► วันเปี่ยมรัก・*:.✿.:*・ by aoikyosuke 【หน้า 12 ตอนที่ 28】up 15/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ► วันเปี่ยมรัก・*:.✿.:*・ by aoikyosuke 【หน้า 12 ตอนที่ 28】up 15/02/2019  (อ่าน 56839 ครั้ง)

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
งืออออ น่ารักกก

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
น่ารักกกกกก

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
วันเปี่ยมรัก.12

“ลอดช่องสิงคโปร์ก็ต้องไปกินที่สิงคโปร์สิ ถ้ากินที่ไทยก็ต้องเรียกว่าลอดช่องไทย”

ประโยชน์ของการเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้คืออะไร

“มันเป็นชื่อไง เป็นชื่อเฉย ๆ”

“ก็นั่นแหละ เป็นชื่อก็เป็นชื่อ งั้นก็ต้องเรียกว่าลอดช่องไทย”

“เรารำคาญแล้วนะผู้ใหญ่”

“เนี่ยเราเห็นด้วยกับวันดีกว่าเนอะ ลอดช่องสิงคโปร์กินที่ไทยไม่จำเป็นต้องชื่อลอดช่องไทยก็ได้เนอะ”

ทั้งที่ยกเหตุผลมาอ้างได้ตลอด เถียงกันไปเถียงกันมาอยู่พักใหญ่ พอเริ่มโมโห ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยอมอ่อนข้อให้ง่าย ๆ และยังยิ้มหน้าระรื่นเหมือนที่ยกเหตุผลมาทั้งหมดก็เพื่อจะได้ต่อปากต่อคำกับคนที่เริ่มหน้าบึ้งและแสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า

“ไม่เนอะ”

“อ้าว ไม่เนอะอีก เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงนะเรา”

แกล้งแซวเล่น ๆ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ใช้หลอดคนลอดช่องที่อยู่ในแก้วไปมาและมองหน้าของศิวัฒน์แบบยิ้ม ๆ
 
“กินก็กินแล้ว จะไปได้หรือยัง”

“เดี๋ยวก่อนสิ”

“ยังจะเดี๋ยวอะไรอีก ฟ้าร้องเห็นมั้ย ฝนจะตกแล้ว”

“แต่เรายังกินไม่หมดเลยนะวัน”

นี่มันข้อต่อรองบ้าบออะไรกัน ลอดช่องที่อยู่ในแก้วก็สามารถถือไปกินที่ไหนก็ได้ไม่ใช่หรือไง

“ผู้ใหญ่!”

เพราะเห็นว่าเริ่มขึ้นเสียงแล้ว คนที่ยังหาเรื่องจะกินขนมหวานต่อก็เลยต้องหยุดต่อรองและลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปสั่งขนมที่แม่ค้า

“ตักขนมหวานใส่ถุงแยกน้ำแข็งให้หน่อย เอาสามถุงนะ”

หยิบเงินในกระเป๋าเสื้อมานับส่งให้ และแม่ค้าขนมหวานก็ส่งยิ้มหวานให้กับผู้ใหญ่เปี่ยมที่นาน ๆ จะได้เจอหน้ากัน

“แถมให้จ่ะ”

“แถมทำไม ของซื้อของขาย”

ไม่ใช่แค่ขนมหวานสามถุงแต่เป็นห้าถุง และผู้ใหญ่เปี่ยมก็เตรียมจะหยิบเงินเพิ่มให้ แต่ก็ยังถูกยัดเยียดถุงขนมให้โดยที่แม่ค้าไม่ยอมรับเงิน

“นาน ๆ พี่ผู้ใหญ่เปี่ยมจะมากินขนม”

“ไม่ดีมั้ง เอาไว้เถอะ”

“ไม่เอาจริง ๆ จ่ะ วันนี้ผู้ใหญ่มาช้าบัวลอยก็เลยหมด พรุ่งนี้จะเก็บไว้ให้นะจ๊ะ พรุ่งนี้จะยำลูกชิ้นด้วย ถ้าอยากให้ค่าขนมงั้นพรุ่งนี้พี่ผู้ใหญ่ก็ค่อยแวะมาอีกรอบนะจ๊ะ”

เรื่องแค่นี้ดูออกไม่ยาก ว่าแม่ค้าหมายความว่ายังไง และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้และยังพูดแบบเดิม ๆ
 
“เกรงใจจริง ๆ”

“อย่าเกรงใจเลยจ่ะ คนกันเองทั้งนั้น”

ต่างฝ่ายต่างส่งยิ้มให้กันไปมา ดูแล้วน่าหมั่นไส้จนทำให้คนที่นั่งอยู่ต้องมองตามและเบะหน้า
 
...บอกว่าอยากมากินบัวลอย ที่แท้จะมาจีบแม่ค้าบัวลอยมากกว่า เรื่องอยากกินบัวลอยก็แค่ข้ออ้างแค่นั้นเอง...

+++

ผู้ใหญ่เปี่ยมรับขนมหวานที่อยู่ในถุงแล้วเดินมาที่รถมอเตอร์ไซค์โดยมีศิวัฒน์เดินตามมาด้วยก่อนจะขึ้นมาซ้อนท้าย รถมอเตอร์ไซค์ถูกขี่ลัดเลาะไปตามถนนลาดยางที่มองไปสองข้างทางมีแค่ต้นไม้และทุ่งนามืด ๆ มีเพียงแค่แสงไฟจากเสาไฟของหมู่บ้านพอให้เห็นทางได้บ้าง

“ที่บอกว่าหิวนี่ข้ออ้างใช่มั้ย ที่จริงจะมาจีบแม่ค้าก็บอกมาตรง ๆ”

“น่ะ อยู่ดี ๆ ก็มากล่าวหาเราอีก”

“กล่าวหาอะไร ก็เห็นอยู่ชัด ๆ”

“วันเห็นอะไร”

“ก็เห็นแม่ค้าขนมกับผู้ใหญ่ส่งสายตาให้กันหวานหยาดเยิ้มเลย”

“บ้าแล้ว เรายังไม่ได้ส่งตาหวานหยาดเยิ้มอะไรเลย”

คิดว่าคนอื่นตาบอดหูหนวกหรือไง ถึงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่มีใครเห็น แต่ก็เท่านั้นพูดกับคนอย่างผู้ใหญ่เปี่ยมที่มีสารพัดข้อแก้ตัวในการหาเหตุผลมาสนับสนุนเพื่อจะไม่ยอมรับ พูดไปก็หงุดหงิดใจเสียเวลาเปล่า

“ขี้เกียจจะเถียงด้วย”

“ไม่สิ ไม่ใช่เถียงด้วย วันต้องบอกก่อนว่าเราไปทำตาหวานใส่แม่ค้าตอนไหน เพราะเราก็บอกอยู่ว่าเราไม่ได้ทำ”

“ผู้ใหญ่เลิกพูดได้มั้ย เราไม่ได้อะไรแล้ว จะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของผู้ใหญ่เถอะ รำคาญขี้เกียจพูด”

ทั้งที่ย้ำไปแล้วว่าไม่อยากยุ่ง แต่ดูเหมือนผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ยอมเลิกรา ยังจะพูดเรื่องน่าปวดหัวซ้ำ ๆ ว่าไม่ได้ทำตาหวานใส่แม่ค้าอยู่อีก ทั้งที่ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าทำ

“วันไม่มีเหตุผลเลยนะ”

“อะไรของผู้ใหญ่เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องของเรา จะทำอะไรก็เรื่องของผู้ใหญ่สิ ทำไมต้องมาว่าเราไม่มีเหตุผลด้วย”

“ก็วันไม่มีเหตุผลจริง ๆ มาหาว่าเราทำตาหวานใส่แม่ค้าได้ยังไง”

“โว้ย รำคาญ ผู้ใหญ่เลิกพูดไปเลย”

โดนต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้รู้ว่ากำลังรำคาญใจอย่างที่พูดจริง ๆ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ไม่ได้เถียงด้วยอีก ฝนเม็ดเล็ก ๆ เริ่มหยดลงที่ใบหน้าและศิวัฒน์ก็กระพริบตาและยกมือขึ้นเช็ดหยดน้ำฝน

“บอกให้รีบกลับ เป็นไงฝนตกแล้วเห็นมั้ย”

หลังจากที่พูดประโยคนั้นจบ ฝนที่หยดลงมาแค่เม็ดแรก ก็เริ่มลงเม็ดหนักขึ้น

“แวะข้างทางตรงศาลาก่อน”

“ไม่เอา ไม่แวะ เราจะกลับบ้าน”

“กลับไม่ได้ บอกว่าแวะก่อนไง ฟ้าร้องน่ากลัว ยังไงก็ต้องแวะ”

พอจะมองเห็นทางข้างหน้าที่ไฟติด ๆ ดับ ๆ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็เลี้ยวรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดในศาลา

“หนักเลย”

มองไปที่ฝนที่กำลังตกหนักและเสียงฟ้าร้องและมีประกายจากฟ้าแล่บให้เห็นเป็นพัก ๆ แล้วก็พอเข้าใจสิ่งที่ผู้ใหญ่เปี่ยมบอกได้ไม่ยาก

“กลับตอนนี้อันตราย ที่นี่มีนะคนไปนาแล้วโดนฟ้าผ่าตาย”

“แล้วผู้ใหญ่จะพูดทำไม”

“ก็พูดให้รู้ว่ามันอันตรายจริง ๆ”

“จะอันตรายหรือไม่อันตรายก็ช่างเถอะ เปียกหมดแล้วเนี่ย”

ยกแขนกอดอกด้วยความหนาว และทั้งหน้าทั้งตัวก็เปียกไปหมดจนคนที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์นึกเป็นห่วง

“โทษทีพามาเปียก”

“ช่างเถอะ ยังไงก็เปียกแล้ว เราก็แค่กลับบ้านอาบน้ำสระผมแค่นั้น”

ประชดประชันไปเล็กน้อยและผู้ใหญ่เปี่ยมที่กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่โดนเข้าใจผิดมาตลอดตั้งแต่ออกจากร้านขนมหวานก็พูดเรื่องเดิมที่เคยพูดกันไปแล้ว

“เราไม่ได้มาจีบแม่ค้าแล้วก็ไม่ได้ส่งตาหวานให้ด้วยนะ”

“ผู้ใหญ่จะเอาอะไรอีก ทำไมยังจะพูดซ้ำซากเรื่องเดิม”

“ก็วันปรักปรำเราทั้งที่เราไม่ได้ทำแบบนั้นเลยสักนิด”

“แล้วไง ผู้ใหญ่จะเอาอะไรจากเรา เราก็บอกอยู่นี่ไง ว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่เลย จะทำตาหวานหรือไม่ทำตาหวานจะมาจีบแม่ค้าหรือไม่ได้มาจีบมันก็เรื่องของผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องของเรา”

แล้วการเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระที่สุดก็วนกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ผู้ใหญ่เปี่ยมดูจะจริงจังกับการเถียงมากกว่าตอนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากร้านขนมหวาน

“พรุ่งนี้ผู้ใหญ่ก็มาที่ร้านขนมอีกสิ”

“เราไม่มา ทำไมเราต้องมา”

“เหรอ ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่เถอะ”

“ทำไมวันเป็นคนแบบนี้อ่ะ”

“เราเป็นคนแบบไหนล่ะผู้ใหญ่ พูดดี ๆ นะ”

“ก็เป็นคนที่แค่เดินเข้าไปในร้านผัดไททั้งแม่ค้าทั้งคนที่มากินก็มองกันทั้งร้าน วันชอบทำหน้าเฉยไม่สนใจใคร แต่ก็ยังทำให้คนอื่นมองได้ ตอนไปจ่ายเงิน แม่ค้าผัดไทบอกว่า พรุ่งนี้อยากให้เราชวนวันไปกินผัดไทที่ร้านอีก แม่ค้าขายขนมก็กระซิบถามว่าขนมอร่อยมั้ย วันชอบขนมหรือเปล่า”

ผู้ใหญ่เปี่ยมพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกว่าไม่พอใจ แต่ศิวัฒน์งงกับสิ่งที่ได้ยิน

“ผู้ใหญ่พูดบ้าอะไรเนี่ย เราไม่เข้าใจ”

“วันไม่ต้องบอกให้เราไปร้านขนมเลยนะ เราจะไม่ไปกินผัดไทแล้วก็จะไม่ไปร้านขนมอีกแล้ว”

“ก็ไหนบ่นว่าหิว แม่โกรธแล้วไม่ยอมทำอะไรให้กินไม่ใช่เหรอ”

ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ขมวดคิ้วมุ่นและพูดเรื่องที่คิดออกมาทั้งหมด

“เราจะไปขุดเผือกขุดมันกิน เราจะไม่ไปกินอะไรที่ไหนแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยให้ตัวเองหิวตายไปเลย”

“ผู้ใหญ่นี่บ้าแล้วนะ”

ศิวัฒน์ส่ายหน้าเพราะสิ่งที่ได้ยิน ยกหลังมือขึ้นเช็ดหยดน้ำจากฝนที่ไหลจากเส้นผมหยดลงที่ข้างแก้มแล้วก็ขยับมายืนกอดอกในศาลาตอนที่ฝนสาดเข้ามาหา บางทีคงต้องรอให้ฝนซาลงมากกว่านี้ถึงกลับบ้านได้
 
“วันรู้มั้ย”

“ไม่รู้”

รีบตอบกลับทันทีที่ถูกถามและผู้ใหญ่เปี่ยมที่เหมือนกำลังไม่พอใจอยู่ก่อนหน้านี้ก็เริ่มยิ้มออกมาได้แล้ว

“เรายังไม่ได้พูดเลย”

“อือ ก็ใช่ไง ผู้ใหญ่ยังไม่ได้พูด แล้วเราจะไปรู้ได้ยังไง”

จากที่แค่ยิ้มตอนนี้ผู้ใหญ่เปี่ยมหัวเราะออกมาเสียงเบาและมองคนที่ยืนกอดอกอยู่ในศาลาพอมองเห็นหน้ากันได้ลาง ๆ แม้จะไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายว่ากำลังรู้สึกยังไง แต่ก็ทำให้หัวเราะได้แล้ว

“ทำไมตอนเด็ก ๆ เราถึงไม่เล่นด้วยกันนะ”

แล้วเรื่องที่พยายามลืมทั้งหมดก็ปรากฎชัดขึ้นมาในความทรงจำของศิวัฒน์อีกแล้ว

“ก็เพราะเราเป็นไอ้วันเฉลิม ลูกอีลำยองขี้เมาไง”

น้ำเสียงของคนฟังเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นทันทีและผู้ใหญ่เปี่ยมก็นิ่งงันกับสิ่งที่ได้ยิน

“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ”

“แล้วผู้ใหญ่จะให้เราพูดแบบไหนล่ะ”

ไม่รู้จะตอบสิ่งที่อีกฝ่ายถามยังไง และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ทำได้แค่ถอนใจยาว

“เราควรทำยังไงดี วันถึงจะหายโกรธเราลงบ้าง”

“ผู้ใหญ่ไม่ต้องทำยังไงหรอก มันผ่านมานาน เราลืมไปหมดแล้ว”

“ไม่หรอก เรารู้ว่าวันไม่ได้ลืม”

“ใช่ เราไม่ได้ลืม ถึงเราจะพยายามลืมก็เถอะ แต่จริง ๆ คือเราไม่ได้ลืม”

บอกสิ่งที่อยู่ในใจออกไปตรง ๆ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็พยักหน้าเข้าใจสิ่งที่ได้ยินอย่างชัดเจน

“เพราะอย่างนั้น เวลาอยู่กับวันเราถึงอยากเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เราไม่อยากเป็นคนที่โตแล้ว”

“ผู้ใหญ่หมายความว่ายังไง”

ถามออกไปด้วยความสงสัย และไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้ใหญ่เปี่ยมบอก

“อยู่กับวันเราอยากเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เราอยากเป็นแค่เด็กที่จะเป็นเพื่อนกับไอ้วันเฉลิมลูกน้าลำยองที่อยู่ในตัวของวันคนนี้ที่โตแล้วแค่นั้น”

“บ้าหรือไง ผู้ใหญ่คิดได้ยังไง”

ถึงจะโดนต่อว่า แต่มันก็เป็นสิ่งที่คิดและเป็นสิ่งที่พอจะชดเชยให้กับช่วงเวลาที่เคยทำไม่ดีกับเด็กคนนั้นได้

“ที่ทำนี่สงสารเราเหรอ”

“เปล่า เราไม่ได้ทำเพราะสงสาร”

“แล้วผู้ใหญ่ทำแบบนี้ทำไม”

แม้แต่ตัวเองก็ยังตอบไม่ได้ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ได้แต่นิ่งงันเพราะสิ่งที่ถูกถาม บอกไม่ได้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ รู้แค่ว่าต้องทำ และรู้ว่าย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองในช่วงเวลาเก่า ๆ ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการชดเชยให้บ้าง

“เราไม่อยากต้องติดค้างใจเรื่องวันไปจนตาย”

อ่อ เป็นแบบนี้สินะ...

“เรื่องนี้ไม่ยากหรอก ผู้ใหญ่สบายใจได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรเราก็จะยกให้ผู้ใหญ่ทั้งหมด เราจะได้ไม่ต้องมีเรื่องอะไรติดค้างใจกันไปจนตาย”

TBC.

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มาต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยู่ข้างวันนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสาร ผญ. จังเลย พูดอะไรไม่ถูกหูหนูศิเลย  ลองเปลี่ยนซิ จากเรียก "วัน" เป็นเรียก "ศิ" มันคงจะดีขึ้นนะ  :hao4:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ผญ.ก็เลิกเรียก"ศิ"ว่า"วัน"เสียที่สิคะศิวัฒน์จะได้คลายปมในใจบ้าง

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แหม วันเจ้าคิดเจ้าแค้นนะ เลยกลบความคิดทั้งหมด ไม่รู้เลยว่าผู้ใหญ่เข้าหาเพราะมาจีบ
แต่ก็เห็นใจนะ เด็กๆ ถ้าได้จำอะไรแล้วลืมยาก
 :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ทำไมตอบคำถามวันไม่ได้ล่ะ?
นี่คิดมาตลอดว่าจีบ แต่มันไม่ใช่สินะคะ...
แค่ลบล้างความผิดตอนเด็กๆแค่นั้นจริงๆหรอ?
 

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
หนูศิ ผู้ใหญ่ จะลงเอยกันยังไง

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
วันเปี่ยมรัก.13

ศิวัฒน์กำลังพิมพ์ข้อความโต้ตอบกับผู้ใหญ่เปี่ยมที่ส่งข้อความมาหา ตอนแรกคิดจะไม่ตอบและตั้งใจจะไม่อ่านแต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงตัดสินใจเปิดเข้าไปอ่านข้อความและตอบกลับสิ่งที่ผู้ใหญ่เปี่ยมถามมา ตั้งแต่วันที่พูดกันอย่างตรงไปตรงมาวันนั้นก็ไม่ได้เจอกับผู้ใหญ่เปี่ยมอีกเลย คิดว่าจะยอมรามือไม่มายุ่งด้วยแล้วแท้ ๆ แต่อยู่ดี ๆ ก็มีข้อความส่งมาหาในวันหนึ่ง

“พรุ่งนี้ปศุสัตว์จังหวัดจะเข้ามาฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้ที่หมู่บ้าน”

“บอกทำไม ที่บ้านไม่มีหมาแมว”

“เราจะบอกว่าตอนเช้าวันแวะมากินข้าวบ้านเราก็ได้”

อยู่ดี ๆ ก็มาชวนกินข้าวที่บ้านตอนเช้า ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ มองข้อความที่ถูกพิมพ์มาหาก็นึกสงสัยกับสิ่งที่ผู้ใหญ่เปี่ยมบอก

“ทำไมเราต้องไปกินข้าวบ้านผู้ใหญ่ด้วย”

“ก็วันจะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่ใช่เหรอ”

แบบนี้อีกแล้ว ตั้งใจจะกวนประสาทกันอีกแล้วใช่มั้ย จำไม่เห็นได้ว่าเคยคุยกันเรื่องนี้

“ว่าไงนะ ทำไมเราต้องทำแบบนั้นด้วย”

“ก็วันรับปากว่าจะมาไง เราก็อุตส่าห์รอ”

“ผู้ใหญ่จะบ้าหรือไง เราไปรับปากตอนไหน”

ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ และสุดท้ายก็ได้รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

“อ้าว ก็เราถามปู่กับย่าวันแล้ว เขาบอกว่ามาได้”

“แบบนี้อีกแล้วนะผู้ใหญ่”

ได้แต่ส่ายหน้าและถอนใจยาว ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิดใจกับข้อความที่ถูกส่งกลับมา เป็นแบบนี้อีกแล้ว เรื่องโมเมยกให้ผู้ใหญ่เปี่ยมเป็นที่หนึ่ง

“ไม่ได้หรอกเหรอ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เราไปสั่งปลานิลไว้สามตัวว่าจะทอดให้กินพรุ่งนี้เช้า เราไม่ได้คิดอะไรหรอก ก็แค่อยากให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นได้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีหมาบ้าในหมู่บ้าน วันไม่ต้องมาหรอก เราเข้าใจ เรารู้ว่ารบกวนวันบ่อย ๆ”

“ผู้ใหญ่เปี่ยม!”

“จ๋า”

การตอบกลับที่น่าโมโหแบบนั้น ไม่ทำให้รู้สึกดีสักนิด และรู้สึกเหมือนกำลังโดนยั่วโมโหอีกด้วย ศิวัฒน์รีบพิมพ์ข้อความตอบโต้กลับไปอย่างรวดเร็วและรอให้อีกฝ่ายหาข้อแก้ตัวตอบกลับมา

“รู้ตัวมั้ยว่าทำตัวน่าโมโหมาก ผู้ใหญ่นั่นแหละควรโดนฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าก่อนใคร”

ต่อว่าไปตามที่ใจคิด แต่ดูเหมือนผู้ใหญ่เปี่ยมจะไม่สะทกสะท้าน

“วัน ทำไมร้ายอ่ะ”

“หรือไม่จริง”

“ที่วันว่าเราก็จริง เราผิดเองที่อยากให้คนในหมู่บ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี จนรบกวนวัน เราเสียใจมากนะ”

“ผู้ใหญ่เปี่ยม!”

“จ๋า วัน”

พูดไปก็เท่านั้น หงุดหงิดไปก็เท่านั้น เพราะผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยังไม่ละความพยายาม

“เลิกมายุ่งวุ่นวายกับเราได้แล้ว”

“ขอโทษที่รบกวนนะวัน”

หลังข้อความนั้นก็ไม่มีข้อความอะไรส่งมาอีก และศิวัฒน์ไม่รู้ว่าทำไมต้องรอ ทั้งที่เป็นฝ่ายบอกเองว่าไม่ต้องการให้มายุ่งด้วย แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ถูกขอร้องให้ช่วยแล้วก็ทำให้ปล่อยไปไม่ได้เพราะเรื่องที่ผู้ใหญี่เปี่ยมมาขอร้องเป็นเรื่องที่จริงจังและมีประโยชน์กับคนในหมู่บ้าน ทุกคนรวมทั้งบ้านของศิวัฒน์ด้วย

“กี่โมง”

ก็แค่ลองหยั่งเชิง และไม่อยากให้ตัวเองต้องเสียฟอร์ม และวางโทรศัพท์ในมือลงบนโต๊ะและไม่คิดจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอีก แต่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งมาหา

“เริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้า”

ปู่กับย่าก็อยู่ที่นั่นด้วย ถ้าทุกอย่างจะเป็นประโยชน์กับทุกคนบางทีถ้ายอมไปช่วย ก็คงไม่เสียหายถึงแม้จะไม่ชอบผู้ใหญ่เปี่ยมก็เถอะ ครุ่นคิดอยู่เพียงไม่นานและสุดท้ายก็ค่อย ๆ พิมพ์ตัวอักษรลงไปในโทรศัพท์อย่างช้า ๆ ก่อนจะตัดสินใจกดส่งไป

“เออ”

เพียงเท่านี้คนที่รอคอยคำตอบมาพักใหญ่ก็ยิ้มออกทันที และผู้ใหญ่เปี่ยมก็รีบพิมพ์ข้อความตอบกลับ

“กินข้าวกับปลานิลทอดนะ”

“จะทำให้เราโมโหจนตายไปเลยใช่มั้ยถึงจะสบายใจ”

“วันอย่าพูดแบบนั้นสิ ขอบคุณมากเลยนะวัน เนี่ยรบกวนวันตลอดเราก็เกรงใจ งั้นวันก็มากินปลานิลทอดที่บ้านเราตอนเช้านะ”

“เราไม่อยากคุยกับผู้ใหญ่แล้ว”

ถึงจะบอกว่าไม่อยากคุยด้วยแต่ก็คุยมาจนถึงตอนนี้และยอมมาช่วยในวันที่ปศุสัตว์จะเข้ามาฉีดวัคซีนด้วย แค่นี้ก็ทำให้ยิ้มได้แล้ว อยากจะถามว่าหายโกรธกันบ้างหรือยังกับเรื่องวันนั้นที่ทะเลาะกันตอนที่ฝนตก แต่เมื่อคิดดีแล้วการไม่ถามน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าเพราะไม่อยากไปกวนใจให้โมโหอีก

“งั้นฝันดีนะ”

“นี่ผู้ใหญ่เข้าใจที่เราพูดมั้ย”

“เข้าใจสิ”

“เข้าใจว่า?”

“ก็เข้าใจว่ารำคาญ หงุดหงิดไม่อยากคุยกับเรา”

“แล้วยังจะยั่วโมโหด้วยคำพูดพวกนี้อีกเหรอ”

ทำไมถึงคิดว่าการบอกว่าฝันดี เป็นการยั่วโมโห แต่ก็พอเข้าใจได้ คนไม่ชอบหน้ากันไม่ว่าจะพูดอะไรไปก็ทำให้ไม่พอใจอยู่ดี

“เราไม่ได้ยั่วโมโห เราแค่บอกว่า งั้นฝันดีนะ”

“ก็นี่แหละเรียกว่ายั่วโมโห”

“ถ้าความปรารถนาดีของเราทำให้วันโมโห เราขอโทษอีกครั้งนะ อย่าโกรธเราเลย เราไม่อยากให้วันโมโห”

พยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ แต่ดูเหมือนยิ่งอธิบายเราก็เริ่มจะทะเลาะกันอีกแล้วไม่ต่างจากวันนั้น

“ผู้ใหญ่!”

“วัน”

พิมพ์ชื่อของคนที่คุยด้วยเพราะอยากจะให้รับฟังกันบ้างแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมเข้าใจกันบ้างเลย

“อะไร มีอะไรอีก”

“ขอโทษที่ทำให้หงุดหงิดรำคาญใจตลอด แต่ก็อยากบอกโดยไม่มีอคติและอยากบอกด้วยความปรารถนาดีกับวันจากใจจริง”

“จะบอกอะไรอีก”

“ฝันดี”

ไม่ได้กวนประสาทแต่อยากจะบอกแบบนี้จริง ๆ และศิวัฒน์ก็แทบจะจะปาโทรศัพท์ทิ้งเมื่อเห็นข้อความแบบเดิม ๆ ที่ถูกส่งมาหา

“เราเกลียดผู้ใหญ่”

ไม่ว่าจะส่งความรู้สึกดี ๆ ไปให้ขนาดไหนก็ยังถูกมองไม่ดีอยู่ตลอด ในเมื่อไม่ยอมรับฟังกันบ้างก็คงต้องทำแบบนี้
 
“เกลียดเราไปเถอะไม่เป็นไร เราชิน ฝันดีนะวัน เราไปนอนแล้ว จุ๊บ จุ๊บ”

...แบบนี้สิถึงเรื่องว่ากวนตีนของจริง...

+++

“ป้าพรปั่นจักรยานจะไปตลาดนัด วันนั้นแกจะเอาห่อหมกปลาไปขาย ทำมาเต็มตะกร้าเลย แต่หมามันวิ่งมาจากไหนไม่รู้มากัด บ้านป้าศรีแกก็ไม่ค่อยจะมีเลยควักเงินให้ไปห้าร้อยให้ป้าพรไปหาหมอเอง คงโกรธกันแหละแต่ทำยังไงได้คงพูดไม่ออก จะว่าไปเขาก็ญาติ ๆ กัน วันนั้นห่อหมกเลยไม่ได้ขาย แกก็เลยต้องเอามาแจก”

ไม่ได้อยากรับรู้เรื่องของใครเลย  แต่ก็มานั่งฟังผู้ใหญ่เปี่ยมพูดอยู่ที่ศาลากลางของหมู่บ้านหน้าบ้านผู้ใหญ่เปี่ยมแล้ว และถึงจะไม่ยอมกินข้าวเช้าที่ผู้ใหญ่เปี่ยมทำ แต่สุดท้ายก็นั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ดี
 
“กองทัพต้องเดินด้วยท้อง กินอิ่มก็มีแรงทำงานเนอะ”

คนที่นั่งอยู่ข้างกันทั้งพูดและแกะก้างปลาออกเหลือแต่เนื้อปลาไว้ให้และศิวัฒน์ก็มองปลานิลทอดที่มีแต่เนื้อในจานข้าวของตัวเอง

“ไม่ต้องแกะแล้ว แค่ปลาเราแกะเองได้”

“แล้วเราแกะให้จะเป็นไรไป รังเกียจแม้กระทั่งปลาที่เราแกะก้างให้เหรอ”

นี่เรียกว่าชวนทะเลาะด้วยหรือเปล่า
 
“ผู้ใหญ่เห็นเราเป็นเด็กอีกหรือไง”

“ไม่ให้เรามองว่าเป็นเด็กเราก็ไม่ทำแบบนั้นแล้ว แต่ก็ยังต่อว่าเราไม่หยุดอีก กินปลาไปเลยจะได้เลิกว่าเราซะที”

“ผู้ใหญ่!”

ขึ้นเสียงใส่ แล้วก็โดนช้อนที่มีข้าวและมีเนื้อปลาอยู่ด้วยป้อนมาให้เพื่อให้หยุดพูดและศิวัฒน์ก็ดึงมือของผู้ใหญ่เปี่ยมเอาไว้และเอียงหน้าหนี

“ไม่กิน”

“เนี่ย ให้กินก็ไม่กิน งอแงเป็นเด็ก เอาแต่ว่าเราไม่หยุด เอาใจยากจริงนะเราน่ะ แล้วเมื่อไหร่ข้าวจะหมดจานสักที”

โดนบ่นและศิวัฒน์ก็ดึงช้อนมาถือเอง และผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองคนที่ยอมกินข้าวต่อไปเงียบ ๆ และอมยิ้ม

“ทำตัวให้น่ารักหน่อยหนูวัน”

ถูกเรียกด้วยชื่อที่ไม่ชอบและเมื่อเงยหน้าขึ้นเพื่อจะตอบโต้แต่ก็ช้ากว่าผู้ใหญ่เปี่ยมที่ลุกขึ้นเดินหนี

“กินข้าวอยู่นี่แหละ เดี๋ยวเราไปเอาน้ำมาให้ กินข้าวกินน้ำให้เรียบร้อยจะได้มีแรงด่าเราเยอะ ๆ”

ศิวัฒน์ถือช้อนค้างอยู่อย่างนั้น และนึกโมโหที่โดนพูดใส่แบบนั้น โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้เลยต้องตักข้าวในจานที่มีปลานิลแกะก้างแล้วอยู่ในจานกินไปเรื่อย ๆ ลืมไปด้วยซ้ำว่ากินข้าวไปสองจานแล้ว

“จะยอมเห็นแก่ที่แกะก้างปลาออกให้ก็ได้ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะผู้ใหญ่เปี่ยม”

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2018 00:05:06 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ไม่ต้องไปคุยกับมันให้อกแตกตายไปเลย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ผญ. นี่นับวันยิ่งอ่อนลง อ่อนลงนะ จะกลับไปเป็นเด็กหรือไงเนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
วันเถียงเขาไม่ชนะสักอย่าง

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ผู้ใหญ่ตอนเรียน คงได้รางวัลนักพูดที่ดีแน่ๆ
มิน่าละลูกบ้านถึงได้เลือกมา พูดจนวันตามไม่ทัน
ระวังนะวัน วันไหนผู้ใหญ่เงียบๆ ไม่พูดแล้วจะเสียใจ
 :really2: :really2:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ^ ^

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โบราณว่าทะเลาะกันมากๆ ลูกดกนะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ชอบในความตีมึนของผู้ใหญ่มาก 5555

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ศิวัฒน์อย่าไปต่อล้อต่อเถียงกับผญ.เปี่ยมเลยลูกเปลืองใจเลิกคุยไปเลยดูซิผญ.จะเป็นไงมั่ง

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
5555 เอ็นดู เด็กชายฉองคนเขาทะเลาะกัน เหมือนเห็นเด็กชายเปี่ยมดึงแกะเด็กชายวันจอมหน้าบี้ง 5555 น่าร้ากกกกก

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ผู้ใหญ่เข้าทางผู้ใหญ่ อิอิ

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เด็กโตสองคนเขาทะเลาะกัน น่ารัก

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
วันเปี่ยมรัก.14

“วันนี้มีฉีดแค่วัคซีนเหรอผู้ใหญ่”

“วันนี้มีฉีดวัคซีนก่อน ทำหมันหมาแมวเดี๋ยวผมให้ประกาศที่หอกระจายข่าวอีกที”

“ฉีดเสร็จแล้วเอากลับบ้านได้เลยเหรอผู้ใหญ่”

“ได้ ๆ ไม่มีอะไรแล้ว”

ผู้ใหญ่เปี่ยมกำลังตอบคำถามมากมายที่ลูกบ้านสงสัย หน้าที่การแก้ไขปัญหาให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเป็นสิ่งที่ต้องทำและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองไปที่คนที่กำลังแจกป้ายคล้องคอให้กับชาวบ้านที่นำหมาแมวมาฉีดวัคซีนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ผู้ช่วยผู้ใหญ่นี่หล่อเนอะ มาจากกรุงเทพเหรอ”

มีเสียงกระซิบถามเบา ๆ จากลูกบ้าน เป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการฉีดวัคซีนและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองตามคนถาม

“นั่นวันไง หลานย่าแพง จำไม่ได้เหรอ”

“ไอ้วันหลานย่าแพงเหรอ โอ้โห จำแทบไม่ได้ ไม่เคยเห็นนานแล้ว”

“วันนี้มีน้ำใจมาช่วย ขับรถมาจากกรุงเทพเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะเลยนะ”

ชมกันซึ่งหน้าและคนที่อยู่ห่างออกไปก็พอได้ยินคำพูดที่ผู้ใหญ่เปี่ยมโอ้อวดเกินจริง

“หล่อเนอะ โตแล้วหล่อ ตอนเด็ก ๆ เห็นวิ่งเล่นอยู่แถวนี้ เผลอแป๊บเดียวโตแล้ว”

ไม่รู้ว่าจะต้องได้ยินคนพูดถึงเรื่องตัวเองอีกมากแค่ไหน สิ่งที่ทำได้ก็แค่ทำเหมือนไม่ได้ยินและทำหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

“ป้าศรี เพิ่งพาแมวมาฉีดยาไปไม่ใช่เหรอ”

“ก็บ้านป้ามีหลายตัว พามาได้ทีละตัว มันหนักป้าหอบหิ้วไม่ไหว”

“หลายตัวนี่กี่ตัวครับป้า”

เอ่ยถามด้วยความสงสัยและป้าก็ยกนิ้วขึ้นนับจำนวน

“12 ตัว”

นั่นมันเป็นจำนวนที่มากเกินไป ไม่รู้ว่าถ้าจะพาแมวมาฉีดวัคซีนต้องมาอีกกี่รอบถึงจะได้ฉีดครบทุกตัว

“แล้วแบบนี้ป้าจะต้องหอบหิ้วมาอีกกี่รอบถึงจะหมดล่ะครับ”

เอ่ยถามด้วยความสงสัยและป้าศรีก็ได้แต่ถอนใจ

“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็จนกว่าจะหมดนั่นแหละ”

ป้าศรีส่งยิ้มให้และศิวัฒน์ก็ถอนใจยาว แบบนี้คงไม่ดี เพราะไม่รู้ว่าต้องหอบหิ้วแมวมาฉีดยาอีกกี่รอบถึงจะหมด

“ป้าจับไว้หรือยัง”

“จับไว้แล้ว เดี๋ยวป้าทยอยพามาก็ได้”

“แล้วที่บ้านไม่มีใครพอไหว้วานได้เลยเหรอครับ ลูกหลานหรือคนอื่น ๆ “

“ป้าอยู่คนเดียวจะเอาลูกหลานที่ไหนมาช่วยล่ะ”

แค่คิดว่าจะต้องกลับไปกลับมาอีกหลายรอบ ก็นึกสงสารและเห็นใจแล้ว

“ถ้าตัวนี้ฉีดเสร็จป้ารอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมมา”

ศิวัฒน์ลุกขึ้นเดินมาหาผู้ใหญ่เปี่ยมที่กำลังพูดคุยกับลูกบ้านและขอความช่วยเหลือที่ผู้ใหญ่เปี่ยมน่าจะพอช่วยได้

“กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ใหญ่อยู่มั้ย”

“อยู่ ทำไมล่ะ วันจะเอาไปทำอะไร”

“เดี๋ยวจะพาป้าศรีไปส่งที่บ้าน แล้วก็เอาแมวที่บ้านแกมาฉีดวัคซีนให้หมด แกบอกว่ามีหลายตัว ถ้าให้แกหอบหิ้วไปมาแบบนี้ไม่รู้อีกกี่รอบจะหมด”

บอกสิ่งที่กำลังจะทำและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองหน้าของศิวัฒน์แบบยิ้ม ๆ และส่งกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ให้โดยไม่ได้ถามอะไรอีก มองตามคนที่เดินจากไปแล้วและลูกบ้านที่กำลังคุยอยู่ด้วยก็มองตามคนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์พาป้าศรีไปส่งที่บ้าน

“มีแต่คนบอกว่าหลานย่าแพงนี่เรียนหนังสือสูงกว่าคนอื่นเลยหยิ่ง กลับบ้านมาก็ไม่เคยออกจากบ้าน ไม่เคยไปสุงสิงกับใคร”

“แล้วที่เขาบอกว่ามาทั้งหมด มันจริงอย่างที่เขาบอกหรือเปล่าครับ”

แกล้งถามและลูกบ้านก็หันมามองผู้ใหญ่เปี่ยมและส่ายหน้า

“ได้มาเห็นกับตาตัวเองแบบนี้ น้าก็รู้แล้วว่าไม่จริง”

+++

“วันนี้ยุ่งหน่อยครับ ขอบคุณมากครับที่มาฉีดยาให้”

ผู้ใหญ่เปี่ยมยกมือไหว้หมอและเจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์จังหวัดที่มาฉีดวัคซีนให้ หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก็มายืนส่งที่รถ

“แล้วนี่รอบหน้าที่ทำหมันจะมาได้ประมาณเมื่อไหร่ครับ พอดีลูกบ้านเขาถามมา มีหลายคนเขาอยากให้มาทำหมันหมาแมวให้เลย”

“เดี๋ยวแจ้งมาอีกทีนะผู้ใหญ่ น่าจะเร็ว ๆ นี้แหละ”

“ขอบคุณมากนะครับ”

ร่ำลากันพอเป็นพิธีและเจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์จังหวัดก็ขึ้นรถตู้โดยมีผู้ใหญ่เปี่ยมและศิวัฒน์มายืนส่งจนกระทั่งรถขับออกไป

“วันนี้วันเหนื่อยแย่เลย”

“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”

การอำนวยความสะดวกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เหนื่อยและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ส่งยิ้มให้คนที่เดินกลับมานั่งพักที่ศาลาด้วยกัน

“ผู้ใหญ่ เก้าอี้แถวนี้เอายกขึ้นรถเลยเหรอ”

“เออ เอาขึ้นรถได้เลย เรียงเป็นแถวไว้”

ลูกบ้านที่เป็นเด็กวัยรุ่นชายหลายคนที่ถูกไหว้วานให้ช่วยยกโต๊ะและเก็บเก้าอี้ตะโกนถามและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ตอบกลับไป

“เราถามอะไรหน่อยสิผู้ใหญ่”

“อือ วันจะถามอะไรล่ะ”

ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองคนถามและผู้ใหญ่เปี่ยมก็หยิบผ้ามาเช็ดทำความสะอาดโต๊ะไปด้วย

“ทำไมผู้ใหญ่ต้องทำเองหมดทุกอย่าง ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นงานของผู้ใหญ่คนเดียว คนอื่น ๆ ทำไมไม่เห็นมีมาช่วยเลยสักคน”

“ไม่ใช่ว่าไม่มีสักหน่อย เราก็มีวันไง”

เงยหน้าขึ้นมองและส่งยิ้มให้คนถามแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจคนถามสักเท่าไหร่

“ไม่ตลก”

“โธ่ วันก็...เราก็ไม่ได้พูดให้ตลกสักหน่อย วันมาช่วยเราวันนี้เราดีใจจริง ๆ นะ”

แบบนี้เรียกว่าเฉไฉไม่ยอมตอบคำถามและคนถามก็เงียบไปไม่ถามอะไรอีก จนผู้ใหญ่เปี่ยมต้องยอมแพ้และยอมตอบสิ่งที่ถูกถาม

“ที่จริงแล้ว...”

“ถ้าผู้ใหญ่ไม่อยากพูด ก็ไม่ต้องพูด เราไม่อยากรู้แล้ว พอเถอะ ไม่อยากฟัง”

เพราะไม่ยอมตอบคำถามตั้งแต่แรก ก็เลยถูกโกรธและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ถอนใจยาวก่อนจะเดินไปล้างมือและเทน้ำดื่มใส่แก้วมาส่งให้คนที่นั่งอยู่

“ไม่เอา ไม่กิน”

“กินเถอะ วันจะได้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากับเราได้ไง”

“ทำไมเราต้องค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จาด้วย ผู้ใหญ่เห็นเราเป็นคนยังไง”

“เราก็เห็นวันเป็นคนดีไง”

“ผู้ใหญ่!”

เห็นทีการชื่นชมกันซึ่งหน้าจะไม่ได้ผล เพราะคนฟังดูไม่ค่อยปลื้มใจกับคำชมสักเท่าไหร่ สุดท้ายก็เลยต้องยอมตอบสิ่งที่ถูกถาม

“ก็เรื่องมันยาว”

“ยาวก็ไม่ต้องเล่า เราไม่อยากฟังแล้ว”

“แต่เราอยากเล่าให้วันฟัง”

ไม่ยอมรับแก้วน้ำดื่มที่ถูกส่งให้ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ลงมานั่งข้าง ๆ และส่งยิ้มบาง ๆ ให้คนที่ยังทำหน้าไม่พอใจ

“ตั้งแต่แรก เราก็ไม่ได้อยากเป็นผู้ใหญ่บ้านหรอกนะวัน”

“แล้วผู้ใหญ่เป็นทำไมล่ะ”

“ก็เพราะระบบมันห่วยไง ไม่มีใครช่วยอะไรเราได้เลย ขนาดแค่เรื่องพื้นฐานที่ควรต้องได้รับยังไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเลย”

“ผู้ใหญ่ก็เลยต้องมาเป็นผู้ใหญ่บ้านซะเอง?”

“ก็แล้วจะหวังพึ่งใครได้ล่ะวัน”

มันคือความล้มเหลวของระบบที่ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ถอนใจยาว

“โรคหมาบ้าระบาด คนที่มีอำนาจในตำบลเราก็ไม่มีใครทำอะไรสักอย่าง นี่เราแจ้งไปที่ปศุสัตว์เองก็กลายเป็นข้ามหน้าข้ามตาคนอื่นไปอีก ผู้ใหญ่บ้านมันไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจมากมายหรอกนะ แต่ถ้าเราไม่ทำอะไร อยู่เฉย ๆ แล้วก็รอไปวัน ๆ  แล้วคิดว่าเมื่อไหร่หมาแมวในหมู่บ้านจะได้ฉีดวัคซีนสักที ของแบบนี้มันรอไม่ได้หรอกนะวัน”

TBC.

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เราชอบแนวคิดผญ.จังสมัครกำนันเมื่อไหร่บอกนะจ๊ะเราจะไปเลือก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ผู้ใหญ่เปี่ยมเมตตตา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด