(ต่อ)
♦
ผมเคยสงสัยว่าการที่ใครสักคนนึงมีปัญหาแล้วผมรู้สึกเป็นห่วงและอยากช่วยเหลือเขา ผมควรจะแสดงออกยังไงให้เขารู้ว่าผมเป็นห่วงเขาจริงๆ ที่ผ่านมาผมทำได้แค่นั่งข้างๆก่อเกียรติและบอกว่าเราจะแอดติดไปด้วยกัน ไปกินเหล้าเป็นเพื่อนแจ๊บ ฟังมันบอกเล่าความช้ำใจแล้วแบกมันกลับตอนที่มันเมา ลูบหัวไอ้อาร์มตอนที่มันร้องไห้เพราะที่บ้านไม่ยอมให้คบผู้ชาย
ผมคิดว่าการกระทำมันน่าจะสำคัญกว่าคำพูด แต่วันนี้เหมือนผมได้มุมมองใหม่ว่า คำพูดและสายตาก็แสดงความห่วงใยได้ไม่ต่างกัน และพี่ไทม์คือคนที่ทำให้ผมเห็น เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่ผมรู้สึกจริงๆว่าเขาห่วง ไม่ใช่แค่พูดออกมาเฉยๆ และผมมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง
ผมอึ้งไปเลย นิ่งอยู่อย่างนั้น สบตากันใต้แสงอาทิตย์ตอนบ่ายๆ ถ้ามันอยู่ในละครผมว่าฉากนี้แสงมันก็สวยเอามากๆและพี่ไทม์ก็หล่อสุดๆเลยด้วย จะเป็นไรไหมถ้าขอให้พี่ไทม์พูดอีกรอบ อยากอัดเก็บไว้ฟังก่อนนอนจังเลย
“รู้แล้วครับ”
“.........”
“ผมจะทายาทุกวัน จะกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”
“........”
“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”
“........”
“ผมจะเป็นเด็กดี ตกลงไหมครับ?” ผมยิ้มให้พี่ไทม์ เขาถอนหายใจ นี่เหมือนจะเป็นรอบที่ล้านแล้ว ก่อนจะปล่อยข้อมือผมแล้วใช้สองมือยีหัวผมแรงๆ
“พี่ไทมมม” ผมโวยวาย
“หมั่นไส้ พูดแล้วทำให้ได้นะ”
“แน่นอนเราลูกเสือเหมือนกันไม่ใช่หรอ”
“หึ เด็กน้อยเอ้ย” พี่ไทม์พูดก่อนจะยีหัวผมอีกรอบ
“พอแล้วพี่ มือเปื้อนยาอยู่นะ มาจับหัวชาวบ้านเขาได้ไง”
“รังเกียจหรอ หืม หืม”
แล้วพี่มันก็รัดคอผม เอามือมาที่มีแต่กลิ่นยาทา มาเช็ดกับหน้ากับหัว จนยุ่งไปหมด ซึ่งผมก็ทำได้แค่ดิ้นไปมาในแขนพี่มัน เชี่ย นี่แขนคนหรอ กุนึกว่าท่อแปป ใหญ่ชิบหาย หน้านี่แทบจะซุกอกอยู่แล้ว แต่ตัวหอมวะ
“อืออ ปล่อยเลย ไปล้างมือสิวะ มาเช็ดอะไรกับผมเล่า”
“วะหรอ วะหรอ กับพี่อะพูดให้มันเพราะๆหน่อยน้องหมวย”
“อย่าดึงแก้มดิ มันเจ็บ ไอ้พี่ไทม์ ปล่อยยยยย”
“ไม่ พูดเพราะๆก่อน”
“นี่ พี่เห็นผมกี่ขวบหะ มาขอให้พูดเพราะๆ นี่ผู้ชายแมนๆเลยนะ”
“พี่เห็นแต่เด็กตาเล็กๆตัวขาวๆนิ่มๆอะ พูดก่อนเร็ว ขอโทษครับพี่ไทม์ พาน้องหมวยไปเลี้ยงข้าวที ผมหิวแล้วครับ”
เกลียดเสียงมากกกกกกกกกกก
มันทำเสียงสองครับ เกลียดมาก หน้าตบสุด แต่พึ่งเคยเห็นพี่มันมุมแบบนี้ไง มันคิดว่าผมเป็นหลานหรือน้องสาวมันหรือป่าววะ ดูทำตัว ทำหน้าเข้า
ผมเม้มปากสนิทแต่ก็อมยิ้มกับท่าทีพี่มัน ผมส่ายหน้าไปมาเพื่อจะบอกว่ายังไงกุก็ไม่พูด โดยเฉพาะให้แทนตัวเองว่าน้องหมวยนี่ กุไม่ทำแน่ๆ
“ไม่พูดไม่พาไปกินข้าวนะ”
“พี่จะปล่อยให้ผมปวดท้องหรอ เนี่ยๆผมเริ่มปวดแล้วอะ โอ๊ยยยยย” ผมแสร้งเอามือกุมท้อง
“ขอบีบหน่อยเถอะ!”
พี่มันปล่อยคอผม แต่เอาสองมือมาบีบแก้มผม แล้วโคลงหน้าไปมาแรงๆ ย้ำว่าแรงๆ แหมเอ็นดูกันทั้งทีก็อ่อนโยนหน่อยเถอะ เหมือนหมั่นไส้แต่ก็อยากคงความเถื่อนในตัวเอาไว้อะ บอกกันกลายๆว่าเอ็นดูนะแต่มึงเป็นผู้ชาย ขอบีบแรงๆหน่อยละกัน
“เจ็บ” ผมเริ่มเบะปาก ก็กุเจ็บอะ ดูหน้ากุด้วยพี่
พี่มันยอมปล่อย แล้วกลับไปนั่งที่ตัวเองดีๆ ผมเลยเอามือลูบแก้มตัวเอง เชี่ย มึงบีบหรือมึงหยิก แต่เห็นพี่มันยิ้มแล้วผมก็ยิ้มตาม เลิกกังวลแล้วสินะ
“บ่ายโมงกว่าแล้ว กินอะไรดี ไปหาอะไรกินที่ห้างไหม”
“เอาดิ”
“โอเค รัดเข็มขัดด้วย”
“ครับบ”
ผมกับพี่ไทม์ตกลงปลงใจว่าเราจะกินพิซซ่ากัน เพราะมันมี 1 แถม 1 เราสองคนซัดเรียบคนละถาด ไม่เหลือกลับบ้าน แล้วยังมีห้ามสั่งโค้กมากิน ทั้งพี่มึง พิซซ่ามันก็ต้องกินกับโค้กปะวะ มันถึงจะได้แก่นแท้อิตาเลียนอะ แต่ก็ยอมครับเพราะพี่มันพูดว่า
‘จะกินก็ได้ครับ แต่เมื่อกี๊ใครไม่รู้บอกกับพี่ว่าจะเป็นเด็กดี’
กุควรรู้สึกผิดใช่ไหมครับ โอเคกุรู้สึกผิดก็ได้ เราตกลงหารสองกัน พี่มันจะเลี้ยง แต่ผมไม่ยอม บอกว่าเรากินเท่ากันก็หารสองดิ พี่มันก็อืมๆไม่ได้เถียง หรือโชว์ความป๋าแต่อย่างใด ดีแล้วครับ ถ้ามันหล่อแล้วยังเปย์ด้วยนี่ หัวใจผมคงรับไม่ไหวแล้ว ดาเมจจะรุนแรงเกินไป
เราเดินย่อยกันอยู่สักพัก ผมเดินเข้าไปในโซนตุ๊กตา ฟัดกับทุกตัวที่นุ่มนิ่ม พี่ไทม์มันก็เดินไปดูปากกา สมุดอะไรของมัน ผมเป็นพวกเสพติดความนุ่มนิ่ม ผ้าห่มนุ่มๆ หมีขี้เกียจตัวนิ่มก็ซื้อมาตอนมันลดราคา ซื้อผ้านวมมาปูที่นอนจนกว่ามันจะนุ่มนิ่ม
พี่ไทม์เดินกลับมาพร้อมถุงอะไรสองสามถุง เริ่มเย็นแล้วเราเลยตัดสินใจกลับ แวะซื้อก๋วยเตี๋ยวข้างทางเป็นข้าวเย็น ระหว่างทางเราก็เปิดเพลงฟังกันเงียบๆ เป็นความเงียบที่ไม่อึดอัด แถมยังมีละอองความรู้สึกดี โรยอยู่รอบๆอีกต่างหาก และระหว่างที่รถติดฝนก็ตกลงมาฉาดใหญ่ เพลงพี่ว่านก็ดันดังขึ้นมาพอดิบพอดี
‘มีบรรยากาศฝนตกรถติดช่วยฉัน
ยังมีมือเปล่าว่างอยู่ให้จับเท่านั้น
ลองดูที่แก้มฉัน เธอนั้นว่ามีอะไร’ ผมกับคนข้างๆยิ้มขำกับบรรยากาศ หันมาสบตากันโดยบังเอิญ หน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ ผมเลยหันหน้าหนีไปอีกฝั่ง มองอีกฝ่ายในกระจกที่มีท่าทีไม่ต่างกัน กว่าจะถึงหน้าหอผม ผมก็กลัวเหลือเกินว่ารถพี่มันจะดับไหม เพราะน้ำแม่งท่วมเกือบจะมิดล้ออยู่แล้ว ดีว่าที่จอดหน้าหอมันสูงน้ำเลยไม่เข้า
ผมมองออกไปข้างนอกฝนตกจนมองแทบไม่เห็นทาง ฟ้าแม่งก็จะมืดอยู่แล้วด้วย
“ขึ้นไปบนห้องก่อนเหอะพี่ ฝนหายค่อยกลับ”
“ค้างเลยไม่ได้หรอ” คนตัวสูงบ่นพึมพำ แต่ผมฟังไม่ออกเพราะเสียงฝน
“อะไรนะครับ”
“เปล่าๆ เบาะหลังมีร่ม อยู่สองคันอะ หยิบไป”
“นี่หรอ”
“นั่นแหละๆ หยิบถุงของ กับถุงก๋วยเตี๋ยวมา พี่ถือเอง”
“อ่ะนี่”
พี่ไทม์เดินตามผมขึ้นมาบนห้อง ไขกุญแจเปิดประตูห้องให้กว้างรอคนตัวสูงเดินเข้าไปก่อน ห้องของผมเป็นห้องเล็กๆ มีตู้หนังสือ โต๊ะญี่ปุ่นกลางห้อง กับพรมนุ่มๆที่สั่งจากช้อปปี้ เตียงอยู่อีกฝั่ง มีห้องน้ำและระเบียง ไม่มีครัวแต่มีตู้เย็นกับไมโครเวฟ และแอร์โง่ๆ 1 ตัว
พี่ไทม์มองรอบห้องก่อนจะนั่งลงข้างโต๊ะญี่ปุ่น ผมหุบร่มไปแขวนไว้ที่ระเบียง กลับเข้ามาพี่ไทม์ก็กำลังรื้อถุงของอยู่
“ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวพี่ประคบแผลให้”
“ห้องผมไม่มีถุงประคบนะ”
“รู้แล้ว พี่ซื้อมาให้แล้ว” ชูให้ดูด้วย เอ็นดู
“อา ซื้อมาตอนไหนเนี่ย”
“ตอนที่เราเอาหัวจุ่มตุ๊กตาอยู่ไง”
“ผมก็แค่เดินดูเฉยๆเถอะ”
“เลิกเถียง ไปอาบน้ำไป”
“ครับๆ ผมไม่มีทีวีนะ พี่เปิดโน้ตบุคผมเล่นก็ได้ เดี๋ยวผมอาบแปปเดียว”
ผมหยิบโน้ตบุ๊กมาให้พี่ไทม์ ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้า เข้าไปในห้องน้ำ ถอดคอนแทคเลนส์แล้วเปลี่ยนมาใส่แว่นแทน
ผมใช้เวลาสิบนาทีในการอาบน้ำ บอกตามตรงว่า เจ็บ ถูสบู่แรงก็ไม่ได้ รู้สึกหงุดหงิดเบาๆ ผมเดินออกมาในสภาพหัวเปียกๆ ไม่ใส่เสื้อ มีแค่กางเกงขาสั้นสบายๆติดตัวออกมา กับผ้าขนหนูพาดบ่า
พี่ไทม์กำลังเปิดอะไรสักอย่างในโน้ตบุ๊ก เขาหันมามองผมยกยิ้มนิดๆคงขำที่ผมใส่แว่น ก่อนจะทำสีหน้ากังวลเมื่อไล่สายตาลงมาตามตัว ขอเดินไปทาแป้งปิดรอยพวกนี้ก่อนได้ไหม ไม่ชอบเวลาเขาทำหน้าแบบนั้นเลย
“มานั่งนี่”
พี่ไทม์กวักมือเรียกผม ให้นั่งที่พื้นข้างล่างระหว่างขาเขา ส่วนพี่มันก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง เขาหยิบผ้าบนบ่าผม ไปเช็ดหัวก่อนจะบ่นออกมาแบบไม่พอใจนัก
“ฝนตกยังจะสระผมอีก”
“ไม่ได้สระมาสามวันแล้ว”
“เด็กสกปรก”
“โอ๊ยยพี่ เช็ดเบาๆดิ”
บ่นไม่พอ ยังเช็ดเหมือนจะดึงหัวออกมางั้นแหละ พอคนข้างบนเขาเช็ดจนเขาพอใจ ผมก็รู้สึกถึงอะไรอุ่นๆแนบลงที่ไหล่ ถุงประคบร้อนสินะ
“แผลเกิน 24 ชั่วโมงแล้วต้องประคบร้อน”
พี่มันว่า ก่อนจะขยับถุงประคบไปเรื่อยๆ เสียงฝนทำให้เราอยู่กันเงียบๆโดยไม่รู้สึกอึดอัด ท่ามกลางความเงียบ ผมนึกสงสัยว่าพี่มันจะทำหน้ายังไงอยู่ และที่ผมสงสัยอีกอย่างก็คือ ทำไมพี่มันถึงเป็นห่วงผม ทั้งที่เราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง ทำไมต้องลากออกมา พาไปซื้อยาแล้วยังทาให้ ซื้อถุงประคบมาให้เพราะรู้ว่าผมคงไม่มี แถมมานั่งประคบให้ ถึงเวลาหยิกแก้มผมมันจะมือหนัก แต่ตอนนี้พี่มันกลับกำลังประคบแบบเบามือเหมือนกลัวว่าผมจะเจ็บ
ความรู้สึกประหลาดๆก่อในใจผม ผมว่าลึกๆในใจแล้วผมรู้ว่าทำไมพี่มันถึงทำแบบนี้และนั่นทำให้ผมใจสั่น แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะมั่นใจ หรือถามออกไป เหมือนผมเองก็กลัวว่าผมจะคิดผิด ผมไม่กล้าถามตัวเองด้วยซ้ำว่ายังมองพี่มันแค่พี่อยู่รึเปล่า
เพราะถ้าผมถามตัวเองขึ้นมา
ผมอาจจะต้องยอมรับ
ว่าผมกำลังชอบพี่มันอยู่
ความคิดในหัวของผมถูกปัดออกไป เมื่อพี่ไทม์พูดแทรกเสียงฝนขึ้นมา
“น้องหมวย” พี่ไทม์เรียก แล้วก้มหน้ามาหาผม
“หะ ว่าไงนะพี่” ผมเงยหน้า
“เหม่ออะไร ง่วงหรอ ยังหัวค่ำอยู่เลยนะ”
“เปล่าๆ ผมแค่คิดอะไรเพลินๆ”
“พี่ถามว่าทำไมไม่ไปอยู่หอใน ใกล้ๆมหาลัยละ”
“อ่อ ผมอยู่หอนี้มาตั้งแต่มัธยมแล้ว มันไม่ได้ไกลมอมาก เลยไม่อยากย้าย”
“ออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่มัธยมเลยหรอ”
“ครับ ตั้งแต่ม.ปลาย”
“เหงาไหม”เป็นคำพูดง่ายๆแหะ แต่พอมันออกจากปากพี่ไทม์ ใจผมก็สั่นแปลกๆ ถ้าเป็นตัวผมในปกติคงตอบว่าไม่หรอกครับ ผมมีก่อเกียรติ แล้วก็เพื่อนในแก๊งคอยกวนประสาท ชวนกินเหล้า อยากไปไหนก็ได้ สบายจะตายอยู่คนเดียว
แต่เป็นเพราะผมในตอนนี้ไม่ปกติ ผมอยากตอบไปว่า เหงาครับ ผมชอบที่มีพี่กินข้าวเย็นเป็นเพื่อนเหมือนตอนนั้น เรามากินข้าวเย็นด้วยกันบ่อยๆได้ไหมครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่าผมควรพูดออกไปไหม
“ก็เหงานะครับ แต่มันก็ไม่ได้แย่”
“แล้วตอนนี้ละเหงาไหม”
“ไม่เลยครับ พี่ขี้บ่น ผมจะเหงาได้ไง”
“อยากโดนบีบหรอ”
“ฮ่าๆไม่เอาๆ จะบอกว่า จริงๆแล้ว” ผมหันไปมองพี่ไทม์ แล้วหัวเราะเบา พี่ไทม์เลิกคิ้วรอผมพูดต่อ
“.....”
“มีพี่อยู่เป็นเพื่อนแบบตอนนี้มันก็ดี”
“.....”
“จริงๆนะ”
ผมพูดติดตลกออกมา แต่ใจจริงๆคือผมอยากให้พี่มันรู้ว่าผมรู้สึกดีเวลาพี่มันอยู่ด้วย แต่ก็ไม่อยากจะทำให้มันซึ้ง แค่อยากให้รู้ว่าขอบคุณแล้วก็รู้สึกดีกับสิ่งที่ให้มา
ผมสะดุ้งเมื่อพี่ไทม์จับเอวผมแล้วยกขึ้นไปนั่งบนเตียง แผ่นหลังของผมเกือบจะแนบไปกับอกพี่มันแล้ว พี่ไทม์ย้ายถุงประคบไปที่สีข้าง ที่มีรอยช้ำปื้นใหญ่ๆอีกที่ มันจะไม่เป็นไรเลยถ้าพี่มันไม่ก้มลงมาใกล้หูๆผม ผมได้แต่นั่งเกร็ง และหน้าก็คงเริ่มแดงแล้วแน่ๆ ลมหายใจร้อนๆเป่ารดหูก่อนจะเอ่ยถ้อยคำชวนใจเต้นออกมา
“ฝนยังไม่หยุดตก ฟ้าก็มืดแล้ว แถมน้องก็ไม่อยากเหงา” “......”
“งั้นคืนนี้ พี่ขอค้างที่นี่ได้ไหมครับ”************
เราขอบคุณทุกคอมเม้น ทุกกำลังใจ ทุกคนที่เข้ามาดูนะคะ
อยากบอกว่าเราปริ่มใจมากๆเลยค่ะ
ฝากพี่ไทม์กับน้องหมวยไว้ในใจทุกคนด้วยนะคะ
♥