###END### = P A Y = เปย์ข้าด้วยบุฟเฟ่ต์สิ [แจ้งกำหนดการวางจำหน่าย] 04/04/64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ###END### = P A Y = เปย์ข้าด้วยบุฟเฟ่ต์สิ [แจ้งกำหนดการวางจำหน่าย] 04/04/64  (อ่าน 69554 ครั้ง)

ออฟไลน์ Boom890

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 14
«ตอบ #121 เมื่อ21-05-2018 04:20:13 »

เปย์ครั้งที่ 14

รู้อยู่เต็มอก

‘รู้อยู่แก่ใจ รู้ความเป็นไปอย่างดี แต่ไม่สามารถพูดออกไปได้’



“คุณสินไม่โกรธไอ้ดำแล้วแน่นะครับ” ดำถามขึ้นขณะใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเกตตีอย่างตั้งใจ

ถ้าม้วนดีๆ จะได้คำใหญ่ๆ ล่ะ นุ่มๆ อร่อยเต็มคำ

“แน่สิ” สิรินตอบทั้งที่กำลังหันหลัง ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอยู่หน้าเตา

“แล้วทำไมคุณสินไม่มากินสปาเกตตีกับไอ้ดำล่ะ...กินคนเดียวมันเหงานะ” ใจดำยังไม่มั่นคงนัก แม้จะผ่านช่วงเวลาหฤหรรษ์มาแล้วก็ตาม

หลังจากพวกเขานั่งสงบสติอารมณ์จนเข้าที่ ก็ถึงเวลาอาหารค่ำ สปาเกตตีไวท์ซอสที่กลายเป็นของโปรดดำถูกบรรจงทำไว้เหมือนทุกครั้ง เหมาะเป็นอาหารแห่งการฉลอง การกลับมาคืนดีของพวกเขามากที่สุด

สิรินเพียงนำจานสปาเกตตีมาวางตรงหน้าดำอย่างเคย แล้วเดินกลับไปหน้าเตาเสียอย่างนั้น ร่างกายกำยำบดบังสายตาดำจนมองไม่เห็นว่าสิรินกำลังทำอะไรอีก คนตัวเล็กจึงเป็นกังวลขึ้นมาที่สิรินไม่ยอมมานั่งกินด้วยกันเสียที

“กำลังทำของหวานให้เจ้าจอมตะกละน่ะ กินไปก่อนได้เลย” คำตอบของสิรินทำให้ดำขมวดคิ้ว ใครกันเจ้าจอมตะกละ

“จอมตะกละคือไอ้ดำสินะ แปลว่าคุณสินกำลังทำของหวานให้ไอ้ดำ เย้ๆ ของหวาน” สมองแล่นเร็วเมื่อเป็นเรื่องของอาหาร น้อมรับเสียแต่โดยดีว่าตัวเองเป็นจอมตะกละ ยิ้มกว้าง ส่งเสียงดีใจอยู่อย่างนั้น

ไอ้ดำเป็นจอมตะกละก็ได้ถ้าคุณสินชอบ ฮี่ๆ

“หึหึ” สิรินได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ แม้ในใจจะเอ็นดูคนตัวเล็กมากขึ้นก็ตาม ถูกใจเขาล่ะ ถ้าได้กินของอร่อย

ดำฮำเพลงอย่างอารมณ์ดี รีบจ้วงสปาเกตตีเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ตลอดทั้งวันแทบไม่ได้แตะอะไรเลย พอสภาพจิตใจเข้าที่เข้าทาง ท้องก็ส่งเสียงร้องขอของกินอย่างรู้หน้าที่

เส้นสีเหลืองหอมกรุ่นมากกว่าทุกครั้งด้วยถูกปรับสูตรใช้เนยคลุกเคล้าเส้นแทนน้ำมันพืช สิรินทำให้ดำทานหลายครั้ง พอถามเปรียบเทียบว่าชอบแบบไหนมากกว่า ดำก็ตอบว่าชอบแบบคลุกเนย หลังจากนั้นสิรินจึงเปลี่ยนสูตรอย่างถาวร มีบ้างที่ดำเป็นคนเรียกร้องให้ใช้น้ำมันพืชเวลาอยากเปลี่ยนรสชาติ แต่แบบคลุกเนยหอมกว่ามากจริงๆ ดำชอบกลิ่นนี้มากกว่า

ไวท์ซอสเนียนนุ่ม สัมผัสที่ได้จากวิปครีมรสจืดเพิ่มความละมุนของซอสได้อย่างพอดี ตัดความเลี่ยนของเนยให้เบาบางลง ผสมผสานแฮมกับเห็ดให้รสคล้ายซุปเห็ดที่มาร์โก้ชอบทำให้กิน แต่เข้มข้นกว่านั้นมาก

ยิ่งนำมากินกับเส้นสปาเกตตีที่สุกพอดี เหนี่ยวนุ่ม ยืดหยุ่น จึงกลายเป็นอาหารจานอร่อยได้อย่างลงตัว ของโปรดที่ดำชอบกินมากที่สุด

...ความจริงไม่ใช่เพียงความอร่อย แต่มันเป็นอาหารจานแรกที่สิรินลงมือทำให้เขาทานด้วยตนเอง มันจึงมีผลต่อจิตใจของดำเป็นอย่างมาก เพียงแค่ดำไม่อาจเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ได้เท่านั้นเอง

สปาเกตตีที่เป็นฝีมือของคนสำคัญ และยังได้นั่งกินข้างกัน จึงกลายเป็นสิ่งที่ดำชอบมากที่สุดนั่นเอง

สปาเกตตีจานใหม่ถูกวางไว้ตรงหน้าพอดีกับที่ดำกลืนคำสุดท้ายลงท้องไป สิรินใส่ใจทุกรายละเอียดต่อให้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

“กินไปก่อน จะเสร็จแล้ว” เช็ดปากเลอะซอสให้คนตัวเล็กจนเอี่ยมอ่อง ร่างสูงก็กลับไปหน้าเตาอีกครั้ง

แผ่นแป้งวงกลมทั้งไหม้ทั้งไม่สุก วางกองบนจานอยู่หลายแผ่น ในอ่างล้างจานก็มีชามผสมแป้งวางอยู่หลายใบ เป็นหลักฐานบ่งบอกว่าก่อนดำจะกลับมาสิรินพยายามทำของหวานครั้งแล้วครั้งเล่ากว่าจะออกมาเป็นที่น่าพอใจเช่นนี้

เพราะเป็นผู้ชายทั้งยังอยู่คนเดียว สิรินจึงไม่เคยทำของหวานด้วยตนเอง แม้จะเป็นของง่ายๆ อย่างแพนเค้กก็ตาม เขาทำได้เพียงอาหารง่ายๆ อย่างสปาเกตตี หรือข้าวผัดที่มาร์โก้ตั้งใจเคี่ยวเข็ญสอนให้เท่านั้น การทำของหวานจึงไม่เคยอยู่ในหัวแม้แต่น้อย

แต่พอดำเข้ามาในชีวิต เขาก็เริ่มอยากทำให้ดำยิ้ม อยากได้รับความพึงพอใจ อยากแย่งรอยยิ้มนั่นมาจากมาร์โก้บ้าง...หัวใจเขาคับแคบเกินกว่าจะเข้าใจจริงๆ

ยิ่งวันนี้พอคิดว่าจะทำอาหารมื้อพิเศษให้ดำหายเศร้า เขาก็อยากทำของหวานขึ้นมา วันนั้นที่พาดำไปบริษัทดูดำชอบเค้กไม่น้อย เขาจึงอยากจะทำบ้าง แต่พอเห็นสูตรแล้วก็ได้แต่เหงื่อตก เวลาน้อยเกินไปที่จะทำให้สำเร็จ จึงต้องยอมเสียหน้าปรึกษาทิวผู้โปรดปรานของหวานไม่เข้ากับหน้าตา ถึงได้ของหวานหัวข้อที่ง่ายที่สุดอย่างแพนเค้กมาเช่นนี้

สูตรเหมือนจะง่ายมีส่วนผสมไม่กี่อย่าง แต่พอเอาเข้าจริงการจะตีแป้งให้พอดีนั้นยากไม่น้อยเลย ทั้งพอเทแป้งลงในกระทะ ยังต้องคำนึงถึงระดับของไฟอีก แรงไปด้านนอกก็ไหม้ข้างในไม่สุก พอไฟอ่อนไปแป้งก็แข็งจนร่วนไปหมดอีก

กว่าจะผสมแป้งให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และปรับไฟได้พอดี ของที่ทำเสียจึงมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ทั้งยังต้องทำสปาเกตตีอีก ยังดีที่ดำกลับมาในช่วงที่เขาเตรียมการทุกอย่างเสร็จพอดี

สิรินตักแป้งที่สุกกำลังดีขึ้นจากกระทะแล้วกดปิดเตา กลิ่นหอมเรียกความอยากอาหารของคนที่กินสปาเกตตีไปแล้วถึงสองจานได้เป็นอย่างดี เสียงกลืนน้ำลายจากคนตัวเล็กช่วยให้เขาพอใจมากขึ้น

เจ้าจอมตะกละเอ๊ย

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของคนตัวโต เขายังไม่หันกลับไป ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะยกไปเสิร์ฟง่ายๆ ขายาวก้าวช้าๆ ไปที่ตู้เย็น เลือกหยิบผลไม้อย่างไม่รีบร้อน พิจารณาแล้ววางจากนั้นก็หยิบอันต่อไป ปล่อยให้คนตัวเล็กมองตามอย่างคาดหวังอยู่เช่นนั้น

ผลไม้ถูกใส่ไว้ในกล่องถนอมอาหารอย่างดีด้วยฝีมือของมาร์โก้ สิรินหยิบสองสามอย่างกลับไปตามที่คิดไว้ แม้จะหยิบเกือบครบทุกกล่องมามองดูก็ตาม ทั้งยังหยิบขวดน้ำผึ้งติดมือไปด้วย

ไม่ต้องล้างให้เสียเวลา เพราะมาร์โก้ก็จัดการไว้ให้อีกเช่นเคย เพียงหั่นผลไม้อย่างพอดีคำ วางตกแต่งด้านบนแพนเค้กสีน้ำตาลอมเหลือง จากนั้นก็ราดน้ำผึ้งชุ่มฉ่ำก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ใบหน้าคาดหวัง ทั้งน้ำลายไหลเลอะปากทำให้สิรินต้องกลั้นขำ ยิ่งเวลาขยับมือไปทางซ้ายทีขวาทีดำก็มองตามยิ่งทำให้สิรินหุบยิ้มไม่ได้

เจ้าหมาน้อย

“คุณสินน่ากินจัง” ดำอดใจไม่ไหว

กลิ่นหอมนั่นน่ากินเกินไปแล้ว พื้นที่ของหวานไอ้ดำเหลือเฟือ ส่งมาเถอะครับ งื้อ

“หึหึ เอ้า” จานสีดำตัดกับแพนเค้กสีน้ำตาลอมเหลือง กับตัวแป้งฟูฟ่องมองจากด้านข้างมีสีขาวแทรกอยู่บ่งบอกถึงความนุ่มที่ซ่อนอยู่ภายใน น้ำผึ้งสีเหลืองใสแจ๋วราดไว้ด้านบนก็โดเด่นไม่น้อยหน้า ยิ่งประดับด้วยผลไม้หลากสีสันยิ่งงาม

สิรินวางจานแพนเค้กตรงหน้าดำ แล้วจึงหันกลับไปตักสปาเกตตีของตัวเองมานั่งกินฝั่งตรงข้าม รอยยิ้มกว้างดังดอกทางตะวันยิ้มแฉ่งกลบความงดงามของแพนเค้กจนหมดสิ้น

ยิ่งกว่าของหวานแสนงดงาม... หน้าตา ท่าทาง ใบหน้าประดับรอยยิ้มของดำน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด

บรรยากาศที่คุ้นเคยทำให้ดำมีความสุขกว่าทุกครั้ง เขาเข้าใจคุณค่าของการมีคนสำคัญอยู่เคียงข้างก็ในวันนี้ ได้กินข้าวอย่างพร้อมหน้า แม้ไม่ใช่อาหารเลิศหรูแต่ก็มีความสุขมากกว่าใคร...

ดำตักแพนเค้กจากด้านบนจนถึงก้นจาน แผ่นแป้งหนานุ่มถูกวางไว้ถึง 5 ชั้น แต่กลับขาดง่าย ยิ่งตัวแป้งนุ่มฟูสัมผัสยิ่งนุ่มนิ่มมากขึ้น

สัมผัสแรกที่ได้ลิ้มรสคือความหวาน ความหวานที่ไม่ใช่จากน้ำตาลแต่เป็นน้ำผึ้ง หวานแต่กลับไม่เลี่ยนแม้แต่น้อย

ตัวแป้งนุ่มเหมือนครีมทำให้รู้สึกเหมือนละลายทุกครั้งที่เคี้ยว ฟูฟ่องเหมือนปุยเมฆ

อร่อยจัง ไม่เหมือนเค้กเลย ทั้งที่เป็นแป้งเหมือนกันแท้ๆ แต่กลับนุ่มได้ขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้ดำชอบ คุณสินทำอะไรก็อร่อย เก่งที่สุดเล้ย!

ผลไม้สีสวยมาก ถ้ากินพร้อมแป้งจะอร่อยขึ้นไหมนะ

ว่าแล้วก็ตักสตรอว์เบอร์รีสีแดงสดขึ้นมาพร้อมแพนเค้กพอดีคำ ยกเข้าปากอย่างไม่ลังเล ความอร่อยพุ่งขึ้นภายในปาก สตรอว์เบอร์รีมีรสหวานนิดเปรี้ยวหน่อย ช่วยเพิ่มรสชาติที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งยังเข้ากับน้ำผึ้งหอมหวานได้เป็นอย่างดี

นอกจากสตรอว์เบอร์รีแล้วยังมีผลไม้ชนิดอื่น ลูกกลมๆ สีม่วงนั่นดำไม่รู้จัก ไหนจะผลไม้สีแดงสดใสที่เหมือนมีผลไม้เม็ดกลมๆ เรียงกันอยู่จนกลายเป็นผลเดียวนั่นอีกดูน่าทานไม่น้อยเลย

ด้วยสงสัยว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร ดำไม่รีรอตักขึ้นทางเหมือนคำเมื่อครู่ทันที เพียงแต่เปลี่ยนผลไม้ที่ทานคู่กันเป็นลูกสีม่วงแปลกตาเท่านั้น

รสชาติคล้ายกับสตรอว์เบอร์รีมากเลย แต่มันก็ต่างกันเล็กน้อย ให้รสที่เปรี้ยวกว่าทั้งรสหวานนิดๆ ที่กระจายออกมานี่อะไรกัน ไอ้ดำไม่เข้าใจเลย คล้ายแต่แตกต่าง มันคืออะไรกันนะ อร่อยคนละแบบ เทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ

สิรินนั่งมองดำเพลินยิ่งกว่าตักอาหารเข้าปากเสียอีก สปาเกตตีในจานของเขาลดลงไปเล็กน้อยเท่านั้น รอยยิ้มของเจ้าจอมตะกละของเขาดูแล้วเต็มอิ่มหัวใจจนไม่ต้องกินอะไรก็ยังได้เลยล่ะ

“คุณสินๆ ไอ้ดำชอบ จานเดียวแต่หลายรสชาติมากเลย” ดำกินแพนเค้กคำสุดท้ายแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มแฉ่งให้คนตรงหน้า

อยากกินอีกจัง แต่คุณสิรินยังไม่อิ่ม เดี๋ยวไอ้ดำค่อยขอก็ได้

ดำนั่งยิ้มแต่ไม่พูดอะไร จนสิรินได้แต่หัวเราะ หึหึ อย่างเอ็นดูภายในลำคอ อยากกินแต่รอก่อนเหรอ น่ารักไปแล้วนะ เจ้าหมาน้อย

สิรินจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แต่ดำกลับจับมือเขาเอาไว้

“ไอ้ดำรอได้ คุณสินอิ่มแล้วค่อยกินด้วยกัน...นะครับ” ดำอยากกินพร้อมกับสิรินมากกว่า มันอร่อยมาก ถ้าสิรินได้กินต้องมีความสุขเหมือนเขาแน่นอน ดำคิดเช่นนั้น

ส่วนสิรินก็ยอมนั่งลง ใครจะทนสายตาออดอ้อนนั่นไหว ถึงจะไม่ค่อยชอบของหวาน แต่ถ้าเป็นของที่ได้กินพร้อมดำมันต้องทำให้เขาพึงพอใจมากแน่ๆ

และวันนั้นพวกเขาก็ได้ลิ้มรสของหวานที่หอมหวานที่สุด

ความหวานที่ผ่านพ้นความขมขื่นมานั้น จะหาสิ่งใดเปรียบได้อีก

:::::


ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 14 [2]
«ตอบ #122 เมื่อ21-05-2018 04:21:03 »


แกร๊ก

เสียงประตูหน้าห้องเปิดออกทำให้สิรินที่นั่งทำงานอยู่ในห้องนั่งเล่นต้องหันไปมอง คนที่เข้ามาก่อนคือเจ้าตัวเล็กที่พักหลังๆ ออดอ้อนเขามากขึ้นทุกที

แต่วันนี้กลับไม่ได้มาคนเดียว ด้านหลังดำมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันมาด้วยถึง 3 คน สิรินเก็บสีหน้าไม่พอใจเอาไว้อย่างแนบเนียน ทั้งที่เป็นวันหยุดพิเศษของเขา ทั้งที่คิดว่าจะได้ใช้เวลากับดำสองต่อสอง วันนี้กลับถูกโทรมาขอไปทำงานเพื่อนเสียอย่างนั้น

วันนี้ครูที่โรงเรียนมีประชุมจัดงานด่วนในช่วงบ่าย นักเรียนไม่มีเรียนจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ดำพึ่งเคยทำรายงานเป็นครั้งแรก โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ก็ใช้ไม่เป็น ทั้งดูเนื้อหาก็ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย พอคุณครูให้จับกลุ่ม จึงพอมีที่พึ่งบ้าง

ดำไม่อยากเสียเวลาพักผ่อนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ไปเพราะรายงานเล่มหนา เขาจึงเร่งเร้าให้เพื่อนๆ ทำตั้งแต่วันนี้ ตอนแรกจะไปบ้านทำรายงานที่บ้านของลิลิน แต่พอโทรมาขออนุญาตสิริน ผู้ปกครองของเขากลับให้มาทำที่ห้องเสียอย่างนั้น วันนี้กลุ่มของพวกเขาจึงต้องมาทำรายงานที่ห้องของดำด้วยประการฉะนี้เอง

“คุณสินไอ้ดำกลับมาแล้ว” ดำเข้าไปโอบกอดรอบคอสิรินด้วยแขนสองข้างอย่างคุ้นเคย นับจากวันนั้นที่เผลอไปจุ๊บๆ สิรินเขา ดำก็ได้รับการสอนอะไรหลายๆ อย่าง จนชอบสัมผัสร่างกายกำยำของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงสิรินที่ชอบกอดชอบหอมเขาคนเดียวอีกต่อไป ดำก็ชอบทำไม่ต่างกัน

“ยินดีต้องรับเจ้าตัวเล็ก” สิรินกอดตอบทั้งที่ยังนั่งอยู่ จึงกลายเป็นว่าดำขึ้นมานั่งบนตักของสิรินเสียแล้ว มันเป็นสิ่งที่พวกเขาทำจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนมาใหม่ทั้งสามนั้นมองดูด้วยความตกใจ

เต็มหันไปปิดประตู จะบอกว่าเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาก็ไม่ผิดนัก เพราะพักหลังๆ ดำชอบพูดโอ้อวดให้เขาฟัง ทั้งเล่าทั้งหน้าแดง ไม่รู้ว่าอายขนาดนั้นจะทนเล่าอยู่อีกทำไม

ผ่านมา 1 เดือนแล้วจากเหตุการณ์ตอนนั้น เขากับดำสนิทกันมากขึ้น จนไม่รู้ว่าดำเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเขาจะไม่เล่าต่อถึงกล้าพูดเรื่องน่าอายเหล่านั้นให้เขาฟัง ทั้งบอกว่าจุ๊บๆ กันแล้วนี่คืออะไร จุ๊บแบบจุ๊บแก้มใช่รึเปล่า เต็มได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง แต่ไม่กล้าถามออกไป...กลัวว่าจะไม่เป็นแบบที่เขาคิด

ถ้าถามเหตุผลคงไม่อาจอธิบายได้ แต่ดำรู้สึกเชื่อใจเต็มอย่างประหลาด เขากล้าเล่าในสิ่งที่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เหมือนได้ระบายสิ่งที่บอกใครไม่ได้ให้เพื่อนที่สนิทมากๆ ฟัง ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่ตอนไหน...

“สนิทกันจังนะ”

“ก็พี่ชายนี่ปกติออก น่ารักดี”

ขมิ้นกับลิลินซุบซิบกันอย่างปรึกษา เต็มมองออกว่าขมิ้นนั้นรู้สึกอย่างไรกับดำ ส่วนลิลินก็พร้อมช่วยเพื่อนเต็มที่ เฮ้อ บางทีเขาก็หนักใจที่ไม่สามารถเตือนใครได้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก อยากบอกออกไปเหลือเกินว่าใครก็ไม่อาจเข้าไปแทรกความสัมพันธ์ของสองที่กอดกันกลมอยู่ตรงนั้นได้

ไม่ใช่แค่ขมิ้น กับพวกรุ่นพี่ผู้ชายบางคนก็เหมือนกัน เข้าหาดำกันไม่ซ้ำหน้า สุดท้ายเขาก็ต้องเข้าไปกันท่าเอาไว้ จนกลายเป็นว่ามีข่าวลือแปลกๆ ของเขากับดำตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ น่าหนักใจเกินไปแล้ว

“เข้ามาสิ ฉันเตรียมโน๊ตบุ๊คเอาไว้ให้แล้ว ใช้ได้ตามสบาย อยากได้อะไรก็บอกได้เลย” สิรินปล่อยดำลงจากตักแล้วจึงเอ่ยกับเด็กทั้งสาม

“ตั้งใจทำงานนะดำ ฉันจะไปทำของว่างให้” สิรินลูบหัวดำอย่างเคย ดำก็ทำหน้าเคลิบเคลิ้มโดยไม่แคร์สายตาใคร สีหน้าสิรินแบ่งแยกชัดเจน กับพวกเต็มเรียบนิ่งไร้อารมณ์ ส่วนกับดำกลับดูอบอุ่นขึ้นโดยไม่ต้องยิ้มเสียอย่างนั้น

“ครับ ไอ้ดำอยากกินแพนเค้กอีก” ดำติดใจแพนเค้กตั้งแต่แรก พักหลังๆ มาจึงขอให้สิรินทำให้กินบ่อยมากขึ้น มันกลายเป็นของโปรดอีกหนึ่งอย่างรองจากสปาเกตตีไปเสียแล้ว

“อืม” ตอบรับแล้วก็เดินเข้าห้องครัวไป บางทีเขาคงยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ กลัวจะทำอะไรสิ้นคิดเพราะหึงหวงดำไปเสียก่อน ถึงเพื่อนทั้งสามของเขาจะยืนยันมาแล้วว่าเต็มไม่คิดอะไร แต่สิรินก็อดที่จะหึงหวงไม่ได้

หลังจากสิรินไปแล้ว เด็กทั้ง 4 ก็เลือกที่จะนั่งลงกับพื้น คนที่อยู่หน้าโน๊ตบุ๊คไม่ใช่ใครแต่เป็นลิลินกับขมิ้น ซึ่งลิลินจัดการเสร็จสรรพจนตอนนี้ดำต้องนั่งคู่กับขมิ้น ให้ขมิ้นสอนใช้งานโปรแกรมเสียแล้ว ส่วนเต็มต้องช่วยลิลินหาข้อมูลไป โน๊ตบุ๊คถูกเตรียมไว้ 2 เครื่อง เข้าทางพวกเธอจริงๆ

เต็มได้แต่มองไปยังห้องครัวหวังว่าคนด้านในจะไม่ออกมาก่อนที่เขาจะแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน ตั้งแต่วันนั้น ภายในใจเต็มก็รู้สึกกลัวสิรินอย่างแปลกประหลาด สายตาที่มองมาเย็นชาอย่างถึงที่สุด มันมีอำนาจเสียจนเขาขาสั่น รู้ว่าคนคนนี้ทำได้ทุกอย่างถ้าเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ

เขาเฝ้าคิดถึงตอนนั้นแล้วจิตใจที่ไม่เคยกลัวใครก็ยังตื่นตระหนก เริ่มกลัวว่าใครจะเอามือไปแหย่หนวดเสือเข้า กลัวว่าวันใดวันหนึ่งสิรินจะลงมือทำเรื่องโหดร้ายขึ้นมา เต็มจึงพยายามระแวดระวังอย่างถึงที่สุด

“ดำ ขอน้ำหน่อยดิ คอแห้งว่ะ” เห็นดำนั่งจ้องหน้าโน๊ตบุ๊คอย่างตั้งใจจนหัวแทบจะชนกับขมิ้นอยู่แล้วเต็มก็ขัดขึ้น ดำหันมามองแล้วก็พยักหน้าหงึกหงักก่อนเดินหายเข้าไปในครัวอีกคน

“ขมิ้นเข้าไปช่วยดำยกสิ ยกมา 4 แก้วคงหนัก” ลิลินบุ้ยใบ้ จะปล่อยให้โอกาสที่เพื่อนจะอยู่กับคนที่ชอบหลุดมือไปไม่ได้

“จะดี- “

“เดี๋ยวเราไปเอง” ไม่รอให้ใครค้าน เต็มรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามดำไปทันที ให้เข้าไปทั้งที่คนคนนั้นอยู่ ไม่รอดแน่ๆ ไม่รอดชัวร์ ๆ

แต่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเขาก็เห็นภาพที่ต้องชะงักค้างเสียก่อน ได้แต่คิดในใจว่า ดีนะคนที่ตามมาไม่ใช่ขมิ้น โธ่เอ๊ย! วันนี้จะรอดไหมเนี่ย

ภาพที่ลอดผ่านช่องเล็กๆ ของประตูซึ่งปิดไม่สนิทนั้น คือภาพดำกำลังเขย่งเท้ายกตัวขึ้นไปหอมแก้มคนตัวสูง ภาพนั้นยังติดตาเต็ม ถึงจะหลบหลังประตูแล้วแต่ความอยากรู้อยากเห็นก็เข้าครอบงำ มองดูลิลินกับขมิ้นที่กำลังวางแผนกันไม่หันมาสนใจเขาแต่อย่างใด ก็แอบมองผ่านช่องนั้นอีกครั้ง อ่านปากดำที่ขยับไปมาก็ได้แต่หวนคิดถึงคำที่บอกเล่ากับเขาในเวลาที่ผ่านๆ มา

“คุณสินยังไม่จุ๊บๆ ต้อนรับไอ้ดำกลับบ้านเลยนะครับ”

‘คุณสินจุ๊บๆ ไอ้ดำทุกครั้งที่กลับบ้านด้วยล่ะเต็ม ไอ้ดำชอบมาก’

ที่แท้ไอ้จุ๊บๆ ที่ว่าคือจูบนี่เอง!

ทำไมถึงกลายเป็นสิ่งที่เขาคิดในแง่ร้ายที่สุดไว้เสียได้ ดูนั่นทั้งที่มีเพื่อนอยู่เต็มห้อง ผู้ใหญ่คนนั้นกลับวางชามผสมแป้งลงแล้วกอดดำเข้าไปในอ้อมแขนก้มจูบดูดดื่ม แถมยัง แถมยังแลกลิ้นกันด้วยโว้ย!

เต็มหน้าแดงเถือก ภาพจูบแลกลิ้นเร่าร้อนของคนทั้งสองยังติดตา หันหลังพิงกำแพงสะบัดหัวครั้งแล้วครั้งเล่าภาพนั้นก็ยังไม่จางหายไป

“เป็นอะไรไปเต็ม ทำไมนายไม่เข้าไป” ลิลินหันมาเจอเต็มสะบัดหัวระรัวเหมือนคนบ้าก็ถามขึ้น เสียงของลิลินดังมากมันจึงส่งไปถึงภายในห้องครัว ร่างของทั้งสองผละออกจากกัน ก่อนที่เต็มจะเปิดเข้าไป

เต็มรีบร้อนเข้าไปแล้วปิดประตู ขอตายเอาดาบหน้าดีกว่าให้ลิลินสงสัยจนเดินเข้ามาดูเอง

“เอ่อคือ...จะมาช่วยยกน้ำน่ะ” เต็มเกาหัวแกร็กๆ ทำอะไรไม่ถูก ทั้งที่หน้ายังแดงก่ำไม่กล้าสบตากับคนทั้งสอง ส่วนสิรินยิ้มมุมปากน้อยๆ ไม่ให้ใครรู้ เขาเห็นเต็มจากหางตาตั้งแต่ตอนดำเขย่งเท้าหอมแก้มแล้วจึงเพิ่มความรุนแรงในจูบเมื่อครู่มากขึ้น ประกาศความเป็นเจ้าของอย่างโจ่งแจ้ง

“อื้อๆ รอแป๊บนะ” ดำทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเดินไปที่ตู้เย็นหยิบน้ำอัดลมออกมา 4 กระป๋อง ตามความชอบของตัวเองโดยไม่ถามความเห็นใครแม้แต่น้อย

“ไอ้ดำออกไปก่อนนะครับ คุณสินทำเร็วๆ น้า ไอ้ดำรอ” ว่าแล้วก็เขย่งเท้าหอมแก้มสิรินอีกหนึ่งทีก่อนเดินออกไป เต็มเดินตามไปทั้งที่ในหัวตีกันวุ่นไปหมดไม่รู้ควรแสดงออกอย่างไรกับเพื่อนแสนแปลกประหลาดคนนี้ดี

“เห็นไหมไอ้ดำจุ๊บๆ คุณสินทุกครั้งที่กลับบ้านจริงๆ นะ” กระซิบกระซาบยืนยันคำพูดกับเพื่อนอย่างไม่อายปาก ทั้งที่หน้าแดงก่ำ

คราวก่อนที่เล่าให้ฟังเต็มขมวดคิ้วมุ่นเหมือนไม่เชื่อที่ดำพูด พอวันนี้เห็นหน้าเต็มเขินอายเหมือนเขาก็คิดไปว่าเต็มคงเห็นเข้าแล้ว ถือว่าเป็นหลักฐานยืนยันก็ไม่เสียหาย

เต็มเชื่อไอ้ดำแน่ๆ ก็เห็นแล้วนี่นา ถึงจะเขินนิดๆ แต่ก็ช่วยยืนยันได้แล้ว ไอ้ดำฉลาดจริงๆ ฮ่าๆ

ดำยิ้มร่าอย่างพอใจ ส่วนเต็มหันมาผงกหัวขอโทษสิรินน้อยๆ ที่แอบมองเรื่องส่วนตัวของพวกเขาเข้า

หลังประตูปิดลงสิรินก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงท่าทางของเด็กทั้งสอง และคำพูดของดำ เด็กน้อยของเขาเคยถามว่าเล่าให้คนอื่นฟังได้รึเปล่า ตอนนั้นสิรินบอกไปว่าเล่าได้แค่กับคนที่เชื่อใจมากๆ เท่านั้น สิรินคิดว่าหมายถึงมาร์โก้ ทิว น่าน และก้อง ไม่เคยคิดว่าดำจะเล่าให้เต็มฟังด้วย

แถมเด็กคนนั้นยังดูไม่มีท่าทางหึงหวงดำทั้งที่เห็นภาพบาดตา เพื่อนๆ ของเขาก็ช่วยยืนยันอีก 3 เสียง ในตอนแรกอาจจะไม่เชื่อ แต่พอเห็นแบบนี้แล้วคงพอวางใจได้บ้าง

ส่วนดำนั้นคงต้องถามให้รู้เรื่องว่าตกลงเล่าไปถึงไหนแล้วกันแน่ ถ้ากับคนที่ไม่ต่อต้านความรักของเพศเดียวกันคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นพวกที่ต่อต้านเข้า เขากลัวเหลือเกินว่าดำจะรับสิ่งที่ตอบกลับมาไม่ไหว ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนร่วมห้องแล้วอาจถูกแกล้งจนไร้ที่ยืนเสียก็ได้

ดำยังเด็ก สิรินต้องการให้ดำเรียนรู้ความเป็นจริงของสังคมมนุษย์ในปัจจุบันมากกว่านี้ แล้วจึงประกาศให้ใครต่อใครรับรู้ ตอนนี้ขอเพียงคนที่เชื่อใจได้ก่อนเท่านั้น...แม้เขาจะไม่ปกปิดความหึงหวงเลยก็เถอะ

ทางด้านดำตอนนี้กำลังมีความสุขมากๆ ที่ทำให้เต็มเชื่อคำพูดของเขาได้ มือยื่นกระป๋องโคล่าให้ขมิ้นทั้งที่ยังหุบยิ้มไม่ได้

"ขมิ้นโคล่าซู่ซ่าอร่อย" ขมิ้นหน้าแดงเล็กน้อย เธอเขินอายที่ดำยิ้มหวานให้ ดำน่ารักไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ชอบทำหน้าตาน่ากลัว บรรยากาศก็ชวนเข้าหามากกว่า ขมิ้นถูกใจดำตั้งแต่แรกเจอจึงอยากจะสนิทสนมด้วยและหวังว่าจะสานต่อความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดมากขึ้น

รูปร่างหน้าตา บรรยากาศที่ดำแสดงออกมาล้วนน่าทะนุถนอม แต่กลับล้มเต็มได้ แข็งแกร่งไม่สมกับภาพที่เห็น นั่นแหละที่ทำให้ขมิ้นมั่นใจในความรู้สึกของตนมากขึ้น ส่วนข่าวลือของเต็มกับดำนั้นเธอไม่สนใจแม้แต่น้อย

"ขอบใจนะ"

"กูชอบโคล่า ให้ขมิ้นกินน้ำแดงไปละกัน" เต็มรีบคว้ากระป๋องโคล่าจากมือของดำ แล้วยื่นน้ำแดงไปให้ขมิ้นแทน ก่อนที่มือของทั้งคู่จะแตะกัน ดูก็รู้ว่าขมิ้นคิดจะใช้โอกาสนี้จับมือดำ ถ้าผู้ใหญ่น่ากลัวคนนั้นออกมาเห็นเข้าต้องไม่ดีแน่ๆ

ไม่รอให้ใครทักท้วงได้ เต็มเปิดกระป๋องโคล่าดื่มจนหมดไปกว่าครึ่งแล้วนั่งลงบนโซฟา ยกโน๊ตบุ๊คด้านหน้าลิลินมาวางไว้บนตักตัวเองเสร็จสรรพ

"ดำมานี่มา เดี๋ยวกูสอนใช้เวิร์ด ให้พวกผู้หญิงสอนไม่ทันกินกันพอดี พวกเธอก็หาข้อมูลไปละกัน ของแบบนั้นเรากับดำคงไม่ไหว รายงานได้เละกันพอดี" เต็มหาข้ออ้างที่ฟังขึ้นมาบอกกล่าวแก่เพื่อนทั้งสอง กับเขาที่รู้ความเป็นไปของดำกับผู้ปกครองคงพอเอาตัวรอดได้ อย่าให้ความหึงหวงไปลงที่ผู้หญิง 2 คนนั้นเลย

ดำว่าง่ายขึ้นไปนั่งข้างเต็มทันที เขาไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์มาก่อนเพราะไม่น่าสนใจเท่าทีวีจอใหญ่ในห้องนั่งเล่น

สิรินมองการกระทำของเต็มตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงการกระทำเหมือนหวงดำ แต่สีหน้าเหล่านั้นบ่งบอกว่าไม่ได้หวงไว้เป็นของตนเอง ดูออกตัวกันไว้ให้เขาเสียด้วยซ้ำ

อาจจะดีกว่าที่คิด เขาคงวางใจในตัวเต็มได้...หรือถ้าตุกติกทีหลังค่อยจัดการก็ไม่สาย

"ของว่างเสร็จแล้ว พักกันก่อนเถอะ" คนที่ขยับก่อนใครคงไม่พ้นดำ เจ้าตัวเข้าไปช่วยยกถาดจากมือสิริน ดวงตาแวววาวสำรวจ

ไอ้ดำต้องเลือกอันที่เยอะที่สุด!

วันนั้นการทำรายงานผ่านไปด้วยดี สิรินสั่งอาหารเย็นมาเลี้ยงเพื่อนๆ ของดำเสียอิ่มแปล้แล้วจึงได้แยกกันกลับไป ในตอนแรกสิรินจะไปส่ง แต่เด็กทั้งสามกลับปฏิเสธ รวมทั้งออกปากว่าไม่ต้องลงไปส่งด้านล่าง พวกเขาจึงยืนส่งอยู่หน้าห้องเท่านั้น

"เต็ม ที่โรงเรียนฉันฝากดำด้วยนะ" สิรินเอ่ยขึ้นก่อนที่เต็มจะหันหลังเดินตามลิลินกับขมิ้นไป เด็กหนุ่มที่ไม่คิดว่าสิรินจะเอ่ยอะไรแบบนี้กับตนได้แต่ชะงักงัน ยืนเรียบเรียงความคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงเข้าใจ

ผ่านด้านแล้วสินะ รู้สึกเหมือนผ่านด่านโหดมาได้เสียอย่างนั้น คู่แข่งแปลกๆ กับผู้ปกครองแปลกๆ คู่นี้ เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ

"ครับ" เต็มตอบรับสบตาสิรินนิ่ง ดวงตาน่ากลัวตอนนั้นหายไปแล้ว มีเพียงความเย็นชาที่คงอยู่ ถ้าไม่ใช่กับดำคงไม่มีทางเผยแววตาอบอุ่นสินะ คนคนนี้

หลังจากเต็มหายไปลับตา สิรินถึงปิดประตูห้อง

"เป็นเพื่อนที่ดีนะ เด็กคนนั้น" มือเรียวยกขึ้นขยี้ผมคนตัวเล็กเบาๆ ดำก็ยิ้มตาหยีตอบรับ ถึงจะไม่เข้าใจที่สิรินกับเต็มคุยกันเมื่อครู่ก็เถอะ

ฝากไอ้ดำทำไม ไอ้ดำมีอะไรให้ฝาก ไม่เข้าใจเลย

"ครับ เต็มเป็นคู่แข่ง แล้วก็ก็เป็นเพื่อนที่ดีของไอ้ดำล่ะ"

"เพราะแบบนั้นถึงเล่าเรื่องของเราให้ฟังเหรอ" สิรินเปิดปากถาม ไม่ต้องเคร่งเครียดเค้นเอาคำตอบ แค่ถามอย่างเป็นธรรมชาติเท่านั้น เขาเชื่อว่าดำไม่คิดจะปิดบังเขาอย่างแน่นอน

"อื้อๆ เต็มเชื่อใจได้ ถึงบางทีจะไม่ค่อยเชื่อที่ไอ้ดำเล่าก็เถอะ แต่ไม่เอาไปพูดไม่ดีแน่นอนครับ ไอ้ดำรับประกันเลย" ดำยกมือขึ้นตบอกยืนยัน ถึงเต็มจะปากไม่ดี แต่เรื่องให้ร้ายคนอื่นไม่มีแน่...ถ้าไม่รวมที่เจอกันครั้งแรกล่ะนะ ดังนั้นไม่ควรบอกคุณสินจะดีกว่า

"ถ้าอย่างนั้นฉันก็วางใจ ทิว น่าน ก้อง พวกเราก็เริ่มต้นกันไม่ดีนักเหมือนกัน หึหึ" คิดถึงครั้งแรกที่เจอกันแล้วก็ได้แต่ฉงนว่าพวกเขาสนิทกันเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด ทั้งที่ทะเลาะกันตั้งแต่แรกเจอแบบนั้น

ดำเล่าให้ฟังแล้วว่าพวกเขามีเรื่องกันตั้งแต่วันแรก จนกระทั่งโดดเรียนด้วยกันตอนนั้นก็ยังไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่ แต่หลังจากนั้นก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ เสียอย่างนั้น ต้องยอมรับว่าสิรินไม่พอใจเวลาดำพูดถึงเต็ม แต่พอได้เห็นวันนี้แล้วถึงรู้ว่าเต็มช่วยกันดำจากคนที่เข้าหาเท่านั้น

เจ้าตัวเล็กของเขาน่ารักขนาดนี้ คงจะมีคนเข้าหาไม่น้อย ฝากเต็มดูแลในช่วงที่เขาไม่อาจเข้าไปยุ่งได้ คงสบายใจขึ้นไม่น้อย

ถึงถ้าหากเต็มคิดไม่ซื้อขึ้นมา ก็ถือว่าจะได้กำจัดศัตรูเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น...

"จริงเหรอครับ แต่คุณทิว คุณน่าน คุณก้อง เป็นคนดีมากเลยน้า"

"อืม ก็เพราะอะไรหลายๆ อย่างที่ผ่านกันมานั่นแหละ...ไปอาบน้ำให้สดชื่นเถอะ วันนี้ได้เรียนอะไรใหม่ๆ คงเหนื่อยแย่ ไม่ต้องช่วยฉันเก็บของก็ได้" สิรินยิ้มน้อยๆ เอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วจึงไล่เจ้าตัวเล็กที่ตาเริ่มจะปิดแล้วไปอาบน้ำ

ดำไม่ยอมเดินไปเสียที เหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ มองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งที่เดินไปเก็บโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด ยิ่งพอนึกถึงประสบการณ์ครั้งก่อนก็หน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อๆ

ถ้าไอ้ดำขอ คุณสินจะว่าไอ้ดำเป็นเด็กลามกอีกรึเปล่านะ แต่ว่า...มันผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ

ร่างกายขยับเร็วกว่าความคิด ดำดึงชายเสื้อด้านหลังสิรินเอาไว้ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่โตกว่า

"คะ คุณสินอาบน้ำกับไอ้ดำอีกได้รึเปล่าครับ" หลังจากรวบรวมความกล้าสยบความเขินอายเอาไว้ ดำก็เงยหน้าสบตาคนตัวโตที่มองมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

สิรินไม่ตอบ อมยิ้มน้อยๆ กับท่าทางของเด็กดื้อ วางโน๊ตบุ๊คลงที่เดิมก่อนจะรวบตัวดำเข้ามากอด มอบจูบอันเร่าร้อนตอบแทนความกล้าหาญของคนตรงหน้า

ดำอ่อนระทวยในอ้อมกอด ไม่ว่าจะจุ๊บๆ กี่ครั้งดำก็ถูกสูบเรี่ยวแรงออกไปหมดทุกที ต้องกอดคนตัวโตเป็นหลักพยุงอยู่เช่นนี้

"หวังอะไรอยู่...เจ้าเด็กลามก"

ฟุ่บ

ดำซุกหน้าลงกับอกกว้าง เขาโดนรู้ทันเสียแล้ว

"หึหึ" ไม่รอให้ดำเอ่ยอะไรอีกสิรินก็ช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นอุ้ม พาเดินไปห้องอาบน้ำอย่างไม่ขัดต่อความต้องการของดำ...และตัวเขาเอง

อ่างอาบน้ำกว้างพอที่จะเข้าไปแช่ได้ทั้งสองคนอย่างสบายๆ แต่ดำกลับเลือกนั่งพิงอกของคนตัวโตเอาไว้ อยู่ภายในอ้อมกอดของสิรินอย่างคุ้นเคย ร่างกายเปลือยเปล่าก็สัมผัสกันโดยไร้สิ่งใดปิดกั้น

"คุณสิน ไอ้ดำ-"

"ชู่ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้" จะไม่ให้รู้ได้อย่างไรในเมื่อคนที่สอนสิ่งนี้ให้ดำคือเขาเอง ดำน่ารัก ถูกเขาชักนำเอาง่ายๆ ทั้งยังบอกความต้องการของตนโดนไม่ปกปิด แม้จะเขินอายเพียงใดก็ตาม เขาก็ไม่ควรจะเอาเปรียบอีกฝ่ายมากเกินไป

มือฉ่ำน้ำลูบไล้สัมผัสร่างกายเรียบเนียนของเด็กวัยกำลังโต ทั้งที่ควรจะเย็นชื่นด้วยเพราะแช่อยู่ในน้ำ แต่ร่างกายของดำกลับร้อนวูบวาบเสียทุกครั้งที่ถูกสัมผัส

"คุณสิน อื้อ" ส่วนล่างถูกกระตุ้นเพียงแรกสัมผัส ดำไม่รู้ว่าควรวางมือไว้ที่ใดจึงเอี่ยวตัวช่วงบนไปกอดคอสิรินเอาไว้ เวลาร่างกายสัมผัสกันมันรู้สึกดี

ดวงตาฉ่ำปรือเพราะแรงปรารถนานั้นทำให้สิรินอดใจไม่ไหว ริมฝีปากประกบ ลิ้นร้อนแลกสัมผัสกันครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนมือก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี มอบสัมผัสนุ่มนวลเชื่องช้า ก่อนก็เพิ่มความเร็วมากขึ้นตามความต้องการของร่างกายเล็กๆ ที่กำลังสั่นเทาอยู่นี้

"อ่า คุณสิน ไอ้ดำไม่ไหว" ดำผละจูบออกมา ร่างกายกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะใกล้ถึงจุดสูงสุดเต็มที เสียงหวานสะท้อนก้องห้องน้ำ กระตุ้นสิรินมากขึ้นไปอีก เขาไม่ยอมปล่อยให้ดำได้พัก ดึงดำมาจูบอีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างกายของดำทนไม่ไหวอีกต่อไป

แฮ่กๆ

เสียงหอบหายใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่สิรินยอมปล่อยริมฝีปากเล็กที่เริ่มบวมแดง ดำตาปรือฉ่ำน้ำ เขาเอาแต่ใจตัวเองเหลือเกิน ไปก่อนอีกจนได้

"คุณสินไอ้ดำช่วย" แผ่นหลังของเขายังสัมผัสได้ถึงความแข็งขืน รู้ดีว่ามันทรมานถ้าปล่อยไว้เช่นนี้

ไม่อยากเป็นเหมือนครั้งก่อนที่ทั้งเขิน ทั้งหมดแรงจนสลบไป ปล่อยให้คุณสินทรมาน วันนี้แหละไอ้ดำจะแก้ตัว!

"หึหึ แน่ใจนะ" สิรินกระซิบข้างหูของคนที่หน้ายังไม่ลดสีแดงลง ดำไม่ตอบแต่พยักหน้ายืนยันในคำพูดของตนเอง อะไรที่ตัดสินใจแล้วคนอย่างดำต้องทำให้ได้

สิรินจับดำพลิกตัวเข้าหาจนร่างกายด้านหน้าสัมผัสกันไปเสียทุกส่วน แนบชิด เร่าร้อน ปลดปล่อยให้ซึ่งกันและกันจนพึงพอใจ กว่าการอาบน้ำครั้งนี้จะจบลง ดำก็แช่น้ำจนมือแห้งเหี่ยวเสียแล้ว

ถึงอย่านั้นมันก็เป็นการอาบน้ำแบบที่ดำชอบที่สุดเลย

ไอ้ดำยอมเป็นเด็กลามกทุกครั้งก็ได้!






โปรดติดตามตอนต่อไป...

___________________________________

สวัสดีค่ะ ตะตอนนี้ยังนับเป็นวันนี้ที่ว่าอยู่ไหมคะ หลับอีกแล้วค่ะ

หลับประมาณเที่ยงคืนตื่นตี 2 นี่ควรนอนต่อมั๊ยคะ จะเช้าแล้ว แง T^T

ตอนนี้มาเซอร์วิสให้ก่อน เพราะตอนหน้าจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว

ปมครอบครัวคุณสินที่ปูไว้จะได้ฤกษ์แก้แล้วค่ะ

กลัวจะหาช่วงใส่เซอร์วิสไม่ได้ (ฮ่าๆ)

ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ กรีนจะพยายามตอบ

แต่ถ้าไม่ครบทุกคนอย่าโกรธกันน้า

ขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะ ว่าทุกคอมเมนท์กรีนอ่านทั้งหมด อ่านจนตัวลอยแต่ไม่รู้จะตอบอะไรจริงๆ

มันมีผลกับจิตใจและความขยันของกรีนมากๆ (ฮ่าๆ)

ขอขอบคุณทุกคำติชม และข้อความที่อินไปกับเนื้อเรื่อง อ่านทีไรกรีนตัวลอยทุกทีเลย

สุดท้ายนี้ก็ขอบอกว่า...ตอนหน้ากรีนอาจจะลงพร้อมข่าวดีค่ะ (ขออุ๊บไว้ก่อน)

เอ็นดูน้องดำกับคุณสินด้วยนะคะ แล้วเจอกันจ้า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เปื่อยแล้วล่ะตัวนะ แช่น้ำนาน ๆ มันเปลืองน้ำรู้ไหม มีอะไรก็.......โน้น เตียง ใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ด้วย  :m16:

ออฟไลน์ WaterProof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ yanisa0801448037

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อร้ายยยยยย ดำเขินหน้าแตก แต่คนอ่านเขินตัวแตกเลยจร้าาาา  มาคอนเซปน้องเสนอพี่สนอง อรั้ยยย รอวนไปค่ะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อยู่ในอ่างดำคงเซ็กซี่น่าดู :pighaun:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 15
«ตอบ #130 เมื่อ29-05-2018 17:07:30 »

เปย์ครั้งที่ 15

ฝากเนื้อฝากตัว

‘มอบตัวให้ดูแล หรืออุปการะของผู้อื่น ฝากกายก็ว่า’


ผู้คนคละคลั่งท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อไหลท่วมกายแต่กระนั้นก็ไม่อาจลดทอนความสุขของเหล่านิสิตจบใหม่ได้แม้แต่น้อย รอยยิ้มประดับบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ หรือผู้ที่มาร่วมยินดีกับคนสำคัญของพวกเขา

เวลา 4 ปีที่พากเพียร ในที่สุดก็ผ่านก้าวที่ยากลำบากมาได้ ดังเหล่าลูกนกที่พร้อมโบยบินออกสู่โลกกว้าง

สิรินเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้เวลาที่ผันผ่านจะทำให้ใกล้วันคล้ายวันเกิดปีที่ 23 ของเขาไปทุกทีก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเวลามีคนคอยอยู่เคียงข้าง ร่วมยินดีกับความสำเร็จนั้น มันมีความสุขจนไม่อาจปกปิดแววตาที่ฉายชัดถึงความสุขล้นปรี่นี้ได้แม้แต่น้อย

กำหนดการถูกเลื่อนออกไปเล็กน้อยแต่ก็ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนฟ้ามืด เพราะเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้แสงยังคงมีพอให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำจนวินาทีสุดท้าย

เวลานี้หน้าหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยจึงเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตารวมตัวกันอยู่เพื่อร่วมยินดีกับคนสำคัญของตน รวมทั้งพวกนักข่าวที่รอจับจ้องหาข่าวตาเป็นมัน คนดัง ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ล้วนแล้วน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาคาดหวังให้มีภาพเด็ดสักภาพในหลายร้อยภาพที่กดถ่ายไปนั้นก็เพียงพอแล้ว

“คุณสิน” ดำตะโกนเรียกสิรินจากด้านหลัง เพราะความโดดเด่นของคนตัวสูง ไม่ยากเลยที่ดำจะหาตัวของสิรินพบได้ง่ายดายเช่นนี้

แรงกอดที่โถมใส่ไม่ได้ทำให้สิรินเซล้มแต่อย่างใด เขาตั้งหลักได้ตั้งแต่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กดังขึ้นแล้ว รอยยิ้มแห่งความยินดีฉายชัดที่ริมฝีปาก แม้ไม่ใช่ยิ้มที่กว้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยความสุขไม่อาจปิดบัง การมีคนคอยยินดีกับเขามีความสุขเช่นนี้เอง

“ว่าไงหือ” สิรินจับมือของดำออกเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมอง พร้อมจับแขนดำให้กอดเขาเช่นเดิม เพิ่มเติมเป็นเขากอดดำกลับได้แล้วเท่านั้น

“ยินดีด้วยครับ ไอ้ดำดีใจ” คนตัวเล็กกระชับอ้อมกอดแน่น เงยหน้าสบตายิ้มกว้าง ดำมีความสุขยิ่งกว่าเวลาตัวเขาเองทำอะไรสำเร็จเสียอีก

“ขอบคุณครับเจ้าตัวเล็ก” สิรินลูบหัวให้รางวัล ดำก็ขยับหัวถูไถฝ่ามืออย่างมีความสุข คลอเคลียกันโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย

“ไอ้ดำมีของขวัญให้คุณสินด้วย” ดำเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหลับตาพริ้มไปกับสัมผัสอบอุ่น

“จริงเหรอ ไหน จะให้อะไร ฮึ” สิรินถามด้วยความแปลกใจ เด็กน้อยของเขาไปแอบเตรียมของขวัญตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

“ฮี่ๆ ความลับครับ ไอ้ดำให้ที่บ้าน ปะป๋าบอกว่าเดี๋ยวทำหาย” ความจริงอยากจะเอามาให้เลยด้วยซ้ำ แต่พอคิดว่าอาจจะหายไปได้ก็ยอมรับฟังแต่โดยดี พวกเขาอยู่ด้วยกัน กลับแล้วค่อยให้ก็ยังไม่สาย

“เดี๋ยวนี้หัดมีความลับเหรอ หือ” แรงที่หัวหนักขึ้นอย่างมันเขี้ยว ดูสิหัวเราะมีความสุขเสียอีกที่เห็นเขาตอบรับแบบนี้ หัวเราะจนไม่เห็นดวงตาอีกแล้ว

“อะแฮ่มๆ เอ้า! พวกเราขัดความสุขคู่นี้หน่อยเร็วววว” วันนำขบวนรุ่นน้องมาล้อมรอบสิรินเอาไว้ เรื่องอะไรจะยอมเสียเงินคนเดียว อีกทั้งดูนั่น บรรยากาศสีชมพูมุ้งมิ้งทำเหมือนโลกนี้มีแค่เราสองคนดูแล้วขัดหูขัดตาเกินไป ต้องจัดการให้หมด

ดำมองภาพเหล่าคนที่กำลังร้องเพลงด้วยความบ้าคลั่งอย่างระแวงเพียงครู่ เมื่อเห็นว่าพวกเขาเพียงเข้ามาร่วมยินดีด้วย ทั้งยังดูน่าสนุกอีกดำจึงร้องตามบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างมั่วไปหมด แม้ผละตัวออกมาหลังจากถูกขัดจังหวะ แต่มือของทั้งคู่ก็ยังจับกันแน่น ไม่ยอมออกห่างจากกันง่ายๆ

การบูมจบลงพร้อมความถูกอกถูกใจของวัน จากนั้นตัวแทนรุ่นน้องที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตา กล้าพูดคุยกับสิรินก็เดินถือกล่องเข้าไปหา

“ยินดีที่เรียนจบครับ...ระดับพี่สินแล้วของแบงก์เทาๆ จะเป็นบุญกับรุ่นน้องตาดำๆ มากครับ” ดำฟังคำพูดแล้วก็งง จึงกระตุกมือสิรินอย่างอยากรู้อยากเห็น

สิรินไม่ตอบอะไร เพียงยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะดันดำมาอยู่ด้านหน้าเผชิญหน้ากับดลที่ถือกล่องเอาไว้

“ดำเราต้องตอบแทนที่พวกเขาร้องเพลงยินดีเมื่อครู่ แต่ฉันไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินมา ดำเอาเงินใส่ให้ฉันก่อนได้ไหม” ดำไม่เข้าใจมากนักแต่คิดว่ามันคงเป็นธรรมเนียมของโลกนี้ ทั้งเป็นคำพูดของสิรินอีกจะไม่ให้เชื่อฟังได้อย่างไร

ดลเห็นแววดวงซวยมาแต่ไกล จะเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับคนอย่างรุ่นพี่สิริน ถ้าได้น้อยจะไปไถพี่วันอีกรอบคอยดู

ดำหยิบกระเป๋าใส่เงินที่ห้อยคอเอาไว้ขึ้นมา จ้องมองเงินสารพัดสีในกระเป๋าอย่างครุ่นคิด

‘เอาใบไหนดีนะ ให้มากไม่ดีแน่เดี๋ยวเงินไอ้ดำหมด ถึงซื้อของขวัญไปแล้วแต่ไอ้ดำจะพาคุณสินไปกินของอร่อยด้วย แต่ให้น้อยก็ไม่ดีเหมือนกันมีกันตั้งหลายคนเดี๋ยวแบ่งกันไม่พอ งืมๆ เอาใบไหนดีน้า’

ดำคิดไม่ตก จ้องเงินในกระเป๋าจนคิ้วขมวด แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงเหมือนเมื่อครู่ก็หันไปมอง ถึงเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้รับเงินแค่จากสิรินคนเดียว จึงยิ้มออกมาด้วยความยินดี

สิรินมองการกระทำของดำ กับใบหน้าที่เริ่มซีดของรุ่นน้องอย่างถูกใจ ถ้าดำไม่อยู่ตรงนี้เขาคงให้ไปจบๆ เพราะอย่างไรดลก็เป็นรุ่นน้องที่เขาให้ความสนิทอยู่บ้าง อยู่ในขั้นที่มากกว่าคนรู้จักหนึ่งขั้น แต่ไม่ได้สนิทสนมเหมือนเพื่อนทั้งสาม แค่ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ต้องพูดคุยด้วย

ดำเลือกหยิบแบงก์สีน้ำเงินที่เหลืออยู่ใบเดียวในกระเป๋า ถือว่าไม่ได้น้อยที่สุด แต่ก็ไม่อยากให้มากกว่านี้

สิรินมองจนพอใจจึงได้ยกมือขึ้นลูบหัวดำก่อนที่คนตัวเล็กจะใส่เงินลงในกล่อง

“ให้สีเทาไปเถอะ เดี๋ยวฉันคืนให้ 2 ใบ” ดำชะงักมือลังเล ส่งสายตาถามว่าให้จริงเหรอ ถึงจะได้คืนมาเป็น 2 เท่า แต่ก็เสียดายอยู่ดี เงินนี่เป็นเงินที่สิรินกับมาร์โก้ให้เวลาไปโรงเรียน ดำเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี เพราะไม่เคยใช้หมดเลยสักครั้ง อีกทั้งสิรินกับมาร์โก้ยังให้เกินความจำเป็นอีก ไม่แปลกที่ดำจะมีเงินเก็บมากขนาดนี้

มือเล็กยอมเคลื่อนกลับ เปลี่ยนเป็นแบงก์สีเทาตามที่สิรินบอก แม้จะเม้มปากแน่น หักห้ามใจไม่ให้เสียดายก็ตาม

เหล่ารุ่นน้องยิ้มกว้าง ตอนแรกคิดว่าจะถูกมองด้วยสายตาเย็นชาแล้วเดินหนีเสียอีก อย่างที่พี่วันบอก ถ้าไปบูมตอนที่เด็กคนนี้อยู่ต้องได้แบงก์สีเทามาอย่างแน่นอน ถึงจะถูกเล่นเสียจนนึกค่อนขอดวันไปเสียหลายรอบ แต่มันก็สำเร็จจนได้ คงต้องขอโทษวันทีหลัง

ดลรับเงินมาแต่ยังไม่ขยับไปไหนไกล ในบรรดารุ่นของเขา ตอนนี้คงมีแค่เขาคนเดียวที่กล้าคุยเล่นกับสิริน ก็ช่วยไม่ได้มีลุงรหัสดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

“พี่ทิวอยู่ไหนหรือครับ ผมหาไม่เจอ จะไปไถเงินสัก 2-3 พันซะหน่อย ฮ่าๆ” ดลเป็นหลายรหัสของทิว ที่ดูเหมือนจะสนิทกับทิวยิ่งกว่าน้องรหัสของเจ้านั่นเสียอีก

“ไปถามเจ้าพวกนั้นดูสิ” ดลมองตามสายตาสิรินถึงเห็นรุ่นพี่ในกลุ่มนี้อีก 2 คน ที่ดูไม่ค่อยจะชอบเขานักยืนอยู่ แต่ก็ไร้วี่แววของคนที่ตามหาอย่างสิ้นเชิง

“มะ ไม่ดีกว่าครับ ผมยังอยากเรียนจบแบบครบ 32 ขอตัวก่อนนะคร้าบ” ไม่ต้องรอให้ถูกแกล้งไปมากกว่านี้ ดลก็วิ่งจู๊ดหายไปในฝูงชนทันที ปล่อยให้เพื่อนต้องวิ่งตามไปแบบนั้น ช่วยไม่ได้กล่องเงินสำคัญที่สุด

“ฮ่าๆ พวกมึงก็รุมแกล้งมัน ไอ้ทิวไม่โกรธมันแล้วไม่ใช่เหรอวะ” วันเดินเข้ามาหาหลังจากที่รุ่นน้องวิ่งหายไปลับตา เรื่องนั้นก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ดูท่าดลจะโดนชำระความไม่จบเสียที

“ก็เปล่า แต่ไอ้พวกนั้นคงไม่จบง่ายๆ ...ก็นะถ้าเกิดกับพวกมันคงไม่เท่าไหร่ แต่ไปแตะคนสำคัญของพวกมันเอง” สิรินคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แม้ดลจะไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด แต่ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบความผิดนั้นอยู่ดี

ตัวเขาเองก็เข้าใจน่านกับก้องดี เพราะถ้ามันเกิดขึ้นกับดำเขาคงทำลายคนที่เกี่ยวข้องจนไม่เหลือซากต่อให้เจ้าตัวบอกว่าไม่ติดใจเอาเรื่องก็ตาม พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับคนทั้งสามมันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น

“เฮ้อ เอาเถอะกูไม่คิดจะเข้าไปยุ่งอยู่แล้ว ยังไงก็ขอตัวก่อน ที่บ้านก็คงมารอ...แล้วเจอกันนะดำ” สิรินพยักหน้าตอบรับ ส่วนกับก็ยกมือไหวเหมือนทุกครั้ง ก่อนวันจะเดินหายไป เรื่องนั้นมีคนรู้เรื่องอยู่เพียงไม่กี่คน ซึ่งวันก็เป็นหนึ่งในนั้น

“กลับบ้านกันเถอะครับ ปะป๊ารอที่รถแล้ว” ดำกระตุกมือสิรินเบาๆ เขาไม่อยากให้สิรินคิดมาก ดำก็รู้เรื่องนั้นเพราะสิรินเล่าให้ฟัง ถึงจะไม่เคยเจอดลก็ตาม แต่ดูแล้วดลไม่ใช่คนไม่ดี แล้วสิรินเองก็ดูไม่โกรธนัก ดำจึงพอเดาได้ว่าดลไม่ใช่คนที่ทำร้ายทิว เป็นเพียงคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

“อืม...กลับกันฉันอยากได้ของขวัญจะแย่แล้ว” สิรินก้มลงมามองดำด้วยรอยยิ้ม เขาคงเผลอทำให้ดำเป็นห่วงอีกแล้ว เจ้าตัวเล็กยิ่งจับความรู้สึกเขาได้เร็วอยู่ด้วย

ก่อนไปก็หันกลับไปมองด้านหลัง ทิวโผล่หน้าออกมาจากระหว่างกลางของก้องกับน่านพอดี สองคนนั้นคงบังทิวไว้ไม่ยอมให้ได้เจอดลง่ายๆ ทิวก็ดูหัวเสียแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ก้องกับน่านดูไม่สะทกสะท้านกับสายตามองค้อนเหล่านั้น ยังคงจับไว้แน่นไม่ให้ทิวเดินหนีไปไหน วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพวกเขา จึงตกลงกันไว้แล้วว่าจะแยกกันกลับไปใช้เวลาส่วนตัว พรุ่งนี้ค่อยนัดไปฉลองด้วยกัน ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงเพียงโบกมือทักทายกันเล็กน้อยแล้วแยกกันกลับไป

มาร์โก้รออยู่ที่รถ เพราะไม่ถูกกับอากาศร้อนเท่าไหร่นัก อีกทั้งวันซ้อมก็ไปถ่ายรูปมาเรียบร้อยแล้วจึงไม่ต้องไปเบียดเสียดกับคนอื่นให้มากความ พอดำกับสิรินมาถึงก็ขับรถออกสู่ถนนใหญ่ วันนี้สิรินบอกให้มาร์โก้พักไม่ต้องทำอาหาร เพียงเตรียมของรอพรุ่งนี้ที่ทิว น่าน และก้อง เข้ามาฉลองพร้อมกันก็เพียงพอ วันนี้พวกเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ทั้งตื่นแต่เช้า กว่าจะได้กลับก็เย็น มื้อเย็นจึงเพียงแวะกินระหว่างทางกลับเท่านั้น

พักหลังๆ มาร์โก้ไปกลับระหว่างไทยกับอเมริกาบ่อยครั้ง เพราะคิดถึงดำ อยากอยู่ไทยถาวรใจจะขาดแต่ยังไม่อาจวางมือได้ ยิ่งใกล้ถึงเวลาสำคัญเช่นนี้ยิ่งเป็นช่วงซุ่มเสี่ยง เขาจึงกลับไทยได้ไม่นานนัก

หลังทานอาหารค่ำในร้านไทยบรรยากาศดีร้านหนึ่ง มาร์โก้ก็ขับรถกลับที่พัก พอมาถึงมาร์โก้แยกเข้าครัวอยากใช้เวลาที่มีอยู่เตรียมของสำหรับฉลองในวันพรุ่งนี้ ส่วนสิรินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้หายเหนื่อย ดำจึงมีเวลาไปหยิบของขวัญมาเตรียมไว้

หลังจากนี้สิรินต้องไปฝึกงานที่บริษัทจนกว่าจะถึงวันเกิดอายุ 23 ปี จึงจะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบริษัทอย่างเป็นทางการ เสื้อผ้าชุดใหม่จึงเรียงไว้เต็มตู้ ดำหยิบกางเกงสแล็คสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว และเนกไทออกมาอย่างละหนึ่งชิ้น

เดินออกจากห้องแต่งตัวแล้ววางชุดลงบนเตียง กอดอกยืนมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ

‘จะรอให้ถึงวันทำงานไอ้ดำรอไม่ไหว อยากให้ตอนนี้เลย เอาแบบนี้แหละ ไอ้ดำฉลาดจริงๆ ฮี่ๆ’


แกร๊ก

“ทำอะไรอยู่หรือ” สิรินได้ยินเสียงกุกกักค้นตู้เสื้อผ้าตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำ จึงเดินออกมาดูทั้งยังแต่งตัวไม่เสร็จ มีเพียงผ้าพันช่วงล่างอยู่เท่านั้น พอออกมาก็เห็นดำยิ้มพอใจอยู่ข้างเตียง เจ้าตัวเล็กดูตกใจเล็กน้อย ก่อนจะซ่อนกล่องของขวัญเล็กๆ เท่าฝ่ามือไปไว้ด้านหลัง

“ระ รอให้ของขวัญคุณสินครับ” ตกลงจะปิดบังหรือจะเฉลย ดูท่าทางแล้วคงอยากให้เต็มที แต่ก็อยากเซอร์ไพร์เขา นับว่ายังอดทนไม่ดีพอ...น่ารักเกินไปแล้ว

“นั่นชุดของฉันนี่ จะให้ฉันใส่ชุดนี้เหรอ” สิรินช่วย เดี๋ยวดำจะทำไม่สำเร็จ เวลาได้รับของขวัญจากคนสำคัญ ไม่ว่าจะอย่างไรก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ

“ครับ ใส่ก่อนไอ้ดำให้ของขวัญค่อยถอดออก ให้ไอ้ดำรอตอนคุณสินใส่เอง รอไม่ไหวหรอกครับ” ดำสารภาพ จะให้ยกเหตุผลอะไรมาอ้างก็คิดไม่ออก ขอบอกตรงๆ ไปเลยดีกว่า

สิรินพยักหน้าแล้วหยิบกางเกงขึ้นมาใส่ เขาเช็ดตัวก่อนออกมาแล้ว เพราะไม่อยากให้พื้นห้องเปียก ไหนๆ ก็เช็ดตัวแล้วก็เลยใส่กางเกงในเรียบร้อย เวลานี้จึงไม่ต้องยุ่งยากเดินเข้าห้องแต่งตัวไปอีก

หลังจากนั่งลงบนเตียงสิรินก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวมาใส่ แต่ก่อนจะติดกระดุมเม็ดแรกริมฝีปากฉายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย หันไปมองคนที่ยืนลุ้นอยู่ไม่ไกล แล้วอาศัยจังหวะที่ดำมองมาอย่างแปลกใจดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ด้วยเพราะสิรินนั่งอยู่ทำให้ดำเสียหลักล้มนั่งลงบนตักพอดิบพอดี

“ช่วยฉันใส่เสื้อ ดำจะได้ให้ของขวัญฉันเร็วขึ้น...ดีไหม” เขาเอ่ยบอกคนที่ยังทำหน้าเหลอหลางุนงงกับสิ้นที่เกิดขึ้น รอยยิ้มอบอุ่นของสิรินทำให้ดำว่าง่าย พยักหัวหงึกหงักแล้วนำกล่องของขวัญวางไว้ด้านข้าง ก้มหน้าก้มตาติดกระดุมเสื้ออย่างตั้งใจ

สิรินมองใบหน้าของคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู กอดกระชับแขนให้แน่นขึ้นอีกเล็กน้อย สูดดมความหอมจากผมนุ่มนิ่มที่อยู่ใกล้จมูกจนพอใจ

“เสร็จแล้วครับ” ดำเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของพวกเขาห่างกันเพียงเสี้ยวเท่านั้น ความเขินอายตีตื้นขั้นมาจนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ไม่ว่าจะนานเท่าใดเขาก็ไม่ชินเสียที ใบหน้าหล่อเหลากับสายตาอบอุ่นคู่นั้นยากเกินไปที่จะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติได้

“ผูกเนกไทเป็นไหม” สิรินอยากฟัดคนตรงหน้าใจจะขาดแต่ก็อดใจไว้ เดี๋ยวดำสติหลุดลืมว่าจะต้องทำอะไรต่อไป

“เป็นครับ ไอ้ดำฝึกมาแล้ว ปะป๋าสอนให้ ไอ้ดำตั้งใจเรียนอยากผูกเนกไทให้คุณสิน” ว่าจบก็หยิบเนกไทมาผูกให้สิริน แม้ดูเงอะงะอยู่บ้างแต่ก็ผูกจนเสร็จ ออกมาสวยงามตามที่ฝึกมา

“เป็นครับ ไอ้ดำฝึกมาแล้ว ปะป๋าสอนให้ ไอ้ดำตั้งใจเรียนอยากผูกเนกไทให้คุณสิน” ว่าจบก็หยิบเนกไทมาผูกให้สิริน แม้ดูเงอะงะอยู่บ้างแต่ก็ผูกจนเสร็จ ออกมาสวยงามตามที่ฝึกมา

ดำหยิบกล่องขึ้นมาเปิด ในที่สุดก็ได้ทำสิ่งที่ต้องการเสียที ของขวัญที่สิรินจะต้องนำติดตัวไปทุกวัน คิดอยู่หลายตลบในที่สุดดำก็คิดออก

“หึหึ” สิรินมองของขวัญในกล่องแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างที่คิดเอาไว้ความคิดของเจ้าจอมตะกละไม่เคยพ้นเรื่องกินอยู่แล้ว

ที่หนีบเนกไทสีเงินทำจากทองคำขาว ถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย เล็กกะทัดรัดเพื่อไม่ให้กลบความโดดเด่นของส่วนปลายที่ประดับด้วยจี้รูปจานสปาเก็ตตี้!

จี้สีทองเด่นตัดกับสีขาวของตัวหนีบ ลวดลายคมชัดนูนสาย รายละเอียดจานสปาเก็ตตี้ครบถ้วน ถ้ามองไกลๆ อาจเห็นเป็นดอกไม้ดอกเล็กๆ แต่กับสิรินที่อยู่ใกล้เพียงเท่านี้มองออกได้อย่างไม่ยากเย็นว่ามันคืออะไร

“ชอบไหมครับ ไอ้ดำเป็นคนคิดเองล่ะ ถึงคนที่ไปสั่งทำมาคือปะป๋าก็เถอะ ไอ้ดำเป็นคนจ่ายเงินด้วย เก็บเงินจากค่าขนม...ไอ้ดำเก่งไหมครับ” ดำรีบอวด ยิ่งสิรินลูบหัวให้รางวัลอีกรอบก็ยิ่งดีใจ

ดูเหมือนคุณสินจะชอบล่ะ ก็สปาเก็ตตี้เป็นอาหารจานแรกที่คุณสินทำให้กิน ทำให้เส้นแข็งๆ นั่นอร่อยจนไอ้ดำตั้งให้เป็นของโปรด อาหารจานนี้แหละเหมาะจะเป็นของขวัญที่สุด

ตอนที่เลือกของขวัญดำกับมาร์โก้ช่วยกันคิดอยู่หลายวัน จนกระทั่งในทีวีฉายละครเรื่องหนึ่ง ภาพที่ผู้หญิงช่วยใส่เนกไทให้คนรักดูอบอุ่นเอามากๆ ดำจึงคิดอยากจะทำแบบนั้นขึ้นมา พอไปปรึกษามาร์โก้ มาร์โก้กลับเสนอให้เป็นที่หนีบเนกไทแทนจะได้ใส่ทุกวัน ไม่เหมือนเนกไทที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ

พอไปเดินเลือกซื้อก็ไม่ถูกใจดำเสียที เขาอยากได้รูปแบบที่ทำให้สิรินคิดถึงเขาเวลามอง ดำเริ่มรู้สึกถึงความหึงหวงโดยธรรมชาติ ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย

สุดท้ายมาร์โก้ก็เลยบอกว่าเราไปสั่งทำดีกว่า พอรู้ว่าสั่งทำได้ดำก็คิดแล้วคิดอีก ยิ่งพอคิดถึงคำเรียกของสิริน

‘เจ้าจอมตะกละ’

ดำก็คิดว่าของกินนี่ล่ะ ทำให้สิรินคิดถึงเขามากที่สุด

“ชอบ ชอบมาก...ใส่ให้ฉันสิ” สิรินไม่ได้สนใจราคาแม้ว่าจะรู้ว่ามันแพงหูฉี่แน่ๆ มาร์โก้คงเพิ่มเงินไปไม่น้อย แต่ก็ยกความชอบให้ดำทั้งหมด ชักจะตามใจกันเกินไปแล้ว ถึงอย่างนั้นคงต้องขอบคุณเสียมากกว่า ของขวัญจากคนสำคัญทั้งสอง มีค่ามากกว่าสิ่งใด

“ครับ” ดำใส่ที่หนีบเนกไทไปบนเนกไทที่เขาผูกให้เองกลับมือ หัวใจพองโตยิ่งกว่าเดิม

มีความสุขจัง ไอ้ดำได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ทั้งหมดเลย

"ขอบคุณครับ" เสียงทุ้มนุ่มลึกกระซิบข้างหู อ้อมกอดกระชับแน่น จากนั้นเคลื่อนริมฝีปากขึ้นจรดหน้าผาก จูบขอบคุณคนสำคัญของเขา

ดำเองก็กอดสิรินแน่น สัมผัสอบอุ่นเริ่มจากหน้าผาก เปลือกตา จมูก และริมฝีปาก เวลานี้เหมือนร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยความอบอุ่น รับสัมผัสเหล่านั้นด้วยความเต็มใจ

ริมฝีปากของสิรินยังไม่ละออกจากปากเล็กๆ นั่น ยังคงคลอเคลีย โลมเลียตามความต้องการที่มากขึ้น ดำรู้สึกได้ถึงความต้องการนั้น คนตัวเล็กเปิดปากรับ จูบตอบตามความเคยชิน พวกเขาจูบกันมานับครั้งไม่ถ้วน ดำเรียนรู้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนตามจังหวะของสิรินทัน เวลานี้ลิ้นที่สัมผัสกันจึงร้อนแรงมากขึ้น ไม่ใช่สิรินที่รังแกดำฝ่ายเดียวอีกแล้ว

ร่างกายเล็กบดเบียด เขากำลังต้องการ มือที่โอบกอดร่างกายสิรินอยู่ก็ลูบไล้เอาแต่ใจ

กล้ามเนื้อแข็งจัง ตัวก็โตมาก สมส่วนสุดๆ ไอ้ดำชอบร่างกายคุณสินที่สุด

สิรินเองก็ใช่ว่าจะนิ่งเฉย มือเรียวลูบไล้แผ่นหลังผ่านเนื้อผ้า แต่มันยังไม่พอ เขาต้องการมากกว่านี้ อยากสัมผัสดำมากขึ้น แม้รู้ว่าตัวเองจะทรมานหากต้องหยุดเมื่อถึงเวลานั้น แต่สิรินก็ยังทำต่อไป

มือแทรกผ่านเนื้อผ้า สัมผัสร่างกายนุ่มนิ่มบอบบางของคนตัวเล็ก ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ดำกลับแทบไม่โตขึ้นเลย เพียงไม่ผอมแห้งเช่นแต่ก่อนแล้วเท่านั้น ร่างกายเล็กจึงนุ่มขึ้น เต็มไม้เต็มมือขึ้น ไม่ต้องกลัวจะหักถ้าสัมผัสแรงๆ เหมือนแต่ก่อน

"อา คุณ...สิน อืม" แม้จะตามจังหวะของสิรินทัน แต่ดำก็มีขีดจำกัด เขาเหนื่อยจนหายใจไม่ทันแล้ว

"แฮ่กๆ ๆ " ริมฝีปากเล็กบวมเปล่ง หอบอากาศเข้าปอดด้วยความหอบเหนื่อย ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ทนไม่ได้จนจบทุกทีสิน่า

"ดำ" ดำเงยหน้าตามเสียงเรียกก็ถูกฉกชิมริมฝีปากอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ถูกรังแกอีกจนได้ ความร้อนแรงมากกว่าทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด ความอดทนแทบจะขาดสะบั้น

ดำเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะหนักหน่วงของลิ้นร้อน พยายามใช้ทุกสิ่งที่เรียนรู้มาจนหมดเปลือก แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะยังไม่มากพอ รู้สึกอีกครั้งแผ่นหลังเล็กก็สัมผัสกับเตียงนุ่มเสียแล้ว

สิรินยอมปล่อยริมฝีปากดำเป็นอิสระ เวลานี้เขาคร่อมอยู่บนตัว จดจ้องคนตัวเล็กด้วยความต้องการอันล้นปรี่ บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร มากกว่าเขาก็ยังหยุดได้ เหมือนทุกครั้ง ไม่เป็นไร...

ถึงกระนั้นร่างกายก็ไม่อาจหยุดได้ มือเรียวดึงกางเกงขาสั้นเสมอเข่าที่ดำสวมอยู่ลงพร้อมกางเกงชั้นในตัวเล็ก มืออีกข้างหนึ่งก็ถอดเสื้อด้วยความชำนาญ เพียงไม่กี่ลมหายใจดำก็เปลือยเปล่าเสียแล้ว

ดำมองทุกการกระทำด้วยหัวใจเต้นแรง ลุ้นระทึกไปกับทุกการขยับของคนที่โตกว่า นานๆ ครั้งสิรินถึงยอมสัมผัสดำเช่นนี้ พวกเขาต่างช่วยกันปลดปล่อย สัมผัสร่างกาย และส่วนอ่อนไหวจนความสุขทะลักออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้แววตาของสิรินเหมือนสะกดความต้องการได้ไม่มิด ดำถึงได้ตื่นเต้นยิ่งกว่าทุกครั้ง

“คุณสิน...คุณสินก็ถอดเสื้อด้วยสิครับ ไอ้ดำอยากมอง อยากสัมผัสร่างกายคุณสินบ้าง” ดวงตากลมโตแหงนมอง ทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ จะกี่ครั้งที่บอกความต้องการของตัวเอง ดำก็ยังห้ามเลือดที่สูบฉีดจนใบหน้าแดงก่ำเช่นนี้ไม่ได้

“หึหึ...ดำเป็นคนใส่ก็ถอดให้ฉันสิ” สิรินยกยิ้มแพรวพราว ลูบไล้หน้าท้องแบนราบ เพิ่มความเสียวซ่านให้คนด้านล่างมากขึ้น และเมื่อได้รับคำอนุญาตดำก็เอื้อมมือไปถอดเนกไทที่เขาเป็นคนผูกเองด้วยมือที่สั่นเทา

ตื่นเต้นจัง ตื่นเต้นกว่าตอนที่ผูกให้อีก ไอ้ดำเป็นอะไรนะ อึก

เนกไทถูกถอดออกช้าๆ เพราะดำต้องบังคับมือไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ แต่ยิ่งถูกจับจ้องจากสิริน เขาก็ยิ่งสั่นเทา จนต้องเม้มริมฝีปากแน่น

ไอ้ดำต้องถอดให้ได้!


ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 15[2]
«ตอบ #131 เมื่อ29-05-2018 17:08:11 »

ในที่สุดดำก็ถอดเนกไทสำเร็จ แต่ปราการต่อไปคือเสื้อเชิ้ตที่เต็มไปด้วยกระดุม มันยากยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก ยิ่งมือสัมผัสโดนร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนตรงหน้าดำยิ่งตื่นเต้น ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ช่วยสิรินถอดเสื้อ ส่วนอ่อนไหวของเขาจะกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่าตามแรงอารมณ์เช่นนี้

อยากจะหนีบขาเข้ามาชิดซ่อนส่วนน่าอายเอาไว้ แต่กลับถูกร่างกายใหญ่โตขวางกลั้น สิรินมองขาเรียวที่พยายามหนีบเข้าหากันด้วยพอใจ ไม่ต้องใช้หัวคิดให้มากมาย เวลานี้ร่างกายจะตอบสนองด้วยสัญชาตญาณอันมีติดตัวมาของมนุษย์

ไม่รอให้ซ่อนไปมากกว่านี้ สีรินจับขาดำแยกออก จ้องมองส่วนอ่อนไหวที่กำลังสั่นระริก เหมือนต้องการปลดปล่อยเต็มที ใช้มือสัมผัสเบาๆ ส่วนนั้นก็ยิ่งสั่นสะท้านมากขึ้นไปอีก

“อืม คุณสิน” ดำถูกแกล้งอีกแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังเหลือกระดุมอีกเม็ดที่ยังแกะไม่ออก จึงได้แต่ส่งเสียงออดอ้อนด้วยความต้องการที่ท่วมท้น

แกะยากเกินไปแล้วนะ มือไอ้ดำก็สั่นจัง ทำไมถึงได้ตื่นตัวขนาดนี้ งื้อ ควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว

“ฉู่ ถอดให้เสร็จสิ แล้วฉันจะให้รางวัล” สิรินกลืนน้ำลายลงคออย่างอดกลั้น เขาทั้งอยากสัมผัสทั้งอยากแกล้งคนตัวเล็ก ทำให้ยังพออดทนอยู่ได้บ้าง เวลาดำอ้อนมันน่ารักกว่าไม่ใช่หรือ

“คุณสิน อื้อ ขี้แกล้ง” ดำน้ำตาคลอด้วยความอัดอั้น สัมผัสบางเบาที่เหมือนหยอกล้อส่วนอ่อนไหวของเขาเช่นนั้นมันช่างไม่พอเอาเสียเลย เขาอยากได้มากกว่านี้ สัมผัสที่ทำให้ปลดปล่อยออกจากความทรมาน

“ไม่อยากให้ฉันแกล้งก็รีบถอดสิ ไม่อยากได้รางวัลหรือ หือ” สิรินยังคงเย้าหยอก จากที่สัมผัสเพียงส่วนอ่อนไหวมืออีกข้างก็บีบคั้นสะโพกอย่างเร่งเร้าให้คนตัวเล็กทำหน้าที่ของตนให้เสร็จเสียที

“เสร็จแล้วครับ คุณสิน อื้อ อา คุณสิน” ไม่ต้องรอให้ดำร้องขอ เพราะคนที่รอจังหวะอยู่ก้มลงใช้ปากครอบครองส่วนอ่อนไหวสีหวานที่ไม่โตขึ้นจากแต่ก่อน จนดำได้แค่ครางตอบรับสัมผัสนั้นด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน มือเล็กที่ไม่รู้ว่าควรวางไว้ที่ใดก็จิกลงบนที่นอนแน่น

สิรินดูดดึงส่วนอ่อนไหวที่เข้ามาในปากได้จนหมดยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้ดำมากขึ้น ทั้งตวัดลิ้นเลียเป็นจังหวะ ขยับหัวขึ้นลงโลมเลียตั้งแต่โคนจรดปลาย แล้วกดจูบย้ำที่ส่วนหัวอยู่เช่นนี้ ในที่สุดอารมณ์ของดำก็ถึงจุดสูงสุด ปลดปล่อยน้ำสีขาวข้นออกมาจนเต็มปาก แต่สิรินก็ไม่ได้คายทิ้ง เขากลืนมันลงคอจนหมด ไม่คิดรังเกียจแม้แต่น้อย

“หวาน” สิรินพูดขึ้นพร้อมกับใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาที่ไหลซึมออกด้วยความสุขของคนตัวเล็ก ดำหอบหายใจเร็วยิ่งกว่าถูกจูบเสียอีก มันรู้สึกดีเหมือนลอยได้เลย

“ไอ้ดำอยากทำบ้าง คุณสินสอนไอ้ดำได้ไหมครับ” ดำมองสิรินไล่ตั้งแต่ดวงตาที่เวลานี้เต็มไปด้วยความปรารถนาราวกับไม่ใช่คนอบอุ่นคนเดิม ริมฝีปากที่พึ่งทำเรื่องน่าอายให้เขา ลูกกระเดือกกลมโตน่ากัด อกแกร่งได้รูป ไหนจะร่างกายที่ขึ้นรอน 6 ลูกกระเพื่อมไปมาด้วยความอดกลั้น และ...ส่วนที่นูนจนแทบทะลุกางเกงออกมา

“ไม่ ฉันอยากทำอย่างอื่นมากกว่า” สิรินปฏิเสธ เพราะเขากลัวเหลือเกินว่าจะหยุดตัวเองให้สัมผัสดำเพียงภายนอกไม่ได้ สำหรับเขายังมองว่าดำเป็นเด็ก เด็กขนาดที่หากเขาทำอะไรลงไปจะกลายเป็นพรากผู้เยาว์ ทั้งยังกลัวว่าร่างกายเล็กๆ นี้จะรับไม่ไหวจนกลัวที่จะทำในครั้งต่อๆ ไป...เขายังต้องรอ

ดำยู่ปากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย สิรินทำแบบนี้ให้เขามา 3 ครั้งแล้ว แต่กลับไม่ยอมให้ดำทำให้เสียที มันรู้สึกดีมาก ภายในปากทั้งนุ่มทั้งอุ่นจนมือเทียบไม่ติด ไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร ดำอยากทำให้สิรินรู้สึกดีบ้าง

สิรินยิ้มแล้วส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะก้มลงจูบปากดำด้วยความมันเขี้ยว แลกสัมผัสกันจนส่วนล่างของดำค่อยๆ โปร่งพองขึ้นมาอีกครั้ง จากริมฝีปากเป็นปลายคาง ต่อด้วยลำคอเล็กสีน้ำผึ้ง แผ่นออกแบนราบที่ประดับด้วยตุ่มไตสีหวาน

เขาละเลงลิ้นโลมเลียยอดอดเล็กเสียจนเปียกชุ่ม ทั้งดูทั้งกัดจนได้รับเสียงครางกระเส่าเป็นการตอบแทน ส่วนมือทั้งสองข้างก็ยกขาเรียวเล็กให้มาประกบติดกัน พาดไว้ที่ไหล่ซ้ายทั้งคู่ โดยมีส่วนใหญ่โตของเขาซึ่งถูกปล่อยออกมารับอากาศอยู่ตรงกึ่งกลาง

ส่วนอ่อนไหวของพวกเขาสัมผัสกันแนบชิด ทั้งขายังหนีบแน่น เมื่อได้ตำแหน่งที่ต้องการสิรินก็ลองขยับช้าๆ หลังจากที่ละจากยอดอกก็ยืดตัวขึ้นมองคนเบื้องล่างอย่างเต็มตา

“ปล่อยอีกรอบนะเด็กดี” สิรินเอ่ยกับดำด้วยน้ำเสียงของผู้ใหญ่กล่อมเด็ก จรดจูบลงบนท่อนขาเรียวที่พาดไหล่อยู่ เมื่อเห็นว่าดำพยักหน้าตอบรับทั้งที่ยังหอบเหนื่อย ก็เริ่มขยับช่วงล่างด้วยแรงอารมณ์อีกครั้ง

“คุณสิน อื้อ ดี ไอ้ดำ อืม รู้สึกดี อา” ดำมองช่วงล่างของตัวเองที่กำลังแนบชิดกับส่วนใหญ่ตัวของคนตัวสูง เป็นครั้งแรกที่สิรินสัมผัสเขาแบบนี้ มันรู้สึกดีกว่าที่คิดเอาไว้มากทีเดียว

เสียงหอบหายใจประสาน สิรินครางในลำคอเบาๆ ส่วนดำอดกลั้นไม่ไหว ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ครางเสียงหวานตอบรับสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่าจนพวกเขาปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน

“แฮ่กๆ” สิรินปล่อยขาดำเป็นอิสระ หยุดมือที่กำลังขย้ำบั้นท้ายนุ่มนิ่มด้วยความเสียดาย สั่งตัวเองให้อดกลั้น หยุดการกระทำที่จะรังแกดำไปมากกว่านี้

“ไปอาบน้ำกันเถอะ” สิรินลุกยืนแล้วยื่นมือไปให้แต่ดำกลับส่ายหน้าปฏิเสธ คนตัวเล็กพยุงตัวเองนั่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักกับตัวเอง เป็นอันว่าตกลงกับตัวเองได้แล้ว

“คุณสินทำตามที่คุณสินต้องการก็ได้นะครับ...ไอ้ดำไม่อยากให้คุณสินทรมาน” ใช่แล้วทุกครั้งที่พวกเขาสัมผัสกัน สิรินเหมือนจะอดกลั้นความปรารถนาบางอย่างอยู่เสมอ แววตากับการกระทำสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ดำไม่อยากให้สิรินทรมานคนเดียว ทั้งที่เขามีความสุขมากขนาดนี้

ไอ้ดำอยากให้คุณสินมีความสุขจนถึงที่สุดบ้าง

“รู้รึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา” สิรินนั่งลงบนเตียงแล้วลูบแก้มคนตัวเล็กเบาๆ เขาไม่อยากเอาเปรียบเด็กน้อยของเขา ถึงได้อดกลั้นอยู่เช่นนี้

“ไอ้ดำรู้ว่าไอ้ดำพูดอะไร ถึงจะไม่รู้ว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ไอ้ดำเต็มใจทำทุกอย่างที่คุณสินต้องการ นะครับ ทำเถอะนะ” ดำจับมือสิรินเอาไว้ ส่งสายตาจริงจังไปให้ ไม่ว่าสิรินจะทำอะไร เขาก็ไม่คิดจะถอยหนีเด็ดขาด

“รู้รึเปล่าว่าสิ่งที่ฉันจะทำ ถ้าคนนอกรู้เข้า ฉันจะติดคุกเชียวนะ”

“ไม่ติดหรอกครับ ไอ้ดำไม่บอก ให้รู้แค่คนที่เชื่อใจเหมือนเดิม” ดำยืนยันโดยไม่มีความลังเล เขาเชื่อใจสิรินมากกว่าตัวเองเสียอีก เชื่อว่าสิรินจะไม่ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายเขาอย่างแน่นอน

“ฉันจะทำตรงนี้” คนตัวโตดึงดำเข้ามากอด ลูบมือลงไปบนแผ่นหลังเลื่อนต่ำลงจนถึงช่องทางคับแคบที่กระตุกเล็กน้อยเมื่อถูกเขาสัมผัส

“อะ ไอ้ดำ ไอ้ดำยอมครับ” ดำตกใจอยู่บ้าง แต่ก็หลับหูหลับตาตอบรับ ความต้องการที่อยากให้สิรินมีความสุขมีมากกว่าความกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายนี้

“ดำ...ขอบคุณที่เชื่อใจฉัน” สิรินจรดจูบลงไปบนหน้าผากดำอีกครั้ง ไม่ว่าจะตอนไหนดำก็ไม่คิดจะปกปิดความรู้สึกตัวเองเลยสักครั้ง อยากทำอะไรก็พูดออกมาตรงๆ ต่างจากเขามากเหลือเกิน คนที่เตรียมใจยังไม่พอคงมีแค่เขาล่ะมัง

ดำสบตาสิรินก่อนจะพูดสิ่งที่นึกขึ้นมาได้

“ฝากเนื้อ ฝากตัว แล้วก็...ฝากร่างกายนี้ด้วยนะครับ” คนที่ได้ยินชะงักงันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“เด็กดื้อ ไปจำคำพูดพวกนี้มาจากไหน” นี่ตั้งใจยั่วเขาอยู่ใช่รึเปล่า ดูสิ พูดทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ กับน้ำตาซึมนิดๆ ที่หางตาบ่งบอกความเขินอายแบบนี้ แปลว่าเข้าใจสินะว่าพูดอะไรออกมา

“ไอ้ดำดูในทีวี วะ เวลาจะทำอะไรกันต้องพูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ” ดำยังกดไปดูซีรี่ย์ช่องเดิม แม้เปลี่ยนเรื่องใหม่เรื่อยๆ แต่ทุกครั้งที่ทำอะไรกันด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ขยับตัวแบบที่ดำไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร คนที่โดนกอดก็จะพูดแบบนี้

ไอ้ดำจำได้ ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าทำอะไร แต่พอคุณสินบอกไอ้ดำก็เข้าใจแล้ว

“หึหึ พูดได้ ฉันชอบ...ช่างเลือกมาใช้จริงนะ เด็กขี้ยั่ว” คำว่าด้วยความเอ็นดูคำใหม่ที่ดำได้รับทำให้เจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ

ไอ้ดำยั่วตอนไหน!

ไม่รอให้ดำอธิบายอะไร สิรินก็ผลักดำเบาๆ ให้ลงไปนอนในตำแหน่งเดิม เอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบเจลหล่อลื่นที่เผลอซื้อไว้ออกมา ทั้งที่คิดว่าจะรอดำเรียนจบมอปลายแต่ตอนที่ซื้อของเขากลับหยิบมาเพราะคิดถึงดำเสียได้

ดำถูกจับแยกขาออกกว้าง เผยช่องทางสีหวานกำลังขมิบไปมาเหมือนคาดหวังอะไรบางอย่าง สิรินชโลมเจลลงไปบนมือตัวเอง แล้วลูบไล้ช่องทางสีหวานจนเปียกชุ่ม

“คุณสิน เย็นจัง” ความเย็นกระตุ้นอารมณ์ดำไม่น้อย ทั้งที่ปลดปล่อยมาแล้วสองรอบ แต่ส่วนอ่อนไหวเล็กๆ นั่นก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าร่างกายของดำตอบรับ สิรินก็สอดแทรกนิ้วชี้เขาไปในช่องทางคับแคบ พร้อมยื่นมืออีกข้างไปกระตุ้นส่วนอ่อนไหวด้านหน้า ปลุกอารมณ์ให้ดำหายเกร็งจนนิ้วของเขาใส่เข้าไปไม่ได้แบบนี้

“ชู่ อย่าเกร็งเด็กดี หายใจเข้าลึกๆ นั่นแหละ แบบนั้น” ดำจิกเท้าลงบนที่นอนแน่น เพราะไม่เคยได้รับสัมผัสเช่นนี้ ภายในใจจึงรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ แต่เมื่อได้รับสัมผัสด้านหน้า กับคำพูดอ่อนโยนของสิริน ดำก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง เพียงไม่นานนิ้วแรกก็เข้าไปจนสุด

“คุณสิน จูบ จูบไอ้ดำ” ปฏิเสธไม่ได้ว่าดำกำลังต้องการที่ยึดเหนี่ยว เพราะเกิดความกลัวขึ้นมาเล็กๆ จึงเรียกร้องสัมผัสจากคนตรงหน้ามากขึ้นๆ

สิรินตอบรับ ก้มลงจูบริมฝีปากบวมแดงเพื่อดึงความสนใจ พร้อมกับขยับนิ้วแรกเบาๆ ตามด้วยนิ้วที่สอง และนิ้วที่สามจนครบถ้วน

ทั้งริมฝีปาก ส่วนอ่อนไหวด้านหน้า และช่องทางสีหวาน เต็มไปด้วยสัมผัสของคนตัวโต ดำเคลิบเคลิ้มกับความวาบหวิวที่ถาโถมเข้ามามากมายกว่าครั้งไหนๆ พอสิรินปล่อยริมฝีปากออกก็ครางกระเส่าอย่างห้ามไม่อยู่

การเตรียมพร้อมผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ดำปลดปล่อยไปถึง 2 ครั้ง เพราะสิรินต้องการเตรียมพร้อมให้ดำมากที่สุด ไม่อยากให้ช่องทางเล็กอักเสบหรือฉีกขาด เขาอดทนกัดฟันจนเส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ

“คุ คุณสิน อืม อยากทำอะไรไอ้ดำทำเลยครับ ไม่ต้องอดทนแล้ว” ดำเห็นคนที่ตัวเองรักต้องทรมานก็ทนไม่ไหว สัญชาตญาณร้องบอกว่ามันมีอะไรที่มากกว่านี้ ต้องทำให้มากกว่านี้

“ดำถ้าเจ็บก็บอกฉันนะ...แต่ถ้าฉันหยุดตัวเองไม่ได้จะต่อยฉันก็ได้” สิรินรู้ดีว่าเส้นความอดทนของเขาขาดลงแล้ว ยิ่งถ้าได้สอดใส่ส่วนอ่อนไหวเข้าไปเขาอาจจะไม่อาจหยุดตัวเองได้อีก

“ไม่ต่อย ไอ้ดำไม่ต่อย” ดำสะบัดหน้าไปมาเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง ถึงคุณสินทำไอ้ดำเจ็บ ไอ้ดำก็ไม่คิดจะทำร้ายคุณสินเด็ดขาด

“เด็กน้อยของฉัน...เธอเป็นของฉัน” สิรินก้มจูบเปลือกตาคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา ด้านล่างก็ค่อยๆ จับส่วนแข็งขืนของตนสอดแทรกเข้าไปในตัวดำช้าๆ พอเห็นดำสะดุ้งจากสัมผัสนั้นก็จูบปากปลอบประโลมถ่ายทอดความรู้สึกโหยหาเพื่อให้ดำสบายใจมากขึ้น

“เด็กน้อยของฉัน...เธอเป็นของฉัน” สิรินก้มจูบเปลือกตาคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา ด้านล่างก็ค่อยๆ จับส่วนแข็งขืนของตนสอดแทรกเข้าไปในตัวดำช้าๆ พอเห็นดำสะดุ้งจากสัมผัสนั้นก็จูบปากปลอบประโลมถ่ายทอดความรู้สึกโหยหาเพื่อให้ดำสบายใจมากขึ้น

“ดำฉันจะขยับแล้วนะ”

“ครับ ครับ อื้อ อะ อ๊า” เสียงขยับกายกระทบกันครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงหอบหายในสอดผสานกลบเสียงเครื่องปรับอากาศเสียหมดสิ้น ความสุขล้นทะลักเมื่อได้ทำอย่างที่ใจต้องการ ไม่ต้องอดทนอีกแล้ว เด็กน้อยของเขากลายเป็นของเขาทั้งตัวทั้งหัวใจแล้ว

ทั้งตัว ทั้งใจ ทั้งร่างกายที่ฝากมา ขอสัญญาว่าจะดูแลเป็นอย่างดี

“ดำ ดำ อืม ฉันรักดำนะ” คำบอกรักที่ได้ยินครั้งแรกทำให้ดำน้ำตาคลอ ถึงการแสดงออกทั้งหมดของสิรินจะชัดเจนในเรื่องนี้ แต่เมื่อได้ยินความรู้สึกออกจากปากจริงๆ แล้วกลับรู้มีความสุขจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

“อา ฮึก ฮือ ไอ้ดำ ไอ้ดำก็รักคุณสินครับ” ดำบอกบ้าง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังสลับกับเสียงครางแห่งความเสียวซ่านลั่นห้อง ความรู้สึกลุกโชน ร่างกายตอบรับ กลืนกินซึ่งกันและกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ

ยิ่งมีความสุขช่องทางคับแคบยิ่งรัดแน่น แทงร้อนที่สอดแทรกอยู่ก็ใหญ่ขึ้นไปอีก สิรินเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่ได้ยินคำบอกรักจากดำ ไม่ว่าจะครั้งไหน คำบอกรักของดำมีค่าเสมอ

กระแทกกระทั้นจนร่างกายโยกคอน โอบกอดจรดจูบดูดดื่ม เหนื่อยหอบยิ่งกว่าวิ่งออกกำลัง ในที่สุดพวกเขาก็ใกล้ถึงจุดหมาย

“พร้อมกัน พร้อมกันนะดำ ซีด อื้ม” ร่างกายใหญ่โตขยับเร็วขึ้นตามแรงปรารถนาที่กำลังจะถึงฝั่ง โอบกอดร่างกาย บีบคั้นสะโพกเล็กแน่น

“ครับๆ อะอ๊า” น้ำสีขาวขุ่นของดำเปรอะหน้าท้องของเขาและสิริน ส่วนสิรินขยับกายอีก สองสามครั้งก็ปลดปล่อยในตัวดำตามมาติด

สิรินล้มตัวนอนลงข้างๆ ก่อนจะดึงตัวดำเข้ามากอด ลูบไล้ร่องรอยที่ทิ้งไว้บนร่างกายสีน้ำผึ้งอย่างพอใจ ดำเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ขอบคุณครับเด็กน้อยของฉัน” ตามด้วยจูบส่งผ่านความรักที่เริ่มจากหน้าผาก เลื่อนลงไปยังเปลือกตา แก้มที่ยังขึ้นสีแดงระเรื่อ และจรดจูบริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ไม่ได้ล่วงล้ำไปมากกว่านั้น

“ไอ้ดำมีความสุข” ดำยิ้มกว้าง ไม่เห็นจะรู้สึกแย่ หรือน่ากลัวเลย ถึงจะทรมานในช่วงแรก แต่พอหลังจากนั้นเขาก็มีความสุขจนไม่อาจบรรยายได้

“ฉันก็มีความสุข ดำเป็นคนรักของฉันแล้วนะ” สิรินสบตาแล้วยิ้มกว้างไม่ต่างกัน วันนี้มีความสุขจนไม่อาจเก็บรอยยิ้มไว้ได้อีกแล้ว เด็กน้อยของเขาทั้งน่ารัก ทั้งซื่อตรง และยังกล้าหาญ มีความกล้ายิ่งกว่าเขาเสียอีก

เขาชักจะตกหลุมรักดำมากขึ้นไปทุกที คงไม่อาจปีนขึ้นจากหลุมที่ตั้งใจกระโดดลงไปเองได้...ไม่สิเขาไม่คิดจะปีนขึ้นไปเลยต่างหาก

“ครับ คุณสินก็เป็นคนรักของไอ้ดำแล้วนะ ฮี่ๆ”





โปรดติดตามตอนต่อไป...



_______________________________________________________

มาแล้วค่า มาช้าเพราะ NC ยาวๆ

ถือเป็นฉากที่ยากมากสำหรับกรีน ครั้งนี้แต่งครั้งที่ 2 แล้วไม่รู้ว่าจะพัฒนาขึ้นบ้างรึเปล่า

แต่ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือครั้งนี้ แต่งไปก็เขินไปอยู่ดี ฮ่าๆ ...ทั้งที่อ่านได้สบายๆ แท้ๆ เลย

ออกมาเป็นยังไงบ้างก็ติชมกันได้นะคะ จะได้เอาไว้ไปแก้ไขในตอนต่อๆ ไป

เซอร์วิสก่อน ตอนหน้าจะเครียดจริงๆ แล้วนะ!



#Talk ตัวโตๆ

แจ้งข่าวดีค้า นิยายเรื่องนี้จะได้จัดทำเป็นรูปเล่มให้ได้เก็บกัน ตอนที่เปลี่ยนหัวเรื่องบอกเลยมือสั่นมาก ไม่คิดว่านิยายตัวเองจะมีวันนี้ ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับความพยายามของกรีนที่มีมาตลอด ดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้ไปหลายวันเลยค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม คอยอ่านคอยให้กำลังใจมาตลอด ความสำเร็จครั้งนี้ก็เพราะมีคนเข้ามาอ่าน เข้ามาชอบนิยายที่กรีนเขียนด้วย รวมทั้งสำนักพิมพ์ที่ให้โอกาสนักเขียนหน้าใหม่อย่างกรีน ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

ใครรักใครชอบน้องดำกับคุณสิน ก็เก็บเงินรอได้เลยนะคะ

ขอฝากนิยายเรื่องนี้อีกครั้งค่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ฟินได้เลือด :haun4:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ดำโดนกินเรียบร้อยยยยยย :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องดำน่ารักสุด ๆ

ออฟไลน์ yanisa0801448037

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:อร้ายยยย  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:เขินเป็นบ้าเป็นหลัง ดำลูกกกกกกก :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: NCไรท์เตอร์คือแบบ.............. ภาพก้อมาไรงี้ ขอบคุณี่เขียนให้อ่านนะคะ รอตอนต่อไปอยู่คร้าาาา(ลุ้นว่าคุณสินจะไปทั่วฮ่องกงป่าว55555)

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
น้องดำน่าร้ากกกกก  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 16 [1]
«ตอบ #141 เมื่อ10-06-2018 23:21:00 »

เปย์ครั้งที่ 16

น้ำลอดใต้ทราย

‘การกระทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นไปอย่างลับๆ ไม่มีผู้รู้เห็น’

ฉู่...

ฉ่า...

เสียงเนื้อดังฉู่ฉ่าบนเตาที่กำลังร้อนได้ที่ เรียกน้ำลายคนที่จดจ้องรอกินอยู่ได้อย่างไม่ยากเย็น ยิ่งกลิ่นหอมคละเคล้าของซอสบนตัวเนื้อยิ่งเรียกความอยากอาหารของพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น

บนเตาย่างบาร์บีคิวทรงกระบอกแบบผ่าครึ่งบรรจุด้วยถ่านไม้อยู่ด้านใน เวลานี้มีเนื้อเสียบไม้วางอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งแบบเนื้อติดมันที่เสียบบนไม้จนแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับจับ ทั้งกระดูกซี่โครงที่เชื่อมกันยาววางอยู่หลายชิ้น ทั้งแบบบาร์บีคิวที่สอดแทรกไว้ทั้งพริกหยวกสีเขียว แดง มะเขือเทศ และสับประรสสีเหลืองสด ยิ่งเพิ่มซอสบาร์บีคิวสูตรลับของมาร์โก้ลงไปด้วยแล้วนับว่า เป็นอาหารที่เหมาะแก่การเลี้ยงฉลองเป็นอย่างยิ่ง

“ปะป๋าสุกรึยังครับ ไอ้ดำหิว อึก” ดำพูดทั้งยังกลืนน้ำลายที่ไหลออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้ที่ได้รับผลจากอาหารน่ากินเหล่านี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นดำ น้ำลายไหลก็แล้ว ท้องร้องก็แล้ว ก็ดูท่าว่าเนื้อย่างบนเตาจะไม่สุกเสียที

เหมือนเวลาจะผ่านไปยาวนานแต่ความจริงหลังจากที่ไฟร้อนจนนำเนื้อที่หมักจนเสร็จวางไว้ด้านบนก็ผ่านมายังไม่ถึง 2 นาทีเสียด้วยซ้ำ

“มาแล้วๆ รอหน่อยเจ้าตัวกินจุ ไม่คิดจะรอพี่ชายสุดหล่อคนนี้เลยรึไง” เสียงมาก่อนตัวจะถึง แต่ด้วยคำพูดไม่อายปากเช่นนี้คงหนีไม่พ้นทิวเจ้าเก่า เขาเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องพลาสติกใบใหญ่ และตามติดด้วยน่านกับก้องที่ยกกล่องตามมาไม่ต่างกัน

“บู้ ก็ไอ้ดำไม่ไหวแล้ว ท้องร้องจ๊อกๆ ว่าแต่พวกคุณทิวยกอะไรมาครับ” ดำแก้ตัวก่อนจะพุ่งความสนใจไปกล่องพลาสติกใบใหญ่ แต่ทิวกลับลอยหน้าลอยตา ผิวปากสบายอารมณ์ไม่ยอมไขข้อข้องใจให้ดำ ใบหน้าดูมีความสุขสุดๆ ที่กวนประสาทผู้คนสำเร็จ

“เฮ้อ เลิกแกล้งน้องได้แล้ว เอากล่องไปวางเลย ไม่หนักรึไง” น่านอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ สองคนนี้เล่นกันเป็นเด็กๆ ไม่เปลี่ยนเลย ทั้งที่อายุห่างกันหลายปีแท้ๆ ดูทำหน้าทะเล้นเข้าสิ สักวันโดนดำอัดเข้าคงบ่นไม่ได้

“ครับๆ คุณน่านครับ” ถึงอย่างไรก็ไม่เลิกนิสัยกวนประสาท นอกจากคำตอบรับที่แฝงความล้อเลียนอยู่ในนั้นแล้วทิวยังหันมาแลบลิ้นให้น่านหนึ่งที จึงค่อยยกกล่องเข้าไปวางที่โต๊ะ

“กลับมาเร็วดีนี่ ทางนี้เตรียมของเสร็จพอดีเลย” สิรินเดินออกมาจากตัวบ้านก็เห็นเพื่อนๆ ของเขากลับมาถึงพอดีจึงเอ่ยทักขึ้น ทั้งที่ไปกันสามคนแต่กลับได้ยินเสียงแค่สองคนอีกตามเคย ส่วนก้องที่ตามเข้ามาทีหลังเอาหัวซุกลงบนกล่องพลาสติกจนแทบจะหลับท่านั้นอยู่แล้ว เหมาะสมกับฉายาก้องง่วงเสียจริงๆ

แต่ก็ไม่รู้ว่าหลับจริงหลับปลอม เพราะเมื่อทิวเอาของมาวางไว้บนโต๊ะ ก้องก็เดินตามเอามาวางอย่างรู้หน้าที่ แล้วยื่นมือไปขยี้หัวทิวเสียจนผมเสียทรง คงจะหมั่นไส้เจ้าตัวกวนไม่ต่างจากน่านแม้แต่น้อย

วันนี้พวกเขานัดกันมาเลี้ยงฉลองที่บ้านเช่าของคนทั้งสาม สิรินอยู่ที่คอนโดของตัวเอง แต่เพื่อนๆ ของเขากลับเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ทั้งที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอสำหรับซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่กลับยืนยันเสียงหนักแน่นว่าจะอยู่แบบนี้ มันเป็นเหตุผลส่วนตัวที่เขาเองก็ไม่คิดจะสอดมือเข้าไปยุ่มย่าม

บ้านสองชั้น ด้านล่างสร้างด้วยปูน ด้านบนเป็นไม้ มีครัวเล็กๆ ที่ต่อเติมออกมาด้านหลังติดกับลานกว้างด้านหลังบ้าน ซึ่งเหมาะสำหรับกินเลี้ยงกลางแจ้งเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง

“ไหนได้อะไรมาบ้าง” มาร์โก้ละสายตาจากหน้าเตาหลังจากพลิกกลับไม้ย่างไปอีกด้าน ดำเองก็สนใจ รีบวิ่งจู๊ดเข้าไปดูกล่องพลาสติกใกล้ๆ อย่างรวดเร็ว

ทิวเปิดกล่องพลาสติกด้านหน้า ไอเย็นของน้ำแข็งก็กระจายออกมาจนทำให้ดำที่ชะโงกดูใกล้กว่าใครรู้สึกหนาวไปทั้งใบหน้า

“ว้าว กุ้ง กุ้ง ตัวโตล่ะ” ในกล่องพลาสติกบรรจุไว้ด้วยกุ้งจนเต็มกล่อง ดำตาโตอย่างตื่นเต้น

นอกจากเนื้อย่างของปะป๋า วันนี้ไอ้ดำจะได้กินกุ้งด้วยล่ะ ว้าวๆ

“ไม่ใช่แค่กุ้งนะ ยังมีกั้ง หมึก หอยนางรม แล้วก็ของทะเลอีกหลายอย่างเลยล่ะ สดๆ ทั้งนั้น ก้องกับน่านออกไปยกอีก 2 กล่องเข้ามาแล้ว วันนี้กินเต็มที่เลย ฮ่าๆ ๆ” ทิวพูดอวดอย่างภูมิใจ วันนี้พวกเขาทั้งสามได้รับหน้าที่ไปซื้อของทะเลจากหาดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก

ออกจากบ้านไปช่วงสายถึงได้กลับมาเวลานี้ ส่วนพวกสิรินก็ได้เข้ามาเตรียมเตา กับของสดจำพวกเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ รออยู่ก่อนแล้ว งานฉลองจึงมีขึ้นช่วงเกือบๆ บ่ายสามโมงพอดิบพอดี

กุญแจบ้านก็ไม่ต้องห่วง เพราะนอกจากพวกเขาทั้งสามจะมีกุญแจคอนโดของสิรินแล้ว สิรินเองก็มีกุญแจบ้านของพวกเขาไม่ต่างกัน เพื่อความสะดวกอะไรหลายๆ อย่างเช่นตอนนี้

“ดีๆ สินรับช่วงต่อย่างเนื้อให้เจ้าตัวเล็กกินไปก่อนนะ ส่วนทิวจะเข้าไปช่วยฉันเตรียมของหรือจะให้เจ้าพวกนั้นไปช่วยแทน” เพราะของทะเลที่ได้มาสดๆ ต้องเตรียมให้สะอาด และเหมาะกับปิ้งย่างเสียก่อนจึงจะได้รสชาติที่ดีขึ้น มาร์โก้จึงขันอาสาที่จะทำหน้าที่นี้ แต่ก็ต้องการลูกมือไปช่วยหยิบจับของอีกสักคน

“ผมไปเอง พวกนั้นปล่อยให้ผมเฝ้าของที่รถแล้วหายหัวไปซื้อกันเอง ให้พวกมันพักเถอะครับ” ว่าแล้วทิวก็ตามมาร์โก้เข้าไปด้านในครัวที่ต่อเติมออกมาเพื่อทำอาหารทานกันเองโดยเฉพาะ

รอบแรกให้ไปช่วยเลือกก็จริงแต่พอเอาของมาเก็บ กลับถูกบังคับให้นั่งเฝ้าของที่วางไว้ในรถ โดยให้เหตุผลว่าถ้าไม่เปิดแอร์ในรถเอาไว้เดี๋ยวน้ำแข็งละลายเร็ว ของที่ซื้อมาจะเสีย พอจะเถียงเสียหน่อยว่าใช้เวลาไม่ได้มากขนาดนั้นก็ถูกมองด้วยสายตาแกมบังคับจนขัดไม่ได้ ให้ตายเถอะ เจ้าพวกบ้านั่น สุดท้ายเขาก็ต้องเปิดแอร์นั่งรอในรถจนได้

คนที่ว่างที่สุดไม่ใช่ทิวแต่เป็นเจ้าตัวเล็กของบ้าน ที่ตอนนี้ได้แต่เดินตามสิรินต้อยๆ ไปนั่งรอบนเก้าอี้ข้างเตา จดจ้องรอให้เนื้อบนเตาสุกเร็วๆ พรางเช็ดน้ำลายที่ไหลออกมาจากปากครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาเป็นรูปเนื้อจนไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว

สิรินย่างเนื้อบนเตา สลับกับหันมามองดำแล้วยิ้มเอ็นดู ตั้งแต่มาถึงก็เอาแต่เดินตาม ไม่ว่าจะเป็นตอนเขาจุดไฟ หรือช่วยมาร์โก้เตรียมของเพิ่มในครัว มีบ้างที่ดำออกปากช่วย สิรินจึงให้ช่วยเพียงยกของเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น สภาพครัวเละเทะยังคงติดตา ไม่อาจวางใจให้ช่วยเตรียมของสดได้จริงๆ ถึงมาร์โก้จะหมักหมู กับซอสไว้แล้ว แต่ก็ยังต้องเตรียมเนื้อกับผักสด จะอย่างไรก็หมักทั้งไม้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานไม่ได้

อีกทั้งที่สิรินไม่ยอมให้ดำช่วยยกของหนักจำพวกเตา เพราะเขาห่วงร่างกายของคนตัวเล็กไม่น้อย เมื่อคืนเขารังแกดำไปเสียสองรอบเพราะอดใจที่จะหยุดแค่รอบเดียวไม่ไหว ยังดีที่จิตสำนึกยังฉุดรั้งเอาไว้ บวกกับสภาพที่พร้อมหลับทุกเวลาของดำ ทำให้เขาหยุดตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่แน่ว่างานฉลองวันนี้อาจจะต้องเลื่อนไปก่อนก็ได้

เขาพาดำไปอาบน้ำล้างตัวแล้วพากลับมานอน แต่เจ้าตัวกลับบ่นหิว จากที่ตั้งใจจะนอนกกกอดกันถึงเช้า จึงกลายเป็นพวกเขาต้องมานั่งทานข้าวด้วยกันเสียได้ อีกทั้งเพราะสภาพดำในตอนนั้นทำให้มาร์โก้ส่งสายตาตำหนิเขาระหว่างทำอาหารให้ไม่น้อยเลย

นั่นสินะ รังแกลูกรักของมาร์โก้ไปเสียขนาดนั้น

ถึงคืนนั้นดำจะเดินอย่างทุลักทุเลอยู่บ้างแต่พอเช้ามากลับวิ่งเริงร่าได้ตามปกติ ร่างกายฟื้นฟูเร็วเกินคาด ทั้งยังกินจุเพิ่มขึ้นอีก คงเพราะต้องชดเชยพลังงานที่เสียไป เขาจึงพอวางใจได้บ้าง ไม่ต้องเลื่อนกำหนดการออกไปอย่างที่คิดไว้ เพียงระวังไม่ให้ดำทำอะไรหนักเกินไปเท่านั้น

“คุณสินหอมมากเลยครับ ยังไม่สุกอีกเหรอ” ดำมองตาละห้อย เนื้อย่างที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองยิ่งดูน่ากิน เขาจึงส่งสายตาออดอ้อนไปให้สิรินโดยไม่รู้ตัว

“ใกล้แล้ว รออีกนิดนะ” สิรินอยากยกมือขึ้นไปลูบผมนุ่มนิ่มของดำใจจะขาด แต่มือของเขาเปื้อนเสียขนาดนี้จึงได้แต่ส่งยิ้มละมุนกลับไปเท่านั้น

“ถะ ถ้าอย่างนั้นไอ้ดำไปหยิบจานมาให้นะครับ” ว่าจบก็วิ่งหายเข้าไปในครัวอีกคน สิรินได้แค่มองใบหูที่แดงก่ำแล้วหัวเรอะหึหึอย่างพึงพอใจ เจ้าตัวเล็กของเขาดูจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นอีกขั้นแล้ว

ส่วนดำนั้นหลับหูหลับตาวิ่งสุดกำลัง ยังไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าทำไมอุณหภูมิบนใบหน้ากับหัวใจของเขาถึงได้เต้นแรงแบบนี้

‘ไอ้ดำเป็นอะไรไป หรือว่า หรือว่าไอ้ดำอาย เหมือนที่เห็นในทีวี ต้องใช่แน่ๆ แต่เป็นเพราะอะไรล่ะ แค่คุณสินยิ้ม ยิ้มเหมือนทุกครั้งแท้ๆ

รู้แล้ว เพราะเมื่อคืนคุณสินก็ยิ้มแบบนั้น... ตอนที่ ตอนที่ อ้าก! ไอ้ดำสลัดภาพเมื่อคืนออกไปไม่ได้’


ดำสะบัดหัวไปมาพยายามไล่ความคิดลามกของตัวเองออกไป เพราะได้รับสัมผัสที่มีความสุขกว่าทุกครั้ง ทำให้ดำเห็นภาพเหล่านั้นวนในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า

ไม่ว่าจะมองนิ้ว มองปาก มองรอยยิ้มของสิริน ดำก็ยิ่งควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้

ไอ้ดำเป็นเด็กลามกอย่างที่คุณสินว่าจริงๆ ด้วย!

มาร์โก้กับทิวมองภาพดำเอาหัวโขกประตูอยู่ด้วยความงุนงง หลังจากวิ่งเข้ามาในครัวดำก็ยกมือปิดหน้าพึมพำอะไรอยู่คนเดียว ผ่านไปสักพักก็หันไปเอาหัวโขกประตูไม่พูดไม่จาอะไรเลย

“ดำเป็นอะไร” ทิวส่งเสียงทัก กลัวว่าดำจะทำร้ายตัวเองจนสิรินโกรธขึ้นมา

ดำสะดุ้งตกใจ เหมือนว่าก่อนหน้านี้ลืมไปเสียสนิทว่ามีคนอยู่ในครัวถึงสองคน จึงได้แต่หันหน้ามายิ้มแหะๆ ลูบหน้าลูบตาให้อุณหภูมิบนหน้าลดลงได้บ้างก็ยังดี

“ไอ้ดำ ไอ้ดำ อ๊ะ คิดออกแล้ว ไอ้ดำมาเอาจานไปใส่เนื้อย่างครับ” จากลูบหน้าก็เกาหัวแกร็กๆ พยายามนึกว่าตัวเองเข้ามาในครัวทำไม

“อ้าว จานก็วางไว้ด้านนอกไม่ใช่เหรอ” ทิวยังคงซักฟอกต่อ ใบหน้าที่ยังมีสีแดงอยู่ กับท่าทางแปลกๆ ของดำนั่นต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆ น่าสนุกสุดๆ ไปเลย

“ไอ้ดำ...ไอ้ดำลืม- “

“ใจเย็นๆ นั่งพักให้ใจเย็นลงก่อนก็ได้ ทิวก็อย่าไปแกล้งดำเลย เจ้าตัวเล็กคงกำลังสับสน” มาร์โก้ห้ามทัพ เพราะรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ผ่านเรื่องราวลึกซึ้งมาแล้วความรู้สึกมักจะไหลทะลักออกมาเช่นนี้ ยิ่งดำเป็นเด็ก และพึ่งเกิดเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรก ย่อมจัดการความรู้สึกยากเป็นธรรมดา

ดำขอบคุณมาร์โก้ ก่อนจะยืนสงบสติตัวเองอีกเล็กน้อย โดยมีทิวเดินไปเดินมาวนรอบตัวดำอย่างสำรวจ และจากมุมมองด้านบนด้วยขนาดตัวที่สูงกว่า เขาจึงเห็นร่องรอยตามตัวของดำผ่านคอเสื้อ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นรอยอะไร

หึหึ นึกว่าจะอดทนจนดำเรียนจบ ตบะแตกแล้วเรอะ ฮ่าๆ ๆ

ทิวกระหยิ่มยิ้มย่อง มีเรื่องให้ล้อเจ้าคนหน้าตายแล้ว มีความสุขจริงจริ๊ง

ส่วนดำที่ไม่รู้ว่าทิวคิดอะไรอยู่ก็วิ่งออกไปด้านนอกหลังจากสงบใจได้แล้ว เพียงแต่ลืมไปหมดสิ้นเช่นกันว่าตัวเองต้องมาหยิบจานออกไป ซึ่งสิรินก็ไม่ได้ทักท้วง เขารู้ดีว่าดำคงเขินอายจากเรื่องเมื่อคืนไม่น้อย และเขาก็พอใจจะให้เป็นเช่นนั้น

บาร์บีคิววางบนจานกว่า 10 ไม้ โดยมีดำนั่งมองน้ำลายไหลเยิ้ม เสียงโครกครากดังอย่างต่อเนื่อง บ่งบอกว่าตอนนี้เขาแทบทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เวลานี้ความคิดจึงยึดติดแค่กับของกินเท่านั้น

“กินได้เลย” เมื่อสิรินเอ่ยปากอนุญาต ดำก็ลงมือจ้วงอย่างไม่เกรงใจ





********************************50%**********************************

แอบแวะมาแปะค้า

อีกครึ่งขอพรุ่งนี้น้า

กรีนหายไปเพราะเป็นช่วงเขียนไม่ไปจริงๆ

ตอนหน้าเตรียมฉลองปาร์ตี้กัน

แล้วเจอกันจ้า

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ดำน่ารักกกกกก :mew1:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ไม่มีตอนไหนที่ดำไม่ตกหลุม ที่คุณสินลวงด้วยของกิน
ส่วนคนอ่าน อ่านแล้วก็หิวตามทู๊กกกกเมนู :ling1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เขินหรือไม่เขิน ดำก็กินได้ตลอดอยู่ดี  :hao3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ดำเขินได้น่ารักมากอ่ะ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ดำเป็นความสดใสให้กับคนรอบๆตัวจริงๆ
อยู่กับใครก็ต้องเอ็นดู

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ติดตามจ้า ชอบดำจังเลย

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 16 [2]
«ตอบ #149 เมื่อ12-06-2018 10:37:53 »

เปย์ครั้งที่  16 (ต่อ)

กลิ่นหอมซอสที่ทาบนตัวเนื้อยิ่งเย้ายวนมากขึ้นเมื่อเข้ามาอยู่ในระยะใกล้ขนาดนี้ ก่อนจะกินดำก็อดใจไม่ไหวที่จะยกขึ้นมาสูดดมเข้าเต็มปอด

อา หอมมาก สดชื่น ความสดชื่นของธรรมชาติก็ไม่รู้สึกพอใจขนาดนี้ ทั้งหอมทั้งน่ากิน แถมยัง อึก ต้องอร่อยมากแน่ๆ กินล่ะนะคร้าบบบ

กัดเข้าไปคำแรกก็ได้รสอร่อยดังที่คาด ไม่ว่าจะหมู หรือซอสล้วนแล้วแต่เข้ากันจนหยุดกินไม่ได้ ยิ่งปิ้งด้วยเตาถ่าน ความหอมของถ่านไม้ยิ่งช่วยอบอวลจนกลายเป็นเมนูสุดพิเศษ ทั้งรสชาติ ทั้งความหอมล้วนเพิ่มขึ้นในแบบที่เตาไฟฟ้าไม่อาจเทียบได้

หมูนุ่มมาก อันนี้คือหมูที่ปะป๋าหมักไว้ตั้งแต่เมื่อคืนสินะ รสซอสที่ออกเผ็ดนิดๆ คืออะไร ไม่ใช่เผ็ดแบบพริก แต่แผ่ซ่านออกมานิดๆ ทุกครั้งที่เคี้ยว เข้ากับเนยที่ทาลงไปก่อนทาซอสได้เป็นอย่างดี บาร์บิคิวสุดยอด!

ส่วนพริกสีเขียวแดงพวกนี้ก็หวานไม่เหมือนพริกเลย ทั้งที่เมล็ดออกจะใหญ่โตแท้ๆ ยิ่งกินมะเขือเทศตามเข้าไปรสชาติในปากก็ยิ่งสดชื่น แถมท้ายด้วยสับประรสสีเหลืองรสเปรี้ยวอมหวานก็เพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี

จะให้ไอ้ดำกินอีกกี่ไม้ก็ไหว!

ดำดื่มด่ำกับการกินบาร์บีคิวกว่า 10 ไม้บนจานจนหมดเกลี้ยง เป็นเวลาเดียวกับที่อาหารทะเลเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ ปาร์ตี้จริงๆ จะเริ่มต้นต่อจากนี้

พวกเขานั่งล้อมโต๊ะไม้ตัวยาว บนโต๊ะเพิ่มหม้อสุกี้ไฟฟ้าขึ้นมาอีกตัว สำหรับใครที่รอย่างไม่ไหวก็ต้มรอไปพลางๆ ก่อน ซึ่งดำก็หยิบของลงหม้อก่อนใครอีกตามเคย ถือคติกินสองเตาดีกว่าเตาเดียว กินไม่อั้นจุใจ

ส่วนหน้าเตาก็สับเปลี่ยนเป็นน่านกับมาร์โก้ที่เอาปลาขึ้นย่างอย่างตั้งใจ ปลาทับทิมย่างเกลือ นำเกลือโรยบนเกล็ดปลาย่างทั้งตัว โดยเพิ่มรสชาติจากตะไคร้ ใบมะกรูด หันฝอย และขาดไม่ได้คือใบเตยที่ช่วยเพิ่มความหอมหวานของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี

ผักที่ทิวนำออกมาวางบนโต๊ะ มีทั้งผักกาดหอม ผักกาดขาว ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ ใบโหระพา และใบชะพลู ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องเคียงสำหรับเมี่ยงปลาเผาทั้งสิ้น

ใช่แล้ว เมนูนอกจากปิ้งย่างธรรมดาแล้ว ก็ยังมีปิ้งย่างพร้อมเครื่องเคียงตามมาอีก ส่วนน้ำจิ้มก็ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะสูตรหวาน หรือซีฟู้ดก็เตรียมพร้อม มาร์โก้ผู้ครบเครื่องขอแค่บอกล่วงหน้าก็เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดอยู่แล้ว

ดำเงยหน้าจากการแทะซี่โครงหมูชิ้นโต หลังจากได้กลิ่นหอมอบอวลของเนื้อปลา แต่ภาพปลาที่มีเกลือทาจนทั่วกับเกล็ดไหม้ๆ ก็ทำให้ดำแปลกใจ

หอมมากแต่ทำไมสภาพเป็นแบบนั้นล่ะ กินได้ด้วยเหรอ

ดำได้แต่ส่งสายตาถามสิรินที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งคนตัวโตกำลังแกะกุ้งให้เขาอยู่

“ปลาเผาน่ะ ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ข้างในกินได้” สิรินตอบอย่างรู้ใจ ดำก็ยังคงคิดภาพไม่ออกอยู่ดี ปลาที่เขาย่างกินไม่เคยไหม้ขนาดนี้ ปกติออกเหลืองๆ ก็กินได้แล้วแท้ๆ ดำไม่เข้าใจเลยจนคิ้วหนาขมวดมุ่นอย่างจนปัญญา

“โถ่ๆ ไม่รู้จักของดีซะแล้ว ของโปรดพี่เลยไอ้น้อง รับรองจะติดใจ” ทิวเอ่ยแทรกพร้อมกับยักคิ้วข้างเดียวอย่างอวดๆ ก่อนมุมปากจะกระตุกยิกๆ เมื่อนึกถึงภาพก่อนหน้านี้

“ว่าแต่เรื่องติดใจ...สงสัยคนแถวนี้ก็คงติดใจน้ำหวานจากดอกทานตะวันซะแล้วล่ะมั้ง ว่าไหม” สิรินหันขวับจดจ้องใบหน้าตัวกวนของกลุ่ม ส่งสายตาน้ำภูเขาน้ำแข็งองศาติดลบไปให้ดังจะแช่เข็งเจ้าคนปากมากให้หุบปากลงเสียบ้าง

“เอ๊ะ ดอกทานตะวันมีน้ำหวานด้วยเหรอครับ” ดำกะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ นึกว่าจะมีแค่เมล็ดที่กินได้ ดอกทานตะวันมีน้ำหวานให้กินด้วยเหรอ

“นั่นสินะ น้ำหวานน่ะ หึหึ มันก็ออกมาจากข้างล่างไง” ตัวกวนยังสนุกในการพูดจากำกวมกับคนตามไม่ทัน ทั้งยักคิ้วหลิ่วตาส่งให้คนที่ตามทันจนแทบจะฆ่าเขาอยู่รอมร่อ

“ไอ้ดำก็คิดไม่ออกอยู่ดี" ตอนนี้ในสมองของดำตีกันวุ่นวายไปหมด เขาเคยเห็นดอกทานตะวันแค่ในทีวีเท่านั้น จะคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก

"ทำไมดำไม่ลองถามคุณสินของดำดูล่ะ...มันรู้ดีที่สุดเลยล่ะ หึหึ" ทิวหัวเราะชั่วร้ายหลังจากโยนขี้กองเบ้อเริ่มไปลงที่หัวสิรินได้สำเร็จ เอาล่ะเรามาดูกันว่าคุณชายน้ำแข็งจะตอบเจ้าดอกทานตะวันของเขาอย่างไร

ดำพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำพูดของทิว อย่าหวังว่าจะค้านคำที่ว่าสิรินเป็นของเขา

คุณสินของไอ้ดำเก่งที่สุดอยู่แล้ว คำถามแค่นี้ไม่ยากเกินไปหลอก ไอ้ดำก็โง่นั่งคิดเองตั้งนาน

"คุณสินครับดอกทานตะวันมีน้ำหวานด้วยเหรอ" ตกลงกับตัวเองเสร็จสรรพก็เอ่ยปากถามออกไปตรงๆ พร้อมสงสายตาอยากรู้อยากเห็นออกไปอย่างไม่ปิดบัง สิรินก็หันไปส่งสายตาคาดโทษทิวอีกรอบก่อนจะยกจานออกจากตรงหน้าดำ จึงค่อยก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็ก

จากนั้นดำก็หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็...

โป๊ก!

เสียงหน้าผากฟาดกับโต๊ะดังลั่น เรียกสายตาของคนทั้งหมดให้มองไปที่จุดเดียว ตอนนี้ดำแนบหัวลงไปกับโต๊ะด้านหน้า มองจากมุมบนเห็นหลังคอแดงก่ำลามไปถึงใบหูและคาดว่าใบหน้าส่วนที่มองไม่เห็นนั้นคงมีสภาพไม่ต่างกัน โชคดีที่สิรินรู้ล่วงหน้ายกจานเนื้อย่างออก ไม่เช่นนั้นวันนี้คงได้เห็นหน้าคนคลุกเนื้อย่างแน่ๆ

คนถูกแกล้งยกยิ้มมุมปากอย่างคนที่เหนือกว่า เรียกความโมโหของตัวกวนได้เป็นอย่างดี ทิวได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ

ตกลงเขาแกล้งเจ้าคนหน้าตาย หรือแกล้งดำกันแน่!

ส่วนคนที่รับเคราะห์แทนนั้นตอนนี้หูอื้อไปหมดแล้ว แม้แต่เรื่องกินยังเข้าไม่ถึง

‘ดอกทานตะวันของฉันก็คือดำ ส่วนน้ำหวานจากดำก็...น้ำที่ฉันกินเมื่อคืนไง แถมยังติดใจมากๆ ด้วย’

น้ำที่ฉันกินเมื่อคืนไง แถมยังติดใจมากๆ ด้วย

น้ำที่ฉันกินเมื่อคืนไง แถมยังติดใจมากๆ ด้วย

น้ำที่ฉันกินเมื่อคืนไง แถมยังติดใจมากๆ ด้วย

น้ำที่ฉันกินเมื่อคืนไง แถมยังติดใจมากๆ ด้วย

น้ำที่ฉันกินเมื่อคืนไง แถมยังติดใจมากๆ ด้วย

ภายในหัวดำมีเสียงสิรินก้องกังวานครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ หัวใจก็ยิ่งสูบฉีดเลือด เรียกสีแดงไปกระจุกบนใบหน้ามากขึ้นไปอีก เวลานี้อะไรดำก็ไม่สนแล้ว แค่จัดการกับความเขินอายที่ปะทุขึ้นมา ก็แทบไม่กล้าขยับตัว ทั้งเสียงทั้งภาพจัดเต็มเกินไป

เป็นครั้งแรกที่ไอ้ดำรู้สึกจนตรอกทำอะไรไม่ถูกขนาดนี้...น้ำของหวานของไอ้ดำ อ้าก! คุณสินร้ายกาจเกินไปแล้วนะ

คนขี้แกล้ง!


ดำโอดครวญว่าสิรินในใจไปเสียหลายตลบ แต่ไม่ว่าอย่างไรคำพูดแสนน่าอายก็ยังคงดังก้องไม่จางหาย

“ปลาเผาแสนอร่อยมาแล้วนะ เลิกเขินได้แล้วเจ้าตัวเล็ก มากินอาหารฝีมือปะป๋าเร็ว” หลังจากมองประเมินด้วยสายตา มาร์โก้ก็พอรู้คร่าวๆ แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จะว่าเอ็นดูก็เอ็นดู แต่ก็ไม่อยากให้ลูกชายตัวน้อยหมดอารมณ์กินอาหารมื้ออร่อย เพราะความอายตีตื้นจนอิ่มไปเสียก่อน

“ฉันไม่แกล้งแล้ว เงยหน้าขึ้นมากินเถอะ หึหึ” สิรินออกปากช่วยอีกแรง ถึงคิดว่าดำเป็นแบบนี้น่ารัก แต่รอยยิ้มกว้างเวลากินของอร่อยเขาก็ชอบไม่ต่างกัน

ดำไม่ได้ยกหัวขึ้นทันที เขาเอียงหน้ามองสิรินเล็กน้อยเหมือนชั่งใจว่าจะไม่แกล้งเขาแล้ว รอยยิ้มอบอุ่นทำให้หน้าแดงขึ้นอีกก็จริงแต่ก็วางใจได้ แถมความหอมของปลาอบอวลด้วยกลิ่นสมุนไพรยังยั่วน้ำลายเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายจึงได้ยอมกลับมานั่งเตรียมพร้อมกินทั้งที่หน้ายังแดงปลั่งเสียอย่างนั้น

สุดท้ายการแกล้งของทิวจึงจบด้วยประการฉะนี้...

สิรินก็ยกมือขยี้หัวอย่างมันเขี้ยวเจ้าหมาน้อยพร้อมกับที่คนอื่นๆ หัวเราะอย่างมีความสุข บรรยากาศสังสรรค์จึงกลับมาได้อีกครั้ง

ปลาที่เกล็ดไหม้เป็นสีดำถูกวางไว้ตรงหน้า ทิวผู้ถูกหมายหัวจากเด็กน้อยคนเดียวของงานจึงลงมือใช้มีดกรีดหนังปลาเปิดออกจนเผยเนื้อสีขาวน่าลิ้มลอง เพื่อเอาใจดำเสียเล็กน้อย จะว่าผลลัพธ์ที่ดำโดนสิรินแกล้งเพราะเขาเริ่มเองคงไม่ผิดนัก

“ว้าว คุณทิวๆ ไม่ไหมเลย แถมยังหอมมาก” สายตาแง่งอนกลายเป็นประกายวิบวับ เมื่อได้เห็นเนื้อปลาที่น่ากินกว่าที่ตัวเองเคยทำ ยิ่งสมุนไพรให้ความหอมที่มาร์โก้ยัดลงในท้องขับกลิ่นคาวปลาออกไปจนหมด จึงเหลือเพียงกลิ่นหอมของเนื้อปลาคละเคล้ากับสมุนไพรเท่านั้น

“พี่ชายสุดหล่อจะสอนเคล็ดลับความอร่อยให้ มาๆ” ทิวยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ตอนนี้ใบหน้าของดำถึงได้ไม่มีรอยริ้วสีแดงให้เห็นแล้ว ดำเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย

ฉีกผัดกาดหอมพอดีมือ วางบรรดาเครื่องเคียงลงไป ไม่ว่าจะขนมจีนหรือผักนานาชนิดที่เรียงรายอยู่อย่าละเล็กละน้อย ตามด้วยเนื้อปลา และน้ำจิ้มหวานสูตรสำหรับปลาเผา

จากนั้นก็ห่อผักด้านล่างให้ปิดของด้านในจนหมด แล้วจึงยัดเข้าปากไปทั้งคำ

สัมผัสแรกคือความสดของผักแต่ละชนิดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองสอดแทรกผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ตามด้วยเนื้อปลาหวานอร่อยด้วยกลวิธีการย่างที่คงเหลือน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาเอาไว้ภายในเพิ่มความกลมกล่อมของเนื้อปลาได้มากขึ้น

น้ำจิ้มให้รสของมะขามและน้ำตาลเด่นชัด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเปรี้ยวหรือหวานจนเกินไป กลับกลมกล่อมด้วยถั่วลิสงเป็นตัวชูโรง ยิ่งเคี้ยวให้น้ำจิ้มไหลวนไปจนส่วนถึงของขนมจีน รสชาติของมันก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น เพิ่มความอร่อยของอาหารคำนี้ได้มากเกินบรรยาย เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่กินคำเดียวได้หลายรสสัมผัส อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างครบถ้วน ทั้งที่รสชาติอร่อยจนหยุดกินไม่ได้

ดำจับแก้มที่ปล่องด้วยภายในมีเมี่ยงปลาเผาคำโตจนเหมือนแก้มปลาทอง ยกมือจับแก้มช่วยนวดจนเคี้ยวได้สำเร็จ เขาหลับตาพริ้มรับรสสัมผัสที่ไม่เคยกินมากก่อน โดยมีสิรินนั่งมองอย่างเอ็นดู

อย่างที่คิดเวลาดำกินอย่างมีความสุข เขาชอบมากกว่าสิ่งใด

หลังจากกลืนเมี่ยงปลาเผาคำโตลงคอ ดำก็รีบห่อคำตัวไปอย่างคล่องแคล่ว ประหนึ่งว่าตัวเองกินมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เรียนรู้การกินอย่างรวดเร็ว คงเป็นพรสวรรค์ของดำไปเสียแล้ว...

“คุณสินครับ ไอ้ดำป้อน อร่อยมากกก” แต่คำต่อไปดำกลับยื่นมาตรงหน้าสิริน ดำยังคงเป็นดำ เวลาเขากินของอร่อยก็อยากให้คนสำคัญได้กินด้วย

สิรินยิ้มกว้างก่อนจะอ้าปากรับเมี่ยงปลาเผาคำโต แล้วให้รางวัลเช่นทุกครั้ง ลูบผมนุ่มนิ่มอย่างเอ็นดู ส่วนคนได้รับก็ยิ้มรับอย่างมีความสุข ตั้งหน้าตั้งตาห่อคำต่อไป และต่อๆ ไป สลับตัวเองกินบ้าง สิรินกินบ้าง จนปลาตัวนั้นหมดไปอย่างรวดเร็ว

ดำเป็นเสียอย่างนี้จะไม่ให้เขารักได้อย่างไร

หลังจากปลาเผาตัวแรกก็ตามมาด้วยตัวที่สองตัวที่สามตามลำดับ ผู้ชาย 6 คน ใครว่ากินกันได้น้อยๆ ถึงกระเพาะดำจะใหญ่กว่าใคร แต่ปริมาณการกินของผู้ชายทั่วไปก็มากมายอยู่ดี

ทั้งบาร์บีคิว กุ้งเผา หมึกย่าง กั้งย่าง หอยย่าง หอยอบชีส และสุกี้ในหม้อต้มก็หมดลงอย่างรวดเร็ว งานปาร์ตี้ฉลองเรียนจบมีไปจนถึงดึกดื่น เปิดเพลงเบาๆ ขับกล่อมเพิ่มอรรถรสในการกิน ยิ่งเพลิดเพลินจนลืมเวลาไปเสียหมดสิ้น

รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนล้วนมีความสุข แม้ว่าไม่ใช่งานปาร์ตี้เลิศหรู แต่กลับเต็มไปด้วยความสุขเช่นนี้เอง...

:::::
หลังจากงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองพวกเขาต่างต้องเดินหน้าทำหน้าที่ของตนเอง ดำไปเรียนโดยมีเต็มคอยเป็นไม้กันหมาสิรินจึงพอวางใจได้ เพราะเขาต้องเข้ามาฝึกงานในบริษัทเพื่อรองรับตำแหน่งประธานที่จะมาถึงในวัดเกิดปีที่ 23 ของเขา

ด้วยเขาไม่ได้จบบริหารโดยตรง ทำให้คณะกรรมการที่ไม่เห็นด้วยบางส่วน ทำการเสนอให้เขาต้องฝึกงานอย่างหนัก มีเอกสารต้องอ่านมากมาย ทั้งยังต้องตัดสินใจในโครงการเล็กๆ บางโครงการเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง

สิรินรู้ดีว่าอาสุชาติไม่มีทางที่จะให้เขาทำโปรเจคใหญ่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับอย่างแน่นอนงานที่ถูกโยนมาจึงมีเพียงงานยิบย่อยเพียงเท่านั้น ยิ่งได้คณะกรรมการที่สนับสนุนฝ่ายนั้นช่วยเหลือด้วยแล้ว เรียกได้ว่าตอนนี้สิรินแทบจะไม่มีที่ยืนในตำแหน่งประธานแม้แต่น้อย คนพวกนั้นพยายามหาทางคัดค้านจนวินาทีสุดท้าย

ซึ่งสิรินเองก็ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรให้มาก ปล่อยให้กระแสเหล่านั้นไหลวนไป เก็บเกี่ยวข้อมูลผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูของตนอย่างรอบคอบ ทำตัวเป็นเด็กว่าง่ายคนหนึ่งเท่านั้น

แกร๊ก

“ขออนุญาตครับ” ดนัยเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสาร ส่วนสิรินที่นั่งอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะก็ไม่ได้ขยับตัว หรือออกปากพูดอะไร เพราะเขาเป็นคนอนุญาตให้ดนัยเข้าออกห้องนี้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตเอง

“ตอนนี้คณะกรรมการที่เคารพคุณสุทินและสนับสนุนคุณสินกำลังโดนกดดันอย่างหนักครับ มีบางคนถูกข่มขู่ในเรื่องส่วนตัว บางคนถูกขัดขวางการทำงาน ยิ่งใกล้วันรับตำแหน่งการกดดันยิ่งหนักขึ้น คาดว่าหนักสุดอาจจะโดนไล่ออกโดยที่ไม่มีความผิดครับ” ดนัยรายงานอย่างรู้หน้าที่ เขาทำงานกับสิรินมาจนรู้ว่าเวลาใดเจ้านายของเขาให้พูด เวลาใดไม่ให้พูด หรือแสดงออกเช่นใด

“หึ สกปรกสมเป็นคุณอาจริงๆ ...ฉันคงต้องเข้าไปพบพวกเขาหน่อยแล้ว ช่วยนัดเวลากับสถานที่ให้หน่อยก็แล้วกัน” คนที่ทนอยู่ได้มาถึงตอนนี้สิรินล้วนรู้สึกขอบคุณจากใจ พวกเขาร่วมสร้างบริษัทนี้มาพร้อมๆ กับคุณพ่อทั้งยังหนักแน่นไม่ไหวเอนไปเข้าข้างคนชั่วร้ายอย่างอาสุชาตินับว่ามีใจซื่อสัตย์ไม่น้อย ไม่เหมือนคณะกรรมการอีกฝั่งที่หันไปหาความโลภอย่างง่ายดาย ลืมผู้มีพระคุณเสียหมดสิ้น

“ผมคิดเอาไว้แล้ว...เพราะฉะนั้นนี่คือกำหนดการนัดหมายครับ” ดนัยยังคงทำงานได้ดีตามแบบเลขาสุดเนี้ยบ เขาเดาใจสิรินได้ดี สิรินจึงชอบที่จะทำงานร่วมกับเขา

“ดี ขอบคุณมาก”

“ด้วยความยินดีครับ” หลังกล่าวจบดนัยก็วางแฟ้มกำหนดการไว้บนโต๊ะทำงานก่อนจะขอตัวกลับออกไป สิรินจึงได้เปิดดูรายชื่อที่ถูกคัดแยกระหว่างฝ่ายเขากับฝ่ายอาสุชาติอย่างชัดเจน พร้อมกำหนดการและสถานที่นัดหมายในการพูดคุยครั้งนี้

เขาต้องทำให้คณะกรรมการเหล่านั้นวางใจและเชื่อมั่น ไม่เช่นนั้นแล้วช่วงเวลาต่อจากนี้อาจจะมีคนถูกกดดันจนเปลี่ยนฝั่งไปอีกก็ได้ หรือไม่แน่อาจจะมีใครถูกทำร้ายลับหลังจนไม่อาจกลับมาทำงานได้อีก

และอีกหนึ่งอย่างที่เขาต้องทำคือการพิสูจน์คนเหล่านั้นด้วยตาของเขาเอง...เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือได้อย่างวางใจ ต้องรับประกันความปลอดภัยให้คนเหล่านั้นจนถึงที่สุด เหมือนกับพ่อของเขาที่ดูแลพนักงานไม่ต่างกับเครือญาติ

มือที่อยู่ในงามมืดของเขา จะร้ายกาจแพ้อาสุชาติได้อย่างไร

ช่วงเวลาลับเขี้ยวเล็บกำลังจะจบลงแล้ว

อีกไม่นานนักหรอก...



โปรดติดตามตอนต่อไป

--------------------------------------------------------------

สวัสดีค้า มาแล้วๆ ๆ ๆ

คุณสินร้ายกาจว่าไหม คุคุ ขนาดทิวยังไม่รอด ฮ่าๆ

ใกล้จบแล้ว และกรีนคิดว่าการเขียนนิยายจบเนี่ยยากมากจริงๆ นะคะ

จะเข้าประเด็นตั้งแต่ 2 ตอนก่อน พึ่งเขียนเข้าได้ แหะๆ

เอาล่ะ ไปเครียดตอนหน้าดีกว่า (เครียดจริงรึเปล่านะ)

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์น้า กรีนก็หลงน้องดำมากกกกกก

แล้วเจอกันจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด