⛵____ร.เรือ ร.รัก ร.ฤกษ์____⛵ [อัพตอนพิเศษ 2] ร.รุก ร.รับ ร.รูม 06.05.19| P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ⛵____ร.เรือ ร.รัก ร.ฤกษ์____⛵ [อัพตอนพิเศษ 2] ร.รุก ร.รับ ร.รูม 06.05.19| P.9  (อ่าน 71683 ครั้ง)

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มีความเด็กกู  :o8:
ช่วยน้องให้ได้นา

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
โอ้ววว ได้แล้วพระเอกได้บู้คนเดียว ว่าแต่นี่เกิดไรกับพี่ชายป่าวอ่า ปกติน่าจะต้องแสตนบายเรืองร้ายๆป่ะ

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ลุ้นมากกกกกกก
น้องธารของป้าจะเป็นไงบ้างงงงง

นี่ยังโกรธเรือใบอยู่นะ ทั้งที่ควรจะห่วงน้องดันพาผญ.ไปส่งบ้านเฉย รีบมาช่วยน้องเลยนะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
มาต่อไวไวน้าาาาาา
 :L2:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ลุ้นมากเลยตอนนี้ :sad4:

ออฟไลน์ นางร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
กระสุนนัดที่ 38.2
ร.รัว


ระหว่างที่ความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้ามัน ผมก็พลันนึกออก   

“มึงนั่นเองที่ยิงเสี่ยยุทธ์ที่หลังผับ”

ปืนตรงหน้าผมลดต่ำลง มันก้าวมาหยิบปืนจากพื้นแล้วฉีกยิ้มกว้าง ดูกลับมาเป็นผู้คุมเกมอีกครั้ง “แหม นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว”

“หน้าเลวๆ งี้กูไม่ลืมหรอก”

“ต้องงี้ดิ ค่อยสนุกหน่อย...จับมัน”

คนที่อยู่ทางซ้ายซึ่งตัวใหญ่อย่างกับหมีเข้ามาล็อกตัวผม หลังจากนั้นไม่ถึงสองนาทีต่อมาผมก็รู้สึกราวกับตายแล้วเกิดใหม่

สายธารอยู่นี่

เขาอยู่นี่! มิกกี้ก็ด้วย ทั้งคู่ถูกจับมัดมือไพล่หลังติดกับเสา สภาพเหมือนโดนซ้อมไปยกนึง แต่ก็ยังดูดีกว่านอนอยู่ในหลุมเป็นไหนๆ

“พี่เรือ” มิกกี้เป็นคนเห็นผมก่อน

“สายธาร” แต่ผมทักอีกคนอย่างกับมิกกี้ไม่อยู่ตรงนั้นด้วย

เจ้าตัวเงยหน้าขึ้น แต่ยังไม่พูดอะไร ผมถูกจับมัดมือไพล่หลังรวมกับพวกเขา จนไอ้ตีนโตผละออกไปแล้วสายธารค่อยหันมาพูด

“คุณมานี่ได้ไง”

“ขับรถมา” นี่ค่อนข้างจะเป็นคำตอบที่โง่ แต่ผมไม่อยากโกหกอะไรเขาอีกแล้ว “ไม่ได้ขับเองหรอก กูเอาปืนจี้ให้พวกมันขับ แล้วก็โดนพวกมันจี้ให้ทิ้งปืนเมื่อกี้...กูมาตามหามึง”

“ก็เขียนบอกไว้แล้วว่า ไม่ต้องตาม”

“ไม่ตามแล้วนอนไม่หลับ”

สายธารส่ายหน้า “แล้วยิ้มอะไร”

“มึงยังไม่ตาย”

“ทีแรกผมก็ว่ามันตายแล้ว” มิกกี้เอียงหน้ามาร่วมวงด้วย “ก่อนพามานี่มันรัดคอไอ้ธารแป๊บเดียวหลับเลย อย่างกับในหนัง”

รัดคอแล้วหลับ

ผมรู้จักท่านี้ เรียกว่าท่า Rear Naked Choke คือการใช้ท่อนแขนรัดบริเวณด้านข้างลำคอเพื่อไม่ให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมอง ทำแป๊บเดียวจะทำให้สลบ ถ้านานกว่านั้นก็ถึงตายได้ แสดงว่าพวกนี้ก็ไม่ใช่กุ๊ยข้างถนนซะทีเดียว

“แล้วไงอีก” ผมถามมิกกี้

“มันก็ซ้อมเราอ่ะดิ... หน้าแม่งอย่างเถื่อน”

ผมหันมามองสายธารตั้งแต่มิกกี้ยังพูดไม่จบแล้ว “หิวมั้ย ได้กินอะไรหรือยัง”

เขาสั่นหัว ไม่รู้จะสื่อว่าไม่หิวหรือยังไม่ได้กิน

“ว่าจะกลับมากินข้าวด้วย แต่ไม่เห็นมึง กูเลยกินท่อนแยมทอดไป...มึงปากแตกเหรอ เจ็บมากมั้ย”

“...”

“จมูกเป็นไงมั่ง”

“...”

“สายธาร”

“ไม่เป็นไร”

แก้มเขาแดงเป็นปื้น มุมปากมีเหลือซิบ ราวกับว่าความเจ็บปวดของเขายังลอยฟุ้งในอากาศจนผมรู้สึกได้ เมื่อสูดลมหายใจเข้าไปมันก็ทิ่มแทงปอดผมด้วย

“คนไหนทำ” ผมถาม รอยยิ้มในตอนแรกหายไปแล้ว

“ช่างมันเถอะ”

“คนไหน”

“ใครทำอะไรเหรอ” ไอ้ตัวหัวหน้าพูดแทรกขึ้น มันก้าวมายืนกอดอกตรงหน้าเรา ส่วนลูกน้องอีกสองคนกำลังยกโต๊ะเก่าๆ ออกมาตั้ง จัดแจงวางข้าวของไม่กี่ชิ้นบนนั้น “รู้มั้ย ที่นี่ที่ไหน”

เราสามคนเงียบ

“บ้านผีสิง” มันตอบให้แทน “ก็พวกมึงนี่แหละที่จะได้สิงอยู่นี่”

“ใครเป็นคนต่อยสายธาร”

อีกฝ่ายเอียงคอมองเหมือนไม่เข้าใจคำถาม แต่แล้วก็หัวเราะลั่น โบกมือเหมือนขอเวลานอกและถอยกลับไปนั่งเก้าอี้ที่ลูกน้องเลื่อนมารองรับก้นให้พอดี

ตอนนี้สว่างแล้ว แต่บริเวณรอบๆ ยังมืดทึมอยู่บ้าง

จากการมองสำรวจเร็วๆ ตั้งแต่ถูกคุมตัวเข้ามา นี่คือสถานที่ที่รายการตามล่าท้าผีคงจะจัดให้ติดท็อปเท็นบ้านสุดหลอน ผนังด้านหนึ่งถูกทุบแตกหายไปทั้งแถบ ผนังด้านที่เหลือมีลายกราฟฟิตี้ของแก๊งมือบอน บานประตูไม่อยู่แล้ว เหลือแค่กรอบเอียงๆ ตรงมุมด้านในมีของถูกทิ้งกองสุมอยู่นิดหน่อย เฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ เหลือไม่กี่ชิ้น ซึ่งก็คือโต๊ะพังๆ กับเก้าอี้ไม้ที่ไอ้ตัวหัวหน้านั่งอยู่

ส่วนสมาชิกในแก๊งพวกมันมีอยู่ห้าคน

จิ้งจอกฟื้นแล้ว แต่ยังทรงตัวไม่ค่อยได้ เลยนั่งบ่นงึมงำนวดต้นคออยู่

เด็กฮิปฮอปซึ่งก็คือสายตำรวจ ตอนนี้อาการร่อแร่ นอกจากแขนหักแล้วยังถูกยิงหนึ่งนัดบริเวณโคนขาหรือไม่ก็ท้องน้อย ไอ้พวกนั้นหามเขามาทิ้งไว้ที่มุมบ้านอย่างกับถุงขยะ ตอนนี้เขานอนตะแคงหันหลังนิ่งอยู่ หวังว่ายังหายใจนะ

คนต่อมา ตัวล่ำใหญ่เหมือนหมี ดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่

อีกคน ตัวเตี้ยตัน ท่าทางเคร่งขรึม หน้าตาทำให้ผมนึกถึงหมูป่า

และคนสุดท้าย ไอ้ตัวหัวหน้ามัน ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบกับสัตว์ก็คือหมาป่าดีๆ นี่เอง

“ปืนสวยนี่หว่า” หมาป่าหยิบปืนลูกโม่ของผมมาโยนชั่งน้ำหนักไปมาระหว่างสองมือ แล้วก็วางส่งๆ ไว้บนโต๊ะ “แต่กูชอบรัวเป็นแม็กมากกว่า” มันหยิบปืนสั้นแม็กกาซีนของตัวเอง ตอนนี้เห็นชัดแล้วว่าคือปืนยี่ห้อ Colt โมเดล 1911A1 ซึ่งมีประวัติการพัฒนามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกโน่น

“ชอบรัว ไม่ลองหา Glock มาใช้ล่ะ ลูกดก กดสบายนิ้ว”

“เรื่องปืนไม่ต้องให้หมาตำรวจมาสอนหรอกว่ะ” มันขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้ ถือปืนห้อยไว้ระหว่างขา “เอาละ มาเล่นเกมยี่สิบคำถามกัน”

“ปล่อยเด็กสองคนนี้ไป พวกเขาไม่เกี่ยวอะไร แล้วมึงอยากเล่นอะไรก็มาเล่นกับกู” ผมบอก ระหว่างนี้ก็พยายามบิดข้อมือไปมาเผื่อว่าปมเชือกจะหลุด ดูเหมือนไม่แน่นเท่าไหร่ น่าจะพอมีหวัง...ยังไงก็ต้องหวังไว้ก่อน

“ง่ายไปมั้ง”

“งั้นมึงก็จะไม่รู้อะไรหรอก”

ไอ้หมาป่าฉีกยิ้ม “เอางี้นะ กูจะบอกความลับให้ก่อน เห็นรถตู้นั่นมั้ย ที่ท้ายรถมียาซุกอยู่ ล็อตใหญ่ใช้ได้เลย นัดส่งของแถวๆ นี้แหละหลังจากกูเสร็จธุระกับพวกมึงแล้ว อีกหน่อยจะมีล็อตใหญ่กว่านี้ ของแม่งดี ธุรกิจกำลังโต โอเค ทีนี้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน...พี่ชายมึงรู้อะไรบ้าง”

ผมขบฟันแน่น “พวกมึงมีสายข้างในกรมไม่ใช่รึไง ถามพวกมันดิ”

“ถูก แต่ช่วงหลังๆ ไอ้พี่ชายมึงระวังตัวมาก...มันรู้รึเปล่าว่ายาล็อตต่อไปจะส่งที่ไหน”

“ส่งที่ดาวอังคารไง”

“มันรู้รึยังว่านายใหญ่เราเป็นใคร”

“ไอร่อนแมนน่ะเหรอ หรือว่าทานอส”

“ที่กูต้องเก็บเสี่ยยุทธ์เพราะนายกูบอกแม่งทำตัวโคตรแปลก ถามอะไรซอกแซก ตำรวจแบล็กเมล์อะไรมันให้มาสืบเรื่องนายกูรึเปล่า หรือมันคิดอะไรเหี้ยๆ อยู่ เรื่องควบบ่อนใช่มั้ย”

“เดี๋ยวกูถามจาร์วิสให้ละกัน”

“ใคร จ่าวิทย์”

ผมหัวเราะ “นี่มึงแกล้งโง่หรือโง่จริงๆ วะ”

หมาป่าหยุดมองประเมินผม “กูจะบอกให้อีกเรื่องว่าพวกมึงมานี่ได้ไง ไอ้นี่...ชื่อไรนะ มิกกี้ กูบังคับให้มันเป็นนกต่อล่อไอ้เด็กนี่ออกมา ตอนที่เมียเก่ามึงล่อมึงออกไป”

“ลิน...” ไม่ ไม่หรอก “ลินเป็นพวกมึงเหรอ”

“แหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่นายกูเงินหนาพอจะซื้อคนได้ แต่ก็ไม่แน่นะ อาจจะแค่ใช้เส้นสายเป่าหูนิดหน่อยก็ได้ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ว่ะ แต่ทำให้มึงสองคนออกจากถ้ำไปคนละทิศละทางได้ก็แล้วกัน ทีนี้ก็ไม่ยาก แค่รอให้มึงไปตามหาเด็กของมึงที่หอพัก แต่ก็ปล่อยให้รอซะนานเลยนี่กว่าจะมา”

“ไม่โทรมาขอร้องกูล่ะ จะได้ไปเร็วๆ”

“หมาตำรวจอย่างมึงพอจะดมกลิ่นเองได้น่า...โอเค ทีนี้ เล่ามาว่ารู้อะไรเกี่ยวกับนายกูบ้าง”

ผมทำหน้านิ่งระหว่างที่แอบบิดข้อมืออยู่ มันยังติดแน่น ใช่ แต่ปมเชือกคลายบ้างแล้ว...รึเปล่านะ

“กูพูดกับมึงอยู่”

“อ้อ เหรอ ไม่ได้ฟังว่ะ เล่าใหม่อีกทีซิ เอาตั้งแต่แม่มึงคลอดมึงออกมาที่ข้างถังขยะเลย”

ในที่สุดหมาป่าก็ถอนหายใจ “รู้สึกกูจะคุยกับมึงไม่รู้เรื่องว่ะ เดี๋ยวให้อีกคนคุย...”

“ผมขออัดมันคืนสักป๊าบได้มั้ยพี่” จิ้งจอกเดินนวดต้นคอเข้ามาสมทบกับหัวหน้า

“มึงไม่ต้องยุ่ง งานง่ายๆ แค่นี้ก็ยังพลาด...แอ๊ด”

ได้เวลาซ้อมแล้วสินะ

ผมนึกว่าเจ้าของชื่อนี้คือไอ้หมีตีนโต รูปร่างมันเหมาะกับงานนี้ที่สุดแล้ว ปรากฏว่าคนที่ก้าวมาตรงหน้าผมคือหมูป่าตัวเตี้ย มันไม่พูดไม่จา แต่เกริ่นฉากแอ๊คชั่นบนใบหน้าผมทันที

ผัวะ!






____________________



พี่เรือของนุ้ง ;-;
ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่อ่านกันและคอยคอมเมนต์หากันตลอดๆ
ดีใจมากจริงๆ ค่ะ *ก้มหัวติดพื้น*


นางร้าย
31.08.18


ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
จัดการมันเลยค่ะพี่เรือออ บังอาจมาทำน้องสายธาร  :angry2:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อัดมันเลยพี่เรือ  :z6:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
หูย นกต่อหลายขั้นตอนกว่าจะทำให้แยกกันได้ เอาใจช่วยนะขอให้มีคนมาช่วยเร็วๆ

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คนเคยหักหลังก็ยังหักหลังเหมือนเดิมเนาะทำให้นางงูเห่าสิ้นฤทธิ์หน่อยสิทำให้คนอื่นผิดใจกันไม่พอยังจะเป็นตัวมารอีก อินจัด
มากต่อไว้ๆนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ้าวววววว ผู้ช่วยพระเอกอยู่ไหนฟ่ะ รีบ ๆ มาช่วยเร็ว ๆ เข้า  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ นางร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
กระสุนนัดที่ 39
ร.ระริก



[สายธาร]

ผมยังไม่ตาย 

โชคชะตายังไม่ยอมให้ผมไปอยู่กับพี่ภาณ...หรือล่องลอยอยู่ในความเงียบที่ว่างเปล่าและหนาวเย็น คนชื่อแอ๊ดจ่อปืนตรงหน้าผมแล้ว แต่อาจจะเพราะสีหน้าไม่สะทกสะท้านของผมเลยทำให้หัวหน้าเปลี่ยนใจ สั่งให้รอไปก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะมันตั้งใจขู่แบบนั้นตั้งแต่แรกก็ได้

ไม่ว่าอย่างไรผมก็ปลงตกยอมตายไปแล้ว

แต่พอเรือใบเดินเข้ามาหัวใจผมก็เต้นกระตุก ราวกับว่าผมตายไปแล้วจริงๆ และหัวใจเต้นอีกครั้งเพราะถูกความหวังปั๊มมันขึ้นมา

เขาอยู่นี่แล้ว

เขาตามผมมา

เขามาปกป้องคุ้มครองผม ตามที่เขาบอกตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน

ความรู้สึกเต็มใจตายเมื่อสักครู่สลายไปเหมือนไอหมอก กลายเป็นความรู้สึกอยากมีชีวิตต่อ อยากทำท่อนแยมให้เขากิน อยากนอนที่โซฟาของเขา อยากนอนอ่านหนังสือและดูซีรี่ส์ที่นั่น

อยากให้ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิม

รอยยิ้มของเขาดูจะทำให้มันเป็นไปได้ด้วย แต่พอผมตระหนักว่าตอนนี้สถานการณ์ของเราแย่แค่ไหน สิ่งที่คิดก็เป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้น

พวกมันเล่นเกมยี่สิบคำถามกับเรือใบด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเขายังจะพูดจากวนตีนได้อีก ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่ผมคิด

แอ๊ด

พอหัวหน้าเอ่ยแค่ชื่อเท่านั้น ขาโหดก็ก้าวเข้ามาต่อยหน้าเรือใบเต็มแรง แต่หน้าเขาสะบัดแค่นิดเดียว สงสัยจะเกร็งไว้

“ไอ้แอ๊ด! กูยังไม่ได้บอกให้มึงเล่นมัน” 

แอ๊ดยั้งหมัดที่สองไว้ หันไปยักไหล่เป็นเชิงถาม

“มึงนี่แม่งมือไวจริงๆ กูกำลังจะบอกให้มึงแก้มัด...ไม่ใช่ไอ้หมาตำรวจ เด็กนั่นน่ะ แก้มัดมัน”

แก้มัดผม?

ทำไมล่ะ มันจะทำอะไร

แอ๊ดทำตามที่สั่ง แม้จะเป็นอิสระแล้วแต่ผมจะทำอะไรได้นอกจากนั่งอยู่ที่เดิมและลูบข้อมือที่เป็นรอยแดง

“มึง มึงเป็นคนถาม”

“หือ?”

“ถามไอ้หมาตำรวจนี่แบบที่กูถาม และถ้ามันโกหกก็อัดมันแรงๆ”

เรือใบหัวเราะพรืด รอยยิ้มยียวนของเขาปรากฏขึ้น และต้องยอมรับว่ามันช่วยให้ผมใจสงบลงได้บ้าง แต่จากนั้นหัวใจผมก็เต้นกระตุกอีกเพราะเสียงปืนลั่นดังสนั่น

ปัง!

ไม่รู้กระสุนพุ่งไปทิศไหน ทุกคนเงียบกริบ

“ถ้ายังลีลา คงมีสักนัดที่โดนพวกมึง”

ปัง!

มันสะบัดมือทำปืนลั่นอีก คราวนี้มิกกี้ถึงกับร้องเสียงหลงและหดขากลับ

“ก็ได้ๆ” ผมลุกพรวดขึ้นยืน หันกลับมามองเรือใบ ซึ่งตอนนี้สีหน้าเรียบเฉยแต่ไม่ถึงกับเคร่งขรึม “ก็ได้ ผมจะถาม”

“ถ้ามันโกหกก็อัดมัน” ไอ้ตัวหัวหน้าย้ำ

“เอาเลย ทำตามที่มันบอก” เรือใบพูดเหมือนให้กำลังใจ

“เอ่อ...ผมจะถาม คุณไม่ชอบกินเผ็ดใช่มั้ย”

รอยยิ้มของเขากลับมาอีกครั้ง “ใครบอก กูนี่ตัวกินพริกเลย”

“โกหก”

แล้วผมก็เอากำปั้นชนแก้มเขาเบาๆ ซึ่งแทบไม่ต่างจากเช็ดรอยเปื้อนออกให้

“โอ๊ย” เขาร้องเสียงดัง “ก็ได้ๆ ยอมแล้ว ใช่ กูไม่ชอบกินเผ็ด”

“ไม่ชอบกินผักด้วย”

“เออ ใช่”

“ซีรี่ส์แนวหลอนๆ หลงป่าอะไรนั่นด้วย ผมว่าคุณก็ไม่ชอบ ใช่รึเปล่า”

“จริงๆ ก็พอดูได้ ถ้าเลือดไม่สาดเกินไป”

“เดี๋ยวๆ” หัวหน้าพูดขัด “เล่นเชี่ยไรของพวกมึงเนี่ย คำถามอะไร”

“ถามเกี่ยวกับตัวเขา” ผมตอบเสียงเบา ไม่แน่ใจว่ายิ่งเป็นการยั่วโมโหเขาหรือเปล่า เลยเสริมไปอีก “และคิดว่าเขาไม่ได้โกหก”

อีกฝ่ายริมฝีปากกระตุก ยกปืนขึ้นด้วยมือสั่นๆ

“โอเคๆ จะถามเรื่องตำรวจ” ผมรีบหันไปหาเรือใบ “คุณรู้อะไรบ้าง...เรื่องตำรวจ”

เรือใบยิ้มให้ผม ก่อนจะหันไปมองหัวหน้าแก๊งด้วยสีหน้าขรึม “รู้ว่ามีเกลือเป็นหนอนเต็มไปหมด พี่กูเลยทำอะไรไม่ถนัด พวกมึงเลยลอยนวลมานานขนาดนี้ไง”

“พี่ชายมึงรู้แล้วใช่มะ ว่านายใหญ่กูเป็นใคร”

“ไม่รู้”

“แม่งอมขี้มาพูดชัดๆ...ไอ้หน้าอ่อนนี่ก็อีกคน กูบอกแล้วใช่มั้ย ถ้ามันโกหกให้ทำไง”

“...”

ปัง!

เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผมหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัว โลกที่เงียบเหงาหม่นเทาแต่ก็ยังดีกว่าตรงนี้ แต่เสียงปืนกระชากผมกลับออกมา

“มิกกี้!” ผมปราดเข้าไปหาเพื่อน

“ไอ้ธาร กู...ตาย ตายแน่ๆ”

“ไม่ๆๆ แค่โดนตรงน่อง”

“กูตายแน่”

ผมถอดเสื้อออกมาผูกขาให้มิกกี้ หวังว่ามันจะช่วยห้ามเลือดได้ แล้วหันมองพวกมัน สีหน้าแต่ละคนดูเหมือนเป็นเรื่องตลก โดยเฉพาะไอ้ตัวหัวหน้า มันหัวเราะพลางโบกปืนเล่นอย่างกับโบกพัด

“ยังช้าอยู่อีก”

ผมก้าวมายืนตรงหน้าเรือใบอีกครั้ง คราวนี้เขาพยักหน้าให้ขรึมๆ

ผมก็เลยต่อยที่ท้องเขาไปหมัดนึง

“ต่อยอย่างกับผู้หญิง” คนที่นวดต้นคออยู่วิจารณ์

“เออ แรงๆ หน่อยสิวะ” หัวหน้าเสริม

ผมต่อยเขาอีกหมัดแถวๆ หัวไหล่

“ให้ผมจัดการดีกว่ามั้ยพี่” คนตัวล่ำอาสา

“ช่างแม่ง กูเบื่อละ ฆ่าแม่งให้หมด...”

“เดี๋ยว” เรือใบแทรก “กูมีเรื่องจะบอก”

“ว่าไป”

เรือใบมองหน้าผมราวกับจะสื่อสารแค่กับผมเท่านั้น

“กู...” เขาถอนหายใจก่อนจะพูด “คดีพี่ภาณของมึง...”

“...”

“กูเป็นคนรับผิดชอบเอง สมัยที่ยังเป็นตำรวจ”

ตัวผมชาวูบ “ไม่...”

“สองปีก่อน เฮียยอช์ตโยนเคสนี้มาให้กูทำ นักศึกษาถูกแทงชิงไอโฟน ผู้ตายชื่อนายภาณุ นามสกุลอะไรกูจำไม่ได้แล้ว เพราะกูไม่สนใจ...”

เขาพูดไม่ทันจบ ระเบิดเวลาที่อัดแน่นอยู่ในตัวผมก็ระเบิดตูมตามซะก่อน

ผัวะ!







____________________________

ขอบคุณมากๆ ที่อยู่ด้วยกันจนมาถึงตรงนี้นะคะ
ขอบคุณที่คอมเมนต์หากันนะคะ ;-; ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

นางร้าย
02.09.18

ออฟไลน์ chompoo1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตัดจบได้ทำร้ายจิตใจเรามาก :sad4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
จะรอดกันยังไง จะรอดกันยังไง  :z10: :z10: :z10:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
โดนอัดแรงๆเลยอิพี่เรือนี่  :hao7:

ออฟไลน์ Carrot_t

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างงี้แต่ยังคุยกันงุ้งงิ้งๆ ยอมมมม :hao3:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แล้วสายธารก็เกลียดตำรวจยิ่งกว่าเดิม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ฉิบบบบบบ อย่างนี้ธารต่อยเรือใบจนลืมตายไปแล้วมัง  :katai1:

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อะไรวะเนี่ยะ หรือพี่มันแกล้งโกหกเพื่อให้น้องรอด :a5:

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อ้าวๆ อะไรยังไงล่ะพี่เรือ

ออฟไลน์ นางร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
กระสุนนัดที่ 40
ร.ร้าว



[เรือใบ]

ใจผมพองฟูเมื่อหมาป่าสั่งให้แก้มัดสายธาร แม้ว่าต่อมาจะถูกสั่งให้เล่นบทเค้นความลับจากผมก็เถอะ อย่างน้อยเขาก็เป็นอิสระในระดับหนึ่ง และแต่ละคำถามของเขาก็ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ นี่ถ้าเขาถามว่า คืนนั้นที่ไอ้โอมมาส่งผมแกล้งละเมอดึงเขาเข้ามาจูบหรือเปล่า ผมก็จะตอบตามความจริงว่า ใช่

แต่ไอ้โหดไม่ยอมปล่อยให้สายธารเล่นเกมยี่สิบคำถามกับผมนาน

มันยิงมิกกี้

ยิงที่ขาด้วยท่าโบกปืนส่งๆ แบบพวกกุ๊ย ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะมันแม่นหรือมั่ว มันดูแปลกใจด้วยซ้ำที่มิกกี้ยังไม่ตาย แต่ขณะเดียวกันก็ดูสนุกที่ได้ทรมานพวกเรา แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่ถึงอึดใจมันก็เบื่อที่จะฟังอะไรอีก

เพื่อซื้อเวลา ต้องหาแรงกระตุ้นให้สายธารหน่อย

ไม่สิ...

เป็นเพราะผมทนเก็บมันไว้กับตัวไม่ไหวแล้วต่างหาก และเวลานี้ก็เป็นฤกษ์บัดซบอัปมงคลเพียงฤกษ์เดียวที่จะบอกเขาได้ มันไม่มีเวลาอื่นเหลือให้เลือกแล้ว

“เดี๋ยวก่อน กูมีเรื่องจะบอก”

เกริ่นนำโคตรเห่ย แต่อย่างน้อยก็ทำให้ไอ้หมาป่าลดปืนลง

“กู...”

ไม่

ผมพูดไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้บอกเรื่องนั้นกับเขา

ผมไม่ได้คาดคิดไว้ก่อนว่าเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อรู้เรื่องนี้ จะด่าว่าผมรวมถึงตำรวจทุกคน หรือซึมหงอยขังตัวเองอยู่ในโลกที่ไม่มีใครเอื้อมถึง ไม่ใช่เลย เขาดู...แตกสลาย

หมัดแรกฟาดเต็มแรงจนใบหน้าผมสะบัด

หมัดต่อๆ มารัวใส่ไม่เลือกที่

ผมได้แต่กัดฟันและเกร็งตัวรับ รู้สึกเหมือนตกอยู่ท่ามกลางพายุเกรี้ยวกราด ในโลกของเขา โลกจินตนาการที่เขาสร้างขึ้นและหลบเข้าไปพักอยู่ในนั้นบ่อยๆ ตอนนี้คงจะเต็มไปด้วยระเบิด ภูเขาไฟพ่นลาวาไปทั่ว แผ่นดินถล่ม ลมหมุนฉีกทึ้งกระท่อมแสนสุขรวมถึงรูปภาพความหลังที่ตั้งเรียงรายบนชั้นวาง

และที่สำคัญคือ มีผมยืนเด่นเป็นสง่าร่ายเวทมนตร์แห่งหายนะอยู่ในนั้น

ท่ามกลางพายุ มีเสียงไอ้พวกตัวร้ายสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ แม่งบ้าไปแล้ว ดราม่าว่ะเฮ้ย เอาไปสร้างหนังได้นะเนี่ย...

แต่แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ สงบลง หมัดของสายธารอ่อนปวกเปียก จากการชกเปลี่ยนเป็นทุบ แล้วก็เปลี่ยนเป็นวางแปะ ตอนนี้เขาอยู่ในท่าคุกเข่า ทรงตัวโงนเงนทำท่าจะทิ้งตัวซบลงมากับไหล่ผม ผมยกศีรษะขึ้น และเราก็ได้เห็นความยับเยินของอีกฝ่ายในระยะประชิด

เขาเจ็บปวดข้างใน ดวงตามีน้ำใสเอ่อกลบ

ส่วนผมดูระบมภายนอก ในปากมีรสเลือด และบริเวณหางคิ้วคงจะแตก

นัยน์ตาของเขาสั่นระริกเช่นเดียวกับริมฝีปาก จากทีแรกที่จะทิ้งตัวลงมา เขากลับเบือนหน้าหนีก่อนจะเบี่ยงไปด้านข้าง นั่งก้มหน้าวางศอกไว้บนเข่า

ไอ้พวกตัวร้ายปรบมือและหัวเราะ อย่างกับว่าเพิ่งดูละครลิงจบ

ทำให้ผมตระหนักว่าร่างกายเจ็บปวดน้อยกว่าที่คิด สายธารคงต่อยผมไม่เกินยี่สิบหมัด และส่วนใหญ่ก็ลงกับลำตัวผมมากกว่าใบหน้า อาการเจ็บปวดเมื่อกี้คงจะเป็นเรื่องของความรู้สึกที่มีร่วมไปกับเขามากกว่า

ผมเงยขึ้นมองพวกมันด้วยสีหน้านิ่งๆ มือที่ถูกมัดอยู่เจ็บแปลบ แต่เกือบจะหลุดจากปมเชือกแล้ว ผมรู้สึกได้

หมูป่าพูดกระซิบกับจ่าฝูง ยื่นโทรศัพท์มือถือที่น่าจะมีข้อมูลบางอย่างให้ดู ความร่าเริงหายไปจากใบหน้ามัน และถ้าดวงตาพร่าๆ ของผมมองไม่ผิด มันกำลังสะใจอยู่

ไอ้หมาป่าลุกจากเก้าอี้มานั่งยองตรงหน้าผม “ไง พร้อมจะตายยัง”

“ไม่...” ปวดแก้มจนพูดลำบาก แต่ผมก็ฝืนพูดต่อ “ไม่เคยตาย ตายให้ดูก่อนดิ ถ้ามันเข้าท่าก็จะตามไป”

“งั้นมึงก็โชคดีแล้ว มีคนตายให้ดูว่ะ”

มันพลิกหน้าจอมือถือมาตรงหน้าผม วีดีโอคลิปที่เหมือนได้จากกล้องติดหน้ารถหรือกล้องแอบถ่ายกำลังเล่นแบบเต็มหน้าจอ น่าจะเป็นช่วงเวลาเช้ามืด รถเก๋งสีดำซึ่งดูคุ้นตามากจอดนิ่งสนิทอยู่ที่ริมทางเท้า ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วเปิดประตูสอดตัวเข้าไปนั่ง ต่อให้เห็นแค่ด้านข้างผมก็จำได้แม่นว่าใคร

รถเฮียเสียพอดี เลยว่าจะเอารถเรือไปใช้นี่แหละ

ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวอยู่สองหรือสามวินาที แล้วจู่ๆ รถก็ระเบิดตูมไฟลุกท่วม

ไม่...

“กูรู้ มึงกำลังยื้อเวลารอให้พี่ชายมาช่วย” หมาป่าพูด “กูก็รอเวลาอยู่เหมือนกัน เลยยอมเล่นเกมบ้าๆ บอๆ กับพวกมึง แต่ที่กูรอนี่คือ รอให้พี่มึงตาย มันจะได้ไม่มาแส่ตอนพวกกูส่งยา”

“ไม่...” ลำคอผมแห้งผาก

“ข่าวจากวงในว่ะ พี่ชายมึงกะมาเล่นกูที่จุดนัดส่งของวันนี้เลย แต่กูเล่นมันก่อน เล่นแม่งทั้งพี่ทั้งน้องเลยวันนี้ หึ”

“ไม่จริง”

“เอาไว้ไปถามพี่มึงในนรกละกัน...เฮ้ย พวกเราเก็บของ เตรียมตัวไปกัน”

“เอาไงกับไอ้จ๊อดครับพี่ มันยังไม่ตาย” น่าจะเป็นหมีตีนโตที่ถาม

ปัง!

เสียงปืนลั่นหนึ่งนัด ตามด้วยเสียงพูด “ทีนี้มันตายรึยัง”

จ๊อดหรือเด็กฮิปฮอปคนนั้นซึ่งพวกมันคาดว่าเป็นสายตำรวจถูกยิงซ้ำ ผมไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะเป็นหรือตาย ตอนนี้มีความจริงเรื่องเดียวที่ดังก้องอยู่ในหัวผม เฮียยอช์ต...

เฮียยอช์ต!

พวกมันพูดคุยกันต่อ แต่ผมแทบไม่ได้ยินเสียงรอบตัว ได้ยินแค่เสียงครางต่ำๆ ของตัวเอง รับรู้ว่าร่างกายดิ้นรนเหมือนกับสัตว์ติดบ่วง สายธารเข้าเกาะกุมผมไว้ ขณะที่มิกกี้ทั้งดิ้นทั้งโวยวายไปด้วย เป็นคราวของผมบ้างที่โลกภายในระเบิดจนย่อยยับ โลกของผมไม่มีลมพายุหมุน มีแค่ภูเขาไฟนับร้อยๆ ลูกแตกปะทุพร้อมกัน

การแตกปะทุกินเวลาสั้นๆ ไม่ถึงนาที แต่ลาวาแผดเผานานกว่านั้น หน้าอกผมสะเทือนขึ้นลง ลมหายใจถี่กระชั้น ไอร้อนแผ่ไปทั้งตัว ผมเก็บกู้สติไว้ได้เสี้ยวหนึ่ง และมันสั่งให้ผมหยุดดิ้นรน   

มือหลุดจากปมเชือกแล้ว!

หลุดทั้งสองข้าง

แต่พวกมันยังอยู่ไกลเกินไป ต้องนิ่งไว้ก่อน ตั้งสติ และนิ่งไว้

ผมจ้องหน้าไอ้หมาป่าเขม็ง “กูจะฆ่ามึง” น้ำเสียงที่หลุดจากปากเหมือนไม่ใช่เสียงตัวเอง

ไอ้หมาป่าดูอึ้งๆ ก่อนจะส่ายหัว “แม่งบ้าว่ะ...แอ๊ด ส่งมันไปหาพี่มันดิ๊”

แอ๊ดก้าวมายืนตรงหน้าผม ชักปืนออกมาช้าๆ ช้ามากจนสัญชาตญาณสั่นกระดิ่งติ๊งๆ อยู่ในหัว บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น บางอย่างที่ผมพลาดไป...

แต่อีกฝ่ายก็ถือปืนอยู่ใกล้แค่นี้เอง

สายธารตัวสั่น

ผมเอียงหน้าไปบอกเขา “ไม่ต้องกลัว”

“เรื่องฆ่าคนกูไม่เคยขอให้ใครทำแทน...” หมาป่าพูดขึ้น ผมเกือบจะพุ่งตัวออกไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะน้ำเสียงราบเรียบผิดปกติของมัน

แอ๊ดกระชับปืนในมือ สูดหายใจเข้าช้าๆ และในพริบตานั้นเขาก็สะบัดปืนไปข้างหลัง

ปัง!

ช้าเกินไป ไอ้หมาป่าจ้องอยู่ก่อนแล้ว กระสุนเลยพุ่งเจาะเข้าที่หัวไหล่ขวาของแอ๊ดส่งเจ้าตัวหมุนคว้างล้มลงกับพื้น เขาเปลี่ยนมาถือปืนด้วยมือซ้าย ซึ่งดูคล่องแคล่วในฐานะคนที่โดนยิง แต่ไอ้หมาป่าก็กระโจนพรวดเข้ามาเตะเปรี้ยงจนปืนกระเด็นไป แล้วจ่อปืนทันที

“เรื่องฆ่าคนกูไม่เคยขอให้ใครทำแทน มึงมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนลืมสินะ” หมาป่าพยายามข่มกลั้นอารมณ์ “ไอ้ชิบหาย มึงนี่เองสายตำรวจตัวจริง มึงชื่อไรวะ จ่าวิทย์งั้นเหรอ”

อะไรกัน

ผมแค่พูดกวนตีนไอ้หมาป่าว่าให้ถามจาร์วิสที่เป็นผู้ช่วยไอรอนแมน แต่มันดันฟังผิดเป็นจ่าวิทย์...

แล้วก็มีสายตำรวจชื่อจ่าวิทย์จริงๆ งั้นเหรอ?

แอ๊ดหรือในอีกชื่อหนึ่งตอนนี้คือจ่าวิทย์นอนนิ่ง มองปลายกระบอกปืนตรงหน้า หมีกับจิ้งจอกดูเหมือนจะยังงงๆ แต่ก็ชักปืนออกมาเตรียมพร้อม

มิกกี้ทำเสียงในลำคอเหมือนกลั้นเสียงสะอื้น

ส่วนสายธารเบียดตัวกับเสา บีบแขนผมแน่น ผมเอียงหน้ากระซิบบอกให้เขาปล่อย แต่เหมือนเจ้าตัวไม่รับรู้ สงสัยยังช็อกจนไม่ได้ยิน ผมเลยพูดต่อไปอีก “กูชอบกินท่อนแยมของมึง” เป็นคำพูดโง่ๆ และไม่ถูกกาลเทศะ แต่มันช่วยย้ำเตือนว่าเราต้องมีชีวิตรอดกลับไปให้ได้ 

“กูไม่อยากจะเชื่อ แม่ง” หมาป่าถุยน้ำลายลงพื้น “เตี้ยๆ อย่างมึงเขาให้เป็นตำรวจด้วยเหรอวะ”

“พูดมาก จะยิงก็ยิง”

จิตใจทำด้วยอะไร นิ่งโคตรๆ น้ำเสียงเหมือนตายไม่เป็น

“เออ...”

“ยิงกูดิ” ผมรีบพูดขัดจังหวะ เสียงอาจจะไม่นิ่งเท่าพี่จ่า แต่ก็ช่วยซื้อเวลาได้ ปลายกระบอกปืนเบนมาทางผมแทนพร้อมกับรอยยิ้มโรคจิตบนหน้าของมัน

ผมเคยสงสัยมาตลอดว่า ทำไมไอ้พวกตัวร้ายในหนังหรือละครถึงชอบโอ้เอ้ เอาแต่พูดจาวกวน ไม่ลงมือฆ่าเหยื่อสักที ตอนนี้ผมคิดว่าเข้าใจแล้ว เพราะมันชอบช่วงเวลานี้ ชอบที่ได้ถือปืนจ่อหน้าคน ชอบที่ได้เป็นผู้กุมอำนาจซึ่งมันไขว่คว้าไม่ได้ในสังคม และมันก็จะเล่นสงครามประสาทเพื่อยื้อเวลานี้ไปเรื่อยๆ จนถึงที่สุด

“ไหนบอกจะรีบส่งกูไปเจอพี่ไม่ใช่เหรอ” ผมแหย่ไปอีก มือที่ขัดไพล่หลังกำเชือกไว้เหมือนว่ายังถูกมัด ดวงตายังพร่า คอแห้งเป็นผง กล้ามเนื้อก็น่วมไปหมด ไม่แน่ใจเลยว่าจะพุ่งตัวได้เร็วพอมั้ย แต่ก็ต้องเสี่ยง

“มึงอยากตายก่อนสินะ”

“ไกลขนาดนั้นจะยิงโดนรึเปล่า กูไม่เคยเห็นใครยิงปืนห่วยเท่ามึงเลย”

ขยับเข้ามาอีกหน่อยสิวะ

เข้ามาอีก...

ปรากฏว่ามันถอยหลังไปอีกก้าว

เวรแล้วมั้ยล่ะ!

“งั้นดูซิระยะนี้จะโดนมั้ย”

ปัง! ปัง!

ผมเปลี่ยนแผนฉับพลัน พลิกตัวไปด้านข้างและฉุดสายธารล้มกลิ้งไปด้วยกัน แทบจะเหมือนวันแรกที่เราเจอกันหลังผับ ในหัวนึกเห็นภาพกระสุนเจาะเข้าที่เสาสองนัด หรืออาจจะโดนมิกกี้ก็ได้ เพราะไอ้หมอนี่ก็ยิงปืนห่วยจริงๆ

แต่ความจริงอาจจะโดนสายธารไปแล้วก็ได้

“หยุด!” เสียงลึกลับดังขึ้น

ผมหันขวับไปมองโดยที่ยังนอนราบทับตัวสายธารและกดหน้าอกเขาไว้ หมีตีนโตกับจิ้งจอกร่วงไปแล้ว แสดงว่ากระสุนสองนัดนั้นไม่ใช่จากปืนไอ้หมาป่า แต่มาจากชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกรอบประตู

“วางปืนลง!”

ไอ้หมาป่าหันรีหันขวางพร้อมกับวาดปืนไปซ้ายทีขวาที ต้องใช้เวลาอึดใจหนึ่งกว่ามันจะเข้าใจว่าแขกลึกลับมีแค่คนเดียว ไม่ได้ขนมาเป็นกองทัพ ปืนของมันจึงเล็งสวนไปที่เป้าหมาย

ผัวะ!

ปัง!

แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นผมก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ผมพุ่งตัวไปเตะปืนในมือมันจนหลุดกระเด็น และทำให้กระสุนลั่นในจังหวะนั้น แต่พลาดเป้า หมัดซ้ายของมันเล่นงานที่ท้องผมทันทีจนต้องผละถอย ร่างกายผมแย่มาก ทั้งอ่อนล้า ขาดน้ำ และระบมจนหายใจไม่ถนัด

ไอ้หมาป่าตามเข้ามาปล่อยหมัดขวาอย่างที่คาด ผมก้มหลบได้และตวัดหมัดเข้าหน้ามัน แต่มันก็สวนกลับแบบเดียวกันทันควัน เล่นเอาเห็นแสงวาบใต้เปลือกตาและโลกเอียงวูบ

มีเสียงแว่วๆ แทรกเข้ามาในโลกที่เลอะเลือนและเดือดดาลของผม

“เรือ!”

“สายธาร อย่าเข้าไป!...ปล่อยมัน ไอ้เรือก็งี้แหละ”

แม้ไม่ได้มองแต่ผมก็บอกได้ ปืนของผู้มาเยือนที่จ่ออยู่ลดต่ำลง เสียงรอบตัวหยุดนิ่ง เหลือแค่ผมกับไอ้หมาป่ายืนประจันหน้ากันโดยที่ผมยังโงนเงนเล็กน้อย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะได้เปรียบสุดๆ มันตัวใหญ่กว่าผม เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือ มีทุกอย่างที่จะคว่ำผมได้ในเวลาอันสั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่มีคือ ภูเขาไฟนับร้อยๆ ลูกระเบิดอยู่ในตัว

ผมเงยหน้าขึ้น สูดลมเข้าเต็มปอด อะดรีนาลีนฉีดพล่านจนโลกสว่างจ้า สายตาเราประสานกันอยู่สองสามวินาทีก่อนผมจะพุ่งตัวออกไป ร่างกายทำงานไปเอง ซึ่งเหมือนไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรเลย เกือบจะเป็นการยืนปักหลักแลกหมัดกัน มันซัดมา ผมซัดกลับ ราวกับอาวุธไม่ใช่มือหรือเท้า แต่เป็นเศษดินเศษหินจากแรงระเบิดจากข้างใน

ตอนนี้ภูเขาไฟในโลกของผมไม่ได้มีแค่ลาวา แต่มันระเบิดสิ่งเหล่านี้ออกมาด้วย...

ไอ้เด็กฮิปไม่ใช่สายตำรวจ

จ่าวิทย์ต่างหาก หมูป่าที่ชื่อพ้องกับจาร์วิส

ลินเป็นพวกมัน

เฮียยอช์ตอยู่นี่ใช่มั้ย หรือภาพหลอน

สายธาร...กูขอโทษ กูไม่สนใจคดีพี่ภาณของมึง

แต่ที่กูอยากบอกจริงๆ ก็คือ

กู...


หมัดของไอ้หมาป่าเล่นเอาผมผงะ กระแสความคิดดับเหมือนเปลวเทียนถูกเป่า สติพุ่งกลับเข้าร่าง และเห็นว่าสภาพไอ้หมาป่าก็แย่พอกัน มันเลิกเล่นเกมชกต่อยแล้วถลาไปหยิบปืนที่ผมเตะจากมือมันทีแรก ผมถลาตามทันที มันยกปืนขึ้นเล็ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมคว้าหมับที่ข้อมือมันชูสูงขึ้น

ปัง!

กระสุนลั่นข้ามไหล่ผม

“ไอ้ธาร! เฮ้ย เป็นไรเปล่าวะ...ธาร!”

เสียงมิกกี้ดังลั่นหลังเสียงปืน ตัวผมชาวาบ ราวกับหัวใจหล่นหายไปในธารน้ำแข็งทั้งที่โลกยังเดือดพล่านด้วยลาวาและสะเก็ดไฟ แต่ร่างกายยังอุตส่าห์ทำงานต่อ คือบิดแขนไอ้หมาป่า กระชากปืนเหวี่ยงทิ้งไปเหมือนสัตว์มีพิษ กระแทกเข่าตามอีกสองทีจนมันตัวงอ และสุดท้ายทิ้งหมัดขวาทั้งไหล่เข้าเต็มกรามส่งมันลงไปนอนกับพื้น

ภูเขาไฟปะทุอีกรอบ จนร่างกายแทบลุกไหม้

ผมเตะไอ้หมาป่าที่หน้า ไหล่ ท้อง แล้วก็เตะไม่เลือกที่หนึ่งครั้ง สองครั้ง สาม สี่ ห้า...เหมือนกับว่าไม่ใช่ซ้ำเติมให้จมดิน แต่เพื่อกระตุ้นให้มันลุกขึ้นมาสู้กันอีกจนกว่าจะตายกันไปข้าง

แต่มันไม่ลุก

มันส่งเสียงครางต่ำขณะตัวพลิกไปชนกับขาโต๊ะ วัตถุแวววาวที่วางอยู่บนนั้นเปล่งประกายวาบดึงดูดสายตาผม ปืนลูกโม่นั่นเอง ผมคว้ามันมาจ่อใบหน้าไอ้หมาป่าด้วยมือเดียวแบบพวกกุ๊ย

“เรือ! อย่า!”

เสียงร้องห้ามดังชัดเต็มสองหู

แต่ผมเลือกที่จะเหนี่ยวไกซ้ำๆ ซ้ำๆ

หลังจากนั้นทุกเสียงก็เงียบลง เงียบเหมือนเวลาที่คุณหมอปั๊มหัวใจคนไข้ไม่สำเร็จ เหมือนตอนที่คุณคว้าชายเสื้อของใครสักคนที่โดดลงจากตึกไว้ไม่ทัน

สายธาร ส่งเสียงหน่อยได้มั้ย

มิกกี้ พูดอะไรสักอย่างก็ยังดี

สักอย่าง...


ไม่ว่าข้างหลังผมจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมไม่กล้าหันไปมอง

มันเงียบเหลือเกิน

















_________________

ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่อยู่กับพี่เรือใบมาจนถึงตอนนี้ T T

นางร้าย
08.09.18

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เกิดอะไรขึ้น
อย่าเป็นอะไรนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอาแร้วๆ เกิดไรขึ้นกับธาร   :katai1:

ออฟไลน์ Carrot_t

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อะไรยังไงเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ภาพมโนของเรือเหรอ :ruready

ออฟไลน์ นางร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
หมายเหตุ
**เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นดั้งเดิมนะคะ เนื้อหาพาร์ทนี้จะมีบางส่วนไม่เหมือนกับในหนังสือค่ะ
เนื่องจากบ.ก.มีความเห็นว่าเวอร์ชั่นนี้เนื้อหาค่อนข้างรุนแรงนิดนึง
เลยทำการปรับใหม่ให้เบาลง ซึ่งปรับเรียบร้อยและไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ ^ ^
แต่เราเอาเวอร์ชั่นที่ยังไม่ปรับมาให้อ่านกันเฉพาะในนี้นะคะ มีแค่ในนี้เท่านั้น
ในหนังสือจะเป็นเวอร์ชั่นซอฟท์ค่ะ
แจ้งเผื่อบางคนเปิดเทียบในหนังสือแล้วพบว่าไม่เหมือนกัน

อยากให้ Special for ทุกคน ❤
ขอบคุณมากๆ นะคะ**


กระสุนนัดที่ 40
ร.ร้าว

สองปีก่อน

ผมจอดรถหน้าโรงแรมขนาดกลางๆ ตามที่สายข่าวบอก ปิดแอร์ บิดกุญแจดับเครื่อง และไม่ลดกระจกลง ผมต้องการความเงียบ แต่เสียงในใจยังตะโกนไม่หยุด

ผมหยิบปืนลูกโม่ขึ้นมา กระบอกนี้เป็นของแบรนด์ Smith & Wesson โมเดล 686 ลำกล้อง 4.125 นิ้ว บรรจุ 6 นัด ด้ามจับสีดำเข้ามือ งานชั้นดีเลย จะเรียกว่าศิลปะร่วมสมัยก็ยังได้ ข้อดีของมันคือเชื่อใจได้ ไม่ขัดลำกล้อง ไม่คายปลอกไว้เป็นหลักฐาน 


ผมปลดลูกโม่ออก แล้วหยิบกระสุนขนาด .357 แม็กนั่ม จากกล่องบรรจุเร็วๆ เสียงในหัวผมยังดังอื้ออึง มือไม้สั่นจนทำกระสุนหล่น

แม่ง!

ปึก! ปึก! ปึก!

ต้องทุบคอนโซลรถไปหลายทีมือถึงนิ่งขึ้น กระสุนเต็มลูกโม่แล้ว แค่หกนัดก็เหลือเฟือ เอาให้ตายสามรอบก็ยังได้ ผมดันลูกโม่กลับเข้าที่ แล้ววางปืนที่จู่ๆ ก็หนักอึ้งราวกับค้อนไว้บนคอนโซลหน้ารถ อากาศภายในรถสงบนิ่งและเริ่มอบอ้าว ผมนั่งโดยไม่ขยับตัวอยู่เป็นนาที หวังจะให้ความคิดหยุดพลุ่งพล่านไปด้วย แต่ไม่ได้ผล

สุดท้าย ผมคว้าปืนและเปิดประตูลงจากรถ เหน็บปืนไว้ข้างเอว แล้วปล่อยให้อารมณ์ผลักดันขาก้าวอาดๆ ตรงเข้าไปในโรงแรม

ถ้าจะเลือกโรงแรมเล็กๆ โทรมๆ งี้ ไม่ใช้ป่าละเมาะข้างทางไปเลยวะ

ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับมีเด็กสาวหน้าตาง่วงๆ นั่งเล่นมือถืออยู่ อาจจะเป็นแค่เด็กฝึกงานด้วยซ้ำ ผมจะลักไก่ขอค้นโดยไม่มีหมายค้นก็คงพอได้ แต่ผมเลือกที่จะเดินตีเนียนไปที่ลิฟต์เลย ทำตัวเหมือนเป็นแขกคนหนึ่งที่เช็กอินไว้เรียบร้อยแล้ว ระบบป้องกันห่วยแตกอย่างที่สายข่าวบอกไว้ คนนอกสามารถกดเรียกลิฟต์ไปชั้นไหนก็ได้

ผมกดลิฟต์ไปชั้นสาม หลังประตูเปิดออกมาก็ยืนนิ่ง ตลอดโถงทางเดินไม่มีผู้คน เวลาสี่ทุ่มกว่าๆ เริ่มดึกแล้วสำหรับคนทำงานจากต่างถิ่น และยังหัวค่ำเกินไปสำหรับนักเที่ยวที่จะกลับมาพักผ่อน

มีเส้นบางๆ ที่เมื่อคนเราก้าวข้ามไปแล้วชีวิตจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก

เส้นทางบางสาย แค่เดินไปก้าวเดียวตัวตนของเราก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล

แต่บางครั้งคนเราก็เลือกไม่ได้

ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ต่างจากคนขาขาดที่กำลังกลิ้งไถลไปตามทางลาดชัน ปลายทางอาจเป็นนรก แต่มันอาจดีกว่าตอนนี้ก็ได้

ผมชักปืนออกมาปลดลูกโม่ดูอีกครั้ง กระสุนทั้งหกนัดเปล่งประกายวาวราวกับพวกมันกำลังยิ้มอยู่

ความลังเลพัดวูบมาเหมือนกับลม...

ไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็เดินหน้าต่อ

ห้องเป้าหมายอยู่เกือบสุดทางเดิน ข้างในเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ หรือไม่ก็กำลังทำเรื่องชั่วๆ กัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ใคร” เสียงผู้ชายดังลอดออกมา

มุกตื้นๆ อย่างเอาอาหารมาส่งหรือเอาผ้าขนหนูมาเพิ่มคงใช้กับคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ไม่ได้ วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ เคาะแล้วเบี่ยงตัวหลบตาแมว เคาะไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เปิดเอง

ก๊อก ก๊อก

“แป๊บนึง”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ในที่สุดประตูก็เปิดออก “ใครวะ...”

ผมใช้ไหล่กระแทกสวนเข้าไปทันที ไอ้หน้าตัวเมียล้มหงายผลึ่ง ผมรีบปิดประตูและล็อกกลอน

“เฮ้ย อะไรวะ มึงเป็นใคร...” คำพูดขาดห้วง ก่อนมันจะเอ่ยชื่อผม “เรือ”

ผมหันมาช้าๆ โดยที่ยังไม่ยกปืนขึ้นเล็ง ตั้งใจยิ้มทักทายแบบคนรู้จัก แต่มุมปากผมกระตุกจนทำให้ดูเหมือนรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมมากกว่า “ไงเบสท์”

“นะ...นายมานี่ได้ไง” เบสท์ไม่สวมเสื้อ ท่อนล่างสวมแค่กางเกงขาสั้น

“กลิ่นชั่วมันแรงไง”

ประตูห้องน้ำเปิดออก แล้วลินก็ก้าวออกมา...โดยมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวห่อตัว

“เรือ...มาอยู่นี่ได้ไง”

ถามเหมือนกันเป๊ะ

“อ้าว ลิน” ผมทำเสียงแปลกใจ “แล้วมาอยู่นี่ได้ไงล่ะ...นี่กำลังจะเอากันเหรอ หรือว่าเพิ่งเอาเสร็จ”

“ไม่ใช่อย่างที่เรือคิดนะ”

“ใช่ นายเข้าใจผิดแล้ว” เบสท์ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ขณะที่ลินก็ขยับอย่างกล้าๆ กลัวๆ มายืนข้างมัน “ใจเย็นนะ เพื่อน”

“มึงไม่ใช่เพื่อนกู!”

“...”

“...”

ทั้งคู่เงียบกริบ หน้าตาซีดเผือด มองปลายกระบอกปืนที่ผมยกขึ้นเล็งเหมือนถูกมนต์สะกด หลังจากนั้นเบสท์ก็ค่อยทำใจดีสู้เสือ “เฮ้ย เราเพื่อนกันนะเว้ย เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม”

“หุบปาก” ผมพูดเสียงเย็นพลางมองหน้าลิน ปล่อยให้ตัวเองมองใบหน้าชั่วๆ จนเต็มตา ก่อนจะถอดแหวนหมั้นโยนไปทางเธอ “เอาไปทิ้งชักโครก”

“เรือ...”

“กูบอกให้เอาไปทิ้งชักโครก แล้วก็กลับมานี่”

ลินทำตามอย่างลนลาน พอเธอเข้าไปในห้องน้ำผมก็เงี่ยหูฟังพลางกะจังหวะ ดูว่าเธอจะชะงักบ้างมั้ย ปรากฏว่าเสียงชักโครกดังทันที แล้วเธอก็กลับออกมาพร้อมน้ำตา

“เรือ ฟังลินก่อนนะ”

ผมไม่ฟัง

“ทีนี้ถอดผ้าออก ทั้งคู่เลย...เร็วสิวะ!”

ต้องให้ตะคอกถึงจะยอม ไอ้เบสท์ถอดกางเกงออกทำให้เห็นว่ามันไม่ได้ใส่กางเกงใน ส่วนลินแค่ปลดปมผ้านิดเดียวผ้าขนหนูก็ร่วงกองกับพื้น

ทั้งคู่เปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าผม ต่างคนต่างใช้มือปิดส่วนสงวนไว้

“เอามือออก แล้วยืนดีๆ” พอทั้งคู่ละมือไว้ข้างตัว ผมก็หัวเราะทั้งที่ไม่รู้สึกขำ ปลายกระบอกปืนชี้ส่ายไปมาระหว่างที่พูด “ชอบกล้วยไข่เหรอวะลิน ฮะ? ชอบเล็กๆ แบบนี้ใช่มั้ย”

“ไม่...ไม่ใช่อย่างที่เรือคิด” เธอพูดอ้อมแอ้ม ยกมือขึ้นกอดรวบตัวเองอีก

“เอามือลง!” เจ้าตัวสะดุ้งและลดมืออย่างเก้ๆ กังๆ ให้ตายเหอะ ผมชอบผู้หญิงคนนี้เหรอ ทำไมดูไม่มีส่วนไหนน่าพิศวาสเลยวะ “มึงสองคนไม่รู้หรอกว่ากูคิดอะไร ก็เหมือนที่กูไม่รู้มาตลอดว่าพวกมึงคิดเหี้ยอะไรกันอยู่”

“เรือบ้างาน” ลินเชิดหน้าขึ้น เหมือนจะเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย “เบสท์เลยดูแลลิน”
   
“เออ ไปดูแลกันในนรกต่อดีมั้ย”

“เรือ คุยกันก่อนได้มั้ย ใจเย็นๆ”

“เออ เพื่อน วางปืนแล้วคุยกันดีๆ ก็ได้นะ” เบสท์พูดบ้าง

ความอวดดีของทั้งคู่ทำให้สติของผมกระเจิง ผมเริ่มเดินกลับไปกลับมาในระยะสั้นๆ เดี๋ยวยกปืนขึ้นเล็ง เดี๋ยวลดปืนลง เล่นเอาทั้งคู่ผวาเป็นระยะ

“เอากันซิ” ผมพูดในที่สุด

“อะไรนะ” ลินถาม

“ไม่ต้องเอากันลับหลังกูแล้ว เอากันต่อหน้ากูตอนนี้เลย” ทั้งคู่นิ่งอึ้ง ผมเลยปราดเข้าไปจ่อปืนใกล้ๆ “เดี๋ยวนี้!”

ลินเริ่มร้องไห้อีก เบสท์เลยดึงตัวเธอมาโอบเชิงปลอบมากกว่าจะดูหื่นกาม อึดใจหนึ่ง ความเงียบและปืนของผมก็กดดันให้เบสท์เริ่มจูบที่แก้มลิน โดยที่ตามันยังเหลือบมองปืนตลอดเวลา

“พวกมึงไม่ใช่คนแล้ว เอากันท่าหมาสิวะ”

“...”

“...”

พลั่ก!

ผมถีบเบสท์จนล้มไปนอนแผ่ ลินร้องกรี๊ดและถูกฉุดล้มลงไปด้วย

“นอนลงไป แล้วเอาท่าหมาให้กูดู!”

ลินเริ่มสะอื้นเบาๆ เบสท์ประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วพอหันมาเห็นปืนหรืออาจจะเห็นสายตาของผม มันก็กดไหล่ลิน ค่อยๆ จัดให้เธออยู่ในท่าคลานสี่ขา ส่วนตัวเองอ้อมมาคุกเข่าอยู่ด้านหลัง มือจับสะโพกเธอไว้

แต่มันก็แค่นั้น...

“เอาดิ รอเหี้ยไร”

เบสท์ซบหน้าลงกับแผ่นหลังบอบบาง สันกรามนูนเด่นจากการกัดฟันแน่น เนื้อตัวสั่นระริก

“กล้วยไข่ไม่สู้เหรอวะ แดกไวอากร้าสักกำเป็นไง”

“เรือ” เบสท์เงยหน้าขึ้นมา “ขอล่ะ เราว่าพอเหอะ คุยกันดีๆ”

“คุยกับตีนกูนี่”

ปึก!

ตีนผมถีบหน้าเบสท์เต็มๆ ส่งมันล้มหงาย ลินร้องตกใจและหดขาเข้ามากอดรวบไว้ ผมรีบก้าวถอยหนึ่งก้าวเพราะกลัวจะเตะเธอด้วยอีกคน และถ้าไม่ใช่เพราะน้ำตาที่ไหลอาบแก้มกับเสียงสะอื้นฮักๆ นั่นมือหรือเท้าผมก็อาจเหวี่ยงออกไปแล้ว

ผมเกลียดน้ำตาผู้หญิง

ตอนนี้สภาพของทั้งคู่แย่มาก เหมือนหมาจนตรอกที่ไม่มีทางสู้ ได้แต่ขดตัวร้องครางหงิงๆ

“ช่างแม่ง”

ผมเริ่มเดินกลับไปกลับมาอีก แล้วก็ตัดสินใจได้ “วันนี้ต้องมีคนตาย มึงกับกูมาตัดสินกันแบบลูกผู้ชาย” ผมวางปืนลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง “ใครเร็วกว่าก็รอด”

เบสท์เหลือบมองคล้ายกับไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วในที่สุดก็ลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ ผมอยู่ห่างจากปืนเกือบสองก้าว ขณะที่เบสท์ห่างแค่ก้าวเดียว

“นับสาม” ผมบอก

เบสท์ไม่พูดอะไร แววตามองล่อกแล่กเหมือนมีความหวัง ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการยอมรับเงื่อนไข ผมเลยเริ่มนับช้าๆ

“หนึ่ง”

“สอง...”

หมับ!

เบสท์คว้าปืนทันทีที่นับสอง กะไว้อยู่แล้วว่าหน้าตัวเมียอย่างมันต้องทำแบบนี้ ผมตะปบมืออีกฝ่ายและจับบิดแขนทันทีเช่นกัน เบสท์ลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง ตาเบิกกว้างเหมือนไม่เข้าใจว่าปืนที่คว้าไว้ได้แล้ว ตอนนี้กลับมาจ่อหน้าตัวเองได้ยังไง

ผมง้างนกปืน

“สาม” ออกเสียงนับดังๆ แล้วลั่นไก

“กรี๊ดดด!”

จากนั้นก็หันปลายกระบอกปืนไปทางลิน ผมไถลไปตามเส้นทางลาดชันนั้นไกลเกินกว่าจะห้ามปลายนิ้วตัวเองได้แล้ว และรู้ชัดแก่ใจว่า ที่ปลายทางนั้นคือนรกแน่นอน

   

   



“เรือ”

มือข้างหนึ่งวางลงบนบ่าผมในที่สุด แค่แตะเบาๆ ผมยังสะดุ้ง พูดอะไรไม่ออก

“โทษที เฮียมาช้า กว่าจะสลัดไอ้พวกหนอนได้ ขนาดทำคลิปจัดฉากก็ยัง...”

“รถระเบิด” ผมพูดเสียงเบา

“ใช่ ยังดีที่มาทัน...เรือ โอเครึเปล่า”

“จ่าวิทย์เป็นไงบ้าง” ใจผมอยากถามถึงสายธาร แต่ไม่กล้า

“จ่าวิทย์ไหน”

แสดงว่าพี่จ่าแกไม่ได้ชื่อจ่าวิทย์ ไอ้หมาป่ามันมั่วไปเอง

“สายของเราน่ะ”

“จ่าแอ๊ด ยังไหวอยู่”

“แล้วสายธารล่ะ เขา...” ผมไม่กล้าพูดต่อ เฮียยอช์ตหันกลับและเงียบไปอึดใจ

“น่าจะยังช็อกอยู่นะ”

ผมหันกลับเร็วจนเซเกือบล้ม อาการหน้ามืดจู่โจมผมชั่วครู่ จากนั้นภาพก็ชัด...

สายธารอยู่นั่น อยู่ในท่านั่งชันขาพาดศอกกับเข่า ศีรษะก้มนิดๆ สองมือกุมกันหลวมๆ ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าเพราะเขาถอดเสื้อไปรัดแผลห้ามเลือดให้มิกกี้ สีข้างด้านขวาเปื้อนฝุ่นมอมแมม แต่ยังดูครบสามสิบสองและยังหายใจ

ผมขยับอย่างเก้ๆ กังๆ ไปอยู่ตรงหน้าเขา

สายธาร

ชื่อของเขาดังอยู่ในหัวผม ดังก้องอยู่ในโลกที่ธารลาวาหลอมเหลวยังไหลเอื่อย ผมพูดไม่ออก ลำคอตีบตันเหมือนกินขี้เถ้าเข้าไป

แล้วผมก็ทรุดลง ดึงตัวเขาเข้ามากอด

เขาไม่ขัดขืนในทีแรก เกือบจะกอดตอบด้วยซ้ำ แต่แล้วเขาก็ค่อยๆ ผละออก ราวกับว่าเศษเหลี่ยมคมจากชีวิตที่ยับเยินของเราบดเบียดกันจนเขารู้สึกเจ็บ

ผมปล่อยตัวเขา เบี่ยงตัวนั่งข้างเขาในท่าเดียวกัน

“ใครก็ได้ แก้มัดให้หน่อยได้มั้ย” มิกกี้พูด ผมเพิ่งตระหนักว่ามีเขานั่งพิงเสาอยู่ตรงนี้ด้วย “โอย ขากู...”

ผมกลืนน้ำลาย แล้วหันไปถามสายธาร “เจ็บมั้ย”

“...” เขาเงียบ

“กูนึกว่ามึง...โดนลูกหลง”

“เออ นั่นดิ” มิกกี้เอี้ยวตัวมาพูดแทรก “เห็นแม่งล้ม นึกว่าโดนแล้ว เขาแย่งปืนกันอยู่จะเข้าไปทำไมวะไอ้เชี่ยธาร”

เขาวิ่งเข้ามางั้นเหรอ

เข้ามาช่วยผม?

ลาวาในอกผมสงบลงอย่างรวดเร็ว และถ้าไม่เห็นเลือดไหลซิบตรงข้างขมับเขาผมก็คงจะยิ้มไปแล้ว ผมใช้นิ้วเกลี่ยปอยผมตรงนั้นดูและเห็นรอยถากเล็กๆ

“มึงตั้งใจหลบใช่มั้ย” ผมถาม

เขาส่ายหน้านิดๆ ใช้หัวไหล่ปาดตรงหางตาและก้มลงตามเดิม คล้ายกับว่าเขาจะจมลึกเข้าไปในโลกส่วนตัวอีกแล้ว

ผมเงียบไปเหมือนกัน จากนั้นก็ปลดลูกโม่เทปลอกกระสุนเปล่าลงบนฝ่ามือ

“ปลอกเปล่า” ผมยังติดค้างคำอธิบายกับเขา แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ฟังก็เถอะ “ลินนอกใจกู กับเพื่อนกูเองที่คบกันมาตั้งแต่ประถม วันนั้นกูพกปืนบุกไปที่โรงแรม...แต่ไม่รู้คิดเหี้ยไร ถึงเอากระสุนออกก่อนจะเข้าไปในห้อง กูเลยแค่ยิงแห้งๆ ใส่หน้ามันสองคน หลังจากนั้นกูก็ไปยิงกระสุนจริงที่สนามซ้อม คิดเอาว่าเป้าคือลินกับไอ้เพื่อนเวรนั่น กูไม่ได้ทิ้งปลอกกระสุน ใส่ไว้ในปืนงี้แหละมาสองปีแล้ว วันไหนเซ็งๆ ก็เทออกมาดู”

ผมสูดหายใจเข้า พลางใช้นิ้วเกลี่ยปลอกกระสุนเล่น “สำหรับกูลินตายไปแล้ว ไอ้หมาป่านั่นก็เหมือนกัน...ไอ้หัวหน้าแก๊งน่ะ”

ตอนที่ไอ้หมาป่าหยิบปืนลูกโม่มาพลิกดูเล่น ถ้ามันสังเกตสักหน่อยก็คงเห็นว่าปลอกกระสุนในลูกโม่มีรอยบุ๋มที่ก้นแล้ว และมันก็จะไม่ต้องตาเหลือกตอนที่ผมลั่นไกซ้ำๆ ใส่หน้ามัน

มันตายไปแล้วสำหรับผม แม้ว่าตอนนี้เฮียยอช์ตจะใส่กุญแจมือไพล่หลังจับมันนั่งพิงฝาอย่างดีก็ตาม

“ตั้งแต่นั้นกูก็อยากยิงคนอยู่ตลอด เหมือนมันยังไม่จบ” ผมพูดต่อ “หลอกตัวเองยังไงก็ไม่ได้ กูเลยลาออกจากตำรวจ ไม่อย่างนั้นคงได้ยิงใครสักคนที่แค่จอดรถในที่ห้ามจอด...คดีพี่ภาณของมึง เป็นคดีสุดท้ายที่กูต้องทำ แต่ตอนนั้นกูก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”

สายธารยังเงียบอยู่ 

“สายธาร...” ผมตะแคงศีรษะเพื่อมองหน้าเขา แต่ก็เห็นไม่ถนัดเพราะเขาก้มต่ำมาก

“...”

“กูขอโทษ”

“ตำรวจเหี้ย” ในที่สุดเขาก็พูดมาคำนึง

ผมกลับมานั่งตัวตรงตามเดิม สายลมยามสายพลิ้วผ่านช่องผนังแตกๆ เข้ามา กลิ่นคาวเลือดคลุ้งผสานกลิ่นอับเก่าของสถานที่รกร้าง จนตอนนี้ผมยังนึกฉงนว่าเราทุกคนมาลงเอยอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ไม่ได้หมายถึงแค่มาอยู่ในบ้านร้าง แต่รวมถึงจุดที่เรายืนอยู่บนเส้นทางแห่งชีวิตด้วย

เฮียยอช์ต ทายาทนักธุรกิจรุ่นใหญ่ แต่กลับอยู่ในโหมดตำรวจนอกเครื่องแบบเดินสำรวจศพ

มิกกี้ น่าจะนอนกกสาวอยู่ที่ห้อง กลับต้องมาติดร่างแหจนถูกยิง และตอนนี้ก็กำลังบ่นเรื่องตะคริว หิวน้ำ และขอให้คนแก้มัด

สายธาร น่าจะได้มีความสุขกับแฟนอย่างที่วาดฝัน กลับถูกโชคชะตาบดขยี้จนแตกสลาย

และตัวผมเอง

ตัวผมที่...

ความกลวงเปล่าขยายกว้างในตัวผมก่อนรอยยิ้มเสียดเย้ยจะผุดที่มุมปาก ไม่มีคำไหนเหมาะที่จะอธิบายเส้นทางที่ผมเดินมาได้ทั้งหมด แต่ก็มีคำหนึ่งที่อาจใกล้เคียงอยู่บ้าง

“ชีวิตเหี้ย” ผมพูดเบาๆ แล้วหันไปแก้มัดให้มิกกี้










_________________



ฮื่อ พี่เรือสมัยก่อน T T
ก่อนจะเป็นคนที่ดีขึ้นแบบทุกวันนี้
ก็เจ็บปวดมาเยอะเลย

ขอบคุณที่อยู่กับพี่เรือใบมาจนถึงตอนนี้นะคะ
อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่ะ ล่องเรือกันมาไกลมากเลย
ดีใจมากจริงๆ ค่ะ
ดีใจที่เรื่องนี้ทำให้ได้มาเจอนักอ่านที่น่ารักอย่างทุกคน T T


นางร้าย
14.09.18




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2018 21:19:49 โดย นางร้าย »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น่าเห็นใจธารนะ เสียคนรักไป แถมตำรวจที่ทำคดีอย่างเรือใบก็ไม่ใส่ใจอีกด้วย  :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด