" หลงละเมอเพ้อรัก " [YAOI][#47 ความรักของครอบครัว][END](25/6/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: " หลงละเมอเพ้อรัก " [YAOI][#47 ความรักของครอบครัว][END](25/6/63)  (อ่าน 49302 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่หมอก หนีไปร้องเพลง  แบบปิดหน้าใส่แมสหมาป่า ที่อินนไปเจอง่ะ
รีบๆ  ไม่อยากเศร้า

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เพ้อ บทที่ 45 บุคคล...ใต้หน้ากาก


ดูเหมือนสิ่งที่พี่ชายของพี่หมอกพูดนั้นอาจจะเป็นความจริง เพราะตั้งแต่ที่พี่หมอกจากไป ผมก็ได้พยายามค้นหาที่อยู่ของพี่หมอกจากทุกๆ ทางที่ผมพอจะนึกได้

 ไม่ว่าจะไปไล่ถามจากบรรดาเพื่อนๆ ของพี่หมอก หรือคอยสอดส่องดูข่าวคราวจากในอินเทอร์เน็ต จากบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีข่าวคราวอะไรเลย นอกจากข่าวที่ว่าพี่หมอกนั้นลาออกจากวงการ เพื่อต้องการเรียนต่อที่ต่างประเทศ แม้แต่พี่บี ผู้จัดการส่วนตัวของพี่หมอกก็ไม่อาจรู้ได้

 "เฮ้อ พี่ก็ตกใจเหมือนกัน อยู่ๆ เจ้าหมอกก็มาบอกพี่ ว่าอยากจะเลิก ดูนะอิน พี่นะอุตส่าห์หมายมั่นปั้นเจ้าเด็กนั่นให้เป็นดาวของวงการ ทั้งๆ ที่ไปได้ดีอยู่แล้วเชียว ไหนเคยบอกว่าอยากเอาชนะคำสบประมาทของพ่อ แล้วนี่อะไร อยู่ๆ ก็จะมา อยู่ๆ ก็จะไป ไม่บอกที่อยู่ให้ติดต่อเลยสักทาง..."

 ผมที่โทรหาพี่บีก็แทบจะหูชา ความอึดอัดคับแค้นของหญิงสาวช่างน่ากลัวจริงๆ และก็เป็นไปอย่างที่คาด พี่บีก็ไม่รู้ว่าพี่หมอกไปที่ไหนเช่นกัน

 แต่เมื่อฟังพี่บีพูดไปสักพัก ผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่บีพูดเกี่ยวกับเรื่องคุณพ่อของพี่หมอก พี่เคยอยากทำให้คุณพ่อของพี่ยอมรับพี่ พี่เคยพยายามพิสูจน์ตัวเอง เพื่อจะลบคำสบประมาทของคุณพ่อไม่ใช่เหรอ แต่ว่าทำไมกันนะ ทำไมตอนนี้พี่ถึงยอมแพ้แล้ว เป็นเพราะผมงั้นเหรอ หรือเป็นเพราะว่าพี่ปล่อยวางทุกสิ่งแล้วจริงๆ

 "น้องอิน ฟังพี่อยู่หรือเปล่า"

 "ครับ"

 "เจ้าเปอร์เพื่อนสนิทหมอกไง ถ้าเป็นเปอร์ละก็ ต้องรู้แน่ๆ ว่าหมอกไปไหน" สิ่งที่ผมได้ยิน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมเดาไม่ได้ แต่ว่า การจะให้ไปยุ่งเกี่ยวกับคนคนนั้นอีก ผมคงทำไม่ได้จริงๆ

 "ขอบคุณนะครับพี่"

 "จ้า ยังไงเรื่องให้พี่เป็นผู้จัดการของอิน ลองคิดดูอีกทีนะ"

 "ครับ ขอบคุณครับ"

 ผมได้แต่ภาวนา ขอให้ผมได้มีโอกาสอีกสักครั้ง ที่จะพบพี่ เพื่อได้บอกพี่ ถึงสิ่งเดิมๆ สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในหัวใจ



 บางที นี่ก็เป็นสิ่งที่โหดร้ายเหลือเกิน เวลาในตอนนี้ได้เคลื่อนผ่านไปจนเกือบปีแล้ว แต่ผมก็ยังคงหาพี่หมอกไม่พบ

 ผมทำงานไป สืบหาข้อมูลของพี่หมอกไป และความพยายามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมก็คือ การเดินเข้าไปหา คุณพ่อของพี่หมอก...

 "บางทีการที่มันหายไปนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุด"

 นี่เป็นคำพูดของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ ภายในหัวใจของผมปวดร้าวแทนพี่หมอก คำพูดที่แสนเย็นชานั้น พี่คงเคยได้ยินมันมานับไม่ถ้วนใช่ไหม

 "ทำไมคุณถึงเกลียดลูกชายของคุณ" ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะก้าวก่าย แต่ว่า ผมก็ทนไม่ได้

 "เพราะว่ามันถอดแบบแม่มันมาไงล่ะ เพราะฉะนั้นการปล่อยมันไป คือทางที่จะกำจัดความผิดพลาดในชีวิตฉันได้"

 ในตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ตัวตนของพี่ การพยายามที่ไร้ความหมายของพี่ ผมรู้แล้วว่า ว่าทำไมพี่ถึงอยากมี...อิสระ

 ยิ่งเวลาผ่านเลยนานไป ภายในหัวใจของผม ก็ราวกับมีหลุมลึกที่สุดหยั่งถึง แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ภายในกลับเก็บซ่อนความเหงาและอ้างว้างเอาไว้ ผมทำได้แค่เพียงหลอกตัวเองไปวันๆ อยู่กับความคิดที่บอกให้เลิกหวัง เพื่อจะมีความสุข ในโลกของตัวเอง

 แต่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง

 เพราะว่าโลกทั้งใบของผมนั้น ยังไงมันก็ยังเป็นพี่

 ทุกสิ่งที่เป็นพี่ มันฝังลึกลงในหัวใจ เป็นความรัก ที่แข็งแกร่งเหลือเกิน

 "พี่อิน ใช่พี่อินจริงๆ ด้วย"

 ผมที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟในช่วงสาย ก็พบเข้ากับบรรดาแฟนคลับของผม

 "ขอลายเซ็นหน่อยนะคะ ถ้าจะให้ดี ขอเซลฟี่ด้วยได้ไหมคะ"

 "ได้สิ"

 ผมยิ้มใจดีให้กับเด็กสาวพวกนั้น ความจริงก็รู้สึกดีใจมากที่ตัวเองได้เป็นที่จดจำ อาจจะเป็นเพราะตอนนี้ ผมเริ่มเล่นละครกับทางช่องใหญ่แล้ว จึงทำให้ผมมีชื่อเสียงมากขึ้น ผมได้ก้าวไปไกลมากขึ้นแล้ว ในอาชีพที่ผมที่ผมใฝ่ฝัน แต่กับเรื่องหัวใจ มีแต่ก้าวถอยหลังจริงๆ

 "1 2 3!"

 แช่ะ!

 "หูย ดูดีมากเลยค่ะ ขออีกรูปนึงได้ไหมคะ"

 ผมยิ้มเจื่อนแบบไม่เต็มใจนัก เพราะจริงๆ แล้ว วันนี้ผมแค่ออกมานั่งเล่น และเสื้อผ้าหน้าผมก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

 แช่ะ!

 "ขอบคุณมากๆ เลยคร่า นี่ๆ พี่อินดูสิคะ รูปนี้แสงกำลังดีเลย" พวกเธอไม่พูดเปล่า แต่กำลังยื่นมือถือให้ผมดูพลางเลื่อนหน้าจอให้ดูรูปที่เพิ่งถ่ายไปมา

 ผมที่ราวกับถูกบังคับ ก็จนใจจ้องมองรูปภาพเหล่านั้นอย่างที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร รูปแรกใบหน้าของผมดูไม่ค่อยจะชัดนัก และอีกรูปหนึ่งก็กำลังหลับตา ไอ้รูปที่บอกว่าแสงดีนั่น มีแต่พวกเธอที่ดูดี

 "พี่อินคะ ขอภาพเดี่ยวบ้างน้า"

 "เอ่อ..."

 แช่ะ!

 ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนต่อไป นี่พวกเธอกำลังถามความเห็นผมจริงๆ ใช่ไหม บางที เรื่องแบบนี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน

 "นี่ๆ ดูสิคะ" ผมทำเพียงแค่เหลือบตามองดูภาพที่เธอเลื่อนบนจอให้ดูผ่านๆ แล้วเลื่อนไวแบบนั้นจะไปดูทันได้ยังไง...

 "เดี๋ยวก่อน!"

 ผมตกใจรีบจะลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ผมแย่งมือถือของเด็กสาวที่กำลังทำหน้างง พลางเลื่อนดูรูปที่อยู่ต่อๆ ไปจากรูปของผม

 "มีอะไรเหรอคะ" เด็กสาวทำหน้าตื่น และเขย่งแย่งมองรูปที่ผมดูอยู่

 "อ๋อ พี่ก็ชอบคุณหมาป่าเหมือนกันเหรอคะ นี่น่ะ หนูเพิ่งไปเที่ยวกับที่บ้านมา แล้วก็..."

 "ที่ไหน" ผมถามเด็กสาว ทั้งๆ ที่ยังคงไม่อาจละสายตาจากรูปภาพนั้น "อยู่ที่ไหน!" ผมถามซ้ำอีกครั้ง

 "ลอนดอน..." ผมแทบไม่ฟังที่เด็กสาวพูดจบ ผมรีบออกจากร้าน ออกไปตามหาคนบางคนโดยสัญชาตญาณ ถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจนัก แต่ผมก็อยากจะลองเสี่ยงดูอีกสักครั้ง



หมอก


 ตลอดชีวิตที่มีแต่ความสับสนวุ่นวาย และน่าผิดหวัง สิ่งที่ทำให้หัวใจแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง บางทีคงจะมีแค่ สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี่ละมั้ง

 ผมหนีจากทุกสิ่ง หนีจากชีวิตที่ราวกับถูกกักขัง ผมไม่อยากให้ใครคาดหวังในตัวผมอีกแล้ว เพราะว่าผมนั้นมีแต่จะทำให้ต้องผิดหวัง

 ผมเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน กับโลกที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ก็เพียงเพื่อทำให้คนอื่นสบายใจ นี่มันไม่ใช่ตัวผม

 ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ห้อมล้อม ภายใต้หน้ากากนี้ ผมรู้สึก ราวกับมีปีกโบยบินไป อิสระ ที่เหมือนกับได้ทิ้งโลกทั้งใบไว้ข้างหลัง ไม่ต้องคิด ไม่ต้องคาดหวังอะไร ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องเฝ้ารอ

 ทำเพียงแค่ ปล่อยหัวใจไปกับบทเพลง ใช้ชีวิต แบบที่อยากจะเป็น...

 การแสดงในคืนนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม นานๆ ที ผมจะมาในที่ที่มีผู้คนเยอะๆ และร้องเพลง เพื่อปลอบประโลมจิตใจตัวเอง มีกลุ่มคนเล็กๆ สนใจในเสียงดนตรีของผม ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดี ที่สิ่งเหล่านี้ สามารถช่วยคนอื่นได้ด้วย

 มันไม่ได้ไร้ค่า เหมือนอย่างที่พ่อพูดเลยสักนิด

 แต่ว่าเมื่อเพลงบรรเลงจบลง ผู้คนมากมายก็ต่างแยกย้ายออกไป นี่ก็เป็นเหมือนอย่างชีวิตของผม ที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงไฟ ดูดี มีชื่อเสียง ทุกคนก็ต่างเข้ามา เก็บเกี่ยวผลประโยชน์

 และเมื่อแสงสีเหล่านั้นสิ้นไป ผมที่ไม่มีอะไร ก็ไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น

 นั่นน่ะ...ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก

 ภายในหัวใจของผมมีสิ่งที่ขัดแย้ง ผมอมยิ้มเล็กๆ เมื่อคิดเรื่องนี้ขึ้นมา

 เหมือนจะมีอยู่คนหนึ่ง ที่เป็นข้อยกเว้น ทุกช่วงเวลาที่ผมแม้จะส่องสว่างมากเพียงไหน จะดำมืดหรือเลวร้ายมากเพียงใด เขาก็จะชอบอยู่ตรงนั้น ส่งยิ้มมาให้ ทำดวงตาเป็นประกาย เหมือนกับชื่นชมคนอย่างผมสุดหัวใจ...

 คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน...

 ป่านนี้จะยังร้องไห้อยู่ไหมนะ ขอโทษที่ไม่เคยทำเรื่องดีๆ ให้ ขอโทษที่ไม่มีโอกาส บอกว่ารักอีกแล้ว...

 "Hi~"

 เสียงทักเบาๆ ทำให้หลุดออกจากห้วงความคิด ผมที่คิดว่าผู้คนรอบๆ จะกระจายกันออกไปแล้ว กลับมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า และสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจที่สุดก็คือ คนคนนั้น สวมหน้ากากไว้ เป็นหน้ากากที่ทำให้ผมหลุดหัวเราะออกไป

 กระต่าย มันคือหน้ากากกระต่าย นี่เขาไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ ผมไม่ได้ต้องการคู่หู หรืออะไรแบบนั้นซะหน่อย

 "Hi" ผมที่ปกติไม่เคยตอบโต้หรือพูดคุยกับคนดู วันนี้ก็หลุดทักทายกลับไป ให้ตายสิ ผมว่าผมรีบกลับดีกว่า

 ว่าแล้วผมก็เริ่มถอดกีตาร์ออกจากตัว และวางลงในกระเป๋าเก็บข้างๆ แต่ว่าเมื่อผมก้มลงต่ำ ผมก็เห็นว่าเท้าของคนตรงหน้ายังคงยืนอยู่ที่เดิม ยิ่งผมถอย เขาก็ยิ่งเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก จนทำให้ผมประหลาดใจ

 ผมยืดตัวขึ้นอีกครั้ง มองดูเจ้ากระต่ายตรงหน้า ผมไม่เข้าใจ เขาต้องการอะไร

 "For you" และก็เหมือนจะได้คำตอบ เจ้ากระต่ายตรงหน้ายื่นสิ่งสิ่งหนึ่งมาตรงหน้าผม ซึ่งผมนั้นก็รีบปฏิเสธทันที การแสดงของผมนั้นไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือสิ่งของ ผมไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ผมทำเพื่อความสบายใจเท่านั้น

 พอเป็นแบบนั้น ผมก็ชี้นิ้วไปที่ป้ายเล็กๆ ที่ผมวางไว้ใกล้ตัวเสมอ ป้ายนั้นเขียนไว้ว่า "Do not donate" หรือไม่รับเงินบริจาค

 แต่ทว่าก็ดูจะไม่เป็นผล เจ้ากระต่ายตรงหน้ายังคงมุ่งมั่นที่จะยื่นสิ่งหนึ่งให้ผมต่อไป ซึ่งพอเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงได้แต่จำใจ รับมันมา

 และสิ่งที่ผมได้รับนั้น ก็ทำให้ผมประหลาดใจเล็กๆ เพราะมันเป็นแค่กระดาษที่ถูกพับไว้อย่างดีแผ่นหนึ่ง ไม่ใช่ของที่มีค่าอะไร

 ผมค่อยๆ คลี่มันออก กระดาษที่อยู่ในมือเมื่อต้องแสงไฟ ก็ทำให้ได้เห็นลายมือที่สวยงาม ตัวหนังสือที่อยู่บนนั้น...

 [หัวใจของผม เป็นของพี่เสมอ...]

 ถ้อยคำเพียงไม่กี่คำ แต่ทว่าทำให้หัวใจสั่นสะท้าน

 ตรงหน้าผม คนที่สวมหน้ากากนั้น ค่อยๆ ถอดมันออก ผมกลั้นหายใจ มองดูภาพที่สวยงามที่สุดตรงหน้า

 "พี่หมอก" ไม่เคยมีสักครั้งในชีวิตที่ผมจะดีใจเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง ยกเว้นจาก คนคนนี้

 ผมไม่ได้ตอบรับ แต่ค่อยๆ ถอดหน้ากากที่ปกปิดความเป็นจริงออกมา ความร้อนทำให้หยาดเหงื่อค่อยๆ รินไหล จนปอยผมเล็กๆ เปียกปอน ใบหน้าชื้นฉ่ำวาว

 "เป็นพี่จริงๆ" ผมได้เห็นใบหน้าของคนที่ผมคิดถึงที่สุด อินกำลังร้องไห้ออกมา มันทำให้ผมรู้สึกผิด ผมทำผิดต่อเขามามากมาย

 "เป็นพี่ มันดีแล้วจริงๆ เหรอ" ผมพูดสิ่งที่ใจคิด ผมแทบไม่เคยทำให้เขามีความสุข แต่ทำไมถึงเป็นผม ยังคงเป็นผมจนถึงตอนนี้

 "ผมรักพี่" มันเป็นสามคำสั้นๆ แต่ก็กลับมีความหมายเหลือเกิน ผมเหมือนกับถูกยอมรับ มีเพียงเขาที่เห็นว่าผมมีตัวตนอยู่ รักในทุกๆ อย่างที่ผมเป็น

"สิ่งที่พี่พูดกับผมครั้งสุดท้ายนั้น เป็นเรื่องจริงใช่ไหม"

 ผมจ้องมองใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของอิน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สีหน้า แววตา รอยยิ้มนั้น ผมเคยทำลายมันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่า ไม่ใช่อีกแล้ว

 "พี่รักอิน"

 ผมพูดสิ่งที่ผมเคยสับสน สิ่งที่ผมเคยปฏิเสธเสมอมา แต่วันนี้ เมื่อได้เห็นใบหน้านี้อีกครั้ง ผมก็ยิ่งมั่นใจ ว่าความรู้สึกนี้ ก็คือความรัก ผมจะไม่ลังเลอีกแล้ว

 ตอบแทนคำว่ารักที่พูดออกไป คนตรงหน้าพุ่งเข้ามากอดผมเอาไว้จนพวกเราแทบจะล้มลงไปด้วยกัน ใบหน้าที่เคยเฉยชาของผมกลับเริ่มมีรอยยิ้ม ความสุข เหมือนเป็นสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต

และจากนี้ไป ผมคงจะได้สัมผัสมันมากขึ้น

ความรัก จะช่วยเยียวยารักษาหัวใจของผม หัวใจของพวกเรา ให้ผ่านพ้นความเจ็บปวดไปได้

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

งุย ๆ   การเดินทางไปลอนดอนนี่มันถึงไวเนอะ  วาร์ปแป๊บเดียว  ถึงแระ  อิอิ

ป.ล. คล้ายจะใกล้จบเรื่องแล้ว?

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
งุ้ยยยย สมหวังกันซะที
ตามลุ้นคู่นี้มานานนนนนนนนนนน

เออ..เค้าก็รักของเค้าแหละ
หุหุ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ในที่สุดก็หากันเจอ กอดๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เจอกันแล้วววววววววว  :mc4: :mc4: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อินวาร์ปเก่งนะเรา555

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เพ้อ บทที่ 46 หัวใจที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง


ในตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนห้องหนึ่ง โดยมีสายตาของหมาป่าตัวโตมองอยู่ พี่หมอกนั้นดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ด้วยผมที่ยาวขึ้นและการแต่งตัวก็ดูสบายๆ

 "พี่ สบายดีใช่ไหมครับ" ผมพูดด้วยใบหน้าที่ขึ้นริ้วสีชมพู

 "ถอดเสื้อผ้าออก"

 "..."

 "ล้อเล่นน่ะ" พี่หมอกรีบพูดต่อด้วยเสียงหัวเราะที่ผมคิดถึงเหลือเกิน

 "พี่หมอก" ผมเรียกพี่หมอกเบาๆ พลางลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ พี่เขาบนโซฟา ห้องที่พี่หมอกอยู่ในตอนนี้ไม่ได้กว้างขวางเหมือนคอนโดที่ไทย แต่ก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว

 "ขอบคุณนะครับ" ผมกอดแขนคนข้างๆ และอิงซบไว้ รู้สึกว่าในที่สุด ผมก็สามารถทำแบบนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด รู้สึกว่าพวกเราเป็นคนรักกันจริงๆ

 "ไม่มีเรื่องอะไรที่ควรขอบคุณหรอก" สีหน้าพี่หมอกดูหม่นลงเมื่อพูดแบบนั้น

 "ไม่หรอกครับ มีจริงๆ" รอยยิ้มที่มีความสุขของผม ทำให้พี่หมอกเริ่มยิ้มตาม

 "อะไร"

 ขอบคุณที่พี่เกิดมา ขอบคุณที่มีพี่อยู่บนโลกใบนี้

 "ความลับ" คำตอบของผม ทำเอาโดนดึงจมูกด้วยความมันเขี้ยว ผมในตอนนี้คงเหมือนกับเด็กเล็กๆ ที่กำลังอ้อนคนที่รักอยู่ เหมือนตอนที่ผมอ้อนแม่บ่อยๆ

 "หิวไหม มีแซนด์วิชนะ" พี่หมอกถามผมและพยายามลุกขึ้น แต่มือที่เกาะเป็นตังเมของผมก็ไม่ยอมให้พี่หมอกทำแบบนั้นได้ง่ายๆ

 "เดี๋ยว ปล่อยก่อน ทำอย่างกับเด็กติดแม่" คำพูดนั่นทำเอาผมหุบยิ้มเล็กน้อย หนอย ปากดีแบบนี้ไม่ผิดคนจริงๆ

 "พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ" ผมแทบจะพองลมสู้ แต่ว่าคำพูดของผมก็ทำเอาพี่หมอกตาลุกวาว เหมือนจะเริ่มเคือง แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้ผมไม่กลัวพี่หมอกเลยสักนิด เพราะผมรู้ว่าพี่หมอกนั้นจะไม่ตีผม และไม่เคยทำจริงๆ

 "นี่ก็ต้องขอบคุณแม่เลยนะ ที่บอกเรื่องพี่หมอกกับผม ไม่งั้น ผมก็คงยังไม่เข้าใจพี่ต่อไป ขอโทษนะ ที่ผมกลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง จนหมี่เอาเรื่องนี้มาเป็นจุดอ่อนได้"

 "เลิกพูดถึงผู้หญิงนั่น" พี่หมอกทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินชื่อนั้น ทำเอาบรรยากาศรอบๆ ตัวเย็นยะเยือก

 "อื้อ แล้วทำไมพี่ถึงอยู่คนเดียวล่ะ"

 "ทำไม อยากให้อยู่กับคนอื่นเหรอ"

 "ไม่ใช่แบบนั้น ผมหมายถึงพี่ชายพี่ไปไหน" 

 "พี่เมฆอยู่อเมริกา อยู่กับหมอนั่นน่ารำคาญจะตายเลยหนีมานี่" พี่หมอกพูดถึงพี่ชายด้วยอารมณ์หงุดหงิด

 "ผมเจอพี่เขาด้วยนะ ก่อนที่พี่...จะหนีผมไป" ผมพูดและสังเกตสีหน้าพี่หมอกที่หม่นลง

 "ไปที่คอนโดมาเหรอ"

 "ครับ ผมไปหาพี่ทันทีที่แม่บอกผม"

 "พี่เมฆคงไม่ได้พูดอะไรแปลกๆ ใช่ไหม"

 "พี่เขา บอกผมเรื่องแหวน ขอบคุณนะครับ ผมมันโง่เอง"

 สีหน้าของผมเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ต้องหม่นหมองลง ผมไม่เพียงแค่โง่ แต่กลับทิ้งขว้างสิ่งล้ำค่านั้นไปอย่างไม่ไยดี พอนึกย้อนไปทีไร ผมก็รู้สึกผิดทุกที

 "ใช่ โง่"

 คำพูดที่พี่หมอกพูด ทำเอาผมแทบลมออกหู แต่ทว่า เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าคนตรงหน้า กำลังปลดสร้อยคอที่มีแหวนของตัวเอง นำมาใส่ให้ผมอีกครั้ง

 "คือ..." ผมขยับตัวอย่างตื่นตกใจ ครั้งก่อนนั้น พี่หมอกแอบสวมมันลงบนนิ้วของผมตอนที่ผมนอนหลับ แต่ตอนนี้ พี่กำลังทำมันต่อหน้าของผม ทำให้หัวใจผมเต้นแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

 "ช่วยเก็บไว้อีกครั้งได้ไหม"

 รอยยิ้มอบอุ่นที่แสนหายากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพี่หมอก ภายในหัวใจยิ่งสั่นไหว และเมื่อสังเกตบนนิ้วมือเรียวสวยของพี่หมอก ก็พบว่าพี่เขายังคงใส่แหวนที่ผมให้อยู่เสมอ

 "ไว้ผมจะซื้อให้ใหม่นะ" ผมยื่นมือไปกุมมือพี่หมอกไว้ แต่ว่าคนตรงหน้า ก็กลับกุมมือของผมไว้อีกที

 "แหวนเห่ยๆ นี่ แค่วงเดียวก็เกินพอ" ผมอมยิ้มให้กับคำพูดเจ็บแสบนั่น ผมชินกับด้านนี้ของพี่หมอกนานแล้ว

 "ถ้าของขวัญนั่นมันห่วย แล้วตัวผมล่ะ" ผมพูดแหย่พี่หมอกพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้

 "ก็ต้อง ขอลองเช็คของดูหน่อย"

 คำพูดนั้นทำเอาผมหัวเราะเบาๆ ใบหน้าเริ่มกลายเป็นสีชมพูเพราะแววตาเว้าวอนที่ถูกส่งมา

 "แล้วจะรออะไรล่ะ"

 พี่หมอกตอบแทนคำพูดนั้นด้วยริมฝีปากบางที่แสนอบอุ่น ความคิดถึง ความโหยหา ความรู้สึกมากมายโอบล้อมพวกเราเอาไว้

 เสื้อผ้าแต่ละชิ้นถูกถอดออกอย่างนุ่มนวลแต่ก็เร่งเร้าในท่าที มือไต่ลูบผ่านผิวกายเรียบเนียน สัมผัสที่แนบชิดกัน ทำให้ร่างกายทั้งลุ่มร้อนและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน

 "อ๊ะ ด..เดี๋ยวก่อนครับ เดี๋ยว" ด้วยความใจร้อนของคนตรงหน้าที่กำลังจ่ออาวุธสุดอันตรายเข้ากับช่องทางที่ยังไม่ถูกจัดเตรียม ทำให้ผมต้องรีบเบรกอย่างสุดตัว ไม่อย่างนั้นอาจได้เลือดแน่ๆ

 "เร็วสิ" สีหน้าที่แสดงความต้องการของพี่หมอกทำเอาผมใบหน้าร้อนผ่าว ผมค่อยๆ ถอดกางเกงตัวเองออกให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างถนัดมากขึ้น

 คนที่นอนรออยู่ด้านล่างมองอยู่ทุกการเคลื่อนไหว ทำเอาหัวใจยิ่งสั่นรัว ผมห่างหายกับเรื่องแบบนี้ไปสักพักแล้ว มันทำให้ยิ่งน่าอายมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะไอ้จุดกึ่งกลางของผมที่มันไม่รักดี มันตื่นตัวจนคนที่นอนมองส่งเสียงหัวเราะในลำคอ

"อย่ามอง" ผมอุบอิบในลำคอ เข่าทั้งสองข้างของผมวางบนโซฟาที่อ่อนยวบไปมา พยายามไม่นั่งลงน้ำหนักไปบนลำตัวพี่หมอกมากนัก ผมก้มตัวลงอีกนิดเท้าแขนข้างหนึ่งกับข้างๆ ไหล่พี่หมอก และเลื่อนมืออีกข้าง เตรียมตัวให้กับช่องทางที่แน่นมากเกินไป

 "อ๊ะ" ผมที่พยายามจะปิดผนึกเสียงแล้ว ก็ไม่อาจต้านทานความรู้สึกวาบหวามที่คุ้นเคย เพียงหนึ่งนิ้วและตามมาด้วยสองนิ้ว นี่ก็แทบทำให้ความรู้สึกต่างๆ พอกพูนขึ้นจนสุดจะกลั้น

 ผมไม่รู้เลยว่าใบหน้าของผมในตอนนี้จะปลุกเร้าอารมณ์คนที่จ้องมองอยู่ มากมายแค่ไหน ลมหายใจที่เริ่มถี่กระชั้นของผม เป่ารดลงบนใบหน้าของพี่หมอก ทำเอาคนจ้องมองเริ่มอดทนไม่ได้อีกต่อไป

 "อิน" คนที่ถูกเรียกชื่อสะดุ้งโหยง แต่ก็ไม่ทันที่จะได้ตกใจอะไร ร่างกายที่เคยอยู่ด้านบน ตอนนี้ ถูกพลิกให้อยู่ใต้ร่างใหญ่

 ริมฝีปากตามประกบขบเม้ม ราวกับหลอกให้ดึงความสนใจ และเมื่อเผลอคล้อยอารมณ์ตามแล้ว สิ่งแปลกปลอมก็เริ่มแทรกผ่านเข้ามา

 "อ๊ะ บ.เบาหน่อย พี่..หมอก" ผมหลับตาปี๋กำท่อนแขนของคนด้านบนด้วยความหวั่นไหว พยายามผ่อนคลายตัวเองลง เพื่อให้สิ่งนั้นได้ถูกเติมเต็มเข้ามาจนสุด

 "ไหวใช่ไหม" เสียงแหบพร่าที่ดูสะกดกลั้นเอ่ยถาม ผมไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้าตอบ เตรียมใจยอมรับสิ่งที่กำลังจะโถมเข้ามา

 คนด้านบนประกบจูบลงบนริมฝีปากอีกครั้งและขยับเอวให้เริ่มเคลื่อนไหว ความอ่อนโยนที่ผมได้รับ มันทำให้ทั้งร่างกายเต็มตื้นไปด้วยความอบอุ่นใจ

 เมื่อทุกส่วนเริ่มสอดประสานกันมากขึ้น เสียงครวญหวานก็ไม่อาจสะกดปิดกั้นอีกต่อไป จังหวะที่เนิบนาบแต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงที่เต็มเน่น ทำให้เสียงร้องเริ่มที่จะไม่เป็นภาษา และความถี่ก็เริ่มที่จะทำให้แทบขาดใจ

 เมื่อเวลาเลยผ่าน เสียงครวญหวานก็เริ่มที่จะแหบพร่า เสียงลมหายใจถี่กระชั้นดังอบอวลไปทั้งบรรยากาศ มือเล็กต้องคอยประดันร่างกายอันแข็งแรงและแสนเร่าร้อนของคนรักไว้ ไม่ให้มันถี่และแรงมากเกินไป

 "ไม่ไหว..อื้อ..ผมจะ..." แต่ถ้อยคำก็ไม่ทันได้พูดจบ ท่อนกายที่ถูกกอบกุมไว้ก็พ่นทะลักความสุขออกมา คนคุมเกมส์เมื่อถูกกระตุ้นด้วยช่องทางที่กระตุกบีบรัดนั้น ไม่นานก็ปลดปล่อยทุกสิ่งออกมาเช่นกัน

 พวกเรากอดก่ายกันไว้ ให้ร่างกายยังคงเชื่อมต่อกันให้นานมากขึ้น ช่วงเวลานี้ มันช่างมีค่าเหลือเกินสำหรับคนอย่างผม ช่วงเวลาที่เราสองคนมีกันและกัน กอดกันไว้แบบนี้



 "ตื่นได้แล้ว" เสียงปลุกในตอนเช้าบวกกับสัมผัสอุ่นๆ ที่ข้างแก้ม ทำให้ผมขยับตัวน้อยๆ พลางค่อยๆ ลืมตาขึ้น

 ตอนนี้ผมมานอนอยู่บนเตียงสีเข้มที่แสนอบอุ่น เสื้อไหมพรมสีขาวตัวใหญ่ถูกสวมไว้ให้ ร่างกายก็เอี่ยมสะอาดนุ่มเนียนจนน่าตกใจ

 "ไม่ลุกก็ไม่ต้องกินนะ" ผมอมยิ้มให้กับคำพูดใจร้ายนั้น

 "หอมจัง" ผมลุกงัวเงียมองคนปากร้ายที่การกระทำมักตรงกันข้าม พี่หมอกนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวตัวเล็ก มีจานสองใบที่เต็มไปด้วยอาหารเช้าตั้งอยู่บนนั้น

 ผมลุกขึ้นจากที่นอน ไม่สนใจหัวที่ฟูฟ่องและนั่งลงบนฟูกนิ่ม เท้าคางมองอาหารเช้าสลับกับพ่อครัว

 "น่ากินจัง" ผมพูดว่าน่ากินแต่สายตากับไม่ได้มองออมเล็ทในจานเลยสักนิด

 "ปากดี กินเข้าไป" ผมหัวเราะในลำคอและตักกินออมเล็ทคำใหญ่

 "อร่อยยย"

 "แน่นอน"

 พี่หมอกทำหน้าแบบว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ว่าสำหรับผมแล้ว การได้กินอาหารฝีมือคนรัก มันช่างมีความสุขจริงๆ

 "เมื่อวานว่าจะถาม ตกลงหาพี่เจอได้ยังไง" ผมกลืนออมเล็ทคำโตและนั่งตัวตรง

 "เป็นพรหมลิขิตครับ" ผมตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม แต่ใบหน้าของพี่หมอกกลับไม่ได้ยิ้มตาม

 "ไอ้เปอร์บอกเหรอ" พี่หมอกสีหน้าดูตึงเล็กน้อย ดูเหมือนไม่อยากพูดถึงเพื่อนคนนั้นเท่าไหร่

 "ไม่ครับ ผมกับพี่เปอร์ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันนานแล้ว" คำตอบของผมทำให้พี่หมอกถึงหยุดมือชะงักค้าง

 "รู้เรื่องแฟนเก่ามันแล้วเหรอ" พี่หมอกถามผม และนั่นทำให้ผมรู้สึกตึงขึ้นมาแทน

 "พี่รู้อยู่นานแล้วใช่ไหม เรื่องของมิว"

 "ขอโทษ แต่เพราะแบบนี้ไง พี่ถึงเตือนอยู่เสมอ ว่าอย่ายุ่งกับมัน"

 "แล้วทำไมถึงไม่เคยบอกผมตรงๆ เลย"

 "มันเป็นคำสัญญาไร้สาระ" พี่หมอกพูดเหมือนกำลังรำลึกความหลัง

 "พวกเราเคยสัญญากันไว้ ว่าจะไม่หักหลังกัน ต่อให้โกรธกันแค่ไหน พวกเรามีทางของเรา ถึงบางทีมันจะขัดใจกันบ้างก็เถอะ"

 "พี่ไม่ห่วงผมเลยเหรอ"

 "คงไม่ห่วงเลยมั้ง อย่างไอ้ตอนสวนสนุกนั่น..." พี่หมอกพูดแค่นั้น แต่อยู่ๆ ก็เงียบทันที

 "สวนสนุกอะไร" ผมตาลุกวาว มองพี่หมอกที่หลบสายตา "พี่แอบตามไปเหรอ"

 "บังเอิญ แล้วก็ไม่น่าไปเลยด้วย" ผมเริ่มยิ้มออกมา ขยับตัวเลื่อนไปนั่งข้างๆ และแกล้งอิงซบพี่หมอกไว้

 "พี่เห็นตอนผมกับพี่เปอร์จูบกันเหรอ" คำพูดผมทำเอาพี่หมอกลุกพรวดและเก็บจานออมเล็ทอย่างรวดเร็ว แน่นอนรวมของผมด้วย

 "พี่หมอก ผมยังไม่อิ่ม"

 "ไม่ต้องกินแล้ว" ผมหัวเราะขำ สโตรกเกอร์ขี้หึงเหรอ น่ารักนะเนี่ย

 "พี่หมอก" ผมเอียงคอเรียกคนที่กำลังหน้ามุ่ย ซึ่งพี่หมอกก็ไม่ยอมหันมา และกำลังล้างจานแรงๆ ประชด "พี่หมอกกก" ผมเรียกอีกครั้ง และลุกขึ้นไปยืนข้างๆ เอียงคอมองใบหน้าขาวๆ แม้จะเห็นแค่ข้างๆ แต่ก็ทำเอาใจเต้นแรงอยู่เสมอ

 "อะไร จะพูดอะไรก็พูด" ผมเพิ่งรู้ว่าพี่หมอกเป็นคนที่งอนได้น่ารักมาก เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าพี่หมอกน่ากลัว แต่พอได้ใกล้ชิดแบบนี้ ก็เหมือนเด็กน้อยกว่าผมจริงๆ

 "ผมรักพี่"

 คำพูดของผมทำให้พี่หมอกวางจานลง พี่หมอกหันมามองผมด้วยใบหน้าที่เริ่มอ่อนลงเล็กน้อย

 "รักแค่พี่คนเดียว มาตั้งแต่แรกแล้ว" ต่อให้ต้องพูดอีกแสนล้านครั้ง หัวใจและความรู้สึกของผม ก็ยังคงเดิม ไม่มีวันเปลี่ยนไป

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
อยากกินอาหารของพ่อครัวหมอกบ้างงงงง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :m25: :z1: ขอแบบจัดเต็มได้ป่ะ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เราก็เข้าใจหมอกผิดไปด้วยอีกคน
งื๊อออออออ..ขอโทษนะ

จริงๆ แล้ว หมอกเป็นคนรักที่น่ารักมากกกกก
อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เพ้อ บทที่ 47 ความรักของครอบครัว [END]


"อยากทำแบบนั้นแน่นะ"

 นี่เป็นคำถามของพี่หมอกที่ถามผม เมื่อผมบอกว่าอยากจะให้พี่หมอกกลับไทย และไปที่บ้านกับผม เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผมจะยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ถ้ามันยังค้างคาอยู่แบบนี้

 "ครับ ยังไงก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้หรอก"

 "ตามใจ แต่ถ้าถูกไล่ออกมา ก็ไม่ต้องห่วงนะ"

 ผมกอดพี่หมอกไว้ พวกเรานั่งอิงกันอยู่ที่โซฟา ผมดีใจจริงๆ ที่ได้ยินคำปลอบใจจากคนรัก

 "อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมไม่กลัวอีกแล้ว"

 และในวันต่อมา ผมก็ตัดสินใจบินกลับมาที่ไทยพร้อมพี่หมอก พวกเราตรงดิ่งไปที่บ้านของผม บ้านของหมี่ ซึ่งผมได้บอกแม่ไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้แม่เตรียมที่จะบอกพ่อแม่ของหมี่ ให้พวกเราได้คุยกัน

 เมื่อกลับมาถึง ผมจับมือกับพี่หมอกเดินดิ่งเข้าไปในบ้าน ที่นี่เป็นบ้านที่ผมและแม่ได้มาอาศัยอยู่ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งสุขและทุกข์ ถ้าหากว่าจะต้องจากไปจริงๆ ผมก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน

 "อิน" เสียงเรียกของแม่ ทำให้ผมวิ่งเข้าไปและกอดแม่ไว้

 "กลับมาแล้วครับ คิดถึงจัง มีของฝากด้วยนะ" ผมยิ้มหน้าบาน หอมแม่อีกฟอดใหญ่

 "จะไปจะมาบอกปุบปับตลอดนะเรา" แม่บีบจมูกผมแต่ก็ยิ้มอย่างใจดี

 "สวัสดีครับ" เกือบจะลืมไป ผมมองพี่หมอกที่ยืนอ้ำๆ อึ้งๆ แต่ก็ยกมือไหว้แม่ทันทีที่แม่หันไป

 "สวัสดีจ้ะ ขอบคุณที่ช่วยดูแลอินนะคะ"

 ผมอดใจไม่ไหวที่เห็นพี่หมอกทำตัวไม่ถูก จึงรีบไปลากตัวมาใกล้ๆ แม่ เพื่อให้ท่านได้มองเห็นพี่หมอกชัดขึ้น

 "พี่หมอกเลี้ยงอินดีจริงๆ ฮะ ดูสิ นี่ไงหลักฐาน" ผมไม่พูดเปล่าแต่ชี้พุงกะทิที่เริ่มยื่นออกมา ผมพยายามทำให้พี่หมอกไม่เกร็งเวลาที่อยู่กับคนที่ไม่คุ้นเคย แต่ว่า ก็ดูเหมือนจะพลาดอะไรไป ผมมองแม่สลับกับพี่หมอกที่กำลังทำสีหน้าอมยิ้มแปลกๆ

 "ฝังตัวเองแท้ๆ" ผมหยิกพี่หมอกที่แอบกระซิบผม ไอ้พี่บ้า ไม่ได้หมายความถึงเรื่องนั้นสักหน่อย

 "เอาเถอะ อย่าเพิ่งมายืนคุยกันตรงนี้เลย ไป ขึ้นไปบนบ้านใหญ่กัน คุณๆ เขารออยู่" แม่ยิ้มอย่างใจดีและเดินนำหน้าไป ผมเริ่มรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาอีกแล้ว แต่ว่า ผมก็อยากให้ทุกฝ่ายสบายใจเสียที

 "ไม่เป็นไรหรอก ไปเถอะ" มือที่แสนอบอุ่นบีบเบาๆ ราวกับให้กำลังใจ ผมรู้สึกดีขึ้น ถ้าหากมีพี่หมอกอยู่ข้างๆ ละก็ ไม่ว่าเรื่องอะไร ผมก็จะผ่านมันไปได้

 บ้านสองชั้นที่เป็นเรือนใหญ่ มีห้องรับแขกอยู่ที่ชั้นล่าง ตรงกลางของบ้าน ผมค่อยๆ เดินตามแม่เข้าไป ซึ่งที่นั่นมีคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เป็นคุณลุงกับคุณป้า พ่อแม่ของหมี่ ทั้งสองมองผมทันทีที่เข้ามา

 "อ้าวว่าไงหลานชาย มีอะไร ให้แม่มาตามซะใหญ่โตเชียว" คุณลุงเอ่ยทักผมอย่างใจดี

 "มีเรื่องอะไร แล้วนั่นใคร" ผมเข้ามานั่งลงที่พื้นตรงหน้าโซฟา โดยมีพี่หมอกนั่งลงข้างๆ และแม่ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ซึ่งวันนี้คุณป้าแม่ของหมี่ก็อยู่ด้วย

 "ผมหมอก" พี่หมอกพูดสั้นๆ และทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงอะไร

 "หมอก หมอกที่เป็นแฟนหมี่น่ะเหรอ" ผมหัวใจกระตุกเล็กๆ และพี่หมอกก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที

 "พวกเรา..."

 "ทำอะไรกันคะคุณพ่อคุณแม่" ผมรู้สึกดีใจพิลึก ที่อยู่ๆ คนที่ผมต้องการให้อยู่ที่นี่ก็เดินเข้ามา หมี่มองดูพ่อแม่ของตัวเอง และเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็เพิ่งเห็นพวกผมที่นั่งกันอยู่ที่พื้น

 ปฏิกิริยาแรกที่หมี่มองพวกผมนั้นเป็นไปอย่างที่คาด เธอตกใจ ตาโตขึ้นและเริ่มชี้นิ้วมาที่พวกเรา

 "นี่มันอะไรกันคะ!" เธอเดินเข้ามาใกล้และแทบกรี๊ดเมื่อได้เห็นพี่หมอกชัดๆ

 "หมี่ จะเสียงดังทำไม นั่งลง" คุณลุงหันไปตำหนิเธอที่ดูเสียมารยาทพร้อมทำหน้าเหนื่อยใจ

 "พี่หมอก นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมพี่ถึงยังยุ่งเกี่ยวกับมันอีก!" หมี่ไม่ได้สนใจคำตำหนิของพ่อ เธอยังคงเดินไปเดินมาอย่างตื่นตระหนก ความต้องการเอาชนะของเธอมันมากล้น จนสิ่งที่เห็นอยู่ทำเอารับไม่ได้

 "เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง" พี่หมอกพูดเสียงเย็น แทบจะไม่เหลือบตามองเธอด้วยซ้ำ

 "พี่หมอก!!" หมี่ร้องแหวพร้อมทำตาโตมองผมอย่างรังเกียจ "ดี งั้นก็ดี อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพอดี" เธอแสยะยิ้มอย่างคนมีชัยชนะ พร้อมๆ กับชี้หน้าผม

 "คุณพ่อคุณแม่คะ ป้าก็ด้วย ฟังนะ อินมัน..."

 "ผมเป็นเกย์" ไม่ทันที่หมี่จะได้พูด ผมก็ชิงพูดออกไปซะก่อน ผมอยากจะบอกตัวตนของผมให้ชัดๆ ให้ทุกคนได้รับรู้

 หมี่อึ้งชะงักไป พะงาบปากแต่ก็พูดไม่ออก เธอดูตกใจ สับสน มึนงง และไม่รู้จะทำอะไรต่อ

 ส่วนคุณลุงคุณป้า พ่อแม่หมี่นั้นก็มีปฏิกิริยาที่ไม่ต่างกัน ผมรู้ ผมเข้าใจดี เพราะที่ผ่านมา ผมวางตัวเป็นผู้ชายแท้ๆ เสมอ ผมเก็บงำความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ มันอึดอัด มันกดดัน ผมไม่เคยมีความสุขจริงๆ เลยสักครั้งที่ปิดมันเอาไว้

 "ผมขอโทษคุณลุงคุณป้าด้วยนะครับ ที่ไม่ได้บอกแต่แรก" ผมยกมือขอโทษผู้มีพระคุณรองจากแม่ทั้งสอง พวกท่านเลี้ยงดูส่งเสียให้ผมได้เล่าเรียน ทำให้พวกเรามีที่ซุกหัวนอน

 "แล้วก็ ถ้าหากคุณลุงคุณป้าไม่สบายใจ ผมยินดีที่จะพาแม่ไปอยู่ที่อื่นครับ" ผมพูดจบและหันไปมองแม่ด้วยรอยยิ้ม ผมทำได้แล้วนะ ผมไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว และผมพอมีเงินเก็บให้พวกเราได้เช่าบ้านอยู่กันได้

"เดี๋ยวก่อน อินอยากออกจากบ้านหลังนี้เหรอ" ไม่รู้ทำไม แต่สิ่งที่ทำให้คุณลุงดูตกใจมากกว่ากลับไม่ใช่เรื่องที่ผมเป็นเกย์ แต่เป็นอย่างหลัง

 "ไม่ได้นะ ไม่ได้ อย่าไปเลย อยู่ด้วยกันเถอะ" ผมอึ้งเล็กน้อยที่เห็นคุณลุงละล่ำละลัก ดูไม่อยากให้พวกเราจากไปจริงๆ

 "คุณพ่อคะ นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะ มันเป็นเกย์นะคุณพ่อ!!" หมี่ปรี๊ดแตกเสียงดังก้าวร้าว ทำเอาคุณลุงต้องหันกลับมาสนใจหัวข้อนี้อีกครั้ง ในขณะที่คุณป้า ได้แต่ดมยาดมเงียบๆ

 "เป็นเกย์" คุณลุงทวนคำและหันมามองผม "แล้วยังไงต่อ"

 "คุณพ่อคะ!!" หมี่ดูเดือดดาลจนสุดจะทน ที่พ่อของตัวเองไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องนี้เลยสักนิด

 "ก็แล้วยังไงล่ะ อินก็เป็นเด็กดี จะมีรสนิยมยังไงมันก็เรื่องของเขา" คำพูดนี้ทำผมประหลาดใจและอดชื่นชมไม่ได้ แต่สำหรับหมี่นั้นราวกับโลกพังทลาย

 "แต่ว่าคุณพ่อคะ มันแย่งแฟนหมี่นะ!" เมื่อได้ยินแบบนั้นคุณลุงก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ผมใหม่อีกครั้ง

 "จริงเหรอ"

 "จริงค่ะคุณพ่อ พี่หมอกนั่นไงแฟนหมี่ แต่อินก็แย่งไปเฉยเลยค่ะ" หมี่ได้ทีรีบฟ้อง แต่พี่หมอกตอนนี้นั้นทำหน้าเอือมเต็มที

 "ขอผมพูดหน่อย" พี่หมอกยกมือหยุดสงครามครั้งนี้ ซึ่งทุกคนก็เปลี่ยนมาให้ความสนใจทันที "ผมเคยคบหมี่จริง แต่ผมก็มีเหตุผลที่เลิก" พี่หมอกส่งสายตาเบื่อหน่ายไปที่หมี่ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เข้ามา ที่พี่หมอกมองเธอ

 "พวกเราไม่เคยจริงใจต่อกัน แล้วเธอก็แอบคบซ้อนกับผู้ชายคนอื่นอีก 3 คน" พี่หมอกทำนิ้วเลขสามชัดเจน หมี่ที่เหมือนกับถูกเปิดโปงก็แทบจะปากสั่นทันที แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ คุณลุงในตอนนี้ ที่กำลังโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม

 " 3 คน!!" คุณพ่อตวาดลั่น พร้อมๆ กับหันมาตาเหลือกใส่ลูกสาวตัวเอง

 "ไม่ใช่นะ ไม่จริงนะคะคุณพ่อ!" ไม่พูดเปล่าหมี่ที่เหมือนจะรู้ชะตากรรมก็รีบถอยหลังวิ่งแจ้นออกไปทันที ตามด้วยคุณพ่อหมี่ที่หยิบคว้าอะไรเหมาะๆ มือวิ่งตามไป

 เสียงหวีดร้องดังขึ้นเป็นระยะๆ ผมรู้สึกอึ้งเล็กน้อยที่สิ่งที่คุณพ่อหมี่โกรธไม่ใช่การที่ผมเป็นเกย์ หรือการที่ผมจะออกจากบ้าน แต่เป็นการที่ลูกสาวทำตัวไม่รักดี

 เมื่อไม่มีหัวหน้าครอบครัวอยู่ตรงนี้แล้ว พวกเราก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป

 "ไป ไปเถอะ แยกย้าย" ในที่สุดคุณป้าที่นั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มก็ทำมือไล่พวกเราให้ออกไป ผมอมยิ้มและยกมือไหว้ลา ก่อนที่จะพาแม่และพี่หมอกออกมา

 "เป็นไง แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าคิดมาก ชอบคิดไปเองจนเป็นนิสัย" แม่ทำเสียงดุผมแต่กลับยิ้มแย้ม ผมรู้สึกเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก รู้สึกเป็นอิสระ ไม่ต้องหวาดกลัว หลบซ่อนจากครอบครัวต่อไป

 "ไปๆ ยังไม่ได้กินอะไรกันมาใช่ไหม ไปกินข้าวกัน" แม่บอกพวกเราด้วยรอยยิ้ม ผมมองพี่หมอกที่คอยแต่จะหลบสายตาของแม่ เหมือนกับว่าพี่เขากำลังทำตัวไม่ถูกเหมือนเดิม

 "ไปกันเถอะครับ" ผมจับมือพี่หมอกไว้ พาให้เดินตามแม่ไป พอเห็นพี่หมอกเป็นแบบนี้ ผมก็ยิ่งกอดแขนพี่เขาไว้ ผมนั้นยังคงมีแม่ แต่สำหรับพี่หมอก ราวกับไม่มีใครเหลือเลย

 เมื่อพวกเราเข้ามาในห้องครัว ก็พบว่ามีหม้อต้มและอาหารหลายอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ผมพาพี่หมอกนั่งลงและช่วยแม่ตักข้าวปลาอาหารหลายอย่างมาวาง และนั่งลงข้างๆ พี่หมอก

 ช่วงเวลานี้ช่างราวกับภาพฝัน ผมมีความสุขมากจริงๆ จนกลัวว่ามันจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่ว่าไม่ใช่ ผมมองแม่สลับกับพี่หมอกไปมาด้วยรอยยิ้ม

 "เริ่มกินได้แล้ว มัวแต่ยิ้มอยู่นั่น" แม่ดุผมและเอื้อมมือมาหยิกไหล่ผมเบาๆ

 "เจ็บบบบ" ผมพูดเจ็บแบบหลอกๆ ให้แม่หมั่นไส้เล่น

 "คุณหมอกเอื้อมถึงไหม อยากกินอะไรเพิ่มบอกแม่ได้นะ" ผมยิ้มมองแม่ที่ถามพี่หมอกอย่างใจดี แต่สีหน้าของพี่หมอกก็ดูคล้ายเศร้านัก

 "พี่หมอก" ผมที่รู้ว่าพี่หมอกคิดเรื่องอะไรก็กุมมือพี่หมอกเอาไว้

 "ไม่เป็นไร" พี่หมอกยิ้มออกมาเล็กๆ ให้ผมรู้ว่าไม่เป็นไร

 "คุณอยู่คนเดียวหรือคะ" แม่ถามพี่หมอก

 "ครับ" พี่หมอกพูดเสียงเบา ไม่ค่อยกล้าสบตาแม่

 "ถ้าอย่างนั้น วันไหนว่างๆ ก็มาหาแม่ได้นะ แม่ก็อยู่คนเดียวบ่อย อินน่ะ ชอบหนีเที่ยวไปเรื่อย"

 "แม่อ้ะ" ผมแทบพองลมเมื่อโดนใส่ร้าย

 "แม่ มีแค่อินสองแม่ลูกเท่านั้น ตลอดเวลาก็เคยคิดว่าในชีวิตนี้ ก็คงจะมีแค่แม่ที่รักอินมากที่สุด แต่ว่าตอนนี้ แม่รู้แล้วว่าไม่ใช่"

 แม่ลุกขึ้นและเดินไปจับที่บ่าของพี่หมอกเบาๆ ผมมองพี่หมอกที่แววตาสั่นระริก ผมอยากให้พี่เขาเปิดใจ และลืมเรื่องร้ายๆ ของครอบครัวตัวเองไปบ้าง

 "แม่ฝากอินด้วยนะ คนที่อินรัก แม่ก็รักเหมือนลูกนั่นแหละ"

 "ห้ามทิ้งพวกเราไปไหน ห้ามทิ้งผมไปอีกนะ" ผมพูดและยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่หมอก

 "ต่อหน้าต่อตาเลยนะเด็กคนนี้" ผมหัวเราะและมองพี่หมอกที่หน้าเริ่มหน้าแดง บรรยากาศแบบนี้ พี่คงไม่เคยได้สัมผัสมันใช่ไหม แต่ว่าจากนี้ต่อไป ผมจะทำให้พี่ได้สัมผัสกับความรักที่พี่ไม่เคยได้รับ ไม่ให้พี่ ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

 ผมจะคอยเติมเต็มสิ่งที่พี่ขาด พวกเราจะเติมเต็มความรักซึ่งกันและกัน ตลอดไป







THE END









*******************************************************************************

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านเสมอมานะคะ หากเนื้อหาขัดใจนักอ่านบางท่านก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และหากใครที่ชอบก็ขอบคุณมากเลยค่ะ เรื่องนี้มีตอนพิเศษนะคะ แต่อาจจะรวมอยู่ในแบบรูปเล่ม ยังไงถ้ามีข่าวสารใดๆ เพิ่มเติม นักเขียนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ขอบคุณนักอ่านทุกท่านจริงๆ ค่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

และแล้ว  ความรักของอินที่ยาวนานมาสองปีกว่าก็จบลง  อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีความสุขกันไปแล้ว เลยอดเห็นเลยว่าคุณลุงคว้าอะไรไปจัดการยัยหมี่เหลืองนั้นนะ  :m16:

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เฮ้อ กว่าจะลงเอยกันได้ ลุ้นแถบแย่ สุดท้ายก็แฮปปี้ ดีที่ไม่ลงเอยกับเปอร์ไม่งั้นคงต้องเจ็บตัวแน่ๆ และสมน้ำหน้ายัยมัดหมี่โดนพ่อจัดการซะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ b2uty_pang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เคยโดนข่มเหงมา แต่ก็ยังกลับมารักเขา  o13

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ขอให้รักกันนานๆน๊า

ออฟไลน์ cutelady

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณนักเขียนที่พาเนื้อเรื่องมาจบลงได้ด้วยดี
แม้ว่า... ตลอดทั้งเรื่องจะมีแต่ ดราม่า..เศร้าจิต...

 :pig4: :pig4: :pig4:

 :bye2: :bye2: :bye2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด