เพ้อ บทที่ 47 ความรักของครอบครัว [END]"อยากทำแบบนั้นแน่นะ"
นี่เป็นคำถามของพี่หมอกที่ถามผม เมื่อผมบอกว่าอยากจะให้พี่หมอกกลับไทย และไปที่บ้านกับผม เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผมจะยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ถ้ามันยังค้างคาอยู่แบบนี้
"ครับ ยังไงก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้หรอก"
"ตามใจ แต่ถ้าถูกไล่ออกมา ก็ไม่ต้องห่วงนะ"
ผมกอดพี่หมอกไว้ พวกเรานั่งอิงกันอยู่ที่โซฟา ผมดีใจจริงๆ ที่ได้ยินคำปลอบใจจากคนรัก
"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมไม่กลัวอีกแล้ว"
และในวันต่อมา ผมก็ตัดสินใจบินกลับมาที่ไทยพร้อมพี่หมอก พวกเราตรงดิ่งไปที่บ้านของผม บ้านของหมี่ ซึ่งผมได้บอกแม่ไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้แม่เตรียมที่จะบอกพ่อแม่ของหมี่ ให้พวกเราได้คุยกัน
เมื่อกลับมาถึง ผมจับมือกับพี่หมอกเดินดิ่งเข้าไปในบ้าน ที่นี่เป็นบ้านที่ผมและแม่ได้มาอาศัยอยู่ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งสุขและทุกข์ ถ้าหากว่าจะต้องจากไปจริงๆ ผมก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน
"อิน" เสียงเรียกของแม่ ทำให้ผมวิ่งเข้าไปและกอดแม่ไว้
"กลับมาแล้วครับ คิดถึงจัง มีของฝากด้วยนะ" ผมยิ้มหน้าบาน หอมแม่อีกฟอดใหญ่
"จะไปจะมาบอกปุบปับตลอดนะเรา" แม่บีบจมูกผมแต่ก็ยิ้มอย่างใจดี
"สวัสดีครับ" เกือบจะลืมไป ผมมองพี่หมอกที่ยืนอ้ำๆ อึ้งๆ แต่ก็ยกมือไหว้แม่ทันทีที่แม่หันไป
"สวัสดีจ้ะ ขอบคุณที่ช่วยดูแลอินนะคะ"
ผมอดใจไม่ไหวที่เห็นพี่หมอกทำตัวไม่ถูก จึงรีบไปลากตัวมาใกล้ๆ แม่ เพื่อให้ท่านได้มองเห็นพี่หมอกชัดขึ้น
"พี่หมอกเลี้ยงอินดีจริงๆ ฮะ ดูสิ นี่ไงหลักฐาน" ผมไม่พูดเปล่าแต่ชี้พุงกะทิที่เริ่มยื่นออกมา ผมพยายามทำให้พี่หมอกไม่เกร็งเวลาที่อยู่กับคนที่ไม่คุ้นเคย แต่ว่า ก็ดูเหมือนจะพลาดอะไรไป ผมมองแม่สลับกับพี่หมอกที่กำลังทำสีหน้าอมยิ้มแปลกๆ
"ฝังตัวเองแท้ๆ" ผมหยิกพี่หมอกที่แอบกระซิบผม ไอ้พี่บ้า ไม่ได้หมายความถึงเรื่องนั้นสักหน่อย
"เอาเถอะ อย่าเพิ่งมายืนคุยกันตรงนี้เลย ไป ขึ้นไปบนบ้านใหญ่กัน คุณๆ เขารออยู่" แม่ยิ้มอย่างใจดีและเดินนำหน้าไป ผมเริ่มรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาอีกแล้ว แต่ว่า ผมก็อยากให้ทุกฝ่ายสบายใจเสียที
"ไม่เป็นไรหรอก ไปเถอะ" มือที่แสนอบอุ่นบีบเบาๆ ราวกับให้กำลังใจ ผมรู้สึกดีขึ้น ถ้าหากมีพี่หมอกอยู่ข้างๆ ละก็ ไม่ว่าเรื่องอะไร ผมก็จะผ่านมันไปได้
บ้านสองชั้นที่เป็นเรือนใหญ่ มีห้องรับแขกอยู่ที่ชั้นล่าง ตรงกลางของบ้าน ผมค่อยๆ เดินตามแม่เข้าไป ซึ่งที่นั่นมีคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เป็นคุณลุงกับคุณป้า พ่อแม่ของหมี่ ทั้งสองมองผมทันทีที่เข้ามา
"อ้าวว่าไงหลานชาย มีอะไร ให้แม่มาตามซะใหญ่โตเชียว" คุณลุงเอ่ยทักผมอย่างใจดี
"มีเรื่องอะไร แล้วนั่นใคร" ผมเข้ามานั่งลงที่พื้นตรงหน้าโซฟา โดยมีพี่หมอกนั่งลงข้างๆ และแม่ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ซึ่งวันนี้คุณป้าแม่ของหมี่ก็อยู่ด้วย
"ผมหมอก" พี่หมอกพูดสั้นๆ และทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงอะไร
"หมอก หมอกที่เป็นแฟนหมี่น่ะเหรอ" ผมหัวใจกระตุกเล็กๆ และพี่หมอกก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"พวกเรา..."
"ทำอะไรกันคะคุณพ่อคุณแม่" ผมรู้สึกดีใจพิลึก ที่อยู่ๆ คนที่ผมต้องการให้อยู่ที่นี่ก็เดินเข้ามา หมี่มองดูพ่อแม่ของตัวเอง และเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็เพิ่งเห็นพวกผมที่นั่งกันอยู่ที่พื้น
ปฏิกิริยาแรกที่หมี่มองพวกผมนั้นเป็นไปอย่างที่คาด เธอตกใจ ตาโตขึ้นและเริ่มชี้นิ้วมาที่พวกเรา
"นี่มันอะไรกันคะ!" เธอเดินเข้ามาใกล้และแทบกรี๊ดเมื่อได้เห็นพี่หมอกชัดๆ
"หมี่ จะเสียงดังทำไม นั่งลง" คุณลุงหันไปตำหนิเธอที่ดูเสียมารยาทพร้อมทำหน้าเหนื่อยใจ
"พี่หมอก นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมพี่ถึงยังยุ่งเกี่ยวกับมันอีก!" หมี่ไม่ได้สนใจคำตำหนิของพ่อ เธอยังคงเดินไปเดินมาอย่างตื่นตระหนก ความต้องการเอาชนะของเธอมันมากล้น จนสิ่งที่เห็นอยู่ทำเอารับไม่ได้
"เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง" พี่หมอกพูดเสียงเย็น แทบจะไม่เหลือบตามองเธอด้วยซ้ำ
"พี่หมอก!!" หมี่ร้องแหวพร้อมทำตาโตมองผมอย่างรังเกียจ "ดี งั้นก็ดี อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพอดี" เธอแสยะยิ้มอย่างคนมีชัยชนะ พร้อมๆ กับชี้หน้าผม
"คุณพ่อคุณแม่คะ ป้าก็ด้วย ฟังนะ อินมัน..."
"ผมเป็นเกย์" ไม่ทันที่หมี่จะได้พูด ผมก็ชิงพูดออกไปซะก่อน ผมอยากจะบอกตัวตนของผมให้ชัดๆ ให้ทุกคนได้รับรู้
หมี่อึ้งชะงักไป พะงาบปากแต่ก็พูดไม่ออก เธอดูตกใจ สับสน มึนงง และไม่รู้จะทำอะไรต่อ
ส่วนคุณลุงคุณป้า พ่อแม่หมี่นั้นก็มีปฏิกิริยาที่ไม่ต่างกัน ผมรู้ ผมเข้าใจดี เพราะที่ผ่านมา ผมวางตัวเป็นผู้ชายแท้ๆ เสมอ ผมเก็บงำความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ มันอึดอัด มันกดดัน ผมไม่เคยมีความสุขจริงๆ เลยสักครั้งที่ปิดมันเอาไว้
"ผมขอโทษคุณลุงคุณป้าด้วยนะครับ ที่ไม่ได้บอกแต่แรก" ผมยกมือขอโทษผู้มีพระคุณรองจากแม่ทั้งสอง พวกท่านเลี้ยงดูส่งเสียให้ผมได้เล่าเรียน ทำให้พวกเรามีที่ซุกหัวนอน
"แล้วก็ ถ้าหากคุณลุงคุณป้าไม่สบายใจ ผมยินดีที่จะพาแม่ไปอยู่ที่อื่นครับ" ผมพูดจบและหันไปมองแม่ด้วยรอยยิ้ม ผมทำได้แล้วนะ ผมไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว และผมพอมีเงินเก็บให้พวกเราได้เช่าบ้านอยู่กันได้
"เดี๋ยวก่อน อินอยากออกจากบ้านหลังนี้เหรอ" ไม่รู้ทำไม แต่สิ่งที่ทำให้คุณลุงดูตกใจมากกว่ากลับไม่ใช่เรื่องที่ผมเป็นเกย์ แต่เป็นอย่างหลัง
"ไม่ได้นะ ไม่ได้ อย่าไปเลย อยู่ด้วยกันเถอะ" ผมอึ้งเล็กน้อยที่เห็นคุณลุงละล่ำละลัก ดูไม่อยากให้พวกเราจากไปจริงๆ
"คุณพ่อคะ นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะ มันเป็นเกย์นะคุณพ่อ!!" หมี่ปรี๊ดแตกเสียงดังก้าวร้าว ทำเอาคุณลุงต้องหันกลับมาสนใจหัวข้อนี้อีกครั้ง ในขณะที่คุณป้า ได้แต่ดมยาดมเงียบๆ
"เป็นเกย์" คุณลุงทวนคำและหันมามองผม "แล้วยังไงต่อ"
"คุณพ่อคะ!!" หมี่ดูเดือดดาลจนสุดจะทน ที่พ่อของตัวเองไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องนี้เลยสักนิด
"ก็แล้วยังไงล่ะ อินก็เป็นเด็กดี จะมีรสนิยมยังไงมันก็เรื่องของเขา" คำพูดนี้ทำผมประหลาดใจและอดชื่นชมไม่ได้ แต่สำหรับหมี่นั้นราวกับโลกพังทลาย
"แต่ว่าคุณพ่อคะ มันแย่งแฟนหมี่นะ!" เมื่อได้ยินแบบนั้นคุณลุงก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ผมใหม่อีกครั้ง
"จริงเหรอ"
"จริงค่ะคุณพ่อ พี่หมอกนั่นไงแฟนหมี่ แต่อินก็แย่งไปเฉยเลยค่ะ" หมี่ได้ทีรีบฟ้อง แต่พี่หมอกตอนนี้นั้นทำหน้าเอือมเต็มที
"ขอผมพูดหน่อย" พี่หมอกยกมือหยุดสงครามครั้งนี้ ซึ่งทุกคนก็เปลี่ยนมาให้ความสนใจทันที "ผมเคยคบหมี่จริง แต่ผมก็มีเหตุผลที่เลิก" พี่หมอกส่งสายตาเบื่อหน่ายไปที่หมี่ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เข้ามา ที่พี่หมอกมองเธอ
"พวกเราไม่เคยจริงใจต่อกัน แล้วเธอก็แอบคบซ้อนกับผู้ชายคนอื่นอีก 3 คน" พี่หมอกทำนิ้วเลขสามชัดเจน หมี่ที่เหมือนกับถูกเปิดโปงก็แทบจะปากสั่นทันที แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ คุณลุงในตอนนี้ ที่กำลังโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม
" 3 คน!!" คุณพ่อตวาดลั่น พร้อมๆ กับหันมาตาเหลือกใส่ลูกสาวตัวเอง
"ไม่ใช่นะ ไม่จริงนะคะคุณพ่อ!" ไม่พูดเปล่าหมี่ที่เหมือนจะรู้ชะตากรรมก็รีบถอยหลังวิ่งแจ้นออกไปทันที ตามด้วยคุณพ่อหมี่ที่หยิบคว้าอะไรเหมาะๆ มือวิ่งตามไป
เสียงหวีดร้องดังขึ้นเป็นระยะๆ ผมรู้สึกอึ้งเล็กน้อยที่สิ่งที่คุณพ่อหมี่โกรธไม่ใช่การที่ผมเป็นเกย์ หรือการที่ผมจะออกจากบ้าน แต่เป็นการที่ลูกสาวทำตัวไม่รักดี
เมื่อไม่มีหัวหน้าครอบครัวอยู่ตรงนี้แล้ว พวกเราก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป
"ไป ไปเถอะ แยกย้าย" ในที่สุดคุณป้าที่นั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มก็ทำมือไล่พวกเราให้ออกไป ผมอมยิ้มและยกมือไหว้ลา ก่อนที่จะพาแม่และพี่หมอกออกมา
"เป็นไง แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าคิดมาก ชอบคิดไปเองจนเป็นนิสัย" แม่ทำเสียงดุผมแต่กลับยิ้มแย้ม ผมรู้สึกเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก รู้สึกเป็นอิสระ ไม่ต้องหวาดกลัว หลบซ่อนจากครอบครัวต่อไป
"ไปๆ ยังไม่ได้กินอะไรกันมาใช่ไหม ไปกินข้าวกัน" แม่บอกพวกเราด้วยรอยยิ้ม ผมมองพี่หมอกที่คอยแต่จะหลบสายตาของแม่ เหมือนกับว่าพี่เขากำลังทำตัวไม่ถูกเหมือนเดิม
"ไปกันเถอะครับ" ผมจับมือพี่หมอกไว้ พาให้เดินตามแม่ไป พอเห็นพี่หมอกเป็นแบบนี้ ผมก็ยิ่งกอดแขนพี่เขาไว้ ผมนั้นยังคงมีแม่ แต่สำหรับพี่หมอก ราวกับไม่มีใครเหลือเลย
เมื่อพวกเราเข้ามาในห้องครัว ก็พบว่ามีหม้อต้มและอาหารหลายอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ผมพาพี่หมอกนั่งลงและช่วยแม่ตักข้าวปลาอาหารหลายอย่างมาวาง และนั่งลงข้างๆ พี่หมอก
ช่วงเวลานี้ช่างราวกับภาพฝัน ผมมีความสุขมากจริงๆ จนกลัวว่ามันจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่ว่าไม่ใช่ ผมมองแม่สลับกับพี่หมอกไปมาด้วยรอยยิ้ม
"เริ่มกินได้แล้ว มัวแต่ยิ้มอยู่นั่น" แม่ดุผมและเอื้อมมือมาหยิกไหล่ผมเบาๆ
"เจ็บบบบ" ผมพูดเจ็บแบบหลอกๆ ให้แม่หมั่นไส้เล่น
"คุณหมอกเอื้อมถึงไหม อยากกินอะไรเพิ่มบอกแม่ได้นะ" ผมยิ้มมองแม่ที่ถามพี่หมอกอย่างใจดี แต่สีหน้าของพี่หมอกก็ดูคล้ายเศร้านัก
"พี่หมอก" ผมที่รู้ว่าพี่หมอกคิดเรื่องอะไรก็กุมมือพี่หมอกเอาไว้
"ไม่เป็นไร" พี่หมอกยิ้มออกมาเล็กๆ ให้ผมรู้ว่าไม่เป็นไร
"คุณอยู่คนเดียวหรือคะ" แม่ถามพี่หมอก
"ครับ" พี่หมอกพูดเสียงเบา ไม่ค่อยกล้าสบตาแม่
"ถ้าอย่างนั้น วันไหนว่างๆ ก็มาหาแม่ได้นะ แม่ก็อยู่คนเดียวบ่อย อินน่ะ ชอบหนีเที่ยวไปเรื่อย"
"แม่อ้ะ" ผมแทบพองลมเมื่อโดนใส่ร้าย
"แม่ มีแค่อินสองแม่ลูกเท่านั้น ตลอดเวลาก็เคยคิดว่าในชีวิตนี้ ก็คงจะมีแค่แม่ที่รักอินมากที่สุด แต่ว่าตอนนี้ แม่รู้แล้วว่าไม่ใช่"
แม่ลุกขึ้นและเดินไปจับที่บ่าของพี่หมอกเบาๆ ผมมองพี่หมอกที่แววตาสั่นระริก ผมอยากให้พี่เขาเปิดใจ และลืมเรื่องร้ายๆ ของครอบครัวตัวเองไปบ้าง
"แม่ฝากอินด้วยนะ คนที่อินรัก แม่ก็รักเหมือนลูกนั่นแหละ"
"ห้ามทิ้งพวกเราไปไหน ห้ามทิ้งผมไปอีกนะ" ผมพูดและยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่หมอก
"ต่อหน้าต่อตาเลยนะเด็กคนนี้" ผมหัวเราะและมองพี่หมอกที่หน้าเริ่มหน้าแดง บรรยากาศแบบนี้ พี่คงไม่เคยได้สัมผัสมันใช่ไหม แต่ว่าจากนี้ต่อไป ผมจะทำให้พี่ได้สัมผัสกับความรักที่พี่ไม่เคยได้รับ ไม่ให้พี่ ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป
ผมจะคอยเติมเต็มสิ่งที่พี่ขาด พวกเราจะเติมเต็มความรักซึ่งกันและกัน ตลอดไป
THE END
*******************************************************************************
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านเสมอมานะคะ หากเนื้อหาขัดใจนักอ่านบางท่านก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และหากใครที่ชอบก็ขอบคุณมากเลยค่ะ เรื่องนี้มีตอนพิเศษนะคะ แต่อาจจะรวมอยู่ในแบบรูปเล่ม ยังไงถ้ามีข่าวสารใดๆ เพิ่มเติม นักเขียนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ขอบคุณนักอ่านทุกท่านจริงๆ ค่ะ