(END) [Nameverse] Call me Daddy #ความลับบนตัวผม :: Mini Special [14-08-19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (END) [Nameverse] Call me Daddy #ความลับบนตัวผม :: Mini Special [14-08-19]  (อ่าน 148484 ครั้ง)

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ได้อ่านมาจนถึงตอนล่าสุด พีคไปอี๊กกกกกก

อิแม่นี้เลวมาก ไม่น่าวางแผนมาช่วยนางเลย

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนนี้อ่าแล้วเครียด... :ling3:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ลุ้นมากกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Chapter 18

When we’re important to each other


 

ล้มเหลวไม่เป็นท่า

 

ใช่ แผนการของเราพังยับไม่มีชิ้นดี...นั่นดูจะเป็นคำอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ได้ดีที่สุด

ผมได้แต่ยื่นตะลึง ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ โจชัวเองก็เหมือนกัน ผมคิดว่าเขาคงตกใจยิ่งกว่าใคร เมื่อได้ยินจากปากแม่แท้ๆ ของตัวเองว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ทั้งเรื่องโดนขู่ฆ่า โดนทำร้ายร่างกายแบบในคลิป...ทุกอย่างเป็นแผนของพวกเขา เป็นเรื่องลวงโลก

“เจย์เดน! ตอบฉัน!”

ผมได้ยินเสียงเรียกของคริสเตียนแล้ว แต่ผมตอบไม่ได้ ผมจะให้โจแอนนารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ามีคนอื่นมากับผมด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะกระทบกับแผนอื่นหลังจากนี้ สมองของผมพยายามคิดหาทางออก ยังไงผมก็ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ และต้องพาโจชัวไปด้วย ผมไม่ยอมให้น้องอยู่ที่นี่หรอก ถ้าผมหายไปคนเดียว โจต้องโดนพ่อทำร้ายอีกครั้งแน่

“โจ นายต้องออกไปก่อน วิ่งออกจากบ้านหลังจากที่พี่สั่งให้วิ่ง เข้าใจมั้ย?” ผมบอกเขา ดวงตายังคงจับจ้องแม่ของเขาเอาไว้ โจแอนนาขยับเข้ามาใกล้เรา และนั่นทำให้ผมต้องดึงโจไปไว้ด้านหลัง...ผมไม่ยอมให้เขาแตะต้องโจเด็ดขาด

“แกจะให้ลูกฉันไปไหน!?” เธอตวาดลั่น “เขาไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”

“เขาต้องไป ไปจากครอบครัวบ้าๆ นี่!” ผมตะโกนกลับไป และนั่นทำให้เธอชะงัก ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ

ผมอาศัยจังหวะนี้หันไปกระชากกรอบรูปที่ติดอยู่ตรงผนังออกมา แล้วพุ่งตัวเข้าหาเธอ...โจแอนนากรีดร้อง เธอถอยร่นจนหงายหลังล้มเข้าไปในห้องนอนที่เคยเป็นของผม ดูเหมือนว่าหลังจากที่ผมย้ายออกไป ห้องนี้จะกลายเป็นห้องเก็บของไปแล้ว

ผมหันหลับมาดึงโจชัวให้ตรงไปที่บันได “รีบออกไป เร็วเข้า ก่อนที่พ่อจะกลับมาถึง!”

“แต่แม่...”

“โจ! นายต้องปลอดภัยก่อน แล้วเราค่อยมาคิดหาวิธีกันทีหลัง!” โจยังคงนิ่ง เขาลังเลผมรู้...ไม่ว่าจะอย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็คือแม่ของเขา แม่ที่ไม่เคยทำร้ายเขา ไม่เคยดุด่าเขาด้วยซ้ำ เขาไม่อยากทิ้งแม่ แต่ผมคงยอมให้เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้เช่นกัน “โจ ขอร้องล่ะ รีบไป เชื่อพี่นะ”

โจเม้มปาก เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับในที่สุด “โอเค ผมจะ...ผมจะไป”

“จำได้ใช่มั้ยว่าต้องไปที่ไหน?”

เขาพยักหน้าแทนคำตอบอีกครั้ง ผมรีบดันเขาให้ลงบันได้ไป ถึงอย่างนั้นในขณะที่ผมมัวแต่มองส่งน้องชายวิ่งลงไปชั้นล่าง แรงกระแทกจากด้านหลังก็ทำให้ผมเซจนเกือบจะหล่นลงจากบันได

“เจย์!”

“พี่ไม่เป็นไร ไป! โจชัว! รีบไป!”

ผมจับราวบันไดเอาไว้แน่น พยุงตัวเองไม่ให้ร่วงหล่นลงไป แล้วเหวี่ยงตัวกลับขึ้นชั้นสองของบ้านได้ในวินาทีต่อมา กระแทกไหล่เข้าใส่มิสซิสโจแอนนา จนถังขยะที่เธอเอามาฟาดแผนหลังของผมเมื่อครู่กระเด็นหลุดมือไป

“ไอ้เด็กเหลือขอ!”

ผมไม่สนใจว่าเธอจะด่าผมยังไง เวลานี้ผมต้องสลัดเธอให้หลุดแล้วรีบพาตัวเองตามน้องไป...ต้องรีบไปก่อนที่พ่อจะมา เพราะถ้าพ่อกลับมาเจอผม ผมคงได้ตายจริงๆ

ขณะเดียวกันเสียงของคริสเตียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เจย์เดน ฉันจะไปช่วยนาย”

“ไม่ได้!” ผมตะโกนลั่น ยังไงก็ไม่ได้ ถ้าคริสเตียนมาสถานการณ์ต้องเลวร้ายลงแน่! ผมจะให้เธอรู้ไม่ได้ว่ามีคนอื่นคอยช่วยเหลือผมอยู่

“แล้วจะให้ฉันรอต่อไปเนี่ยนะ!?”

ผมไม่ตอบ รับรู้ได้ถึงความโกรธของโซลเมต แต่ผมไม่มีเวลามาสนใจแล้ว ผมต้องรีบตามน้องไป...คิดได้ดังนั้นผมจึงหันหลังวิ่งลงบันไดทันที โจชัวน่าจะไปถึงตำแหน่งที่คริสเตียนรออยู่แล้ว ดังนั้นผมต้องรีบ

แต่ทันทีที่ผมโผล่ออกไปถึงถนน แสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งก็สาดมากระทบตัวผม พร้อมเสียงบีบแตรและเสียงตะโกนดังลั่น

“ไอ้เจย์เดน!”

บ้าฉิบ! พ่อกลับมาแล้ว!

ผมวิ่งเต็มฝีเท้า ต้องหนีเขาให้พ้น สลัดเขาให้ตามไม่ทัน ดังนั้นผมต้องวิ่งออกนอกเส้นทาง จากที่ตั้งใจจะไปหาคริสเตียนทันที ก็เลี้ยวไปที่ถนนอีกเส้นแทน

“คริสเตียน โจไปหานายหรือยัง!?” ผมถาม

“มาแล้ว นายอยู่ไหน”

“รออยู่ตรงนั้น อย่าไปไหน เดี๋ยวฉันไปหานายเอง แต่คงอีกสักพัก”

“นั่นนายกำลังวิ่งอยู่งั้นเหรอ?”

“ใช่ และฉันกำลังเหนื่อย นายคงรู้สึกได้”

“นายวิ่งไปไหน เจย์เดน ไม่ได้วิ่งมาหาฉันงั้นเหรอ?!”

ผมไม่ตอบ เพราะตอนนี้ผมต้องใช้แรงในการวิ่งและหายใจให้ทัน เหลือบมองด้านหลังก็เจอรถของพ่อขับตามมาติดๆ เวรเอ๊ย เขามีรถแต่ผมมีแค่สองเท้า แล้วผมจะหนีเขาพ้นได้ยังไงกัน! อีกนิดเดียวเขาก็จะถึงตัวผมแล้ว และพ่อคงไม่ใจดีขับมาขวางหน้าผม แต่คงจะชนผมเลยมากกว่า ดังนั้นผมต้องไปทางอื่น ทางไหนก็ได้ที่เขาจะใช้รถไล่ตามผมไม่ได้อีก

ฉับพลันนั้นผมก็เห็นว่าเบื้องหน้ามีป่าอยู่ ผมจึงออกแรงวิ่งมากกว่าเดิม แล้วเลี้ยวเข้าป่าไปทันที

เอี๊ยด!

เสียงเบรกรถดังสนั่น แต่ผมไม่คิดจะหันไปมอง ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมา และให้ตายเถอะ! ในป่ามันมืดมาก ผมต้องระวังไม่ให้ตัวเองสะดุดรากไม้ล้มไปพร้อมๆ กับการหนีพ่อให้พ้น และนั่นทำให้อะไรๆ มันยากมากขึ้นกว่าเดิม

“เจย์! บอกฉันมาว่านายอยู่ไหน!?”

“รออยู่นั่นล่ะน่า เดี๋ยวฉันกลับไปหา”

ปัง!

เสียงปืนดังแทรกการพูดคุยของเราสองคน ผมสบถลั่น นอกจากหลบต้นไม้แล้วยังต้องหลบกระสุนอีกเหรอวะ!

“นั่นเสียงปืน!” คริสเตียนคงอยู่ไม่ไกลนัก เขาถึงได้ยินเสียงปืนในป่า

“ใช่ แต่ไม่เป็นไร ฉันยังควบคุมสถานการณ์ได้”

“มีปืนมาเกี่ยวนายยังกล้าพูดแบบนี้อีกหรือไงกัน!”

“เอาน่า จะรีบกลับไปหานายนะ ใจเย็นเข้าไว้ที่รัก”

ผมได้ยินเสียงก่นด่าดังตามมา และทั้งๆ ที่กำลังหนีตายหัวซุกหัวซุน แต่ผมก็อดที่หัวเราะไม่ได้ นั่นดูเหมือนจะทำให้คริสเตียนยิ่งหงุดหงิด...ขอทีเถอะน่า ผมไม่ได้อ่อนหัดขนาดนั้นนะ ผมต้องรอดไปได้แน่นอน เชื่อกันหน่อยสิ

อยากจะบอกเขาให้สบายใจมากขึ้น แต่ผมเริ่มเหนื่อยแล้ว ไม่มีแรงจะเปิดปากเอ่ยคำพูดอะไรออกไปนอกจากเสียงหอบหายใจเท่านั้น

“หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กเวร! แกหนีฉันไม่พ้นหรอก!”

ผมเหลียวไปมองด้านหลัง เห็นร่างของพ่อวิ่งตามมาไกลออกไป...เอาล่ะ ผู้ชายคนนั้นอายุมากแล้ว อีกไม่นานเขาคงวิ่งต่อไม่ไหวและต้องยอมแพ้ปล่อยให้ผมรอดไปได้แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น ที่เหลือตอนนี้ก็คือผมต้องอดทนวิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเลิกตาม อ้อ ต้องหาทางออกจากป่าด้วย ไม่รู้เลยแฮะว่าตอนนี้วิ่งมาถึงไหนแล้ว

ปัง!

“FUCK!”

เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้มันเฉียดปลายเท้าผมไปนิดเดียว พระเจ้า! ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาหวังจะฆ่าผมจริงๆ แม้ก่อนหน้านี้ผมจะบอกเองก็เถอะว่าผมคงต้องตายถ้าเจอเขา แต่ลึกๆ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น เขาไม่เห็นผมเป็นลูกแล้วจริงๆ สินะ ถึงได้คิดจะปลิดชีวิตกันโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะออกไปช่วยนาย”

ผมพยายามเค้นเสียงออกมาตอบเขา “ไม่ได้คริส นายต้องอยู่กับโจ และทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นนาย รอให้ฉันกลับไป แล้วเราจะได้ไปจากที่นี่กันสักที”

“แต่นายกำลังทำให้ฉันเป็นห่วงนะเจย์เดน ให้ตาย อย่าทำแบบนี้ อย่าห้ามกันได้มั้ย ฉันอยากแน่ใจว่านายจะปลอดภัยกลับมา”

ผมยิ้ม ในอกรู้สึกฟูฟ่องเหมือนมีคนสูบลมเข้าไปในนั้น เพราะผมรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยจากเขา และมันทำให้ผมรู้สึกดีจนอยากจะร้องไห้เลยล่ะ

“เชื่อสิว่าฉันต้องกลับไปหานายได้แน่นอน” ผมย้ำกับเขา “รออยู่ที่นั่น เป็นเด็กดีเข้าใจไหม?”

“นายสิต้องเป็นเด็กดีของฉัน ยอมฟังฉันพูดบ้าง”

“ก็ฟังอยู่นี่ไงแด๊ดดี้”

ไม่มีเสียงตอบกลับมาของคุณโซลเมตอีก และผมสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นระรัวของอีกฝ่าย อ่า จริงๆ เลยน้า ทำไมเขาต้องมาใจเต้นแค่คำเรียกขานที่เขาเคยหยอกผมเองด้วยล่ะเนี่ย มันใช่เวลางั้นเหรอตอนนี้น่ะ ผมคิดอย่างขำๆ

“ไว้นายกลับมาเมื่อไหร่ฉันจะจูบนายให้ปากแตกเลยคอยดู”

ปัง!

ผมหัวเราะ ทั้งที่ไม่ควรจะหัวเราะในขณะที่ตัวเองกำลังวิ่งหลบกระสุนลูกต่อมาด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังปล่อยให้ตัวเองขบขันกับความน่ารักของคุณโซลเมตอยู่ดี

แต่แล้วผมก็สะดุดล้มจนได้

“โอย” โอดครวญด้วยความเจ็บเล็กๆ ที่เกิดกับข้อเท้า แต่ผมไม่คิดว่ามันแพลงหรือเป็นอะไรมากหรอก ก็แค่ความเจ็บเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นมันคงไม่ดีแน่ถ้าผมยังนั่งอยู่ตรงนี้

เหลือบมองด้านหลัง เสียงฝีเท้าที่เหยียบย่ำลงบนพื้นดินซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้แห้งเงียบหายไปแล้ว ราวกับว่าพ่อไม่ได้วิ่งตามผมมาอีก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ไว้ใจ รีบพาตัวเองหลบเข้าหลังต้นไม้ หาที่กำบังและรอเวลาตั้งรับหากว่าพ่อโผล่มาถึงตัวผม

ไม่นานเสียงเหยียบใบไม้ก็ดังขึ้นให้ได้ยินอีกครั้ง ผมเผลอกลั้นหายใจ กำมือทั้งสองข้างแน่น ลุ้นระทึกในทุกๆ นาทีว่าพ่อจะเจอผมเมื่อไหร่ ให้วิ่งออกไปตอนนี้คงไม่ดีแน่ ผมไม่รู้ว่าเขาอยู่ห่างจากผมมากแค่ไหน เกิดวิ่งออกไปแล้วเขาลั่นไกขึ้นมา ไม่พ้นที่มันจะต้องโดนตัวผมแน่นอน

แกรบ

เสียงฝีเท้าหยุดลงในที่สุด...พร้อมกันนั้นผมก็ได้ยินเสียงสบถด่าตามมา

“เวรเอ๊ย! ไอ้ลูกหมานั่นมันหนีไปจนได้!”

ผมเม้มปากแน่น กลั้นหายใจยิ่งกว่าเดิมทั้งที่มันไม่สามารถทำอย่างนั้นได้แล้ว ร่างทั้งร่างของผมเกร็งเขม็ง...ก่อนทุกอย่างจะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงก้าวเดินของพ่อดังขึ้นอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เป็นการเดินห่างออกไป

ผมรอจนแน่ใจว่าเขาไปไกลมากพอแล้ว จึงผ่อนลมหายใจยาว ทรุดตัวลงนั่งเหยียดขาพิงแผ่นหลังกับต้นไม้ ผ่อนลมหายใจยาว เงยหน้าหลับตาไปพร้อมๆ กับสูดเอาอากาศล็อตใหม่เข้าปอด

ผมรอดแล้ว

“ฉันปลอดภัยแล้ว” ผมบอกกับคนที่ยังรอฟังอยู่ในสาย

ได้ยินคริสเตียนถอนหายใจ “ดี ทีนี้ก็กลับมาหาฉันได้แล้ว”

“อืม แน่นอน แต่ขอพักอีกแป็บหนึ่งนะ”

 

ผมมาถึงรถที่คริสเตียนจอดรออยู่ และทันทีที่เขาเห็นผม ผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่ผมคุ้นเคยก็ก้าวเท้าเร็วๆ เข้ามาหา จนกระทั่งเขายืนอยู่ตรงหน้าผม ผมจึงแย้มยิ้มให้เขาแล้วกางแขนออก

“เห็นมั้ย ฉันโอเค ปลอดภัย ไม่มีแผลแม้แต่นิดเดียว”

คริสเตียนไม่ตอบอะไร เขากวาดสายตามองผมทั้งตัว ก่อนจะจับผมหมุนกลับหลังเพื่อหารอยแผลอื่นๆ แต่ให้ตายยังไงเขาก็หาไม่เจอหรอก ยกเว้นว่าเขาจะถกเสื้อผมขึ้น คงได้เห็นรอยช้ำที่เกิดจากการโดนมิสซิสโจแอนนาฟาดถังขยะใส่อยู่บ้าง

เมื่อผมหันหน้ากลับมาอีกครั้ง คริสเตียนก็รั้งผมเข้าไปกอดแน่น “ขอบคุณพระเจ้า นายไม่เป็นอะไรจริงๆ ด้วย”

ผมกอดตอบเขาแน่นไม่ต่างกัน ก่อนจะเลื่อนสายตามองไปที่รถ โจชัวกำลังยืนอยู่ข้างประตูและมองมาที่ผมด้วยความโล่งใจ ผมยิ้มให้เขา เปิดปากพูดโดยไม่มีเสียงว่า...พี่ไม่เป็นไร แม่นายก็เหมือนกัน

เขายิ้มตอบกลับมา แต่ดวงตาแดงก่ำจวนเจียนจะร้องไห้ ก่อนสุดท้ายเขาจะเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งรอในรถ

“โจได้เล่าอะไรให้นายฟังไหม?” ผมถาม ผ่อนลมหายใจหนักหน่วง

“นิดหน่อย เขาบอกแค่ว่าแม่ของเขาหลอกเขามาตลอดว่าโดนขู่จะฆ่า”

ผมพยักหน้า แล้วถอนหายใจอีกครั้ง “ไม่คิดเลยว่าโจแอนนาจะทำแบบนี้”

“เธอคงโดนยานรกพวกนั้นเล่นงานจนไม่รับรู้ถึงความถูกต้องไปแล้วล่ะมั้ง”

“คงจะเป็นอย่างนั้น” ผมตอบ ก่อนจะเผลอเกร็งตัวเมื่อจู่ๆ คริสเตียนก็รั้งผมเข้าไปกอดอีกครั้ง

เขากดจูบที่ศีรษะของผม ไล่ไปที่ข้างขมับ หน้าผาก ก่อนจบด้วยริมฝีปากของผม...เราจูบกันราวกับไม่รู้จักพอ ให้สมกับความกังวลที่เกิดขึ้น ทั้งความกังวลของผมที่กลัวเขาจะไปช่วยแล้วทำให้เราโดนจับได้กันหมด ทั้งความกังวลของเขาที่กลัวผมจะโดนยิงหรือได้รับอันตราย

เมื่ออากาศหายใจเริ่มหมดคริสเตียนก็ถอยห่าง แล้วประกบจูบเข้ามาใหม่ สองแขนของเขารัดแผ่นหลังผมแน่นจนเจ็บไปหมด แต่ผมกลับชอบอ้อมกอดนี้เหลือเกิน

จนเมื่อเราผละออกห่างจากกันอีกครั้ง โซลเมตของผมก็โน้มหน้าลงแนบหน้าผากกับบ่าของผม มือของเขาที่เลื่อนมาจับมือของผมสั่นไปหมด ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจน เหมือนที่กำลังสัมผัสได้ถึงความกลัวในใจของเขา

เขากำลังกลัว...กลัวว่าผมจะเป็นอะไรไป

“ถ้านายโดยยิงกลับมา ฉันคงสติแตกแน่ ฉันไม่อยากให้นายได้รับอันตราย ฉัน...” คริสเตียนกดจูบที่ซอกคอของผม “ฉันไม่อยากสูญเสียนายไป นายสำคัญกับฉันมากกว่าที่เราทั้งคู่จะคาดคิดนะรู้มั้ย”

ผมยิ้ม...ยิ้มกว้างยิ่งกว่าเก่า แนบแก้มเข้ากับข้างขมับของเขาบ้าง

“นายจะไม่มีวันเสียฉันไปคริสเตียน แคมเบลล์”

“...”

“เหมือนที่ฉันก็จะไม่มีวันยอมเสียนายไปเหมือนกัน”


________________________________________
กลับมาแว้ววว หายไปหลายวันเนอะ แง ติดนิยายค่ะ 555 เพิ่งไปงานหนังสือมาด้วย แทบหมดตัว //ยิ้มทั้งน้ำตา

ไม่มีอะไรจะทอล์กเกี่ยวกับเนื้อเรื่องแฮะ ฮ่าา เอาเป็นว่าโทนของเรื่องนี้คือฟีลกู๊ดปนเซ็กซี่นิดๆ ดังนั้นปมประเด็นอื่นก็จะไม่ขยี้เยอะ เบาๆ พอ ตอนหน้าจะเป็นไงต่อมาลุ้นกันนน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 23:13:36 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 574
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
 :เฮ้อ:

คู่นี้ยิ่งเจอสถานการณ์เลวร้ายก็ยิ่งหวานขึ้นสินะคะ   :-[

 :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คิดว่าไม่ใช่เพราะยาหรอกที่ทำให้แม่โจเป็นแบบนี้ แต่เป็นนิสัน(ดาน)ของตัวแม่เองมากกว่า เกือบไปแล้ว ๆ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นหนักมาก

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
รอดมาได้แล้ว ต่อไปจะเป็นยังไงเนี่ย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ใจหายใจคว่ำค่ะ เอาล่ะตัดฉากไปที่เตียงนอน อิอิ
ส่วนน้องโจ พี่ล่ะดีใจปลื้มปริ่มที่หนูได้สามีเป็นคนโหดๆที่เก่งในเรื่องการเก็บกวาดปัญหาค่ะ ใช่ค่ะบ้านพ่อแม่น้องนั่นล่ะแหล่งรวมปัญหาเลย ไปอยู่กับสามีเสียนะลูกนะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ใจจะวายนึกว่าจะโดนซะแล้ว TT

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เมื่อไหร่เค้าจะได้ออดอ้อน ออเซาะกัน ตอนนี้ลุ้นไปกะเจย์เดน แทบจะวิ่งตีคู่กันไป   :mew5: :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เพิ่งหลบกระสุนพ้นมาแท้ๆยังมาจีบกันให้อิจฉาเล่นๆอีกนะคะ ชิชิชิ

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ้ยยย ตื่นเต้น ลุ้นตลอดทั้งตอนเลยยย :katai1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สนุกมากๆค่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บีบหัวใจมากค่ะ ลุ้นมาก เกือบไม่รอด
ยังคิดอยู่เลยว่าพ่อเดินหลอกไปหรือเปล่า

โอ๊ยยย ทำไมพ่อแม่ร้ายได้ขนาดนี้นะ
กะจะให้ตายเลยหรอ

รอดมาได้แบบนี้แล้ว จะทำยังไงกันต่อล่ะ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ใจเต้นตึกตักเลย
ดีนะ เจย์เดนรอดมาได้

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ไม่ชอบใจตรงที่เจย์เดนดื้อเนี่ยแหละ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาละจะทำยังไง
ไอ้พ่อเวรมันจะปล่อยหรอถ้าสมมุติว่าจับได้อะ ฮืออออ
ลุ้นมากมากกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
วิ่งลุ้นระทึกกับเจย์เดนมากค่ะ ในที่สุดก็หลุดพ้นออกมาแล้ว รอผลตามสนองคนไม่ดี  :katai2-1: ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Chapter 19

When we fall in love


 

ผมคิดว่าผม...

 

ผมเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้นิโคไลกับแคสเทียลฟัง ทันทีที่เราทั้งหมดกลับมาถึงบ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่บ้านของผม นั่นเป็นสถานที่แรกที่พ่อจะไปตามหาเราสองคนพี่น้อง แค่สืบหาที่อยู่ของผมคงไม่ยากเกินไปสำหรับพ่อค้ายารายใหญ่อย่างเขาหรอก ดังนั้นผมจึงกลับไปไม่ได้อีกแล้ว อย่างน้อยก็ในตอนนี้ แหล่งกบดานใหม่ของผมจึงเป็นบ้านของคริสเตียน ซึ่ง...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเหยียบบ้านเขา ผมรู้นะว่าเขารวย แต่พอได้มานั่งอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่อย่างนี้ก็อดจะรู้สึกว่าตัวเองอยู่แปลกที่แปลกทางไม่ได้

โซลเมตของผมคงรับรู้ถึงความนึกคิดนั้นของผมได้ เพราะเขาขยับเข้ามานั่งข้างผมบนโซฟาตัวยาว ตบไหล่ปลอบใจผมเบาๆ “ทำตัวตามสบายเถอะ”

ผมโคลงศีรษะ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรไป แค่เอนตัวไปหาเขาจนหัวไหล่ของเราสองคนแตะชนกัน และทันทีที่ผมทิ้งตัวลงไปหาเขาราวกับทั้งร่างอ่อนยวบเป็นของเหลว คริสเตียนก็เปลี่ยนเป็นโอบเอวผม รั้งให้หลังศีรษะของผมวางลงบนแผ่นอกของเขาแทน

“เอาล่ะ” แคสเทียลกระแอมขัดเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วมองผมกับน้องชายตัวเองเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายเขาก็ไม่พูด แล้วกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง “ไหนเล่ามาสิ ที่บอกว่าล้มเหลวมันหมายความว่ายังไง”

ผมไม่ตอบ เหลือบสายตาไปมองโจชัวอย่างไม่แน่ใจนักว่าผมควรจะเล่าเรื่องทั้งหมดออกไปในตอนนี้เลยดีหรือเปล่า ผมไม่อยากตอกย้ำเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้นให้น้องนึกถึงมันอีก แม้รู้ว่ายังไงซะเขาก็ไม่มีทางลืมได้ง่ายๆ หรอก ก็เรื่องมันเพิ่งเกิดเองนี่

นิโคไลเห็นสายตาของผมก็คงพอจะเข้าใจ ทั้งที่เขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ แต่ท่าทางที่แปลกไปของโจชัวทำให้อีกฝ่ายเดาได้ไม่ยากว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น...เขาก้มลงกระซิบอะไรสักอย่างกับน้องชายของผม ตอนแรกโจชัวส่ายหน้า แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหันไปถลึงตาใส่โซลเมตตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นก้าวเท้าเร็วๆ ออกจากห้องทำงานของแคสเทียลไป ไม่ต้องให้ใครบอกผมก็เดาได้ว่าน้องกำลังโมโหมากขนาดไหน ฟังได้จากเสียงฝีเท้ากับเสียงปิดประตูนั่นล่ะ

“นั่นเขาจะไปไหน?” ผมเอ่ยถาม ทำท่าจะลุกตามไปแต่คริสเตียนก็รั้งผมเอาไว้ที่เดิม แถมยังกอดเอวผมแน่นกว่าเดิมอีกต่างหาก

“ห้องพักน่ะครับ ไม่ต้องห่วงหรอก ผมให้คนของผมตามไปดูแลเขาแล้ว” นิโคไลยิ้มเล็กน้อย เพื่อยืนยันให้ผมสบายใจ “อีกอย่างคุณก็ไม่อยากให้เขาอยู่ฟังเราคุยกันไม่ใช่เหรอ?”

ผมถอนหายใจ “ขอบคุณนะครับ”

“งั้นคุณก็เล่ามาได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น” มิสเตอร์แคสเทียลดึงพวกเรากลับเข้าประเด็นเดิมอีกครั้ง

ห้านาทีต่อมาผมก็เล่าทุกอย่างจนจบ โดยมีคริสเตียนช่วยอธิบายเสริมในบางส่วน และเกิดความเงียบขึ้นหลังจากนั้น เราทั้งหมดจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมกำลังเป็นห่วงโจชัว สภาพจิตใจของเขาต้องไม่ดีแน่ ผมรู้ดีเลยล่ะ

เป็นอีกครั้งที่คริสเตียนปลอบโยนผมด้วยการลูบหลังมือของผม กดจูบที่กลางหัวของผม เสียงหัวใจของเราสองคนเต้นไปในจังหวะเดียวกัน มันทำให้ผมสบายใจมากขึ้น แม้ว่าความกังวลจะยังไม่หายไปก็ตาม

“ไม่ แผนของเรายังไม่ล่มหรอก” แคสเทียลพูดขึ้น “พวกเขายังไม่รู้สักหน่อยว่าเราวางแผนจับกุมเขาในข้อหาค้ายาเสพติด ถ้านายแน่ใจว่าไม่ได้หลุดปากพูดออกไปล่ะก็นะ”

ผมคิดทบทวน แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้า “ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้พูดอะไรที่จะทำให้เขาระแคะระคายเรื่องนี้”

“ดังนั้นเราจะคงแผนเดิมเอาไว้ เปลี่ยนแผนนิดหน่อยก็แค่มีคนอีกคนที่เราต้องระวังคือมิสซิสโจแอนนา แม่ของโจชัวตบตาลูกชายตัวเองมาได้ตลอดหลายปีว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นผู้ถูกกระทำมาตลอด ร้ายจริงๆ ยัยผู้หญิงคนนี้”

นั่นสิ ร้ายกาจมากจริงๆ ทั้งเธอ ทั้งพ่อของผม

“ฉันจะส่งคนของฉันคอยตามดูพฤติกรรมเธอแล้วกัน” นิโคไลบอก เขาลุกขึ้นยืน กระชับเสื้อสูทที่ตัวเองใส่อยู่เป็นการบอกว่ากำลังจะกลับแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ลืมหันมากำชับกับผม “อาจจะฟังดูแปลกที่ผมพูดแบบนี้กับคนที่เป็นพี่ชายของเขา แต่ฝากดูแลโจชัวด้วยนะครับ คนที่จะเข้าใจความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้ดีที่สุด ก็มีแค่คุณเท่านั้น”

“ไม่หรอก ผมคิดว่าคุณมากกว่าที่เข้าใจเขาได้ดีกว่าผม ก็คุณเป็นโซลเมตของเขานี่ หรือไม่ใช่?” ผมเลิกคิ้วถาม

“มันก็ใช่ แต่ผมไม่ได้...”

ปัง!

“แม่ต้องการคำอธิบาย แคสเทียล แคมเบลล์!”

เสียงอันดังกังวานของผู้หญิงขัดจังหวะการสนทนาของเราทั้งคู่ ผมยืดตัวตรงโดยอัตโนมัติอย่างไม่มีเหตุผล รู้แค่ว่าการปรากฏตัวของหญิงวัยกลางคนในชุดสูททำให้แม้แต่คริสเตียนก็ยังโผขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“แม่!” สองพี่น้องแคมเบลล์พูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน

อ่า...แม่ของเขาเหรอเนี่ย

“คริสเตียน?”

แม่ของคริสเตียน (ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด เธอน่าจะชื่อแคทเธอรีน แคมเบลล์ ผมเคยอ่านนิตยสารเกี่ยวกับนักธุรกิจชื่อดังแล้วเจอชื่อเธอเข้าน่ะ) ดูเหมือนจะแปลกใจไม่น้อยที่เห็นลูกชายคนเล็กที่นี่...เป็นผมก็คงแปลกใจ เพราะคริสเตียนบอกกับผมก่อนหน้านี้เองว่าเขาไม่เคยกลับบ้าน และหนีไปอยู่อพาร์ตเมนต์มาเป็นปีแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากเจอหน้าพ่อเลี้ยง หรือก็คืออาของผมนั่นล่ะ

“ไงครับแม่”

มิสซิสแคทเธอรีนขมวดคิ้วมองคนทั้งหมดในห้อง “นี่มันเรื่องอะไรกัน? คนพวกนี้เป็นใคร? ไม่สิ พวกผู้ชายใส่สูทหน้าตาน่ากลัวที่นอกห้องนั่นก็ด้วย นอกบ้านนั่นอีก คนแปลกหน้าพวกนี้มาทำอะไรที่บ้านของเรากัน?”

“แม่ครับ ผมจะแนะนำให้รู้จักนะครับ” แคสเทียลรีบออกมารับหน้าทันที เขาผายมือมาทางผมเป็นคนแรก “นี่เจย์เดน คาร์เตอร์ครับแม่ เขาเป็นโซลเมตของคริสเตียน”

“โซลเมต! โซลเมตงั้นเหรอ?!” เธอดูตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน “ลูกเจอโซลเมจแต่ไม่บอกแม่งั้นเหรอคริสเตียน”

คนถูกถามไหวไหล่ “เราแทบไม่ได้เจอกัน แล้วผมจะเอาเวลาที่ไหนไปบอกแม่”

“นั่นไม่ใช่ข้ออ้างเลยนะ คริสเตียน แคมเบลล์!”

“อีกอย่างผมก็เพิ่งได้พบกับเขาแค่ไม่กี่เดือนมานี้เอง”

“ไม่กี่เดือนมันก็นานมากพอให้ลูกมาหาแม่เพื่อบอกเรื่องของเขาไม่ใช่หรือไง นี่ลูกจงใจละเลย...”

“โอ้ ไม่เอาน่า นี่แม่จะพูดเรื่องนี้จริงๆ เหรอ? หลังจากเราได้เจอหน้ากันในรอบหนึ่งเดือนเนี่ยนะ?”

มิสซิสแคทเธอรีนจิกตามองลูกชาย ผมว่าเธอเริ่มโกรธแบบจริงๆ จังๆ แล้วล่ะ “ก็ถ้าลูกไม่หลบหน้าแม่ เราคงได้เจอกันทุกวัน อย่างน้อยก็ที่บริษัท หรือโรงแรม...”

“ตราบใดที่แม่ยังมีไอ้แก่นั่นตามติดอยู่ข้างกาย ก็ฝันไปเถอะว่าผมจะอยากเจอหน้าแม่”

“คริสเตียน!”

ผมรั้งแขนของโซลเมตตัวเองเอาไว้เป็นการปรามไม่ให้เขาต่อปากต่อคำกับผู้เป็นแม่อีก ขณะที่แคสเทียลพุ่งเข้าไปโอบไหล่เธอ แล้วพยายามปลอบให้ใจเย็นลง

“แม่อย่าไปสนใจคริสเลยครับ ก็รู้นี่ครับว่าเขาจงใจกวนประสาท”

“อ้าว พี่ชาย ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ”

“หรือไม่จริง พอเลย แกน่ะหุบปากได้แล้วคริส” แคสเทียลชี้หน้าเป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นว่าน้องชายของตัวเองตั้งท่าจะสรรหาคำพูดมาโต้ตอบผู้เป็นแม่อีกครั้ง ให้ตายเถอะ ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นคริสเตียนในมุมนี้มาก่อนเลยจริงๆ มุมไหนน่ะเหรอ? ก็กวนประสาทหน้าตาย ปากร้ายจนน่ากระทืบนี่ไง นึกว่าเขาเป็นแค่เพลย์บอยรนหาที่ตายที่ฟัดสาวไม่เลือกหน้าแค่นั้นซะอีก

“ส่วนนี่นิโคไลครับแม่ เขาเป็นเพื่อนของผมน่ะ พอดีเขาแวะมาเยี่ยมเยียนกันเฉยๆ คนข้างนอกนั่นก็คนของเขา”

“คนของเขา? แต่ทำไม...” มิสซิสแคทเธอรีนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วเธอก็ตัดบท “ช่างมันเถอะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เข้ามาขัดจังหวะ ฉันเป็นแม่ของพวกเขาค่ะ”

นิโคไลยื่นมือออกไปจับมือของเธอที่ยื่นมาหา “ยินดีที่ได้รู้จักครับมิสซิสแคมเบลล์ ที่จริงผมกำลังจะกลับพอดี ไม่ถือว่าเป็นการขัดจังหวะหรอกครับ”

“งั้นเหรอคะ น่าเสียดาย ถ้าฉันรู้ว่าเพื่อนของแคสเทียลจะมาเยี่ยม คงให้ชวนทานมื้อเย็นร่วมกันกับเรา”

“ไว้โอกาสหน้าก็ได้ครับ” นิโคไลยิ้มบาง ก่อนจะขอตัวลา “ผมกลับก่อนนะครับ”

“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”

“ขอบคุณมากครับ”

แล้วโซลเมตของน้องชายผมก็เดินออกจากห้องไป แต่ก่อนจะไปเขาเหลือบมาสบตาผมและพยักหน้าให้ ซึ่ง...ผมไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาต้องการจะบอกอะไรผม แต่ช่างมันก่อนแล้วกัน เพราะตอนนี้ถึงเวลาของผมที่จะได้รู้จักกับแม่ของโซลเมตบ้างแล้ว

“คุณ...”

“เจย์เดนครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

มิสซิสแคทเธอรีนจับมือกับผม “ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ แต่ฉันอยากจะแน่ใจว่าคริสเตียน...คุณกับเขาเป็นโซลเมตกันจริงๆ เหรอคะ?”

“ครับ เราเพิ่งได้พบกันเมื่อไม่กี่เดือนก่อน” ผมตอบ เหลือบไปสบตาคริสเตียนเล็กน้อย “โดยบังเอิญน่ะครับ”

“งั้นเหรอคะ น่าเห็นใจคุณจริงๆ ที่ต้องมาเป็นโซลเมตกับลูกชายไม่เอาไหนของฉัน”

“ผมไม่เอาไหนงั้นเหรอ?” คริสเตียนโพล่งขึ้นขัดการพูดคุยของผมกับแม่ของเขาทันที เอาล่ะ ผมมองเห็นเค้าลางของภูเขาไฟที่กำลังเดือดปะทุรอเวลาระเบิดแล้วล่ะตอนนี้ “ผมเนี่ยนะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าแกเป็นคนเอาการเอางานคงไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไปแล้ว แต่นี่ให้ไปช่วยงานในบริษัทก็ทำเหมือนเล่นของเล่น...”

“เพราะผมไม่ชอบ และถ้าแม่จะเปิดใจยอมรับรู้สักนิด แม่ก็น่าจะรู้ว่าผมรักอาชีพนักข่าวของผม มากกว่าอาชีพนักธุรกิจหน้าเลือดหิวเงิน”

“คริสเตียน!”

“ไปเถอะ วันนี่คงอยู่ที่นี่ไม่ได้ ฉันว่าเราไปอยู่ที่อื่นกันดีกว่า” แล้วผมก็โดนเขาจับข้อมือลากพาออกจากห้องทำงานของแคสเทียล โดยมีเสียงของแม่เขาดังไล่หลังตามมา แต่เขาก็ดูจะไม่สนใจว่ามิสซิสแคทเธอรีนจะตะโกนเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดขนาดไหน

สุดท้ายเราทั้งคู่ก็มานั่งอยู่ในรถยนต์ราคาแพงของเขา เราต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบ ผมเงียบเพราะอยากปล่อยให้เขาได้สงบสติอารมณ์ที่กำลังคุกกรุ่นอยู่ตอนนี้ แต่แล้วผมก็นึกอะไรบางอย่างออก จนต้องหันไปตะโกนใส่เขาด้วยความตกใจ

“หยุด! จอดรถก่อนคริสเตียน! น้องชายของฉัน โจชัวน่ะ!”

คริสเตียนหักพวงมาลัยแล้วจอดรถเข้าข้างทาง “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เขาอยู่กับนิโคไลแล้วล่ะตอนนี้”

“นายรู้ได้ยังไง?” ผมขมวดคิ้ว งุนงงไปหมดแล้ว

“คิดหรือว่าหมอนั่นกลับไปแล้วจะไม่เอาน้องชายนายไปด้วย ถ้าไม่เชื่อก็ลองโทรถามดูสิ”

ผมทำตามทันที ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่เพื่อความสบายใจ ผมต้องทำให้แน่ใจว่าโจชัวยังปลอดภัยอยู่...เป็นโชคดีที่พวกเราแลกเบอร์ติดต่อกันเอาไว้ทุกคนหมดแล้ว ผมจึงเลื่อนหาชื่อของโซลเมตน้องชายได้ไม่ยาก เมื่อมันถูกบันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์แล้ว

รอสายไม่นานอีกฝั่งก็กดรับ พูดคุยกันสองสามประโยคผมก็วาง ค่อยโล่งใจหน่อยที่โจชัวอยู่กับนิโคไล อย่างน้อยผมก็มั่นใจว่าเขาจะไม่เป็นอะไร และไม่มีใครมาทำอะไรเขาได้แน่ๆ

“ไง ตรงตามที่ฉันพูดไหมล่ะ?”

“อืม นิคบอกว่าเขาต้องพาโจชัวกลับไปด้วยอยู่แล้ว เพราะการอยู่บ้านแคสเทียลมันเสี่ยงเกินไป ในเมื่อคุณอาก็อยู่ที่นั่น เขาอาจจะจำโจชัว หรือแม้แต่ฉันขึ้นมาได้ก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นมีสิทธิ์ที่แผนการของเราจะสุ่มเสี่ยงโดนจับได้เข้าไปอีก”

“ดังนั้นเขาจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแลโจชัวเอง ส่วนนายอยู่กับฉัน”

ผมเบิกตากว้าง “นายรู้ได้ยังไงเนี่ย!? เขาพูดแบบนี้เป๊ะเลย”

คริสเตียนหัวเราะ “ก็เพราะแคสเทียลบอกเรื่องนี้กับฉันเอาไว้แล้วน่ะสิ เปลี่ยนแผนกะทันหันก่อนที่นายจะไปชิงตัวโจชัวมาน่ะ แต่ฉันยังไม่ทันได้บอกนายก็เกิดเรื่องยุ่งๆ เข้าเสียก่อน”

ผมโคลงศีรษะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “จะว่าไปเมื่อกี้ไม่เห็นคุณอาเลย เขาไม่ได้กลับมาพร้อมแม้นายเหรอ?”

“ได้ยินว่าเขาไปทำธุระที่ต่างเมือง น่าจะกลับวันมะรืน” คริสเตียนตอบ “แต่ก็ดีแล้วที่มันไม่อยู่ ถ้าฉันต้องเห็นหน้ามันวันนี้คงได้อดใจไม่ไหวพุ่งเข้าไปต่อยหน้ามันแน่”

“เป็นโชคดีของเราที่เขาไม่อยู่ แต่ถ้าแม่นายเอาเรื่องที่เจอพวกเราวันนี้ไปพูดกับเขาล่ะ?”

“แคสจะจัดการเรื่องนั้นเอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่เขาเถอะ”

ผมค่อยข้างสงสัยว่าแคสเทียลจะทำยังไง แต่ในเมื่อตริสเตียนไม่ซีเรียสก็แสดงว่าพี่ชายของเขาคงมีวิธีจริงๆ ผมจึงเลิกคิดแล้วกลับมาให้ความสนใจเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่จู่ๆ โซลเมตของผมก็จอดรถตรงข้างทางซะงั้น

“จอดทำไมล่ะ?” คริสเตียนไม่ตอบ เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออก เปิดประตูก้าวลงจากรถ ผมจึงก้าวตามเขาลงไป

โซลเมตของผมยืนกอดอกพิงประตู เขาดูหนักอกหนักใจและหงุดหงิดไปในเวลาเดียวกัน ถ้าให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องที่เพิ่งจะทะเลาะกับแม่ของเขา ผมคิดว่างั้นนะ จะว่าไปถ้าผมได้ยินไม่ผิด...

“นายเป็นนักข่าวมาก่อนงั้นเหรอ?” ผมถาม ก้าวเข้าไปยืนพิงรถข้างๆ เขา สายตามองไปเรื่อยเปื่อยขณะรอคำตอบ คริสเตียนหันมามองหน้าผมเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองตรง

“อืม ภาคสนามน่ะ เป็นนักข่าวสายสงคราม”

“โอ้” ผมผิวปาก โซลเมตของผมมีเรื่องดีๆ เก็บซ่อนเอาไว้มากกว่าที่คิดอีกแล้วนะเนี่ย “เพราะแบบนั้นนายเลยผิวคล้ำแดดและมีกล้ามใหญ่ขนาดนี้สินะ ต้องฝึกร่างกายก่อนออกไปทำหน้าที่กลางสนามรบ”

“รู้ด้วยเหรอ?”

“เดาเอาน่ะ แล้วมันใช่ไหมล่ะพวก?”

คริสเตียนหัวเราะ “ก็ตามนั้น”

“น่าเสียดายนะที่นายไม่ได้ทำงานนั้นต่อ นายคงรักอาชีพนี้มาก”

“ใช่ น่าเสียดาย” เขายอมรับตามตรง “แต่ตอนนี้ฉันไม่ค่อยเสียดายสักเท่าไหร่แล้วล่ะ”

ผมเลิกคิ้ว หันไปสบตาเขา ดวงตาสีเทาพายุเป็นประกายสะท้อนกับแสงไฟข้างถนน น่าแปลกที่เวลานี้ไม่มีรถสักคันขับผ่าน รอบกายของเราสองคนจึงมีแค่ความเงียบกับเสียงพูดคุยของเราเท่านั้น

“อะไรทำให้นายคิดอย่างนั้นล่ะ?” ผมถาม

คุณโซลเมตยิ้มกว้างกว่าเดิมมาให้ผม “นายไง”

หัวใจผมเต้นเร็วขึ้นหนึ่งจังหวะ เหมือนกับหัวใจของเขา ความรู้สึกของผมเอ่อท้นไปด้วยความดีใจ เหมือนกับที่ผมรับรู้ได้ว่าคริสเตียนกำลังรู้สึกมีความสุขเช่นกัน

“ถ้าเป็นก่อนหน้าที่ฉันจะเจอนาย การทะเลาะกับแม่วันนี้คงทำให้ฉันหัวเสียจนต้องไประบายความหงุดหงิดด้วยการลากสาวสวยหรือหนุ่มน้อยสักคนเข้าโรงแรม แต่เพราะวันนี้ฉันมีนาย ฉันก็เลยไม่รู้สึกหงุดหงิดมากเหมือนเมื่อก่อน” ผมดึงสายตากลับมา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ไร้แสงดาว สองหูยังคงตั้งใจฟังเขาต่อไป “ถ้าไม่ใช่เพราะโดนบังคับให้เลิกเป็นนักข่าวแล้วกลับมาอยู่บ้าน ทำงานโรงแรมของตระกูลตัวเอง ฉันก็อาจจะไม่ได้เจอนาย...คู่แท้ของฉัน”

หัวใจของผมพองฟูเหมือนลูกโป่งโดนอัดลม ขณะที่สัมผัสได้ถึงความจริงใจของคริสเตียนที่ส่งผ่านมาทางสายใยแห่งความสัมพันธ์ของเรา...ที่เขาพูดมาเป็นเรื่องจริง เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจของเขาจริงๆ และนั่นทำให้ผมรู้สึกดีแทบบ้า

คุณโซลเมตขยับเข้ามาคร่อมทับผม เราสองคนสบตากัน ริมฝีปากแนบชิดเข้าหากัน แลกเปลี่ยนรสชาติหอมหวาน ปลายลิ้นเราถูไถกัน และกว่าจะรู้ตัวผมเราทั้งคู่ก็เข้ามาอยู่เบาะหลังของรถ และกำลังปลดเข็มขัดกางเกงของกันและกันออก เพื่อให้ตัวตนของเราได้แตะต้องกัน

ผมหอบหายใจสลับครางเสียงต่ำ “ในรถ...ที่ข้างถนนเนี่ยนะ?”

“น่าตื่นเต้นดีออก นายไม่คิดงั้นเหรอ?” คริสเตียนหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ เขารวบความร้อนผ่าวของเราสองคนแล้วปรนเปรอมัน ความรู้สึกดีท่วมท้นในร่างของเราสองคน

ผมโน้มคอเขาลงมาจูบ ปล่อยให้เขาทำหน้าที่สร้างความสุขสม ในขณะที่ตัวเองปล่อยใจให้คิดไปเรื่อยเปื่อย ความรู้สึกหนึ่งก็ตีตื้นขึ้นมาในอกของผม ซึ่งคุณโซลเมตคงจะสัมผัสถึงมันได้ เพราะเขาผละออกแล้วมองใบหน้าผมด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ...ก่อนจะเป็นผมที่มองเขาด้วยสายตาแบบนั้นเช่นกัน เมื่อรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาที่ตอบกลับมา

เขาคิดว่าเขารักผม

และใช่...ผมเองก็คิดแบบนั้น

เรากำลังตกหลุมรักกันและกันจนได้สิน่า


_______________________________
คิดว่าตอนหน้าจะมีฉากวาบหวิวในรถให้อ่านไหมคะ? //แสยะยิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์

ใกล้จะจบแล้วนะ เราตั้งใจไม่ให้เกิน 25 ตอน นี่ก็ตอนที่ 19 แล้ว ปมอะไรที่มีก็ไม่ได้ตั้งใจจะเอามาเล่นเป็นแกนหลักของเรื่อง ไม่ได้คิดจะขยี้ดราม่ามากมายอะไรนักด้วย เพราะเราอยากให้เรื่องนี้อยู่ในโทนของความฟีลกู๊ดปนเซ็กซี่มากกว่าค่ะ ฮ่า มันเริ่มด้วยความหื่น มันจะจบด้วยความหื่น ก๊าก!

คืนนี้จะมาลงตอนพิเศษวันฮัลโลวีนให้อ่านกันนะคะ แล้วมาดูเกม Trick or Treat ของคริสเจย์กัน ใครจะต้องทริก ใครจะโดนทรีตกันน้าาา อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 23:15:42 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทำอะไรกันข้างถนน ระวังเจอตำรวจนะ  :mew4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ขอเป็นพงหญ้าข้างทางได้ไหม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ในรถเลยนาาาาา  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด