>>>ฝรั่งใจ ♥ รักนี้สาย ฝอ<<< แจ้งข่าวตีพิมพ์ 07-05-22 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>>ฝรั่งใจ ♥ รักนี้สาย ฝอ<<< แจ้งข่าวตีพิมพ์ 07-05-22 P.9  (อ่าน 59139 ครั้ง)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 944
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ป้านดมีการหวงด้วยโว้ยยยย55555555555

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ชอบๆอ่านวันเดียวยาวๆไปสนุก

ออฟไลน์ fairy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0





บทที่13 ยอมแล้วใจ




         
        ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์หลังจากเหตุการณ์ถูกบอกรักหลังรถกระบะที่ลานจอดรถ ถ้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมหลังจากเหตุการณ์วันนั้น คงต้องยอมรับตรงๆว่าตอนนี้ผมโคตรจะสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง
ส่วนอีพี่เบิ้มก็ติดผมหนึบยิ่งกว่าเดิมซะอีก ไม่ยอมออกไปไหนขลุกอยู่กับผมที่ร้านกาแฟทุกวัน ตกเย็นก็ออกไปยิมด้วยกัน ทานข้าวเย็นด้วยกันจากนั้นก็จะรอผมเสร็จงานที่เกสท์เฮ้าส์เพื่อที่จะเดินมาส่งผมที่หน้าบ้านทุกคืนทำตัวซะเหมือนคนเป็นแฟนกันเข้าไปทุกวัน..จนผมเริ่มชินกับการมีพี่เบิ้มใกล้ๆตัวแบบนี้ จนหลงลืมอะไรบางอย่างว่าเหลืออีกแค่ไม่กี่วันพี่เบิ้มก็จะกลับลอนดอนและนั้นทำให้ในใจของผมวูบโหวงอย่างน่าประหลาด..


“ที่รัก เย็นนี้เราไปดูเฟอร์นิเจอร์กันมัยครับ” พี่เบิ้มเงยหน้าจากหนังสือเมื่อผมวางแก้วกาแฟแก้วที่สามของวันนี้ลงบนโต๊ะ  หึ แดกให้ตาค้างไปถึงชาติหน้าเลยนะมึง


“เฟอร์นิเจอร์?”  รีบดูเพื่อ คอนโดของพี่เบิ้มผมยังไม่ได้เริ่มลงมือทำเลยสักแอะ ก็เพราะเจ้าของห้องมันยังไม่ให้เริ่มทำ ไม่รู้เหตุผลอะไรของเขาถึงบอกให้เริ่มทำหลังจากที่กลับลอนดอนไปแล้วค่อยเริ่ม ส่วนแบบห้องเคยทำให้ดูอยู่หลายแบบแต่คำตอบที่ได้ก็มีเพียงหนึ่งเดียวคือ ‘แล้วแต่คุณ’


“ครับ ผมอยากมีโมเมนต์คู่รักเลือกซื้อของเข้าบ้านอะไรแบบนี้” ใบหน้ามึงช่างเพ้อฝัน


“คู่รัก?”


“ใช่ครับ ผมกับคุณไงที่รัก”


“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”  เควสชั่นมาร์คเต็มหน้าเต็มหัวกูไปหมดแล้วเนี่ย


“ตั้งแต่วันที่ผมบอกรักคุณที่ยิมของซูซี่ยังไงล่ะครับ”


“คุณบอกรักผมแต่ผมยังไม่ได้บอกรักคุณ” มึงจะเออออห่อหมกเองแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย


“แต่คุณยอมให้ผมจูบ ถ้าไม่รักกันทำไมยอมให้จูบล่ะครับ” เออ..นั่นน่ะสิ?


“กะ ก็คุณขอ”


“ถ้าเป็นคนอื่นขอคุณก็ยอม?”


“ไม่ใช่!” ใครจะยอมให้คนอื่นจูบเรี่ยราดขนาดนั้นเล่า


“ถ้างั้นเพราะอะไรล่ะครับ” เวลามึงถามทำไมต้องใช้สายตาวาววับขนาดนั้นด้วยละเนี่ย


“ผมไม่รู้!” อย่าถามกู  กูไม่รู้   ฮือออ


“หึ หึ”


“หะ หัวเราะทำไม”


“หัวเราะคนปากแข็ง”


“ผมไม่ได้ปากแข็งนะ”


“คร้าบบไม่แข็ง แต่นิ่มมากๆต่างหากเนอะ”               

                   
“...” หัวแม่มือที่เกลี่ยเบาๆที่ริมฝีปากของผมทำเอาตัวผมแข็งทื่อไปหมดพร้อมกับใจที่สั่นไหว..อีกแล้วใจ


“ไปด้วยกันนะที่รัก”


   น้ำเสียงอ้อนวอน นัยน์ตาคู่สีเทา สัมผัสที่ใกล้ชิด กลิ่นกายที่ทำให้ปั่นป่วนทุกครั้งเมื่อเผลอสูดเข้าไป และทุกๆอย่างที่มาจากผู้ชายตรงหน้าผมไม่สามารถต้านทานได้เลย..ยอมแพ้แล้วใจ


“ก็ได้ครับ”


“เย้ ถ้างั้นไปกันเลยนะครับ” เย้? มึงเป็นเด็กรึไง?


“ใจเย็นสิคุณ แล้วยิมล่ะ” ก็นี่มันใกล้เวลาที่จะไปยิมแล้วไง


“วันนี้งดครับ เพราะเราจะไปเดทกัน”


“...” เดท? ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์?  เอาเหอะ ถ้าพี่มึงจะหน้าบานเป็นกระด้งมีความสุขขนาดนี้ก็ไม่อยากขัด


“ถ้างั้นก็ Let’s go”


“เดี๋ยวครับ รถผมจอดทางนี้” มึงดีใจจนหลงทิศแล้วเรอะ


“วันนี้ไปรถผมครับ”


“?”

แล้วก็ถึงบางอ้อเมื่อเดินตามพี่เบิ้มมาจนถึงมอเตอร์ไซค์ที่พี่เบิ้มเช่าไว้ 


“นี่ครับ” หมวกกันน็อคสีชมพูหวานถูกยืนมาตรงหน้า..ทำไมของมึงสีดำละแล้วของกูทำไมสีมันช่างเข้ากับเหง้าหน้าขนาดนี้  ฮึ

ว่าแต่ไอ้ตัวล็อกสายรัดใต้คางทำไมมันไม่เข้าล็อกสักทีวะ มองก็ไม่เห็น  โว๊ะ เสียบยากเสียบเย็น!


“คุณนี่ทำตัวน่ารักได้ทุกเวลาเลยน้า”


“ผมทำอะไร?” มึงบ้ารึป่าวไอ้การที่กูหงุดหงิดมันน่ารักตรงไหนมิทราบ


“ก็ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ไงครับ” อีพี่เบิ้มพูดพร้อมกับโน้มตัวลงมาเสียบสายรัดใต้ค้างให้ แต่รัศมีมันช่างใกล้..ใกล้ซะจนหัวใจแทบหยุดเต้น


“สะ เสร็จแล้วก็ถอยออกไปสิครับ” ผมก้าวถอยหลังแต่พี่เบิ้มก็ก้าวตามพร้อมกับสายตาที่วาววับ


“รู้อะไรมั้ยที่รัก ยิ่งทำหน้ามุ่ยปากของคุณก็ยิ่งน่าจูบ”


“ถะ ถ้าคุณจูบ ผมจะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น!” เอาสิ กูรู้จุดอ่อนของมึงแล้ว


“ที่รักคุณน่ะใจร้าย” มึงสิใจร้าย ปั่นป่วนหัวใจกูแทบวาย ให้ตายเหอะ!


“จะไปได้รึยังครับ” พูดมากเดี๋ยวไม่ไปแม่ง


“เชิญครับ~”







     นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์แบบนี้ ลมเย็นที่ปะทะเข้าใบหน้าทำให้รู้สึกดีไม่น้อยแต่มันก็มาพร้อมกับความรำคาญ..ก็ผมของพี่เบิ้มน่ะสิไม่รู้จักมัดให้เรียบร้อย ปลายผมของพี่เบิ้มที่พลิ้วไปกับแรงลมตีเข้าหน้าผมอย่างไม่ลดละ สิ่งที่ผมทำได้คือกำปลายผมสีน้ำตาลไว้ในมือหลวมๆเพื่อไม่ให้มันปลิวเข้าหน้าอีก

จะว่าไปผมของพี่เบิ้มยาวกว่าที่เจอกันครั้งแรกมาก จำได้ว่าครั้งแรกที่เจอผมยาวเกือบถึงต้นคอ แต่ตอนนี้มันเกือบถึงบ่าแล้ว
อืมมม..แต่ผมของอีพี่เบิ้มมันก็นุ่มดีแฮะ แถมมันยังหอมดีด้วย

..อ่าาา ไม่ได้นะใจจะเต้นรัวแบบนี้ไม่ได้!   ส่วนอีคนขับทำหน้าตาแบบไหนอยู่น่ะเหรอ..บานเป็นกระด้งน่ะสิ  ชิ






“ที่รัก เตียงนี่มนอนสบายดีจัง ลองนอนดูสิครับ”


“ไม่ล่ะครับ เชิญคุณเลือกที่ถูกใจได้เลย”


“เร็วๆครับ” ไอ้บ้านี่ไม่สนใจคำพูดผมแถมยังตบที่นอนปุๆให้ผมลงไปนอนข้างๆ 
อยากจะบ้าตาย ผมเพียงหย่อนตูดนั่งลงข้างๆใครจะบ้าจี้ล้มลงนอนตามล่ะ แต่แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น


“โอ๊ะ  คุณทำอะไรเนี่ย!” เชื่อเค้าเลย อีควายเผือกมันเลื้อยมาหนุนตักผมเฉยเลย


“เป็นไงครับ ผมว่ามันไม่นุ่มไปไม่แข็งไปกำลังดี” ฟังกูบ้างงง


“คุณอายเขา ลุกเร็วไปดูอย่างอื่นกัน” บ้าเอ๊ย คนมองกันให้ควั่ก


“ผมไม่อาย” มึงมันหน้าด้าน แต่กูอายไง


“เจเรมี่!”


“โอเค~” สาบานว่ามึงอายุ35 กูนึกว่าเด็ก5ขวบ  ต้องให้ดุอยู่เรื่อยสิน่า






“โอ๊ะ เชอร์รี่” กูเกลียดชื่อนี้


"ว่าไงครับ"


"ผมหมายถึงนี่ต่างหากครับ" เอิ่มมนะ  แก้วน้ำใสที่มีรูปเชอร์รี่สีแดงสองลูกแปะอยู่ถูกยื่นมาตรงหน้า


“ชอบก็ซื้อสิครับ” ไม่คิดว่าอีพี่เบิ้มจะมีรสนิยมมุ้งมิ้งแบบนี้ด้วย จากนั้นอีพี่เบิ้มก็หยิบแก้วน้ำลายเชอร์รี่สองใบลงในตะกร้าก่อนจะพูดประโยคที่ชวนให้จั๊กจี้ใจเป็นบ้า


“ผมซื้อเพราะมันเหมือนคุณ”


“ผมเหมือนแก้ว?”


“เชอร์รี่ต่างหากล่ะครับ คุณคือเชอร์รี่ของผม”


“...” ไอ้บ้า เชอร์รี่อะไรของมึง เลี่ยนชะมัด แล้วทำไมต้องหน้าร้อนด้วยหว่า


“เห็นมั้ยที่รัก ตอนนี้หน้าคุณแดงไม่ต่างกับเชอร์รี่บนแก้วใบนี้เลย” อีพี่เบิ้มมองหน้าผมสลับกับแก้วที่อยู่ในตะกร้าพร้อมกับยิ้ม..มันเป็นยิ้มที่อ่อนโยน อ่อนโยนซะจนหัวใจของผมอ่อนไหวตามอย่างห้ามไม่อยู่..








     เมื่อกลับมาถึงร้านก็ได้เวลาปิดร้านพอดี ผมจึงให้บีกลับก่อนได้เลยหน้าที่ที่เหลือผมจึงจัดการเอง

“คุณขึ้นห้องก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมปิดร้านเสร็จแล้วจะเรียกมาทานข้าวนะครับ” วันนี้ป้าแม่บ้านทำกับข้าวไว้ให้เลยไม่ต้องเสียเวลาไปกินนอกบ้าน


“ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยคุณดีกว่า” พูดจบพี่เบิ้มก็จัดการยกเก้าอี้ที่อยู่ตรงเฉลียงเข้ามาข้างในร้านอย่างไม่รีรอ  เอาเหอะอยากช่วยก็ตามใจพี่มึง..



   แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียวและผัดผักรวม อาหารง่ายๆที่ผมให้ป้าแม่บ้านทำให้เกือบทุกเย็น ปกติแล้วให้ทำแค่อย่างเดียวแต่อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่เบิ้มมาทานด้วยเลยเพิ่มให้อีกสองอย่างเพราะกลัวว่าคนตัวโตจะไม่อิ่ม

อาหารง่ายๆแต่พี่เบิ้มก็กินได้อย่างเอร็ดอร่อยทุกครั้ง..ครั้งนี้ก็เช่นกัน หมดเกลี้ยงแม้แต่น้ำซุปสักหยดก็ไม่เหลือ


“คุณไม่เก็บไว้ใช้ที่คอนโดเหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัยเมื่อพี่เบิ้มรินน้ำใส่แก้วลายเชอร์รี่ที่เพิ่งซื้อมา และเป็นอย่างเดียวที่ได้มาจากการไปดูเฟอร์นิเจอร์ในวันนี้


“สองใบนี้ผมจะเก็บไว้ที่บ้านคุณ แล้วค่อยหาซื้อใบใหม่ไว้ที่คอนโดของเรา”


“...” ของเรา? ของมึงคนเดียวเหอะ


“เดี๋ยวผมล้างจานเองนะครับ”


“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกลับมาจากเกสท์เฮ้าส์แล้วผมค่อยล้าง”


“คุณไปเกสท์เฮ้าส์เถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”


“ขอบคุณครับ”


“ยินดีครับ” ทำไมรอยิ้มของคนตรงหน้ามันทำให้ความล้าของวันนี้หายไปได้ในพริบตากันน้า




     ผมจัดการงานในส่วนสุดท้ายที่ต้องทำในวันนี้ได้สักพักพี่เบิ้มก็เดินเข้ามาในส่วนของเกสท์เฮ้าส์จากนั้นก็นั่งรอผมที่โซฟาเงียบๆ อย่างที่ผมเคยบอกที่เบิ้มจะเดินไปส่งผมถึงประตูบ้านทุกคืน แม้จะปฏิเสธหลายครั้ง แต่คนดื้อก็คือคนดื้อ พี่แกเคยฟังผมซะที่ไหนล่ะ ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลยจนมันเริ่มจะกลายเป็นความเคยชิน..


“เสร็จแล้วครับ”


“ครับ”


“วันนี้คุณขึ้นไปพักเลยก็ได้นะครับ ผมกลั...”


“ชู่ววว” ไม่รอให้ผมพูดจบพี่เบิ้มก็คว้ามือผมแล้วกระตุกเบาๆให้ออกเดินไปพร้อมกัน..เห็นมั้ยล่ะวิถีของคนดิ้อน่ะ  ส่วนผมก็ไม่เคยปฏิเสธการกระทำของคนดื้อได้เลยสักครั้ง ตอนนี้ก็ทำได้เพียงเดินตามอย่างเงียบๆ 

ความจริงแล้วที่ผมปฏิเสธไปเมื่อกี้เพราะผมมีเหตุผล ผมไม่อยากจะชินกับการเอาใจใส่แบบนี้เพราะผมรู้ดีว่าการกระทำเหล่านี้มันเหมือนกับนาฬิกาทรายที่ตอนนี้ทรายด้านบนไหลใกล้จะหมดและกำลังจะหลงเหลือเพียงความว่างเปล่าและไม่รู้อีกเมื่อไหร่ที่มันจะถูกพลิกอีกครั้ง เพราะอีกสองวันพี่เบิ้มก็ต้องกลับ..ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยไออุ่นจากฝ่ามือหนาของคนข้างๆอีกสองวันมันก็จะว่างเปล่าและคงจะหนาวเย็นไม่น้อย  แค่คิดขอบตาก็ร้อนผ่าว

ทางเดินจากเกสท์เฮ้าส์จนถึงตัวบ้านก็สั้นแสนสั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากยืดระยะทางให้ยาวออกไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด

..ในที่สุดผมก็ต้องยอมรับว่าผมแพ้แล้วล่ะครับ หัวใจของผมโดนผู้ชายข้างๆขโมยไปเป็นที่เรียบร้อย

..ทำยังไงดี ผมรู้สึกสับสนเป็นบ้า



“ที่รัก”


“...”


“ป้านด”


“ครับ!”


“ถึงบ้านแล้วครับ คุณดูเหม่อๆเป็นอะไรรึป่าว”


“อ่ะ ป่าวครับ ขอบคุณที่มาส่ง ฝันดีครับ”


“ฝันดีครับ พรุ่งนี้เจอกัน” รอยยิ้มละมุนตอกย้ำความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่เบิ้มให้ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง ‘พรุ่งนี้เจอกัน’  อีกสองวันก็คงไม่ได้พูดประโยคนี้แล้วสินะ แค่คิดก็ใจหาย..

   เมื่อประตูปิดลงน้ำตาผมก็ไหล ผมเป็นอะไร? ความรู้สึกวูบโหวงแบบนี้มันมาจากไหน? แล้วผมควรทำยังไง?
ใช่! ผมต้องปรึกษาใครสักคน อีซูซี่น่าจะช่วยผมได้ดีที่สุดเวลานี้  ปาดน้ำตาบังคับตัวเองให้หยุดร้องไห้แล้วต่อสายหาอีซูซี่ทันที


“มึงอยู่ที่ยิมมั้ยเดี๋ยวกูไปหา”


[มึงเป็นอะไร น้ำเสียงไม่ดีเลย]


“กูสับสนว่ะ”


[กูเข้าใจละ เดี๋ยวกูไปหาที่บ้าน]


เข้าใจอะไรของมันวะ ว่าแล้วมันก็ตัดสายทันที จากนั้นไม่ถึงห้านาทีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

อีซูซี่มาในชุดนอนพร้อมกระป๋องเบียร์ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมันเดินไปนั่งที่โซฟา เรียงกระป๋องเบียร์สีขาวลงบนโต๊ะก่อนจะกระดกเบียร์เข้าปากตัวเอง..แดกเหมือนคนตายอดตายอยาก


“อ่ะแดกก่อน ย้อมใจ”


“...” ย้อมใจ? แดกก็แดกวะ ผมยกกระป๋องเบียร์ที่มันยื่นให้ขึ้นดื่มอย่างอย่างงงๆ


“ไหนว่ามาสิ มึงกำลังสับสนอะไร” อีซูซี่นั่งไขว่ห้างแดกเบียร์สบายอารมณ์ นี่กูปรึกษาถูกคนอยู่ใช่มั้ยวะ


“คือ..” เริ่มพูดยังไงดีวะ


“ถ้าให้กูเดา เรื่องเจเรมี่?”


“อืม..มึงก็รู้ใช่มั้ยว่ากูไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่เคยมีใครมาจีบแล้วก็ไม่เคยจีบใคร กูมีคนที่แอบชอบบ้างแต่เขาก็เป็นผู้หญิง”


“แล้ว?”


“มึงรู้ใช่มั้ยว่าเจเรมี่คิดยังไงกับกู”


“รู้ แล้วยังไง?”


“ก็เขาเป็นผู้ชาย!”


“เป็นผู้ชายแล้วยังไง มันสำคัญที่มึงรู้สึกยังไงกับเขาต่างหาก นี่มึงกำลังสับสนเรื่องที่เจเรมี่เป็นผู้ชายหรือสับสนความรู้สึกที่มีต่อเขากันแน่”


“ก็..ทั้งสอง กูรู้สึกแปลกๆเวลาที่อยู่ใกล้เขาวะ หรือว่ากูจะเป็นเกย์วะซูซี่”


“ไอ้เรื่องเกย์หรือไม่เกย์น่ะตัดออกไปก่อน ไอ้ที่มึงบอกว่ารู้สึกแปลกน่ะมันแปลกยังไงไหนว่ามาสิ”


“ใจกูเต้นแรงที่เขาเข้าใกล้ เวลาที่เขาสัมผัสกูก็ตื่นเต้นเป็นบ้า กูหวั่นไหวทุกครั้งที่มองตาคู่สีเทาของเขา แล้วกูก็รู้สึกดีกับการกระทำที่อ่อนโยนของเขา แล้วก็อีกอย่างหนึ่งกลิ่นของเขามันมันทำให้กูปั่นป่วน  แม่งกูเป็นอะไรวะซูซี่” สับสนฉิบหาย  อ่า แดกเบียร์ดีกว่า


“คือมึงไม่ได้รังเกียจการกระทำเหล่านั้นที่มาจากผู้ชาย”


“ไม่ๆ ผู้ชายคนอื่นกูคงไม่โอเค” คือผมไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนมาก่อน มันเฉพาะแค่พี่เบิ้มเท่านั้น


“อ่า กูเข้าใจละ”


“เข้าใจว่าไงวะ”


“เพื่อนณตเอ๋ย มึงตกหลุมรักเจเรมี่เข้าอย่างจังยังไงล่ะ” แล้วมันก็กระดกเบียร์เข้าปากด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม


“รัก? งั้นกูก็เป็นเกย์?”


“มึงเป็นเพื่อนกับกูมากี่ปี ทำไมกูจะดูไม่ออก ผีเห็นผีน่ะเข้าใจป่ะ แต่กูมองไม่เห็นผีในตัวมึงวะ แต่ก็ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นเกย์หรือไม่เป็น ความรักมันไม่เกี่ยวกับเพศสภาพหรอก มันอยู่ที่ใจของมึงกับใจของเขาต่างหาก ถ้ามันตรงกันแล้วก็ไม่ต้องแคร์หรอกว่ามันจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม ลุยแม่งโลด”

นั้นสินะการจะรักใครสักคน คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องเพศตรงข้ามเสมอไป ความรักน่ะใช้หัวใจก็พอแล้ว 

อ่าาา..สับสนมาตั้งนานความรู้สึกเหล่านี้มันคือความรักนั้นเองสินะ


“ซูซี่~ มาให้เพื่อนคนนี้กอดทีหนึ่ง” ว่าแล้วมันก็อ้าแขนรอให้ผมเข้าไปสวมกอด ถึงมันจะเป็นเพื่อนผู้น่ารำคาญในบางที แต่บางครั้งมันก็ช่วยผมให้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองสักที ผมโคตรรักมันอ่ะ


“มึง ไอ้ที่บอกว่าเขาสัมผัสน่ะมันแบบไหนหรา” ทำไมกูต้องลงลายละเอียดให้มึงรู้ด้วยเล่า แล้วแม่งสายตามึงนี่เผือกสุดๆ


“เออน่า ตามที่กูบอกนั่นแหละ”


“ไม่บอกกูก็พอจะรู้ หึๆ เขาสอดลิ้นเข้าไปมะ”


“ไอ้ชาติ!”


“เดี๋ยวแม่ตบคว่ำ กูเห็นนะที่ลานจอดรถวันนั้น”


“...”


“ตอบกูมา”


“ไม่มีลิ้นโว้ย แค่ปากชนปาก”


“จริง?”


“เออสิ  จริงๆแล้ววันนั้นเขาบอกรักกูด้วยนะ”


“อร๊ายยย แล้วมึงรู้สึกไง”


“รู้สึกดีเป็นบ้า”


“อิดอก หน้ามึงแดง เขินเหี้ยไรเนี่ย” แล้วมันก็ผลักไหล่ผมจนเซ อีถึกเอ้ย


“มึงกูควร ทำไงต่อวะ”


“บอกให้เขารู้สิ จะรออะไร”


“แต่เจเรมีกำลังจะกลับ”


“แล้วไง?”


“รักทางไกลจะดีเหรอวะ” นี่เป็นอีกเหตุผลหึ่งที่ผมกลัว ‘ความห่างไกล’


“มึงอย่าเพิ่งนึกไปไกลขนาดนั้นดิ คิดแค่วันนี้กับพรุ่งนี้ก็พอ ลุยโลด ทุกอย่างจะมีทางออกของมันเชื่อกู”


“แล้วถ้ากูสารภาพออกไปแล้ว เขาปฏิเสธกูล่ะ” จู่ๆก็ปอดแหกขึ้นมาดื้อๆ เขารักผมจริงๆใช่มะ


“มึงโง่รึป่าว มึงลืมไปแล้วเหรอเหตุผลที่เจเรมี่มาอยู่เป็นเดือนๆที่นี้เพราะอะไร และเขาก็รอมึงเซเยสอยู่นะ มึงจะกังวลอะไรอีก”


“กูไม่รู้ กูไม่เคยมีแฟนมาก่อนนี้หว่า”


“คิดมากมึงอ่ะ เอาล่ะกูว่าถึงเวลาแล้ว” มันกระดกเบียร์หมดกระป๋อง ก่อนจะกดมือถือยิกๆ


“เวลาอะไรวะ?”


“เวลาที่เพื่อนจะมีผัวไงล่ะจ๊ะ”


“ผัวพ่อง!”


“กูกลับก่อนนะ ส่งข่าวให้กูเผือกด้วย” มันกอดผมทีหนึ่ง แล้วก็หนีหายไปอย่างเร็วรี่

  เป็นห่าอะไรของมัน?!



  เสียงปิดประตูของอีซูซี่ยังไม่หายไปในโสตประสาท เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง


“ลืมอะไรล่ะมึ...” อ้าวไม่ใช่อีซูซี่แต่เป็นพี่เบิ้มที่กำลังยืนหอบอยู่หน้าประตู มาทำไม?


“ที่รัก ซูซี่บอกผมว่าคุณมีเรื่องอยากจะคุยกับผม”


“เอ่อ...” อีซูซี่ไวนักนะมึง ไม่ทันให้กูได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย และให้ตายพอผมรู้ใจตัวเอง ไม่กล้าแม้จะสบตาพี่เบิ้มตรงๆ  มันเขินวุ้ย


“หน้าคุณแดง ไม่สบายรึป่าวครับ” หลังมือที่แตะลงมาที่หน้าผากของผม ทำเอาใจเต้นไม่เป็นส่ำ


“ป่าวครับ ผมโอเค”


“แล้วเรื่องที่คุณจะคุย”


“เอ่อ ไว้คุยพรุ่งนี้ก็ได้ครับ ตอนนี้ดึกแล้ว” บ้าเอ้ย ขอกูตั้งสติก่อนเหอะ


“ไม่ครับ ผมอยากคุยตอนนี้” ดื้อเก่งจังวะ


“...”


“ว่าไงครับ” 

  เอาวะ! ช้าหรือเร็วก็ต้องบอก


“ผม..ผมคิดว่าได้คำตอบเรื่องของคุณแล้ว”


“โอเคที่รัก หยุดก่อนนะครับ ผมขอเตรียมใจแปป” เอ้า มึงก็ประหม่าเป็นกับเขาเหรอเนี่ย


“...” กูสิที่ควรเตรียมใจ


“เอาล่ะที่รัก ผมพร้อมแล้ว” พี่เบิ้มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะสบตาผมนิ่ง

จากนั้นผมก็รวบรวมความกล้าและสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเช่นกันก่อนจะพูดความรู้สึกที่สับสนและอัดอั้นมาตลอดตั้งแต่ผู้ชายตรงหน้าเข้ามาในชีวิต แต่ตอนนี้ผมหาคำตอบนั้นเจอแล้ว


“ผมชอบคุณ” อ่า โล่งแล้ว ในที่สุดก็พูดมันออกไปจนได้


“...” เห้ย พี่มึงอย่านิ่งดิ หรือจะไม่ได้ยิน กูบอกอีกทีก็ได้วะ


“ผมชอบคุณเจเรมี่”


“ที่รัก~ คุณไม่ได้หลอกผมใช่มั้ยครับ” หน้าของพี่เบิ้มตอนนี้ทั้งดีใจทั้งอึ้ง  ตลกดีแฮะ


“ทำไมผมต้องหลอกคุณด้วยเล่า” ไอ้บ้าแค่กูบอกสองรอบก็เขินจะแย่แล้ว


“ที่รักผมดีใจเป็นบ้าจนข้างในนี้มันแทบจะระเบิดอยู่แล้ว” จากนั้นพี่เบิ้มก็ดึงผมเข้าสู่อ้อมกอดหน้าอกที่แนบชิดกันทำให้ผมรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่มันเต้นแรงเป็นบ้าของพี่เบิ้มซึ่งมันก็ไม่ต่างกับหัวใจของผมที่ตอนนี้มันแทบทุลุออกจากอก


“เป็นแฟนกันนะที่รัก” ความรู้สึกที่ถูกขอเป็นแฟนมันเป็นแบบนี้เองสินะ  รู้สึกดีเป็นบ้า  ผมจึงตอบตกลงโดยไม่ลังเล


“ครับ”

“ขอบคุณที่รัก ขอบคุณจริงๆ ผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุดและจะไม่ทำให้คุณผิดหวังที่คุณเลือกผม”


 “...” ผมทำได้เพียงพยักหน้าอยู่ในอกหนา เพราะมันเต็มตื้นไปหมดจนหาคำพูดไม่เจอ

ผมไม่รู้หรอกว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ความเชื่อในความรู้สึกของตัวเองและเชื่อมั่นในเจ้าของของอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนี้ว่าเขาจะทำให้ผมมีความสุขได้จริงๆ

“ผมรักคุณ ปณต” คำพูดที่เอ่ยออกมาเป็นคำบอกรักที่เพราะที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ฟังมาเพราะมันเป็นภาษาไทยถึงแม้สำเนียงจะไม่ชัดเจน
..แต่คำบอกรักคำนี้มันชัดเจนในหัวใจของผมที่สุด..





  TBC
........................................................................................

  ป้านดมีผัวแล้ว เอ้ย!ไม่ใช่ มีแฟนแล้ว(สักที)
 
  นานๆโผล่มาทีอีกแล้ว อย่าว่าเค้าน้าT_T

  ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ^^






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2019 19:38:11 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
งู้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :hao7: :hao7: :mc4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :-[ :-[ :-[ :-[
เขินแทน ป้านด เอ้ย ปณต ทำไมพี่เบิ้มถึงได้เรียกชื่อได้ชัดขนาดนี้ ที่ผ่านมาแกล้งเรียกป้านดใช่ไหม
ดีใจด้วยน้าาาา ขอบคุณเพื่อนชาติที่ทำให้ป้านดตัดสินใจเร็วขึ้น
รู้สึกอิ่มใจจังเลยตอนนี้
 :man1: :man1: :man1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เขิน เค้าบอกรักกันแล้ว

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เป็นแฟนกันแล้วจ้าาาาาาา :mc4:

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่เบิ้มน่ารักมาก ดีต่อใจ :impress2:
อิจฉาป้านดสุดๆอ่ะ :katai1:


ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยินดีด้วยน้า~

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
คบกันซะที ดีใจด้วยน้า

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 

  เป็นแฟนกันแล้วววว   :katai2-1:





ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ดีสุดๆไปเลย

ออฟไลน์ cosmop

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
เพิ่งได้เข้ามาอ่านชอบมากกกน่ารักมากเลยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

บทที่14  จูบ



        หลังจากที่เมื่อคืนสารภาพความในใจให้พี่เบิ้มได้รับรู้ ก็ตงลงปลงใจคบกับพี่เบิ้มอย่างจำนน เช้านี้สถานะของผมกับพี่เบิ้มจึงเปลี่ยนไป   ผะ..ผม ผมมีแฟนแล้วครับ!  ฮ่า เขินวุ้ย

   เขาว่ากันว่าคนที่กำลังมีความรักจะดูมีออร่าสดใสเปล่งปลั่ง ไม่เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อเพราะอีพี่เบิ้มที่กำลังเดินเข้ามาในร้านกาแฟกำลังออกแสงเต็มที่ทำให้ผมต้องรีบหยิบแว่นตากันแดดขึ้นมาสวมอย่างเร็วรี่ นี่มึงแดกแสงอาทิตย์เข้าไปรึไงกัน  แต่ทฤษฎีนี้คงใช้กับผมไม่ได้ นอกจากจะไม่แผ่แสงออร่าแบบพี่เบิ้มแล้ว เวลาเดินก็ยิ่งกว่าซอมบี้อ่อนแรงป้อแป้แถมใต้ตาก็ดำคล้ำ 
เหอะ ก็เพราะเมื่อคืนกว่าจะขมตาหลับได้ปาไปค่อนคืน ก็มันตื่นเต้นจนนอนไม่หลับนะเซ่  ปัดโธ่!


“มอร์นิ่งครับที่รัก”


“มะ มอนิ่ง” พอได้ยินคำว่า ที่รัก ในสถานะที่เปลี่ยนไป มันก็เขินแปลกๆวุ้ย


“เจ็บตาเหรอครับ?” เมื่อเห็นผมใส่แว่นตากันแดดพี่เบิ้มก็ถามขึ้นอย่างสงสัย


“ผมแพ้แสง”


“แพ้แสง?” ก็แสงบนหน้ามึงไงเล่า! 


ความจริงแล้วไม่ได้แพ้สงแพ้แสงอะไรหรอก ผมแค่อยากจะปกปิดรอยคล้ำใต้ตา รวมถึงสบตาอีแฟนหมาดๆของผมตรงๆไม่ได้ต่างหากล่ะ..ใจมันสั่น!


“เหอะน่า ผมแค่อยากใส่ ก็แฟนชั่นอ่ะ”


“คราบ~ ใบหน้าเล็กๆของคุณใส่อะไรก็น่ารัก ผมชอบหมดทุกอย่าง” เกลียดไอ้ใบหน้าแป้นแล้นนี่จริงเชียว แล้วใครถามความคิดเห็นของพี่มึงมิทราบ   ถอดแม่ง!


“โอ้วว ที่รักตาคุณ..” สัมผัสอันแผ่วเบาที่เกลี่ยลงมาที่ใต้ตา เล่นเอาหัวใจแทบหยุดเต้น ถึงจะเป็นแฟนกันแล้วก็เหอะ มันยังไม่ชิน..


“ผะ ผมไม่เป็นไร  ไปคุณไปทานข้าวกัน” อย่ามาปั่นป่วนหัวใจกันแต่เช้าแบบนี้เซ่   ใจบ่ดี


ผมเดินนำพี่เบิ้มไปยังตัวบ้าน แต่แล้วคนตัวสูงก็คว้าข้อมือผมไว้ก่อนจะประสานนิ้วมือเข้าด้วยกัน..

“เดินไปด้วยกันแบบนี้ดีกว่านะครับ” รอยยิ้มละมุนทำเอาผมแสบตาอีกครั้ง ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วฝ่ามือเล่นเอาขาเปลี้ยขึ้นมาดื้อๆ  นี่มันอารมณ์การ์ตูนสาวน้อยชัดๆ!

 อ่า..แต่จะว่าไป ความรู้สึกที่เดินจับมือของเช้านี้ต่างจากเมื่อคืนนิดหน่อยแฮะ จะว่าไงดี มันเต็มใจอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจล่ะมั้ง..



       




       
        ช่วงบ่ายของวันนี้เงียบเหงากว่าทุกวัน  ยิ่งเงียบแบบนี้อาการง่วงเหงาหาวนอนก็ตีขึ้นฉับพลัน คิดถึงเตียงนอนที่ห้องจัง ส่วนไอ้คนที่เป็นต้นเหตุทำให้ผมนอนไม่พอก็นั่งจิบชาอ่านหนังสือสบายใจสุดๆ เห็นแล้วก็หมั่นไส้  ...ไม่ไหว นอนฟุบกับโต๊ะมันนี่แหละ


“กลับไปนอนที่บ้านก่อนมั้ยที่รัก บีอยู่คนเดียวก็คงไม่มีปัญหา ถ้าลูกค้าเยอะเดี๋ยวผมไปปลุกดีมั้ยครับ” พี่เบิ้มที่นั่งตรงข้ามลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน  อย่าทำแบบนี้สิยิ่งลูบกูก็ยิ่งเคลิ้ม


“ไม่เป็นไรครับ ผมขอแค่ห้านาทีแล้วปลุกผมด้วยนะ”


“ถ้างั้นนอนตรงนี้ดีว่าครับ”


“...” หืม ตรงไหน?


จากนั้นพี่เบิ้มก็เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างผมก่อนจะเอียงตัวของผมให้ซบลงบนไหล่กว้าง ส่วนผมก็ยอมซบแต่โดยดี ไม่ไหวจะขัดขืนมันง่วงจริงๆ


“แบบนี้สบายกว่าว่ามั้ย?”


“สบาย~ แต่บีต้องมองอยู่แน่ๆ” ไอ้สบายมันก็สบายอยู่หรอก แต่มันเขินไง


“หลับตาก็ไม่เห็นแล้วคุณ” นั้นสิก็แค่หลับตา โง่จริงๆเลยกู! บีที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็คงรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างระหว่างผมกับพี่เบิ้ม และก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ถ้ารู้ว่าเราคบกันแล้วเพราะทุกคนรู้เจตจำนงของอีพี่เบิ้มดีว่ามาที่นี่ทำไม


“ที่รักตัวคุณหอม” เสียงกระชิบเบาๆที่ข้างหูทำให้ต้องลืมตา เพราะมันใกล้ ใกล้ซะจนรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดข้างหูทำให้ขนอ่อนลุกซู่ไปทั้งตัว..


“หยุดเลยนะคุณ..” อ่า ไม่ทันแล้วครับ พี่เบิ้มใช้หนังสือที่อ่านค้างไว้บังหน้าของเราก่อนจะจุ๊บลงมาที่แก้มของผมอย่างรวดเร็ว
ให้ตาย!..อุกอาจเกิดไปแล้ว  ตื่นเต็มตาเลยกู!


   ยังไม่ทันได้คาดโทษอีพี่เบิ้ม ผองเพื่อนผู้น่ารักน่าชังก็โผล่มา..

“ไหนๆๆ ขอดูหน้าของคนมีผัวหน่อยสิ”


“ผัวพ่อง!” มาล่ะครับตัวป่วนช่วยให้หายง่วง นำโดยอีซูซี่ตัวนี้เด็ดกว่ามะยมดองหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ตามติดมาด้วยไอ้ดอยและซันนี่คู่รักป้ายแดงที่พึ่งตกลงคบกันก่อนหน้าคู่ผมไม่กี่วัน


“สีชมพูเอาะ” น้ำเสียงแม่งน่าเตะตัดขา “ยินดีด้วยนะคะเจเรมี่” จากนั้นมันก็เข้าไปสวมกอดยินดีปรีดากับอีพี่เบิ้มที่ยิ้มจนแก้มแทบแตก หมั่นไส้นัก


“ยินดีด้วยนะครับพี่ณต” ฝรั่งน้อยก็หันมาอวยพรกับเขาด้วยอีกคน ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมข่าวถึงแพร่สะพัดเร็วขนาดนี้  ซูซี่รู้โลกรู้


“ไม่เห็นมีเรื่องอะไรน่ายินดีเลยซันนี่ เรื่องของซันนี่น่ายินดีมากกว่าอีก ใช่มั้ยว่ะไอ้ดอย”


“เออขอบใจ แต่เรื่องของมึงก็ต้องน่ายินดีสิแฟนคนแรกของมึงเลยนะเว้ย”


“นั้นน่ะสิพี่ณต มีแฟนทั้งทีนะครับแถมยังเพอร์เฟคขนาดนี้”


“พี่หึงนะตะวัน ชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าพี่แบบนี้” หืม ตะวัน?


“โธ่พี่ดอยก็  แค่ชมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”


“ไม่ได้! ตะวันต้องชมแค่พี่คนเดียว”


“เผด็จการมึงอ่ะ เนอะตะวัน”


“ตบปากมึงเลยไอ้ณต ชื่อตะวันกูมีสิทธิ์เรียกได้คนเดียวเว้ย”


“โว๊ะ หวงแม้กระทั่งชื่อ” ใช่แล้วครับ ตะวันคือชื่อไทยของซันนี่


“หวงยันเงาเลยล่ะจะบอกให้”


“เวอร์ครับพี่ดอย”


“ไม่เวอร์นะ ก็พี่รักของพี่อ่ะ”


“หยุดค่ะ อย่ามาโชว์หวานแถวนี้เบาหวานจะขึ้น” แล้วอีซูซี่ก็แหวกวงล้อมแทรกเข้ามาอยู่ตรงกลางของทั้งคู่


“ผัวมึงก็มีจะอิจฉาทำไม” ไอ้ดอยพูดพร้อมกับดึงอีซูซี่ออกแล้วไปยืนข้างฝรั่งน้อยเหมือนเดิม..กูเชื่อล่ะว่ามึงหวงจริง


“ช่างเรื่องของผัวกูก่อน ไอ้ณตตอนนี้กูมีเรื่องอยากรู้สุดๆ”


“...” ความเผือกของมันทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ


“เป็นไง เสียวมั้ยเมื่อคืน” มันกระซิบถามเบาๆ


“เสียว?”


“ก็มึงกับเจเรมี่ไง ของเขาใหญ่มะ”


“ไอ้ชาติ เดี๋ยวกูถีบ!” กูว่าล่ะคำถามมึงต้องไม่ธรรมดา


“อย่าเขินแรงขนาดนั้นสิจ๊ะ คนเขาอุตส่าห์ถามดีๆ”


“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น มึงจะบ้ารึป่าวเพิ่งตกลงคบกันยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง มึงจะให้กูถวายตัวให้ทันทีเลยรึไงฮะ?” เมื่อคืนหลังจากตกลงเป็นแฟนกันอีพี่เบิ้มก็มีจูบอีกนิดหน่อยไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น


“เล่นตัว!” อยากจะถีบแม่ง


“เหยดดด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะว่ามึงจะโดนตอกเสาเข็มจริงๆ แม่งเข็มใหญ่ซะด้วย” ไอ้ดอยพูดพร้อมกับมองหน้าผมสลับกับหน้าพี่เบิ้มไปมา


“หุบปากเลยพวกมึงสองตัว” พอหันไปมองหน้าไอ้เสาเข็ม เอ้ย อีพี่เบิ้มแล้วได้แต่กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ   ให้ตาย! สักวันกูต้องโดนเสาเข็มของมึงจริงๆใช่มะ   ฮือออ กูลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย.. 


“เอาน่าทำใจให้สบาย เจ็บแค่มดกัดจากนั้นมึงก็จะหฤหรรษ์สุดๆ ไม่เชื่อก็ถามซันนี่” อีซูซี่ตบไหล่ผมเบาๆก่อนจะขยิบตาให้กับฝรั่งน้อย


“พี่ซูซี่~”


“อะไร? อย่าบอกนะว่าไอ้ดอยมึงกับน้อง..” แล้วไอ้ดอยก็ยักคิ้วเป็นคำตอบ ส่วนฝรั่งน้อยได้แต่ก้มหน้างุดเห็นเพียงใบหูที่ขึ้นสีระเรื่อ


“เอ่อ ก็กูไม่เคยไงเลยโทรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างอีซูซี่มัน” แม่งไวไฟชะมัด


“มึงก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญคนนี้ได้นะจ๊ะ” เหอะ กูอยากจะร้องไห้

 
“เดี๋ยวครับทุกคน ช่วยคุยกันเป็นภาษาอังกฤษได้มั้ยครับ ผมอยากคุยด้วย” ขอเหอะ เรื่องนี้พี่มึงอย่าเผือก อย่าเพิ่งไปกระตุ้นพี่มัน ไม่งั้นกูไม่รอดแน่ ขอล่ะ กูยังไม่พร้อมมม


“เอ่อ คุยเรื่องซันนี่กับดอยไงครับที่พวกเขาคบกัน”


“จริงด้วยสิ ยินดีด้วยนะครับพวกคุณเหมาะสมกันมากจริงๆ เหมือนคู่ของเราเลยเนอะคุณ” อ่ะจ๊ะ อย่าจับมือต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้เซ่


“แบบนี้ต้องฉลอง ว่ามั้ยคะ”


“ดีเลยครับ ผมขอเป็นเจ้ามือเอง”


“ไม่ได้ค่ะๆ มื้อนี้ซูซี่ของเลี้ยงเอง”


“จะดีเหรอครับ ให้ผมเลี้ยงพวกคุณดีกว่า” นั้นสิรวยจะตายห่าอยู่แล้ว ให้พี่มันเลี้ยงไปเหอะ


“ดีที่สุดค่ะ เพราะว่าซูซี่ถูกหวยให้ซูซี่เลี้ยงเถอะนะคะถือว่าเลี้ยงส่งคุณด้วย” นึกแล้วเชียวว่าอีนี่ต้องถูกหวย


“หวย! ผมก็มีครับ” ว่าแล้วพี่เบิ้มก็หยิบล็อตเตอร์ที่พับครึ่งอยู่ในกระเป๋าสตางค์ออกมา  ..เออวะพี่แกมีหวยอยู่สิบใบนี่หว่า


“อุ๊ต๊ะ ฝรั่งซื้อหวย  เดี๋ยวซูซี่ตรวจให้ค่ะ”


   จากนั้นทุกคนก็รอลุ้นว่าหวยของอีพี่เบิ้มจะโดนสักรางวัลรึป่าว


“อร๊ายยย”


“ถูกเหรอวะ” ผมโพล่งถามอย่างตื่นเต้น


“ถูกแดกจร้า”


“มึงตรวจถูกงวดป่ะเนี่ย”


“ก็ของงวดที่แล้วไง ไม่เชื่อมึงเอาไปตรวจเอง” แล้วมันก็ยื่นโทรศัพท์มือถือที่เปิดแอพพลิเคชั่นตรวจหวยพร้อมกับหวยสิบใบเจ้าปัญหาของอีพี่เบิ้ม


       อ่า..ถูกแดกจริงๆด้วย   ส่วนคนถูกหวยแดกก็หน้าซึมเป็นส้วม  เพื่อ?..ได้ข่าวว่ามึงรวยมากกก


 






     ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมใจกลางเมืองเป็นร้านที่เจ้ามือเสนอ เมื่อยินดีเสนอเราก็ยินดีสนอง
ดีล่ะ ในเมื่อเจ้ามือหวยไม่ได้แดกมึง กูนี่แหละจะแดกให้มึงหมดตัวเอง  หึๆ

เชตอาหารญี่ปุ่นสุดหรูทั้งซูชิและซาชิมิจัดเต็มอยู่เต็มโต๊ะ ทุกคนต่างเอนจอยอีสติ้งยกเว้นแต่พี่เบิ้ม..
งานตะเกียบเป็นงานที่พี่เบิ้มไม่ถนัดจริงๆครับ เนื้อปลาแซลมอนที่พี่เบิ้มพยามคีบครั้งแล้วครั้งเล่ามันก็ยังไม่ได้เข้าปากสักที..สุดท้ายก็ต้องเป็นกูสินะ


“นี่ครับ” ผมป้อนเนื้อปลาสีส้มสวยให้กับพี่เบิ้ม  ถ้าผมไม่ป้อนร้านปิดก็ยังคงไม่ได้แดก


“ขอบคุณครับ ตะเตียบเป็นของที่ผมใช้ไม่เป็นจริงๆ” พี่เบิ้มอ้าปากรับเนื้อปลาอย่างว่าง่าย แล้วไอ้การพูดพร้อมกับยิ้มแก้เขินแบบนี้มันก็ชวนให้คนมองเขินตามได้เหมือนกันนะ..ควายเผือกมันน่ารักแฮะ


“ดูแลดี~” แล้วกลองแต๊กทั้งหลายก็พร้อมใจกันเอ่ยแซว


“ฮันนี่ ป้อนหน่อยค่ะ ซูซี่ใช้ตะเกียบไม่ถนัดเลย” แล้วอีซูซี่ก็หันไปออเซาะโจเซฟที่ตามมาสมทบ ได้ข่าวว่าพ่อมึงเป็นจีนไหหลำ ส่วนมึงน่ะหำไหล!


“ตะวัน  อ้ามมมม” เกินหน้าเกินตาก็ไอ้ดอยนี่แหละ  ตะเกียบจกตาแม่ม!


“เดี๋ยวผมขอส้อมให้นะครับ คุณจะได้ทานสะดวก”


“ผมสะดวกให้คุณป้อนมากกว่าที่รัก” แต่กูไม่สะดวกมั้ย?


“ป้อนแฟนแค่นี้ทำไม่ได้รึไงมึง ใจร้ายอ่ะคนเขาใช้ตะเกียบไม่ถนัดแท้ๆ” อีซูซี่ว่าด้วยสายตาประณามประหนึ่งว่ามันคือปัญหาร้ายแรงระดับโลก 


“ก็จะได้แดกสะดวกๆไง”


“ก็เขาก็บอกเองว่าสะดวกให้มึงป้อน” เอ้า ไอ้ห่าดอยมึงก็เออออตามอีกคน

  เพื่อนชั่ว อะไรคือการรุมด่ากู ไม่มีใครเข้าใจความหวังดีของกูสักคน ให้ตาย!


“พรุ่งนี้เจเรมี่ก็ต้องกลับแล้วแท้ๆ เอาใจใส่ผัวมึงหน่อยสิ”


“ไอ้ชาติ มึงเลิกใช้คำว่าผัวก่อนได้มั้ย” แม่ง! คำว่าตอกเสาเข็มแว๊บเข้ามาให้หัวอีกครั้ง แต่คำว่า ‘พรุ่งนี้ต้องกลับ’ มันแรงกล้ากว่าทำให้ผมยอมตามใจควายเผือกอย่างจำนน คอยป้อนสิ่งที่ต้องใช้ตะเกียบให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง..
นั้นสินะพรุ่งนี้ควายเผือกก็จะกลับแล้ว คงอีกนานกว่าจะได้เจอกัน ทำช่วงเวลานี้ให้น่าจดจำสักหน่อยละกัน


“เจเรมี่คุณจะกลับมาอีกเมื่อไหร่คะ” แล้วอีซูซี่ถามความคิดที่อยู่ในใจผมออกไปอย่างรู้งาน


“อีกหนึ่งเดือนผมจะกลับมาครับ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น”   


“คนทางนี้คิดถึงแย่เลยเนอะ” แล้วอีซูซี่ก็หันหน้ามามองผม


“เดือนเดียวเอง ไม่ทันได้คิดถึงหรอก” แต่ในใจน่ะคิดว่าตั้งเดือนนึงแหนะ


“แน่ใจ๊” เสียงสูงเพื่อ


“เออ ก็คงคิดถึงนิดหน่อย” จะบอกว่าคิดถึงโต้งๆมันก็เขินไง  แม่งคนเยอะแยะ


“กลับไปแล้วผมจะโทรหาคุณทุกๆชั่วโมงเลยดีมั้ยครับ”


“มากไปคุณ” ไม่ให้กูได้ขี้ได้เยี่ยวเลยรึ แล้วมึงจะไม่ทำงานทำการเลยรึไง


“ก็ผมคิดถึงคุณ”


“คุณยังไม่ได้กลับเลย จะรู้ได้ยังไงว่าจะคิดถึงผม กลับไปแล้วคุณอาจจะลืมผมแล้วไปลั้นลากับสาวผมบลอนด์ก็ได้” เริ่มนอยด์ละกู


“ไม่! ผมชอบหนุ่มผมดำและต้องเป็นคุณด้วย แค่คุณคนเดียวเท่านั้นป้านด ไว้ใจผมที่รัก” น้ำเสียงและแววตาที่จริงจัง ทำให้ใจเต้นแรงอย่างฉับพลัน


“โอเค แต่ไม่ต้องโทรมาทุกชั่วโมงก็ได้ แค่โทรมาทุกวันก็พอ”


“แน่นอนที่รัก..ผมรักคุณ” รอยยิ้มทั้งปากทั้งตานี่มันอะไรกันน้า


“คุณ~” ดันหน้าออกแทบไม่ทันเพราะอีพี่เบิ้มโน้มหน้าลงมาจะจูบผมเฉยเลย! อีพี่เบิ้มมึงแคร์สื่อบ้างงงง


“กูว่าของหวานไม่ต้องแดกแล้วล่ะ แค่นี้ก็เลี่ยนขึ้นตาแล้ว  โอ้ยยย เจ็บตาฮันนี่ขาาา เป่าตาให้ซูซี่หน่อยค่ะ” แซวเก่ง! กูขอให้ตามึงบอด แม่ม


“มาครับๆ ชนแก้วแด่ความรักที่สวยงาม” ว่าแล้วไอ้ดอยก็ชูแก้วสาเกขึ้นเป็นสัญลักษณ์ก่อนที่ทุกคนจะยกแก้วขึ้นประสานกันจนเกิดเสียงที่ดังก้องไปทั่วห้องวีไอพีที่อีซูซี่มันจองไว้

   รสชาติหวานปนขมของสาเกซึมซาบไปทั่วลิ้นไม่ต่างจากรสชาติของความรักที่ค่อยๆซึมลึกลงในหัวใจดวงน้อยๆของผม มันแค่เริ่มต้นสินะ ต่อจากนี้จะเป็นยังไงน้า หวังว่าจะสุขมากกว่าทุกข์ละกันนะกับความรักครั้งแรกของผม..


   










“ที่รักให้ผมขับรถให้มั้ย คุณดูง่วงๆ” ไม่ได้ดูง่วงๆแต่กูง่วงจริงๆ อดหลับอดนอนมาทั้งคืนแถมแดกปลามาทั้งทะเลจนหนังท้องตึงขนาดนี้หนังตามันก็จะปิดเสียให้ได้


“ได้ครับ” ผมยื่นกุญแจรถให้พี่เบิ้มอย่างไม่อิดออด จากนั้นก็ไปนั้งที่นั่งข้างคนขับแล้วเอนเบาะลงนอนพักสายตาทันที..กูง่วง!

ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีที่ผมงีบหลับไปพอตื่นขึ้นมาก็พบกับแสงไฟสลัวๆ ฝาผนังที่คุ้นตา และกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่แสนจะคุ้นเคยบนผ้าปูที่นอน  หืม..ที่นอน ผมอยู่บนเตียง? เมื่อตื่นเต็มตาถึงได้รู้ว่าผมนอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง แล้วผมมาโผล่ที่ห้องนอนตัวเองได้ยังไง?!


“ตื่นแล้วเหรอที่รัก อาบน้ำก่อนมั้ย หรือจะเปลี่ยนชุดแล้วนอนต่อเลย” พี่เบิ้มที่เดินออกมาจากห้องน้ำพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ


“เดี๋ยวนะคุณ ผมมาอยู่ที่ห้องได้ยังไง” กูงง


“ผมอุ้มคุณมาเองครับ”


“อุ้ม!”


“ครับ ผมปลุกคุณแล้วแต่คุณไม่ยอมตื่นผมเลยอุ้มคุณมานอนต่อที่บ้าน คุณคงง่วงมากผมอุ้มคุณยังไม่รู้สึกตัวสักนิด” มากกว่าอุ้มกูก็คงจะไม่รู้สึกตัว ให้ตาย! ทำไมกูนอนเหมือนไหลตายได้ขนาดนี้วะ


“เอ่อ กี่โมงแล้วครับ”


“เที่ยงคืนครับ” บ๊ะ! คิดว่างีบไปแค่ไม่กี่นาที นี่กูล่อไปสามชั่วโมงเลยรึ  ว่าแต่อีพี่เบิ้มมันเพิ่งอาบน้ำเสร็จสินะจากสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวพร้อมกับหยดน้ำที่เกาะอยู่บนอกหนา แล้วทำไมต้องมาอาบน้ำที่บ้านกู?


“เออ นี่ก็ดึกแล้วคุณกลับไปพักผ่อนเถอะครับ ” นี่คือการไล่อยากแนบเนียน บอกตามตรงว่าสถานการณ์ช่างล่อแหลมซะเหลือเกิน


“ผมเช็คเอ้าท์แล้วครับ”


“ห๊ะ!” พี่มึงพูดบ้าอะไรวะ เมื่อมองไปตรงมุมห้องก็เห็นกระเป๋าแบ็คแพ็คใบโตของพี่เบิ้ม..นี่พี่มึงเอาจริงดิ!


“ให้ผมนอนด้วยนะที่รัก ผมอยากอยู่กับคุณจนถึงเช้า”


“...” แดกจุดเลยกู


“นะครับที่รัก” อย่าอ้อนกูแบบเน้


“โอเคๆ แค่นอนอย่างเดียวนะครับ  เอ่อ..บอกตามตรงว่าผมกลัว” ไม่อ้อมค้อมละกัน ก็คนมันกลัวจริงๆนี่หว่า บอกตรงๆขนาดนี้แล้วอีพี่เบิ้มคงไม่ใจร้ายฝืนใจปล้ำแฟนตัวเองหรอกใช่มั้ย?


“กลัวอะไรครับ” อย่ามาทำหน้าตอแหล กูรู้ว่ามึงรู้


“คุณรู้น่า”


“ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรไปมากกว่าจูบ โอเคนะครับ”


“อะ โอเค”
“ถ้าอย่างนั้น นอนต่อหรืออาน้ำดีครับ”


“อะ อาบน้ำ” แล้วทำไมกูต้องตื่นเต้นด้วยวะ กะอีแค่รู้ว่าจะต้องถูกจูบ



     ผมอาบน้ำอย่างอ้อยอิ่งขัดมันทุกซอกทุกมุมขี้ไคลออกจนหมดตัวปั้นควายได้เป็นฝูง ตัวนี่เปื่อยยิ่งกว่าตีนไก่ในต้มซุปเปอร์ หวังว่าออกจากห้องน้ำแล้วพี่เบิ้มมันคงจะหลับไปแล้วนะ..แต่ที่ไหนได้พ่อหนุ่มผมยาวของผมนอนพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์    ..เหอะ อยากจะมอบโล่รักการอ่านให้พี่มึงซะจริงๆ

เมื่อรู้ว่าผมออกจากห้องน้ำก็เงยหน้าจากหนังสือแล้วยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ให้ตายสิ นี่มันรอยยิ้มพิฆาตของแท้ร่างกายถึงกับร้อนฉ่า..


“ผมนึกว่าคุณหลับในห้องน้ำไปแล้วเสียอีก” พี่มันพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหมือนรู้ว่าผมตั้งใจที่จะอาบน้ำนาน..เกลียดนักพวกรู้ทัน


“ปกติผมอาบน้ำนานอยู่แล้วครับ” หึ ใครจะยอมรับล่ะ


“เหรอครับ”  ก็เออนะสิ  “มาครับมานอน”


“ผมของผมยังไม่แห้ง คุณนอนก่อนได้เลยครับ”


“ไดร์เป่าผมล่ะครับ”


“ไม่มีครับ” ผมสั้นแค่นิดเดียวใครมันจะไปใช้ของแบบนั้นกันเล่า


“ถ้างั้นคุณนั่งลงเลยครับ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง” พี่เบิ้มจับผมให้นั่งลงตรงปลายเตียงก่อนจะหันไปรื้อกระเป๋าใบโตแล้วหยิบไดร์เป่าผมสีดำออกมา จากนั้นก็จัดการเป่าผมอันเปียกชื้นของผมด้วยการยืนค้ำหัวผมอยู่ วิวเดียวที่ผมเห็นในตอนนี้คือหน้าท้องที่เปลือยเปล่า อืมนะ..จะแน่นไปไหน

ไม่รู้อะไรดลใจหรือโดนผีตัวไหนเข้าสิง จู่ๆก็เกิดอาการมันเขี้ยวผมจึงงับฝังเขี้ยวลงไปที่หน้าท้องของพี่เบิ้มอย่างจังปรากฏให้เห็นเป็นรอยเขี้ยวจางๆ   อืม..แน่นจริง


“ที่รัก!” พี่เบิ้มสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะมองหน้าผมอย่างตกตะลึง


“ผะ..ผมแค่อยากรู้ว่ามันจะแข็งแค่ไหน” อ่า นี่กูเผลอทำอะไรลงไปเนี่ย


“ไม่ยุติธรรม ให้ผมเอาคืนเดี๋ยวนี้เลย” สายตาของมึงช่างวาววับซะเหลือเกิน


“No!”


“เปิดเสื้อคุณขึ้นเดี๋ยวนี้เลย”


“ผมว่าเรานอนกันดีกว่า ผมง่วงแล้ว” ใครจะบ้าจี้ตามพี่มึงล่ะ

   เมื่อผมไม่ยอมทำตามพี่เบิ้มก็ผลักผมลงกับเตียงจากนั้นก็เลิกชายเสื้อผมขึ้นแล้วจุ๊บหนักๆลงมาที่หน้าท้องของผม..เหมือนไฟฟ้าสะถิตเพราะมันชาวาบไปทั้งตัว


“หน้าท้องนิ่มๆของคุณไม่เหมาะกับทำให้เป็นรอยหรอก ว่ามั้ยครับ” หรอกด่าว่ากูอ้วนอีกแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าเสี้ยววินาทีหนึ่งผมเห็นดวงตาสีเทาคู่นั้นเหมือนมีเปลวไฟกำลังลุกโชน ท่าทางในตอนนี้ก็ล่อแหลมเกินไปแล้ว อะไรคือการขึ้นค่อมผมทั้งตัวแบบนี้


“เอ่อ..นอนกันเถอะคุณดึกมากแล้ว” เหมือนคำพูดของผมจะไม่ได้เข้าหูของอีพี่เบิ้มแม้แต่น้อยเพราะดวงตาคู่สีเทากำลังจดจ้องอยู่ที่เรียวปากของผม..


“จูบนะครับ”


“...” ถึงเวลาแล้วใช่มะ 


“แค่จูบที่รัก ผมต้องการจูบของคุณจริงๆ”


“แค่จู...” ยังไม่ทันจบประโยคเรียวปากของพี่เบิ้มก็ประกบลงมาที่เรียวปากของผมอย่างดุดันทันที


“เปิดปากให้ผมที่รัก” เมื่อสติเริ่มมึนก็ทำตามอย่างว่าง่ายผมเผยอปากน้อยๆจากนั้นเรียวลิ้นร้อนของพี่เบิ้มก็แทรกเข้ามาอย่างรวดเร็วเกี่ยวกระหวัดดูดดึงปลายลิ้นของผมอย่างเร่าร้อน


   อ่า..แบบนี้สินะที่เรียกว่าจูบ เล่นเอาผมหายใจติดขัด สมองขาวโพลนไปหมดพร้อมกับร่างกายที่แทบจะหลอมละลาย

พี่เบิ้มปล่อยปากผมให้เป็นอิสระเพื่อหายใจเข้าปอดแต่มันแค่แป๊บเดียว แป๊บเดียวจริงๆก็ประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ฝ่ามืออีกข้างที่ว่างเว้นจากการประคองหน้าของผมก็เริ่มซุกเข้ามาภายใต้เสื้อและลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของผมจนร้อนผ่าวไปทั้งร่างก่อนจะเคลื่อนฝ่ามือมาที่หน้าอกและเขี่ยเบาๆที่ยอดอกจนผมเผลอแอ่นหน้าอกและร้องครางออกมาอย่างลืมตัว


“อ๊ะ” เสียงนี้เหมือนดึงสติของผมให้กลับมา นี่มันชักจะมากกว่าจูบ ผมตีไหล่พี่เบิ้มรัวๆเพื่อให้ผละออกและเหมือนสติของพี่เบิ้มก็กลับมาเช่นกัน


“คุณนอนก่อนเลยที่รัก ผมขอเข้าห้องน้ำสักครู่” พี่เบิ้มพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าพลางอดกลั้นและลมหายใจที่หนักหน่วงก่อนจะผละออกแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเร็วรี่  ไม่บอกก็รู้ว่าไปเข้าห้องน้ำทำไม ไม่ใช่ปวดขี้แน่ๆ ยังไงเราก็ผู้ชายเหมือนกันผมเข้าใจพี่เบิ้มดีเพราะอาการของผมตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน..


   ...บอกตามตรงว่าไอ้จูบเร่าร้อนเนี่ยแม่งโคตรดี ผมว่าผมชอบมันว่ะ!



   

  TBC.
.................................................................

ไปล่องลอยอยู่นอกโลกเสียนาน ตอนนี้กลับมายังโลกได้สักที
ขอบคุณที่ยังไม่ลืมกันค่ะ #พี่เบิ้มป้านด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 23:19:05 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เกือบลืม กลับมาแล้ว~

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ดีใจ ป้านตกับพี่เบิ้มกลับมาแล้ว
ชอบเพื่อนๆ ของป้านตจัง แซวได้น่ารักมากกกก
ว่าแต่ พี่เบิ้มนี่แมนของแท้เลยนะ ไม่ตามใจตัวเอง
อยากมีแบบนี้บ้าง จะเหลือถึงเราหรือเปล่านะ
 :really2:
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน คนเขียนรักษาสุขภาพด้วยนะ
 :mew1:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
งู๊ยยยยยย มาแล้วววววว แอบแซ่บโด้ยยยยยยย :impress2:

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :pig4:รอติดตามอยู่นะคะ

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คิดถึงมากกกกกก คิดถึงทุกคน :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
กลับมาแล้ว คิดถึงมากเลยครับ //มาต่อบ่อย ๆ นะครับ ^^

ออฟไลน์ Rsun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอๆ​มาต่อบ่อยๆน้าาาา

 :mew2:

ออฟไลน์ cosmop

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
โอ้ยเขินมากกกก รอตอนต่อไปค้าบบบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด