{OMEGAVERSE} ║PREY เหยื่อ ◑║ แจ้งข่าวรวมเล่ม p.10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {OMEGAVERSE} ║PREY เหยื่อ ◑║ แจ้งข่าวรวมเล่ม p.10  (อ่าน 45833 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : MOONMOON
   
   
ครืนนน
   
กลุ่มเมฆครึ้มคำรามเสียงดังจนเหล่านกที่เกาะหลบฝนอยู่ตามกิ่งไม้บินต่างพากันบินหนีด้วยความแตกตื่น ฝนห่าใหญ่ตกกระทบกับหาดทรายในจังหวะเดียวกับที่คลื่นทะเลลูกใหญ่ซัดเข้าฝั่ง กวาดเอาทรายและเหล่าสัตว์ทะเลน้อยใหญ่เข้าสู่มวลน้ำเพื่อที่จะซัดเข้าฝั่งใหม่อย่างรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าพายุจะหมดลง
   
ซึ่งแน่นอนว่าบรรยากาศพายุเข้าแบบนี้สำหรับคนทั่วไปแล้วการอยู่ในห้องและห่มผ้าอุ่นๆ ดูทีวี น่าจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดแต่สำหรับ ‘ใคร’ บางคนที่เคยผ่านความตายมาครั้งหนึ่งแล้วการกระทำแบบนั้นก็ดูน่าจะเบื่อเกินไป
   
“…”
   
ร่างโปร่งของชายหนุ่มอายุไม่เกินสี่สิบปียังคงนั่งอยู่บนโขดหิน แม้ว่าเสื้อขาวบางของตัวเองจะเปียกโชกจนแนบไปกับลำตัวแล้วก็ตาม นัยน์ตาโศกเหม่อมองพระจันทร์สีขาวนวลสุกสว่างที่โดนกลุ่มเมฆครึ้มบดบังได้สักพักก็เผยยิ้มมุมปากออกมา เมื่อหมู่เมฆยอมเคลื่อนตัวออกให้มองเห็นดวงจันทร์ได้อย่างชัดเจน
   
สวย
   
คำๆ นี้ปรากฎในหัวจันทร์ซึ่งจันทร์ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับมัน จึงไม่คิดจะขยับไปไหนปล่อยให้ตัวเองตากฝนไปเรื่อยๆ จนกว่าตัวเองจะพอใจ
   
แต่น่าเสียดายในเรื่องที่จันทร์พอใจก็ย่อมมีคนไม่พอใจ
   
“จันทร์!! “
   
เสียงตะโกนเรียกดังลั่นพร้อมๆ กับนายแบบชื่อดังที่วิ่งมาพร้อมกับร่มคันโตในมือ ใบหน้าคมคายที่เปี่ยมไปด้วยสเน่ห์อันล้นเหลือมองจันทร์อย่างตำหนิ
   
“ผมบอกแล้วไงว่าห้ามออกมาข้างนอกตอนกลางคืนคนเดียว แล้วนี่ตากฝนทำไมครับ ผมจำไม่ได้นะว่าผมอนุญาตให้จันทร์ตากฝนด้วย” สุริยะบ่นไปพร้อมๆ กับดึงจันทร์เข้ามาอยู่ใต้ร่มของตัวเองและหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้บนไหล่มาเช็ดหน้าที่เปียกชุ่มของจันทร์อย่างใส่ใจ
   
จันทร์หลับตาทำหูทวนลมและปล่อยให้สุริยะเช็ดหัวเช็ดหน้าให้ตัวเองด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
   
“จันทร์ ถ้ามีคราวหน้าอีกผมจะโกรธแล้วนะ”
   
ถึงแม้จะเห็นจันทร์ทำสีหน้าน่ารักแต่สุริยะก็ยังไม่ลืมวัตถุประสงค์ที่จะดัดนิสัยของอีกฝ่าย เพราะเดี๋ยวนี้จันทร์มีนิสัยที่ค่อนข้างดื้อดึงพอตัว ราวกับแมวเปอร์เซียตัวโตที่วันๆ เอาแต่ทำตามใจตัวเองและรอให้ทาสมาคอยเอาอกเอาใจ
   
ซึ่งแน่นอนว่าสุริยะพอจะเดาได้ว่าทาสคนนั้นมันคือใคร
   
“จันทร์”
   
เจ้าของชื่อลืมนัยน์ตาโศกเพียงข้างเดียวขึ้นมามองและถอนหายใจ “แค่ตากฝนนิดเดียวมันไม่ได้ทำให้ ผมป่วยหรอกนะ คุณสุริยะ”
   
“ครับ ผมเข้าใจดีครับแต่คุณจันทร์เคยสัญญากับผมแล้วไงครับ ว่าจะไม่ดื้อกับผม” สุริยะหน้าบูดก่อนที่จะรวบเอวจันทร์มาเข้าร่มเพื่อที่จะบังคับให้เดินกลับบ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่ไม่ได้อยู่ไกลจากชายหาดนัก
   
แน่นอนว่าจันทร์ไม่ได้ขัดขืนอะไรหนำซ้ำยังซบกับตัวอุ่นๆ ของสุริยะอีกอย่างพึงพอใจ เอาเข้าจริงแล้วการมานั่งดูพระจันทร์เล่นวันนี้ก็ออกจะเป็นการจงใจซะมากกว่า เพราะหลังๆ มานี้สุริยะกลับไปรับงานถ่ายแบบบ้างเป็นครั้งคราวจนทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวซะหลายวัน การได้ปั่นหัวสุริยะบ้างก็นับเป็นเรื่องที่ทำให้จันทร์สนุกมากทีเดียว
   
นัยน์ตาโศกเหลือบมองเสี้ยวใบหน้าคมคายที่ยังไม่หยุดบ่นกระปอดประแปด
   
“ซัน”
   
“ครับ” สุริยะจริงจังขึ้นมาทันทีเพราะไม่บ่อยนักที่จันทร์จะเรียกชื่อเล่น ส่วนใหญ่จะเรียกคุณสุริยะให้ฟังดูห่างเหินเล่นๆ มากกว่า
   
“ดีใจที่กลับมานะ”
   
“อือ ดีใจเหมือนกัน”
   
ร่างสูงดึงมือจันทร์ไปจูบเบาๆ อย่างอดไม่ได้ ถึงแม้ว่าจันทร์จะยังคงมีท่าทีไม่ยินดียินร้ายอะไรเหมือนเมื่อก่อน แต่หลังจากที่คบกันมาและอยู่ด้วยกันมานานก็ทำให้สุริยะสามารถอ่านจันทร์ออกได้ง่ายๆ
   
สำหรับสุริยะแล้วจันทร์เป็นคนที่ค่อนข้างหัวแข็ง กว่าที่จันทร์จะยอมให้อภัยตัวเองจากอดีตที่ผ่านมาก็ใช้เวลาอีกหลายปีเพราะจันทร์เอาแต่มองว่าตัวเองเป็นคนผิดที่สุดในเรื่องนี้ เป็นฆาตกรที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย จันทร์ในตอนนั้นไม่อนุญาตให้ตัวเองยิ้มหรือมีความสุขด้วยซ้ำ เอาแต่มองโลกด้วยความทุกข์โศกและเฝ้ารอความตายที่คิดว่าตัวเองควรจะได้รับทุกวัน
   
แต่น่าเสียดายที่ความหัวแข็งของจันทร์ก็พ่ายแพ้ให้กับลูกตื้อของสุริยะ เพราะสุริยะยอมทิ้งอาชีพตัวเองเพื่อมาอยู่กับจันทร์แทบจะตลอดเวลา คอยดูแลพร่ำบอกขอบคุณที่อีกฝ่ายเกิดมาบนโลกใบนี้ทุกวัน จนในที่สุดความแน่วแน่ในอุดมการณ์ของจันทร์ก็เริ่มไขว้เขและสุดท้ายจันทร์ก็ยอมให้อภัยตัวเอง
   
สุริยะยังคงจำวินาทีที่จันทร์ยอมยิ้มให้ตัวเองได้ ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่ใช่ตอนที่ได้คบกันเป็นแฟนแต่เขาก็ดีใจมากๆ ที่จันทร์อนุญาตให้ตัวเองมีความสุข ได้ใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเอง ไม่ใช่การไถ่โทษกับเรื่องราวอดีตที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เขาไม่ได้ขอให้จันทร์ลืมมันแต่เขาอยากให้จันทร์ใช้ชีวิตต่อไป
   
ทุกคนเคยผิดพลาด เขาก็เคยผิดพลาด ไม่ว่าใครก็เคยผิดพลาด สิ่งที่เราต้องทำต่อจากนั้นคือแก้ไขและไม่ทำพลาดอีก ไม่ใช่การจมปลักอยู่กับความผิดพลาดของตัวเองไปจนวันตาย
   
เขาดีใจมากจริงๆ ที่ตัวเองสามารถทำให้จันทร์เปลี่ยนความคิดได้
   
“พรุ่งนี้จะเข้าร้านไหม”
   
สุริยะถามขึ้นมาเมื่อเข้ามาในบ้านและฝูงกระต่ายจำนวนหนึ่งก็กรูเข้าหาจันทร์
   
“เข้าสิ ยังไงก็ว่างๆ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว” จันทร์เดินหนีกระต่ายเข้าห้องนอนโดยทิ้งหยดน้ำไว้เป็นทางซึ่งมั่นก็ทำให้คนเป็นเจ้าของสุริยะขมวดคิ้วมุ่น
   
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรถผมนะ”
   
“อือ”
   
เมื่อร่างโปร่งเข้าไปในห้องสุริยะก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาและเดินไปหยิบไม้ถูพื้นที่เก็บไว้ในตู้มาถูพื้น เพราะกลัวว่าจันทร์หรือไม่ก็เขาจะมาลื่นเอาตอนดึกๆ ถ้าเดินมาแถวนี้ ซึ่งระหว่างที่ถูสุริยะก็อดนึกเสียใจไม่ได้ที่ตัวเองรักความเป็นส่วนตัวมากเกินไปจึงไม่มีแม่บ้านประจำ มีแต่แม่บ้านที่จ้างมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์เท่านั้น
   
ใช้เวลาไม่นานนักสุริยะก็ถูเสร็จและเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อที่จะถูพื้นต่อ
   
“…จันทร์”
   
สุริยะแทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเมื่อเข้าไปในห้องและเห็นจันทร์กำลังนั่งดูข่าวช่องต่างประเทศด้วยสีหน้าผ่อนคลายอยู่ สิ่งที่ทำให้ร่างสูงหายใจติดขัดคือจันทร์สวมเพียงกางเกงนอนขาสั้นเท่านั้น อวดเรียวขาและแผ่นอกขาวที่เปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบที่เมื่อก่อนไม่มีใครได้เห็นเพราะถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อกาวน์ตลอดเวลา
   
เจ้าของชื่อเหลือบมองคนเรียกและยิ้มมุมปากราวกับท้าทาย
   
ซึ่งนั่นก็ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของสุริยะขาดผึง โยนไม้ถูพื้นทิ้งก่อนที่จะจู่โจมจันทร์ เสียงเฉอะแฉะฟังดูลามกดังขึ้นพร้อมๆ กับร่างของนายแบบที่แทบจะบดขยี้อดีตนายแพทย์ชื่อดังให้แหลกละเอียดบนเตียง
   
ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของอดีตนายแพทย์ผุดพรายไปด้วยเหงื่อเมื่อถูกกระแทกหนักๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีเสียงครางเล็ดลอดออกมาให้สุริยะได้ยินแม้แต่คำเดียว มีเพียงเสียงหอบหายใจที่ยังคงดังหนักแน่นกับนัยน์ตาโศกซึ่งคลอไปด้วยน้ำตาที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เยือกเย็นดังเดิมของจันทร์
   
ผ่านไปครู่ใหญ่ในที่สุดทุกอย่างก็หยุดลงและมันก็ทำให้จันทร์เอ่ยทักท้วงออกมาด้วยน้ำเสียงดุๆ ไม่ต่างกับตอนที่เจอกับสุริยะครั้งแรก
   
“ซัน”
   
“ขอโทษครับ”
   
สุริยะรีบขอโทษขอโพยดักไว้ทันทีเพราะรู้ดีว่าคราวนี้จันทร์โกรธจริง เนื่องจากเขาเผลอไปทำรอยบนแผ่นอกขาวๆ ของจันทร์เยอะมาก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อีกเพราะเขามักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนที่ได้กลิ่นฮอร์โมนอัลฟ่าของจันทร์ ราวกับว่าสัญชาตญาณส่วนลึกของร่างกายต้องการให้เขาครอบครองและแสดงความเป็นเจ้าของจันทร์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
   
“มันเจ็บ”
   
จันทร์ยังคงหน้าบึ้งไม่พอใจนักแต่ก็ไม่ได้ตำหนิสุริยะจริงจังเพราะมันก็จบลงแบบนี้แทบทุกรอบ ซึ่งเขาก็ควรจะชินกับมันได้แล้วแต่ก็ไม่เคยชินสักที
   
“..ไม่โกรธใช่ไหมครับ”
   
จากพญาราชสีห์บนเตียงเมื่อหลายนาทีก่อนตอนนี้เป็นลูกแมวเชื่องๆ ที่มาซบตัวจันทร์เพื่อขอความเห็นใจ นัยน์ตาที่ผู้คนมักว่ากันว่าสามารถแผดเผาคนมองให้ละลายตอนนี้มองจันทร์นิ่ง
   
แต่แน่นอนว่าจันทร์ก็คือจันทร์ นอกจากจะไม่ละลายแล้วหนำซ้ำยังเย็นเยือกราวกับน้ำแข็งพันปี
   
“โกรธ”
   
อดีตนายแพทย์เสยผมที่ปรกหน้าและถอนหายใจแรงๆ ด้วยความหงุดหงิดเพราะคราวนี้สุริยะทำรอยเต็มไปหมดไม่เว้นแม้แต่ลำคอของเขา และยังทำเยอะจนเหมือนกับว่าจะป่าวประกาศให้ทั้งโลกรู้ไปเลยว่าตัวเองเป็นเจ้าของของเขา
   
“ขอโทษครับ”
   
“ช่างมันเถอะ”
   
ใจแข็งได้ไม่เท่าไหร่สุดท้ายจันทร์ก็พ่ายแพ้ให้กับแววตาซึมๆ ของสุริยะอยู่ดี
   
ซึ่งเอาเข้าจริงก็อาจจะแพ้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันด้วยซ้ำ หากแต่ทิฐิที่มากมายในตอนนั้นก็มากเกินกว่าที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเองได้ แค่เขาอนุญาตให้สุริยะเข้ามาจุ้นจ้านในชีวิตในช่วงนั้นก็นับว่าพิเศษมากแล้วเพราะเขาไม่เคยให้ใครมายุ่งกับตัวเองขนาดนั้นมาก่อน
   
และสุริยะก็คงจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่เขาอนุญาตด้วย
   
“งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ”
   
สุริยะเห็นสีหน้าที่ดูอ่อนลงของจันทร์ก็ยิ้มออก เอาเข้าจริงแล้วถ้าจับจุดจันทร์ได้ถูกก็สามารถรับมือจันทร์ได้ง่ายมากๆ เลยทีเดียว ซึ่งสุริยะก็รู้ดีว่าการที่จันทร์ยอมรับตัวเองเป็นแฟนนั่นก็หมายถึงการยอมรับให้ไปอยู่ในโลกของอีกฝ่ายแล้ว แน่นอนว่าภายใต้ท่าทีเย็นชาใส่เขา จันทร์ก็ยังค่อนข้างใส่ใจเขามากเลยทีเดียว
   
“อือ”
   
จันทร์ครางรับในลำคอส่งๆ เลิกสนใจสุริยะมาใส่ใจกับการพักผ่อนของตัวเองแทน ถึงแม้เขาจะเป็นอัลฟ่าแต่การโดนกระทำตลอดหลายชั่วโมงก็ทำเอาร่างกายอ่อนล้าไปหมดโดยเฉพาะช่วงเอวกับสะโพกที่มีอาการปวดอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเกลี้ยงเกลาขมวดคิ้วไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่นเพราะไม่อยากทะเลาะกับสุริยะ
   
ซึ่งพอนึกถึงอีกฝ่ายนัยน์ตาโศกก็เหลือบมองแผ่นหลังใหญ่ของร่างสูงที่เดินเข้าไปในห้องน้ำพอดี ก่อนที่จะรีบหลบตาแกล้งหลับเพราะคนที่ถูกมองคล้ายกับรู้ตัวหันมาเลิกคิ้วให้กวนๆ
   
“ฝันดีนะครับ”
   
สุริยะฉีกยิ้มที่จันทร์ชอบนิยามว่าเป็น ‘ยิ้มโง่ๆ ’ ให้กับจันทร์
   
“…”
   
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนบนเตียงแต่สุริยะกลับค่อนข้างมั่นใจว่าคนรักของตัวเองกำลังยิ้มมุมปากอยู่

   

เสียงเคาะตะหลิวกับกระทะดังมาหลายชั่วโมงหลังจากที่ร้านตำรับไทยเปิด พ่อครัวซึ่งเป็นอัลฟ่าร่างโปร่งนั้นสวมผ้าคลุมผมและสวมผ้าปิดปาก ปกปิดร่างกายอย่างแน่นหนาเพื่อสุขอนามัยของผู้ที่จะได้รับประทานอาหาร มือที่แต่ก่อนมักจะหยิบมีดผ่าตัดอยู่เป็นนิจในเวลานี้หยิบมีดทำครัวและสับผักหั่นเนื้ออย่างคล่องแคล่ว ซึ่งอาจจะคล่องกว่าตอนผ่าตัดคนด้วยซ้ำไป แม้ว่าจะเพิ่งมาจริงจังกับสายอาชีพนี้ได้ไม่กี่ปีก็ตามเมื่อเทียบกับอาชีพเก่า
   
แต่ที่แน่ๆ คือความสุขในการทำงานที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะคนเป็นพ่อครัวไม่เคยแสดงท่าทีเคร่งเครียดหรือหนักใจกับอาชีพนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวแม้ว่ามันจะเหนื่อยมากก็ตาม หนำซ้ำยังสนุกกับมันเอามากๆ จนเผลอยิ้มอย่างผิดวิสัยอยู่บ่อยครั้ง เวลาที่มีคนชมว่าอาหารอร่อย
   
“พ่อครัว ลูกค้าอยากกินจันทร์”
   
สุริยะซึ่งเท้าคางมองคนรักตัวเองที่ขะมักขเม้นกับการทำอาหารก็อดแซวไม่ได้ เอาเข้าจริงแล้วเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจันทร์จะเคยอยากเป็นเชฟและค่อนข้างมีพรสวรรค์ในการทำอาหารมากทีเดียว ถึงแม้จะเป็นอาหารธรรมดาๆ อย่างข้าวผัดแต่ด้วยรสมือของจันทร์กลับทำให้มันมีรสชาติที่อร่อยและค่อนข้างเฉพาะตัว ทำเอาร้านที่เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปีมีลูกค้าแน่นขนัดทุกวันที่เปิดจนสุริยะต้องเกณฑ์คนที่ไว้ใจได้มาช่วยเป็นลูกมือ
   
“ถ้ามาแล้วไม่ช่วยก็ออกไปครับ พ่อครัวรำคาญ”
   
จันทร์ตอกกลับไม่จริงจังนักเพราะยังยุ่งอยู่กับผัดกะเพราหมูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านและยังเป็นเมนูที่จันทร์ชอบมากที่สุดด้วย ซึ่งแน่นอนว่ากะเพราหมูร้านตำรับไทยนั้นใช้แค่ใบกะเพราไม่มีผักอื่นๆ เป็นส่วนประกอบให้รำคาญใจอย่างแน่นอน
   
ใช้เวลาไม่นานกะเพราะหมูไข่ดาวของโต๊ะสุดท้ายที่เพิ่งสั่งก็พร้อมเสิร์ฟ เด็กร้านซึ่งเป็นลูกน้องของเหมันต์อีกทีรีบมารับจานเพื่อไปเสิร์ฟอย่างขะมักเขม้น ส่วนเด็กร้านคนอื่นๆ อีกสองสามคนก็ยังวุ่นอยู่กับการเช็ดโต๊ะ เก็บเงินจนมือเป็นประวิง
   
“พี่ พี่ว่างแล้ว”
   
เสียงเล็กๆ ดังเจื้อยแจ้วก่อนจะผลุบหัวออกจากประตูพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน
   
“…มาอีกแล้วเหรอ”
   
จันทร์บ่นเสียงเบาและทิ้งตัวนั่งพักบนเก้าอี้ตรงข้ามกับสุริยะด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก นัยน์ตาโศกเหลือบมองสุริยะเชิงขอความช่วยเหลือเพราะไม่ถนัดกับการรับมือกับเด็กนัก
   
“มาจากไหนกันครับเนี่ย”
   
นอกจากจะไม่ช่วยแล้วสุริยะยังหันไปถามแก๊งค์เด็กที่มีอายุไม่น่าเกินแปดขวบอย่างเป็นมิตร ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่ใส่เสื้อลายยอดมนุษย์สีสันแสบตาที่น่าจะเรืองแสงแม้แต่ตอนกลางคืนและดูเหมือนแต่ละคนก็จะคีพคาแรคเตอร์ของตัวเองด้วย เพราะเลือกใส่กันมาคนละสีเลยทีเดียว
   
“พวกผมแก๊งค์เสือดุอยู่แถวนี้ครับ”
   
เด็กชายคนหนึ่งซึ่งโตสุดในกลุ่มเป็นคนตอบ
   
“แล้วมาทำอะไรกันครับ”
   
“ผมมาขอบคุณลูกพี่ครับ ลูกพี่สอนดีมากเลย” ไม่ว่าเปล่าหยิบสมุดการบ้านในกระเป๋าออกมาโชว์คะแนนสิบเต็มสิบหลังจากการทดสอบในห้องเรียนครั้งล่าสุด “ผมชอบลูกพี่สอนสุดๆ ลูกพี่สอนเข้าใจกว่าครูผมอีก”
   
“ลูกพี่? ”
   
สุริยะทวนคำเสียงสูงพยายามกลั้นหัวเราะเพราะจันทร์หน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัดกับคำเรียกอย่างเชิดชูของพวกเด็กๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักเพราะในสายตาคนทั่วไปแล้วจันทร์ในตอนนี้ดูเป็นคนที่น่าเอาเป็นแบบอย่างคนหนึ่ง ถึงแม้จันทร์จะมีใบหน้าพิมพ์เดียวกับจ้าวแต่เมื่อเปลี่ยนทรงผมและอะไรอีกหลายๆ อย่างก็ทำให้ยากที่จะมองออกว่าเป็นคนที่ตัดสินใจยิงตัวตายไปแล้วตั้งแต่วันนั้น
   
หากแต่ในสายตาของสุริยะแล้วจันทร์ไม่เคยเปลี่ยน เขาจดจำจันทร์ได้ในทุกรูปแบบและชอบในทุกแบบด้วย เขารักในตัวตนของจันทร์จริงๆ โดยไม่สนใจว่ารูปลักษณ์ภายนอกของจันทร์จะเปลี่ยนไปแค่ไหน ขอแค่คนนั้นๆ คือ ‘จันทร์ นฤภัทร’ เขาก็พร้อมที่จะรักและประคับประคองความสัมพันธ์นี้ไปจบวันตาย
   
เขารู้ว่าเนื้อแท้ของจันทร์ไม่ใช่คนใจร้ายเพราะถ้าใจร้ายจริงเด็กพวกนี้ก็คงจะโดนไล่ตะเพิดออกจากร้านไปแล้ว ซึ่งนอกจากนี้แล้วจันทร์ยังแวะไปที่คฤหาสน์ตระกูลกิลลาสทุกเดือนเพื่อเยี่ยมหลานและวิจัยเกี่ยวกับยาบางชนิด พยายามที่จะทำให้มันผลิตในประเทศให้ได้เพื่อที่ราคาของยาจะได้ถูกลงและคนที่ต้องการมันจริงๆ สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดของตัวเองเพื่อที่จะได้มันมา
   
“ใช่ พวกผมให้พี่ชายเป็นลูกพี่”
   
เด็กชายอีกคนพูดอย่างภาคภูมิใจในตัวจันทร์สุดๆ ถึงแม้จะไม่เคยให้จันทร์สอนการบ้านแต่ฟังจากหัวหน้ากลุ่มแล้ว ลูกพี่ต้องเป็นคนที่เท่และฉลาดมากแน่ๆ
   
“มีอะไรก็รีบหน่อยแล้วกัน ลูกค้าพี่เข้าแล้ว”
   
จันทร์ผลุดลุกขึ้นยืนเมื่อมีคนมาส่งออเดอร์ เตรียมจะเข้าครัวต่อและหลีกเลี่ยงแก๊งค์เด็กไปในตัว
   
“ลูกพี่อย่าเพิ่งไปปป”
   
เด็กน้อยสามคนล้อมจันทร์ไม่ให้เดินต่อก่อนที่จะยื่นกระดาษซึ่งวาดรูปจันทร์ในชุดซุปเปอร์ฮีโร่กับขนมกล่องหนึ่งที่รวมเงินกันซื้อมาให้จันทร์
   
“ผมขอบคุณลูกพี่มากๆ นะฮะ” เด็กชายเจ้าของคะแนนเต็มพูดด้วยรอยยิ้มจนตาหยีตอนที่ยอมรับมันไปถือ
   
“…”
   
จันทร์ดูได้สักพักก็ฝากมันไว้กับสุริยะและลูบหัวแก๊งค์เสือดุอย่างเอ็นดูด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่หลังผ้าปิดปาก ซึ่งถึงแม้จะจันทร์จะไม่ได้พูดอะไรแต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ดูละมุนละไมขึ้นของจันทร์
   
“ลูกพี่ พวกผมไปแล้วนะต้องไปคุ้มครองคุณทาโร่ต่อ! ”
   
“เดี๋ยวพวกผมมาหาใหม่นะฮะ! ”
   
เด็กชายโบกมือลาหยอยๆ ก่อนที่จะพากันไปวิ่งเล่นที่อื่นต่อโดยมีเป้าหมายเป็นบ้านใกล้ๆ ซึ่งมีหมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ชื่อทาโร่คอยเล่นด้วยอยู่
   
จันทร์มองตามโดยที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองยิ้มกว้างอยู่
   
“ชอบเด็กเหรอ”
   
สุริยะแกล้งแหย่แต่ก็ไม่จริงจังนักเพราะไม่ได้ถือว่าชีวิตคู่ที่สมบูรณ์ต้องมีลูกเสมอไป แค่เขากับจันทร์ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตซึ่งกันและกันนั้นก็นับว่าสมบูรณ์แบบมากเกินพอแล้วสำหรับเขา
   
“เปล่า”
   
จันทร์ตอบส่งๆ หันมาใส่ใจกับการทำอาหารต่อ
   
“ถ้าลูกพี่ชอบผมช่วยทำลูกให้ได้นะ”
   
“ซัน”
   
“ก็ผมเห็นจันทร์ชอบเล่นกับเด็ก”
   
ยังพูดไม่ทันจบประโยคดีจันทร์ก็ตัดบทขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าแข็งกระด้างต่างกับเมื่อกี้ลิบลับ
   
“ไม่ได้ชอบ”
   
“ครับๆ ไม่ได้ชอบก็ไม่ได้ชอบ” นายแบบหนุ่มยกมือเชิงยอมแพ้เมื่อเห็นท่าไม่ดีเพราะจันทร์เริ่มจะอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาจริงๆ ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เขาพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับลูกหรือเด็ก
   
และดูเหมือนครั้งนี้เขาก็ล้ำเส้นมากเกินไปเสียด้วย
   
นัยน์ตาโศกที่มักจะเข้มแข็งเยือกเย็นตอนนี้มองเขานิ่งชั่วขณะหนึ่งที่สุริยะคล้ายกับเห็นความกลัวซ่อนอยู่ในนั้น
   
“อยากมีลูกเหรอ”
   
จันทร์ถามด้วยน้ำเสียงปกติราวกับเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไปไม่มีอะไรต้องกังวลหรือใส่ใจ
   
“เปล่า”
   
สุริยะตอบเสียงเบารู้สึกคอแห้งผากอย่างน่าประหลาด ความอึดอัดที่เขาเป็นตัวต้นเหตุแผ่กระจายไปทั่วจนเด็กเสิร์ฟที่มารอรับอาหารที่จันทร์ทำหน้าซีดเลยทีเดียว
   
“ถ้าอยากมีจะไปรับยาปรับฮอร์โมน”
   
น้ำเสียงของจันทร์ยังคงราบเรียบแม้ว่ากำลังพูดถึงยาที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมาและตอนนี้ก็ถูกพัฒนาจนใช้กันแพร่หลายทั่วโลก มือที่กำลังถือขวดปรุงรสและเหยาะใส่อาหารสั่นน้อยๆ โดยที่จันทร์ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
   
“จันทร์”
   
“นัดวันมา เดี๋ยวถ้าวันไหนว่างจะไป”
   
“จันทร์”
   
“วันนี้ก็ได้ถ้าอยากไป”
   
“จันทร์! มองหน้าซัน! ”
   
สุริยะมองลูกมือในครัวอีกคนของจันทร์เชิงสั่งให้จัดการต่อแล้วลากจันทร์เข้าไปในห้องเก็บของใกล้ๆ ทันทีและจัดการล็อกประตูอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้มีใครมาขัดจังหวะตอนที่พูดคุยเรื่องสำคัญกัน
   
“…”
   
“ร้องไห้ทำไมจันทร์”
   
ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันกับจันทร์มานานแต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่จันทร์ซุกซ่อนกลบเกลื่อนไว้ไม่ยอมบอกใครแม้แต่กับ ‘สุริยะ’ ก็ตามที
   
“ร้องไห้ทำไมครับ คนดี”
   
แม้แต่ตอนที่ร้องไห้สีหน้าของจันทร์ก็ยังเรียบเฉยราวกับไร้อารมณ์ มีเพียงนัยน์ตาโศกที่ฉาบไปด้วยความเจ็บปวดที่ยากที่จะคาดเดาได้ว่าเจ็บปวดเพราะอะไร
   
สุริยะใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาของจันทร์ออกอย่างเจ็บปวด นึกเสียใจที่ตัวเองเล่นมากเกินไป
   
“ซัน ไม่ได้อยากมีลูกนะ จันทร์ ซันโอเคนะกับการอยู่กับจันทร์สองคนเพราะแค่นี้ซันก็มีความสุขมากๆ แล้ว”
   
“…”
   
“ตอบอะไรหน่อยสิ จันทร์ โกรธซันเหรอ”
   
สุริยะเริ่มกระวนกระวายใจและดึงตัวจันทร์มากอดแน่น
   
“..ขอโทษ”
   
จันทร์พูดเสียงแผ่ว
   
“เราคงมีลูกให้ซันไม่ได้”

ทั้งๆ ที่พยายามกลั้นเสียงร้องแต่สุดท้ายจันทร์ก็หลุดสะอื้นออกมาเสียงเบา นัยน์ตาโศกคลอด้วยน้ำตา “เราขอโทษที่เห็นแก่ตัวนะ ซัน แต่เราไม่อยากมีลูกจริงๆ ฮึก เราไม่อยากให้ลูกโดนเหมือนที่เราโดน เรากลัว ฮึก เราไม่อยากให้ลูกต้องมาเจอแบบเรา”
แม้ว่าเรื่องราวในอดีตจะผ่านมาเกือบสามสิบกว่าปีแล้วแต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในใจของจันทร์ไม่ไปไหน คอยตอกย้ำถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้ที่เขาเผชิญว่ามันช่างเจ็บปวดและโดดเดี่ยวมากขนาดไหน ถึงแม้เรื่องราวทุกอย่างจะคลี่คลายและจบลงนานแล้วแต่เขาก็ยังคงกลัว กลัวว่ามันจะเกิดขึ้นกับใครอีก แน่นอนว่าแค่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับลูกของเขา เขาก็ทนไม่ได้แล้ว

เขาถึงพยายามเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้มาตลอด

“จันทร์ มองหน้าซัน”

สุริยะรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นคนที่เข้มแข็งและเยือกเย็นมาตลอดอย่างจันทร์เผยความอ่อนแอออกมาแต่อีกใจหนึ่งก็ดีใจที่ใจยอมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาสักที

“…”

นัยน์ตาโศกที่ยังคลอด้วยน้ำตาสบกับนัยน์ตาของสุริยะนิ่ง

“ซัน สาบานเลยนะว่า ซัน ไม่ได้อยากมีลูก”

สุริยะพยายามพูดด้วยสีหน้าจริงจังที่สุดเพื่อให้จันทร์จะได้เชื่อและสบายใจ

“ความรักมันมีหลายรูปแบบนะ จันทร์ อย่าติดภาพว่าครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องเป็นพ่อแม่ลูกสิ”

“…อือ”

จันทร์พยักหน้าเบาๆ เชิงรับรู้แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้ระบายมันออกมา ก่อนที่จะหลับตารับริมฝีปากที่บดเบียดเข้ามาอย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งๆ ที่ปกติแล้วไม่เคยยอมสุริยะแม้แต่ครั้งเดียวถ้าไม่ได้อยู่ที่บ้าน

อุณหภูมิในห้องคล้ายกับร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อร่างอัลฟ่าสองร่างเริ่มบดเบียดใส่กันอย่างไม่ยอมแพ้ อาจจะเพราะด้วยสายเลือดอัลฟ่าแท้ๆ ที่ทำให้ทั้งสองต่างฟาดฟันกันอย่างดุเดือดทุกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้

หากแต่ก่อนที่สุริยะจะกลืนกินดวงจันทร์ก็ถูกขัดจังหวะเข้าเสียก่อน

ก็อกๆ

“คือ คือผมไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนนะครับ แต่ลูกค้ามาเต็มเลย พวกผมจะคุมไม่ไหวแล้ว”

ซึ่งน้ำเสียงของคนเคาะนั้นก็น่าสงสารเกินกว่าที่จะด่าได้เต็มปาก สุริยะจึงบ่นสบถกับตัวเองสองสามคำแต่ก็ยอมปล่อยให้จันทร์ออกและแต่งตัวให้กลับมาดูเรียบร้อยแม้ว่าอารมณ์จะยังคงค้างคาอยู่ก็ตาม

“..คืนนี้”

จันทร์พูดขึ้นมาลอยๆ เมื่อแต่งตัวเสร็จและกำลังจะออกจากห้อง

ทำให้สุริยะที่อารมณ์บูดกลับมายิ้มกว้างทันที

“โอเค เจอกันคืนนี้ครับ จันทร์”


=========

ตอนพิเศษตอนสุดท้ายแล้ววว  o22

ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ  :ling3:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :o8: :o8: เขิล เขิล เขิลตัวแตกแล้ว
ซันดีกับจันทร์เหลือเกิน

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เนื้อแท้จริงๆ ของจันทร์คือเหมือนแมวจริงๆ นั่นแหละ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ถถถถถ แก๊งค์เสือดุ  :laugh: น่าเอ็นดูแท้

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อยากอ่านคู่นี้อีก
ขอเพิ่มอีกซักนิดนะคะ
พลีส ฟินคู่นี้มาก

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ดีใจที่จันทร์ได้รับความสุข


และได้รับความรักที่มากมายจากพี่ซัน


รักกันมากๆแบบนี้ดูแลกันและกันให้ดีตลอดไปนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มีน้ำตาตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง เศร้าบ้างซึ้งบ้าง ยิ้มบ้าง เหมือนคนอารมณ์แปรปรวนไปแล้ว555 ขอบคุณคนเขียนมากแต่งได้ดีจนไม่อินและไม่รู้สึกขัดอะไรเลย ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ขอบคุณค่ะ 

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อบบบบบ มากกกกกก เป็นเรื่องที่นำเสนอความรักในหายรูปแบบจริง   :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
***** เป็นตอนจบที่ค่อนข้างดาร์กและเต็มไปด้วยความรุนแรง *****

ตอนพิเศษ : DAWN

   
กลุ่มควันลอยขโมงเหนือบริเวณลานจัดพิธีการลงนาม ท่ามกลางเสียงคร่ำครวญร้องไห้ระงมของเหล่าผู้คนซึ่งโดนลูกหลงจากกระสุนปืนที่ยังคงไม่หยุดยิงเพราะเหล่าผู้นำของกลุ่มกบฏยังไม่ตาย
   
“ฆ่าพวกมันให้หมด! ”
   
นพวิทย์ตะโกนออกมาอย่างสะใจเมื่อมีโอเมก้านับสิบคนถูกยิงตามจุดสำคัญจนเสียชีวิตคาที่หลายคน นอกจากนี้แล้วบริเวณปลายเท้าของนายแพทย์ยังมีอีกหลายศพที่หนึ่งในนั้นเป็น ‘ลูกชาย’ แท้ๆ ของตัวเอง
   
กลิ่นคาวเลือดลอยอบอวล เหล่าผู้ชุมที่หนีตายต่างร่วงโรยไม่ต่างจากใบไม้ในเดือนตุลา มีหลายส่วนที่ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตและมีอีกหลายส่วนที่ถูกแขวนคอก่อนที่จะนำศพไปประจานตามที่ต่างๆ เพื่อเป็นการประจานและขู่ไม่ให้ใครก็ตามกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้อีก
   
“อย่าฆ่าพวกเราเลย! ฮึก อย่าฆ่าเลย”
   
ผู้ชุมนุมคนหนึ่งซึ่งยังไม่ถูกยิงร้องออกมาอย่างขวัญเสีย รู้สึกเจ็บปวดที่พวกพ้องของตัวเองที่เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์อันแข็งกล้าในเวลานี้กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณ อีกทั้งยังมีสภาพศพที่อเนจอนาถจนยากที่จะตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลได้ หากแต่ร้องอ้อนวอขอชีวิตได้ไม่ถึงนาทีกระสุนอีกนัดก็เจาะเข้าที่กลางอกทำให้เสียชีวิตทันที
   
เหล่าทหารของทางการที่ยังคงภักดีในระบอบการปกครองแบบเดิมต่างพากันส่งเสียงเฮออกมาอย่างแข็งขันเมื่อท่านรัฐมนตรีประกาศออกมาว่าใครสามารถฆ่าเหล่ากลุ่มกบฎมากที่สุดจะได้รางวัล ห่ากระสุนปืนเดิมที่มากอยู่แล้วมากขึ้นไปอีกเมื่อมีแรงจูงใจ
   
ศพแล้วศพเล่าที่ร่วงโรยไปบนพื้น เหล่าผู้ชุมนุมต่างพากันวิ่งหนีไปตามไปหลบตามสถานที่ต่างๆ พยายามอ้อนวอนร้องขอให้เหล่าชาวบ้านเปิดประตูให้ตัวเองได้เข้าไปหลบซ่อนเพื่อรักษาชีวิต แต่ก็มีส่วนน้อยเหลือเกินที่อ้อนวอนได้สำเร็จเพราะทุกคนล้วนรักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น ทันทีที่เหล่าทหารทั้งจากทางการและประเทศที่สนับสนุนเข้ามาประชิดตัวพวกเขาก็ตายแทบจะทันที
   
ในเวลานี้กลิ่นที่รุนแรงกว่ากลิ่นคาวเลือดและควันไฟคือกลิ่นแห่งความสิ้นหวัง ความตายที่มากมายรอบตัวทำให้อุดมการณ์ของเหล่าผู้ชุมนุมนั้นเริ่มจะสั่นคลอน มีบางคนที่พยายามขอร้องอ้อนวอนให้เหล่าทางการไว้ชีวิตแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏและการฆ่ากบฏก็ถือว่าไม่เป็นบาป หนำซ้ำยังถูกยกย่องเชิดชูเกียรติ์อย่างมากจากบางศาสนาที่ได้รับการสนับสนุนมาอย่างดีตลอดจากรัฐบาล
   
เพราะคำว่า ‘ไม่บาป’ ทำให้ศีลธรรมอันดีงามในใจของเหล่าคนทั่วไปเริ่มเบาบางลง
   
กลุ่มอัลฟ่าและเบต้าที่ยังได้ประโยชน์จากระบอบการปกครองนี้จึงต่างพากันมาช่วยฆ่าล้างบางเหล่ากบฏที่จะมาทำลายความมั่นคงของชาติ เพื่อที่ระบอบการปกครองที่เอื้อหนุนพวกเขาได้ดำรงอยู่ต่อ
   
“ระบบชนชั้นจงพินาศ ความเสมอภาคจงเจริญ! ”
   
โอเมก้าคนหนึ่งซึ่งกำลังถูกรุมประชาทัณฑ์จากประชาชนบางส่วนกู่ร้องออกมาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์และมีลมหายใจ แต่น่าเสียดายที่เสียงตะโกนที่เคยมากมายท่วมท้นค่อยๆ หายไปทีละส่วน เหล่าสื่อมวลชนที่ควรทำหน้าที่สื่อที่ดีประกาศความจริงให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ในเวลานี้ก็ต่างพากันปิดสัญญาณ ไม่มีใครกล้าถ่ายทอดสดแม้แต่คนเดียวเพราะถูกปลายกระบอกปืนจ่อหัว
   
เวลาค่อยๆ ไหลเลื่อนไปหากแต่ในสายตาของกลุ่มอีกานั้นราวกับนานชั่วกัลป์ ไอทีซึ่งแฮ็คระบบกล้องวงจรปิดบริเวณงานจ้องมองภาพที่ปรากฎบนหน้าจออย่างสิ้นหวัง รับรู้ถึงน้ำตาที่ไหลรินออกจากดวงตาไม่หยุดเมื่อเห็นถึงการฆ่าล้างมนุษย์ด้วยกันเองราวกับว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คน
   
“…ฮึก”
   
เหล่าโอเมก้าที่พอจะรู้ข่าวจากการแอบไลฟ์สดของกลุ่มอีกาที่ยังเหลือรอดอยู่ร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง พวกเขาไม่มีอะไรที่สามารถไปต่อกรกับฝ่ายรัฐบาลได้ด้วยซ้ำ กลุ่มคนที่เคยมีใจเอนเอียงมาฝั่งกบฏเมื่อประจักษ์ถึงความรุนแรงต่างก็พากันแปรพักตร์กลับอย่างรักตัวกลัวตาย อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มนี้คือเบต้า ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะจากการต่อสู้พวกเขาก็ได้รับประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะมาทิ้งชีวิตให้กับอุดมการณ์เลื่อนลอยที่ขายฝันและความสวยงามของสังคม
   
เพียงไม่กี่ชั่วโมงจำนวนตัวเลขของสมาชิกกลุ่มอีกาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการเสียชีวิต การถอนตัว การยอมจำนนต่อรัฐบาลเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง หากแต่ความไม่สงบก็ยังไม่จบลงเมื่อยังมีปลาใหญ่เล็ดรอดออกจากแหของเพชฆาตในนามของรัฐบาลยังมีชีวิตรอดอยู่
   
“พวกเราก็แค่ร้องขอความเท่าเทียมเท่านั้นเอง”
   
วุ้นซึ่งขโมยชุดทหารสหรัฐที่พลาดยิงกันเองตายมาใส่ตะโกนออกมา ขณะที่ยืนอยู่บนรถยนต์คันหรูที่พาเหล่าคนสำคัญของฝ่ายรัฐบาลมายังสนามที่เป็นลานประหารในวันนี้ มือที่เหลือเพียงข้างเดียวกำธงของกลุ่มอีกาแน่นและชูมันขึ้นมาแม้ว่าธงจะถูกเผาไปไปครึ่งหนึ่งแล้วก็ตาม
   
ปลายกระบอกจากเหล่าทหารทั้งหน่วยซีลและรัฐบาลที่กำลังเล็งไปยังเหล่าผู้ชุมนุมจึงเบนมาทางวุ้นทันที หากแต่ก็ยังไม่มีใครกล้ายิงเมื่อหัวหน้าฝ่ายรัฐมนตรีอย่างภคินยกมือขึ้นห้ามเพราะอยากจะรู้ว่ากบฏไร้ค่าอย่างวุ้นต้องการจะพูดอะไรอีก
   
“ฮึก พวกเรา พวกเราก็เป็นคนนะ ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้”
   
นัยน์ตาของวุ้นแดงก่ำเมื่อมองไปเห็นผู้นำของกลุ่มตัวเองถูกแขวนคอไว้ที่ต้นไม้ต้นหนึ่งกลางสนามและถูกล้อมรอบด้วยผู้คนมากมาย มีหลายคนที่ขว้างปาหินใส่และมีบางคนที่หยิบเก้าอี้ออกมาฟาดระบายความโกรธแค้นออกมา ซึ่งไม่ใช่เพียงสิตคนเดียวที่ถูกกระทำใส่อย่างต่ำช้า เหล่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนสำคัญของเขาอีกหลายคนก็ถูกกระทำกับศพอย่างน่าสะพรึงกลัว ทั้งถูกตอกลิ่มที่อก ปัสสาวะรด เผาทั้งเป็น หรือแม้แต่การลากศพไปตามพื้นราวกับไม่ได้เป็นมนุษย์มาก่อนแต่เป็นสัตว์บางอย่างที่ไร้ค่าและสมควรตาย
   
“ทำไมพวกเราถึงต้องตาย! ฮึก พวกเราก็ขอแค่ความเท่าเทียมเท่านั้นเอง มันไม่ได้มากอะไรเลย ฮึก มันไม่ได้มากอะไรเลยจริงๆ.. ทำไมต้องทำถึงกับพวกเราขนาดนี้”
   
เสียงของวุ้นเบาลงเรื่อยๆ ตามความหวังที่ใกล้มอดลงทุกทีและในที่สุดขาทั้งสองก็ไม่อาจประคองร่างของวุ้นได้อีกต่อไปเมื่อถูกห่ากระสุนยิงใส่ตามคำสั่งของฝ่ายรัฐบาล
   
“..ระบบชนชั้นจงพินาศ ความเสมอภาคจงเจริญ”
   
ถึงแม้ร่างกายบางส่วนจะถูกกระสุนแต่วุ้นก็ยังพยายามยืนหยัดในอุดมการณ์ สองมือยังประคับประคองให้ธงแห่งความเสมอภาคตั้งฉากกับรถของเหล่ารัฐบาล พยายามประกาศถึงเจตนารมณ์จวบจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
   
ปัง!
   
กระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าที่หัวของหนึ่งในความหวังของกลุ่มกบฏ
   
ร่างสูงโปร่งของวุ้นล้มหงายหลังตกลงจากหลังคารถไปพร้อมกับธง
   
โดยมีฉากหลังเป็นความยินดีปรีดาของเหล่ารัฐบาล

   

ทันทีที่หัวหอกของกลุ่มกบฏถูกฆ่าและจับกุมจนหมด ทางรัฐบาลก็ประกาศชัยชนะโดยอาศัยสื่อทุกช่องทางและมีการจัดงานเฉลิมฉลองให้กับระบบการปกครองแบบเดิมที่ยังคงสามารถดำรงอยู่พร้อมกับประกาศใช้กฎหมายใหม่ที่มีความเข้มงวดกวดขันมากกว่าเดิม
   
เหล่าโอเมก้าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏนั้นมีโทษจำคุกตลอดชีวิตและริบทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นของรัฐบาล ส่วนเบต้าและอัลฟ่าที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นได้ถูกลดหลั่นโทษลงมาด้วยการจำคุกสี่ห้าปีเท่านั้นแต่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ติดตามตัวของรัฐบาลไว้ตลอดเวลาเพื่อแสดงความภักดีต่อทางการ
   
แน่นอนว่าชีวิตหลังการพยายามปฏิวัตินั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละขั้วจากเมื่อก่อน จากที่คิดว่ามันจะเลวร้ายกว่านี้ไม่ได้ตอนนี้กลับเลวร้ายมากกว่าเดิมอีกนับพันเท่า เหล่าโอเมก้าที่ไม่ถูกจับกุมนั้นต่างพากันใช้ชีวิตเคล้าน้ำตา พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการศึกษาร่ำเรียนในช่วงมัธยมปลายอีกต่อไปเพราะทางการไม่อนุญาต หนำซ้ำยังไม่มีสิทธิ์มีเสียงในการเลือกตั้งและถูกบีบให้ประกอบอาชีพที่มีรายได้ต่ำเท่านั้น
   
ส่วนเงิน ไอที และเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มกบฏนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่ไกลออกไป พยายามสานต่อเจตนารมณ์ของกลุ่มอีกาด้วยการโน้มน้าวชักจูงผู้คนใหม่อีกครั้ง แต่ก็เป็นไปได้ยากเหลือเกินเพราะความรุนแรงที่เกิดทำให้เหล่าผู้คนนั้นกลัวจนหัวหด
   
ซึ่งคนที่มีอำนาจพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงเพราะยังคงได้รับประโยชน์จากระบอบการปกครองแบบนี้อยู่ และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือทางรัฐบาลก็ฉลาดพอที่จะสนับสนุนคนกลุ่มนี้ให้รวยมากขึ้นไปอีก โดยการออกนโยบายต่างๆ ที่เกื้อหนุนต่ออุปโภคบริโภคของประชาชนที่มีฉากหน้าเพื่อให้ความช่วยเหลือหากแต่ความจริงแล้วเป็นการบีบบังคับให้ประชาชนใช้จ่ายกับสิ่งกลุ่มทุนที่เกี่ยวข้องจนเหล่านายทุนนี้รวยขึ้นไปเรื่อยๆ
   
แน่นอนว่านโยบายเหล่านี้คล้ายจะทำให้ประชาชนสุขสบายแต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะความจริงแล้วมันคือระเบิดเวลา ระเบิดที่สามารถทำลายล้างทุกอย่างได้ในพริบตา
   
มันจะฆ่าเหล่าเบต้าที่นิ่งนอนใจปล่อยให้ตัวเองสิทธิ์ของตัวเองถูกลิดรอนอย่างทองไม่รู้ร้อน
   
มันจะหลอมละลายลายเหล่าโอเมก้าที่น่าสงสารให้มีชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าเดิม
   
สิ่งมีชีวิตเดียวที่จะเหลือรอดคือเหล่าอัลฟ่าผู้สูงส่งที่แสร้งตกอกตกใจกับระเบิด หากแต่ความจริงแล้วเป็นผู้จุดระเบิดด้วยซ้ำไป
   
ซึ่งระเบิดเวลาที่ว่านี่ก็คือ ‘เศรษฐกิจ’
   
ระบบการปกครองที่ไม่โปร่งใสและไร้การตรวจสอบจะทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น เหล่าคณะกรรมการตรวจสอบที่ถูกจัดตั้งขึ้นก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรนักเพราะถูกป้อนคำตอบสำเร็จรูปให้แล้ว หากตอบคำตอบอื่นก็จะถูกปลดออกและนำคนที่หัวอ่อนกว่านี้เข้ามาเสียบแทน
   
แน่นอนว่าผลเสียของการคอร์รัปชั่นคือการที่ประเทศสูญเสียผลประโยชน์ให้กับคนกลุ่มเดียวอย่างมหาศาล การไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆ ทำให้เหล่าผู้มีอำนาจในมือจับจ่ายใช้สอยกันอย่างสนุกสนานจนทำให้เงินในคลังร่อยหรอจนต้องไปกู้ธนาคารต่างประเทศ เพิ่มหนี้ให้กับประเทศและคนที่ชดใช้ก็ไม่ใช่ใครนอกจากประชาชน
   
หนี้ต่อหัวที่มากขึ้นทำให้ภาษีต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
   
เหล่าประชาชนที่ปกติปากกัดตีนถีบอยู่แล้วในเวลาก็ถึงคราวต้องล้มตาย ถึงแม้จะมีการช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเงินจำนวนหนึ่งทุกเดือนแต่มันก็ไม่เพียงพอ เพราะพวกเขาต้องใช้เงินมากกว่านั้นในแต่ละวันกับค่าครองชีพที่สูงเทียมฟ้าในประเทศที่ระบบการปกครองต่ำช้ายิ่งกับที่ใด
   
“ผม ผมขอเพิ่มเงินเดือนได้ไหม”
   
โอเมก้าคนหนึ่งซึ่งทำงานเป็นคนรับใช้เอ่ยขออัลฟ่าซึ่งเป็นนายตัวเองอย่างน่าอดสู ใบหน้าของโอเมก้าคนหนึ่งตอบจนแทบไม่มีกล้ามเนื้อ แววตาหมองคล้ำอย่างคนนอนน้อยเพราะทำงานหนักทุกวันจนมีเวลานอนไม่ถึงสี่ชั่วโมง แต่ถึงกระนั้นเงินที่ได้แต่วันก็ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวของเขา
   
“ไม่! ”
   
อัลฟ่าซึ่งเป็นนายคำรามออกมาอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อโอเมก้าที่น่าขยะแขยงทำท่าจะถลาเข้ามากอดขาข้อร้อง เคราะห์ดีที่บอดี้การ์ดคนสนิทเตะออกไปก่อน ขาของเขาจึงยังคงสะอาดสะอ้านเหมือนเดิม
   
“ฮึก ขอร้องล่ะ ครอบครัวผมไม่มีอะไรกินกันแล้ว”
   
โอเมก้าวัยกลางคนร้องไห้คร่ำครวญออกมาอย่างใจสลาย ลูกชายคนโตของเขากำลังจะอดตายเหมือนลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งเสียไปเมื่อสามเดือนก่อน เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมข้าวของที่เคยถูกถึงได้แพงจนน่าใจหายขนาดนี้ เงินที่ได้ในแต่ละวันแทบไม่พอซื้อข้าวมื้อหนึ่งด้วยซ้ำ
   
“เอามันออกไป” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยปากไล่อย่างไม่ใส่ใจซึ่งคำสั่งนี้ก็มีผลให้คนสนิทลากตัวหัวหน้าครอบครัวที่น่าสงสารออกไปทันที
   
คนที่ใช้ชีวิตอยู่แต่บนสรวงสรรค์ย่อมไม่เข้าใจถึงความทุกข์ยากในนรกกาล พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความหิวความอดอยากคืออะไร หนำซ้ำพวกเขามีความคิดแบบเดียวกับพระนางมารี อังตัวแน็ตที่มีวลีดังว่า ‘ถ้าขนมปังแพง ก็กินเค้กแทนสิ’
   
แน่นอนว่าพวกเขาคือพวกที่สามารถกินขนมปังได้ตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องกินเค้กที่มีราคาถูกกว่าแต่อย่างใด
   
“ไม่ ไม่! ฮึก ผมขอร้อง อย่าทำแบบนี้”
   
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายร้องออกมาดังลั่น เมื่อถูกโยนออกมาจากคฤหาสน์หลังโตที่ต่อให้ใช้เงินเก็บทั้งชีวิตก็ไม่สามารถซื้อได้แม้แต่หน้าต่างสักบาน ใบหน้าของเขาเปื้อนด้วยน้ำตาที่เป็นเลือด ทั้งเนื้อทั้งตัวคลุกด้วยดินสกปรกที่ถมทางเท้า
   
เขารู้สึกอึดอัด เจ็บปวด ไม่เข้าใจ
   
แต่สิ่งชัดเจนในใจของเขาคือความเหลื่อมล้ำที่มากพอที่คร่าชีวิตครอบครัวของเขาได้ทั้งครอบครัว
   
เขาร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวังขณะที่เดินกลับไปหาครอบครัวของตัวเองซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเมือง ย่านนั้นเป็นย่านใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการอยู่ของเหล่าโอเมก้าโดยเฉพาะ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้เพียงพอต่อประชากรโอเมก้าที่เริ่มมีจำนวนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
   
นับว่าเป็นเรื่องตลกร้ายที่ไม่มีโอเมก้าคนไหนขำออกสักคน
   
“..ไม่เป็นไร มันต้องไม่เป็นไร อีกไม่นานต้องหางานใหม่ได้แน่”
   
เขายังคงจมจ่ออยู่กับความทุกข์โศก พยายามปลอบประโลมตัวเองทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าต่อให้ได้งานเขาก็ไม่มีวันหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้ไหวอยู่ดี ถ้าเกิดเงินที่เขาได้ยังเป็นเศษเงินของเหล่าเศรษฐีอยู่ ยิ่งคิดถึงเรื่องเหล่านี้ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดถึงความอยุติธรรมในสังคมที่เกิดขึ้นอย่างปกติจนกลายเป็นความผิดปกติที่กลายเป็นตรรกะถูกต้องในสังคมไปเสียแล้ว
   
เอาเข้าจริงเขาเชื่อว่าตัวเองจะไม่เจ็บปวดขนาดนี้ ถ้าไม่เคยสัมผัสความเท่าเทียมมาก่อน ถึงแม้มันจะเกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงปฏิวัติแต่มันก็ทำให้เขามีความสุข มีความหวังว่าตัวเองจะสามารถหลุดพ้นจากชีวิตห่วยๆ สวัสดิการรัฐโหลยโท่ย ระบบการขนส่งมวลชนที่แสนจะกะโหลกกะลาและความเหลื่อมล้ำที่นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
   
ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ในที่สุดก็มาถึงที่หน้าห้องซอมซ่อของตัวเองที่เคยมีสมาชิกครอบครัวอาศัยถึงสี่คนในนั้น
   
“..ไม่เป็นไร มันจะไม่เป็นไร”
   
เขากล่อมตัวเองด้วยคำว่าไม่เป็นไรมาตลอด แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคำว่าไม่เป็นไรของตัวเองนั้นไม่เคยช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย แต่แล้วยังไงล่ะ แค่เขาสามารถประคองสติตัวเองไม่ให้เสียสติไปก่อนก็นับว่าเป็นบุญโขแค่ไหนแล้ว
   
มือหยาบกร้านผลักประตูไม้เก่าเข้าไปก่อนที่จะพบว่าภรรยาของตัวเองนั่งกอดลูกไว้แนบอกตัวสั่นระริก แน่นอนว่าเขาพุ่งตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยไม่ต้องคิดทันที
   
“เกิดอะไรขึ้น หม่อน”
   
เขาถามอย่างตื่นตระหนก รับรู้ถึงการหายใจอันหอบกระชั้นของตัวเอง
   
เขากำลังหวาดกลัว
   
“ฮึก กอล์ฟไปแล้วพี่” ภรรยาที่เคยแสนสวยของเขาพูดด้วยสีหน้าราวกับโลกกำลังจะถล่มลงไปมาในอีกไม่ช้า “กอล์ฟไปอยู่กับน้องบีแล้ว”
   
“…”
   
ลางสังหรณ์ของเขาเป็นจริง ลูกชายคนโตของเขาตายแล้วด้วยความอดอยากและอาการป่วยเรื้อรังที่เขาไม่มีปัญหาหาเงินมารักษาได้แต่ประคับประคองอาการไปเรื่อยๆ
   
“ฮึก”
   
เขาโถมกอดภรรยาร้องไห้ออกมาอย่างใจสลาย
   
   
ผ่านไปสิบห้าปีหลังการปฏิวัติ ความโกรธเคืองคับแค้นใจของโอเมก้านับวันก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะถูกรัฐบาลจับตามองตลอดเวลาแต่เหล่าโอเมก้าก็มีวิธีการของตัวเองในการติดต่อสื่อสารกัน พวกเขาใช้กระดาษพูดคุยและนัดหมายกันถึงการก่อการปฏิวัติครั้งใหม่
   
วาดฝันถึงอนาคตแม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันอาจจะไม่สำเร็จอีก พวกเขาอาจจะโดนฆ่ากันอีก แต่แล้วยังไงล่ะ สิ่งที่กำลังทุกข์ทนอยู่ต่อนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็นไม่ใช่หรือ การถูกกดหัวให้ต่ำเยี่ยงสัตว์ ไม่ให้การศึกษา ทำให้โง่เขลาและควบคุมง่าย
   
พวกเขาทนกันมามากพอแล้วและมันถึงเวลาสักทีที่พวกเขาจะโต้กลับบ้าง
   
“บอกตามตรงว่าผมไม่มั่นใจว่าการปฏิวัติครั้งนี้จะสำเร็จไหม”
   
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังกังวานต่อหน้าผู้คนนับหมื่นที่มารวมตัวกันเพื่อที่จะกล่าววาทกรรมชุดสุดท้ายก่อนที่จะเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อประท้วงอย่างสันติ ซึ่งคนที่พูดนั้นก็คือไอทีที่ผันตัวมาเป็นหนึ่งในผู้นำการปฏิวัติครั้งนี้ เฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในกลุ่มปฏิวัติครั้งเก่าที่ยังเหลือรอด พวกเขาล้วนเติบโตกันหมดแล้วและเฝ้ารอที่จะทำการปฏิวัติอีก
   
“ครั้งที่แล้วผมเสียเพื่อน เสียครอบครัว สูญเสียทุกๆ อย่างไปมากเหมือนที่พวกคุณเคยเสีย”
   
แววตาของไอทีนิ่งสงบยามที่นึกถึงความสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อตอนนั้นที่ทำให้คนหลายคนแทบเสียสติ ซึ่งหนึ่งนั้นก็รวมถึงเขาด้วย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้บ้า เขาเลยเลือกที่จะสานต่อเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของผู้คนในอดีต
   
“จนถึงตอนนี้พวกเราก็สูญเสียกันมามากและไม่เคยหยุดสูญเสีย ตราบใดที่รัฐบาลนี้ยังคงดำรงอยู่ ชีวิตของพวกเราก็จะไม่มีวันดีไปมากกว่านี้”
   
ไอทีพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นเพื่อปลุกกำลังใจให้กับพวกพ้องใหม่ของเขาในคราวนี้
   
“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงมัน ถึงเวลาแล้วที่ระบอบการปกครองที่เต็มไปด้วยความผิดปกตินี่จะหยุดสักที ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเท่าเทียมกัน! ”
   
เสียงเฮรับดังกึกก้องก่อนที่เคลื่อนขบวนจะเดินจากย่านถิ่นที่อยู่พวกโอเมก้าไปยังทำเนียบรัฐบาลที่ในเวลานี้กำลังต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากนานาประเทศที่มาประชุมเรื่องสันติภาพในวันนี้
   
“หวังว่าครั้งนี้จะสำเร็จ”
   
เงินเปรยขึ้นเบาๆ ยามที่มองกลุ่มชนที่กำลังเดินเข้าในเมือง
   
ไอทีหัวเราะในลำคอขณะที่มองดวงอาทิตย์สีแดงก่ำที่กำลังจะขึ้นในอีกไม่ช้า
   
“ต่อให้ครั้งนี้ไม่สำเร็จ ครั้งหน้าก็อาจจะสำเร็จ”
   
รัฐบาลอาจจะคิดว่าแค่การฆ่าเหล่าหัวหน้ากลุ่มปฏิวัติก็เพียงพอแล้วสำหรับการหยุดความกล้าของประชาชน แต่แน่นอนว่ามันเป็นความคิดที่ผิด เพราะตราบใดที่ความคิดและอุดมการณ์ยังดำรงอยู่ การปฏิวัติก็จะเกิดขึ้นได้เสมอ
   
ถึงแม้ครั้งนี้ไม่สำเร็จ ครั้งหน้าจะไม่สำเร็จ
   
พวกเขาก็จะพยายามต่อไป
   
จนกว่าความอยุติธรรมจะหายไป

=======

ตอนนี้ไม่ใส่ในรวมเล่มนะคะ

ถือว่าอ่านสนุกๆ แล้วกันค่ะ  :z10:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2018 17:34:59 โดย Foggy Time »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ดราม่าสุดๆ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :z10: :z10: :z10: :z10:
6 ต.ค.2516  :z10: 16 ต.ค. 2519

สงสารคนที่อดอยากแล้วตายกัน งืออออ
ดราม่าหนัก  :katai5:

ออฟไลน์ Bebii123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกง่าาาา  :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
บอกเลยอ่านเรื่องนี้มีหลายอารมณ์มากเศร้าแต่น้ำตาไหลไม่ออก เจ็บปวดความเห็นแก่ตัวของพ่อแม่จ้าวจันทร์เลื้ยงลูกแบบพ่อแม่รังแกฉันเต็มๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านเรื่องนี้แล้ว เกลียดพ่อแม่ จันทร์กับจ้าวมาก
พ่อแม่รังแกฉัน
ดาร์กมากเลยเรื่องนี้ แต่สนุกมากค่ะ อ่านแล้งวางไม่ลงจริงๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ BuzZenitH

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-0
อ่านรวดเดียวจบ สนุกกกกก ไม่อยากให้จบเลย  :ling1:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
หายไปนานมาก วันนี้มาแจ้งข่าวว่าได้รวมเล่มกับทางสำนักพิมพ์ Lavender Publishing By B2S ค่ะ  :hao5:


ซื้อก่อนสิ้นเดือนนี้จะอยู่ที่ 359 บาทค่ะ



ไม่มีใครอยากตกเป็น 'เหยื่อ'

‘จ้าว’ อัลฟ่าหนุ่มหรืออดีตนักร้องดังผู้โดนกล่าวหาในคดีฆ่าคนตาย หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากคุกได้ไม่นานจ้าวก็พบว่าสิ่งที่รอเขาอยู่ไม่ใช่อิสรภาพอย่างที่ฝันแต่กลับเป็นความจริงที่ต้องเผชิญ เพราะนอกจากจะถูกทำให้กลายเป็นโอเมก้าแล้วเขายังต้องถูกส่งตัวไปโครงการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ที่ทำให้โอเมก้าตายนับพัน
ความสิ้นหวังเกาะกุมจิตใจของจ้าวจนเจ้าตัวทนรับแทบไม่ไหว สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวเขาเอาไว้คือกุหลาบสีขาวจากอัลฟ่าลึกลับคนหนึ่งที่ช่วยประคับประคองเขาไม่ให้เสียสติไปซะก่อน

“จ้าว”
“ผมเชื่อนะว่าคุณไม่ได้ทำ”

“…”

PREY เหยื่อ { OMEGAVERSE }
ผู้แต่ง :Foggy Time.
ISBN : 9786164990630
ราคา : 399 บาท
สิ้นเดือนนี้เจอกันที่ร้าน B2S ทุกสาขาและร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศไทย

ทางออนไลน์ส่งข้อความหาแอดมินทางเพจ

ช่องทาง Shopee (ช้อปปี้) ลิงก์นี้

https://bit.ly/39T0vVg


ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ cutelady

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สายดาร์กมาเลย อ่านจนจบ ดีใจที่จ้าว มีความสุข พี่เหมันต์ดูแลน้องดีมาก รัก..รัก..รัก นะคนเขียน
 :mew1: :mew1: :mew1: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nuch-p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :hao5:สุดๆๆๆๆ

ออฟไลน์ sarawutcom

  • เน็ตดีแทค 10 เม็ก 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-27
    • http://www.sarawutcomputer.com/
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด