His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]  (อ่าน 34747 ครั้ง)

ออฟไลน์ NC Wanted

  • NC Wanted
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ก็ยังเชียร์ ต้นไผ่อยู่ดี หวังว่าคงกลับมาชนะใจน้ำได้นะคะ   :mew4:

ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :monkeysad:  ขอให้พี่ไผ่มีเหตุผลที่ดี

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่ใช่แค่พี่ไผ่ต้องกลับตัว น้ำเองก็เช่นกัน ถลำไปขนาดนั้นแล้ว
ส่วนเรื่อง พี่อำนาจ เดาว่าไม่มีอะไร ดูน้ำไม่ทุกขืร้อนเท่าไหร่ แต่เอนี่ เป็นเคะไปแล้ว

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนแรกนึกว่าตูนเป็นตัวร้าย  :ruready

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หายไปนานจังเลย

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คนแต่งแก้บท เอ๊ยยยย..แก้ตัวแทนไอ่พี่ไผ่ยังไม่เสร็จเหรอจ๊ะ
ฮ่าฮ่า

รออ่านตอนหน้าอยู่
ถึงว่า..กว่าจะมา...
นาน น๊าน นาน

ยังรออ่านจ้าาาาาาาา
นานแค่ไหน..ก็รอ
หุหุ

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep  15 : ReVirginized  ฉันเหมือน 15 อีกครั้ง

การเลี้ยงพระยังคงดำเนินต่อ คนตายก็ยังต้องการบุญกุศล แม้ว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องมากน้อยแค่ไหน 
เอในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ มันดูหล่อเชียววันนี้แม้จะอดนอน  ส่วนป๊ากับม๊าที่มีสีหน้าผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ภิกษุ 9 รูป กำลังฉันเพล แล้วก็สวดแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับผ่านรูปอากงที่ตั้งไว้ใกล้พระพุทธ

ปกติแล้ว บ้านของเอจะใช้บริการพระวัดจีนแถวบ้าน แต่เนื่องจาก ทำบุญ 100 วันเป็นประเพณีทางไทย จึงนิมนต์พระไทยมาแทน พอเสร็จพิธีกรรม เจ้าอาวาสก็ส่ง กำหญ้าคาแห้ง ให้พระที่นั่งลำดับถัดไปอันเป็นสัญญาณว่า ให้พรมน้ำมนต์ให้กับสถานที่ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนตามความเชื่อของผู้เป็นเจ้าภาพ

ป๊าบัญชา ส่งขันน้ำมนต์ใบใหญ่ไปให้ชายผิวเข้มในชุดเสื้อยืดขาวกางเกงยีนส์ดำ ที่นั่งไม่พูดจาอะไรตั้งแต่เช้า แต่เป็นที่จับจ้องด้วยสายตามองของทั้งญาติทุกเหล่าฝ่าย ซึ่งซุบซิบ นินทา ชี้มาจนผู้เป็นเป้าสายตามีอาการเขิน

“ป๊าวาน อำนาจ พาพระเดินพรมน้ำมนต์ให้ทีนะ  เอ ลื้อนำทางไปที ไปที่โกดังหลัง ไปทุกๆที่เลย วันนี้ฤกษ์ ปัดเสนียดจัญไรให้หมดไป ป๊าล่ะดีใจจริงๆ” 

“ครับ”  พี่อำนาจรับบาตรน้ำมนต์ เดินเคียงคู่กับพระสงฆ์ โดยมีเอเดินตามไปข้างๆ  ละอองน้ำมนต์สาดไปยังส่วนต่างๆ ของออฟฟิศ ก่อนจะกระเซ็นไปทั้งโกดังเก็บของ และ สโตร์ สักพักเอก็เดินนำขึ้นไปยังตึกใหญ่ ยังห้องนอน ทุกห้อง พระท่านก็พรมไปทุกส่วนสัดไม่มีปริบ่น ไม่แสดงออกบนใบหน้าว่าเหนื่อยหน่าย แถมมีรอยยิ้มด้วยซ้ำตอนป๊าเองถวายซองหนาให้

พี่อำนาจหลังจากที่ไอ้เอพาสำรวจพื้นที่เมื่อคืน ดันไปเจอความไม่ชอบมาพากล ซึ่งคนในบ้านของเอ ก็มักจะปล่อยให้กับทางคนงานดูแลสโตร์กันเอง  มีการแอบนำของในสโตร์ไปขาย แถมยังโยนออกนอกรั้วแบบไม่เกรงกลัว ตอนที่รถกระบะมาจอดข้างรั้วแล้วมารับปูนหลายสิบกระสอบอยู่นั้น พี่อำนาจก็กระโดดคว้าตัวพร้อมโทรเรียกตำรวจพอดี  ที่ผ่านมา คนงานต่างด้าวกับพนักงานบัญชีรู้กัน จับสต็อคสินค้าเข้าเป็นของชำรุดบ้าง เสียหายบ้าง

ในยุคที่ลูกจ้างหายาก แถมหนีกลับกันไป ก็เมื่อ ออง ซาน ซูจี ผู้นำหญิงมาเยี่ยมพบปะที่สมุทรสาครคราวก่อน มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มชนแรงงานต่างด้าว ในทางดีบ้าง ในทางเหิมเกริมบ้าง อย่างหลังเกิดขึ้นในบริษัทของเอ
ป๊าก็ต้องปล่อยบางอย่างเลยตามเลย เพราะว่ากองกำลังต่างด้าวค่อนในระแวกมีขนาดใหญ่ จะไล่ออกก็กลัวว่าจะกลับมาทำร้ายเพราะแต่ละคนดุดัน พูดจาไม่รู้เรื่อง ตกเย็นก็ตั้งโต๊ะกินเหล้าขาว  แถมยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา จะเข้าไปตรวจในโกดัง ก็ทำได้แค่ตอนกลางวัน เพราะตกดึก แม้จะอยู่ในชายรั้วของบ้านตัวเอง แต่มันก็ดูน่ากลัว 
ถ้ายกกันออกหมด คนงานก็หายาก  เพราะคนที่เป็นตัวหัวโจก ขู่บังคับให้ทุกคนทำตามนี้กันหมด แต่เมื่อคืนพอตำรวจได้จับตัวหัวไป คนงานที่เหลือก็รีบเล่าขั้นตอนวิธีการโกงให้ฟัง พร้อมกับแสดงความอึดอัด เพราะพวกเขาก็อยากจะทำงานที่นี่ไปอีกนาน เนื่องจากป๊าของเอใจดี จ้างแรงในราคาที่สูงกว่าที่อื่น 

ป๊ากับม๊า ขอร้องให้พี่อำนาจอยู่ต่ออีกวันสองวัน เพื่อที่จะช่วยเคลียร์ทุกอย่างจนเข้าระบบ เสนอการเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี เข้าทางพี่อำนาจที่แสดงความเก๋า คุมคนงานทุกคนได้อยู่หมัดเพียงแค่แผดเสียงใส่ คนงานทุกคนหงอ แต่ก็ยังปฏิบัติตามอย่างดี ป๊ากับม๊าดูดีใจมาก แถมยังบอกเอให้เรียกพี่อำนาจมาหาให้บ่อย  ยิ่งพอรู้ว่า ตอนนี้พี่อำนาจไม่ได้ทำงานกับพ่อผมชั่วคราว ป๊าถึงกับชวนให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เล่นเอาเอทำหน้าไม่ถูกเลย 

ผมเลยขับรถกลับมาคนเดียว ปล่อยให้พี่อำนาจได้ทำคะแนนกับพ่อตาแม่ยายไปเรื่อย เอาหน่า เอมันก็ดูจะมีความสุขไม่น้อย การชนะใจบ้านคนจีนยากแค่ไหน ก๋วยเจ๋ง กับ อึ้งย้ง คงรู้ดี  ผมก็มองว่า พี่อำนาจพักงานอยู่ในจังหวะที่เหมาะที่ควร   ม๊าของเอฝากมะขามเทศถุงเบ้อเร่อมาฝากพ่อผมด้วย  แต่ผมก็กะว่าจะแวะที่แห่งหนึ่งก่อน


ดิ ลอฟต์ เฮ้าส์ สาธร
ผมไขประตูเข้ามาในห้อง คอนโดที่ผมให้ใครบางคนยืมอาศัยจนกว่าจะหางานได้ ห้องเละตุ้มเป๊ะ ตามประสาความไม่มีวินัยของผู้อาศัย สาบานได้ว่าเห็นแมลงสาปอยู่ที่กองเสื้อผ้า  จานที่ไม่ได้ล้างวางกองอยู่ตรงอ่าง ไม่รวมถุงขยะที่ไม่ได้เอาไปทิ้ง ผ้าปูที่นอนวางกองสูง 

หลังจากที่ผมโทรมายังส่วนกลางก็พบว่า ออกัส ไม่ได้กลับห้องมาร่วมอาทิตย์แล้ว ในตู้เสื้อผ้ามีเหลือเครื่องแต่งกายอยู่ไม่มาก เชื่อว่าเขาทยอยย้ายของออกไปแล้ว  ผมมองไปที่หลอดไฟกลางห้องที่ผมเคยซ่อนกล้อง GPS ไว้ มันถูกเปลี่ยนด้วยหลอดไป แอลดีดี ธรรมดาแทน   ก็ลองเดินสำรวจดูข้าวของที่อาจเสียหาย เผื่อเรียกคนมาซ่อมแซมตอนเขาย้ายออก

กะไว้ว่าจะเอาให้คนเช่าต่อ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกนะ แต่ห้องถ้าไม่มีคนอยู่เลย มันก็โทรม อมฝุ่น สู้ให้คนมาอยู่ให้ตึกมันคึกคักดีกว่า  ก็พ่อของผมเหมาชั้นไว้ 24 ห้อง  เราให้เช่าทุกห้อง ด้วยราคาที่พ่อผมตั้งคนแย่งกันอย่างกับอะไรดี ทุกคนโอนตังตรงเวลาโดยเฉพาะลูกค้าผู้เช่าต่างชาติ  พ่อบอกว่า เงินเหลือก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร จะลงทุนอะไรก็หาว่าฟอกเงิน  เก็บไว้ก็ชอบมีนักการเมืองมาขอยืม สู้เอาไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ดีกว่า จมกับที่ดิน บ้าน คอนโด ยังดีกว่า นักการเมืองขอยืมแล้วทวงคืนไม่ได้  หรือไปต่างประเทศบ้าง อ้างว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลบ้าง  พ่อจึงไม่ค่อยว่า ถ้าผมจะใช้เงินเยอะขนาดนี้ พ่อพูดเสมอว่า ดีกว่าให้คนยืมแล้วไม่ได้คืน  แต่ก็ให้ผมเรียนรู้คุณค่าของเงินอยู่เสมอ 

บนโต๊ะหนังสือริมหน้าต่าง ซึ่งเขาไม่เคยอ่านหรอก หนังสือหนังหา ที่ผ่านมาเห็นเล่นแต่มือถือ และดูละครหลังข่าว โต๊ะหนังสือดูจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวที่เรียบเตียนที่สุดในห้อง  มีรูปของเขาอยู่ตรงนั้น 
รูปเดี่ยวของออกัสที่เชียงใหม่   
รูปคู่ของออกัสกับกันต์ที่กำลังนั่งทานของหวานร้านหรู 
รูปคู่ของออกัสกับผู้กองขณะเดินห้าง
แล้วก็ยังมีรูปคู่ของออกัสกับพี่ไผ่ ขณะนั่งรถไปไหนกันสักแห่ง 
และ..รูปคู่ของออกัสกับผม  รูปที่เราไปญี่ปุ่นด้วยกัน..


บ้านของต้นหลิว
ผมพาการ์ตูนมาส่งบ้านหลิว  วันนี้เขามีการนัดที่จะเตรียมความพร้อมก่อนฝึกงาน การ์ตูนแต่งตัวหล่อเพื่อมาหาหลิว และแน่นอนว่า แม่ของหลิวต้องชวนผมทานข้าวเย็นที่บ้านแน่นอน  ผมอยากให้โอกาสเพื่อนได้ทำคะแนน  แล้วก็ไม่อยากให้หลิวคิดว่าผมโกรธเธอเกี่ยวกับการที่หลิวปิดบังเรื่องออกัสกับพี่ไผ่  ผมต้องการแสดงออกว่า ไม่มีอะไรรบกวนจิตใจผมได้ แม้ว่า คนที่ผมกำลังจะเผชิญหน้า เป็นคนที่ผมอยากเค้นเอาคำตอบที่ค้างคาใจเหลือเกิน

แม่ของหลิว โผเข้ากอดเมื่อเห็นผม  ท่านสั่งให้คนเตรียมอาหารเพิ่ม พ่อของหลิวมอง การ์ตูนอย่างพินิจพิเคราะห์ แถมยังซักถามอะไรหลายอย่าง ผมค่อยๆ เดินออกมาจากห้องรับแขกปล่อยให้ผู้ใหญ่ได้คุยกับชายหนุ่มแสนเรียบร้อย คุณลุงคงใช้ลางสังหรณ์ของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ก็ย่อมทราบได้ว่า การ์ตูนกำลังทำคะแนนอย่างเงียบเชียบกับลูกสาวคนเดียวของท่านเป็นแน่  แม่หลิวพาผมไปชิมขนมไทยหลายอย่างที่ท่านกำลังหัดทำ สักพักนึง ระหว่างที่กำลังรอให้แม่ครัวเตรียมกับข้าวมื้อเย็น  หลิวก็เดินเข้ามาพร้อมพี่ไผ่

“น้ำอยู่กินข้าวกับเราก่อนนะ” หลิวเดินมาเกาะแขนผม ผู้ซึ่งกำลังช่วยคุณแม่ของเจ้าตัว จัดขนมหวานลงบนถ้วยเบญจรงค์

“ก็รับปากคุณแม่แล้ว เดี๋ยวเรากับตูน อยู่ทานด้วย”

“แล้วนี่ตูนไปไหนล่ะ”

“โดนคุณลุงเรียกคุยน่ะ” ผมส่งสายตาแบบมีเลศนัยไปยังหลิว เพื่อหลอกดูอาการว่า เธอจะรู้ไหมนะ ว่าการ์ตูนแอบชอบ

“อ๋อ พ่อนี่ก็” แล้วหลิวก็ปลีกตัวเดินไปทางห้องรับแขก เพื่อไปพิทักษ์ตูน ซึ่งเดาว่า คุณลุงน่าจะซักจนอ่วมเลย

“แล้วนี่ ไผ่จะไปไหนล่ะลูก ไปดูฟิตเนสเหรอ อยู่ทานข้าวกันดีกว่า โทรไปบอกที่ทำงานสิ ว่าวันนี้ไม่เข้า” คุณแม่เสนอแนะ

“เอิ่ม. ผมว่า.. ผมไม่อยู่น่าจะดีกว่าครับ”   ไม่แม้แต่น้อย ที่เขาจะหันมามอง

“ก็แล้วแต่นะ น้ำกับตูนอุตส่าห์มาทั้งที”

“อยู่กินข้าวกันไหมพี่ ที่ฟิตเนสคนไม่เยอะหรอกวันนี้ ผมเพิ่งถามโค้ชเดชเมื่อกี้นี้เอง”  ผมทำใจดีสู้เสือ แสดงให้เขาเห็นว่า ผมไม่ได้ยี่หระอะไรกับทุกเหตุการณ์  คนอย่างไอ้น้ำ สตรองเพียงพอ

“ก็ได้นะ”  แล้วพี่ไผ่ก็ขอตัวไปโทรศัพท์   เอาล่ะสิ  เขาก็คงจะลองดูเชิงว่าผมจะมีอาการอะไร ก็รอดูแล้วกัน แต่งานนี้ผมไม่แพ้แน่นอน







“ไอ้เอ มึงเป็นไงบ้างวะ” ผมต่อสายหาเพื่อนรัก

“แปลกๆ ว่ะ  คือคนในบ้านทุกคนเหมือนจ้องจะจับผิดกู  บรรยากาศแปลกๆ แต่ไม่มีอะไร”

“แล้วไอ้พี่มันเป็นไงวะ”

“ก็กลายเป็นลูกรักป๊ากูไปแล้ว นี่ไปนั่งกินเหล้ากับป๊ากูน่ะ ส่วนม๊านี่ทำกับแกล้ม ลงครัวเองเลย”

“ฟังดูพิกล”

“กูล่ะเสียวว่ะไอ้น้ำ กูทำตัวไม่ถูก”

“ป๊าคงดีใจ ที่ลูกคนเล็กจะออกเรือน”

“ออกเรือนกับเตี่ยมึง นี่กูทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่า พี่อำนาจจะมาไม้ไหน  แต่สถานการณ์เรื่องคนงานสงบแล้ว”

“แล้วคนงานให้ออกไปหลายคนไหม”

“สาวไปสาวมา ก็หลายคน แล้วพี่อำนาจโทรไปหาเพื่อนเขา ให้จัดแรงงานเข้ามาชุดให้ มีให้เลือกเยอะ ป๊านี่รับหมดเลย ค่าแรงถูกด้วย แล้วก็ดูไม่มีพิษมีภัย”

“นี่พาตูนมากินข้าวบ้านหลิว”

“หลิวมันรู้ยังหว่า”

“เดี๋ยวคืนนี้ กูจะถาม”

“จะดีเหรอ”

“ต้องช่วยมันว่ะ ไอ้ตูนมันบื้อ  ส่วนหลิวนี่ก็โลกสวย เดี๋ยวกูช่วยเหลือเอง”

“แล้วมึงล่ะ ใครช่วยเหลือมึง”

“กูไม่ต้องการคนช่วยอะไรทั้งนั้น” 

แล้วก็มีเสียงของหลิว ตะโกนมาเรียกให้ไปทานข้าวในห้องอาหาร ผมจึงยกมือขอเวลาสักครู่ ว่าจะรีบตามไป ผมลุกขึ้นจากชิงช้าในสวน เพื่อเตรียมไปสมบทกับทุกคน ได้เวลาเผชิญหน้ากับมื้อเย็นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมอยู่ไม่น้อย
“ไหวนะ”

“เอาจริงๆ กูไม่ได้แคร์ไอ้ออกัส ขนาดนั้นว่ะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว” ผมตอบเอ ที่ยังรอสายอยู่

“กูไม่ได้หมายถึงไอ้กัส กูหมายถึง พี่ไผ่”

“...”

“มองจาก แถวคลอง 11 นี่ก็ยังรู้เลย ว่าพวกมึงเสี้ยนในกันและกัน”

“ไอ้สัส”

“กูแค่ไม่คิดว่า พี่ไผ่แมร่ง เท่ขนาดนั้น จะมาพิศวาสอะไรมึง”

“กูก็ตัวท็อปอยู่ ไอ้เชี่ยยย”

“อันนั้นกูรู้ แต่ประเด็นคือ บ้านเขาก็ตระกูลใหญ่เปล่าวะ เขาคงเครียดอยู่นะเว้ย ไม่มีประวัติกับผู้ชาย”

“บังเอิญว่า เคยมีเว้ย  ประวัติเขาคือ ไอ้กัส นั่นเอง”

“อืม”

“ทำไมมึงไม่ตกใจ”

“กูรู้จากพี่อำนาจนานแล้ว”

“อ้าว ทำไมมึงเหี้ยอย่างนี้ล่ะเพื่อน”

“ของบางอย่างมันก็พูดไม่ออกนะเว้ย  อย่าไปโกรธหลิว หรือโกรธทุกคนเลยนะเว้ย จะโกรธกู กูก็ไม่ว่า”

“กูไม่โกรธใครหรอก  กูบอกแล้วว่า กูไม่ใช่คนเดิม”

“แต่มึงก็เป็นน้ำเพื่อนรักกูนั่นแหล่ะ  มีอะไรโทรมานะเว้ย”

“อืม.. มึงก็เหมือนกัน ป๊ามึงเอ็นดูลูกเขยก็ดีแล้ว”

“ไอ้สัสน้ำ !”





หมั่วโถวที่สไลด์เสิร์ฟคู่กับขาหมูฮ่องเต้ ถูกส่งทั้งจานไปยังหัวโต๊ะ  มีปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วยของโปรดหลิวที่เจ้าตัวแทบไม่ยอมแบ่งกับคนอื่น ตรงหน้าผมมีแกงจืดปลาหมึกยัดไส้สีตุ่นหมองพอกับใบหน้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม พี่ไผ่นั่งจิ้มยำคอหมูย่างเข้าปากไม่ได้สนทนากับใคร  พ่อของหลิวที่อยู่หัวโต๊ะ มองพี่ไผ่ สลับกับหลิวไปมา ก่อนจะชวนให้คุณแม่ชิมปลาคังลวกจิ้มที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งผมเป็นคนซื้อมาฝาก  การ์ตูนนี่ไม่ต้องพูดถึง นั่งตับลีบแบนนิ่งเสียจนแทบจะเหมือนหินสลักรูปหมี

“พ่อสบายดีเนอะน้ำ  นี่ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมท่านสักที  สงสัยต้องนัดวันซะแล้ว”

“สบายดีครับ พักนี้พ่อไม่ได้ไปไหน ใกล้ฤดูเลือกตั้งด้วย”

“ท่านกลัวพวกรัฐมนตรียืมเงินน่ะสิ  คนพวกนี้ก็นะ เอ่ยปากยืมกันง่ายๆ”

“คุณพ่อชินแล้วครับ”

“งั้นเดี๋ยวลุงไปยืมมั่งดีกว่า ฮ่าๆๆ”

“ที่มีอยู่ คุณลุงก็ใช้ไม่หมดแล้วนะครับผมว่า”

“เผื่อต้องแต่งลูก เดี๋ยวจะชักหน้าไม่ถึงหลังน่ะสิ”

“แต่งลูกชาย หรือลูกสาวล่ะครับลุง”  ผมชนะยกที่หนึ่ง  ทิ้งระเบิดไปก่อนใหญ่ ให้ไอ้คนโตของบ้านนี้นั่งหน้าจ๋อยเลย

“ลุงก็พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ สงสัยจะอีกนาน” กลายเป็น ตูนที่รีบก้มเคี้ยวกุ้งราดผัดเปรี้ยวหวานตรงหน้า หลบสายตา
 
“ป้าก็บอกแล้ว เลือกเอาสักคนสิลูกน้ำ แล้วมาสู่ขอเลย” แม่ของหลิวที่นั่งเงียบอยู่นาน โพร่งออกมาบ้าง

“อ้าว ทำไมทำกับผมอย่างนี้ล่ะครับ ฮ่าๆๆ”

“ทุกวันนี้ ก็เหมือนลูกอยู่แล้ว จะไปตก ไปแต่ง ให้มันเสียค่าสินสอดทำไมล่ะคุณก็” 

“แหม ถ้ามาขอลูกสาว เราคงไม่กล้ารับสินสอดบ้านท่านหรอกค่ะ แต่ถ้าลูกชายเราไปขอ จะหาสินสอดไม่ทันน่ะสิ หน้าตาอย่างลูกน้ำนี่ ค่าสินสอดจะเท่าไหร่กัน”  คุณแม่หลิว นั่งทำหน้าคิดเป็นจริงเป็นจังมาก จนที่โต๊ะเริ่มทำหน้าเหวอ  ผมเห็นท่าจะยาว แถมตัวเองก็เป็นท็อปปิคหลัก เลยพยายามแก้เก้อ

“โหว แค่ได้กินของอร่อยแบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้วครับ”  ก็พอจะทำให้ทุกคนได้หัวเราะแบบเสแสร้งกันได้บ้าง  โดยเฉพาะคนที่นั่งตรงข้าม เขายังคงใช้ส้อมเขี่ยอาหารไปมา ไม่ได้มองหน้าใคร แค่เหลือบตามาจ้องผมเป็นระยะ ก็เท่านั้น






ผมกลับมาถึงบ้าน พ่อยังคงนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ดูอะไรอยู่น่ะเหรอครับ เป็นซีรีส์เกาหลี ที่คุณหมอสาวคนหนึ่ง กับ นายทหารหนุ่มที่ด้วยภาระหน้าที่การงาน ไปด้วยกันไม่ได้  ผมแปลกใจที่พ่อนั่งดูรายการอะไรแบบนี้  ผมเลยเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วก็นอนที่ตักพ่อ เป็นการอ้อน ตามประสาลูกชายคนเดียวที่เงินใกล้หมด และบัตรเครดิตใกล้เต็มวงเงิน
“อำนาจ เป็นยังไงบ้างแล้ว ทำอะไรอยู่”

“ผมไม่รู้ ไม่ได้ติดต่อ”

“อย่ามาโกหก”

“ก็สบายดี ไปช่วยบ้านเอ รื้อระบบใหม่ คนงานมันเกรียน”

“เออ ก็เหมาะกับอำนาจดี”

“นี่พ่อโกรธพี่เขามากเลยเหรอ จริงๆผมผิดเองครับพ่อ”

“พ่อรู้  แต่เขาเป็นพี่ เขาต้องคอยเตือน ไม่ใช่สงเสริม”

“เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งผม เขาเป็นลูกจ้างพ่อ เขาก็ทำตามทำสั่ง”

“แต่พ่อไม่ได้เลี้ยงเขาแบบลูกจ้างนี่นา”



[ TBC ]


**** มีฉาก half blood INCEST แบบเบา ต่อด้านล่าง กรณีไม่ใช่แนว ควรกดข้ามตอน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2018 17:21:28 โดย TofuChan »

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
[ ต่อ ]

**** มีฉาก INCEST เบาบาง  ถ้าไม่ใช่แนว ควรข้าม

ไลน์ของหลิว

“พ่อคุยอะไรกับตูนบ้างล่ะน้ำ”

“น้ำไม่รู้หรอก ไม่ลองถามตูนดู”

“ก็อยากลองถามจากน้ำดูก่อน”

“นี่รู้แล้วใช่ไหม เรื่องตูนน่ะ”

“รู้ตั้งนานแล้ว”

“อ้าว จริงดิ”

“เขาก็แสดงออกขนาดนี้มาตั้งนานแล้ว”

“ตอนแรกเรานึกว่ามันชอบเอ”

“บ้า”

“เอก็นึกว่ามันชอบเรา”

“พวกบ้า”

“มันนุ่มนิ่ม ต้วมเตี้ยม”

“จะพูดว่า ตุ้งติ้ง ก็พูดมา”

“เออ มันตุ้งติ้ง”

“ก็จริงแหละ คนที่สาขาก็คิดแบบนั้น”

“แต่หลิวไม่คิด”

“ก็เขาดีกับเรา”

“ชอบมันไหม”

“น้ำคิดว่าไงล่ะ”

“มันเป็นคนดีโครต บ้านก็อยู่ในตระกูลที่ไม่เสื่อมเสีย ผู้ดีเก่า พี่น้อง ญาติ ไม่ใช่คนโลภ แต่ไม่รู้ว่า คนจะว่ายังไง จะเป็นเขยบ้านหลิว มันจะต้องดู น่าเกรงขามกว่านี้เปล่า”

“คนที่ว่า นี่ใครอ่ะ”

“ก็คนทั่วๆ ไปน่ะ”

“เราไม่แคร์หรอก  เราแคร์แค่ เขาคิดยังไง  เราคิดยังไง”

“สตรองเว่อร์”

“เก่งม๊ะ”

“เก่งกว่าเรา เพื่อนรัก  นี่แสดงว่า ชอบตูนเหมือนกันใช่ไหม”

“น้ำต้องเห็นสิ่งต่างๆ ที่เขาทำให้เรา”

“แพ้ความดีว่างั้น”

“มันมีอะไรที่มากกว่านั้นนะ  เขามันพลังงานแห่งความรักที่มอบมาให้ รู้สึกว่ามันอบอุ่น”

“ใช้คำว่ารัก เต็มปากเลยนะ”

“....”

“เฮ้ยยย ใจเย็น ล้อเล่น”

“ก็แอบหวั่น ว่าเขาจะท้อไหม คนรอบข้างเหมือนจะชอบคิดไปว่า เขาไม่เหมาะกับเรา”

“เอาจริงๆ ใครก็มองแบบนั้นป๊ะ”

“เราสิ กลับคิดว่า เราจะคู่ควรกับความรักที่เขามอบให้ไหม มันสมบูรณ์แบบอ่ะ”

“โหยยย ต้นหลิว  นังเพื่อนชั่ว มีความรักเต็มอก แล้วปกปิด”

“ก็ค่อยๆ ดูไป”

“อืม เป็นกำลังใจให้นะ  ยิ่งตูนมันเป็นคนน่ารัก เราอ่ะ ก็อยากให้ไปกันรอด”

“ก็ไม่รู้สิ ทำตัวไม่ถูก ไม่เคยมีแฟนนี่นา”





หลังจากวันนั้นพักใหญ่ ผมใช้เวลากับตัวเองและการเรียนมากขึ้น พ่อเติมเต็มบัตรเครดิตของผมทุกใบในฐานะลูกชายที่กลับเนื้อกลับตัว ผมไม่ได้ไปเที่ยวกลางคืน ไม่ใช่เพราะไอ้เอไม่ยอมออกไปด้วย แต่เพราะว่าผมไม่อยากรู้สึกว่าจะต้องทำ ในสิ่งที่ผมจะพยายามไปก็เท่านั้น 

ผมส่งไลน์ทักทาย ผู้กองกับพี่กร แต่ไม่ได้วีดีโอคอลล์กันอีกเลย ผมเหม็นฟามรัก พวกข้าวใหม่ปลามัน  แต่ทั้งคู่ก็เอ็นดูผมนะ ส่งรูปคู่เชิงสังวาสมาให้ดูเป็นระยะ พี่กรนี่ตัวดีเลย ส่งทุกท่าบนฟูกมาให้ดู คือ ใช้พื้นที่เตียงได้คุ้มมาก คนอวดผัว

มีโอกาสได้โทรหาน้องกันต์ เล่าสารทุกข์สุกดิบ น้องยังคงน่ารักและเป็นกำลังใจในปลายทางที่มืดหม่นได้เสมอ แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่า เขาใจอ่อนกับลูกตื้อของออกัสเข้าให้แล้ว  ออกัสมันก็แบบนี้แหล่ะครรับ ขี้ตื้อ ขี้อ้อน ต่อให้มันกวนประสาทได้แค่ไหน มันก็ยังเอาใจของกันต์กลับไปจนได้ 

แล้วผมก็ใช้เวลาให้ยุ่งเหยิงเข้าไว้ ทำใจให้ไม่คิดถึงพี่ไผ่ แล้วมันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยในทุกวัน  ผมไม่ไปฟิตเนส อาศัยว่ายน้ำในสระเล็กส่วนตัวที่คอนโด  กลับไปทานข้าวกับพ่อบ่อยขึ้น แล้วก็พาพ่อไปเดินห้าง เราดูซีรีส์เกาหลีด้วยกัน ผมแอบเห็นพ่อน้ำตาไหลในบางฉาก ส่วนใหญ่เป็นการพลัดพรากและไม่สมหวัง  ผมปลอบโยนพ่อด้วยป็อปคอร์นแสนอร่อยที่เตรียมไว้

เอเพื่อนรักยังไปกลับ กทม. กับ ปทุมธานี เพราะเรื่องยุ่งของที่บ้านซึ่งกำลังเข้าสู่ในทางที่ดี  ตอนนี้พี่อำนาจเข้าไปช่วยดูถึงขั้นตอนการจัดซื้อด้วยซ้ำ  เป็นที่รักของที่บ้านกันใหญ่ มีคนเดียวคือ อาม่าใหญ่ ที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้สุงสิงหรือเข้ามาพูดคุย น่าจะเพราะอาม่าใหญ่ เป็นคนเลี้ยงไอ้เอมา น่าจะหวงแหนหลานชายคนโปรดเป็นอย่างมาก การที่พี่อำนาจผู้ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มียศฐา บุ่มบ่ามเข้าไปใกล้ชิดและโผล่มาอยู่ในโลกของไอ้เอ มันคงทำให้อาม่าใหญ่ปรับตัวไม่ทัน 


ทำไมทุกคนเหมือนมีชีวิตที่เดินไปข้างหน้า..  แต่ผมไม่ไปไหน


แถมยังเหมือนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ถอยหลังไปยืนในจุดที่เคยผ่านมาแล้วทั้งหมด อยู่กับชีวิตเรียบง่าย เป็นนาย นที เด็กดีของคุณพ่อ  ลึกแล้วในใจผมก็ชอบมันนะ เป็นไอ้น้ำคนที่นั่งอ่านนิยายที่ชอบ เล่นเกม ดูการ์ตูน ซื้อเสื้อผ้าด้วยเงินพ่อ นั่งรอว่าจะมีใครคิดถึงเราไหม แล้วเฝ้าดูใจตัวเองว่า เราคิดถึงใคร


เผลอไปในความรู้สึก..  ภวังค์ที่หายไป ส่งต่อผมมาที่หน้าประตูบ้านของใครบางคน  ผมเรียกสติ แล้วกรดกริ่งนั้น

บ้านไม้สักสองชั้น ใช้ไทรเกาหลีล้อมเป็นรั้วด้วยเนื้อที่ขนาดใหญ่ ไม่ไกลจากตลาดบ้านแพ้ว สมุทรสาคร เท่าไหร่นัก เจ้าของบ้านวิ่งมากอด แล้วดึงผมเข้าไปในบ้าน โดยมีสามีทหารที่เปลือยท่อนบน วางมือจากกรรไกรตัดกิ่งไม้ เดินมารับไหว้ผม 

แม่ ดูเปลี่ยนไปมาก น้ำหนักขึ้นมาเยอะ ผิวที่เคยขาวเนียน ดูคล้ำ มีกระขึ้นที่ใบหน้าซึ่งเคยสวยมาก ผมสีเทาแซมเต็มมิได้ย้อมดำแบบแต่ก่อน   น้าธนู เอาผ้าขาวม้า มาเช็ดเหงื่อตามตัดออก แล้วคว้าเสื้อยืดคอวีมาสวม ก่อนจะมาจัดเตรียมน้ำมาให้ผมดื่ม  น้าธนูเคยเป็นคนสนิทของพ่อ เป็นนายทหารเก่าที่แม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังเต็มไปด้วยมัดกล้าม  เขายังดูหนุ่มมากเมื่อเทียบกับแม่ของผม 

ไวน์มะเม่า กับ อาหารทะเลเผา ถูกย่างมาวางเกลื่อนโต๊ะ  น้ำจิ้มซีฟู้ดส์ที่แม่ทำ ยังคงอร่อยกว่าที่ไหนเสมอ น้าธนูคอยประคองแก้วไม่ให้แม่ดื่มมากไป  ลมพัดเอื่อย เสียงเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดรอ มีห้องหนึ่งห้องที่แม่เตรียมไว้ให้ผมเสมอถ้าผมจะแวะมาเยี่ยมเยือน   เหลือบไปมี อุทิศ น้องชายต่างมารดาของผม ที่แวะมาสวัสดีแต่ไม่ได้ออกมาสุงสิงอะไร 

ผมออกมานั่งที่ระเบียงดาว แม้อากาศจะไม่ได้เย็นหนาว แต่ก็พอมีลมเอื่อยพัดโดนใบหน้า  ผมมองไปที่สวน เห็นน้าธนูเก็บเตาย่าง มีอุทิศออกมาช่วยพ่อของเขา  ป่านนี้แม่คงหลับไปแล้ว  ผมไม่รู้ว่าแม่มีความสุขไหม แต่แม่ละทิ้งชีวิตที่สบาย โดยไม่หันหลังกลับ ใบหน้าของแม่บนโต๊ะ ยามที่แกะกุ้งส่งให้ผม ไม่รู้ว่าเป็นใบหน้าแห่งความสุขหรือเปล่า แม่อยากกลับไปไหม หรือแม่ก้าวมาไกลเกินจะกลับ ผมไม่อาจจะคิดแทน  แต่ผมก็คิดถึงแม่อยู่เสมอแล้วก็แวะกลับมาถ้าผมอยากเริ่มต้นกับตัวเองด้วยความรู้สึกใหม่ มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด 

“ยังไม่หลับเหรอ”  แม่เดินห่อผ้าพันคอหนา มานั่งข้างผม  พร้อมส่งเสื้อไหมพรมสีครีมมาให้

“ถักเองเหรอครับแม่”

“อืม เป็นตัวแรกเลยนะ ที่แม่เย็บจนเสร็จ”

“ขอบคุณครับ”  ผมกางออกมาดู สำรวจขนาดซึ่งน่าจะใส่ได้อย่างพอดี

“ลายเชยหน่อยนะลูก แม่เพิ่งหัดทำ”

“น่ารักดีออกครับ เดี๋ยวผมจะใส่แล้วถ่ายรูปส่งมาให้นะ”

“กว่าจะถึงฤดูหนาว หน้าคงเปลี่ยนไปอีก จนแม่จำหน้าลูกตัวเองไม่ได้แล้วแหล่ะ”

“แม่อ่ะ !!”

“อยากทำอะไรก็ทำ  เงินก็มี เอาที่ปลอดภัยแล้วกันนะ เลือกหมอที่ดี”

“ครับ” 


แม่นั่งคุยกับผมสักพักแล้วขอตัวไปนอน  แม่บอกว่า แม่รู้ว่าผมมีเรื่องในใจ ถ้ามีอะไรก็มาค้าง มาหาให้บ่อย  พอแม่กลับไปแล้ว ผมก็ไปหยิบจดหมายในกระเป๋า ที่หลิวฝากมาให้ มันเริ่มยับยู่ยี่เพราะผมหยิบมาอ่านไปมาอยู่หลายรอบในสองวันมานี้  หลิวบอกว่าเจ้าของจดหมายเขาฝากมาให้ แล้วก็ขอให้ผมกลับไปเล่นฟิตเนสได้แล้ว ก่อนที่ก้นจะกลับมาย้อย ดูมันสิ ขนาดง้อ ยังมีความกวนบาทาระดับสิบ


ผมกำจดหมายที่เขียนด้วยลายมือเหมือนไก่เขี่ย แต่ผมก็อ่านจนขึ้นใจ มองไปที่แม่ซึ่งออกไปตาม น้าธนู กับ อุทิศให้กลับเข้ามานอน ปล่อยให้สวนเหลือเพียงร่องรอยของการสังสรรค์  ดาวยังคงระยิบข้างแสงจันทร์  ผมก็ยังคงนั่งถอนหายใจอยู่ที่ระเบียงต่อไปจนดึกดื่น จนกระทั่ง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“อ้าว ยังไม่ง่วงเหรอ อุทิศ”

“ผมจะมาขออะไรพี่น้ำหน่อย”

“ว่า”

“ช่วงที่พี่ไม่อยู่ ผมขอมานอนที่ห้องพี่ได้ไหมครับ”

“ได้สิ แต่มีอะไรหรือเปล่า”

“ผมนอนที่ห้องไม่ได้น่ะครับ”

“ทำไม”

“คือ พ่อกับแม่..  เอ่อ..  เวลาเขาเมา เขาจะ..  เอ่อ..”

ผมพอจะเดาได้ เลยเอามือตบไหล่ แล้วบอกให้อุทิศไปหยิบ เบบี้ออยล์ ซึ่งวางอยู่ตรงหน้าห้องน้ำรวม แล้วให้เขาตามเข้ามาในห้องผม  สั่งล็อคประตูให้ดี

“น้าธนูกับแม่ทำกันเสียดังเหรอ”

“พี่น้ำ ผมนอนไม่ได้เลย แม่โหยหวนมาก”

“อ้าวแล้วที่ผ่านมาทำยังไง”

“ผมก็พยายามเอาหัวมุดในหมอน แต่มันก็ดังลอดมา ผมนอนไม่หลับ”

ผมพยายามดู น้องชายต่างมารดาของตัวเอง ตอนนี้เขาโตเป็นเด็กหนุ่ม อายุ 12 หน้าตาดี แต่ก็ใสซื่อ ไม่มีพิษมีภัย  ผมไม่ได้โกรธ ถ้าเขาจะแย่งความรักของแม่ไปจากผม เพราะที่ผมได้จากพ่อ มันก็เพียงพอแล้ว  ออกจะนึกขำด้วยซ้ำ ที่เด็กน้อยคนนี้ไม่มีพิษสงอะไร แม้กระทั่งผู้ใหญ่ร่วมรักกันก็ไม่สามารถระบายให้ใครฟังถึงอารมณ์ที่กรุ่นฟุ้งในใจได้

“ไม่เคยปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนเหรอ”  ผมเอื้อมมีไปรับ เบบี้ออย จากมือของเขา

“ใครจะกล้าบอกล่ะพี่ น่าอาย”

“ไม่มีอะไรน่าอาย ถ้าเก็บกดไว้ สิวจะขึ้นนะ”  ผมเอื้อมมือไป ชี้ที่สิวเม็ดเล็กตรงคาง ที่ปูดนูนขึ้นมา แต่ก็ไม่ทำให้เขาเสียความหล่อใสแต่ประการใด สิวเป็นเรื่องธรรมชาตินะผมว่า  สิ่งที่ผมจะสอนเขา ก็เช่นกัน

“ผมก็ไม่กล้าบอกใครอยู่ดีครับพี่น้ำ  ผมกะว่าจะขอมานอนที่ห้องพี่ เพราะมันไกลหน่อย แต่ก็รอจะขอพี่ก่อน พี่ก็ไม่มาเยี่ยมแม่สักที”

“ตลกจัง มีอะไรก็โทร หรือ ไลน์มาสิ  เราก็น้องพี่คนนึง แม้จะแทบไม่เคยคุยกันก็เหอะ นี่ดีใจนะที่ มาปรึกษาพี่”

“ผมอยากสนิทกับพี่นะ  แต่ผมก็ไม่รู้ว่า พี่เกลียดพ่อผมไหม”

“ไม่นะ น้าธนู ดูแลแม่พี่ดี ถ้าเราไม่ดื้อ พี่ก็จะรักเราด้วย”

“ครับพี่น้ำ”

“เอาล่ะ ถอดกางเกง”

“เฮ้ย”

“ไหนบอกไม่ดื้อ”

“แต่พี่ นี่พี่จะทำอะไรผม”

“พี่ไม่ล่วงเกินอะไรเราหรอกครับ อุทิศ  แต่พี่จะสอนให้เรา จัดการดับไฟในใจให้ได้   ไม่มีอะไรผิดหรอกน่า”

“....”

“ไว้ใจพี่ไหมครับ”

“ครับ”

“ถ้าอาย ก็ถอดให้พี่ก่อนนะ”  แล้วผมก็เอนตัวลงนอน อุทิศ ค่อยๆ ถอดกางเกงกีฬาผมออกอย่างเคอะเขิน เขาตาลุกวาวเมื่อเห็นของผม ซึ่งมันก็ตื่นตัวได้ไวเพราะผิดกลิ่น แต่ก็ต้องข่มใจว่า นี่น้องชายนะ   เมื่ออุทิศเห็นเช่นนั้น เขาก็ค่อยๆ ถอดกางเกงผ้าร่มขาสั้นของเขาออก โอ้โห สงสัยจะได้น้าธนูมาเยอะ อายุแค่สิบสอง แต่แม่เจ้าโว้ย มันอลังการ  แล้วอุทิศก็ย้ายมานอนที่เตียงของผม  ไม่ดื้ออย่างที่บอกจริงด้วยแฮะ

“ฮอร์โมนของเด็กชาย มันไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจนะอุทิศ ถ้าเรารู้จักระบายมัน เราก็จะไม่อัดอั้น แต่ต้องสัญญานะ ว่าไม่หมกมุ่น และไม่จมปรักกับมัน มีแฟนหรือยัง อย่าไปล่วงล้ำสาวที่ไหนนะ มันยังไม่ถึงเวลา”

“ผมไม่รู้ว่าผมจะหมกมุ่นกับมันไหม ผมเคยแอบดูหนังโป๊ ตอนไปห้องเพื่อน แต่ที่บ้านไม่เคย พ่ออยู่บ้านตลอดเวลา”

“เราระบายมันได้ แต่อย่าไปเอามันเหนือในทุกเรื่อง สมัยพี่วัยเดียวกับอุทิศ พี่ก็แค่วันละสองครั้ง”

“สองครั้งนี่เรียกว่า เยอะ หรือ น้อยครับ”

“คนเราไม่เหมือนกัน พี่ก็ตื่นนอน หนึ่งรอบ  กับก่อนนอนหนึ่งรอบ แต่ถ้าอุทิศรู้สึกตอนไหน ก็บรรเทาตัวเองตอนนั้น เน้นว่า อย่าไปหมกมุ่นนะ” 

ผมเปิดเบบี้ออย หยอดใส่มือ แล้วชโลมลงบนแก่นกายของผม แล้วก็บีบใส่ของอุทิศด้วย ผมเอามือของผมไปชโลมให้กันท่อนกายน้องชาย  เขาก็ตื่นตัวได้รวดเร็ว ขนาดเกือบจะเท่ากับของผมแล้ว แต่ปลายยังไม่เปิด สีไม่คล้ำ ผมเลยละมือออก กลับมานวดน้ำมันไปที่ของผม เพื่อสาธิตให้เขาดู

“ถ้าตรงปลายยังไม่เปิด ต้องใส่น้ำมัน หรือโลชั่น เพื่อที่จะไม่ทำให้เป็นแผลถลอก ใส่เยอะๆนะ”

“ครับ” เสียงของอุทิศกระเส่าเล็กน้อย หายใจหอบ

“เวลาดึงลงมา รั้งให้ปลายเลยรอยหยัก ถ้ามันสกปรก จะได้รู้  แต่เท่าที่ดู สะอาดดีนะ”

“พ่อสอนผมล้าง ผมก็ล้างทำความสะอาดทุกวันครับพี่”

“ดีมาก  เด็กดี”  ผมเอื้อมไปกำของอุทิศ แล้วค่อยๆ รั้งลงมาเพื่อเป็นการสาธิต แล้วขยับมือขึ้นลง ก่อนจะส่งต่อให้เขา ทำด้วยตัวเอง  ผมเอามือที่ว่างของตัวเอง ถลกเสื้อของผมขึ้นจะแผ่นอกโผล่ออกมา  ผมเอามือลูบไล้ แล้วเขี่ยที่ปลายยอดอก แล้วครางเบาให้เขาดู  อุทิศค่อยๆ ทำตาม 

มันเขื่องขึ้นมาเกินเด็กแล้ว เขาเร่งขึ้นด้วยตัวเอง หลับตาพริ้ม เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก  จมูกโด่งเป็นสันคล้ายของน้าธนู ผิวเข้ม โหนกแก้มเหลี่ยมแสดงความเป็นชาย เขาหายใจหอบ ก่อนจะกระตุกร่างที่เกร็ง ปลายเท้าเหยียดตึง แล้วผ่อนมือลงมา หายใจออกเฮือกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น 

ผมเลยหลับตา ใช้มือขโยกขึ้นลง จินตาการถึงสิ่งที่ผ่านมาในขวบปี ที่ชีวิตทางเพศของผมโลดโผนเกินบรรยาย  ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจตัวเองที่เต้นเร็ว หายใจหอบ  ผมหันไปมอง อุทิศที่เพิ่งเสร็จกิจ หันมามองผมกระทำตัวเองอย่างสนใจและใคร่ที่จะเรียนรู้  ผมเอื้อมมือของอุทิศ มาจับที่ของผมแล้วให้เขาช่วยผม เขาขยับมือขึ้นลงอย่างเต็มใจ ผมหายใจหอบถี่ เหงื่อเราทั้งคู่ แตกเต็มหน้า ไหลมาที่ซอกคอ  อุทิศจ้องมองของผมที่เกร็งตัวเต็มที่พร้อมจะระเบิด ก่อนเขาจะหันหน้ามามองผม  ผมพยักหน้า เขาเร่งมือรัว ก่อนผมจะสั่นเกร็งไปทั้งตัว หอบเอาลมหายใจเฮือกใหญ่ พ่นใส่เขาอย่างเต็มแรง  หยาดขาวขุ่นล้นเปื้อนเต็มมือเขา ผมพยักหน้าให้เขาขยับมือต่อ  เป็นบทเรียนว่า ความสุขยังต่อได้อีกประมาณครึ่งนาทีหลังจากเลยจุดสุดยอดไปแล้ว อุทิศดูตื่นเต้นที่เขาพลาดอะไรไป  ก่อนของผมจะอ่อนตัวคามือเขาเมื่อผ่านไปครึ่งนาที

ผมนอนหงายแผ่แบบคนที่เพิ่งวิ่งรอบสนามฟุตบอลมา  อุทิศเอามือที่เปื้อนมาเช็ดที่หน้าท้องของผม  มันปนกันทั้งหยาดสีขุ่นของผมและสีใสของเขา ปนรวมเลอะบนตัวผมเต็มไปหมด  ผมดันศอกพยุงตัวขึ้น หันไปดูเขาที่นอนราบหลับตา  ผมก้มลงไปหอมหน้าผากเขาอย่างเอ็นดู

“เราสนิทกันแล้วนะครับ น้องชาย มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ”

“ครับพี่น้ำ  ขอบคุณครับพี่ชาย”



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2018 17:40:43 โดย TofuChan »

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
**** hallo from the other side

ก่อนอื่น  ขออภัย ที่ช้าน้าาาาา

เราเข้ารับการรักษาตัว ด้วยโรคปลายประสาทเสื่อม  ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ปลายนิ้วมือ เราขยับได้ดี

เหลือ ฝังเข็ม อีก 6 ครั้ง คุณหมอว่า น่าจะหายดี

ระหว่างที่รักษา เราได้ ฟิคคุณหมอ กับคนไข้ เพิ่มเข้ามา นับเป็นการเจ็บป่วยที่ให้คุณ  มากกว่าโทษ คริ คริ

ท่านผู้อ่านไม่ต้องกลัว  ทุกเรื่อง ก่อนที่จะลงบอร์ด   เราเขียนจบล่วงหน้าทุกเรื่องแล้ว  ^__^

เพียงแต่ ก่อนจะลงแต่ละตอน จะรีไรท์ นิดหน่อยแค่นั้น และเปลี่ยนเคมี คู่รอง บ้างบางตอน

ตอนนี้ มีนิยายที่เสร็จแล้ว 4 เรื่อง แต่ยังไม่ได้ลงในเดือนนี้

เพราะเราต้อง เตรียมตีพิมพ์ 1 เรื่อง  The Debut : แจ้งเกิดหัวใจ นายเบอร์รอง [ ชาย-หญิง ]

ส่วน Love of 1999 : มารักกัน.. ก่อนวันสิ้นโลก  กำลัง รีไรท์  เช่นกัน [ ชาย-ชาย ]

ขอเวลานิด จะทยอยลงให้  ขอบคุณที่ถามถึง และข้อความที่ส่ง inbox กันมา

เรื่องสั้น อีก 3 เรื่อง กำลังจะตรวจ เดี๋ยวทยอยลงให้ที่ บอร์ดเรื่องสั้น ในหมวดชุด แรงงานที่รัก

- พลขับ คนละขับ

- ปิ่นโต ของเด็กวัด

- รักการ ภารโรง

ขอบคุณน้าาาาาาาา


ปล. สำหรับ คนที่ไม่ชอบ incest  ต้องขออภัยที่ แทรกมาให้ในบทนี้
ส่วนตัวคิดว่า  นิยายเชิงสังวาส จะสมบูรณ์ได้ ถ้ามีทุกรูปแบบ แต่ไม่กล้าใส่แบบเต็ม
เลยวางเป็น haft blood ไว้แทน

นิยายเรื่องนี้ แม้มี sex เป็นตัวเดินเรื่อง แต่เชื่อว่า ท่านผู้อ่านจะเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว มันเป็นเรื่องของความรัก

เพียงแต่ รัก โลภ โกรธ หลง  มักถูกความใคร่ ทำให้มันเติบโตไปในทางที่เกินควบคุม

โค้งสุดท้ายแล้วนะ  เป็นกำลังใจให้ นที คนเก่ง  ที่ซุกซนเหลือเกิน 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2018 17:29:46 โดย TofuChan »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เห็นน้ำเพลาๆลงก็ดีใจ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แค่เค้าเขียนจดหมาย..ฝากน้องสาวมาง้อ
ก็หายงอนซะแล้ว หึหึ

งั้นแสดงว่าจดหมายฉบับนั้นคงให้เหตุผลที่น่าพึงพอใจมากกกกกกก
ขนาดไม่ได้มาพูดอธิบายด้วยตัวเอง แค่เปิดอ่านก็สามารถทำให้ใจอ่อนได้เลย
ฮ่าฮ่า ไอ่พี่ไผ่คนนี้เยี่ยมจริงๆ ทำให้น้องน้ำยอมสยบราบคาบ ไร้การต่อรองใดใด

เคลียร์ขนาดนั้นเลย..จริงดิ
กร๊ากกกกกกกกกก


อย่าเข้าใจ ตัวพี่ผิด คิดไปมาก
แม้แต่จูบ ลิ้นพันปาก ยังผลักไส
ไม่เคยเล๊ยยย ไม่เคยเลย ไม่มีใคร
แค่รู้จัก เดินสวนไป สวนกันมา

จะสงสัย ไปทำไม เพิ่งรู้จัก
เขาแค่เคย แวะทายทัก ไม่หนักหนา
จะพูดจา ก็เหมือนเพื่อน ลืมเลือนมา
อย่าไปนับ ที่ง้างขา อ้าใส่กัน

เข้าใจเหอะ..เน๊าะ
ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทุก แค็ทตาล็อค ใน youporn ถ่ายทอดไว้แล้ว ในนิยายเรื่องนี้  o18 :hao3: :hao7:

ออฟไลน์ NC Wanted

  • NC Wanted
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอิ่มนู๋น้ำ นั่งน้องนะ ก๊ากกก เว้นบ้างอะไรบ้างค่ะ  :call:

ออฟไลน์ LovelyPenGirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพ่อำนาจโครจลอยลำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอตอนต่อไปอยู่นะ

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep  16 :  CuckOld Game คนกองหนุน

บ่ายคล้อยในวันที่ล่ำลาแม่ ผมหอบมะพร้าวที่น้าธนูตัดมาให้ 2 ทะลายใหญ่ขึ้นหลังรถเก๋งไป ผมกอดแม่พร้อมหอมไปฟอดใหญ่ แม่ก็หอมผมกลับ ผมส่งเงินให้แม่ปึกหนึ่ง แต่แม่ไม่รับไว้ เลยแกล้งส่งไปให้น้องชายของผมแทน แม่รีบแย่งไปเก็บไว้ แล้วบอกว่าจะทยอยแบ่งให้ซื้อของที่จำเป็น  อุทิศยกมือขอบคุณ ผมยักคิ้วให้ ก่อนจะเดินมาส่งผมที่รถ
“อย่าลืมนะ มีอะไร ไลน์มาหาพี่ เราสนิทกันแล้วนะ อย่าลืม” ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่ตอนอุทิศทำหน้าเหวอ พร้อมกับหันกลับไปมองทางน้าธนูอย่างกลัวๆ

พอเข้าเขตตัวเมือง ผมแวะที่ห้างใหญ่แถวพระราม 2  เพื่อเจอกับตูนซึ่งแวะมาเยี่ยมพ่อแม่ของเขาแถวนี้  เลยถือโอกาสเดินห้างพูดคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องของหลิว  เราเลือกร้านอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งราคาไม่แพงนัก ผมจะถือโอกาสสอนวิธีการวางมีดส้อม ตลอดจนการพับผ้าเช็ดปาก เผื่อให้เขาได้ศึกษาเวลาออกสังคม คิดจะเป็นเขยบ้านเศรษฐี มันต้องจริงจังเว้ยตูน

“แล้ววันนั้น โดยคุณลุงจัดหนักเลยไหม ออกมานี่หน้าซีดเลย”  ผมเฉือนอกไก่อบซ้อสมะเขือเทศ ให้ตูนดูเป็นตัวอย่าง เขาก็สนใจเป็นอย่างมาก แต่ปากก็ยังเคี้ยวตุ่ย จนผมต้องเอามีดชี้หน้าให้สำรวม

“ไม่เลย คุณลุงดีมาก ก็ถามมาตรงๆ เลยว่า จีบหลิวเหรอ”

“หูวว เชดดด  ลุงนี่ทำไมโหด แล้วบอกไปว่ายังไง”

“บอกไปว่า ไม่ได้จีบ”

“อ้าว”

“ก็ไม่อยากโกหก  ไม่ได้จีบ แต่อยู่ด้วยกันทุกวัน ก็ไม่รู้ว่าหลิวคิดยังไง”

“ลุงว่าไงต่อล่ะ”

“เขาให้ย้ายที่ฝึกงานมาฝึกที่บริษัทเขา ให้ไปทำเรื่องกับอาจารย์ด่วน”

“เครียดแทนเลยว่ะตูน”

“ก็ดีนะ ลุงท่านจะให้เรียนรู้งาน คงแอบดูทักษะเราด้วยว่า เราทำได้ไหม ถ้าจะมาดูแลลูกสาวเขา”

“ใจเย็นๆเว้ย เขาพูดแล้วเหรอว่า จะให้ตูนดูแลหลิวได้”

“คิดว่าได้”

“ทำไมล่ะ ไปแสดงอะไรให้ท่านเห็น ถึงคิดว่าชนะใจคุณลุงได้”

“ไต”

“ห๋า”

“ไต ชนะใจพ่อหลิว”

“คือ อะไรยังไง งง”

“ท่านบอกว่า มีคนมาทาบทามหลิวเยอะ ลูกชายเพื่อน หน้าตาดี ท่าทางบุคลิกดี เหมาะสมกับตระกูลเขา เรารักลูกสาวท่านแค่ไหน ถึงจะคิดว่า ท่านจะใจอ่อน”

“แล้วก็บอกไปว่า ไต เหรอ”

“เราบอกว่าหลิวเป็นคนสวย อยู่ในครอบครัวที่ดี ใครก็คงให้ใจกับหลิวได้อยู่แล้ว ส่วนตัวผมคงไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนั้น”

“ฟังอยู่ ลุ้นมากกก”

“ท่านถามว่า เรามีใจที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นสิ ก็บอกไปว่า เปล่าไม่ใช่แค่ใจ  แต่ผมให้ ไต หลิวได้  ในวันหนึ่งถ้าหลิวต้องการ”

“เชดดดดดดด”

“ก็เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ  ไม่ได้หมายความว่า ให้ชีวิตหรือตายแทนอะไรแบบนั้น  เราก็มีครอบครัว มีพ่อแม่ต้องทดแทน แต่ถ้าวันหนึ่ง หลิวลำบาก ต้องการในสิ่งที่คนอื่นอาจให้ไม่ได้  เราว่า เราให้ได้”

“ไอ้ตูน  เชดเข้  มึงนี่มาเหนือเมฆ”




ฝนตกหนักมาหลายวัน บ่งบอกว่าเตรียมเข้าสู่ต้นหนาว  พี่อำนาจให้ผมแวะรับที่บ้าน เพื่อให้ผมขับไปส่งเขาที่บ้านเอ จริงแล้วผมขันอาสาเองแหล่ะ  ระหว่างทางไปปทุมธานี เลยถามสารทุกข์คนคุ้นเคย  เอที่กลายเป็นเด็กเรียน แทบไม่ได้เที่ยวกลางคืนเลย ยกเว้นวันเลี้ยงสายรหัส หรือมีนัดกับกลุ่มเดือนคณะอื่นซึ่งจัดเดือนละครั้ง มันตั้งหน้าตั้งตาเรียนผิดวิสัยเชียว

“แล้วนี่ พี่อำนาจโซโล่เพื่อนผมไปยัง”

“ไม่เอาสินายน้อย ผมไม่ขายแฟน”

“เฮ้ย เป็นแฟนกันแล้ว”

“เขาไม่ยอมรับ แต่แหม ผมไม่โง่ขนาดนั้น”

“ไอ้พี่ มึงนี่ก้าวหน้า”

“นายน้อยล่ะ ดีขึ้นไหม แล้วช่วงนี้เอายังไงกับชีวิต”

“ก็ไม่มีอะไร ได้กลับมาเป็นตัวเอง ใช้เวลาให้หมดไปกับการอ่านหนังสือ แล้วก็ว่ายน้ำรักษาหุ่น”

“ฟังดูเหงาๆ นะ”

“อย่ามาใส่ใจเรื่องของผมเลย แล้วเป็นไงบ้าง ที่บ้านเขาโอเคกับพี่ไหม”

“พูดลำบากครับนายน้อย  คือ อาม่าใหญ่มีสิทธิขาดทุกอย่าง เป็นการยากที่จะชนะใจท่าน เพราะว่าท่านลำบากมาก่อน สร้างทุกอย่างมากับมือ ท่านคงห่วงหลานชายคนโปรด ว่าพี่จะไปล่อลวง หรือหลอกหลานท่านไหม พี่มันคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่ใช่คนมีชาติตระกูล”

“คนจีนด้วยอ่ะเนอะ”

“ใช่ แต่ป๊ากับม๊า แล้วก็พี่ ๆ ญาติๆ เขาดีกับพี่มากเลยนะ”

“แล้วนี่จะไม่กลับไปช่วยงานพ่อผมแล้วเหรอ”

“ช่วยสิครับ ท่านก็มีส่งงานมาให้ช่วยบ้าง แต่คงอีกสักพัก คงยังโกรธไม่หาย ที่พี่ไม่ดูแลนายน้อยให้ดี”

“ผมขอโทษนะ”

“พี่ก็ผิดเองด้วย อย่าโทษตัวเองไปเลยนะครับ”

“ดูแลเพื่อนผมด้วยนะพี่”

“ถ้าอาม่าใหญ่เขาจะใจอ่อน ยอมสักทีนะ”





ช่วงที่แวะปั๊มเติมน้ำมัน มีข้อความในไลน์เข้ามา เป็นข้อความของคนที่หายไปนาน เขาอยากจะนัดเจอผม ทำเอาผมสงสัยอยู่ ว่าจะมาไม้ไหน  คนที่ไม่คิดว่า จะมีเรื่องอะไรให้พูดกันมากได้อีก หลังจากเหตุการณ์หลายอย่าง  ผมยังสองจิตสองใจ
พี่อำนาจขับรถเข้ามาที่ตึกออฟฟิศ บัญชาก่อสร้างและวัสดุ  มีรถอัลพาร์ดสีดำคันคุ้นตาจอดอยู่ พี่อำนาจหันหน้ามามองกับผมอย่างตกใจ เล่าเอาเราสองคนทำหน้าไม่ถูก  เลยพยายามมองผ่านกระจกออฟฟิศติดฟิล์มกรองแสงดำปี๋  ว่าเขามาทำอะไรที่นี่   แล้วเอก็เปิดประตูเดินออกมา ยกมือไหว้พี่อำนาจแล้วก็ทักทายผม ก่อนจะเรียกพวกเราเข้าไป

“พ่อกูมาทำอะไรวะไอ้เอ”

“มาเรื่องพี่อำนาจอ่ะ”

“เอาแล้วสิ” พี่อำนาจที่ได้ยินคำตอบจากเอ ทำหน้าเหว๋อ ตัวแข็งทื่อ แต่เอก็ดึงแขนให้พี่อำนาจเดินเข้าไปคล้าย นักโทษกำลังจะเดินเข้าแดนประหาร  แต่ผมเองกลับไม่คิดว่า พ่อผมจะมาแฉอะไรพี่อำนาจสักหน่อย แล้วหน้าตาไอ้เอก็ดูผ่อนคลายพิกล



“อ้าว นั่นไง อำนาจมาแล้ว” ป๊าของเอเอ่ยทัก  พร้อมรับไหว้ผู้มาใหม่อย่างผมกับพี่อำนาจ ที่กวาดมือสวัสดีทุกคน

“มาๆๆๆ  อาอำนาจ มานั่งนี่” อามาใหญ่เอ่ยด้วยสำเนียงปนจีน แฝงความอารมณ์ดีไว้ในที ผิดแปลกจากทุกครั้งที่พูดกับพี่อำนาจ

“นายท่านสวัสดีครับ” พี่อำนาจ ยกมือไหว้พ่อของผม

“พ่อมาทำอะไร” ผมชิงถาม

“มันเรื่องของผู้ใหญ่  แล้วนี่ มาบ้านเขาทำไมไม่ซื้อของติดไม้ติดมือมาล่ะนี่ อย่าทำพ่อขายหน้าสิ”

“โหยท่าน อย่าได้ต้องเกรงใจอะไร น้ำนี่ก็เหมือนลูกผมคนหนึ่งถ้าท่านจะไม่ถือสา  เพื่อนสนิทเอ จะเข้าออกบ้านผมเมื่อไหร่ จะมานอนเป็นปีเป็นเดือน ผมก็ยินดีครับท่าน”  ป๊าออกตัวกับพ่อ พร้อมโอบไหล่ผมอย่างคุ้นเคย

“เอ ลื้อพา ลูกน้ำ ออกไปหาอะไรกินก่อนสิไป ผู้ใหญ่เขาคงนั่งคุยกันอีกแป๊บ  ส่วนอำนาจ ก็อยู่นี่แหล่ะ อยู่คุยกัน”
ผมกับเอก็เดือนเลี่ยงออกมาจากห้อง แล้วขึ้นไปยังชั้นบนของตึกในห้องนอนของเอ เพื่อพูดคุยกัน




“นี่มันอะไรกันวะ ไอ้เอ”

“พ่อมึง คงได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง ว่าอาม่าใหญ่กู ชอบคนมีหัวนอนปลายเท้า”

“แล้วยังไงวะ”

“ท่านก็มาแสดงตัว  ว่าพี่อำนาจ แม้ไม่มีพ่อแม่ แต่ก็เหมือน เป็นน้องชายท่าน คล้าย เป็นลูกคนโตของบ้านมึง”

“พ่อกูนี่เล่นใหญ่ได้โล่ห์”

“อาม่าใหญ่กูนี่ ยิ้มแก้มปริ บอกด้วยนะว่า เอ็นดูพี่อำนาจมาตลอด เป็นคนน่ารัก ดูซื่อ ขยัน”

“เฮ้อ ไม่คิดว่าจะต้องมาอยู่ในจุดนี้เลยว่ะ”

“จุดที่พ่อมึงต้องมาเคลียร์ให้พี่อำนาจเหรอวะ”

“เปล่า  จุดที่กูต้องมาดู เพื่อนรักกูเตรียมออกเรือน โดยมีพ่อกูมาสู่ขอ”

“สัส มึงอ่ะ เชี่ยยยย”




ผมทิ้งรถไว้ให้พี่อำนาจใช้ แล้วก็กับรถอัลพาร์ดกับพ่อ  ระหว่างทางกลับบ้านพ่อกดกระจกกั้นห้องโดยสายขึ้นมาปิดระหว่างเรา กับ คนขับรถ  พ่อถามถึงแม่ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ผมก็เล่าตามความจริง สักพักพ่อก็นิ่งเงียบไป  ผมขอคุยกับน้องบ้างนะ ถ้าพ่อไม่โกรธอะไร  ซึ่งก็ไม่ได้มีคำคัดค้าน

“พ่อยังโกรธแม่อยู่ไหม”  ผมแกะเบียร์กระป๋องที่ 3 ส่งให้พ่อ  ส่วนของผมกำลังโซโล่กระป๋องที่ 4

“ใครบอกกัน ว่าพ่อโกรธแม่  เขาพูดอย่างนั้นกันเหรอ”

“ผมก็แค่เดาจากสถานการณ์  ไม่ผิดนะที่พ่อจะโกรธ”

“ไม่มีใครรู้หรอกว่า เรื่องทั้งหมดเป็นยังไง พ่อไม่เคยโกรธแม่ หรือแม้กระทั่งตัวธนูเองก็ตาม”

“ถ้ามันซับซ้อน ผมเมาเกินกว่าจะได้ยิน”

“พ่อเองก็เมา เกินกว่าจะเก็บมันไว้กับตัวเอง  ถึงคราวลูกต้องเป็นผู้ฟังแล้วนะ”  แล้วท่านก็เริ่มเล่าหลังจากที่ผมพยักหน้า 



ในช่วงสิบสามปีก่อน พ่อผมป่วยเป็นโรคตับ มันส่งผลไปยังหลายส่วนอย่างของร่างกาย ระหว่างที่คุณหมอไม่เคยให้ความหวัง  หัวใจที่ห่อเหี่ยวของพ่อ ยังมีผลกระทบบางอย่างของร่างกายที่เฉาเหี่ยวยิ่งกว่า และแน่นอนว่า มันไม่ได้กระทบกับพ่อคนเดียว  มันกระทบกับแม่ด้วย..  พ่อเล่าแค่นี้ ผมก็รับรู้แล้ว

ธนู นายทหารคนสนิท นอกจากพ่อจะไว้ใจแล้ว พ่อยังรักเขามากเหมือนน้องชายคนหนึ่ง  ก่อนที่ธุรกิจทุกด้านของพ่อจะขยายตัว และเดินไปข้างหน้า ธนูเป็นคนที่คุณพ่อเชื่อใจซะทุกเรื่อง  แม้กระทั่งเรื่องที่คุณพ่ออยากทำให้คุณแม่มีความสุข..

ในคราวแรก ทั้งแม่ และน้าธนู ก็เหมือนจะไม่ยอมรับข้อเสนอ ตลอดจนแสดงท่าทีคัดค้านอย่างเห็นได้ชัด  แต่พ่อบอกว่า พ่อจับแวว สิเน่หา ในสายตาของกันและกันได้  พ่ออยากให้แม่มีความสุข และพ่อก็ไม่ไว้ใจใครยกเว้นธนู
แล้วเหตุการณ์ก็นำไปสู่ ความท้าทายของชายคนหนึ่ง ที่พยายามทุกอย่าง ให้ผู้หญิงซึ่งตัวเองรักอาจมอบความรักกลับมายังเขาเหมือนอย่างเคย แม้ว่าเขาจะเติมเต็มเธอได้ไม่สมบูรณ์พร้อม

ในห้องนอนของคืนหนึ่ง พ่อก็เปลือยกายอยู่เคียงข้าง แม่ที่ไร้ซึ่งอาภรณ์  น้าธนูบรรจงถอดเสื้อยืดและกางเกงทหารของตัวเองออกอย่างบรรจง  เขาเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจนและได้สัดส่วน พ่อบอกว่า พ่อเห็นแววตาของแม่ที่นอนทอดกายอยู่บนเตียง ก็รู้แล้วว่า เป็นดวงตาของผู้หญิงที่ตกหลุมรักชายคนหนึ่งอย่างเต็มอก  ธนูก็ส่งสายตามแบบนั้นคืนกลับให้ 

พ่อยังคงนอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยแล้วก็เฝ้าดู  ธนูได้ทะนุถนอมแม่อย่างดี  นายทหารร่างแกร่งบรรจงจุมพิตทุกตารางนิ้วของเรือนร่างแม่ คุณนายผู้เลอโฉม ผิวของแม่แสนเนียนขาวท้าทายไฟสลัวและสายตาคู่นั้น
ปทุมถันถูกปากสากหยาบบรรจงโลมเล้าไปทั่วถ้วน แล้วนายทหาร ก็มอบความเป็นชายสุดแกร่ง ขย้ำเข้าให้สาวผู้โหยหาและร้างลาไฟราคะมาแสนนาน  หัวใจขอแม่ถูกจุดติดในคืนนั้น 

พ่อยังจำร่างที่ชุ่มเหงื่อของน้าธนูขโยกไหวทับตัวของแม่ เสียงของแม่ครางออกมาอย่างเป็นสุข
มันดำเนินผ่านไปนานจนแม่ร้องออกมาเป็นครั้งที่สอง  น้ำตาของแม่ไหลลงมาอาบแก้มพร้อมร้อยยิ้มที่ฉีกกว้าง
วินาทีนั้นเอง  พ่อรู้ตัวว่า มันอาจถึงเวลาที่ต้องปล่อยแม่ไป

กระนั้น ชายคนหนึ่งคงไม่กล้าผลักไสให้ผู้หญิงอันเป็นที่รัก เป็นแม่ของลูก ไปอยู่กับนายทหารแมนล่ำที่ไม่ได้มียศฐาอะไร มันดูเป็นการใจร้ายเกินไป  แต่พ่อให้เวลาเป็นตัวสานต่อ
แม่และน้าธนู ไม่เคยหยุดที่คืนเร่าร้อนนั้น  มันดำเนินต่อไปจนก่อเป็นความรัก
จากที่ต้องแอบซ่อนเพราะเกรงใจ  ก็ไปสู่ความหวังใหม่ที่จะมีแค่กันและกัน
แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง พ่อก็พร้อมที่จะปล่อยทุกอย่างไป  เงินก้อนหนึ่งถูกมอบให้ทั้งคู่ได้ดูแลกันและกัน
พ่อเลือกที่จะให้ทุกคนเข้าใจไปในแบบอื่น เพราะทนคนละอายใจไม่ไหว หน้าที่แทบมุดแผ่นดินหนี
ถ้าใครสักคนจะตราหน้าว่าไม่มีน้ำยา หรือทำให้ภรรยาถึงสรวงสวรรค์ไปไม่ได้
แต่แล้วแม่กับน้าธนู คือผู้เสียสละให้ทุกคนคิดเป็นอื่นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง  พวกเขายินดีรับคำติฉินไว้เพียงสองคน

เบียร์หมดกระป๋อง คงเหลือไว้เพียงรอยน้ำตาของพ่อที่ไหลริน  ผมคว้าหยิบเบียร์ออกจากมือของพ่อ
ก่อนจะซบตัวเองไปที่บ่า ผมกอดพ่อไว้แล้วก็เช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหล่นั้น  ไหล่ที่แบกอะไรไว้มากมายเสียเหลือเกิน

“พ่อครับ ผมขอบคุณในสิ่งที่พ่อทำคนรอบข้าง ผมรักพ่อนะ”

“พ่อก็รักลูก  ลูกเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พ่อมีตัวตน”

“ผมขออะไรพ่ออีกสักสองอย่างได้ไหม  แล้วผมก็จะไม่ขออะไรพ่ออีกเลย  อย่างน้อยก็จนเรียนจบ”

“ก็ลองว่ามาสิ”

“ผมว่า พี่นุดี ชอบพ่อนะ ผมไม่รู้ว่า พ่อมองไม่ออก หรือพ่อไม่เปิดใจ”

“ที่ลูกจะขอก็คือ..”

“ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด พ่อก็ชอบเลขาของพ่อคนนี้อยู่เต็มอก เอาเขาเป็นเมียเถิดครับ ผมอยากเห็นพ่อมีความสุข”

“พ่อแก่เกินจะคิดเรื่องพวกนี้แล้วแหล่ะน้ำเอ้ย เขายังสาว เขายังสวย อย่ามาคิดอะไรแบบนั้นเลย”

“อย่างน้อย ก็รับปากผม ว่าจะลองเปิดใจนะครับ”

“แล้วอีกเรื่องหนึ่งล่ะ ขอให้ใคร”

“ให้คนหนึ่ง ที่น่าสงสารมากครับ”




ในสายของวันหนึ่ง ผมตื่นมาพอกหน้า ขัดผิว หมักผม ก่อนจะแต่งตัวหล่อแต่คงไว้ในความสบายตา  หวีผมเป็นอย่างดี ฉีดน้ำหอมกลิ่นที่เขาเคยบอกว่าชอบ นี่ผมดูตื่นเต้นกับการนัดในครั้งนี้มาก  ตั้งแต่เขาส่งข้อความมา ผมก็ใจจดจ่อว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม แม้ว่าทางของผมกับเขามันคงจะโคจรจากกันไป แต่ผมก็อยากดูดี ให้เขาได้จดจำผมไปแบบนี้ให้นาน
ผมยืนอยู่หน้ากระจกบานโต  หนุ่มหล่อในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กับกางเกงสีขาวเข้ารูป กำลังจะไปหาใครคนหนึ่งตามนัด


สวนสาธารณะติดรถไฟฟ้า ใจกลางถนนสุขุมวิท
ผมเดินจากรถไฟฟ้าลงมา ผ่านอาคารห้างสรรพสินค้า มายังสวนสาธารณะที่เรานัดกันไว้ กิจกรรมที่หวังว่าทำแล้วมันจะออกมาดูดี คือปั่นจักรยานน้ำ  เราเคยไปปั่นแบบนี้ครั้งหนึ่งที่ฟาร์มจระเข้ สามพราน  มันวนไปวนมา หมุนเป็นเกลียว หาทางเดินหน้าไปไม่ได้ จนคนรอบข้างต้องเข้ามาช่วยเหลือ  วันนี้ เราจะหาวิธีขับขี่มันให้รอด
เมื่อเดินไปถึงหน้าบึงน้ำซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่  มีคนขี่เรือถีบยังไม่มากนัก เพราะฝนเพิ่งหยุดตกไป สายรุ้งพาดจากฟ้าลงมา  ปลายของสายรุ้งที่เราไม่กล้าชี้ตามคำโบราณ  ทอดตัวหายลงไปยังโพ้นขอบทะเลสาบที่ไกลสุดสายตานั่น
เขายืนรออยู่ตรงนั้น มาก่อนเวลา แสดงให้เห็นว่า เขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันสินะ..   ออกัส 

ออกัส ใส่เสื้อเชิ้ตสีเขียวที่ผมเป็นคนซื้อให้ กับกางเกงสีน้ำตาลเข้ม ชุดเก่งของเขาเลยเวลาออกมา เขายกมือขึ้นทักทาย ผมเลยเดินเข้าไปหา สำรวจเสื้อผ้าของกันและกันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยชมว่าอีกฝ่ายดูดี   เรารอคิวเรือปั่นอยู่สักพัก ไม่ได้คุยอะไรกันมากนอกจากเรื่องรถติด การขึ้นราคาของบัตรโดยสารรถไฟฟ้า แล้วก็พนักงานขายตั๋วที่ดูหล่อดี
ผมนั่งบนเรือถีบฝั่งซ้าย คอยคุมเกียร์เดินหน้าถอยหลัง ส่วนออกัสนั่งฝั่งขวาคอยบังคับทิศทางพวงมาลัย เราออกแรงปั่นเพื่อให้จักรยานน้ำได้ออกจากตลิ่ง  แล้วมันก็ซ้ำรอยเดิม คือตัวเรือหมุนว่ายเป็นทางเดียว วนเป็นวงกลมอยู่สามรอบไม่ไปไหน  เราหัวเราะก่อนจะเริ่มเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบ ปล่อยให้ยานพาหนะของเราล่องลอยอยู่กลางน้ำ

พอเอ่ยคุยกันเรื่องน้องกันต์ กลายเป็นว่าเราทั้งคู่กลับเริ่มมีบทสนทนามากขึ้น ออกัสนินทาน้องกันต์ให้ฟัง ถึงการเป็นคนนอนกรนเสียงดัง ช่างขัดกับความน่ารักของคนที่โดนพูดถึง  ผมยังถามถึงเรื่องที่เขาง้อน้องกันต์สำเร็จ ก่อนออกัสจะควักกุญแจห้องของคอนโดมิเนียมที่พักพิงมานาน คืนให้กับผม  เขายังจะคืนรถยนต์อีโคคาร์ไม่ได้มีราคาแพงอะไรแก่ผม แต่ก็ปฏิเสธไป เพราะคันนั้นผมเต็มใจให้เขาไว้ใช้ 

ออกัสเอ่ยถามถึงชีวิตของผม  แล้วก็เท้าความไปถึงการหัดเป็นรุก แล้วเขาก็เล่าในฝั่งการหัดเป็นรับของตัวเองแลกกัน  เขาหัวเราะตอนผมเล่าวีรกรรมของผมกับเอ ตอนตะลอนตีหม้อไปทั่วพระรามเก้า  แต่ออกัสก็ตกใจสุดกำลัง เมื่อรู้เรื่องพี่อำนาจกับเอ  ผมยังเล่าเรื่องของผู้กองที่ตอนนี้เป็นแฟนกับ เซ็นเตอร์ของทีม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ อย่างพี่กรไปแล้ว ออกัสก็หัวเราะแล้วบอกว่า พวกเขาเหมาะสมกันดี

“เค้าว่า เค้าควรเป็นคนบังคับเกียร์นะ  น้ำน่ะ มาบังคับเรือปั่นนี่ซะ”  แล้วออกัสก็ไถลตัวข้ามตักผมไปนั่งอีกฝั่ง ผมก็เริ่มทำการเป็นคนบังคับพวกมาลัยแล้วออกแรงปั่น  มันได้ผลแฮะ  เราเริ่มสนุกกับการบังคับทิศทางได้ แถมกำลังวังชาของเราทั้งสองคนมันเหลือเฟือ จักรยานน้ำถูกปั่นออกมากลางทะเลสาบอย่างง่ายดาย  ผมเห็นตลิ่งที่ห่างออกไปแล้วรู้สึกสนุกอยู่ไม่น้อยเลย
“เค้าขอโทษในทุกเรื่องนะ เค้าไม่มีหน้ากลับมาแม้กระทั่งดูว่า เธอโอเคไหม  เค้ามันใจไม่กล้าพอ”

“อะไรที่แล้วไปแล้ว ก็ปล่อยผ่านไปเถิดกัส  เราไม่ได้ถือสาอะไร”

“อืม” เขาเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาเรียวยาวคู่นั้น

“น้ำเองก็ขอโทษ ที่ไปคิดแค้นแล้วก็ทำเรื่องอะไรมากมาย คิดแล้วก็แปลกใจที่ปล่อยให้ทุกอย่างไปไกลขนาดนี้”

“รักมาก ก็แค้นมาก ออกจะดีใจนะ ถ้ามานั่งคิดดู”

“เวลาเรารักใคร คงรักมากเกินไป”

“มันไม่มีคำว่าเกินไปหรอก ความรักน่ะ รักมากน่ะดีแล้ว แต่ต้องมีจุดหมาย ว่ารักจะเดินไปทางไหน”

“ก็พูดได้สินะ แหม  รักไปทั่วเลย”

“แต่กับน้ำ ตอนนั้น เราก็จริงจังนะ  ขอบคุณสำหรับรักดีๆ  เรารักนายมากเลย ตอนนั้นน่ะ”

“แล้วอยู่ดีๆ มันก็หายไปเหรอ”

“มันก็คงหายไปจากเราทั้งคู่แหละ ถ้าเธอไม่หลอกตัวเอง เธอก็หมดรักเค้าไปแล้ว หมดมานานมากแล้วด้วย”

“เรื่องหัวใจนี่มันยากเสมอเลยว่ะกัส”   



พอเรือปั่นของเรามาจอดเทียบ ก็เป็นเวลาที่ฟ้าไม่ครึ้มแล้ว เขาออกจากเรือก่อน แล้วเอื้อมมือมาดึงผมให้ขึ้นไปที่ฝั่ง เราเดินข้างกันมาสักครู่ ก่อนจะมาเจอกับน้องกันต์ ที่ตามมาหา  กันต์ยกมือไหว้ผมส่งยิ้ม

“นี่มาเพราะอยากเจอพี่ หรือว่า ตามมาหึงนะ”

“หึงทั้งสองคนนั่นแหล่ะครับ” กันต์หัวเราะออกมาแล้วเดินกอดผม

“ถ้ามันร้ายใส่ ก็ทิ้งมันไปนะ พี่รออยู่”

“ให้มันน้อยๆหน่อย” กัสรีบดึงกันต์ออกมาโอบไหล่ไว้

“ผมขอบคุณพี่นทีมากนะครับ สำหรับเรื่องงาน ฝากขอบคุณพ่อพี่นทีด้วย มีโอกาสผมจะเข้าไปไหว้”

“ได้เป็นสจ๊วตสมใจแล้วสินะ”

“ผมจะไม่ทำให้เสียชื่อคุณพ่อพี่นะครับ ผมจะตั้งใจแล้วก็ฝึกฝนให้เก่งเลยครับ”

ผมเอามือไปขยี้หัวของน้องกันต์อย่างเอ็นดู  สายการบินที่คุณพ่อสนิท จะมีสจ๊วตคนน่ารักไปเฉิดฉายอยู่บนฟ้าแล้วสินะ เห็นทีต้องเปลี่ยนสายการบินไปใช้บริการบ้างแล้ว อยากเห็นน้องกันต์ในชุดสจ๊วตจังเลย
ก่อนทั้งคู่จะล่ำลา เดินจับมือกันไปทางอีกด้านของทะเลสาบ เขาคงอยากจะใช้เวลากันกับสวนสาธารณะนี้อีกสักพัก เห็นอย่างนั้นผมเลยหันกลับมายังทางออก
คิดแล้วก็ตลกดี หลังจากแค้นใจออกัสมาเนิ่นนาน วันนี้ก็แพ้เขาอีกแล้ว แค่คำว่ารัก ที่เขาเคยมอบให้ วันนี้เขาแค่ย้ำมันเหมือนเดิมว่า รักนั้นเป็นของจริง คำเดียวก็เปลี่ยนให้ผมแพ้อย่างราบคาบ โดยไม่คิดที่จะกลับมาชนะอีก



นึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำอย่างโลดโผนมาตลอดปีก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้  ยิ่งนึกถึงข้อความในกระดาษที่ใครบางคนฝากน้องสาวมา  ข้อความสั้น ลายมือสุดห่วย บนหลังกระดาษบิลสินค้าที่มีรอยใช้แล้ว 

“ยอมเป็นภารกิจสุดท้าย มาให้สำเร็จ”

คนอะไรวะ แค่เพียงจะมีผม จะยอมถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนที่ผ่านมาไม่ยอมเสียเชิงชายให้ใคร  หนุ่มลูกผู้ดีมีตระกูล หล่ออย่างกับดารา มีผู้คนหมายปอง จะยอมเป็นเมียผมเหรอ นึกแล้วก็น่าขำ มันเป็นลมปากที่เขาพูดไปอย่างนั้น
ผมคงไม่ให้โอกาสเขาหรอก ถ้าไม่ได้ปลดชนวนกับออกัสในวันนี้  ออกัสถึงกับเอ่ยปากว่า พี่ไผ่มีแต่ผมในหัวใจ แล้วมันก็ทำให้ผมอ่อนปวกเปียก  แต่เท่าที่ฟังออกัสเล่ากลางทะเลสาบนั้น ผมก็คิดว่า พี่ไผ่เจออะไรมาหนักเหมือนกัน เรื่องของเราคงต้องเอาไว้ก่อน  แต่เรื่องที่จะช่วยให้พี่ไผ่กลับมาเป็นผู้เป็นคน คงต้องมาก่อน

โทรศัพท์มือถือ ถูกหยิบขึ้นมา ผมลังเลอยู่นานตอนเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้า แล้วขึ้นไปที่ชั้นสี่ ซึ่งเป็นฟิตเนสของเขา
แต่วันนี้เขาไม่ได้เข้ามาที่ทำงาน  ผมเดินไปดู แทมโพลีน ซึ่งผมมีส่วนช่วยเลือก พบว่ามันเป็นเครื่องเล่นยอดนิยมของสมาชิกไม่น้อยเลย รายล้อมด้วยป้ายโฆษณาของแบรนด์สินค้า  มีรูปผมที่กระโดดแทมโพลีนตอนทดลอง ขยายใหญ่ติดตรงข้างฝา หลังโต๊ะทำงานของผู้จัดการ ผู้ซึ่งวันนี้หายไปไหนไม่ทราบได้

ผมกดส่งข้อความไปหาพี่ไผ่ เราไม่ได้คุยกันมานาน ได้แค่กดไลค์ในไทม์ไลน์ของกันและกันแล้วหวังว่าอีกฝั่งจะรับรู้

“ผมไม่อยากเป็นน้ำ ที่ไหลลงที่ต่ำ เปลี่ยนไปตามภาชนะไหน อีกต่อไปแล้วครับ”   ข้อความฝั่งผมถูกส่งไปหาเขา

สิบนาทีต่อมา ข้อความปลายทางถูกย้อนกลับมาหา.. 

“พี่ไม่อยากเป็นต้นไผ่ที่ลู่ลม ต้องทุกข์ระทมเพราะความอ่อนไหวของตัวเอง”

และอึดใจต่อมา ข้อความสุดท้ายของค่ำคืนที่แสนยาวนาน..     “ช่วยให้พี่ เป็นคนที่ดีขึ้นนะครับ”


ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปรับความเข้าใจกันแล้ว

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :a14:
ชิสสส


 :m19:
หล่อเลือกได้

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ลืมความแค้นทิ้งไป.. 
น้ำได้พ่อ มาเต็มๆ  :mc4:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
สู้ๆนะไผ่น้ำ :3123:

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้าใจคำว่า cuckold ในแบบของความรักเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด