เปย์ครั้งที่ 15
ฝากเนื้อฝากตัว
‘มอบตัวให้ดูแล หรืออุปการะของผู้อื่น ฝากกายก็ว่า’
ผู้คนคละคลั่งท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อไหลท่วมกายแต่กระนั้นก็ไม่อาจลดทอนความสุขของเหล่านิสิตจบใหม่ได้แม้แต่น้อย รอยยิ้มประดับบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ หรือผู้ที่มาร่วมยินดีกับคนสำคัญของพวกเขา
เวลา 4 ปีที่พากเพียร ในที่สุดก็ผ่านก้าวที่ยากลำบากมาได้ ดังเหล่าลูกนกที่พร้อมโบยบินออกสู่โลกกว้าง
สิรินเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้เวลาที่ผันผ่านจะทำให้ใกล้วันคล้ายวันเกิดปีที่ 23 ของเขาไปทุกทีก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเวลามีคนคอยอยู่เคียงข้าง ร่วมยินดีกับความสำเร็จนั้น มันมีความสุขจนไม่อาจปกปิดแววตาที่ฉายชัดถึงความสุขล้นปรี่นี้ได้แม้แต่น้อย
กำหนดการถูกเลื่อนออกไปเล็กน้อยแต่ก็ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนฟ้ามืด เพราะเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้แสงยังคงมีพอให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำจนวินาทีสุดท้าย
เวลานี้หน้าหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยจึงเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตารวมตัวกันอยู่เพื่อร่วมยินดีกับคนสำคัญของตน รวมทั้งพวกนักข่าวที่รอจับจ้องหาข่าวตาเป็นมัน คนดัง ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ล้วนแล้วน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาคาดหวังให้มีภาพเด็ดสักภาพในหลายร้อยภาพที่กดถ่ายไปนั้นก็เพียงพอแล้ว
“คุณสิน” ดำตะโกนเรียกสิรินจากด้านหลัง เพราะความโดดเด่นของคนตัวสูง ไม่ยากเลยที่ดำจะหาตัวของสิรินพบได้ง่ายดายเช่นนี้
แรงกอดที่โถมใส่ไม่ได้ทำให้สิรินเซล้มแต่อย่างใด เขาตั้งหลักได้ตั้งแต่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กดังขึ้นแล้ว รอยยิ้มแห่งความยินดีฉายชัดที่ริมฝีปาก แม้ไม่ใช่ยิ้มที่กว้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยความสุขไม่อาจปิดบัง การมีคนคอยยินดีกับเขามีความสุขเช่นนี้เอง
“ว่าไงหือ” สิรินจับมือของดำออกเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมอง พร้อมจับแขนดำให้กอดเขาเช่นเดิม เพิ่มเติมเป็นเขากอดดำกลับได้แล้วเท่านั้น
“ยินดีด้วยครับ ไอ้ดำดีใจ” คนตัวเล็กกระชับอ้อมกอดแน่น เงยหน้าสบตายิ้มกว้าง ดำมีความสุขยิ่งกว่าเวลาตัวเขาเองทำอะไรสำเร็จเสียอีก
“ขอบคุณครับเจ้าตัวเล็ก” สิรินลูบหัวให้รางวัล ดำก็ขยับหัวถูไถฝ่ามืออย่างมีความสุข คลอเคลียกันโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย
“ไอ้ดำมีของขวัญให้คุณสินด้วย” ดำเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหลับตาพริ้มไปกับสัมผัสอบอุ่น
“จริงเหรอ ไหน จะให้อะไร ฮึ” สิรินถามด้วยความแปลกใจ เด็กน้อยของเขาไปแอบเตรียมของขวัญตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“ฮี่ๆ ความลับครับ ไอ้ดำให้ที่บ้าน ปะป๋าบอกว่าเดี๋ยวทำหาย” ความจริงอยากจะเอามาให้เลยด้วยซ้ำ แต่พอคิดว่าอาจจะหายไปได้ก็ยอมรับฟังแต่โดยดี พวกเขาอยู่ด้วยกัน กลับแล้วค่อยให้ก็ยังไม่สาย
“เดี๋ยวนี้หัดมีความลับเหรอ หือ” แรงที่หัวหนักขึ้นอย่างมันเขี้ยว ดูสิหัวเราะมีความสุขเสียอีกที่เห็นเขาตอบรับแบบนี้ หัวเราะจนไม่เห็นดวงตาอีกแล้ว
“อะแฮ่มๆ เอ้า! พวกเราขัดความสุขคู่นี้หน่อยเร็วววว” วันนำขบวนรุ่นน้องมาล้อมรอบสิรินเอาไว้ เรื่องอะไรจะยอมเสียเงินคนเดียว อีกทั้งดูนั่น บรรยากาศสีชมพูมุ้งมิ้งทำเหมือนโลกนี้มีแค่เราสองคนดูแล้วขัดหูขัดตาเกินไป ต้องจัดการให้หมด
ดำมองภาพเหล่าคนที่กำลังร้องเพลงด้วยความบ้าคลั่งอย่างระแวงเพียงครู่ เมื่อเห็นว่าพวกเขาเพียงเข้ามาร่วมยินดีด้วย ทั้งยังดูน่าสนุกอีกดำจึงร้องตามบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างมั่วไปหมด แม้ผละตัวออกมาหลังจากถูกขัดจังหวะ แต่มือของทั้งคู่ก็ยังจับกันแน่น ไม่ยอมออกห่างจากกันง่ายๆ
การบูมจบลงพร้อมความถูกอกถูกใจของวัน จากนั้นตัวแทนรุ่นน้องที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตา กล้าพูดคุยกับสิรินก็เดินถือกล่องเข้าไปหา
“ยินดีที่เรียนจบครับ...ระดับพี่สินแล้วของแบงก์เทาๆ จะเป็นบุญกับรุ่นน้องตาดำๆ มากครับ” ดำฟังคำพูดแล้วก็งง จึงกระตุกมือสิรินอย่างอยากรู้อยากเห็น
สิรินไม่ตอบอะไร เพียงยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะดันดำมาอยู่ด้านหน้าเผชิญหน้ากับดลที่ถือกล่องเอาไว้
“ดำเราต้องตอบแทนที่พวกเขาร้องเพลงยินดีเมื่อครู่ แต่ฉันไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินมา ดำเอาเงินใส่ให้ฉันก่อนได้ไหม” ดำไม่เข้าใจมากนักแต่คิดว่ามันคงเป็นธรรมเนียมของโลกนี้ ทั้งเป็นคำพูดของสิรินอีกจะไม่ให้เชื่อฟังได้อย่างไร
ดลเห็นแววดวงซวยมาแต่ไกล จะเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับคนอย่างรุ่นพี่สิริน ถ้าได้น้อยจะไปไถพี่วันอีกรอบคอยดู
ดำหยิบกระเป๋าใส่เงินที่ห้อยคอเอาไว้ขึ้นมา จ้องมองเงินสารพัดสีในกระเป๋าอย่างครุ่นคิด
‘เอาใบไหนดีนะ ให้มากไม่ดีแน่เดี๋ยวเงินไอ้ดำหมด ถึงซื้อของขวัญไปแล้วแต่ไอ้ดำจะพาคุณสินไปกินของอร่อยด้วย แต่ให้น้อยก็ไม่ดีเหมือนกันมีกันตั้งหลายคนเดี๋ยวแบ่งกันไม่พอ งืมๆ เอาใบไหนดีน้า’ดำคิดไม่ตก จ้องเงินในกระเป๋าจนคิ้วขมวด แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงเหมือนเมื่อครู่ก็หันไปมอง ถึงเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้รับเงินแค่จากสิรินคนเดียว จึงยิ้มออกมาด้วยความยินดี
สิรินมองการกระทำของดำ กับใบหน้าที่เริ่มซีดของรุ่นน้องอย่างถูกใจ ถ้าดำไม่อยู่ตรงนี้เขาคงให้ไปจบๆ เพราะอย่างไรดลก็เป็นรุ่นน้องที่เขาให้ความสนิทอยู่บ้าง อยู่ในขั้นที่มากกว่าคนรู้จักหนึ่งขั้น แต่ไม่ได้สนิทสนมเหมือนเพื่อนทั้งสาม แค่ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ต้องพูดคุยด้วย
ดำเลือกหยิบแบงก์สีน้ำเงินที่เหลืออยู่ใบเดียวในกระเป๋า ถือว่าไม่ได้น้อยที่สุด แต่ก็ไม่อยากให้มากกว่านี้
สิรินมองจนพอใจจึงได้ยกมือขึ้นลูบหัวดำก่อนที่คนตัวเล็กจะใส่เงินลงในกล่อง
“ให้สีเทาไปเถอะ เดี๋ยวฉันคืนให้ 2 ใบ” ดำชะงักมือลังเล ส่งสายตาถามว่าให้จริงเหรอ ถึงจะได้คืนมาเป็น 2 เท่า แต่ก็เสียดายอยู่ดี เงินนี่เป็นเงินที่สิรินกับมาร์โก้ให้เวลาไปโรงเรียน ดำเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี เพราะไม่เคยใช้หมดเลยสักครั้ง อีกทั้งสิรินกับมาร์โก้ยังให้เกินความจำเป็นอีก ไม่แปลกที่ดำจะมีเงินเก็บมากขนาดนี้
มือเล็กยอมเคลื่อนกลับ เปลี่ยนเป็นแบงก์สีเทาตามที่สิรินบอก แม้จะเม้มปากแน่น หักห้ามใจไม่ให้เสียดายก็ตาม
เหล่ารุ่นน้องยิ้มกว้าง ตอนแรกคิดว่าจะถูกมองด้วยสายตาเย็นชาแล้วเดินหนีเสียอีก อย่างที่พี่วันบอก ถ้าไปบูมตอนที่เด็กคนนี้อยู่ต้องได้แบงก์สีเทามาอย่างแน่นอน ถึงจะถูกเล่นเสียจนนึกค่อนขอดวันไปเสียหลายรอบ แต่มันก็สำเร็จจนได้ คงต้องขอโทษวันทีหลัง
ดลรับเงินมาแต่ยังไม่ขยับไปไหนไกล ในบรรดารุ่นของเขา ตอนนี้คงมีแค่เขาคนเดียวที่กล้าคุยเล่นกับสิริน ก็ช่วยไม่ได้มีลุงรหัสดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
“พี่ทิวอยู่ไหนหรือครับ ผมหาไม่เจอ จะไปไถเงินสัก 2-3 พันซะหน่อย ฮ่าๆ” ดลเป็นหลายรหัสของทิว ที่ดูเหมือนจะสนิทกับทิวยิ่งกว่าน้องรหัสของเจ้านั่นเสียอีก
“ไปถามเจ้าพวกนั้นดูสิ” ดลมองตามสายตาสิรินถึงเห็นรุ่นพี่ในกลุ่มนี้อีก 2 คน ที่ดูไม่ค่อยจะชอบเขานักยืนอยู่ แต่ก็ไร้วี่แววของคนที่ตามหาอย่างสิ้นเชิง
“มะ ไม่ดีกว่าครับ ผมยังอยากเรียนจบแบบครบ 32 ขอตัวก่อนนะคร้าบ” ไม่ต้องรอให้ถูกแกล้งไปมากกว่านี้ ดลก็วิ่งจู๊ดหายไปในฝูงชนทันที ปล่อยให้เพื่อนต้องวิ่งตามไปแบบนั้น ช่วยไม่ได้กล่องเงินสำคัญที่สุด
“ฮ่าๆ พวกมึงก็รุมแกล้งมัน ไอ้ทิวไม่โกรธมันแล้วไม่ใช่เหรอวะ” วันเดินเข้ามาหาหลังจากที่รุ่นน้องวิ่งหายไปลับตา เรื่องนั้นก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ดูท่าดลจะโดนชำระความไม่จบเสียที
“ก็เปล่า แต่ไอ้พวกนั้นคงไม่จบง่ายๆ ...ก็นะถ้าเกิดกับพวกมันคงไม่เท่าไหร่ แต่ไปแตะคนสำคัญของพวกมันเอง” สิรินคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แม้ดลจะไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด แต่ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบความผิดนั้นอยู่ดี
ตัวเขาเองก็เข้าใจน่านกับก้องดี เพราะถ้ามันเกิดขึ้นกับดำเขาคงทำลายคนที่เกี่ยวข้องจนไม่เหลือซากต่อให้เจ้าตัวบอกว่าไม่ติดใจเอาเรื่องก็ตาม พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับคนทั้งสามมันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น
“เฮ้อ เอาเถอะกูไม่คิดจะเข้าไปยุ่งอยู่แล้ว ยังไงก็ขอตัวก่อน ที่บ้านก็คงมารอ...แล้วเจอกันนะดำ” สิรินพยักหน้าตอบรับ ส่วนกับก็ยกมือไหวเหมือนทุกครั้ง ก่อนวันจะเดินหายไป เรื่องนั้นมีคนรู้เรื่องอยู่เพียงไม่กี่คน ซึ่งวันก็เป็นหนึ่งในนั้น
“กลับบ้านกันเถอะครับ ปะป๊ารอที่รถแล้ว” ดำกระตุกมือสิรินเบาๆ เขาไม่อยากให้สิรินคิดมาก ดำก็รู้เรื่องนั้นเพราะสิรินเล่าให้ฟัง ถึงจะไม่เคยเจอดลก็ตาม แต่ดูแล้วดลไม่ใช่คนไม่ดี แล้วสิรินเองก็ดูไม่โกรธนัก ดำจึงพอเดาได้ว่าดลไม่ใช่คนที่ทำร้ายทิว เป็นเพียงคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
“อืม...กลับกันฉันอยากได้ของขวัญจะแย่แล้ว” สิรินก้มลงมามองดำด้วยรอยยิ้ม เขาคงเผลอทำให้ดำเป็นห่วงอีกแล้ว เจ้าตัวเล็กยิ่งจับความรู้สึกเขาได้เร็วอยู่ด้วย
ก่อนไปก็หันกลับไปมองด้านหลัง ทิวโผล่หน้าออกมาจากระหว่างกลางของก้องกับน่านพอดี สองคนนั้นคงบังทิวไว้ไม่ยอมให้ได้เจอดลง่ายๆ ทิวก็ดูหัวเสียแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ก้องกับน่านดูไม่สะทกสะท้านกับสายตามองค้อนเหล่านั้น ยังคงจับไว้แน่นไม่ให้ทิวเดินหนีไปไหน วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพวกเขา จึงตกลงกันไว้แล้วว่าจะแยกกันกลับไปใช้เวลาส่วนตัว พรุ่งนี้ค่อยนัดไปฉลองด้วยกัน ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงเพียงโบกมือทักทายกันเล็กน้อยแล้วแยกกันกลับไป
มาร์โก้รออยู่ที่รถ เพราะไม่ถูกกับอากาศร้อนเท่าไหร่นัก อีกทั้งวันซ้อมก็ไปถ่ายรูปมาเรียบร้อยแล้วจึงไม่ต้องไปเบียดเสียดกับคนอื่นให้มากความ พอดำกับสิรินมาถึงก็ขับรถออกสู่ถนนใหญ่ วันนี้สิรินบอกให้มาร์โก้พักไม่ต้องทำอาหาร เพียงเตรียมของรอพรุ่งนี้ที่ทิว น่าน และก้อง เข้ามาฉลองพร้อมกันก็เพียงพอ วันนี้พวกเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ทั้งตื่นแต่เช้า กว่าจะได้กลับก็เย็น มื้อเย็นจึงเพียงแวะกินระหว่างทางกลับเท่านั้น
พักหลังๆ มาร์โก้ไปกลับระหว่างไทยกับอเมริกาบ่อยครั้ง เพราะคิดถึงดำ อยากอยู่ไทยถาวรใจจะขาดแต่ยังไม่อาจวางมือได้ ยิ่งใกล้ถึงเวลาสำคัญเช่นนี้ยิ่งเป็นช่วงซุ่มเสี่ยง เขาจึงกลับไทยได้ไม่นานนัก
หลังทานอาหารค่ำในร้านไทยบรรยากาศดีร้านหนึ่ง มาร์โก้ก็ขับรถกลับที่พัก พอมาถึงมาร์โก้แยกเข้าครัวอยากใช้เวลาที่มีอยู่เตรียมของสำหรับฉลองในวันพรุ่งนี้ ส่วนสิรินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้หายเหนื่อย ดำจึงมีเวลาไปหยิบของขวัญมาเตรียมไว้
หลังจากนี้สิรินต้องไปฝึกงานที่บริษัทจนกว่าจะถึงวันเกิดอายุ 23 ปี จึงจะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบริษัทอย่างเป็นทางการ เสื้อผ้าชุดใหม่จึงเรียงไว้เต็มตู้ ดำหยิบกางเกงสแล็คสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว และเนกไทออกมาอย่างละหนึ่งชิ้น
เดินออกจากห้องแต่งตัวแล้ววางชุดลงบนเตียง กอดอกยืนมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ
‘จะรอให้ถึงวันทำงานไอ้ดำรอไม่ไหว อยากให้ตอนนี้เลย เอาแบบนี้แหละ ไอ้ดำฉลาดจริงๆ ฮี่ๆ’แกร๊ก
“ทำอะไรอยู่หรือ” สิรินได้ยินเสียงกุกกักค้นตู้เสื้อผ้าตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำ จึงเดินออกมาดูทั้งยังแต่งตัวไม่เสร็จ มีเพียงผ้าพันช่วงล่างอยู่เท่านั้น พอออกมาก็เห็นดำยิ้มพอใจอยู่ข้างเตียง เจ้าตัวเล็กดูตกใจเล็กน้อย ก่อนจะซ่อนกล่องของขวัญเล็กๆ เท่าฝ่ามือไปไว้ด้านหลัง
“ระ รอให้ของขวัญคุณสินครับ” ตกลงจะปิดบังหรือจะเฉลย ดูท่าทางแล้วคงอยากให้เต็มที แต่ก็อยากเซอร์ไพร์เขา นับว่ายังอดทนไม่ดีพอ...น่ารักเกินไปแล้ว
“นั่นชุดของฉันนี่ จะให้ฉันใส่ชุดนี้เหรอ” สิรินช่วย เดี๋ยวดำจะทำไม่สำเร็จ เวลาได้รับของขวัญจากคนสำคัญ ไม่ว่าจะอย่างไรก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ
“ครับ ใส่ก่อนไอ้ดำให้ของขวัญค่อยถอดออก ให้ไอ้ดำรอตอนคุณสินใส่เอง รอไม่ไหวหรอกครับ” ดำสารภาพ จะให้ยกเหตุผลอะไรมาอ้างก็คิดไม่ออก ขอบอกตรงๆ ไปเลยดีกว่า
สิรินพยักหน้าแล้วหยิบกางเกงขึ้นมาใส่ เขาเช็ดตัวก่อนออกมาแล้ว เพราะไม่อยากให้พื้นห้องเปียก ไหนๆ ก็เช็ดตัวแล้วก็เลยใส่กางเกงในเรียบร้อย เวลานี้จึงไม่ต้องยุ่งยากเดินเข้าห้องแต่งตัวไปอีก
หลังจากนั่งลงบนเตียงสิรินก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวมาใส่ แต่ก่อนจะติดกระดุมเม็ดแรกริมฝีปากฉายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย หันไปมองคนที่ยืนลุ้นอยู่ไม่ไกล แล้วอาศัยจังหวะที่ดำมองมาอย่างแปลกใจดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ด้วยเพราะสิรินนั่งอยู่ทำให้ดำเสียหลักล้มนั่งลงบนตักพอดิบพอดี
“ช่วยฉันใส่เสื้อ ดำจะได้ให้ของขวัญฉันเร็วขึ้น...ดีไหม” เขาเอ่ยบอกคนที่ยังทำหน้าเหลอหลางุนงงกับสิ้นที่เกิดขึ้น รอยยิ้มอบอุ่นของสิรินทำให้ดำว่าง่าย พยักหัวหงึกหงักแล้วนำกล่องของขวัญวางไว้ด้านข้าง ก้มหน้าก้มตาติดกระดุมเสื้ออย่างตั้งใจ
สิรินมองใบหน้าของคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู กอดกระชับแขนให้แน่นขึ้นอีกเล็กน้อย สูดดมความหอมจากผมนุ่มนิ่มที่อยู่ใกล้จมูกจนพอใจ
“เสร็จแล้วครับ” ดำเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของพวกเขาห่างกันเพียงเสี้ยวเท่านั้น ความเขินอายตีตื้นขั้นมาจนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ไม่ว่าจะนานเท่าใดเขาก็ไม่ชินเสียที ใบหน้าหล่อเหลากับสายตาอบอุ่นคู่นั้นยากเกินไปที่จะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติได้
“ผูกเนกไทเป็นไหม” สิรินอยากฟัดคนตรงหน้าใจจะขาดแต่ก็อดใจไว้ เดี๋ยวดำสติหลุดลืมว่าจะต้องทำอะไรต่อไป
“เป็นครับ ไอ้ดำฝึกมาแล้ว ปะป๋าสอนให้ ไอ้ดำตั้งใจเรียนอยากผูกเนกไทให้คุณสิน” ว่าจบก็หยิบเนกไทมาผูกให้สิริน แม้ดูเงอะงะอยู่บ้างแต่ก็ผูกจนเสร็จ ออกมาสวยงามตามที่ฝึกมา
“เป็นครับ ไอ้ดำฝึกมาแล้ว ปะป๋าสอนให้ ไอ้ดำตั้งใจเรียนอยากผูกเนกไทให้คุณสิน” ว่าจบก็หยิบเนกไทมาผูกให้สิริน แม้ดูเงอะงะอยู่บ้างแต่ก็ผูกจนเสร็จ ออกมาสวยงามตามที่ฝึกมา
ดำหยิบกล่องขึ้นมาเปิด ในที่สุดก็ได้ทำสิ่งที่ต้องการเสียที ของขวัญที่สิรินจะต้องนำติดตัวไปทุกวัน คิดอยู่หลายตลบในที่สุดดำก็คิดออก
“หึหึ” สิรินมองของขวัญในกล่องแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างที่คิดเอาไว้ความคิดของเจ้าจอมตะกละไม่เคยพ้นเรื่องกินอยู่แล้ว
ที่หนีบเนกไทสีเงินทำจากทองคำขาว ถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย เล็กกะทัดรัดเพื่อไม่ให้กลบความโดดเด่นของส่วนปลายที่ประดับด้วยจี้รูปจานสปาเก็ตตี้!
จี้สีทองเด่นตัดกับสีขาวของตัวหนีบ ลวดลายคมชัดนูนสาย รายละเอียดจานสปาเก็ตตี้ครบถ้วน ถ้ามองไกลๆ อาจเห็นเป็นดอกไม้ดอกเล็กๆ แต่กับสิรินที่อยู่ใกล้เพียงเท่านี้มองออกได้อย่างไม่ยากเย็นว่ามันคืออะไร
“ชอบไหมครับ ไอ้ดำเป็นคนคิดเองล่ะ ถึงคนที่ไปสั่งทำมาคือปะป๋าก็เถอะ ไอ้ดำเป็นคนจ่ายเงินด้วย เก็บเงินจากค่าขนม...ไอ้ดำเก่งไหมครับ” ดำรีบอวด ยิ่งสิรินลูบหัวให้รางวัลอีกรอบก็ยิ่งดีใจ
ดูเหมือนคุณสินจะชอบล่ะ ก็สปาเก็ตตี้เป็นอาหารจานแรกที่คุณสินทำให้กิน ทำให้เส้นแข็งๆ นั่นอร่อยจนไอ้ดำตั้งให้เป็นของโปรด อาหารจานนี้แหละเหมาะจะเป็นของขวัญที่สุด
ตอนที่เลือกของขวัญดำกับมาร์โก้ช่วยกันคิดอยู่หลายวัน จนกระทั่งในทีวีฉายละครเรื่องหนึ่ง ภาพที่ผู้หญิงช่วยใส่เนกไทให้คนรักดูอบอุ่นเอามากๆ ดำจึงคิดอยากจะทำแบบนั้นขึ้นมา พอไปปรึกษามาร์โก้ มาร์โก้กลับเสนอให้เป็นที่หนีบเนกไทแทนจะได้ใส่ทุกวัน ไม่เหมือนเนกไทที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ
พอไปเดินเลือกซื้อก็ไม่ถูกใจดำเสียที เขาอยากได้รูปแบบที่ทำให้สิรินคิดถึงเขาเวลามอง ดำเริ่มรู้สึกถึงความหึงหวงโดยธรรมชาติ ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย
สุดท้ายมาร์โก้ก็เลยบอกว่าเราไปสั่งทำดีกว่า พอรู้ว่าสั่งทำได้ดำก็คิดแล้วคิดอีก ยิ่งพอคิดถึงคำเรียกของสิริน
‘เจ้าจอมตะกละ’ดำก็คิดว่าของกินนี่ล่ะ ทำให้สิรินคิดถึงเขามากที่สุด
“ชอบ ชอบมาก...ใส่ให้ฉันสิ” สิรินไม่ได้สนใจราคาแม้ว่าจะรู้ว่ามันแพงหูฉี่แน่ๆ มาร์โก้คงเพิ่มเงินไปไม่น้อย แต่ก็ยกความชอบให้ดำทั้งหมด ชักจะตามใจกันเกินไปแล้ว ถึงอย่างนั้นคงต้องขอบคุณเสียมากกว่า ของขวัญจากคนสำคัญทั้งสอง มีค่ามากกว่าสิ่งใด
“ครับ” ดำใส่ที่หนีบเนกไทไปบนเนกไทที่เขาผูกให้เองกลับมือ หัวใจพองโตยิ่งกว่าเดิม
มีความสุขจัง ไอ้ดำได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ทั้งหมดเลย
"ขอบคุณครับ" เสียงทุ้มนุ่มลึกกระซิบข้างหู อ้อมกอดกระชับแน่น จากนั้นเคลื่อนริมฝีปากขึ้นจรดหน้าผาก จูบขอบคุณคนสำคัญของเขา
ดำเองก็กอดสิรินแน่น สัมผัสอบอุ่นเริ่มจากหน้าผาก เปลือกตา จมูก และริมฝีปาก เวลานี้เหมือนร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยความอบอุ่น รับสัมผัสเหล่านั้นด้วยความเต็มใจ
ริมฝีปากของสิรินยังไม่ละออกจากปากเล็กๆ นั่น ยังคงคลอเคลีย โลมเลียตามความต้องการที่มากขึ้น ดำรู้สึกได้ถึงความต้องการนั้น คนตัวเล็กเปิดปากรับ จูบตอบตามความเคยชิน พวกเขาจูบกันมานับครั้งไม่ถ้วน ดำเรียนรู้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนตามจังหวะของสิรินทัน เวลานี้ลิ้นที่สัมผัสกันจึงร้อนแรงมากขึ้น ไม่ใช่สิรินที่รังแกดำฝ่ายเดียวอีกแล้ว
ร่างกายเล็กบดเบียด เขากำลังต้องการ มือที่โอบกอดร่างกายสิรินอยู่ก็ลูบไล้เอาแต่ใจ
กล้ามเนื้อแข็งจัง ตัวก็โตมาก สมส่วนสุดๆ ไอ้ดำชอบร่างกายคุณสินที่สุด
สิรินเองก็ใช่ว่าจะนิ่งเฉย มือเรียวลูบไล้แผ่นหลังผ่านเนื้อผ้า แต่มันยังไม่พอ เขาต้องการมากกว่านี้ อยากสัมผัสดำมากขึ้น แม้รู้ว่าตัวเองจะทรมานหากต้องหยุดเมื่อถึงเวลานั้น แต่สิรินก็ยังทำต่อไป
มือแทรกผ่านเนื้อผ้า สัมผัสร่างกายนุ่มนิ่มบอบบางของคนตัวเล็ก ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ดำกลับแทบไม่โตขึ้นเลย เพียงไม่ผอมแห้งเช่นแต่ก่อนแล้วเท่านั้น ร่างกายเล็กจึงนุ่มขึ้น เต็มไม้เต็มมือขึ้น ไม่ต้องกลัวจะหักถ้าสัมผัสแรงๆ เหมือนแต่ก่อน
"อา คุณ...สิน อืม" แม้จะตามจังหวะของสิรินทัน แต่ดำก็มีขีดจำกัด เขาเหนื่อยจนหายใจไม่ทันแล้ว
"แฮ่กๆ ๆ " ริมฝีปากเล็กบวมเปล่ง หอบอากาศเข้าปอดด้วยความหอบเหนื่อย ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ทนไม่ได้จนจบทุกทีสิน่า
"ดำ" ดำเงยหน้าตามเสียงเรียกก็ถูกฉกชิมริมฝีปากอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ถูกรังแกอีกจนได้ ความร้อนแรงมากกว่าทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด ความอดทนแทบจะขาดสะบั้น
ดำเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะหนักหน่วงของลิ้นร้อน พยายามใช้ทุกสิ่งที่เรียนรู้มาจนหมดเปลือก แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะยังไม่มากพอ รู้สึกอีกครั้งแผ่นหลังเล็กก็สัมผัสกับเตียงนุ่มเสียแล้ว
สิรินยอมปล่อยริมฝีปากดำเป็นอิสระ เวลานี้เขาคร่อมอยู่บนตัว จดจ้องคนตัวเล็กด้วยความต้องการอันล้นปรี่ บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร มากกว่าเขาก็ยังหยุดได้ เหมือนทุกครั้ง ไม่เป็นไร...
ถึงกระนั้นร่างกายก็ไม่อาจหยุดได้ มือเรียวดึงกางเกงขาสั้นเสมอเข่าที่ดำสวมอยู่ลงพร้อมกางเกงชั้นในตัวเล็ก มืออีกข้างหนึ่งก็ถอดเสื้อด้วยความชำนาญ เพียงไม่กี่ลมหายใจดำก็เปลือยเปล่าเสียแล้ว
ดำมองทุกการกระทำด้วยหัวใจเต้นแรง ลุ้นระทึกไปกับทุกการขยับของคนที่โตกว่า นานๆ ครั้งสิรินถึงยอมสัมผัสดำเช่นนี้ พวกเขาต่างช่วยกันปลดปล่อย สัมผัสร่างกาย และส่วนอ่อนไหวจนความสุขทะลักออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้แววตาของสิรินเหมือนสะกดความต้องการได้ไม่มิด ดำถึงได้ตื่นเต้นยิ่งกว่าทุกครั้ง
“คุณสิน...คุณสินก็ถอดเสื้อด้วยสิครับ ไอ้ดำอยากมอง อยากสัมผัสร่างกายคุณสินบ้าง” ดวงตากลมโตแหงนมอง ทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ จะกี่ครั้งที่บอกความต้องการของตัวเอง ดำก็ยังห้ามเลือดที่สูบฉีดจนใบหน้าแดงก่ำเช่นนี้ไม่ได้
“หึหึ...ดำเป็นคนใส่ก็ถอดให้ฉันสิ” สิรินยกยิ้มแพรวพราว ลูบไล้หน้าท้องแบนราบ เพิ่มความเสียวซ่านให้คนด้านล่างมากขึ้น และเมื่อได้รับคำอนุญาตดำก็เอื้อมมือไปถอดเนกไทที่เขาเป็นคนผูกเองด้วยมือที่สั่นเทา
ตื่นเต้นจัง ตื่นเต้นกว่าตอนที่ผูกให้อีก ไอ้ดำเป็นอะไรนะ อึก
เนกไทถูกถอดออกช้าๆ เพราะดำต้องบังคับมือไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ แต่ยิ่งถูกจับจ้องจากสิริน เขาก็ยิ่งสั่นเทา จนต้องเม้มริมฝีปากแน่น
ไอ้ดำต้องถอดให้ได้!