็(END)Hello there ว่าไงน้องหมวย มีน้องหมวยมาแจกค่ะ! 09/06/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ็(END)Hello there ว่าไงน้องหมวย มีน้องหมวยมาแจกค่ะ! 09/06/62  (อ่าน 38340 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องหมวยรุกพี่ไทม์ละจ้า~ :ling1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หมวย ง้อพี่ไทม์เยอะๆเลย ชอบบบบบบ  :o8: :impress2: :-[

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องหมวยยยย ยังไม่โปรฯพอ ต้องไปฝึกมาใหม่นะ ฮาาา

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ลุ้นเรื่องราวของน้องหมวยกับคุณเวลานะคะ
ว่าแต่ น้องหมวย ทำไมชีวิตลำบากแท้ลูก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พี่ไทม์ดูแลน้องด้วย

ออฟไลน์ Girin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น้องหมวยบทที่ 12


               

                ไม่น่า



                ไม่น่าเลย



                สอบผ่านว่ายากแล้ว



                ผ่านมีนนี่ชิบหายกว่า



                มันเลยทำให้ผมตกระกำลำบากเยี่ยงนี้แล



                หลังจากการเสนอเงื่อนไข พี่ไทม์ก็แทบจะยัดทุกอย่างใส่หัวผม ข้อสอบเก่ามีเท่าไหร่นี่แทบจะถวายกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นอย่าหวังว่าจะนอน ติวกันเข้าไป ผิดข้อนึงแม่งให้กุกลับไปทำใหม่อีกละ แปะเนื้อหากระทั่งในห้องน้ำ กะว่านั่งขี้ก็ต้องอ่านอะ



                พี่มึงคือมันต้องเคี่ยวกันขนาดนี้ไหมมมม



                มึงว่างหรอวะ



                พี่มันติวโหดจนผมเสียใจที่ยื่นเงื่อนไขผ่านมีนกับมันตั้งแต่แรก



                รู้งี้กูยอมเอฟอะ แลกกับการได้นอน อะไรก็ยอม



                    “นอนเหอะพี่ สี่ทุ่มแล้ว พรุ่งนี้สอบบ่ายก็จริง แต่นอนเหอะนะๆๆๆๆๆ”



                “มาทำอันนี้อีกรอบ น้องยังไม่ค่อยแม่นบทนี้เลย”



                “โห น้องทำมาสามรอบละน้าาาาา น้องขอนอน” พูดจาเพราะๆพร้อมหน้าตาแบบมารยาร้อยแปด เห็นใจกุเถอะ เมื่อวานก็นอนตีห้า  ผมถูกลากมานอนที่ห้องพี่ไทม์ทุกคืน แทบจะมาตั้งรกรากที่นี่อยู่แล้ว พี่แกอัดแทบทุกวิชาจนจะผมกระอักตาย โดยเฉพาะไอ้วิชาเจ้ากรรมที่อยู่ในเงื่อนไข ยัดจนมันซึมเข้ากระแสเลือดผมอะคิดดู และนี่คือวันสอบวันสุดท้าย ไอ้วิชาห่านี่ ก็สอบวันนี้ พี่มันเลยเคี่ยวผมจนเปลื่อย กะว่ายังไงก็เออะ



                “มาทำอันนี้ก่อน จะยอมให้นอน สัญญา ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับไม่ใช่หรอครับ ทำไมวันนี้ง่วงเร็วจัง”



                “นอนเช้ามาหลายวันแล้ว”



                “วันสุดท้ายแล้ว ไม่อยากผ่านมีนหรอครับ”



                “.......”



                “ไม่อยากเป็นแฟนพี่หรอครับ” อย่ามาทำอ้อนได้ไหม อย่าเอาตาหมีแพนด้าของมึงมาอ้อนกุสิพี่ กูต้องรู้สึกผิดใช่ไหมเนี่ยยยยยย



                “ไม่ใช่ แต่ผมอยากให้พี่พักผ่อนไง พึ่งสอบเสร็จไม่ใช่หรอ นอนดึกมาหลายวัน พักเนอะๆๆๆ เป็นหมีแพนด้าละเนี่ย ยอมให้กอดเลย นอนนะๆๆ” ยอมหมดแล้วปล่อยผมไปเถอะครับ ใช่ครับพี่มันสอบเสร็จก่อนผม หึ  ใจเย็นไว้ เย็นไว้ ผมพยายามที่จะไม่โวยวายอยู่



                “ไม่ได้ครับ ไม่ต้องมาใช้มุกอ้อนเลย อีกนิดเดียว แปปเดียวก็เสร็จ มาเร็วอย่างอแง ปกติเห็นเล่นเกมจนเช้าได้ นี่พี่งสี่ทุ่มเอง มานี่เลย”



                พี่ไทม์ดึงผมกึ่งๆจะลากมากกว่า ให้ผมกลับไปทำข้อสอบ แต่แค่เห็นผมก็ไม่อยากจะทนละอะ อัดอั้นมาหลายวันมาก จะนอนก็นอนไม่ได้เพราะเดี๋ยวอ่านไม่ทัน เอาจริงๆคือถ้าไม่ได้พี่ไทม์มันไม่บังคับ ผมก็คงอ่านไม่ทันจริงๆนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมอยากนอน ผมพึ่งได้นอนแค่สองชั่วโมงเอง ชีวิตมหาลัย สอบบ่ายก็อ่านยันเช้า



                “ไม่!” ผมโมโหแล้ว ผมจะไม่ทน



                “น้องหมวย” พี่ไทม์ทำเสียงเข้มขึ้นเหมือนจะดุผม แต่ก็ดูไม่จริงจัง



                “ไม่ ไม่ ไม่ ผมไม่ทำ ผมจะนอน น้องจะนอน อิณจะนอน ไม่ทำแล้ว จะนอนจะนอนจะนอน ถ้าไม่ได้เป็นแฟนก็แต่งงานกันไปเลย ช่างมีนมันแล้ว จะเอฟจะเอก็ช่างมัน  จะนอนนน”



                ผมว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ดูจากหน้าพี่ไทม์แล้วมันผมคงงอแงเหมือนเด็กมากกว่า พี่ไทม์ดูชะงักไปตอนแรกที่ผมเสียงดัง แต่ก็ทำท่ากลั้นขำตอนที่ผมพูดจบ ฮึ่ย นี่โมโหอยู่นะ



                ผมมองตาขวางด้วยความโมโห ไม่รอให้อีกฝ่ายพูด ผมลุกขึ้นไปหาเตียงนอนก่อนจะคลุมโปง ปิดการรับรู้ทุกอย่าง พี่ไทม์จะว่ายังไงผมก็ไม่สนแล้ว ผมโมโห ผมง่วง ผมจะนอน

 

 







                ร่างสูงพยายามกลั้นขำ เด็กน้อยงอนตุบป่องไปแล้ว เอาเถอะ เคี่ยวเข็ญกันมาหลายวันแล้ว ถึงจะยังไม่ค่อยแม่นก็เถอะ แต่เจ้าตัวเขาพึ่งพูดเองว่าถ้าไม่ผ่านมีนก็ให้ข้ามขั้นแฟนไปได้เลย



                เด็กน้อยเอ้ย



                จะทำให้หลงกันไปถึงไหนหะ



                ไทม์เก็บข้าวของของเด็กงอแงก่อนจะปิดไฟ แล้วเดินตามเด็กน้อยไป พอเห็นไอ้การนอนคลุมโปงหนีเขาก็นึกเอ็นดูไปกันใหญ่ ตอนอ้อนก็ว่าน่ารักจนแทบจะใจอ่อน แต่ตอนงอแงนี่น่ารักกว่า แก้มพองเชียว ร่างสูงตามขึ้นไปบนเตียง เสียงหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าก้อนกลมๆของเขาหลับสนิทไปแล้ว ผ่านไปแค่แปปเดียวเอง



                สงสัยจะง่วงจริงจัง



                 เขายิ้มเอ็นดูก่อนจะค่อยเปิดผ้าห่มออก เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกกันพอดี น้องนอนเช้ามาหลายวัน ไม่ใช่แค่เพราะอ่านไม่ทันแต่เจ้าตัวนอนไม่ค่อยหลับต่างหาก แถมยังกินน้อยลง จนเริ่มผอม ตัวก็แค่นี้ เขาต้องย้ำบ่อยๆให้กินข้าวให้หมด หานู่นนี่มาให้กิน เวลาอยู่กับเขาก็กินเยอะอยู่หรอก แต่ก่อเกียรติสายสืบจำเป็นก็ยังรายงานว่าน้องหมวยกินน้อยอยู่ดี



                มือหนาลูบผมนิ่มไปมา เรื่องครอบครัวคงยังกระทบอยู่ไม่น้อยสินะ ถึงไม่ได้ร้องไห้ ยังยิ้มสดใส แต่เจ้าตัวก็คงยังเครียดอยู่ดี แต่อย่างน้อยวันนี้เด็กน้อยของเขาก็หลับสนิท ไม่ขมวดคิ้ว ไม่ตื่นมากลางดึกเหมือนทุกทีแล้ว



                คนตัวโตแย่งผ้าห่มจากคนตัวเล็ก ก่อนจะสอดตัวไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน หอมแก้มนุ่มนิ่มของน้องพร้อมดึงเจ้าตัวมากอด



                “ฝันดีครับ”

 

 

 





                “ไอ้ไทม์ เลี้ยงครับ แดกให้มันจนเลยครับน้องงงง”



                “พี่ไทม์โคตรป๋าาาาา”



                “เชี่ยปุน กูไม่ได้เลี้ยง ปากดีละมึง”



                “อ่อ เขาเก็บตังไว้ขอน้องปีหนึ่งบางคนน่ะครับ”



                อั๊ก!



                พี่ปุนโดนเฮดช็อตไปหนึ่งที ตอนนี้สาขาปรัชญาของเรากำลังถล่มร้านหมูกระทะหลังมอ แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ปีหนึ่ง ปีสองนิดหน่อย กับปีสาม ปีสี่ยังสอบไม่เสร็จ เขารีเควสว่าค่อยจัดเต็มตอนบายเนียร์ทีเดียว



                “แต่มีน้องปีหนึ่งบางคนบอกพี่ว่าถ้าไม่ผ่านมีนจะมาขอพี่แต่งงาน” พี่ไทม์ที่บังคับให้ผมนั่งข้าง กระซิบใส่หูผมพร้อมติดสินบนด้วยหมูย่างหนึ่งชิ้น และกุ้งแกะแล้วสามตัว



                “งี้ถ้าผมได้เท่ามีน สถานะเราก็เท่าเดิมถูกปะ” ผมคีบหมูใส่ปากพร้อมสบตาอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงจะเริ่มใจเต้นแรงเพราะพี่มันอยู่ใกล้เกินไปก็เถอะ



                คนเยอะนะเว้ย อย่าเบียดได้ไหม



                “เป็นศรีธนญชัยหรอเรา ไม่มีตังมาขอพี่เดี๋ยวพี่ให้ยืมก็ได้”



                “พี่ให้ผมชนะบ้างไม่ได้รึไง อย่าเบียดได้ไหม คนเยอะแยะไม่อายเขารึไง” ผมโวยวายเงียบๆ นี่ผมดุอยู่นะ แต่พี่ไทม์มันก็ยังยิ้มอยู่นั่นแหละ ไม่ได้เชื่อฟังผมเลยสักนิด ขยับมาใกล้กว่าเดิมอีก



                “ปุนๆ”



                “ว่าไงวะแชมป์”



                “กุว่าน้ำจิ้มแม่งแปลกๆวะ”



                “ทำไมวะ”



                “ตอนแรกก็เปรี้ยวนะเว้ย ตอนนี้หวานเฉยยยย”



                “ฮิ้ววววว”



                “ฮิ้ววววววววววว”



                “ฮิ้ววววววววววววววววว”



                ผมแทบจะมุดดินหนี ไม่ใช่แค่กลุ่มพี่ไทม์ แต่ปีสามแทบทั้งหมดเลยที่มันแซวผม ฮือ เขารู้เรื่องกันหมดแล้วหรอ รู้กันได้ยังงายยยยยยย



                “อุ๊ย!”



                “วินเป็นไรวะ”



                “ไอ้ไทม์เลือดออก” ทำหน้าตกใจมากด้วยนะ



                “ไหนวะๆๆ อ๋อออออออออออ”



                “ทำไมวะ”



                “ความรักมันบาดใจ เลือดไหลเป็นสีชมพูเลย”



                     “พ่าม!!!!”



                เกลียดดดดดด เข้ากันดีอะไรปานนั้น ผมไม่กล้าเงยหน้ามองใครเลย ถ้าใครถามว่าทำไมแก้มแดง ก็บอกเขาไปว่าอยู่ใกล้เตามันร้อน เลิกแซวเถอะครับ ผมอยากกินหมูต่อแล้ว



                “เลิกแซวเพื่อนผมเถอะครับ” ดีมากก่อเกียรติ ถูกแล้วที่มึงปกป้องกู เพื่อนรัก



                “.....”



                “มันสุกไปทั้งตัวแล้วครับ เดี๋ยวพี่ไทม์เขาจะนึกว่าเป็นหมู จับกินก่อนจะบรรลุนิติภาวะ ฮ่าๆๆๆ”



                “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”



                “โอ้ยๆๆอย่าหยิกกุไอ้หมวย กูเจ็บ” เพื่อนชั่ว ไม่ทีมกูแล้วยังกล้าแซวกูอีกหรอออ



                “ไอ้ก่อเกียรติ ห้ามเรียกแบบนั้น คนเยอะแยะ”



                “เห้ย โทษทีวะหมวย”



                “ไอ้ก่อ”



                “พี่ๆอย่าเรียกมันว่าหมวยนะครับ”



                “หยุดนะมึง ไอ้ก่อ”



                “พี่จะไม่เรียก น้องหมวย”



                “พี่ อย่าเรียกแบบนั้น”



                “โอเค ได้เลยน้องหมวย”



                “ผมไม่คุยด้วยแล้ว!”



                ฮึ่ยยยยยย โมโห ทำไมวันนี้ผมเถียงใครไม่ชนะเลย พี่ไทม์ก็ไม่คิดจะช่วยจะแก้ตัวสักคำ นั่งยิ้ม ย่างหมูอย่างมีความสุข แล้วคือย่างให้ผม ส่วนตัวเองนั่งกระดกเบียร์ เขากินกันทั้งโต๊ะ มีผมที่ถูกห้ามอยู่คนเดียว พี่แกบอกคนเยอะ ไม่อยากให้กิน อันนี้ผมไม่เคืองอย่างน้อยเขาก็ย่างหมูให้ผม แต่คือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเบียดผมด้วย



                “พี่ไทม์อย่าเบียด ที่ตั้งกว้างเนี่ย”



                “หึๆแก้มแดงหมดแล้ว น้องหมวย” ไม่ได้สนใจคำพูดกู แล้วยังย้ำด้วยการเรียกน้องหมวยอีก คือผมเป็นผู้ชายไหมอะ มาเรียกน้องหมวยๆมันไม่เท่ เรียกกันแค่ชนหมู่น้อยยังโอเค แต่นี่เรียกกันจะทั้งสาขาแล้ว ผมอยากจะวาร์ปหายไปให้รู้แล้วรู้รอด



                “ทำไมวันนี้มีแต่คนแกล้งผมเนี่ย แกะกุ้งแล้ว ก็อย่าหยิกแก้มผมสิครับ”



                “ฮ่าๆๆ” หัวเราะใส่ผมอีก โมโหนะ แต่ใครจะไปโกรธลง พี่ไทม์ไม่ได้หัวเราะแบบนี้บ่อยๆซะหน่อย แต่ก็ไม่แปลกนี่เบียร์กระป๋องที่สามแล้ว คงเก๊กไม่ไหวแล้ว ผมมองพี่ไทม์อยู่นาน พยายามจดจำเสียงหัวเราะเอาไว้ เพราะมันทำให้โลกผมสดใสมากเลย



                “พี่ก็กินบ้างสิ ย่างให้ผมอยู่นั่นแหละ”



                “มือไม่ว่างเลย” ขี้อ้อนนะครับเดี๋ยวนี้



                “ทำไมคุณเวลาขี้อ้อนจังครับ” ผมพึมพำเบาๆพร้อมคีบหมูจุ่มน้ำจิ้ม



                “เรียกพี่ว่าอะไรนะครับ”



                “ไม่บอกหรอก กินเข้าไป”



                พี่ไทม์อ้าปากรับ ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ แต่ท่าทางยิ้มแป้นแล้นนี่มันน่าหมั่นไส้เหลือเกิน เขามองกันทั้งโต๊ะแล้วโว้ยยยยยย เลิกยิ้มแบบนั้นซะที



                “อุ๊ย มดกัด”



                “อุ๊ย ทำไมหมูเป็นสีชมพูละเนี่ย”



                “เลิกแซวน้องได้แล้วพวกมึง” พี่ไทม์พูด แต่พวกพี่เขาก็ยังยิ้มล้อผมอยู่ดี ผมหนีก่อนดีกว่า



                “ผม ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”



                    “ห้องน้ำมันไกล พี่ไปเป็นเพื่อน”



                “ผม 19 แล้วนะครับ พี่นั่งอยู่เนี่ยแหละ แกะกุ้งไปเลย เดี๋ยวมากิน”



                ฮ่อลลล ค่อยหายใจหายคอได้หน่อย อายหน่อยแต่ก็มีความสุขดีนะครับ เหมือนได้กระชิบมิตรกัน ในสาขาด้วย ผมกับก่อเกียรตินี่เหมือนพวกไม่ค่อยมีคนคบเลย ประชากรในสาขามันน้อยครับ แต่ละคนก็โลกส่วนตัวสูงกันทั้งนั้น



                ผมทำธุระเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนเอะอะอยู่หลังห้องน้ำไกลๆ คือร้านมันเป็นลานเปิด  ห้องน้ำจะสร้างแยกออกมาอยู่ข้างๆลานหมูกระทะ ซึ่งแม่งไกลอยู่ ไม่แปลกที่คนในร้านจะไม่ได้ยิน เสียงเอะอะดังจนผมแน่ใจว่าคนทะเลาะกันแน่ๆ แต่คนในห้องน้ำก็ไม่มีใครสนใจ พี่ที่ล้างมือข้างๆมองหน้าผมแล้วบอกว่า



                “งี้แหละน้อง ปกติ อย่าไปยุ่งเลย พวกนี้มันชอบหาเรื่องกัน”



                “แต่ว่า....” พี่เขาเดินจากไปเฉยเลย



                ทำยังไงดี



                ผมควรจะเดินหนีไปแล้วค่อยเรียกให้คนมาช่วยดีไหม



                “แน่จริงมึงอย่าหมาหมู่ดิวะ เพื่อนกุไม่เอามึงไว้แน่”



                เพล้ง!



                “โอ้ย!”



                เสียงคนพูดมันคุ้นหูผมมาก และยิ่งตามมาด้วยเสียงขวดแตกมันก็ทำให้ผมต้องรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไปดู ขออย่าให้เป็นคนที่ผมคิดเลย



                แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจคำขอของผม



                “พีท!”



                “พี่อิณหรอ”



                ผมอึ้งและตกใจ พีทกำลังนอนอยู่บนพื้น ผู้ชายหน้าเกรี้ยวกราดสามคนยืนอยู่ มีคนนึงถือปากขวดที่แตกอยู่ สภาพพีทเรียกว่าไม่น่าจะยืนไหว ปากแตก หน้าช้ำ เลือดไหล



                “ใจเย็นๆนะครับ นี่น้องผม มีอะไรค่อยๆคุยกันนะครับ”



                “คุยกันเหี้ยไร น้องมึงมันกวนตีนพวกกู ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัวก็ถอยไป อย่าเสือก!” ใจดีให้โอกาสกูถอยด้วย แต่นี่น้องกูไหม ถอยไปมึงก็แทงมันตายสิวะ



                “แต่นี่น้องผม ค่อยๆเคลียร์กันดีกว่านะครับ ไม่งั้นผมคงต้องแจ้งความ”



                “อวดเก่งเหมือนน้องมึงเลยนะ”



                ผมเดินไปดึงพีทขึ้นมา แล้วขวางหน้าเอาไว้ สามคนตัวโตเดินมาหาผม ดูจากสถานการณ์แล้ว สามคนนี้ไม่น่ายอมง่ายๆ ผมสู้ไม่ได้แน่นอน ผมหนีไม่ได้ด้วยเพราะพีทเจ็บอยู่ วิ่งไม่ไหวแน่ จะตะโกนผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครได้ยินไหม ถ้าคนในห้องน้ำได้ยินเขาจะมาช่วยรึเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่าระหว่างมันเดินมาแทงผมกับคนวิ่งมาช่วยอันไหนจะเกิดก่อนกัน แต่ผมว่าอย่างหลังวะ



                “พี่หนีไปเหอะ พีทเคลียร์ได้ อย่ามายุ่งเลย”



                “เคลียร์สภาพนี้หรอพีท ยืนให้ไหวก่อนเหอะ”



                “บอกว่าอย่ามายุ่งไง” ทรงตัวก็ไม่ค่อยจะรอดอยู่แล้ว ยังจะทำเก่งอีก



                “พวกคุณต้องการอะไรละ ซ้อมน้องผมขนาดนี้ยังไม่พออีกหรอ”



                “กุจะเอามันให้ตาย หลบไปไอ้หน้าตี๋”



                ผลั๊วะ!



                    “พี่อิณ!”



                ผมถูกต่อยจนกระเด็นลงพื้น คอนกรีตขูดกับแขนผมจนเลือดซิบ สะบัดหัวอยู่สองสามที พีทถูกต่อยจนลงไปกองกับพื้นอีกแล้ว คนที่มีขวดแก้วกระชากคอพีทขึ้นมา



                ชิบหายแล้ว



                ผมรีบยันตัวลุกขึ้น วิ่งเข้าใส่พร้อมถีบยอดอกจนมันเซถอยหลัง รู้สึกเท่อยู่แปปนึง ความซวยก็มาเยือนอย่างต่อเนื่อง



ลืมไปมันมีสามคน



สองคนที่เหลือรุมผมไม่ยั้งเลยครับ ผมลงไปกองกับพื้นตั้งแต่หมัดที่สอง สี่เท้ากระหน่ำผมจนกลายเป็นคนที่เสื้อไม่ได้รีด ยับไงครับ



ผมได้เอามือป้องหน้าเอาไว้ เห็นพีทพยายามจะลุกขึ้นมาช่วยผม ไอ้ห่าเสียงเอะอะขนาดนี้ ไม่มีใครสนใจบ้างรึไงวะ มึงช่วยออกมาเสือกแล้วเรียกคนมาช่วยกูหน่อยเส้ ผมคิดว่ามีคนได้ยินแต่เขาไม่อยากมายุ่งมากกว่า



แล้วความซวยกว่าเดิมก็มาเยือนจริงๆเพราะไอ้คนที่โดนผมถีบมันคว้าปากขวด แล้วกระชากคอพีทขึ้นมา



“อย่า!!!!”

               

 

 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เอาแล้วไง หาเรื่องเจ็บตัวแล้วน้องหมวย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หมวย ลูกกกก

หวังว่าบ้านลุงจะไม่โบ้ยเป็นความผิดน้องอีกนะ เหอะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แล้วน้องหมวยก็ตกเป็นจำเลยของที่บ้าน   :seng2ped:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้องหมวยจะใจดีเกินไปแล้ว ตัวเองจะเอาไม่รอด ไปช่วยคนอื่นอีก  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
ตะไมใจร้ายตัดฉับแบบเนี้ย......งอล

ออฟไลน์ Girin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น้องหมวยบทที่ 13
   
   “อย่า!!!”
   พีทกำลังจะถูกแทง และผมอยู่ในสภาพที่ยุ่งจัด ผมไม่มีจังหวะจะลุกขึ้นด้วยซ้ำ ทำยังไงดีวะ ใจผมเต้นแรง ผมกำลังกลัว ในเสี้ยววินาทีผมทำได้แค่ภาวนาว่าให้ใครสักคนมาช่วย ผมน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ไอ้พีท ผมจะปล่อยให้น้องมันตายไม่ได้
   น้องมันก็เป็นครอบครัวของผมเหมือนกัน
   พี่ไทม์....
   ใครก็ได้....


   “ไอ้เหี้ย! มึงทำอะไรน้องกู พวกมึงงงงงง เด็กไอ้ไทม์โดนรุม”


   ผมไม่เห็นหน้าเจ้าของเสียงที่เข้ามาขัด ผมจำเสียงไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ไอ้พวกนี้มันชะงักไปเลย พีทถูกทิ้งลงพื้นอีกครั้ง
   แล้วผมก็ได้เห็น อัศวินที่เข้ามาช่วยไว้ บอยแบนด์เด็กปรัชญา ยืนเรียงหน้ากระดานอยู่ห้าหกคน สายตาโคตรเกรี้ยวกราด
   เชี่ย
โคตรเท่
ผมนี่อยากลุกขึ้นปรบมือเลย
.....ไม่ใช่เวลาไหม
“กุเรียกตำรวจแล้ว พวกมึงไม่รอดแน่”
“พวกมึงเป็นใครอีกวะเนี่ย”
“ปล่อยน้องกูเดี๋ยวนี้ไอ้สัส กูเรียกพ่อมันแล้วพวกมึงตายคาตีนมันแน่”
สองคนเหนือหัวผม หยุดชะงัก ผมชาไปทั้งตัวเลย ผมสบตากับพีทที่นอนอยู่ห่างออกไป น้องมันยังปลอดภัยดี เละนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ตาย
“มึงสิตายก่อนกูไอ้พวกชอบเสือก” ไอ้สามคนฝ่ายข้าศึกยืนเรียงอีกครั้ง พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ฝ่ายอัศวินที่ยืนตั้งรับอยู่ และทันใดนั้น
 วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ
เสียงไซเรนตำรวจดังมาจากที่ไกลๆ ฝ่ายข้าศึกเลิ่กลัก หันหน้าเข้าหากันด้วยความตกใจ ตำรวจไทยมาไวว่ะรอบนี้ ผมรู้สึกภูมิใจ
“ไอ้เหี้ย ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึง”
“หนีไปไหนวะไอ้พวกชั่วว”
ข้าศึกสลายไปแล้ว ผมได้เห็นหน้าอัศวินชัดขึ้น เขามาช่วยพยุงผมกับพีท เขาคือพวกปีสามที่นั่งโต๊ะเดียวกับผมเมื่อกี๊ พี่ไทม์รีบวิ่งเข้ามาหาผมทันที ใบหน้าหล่อตกใจและหวาดกลัวจนผมรู้สึกผิด เขาสำรวจเนื้อตัวผม แววตาเขาวูบไหวด้วยความเป็นห่วง
“ไปโรงพยาบาลกันนะ”
ผมโดนต่อยไปสองที มุมปากช้ำนิดหน่อย แต่ถือว่ายังหล่ออยู่ ผมรู้สึกจุกๆที่ท้องตอนโดนเตะแต่เพราะผมงอตัวไว้มันเลยไม่ได้หนักอะไร วิเคราะห์แล้วสภาพโดยรวม ไม่ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล
“แล้วตำรวจ?”
“เสียงโทรศัพท์พวกพี่เอง เราไม่เป็นไรใช่ไหม” พี่แชมป์หันมาอธิบายกับผม สายตาเขาสำรวจตัวผมด้วยความเป็นห่วง
“เสียงโทรศัพท์?”
“แผนมัน พี่เกือบจะฆ่ามันอยู่แล้ว ที่ห้ามไม่ให้พี่ออกมาช่วยเรา” พี่ไทม์หันหน้ามาพูดกับผม
“หมายความว่าไงครับ?”
“ไปโรงพยาบาลก่อน”
“ผมไม่เป็นไรพี่ เรารีบพาพีทไปโรงพยาบาลก่อนนะ” ผมเดินไปหาพีทที่มีพี่คนนึงช่วยพยุงอยู่ สภาพพีทหนักกว่าผม เอาจริงๆตอนนี้ผมไม่รู้สึกเจ็บเลย ผมห่วงพีท ใจผมยังเต้นรัวจากเหตุการณ์เมื่อครู่ คนๆนึงเกือบจะตายต่อหน้าผม พี่ไทม์ดูหงุดหงิดที่ผมไม่ห่วงตัวเอง เขาหันไปพูดอะไรสักอย่างกับเพื่อน
“พีท ไหวไหม ทนไว้ก่อนนะ” เขาเริ่มทรงตัวไม่อยู่แล้ว ผมกำลังจะเข้าไปช่วยพยุงเขา แต่พี่ไทม์คว้าแขนผมไว้ก่อน เขาดูหงุดหงิด แต่ยังพยายามใจเย็นตอนที่พูดกับผม
“เราไปกับพี่ ส่วนพีทเดี๋ยวให้ไปรถแชมป์”
“แต่ว่า...”
“พี่จะโกรธจริงๆนะถ้าน้องยังดื้อกับพี่ มานี่” พี่ไทม์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขากำลังดุผม
ผมหันไปมองพีทอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปตามแรงจูงของพี่ไทม์ ผมห่วงพีทแต่ผมก็ไม่อยากให้พี่ไทม์โมโห เอาจริงๆเหมือนสติผมไม่อยู่กับตัวเท่าไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาอยู่บนรถตอนไหน
ผมหันไปมองหน้าคนขับ สีหน้าเรียบเฉยบอกผมว่าเขาโมโหอยู่แต่กำลังพยายามใจเย็น
“ผมขอโทษ แต่ผมห่วงพีท เขาเป็นลูกของลุงกับป้า เขาเป็นน้องผม”
“พี่รู้แล้ว เจ็บตรงไหนบ้าง” เสียงเขาอ่อนลง และนั่นทำให้ผมรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ ผมทำให้พี่มันเป็นห่วงอีกแล้ว
“ผมไม่เป็น...”
“พี่โกรธนะ เมื่อไหร่จะเลิกบอกว่าไม่เป็นไรสักที พี่มันพึ่งพาไม่ได้ใช่ไหม เราถึงต้องโกหกน่ะ” น้ำเสียงเรียบเฉย พร้อมสายตาตัดพ้อที่มองผม ทำให้ผมต้องรีบคว้ามือข้างที่ว่างของคนขับมาจับไว้
“ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ มันก็อาจจะช้ำๆนิดหน่อย แต่ผมโอเคจริงๆนะ อย่าโกรธเลยนะ นะพี่ ผมขอโทษครับ” ผมรีบแก้ตัว บีบมือพี่มันไปมาด้วยความรู้สึกผิด แต่ว่าผมโอเคจริงๆ ผมไม่ได้โกหก พี่ไทม์ทำหน้าเอือมระอาก่อนจะสอดประสานนิ้วมือเข้ากับมือผม
“เฮ้อ โอเค ไม่เป็นอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็ต้องไปหาหมอ ตกลงไหม?”
“ตกลงครับ”
“ดีมาก ว่าง่ายๆหน่อยเราน่ะ พี่ใจหายมากเลยนะรู้ไหม” พี่ไทม์ยกยิ้มบางๆ เขากระชับมือให้แน่นขึ้น ผมใช้มืออีกข้างจับมือของเขาไว้ มือพี่ไทม์ใหญ่กว่ามือผม นิ้วเขาเรียวยาว
“ผมขอโทษ แต่ผมไม่เจ็บเลย นี่เห็นไหม มีแผลแค่ตรงนี้กับตรงนี้เอง” ผมชี้ไปที่มุมปากกับแขนที่ถลอก พยายามทำเสียงร่าเริง หนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว ที่ไม่เคยเจอน่ะคือคนที่ห่วงขนาดนี้ต่างหากและผมไม่อยากทำให้เขาเสียใจ ผมสัมผัสได้ว่าพี่มันใจหายขนาดไหน เพราะถ้าคนที่นอนขดตรงนั้นเป็นพี่มัน ผมก็คงจะใจหายแล้วก็ห่วงมากๆเหมือนกัน
“ส่วนตรงนี้ ช้ำนิดหน่อย ไม่อยากจะคุย ตอนมัธยมผมกับเดอะแก๊งเจอหนักกว่านี้อีก สี่ต่อสิบเลยนะพี่ แค่นี้เด็กๆ โถว่” ผมเลิกเสื้อขึ้น มันช้ำนิดหน่อย แต่ค่อนข้างจุก ผมยิ้มพร้อมเขย่ามือพี่ไทม์ไปด้วย พี่ไทม์ยิ้มเอือมใส่ผมเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ โห นี่ไม่ได้โกหกนะ สี่ต่อสิบนี่ชนะมาใสๆ บรรยากาศดีขึ้นกว่าเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด
“เด็กขี้โม้ พูดมากไม่เจ็บปากรึไง”
“โอ๊ะ อย่าจิ้มสิ มันเจ็บนะพี่!”
“ไหนเมื่อกี๊บอกไม่เป็นไรไง”
“พี่ไทม์...” ผมพูดเสียงอ่อนพร้อมทำสีหน้าเจ็บปวด พี่ไทม์ทำหน้าตกใจหันมาหาผม
“ว่าไง เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ผมเสียดายกุ้งอะ ยังกินหมูไม่อิ่มเลยด้วย”
“....”
ผมโดนตบหัวเฉยเลย
   




   พี่ไทม์เล่าให้ผมฟังว่า พวกเพื่อนเขาลุกไปเข้าห้องน้ำกัน แล้วอยู่ๆก็มีคนนึงวิ่งมาหาเขาบอกว่าผมโดนรุม พวกกลุ่มพี่ไทม์เลยรีบวิ่งมาแต่พี่แชมป์ก็บอกให้หลบก่อน รอดูสถานการณ์ก่อน พี่แชมป์เสริมว่าเขาเกือบตายตอนที่ห้ามไม่ให้พี่ไทม์ออกมา แล้วเขาอธิบายเพิ่มว่า พวกเพื่อนเขามันออกไปรับหน้ากันห้าหกคนแล้ว ถ้าสู้กันยังไงก็ชนะ แต่ถ้าพวกนั้นมันเอาผมมาขู่ แถมอีกฝ่ายมีอาวุธด้วย ยังไงก็เสียเปรียบ แผนตำรวจปลอมเลยกำเนิดขึ้น
   พี่แชมป์บอกว่า โชคดีจริงๆที่โทรศัพท์รุ่นนี้ลำโพงแม่งดังมาก เขาเดินออกไปเปิดให้ได้ยินจากไกลๆเพื่อความเนียน ถ้าเปิดใกล้ๆเดี๋ยวจะโดนจับได้ว่าเป็นเสียงโทรศัพท์
   ผมนี่ลุกขึ้นปรบมือเลย เด็กสิลสาดเราฉลาดของแท้ครับ
   รู้สึกภูมิใจ
   หลังจากนั้นพี่วินก็อยู่ดูแลพวกที่เหลือที่ร้าน เดี๋ยวจะตกใจไปกันใหญ่ พี่แชมป์ขับรถพาพีทไป ส่วนผมไปกับพี่ไทม์ พอถึงโรงพยาบาล ผมไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่คิดไว้ ก็แค่ช้ำๆตามตัว ส่วนพีทรายนั้นเยินไปทั้งตัว ผมอยากให้เขานอนโรงพยาบาลแต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าจะไม่แอดมิทเด็ดขาด หมอบอกว่าไม่เป็นไรแค่อาจจะมีไข้ พี่ไทม์เลยเสนอให้พีทมาค้างด้วยกันที่ห้องก่อนคืนนี้ ตอนแรกผมจะพาพีทไปที่ห้องผม แต่พี่ไทม์ไม่ยอมท่าเดียว
   พีทหลับตลอดทางจนพี่แชมป์กับพี่ไทม์ต้องช่วยกันแบกขึ้นห้อง ผมเลยยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเขา กะว่าเช้าคงจะได้คุยกัน
   แก๊ก
   พี่ไทม์เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถุงอะไรสักอย่างในมือ
   “เป็นไงบ้าง”
   “ไข้ขึ้นครับ ผมให้เขากินยาแล้ว เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้”
   “หิวไหม พี่ให้ปุนซื้อข้าวมาให้” เขาพูดแล้ววางถุงไว้บนโต๊ะกินข้าว
   “ผมยังไม่ค่อยหิวเลย พี่ไทม์หิวรึเปล่า”
   “ไม่หิวหรอก อาบน้ำแล้วหรอ พี่มีฟูกกับผ้าห่มอยู่ในตู้ เอาออกมาปูเลยก็ได้ ดึกแล้ว” เพราะเราสละเตียงให้กับพีทไปแล้ว พี่ไทม์ไม่ยอมนอนกับพีทแน่ๆและเขาก็คงไม่ยอมให้ผมนอนเหมือนกัน คืนนี้คงต้องแบ่งกันนอนฟูกกับโซฟา
   “โอเค งั้นพี่นอนโซฟา ผมนอนฟูกนะ” ผมพูดแล้วเดินไปเปิดตู้ หยิบฟูกกับผ้าห่มที่ว่า
   “ใครบอกว่าพี่จะนอนโซฟา วันนี้เราทำพี่โกรธนะ มาให้นอนกอดซะดีๆ” พูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย น่าหมั่นไส้จริงๆเลย
   ผมเช็ดตัวให้พีท ไข้เขาขึ้นสูง แน่นอนพี่ไทม์เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้า มีก็มีเหมือนๆกันยังจะมาหึงอีก ผมพึ่งเรียนรู้ว่าเขาเป็นคนขี้หึงเหมือนกัน ผมเก็บข้าวใส่ตู้เย็นก่อนจะปิดไฟ พี่ไทม์ดึงผมไปกอดเหมือนทุกคืน ผมแทบจะจมไปกับอกเขา
   ผมดีใจจริงๆที่มีเขาอยู่ตรงนี้
   ผมกอดเขาแน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป เพราะความเหนื่อยล้า เลยทำให้ผมหลับได้อย่างง่ายดาย





   เสียงดังกุกกัก ทำให้ผมสะดุ้งตื่น ห้องน้ำเปิดไฟอยู่ พี่ไทม์ยังหลับสนิท ผมค่อยๆแกะมือเขาออกก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำ พีทเดินสวนออกมาพอดี
   “หิวรึเปล่า”
   “พีทไม่หิว”
   พีทพูดเสียงเบาก่อนจะเดินผ่านผมไปที่เตียง เรามักจะเป็นกันอย่างนี้เสมอ เมินกันเอง เพราะเรื่องบาดหมางของผมกับเขา จากที่ไม่สนิทกันก็ยิ่งไม่สนิทกันเข้าไปอีก แต่เพราะเขาเป็นน้อง เดือดร้อนยังไงผมก็ต้องช่วย เขาเองก็คอยช่วยผมเวลาที่พ่อเขาว่าผม
   ผมเดินไปหาพีท อังมือที่หน้าผาก ไข้ลดแล้วแต่ก็ยังร้อนอยู่ นี่ตีสามแล้ว ผมควรเปลี่ยนเจลลดไข้
   “ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเจลลดไข้ก่อนค่อยนอน” พีทลุกขึ้นนั่งอย่างว่าง่าย ผมไม่ได้เปิดไฟ อาศัยแสงจากข้างนอกที่ลอดเข้ามา ผมหยิบเจลลดไข้อันใหม่แล้วแปะให้บนหน้าผากคนตรงหน้า
   “พี่เจ็บรึเปล่า” เขาพูดเสียงเบา ถือเป็นสถานการณ์ที่แปลกใหม่ เราไม่ได้นั่งคุยกันแบบนี้มานานมากแล้ว ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราคุยกันดีๆครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
   “ไม่เจ็บหรอก นอนเถอะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกัน” ดูท่าเด็กตรงหน้าผมคงจะไม่ยอมนอนง่ายๆเขายังนั่งมองมือตัวเอง เหมือนเด็กกำลังรู้สึกผิด
   “พี่ยังไม่ได้บอกลุงกับป้า ไม่ต้องคิดมาก นอนได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่หาย”
   “พีทจำไม่ได้แล้วว่าคุยกับพี่ดีๆครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
   “.....”
   “พี่คงเกลียดพีท พีทขอโทษ ขอโทษเรื่องคราวนั้น ขอโทษที่ทำให้เจ็บ ขอโทษทุกเรื่อง พีทขอโทษจริงๆ” พีทสูงกว่าผม ตัวโตกว่าผม แต่ตอนนี้เขากำลังร้องไห้ ไม่มีเสียงสะอื้นออกมา แต่ไหล่เขากำลังสั่น
   “พี่ไม่ได้เกลียดพีท พี่แค่โกรธ พีทไม่สบายอยู่ พีทต้องนอนพักนะ”
   “พีทขอโทษ พีทขอโทษที่ต้องให้พี่มาช่วยเวลาพ่อโมโห พีทขอโทษที่ทำให้พี่เจ็บตัว พีทขอโทษที่พีทช่วยพี่ไม่ได้” ผมว่าคงเป็นเพราะพิษไข้ พีทถึงได้ระบายออกมาพร้อมน้ำตา ผมดึงเด็กตัวโตมากอด ลูบหลังไปมา อีกฝ่ายเอาแต่พึมพำขอโทษผม
   “ผมต้องทำยังไงพี่ถึงจะยกโทษให้ผม ผมยอม ยอมหมดทุกอย่างเลย พี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้”
   ผมพึ่งได้สัมผัสการเป็นพี่ชาย สิ่งที่เขาทำกับผม ผมโกรธมากและคิดว่าคงไม่ยกโทษให้ง่ายๆ แต่พอน้องมาขอโทษผม ร้องไห้กับผม มันทำให้ผมใจอ่อนและผมก็ได้รับรู้ว่าเขาเองก็เจ็บปวดเหมือนๆกันทั้งเรื่องของผมเรื่องของครอบครัว เขาก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร เพราะผมเองก็เดินหนีเขา
   ผมจับไหล่เขาให้มองหน้ากัน พีทเป็นคนหน้าตาดีและมันดูน่ารักที่เด็กตัวโตร้องไห้งอแง
   “โอเค ถ้าพีทไม่ยอมนอน งั้นเรามาคุยกัน พีทอยากให้พี่ยกโทษให้ใช่ไหม งั้นพี่ก็มีเรื่องที่อยากให้พีททำเพื่อเป็นการไถ่โทษ”
   “.....”
   “พี่อยากให้พีทกลับไปตั้งใจเรียน กลับไปหาครอบครัว”
   “พี่อยากให้พีทกลับไปทั้งๆที่เขาทำร้ายพีทเหรอ พี่ก็เห็นว่าเขาเป็นยังไง แผลพวกนี้ไม่ใช่แค่ไอ้พวกนั้นที่ทำ พี่เดาได้ใช่ไหมว่าใครทำ? แล้วพี่ยังจะให้พีทกลับไปหาคนแบบนั้นอีกเหรอ”
   “.....”
   “เขาบังคับให้พีทเป็นสิ่งที่พีทไม่อยากเป็น เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าพีทจะรู้สึกยังไง” พีทสะอื้นหนักกว่าเก่า น้ำตาเขายังไหลออกมาเรื่อยๆ ความเครียดและความกดดันระเบิดออกมา ผมคิดคงน้อยไปที่ขอให้เขาทำยังนั้น ผมเอื้อมมือไปลูบหัวปลอบเขา
   “พี่รู้ แต่ที่พีททำอยู่มันก็ไม่ถูก พีทกำลังหนีปัญหา พีทกำลังหนีจากทุกอย่าง พี่ไม่อยากให้พีทหนีอีกแล้ว”
   “....”
   “มาเผชิญหน้าด้วยกันนะพีท พี่จะอยู่ข้างพีทเอง เรามาทำให้ครอบครัวพีทกลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ”
   “ทำไมไม่ใช่ครอบครัวเรา”
   “เรื่องของพี่กับแม่พี่แล้วก็พ่อแม่พีท มันต้องใช้เวลา อาจจะใช้เวลานานมากๆหรือบางทีมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าครอบครัวพีทมีความสุข แม่พี่ก็จะมีความสุข”
   “.....”
   “พี่เองก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้เหมือนกัน พีท คนเราทำผิดพลาดกันได้ พ่อพีทเขาก็กำลังทำผิดพลาดอยู่เหมือนกัน ลองให้โอกาสเขาอีกครั้งนะ ให้โอกาสครอบครัวได้แก้ตัว พวกเขารักพีทมากนะ พี่รู้ว่าพีทก็รู้”
   “.....”
   “พีทมีครอบครัว พีทต้องรักษามันให้ดี ตอนนี้มันยังไม่สาย อย่าให้มันพังเหมือนที่ครอบครัวพี่เคยพัง ถ้าพีททำได้ พี่จะยกโทษให้ ไม่แน่นะ ลุงกับป้าก็อาจจะเข้าใจพี่ แล้วก็ยอมรับพี่เหมือนกัน พี่จะช่วยพีทแก้ไข พีทจะไม่ต้องรู้สึกตัวคนเดียวอีก พี่ขอโทษที่ทอดทิ้งพีทมาตลอด เชื่อพี่นะ เรามาพยายามด้วยกันนะ”
   “พวกเขาน่าจะได้รู้นะ ว่าพี่รักพวกเขามากขนาดนี้”
   ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ ผมพูดทุกอย่างออกมา และพีทยอมฟังผมง่ายๆ นั่นทำให้ผมดีใจจนร้องไห้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเมินเฉยกันมาตลอด ผมรู้สึกดีใจจริงๆที่เขายอมฟัง เพราะเขาเองก็โดนทำร้ายมาตลอด ผมเลยไม่คิดว่าเขาจะยอมฟังกันง่ายๆ ผมแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ผมยอมทำขนาดนี้
   แต่เพราะมันขึ้นชื่อว่าครอบครัว
   เวลาที่ย้อนกลับไม่ได้
   ถ้าวันนึงที่ครอบครัวของเราพัง เราจะไม่มีวันซ่อมมันได้
   แผลที่มาจากครอบครัว มันจะไม่มีวันรักษาหาย
   ผมคิดว่าแม่รักผม อย่างน้อยเขาก็ต้องรักบ้าง เขาเลี้ยงผม ดูแลผม เขาเอาเงินเดือนตัวเองมาจ่ายค่าเทอมผม ถึงเขาจะพูดจาร้ายๆใส่ผมแต่เขาก็ยังเป็นคนที่หายาให้เวลาผมไม่สบายอยู่ดี เขาอาจไม่ใช่แม่ที่ดี แต่ผมจะยอมเชื่อสักครั้งว่าเขาเป็นแม่ที่รักผม
   และผมจะทำให้เขารู้ว่าเขาคิดถูกที่เลือกเก็บผมไว้ และเลี้ยงผมมา
   ผมจะสู้ไปกับน้อง อย่างน้อยผมก็ไม่ได้สู้คนเดียวจริงไหมครับ ผมคว้าตัวพีทมากอดอีกครั้ง เขายังร้องไห้จนไหล่ผมเปียก เขายังเด็กน้อยอยู่จริงๆนั่นแหละ
   “เลิกหนีนะพีท อย่าทิ้งครอบครัวของตัวเอง”
   ผมถือว่าการกอดตอบจากเขาเป็นการตกลง ผมลูบหัวลูบหลังกอดปลอบเด็กงอแงจนหลับ หวังว่าเช้าเขาจะไม่ลืมนะ เพราะผมอุตส่าห์พูดไปตั้งเยอะ ผมดันพีทนอนแล้วห่มผ้าให้ และตอนที่ผมกำลังจะลุกกลับไปนอนที่ ผมเห็นพี่ไทม์นั่งอยู่เขายิ้มให้ผม และใต้แสงน้อยๆจากหน้าต่าง เขาดูหล่อมาก ผมเดินเข้าไปและซุกตัวกอดเขา
   “เก่งมาก น้องหมวยของพี่ทำดีแล้วนะ”
   ผมชอบอ้อมกอดนี้ มันเป็นกอดที่อบอุ่นจริงๆ




เราอ่านทุกคอมเม้นเลย ขอบคุณทุกคนจริงๆนะคะ

ขอบคุณสำหรับการอ่าน การติดตาม

เราเขียนนานมากเลย

อยู่ด้วยกันถึงตอนจบเลยนะคะ♥
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 22:07:58 โดย Girin »

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
้น้องหมวยแม่งคนดีมาก ฮือออออ  :m15:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องหมวยเข้มแข็งมากกก เอาใจช่วยนะคะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ชอบจ้า  ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
Fcพร้อมโอนพี่ไทม์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องหมวยน่าร้ากกก

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
สู้ๆนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Girin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น้องหมวยบทที่ 14
   
   เช้าที่ไม่ต้องเร่งรีบ อากาศเย็นสบาย แสงอาทิตย์อ่อนๆส่องลอดผ่านหน้าต่าง  ทำให้ร่างสูงเห็นคนในอ้อมกอดชัดเจน หน้าขาวๆแก้มกลมใส รับกันดีกับตาสระอิของน้อง แผลมุมปากไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าดูดีน้อยลง จมูกรั้นๆคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง ตื่นนานแล้ว แต่ไม่อยากลุกไปไหนเพราะอยากนอนมองคนในอ้อมแขนนานๆ มองเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอสักที
   เมื่อวานเป็นวันที่หนักหนาพอสมควร เด็กน้อยของเขาพึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมง เขาเลยไม่คิดจะรีบปลุกอีกฝ่ายนัก ตัวก็แค่นี้แต่กลับต้องแบกรับอะไรไว้มากมาย แต่เพราะน้องเป็นผู้ชายและมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากอยู่ข้างๆ คอยซัพพอร์ท คอยดูแล คอยให้กำลังใจ ถ้าน้องผ่านมันไปได้ มันจะทำให้อีกฝ่ายโตขึ้น
   คนตัวสูงก้มลงหอมแก้มนิ่มที่เขาชอบ อีกฝ่ายส่งเสียงคราง พยายามหันหนีสิ่งรบกวน เขาเผลอทำสิ่งที่คุ้นเคยจนลืมไปว่าไม่ได้อยู่ในห้องกันสองคน เขาเหลือบมองน้องชายของเด็กน้อย
พีทยังหลับอยู่
   ไทม์อาศัยช่วงที่สองพี่น้องยังหลับ ลุกขึ้นเสียงเบา อาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ออกไปซื้อข้าวเช้า
   เหมือนเป็นพ่อกำลังไปซื้อข้าวกลับมาให้ลูกๆที่บ้านยังไงไม่รู้
   “ตื่นละหรอ นั่งก่อนสิ พี่ซื้อโจ๊กมาให้”
   “ขอบคุณครับ”
   พีทออกมาจากห้องน้ำพอดีกับที่เจ้าของห้องเปิดประตูเข้ามาพร้อมถุงอาหารในมือ
   “พี่กับพี่อิณเป็นแฟนกันหรอครับ?” พีทเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่วางชามโจ๊กตรงหน้าเขา คำถามตรงไปตรงมาทำให้เจ้าของห้องชะงักเล็กน้อย พร้อมยกยิ้มมุมปาก
   “ยัง จีบอยู่” คนอายุมากกว่าตอบคำถาม แล้วทรุดนั่งลงฝั่งตรงข้าม
   “คิดว่าไง”
   “คิดอะไรครับ?” พีทเอ่ยถามพร้อมตักโจ๊กขึ้นเป่า
   “พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้เรารับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน พี่ได้ยินที่เราคุยกันเมื่อคืน ถ้าอยากให้ครอบครัวเข้าใจเรื่องของพี่กับพี่ชายเรา พี่ก็อยากรู้ว่าพีทยอมรับเรื่องนี้ได้แค่ไหน”
   น้ำเสียงจริงจัง รอยยิ้มที่เหมือนจะใจดีแต่สายตากลับเรียบเฉย ทำให้พีทรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้ไว้ใจเขานัก การถามคำถามแบบไม่อ้อมค้อมเหมือนเป็นการยั่งเชิงว่าเขาจะตอบแบบจริงใจรึเปล่า
   “จริงๆผมรับได้นานแล้ว เพื่อนผมมันก็คบกับผู้ชายด้วยกันหลายคน ผมขี้ขลาดเองที่ไม่กล้าขอโทษทั้งที่ตัวเองผิด” พีทแสดงความรู้สึกผิดผ่านสีหน้าและน้ำเสียง เขาอยากขอโทษจากใจจริงๆเขาอยากลบตะกอนความผิดที่มันกัดกินเขามาเป็นปี
   “ดีแล้ว พี่แค่อยากแน่ใจว่าที่น้องพี่ทุ่มเทไปมันคุ้มรึเปล่า”
   “ผมเข้าใจ” ฝ่ายตรงข้ามส่งยิ้มจริงใจมาให้เขาก็เริ่มวางใจ เพราะเขาสัมผัสได้ว่า รุ่นพี่ที่ตามจีบพี่เขาคนนี้ ไม่ธรรมดา ท่าทางใจดีที่เห็นดูจะมีให้แค่พี่อิณคนเดียวซะมากกว่า เขาเป็นแค่ส่วนเกินที่ได้รับการเผื่อแผ่ความใจดีเพราะเป็นน้องชาย
   “แล้วเป็นไงบ้าง ยังปวดหัวอยู่ไหม”
   “นิดหน่อยครับ”
   “กินเสร็จแล้วก็ไปกินยา จะกลับเลยรึเปล่า”
   “ผมคงรอพี่อิณตื่นก่อนค่อยกลับ”
   “อืม” ความเงียบก่อตัวขึ้น มันเป็นความอึดอัดที่เขาไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี เอาตรงๆคือว่าที่อนาคตพี่เขยเขาน่ากลัวใช้ได้ ถึงจะตัวพอๆกัน แต่อีกคนดูจะแผ่รังสีน่ากลัวออกมามากกว่า พวกเขานั่งทานโจ๊กกันเงียบๆจนได้ยินเสียงคลุกคลักตรงโซฟา พี่ชายขี้เซาคงจะตื่นแล้ว
   “ผมได้กลิ่นโจ๊ก”
   “ตื่นมาก็นึกถึงของกินก่อนเลยหรอ” คนพึ่งตื่นมุ่ยหน้าทันทีที่พี่ไทม์ทัก แต่เขาก็ตื่นเพราะกลิ่นโจ๊กจริงๆนั่นแหละ ก็มันหอม
   พีทสะดุ้งเมื่อฝ่ามือนุ่มๆของพี่ชายวางบนหน้าผากเขาเบาๆ พยักหน้าพอใจ ก่อนจะเดินไปเทโจ๊กมานั่งกินข้างๆเขา บรรยากาศอึดอัดหายไปทันที จะไม่หายได้ไง ก็ว่าที่พี่เขยเล่นมองตามคนเดินไปมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจแบบสุดๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะหัวฟู ตายังลืมไม่ขึ้น ฟันยังไม่แปรง เผลอๆน่าจะมีคราบน้ำลายด้วย
   อืม เป็นเช้าที่สวยงามจริงๆ
   “จะกลับบ้านเลยไหม กลับสภาพนี้ไม่โดนด่าหรอ”
   “เขาชินแล้ว เขาแค่ด่าพีทแหละ คงไม่ลงไม้ลงมือหรอก”
   “พี่มีคอนซีลเลอร์ เอาไปใช้ซะ แล้วก็ใส่แมสด้วย จะได้เนียนๆ”
   “กินให้หมดก่อนค่อยพูด พีทมันไม่ไปไหนหรอก โตแล้วทำตัวเลอะเทอะ ไม่อายน้องมันเหรอ” ร่างสูงยิ้มเอ็นดู เขาเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากให้เด็กน้อย แต่อีกคนกลับมองตาขวางแล้วพยายามหันหนี
   “ผมเช็ดเองน่า”
   “มีคราบน้ำลายด้วยวะน้องหมวย” ไทม์พูดกลั้วหัวเราะ
   “เฮ้ย อย่าเรียกแบบนั้นดิพี่ น้องผมนั่งอยู่นะ ไม่เท่เลย”
   “ตัวแค่นี้ยังจะเท่อีกหรอเรา” พีทนั่งมองอนาคตสามีภรรยาหยอกเย้าไปมาท่ามกลางยามเช้าอันสดใส เหม็นความรักอยู่หรอก แต่มันก็น่ารักดี เขาระบายยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ บรรยายกาศฟรุ้งฟริ้งนี่มันอะไรกัน
   “พีท ได้ยินพี่ปะเนี่ย”
   “หะ ว่าไงนะ” กำลังมองทะเลาะกันเพลินๆเลย
   “พี่มีแผน แต่พี่ต้องการข้อมูล พี่รู้แค่ว่าลุงอยากให้พีทเรียนหมอ หรือไม่ก็พวกทันตะอะไรแบบนี้ใช่ไหม” น้ำเสียงจริงจังของพี่ชาย ทำให้บรรยากาศสีชมพูหายไปจนพีทนึกเสียดาย
   “ใช่ ป้าข้างบ้านมาโม้ไว้ ว่าลูกติดหมอ  พีทเลยซวยไปด้วย”
   “ยัยป้านี่น่าจุดไฟเผาบ้านชะมัด แล้วจริงๆพีทอยากเรียนอะไร คิดไว้รึยัง”
   “วิศวะคอม แต่พีทอ่อนอังกฤษ จริงๆถึงไปเที่ยวเล่น พีทก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องเรียนนะ แค่ไอ้ที่พ่อให้เรียนพิเศษพีทไม่ได้ใช้เท่านั้นเอง”
   “เคยลองคุยกับพ่อรึยัง ว่าอยากเรียนวิศวะ”
   “เคยแล้ว เขาไม่ยอม”
   “ตาลุงนี่โคตรหัวโบราณเลย เขาจะรู้ไหมว่าทุกอย่างมันยากเพราะเขาคนเดียว”
   “พี่ว่าลองไปคุยอีกทีดีไหม คุยให้เห็นว่าเราชอบเราตั้งใจ พี่ว่าพ่อพีทอาจจะยอมฟัง” คนอายุมากที่สุดบนโต๊ะเสนอ
   “ลองแล้ว แต่เขาหัวแข็งเกินไป”
   “งั้นเอางี้ พวกคอร์สเรียนพิเศษ ถ้าพีทไม่เรียนแล้วก็เอาไปขายต่อหรือไม่ก็ปล่อยไว้งั้นแหละ ถ้าลุงกับป้าถามก็บอกว่าที่เรียนมันไม่ดี อ่านเองดีกว่า แล้วพีทก็ตั้งใจอ่านหนังสือซะ เรื่องกินเรื่องเที่ยวก็หยุดไปก่อน สอบให้ติดก่อน เราต้องทำให้เขาเห็นว่าเราตั้งใจ เรื่องเรียนพิเศษ ถ้าเขาเห็นว่าพีทตั้งใจอ่านหนังสือเอง ถึงไม่ไปเรียนเขาก็คงไม่ว่าอะไรหรอก อย่างมากก็อาจจะแค่บ่นๆ”
   “พีทจะพยายาม แต่ประเด็นคือพีทไม่อยากอยู่บ้าน พี่เข้าใจใช่ปะ”
   “เข้าใจ แต่อยากให้ทนไปก่อน พอเขาตายใจ เห็นว่าพีทดีขึ้น ค่อยมาอ่านที่หอพี่ก็ได้ แต่พีทต้องเปิดใจนะ พี่ว่าแม่พีทน่าจะเข้าใจแล้วก็เข้าข้างพีทแหละ คุยกับเขาบ่อยๆให้ความใกล้ชิดมันทำให้เขาเปิดใจรับฟัง  เขารักพีทเชื่อสิ พี่รู้พีททำได้”
   “สรุปคือพีทต้องตั้งใจเรียน อันนี้ไม่น่ายาก ไอ้ที่ยากคือตีสนิทกับแม่ แปลกเหมือนกันนะ พีทจำไม่ได้แล้วว่าแต่ก่อนเป็นยังไงตอนที่พ่อไม่เอาแต่ตีพีท หรือตอนที่แม่ไม่เอาแต่ว่าพีท” เรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาหลงลืมว่าความสุขที่เคยมีมันเป็นยังไง จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องแย่ๆพวกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อีกทีมันก็หนักหนาจนแก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว
   แต่บางทีอาจจะทัน แค่ยังไม่เคยลอง
   มันยังมีหวังเสมอหากมีใครสักคนยืนหยัดต่อสู้เพื่อมัน
   ขอยืมคำคมจากวิล เทอร์เนอร์หน่อยเถอะ รู้สึกว่าอารมณ์ตอนนี้มันได้
   “ทุกอย่างต้องดีขึ้น  ถ้าได้แม่พีทมาเป็นพวกเดียวกันเมื่อไหร่ อะไรๆมันก็คงง่ายขึ้นแล้วละ”
   “พีทจะพยายามแต่มันคงต้องใช้เวลา พีทว่าแค่ตั้งใจเรียนกับเป็นเด็กดีนี่ไม่น่าจะพอนะ เราต้องใช้คะแนนความสงสารด้วย อ่านหนังสือจนป่วยเลยดีไหม”
   “จะดีเหรอ พี่ไม่อยากให้พีทป่วยเลยนะ เอาเป็นร้องไห้ แบบว่าเครียดมากดีไหม”
   “แบบนั้นก็เข้าท่านะ”
   “แล้วพอพีทเริ่มได้คุยกับแม่ เราค่อยใส่ดราม่าหนักๆว่าเรียนหมอไม่ไหว ไม่ชอบชีวะ อยากเรียนวิศวะเพราะชอบคณิตศาสตร์มากกว่าไรงี้ แล้วเดี๋ยวพอพีทร้องไห้มากๆแม่พีทเขาก็ไปบอกลุงเองแหละ”
   “โอเคเลย โห พี่นี่เก่งจริงๆ เราน่าจะร่วมมือกันตั้งนานแล้วเนอะ”
   “ใช่ๆ”
พูดไปตักโจ๊กเข้าปากไป การวางแผนผนึกครอบครัวของสองพี่น้องกลางโต๊ะอาหาร ยิ่งฟังก็ยิ่งดู เหมือนแผนร้ายมากกว่า เจ้าเล่ห์ทั้งพี่ทั้งน้อง ไทม์มองเห็นทั้งความสุขและความซุกซนในแววตาของน้อง  บรรยากาศการคุยสนุกสนานจนเขาไม่อยากขัด นี่ไม่ได้คุยกันนานจริงหรอ เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยขนาดนี้ เขาฟังเพลินจนบางทีก็อดยิ้มไม่ได้กับแผนการอ๊องๆของเด็กซน
“ลองเอาตามนี้ก่อน ถ้าสถานการณ์มันดีขึ้นยังไง เราค่อยคุยกันอีกที”
“ได้”
“แล้วก็อีกเรื่องที่พี่อยากให้พีทช่วย”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องแม่พี่... พี่อยากให้พีทดูแลเขาช่วงที่พี่อยู่ไม่อยู่ พี่ยังไม่อยากเข้าไปที่บ้านในระหว่างการปฏิบัติการแผนของเรา”
ปฏิบัติการเลยหรอพี่?
“พี่อาจจะฝากของไปให้บ้าง พีทก็ช่วยส่งข่าวให้พี่บ้าง คอยเล่าเรื่องพี่ให้เขาฟัง บอกเขาบ่อยๆว่าพี่เป็นคนดีแล้วก็ขยันแค่ไหน พี่ก็จะทำให้เขาเห็นด้วยแต่มันติดตรงที่เขาไม่มาดูแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันเลยด้วย พี่เลยอยากให้พีทพูดแทน”
“ได้เลย เดี๋ยวพีทจะช่วยตะล่อมแม่พี่เอง”
พีทตอบพลางกลั้วหัวเราะ แววตาของพี่ชายเขาหม่นลงทันทีที่พูดเรื่องแม่ เขาไม่ชอบเลย ก็พี่ชายเขาเป็นคนน่ารัก ถึงจะดูเอ๋อๆไปบ้าง เขาก็ยังชอบแววตาสดใสมากกว่า มันเศร้ามามากพอแล้ว
“ดีมากน้องชาย”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“...”
“พี่อิณ”
“หืม?”
“คือ....”
“คือ?”
“....”
“....”
“พีทรักพี่นะ  ขอบคุณที่กลับมาดีกัน”

คลั่กๆ

แย่แล้ว โจ๊กแม่งพุ่ง

“เฮ้อน้องหมวย พี่กำลังซึ้งเลย เรานี่มันเด็กเด๋อจริงๆ เลอะเทอะอยู่คนเดียว”
พีทได้แต่หัวเราะเสียงดัง พร้อมยื่นน้ำให้พี่ชาย ว่าที่พี่เขยของเขาส่ายหน้าระอา ถอนหายใจ แต่ก็ยังหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้ คนเลอะเทอะยังไอค่อกแค่กจนหน้าแดง
   ช่างเป็นเช้าที่สดใสจริงๆ
   เหมือนเป็นสัญญาณว่าสิ่งดีๆกำลังมา
ขอบคุณจริงๆที่ยอมให้อภัยกัน

    





   
   หลายวันมานี้ผมมีความสุขจนตัวเบา ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย จนก่อเกียรติมันด่าว่า มึงเป็นบ้าเหรอ ทำไมอะ ก็ผมมีความสุขของผม หลังจากวันนั้น ผมกับพี่ไทม์ก็ไปส่งพีทที่ท่ารถ พีทไม่ยอมให้ไปส่งที่บ้านเพราะเดี๋ยวมันจะน่าสงสัยเกินไป ผมให้เขาปิดรอยแผลแล้วก็ใส่แมสปิดปากเรียบร้อย รับรองว่าเนียน แล้วผมก็ยังกำชับเขาด้วยว่าให้ดูแลตัวเองดีๆแล้วก็อย่าขาดการติดต่อ
   ผมรู้สึกดีจริงๆกับการเป็นพี่ชาย เหมือนผมมีอำนาจ แบบว่าเป็นผู้นำคนอื่นเขา รู้สึกพราวยังไงไม่รู้ ถึงจะสำลักโจ๊กต่อหน้าน้องมันก็เถอะ
   แหม มันเป็นอุบัติเหตุไหมละ
   แผนการ คัมแบคมายแฟมิลี่ ยังคงปฏิบัติการอยู่ พีทยังทำหน้าที่ได้ดีอย่างต่อเนื่อง แต่การตะล่อมมันต้องใช้เวลา ซึ่งผมกับพีทยังติดต่อแลกเปลี่ยนข่าวคราวกันอยู่เสมอ
   ชีวิตผมเป็นสีชมพูมุ้งมิ้งมากช่วงนี้  ผมได้ทุนที่พี่ไทม์แนะนำให้สมัครไป เป็นทุนที่โคตรดี ให้ทั้งค่าเทอม ค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องที่จ่ายค่าหอให้ผม แล้วยังค่ายังชีพเดือนละ 2000  ผมดีใจมากเลยตอนที่เขาประกาศ แสดงว่าเรียงความที่ผมเขียนไปต้องดีมากแน่ๆ แต่เงื่อนไขคือผมต้องประพฤติดีและได้เกรด 3.25 ขึ้นไป นี่แหละที่ทำให้ผมอยากร้องไห้ขึ้นมา แค่ถึงสามผมว่าผมก็แทบแย่แล้วนะ แล้วสามกว่านี่จะรอดหรอวะ
   ส่วนงาน ผมได้งานร้านชาบูหน้ามอ ทำวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดสิบเอ็ดโมงถึงสี่ทุ่ม ค่าแรงปกติ งานไม่หนักด้วย โคตรโชคดีเลย ผมว่าผมต้องใช้บุญหมดแล้วแน่ๆเลย ผมควรรีบเข้าวัดทำบุญเพิ่ม
   แต่ยังมีเรื่องนึงที่ผมยังปวดหัวกับมันอยู่
   ก็เงื่อนไขที่ผมเคยทำไว้กับวิชาเจ้าปัญหา ว่าถ้าผมผ่านมีน ผมต้องขอพี่ไทม์เป็นแฟน
   และแน่นอนครับ
   ไม่ใช่แค่ผ่าน
   แต่เกือบเต็มเลยต่างหาก
   อยู่ๆก็เป็นคนที่โด่งดังและมีเพื่อนอยากคบเฉยเลย ทั้งที่ปกติก็ตัวติดกับก่อเกียรติอยู่สองคน วิชานี้คนผ่านมีนน้อยมาก จริงๆพวกเขาควรเกลียดผมนะ เพราะผมดึงมีน เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ
   พี่มันไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับผมเลย เหมือนเขาจะรอให้ผมพูดขึ้นมาเอง ทั้งที่เราเจอกันทุกวัน ผมกลับมาซ้อมกีฬาเหมือนเดิมและพี่มันก็มารอไปส่งผมที่หอเหมือนเดิม บางทีเราก็ไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน บางทีพี่มันก็ไปรับผมตอนเช้า
   และผมอยากจะรักษาสัญญา ผมต้องขอพี่มันเป็นแฟน
   แต่ยังไงละ?
   โอเค

   แผนแรก
   ชวนไปกินชาบู แล้วเอาผักบุ้งมาเรียงว่าเป็นแฟนกันไหม? อืม แต่ผมว่านอกจากจะไม่โรแมนติกแล้ว มันยังดูเอ๋อไปหน่อยๆนะ ไม่เอาอันนี้ไม่เวิร์ค

   แผนสอง
   หรือผมควรเรียงด้วยเบคอนวะ ทำไมมีแต่ของกินเนี่ย
ไม่เอา!!!

   แผนสาม
   พูดไปตรงๆเลยดีไหม แต่ผมว่าผมเขินอะ หรือจะขอตอนมืดๆ จะได้ไม่เห็นว่าผมทำหน้ายังไง อาจจะใช้ปากกาเรืองแสงมาเขียนข้อความ
   เรืองแสงหรอ?
   ใช่แล้ว
ผมคิดแผนออกแล้ว แต่ปัญหาคือผมต้องใช้เวลาเตรียมการ แล้วผมต้องให้พี่มันมาค้างกับผม หรือไม่ผมก็ต้องไปค้างกับพี่มัน งานนี้ผมต้องการคนช่วย
   “คิดอะไรอยู่ ทำไมมองหน้าพี่แบบนั้น”
   “หะ เปล่านี่ ผมไม่ได้คิดอะไร”
   พี่ไทม์ทักขึ้นเพราะผมใช้ความคิดจนเผลอจ้องหน้าพี่มันนานเกินไป นี่เป็นอีกวันที่พี่ไทม์มาส่งผมหลังจากซ้อมกีฬาเสร็จ ตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าแล้ว
   “วันเสาร์พี่ไปไหนรึเปล่า”
   “วันเสาร์หรอ พี่ว่าจะไปซื้อของใช้ที่ห้าง กลับมานอน แล้วก็เลยไปรับเราที่ร้าน”
   “พี่เก๋บอกว่าจะวันเสาร์จะเปิดร้านถึงหกโมง เขาจะไปธุระ ผมอยากกินทับทิมกรอบฝีมือพี่ ขอไปค้างด้วยได้รึเปล่า”
   ผมเริ่มปฏิบัติการทันทีที่ร่างทุกอย่างในหัวเสร็จ ผมใช้ทับทิมกรอบเป็นข้ออ้าง เพราะมีวันนึงที่อยู่ๆพี่มันก็นึกอยากอวดทับทิมกรอบสูตรแม่ตัวเอง เลยซื้อของมาทำให้ผมกิน และปรากฏว่ามันอร่อยมาก จะมีพิรุธก็แต่ผมที่จู่ๆก็ขอไปค้างด้วยนี่แหละ
   “หืม? แปลกๆนะเรา อยู่ๆขอมาค้างกับพี่ มีแผนอะไรรึเปล่าเนี่ย”
   “ไม่มี๊ ไม่มี ไม่มี จะมีได้ยังไง ไม่มีแผนอะไรเลยยย”
   “แน่ใจ?”
   “ไม่อยากให้ผมไปค้างเหรอ” มุขนี้ได้ผมตลอด
   “มาสิ ไม่ได้ว่าอะไร อยากให้มาบ่อยๆด้วยซ้ำ”
   พี่ไทม์ยิ้มให้ผม ผมพยายามทำหน้าแตกตื่นให้น้อยที่สุด มึงจะฉลาดไปละพี่ ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ทันทีที่ถึงหอ บอกลาคนลาคนขับเสร็จสรรพก็เดินขึ้นห้อง
   งานนี้ต้องมีผู้ช่วย และผมต้องติดต่อเขา
   จะใครละ ถ้าไม่ใช่ก่อเกียรติเพื่อนรัก







   วันเสาร์มาถึงเร็วเกินคาด ผมหวั่นใจว่าแผนจะล่มรึเปล่า แผนของผมสำเร็จไปเกินครึ่งแล้ว ตอนนี้ผมกำลังรอพี่ไทม์มารับไปที่ห้องของเขา ผมเดินไปเปิดประตูรถทันทีที่เข้าจอด
   “วันนี้ดูตื่นเต้นนะ มีอะไรรึเปล่า”
   “ไม่มี ผมแค่อยากกินทับทิมกรอบมากๆเท่านั้นเอง”
   “อ่อเหรอ”
   “ช่าย ลีลาวะพี่ ออกรถเลยเร็วๆๆๆ” ผมว่าผมไม่มีพิรุธนะ
   เรามาถึงห้องพี่ไทม์ภายในเวลาไม่กี่นาที ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พี่ไทม์ต้องเซอร์ไพร์มากแน่ๆ ผมอดใจรอเห็นสีหน้าอึ้งๆของเขาไม่ไหวแล้ว งานนี้เขาต้องตั้งตัวไม่ทันแน่ๆ
   “คิกๆ”
   “อยากกินขนาดนั้นเลยหรอ”
   “ใช่แล้ว พี่รีบๆไขประตูซะทีสิ”
   “ครับๆน้องหมวย”
   ผมเผลอหัวเราะในใจดังไปหน่อย แต่วินาทีตื่นเต้นมันอยู่ตรงนี้ ผมรีบแทรกตัวเข้าไปทันทีที่พี่มันเปิดประตู และเป็นคนเปิดไฟเองก่อนที่พี่มันจะทันเข้ามา พี่ไทม์ทำหน้างงนิดๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ผมสำรวจห้องและพบว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
   เรานั่งกินข้าวเย็นที่ซื้อเข้ามา ผมเก็บชามล้างเรียบร้อยก่อนที่พี่ไทม์จะไล่ผมไปอาบน้ำ ส่วนเขาก็ทำทับทิมกรอบชิวๆ  สถานการณ์ยังถือว่าปกติ ไม่น่าสงสัย ผมนี่เนียนเก่งจริงๆเลย
   ระหว่างรอพี่ไทม์อาบน้ำ ผมก็ตักทับทิมกรอบหอมๆมานั่งรอพี่มันหน้าทีวี เรานั่งกินด้วยกัน พูดคุยกันเหมือนทุกๆวัน เป็นความธรรมดาที่ผมรู้สึกพิเศษ
   “มีอีกคนที่เขาอยากให้น้องไปช่วยกินทับทิมกรอบฝีมือเขาหน่อย”
   “ใครหรอ?”
   “แม่พี่”
   แม่พี่? คือชวนไปเจอพ่อแม่ถูกมั้ย ผมได้แต่หน้าแดงและไม่รู้จะตอบยังไง พ่อแม่พี่มันรู้เรื่องผมแล้วหรอ แล้วเขารับได้หรอ
   “แม่พี่ เขารู้เรื่องของเราหรอ”
   “รู้ พี่เล่าให้ฟังบ่อย” พี่มันพูดด้วยท่าทีสบายๆ พร้อมตักขนมเข้าปาก แต่ผมนี่เกร็งไปทั้งตัวแล้ว
   “แล้วเขาโอเคหรอ”
   “โอเค พวกเขาอยากเจอน้องนะ เขาอยากเห็นว่าเราน่ารักเหมือนในรูปรึเปล่า”
   จริงใจแค่ไหนเรียกจริงจัง พาไปเจอที่บ้านขนาดนี้ ไม่จริงจังก็บ้าแล้ว ผมได้แต่หน้าร้อน ก้มหน้าก้มตากินขนม พี่มันก็เอาแต่ยิ้ม จ้า รู้แล้วว่ามีความสุข หมั่นไส้โว้ย เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวคืนนี้อึ้งแน่
   “ผมก็อยากกินทับทิมกรอบฝีมือแม่พี่เหมือนกัน”
   ถ้าเขาอยากเจอผมก็จะเจอ ผมอยากรู้เหมือนกันว่าครอบครัวแบบไหนที่เลี้ยงให้พี่มันกลายเป็นคนดีแล้วก็อบอุ่นได้ขนาดนี้
   “ทับทิมกรอบพี่อาจจะสู้แม่ไม่ได้ แต่พี่มั่นใจว่าพี่อร่อยกว่าทับทิมกรอบแน่นอน”
    หันมาทำตาวาววับ แจกอ้อยใส่ผมเสร็จ ก็ยื่นหน้าเข้าจุ๊บไวๆที่มุมปากผม ผมเบิกตากว้าง จะอ้าปากด่าก็ไม่ได้เพราะขนมเต็มปาก
   อะ ไอ้พี่ไทม์
   “กินเลอะเทอะตลอดนะเรา หึ”
   “เช็ดธรรมดาก็ได้ไหมครับ” พี่มันหัวเราะพอใจที่เห็นผมมองค้อนใส่ เดี๋ยวนี้ถึงเนื้อถึงตัวตลอด เดี๋ยวหอม เดี๋ยวกอด สกินชิพตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน
   “ครอบครัวพี่เป็นยังไงหรอ”
   “ที่บ้านพี่หรอ พ่อกับแม่พี่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่พวกท่านเกษียรแล้ว มีรับจ๊อบสอนนอกเวลาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นจะหนีไปเที่ยวกันสองคนมากกว่า พี่มีพี่สาวอีกคน อายุห่างกัน 7 ปี เรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว แต่งงานแล้ว มีน้องแล้วด้วย”
   “....” ฟังดูอบอุ่นจังแหะ
   “เป็นน้องผู้หญิง สามขวบแล้ว ชื่อน้องแพร น่ารักมากเลย เวลากลับบ้านพี่ก็จะซื้อขนมเค้กไปฝากประจำ ตัวนิดเดียวแต่อ้อนเก่ง กินเก่ง  แก้มกลมเหมือนเราเลยรู้ไหม ตาก็ตี่เหมือนกันเลย”
   “แก้มผมไม่เห็นจะกลมตรงไหนเลย”
   “มันก็กลมตรงนี้แหละ ฮ่าๆ  บ้านพี่ต้องชอบน้องมากแน่ๆ เชื่อสิ เพราะเราหน้าเหมือนน้องแพรเลย พี่ชักอยากเห็นเวลาอยู่ด้วยกันแล้วสิ”
   “ผมหน้าเหมือนน้องสามขวบตรงไหนเนี่ยยย น้องเขาเป็นผู้หญิงนะพี่”
   “เอาน่า เดี๋ยวเจอกันก็รู้เอง รีบไปบ้านพี่เร็วๆสิครับ”
   ทำตาวาวใส่ผม แถมยังพูดเพราะๆอีกต่างหาก เป็นสกิลการอ้อนอย่างนึงของเขาเลย อ้อนแบบอาศัยความหล่อของตัวเอง
   “งั้นพี่สอนผมทำทับทิมกรอบบ้างได้ไหม ผมอยากทำไปฝากแม่ เดี๋ยวให้พีทเอาไปให้”
   “ได้อยู่แล้วคนเก่ง”
   เขาขยี้หัวผม ก่อนจะลุกขึ้นเอาชามไปเก็บ ผมเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน เปลี่ยนคอนแทคเลนส์เป็นแว่นตา พอออกมาผมก็ไล่พี่ไทม์ให้ไปแปรงฟัน ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว จู่ๆก็รู้สึกระทึกตึกตัก ใจมันเต้น
   ผมพยายามทำตัวปกติ ไม่ทำใจเต้นเสียงดังจนเกินไป ไม่หน้าแดงจนเกินไป เล่นมือถือรอบนเตียงอย่างเนียนๆ ปกติเวลามาค้างด้วยกันเราสองคนไม่ได้ชอบดูละครหรือดูทีวีสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เราชอบนอนคุยกันมากกว่า เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย บางทีพี่มันก็นอนกอดผมเฉยๆ ง่วงเมื่อไหร่ก็หลับเมื่อนั้น มันเลยเหมือนเข้านอนทั้งที่ยังไม่ดึกเท่าไหร่ แต่ผมชอบแหะ แค่ได้ใช้เวลาด้วยกันมันก็เพียงพอแล้ว
   เหล่าสมาชิกผู้ร่วมแผนการของผม ส่งข้อความเข้ากลุ่มไลน์มาถามความคืบหน้าของแผนการ ผมตอบไปว่า วินาทีไคล์แมกซ์กำลังมาถึงแล้ว ผู้ร่วมขบวนการอวยพรให้ผมกันใหญ่ พวกเขาดูดีใจที่พี่ไทม์จะได้ออกเรือนแล้ว  ผมกดปิดโทรศัพท์ ยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ใจผมเต้นตึกตัก ทั้งๆที่ผมไม่ต้องมีบทพูดด้วยซ้ำ แต่มันก็เขิน พี่มันจะทำหน้ายังไง จะตกใจไหม จะเขินรึเปล่า นี่ถ้ามันปฏิเสธผมขึ้นมานี่มีฮานะบอกเลย
   เสียงเตียงยวบข้างๆทำให้ผมรู้ว่าเจ้าของห้องมาถึงแล้ว
   เอาวะ
   ใจกล้าๆหน่อย
   ก็แค่ปิดไฟเอง
   “ผมปิดไฟเลยนะ”
   “ทำไมหน้าแดง ไม่มีอะไรแน่หรอ พี่ว่าเราแปลกๆนะ ไม่สบายรึเปล่าครับ?”
   พี่ไทม์มองผมด้วยท่าทีเป็นห่วง ผมเม้มปากแน่น ความแตกตอนจะเฉลยนี่ขำไม่ออกเลยนะครับ อุตส่าห์วางแผนมา ผมว่าผมต้องพูดบิ้วก่อนวะ มันถึงจะแบบโรแมนติกอะ ผมอยากเห็นคนเขิน
   “จริงๆก็มี”
   “....” พี่ไทม์เลิกคิ้วข้างนึง มองผม
   “ผมแค่อยากจะบอกว่า ขอบคุณนะครับ ทับทิมกรอบอร่อยมาก ขอบคุณที่จำผมได้ ขอบคุณที่มาชอบคนแบบผม”
   “....”
   “ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ คอยดูแลกันมาตลอด ไม่บ่นเลย”
   “....”
   “ผมดีใจที่ได้เจอพี่”
   “....”
   “ผมชอบพี่มากนะครับ คุณเวลาของผม”
   ผมดับไฟทันทีที่พูดจบ พี่ไทม์ยังมองหน้าผมอยู่ ตอนนี้แววตาของเขามันสะท้อนกับแสงจากหน้าต่าง จนเหมือนเป็นดวงดาวท่ามกลางห้องมืดๆ ผมเห็นสีหน้าเขาไม่ชัด แต่มั่นใจว่าเขาอึ้งอยู่ แสงจากเพดานห้องทำให้พี่ไทม์เงยหน้าขึ้นไปมอง
   ‘เป็นแฟนกันนะ’
   เป็นประโยคที่ผมสร้างขึ้นจะดาวเรืองแสงหลายดวง มันเรียงกันเป็นข้อความอยู่บนเพดานห้อง มันสว่างมากๆและดูสวยจริงๆในเวลานี้ ความเงียบในห้องทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจชัดเจน
   มันดังเป็นจังหวะเดียวกัน
   ผมนึกเสียดายที่ปิดไฟ ผมอยากเห็นว่าพี่มันหน้าแดงอยู่รึเปล่า อยากเห็นหน้าชัดๆ เขากำลังดีใจอยู่รึเปล่านะ
   “อะ เอ่อ ผมไม่ได้แค่ผ่านมีนด้วยนะ ผมได้เกือบเต็มเลยต่างหาก” ผมพูดเสียงตะกุกตะกัก เรียกความสนใจจากคนข้างๆ หน้าหล่อๆหันมามองผม
   “ดาวสวยดีนะครับ มาทำไว้ตอนไหนเนี่ย แต่ว่า...”
   “....”
   “พี่อ่านไม่ออกเลย พูดให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ”
   ผมเม้มปากแน่น อายุเท่าไหร่แล้วอ่านภาษาไทยไม่ออก มันน่าตีจริงๆเลย คนขี้แกล้งกระตุกยิ้มทันทีที่เห็นผมนั่งนิ่ง ใครจะรู้ว่ามามุกนี้
   “อ๊ะ”
   พี่มันรั้งผมไปกอดจนผมขึ้นไปนั่งบนตักมัน เอาเข้าไป จะเอาให้ผมระเบิดหายไปเลยใช่ไหม ห้องมันเงียบจนผมได้ยินเสียงหายใจพี่มัน ผมกัดปากอย่างทำใจ ยังไงก็ต้องพูดใช่ไหม
   อุตส่าห์ทำแผนหวังจะเห็นคนเขิน ไหงกลายมาเป็นเสียเปรียบซะเองวะเนี่ย ทำเป็นข้อความมาก็กะว่าไม่ต้องพูด แล้วมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงวะเนี่ยยย
   “ปะ เป็น...”
   “ว่าไงครับ?” อย่าพูดเพราะให้เสียสมาธิได้ไหมเล่า
   “เป็นแฟนกันไหมครับ?”
   ผมมั่นใจว่าเห็นพี่มันยิ้มกว้าง ความสุขมากมายแสดงออกมาผ่านดาวนับล้านในดวงตา ถือว่าครั้งนี้เสมอกัน ไม่เห็นหน้าตอนเขิน แต่ยิ้มกว้างขนาดนี้ก็โอเค
   มีความสุขขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว
   ก่อนที่โลกของผมจะเบลอ แว่นของผมถูกกระชากออกไป ผมได้ยินเสียงมันหล่นอยู่สักที่ในห้อง
   นั่นแว่นกู ไม่อ่อนโยนเลยวะพี่
   แล้วในจังหวะนั้น ไม่มีคำตอบออกจากปากพี่มัน มีแต่ริมฝีปากที่ประทับลงมา จูบของเราร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสถานะของเราปรับเปลี่ยน เรียกได้ว่าคุณจะเห็นความต่างได้ชัดเจน จากนั่งตักตอนนี้พี่มันคร่อมผมอยู่ข้างบนแล้ว ผมได้แต่หอบหายใจรับจูบอยู่บนเตียง พี่ไทม์เว้นช่วงให้ผมหายใจและกดริมฝีปากลงมาซ้ำๆ
   สอดลิ้นเข้ามาทันทีที่ผมเผยอปาก สำรวจทุกอย่าง ตักตวงความหวานจากผมอย่างโหยหา ผมพึ่งรู้สึกว่าที่ผ่านมาพี่มันอ่อนโยนให้ผมก็วันนี้ เขากัดริมฝีปากล่างของผมจนผมได้กลิ่นคาวเลือด มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อผม ลูบไล้ไปมาจนผมเริ่มรู้สึกกลัว ผมแอ่นตัวไปตามอารมณ์ รับทุกสัมผัสจากพี่มันแบบกล้าๆกลัวๆ
     เสื้อของผมหลุดออกไปแล้ว พี่ไทม์ประกบจูบผมอีกครั้ง ก่อนจะซุกไปที่ซอกคอ ขบเม้นเบาๆจนมัน  เป็นรอย จูบย้ำซ้ำๆจนผมรู้สึกร้อนผ่าว  มือของผมคงเกะกะจนพี่มันขัดใจ มันสบตาผมก่อนจะรวบข้อมือผมไว้ด้วยมือเดียว แล้วจับไว้เหนือหัว ท่านี้มันจะอีโรติกไปแล้ว ทำไมต้องเกิดมาตัวเล็กกว่ามันด้วยวะ
   “อ๊ะ”
    ผมสะดุ้งทันทีที่ ริมฝีปากคนตัวสูงเริ่มไล้ไปตามแผ่นอก ขบเม้นยอดอกจนผมส่งเสียงน่าอาย ผมได้แต่กัดปากกลั้นเอาไว้ ขบเสร็จก็ไม่พอ ยังจะใช้ลิ้นเลียจนรอบ เรี่ยวแรงผมเหือดหายไปหมดแล้ว
    ผมว่าผมจะตายแล้ว
   ขณะที่ริมฝีปากทำหน้าที่อยู่บนอกผม มืออีกข้างเริ่มเลื่อนต่ำกว่าสะดือ จนผมหายใจติดขัด มัน มันจะไกลเกินไปแล้ว
   “ยะ อย่า....”








***********
ฮึ่ยยยย จะได้กันไหมนะ
โหย เราขอขอบคุณนักอ่านทุกๆคนเลย ขอบคุณสำหรับการติดตาม ทุกกำลังใจ และทุกคอมเม้นเลยนะคะ
รักทุกคน♥
   
   

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
น้าน......ไวเชียว

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สู้ๆนะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จะรอดไหมน๊าาาา อิอิ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
อ่านะ อิอิ  มาตัดจบซะได้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด