His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]  (อ่าน 34750 ครั้ง)

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอยยย ขำ แท็กพี่แหวนแหวนได้ไหมคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ๊ยยยย. ความเอ = ความหื่น

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อร้ายยย พี่เอใจน้องบางหมดแล้วค่ะ555

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

Prep 8 : Bounce กระโดดเพื่อให้ลืม

อรุณรุ่งผ่านไปหลายชั่วโมง ผมกับเอยังนอนอุตุอยู่บนเตียง เพราะเมื่อคืนเราซ้อมปฏิบัติการเพื่อสำเร็จโทษเป้าหมายที่สองอยู่ถึงเกือบโต้รุ่ง เราแยกห้องกันตามที่พี่อำนาจสั่งไอ้เอไว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่อยากให้เราอยู่ห้องเดียวกัน บางทีพี่อำนาจก็รู้เรื่องพวกเรามากเกินไปแล้ว

“ก๊อก ก๊อก” แล้วประตูห้องนอนที่ไม่สามารถล็อคได้ ก็ถูกเปิดออก ที่ล็อคไม่ได้เพราะเนื่องจากเป็นคำสั่งของคุณพ่อ ท่านห้ามให้คนในบ้านมีความลับ ใครล็อคห้องจะโดนไล่ออกจากบ้าน พ่อไม่มีทางไล่ผมออกจากบ้าน แต่ผมก็ทำตามกฎของบ้านเรื่องนี้ แม้มันจะอึดอัดในบางครั้ง

“สวัสดีครับพี่ไผ่” เสียงเอ งัวเงีย ตื่นมาไหว้ผู้มาเยือน พี่ไผ่ มาในชุดเสื้อทีมกีฬาสีฟ้า มันเข้ากับสีผิวเขาดีเหลือเกิน ผิวขาวเหลืองที่มีเลือดฝาดที่แก้มตลอดเวลาจนน่าอิจฉา กับกางเกงขาสั้นเผยกล้ามขาที่แกร่งแบบเตะคนตายได้ ผมแปลกใจที่เขาไม่เล่นกล้ามจนล่ำบึ้กแบบที่เจ้าของฟิตเนสทั่วไปทำกัน แต่เขาหุ่นเหมือนนายแบบฝรั่งที่ตัวใหญ่มากกว่า

“นอนเถิดครับเอ พี่มาลากไอ้น้ำมันไปข้างนอก”

“เดี๋ยวผมก็กลับแล้วครับพี่ เมื่อคืนดึกกันมาก พระรามเก้าก็เรียกแท็กซี่โครตยากเลย”

“ห๋า ไปพระรามเก้ากันมาเหรอ หูยยย เด็กสมัยนี้ เที่ยวของแพงนะ”

“ป๋าน้ำจ่าย ผมแค่ผู้ติดตามครับ” มึงนี่นะไอ้เอ ขายกูได้ แถมต่อหน้าพี่ไผ่ด้วย ผมนี่ไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลย

“ไปได้แล้ว เจ้าตัวดี ผู้ชอบตีหม้อ” อะไรจะคล้องจองเป็นกลอนกาพย์อย่างนั้น

“ทำยังกับไม่เคยเที่ยวอ่ะ แซวอยู่ได้” ผมทำน้ำเสียงหงุดหงิดใส่ เพื่อเขาจะหยุดล้อเลียน

“ก็ไม่เคยเที่ยว”

“ห๋า พี่ไผ่ไม่เคยเที่ยวอาบอบนวดเหรอครับ” เอดูตกใจมาก

“ไม่เคย”

“ตอนไปอยู่เมืองนอกมันไม่มีเหรอครับ ที่เมืองไทยมันก็ไม่แพงจนพี่จ่ายไม่ได้นี่นา” เอตาสว่างขึ้นมาทันที

“เปล่า พี่ไม่เคยต้องไปเที่ยว มันมีมาให้ฟรีตลอดอยู่แล้ว”

“เชดดดดด หล่อได้อีก ไว้ผมจะไปฟิตเนสเอาให้หล่อแบบพี่บ้างนะ ผมก็อยากได้ของฟรี”

“ได้เลยครับเอ ฮ่าๆๆๆ”

“โฮ้ยยย ขี้คุย ขี้โม้กันจัง ไปอาบน้ำดีกว่า” แล้วผมก็บหอบสังขารสุดโทรมไปอาบน้ำ ฝักบัวที่น้ำเย็นจัดซึ่งผมชอบซะด้วย ไหลมาชะล้างเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ใบหน้า ผมทำธุระเสร็จ จึงตะโกนบอกให้เอเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ เพราะลืมถือเข้ามาในห้องเนื่องจากวันนี้ ผมเข้าห้องน้ำทั้งที่ใส่เสื้อคลุม ปกติ ถ้าอยู่กับไอ้เอสองคน เราแทบเปลือย เดินใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกันอย่างไม่เอาย

“เอ้า ผ้าเช็ดตัว”

“เฮ้ยยยย พี่ หลับตาเดี๋ยวนี้”

“มันมีอะไรที่พี่ไม่ควรเห็นเหรอ”

“ไม่มี แต่อย่ามอง” ผมเอามือเอื้อมไปปิดตาพี่ไผ่ผู้ซึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำเฉยเลย

“พี่เห็นจนชินแล้ว ที่ฟิตเนส ห้องอาบน้ำก็แก้ผ้าเดินกันให้นัวไปหมด”

“นั่นมันคนไม่รู้จักป๊ะ ออกไปเดี๋ยวนี้” ผมยังเอามือนึงปิดตาเขา แล้วอีกมือก็แย่งผ้าเช็ดตัวที่เขาไม่ยอมปล่อย

“อยากเห็นแบบเต็มๆว่า หมอเกาหลีเปลี่ยนอะไรให้บ้าง”

“เดี๋ยวไม่ไปเลือกแทมโพลีนเป็นเพื่อนนะ”

“อ๊าๆๆ ไม่มองก็ได้” เขาปล่อยให้ผมดึงผ้าเช็ดตัวไปใส่อย่างเร่งด่วน แล้วจึงคลายมือที่ปิดตาเขาไว้ พี่ไผ่เดินรอบผมหนึ่งรอบ คล้ายสำรวจ ในห้องน้ำมันมีแต่ความชื้น ผมรู้สึกว่ามันเริ่มจะร้อนแล้วด้วย

“มองอะไร ออกไปได้แล้ว”

“ตอนเด็กยังถูหลังให้พี่อยู่บ่อยๆ จะอายทำไมล่ะ”

“ก็ตอนนี้โตแล้วป๊ะ ช่วยออกไปได้แล้ว”

“จะตอนนี้หรือตอนไหน น้ำคนนี้ ก็เป็นน้ำคนเดิมของพี่อยู่ดีนั่นแหล่ะครับ”





ห้องรับแขก
พ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มีพี่อำนาจนั่งตรวจเอกสารอยู่ข้างกาย พ่อมองลอดแว่นออกมาตอนผมกับพี่ไผ่เดินลงบันไดมาด้วยกัน โดยมีเอตามมาด้านหลังมาห่างๆ

“สวัสดีครับคุณพ่อ”

“อ้าว ลูกไผ่ เป็นไงบ้าง ตั้งแต่กลับจากเมืองนอก พ่อไม่ได้เจอเลย”

“ยุ่งๆน่ะครับ พ่อกับแม่ผมฝากความคิดถึงมา ไว้แกจะแวะมาเยี่ยมนะครับ”

“เจอกันกับพวกท่านตามงานเลี้ยง แทบไม่มีโอกาสได้คุยเลย เอาๆๆ ไว้แวะมาคุยกัน คิดถึงพวกท่านอยู่เหมือนกัน”

“ได้ครับคุณพ่อ วันนี้ขออนุญาตพาน้องน้ำไปช่วยเลือกของหน่อยนะครับ”

“เอาเลยๆ แล้วให้คนขับไปส่งไหม วันนี้รถว่างหลายคัน”

“ไม่ต้องหรอกครับ พอดีผมเอารถมา เดี๋ยวเย็นๆ แวะมาส่งน้ำครับ”

“เต็มที่เลย อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก” พ่อหันมาเตือนผม “มีตังไหม” พ่อน่ารักเป็นที่สุด ผมเดินไปแบมือขอ พ่อหยิบให้หมื่นนึง “ถ้าจะซื้อหาอะไรเพิ่มก็รูดบัตรไปก่อนนะ” ผมแทบกราบที่ตัก พี่อำนาจหันมาหัวเราะ

“นายน้อยนี่ขี้อ้อนเนอะครับท่าน”

“เออ. ก็ดูสิ มีแต่คนรุมเอาใจ เลยกลายเป็นเด็กที่เสียหมด”

“ใส่ตะกร้าล้างน้ำก็ไม่ทันแล้วครับท่าน” แล้วพ่อก็หัวเราะไปกับคำพูดของพี่อำนาจจนผมรู้สึกเสียหน้า รีบลี้ภัยดีกว่า

“แล้วลูกเอล่ะ ให้คนขับของพ่อไปส่งไหม ว่างกันหลายคนวันนี้”

“อ๋อ ผมติดรถพี่ไผ่ไปก็ได้ครับพ่อ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง เอ่อ..นายท่าน เดี๋ยวผมไปส่งเอ นะครับ”

“เอาเลย อำนาจ พาลูกเอแวะทานข้าวก่อนเข้าบ้านนะ เดี๋ยวพ่อแม่เขาจะว่าฉันดูแลเพื่อนลูกไม่ดี”

“ครับท่าน ผมจะดูแลเอให้ดีครับ”





Bounce Arena รัชดาภิเษก
ผมกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเพื่อเตรียมไปกระโดดแทมโพลีน แต่ห้องด้านหลังกำลังทุบทำใหม่ จึงต้องใช้ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน พี่ไผ่มาเคาะประตูห้องผม แล้วเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องด้วย เพราะห้องอื่นคนใช้เต็ม พี่ไผ่แต่งตัวชุดกีฬาไว้แล้ว แกบอกว่า แกแค่เดินมาจะถอดกางเกงในออก 

“ไม่กลัวเป็นไส้เลื่อนเหรอครับ จะถอดทำไม” ผมพูดเสียงเบา เพราะกลัวห้องน้ำข้างๆ จะเข้าใจผิด ว่าผู้ชายตัวใหญ่สองคนเข้าห้องเดียวกัน มันดูไม่งาม

“กางเกงมันมีซับในอ่ะ เดี๋ยวเหงื่อออก” ว่าแล้วเขาก็ดึงกางเกงกีฬาขาสั้นลงกับพื้นเหลือเพียงกางเกงใน Homme สีเทาอ่อน กับอะไรไม่รู้ที่ยัดอยู่จนพูนเต่ง ผมมีเหงื่อซึมเลย บรรยากาศในห้องเปลี่ยนชุดมันตึงเครียด

“ไม่เปลี่ยนชุดล่ะครับน้ำ จะถึงรอบกระโดดของพวกเราแล้วนะ”

“พี่เปลี่ยนก่อนเลย”

“มายืนจ้อง ก็อายเป็นนะครับ จะดูเหรอ อยากดูก็จะเปิดให้ดู เราน่ะเปิดบ้างดิ จะดูว่าเหมือนตอนเด็กไหม”

“อย่ามาทะลึ่งได้ป๊ะ ร้อนจะตายชัก รีบๆออกไปเลย”

“โตเป็นหนุ่มแล้วนะเราเนี่ย” พี่ไผ่เอามือที่ข้างหนึ่งมาลูบที่แก้มผม แล้วอีกมือก็เอื้อมไปถอดกางเกงในตัวเองออก ผมไม่กล้ามองลงไป ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะคอมันแห้งผาด พี่ไผ่มองหน้าผมอยู่อย่างนั้น

“พี่ไผ่ ออกไปได้แล้วครับ”

“อย่ามองลงมานะ เดี๋ยวติดใจไม่รู้ด้วย” แล้วพี่ไผ่ก็สวมกางเกงขาสั้น เขาส่งกางเกงในสีเทาของเขาที่พับไว้ มาให้ผม

“ให้ทำไม ไม่เอา ไม่ใช่คนโรคจิต”

“จะฝากในกระเป๋า ได้เช่าล็อคเกอร์อันเดียวไง”

“อ๋อ” ผมรับกางเกงในอุ่นตัวนั้นมาถือไว้ แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไป ผมล็อคประตู หายใจไม่ทั่วท้องเลย ใจผมเต้นแรงมาก ไอ้พี่มันชอบทำอะไรทะลึ่ง สองแง่สองง่ามกับผมประจำ ผมกางชั้นในสีเทานั้นออกมาดู มันเป็นเนื้อผ้าคอตต้อลนุ่มมือเชียว พอพลิกไปมาเห็นสภาพยังค่อนข้างใหม่เอี่ยม กางเกงในพวกเพลย์บอยใช้คงเป็นแบบนี้สินะ เหมือนมีกลิ่นแป้งอ่อนๆ ลอยมา จำได้ว่า เป็น ทเวลพลัสสีชมพูซึ่งผมก็ชอบเหมือนกัน คนอะไรเอาแป้งเย็นทาไข่ แล้วจู่ๆ ผมก็มีอาการตื่นตัวที่ด้านล่าง ผมจึงรีบเก็บกางเกงในพี่ไผ่เข้ากระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองแล้วรีบออกมา


เราเลือกโซนแทมโพลีนเบสิค กระโดดบ้างล้มบ้าง เพราะไม่เคยเล่น คิดว่า การใช้แทมโพลีนเบสิค จะง่ายกับผู้เล่นฟิตเนส และไม่อันตรายจนเกินไป อีกทั้งดูแลง่าย เน้นการออกกำลังกายที่แท้จริง พี่ไผ่ดูสนุก เขากระโดดได้สูง แต่อยู่กับที่ ไม่ไปไหน เหมือนจะยังบังคับทิศทางตัวเองไม่ได้ ในขณะที่ผมกระโดดข้ามไปมาได้ดีกว่า แต่ล้มบ่อยชะมัด

“ถ้าเป็นแบบนี้ สั่งจากออสเตรเลีย ถูกด้วย”

“มันก็ทำจีนหมดแหล่ะพี่ ทำไมไม่สั่งจากจีน”

“ถ้าผ่านแบรนด์ มันก็จะดูดีไง พี่ว่า แบบนี้กำลังดี” พี่ไผ่ กระโดดไปด้วย พูดไปด้วย ดูจะเหนื่อยกว่าเล่นฟิตเนสอีกนะเนี่ย

“ทำไมพี่กระโดดอยู่กับที่ ไปข้างหน้า หรือ หมุนตัวมั่งสิ”

“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวล้ม บังคับยากชะมัด”

“ง่ายจะตาย มานี่” ผมดึงมือพี่ไผ่ กระโดดไปข้างหน้า แต่ดันทำให้พี่เขาเสียจังหวะ เราล้มลง ผมหงายหลัง พี่ไผ่คร่อมทับตัวผมอยู่ ไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ว่าจ้องหน้าผมทำไมกันล่ะ “ลุกได้แล้ว” ผมพยายามจะดันตัวขึ้น แต่ติดร่างใหญ่ที่ทับผมอยู่

“คนบางคน เหมาะกับอยู่ข้างล่างนั่นแหล่ะดีแล้ว”

ผมอาศัยจังหวะเขาเผลอ พลิกตัวเขาหงายแล้วคร่อมเขาแทน “ใครก็อยู่ข้างบนได้ทั้งนั้น ถ้าเจ๋งพอ ไม่เห็นจะยาก”

พี่ไผ่พลิกผมกลับลงมานอนหงายอีกรอบตอนผมไม่ทันตั้งตัว “จะฝืนตัวเองไปทำไมล่ะครับ มันสนุกแล้วจริงเหรอ”

“ปี้ดดดดดดดดดดด” เด็กคุมโซนเป่านกหวีด ชี้ให้พวกเราลุกกันได้แล้ว “ที่นี่ มีเยาวชนเยอะนะครับ ได้โปรด”
ผมกับพี่ไผ่เขิน รีบเดินย้ายไปโซนอื่นกัน เราเล่นกันจนครบชั่วโมง หมดรอบ ก็เตรียมกับบ้าน



หลิวที่ตามมาสมทบผมกับพี่ไผ่ชวนกันมาทานข้าวกันที่ Little Hong Kong ร้านอาหารจีนขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้อาคารเดียวกันกับสถานที่ซึ่งผมเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ

“กินเยอะๆนะน้ำ วันนี้พี่ไผ่เขาเลี้ยงเต็มที่” หลิวเสนอ

“ก็เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กป๊ะ น้ำเคยเลี้ยงพี่ซะที่ไหน บ้านก็รวยกว่าบ้านพวกเราตั้งเยอะนะหลิว”

“พี่อายุเยอะกว่า พี่ต้องจ่ายสิ”

“ก็คงงั้น คงต้องหาเลี้ยงไปจนแก่เลยล่ะครับ”

“ดีมาก”

“แล้วนี่เป็นไงกันบ้าง มาเล่นหรือมาอ่อยสาวกัน หนุ่มหล่อสองคนมากระโดดดึ๋งๆไปมา” หลิวเอ่ยถาม เพราะเห็นผมกับพี่ไผ่ซัดอาหารไม่หยุด ทั้งเหนื่อยทั้งหิว

“พี่เห็นมีแต่เด็กตัวกระเปี๊ยกครับน้องสาว”

“น้ำก็เห็นมีแต่เด็กฝรั่ง กับแนวพ่อแม่ลูกน่ะหลิว”

“พี่ไผ่เลยเสนอในที่ประชุมไง เพราะแทมโพลีนน่าจะเป็นตัวเรียกลูกค้ากลุ่มผู้หญิง และ คนที่เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อ”

“ก็พี่คิดว่า บางคนไม่อยากจะเล่นเวททุกวัน อาจมีวันที่พักบ้าง ก็จะเป็น แทมโพลีน นี่แหล่ะ”

“แต่มันบังคับยากเหมือนกันนะพี่ไผ่ แล้วก็กินพื้นที่เยอะ แล้วคนนึงถ้าเล่น รับรองจองยาว” ผมแย้ง

“แต่เมื่อกี้น้ำกระโดดแค่สิบนาทีก็ลิ้นห้อยแล้วนะ” อ้าว ไอ้พี่

“พี่น่ะ ห้านาทีก็หลังยอกแล้ว ไม่ดูสังขาร” หึ นึกว่าจะแพ้เหรอ

“นี่ ชวนมากิน ไม่ได้ชวนมาทะเลาะนะสองคนนี้ ทุกทีเลยสิ” หลิวตัดบท




                                 Line

==================================
                             MR.KAKI
==================================
      เพิ่มเพื่อน  II     บล็อค      II    รายงานปัญหา
==================================

MR.KAKI : สวัสดีครับ [ สติ๊กเดอร์ หมีบราวน์ พักร้อน ]

NATEE : ใครครับเนี่ย ชื่อ กากี ? [ สติ๊กเกอร์ โคนี่ เครื่องหมายคำถาม ]

MR.KAKI : ผมผู้กองจิมมี่ ครับ

NATEE : สวัสดีครับผู้กอง มีอะไรให้รับใช้ครับ

MR.KAKI : มีคนมาแจ้งความเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ผมดูแล้ว มันก็ใบเดิมเลย

NATEE : โค้ช ใบสีน้ำเงินเหรอครับ

MR.KAKI : ใช่ครับ มีรูป เอ่อ..

NATEE : รูปอะไรครับผู้กอง

MR.KAKI : มีรูปกึ่งเปลือย แต่มันจากใต้คางลงมา ผมเลยไม่แน่ใจว่า เป็นของคุณนทีหรือเปล่า

NATEE : [ ส่งรูปของผม ที่ถ่ายเห็นหน้า ไปจนถึงท้องน้อย ซึ่งเตรียมกับพี่อำนาจไว้แล้ว ส่งกลับไปให้ ]

MR.KAKI : โอ้ว น่าจะคนเดียวกันเลย

NATEE : ผมน่าจะโดนขโมยนะครับ พอดีผมมีแขกค่อนข้าง.. เอ่อ.. ไม่ซ้ำคนน่ะครับ

MR.KAKI : เป็นชีวิตที่น่าสนุกนะครับ

NATEE : ก็ตามประสาคนโสด และขี้เหงาน่ะครับ ผู้กอง

MR.KAKI : ส่งโลเคชั่นมา ผมแวะเอาไปคืนให้ แต่คงเป็นวันอื่นนะครับ วันนี้ผมก็มีแขก

NATEE : สมกับเป็นคนรูปหล่อจริงๆเลยครับ

MR.KAKI : ผมเนี่ยนะหล่อ [ แนบรูปมุมสูง Selfie จากใต้จมูกโด่ง ลงมาถึงผ้าเช็ดตัวที่คาดเอวไว้ ด้านหลังเป็นเตียงนอน มีเด็กผู้ชายวัยมหาวิทยาลัย สองคน นอนคว่ำหมดแรงอยู่ คนละฟากของเตียง

NATEE : ผู้กองน่ะ ของดี ของพรีเมี่ยมของ สน. เลยนะครับ ผมล่ะอยากจะไปแจ้งของหายทุกวันเลย

MR.KAKI : ไว้มาแจ้งเป็นการส่วนตัวได้ครับ [ แนบรูป เด็กมหาลัย สองคนที่เหมือนเริ่มขยับตัว ] แค่นี่ก่อนนะครับ ผมต้องไปดูแลแขกอีกสักรอบ

NATEE : ขอให้สนุก แล้วก็ ฝันดีนะครับ



ผมกด เพิ่มเพื่อนกับนายตำรวจสุดหล่อ งานนี้ไม่ง่ายแฮะ ผมนึกถึงคำพี่อำนาจเลย ว่าบางคนเกิดมาเป็น รุกออริจินัล แล้วเขาก็ไม่ต้องง้อคนอย่างผม ถึงหน้าปัจจุบันผมจะหล่อมาก หุ่นผมก็เฟิร์ม แต่หน้าอย่างเขา มีอะไรมาให้เลือกมากมาย เขาไม่มีความจำเป็นต้องมาเป็นรับให้ผม เขาเลือกที่จะรุกใครก็ได้ เป็นปัญหาแล้วล่ะ เห็นที่งานนี้ มีอะไรต้องเตรียมการอีกมาก

ผมกดโทรศัพท์โทรหาน้องกันต์ด้วยความคิดถึง เขาก็ออดอ้อนตามประสาคนน่ารัก เขาบอกว่าช่วงนี้เขายุ่งมาก เพราะกำลังจะมีเปิดสอบรับพนักงานในตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝัน เขาเล่าเรื่องที่ออกัสเพียรโทรหาเขาบ่อยจนเขาสลัดเรื่องเดิมไปไม่ได้เสียที ไม่รวมเรื่องที่เขาคิดถึงผมบ่อยจนผมอมยิ้ม กันต์บอกว่า จะกลับบ้านต่างจังหวัด แล้วออกัส ก็ขอไปด้วย ผมไม่ออกความเห็นได้แต่บอกให้เขาระวังตัวให้ดี ไม่รู้ว่า ออกัสจะมีแผนอะไรไหม แต่ที่มั่นใจคือ กันต์ยังไม่รู้ว่า ผมได้ส่งรูปถ่ายบนเตียงของผมกับกันต์ เข้ามือถือออกัสไปแล้ว กันต์ซื้อพวงกุญแจรูปพิน็อคคลิโอ้มาฝาก เหมือนประชดเลย ผมเอ่ยขอบคุณทั้งที่ยังไม่ได้รับของ เขาบอกว่าถ้าผมยอมปลีกเวลานัดเจอเขา เขาจะมอบมันให้ผม เด็กดียังไงก็เป็นเด็กดีวันยังค่ำ

เย็นนี้ ไอ้เอไม่ออกรอบพาผมฝึกซ้อมตามนัด แล้วมันก็หายตัวไป เหมือนจะไม่อ่านไลน์กลุ่มด้วย คงไปติดสาวที่ไหนอีกแน่ ในไลน์กลุ่มก็มีแค่ หลิวกับตูน ที่สนทนากันเรื่องเรียน เรื่องเที่ยว เรื่องนัดทำบุญ มีผมที่ได้แต่อ่านโดยไม่ได้ตอบอะไร

ผมเริ่มลังเลที่จะปฏิบัติภารกิจต่อ ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันยาก แต่เหมือนผมหาประโยชน์จากมันไม่ได้ ผมได้กันต์แล้วเป็นอย่างไร ออกัสก็คงไม่ได้ร่ำร้องกลับมาหาผม ซึ่งผมก็ไม่ได้ต้องการออกัสอีกต่อไปแล้ว เขาดูช้ำใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะโมโหโทโสจนผมสะใจ แล้วผมจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงทำไม ผมคว้าหมอนใบนุ่มคู่ใจมาอิงหัวไว้ก่อนจะคล้อยหลับไป



August’s Voice GPS Tracking
“ใช่เลยแก นี่ชั้นกำลังจะย้ายออกแล้ว ไปอยู่กับผัว โอ๊ยยยย ไม่ได้รวยเหมือนเมียเดิมกู แต่อยู่แล้วสบายใจ”
“ใช่สิแก ชั้นน่ะ เดี๋ยวจะได้ทำงานสายการบินแล้ว เล็กๆ ในประเทศ แต่ว่า เออ มันก็ดีกว่าอยู่เฉยล่ะวะ”
“ช่ายยย กันต์มันฝากให้”
“อืม ก็เฉยๆ มันจะมีใครก็มีไป ช่างมัน”
“ก็เห็นจากรูปแล้ว ส่งเข้ามือถือกูเลยค่ะ”
“มองไกลๆ หน้าตาก็โอ แต่ถ้ากล้าส่งรูปมานี่ มันก็น่าจะเลวไม่น้อย”
“ช่างมัน”
“ใช่ กันต์มันคงเป็นรับให้ไอ้นี่”
“เจ็บสิวะ แต่ทำไงได้ พยายามไม่รับรู้”
“ผัวใหม่น่ะเหรอ ไม่มีทาง แมนซะยิ่งกว่าแมน รับรองไม่มีทางไปเป็นเมียใคร”



The Plum Fitness เวลาปิดทำการ
ผมมาลองใช้แทมโพลีนอันใหม่ ตามคำชักชวนของพี่ไผ่ สินค้าที่ใช้เวลาประมาณอาทิตย์เดียวจัดส่งถึง เพราะมีตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศไทยที่สาธร แถมยังได้ลดราคาเยอะ เพียงแต่ขอทำโปรโมท โดยอ้างชื่อฟิตเนสไปใช้ในการโฆษณา พี่ไผ่ก็อนุญาต ผมมาถึงในเวลาซึ่งช่างประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องเล่นมันก็ใหญ่โตเหมือนกัน พี่ไผ่เลือกให้อยู่ ด้านในสุดของอาคาร เพื่อให้แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน

“พี่ขอถ่ายรูปน้ำตอนกระโดด ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายนะ เขาขอนายแบบเล่นสักคน เอาไปเสนอลูกค้า”

“ซึ่งพี่ต้องเลือกผม เพราะผมหล่อสุดในบรรดา สมาชิกของพี่ทุกสาขาแล้ว”

“ซื้อมาจากหมอไหน ความมั่นใจเนี่ย”

“อ้าว คนเราก็ต้องเปลี่ยนเปล่าล่ะ”

“ไม่ได้บอกสักหน่อย ว่าไม่ควรเปลี่ยน แค่ ดูแล้วไม่ใช่น้ำเท่าไหร่ เอาเหอะ เดี๋ยวงอนพี่อีก ลองกระโดดดูนะครับ”

ผมก็ลองเทสต์แทมโพลีนป้ายแดง พื้นแทมโพลีนเป็นสีดำ ขอบกุ๊นเป็นสีแดง ผมลองกระโดดดู ลื่นกว่าที่ Bounce เพราะไม่ได้ใส่ถุงเท้าสำหรับเล่นแทมโพลีนโดยเฉพาะ แต่ก็ถือว่า ในระดับการออกกำลังกาย ก็ใช้ได้เลย
ระหว่างแทมโพลีนกับกำแพง มีตาข่ายขึ้งตึงกั้นระหว่างเครื่องเล่นกับกระจกที่มองออกไปเป็นทิวทัศน์ของเมืองหลวงยามดึก แสงไฟสีเหลืองและแดงอร่ามเต็มไปหมด ผมกระโดดไปเรื่อย มองที่กระจกผ่านม่านตะข่ายอยู่อย่างนั้น นึกถึงคำพูดของออกัสที่ดักฟังเมื่อหัวค่ำ คนใหม่ที่มึงว่าแน่นะเหรอ กูจะทำให้มึงร้องไห้เลยคอยดู

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทเวลพลัสชมพู โอ๊ยย ขำ 555+   :hao3: :hao6:

ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao4: :-[  กุงเกงในตัวนั้น

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อร้ายยย จิมมี่ไหน ไฟแรงเฟ่อร์  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep  9 : ความยากระดับเก้า

PentHouse  The Empire

ผมมีนัดกับผู้กองจิมมี่ เขาจะแวะเอากระเป๋าสตางค์กำมะลอใบนั้นมาคืนผม หลังจากอาบน้ำแต่งตัวฉีดน้ำหอมรอ ฟอกสบู่เฉพาะที่ลับ ไม่เคยซื้อมาใช้ก็ต้องช็อปออนไลน์มา เพราะดูเขาสะอาดหมดจด จะมีกลิ่นแม้แต่นิดก็เกรงว่าจะเป็นที่ไม่ถูกใจ เล่นกับของพรีเมี่ยม เราต้องทำตัวให้พรีเมี่ยมตาม
พี่อำนาจ ก็โทรมาซะถี่ยิกแต่เช้า ดูเขาจะเป็นกังวลมาก ไอ้เอก็เช่นกันสลับกันโทรมาจนผมเองเริ่มจะวิตก ผมก้มลงไปดมที่เสื้อเชิ้ตสีครีมตัวเก่ง ก็หอมกำลังดี  ก่อนเสียงกริ่งหน้าประตู จะดังขึ้น 

“เข้ามาก่อนสิครับ คุณจิมมี่”  ก่อนจะนำเขาในชุดเสื้อเชิ้ตดำ กางเกงยีนส์สีฟอก มานั่งที่โซฟา กลิ่นเขาหอมฉุยกว่าผมอีก

“ห้องใหญ่โตเชียวครับคุณนที พนักงานต้อนรับสุภาพมาก”

“ผมมีแขกบ่อยน่ะครับ พนักงานต้อนรับเขารู้งานดีครับ”

“แขกคุณนทีมากลางวันแบบผมเหรอครับ”

“คนที่มากลางวันได้ ต้องเป็นแขกคนโปรดน่ะครับ”

“หล่อแล้วยังปากหวานอีกนะครับเนี่ย”  เขาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์โค้ช สีน้ำเงินออกมา ยื่นให้ผม

“ไม่ต้องไปเซ็นอะไรที่ สน. เหรอครับ”

“อยากไปไหมล่ะครับ”

“ถ้าไปแล้วเจอผู้กอง ก็อยากไปบ่อยๆนะครับ”

“ฮ่าๆๆ  ยอมแล้ว คุณนทีนี่เจ้าเล่ห์น่าดู”  เขาทำท่าจะลุกจากโซฟา  เห้ย ไม่สนใจผมเลยเหรอ หรือเขาจริงจังกับออกัสแล้ว

“ทำไมรีบกลับล่ะครับ มีงานเหรอผู้กอง”

“เปล่าครับ เข้าเวรค่ำ แต่ไม่อยากรบกวน เผื่อคุณนทีจะมีแขกแวะเวียนมา

“คิววันนี้ อุทิศให้ผู้กองคนเดียวเลยครับ”





ผมกับผู้กองอยู่บนเตียงนุ่มที่เพิ่งเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เป็นสีเทาเข้ม เราโรมรันพันตู กอดจูดกันอย่างดุเดือด เขาฉีกเสื้อเชิ้ตสีครีมของผมกระดุมขาดกระเด็นแล้วโยนไปที่ปลายเตียง  จับผมพลิกคว่ำ อ๊ะ.. ไม่ใช่ในแผนนี่หว่า  ผมคว้าคอเขาแล้วจับเขาพลิกลงไปนอนหงาย ตัวผมดันขึ้นมาคร่อมที่ตัวของจิมมี่ 
ผมก้มส่งลิ้นลงไปในปากอุ่น ให้เขาอมลิ้มผมไว้ มือก็แกะกระดุมเสื้อของเขา ถอดเข็มขัด แล้วก็กระดุมกางเกงยีนส์  ผิวเขาเนียนเกลี้ยงมาก แทบไม่มีขนสักเส้นให้เห็น ไม่มีไขมันมาให้สะดุดตา  ผมบรรจงจูบลงไปที่แผ่นอก แล้วก็โลมเลียตรงยอดติ่งนั้น เขาครางชื่อผมออกมา เอามือมาค้ำที่คอ แล้วดึงหัวผมขึ้นไปประกบปาก เราดูดปากกันดุเดือนเลือดพล่าน ในใจผมยังคิดถึงวิธีต่อไป 
มันไม่ดูง่ายเหมือนกันต์ ที่คล้ายจะมีใจให้ผม  แต่ผู้กองจิมมี่ เหมือนมาหาเรื่องสนุกกันแค่นั้นมากกว่า  ผมเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่ตั้งไว้อัดวีดีโอ ซึ่งซ่อนอยู่ในกระปุกรูปม้าน้ำ  ในภวังค์ที่ผมเผลอ เขาก็พลิกผมลงมาหงายหลังนอน  จิมมี่ลากลิ้นจากปลายซอกคอลงมาที่หน้าอกผมบ้าง เขางับที่ระหว่างซอกหน้าอก กับซอกรักแร้ ผมดิ้นด้วยความเสียวซ่าน กางเกงผมหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แล้วเขาก็เอานิ้วมือแหย่เข้ามา 
เฮ้ย.. ผิดแผนอีกแล้ว ไม่ได้     ผมรีบล็อคแขนเขาแล้วเอี้ยวตัวขึ้นคร่อมให้เขานอนคว่ำที่เตียง  ผมลากลิ้นจากกลางหลังโลมเลียไปยังเนินสะโพก เขาครางเบาๆ  ผมเอาเข่าของผมรั้งขาของจิมมี่ให้แยกออก  ผมล้มลงไปทับตัวเขา จูบที่ต้นคอ แล้วเอื้อมมือไปหยิบถุงยาง  ผมเข้าใกล้จะบรรลุภารกิจนี้แล้ว   แต่ทันใดนั้น หนุ่มตัวบางแต่เนื้อตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อคนนี้ ก็จับผมพลิกหงายหลังลงอีกรอบ  ผมสู้แรงของเขาไม่ได้
เขาส่งสายตาลงมามองที่ตาของผม ลมหายใจของเรารดใส่กันจะอุ่นร้อน  เขาที่ตัวล่อนจ้อนเหมือนผม เราเอาตัวเบียดกันจนแก่นกายของเราทั้งคู่พองหรา  เขามีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับผม แต่มันดูคล้ำและดุดันกว่า เหมือนจงอางที่จ้องเผด็จศึก เขาบรรจงจูบลงมาที่ผมอีกครั้ง แล้วเขาก็คว้าถุงยางในมือของผมไป  เขาใช้ปากฉีกถึงยาง แล้วหยิบเนื้อห่วงออกมาจากซองอย่างชำนาญ สายตาเรายังคงมองกันอย่างดูเชิง  เขาหยิบถุงยางไปสวมใส่ให้จิมมี่น้อย ที่ดูตอนนี้มันพองจนไม่น้อยแล้ว  เขาเอานิ้วแหย่เข้ามาในตัวผมจนผมเผลอเคลิ้ม..  จิมมี่ก้มลงมาจูบที่ปลายคางของผม ตวัดลิ้นเลียที่ซอกคอ ผมครางแล้วร้องเรียกชื่อของเขาออกมา  เขาเพิ่มนิ้วอีกนิ้วแหย่เข้ามา ผมหายใจถี่ขึ้นแล้วก็ครางโหยหวน
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ที่กำลังถ่ายบันทึกเรามันดังขึ้น  ผมรีบสะบัดตัวออก ตั้งสติแล้วบอกกับเขา   
“ผู้กองครับ..  ผมว่า วันนี้ เราคงต้องพอกันแค่นี้”

ผู้กองจิมมี่ใส่เสื้อผ้าแล้วจากไป เขาไม่ได้โกรธอะไร ก่อนออกไปยังก้มลงมาหอมหน้าผากผมแล้วส่งตาหวาน ยิ้มของเขาหล่อเหลาชะมัด เขาไม่ได้ยัดเสื้อที่มีรอยยับยู่ใส่ในกางเกงที่รัดติ้วนั้น  ผมเห็นจากข้างหลัง เรือนร่างของเขามันช่างดูเย้ายวน หูผมยังร้อนฉ่า แล้วอารมณ์ผมก็ยังคงค้างเติ่ง  ไม่ทันไร ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น แต่ไม่ทันได้รอผมไปเปิดประตูต้อนรับ  ประตูก็ถูกเปิดออก  มีแค่สองคนที่มีการ์ดประตูห้องผม คือ ไอ้เอ และ พี่อำนาจ

ไม่ต้องเสียเวลาสงสัย พวกเขาเข้ามาพร้อมกันสองคน ไอ้เอเดินมากอดผมที่อยู่ดีๆก็ร้องไห้โฮ  พี่อำนาจเดินมานั่งที่ปลายเตียงมองมายังผมที่ร้องไห้ไม่หยุด ไอ้เอเอามือดึงผมไปซบที่ไหล่ แล้วลูบหัว ผมสะอื้นไห้ด้วยความชอกช้ำ  แล้วก็เจ็บใจตัวเองที่เอาเรือนร่างมาเสี่ยงขนาดนี้  จนสักพักพออาการผมดีขึ้น เอก็ไปชงชาให้ผม  ผมเอื้อมตัวลงมานอนหนุนตักพี่อำนาจ เขานั่งเอามือลูบหัวผมอย่างกับแมว

“พี่บอกนายน้อยแล้ว ว่ามันไม่ธรรมดา ไอ้จิมมี่น่ะ”

“พี่รู้แล้วเหรอ ว่าผมทำอะไร”

“อืม ก็เค้นให้เอ เล่าให้ฟังหมดแล้ว”  ผมตกใจที่ได้ยิน กำลังจะหันไปทำหน้าดุใส่เพื่อนแต่พี่อำนาจห้ามเสียก่อน “อย่าไปว่าเพื่อนเลยนะ พี่แค่เป็นห่วง พี่ไม่เล่าให้ใครฟังหรอก”

“ผมแค่อยากหายเจ็บใจ”  ผมพลิกตัวกลับข้าง โดยยังคงนอนที่ตักพี่อำนาจ หันหน้าไปทางหน้าท้องของเขา เอื้อมมือไปกอดที่เอวพี่เขาไว้ อ้อนบอดี้การ์ดตัวดี “พี่อย่าบอกพ่อนะ”

“อืม พี่จะไม่พูด แต่อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนี้สินายน้อย” เขายังคงลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา ผมก็สะอื้นไม่หยุดหย่อน จนเอาเดินเอาชาที่ชงเสร็จมาให้ ผมก็ดึงตัวขึ้นมานั่งดื่ม

“นี่ถ้าไม่โทรเข้ามา มึงคงจะเสียท่าไปแล้วไอ้น้ำ”

“ขอบใจมากว่ะเอ กูก็เกือบไป” ผมยังนึกถึงอารมณ์ที่มันพาไปจนเกือบเสียท่า  ภารกิจเกือบล่มไปแล้ว  แต่ก็ดันคิดได้ว่า สองคนนี้ รู้ได้ไงหว่า   “ว่าแต่ รู้ได้ไงกัน นี่มี จีพีเอส ดักฟังใช่ไหม” ผมเค้นเอาความจริง

“ยิ่งกว่า จีพีเอสอีกมึง” เอกระซิบบอก

“เฮ้ยยยยยย จริงดิ”

“แต่ไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวมึงหรอก แค่พอรู้ว่า มึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย”

“กูโดนพี่อำนาจสปายเหรอวะ” ผมเหลือบมองไปทางบอดี้การ์ดของพ่อ ที่กำลังยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียง  ผมไม่เคยเห็นเขาสูบ

“ไม่นะ เขาไม่ได้ตามอะไรมึง แต่แค่วันนี้กูเล่าให้เขาฟังว่า มึงนัดไอ้ตำรวจหน้าหล่อนั่น เขาเลยดูกังวล”

“เหมือนกูเสีย อธิปไตย เลยว่ะ”

“มึงก็เคยเสียให้ไอ้กัส ไปแล้วป่ะวะ ไม่เห็นจะต้องกังวล เอาจริงๆ”

“มันไม่เหมือนกันเว้ย  กูจะเป็นรุก แล้วกูก็รุกน้องกันต์ได้แล้ว ไอ้จิมมี่ มันต้องโดนกูรุก กูจะเสียทีมันไม่ได้”

“เฮ้อ กูล่ะเหนื่อยแทนมึงว่ะ  เมื่อกี้ตอนกูเห็นมันออกจากล็อบบี้ ดูมันยิ้มอย่างกับผู้ชนะ แต่แม่งหล่อเหมือนกันว่ะ”

“ใช่เวลามาชื่นชมเป้าหมายกูไหม”

“หล่อจริงๆ อย่างกับพระเอกช่อง 7   แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ ดูว่าจะฟาวด์แล้วนะงานนี้”

“คนเรามันต้องมีวิธี เดี๋ยวกูตั้งสติก่อน กูกำลังเสียขวัญ”

“โหว ขวัญเอ๋ยขวัญมา”  เอกอดผมแน่นจนผมต้องเอาหัวไปซบที่ไหล่มัน  หลังพวกเราผ่านเหตุการณ์วิกฤตมาอย่างใจหาย



อาทิตย์ต่อมา ผมที่เรียกขวัญกลับคืนมาได้ระดับหนึ่ง ก็มาตั้งสติได้ จึงหยอดส่งข้อความไปหาผู้กองจอมแสบ  แต่มีแค่รอยอ่าน หรือนานที ก็มีสติ๊กเกอร์ตอบกลับมา มันยิ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้ให้ผมปริ่มล้นในใจ  ทำไมมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ล่ะ ถ้ามานั่งนึก ก็คงเพราะผมเตรียมตัวไม่พร้อมพอ หรือไม่สามารถหาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวภารกิจนี้ได้
วันนี้หลังสอบเก็บคะแนนเสร็จ ผมก็มากับต้นหลิว เพื่อไปเป็นเพื่อนในงานวันแซยิดคุณพ่อของหลิว  หลิวบอกว่า คนชอบถามเรื่องแฟน จะทำเนียนแกล้งเอาผมไปโชว์ตัว ทุกคนในเครือญาติจะได้หยุดนินทา โดยมีตูนขอตามมาทีหลัง แต่การ์ตูนกลับไปบ้านเปลี่ยนชุดก่อน ส่วนผมมีเสื้อผ้ารอไว้ท้ายรถอยู่แล้ว จึงไม่ซีเรียสอะไรมาก  ใจยังคงกังวลเรื่องวิธีพิชิตผู้กองอยู่

บ้านบดินทร์เตชานนท์

“สวัสดีน้ำ หล่อขึ้นจนจำไม่ได้เลยเนี่ย ตามสบายนะ เดี๋ยวพ่อขอรับแขกก่อน หลิวดูแลเพื่อนทีนะ” พ่อของต้นหลิวผู้ใจดีและเอ็นดูผมมาเสมอ เอ่ยขอบคุณกับ พระปากน้ำ รุ่น 3 พิมพ์ลึก ที่พ่อของผม ฝากมาให้เป็นของขวัญวันแซยิด ท่านดูดีใจมาก คว้าผมไปหอมแก้มอย่างเอ็นดู ผมนับถือท่านเป็นผู้ใหญ่คนสนิทที่คุ้นเคย  พ่อของหลิวอายุเยอะกว่าพ่อของผมหลายปีอยู่ แต่บ้านเราก็ชิดเชื้อกันอย่างกับญาติ  เอาจริงๆนะ สนิทกว่าญาติที่คอยมาขอยืมเงินพ่อบางคนอีก 

ผมก็เลยขอตัวเพื่อเข้าไปที่ครัว ไปทักทายคุณแม่ ซึ่งท่านก็ใจดีไม่แพ้กัน แถมทำอาหารได้อร่อยมาก ผมชอบแม่ของหลิวมาก เพราะว่าท่านดูแลผมดี ผมเองไม่มีแม่แล้ว ท่านก็มักจะฝากอาหารแสนอร่อยผ่านหลิวมาให้ ผมรู้ว่า ท่านสงสารผม

“ฝากขอบคุณ พ่อด้วยนะน้ำ เล่นให้ของขวัญถูกใจขนาดนี้ คงนั่งส่อง นั่งลูบคลำทั้งวัน ลุงเขาบ้าพระเครื่องแค่ไหน หนูก็จำได้ใช่ไหม”  ผมล่ะหัวเราะเลย เมื่อนึกถึงสมัยที่มานั่งเล่นบ้านหลิว แล้วก็จะเห็นพ่อของหลิวนั่งเช็ดถูกกรอบใส่พระเครื่อง แล้วก็นั่งส่องกล้องทั้งวันทั้งคืน จนแม่ของหลิวบ่นทุกครั้งตอนเรียกมาทานข้าว

“แล้วพี่ไผ่ไปไหนล่ะครับเนี่ย”

“น่าจะอยู่ข้างบน ยังไม่ลงมา ฝากน้ำขึ้นไปตามที่ได้ไหมลูก แขกเหรื่อมากันเต็มบ้านแล้ว พักนี้เป็นอะไรไม่รู้ ชอบเก็บตัว”

“โดนสาวที่ไหนหักอกหรือเปล่าครับแม่”  ผมแซวแก้เก้อ แต่ก็รอฟังเผื่อแม่จะเล่าอะไรเกี่ยวกับพี่ไผ่เพิ่มบ้าง

“ไม่หรอก สาวที่ไหนกัน ไม่เห็นจะมีใครเลย หลิวเองก็ติดพี่ชายซะขนาดนั้น ไปไหนก็ไปกันสองคนพี่น้อง จนแม่ไม่รู้จะห่วงใครดี ระหว่างลูกชายกับลูกสาว ว่าใครจะไม่ออกเรือน”

“ไม่หรอกครับแม่ ทั้งพี่ไผ่ กับ หลิว นี่ฮอตจะตาย ลูกบ้านนี้ใครได้เป็นแฟนโชคดีจะตายไปครับ”

“น้ำก็เลือกเอาเลยสักคนสิ ยกให้เลย ใครก็ได้”  อุ้ย แม่แซวแรง

“ฮ่าๆๆๆ  ทุกวันนี้ ผมก็เหมือนลูกบ้านแม่อยู่แล้วครับ”  ผมนึกขำในความฉลาดพูดเอาตัวรอด 



ห้องนี้ เจ้าของดุ
ผมเคาะประตูหน้าป้าย ห้องนี้เจ้าของดุ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลูกบิดซึ่งไม่ได้ล็อค สงสัยใช้กฎเดียวกับบ้านผมแฮะ  เดินเข้าไปเห็นพี่ไผ่ในชุดแจ็คเก็ตสีเทา กับเชิ้ตแดง กำลังส่องหน้ากระจก  เขาหันมาส่งยิ้ม ดูหล่อชะมัด แต่ทำไมไม่ใส่กางเกง พิเรนทร์จริง อีตานี่   แล้วเขาก็เดินมายังผม กางเกงในสีเทาตัวที่เขาใส่อยู่ มันเป็นตัวเดียวกับที่มีกลิ่นแป้งเย็นทเวลพลัสสีชมพูหรือเปล่านะ  พอนึกถึงก็รู้สึกร้อนขึ้นมาเลยเดินเลี่ยงไปนั่งที่เตียงแทน

“แม่ให้มาตามแล้วพี่ แขกมากันเต็มแล้ว”

“เบื่อชะมัดเลย ไม่ไปไม่ได้เหรอ” เขาเดินมาคุกเข่าตรงหน้า อย่างกับน้องหมาที่ออดอ้อน มันไม่น่ารักหรอกนะสำหรับคนอายุขนาดนี้  มันแค่...  ดูหล่อ เท่านั้นเอง

“หกสิบปีมีครั้งเดียว ไม่ควรงอแงนะครับ ผมยื่นมือไป เขาเอาคางมาวางอุ๋งอุ๋ง แบบที่กำลังฮิต

“เหนื่อยจะเจอเพื่อนพ่อ ขี้เกียจตอบคำถามญาติ”

“คำถามที่ว่า เมื่อไหร่จะแต่งงานใช่ไหมครับ”

“โดนเหมือนกันเหรอ เหนื่อยเนอะ” พี่ไผ่ลุกขึ้นมา หรรมแทบจะทิ่มหน้าผมอยู่แล้ว ก่อนจะเอนตัวไปนอนบนเตียง ผมต้องแอบเหล่ไปดู ไม่กล้ามองตรงๆ

“ผมนึกไปเองว่า คนอย่างพี่จะแกร่งกว่านี้”

“อย่ามาปากดีเลย โหมเที่ยวอาบอบนวดทุกอาทิตย์นี่ หัวใจแข็งแรงมากเลยเนอะ” เขาลุกขึ้นมานั่งข้างๆผมที่ขอบเตียง

“พี่อย่าเฉไฉ  ไปทาแป้งเย็น แล้วนุ่งกางเกงได้แล้ว”  อุ้ยย เชี่ยยย  กูเผลอ

“ทำไมรู้ว่าพี่ทาแป้งเย็นอ่ะ  ปกติพี่ทาแค่...  เห้ย..  วันนั้น เอากางเกงในพี่ไปสูดดมเหรอ”  พี่ไผ่ทำหน้าเหวอ

“ประสาท ได้กลิ่นก็จำได้แล้วเปล่า แป้งยี่ห้อนี้ก็ใช้อยู่”

“มันฟังดูจั๊กจี้ชะมัดเลย เวลามีคนทำอะไรแบบโรคจิตใส่เราเนี่ย” พี่ไผ่เอื้อมมือมาล็อคข้อมือผมแน่น

“บอกว่าไม่ใช่” ผมพยายามจะสะบัดมือ ไม่กล้ามองตาเขา พี่ไผ่จ้องผมเขม็ง ผมยิ้มอย่างผู้ชนะ 

“ไม่เห็นต้องอาย บอกกันตรงๆ เดี๋ยวจะถอดให้สักตัวไว้ดูต่างหน้า เอาแบบสดๆ ร้อนๆ เลยเอาไหม”

“ไอ้พี่บ้า อย่ามาใส่ร้ายได้ไหม ใครเขาโรคจิตขนาดนั้น”  ก่อนเขาจะปล่อยมือผมออก แล้วกลับไปเอนหลังนอนต่อ

“โถ่ หรอกให้พี่แอบดีใจไปเอง”




ผมนั่งที่ริมสระน้ำ หลังจากที่พ่อพี่ไผ่เอ่ยขอบคุณทุกคนบนเวทีเสร็จ  มีการแจกลูกสุนัขบีเกิ้ล สำหรับผู้ร่วมงานที่สนใจรับกลับไปเลี้ยง  โดยมีกฎว่าห้ามปล่อยวัด แต่ต้องนำไปเลี้ยงให้ดี  มีความวุ่นวายเล็กน้อยเพราะว่าสุนัขบีเกิ้ลซนมาก จนวิ่งวุ่นไปหมด แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุก  ผัวกับเมียทะเลาะกันเรื่องจะเอาสุนัขกลับบ้านหรือไม่กลับ  มีเด็กที่ร้องไห้อย่างน่ารักเพราะว่า พ่อแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงน้องหมา  ตลกที่สุดคงเป็นท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ที่วิ่งไล่จับบีเกิ้ลแสนซนจนเกือบตกสระว่ายน้ำ  ผมว่าเป็นอะไรที่บ้านนี้เขาเตรียมไว้เป็นสัจจะธรรมบางอย่างให้แขกคิดมากกว่า เพราะผมรู้ดีว่าพ่อแม่ของหลิวเป็นคนแบบนี้ แม้ราคาสุนัขตัวละหลายพันอยู่ แต่ของขวัญที่เขาได้มาแต่ละคน ก็ให้ของขวัญล้ำเลิศมากำนัล ครั้นจะไปแจก แต่เอาไปเลี้ยงดูไม่ดีก็คงจะไม่ใช่เรื่อง บ้านเขารักน้องหมาจะตาย คงมีการให้ถ่ายรูปรายงานความเป็นอยู่ คนที่เอาไปต้องเลี้ยงดูให้ดีเพราะความเกรงใจเจ้าของงาน

ผมกดแอ๊พ DMiss เพื่อดักฟัง GPS Tracking ในห้องพักของออกัส  แต่ว่าไม่มีเสียงคาดว่าไม่อยู่บ้าน  ผมเลยกดส่งข้อความไปยังเบอร์ของจีพีเอสรถยนต์ สักสิบวินาทีก็มีข้อความย้อนกลับมา ผมกดที่ลิงค์ข้อความเพื่อเปิดเส้นทางของรถปรากฏเป็นเส้นทางที่ใกล้กับที่นี่ เฮ้ย เขามาทำอะไรแถวนี้ ผมนึกในใจ แต่เมื่อไม่มีบทสนทนา ผมก็เลยวางหูลง

“แต่งตัวหล่อมากเลยตูน” ผมเอ่ยทัก ตูนที่เพิ่งมาถึง การ์ตูนหนุ่มแก้มกลมมาในชุดสูทเต็มยศ เอาเข้าจริงตอนแรกหลิวก็ไม่ได้ชวนเพราะว่า ตูนพูดกับคนอื่นไม่เก่ง จึงคิดว่าถ้ามางานน่าจะอึดอัด แต่ตูนก็ดึงดันจะมาให้ได้ การ์ตูนเป็นคนที่คอยช่วยเหลือทุกคนเรื่องการเรียน เขานี่ระดับเทพ ฉลาดแล้วก็มีวินัยในการเรียน แม้ผมจะหัวดี ฉลาดกว่าคนอื่น แต่การเรียนในมหาวิทยาลัย คะแนนส่วนใหญ่มาจากคะแนนเก็บและคะแนนในห้องเรียน ผลสอบก็แค่ช่วยให้เกรดมันดี  ผมซึ้งน้ำใจตูนที่คอยช่วยเหลือทุกคนในกลุ่ม

“ก็งานระดับตระกูลบดินทร์เตชานนท์  จะแต่งตัวธรรมดาได้ไง เอใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มา เลยไปหลบอยู่ที่โต๊ะพี่อำนาจน่ะ ไม่กล้าเดินมา”

“อ้าว ไหนตอนแรกเอบอกไม่มา”

“อืม แต่พี่อำนาจไปรับมา”

“ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

“นั่นสิ งงเหมือนกัน แล้วนี่หลิวอยู่ไหนล่ะ เราเอาของมาให้พ่อหลิวด้วย”

“อยู่ข้างใน ไปสิ เราพาไป” 

ผมพาการ์ตูนมาไหว้พ่อหลิวแนะนำตัว แล้วก็พาไปไหว้แม่ ดูท่านจะเอ็นดูเพื่อนลูกทุกคน ขนาดไอ้เอมันกวนบาทาขนาดนั้น ท่านก็รักมันอยู่ไม่น้อย  เพียงแต่คอยกระตุ้นให้ทุกคนขยันเรียน
ผมเหลือบไปเห็นพี่ไผ่ ที่นั่งอยู่คนเดียวตรงลานหน้าน้ำพุ ผมเลยทิ้งตูนไว้กับแม่หลิว แล้วไปสมทบพี่ไผ่ที่ดูคล้ายจะมีเรื่องในใจอะไรบางอย่าง ทำให้คนร่าเริงอย่างเขาซึมไปเลย

ผมส่งแก้วบรั่นดีให้พี่ไผ่ แต่ข้างในเป็นเบเบิ้ลที่เขาชอบกับน้ำแข็งสองก้อน เขาเขยิบตัวให้ผมนั่งข้างๆ น้ำพุวันนี้เร่งแรงจนละอองน้ำกระเด็นมาโดนผิวหน้าผมเล็กน้อย ไฟสีฟ้าส่องทำให้น้ำพุดูงดงามกว่าทุกวัน
“แจ็ค ออน เดอะ ร็อค  รู้ใจจริงเลยน้องคนนี้” พี่ไผ่เอามือมาขยี้หัวจนผมยุ่ง ผมรีบปัดมือพี่ไผ่มาคว้าไว้

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบจัง อกหักหรือเปล่าครับ”  ผมรอคำตอบ เขาไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่ ก่อนจะคว้าแก้วบรั่นดีไปกระดกเหล้าเข้าปากแล้วมองไปที่ท้องฟ้า

“ไม่ได้อกหัก แต่เหมือนเขาจะไม่รักพี่เลยต่างหาก”

“สาวคนไหน จะไม่มีใจให้พี่ชายรูปหล่อของผมล่ะครับ”

“พี่หล่อเหรอ”

“ไม่อยากจะชม แต่เห็นเศร้าอยู่นะ  พี่น่ะ หล่อโครตๆเลย”  อ้าว ยิ้มแล้ว บ้ายอนี่หว่า ผมเลยชมแกต่ออีกหน่อยแล้วกัน ถือว่า ชมเพื่อรักษาจิตใจ “นี่ถ้าผมหล่ออย่างพี่นะ ผมฟันสาวทั่วมอให้หมดแมร่งเลย

“นี่ก็ได้ข่าวว่า น้ำ กับ เอ สองคนฟันจนหมดพระรามเก้าแล้วไม่ใช่เหรอ”  อ้าว ไอ้พี่

“ถ้าอีกหน่อยพี่รู้ความจริง พี่จะเข้าใจผม”  ผมคว้าเหล้าในมือเขามายกดื่มบ้าง

“ตอนพี่ยังไม่กลับจากเมืองนอก ที่หลิวบอกว่าเราไปคบผู้ชาย ก็นึกว่าจะไม่ชอบผู้หญิงอีกแล้ว ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิว่า มันเป็นยังไง”

“ผมก็ไม่รู้ว่า ผมเรียกตัวเองว่าอะไรครับพี่ไผ่  ผมแค่บังเอิญมีแฟน แล้วแฟนดันเป็นผู้ชาย ตอนนี้ ผมเลิกกับเขาไปแล้ว ผมมีอิสระที่จะเป็นตัวเอง  แต่ผมก็ไม่รู้ว่า ผมจะลงเอยกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าคนนั้นใช่ มันก็คือใช่”

“กว่าจะคิดได้อย่างนี้ คงก่ายหน้าผากไปหลายเดือนสินะ”

“ตอนเจอกับแฟนเก่านะพี่ ผมน่ะเครียดจนแทบคลั่ง จากผู้หญิงมาผู้ชาย มันก็คิดไม่ตกนะพี่ไผ่ แต่บังเอิญผมเป็นคนทำตามใจตัวเองอยู่แล้ว พี่ก็รู้ ผมก็เป็นของผมแบบนี้”

“เป็นไปได้ไหม ถ้าน้ำ จะกลับไปรักผู้ชายอีกครั้ง”

“ไม่แน่ใจนะครับ ตอนนี้ที่ผมออกเที่ยวกับเพื่อน ก็เที่ยวแต่ผู้หญิงนะ ไม่มีอะไรแน่นอน ใช่คือใช่”

“เก่งนะ รู้หัวใจตัวเอง  แต่ก็อย่างที่น้ำบอก น้ำก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว พี่เห็นแต่เด็กก็เป็นแบบนี้”

“พี่อย่าเศร้านะ พี่ก็เหมือนพี่ชายผม ผมไม่อยากเห็นพี่เศร้า” ผมเอาหัวลงไปซบที่ไหล่พี่ไผ่ อ้อนให้เขาไม่เครียด

“ครับ พี่ไม่เศร้าแล้ว น้องชายขอขนาดนี้”

“พี่ไผ่”

“ครับ”

“แม่พี่บอกว่า ให้ผมเลือกลูกบ้านเขาไปเป็นแฟนได้เลย จะเอาคนพี่หรือคนน้อง”  แล้วมองก็นั่งตัวตรงมองหน้าพี่ไผ่

“เฮ้ย จริงดิ แล้วเลือกคนไหน” พี่ไผ่หันมาทำตาลุกวาว เค้นเอาคำตอบ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าเขาแล้ว

“ไม่เอาเลยสักคน  คนน้องก็เพื่อนรัก  ส่วนคนพี่ก็นักรัก ไม่เอาดีกว่า” แล้วพี่ไผ่ก็แย่งแก้วเหล้าไปซด ส่ายหน้า หัวเราะ


[ TBC ]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2018 18:37:15 โดย TofuChan »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

[ ต่อ ]

ขากลับผมบอกลาพ่อแม่ของหลิว โดยมีหลิวเดินออกมาส่ง ผมหันไปโบกมือให้พี่ไผ่ เขาส่งยิ้มจางกลับมา  เหลือเพียงตูนอยู่ช่วยหลิวเก็บของ ส่วนพี่อำนาจก็ไปส่งเอที่บ้าน 

ผมเปิด จีพีเอสแทร็กกิ้ง เช็คเส้นทางของ ออกัสอีกครั้ง เขายังอยู่แถวนี้ ใกล้กับบ้านหลิวเลย เขามาทำอะไร หรือว่าแอบตามผมกลับ  เขารู้เรื่องกันต์แล้วเหรอ  ผมรีบเผ่นรถไปทางถนนใหญ่ สายตาเหลือบไปดูกระจกหลังอยู่ตลอด ผมคงไม่ได้โดนรถไล่ตามแบบในหนังหรอกนะ  พลางเอามือไปเปิดดูจีพีเอสอีกที ยังไม่มีการขยับรถออกมาจากบ้านของหลิว ผมจึงวางใจแล้วลดความเร็วลง ก่อนจะขับกลับบ้านไป

กลางคืนในห้องนอน ผมโทรไปหาน้องกันต์ สอบถามเรื่องการสอบเป็นสจ๊วต เขาเล่าให้ฟังถึงความง่ายและมีน้ำเสียงที่สดใส เขาฝากพวงกุญแจ พิน็อคคลิโอ ไว้ที่เคาท์เตอร์ต้อนรับไว้ให้ผม  ผมถือมันไว้ในมือตอนโทรหาเขา น้องกันต์อยากเจอผมมาก กันต์บอกว่าเขาชอบคุยกับผมมาก สบายใจ  ผมถามกลับเรื่องออกัส  เขาบอกว่าก็กลับมาคุยกันในฐานะเพื่อน แต่ก็อดใจคิดถึงเรื่องเก่าไม่ได้เลย  การลืมใครสักคนเป็นเรื่องยาก ยิ่งเขากลับมาอยู่ในวงจรชีวิต ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ หวังว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องชินชา

พี่อำนาจเรียกผมกับเอเข้าไปพบที่บ้านของเขา พี่อำนาจมีบ้านอยู่ที่ชานเมือง แม้จะไม่ใหญ่โตมาก แต่ว่าก็มีสวนกว้างและเนื้อที่เยอะ แปลกใจตรงบ้านเขาเป็นระเบียบขนาดนี้ มันควรเป็นบ้านของคนที่มีเมียสักคนคอยปัดกวาดเช็ดถู ข้าวของในบ้านเป็นระเบียบมาก

“นี่เป็นประวัติ กับหนังสือรุ่น มีข้อมูลของจิมมี่อยู่ ลองทยอยดู” พี่อำนาจเอาเอกสาร หนังสือกองโต มาให้ผมกับเอช่วยกันไขรหัส เผื่ออาจจะนำพากุญแจไปสู่ความสำเร็จในภารกิจที่ 2 ก็เป็นได้  เพราะตอนนี้ ผู้กองจิมมี่แทบจะไม่ตอบไลน์ผมเลย เต็มที่ก็ส่งสติ๊กเกอร์  แล้วก็วันก่อน มีการวีดีโอคอลกันในไลน์ เขาให้ผมถอดเสื้อผ้าออกเอาเสื้อปิดหน้าไว้เหลือแต่ดวงตา  เขาก็ทำแบบนั้น เราสำรวจเรือนร่างกันและกัน ผมเห็นผู้กองจิมมี่เอามือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ เลื่อนต่ำลงไปที่ใต้ผ้าห่ม ขยับไปมา ผมก็ทำเช่นกันเพื่อกระตุ้นอารมณ์เขา และอาจจะเป็นหนทางให้เรากลับไปมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง  เขาเปิดผ้าห่มผืนหนานั้นออก เผยให้เห็นท่อนทวนที่มันชูหัวขึ้นมา ผมจึงทำใจกล้าเปิดออกเช่นกัน เราส่งเสียงครางผ่านอุปกรณ์สื่อสารแบบไม่อาย ต่างคนต่างเรียกชื่อกันและกันผ่านวีดีโอคอลจนสำเร็จความใคร่ไป  เขาถึงจะตอบไลน์ผมมากขึ้น และยินดีที่จะนัดเจอกันอีกในวันหน้า

ผมกับเอ ทยอยหาข้อมูล แต่ดูแล้วแทบจะไม่มีความหวัง นักเรียนระดับเหรียญทอง สลับกันเป็นที่หนึ่งกับพี่อำนาจ แต่ด้วยความที่พี่อำนาจเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด ตำแหน่งประธานรุ่น ตลอดจนความเด่นดังจึงเป็นของผู้กอง ไม่รวมกับที่ผู้กองยังมีรอยยิ้มที่พิมพ์ใจกว่า พี่อำนาจดุดันไป แต่เกือบทุกรูปก็มีเขาทั้งคู่เป็นกลุ่มเดียวกัน  ผมหาจนเบื่อแต่ลองมองไปยังเอซึ่งยังคงหาข้อมูลอย่างสนใจ อีกทั้งยังคอยหันไปถามพี่อำนาจตลอดว่ารูปนี้ถ่ายที่ไหนยังไง พ่อบอดี้การ์ดตัวดีก็กำลังขะมักเขม้นกับการตัดหญ้าจนเหงื่อซก เขาถอดเสื้อเปลือยท่อนบน เดินเข้าออกบ้านมาหาน้ำหาท่าให้พวกเราอยู่ตลอด

“พี่อำนาจตอนเรียน ก็น่าจะเก่งเอาเรื่องอยู่นะ”

“พ่อมึงเลือกคนเข้าทำงาน เขาต้องสกรีนอยู่แล้วว่ะไอ้น้ำ”

“นั่นสิ แล้วทำไมมาทำงานกับพ่อกูวะ แทนที่จะไปอยู่องค์กร หรือ หน่วยงานดีๆ  หรือว่า แก่ไปแล้ว”

“แก่ที่ไหน มึงเห็นหน้าท้องเขาป่าววะ ซิกแพ็คนั่นไม่ได้จะได้มาง่ายนะเว้ย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีไขมันตรงไหนบ้างเปล่าวะ อย่างกับนักรบโบราณ”

“แล้วมึงมานั่งสำรวจเรือนร่างพี่เขาทำไม รีบหาข้อมูลไอ้ผู้กองจิมมี่ให้กูสิ ไอ้นี่”


พี่อำนาจเดินเข้ามาสภาพเหงื่อโชก เขาเอาผ้าขนหนูสีเลือดหมูเช็ดตามตัวจนแห้ง แต่ผิวหนังที่เกรียมเรื่อด้วยเลือดฝาดยังคงเห็นชัด เขาเดินมานั่งข้างเอ คนอะไรวะ เหงื่อออกแต่ตัวไม่เหม็น แถมมีกลิ่นอ่อนของโคโลญลอยมาอีกต่างหาก เอคงรู้สึกได้ มันที่ใส่เสื้อแขนกุดอยู่ แขนไปชนถูไถกับแขนพี่อำนาจที่เปลือยท่อนบนอยู่ ที่ก็กว้าง นั่งเบียดนั่งสีกันอยู่ได้

“ผมว่า พี่ต้องเล่าให้ฟังแล้วแหล่ะ ว่าจิมมี่ เป็นคนยังไง  เอาตามมุมมองพี่ ไม่ต้องเล่าประวัติ เอานิสัยล้วนๆเลย”

“พี่ก็ไม่สนิทกับเขาเท่าไหร่”

“อย่ามาบอกว่าไม่สนิท ทุกรูปมีกันและกัน”  เถียงไม่ออกเลย เป็นครั้งแรกที่พี่อำนาจกวนตีนผมไม่ออก เอหันไปมองเขม็งแบบคนอยากรู้  เรื่องเสือกยกให้ไอ้เอ

“ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น”

“แต่พี่เคยเล่าว่าเขาอยากได้พี่”

“มันเมา แล้วก็มันเพิ่งทะเลาะกับคนอื่นๆ พี่แค่คอยช่วยเหลือ ปลอบใจมัน มันคงเพ้อไปเอง”

“พี่อำนาจ ผมบอกให้เล่า”

พี่อำนาจเล่าด้วยอาการเกร็ง แต่สักพักเขาก็พูดมันออกมา นายศตวรรษ สิรางกูร หรือ จิมมี่ เป็นคนที่เงียบเชียบในช่วงปีแรกที่พี่อำนาจรู้จัก  มักโดนคนอื่นแกล้งอยู่เสมอ ตอนที่คนในกองคนอื่นหนีโรงเรียนไปเที่ยวแล้วโดนจับได้ มีการลงโทษรุนแรง ทุกคนโยนเป็นความผิดจิมมี่ ทำให้จิมมี่โดนลงโทษคนเดียว แต่เขาก็ไม่ปริปากหรือสาวเรื่องไปยังคนอื่น เลยทำให้เพื่อนๆ เริ่มแกล้งเขาน้อยลง  เขามุ่งมั่นอ่านหนังสือ และฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ มุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจ แถมที่บ้านยังมีฐานะดีพอที่จะสนับสนุนได้  แต่ระยะหลังก่อนเรียนจบ จิมมี่ก็เปลี่ยนไป เขาให้เวลากับโลกโซเชียลมากขึ้น หลงรูปลักษณ์ตัวเองพอประมาณ แต่ใครจะไปว่าได้ เพราะจิมมี่ดูดีมากในทรงผมตัดสั้นสกินเฮด แถมกล้ามเนื้อที่เพิ่มเติมเข้ามา เหมือนจะทำให้เขาเป็นที่หลงใหลได้ปลื้มของสาวน้อยใหญ่ สีผิวที่เคยขาวแต่เกรียมด้วยแดดจากการฝึกใน บุคลิกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนที่แข็งกร้าวขึ้น จากที่พี่อำนาจเคยสนิทด้วย ก็มีอันต้องห่างออกมา เพราะเหตุการณ์ในการซ่อมรุมซ้อมรุ่นน้อง ซึ่งจิมมี่ผู้เคยเงียบเฉย กลับมีความเกรี้ยวกราดจนพี่อำนาจไม่อยากยุ่งด้วย

“เดี๋ยวเบรกก่อน ผมเคยเห็นพี่ซ้อมนักเลงแถวบ้าน ก็ดุพอกันป๊ะ” ภาพนั้นยังติดตาผมอยู่เลย

“มันไม่ใช่แบบที่คนทั่วไปมีเรื่องกันนะครับนายน้อย  เขาล็อคมือล็อคเท้ารุ่นน้องแล้วฟาดอย่างรุนแรง ห้ามกันก็ไม่หยุด มันบ้าเลือดมาก จนพี่คิดว่า น่าจะเพราะเขาเก็บกดอะไรสักอย่าง”

“ข้ามไปเรื่องที่เขาบอกรักพี่”

“เขาไม่ได้บอกรักพี่” พี่อำนาจรีบเถียงก่อนจะหันไปมองเอที่อยากรู้เหมือนกัน

“เอาเป็นว่า เขาอยากได้พี่ ผมอยากรู้ว่า เขาอยากได้อะไรในตัวพี่”

“ตอนแรกพี่ก็คิดว่า เราสนิทกันเพราะเรียนเก่งทั้งคู่ หรือเพราะเราเป็นที่หนึ่งที่สองในนั้น เลยทำให้เขาอยากมาชิงดีชิงเด่นกับพี่หรือเปล่า แต่ไม่เลย จิมมี่ไม่เคยแสดงอาการอิจฉาถ้าพี่มีชัยเหนือกว่าเขา กลับชื่นชมและให้กำลังใจ ในขณะถ้าเขาชนะพี่ เขาจะคอยมาถามว่าพี่โอเคไหม”

“ฟังดูเขาก็ดีนี่นา ทำไมไม่ยอมๆไปล่ะ” เอถามเสียงแข็ง

“ก็เพื่อนเปล่าครับ เพื่อนกันไม่เล่นกันเองนะ”

“แต่ก็อยากไหม ถามจริง” เอ มึงจะรู้ไปทำเพื่อ

“ไม่ครับ พี่ไม่เล่นเพื่อน พี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน” 

“กลับไปวินาทีบอกรัก” ผมตัดบท อยากฟังต่อ

“รักอะไรเล่านายน้อยก็  วันเกิดผมเอง เขาซื้อกางเกงหนังแก้วสีดำให้ผม มันไม่ใช่สไตล์ผม แต่ผมก็รับมันไว้ เขาให้ผมสัญญาว่าจะเป็นตำรวจระดับใหญ่ให้ได้ในสักวัน แล้วก็เอากุญแจมือสีเงินสลักชื่อเขากับพี่คนละห่วง มาให้เก็บไว้ มันทำให้พี่เป็นกังวล  คือเขาไม่ค่อยทำแบบนี้กับใคร เขาดุดันและก้าวร้าวมากขึ้น โดยเฉพาะรุ่นน้อง หรือ เพื่อนที่มีบุคลิกอ่อนแอ แต่กับพี่เขาดีมาก”

“แล้วไงต่อ” เอถาม

“ก็ท้ายที่สุด ในวันที่รู้ว่า ทุกคนไปงานปาร์ตี้ แต่ไม่ชวนมันไป มันมาดักรอที่หน้าหอพักของพี่ แล้วก็ร้องไห้ พี่ก็พามันเข้าไปในห้อง ก็ปลอบมัน เล่าให้ฟังว่าที่คนอื่นไม่ชอบมันเพราะอะไร  มันก็ไม่เห็นจะแคร์ เค้นให้ได้ว่า ทำไมพี่ไม่ชวนมันไป  พี่ก็บอกว่า พี่ก็เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน มันก็ทำตาดุหันมาเลย ยังจำได้เลยว่าน่ากลัวไม่น้อย”

“เป็นคนมีหลายอารมณ์เหรอครับ”

“ก็ไม่เชิงนะนายน้อย  เขาแค่มีอารมณ์ขึ้นสุด ลงสุด  แล้วสักพักเขาก็กอดพี่ พี่คิดว่าเขาคงรู้สึกอ้างว้างก็กอดตอบ แต่รู้สึกตัวอีกที เขาก็จูบพี่เข้าแล้ว”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก เล่าให้หมด เอาจริงๆ ห้ามโกหก” เพื่อน มึงเป็นอะไรวะ กินรังแตนมาจากไหน ไอ้เอ

“พี่ก็ดึงตัวเขาออก แล้วบอกว่า เราเป็นเพื่อนกัน อย่าทำอะไรแบบนี้เลย เขาก็ร้องไห้ไม่หยุด แล้วก็ออกไปจากห้อง หลังจากนั้นเขาก็เหมือนเดิม เพียงแต่กับพี่ เขาไม่ได้คุยอะไรมาก ทักทายตามปกติ”

“แค่นั้นเหรอ”

“ก็แค่นั้นสิครับน้องเอ”


กลางดึกคืนนั้น ผมที่กำลังจะเข้านอน เปิดไล่ทวิตเตอร์เพื่อดูรูปนมสาว ๆ เอามาช่วยตัวเองก่อนนอนเป็นประจำ ผมเลื่อนทวิตเตอร์ไปจนเจอกับข้อความหนึ่ง มันทำเอาผมฉงน
“เหล่า มร.เกรย์ ฉันพร้อมแล้ว”  แล้วสาวในรูปที่ใส่หน้ากากหนังสีดำ และชุดหนัง พร้อมแส้และโซ่ขึงเต็มห้องไปหมดก็เริ่มเต้นอย่างยั่วเย้า ทันใดนั้นผมก็มานั่งทบทวน 
กางเกงหนังแก้วของพี่อำนาจ.. 
แส้ที่ฟาดใส่รุ่นน้อง..
กุญแจมือที่หัวเตียงตอนวีดีโอคอลกัน..

เห้ย  ไอ้จิมมี่ มึงมันแนว S&M นี่หว่า !!

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ xexezero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อู้หูว งานนี้ท่าจะไม่หมู น้ำคงต้องศึกษาข้อมูลแนวนี้เพิ่ม55  :hao6:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อูย!! คนนี้ดูจะกินกันไม่ลง มาสายsmซะด้วย555

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M

ผมรีบประชุมด่วนกับเอในวันรุ่งขึ้น ที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย เอบอกว่ามันดูเสี่ยงเกินไปถ้าผมจะทำอะไรแบบนั้น ถึงตอนที่การ์ตูนเดินเข้ามาพอดีและได้ยินเข้า

“S&M มันคือลูกกวาดเหรอ”  ตูนทำหน้าซื่อ ถามขึ้น

“ไม่ใช่ มันเป็นรูปแบบหนึ่งของกิจกรรมทางเพศ” เอตอบ แล้วตูนก็หูแดง หน้าแดงไปหมด

“เอส คือ ซาดิสม์ พวกที่ชอบสร้างความเจ็บปวดให้ผู้อื่น  ส่วน เอ็ม  คือ มาโซคิสม์ จะเป็นพวกที่ ชอบเวลามีคนมาทำเจ็บปวดใส่”

“ถ้าอย่างนั้น เขาต้องอยู่ด้วยกันเหรอเอ ต้องจับคู่กันเองใช่ไหม”

“ใช่ หรือ แสวงหากัน” 

“มันมีด้วยเหรอ คนที่ชอบเห็นผู้อื่นเจ็บปวด หรือ ตัวเองชอบความเจ็บปวดน่ะ”

“รสนิยมทางเพศบนโลกใบนี้  10 หน้ากระดาษ A4 ก็บรรยายได้ไม่หมดว่ะตูน  บางคนชอบฉี่ใส่กัน บ้างก็เลียหัวแม่ตีน มีคนชอบสมสู่กับหมา มึงลองหาคำว่า Bobo นะ ใครมีต่อท้ายในชื่อเขารู้กันว่าชอบแนวนั้น ไหนจะพวกชอบได้กับพระกับชี อันนี้กูว่ามันเป็นรสนิยมส่วนบุคคลว่ะตูน”

“โลกหมุนไว้จัง ทำไมมันเป็นแบบนั้นล่ะ มันน่ากลัวจัง”

“เขาทำแล้วมีความสุข  มาตรฐานคนเราไม่เหมือนกัน แต่ดีแล้วที่พวกเราเกิดมาเหมือนคนอื่น”
ผมนั่งคิดถึงสิ่งที่เพื่อนสองคนกำลังสนทนากัน ก็พลางพูดกับตัวเองในใจว่านำพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
หลังจากไลน์ไปบอกพี่อำนาจ มีความเห็นในเชิงเห็นด้วยกลับมาปนกับอักขระที่รู้เลยว่าตกใจ แต่สักพักก็มีข้อความตอบกลับจากพี่อำนาจมาว่าพรุ่งนี้จะนัดเจอผมกับเอ  ผมจึงถามเอว่าเอาอย่างไรดี เพราะพรุ่งนี้ผมนัดมันไปตีหม้อแถวรัชดา ได้ข่าวว่ามีสาวจากสิบสองปันนามาใหม่หลายคน เลยบอกพี่อำนาจไปว่ามีนัดกับเอไว้ แต่พี่เขาตอบกลับมาว่ารัชดาไม่ช่วยอะไร ถ้าอยากจะชนะจิมมี่ต้องมาเจอเขา  เอาล่ะสิ +งานนี้เสือซุ่มอย่างพี่อำนาจจะสอนอะไรผม

ผมไม่เคยชอบ S&M มันดูไกลตัวมาก  เวลาเปิดเว็บโป๊ ผมจะเลื่อนข้ามไป เอาเข้าจริง ผู้กองจิมมี่ชอบเป็น S หรือ M กันล่ะ แล้วพฤติกรรมพวกนี้ มันจะมีผลต่อบทบาท รุก หรือ รับ ไหม  จำเป็นไหม ที่ S จะเป็นรุก หรือ M ต้องเป็นรับตลอด  แล้วไอ้เครื่องหนังนี่มันไปซื้อกันที่ไหนวะ กุญแจมือพอจะหาได้  แส้นี่ฟังแล้วสยองเลย  น้ำตาเทียน ผ้าปิดตา ไหนจะโซ่  ผมเริ่มคิดว่าผมมาไกลเกินไปแล้วไหม ผมไม่ได้แค้นอะไรไอ้ออกัสเท่าไหร่แล้วตอนนี้  แล้วออกัส จะโดนอะไรแบบนี้หรือเปล่า ทำไมผู้กองที่ดูเป็นคนยะโส ถึงต้องกับคบหากับออกัสเลยเหรอ  ตอนนี้เขายังติดต่อกันไหม หรือเขาเป็นแค่คู่นอนกัน ถ้าผมปฏิบัติภารกิจนี้สำเร็จ ผมจะทำให้ออกัสร้องไห้ได้ไหมนะ

หลิวที่เพิ่งมาถึงเดินมาสมทบ ตูนขยับให้หลิวนั่ง พวกเราทำปากจุ๊ ไม่ให้ตูนพูดอะไรเกี่ยวกับ S&M ให้หลิวฟัง
“น้ำ เสาร์อาทิตย์นี้ไปไหนเปล่า หลิวมีเรื่องขอร้อง”

“ว่างนะ เพราะว่าเรียนก็ไม่หนักแล้ว เทอมหน้าฝึกงานยิ่งสบาย”

“น้ำวานชวนพี่ไผ่ไปเที่ยวหน่อยสิ เขาดูหงอยผิดปกติ ยิ่งช่วงนี้ญาติมาเต็มบ้านหลังพ่อหลิวแซยิด ดูเขาไม่มีความสุข”

“อ้าว หลิวก็พาไปสิ”

“มันไม่เหมือนกัน เขาเที่ยวกับน้องมาตลอดชีวิต เพื่อนฝูงชวนไปไหนเขาก็ไม่ค่อยออกเที่ยว  เมื่อหลายเดือนก่อนเที่ยวกลางคืนอยู่พักเดียว ก็ไม่ออกอีกแล้ว  หลิวห่วงพี่ชายหลิวน่ะ”

“น้ำไม่ใช่คนคุยเก่งอะไร”

“แต่น้ำพูดกวนประสาทเขาเก่ง แล้วพี่ไผ่ดูมีความสุข อารมณ์ดีเวลาน้ำกวนใส่ นะๆๆ  หลิวออกค่าตั๋วให้ ไปฮ่องกงก็ได้ ใกล้นิดเดียว”

“หูย อะไรจะขนาดนั้น วัยทองพี่เขาแล้วล่ะมั๊ง”

“นะๆๆ ช่วยหลิวหน่อย หลิวถามเขาก็ไม่ตอบ ถ้าเขานั่งมองดวงดาวนี่เป็นเอาหนักแล้วแหล่ะ  เหมือนมีเรื่องให้คิด”

“เอางี้ เดี๋ยวน้ำจะชวนเขาไปใกล้ๆ อย่างกาญจนบุรี เอาไหม ขับรถแป๊บเดียว”

“กูต้องไปด้วยไหมวะ สาวเมืองกาญจน์แมร่งแจ่ม” เอ ตาสว่างขึ้นมาเชียวมึง

“เราว่า งานนี้ น่าจะแค่น้ำกับพี่ไผ่  นะๆๆ”

“เอางี้ น้ำจะแกล้งทำเป็นหาคนถ่ายรูปให้ แต่ถ้าพี่เขาไม่ไป น้ำก็ช่วยไม่ได้นะ”

พี่ไผ่รีบตอบตกลงทันทีที่ผมเอ่ยชวน สงสัยแกจะเหงาอย่างนัก ผมเข้าใจนะเวลาโดนญาติปากหมาเพียรถามเรื่องแต่งงานเนี่ย บางทีผมก็คิดว่า พวกญาตินี่มีไว้ให้เรารำคาญเล่น หรือเขาห่วงใยเราอย่างแท้จริง  ถ้าพ่อผมไม่มีตัง เขาจะหมั่นมาหาเราบ่อยไหม พี่ไผ่คงกำลังกุ้มใจที่โดนถามนั่นนี่  ก็พี่เขาออกจะสมบูรณ์แบบ หล่อล่ำ รวย แถมนิสัยดีขนาดนั้น คนก็คาดหวังไว้มาก  แต่ด้วยความที่เป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยออกไปไหน ทำแต่งาน ก็คงไม่เจอสาวถูกใจเท่าไหร่ 
ผมก็ยินดีช่วยนะ เห็นเขาไม่สบายใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้  ตั้งแต่โตมาถ้าไม่นับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ก็พี่ไผ่นี่แหล่ะที่ผมปรึกษาเขาอยู่บ่อย เพราะเขาคือฮีโร่ที่คอยปกป้องผมตอนผมยังเป็นลูกนกที่อ่อนแอ  ตอนนี้ผมแข็งแกร่ง บินเที่ยวพระรามเก้าได้ทุกคืน ผมก็จะไม่ลืมเขา อะไรช่วยได้ก็ช่วย แม้จะมีเรื่องให้เป็นกังวลเรื่องภารกิจที่ยังไม่สำเร็จก็ตาม


บ้านชานเมือง
ผมกับเอ มาถึงตอนค่ำหลังจากเราเรียนหนักกันทั้งวัน แต่ว่าแวะบ้านอาบน้ำอาบท่าก่อนมาถึง  วันนี้บ้านทำไมดูเงียบเชียบ แถมยังปิดไฟมืดผิดกับทุกที  พี่อำนาจใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวตัดกับผิวสีเข้ม กางเกงสีฬาขายาว ไม่ใส่รองเท้า ยืนอยู่ในห้องนอน  เขาเรียกพวกผมสองคนเข้าไป มีเทียนที่จุดไว้แทนไฟวางตั้งเรียงบนพื้นและหัวเตียงหลายจุด ไม่กลัวไฟไหม้บ้านเหรอไอ้พี่ แล้วนี่คือ จะสาธิตให้ดูหรืออะไรยังไง  ต่อให้ผมสนิทกับพี่อำนาจ เพราะผมโตมาเขาก็ผมอยู่กับพ่อผมแล้ว แต่มันก็เขินเปล่าวะ  อย่างไอ้เอนี่คือเพื่อน แต่นี่เขาลูกน้องพ่อ ยางอายกูก็พอจะมีนะเว้ย

“พี่ พวกเราต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ” เอแย้ง เพราะดูแล้วทุกอย่างมันเริ่มเลยเถิด

“ถ้านายน้อยคิดจะยอมยกเลิกภารกิจ คืนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมี แต่ถ้าจะไปต่อ ต้องเอาให้สุด”

“น้ำ มึงแน่ใจเหรอวะ กูว่ามันจะเกินเลยไปแล้วนะ”
“กูจะทำให้สำเร็จ”   

เมื่อเย็นตอนระหว่างรอไอ้เออาบน้ำ ผมกด GPS ไปที่เครื่องจับฟังในรถยนต์และบ้าน ไม่ได้ยินเสียงใคร จึงลองแกล้งส่งข้อความทางไลน์ไปถึงออกัสว่าได้งานหรือยัง  เขาตอบกลับมาว่า ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ห้อง กับ รถ จะคืนให้ นั่นทำให้ผมหงุดหงิดพอประมาณ แล้วผมก็โทรหากันต์เพื่อจะถามเรื่องงาน  กันต์ก็เหมือนจะท้อกับการสัมภาษณ์และระบบเส้นสาย  เขาตกลงว่าจะกลับไปคุยออกัสอีกครั้งเพราะคิดถึงอีกฝ่ายไม่ไหว  นี่ออกัสผู้ไม่เคยหยุดโหยหา เขาพยายามเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของผมกลับไปได้ทุกทีสิน่า

หลังจากอยู่กับเอในห้องนอนพี่อำนาจพักนึง ความเงียบก็ถูกทำลายขึ้นจากคำถาม
“จะถึงกับมีการลงแส้ ฟาดหลังโชว์อะไรแบบนี้หรือเปล่าวะ กูกลัว”

“อย่าว่าแต่มึงกลัว กูก็กลัว”

“ลูกน้องพ่อมึง มึงจะกลัวทำไม”

“กลัวสิวะ เขาแข็งแรงกว่าพวกเรารวมกัน ถ้าหน้ามืดขึ้นมา ยั้งไม่อยู่ กูตายลูกเดียว”

ประตูถูกเปิดออก พี่อำนาจเดินเข้ามาอยู่ในชุดเดิม เพิ่มเติมคือไม่ได้ใส่กางเกงแล้ว เหลือเพียงกางเกงใน กับเสื้อเชิ้ตที่ย้อยลงมาปิดยาวถึงหน้าขา  เขาถือกางเกงตัวที่จิมมี่ให้มา เดินมาหาพวกเรา
“ตกลงได้หรือยัง ว่าจะหยุด หรือจะไปต่อครับนายน้อย”

“ผมจะไปต่อ”

“พี่อำนาจจะทำอะไรไอ้น้ำ เดี๋ยวพ่อมันรู้จะทำยังไง เจ้านายพี่นะ” เอรีบแสดงความเห็น

“พี่จะแสดงให้เห็นว่า วิธีเป็นต่อจิมมี่ จะต้องทำยังไงครับเอ”

“แล้วพี่จะตีมันด้วยแส้เหรอ หรือจะรนน้ำตาเทียนใส่มัน คือมันจะดีเหรอพี่”

“เปล่า พี่ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นกับนายน้อยหรอกครับ”

“อ้าว”

“พี่ถึงได้ให้เรียกเอมาด้วยไง”



Flashback
คืนแรกพบ
“ผมขอกลับบ้านกับคุณได้ไหม”  เป็นคำแรกที่เขาพูดกับผม แล้วมันก็ดึงให้ผมอยู่ในบ่วงใต้อาณัติของออกัสทั้งปวง  เขาแค่เดินมาที่หน้าบาร์ คงมีเรดาห์จับได้ถึงความเหงาจนขีดสุดของผม  ชายหนุ่มผู้ที่กำลังนั่งเศร้าเพราะจับได้ว่าสาวที่ควงด้วยเข้าหาเขาเพราะเงิน วันนั้นผมเศร้ามา จนออกัสนั่งลงคุยด้วย เหมือนมีลมเย็นเอื่อยพัดเข้ามาโดนใบหน้าทั้งที่เป็นบาร์ซึ่งปิดทึบ  แล้วผมก็อยากลองดีพาเขากลับบ้าน  ผมไม่กลัวอะไร ยามบ้านผมเยอะแยะ
ระหว่างที่ผมมีจูบแรกกับผู้ชายด้วยกัน เสื้อผ้าพวกเราเปลื้องกันจนล่อนจ้อน วินาทีนั้นเอง ไม่รู้ด้วยความเมา หรือเพราะเขามันน่าเสน่หา  เขาขอให้ผมเป็นของเขา  แล้วผมก็ยินยอม  มันเจ็บแทบบ้า แต่ก็มีสิ่งแสนอบอุ่นเช่นกัน ตัวเขาที่เคลื่อนไหวทับตัวผม กระเพื่อมเป็นจังหวะ  เรามองหน้ากัน มองตากันด้วยความกระหายในอีกฝ่าย  เขาจูบลงมาบดขยี้ปาก แล้วกระซิบข้างหูว่าให้ผมเป็นของเขาคนเดียว  แล้วผมก็เป็นของเขาคนเดียวมาสามปี.. 


“กูทำไม่ได้ ไอ้น้ำ กูขอโทษ”  เอยืนหลบอยู่หลังผม หนีสายตาพี่อำนาจที่มองมา

“เฮ้ย กูก็ไม่คิดบังคับมึงนะเว้ย  เราล้มเลิกก็ได้ กูไม่อยากให้มึงเสี่ยง”

“กูอยากช่วยมึงนะเว้ย แต่กูกลัว”

“เราไม่ได้จะทำ S&M กันวันนี้ครับ จะกลัวอะไรครับน้องเอ  พี่จะไม่ทำอะไรที่น้องเอไม่มีความสุข หยุดได้ทุกเมื่อที่อยากหยุด ตกลงไหม” แล้วพี่อำนาจก็ส่งมือที่หงายออกมาเชิญชวนให้เอเดินเข้าไป  “มาเรียนรู้กัน ว่าหัวใจสำคัญที่สุดในการกระตุ้นอีกฝ่าย คืออะไร โดยมีนายน้อยเป็นนักเรียนนะครับ”  แล้วก็เหมือนต้องมนต์ เอเดินไปหาพี่อำนาจ  พี่อำนาจส่งกางเกงหนังสีดำให้เอไปเปลี่ยนในห้องน้ำ  พอเอเข้าห้องไป ผมรีบถามพี่อำนาจถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า เราไม่ได้กำลังทำอะไรที่มันเลยเถิดไป

“จับอาการของเอให้ดี ดูจุดกระสัน ว่าพี่ใช้วิธีไหนหาจุดนั้นจากเขา”

“ทำไมต้องเป็นเอ”

“เพราะพี่ทำกับนายน้อยไม่ได้ครับ ความสัมพันธ์เราจะเปลี่ยนไป  หรือว่า.. นายน้อยอยากให้พี่ทำ”

“เฮ้ย ไม่นะ พี่คือพี่ชายผม”

“ผมก็คิดกับนายน้อยเป็นน้องชาย น้องชายที่ผมรัก  ผมทำแบบนั้นกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรไม่ได้”

“แต่ทำกับไอ้เอได้เนี่ยนะ”

“เอทำให้ผมมีอารมณ์ได้” 


ผมละช็อคไปเลย ไอ้เอตัวฟันสาว ล่าน้องหมอนวดทั่วกทม.  ผมนี่ยกให้มันเป็นไอด้อล กูรู ด้านฟันสาวและอาจารย์ทางเซ็กซ์ด้วยซ้ำ  แต่วันนี้ มันดูหงอแล้วก็เหมือนแมวเชื่องตัวหนึ่ง แล้วพี่อำนาจทำไมพูดอย่างนั้น พี่เขามีอารมณ์กับผู้ชายเหรอ ถ้ามีทำไมไม่มีกับคนหน้าตาหวานแบบผม ไปมีกับไปเอ  เอ้ย โลกนี้มันอยู่ยากชิบหาย
แต่ทันใดนั้นผมก็รู้แล้ว ว่าเอมันก็ช่างดูยั่วเย้า เมื่อมองเห็นหน้าของพี่อำนาจที่ตื่นเต้น สายตาวาวแววเมื่อเห็นเอ เดินออกมาในกางเกงหนังตัวเดียว เอโยนเสื้อและกางเกงในที่ถอดออกวางไว้ไปกองบนโซฟา แล้วเดินอวดร่างเพรียวอย่างช้า มาหาพวกเราที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียง 

“โอยยยย”   เสียงพี่อำนาจกระเส่าออกมา พี่อำนาจจูงเอมายืนที่ปลายเตียงด้วย แล้วให้ผมลากเก้าอี้มานั่งที่ใกล้เตียงเพื่อดู  พี่อำนาจเอาฝ่ามือที่ดูหนาหยาบ ลูบไล้ไปตามท่อนบนที่เปลือยเปล่าขาวเนียนของเพื่อนผม เอหลับตาพริ้มแล้วก็หายใจลึกหนัก พี่อำนาจเอามือโอบเอวของเอแล้วดึงเข้ามาสวมกอด คล้องเอวไว้ อีกมือที่ว่างลูบไล้ที่คอ เลยไปถึงติ่งหู เอมีอาการสั่นขึ้นมา  พี่อำนาจจับเอหันหลัง แล้วเข้าไปประกบ มือโอบจากหลังมาลูบไล้แผ่นอก เลื่อนมาที่ท้องน้อย แล้วพี่อำนาจก็พ่นลมอุ่นร้อนจากปากสู่หลังใบหูของเพื่อนผม  เอมันแอ่นตัวดิ้นไปมาในอ้อมกอดนั้น  ติวเตอร์ร่างถึกเอามือของลูกศิษย์มาลูบไล้กางเกงหนังตัวที่ใส่อยู่ เอค่อยๆสัมผัสมันอย่างช้า  ผิวขาวของเอผู้ที่มีลำตัวบางตัดกับสีผิวเกรียมแดดของพี่อำนาจผู้ที่มีแต่มัดกล้ามเต็มตัวไปหมด แม้จะยังไม่ถอดเสื้อสีขาวนั้นออกก็เหอะ   พี่อำนาจจับให้เอหันกลับมาผจัญหน้า แล้วผลักให้นอนลงไปบนเตียง  เขาเรียกผมให้เดินไปหา

“ถอดเสื้อผ้าให้ผมทีครับนายน้อย”  ผมชอบที่พี่เขาเรียกตัวเองสลับกันระหว่างคำว่า พี่ กับ ผม  มันดูซับซ้อนไม่น้อย

“เอ่อ..”

“ช้าๆนะครับ”  เขาไม่ได้สั่งแต่ว่าน้ำเสียงมันเย็นเฉียบลึก

ผมค่อยๆแกะกระดุมออกทีละเม็ด เชิ้ตสีขาวเนื้อหยาบ แต่ผิวของพี่อำนาจนั้นหยาบกร้านกว่า แผงอกแน่นเผยออกมาพ้นเสื้อที่เปิดออก  ผมค่อยๆ ถอดเสื้อของพี่อำนาจออก หันไปดูเอที่นอนบนเตียงยังคงมองมา หายใจลึกกระเส่า แล้วก็หลับตาพริ้มยกมือขึ้นมาลูบไล้ท่อนบนของตัวเองที่เปลื้องเปล่า

“จูบที่หน้าอกพี่หน่อยสิครับ นายน้อย ปากนายน้อยมันแดงสวยเหลือเกิน”

ผมก้มลงไปจูบที่หน้าอกของเขาตามคำขอ เขาดึงหัวผมขึ้นมาไปกระซิบ

“ผมเจอจุดกระสันของเอ อยู่ที่ติ่งหูขวา เราจะจัดการที่จุดนั้นกันนะครับ”    ก่อนที่อำนาจจะสั่งให้ผมถอดชั้นในของเขาออก
ผมคุกเข่าตรงหน้า หันไปมองเอ ซึ่งเพื่อนรักของผมเงยหัวขึ้นมามองตาม หายใจถี่ หน้าแดงก่ำ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ  เอพยักหน้าให้ผม  มือของผมเอื้อมมาที่ขอบกางเกงใน ไม่มีกลิ่นหอมแบบของพี่ไผ่ แต่มีกลิ่นความเป็นชายที่หอมไม่แพ้กัน  ผมบรรจงรูดกางเกงในนั้นลงมา แก่นกายของพี่อำนาจที่พองตัวดีดสวนกับขอบชั้นในจนเฉี่ยวปลายจมูกผมไป กลิ่นของมันไม่เหมือนของออกัส  หน้าตามันดุดันกว่า แล้วก็ใหญ่โต มีรอยเส้นเลือดและสีคล้ำ

“ผมต้องจูบมันไหม”

“อย่าเลย นายน้อยจะอดใจไม่ไหวครับ..  แต่ลูบมันหน่อย มันอยากรู้จักนายน้อยเหมือนกัน”  ผมก็ทำตามคำบอก มันกำแทบไม่รอบจนผมต้องหายใจถี่ตามที่มันผงกหัว  เหมือนกับว่าเตรียมจะระเบิดในมือผมอย่างนั้นแหล่ะ  ผมเลยปล่อยมัน พี่อำนาจเดินโทงตัวเปล่าไปหาเอยังที่นอน   
ผมดันเก้าอี้ทิ้งไปแล้วเดินไปนั่งกับพื้น ใกล้ชิดขอบเตียงเพื่อดูให้ชัดขึ้น  เอดูตาลอย แต่มีรอยยิ้มปรากฏ  สายตาของมันในวันนี้ ไม่ใช่เสือผู้หญิงในวันที่ผมกับมันไปพัทยา 

“ขอมือหน่อยครับน้องเอ”  พี่อำนาจผายมือรอให้เอส่งมือมาให้ พี่เขานั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงข้างตัวของเอ แล้วเอามือของเอมาลูบไล้ตามหน้าท้องที่แข็งเป็นรอน  ผิวพี่อำนาจใต้ไฟสีเหลืองดูอย่างกับเนื้อทอง มันสุกสกาว คล้ำสวย แล้วก็เห็นมัดกล้ามชัดเจน พี่อำนาจเอื้อมมือมาเขี่ยที่ติ่งหูขวาของเอ  เพื่อนผมดิ้นแล้วหายใจถี่  เอเลื่อนมือจากหน้าท้องต่ำลงมาที่แก่นกาย เอกำมันไว้แน่น หน้าอกสั่นกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจที่ถี่ขึ้น พี่อำนาจยังคงเกลี่ยปลายติ่งหูของคนที่นอนอยู่จนมันดิ้นไปมาราวกับปลากำลังถูกทุบหัว แต่มันไม่ใช่ความทรมาน เหงื่อที่ซึมออกตามซอกคอ ผิวของเอผ่องขาว

“นายน้อยลองลูบไล้เพื่อนดูสิครับ ผิวของเพื่อนนายน้อยมันเนียนกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยเจอ”  ผมเอื้อมมือไปลูบที่หน้าอกของเอ มันหายใจรัวก่อนจะผงกหัวมามองผม แล้วก็หงายหัวกลับไปแผ่บนเตียงต่อ ผิวคนจีนนี่ช่างเนียนผ่อง
“คราวนี้ ค่อยๆถอดกางเกงให้เพื่อนนะครับ”  ผมแกะกระดุมกางเกง มือผมที่กำลังง่วนกับการแกะก็สัมผัสได้ว่า เอก็มีอารมณ์ถึงขีดสุด ใต้กางเกงหนัง ไม่มีกางเกงใน เอน้อยที่รออยู่โผล่ออกมาอย่างดุดันไม่แพ้กันกับของพี่อำนาจ สีของมันขาวสวยกว่า หัวสีชมพู ปลายเปิดร่นลงมา ผมเหนี่ยวกางเกงถอดออกไปจนสุดปลายเท้า 
“ปลุกเร้าเพื่อนสักนิดสิครับนายน้อย”  ผมเอามือลูบที่แก่นกายของเอ มันแทบจะระเบิดอยู่แล้ว มือหนึ่งของผมกำมันแน่นจนเอดิ้นสะโพกหนี  แล้วพี่อำนาจคว้าอีกมือของผมเอื้อมมาขยี้ที่ปลายหูขวาของเอ
เสียงครางของเอดังลั่น กระสับกระส่าย เอแอ่นหน้าท้องขึ้นสู้กับมือผมที่ขยับขึ้นลงอยู่สักพัก มันร้องโหยหวนอีกครั้งลากยาว แล้วทุกอย่างก็ระเบิดทะลักออกมาเปื้อนทั้งมือและที่ท้องน้อย  เสียงลมหายใจเบาลง พี่อำนาจเอื้อมมีมาเช็คคราบของเอที่กระเด็นติดแก้มขวาของผมอย่างแผ่วเบา

แล้วพี่อำนาจ ก็เอามือปาดของขุ่นเหลวตรงหน้าด้วยมือเปล่า จับขาของเอชันขึ้นทั้งสองข้าง แล้วใช้นิ้วที่เปื้อนของขุ่นนั้นถูไปที่ร่องก้น เอสะดุ้งร้องเสียงหลงอีกรอบ พี่อำนาจก้มลงไปดูดปากเอ แล้วโถมตัวที่ล่อนจ้อนแทรกไปตรงกลางระหว่างขาของเพื่อนรักผม  มันเร่าร้อน แล้วมันก็หยุดไม่ได้แล้ว  ผมขยับตัวไปชิดกับเพื่อนเลิฟ เอามือลูบเช็ดเหงื่อตามใบหน้ามันออก เสยเส้นผมที่เปียกชื้นให้  มันหายใจแรงหันมามองหน้าผม ตาลอย  ไม่มีอาการตกใจหรือกลัวหลงเหลือ 
พี่อำนาจก้มลงมา ดูดที่ติ่งหูขาว ใช้ลิ้นเลียเข้าไปในซอกหู เอดิ้นพล่านแต่ถูกพี่อำนาจรัดตัวไว้ด้วยแขนที่แน่นด้วยกล้าม พี่อำนาจลงลิ้นรัวจนเอร้องครางออกมาดังลั่นสั่นห้อง

“ผมไม่ไหวแล้ว  ผมไม่ไหวแล้ว”  เอโหยหวน ผมรีบจับหน้าของมันมองมาที่ผม  มันเหมือนจะร้องไห้แต่ยังครงมีรอยยิ้ม
พี่อำนาจแหย่นิ้วที่ชุ่มเจลเข้าไปในตัวมันหนึ่งนิ้ว เสียงโอดโอยดังขึ้นมา พี่อำนาจก้มลงมาโจมตีที่ติ่งหูขวาของเออีกรอบ

“ผมไม่ไหวแล้วพี่ ผมเสียว”
พี่อำนาจแหย่นิ้วเพิ่มอีกนิ้ว เอตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวด จนผมก้มไปจับหน้ามันมามองผมอีกรอบ  มันพยักหน้าส่งสัญญาณว่ายังไหว
พี่อำนาจเอาแก่นกายตัวเองไปจ่อแทนนิ้ว ก้มลงมาดูดปากแล้วขยับไปขยี้ติ่งหูหนักหน่วง กอดรัดตัวเอแน่นไม่ให้ดิ้น หายใจหอบถี่เหมือนคนกำลังหัวใจจะวาย แล้วพี่อำนาจก็พ่นลมร้อนแผ่วจากปากไปที่หูขวนั้น

“ใส่มันเข้ามาพี่ ผมไม่ไหวแล้ว ใส่มันเข้ามาเลย!!”





เอร้องไห้กระซิก อยู่ในอ้อมกอดพี่อำนาจ  ซึ่งให้ผมออกจากห้องไปก่อน ทิ้งไว้ให้พี่อำนาจปลอบคนที่เสียขวัญไม่หยุด

ไม่ครับ.. ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น..

พี่อำนาจแค่แสดงให้เห็นว่า เอได้ยอมจากการปั่นรุกในจุดกระสัน  และเมื่อเอปลดปล่อยสัญญาณว่าอนุญาต พี่อำนาจก็หยุดไม่ทำต่อ เขาแค่ก้มลงไปจูบบนหน้าผากของเพื่อนของผมอย่างแผ่วเบา แล้วกอดไว้อย่างนั้น  เอก็ร้องไห้ไม่หยุด จนผมคิดว่า มันร้องไห้ที่ไม่ได้ทำต่อหรืออะไรยังไง

“พี่บอกแล้ว ว่าพี่จะไม่ล่วงเกินเอนะครับ แม้ว่าพี่จะเกือบทนไม่ไหวแล้ว”

“ฮืออออ ไอ้พี่บ้า ไอ้พี่อำนาจบ้า ฮือออออ  ฮือออออ”

“อย่าร้องนะคนดี เราทั้งคู่ต่างรักนายน้อย เราจะไม่ปล่อยให้เขาไปเจออะไรอย่างนี้ในแบบที่ไม่พร้อม”

“แต่พี่ทำผม ฮือออออ ฮืออออออออ”

“พี่เกือบทำ แต่ไม่ได้ทำสักหน่อย หรืออยากให้ทำนะ”

“ไอ้บ้า ไอ้พี่บ้า ฮืออออออ ฮืออออออ”

“ไม่ร้องนะคนดี  คืนนี้นอนที่นี่นะ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แค่ขอกอดให้เอหายกลัวนะครับ”



แต่จากบทเรียนสุดเร่าร้อนเมื่อกี้มันแสดงให้เห็นว่า แม้ไอ้เอที่ฟันสาวมาทั่ว ไม่เคยเสียเอกราชให้ใครด้านหลัง มันก็พร้อมและยินยอมแต่โดยดีเมื่อพี่อำนาจได้ปลุกกำหนัดมันจนถึงขีดสุด 
นี่เสียงร้องกระซิกของเอก็หายไปแล้ว  ผมล่ะยอมใจพี่อำนาจชิบเป๋ง เจ๋งว่ะ
เลยย่องกลับบ้าน ปล่อยให้เอมันนอนที่นี่ก็แล้วกัน  ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะ บอดี้การ์ดตัวแสบ

จิมมี่.. มึงเตรียมได้เลย กูพร้อมแล้ว

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พร้อมลงสังเวียนแก้ตัวแล้ว~555 :hao7:

ออฟไลน์ xexezero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ NC Wanted

  • NC Wanted
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ DekPed

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตกใจหมดเลยค่ะ 555 
สนุกๆๆ   :o8:

ออฟไลน์ LovelyPenGirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep 11 : ตัวช่วย จากนรกภูมิ


เช้านี้ ผมนัดกับพี่ไผ่ไปเมืองกาญจน์  เอาเข้าจริงผมมาบ่อยมา อกหักก็มา ดีใจก็มา ท้อแท้ก็มา ยิ่งเมื่อตอนไอ้กัสมันทิ้งผมไป เมืองกาญจน์แทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง  ผมชอบแม่น้ำ แล้วก็นอนอาบแดดอันแสนเปรี้ยงรุนแรงจัดของที่นี่ จังหวัดที่ได้ชื่อว่า ร้อนที่สุดของประเทศ
แต่วันนี้ อากาศไม่ร้อนเลย อาจเพราะฤดูกาลของมัน ผมใส่เสื้อยืดขาวกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน บังเอิญตรงกับพี่ไผ่ที่ใส่เสื้อยืดขาว แต่กางเกงขาสั้นเป็นสีเขียว มองไกลๆ ใครไม่รู้คงนึกว่าเป็นชุดคู่ ฟังแล้วจั๊กจี้ นี่มันพี่ชายผมนะ
ตอนแรกจะชวนไอ้เอมา แต่มันคงยังไม่หายเสียขวัญ  ผมนี่สำนึกผิดแทบไม่ทันเลยกับค่ำคืนที่เร่าร้อนวันก่อน พอได้รู้ว่า ไอ้พี่อำนาจนี่มันปีศาจชัดๆ ก็ยิ่งนึกกลัวว่า แล้วจิมมี่นี่มันจะขนาดไหน  เพราะพี่อำนาจมันไม่ได้ฝึกปรือบ่อยแบบไอ้ผู้กองเจ้าเสน่ห์นี่น่ะสิ
พี่ไผ่แวะปั๊มซื้อของกินให้ผมบ่อยมาก ดูเขาก็ไม่ได้ซึมเศร้าอะไรแบบที่หลิวบอก สงสัยเพราะว่า สนุกกับการไม่ได้อยู่บ้านสินะ ทริปสั้นวันเสาร์อาทิตย์นี้ ถือว่ามาเซอร์วิสพี่ชายก็แล้วกัน  พี่โดยสายเลือดก็ไม่มีกับเขา ก็เลยกะจะเอาพี่ของหลิวมาเป็นพี่ชายก็แล้วกัน

“ไม่ได้จองก่อนจะมีห้องไหมเนี่ย”

“มีสิพี่ไผ่ ได้อาร์ต เจ้าของเพื่อนผมเอง มันมีห้องเปล่ากันไว้ฉุกเฉินตลอดแหล่ะ”

“แต่รีสอร์ตเขาดังมากเลยนะ ลำน้ำแควสวยใส ดารามาตรึม”

“ผมก็ดารา ชอบเล่นหนังสด”

“เดี๋ยวเราเล่นโชว์เจ้าของรีสอร์ตดีม๊ะ”

“พี่จะรับผมได้เหรอ ของผมอันเท่านี้”  แล้วผมก็ทำทะเล้น เอาท่อนแขนขึ้นมาชู

“อ้าว เข้าใจผิดมาตั้งนาน นึกว่าน้ำเป็นรับ”

“เห้ยยย พี่อย่าโมเม ผมน่ะ ชายเหนือชาย”

“งั้นไม่เอาด้วยล่ะ กลัว”

“ผมล่อเล่น ใครจะไปทำอะไรพี่ไผ่ครับ ตัวอย่างควาย”

“เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวได้เปลี่ยนจากน้องมาเป็นเมีย”




ระหว่างทาง พี่ไผ่ขับรถ เราก็เปิดเพลงฟังกันไป เป็นอัลบั้มของไมเคิล บูเบล ผมก็นึกถึงเรื่องของจิมมี่ที่วนอยู่ในหัว ว่ามันคุ้มแล้วจริงเหรอที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยง  คือผมน่ะ แค้นไอ้ออกัส แต่ผมก็ไม่ได้แค้นขนาดที่ว่าจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น  เอาเข้าจริงวันนั้นถ้าไม่ได้ริงโทนช่วยชีวิต ผมอาจเคลิ้มจนเสร็จผู้กองไปแล้วก็ได้

“น้ำเคยคิดจะหยุดเที่ยวผู้หญิง เพื่อใครสักคนไหม”

“ผมก็ไม่ใช่เด็กเที่ยวหรอกครับพี่ ถ้าพี่ได้รู้เหตุผล พี่จะเข้าใจผม สักวันผมจะเล่าให้ฟัง”

“เป็นภารกิจที่สนุกดีนะครับ มิชชั่นนี้ น่าอิจฉา”

“แล้วพี่อ่ะ เป็นอะไรไป ซึมจนใครก็เป็นห่วงกันไปทั่วเลย”

“ถึงได้ชวนพี่ทำทีว่ามาถ่ายรูปใช่ไหม”

“แหม่.. รู้ทัน”

“ขอบคุณมากครับ”

“รู้แล้ว ก็ยังอุตส่าห์แกล้งทำเป็นไม่รู้ แล้วมาเที่ยวอ่ะนะ”

“เต็มใจให้หลอก”


ผมค่อยบรรจงหาข้อมูลเกี่ยวกับ S&M ระหว่างทาง เพื่อเป็นการฆ่าเวลาระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตรนี้ เรื่องของความเจ็บปวดบนเตียง มันมีอะไรที่น่าประหลาดและน่ากลัวในคราวเดียวกัน  แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ คือตอนที่ผมเคยโรมรันพันตูกับจิมมี่ให้ห้องนอนเพ็นท์เฮ้าส์ และ กับคลาสหาจุดกระสันที่บ้านพี่อำนาจ ที่ผิวของทั้งคู่ มีรูปเสือเรืองแสงสีเขียว ของพี่อำนาจอยู่ที่หัวไหล่ซ้าย ส่วนของจิมมี่ อยู่ที่ต้นขาขวา  แต่ไม่ทันได้ถามพี่อำนาจ เพราะก็เขินเหมือนกันกับเหตุการณ์วันก่อน มันเกือบจะเป็น ทรีซัม ก็ไม่ปาน แต่ก็เชื่อเจตนาอันบริสุทธิ์ใจของพี่อำนาจว่าเขาเป็นห่วงผมจริง  แต่ตอนที่ผมก้มไปจูบแผงอกแน่นล่ำของเขา กับตอนที่ผมต้องคุกเข่าถอดกางเกงในให้ แล้วลูกชายพี่อำนาจเกือบดีดใส่หน้า ผมนี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ คอแห้งผาด สารภาพว่าตัวเองเกิดอารมณ์อยู่ไม่น้อย  แล้วไอ้เอที่ทั้งโดนขึง โดนถล่มซอกคอติ่งหูซะขนาดนั้น มันจะไปทนไหวได้ยังไง

แต่แล้วผมก็มาสะดุดกับทวิตเตอร์อันนึง ในแฮชแท็ก S&M Thailand  มันเป็นรูปของเงามืด แต่มีสีเขียวเรืองแสงที่ดิสเพลย์ ผมเลยไปกดดูรูปประจำตัว ปรากฏว่า เป็นรอยเรืองแสงในที่มืดของเสือโคร่ง อยู่บนเนื้อต้นขา  มันใช่แน่ มันคือทวิตเตอร์ของผู้กองจิมมี่ !!

“ดูรูปโป๊แต่หัววันเลยนะ” พี่ไผ่โผล่มาทักจากด้านหลังของผม ซึ่งนั่งอยู่ในร้านกาแฟระหว่างทาง

“หาข้อมูลต่างหาก” อายชิบหาย

“มีหนัง มีแส้ หูยยย เล่นแบบนี้เลยเหรอวะน้ำ ผิดคาด”

“ผมบอกว่า ผมหาข้อมูลเฉยๆ” ผมนี่รีบปิดทวิตเตอร์แทบไม่ทัน

“ไม่ใช่ว่า พี่กำลังทวิตอยู่ ไปเจอน้ำในกลุ่ม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ นะ  คงตกใจแย่”

“กลุ่มอะไรนะครับ”

“Yaris X-5 ไง  ที่สุดของ S&M ไทย”



ผมมาถึงห้องพัก ที่วันนี้เต็มไปด้วยกรุ๊ปทัวร์ โดยเฉพาะชาวรัสเซียกับชาวจีน เสียงจอแจบนทางเดิน ซึ่งรีสอร์ตพัฒนาขึ้นมาจากที่ผมเคยมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทางเข้าปลูกต้นไม้หลากสีแทนของเดิมที่เริ่มเหี่ยวเฉา  ปูกระเบื้องตันหนอนใหม่ในสนามหญ้าเป็นอักษรยินดีต้อนรับ  พุ่มไม้เป็นรูปสัตว์  ห้องอาหารมีของฝากและผลิตภัณฑ์แสนขายดีเช่น มะม่วง และมะพร้าว   
เจ้าของซึ่งคุ้นเคยกันดี วันนี้อยู่ด้วย เจ้าของก็จัดที่พักโซนวีไอพี เป็นแพหรูยื่นอยู่กลางแม่น้ำแควน้อย ณ เวิ้งที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของย่านวังนกแก้ว อำเภอไทรโยค  ลำน้ำไหลไม่แรง แต่มันใสเขียวจนอยากจะแหวกว่าย มีสระว่ายน้ำที่ฝังตัวอยู่กลางแม่น้ำ ทำให้สีฟ้าของน้ำในสระ ตัดกับสีเขียวของแม่น้ำอย่างเห็นได้ชัด  ระเบียงดูดาวที่คืนนี้ผมคงจับจอง  กับชิงช้าไม้ตรงหน้าห้องพักบนแพที่ไกลจากเวิ้งห้องนักท่องเที่ยว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มีพี่อำนาจอยู่ปลายสาย “นายน้อย ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมของคนที่สามแล้ว”

“คนที่สองยังทำไม่สำเร็จเลยพี่ ท้อแล้วว่ะ”

“อย่าเพิ่งท้อสิ ไม่ได้อะไรจากบทเรียนวันก่อนเลยหรือไง”

“ก็เจอบทเรียนฮาร์ดคอร์พี่เข้าไป ผมน่ะท้อเลย”

“แล้วเอเป็นไงบ้าง”

“อ้าว นึกว่า คุยอยู่กับพี่อำนาจ”

“เปล่านะ หายไปเลย ไลน์ไปมีรอยอ่าน แต่ไม่ตอบ ไม่กล้าโทรไปอ่ะนายน้อย ช่วยหน่อยสิ”

“ทำอะไรไว้ ก็หาทางออกเอาเองเลย น่าขนลุกชะมัดเลยพี่เนี่ย”

“ผมก็ยังขนลุกไม่หาย ที่นายน้อยจะขอจูบของผมอ่ะ ขนลุกชะมัด”

“ไอ้พี่บ้า  ไอ้คนเลว”



กุ้งแม้น้ำตัวใหญ่เห็นว่า เอามาจาก  ทะวาย ทางพม่า กับปลาแม่น้ำตัวโต  มีอาร์ต ผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ต มานั่งร่วมวงด้วย ชุดอาหารวีไอพีของเรา จัดแยกออกมาเสิร์ฟตรงระเบียงดาว ที่ยื่นออกไปกลางแม่น้ำ  แต่เรายังคงมองเห็นห้องอาหารที่เนืองแน่นไปด้วย บุฟเฟต์ทัวร์จีน กับทัวร์รัสเซีย

“คนเยอะอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอครับ” พี่ไผ่เป็นผู้เริ่มวงสนทนา เมื่อเห็นผมได้แต่กินเอากินเอา หลังจากอดอาหารมาหลายเดือนเพื่อให้ร่างกายเข้าที่ แต่จากคลาสของพี่อำนาจวันก่อน เหมือนผมจะเสียพลังกายไปเยอะ

“ก็ตั้งแต่ได้ ทัวร์จีน ทัวร์รัสเซียมาอุ้มชู ก็ไม่เดือดร้อนแล้วครับพี่ไผ่ คนไทย ได้แค่วันหยุด ถ้าเจอช่วงเปิดเทอมคนตังหมด ก็หายกันไปเลย หรือถ้าใกล้วันหยุดยาว ก็จะลูกค้าเต็ม แต่ได้ทัวร์จีน ทัวร์รัสเซีย มาเที่ยวไทรโยค ทำให้กระจายวันท่องเที่ยวกัน  กลางสัปดาห์ก็คนเยอะ เราเลือกใช้กำลังคนได้ถูก ไม่อัดกันวันหยุดอย่างเดียว”

“ดีจัง เวิ้งน้ำก็สวยมาก คนบอกต่อกัน ถ่ายรูปลงโซเชียลจนดังมากเลย น่ายินดีแทน”

“ขอบคุณครับ  อย่างไรก็ เต็มที่กันนะครับ ขอตัวไปดูแลแขก   ขาดเหลืออะไรบอกนะน้ำ  ไม่ได้คุยเท่าไหร่เลย ไว้แวะไปหาที่ กรุงเทพแล้วกัน แต่เจอกันคราวหน้า ต้องทักมานะเว้ย จำหน้าไม่ได้ เปลี่ยนเยอะเกิ๊น”

“เอาเลยอาร์ต แต่ไว้ไป เอากุ้งทะวายไปฝากเราด้วยนะโว้ย อร่อยว่ะ” ผมที่กุ้งเต็มปาก โบกมือให้เจ้าของรีสอร์ตไปดูแลแขก
พี่ไผ่ แกะปลาให้ใส่จานให้ผม แล้วจับปลาพลิก ก่อนจะเลาะเนื้อปลาคังจนเหลือแต่ก้าง  “ปลาคังนี่ต้องเมืองกาญจน์เนอะ”

“ผมไม่ชอบกิน มันเหมือนงูอ่ะ”

“อ้าว นึกว่าชอบงู เมื่อกี้ยังเห็นนังดูทวิต งูเต็มไปหมดเลย”

“ก็บอกว่า หาข้อมูลอยู่!!”



Yaris X-5
กลุ่มของเขาในทวิตเตอร์มีผู้ติดตามจำนวนมาก ในคลับของเขา เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์หุ่นดีมากหลายคน ตัวหลักหนึ่งคน แล้วก็มีเพื่อนเขาอีกสี่คน รวมกับเป็นห้าคนคล้ายขบวนการจูเรนเจอร์  เพียงแต่ชุดทุกคนมันไม่ใช่ 5 สี แต่เป็นเครื่องหนังสีดำกันหมด เขาเปลี่ยนสถานที่ประกอบกิจกามไปยังที่ต่างๆ แต่ก็จะมีห้องหลักที่ตกแต่งไว้โมเดิร์น หรูหรา ไม่น่ากลัวอย่างที่ผมคิดไว้ตอนแรก
ในทุกโพสต์ จะแสดงแขกรับเชิญ ที่พวกเขาเรียกตัวมาจากกลุ่มแฟนคลับ เพื่อมาแสดงการมีเซ็กซ์แนว S&M แม้ว่า บางโพสต์ก็ไม่ได้ S&M เท่าไหร่ แต่ความที่พวกเขาใส่หน้ากากหนังสีดำ มันเลยทำให้บรรยากาศดูแล้วมีความดุเดือดอยู่ไม่น้อย แขกรับเชิญจะได้รับการบรรยายสรรพคุณ มักเป็นฝ่ายรับ โดยมีแก๊ง ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ เป็นฝ่ายรุก พวกเขาจะแสดงความรุนแรงเข้าใส่ โดยแขกรับเชิญก็จะโดนกระทำแต่เปี่ยมไปด้วยความสุข 
คนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไป มีทั้งลูกครึ่ง นายแบบ ไปจนถึงดารา หรือถ้าเป็นธรรมดา ก็มักจะเป็นคนที่มีความพรีเมี่ยมอยู่ในตัว ผิวพรรณสะอาด รูปร่างดีเยี่ยม ไม่ออกสาว และที่สำคัญ จะต้องเป็นคนที่มีความสุขกับการโดนทารุณกรรมทางเพศ
ผมเห็นแทบทุกโพสต์ จะมีทวิตเตอร์ของ นาย SplashHIT  มาแสดงความเห็นเสมอ  นายสแปชฮิต นี่เอง ผมสันนิษฐานว่าต้องเป็นผู้กองจิมมี่อย่างแน่นอน

“หมกมุ่นจริงด้วยเว้ยเฮ้ย” ไอ้พี่แมร่งมาได้จังหวะทุกทีสิน่า ผมต้องรีบลุกจากเตียงปิดแอ๊พทวิตเตอร์ทันที

“ก็บอกแล้วว่า..”

“หาข้อมูล”

“อืม”

“โอเค หวังว่าจะไม่ปฏิบัติตามนะ ทั้งแส้ ทั้งโซ่ โหย น่ากลัวอ่ะ”

“จะนอนเลยไหมเนี่ย ทำไมหน้าแดงๆ อย่าบอกนะว่า กระดกไวน์ที่ให้อาร์ตเอามาให้จนหมดเลยน่ะ”

“ก็มันอาหย่อย”

“ไหนว่ารสแปลกๆ”

“กินไปกินมาอาหย่อยยย  ไวน์มะเม่า ของดีประจำตำบล”

“เมาก็เข้ามานอนสิ”

“ไปนั่งเล่นที่ระเบียงดาวกัน นะๆๆๆ น้องรัก”


หลังจากวันนี้ที่เราแวะถ่ายรูปกันมาตลอดทาง พี่ไผ่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเอ็นดูสุดขีด แต่มาเสียหมาตอนเมานี่แหล่ะวะ ทำไมทำตัวเหมือนเด็กจัง ผมหอบร่างเพลียอีกทั้งอิ่มจัดไปนั่งเป็นเพื่อน  อาร์ตให้เด็กมาปูฟูกกับหมอนอิงที่ระเบียง ซึ่งยื่นออกมากลางแม่น้ำที่เหมือนจะไหลเชี่ยวขึ้น  ได้ข่าวว่ากลางคืน เขื่อนจะปล่อยน้ำ ทางรีสอร์ตก็เตือนว่าไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำยามวิกาล  เจ้าของรีสอร์ตเตรียมไวน์มะเม่าไว้ให้อีกขวด แน่นอนว่า พี่ไผ่รบเร้าให้ผมดื่มเป็นเพื่อน  พอดีกัน กล้ามที่เล่นมาเจอแอลกอฮอล์เข้าไปก็หายหมด ดีนะเป็นไวน์ ถ้าเป็นเบียร์กับเหล้านี่ผมพยายามไม่แตะเลย

“ดาวสวยจังเลยครับน้ำ” พี่ไผ่นอนหนุนตักผม ดูท้องฟ้าที่มันก็สวยเหลือเชื่อนั่นแหล่ะ ฟ้ามืด แต่ดาวกระจายอย่างกับผ้าซาตินสีดำมีรูพรุนจากแสง  ระยับระยับเต็มไปหมด

“พี่มีอะไรที่คับข้องใจจะเล่าให้ผมฟังไหมพี่ไผ่ ผมพร้อมฟังนะ”

“เล่าไม่ได้.. เล่าให้ฟังไม่ได้”

“คนเราต้องระบายออกมาบ้างนะพี่ เก็บไว้คนเดียวมันจะอึดอัด”

“พี่ไม่มีเพื่อนเท่าไหร่ พี่อาภัพเพื่อน”

“เห็นหลิวเล่า ใครก็อยากมาสนิทกับพี่ พี่มันไม่เปิดใจเอง ลูกท่านหลานเธอ คนรวยๆ ทั้งนั้นอยากมาสนิทกับพี่น้องคู่นี้ บ้านบดินทร์เตชานนท์ มันหอมหวนไม่รู้เหรอ”

“หึ”

“หรือไม่จริง”

“ก็จริง”

“แล้วจะทำตัวอินดี้ ไม่สุงสิง ไม่คบหากับใครทำไม  อีกหน่อยพี่ทำธุรกิจแทนพ่อพี่ มันก็ต้องมีคอนเน็คชั่นป่าววะ”

“ก็ใช่”

“ไหนจะต้องเข้าสังคม พาครอบครัวออกงาน เป็นหน้าเป็นตาให้ที่บ้าน มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง สืบทอดกิจการ”
แล้วพี่ไผ่ก็สะอื้น  เชี่ยแล้ว ผมพูดอะไรผิดหูเขาไป  เขาเอียงหน้ามาทางหน้าท้องผม แล้วโอบกอดผมไว้ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ก็เลยได้แต่เอามือลูบหัวเขาเบาๆ  ผมคงไปจี้ต่อมอะไรของไอ้พี่มันน่ะ ก็คงทำได้แค่อยู่เป็นเพื่อน ลูบไล้เส้นผมเขาให้เหมือนลูบหัวแมวน่าจะเป็นทางออก  คนอะไรผมนุ่มชะมัด หมักด้วยอะไรวะ  ร้องไห้ยังหล่อ  ไอ้ขี้แยเอ๋ย ถ้ามึงล้อเลียนอะไรกู กูจะขุดเรื่องคืนนี้มาแฉ เอาสิ
สักพัก พี่เขาก็หยุดไป ลุกขึ้นมานั่งข้างผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คว้าไวน์มาดื่มต่อ ผมรีบไปแย่งแก้วจากมือ

“พอได้แล้ว ไอ้ยักษ์ขี้แย”  พอแซวเขา เขาก็หันดวงตาที่บวมแดงนั้นมามองผม อมยิ้ม ก่อนจะหันขึ้นไปมองท้องฟ้าที่ดำมืดอีกรอบ

“เหมือนวัยเยาว์มันคงต้องสิ้นสุดวันนี้พรุ่งนี้แล้วจริงเหรอน้ำ”

“จริงสิพี่ พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นอีกเหรอ มันถึงเวลาที่พี่จะต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วครับ”

“พี่ยังไม่ได้ใช้ชิวิตวัยรุ่นเท่าไหร่เลย”

“ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตสุดกู่ แล้วจะเรียกว่ามีความสุขหรอกครับพี่  คนที่เขาใช้ชีวิตไปวันๆ มันก็มีความสุขได้ อย่าไปดูมันมาก พวกหนังฮอลลิวู้ด มันล้างสมองพี่ ทำทุกวันให้มันดี มันก็มีความสุขได้เอง”

“เก่งจังเลย น้ำเนี่ย”

“ปากดีเวลาสอนคนอื่น ผมน่ะ”

“ปากอันนี้น่ะเหรอ” พี่ไผ่เอื้อมนิ้วหัวแม่มือมาไล้ที่ริมฝีปากผมเบาๆ  แล้วก็เอาหัวแม่มีตัวเองไปชิม มันเป็นพิธีกรรมอะไรของนักเรียนนอกใช่ไหม

“ผมว่าเราควรเข้านอนได้แล้..”  แล้วลมหายใจผมก็แทบหยุดเพ่นพ่าน เมื่อหน้าของพี่ไผ่มาแนบชิด แล้วบรรจงจูบลงมาที่ปากผมอย่างแผ่วเบา เขาชักหน้าถอยออกไปนิดนึง สูดลมหายใจเข้าเต็มแรง แล้วเอื้อมหน้ามาจูบผมอีกรอบ คราวนี้มันช่างยาวนานใต้แสงจันทร์นั้น แล้วความทรงจำผมก็เลือนไปใต้หมู่ดาว



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมตื่นมารับ ตาที่ลืมขึ้นพบว่า มันน่าจะเป็นแสงสีทองของวันใหม่ที่ลอดผ้าม่านเข้ามา เตียงเราใหญ่ แต่ร่องรอยของอีกฟากมันยับยู่ยี่พอกับฟากของผม เพียงแต่เจ้าตัวเขาไม่อยู่แล้ว

“ครับพี่”

“นายน้อย ผมติดต่อกับ ทีมยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ ได้แล้ว”

“พวกเขาว่ายังไงบ้าง”

“ก็ยากมากครับนายน้อย เขาไม่สนเงินทอง ทุกอย่างเพื่อความสนุก”

“อ้าว แล้วจะทำยังไงเพื่อล่อผู้กองจิมมี่ออกมาล่ะ”

“ผมยื่นขอเสนอพิเศษ แต่มันก็เสี่ยงกับงานของผมไม่น้อย”

“ถ้าเรื่องถึงพ่อ ผมเคลียร์ให้เอง”

“ผมเสนอจะลบหน้ามูลใบหน้าจริงของพวกเขาที่ปลิวว่อนในโลกโซเชียลให้หมดไป”



เมื่อเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น ผมก็หอบสังขารที่อ่อนเพลียไปสูดอากาศข้างนอก แม้จะเป็นจังหวัดที่ร้อนจัด แต่ตอนเช้าและตอนค่ำ มันก็เย็นเอาเรื่องแฮะ  ผมเห็นพี่ไผ่ นั่งใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มองดูลำน้ำที่ไหลเอื่อยอีกครั้งหลังจากเขื่อนได้กักน้ำในตอนเช้า  ผมเอาผ้าห่มของห้องออกไปด้วย เพื่อห่อสังขารตัวเองที่ดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตายับเยินเพราะไม่ได้ทาครีม  ผมทิ้งตัวลงไปนั่งข้างพี่ไผ่  เหมือนพี่เขาจะไม่ได้มองมาทางผม  คงเขินหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อคืน

เปล่าครับ เขาไม่ได้ย่ำยีอะไรผมสักหน่อย  หลังจากจูบนั้น มันก็ไม่มีอะไร แค่มองตากับสักสิบวินาทีได้ แต่มันเป็นอึดใจที่ยาวนานไปเหมือนชั่วกัปกัลป์
ผมเอียงหัวของตัวเองไปซบที่ไหล่เขา หวังว่าจะให้เขาผ่อนคลาย ผมรู้ว่าเขาเมา แล้วเขาก็กุ้มใจ ผมไม่ถือสา แต่หัวใจผมมันก็เต้นแรงมากไม่น้อยเมื่อคืนนี้ ใจก็หล่นวูบที่มันเกิดขึ้น ผมพยายามบอกกับตัวเองว่า ผมคิดกับเขาเป็นพี่ชาย แล้วตอนนี้ผมมีเป้าหมายที่ต้องบรรลุ มันคงจะมีอะไรมาหยุดยั้งในช่วงนี้ไม่ได้เป็นแน่

“หิวยังพี่ไผ่”

“ยังครับ กำลังทำตัวเองให้สร่างเมา”

“ด้วยการมานั่งดูน้ำดูปลาเนี่ยนะ”

“ปลามันก็อยู่ของมันสิ พี่มานั่งดูน้ำ”

“ดูทำไมล่ะน้ำ”

“ก็พี่ชอบน้ำ.. ไม่รู้เหรอ”  ให้ตายสิ เขาคงไม่ได้หมายถึงแม่น้ำแควน้อยที่สวยเหลือเกินตรงหน้า



หลังจากอาบน้ำเหมือนไม่ได้มีสถานการณ์อะไรที่มันดีขึ้นเท่าไหร่ เราเช็คเอ้าท์ขับรถออกกันมา แวะปั๊มน้ำมันบ้าง แวะร้านของฝากไปให้พวกหลิวบ้าง  แต่ก็แทบไม่ได้คุยกัน  เหมือนเราสนทนากันผ่านเพลงของ นอร่าห์ โจนส์  สลับกับ อเดล  แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะเห็นพ้องกันไปทุกเนื้อหาหรอก มีบางเพลงผมก็กดข้าง แล้วก็มีบางเพลงที่พี่เขาก็ฟังซ้ำไปมา

“พี่หมายความอย่างที่พี่พูดนะ”  ผมอุตส่าห์ไม่รื้อฟื้นแล้วนะ

“ที่พี่เครียดมาเป็นอาทิตย์ คือเรื่องนี้เหรอ”

“มันก็เรื่องตัวพี่เองด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องตอบคำถามตัวเรามากมาย”  ผมเข้าใจ เขาเป็นคนหนุ่ม คนหล่อ คนฮอต ที่ใครก็คาดหวัง  ถ้าเผลอใจให้ผู้ชาย มันคงเป็นอะไรที่ช็อคคนรอบข้างอยู่ไม่น้อย  แต่ไม่ได้ช็อคผมเท่าไหร่  เพราะลึกแล้ว ผมกับพี่ไผ่ ก็รู้ลึกในใจว่า ถ้าผมกับเขาจะแอบมีใจให้กันมันก็ไม่แปลก  แต่ที่ผ่านมา ผมไปนึกเอาเองว่า หัวใจที่ร้องหา มันคือคำว่าพี่ชายกับน้องชาย แต่ไม่น่าจะใช่แล้วล่ะ..  โจทย์ถูกตอบด้วยรอยจุมพิตเมื่อคืน  มันไม่ได้เร้าร่อนแบบจะกระชากกันขึ้นไปที่เตียงอ่อนนุ่ม  หรือไม่ได้เอื่อยเฉื่อยแบบไม่มีไฟ  แต่มันร้อนรุ่มอยู่บนริมฝีปากคู่นั้น  เพียงแต่พี่ครับ.. นาทีนี้ ผมยังให้พี่มากกว่านี้ไม่ได้  ผมกำลังมีเรื่องที่จะต้องทำรอผมอยู่   

ผมมองเขาขับรถออกไป  ผมก็ยืนเต๊ะท่าอยู่ตรงนั้น เผื่อเขาจะมองลอดกระจกหลังผม  ที่ผ่านมาผมชอบทำตัวให้ดูดีต่อหน้าเขา แต่ก็เผลอเป็นตัวเองที่เด๋อด๋าก๋ากั่น ซึ่งผมไม่ค่อยกล้าแสดงแบบนี้ต่อหน้าใคร  ไหนจะมีเขามาคอยปกป้อง
พี่ไผ่เลือกที่จะห่างไป เมื่อหลิวไปเล่าให้ฟังว่าผมมีแฟน  แถมเป็นผู้ชาย  เขาก็ไม่ได้ติดต่อผมอีกเลย  ตอนแรกผมก็คิดไปว่า เขาคงมีเพื่อนดีที่เมืองนอก ผมก็คิดถึงพี่ไผ่อยู่บ่อยครั้ง แค่ที่ผ่านมานึกไปเองว่า มันน่าจะแบบน้องคิดถึงพี่แหล่ะน่า

ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ตั้งใจจะงีบอีกสักหน่อย ก่อนจะตื่นมาทบทวนหนังสือสำหรับวันเรียนพรุ่งนี้ แต่ผมก็ข่มตาหลับลงไม่ได้  ผมเอามือมาลูบคลำที่ริมฝีปากตัวเองอยู่บ่อยครั้ง  คงเพราะอากาศมันเย็นหรือเปล่า หรือเพราะผมลืมทาลิปมัน  แต่ทำไมทุกทีที่มองไฟบนฝ้าเพดาน หน้าของใครบางคนต้องลอยมาทุกทีเลย




“นายน้อยๆๆ”

“อารายยยยยย”

“โทรหาน้องเอให้หน่อยสิ  ให้รับสายผมด้วย”

“โอ๊ยยย มันไม่โกรธอะไรพี่หรอก มันคงแค่ขวัญหนีดีฝ่อน่ะ”

“น้องเขาจะเกลียดผมไหม”

“จะเกลียดทำไมล่ะไอ้พี่ มันครางซะเสียงหลงขนาดนั้น คงยังไม่กลับจากสวรรค์ล่ะมั๊ง”

“นายน้อยอย่าพูดเล่นสิครับ”

“พี่ ผมว่า ผมควรจะหยุดไหม”

“ถ้านายน้อยคิดว่า นายน้อยดีขึ้นแล้ว ลืมความแค้นในใจได้แล้ว ก็จงหยุดเถิด มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”

“แล้วถ้าผมยังอยากจะภารกิจนี้ให้สำเร็จล่ะ พี่ว่าผมจะดูเลวไหม”

“นายน้อยช้ำมามาก ไม่มีใครต่อว่านายน้อยหรอกครับ แค่อยากให้ถามหัวใจตัวเองให้ดี ว่ามันควรหยุดไหม”

“ผมอยากทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ พี่ช่วยผมหน่อย ผมจะมีชัยเหนือ ผู้กองจิมมี่ ให้จงได้”

“ผมจะเอาใจช่วยนะนายน้อย แต่ตอนนี้ โทรหาน้องเอให้ผมหน่อยสิ”




คลาสเรียนเช้า ไอ้เอไม่มาแฮะ เดาว่ายังไม่กลับจากสวรรค์จริงๆด้วย  เมื่อคืนผมก็ไม่ได้โทรหามันตามที่บอดี้การ์ดตัวแสบขอร้องหรอก อยากทรมานพี่อำนาจอีกเล็กน้อย สงสัยผมติดนิสัย S&M มาเข้าแล้ว ดูทวิตเตอร์มากเกินไปแล้วสิไอ้น้ำ
คือพี่อำนาจดูเปลี่ยนไปเชียว  ผมก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะหาทางพาเอมาร่วมวงไพบูลย์แบบไม่มีแผนการหรอกนะ มันร้ายจะตายไอ้พี่อำนาจเนี่ย 
ผมว่ามันทะแม่งตั้งแต่วันแรกที่พี่เขาเจอไอ้เอแล้ว ทั้งที่เขาชอบทำหน้าดุใส่ทุกคนที่มาเกาะแกะผม แต่กับไอ้เอ เขามักมีแต่รอยยิ้มให้เสมอ  จนช่วงมอปลายที่ไอ้เอควงสาวไม่ซ้ำหน้าตั้งแต่มันถอดเหล็กดัดฟันออก พี่อำนาจก็ไม่ได้มาดูแลเราเท่าไหร่ อีกทั้งยังยุ่งกับเรื่องพ่อของผมที่มักมีอันตรายจากอิทธิพลทางการเมือง  พี่อำนาจกลับมามีบทบาทในชีวิตพวกเราอีกครั้งก็ตอนเข้า มหาวิทยาลัย เหมือนพ่อส่งเขามาคอยคุมพฤติกรรมพวกเรา
แต่แล้ว เรื่องในคืนก่อน ผมว่ามันน่าจะเฉลยเรื่องราวทั้งหมด ผมถึงว่า พี่อำนาจมันร้าย มันเอาผมเป็นข้ออ้างเข้าหาไอ้เอ ไม่รู้ว่า ไอ้ผู้กองจิมมี่มันแสบ หรือพี่อำนาจที่แสบกว่า



ผมมารอ ตัวแทนของกลุ่ม Yaris X-5 ที่ห้างสรรพสินค้า ผมเลยแกล้งส่งข้อความไปชวนไอ้เอให้ออกมาเป็นเพื่อน มันก็ยอมออกมาแต่โดยดี สารรูปนี่ดูไม่ได้ เหมือนเดินออกมาจากหมู่บ้านพรหมพิราม เช็ด ไอ้เพื่อนเกลอ กูขอโทษที่การ์ดพ่อกูทำให้มึงเป็นแบบนี้  เรานัดเจอกันในร้านเบเกอรี่ฝรั่งเศส ซึ่งแทบไม่ค่อยมีคน เพราะเป็นร้านที่ขายขนมราคาสูงมาก

“กูขอโทษ”

“หยุด”

“กูไม่คิดว่า”

“หยุด”

“พี่อำนา..”

“หยุด เราจะไม่พูดอะไรกันเรื่องวันนั้นอีก  เดี๋ยวมึงพากูไปตีหม้อ เอาเกรดแบบเด็กป๋าชูวิทย์ แล้วกูจะถือว่า หายกัน”

“คนเดียวพอเหรอ”

“สิบคน”

“เฮ้ย”

“ทีละคนเว้ย  แต่ว่า สิบคน  ก็จะชดเชยเรื่องวันก่อนได้”

“แค่มึงขอ กูมีเหรอจะไม่ให้ มึงเพื่อนรักกูนะเว้ย  ขอกอดที”

“เอามือมึงออกจากตัวกู  อย่าคิดนะ ว่ากูจะไม่จำ ว่ามึงทำอะไรกูบ้าง”

“อารมณ์มันพาไป ไอ้เชี่ย  พี่อำนาจแม่ง น่าจะมีสาริกาลิ้นทอง สั่งอะไรกูทำหมด”

“กูก็ด้วย ไม่เห็นเหรอ ไม่เป็นตัวเองเลย สัส”



ชายวัยสามสิบกลาง หน้าตาดี รูปร่างสัดทัน ตัวเล็กกว่าที่เห็นในทวิตเตอร์ แต่วิธีเดินตรงมายังโต๊ะเรา ผมจำได้ทันที เพราะเผมเห็นเขาเดินละม่อมขึ้นเตียงด้วยท่านี้เลย  ต่างตรงวันนี้เขาไม่ได้สวมหน้ากาก เผยใบหน้าอันหล่อเหลาอยู่ไม่น้อย

“สวัสดีครับ คุณปิกาจู้บอย”  ตัวแทนกลุ่ม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ เอ่ยทักทาย พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ไปนั่ง

“นั่นชื่อมึงเหรอวะไอ้น้ำ”

“ทีมึงยังชื่อ คุณหลวงแปดนิ้ว ได้เลย  เอาจริงๆ มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นป๊ะ”

“สัส”

“พวกคุณนี่สนิทกันดี หน้าตาดีกันทั้งคู่เลย ไม่สนมาเป็นแขกรับเชิญผมเหรอ”

“คุณยารีส”

“เรียกผมว่า กร”

“คุณกร  คือแผนของผมนะ ผมจะให้คุณชักชวนคนหนึ่ง ไปเป็นแขกรับเชิญ  และแน่นอนว่า ผมจะตามไปในสถานที่นั้นด้วย” ผมแจงให้เขาฟัง

“คุณน่ารักดีครับ หล่อ หุ่นดี ผมก็อยากกับคุณอยู่นะครับ”

“เฮ้ย คุณกร ไม่ใช่อย่างนั้น  ผมอยากให้เชิญแฟนคลับที่เหนียวแน่นของคุณคนหนึ่งไป”

“คนจะเข้าไปเป็นแขกรับเชิญได้ ต้องพรีเมี่ยมนะครับ ทีมผมมีชื่อเสียงที่สะสมมา”

“เขาคนนี้ พรีเมี่ยมไม่แพ้ใครในแขกที่คุณเชิญมา และผมรับประกันว่าเขาเด็ดมาก”

“เป็นรุกหรือเป็นรับ หรือเป็น โบท ครับ”

“เป็นรุก ออริจินัล ครับคุณกร”

“ผมมีคนในทีม ที่รับได้ ผมเองก็รับได้ ถ้าเขาเด็ดอย่างที่ว่า”

“เปล่าครับ ที่เรียกมาคุยวันนี้ ก็เรื่องนี้แหล่ะ จะทำความเข้าใจตรงกัน”

“ยังไงครับ”

“พี่กร ต้องโปรยเสน่ห์ของพี่ให้เต็มที่ ..ในแบบที่เขาคนนี้ฝันถึง”

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แผนเป็นยังไงบอกเราหน่อย เราอยากรู้~555 :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ SocialMovement

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แก๊ง X5 คือ ที่สุด ขรรมก๊าก 

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ทำไมใครๆต่างก็รุมรักออกัส
มันน่ารักน่าเอาขนาดนั้นเลยเหรอ

อิจฉาเลย..หุหุ

ออฟไลน์ LovelyPenGirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เกลียดความ X5 .จังเลย ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ TofuChan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Prep 12 :  คุณ.. ผม.. เขา..  ทั้ง 7 คน

คุณกร แห่ง ยารีส เอ็กซ์ไฟว์ ส่งข้อความที่เชิญชวนผู้กองจิมมี่ผ่านข้อความส่วนตัว ดูเขาตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ ถึงกับไม่เป็นอันกินอันนอน ส่งรูปตัวเองในอิริยาบถต่างๆมาทุกชั่วโมง
Yairs X-5 เคยอยากชวนจิมมี่เข้ามาเป็นแขกรับเชิญเหมือนกัน แต่เท่าที่แอบเช็คว่าเจ้าของแอคเคาท์ splashHIT นั้นไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม #ตำรวจด้านมืด และ #ตำรวจหรรษา  พวกเขาก็ไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง  แม้ว่าจิมมี่จะกดรีทวิตและเข้ามาคอมเม้นต์ตอบทวิตเตอร์ในทุกโพสต์ แต่พวกเขาเลือกที่จะเมินเฉย ไม่ยุ่งด้วย  พอผมยื่นข้อเสนอและการันตีความปลอดภัย กลุ่มก็ยินดี  เพราะรูปโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ของจิมมี่ แม้ไม่เห็นหน้า แต่หุ่นนั้นแซบเหลือรับประทาน

“ปุกาศ  ปุกาศ จาก Yaris X-5”
อาทิตย์หน้า เชิญพี่น้องท้องชนกันทั้งหลาย มาร่วมชม Live สด 
เรามีของดี ของเด็ด มาให้พวกท่านได้น้ำลายไหล
กับสามหนุ่มที่เจ๋งที่สุดของปี รับรองได้ว่า ท่านต้องเสียน้ำ[ลาย] ให้กับการไลฟ์ของเรา
แห่กันเข้ามา ถอดกางเกงทิ้งไป วางตัวเองลงบนเตียงที่อ่อนนุ่ม
ชาร์จแบตโทรศัพท์ให้เต็ม บีบโลชั่นกันถลอกไว้ในมือ แล้วมาสนุกกัน
ขอบคุณสปอนเซอร์หลัก ถุงยางอนามัยมิโดริ เหนียว ทน ทุกศึกหนัก  และ ป๊อบเปอร์ลอนดอน เคลิ้มเยิ้มทุกสรวงสวรรค์
แล้วที่สำคัญ สถานที่ถ่ายทอดสด ห้องสุพรีม ชั้นบนสุดบนตึก ของโรงแรมดัง อภินันทนาการจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

กลุ่มเขาคนตามเยอะจริง อะไรจริง  แค่คุณกรทวิตข้อความออกไป คนกดหัวใจหลักหมื่น รีทวิตไม่ต้องพูดถึง ปั่นป่วนไปทั้งทวิตเตอร์จนติดเทรนด์ มีผู้คนเข้าไปรอคอยแสดงความเห็นจำนวนมาก หลายคนที่รูปโปรไฟล์โชว์เรือนร่างเซ็กซี่ ต่างเข้าไปแสดงความเห็น อยากจะมีส่วนร่วม และอยากได้รับเชิญบ้าง  ผมรีบกดเข้าไปดู ทวิตเตอร์ของจิมมี่ ว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง  ไม่มีอะไรปรากฏ 
ผมจึงกลับไปที่ เฟซบุ้คของเขา ซึ่งเป็นเฟซบุ้คใช้ทำงานด้วยรูปจริงในชุดเครื่องแบบตำรวจ จึงมีผู้ติดตามเป็นสาวน้อยใหญ่มหาศาล  “ฝันของผมกำลังจะเป็นจริง ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง” แล้วก็มีคนเข้ามาสอบถามมากมาย ว่าได้เลื่อนตำแหน่งหรืออะไร แต่เขาไม่ได้ตอบกลับตามประสาผู้กองเจ้าเสน่ห์ที่ใครก็จับตา
ผมมั่นใจว่า เขาทุ่มสุดตัวเพื่องานนี่แน่นอน  ผมเองก็เตรียมความพร้อมอดอาหาร นอนให้พอ พร้อมฟิตร่างกาย เพราะศึกครั้งนี้ มันใหญ่หลวงนัก แล้วแถมจะต้องถ่ายทอดสดด้วย มันกดดัน ถ้าพลาดมีอับอาย ถึงแม้จะใช้เครื่องแบบหน้ากากหนังสีดำพลางอยู่ แต่ผมคงหลบซ่อนความอัปยศไม่ได้ ถ้าผมไม่สามารถพิชิตภารกิจนี้

วันนี้ผมเข้าห้องสมุดช่วงบ่ายเพื่ออ่านหนังสือ แม้ผมมีเวลาให้การเรียนน้อยลง แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมฉลาดขึ้น อาจเพราะผมไม่ไปเสียเวลาคร่ำครวญกับความเสียใจตอนเลิกรากับออกัส เหมือนกับหลายเดือนก่อน กระนั้นผมกลับมีช่วงเวลาสนุกมากขึ้น ไหนจะออกเที่ยวกับไอ้เอ ทะลึ่งตึงตังตามประสาผู้ชาย  ได้ลดอีโก้ตัวเองมาพึ่งพาเรื่องเรียนจากหลิวและตูน สนิทกับพี่อำนาจมากขึ้นหลังจากผมกำหรรมเขาไปแล้ว ได้รู้จักน้องกันต์แสนน่ารักที่แม้ตอนนี้ไอ้ออกัสจะเอาน้องเขากลับไปใกล้ชิดแล้ว  แถมยังมีผู้กองเจ้าเล่ห์ให้ผมได้วีดีโอคอลแบบเปลือยเปล่าสำเร็จโทษกันบ่อยครั้ง ชีวิตผมก็มีสีสันดีแฮะ และอาทิตย์หน้ามันจะถึงขีดสุด เพราะผมจะเป็นแขกรับเชิญใน ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ อันแสนโด่งดัง  พิชิตผู้กองเจ้าเสน่ห์คาเตียงให้ธารกำนัลได้ยล โปรดจงมั่นใจว่าออกัสจะดูเทปบันทึกนั้นด้วยตาเปล่า
แต่ที่ผมชักแม่น้ำทั้งห้ามาเข้าหัว เพราะท่ามกลางชีวิตหรรษาเหล่านี้ ผมลืมเรื่องหนึ่งไปไม่ได้เลย..  รอยจูบของพี่ไผ่




“ตูน เราอยากได้ รูปโมเดล กบต้ม วิชาวิเคราะห์ผู้รับสารจังเลย” หลิวทำเสียงออดอ้อน

“ถ่ายเอกสารไว้ให้แล้ว ก็หลิวน่ะมาสายบ่อยจังพักนี้” ตูนยื่นกระดาษที่ถ่ายเอกสารไว้ให้หลิวหนึ่งชุด

“ก็ต้องพาพี่ชายไปกินข้าวตอนเช้า พักนี้เป็นเอาหนัก ยิ่งตั้งแต่กลับจากเมืองกาญจน์นี่ เหมือนวิญญาณหลุดลอย”

“ไอ้น้ำ มึงทำอะไรพี่ไผ่วะ” เอผู้ใครรู้ในทุกเรื่องสอดเข้ามา  แต่เมื่อไม่มีคำตอบจากผมที่ยังคงก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป เอก็แก้เกี้ยวด้วยการหันไปคุยกับคนที่เหลือแทน  “แล้วได้ โมเดล กบต้ม นี่มันยังไงวะ”

“ก็ กบ เป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้เร็ว ถ้าเราเปิดน้ำที่ต้มจนร้อนไว้ แล้วใส่กบลงไป กบจะกระโดดหนีทันที  แต่ถ้าใส่กบลงไปน้ำที่ไม่ร้อน แล้วตั้งไฟจนร้อน กบจะตายคาหม้อโดยไม่ได้กระโดดออก”

“เชี่ยยยยย ทำไม เป็นทฤษฎีที่โหดร้ายขนาดนี้” เอทำหน้าเหวอ  เอาเข้าจริงอาจารย์ก็อธิบายตั้งบ่อยแต่มันไม่ฟัง

“อ่ะ นี่คือคำอธิบาย แล้วก็นำไปประยุกต์กับการสื่อสารมวลชนอย่างไร กับพฤติกรรมผู้บริโภค เราแยกไว้ให้เป็นข้อ ลายมืออ่านยากหน่อยนะ ถ่ายเอกสารไว้ให้แล้ว”  ตูนยื่นเอกสารที่เขียนหัวกระดาษว่า เอ  ให้เจ้าตัว

“ขอบคุณครับ ไม่มีนาย เราจะเป็นยังไงเนี่ย”เอยื่นมือไปบิดแก้มตูน จนอีกฝ่ายหน้าแดงทำหน้าตกใจ สะดุ้งกับรอยสัมผัสเล็กน้อย ก่อนจะทำทีเอาชีทมานั่งติววิชากับหลิวแทน   

เอจึงขยับมานั่งชิดผมแทน พร้อมกระซิบ  “ช่วยบอกให้บอดี้การ์ดพ่อง  เลิกโทรหากูที”

“ทำไมล่ะ พี่เขาคงอยากเคลียร์”

“ไม่”

“แต่ว่า”

“ไม่”

“รับสายก็ยังดี ลูกผู้ชายคุยกันให้รู้เรื่อง”

“กูไปอย่างลูกผู้ชาย แล้ววันนั้นเป็นไงล่ะมึง”

“เออ กูเข้าใจ กูรู้ว่ามึงเสียเซลฟ์”

“กูไม่ได้โกรธอะไรพี่เขา แต่กูกับพี่อำนาจไม่มีอะไรจะเกี่ยวข้องกันอีก ควรอยู่กันให้ห่าง”

“อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้ขอโทษไหมวะ แบบวิถีลูกผู้ชาย”

“กูล่ะกลัวชิบหาย ลูกผู้ชายแบบนั้น”

“เขาถามถึงมึงทุกวันเลยว่ะ”

“กูควรภูมิใจไหม”

“เมื่อก่อนมึงชื่นชมพี่เขานักหนา เจอทีไรก็ชมให้กูฟังตลอดว่าเขาเท่ เขาหล่อ เขานิสัยดี”

“นั่นมันก่อนเหตุการณ์วันนั้น  วันโลกาวินาศ”




วิดีโอคอล ในคืน รันทรู

“วันนี้ ผมขอเก็บแรงไว้นะครับคุณนที  แต่ผมให้คุณนทีสำรวจเรือนร่างผมได้  ผมฟิตไหมอาทิตย์นี้”

“ผู้กองดูแน่น เฟิร์มเสมอในสายตาผม  ผมก็ไม่ทำเหมือนกันครับวันนี้ พรุ่งนี้ผมก็มีศึกใหญ่”

“เราทั้งคู่นี่ คิวแทบไม่ว่างเลยนะครับ เกิดมาหล่ออย่างพวกเราต้องทำใจ”

“ผมก็อยากจะจัดสักไฟลท์กับผู้กองอยู่นะ”  ผมเอามือลูบไล้ตัวเอง ยกเว้นหน้ากากที่บดบังผิวหน้า แต่ที่เหลือ มันเปลือยเปล่าล่อนจ้อน  เราทั้งคู่เริ่มชินกับการอยู่หน้ากล้อง เพราะวีดีโอคอลกันบ่อย เรียกว่า สนิทกันระดับหนึ่งก็ว่าได้

“เรามันรุกทั้งคู่ เกรงว่า ที่เป็นแบบตอนนี้มันก็ดีอยู่นะครับ ผมแทะโลมคุณนทีผ่านวีดีโอคอล ก็สนุกอยู่ไม่น้อย คุณนทีเซ็กซี่ และก็น่าฟัดมากครับ”

“ผู้กองก็เร่าร้อน ผมมีอารมณ์กับหุ่นของผู้กองทุกครั้งเลย” แล้วผมก็เลื่อนโทรศัพท์มาทางด้านล่าง ชูแก่นกายให้เขาดู

“ผมเชื่อครับ นทีน้อยไม่เคยโกหกผมเลย  มันน่ารัก น่าคลึงเล่นอยู่ไม่น้อย”

“เราต้องหยุดแล้วแหล่ะ ผมต้องเก็บแรงไว้พรุ่งนี้”

“ผมก็เหมือนกัน ผมตื่นเต้นชะมัดเลยคุณนที  พรุ่งนี้มันเป็นวันอันยิ่งใหญ่ของผม”

“ผมอวยพรให้เราทั้งคู่ครับ”




เวนทูรี่ แกรนด์ ลาดพร้าว ห้องสุพรีม

คุณกรและทีม มาล่วงหน้าก่อนเวลานัดหมายพอประมาณ พวกเขาจัดแสงไฟ และเอาโทรศัพท์ต่อกับขาตั้งกล้องไว้สามตัว มีป้ายแบนเนอร์ถุงยางอนามัย และ เจลหล่อลื่นซึ่งเป็นสปอนเซอร์ ติดไว้ที่หัวเตียง ห้องแสนกว้าง แอร์เย็นเฉียบ  ขวดป๊อบเปอร์วางเรียงกัน มันไม่ใช่ของถูกกฎหมายในประเทศไทยนัก แต่มันจะช่วยให้ฝ่ายที่เป็นรับผ่อนคลายและรับอย่างง่ายดายมากขึ้น  ถุงยางในตะกร้าและเควายเรียงไว้เพื่อประกอบฉาก 
มีเสื้อผ้าที่ถูกจัดเตรียมไว้ทั้งหมด 7 ชุด วางอยู่ที่เตียงนอนคิงไซส์ ผมเดินไปดูใกล้ๆ มันมีวัสดุที่ทำจากยางด้วยในบางชุด

“เป็นของสปอนเซอร์รายใหม่ครับ เนื้อยางทนทาน ไม่ขึ้นราเหมือนหนัง” คุณกรรีบชี้แจง

“แต่ว่าของแขกรับเชิญจะต้องเป็นหนังนะครับ”  ผมก็รีบแจงกลับเช่นกัน

“ครับผมเตรียมไว้แล้ว คุณนทีไม่ต้องกังวล”

“แล้วเราจะไม่มีการพูดชื่อของแต่ละฝ่ายใช่ไหมครับ”

“ไม่มีแน่นอน จะมีแต่คำว่า มึง กับ กู ลอยว่อนในอากาศ  อาจมีคำว่า ไอ้สัตว์ หรือ ไอ้เหี้ยบ้าง ตามสถานการณ์ที่เกิด แต่เราจะคุมให้มันออกมาดูสุภาพ ชวนฝันที่สุดครับ”

“ชวนฝันเลยเหรอ”

“ก็แน่ล่ะสิครับ กลุ่มเราเป็นความใฝ่ฝันอันสูงสุดของใครหลายคน  เรามีมาตรฐานที่ต้องรักษานะครับ”

“ผมก็เชื่อเช่นนั้น”

“แล้วอีกเรื่องหนึ่งคุณนที  ผมทำให้ตามประสงค์ หวังว่า รูปของน้องๆผม ที่ลอยว่อนเน็ตอยู่”

“ไม่ว่าเรื่องนี้ จะออกมาสำเร็จหรือไม่ พี่อำนาจจะรักษาคำพูดครับ เอาไว้เขาจะมายืนยันกับคุณกรด้วยตัวเอง”
กรเอามือไปโอบปลอบใจลูกทีมคนหนึ่ง ซึ่งผมก็เพิ่งเห็นหน้าเขาในรีทวิตอินเทอร์เน็ต น้องคนนี้หน้าตาดี หน้าที่การงานดี เป็นข้าราชการด้วย เชื่อว่า รูปที่หลุดออกมาจากคนที่แฉว่าเขาคือใคร มีผลกระทบกับเขามากเช่นกัน

“ลำพังผม ไม่มีปัญหาครับ ผมน่ะแกร่งพอ  แต่น้องเพิ่งกำลังมีหน้าที่การงานที่ดี ผมอยากให้น้องเขาได้ไปต่อ”

“พี่อำนาจไม่เคยรับปากในสิ่งที่ทำไม่ได้ครับ”




22.30
หลังละครหลังข่าวจบ  เรามีนัดบรรลงสดกันตอน ห้าทุ่มตรง จนป่านนี้ แขกรับเชิญอีกสองคนยังไม่มา หนึ่งในนั้นคือเป้าหมายที่ผมจะต้องพิชิต กับอีกคนที่คุณกรคงเชิญมาร่วมด้วย ผมตื่นเต้นแต่ก็ระงับอารมณ์ไว้  พยายามไม่เดินไปมา ในห้องตอนนี้ มีพี่กรที่จะเป็นตัวหลัก หุ่นเล่าล่ำและแข็งแกร่งมาก เขาลองยกผมขึ้นได้โดยง่าย แล้วก็เอ่ยชวนให้ผมเป็นเมียเขาคืนนี้ ผมรีบกระแอมไอ เขาจึงบอกว่าล้อเล่น แล้วยืนยันว่าจะทำให้สำเร็จตามแผน  ก่อนจะส่งหน้ากากหนังสีดำมาให้ผมครอบศีรษะไว้ มันคลุมหัวผมจนมิดเหลือเพียงดวงตาและปากที่โผล่ออกมาก  คุณกรก็ใส่มันแล้วเช่นกัน

“เราจะให้ผู้ที่กำลังจะมาถึง รู้ตัวจริงของพวกเราไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นแบบน้องตั้ม” คุณกรหันไปทาง ตั้ม หนุ่มที่เพิ่งเป็นข่าวรูปหลุด เขาชิงใส่หน้ากากยางสีดำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้มถอดเสื้อออกเผยให้เห็นหุ่นเจ๋ง มัดกล้ามกำลังดี ตัวบางกว่าคุณกร แต่ผิดพรรณสดใส  อยู่ในกางเกงขาสั้นสีดำทำจากยาง ผิวมันเลื่อมเวลาโดนไฟห้องมันยิ่งวาววับ เป็นชุดใหม่จากสปอนเซอร์
ถัดไป มีคุณอ๋า ที่ใส่เสื้อกั๊กยาง กับกางเกงขาสั้นยางสีดำมันเช่นเดียวกัน คุณอ๋าจะคอยทำหน้าที่ถ่ายวีดีโอผ่านมือถือโดยมีกล้องวีดีโอ อีกสองตัว บันทึกอยู่คนละมุม

บนโต๊ะหัวเตียง มีโต๊ะไม้กลมเตี้ยแต่ดูแข็งแรง มีชายที่ผมไม่รู้จักชื่อ แลดูอายุมากกว่าคนอื่น ผิวสีคล้ำตัวบางกว่าใคร แต่ก็มีมัดกล้ามรูปร่างฟิตปั๋ง ขึ้นไปยืนซ้อมเต้นคล้ายอะโกโก้ชาย เห็นคุณกรว่า เขาจะไม่ยุ่งอะไรกับใครในกิจกรรมบนเตียงยกเว้นเต้นโชว์เป็นแบล็คกราวน์
วันนี้ ทีม Yaris X-5 เป็นทีมชุดไม่ฟูลทีม ขาดไปหนึ่งคนที่จะคอยอยู่บ้านและปั่นทวิตเตอร์ด้วยแอคเคาท์ซึ่งสร้างขึ้นมาอีกประมาณ สิบแอคเคาท์  ความเป็นทีมของยารีสเอ็กซ์ไฟว์ทำเอาผมทึ่ง  อีกอย่าง คุณกรบอกว่า ไม่ควรมีคนอัดแน่นจนเต็มเฟรมไป  เดี๋ยวถึงเวลา เมื่อมีการเริ่มบรรเลงกามกิจ บนเตียงจะเหลือเพียง สองคู่ แล้วกล้องตัดสลับกันไปมา

“ติ๊งต่องงงงงง” เป้าหมายคงเดินทางมาถึงแล้ว ในเวลาเกือบห้าทุ่ม  เขาเตรียมหน้ากากมาเอง คงไม่อยากให้ใครจดจำ ถือว่าเซฟตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ผมก็ยังจำรูปร่างเขาได้ เพราะเราวีดีโอคอลกันบ่อย รูปร่างสูงโปร่งแต่แน่นไปด้วยมัดกล้าม เอวกิ่วต้นขาแข็งแรงสไตล์นักกีฬา ท่าเดินแสนเท่กับเสียงนุ่มนั้น  “สวัสดีครับ ผม สแปชฮิต ครับ”

“สวัสดีครับคุณสแปลชฮิต ผม..”

“คุณกร ยารีสเอ็กซ์ไฟว์  ผมจำเรือนร่างคุณได้” จิมมี่เอื้อมมือไปลูบที่ต้นแขนของคุณกร ดูเขาจะคลั่งไคล้คุณกรเอามากๆ

“ทางเรามี ไวอากร้า กามากร้า แมลงวันสเปน ผงม้าคึก  เลือกใช้ได้ตามสบายนะครับ”

“ผมไม่ต้องใช้ครับ ยิ่งถ้ากับคุณกร ผมจัดได้ทั้งคืนครับ”

“ปากหวานจังครับ เดี๋ยวได้รู้กัน  แต่ผมจะไม่ได้เป็นของคุณสแปลชฮิต คนเดียวนะครับ แล้วคุณก็ต้องเป็นของคนอื่นด้วย”

“ผมก็พร้อมอยู่ดี”   จิมมี่หันมามองทุกคน ก่อนจะมาสะดุดที่ตัวผม  เขาพิเคราะห์อย่างสงสัย แต่ไม่ได้แสดงอาการอะไร



คุณกรส่งชุดหนังสีดำให้ผู้กองจิมมี่ได้เปลี่ยน  หน้ากากที่เขาใส่มาเองไม่ใช่หน้ากากใหม่ มันดูผ่านการใช้งานมาบ้าง ผมก็คุ้นกับหน้ากากอันนี้ เพราะตอนวีดีโอคอลยังเคยเห็นเขาใส่อันนี้บ้าง เขาถอดเสื้อออกแล้วพับถือไว้ หุ่นเขาดีกว่าทุกวันที่ผมเห็นผ่านมือถือ เขาคงฟิตมาเพื่อคืนนี้  คนในห้องมองเขาตาวาว จิมมี่ดูมีเสน่ห์และเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง เขาเหมือนเพชรเม็ดงามที่คนในห้องพร้อมจะแย่งกันขยี้ให้แหลก   คุณอ๋าเริ่มเดินกล้องถ่ายช่วงเวลาที่จิมมี่ถอดกางเกงออก เหลือแต่กางเกงในสีดำ ทำจากหนังทรงผ้าเตี่ยว คล้ายทาร์ซาน แต่เป็นสีดำ มันเร่าร้อน แล้วก็เปลือยก้น โครตจะน่าปล้ำเลย
ผมสาบานได้ว่า พี่กรน้ำลายไหล ไม่แพ้น้องตั้ม  ทันใดนั้น คนที่ผมไม่ทราบชื่อฟาดเชือดลงมากลางหลังจิมมี่ดังผั๊วะ
จนผู้กองคำรามดัง อ๊าก

เปล่าเลย.. เขาไม่โกรธแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงครางทุ้ม แยกเขี้ยวแล้วหันไปมองคนที่เต้นบนโต๊ะอย่างพึงพอใจ
“ใจเย็นกันหน่อย รอก่อน รออีกคนก่อน” คุณกรปราม ก่อนที่ทุกอย่างพร้อมจะปะทุแล้ว


“ติ๊งต่อง” เสียงกริ่งตัวเดียวกันกับเมื่อสักครู่ แต่ให้อารมณ์ที่ต่างกัน ผมระทึกกับสิ่งที่กำลังจะเกิด ใจก็กังวลว่าจะทำมันออกมาไม่ดี  อีกใจนึกก็คิดว่า จะล้มเลิกภารกิจแล้วกลับบ้านดีไหม  แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่จะชนะออกัส  มันเหมือนจะเรียกศรัทธาตัวเองกลับมาต่างหาก  ผมจะทำให้ได้ คำว่า ชายเหนือชาย ที่ออกัสมันปรามาสไว้ วนเวียนในหัวผมมานานเหลือทน ผมต้องลบมันไปจากใจ
ผู้มาใหม่เข้ามาเยือน เขาใส่หน้ากากไหมพรมถักสีเทา กับร่างสูงใหญ่แน่นฟิตเดินเข้ามา ผมและผู้กองจิมมี่หันไปมองอย่างไม่ละสายตา ไม่แน่ใจว่า ผู้กองจิมมี่จะจำเขาได้หรือเปล่า แต่ผมโตมากับเขา ทำไมผมจะจำเขาไม่ได้ ภายใต้หน้ากากนั้นมันคือ พี่อำนาจ

“ยินดีต้อบรับครับคุณ Demon Master” คุณกรกล่าวต้อนรับแล้วส่งชุดสีขาวให้พี่อำนาจไปเปลี่ยน เขาหันมาหลิ่วตาให้ผมผ่านหมวกไหมพรมที่คลุมหัวอยู่ เหมือนคนงานพม่าเลยไอ้พี่  แล้วนี่เข้ามาได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่า ผมอุ่นใจถึงขีดสุด ขอบคุณนะพี่ที่ทำให้ผมขนาดนี้  ผมจะประเคนไอ้เอใส่พานให้เลย คอยดู

พี่อำนาจหันหลังให้ทุกคน ถอดหมวกไหมพรมออก แล้วใส่หมวกคลุมหัวที่ทำจากยางสีขาว วาววับ แล้วเขาก็หันกลับมา ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกอย่างไม่อาย แถมแก่นกายของเขามันก็โตงามน่ามองกว่าของคนอื่น เขาคว้ากางเกงในทำจากยางสีขาว มีขนนกฟูเย็บติดกับขอบกางเกงใน จะบอกว่าดูน่ารักก็พูดไม่เต็มปาก  แต่เนื้อยางมันแนบกับลำตัวเข้าทุกซอกมุม จนเห็นเป็นลำท่อนชัดเจน เอาเป็นว่า เราเป็นสามคนแขกรับเชิญดาวเด่นที่คุณกรและทีมงานพึงพอใจถึงขีดสุด เพราะตอนนี้บรรยากาศมันคล้ายลาวาที่รอการประทุ

“เลดี้ แอนด์ เลดี้  ขอเชิญนางร้ายทั้งหลายที่เตรียมนอนทำร้ายตัวเองบนหน้าจอมือถือ  วันนี้ ของดี ของพรีเมี่ยมทั้งสาม จะมาทำให้ท่านน้ำลายหก น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเสียดายที่ไม่ได้มาร่วมวง น้ำอะไรในร่างกาย มันจะไหลออกมา ก็ให้มันไหลไป เพราะวันนี้ นาทีนี้ พิธีกรรมของชาว ยารีสเอ็กซ์ไฟว์ มันกำลังจะเริ่มขึ้น กระตุ้นต่อมหรรษา เย้ยราคะในกมลสันดานของพวกท่าน กดหัวใจ กดรีทวิตกันรัวๆ แล้วสุมหัวกันเข้ามา ทิชชู่หนึ่งม้วน คงไม่เพียงพอ จะรีรอไปใย สักครู่เดียว หลังผู้สนับสนุนใจดี”  พี่อ๋าร่ายยาว แต่น้ำเสียงเขานุ่ม ชวนฝันเลยว่ะ  เขาถ่ายกล้องแบบ ดอลลี่ แพนมือถือที่ถ่ายทอดสดตาม ถุงยางที่แก้ออกมาเรียงบนโต๊ะใกล้เตียง ซูมให้เห็นยี่ห้อชัดเจน แล้วก็ไล่ไปทางป้ายสปอนเซอร์

พี่อำนาจเดินมาทางผม จับคางผมเชิดขึ้น หอมแก้มลงมาตรงใต้ดวงตา เพราะมันเป็นเนื้อกว้างส่วนเดียวที่โผล่พ้นหน้ากาก  แล้วก็เดินไปทางผู้กองจิมมี่ คว้ามือของผู้กองมาลูบไล้ที่กล้ามท้องของตัวเอง  ก่อนจะเดินไปรอที่เตียง
น้องตั้มที่มองพี่อำนาจไม่วางสายตา ก็ตามไปประกบ คล้ายกับกลัวใครจะมาชิงพี่อำนาจไป  คุณกรเดินไปที่เตียงโดยมีผู้กองเดินตามไป  ปล่อยให้ผมยืนอยู่ปลายเตียงคนเดียว  นักเต้นบนโต๊ะเตี้ยเริ่มส่ายสะโพกโยกย้าย  คุณอ๋าหรี่ไฟเล็กน้อย แล้วเดินกล้อง มีเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจคลอมา  “สวยมาก  เป็นเฟรมที่สวยเหลือเชื่อ”

จิมมี่ที่ตอนแรก ดูจะมองคุณกรอย่างเทิดทูน แต่พอพี่อำนาจเดินเข้ามา เหมือนความสนใจเขาจะถูกแบ่งเป็นสองทาง กระนั้นเขาก็ยังโฟกัสที่คุณกรต่อไป  พอคุณอ๋าเริ่มถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์  ผมก็เดินขึ้นมานอนตรงกลาง ระหว่างคู่นักรบ

“ 3..  4 Action !!”  สิ้นเสียงคุณอ๋า  ผู้กองก็จู่โจมคุณกร โรมรันพันตูกันไม่หยุด เขาแลกจูบกันอย่างเผ็ดร้อน นอนเองกันลงมาข้างตัวผม  คุณกรที่นอนทับผู้กองอยู่ด้านบน เอื้อมตัวลงมาดูดปากกับผมที่นอนอยู่ สลับกลับไปแลกลิ้นของผู้กองต่อ ผมหันไปทางพี่อำนาจ ที่ยืนอยู่ข้างเตียง แต่ยกเท้าซ้ายวางที่ฟูก  ทำให้เป้ากางเกงในสีขาวของเขามาลอยอยู่ตรงหน้าของน้องตั้ม ที่กำลังลงลิ้นที่กล้ามท้องของพี่อำนาจอย่างหื่นกระหาย  น้องตั้มพยายามไล่ลิ้นขึ้นไป หอมแก้มแล้วพยายามจูบ แต่พี่อำนาจก็ยังคงเป็นพี่อำนาจ ไม่ได้จูบตอบ พลิกหน้าหนี ปล่อยให้น้องตั้มจัดการกับรูปร่างที่แน่นฟิตของเขาต่อไป  น้องตั้มถอดกางเกงในสีขาวนั้นออกก่อนจะถอดของตัวเองตามไปด้วย ทุกคนชูชันกันพร้อมจะระเบิดศึก
 
น้องตั้มหันหลังให้พี่อำนาจแล้วก้มลงมาใช้ปากกับของผม  ผมก็ไม่ว่างเพราะกำลังแลกลิ้นกับคุณกร ก่อนจะสลับกับการจูบกับผู้กอง  ทันทีที่ผู้กองจูบกับผม ผมว่าเขาจำผมได้แล้ว เพราะรสจูบคนเรามันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน เขาส่งยิ้มแล้วก็ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เหมือนคนที่มีความสุขจนแทบทะลัก 
คุณกรโลมเลียผู้กองไปแทบทั้งตัว แล้วเอาผ้ามามัดข้อมือของผู้กองไปคล้องกับเสาที่หัวเตียง ถอดกางเกงผู้กองออก หุ่นของผู้กองเป็นที่น่าปรารถนา คุณกรขึ้นมานั่งแล้วก็คว้าเทียนมาจุดไฟ ค่อยๆ รนน้ำตาเทียนหยดใส่ ผู้กองโหยหวนออกมา 

ผมหันไปทางพี่อำนาจ เขาเอามือบี้ไปที่หัวนมของตัวเอง มองขึ้นเพดาน เพราะน้องตั้มกำลังจัดการกับท่อนแกร่งของพี่อำนาจอย่างแทบไม่มีเวลาหายใจ  น้องตั้มดูหื่นกระหายกับพี่อำนาจมาก ผมเห็นเขาเอื้อมปากไปเลียเม็ดเหงื่อที่ซึมตามสะโพกของพี่อำนาจแทบทุกหยดหยาด แล้วในที่สุด เกมก็ถูกหยุดกะทันหัน

“เบรกให้ซีนสปอนเซอร์กันก่อนนะครับ”  คุณกรที่ยืนขึ้นบนเตียง ส่งถุงยางอนามัยยี่ห้อ มิโดริ ให้แก่ทุกคนสวมใส่
ผมฉีกถุงยางออกมาเป็นสีเขียวเข้ม ถุงยางรุ่นใหม่จากญี่ปุ่น เหนียวทนไม่ขาดง่ายยืดหยุ่นสูง มิโดริที่แปลว่าสีเขียว แต่ทันทีที่ทุกคนบนเตียงสวมเข้าตรงแก่นกายของตนเองแล้วรูดถุงยางไปจนสุดโดน เนื้อยางจะสีบางลงคล้ายสีของใบเตย มันก็ดูน่ากินอยู่ โดยเฉพาะของพี่กร เขาใส่ได้ขึ้นกล้องมาก
ทุกคน นั่งคุกเข่าบนเตียง ยกเว้น พี่อำนาจ ที่ต้องยืนตรงขอบเตียงเพราะเตียงกว้างไม่พอ  เราปั่นน้องชายให้แข็งกัน แล้วทำมินิฮาร์ทส่งให้พี่อ๋าถ่ายรูป  คุณพี่อ๋าถ่ายทั้งมุมกว้าง และตัดภาพซูม โคลสอัพไปยังถุงยางที่สวมใส่อยู่ มุมซ้าย มุมขวา จากด้านบนแบบเบิร์ดอายส์วิว  หรือ มองจากพื้นสวนขึ้นมา  หน้าตาพี่อำนาจรำคาญมาก แต่เขาก็ยังอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นเพื่อนผม ซึ้งจังเลยว่ะ

เมื่อทุกคนกำลังจะกลับมาไลฟ์ต่อ ก็ปรากฎว่า ยอดรีวิตมันโด่งนำรายการละครหลังข่าว ไปเรียบร้อยแล้ว คุณกรกับน้องตั้ม คว้ายาไวอากร้าไปกินคนละเม็ดก่อนเริ่มองค์สอง บนเตียงเหลือเพียงพี่อำนาจเอนตัวนอนรอบนเตียงในฟากซ้าย กับผู้กองที่นอนคว่ำหันมามองตากับพี่อำนาจในฟากขวา  ผู้กองมองพี่อำนาจอยู่อย่างนั้น เขามองตากันนานจนผมกลัวว่า จิมมี่จะจำพี่อำนาจได้  แล้วจิมมี่ก็เอามือไปคลึงตรงต้นแขนที่อำนาจ ไล้มายังหน้าอก ลงไปที่ถุงยางมิโดริซึ่งถูกสวมไว้ ผู้กองกำมันไว้แน่น แล้วเขาก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงสะใจ

“ 3.. 4.. Action!” คุณอ๋าสั่งอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนใส่กันไม่ยั้ง  พี่อำนาจถล่มน้องตั้มจนคนโดนยิ้มร่า พี่อำนาจเขารุนแรง ดุเดือด แต่สายตามองมายังผู้กอง  ในขณะที่ผู้กองก็สวมตัวเข้าหาคุณกรจากด้านหลัง แล้วก็บรรเลงเกมรุนแรง สายตาของจิมมี่ก็หันกลับมามองพี่อำนาจอยู่ตลอด สลับกับการก้มลงไปไซร้หลังคอของคุณกร จิมมี่ดูมีความสุขมาก แล้วก็ส่งเสียงครางดังเป็นระยะ  ผมที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลยได้แต่รอเวลา  เวลาที่ผมกำลังจะได้เผด็จศึก..

คุณอ๋าเดินเก็บทุกเฟรม ในทุกมุม ทุกองศา ด้วยความตื่นเต้น เขาพูดออกมาตลอดว่าเป็นงานดี งานเด็ดแบบที่โลกทวิตเตอร์ต้องจดจำ ไม่บ่อยที่คุณกรจะเป็นฝ่ายรับ  ในขณะที่คนซึ่งเต้นบนโต๊ะก็เหมือนกินยาบ้าเข้าไป ส่ายย่อโยกไม่หยุดหย่อน แต่ก็ยืนช่วยตัวเองสลับกันไปจนสำเร็จความใคร่ไปสองครั้งแล้ว  สาบานได้ว่าผมหลบทัน แต่พี่อำนาจ โดนไปเต็มหลังจนหันไปทำตาดุใส่

พี่อำนาจทนและอึดมาก แถมลงทุกขบวนท่า แต่ไม่จูบปาก เขาทำให้น้องตั้มดาวรุ่งในทีมต้องร้องขอชีวิต
ผมพยักหน้าส่งสัญญาณ น้องตั้มหลบไปพร้อมเปลี่ยนให้ตั้มถือกล้องไว้ในมือ  พี่คนที่เต้นก็ลงจากโต๊ะเวทีคว้ากล้องวีดีโอมาเตรียมถ่าย  พี่อ๋าเดินไปหรี่เพลง แล้วส่งน้ำให้ทุกคนได้ดื่ม ช่วงพักก่อนจะเข้าสู่องค์ที่ 3

“3.. 4.. Action!”  พี่อำนาจคว้ากุญแจมือแล้วไปคล้องกับมือข้างซ้ายของผู้กองที่นอนหราอยู่ จิมมี่ผู้เพิ่งเสร็จกิจไปสี่ยก คงจะเหนื่อยล้าไม่น้อย แล้วคุณกร ก็เดินเอากุญแจมืออีกอันตวัดคล้องที่มือขวาของผู้กอง
พี่อำนาจร่างเปลือยเปล่าในหน้ากากสีขาว อยู่ด้านซ้าย  กับ พี่กรในหน้ากากสีดำล่อนจ้อนในด้านขวา
ผู้กองที่ถูกล็อคมือทั้งสองข้าง นอนเปลือยเปล่าอยู่ตรงกลาง
ผมเดินขึ้นจากปลายเตียงไปยืนอยู่ที่ปลายเท้าของผู้กอง ผมเอาเท้าเขี่ยให้เขาอ้าขาออก เขาปฏิบัติตามแต่โดยดี
ผมหยดน้ำตาเทียนจากเทียนสีดำลงบนตัวของผู้กอง  เขาครางร้องโหยหวน
ผมรับแส้จากนักเต้น แล้วเริ่มฟาดลงไปที่หน้าอก จากเบาสู่ความแรงที่มากขึ้น ผู้กองจิมมี่กรีดร้อง คำราม น้ำตาเขาไหลพราก แต่เขายิ้มอย่างเป็นสุข  เขาระเบิดเสียงหัวเราะลั่น “แรงกว่านี้ !!  แรงขึ้นอีก!!”
แส้ถูกฟาดลงไปจนเนื้อตัวมีรอยแดง พี่อำนาจค่อยๆ เอื้อมตัวไปยกขาข้างซ้ายของผู้กองชันเข่าขึ้น
คุณกรก็ทำกับขาข้างขวาเช่นเดียวกัน

พี่อ๋าเดินเอา ป๊อบเปอร์ไปให้ผู้กองสูดหนึ่งที แล้วจิมมี่จะถอนหายใจยาวเสียงกระเส่า
“ผมไม่เคย..  ผมไม่เคย”  เขาพรำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา แต่ก็หลับตาพริ้ม
คุณกรก้มลงไปดูดปาก แล้วเงยตัวขึ้น เอามือของผู้กองที่ถูกล็อคอยู่นั้น มาจับที่แก่นกายของคุณกร
พี่อำนาจก็เอามือซ้ายของจิมมี่ทำเช่นเดียวกัน ผู้กองมองซ้ายสลับกับขวาแล้วก็ครางแรงขึ้นอีก
ผมคว้าถุงยางมิโดริมาสวม หยดน้ำตาเทียนลงอีกครั้งที่แก้มก้น ซึ่งถูกยกลอยขึ้นมาตามขาที่พี่อำนาจรั้งไว้
แล้วก็เอานิ้วปาดเจลเควาย ค่อยสอดเข้าไปทีละนิ้ว
“อ๊ากกกกกกก”
พี่อำนาจถอดถุงยางของเขาออก แล้วเอามือของผู้กองไปสัมผัสท่อนเนื้อแบบสดร้อน  จิมมี่ดูพึงพอใจถึงขีดสุด
คุณกรก้มลงไปคลึงที่ซอกหูด้วยลิ้นอย่างดุเดือด เสียงครางของจิมมี่ดังขึ้นอีก  เม็ดนมด้านขวาของเขาแข็งเป็นไต
ผมมองไปทางพี่อำนาจ เขาพยักหน้าให้ ผมเจอแล้ว ผมเจอจุดกระสันเขาแล้ว หัวนมเม็ดขวานั่นเอง
วินาทีนั้น ผมรีบก้มลงไปบรรเลงลิ้นที่ปลายของมัน แล้วโจมตีที่ฐานนมด้วยความสะใจ ผู้กองจิมมี่ดิ้นพล่านร้องลั่นด้วยความเสียว เขาโหยหวนราวกับถูกเชือด น้ำตาเขาไหลแต่เขายิ้มสลับหัวเราะออกมา 

คุณอ๋าหรี่ไฟ รอยสักเรืองแสงที่ต้นแขนของพี่อำนาจสว่างเขียวขึ้นชัดเจน จิมมี่หันไปมองรอยสัก น้ำตาไหล คว้าท่อนเนื้อของพี่อำนาจเข้าปากไปกลืนกิน ผมก็ก้มลงไปโจมตีหัวนมขวาต่อ  ขยับนทีน้อยเข้าไปชิดจ่อรอสัญญาณ ก่อนเขาจะคายลำทวนของพี่อำนาจออกมาจากปาก แล้วจิมมี่ก็ระเบิดเสียงร้องดังลั่นห้อง

“อ้ากกกกกก ได้โปรดเถิด  ใส่เข้ามา.. ใส่มันเข้ามา..”

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด