#Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Maddog01รักอลวนของหนุ่มฮิคกี้ บทส่งท้าย 21/11/61 หน้า12 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 46884 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตะวันเอ๊ย........ วางแผนเสียดิบดี :m20: :laugh:
สุดท้ายก็ต้อง......รับเหมือนเดิม   :serius2:
เสียดายรายละเอียด nc  นี่สิ   :hao5: :sad4: :heaven

มีเมษา อิง เข้ามายุ่งเกี่ยว   :hao3:
ความตั้งใจของภาริช ที่จะไม่ทำตามสัตว์ป่าทั้งคู่
จะมั่นคงไม่แปรเปลี่ยนได้จริงหรือ   :really2: :really2: :really2:

ภาริช  นรินทร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ต้องจัดการเมษาขั้นเด็ดขาดใ้ห้ได้นะพี่ภาริช

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
คู่ฟอร์ดกับตะวันนี่ทำแต้มนำคู่พี่ชายไปไกลลิบเลย 55555

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่41

แมงเม่าบินเข้ากองไฟ

ภาริชเห็นท่าทางกังวลปนหวาดกลัวของนรินทร์เขาก็กวาดตามองไปรอบตัวทันที สายตาของเขาปะเข้ากับคนสองคนที่เดินตรงเข้ามาหา หนึ่งในนั้นคืออิงภพและอีกคนคือเมษา เขาเคยเห็นเจ้าโง่คนนี้ผ่านทางโซเชียลแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวจริง

หน้าตาไม่เลว กิริยาท่าทางก็ดูเข้าที สมแล้วที่เป็นลูกคนมีเงินและมีชื่อเสียงคนหนึ่ง

“พี่ภาริช” อิงภพพอเห็นว่าเป็นภาริชก็วิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าแช่มชื่น ทั้งยังถือวิสาสะโถมเข้ากอดอีกฝ่ายอย่างสนิทสนมเกินงาม

“คิดถึงพี่ภาริชจังเลยครับ”

ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้อิงภพ เขาค่อยๆ แกะลูกพี่ลูกน้องออกจากตัวอย่างนุ่มนวล เพราะปฏิกิริยาที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานจึงไม่ทำให้ใครรู้ว่า ภายในใจของเขาคิดอย่างไรกับการถึงเนื้อถึงตัวอันนี้

“พี่ภาริชคนคนนี้เป็นใครกันครับ” อิงภพปลายตามองนรินทร์ด้วยหางตา

“นี่คือmaddog01หรือนรินทร์ เราไม่เคยเห็นตัวจริงของเขาเลยสินะ”

คราวนี้อิงภพใช้สายตาไม่สุภาพมองนรินทร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่นะหรือตัวจริงของmaddog01 น่ารักเกินไป ดูดีเกินไป แถมไม่ใช่ว่าที่มาอยู่ตรงนี้กำลังวางแผนออเซาะหรือจับพี่ภาริชอยู่หรอกนะ

“พี่ภาริชมาเที่ยวทำไมไม่บอกผมล่ะครับ ถ้าผมรู้คงขอตามมาด้วยแล้ว”

อิงภพเกาะแขนภาริชออเซาะราวกับคู่รัก นรินทร์มองดูความสนิทสนมของทั้งคู่ด้วยหัวใจที่เหี่ยวฟีบเหมือนถูกปล่อยลม

จริงสิพี่ภาริชเขาดูดีขนาดนี้ มีคนน่ารักๆ คอยคลอเคลียอยู่ข้างๆ แบบนี้ก็ไม่แปลก

นรินทร์มัวแต่น้อยใจจนลืมไปเลยว่าเมษาปรากฏตัวอยู่ที่ตรงหน้า แถมไม่ได้รู้ถึงสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองดูอากัปกิริยาของเขาแบบไม่คลาดสายตา

ในความคิดของเมษา นรินทร์ช่างสมกับที่เขารอคอยมาตลอด ในความทรงจำคนตรงหน้าน่ารักเหมือนตุ๊กตาแค่ไหนผ่านไป 4 ปีความน่ารักนั้นก็ไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่อายุที่มากขึ้นกลับเพิ่มความเย้ายวนบางอย่างขึ้นมาด้วย

“พี่ไม่สะดวก เพราะพี่มากับคนรัก”

“เอ๊ะ”

ทั้งนรินทร์กับอิงภพพากันตกใจ

สำหรับกับนรินทร์วินาทีต่อมาหัวใจของเขาก็ฟูฟ่องทันที เขามีความสุขที่ภาริชพูดออกไปเช่นนั้น

ส่วนอิงฟ้าทีแรกรู้สึกปวดแปล๊บในใจ แต่คิดดูให้ดีแล้วคนก่อนๆ ที่คบด้วยก็เลิกกันไปในระยะเวลาไม่นานไม่เห็นจะน่าเป็นห่วงตรงไหน

“แล้วเขาเป็นใครกันครับแนะนำให้ผมรู้จักได้ไหม”

“ก็อยู่ตรงหน้านายแล้วนี่ไง”

คราวอิงภพตกใจอีกครั้ง เมษาก็ด้วยเหมือนกัน เขาใช้สายตาดุดันมองสลับระหว่างนรินทร์กับภาริช สองคนนี้คบกันได้ยังไง เมษาคิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจสาเหตุ

“พี่อย่าบอกนะว่า พี่คบกับเจ้าmaddog01นี่” อิงภพชี้นิ้วไปยังคนที่สวยน่ารักจนน่าหมั่นไส้ ยิ่งอีกฝ่ายก้มหน้าหลบสายตาด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน เขาก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมด

“คุณพบกับนรินทร์ที่ไหน แล้วทั้งสองคบกันได้ยังไง”

เมษาถามเสียงกร้าว ภาริชอมยิ้มก่อนจะขยับตัวหันไปประจันหน้ากับฝ่ายนั้น

<แววตาใช้ได้นี่> ภาริชพูดคุยกับเมษาด้วยท่าทางเป็นกันเองผิดกับอีกฝ่ายที่แสดงตัวเป็นศัตรูอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันเป็นเจ้านายของพี่ชายเขาแล้วเราก็คุยกันผ่านทางจดหมายมาตลอด 4 ปี นอกจากนั้นฉันยังเล่นเกมกับเขามาตลอดในแอคเค้าท์ที่ชื่อว่าโกรธเกรี้ยว”

เมษาได้ยินแล้วกัดฟันกรอด ในขณะอิงภพตกใจจนหน้าเสีย

นี่เรา...เราทำเรื่องไม่น่ารักให้พี่ภาริชเห็นตั้งมากมายไปแล้ว

“พ...พี่ภาริช คงไม่ได้ ล้อเล่นใช่ไหมครับ ล้อเล่นใช่ไหม” อิงภพปากคอสั่น นี่เท่ากับว่าภาพลักษณ์น่ารักๆ ที่เขาให้พี่ภาริชเห็นมาตลอดได้ถูกทำลายไปแล้ว ไม่เพียงแค่อกหัก ยังอาจถูกเกลียดอีกด้วย

“พี่จะล้อเล่นทำไมครับ อิงภพรู้นิสัยพี่ดีไม่ใช่หรือ”

“ถ..ถ้างั้น พี่จะไม่โกรธไม่เกลียดผมใช่ไหม” อิงภพยังคงเกาะแขนภาริชอยู่ แต่มือไม้ที่สั่นเทาบอกชัดว่ากำลังกลัวและวิตกอย่างมาก

ก็ถ้าเกลียดเขาแล้ว อย่าว่าแต่รออย่างมีความหวังจนกว่าพี่ภาริชจะเลิกกับไอ้นี่เลย เจอหน้าก็อาจจะไม่ได้เจอด้วย

“พี่ไม่ถือโทษกับการทะเลาะวิวาทของเด็กๆ หรอก ในสายตาพี่อิงภพจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่น่ารักตลอดไป”

“ตลอดไป” อิงภพพึมพำอย่างเหม่อลอย

นี่มันเป็นคำพูดตัดรอนที่ทำร้ายจิตใจกันมากกว่าขับไล่ไปให้พ้นเสียอีก เรียกได้ว่านับจากนี้และตลอดไปเขาไม่มีหวังได้เป็นคนรักของพี่ภาริช เพราะไม่ว่าอย่างไร คนที่เขาชอบก็จะมองเขาเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น

อิงภพคลายมือออกจากแขนของภาริชแล้วเดินคอตกจากไปเพียงลำพังอย่างเงียบๆ

จากนั้นภาริชก็กลับไปสนใจกับเจ้าของสายตากราดเกรี้ยวอย่างเมษาด้วยท่าทีสบายๆ

“นายกำลังถูกหมอนี่หลอกเท่านั้นแหละนรินทร์ ผู้ชายคนนี้ก็แค่เล่นสนุกกับนายแค่ชั่วครั้งชั่วคราว”

“แต่มันไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่นะ” เป็นครั้งแรกที่นรินทร์เถียงเมษา แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังใช้สรรพนามแทนตัวเขาได้น่ารักน่าชังเหมือนเดิม

“นายจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะจริงใจกับนาย ดูเขาสิ คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านอย่างนี้จะมาสนใจกับฮิคิโคโมริที่ได้แต่เล่นเกมอย่างนายทำไม”

นรินทร์เจ็บปวดที่อีกฝ่ายพูดได้ตรงกับความคิดที่ซ่อนอยู่ในใจของเขา จริงๆ ก็คิดเหมือนกันว่าตนเองไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่ภาริชได้เลย

“อย่างมากก็คงจะแค่เล่นสนุกใช่ไหมล่ะครับ กับเด็กที่ไม่มีอะไรดีเลย ใช่ไหมล่ะ” เมษาถามภาริช เขามั่นใจว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ต่อให้พูดโกหกออกมาก็ต้องแสดงสีหน้าที่แท้จริงแม้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงตั้งใจจับผิดภาริชอย่างจริงจัง

ส่วนนรินทร์ที่โดนดูถูกนั่นไม่มีปากเสียงเขาก้มหน้าลงต่ำด้วยความหดหู่

“นายคิดว่าอะไรคือข้อพิสูจน์ว่าใครคนหนึ่งมีค่าไม่มีค่ากัน” ภาริชถามเมษา เขาใช้สายตามองดูนรินทร์ที่ก้มหัวลงซ่อนใบหน้าเอาไว้ด้วยความเอ็นดูและสงสาร

“ก็การกระทำยังไงครับ สำหรับนรินทร์ที่เอาแต่มุดหัวไม่ออกจากบ้านถึง 4 ปี เท่ากับว่าเขาใช้ชีวิตไร้ค่ามาโดยตลอด”

“แต่สำหรับฉัน ไม่ว่านรินทร์จะเป็นแบบไหนเขาก็มีค่านะ เพื่อให้เขาเปล่งประกายอย่างที่สุด ไม่ว่าต้องทำยังไงฉันก็จะคอยผลักดันเขาจากด้านหลังตลอดไป”

“คุณคิดว่าผมไม่เคยทำมาก่อนหรือไง” เมษาตะคอก เขาหัวเสียหึงหวงผู้ชายคนนี้จนคุมสติไม่อยู่

“ผมไปหาเขาทุกวันที่บ้านพยายามชักชวนปลอบโยนเขาให้ออกมาเผชิญโลกภายนอก แต่สิ่งที่เขาทำคือมุดหัวอยู่ในรู เอาแต่เล่นเกม ทำเรื่องไร้สาระ ผมน่ะไม่ชอบเล่นเกมซักนิดถึงแม้ทางบ้านจะมีธุรกิจทางด้านนี้ เพื่อให้เข้ากับหมอนี่ได้ ผมยอมกระโดดเข้ามาในวงการเพียงเพราะนรินทร์”

“อย่างนี้นี่เอง” ภาริชคลี่ยิ้มอ่อนหวาน รู้สึกโกรธที่เด็กคนนี้โยนความผิดทุกอย่างให้นรินทร์จนหมด ช่างเป็นคนที่โลกหมุนรอบตัวเองเสียจริงๆ

“คนเราแต่ละคนมีคุณค่าแตกต่างกันไป คุณค่าของนรินทร์อยู่ความน่ารักแล้วเขาก็เล่นเกมเก่งสำหรับฉันแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”

“ก็แค่เล่นเกม เขาไม่ได้เก่งไปกว่าผมหรอก” เมษาไม่ยอมแพ้ คนคนนี้พูดแต่ละอย่างชวนให้โมโหทั้งนั้น ทุกคำพูดล้วนแสดงถึงความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อนรินทร์จนอยากจะอ้วก

“แต่นายแพ้คนรักของฉันถึงสองครั้ง ปกติคนแพ้ซ้ำซากอย่างนายไม่มีสิทธิมาพูดแบบนี้นะ” ภาริชยิ้มหวานราวกับนางฟ้า

เมษาเกลียดรอยยิ้มของภาริชเสียเหลือเกิน เขาบันดาลโทสะ กำหมัดทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ทว่าจู่ๆ ภาริชก็ขยับเข้ามาใกล้ คนคนนี้ตัวสูงมาก ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมอง

“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้านายคิดว่าไอ้การแข่งครั้งที่ผ่านๆ มา มันวัดความสามารถไม่ได้ คราวนี้ลองมาแข่งกับนรินทร์ในงานแข่งเกม Last battle ที่ฉันจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ คราวนี้เอาเป็นครั้งสุดท้ายนะคนแพ้ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าใครเหนือกว่าใครมีคุณค่ามากกว่า อย่างนี้ดีไหม”

“คุณเล่นตลกอะไร ทำไมผมต้องไปแข่งเกมในรายการของคู่แข่งด้วย”

เมษายังไม่เข้าใจว่าคนคนนี้ต้องการอะไรกันแน่

“รินครับ รินพร้อมที่จะแข่งกับเมษาเขาอีกรอบไหม”

นรินทร์เงยหน้าขึ้นมานิดหน่อย เขาหดหู่จนไม่กล้ามองหน้าใคร แต่พอเห็นรอยยิ้มและแววตาอ่อนโยนของพี่ภาริชเขาก็รู้สึกดีขึ้น

“ถ้าพี่ภาริชเห็นว่าดีผมจะทำตามนั้น”

ใครจะไปคิดว่าทั้งคำพูดและท่าทางของนรินทร์ที่มีต่อภาริชจะไปกระตุ้นโทสะของเมษาจนความยับยั้งชั่งใจหายไปหมด เขาริษยาหึงหวงเสียหน้า ที่ต้องมาพ่ายแพ้คนอย่างภาริช

จังหวะที่โกรธจนน่ามืดตามัวนั้น ภาริชก็ขยับเข้ามากระซิบที่ข้างหู เป็นเสียงที่เบามากและพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน

“จะหดหางหนีไปก็ได้นะ เพราะยังไงคนอย่างนายก็ต้องแพ้ให้รินอีกไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม คนที่เกิดมาเป็นผู้แพ้อย่างนายยอมรับความจริงแล้วไสหัวไปให้พ้นจะดีกว่าน่า อย่ามาเกะกะทางเดินของฉัน”

ดวงตาของเมษาลุกช่วงไปด้วยประกายไฟแห่งความแค้น ดวงตาคู่นั้นดุดันจนนรินทร์ถึงกับสะดุ้ง คนตัวเล็กไม่ได้เห็นสีหน้าของพี่ภาริช ถ้าได้เห็นแล้วล่ะก็คงคิดว่ามีอะไรซักอย่างสิงสู่ในร่างคนรัก

แน่นอนว่าภาริชจงใจไม่ให้นรินทร์เห็น เขาแสดงสีหน้าดูหมิ่นหยาบช้ากับเมษาจนไม่ต่างจากตัวร้ายในละครหลังข่าวเลยซักนิด รอยยิ้มที่หยามหมิ่นอีกทั้งแววตาที่มองกดต่ำลงมาเหมือนกับมองพวกมดปลวกอย่างนี้ ไม่เคยมีใครใช้มันมองดูเมษามาก่อน

เมษาเคียดแค้นโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่นระริก เขายอมรับคำท้าทายอันนี้เหมือนแมงเม่าที่กระโจนเข้ากองไฟ

“ได้ เรามาแข่งกันอีกหน แต่ถ้าคราวนี้ฉันชนะ นายต้องคุกเข่าขอขมาฉันต่อหน้าคนในงานแข่งเกม”

“ไม่เพียงแต่ต้องชนะนรินทร์นะ แต่นายต้องเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันด้วย ทางนี้ก็เหมือนกันถ้าไม่ได้ที่หนึ่งในการแข่งขัน ฉันจะถือว่าแพ้และทำตามที่นายต้องการ”

“พี่ภาริช” นรินทร์ผวากอดแขนภาริช เขาไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองจะพนันอะไรบ้าๆ แบบนี้

“แล้วถ้าฉันแพ้ล่ะนายต้องการอะไร” เมษาถามกลับ อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยที่เห็นสีหน้าเป็นกังวลและหวาดกลัวของนรินทร์

“ไม่ต้องการอะไรเลย” ภาริชคลี่ยิ้มละมุนละไม เขาใช้มือลูบศีรษะปลอบโยนนรินทร์อย่างเบามือ

<เพราะว่าต่อให้ฉันแพ้ นายก็จะไม่เหลืออะไร เพราะทุกอย่างของนายมันจะกลายเป็นของฉัน>

“สำหรับฉันแค่ต้องการให้นรินทร์สามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวเองฉันก็พอใจแล้ว และฉันก็มั่นใจว่านรินทร์จะชนะนายอีก”

“พี่ภาริช” นรินทร์น้ำตาคลอเพราะคำพูดและการกระทำของภาริช เด็กน้อยโถมเข้ากอดคนรักเอาไว้แน่น

“ผมจะไม่แพ้เด็ดขาด” นรินทร์ไม่ได้พูดแค่กับตัวเอง ยังรวมถึงเมษาและภาริชด้วย

“คราวนี้ผมก็ต้องชนะรุ่นพี่” นรินทร์ใช้สายตาแข็งกร้าวมองมาที่เมษาเป็นครั้งแรก

ยิ่งนรินทร์ดื้อด้านมั่นใจอย่างนี้ มันก็ยิ่งกระตุ้นโทสะของเมษาให้รุนแรงขึ้นอีก

“คราวนี้ฉันจะบดขยี้นาย จะได้รู้เอาไว้ว่านายมันอ่อนแอปกป้องแม้แต่ศักดิ์ศรีของชายคนรักยังทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปกป้องตัวเองยิ่งไม่ปัญญาทำ”

เมษาพูดด้วยความรู้สึกที่ทั้งรักทั้งแค้นปะปนกันไป ความหึงหวงริษยาท้วมทนเกินกว่าที่จะคิดอย่างมีสติ

ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องสั่งสอนคู่รักคู่นี้ให้ได้ ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมพอดี เขาในตอนนี้มีหมากชั้นเลิศอย่างพี่สายหมอกอยู่ในมือ เมื่อร่วมกับฝีมือการเล่นของเขาแล้ว การจะชนะก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ลงซะมืดเลย5555 พี่ภาริชร้ายไหมคะ5555 รุสึกสงสารเมษาเลยทีเดียว

                 ตอนนี้เรากำลังรอคิวปกน้องรินกับพี่ภาริชอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ 

                     คิวคือปลายตุลา โอ๊ยอยากเหนแล้ว แสดงความคอดเหนเปนกำลังใจบ้างนะคะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ภาริชร้ายมากกกกกกกกกกสะใจค่ะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
พี่สายหมอกคือตัวแปรสำคัญเลย รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
สายหมอกที่หวังพึ่งก็..

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่42
ความลับที่รู้กันไปทั่ว

ธันวา ชัยมงคลกำลังหงุดหงิดเพราะพวกตำรวจมาป้วนเปี้ยนรอบตัวเขาเต็มไปหมด แถมวันนี้กรรมการบริหารที่ล้วนแล้วแต่เป็นญาติพี่น้องของเขาทั้งนั้น พากันมารวมในห้องประชุมอย่างพร้อมหน้า

“นี่มันยังไงกันธันวา” พี่สาวคนดีเปิดฉากด่าธันวาก่อนใคร เธอเป็นคนที่ถือหุ้นถึง20เปอร์เซ็น มีหุ้นของบริษัทมากรองลงมาจากเขา

“ถามจริงๆ เถอะแกลอกผลงานของGhiblisoft จริงๆ ใช่ไหม แกดูสิตอนนี้มูลค่าของบริษัทเราในตลาดหุ้นกำลังดิ่งลงจนฉันแทบอยากจะร้องไห้ แกคิดบ้างไหมว่าแกกำลังทำบริษัทที่พี่น้องของแกก็มีส่วนได้ส่วนเสียพังพินาศคามือแก”

“ใจเย็นๆ ก่อนน่าคุณพี่” ธันวาเอาน้ำเย็นเข้าลูบ จังหวะที่พยายามปลุกปลอบให้พี่สาวคนดีสงบ เจ้าน้องชายคนเล็กผู้ที่มีหุ้น 11 เปอร์เซ็น ก็ดูดน้ำด้วยหลอดจนเกิดเสียงซูดๆ น่ารำคาญและไร้มารยาทที่สุด

ตุลา ชัยมงคล ไอ้น้องชายผู้อ่อนต่อโลกและถูกประคบประหงมจนเกินงาม มีนา ชัยมงคลพี่สาวคนโตมักจะคอยให้ท้ายดูแลเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง อาจเพราะมันช่างฉอเลาะและอายุห่างกับพี่น้องมากจนคล้ายลูกมากกว่าน้องชาย

“มีมารยาทหน่อยตุลา” ธันวาเสียงกร้าว การมีตัวตนของตุลาสร้างความหงุดหงิดให้เขาเสมอๆ ตุลาทำแค่เพียงยักไหล่

“แกจะสนเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไม แกต้องตอบคำถามฉันมากกว่า ว่าแกไปทำชั่วอะไรไว้ เป็นจริงอย่างเขาลือกันไหม”

ธันวาเงียบกริบ เขาไม่ปริปากพูดอะไร นั่นเป็นคำตอบที่ชัดเจนเสียจนมีนาหัวเสียอย่างรุนแรง

“ฉันอุตส่าห์ไว้ใจให้แกบริหาร ทั้งๆ ที่ถ้าเอาหุ้นของฉันกับตุลารวมกันหนึ่งในเราสองคนขึ้นเป็นผู้บริหารแทนแกก็ยังได้”

“พี่ก็พูดอย่างนี้ตลอด พี่เอาแต่รักห่วงไอ้คนไม่เอาไหนอย่างตุลา” ธันวาทุบโต๊ะดังปัง

เขาอดทนกับความลำเอียงของพี่สาวมานานแล้ว คราวนี้ระเบิดออกมาเพราะความเครียดที่ตำรวจคอยมาป้วนเปี้ยนรอบๆ ไม่หยุด

“แล้วแกจะเอายังไง ตอนนี้ข่าวเน่าๆ ของแก มันทำให้ใครต่อใครเทขายหุ้นของบริษัทเราทิ้งในราคาถูก มูลค่าหุ้นก็ตกเอาๆ แกคิดว่าแกจะกู้สถานการณ์ยังไง

“เอาเป็นว่าพี่คอยดูอยู่เงียบๆ แล้วกัน” ธันวาสะบัดตูดหนีพี่น้องของตัวเอง เขาเบื่อที่จะฟังเรื่องพวกนี้ เขาเครียดเกินพอแล้ว

“แกไม่เข้าใจธันวา แกก็รู้นี่ว่าสามีของฉันต้องฟอกไตทุกสัปดาห์ แกรู้ไหมว่าค่าใช้จ่ายมันเท่าไหร่”

มีนาลุกขึ้นยืนหมายจะเดินตามไปบ่นให้ธันวาที่เดินหนีฟัง ถ้าไม่ติดว่าน้องชายคนรองพูดเรื่องร้ายกาจออกมา

“พี่ก็ไปขอเงินจากน้องชายสุดที่รักของพี่สิ ไอ้ตุลามันฉลาดคงทำอะไรเพื่อผัวพี่กับพี่ได้อยู่แล้ว”

ธันวาพูดอย่างเราะร้าย คนฟังอย่างมีนาทรุดนั่งหมดแรงบนเก้าอี้ ปล่อยให้ธันวาเดินจากไปง่ายๆ

“คุณพี่อย่าเสียใจครับ” ตุลาเข้าไปปลอบโยนพี่สาวเหมือนทุกครั้ง สำหรับมีนาน้องชายคนนี้ยังอ่อนหวานและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้ดีเสมอ

“ผมไม่รู้ว่าพูดไปคุณพี่จะด่าผมไหม แต่สามีของคุณพี่ตอนนี้ก็มีโรคแทรกซ้อนขึ้นหลายอย่างคงต้องใช้เงินอีกระยะยาว ผมเองก็ต้องการเงินไปลงทุนในกิจการใหม่ของผมเช่นกัน ถ้าคุณพี่ไม่รังเกียจ ผมสามารถหาคนซื้อหุ้นของเราในราคาสูงที่สุดเหมือนตอนที่หุ้นของเรายังแข็งตัวอยู่ได้นะครับ”

“แต่มันจะดีหรือตุลา การที่อำนาจควบคุมยังเป็นของครอบครัวเราเพราะหุ้นของพวกเราที่รวมกันสามคนทำให้เรามีหุ้นถึง51เปอร์เซ็นนะ”

“พี่ผมมีความฝันนะ ความฝันที่จะเปิดบริษัทของตัวเองซึ่งผมจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ผมขอบอกพี่ตามตรงผมจะขายหุ้นของบริษัท6เปอร์เซ็น ส่วนพี่ผมจะแนะนำพี่ให้ผู้ซื้อ คุณพี่จะขายหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณพี่เอง แต่อย่าลืมนะครับว่ายังไงโรคแทรกซ้อนของพี่เขยก็รอไม่ได้”

มีนาก้มหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ แต่ไหนแต่ไรมาคนที่เข้าใจเธอมากที่สุดก็เป็นตุลา และตุลาเองก็มักทำให้เธอเจอแต่เรื่องดีๆ เสมอ แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าการรวมหัวกันปลดธันวาออกจากตำแหน่งประธานเป็นทางออกที่ถูกต้องมากกว่าก็ตาม

ทว่าเธอไม่ได้เรียนเกี่ยวกับบริหารโดยตรงมา เธอแทบไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เธอไม่รู้ว่าปลดธันวาลงมาแล้วจะให้ใครบริหารแทน อาจเป็นตุลาแต่ความบาดหมางที่ตามมาล่ะ เธอเบื่อเรื่องวิวาทและความน้อยใจที่ธันวามีต่อเธอเต็มที

เธอต้องการเงินจำนวนมากในตอนนี้เพื่อสามีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาของเธอ

“ช่วยแนะนำคนที่ต้องการซื้อหุ้นให้พี่ทีสิตุลา”


วันนี้เป็นคืนสุดท้ายที่พวกภาริชจะค้างในบ้านพักตากอากาศ ดังนั้นพวกเขาจึงมารวมตัวกันพร้อมหน้าจัดปาร์ตี้อาหารทะเลริมหาด ตะวันอาสาเป็นพ่อครัวโดยมีลูกมืออีกถึงสามคนช่วยกันปรุงอาหารอย่างสนุกสนาน ส่วนภาริชนะหรือเขาเปิดโน้ตบุ๊คเสียบหูฟังแล้วพูดคุยเรื่องงานกับคาร์ล ซีมัว

<“เมื่อซักครู่ผมเพิ่งปิดดีลกับคนในครอบครัวชัยมงคลไป จริงๆ ควรแจ้งคุณภาริชก่อน แต่เห็นว่าโอกาสมันเข้ามากะทันหันผมเลยตัดสินใจซื้อทันที”>

“เวลานี้นายรวบรวมหุ้นได้ถึงเท่าไหร่แล้ว” ภาริชถาม จังหวะนั้นเขาทอดตามองไปยังนรินทร์ที่สนุกสนานกับการทำอาหารน่าดู ใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนรักไม่ว่าจะดูกี่หนก็น่ารักจริงๆ

<“ถ้ารวมกับที่เพิ่งได้มาจากพวกครอบครัวชัยมงคลก็เป็นจำนวนถึง51เปอร์เซนแล้วครับ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะไปจบที่60เปอร์เซ็นพอดี”>

ภาริชหัวเราะ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าดูชั่วร้ายเสียเหลือเกิน โชคดีที่นรินทร์ไม่ได้อยู่แถวนี้ เขาไม่ค่อยอยากให้คนรักเห็นด้านชั่วร้ายของตัวเองซักเท่าไหร่

“เอาให้ถึงที่สุด ได้มาถึง 60 เปอร์เซ็นก็เป็นเลขที่สวยดี”

ความวุ่นวายในตลาดหุ้นและการเทขายกันจ้าละหวั่นของนักลงทุนทำให้ภาริชคิดว่าการที่จะได้หุ้นมาถึง 60เปอร์เซ็นมันก็พอเป็นไปได้อยู่ จริงๆ ได้มาแค่51เปอร์เซ็นเขาก็พอใจมากแล้ว แต่ถ้ามันจะมากกว่านั้นก็ไม่เสียหายอะไร

“พี่ภาริชไปทานข้าวกันเถอะครับ” นรินทร์เดินมาหา ภาริชเก็บโน๊ตบุ๊คแล้วทำตามที่คนรักอายุน้อยกว่าว่า วันนี้เขาพอใจกับทุกๆ อย่าง

จะว่าไปการมาเที่ยวครั้งนี้มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น เขาวางแผนทริปครั้งต่อไปในใจแล้ว ทว่าในตอนนั้นนรินทร์ก็สะกิดภาริชที่แขนเบาๆ

“อะไรครับ”

“พี่ภาริชไม่ดูแลฟอร์ดหน่อยหรือครับ”

“เรื่องอะไร”

คิดไปคิดมานรินทร์ก็รู้สึกกระดากปากยังไงไม่รู้ หลายวันมานี้ตะวันกับฟอร์ดเอาแต่คลุกอยู่ในห้อง จะออกมาก็แค่ทานข้าวเท่านั้น แถมทุกครั้งที่เผลอเดินผ่านจะได้ยินเสียงครวญครางบาดหูทุกครั้งไป

เมื่อตอนกลางวันเขาได้มีโอกาสอยู่กับตะวันสองต่อสอง และเผลอพูดเรื่องไร้มารยาทออกไปจนได้ นรินทร์นึกถึงเรื่องราวในคราวนั้น

“ฝ่ายรับนี่เจ็บมากไหม”

ตะวันสะดุ้งโหยงต่อคำถามของลูกพี่

“ลูกพี่ถามทำไม” ตะวันปากคอสั่น แถมยังลนลานจนดูตลก เขาไม่อยากให้ลูกพี่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายรับมันเสียเชิงชาย

“ลูกพี่” ตะวันทำหน้าขรึมมากถึงมากที่สุด “ผมไม่ใช่ฝ่ายรับนะ ไม่รู้หรอกว่าตอนโดนทำจะเจ็บไม่เจ็บ”

“งั้นฟอร์ดเป็นฝ่ายรับหรือ” นรินทร์หน้าเสียทันที “ฟอร์ดเอาแต่ร้องว่าเจ็บแถมบอกให้นายเพลามือลงหน่อย จ...คงเจ็บมากเลยสินะ”

“ใช่ๆ เจ็บมาก” ตะวันไม่รู้หรอกว่าคำพูดของตัวเองไปกระตุ้นความกังวลให้นรินทร์ ต่างคนต่างครุ่นคิดแต่เรื่องตัวเอง

สำหรับตะวันนั้นพอพูดถึงเรื่องเจ็บใบหน้าของเขาก็แดงซ่าน ไอ้เจ็บมันก็มีนิดหน่อยแต่มันรู้สึกดีมากจนต้องระบายออกด้วยการกัดและข่วนฟอร์ดจนยับ ที่ลูกพี่ได้ยินฟอร์ดครวญครางก็เพราะอย่างนั้นนั่นแหละ

ส่วนรินทร์นะหรือ เด็กน้อยกำลังต่อสู้กับความต้องการและความหวาดกลัว เขาอยากเป็นหนึ่งเดียวกับพี่ภาริช แต่ถ้ามันต้องเจ็บขนาดนั้น ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างต่างกับที่จินตนาการเอาไว้

สิ่งที่เขาคิดคือพี่ภาริชคงปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยน แต่ทุกครั้งที่เผลอได้ยินเสียงจากกิจกรรมเข้าจังหวะของตะวันกับฟอร์ด ก็รู้สึกว่าสองคนนี้ต้องมีรสนิยมแบบsmแน่ๆ เลย

พี่ภาริชคงไม่มีรสนิยมแบบนั้นใช่ไหมนะ หรือว่าบางทีอาจจะเป็นโชคดีแล้วที่พี่ภาริชบอกว่าจะไม่ล่วงเกินเขาจนกว่าถึงเวลาบรรลุนิติภาวะของเขา

จังหวะนั้นต่างคนก็ต่างเงยหน้าขึ้นสบตากัน ตะวันกระดากและเขินอาย ส่วนนรินทร์กลับเต็มไปด้วยคำถาม

“ทำรุนแรงแบบนั้นมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ นะหรือ”

ตะวันอยากจะกรีดร้องออกมาให้ดังๆ ลูกพี่ถามอะไรเนี่ย เขาจะบอกได้ไงว่าจริงๆ การที่ฟอร์ดรุนแรงกับเขานิดๆ มันก็ดีสุดๆ ไปเลย

“ไม่รู้สิลูกพี่ แต่ฟอร์ดบอกว่าชอบอยู่นะ ทางนี้เองก็เผลอลงมือไปเต็มทีเสียด้วยสิ”

ตะวันภาวนาอย่าให้ลูกพี่รู้ตัวเลยว่าเขานั่นแหละที่เป็นฝ่ายรับ น่าขายหน้าเสียเชิงชายสุดๆ เลย

กลับมาที่ปัจจุบัน นรินทร์เริ่มตอบคำถามที่คั่งค้างไว้ของภาริช

“ผมผ่านไปหน้าห้องของตะวันทีไรก็ได้ยินฟอร์ดร้องว่าเจ็บจน...” นรินทร์ก้มหน้าลงซ่อนความอาย

“ฝ่ายรับนี่น่าสงสารต้องทนเจ็บถึงขนาดนั้น”

นรินทร์ไม่รู้ว่าตัวเองพูดเรื่องน่าอายอย่างนี้ออกไปกับพี่ภาริชได้ยังไง เขายืนตัวแข็งทื่อไปแล้ว ให้ตายสิอยากมุดหัวลงดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด

“ฝ่ายรับที่ว่านั้นหมายถึงฟอร์ดงั้นรึ”

นรินทร์ผงกหัวขึ้นลงเบาๆ ทั้งยังก้มหน้าหลบตาภาริช

<เจ้าตะวันคนนั้นคงกลัวเสียหน้า> ภาริชแสยะยิ้มร้ายกาจ “ฟอร์ดมานี่หน่อยสิ”

นรินทร์สะดุ้งเขาเงยหน้าขึ้นมองภาริช ไม่เข้าใจว่าพี่ภาริชเรียกฟอร์ดมาทำไม หรือว่าจะเล่าเรื่องความเผือกของเขาให้เจ้าตัวฟัง แถมฟอร์ดก็เดินมาแล้วด้วย

“เป็นฝ่ายรับเจ็บไหม”

ฟอร์ดขมวดคิ้วกับคำถามแรกของพี่ชาย ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ มาถามแบบนี้

“นี่เรากำลังจะทานข้าวไม่ใช่หรือครับ ไหงท่านพี่มาพูดเรื่องทะลึ่งแบบนี้เนี่ย”

“เอาน่า พี่กับนรินทร์อยากรู้ เล่าหน่อยสิ”

“นรินทร์นะหรืออยากรู้” ฟอร์ดหันไปถาม นรินทร์ตัวแข็งทื่อไปแล้ว

ท่านพี่วางแผนแกล้งใครซักคนหรือเปล่านะ จริงๆ จะปฏิเสธไม่เล่าก็ได้ แต่ถ้าขัดขืนคำบัญชาเขาเองก็คงโดนไม่ใช่น้อย

“ถามว่าเจ็บไหมหรือ พี่ตะวันบ่นว่าเจ็บๆ ทั้งกัดทั้งข่วน แต่ไม่เคยบอกให้ผมหยุดทำเลยนะ”

“แสดงว่าชอบหรืออาจจะจะรู้สึกดีสุดๆ” ภาริชหัวเราะชอบใจ

ซึ่งขณะนั้นนรินทร์ประมวลผลประโยคคำพูดของฟอร์ดอย่างรวดเร็ว

“ตะวันไม่ได้เป็นฝ่ายรุกหรอกหรือ”

“รินโดนเจ้าตะวันหลอกมาแล้วนะครับ” ภาริชยิ้มหวาน เขาใช้มือลูบหัวคนรักอย่างทะนุถนอม

“อ๊ะนี่แสดงว่า พี่ตะวันคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายรับ รินเรื่องนี้ขอให้ทำเป็นเข้าใจอย่างที่พี่ตะวันต้องการเถอะนะ”

ฟอร์ดขอร้องอย่างจริงจัง นรินทร์พอจะเข้าใจความรู้สึกของฟอร์ด คงไม่อยากให้ตะวันเสียใจและเสียหน้า ดังนั้นเขาจึงรับปากไป

“ฟอร์ดทำอะไรอยู่ พาลูกพี่มาทานข้าวเร็ว” ตะวันกวักมือเรียกเหยงๆ

ดังนั้นฟอร์ดจึงชวนพวกเขาไปทานข้าวที่ริมหาดอีกที จังหวะทีนรินทร์จะเดินตามฟอร์ดภาริชก็กระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงเย้ายวน

“รินไม่ต้องกลัวนะครั้งแรกของเราพี่จะไม่ทำให้รินเจ็บ”

นรินทร์หันไปมองดูใบหน้าคนพูดแทบจะในทันที พี่ภาริชยิ้มหวานเหมือนนางฟ้า สวยดูดีจนเขาเขินอายอย่างบอกไม่ถูก

“ไปกันเถอะทุกคนรออยู่นะ” ภาริชจับมือ กระตุ้นให้นรินทร์เดินตาม

นรินทร์ไม่กังวลเรื่องเจ็บหรือไม่เจ็บอีกต่อไป เพราะพี่ภาริชต้องปฏิบัติกับเขาอย่างอ่อนโยนแน่ๆ ก็พี่ภาริชเป็นคนอ่อนโยนใจดีนี่นะ เหมือนเจ้าชายในนิทานไม่ผิดเลยแหละ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฟิคชั่นล็อคนี่ทำเราลำบากมากจริงๆ จะอัพตั้งแต่วันที่แล้ว

ตอนนี้กะยังไม่เสถียร นอยมาก ตอนต่อไปจะรีบปั่นออกมานะคะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ขยี้ตาแล้วอ่านบรรทัดสุดท้ายใหม่ 5555555+

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ชื่อเดือนกันทั้งตระกูลเชียว

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โฮะๆ...............เจ้าชายภาริชที่แสนอ่อนโยน  o18 :m20: :laugh:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ชักจะอยากรู้วาาพี่ภาริชจะอ่อนโยนจริงรึ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
 
บทที่43
เปิดตัวอย่างกะทันหัน

“ทำไมลูกพี่พึ่งมาเล่าเรื่องของไอ้เมษาในวันสุดท้ายล่ะเนี่ย”

ตะวันไม่เชิงโวยวาย เขาแค่อยากให้ลูกพี่เล่าเรื่องที่พนันกับเมษาให้เร็วกว่านี้เท่านั้น ยิ่งได้ยินการกระทำที่ชัดเจนว่าไอ้หมอนั่นเหยียดหยามลูกพี่จากปากภาริชเขาก็ยิ่งโมโห

“สรุปว่ารินจะลงแข่งเกม Last battle เพราะพนันกับเมษาคนนั้นสินะ”

มิวซังตัดบทคำบ่นที่กำลังพร่างพรูจากปากตะวัน ถ้าหากการแข่งขันนี่ถูกกำหนดเอาไว้ก็ควรสร้างทีมแล้วฝึกซ้อมโดยเร็วที่สุด

“อื้อ...เพราะว่ายังไม่แน่ใจ ว่าจะเอายังไงดีกับการแข่งคราวนี้ดี แต่ปรึกษากับพี่ภาริชจนสรุปได้แล้วก็เลย”

นรินทร์หันไปหาฟอร์ด เริ่มขอร้องในสิ่งที่คิดเอาไว้

“ฟอร์ดมาเข้าทีมแข่งขันกับเราเถอะ นอกจากตะวันกับมิวซังก็มีนายนี่แหละที่ฉันไว้ใจ”

“ไม่มีปัญหา” ฟอร์ดตกลงทันที

“จะว่าไปการแข่งครั้งนี้เปิดให้ลงทะเบียนแล้วสินะ” ตะวันถามภาริช

“เรื่องลงทะเบียน เดี๋ยวฉันจะจัดการให้” ภาริชรับปากเป็นมั่นเหมาะ ทำให้ทุกคนสบายใจขึ้น แต่จังหวะนั้นคนที่สำเหนียกถึงความเป็นจริงได้ก่อนใครคือตะวัน

“เดี๋ยวนะ พวกเราลืมอะไรไปหรือเปล่า”

“อะไรหรือ” นรินทร์ยังไม่เข้าใจที่ตะวันต้องการพูด แต่มิวซังทราบทันทีว่าหมายถึงอะไร

“น่าจะเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เคยเปิดเผยตัวตนเลย โดยเฉพาะริน ในโลกโซเชียลทุกคนเห็นแต่รินที่สวมหน้ากาก”

“จริงด้วยลูกพี่ แค่มิวซังกับผมเปิดตัวก็เรียกได้ว่าป่าช้าแตกแน่ๆ ถ้าหากลูกพี่ไปแข่งในงาน ต้องกลายเป็นจุดสนใจ ระดับเดียวกับbig bangเห็นๆ”

“เอ่อ...จะขนาดนั้นเลยหรือ” นรินทร์ชักเริ่มเกรงๆ แล้วสิ ยิ่งตะวันทำสีหน้าโอเวอร์แอคติ้งสุดๆ ยิ่งทำให้หวั่นวิตก

“ถือโอกาสเปิดเผยตัวจริงกันเลยดีไหม” มิวซังออกความเห็น เธอคิดว่ามันถึงเวลาสำหรับรินแล้ว

“เห็นด้วย ลูกพี่ก็ใส่หน้ากากไปนะพอถึงเวลาแนะนำตัว ลูกพี่ก็เผยตัวอย่างยิ่งใหญ่ ถอดหน้ากากโชว์ ดีใช่ไหมล่ะแบบนี้”

“อย่างนั้นก็เป็นจุดสนใจน่าดูเลยสิ” ฟอร์ดออกความเห็น

“ช...ใช่เป็นจุดสนใจมากเกินไป แบบนั้นไม่ดีมั้ง” นรินทร์ยิ้มแหยๆ แค่ไปอยู่ในที่คนพลุกพล่านก็กังวลมากแล้ว หากต้องถูกจับตาดูมากเกินไป เขาคงไม่ไหวแน่ๆ

“อืม...พี่ขอเสนอนะ รินก็ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องใส่หน้ากาก ทำตัวแบบคนปกติ ลงทะเบียนแข่งในชื่อของmaddog01อย่างเรียบง่าย พี่ว่าแบบนี้น่าจะเหมาะสมที่สุด” ภาริชส่งยิ้มให้นรินทร์ เจ้าตัวเล็กคิดว่าความคิดของคนรักเข้าท่าที่สุด แต่ตะวันไม่เห็นด้วย

“ไม่ๆ ลูกพี่เปิดตัวอย่างอลังการสิ เอางี้ไหม ลูกพี่ใส่ชุด iron man ไปแข่งตลอดรายการเลย เท่านี้ก็ไม่มีใครเห็นหน้าลูกพี่ล่ะ แถมยังแสดงเอกลักษณ์ความเป็นตัวลูกพี่ได้ด้วยนะ”

“เสร่อจังเลยครับ ความคิดแฟนของใครเนี่ย”

ภาริชด่าแต่ใบหน้านั้นยิ้มแย้มราวกับนางฟ้า ฟอร์ดนี่เหงื่อเริ่มแตก เพราะคิดว่าท่านพี่คงจงใจเสียดสี ทั้งอย่างนั้นคนที่หน้าด้านทำอะไรตรงๆ ไม่เคยกลัวใคร แถมบางทีความรู้สึกยังช้าอย่างตะวัน ดันไม่รู้สึกอะไรเลย

“เอ้า ก็ถ้ามันไม่ดี เอางี้ไหมพวกเราแต่งเป็นขบวนการห้าสี น่าสนุกดีออก”

“มันก็ยังขาดคนไปหนึ่งคนอยู่ดี นี่แน่ใจนะว่าออกมาจากความคิดของมนุษย์”

ภาริชยิ้มหวานขึ้นอีกระดับ ส่วนตะวันท่าทางไม่ยอมหยุดง่ายๆ

“ทำไมล่ะ หรือว่ามันอลังการเกินไป งั้นเอาเป็นหน้ากากแฟนซีธรรมดากันทั้งแก็งก็ได้นะ”

“พอเถอะครับพี่ตะวัน” ฟอร์ดพยายามหยุดยั้งความคิดบรรเจิดของคนรัก เห็นได้ชัดว่าท่านพี่อยู่ในอารมณ์smอยากย่ำยี ไม่สิกำลังเหยียบย่ำด้วยคำพูดแท้ๆ แต่พี่ตะวันดันไม่รู้ตัวซักนิด กลายเป็นเขานี่แหละที่ทนไม่ได้แทน

“เอาเป็นว่ารินแต่งตัวธรรมดา ทำตัวเหมือนมนุษย์ปกติเนอะ” ภาริชตัดบททันที ในขณะที่ตะวันยังบ่นงุ้งงิ้งว่าน่าเบื่อและไม่เด่นเลยซักนิด

สำหรับนรินทร์เขาเชื่อใจพี่ภาริชทุกอย่าง ถ้าพี่เขาบอกว่าแบบนี้ดี นรินทร์ก็พร้อมที่จะทำตาม

“ถ้างั้นหลังจากเรากลับไป ก็ควรเริ่มฝึกกลยุทธอย่างจริงจังได้แล้วนะ” มิวซังกล่าวสรุป

“เอ่อคงต้องให้ผมผ่านสัปดาห์สุดท้ายของการสอบไปก่อน หลังจากนี้ผมมีสอบทั้งอาทิตย์เลย”

ฟอร์ดก็เกือบลืมเรื่องสอบจบการศึกษาไปเหมือนกัน ดีที่ว่าก่อนหน้านั้นเขาอ่านหนังสือเตรียมไว้เยอะแล้ว จึงมั่นใจว่าสอบคราวนี้น่าจะผ่านฉลุย

“จริงสิ ถ้าสอบเสร็จก็ต้องเตรียมหามหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อใช่ไหม ได้ยินจากรินมาว่า ฟอร์ดกับรินจะเรียนที่เดียวกันคณะเดียว ยังไงก็ฝากนายดูแลรินด้วยนะ”

“ได้อยู่แล้วมิวซัง” ฟอร์ดรับปากก่อนจะหันไปยิ้มให้นรินทร์ “เอาไว้เราสองคนไปสมัครเรียนพร้อมกันนะนรินทร์”

หลังจากการประชุมสำคัญจบลง พวกเขาก็พากันเดินทางกลับเมืองb การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก ช่วงเย็นๆ ของวันก็อยู่ที่สนามบินปลายทางแล้ว ณภัทรที่มารอรับท่าทางมีความสุขดี เขารีบเดินเข้ามาหาพวกนรินทร์

“ไปเที่ยวสนุกไหมริน”

นรินทร์ผงกหัวตอบคำถามณภัทรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตอนนั้นเองที่ณภัทรพึ่งสังเกตเห็นว่าเจ้านายกับน้องชายของเขาจับมือกันอยู่

“แหม...นี่เราสนิทกับเจ้านายพี่ถึงขั้นเดินจับมือเลยรึ จะว่าไปสมัยก่อนก็เดินจับมือพี่ตลอดเลยเหมือนกันนะ”

นรินทร์สลัดมือภาริชออกทันที ภาริชหัวเราะน้อยๆ กับอาการของคนรัก

“นายนี่น้า ทำไมถึงได้หัวช้าอย่างนี้ จริงๆ ก็คิดว่าน่าจะได้เวลาบอกความจริงกับนายเหมือนกัน ฉันกับนรินทร์เราคบกันเป็นคนรักอยู่”

ทุกคนไม่มีใครคาดว่าภาริชจะเปิดเผยความจริงกะทันหันแบบนี้ ณภัทรถึงกับยิ้มด้วยใบหน้าที่ดูโง่ๆ อึ้งกิมกี่จนนรินทร์ต้องเข้าไปปลอบโยน

“พี่ครับ....พี่ณภัทร” นรินทร์ลูบมือลูบหลังพี่ชาย หลังจากนั้นไม่กี่นาทีณภัทรก็คว้ามือนรินทร์เอาไว้แน่น

“รินกลับบ้าน”

คนเป็นพี่ลากน้องชายก้าวฉับๆ หนีจากภาริช มิวซังรีบเดินตาม ส่วนนรินทร์หันกลับมามองคนรักด้วยสายตาวิตกตลอดทางจนลับตาไป

“ท่านพี่” ฟอร์ดลอบมองดูสีหน้าของพี่ชาย แล้วก็พบว่าภาริชยืนยิ้มมีความสุขอยู่ไม่ได้กังวลหรือกลัวอะไรซักนิด

“แหม...คงมั่นใจมากสิท่า ว่ายังไงก็ต้องผ่านด่านคุณพี่ชายของลูกพี่ไปได้” ตะวันอยากจะเหน็บเสียเหลือเกิน ที่ไว้หน้านี่เพราะฟอร์ดคนเดียวเลย

“พี่ตะวัน” ฟอร์ดสะกิดคนรักด้วยปลายนิ้วรัวๆ ไม่อยากให้คนรักหาเรื่องใส่ตัวด้วยการปะทะกับท่านพี่

"รู้แล้วน่า จริงๆ เปิดเผยแล้วเข้าตามตรอกออกตามประตูก็ดี อย่างนี้สิมันถึงจะดีต่อลูกพี่ งั้นก็พยายามหน่อยนะ”

ตะวันใช้มือตบบ่าภาริชดังป้าบๆ ก่อนจะหันไปจูบลาฟอร์ดที่แก้ม

“ตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะฟอร์ด พี่ภูมิมารับพี่แล้ว แล้วเจอกันนะ”

“ครับ” ฟอร์ดโบกมือลาตะวัน พอคนรักไปจนลับตา ก็ลอบมองดูพี่ชายด้วยหางตาอีกครั้ง

“ท่านพี่ ไหงถึงได้รุกเข้าหาผู้ใหญ่อย่างไม่มีชั้นเชิงแบบนี้ล่ะครับ”

“ก็แค่คิดว่าทำให้เหมาะกับนิสัยของณภัทรที่สุด คนอย่างณภัทรยิ่งปล่อยให้ช้าหรือไปรู้เองที่หลัง ยิ่งจะต่อต้าน เอาไว้วันพรุ่งนี้หรือมะรืนฉันจะพาผู้ใหญ่ไปขอหมั้นนรินทร์”

“รวดเร็วเกินไปแล้วครับเพ่ พี่จะไม่ให้พี่ณภัทรหายใจหายคอเลยรึ”

“ตีเหล็กต้องอาศัยตอนที่กำลังร้อนได้ที่นี่แหละ”

ภาริชยิ้มละมุนละไม จริงๆ ถึงณภัทรจะปฏิเสธ เขาก็พร้อมเข้าสู่สงครามในระยะยาวแล้ว ต่อให้ต้องเสียเวลาเสียเงินทองมากกว่านี้เขาก็ยอมรับมันได้ เขาจริงจังถึงขนาดวาดฝันและวางแผนสำหรับอนาคตระหว่างเขากับรินอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

จริงจังถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ตัวเองยังตกใจกับความเวิ่นอันบรรเจิดที่มีต่อนรินทร์ซึ่งนับวันมันก็มากขึ้นทุกทีแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เหนื่อยกะฟิคช่นล็อคมากกว่าจะอัพได้โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย โมโห
แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
ตลกพี่ตะวัน มีความบรรเจิดจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
พี่ณภัทรก็น่ารักอยู่นะ 555555

ออฟไลน์ summerkiss

  • ที่พิมพ์แสดงคห.ไปอาจรุนแรงไปบ้างแต่โปรดรู้ไว้ว่าเราใส่ใจและชอบเรื่องของคุณไม่เช่นนั้นจะไม่มีซักตัวอักษรบนนิยายของคุณหากเราไม่ชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
นอกจะติดตามใน Fic แล้วก็มาตามในนี้ด้วยเช่นกัน

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
พอกันหัวร้อนมากอ่ะกับfixรอ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่ภาริชจะผ่านด่านพี่ภัทรได้มั้ยนะ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ณภัทร  หวงน้องมากๆ.....  :hao3: :hao3:
มีความรู้สึกว่าณภัทร จะเป็นเคะนะ    :impress2:
ว่าแต่จะมีใครโผล่มาเป็นคู่กับณภัทรมั้ยนะ   :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2018 07:08:44 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่44

ความรู้สึกของณภัทร

ตลอดระยะการเดินทางจนถึงบ้าน ณภัทรยอมรับว่าเขาสับสนงงงวยไปหมด ไหงน้องชายของเขากับเจ้านายถึงกลายเป็นคนรักกันไปได้ แล้วทำไมคนเป็นพี่ชายอย่างตัวเองถึงไม่สังเกตให้ดีกว่านี้

ไม่สิถ้านึกย้อนให้ดีๆ เจ้ารินมักยิ้มอย่างมีความสุขเสมอยามเมื่อนึกและพูดถึงคุณภาริช และจะยิ่งกระตือรือร้นก้าวออกจากบ้านเมื่อเจ้านายของเขาคนนั้นเป็นผู้ชี้นำ

“มันตั้งแต่เมื่อไหร่ริน”

ในที่สุดพี่ณภัทรก็ยอมเปิดปากพูดเสียที หลังจากกลับมานั่งคิดเงียบๆ คนเดียวตรงโซฟา ปล่อยให้นรินทร์กับมิวซังอยู่เฝ้าด้วยความเป็นห่วง

“เราคบกันตั้งแต่ตอนที่ไปสำรวจมหาวิทยาลัยครับ” นรินทร์พูดเสียงแผ่ว เกรงว่าณภัทรจะโกรธ เขารีบเสริมต่อไป เพราะต้องการให้เข้าใจในความจริงจังของตัวเอง

“ผมชอบพี่ภาริชตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน”

ณภัทรเงยหน้าขึ้นสบตากับนรินทร์จนได้ เมื่อได้เห็นแววตาอันแสนจริงจังของน้องชาย เขาก็ตระหนักถึงบางสิ่ง ตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว น้องชายของเขามักจะว่าง่ายอะไรก็ได้ไปเสียหมด คนอื่นต่างบอกกับเขาว่านรินทร์ช่างเป็นเด็กดีเลี้ยงง่าย ทว่าในสายตาเขามองเห็นแต่ความกลัวของน้องชายมาตลอด

การที่รินต้องกลายเป็นคนว่าง่ายยอมคนเก็บความต้องการของตัวเองไปเสียหมดแบบนี้ อาจเป็นเพราะบรรดาพวกญาติๆ และคนรักหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็เป็นได้

มีอยู่หลายๆ ครั้งที่พวกคนรักที่ผ่านเข้ามามองว่านรินทร์เป็นตัวถ่วงในชีวิตเขา แม้แต่พวกญาติๆ ก็ยังพูดลอยลมให้นรินทร์รู้สึกแย่

หลายต่อหลายครั้งที่ณภัทรต้องเลิกกับแฟนเพราะความไม่พอใจที่คนเหล่านั้นรังเกียจการมีอยู่ของนรินทร์ พวกเธอแสดงออกลับหลังเขาบ้าง ต่อหน้าเขาบ้าง ที่ร้ายที่สุดคงเป็นการแนะนำให้เขาส่งน้องชายไปโรงเรียนประจำ เพื่อให้หล่อนกับเขาใช้ชีวิตด้วยกันแค่สองคน

ไม่สิมีที่ร้ายๆ พอกันอยู่บ้างก็พูดจาว่ากล่าวเหมือนนรินทร์เป็นปลิงที่คอยเกาะกินเขา พวกหล่อนไม่ได้มองความพยายามของนรินทร์มีค่า ไม่ว่าน้องชายของเขาจะหาเงินจากการแคสเกมและการเล่นเกมได้มากมาย พวกเธอหรือไม่ว่าจะญาติๆ ก็ยังมองนรินทร์ว่าทำเรื่องไร้สาระรวมถึงเป็นมนุษย์ที่ไร้ค่าอยู่ดี

กลับกันเขาที่เป็นพี่แท้ๆ มองเห็นความพยายามของนรินทร์มาตลอด ไม่ว่าจะการเรียนภาษา การเรียนวาดภาพที่ทำด้วยตัวเองทั้งหมด หรือแม้แต่การขวนขวายศึกษาต่อไปในระบบโฮมสคูล เขาไม่เคยเห็นน้องชายว่างเว้นหรือทำตัวไร้ประโยชน์ซักนิด มีแต่ความมุ่งมั่นและพยายามมาตลอด

จริงสิเรื่องนี้นับว่าต้องขอบคุณคุณภาริชโดยตรง ถ้าคิดดูให้ดีแล้วที่รินเป็นอย่างทุกวันนี้ล้วนมาจากคำแนะของภาริชเสริมด้วยความพยายามของรินจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย เจ้านายคนนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องชายของเขาก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แม้จะเป็นอย่างช้าๆ ก็ตาม

แม้แต่คนที่พาให้นรินทร์ก้าวออกจากบ้านก็ยังเป็นคุณภาริช แบบนี้แล้วมันน่าแปลกใจตรงไหนกันที่นรินทร์จะรักคนคนนั้น

“รินไม่เคยบอกพี่เรื่องที่รักชอบคุณภาริชเลย” ในที่สุดณภัทรก็เปิดปากพูดเสียทีหลังจากที่นั่งเงียบครุ่นคิดอยู่นาน

“ผมไม่อยากให้ใครรู้ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางสมหวัง ผมเป็นแค่คนขี้แพ้ ส่วนพี่ภาริชเป็นเจ้านายของพี่เป็นคนอื่น” นรินทร์ก้มหน้าลงต่ำ เขาคิดถึงช่วงเวลาข่มขื่นที่ต้องหักห้ามความรู้สึกและตัดใจจากภาริชที่ไม่มีทางเอื้อมถึง

“แต่ว่าถึงแม้จะบอกตัวเองว่าไม่คู่ควร ผมก็ยังชอบพี่ภาริชมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้สมหวังกลายเป็นคนรักของพี่ภาริช ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขกว่าใครๆ “

นรินทร์พร่างพรูความรู้สึกและความดีงามของภาริชออกมาอย่างต่อเนื่อง

“พี่ภาริชทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีค่า เขาทำให้ผมรู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำแต่เรื่องไร้สาระ และว่างเปล่ากลวงโบ๋เหมือนที่คนอื่นๆ คิด”

นรินทร์หมายถึงเมษา พี่ภาริชจะรู้ไหมว่า เขาไม่สามารถหันไปมองคนอื่นได้อีกต่อแล้วนอกจากพี่ภาริช เพราะคำพูดและการกระทำของพี่ภาริชในตอนนั้น มันทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ปลอดภัย และรัก เขารักพี่ภาริชที่ทุ่มเททั้งยังคอยปกป้องเขาแม้จะเป็นคนอื่น แม้ว่าเขาเป็นคนไร้ค่า

พี่ภาริชบอกว่าเขาไม่ไร้ค่า บอกว่าแค่น่ารักกับเล่นเกมเก่งเขาก็มีคุณค่ามากพอแล้ว ทั้งที่ในสายตาคนอื่นๆ มันไม่เพียงพอ แต่พี่ภาริชกลับมองต่างกันออกไป ตั้งแต่ตอนนั้น นรินทร์ก็ตัดสินใจว่าจะทำตัวเองให้มีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ

เริ่มจากปกป้องศักดิ์ศรีของคนรักและศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาจะตั้งใจเรียนเพื่อตัวเองและเพื่อพี่ณภัทรที่ดูแลเขามาตลอด นอกจากนั้นเพื่อให้สามารถเดินเคียงข้างพี่ภาริชได้อย่างไม่อายใคร เขาจะทำทุกอย่างแม้ต้องลำบากมากก็ตาม

จังหวะที่บอกเล่าความในใจยืดยาว ณภัทรก็ได้ยินเสียงเรียกเข้ามือถือ เขาหยิบขึ้นมาดูและพบว่าเจ้านายตัวแสบของเขาโทรมา

<” คงไม่ใช่ว่ากำลังต่อว่ารินอยู่นะ” > เสียงเย้ายวนทรงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ดังมาจากปลายสาย เจ้านายของเขาคนนี้ไม่รู้จักคำว่าสลดเลยหรือไงนะ

“ผมเป็นคนมีเหตุผลพอครับ ไม่เหมือนเจ้านายหรอก ถ้าใช้เหตุผลยั้งคิดก็จะรู้ว่าไม่ควรหลอกล่อเด็กที่อายุแค่17 อย่างนี้”

ณภัทรเตรียมจะเทศนาสั่งสอนเจ้านายของเขายาวเหยียด เตรียมคำต่อว่าเอาไว้มากมาย ทว่า

<” ฉันจะพาผู้ใหญ่ไปเจรจาเกี่ยวกับการขอหมั้นนรินทร์ พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ” >

“ห๊ะ...อะ...อะไรนะครับ”

ท่าทางเงอะงะงุนงงของณภัทรทำให้นิษิตาที่ฉลาดเป็นเลิศเดาได้ไม่ยาก ภาริชคนนั้นคงใช้ไพ่ตายแล้ว เดาว่าคงส่งคนมาสู่ขอนรินทร์จากพี่ณภัทร ไม่สิอาจเป็นการขอหมั้น ก็ดีทำแบบนี้มันก็เหมือนเป็นการให้เกียรตินรินทร์รวมถึงคนเป็นครอบครัวอย่างพี่ณภัทร

“ล้อเล่นใช่ไหมครับ ผมยังไม่ได้กดดันอะไรอย่างเช่นจะแจ้งความจับเจ้านายเลยนะ”

<” ไม่ได้ทำเพราะกลัวจะถูกจับ แต่อยากจองตัวเอาไว้ก่อน และมาคิดดูให้ดีฉันอยากทำให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่า” >

ณภัทรพูดอะไรไม่ออก แต่เข้าใจว่านี่เป็นการให้เกียรติน้องชายของเขามากที่สุดแล้ว ถ้าให้แต่งงานคงทำไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง ดังนั้นขอหมั้นไว้ก็ถูกต้อง จังหวะนั้นณภัทรก็นึกอะไรบางอย่างที่สำคัญออกมาได้ เขาโวยวายเสียงดังไปหาภาริชที่อยู่ปลายสาย

“ไม่ใช่ว่าคุณล่วงเกินน้องชายผมไปแล้วนะ ไหนบอกมาสิว่าคุณกับน้องชายผมทำอย่างว่าไปหรือยัง”

“พี่ณภัทร” นรินทร์พยายามจะอธิบาย แต่ณภัทรฟังเสียที่ไหน เขาตะโกนโวยวายใส่ภาริชผ่านทางมือถือ

<” ฉันให้เกียรติคนที่คบหาด้วยทุกคน โดยเฉพาะกับริน ฉันไม่หักหาญหรือแตะต้องเขาไปมากกว่าจูบ” >

“ก็ลองทำดูสิ ต่อให้เป็นเจ้านายผมก็จะฟ้องคุณ”

<” ใจเย็นลงหน่อยณภัทร นายเห็นฉันเป็นคนเลวขนาดนั้นเลยหรือ” >

ตอนนี้ณภัทรค่อยๆ เย็นลง เขาคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล “คุณก็ไม่แย่หรอกครับเจ้านาย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นน้องชายของผม”

<” รักใครชอบใครต้องมีเหตุผลด้วยหรือ” >

นั่นสิความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่และตลอดเวลา บางครั้งมีเหตุผลมากมายให้รัก บางครั้งมันก็เกิดขึ้นกะทันหันแบบระบุไม่ได้ว่าเพราะอะไร ณภัทรพอเข้าใจความจริงข้อนี้

< “นรินทร์เป็นคนคนเดียวที่ทำให้ฉันนึกภาพอนาคตระหว่างตัวเองกับคนอื่นออก คิดว่าแปลกไหมที่ฉันนึกภาพฉันแก่ตัวลงเรื่อยๆ โดยมีน้องชายของนายอยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลา” >

“คุณจริงจังกับนรินทร์จริงๆ หรือครับ” ณภัทรถาม แต่ภาริชตัดบทง่ายๆ

<” อย่าเสียเวลาอภิปรายเลย พรุ่งนี้เตรียมตัวรอผู้ใหญ่ทางฝั่งฉันไปคุยเรื่องหมั้นของฉันกับนรินทร์จะดีกว่า” >

ภาริชวางสายไปแล้ว ณภัทรทำงานกับภาริชมาหลายปีรู้สันดานนิสัยของคนคนนี้มากกว่าใคร อะไรที่อยากได้ที่ตัดสินใจแล้วจะไม่มีทางยอมแพ้หรือปล่อยมือง่ายๆ เจ้านายของเขาจะทำทุกวิถีทางให้ได้มา เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการก็ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเขาคนนั้นได้

แสดงว่าคงจริงจังกับนรินทร์มากจริงๆ เทียบกับผู้หญิงคนอื่นที่คบกันง่ายๆ แล้วเลิกไป ไม่เคยมีใครที่ภาริชพูดถึงการพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอให้เขาฟังเลยซักคนเดียว

แต่ว่ามันรวดเร็วเกินไปไหม ไม่สิเขาลืมไปว่าเจ้านายของเขามันโรคจิตหน่อยๆ พฤติกรรมชอบเลี้ยงต้อย ไม่สิในบรรดาผู้หญิงที่ผ่านๆ มา ก็มีเด็กวัยรุ่นวัยเรียนมาติดบ่วงด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ยักจริงจังขนาดนี้ ก็เห็นปล่อยเด็กพวกนั้นเดินจากไปง่ายๆ

ให้พูดกันจริงๆ เด็กพวกนั้นเทียบความน่ารักกับนรินทร์น้องชายของเขาไม่ได้เลย ณภัทรเคยต้องจัดการดูแลคนรักเก่าๆ ของภาริชบ่อยครั้งเพราะถูกไหว้วาน แต่ละคนเห็นเจ้านายของเขาไม่ต่างจากธนาคารหรือเครื่องประดับชิ้นงามที่มีไว้อวดคนอื่นทั้งนั้น

ซึ่งไม่ต่างจากตัวเจ้านายเองที่ก็มองคนรักจอมปลอมเหล่านั้นด้วยสายตาว่างเปล่าทั้งที่ใบหน้ามีรอยยิ้ม รู้ได้เลยว่าทางฝั่งนี้ก็มองเหล่าคนพวกนั้นเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่หาซื้อมาเท่านั้น

คุณภาริชเป็นคนฉลาด ฉลาดมากจนเกินไป ดังนั้นคนไว้ใจใกล้ตัวจึงมีไม่มากนัก การที่คนแบบนั้นจะรักใครขึ้นมาสักคน คนๆ นั้นย่อมต้องมีจิตใจที่ดีงามมากเสียจนคนขี้ระแวงคนนี้รู้สึกวางใจ

เพราะงั้นสินะ ถึงได้ตกหลุมรักน้องชายที่มีนิสัยตรงไปตรงมาของเขา.....

ณภัทรรู้สึกภูมิใจที่นรินทร์ไม่มีทางทำกับคนรักของตัวเองราวกับกระเป๋าเงิน หรือหวังใช้ประโยชน์จากผู้อื่นแน่ เขาเลี้ยงนรินทร์มากับมือจะมีนิสัยแย่ๆ แบบนั้นได้อย่างไร ยิ่งสรรหาข้อดีของน้องชายตัวเองได้มากเท่าไหร่ ณภัทรก็ยิ่งไม่แปลกใจที่เจ้านายคนนั้นจะหลงรินอย่างหัวปักหัวปำ

ทว่าไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะยกน้องชายให้ปีศาจจอมเอาแต่ใจอย่างเจ้านายง่ายๆ ไม่ใช่หรือ เข้าใจที่นรินทร์รักผู้ชายคนนั้น ถึงอย่างไรเขาก็ต้องคิดให้รอบคอบ ณภัทรต้องการเวลาครุ่นคิดเพียงลำพัง

นรินทร์มองดูณภัทรลุกขึ้นจากโซฟาเดินกลับเข้าห้องไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม การที่พี่ชายไม่พูดอะไรซักคำมันทำให้เขากังวล นรินทร์ทำท่าจะเดินตามไป แต่ถูกมิวซังรั้งเอาไว้

“ให้พี่ณภัทรได้คิดอะไรบ้างเถอะ”

“แต่ว่า...” นรินทร์อยากตามไปอธิบาย เขากังวลตั้งแต่พี่ชายโวยวายว่าจะแจ้งตำรวจจับพี่ภาริชแล้ว

“รินอยู่เฉยๆ เถอะนะ การที่รินไปตื้อพี่ณภัทร มันจะเติมเชื้อไฟความบาดหมางมากกว่าช่วยให้พี่ณภัทรเข้าใจ”

นรินทร์คิดว่ามิวซังพูดถูกดังนั้นจึงลดตัวลงนั่ง แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี

“ฉันกลัวว่าพี่ณภัทรจะกีดกันไม่ให้เจอหน้าพี่ภาริชอีก”

“ก็ปกตินะ คนเป็นพ่อแม่ทุกคนต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว ก็ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างนั้นจริง รินก็ต้องทำใจนะ รินต้องใช้เวลาพิสูจน์ตนเอง พัฒนาตัวเอง แสดงให้รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่และพร้อมตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ถ้าพี่ภาริชรักรินจริง เขาต้องรอได้ และพร้อมจะพิสูจน์ตนเองไปพร้อมๆ ริน ให้คนที่รักรินเห็นและยอมรับ”

“แล้วมันจะนานเท่าไหร่ละมิวซัง”

“นรินทร์ไม่มั่นใจในความรักของรินกับคุณภาริชหรือไง”

“ฉันรักพี่ภาริช มั่นใจว่าจะไม่เปลี่ยนไปง่ายๆ แต่พี่ภาริชเขาจะคิดยังไงฉันไม่รู้” นรินทร์หดหู่เล็กน้อย ถ้าเกิดพี่ภาริชรำคาญและไม่อยากรอคอยอีกต่อไปล่ะ ถ้าเกิดเขาเจอคนอื่นที่ดีกว่าและง่ายกว่าล่ะ

“ให้เวลาพิสูจน์สิริน รินยังเด็ก พี่ภาริชไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตของรินนะ อย่าปิดโอกาสตัวเอง ที่พี่ณภัทรกังวลก็ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ”

“มิวซังขอกอดได้ไหม” นรินทร์เข้าใจที่มิวซังสื่อทุกอย่าง เข้าใจว่าการอดทนรอคือทางเลือกที่ดีที่สุด แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บ ดังนั้นจึงอยากกอดรัดใครซักคนเอาไว้

“พี่ภาริชบอกว่า จะไม่แตะต้องฉันจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ อย่างนี้หมายถึงเขาจริงใจได้ไหม”

“เขาพูดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”

“อื้อ” นรินทร์พยักหน้าแล้วพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“มิวซัง ฉันเป็นเด็กไม่ดีใช่ไหม ที่เอาแต่คิดว่าอยากเป็นหนึ่งเดียวกับพี่ภาริช ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ภาริชสื่อเท่าไหร่แถมยังเก็บมาน้อยใจเล็กๆ คิดว่าตัวเองอาจไม่มีเสน่ห์พอ”

“นั่นสินะ คุณภาริชเนี่ย ผิดจากที่ฉันวาดภาพเอาไว้เยอะเลย”

ทีแรกคิดว่าเป็นพวกหมาป่าที่จะตะครุบเหยื่อซึ่งหมายตาเอาไว้อย่างตะกละตะกลามเสียอีก

ทั้งสองคนไม่ได้รู้เลยว่าณภัทรกลับมายังห้องรับแขกอีกครั้ง แถมได้ฟังเรื่องเมื่อครู่ชัดจนเต็มสองหู เขายังต้องการเวลาครุ่นคิดเรื่องนี้มากขึ้นอีกหน่อย ถึงแม้ว่าเอาจริงๆ เจ้านายที่ร้ายกาจอย่างกับปีศาจจะไม่ยอมให้เวลาเขามากไปกว่านี้ก็ตาม



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไอ้ที่หวีดสุดๆ ตอนนี้คือโอชิปัญได้เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลที่5 แล้วค่า ปรบๆๆๆๆมือ

รอมานานแล้วค่า แถมซิงเกิ้ล6 จะมีเลือกตั้งอร๊ายยยยย มันเป็นสงครามค่า 5555

                  กลับมาที่เนื้อเรื่อง ลุ้นกันปะว่าพี่ณภัทรจะทำไงกับความสัมพันของนรินทร์กับพี่ภาริช

                  น้องๆ ที่อ่านเข้าใจไหมคะว่าทำไหมเราเขียนและวางพลอตออกมาแบบนี้

                  เราไม่ได้บอกว่าคนที่เลือกความรักมากกว่าหรือเห็นว่าความรักสำคัญมากที่สุดผิด

                  แต่อยากให้น้องๆ คิดถึงอนาคตข้างหน้า และคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ

                   เรื่องนี้เราพยายามชูความสำคัญของเรื่องนี้ แต่จริงๆ รสนิยมของเราอะ

                    คอดผิดศีลธรรม ชอบnc ชอบโชตะ หนุ่มยัน มาโซ โซ่แส้กุญแจมือ รักระหว่างพี่น้อง

                    อย่าให้บรรยายเยอะ55555 เรื่องนี้เป็นลูกกวาดมาก บางทีเรื่องหน้าอาจจะมาแนวดาร์คไร้เหตุผลใดๆ ก็ได้นะ

                   มันเป็นตามฟิลลิ่ง อิอิ

                   แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจบ้างนะคะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
นุ้งรินนนน น่าเอ็นดูจริงๆเลย

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
สนุกมากอ่ะเรื่องนี้ ชอบบบบบบบ ขนาดไม่เล่นเกมส์แต่เราอ่านรู้เรื่องนะ ชอบปมในเรื่องด้วย รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ผ่านอะไรมาเยอะจริงจริง :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด