอบกับเรื่องเพศเขารู้ว่าไม่สามารถห้ามเด็กในวัยนี้ไม่ให้อยากรู้อยากลองได้หรอก โชคดีที่นรินทร์เป็นเด็กผู้ชายเพราะอย่างนั้นผลเสียที่จะตามมามันก็น้อยกว่าการเป็นเด็กผู้หญิงมาก

ณภัทรถามภาริชซึ่งๆ หน้าเกี่ยวกับข้อข้องใจ “คุณได้ใช้ถุงยางหรือเปล่าครับ”

“แน่นอนสิ” ภาริชตอบด้วยรอยยิ้มหวานที่เกลื่อนเต็มหน้า

ณภัทรได้ฟังแล้วโล่งใจขึ้นนิดหน่อย ถึงแม้ว่าภายในอกนั้นเต็มไปด้วยความขุ่นมัวคับข้อง ทว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาไม่ควรดุด่าว่ารินหรือเอาเรื่องเจ้านาย นั่นเป็นเพราะหากดุด่าน้องชายที่หลงคุณภาริชจนโงหัวไม่ขึ้นอาจเตลิดไปจากพี่ชายอย่างเขาจนไม่กลับมาอีกก็ได้

ณภัทรถอนหายใจออกมาอย่างคนที่ปลิดปลง วินาทีที่มารร้ายตนนี้หมายตาน้องชายของเขา เขาก็ไม่มีปัญญาที่จะปกป้องน้องชายได้อีกต่อไป

“อย่ากังวลไปณภัทร เดี๋ยวจบจากงานนี้เมื่อไหร่ ฉันจะยกของหมั้นไปหาถึงบ้าน” ภาริชกระซิบให้ได้ยินกันแค่พวกเขาสามคน

“ผมยังจะปฏิเสธได้อีกหรือ” ณภัทรไหล่ตกรู้สึกหมดเรี่ยวแรง แต่ไม่ลืมการทำงาน เขาชี้แจงให้ภาริชทราบถึงรายการที่ควรทำถัดไป นั่นคือขึ้นไปมอบรางวัลให้เหล่าผู้ชนะ

บนเวทีเมษาจ้องมองดูภาริชที่อยู่ด้านล่างด้วยความสะใจ ทีมของเขาชนะมันถึงเวลาแล้วที่ไอ้หมอนั่นต้องคุกเข่าต่อหน้าคนมากมาย เขาอยากเห็นสีหน้าของมันในตอนนั้น และจะรอดูสายสัมพันธ์รักอันเปราะบางระหว่างมันกับนรินทร์ที่ต้องขาดสะบั้นอย่างแน่นอน

“ว่าไปทีมของคุณก็ชนะแล้ว คุณเมษาจะบอกได้หรือยังครับว่าพนันอะไรกับใครไว้”

พิธีกรประจำงานไม่ลืมข้อเท็จจริงอันนี้ เมษาแสยะยิ้ม เจ้าพิธีกรคนนี้ถามได้จังหวะดี ไอ้ภาริชมันก็ขึ้นมาบนเวทีเตรียมมอบรางวัลแล้วด้วย เมษาแย่งไมค์โครโฟนมาถือเอง

“ผมมาแข่งในงานของคู่แข่งคราวนี้เพราะคำท้าทายของ ภาริช พัชรกานต์กุล”

ทันทีที่เมษากล่าวเฉลยความลับเสียงฮือฮาก็ดังไปทั่วฮอลล์ ไม่เพียงเท่านั้นเหล่าผู้คนที่ดูไลฟ์สดทางโลกโซเชียลก็พากันรัวข้อความมาเป็นพันเป็นหมื่นข้อความ พวกเขาวิจารย์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างคึกคัก

“ได้เวลาแล้วใช่ไหมครับ คุณพนันกับผมว่าถ้าผมชนะการแข่งครั้งนี้คุณต้องคุกเข่าขอขมาผมต่อหน้าคนในงาน”

เมษาเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองควรจะได้ ภาริชยกยิ้มมุมปาก

อวดดีไปเถอะ ทำเป็นยิ้มสู้อย่างนั้นหรือ รอให้คลื่นสังคมกระจายไปปากต่อปากเสียก่อนเถอะ เมษาแสยะยิ้มร้ายกาจเขาแทบรอให้ภาริชมาคุกเข่าไม่ไหวแล้ว

“ยังไงครับคุณภาริช หรือว่าไม่กล้าคุกเข่า จะเบี้ยวก็ได้นะผมไม่ว่า ก็แค่คุณจะกลายเป็นคนไร้ศักดิ์ศรีไม่รักษาสัญญา”

ว่ากันว่าคนที่ชนะมักมีสิทธิเหยียบย่ำคนแพ้อย่างสาแก่ใจ เมษาเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น สายหมอกเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตา มุมปากของเขายกโค้งขึ้นโดยที่ไม่มีผู้คนสังเกต

น่าสนุกจริงๆ ยิ่งนายลำพองเท่าไหร่ยามที่ล่วงหล่นลงไปมันจะยิ่งรุนแรงเท่านั้น ความเอิกเกริกในครั้งนี้เทียบไม่ได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า ล้มละลาย ถูกยึดทรัพย์ ติดคุก มันเป็นเรื่องที่แน่ชัดซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

ป่านนี้นายจะรู้สึกยังไงนะ ต้นกล้าจะรู้สึกยังไงสำหรับชัยชนะที่เมษาได้มา แล้วจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเห็นสภาพความพินาศของเมษาที่จะเกิดในอีกไม่ช้าไม่นาน

ใครเล่าจะคิดว่าคนที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากอย่างภาริชจะยอมคุกเข่าขอขมาต่อหน้าผู้คนมากมายจริงๆ เมษาไม่อาจเก็บสีหน้าของผู้ชนะไว้ได้เลย เขาหันไปมองดูใบหน้าของนรินทร์ที่ซีดเผือดราวคนตาย อีกฝ่ายแทบจะยื่นเกาะขอบเวทีแล้วด้วยซ้ำ

ยิ่งได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกของภาริช เมษายิ่งพึงพอใจ ในที่สุดเขาก็ขจัดรอยยิ้มอันน่าชิงชังออกไปจากเจ้าผู้ชายคนนี้ได้เสียที

ภาพเหตุการณ์นี้ถูกแพร่ภาพไปในโลกโซเชียล อิงภพเองก็ได้เห็นมันเช่นกัน เขาจำได้ว่าสองวันก่อนเมษาส่งข้อความมาบอกเรื่องจะแก้แค้นพี่ภาริชให้เขา

ทันทีที่เห็นคนที่ชอบและตัวเองก็เทิดทูนบูชาคุกเข่า ถ้วยน้ำชาในมือก็ร่วงหล่นลงไปบนพื้น เขาถูกพี่ภาริชปฏิเสธรักก็จริง แต่ไม่ได้มีความแค้นอะไรพี่ภาริชเลย ตั้งแต่เด็กมาแล้วเขาได้รับการเอ็นดูอย่างดี รับสิ่งของมามากมาย

แม้กระทั่งหลังจากถูกจับได้ว่าเขาเฝ้ารังแกน้องชายของพี่ภาริชด้วยความริษยา ทว่าความสัมพันธ์ดีๆ ที่ได้รับมายังคงเป็นเช่นเดิม อิงภพมือไม้สั่นจนทำอะไรไม่ถูกเขาไม่อยากมองดูเหตุการณ์อัปยศของพี่ภาริชอีก แต่ก็ไม่ได้ปิดโน๊ตบุ๊คของตัวเองลง

ขณะเดียวกันนั้นคนที่ดีใจที่สุดคงไม้พ้น ธันวา ชัยมงคล จากที่อารมณ์เสียในคราวแรกที่ลูกชายหน้าโง่ไปแข่งในรายการของภาริช เวลานี้เขาแทบโห่ร้องด้วยความคุ้มคลั่งในชัยชนะของลูกชายที่มีต่อคู่แข่ง

คนยะโสโอหังอย่างภาริชมันต้องคุกเข่าขอขมาลูกชายคนดีของเขาให้ผู้คนนับล้านดู สมแล้วสมกับมันแล้ว ธันวาอยากเห็นวินาทีนี้มานาน ไม่คิดว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะทำให้เขาภาคภูมิใจถึงขนาดนี้ ดีใจถึงขนาดที่ว่าลืมความหงุดหงิดจากงานแข่งเกมกร่อยๆ ที่ตัวเองจัดขึ้นไปจนหมด

ธันวาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยความสาแก่ใจ มันต้องฉลอง ไม่สิไม่แค่ฉลองธรรมดา ตอนนี้ลูกชายของเขาสมควรถูกดันขึ้นมารับตำแหน่งในบริษัทได้แล้ว ด้วยผลงานอันนี้ ยังไงพวกญาติๆ ของเขาไม่มีทางโต้แย้งแน่ๆ ธันวาเล็งตำแหน่งรองประธานให้ลูกชายของเขาไว้

สมควรได้เวลาเสียที

ประจวบเหมาะเลยที่พวกญาติๆ เรียกประชุมบอร์ดบริหารในอีกสองวันข้างหน้า เขาจะได้จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย

ทุกคนในฮอลล์ต่างนิ่งงันไป ถึงแม้ว่าภาริชจะมอบรางวัลจนครบหรือถ่ายรูปที่ระลึกแล้วก็ตาม ทุกอย่างก็ดูจะเงียบเกินปกติ นรินทร์คอยรับภาริชอยู่ด้านล่าง ทันทีที่คนรักมาถึงเขาก็กอดนรินทร์ซบใบหน้าลงบนไหล่บอบบาง

“พี่ภาริช”

นรินทร์รู้สึกได้ว่าคนรักสั่นสะท้านไปทั่งกาย หรือว่าพี่ภาริชจะร้องไห้ แน่ล่ะถูกทำลายศักดิ์ศรีถึงขนาดนี้

แน่นอนว่าภาพเด็ดอันนี้ไม่รอดพ้นจากสายตาของเมษา ผู้ชนะแสยะยิ้มชั่วร้าย นรินทร์ตวัดสายตาแข็งกร้าวสาดใส่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว

ใครจะรู้เล่าว่าภาริชที่เอาแต่ซ่อนใบหน้าบนไหล่บอบบางของคนรักด้วยตัวสั่นเทิ้มนั้นไม่ได้กำลังร้องไห้ แต่เจ้าตัวเลวร้ายคนนี้พยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ เขาสนุกที่ได้เห็นสีหน้าและความกร่างของเมษา ยิ่งคิดไปถึงความดีใจของธันวามันยิ่งหยุดหัวเราะไม่ได้เลย

“พี่ภาริชอย่าเสียใจไป ผมจะอยู่ข้างๆ พี่ตลอดไป”

ตลอดไปนั่นมันเป็นของแน่อยู่แล้ว คิดว่าพี่จะปล่อยนายไปง่ายๆ งั้นรึ ภาริชยกยิ้ม เขาค่อยผละจากนรินทร์เผยให้เห็นสีหน้าย่ำแย่ที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน

ตัวร้ายกาจ ตอแหลได้อีก ณภัทรอยากจะด่าให้สาแก่ใจ แต่เข้าใจว่าเจ้านายคนนี้กำลังเล่นเกมอะไร ไม่งั้นคนหน้าด้านหน้าทนจะมีสีหน้าแบบนี้ได้อย่างไร

สีหน้าย่ำแย่แบบนั้นมันยิ่งทำให้สองพ่อลูกลำพองมากขึ้นไปอีก แถมกลายแป็นหัวข้อให้คนในโลกโซเชียลพูดคุยกันต่อไปอย่างคึกโครม เป็นต้นว่า

เจ้าชายผู้ล้มจักรพรรดิได้

เจ้าชายล้างแค้นให้กับราชาที่ไม่เคยชนะจักรพรรดิได้เป็นผลสำเร็จ

ในที่สุดเจ้าชายก็หาญกล้าสู้กับจักรพรรดิ์เสียที คลื่นลูกใหม่คงกำลังไล่คลื่นลูกหลัง

ภาริชยิ่งอ่านหัวข้อข่าวจำพวกนี้ ก็ยิ่งรู้สึกสนุกรื่นรมย์เสียเหลือเกิน ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงพวกนักข่าวและคนในวงการพากันลงบทความวิเคราะห์อย่างครึกโครมเป็นจำนวนมาก

ทว่ามีนักวิเคราะห์คนหนึ่งในโลกโซเชียลที่ให้ความเห็นแตกต่าง เขาพูดถึงเสถียรภาพและความไม่มั่นคงของบริษัทชัยมงคล ร่วมไปถึงความน่าจะเป็นกับข้อมูลบางอย่าง ทว่าไม่มีคนสนใจเท่ากับการที่ภาริชต้องคุกเข่าขอขมา

แต่ก็นั่นแหละถึงเขาจะอารมณ์ดีสุดๆ ทว่าเมื่อมีคนรักนั่งอยู่ในรถข้างๆ สีหน้าของเขาจึงเรียบนิ่ง นิสัยร้ายกาจที่ติดตัวมามันเรียกร้องให้แสดงความอ่อนแอและสำออยต่อหน้าคนรักให้มากที่สุด นรินทร์กอดแขนเขาเอาไว้แน่นตลอดการเดินทาง สายตาที่เต็มไปด้วยความรักและสงสารทอดมองมาอย่างไม่คลาดคลา

“พี่ภาริชผมไปค้างที่บ้านของพี่ได้ไหมครับ”

ภาริชหันไปสบตาคนรัก เขารู้จุดประสงค์ของนรินทร์ดี

“จะดีหรือ ณภัทรจะไม่ว่าเอาหรือ” ภาริชยกยิ้มขมขื่น

พอเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำของคนรัก นรินทร์ตัดสินใจได้แทบจะในทันที

“ถ้างั้นเราไปหาที่สงบๆ หลบไปจากตรงนี้ซักพัก ที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีใครตามหาเราเจอ”

เป็นความคิดที่ดี เขากำลังคิดว่าอยากฟอนฟัดคนรักให้สาแก่ใจเหมือนกัน

“จะดีหรือ” ภาริชแสร้งทำสีหน้าลังเล

“ต้องดีสิครับ เดี๋ยวผมจะส่งข้อความไปบอกพี่ณภัทรว่าเราจะไปเที่ยวกัน คิดว่าคงไม่มีปัญหาหรอก”

ภาริชลอบยิ้มหยัน จะไม่มีได้ยังไงล่ะ แต่ว่าได้ลักพาตัวคนรักไปซ่อนเอาไว้แล้วทำตามใจปรารถนามันเป็นเรื่องที่เย้ายวนใจอย่างที่สุด

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เย้เย ขอเสียงคนอ่านด้วยเม้นหน่อยค่า.......

หายไปหลายวัน กลับมาแล้วนะคะ ชอบตอนนี้กันไหมเอ๋ย

วิบากกรรมของเมษาเริ่มต้นขึ้นแล้วนะคะ55555

อ่าเราจะขอวกไปหาคู่พี่หมอกกับต้นกล้านิดนุงนะคะ5555

ขอเสียงหน่อยยยยยแสดงความคิดเห็นให้เราเยอะๆ หน่อยก็ดีนะคะTT

รักนะจุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่58 ความลำพอง 3/11/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 03-11-2018 14:03:20
สงสารพี่ณภัทร ฟีลลิ่งคล้ายๆลูกสาวหนีตามผู้ชายท้ายหมู่บ้าน 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่58 ความลำพอง 3/11/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 03-11-2018 18:31:41
มารร้ายเกิ๊น
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่58 ความลำพอง 3/11/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-11-2018 21:14:13
ว่าภาริชเป็นตัวแสบก็ดูจะเบาไป
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่58 ความลำพอง 3/11/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 04-11-2018 00:54:32
 :hao7:รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่59 หนทางที่ไม่อาจย้อนกลับ 6/11/61 หน้า11
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 06-11-2018 16:27:18
บทที่59

หนทางที่ย้อนกลับไปไม่ได้อีก

หลังจากชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ที่เมษามีต่อพี่ภาริชถูกเผยแพร่ออกไปในหมู่สังคม อิงภพก็คิดอยู่แล้วว่าบางทีเมษาคนนั้นก็อาจอยากมาหาเขาเพื่อพูดจาโอ้อวดเป็นธรรมดา

เพราะการมาของเมษาในครั้งนี้ถึงได้รู้ตื้นลึกหนาบางของการท้าดวลระหว่างพี่ภาริชกับหมอนี่ ไม่คิดมาก่อนว่าหลังจากเขาผละไปด้วยความเสียใจเพราะถูกปฏิเสธรักมันจะเกิดเรื่องทำนองนี้ตามมา

“น่าเสียดายที่ทำให้ไอ้ภาริชมันระเบิดอารมณ์ใส่นรินทร์ต่อหน้าผู้คนมากมายไม่ได้ แต่คิดว่าอีกไม่นานไอ้ภาริชมันคงจะหลบหน้านรินทร์อย่างแน่นอน” เมษาหัวเราะย่ามใจ แค่คิดถึงใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของนรินทร์เขาก็อารมณ์ดีอย่างที่สุด

สงสารไหมที่นรินทร์ต้องเจอแบบนั้น มันก็นิดหน่อย แต่กับคนที่ดื้อแพ่งมันสำควรแล้วที่ต้องถูกสั่งสอน โดยเฉพาะถ้าหากเสียใจจนกลับไปมุดอยู่ในรูเหมือนเดิมได้จะดีที่สุด

แล้วหลังจากนั้นเขาจะแสดงให้นรินทร์รู้ว่าใครกันที่ดีที่สุด ใครกันที่จะยืนเคียงข้างฝ่ายนั้นเป็นคนสุดท้าย

เมษาคิดฝันอย่างเคลิบเคลิ้ม แค่นึกถึงช่วงเวลาอันรันจวนยามเมื่อนรินทร์เข้ามาอยู่ในอ้อมอกอย่างศิโรราบเขาก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา

อิงภพมองปฏิกิริยาอาการนั้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ใคร่ครวญเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการคบหาแบบเพื่อนระหว่างเขากับหมอนี่ หรือเรื่องที่ได้รับความเอ็นดูเสมอๆ จากพี่ภาริช

อิงภพเทิดทูนบูชาพี่ภาริชมานาน ด้วยความที่อยากจะได้พี่ชายที่สมบูรณ์พร้อมอย่างนั้นมาเป็นของตัวเอง เพราะเหตุนี้จึงลงมือรังแกฟอร์ดด้วยความริษยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะเดียวยิ่งออดอ้อนพี่ภาริชและได้รับความเมตตามากเท่าไหร่ ความรู้สึกในใจมันยิ่งพอกพูนขึ้นจนพัฒนาเป็นความรัก

การที่เขาคบหากับเมษานั้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แค่คิดว่าพูดคุยถูกคอกัน ต่างคนต่างมีฝีมือในการเล่นเกม นอกจากนั้นฐานะทางบ้านก็คู่ควรทัดเทียมแก่การเป็นเพื่อน สำหรับเมษาไม่มีข้อด้อยตรงไหนให้น่าตำหนิ

แต่ว่าถึงตอนนี้แล้วคิดไปคิดมา หมอนี่ดันกลายเป็นคนที่อันตรายกับคนที่เขาชอบไปเสียแล้ว ไม่แค่คิดวัดรอยเท้าทัศนคติที่เต็มด้วยการเข่นฆ่าทำลายซึ้งล้วนพุ่งเป้าไปหาพี่ภาริช มันทำให้เขารู้สึกอึดอัด

“อีกไม่กี่วันพ่อของฉันจะมอบตำแหน่งรองประธานให้ฉันในการประชุมบอร์ดบริหาร”

เมษาขยับกายเอนหลังอย่างเกียจคร้าน สีหน้าเต็มด้วยความมั่นอกมั่นใจจนล้นปรี่

“ถึงตอนนั้นภาริชมันจะได้รู้ว่าการถูกขยี้ที่แท้จริงมันเป็นยังไง”

อิงภพบีบถ้วยน้ำชาหอมกรุ่นในมือไว้แน่น เขาหลุบตาลงต่ำซ่อนประกายความไม่เห็นด้วยเอาไว้

คนอย่างนายจะทำได้หรือ นายคิดว่าไก่อ่อนที่ไม่เคยเผชิญโลกกว้างจะสามารถโค่นล้มพี่ภาริชคนนั้นได้ง่ายๆ งั้นหรือ อย่ามาล้อเล่นน่า แค่ชนะเพียงครั้งเดียวในการแข่งเกมแบบเด็กๆ มันไม่เหมือนการต่อสู้ฟาดฟันในโลกธุรกิจหรอกนะ

อิงภพอยากจะให้เมษาหยุดพ่นคำพูดหยามเหยียดพล่อยๆ นี่ซักที

จังหวะนั้นพ่อบ้านก็เคาะประตูห้องแล้วเดินเข้ามารายงานเรื่องบางอย่างให้ทราบ

“คุณชายเพื่อนของคุณชายที่ชื่อต้นกล้ามาหาครับ”

“ไอ้ต้นกล้ามันยังกล้ามาอีกหรือ” สีหน้าของเมษาเต็มด้วยความดูถูก เขานึกว่ามันหนีกลับบ้านนอกไปอยู่บ้านตายายแล้วเสียอีก

“นายรอที่นี่แล้วกัน” อิงภพลุกจากโซฟา แปลกใจนิดหน่อยที่ต้นกล้าซึ่งไม่ถูกกับเขาแม้แต่น้อยแวะเวียนมาหา ทว่าการกระทำสีหน้าคำพูดคำจาของเมษากวนความคิดบางอย่างของเขา

ก่อนหน้านั้นก็ไล่กันไปเพราะต้นกล้ามันทำให้เล่นเกมแพ้ แต่ก็ไม่น่าจะโกรธเกลียดกันถึงขั้นนี้ เขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสองคนนี้มากนัก เพราะที่ทำด้วยกันหลักๆ ก็คือชวนกันเล่นเกมแล้วก็สังสรรค์ตามประสาคนมีเงินเป็นครั้งคราว

“ฉันจะไปด้วย” เมษาผุดลุกจากโซฟาเดินตามหลังอิงภพไปติดๆ


หลังจากถูกด่าและไล่จนยับเยินต้นกล้าซมซานกลับมาบ้านที่เขาต้องอยู่เพียงลำพังทั้งน้ำตา ทุกอย่างมันพังทลายไปจนหมด สิ่งเดียวที่เขาใช้มันยึดเหนี่ยวกลายเป็นความจอมปลอมอันโหดร้ายโสมม

ต้นกล้าทั้งหัวเราะและร้องไห้เพียงลำพัง รู้สึกสมเพชและชิงชังตัวเองเสียเหลือเกิน ยิ่งคิดถึงเรื่องต่ำช้าทุกอย่างที่ทำลงไปเพียงเพราะต้องการเป็นที่หนึ่งของเมษา หรือแม้กระทั่งขับไล่คนที่เข้ามาหาด้วยความรักความเมตตาด้วยการเหยียดหยามรังแกทั้งที่คนเหล่านั้นไม่ควรได้รับเนื่องจากความบิดเบี้ยวทางจิตใจของตัวเอง

ต้นกล้าอยากตายไปให้พ้นๆ แต่เขากลัวความโดดเดี่ยวหลังความตาย เขาอาจต้องไปอยู่ในที่มืดมิด เพียงลำพัง และหลังจากเขาตายไปคงไม่มีใครร้องไห้ให้เขานอกจากตากับยายเท่านั้น

เขาไม่กล้าวิ่งไปหาครอบครัวที่เหลืออยู่เล่าความจริงอันเลวทรามที่เขากระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากความจริงเรื่องที่เขาไปรังแกนรินทร์อีกครั้งเปิดเผยไป ซึ่งมันก็คงอีกไม่นาน ตายายที่เคยรักใคร่เอ็นดูจะมองเขาด้วยสายตาเช่นไร

ต้นกล้ายังจำแววตาแสนเศร้าเมื่อครั้งที่เขาต้องพักการเรียนเพราะรังแกนรินทร์จนต้องซ้ำชั้นได้ ทำไมนะ ทำไมเขาถึงได้ลืมแววตาคู่นั้นของตากับยายไปได้ ความผิดพลาดของเขาในครั้งนี้ทั้งคู่คงไม่มองเขาด้วยความรักใคร่เอ็นดูอีกต่อไปแล้ว

ต้นกล้าจมอยู่กับภาพหลอนของตากับยายที่มองด้วยสายตาเย็นชาจนแทบบ้า วินาทีที่เจ็บปวดจนถึงที่สุดภาพอันแสนโหดร้ายก็ถูกแทนที่ด้วยเงาร่างของพี่สายหมอกซึ่งเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

เขาอยากได้ใครซักคนมาอยู่เคียงข้างในเวลานี้ ไม่อยากอยู่คนเดียวในค่ำคืนอันเลวร้ายแบบนี้ ต้นกล้าคิดถึงได้เพียงแต่สายหมอก ดังนั้นจึงทั้งส่งข้อความและรัวสายโทรหาคนคนนั้นไปตลอดทั้งคืน โดยที่ไม่รู้ซักนิดว่ามือถือของสายหมอกพังไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ยิ่งติดต่อไม่ได้และไม่มีการส่งข้อความกลับมา มันยิ่งทำให้ต้นกล้ากลัว คนคนนั้นบอกรักเขา บอกว่าต่อให้เขาเป็นคนเลวร้ายแบบไหนก็ยังชอบอยู่ดี แต่ถ้าคิดดูให้ดีแล้วเขาทำเรื่องชั่วช้าถึงขนาดนั้น พี่สายหมอกอาจจะคิดว่าเขาเป็นเศษสวะที่ไม่คู่ควรอีกต่อไปแล้วก็ได้

ต้นกล้าผ่านค่ำคืนอันแสนทรมานโดยไม่ได้นอนแม้แต่นาทีเดียว ความคิดที่ว่าไม่อยากสูญเสียคนคนนั้นไปมันทำให้มีความกล้าที่จะไล่ตามไขว่คว้าอย่างบ้าคลั่ง เขารีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวเสียใหม่

เด็กน้อยไม่รู้ว่าจะหาที่อยู่ของพี่สายหมอกได้จากไหน เขาไม่เคยสนใจเรื่องเกี่ยวกับคนคนนั้นเลย ไม่เคยถามไถ่เรื่องส่วนตัวหรือพูดเปิดอกแม้จะอยู่ใกล้ชิดกันมากแค่ไหนก็ตาม เขาเอาแต่เมินเฉยทั้งยังผลักไสเพียงเพราะว่ายึดติดในตัวเมษาอย่างคนโง่งม

ต้นกล้ารู้ว่ามีคนสองคนที่น่าจะรู้ที่อยู่ของพี่สายหมอก คนหนึ่งคือเมษา อีกคนคืออิงภพ เขาเลือกที่จะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากอิงภพ

“มึงยังกล้าโผล่หน้ามาอีกนะต้นกล้า” เมษาบิดริมฝีปากด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นต้นกล้ามาป้วนเปี้ยนรอบตัวเขา

คนถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามหลบตาวูบหนึ่งก่อนจะรวบรวมความกล้าขจัดความกลัวออกไป

“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะนาย ฉันมาขอที่อยู่ของพี่สายหมอกจากอิงภพ”

ต้นกล้าพยายามทำตัวให้เข้มแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าแข็งขาจะสั่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเมษาก็ตาม เขารู้ว่าพี่ชายต่างมารดาคนนี้จะต้องเหยียดหยามเขาอย่างสนุกสนาน

“โถๆ ๆ ๆ มึงนี่เจตนาแรงกล้าจริงนะ” เมษาใช้มือเชยคางต้นกล้าให้เงยหน้าสบตาตัวเอง

“ร่านไปหน่อยไหมพอผิดหวังจากกูก็รีบสะบัดก้นขาวๆ ไปหาพี่สายหมอกเลยหรือ”

รู้ว่าที่เมษาพูดมานั้นถูกทั้งหมด แต่แม้จะต่ำตมเหมือนสวะด้วยการกระทำชั่วช้าหลายสิ่ง กระนั้นคนชั้นต่ำก็มีศักดิ์ศรีเหลือพอ ต้นกล้าสะบัดหน้าออกจากนิ้วที่เกาะเกี่ยวปลายคางเขาขบฟันเข้าหากันดังกรอด

ขอแค่ให้ได้พบกับพี่สายหมอกเท่านั้น แค่อยากเห็นหน้า อยากพูดในสิ่งที่อยากพูด แม้ว่าหลังจากนั้นจะถูกทอดทิ้งไปก็ตาม เขาก็แค่อยากลองไขว่คว้าเป็นครั้งสุดท้าย

“มึงมันโง่นะต้นกล้าหลังจากที่มึงขังนรินทร์เอาไว้ในห้องน้ำแบบนั้น คนที่กำลังจะถูกตำรวจจับอย่างมึง คิดว่าพี่สายหมอกเขายังรักมึงลงอีกหรือ มึงนี่มันมีสมองบ้างไหม”

ต้นกล้ายืนเกร็งตัวจนร่างแข็งทื่อ เมื่อข้อเท็จจริงที่เมษาพูดมานั้นถูกทั้งหมด เขาไม่อยากร้องไห้แต่น้ำตามันก็หลั่งออกมาจนได้

“เดี๋ยวที่พวกนายพูดนี่หมายถึงอะไร” อิงภพที่ยืนฟังอยู่นานถามด้วยความสงสัย ขังนรินทร์ในห้องน้ำ หมายถึงmaddog01คนนั้นนะหรือ

“ก็ไอ้หมอนี่มันมาป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัว ทำที่มาขอร้องว่าอยากทำประโยชน์ ฉันก็เลยเปิดโอกาสให้มันลองทำดู ใครจะไปคิดละว่าแค่ไปขังนรินทร์ไว้ในห้องน้ำจนมาแข่งไม่ทัน มันยังพลาดให้กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้”

เมษามัวแต่กดสายตาต่ำมองดูต้นกล้าที่ยืนหลั่งน้ำตาเงียบๆ ด้วยสายตาหมิ่นแคลนจึงไม่ได้สังเกตสีหน้าโกรธเกรี้ยวของอิงภพแม้แต่น้อย

สำหรับอิงภพเขาไม่ได้สนใจความเป็นความตายของmaddog01นักหรอก แต่แค่คิดว่าไอ้หมอนี่มันกล้าใช้ลูกเล่นสกปรกคดโกงผลการแข่งกับพี่ภาริชทุกวิถีทาง เพื่อให้คนที่เขาเทิดทูนคุกเข่าขอขมาอย่างเสียศักดิ์ศรีเขาก็รู้สึกชิงชังเสียจนอยากชกหน้าซักหมัด

อิงภพนึกถึงนาทีที่พี่ภาริชคุกเข่าซ้ำไปมา สลับกับคำพูดและสีหน้ายะโสโอหังของเมษา ภายในใจเดือดพล่านด้วยความหงุดหงิดอย่างที่สุด เป็นแค่ไอ้ขี้โกงชั้นต่ำแท้ๆ ยังกล้าโอ้อวดชัยชนะอีกหรือ ถ้าไม่เพราะพี่สายหมอกกับเฉินเล่อคนอย่างแกสามารถคว้าชัยมาครองได้หรือ ช่างไม่รู้จักประมาณตนเอาเสียเลย

ไม่เพียงแค่นั้นกับเจ้าต้นกล้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกชอบใจอะไรนัก เผลอๆ เกลียดนิสัยด้วยซ้ำไป แต่ถ้าคิดดูให้ดี ถึงเจ้านี่มันจะโง่ทุ่มเทให้คนอย่างเมษาเอง ทว่าการได้เห็นธาตุแท้ของเพื่อนในวงการเกมคนนี้ มันก็เกิดความรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา

นอกเหนือไปจากนั้นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกสงสารต้นกล้า แม้จะออกไปทางสมเพชเวทนาในความโง่เง่าก็ตามที อิงภพมองดูเมษาดูหมิ่นอีกฝ่ายด้วยคำพูดโสมมต่างๆ นานาเป็นร้อยพันคำ พอด่าจนสะใจเจ้าตัวก็บอกเหม็นหน้าจนทนไม่ไหวขอตัวไปรอที่ห้องรับแขกเหมือนเดิม

คนถูกด่ายืนนิ่งด้วยสายตาอันว่างเปล่าเหมือนตุ๊กตาไร้วิญญาณ อิงภพรู้ว่าความสงสารเวทนาของตัวเองคงไม่ได้ทำให้ต้นกล้ารู้สึกดีขึ้น แต่สิ่งที่หมอนี่ต้องการเขาจะยื่นมันให้เพราะอย่างน้อยก็เคยเที่ยวเล่นด้วยกันมา

“คอนโดxxxที่ถนนYYYห้องหมายเลข303ชั้น3พี่สายหมอกอยู่ที่นั่น นายอยากไปหาเขาก็รีบเถอะ ฉันได้ยินจากเมษามาว่าพี่เขากำลังจะไปฝึกงานที่เมืองนอกในช่วงปีสุดท้าย ไม่รู้ว่าต้องไปกี่เดือนกันแน่”

ตอนนี้แววตาที่ว่างเปล่าของต้นกล้าก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง “ขอบคุณนะ”

อีกฝ่ายพึมพำไม่ได้ศัพท์ แต่อิงภพสามารถรับรู้ความคิดจากแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณ เขาแค่พยักหน้าแล้วหมุนตัวกลับไปยังห้องรับแขกที่เมษารออยู่ แค่นึกว่าจะต้องทนอึดอัดกับตัวน่ารังเกียจอีกพักใหญ่สีหน้าของอิงภพก็บิดเบี้ยวจนไม่น่าดู


สายหมอกเปิดกล่องมือถือที่สั่งให้ลูกน้องไปซื้อมาให้ใหม่แล้วบรรจุซิมลงไปอย่างเนิบนาบ พรุ่งนี้เขาจะออกบินไปประเทศ F เพื่อไปฝึกงานในปีสุดท้าย ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที เขาสั่งให้ลูกน้องชุดดำไปลักพาตัวต้นกล้ามาให้

เขาตัดสินใจนำต้นกล้าไปที่ประเทศ Fด้วย เขาจะพาเด็กคนนั้นไปซ่อนเอาไว้และคงไม่พากลับมาที่ประเทศนี้อีกแล้ว จังหวะนั้นทันทีที่สายหมอกกดปุ่มให้มือถือทำงาน ข้อความเตือนหลายต่อหลายอันก็ถูกส่งมา ทั้งข้อความอันน่าสงสารทั้งการแจ้งเตือนสายที่เขาไม่ได้รับเป็นจำนวนมหาศาล

สิ่งนี้มันทำให้เขาตกใจเล็กน้อย เขาคาดไม่ถึงว่าต้นกล้าที่ดื้อแพ่งคนนั้นจะต้องการเขามากมายถึงเพียงนี้ ขณะที่กำลังจะไล่ดูข้อความที่รัวส่งมา เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังรัวๆ เป็นจังหวะที่ค่อนข้างบ้าคลั่งทีเดียว

สายหมอกเดินไปเปิดประตูอย่างเชื่องช้าและพบว่าคนตรงหน้าคือต้นกล้า เด็กคนนี้ยืนตระหง่านด้วยท่าทางสับสนวุ่นวาย ดวงตาล่อกแล่กไม่อยู่กับเนื้อตัว มือไม้เดี๋ยวกำเข้าหากันเดี๋ยวบิดไปมาส่อชัดว่าสภาพจิตใจไม่ได้ปกติเลยซักนิด

“ทำไมถึงมาหาพี่แต่เช้าละครับ”

“พ...พี่สายหมอกกำลังจะไปไหนครับ”

ที่ต้นกล้าถามอย่างนี้เพราะเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตั้งอยู่ในห้องเบื้องหลังสายหมอก เขารู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายต้องไปเมืองนอกจากอิงภพแต่ก็ยังเลือกถามแบบนี้ เพราะคิดไม่ออกว่าควรทำอะไรเป็นสิ่งแรก

“พี่กำลังจะออกเดินทางไปฝึกงานปีสุดท้ายที่ประเทศ F หลังจากฝึกงานเสร็จอาจจะกลับมาที่ประเทศTรอทำเรื่องจบซักพักจากนั้นจะไปทำงานที่ประเทศFถาวรและคงไม่กลับมาอีก”

สายหมอกบอกสิ่งที่จะทำตามตรง นี่เป็นเรื่องแน่นอนที่เขาต้องไปฝึกงานในบริษัทของพี่ภาริชที่ประเทศ Fก่อนจะเตรียมตัวขึ้นเป็นผู้บริหารของสาขานั้น เขาจะไม่กลับมาที่ประเทศTอีกแล้ว และจะไม่ไปเพียงลำพังเขาจะพาต้นกล้าไปอยู่กับเขาที่นั่นด้วย เขาจะซ่อนเด็กคนนี้ไว้ไม่ให้ใครพบเจออีก

แต่การที่ต้นกล้ามาหาเขาที่นี่ บางทีแผนการน่ารักๆ อันนี้ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้บ้างตามสถานการณ์ สายหมอกกำลังคาดหวังสิ่งที่เขาควรได้รับและต้องได้รับจากต้นกล้า

นายจะเป็นคนตัดสินชะตากรรมครั้งนี้ของนายด้วยตัวเอง พี่จะให้นายเลือก

“ผมรู้ว่า ผมไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร” ต้นกล้าใช้มือทั้งสองข้างกุมอกตัวเองอย่างรวดร้าว เขาเจ็บปวดที่ใจเหลือเกิน ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าต้องการเพียงแค่ที่พึ่ง

ทว่าวินาทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายจะจากไปไกลโดยไม่หวนกลับมาอีก มันก็ทรมานใจจนยากที่จะอธิบาย มุกน้ำตาร่วงหล่นลงมาราวห่าฝน เขารู้ว่าทำตัวน่าสมเพชแต่ไม่สามารถหยุดมันได้

“อย่าทิ้งผมไป ได้โปรดอยู่ข้างๆ ผม” ต้นกล้าคู้ตัวและก้มหน้าลงต่ำร่ำไห้อ้อนวอนเหมือนสัตว์ที่บาดเจ็บ ดังนั้นจึงไม่เห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะที่เป็นดั่งปีศาจร้ายของสายหมอก

ความพยายามที่เขาทุ่มเทลงไปมันคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับมา สายหมอกคลี่ยิ้มอ่อนโยนเขาเชยคางคนรักที่เปราะบางเหมือนแก้วร้าวๆ ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา

“ถ้าต้นกล้าต้องการพี่ ก็ได้โปรดจูบพี่ซักครั้งเถอะ แค่จูบเท่านั้นที่พี่อยากได้จากนายในตอนนี้”

แค่จูบเท่านั้นที่อีกฝ่ายต้องการแลกกับต้องมาจมปลักดูแลเอาใจใส่เขาไปทั้งชีวิต ต้นกล้าไม่นึกฝันว่าจะมีอะไรที่คุ้มค่ามหาศาลไปมากกว่านี้

เด็กหนุ่มเขย่งปลายเท่าเสนอจุมพิตให้กับคนตรงหน้าด้วยร่างกายอันสั่นเทา เป็นแค่จูบแผ่วๆ ที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งกับตัวต้นกล้าและสายหมอก

พี่สายหมอกคนนั้นส่งยิ้มอ่อนโยนอย่างที่สุดมาให้

เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ ถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปในรังอันอบอุ่นแสนหวาน ประตูสีขาวอันวิจิตรถูกปิดลง ภายในห้องที่ไม่ต่างจากกับดักชิ้นหนึ่ง ต้นกล้าได้ก้าวไปสู่หนทางที่ย้อนกลับมาไม่ได้อีกต่อไป

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โฮ่เย้ ใกล้เวลาของการจากลาระหว่างเรากะนักอ่าน เรื่องนี้ก็ใกล้จบแล้วนะจ๊ะ

ถ้าเกิดมันจบลงเราจะขอกบดานเขียนตอนพิเศษยาวๆและเปิดพรี

แม่มเอ๊ยเรื่องท้าชะตาเปลี่ยนรักเพิ่งเขียนตอนพิเศษจบไปลากยาวมาก

คาดว่าคงได้พรีกันปลายๆปี ส่วนเรื่องนี้ปกแรกยังไม่เสรจเลยTT

นักวาดเลื่อนงานไปเรื่อย ค่อนข้างจะนอยแล้วเนี่ยTT

คราวหน้าจะจ้างวาดแม่มตั้งแต่กลางๆเรื่องTT

โอเค มาที่เรื่องของต้นกล้า ตอนที่เราวางพลอตเรื่องนี้ เราคิดว่า

หากมีตัวรองที่มีลักษณะร้ายกาจเดินเรื่องขนานไปกับตัวเอกคงจะดีนะ

ถ้าเกิดว่าตัวรองนางร้ายเพราะต้องร้ายและนางจะมีเส้นเรื่องของนางขนานไปกับตัวเอกคงจะสนุกมาก

ในความคิดเรา ต้นกล้ากำเนิดมาจากแนวคิดที่ว่าคนร้ายยังไงมันจะต้องมีเหตุผลในการกระทำ

และต่อให้นางเปนคนร้ายถ้าไม่ร้านถึงที่สุดจนกลับตัวไม่ได้ก็สมควรมีโอกาสดีดี

เราไม่ค่อยชอบจุดจบแบบนางร้ายถูกข่มขืนเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เขียนก็เขียนได้นะ

ไม่ลังเลด้วย5555 ไม่ได้มีศีลธรรมขนาดนั้นหรอก

อ้อเราอ่านบทความทางจิตวิทยาที่ว่าคนที่เคยถูกรังแกมาสามารถกลายเปนคนที่รังแกคนอื่นได้เช่นกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้รายละเอียดเยอะไปหากันเองนะคะ

ส่วนนรินทร์เนื่องด้วยบรรดาน้องชายเพื่อนเราหลายคนเป็นทั้งนีททั้งฮิคิโคโมริเยอะมาก

อืมและน้องๆ พวกนี้ก้อเป็นโอตาคุกันส่วนใหญ่ด้วย เราคิดว่าถ้ามีพระเอกซักคนสามารถทำให้เด็กทั้งสองกลุ่มนี้

ไม่ว่าจะเป็นฮิคกี้อย่างนรินทร์หรือ เด็กที่รังแกคนอื่นและนิสัยเสียอย่างต้นกล้า มีความสุขหรือเดินไปในทิศทางที่ดีได้

มันจะเป็นความฟินของเรา เขียนไปก้อฟินไปค่ะ เราจดจำเสมอว่าการรรังแกคนอื่นมีแรงผลักดันมาจากหลายอย่าง

บางครั้งคนรังแกอาจเลวโดยสันดาน แต่กับเด็กบางคนมันมีอะไรหลายอย่างที่เป็นแรงผลักดันซับซ้อน

โอเค ขี้เกียจพร่ำเพ้อละ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่59 หนทางที่ไม่อาจย้อนกลับ 6/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 06-11-2018 17:31:05
รอตอนต่อไปนะค้าาาา ตอนนี้ก็มีสองคู่หวานชื่นนนนน
อยากเห็นจุดจบของเมษาจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่59 หนทางที่ไม่อาจย้อนกลับ 6/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 06-11-2018 19:03:37
ปาดเหงื่อ :katai1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่59 หนทางที่ไม่อาจย้อนกลับ 6/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 07-11-2018 08:43:10
รอ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่59 หนทางที่ไม่อาจย้อนกลับ 6/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: _tosssalad ที่ 07-11-2018 10:01:06
ความร้ายของแต่ละคน 5555 รอนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 16-11-2018 14:28:19
บทที่60

บันไดที่พาลงไปสู่นรก

เมษาเดินตามธันวาเข้าไปในบริษัทอย่างผู้ชนะ อีกไม่นานเขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดของบริษัท แค่คิดถึงช่วงเวลาอันหอมหวานซึ่งต้องมาถึงในภายภาคหน้า เขาก็อดยิ้มหน้าบานไม่ได้

พวกพนักงานพอเห็นธันวาและเมษาก็ก้มหน้าลงหุบปากเงียบ ใช่ว่าสองพ่อลูกจะไม่รู้สึกถึงสายตาแปลกๆ ที่พนักงานในแต่ละแผนกซึ่งพวกเขาเดินผ่านมองมา ยังไงเสียก็ต้องเป็นเพราะความสำเร็จบวกกับความหล่อเหลาของลูกชายคนเดียวของเขานั่นแหละถึงได้มองตามกันตาค้าง ทั้งธันวาทั้งเมษาไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้

เมื่อมาถึงห้องประชุมธันวาพาเมษาเดินอาดๆ เข้าไปด้วยท่าทางวางก้ามเหมือนกันทั้งพ่อลูก ธันวาปลายมองพี่สาวและน้องชายด้วยหางตา พอนั่งลงปุ๊บพี่มีนาก็เปิดประเด็นน่ารำคาญทันที

“เรื่องข่าวลือที่แกส่งสปายไปจัดการเรียบร้อยแล้วรึ” มีนาถามเสียงเย็นเยียบใบหน้าของเจ้าหล่อนไร้ความรู้สึกใดๆ ราวกับปูนปั้น

ธันวาแค่นเสียงดังเฮอะ เรื่องแค่ผู้ต้องหาคิดซัดถอดมาเขาต้องจัดการได้ดีอยู่แล้ว เขาวิ่งเต้นมากมายให้คนของเขาเข้าหาผู้พิพากษากับตำรวจรวมถึงพวกสปาย ฟาดหัวไปจำนวนมหาศาลขนาดนั้นคิดว่าใครมันจะซัดทอดมาถึงเขา

พี่จะกังวลทำไม เรามาพูดถึงเรื่องหลานชายของพี่ดีกว่า ผมจะให้เมษาเข้ามาทำงานส่วนบริหารในฐานะรองประธานบริษัทเรา”

มีนาแค่นหัวเราะทันทีที่ธันวากล่าวจบ “แกคิดว่าแกมีเสียงตัดสินใจเรื่องนี้โดยลำพังหรือไง”

“แน่นอนสิผมกับพี่เรามีหุ้นเท่ากัน เรามีสิทธิตัดสินใจพอๆ กัน อ๊ะหรือว่าตุลามีความเห็นเป็นอื่น”

ธันวาปลายตาไปมองน้องชายที่อายุห่างกันมาก ตุลาก็ยังเหมือนเดิมทำตัวไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้นเหมือนคนไม่เอาอ่าว อีกฝ่ายก้มหน้าดูดน้ำในแก้วเสียงดังซูดๆ แค่มองเฉยๆ ยังนึกรำคาญ

“เห็นไหมขนาดตุลายังไม่คัดค้าน พี่จะโวยวายทำไมหลานทั้งคนนี่นา”

ฟังพูดคำจาทั้งเห็นท่าทางสีหน้าโอหังของธันวาอย่างนี้ในใจมีนาก็อดเวทนาไม่ได้ แต่ยิ่งเป็นพี่น้องกันยิ่งไม่น่าให้อภัย หากคุณภาริชคนนั้นไม่ให้เธอกับตุลาตรวจดูบัญชีบริษัทอย่างกะทันหัน ถ้ารอให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมเนียมอย่างเอิกเกริกมีหวังธันวาคงทำลายหลักฐานไปแล้วอย่างหมดจด

เจ้าน้องชายคนนี้ทำบัญชียักยอกเงินเงินบริษัทเข้ากระเป๋าจำนวนมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ๆ น้องเองก็ต้องใช้เงิน โดยเฉพาะเธอซึ่งตอกฟอกไตให้สามีของตนเองอย่างต่อเนื่อง คิดถึงช่วงเวลาหลายครั้งที่ธันวาอ้างว่าผลประกอบการไม่ดีนัก แท้ที่จริงแล้วเจ้าน้องเลวคนนี้ซุกเงินเอาไว้ใต้เบาะเป็นจำนวนมาก

ไม่เพียงแค่นั้นเรื่องเสื่อมเสียฉาวโฉ่ที่มันทำจนหุ้นของบริษัทร่วงกราวอย่างน่าใจหาย กว่าจะกลับมาสภาพปกติได้ก็เล่นเอาปาดเหงื่อ แน่นอนว่าที่หุ้นกลับมาแข็งตัวอีกครั้งบางส่วนมาจากเหตุการณ์ที่คุณภาริชคนนั้นคุกเข่าให้เมษา แม้ไม่ได้ผลอะไรมากแต่ก็สร้างภาพลักษณ์ของผู้ชนะให้กับบริษัทชัยมงคล

“ระหว่างที่แกกับลูกชายทำเรื่องสนุกกัน ตอนนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดได้เปลี่ยนไปแล้ว แกไม่รู้หรือไง”

“ผมก็ต้องรู้สิ ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิคที่มีชื่อเสียงในประเทศ F กวาดซื้อหุ้นของเรา แต่พูดก็พูดเถอะ ถึงพี่กับตุลาจะขายหุ้นไป แต่หุ้นของพวกเราพี่น้องรวมกันก็ยังมากอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสามารถของผม ยังไงผู้ถือหุ้นรายนั้นจะไม่มีวันเขี่ยผมออกจากตำแหน่งประธานแน่ๆ” ธันวามั่นใจในผลงานที่ผ่านมาของตัวเองอย่างหยิ่งผยอง

“ที่พี่เรียกประชุมวันนี้ ผมก็คาดอยู่แล้วว่าต้องมีผู้บริหารจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในตอนนี้มา”

“คุณนี่นอกจากฉลาดแล้วยังเตรียมพร้อมเสมอเลยนะ”

ผู้พูดเดินเข้ามาในห้องประชุม การปรากฏตัวของภาริช พัชรกานต์กุลพร้อมกับคาร์ล ซีมัว ทำให้ธันวางงงัน

“แกมาทำไมที่นี่ภาริช” เมษากระตุกยิ้มหยามหยัน “มาคุกเข่าให้ฉันอีกรอบหรือไง”

ภาริชยิ้มหวานแต่ไม่ตอบ คนที่ตอบแทนกลายเป็นคาร์ล ซีมัว

“คุณภาริชเป็นเจ้าของหุ้นรายใหญ่ของบริษัทชัยมงคล เขาถือหุ้นของที่นี่ในนามบริษัท paris electronics”

ธันวาสะดุ้งเฮือกคล้ายกับฟ้าผ่าลงกลางศีรษะ ทำไมกันนะเขาไม่เคยเชื่องโยงไอ้ภาริชกับบริษัทใหญ่โตอันนี้มาก่อน ชื่อบริษัทแม่มก็บอกโต้งๆ แต่คงเป็นเพราะบริษัทนี้มีสาขาใหญ่อยู่ที่ประเทศ F มันก็เลยไม่ทำให้เขาฉุกใจ เวลานี้โทสะของเขาพุ่งพล่านและนำมันไประบายกับพี่น้องของตัวเอง

“พี่บ้าไปแล้วหรือพี่มีนา พี่กล้าขายหุ้นให้คู่แข่งของเรา พี่ยอมไอ้คนนอกมันมาตัดเค้กแบ่งกิจการของครอบครัวไปได้ยังไง” ธันวาทุบโต๊ะดังปัง

มีนาปลายตามองแววตาของพี่สาวราวกับมองขยะชิ้นหนึ่ง “ยังไม่เท่ากับพี่น้องที่โกงเงินพี่น้องด้วยกันหรอกมั้ง”

“พี่พูดอะไร” ธันวาแม้ตื่นตูมแต่ก็ทำปากแข็ง เขามั่นใจว่าหลายวันก่อนสั่งให้หัวหน้าแผนกบัญชีจัดการให้เขาแล้วแน่ๆ

“เอาไว้ไปพูดกันในชั้นศาลเถอะ” พอมีนาส่งสัญญานตำรวจก็วิ่งกรูเข้ามา แจ้งข้อหาพร้อมกับแสดงหมายจับ ปฏิกิริยาของธันวาคือเรียกร้องให้พี่สาวช่วยเหลือ

“พี่มีนาผมเป็นน้องพี่นะ พี่จะทำแบบนี้กับผมหรือ”

เมษาที่อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่ยืนอึ้ง เขาจับต้นชนปลายไม่ถูกไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมทุกอย่างถึงได้เละเทะแบบนี้ แถมพ่อของเขายังทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อด้วยการกอดขาคุณป้ามีนาร้องขอความเมตตา

“พี่สาวเห็นแก่ความเป็นพี่น้องของเราเถอะ” ที่แรกแค่จับมือมีนาเอาไว้พอเห็นว่าหล่อนไม่ใส่ใจ ธันวาก็เล่นบทใหญ่คุกเข่าลงกอดขาคนเป็นพี่ร้องไห้เหมือนเด็กๆ เขารู้ว่าต่อให้มีนาลำเอียงแค่ไหน แต่สำหรับหล่อนเขาก็คือน้องชายที่เลี้ยงมากับมือ ย่อมต้องใจอ่อนเป็นธรรมดา

ซึ่งเขาเดาได้ถูกมีนาใจอ่อนจริงๆ นั่นแหละ เธอเอื้อมไปหาธันวาก่อนจะชักกลับอย่างสับสน ธันวาร้องไห้คร่ำครวญเหมือนเด็กๆ ถ้าหากตุลาไม่เตือนสติเธอเสียก่อน ไม่แคล้วเธอคงร้องขอความเมตตาจากคุณภาริช

“พี่ธันวาอย่าลืมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องภายในของเราพี่น้องสามคน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีสิทธิเรียกร้องให้ตรวจสอบบัญชีได้ เขามีสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถึงเราจะเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง ก็ใช่ว่าคุณภาริชจะสบายใจยอมปล่อยให้คนขี้โกงอย่างพี่ลอยนวลหรอกนะครับ”

ตุลาที่ปกติพูดน้อยยิ่งกว่าน้อย พอพูดทีหนึ่งก็มักจี้ได้ตรงประเด็นเสมอ เพราะงั้นเขาถึงเกลียดมันไง มันฉลาดและมักคอยจับผิดเขาแทนพี่สาวเสียทุกครั้งไป

“จริงสิ ถ้าพี่อยากคุกเข่าอ้อนวอน ควรเป็นคุณภาริชมากกว่าที่น่าจะช่วยพี่ได้ ผมไม่รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ที่ได้ยินมาแค่ถูกฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายเรื่องสปายก็แย่พอแล้ว หากต้องมาโดนเรื่องยักยอกอีก” ตุลาไม่พูดต่อเขาใช้สายตาที่สื่อถึงความเวทนามองดูพี่ชาย

ธันวาหันไปมองภาริชซึ่งยืนตระหง่านอยู่ไม่ไกล ที่คุกเข่าขอความเมตตาจากพี่สาวเป็นความคิดชั่ววูบเพราะกลัว แต่เมื่อมีสติเขาทราบทันที เรื่องที่ซุกเอาไว้มันไปถึงตำรวจทั้งยังมีหมายศาลแล้วต่อให้คุกเข่าพันครั้ง ภาริชก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ธันก้มหน้าลงต่ำกำหมัดแล้วคลายออกสองสามครั้ง ตัวสั่นระริกด้วยความอดสูสิ้นหวังยามนึกถึงอนาคตที่จะเกิดในข้างหน้า

เมษาที่เป็นลูกเข้าใจการกระทำของพ่อผิดไป ด้วยโทสะจริตและศรัธทาจริตในตัวเองซึ่งมาจากชัยชนะเหนือภาริชจากการแข่งเกมอย่างแรงกล้า เขาจะไม่ยอมให้พ่อของตัวเองคุกเข่าให้ไอ้ภาริชเด็ดขาด เขาตะโกนออกมาอย่างดุดัน

“พ่อจะคุกเข่าให้มันไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นเราจะแพ้มันอย่างหมดรูป”

ได้ผลพ่อหันมามองเขาด้วยสายว่างเปล่าก่อนจะก้มหน้ากลับไปแล้วนั่งนิ่งอย่างนั้น แบบนี้มันย่อมต้องดีกว่าคลานไปกอดขาขอร้องไอ้ภาริชแน่นอนอยู่แล้ว จากนั้นในเวลาต่อมาพวกตำรวจก็หิ้วปีกธันวาไป เมษารีบเดินตามแต่ยังไม่วายพูดจาขู่อาฆาตใส่ภาริช

“อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้”

ภาริชทำเพียงแค่ยิ้ม เมษาผู้อ่อนต่อโลกยังไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะพบเจอเรื่องลำบากขนาดไหน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



                        ตอนนี้มาสั้นขออำภัย หายไปนานโทดทีค่ะ เราออกต่างจังหวัดกับทีมของเราทั้งอาทิตไปหลายจังหวัดเลย

                       นิยายเรื่องนี้อีกตอนสองตอนก็จบแล้ว

                        สปอยนิดละกันตอนหน้าคงได้เห็นวิบากกรรมของเมษาอิอิ

                       จะรีบมาต่อเลยค่ะ ถ้าไม่วันพรุ่งนี้กะถัดไปอีกวันไม่เบี้ยวแน่นอน
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 16-11-2018 18:56:41
จะจบแล้วเหรอคะ แง
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-11-2018 22:00:01
 :bye2: o13 :t3:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-11-2018 00:11:53
พิมพ์ผิดพิมพ์ตกหลายจุดนะ
ตอน 59
เพราะการมาของเมษาในครั้งนี้ ...อิงภพ....ถึงได้รู้ตื้นลึกหนาบางของการท้าดวลระหว่างพี่ภาริชกับหมอนี่
แต่กับคนที่ดื้อแพ่งมันสำควรแล้วที่ต้องถูกสั่งสอน   >  สมควร
ฐานะทางบ้านก็คู่ควรทัดเทียมแก่การเป็นเพื่อน  >>   ทัดเทียมคู่ควร
ทัศนคติที่เต็มด้วยการเข่นฆ่าทำลายซึ้งล้วนพุ่งเป้าไปหาพี่ภาริช   >> ซึ่ง

ตอน 60
ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ๆ น้องเองก็ต้องใช้เงิน  .... พี่น้อง หรือ พี่ๆ น้องๆ
ศรัธทาจริต ... ศรัทธาจริต >>> น่าจะใช้คำว่า "ความหลงผิด" จะดีกว่า
ได้ผลพ่อหันมามองเขาด้วยสาย..ตา..ว่างเปล่า
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 02:10:59
 :z13: จิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทนำ + บทที่1 30/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 05:04:59
น่าสนุกมากค่ะ ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่4 ความโกรธเกรี้ยวของmaddog01 31/7/61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 05:25:50
อยู่ใต้จมูกกันนี่เองงง ช่วยรักษาน้องให้หายด้วยนะคะภาริช
หัวข้อ: Re: ## Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่11 ความหน้าด้านของsapling 7/8/61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 06:28:24
เข้าใจว่าเมษาคือผญมาตลอด...... แต่ต้นกล้านี่มันน่านัก  :z6:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่29 ดวลเดือด 24/8/61 หน้า5
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 08:34:31
คืออ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงซีรี่ส์จีน เว่ยเว่ย ยิ้มนี้โลกละลายเลยค่ะ

คิดถึงอี้เสียวไน่เหอมากๆ มันได้อะนึกภาพออกเลย สนุกมาก!

ยิ่งตอนนี้นะ โอ้โห  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 17-11-2018 11:12:12
จะจบแล้วอยากอ่านฉากโซเดมาคอมเป็นสเปเชี่ยลจัง
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 17-11-2018 16:08:59
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่38 เป้าหมายอันแสน... 18/9/61 หน้า7
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 17:41:31
ภาริชโคตรร้าย!  :laugh: ป.ล. เรื่องนี้มีแต่เลข 4 เนอะ 555 (แซว)
หัวข้อ: Re: #Maddog01 รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทที่50 ความวุ่นวายโกลาหล 9/10/61 หน้า10
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 18:47:37
ขอไปลงทะเบียนด้วยคนได้ไหมคะ ยังทันไหม // เรียกแท็กซี่แป๊บ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-11-2018 22:42:58
อยากฟาดกระโหลกเมษาสักทีสองที  :z6:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่60 บันไดพาลงสู่นรก 16/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 18-11-2018 08:20:21
พี่ภาริชนี่มันปิศาจชัดๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 19-11-2018 15:36:51
บทที่61

บางทีการยอมรับความเป็นจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ด้วยการกระทำความเลวนานัปการที่ธันวาผู้เป็นพ่อก่อขึ้น มันส่งผลต่อเมษาอย่างร้ายแรงจนในที่สุดลูกผู้ดีมีเงินเช่นเขาก็กลายเป็นคนที่แทบไม่เหลืออะไร ธันวานอกจากต้องติดคุกยังต้องถูกยึดทรัพย์เพื่อชดใช้ความผิดหลายกระทง

บัดนี้เมษาผู้เป็นลูกมีสมบัติเพียงแค่บ้านเล็กๆ หลังหนึ่งกับเงินติดตัวไม่ถึงแสน ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ของเขา เด็กหนุ่มคิดว่าต่อให้ยากจนกว่านี้ขอแค่เข็นตัวเองจนเรียนจบในระดับปริญญาตรีก็ยังมีโอกาสกลับมาผงาดล้างแค้นภาริชได้อยู่

ขอแค่เรียนให้จบเท่านั้น ทว่าด้วยเงินที่เหลือติดตัวไม่ถึงแสน มันยังไม่พอจ่ายค่าลงทะเบียนในมหาลัยสำหรับคลาสอินเตอร์ที่เขาศึกษาอยู่ตอนนี้ได้เลย เขาต้องทำอะไรซักอย่าง แต่ด้วยความที่เขาโกรธพวกญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ามีนา หรืออาตุลาซึ่งรวมหัวกันทรยศเขากับพ่อ มันทำให้เกิดทิฐิมานะว่าอย่างไรเขาไม่ยอมไปก้มหัวพึ่งพาคนพวกนั้นแน่นอน

พูดถึงเพื่อนๆ ที่พอจะให้ช่วยเหลือได้ แต่ละคนพอโทรไปหาก็บ่ายเบี่ยงกันทั้งนั้น มีเพียงแค่อิงภพคนเดียวที่ยอมรับสายพูดคุยกับเขาแต่โดยดี

< “ฉันฝากให้นายไปทำงานกับธุรกิจในเครือของครอบครัวฉันได้นะ” >

จริงๆ เมษาแค่อยากหยิบยืมเงินซักล้านสองล้านไปลงทุนกับธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง แต่ไม่คิดว่าอิงภพดันเสนอมาแบบนี้

< “ว่าไง ทำไมเงียบไปล่ะตกลงทำไหม ไม่ใช่งานยากอะไร”

เพราะไม่อยากให้อิงภพคิดว่าตนเป็นคนเรื่องมาก เอาเป็นว่าทำๆ ไปซักพักก่อนแล้วค่อยเอ่ยปากขอยืมเงินคงดีกว่า เขาไม่อยากขัดใจที่พึ่งซึ่งคว้ามาได้

ใครจะไปคิดละว่าคนอย่างเขาต้องมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร รู้สึกโมโหอิงภพอย่างบอกไม่ถูก เขาบ่นไปทันทีว่าไม่มีงานที่เข้าท่ากว่านี้แล้วหรือ คำตอบที่ได้รับคือ

“ครอบครัวของฉันไม่ได้มีธุรกิจเลิศหรูอะไร ที่เราทำกันเป็นล้ำเป็นสันคือธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร พวกร้านอาหารหรือร้านคาเฟ่ ผับและร้านเหล้า ขอโทษนะที่ช่วยนายได้แค่นี้”

“นายแนะนำให้ฉันไปทำตำแหน่งผู้จัดการฝึกหัดก็ได้นี่”

“นี่มันธุรกิจของพ่อฉัน ฉันไม่สามารถยัดเยียดใครไปลงตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับวุฒิการศึกษาตามใจชอบได้หรอกนะ ทนเอาหน่อยถ้านายทำได้ดีฉันจะช่วยพูดกับคุณพ่อเลื่อนตำแหน่งนายให้เอง โอเคนะ”

แม้จะผ่านการทำงานไปจนครบสัปดาห์แล้วเมษาก็ไม่มีความกะตือรือล้นกับงานแม้แต่น้อย ทั้งชีวิตเขาไม่เคยต้องมาบริการใครมาก่อน สำหรับเขาที่คุ้นเคยกับการได้เป็นลูกค้าvipเสมอพอต้องมาบริการลูกค้าแบบนี้เขาไม่สามารถปรับตัวได้เลยแม้จะผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว

วันนี้ก็เหมือนกันเมษาเหม็นเบื่อพวกลูกค้าช่างโอ้อวดเสียเหลือเกิน เจ้าคู่รักเสร่อที่เอาแต่อวดรวยสวมทองเส้นใหญ่เป้งๆ เหมือนพวงมาลัย ฝ่ายหญิงก็พูดว่ารักผัวนางเป็นหนักหนาที่เอาเงินมาทำนมให้นางจนบึ้บบั้บขนาดนี้

เมษาเหยียดริมฝีปาก ก่อนจะไปทำนมช่วยศัลยกรรมหน้าให้เป็นผู้เป็นคนก่อนดีไหมโหนกแก้มสูงจนน่าเกลียด แถมหน้ารูปเหลี่ยมนี่ ถ้าเขาเป็นผัวที่ชอบอวดรวยของเจ้าหล่อนคงไม่ให้เงินไปทำนมแต่จะสั่งให้หล่อนไปทุบทั้งหน้าแทนดีกว่า

“พี่ดูสิ ใครๆ ก็อิจฉาที่ฉันได้พี่เป็นผัว พี่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้”

เป็นอีกครั้งที่เมษาไม่ปิดบังรอยยิ้มเดียดฉันท์ ผัวเธอหล่อกว่าคนขับสิบล้อนิดหน่อยเท่านั้นเอง คิดได้แค่ชั่วแวบเดียว ฝ่ายชายก็เขวี้ยงแก้วน้ำมาทางเข้า เมษาหลบวูบไปได้ฉิวเฉียด

“มึงมีปัญหาอะไรกับกูวะไอ้เด็กเสิร์ฟ มึงมองกูกับแฟนด้วยสีหน้าดูถูกแถมยิ้มหยามพวกกูหลายครั้งแล้วนะ”

“ผมเปล่านี้ ก็แค่ขำพี่สาวคนนี้เท่านั้น ผมแนะนำอะไรให้นะแทนที่จะไปทำนมเอาเงินไปทุบหน้าให้เป็นผู้เป็นคนคงจะดีกว่า”

เป็นเพราะความเหนื่อยหน่ายอึดอัดที่ต้องมาทำงานรับใช้ผู้คน สำหรับเมษาที่อยู่สูงกว่าคนอื่นมาโดยตลอดมันทำให้ความยะโสโอหังไม่รู้กาลเทสะฝังลึกอยู่ในกมลสันดาน เขาไม่ยี่หระด้วยซ้ำกับการตกงาน เดี๋ยวค่อยไปตีหน้าเศร้ายืมเงินจากอิงภพน่าจะง่ายกว่า

“มึง” ลูกค้าหนุ่มผุดลุกขึ้นถลาเข้าไปหมายจะชกเมษา โชคดีที่ผู้จัดการมาห้ามเอาไว้ ลูกค้าหนุ่มโวยวายใหญ่โตให้ไล่เมษาออกจากงาน เป็นโชคดีของทั้งคู่ ที่ไม่มีคนสนใจบันทึกภาพเหตุการณ์อันนี้เอาไว้เลย

ผลที่ได้ในเวลาต่อมาผู้จัดการรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้อิงภพทราบ หลังจากวางสายไปเด็กหนุ่มเอนหลังไปบนเก้าอี้ราคาแพง เขากำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เมษาก่อความวุ่นวาย

เจ้าหมอนี่ดูเหมือนไม่ได้กลัวการถูกไล่ออกจากงานเท่าไหร่ ที่โทรมาขอให้ช่วยคงไม่ต้องการให้หางาน แต่น่าจะอยากยืมเงินมากกว่า ตัวเขาเองก็มีเงินเก็บส่วนตัวไม่น้อยกว่า 5 ล้าน การให้ยืมไม่ใช่เรื่องเดือดร้อน กระนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางหยิบยื่นเงินของเขาให้หมอนั่นง่ายๆ แน่

เมษาไม่ได้ทำผิดอะไรต่อเขา พวกเขาสองคนคบหากันด้วยดีมาตลอด ทว่าไม่อย่างไรอิงภพให้อภัยไม่ได้จริงๆ กับการที่ฝ่ายนั้นทำให้พี่ภาริชเสียศักดิ์ศรีต่อหน้าผู้คนมากมาย ยิ่งเดี๋ยวนี้เห็นธาตุแท้หลายอย่างไม่ว่าจะต่อพี่ภาริชหรือต้นกล้า ก็ล้วนแล้วแต่น่าสะอิดสะเอียนทั้งนั้น

เสียงเรียกเข้ามือถือดังขึ้นมา รู้ว่าเป็นเมษาแต่ก็ยังรับสาย ฝ่ายนั้นขอโทษขอโพยพูดแก้ตัวต่างๆ นานากับสิ่งที่ทำลงไป ก่อนที่คนคนนี้จะวกเข้าเรื่องยืมเงินอิงภพก็เสนองานใหม่ให้เสียก่อน

“จำได้ว่านายไปเข้าคลาสเรียนผสมเหล้าและคอกเทลจนชำนาญเลยนี่ เอาอย่างนี้ไหมไปเป็นบาร์เทนเดอร์ให้บาร์เหล้าในโรงแรมของครอบครัวของฉัน รายได้เยอะและทิปหนาเชียวนะ”

เมษาอ้าปากจะเถียง เขาอยากตัดบทแล้วยืมเงินใจแทบขาด แต่ไม่มีโอกาสได้พูดสุดท้ายก็ต้องมาทำงานตามที่อิงภพแนะนำ

นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องมาเป็นฝ่ายให้บริการในสถานเริงรมย์แบบนี้ ทว่าเพราะโรงแรมแห่งนี้อยู่ในระดับ 5 ดาว จึงไม่มีพวกรวยไม่จริงหรือพวกบ้านนอกโผล่มาให้รกหูรกตา กระนั้นแทนที่จะได้สบายใจกลับต้องมารำคาญการถูกตื้อจีบอย่างต่อเนื่อง

หนุ่มใหญ่ที่มาเฝ้าเขาติดต่อกันหลายวันนับตั้งแรกที่เมษาเข้ามาทำงาน วันแรกที่เจอกันก็สั่งให้เขาผสมเหล้าราคาแพงจำนวนมากทั้งยังให้ทิปเกินจำเป็น ถ้าให้พูดตามตรงก็คือรังเกียจ เขารักนรินทร์ที่เป็นผู้ชายก็จริง แต่เขาไม่ใช่เกย์ไม่เคยนึกสนใจร่างกายของเพศเดียวกันนอกเหนือจากนรินทร์มาก่อน

หนุ่มใหญ่คนนี้แวะเวียนมาเย้าหยอกพูดจาฉอเลาะหวานหู แต่ละคำที่ใช้เกี้ยวพาราสีฟังดูน่าขนลุก กูโคตรเกลียดเลย เมษาตบะแตกในที่สุดเมื่อถูกลวนลามในตอนที่ผลักแก้วคอกเทลสวยหรูไปตรงหน้าชายคนนั้น อีกฝ่ายคว้าจับมือเขาไปลูบคลำอย่างอ้อยอิ่งแฝงความนัยด้วยแววตาเชิญชวน

เมษาคว้าแก้วจากลูกค้าท่านที่นั่งอยู่ข้างๆ มาสาดใส่หน้าหนุ่มใหญ่ท่านนั้นอย่างหมดความอดทน จากนั้นไม่ฟังอีร้าค่าอีรม <ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม หมายถึง ไม่ฟังอะไรเลย ใครพูด ใครทัก ใครเตือนก็ไม่ฟัง ออกแนวกำลังฉุนเฉียว> ออกจากโรงแรมนั่งรถตรงไปหาอิงภพที่บ้านทันที

ผู้จัดการโทรมารายงานให้อิงภพทราบเรื่องก่อนที่เมษาจะรู้ตัวเสียอีก อิงภพได้ฟังการถูกไล่ตื้อจีบเมษาของแขกขาประจำมาระยะหนึ่งแล้ว ผู้จัดการรายงานเรื่องนี้เพราะเป็นห่วงลูกจ้างที่นายน้อยฝากเข้ามา ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่สิ่งที่คาดไว้มันเกิดขึ้นแล้ว ผู้จัดการมืออาชีพรอฟังคำตัดสินใจของนายน้อย

“หมอนั่นคงไม่กลับไปทำอีกแล้วล่ะ เอาชื่อเขาออกจากการเป็นพนักงานได้เลย”

อิงภพตัดสายทิ้ง เอนหลังลงบนโซฟาส่ายหน้ายิ้มๆ นึกระอากับพฤติกรรมแสนคุณหนูของเมษา เขาไม่มีใจจะสมน้ำหน้าหยามเหยียดหรอกนะ เพราะถ้าเขาต้องไปเจอแบบนั้นคงมีอาการไม่น้อยไปกว่าเมษาแน่ๆ แต่อย่างน้อยนี่มันก็เป็นการทำงานถึงสองที่แล้วต่อให้โง่แค่ไหนก็ควรรู้ว่าต้องลดความหยิ่งผยองลงบ้าง ถ้าหากอยากใช้ชีวิตอยู่ในสังคมซึ่งต้องดิ้นรน

เสียงเตือนของข้อความจากแอพซึ่งเมษาส่งมารัวถี่ยิบ ใจความคือต้องการหยิบยืมเงินจากเขา อีกฝ่ายร่ายรายละเอียดแผนการณ์ลงทุนในธุรกิจอันเลิศหรูที่ตนเองมั่นใจ

เงินตั้ง 2 ล้านเชียวนะ เงิน 2 ล้าน เมษาสามารถพูดจายืมเงินจำนวนนี้กับเขาอย่างไม่เกรงใจเลยเชียวหรือ คิดถึงหลักเหตุผล อิงภพก็อดยิ้มหยันไม่ได้ ไม่แปลกใจหรอกกับคนที่เคยใช้เงินมือเติบมาตลอดชีวิต สำหรับเด็กที่เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างพวกเขาเงิน 2 ล้าน นี่มันธรรมดามาก

แต่เขากับน้องสาวของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น อิงภพเรียนรู้การใช้เงินอย่างมีคุณค่ามาจากการพยายามแข่งขันแย่งความรักของภาริชมาจากฟอร์ด ระหว่างที่ต้องพยายามเป็นเด็กดีในสายตาของคนทีชอบ มันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งติดตัวเขาเองไปทีละน้อย

ติดเป็นนิสัยจนบ้างครั้งเวลาจะซื้อของต้องมานั่งกดดันตัวเองว่าจะทำอย่างไรให้ดูสมถะไม่แพ้เจ้าฟอร์ดน้องชายที่พี่ภาริชรักและเมตตาเสียเหลือเกิน จนถึงตอนนี้ไม่ใช่ว่าเสแสร้งอีกต่อไป เจ้ารู้ตัวกลายเป็นคนเลือกซื้อของอย่างประหยัดไปโดยสมบูรณ์

เงินจำนวน 2 ล้าน เขาสามารถให้หยิบยืมได้เพราะยังไงก็มีเงินเก็บมากกว่า 5 ล้าน แต่กับคนที่ไม่รู้คุณค่าของเงินอย่างเมษา อิงภพเล็งเห็นแล้วว่าอาจไม่ได้คืนง่ายๆ แน่นอน

ดังนั้นในยามที่เมษามาเคาะประตูหน้าบ้าน อิงภพก็สั่งให้พ่อบ้านของครอบครัวไปแจ้งว่าตัวเขาเดินทางไปเที่ยวเมืองนอกกับน้องสาวแล้วคงไม่กลับมาจนกว่าจะเปิดเทอมในระดับชั้นมหาวิทยาลัย

เมษากลับมาที่บ้านด้วยความผิดหวัง เงินที่เหลืออยู่ตอนนี้มีแค่ไม่เท่าไหร่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาพยายามหางานทำที่เหมาะกับเขาจำนวนมาก แต่มันไม่เข้าตาเลยซักอย่าง เมษาไม่ได้รู้ตัวเลยว่าความหัวสูงช่างเลือกของเขามันจะทำให้เขาต้องว่างงานไปอีกนานแสนนาน

นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาลงทะเบียนเรียนแล้วเขายังไม่มีเงินซักบาท จะพึ่งใครดี ในที่สุดใบหน้าของพี่สายหมอกก็แวบเข้ามา ทำไมเขาถึงลืมคนคนนี้ไปได้นะ คนคนนี้เองก็เป็นลูกผู้ดีมีเงินเข้าขั้นมหาเศรษฐีคนหนึ่ง

เมื่อไปถึงหน้าห้องของเป้าหมาย เมษากดกริ่งที่หน้าห้องได้ไม่นานพี่สายหมอกก็เปิดประตูออกมา ใบหน้าทรงเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน

“พี่ยังไม่บินไปประเทศ F อีกหรือครับ ผมนึกว่าพี่บินไปดูสถานที่แต่เนิ่นๆ เสียอีก”

“พี่อยากอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดจนกว่าจะจัดการเรื่องเรียนและเรื่องครอบครัวของคนรักได้”

“เอ๋” เมษาทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยคนรักที่ว่าเป็นใคร แต่มันคงไม่ใช่ต้นกล้าแน่นอน เพราะหลังจากที่ทำเรื่องเลวทรามขนาดนั้นพี่สายหมอกไม่น่าจะรับเรื่องนี้ได้

“จริงสิผมขอเขาไปคุยเรื่องของผมนิดหน่อยได้ไหมครับ” ข้างนอกค่อนข้างหนาวเย็นเพราะมันก็ดึกมากแล้ว อีกอย่างเรื่องหยิบยืมเงินมันน่าขายหน้าจะให้ใครได้ยินไม่ได้เด็ดขาด

“พี่ไม่สะดวกเลยครับ คืออย่างนี้นะ” สายหมอกกระซิบที่ข้างหูเมษาเสียงเย้ายวน คนฟังปั้นหน้าไม่ถูกเลย

“ชักอยากเห็นคนรักของพี่แล้วสิ” คนที่ทำให้พี่สายหมอกหลงใหลจนตัดใจจากต้นกล้าได้แม่มคงสวยมากๆ แถมได้ยินมาว่าพี่เขาไม่เคยพาใครคนไหนมากกที่ห้องนี้เลยซักครั้ง

“เอางั้นหรือ” สายหมอกหัวเราะแผ่วเบาก่อนจะใช้เสียงนุ่มนวลเรียกคนของตัวเองออกมา

“คนดี ออกมาหาพี่ที่หน้าประตูห้องที”

วินาทีที่ได้เห็นคนรักของพี่สายหมอกเมษาก็ตะลึงไปเลย เจ้าต้นกล้าคนนั้น เจ้าต้นกล้าคนนั้นเดินตรงมาหาพวกเขาด้วยการมีเสื้อเชิ้ตสีขาวติดกายเพียงตัวเดียว ผิวกายนวลเนียนขาวผ่องประปรายไปด้วยรอบจูบและขบกัดชวนให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำ

แถมสีหน้าเย้ายวนแววตาเยิ้มฉ่ำซึ่งทอดมองไปหาพี่สายหมอกนั้นเต็มไปด้วยความรักเกินกว่าจินตานาการ ต้นกล้ามันทำเหมือนกับว่าไม่มีเขายืนอยู่ตรงนี้ นอกจากนั้นการเดินเหินนุ่มนวลละมุนตาที่ไม่ต่างกับการเหยียบย่ำบนปุยเมฆ ภายในเวลาไม่ถึงเดือนเจ้าคนไร้ค่านี่กลายเป็นเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เต็มตัวแย้มบานส่งกลิ่นหอมยั่วราคะถึงขนาดนี้ไปได้ยังไง

ต้นกล้าพอมาถึงก็กอดแขนสายหมอกและซบลงบนไหล่แกร่งอีกฝ่ายหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้นไม่ได้สนใจใยดีคนอื่นเลย

“อ..” เมษารู้สึกว่าปากคอของเขาแห้งผากและหนักเหมือนก้อนหินกว่าจะพูดสิ่งที่ต้องการออกมาได้ก็ยากเย็นเหลือเกิน “ที่ผมมาคราวนี้ก็ตั้งใจว่าจะขอหยิบยืมเงินจากพี่สายหมอกนิดหน่อยนะครับ”

“เท่าไหร่”

เมษายิ้มออกมาได้หน่อย ท่าทีสบายๆ ของสายหมอกเมษาคาดว่าคงได้มาอย่างง่ายๆ แน่ๆ แต่ก็ไม่ลืมเหลือบมองไอ้ต้นกล้าเกรงว่าอีกฝ่ายมันจะล้างแค้นเขา ซึ่งมันจะทำก็ไม่แปลกใจ

เมษาแจกแจงรายละเอียดที่คิดไว้ยาวเหยียดจริงๆ ไม่พอใจนิดหน่อยที่พี่สายหมอกไม่เชิญเขาไปคุยในบ้านดีๆ แถมไอ้ต้นกล้า ก็เรียกร้องความสนใจจากผัวของมันด้วยการออดอ้อนออเซาะจนหลายๆ ครั้งเหมือนพี่หมอกไม่ได้ฟังเขาเลย

แม่มหน้าด้านไร้ยางอาย โสเภนีหรือไงวะ มีแต่พวกกระหรี่เท่านั้นแหละที่กล้าโผล่หัวมาในสภาพเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียว แถมยังอ้อนผัวต่อหน้าคนอื่น หงุงหงิงฉอเลาะตอแหลไปเรื่อยนะมึง

“จริงๆ แค่ 2 ล้านนี่พี่ให้ยืมก็ได้นะ”

เมษายิ้มกว้างเลิกสนใจต้นกล้าไปแล้ว แต่ต้องชะงักเพราะคำพูดถัดมาของพี่สายหมอก

“แต่กระเป๋าเงินของพี่เนี่ย ไม่ว่าจะรายรับรายจ่าย พี่ให้คนรักเป็นคนจัดการ เมษาคงต้องไปอ้อนวอนเอาจากคนดีของพี่แล้วล่ะ”

เมษาชะงัก รอยยิ้มของเขาบิดเบี้ยวไม่น่าดู พอหันไปมองต้นกล้าก็พบว่าอีกฝ่ายมองมาที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า มันคงกำลังรอให้เขาพูดจาอ้อนวอนมัน

เมษากัดฟันกรอด เส้นเลือดบนขมับปูดบวมจนแทบแตก ขอแค่มีเงินไปลงทุนมีเงินลงทะเบียนเรียนให้จบ อีก 10 ปีให้หลังแก้แค้นมันก็ยังไม่สาย

“ได้โปรดให้ฉันยืมเงินเถอะนะต้นกล้า” เขาพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา แต่อีกฝ่ายนิ่งเงียบ คนที่เต็มด้วยเสน่ห์จนเกินต้านทานอย่างเหลือเชื่อนั้นไม่แสดงสีหน้าใดๆ

“มึงต้องให้กูไหว้ขอขมามึงใช่ไหมต้นกล้า...ได้...” เมษาพนมมือไหว้ต้นกล้า ความแค้นครั้งนี้ต้องได้รับการชำระไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมษาที่แสนโง่เง่าคนนั้นคิดไปเองว่าจะไม่มีใครเห็นประกายตาแห่งไฟแค้นของเขา

ช่างแสนไร้เดียงสาเหลือเกินไฟแห่งความเคียดแค้นอันนั้น ต้นกล้ารับรู้อย่างชัดเจนแม้อีกฝ่ายจะพยายามปิดบัง

ต้นกล้าหันไปกระซิบที่ข้างหูของพี่สายหมอกด้วยเสียงที่เบามาก เมษาไม่อาจรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคุยเรื่องอะไรกัน เวลาต่อมาไอ้ตัวแพศยาก็เดินกลับเข้าไปข้างในทิ้งเขาไว้กับรุ่นพี่สายหมอก

รุ่นพี่สายหมอกหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา เงินทั้งหมดในนั้นถูกยัดใส่มือของเขาก่อนที่อีกฝ่ายจะดันเมษาให้ออกจากบ้านแล้วปิดประตูลง

เมษายืนอึ้งอยู่ที่หน้าห้อง เขาดูเงินในมือเป็นธนบัตร 1000 บาท จำนวนห้าใบ สัตว์ร้ายที่อยู่ภายในใจกรีดร้องโหยหวน

“มึงเห็นกูเป็นขอทานงั้นหรือ เงินขอทานเพียงแค่นี้” เมษากำเงินแน่นยกมือขึ้นเหนือหัวหมายจะปาเงินทิ้ง ทว่าเขาทำมันไม่ลง

เงินจำนวน 5 พัน สำหรับเขาในตอนนี้ เขาไม่กล้าทิ้งมันไป เมษาห่อไหล่เข้าหากันยัดเงินใส่กระเป๋าแล้วจากมา สีหน้าของเขาดูอ่อนล้า การเดินเหินไร้ความสง่าและไร้เรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง

ขณะที่เดินผ่านร้านขายอาหารข้างทางแห่งหนึ่ง ร้านแห่งนั้นเปิดโทรทัศน์ให้ลูกค้าชมแก้เบื่อ การรายงานข่าวพิธีหมั้นของเซเลบริตี้เป็นที่สนใจให้ผู้คนจำนวนมากทำให้แม้แต่เมษาเองก็ต้องหยุดดู

เขาไม่น่าหยุดยืนดูมันเลย รสชาติแห่งความพ่ายแพ้ช่างขมปร่าและรวดร้าวจนเกินทน ภาพคู่รักต่างวัยยิ้มแย้มให้กันอย่างมีความสุข ภาริชกับนรินทร์เฉิดฉายอยู่ในจอโทรทัศน์งดงามน่าหลงใหลราวกับภาพวาด





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนหน้าเป็นบทส่งท้ายแล้วนะคะ เราเตรียมจะเขียนเรื่องใหม่ละ แต่ยังไม่ค่อยมั่นใจ

อาจจะลงเอื่อยๆ ดูก่อน เรากลัวตันกลัวเขียนไม่ดีน่ะค่ะ พลอตยังไม่แน่นเสียทีเดียว

ถ้ายังไงช่วยติดตามช่วยแสดงความคิดเห็นในนิยายเรื่องใหม่ของเราด้วยนะคะ

ไม่รู้ว่าจะแต่งจนจบเรื่องได้ไหม แนวที่จะเขียนนี้ไม่ถนัดเลยค่ะ แต่อยากแต่งกะเขาบ้าง

ตามกระแสตอนนี้แหละค่ะ อยากวิ่งตามกระแสค่า

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 19-11-2018 17:57:58
ขนาดต้นกล้ายังได้เจอความรักดีๆเลย
น่าสงสารเมษานะ แค่รักไม่เป็นเท่านั้นเอง
 :o12:

ปล.รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 19-11-2018 20:53:56
ขออ่านฉาก...ได้ไหมอ่า
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 20-11-2018 00:40:51
รอตอนจบจา
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 20-11-2018 04:15:32
 :เฮ้อ: เมษาเอ้ย ถ้าไม่เปลี่ยนมันก็ไม่มีทางจะดีขึ้นหรอกนะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 20-11-2018 08:05:40
วั้ยยย ทำไมเราสะใจที่เมษาตกอับ 555555
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้บทที่61 การยอมรับความจริงไม่ง่าย 19/11/61 หน้า12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-11-2018 00:22:48
สนุกมากๆๆๆ  o13
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 21-11-2018 16:15:30
บทส่งท้าย

กาลเวลาหมุนเวียนผ่านไปไม่ย้อนกลับ จะว่านานก็นาน แต่บ้างครั้งใครหลายคนก็คิดว่ามันช่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ

สายลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างนำพากลิ่นหอมอ่อนๆ ของต้นไม้ใบหญ้าชวนให้รู้สึกสดชื่น เป็นเวลา 4 ปีกว่าแล้วที่เขามาอาศัยอยู่ที่ประเทศ F กับคนรัก คนรักของเขาช่างดีเลิศจนไม่สามารถสรรเสริญความดีงามของเขาได้หมดภายในวันเดียว

นับตั้งแต่ต้นกล้าตัดสินใจปล่อยทุกอย่างให้อยู่ในมือของพี่สายหมอก เขาก็ไม่เคยพบเจอกับสิ่งที่เรียกว่าอุปสรรคอีกเลย เพราะว่าไม่อยากแยกห่างจากคนรัก ดังนั้นจึงตามมาเรียนต่อในระดับชั้นวิทยาลัยที่ประเทศ F ด้วยความเป็นคนที่มีพื้นฐานทางภาษาดีอยู่แล้ว เมื่อพยายามอย่างมุ่งมั่นไม่นานเท่าไหร่ก็สามารถใช้ภาษาของคนที่นี่ได้คล่องแคล่วราวกับคนท้องถิ่น

เพราะต้นกล้าเลือกเรียนคณะศิลปศาสตร์สาขาภาษาFและวรรณกรรมคลาสสิค ดังนั้นตั้งแต่เริ่มเรียนเขาก็ลงมือจรดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์สร้างสรรค์ผลงานนิยายของตัวเองเรื่อยมา การสั่งสมประสบการณ์ถึง 4 ปี ด้วยการลงขายงานของตัวเองทางโลกออนไลน์บ้าง หรือส่งให้สนพพิจารณามันทำให้ต้นกล้าค่อยๆ กลายเป็นคนมีชื่อเสียงในฐานะนักเขียนคนหนึ่ง

หลังจากเรียนจบในระดับวิทยาลัย เขาก็กลายมาเป็นนักเขียนเต็มตัว ตามจริงมีความคิดว่าไปจะสมัครเป็นนักเขียนคอลัมน์อาจยังดูมีอนาคตกว่า หรือให้พี่สายหมอกฝากตัวเข้าไปทำงานในบริษัทที่พี่เขาเป็นประธานอยู่ก็ย่อมได้ แต่คนรักก็ยังใช้มือคอยผลักดันให้เขาสามารถทำตามความฝันในเส้นทางนักเขียนต่อไป

ใครหลายคนล้วนอิจฉาวิถีชีวิตรวมไปถึงความรักความเมตตาที่เขาได้จากคนรัก ผู้คนมากมายพากันกระแนะกระแหนเพราะเข้าใจว่าเขางอมืองอเท้าเกาะกินพี่สายหมอกไปวันๆ แต่ถึงแม้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมามันจะกดดันแค่ไหน

ต้นกล้าไม่สนใจเลย เขาสนใจแค่เพียงความคิดอ่านของพี่สายหมอกคนเดียวเท่านั้น หนทางในเส้นทางการเป็นนักเขียนของเขายังอีกยาวไกล แม้ว่าจะมีจดหมายอิเลคทรอนิคส่งมาแจ้งให้ทราบว่างานเขียนของเขาได้รับรางวัลก็ตาม

ทั้งอย่างนั้นเขาไม่กล้าโอ้อวดลำพอง เพราะการพยายามดิ้นรนให้ตนเองขึ้นมาอยู่จุดนี้ เหตุผลที่ทำไปทั้งหมดแค่อยากกลายเป็นคนที่ทัดเทียมเฉิดฉายจนคนรักสามารถนำไปอวดได้อย่างไม่อายใคร

ต้นกล้าไม่ได้รู้เลยว่าทำไมสายหมอกถึงสนับสนุนให้คนรักของตนเองร่ำเรียนและทำงานในสายงานนี้ คนที่จะทราบความจริงอันดำมืดมีแค่สายหมอกเพียงคนเดียวเท่านั้น

ชายหนุ่มในชุดสูทหรูหรายืนพิงขอบประตูมองดูคนรักจมดิ่งกับห้วงจินตนาการตรงหน้าจอpc เสียงกดแป้นก็อกๆ ยังดังยิ่งกว่าเสียงลมหายใจของเขาอีก

4 ปีก่อนหน้านั้น เขาจัดการบังคับให้คนรักตามมายังประเทศ F อย่างเผด็จการ หลอกล่อชักจูงต้นกล้าทุกอย่างให้ทำในสิ่งที่เขาวางกรอบเอาไว้ คนรักของเขาก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ถูกปล่อยปละละเลยจนไม่รู้ว่าควรดำเนินชีวิตไปในเส้นทางไหน

ผลการเรียนกลางๆ ไม่เคยทำกิจกรรมส่งเสริมเป็นชิ้นเป็นอัน และไม่มีความปรารถนาที่แท้จริงเกี่ยวกับอาชีพใดๆ ทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อถึงเวลาต้องเลือกหนทางเดินอย่างจริงจัง ก็กลายเป็นไม่รู้ว่าจะก้าวเท้าไปทางไหนดี

สายหมอกรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่คนใจกว้างอย่างพี่ภาริช เขาไม่ชอบให้คนรักเปล่งประกายเจิดจ้าอวดสายตาผู้คน ยังคงเลือกหนทางที่โดดเดี่ยวและปีนป่ายยากให้คนรัก เพื่อที่จะซ่อนต้นกล้าเอาไว้จากสายตาผู้คน

เขาหลอกล่อให้ต้นกล้าเรียนคณะศิลปศาสตร์สาขาภาษาFด้วยเหตุผลของการฝึกภาษา และให้ลงเอกวิชาวรรณกรรมคลาสสิค แนะนำผลักดันมากมายเพื่อให้ต้นกล้าใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับบ้านโดยไม่ออกไปข้างนอกมากนัก

ต้นกล้าเป็นคนรักที่เชื่อฟังและว่าง่าย พอแนะนำให้ทำอะไรก็มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ชี้โพรงให้ ดังนั้นนอกจากเข้าคลาสเรียน คนรักของเขาก็จะกลับมาตั้งใจอ่านหนังสือฝึกปรือการเขียนจนติดเป็นนิสัย

อาจเพราะพื้นฐานนิสัยเป็นชอบสันโดษดังนั้นจึงกลายเป็นหมกหมุ่นอยู่หน้าจอใช้ปลายนิ้วเคาะแป้นสร้างผลงานจนไม่สามารถถอนตัวออกจากโลกแห่งวรรณกรรมได้อีกต่อไป

สายหมอกไม่ได้คาดหวังหรือตั้งใจให้คนรักโดดเด่นเฉิดฉาย เขาแค่ต้องการขังคนรักเอาไว้ในห้องทำงานเล็กๆ อย่างแนบเนียน ทว่าเพชรดิบมันก็คือเพชรถ้าถูกเจียระไนมันก็จะส่องประกายขึ้นมา เขากับต้นกล้าไม่มีความลับต่อกันเพราะฉะนั้นเขาจึงอ่านจดหมายอิเลคทรอนิคซึ่งแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลงานเขียนที่ได้รับรางวัลแล้ว

สายหมอกไม่อยากให้ใครอื่นเห็นเพชรที่นับวันจะยิ่งงดงามของเขา ทว่าพอเห็นแผ่นหลังของคนรักที่พยายามรังสรรค์ผลงานอย่างจริงจังเขาก็คลี่ยิ้มอ่อนโยน

คนรักของเขาคนนี้ ต่อให้เขาพูดจาเอาแต่ใจแค่ไหนก็ยอมทำตามง่ายๆ ถ้าหากเขาบอกว่าไม่ให้ไปงานรับรางวัลก็คงทำตาม ทว่าคิดดูแล้วเขาอยากเห็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความภาคภูมิใจของคนรัก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กลับมาพร้อมชุดเป็นทางการของแบรนหรูในมือ

สายหมอกคิดแล้วว่าจะทำอย่างไรให้คนรักเฉิดฉายเปล่งประกายจนคนที่มาห้อมล้อมต้องตาพร่า



ณภัทรจูงมือของนรินทร์น้องชายเพียงคนเดียวเดินบนพรมแดงไปหาภาริชซึ่งยืนรออยู่แล้ว ใครๆ ต่างก็พูดว่าในงานพิธีกรรมสมรสคนที่มีความสุขที่สุดควรเป็นคู่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าณภัทรต่างหากที่ปลื้มปิติจนน้ำตาปริ่ม

“พี่ณภัทร” นรินทร์อดยิ้มไม่ได้ที่พี่ชายแสดงความอ่อนไหวมากเสียขนาดนี้ ทำให้คนช่างแกล้งอย่างภาริชอดเย้าแหย่ไม่ได้

“รู้สึกแก่ขึ้นบ้างไหม น้องชายคนเดียวจะแต่งงานทั้งคน”

ณภัทรตวัดสายขุ่นเคืองมองไป แต่น้ำตาไม่ได้หยุดไหลเลย

“คุณสิแก่ ตอนนี้นี้น้องของผมอายุ 21 คุณนั่นแหละแก่จนอายุอานามขึ้นเลขสามแล้ว”

ภาริชยิ้มกว้าง กางแขนสองข้างออกราวกับวาทยกรชั้นเอก เขาพูดในสิ่งที่คิดได้อย่างไม่อายปาก

“กินเด็กเป็นอมตะ อายุของฉันก็ลดลงตามเมียของฉันนั่นแหละ”

“หรืออาจจะลดลงไปถึงระดับวัยทารกเลยก็ได้ใครจะรู้” ณภัทรเบ้ปาก ตลอดหลายปีมานี้เขาเลิกเคารพเลิกเกรงใจเจ้านายตัวแสบไปนานแล้ว หลังจากได้เห็นอากัปกิริยาตอแหลฉอเลาะจำนวนมากเวลาอยู่กับน้องชายของเขา

ความคิดที่ว่าเจ้านายช่างแสนดูดีภูมิฐานก็ค่อยๆ หายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงแค่ ภาพลักษณ์ของงูแก่ที่มีลิ้นสองแฉกเลื้อยไถลไปตามสวนหลังบ้านของเขาอย่างไม่อาจไล่ออกไปได้

“อ่ะแฮ่ม” เสียงคุณพ่อกระแอมกระไอเตือนสติ ณภัทรลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ต่อหน้าแขกเหรื่อผู้ทรงอิทธิพลหลายท่าน เขาถอยหลังย้ายตัวไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ และมองดูภาพเหตุการณ์ที่จะคงอยู่ความทรงจำในฐานะสมบัติล้ำค่า

หลังจากประกาศคำสาบานนิรันดิ์ คู่แต่งงานก็แลกจูบกันต่อหน้าผู้คน ณภัทรซาบซึ้งจนปรบมือทั้งน้ำตา ยามที่นรินทร์กับภาริชเดินมาหา กลายเป็นว่าเขาต้องถูกเจ้านายปีศาจเย้าแหย่อีกหน

“หาคนมาแต่งงานด้วยได้แล้ว อย่าลืมว่าคนแก่อย่างนายก็มีเสน่ห์ที่คนแก่อย่างนายพึงมี”

ณภัทรแยกเขี้ยวเหมือนสัตว์ร้าย นึกอยากใช้ฐานะของพี่เมียเขกกบาลสั่งสอนซักทีสองที แต่พอนรินทร์ก้มหัวขอโทษขอโพยสุดท้ายก็ยอมปล่อยผ่านไปในที่สุด

“อย่าลืมไปเตรียมงานเลี้ยงตอนกลางคืนให้พร้อมนะ ฉันจะพาเมียของฉันไปดูห้องหอที่เตรียมไว้ก่อน”

ภาริชขยิบตาให้ณภัทร เขาแค่นเสียงดังเฮอะ ส่วนนรินทร์นะหรือก้มหน้าลงต่ำด้วยความเขินอายใบหน้าเป็นสีแดงระเรื่อเหมือนกับกลีบกุหลาบ



คนที่กระตือรือร้นกับการแก่งแย่งช่อดอกไม้ที่สุดเห็นทีจะเป็นตะวัน ไม่อยากทำตัวเหมือนผู้หญิงจ๋าขนาดนี้นะ แต่แค่อยากได้อะไรมายืนยันว่าความรักของเขาจะสมหวังชั่วนิรันดิ์แน่นอน

ทว่าทั้งที่เขาเองก็สูงยาวเข่าดี แต่แม่มไม่ช่วยอะไรเมื่อต้องเจอกับพลังหญิงของสาวๆ ที่พร้อมแก่งแย่งช่อดอกไม้อย่างป่าเถื่อน ตะวันที่พลาดสิ่งที่หวังยืนหน้าบูดเบี้ยวแผ่รัศมีดำมืดจนฟอร์ดต้องคอยเอาอกเอาใจ

“ไปหาข้าวทานกันดีไหมครับพี่ตะวัน อีกนานกว่าจะถึงงานเลี้ยงในช่วงกลางคืน”

ตะวันพยักหน้าทั้งที่หงุดหงิด ฟอร์ดยิ้มอ่อนใจ เขาจูงมือคนรักที่คบหากันมานานไปยังรถส่วนตัว ดูแลเปิดประตูรอจนอีกฝ่ายเข้าไปนั่ง บริการอย่างดีด้วยการขับรถให้นุ่มนวลที่สุด

หมู่นี้คนรักของเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย พี่ตะวันหงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายและไม่ยอมบอกเหตุผล เขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุด้วย

“พี่ตะวันเราไปทานเค้กกันไหม พี่ชอบเค้กราสเบอร์รี่ แถวนี้มีร้านชื่อดังอยู่ใกล้ๆ เราไปทานกันดีไหมครับ”

ตะวันมองดูฟอร์ดด้วยหาง ก่อนจะนั่งกอดอกแล้วมองไปข้างนอก ดูต้นไม้และผู้คนระหว่างรถเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ

“พี่ตะวัน ตรงนั้นมีร้านคาเฟ่ เราแวะซื้อชาไข่มุกทานดีไหม เดี๋ยวผมลงไปซื้อมาให้”

ตะวันยังคงเงียบ

“พี่ตะวัน แอร์เย็นเกินไปไหมหรือว่าร้อน”

ตะวันหมดความอดทนอดกลั้น เขาหันหาฟอร์ด “นายคงใจดีอย่างนี้กับคนอื่นไปทั่วสินะ”

ถูกกล่าวหาแบบนี้ฟอร์ดถึงกับอึ้ง ตะวันกำลังหงุดหงิดหึงหวงมันเป็นอย่างนี้นับตั้งแต่ ฟอร์ดบินไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ของแบรนชั้นนำระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่อิจฉา แต่จะเรียกว่าหนทางของดวงดาวมันถูกแยกย่อยเป็นหลายสาย ตะวันนั้นเป็นซูเปอร์ไอดอลที่เน้นงานเพลงและงานแสดงเป็นหลัก

แต่ฟอร์ดที่กลายเป็นซูเปอร์โมเดลไปแล้ว ต้องเดินทางไปหลายประเทศ สัมผัสกับนางแบบนายแบบรูปงามรวมไปถึงดีไซเนอร์หื่นกามกับเจ้าของแบรนที่ไม่ต่างจากสัตว์นักล่าจำนวนมาก

เจ้าบ้านี่ไม่รู้ตัวเลยสินะ ว่าเจ้าดีไซเนอร์คนนั้นโพสรูปเปลือยท่อนบนกับรูปตอนวัดตัวสองต่อสองระหว่างนายกับไอ้หมอนั่นที่ชวนให้คิดลึกจำนวนมาก แถมข่าวก็อซซิปหนาหูว่าฟอร์ดไปทานข้าวกับผู้บริหารทั้งชายทั้งหญิง หรือแม้แต่กับพวกโมเดลด้วยกัน

มันกลายเป็นว่าใครต่อใครก็อุปโลกตัวเองเป็นคู่เดตของฟอร์ดไปหมด ตะวันเป็นคนปากแข็งหัวดื้อ เวลาชอบใครรักใครสามารถบอกออกมาอย่างง่ายดาย แต่จะไม่ยอมเสียหน้าบอกเด็ดขาดเรื่องที่หงุดหงิดเพราะกำลังหึงหวง

เขาเองก็เป็นผู้ใหญ่กว่า ควรจะรู้ว่าการมีปฏิสัมพันธ์แบบนี้ถือเป็นปกติในสายงานของพวกเขา แต่มันอดหึงหวงไม่ได้จริงๆ

“พี่ตะวัน” ฟอร์ดเรียกชื่อเขาด้วยเสียงนุ่มนวล แถมยังคว้ามือไปจับ ตะวันไม่ยอมหันไปมองอีกฝ่าย แต่สัมผัสที่เกิดขึ้นบริเวณนิ้วนางข้างซ้ายมันทำให้เขาบิดคอกลับไปดู

“เราแต่งงานกันนะครับ”

ทั้งที่เป็นเรื่องที่ต้องการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่พอมันเป็นดั่งที่หวังตะวันกลับทำอะไรไม่ถูก

“เลิกงอนเลิกโมโหผมซักทีเถอะ” ฟอร์ดใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของเขา คิดว่าคงจะจูบแน่ๆ แต่เป็นตะวันนี่แหละที่โผเข้ากัดกินริมฝีปากของคนรักอย่างดุดัน

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเขาก็ไม่ยอมปล่อยฟอร์ดให้หลุดมือไปอย่างเด็ดขาด



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โอ้วไเ้ปกเล่มหนึ่งมาเสียที รอปกเล่มสอง ปวดใจ ระหว่างรอคงเขียน

เรื่องใหม่กับตอนพิเศษเรื่องนี้ไปพลางๆ เรื่องท้าชะตาเปลี่ยนรักกับmaddog01ต้องรวมเล่มแน่ๆค่ะ

แต้เพราะนี่เป็นการทำหนังสือเองครั้งแรกของเรา ทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมดTT

ถ้ายังไงช่วยรอกันหน่อยนะคะ

โอเคเข้าใจว่าบทส่งท้ายคงไม่ถึงใจหรอก

เรากับหุ้นส่วนเรากำลังคิดว่าอาจจะเอาตอนพิเศษของท้าชะตาฯกับmaddog01มาติดเหรียญดีไหม

ขอเวลาคิดก่อนนะคะ

              อย่าลืมติดตามเรื่องใหม่ของเราด้วยนะคะ อีกไม่นานเจอกันค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 21-11-2018 16:52:18
จะจบอย่างนี้จริงหรอ ยังอยากรู้เรื่องวิบากของเมษาอีกอะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 21-11-2018 17:50:50
อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyuhaku ที่ 24-11-2018 23:53:22
คุณภาริชนี่พระเอกจริงๆใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer miumiu ที่ 25-11-2018 10:30:13
คุณภาริชนี่พระเอกจริงๆใช่ไหมคะ

ใช่แล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 28-11-2018 22:57:58
แต่งงานกันแล้ว o13 จะมีตอนพิเศษอีกมั๊ยอยากอ่านต่ออีก :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 10-12-2018 03:39:23
สามีแต่ละคนเจ้าเลห์ทั้งนั้น ภรรยาก็มองสามีดีดุจเทวดาทั้งนั้น 555 ขอบคุณคนเขียนมากที่แต่งเรื่องนี้ให้อ่าน สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 17-01-2019 08:13:46
ชอบความร้ายกาจของภาริชมากๆเลย
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 20-01-2019 22:37:31
น่ารัก น่ารัก น่ารัก  น่ารักมากๆเลย   :pig4:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 23-02-2019 17:55:28
mvp ของเรื่องนี้ยกให้ สายหมอก เลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: นกน้อยน่ารัก ที่ 23-12-2019 19:24:22
เรื่องสายหมอกคือดี :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lnwgreankak ที่ 05-04-2020 10:27:22
ชอบความร้ายของทุกตัว
 :mew1: