His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]  (อ่าน 34765 ครั้ง)

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

=================================================================
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



==================================================================






His Dears Hunter   :  ภารกิจพิชิตชายชู้

ความแค้นที่ต้องสะสาง
เมื่อสามีแอบหนีไปมีผัว..
เตือนตัวเองให้ลืมความชอกช้ำจากน้ำมือคนชั่ว
แล้วไปยั่วเย้า จับชู้เหล่านั้นมาทำเมีย ให้จงได้

ฟ้าถล่มยามรู้ว่าแฟนที่คบกันมา สามปีขอเลิก
ความแตกว่าแอบไปเล่นชู้ถึง สามคน
แถมยังไปเป็นเมียเขาอีกต่างหาก

โมดิฟายตัวเองเสียใหม่
ตามล่า จีบผัวของผัว
ยัดเยียดตำแหน่งเมียให้พวกมัน
เพื่อความสะใจ และก้าวต่อไปในโลกที่โหดร้าย

ความพยาบาท ไม่ใช่ของหวาน
แต่ ความพยาบาทคือ อากาศ ที่ต้องสูดดมทุกวัน..



                                                           By Tofu Chan [ โตฟูจัง ]




==================================================================

ผลงานผู้เขียน


นิยาย


Love of 1999 : มารักกัน.. ก่อนวันสิ้นโลก


=================================================================

เรื่องสั้น


หมอนวดชาย


เสวนาในบาร์เบอร์

==================================================================


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2020 12:38:28 โดย TofuChan »

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

Preface  : มันคือภารกิจด่วนครับ ท่านผู้อำนวยการ !!


“ท่านผู้อำนวยการคะ ลูกค้าวีไอพีที่นัดไว้ มาเข้าพบท่านตามเวลาแล้วค่ะ”

“คุณนที ใช่ไหม เรียกเข้ามาได้เลย”

“คุณนทีคะ เชิญค่ะ”




“สวัสดีครับ ท่านผู้อำนวยการ”

“นั่งลงก่อนสิครับคุณนที ต้องขออภัยที่ต้องให้ลำบากมาหา ผมอยากเข้าใจตรงกัน เลยต้องเชิญมา”

“ยินดีครับ”

“ภารกิจที่ว่า มีเวลาให้ สถาบัน โจนาธาน นอร์แมน พาวเวอร์ ช่วยอบรมคุณได้นานแค่ไหนครับ”

“หกสิบวันครับ”

“ขอมากกว่านั้นได้ไหม จากบุคลิกภาพของคุณนที ต้องขออภัยที่ต้องแจ้งว่า น่าจะสัก เก้าสิบวันขั้นต่ำ”

“ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นครับ ผมยินดีจ่ายเพิ่ม”

“แล้วเริ่มได้เมื่อไหร่ครับ หลักสูตรที่คุณนทีร้องขอมา ไม่มีในสถาบันเรา คงต้องประชุมและร่างแบบฝึกกันใหม่”

“ตอนนี้ หน้าผมเริ่มยุบแล้ว คุณหมอที่เกาหลีใต้แจ้งว่า ยังไม่ให้ออกกำลังกายหนักมาก ผมเลยขอเป็นสิ้นเดือน”

“อีกยี่สิบวัน  อืม  ผมคิดว่า เราจะระดมผู้เชี่ยวชาญร่างหลักสูตรด่วนขึ้นมาได้ทัน เพื่อคุณนทีโดยเฉพาะเลย”

“ผมหวังว่า จะได้รับการเปลี่ยนแปลงจนพอใจครับ อย่างที่ผมบอก ผมพร้อมจ่าย”

“ทางเราคิดเงินแค่ตามสมควรนะครับ แต่รับรองได้ว่าคุณจะมี อกที่ผาย ไหล่ที่ผึ่ง เดินเหิน วางท่าที ได้สมาร์ท เอ่อ..”

“พูดมาเถิดครับ”

“ก้นจะไม่บิดเวลาเดิน ไม่จีบปากจีบคอ  เอาให้ตรงเลยก็คือ คุณนที จะมีความเป็นแมนสมใจ”

“ครับ นี่เช็คที่ผมเตรียมมาวางมัดจำ แล้วสิ้นเดือนเจอกันนะครับ ท่านผู้อำนวยการ”

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep   1 : ลากไส้มันออกมา


- หกเดือนก่อน

ห้องจัดเลี้ยงชั้นใต้ดินสุดหรู พร้อมป้าย “ปาร์ตี้ฉลองความโสด” แขวนตัวหรา
นอกจากบริกรสาวสองคน ก็มีกลุ่มนักศึกษาเพียงสี่คนที่นั่งกันอยู่บนโซฟากำมะหยี่ ซึ่งเพื่อนของผมเพิ่งอ๊วกใส่ไป 
สีอ๊วกอมเหลือง บนผ้าบุโซฟาสีม่วง มันช่วงตัดกันดีราวกับผลงานภาพเขียนของแวนโก๊ะอยู่ไม่น้อย

ผมเรียกเหล่าคนสนิทมา หลังจากที่ผมเพิกเฉยเพื่อนพ้องไปแสนนานถึงสามปี ก็แหม คนติดแฟนจะให้ทำยังไงได้ครับ เอาล่ะ วันนี้กะเลี้ยงพวกมันเต็มที่ อย่าหาว่าตบหัวแล้วลูบหลังเลยนะเพื่อน กูแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว

“ไอ้น้ำ นี่ถ้าไม่โดนไอ้กัสทิ้ง กูจะได้เห็นหน้าเห็นตามึงตามผับบาร์ไหมวะ”  เอาย้ำเข้าไป ไอ้พวกเพื่อนเชี่ย

“กูก็อยู่ตรงนี้กับพวกมึงแล้วไง  เอาเว้ย เอาให้เมา ใครกลับไม่ไหว กูเปิดห้องสวีทไว้ให้ ไปนอนแผ่สองสลึงกับขึ้นบนเลย”



เหล้าแบรนด์นอกที่เสิร์ฟจนบริกรมือล้า กับอาหารหรูหราตรงหน้า มันไม่ได้ทำให้ผมคลายจากเรื่องที่อยู่ในใจไปสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ มันคงต้องมีเพียงเสียงเพลง และเพื่อนฝูง เพราะว่ามันเป็นคืนแห่งการฉลองความโสด

“แล้วนี่น้ำอาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม หลิวโทรไปน้ำก็ไม่รับ” ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“อืม น้ำก็กำลังทำใจ แต่มันค้างคาใจว่า ทำไม  น้ำทำอะไรผิดวะ น้ำไม่เข้าใจเลยว่ะหลิว”

“เอ้ย มึง อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป รวยล้นฟ้าอย่างมึง เดี๋ยวก็หาเอาใหม่” เอ เพื่อนรักอีกคนช่วยปลอบ แต่ดูแล้ว ไอ้เอนี่อยากให้ผมโสดที่สุดแล้ว เพราะเมื่อก่อนผมกับมันนี่ออกเที่ยวกันทุกคืน มันคือเจ้าของ อ๊วกสไตล์แวนโก๊ะ เมื่อสักครู่

“แต่กูไม่อยากได้คนที่หวังแต่เงินของพ่อกูว่ะ”

“ไม่รอเขาหน่อย เผื่อเขาอาจคิดได้แล้วก็กลับมา” ตูน มึงยังคงโลกสวยไม่สร่างซานะไอ้ตูน มันใช่เวลาไหม

“ถ้าเขาเลือกที่จะไป เขาคงไม่กลับมาแล้วว่ะไอ้ตูน นี่แมร่ง ย้ายของออกไปหมดแล้ว”

“อ้าว แล้วมันไปอยู่ไหนล่ะวะ” เอ เอ่ยถาม “ปกติก็แมร่งไม่เห็นมีบ้านจะอยู่ ตั้งแต่มึงหิ้วมันจากเธค ก็แจ้นย้ายมาอยู่กับมึงยาวเลยนี่”  เชี่ยย  ความจำมึงนี่นะสุดยอดนะไอ้เอ ขนาดมึงเมาจนทำโซฟาโรงแรมด่างไปแล้ว

“กูให้กุญแจคอนโดที่สาธรไป เผื่อมันยังต้องใช้ เดี๋ยวหางานได้ แล้วค่อยย้ายออกไป อันนี้กูไม่ถือ”

“แกช่างดีงามจังเลยน้ำ” หลิวเอามือมากุมที่มือผมเป็นการปลอบประโลม ตามประสาเพื่อนรัก

“แล้วถ้ามันไม่ย้ายออกล่ะ” มึงนี่ก็ช่างปั่นว่ะไอ้เอ

“กูก็ไม่ว่าอะไร คอนโดกูเยอะแยะ”

“เออ กูรู้ว่ามึงรวย ไอ้ลูกท่านนายพล แต่ไม่ได้หมายความว่า มันจะเอาแฟนใหม่มันมาล่อกันในห้องมึงได้นะ” เอสวนกลับ

“แฟนใหม่..  มันมีแฟนแล้วเหรอ”

“.........”

“เฮ้ย อย่าเงียบกันไปหมด พวกมึงรู้อะไรมา เล่ามาเลย”

“เอ อย่าเพิ่งเหอะ ไม่ใช่วันที่เมากันอย่างนี้” ตูนปรามไอ้เอ ที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย

“ก็ได้ ถ้าพวกมึงไม่บอก  กูจะถือว่า กูเสียแฟนแล้วกูก็จะเสียเพื่อนไปด้วย กูจะเลิกคบให้หมดเลย”

“อย่าทำอย่างนี้เลย  กำลังโมโห  อย่าเอาอารมณ์มาพาลใส่ พวกเราก็เป็นห่วงน้ำนะ” หลิวหันไปมองเอ อย่างคาดโทษ

“เออ ๆๆ ไอ้น้ำ กูเองที่ปากเสีย กูขอโทษ  ไว้มึงหายเมา กูค่อยทยอยเล่าให้มึงฟังอย่างละเอียดทีละคนแล้วกัน”

“ทีละคน.. มันไม่ได้มีคนเดียวเหรอ”  ผมถามกลับ  มีอะไรทำให้ผมตกใจไปกว่านี้ได้อีกไหม  คืนวินาศสันตะโรอะไรกันเนี่ย

“เชี่ยยยยย”  เอ ดูร้อนรนที่ตัวเองเผลอพูดออกมาอีกระลอก จนเพื่อนที่เหลืออีกสองคนต้องทำหน้าดุใส่มัน

“หลิว  ตูน  เอ..  พวกมึงรักกูไหม  เอาจริงๆ”

“รักสิ” ทีงี้ ตอบพร้อมกันล่ะแมร่ง พอให้เล่าความจริง เสือกอ้ำอึ้ง

“กูขอให้พวกมึงบอกทุกอย่างให้กูฟัง แล้วกูจะลืมมันไว้ตรงนี้ ไว้ที่ใต้ถุนโรงแรมนี้ กูจะลืมไอ้กัสให้สิ้นซาก”






เสียงเพลงที่ถูกผมสั่งหยุดไปได้สักพัก แต่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ยังมี มิวสิควีดีโอ พร้อมตัวหนังสือคาราโอเกะวิ่งวนไป เพลงแล้วเพลงเล่า  ประสาทสัมผัสผมแทบจะไม่มีเหลือ เกลี้ยงพอกับแก้วเหล้าตรงหน้า  แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะร้องไห้จนน้ำตาแทบจะหมดต่อม  เหมือนเส้นเอ็นที่เกาะอยู่รอบลูกตามันปวดไปหมด น้ำมูกไหลจนสูดแล้วสูดอีก อยากจะอาเจียนเอาสิ่งที่อั้นอยู่ในท้องออกมาให้หมด ตอนนี้มันก็เอ่ออยู่ปริ่มคอหอยแล้วด้วยสิ

“กัสมันมีแฟนใหม่แล้ว”
“กัสมันแอบเล่นแอ๊พ แล้วนัดเจอคนนั้นคนนี้”
“กัสมันมันเดทกับคนชื่อกันต์อยู่”
“คบคนอื่นระหว่างที่คบมึงนั่นแหล่ะ”
“เฮ้ยย ไม่ใช่นะ กับกันต์ นี่เลิกกันไปแล้ว กูเห็นว่า มันเดทกับคนชื่อจิมมี่”
“มันยังไปนัดมีอะไรกับคนตามสวนธารณะตอนดึกด้วย”
“ตอนมันเบี้ยวนัดมึงเมื่อวาเลนไทน์  มันก็ไปเดทกับผัวใหม่ของมันอยู่”


เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆ   เบรก แป๊บ นะพวกมึง !!!!! 

“ผัว”

“........”

“เล่าเดี๋ยวนี้”

“....................”

“กูบอกให้เล่าเดี๋ยวนี้”

“..................................”

“มึงไม่รักกูใช่ไหม ทำไมปล่อยให้กูโง่คนเดียว”

“พวกเราก็สืบอยู่นะน้ำ”

“ไม่ต้องเลยหลิว  ไม่ต้องมาจับตัวน้ำ ปล่อย”  ผมรู้ว่าผมพาล แต่มันโมโหชะมัด

“กูเอง กูเล่าเอง”

“พอเหอะ เอ แค่นี้ไอ้น้ำมันก็รับไม่ไหวแล้ว ไว้วันอื่น ค่อยเล่า” ตูนหันไปปรามเอ ที่กำลังจะไขความจริงให้ผมฟัง

“ตูน กูขอ ให้มันได้เล่า  กูไม่อยากเป็นคนโง่ไปอีกแม้แต่วันเดียว  กูไหว้พวกมึงแหล่ะ”

“ไอ้น้ำ  แฟนใหม่ของไอ้กัส..  มันล้วนแต่เป็นรุก”



เช้าวันใหม่..  เอ่อ ต้องเรียกว่า ตะวันโด่ง เพราะว่า ไอ้เอยังหัวทิ่มอยู่ที่ขอบเตียง  หลิวนอนสลบอยู่ที่โซฟา  มีเพียงตูนที่เอาจานครัวซ็อง มาวางไว้ที่หัวเตียง แล้วส่งแก้วน้ำส้มมาให้ผม  แอร์เย็นฉ่ำในห้องสวีทหรูของโรงแรม ห้องตกแต่งแบบทันสมัยแต่ใช้โทนสีขาวในเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น

“ดื่มหน่อยนะน้ำ จะได้สร่าง”

“ขอบใจว่ะ”  ผมยกแก้วนั้นผ่านริมฝีปาก น้ำส้มสดไหลผ่านลำคอลงไป ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเวียนหัวอยู่

“เดี๋ยวกูต้องกลับก่อน ตอนบ่ายต้องแวะไปมหาลัย อาจารย์จะให้กูไปเตรียมตัวแข่งทำหนังสั้นประกวด”

“อืม แล้วไอ้พวกนี้ล่ะ”

“เดี๋ยวจะปลุกหลิว กูไปส่งเอง แต่ไอ้เอ น่าจะต้องให้มันนอนอีกสักพัก”

“เออ ไว้เจอกัน กูว่าจะนอนอีกหน่อย”

“น้ำโอเคนะ”

“กูโอเคแล้วตูน ขอบใจว่ะเพื่อน”



แสงแดดลอดผ้าม่านสีขาวทึบซึ่งดูดความสว่างไว้สนิทเมื่อเช้า พอชักรอกเปิดออกมาเผยวิวที่สว่างไสวสวยงามของมหานครฝั่งตะวันออก  มีแม่น้ำกับตึกสูง แดดทะลุผ่านม้าม่านตะข่ายชั้นในออกมา  ผมเดินไปเปิดออกจนหมดเหลือเพียงกระจกใส ตัวผม และไอ้เอผู้ซึ่งตอนนี้กำลังซดน้ำส้มที่ตูนเตรียมไว้ให้ กับขนมปังก้อนโตและข้าวต้มเครื่องชามใหญ่

“มันคบกันระหว่างที่อยู่กับกูเหรอ”  ผมเอ่ยถามคนที่นั่งพิงหัวเตียงด้วยกัน

“คนไหนล่ะ”

“ไม่ตลก”

“อืม เท่าที่รู้มานะ”

“มันเจอกันยังไง”

“คนแรก ก็รู้จักกันตั้งแต่คบกับมึงได้สักปีกว่าแล้ว ชื่อกันต์”

“แล้วพวกมึงก็ไม่เล่าไม่บอกกูเนี่ยนะ”

“มึงต้องรับรู้ความอึดอัดของพวกกู”

“เออ กูเข้าใจว่ะ”

“หลิว กับ ตูน นี่ห่วงมึงมาก”

“แล้วมึงล่ะ”

“กูแค่คิดว่า หล่อแบบมึง เดี๋ยวก็หาใหม่ได้  เอาจริงๆ กูยังอยากให้มึงกลับไปเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ”

“คงไม่ได้แล้วว่ะเอ กูขอโทษ  มึงคงหมดสนุก ตอนกูมาคบกับกัส”

“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ว่า มึงเคยเป็นผู้ชาย เคยจีบสาวกับกูตอนมอปลาย แล้วพอมึงเป็นแบบนี้ กูก็แค่คิดว่า..”

“... คิดว่าอะไร”

“คิดว่า มึงแค่ชอบไอ้กัส  ถ้าหมดไอ้กัสไป มึงอาจกลับไปเป็นผู้ชายอีกครั้ง”

“ไม่น่าจะทันแล้วว่ะเพื่อน กูขอโทษมึงจริงๆว่ะ  แล้วก็ขอบคุณที่มึงดีกับกูเหมือนแต่ก่อน ก่อนกูมีกัส”

“แล้วนี่จะเอายังไง”

“ก็เริ่มต้นใหม่ นี่ไปสมัครฟิตเนสไว้ จะลดน้ำหนัก  แล้วก็จะนัดหมอเฉลิมทำหน้า”

“โหว คนจริงนี่หว่า ดีๆๆ กูสนับสนุน  เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน”

“เอาดิ เดี๋ยวกูสมัครเมมเบอร์ให้มึงด้วย”

“มึงใช้เงินแบบนี้หรือเปล่า กัสมันเลยเกาะมึงเป็นปลิงอยู่ตั้งสามปี”

“มันก็ไม่ได้อะไรไปจากกูเท่าไหร่นะ  อยู่ด้วยกันเรากินเที่ยวกัน  โอเคไปเมืองนอกบ่อยก็จริง แต่กูว่ามันก็น่าจะรักกูไม่น้อย”

“ถ้ามึงคิดอย่างนั้นก็ดี”

“นี่กูยังตกใจ ที่มันมีแฟนเป็นรุก”

“แล้วปกตินี่ มันอยู่กับมึง มันไม่เคยรับเหรอ”

“มันรุกกูตลอด นี่แหล่ะที่กูงง”

“คนเรามันเปลี่ยนกันได้”

“มันอาจแค่ชอบไอ้คนที่ชื่อกันต์มาก เลยยอมทุกอย่าง”

“กูว่าไม่นะ”

“หมายความว่าไง”

“ดูมันจะชอบมากด้วย  จะเป็น ไอ้สจ๊วตที่ชื่อกันต์ หรือ ทหารที่ชื่อจิมมี่ ยังไม่รวมคนล่าสุดของมัน  มันเป็นรับให้ทุกคน”


ผมเอามือกุมหน้า ไม่รู้ว่า เรียกว่าอับอาย หรือเรียกว่าหน่ายใจ
ผัวกู ไปเป็นผัวคนอื่นหรือนี่  แถม ไปมีผัวใหม่อีกตั้ง สามคน

“แล้วมันก็ไม่ได้ชื่อกัสแล้วนะ”

“ห๋า..”

“มันชื่อ น้องออ”

“เชี่ยยยยยย”

“ตอนอยู่กับมึง ยอดชายนายออกัส ให้เรียกกัส  แต่ตอนอยู่กับรุกทั้งหลาย นางชื่อ น้องออ จ้า”

ผมเอาหน้าตัวเองฟาดลงไปบนหมอนขนเป็ดแรงๆ  เขกมันซ้ำ ๆ ย้ำๆ ให้เห็นถึงความโง่ของตัวเอง
ออ เมียของชายอื่น คือ กัส ผัวของผม    ไอ้สัส






ในคฤหาสน์หลังใหญ่  พ่อผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงห้องโถง  ผมเข้าไปกอดอ้อนเหมือนอย่างทุกทีที่ทำความผิด  สำหรับงวดนี้ คือการรูดบัตรเครดิตจนเต็มวงเงินแล้วก็เมาปลิ้นแบบเมื่อคืน

“พ่อ น้ำขออะไรหน่อยสิ”

“บัตรเอเม็กซ์ใบใหม่อยู่ที่โต๊ะน่ะ ส่วนวีซ่า กับ มาสเตอร์การ์ด เดี๋ยวให้นุดีไปจัดการปิดยอดให้”

“พ่ออ่ะ เห็นน้ำเป็นคนยังไง ไม่ใช่เรื่องเงินนะครับ”

“งั้นไม่เอาใช่ไหม เอเม็กซ์ใบใหม่”

“เอาสิ แต่มันไม่ใช่ประเด็น” กูเกือบไป  หวิดไม่มีบัตรใช้แล้วไหมล่ะ

“ว่ามา”  พ่อพลิกหนังสือพิมพ์หน้าถัดไป แต่เหลือบตามองผ่านแว่นมาที่ผม

“ก็ไม่มีอะไรหรอก กะว่าจะยืมทีมสืบสวนของพ่อหน่อย”

“เอาไปทำอะไร  สืบเรื่องแฟนเก่าเหรอ”   เห้ยยยย พ่อกู  หรือท่านอาจารย์ลักษณ์ เลขานิเทศ

“อืม ใช่ครับ  ครั้งหลังสุด พ่อใช้งานพี่อำนาจเมื่อไหร่ล่ะ”

“ก็ตอนสืบ เรื่องลูกเลิกกับแฟน”  ชิบหาย  เหงื่อกูเริ่มตกแล้ว

“พ่อก็ ไหนบอกว่า จะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ของน้ำไง”

“ก็ไม่ได้ยุ่ง แต่ดูอยู่ห่างๆ  ไว้เบญจเพสแล้ว จะทำอะไรก็ทำ  แต่ตอนนี้ยังต้องอยู่ในกฎของพ่อ”

“ครับ”

“แล้วจะใช้งานพี่อำนาจเขาเมื่อไหร่ล่ะ”

“เร็วที่สุดครับพ่อ”



ผมทอดตัวเอนนอนลงบนเตียงของผม ในห้องชั้นบนของคฤหาสน์  ตอนพ่อปลูกบ้านหลังนี้ใจกลางซอยทองหล่อ พ่อถามว่าจะเอาห้องไหน  ผมชี้ไปที่ห้องบนสุด  ผมเคยดูเรื่อง โรมิโอ แอนด์ จูเลียต เวอร์ชั่น ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปิโอ แล้วรู้สึกว่า อยากมีระเบียงเป็นของตัวเอง ให้ใครสักคนปีนเข้ามา

ในห้องมีแต่กรอบรูปอันว่างเปล่าอยู่เต็มไปหมด เพราะผมแกะเอารูปถ่ายคู่ของผมกับกัส ซึ่งบัดนี้กลายเป็นน้องออ เผาทิ้งไปแล้ว แต่กรอบยังต้องเก็บไว้ เพราะซื้อมาจาก ร้านทิฟฟานี่ ซึ่งแพงมาก 

คงเหลือแต่เพียง หมอนอิงรูปหมีสีเหลืองใบหนึ่ง ที่ใครเคยซื้อให้ผมเป็นของขวัญ สิ่งแทนใจราคาถูก แต่ผมยังคงเก็บมันไว้ เพราะเขาให้มันในวันที่บอกกับผมว่ารัก  ผมเอาหัวหนุน พยายามทำจิตใจให้ว่าง ข่มตาให้หลับไป





พี่อำนาจทำงานเร็วมาก ส่งข้อมูลที่ผมต้องการได้ภายในไม่กี่วัน 
แกเป็นนายทหารสูงโย่งพันธุ์ดุ หน้าตาไม่เคยยิ้ม ทั้งที่ออกจะหล่อเหลา แต่เรื่องสืบข่าวนี่ไม่เป็นรองใคร อีกทั้งยังเป็นได้ทั้งบอดี้การ์ดให้พ่อผมตอนเดินทางไกล ผมจะอุ่นใจถ้ามีพี่อำนาจคอยอารักขา

พ่อของผมไม่ใช่มาเฟีย  แต่ว่าท่านเป็นนายทหารใหญ่  เรียกได้ว่าใหญ่มาก จนนักการเมืองต้องมายืมเงินกันบ่อยตอนเลือกตั้ง  ถามว่า ท่านรวยมาจากไหน  รวยมาจากบ้านฝั่งคุณแม่ผมครับ  เพียงแต่ แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว
พ่อของผมยังไม่มีภรรยาใหม่  น่าจะมีคนพยายามเข้าหาท่านอยู่เป็นนิจ ก็ท่านยังดูดีเมื่อเทียบกับอายุ ความหล่อนี่ได้ลูกมาเต็มๆ  แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง  แต่พ่อก็ทำแต่งานหนัก ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ พ่อโหมสร้างธุรกิจใหม่ๆ ไปอย่างนั้น แต่ดันออกมาดี แถมยังสำเร็จไปทุกอย่าง  เงินเหลือใช้ไม่ขาด พ่อไม่ได้มีธุรกิจมืด  ธุรกิจเราคลีน
พ่อแค่ทำแบบเหงาๆ ของเขา  มีพวกทนายส่วนตัว กับ พลทหารที่สนิท  พี่อำนาจ และ เลขาผู้ใจดี คือพี่นุดี คอยช่วยงาน




====================================================

รายงานลับ  ภาคพื้นดิน ภารกิจพิเศษ
นาย อนุสรณ์ บวรธุรการ [ ออกัส ]

Title         :  ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเชิงชู้สาว
Results    :  มีความสัมพันธ์แบบเปิด  ไม่ผูกพัน กับ บุรุษเพศ สามคน

                คนที่ 1 ชื่อ   นายกันต์ณรงค์  วงศ์ประเสริฐ  [ กันต์ ]
                                      อาชีพ  พนักงานภาคพื้นสายการบิน

=====================================================

รายงานยาว 6 หน้า A4 ทั้งที่อยู่ รายละเอียด ชื่อพ่อแม่ ไม่รวมถึงรสนิยม ความชอบ  พี่อำนาจนี่ไว้ใจได้เสมอ

อ้าว คนชื่อกันต์ ไม่ใช่ สจ๊วต  แต่เป็น กราวนด์ 
เอาล่ะสิ งั้นก็รู้ที่ทำงานแล้ว จะลองไปดูหนังหน้ามันหน่อย ในรูปก็ถือว่ามันหน้าตาดี ถ้าเทียบกับภาพจากบัตรประชาชน มันก็เอาอยู่ เออ..คงจะหล่อจริงว่ะ 
เอ๊ะเดี๋ยว  ภาพแอบถ่ายที่ซูมมาใกล้  ที่ข้อมือมัน นี่มัน Tag Heuer ที่เคยขอกูใช่ไหม ไอ้กัส มึงเอาไปให้มันใส่เหรอ  รุ่นฟอร์มูล่า หน้าจอสีน้ำเงิน ไอ้ส้นตีน กว่ากูจะตามหาให้มึงได้ หมดไปร่วมแสน   

ไฟแค้นมันสุมทรวงเข้าแล้ว  แต่ผมก็พยายามทำใจ ผมเลือกคนผิดเอง ความคิดที่จะแอบไปดูหน้าตัวจริงของกันต์ ก็โดนสติฝ่ายดีของผมมาหยุดไว้ เอาล่ะ เอาเป็นว่า ผมจะหยุดมันไว้แค่นี้
แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เล่นตลก  นรกเล่นละคร  กัสโทรมา...

“ว่าไง”

“เธอเป็นไงบ้าง”

“ก็ดี”

“หายโกรธกัสแล้วเนอะ”

“หึ”

“คิดถึงเธอจัง”

“มีอะไรหรือเปล่า”

“กะจะบอกว่า ขออยู่ที่คอนโดอีกสักพักนะ”  ในใจผมก็เริ่มชื้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า อยากได้ยินคำบางคำ

“อืม”

“คือ กัสกำลังจะได้งานแล้ว เป็นกราวนด์”

“อาฮะ”

“เดี๋ยวกัสก็จะย้ายไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน เธอรอหน่อยนะ กัสย้ายออกแน่นอน”  น้ำตาผมปริ่ม แต่พยายามเก็บอาการ

“อืม”

“ดูแลตัวเองดีๆนะ ไปก่อนนะ ไว้คุยกัน”   แล้วเขาก็วางสายไป

ไม่มีคำพูดคำนั้น..  คำที่บอกว่า  เรากลับมาดีกันนะ  ไม่มีแม้แต่วลีเดียว...



ค่ำของวันนั้น ผมเปิด app มือถือ เป็นภาพกล้องวงจรปิด พร้อมเสียงไมโครโฟน ที่ซ่อนไว้ที่หลอดไฟกลางห้องของคอนโดซึ่งให้ใครบางคนยืมพักอาศัย  ก่อนหน้านี้ผมให้ลูกน้องพ่อไปติดไว้ก่อนเขาจะย้ายเข้าไปอยู่ ผมทรุดลงไปนั่งข้างเตียง กลัวกับสิ่งที่กำลังจะเห็น หวาดกับสิ่งที่กำลังจะได้ยิน  แต่ผมคิดว่า ผมก็แข็งแรงพอแล้ว  ผมกดแอ๊พ Panoramic 360 องศา แล้วรอเวลา

“ออรู้  ออก็คิดถึง”  เสียงออดอ้อน สาวแตก แถมยังเรียกตัวเองว่า ออ แบบที่ไอ้เอมันเล่าทุกประการ

“ใช่ เดี๋ยวคงย้ายไปอยู่ด้วยกันเร็วๆนี้แหล่ะ ตัวรอเค้าหน่อยนะ ออจะรีบ  นะๆๆ”  สะดิ้งสะดิ้งมากมายยิ่งนัก อดีตสามีกู

“คิดถึงสิ ไม่คิดถึงได้ไง  ไม่เคยนอนคิดถึงใครขนาดนี้มาก่อน คิดถึงๆๆๆ”  กูจะเป็นลม นี่เสียงผัวกูเหรอเนี่ย

“รักมากกกกก รักที่สุด รักแบบที่ไม่เคยรักใคร อยากไปอยู่ด้วย คิดถึงลีลาอันเด็ดดวง โอ๊ยลืมทุกคนที่ผ่านมาเลย ตัวเองคือชายเหนือชาย ที่ออคิดถึงทุกลมหายใจ”

โทรศัพท์ที่เปิดลำโพงของผมร่วงลงกับพื้น  ผมเอื้อมไปปิดมันเพราะไม่อยากฟังต่อ  ผมร้องไห้เป็นเผาเต่า
แล้วสัญญากับตัวเองว่า..  พรุ่งนี้ ผมจะเป็นคนใหม่



ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

Prep  2 : The Brand New Me ! อย่าให้เขารู้ ว่าฉันเคยเป็นใคร

เห็นทีตารางฝึกที่เซ็ทไว้คงไม่พอเสียแล้ว  ผมจัดแอดวานซ์เข้าทุกคอร์ส  ตายเป็นตาย งานนี้ นายนที ขอลุย

รายการที่ต้องทำกับร่างกายเป็นการด่วน

1.   ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม จาก 75 ให้ได้ 65  เพราะต้อง เพิ่มกล้ามเนื้ออีก 5 กิโลกรัม
2.   ไข่ขาว ไข่ขาว ไข่ขาว
3.   อกไก่ปั่น  อกไก่ปั่น อกไก่ปั่น
4.   ไม่แตะแอลกอฮอล์ทุกชนิด
5.   ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ของหวาน ยกเว้นวันหวยออก
6.   ไม่ให้มีคาร์โบไฮเดรทเข้าปากหลังหกโมงเย็น
7.   เช้าโยคะ  สายคลาสแดนซ์  บ่ายงานแขนขา เย็นว่ายน้ำ ค่ำงานหน้าท้อง โดดเรียนให้มากที่สุด
8.   ห้ามเล่นมือถือ
9.   ปรึกษาแพทย์เรื่องผิวที่อาจแตกจากน้ำหนักที่ขึ้นลงเร็ว
10.   เลิกอ่านนิยาย

ผมใช้ฟิตเนสของคอนโดคงไม่พอ จึงไปสมัครฟิตเนสในเครือของหลิวเพื่อนรัก ซึ่งครอบครัวของนางเพิ่งเปิดได้สามสาขาอยู่ตามห้างใหญ่ มีพี่ชายของหลิวผู้ที่กลับจากเมืองนอกมากช่วยเป็นผู้จัดการ  อืมพี่ไผ่ ไม่ได้เจอนานแล้วเหมือนกัน ตอนเด็กนี่แกล้งผมประจำ  หลิวกับผมสนิทกันมาก นางจึงเป็นชะนีน้อยคนเดียวในกลุ่ม 

ผมกับเอ เรียนพีอาร์ [ ประชาสัมพันธ์ ]  ส่วน หลิวกับตูน เรียน บีซี [ บอร์ดแคส ]
ผมกับต้นหลิว ได้กลับมาโคจรเจอกันก็ตอนมาเข้ามหาวิทยาลัย ถ้ามีวิชาเรียนรวม ก็จะนั่งด้วยกัน  เราชอบไปซื้อของด้วยกัน เพราะพวกเราใช้เงินกันง่าย ไม่คิดมาก ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กน้อย ถ้าเงินมันช่วยให้สบาย ก็เอาเถิด เราถูกสอนกันมาแบบนี้  บ้านเรารวยกันมาก  พ่อหลิวนี่ รวยไม่แพ้พ่อผมหรอก ธุรกิจคนละแบบ  แต่บ้านของหลิวจะอิสระกว่า เขาให้ลูกสาวไปเปิดท้ายขายของตามตลาดนัดเพื่อความสนุกสนาน  ลองเป็นพ่อผมเหรอ คงให้พี่อำนาจตามมาประกบ ศัตรูพ่อผมเยอะกว่านั่นเอง


ผมใช้เวลาทั้งหมด ทุ่มไปกับการออกกำลังกาย ไม่ไปดูหนัง ไม่เล่นเกม ไม่ทำห่าอะไรทั้งนั้น ความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมจะเป็นคนใหม่  กระนั้นแค่รูปร่าง คงยังไม่พอ  หลิวช่วยผมเลือกทรงจมูกและคางใหม่ อาจมีตาที่ต้องกรีดผ่า แล้วก็ใส่ดอลลี่อายส์เล็กน้อย ลอกผิวชั้นนอก ทำเบบี้เฟซพรีเมี่ยมยิงละอองทองคำไว้ที่ผิวให้เปล่งปลั่ง  ผมอ้อนพ่อแทบตายกว่าจะไฟเขียว  แต่คงต้องรอให้ปิดเทอมใหญ่ก่อน เพราะการจะพักฟื้นใบหน้าก็คงกินเวลาหลายวันอยู่


ยังคงได้การ์ตูนคอยดูแลเรื่องการเรียน งานส่งอาจารย์ ฝากเช็คชื่อในบางวัน แล้วก็ดูแลทุกอย่าง มีตูน สบายไปสิบอย่าง แต่ก็ทำได้เฉพาะวิชารวมคณะ  ถ้าเป็นวิชาสาขาผมก็มีแค่ไอ้เอคนเดียว  ไอ้นี่คงพึ่งพาอะไรไม่ได้เท่าไหร่ เอาเป็นว่า ผมขอพ่อแล้วถ้าเกรดเทอมนี้มันจะดร็อปลงสักหน่อย เพราะผมมีเรื่องให้ต้องโฟกัส



“หมอเฉลิมคิวยาวเลยว่ะน้ำ นี่หลิวเลือกทรงให้มันเข้ากับหน้าน้ำมาให้ดู หยดน้ำที่ปลายจมูกหน่อยๆ ก็น่ารักดี”

“เรื่องคิวไม่น่าใช่ปัญหา น้ำยินดีจ่ายเพิ่มค่าเสียเวลาคุณหมอ”

“แกจะเอาเงินไปฟาดไม่ได้นะน้ำ คิวหมอมีทั้งดารา และคนดัง ต่างคนต่างไม่ยอมหรอก ต้องเส้นยัยพยาบาลหน้าเคาท์เตอร์ มีลุ้น”

“มีหมออื่นอีกไหม”

“ถ้าเมืองไทยนี่ต้องแกแหล่ะว่ะ เพราะคนอื่น จมูกผู้ชายจะออกมาเหมือนจมูกผู้หญิงน่ะสิ  โจทย์น้ำ คือให้จมูกดูแมน โก้ เท่ แล้วก็มีความเป็นชาย  พวก สจ๊วต แอร์ ผ่านมือแกหมด มันออกมาดูวัยรุ่นกว่า”

“หลิวติดต่อ พี่แหวนแหวน ให้น้ำเลย ไม่รอแล้ว ไปเกาหลีกัน”

“เห้ย เอาจริงดิ มันต้องหลายวันเลยนะน้ำ พักฟื้นอีก ไปทั้งที ทำนิดหน่อยมันจะคุ้มเสียเวลาไหม”
“น้ำจะทำทั้งหน้า  ย้ำว่าทั้งหน้า หลิวบอกพี่แหวนแหวนเลยว่า เอาหมอที่ดีที่สุด เกรดเทียบเท่าหมอของเล็ทมีอิน ทั้งหน้า”


คิวช่วงหลังสอบก็แน่นเหยียด ไหนจะลูกท่านหลานเธอ ไฟนอลเสร็จก็บินไปขึ้นเขียงกันเป็นว่าเล่น 
นี่ต้องใช้เส้นแม่ของหลิวติดต่อผู้จัดการ เรน  ให้พี่แหวนแหวน ได้ลูบไล้ซิกแพ็คของเรน สามนาทีเต็ม
นางถึงจะยอมลัดคิวให้ผม
ทุกสิ่งอย่าง มันดำเนินไปด้วยความสิเน่หาส่วนตัว โลกมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ผมโตมาแบบนี้

เหลืออย่างเดียวที่จะทำให้ผมเปลี่ยนไปตลอดกาล คือ พัฒนาบุคลิกภาพ 
เพราะต่อให้คุณหล่อรวยหุ่นเฟิร์มแค่ไหน แต่ถ้าคุณยังมีบุคลิกภาพเดิม คุณก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ 
ผมจึงติดต่อผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีที่สุดของประเทศเรา ให้จัดคอร์สพิเศษเพียงแค่ผมคนเดียว 
ใครที่ว่าผมนุ่มนิ่ม ไม่เข้มเท่ หรือแมนเหมือนผู้ชายทั่วไป  ผมจะเป็นคนใหม่แล้ว 


มึงลองดูนะไอ้กัส  ว่าที่มึงเรียกพวกมันว่า ชายเหนือชาย  จะแมนเข้ม หล่อได้เท่าขี้ตีนกูไหม


ผมกด แอ๊พลิเคชั่น GPS Tracking ที่มือถือ กดข้อความส่งไปยังซิมการ์ดที่ซ่อนอยู่ในรถยนต์ ซึ่งใครบางคนได้ไปเป็นของขวัญวันครบรอบที่เราอยู่ด้วยกันครบสามปี  แท้จริงแล้ว ผมติด จีพีเอสแทร็กกิ้งไว้ เพื่อกันรถหาย
แต่ไม่ได้คิดแม่แต่น้อย ว่าสักวันหนึ่ง จะต้องเปิดฟังค์ชั่น ฟังเสียงผ่านไมโครโฟน ซึ่งซ่อนไว้บนรถซูซูกิ สวีฟท์ อีโค  คันนั้น..  คันที่เราเอาไว้พาแมวของเราไปฉีดวัคซีน

“อีแขก มึงเป็นไงบ้าง กูล่ะคิดถึงมึงจัง..   เออๆๆ ไว้ไปสีลมกัน ไม่ได้เมามาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ยุ่งๆ กำลังย้ายของ   
หูยยยย เผ็ดสิมึง กูล่ะลองไปทุกท่า  ลิงอุ้มแตง หนุมานเหลียวหลัง   กูไปคลาสโยคะ ยังไม่ปวดเมื่อยตามตัวเท่านี้มาก่อนเลย  ฮ่าๆๆ  รู้งี้  กูมีผัวตั้งนานแล้ว”

ผมปิดมือถือลง แล้วก็ขึ้นลิฟท์ที่ลานจอดรถห้างเพื่อไปยังชั้น 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของฟิตเนส The Plum ของบ้านหลิว
ผมไม่ได้มีอาการอะไรมากหลังวางสายจากแอ๊พจีพีเอส  เพราะเริ่มชินกับความรู้สึกมึนอึนในหัว การออกกำลังกายช่วยผมได้ และแน่นอนว่า จากคำพูดของใครบางคนที่วนในหัว วันนี้คงต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะลบประโยคเลวทรามเมื่อกี้ให้ออกไปจากใจ


“ไม่ควรใช้อุปกรณ์เดิมเกิน 40 นาทีนะครับ” เสียงของชายตัวสูงใหญ่ ที่เดินมาหา พูดที่ข้างหูผมที่กำลังอยู่บนลู่วิ่ง

“ขอโทษครับ มันเป็นกฎเหรอ ผมไม่รู้ ขอโทษครับ  เชิญพี่ใช้เลย” ผมกดฟังค์ชั่นเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินเพื่อเตรียมหยุดเครื่อง

“เปล่าหรอก  ถ้าใช้อุปกรณ์เดิม ร่างกายมันจะไม่เฟรซ  อันนี้เป็นความเชื่อของพี่ครับ น้องน้ำ”

“รู้ชื่อผมด้วย..  เฮ้ยย   พี่ไผ่”  พี่ของหลิวนี่หว่า กลับมาคราวนี้หล่อโครต จมูกนี่พุ่งกว่าพี่ เคน ภูภูมิอีก

“ถ้าจำกันไม่ได้ นี่น้อยใจนะเนี่ย”

“พี่เปลี่ยนไปเยอะนี่ครับ  หล่อล่ำเชียวพี่ ผมอยากมีกล้ามท้องบ้าง แต่เทรนเนอร์ให้ลดไขมันก่อน”

“ใครเป็นเทรนเนอร์ให้ครับเนี่ย”

“พี่เดชครับ หลิวมันจัดพี่เดชให้ผม”

“โอเคเลย เดี๋ยวจะบอกเดช ให้เคี่ยวให้หนักเลย”

“หูยยยพี่ ผมไม่อยากให้มีกล้ามเนื้ออะไรมากมาย ผมไม่อยากตัวล่ำ”

“เอาประมาณไหนล่ะ บอกมาสิ”

“ผมเป็นคนตัวบาง ก็อยากให้มีหัวไหล่ มีกล้ามท้อง แต่ไม่อยากได้แขนขาใหญ่ๆอ่ะ”

“ซักประมาณ ณเดชน์ เอาไหม”

“ต้องตายก่อนแน่เลยพี่  เอาแบบที่เข้ากับหุ่นผม อยากได้แนวนักกีฬา ประมาณ สารัช นักบอล ไรงี้”

“นี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนี่ น่ารักดีออก”

“ผมไม่อยากน่ารัก”   อุ้ย ผมเผลอใส่เสียงดุไป พี่ไผ่เงียบไปเลย  ขอโทษนะพี่

“พี่ขอโทษ”

“ไม่ใช่ครับพี่  ผมเบื่อที่จะดูน่ารักในสายตาใครแล้ว ผมอยากหล่อ ผมอยากดูเท่ ดูแมน พี่ช่วยผมหน่อยนะ”

“อืม จะบอกกับเดชให้นะ”  แล้วพี่ไผ่ก็เดินไปดูแลลูกค้าคนอื่น  น่าจะงอนผมแน่เลย



ตอนเด็ก พี่ไผ่แมร่งชอบล้อผมว่าเหมือนผู้หญิง มันยังบอกคนอื่นว่า หลิวกับผม เป็นน้องสาวที่ต้องดูแล 
บางทีก็โมโห แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร  คุณความดีของไอ้พี่ไผ่มันก็ยังมี   ไม่มีใครแกล้งผมเท่าไหร่หรอก มันพิทักษ์ผมต่อหน้าธารกำนัลอยู่หลายครั้ง ใครก็ไม่กล้าซ่ากับมัน
เรียนก็ดี ตัวก็สูงใหญ่ เล่นกีฬาเก่ง เป็นที่รักของครูอาจารย์ เสียตรงเจ้าชู้ เปลี่ยนคนคบไปเรื่อย  แต่มันก็ธรรมชาติคนฮอตล่ะมั๊ง  ตอนนั้นผมยังอยากโตมาเป็นแบบมันเลย มีสาวห้อมล้อมให้พ่อได้เห็นและภูมิใจ แต่ไหงเลย ผมดันไปมีแฟนเป็นผู้ชาย แถมเป็นเมียไอ้กัสอยู่ได้ตั้งสามปี  ผมก็โมโหตัวเองอยู่เหมือนกัน 


“เมื่อวานนี่แกดุอะไรพี่ชั้นวะน้ำ”  กูนึกแล้วว่า ไอ้พี่ไผ่ต้องไปฟ้องหลิว คนไรวะ ตัวเบ้อเร่อ แต่ขี้งอนชิบเป๋ง

“ก็ไม่ได้อะไร พี่เขาไม่เข้าใจน้ำหรอก”

“เขาบอกว่า ยืนดูอยู่นาน เห็นข้างหลังจำได้ทันทีว่าเป็นน้ำ”

“เดี๋ยวเห็นกันหลังเปิดเทอมหน้าคงจำไม่ได้แล้วแหล่ะ เพราะหน้ามันจะเปลี่ยน”  ไอ้เอ ไอ้สัส

“นี่น้ำจะเอาจริงเหรอ มันน่ากลัวนะ ผ่าทั้งหน้าเนี่ย” ตูน กูเลือกแล้ว  แต่ขอบใจเว้ยที่ห่วงใย

“กูไม่เข้าใจ ว่ามึงจะเปลี่ยนตัวเองก็ทำไป แต่จะทำให้แมน ให้ดูเท่ ไปเพื่ออะไรวะ ไม่เข้ากับหน้ามึงเลย”

“กูเลยทำหน้าใหม่ไงมึง”

“เออ กูก็ไม่เก็ทอยู่ดีแหล่ะวะ”

“เอ  กูมีแผนของกู แต่กูยังไม่พร้อมจะพูด เอาเป็นว่า กูจะเป็นคนใหม่ แล้วกูก็จะหล่อ มีซิกแพ็ค แล้วก็ แมนโครต”

“มึงจะหาแฟนประชดผัวเก่าเหรอวะ”  เอ ยังคงหาคำตอบ

“เอาเป็นว่า ถ้าคืบหน้า กูจะเล่าให้มึงฟังเอง”


ใต้อาคารกลางหอสมุดมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการสอบปลายภาคที่ใกล้เข้ามา 
ผมมาหาตำราที่ไม่มีในอินเทอร์เน็ต เช่น บทสัมภาษณ์ในหนังสืออ้างอิงของพวกนักกีฬา ดาราชาย ที่ผมมองว่าดูมีเสน่ห์ ผมจะก็อปปี้วิธีพูด วิธีวางประโยค การใช้คำ ผมเอาสมุดบันทึกเล็กๆ มาจดคำที่น่าจะใช้บ่อย เอามือถือถ่ายรูปวิธีนั่ง วิธียืน วิธีเดิน  นี่ถ้าเป็นวิชาเรียน คงได้คะแนนดีไม่น้อย

“น้ำไม่อ่านหนังสือเรียนบ้างเลยเหรอ เดี๋ยวก็ไม่ได้เกียรตินิยมอย่างที่ตั้งใจหรอก”

“ไม่สนแล้ว ตอนนี้ โฟกัสไปที่การเปลี่ยนตัวเอง”

“มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ  น้ำเป็นน้ำทุกวันนี้ มันก็ไม่ได้แย่ แถมยัง..”

“อะไร”

“ไม่เอา ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวโดนดุแบบพี่ไผ่”

“ก็ผู้ชายอะไร ชมผู้ชายว่าน่ารัก มันน่าให้ดุไหมล่ะ”

“เขาคิดแบบนั้นจริงๆ”

“ไปอยู่เมืองนอกนาน เพี้ยนไปแล้วมั๊ง”

“ก็เห็นเขาชมน้ำมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนไปนอก  เมื่อวานนี่ดูตื่นเต้นมากที่เจอ แต่พอโดนดุ ก็จ๋อยไปเลย”

“ผู้หญิงชอบผู้ชายน่ารักไหม หรือชอบแบบหล่อเท่”

“มันก็แล้วแต่คนนะน้ำ  หลิวว่า คนเราไม่จำเป็นต้องชอบอะไรเหมือนกัน ดูอย่างหลิว ก็ชอบผู้ชายที่มันโก๊ะๆ หน่อย”

“ถ้าเราไม่ใช่ สเปคไอ้กัสแต่แรก แล้วมันจีบเราทำไม น้ำก็ไม่เข้าใจ”

“มันผ่านไปแล้วน้ำ ทำไมไม่ปล่อยวาง”

“น้ำเสียความมั่นใจไปแล้วว่ะหลิว  น้ำต้องกู้มันกลับคืนมา”




ปิดเทอมแล้ว ผมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับบินวันพรุ่งนี้ไว้ เนื่องจากไปหลายวัน กระเป๋าจึงเยอะพอกับ น้ำตาล ชลิตา บินไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส แต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร โรงแรมที่พ่อให้คนจองให้ ห้องนอนใหญ่โต แถมยังอยู่ใจกลางแหล่งของกิน ไม่ต้องเดินไกล  หลิวสัญญาว่าจะบินไปเยี่ยม

วันนี้ ผมเลยมาออกกำลังกายสั่งลา ก่อนจะไม่ได้ออกไปอีกแรมเดือน ตอนนี้ เอาเป็นว่า ผมเริ่มมีซิกแพ็คแล้วนะ แต่ต้องเกร็งขี้แตกเลย  ถ้ายืนเฉยๆมันก็ไม่เห็น จะเอาอะไรมากครับ แค่ไม่กี่เดือนได้ขนาดนี้ก็ดีเหลือหลาย  การเรียนผมไม่ค่อยเสียเท่าไหร่ เพราะว่าพ่อผมจ้าง คุณดวงดาว จารุจินดา อ่านเล็คเชอร์อัดใส่โซนี่ เร็คคอร์ดเดอร์ให้ผม ออกกำลังกายไป ก็ฟังไป เพลินจะตาย ไม่เข้าใจอะไร ก็ยกสายหาไอ้ตูน 

The Plum Fitness ที่เวิ้งห้องอาบน้ำ หลังจากผมอยู่ในยิมนี้มาสามชั่วโมงกว่า มองนาฬิกาก็เกือบสามทุ่มแล้ว  ผมเปิดน้ำฝักบัวที่เย็นฉ่ำรดมาที่หัว ให้ความฟุ้งซ่านมันหมดไป  จะอะไรซะอีก  ยิ่งใกล้วันทำศัลยกรรม มันยิ่งใจเต้น ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับการจะไปผ่า ผมทนเจ็บได้  แต่ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า ที่กำลังจะทำมันคุ้มไหม แล้วนั่นก็ทำให้ใจหม่นหมอง 

ผมเดินออกมา ที่หน้าล็อคเกอร์ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ  มีชายคนหนึ่งยืนอยู่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน ล็อคเกอร์ของเขาไม่มีเบอร์  เพราะมันเป็นล็อคเกอร์ของผู้เป็นเจ้าของ หุ่นแมร่งโครตเท่ สูงโย่งแต่สัดส่วนมันใช่อ่ะ ผิวก็คล้ายพระเอกหนังเอ็กซ์ญี่ปุ่น  ดั้งมึงนี่หมอเกาหลีจะให้กูได้อย่างนี้ไหมวะ

“เป็นไง จะบินแล้วสินะ”

“อืมครับ เดี๋ยวหลิวก็ว่าจะตามผมไปด้วยล่ะพี่ไผ่”

“คงช็อปกันกระจายสินะงวดนี้”

“ไม่น่าจะได้ช็อปนะพี่ ผมคงไม่แบกใบหน้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลออกไปไหน”

“เออ  ลืมไป  แล้วนี้ กลัวไหม ตื่นเต้นหรือเปล่า”

“ไม่กลัวครับ แต่ตื่นเต้นนิดหน่อย.. ไม่รู้ว่า ผมคนใหม่จะเป็นแบบไหน”

“ก็คงไม่น่ารักเหมือนเดิมแล้วสินะ”

“คำก็น่ารัก สองคำก็น่ารัก”

“พูดความจริง ก็ดุกันอีกแล้ว”

“ผมขอโทษ  แต่ไว้พี่รู้ว่าผมเจออะไรมา พี่จะเข้าใจผม”

“อืม ถามเจ้าหลิว ก็ไม่ยอมเล่า คงหนักสิงวดนี้”

“ปางตายครับพี่ไผ่”

“งั้นก็ เป็นกำลังใจให้นะ หวังว่าคงจะหล่อสมใจ”

“อยู่แล้ว”

“แต่ว่า จะดีไม่น้อย ถ้า...”

“ถ้าอะไรครับ”

“ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวโดนดุอีก”

“พูดเหอะ สัญญา ว่าจะไม่ดุ”

“หล่อได้ แต่น่ารักให้เหมือนเดิมแล้วกัน”

“มันยากนะนั่น”

“เดินทางดีๆ  พี่ต้องไปสรุปบัญชีก่อน โชคดีครับน้ำ”

“สวัดสีครับพี่”  และขอบคุณครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ยังมีตัวตน.. 



ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z1: พิชิตกันเลยก้อดั้ยค่ะ  :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

Prep  3 :  New Look !!  นิว รุก !!

ลานล็อบบี้ ทางขึ้นลิฟท์ ผมเดินผ่านมันด้วยการพยายามเพิกเฉยต่อเสียงติฉินจากพนักงานต้อนรับ
แม้ว่าคอนโดมิเนียมหรู ติดรถไฟฟ้าเพลินจิตจะคัดกรองคนเข้าทำงานด้วยความพิถีพิถัน แต่การนินทากาเล มันอยู่ในกมลสันดานของมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า พนักงานต้อนรับ  ผมเดินเข้าลิฟท์ส่วนตัว ซึ่งมีเฉพาะของเพนท์เฮ้าส์เท่านั้น

“แฟนใหม่คุณนทีเหรอ หล่อจังเลยนะแก หน้าคล้ายกันเลย สงสัยคราวนี้จะเนื้อคู่”
“น้องชายเขาหรือเปล่า หล่อ แมนกว่าคุณนทีเยอะเลย ตัวล่ำเชียว”
“มีการ์ดห้อง แสดงว่า คุณนทีคงไว้ใจหน้าดู”
“หูยย งานนี้ สงสัยคุณนทีจะหวงแหน ขนาดคนเก่าหน้าตาธรรมดายังวีนทะเลาะกันตรงล็อบบี้ประจำ”
“คนนี้เผ็ดเนอะ เดินหลังตรง แต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ค่อยน่าควงหน่อย ไม่ใช่อย่างคนก่อน อย่างกับแว๊นตกถังข้าวสาร”
“ว่าแต่ คุณนที หายไปไหนเป็นเดือนๆ ไม่โผล่มาเลย สงสัยอีคนเก่ามันทิ้งไปแล้วแน่ๆเลย”


นี่ถ้าไม่เพราะไอ้เอยืมรถไปใช้ คงไม่มีโอกาสได้นั่งรถไฟฟ้ากับเขาเพื่อเช็คเรตติ้งตัวเอง ว่าปลายมีดหมอ เปลี่ยนเราได้แค่ไหน  แค่สามเดือนแรกที่รูปร่างเริ่มกระชับ ก็มีคนเหลียวมอง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายก็เหอะ  พอหน้าที่ผ่ามา รอยเย็บเริ่มเข้าที่ ไม่มีรอยบวมช้ำ ก็รู้สึกมั่นใจ ใครก็เหล่ตาม  แล้วพอยิ่งใกล้จบคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ คราวนี้ ทั้งชายทั้งหญิง คงเลียของปากด้วยความอยากกินผมสินะ 

ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงตัวลอย เชิดหน้าจนไปแตะแชนโดเลีย  แต่นี่ มันก็ยังหน่วงในใจนิดหน่อย เพราะภารกิจผมยังไม่เริ่ม
แผนลับที่ผมนอนคิดอยู่เมื่อครึ่งปีก่อน  อันหวังว่า มันจะเยียวยาหัวใจตัวเอง


ในเพนท์เฮ้าส์กว้าง 150 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ไม่รวมอ่างจากุชชี่ที่ใหญ่จนเกือบเท่าห้องน้ำสนามบินสุวรรณภูมิ  หากผมจะใช้ห้องนี้เป็นฐานปฏิบัติการ จะล่อเสือ ล่อตะเข้ มันก็ต้องใช้เหยื่อดี เอาเป็นว่า การมีห้องเชือดระดับพรีเมี่ยม มันย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง 

“โหว กว่ามึงจะเสด็จมานะไอ้เอ”  ผมนั่งรอมันจนซิลิโคนแทบเหี่ยว มันนัดผมมาเจอที่คอนโด หลังจากเอเป็นคนแรกที่ผมเปิดใจเล่าให้ฟังว่า ผมจะทำอย่างไรให้หายแค้นกับไอ้กัส

“รถมึงขับมันชิบหาย กูเลยเอาไปโชว์สาวแถวมหาลัย ล่อเหยื่อ เผื่อฟลุค   เฮ้ย หน้ามึงเข้าที่แล้วนี่หว่า  หล่อเชียวเว้ย แมร่ง ถ้ากูเห็นมึงเดินตามถนน กูจำไม่ได้เลยนะ นึกว่านายแบบที่ไหน  แล้ว ไขว่ห้างแบบนี่ ไม่ใช่มึงเลยว่ะ มึงต้องนั่งหนีบๆเข่าสิ กูไม่ชิน”

“แล้วกูจะเสียเงินหมดเป็นล้านทำเพื่อ ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเอง”

“เออๆๆ   กูก็เลยนัดมึงมาติวนี่ไง มึงจะได้บรรลุเป้าหมาย แม้ว่ากูจะไม่เห็นด้วยเลยกับสิ่งที่มึงคิดจะทำนะ แต่ในฐานะเพื่อน กูก็จะสนับสนุนมึงให้ถึงที่สุด”

“อย่าให้ หลิว กับ ตูน รู้นะเว้ย มันช่วยกูมากเหลือเกินหลิวเนี่ย ไหนจะจัดการทุกอย่างให้กูเปลี่ยนได้ขนาดนี้  ไอ้ตูนก็ช่วยกูเรื่องเรียนซะจนกูเกรงใจเลย  มีมึงนี่แหล่ะไม่ช่วยเชี่ยอะไรกูเลย”

“กูจะมาช่วยเรื่องที่สำคัญที่สุดต่างหาก เลยนัดมึงมานี่ไง”

“มึงจะติวอะไรให้กู”

“กูจะให้มึง หัดตีหม้อ”



Flashback

“ห้า หก เจ็ด แปด  วันมอร์ไทม์” โอยย กูไม่ไหวแล้วไอ้พี่เดช  ตัวกูจะฉีกเป็นเสี่ยงๆ  “ข้อศอกชนให้สุดหัวเข่า มิสเตอร์นที  อ้าว ห้า หก เจ็ด แปด”

“ผม ไม่ไหวแล้วพี่เดช เจ็บพี่” นายนทีคนนี้ต้องแผ่ตัวลงบนเบาะรองตัวของไนกี้  ซื้อของแพงก็ไม่ช่วยกูเลย โอ้ยยยย

“เป้าหมายมีไว้ทำไม มิสเตอร์นที”

“เอาไว้สู้วววววว”

“ห้า หก เจ็ด แปด วันมอร์ไทม์ ยกศอกขึ้นมากอีก  ห้า หก เจ็ด แปด”   กูอยากจะร้องไห้






โรงแรมที่พัทยาใต้  ผมกับเอ เปิดไว้เอาแบบถูกที่สุด หนึ่งห้อง  แล้วก็เปิดแบบหรูหราที่บางละมุงไว้นอนจริงตอนดึกอีกหนึ่งห้อง สาเหตุที่ผมต้องเปิดโรงแรมถูกเพราะว่า ไอ้เอมีแผนจะอ๊อฟน้องโส มาให้ผมฝึกประลองได้มากที่สุด โดยมันจะสาธิตให้ดู  เอาเข้าจริง มันอยากจะตีกะหรี่ฟรี โดยให้ผมออกตังมากกว่า เอาเหอะ เมื่อมันเปิดใจกับผมขนาดนี้ จะทุ่มเทการสอนให้ผมขนาดนี้ ผมก็เต็มที่เหมือนกัน

ก็จริงของมันที่ว่า ต่อให้ผมมีใบหน้าที่หล่อกว่าดาราช่องสาม หุ่นดี บุคลิกเท่ แต่ท้ายที่สุด ผมจัดการกิจธุระบนเตียงไม่ได้  ผมก็ไม่สามารถประกาศชัยชนะได้เลย  ไอ้เอมันท้วงผมตอนที่ผมเล่าแผนการให้มันฟัง  แม้ตอนแรกมันจะหัวเราะจนน้ำตาไหล แต่ท้ายที่สุด มันก็ร้องไห้แล้วกอดผม เพราะไม่คิดว่า เหตุการณ์ที่กัสก่อ จะทำให้ผมสะเทือนใจและเสียศูนย์ได้ขนาดนี้  มันเลยขันอาสาจะติดวิชาที่สำคัญที่สุด ในปฏิบัติการเอาชู้รักมาทำเมีย นั่นก็คือ พาวเวอร์ออฟ รุก

เมื่อก่อน ผมก็เคยไปเที่ยวซ่องเจ๊หวีกับไอ้เอตอนมอปลาย แต่ไม่ชอบ กลัวติดโรค  ผมก็ทำเป็นนะ เสร็จกิจเร็วไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็สบายตัว หลังจากนั้นพอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เจอกับกัสพอดี จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ไม่ได้มีเซ็กซ์กับคนอื่นเลยนอกจากกัสคนเดียว  ช่วงแรกเราแลกสัมผัสกันไม่ได้สอดใส่ จนครั้งที่สามสี่ ก็เริ่มมีการสอดใส่กัน เขาเป็นคนรุกผม มันเจ็บปวด แต่มันก็มีความสุขตอนที่เราสบตากันเมื่อเสร็จสม ผมไม่คิดเลยว่า ความสุขหลังร่วมรัก มันจะเกิดได้กับผู้ชาย แล้วหลังจากนั้นผมก็โดนรุกมาตลอด

ไอ้เอ เปิดหนังเอ็กซ์ให้ผมดู แล้วให้ผมจินตนาการ ว่ากำลังเป็นฝ่ายรุกบ้าง  เอารูปของ “กันต์” ผู้ที่เป็นเป้าหมายภารกิจแรก มาลองมโนดู ว่าจะเกิดอารมณ์ได้แค่ไหน ก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่  อารมณ์มา แต่เจ้านทีน้อย ไม่กลอยใจตาม  ไอ้เอจึงเห็นว่า ไม่ได้ทีแล้ว คงต้องออกภาคสนาม ทำเวิร์คช็อป  ตอนเรียนแมร่งไม่เห็นเอาจริงเอาจังแบบนี้ ไอ้กร๊วก


ผมรู้สึกสนิทใจกับไอ้เอขึ้นสิบเท่า ตั้งแต่ผมเลิกกับกัส ไม่คิดเลยว่ามันจะรับทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผมได้ขนาดนี้  เอ เป็นลูกคนโตของครอบครัวค้าขายวัสดุก่อสร้างที่ปริมณฑล  บ้านมันรวยพอตัว แต่มันก็มาเกาะผมกินอยู่เรื่อย ไม่ค่อยจะออกตัง สิ่งที่มันให้กับผม มักเป็นเวลา และ กำลังใจ   ตอนมอปลาย ไม่ถึงกับสนิทกันมาก แค่อยู่กลุ่มเดียวกัน  แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วมาเรียนพีอาร์ ด้วยกัน  ก็กลายเป็นสนิทกันไปเลย  ถ้าตอนนั้น ทุกคนโหวตเลือกมันเป็นเดือนคณะ อาจไปไกลถึงเดือนมหาลัยก็ได้ แต่คนในสาขาดันเลือกผม  ก็เลยไปไกลได้สุดแค่ตัวแทนคณะ กับขวัญใจสื่อมวลชน ที่มาจากกุหลาบของลูกน้องพ่อส่งมาให้ทั้งนั้น   ตอนนี้ผมคิดว่า ถ้าใบหน้าซึ่งโมดิฟายมาใหม่  หุ่นอันแสนฟิตและเฟิร์ม  กับบุคลิกอันแมนเท่ปัจจุบันของผม การประกวดในคืนนั้นผมคงคว้าชัย 



ซอยสุนีย์ พัทยาใต้  ร้านสเนคบอย

“น้องรูปหล่อครับ พาพี่กลับบ้านหน่อย พี่คิดพันเดียว”  ชายวัยยี่สิบกลาง ที่เมื่อสักครู่เต้นรูดเสาเกือบเปลือย เหลือเพียงกางเกงชั้นในขอบบางสีขาวเปียกน้ำ ติดเบอร์สาม ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นจู๋ แล้วลงมานั่งข้างเบาะกับผม โดยมีไอ้เอนั่งยกนิ้วหัวแม่มือส่งสัญญาณว่า คนนี้ใช้ได้ ซึ่งก็จริง ในบาร์นี้ คนนี้น่าจะดูหน้าตาดีสุดแล้ว แถมมาดแมนดูคล้ายผู้ชายตามท้องถนนทั่วไป

“กูนึกว่า มึงจะให้กูอ๊อฟผู้หญิง ไอ้สัส”

“ก็มึงจะปฏิบัติการกับผู้ชาย มึงจะอ๊อฟผู้หญิงทำไม  ซ้อมใหญ่ไปเลย คันนี้ต้องรันทรู  เดี๋ยวผู้หญิง กูอ๊อฟเอง  ห้องกว้างจะตาย คนละเตียง มึงคอยดูกู ว่าทำยังไง”


“มีผู้หญิงด้วยเหรอน้อง  หูย เอาดิ ลดให้ แปดร้อยพอ”  โปรมึงแรงนะ เบอร์สาม

“อุ้ย ไม่ได้นะพี่ ผู้หญิงน่ะ ของผม พี่ก็กับไอ้หน้าขาวนี่ไป แต่เดี๋ยวห้องเดียวกันเลย”  เอผู้คร่ำหวอดวิชาซื้อบริการเอ่ย

“งั้นไม่ลดนะ พันนึงเหมือนเดิม แต่ก็ถ้าผู้หญิงไหว ให้พี่ไปต่อนะ พี่หลายยกได้”

“พี่ ผมไม่ได้ให้พี่รุกมันนะ พี่ต้องรับ”

“เฮ้ยยย จริงดิ  หน้าออกจะหวาน” แสดงว่า หมอเกาหลีสอบตก แมร่งกูบอกให้เอาแมนๆ

“ไปกันได้เลยไหมพี่ เดี๋ยวต้องไปหาน้องผู้หญิงไปด้วยอีก”

“น้องจ่ายค่าอ๊อฟนอกสถานที่ สามร้อย แล้วออกไปได้เลยครับ”




รถสองแถวสีแดง เขียนข้างรถว่า หาดจอมเทียน-พัทยาใต้ จอดลงที่หน้าทางเข้าโรงแรม  ผมกับเอ เดินลงมาโดยมี ทวน เด็กอ๊อฟชายจากบาร์  กับ นก เด็กอ๊อฟหญิง ที่ไอ้เอติดต่อมาระหว่างผ่านหน้าบาร์ที่ถนนคนเดิน เธอเรียกเพิ่ม เพราะนึกว่าจะโดนผู้ชายสามคนรุมกินโต๊ะ  เอาเข้าจริงผู้หญิงนี่อ๊อฟง่ายกว่าผู้ชายมาก เพราะว่ามีจำนวนเยอะพอกับเม็ดทรายบนชายหาด หรือผู้ชายมันจะเยอะพอกัน แต่เราไม่กล้าเข้าไปถาม กลัวโดนมันเตะ

ทวน กับ นก นี่ดูสนิทกันเร็วแฮะ  ความที่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพ แถมเป็นไทยใหญ่เหมือนกัน เลยพูดภาษาเดียวกันได้
ตอนเดินผ่านเคาท์เตอร์เข้ามา พนักงานก็ไม่ได้สนใจอะไรที่เข้าห้องพร้อมกันสี่คน เหมือนเป็นเรื่องชินชา
นั่นคือสาเหตุที่เอ ให้ผมตีรถมาที่นี่ เพราะว่า มันไม่เป็นขี้ปาก แล้วก็ไม่มีใครที่รู้จักเห็นหรือจะเอาไปนินทาได้ แถมลูกจ้างของเราในคืนนี้ เป็นงาน ไม่ต้องมาคอยอธิบาย หรือ กังวลเรื่องที่กำลังจะเกิด หากไม่เป็นไปตามคาด



หลังจากนั่งกันนิ่งอยู่ห้านาที นกคงกลัวจะเสียเวลางานของเธอ จึงคว้าไอ้เอไปดูดปาก แล้วก็โลมเล้า เอหันมาพยักหน้าให้ผมไปเริ่มกับทวนได้แล้ว  ผมเลยเดินมานั่งอีกเตียงที่อยู่ติดกันแต่เหมือนจะห่างไกลด้วยความรู้สึก มีเพียงโคมไฟหัวเตียงที่กั้นไว้   ทวนดึงผมไปพยายามจะจูบบ้าง แต่ผมเบือนหน้าหนี เขาก็โลมเล้าด้วยลิ้นตามติ่งหูลงมาตามซอกคอ มันก็เสียวดีอยู่หรอกนะ แต่มันแปลกๆว่ะ  เอาเป็นว่า มันไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด   ตอนนี้เขาแก้เสื้อผ้าผมออกหมด  ตอนแรกก็นึกอายไอ้เออยู่บ้าง แต่พอหันไปเห็นมันก็เปลือยเกลี้ยงหมดตัวโดยมีนกบรรเลงโอษฐ์กามอยู่ จึงเลิกอายในทันที  แมร่งของมึงก็ไม่ใช่เล่นนี่หว่าไอ้เอ   แถมหุ่นก็ดี กีฬาก็ไม่เล่น วันๆ เอาแต่เล่นเกม อ่านการ์ตูน แล้วลอนท้องนั่นได้มาจากไหนวะ 



“ไปดูเขาทำไม มาคู่ของเราดีกว่าน้อง” ทวนจับผมนอนราบ แล้วโขกหัวลงไปกับนทีน้อย เขาใช้ปากให้จนมันขยายพองตัว กูก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ามึงหรอกนะไอ้เอ  แถม ขาว ตรง กว่า ด้วย

“อืมมม  อืมมมม”  ผมลองปลดปล่อยตัวเองด้วยการครางดูบ้าง เออ..เป็นอะไรที่ไม่เคยทำ  ปกติกับกัสนี่ก็ร้องโอ๊ยอย่างเดียว   เสร็จกิจทีไร ก็ต้องไปช่วยตัวเองต่อในห้องน้ำ   หรือรอให้มันหลับก่อน ก็สาวมือเอาบนเตียงนั่นแหล่ะ

“ให้พี่รุกแทนดีไหมน้อง”

“ไม่ได้ ต้องให้มันเป็นรุก”  ไอ้เอตะโกนแทรกเสียงมา จนผมต้องหันไปดู  กูยกให้เลย ไอ้เพื่อนยอดเยี่ยม

“เอ่อ.. กูว่า..”

“มึงต้องทำให้ได้ มึงต้องเห็นน้ำตาไอ้กัสให้ได้”

ผมว่าแล้วก็จับทวนพลิกตัวนอนลงบนฟูกนิ่ม เอื้อมมือไปหยิบถุงยางที่เพื่อนรักใส่กระจาดไว้ให้ตรงหัวเตียง เจลหล่อลื่นและลมหายใจที่หอบถี่  ผมฉีกถุงยางออก แล้วบรรจงหยิบชิ้นยางมาบีบตรงปลายหัวเพื่อไล่อากาศแบบที่ดูในดีวีดีสุขศึกษา  ผมก้มหน้าไปไซร้ซอกคอของทวนบ้างเพื่อปลุกเร้าอีกฝั่ง กลิ่นตัวสาปชิบหาย  ขนตามหน้าอกก็หยิกยาว ก่อนผมจะเอามือที่เตรียมถุงยางอนามัยไว้เข้าไปสวม..

นกเขาไม่ขัน...

“เชี่ยยยยยยยยย”    เอ ผละจาก นก ที่ยังนอนเปลือย สาวอ๊อฟดูไม่เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่ไอ้เอดูเป็นห่วงผมจริง มันเดินแก่นกายโด่แทบจะชี้หน้าผมอยู่แล้ว มาคุกเข่าลงตรงหน้า แล้วถามผมว่าโอเคไหม  ผมได้แต่ส่ายหน้า แถมรู้สึกเสียหน้ามาก  เหลือบไปมองทวนที่นอนหงายตั้งเข่ายกชันอ้ารอ ทวนไม่ได้มีทีท่าแปลกใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบกางเกงยีนส์ที่เขาถอดไว้ที่ปลายเตียง  ตอนแรกนึกว่าเขาจะกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าเขาล้วงกระเป๋ากางเกงตัวนั้นแล้วส่งซองเล็กสีขาวให้ผม

“อมไว้ใต้ลิ้นแป๊บนึง แล้วกลืน  ขมหน่อย แต่เดี๋ยวก็ขึ้น” แล้วทวนก็เดินกลับไปนอนรอต่อ “จ่ายด้วย ร้อยห้าสิบ”

ผมมองหน้าไอ้เอที่ยังคงดูท่าทีกังวลและเป็นห่วง ผมล่ะใจกับมันมาก ที่มันทิ้งหญิงนกแล้วมาดูอาการผม  มันคงจะเสียดายที่ไม่ได้บรรเลงเพลงรักต่อ หรรมมันยังแข็งโป๊กขนาดนั้น ผมต้องแอบเหลือบไปมองอยู่สลับกับมองหน้ามัน

“เอาไงดี” ไอ้หรรมฟู ถาม

“กูว่า กูไม่พร้อมว่ะ”

“อีกสิบนาทีน้อง เดี๋ยวก็ขึ้น ดูหนังโป๊ รอไปก่อน เดี๋ยวก็ขึ้น เชื่อพี่” มึงกลัวไม่ได้ตังเพิ่มร้อยห้าสิบใช่ไหม

“งั้นระหว่างรอ มึงไปทำต่อเหอะ” ผมรู้สึกผิด

“มึงแน่ใจนะ” ดูเป็นห่วงกูหรอกนะ แต่มันรีบกระโดดขึ้นเตียงกลับไปหานกอย่างเร่งรีบ ไอ้ห่า พร้อมทุกสถานการณ์เลยมึง


ที่เตียงขวา ริมกำแพง แอร์เย็นฉ่ำ

“เสียเวลาหนู จ่ายเพิ่มร้อยนึงด้วยนะ”

“จ๊ะ เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลย  ให้พวกเขานั่งดูด้วยนะ”

“หึ  ได้สิคะ คิดว่าเป็นครูให้ก็แล้วกัน พวกไก่อ่อน”  ผมได้ยิน ถึงกับหูร้อน

“ว่าไงนะ”  ผมเดินไปที่เตียงทางขวา

“แหม  คนไม่เคยก็งี้แหล่ะ หนูเห็นประจำ ก็ดูคนที่เขาทำเป็น แล้วเรียนรู้เอานะ  มา พี่เอ เริ่มกัน  ดูเอานะ ว่าผู้ชายจริงๆ เขาทำกันยังไง”  ผมล่ะอยากเดินไปจิกหัวขึ้นมาต่อย แต่ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิง และไม่มีอะไรที่เธอพูดไม่จริงเลยสักนิด

“มึงนั่งดูก็ได้ กูไม่ถือ กูไม่ไหวแล้ว ไอ้น้ำ”  เอคว้าถุงยางมาครอบใส่อย่างชำนาญ แล้วเอื้อมไปบีบเจลทาที่เนินของนก 

มันผ่านเข้าไปอย่างช้าช้า  แล้วก็ถี่ เร็วขึ้น..  เร็วขึ้น
สีหน้าของนกบ่งบอกว่าเธอกำลังมีความสุข  ยิ่งเอแล้ว มันทำหน้าเหมือนกำลังอยู่บนสวรรค์ชั้นสูงสุด เอเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วง รุนแรง ร่างที่ผอมบาง แต่มีกล้ามเนื้อตามหัวไหล่ รอนท้อง ต้นขา ส่ายเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ  มันก้มลงไปงับปทุมถันของนกสลับซ้ายขวา  ก้นของเอ กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ  ผมมองลีลาของเอแล้วนึกทึ่ง มันชำนาญและดูโหยหิว  เหงื่อของมันกระเด็นมาโดนผมที่นั่งอยู่ติดขอบสังเวียน เหงื่อของเอซึมลงบนผิวของผม ผมได้กลิ่นตัวของมันพวยพุ่ง กลิ่นกายมันออกมาผสมกับหยาดเหงื่อนั้น  แล้วจู่ๆ.. 

นกเขาขันแล้วเว้ย..

“เชี่ยยยยยยยย”  เอที่กำลังได้ที่ ดึงตัวเองออกมา  นกผงกหัวลืมตามาดูผมที่ยืนเปลือยเปล่าและเดินเข้ามาจนชิดเตียงที่เธอนอนหราอยู่  มีทวนเดินตามมาประกบ

“กูขอนะ”  ผมบอกกับเอ    เอพยักหน้า แล้วเบี่ยงตัวออก
ผมหยิบถุงยางมาสวมอีกครั้ง คราวนี้มันแน่นคับปึ๋งปั๋ง ผมบีบเจลหล่อลื่นลงบนแก่นกายอีกครั้ง แล้วส่งผ่านมันเข้าไป...





ตีสาม สองนาที..

“หิวไหมวะ”

“อืม” เอาเข้าจริงผมง่วงมากกว่า  แต่ก็ไม่อยากจะนอน มันคงแปลกที่ด้วย

“ไปหาอะไรกินไหม”

“ป่านนี้อ่ะนะ จะมีอะไรให้มึงแดรก”

“พัทยาไม่เคยหลับ”

“แต่เวิ้งนี้มันบางละมุงเว้ย”

“เออ มีแล้วกัน ข้าวต้มก็ยังดี ไปเหอะ กูเพลีย”

“ก็แมร่ง เล่นทุกท่าในตำรา กูล่ะยอมใจ”

“แหม มึงก็ใช่ย่อย พอเครื่องติดนี่นะ  ขี้งกอย่างกู ยังต้องแอบทิป ทั้ง นก ทั้ง ทวน ไปอีกคนละ ห้าร้อย สงสาร”

“ขอบใจนะมึง”

“อืม มึงจ่ายทั้งหมดนี่ จะขอบใจกูทำไม”

“กูขอบใจ ที่มีมึงตรงนั้น  แล้วทำให้กูผ่านมันมาได้”



ออฟไลน์ NC Wanted

  • NC Wanted
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต้องถึงกับหนีบขาอ่านกันเลยทีเดียว อีพี่เอบ้า  :oo1 :haun4: :pighaun:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่เอ ทำหนูร้อนฉ่าค่ะ 55  :hao7: :haun4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต้องถึงกับหนีบขาอ่านกันเลยทีเดียว อีพี่เอบ้า  :oo1 :haun4: :pighaun:

ฮาเม้นนี้ นึกภาพตาม  :m20: :m20:

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep 4 :     คนจีบกัน(ต์)

เมืองจำลอง พัทยา ในบ่ายวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนแม้ไม่ใช่วันหยุด มีทัวร์จากต่างประเทศเดินให้ว่อน
ผมกับเอ ที่ลากสังขารสุดโทรมคล้ายซอมบี้ ถ่อมายัง Mini Siam เพราะวันนี้มีนัดกับต้นหลิวเพื่อนรัก
ทำไมต้องเมืองจำลองนะเหรอครับ ก็เพราะว่าถ้าจะสร้างโลกโซเชียลใหม่ ทำโปรไฟล์ขึ้นมาใหม่ทั้งที ทั้ง Facebook  Instagram หรือ จะ Twitter ผมก็จะสร้างตัวตนขึ้นมา เพื่อไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ นายน้ำ ใจเดียวคนเดิม  รวมถึงหน้าเดิม หุ่นเดิมของผม ก็จะเป็นอดีตทันที

ไอ้เอหัวใสเป็นคนต้นคิด เพื่อสนับสนุนการมาพัทยาในครั้งนี้ จุดประสงค์มันแอบแฝงอันนี้ผมรู้ มันกะมาตีหม้ออย่างเดียวแต่ผมก็ว่าเป็นความคิดที่ไม่เลว  พอต้นหลิวรู้ว่าผมกับเออยู่พัทยา เธอก็รีบทิ้งทุกอย่างเพื่อตามมาสมทบ ปล่อยให้ตูนปั่นงานส่งอาจารย์แทน
ถ้าผมขอตังพ่อ ทุกประเทศที่อยู่ในเมืองจำลองนี้ ผมคงไปได้หมดแหล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ..คือเวลา

“มึงต้องเหยียบทุกเรื่องนะไอ้เอ”

“เออ กูรู้น่า”

“มึงน่ะ ลองได้เมา แมร่งเล่าทุกเรื่อง”

“กูไม่เล่าหรอก แม้กูจะคิดว่า หลิวควรรู้ทุกเรื่องก็ตาม”

“นั่นไงล่ะ กูว่าแล้ว อย่าได้เล่านะเว้ย”

“เออๆๆ  ใครจะอยากไปเล่าความระยำตำบอนของมึงเมื่อคืนกันล่ะ ไอ้หมกมุ่น”

“มึงนั่นแหละ ตัวดีไอ้เอ ไอ้บัดซบ”

“ฮ่าๆๆ  ศีลเราเสมอกันว่ะ  กูไปฉี่แป๊บ มึงรอตรงนี้ละกัน”

ผมยืนอยู่หน้า หอไอเฟลจำลอง ก็ทำได้เหมือนอยู่นะ สมัยที่ผมไปซื้อหลุยส์วิตตองใบแรกที่ชองเซลิเซ่ ก็มีเวลาแวะ ลาตูร์ เอฟเฟล อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ของจริง มีตาข่ายสีเขียวคลุมซ่อมบำรุงอยู่เป็นชาติ ของปลอมสวยกว่าในความคิดผม
เมื่อหันกลับไป มีชายหนุ่มหน้าหล่อยืนอยู่ตรงหน้า ตัวเขาสูงจนน่าอิจฉา สกินเฮดรับกับจมูกโครงแกร่งที่หมอลียอง ก็ให้ผมมาไม่ได้แบบนี้

“พี่ไผ่”

“นั่นไง ใช่จริงด้วย” พี่ไผ่พูดจบ ก็เอานิ้วมาเขี่ยปลายจมูกผม  จมูกแพงๆ ที่พี่แหวนแหวนได้ค่าคอมมิชชั่นไปไม่รู้เท่าไหร่

“เก่งจังเลยพี่ไผ่อ่ะ หลิวมองตั้งนานยังหาไม่เจอเลย ไม่คุ้นหน้าน้ำเลย จำหน้าใหม่ไม่ได้ซะที”

“นี่จะจิกกัดเพื่อนต่อหน้าหอไอเฟลปลอมใช่ไหม”  ผมดุใส่หลิว

“ปลอมกว่าประตูชัย ก็หน้ามึงนี่แหล่ะไอ้น้ำ” ไอ้เอสุดปากหมาที่กลับจากห้องน้ำก็ตามมาสมทบ

“ก็ไม่เห็นจะต่างจากเดิมขนาดนั้น ดูทีเดียวก็รู้ว่าน้ำ” พี่ไผ่ยักคิ้วมาให้ ทำเหมือนภูมิใจ  ภูมิใจกะผีน่ะสิ กูหมดไปเยอะนะไอ้พี่ อย่างน้อยก็ควรจำกันไม่ได้ ลังเลก็ยังดีนะเว้ย

“พี่ไผ่นี่คนแรกเลยพี่ อาจารย์ที่คณะไล่มันออกไปตอนมันสอบเก็บคะแนน จนมันต้องไล่ชื่อของฝาก ที่เคยซื้อมาฝากท่าน อาจารย์ถึงจะยอมให้สอบ” แฉกูได้อีก ไอ้เอ

“หน้าก็อาจจะเปลี่ยน  บุคลิกก็อาจจะแปลกไป  แต่มันก็คือ น้ำแหล่ะว่ะ น้ำเด็กเอ๋อๆคนเดิม”

“ไปถ่ายรูปกันได้แล้ว นึกว่าหลิวจะมาคนเดียวซะอีก” ผมหันไปมองทางหลิวที่เหมือนจะดีใจ เวลาพี่ชายแซวผมหนัก

“ก็พี่ไผ่เขาห่วง กลัวหลิวขับรถลงข้างทาง เมื่อคืนตูนมาติวหนังสือให้จนดึกเลย”

“ไม่น่าจะต้องตีรถมาเลย ถ้างั้น” เอท้วง

“เรื่องอะไร ปล่อยให้อยู่กับเอ ในเมืองแบบนี้ เดี๋ยวชักนำกันไปทำอะไรเละเทะ”  เชี่ยยย  หลิว ญาณทิพย์

ผมกับเอทำหน้าอึกอัก หันมองกันจนคงเป็นพิรุธให้พี่ไผ่ได้เห็น เขาหันไปจูงหลิว เดินไปดูโคลอสเซียม ที่อยู่ในโซนมินิยุโรปต่อก่อจะหันมาแซวผมอีกระลอก “เดาว่า ช้าไปแล้วล่ะหลิว เละเทะกันไปแล้ว” 


พี่ไผ่เอากล้องตัวเก่ง ถ่ายรูปผมกับหลิวคู่กันหลายรูป ซึ่งผมจะเอาไว้ใช้ในโปรไฟล์ให้คนสงสัยเล่นว่า มีแฟนแล้วหรืออาจจะอยู่ในช่วง มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เพราะว่า คนมีเจ้าของแล้ว เป็นที่ต้องการของคนบางประเภท มากกว่าคนโสด  โดยเฉพาะคนอย่างไอ้กันต์ เป้าหมายแรกของผม

“แต่มันดูก็รู้ป๊ะ ว่าเป็นของเก๊ ฉากพวกนี้น่ะน้ำ” หลิวเอ่ยถาม

“ก็จริง แต่เราเอาบรรยากาศ กับพวกชาวต่างชาติเป็นฉาก ไม่ได้เน้นสถานที่หรอก  แต่เดี๋ยวน้ำจะเอามือถือ ซูมใกล้สถานที่จำลอง แล้วค่อยเอาไปโพสต์อีกที  เลือกที่จับผิดยาก เช่น อียิปต์ หรือ นครวัด”

“ยังไม่รู้จุดประสงค์น้ำ  แต่หลิวก็จะช่วยเต็มที่นะ”

“ขอบใจนะ” ผมมองหน้าหลิวผู้แสนดี ก็ได้ยินเสียงแชะใหญ่ จากตากล้องแว่วมา  มีโรงอุปรากรซิดนีย์เป็นฉากหลัง

“หูยยย อย่างกับ พรีเว็ดดิ้งนะเนี่ย” พี่ไผ่เอ่ยแซว

“ยกน้องสาวให้ผมเปล่าล่ะ”

“ยกให้ได้ แต่ห้ามเอามาคืนนะ รำคาญ”

“ไอ้พี่ไผ่” หลิวเอื้อมมือจะไปทุบพี่ชาย จนพี่ไผ่เอื้อมมาหลบอยู่ด้านหลังผม มันคล้ายตอนที่เราสามคนเคยใช้เวลาด้วยกันตอนเด็ก  พี่น้องที่ชอบหยอกทะเลาะกันประจำ โดยมีผมเป็นตัวกลาง เราโตกันมาแบบนี้อยู่ระยะนึงเลย


Flash Back
“หลังตรงอีกคุณนที  ตรงอีก”
“ครับอาจารย์”
“เกร็งสะโพกไว้ ก้าวให้ไว ทะมัดทะแมงขึ้นอีก”
“ครับอาจารย์”
“แขม่วหน้าท้อง ยืดอก ยกสะโพกอีก อย่าเดินก้นบิด”
“ครับ.. อาจารย์”




..ในคฤหาสน์ของพ่อ
ผมนั่งอ่านรายงานข้อมูล ประวัติของ ธนง วงศ์ประเสริฐ หรือ กันต์ อดีตสามีรักของอดีตสามีผม ที่ตอนนี้ หมายจะเป็นสามีของสามีอดีตสามี  โอ๊ยยยย  เริ่ม งง 
พี่อำนาจทำงานได้เร็ว ละเอียด สมกับเป็นมือขวาของพ่อ ผมนั่งตาปรือเพราะนอนน้อยพักนี้ ช่วงนี้ออกไปเที่ยวผู้หญิงบ่อย แล้วก็ลองเที่ยวผู้ชายดูบ้าง  ผมก็คิดเสียว่ามันเป็นงานที่ต้องทำ เป็นภารกิจที่ต้องพิชิต ซ้อมทุกวันกันผิดพลาด

เอ ให้ผมลองใช้ กามากร้า ซึ่งคล้าย ไวอากร้า แต่อันตรายน้อยกว่า เป็นยาสมุนไพรอินเดีย ฉีกซองสีขาวออกมา อมเจลไว้ใต้ลิ้นสักครู่ มันจะวิ่งซ่านไปในเลือด ร่างกายร้อนผ่าว เส้นเลือดทุกสิ่งอย่างในร่างกายจดหดตัว ผลข้างเคียงก็คือ บางสิ่งบางอย่างจะชูชันขึ้นมาแทน  หลักการเดียวกับ ไวอากร้าทุกประการ  แต่ไวอากร้า ผลข้างเคียงมันเยอะครับ คงเห็นหลายคนหัวใจวายคาเตียง ส่วนหนึ่งมาจากใช้ยาซึ่งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
คอร์สพัฒนาบุคลิกภาพใกล้จบแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นอีกคน วิธีพูด วิธีเดิน ขนาดนั่ง หรือ กิน ยังเปลี่ยนไป จนพ่อผมต้องคอยแอบมองผ่านว่านตาหนาของเขา ว่าไอ้เด็กคนนี้ มันเป็นลูกเขาจริงไหม 

“นายน้อยจะเอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ  ประวัติพ่อกับแม่ หรือ ร่องรอยทางทันตกรรม ของคนชื่อกันต์”

“อย่าเว่อร์ได้ป๊ะ พี่อำนาจ” ผมหันไปพูดใส่ ชายหนุ่มในชุดซาฟารีสีเทาเข้มที่มานั่งข้างกับผมบนโซฟาอย่างคุ้นเคย

“อ้าว ก็เห็นนายน้อยถึงขั้นออกปากให้สืบ สงสัยจะอยากทำความรู้จักเขามาก”

“ขี้บ่นเป็นลิงแสมเลยพี่เนี่ย”

“ผมแค่ห่วงนายน้อย ไม่อยากให้นายน้อยเป็นทุกข์”

“ที่พี่อำนาจหามาให้นี่แหล่ะ จะเป็นกุญแจแห่งการพ้นทุกข์”

“นายกันต์นี่คือ มรรค 8 เหรอ”

“เดี๋ยวเหอะ อย่ามากวน อารมณ์ยิ่งไม่ดีอยู่”

“เด็กแถวพระรามเก้า ไม่ถูกใจเหรอครับ เห็นเข้าออกอยู่บ่อยนะพักนี้”

“เฮ้ยไอ้พี่อำนาจ” ผมรีบโผเอามืออุดปากสมุนเจ้าเล่ห์ของพ่อ ถ้าพ่อได้ยินนี่ เทศน์ยาวเลย

“อ้ออันอิงอี่อับ อ๋มเอ็นอุ๊กอันเอย” ก่อนพี่อำนาจจะแกะมือของผมที่อุดปากเขาอยู่ออก  “ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

“เดี๋ยวก็ไม่ทำแบบนี้แล้ว คงไม่นานหรอก ขี้เกียจเล่าเหตุผลน่ะ”

“แต่มันก็ยังดีกว่าไปบาร์นวดชายแถวสาธรแบบวันก่อนแหล่ะครับ  ยังไงนวดกับผู้หญิงนายน้อยก็จะปลอดภัยกว่านะครับ”

“ไอ้พี่อำนาจ” ผมเอานิ้วชี้ไปอุดปากบอดี้การ์ดหน้าหล่อของพ่อ ทำไมรอบกายผมมีแต่คนกวนส้นตีน




สนามบินขาออก

บริเวณที่เช็คอินกระเป๋าผู้โดยสาร ผมที่แต่งหล่อเต็มยศด้วยเสื้อเชิ้ตเทา กับแจ๊คเก็ตสีดำจาก Ralph Lauren กับยีนส์ไม่แพงเท่าไหร่  ผมไม่อยากให้ใครจับพิรุธได้ 

“สวัสดีครับ คุณนที มีกระเป๋ามาเช็คอินกี่ใบครับ” ชายในชุดสูทดำ เชิ้ตขาวกับเน็คไทสีเลือดหมู เงยหน้ามาทัก  สายตานี่ดูก็รู้ว่า สะดุดเข้ากับใบหน้าหล่อป้ายแดงจากเกาหลีของผม

“ใบเดียวครับผม คุณ เอ่อ..”

“กันต์ณรงค์ วงศ์ประเสริฐ  รหัสพนักงาน QT43218 ยินดีต้อนรับคุณนทีครับ”

“ผมมีใจเดียว  เอ๊ยยย   ใบเดียวครับ นี่ครับ พาสสปอร์ต กับบอร์ดดิ้งพาส” มองกูตาไม่กระพริบ หึ ภารกิจนี้อาจเสร็จง่ายกว่าที่คิดไอ้น้ำเอ๋ย

“ขอโทษนะครับ อันนี้มันพาสสปอร์ตปลอมหรือเปล่าครับ” กันต์ทำหน้างง ปนตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

“อ๋อ ผมขอโทษ ตายๆๆๆๆ ทำไงดีนะครับ ความพิเรนทร์ของลูกชายผมโดยแท้” ผมเอาพาสปอร์ตที่หมดอายุแล้ว ลอกรูปเดิมออก แล้วเอารูปที่ถ่ายเปลือยท่อนบนไปแปะแทน โชว์หุ่นเซียะให้กันต์ได้ยล  “ไม่มีแม่คอยดูแลนานก็แบบนี้แหล่ะครับ ผมล่ะจนใจ”  คือไอ้เอบอกว่า ถ้าบอกว่ามีลูกแล้ว ความแมนเราจะเพิ่มเป็นห้าเท่า

“คุณนที รีบกลับไปเอาพาสปอร์ตตัวจริงจะดีไหมครับ เหลือเวลาอีกพอประมาณ น่าจะทัน”

“ไม่เป็นไร ผมเหนื่อยจัง เมื่อเช้าไปเล่นสควอชมาแล้วเมื่อยเนื้อตัว อยากไปสปาแทน พรุ่งนี้ผมค่อยเดินทางใหม่ก็แล้วกัน”

“แต่ตั๋วนี้ ก็จะใช้งานไม่ได้แล้วนะครับ ถูกยกเลิกฟรีๆเลยครับผม”

“ได้รู้ว่าพ่อหม้ายลูกติดยังมีคนห่วงใยบ้าง แค่นี้ผมก็อุ่นใจแล้ว พรุ่งนี้ คุณ.. เอ่อ..”

“เรียก กันต์ ก็ได้ครับ”

“คุณกันต์ เข้างานกี่โมงครับ”

“เรามีเที่ยวไป ดูไบอีกที พรุ่งนี้ บ่ายสอง ต้องเช็คอินกระเป๋าก่อนสิบเอ็ดโมง และก่อนอื่นต้องรบกวนคุณนทีซื้อตั๋วใหม่ครับ”

“ตั๋วเฟิร์สคลาส ไม่น่าเต็มง่ายๆ นะ  ผมเห็นว่างทุกที  เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยซื้อใหม่แล้วกัน” ผมขยิบตาให้หนึ่งทีครึ่ง  ดูเขาจะเผยอยิ้มแบบอายเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าหยิบพาสปอร์ตเก่าของผมส่งให้คืน

“พาสปอร์ตที่ใช้งานไม่ได้แล้วครับ”

“ใช้ไม่ได้ ก็ฝากทิ้งทีนะครับ สวัสดีครับ.. คุณกันต์”


เหนื่อยชิบหาย !!  หายใจไม่ทั่วท้องเลยกู  แต่เอาเป็นว่า น่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง ดูจากหูตาที่เขาเล่นกลับมา จำไว้เลย ถ้าใครกำลังเขินจะเผลอเอามือขึ้นเสยผม  สาบานได้ว่า กันต์เสยไปจนเหาละลายติดหนังหัว   ไม่นาน ก็มีไลน์แอดเข้ามา ใช้ชื่อว่า “รักกันต์” แหม.. ไม่ค่อยเลยนะมึง  เหมาะสมแล้วกับผัวเก่ากู  ง่าย ไวไฟ  เดี๋ยวกูจะสั่งสอนให้สาสม
ในพาสปอร์ต มีรูปผมกึ่งเปลือยอยู่หน้าหลัง ฝีมือการถ่ายแบบจากไอ้เอ  มีเบอร์โทร แล้วก็ไอดีไลน์  มีที่อยู่คอนโดห้องหรูใจกลางเมือง เจ้าตัวคงรู้ว่าผมอ่อย  แล้วเขาก็รีบเสนอท่าทีกลับ แหม.. ชักสนุกแล้วสิ



สนามบินขาออก  วันที่สอง

“ไม่ทราบว่า ในกระเป๋าเดินทางคุณนที มีสิ่งของต้องสำแดง หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้า พาวเวอร์แบงค์บ้างไหมครับ”

“มีครับ”

“โอ้ว..  พาวเวอร์แบงค์รูปร่างแปลกนะครับ ประจุไฟเยอะเกินกว่ากำหนดด้วยหรือเปล่าครับนี่ เกิน 32000 mAh ครับ”

“ฮ่าๆๆ  น่าจะเกินครับ..”

“งั้นคงต้องขอให้เอาออกนะครับ”

“คงไม่ได้หรอก ผมไม่กล้าทิ้ง คาซึเอะ ไว้  สงสารเธอ  เธอเป็นตุ๊กตาตัวโปรดของผม”

“เป็นตุ๊กตาที่มีประจุไฟมากเลยนะครับ”

“คุณกันต์ไม่รู้หรอก ว่าเธอทำอะไรได้บ้าง  เขินจังครับ  คุณกันต์คงไม่เข้าใจคนเหงา  หน้าตาแบบคุณกันต์คงไม่เข้าใจ”

“ผมทำไมเหรอครับ”

“ก็คุณกันต์ออกจะดูดีขนาดนี้ ไม่เหงาแบบผมหรอก”

“อะไรกัน คุณนทีนี่หล่อระดับเฟิร์สคลาสเลยนะครับ ถ้าเหงานี่คงแปลกมากๆ”  ติดบ่วงกูแล้วสิมึง

“ผมต้องทำอย่างไรดีนะครับ”

“เสียใจด้วยครับ ต้องเอาตุ๊กตาประจุไฟตัวนี้ออกไป ไม่อย่างนั้น คงจะโหลดกระเป๋าให้ไม่ได้”

“งั้นผมเอาเธอไปส่งบ้านก่อนดีกว่า  พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”

“เสียดายตั๋วแทนจังเลยนะครับ แต่พรุ่งนี้ผมหยุดนะครับ”

“นี่กะจะไม่ให้ผมเช็คอินกระเป๋ากับคนอื่นเลยเหรอครับ”

“เปล่าครับ ผมแค่แจ้ง จะมีน้องพนักงานคนอื่นมาดูแลแทน” กันต์มีอาการเขินอาย ที่ผมพูดดักคอขนาดนี้

“ผมไม่ชอบเปลี่ยนคนดูแลบ่อยนะสิ.. ดูอย่าง คาซึเอะ  เธออยู่กับผมมาหลายปี”

“ผมหยุดสองวัน ทำงานสามวัน สลับกันไปครับ”

“งั้นผมกลับมาใหม่ ตอนคุณกันต์มาทำงานเนอะ  สวัสดีครับ”

“ผมมีไลน์คุณนที”

“ก็ทักมาสิครับ เห็นทีผมต้องบอกกับคาซิเอะว่า หมดเวลาของเธอแล้วล่ะ”


เอาเข้าจริงเขาก็มาดดี มีหน้าตาโดดเด่น คนจะเข้าใจว่าเป็นสจ๊วตก็ไม่แปลก ที่ทำงานกราวนด์ สงสัยสอบโทอิคได้น้อยสินะ หรือว่าอายุมากแล้ว  แต่จากข้อมูลพี่อำนาจ กันต์น่าจะทำเป็นพนักงานภาคพื้นดินอยู่ระยะนึงแล้ว 
ถ้าเจอข้างนอก หรือไม่ได้มีคดีความกันอยู่ ก็ถือว่า เป็นคนน่าคบหาเหมือนกัน อัธยาศัยดีเชียว ดูเอาใจใส่ แล้วก็ช่างเอาใจ  ไอ้กัสหลงมึงตรงนี้สินะ หึ  ไม่นานหรอกกันต์.. ไม่นานหรอก




“ข้อมูลผม ใช้ได้ไหมครับนายน้อย”  ผมปรือตาขึ้นมามอง บอดี้การ์ดของพ่อที่คร่อมตัวผมอยู่ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าออกห้องผมได้ตามอำเภอใจ จะมีก็ไอ้พี่อำนาจนี่แหล่ะ

“ก็พอจะรักษามาตรฐานพี่อำนาจได้อยู่หรอกนะ ไม่ถึงกับวิเศษอะไร”

“นายน้อยจะเอาอะไรล่ะครับ ผมจะไปหามาให้”

“อยากรู้ว่า มันชอบไปเที่ยวไหนเวลามันได้วันหยุด เหล้าที่มันชอบ แล้วก็ไปกับใคร”

“นายน้อยหลงรักเขาเหรอครับ”

“เฮ้ยย ไม่ใช่”

“อ้าว ผมก็นึกว่า นายน้อยแอบตามเขา อยากทำความรู้จัก อยากได้เขา”

“จะพูดยังไงดี..  อยากทำความรู้จักน่ะใช่  แต่ไม่ได้ชอบ  แค่อยากได้เขา คือ ต้องได้ แต่ไม่ได้ชอบ”

“มันย้อนแย้งอยู่นะนายน้อย”

“เออหน่า พี่ก็เอาข้อมูลมาให้ผมแล้วกัน แล้วมานอนทับทำไมเนี่ย หนักจะตายอยู่แล้ว จะนอน”

“เมื่อคืนดึกอีกแล้วเหรอครับ เห็นไปแถวรัชดามา”

“นี่แอบติดจีพีเอสที่รถใช่ไหม”

“จีพีเอสมันล้าสมัยมากไปแล้วครับ สำหรับผม”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2018 17:21:03 โดย TofuChan »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ NC Wanted

  • NC Wanted
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep.5 :  Pay for Play ชาวเป[ย์]รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ

โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย บ่ายวันศุกร์ ผมเดินผ่าฝูงนักศึกษาเข้าไปยังโต๊ะที่พวกหลิวนั่งรออยู่ 

“เชี่ยยย หน้าใหม่มึงนี่เผ็ดเว่อร์  คนมองทั้งตึก”  เอทำหน้าอิจฉาตาร้อน

“หุ่นใหม่ก็เท่ดีนะ เราว่าน้ำหุ่นแบบนี้กำลังดี แบบเก่าผอมเกินไป” ตูนแสดงความเห็นเพิ่ม

“แกดูสมาร์ทขึ้นด้วยน้ำ เดินเหินนี่แมนเชียว สาวคณะบัญชีเหลียวหลังกันใหญ่ อย่ามานั่งกับหลิว เดี๋ยวหลิวโดนดักตบ”

“อย่ามาอวยกันเว่อร์เลยเพื่อน  ไหนกินอะไรกันเนี่ย”

“มีแครอทเค้กที่น้ำชอบด้วย เราเห็นร้านเจ๊อิ๋วเพิ่งสไลด์เป็นชิ้นใส่ตู้เมื่อกี้ เลยซื้อมาฝาก มีน้ำมะพร้าวปั่นด้วย”

“โหว ตูน ขอโทษว่ะ ตอนนี้เรางดของหวานกับของทอด น่าจะยาวเลย” แล้วผมก็ควักน้ำแร่เอเวียงจากกระเป๋ามาดื่ม

“แล้วนี่สองคนนี้ไปเที่ยวพัทยากันสนุกไหม ตูนจะไปด้วยทำไมไม่ให้ไปล่ะเนี่ย” ผมกับไอ้เอแทบสำลักน้ำ

“น้ำมันชวนไปเรียนดำน้ำ เลยไม่อยากให้ตูนไป มันอันตราย” เอขี้ม้าขาวมาช่วย เรื่องตอแหลมันก็ได้โล่อยู่นะ

“ทำไมไม่ให้พี่ไผ่สอน พี่ไผ่ดำน้ำเก่งมาก ได้ใบประกาศอนุญาตดำน้ำลึกแล้วด้วย”  ตูน กูว่ามึงควรหยุด ไอ้ขี้เสือก

“โทษนะครับ พอดีเพื่อนอยากรู้จัก เพื่อนอยากได้เบอร์” ชายคนหนึ่งเดินมาหาที่กลุ่มเรา เอ่ยปากบอกกับผม แล้วชี้ไปที่สาวสามคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหน้าร้านน้ำปั่น

“เพื่อนคนไหน” ผมถาม

“นี่ไง เราเอง เราที่ชื่อว่าเพื่อน”  ชายหนุ่มคนเดิมที่หน้าตาดีใช้ได้ ชี้ยังหน้าอกตัวเอง

“......”  มุกเสื่อม พูดไม่ออกเลยกู  ก่อนมีเสียงกรี้ดดังมาจากกลุ่มเพื่อนของไอ้เพื่อน แล้วไอ้คนชื่อเพื่อนก็เดินกลับไปสมทบเพื่อนของมัน ซุบซิบนินทา เอาเหอะ จะหาว่าหยิ่งก็แล้วแต่ ตอนนี้ ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เป้าหมายผมคือ ท้าชน และ พิชิตไอ้กันต์ ให้จงได้



จากประวัติของกันต์ มีอะไรน่าสนใจมากมาย พี่อำนาจพิมพ์รายงานมาให้ว่า
เขาดิ้นรนพอสมควรที่จะจากชีวิตบ้านนอกมาเมืองหลวง เขาทะเยอทะยานและพยายามที่จะเป็นที่ยอมรับ 
ความที่หน้าตาดี บางอย่างก็ง่าย แต่บางอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหา
เพราะมันสร้างสมนิสัยบางอย่างที่เขาคิดว่า เขาจะได้มันมาโดยง่าย

ทุกวันหยุด มีสถานที่หนึ่ง ที่เขาจะต้องมาประจำ แล้วเขาก็กลับกับใครสักคนในทุกคืนที่ออกเที่ยว
ก็หน้าตาแบบนั้น คงไม่ยาก ถ้าจะหาใครที่เหงาเช่นกันกลับบ้านด้วย 
เพียงแต่ก็แปลกใจ ว่าทำไมเขาเลือกที่จะสานต่อคนอย่าง ออกัส แฟนเก่าของผม
ออกัส ไม่ได้มีอะไรที่ กันต์น่าจะโหยหา  เงินก็ไม่มี แถมยังกำมะลอ
กันต์เอง แม้จะหน้าตาดีขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะทำให้ ออกัสผู้รักสนุก จะถึงกับทิ้งผมไปหาได้
คืนนี้ ผมคงได้คำตอบ


ผมเปิดตู้เสื้อผ้าสีไม้มะค่าของ Kenzo รุ่น ลิมิเต็ด แล้วก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์ฟอกฟ้าอ่อนออกมาวางที่เตียง เลือกเครื่องประดับให้น้อยชิ้นที่สุด แต่มีโลโก้เล็กน้อย  จะล่อเหยื่อเด็ด ใจก็ต้องถึง อืม.. ใช้ทิฟฟานี่แล้วกัน ต่างหูแบบหนีบ กับข้อมือทองคำขาว น่าจะเพียงพอสำหรับไฟสลัวในผับ  วันนี้ผมคงไม่ขับรถ นั่งแท็กซี่เอาดีกว่า เผื่อจะเมา


สีลมซอย 2
ดนตรีดังอึกทึกลั่นจนไม่ได้ยินเสียงพูดคุย  ผมนั่งอยู่หน้าเคาท์เตอร์ในตำแหน่งที่โดนสังเกตได้ชัด  ผับที่ซึ่งคืนนี้ มีเงาของกันต์โผล่มาแน่นอน  ตั้งแต่ผมย่างเท้าเข้ามา ก็มีสายตาหลายคู่จ้องมา ผมรู้พลานุภาพของมีดหมอก็วันนี้ 

ดีเจสเตชั่น ผับเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยชายวัยกลัดมันผู้หื่นกระหาย แม้ภาพภายนอกคล้ายผู้คนจะหลั่งไหลกันมาฟังดนตรีซาวด์แน่น วัยรุ่นถึงวัยดึก บ้างก็แต่งเป็นผู้หญิง บ้างก็ดูคล้ายกรรมกรแบกหาม  บางคนก็คล้ายเพื่อนพ่อซะจนน่ากลัว   เพลงที่ล้ำสมัย  กับบรรยากที่เร่าร้อน  แต่ภายในเท่านั้นใครจะไปรู้ว่า คนที่ก้าวเท้าเข้ามาอุดมไปด้วยความเหงาที่แบกไว้บนบ่า และหวังว่าจะพาใครสักคนกลับบ้านด้วยเพื่อทุเลาความหว้าเหว่นั้น

นั่นไง เขามาแล้ว เดินมากับเพื่อนอีกคนที่หน้าตาดีไม่แพ้กัน แต่งตัวเรียบง่าย แต่ก็ดึงดูดสายตาไม่น้อย  ตั้งแต่ผมเดินเข้ามา ที่ผู้คนต่างมองเป็นตาเดียว  มีนายแบบสิงคโปร์  แล้วก็น่าจะเป็นกันต์นี่แหล่ะ ที่ทำเอาหนุ่มน้อยใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าบาร์สะกิดกันจ้าล่ะหวั่น โดยเฉพาะฝรั่ง และ นิโกร ที่มองกันต์จนน้ำลายไหล 

เพลง I’ve Never Been to Me เวอร์ชั่น DJ.dance Remix ที่ไม่ได้ฟังมาเนิ่นนาน ทำเอาคนลุกขึ้นเต้น ผมหันไปมองกันต์ที่ตอนนี้ ตระหนักแล้วว่า ผมอยู่ในนี้  เขายกแก้วชูขึ้นเป็นการทักทายผม  ผมชูตอบ แล้วส่งยิ้มให้ เดาว่านับหนึ่งถึงสิบ เขาจะต้องเดินมา

“คุณนที มาได้ไง” กว่าจะมาทักกูได้ โค้กซีโร่กระป๋องละ ร้อยห้าสิบ หมดไปสี่ดริ้งค์แล้ว

“อ้าว คุณกรานวด์รูปหล่อ  ชื่ออะไรนะ”

“กันต์ครับ จำชื่อผมไม่ได้ เสียใจนะเนี่ย” เขายกมือปัดไล่เพื่อนที่มาด้วยกัน ให้ไม่ต้องมานั่งด้วย

“ให้อภัยผมเถิด สมองผมคงตื้อน่ะครับ อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเหงา เลยนะครับ”

“น้องคาซึเอะ ทิ้งไปเหรอครับ”

“ฮ่าๆๆ   มันเจ็บกว่านั้นเยอะ  อย่าพูดถึงมันเลย ดื่มอะไรดี ให้ผมเลี้ยงนะ”

“คืนนี้ ผมว่าผมไม่ค่อยอยากจะดื่มเท่าไหร่ครับ”

“ผมเปิดบลูเลเบิ้ลให้นะ”

“หูววว  ได้ครับ คุณนที”



จากแก้วสู่แก้ว  ผมที่งดแอลกอฮอล์ในช่วงของการดูแลหุ่นที่เพิ่งถูกแกะสลักโดยเทรนเนอร์เดช ก็ไม่คิดแตะต้องเครื่องดื่มมึนเมาไปพักใหญ่  คงได้แต่นั่งจิบน้ำแร่กับโคล่าแบบไม่มีน้ำตาลไปค่อนคืน  ผมให้กันต์ได้พูด พูด แล้วพูด นั่นนี่ในสิ่งที่เขาอยากจะบอกเล่ากับคนที่เพิ่งรู้จักอย่างผม  เอาเข้าจริง เขาก็น่ารักมากอยู่นะ ยกเว้นถ้าวกเข้าเรื่องการงาน

“ไอ้พวกสจ๊วต กับ แอร์ มันไม่เคยเห็นหัวพวกผมหรอกคุณนที รู้ไหมทำไม”

“ไม่รู้สิครับ เล่าให้ผมฟังหน่อย ผมมีเวลาทั้งคืนเลย”

“ก็พวกมันวิเศษเลิศเลออยู่บนฟ้า  ส่วนพวกผม มันมองว่ายังไงก็เป็นคนภาคพื้นดิน  ขึ้นชื่อว่าอยู่บนดินมันก็ไม่สุงสิงแล้ว”

“คุณกันต์คิดมากไปเองหรือเปล่าครับ ผมอยู่บนนั้น น้องๆก็น่ารักกันมากเลยนะครับ” ยั่วโมโหได้อีก ผมนี่เยี่ยม

“มันก็ซูฮกแต่กับพวกคนรวยแหล่ะครับคุณนที  เงินเดือนมันสูงกว่า มันไฮโซกว่า มันมองพวกผมกันด้วยหางตา”

“แล้วไม่อยากไปทำงานข้างบนนั้นบ้างเหรอครับคุณกันต์” ผมยังคงแหย่ให้เขาปลดปล่อยอารมณ์เขาออกมาอีก เพราะตอนนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่า เขาเมาเต็มที่แล้ว  ซึ่งตอนแรกเห็นเขาจะหยุดดื่ม ผมเลยใช้ไม้เด็ด สั่งเปิดบลูเลเบิ้ลให้เขา โอ้โห ข้อมูลพี่อำนาจนี่แม่นเป๊ะ กันต์ผู้ที่พ่อนักสืบตัวดีบอกว่า เป็นพวกวัตถุนิยมสุดโต่งมีเหรอจะปฏิเสธ  เขายกมันเข้าปากแบบที่ไม่กลัวเมาอีกเลย

“โอยยย แค่ทุกวันนี้ มีงานก็บุญแล้วคุณนที ผมน่ะ รอเขาเปิดรับคนในมาสามปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะได้ แถมยังมีคนจาก เอ้าท์ซอร์สมาแข่งอีก เงินเดือนก็ใช่จะเยอะ โหมทำโอทีแทบตายเพื่อจะผ่อนคอนโด  ไหนจะส่งเงินกลับต่างจังหวัดไปให้แม่ เหนื่อยครับพี่นที  เหนื่อยเหลือเกิน” 

“แล้วน่ารักอย่างคุณกันต์นี่ไม่มีแฟนเหรอครับ”

“ผมก็เพิ่งเลิกไป มันไปมีคนใหม่ไปแล้ว นี่ ผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ผมมองนาฬิกาที่มันเก็บตังซื้อให้ผมอยู่บ่อยครั้ง” นาฬิกาที่มึงใส่ ฮอยเออร์นั่น คือเงินกู ฮัลโหลววว

“เขาทิ้งคุณกันต์ไปได้ยังไง คุณกันต์ออกจะดูเพอร์เฟ็คส์”

“มันว่าผมปกป้องมันไม่ได้ ทั้งที่ผมดูแลเป็นอย่างดี ผมวิ่งเต้นให้ได้มาทำกราวน์อีกสายการบินนึง จะฝึกงานสิ้นเดือนนี้อยู่แล้ว ผมดันไปจับได้ซะก่อน ว่าไปมีคนอื่น มันบอกว่า..”  แล้วกันต์ก็ฟุบหน้าลงไปที่โต๊ะ ร้องไห้  เออ หัวอกเดียวกันแฮะ

“บอกว่าอะไรครับ”  ไอ้กัส มึงทำคนเสียใจมากกว่าหนึ่งคน มึงนี่นะ ไม่ได้ตายดี ไอ้ห่า

“ผมจืด เหมือนแกงจืด ไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับมัน”

“ถ้าเมาแล้ว ไปต่อห้องผมกันดีกว่านะ”

“ผมว่าผมจะกลับบ้าน ผมอยากกลับ..”

“เพ็นท์เฮ้าส์ ดิเอ็มไพร์”

“หูววว ผมไปด้วย”




ในสระว่ายน้ำโอเพ่นแอร์  ผมในกางเกงบ็อกเซอร์ กับกันต์ในกางเกงว่ายน้ำสีเหลืองอ่อนของผม ให้เขายืมใส่ มันดูดีเวลาอยู่กับเขามากกว่าอยู่กับผมนะ ผมว่า

“นี่ไม่มีใครลงว่ายน้ำเลยเหรอครับ คือ เขาไม่ว่าใช่ไหมว่ายดึกขนาดนี้” กันต์ที่สำรวจห้องผมด้วยสายตา แถมยังสนใจอสังหาของผมซะยิ่งกว่าผมที่อยู่ตรงหน้า

“มันเป็นสระของผมครับ”

“โหว จริงดิ”

“เพ็นท์เฮ้าส์ จะมีสระของตัวเอง แต่ก็สระเล็กอย่างที่เห็นนี่แหล่ะครับ โครงสร้างมันคงรับน้ำหนักได้เท่านี้”

“ในตึกมี เพ็นท์เฮ้าส์กี่ห้องครับคุณนที”

“เพ็นท์เฮ้าส์ธรรมดา มี 4 ห้องครับ ซึ่ง เพ็นท์เฮ้าส์ไดมอนด์ มีห้องเดียว”

“ซึ่งห้องนี้ก็คือ..  คือห้องไดมอนด์ ที่ว่าเหรอครับ”   เขาอมยิ้มเมื่อผมส่งแก้วแชมเปญไปให้แทนคำตอบ   ผมลอยตัวในน้ำไปหาใกล้กันต์ เขาเริ่มหน้าแดงทั้งที่ดื่มไปตั้งเยอะแล้ว แต่เหมือนจะเมายากแฮะ สงสัยฉี่ในสระกูแน่เลยไอ้หน้าหล่อ

“อร่อยจังเลย”

“ดอม เพอริญอง ผมเปิดเฉพาะโอกาสพิเศษน่ะครับ”

“ว้าววว”

“ผมจูบคุณได้ไหม”  ผมรุกเขาก่อน  แต่เขาก็เดินผ่าน้ำมาแล้วบดปากเขากับริมฝีปากของผม กลิ่นบลูเลเบิ้ล ผสมกับ ดอม เพอริญอง ไม่รู้ว่าอันไหนแรงกว่า แต่รสริมฝีปากของกันต์หวานนำรสเหล้าทั้งปวง ผมเอามือของเขามาจับซิกแพ็คป้ายแดงของผม ให้เขาลูบไล้อยู่อย่างนั้น ผมโอบเอวเขารั้งเข้ามาชิด ให้หน้าท้องของเราเบียดกัน
บางสิ่งบางอย่างมันพองก๋า แล้วมันก็เบียดไปมาในน้ำนั้น

“ผมว่า.. ผมไม่พร้อม ผมยังไม่..” 

“ผมไม่ได้เร่งรัดครับกันต์  ผมแค่อยากใช้เวลากับคุณคืนนี้”  แล้วผมก็บรรจงจูบปากที่เอื้อนเสียงครางกระเส่าไม่หยุดหย่อน สักพักผมดึงเขาขึ้นจากสระ ส่งผ้าเช็ดตัวสีส้มผืนสะอาดของ HERMES ให้กันต์มารับไว้ เขาเอาผ้ามาสูดดม มันช่างดูน่ารักดี เหมือนเด็กน้อยที่เห่อของเล่น 
ผมรู้จากรายงานของพี่อำนาจว่าเขาบ้าของแบรนด์เนม แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเอาหนักขนาดนี้เลย  ผมเช็ดตัวของผมให้แห้ง แล้วเดินเข้าไปหาเขา เอา HERMES อีกผืนแต่เป็นสีดำอักษรส้ม เช็ดไปที่หัวของเขาให้มันแห้งหมาด ห่อไหล่เขาไว้  ถอดบ็อกเซอร์ที่เปียกของผมไว้กับพื้น

“คุณนทีครับ.. ผมว่า..  ผม..”

ผมบดปากลงไปบนปากแดงนั้นอีกรอบ ก็มันดีแฮะ นุ่ม หวาน อร่อยกว่าของไอ้กัสมากมายนัก  ผมเอามือเขามาจับของผม เขากำมันแน่น เมื่อมันเหมือนจะเป็นแต้มต่อ ผมเลยส่งลิ้นเข้าไปควานในปากของเขา สอดปลายลิ้นไปให้เขาอมไว้ในกระพุ้งแก้มอุ่นร้อน กันต์ฉกมันอย่างชำนาญ มือเขายังกำแก่นกายของผมไว้แน่น  ผมค่อยๆเอามือกดหัวเขาลงไป เขาขืนตัวอิดออดเล็กน้อย

“คุณนทีครับ.. ผม..” 

“ห้องซ้ายแต่งแบบ Dior ถ้าไม่รังเกียจของเชย.. แต่ถ้าชอบสีสันแบบ Versace ก็ห้องขวาครับ”

เสร็จผม..  เขาดึงผมไปทางห้องซ้าย คว้าคอผมโน้มไปจูบ ผมเอาลิ้นไถจากติ่งหูลงมาที่ซอกคอตามที่ไอ้เอสาธิตให้ดู ผมจับแขนทั้งสองของกันต์ยกขึ้นแล้วโน้มดันตัวลงนอนบนเตียง  สีหน้ากันต์เป็นปลื้มที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าเขาสัมผัสกับผ้าปูที่นอนดิออร์สีขาวตัดดำ ผมสั่งมาโดยเฉพาะ และหวังว่ามันจะได้ใช้

“เบรกก่อนคุณนที...” กันต์ดิ้นไปมา เมื่อลิ้นของผมวนอยู่ที่ตุ่มเม็ดสีชมพูตรงยอดอก ผมเลือกที่จะไม่โกนหนวดวันนี้ ให้ตอขนมันถูแถวราวนมจนเขาส่ายดิ้นราวกับปลาถูกทุบหัว  ผมล็อคข้อมือที่อยู่เหนือหัวของเขาทั้งสองข้าง  ตาเรามองกัน เขาดูหล่อ น่ารัก แล้วก็น่าขยี้  เอาเข้าจริง เขาน่าครอบครองกว่าไอ้กัสด้วยซ้ำ 

“เรียกผมว่า พี่ได้ไหม” ผมใช้ปลายเท้าของตัวเองเหนี่ยวดึงกางเกงว่ายน้ำสีเหลืองจากสะโพกของเขาออกแล้วโยนทิ้งไป  ก่อนจะเอาลิ้นลากจากราวนมลงมาถามสีข้าง ผ่านมายังเนินสะโพก  โดยไม่ลืมที่จะเพิ่มความโรแมนติกตามที่ไอ้เอติวไว้ ด้วยการบรรจงจุมพิตลงที่บั้นเอว กันต์หลับตาพริ้ม  ผมเอานิ้วค่อยๆไต่ไปที่ซอกขาด้านใน แล้วยกขาเขาชันขึ้น

“เดี๋ยวสิพี่ คุยกันก่อนครับพี่นที”

“ครับน้องกันต์”  ผมหยุดไม่อยู่ ชิมเขาไปเรื่อย มือที่ไล้อยู่ตามตัวเขาถูกกันต์จับล็อคไว้บ้าง

“ผมไม่เคย..”

“อย่าทำพี่แปลกใจสิครับ”

“ผมไม่เคยเป็นรับครับพี่”

“พี่จะค่อยๆนะครับ”  ผมโน้มทับตัวเขา เรากอดกันไปมาแลกกับจูบที่ดูดดื่ม

“พี่ครับ  พี่นทีรับผมแทนได้ไหม  ผมไม่กล้า”

“พี่ก็ไม่เคยด้วยสิครับ.. มันมีครั้งแรกเสมอนะครับกันต์  นึกถึงเรานอนกอดกัน ทานไข่ปลาคาเวียร์ เป็นมื้อเช้า”  ผมเอานิ้วที่ชุ่มด้วยเจลหล่อลื่นแหย่เข้าไป เขายอมแล้ว   ผมนับหนึ่ง

“โอ๊ยพี่นที ผมเจ็บ”

“เจ็บแป๊บเดียว นะ.. นะครับ..  เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไปพักฟื้น พี่จะพาบินไปกินกุ้งที่ศรีพันวากันนะครับ”  แล้วผมก็แหย่นิ้วเพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว เขาครางออกมา   ผมนับสอง

“โอ๊ยพี่นที  ผมไม่ไหวแล้ว พี่ผมเจ็บ หยุดครับพี่ หยุด”

แล้วผมก็หยิบไม้ตายสุดท้ายออกมา ซองฟอยด์สีน้ำตาล หลุยส์ วิตตอง ไซส์ 54 ลายโมโนแกรม ฉีกต่อหน้าเขา แล้วส่งถุงยางที่แพงที่สุดในโลก ไปให้เขาจูบหนึ่งที  กันต์จูบมันด้วยความหื่นกระหาย เอื้อมมือจะมาหยิบประติมากรรมชิ้นพิเศษ
ฉีกฟอยด์ราคา 80 ดอลลาร์อย่างบรรจง แล้วหยิบลาเท็กซ์ห่วงกลมสีน้ำตาลเข้มน้ำในที่ปลายนิ้ว
 
“ใส่ให้พี่ทีนะครับ พี่สั่งมาไว้ใช้กันน้องกันต์เท่านั้น.. น้องกันต์คนเดียว”  ผมก้มลงไปดูดปากเขาอีกรอบ กันต์เอื้อมมือไปใส่ถุงยางให้ผม แล้วผมก็ นับสาม..




ที่ระเบียงของเพ็นท์เฮ้าส์  ผมนั่งดูดาวในเมืองหลวง แม้ชั้นที่อยู่จะสูงขนาดนี้ ก็ยังมีตึกมาบังอยู่ดี  อากาศเย็น  ผมเหลือบไปเห็นคนที่นอนหลับบนเตียงดิออร์  เขากอดหมอนขนห่านหนาแสนนุ่มไว้กับหน้าอก ซุกตัวที่เปลือยเปล่าอยู่อย่างนั้น หลับตาพริ้ม คล้ายกับกำลังฝันถึงอะไรบางอย่าง  กันต์เป็นคนน่าเอ็นดู สดใส น่าหลงใหล..  ออกัส คงชอบแบบนี้สินะ

ผมเดินไปที่เตียง ก้มลงไปหอมเขาที่แก้ม เอาผ้าห่มมาคลุมตัวเขาไปไว้ หรี่ไฟที่หัวเตียงลงให้สลัว  เอื้อมไปหอมที่ซอกคอเขาอีกรอบ เขายิ้มทั้งหลับไปอย่างนั้น

แล้วผมก็ ควักโทรศัพท์ออกมา.. กด ชัตเตอร์อย่างไร้เสียง  ความเงียบที่ทารุณ ได้เริ่มต้นขึ้น ผมรับรู้เลยว่า ปีศาจร้ายได้ครอบงำหัวใจผมเข้าให้แล้ว



ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อร๊ายยย ชอบบบบบบบบบ
กันต์บ้าแบรนเนมได้น่ารักมากกก   :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันมีจริงนะคะ คนที่บ้าแบรนด์ เพื่อนที่ มอ มีคนนึง ถึงกับทำทุกอย่างให้ได้สะพายหลุยส์ อย่าให้ได้เล่าเลยว่านางไปทำอะไรมาบ้าง
ส่วนเรื่องราวสนุกมาก ตอนนี้เดาไม่ออกว่า จะลงเอยกับใคร

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep 6 :   เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี

ศรีพันวา..
ห้องอาหาร Baba Soul Food..

กันต์ณรงค์ นั่งจัดการกับการะเวกสอดไส้ ระหว่างรอ ปูผัดมะนาว ยำเป็ดกรอบ ที่เชฟกำลังปรุงอยู่ในครัวหรู โดยผมไม่ได้ทานอะไรมาก เพราะว่าเคยทานอาหารพวกนี้จนชิน  ได้แต่นั่งเขี่ยชีสเค้กขนุน ระหว่างมองกันต์โซโล่อาหารกองโตตรงหน้าอย่างสนุก  เขากินแต่ละจานจนแทบจะเลียมัน คงหิวมาก แถมยังถ่ายท้องตั้งแต่เช้า ผมนี่รู้ดีว่ามันเป็นอาการข้างเคียงของการเป็นรับ หรือเสียซิงด้านหลัง

เขาแต่งตัวสบาย ในชุดของผม เพราะเราตื่นกันสายมาก ผมให้พี่นุดี เลขาของคุณพ่อ รีบจองตั๋วเครื่องบินให้ กันต์ไม่ได้กลับบ้าน ผมเสนอให้เขาใส่ชุดของผมที่อยู่ในตู้เคนโซ่ เขาเลือกตัวที่เรียบๆ ง่าย ๆ ด้วยความเกรงใจ ผมเลยเอาแจ็คเก็ตของอีฟแซง มาห่อตัวเขาอีกที เพื่อให้เขามั่นใจขึ้น

แหลมพันว่า วันนี้สวยเหลือเกิน โต๊ะที่เรานั่งเป็นมุมที่มองจากผาสูง เห็นเวิ้งน้ำเป็นวงกว้าง ลมเอื่อย กับ เครื่องดื่มเย็นชื่นใจแต่กันต์เขาไม่ได้เรียกร้องที่จะสั่งอะไรนะครับ แต่ดูเมนู เอานิ้วลูบไล้ผิวเมนูราวกับจะซึมซับมันไปทุกตัวหนังสือ แล้วเขาก็ได้นั่งเงียบ ผมจึงต้องสั่งเมนูเด็ดมาให้  เขาเหลือบไปมองแหลมพันวา ยกมือถือมาถ่ายรูปแอบๆ อย่างเกรงใจ ผมต้องผายมือเป็นเชิงอนุญาต ให้เขาได้ใช้เวลาดื่มด่ำสถานที่สวยหรูแห่งนี้ไปจนอิ่มใจ  เขาตักปูมาให้ผมชิม ผมก็รับเข้าปากเพื่อมาแกล้มกับเบียร์เบาๆ 

“พี่ทำน้องกันต์โทรมขนาดนี้เลยเหรอครับ โด๊ปเอาแรงคืนนี้ใช่ไหม”

“โหย พี่นที ไม่ไหวแล้วครับ ผมแทบแย่ นี่ท้องเสียแต่เช้าเลย ไม่ได้เตรียมตัวก่อน”

“พี่ขอโทษนะครับ พี่อดใจไม่ไหว น้องกันต์น่ารักมาก”  พอผมเอ่ยชม เขาก็ทำปากยู่ น่าชังเชียว ถ้าไม่เกรงใจฝรั่งที่นั่งรายล้อมโต๊ะอื่น ก็จะเอื้อมเอามือไปหยิกที่จมูกจิ้มลิ้มนั้น กันต์รูปหล่อของไอ้กัส  มันดูน่ารักสำหรับผม   “แล้วนี่ พี่ขโมยตัวบินมาภูเก็ตแบบนี้ คนที่คุยๆ อยู่ไม่ว่าเหรอครับ”

“ไม่มีนะครับ ผมโสด โสดสุดๆ”

“ตั้งแต่เลิกกัน..  เอ่อ. แฟนเก่าชื่ออะไรนะ”  ถามเผื่อไว้ เกิดรุกไปผิดคนล่ะยุ่งเลย

“อนุสรณ์ครับ..  ชื่อ ออ”  เออ ถูกคน โล่งอก

“ไม่เปิดใจให้ใครบ้างล่ะครับ ออกจะหล่อ ใครก็อยากเป็นเจ้าของ”

“ก็เปิดอยู่นี่ไงครับ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะเตรียมทิ้งขว้างผมแล้ว”  หน้ายู่ ปากจู๋แดงแจ๋ มันใช้ได้ผลเสมอเลยเหรอ อย่างน้อยก็กับผม  น่ารักแฮะ

“ก็ถามเฉยๆครับ พวกตัวท็อปสายการบินเนี่ย เขาว่าเจ้าชู้ พี่ไม่อยากเมาหัวราน้ำบ่อยๆ” 

“ผมมันก็แค่กราวนด์ครับ”  เขาก็ก้มหน้าเขี่ยกุ้งย่างเกลือตัวโข่ง

“พักที่นี่สักคืนไหม”

“อย่าเลยครับพี่ สวยอย่างกับสวรรค์ขนาดนี้ คงแพงน่าดู เก็บเงินไว้กินของอร่อยดีกว่า”

“เงินน่ะมีเยอะแล้ว”

“นั่นสิครับ” เขายิ้มเจื่อนๆกลับมา

“แต่อยู่บนสวรรค์ กับ เทวดารูปงาม พี่จะไปหาโอกาสแบบนี้ได้ที่ไหนอีกล่ะครับ”


บ่ายวันนี้ ผมเหมาลิมูซีนให้พาเราสองคนไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และหาวัดเพื่อไหว้พระ นักท่องเที่ยวเยอะมาก ผมเห็นกันต์มีสีหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดทาง  ระหว่างที่เรากำลังกลับมาเพื่อทำสปาตอนเย็น เขาก็ถ่ายรูปตัวเองบนรถลีโม่  แล้วกันต์ก็ขออนุญาตถ่ายรูปคู่กับผม  ช่างมีมารยาท และเจียมตัวโดยแท้  ผมโอบเขาจากด้านหลัง ให้เขามาอิงแผ่นอกกล้ามแน่นของผม แล้วหอมที่แก้มเขาระหว่างเขาเซลฟี่  เสียงชัตเตอร์นุ่มนวล แผ่วเบาเท่ากับรอยจุมพิตของเราสอง ที่ไม่ได้เกรงใจคนขับรถเลยแม้แต่น้อย  ผมเอื้อมเอามือเขามาจับที่ของผมอีกรอบ เพราะมันตื่นตัวเมื่อได้กลิ่นอ่อนจากซอกคอ เขาทำตาลุกวาวเชิงปราม ว่านี่บนรถนะ  ผมกระซิบที่ข้างหูของเขา 

“สปีลเบิร์ก เคยนั่งคันนี้ ตรงเบาะนี้”  กันต์ทำตาถลนด้วยความอึ้ง แล้วเขาก็ก้มลงไปตรงนั้น เทวดาตัวน้อยนี้ รู้วิถีพาปุถุชนอย่างผมขึ้นสวรรค์นับครั้งไม่ถ้วน




“ตูน ว่าไง เมื่อกี้น้ำติดธุระเลยไม่ได้รับสาย”

“จะบอกว่า เราส่งเปเปอร์ให้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

“ขอบใจนะตูน  ไม่มีตูน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”

“น้ำหายไปไหนนานจัง ไม่กลับมาเรียนเหรอ  เราพยุงให้ได้ไม่กี่คาบหรอก แต่วิชาสาขาย่อย เอเขาก็ช่วยดูให้อยู่นะ”

“อีกไม่นานแล้วตูน น้ำทำธุระใกล้จะบรรลุแล้ว”

“อืม รีบๆ กลับมานะ”

“คิดถึงเหรอ”

“....”

“เฮ้ยยย  ล้อเล่น”

“อ้าว ก็เป็นห่วง  กลัวเรียนไม่ทัน”

“ขอบใจนะตูน  เราจะรีบกลับไป”




เตียงคู่สปาแสนนุ่ม ละมุนไปด้วยบรรยากาศอันอบอวนของกลิ่นไอทะเล  ผมกับกันต์ที่เปลือยเหลือแค่ผ้าขนหนูพาดทับก้นไว้ นอนคว่ำอยู่ในเตียงคู่ ซึ่งเตียงผมกับเตียงเขาห่างกันเพียงสองเมตร  มีพนักงานนวดมือเทพี กำลังบรรจงนวดเรา ผมพลิกหน้าที่คว่ำหันมองทางเขา  กันต์ก็มองกลับมา ตาปรือเหมือนจะง่วง ท่าหาวยังน่ารัก ผมล่ะอยากจะลากเขากลับห้องซะเดี๋ยวนี้  เพียงแต่ สปาถูกจองไว้แล้ว  ดอกลีลาวดีลอยเต็มอ่างไปหมด
“กรี้งงงงงงงง” เสียงโทรศัพท์สไตล์โบราณดังขึ้นจากมือถือของผม ผมเอ่ยให้พนักงาน เอานิ้วปัดโทรศัพท์แล้วเปิดลำโพงให้ผมที เพราะโคลนที่พอกอยู่เต็มหลังผมคงทำให้ผมลุกขึ้นมาไม่สะดวกเป็นแน่

“นายน้อย ผมได้ข้อมูลของ ภารกิจที่ 2 แล้วครับ ไอ้เนี่ย มันชื่อ..”  เสียงพี่อำนาจนี่หว่า  เห้ย เดี๋ยวกันต์ได้ยิน  ผมรีบลุกขึ้น จนโคลนที่แปะหลังไหลลงเปื้อนพื้น คว้าโทรศัพท์ และผ้าขนหนูไปพันเอวไว้ แล้วเดินออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียง

“พี่อำนาจ ผมติดธุระอยู่”

“อ่าว ก็เห็นรีบ ไลน์ไป นายน้อยก็ไม่ตอบนี่ครับ”

“ก็บอกว่า ติดธุระ”

“งั้นผมก็ยังไม่ต้องแฟกซ์ข้อมูลไปที่โรงแรมเนอะครับ”

“รู้เหรอ ว่าผมอยู่ไหน”

“คุณปลาวาฬ เจ้าของโรงแรมคงจำหน้าใหม่ของนายน้อยไม่ได้สินะครับ”

“เฮ้ยยยย”

“นายน้อยอยู่ในหูในตาของผมเสมอแหล่ะครับ” ผมวางสายคนเจ้าเล่ห์แล้วรีบเดินกลับเข้ามา กันต์ก็กำลังคุยโทรศัพท์ผ่านสปีคเกอร์เช่นกัน

“มีอะไร” กันต์ทำเสียงดุ

“มึงหายไปไหนวะ กูโทรไปเบอร์เก่าก็ไม่ติด นี่ได้เบอร์จากไอ้เอ็มมาเนี่ย”

“ก็ยุ่งๆ เหนื่อยๆ นี่มาพักผ่อน”

“มึงเนี่ยนะ พักผ่อน”

“อืม กูก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิมป๊ะ”

“มึงอย่าร้ายใส่กูสิ กูคิดถึงมึงนะ”

“คนคิดถึงกัน เขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก ออกัส”

เชี่ยยยยย  กูว่าแล้ว เสียงคุ้นมาก  ไอ้กัส  แต่มันคุยมึงกู กับกันต์เหรอ  ถ้าอย่างนั้น คนที่ผมแอบฟังผ่านจีพีเอส ที่เรียกเธอเรียกเค้า ก็ไม่ใช่กันต์น่ะสิ  ผมเดินอย่างเงียบไปแอบฟังใกล้ๆ  กันต์ที่นอนคว่ำ หันหน้าไปทางโทรศัพท์ น้ำเสียงเขาไม่ยินดียินร้ายอะไร

“แอบดูเฟซบุ้คมึง นี่ไปเที่ยวทะเลอยู่เหรอ”

“อืม อยู่แหลมพันวา”

“หูว อย่างหรู”

“ก็ดี”

“แล้วไปกับใครล่ะ เห็นมีรูปคู่บนรถด้วย เพื่อนเหรอ หน้าตาดีนะ”

“อืม”

“ใครอ่ะ”

“ทำไมล่ะ”

“ดูคุ้น แต่นึกไม่ออก”
“อย่ามาโมเม”

“อ้าว ก็ถามดู อยากรู้”

“มึงไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่าตอนนี้ กูมีความสุขมาก  แค่นี้ก่อนนะ ต้องพลิกตัวแล้ว  พี่ครับ รบกวนปิดโทรศัพท์ให้ที ขอบคุณครับ”  แล้วกันต์ก็เตรียมพลิกตัวหงาย ผมเลยแกล้งทำเป็นเพิ่งเดินเข้ามา 

“ธุระด่วนหรือเปล่าครับ” กันต์ทำตาแป๋วใคร่รู้ เมื่อเห็นผมเดินถือโทรศัพท์เข้ามา   ผมจึงปิดโทรศัพท์ต่อหน้าเขา แล้ววางไว้ที่เตียงต่อ ถอดผ้าห่อร่างกายไว้ที่ข้างเตียง เดินมาเอามือลูบที่แก้มเขาซึ่งบัดนี้ นอนหงายมีผ้าขนหนูสีขาววางพาดปิดใต้ท้องน้อย เพื่อรอนวดขั้นตอนต่อไป

“ธุระอะไรจะไปสำคัญกว่าได้อยู่ที่นี่ คืนนี้ ไม่มีอีกแล้วครับ” แล้วผมก็เดินกลับขึ้นไปนอนคว่ำ ให้พนักงานสาวทั้งสองที่ยืนดูอยู่ห่างๆ มาชำระโคลนตามตัวของผมออกไป



FlashBack

หินก้อนเล็ก ลอยมาโดนหัวเด็กน้อย แม้ไม่แรงนัก แต่มันก็เจ็บไปถึงใจ
“โว๊ยยยยยย  คนอะไรตัวซีดขาวอย่างกับศพ”  หินอีกก้อนลอยมาโดนแถวแขน น่าจะเกิดรอยข่วน
“ผู้ชายอะไรชื่อน้ำ ไปเป็นผู้หญิงเลยไป” หินก้อนนี่เล็กลง แต่เขวี้ยงแรง นำมาสู่รอยช้ำตรงหน้าแข้ง
“แต่งตัวประหลาด ไอ้ลูกไม่มีแม่” หินก้อนนี้ใหญ่ที่สุดในบรรดาหินทั้งหมด มันหล่นไปโดนปลายนิ้วเท้า และมันเจ็บ
“แม่มึงหนีไปมีชู้ ว๊าย ว๊าย ว๊าย ไอ้ลูกไม่มีแม่” แล้วมันก็มีอีกหลายก้อนลอยมา ผมไม่ได้เอามือปัดป้องก้อนหิน เพราะตอนนี้ มือผมต้องใช้มันเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

“มึงไปให้พ้น ไปกันเดี๋ยวนี้เลยนะ” เขาคนนั้นที่คนช่วยผมเสมอวิ่งเข้ามาไล่เด็กในหมู่บ้านให้หลบไป  แต่มันก็จะกลับมาเมื่อฮีโร่ประจำตัวของผมไม่อยู่ช่วย  ในหมู่บ้านที่แสนหรูหรา แต่ไม่สามารถที่จะขี่จักรยานบนถนนโดยปลอดภัยได้ ไม่เลยสักครั้ง 
เด็กชายที่ตัวโตกว่าผม เดินไปหยิบจักรยานที่ถูกผลักจนล้ม จูงมาคืน เขาเอาชายเสื้อมาเช็ดน้ำตาให้ผม ผมก็ยังร้องไห้ไม่หยุดอยู่ดี
“อย่าไปคิดมากนะ ที่ต้องแข็งกว่าหิน ก็คือหัวใจ” เขาคนเดิม ส่งจักรยานมาคืนผม แล้วเดินจากไป
“ครับพี่ไผ่”




บาบาเนส ศรีพันวา

บนบาร์หรู วิว 360 องศา ในท้องทะเลเวิ้งกว้าง แสงอาทิตย์ที่ดูเหมือนจะตกลงทะเลไปอย่างเชื่องช้า ผมนั่งดื่มค็อกเทลอยู่กับกันต์สองคน โดยมีคู่รักต่างชาติ นั่งกันเป็นคู่บนที่นั่งเตี้ยกระจายอยู่อย่างไม่แออัด ผมกับกันต์ก็นั่งบนเบาะสีฟ้าคล้ายสีของทะเลเมื่อกลางวัน เรานั่งชิดกัน ทานของที่ตั้งเต็มโต๊ะไม้ตัวเตี้ย  โดยมีฝรั่งหัวทองกระจัดกระจายเป็นเพื่อนร่วมนั่งบนระแนงที่ทำขึ้นเป็นแผ่นขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางสระน้ำ  บาร์นี้เคยเป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดในโลกเมื่อหลายปีก่อน และแน่นอนว่ากันต์ก็รู้ดี  เขาถ่ายรูปจนแบตเตอรี่มือถือหมด  ผมสั่งซื้อเพาเวอร์แบงค์อันใหม่เอี่ยมจากรูมเซอร์วิส ให้เอามาส่งที่บาร์  กันต์ยิ้มให้แล้วเอื้อมตัวมาหอมผม  ท่ามกลางชาวต่างชาติ เราไม่ได้อายอะไร  แต่เหมือนบางสิ่งหายไป.. หายไปตั้งแต่กลับจากห้องสปา อาจเป็นหัวใจของใครบางคน.. ใจของเขาที่ออกัสได้กลับไปเพียงแค่โทรหา

“ไม่ชอบทานบาร์บีคิว เหรอครับ” ผมตัก กุ้งโสร่ง ใส่ในจานของกันต์ ส่วนตัวผม ก็แกะกุ้งอันดามัน จิ้มกับซ้อสมะขามเข้าปากทาน ทำไม่รับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร  ทั้งที่ผมพอจะเดาได้แหละ ว่าตอนนี้ เขาคิดถึงออกัสเข้าแล้ว

“พี่ทานไปเรื่อยๆ ก่อนเลยครับ ผมยังไม่หิวมาก”

“เวลาคิดถึงใครมากๆ มันจะลืมว่า ร่างกายของเราก็สำคัญไม่แพ้หัวใจ”

“ผมขอโทษครับพี่นที”

“ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจ เอา  สาเก ค็อกเทล ไหม เผื่อจะดีขึ้น”

“เดี๋ยวค่อยทานครับ พี่ทานก่อนเลย ขออภัยที่ทำให้พี่หมดสนุกนะครับ”

“พี่ไม่ได้กะมาสนุกนะครับ พี่กะมามีความสุข แล้วตอนนี้พี่ก็มีครับ”

“ขอเวลาผมนิดนะครับ สักครึ่งชั่วโมง น่าจะดีขึ้น”

“น้องกันต์ใช้เวลาเท่าที่ต้องการนะครับ” ผมโอบเอวเขา “แต่เมื่อถึงเวลาของพี่..  ขอคิดดอกเบี้ยนะครับ” แล้วผมก็หอมเขาที่ซอกคอ เขาทำหน้าเขิน ก่อนจะมองไปที่ทะเลอันดำมืดต่อไป



ลักเซอรี่ พูล วิลล่า โอเชี่ยน วิว

ในห้องขนาด 250 ตารางเมตร ที่ตกแต่งไว้อย่างดี  สระว่ายน้ำ กับ ทะเล ที่อยู่กับคนละฝั่งหน้าต่าง ชวนมองสลับกันโดยไม่ตั้งใจ ผมนอนอยู่บนเตียงแสนนุ่ม ในขณะที่กันต์ กำลังแช่ตัวเองอยู่ในน้ำจากุชชี่  ผมเลยถือโอกาสโทรศัพท์คุยกับพี่อำนาจ เรื่องเป้าหมายที่สอง

“นึกว่านายน้อยจะโทรมาเอาตอนฟ้าเหลือง”

“เดี๋ยวเหอะ”

“หรือว่าเหลืองไปแล้วล่ะเนี่ยครับ”

“เข้าเรื่องทีได้ป๊ะ อย่าเวิ่นเว้อ”

“คนที่สอง ที่นายน้อยอยากรู้จักเนี่ย ผมว่า นายน้อยอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงดีกว่านะครับ”

“ทำไมล่ะ”

“มันเป็นตัวอันตรายครับ”

“ห๋า ทำไมล่ะ เล่ามาหน่อย”

“เอาเป็นว่า นายน้อยกำลังจะเล่นกับไฟครับ”




ผมรีบวางสายไปโดยยังไม่ได้คุยต่อเท่าไหร่ เพราะกันต์ตะโกนเรียกให้ผมหยิบเสื้อคลุมไปให้เขาในห้องน้ำ แต่เมื่อผมเดินเข้าไป  เขากำลังนอนซบกับขอบผ่านจากุชชี่ มีระบบน้ำวนที่เปิดเดินเครื่องอย่างเบา พอให้ฟองสบู่บนผิวน้ำเคลื่อนลอยเหมือนกับน้ำของทะเล  เขาพยายามฝืนยิ้ม แยกขาชันเขาขึ้นมา มันเชิญชวนและยั่วเย้า แต่ผมดูก็รู้ว่าเขาฝืน มันน่าเศร้าเมื่อใครสักคนจมกับอดีต ผมคงไม่มีอารมณ์กับเขา แม้กันต์จะดูน่ารักมากในร่างเปลือยเปล่ากับอ่างอาบน้ำที่หรูหรานี้

“ผมขอโทษที่ทำให้พี่กร่อยนะครับ พี่นที”

“เขาโทรมาเหรอ”  ผมถอดผ้าคลุมลงที่พื้น เผยร่างที่เปลือยเปล่า แล้วเดินก้าวลงไปในอ่างจากุชชี่ที่กันต์นอนแช่อยู่

“ครับ นึกถึงวันเก่า ก็เศร้านิดหน่อย”  กันต์ขยับตัว ให้ผมที่ขยับไปนั่งชิดขอบอ่าง แล้วโยกตัวกันต์นอนพิงหน้าอกผมอีกที ผมกอดเอวเขาจากด้านหลัง เอาจมูกฝังลงตรงซอกคอ สูดกลิ่นกายที่หอมของเขาอย่างบรรจง

“รักเขามากเลยเหรอครับ  เล่าให้ฟังหน่อย ว่าเขามีอะไรดี กันต์ถึงได้ติดขนาดนี้  คนนั้นชื่ออะไรนะครับ  ออกัสใช่ไหม”

“ใช่ครับ ออกัส”



เพลง End of The Road ของ Boy II Men ดังคลอมาจาก ทีวีที่เปิดทิ้งไว้ ลอดเข้ามาในห้องน้ำ ผมฟังกันต์พร่ำเพ้อถึงออกัสแล้วยิ่งไม่เข้าใจ เขาไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลยแม้แต่น้อย แถมออกัส ก็ไม่ใช่คนที่กันต์ณรงค์นี้จะใฝ่ฝันถึง  เขาทั้งคู่ทะเยอะทะยาน ใฝ่สูง แม้ลึกแล้วก็เป็นคนดีทั้งคู่ แต่คนที่จะดึงดูดเข้าหากัน มันต้องต่างกัน มันต้องเติมเต็มกันไม่ใช่หรือ

“ผมกับเขา เคยฝันจะเดินไปด้วยกัน เราจะไปให้ถึงในสิ่งที่เราต้องการครับพี่นที”

“ออกัสเขาต้องการอะไร”

“เขาบอกผมว่า เขาต้องการคนที่เอาใจใส่ ที่จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต  เขาต้องการคนที่โอบกอดเขาไปในทุกคืน แล้วก็..”

“แล้วก็อะไรครับ”

“แล้วก็ คนที่พร้อมจะมีเขาเป็นเมียคนเดียว ไปตลอดชีวิต”




กันต์นอนทอดกายที่เปลือยเปล่าอยู่บนเตียง เราเพิ่งเสร็จกิจมาราธอนกัน เขาน่าจะเหนื่อยอ่อน เพราะผมระบายความหงุดหงิดในใจกับร่างที่ผอมบางนี้ ผิวที่ขาวเนียนถูกผมดูดเม้มกัดจนเป็นจ้ำ ผมกระหน่ำใส่เขาไม่ยั้ง ราวกับว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน  เมื่อผมเป็นรุก ผมก็เป็นรุกที่ป่าเถื่อนอยู่ไม่น้อย  และเมื่อเขาเป็นรับ เขาก็ช่างเป็นรับที่น่าหลงไหลเหลือเกิน

“พอแล้วนะ พรุ่งนี้ผมต้องกลับไปพักฟื้นแล้ว”

“เราจะได้เจอกันอีกไหม”

“ทำไมพี่นที พูดแบบนี้  พี่ไม่อยากเจอผมอีกแล้วเหรอ”

“อยากเจอสิครับ แต่ไม่รู้สิ”

“หรือพี่เบื่อที่ผมซึมเศร้าเมื่อหัวค่ำ  ผมสัญญา ผมจะไม่ทำอีก”

ผมก้มลงไปจูบปากบางแสนหวานนี้แทนคำตอบ ผมไซร้ไปที่ซอกคอแล้วเม้มมันอีกครั้ง เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปคู่ของเรา ตอนผมจูบ ผมขบกัด  กันต์ก็ยิ้มรับกล้องอย่างไม่ถือสา  ผมเอื้อมพลิกตัวเขาคว่ำลง ผมปีนป่ายไปอยู่ข้างบน ลงลิ้นลากจากหลังไปจนถึงท้ายทอย แล้วเอื้อมมือไปถ่ายรูป  หน้าของกันต์ฟ้องว่า เขาอยู่ด้านล่างอย่างมีความสุข มีผมอยู่ข้างบนมองกล้องด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ 
แล้วผมใช้โทรศัพท์ที่บรรจุซิมการ์ดเบอร์ใหม่ซึ่งเพิ่งลงทะเบียนด้วยชื่อพี่อำนาจ แล้วก็กดส่งไปยังเบอร์ที่ผมคุ้นเคย..  พร้อมเขียนข้อความ “อย่ายุ่งกับเมียผมอีก” ไปยังเบอร์ของคนที่ทำให้ผมเศร้ามาแรมปี และหวังว่า มันจะอกแตกตาย เมื่อได้เห็นผัวเก่าของมัน เป็นเมียผม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2018 11:51:33 โดย TofuChan »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
f\อ่านเรื่องนี้ละเดาทางไม่ถูกเลยง่ะะะะ ฮื้อออ นี่ว่าน้ำต้องรู้สึกดีๆกับพี่ไผ่พอสมควร
แล้วจะพัฒนาได้ไหมอ่ะ 5555  จริงๆ นี่ชอบอะไรไม่รู้ในตัวกันต์ แบบ ฮีก็ไม่ร้ายนะ ออกจะเป็นคนที่อ่านง่าย  ละถ้าน้ำหลอกเค้าไปเยอะขนาดนี้ ฮีก็ต้องเสียใจแน่ๆอ่ะ โถวววว น่าสงสาร เจ็บจากออกัสไม่พอ มาถูกแฟนเก่าของแฟนหลอกอี้กกก //  หรือมีอะไรที่เราไม่รู้ไหม 5555
จะรออ่านต่อไปเรื่อยๆน้า :)

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านแล้วรู้สึกอยากอ่านอีก อยากรู้ว่าสรุปแล้วคุณนทีของเราจะได้กับพี่ไผ่หรือพี่อำนาจเอาจริงๆ มันคือฮาเร็มของคุณนทีล่ะ เราชอบกันต์นะนางดูน่าเอ็นดูนี่ยังงงอยู่ว่าไปเป็นผัวนางออได้ไง

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ xexezero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อื้อหือ ภารกิจที่สองมาเสียแล้ว ติดตามๆค่ะ :katai1:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ LovelyPenGirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao3: :hao3: :hao3: ฟันธงว่าพี่ไผ่ แต่พี่อำนาจนี่ชวนเอไปไหน

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep 7  : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ

คฤหาสน์บ้านจงวิสุทธิ์
หน้ากระจกบานใหญ่ใต้ไฟหลอดกลมเรียงกันห้าดวง  ผมสั่งทำตามแบบกระจกดาราฮอลลิวู้ด ในเงาสะท้อนนั้น ตัวผมที่เปลือยเปล่านั่งมองเงาของชายคนหนึ่งซึ่งบัดนี้โตเป็นหนุ่ม ผมสีดำแกมน้ำตาลแดงปัดหน้าผาก โครงจมูกอันโด่งกำลังดี ไม่แย่งชิงความเด่นของดวงตาดำกลมโต ขนตาที่เพียรเล็มตัดแล้วใช้เบบี้ออยล์ทาตั้งแต่มอปลาย บัดนี้มันยาวงอนหนา ใครก็บอกว่าขนตาผมชวนมอง  ใต้จมูกเป็นร่องเชื่อมกับริมฝีปากบนซึ่งใครก็ชอบเอามือเอื้อมมาแตะ  อวัยวะตรงนี้มันมีชื่อเรียกไหมนะ  ผมมองริมฝีปากตัวเอง มันเป็นสีชมพูออกแดงเรื่อ ปิดฟันที่เป็นระเบียบซึ่งคุณพ่อจับดัดไว้ตั้งแต่มอต้น แรกเริ่มก็อายเพื่อนสมัยต้องดัดฟัน แต่บัดนี้มันส่งผลแล้วว่ามันทำให้คางเราอยู่ในรูปทรงที่ดี

กว่าจะเป็นหน้าผมในวันนี้ มันผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดไหน จงภูมิใจกับมันนะ นายนที จงวิสุทธิ์
ผมยืนขึ้นและถอยหลังออกไปจากกระจก  ให้กระจกเก็บเฟรมเรือนร่างของผมได้หมด   หัวไหล่ที่กระชับเข้าเป็นมัดกล้าม แผ่นอกที่กว้างแบน หน้าท้องที่กิ่วมีรอนกล้าม  ผมบิดตัวดูสะโพกตัวเองที่กระชับเข้ารูป  แม้ร่องเนื้อจะไม่เห็นชัดมากเพราะสีผิวที่ขาวซีด แต่ผมก็ภูมิใจกับปฏิมากรรมนี้  แม้เอวผมจะบางไปหน่อย ก้นผมจะงอนไปนิด แต่มันก็น่าหลงใหลเชียวล่ะเพราะขวบปีที่ผ่านมา ผมโหมสร้างมันด้วยวินัยและเงินตราไปมากโข ไหนจะอดในส่งที่อยากกิน และ ทนในสิ่งที่ไม่ชอบ อด และ ทน รวมกันเป็น อดทน จึงเป็นคำที่มีความหมายกับผมในตอนนี้ มากกว่าที่ผมเคยรู้จักคำนี้มาก่อน

“สำรวจร่องรอยการต่อสู้เหรอครับ”

“เฮ้ยยย  ไอ้พี่อำนาจ ทำไมไม่เคาะประตู” ผมรีบเอามือกุมนทีน้อยไว้ด้วยความอาย

“นายน้อยก็รู้ ผมไม่ได้มีมารยาทขนาดนั้น”

“มันก็ไม่ใช่พรวดพราดเข้าห้องคนอื่นแบบนี้” ผมรีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมที่แขวนไว้ข้างกระจกมาสวม

“อายทำไม เห็นมาตั้งแต่เด็ก”

“ก็ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว”

“ครับ เห็นแล้ว ว่าไม่ใช่เด็กแล้วล่ะ”

“ไอ้พี่บ้า ไอ้คนทะลึ่ง”

“จะมาคุยเรื่องคนที่ให้สืบ คนใหม่  ไอ้จิมมี่”   แล้วพี่อำนาจก็เดินมานั่งที่เตียงผม ผมเลยเดินตามมานั่งข้าง พร้อมรับแฟ้มจากมือของเขา แต่พี่อำนาจไม่ยอมปล่อยแฟ้ม ผมจึงนึกได้ว่า เขาไม่อยากให้ผมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับจิมมี่ แต่ผมก็ดึงดันคว้าแฟ้มนั้นออกจากมือที่หนาใหญ่  ต่อให้กล้ามเป็นมัดอย่างเขาก็เอาผมที่ร้อนใจไม่อยู่หรอ
“อย่างที่ผมบอก นายน้อยกำลังจะเล่นกับไฟ ผมรู้จักมันดี ตอนแรกเห็นชื่อ ก็ว่าคุ้นที่ไหน ที่แท้เป็นไอ้จิมมี่”

“เขาเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนว่า เป็นตำรวจ”

“มันไม่ได้นิสัยเลวร้าย  แต่มันแสบ  แล้วก็...”

“แล้วก็อะไร”

“มันขย้ำทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มันรวบหมด”

“ก็ไม่เห็นจะกลัว”

“อย่าเพิ่งวางใจสิครับ  ผมไม่รู้ว่า นายน้อยมีแผนอะไร แต่ไม่อยากให้ประมาท จิมมี่ มันลูกเล่นแพรวพราว แถมชั้นเชิงมาก”

“พี่อำนาจไปรู้จักเขาได้ยังไงล่ะ”

“สมัยเป็นนายร้อย ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน”

“ห๋า เดี๋ยวนะ อย่างนี้เขาก็รู้จักพี่สิ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเราผลัดกันเป็นที่หนึ่งของรุ่นมาโดยตลอด มันต้องจำผมได้อยู่แล้ว”



================================================================

รายงานลับภาคพื้นดิน   ภารกิจพิเศษ
นาย อนุสรณ์ บวรธุรการ [ ออกัส ]

Title       :  ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเชิงชู้สาว
Results    : มีความสัมพันธ์แบบเปิด ไม่ผูกมัด กับบุรุษเพศ 3 คน
               คนที่ 2 : ชื่อ  นาย ศตวรรษ  สิรางกูร  [ จิมมี่ ]
               อาชีพ  : ตำรวจ  ยศ ร้อยตำรวจเอก

================================================================

พี่อำนาจส่งรายงานพร้อมประวัติอีกสิบหน้าเอสี่  เยอะกว่าของกันต์ณรงค์หลายหน้า เฉพาะประวัติด้านการเรียนก็ยาวเป็นหางว่าว  ผมพลิกเอาแต่หน้าสำคัญมาดูคร่าวๆ  จนลืมไปว่า พี่อำนาจยังไม่เดินออกจากห้อง พอหันไปมอง ซึ่งตอนนี้เขาล้มเอาหลังเอนนอนบนเตียงผมไปแล้ว คล้ายจะหลับด้วย เขาหายใจลึกเบา หน้าอกที่ฟิตแน่นกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ  โครงหน้าแบบไทยแท้ ผิวสีแทน จมูกโด่งเป็นสันแต่หนาแกร่ง กับสันกรามแบบนี้ ที่ผมเคยรีเควสหมอเกาหลี แต่หมอบอกว่าไม่เหมาะกับผมแล้วทำทรงอื่นให้แทน  แล้วพี่อำนาจก็ลืมตา

“สำรวจความหล่อผมเหรอครับ นายน้อย”  เสียงลอยมาตอนสายตามองมองลงต่ำไปยังรูปร่างของพี่อำนาจพอดี

“ไม่ใช่สักหน่อย จะดูว่า ไอ้หมอนี้ ทำไมไม่ไปเป็นตำรวจ มาเป็นเบ้พ่อผมทำไมตะหาก” ผมก็เหมือนจะพูดแรง เพื่อแก้เกี้ยวความเขิน แต่พี่อำนาจไม่ถือสาหรอก ผมเคยพูดไม่ดีกับแกเยอะกว่านี้มาก

“เบื่อระบบราชการไทย”

“ก็เป็น FBI ไปเลยสิ”

“ไม่เอา ไม่อยากอยู่ไกลบ้านนี้  รักคนบ้านนี้”

“รักพ่อผมเหรอ”

“เฮ้ย เล่นใหญ่ไปนะ”

“ฮ่าๆๆ”

“มานี่สิ” พี่อำนาจอ้าแขนให้ผมเอนตัวไปนอนหนุน แบบที่เขาชอบทำเวลาผมทะเลาะกับพ่อแล้วขึ้นมาร้องไห้ในห้อง

“อย่าทำอะไรที่มันอันตรายเกินไปนะ พี่เป็นห่วง”

“มีพี่อยู่ ผมไม่ห่วงหรอก”

“แต่พี่จะตามเราไปทุกที่ไม่ได้หรอกนะ”

“ผมใกล้จะบรรลุภารกิจแล้ว พี่เห็นไหมว่าผมดีขึ้น ไม่เหมือนเมื่อห้าหกเดือนก่อน”

“พี่ไม่รู้ว่าเราดีขึ้นจริงไหม หรือ แค่ทำว่าดีขึ้นไปวันๆ  เรามันเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เด็ก”

“แต่ตอนนี้ผมไม่เด็กแล้ว ผมโตแล้ว”

“ไหนดูสิว่าโตแค่ไหน” แล้วพี่อำนาจก็เอื้อมตัวลุกขึ้นมาเอามือเปิดเสื้อคลุมผม จนหน้าอกที่ขาวของผมโผล่ออกมา

“ไอ้บ้า ไอ้ทะลึ่ง” ผมรีบปัดมือที่กำลังจิ้มหน้าอกผมเล่น แล้วคว้าเสื้อคลุมมาปิดไว้ ทำหน้าดุใส่

“ยังไงก็เด็กอยู่ดี เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ”





หน้าจอ ไอโฟน  แอ๊พพิลเคชั่น Don’t Miss A Thing  ผมเปิดกล้องไลฟ์สดพร้อมไมโครโฟนที่บันทึกผ่านหลอดไฟกลางห้อง ซึ่งซ่อนไว้ในคอนโด ที่ออกัสขอยืมพำนักไว้

August’s words
“ก็บอกแล้ว ว่าเรื่องของเรามันจบไปแล้ว”
“เออ กูไม่ได้คิดถึงมึงเหมือนกันนั่นแหล่ะ แค่โทรไปหาตามประสาคนเคยๆ”
“ทำไม มึงนึกว่ามึงมันเด็ดขนาดนั้นเลยเหรอไอ้กันต์ กูถึงต้องตามสอดส่องขนาดนั้น มึงจะไปคั่วกับใครที่ไหนก็ไป”
“อย่าให้กูต้องเอารูปที่กูได้มา ส่งไปให้เพื่อนๆมึงดูนะ”
“อย่ามาทำไขสือ แล้วเดี๋ยวนี้ มึงริอ่านไปเป็นเมียเขาแล้วเหรอ ไหนกับกูบอกว่าไม่เคยเป็นรับ แล้วรูปนี้มันคืออะไร”
“อย่ามาบอกว่าไม่รู้เรื่อง  แล้วไลน์มึง เปลี่ยนเป็น กันต์เมียพี่ที  นี่ยังไม่ชัดอีกเหรอ”
“แต่ก็เอาเถอะ ยังไง กูก็ไม่ได้สนใจมึงแล้ว กูถึงได้ทิ้งมึงไปหาพี่จิมมี่ไง  เพราะเขาดูแลกูได้ดีกว่ามึง  เขาปกป้องกูได้ เขาเป็นชายเหนือชาย ฟังไว้นะไอ้กันต์!!”

ออกัส ก็ยังคงเป็นออกัส มันเป็นการลงท้ายบทสนทนาได้เจ็บปวด  ชายคนนี้คงได้รับพรจากฟ้าให้มีพลังพิเศษในการทำร้ายหัวใจคน  แม้ผมไม่ได้ยินเสียงปลายสายฝั่งของกันต์ แต่ผมมั่นใจว่า มันหนักหน่วงและเกินเยียวยา  กันต์คงจะกองกับพื้นเหมือนที่ผมเป็น คงเอามือจับหัวใจที่บีบรัด แล้วก็ร้องไห้ไปจนหมดคืน
ผมปิดแอ๊พถ่ายทอดสดที่มือถือ อาบน้ำแต่งตัว ผมคิดว่า ผมคงต้องไปเยียวยาใครบางคน คนผู้น่าสงสารสุดหัวใจ


ระหว่างทาง ผมแวะมาที่ร้านหนังสือตามที่นัดกับ การ์ตูน ไว้  ถือโอกาสซื้อนิตยสารอ่านเล่นไปฝากผู้ป่วยโรคหัวใจพังด้วย นั่นผมเห็นเขาแล้ว ชายหนุ่มตัวท้วมต้วมเตี้ยม  ยืนตัวขาวผ่องอยู่ตรงชั้นหนังสือ แว่นกลมโตแบบพอตเตอร์ ก็ไม่อาจบดบัง ดวงตาที่ใสแจ๋วของเขาได้

“หูย แต่งตัวซะหล่อ นี่เตรียมไปไหนต่อเหรอน้ำ”  ตูนถามผม ผู้ซึ่งในชุดเชิ้ตขาวเข้ารูป กางเกงสแล็คสีน้ำตาล มีผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินผูกที่คอ

“มีนัดว่ะตูน เลยนัดมาที่นี่แหล่ะ จะได้ไม่ต้องเดินทาง”

“นี่ไง เราเลือกไว้ให้แล้ว กองเนี่ย เป็นศัพท์เกี่ยวกับ ตำรวจ แล้วก็ แฉชีวิตใต้ดาวบนบ่า แล้วก็ไดอารี่สีกากี เอาไปฝากใคร”

“ไม่หรอก เราเอาไว้อ่านเอง”

“จะสอบตำรวจเหรอ”

“เปล่า จะอ่านเพื่อให้เข้าใจใครบางคนมากขึ้น”

“อ๋อ  ยังว่า ขนาดในห้องเรียน ยังขาดสอบเก็บคะแนนตั้งบ่อย”

“น้ำไม่ห่วงเกรดแล้วว่ะตูน น้ำมีเรื่องให้ทำเยอะเลย”

“เออเหอะ ไปใช้ชีวิต  ตูนเห็นน้ำเป็นอย่างปีที่แล้วก็ไม่ไหวนะ”

“น้ำดูน่าสมเพชมากเลยใช่ไหม”

“ไม่หรอก แค่น่าสงสาร”

“แต่ขอบใจนะ ที่ช่วยเหลือน้ำมาตลอด อยู่คนละสาขายังอุตส่าห์ตามงานให้น้ำ  ไอ้เอนี่สิ ไม่ได้เรื่อง”

“เอ ก็ห่วงน้ำมากนะ มันทิ้งสาวทุกคนไปขลุกกับน้ำเลยช่วงนั้น”

“แต่ดูตอนนี้สิ หายหัว”

“ก็หมดห่วงแล้วไง ดูน้ำตอนนี้สิ  อย่างกับคนใหม่แหน่ะ”

“ใช่ เราเป็นคนใหม่ น้ำคนเดิมตายไปแล้ว”

“นัดใครไว้ เราไปด้วยได้ไหม”

“ไม่ดีหรอก ตูนอย่าไปเลย”

“.......” 

“ไม่เอาน่า ไว้เราพาไปกินบิงซูนะ”  ผมเดินไปโอบไหล่ตูน ที่ดูเหมือนจะหงอยไปเลยตอนผมไม่ให้ตามมา





ในร้านขนมญี่ปุ่นสุดหรู ผมกับกันต์นั่งทานโมจิชาเขียว กับ ไอศกรีมถั่วแดง มีวาฟเฟิ้ลราดซ้อสชาเขียว และ โรยอัลมอนด์วางไว้ 

“คิดว่า พี่จะไม่ยอมติดต่อผมอีกแล้ว”  กันต์ที่มีวี่แววตาบวมช้ำ อยู่ในชุดเสื้อขาวแขนยาวมีฮู้ด กับกางเกงยีนส์ดำ ดูน่าชัง

“พี่คิดว่า น้องกันต์ต้องยุ่ง หลังจากพี่ขโมยตัวกันต์ไปหลายวัน” ผมไม่รับสาย ไม่ตอบไลน์กันต์ ตั้งแต่กลับจากศรีพันวา

“แล้วก็ไม่คิดจะรับสายผม ไม่โทรกลับ”

“ไม่อยากฟังน้ำเสียงเศร้า ที่เฝ้าคิดถึงแต่ใครก็ไม่รู้นี่ครับ”

“นั่นไง งอนจริงด้วย  ผมดีขึ้นแล้ว”

ผมเอื้อมมือไปปาดที่ใต้ตาบวมแดงของเขา  “แบบนี้อ่ะนะ ดีขึ้นแล้ว”  กันต์ทำหน้าเศร้าที่โดนผมจับได้

“นี่ผมเพิ่งรับสายเขา เขาด่าผมเป็นชุดเลย ว่ามีใครส่งภาพอะไรก็ไม่รู้ไปให้ เขาเลยโมโห”

“จริงสิ ภาพอะไรเหรอ”

“ผมก็ไม่รู้ โมโหอย่างเดียว  แล้วแถมยังไปอ่านไลน์ผมที่ พี่นที เอาของผมไปเปลี่ยนชื่อโปรไฟล์น่ะ”

“ชื่อไลน์ กันต์เมียพี่ที น่ะเหรอ เฮ้ย พี่ขอโทษ พี่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่”  ผมแก้ตัว ทั้งที่จริงผมตั้งใจเลยล่ะ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เขาคงช็อคแบบว่า ผมเป็นเมียพี่นทีเนี่ย”

“ไม่เห็นจะใช่เรื่องใหญ่นี่นา”

“เรื่องใหญ่สิครับ ผมไม่เคยเป็นรับให้ใครมาตลอด กับออกัส นี่ก็เคยขอ ผมก็ไม่ให้ครับ”

“รู้สึกเป็นเกียรติจังครับ”

“แต่พี่ก็กำลังจะทิ้งผมไปอีกคน”

“พี่ไม่ทิ้งกันต์ไปไหนหรอก แต่กันต์ต้องให้เวลากับหัวใจตัวเอง ว่าอยากเป็นเมียพี่ หรือเป็นสามีเขา”






The Plum Fitness
ผมที่ทานอาหารทะเล กับ แอลกอฮอล์ไปผิดเงื่อนไขคุณหมอ พอเลิกเรียนก็ตั้งใจมาเบิร์นเอาทุกสิ่งอย่างออกไปให้หมด นี่ดีนะที่ผมหัวดี เรียนเก่ง ไม่อย่างนั้นคงต้องไม่สามารถจัดสรรเวลามาเสริมหล่อให้ร่างกายแบบนี้แน่
วันนี้ เทรนเนอร์เดช สุดเหี้ยมไม่มา ผมล่ะโล่งใจ ก็แต่ละครั้งที่โดนตาเดชฝึก ผมจะต้องกลับไปนอนระบมไขข้อตัวเองทุกคืน หลิวบอกว่า เทรนเนอร์ประจำตัวผมไปบวช หนึ่งเดือน ให้ผมใช้เทรนเนอร์ใหม่ไปก่อน แต่ไฉนเลยกลายเป็นไอ้พี่ไผ่ ที่ความโหดช่างไม่แพ้กันเลย
“ห้า หก เจ็ด แปด”

“เดี๋ยวก่อนสิพี่ไผ่ ผมระบมไปหมดแล้ว”

“แหม ไปทำอะไรมาแรงหมด  ไม่ได้ เดี๋ยวกล้ามแฟ่บ เอาอีก  อ้าว ! ห้า หก เจ็ด แปด”

“โอ๊ยยย พอก่อน พี่ ผมเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย”

“มันน่าบิดให้ก้นเขียว  พอหุ่นเข้าที่เข้าทาง ก็วินัยหาย เดี๋ยวก็กลับมาตูดย้วยเหมือนเก่า”

“พูดดีๆ ใครตูดย้วย”

“จะให้พูดไหม ว่า มีปานที่ฝั่งซ้ายด้วย”

“ไอ้พี่ไผ่ เดี๋ยวเหอะ”  ผมรีบหันรีหันขวาง กลัวคนอื่นได้ยิน แต่โชคดีทุกคน ฟังเพลงไปด้วย เล่นฟิตเนสไปด้วย

“พรุ่งนี้ว่างเปล่า วันเสาร์มีเรียนไหม”

“ไม่มีแล้วครับ จะฝึกงานแล้ว เรียนเบามากช่วงนี้”

“เหรอ ไอ้หลิวมันบ่นว่าเรียนหนัก สรุปว่า น้องพี่หัวทื่อใช่ไหมเนี่ย”

“ไม่ทื่อหรอก แต่อย่ามาเทียบกับผมสิ ผมมันตัวท็อป”

“โหะ”  มีคนบางคนเบะปาก

“จะชวนไปไหน ว่ามา”

“ก็ว่าจะชวนไป Bounce น่ะ จะซื้อแทมโพลีนเข้ามา ให้ลูกค้าเล่น จะไปลองว่าแบบไหนดี”

“ก็ได้ เห็นแก่คุณความดี สมัยเป็นองค์รักษ์ให้นะเนี่ย”

“ตอนนี้ ก็ยังพิทักษ์องค์หญิง  เอ๊ย  องค์ชายไหวนะ”

“ไม่ต้องแล้ว เห็นกล้ามไหมเนี่ย” ผมเบ่งกล้ามป้ายแดงให้พี่ไผ่ดู อวดได้ก็อวด

“เอานิ้วดีดก็แตกแล้ว กล้ามหรือลูกโป่งน้ำ”

“รมณ์เสีย”

“โอ๋ๆๆๆๆ  พ่อกล้ามโต  รอบเที่ยงนะ รู้ว่าตื่นสาย ให้ไปรับไหม”

“ถ้าไม่ลำบากก็ไปสิ ขี้เกียจขับรถ”

“พรุ่งนี้พี่ไปรับ  เอาต่อเร็ว  ห้า หก เจ็ด แปด”

“โอ๊ย  ไอ้พี่ไผ่  ไอ้เบื๊อก”





ช่วงค่ำ หลังจากแยกกับพี่ไผ่แล้ว ผมมายังสถานีตำรวจ ย่านชานเมืองฝั่งธนบุรี ผมกับพี่อำนาจเลือกที่นั่งตรงร้านขายอาหารตามสั่งที่อยู่ในรั้ว สน.  โดยพี่อำนาจนั่งหันหลังเข้า แล้วให้ผมหันหน้าเข้าไปที่ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติของ สน.  รอจนกว่า เป้าหมายที่เราเฝ้าดู จะเดินเข้ามาตามกะ  ซึ่งก็คือ สองทุ่มตรง

“กลางคืนใส่แว่นดำ ไม่ค่อยเด่นเลยเนอะ ถอดออกจะไม่สะดุดตากว่านะพี่”  ผมแซวพี่อำนาจ จนต้องถอดแว่นดำออก ดูเขากลัว จิมมี่ จะเห็นเขาเหลือเกิน มีซัมติง อะไรหรือเปล่ากับคนชื่อจิมมี่ ทำไมรุกรี้รุกรนผิดมาดขรึมของเขาจัง

“เมื่อเย็น ลูกน้องผม เอากระเป๋าสตางค์ของนายน้อย ไปแจ้งความว่าเก็บได้ เป็นกะงานของเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง  แต่เดี๋ยวพอจิมมี่เข้ากะ นายน้อย ก็ไปแจ้งความว่า กระเป๋าสตางค์หล่นหาย จะทำบัตรประชาชนใบใหม่ เดี๋ยวจิมมี่ จะมารับเรื่องเอง ตอนนั้นจะเป็นโอกาสได้คุยและทำความรู้จัก”

“เขามียศมีตำแหน่ง รับเรื่องร้องทุกข์เป็นหน้าที่เขาเหรอครับ”

“มันบ้ากล้อง ตำแหน่งรับแจ้งความ พวกนายตำรวจหน้าตาดีๆ จะแย่งกันทำ มีโอกาสดัง เป็นเน็ตไอด้อลได้เร็ว”

“โหว แข่งกันทุกวงการเลยเนอะพี่”

“ทำมาพูด หมดไปเท่าไหร่ล่ะ หน้า กับ หุ่น น่ะ”

“เดี๋ยวปั๊ดฟ้องพ่อเลย”

“ไหนว่าโตแล้ว”

“ก็ต่อยแบบผู้ใหญ่ไง เดี๋ยวเอาให้หน้าเขียวเลยนี่”

“เฮ้ย จะบีบไข่เหรอ  นายน้อย!! มาแล้วๆๆ  อย่าๆ อย่าเพิ่งหันไป เดี๋ยวกำลังจะเดินผ่านโต๊ะเรา เดี๋ยวนายน้อยก็เห็น อย่าเพิ่งหันไปนะ”    ผมแทบหัวเราะพอเห็นอาการของพี่อำนาจ  เอาๆๆ ไม่หันก็ไม่หัน  สักแป๊บ เป้าหมายของเราก็เดินเฉียดผ่านโต๊ะเราไป  เขาหันมามองทางพี่อำนาจ เหมือนจะนึกอะไรในใจ แล้วก็เดินไปทางประตู สน.   มองจากด้านหลัง หุ่นเขาสูงเพรียว เสื้อสีกากีที่รัดเข้ารูป มันคงดูไม่ดีแน่ ถ้าไม้แขวนไม่มีเอวกิ่วคอดขนาดนั้น
“เขาเห็นผมไหม”

“เห็นนะพี่ เหมือนจะหันมามอง แล้วเหมือนจะพยายามนึก ว่าไอ้หน้าดุนี่คือใคร”

“มันต้องจำผมได้อยู่แล้ว”

“นักเรียนนายร้อยมีเป็นตับ เขาคงไม่ได้มีแต่พี่เป็นเพื่อนหรอกน่า”

“แต่มันเคยพยายามจะปล้ำพี่ ทำไมมันจะจำพี่ไม่ได้”




ห้องลงบันทึกประจำวัน มีนายตำรวจนั่งอยู่สองคน คนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์ กับอีกคนที่เพิ่งมาถึงได้สักชั่วโมง กำลังดูเอกสารและแฟ้มกัน เช็คทรงผมตัวเองผ่านกระจกเงา ก่อนจะเก็บกระจกเงาลงเก๊ะ เมื่อเห็นผมเดินผ่านประตูเข้ามา  ผมเลยแจ้งว่า ผมมาแจ้งกระเป๋าสตางค์หาย  นายตำรวจหน้าตาดี คิ้วเข้มหนา สีผิวขาวจัด แต่มีร่องรอยของการตากแดด คล้ายพระเอกหนังเอ็กซ์ญี่ปุ่น  จมูกเขายาวเรียว ปลายเชิดขึ้นเล็กน้อย รูจมูกใหญ่ แต่ได้สัดส่วน ตาเรียวยาว ตาดำใหญ่รับกันดีกับคิ้วหนาของเขา  ริมฝีปากที่ฮัมเพลงไม่หยุด ก็สีกำลังสวย ลำคอยาว มีเส้นเอ็นขึ้น 

“ผมว่า มีกระเป๋าสตางค์ใบนึงคล้ายจะเหมือนที่คุณแจ้งนะ เดี๋ยวผมหาก่อน  เมื่อกี้ว่า ยี่ห้ออะไรนะ คุณนที”

“Coach ครับ ผมดีผมไปเล่นกีฬา ไม่กล้าเอาใบแพงไป”

“สีน้ำเงิน โค้ช  เออ มีหนึ่งใบจริงด้วยครับ เดี๋ยวผมขอเช็คด้านในนะครับ เงินคงไม่เหลือแล้วล่ะ เดี๋ยวผมดูบัตรให้”

“เอ่อ.. คุณตำรวจครับ พี่..”

“ผมจิมมี่ ครับ”

“ครับ ผู้กองจิมมี่  คือ มันมีรูป  แบบว่า.. เอ่อ..”

“อืม ผมเห็นแล้ว  มันเป็นรูปคุณนั่นแหล่ะ กึ่งเปลือยซะด้วย ถ้างั้นคงไม่ผิดแน่ น่าจะเป็นใบนี้  เดี๋ยวผมให้เซ็นชื่อรับนะครับคุณนที”

“ขอบคุณมากครับ  แต่ว่า เงินไม่น่าจะเหลือแล้วเนอะครับ ผมห่วง สมาชิก เม็มเบอร์ ข้างในน่ะครับ”

“อะไรหาย ก็แจ้งความเพื่อทำใหม่ได้เลยครับ เอา เดี๋ยวผมเปิดดูให้ ว่ามีอะไรเหลือ หรืออะไรหาย..  บัตรเม็มเบอร์ที่ยังมี   โคโลนี่ ซาวน่า   บาบิลอนซาวน่าวีไอพี   ดิโอบีลีสสปาและมาสซาส  แหม.. ไม่เบานะคุณเนี่ย” จิมมี่หลิ่วตามองผม

“ผู้กองเอ่อ..” ผมแกล้งหันไปทางนายตำรวจอีกคนที่ยังไม่วางสายจากชาวบ้านโทรมาร้องทุกข์  ผมเลยขยับหน้าไปใกล้ เพื่อกระซิบ  ผมพบว่า กลิ่นเขาดีเชียว หน้าเขาก็หล่อชิบเป๋งเลย  “ผู้กองไปบ่อยเหรอครับ”

“ผมไม่ไปที่แบบนี้ครับ” เขาเอื้อมตัวมาใกล้ขึ้น หน้าเรายิ่งใกล้กันมากขึ้นไปอีก   “ผมมีแต่คนมาหาถึงที่ครับ..  รบกวนเซ็นรับตรงนี้นะครับ”  เขาหยิบสมุดเล่มใหญ่มาให้ผมเซ็นรับ ว่าได้รับของครบเรียบร้อย 

“โห แล้วแฟนผู้กองไม่ว่าเอาเหรอครับ” ผมยังคงกระซิบด้วยเสียงอันเบา เพื่อไม่ให้เขาอึดอัดต่อเพื่อนร่วมงาน

“ผมมีแฟนซะที่ไหนล่ะ”

“หน้าอย่างผู้กองเนี่ยนะ ไม่มีแฟน”

“ใครจะมาเป็นแฟนตำรวจต้องอดทนครับ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นได้”

“แต่ท่าทาง ผู้กองจิมมี่ ไม่น่าจะเหงานะครับ แขกเหรื่อเยี่ยมบ้านน่าจะเต็มไปหมด  ไว้มีโอกาส อยากไปเป็นแขกบ้างจัง”

“ทิ้งเบอร์ไว้ได้ครับ”

ผมหยิบรูปกึ่งเปลือยที่ผมถ่ายทิ้งไว้ แล้วพี่อำนวจจับใส่กระเป๋าสตางค์กำมะลอ เอามาพลิกแล้วเขียนเบอร์โทร และ เบอร์ไลน์ ด้านหลัง ส่งกลับไปให้ผู้กองเก็บไว้  เขาคว้าใส่กระเป๋าส่งยิ้มให้  ผมยกมือไหว้ลา


ลานจอดรถด้านหลังสถานีตำรวจ ผมเดินขึ้นรถฝั่งซ้าย ที่มีพี่อำนาจสตาร์ทรถรออยู่

“ก็เห็นเขาดูเป็นคนน่ารักจะตายไปพี่”

“อย่าติดสินอะไรเพียงเห็นแป๊บเดียว”  พี่อำนาจออกรถผ่านรั้วสถานีตำรวจ เพื่อพาผมกลับบ้าน

“ใส่ความคนอื่นเปล่าเนี่ย เขาออกจะหล่อ สุภาพ  จินตนาการเองไปคนเดียวหรือเปล่า”

“อย่าให้มันได้ออกลาย นายน้อยจะเป็นใบ้ไปเลย กระต่ายบ้านอย่างนายน้อย อย่าได้ประมาทหมาป่าตัวนั้นเด็ดขาด”   





รถแอคคอร์ดสีดำของพี่อำนาจ มาจอดที่ถนนพระราม 9 หน้าอาคารสถานอาบอบนวดแห่งหนึ่ง ที่ผมนัดกับเอไว้ ซึ่งตอนนี้เอมายืนรอที่ลานจอดรถแล้ว ผมลงจากรถมาทักทายเอ  พี่อำนาจเดินลงจากฝั่งประตูคนขับ รับไหว้จากเอ

“แล้วคืนนี้ จะกลับยังไงล่ะนายน้อย ให้ผมขับวนมารับไหม”

“ไม่ต้องครับพี่ เดี๋ยวนั่งรถแท็กซี่กลับ”

“มันดึก อันตรายนะ”  พี่อำนาจมองไปทางเอ

“เดี๋ยวผมนั่งไปส่งที่บ้านไอ้น้ำเลยครับพี่  เดี๋ยวผมไปนอนที่บ้านด้วยเลย”  เอเสนอ

“โอเค ถ้าเอไปด้วย พี่ก็ไม่ห่วงแล้ว ระวังตัวกันให้ดี ป้องกันด้วย”  ก่อนพี่อำนาจจะชี้หน้าไปที่เอ “อย่าเข้าห้องเดียวกันอีก”

“ครับ”  เอหันหน้าเหวอมาทางผม เราสองคนมองพี่อำนาจขับรถออกไปทั้งที่งุนงงว่า เขารู้เรื่องราวที่พัทยาได้อย่างไร

ผมก็เอ กอดคอกันเดินเข้าสุขสถานไปอย่างละม่อม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ตื่นเต้นง่ะะะ จิมมี่นี่น่าจะยาก

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด