เด็กมันร้าย
น่ารัก เห็นครั้งแรกใจก็สั่นเป็นจังหวะเพลง pretty boy ของ m2m ที่พี่สาวเขาชอบเลย ตั้งแต่เกิดและโตมาก็เห็นแต่หน้าเพื่อนอนุบาลสองทับสามห้องทานตะวันหัวเกรียนน้ำมูกไหลข้าง ๆ บ้านมาตลอด โตขึ้นมาอายุเท่ากันหน่อยแทนที่เลิกน้ำมูกย้อยก็แล้วก็ดันมาสิวเขรอะแทน
บอกตรง ๆ ว่าปริณไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีไปกว่าคนบ้านตัวเอง และตัวเขาถึงแม้ผิวจะดูคล้ำกรำแดดไปหน่อย แต่แม่บอกว่านี่เป็นสีที่ฝั่งฮอลลีวูดชอบ (ตอนนั้นเขาภูมิใจกับมันมากแม้จะไม่รู้ว่าฮอลลีวูดคืออะไรก็ตาม)
แต่วันนี้
ตอนนี้
เวลานี้
คนตรงหน้านี้...
กำลังทำให้เขารู้สึก....
ใจเต้นแรงตุบตุบ ตุบตุบ ตุบตุบ ตุบตุบ“รู้จักกันไว้นะ น้องชื่อน้องเมฆ”
ไอ้เด็กเมฆ หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มหน้ายิ้มเหมือนอาแป๊ะขายไอติมกะทิรถเข็นกรุ้งกริ้งนี่คืออะไร สิ่งมีชีวิตนี้คืออะไร ทำไมเห็นแล้วถึงได้ชวนใจสั่นเป็นจังหวะอะเซเดเฮขนาดนี้ ปริณยกมือทาบที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองเบา ๆ แย่แล้ว ก้อนเนื้อเท่ากำปั้นมันกำลังสั่นเมื่อน้องหน้าขาวเอียงคอมองมาทางเขา และส่งยิ้มพิฆาตระดับสิบมาให้
“สวัสดีฮะ เค้าชื่อเมฆนะ”
สวัสดีฮะ...สวัสดีฮะ ฮะ ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า กลัวใจตัวเองจะเป็นบ้าจัง ทำไมแค่พูดฮะมันถึงได้ฟังดูชวนเอ็นดูแบบนี้นะ
“สวัสดีเมฆ พี่ชื่อปินนะ”
“คับ พี่ปิน!!!!” เด็กนั่นพูดพร้อมยกมือขวามาวันทยาหัตถ์แบบลูกเสือเขาไม่จับมือขวา
ตายห่าแล้ว! ปริณอุทานในใจ ตอนนี้เหมือนมีพัดลมเบอร์สามมาเปิดเป่าหน้าอย่างแรง ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหว แน่นอนว่าผมทรงพี่ ๆ ลิฟท์ ออยที่เขาเพิ่งจะตัดมารับรองว่าได้ปลิวสยายไปด้านหลังจนโชว์เถิกแน่ แต่เพราะไม่ใช่ภาพจริง เขากำลังจินตนาการ เพราะงั้นเขาจึงต้องยกมือขึ้นกระแอมไอ แล้ววางท่าพี่ชายสุดเท่เอาไว้
“อื้อ” เผลอเอื้อมมือไปจับกลุ่มผมนุ่มสลวยตรงหน้านั่นแล้ว อ๊ะ! เผลอขยี้มือลงไปอีก ทำไมผมนุ่มจังเลยน้า น้องเมฆของพี่ ...
“เรามาเป็นเพื่อนกันนะฮะ” น้องบอกพลางส่งยิ้มตาหวานพิฆาตมาให้อีกระลอก “น้องเมฆอยากเป็นเพื่อนกะพี่ปิน”
“อื้อ” แย่แล้ว ! เขาเผลอเลื่อนมือลงไปหยิกแก้มนุ่มนิ่มนั่นแล้วจับส่ายไปมาแรง ๆ ซะได้ “ร...เรามาเป็นเพื่อนกัน...”
“งือ...ไม่เอาดีกว่า”
“ห๊ะ”
“น้องเมฆไม่อยากเป็นแค่เพื่อนอะ”
“ห๊ะ”
“น้องเมฆอยากเป็นน้องชายของพี่ปินฮะ”
เฮ้อ! แล้วจะถอนหายใจโล่งปอดทำไมวะเนี่ย ปริณยกมือขึ้นแตะอกตัวเองอีกรอบ โอ้ย ใจยังไม่หายเต้นตุบ ๆ เลย ทำไม ทำไม ทำไม
ตั้งแต่มาเรียนเต้นที่ตึกแมรมมี่ก็มีไอ้ป็อป กับ น้องชายชื่อ ไนท์ ที่หน้าคล้ายเขานี่ล่ะที่คิดว่าหน้าตาดีเข้าขั้น ถัดมาพี่โจ๊ก ที่กำลังจะได้ไปเล่นละครตอนเช้า ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยสนิทกันแล้ว (แม่บอกว่า พี่เค้าจะได้เล่นละครจักรๆ วงศ์ๆ ซึ่งปริณก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ) แต่ที่ทำให้ใจเต้นไม่หยุดได้ขนาดนี้ดูเหมือนจะมีแค่ไอ้ตัวเล็กตรงหน้า...
น้องเมฆของพี่“พี่ปินนนนนน ทำอะไรอะ สอนน้องเมฆเต้นหน่อยได้ไหม”
ปริณกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกเมื่อเงยหน้าขึ้นมาจากกระจกและพบว่าเด็กชายในความคิดตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาปรากฏตัวขึ้นแล้วตรงหน้า ที่ต้องทนคิดถึงเพราะน้องเมฆยังเด็กเกินกว่าที่พ่อแม่จะยอมปล่อยให้ออกมาซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงที่ตึกบ่อยๆอย่างพวกปินและเพื่อน ที่กำลังจะลงประกวดสยามกลการ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ความห่างระหว่างตึกฯกับบ้านมันก็ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับน้องเมฆลดระดับลงไปเลยแม้แต่น้อย
“ได้ ๆ” เรื่องเต้นนี่ขอให้บอก ปริณยื่นมือไปรับซีดีมาจากไอ้ตัวเล็กที่ยืนอมยิ้มหน้าแป๊ะตรงหน้า “เพลงไรอ่ะ แฟนจ๋าหรอ?”
“อื้อ” น้องเมฆทำท่าเดียวกับพี่เบิร์ดในท่อนฮุกให้ดู “เท่มากๆ”
“ว่าแต่เมฆชอบเต้นแล้วหรอ” แต่ถึงจะทำหน้าตาเหมือนอยากเต้นใจจะขาดปริณก็อดสะกิดใจขึ้นมาไม่ได้ “ไหนเมื่ออาทิตย์ก่อนยังบอกว่าอยากร้องเพลงอยู่เลย”
คนตัวเล็กทำปากงุ้ย “ก็พี่ป็อปบอกว่าเสียงผมเหมือนเป็ดโฟว์ซีซั่นตอนโดนน้ำร้อนลวก เขาแนะนำว่าไม่ควรร้องเพลงจนกว่าเสียงจะแตกหนุ่ม”
“ห๊ะ” ปริณขมวดคิ้วทำหน้างง ว่าแต่ไอ้เป็ดโฟว์ซีซั่นนี่มันคืออะไรกันล่ะนั่น
“แต่ว่า ช่างมันฮะ” เจ้าน้องเมฆโบกมือเล็ก ๆ ในระดับสายตา ก่อนจะถลาเข้ามากอดแขนเขาไว้แน่น “สอนน้องเมฆเต้นน้า น้องเมฆอยากเต้นเก่งๆ เหมือนพี่ปินที่ไปเต้นโชว์ในรายการทไวไลค์ โชว์บ้างอ้ะ”
“ก็ได้ๆ” ตอนนี้ปริณแอดว๊านซ์แล้ว เขาสามารถเอื้อมมือไปยีหัวคนตัวเล็กได้โดยไม่เขอะเขินหรือใจเต้นรัวจนบีบหน้าอกเหมือนเมื่อก่อน มือหนานั่นขยี้ลงบนเรือนผมอ่อนนุ่มแรง ๆ ก่อนจะเลื่อนมือลงไปหยิกแก้มพอเป็นพิธี “งั้นลองเต้นกันเลยดีไหม เดี๋ยวหกโมงคุณแม่เราก็มารับแล้วนี่”
“อื้อ!” หน้าตาน้องเมฆดูกระตือรือร้นสุด ๆ “เอาเลย ๆ ๆ สอนเลย ๆ ๆ เปิดเลย ๆ ๆ”
ภาพน้องเมฆลุกขึ้นปรบมือแล้ววิ่งไปรอบ ๆ ห้องซ้อมเต้นมันน่าเอ็นดูซะจนปริณต้องจุดยิ้มออกมาบาง ๆ ดวงตากลมนั่นจะยังเฝ้าดูท่าทางตลก ๆ ของน้องอยู่จนไอ้ตัวเล็กหมดแรงนั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าขาขาว ๆ นั่นดันไปสะดุดเข้ากับขาตัวเองซะก่อน
“โอ้ย!!” น้องเมฆร้องลั่น
ไม่ต้องรอให้พูด ปริณถลาเข้าไปหาตั้งแต่เห็นน้องล้มแล้ว มือหนานวดลงไปเบา ๆ บริเวณข้อเท้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตา “เจ็บตรงไหน เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“หึ” คนตัวเล็กกว่าส่ายหน้าไปมา “ไม่เจ็บฮะ”
“อ....อ๋อ.....เ...หรอ”
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องติดอ่าง ปกติปริณเป็นคนมั่นใจในตัวเองระดับนึงเลยนะ แต่วันนี้ดันติดอ่างขึ้นมาซะได้ เด็กหนุ่มผิวสองสีรู้สึกใจกระตุกขึ้นมาอีกแล้ว นั่น หัวใจของเขากำลังจะเต้นทะลุออกมาจากหน้าอกเป็นจังหวะเพลงแฟนจ๋า ฉันมาแล้วจ๊ะ อยู่นี่แล้วน่ะ เขยิบมาใกล้ๆ แล้ว!!
“พี่...พี่ปินฮะ”
อาจเพราะตอนนี้ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ จึงทำให้ปริณรู้สึกว่ากลืนน้ำลายลงคอได้อย่างลำบาก ก่อนใบหน้าขาว ๆ ของน้องเมฆจะใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา และ...ใกล้จนปลายจมูกของเราแตะกันเบา ๆ ในตอนนี้
“พี่ปิน...น้องเมฆไม่เป็นอะไรแล้วนะ”
“อ..อ๋อ”
ปริณเกลียดตัวเองง่ะ เขาพูดตะกุกตะกักขึ้นมาอีกแล้ว
“พี่ปินฮะ จ้องทำไมเหรอ มีอะไรจะบอกเมฆเหรอ”
เคยแอบแม่ลงมาดูเบญจาคีตาความรักกับพี่สาวด้วยกัน มีตอนนึงที่พระเอกใจเต้นพระเห็นหน้านางเอกใกล้ ๆ เมื่อก่อนปริณไม่เคยเข้าใจเลยนะว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น...
แต่ตอนนี้...ดูเหมือนจะเข้าใจขึ้นมานิด ๆ แล้ว
“เอ่อ....”
“พี่ปินฮะ”
“เอ่อ....”
“???”
“ถ...ถ้า” ปริณเม้มริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะกระพริบตาปริบ ๆ แล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของน้อง “ถ้าหากว่าเมฆโตขึ้นเมฆจะเป็นศิลปินที่ดีใชไหม”
“ใช่สิ” คนตัวเล็กยิ้มตาหยี “เมฆจะฝึกร้องเพลงให้เพราะๆ เมฆจะเป็นคนดีมากๆ”
“แล้ว...” ปริณเลียริมฝีปากตัวเอง “ถ้าโตขึ้นเป็นศิลปินที่ดี...”
“...”
“เมฆจะแต่งงานกับพี่ไหม”
“ฮะ?” น้องเมฆขมวดคิ้วเล็ก ๆ นั่นเป็นโบว์แน่น “แต่งงานคืออะไร?”
“แฮะแฮ่ม” ปริณยกมือขึ้นกระแอมไอวางท่า นี่เป็นหน้าที่พี่ที่ดีสินะที่ต้องพูดอธิบายให้น้องฟัง “แต่งงานก็คือ อยู่ด้วยกันกับคนที่แต่งงานด้วยไปตลอด”
“ตลอด? ตลอดไปจนแก่เลยหรอฮะ”
“ใช่...ตลอดไปเลย เหมือนที่พ่อกับแม่น้องเมฆแต่งงานกันไง”
“หรอ” ตอนนี้น้องเมฆเริ่มทำให้เขาเสียความมั่นใจแล้ว ทำไมต้องคิดนานด้วยนะ กับอีแค่จะบอกว่าอยากหรือไม่อยากแต่งกับเขาเนี่ย มันต้องคิดอะไรกันนักกันหนา---
“ก็ได้”
“ห๊ะ”
“น้องเมฆบอกว่าก็ได้ไง”
“...”
“น้องเมฆจะแต่งกับพี่ปิน”
“...”
“กับพี่ปินคนเดียวเท่านั้น”
“พี่ปิน”“ห๊ะ?”
ย้อนกลับมาที่ภาพปัจจุบัน ตอนนี้ปริณกำลังนั่งยอง ๆ ให้ขนมน้องหมาในงานเลี้ยงแต่งงานช่วงเช้าของพี่ปลา พี่สาวของตนเองอยู่ และขณะที่กำลังชื่นชมกับความน่ารักของน้องปอมเปอเรเนียน เสียงฝีเท้าด้วยขายาว ๆ ของใครบางคนก็ก้าวมาหยุดลงตรงหน้า
“เมฆ?” ปริณเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนคิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเป็นโบว์เมื่อคนที่ยืนค้ำหัวอยู่เมื่อครู่ย่อตัวลงมาหา “มาทำอะไรตรงนี้”
“ก็มาหาพี่นั่นแหละ” เมฆาถอนหายใจดังเฮือก “แม่เจี๊ยบบอกให้มาตาม เดี๋ยวต้องเตรียมอาบน้ำแต่งตัวไปโรงแรมกันแล้ว”
เมฆคงจะหมายถึงว่า แม่ของเขาให้มาตามเพราะเดี๋ยวหลังงานแต่งจะต้องรีบไปดูความเรียบร้อยที่โรงแรมต่อเลย และไอ้ที่ให้เมฆมาตามก็ไม่แปลก นับจากนี้ไปเมฆก็มันไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้ว เพราะพี่ฟ้าพี่ชายของเมฆมันแต่งก็กับพี่ปลา พี่สาวของเขาเนี่ยแหละ
“อ๋อ” ปริณพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันกลับไปให้ความสนใจกับน้องหมาผู้แสนน่ารักต่อ “แค่นี้ใช่ไหม เดี๋ยวตามเข้าไป”
“อือ”
คนมาตามตอบเพียงเท่านั้นแล้วเสียงก็เงียบไป
ปริณคิดว่าเมฆาคงจะกลับเข้าไปในงานแล้ว...
จะว่าก็ว่าเถอะ ตั้งแต่คุณเมฆาเขาได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพระเอกซีรี่ย์ชุดซาตานร้อนรัก (พระเอกเรื่อง ‘ซาตานทรนง’ = _=) ที่เป็นละครเฉลิมฉลอง 45 ปี ช่อง 123 ซึ่งฮอตฮิตติดลมบนมาได้สองปี ปริณกับเมฆก็ไม่ค่อยสนิทกันเท่าเดิม
เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งคิดว่าเพราะน้องมันโตขึ้นแล้ว กลายเป็นพระเอกหล่อ ไม่น่ารักเหมือนเก่าเขาเลยไม่สนิทด้วยนะ...อืม....เอ่อ...อันที่จริงก็มีส่วนนิดหน่อยแหละ เพราะน้องมันโตขึ้น หล่อขึ้น แถมสูงชะรูดตูดปอด ล้ำหน้าเขาไปขนาดนั้น คนที่เป็นพี่ก็ต้องมีไม่มั่นใจเวลาอยู่ด้วยบ้างนั่นล่ะ
แต่ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เพราะสาเหตุนั้นสาเหตุเดียว ถ้าจะให้โทษกันจริง ๆ ก็คงจะต้องโทษตัวเองด้วยล่ะ ก็เขาน่ะ หลังจากลงประกวดสยามกลการ บวกกับเล่นละครวัยรุ่นที่ฮอตมากๆไปอีกสองเรื่อง เขาก็หมดไฟกับวงการบันเทิง เลยผันตัวมาศึกษาเรื่องเบื้องหลังแทน นั่นจึงเป็นจังหวะให้ไอ้ป็อปกับไนท์ สองพี่น้องคู่หูดูโอ้ ที่เป็นเด็กฝึกมานานได้มีโอกาสสนิทกับเมฆ ไอ้พวกนั้นน่ะตัวดีเลย พาเมฆเที่ยวเล่น พาไปปาร์ตี้ พารู้จักหนังโป๊ พากันฮาเฮซะจนภาพน้องน้อยที่น่ารักของเขาค่อย ๆ เลือนหายไปจนแทบจำไม่ได้ รู้ตัวอีกที น้องเมฆที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กตอนนี้ก็เหลือเพียงชายหนุ่มวัยกำหนัด หน้าขาว ผมดำ ดูขี้เต๊ะ แถมยังมีสเป็คเป็นสาววิคตอเรียซีเคร็ทอีก
นึกแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาแรง ๆ ใช่สิ ไอ้พี่ปินคนนี้มันไม่มีความหมายแล้วนี่
ใครจะอยากอยู่กับคนที่วัน ๆ เอาแต่อ่านหนังสือ แล้วก็เขียนบทอย่างเขากันล่ะ
ยังไงคนที่กำลังหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวมันก็ต้องอยากอยู่กับเพื่อนที่ปาร์ตี้ด้วยได้อย่างไอ้ป็อป หรือไม่ก็ไอ้ไนท์อยู่แล้ว...
“ถอนหายใจทำไม” แต่ไม่ทันที่จะได้คิดตัดพ้ออะไรต่อ เสียงแหบทุ้มที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเสียก่อน ปริณตาโต รีบหันขวับไปทางด้านหลัง แล้วก็ต้องพบว่าคนที่กำลังคิดถึงยืนค้ำหัวอยู่ตรงที่เดิมไม่ได้กระดิกไปไหนเลย
“ทำไมยังไม่เข้าไป” เขาขมวดคิ้วก่อนจะลุกเต็มความสูง “ยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วหรอ”
“ใช่” เมฆาตอบพร้อมดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ชายหนุ่มตรงหน้าปริณเงียบไปพักหนึ่ง จึงเสหน้าไปทางอื่น แล้วเอ่ยออกมาเสียงแผ่ว “มีเรื่องพูดด้วยน่ะ”
“หือ พูดเรื่องอะไรเหรอ”
ปริณอยากบอกว่าเขาไม่ชินที่จะต้องพูดคุยกับเมฆสองต่อสองอย่างนี้ พวกเราห่างกันมานานมาก นานจนบางทีเล่นเกมจ้องตากันแล้วยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะพูดคุยเรื่องอะไรต่อ ในเมื่อโตขึ้นมาแล้วความคิดความอ่านของเราไปคนละทางกันขนาดนี้
“...”
“เอ้าเงียบทำไ---”
“เมื่อไหร่พี่ปินจะขอผมคบเป็นแฟนซักที” “ห๊ะ?” ปริณกระพริบตาปริบ
“ถามว่า” คนเป็นน้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คุมโทนเข้ม ย้ำเสียงหนัก
“เมื่อไหร่พี่ปินจะขอผมคบเป็นแฟนจริง ๆ จัง ๆซะที” “เดี๋ยว” ปริณยกมือขึ้นในระดับสายตา ก่อนจะลูบหน้าตัวเองลวก ๆ “พูดใหม่ซิ”
แต่คนเป็นน้องไม่ทำอย่างนั้น สาบานได้เลยว่าตอนนี้เมฆาแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว เขาหงุดหงิดมาก หงุดหงิดมากถึงมากที่สุด
ทีแรกตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ไก่มันตื่น แต่พี่ปินของเขาก็ช่างหาเรื่องมาให้หึงเลือดขึ้นหน้าอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ไปทำตัวสนิทสนมกับพระเอกเรื่องที่ตัวเองกำกับด้วย แล้วล่าสุดยังมีผจก.ดาราที่ได้ชื่อว่าเป็นเสือมาเทียวไล้เทียวขื่อหวังจะเคลมตัวเองแล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก
มันเป็นแบบนี้ซ้ำๆ จนเมฆาต้องถามตัวเองว่า ทำไมพี่ปิน
ของเขาถึงซื้อบื้อขนาดนี้วะ! มีใครจะเป็นจะตายอยู่ตรงนี้ทั้งคน ทำไมไม่รู้สึกตัวบ้าง! ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเคยเป็นคนขอเขาแต่งงานเองแท้ ๆ แต่โตมากลับตีตัวออกห่างขึ้นเรื่อย ๆ นี่คืออะไร เมฆาไม่เข้าใจ ?
และในเมื่อพูดกันแล้วทำท่าจะไม่เข้าใจเขาจึงตัดสินใจเอื้อมมือไปรวบเอวสอบนั่นเข้ามาใกล้ ใกล้จนใบหน้าของเราในตอนนี้ ชิดกันเหมือนอย่างวันนั้น... วันที่พี่ปินพูดขอเขาแต่งงาน
เมฆาเล่นเกมจ้องตากับคนในอ้อมกอดพักหนึ่ง จับจ้องที่ไฝใต้ตาข้างขวาของอีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นระหว่างเขาและพี่ชายคนโปรด จึงตัดสินใจโน้มใบหน้ารูปไข่ก้มลงไปใกล้กับสันกรามอันน่าภูมิใจพี่ชายที่รัก ก่อนเอ่ยพูดเสียงเย็น
“จะไม่ขอใช่ไหม...จำไม่ได้แล้วใช่ไหมว่าเคยพูดอะไรกับผมบ้าง”
“ด...เดี๋ยว” พี่ปินพยายามออกแรงดันอกเขาออก แต่เมฆาไม่ยอมหรอก ยิ่งอีกฝ่ายทำอย่างนั้นเขายิ่งกระชับเอวของคนขี้ลืมเข้ามาใกล้ แล้วจงใจลงโทษโดยการจูบฟัดลงบนแก้มสีเรื่อนั่นแรง ๆ “เดี๋ยว เมฆเดี๋ยว!”
“อะไรอีก” เขาผ่อนลมหายใจอย่างนึกรำคาญ “ถ้าจำไม่ได้ก็จะทำให้จำได้อยู่นี่ไง!”
“เดี๋ยวววววววววววววววววววววววเซ่!!”
“อะไรอีกล่ะปิน!!!” และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถลึงตาเมื่อเขาเรียกด้วยชื่อห้วน ๆ จึงยอมทำปากงุ้ยแล้วเรียกใหม่เสียงแผ่ว ๆ “พี่ปิน...”
“นี่หมายความว่าไงเนี่ย” พี่ปินยังคงซื้อบื้อเหมือนเดิม และนั่นทำให้เขาอยากจะบ้าตาย
เมฆาอยากจะบ้าตาย!!!“ก็พี่เคยบอกว่าจะแต่งงานกับผม” คิ้วเรียวสวยนั่นขมวดเข้าหากันแน่น “อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้แล้วอะ”
“...เอ่อ....”
“บอกว่าพี่ปลาแต่งเมื่อไหร่ก็แต่งเมื่อนั้น....แล้วก็นี่ไง วันนี้พี่ปลาแต่งงาน”
“....”
“จำไม่ได้จริง ๆ หรอ”
“จำไม่ได้” ปริณเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันแน่นเมื่อเห็นความผิดหวังบนสีหน้าของเด็กน้อย เชื่อเหอะว่าชีวิตเขาต่อจากนี้คงอยู่ลำบากแน่ เพราะหมอนั่นมองเขาอย่างคาดโทษก่อนจะพึมพำเสียงเบาออกมา
“....เลย”
“พูดอะไรน่ะ”
“....เง่าเลย”
“เมฆ”
“บอกว่าพี่นี่โคตรงี่เง่าเลย” จนถึงตอนนี้มือเรียวนั่นก็ยังไม่เลิกรัดแน่นที่เอวของเขา ปริณถลึงตาโตใส่น้องชายคน(เคย)โปรดที่สบถคำหยาบคายถึงรุ่นพี่อย่างเขา “งี่เง่า สุด ๆ งี่เง่าโคตรๆ”
“ไอ้เมฆ!”
“อะไรเล่า! ไม่ต้องมาทำหน้าตาดุเลย เวรเถอะ คนอื่นเค้ารอมาตั้งนานแท้ ๆ รอให้มาขอคบ รอให้มาขอแต่งงาน...แล้วอะไร พูดเองแล้วก็ลืมเองนี่อะไร”
“...”
“หรือว่าโตมาแล้วไม่น่ารัก ไม่ได้ดั่งใจใช่ไหม เลยไม่สนใจกันแล้ว!”
“...”
“ไม่รู้ล่ะ” เกือบจะสงสารแล้วเชียว ไอ้ปินเกือบจะตกหลุมพราง สงสารไอ้หน้าหล่อนี่แล้วเชียว ถ้าไม่ติดว่ามันไม่เงยหน้าขึ้นมาทำตาเจ้าเล่ห์ใส่แบบนั้น
“ไม่รู้อะ...ไร”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่ขอคบกันวันนี้ ไม่ขอแต่งงานวันนี้ก็ข้ามกันไปเลยดีไหม”
“...”
“ผมจะจับพี่ปล้ำ! ปล้ำแม่งเลย ข้ามขั้นไปให้หมด ไม่คบก็ไม่ต้องคบแล้ว ถอดเสื้อผ้าออกมาเดี๋ยวนี้ ผมจะทำให้พี่เป็นของผมเดี๋ยวนี้เลย!!!”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” และแล้ววันนั้นในงานแต่งช่วงเย็นของของพี่สาวผู้กำกับดังซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้พระเอกสุดฮอต ก็ไม่มีใครเห็นเขาสองคนไปพักใหญ่ ๆ ซึ่งคนอื่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกนี้หายไปทำอะไรที่ไหนกันแน่
เอาเป็นว่าถ้าจะใต้เตียงดารา ก็มีแค่สองคนนั้นเท่านั้นล่ะที่รู้
ถ้าอยากรู้ก็ลองไปถามเขาดูสิ _________________________________
จบเหอะ ฮา แปลงมาอีกแล้วอ่ะค่ะ คือเหมือนเดิมแหละไม่ได้เขียนฟิคแล้วแต่ก้ไม่ใช่ไม่อยากให้คนอื่นอ่าน แบบเสียดายอะ T_T อ่านเอาฮาๆนะคะ ขำๆ แหะๆ เป็นผลพวงมาจากการ ชอบรุกเด็กๆอะ มันแบบว่ากรุบๆ กรอบๆ
เรื่องนี้ใครเกิดยุค 90 น่าจะเดาได้อะ ว่า ป็อปเป็นใครไนท์เป็นใคร มีลิฟท์กะออยด้วยเด้อ 555
ติดแท็ก #แฟนเด็กมันร้าย ไว้ได้น้า เดี๋ยวเค้าไปส่องง