น่านฟ้ายิ้มบางๆ ให้และรีบไปยืนหลบมุมเพื่อโทรหา ‘เพื่อนสนิท’ ตามที่ถูกกำชับไว้
[ ฮัลโหล ]
ใบหน้าของน่านแดงนิดๆ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มแหบกระซิบจากปลายสาย
“…น่านพูดดีไหมอ่ะ ขุน”
ความมั่นอกมั่นใจในตัวเองคล้ายกับหายไปหมดเมื่อลงจากเวที ใบหน้าของน่านกลับมาประหม่าอีกครั้งพร้อมกับตัวที่สั่นเทาเล็กๆ
[ ดีแล้วน่าน ต่อให้กรรมการไม่ชอบแต่เราชอบนะ ]
“..แต่”
น่านฟ้าพยายามหาเหตุผลมาพูดเพื่อบั่นทอนความสามารถตัวเองตามนิสัยไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองสามารถวาดรูปได้ดีแต่น่านก็ไม่สามารถยอมรับได้สักทีว่าตัวเองสามารถวาดมันได้ดีจริงๆ เหมือนที่คนอื่นชม
[ น่านลืมแล้วเหรอว่าเพราะงานนี้น่านไม่ได้นอนมาเกือบอาทิตย์นะ ]
“…”
[ ความพยายามไม่เคยทำร้ายใครหรอกน่าน ต่อให้น่านไม่ชนะงานประกวดแต่เราเชื่อนะว่าผลงานของน่านมันจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้จริงๆ ]
“..อือ”
น่านฟ้าพยักหน้าเบาๆ โดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงสตาฟฟ์ตะโกนไล่ให้ไปเข้าแถวเพื่อขึ้นเวทีเตรียมฟังผลประกาศรางวัล
“น่านวางก่อนนะ”
[ รักน่านนะครับ ]
“…”
แน่นอนว่าน่านได้ยินคำพูดของขุนพลชัดเจนจนเผลอเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนที่จะรีบยัดสมาร์ทโฟนเข้ากระเป๋ากางเกงลวกๆ แล้ววิ่งไปเข้าแถวที่กำลังเดินขึ้นเวทีกัน
“ไม่สบายเหรอ หน้าแดงๆ ”
“อือ เราหนาวน่ะ”
น่านฟ้าโกหกคำโตเพราะไม่กล้าบอกความจริงกับคนอื่นว่าตัวเองเขินเพื่อนสนิทตัวเอง เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องเขินทุกครั้งที่ได้ยินพูดด้วยเสียงนุ่มๆ กับประโยคบอกรักที่เจ้าตัวมักพูดหยอดคนนู้นคนนี้เป็นประจำในห้อง ซึ่งเรื่องแปลกอีกอย่างคือเขาไม่เข้าใจสักนิดว่าคนที่เพื่อนเยอะอย่างขุนพลมายุ่งกับเขาที่โลกส่วนตัวสูงทำไม
แต่เอาเข้าจริงเขาดีใจมากนะที่มีคนมาคุยด้วยนอกจากกลุ่มของเขาที่มีเพื่อนอยู่สองสามคนและมีนิสัยคล้ายๆ กัน
[ และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกท่านรอคอยนะคะ ช่วงประกาศผลรางวัลค่ะ! มาเริ่มกันที่รางวัลแรกเลยนะคะ เป็นรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองและรางวัลนี้ก็ต้องเป็นของ—]
น่านฟ้าพยายามรักษาท่าทีนิ่งสงบแม้ว่าหัวใจในอกเต้นไม่เป็นส่ำ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเหล่าบรรดาคนที่มาเชียร์นัก โดยเฉพาะกับเหล่าแฝดที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“พี่น่านพูดดีแบบนี้ต้องรางวัลที่หนึ่งแล้ว”
เมฆออกความเห็นด้วยสีหน้าปลื้มปิติในพี่ตัวเองสุดๆ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วไม่ว่าน่านฟ้าจะทำอะไรในสายตาสองแฝดก็ล้วนเห็นดีเห็นงามด้วยทั้งนั้น
“ถ้าไม่ได้ที่หนึ่งเดี๋ยวกูให้เอง เมฆ พี่น่านของกูต้องเก่งที่สุด”
หมอกก็มีสภาพไม่ต่างกันนักอวยพี่ตัวเองแบบสุดๆ
[ นางสาวนิชนันท์ โรจน์วัจนะค่ะ! ]
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวในขณะที่น่านฟ้ายังคงรู้สึกลุ้นจนแทบไม่ได้ยินอะไร นัยน์ตาโศกจับจ้องไปที่พิธีกรอย่างรอคอยซึ่งด้วยนิสัยที่ไม่มั่นใจในตัวเองของน่านฟ้า ทำให้เจ้าตัวไม่ได้คาดหวังถึงรางวัลใหญ่ แค่ได้รางวัลชมเชยก็ดีใจมากๆ แล้ว
ใช้เวลามอบรางวัลอยู่ครู่หนึ่งก็ถึงลำดับถัดมา พิธีกรหนุ่มเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นนามสกุลที่ค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตาในสื่อใหญ่แต่อีกใจก็อดเสียดายนิดๆ ด้วยไม่ได้เพราะชอบผลงานนี้ตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในช่วงที่ซักซ้อมคิวแล้ว
[ รางวัลรองชนะเลิศตกเป็นของนายน่านฟ้า กิลลาส ครับ! ]
“!!”
นัยน์ตาโศกเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนกแต่ก็เดินไปรับรางวัลด้วยความยินดี แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรางวัลชนะเลิศก็ตาม ใบหน้าที่เค้าละม้ายกับจ้าวจึงเผยยิ้มน่ารักออกมาให้เหล่าสื่อมวลชนเก็บภาพกันสนุกมือ ซึ่งแน่นอนว่าเพราะไม่ใช่อันดับที่หนึ่งน่านฟ้าจึงไม่ต้องตอบคำถามหรือความรู้สึกอะไร เพียงแค่รับรางวัล ถ่ายรูป และไปยืนรวมกับเหล่าผู้แข่งขันเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นน่านฟ้าก็ยังคงรู้สึกมีความสุขมากๆ อยู่ดี นัยน์ตาโศกเป็นประกายราวกับสุมดาวนับพันไว้ข้างใน ในชั่วขณะหนึ่งที่น่านฟ้ารู้สึกเข้าใจถึงความรู้สึกของแม่ตัวเองตอนที่ได้ยืนอยู่บนเวทีท่ามกลามผู้คนนับพันก่อนที่จะลาวงการไป
มันเป็นความรู้สึกที่ดีจนอยากจะยืนอยู่ตรงนี้อีกหลายๆ ครั้งเลยทีเดียว
น่านฟ้ายังคงยิ้มจนตาหยีโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเป็นจุดสนใจของสื่อขนาดไหน
“เมฆ กูไม่ไหวแล้ว”
“เออ กูก็ไม่ไหว พี่น่านโคตรน่ารักเลย”
สองแฝดพยายามอย่างยิ่งในการไม่ลุกออกจากที่นั่งแล้วโผไปกระโดดกอดพี่น่านอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน เวลาที่ต้องการแสดงความชื่นชมในตัวพี่น่าน
“ทำไมน่านไม่เลิกยิ้มสักทีวะ”
ใบหน้าคมคายของขุนพลไม่เปื้อนยิ้มโง่ๆ อีกต่อไปเมื่อเห็นน่านฟ้ายังคงยิ้มให้กับกล้องไม่หยุด รู้สึกหึงหวงจนอยากจะเอาน่านฟ้าไปซ่อนให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นัก
[ รู้สึกยังไงกับการได้รับรางวัลชนะเลิศบ้างครับ ]
น่านฟ้ามองเบต้าร่างเล็กซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลด้วยความชื่นชมเพราะงานของอีกฝ่ายนั้นดีสมกับรางวัลจริงๆ ทั้งความแปลกใหม่ของเทคนิคที่ใช้และแนวคิดในการวาดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา
“ก็ค่อนข้างตกใจครับแต่ก็ดีใจและภูมิใจมากๆ ครับที่ได้รับรางวัลนี้”
เบต้าหนุ่มเจ้าของรางวัลพูดด้วยรอยยิ้มเขินๆ ขณะที่ตอบคำถามพิธีกร ซึ่งหลังจากตอบคำถามอีกสองสามคำถามเสร็จก็เข้าสู่ช่วงพิธีปิดของงานที่ใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง ก่อนที่ม่านจะปิดลงเป็นอันจบงานประกวดภาพวาดในวันนี้
“น่าน”
น่านฟ้าซึ่งแวะเข้าห้องน้ำก่อนที่จะไปขึ้นรถมองเพื่อนสนิทตัวเองด้วยความแปลกใจนิดๆ ก่อนที่จะยิ้มออกมา “ยังไม่กลับบ้านเหรอ ขุน นี่เกือบสามทุ่มแล้วนะ”
ขุนพลไม่ตอบแต่ขยับเข้าไปใกล้น่านและลูบหัวเล็กๆ อย่างเบามือ นัยน์ตาสีดำฉายชัดถึงความอ่อนโยน “วันนี้เก่งมาก”
“อือ”
ไม่แน่ใจเพราะบรรยากาศหรืออะไรที่ทำให้น่านฟ้าเผลอหน้าแดงอีกครั้งจนขุนพลทนแทบไม่ได้อยากจะทำอะไรมากกว่านั้น แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดเพราะน่านฟ้าก็คือน่านฟ้า
เขายังทำใจให้สิ่งที่บริสุทธิ์ขนาดนี้มัวหมองไม่ได้และอีกเหตุผลใหญ่ๆ ก็…
ปัง!
ประตูเปิดผ่างออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของเมฆกับหมอกที่หอบแฮ่กจากการวิ่ง
“พี่น่าน! พี่มาอยู่กับมันสองต่อสองอีกแล้ว! ”
“พี่น่าน พี่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้! ”
สองแฝดราวกับมีญาณทิพย์มาถึงห้องน้ำด้านในที่ไม่ค่อยมีใครเข้าในพริบตา หนำซ้ำยังทันเห็นฉากเด็ดพอดีอีกเล่นเอาร่างที่สูงใหญ่ดิ้นเร่าๆ ราวกับโดนลนไฟ
“…”
ขุนพลลอบกลอกตาด้วยความเหนื่อยหน่าย ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าจะสามารถจีบน่านติดแต่ก็ติดด่านใหญ่ๆ ที่มีชื่อว่าเมฆกับหมอกซึ่งมีฉายาในโรงเรียนว่าสององครักษ์พิทักษ์น่านฟ้า โดยเจ้าพวกนี้มีหน้าที่หลักเพียงหนึ่งเดียวคือไล่ทุกคนที่ทำท่าจะมาจีบพี่ชายตัวเองและเรื่องแปลกคือพวกนี้เซนส์แรงมาก ดูออกว่าใครคิดซื่อใครคิดไม่ซื่อ คนที่ไม่โดนสองแฝดนี่รังควานคือคนที่มองว่าน่านฟ้าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
“เรียกมันได้ยังไง ขุนพลเป็นเพื่อนพี่นะ”
น่านฟ้าเอ็ดเสียงดุแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมากมายนัก
“ก็เขาจะแย่งพี่น่านไปจากพวกผม”
“และพวกผมก็จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น”
“…หึ”
ขุนพลหลุดขำเมื่อเจ้าแฝดทำตัวเหมือนแก๊งร็อคเก็ตในโปเกม่อนซึ่งคนที่น่าจะเป็นเนียสก็น่าจะเป็นน่านฟ้าที่ถอนหายใจเหนื่อยๆ ใส่แฝด
“เมื่อไหร่จะโตกันสักที” น่านฟ้าบ่นอุบกอดรางวัลตัวเองและเดินตัดผ่านแฝดทั้งสองมาหาร่างสูง “งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ ขุน เรากลับบ้านก่อนนะ”
“อืม เจอกันพรุ่งนี้” ขุนพลพูดยิ้มๆ “ฝันดีครับ”
“…ฝันดี”
น่านฟ้าพยักหน้าเร็วๆ ก่อนที่จะจากห้องไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ซึ่งขุนพลเห็นแบบนั้นก็อดยิ้มกว้างกว่าเดิมไม่ได้และมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้โดนสายตาสองคู่ค้อนในพริบตา
“ผมไม่ยกพี่น่านให้หรอก”
สองแฝดขู่แง่งใส่ก่อนที่จะรีบวิ่งไล่หลังตามพี่ชายตัวเองไป
“…”
ถึงแม้ร่างเล็กๆ จะหายไปจากครรลองสายตาไปนานแล้วแต่ขุนพลก็ยังเห็นยิ้มโง่ๆ ของตัวเองในกระจกและรอยยิ้มของเขาก็กว้างกว่าเดิมเมื่อตัดสินใจอะไรได้
“แฝดก็แฝดเถอะ หึ”
ขุนพลหลุดหัวเราะเมื่อเผลอจินตนาการถึงหน้าแฝดตอนที่เขาประกาศตัวจีบน่านฟ้าอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าสองแฝดนั่นต้องไม่พอใจแน่
แต่ใครสนล่ะในเมื่อเขาอยากชอบน่านจนจะบ้าอยู่แล้ว!
=========
ตอนนี้ยาวมากกกกก
ปล ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ
ตอนพิเศษตอนหน้าเป็นจันทร์กับพี่ซันค่ะ