(END) [Nameverse] Call me Daddy #ความลับบนตัวผม :: Mini Special [14-08-19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (END) [Nameverse] Call me Daddy #ความลับบนตัวผม :: Mini Special [14-08-19]  (อ่าน 146996 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Chapter 24

When it's over


 

จบลงเสียที

 

“คุณไม่กล้าหรอก” คริสเตียนตอบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งที่ความจริงใจเขากำลังสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น ผมสัมผัสได้

แต่ก่อนที่เขาจะได้ต่อปากต่อคำกัน หรือก่อนที่คุณอาของผมจะได้ยิงปืนซึ่งใส่ตัวเก็บเสียงมาเป็นอย่างดีเข้าร่างคริสเตียนอีกครั้ง พ่อของผมก็ยกมือขึ้นมาขวางหน้าน้องชายตัวเองเอาไว้ซะก่อน

“หยุด อย่าเพิ่งยิง”

“อะไรของแกวะ รีบฆ่ามันจะได้รีบๆ ไปจากที่นี่สักทีไง!”

ดวงตาของพ่อจ้องมองมาที่ผม เราสบตากันเนิ่นนาน เป็นครั้งแรกที่เราได้มองตากันชัดๆ แบบนี้ หลังจากเวลาผ่านไปกว่าสิบ...หรืออาจจะยี่สิบปี ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราสบตากันนานขนาดนี้ครั้งสุดท้ายน่ะมันเมื่อไหร่

“แก...เป็นอะไรกับลูกเลี้ยงของไอ้จาเร็ต?”

ผมหวั่นเกรงกับแววตาและน้ำเสียงของเขา แต่ผมก็ยังเลือกที่จะตอบความจริงออกไป “โซลเมต”

“โซลเมต? ตั้งแต่เมื่อไหร่?” พ่อทวนถาม ดวงตาเขาเบิกกว้างขึ้น ก่อนจะกลับมาหรี่ลง “ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แกรู้ตัวว่ามันเป็นโซลเมตของแก!”

ผมไม่ควรขำ ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ แต่ผมกลับแค่นหัวเราะออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ “พ่อสนใจด้วยเหรอครับ เราไม่ได้ติดต่อกันตั้งหลายปี ผมจะเจอโซลเมตของผมตอนไหน มันก็ไม่เกี่ยวกับพ่อนี่ครับ”

“อย่ามาเล่นแง่กับฉันไอ้เด็กเวร!” เขาตวาด ดึงปืนของตัวเองออกมาจ่อใส่ผม และนั่นทำให้หัวใจผมหล่นวูบเช่นกัน...เขาจะยิงผมจริงๆ งั้นเหรอ? แต่ก็ไม่แปลกหรอกถ้าเขาทำจริงขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ที่ในป่าเขายังลั่นกระสุนใส่ผมตั้งหลายนัด ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่พ่อของผมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นปีศาจร้าย ไอ้ขี้ยา และนายหน้าขายยาเสพติดตัวอันตราย

“หลายเดือนก่อน” ผมยอมตอบในที่สุด

พ่อขมวดคิ้ว “มันบังเอิญเกินไป ลูกเลี้ยงของจาเร็ตกับแกเนี่ยนะ?”

“ไม่มีคำว่าบังเอิญหรอก” คริสเตียนที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น เขาดึงความสนใจของพ่อและอาของผมไปที่เขาอีกครั้ง “โซลเมตได้มาพบกันเพราะโชคชะตา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหากที่เป็นผลจากแผนการของพวกเรา”

ผมเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเปิดเผยความจริงอย่างตรงไปตรงมา...ที่เขาพูดแบบนี้ ฃมันหมายความว่าเขาจะบอกแผนการของเราให้พ่อกับอารู้งั้นเหรอ!? และพ่อของผมก็ไม่ใช่คนโง่เสียด้วย เพียงคีย์เวิร์ดไม่กี่คำเขาก็พอจะจับใจความได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

“แผนการ...” เขาถลึงตากว้าง กระชับอาวุธในมือแน่นขึ้น “พูดออกมาให้หมดว่าพวกแกทำอะไร!?”

“...”

“พูดเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะยิงแก ไอ้ลูกทรพี!”

คริสเตียนกุมกระชับมือของผมแน่น เราสบตากัน เขากำลังให้กำลังใจผมผ่านแววตาที่ส่งมา และเพียงแค่เขาพยักหน้า ผมก็เข้าใจความหมายนั้น

ผมเปิดปากเล่า “ผมรู้ว่าพ่อค้ายา”

“งั้นก็เป็นแกสินะที่บอกตำรวจ!”

“เปล่า ผมไม่ได้บอกใคร แต่มีอีกคน...มีอีกคนที่รู้เรื่องนี้”

“แกกำลังหมายถึงใคร รีบๆ พูดออกมาสักทีเซ่!” เขาตะโกน ความไม่พอใจอัดแน่นอยู่ในน้ำเสียงและดวงตา

ผมเม้มปากแน่น และคลายออกพร้อมคำตอบที่หลุดรอดออกมาจากริมฝีปาก “โจชัว”

“!!!”

“เขารู้มาตลอดว่าพ่อค้ายา วันนั้นที่ผมแอบไปที่บ้าน ผมตั้งใจจะช่วยเขาออกมาพร้อมกับโจแอนนา แต่ไม่คิดว่าเธอก็เป็นพวกเดียวกันกับคุณ นั่นมันเลวร้ายมากสำหรับโจชัว ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคุณกับเธอต้องทำร้ายเขาด้วย เขาควรได้รับความรักที่ดีจากคุณ แต่คุณกลับทำร้ายเขา เหมือนที่ทำร้ายผม คุณไม่เห็นใจลูกชายของคุณบ้างหรือยังไง”

พอได้มีโอกาสผมก็หลุดพูดความในใจออกไปเสียแทบหมดเปลือก พ่อกำด้ามปืนแน่น “หุบปากของแกไปซะไอ้ระยำเอ๊ย! พวกแกเอาเรื่องนี้ไปบอกตำรวจสินะ! ไม่งั้นมันคงไม่บุกไปทลายโรงงานของฉันจนพังย่อยยับ!”

“แล้วแกล่ะไอ้คริสเตียน แกมีส่วนรู้เห็นหรือเปล่า!?” จาเร็ตที่เงียบอยู่นานถามอดีตลูกเลี้ยงของเขาเอง

คริสเตียนแสยะยิ้ม “เออ ทั้งหมดมันเป็นแผนของเรา ฉันหาหลักฐานมาเปิดโปงแก เพราะรู้ว่าแกเอาเงินไปลงทุนให้กับโรงงานยาเสพติดของพี่ชายแก ส่วนแคสกับโซลเมตของเขาทำหน้าที่หาโรงงานของพวกแกไงล่ะ”

“ไอ้สวะเอ๊ย! กล้ามากที่ทำกับฉันแบบนี้” จาเร็ตตะคอก ขณะที่พ่อของผมตวาดตามมาติดๆ ด้วยเสียงอันดัง

“แกก็เหมือนกันไอ้เจย์เดน แกกล้าทำกับพ่อของแกแบบนี้ได้ยังไง!?”

“คุณเห็นผมเป็นลูกด้วยหรือไง คุณคิดจะฆ่าผมมาแล้วครั้งหนึ่ง คงไม่มีพ่อคนไหนกล้ายิงลูกตัวเองได้เหมือนคุณหรอกเจฟเฟอร์สัน!” พอกันที ผมจะไม่เรียกเขาว่าพ่ออีกแล้ว!

อีกฝ่ายเดือดดาลยิ่งกว่าเก่า เขาลั่นไกยิงแจกันที่อยู่ด้านหลังของผมจนแตก แต่เพราะว่าเป็นปืนเก็บเสียง เสียงที่เกิดขึ้นจึงมีแค่เสียงแจกันแตกเท่านั้น...ไร้ซึ่งเสียงปืนให้คนทั้งโรงพยาบาลได้ยิน

“ใช่! และตอนนี้ฉันจะฆ่าแกอีกรอบ คราวนี้แกได้ตายจริงๆ แน่ไอ้ลูกเฮงซวย!”

ปัง!

ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงจนกระทบกับผนัง ส่งเสียงดังกังวานขัดจังหวะการสนทนาของเราสี่คน

“วางปืนลงซะมิสเตอร์สมิธ” นิโคไลเล็งปืนมาที่พ่อของผม ด้านหลังของเขามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของโคลตันและลูกน้องของเขาเอง ยืนล้อมป้องกันทางออกที่มีเพียงทางเดียวเอาไว้อีกหลายคน “ผมบอกให้คุณวางปืน เจฟเฟอร์สัน จาเร็ต!”

“พวกแก!”

“มันมาได้ยังไงวะ ไหนแกบอกว่าทางสะดวกไง!” อาจาเร็ตเปลี่ยนไปจ่อปืนใส่นิโคไลแทน มีแต่พ่อที่ยังจ้องจะยิงผมเหมือนเดิม แม้ว่าผมจะไม่มีอาวุธสักชิ้นมาสู้กับเขาก็ตาม

“ฉันไม่รู้ ก็สายของฉันบอกว่าไม่มีคนเฝ้านี่หว่า ฉันจะรู้มั้ยว่าทำไมพวกมันถึงตามกลิ่นมาได้ไวขนาดนี้”

“ไอ้เวรเอ๊ย ทีนี้จะเอาไงต่อล่ะวะ!?”

“หาทางออกไปจากที่นี่ไงไอ้โง่”

“พวกคุณหนีไม่รอดหรอก” คริสเตียนโพล่งขึ้น “ถึงออกไปจากห้องนี้ได้ก็เจอคนของเราดักไว้ทุกที่อยู่ดี”

“หมายความว่ายังไง!?” อาจาเร็ตถาม สีหน้าของเขาขุ่นเคืองจนแทบระเบิด

โซลเมตของผมแค่นหัวเราะ “แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง แปลว่าพวกคุณถูกหลอกน่ะสิ”

ผมขมวดคิ้ว ถูกหลอกงั้นเหรอ? หมายความว่าการที่พ่อกับอาโผล่มาที่นี่ เป็นแผนหลอกล่อให้พวกเขาปรากฏตัวออกมาให้เราจับกุมสินะ ใช่มั้ย?

“ไม่คิดเหรอว่าพวกคุณบุกเข้ามาที่นี่ได้ง่ายเกินไป ทั้งที่ควรจะมีบอดี้การ์ดเฝ้าหน้าห้องของคริสเตียนแต่กลับไม่มี” นิโคไลถาม น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบจนน่ากลัว “ก็อย่างที่เขาบอก ทั้งหมด...เป็นแผนของเรา”

“!!!”

“แคสเทียลรู้ว่าคุณจะมา จาเร็ต เขามั่นใจเพราะคนอย่างคุณมันเป็นพวกแค้นฝังหุ่น คุณอยากฆ่าพวกเขาสองคนพี่น้อง เพราะทำให้คุณพลาดเงินก้อนโต พลาดที่จะได้เก็บเกี่ยวเงินอีกมหาศาลที่มาจากการยักยอกบริษัทแคมเบลล์ แล้วไหนจะการลงทุนที่เสียเปล่า เพราะโรงงานยาเสพติดของพี่คุณถูกทำลายนั่นอีก”

“ไอ้...”

“นึกให้ดีๆ สิคุณสมิธ ว่าอะไรทำให้คุณรู้ว่าคริสเตียนอยู่โรงพยาบาลนี้ อะไรทำให้คุณเข้าใจว่าไม่มีคนเฝ้าระวัง ทั้งที่ความจริงคนของเรากระจายตัวกันอยู่ที่นี่ และรอให้พวกคุณเข้ามาติดกับ”

ผมเบิกตากว้าง ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน...คริสเตียนรับรู้ได้ถึงความตกใจของผม เขาบีบมือผมแน่นขึ้น กระซิบเสียงเบาข้างหู “ไว้จะเล่าให้ฟังทีหลัง”

“นายปิดบังฉันอีกแล้วนะ”

ผมรู้สึกได้ว่าโซลเมตของผมชะงักไป เขากำลังกลัวว่าผมจะโกรธ

ผมเฝ้ามองสถานการณ์ตรงหน้าต่อไป ตัดเรื่องที่คนรักไม่ยอมบอกแผนลวงครั้งนี้กับผมทิ้ง นี่ไม่ใช่เวลาจะมาถกเถียงกัน แต่สาบานได้ว่าผมไม่ได้โกรธ มัน...เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ไม่รู้สิ ช่างมันไปก่อนแล้วกัน

“พวกแกส่งสายเข้ามาอยู่ในกลุ่มของฉัน!” พ่อของผมตวาดลั่น คงรู้สึกเสียหน้าที่โดนตลบหลังมาตลอด

และในระหว่างความตึงเครียดที่เกิดขึ้นนั่นเอง...

ฟุ่บ!

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก พ่อพุ่งตัวเข้ามาหาคริสเตียน ผมรีบผลักคนรักออกแล้วเข้าไปแย่งปืนจากมือเขาแทน แต่อีกฝ่ายก็ยื้อเอาไว้แน่น เราฉุดกระชากกันไปมา แต่แล้วแผ่นหลังของผมก็ถูกกระแทกด้วยด้ามปืนจากอาจาเร็ต ความเจ็บปวดแล่นลิ่วจนผมทรุดลงไปกองกับพื้น และคงจะโดนยิงเจาะหัวไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคริสเตียนพุ่งกลับเข้ามาผลักอดีตพ่อเลี้ยงของเขาออกห่างจนร่างกระเด็นไปไกล

ฉับพลันนั้นมีเสียงลั่นไกจากปืนเก็บเสียงของใครสักคนดังขึ้นเบาๆ

ปุ!

“อ๊าก!”

กระสุนเจาะเข้าที่ต้นแขนขวาของพ่อผม ทำให้ปืนหลุดออกจากมือของเขา ผมรีบพุ่งเข้าไปเตะมันออกห่างทันที ถึงอย่างนั้นพ่อก็ยังมีแรงมากพอที่จะคว้าตัวผมเอาไว้ กระชากเต็มแรงจนเราทั้งคู่ล้มกลิ้งไปด้วยกัน

“โอ๊ย!” ผมร้อง เจ็บร้าวหน้าผากจนสายตาพร่าเบลอไปชั่วขณะ หัวของผมกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง

“ไอ้สารเลว แกกล้ามากที่เอาตำรวจมาจับฉัน!”

“อึก” ผมรั้งแขนเขา พยายามดึงมันออกจากลำคอ ถ้าผมไม่ตายเพราะกระสุน ก็น่าจะตายเพราะหายใจไม่ออกแทน พ่อรัดคอผมแน่นมาก กะเอาให้ถึงตายจริงๆ

พลั่ก!

คริสเตียนพุ่งมาจากไหนไม่รู้ เขาศอกใส่ใบหน้าของพ่อผมจนต้องคลายแขนออก ความชุลมุนเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้น ผมโน้มตัวลงไอโขลก ก่อนจะทิ้งตัวนอนไปบนพื้นอย่างหมดสภาพ หอบหายใจหนักหน่วง รู้สึกได้ถึงน้ำเหนียวหนืดที่ไหลลงมาจากข้างขมับ พอแตะดูถึงได้รู้ว่าเป็นเลือด...อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด ให้ตายสิ ผมหัวแตกอีกแล้ว

“เฮ้ โอเคมั้ย” โซลเมตของผมเอ่ยถาม...ผมพยักหน้า ไออีกสองสามที คริสเตียนช่วยพยุงผมขึ้นนั่ง “ฉิบ! ระยำเถอะ นายหัวแตก”

ผมอยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่เมื่อมาคิดดูอีกทีผมเพิ่งหัวแตกไปไม่นาน ยังไม่ทันหายสนิทก็ดันมาแตกซ้ำอีกครั้ง โชคดีที่ไม่ใช่ตำแหน่งเดิม ไม่งั้นคงขำไม่ออกแน่

“ใครเป็นคนยิงพ่อ” ผมกวาดตามอง พ่อกับอาจาเร็ตถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้ว พวกเขาถูกล็อกแขนไพล่หลัง ข้อมือถูกสวมกุญแจมือเอาไว้ และแม้ว่าจะพยายามสะบัดตัวหนี แต่เจ้าหน้าที่ก็มีแต่จะกดร่างของทั้งสองคนกับพื้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“นิค” คริสเตียนตอบ

“ปล่อยนะโว้ย! เวรเอ๊ย ไอ้เจย์เดน ไอ้ลูกชั่ว! ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”

ผมมองพวกเขาถูกพาตัวออกจากห้องพักผู้ป่วยไปโดยไม่พูดอะไรโต้ตอบคำพูดของพ่อที่กร่นด่าผมไม่หยุด กระทั่งทั้งห้องเหลือเพียงเราสามคน นิคก้าวเข้ามาหา เขามองสำรวจใบหน้าของผมเล็กน้อย

“ไปทำแผลเถอะ ก่อนที่โจชัวจะมา”

“เขารู้เรื่องแล้ว?” ผมถาม

“รู้ ฉันให้คนเฝ้าเขาเอาไว้ ไม่อยากให้เขามาด้วยน่ะ” นิคถอนหายใจแผ่วเบา “แต่ตอนนี้เขาน่าจะกำลังมา คนของฉันรายงานว่าเขาแอบหนีออกจากบ้านก่อนหน้าที่เราจะบุกเข้ามาไม่นาน เป็นโชคดีที่ระหว่างการต่อสู้เมื่อกี้เขายังมาไม่ถึง”

“ครับ โชคดีมากจริงๆ”

นิโคไลหันไปหาคริสเตียน “พี่ชายของนายอยู่ด้านล่างกับโคลตัน อีกสักพักก็คงจะขึ้นมาเหมือนกัน”

“เพราะเราจับกุมสมิธได้ พวกเขาเลยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเลย”

คนฟังหัวเราะ “นั่นสินะ ถึงอย่างนั้นการลดความวุ่นวายและความสูญเสียก็น่ายินดีนะว่ามั้ย?”

แล้วเขาก็ออกไป ทิ้งผมให้ยืนมึนงงกับคนรัก ที่ดูเหมือนว่าแผลถูกยิงจะปริออกมาจนเลือดซึม “ไปทำแผลกันเถอะ เลือดนายซึมออกมาแล้วเหมือนกัน”

คริสเตียนก้มมองหน้าท้องตัวเอง “อ่า จริงด้วย ก็ว่าทำไมเจ็บๆ”

ผมพ่นลมหายใจแรง สีหน้าไม่สบอารมณ์นัก และนั่นทำให้คุณโซลเมตยิ้มแหย...เขารู้ว่าผมกำลังไม่พอใจ และกำลังต้องการคำอธิบาย

“คือที่จริงแล้วฉันกำลังจะบอกนาย แต่ว่าพวกมันบุกเข้ามาก่อน ฉันก็เลยไม่ทันได้บอก...”

ผมตัดบท “ไว้นายค่อยเล่าให้ฉันฟังหลังจากเราไปทำแผลกันเสร็จก็แล้วกัน”

“เอ่อ ได้สิ”

 

ทุกอย่างจบลงแล้ว

ตอนนี้ห้องพักของคริสเตียนเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ยกเว้นคุณโคลตัน มิสเตอร์แคสเทียลบอกว่าเขาต้องทำหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาไปส่ง ส่วนนิโคไลกลับมาอีกครั้งพร้อมโจชัวและ...เจสซี่กับแม่ของผม

ทันทีที่ทั้งสองเห็นผม พวกเธอก็โผเข้ามาสำรวจเนื้อตัวของผมทันที หมุนร่างผมซ้ำไปซ้ำมาเพื่อหาบาดแผลที่อาจจะมีนอกจากบนหัว จนสุดท้ายผมต้องรั้งพวกเธอเอาไว้ให้หยุดนิ่ง

“ผมสบายมาก ไม่เป็นไรครับแม่”

“พี่มันแย่ที่สุดเลยเจย์! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกเรา!” เจสซี่ขึ้นเสียงใส่ สีหน้าเธอผสมปนเประหว่างความโกรธกับความเป็นห่วง ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำ

“ไม่บอกผมด้วยซ้ำ” โจชัวตัดพ้ออีกคน ผมกวักมือเรียกเขาให้ขยับเข้ามาหา ก่อนเราสามคนพี่น้องจะกอดกันแน่น

“ไม่อยากให้พวกนายได้รับอันตราย พี่ถึงได้ไม่บอก ขอโทษนะ”

เจสซี่ทุบหลังผม “ถ้าโจไม่มาบอก เราก็คงไม่ได้รู้เรื่องไปตลอดชีวิต”

“ไม่หรอกน่า ยังไงพี่ก็ต้องบอกในสักวัน“ ผมหัวเราะ ลูบหัวน้องสาวคนเก่งที่กำลังร้องไห้ ก่อนจะหันไปสบตาแม่ ยิ้มให้เธอคลายความกังวล และเป็นการขอโทษที่ไม่ยอมบอกอะไรเลย

แม่เม้มปากแน่น ดวงตาเธอแดงก่ำ ทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีกคน “แม่ขอโทษที่ไม่เคยรู้เลยว่าลูกต้องเจอกับอะไรบ้าง แม่เสียใจจริงๆ เจย์เดน”

“ไม่หรอกครับ เป็นผมเองที่ไม่ยอมบอก ผม...ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ”

เธอขยับเข้ามากอดเราทั้งสาม กลายเป็นว่าตอนนี้เราสี่คนกำลังยืนกอดกันกลมอยู่กลางห้องผู้ป่วย โดยมีคริสเตียน แคสเทียล และนิโคไลมองอยู่ห่างๆ

“เอาล่ะ เรื่องวุ่นวายจบลงแล้ว หลังจากนี้จะเอายังไงต่อล่ะเจย์เดน?” มิสเตอร์แคสเทียลเอ่ยถาม

ผมขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็นสายตาที่มองไปยังโจชัว ผมก็เข้าใจ “พ่อโดนจับ ส่วนโจแอนนาก็ถูกส่งเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ผมคงรับโจชัวมาอยู่ด้วย”

“ให้แม่รับเขาเป็นลูกบุญธรรมก็ได้นะเจย์ แม่ยินดี” แม่เสนอ โจชัวยิ้มให้เธอ ทั้งสองเคยเจอกันอยู่บ้าง และแม่ก็ให้ความเอ็นดูเขาในฐานะน้องชายของผม ถึงแม้ว่าโจกับเจสจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันก็ตาม

“ไม่ได้หรอกครับแม่ ผมไม่อยากรบกวนแม่” ผมส่ายหน้า เหลือบไปมองนิโคไลที่ยังคงเงียบ “อีกอย่าง...มาคิดดูแล้วอาจมีคนที่อยากรับโจไปดูแลแทนผม”

พอได้โอกาสมิสเตอร์ริชมอนด์ก็ก้าวเข้ามาใกล้โจชัว โอบไหล่น้องชายของผมเบาๆ “ผมจะดูแลเขาเองครับ ยังไงเขาก็เป็นโซลเมตของผม”

สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าโจชัวจะไปอยู่กับนิโคไล ซึ่งผมโอเค เพราะคงไม่มีใครดูแลน้องชายของผมได้ดีไปกว่าเขา หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อย (แน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะแนะนำคริสเตียนให้แม่ได้รู้จัก) คนทั้งหมดก็กลับไป เหลือเพียงผมกับโซลเมตของผมอีกครั้ง

บาดแผลของคริสเตียนที่ปริจนเลือดซึมได้รับการทำแผลใหม่ แต่เพราะว่าแทนที่มันจะหายเร็วขึ้นก็ดันไม่หาย ตอนนี้อีกฝ่ายจึงถูกผมไล่ต้อนให้กลับขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้อีกครั้ง

“มันจบแล้ว” เขาพูดขึ้นหลังจากทั้งห้องพักเหลือเพียงเราสองคน

ผมยิ้ม “ใช่ มันจบแล้ว”

คริสเตียนกระดิกนิ้วเรียกให้ผมโน้มใบหน้าลงไปหา...เราจูบกันเบาๆ แต่จูบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักพอ และเมื่อเราผละออกห่างจากกัน ผมก็อดไม่ได้ต้องประทับริมฝีปากลงไปบนหน้าผากของเขา

“ขอบคุณที่ทำเพื่อฉัน”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” คริสเตียนปฏิเสธ ผมยิ้มกว้าง แนบจุมพิตที่ข้างแก้มของเขา

“แค่นายอยู่เคียงข้างฉันในวันที่ฉันอ่อนแอก็มากเกินพอแล้ว ที่รัก”

“หลังจากนี้ฉันก็ยังจะอยู่กับนาย” แล้วเราก็จูบกันอีกครั้ง ดูดดื่มยิ่งกว่าเดิม เสียงกระซิบแผ่วหวานดังคลอเคลียอยู่ระหว่างริมฝีปากของเราทั้งคู่ “อยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากกันเลยนะ ตกลงมั้ย?”

“แน่นอน”


_________________

ทุกอย่างคลี่คลาย ตอนหน้าจบแล้วนะคะ ใจหายจังเลย แง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 23:34:07 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
จบแล้ววว ดีใจ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จะจบแล้วหรอ แง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จับได้ซักที แต่หัวแตกอีกแล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะได้สุขีๆ กันแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Epilogue

Why do you believe in soulmate?

[Christian]


 

ทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตา

 

คลับเดิม หน้าห้องน้ำที่เดิม...แต่สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม

ที่ยืนพิงกำแพงอยู่ตอนนี้ไม่ใช่สาวสวยในชุดเดรสสีดำหรือสีแดง ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่บึ้มหรือสะโพกผาย อีกฝ่ายเป็นผู้ชายร่างกายกำยำสมส่วน โครงหน้าได้รูปเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย เส้นผมสีเข้มบางส่วนตกลงมาปรกหน้าผาก สองมือของเขากอดอกเอาไว้ ริมฝีปากเผยอยิ้มบางๆ และดวงตาคู่สวยจดจ้องมาที่ผม

ไม่ใช่คู่นอนคืนเดียวแล้วแยกทางเหมือนทุกครั้ง นี่คือคู่นอนตลอดชีวิตของผม

เจย์เดน คาร์เตอร์

ผมกักเขาเอาไว้ด้วยสองแขน ทาบทับฝ่ามือลงบนผนังข้างหัวไหล่ของเขา ขยับใบหน้าเข้าใกล้อีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

“นึกถึงวันแรกที่เราเจอกันเลยนะ” เขาพูดขึ้น

ผมหัวเราะ “ต้องเรียกว่านายเดินมาชนฉันมากกว่า”

เจย์เดนหัวเราะตาม “เป็นความบังเอิญที่ทำให้ฉันได้พบกับนาย”

“เป็นโชคชะตาที่ทำให้เราได้มาพบกันต่างหาก” ผมแย้ง แนบร่างกายตัวเองเข้ากับเขา ท่อนล่างเสียดสีกันแผ่วเบา หน้าท้องถูไถกันโดยมีเสื้อเชิ้ตบางๆ ของเราทั้งคู่ขวางกั้น...ผมจูบเขา สอดปลายลิ้นเข้าหา เราจุมพิตกันราวกับจะดูดดื่มวิญญาณของกันเข้าไปด้วย

เป็นหนึ่งเดียว และมีแค่เราเท่านั้นที่ยืนอยู่ตรงนี้

“นายเชื่อเรื่องโซลเมตมั้ย?” เขาถามผมเหมือนที่ผมเคยถามเขาเมื่อนานมาแล้ว

ผมพยักหน้า และย้อนถามกลับไป “แล้วนายล่ะ?”

“ฉันเชื่อ แต่เคยคิดว่าถ้าหากเจอโซลเมต ฉันจะไม่รักเขา” เจย์เดนยิ้ม

“ฉันคิดว่าฉันเข้าใจ” ผมบอก เหตุการณ์เก่าๆ ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ

เขากลัวที่จะรัก เพราะความรักของคนสองคนเคยทำให้เขาเจ็บปวดมาแล้ว ความรักของพ่อและแม่เขาเอง

“แต่ตอนนี้ฉันไม่กลัวอีกแล้วที่จะรัก” เจย์เดนลูบใบหน้าของผม เขามองลึกเข้ามาในดวงตาของผม “เพราะเมื่อฉันเปิดใจ ฉันก็ได้พบกับคนที่ฉันอยากจะรัก ซึ่งนั่นก็คือนาย...โซลเมตของฉัน”

เป็นอีกครั้งที่ผมอดใจไม่ไหว จูบปากเจย์เดนเนิ่นนานกว่าจะผละออก

“Why do you believe in soulmate?” เขาย้อนถามผมบ้าง

ผมหัวเราะ สวมกอดเขาจนแผ่นอกของเราแนบชิดกัน กระซิบคำตอบข้างหูอีกฝ่าย

“เพราะเชื่อว่าสักวันฉันต้องได้เจอคนที่ฉันจะรักได้อย่างหมดหัวใจ”

“ซึ่งวันนี้นายเจอแล้ว” เขาเลิกคิ้ว มองผมด้วยสายตาท้าทาย

ผมระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “ใช่ คนคนนั้นก็คือนาย”

“ทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตานะว่ามั้ย?”

“อ่าฮะ” ผมพยักหน้ารับ “แต่เรื่องที่ฉันอยากฟัดนายเนี่ย เป็นความต้องการของฉันล้วนๆ”

เจย์เดนหัวเราะขลุกขลักอยู่ในลำคอเมื่อผมจูบเขาอีกครั้ง ปลายลิ้นเราเกี่ยวรัดหยอกล้อกัน ผมสอดมือข้างหนึ่งลูบไล้แผ่นอกของเขา สะกิดปลายนิ้วกับยอดอก อีกมือสอดไปด้านหลัง แทรกเรียวนิ้วผ่านขอบกางเกงลงไปจนถึงก้นแน่นๆ น่าฟัด

“เฮ้ ตรงนี้เลยเหรอ?”

ประโยคอันแสนคุ้นเคย แม้ว่าจะเคยได้ยินมันเมื่อนานมาแล้ว แต่ราวกับผมเพิ่งได้ยินมันไปเมื่อวาน

“เพราะเป็นนาย ที่ไหนฉันก็อยากจะขย้ำนายทั้งนั้น”

เจย์เดนหัวเราะลั่น เขากุมต้นคอผมแน่น กระตุกมือทีเดียวศีรษะของผมก็ถูกกดแนบไปที่แผ่นอกของเขา...ผิวเนื้อที่ต้นคอถูกลูบไล้แผ่วเบา เพราะว่าผมใส่เสื้อกล้าม จึงมองเห็นชื่อของเจย์เดนที่อยู่ตรงต้นคอของผมชัดเจน

“ชื่อของฉันบนตัวนาย เหมือนการตีตราจองเป็นเจ้าของเลยนะว่ามั้ย?”

ผมขืนใบหน้าออกเล็กน้อยเพื่อเงยขึ้นสบตาเขา สองมือเลื่อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่อีกฝ่ายใส่อยู่ จนเผยให้เห็นแผงอกขาว และเมื่อผมปัดเสื้อออกไปด้านข้าง ผมก็ได้เห็นชื่อของผมบนตัวเขาเช่นกัน

“ใช่ เป็นการตีตราจองที่พระเจ้าทำให้เรา”

“ตอนที่ฉันเห็นชื่อของนายปรากฏขึ้นมา ฉันก็คิดแล้วว่าจะไม่มีวันให้ใครเห็นมันเด็ดขาด โดยเฉพาะนาย มันจะเป็นความลับบนตัวฉัน แค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้”

“แต่สุดท้ายฉันก็รู้จนได้” ผมหัวเราะขึ้นจมูก

“แล้วนายล่ะ รู้ตอนไหนว่ามีชื่อฉันอยู่บนตัวนาย” เขาย้อนถาม

ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ “ความลับครับ”

ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเมื่อเจย์เดนฝังเขี้ยวลงบนต้นคอของผม ไม่ต้องเดาก็รู้ได้เลยว่าตัวอักษรที่เป็นชื่อของเขาต้องมีรอยฟันประทับลงให้เห็นเด่นชัดแน่นอน ดูท่าเขาคงจะมันเขี้ยวกับคำตอบของผมน่าดู

กล้ากัดผมงั้นเหรอ? :)

ผมงับลงไปที่ชื่อของผมเช่นกัน โซลเมตของผมสะดุ้งเล็กน้อย หลุดเสียงครางออกมาเบาๆ แต่กลับกระตุ้นให้ผมร้อนไปทั้งตัวราวกับโดนไฟสุม

เขาจะรู้บ้างไหมว่าแค่เสียงแหบพร่าของเขาก็ทำให้ผมแข็งได้แล้ว

เรานัวเนียกันอยู่ตรงนั้นอีกพักใหญ่ ไม่สนใจว่าใครจะมอง ไม่แคร์ว่าจะมีกี่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ผมเกือบจะควักเอาไอ้หนูออกมาอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเจย์เดนมีความละอายมากกว่าผม เขารั้งมือผมเอาไว้ ตบแก้มผมเบาๆ เป็นเชิงปลอบ ยิ้มขบขันความใจร้อนของผม

“กลับบ้านดีกว่าน่า”

ผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจ คำว่าบ้านไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลังจากที่ผมตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่กับเขา บ้านที่เคยเป็นของเจย์เดนคนเดียว เวลานี้มันคือบ้านของเรา

บ้านที่ผมจะกลับไปนอนทุกคืน และจะตื่นขึ้นมาทุกเช้าบนเตียงเดียวกันกับเขา

“ถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะฟัดนายให้เตียงหัก”

“หลังจากนั้นอย่าลืมรูดบัตรซื้อเตียงใหม่ด้วยแล้วกัน :)


_________________

ตอนจบแล้วนะคะ แต่เราจะยังไม่ร่ำลากันตอนนี้ เพราะนี่ยังไม่ใช่ตอนสุดท้ายที่จะอัพค่ะ คาดว่าน่าจะลงตอนพิเศษอีกสองตอน เป็นของคริสเจย์หนึ่งตอน กับนิคโจอีกหนึ่งตอนค่ะ แต่คงอีกสักพักน้า พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามาให้ต้องไปเคลียร์ก่อนค่ะ ฮือ ส่วนภาคแยกของแคสโคล เรายังไม่ได้เปิดเรื่อง แต่ชื่อเรื่องคือ #ความลับใต้กางเกง ค่ะ ไว้เปิดเรื่องเมื่อไหร่จะเข้ามาแจ้งอีกทีนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 23:36:08 โดย Hazel_nut »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชื่อเรื่องของ #แคสโคลนี่.... แซ่บมาก รอเลยจ้า  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ความลับใต้กางเกง (กรีดร้องแบบไร้เสียง)

ใต้กางเกงใคร แคส? โคล? หรือทั้งคู่ โอมิก่อด

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอตอนพิเศษ  :hao6:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ดีงามอะไรเบอร์นี้

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ย้อนความหลังได้อิโรติกมากพวกเธอ  :hao7:
รออ่านสเปของคุณพี่ชายเลยต่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ขอบคุณค่ะ สนุกมากจริงๆ รอตอนพิเศษนะคะ ส่วนเรื่องต่อไปแค่ชื่อเรื่องก็อยากอ่านแล้ว o18

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
คู่นี้เขาเล่นจ้ำจี้กันตลอดเลย เขินนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Side Story 1

Where can I find him?

[Nikolai x Joshua]

 

[Joshua]



ผมจำได้ว่าตั้งแต่เกิด ผมมีความสุขดีกับครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อกับแม่ เอาเข้าจริงพอนึกย้อนกลับไปผมคิดว่าตอนนั้นมันก็ค่อนข้างดี ควรจะใช้คำนี้มากกว่า เพราะเจฟเฟอร์สัน สมิธทำตัวเป็นพ่อให้ผมได้...ก็แบบว่าค่อนข้างโอเคอยู่ล่ะนะ แต่ก็เย็นชาในเวลาเดียวกันด้วย

หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี ชีวิตของผมก็เริ่มบัดซบขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะให้นับว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน ก็อาจจะเป็นตอนผมอายุสักประมาณสิบสองปีได้มั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด

ช่วงปีนั้นครอบครัวของเราไม่ใช่ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขอีกแล้ว (ก็ถ้าจะเรียกการอยู่ด้วยกันไปวันๆ ว่าความสุขได้น่ะนะ บางทีผมควรจะเรียกมันว่าความสงบสุขมากกว่าล่ะมั้ง) เอาเป็นว่าพ่อเริ่มอารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้น เรียกได้ว่าแค่เห็นหน้าแม่ พ่อก็เอาแต่ด่าทอทุบตีแล้วด้วยซ้ำ

ผมคิดมาตลอดว่ามันเป็นเพราะเหล้า เนื่องจากเขาติดเหล้าอย่างหนัก จนได้มารู้ในภายหลังเพราะดันไปได้ยินเข้าโดยบังเอิญ...พ่อติดยาต่างหาก แถมยังเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่คนหนึ่งของวงการด้านมืดพวกนี้อีกต่างหาก

อย่างกับว่าชีวิตของผมจะบัดซบได้มากกว่าแค่มองแม่โดนทุบตีแทบทุกวันงั้นล่ะ ช่วงหลายปีหลังจากนั้นผมคงจะเสียสมดุลชีวิตไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะวันหนึ่ง...ในปีที่ผมอายุได้สิบห้า พ่อที่กำลังสาดคำด่าทอใส่แม่ ดันเผยเรื่องราวในอดีตของตัวเองออกมาให้ผมได้ยิน

พี่ชาย...ผมมีพี่ชายต่างแม่ด้วยคนหนึ่ง และเขาย้ายออกไปจากบ้านก่อนที่ผมกับแม่จะย้ายเข้ามา ถึงว่าสิ เพราะตอนที่ผมย้ายมาใหม่ๆ ผมพบว่ามันมีของบางชิ้นที่ดูแล้วพ่อไม่น่าจะเป็นเจ้าของได้

อะไรสักอย่างดลใจให้ผมออกตามหาพี่ชายคนเดียวคนนั้น ผมไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน อาจเป็นไอ้เฮงซวยเหมือนพ่อ หรืออาจจะเป็นผู้ชายดีๆ คนหนึ่งก็ได้ ใครจะรู้ล่ะจริงมั้ย? แต่ก็นั่นล่ะ ผมเลือกที่จะเดิมพัน เพราะถ้าผมได้เจอเขา บางทีผมอาจจะหาที่พักพิงทางจิตใจได้บ้าง

บอกตามตรงผมรักแม่นะ แต่แม่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเข้าใจผมสักเท่าไหร่ ผมอยากมีคนที่สามารถคุยด้วยได้อย่างสบายใจ และผมคาดหวังว่าพี่ชายเพียงคนเดียวที่ผมมีจะสามารถเป็นคนคนนั้นให้กับผมได้

สมองของเด็กอายุสิบห้าในตอนนั้นคิดได้แค่ว่าต้องมีที่อยู่ของอีกฝ่าย ผมก็เลยเริ่มรื้อค้นบ้านทั้งหลังเพื่อหาอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเขา ด้วยหวังว่ามันจะยังมีสิ่งของ อาจจะเป็นแผ่นกระดาษ เอกสาร หรืออะไรก็ได้ที่ช่วยบอกผมได้ว่าจะไปหาพี่ชายของผมคนนั้นได้ที่ไหน

หลังจากแทบจะพลิกบ้านทั้งหลังเพื่อค้นหามัน ในที่สุดผมก็เจอ...เป็นเอกสารการสมัครเรียนไฮสกูล มันถูกทิ้งเอาไว้ก้นตู้เสื้อผ้าในห้องที่ผมคิดว่าน่าจะเคยเป็นห้องของเขา แต่ตอนนี้มันถูกใช้เป็นห้องเก็บของไปแล้ว และแม้ว่าสิ่งที่เจอจะไม่ได้ช่วยอะไรผมมากนัก เพราะแน่นอนที่อยู่ที่กรอกไว้ในนั้นเป็นที่อยู่ของบ้านหลังนี้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้รู้ชื่อของเขา พี่ชายของผมมีชื่อว่า ‘เจย์เดน คาร์เตอร์’

หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาตามหาเขาอยู่พักใหญ่ ผมพบว่าเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอีกเมืองไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก ผมไล่ตามข้อมูลที่ได้มาทีละนิดละหน่อยอย่างไม่ยอมแพ้ แต่สี่เดือนผ่านไปผมก็ยังหาเขาไม่พบอยู่ดี ผมมีแค่ชื่อกับหน้าตาของเขาเท่านั้น และมันยากเหลือเกินที่จะตามหาตัวเขา

ในระหว่างที่กำลังสิ้นหวังลงทีละนิด ผมยังคงไปเรียนตามปกติและปิดบังเรื่องที่กำลังตามหาพี่ชายโดยไม่ให้พ่อกับแม่รู้ ในวันหนึ่งเพื่อนของผมก็ชวนผมไปเที่ยวคลับ สถานที่ที่ผมไม่เคยคิดจะไปเหยียบมาก่อน ไม่มช่ว่าผมเป็นเด็กดีหรอกนะ แต่เพราะรู้ว่ามันเข้าไม่ได้ง่ายๆ ต่างหาก และผมก็ขี้เกียจจะหาวิธีเข้าไปด้วย เลยไม่เคยไปสักที

วันนั้นล่ะที่ทำให้ผมได้เจอกับเขา

นิโคไล ริชมอนด์

ผมเข้าไปในคลับได้เพราะความช่วยเหลือจากเพื่อน มันเป็นลูกเศรษฐี เพราะงั้นมันก็เลยปิดคลับเพื่อเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบสิบหกปี และนั่นเลยทำให้ทุกคนที่หมอนั่นเชิญมาได้เข้าคลับ แม้จะอายุไม่ถึงเกณฑ์ก็ตามฃ

แต่การพบกันของผมกับเขาเป็นความบังเอิญ แหงล่ะ ความบังเอิญที่เกิดจากพระเจ้ากำหนด ผมกำลังหมุนมวนบุหรี่เล่น จริงๆ ก็สูบเป็น แต่ไม่มีอารมณ์จะสูบเท่าไหร่ ในหัวเอาแต่คิดว่าจะตามหาเจย์เดนให้เจอได้ยังไง แล้วเขาก็โผล่มา ดึงนิโคตินที่ยังไม่ถูกเผาออกจากมือผม

‘สูบตอนนี้คงไม่ดีมั้ง นายน่าจะรอให้ตัวเองโตกว่านี้อีกหน่อย’

‘ผมไม่ใช่เด็ก’

‘อายุสิบหกฉันถือว่าเด็ก แค่ไอ้ลูกคุณหนูนั่นหาเรื่องปิดคลับเลี้ยงวันเกิดก็เฮงซวยมากพอแล้ว เด็กทุกคนที่มาในวันนี้ก็เฮงซวยไม่ต่างกัน แต่อย่างน้อยฉันก็อยากให้นายเป็นหนึ่งในเด็กดี’

สารภาพตามตรงว่าตอนนั้นผมไม่ค่อยเข้าใจที่เขาพูดนัก แต่ก็อดจะขบขันกับเนื้อความที่เขาเอ่ยออกมาไม่ได้ และสุดท้ายมันก็กลายเป็นว่าผมนั่งคุยกับเขา เมินเฉยต่อการออกไปเต้นบนฟลอร์ หรือหยิบแก้ววิสกี้เดินชนแก้วกับคนทั้งงาน

‘คุณไม่น่าจะเป็นเพื่อนของสเตฟาน’ ผมหมายถึงเจ้าของวันเกิดซึ่งเป็นเพื่อนของผม แต่ถึงจะบอกว่าเพื่อนกัน ผมกับสเตฟานก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายนักหรอก แค่คบกันไว้แบบผิวเผินเท่านั้น

‘แน่นอน ฉันเป็นบอดี้การ์ดน่ะ พ่อของเขาจ้างมา’ เขาโคลงหัว เหมือนกำลังนึกหาคำ ‘ดูแลความเรียบร้อย ก็อะไรแบบนั้นมั้ง’

ผมเลิกคิ้ว ‘คุณเนี่ยนะเป็นบอดี้การ์ด คุณดูเหมือนนักธุรกิจมากกว่าอีก’

‘ที่จริงฉันเป็นเจ้าของบริษัทฝึกบอดี้การ์ด เคยได้ยินมั้ยล่ะ บริษัทริชมอนด์น่ะ?’

‘โอ้ โอ้ให้ตาย จริงเหรอเนี่ย! ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ บริษัทของคุณดังจะตาย ผมเคยเห็นข่าวที่ว่าคนของคุณช่วยไม่ให้นักการเมืองคนหนึ่งโดนลอบสังหารด้วยนี่นา’

‘อ่าฮะ’

‘แล้วทำไมเจ้าของบริษัทอย่างคุณถึงมาเองล่ะ’

‘พ่อของเขาขอมา ค่อนเข้างเอาแต่ใจเลยว่ามั้ย ทั้งพ่อทั้งลูก’ มิสเตอร์ริชมอนด์แค่นหัวเราะ ก่อนจะจิบวิสกี้แล้วพูดต่อ ‘คนพ่ออยากให้แน่ใจว่างานวันนี้จะไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน และเขาไม่ไว้ใจลูกน้องของฉันเท่ากับที่ไว้ใจฉัน ฉันก็เลยต้องมาเอง น่าเบื่อเป็นบ้า’

‘แย่หน่อยนะครับ’

ผมไม่แน่ใจว่าคืนนั้นเราคุยกันไปกี่เรื่อง และคุยกันนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีผมก็ดันโดนไอ้งั่งที่ไหนก็ไม่รู้เซถลาล้มใส่ และมันก็ทำเหล้าหกใส่กางเกงของผมจนเปียกโชกไปหมดด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ไอ้เวรนั่นยังปัดขวดเบียร์กระเด็นจากโต๊ะราดลงบนเสื้อของคุณริชมอนด์จนเปียกไม่ต่างจากผม

‘ไอ้ระยำเอ๊ย! อะไรของแกวะ!’

‘เฮ้ๆ ใจเย็น คนเมาน่ะ’ นิโคไลพยายามปลอบให้ผมใจเย็น ทั้งที่เขาเองก็สภาพเลอะเทอะไม่ต่างจากผมนัก เขาโบกมือเรียกชายในชุดสูทที่ผมเห็นว่ายืนอยู่มุมหนึ่งของคลับให้เข้ามาเคลียร์ไอ้ขี้เมาที่ล้มฟุบไม่เป็นท่า ส่วนเขาก็ลุกขึ้นแล้วรั้งต้นแขนของผมให้ยืนตาม ‘ไปกับฉัน ไม่ไกลมีโรงแรม ฉันเช็กอินไว้เผื่อฉุกเฉิน...อย่างเช่นตอนนี้’

ผมไม่ทักท้วง แค่เดินตามเขาไป ทั้งที่ผมไม่ควรจะไว้ใจคนแปลกหน้าที่เพิ่งคุยกันได้ไม่กี่ชั่วโมง แต่ผมก็ดันไว้ใจเขา ยอมตามเขาไปจนถึงโรงแรมที่ว่า

เขาให้ผมเข้าไปอาบน้ำ และบอกว่าจะให้คนของเขาไปหาเสื้อผ้ามาให้ใหม่ แน่นอนว่าผมไม่คัดค้าน ไม่เกรงใจด้วยเพราะผมอยากเปลี่ยนชุด ใครจะไปใส่เสื้อผ้าที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์กับกลิ่นบุหรี่ติดเต็มไปหมดได้ไหวกันล่ะ

แต่ใครจะไปคิดว่าการถอดเสื้อผ้าอาบน้ำล้างกลิ่นเหล้า จะทำให้ผมได้พบกับเรื่องไม่คาดฝัน

ตัวอักษรสวยงาม ปรากฏขึ้นบนต้นขาของผมในแนวนอน หางของตัวไอตวัดไปทางหัวเข่า และชื่อที่โผล่ขึ้นมาบนนั้นคือชื่อของคนที่พาผมมาที่นี่

Nikolai

โอ้พระเจ้า วินาทีนั้นผมได้แต่ตกตะลึง และคิดว่าคนอย่างนิโคไล ริชมอนด์เนี่ยนะ เป็นโซลเมตของผม!

ทุกอย่างสับสนขึ้นกว่าเดิม เมื่อจู่ๆ มิสเตอร์ริชมอนด์ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำ เขาถอดเสื้อออกไปแล้ว นั่นเลยทำให้ผมได้เห็น...ตัวอักษรที่ฝังลึกอยู่บนหน้าท้องของเขา

‘นาย...ชื่อโจชัวสินะ’

เอาล่ะ นั่นคือข้อสรุปว่าผมกับเขา...เป็นโซลเมตกันจริงๆ

 

ความสัมพันธ์ของเรานับจากวันนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างพูดยาก ผมไม่ได้ยินดียินร้ายกับการเจอโซลเมตนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีนิโคไลเข้ามาในชีวิตทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้น อย่างน้อยในเวลาที่รอบตัวผมมีแต่เรื่องเฮงซวย ผมก็ยังคุยกับเขาได้ เข้าก้าวเท้าเข้ามาในโลกของผมมากขึ้นเรื่อยๆ

ในวันหนึ่งเรานัดกันออกมากินข้าวเย็น และผมเอ่ยระบายความในใจเกี่ยวกับการตามหาพี่ชายคนเดียวที่ผมมีให้เขาฟังเป็นรอบที่ล้าน ด้วยความท้อแท้สิ้นหวัง ด้วยการยอมแพ้แล้วต่อความพยายามตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

นิโคไลแค่ฟังผมเงียบๆ จนกระทั่งผมพูดจบ เขาถึงจะพูดออกมาบ้าง

‘การจะหาเขามันก็ไม่ยากหรอกนะ’

‘ยังไง? คุณก็เห็นว่าผมทำได้แค่นี้ ผมไม่มีอำนาจเหมือนคุณนี่ ที่แค่จ้างนักสืบไปหาข้อมูลก็ได้มาแล้ว’

‘รู้ได้ยังไงว่าฉันจ้างนักสืบ’ เขาถามขึ้น สีหน้าติดจะขบขันแกมชอบใจ

ผมแค่นหัวเราะ จิ้มสเต็กเข้าปากเคี้ยวอย่างหงุดหงิด ‘คุณรวย คนรวยจ้างนักสืบได้ไม่ยากหรอก’

‘อ่าฮะ’

‘แต่ผมทำไม่ได้ไง ผมไม่มีเงินมากพอจะไปจ้างนักสิบ คุณก็รู้’

‘เพราะแบบนั้นฉันถึงได้บอกว่ามันไม่ยากสำหรับนายหรอก’

‘อะไรของ...’

‘เพราะถ้านายทำไม่ได้ ก็ให้โซลเมตของนายทำให้แทนไง’

เป็นเวลาหลายนาทีนับจากที่เขากล่าวจบ กว่าที่ผมจะเข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาบอก...ผมเบิกตากว้าง จ้องมองเขาด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นรัวแรง

‘คุณสืบให้ผมเหรอ!?’

‘จะว่างั้นก็ได้’ เขาไหวไหล่ ‘และตอนนี้ฉันก็รู้แล้วด้วยว่าพี่ชายของนายอยู่ที่ไหน’

‘โอ้พระเจ้า’ ผมสูดหายใจเข้าลึก ร่างกายของผมสั่นระริก ไม่ใช่เพราะหนาวหรือกลัว แต่ผมกำลังตื่นเต้นจนทนไม่ไหว สบดวงตาคู่คมกริบของโซลเมต แล้วเอ่ยถามด้วยความลุ้นระทึก ‘ผมจะหาเขาเจอได้ที่ไหน’

นิโคไล ริชมอนด์ยิ้ม แล้วเอ่ยสถานที่ที่ทำให้ผมอยากจะพุ่งตัวไปที่นั่นในทันทีทันใด แต่เขาก็ห้ามเอาไว้ และบอกว่าให้ไปวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้แทน เพราะเขาได้ข้อมูลมาว่าช่วงนี้เจย์เดนไปต่างเมือง กว่าจะกลับก็คืนวันเสาร์ ไปหาเขาวันอาทิตย์มีสิทธิ์เจอมากกว่า

 

จากความช่วยเหลือครั้งนั้น ทำให้ผมได้พบกับพี่ชายต่างแม่ และการได้เจอเจย์เดนก็เหมือนได้เจอที่ที่เป็นของผมอีกที่หนึ่ง ผมมีสถานที่ที่ทำให้อุ่นใจถึงสองที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน

ที่หนึ่งคือเจย์เดน เขาเป็นพี่ชายที่ดี...ดีจนผมไม่คิดเลยว่าคนที่ผ่านเรื่องราวระยำบัดซบมาตั้งแต่เด็กอย่างเขาจะเป็นคนดีได้ถึงขนาดนี้ บาดแผลของเจย์ร้ายแรงกว่าผมมาก แต่เขาก็ยังกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับมันและดำรงชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้อย่างมีความสุข

ส่วนอีกที่หนึ่งก็คือนิโคไล เขาเป็นโซลเมตที่ทำให้ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้มาพบกัน ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ารักเขาตอนไหน ผมรู้แต่ว่าจากทั้งหมดที่เขาทำให้ผม และทั้งหมดที่เขาแสดงออกกับผม มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็ม เขาทำให้ผมไว้ใจ และไม่อยากจะเสียเขาไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

เราใกล้ชิดสนิทสนมกันอย่างลึกซึ้งในเวลาต่อมา ที่จริงนิโคไลคงไม่กล้าทำอะไรผมหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะผมร้องขอเอง อย่างที่บอก...ผมก็แค่ไว้ใจเขา และความอยากรู้อยากลองด้วยล่ะมั้งที่ทำให้ผมยอมทิ้งตัวอยู่ใต้ร่างกายกำยำของอีกฝ่าย ยอมให้เขาโถมกายเข้ามาในตัวผม

ผมยังจำบทสนาทนาหลังจากเซ็กซ์ครั้งแรกของเราผ่านพ้นไปได้อยู่เลย

‘ฉันจะโดนจับเข้าคุกมั้ย?’

‘ทำไมถามแบบนั้น?’

‘ก็ฉันเพิ่งจะทำมิดีมิร้ายเด็กอายุสิบเจ็ดไปเองนะ’

ผมหลุดหัวเราะดังลั่น รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่ค่อยเป็นบ่อยหนัก ผมพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง เลื่อนสายตาไปมองหน้าท้องของอีกฝ่าย ใต้ชายโครงด้านขวา ตรงตำแหน่งของซิกแพ็กลูกแถวที่สอง ชื่อของผมเด่นเป็นสง่าราวกับรอยสักที่ไม่มีวันลบออกได้ฝังอยู่ตรงนั้น

Joshua

ผมลูบปลายนิ้วลงบนชื่อของตัวเองที่อยู่บนตัวเขา ก่อนเอ่ยถามเรื่องที่ผมคิดว่ามันโคตรงี่เง่าเลยที่ถามออกมา แต่ผมก็ยังอยากรู้คำตอบของมันอยู่ดี

‘คุณคิดยังไงกับผมเหรอนิค’

‘...’

‘ที่คุณช่วยเหลือผม ทำดีกับผม คุณทำเพราะเห็นว่าผมเป้นโซลเมตของคุณ ทำเพราะเอ็นดูเด็กอายุสิบเจ็ดหน้าโง่คนหนึ่งเพราะสงสาร หรือทำเพราะเหตุผลอื่น’ ผมวกกลับขึ้นไปสบตาอีกฝ่าย ‘ทั้งหมดที่ผ่านมาเกือบสองปี คุณคิดยังไงกับผมเหรอครับ’

‘รู้อะไรมั้ย พระเจ้ากำหนดให้เราเกิดมาเป็นโซลเมตกัน ฉะนั้น พระองค์ก็คงจะรู้ล่วงหน้าว่าใครที่เกิดมาเพื่อจะรักกัน และฉันคิดว่าระหว่างฉันกับนาย...คือความรัก’

‘..!’

‘ทั้งหมดที่ฉันทำเพื่อนาย ก็เพราะฉันรักนายไงไอ้หนู’

ผมโถมตัวกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น ซบหน้าผากลงกับแผ่นอกของเขา และได้แต่กระซิบตอบกลับไปด้วยถ้อยคำเดียวกัน

‘ผมก็รักคุณครับนิค’

 

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของผมกับนิโคไล

ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้พบเขา แต่ก็อาจจจะยกเว้นเรื่อง ‘ห้องของเล่น’ ของเขานิดหน่อยนะ เพราะผมล่ะโคตรเกลียดไอ้ห้องนั้น แม้ว่ามันจะสร้างสีสันให้กับการเมกเลิฟของเราในบางครั้ง แต่เวลาที่เขาเอามาใช้ลงโทษผมน่ะ เป็นอะไรที่โคตรเฮงซวยเลย

ให้ตายเถอะพระเจ้า มอบโซลเมตให้ผมทั้งที ทำไมต้องเป็นผู้ชายที่ชื่นชอบการเล่นเซ็กซ์ทอยด้วย!


______________

ได้อัพตอนพิเศษสักที แง บอกไว้ว่าจะมีสองตอนใช่ไหมคะ แต่ไปๆ มาๆ มันก็งอกขึ้นน่ะค่ะ กลายเป็นว่าเราจะลง side story ของคู่นิคโจราวๆ สามตอนนะคะ ส่วนตอนพิเศษคริสเจย์คงไม่มีลงเว็บ แต่มีในเล่มแน่นอน ก็ถ้าได้ตีพิมพ์นะคะ 555 คือพล็อตอะ บก. บอกว่าผ่านแล้วค่ะ แต่ต้นฉบับไม่รู้จะผ่านไหม ฮ่าาา และถ้าได้ตีพิมพ์ก็อยากให้ทุกคนติดตามข่าวคราวอัปเดตได้จากเพจของเรา Hazel Nut หรือทวิตเตอร์ @phzn713 นะคะ...ส่วนตอนหน้า ห้องของเล่นกับบทลงโทษต้องมาแล้วอะ น้องทำอะไรผิดกันน้าา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 23:38:15 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ให้ความแซ่บแค่ยำวุ้นเส้น ตอนหน้าขอแบบต้มยำน้ำข้นนะจ๊ะ  :hao3:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
น้องงงงงงงงงง
โจชัวนี่แซ่บกว่าพี่ชายไปไกล

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
คนพี่ว่าแซ่บแล้ว คนน้องนำไปไกลละจ้าาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักและแซบ555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 o13 o13 นั่งรอในห้องนั่งเล่นนะ o18

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เราอยากรู้จักห้องนั้น

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก็นึกๆอยู่ว่าจาเร็ต ต้องมาหาที่รพ.แน่ๆ   :z3:
ก็คริสเตียนถูกยิง ก็ต้องมารักษาตัวที่รพ.น่ะสิ   :hao3:
หรือนี่เป็นแผนหลอกให้นรกสองคนนี่มาที่รพ.  :m16:
เพราะคริสเตียนอาการเริ่มดีแล้ว  แต่ทำไมต้องพักที่รพ.ต่อ

คริสเตียน  เจย์เดน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ว้าววว จบแบบสวยงามมากค่ะ
ย้อนกลับไปตอนที่เจอกันครั้งแรก จนมาถึงตอนนี้
รักแบบไม่รู้ตัว ผูกพันแบบไม่บอกกล่าว
จนมารักแบบเปิดเผย แสดงออกให้รู้ และไม่ทิ้งไปไหน
ส่งท้ายได้หวานแหววมาก หลังจากที่เจย์เดนไม่ค่อยอินกับความรัก
แต่ก็ยังเป็นคนมองโลกค่อนข้างบวก
คริสเตียนมาแบบนุ่มนวล และแซบในเวลาเดียวกัน

5555 เอ็นดูโจชัว สงสัยจะโดนลงโทษบ่อยแน่เลย
โจชัวพยายามมากเลยค่ะที่ตามหาเจย์เดน
โชคดีที่เจอนิคและตามหาเจย์เดนเจอ

แฮปปี้ทั้งพี่ทั้งน้องแล้วนะ แถมมีคนดูแลดีมากด้วย
ไม่ต้องทนเหงา ทนเศร้ากันต่อไปแล้วเนาะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด