วันเปี่ยมรัก.5
“ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าให้มาคีย์ข้อมูล”
“แต่แบบนี้มันก็เรียกว่าทำคอมไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เหมือนกัน คีย์รายละเอียดกับแบบที่บอกไปตอนแรกมันคนละอย่าง”
ผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หันมามองหน้าศิวัฒน์ยิ้ม ๆ และกำลังดูข้อมูลของลูกบ้านที่มาลงรายละเอียดเอาไว้สำหรับให้บันทึกเป็นฐานข้อมูล แบบนี้ใครก็คีย์ได้ ไม่จำเป็นต้องให้มาทำหรอก เข้าใจว่าคอมพิวเตอร์มีปัญหา ให้มาดูว่าเสียตรงไหน จะทำอะไรได้บ้าง แต่กลายเป็นต้องมาคีย์รายละเอียดข้อมูลลูกบ้านเข้าโปรแกรมแบบนี้มันหมายความว่ายังไง
“ย่าแพงบอกว่าวันทำคอมเก่ง เราเห็นวันคีย์รายละเอียดเข้าไปเร็วขนาดนี้ เราก็ว่าวันเก่งจริง ๆ อย่างที่ย่าแพงพูด ไม่เสียแรงที่ไปจีบ”
“..........”
หมายความว่ายังไง คำพูดแบบแปลก ๆ นั่นมันคืออะไร
“ว่าไงนะ”
ถามออกไปด้วยความสงสัยและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มให้
“อะไรเหรอ ไม่มีอะไรนี่”
ยังจะมาถามอีกว่าอะไร คำพูดแปลก ๆ ที่พูดออกมานั่น จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แกล้งทำเหมือนไม่รู้เรื่องได้ยังไง
“ก็ได้ยินอยู่ บอกว่าไม่เสียแรงที่อะไรนะ”
ต้องการความมั่นใจว่าไม่ได้ฟังผิด และผู้ใหญ่เปี่ยมก็คิดตามสิ่งที่ศิวัฒน์พูด
“ก็บอกว่าวันทำคอมเก่งไง”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“อ้าว ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ใช่แล้วเรื่องไหนล่ะ”
ยังจะยอกย้อนอีก น่าหงุดหงิดใจชะมัด ไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วยแล้ว ศิวัฒน์ขมวดคิ้วมุ่น แสดงท่าทีให้รู้ว่าไม่พอใจ แต่ก็ยังทำงานต่อไป
“อ่อ ที่บอกว่าจีบน่ะเหรอ”
เพิ่งจะนึกได้เหรอ ช้าไปหรือเปล่า
“แค่เรื่องคีย์รายละเอียดแค่นี้ ในหมู่บ้านมีคนเยอะแยะที่ทำได้ เด็กที่ไปเรียนในเมือง ก็เห็นมีอยู่ไม่ใช่เหรอ แค่ผู้ใหญ่เอ่ยปาก คงไม่มีใครไม่ทำให้หรอก”
คีย์รายละเอียดของลูกบ้านที่ถูกส่งให้และก็บอกสิ่งที่ควรจะทำ แบบนั้นน่าจะง่ายกว่าทำไมถึงไม่ทำ ไม่เข้าใจจริง ๆ
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“ทำไมจะไม่ได้”
“จริง ๆ จะทำแบบนั้นก็ทำได้ แต่พวกที่คีย์ได้ มีแต่ผู้หญิงแล้วแต่ละคนก็วัยรุ่นกันทั้งนั้น”
“แล้วไง”
“ก็ไม่แล้วไง มันก็ไม่ดีไง”
แค่นี้เหรอ นี่มันเรื่องงานนะ ทำงานยังจะมีอะไรไม่ดีอีก
“แล้วคิดว่าเราต้องมานั่งคีย์รายละเอียดให้ผู้ใหญ่นี่มันเป็นหน้าที่เราหรือไง”
“แต่มันก็ดีกว่าให้เด็กวัยรุ่นผู้หญิงมาคีย์ให้มั้ย หรือคนทำงานแล้วมาคีย์ก็ได้ แต่ผัวเขาจะคิดยังไง”
ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก ทำให้จบ ๆ ไปซะก็หมดเรื่องใช่มั้ย พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคิดกันคนละอย่าง เถียงกันไปก็หาจุดสิ้นสุดไม่ได้
“วัน”
ศิวัฒน์หยุดมือที่กำลังคีย์ข้อมูล และหันมามองหน้าของผู้ใหญ่เปี่ยมและยังขมวดคิ้วมุ่น
“เจ้าอารมณ์เหมือนกันนะเรา”
“..........”
พูดแบบนั้นแล้วผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยิ้มกว้าง แต่คนฟังไม่พอใจสิ่งที่ได้ยินถ้าไม่เห็นแก่ย่า ไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้แน่ ๆ ปฏิเสธไปตั้งแต่แรกและไม่คิดว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่สุดท้ายก็ต้องมา
“มีอีกมั้ย จะได้รีบคีย์ให้เสร็จ ๆ ไป”
ไม่อยากจะพูดด้วย ไม่อยากเห็นหน้า ไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์อะไรด้วยทั้งนั้น จะรายชื่ออะไรของใครก็แล้วแต่เถอะไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ ทำให้จบ ๆ แล้วจะได้รีบกลับบ้าน
“เฮ้ย หยุดก่อน หยุดก่อน”
อยู่ดี ๆ ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปโบกมือเรียกเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา
“ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านสาวกิ่งให้หน่อยสองถุง เออ วัน เอาเส้นอะไร”
ทำไมเปลี่ยนเรื่องเร็วขนาดนี้ อยู่ดี ๆ ก็ลุกขึ้นไปโบกมือเรียกให้เด็กวัยรุ่นที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ และยังหันมาถามคนที่กำลังคีย์งานอยู่ด้วย
“ไม่เอา”
“ไม่เอาไม่ได้ ต้องเอา”
ทำไมต้องบังคับ ไม่ได้ยินหรือไง
“ไม่เอา”
ย้ำคำพูดของตัวเองอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เดินมาหยิบเงินค่าก๋วยเตี๋ยวไปส่งให้กับเด็กวัยรุ่นที่จอดมอเตอร์ไซค์รออยู่
“เอาเส้นเล็กกับเส้นหมี่ บอกของผู้ใหญ่เปี่ยม สาวกิ่งเขารู้”
แล้วคนที่สั่งก๋วยเตี๋ยวมาให้กิน ก็เดินกลับมาที่ศาลาที่ศิวัฒน์กำลังคีย์งานที่ได้รับมอบหมายให้ทำ
“ร้อนเนอะ”
พัดลมตั้งโต๊ะขนาดเล็ก ถูกดึงให้ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ใช้ทั้งปากกาและของที่หาได้จากแถวนั้นมาทับกระดาษเอาไว้ไม่ให้ปลิว
“ทำตั้งแต่เช้าแล้ว พักกินอะไรก่อนเดี๋ยวค่อยทำต่อ”
อยากจะพักก็พักกันง่าย ๆ แต่ศิวัฒน์ไม่คิดจะพักด้วย
“ไม่พัก”
ปฏิเสธสิ่งที่อีกฝ่ายบอกและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เลิกคิ้วขึ้นสูงและมองหน้าของศิวัฒน์ด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมไม่พักก่อนล่ะ หิวจัด ๆ ไม่ดีนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นก่องข้าวน้อยฆ่าผู้ใหญ่บ้านนะ”
บางครั้งก็อยากจะถามว่าเราสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงได้นึกอยากจะพูดอะไรก็พูดแบบนี้
“จะรีบคีย์ให้เสร็จ จะได้รีบกลับ”
“คำก็กลับ สองคำก็กลับ ถามจริง ๆ เหอะ เกลียดเรามากเลยเหรอวัน”
แล้วผู้ใหญ่เปี่ยมก็มานั่งมองหน้าของคนที่ขมวดคิ้วมุ่นและคีย์รายละเอียดข้อมูลลูกบ้านไม่ยอมหยุดพักและถามสิ่งที่คาใจ
ศิวัฒน์ไม่ได้ตอบ แต่หยุดชะงักมือที่กำลังคีย์ข้อมูลเข้าไปในระบบ และหันมามองหน้าของผู้ใหญ่เปี่ยมตรง ๆ
“หน้าที่ของเราตอนนี้คือมาทำคอมให้เสร็จอย่างที่ผู้ใหญ่ไปขอกับย่าเราเอาไว้ ตอนนี้เราก็ทำให้อยู่ และถ้าทำเสร็จแล้ว เราก็จะกลับบ้าน ผู้ใหญ่ไม่ได้มีหน้าที่มาสัมภาษณ์เราและเราก็ไม่จำเป็นต้องตอบอะไรทั้งนั้น”
แบบนี้ก็ชัดเจนแล้ว แสดงว่าไม่ชอบหน้ากันจริง ๆ
“วันไม่ชอบเราก็พูดตรง ๆ เถอะ”
“ผู้ใหญ่ก็รู้อยู่แล้วนี่ ยังจะถามทำไม”
แบบนี้คงไม่ดี ทำงานด้วยกันแต่ไม่ถูกใจกันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“ผู้ใหญ่ มีตะกร้อมั้ย”
ศาลากลางหมู่บ้านที่อยู่หน้าบ้านผู้ใหญ่เปี่ยม ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็แวะทักทายเสมอ และเด็กในหมู่บ้านที่ปั่นจักรยานมาจอดก็ตะโกนถามผู้ใหญ่เปี่ยมเสียงดัง
“ไม่มี รอพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้วันจันทร์ เข้าไปในเมืองจะแวะซื้อให้ ตอนเย็น ๆ เดี๋ยวจะกลับมารื้อลวดหนามออกด้วย จะได้ตั้งเสาได้”
ดูเหมือนภารกิจผู้ใหญ่บ้านจะเป็นเรื่องจุกจิกมากมาย เพราะตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงตอนนี้ มีคนแวะเวียนเข้ามาทักทายผู้ใหญ่เปี่ยมไม่รู้กี่คนแล้ว
“ผู้ใหญ่ไปในเมืองแล้วอย่าลืมนะ พรุ่งนี้เย็น ๆ เดี๋ยวมาใหม่”
“เออ ไม่ลืมหรอก จดไว้แล้ว”
เด็กที่ขี่จักรยานเข้ามาจอดปั่นจักรยานออกไปแล้ว และผู้ใหญ่เปี่ยมก็เดินกลับมาหาศิวัฒน์ที่กำลังทำงาน
“เออ เราคุยกันถึงตรงไหนแล้วนะ ลืม”
กว่าจะกลับมาต่อเรื่องที่คุยกัน อารมณ์หงุดหงิดของคนที่กำลังคีย์ข้อมูลก็ลดลงแล้วและศิวัฒน์ก็ถอนใจยาว ไม่อยากจะพูดอะไรกับผู้ใหญ่เปี่ยมอีก
“อ้าว ทำไมถอนใจแบบนั้นล่ะ”
ยังจะถามอีก
“ผู้ใหญ่อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป เราไม่อยากจะเสียเวลาคุยด้วย จะรีบ ๆ ทำงานให้เสร็จจะได้รีบกลับ”
“ก็เป็นซะแบบนี้ เจ้าอารมณ์แล้วก็ขี้หงุดหงิดด้วย”
ถ้าพูดอีกครั้งเดียว จะไม่ทำงานอีกเด็ดขาด หันไปมองหน้าของผู้ใหญ่เปี่ยมแล้วก็รู้สึกอยากจะโมโหขึ้นมาจริง ๆ แต่ยังไม่ได้ทันได้พูดอะไร เด็กที่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ก็มาส่งก๋วยเตี๋ยว
“ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหนึ่ง เส้นหมี่หนึ่ง พิเศษ”
ถุงก๋วยเตี๋ยวถูกยื่นส่งให้และผู้ใหญ่เปี่ยมก็เดินไปรับถุงก๋วยเตี๋ยว
“เออ ขอบใจ”
รถมอเตอร์ไซค์แล่นจากไปแล้วและผู้ใหญ่เปี่ยมก็หิ้วถุงก๋วยเตี๋ยวกลับมาที่ศาลาสองถุง
“วัน กินก๋วยเตี๋ยวกัน”
นี่จำไม่ได้จริง ๆ หรือไง บอกย้ำไปแล้วว่าไม่กิน ก็ยังจะยัดเยียดบังคับให้กินอยู่ได้
“ไม่กิน”
ตอบกลับไปแบบที่เคยพูด และผู้ใหญ่เปี่ยมก็เลิกคิ้วขึ้นสูง ชูถุงก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในมือขึ้นและเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อ้าว แล้วนี่จะให้ทำยังไง”
“จะทำยังไงก็เรื่องของผู้ใหญ่สิ”
“งั้น ก็กินพร้อมกันเลย วันเอาเส้นเล็กแล้วกัน เส้นหมี่นี่ของเรา”
จะบ้าตาย อยากจะเป็นบ้าตาย ผู้ใหญ่เปี่ยมนี่เป็นคนยังไง จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ทั้งหยิ่งทั้งชอบหัวเราะเยาะใส่ตอนที่โดนเด็กคนอื่นแกล้งและล้อเลียน แล้วผู้ใหญ่เปี่ยมคนที่โตแล้วที่กำลังเทก๋วยเตี๋ยวใส่ชามนี่มันอะไร
“เคยมีคนบอกผู้ใหญ่มั้ย”
“บอกว่าอะไรเหรอ”
“บอกว่าผู้ใหญ่ กวนตีน”
TBC.