น้องหมวยบทที่ 19
ไม่รู้ว่าควรจะโกรธดีไหม แต่พี่แกก็ทำหน้าระรื่นไม่ได้สนใจว่าผมจะโกรธรึเปล่า เหมือนพี่เขาเตรียมตัวไว้แล้วสำหรับการง้อ
ไอ้โกรธน่ะมันก็อยากจะโกรธอยู่หรอก ตอนนั้นผมคับแค้นใจมากเลยนะครับ คิดไว้แล้วว่าถ้าตัวเท่ากันเมื่อไหร่ จะไปท้าต่อยเช้าเย็นเลย ลูกเพื่อนยาย ก็ลูกเพื่อนยายเหอะ แล้วไงอะ มึงมันก็แค่เด็กอ้วนอะ
แต่มันก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว จะกลับไปแค้นเคืองก็เคืองที่รู้อะไรแล้วไม่ยอมบอกกันดีกว่า แล้วนี่ก็ไม่รู้ว่าจำกันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพี่มันจำผมได้ยังไง เพราะผมจำพี่มันไม่ได้สักนิด ไม่เอะใจอะไรแม้แต่นิดเดียว ใครจะไปรู้ว่าไอ้เด็กอ้วนตอนนั้นมันจะโตมาหล่อขนาดนี้
อย่าดูถูกเด็กอ้วนข้างบ้างจริงๆนั่นแหละครับ
“อย่าไปโกรธพี่เขาเลยน้องอิน ก็ตอนนั้นน้องอินน่ารักไง ลูกคุณนามันกาก อยากเข้าหาน้องแต่ไม่รู้จะทำยังไง”
“เลยมาแกล้งผมเช้าเย็นน่ะเหรอครับ”
“ไม่อยากจะเล่า แต่ตอนนั้นน้องอิณคงไม่รู้ เวลาน้องอิณร้องไห้ ก็เขานั่นแหละที่อุ้มน้องอิณมาให้คุณนาปลอบจำได้รึเปล่า ตอนน้องอิณหัวแตก ก็แอบมาร้องไห้ที่บ้านบอกว่าทำน้องเลือดออก”
“แม่! ไม่ต้องเล่าก็ได้นะครับ พวกผมหิวกันแล้ว พอๆๆเลิกเล่าได้แล้ว” พี่ไทม์รีบโวยวาย พยายามหิ้วแม่ตัวเองไปเข้าครัว
“อายทำไมเล่า บอกน้องไปสิว่าเราเป็นคนซื้อเค้กก้อนโตให้น้องตอนจะย้ายบ้านน่ะ แหม ทำเป็นอาย โตเป็นควายแล้วนะลูกฉัน เฮ้อ เด็กวัยรุ่นนี่นะ ไปแล้วๆ ไม่เล่าแล้วจ้า”
พี่ไทม์รีบดันแม่เข้าครัวเพื่อปิดปากไม่ให้เล่าต่อ ผมยังนั่งอึ้งอยู่ที่เดิม อึ้งตั้งแต่ไจแอ้นร้องไห้ที่ทำผมหัวแตกแล้ว นี่เขายังเป็นคนซื้อเค้กให้ผมด้วยเหรอเนี่ย นั่นเป็นเค้กก้อนแรกที่ผมได้กินเลยนะ
“นี่พี่เป็นคนซื้อเค้กให้ผมเหรอเนี่ย ไม่นึกเลยว่าไอ้เด็กอ้วนนั่นจะเป็นคนดีกับเขาด้วย”
“ให้อภัยเขาหน่อยเถอะครับ เขาก็แค่เข้าหาคนไม่เก่ง”
“ไม่อ่ะ เขาแกล้งผม ผมไม่ชอบขี้หน้า” ผมว่าด้วยความหมั่นไส้
“จะแกล้งคืนก็ได้นะ มีเวลาให้แกล้งทั้งชีวิตเลย” พี่ไทม์พูดหน้าระรื่นแล้วเดินมายีหัวผม
“โอ๋เอ๋ ไม่งอนนะเด็กเตี้ย เอาของไปเก็บบนห้องก่อนเร็ว แล้วจะได้ลงมากินข้าวกัน”
“ไอ้พี่ไทม์ เรียกใครเตี้ยหะ!”
“ไม่ได้เตี้ยแล้วจะโวยวายทำไมเล่า” แล้วพี่มันก็แปลงร่างกลับไปเป็นไจแอ้นวิ่งหนี เพื่อให้ผมวิ่งไล่เขา พร้อมโวยวายตามหลัง
อยู่ๆคุณลุงแปลกหน้าก็โผล่มาจากประตูหลังบ้าน แล้วนั่งโต๊ะกินข้าวเช้าด้วยกัน คุณลุงทำท่าเหมือนจะเดินมาอุ้มผม แล้วหอมแก้มไปมาเหมือนตอนเด็กๆ แต่พอเขานึกออกว่าผมอายุจะยี่สิบแล้ว เขาเลยแค่เดินมาขยี้หัวแล้วบ่นคิดถึงอย่างนั่นอย่างนี้
พ่อพี่ไทม์ให้อารมณ์เหมือนอาแปะใจดีๆสักคน ที่ชอบปลูกต้นไม้แล้วเปิดวิทยุฟัง รำไทเก๊กตอนเช้าๆ
การทานข้าวมื้อแรกในบ้านพี่ไทม์ มีแต่ของชอบของผมบนโต๊ะ ไม่มีความอึดอัด หรือความกระอักกระอ่วน พวกเขาดูคิดถึงผมจริงๆ ถึงผมจะจำพวกเขาได้แบบเลือนๆลางๆ แต่ก็สัมผัสได้จริงๆว่า พ่อกับแม่พี่ไทม์ดีใจที่ได้เจอผม
“แล้วที่ร้านเป็นยังไงบ้างละ”
“ก็ขายดีเหมือนเดิมนะครับ เดี๋ยวนี้คนไปไหนมาไหนง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ โฆษณาก็ง่ายกว่าสมัยก่อน ร้านก็เลยขายดีมากๆ ยิ่งช่วงเทศกาลคนยิ่งเยอะ”
“ตั้งแต่ยายน้องอิณไม่อยู่ บ้านนี้เลยไม่ได้เข้าไปที่ร้านเลย ก็นะ ลุงกับป้าเรา เข้ากับคนง่ายซะที่ไหน”
“ครับ ผมก็พอเข้าใจ”
“เห็นไทม์บอกว่าออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่ม.ปลายแล้วหรอ ทะเลาะกับทางนั้นรึไง ทำไมออกมาอยู่คนเดียว” คุณลุงแปลกหน้าเป็นคนถามผมด้วยสีหน้าห่วงใย ซึ่งผมก็ยินดีจะเล่า ผมรู้สึกว่าบ้านนี้รู้จักครอบครัวผมอยู่พอสมควร เขาน่าจะพอรู้ว่าลุงกับป้าผมเป็นคนยังไง
ผมเลยกล้าที่จะเล่าว่าเข้ากับทางนั้นไม่ได้ ผมเลยขอแยกออกมาอยู่คนเดียว
“แล้วเสาร์อาทิตย์ก็ต้องทำงานทั้งที่เรียนหนักๆเนี่ยนะ”
“ครับ คุณลุง” ผมยิ้มเจื่อนๆให้
“บ้านนั้นก็เหลือเกินจริงๆ หลานในไส้ตัวเองแท้ๆ แล้วนี่อะไรละเรา ยังมาเรียกลุงเลิงอะไรอีก เจ้าไจแอ้นของเรามันหลงนักหลงหนาไม่ใช่รึไง ยังไม่ได้คบกันอีกรึไง ทำไมไม่เรียกพ่อซะที ลูกฉันนี่มันไม่มีน้ำยาจริงๆ”
“เดี๋ยวๆพ่อ”
“เฮ้อ ถึงว่าละนะ สมัยก่อนแกล้งเขาไว้เยอะ ทำไมฉันถึงมีลูกชายกากๆแบบนี้นะ” ผมกับแม่พี่ไทม์หัวเราะร่า ทันทีที่พ่อลูกแตกคอกัน
“นี่ลูกไงพ่อ นี่ไทม์ไง จำไม่ได้หรอ แล้วนี่ก็ลูกสะใภ้พ่อไง ไม่ถูกใจหรอ เรานั่นแหละน้องหมวย ทำไม่เรียกพ่อ ชอบเห็นพีโดนว่ารึไง”
“ก็พี่กากจริงๆอะ”
“แหมลูกสะใภ้ พูดถูกใจพ่อจริงๆ ฮ่าๆๆ”
หลังจากจบมื้อเช้า ผมกับพ่อพี่ไทม์ก็ไปช่วยกันปลูกต้นไม้ ในขณะที่พี่ไทม์เข้าไปช่วยแม่ทำขนมในบ้าน เพราะตอนเย็นพี่แทนจะมา แล้วผมก็จะได้เจอชิสุกะในวัยเด็กอีกคน ชิสุกะที่ตอนนี้แต่งงานแล้ว มีน้องแล้ว ผมเลยอดตื่นเต้นนิดๆไม่ได้ที่จะได้เจอ รู้สึกเหมือนจะได้เจอไอดอลสมัยเด็ก
ผมทำนู่นทำนี่กับบ้านนั้นทั้งวัน สนิทสนมเหมือนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่จำความได้ พี่ไทม์มีความเป็นแม่ศรีเรือนโคตรๆ เขาทำขนมได้น่ากินมากๆ ตั้งแต่มาพี่แกก็โดนใช้ตั้งแต่ล้างจานยันซักผ้า ส่วนผมก็เป็นลูกรักลุงแปลกหน้า ตัดต้นไม้ ลงดอกไม้ในสวน ล้างอ่างปลา
สรุปแล้วคือ ผมกับพี่ไทม์โดนลากมาใช้งานนั่นเอง แต่มันก็เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผมสนิทกับครอบครัวเขามากขึ้น เหมือนผมได้เจอบ้านอีกหลังของตัวเอง
ตกเย็นเราตั้งเตาไฟย่าง อาหารทะเลกันหน้าบ้าน พอพี่แทนมาเราก็ล้อมวงกินกันบนโต๊ะม้าหิน ข้างบ้านเปิดเพลงดังจนได้ยินมาถึงบ้านเรา ยิ่งทำให้บรรยากาศครึกครื้นมากขึ้นไปอีก
พี่แทนมาคนเดียว ไม่ได้พาน้องมาด้วย ให้เหตุผลว่าน้องแพรไม่สบายก็เลยไม่ได้พามา ให้อยู่บ้านกับคุณพ่อ พี่เขาพุ่งมากอดผมทันทีที่เห็นหน้า หอมผมซ้ายทีขวาที จนหน้าผมมีแต่รอยลิปสติกเต็มไปหมด
คนที่ช่วยแยกผมกับชิสุกะก็คือไจแอ้นที่มองพี่สาวตัวเองตาขวาง พี่แทนยิ้มร่า แล้วเดินไปกอดน้องชายตัวเอง
“แทน หน้าน้องเหมือนลูกแทนเลยว่าปะ”
“น้องแพรอะนะ เออวะ ตาตี่ๆแก้มกลมๆเหมือนกันเลย” สองพี่น้อง นินทาผมออกนอกหน้า พี่ไทม์แตกต่างไปชัดเจนเวลาอยู่กับพี่สาว ทั้งกวนประสาทมากขึ้น หัวเราะมากขึ้น โดยรวมคือไม่มีมารยาทมากขึ้น
“อยู่ม. มีแต่คนเรียกน้องหมวย”
“ฮื่อ คนอย่างแกไม่น่าได้แฟนน่ารักแบบนี้นะไทม์”
“ก็คนมันหล่อ แล้วน้องแพรเป็นไงบ้าง เข้าโรงเรียนรึยัง”
“พ่อเขาจะส่งไปเตรียมอนุบาล แต่ร้องไห้งอแงทุกวัน ไม่ไปเยี่ยมหลานแกหน่อยละ อ้วนขึ้นทุกวัน ฉันอุ้มไม่ไหวแล้ว” พี่แทนเล่าไป จิ้มปลาหมึกเข้าปากไป ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว พ่อกับแม่พี่ไทม์เลยขอขึ้นไปนอนก่อน เหลือแต่พวกเราตั้งวงคุยกัน
แน่นอนว่าไม่มีเบียร์ให้กิน จำได้ใช่ไหมครับว่าครั้งสุดท้ายที่คุณพระเอกเขาดื่มแอลกอฮอล์ ผลเป็นยังไง บนโต๊ะเลยมีแต่น้ำอัดลมกับกับแกล้ม และผมไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มน้ำอัดลมเช่นกัน
“น้องอิณ”
“ครับ?”
“พี่ถามจริง โดนไอ้ไทม์มันกินไปยัง”
“แค่กๆๆๆ” ผมถึงกับสำลักน้ำ
“ถามไรวะแทน น้องสำลักเลยเนี่ย”
“จ้า หวงจังเลยจ้า กับพี่กับน้องเคยดูแลขนาดนี้ไหมหะ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าน้องชายฉันเด็ดรึเปล่า”
“ตอนนี้ยัง แต่เดี๋ยวก็ได้กิน”
“แค่กๆๆๆๆๆๆๆ”
“เอาว่ะ มันต้องอย่างนี้สิน้องชาย แต่น้องอิณอย่าไปยอมนะลูก เราชิงจับมันกดก่อนได้นะ พี่เอาใจช่วย ฮ่าๆๆๆ”
ชิสุกะผู้น่ารักของผม เธอทั้งสวยและสดใส ทำไมตอนนี้ถึงร่วมมือกับไจแอ้นแกล้งผมกันนะ ผอมๆอย่างผมน่ะเหรอจะกดพี่มันได้ ได้โดนจับมัดหัวเตียงแทนน่ะสิ
เรานั่งคุยกันนานมากๆแต่ส่วนใหญ่ผมจะนั่งฟังสองพี่น้องคุยกันมากกว่า พี่ไทม์สนิทกับพี่แทนมากๆเลย เขาคุยกันได้ทุกเรื่อง ปรึกษากันได้ทุกอย่างในชีวิต คงเพราะอายุห่างกันทำให้พี่แทนโตกว่ามากๆ พี่ไทม์เลยยินดีที่จะเชื่อคำแนะนำของพี่สาวตัวเองในหลายๆเรื่อง
มันทำให้ผมนึกถึงตัวเองกับพีท เราห่างกันแค่ปีเดียว ไม่ได้คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็เข้าไปในชีวิตน้องชายตัวเองมากขึ้น เด็กก็คือเด็ก เขาเป็นผ้าขาว ถูกหล่อหลอมโดยครอบครัวและสังคม
ผมตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าลุงกับป้าเป็นครอบครัวที่ดีให้กับเขาไม่ได้ ผมจะเป็นครอบครัวให้เขาเอง ผมคิดภาพเอาไว้ว่าอยากให้น้องออกมาอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตกันสองคนพี่น้อง แล้วค่อยกับบ้านช่วงเทศกาล มันคงจะมีความสุขไม่น้อยเลยละมั้ง
“ชอบไหมเรา มีความสุขรึเปล่า” พี่ไทม์อาบน้ำเสร็จแล้ว มาล้มตัวนอนข้างๆผม
“บ้านพี่น่ารัก ผมชอบมาก”
“ดีแล้ว” เขายิ้มให้ผม
“พี่ไทม์ ทำไมตอนนั้นพี่ถึงย้ายบ้านละ” เป็นคำถามที่ผมพึ่งนึกขึ้นได้ หลังจากที่ฟังเรื่องราวย้อนอดีตมาทั้งวัน
“ตอนนั้นแทนสอบติดมหาลัยในกรุงเทพน่ะ ตอนแรกก็อยู่หอแหละ แต่ซ่าไปกินเหล้า เมาแล้วขับ โดนรถชน รักษาตัวอยู่เป็นเดือน พ่อกับแม่พี่เลยตัดสินใจย้ายบ้านย้ายงานไปอยู่กรุงเทพ ไม่ให้แทนไปอยู่หอ จะได้ดูแลแทนที่โรงพยาบาลได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะโรงพยาบาลในกรุงเทพ ยังไงก็พร้อมมากกว่า มันเหมือนเป็นจังหวะเหมาะด้วยแหละ พี่เรียนจบป.6 ยายเราก็เสียพอดี พ่อกับแม่เลยตัดสินใจที่ย้าย”
“พี่แทนนี่แสบน่าดูนะครับ”
“แต่แทนมันรักเรานะ พี่จำได้ว่าตอนนั้น ร้องไห้งอแงอยู่โรงพยาบาลเพราะจะไม่ได้เจอเราอีก”
ผมยิ้มกว้าง น่าดีใจนะครับ ที่มีคนอยากเจอเรามากขนาดนี้ แล้วพอเป็นครอบครัวคนที่เรารัก มันยิ่งรู้สึกดี
“ยิ้มกว้างเลย มีแต่คนเข้าข้างนะวันนี้ หมั่นไส้นัก”
“ก็พี่มันคนกากๆอะ ฮ่าๆ แล้วแมวพี่ไปไหนอะ ผมเห็นเมื่อเช้าแล้วก็หาไม่เจอเลยทั้งวัน”
“ไอ้อ้วนน่ะเหรอ ไปเที่ยวมั้ง ไม่ค่อยกลับบ้านหรอกรายนี้ นอนได้แล้วเราน่ะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานไม่ใช่รึไง”
“ครับๆ ไจแอ้น จะนอนเดี๋ยวนี้แหละ”
พี่ไทม์บีบจมูกผมก่อนจะดึงผมไปกอด เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ผมเลยต้องไปทำงาน เพราะร้านยังไม่ปิด ด้วยเหตุว่าร้านอื่นปิดกันหมด แต่เพราะเป็นช่วงสิ้นปี เลยมีแต่คนลากลับบ้าน ผมที่ไม่ได้กลับเลยตัดสินใจไปทำงาน
ผมซุกๆอกพี่ไทม์แล้วพึมพำว่าขอบคุณ
ขอบคุณครับที่เข้ามาในชีวิตผม
และในเช้าวันสิ้นปี
ผมมาทำงานที่ร้านพี่เก๋ เพราะเขาจะให้ค่าแรงพิเศษและวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ตั้งใจไว้ว่าวันที่ 1 พรุ่งนี้จะซื้อของเข้าไปที่บ้าน โทรคุยกับพีทแล้วเมื่อวาน น้องรบเร้าให้ผมไปหา บอกว่าให้รีบมาทำคะแนน เพราะช่วงนี้คุณลุงอารมณ์ดี ที่ลูกชายทำตัวน่ารัก
ผมเลยตั้งใจว่าจะซื้อของติดไม้ติดมือแล้วเข้าไป แม่ไม่ได้มาถ้ำมองผมเมื่อวานนี้ ผมเดาว่าเพราะที่ร้านยุ่งมากๆเขาเลยไม่มีเวลาปลีกตัวมาหาผม
ไหนๆแม่ก็ถอยให้ผมแล้ว ผมก็คงต้องยอมถอยแล้วไปหาเขาก่อนบ้าง ไปให้เขาเห็นว่าผมสบายดี และยังเป็นห่วงเขาเหมือนเดิม
คืนนี้ผมมีกิจกรรมข้ามปีง่ายๆสไตล์คนมีคู่ คือนอนดูหนังข้ามปีกับพี่ไทม์ พี่มันจะกลับจากบ้านวันนี้ หลังจากที่พาผมไปที่บ้านวันนั้น เขาก็มาส่งผมก่อนที่หอ แล้วกลับไปอยู่บ้านต่ออีกสองวัน และจะมารับผมตอนเย็นวันนี้ เพื่อข้ามปีแรกด้วยกัน
ดูโรแมนติกเนอะ
แต่คือหัวเดียวกระเทียมลีบ เพื่อนฝูงกลับบ้านกันหมด เหลือกันอยู่สองคน เลยเคาท์ดาวน์กันเงียบๆที่ห้อง
“แม่พี่ทำขนมจีนแกงไก่มาให้ มีบัวลอยด้วย คุณนายเขาห่วงเห็นลูกสะใภ้แห้งเกินไป เลยอยากจะขุน”
“ผมเป็นลูกเขยไม่ได้หรอ ทำไมต้องให้ผมเป็นลูกสะใภ้อะ”
ตอนนี้เราอยู่กันที่ห้องพี่ไทม์ กินข้าวเย็นจากบ้านพี่เขา ดูหนังรอเที่ยงคืน ออกไปดูพลุ เคาท์ดาวน์ แล้วก็กลับมานอน ผมชอบความง่ายๆของเราสองคนมากๆ
“เดี๋ยวพี่ไปเป็นลูกสะใภ้ให้บ้านเราไง สลับกัน”
“เออ เข้าท่าอะพี่”
“เราลงทะเบียนเรียนวันไหนนะ”
“พร้อมพี่อะ อีกสองอาทิตย์กว่าๆมั้ง”
“เหมือนเกรดจะออกช้ากว่านะ ค่าเทอมเราอาจจะรอทุนไม่ได้ ต้องสำรองจ่ายไปก่อน เพราะเขาพิจารณาจากเกรด”
“ที่ผมก็พอมีอยู่ เทอมนี้ 22 หน่วยกิต ก็หมื่นกว่าบาท ผมจ่ายไหว พี่ไม่ต้องห่วง”
“ไม่มีต้องบอกนะ เข้าใจไหม ห้ามปิดบังกัน”
“รู้แล้วน่า บ่นเป็นคนแก่เลยเด็กชายไทม์”
เรากินขนมจีนแกงไก่กัน ต่อด้วยบัวลอยเป็นของหวาน พอกินเสด็จก็แยกย้ายกันอาบน้ำ ผมโทรไปหาแม่พี่ไทม์ขอบคุณสำหรับแกงไก่ และโดนชวนคุยยาว เดี๋ยวนี้คุณนาเขาคุยกับผมบ่อยกว่าลูกชายตัวเองอีก สวัสดีในไลน์กันทุกวัน
เราเปิด เน็ตฟลิกซ์ดูฆ่าเวลา เป็นซีรีย์ที่ดูท่าว่าเคาท์ดาวน์เสร็จ คงต้องกลับมานั่งดูต่อ เพราะมันสนุกมาก
และเมื่อเวลาใกล้เที่ยงคืนมาถึง เสียงพลุก็นำมาแต่ไกล เราเลยออกไปที่ระเบียง เพื่อดูพลุที่คนอื่นจุด
10
9
8
7
6
5
4
3
2
1
“สวัสดีปีใหม่ครับ!”
“ทำตัวเป็นเด็ก จะตะโกนแข่งกับพลุทำไมเนี่ย” พี่ไทม์เอามือปิดหูเพราะผมตะโกนอัดใส่
“มานี่เลยน้องหมวย”
ผมโดนเกี่ยวเอวเข้าไปหา และได้รับจูบหวานๆเป็นของขวัญวันปีใหม่ แถมยังเป็นโลเคชั่นใหม่ คือริมระเบียง จะผ่านไปนานแค่ไหน ผมก็ตามจังหวะจูบพี่แกไม่ทันซะที ทำไมร้อนแรงจังครับคุณ ผมหายใจไม่ทันแล้ว
“สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้น้องหมวยมีความสุขมากๆนะครับ”
“....”
“พี่รักเรานะครับ อยู่ด้วยกันไปนานๆ” อรุ่มมม จู่ๆก็โดนผู้ชายบอกรัก หน้าบางงงงเลยกู ไม่ทันตั้งตัวเลยโว้ยยยยยยยย
“ครับ ผมก็รักพี่ครับ รักผมไปนานๆเลยนะครับ”
เรายิ้มหวานๆใส่กันจนเลี่ยน เลยเปลี่ยนเป็นจูงมือกันมาดูซีรีย์ต่อ ช่างเป็นปีใหม่ที่โรแมนติก
แต่ใครจะไปรู้ ปีนี้ผมอาจจะเป็นปีชงก็ได้
ติ้ดๆๆๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น เป็นพีทโทรมา ผมเผลอดีใจที่น้องชายจะโทรมาอวยพรเป็นคนที่สองของปี
“พี่อิณ”
แต่มันดันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด
“พ่อเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าเส้นเลือดในสมองแตก พี่ พีทจะทำยังไงดี”
แถมมมมม♥เมื่อน้องหมวยอยู่ป.2
“นี่ เด็กเตี้ย” //พยายามง้อ
“เราไม่เล่นกับนายแล้ว นายทำหัวเราเลือดออก”
“เป็นพี่นะ ทำไมไม่เรียกพี่ ไม่น่ารักเลยนะ”
“ไอ้อ้วนแบบนายก็ไม่น่ารัก!”
“นี่!” //เผลอเสียงดัง
//เบะปากใส่
“ อย่าร้องไห้สิ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
//น้ำตาคลอ
“พี่ขอโทษ แต่เข้าไปรับแล้วไง ตอนตกลงมา เห็นไหม นี่ไง มือเจ็บเลย เห็นรึเปล่า อิณหายเจ็บหัวรึยังครับ”
“ฮือ ไหนบอกแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้เราตกลงมาไง แงงงงงง”
“แม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่! น้องร้องไห้อีกแล้ว ผมพยายามง้อแล้วนะแม่ แม่ครับบบบบ! ” //อุ้มน้องป.2 ไปหาคุณแม่
******************************************
เราขอข้ามปีล่วงหน้าไปก่อนนะคะ 555555
แง คิดเห็นยังไงก็บอกกันได้นะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆเลยที่ยังติดตามกันอยู่
ฝันดีนะคะ ♥