► วันเปี่ยมรัก・*:.✿.:*・ by aoikyosuke 【หน้า 12 ตอนที่ 28】up 15/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ► วันเปี่ยมรัก・*:.✿.:*・ by aoikyosuke 【หน้า 12 ตอนที่ 28】up 15/02/2019  (อ่าน 56932 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chobreadyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ผู้ใหญ่เปี่ยมคนเนียน

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
งูยยยยยยย พ่อผู้ใหญ่น่าร้ากกกก ดูแลทุกระดับประทับใจ 

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หนูวันคนนี้ก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษกว่าใครอยู่แล้ว

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
วันเปี่ยมรัก.19
   วันนี้ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ไม่อยู่บ้านเห็นว่าออกไปตั้งแต่เช้า ถึงแม้ไม่ได้เจอกันแต่ก็คุยกันแล้วว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้างและเมื่อนั่งทำงานได้พักใหญ่แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็เดินมาหาและถือจานขนมมาด้วย

   “อ้าว วันมาแล้วเหรอ”

   “ครับ สวัสดีครับ”

   ยกมือไหว้และส่งยิ้มให้ ทักทายกันบ้างตามมารยาทและศิวัฒน์ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองที่ต้องทำให้เสร็จ แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมมานั่งด้วยกันในศาลาและชวนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย

   “ป้าจะเล่าเรื่องตลกของผู้ใหญ่เปี่ยมให้ฟัง วันก่อนนี้งานแต่งบ้านไอ้สมคิดกับเมียมัน ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ไปเป็นประธานในพิธี ไอ้เจ้าบ่าวมันก็ตัวดี รู้ว่าผู้ใหญ่กินเหล้ามากไม่ได้ มันก็แกล้งให้ชนแก้วฉลองอยู่นั่น สุดท้ายต้องให้คนหามกลับบ้าน อายเขาจริง ๆ จนป้าไม่รู้จะพูดยังไง ว่าง ๆ วันก็ชวนผู้ใหญ่กินเหล้าหน่อย เวลาไปงานไปการจะได้ไม่ต้องไปอายคนเขาแบบนี้”

   เพิ่งจะรู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมเป็นคนช่างคุย และเรื่องที่คุยก็ไม่พ้นเรื่องนินทาลูกชาย

   “กินไม่ได้เลยเหรอครับป้า”

   “ไม่ได้เลย ไม่รู้มันเป็นยังไงของมัน ป้าเห็นว่าผู้ใหญ่กับวันสนิทกัน วันไหนว่าง ๆ ชวนมันกินหน่อย กินที่บ้านก็ได้ กินบ่อย ๆ เผื่อมันจะดีขึ้น”

   อยู่ดี ๆ ก็จะกลายเป็นเพื่อนก๊งเหล้าเพราะแม่ของผู้ใหญ่ขอร้องมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันก็น่าขำอยู่ แต่ผู้ใหญ่เปี่ยมคงไม่ขำด้วยเท่าไหร่ถ้ารู้ว่าโดนแม่นินทาขนาดนี้

   “เออนี่ วัน ป้าถามอะไรหน่อยสิ”

   หลังจากที่คุยเรื่องอื่นอยู่นาน ในที่สุดแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็คิดว่าควรจะถามเรื่องที่อยากรู้จริง ๆ สักที ตอนนี้คงไม่มีใครที่สนิทกับผู้ใหญ่เปี่ยมมากกว่าศิวัฒน์อีกแล้ว

   “ครับป้า”

   เงยหน้าขึ้นจากงานที่กำลังทำอยู่และแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็เริ่มพูดเข้าประเด็นที่กำลังสงสัย

   “พักนี้ผู้ใหญ่ยิ้มทั้งวัน ป้าไม่รู้ว่ามันไปติดสาวแถวไหน สืบมาตั้งนานก็ยังไม่รู้เรื่องสักที ถ้ายังไงวันช่วยลอง ๆ สืบให้ป้าหน่อยได้มั้ย”

   “ผมเหรอครับ”

   กำลังจะต้องกลายเป็นนักสืบจำเป็นและแม่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็พยักหน้ารับ

   “ป้าถามทีไรมันก็เอาแต่หัวเราะไม่ยอมบอก นึกแล้วมันน่าโมโหเห็นพิมพ์อะไรไม่รู้ทั้งวัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กลางค่ำกลางคืนก็เห็นมันโทรหาใครไม่รู้ โทรแล้วมันก็ยิ้ม เรื่องไปติดใครป้าไม่ได้ว่าหรอก แต่อยากให้หาที่ดี ๆ หน่อย ไม่ใช่มาทำให้ลูกชายป้าเสียใจเหมือนคนก่อน ที่หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ด้วยกันชาวบ้านก็รับรู้กันทั่วแล้วสุดท้ายมันก็หนีหายไปเป็นปี ตอนนี้มันก็เพิ่งกลับมา หน้ามันป้าก็ไม่อยากจะมอง”

   แม่ผู้ใหญ่เปี่ยมน่าจะหมายถึงผู้หญิงที่ชื่อศิตาและศิวัฒน์ก็ได้แต่นั่งฟังไปเงียบ ๆ ไม่รู้จะออกความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไง

   “จะใครก็แล้วแต่เถอะ ขอแค่อย่าให้มันกลับไปคุยกับคนเก่า วันรู้มั้ย อีศิตามันร้ายมากนะ กลับมาคราวนี้ก็คอยมาเทียวขี่รถผ่านหน้าบ้านทุกวัน ไม่รู้จะไปรื้อฟื้นความหลังกันอีกหรือเปล่า คิดขึ้นมาทีไรแล้วมันน่าโมโห”

   น่าจะเป็นเรื่องระหว่างแม่ผัวกับอดีตลูกสะใภ้ เรื่องนี้ฟังแล้วก็ไม่อยากยุ่งด้วยแต่แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยังคะยั้นคะยอให้ช่วยสืบเรื่องที่สงสัยไม่หยุด

   “ยังไงช่วยสืบ ๆ ให้ป้าหน่อยนะ ป้าอยากให้มันมีเมีย อยากให้มีผู้หญิงดี ๆ คนดี ๆ ที่จะมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ได้อย่างวันก็คงจะดี เอาการเอางาน ป้าก็นึกเสียดายถ้าวันเป็นผู้หญิงคงจะได้ดองกัน”

   มันเริ่มจะไปกันใหญ่แล้ว เรื่องนั้นไม่เคยแม้แต่จะคิดและศิวัฒน์ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง

   “ใครจะดองกับใครเหรอแม่”

   คุยกันอยู่สองคนแต่เสียงของบุคคลที่สามที่ถูกพูดถึงก็ดังทักทายมาแต่ไกล ผู้ใหญ่เปี่ยมกลับมาในสภาพเดิม ๆ ไม่รู้ไปลุยโคลนที่ไหนมาอีก

   “ผู้ใหญ่ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย แม่ไม่อยากจะพูดกับผู้ใหญ่แล้ว”

   แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมลุกขึ้นเดินหนีเข้าบ้าน ท่าทางสะบัดสะบิ้งลักษณะนี้น่าจะงอนลูกชายและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองตามแล้วก็ถอนหายใจ

   “เนี่ย แม่เราก็งอนเราอีก วันเห็นมั้ย”

   รีบหาพวกเพื่อขอความเห็นใจและศิวัฒน์ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่ได้พูดอะไรกับผู้ใหญ่เปี่ยมอีก

   “อ้าว นี่อย่าบอกนะว่าวันก็งอนเราอีกคน”

   ไม่มีเหตุผลให้ต้องงอน ไม่ว่าจะเรื่องที่ผู้ใหญ่เปี่ยมไปติดสาวหรือว่าเรื่องศิตาเมียเก่าที่มาเทียวหาอยู่บ่อย ๆ และอาจจะไปรื้อฟื้นความหลังกัน

   “ทำไมเราต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ”

   ถามออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย และผู้ใหญ่เปี่ยมก็นั่งลงข้างคนที่กำลังทำงาน มองหน้าของคนที่ทำหน้าเฉยแล้วก็คิดว่าควรจะเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า

   “เรามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง วันก่อนเราไปเก็บขยะแล้วก็ทำความสะอาดที่ข้างคลองชลประทาน เก็บทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ววันนี้เราผ่านไป รู้มั้ยวัน ขยะกองใหญ่กลับมาอีกแล้ว เราโคตรโมโหเลย ทำให้สะอาดทำให้ดีแล้วก็มักง่ายกันแบบนี้ แล้วเราก็ต้องไปตามคอยสะสาง ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”

   นี่คงเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ใหญ่เปี่ยมหายไปตั้งแต่เช้าและศิวัฒน์ที่ทำงานอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่มีสีหน้าหงุดหงิดโมโห คงจะเหนื่อยและคงไม่พอใจมากที่พยายามพัฒนาหมู่บ้าน ลงทุนลงแรงเพื่อให้เกิดสิ่งดี ๆ แต่ชาวบ้านบางคนก็ยังคงเห็นแก่ตัวและมักง่าย

   “แล้วถ้าเขาเอาขยะมาทิ้งตรงนั้นอีก ผู้ใหญ่จะทำยังไง”

   ถามและแสดงท่าทีให้รู้ว่าใส่ใจและผู้ใหญ่เปี่ยมก็บอกวิธีแก้ไขให้ฟัง

   “เราทำป้ายไปติดแล้ว ทั้งป้ายคำเตือน ทั้งป้ายสาปแช่ง ถ้าทำความสะอาดรอบนี้เรียบร้อยแล้ว ยังมีคนไปทิ้งอีก เราจะเอากล้องวงจรปิดไปติดให้รู้แล้วรู้รอด”

   บ่นเหมือนเด็ก ๆ บ่นด้วยความโมโหแต่การบ่นของผู้ใหญ่เปี่ยมทำให้คนฟังหัวเราะด้วยความขำ

   “วันหัวเราะทำไมเนี่ย เราเหนื่อยมากนะ วันคิดว่ามันสนุกมากนักเหรอที่เราต้องไปเก็บขยะจนเหนื่อยขนาดนี้”

   ไม่ได้เห็นเป็นเรื่องตลก ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องสนุกสนาน คิดแค่ว่าผู้ใหญ่เปี่ยมที่ขยันบ่น บางทีก็ทำให้ขำอยู่เหมือนกัน

   “ผู้ใหญ่จะโมโหคนอื่นแล้วมางอแงใส่เราแบบนี้ไม่ได้นะ”

   แค่แกล้งเตือนไปเล็กน้อย แต่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ทำหน้างอแงใส่ไม่หยุด

   “วันก็อีกคน แม่เรามาพูดอะไรกับวันอีกบอกมาเลยนะ”

   “จะมีเรื่องอะไรล่ะ นอกจากเรื่องผู้ใหญ่บ้านหนุ่มเนื้อหอม มีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่มารุมรัก ทั้งสาวเก่าสาวใหม่ ผู้ใหญ่คงสับรางเหนื่อยแย่”

   แกล้งประชดและก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่มันทำให้ผู้ใหญ่เปี่ยมยิ่งงอแงมากขึ้นกว่าเดิม

   “แม่เราก็คิดอะไรไปเรื่อย เราไม่ได้ไปติดไปชอบใครที่ไหนทั้งนั้นแหละ ถ้าแม่เรามาบอกให้วันเป็นพ่อสื่อให้ แล้ววันทำตามที่แม่เราบอก เราจะโกรธวันจริง ๆ นะ”

   พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและศิวัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าผู้ใหญ่เปี่ยมด้วยความไม่เข้าใจ

   “ถ้าผู้ใหญ่เปี่ยมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ก็บอกแม่ไปสิ เขาจะสบายใจแบบนั้นไม่ดีเหรอ”

   ถ้าบอกได้คงบอกไปแล้ว และผู้ใหญ่เปี่ยมก็นิ่งเงียบไป ไม่รู้จะบอกหรืออธิบายยังไง

   “ช่างมันเถอะ จะยังไงก็แล้วแต่ วันอย่าไปรับปากเป็นพ่อสื่อให้เราก็พอ”

   สั่งห้ามและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เมินหน้าหนีไปอีกทาง ศิวัฒน์ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสั่งห้ามกันถึงขนาดนั้น มองหน้าของผู้ใหญ่เปี่ยมแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ

   “ที่จริงวันก็ไม่น่าจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรยากนะ”

   อยู่ดี ๆ ก็มาพูดจาแปลก ๆ ใส่และศิวัฒน์ก็วางมือจากงานที่ทำอยู่และถอนใจยาว ใครจะไปรู้ว่าผู้ใหญ่เปี่ยมคิดอะไร ใครจะไปเข้าใจทุกอย่างในโลกได้ เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วจะรู้เรื่องที่ผู้ใหญ่อยากจะให้เข้าใจได้ยังไง

   “เรากลับล่ะ”

   เตรียมเก็บของและตัดบทเพราะรู้สึกเหมือนเรากำลังทะเลาะกัน งานคืบหน้าไปเยอะแล้ว และตอนนี้ก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องกลับบ้าน

   “วัน”

   เรียกและศิวัฒน์ก็ไม่ได้ตอบแต่เก็บของไปเรื่อย ๆ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ไม่รู้จะพูดยังไง

   “ไปกินบัวลอยกัน”

   รีบดึงแขนเอาไว้เพื่อรั้งให้อยู่ต่ออีกนิดและศิวัฒน์ก็มองหน้าของคนที่ชวนไปกินขนมด้วยกันและส่งยิ้มบาง ๆ ให้

   “อ่อ รู้แล้ว ที่แท้ผู้ใหญ่ก็ไปติดแม่ค้าขายบัวลอยนี่เอง”
   
        TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 14:42:22 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เมื่อไรจะบอกนะผู้ใหญ่

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
หนูวันเริ่มจะตกหลุมพรางผู้ใหญ่แล้ว อิอิ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ผู้ใหญ่เนี่ยยน่ารักจริงๆลเเย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
วันไม่ชอบเราชอบเองก็ได้ ผู้ใหญ่นี่น่ารักมากมาย
  :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ก็บอกไปตรงๆเถอะพ่อผู้ใหญ่  หนูวันมโนไปไกลแล้ว เดี๋ยวจะกู่ไม่กลับแล้วจะต้องมาง้อแทนงอนนะผู้หญ่ายย  :laugh:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
วันเปี่ยมรัก.20

   ไม่ได้กินบัวลอยเพราะผู้ใหญ่เปี่ยมงอนไปซะก่อน แค่แหย่ไปนิดเดียวไม่รู้ทำไมถึงต้องโกรธและทำท่ากระฟัดกระเฟียดโมโหใส่ขนาดนั้น กำลังจะได้ต่อปากต่อคำกันอีกนิด ก็พอดีกับที่ลุงแสงกับป้าพร คนที่วันก่อนผู้ใหญ่เปี่ยมไปช่วยเปิดทางน้ำออกจากนาให้ทัน โชคดีต้นข้าวไม่ต้องเน่าตายอยู่ในนา วันนี้ทั้งลุงแสงกับป้าพรเลยหิ้วของมาขอบคุณ

“สาโทของดีเลยนะผู้ใหญ่”

ของดีแค่ไหนก็ไม่กล้ากิน เพราะรู้ตัวเองว่าถ้าขืนกินเข้าไปคงได้สลบคาโต๊ะและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้

“เดี๋ยวเก็บไว้กินแน่ ๆ”

ความจริงคือยังไงก็ต้องแจกแน่ ๆ และศิวัฒน์ที่เพิ่งรู้เรื่องบางอย่างจากแม่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็รีบบอกแบบยิ้ม ๆ

“ผู้ใหญ่ไม่เปิดชิมเลยล่ะ ป้าพรกับลุงแสงแกอุตส่าห์เอามาให้ ไม่ชิมให้แกเห็นเสียน้ำใจแย่”

เหล่ตามองคนที่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองหน้าศิวัฒน์อย่างคาดโทษ

“วัน”

“อะไรเหรอ ทำไมล่ะ ผู้ใหญ่คออ่อนเหรอ”

โดนเอ็ดแต่ก็ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งพูดและส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่เปี่ยมที่มองมาเหมือนไม่รู้จะทำยังไง เห็นแล้วมันก็ทำให้รู้สึกสะใจขึ้นมานิด ๆ นาน ๆ ทีถึงจะมีโอกาสเอาคืนผู้ใหญ่เปี่ยมได้บ้าง

“คือว่า...”

“กินเลยมั้ยผู้ใหญ่ เดี๋ยวเราหยิบแก้วให้”

   กลายเป็นคนดีมีน้ำใจและเป็นมิตรกับชาวบ้านขึ้นมาทันที ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนแบบนี้ ศิวัฒน์หยิบแก้วมาวางไว้ให้ เพื่อให้ผู้ใหญ่เปี่ยมได้กินสาโทกับลุงแสงเพื่อเป็นการแสดงถึงความมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีอย่างล้นเหลือ ทั้งที่ความจริงแล้วต้องการแกล้งผู้ใหญ่เปี่ยมมากกว่าและคนที่ไม่อยากเสียฟอร์มก็ต้องจำใจยอมกินสาโทที่ได้รับเป็นของฝาก

   “มา ๆ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วของดีก็ต้องลองจริงมั้ยผู้ใหญ่”

   ของดีอยากลองก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นตอนนี้ และศิวัฒน์ก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นผู้ใหญ่เปี่ยมมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจอย่างเห็นได้ชัด มาถึงขนาดนี้แล้วคงปฏิเสธไม่ได้

   “ครับ ๆ กินก็กิน”

               +++

   “วันไม่เมาเหรอ”

   โดนถามแบบนั้นและศิวัฒน์ก็หรี่ตามองหน้าคนที่เริ่มพูดไปยิ้มไปดวงตาที่มองมาหวานเชื่อมผิดปกติจากทุกวัน

   “แค่นี้ไม่ทำให้เราเมาได้หรอก”

   “เหรอ”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมพยักหน้ารับและยิ้มกว้าง มองหน้าของศิวัฒน์นิ่ง ๆ เอียงคอมองและพูดออกมาเสียงเบา

   “แต่เราเมา”

   ใครจะเชื่อว่าเมาจริง แล้วอยู่ดี ๆ ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ซบหน้าลงบนโต๊ะทันที มองแค่นี้ก็ดูออกว่าคงแกล้งทำ และทั้งลุงแสงกับป้าพรที่เอาสาโทมาให้ก็หัวเราะด้วยความขำ

   “นั่นไง ข้าว่าแล้ว ไม่มีทางเกินสองขวด”

   “ผู้ใหญ่นี่คอไม่แข็งเอาซะเลยนะ พับไปแล้ว ผู้ช่วยคงต้องพาผู้ใหญ่ไปนอนแล้วล่ะ สภาพนี้ไม่น่าจะไหว”

   ดูเหมือนเรื่องที่ผู้ใหญ่เปี่ยมกินเหล้ามากไม่ได้จะเป็นเรื่องที่รู้กันทั้งหมู่บ้าน และศิวัฒน์ก็มองไปที่คนที่ซบหน้าแนบอยู่กับโต๊ะโดยไม่เหลือฟอร์มอะไรอีกแบบนี้จะหาว่าล้อเล่นก็ไม่น่าเป็นไปได้

   “นั่นไงว่าแล้ว เผลอไม่ทันขาดคำ”

   แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมเดินมาดูและเมื่อเห็นสภาพของลูกชายที่เมาพับไปก่อนใครก็ได้แต่ส่ายหน้า

   “งั้นลุงกับป้ากลับก่อนนะผู้ช่วย”

   “ครับ ๆ สวัสดีครับ”

   ยกมือไหว้ลุงแสงกับป้าพรที่ลากลับไปแล้วเหลือแค่ศิวัฒน์คนเดียวที่ตอนนี้ยังกลับไม่ได้
 
   “วัน ป้ารบกวนหน่อยเถอะ ป้าแบกไม่ไหวจริง ๆ”

   ก็คงจะต้องช่วย เพราะถ้าไม่ช่วยก็คงไม่มีใครแบกผู้ใหญ่เปี่ยมที่ตัวหนักขนาดนี้ไปนอนได้ ลุกขึ้นและช่วยกันประคองผู้ใหญ่เปี่ยมเข้าบ้านอย่างทุลักทุเลและแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็บ่นไม่หยุด

   “เนี่ย เป็นแบบนี้ คอไม่แข็งก็ยังจะฝืน ทำเนียน ๆ ปลีกตัวออกมาก็ได้ ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ ป้าบอกวันแล้ววันหลังต้องมาชวนผู้ใหญ่ก๊งเหล้าหน่อย ไม่งั้นมันก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอด”

   ที่จริงก็ควรจะปลีกตัวออกมาได้ แต่เป็นเพราะศิวัฒน์ที่แกล้งให้ผู้ใหญ่เปี่ยมต้องกินสาโทเพราะกลัวเสียฟอร์ม เรื่องนี้ใครจะกล้าบอก เดี๋ยวแม่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็รู้กันพอดีว่าใครเป็นสาเหตุทำให้เมา

   “ผู้ใหญ่เปี่ยม ได้ยินแม่มั้ย ผู้ใหญ่เปี่ยม”

   แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมพยายามเรียกชื่อลูกชายตอนที่ช่วยกันประคองเข้าบ้าน เรียกแล้วเรียกอีกแต่ก็ไม่เห็นว่าจะรู้สึกตัว จนสุดท้ายก็พาผู้ใหญ่มาล้มตัวลงนอนบนเตียงได้

   “มันก็เป็นซะแบบนี้ บอกให้หาเมียซะจะได้มีลูกมีเมียคอยดูแล ป้าพูดจนปากจะฉีกเคยสนใจซะที่ไหน”

   แค่ได้ยินไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บนิด ๆ ที่หัวใจ ศิวัฒน์ไม่รู้จะพูดอะไรดี มองหน้าของคนที่เมาพับหลับอยู่บนเตียงแล้วก็แอบถอนหายใจ

   “ตั้งแต่เลิกกับศิตาไป ป้าก็ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่เหลียวแลผู้หญิงที่ไหนอีก ถ้าวันมีเพื่อนดี ๆ ก็แนะนำให้ผู้ใหญ่หน่อยเถอะ อายุก็เพิ่มขึ้นทุกวันป้าก็เป็นห่วง”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมเคยมีคนที่คบหาถึงขั้นอยู่กินด้วยกันเรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้

   “ถือว่าช่วยป้า ช่วยผู้ใหญ่เปี่ยมแล้วกันนะวัน”

   พยักหน้ารับแม้ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า และแม่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็ฝากให้ดูคนที่เมาหลับอยู่บนเตียง

   “ป้าจะไปเอาผ้ามาให้ผู้ใหญ่เช็ดหน้าเช็ดตาหน่อย วันอยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวป้ามา”

   แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมเดินออกจากห้องไปแล้ว และศิวัฒน์ก็หันมามองคนที่นอนอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงดี ไม่รู้ว่าควรทำอย่างที่แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมบอกหรือเปล่า ได้แต่ถอนใจยาวและไม่รู้ว่าทำไมต้องอยู่ในห้องของผู้ใหญ่ต่อไปอีกในเมื่อช่วยแบกพามาส่งถึงบนเตียงขนาดนี้แล้ว กำลังจะหันหลังเพื่อเดินจากห้องแต่เสียงเรียกของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ทำให้ต้องหันกลับไปมอง

   “วัน...”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมมองมาที่คนที่ยืนอยู่และพยายามจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งแต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด

   “เมาไม่ใช่เหรอผู้ใหญ่ จะลุกขึ้นมาทำไม”

   บอกให้ผู้ใหญ่เปี่ยมนอนลงและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ยกหลังมือขึ้นปิดตาตัวเองทั้งที่ยังอยู่ในสภาพที่ยังมีสติไม่ครบเท่าไหร่

   “ไม่ต้องพาใครมาแนะนำเราทั้งนั้นเลยนะ”

   พูดแบบนี้แสดงว่าไม่อยากให้เป็นพ่อสื่อให้จริง ๆ สินะแต่ถ้าแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมขอร้องมาแล้วจะให้ปฏิเสธยังไง

   “ผู้ใหญ่ยังติดใจเรื่องนี้อยู่อีกเหรอ”

   เอ่ยถามด้วยความสงสัยและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ลดมือที่ปิดตาลงและหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง

   “วันก็อีกคน ว่าเราอยู่ได้ เราไม่ได้ไปติดแม่ค้าขายบัวลอยนะ วันอย่ามาปรักปรำเราแบบนี้”

   “อ่อ”

   พยักหน้ารับและศิวัฒน์ก็ยกแขนขึ้นกอดอก มองคนที่นอนบนเตียงและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองตรงมาเหมือนกัน

   “ไม่ว่าแม่เราจะบอกหรือพูดอะไร วันไม่ต้องไปเชื่อเลยนะ”

   จะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ถ้าผู้ใหญ่เปี่ยมจะไปรักไปชอบใครมันก็เป็นสิทธิส่วนตัวคงไม่มีปัญญาจะไปห้ามได้

   “บอกไว้ก่อน ถ้าไม่ใช่วัน ไม่ว่าใครเราก็ไม่เอา”
      
            +++

   คำพูดของผู้ใหญ่เปี่ยมเมื่อวันก่อนยังติดอยู่ในหัวอยู่ตลอด และคนได้ยินก็บอกตัวเองว่าอย่าไปคิดมากหรือสนใจ บางทีอาจจะเป็นเพราะเมา หรือบางทีอาจเป็นเพราะไม่พอใจถ้าจะเป็นพ่อสื่อให้ และมันคงไม่มีอะไรมากกว่านั้น และศิวัฒน์ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเลือนหายไปเหมือนไม่เคยได้ยินคำพูดนั้นมาก่อน ทำงานด้วยกันตามปกติ ทำตัวเหมือนปกติ แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเอง

   ศิวัฒน์ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่เปี่ยมถึงได้ขยันยั่วโมโหและชอบแกล้งทำให้หงุดหงิดใจอยู่ตลอดเวลา ขอให้ได้แหย่ขอให้หยอกให้ได้แซวบ้างได้ทำแบบนั้นแล้วผู้ใหญ่เปี่ยมคงสบายใจ และถึงแม้จะโดนด่ากลับไปกี่ครั้งก็ไม่เห็นสะทกสะท้าน จนบางครั้งก็ใช้วิธีการหยุดความกวนประสาทของผู้ใหญ่เปี่ยมด้วยความเงียบและดูเหมือนจะได้ผลมากซะด้วย

   ศิวัฒน์เพิ่งรู้ตัวว่าเดี๋ยวนี้เผลอคิดเรื่องของผู้ใหญ่เปี่ยมอยู่บ่อย ๆ แม้กระทั่งวันนี้ที่เพิ่งเลิกงานและกำลังขับรถกลับบ้าน ในระหว่างที่รถติดก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและก็เห็นข้อความที่ส่งมาให้เหมือนเดิม บางครั้งเป็นการทักทายด้วยข้อความ บางครั้งเป็นสติกเกอร์บ้าง ถึงแม้เวลาเจอกันจะโดนแกล้งให้โมโหและขัดใจอยู่บ่อย ๆ แต่ในวันปกติที่ต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง ก็ไม่เคยโดนก่อกวนและไม่เคยสร้างความวุ่นวายให้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ศิวัฒน์นึกชื่นชมอยู่ในใจ ตอนเจอหน้ากันทะเลาะกันบ้าง แต่ในเวลาปกติ ผู้ใหญ่เปี่ยมก็มีความเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ทำตัวเหมือนเด็กให้ต้องรำคาญ ครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย ๆ แล้วก็เผลอยิ้มออกมา วันนี้ดูเหมือนจะมีเรื่องอยากคุยถึงได้ส่งข้อความมาบอกว่าถ้าพอมีเวลาว่างขอให้โทรกลับด้วยก็เลยโทรกลับไปและผู้ใหญ่เปี่ยมก็ชวนคุย

   “ว่างแล้วเหรอวัน”

   “อือ ผู้ใหญ่มีอะไรเราเห็นผู้ใหญ่ส่งข้อความมา”

   พูดเข้าประเด็นเพราะไม่อยากให้เสียเวลาและผู้ใหญ่เปี่ยมก็พูดเรื่องที่ต้องการจะพูดทันที

   “คืออย่างนี้ พอดีทางอำเภอให้งบสำหรับการฝึกอบรมให้กับหมู่บ้าน เราก็เลยอยากจะปรึกษาวันหน่อย”

ทำไมต้องปรึกษา มั่นใจว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณที่ทางอำเภอส่งมาให้หมู่บ้านแน่ ๆ แต่ถ้าผู้ใหญ่เปี่ยมเกริ่นมาขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องเดิม ๆ คงจะขอให้ช่วยอะไรอีกแน่ ๆ

“คราวนี้อะไรอีกล่ะ ผู้ใหญ่พูดกับเรามาตรง ๆ เลยดีกว่าไม่ต้องอ้อมค้อม”

ในเมื่อเปิดโอกาสให้แบบนี้ก็ไม่มีจำเป็นที่จะต้องยกเหตุผลอื่นมาอ้างอีก

   “งั้นตรง ๆ เลยนะวัน คือเราอยากให้วันช่วยมาเป็นวิทยากรอบรมคอมพิวเตอร์ให้ชาวบ้านหน่อย”

   สิ่งที่ผู้ใหญ่เปี่ยมบอกทำให้ศิวัฒน์ต้องเลิกคิ้วขึ้นและถามด้วยความสงสัย

   “เราเนี่ยนะ”

   “ใช่ วันเนี่ยแหละ เราเห็นวันเก่งคอมขนาดนี้ทำไมจะเป็นวิทยากรไม่ได้ แค่สอนเบื้องต้นเพื่อให้สามารถใช้โปรแกรมพื้นฐานได้ เปิดปิดคอมและใช้อินเตอร์เน็ตได้ก็พอแล้วแค่นั้นเองนะวัน ช่วยหน่อยเถอะ”

   โดนข้อร้องให้ช่วยอีกแล้ว และถึงแม้จะเป็นเรื่องที่พอทำได้แต่บางทีก็ไม่ได้มั่นใจในตัวเองมากพอที่จะสอนใคร ปกติไม่ค่อยชินกับการพูดคุยกับชาวบ้านคนอื่น ๆ และทุกวันนี้ก็ถูกมองว่าหยิ่งจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้แล้ว ไหนจะเรื่องราวสมัยเด็ก ๆ ที่ยังฝังใจจนถึงตอนนี้อีกแล้วจะทำอย่างที่ผู้ใหญ่เปี่ยมขอร้องมาได้ยังไง

   “แล้วถ้าเราปฏิเสธล่ะ”

   “งั้นก็...ไม่เป็นไร...เราก็พอเข้าใจได้อยู่หรอก”

   ดูเหมือนว่าเรื่องจะจบแค่นั้น ผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ได้เซ้าซี้อีกเพียงแค่พูดบางอย่างทิ้งเอาไว้เล็กน้อยก่อนจะวางสาย

   “เราไม่รบกวนแล้วนะ เรื่องที่เราอยากให้วันเป็นวิทยากรมาช่วยอบรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นให้ชาวบ้าน วันไม่ต้องคิดมากนะ เราเข้าใจ เราแค่เสียดายนิดหน่อยก็ตรงที่ วันเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เราอยากให้ลองเปิดใจเพื่อให้โอกาสตัวเองได้ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ บ้างแค่นั้น แต่ถ้าวันไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ เราก็แค่มาขอร้องวันในนามของชาวบ้านที่ขาดโอกาสในการได้พัฒนาตัวเองแค่นั้นเอง”

            +++

   โดนพูดใส่แบบนั้นถ้าไม่ยอมเป็นวิทยากรช่วยอบรมคอมพิวเตอร์ให้กับชาวบ้านก็คงไม่ได้ ผู้ใหญ่เปี่ยมเป็นแบบนี้เสมอ ฉลาดที่จะหลอกล่อให้ตกหลุมที่ขุดเอาไว้และศิวัฒน์ก็รู้ตัวว่าใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธแบบจริงจัง สุดท้ายก็เลยได้มานั่งฟังการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านด้วย เป็นการประชุมที่จัดขึ้นง่าย ๆ ในเย็นวันเสาร์ที่ชาวบ้านทุกคนหมดภาระจากงาน

   “มากันพร้อมแล้วนะครับ”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมคนที่ศิวัฒน์รู้จักกับผู้ใหญ่เปี่ยมคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าชาวบ้านเหมือนเป็นคนละคนกัน เคยสงสัยมาตลอดว่าเวลาอยู่ต่อหน้าชาวบ้านผู้ใหญ่เปี่ยมวางตัวยังไงและตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว

   “วันนี้ผมมีเรื่องที่จะแจ้งด้วยกัน 3 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องเร่งด่วน เรื่องการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ถ้าใครไม่ได้มาในวันนี้ก็ขอให้ฝากไปบอกคนอื่น ๆ ด้วย ว่าให้มาลงชื่อได้ ส่วนเอกสารการขึ้นทะเบียนถ้าผมทำเสร็จเรียบร้อยจะมาติดไว้ที่ป้ายประกาศหน้าศาลา ขอให้มาตรวจสอบรายชื่อให้เรียบร้อย เผื่อใครที่รายชื่อตกหล่นจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขก่อนส่งรายชื่อไปที่อำเภอ”

   การประชุมดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และเป็นเรื่องที่ศิวัฒน์เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ในระหว่างการประชุมศิวัฒน์ได้ยินป้าสองคนที่นั่งอยู่ใกล้กันกำลังพูดถึงใครบางคนที่ศิวัฒน์ไม่รู้ว่าเป็นใคร

   “ถ้าไม่ใช่เรื่องขึ้นทะเบียนเกษตรกรจ้างให้ก็ไม่มีใครมาหรอก คนก็น้อยเหมือนที่ผ่าน ๆ มานั่นแหละ”

   “ก็ว่างั้น แล้วคนที่นั่งหน้านั่น ศิตาเมียเก่าผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกล้ามาล่ะ สมัยก่อนหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่บ้านผู้ใหญ่เปี่ยมเป็นปี ใคร ๆ ก็รู้กันทั่ว ตอนหลังไม่รู้ยังไง เห็นว่าหนีไปอยู่กรุงเทพตอนนี้กลับมาแล้วเหรอ”

   “แต่กลับมาคราวนี้สวยเลยนะ แล้วผู้ใหญ่เปี่ยมจะว่ายังไงล่ะคราวนี้”

   “ยังจะกลับไปเอากันอีกเหรอ เลิกกันไปตั้งนานแล้วนะ”

   “ว่าไม่ได้หรอก วัวเคยค้าม้าเคยขี่ เคยเป็นผัวเมียกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ”

   ไม่ได้อยากรู้เรื่องของใคร แต่จังหวะที่ชาวบ้านลุกขึ้นไปลงทะเบียนและมีเสียงคุยกันมันก็มีจังหวะให้เกิดการนินทากันได้ ถึงไม่อยากใส่ใจแต่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้

   ศิตาคนที่ว่าเป็นผู้หญิงผิวขาว ผมยาว รูปร่างหน้าตาดี จัดว่าสวยเมื่อเทียบกับผู้หญิงในหมู่บ้านคนอื่น ๆ และตอนที่ศิตาเดินไปลงชื่อศิวัฒน์ก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้ใหญ่เปี่ยมเปลี่ยนไป

   “คนมันเคยเป็นผัวเป็นเมียกันมาก่อน จะมองกันขนาดนั้นก็ไม่แปลกหรอก ศิตามันสวยขึ้นจากเมื่อก่อนด้วย เห็นมีแต่คนไปเทียวไล้เทียวขื่อตลอด จะไม่หึงไม่หวงเมียเก่าเลยก็คงแปลก”

   ป้าสองคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าคุยกันไม่หยุด และศิวัฒน์ก็รู้สึกแปลก ๆ เมื่อได้รู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ วันนี้แค่มาเข้าร่วมประชุมเพราะต้องชี้แจงเรื่องที่ผู้ใหญ่จะแจ้งกับชาวบ้านที่มาร่วมการประชุมด้วยแค่นั้น แต่ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาฟังเรื่องส่วนตัวของผู้ใหญ่เปี่ยมกับเมียเก่าที่ชื่อศิตา

   ศิวัฒน์หยิบเอกสารในมือที่เตรียมเอาไว้สำหรับแจ้งในที่ประชุมขึ้นมาอ่านและมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกแปลกใจตัวเองนิดหน่อย อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจและไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเพียงแค่ได้เห็นหน้าศิตา ผู้หญิงสวย ๆ ที่เคยเป็นเมียของผู้ใหญ่เปี่ยมมาก่อนแค่นั้น

        TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 14:42:40 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณแม่ชอบหนูวันก็เลือกหนูวันนี่แหละค่ะ ไม่ต้องเกี่ยงว่าหญิงหรือชาย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
หนูวันรู้ใจตัวเองได้แล้วว

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเรียกชื่อศิวัฒน์ของเราเลย น่าสงสารมาก

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โห...ผู้ใหญ่บอกถ้าไม่ใช่วันแล้ว ไม่เอาใครทั้งนั้น อิจฉาวันจังเลยว่ะ
 o18 o18

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ก็แค่เมียเก่า หรือจะสู้.......  :a14:

ออฟไลน์ Chobreadyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เขาเรียกว่าหึงงงนะน้องวันน

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คู่นี้เค้าจีบกันน่ารักดี คนนึงกวนตีน คนนึงชอบด่า ผู้ใหญ่นี้มันร้ายจริงๆ เนียนตลอดๆ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องศิ อย่าไปยอมนะครับ น้องศิต้องอยู่คอยด่ากับผู้ใหญ่เปี่ยมไปเรื่อยๆ นะ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
วันเปี่ยมรัก.21

   วันนี้ต้องเร่งคีย์รายชื่อการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเพื่อให้ชาวบ้านที่ลงชื่อว่ามาตรวจสอบรายชื่อที่ป้ายประกาศกลางหมู่บ้าน บางคนก็เขียนลายมืออ่านยาก ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะสะกดชื่อนามสกุลออก แล้วแทนที่จะเห็นใจกันบ้าง ทำไมต้องมาแหย่มาแกล้งกันด้วย

   “หนูวันคนดี หนูวันคนขยัน”

   “ผู้ใหญ่เห็นมั้ยว่าเราทำอะไรอยู่”

   ยอมรับก็ได้ว่ายังรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ได้รู้ได้เห็นเมื่อวันก่อน เรื่องของศิตาผู้หญิงสวย ๆ คนนั้นที่เคยเป็นเมียเก่าผู้ใหญ่เปี่ยม ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกบางอย่างขึ้นมา หงุดหงิดจนควบคุมความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้นไม่ได้เอาซะเลย

   “เห็นว่าหนูวันคนดีกำลังทำงานอยู่ เลยจะบอกว่าขอบคุณนะจ๊ะที่มาช่วยงานผู้ใหญ่”

   คำพูดแบบนี้ไม่เรียกว่ากวนประสาทแล้วจะเรียกว่าอะไร ผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ได้แค่พูดแต่ยังแตะมือที่ไหล่ของศิวัฒน์เบา ๆ และแกล้งทำเป็นบีบนวดให้ด้วย ทำเหมือนเอาใจกันมากแต่ที่จริงเรียกว่าการสร้างความหงุดหงิดให้เพิ่มขึ้นมากกว่า

   “ผู้ใหญ่จะไปไหนก็ไปเลยไป รำคาญ”

   โดนไล่และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยอมไปง่าย ๆ เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังทำงานน่าจะพออยู่คนเดียวได้

   “งั้นเราไปนาก่อนนะ จะแวะไปดูนาป้าพรด้วยว่าเขาเป็นยังไงแล้ว”

   “ก็ไปสิ มาบอกเราทำไม ที่จริงควรไปตั้งนานแล้ว จะอยู่รบกวนทำไมอยู่ได้ตั้งนาน”

   เอ่ยปากไล่และทั้งมือและสายตาก็ยังมองไปที่เอกสารที่ยังวางกองอยู่เต็มไปหมด และผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองคนที่ทำงานอยู่แบบยิ้ม ๆ

   ตอนที่พูดแบบนี้ก็ดูน่ารัก ตอนที่ออกปากไล่ก็ดูน่ารัก ตอนที่ตั้งใจทำงานจริงจังก็ดูน่ารัก เห็นแบบนี้บางทีมันก็น่ารักจนอยากแกล้ง ถึงจะรู้ว่าทำให้ไม่พอใจอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงหยุดตัวเองไม่เคยได้ ความรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่มันเป็นมานานแล้ว เป็นมาตั้งแต่เด็กจนถึงป่านนี้

   “งั้นเราไปก่อนนะ วันมีอะไรก็โทรหาเรานะ”

   บอกให้รู้ว่าจะไปแล้วและศิวัฒน์ก็พยักหน้ารับและแสดงให้เห็นชัดเจนว่าอยากให้ผู้ใหญ่เปี่ยมรีบไป

   “ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวเราก็มา”

   “ไม่ต้องรีบกลับมาหรอก ไปนาน ๆ ได้แค่ไหนยิ่งดี จะได้ไม่มีคนสร้างความรำคาญให้เรา”

            +++

   “อาราย กินหนมมั้ย กินหนม กินหนม”

   ระดับความน่าหมั่นไส้ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ของคนที่เพิ่งกลับจากนาและทั้งเนื้อตัวและเสื้อผ้าก็ยังเลอะโคลน แบบนี้ใครจะอยากเข้าใกล้

   เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่เดินมากับยายก็เลยไม่ยอมคุยกับผู้ใหญ่เปี่ยมแต่ไปหลบอยู่หลังยายที่ในมือยังมีถ้วยข้าวอยู่ น่าจะเดินป้อนข้าวหลานมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดแวะที่ศาลากลางหมู่บ้านที่ตั้งอยู่หน้าบ้านผู้ใหญ่เปี่ยมพอดี

   “อุ้มได้เปล่า ขออุ้มหน่อยได้มั้ย”

   เด็กที่ไหนจะกล้าให้อุ้ม สภาพผู้ใหญ่เปี่ยมดูไม่น่าเข้าใกล้ขนาดนี้

มองอยู่นานและศิวัฒน์ก็นึกต่อว่าอยู่ในใจ ทั้งที่คิดว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนั้นจะไม่ให้ผู้ใหญ่เปี่ยมอุ้มแท้ ๆ แต่อยู่ดี ๆ เด็กคนนั้นก็ยอมเดินมาจากหลังยายและให้ผู้ใหญ่เปี่ยมอุ้มง่าย ๆ ผู้ใหญ่เปี่ยมอุ้มเด็กคนนั้นด้วยมือข้างเดียวและศิวัฒน์ก็มองสิ่งที่คนที่เพิ่งกลับมาทำ

   “โอ้โห หนักขึ้นเยอะแล้วเนี่ย วันก่อนไม่หนักขนาดนี้นะ”

   “จะได้ขวบแล้ว”

   “โตเร็วจริง ๆ อีกไม่กี่วันก็เป็นหนุ่มแล้วเนี่ย”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมพูดคุยกับยายของเด็กและเพียงไม่นานก็เดินมาหาศิวัฒน์ที่นั่งทำงานอยู่

   “วัน เอาขนมให้หน่อย”

   มีขนมถุงเล็ก ๆ  อยู่ในตะกร้า เป็นพวกขนมปังกรอบที่เอาไว้กินกับกาแฟและศิวัฒน์ก็หยิบขนมส่งให้เด็กผู้ชายที่ผู้ใหญ่เปี่ยมอุ้ม

   “ธุจ้าด้วย ธุจ้าหรือยัง”

   ยายของเด็กบอกให้ขอบคุณและเด็กผู้ชายตัวน้อยก็ทำตาม สองมือเล็ก ๆ ยกขึ้นไหว้และเมื่อได้ขนมก็กอดถุงขนมเอาไว้แน่น

   “วันเสาร์หน้า มาร่วมบุญกันนะยาย เดี๋ยวผมจะไปคุยกับหลวงพ่อเรื่องนิมนต์พระมารับภัตตาหาร”

   “พระมากี่โมงล่ะผู้ใหญ่”

   “เช้าเลย ข้าวสารอาหารแห้งมีอะไรก็เอามาได้ ถือว่าทำบุญร่วมกัน”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมเป็นผู้ใหญ่บ้านที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับทุกคนยกเว้นแค่กับศิวัฒน์คนเดียวเท่านั้น

   “ประกาศที่หอกระจายข่าวมั้ย เดี๋ยวยายลืม”

   “ได้ ๆ เดี๋ยวผมให้ประกาศที่หอกระจายข่าว”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมคุยกับยายหลานที่แวะมาทักทายกันอีกพักใหญ่ มองแล้วก็รู้สึกดีแต่ก็ปนด้วยความหมั่นไส้ ไม่แปลกที่ผู้ใหญ่เปี่ยมจะรู้จักลูกบ้านทุกคนเพราะเกิดและเติบโตที่นี่
 
   “รายชื่อเสร็จแล้วนะ”

   บอกคนที่อุ้มเด็กผู้ชายตัวเล็กอยู่ในอ้อมแขนให้รับรู้ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็หันมาส่งยิ้มให้

   “เร็วมากเลย ขอบใจมากนะวัน เดี๋ยวเราจะเอาไปติดที่ป้ายประกาศเลยก็แล้วกันนะ”

   ผู้ใหญ่เปี่ยมเดินมาหาศิวัฒน์ที่ทำงานให้จนเสร็จเรียบร้อยและไปหยิบเอกสารใบรายชื่อเพื่อเตรียมปิดป้ายประกาศ

   “ไปก่อนนะผู้ใหญ่เปี่ยม ไปแล้วนะผู้ช่วย”

   ผู้ช่วย?

   มีกันอยู่สองคนถ้าไปประโยคหลังไม่ได้หมายถึงศิวัฒน์แล้วยายหมายถึงใคร สิ่งที่ได้ยินทำให้ผู้ใหญ่เปี่ยมอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากและมองหน้าของคนที่ทำหน้างงแบบยิ้ม ๆ

   “ขอบคุณนะครับ ผู้ช่วย”

   โดนแซวและศิวัฒน์ก็ขมวดคิ้วมุ่นเพราะสิ่งที่ได้ยิน

   “เราไม่ใช่ผู้ช่วย ทำไมผู้ใหญ่ไม่บอกยายไป เดี๋ยวเขาก็เข้าใจผิดกันไปหมด”

   “ไม่เห็นจะเข้าใจผิดเลย ก็วันเป็นผู้ช่วยเรา”

   ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ นอกจากไม่ยอมแก้ความเข้าใจผิดแล้วยังปล่อยเลยตามเลยไปอีกด้วย

   “ผู้ใหญ่ เราไม่ใช่ผู้ช่วยนะ”

   “วันนี่ล่ะก็ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องโมโหเลย”

   น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ตัวก็ยังเลอะโคลนแต่ผู้ใหญ่เปี่ยมเดินอ้อมไปด้านหลังและไปนวดไหล่ให้เบา ๆ เพื่อเอาใจและศิวัฒน์ก็เบี่ยงตัวหลบไม่ยอมให้ผู้ใหญ่เปี่ยมเข้าใกล้

   “ไปอาบน้ำเลยไป อย่ามาใกล้เรานะ”

   “แหม แค่นี้ทำเป็นเหม็นกลิ่นโคลนสาปควายไปได้นะพ่อหนุ่มเมืองกรุง”

   “ทำไมชอบหาเรื่องเราตลอดเลยวะ”

   ถ้ายังต่อปากต่อคำกันแบบนี้ ดูเหมือนเรื่องจะไปกันใหญ่และผู้ใหญ่เปี่ยมก็ยอมถอย หลังจากที่ได้แหย่คนที่สละเวลามาทำงานให้จนงานเสร็จเรียบร้อย

   “ใครเขาจะไปหาเรื่องผู้ช่วยกันล่ะ ผู้ช่วยว่ายังไง ผู้ใหญ่ก็ยอมทำตามหมดแหละ ไม่งั้นเดี๋ยววันหลังผู้ช่วยไม่มาช่วยก็แย่กันพอดี”

   “เคยแย่ด้วยเหรอ น่าจะมีคนเสนอตัวอยากช่วยเยอะแยะนะ”

   ประชดประชันไปเล็กน้อยและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

   “ใครล่ะ ไม่เห็นมีใครอยากช่วยเราเลย”

   จะใครล่ะถ้าไม่ใช่...

   “ก็ศิตาไง”

   “..........”

   ไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องส่วนตัว ไม่อยากพูดเรื่องของใครแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้พลั้งปากพูดออกไปแบบนั้น และมันทำให้สีหน้าของผู้ใหญ่เปี่ยมเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ศิวัฒน์พูด
   
   ผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ได้ตอบอะไรกลับมา มีแค่เพียงความนิ่งเงียบและศิวัฒน์ก็เพิ่งรู้ตัวว่าพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดไปแล้ว

   “เอ่อ คือเราหมายถึง...”

   จะแก้ตัวตอนนี้ก็คงไม่ทันเพราะผู้ใหญ่เปี่ยมไม่ได้ฟังและจงใจเดินหนีกันไปซึ่งหน้า

   “เราไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะวัน”

   ท่าทีที่แสดงออกแบบนี้คงกำลังไม่พอใจ และศิวัฒน์ก็นึกอยากเขกหัวตัวเองที่หลุดปากพูดเรื่องนั้นออกไป ถึงแม้หลาย ๆ ครั้งจะสามารถพูดอย่างที่ใจคิดและหลาย ๆ ครั้งจะหงุดหงิดหรือต่อว่าผู้ใหญ่เปี่ยมได้อย่างที่ใจต้องการ แต่ไม่ใช่การพูดแบบในวันนี้ แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดชื่อของผู้หญิงคนนั้นออกมา บางทีอาจเป็นเพราะชื่อของศิตามันติดอยู่ในความคิดอยู่ตลอดเวลาก็เป็นได้

   “พลาดแล้วไงไอ้ศิ”

   รู้ว่าไม่สมควรพูดเพราะมันน่าจะมีผลกับจิตใจของคนฟังอย่างมาก แต่มาคิดได้ตอนนี้ก็สายไปแล้ว ในเมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องรับผลที่ตามมาให้ได้ และเมื่อรู้ตัวว่าพลั้งปากพูดสิ่งที่ไม่ดีออกไปก็คงต้องหาโอกาสขอโทษผู้ใหญ่เปี่ยมให้ได้แค่นั้นเอง

        TBC.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2019 14:42:59 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ สงสารผู้ใหญ่จัง  วันก็นะ ปากไวตลอดเลย  :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คงต้องเอ่ยปากขออย่างจริงจังแล้วล่ะผู้ใหญ่

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
หึงไม่เก็บอาการไง ผู้ช่วยอ่ะ พ่อผูใหญ่งอนเลยเห็นไหม? ตีๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
โอ้ยยยย เรื่องนี้น่ารักมากกกกก  ตีกันทะเลาะเถียงกันเป็นเด็กๆ  ขำผู่ใหญ่เปี่ยมวอแว รุงรัง กวนตีน จีบเนียนๆ หนูวันของ ผญ.เก้วกาด โวยวาย แต่ยอมช่วยงานตลอด หนูวันคนดี มีแต่ความน่ารัก น่ารัก น่ารักเต็มไปหมดเลยยยย

หนูวันเริ่มจะมีใจให้แล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว แงงง  :-[

ออฟไลน์ Chobreadyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องวันต้องง้อแบบพิเศษแล้วแหละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด