###END### = P A Y = เปย์ข้าด้วยบุฟเฟ่ต์สิ [แจ้งกำหนดการวางจำหน่าย] 04/04/64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ###END### = P A Y = เปย์ข้าด้วยบุฟเฟ่ต์สิ [แจ้งกำหนดการวางจำหน่าย] 04/04/64  (อ่าน 69546 ครั้ง)

ออฟไลน์ mu_mam555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เป็นนิยายที่อ่านแล้วหิวมากค่ะ 5555
มาลุ้นตอนต่อไปว่าดำจะชวนไปกิรอะไรอีก

ออฟไลน์ tn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ในตู้มีแค่ไข่กับหมูหมัก หึหึ หมูหมักค่ะมื้อนี้

ออฟไลน์ yokalive

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 8
«ตอบ #63 เมื่อ05-04-2018 07:17:43 »

เปย์ครั้งที่ ๘

ไว้เนื้อเชื่อใจ

‘เป็นที่เชื่อใจ เป็นที่ไว้วางใจให้ทำสิ่งสำคัญแทนได้’


“หือ ตื่นแล้วเหรอเจ้าตัวเล็ก” คนที่นั่งกอดเข่าบนเตียงรู้สึกตัว มองสิรินที่เดินออกมาจากห้องทำงานด้วยสายตาเศร้าสร้อย ในแววตานั้นยังคงมีความเสียใจเจือจางอยู่ หลังจากกลับมาดำก็หลับตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบด้วยเพราะร้องไห้มาหลายชั่วโมง ดวงตากลมโตดวงนั้นจึงบวมช้ำจนน่าสงสาร

“คุณสิน...ไอ้ดำคิดถึงหลวงตา...ไอ้ดำจะไม่ได้เจอหลวงตาอีกแล้ว ฮึก” พูดจบหยดน้ำสีใสก็ไหลรินอีกรอบ เวลานี้ดำดูอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง ไม่เหลือเคล้าโครงนักเลงหัวดื้อแม้แต่น้อย สิรินมองภาพนั้นแล้วใจหาย เข้าทั้งสงสาร ทั้งเสียใจที่ดำต้องร้องไห้เช่นนี้ แต่ความรู้สึกในส่วนลึกยังคงเห็นแก่ตัว...เข้าไม่อยากให้ดำกลับไป!

“ดำ...ถึงจะไม่ได้เจอหลวงตาแล้ว แต่ฉันจะอยู่เคียงข้างดำเองนะ” อ้อมกอดอบอุ่นของคนตัวโตช่วยพยุงจิตใจที่กำลังพังทลายของดำ เขากอดตอบความอบอุ่นนั้น ซุกหน้าพิงซบกับอกกว้าง กอดกระชับแขนแน่นดังกลัวว่าความอบอุ่นตรงหน้าจะหายไปอีกคน

“ไอ้ดำไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ มีแต่หลวงตาที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ฮึก ไอ้ดำ รัก รักหลวงตาเหมือนพ่อ ไอ้ดำไม่ชอบเลยถ้าหลวงตาหายไป คุณสิน...ไอ้ดำกลัวถ้าหลวงตาหายไปแบบนี้ ฮึก แล้วคุณสินจะไม่หายไปด้วยใช่ไหม ไอ้ดำคงไม่ทะลุมิติไปที่อื่นแล้วใช่ไหม อย่าหายไปนะครับ ฮือออ” ตัวสั่นระริกกับคำพูดแสนน่าเอ็นดูนั่นทำให้สิรินอดไม่ได้ที่จะหัวใจพองโต เขารู้สึกอิจฉานิดๆ ที่ดำซึมเพราะไม่ได้เจอหลวงตา เขาช่างเป็นผู้ชายที่ใจแคบเสียจริงๆ เวลานี้เมื่อได้ยินว่าดำกังวลเรื่องของเขาด้วยจึงยินดีเสียจนต้องยกยิ้มมุมปาก

“ฉันไม่ยอมให้ดำหายไปหรอก...ไม่มีทาง” สิรินให้คำมั่น ไม่เพียงดำที่ไม่อยากให้เขาหายไป ตัวสิรินเองก็ไม่ยอมสูญเสียดำไปด้วยเช่นเดียวกัน

“ไอ้ดำกลัว การสูญเสียสิ่งสำคัญทำให้เจ็บปวด ไอ้ดำพึ่งเข้าใจวันนี้เอง คุณสินเคยเป็นเหมือนไอ้ดำไหม” เสียงร้องไห้เงียบลง เหลือไว้เพียงเสียสะอื้นแผ่วเบา ยิ่งดำได้กอดซบความอบอุ่นนี้เขาก็ยิ่งอุ่นใจ เหมือนได้รับคนสำคัญเข้ามาในชีวิตอีกหนึ่งคน แล้วเฝ้าบอกตัวเองว่าจะไม่ทำให้คนคนนี้หายไปอย่างเด็ดขาด

หลวงตาบอกว่าคุณสินต้องการไอ้ดำมากกว่า แปลว่าถ้าไอ้ดำกลับคุณสินก็จะเสียใจมากสินะ

ดำคิดเรื่องนี้มาสักพัก ในตอนแรกเอาแต่เสียใจที่ไม่ได้เจอหลวง แต่เมื่อใจเย็นลงถึงได้นำประโยคเหล่านั้นมาครุ่นคิดถึงได้รู้เรื่องสำคัญ และตระหนักได้เองว่าหายเขากลับไปก็จะไม่ได้เจอคุณสินอีก แต่หลวงตานั้นดำคิดว่าหากกลับไปที่วัดทำนบเขาอาจจะสามารถพบหลวงตาได้อีกก็เป็นได้

ดังนั้นแล้วคนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้เจออีกก็มีเพียงแค่คุณสิน ถึงแม้หากกลับไปได้แล้ว ใครเล่าจะยืนยันได้ว่าถ้ากระโดดลงคลองแสนแสบแล้วจะได้พบคุณสินอีก ถึงดำจะโง่เขลาแต่ก็รับรู้ได้ดีว่าโอกาสที่จะไม่ได้เจอคุณสินมีมากกว่า

แล้วคุณสินล่ะ อยากให้ไอ้ดำอยู่ด้วยไหม ไอ้ดำจะไม่กลายเป็นภาระใช่หรือเปล่า

และคำตอบของสิรินคือไม่ยอมให้เขาหายไป หัวใจดำอบอุ่น เขาดีใจที่สิรินต้องการ สิ่งที่เขาอยากทำเพื่อสิรินมีมากมาย ทั้งยังสัญญาไว้แล้วว่าจะปกป้อง และคอยอยู่เคียงข้าง ทั้งคำพูดของหลวงตายังย้ำลึก ทางนี้ต้องการเขามากกว่า ดำจึงยอมตัดใจที่จะไม่กลับไป

ถึงเป็นเช่นนั้นใช่ว่าความโศกเศร้าจะหายไปได้ง่ายๆ หัวใจมนุษย์อ่อนแอกว่าที่คิดเอาไว้มากมายนัก ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการคือความอบอุ่นของคนตรงหน้า ดำเชื่อว่าหากได้รับแล้วไม่นานเขาก็จะทำใจยอมรับทุกสิ่งได้อย่างสนิทใจ

“เคยสิ” เสียงราบเรียบแฝงความเศร้านั้นทำให้ดำหูผึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่มองเห็นได้แค่ปลายคาง ไม่รู้เลยว่าตอนนี้สิรินทำสีหน้าเช่นไร แต่ดำก็สัมผัสได้ว่าความเสียใจของคุณสินยังคงอยู่

“แม่ตายไปตั้งแต่ฉันเกิด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าสักเท่าไหร่เพราะพ่อทำทุกอย่างให้ดีพร้อม ท่านสามารถเป็นได้ทั้งพ่อและแม่ให้ความรักอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นคุณพ่อที่ฉันรักมาก ไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองขาดความอบอุ่น เป็นพ่อที่ดีมากๆ เลยล่ะ” ดำไม่เข้าใจในน้ำเสียงที่อบอุ่นอันแสนภาคภูมิใจในตัวของพ่อนั้นมีความเศร้าเจืออยู่ ถ้ามีพ่อที่ดีขนาดนั้น ทำไมคุณสินถึงเศร้ากันนะ ดำไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

“แล้วตอนนี้พ่อของคุณสินอยู่ไหนเหรอ ไอ้ดำไม่เคยเจอ” ไม่รู้อะไรดลใจจนดำอดที่จะแทรกขึ้นไม่ได้ เขาอยากรู้ว่าพ่อที่ทำให้สิรินทั้งสุขและทุกข์นั้นเป็นคนเช่นไร

“บนนั้น” ดำมองตามนิ้วยาวเรียวที่ชี้ขึ้นด้านบน คิดเพียงชั่วครู่ก็เข้าใจ พ่อของคุณสินตายแล้ว!

“พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ฉันอายุ 12” ถ้อยคำย้ำเตือนทำให้ดำกอดกระชับร่างกายของคนตรงหน้าแน่นขึ้นอีก หวังส่งถ่ายความเข้าใจและความอบอุ่นไปให้บ้าง เพราะดำไม่เคยเจอหน้าพ่อกับแม่ทำให้เขาไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้มองครอบครัวของคนอื่น เขาก็คิดอิจฉาอยากจะมีบ้างอยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้พอรู้ว่าสิรินสูญเสียครอบครัวไปตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเด็กกว่าเขาเสียอีก จึงรู้สึกเสียใจไปด้วย

มันคงไม่ต่างจากการที่ไอ้ดำไม่ได้เจอหลวงตาแล้ว เพราะเพียงคิดว่าจะไม่ได้ยินเสียงดุด่า ไม่ได้ยินคำสอนสั่งนั่นอีกต่อไปแล้วก็รู้สึกเจ็บที่หัวใจมากๆ เลย



++++++++++++++++ 20% ++++++++++++++++



มาแล้วค่ะ แต่มาน้อยนิด งื้ออ

อย่างที่แจ้งในเพจว่ากรีนพบข้อผิดพลาดในตอนนี้ทำให้ต้องแก้ใหม่ทั้งตอน

ทำให้ต้องคิดหนักเพราะมันต้องลงตัวกับตอนต่อไปไปด้วย

เมื่อวานกลับมาแก้ก็ยังไม่เสร็จดี เพราะกรีนเลิกงานดึก วันนี้ก็ออกแต่เช้าอีก

กลัวทุกคนรอนานก็เลยเอาส่วนที่ไม่จำเป็นต้องแก้มาให้อ่านก่อนนะคะ

ขอโทษอีกครั้งน้า กรีนจะพยายามลงส่วนที่เหลือให้เร็วที่สุดค่ะ

แล้วเจอกันจ้า

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
น้องดำน่ารักมากๆ
เป็นเด็กซื่อๆแต่ไม่ได้ยอมคนนะ
พี่สินควรมีน้องดำเป็นความสดใสให้แก่ชีวิตจริงๆ

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คนเขียนสู้ๆน้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สู้ๆนะคะไรท์

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สู้ ๆ นะหลานคนแต่ง.  :กอด1:

ออฟไลน์ Victor.yuriyurio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :กอด1: ไรท์สู้ๆ กอดๆ อยากจะกระทืบบวกเป็ดให้ทุกตอน :z3: แต่กดได้แค่หนึ่งครั้งต่อต่อเองเสียใจ :hao5: นิยายเรื่องนี้ดีต่อใจ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกดี
จับผิดหน่อยนึง ตรงที่สินจะพาดำไปทำเอกสารตัวตน ให้มาร์โก้รับเป็นลูก
ดำไม่มีเอกสาร ทำพาสปอร์ต วีซ่า จะพาไปยังไง

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
แจ้งข่าว
«ตอบ #71 เมื่อ07-04-2018 07:21:50 »

สวัสดีค่ะ หลังจากเงียบหายไป กรีนมาแจ้งข่าวอีกครั้งนะคะ

สรุปได้ว่านิยายทั้ง 2 เรื่อง กรีนจะลงอีกครั้งวันที่  9 ค่ะ รอให้จบงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ศูนย์ฯสิริกิตก่อน เพราะตอนนี้กรีนเป็นหนึ่งในพนักงานที่ต้องไปขายหนังสือ ทำให้ต้องตื่นเช้าและกลับดึกกว่าเวลาที่ไปทำงานปกติ

ไม่สามารถหาเวลาจับคอมฯแต่งนิยายได้เลย ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เลื่อนมายาวจะครบเดือนอยู่แล้ว จบงานแล้วกรีนจะรีบกลับมาแต่งต่อค่ะ

ขอโทษจริงๆนะคะ

#กรีน

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านแล้วอยากเป็นคุณสินเพราะจะได้พาดำไปกินของอร่อยแล้วนั่งมองเจ้าเด็กตะกละ
และก็อยากเป็นดำด้วยจะได้มีคนเลี้ยงของอร่อยแบบไม่อั้น!
5555555555555ไม่อยากให้มีดราม่าเลยค่ะ แค่นึกภาพเจ้าดำน้ำตาคลอก็ใจบางแล้ว :mew2:

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 8 ครึ่งหลัง
«ตอบ #73 เมื่อ13-04-2018 22:57:03 »

>>ต่อ<<

เปย์ครั้งที่ 8 ครึ่งหลัง

มือหนาลูบผมนุ่มนิ่มของดำ เขารับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ถ่ายทอดมา ยอมก้มหน้าลงสบตากับคนตัวเล็กในอ้อมกอดเสียโดยดี กลัวว่าถ้าไม่ยอมมอง ดำจะเป็นกังวลมากกว่านี้ เขาต้องทำให้ดำสบายใจ ไม่ใช่มอบความเศร้าไปเพิ่มเติมเช่นนี้

ดวงตาถ่ายทอดความอบอุ่น ความเสียใจเลือนหายไปเมื่อมองสบกับคนตัวเล็ก ดำใจเต้นกับสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูนั้นดังถูกมนตร์สะกดจนไม่อาจละสายตาไปจากรอยยิ้มบางๆ แสนอบอุ่นนั้นได้

“อย่ากังวลไปเลย ถึงพ่อจะจากไปแล้ว และฉันก็เศร้าเสียใจ แต่ก็ยังคงมีคนคอยอยู่เคียงข้างในวันที่ฉันไม่เหลือใคร คนคนนั้นรักและเอาใจใส่ ดูแลฉันเหมือนลูกแท้ๆ คอยช่วยเหลือทุกอย่าง เปรียบเสมือนพ่อของฉันอีกคนเลยล่ะ...ดำจะให้ฉันเป็นคนคนนั้นได้หรือเปล่า

เพียงแต่ฉันไม่คิดจะเป็นพ่อหรอกนะ” ต้องเป็นคนรักต่างหาก

สิรินต่อประโยคในใจ เขายังไม่อยากให้เจ้าหมาน้อยตื่นกลัวในตอนนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านั่นคือความปรารถนาที่อยู่ในใจ

“สูด! คุณสิน เป็นลูกพี่ของไอ้ดำ ไอ้ดำต่างหากที่ขออยู่ข้างคุณสิน และขอให้คุณสินเป็นคนสำคัญ อย่าทิ้งไอ้ดำนะครับ” ดำสูดน้ำมูก เช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม พยายามเข้มแข็งด้วยหัวใจที่พองโตเมื่อสิรินขออยู่ข้างๆ เขาในวันที่ไม่เหลือใคร คุณสินให้ความสำคัญกับไอ้ดำขนาดนี้แล้วจะมั่วเศร้าใจอยู่ได้อย่างไร

ไอ้ดำต้องเข้มแข็ง เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องคุณสินสิ จะมัวอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด

“ฉันบอกไปแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้ดำหายไป เพราะอย่างนั้นอย่าฝันเลยว่าจะได้ห่างจากฉันไปไหนได้ หึหึ” ดวงตาคนตัวโตวาววับ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จุดขึ้นที่มุมปาก ดำขอให้เขาเป็นคนสำคัญ เรื่องดีขนาดนี้ใครจะปฏิเสธได้ ต้องเป็นฝ่ายนั้นต่างหากที่ต้องเตรียมใจรับความรู้สึกของเขา

“ได้เล้ย! ไอ้ดำจะอยู่ใกล้ๆ คุณสินเอง” ดำไม่เข้าใจรอยยิ้มแบบนั้นแต่หน้ากลับแดงก่ำ และหัวใจก็เต้นแรง พาให้ขวยเขินอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็ทำใจกล้ารับปากออกไปด้วยเสียงอันดังก้อง จนคนตรงหน้ายิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ดำจึงต้องเสตาหลบสายตาวาววับดวงนั้น

คุณสินทำอะไรไอ้ดำนะ ทำไมทั้งรู้สึกอบอุ่น ทั้งยังรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ ไอ้ดำรับปากไปแบบนี้ดีแล้วใช่ไหม

ดำกลืนน้ำลายลงคอ ทั้งที่ใบหน้ายังแดงก่ำ ไม่กล้าสบใบหน้าหล่อเหล่าของคนที่กำลังยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยคิดให้ใครเห็นมาก่อน เขาไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเหตุใดบรรยากาศที่อบอวลด้วยความเศร้าจึงแปรเปลี่ยนเป็นบรรยากาศแสนแปลกประหลาดเช่นนี้

กริ๊ง!

เสียงออดช่วยชีวิต ดำหลุดออกจากบรรยากาศชวนทำตัวไม่ถูกอย่างรวดเร็ว รีบบอกสิรินอย่างตะกุกตะกักว่าจะออกไปเปิดประตูโดยไม่รอคำค้านของอีกคนแม้แต่น้อย

สิรินได้แต่มองตามร่างเล็กๆ ที่วิ่งจู๊ดออกจากห้องอย่างรวดเร็วด้วยสายตาแห่งความพอใจ

สิรินกำลังดีใจที่ดำไม่ได้ซื่อบื้อถึงขั้นไม่รู้สึกอะไรกับสายตาของเขา ความเขินอายนั่นทำให้ใจชื้นขึ้น มั่นใจว่าการรุกจีบของเขาได้ผลอยู่ไม่น้อย ถึงจะยืนกรานว่าเขาเป็นลูกพี่ แต่อีกไม่นานหรอกที่เขาจะทำให้ดำเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น ก็บอกไปแล้วว่าให้เตรียมใจเอาไว้ หึหึ

“ว้าววว ฝรั่งหัวทอง คุณสินๆ ๆ ฝรั่งหัวทองมาครับ อ้ากก กอดไอ้ดำทำไม ปล่อยนะ ปล่อยๆ” เสียงเล็กแว่วจากหน้าประตู สิรินจึงรีบเดินออกไปดู คิ้วกระตุกรัวๆ เมื่อได้ยินว่าใครคนนั้นกำลังกอดเจ้าตัวเล็กของเขาอยู่ ในหัวคาดเดาถึงคนที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

และเป็นไปตามคาดคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังกอดดำแน่น ทั้งยังเอาหน้าถูไถแก้ม ทั้งดึง ทั้งหอมจนกลัวเสียจริงๆ ว่าแก้มเล็กๆ นั่นจะช้ำหมด

“พอได้แล้วมาร์โก้” สิรินรีบสาวเท้าเข้าไปจับแยกทั้งคู่อย่างรวดเร็ว ผลักมาร์โก้ออกเล็กน้อยแล้วดึงดำมาไว้ด้านหลัง มองคนตรงหน้าด้วยสายตาคาดโทษ มาโดยไม่บอกล่วงหน้าแล้วยังมากอดดำโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก เป็นคนที่ทำอะไรไม่ดูอายุตัวเองเลยให้ตายสิ

ฟอด...

“สิน เซอร์ไพรส์ แด๊ดดี้มาเยี่ยมแล้วครับ” คิ้วสิรินกระตุกรัวๆ อีกรอบ ให้ตายเถอะเจ้าฝรั่งงี่เง่านี่ ตั้งใจแกล้งเขาชัดๆ เลย

ฟอด...

“ครับ ยินดีต้องรับครับ...แด๊ด” สิรินหอมแก้มคนตรงหน้าคืนไปหนึ่งฟอด จากที่จะเป็นฝ่ายแกล้ง กลับถูกลูกชายแกล้งคืนจนหน้าแดงแป๊ด อ้าปากผะงาบๆ อย่างทำตัวไม่ถูกอยู่เช่นนั้น สิรินส่งเสียงหึในลำคออย่างคนที่เหนือกว่า จะแกล้งเขายังเร็วไปล้านปี ตาแก่เอ๊ย

จากนั้นก็ละความสนใจจากคนที่หน้าแดงด้วยการหอมจากลูกชาย และคำเรียกที่นานๆ ครั้งที่จะหลุดออกจากปากอีกฝ่ายนั่นอีก

“เข้าไปข้างในเถอะดำ ได้เวลาทานข้าวแล้ว” เพราะเมื่อครู่หลบอยู่ด้านหลัง และยังตกใจจากการจู่โจมของมาร์โก้ไม่หาย ดำจึงไม่ทันได้เห็นว่าสิรินทำอะไร จึงยอมเดินตามสิรินเข้าไปที่ห้องครัวต้อยๆ เหลือบมองมาร์โก้สองสามครั้งทั้งที่ยังก้าวไปข้างหน้า

รู้เพียงว่าสิรินรู้จักคนคนนี้ และฝรั่งหัวทองเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับดำ เขาเคยเห็นอยู่เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็จากที่ไกลๆ เท่านั้น วันนี้ได้เห็นเต็มๆ ตาจึงละความสนใจไปไม่ได้

กว่ามาร์โก้จะรวบรวมสติที่แตกกระเจิงให้กลับมาได้ก็ใช้เวลาหลายนาทีทีเดียว

“หนอยย ยิ่งโตยิ่งกินยาก ให้ตายเถอะโดนเอาคืนอีกจนได้ สมเป็นลูกคุณจริงๆ เลยนะสุทิน หึยๆ” มาร์โก้ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว แล้วก็พาลคนที่อยู่บนสวรรค์ไปเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจ คิดถึงช่วงเวลาที่คนรักคอยแกล้งเขาแล้วก็มีความสุข สิรินสมเป็นลูกชายของพวกเขาจริงๆ

ตั้งหลักได้แล้วก็หยิบของที่วางเอาไว้แล้วเดินตามเข้าไปในห้องครัวด้วยความเคยชิน

“วันนี้ฉันโชว์ฝีมือเอง หลบไปเลยเจ้าหนู” ว่าพรางยกถุงของสดขึ้นให้ดู มาร์โก้ชอบทำอาหาร สิรินรู้ข้อนี้จึงยักไหล่น้อยๆ แล้ววางมือจากของสดตรงหน้า ยอมมานั่งบนเก้าอี้ข้างดำอย่างว่าง่าย เขาเองก็คิดถึงอาหารฝีมือมาร์โก้ไม่น้อยเลย จะปล่อยท่าทางอวดดีนั่นไปก่อนก็แล้วกัน

“คุณสินๆ” เสียงเล็กๆ กระซิบกระซาบ หลังจากที่สิรินนั่งลง

“หือ มีอะไรเหรอ” ดำไม่ตอบแต่พยักพเยิดหน้าไปยังมาร์โก้ เขายังไม่รู้เลยว่าฝรั่งหัวทองคนนั้นคือใคร แถมยังดูท่าคุ้นเคยกับสิรินอีก ดำรู้สึกคาใจจนอดที่จะถามไม่ได้

“คนนั้น คนที่ฉันบอกว่าเป็นเหมือนพ่ออีกคน” สิรินไม่คิดจะปิดบังอะไรดำ เพราะเขาเชื่อ เชื่อว่าดำจะไม่มีทางหักหลังเขาอย่างแน่นอน ความเชื่อใจที่ยากจะมอบให้คนอื่นนั้น สิรินได้มอบให้ดำอย่างหมดใจ หมายมั่นว่าต่อไปหากดำอยากรู้มากกว่านี้เขาก็พร้อมที่จะเล่าให้ฟัง

“อ๋อ คนนั้นเอง” ดำครุ่นคิดไปถึงเรื่องที่คุยกับสิรินก่อนจะร้องอ๋อออกมาเสียงดัง คนนั้นเอง คนที่อยู่เคียงข้างคุณสินในวันที่เสียคนสำคัญที่สุดไป

แปลว่าคนคนนี้ใจดีมากแน่ๆ ถึงจะเข้ามากอดไอ้ดำทั้งที่พึ่งเคยเจอกัน แต่ไอ้ดำก็ไม่รู้สึกว่าโดนคุกคามเลย สุดท้ายจึงไม่ได้ลงมือทำร้ายอะไร มีเพียงความตกใจเท่านั้น เพราะแบบนี้เองสินะ ไอ้ดำเข้าใจแล้ว ถ้าเป็นคนสำคัญของคุณสิน ก็เป็นคนสำคัญของไอ้ดำเหมือนกัน

“อะแฮ่ม คุยอะไรกันสองคนไม่สนใจฉันเลยนะ แต่ดำนี่น่ารักจริงๆ สินไม่ยอมให้ฉันเห็นผ่านกล้องสักทีก็เลยต้องมาเจอตัวจริง น่ารักสมกับที่หวงจริงๆ ฉันชื่อมาร์โก้ยินดีที่ได้รู้จัก เรียก ลุงมาร์โก้ หรือมาร์โก ก็ได้” มาร์โก้พูดกับดำทั้งที่มือยังขยับหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว สายตาที่มองมาก็เต็มไปด้วยความเอ็นดู

“ลุง...มาร์โก้”

“อืม ดูไม่รื่นหูเท่าไหร่ ว่าไปแล้ว เรียกว่า ‘พ่อ’ ไปเลยดีกว่า เพราะอย่างไรฉันก็มาที่นี่เพื่อจดรับรองให้ดำเป็นลูกบุญธรรมอยู่แล้ว เรียกให้ชินไว้เลยก็ได้” มาร์โก้พูดเองเออเองเสร็จสรรพก่อนจะนำสลัดผักที่ราดน้ำสลัดสีเขียวมาวางไว้ตรงหน้าลูกชายทั้งสอง

“อันนี้รองท้องไปก่อน เดี๋ยวจะจัดชุดใหญ่ให้ รอก่อนนะ” ดำมองตามมาร์โก้ ไม่ได้สนใจของกินตรงหน้าแม้แต่น้อย ตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของดำอยู่ที่คำพูดเรื่องพ่อลูกที่ออกจากปากมาร์โก้

“พะ พ่อ...ไอ้ดำเรียกได้จริงๆ เหรอครับ” มาร์โก้ยิ้มเอ็นดูก่อนจะวางมือแล้วเดินเข้ามาหาดำ

“ได้สิ ฉันอยากให้ดำเรียกนะ แล้วต่อไปฉันเองก็จะรักดำเหมือนลูกชายคนหนึ่ง ยอมรับรึเปล่า” ดำจับจ้องดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลอย่างไม่วางตา คนตรงหน้ามีแต่ความจริงใจส่งมาจนดำยิ้มออกทั้งที่น้ำตาไหล หัวใจของเขาอบอุ่นเอามากๆ เลย

ไม่เพียงคุณสินที่ยอมรับไอ้ดำ ยอมให้ที่อยู่กับไอ้ดำ คนสำคัญของคุณสินก็ยอมรับไอ้ดำเหมือนกัน คนที่เหมือนพ่อคุณสินยอมให้ไอ้ดำเป็นลูกอีกคน ไอ้ดำมีความสุขจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว

“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อึก”

“โอ๋ๆ อย่าร้องนะ เด็กดี” มาร์โก้ดึงเด็กน้อยเข้ามากอด โยกตัวไปมาดังปลอบโยนเด็กตัวเล็กๆ ใบหน้านั้นก็ระบายรอยยิ้ม ดำน่ารักจริงๆ เหมาะกับสิรินที่สุด คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหม...สุทิน

สิรินมองภาพนั้นด้วยความพอใจ หัวใจเต็มตื้นด้วยความสุข ดีใจที่คนสำคัญทั้งสองเข้ากันได้ดี

“เอาแบบนี้ วันนี้ดำชอบกินอะไรฉันจะทำให้หมดเลย! ” หลังจากเห็นว่าดำเลิกสะอื้นแล้วมาร์โก้ก็เสนอความคิดขึ้นมา ตอนแรกกะจะทำอาหารตามใจตัวเอง แต่เพื่อรับขวัญลูกชายคนใหม่คงต้องเอาใจหน่อยแล้ว

“มาร์- เอ๊ย พ่อทำได้หมดเลยเหรอครับ” ดำเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้าง เรื่องกินขอให้บอก ไอ้ดำเร็วอยู่แล้ว

“แน่นอน สั่งมาได้เลย ไว้ใจได้” พูดเสร็จก็ยกมือชกอกตัวเองหนึ่งที เชิดหน้าอย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะอาหารอะไรมาร์โก้คนนี้ไม่เคยพลาดอยู่แล้ว

“ไอ้ดำชอบกินบุฟเฟ่ต์” เสียงตอบดังฟังชัดพาให้มาร์โก้ยิ้มเก้อ ชั่งเป็นคำตอบที่คาดไม่ถึงเสียจริงๆ

หลังผ่านไปชั่วอึดใจ ทั้งสิรินทั้งมาร์โก้ก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ให้ตายเถอะเจ้าตัวเล็กนี่ชอบทำอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆ

“ดำ มาร์โก้หมายถึงชอบกินอะไรในบุฟเฟ่ต์น่ะ” สิรินอธิบาย เพราะดำมองหน้าเขากับมาร์โก้สลับไปมาอย่างไม่เข้าใจหน้าขึ้นสีน้อยๆ เพราะรู้ว่าตัวเองเผลอไปเข้าใจอะไรผิดเข้า แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพูดผิดตรงไหน

“อ๋อ ไอ้ดำชอบทุกอย่างเลยครับ ที่กินไม่อั้น แล้วก็เลือกกินอะไรก็ได้” ดำตอบชัดถ้อยชัดคำ ก็เขาคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะอย่างนั้นคำที่ตอบโจทย์มากที่สุดคงหนีไม่พ้นแบบบุฟเฟ่ต์อยู่แล้ว

“อืม คิดออกแล้ว” มาร์โก้ได้ฟังก็ไม่คิดจะขัด ยืนคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเช่นนั้น แล้วรีบเดินออกไปด้านนอกค้นกระเป๋าเดินทางหยิบแท็บเล็ตออกมา เปิดคลังรูปภาพที่รวบรวมภาพอาหารที่เขาเคยทำเอาไว้ จากนั้นก็ยื่นให้ดำ

“วันนี้เสนอเมนูบุฟเฟ่ต์ฉบับมาร์โก้ อยากกินอันไหนจิ้มเลย” จากนั้นก็สาธยายถึงความคิดอันหลักแหลมของตน แบบนี้ก็ตรงตามหัวข้อ ทั้งไม่อั้น และเลือกอันไหนก็ได้แล้ว

ดำมองรูปในแท็ปเล็ตตาวาว ภาพอาหารที่เลื่อนผ่านทั้งแปลกตา ทั้งน่ากินจนน้ำลายไหล ต้องกลืนน้ำลายลงคอหลายต่อหลายครั้ง ยิ่งเลื่อนท้องยิ่งร้องเรียกอยากกินไม่หยุด เลือกยากเพราะเมนูอาหารละลานตาไปหมด

มาร์โก้มองดำเลือกอย่างตั้งใจก็มองเอ็นดู แล้วหันไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ วันนี้เขาคงต้องเข้าครัวแบบเต็มรูปแบบเพราะลูกชายคนเล็กเสียแล้ว ก็ปริมาณอาหารที่ดำกินน้อยเสียที่ไหน สิรินเล่าให้ฟังประจำ วันนี้คงต้องลองกันสักตั้งว่าดำจะอิ่มก่อน หรือเขาจะเหนื่อยก่อนกันแน่!

“จะมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า” ในระหว่างรอสิรินก็เปิดปากถาม เพราะนานครั้งที่มาร์โก้จะทำสิ่งที่นอกเหนือจากตารางชีวิตของตนเอง โดยที่ไม่บอกเขาล่วงหน้าทั้งที่นัดกันเอาไว้เสร็จสรรพ

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่อยากมาเจอดำเร็วๆ แล้วสินจะได้ไม่ต้องรีบเร่งเตรียมเอกสารให้ดำด้วย อีกอย่างล่าสุดที่นั่นพึ่งตรวจพบพวกผู้ก่อการร้ายที่ปลอมแปลงเอกสารเข้าไปก่อความวุ่นวาย ตอนนี้ก็เลยมีมาตรการที่เข้มงวดเอามากๆ ไม่อยากให้เสี่ยงกันน่ะ” มาร์โก้ตอบทั้งที่กำลังนำของสดเก็บใส่ตู้เย็น เวลานี้ที่อเมริกาก็วุ่นวายไม่น้อย ถึงเบื้องหน้าจะดูสงบแต่ความจริงกลับเกิดความวุ่นวายอย่างที่ไม่อาจคาดคิด

ด้วยเส้นสายที่วางเอาไว้ และอำนาจที่ครอบครองเอาไว้ในฐานะซิกมานั้น การสืบรู้ความเคลื่อนไหวเบื้องหลังนับว่าไม่ยากเย็นเกินไป แม้การแทรกซึมเข้าไปในช่วงนี้จะทำได้ แต่การหลีกเลี่ยงอันตรายนับว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่า ทั้งเขายังต้องเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว เพียงเลื่อนให้เร็วขึ้นอีกหน่อยมันก็ไม่ถือว่าลำบากอะไร

“นั่นสินะ ทำแบบนี้จะรับประกันความปลอดภัยให้ดำมากกว่า ขอบคุณมากมาร์โก้” สิรินเห็นด้วยกับความคิดนี้ เขาจะวู่วามไม่ได้ แม้จะมีอำนาจมากมาย แต่ทุกสิ่งล้วนมีความเสี่ยง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของดำ การกระทำที่มั่นใจว่าดำปลอดภัย 100% นับว่าสมควรที่สุด

“หึหึ ฉันซะอย่าง เด็กอย่างนายก็หัดพึ่งๆ ผู้ใหญ่บ้าง ฉันเคยบอกไปแล้วนะ ไม่ว่าอะไรก็บขอให้บอก สิน นายเป็นลูกของฉันนะ” มาร์โก้มองสิรินด้วยรอยยิ้ม ถึงจะได้เจอกันนานๆ ครั้ง แต่สายสัมพันธ์ของพวกเขาก็ลึกซึ้งจนตัดไม่ขาด เป็นครอบครัวที่ไม่ต้องคำนึงถึงความสมบูรณ์พร้อม เพียงเชื่อใจซึ่งกันและกันก็เพียงพอ ยิ่งมีดำเข้ามาทำให้สิรินได้ใช้ชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา มาร์โก้ก็ยิ่งวางใจที่จะปล่อยสิรินให้อยู่ทางนี้ได้มากขึ้น

“รู้แล้ว...ดำอยากกินอะไร” สิรินพึมพำเบาๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง เขารับรู้ถึงความรู้สึกของมาร์โก้ดี เพียงแต่มาร์โก้นั้นก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่เขาต้องปกป้อง ไม่ให้อาสุชาติ หรือคนอื่นๆ เข้ามาทำร้าย เขาจึงต้องเข้มแข็ง และพยายามพึ่งพาตนเองเช่นนี้เสมอมา...สิรินไม่อยากเสียมาร์โก้ไปอีกคน เพราะมาร์โก้เป็นคนที่สำคัญทั้งต่อพ่อของเขา และตัวเขาเอง

“อืม เลือกยากจัง มีแต่ของน่ากินๆ ทั้งนั้น ไอ้ดำอยากลองชิมทั้งหมดเลย” ดำเงยหน้าขึ้นมาตอบ น้ำลายก็ไหลเลอะมุมปาก เป็นสัญญาณบอกว่าดำอยากกินมากจริงๆ

“หึหึ เลอะหมดแล้วเจ้าตัวเล็ก” ว่าจบก็หยิบทิชชู่เช็ดปากให้อย่างเบามือ ดูว่าถ้าให้เปิดไปมากกว่านี้คงน้ำลายหมดตัวไปซะก่อน

“ดำจะได้กินทั้งหมด มาร์โก้ยังอยู่กับพวกเราอีกหลายวัน เพราะอย่างนั้นเลือกของที่อยากกินวันนี้ก่อน ส่วนที่เหลือค่อยกินมื้ออื่นๆ ก็ได้ ไม่ต้องรีบ” ว่าจบก็ลูบหัวหนึ่งทีให้เจ้าหมาจอมตะกละใจเย็นลง ดูสิ ดวงตาเหมือนจะกลายเป็นรูปอาหารหมดแล้ว

“จริงเหรอครับ” ดำตาวาว เขาจะได้กินทั้งหมด ว้าวๆ สุดยอดที่สู้ด

“จริงๆ ว่ามาเลยเจ้าลูกชาย อยากกินอะไร เดี๋ยวปะป๋าจัดให้” เห็นแบบนั้นดำก็กอดแท็บเล็ตวิ่งไปหามาร์โก้ ยกหน้าจอให้ดูเมนูที่ตัวเองอยากกินในทันที

“อันนี้ครับ อันนี้ ไอ้ดำอยากกินอันนี้...ว่าแต่ปะป๋าคืออะไร กินได้รึเปล่า” ชี้เสร็จก็ถามถึงคำที่ตนไม่คุ้นเคยทันที ไอ้ปะป๋ามันคืออะไร อร่อยไหมนะ

“ฮ่าๆ ๆ ปะป๋ากินไม่ได้ครับ ปะป๋าแปลว่าพ่อ แต่คำว่าปะป๋ามันน่ารักกว่า ยิ่งออกจากปากดำยิ่งน่ารัก ปะป๋าเป็นปลื้ม เพราะฉะนั้นเลือกพ่อว่าปะป๋านะครับ” มาร์โก้ร่ายยาว แบบนี้สิถึงน่ารักสมวัย ไม่เหมือนสิรินที่ความน่ารักหายไปหมด โตเร็วซะเหลือเกิน กระซิกๆ วันนี้เขามีความสุขมากจริงๆ

สิรินรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นธาตุอากาศอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นคนสำคัญทั้งสองยิ้มอย่างมีความสุขก็ไม่อยากขัดอะไร ยิ่งมาร์โก้เหมือนย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่พ่อเขายังอยู่ สิรินยิ่งพอใจ

พ่อครับ เห็นรึเปล่า คนรักของพ่อกลับมายิ้มกว้างได้อีกแล้วนะ

ดำเป็นแสงสว่างในชีวิตเขา และยังส่องแสงไปถึงคนสำคัญของเขาด้วย ยิ่งเป็นเช่นนี้ สิรินก็ยิ่งตระหนักในใจว่าชีวิตของเขาขาดดำไม่ได้

“ปะป๋า ไอ้ดำอยากกินอันนี้ครับ” ดำทำตามที่มาร์โก้เรียกร้อง เพราะดูเหมือนคนตรงหน้าจะชอบมากๆ เวลาเขาพูดแบบนี้ มันไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะฉะนั้นไอ้ดำทำได้สบายมาก ไอ้ดำเก่งอยู่แล้ว ฮ่าๆ ๆ

“ฟิชแอนด์ชิปส์ เหรอ ได้ๆ วัตถุดิบพร้อม นั่งรอเลย ระหว่างนี้ก็กินสลัดแซลมอนรองท้องไปก่อนนะ”

“แซลมอนนน” คำว่า แซลมอนทำให้ดำหูผึ่ง จำได้ติดลิ้นว่ามันอร่อยมาก ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจมากนักเพราะเห็นผักเสียมากกว่า พอรู้ว่ามีแซลมอนด้วยก็รีบกอดแท็บเล็ตวิ่งจู๊ดไปที่เก้าอี้ของตนทันที

มาร์โก้ก็ได้แต่หัวเราะเบาในลำคอ เอ็นดูเจ้าคนเห็นแก่กินขึ้นไปอีก ดูสิ สิรินก็ตามใจเหลือเกิน คีบแซลมอนให้ดำชิ้นแล้วชิ้นเล่า ไม่คิดว่าจะกินเองเลยหรือไร

จากนั้นก็ละความสนใจหันไปทำฟิชแอนด์ชิปส์แทน อาหารจานนี้เป็นอาหารแบบผู้ดีอังกฤษ ดูผิวเผินคล้ายสเต็กปลาชุปแป้งทอด แต่ก็ยังคงมีเส้นแบ่งความแตกต่างระหว่างอาหารอังกฤษกับอเมริกันอยู่เล็กน้อย

ปลาที่ใช้เป็นปลาคอตที่แร่แบบไร้ก้างซีนพลาสติกเอาไว้เรียบร้อย ยังดีที่เขาซื้อติดมาด้วย ไม่เช่นนั้นคงต้องใช้ปลาชนิดอื่นทดแทนซึ่งจะขาดความอร่อยไปบางส่วน ด้วยทาร์ทาร์ซอสที่ใช้กับอาหารชนิดนี้ต้องทำขึ้นใหม่แบบพิเศษ ทั้งมันฝรั่งยังเป็นแบบทำเอง หั่นให้มีขนาดใหญ่กว่าเฟรนด์ฟรายทั่วไป ซึ่งเรียกว่า ชิปส์ ตามชื่ออาหารชนิดนี้

ส่วนดำนั้นกำลังเคี้ยวแซลมอนแก้มตุ่ยอยู่ข้างๆ สิริน คุณสินยังใจดีกับดำเหมือนเดิม ยกแซลมอนให้ดำกินเยอะแยะเลย

ตอนแรกไอ้ดำจะไม่กินผัก เพราะเคยกินไปแล้วมันไม่อร่อย แต่เพราะน้ำจิ้มที่ราดข้างบนเผ็ดซี้ดโดนใจ เข้ากับเนื้อแซลมันกับผักสลัดแบบสุดๆ ทำให้หยุดมือที่ถือส้อมจิ้มลงบนผักครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้

คุณสินบอกว่า น้ำจิ้มเขียวๆ คือน้ำจิ้มซีฟู้ด เอาไว้กินกับอาหารทะเล พอเอามากินกับแซลมอน ปลาที่อาศัยในทะเลมันจึงเข้ากันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังกลบกลิ่นเหม็นเขียวของผักจนหลงเหลือไว้เพียงความอร่อยเท่านั้น

เพียงไม่นานดำก็กินสลัดแซลมอนชามโตจนหมดชาม ไม่เหลือแม้กระทั่งผักสักชิ้นเดียว มาร์โก้ทำอาหารอร่อยมากจริงๆ จนดำมองมาร์โก้ตาวาว

ไอ้ดำอยากให้ปะป๋าอยู่ด้วยตลอดไปจัง

กลิ่นปลาคอตชุปแป้งทอดลอยแตะจมูกดังยั่วยวนให้คนหลงใหล ดำเดินตามกลิ่นไปจนถึงโต๊ะที่วางปลาทอดสีเหลืองแวววาวเอาไว้

อื้อหือ เหมือนในภาพเลย ไอ้ดำขอกินเลยได้ไหม

“ยกไปวางที่โต๊ะได้เลย แล้วต่อไปอยากกินอะไร หือ” เพื่อไม่ให้ขาดตอน หลังจากเห็นดำที่มองฟิชแอนด์ดิปส์ที่ประดับตกแต่งในจานอย่างสวยงามแล้วก็เอ่ยปากเปิดทางให้เจ้าตัวเล็กได้กินตามใจชอบทันที ทั้งยังถามเมนูต่อไปเสร็จสรรพ เห็นคนกินมีความสุขขนาดนี้มาร์โก้ก็สนุกจนหยุดไม่ได้

ดำยื่นแท็บเล็ตให้มาร์โก้ ชี้นิ้วไปบนภาพที่ถูกทำให้มีขนาดเล็กเรียงรายกันเอาไว้

“ไอ้ดำอยากกินอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ อันนี้ด้วย แล้วก็-”

“เดี๋ยวๆ พอก่อนดีกว่า ปะป๋าทำให้ทุกอย่างเลย แต่หลังจากกินเมนูที่ว่ามานั่นหมดก่อนนะ” มาร์โก้รีบหยุดเอาไว้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้เขาคงทำได้ไม่ครบทุกเมนูเป็นแน่แท้ ก็ดำเล่นชี้ภาพแบบรัวๆ ขนาดนี้

“ครับผม ปะป๋าเก่งที่สุดเล้ย” ดำว่าง่ายยอมถืออาหารจานปลาตรงหน้ากลับไปนั่งกินที่โต๊ะในทันที เนื้อปลาหนานุ่มด้านใน เคลือบด้วยเกล็ดขนมปังกรุบกรอบด้านนอกให้รสสัมผัสที่อร่อยเคี้ยวได้อย่างไม่มีเบื่อ ดำคิดว่ามันเต็มปากเต็มคำกว่าเทมปุระที่เคยกินมากทีเดียว

ซอสสูตรเข้มข้นช่วยตัดความเลี่ยนของน้ำมันที่ใช้ทอดได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยเพิ่มรสชาติให้มีความหลากหลายทำให้คนกินเจริญอาหารมากขึ้นไปอีก ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ดำก็กินอาหารจานนี้หมดเสียแล้ว กระทั่งซอสที่แยกไว้ในถ้วยเล็กยังถูกกวาดลงท้องไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว

อร่อยจัง เมื่อกี้ปะป๋ามันเรียกว่าอะไรนะ ไอ้ดำต้องถามปะป๋าเอาไว้เวลาอยากกินจะได้เรียกถูก

ดำหมายมั่น ยิ่งกินยิ่งถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นสลัดแซลมอน หรืออาหารจานปลาตรงหน้าก็ถูกปากถูกใจดำเป็นอย่างยิ่ง พื้นที่ความสำคัญของมาร์โก้ภายในใจดำจึงเพิ่มมากขึ้นไปอีก

“มาแล้ว ข้าวไข่ข้นเบคอนนุ่มนิ่ม ซุปบอร์ชเพิ่มความหอมหวานของผัก ปูแตงสูตรเพิ่มชีสพิเศษสำหรับคนชอบชีส” อาหารสีสันน่าทานสามอย่างวางลงตรงหน้า ดำตาวาวด้วยความพอใจ ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะหันไปของคุณมาร์โก้อย่างเสียไม่ได้

สมกับเป็นบุฟเฟ่ต์ฉบับปะป๋า รวดเร็วทันใจ แถมยังน่ากินทุกจาน งื้ออ ไอ้ดำรักปะป๋าที่สุดเลย

สายตาวิ๋งๆ ที่ถูกส่งออกมาจากคนตัวเล็กพาให้สิรินคิ้วกระตุกยิกๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพียงเท่านั้นมาร์โก้ก็ดูท่าจะแย่งพื้นที่ของดำไปจากเขาได้เสียแล้ว แต่จะทำอะไรได้ ให้ทำอาหารแข่งเหรอเป็นไปไม่ได้หรอก อย่างดีสรินก็ทำได้แค่อาหารง่ายๆ เท่านั้น ไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว

เสียงเจื้อยแจ้วเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทวนชื่ออาหารที่ถูกวางตรงหน้าอย่างตั้งใจ พอหมดก็ชี้บอกเมนูใหม่ ประกายเจิดจ้าแสบตาขึ้นเรื่อยๆ เหมือนโลกเหลือพวกเขาเพียงสองคน คนหนึ่งกินอย่างเอร็จอร่อย อีกคนก็คว้ามีคว้ากระทะทำอาหารอย่างมีชีวิตชีวาถูกอกถูกใจที่คนกินชมครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างเป็นภาพที่แผ่ความสุขออกมาจนไม่อาจเข้าไปขัดได้

“เลอะแล้วเจ้าตัวเล็ก กินดีๆ” แต่สิรินก็อดใจที่จะขัดภาพนั้นไม่ได้ ถ้าจะมีความสุขก็อย่าทิ้งเขาไว้คนเดียวสิ แล้วอีกอย่างคนที่มีพื้นที่ภายในใจดำมากที่สุดควรจะเป็นเขาต่างหาก!

“คุณสินอร่อยมากเลย อันนี้ชีสบอลล่ะครับ ชีสยืดๆ อร่อย” และดำก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง เจ้าหมาน้อยยื่นชีสบอลลูกสุดท้ายมาป้อนถึงปาก ถึงจะลืมชั่ววูบ ด้วยสำนึกผิดจึงต้องเอาใจคนตัวโตเสียหน่อย

สิรินยอมอ้าปากกินชีสบอลตรงหน้า อาหารฝีมือมาร์โก้ยังอร่อยไม่เปลี่ยน ทั้งยังมีรสหอมหวานเพิ่มขึ้นมาอีก...บางทีอาจจะเป็นเพราะคนป้อนล่ะมัง

คิดดังนั้นก็ยื่นมือไปขยี้ผมนุ่มนิ่มเบาๆ มองไปยังคนที่ทำอาหารอยู่หน้าเตาอย่างตั้งใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมามอง ทั้งคนตัวเล็กตรงหน้ายังยิ้มตาหยี ดวงตากลมโตเหมือนจะปิดลงเสียให้ได้ก็ฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งฟอด

“อืม ทั้งอร่อย ทั้งหอมหวานจริงๆ”





โปรดติดตามตอนต่อไป...



******************************************

กลับมาแล้วค่า

ขอโทษที่กรีนพักไปหลายวันนะคะ

หลังจากที่จบงานสัปดาห์หนังสือ กรีนก็ยอมรับว่าไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย

อยากนอนพักยาวๆ ซักอาทิตย์ ฮ่า

แต่ในที่สุดก็กลับมาฮึดเขียนอีกครั้ง ต่อไปก็ลงแบบปกติแล้วนะคะ พักพอแล้ว

เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :m22: ดำ ๆ มีอะไรเหลือแบ่งคนแก่กินบ้างป่ะ หิวจังอ่ะ  :m26:

ออฟไลน์ Victor.yuriyurio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5: :hao5: อยากกินด้วยอะดำ!!!!!!!! น่ากินทั้งดำทั้งอาหารเลย สินต้องกินน้องได้แล้วนะรู้กกกกกกกกกกกก  :กอด1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อยากเป็นดำอ่ะ น้ำหนักขึ้นก็ยอม!!!!

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ป๊ะป๋าคนเดิมเพิ่มเติมคือลูกรักเพิ่มอีกคน .. คุณสินโดนเวนคืนพื้นที่จากน้องดำไปให้ป๊ะป๋าแล้วมั๊งนั่น  :laugh:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
หิววววววววววววว

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 9
«ตอบ #79 เมื่อ23-04-2018 07:51:12 »

เปย์ครั้งที่ ๙

หวานอม ขมกลืน

‘ตกอยู่ในฐานะจำต้องยอมรับ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พอใจหรือไม่พอใจก็ตาม’



หลังจากที่มาร์โก้กลับมาไทยก็ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็ถึงช่วงสอบของสิริน ดำจึงเป็นห่วงสิรินไม่น้อยเมื่อยังต้องมานั่งสอนหนังสือเขาอยู่เช่นนี้ ยิ่งเห็นเพื่อนสนิททั้งสามของลูกพี่มานั่งติวหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น ดำก็ยิ่งเป็นกังวลว่าสิรินจะสอบออกมาได้คะแนนไม่ดีเท่าคนอื่นๆ เห็นความจริงจังเหล่านั้นแล้วดำจึงรู้ว่ามันสำคัญมากๆ แม้เขาจะไม่เคยไปโรงเรียนก็ตาม

ป๊อก!

“เหม่ออะไรหือ ไหนลองแก้โจทย์ข้อนี้หน่อย” เห็นคิ้วของคนตัวเล็กขมวดมุ่น ทั้งยังมีท่าทีเหม่อลอย คงไม่ได้ฟังที่เขาอธิบายเมื่อครู่แน่ๆ สิรินจึงอดไม่ได้ที่จะใช้ดินสอในมือเคาะหัวให้ได้สติ แล้วแกล้งเจ้าเด็กไม่ตั้งใจเรียนคนนี้สักเล็กน้อย

ดำจับหน้าผากที่โดนเคาะ แล้วจึงทอดสายตาไปยังหน้าแบบฝึกหัดที่ถูกเปิดอยู่ ตัวเลขหลักหน่วยเรียงรายอยู่บนหน้ากระดาษ เหมือนโจทย์จะง่ายดายแต่เพราะตัวอักษรภาษาอังกฤษปรากฏอยู่ในนั้นสายตาจึงสั่นสะท้าน

ม่ายย อีกแล้ว แถมยัง แถมยังเพิ่มขึ้นมา ก่อนหน้านี้ตัวเหมือนกากบาทที่เรียกว่าตัวเอ็กซ์ตัวเดียว แต่ตอนนี้มีเจ้าสองแฉกมีหางที่เรียกว่า วาย รวมอยู่ด้วย มันอะไรน่ะ ไอ้ดำไม่เคยเห็นแบบนี้...ขอโทษที่ไม่ตั้งใจเรียนครับ

เห็นดังนั้นดำก็ส่งสายตาเว้าวอนไปให้คุณครูจำเป็นทันที

“คุณสินครับ ไอ้ดำ ไอ้ดำเรียกภาษาอังกฤษกับปะป๊าไม่ใช่เหรอ คุณสินไปเอาตัวหนังสือของปะป๋ามาทำไมครับ แย่งกันมันไม่ดีนะ” ดำถามเสียงสั่น ดูสิแค่ตัวเอ็กซ์ไม่พอคุณสินยังเอาตัววายมาอีก ต่อไปไม่เอามาทั้ง 26 ตัวเลยหรือ

แค่ตัวเดียวไอ้ดำก็จะตายอยู่แล้ว ถ้าเพิ่มมาหมดไอ้ดำไม่รอดแน่ แงงง

“หึหึ อย่ามาหัดเจ้าเล่ห์ ติดนิสัยทิวมารึไงเจ้าตัวเล็ก” ดูเข้าสิ เดี๋ยวนี้ขยันหาทางออกด้วยการกวนประสาทเหมือนทิวเสียด้วย คงให้อยู่ด้วยกันมากเกินไปแล้ว หลังๆ มายิ่งติดกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย ให้ตาย

“...ขอโทษครับ ไอ้ดำทำไม่ได้ ไอ้ดำไม่ได้ฟัง ไอ้ดำดื้อเอง ยกโทษให้ไอ้ดำนะครับ” ดำยอมรับผิด ยกมือขึ้นไหว้ปลกๆ นึกว่าจะรอด ที่ไหนได้เขาก็ผ่านด่านคุณสินไปไม่ได้อยู่ดี

“เฮ้อ ฉันยกโทษให้ก็ได้ แต่บอกมาได้รึเปล่าว่าคิดอะไรอยู่ถึงทำหน้าเครียดขนาดนี้” ได้ยินประโยคแรกดำยิ้มกว้าง กำลังจะเอ่ยปากขอบคุณ แต่พอได้ยินประโยคต่อมาเท่านั้น ริมฝีปากก็ค่อยๆ เม้มเข้าหากัน แก้มพองลมอย่างลำบากใจ

ไอ้ดำไม่ชอบขัดใจคุณสิน เดี๋ยวกลายเป็นเด็กไม่ดี ถึงได้แอบเป็นห่วงในใจแบบนี้ แต่พอโดนถามก็ปฏิเสธไม่ได้ ไอ้ดำควรทำอย่างไรดี

สวนตาลุ่มลึกยังคงจับจ้อง ไม่เอ่ยปาก ไม่คาดคั้น แต่ยังคงรออย่างใจเย็น ปล่อยให้เจ้าหมาน้อยจอมตะกละได้มีเวลาตัดสินใจอย่างไม่รีบร้อน

ดำสบสายตาคู่นั้น รู้สึกได้ว่าตนไม่อาจปิดบังสิ่งใดได้ จึงค่อยๆ เปิดปากพูดอย่างจำยอม

“ไอ้ดำเป็นห่วงคุณสิน คุณสินจะสอบแล้วแต่ยังสอนไอ้ดำอยู่เลย คุณทิว คุณน่าน คุณก้อง ยังเลิกสอนตั้งแต่เมื่อวานเพื่อทวนหนังสือ คุณสินไปอ่านหนังสือเถอะครับ ไม่ต้องห่วงไอ้ดำ ไอ้ดำกลัวคุณสินได้คะแนนไม่ดี

แล้ว แล้วไอ้ดำจะทวนหนังสือเองครับ ไม่หยุดเรียนหรอก ช่วงนี้ให้ปะป๋าสอนคนเดียวก่อนก็ได้ ไอ้ดำไม่ได้หาข้ออ้างหยุดเรียนนะ แค่...แค่ไอ้ดำเป็นห่วงคุณสินเท่านั้นเอง” ดำพยายามอธิบายเท่าที่จะทำได้ กลัวคุณสินเข้าใจผิดเหลือเกินว่าตัวเองกำลังหาทางโดดเรียน

สายตามุ่งมั่น ไม่ล่อกแล่ก แต่คิ้วกลับขมวดมุ่น เพราะหาคำพูดดีๆ ไม่เจอ...ทำไมอธิบายยากจัง คุณสินจะหาว่าไอ้ดำแก้ตัวรึเปล่านะ

เห็นแบบนั้นใครจะแกล้งได้ลง สิรินขยับนิ้วไปจิ้มหว่างคิ้ว นวดเบาๆ ให้คลายออก เดี๋ยวสมองที่อัดความรู้ไปตั้งแต่เช้านั่นระเบิดเสียก่อน

“อย่ากังวลไปเลย ฉันเชื่อที่ดำพูด ดำเป็นเด็กดี ฉันรู้” สิรินรับรู้ดีถึงความจริงใจนั้น พอเห็นอีกฝ่ายยอมกลับมายิ้มก็ยิ่งเอ็นดู ย้ายมือขึ้นไปลูบหัวให้รางวัลจนคนรับยิ้มยาหยีอย่างมีความสุข

“ไอ้ดำเป็นเด็กดี ฮี่ๆ” เหมือนจะลืมเรื่องที่ตัวเองเป็นกังวลไปเสียแล้ว พอได้รับคำชมก็ตัวลอยเสียจนไม่คิดเรื่องอะไรในหัว สีหน้าเคลิบเคลิ้มมีความสุขจนน่ามันเขี้ยว

“แล้วก็อีกอย่าง ฉันอ่านหนังสือจบไป 2 รอบแล้ว ไม่ต้องห่วง มีแค่พวกนั้นที่ต้องรีบอ่าน เพราะมันแต่เล่นเข้าใจไหม...เด็กดี” เสียงนุ่มทุ้มที่ตอบคำถามทำให้ให้ดำต้องกลับมาประมวลผล ดึงเรื่องที่เกือบจะลืมไปแล้วจากการได้รับรางวัลกลับมาคิดทันที

เมื่อกี้ไอ้ดำคิดเรื่องอะไรนะ...คิดออกแล้วเรื่องสอบของคุณสิน

“จริงเหรอครับ ทำไมไอ้ดำไม่เห็น” คิดทบทวนกลับไปก็ไม่เคยเห็นคุณสินอ่านหนังสือเลยนา ไอ้ดำมองหาคุณสินตลอดไม่พลาดอยู่แล้ว

“พูดแบบนี้หาว่าฉันโกหกเหรอ” ยกคิ้วขึ้นน้อยๆ เป็นเชิงถาม จนเจ้าตัวเล็กทำหน้าลนลานในทันที

“ไม่ๆ ๆ ไม่ใช่นะครับ ไอ้ดำไม่เคยคิดว่าคุณสินโกหก ไอ้ดำ ไอ้ดำ ไอ้ดำน่ะเชื่อคุณสินทุกอย่างอยู่แล้ว ก็คุณสินใจดีที่สุดนี่นา” ดำพยายามอธิบายด้วยท่าทางร้อนรน เขาไม่อยากให้คุณสินเข้าใจผิด ไม่อยากให้มองเขาเป็นเด็กดื้อ การกล่าวหาคนอื่นว่าโกหกมันไม่ดี

“คุณสินอย่าเกลียดไอ้ดำนะครับ”

“ฉันจะเกลียดดำลงได้อย่างไร อย่าเศร้าไปเลย ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้น” อ้อมกอดอบอุ่นทำให้ดำสงบลง เพราะนั่งอยู่บนพื้นห้องทำให้ตอนนี้ดำจึงขึ้นมานั่งบนตักของคนตัวโตพอดิบพอดี แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืน กลับซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง ยืนแขนออกไปกอดตอบแต่โดยดี ทั้งรู้สึกผิด ทั้งดีใจที่สิรินเชื่อ ความรู้สึกผสมปนเปเต็มไปหมด

“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ” ดำพร่ำบอก แขนก็กอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ กลัวแสนกลัวว่าจะสูญเสียอ้อมกอดที่อบอุ่นนี้ไป

สิรินลูบหัวลูบหลัง รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้เจ้าตัวเล็กมีอาการเช่นนี้ เขาชอบใบหน้าที่เปลี่ยนไปมาตามอารมณ์ของดำก็จริง แต่ไม่ชอบแบบนี้เลย เขาต้องระวังให้มากขึ้น เพราะดำยังฝังใจเรื่องหลวงตา จึงอ่อนไหวกับเรื่องนี้มากกว่าปกติ

“ฉันอ่านหนังสือในเวลาว่างที่มหาลัย แล้วก็ตอนที่ดำเรียนกับคนอื่น เพราะแบบนั้นก็เลยไม่เคยเห็น เข้าใจไหม หืม” หลังจากเห็นว่าท่าทางดำผ่อนคลายลง สิรินก็อธิบาย ให้เด็กน้อยเข้าใจ

ความจริงเขาอ่านเพียงรอบเดียวก็จำได้ แต่ก็ต้องเผื่อเอาไว้บ้างเพื่อความมั่นใจ ทั้งยังเข้าใจบทเรียนที่อาจารย์สอนได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องนั่งอะไรนานๆ ใช้เวลาว่างเพียงไม่กี่วันก็ครบทุกเล่มเสียแล้ว ไม่ได้ใช้เวลามากเท่ากับคนอื่นๆ

“คุณสินเก่งจัง” ฟังจบดำก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้าง คุณสินอ่านหนังสือเล่มหนาๆ ยากๆ ที่ไอ้ดำไม่เข้าใจพวกนั้นหมดแล้ว แถมยังอ่านตั้งสองรอบ สุดยอดไปเลย

ไอ้ดำไปเปิดดูหนังสือที่คุณทิวเอาวางไว้แล้ววิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม หนังสืออะไรไม่รู้ยากเป็นบ้า เหมือนภาษามนุษย์ต่างดาวเลย ถ้าไอ้ดำต้องเรียนอะไรแบบนั้น ไอ้ดำไม่รอดแน่ๆ

“ดำก็เก่ง ตั้งใจเรียนดีมาก เด็กดี” สิรินชมกลับ เขาไม่ได้ยกยอ ดำตั้งใจเรียนมาก และความจริงดำไม่ได้หัวช้า ออกจะเข้าใจบทเรียนได้ดีด้วยซ้ำ สอนเพียงไม่กี่ครั้งก็แก้โจทย์เลขได้ง่ายๆ แล้ว ถ้าได้เรียนตั้งแต่เด็กคงจะกลายเป็นคนเก่งคนหนึ่ง

ถึงแม้ตอนนี้จะสอนเพื่อให้พอผ่านเกณฑ์เท่านั้นก็ถือว่าเก่งมาก เขาจัดโปรแกรมสอนให้ดำแบบเร่งรัด เรียนเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ตอนมัธยม 4 แบบล้วนๆ กับพวกพื้นฐานที่จำเป็นเท่านั้น

คุณครูจำเป็นก็มี สิริน มาร์โก้ น่าน ทิว ก้อง โดยผลัดเปลี่ยนสอนตามวิชาที่ตัวเองถนัด และจัดตามเวลาว่างของแต่ละคน เพราะสิรินต้องเรียนจึงไม่มีเวลาสอนดำทั้งวัน ทั้งมาร์โก้ยังไม่เข้าใจบางอย่างที่เป็นหลักสูตรของไทย เช่น วิชาภาษาไทย สังคมฯ ประวัติศาสตร์

ยิ่งพอเพื่อนทั้ง 3 เสนอตัวช่วย จึงง่ายต่อการจัดการมากขึ้น ดำมีเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขาต้องใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด ส่วนเรื่องเอกสารเขาจัดการเอาไว้เรียบร้อยตั้งแต่มาร์โก้มาแล้ว

“เอ้าๆ ทุกคนได้เวลากินข้าวเที่ยงแล้ว” เสียงของมาร์โก้ดังมาจากหน้าห้อง ดำก็ยิ่งเพิ่มรอยยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก

“คุณสินข้าวของปะป๋าล่ะ” ถึงจะอิจฉาไปบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าดำยิ้มแบบนี้เขามีความสุขมากจริงๆ สิรินจึงยอมปล่อยดำแล้วพากันเดินออกจากห้องนอน

หน้าห้องไม่มีใครอยู่ มีเพียงกองหนังสือระเกะระกะเท่านั้น บ่งบอกได้ว่า เพื่อนๆ ของเขาทิ้งหนังสือหนีไปกินข้าวเสียแล้ว

“ไม่มีใครรอเลย คุณสินเร็วๆ ครับ เดี๋ยวคุณทิวแย่งของอร่อยไอ้ดำหมดก่อน” สัญชาตญาณหวงอาหารเข้าครอบงำ ดำรีบดึงแขนสิรินเดินตรงไปยังห้องครัวทันที แม้จะอยากรีบเข้าไปแย่งของอร่อย แต่ก็ไม่คิดที่จะทิ้งคุณสินเอาไว้คนเดียว

ไอ้ดำอยากให้คุณสินกินของอร่อยด้วยนี่นา

สิรินไม่ขัดขืน ปล่อยให้ดำลากไปเช่นนั้น มองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั่นอย่างเอ็นดู เพราะแบบนี้ความรู้สึกของเขาจึงมากขึ้นเรื่อยๆ ดำมักจะใส่ใจเขาเสมอ

มื้อนั้นจบลงด้วยศึกแย่งชิงไก่อบสมุนไพรหอมฉุยของดำกับทิว เป็นมื้อที่คึกคัก เสียงหัวเราะดังขึ้นไม่ขาดสาย เป็นการกินอาหารที่มีความสุขอีกมื้อ ทั้งสุขใจ ทั้งอิ่มท้องเป็นช่วงเวลาเล็กๆ ที่มีความสุขเกินประมาณ

ตั้งแต่มีดำเข้ามาในชีวิต พวกเขาก็ไม่ขาดเสียงหัวเราะอีกเลย...

:: :: ::


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

เปย์ครั้งที่ 9
« ตอบ #79 เมื่อ: 23-04-2018 07:51:12 »





ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 9 [2]
«ตอบ #80 เมื่อ23-04-2018 07:51:57 »


หลังจากผ่านพ้นสัปดาห์แห่งการสอบ สิรินก็ให้เพื่อนๆ ได้พัก ส่วนเขาพักเพียงวันเดียวก็กลับมาสอนหนังสือดำได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัด เขายังคงปล่อยให้ดำผ่อนคลาย ไม่ว่าจะดูหนัง ดูการ์ตูน เขาก็ไม่เคยห้าม เพราะการเรียนไม่จำเป็นต้องกดดันให้เครียดเสมอไป แค่อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมก็เพียงพอ

จนกระทั่งวันนี้พวกเขาออกจากบ้านแต่เช้า เตรียมอาหาร สังฆทาน และของที่ใช้ทำบุญขึ้นรถ วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของสุทินพ่อของสิรินนั่นเอง

รถมุ่งหน้าไปยังวัดศรีบุญเรือง หรือที่ดำเรียกว่าวัดทำนบ ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อเมื่อปี 2504 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากปีที่ดำจากมา 5 ปีแล้ว

ก่อนวันที่จะเดินทาง สิรินพูดคุยกับดำเรื่องนี้ ถึงสายตาจะหลงเหลือความหวังที่จะได้เจอหลวงตาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ซึมเศร้าเช่าครั้งก่อน ใช้เวลาออกจากบ้านเพียงไม่นานก็ถึง เพราะพวกเขาเดินทางเช้ามาก กลัวรถจะติดมากเกินไป และไม่ต้องแวะซื้ออาหารสำหรับใส่บาตรเช้า ซึ่งมาร์โก้ลุกขึ้นมาเตรียมเอาไว้ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง

กับข้าวถูกบรรจุไว้ในปิ่นโต 5 ชั้น 2 อัน พวกเขาไม่ได้ฟุ่มเฟือยเพราะถือโอกาสมาทำบุญเฉพาะครอบครัวเท่านั้น สังฆทานก็ทำเอง ของด้านในจึงจะครบถ้วนและได้ปริมาณมากกว่า ทั้งยังเต็มไปด้วยของใช้จำเป็นมากมาย

การเตรียมตัวมาทำบุญครั้งนี้ พวกเขายังได้ใช้เวลาครอบครัวอย่างเต็มที่ ทั้งซื้อของ ทั้งจัดเตรียมล้วนร่วมด้วยช่วยกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

แม้จะยังคงหลงเหลือความเศร้า แต่เวลาก็ช่วยเยียวยาให้ดีขึ้น ยิ่งมีคนคอยอยู่เคียงข้างด้วยแล้ว ก็จะมามัวทุกข์ใจอยู่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคนที่มองลงมาจากบนฟ้าคงไม่อาจมีความสุขได้เช่นเดียวกัน

นอกจากหวังจะได้พบหลวงตาแล้ว ดำก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เจอพ่อของสิรินครั้งแรก แม้จะไม่ใช่รูปแบบที่ชอบมากนักก็ตาม

ไม่เป็นไรวันนี้ไอ้ดำจะไปบอกพ่อคุณสินว่าไอ้ดำจะปกป้องดูแลคุณสินเอง

ดำตั้งใจแบบนั้น ตลอดเวลาที่นั่งบนรถจึงแอบจ้องมองสิรินครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังกลัวสิรินจะเศร้า มือของทั้งคู่จึงจับกันไว้จนถึงวัด มาร์โก้ที่นั่งมองจากเบาะหลังก็ได้แต่มองด้วยสายตาอบอุ่น

คราวนี้คุณต้องดีใจแน่สุทิน ต้องดีใจเหมือนผมแน่ๆ ลูกของเราเจอคนที่ตามหาแล้ว...

หลังจากใส่บาตรเช้าคนทั้งสามก็ถวายสังฆทาน กวาดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้คนตาย จากนั้นจึงเดินไปยังบริเวณที่ตั้งเจดีย์เก็บกระดูก

ลมพัดผ่านวูบหนึ่งดังต้อนรับผู้มาเยือน สิรินนั่งลงวางดอกไม้ที่เตรียมมา พ่อของเขาชอบดอกทานตะวัน ทุกครั้งที่มาจึงเตรียมมาให้เสมอ แม้คนที่จากไปแล้วอาจจะไม่รับรู้ แต่เขาก็อยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

“พ่อครับ ผมสบายดี ไม่ต้องห่วง” แม้ถามไปก็ไม่อาจได้รับคำตอบ ทุกครั้งสิรินจึงเป็นฝ่ายเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้พ่อฟังเสมอ เรื่องราวดีๆ มากมายถูกหยิบยกขึ้นมากล่าว ถึงจะเป็นตอนนี้เขาก็ยังอยากให้พ่อสบายใจ

ดำมองสิรินที่เผยแววตาเศร้าสร้อย แต่ก็แฝงความอบอุ่นอยู่ในนั้น คุณสินรักพ่อมาก ดำสัมผัสได้

“ส่วนทางนี้คือดำครับ เขาเป็นคนที่ทำให้ผมมีความสุข” สายตาถ่ายทอดความจริงใจ รอยยิ้มค่อยๆ แต่งแต้มที่มุมปาก เขาอยากแนะนำให้พ่อได้รู้จักกับดำมากที่สุด อยากให้เห็นคนที่เขารักและอยากปกป้อง

ดำนั่งลงข้างสิริน รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อยู่ในน้ำเสียงนั้น

“สวัสดีครับ ไอ้ดำชื่อไอ้ดำครับ ตอนนี้ไอ้ดำอยู่กับคุณสิน ไอ้ดำเป็นเด็กดี เชื่อฟังคุณสินมากๆ แล้วก็จะปกป้องคุณสินเองครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ” พูดจบก็ทุบอกตุบๆ 2 ครั้ง เพื่อยืนยันสิ่งที่ตนพูด แน่วแน่ในคำสัญญาที่ให้ไป ยึดเป็นคำกล่าวอันมั่งคงภายในใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดก็จะไม่สั่นคลอน

ลมวูบผ่านอีกครั้ง ไม่ได้เย็นจนหนาว แต่กลับมีความอบอุ่นแฝงอยู่

“พ่อคงรับรู้แล้ว” สิรินลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่กำลังยกยิ้มกว้างให้กับเขา

เห็นไหมครับพ่อ เด็กคนนี้เหมือนดอกทานตะวันที่พ่อชอบเลย ทั้งเปล่งประกาย ทั้งสดใส ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมีความสุข พ่อก็ชอบดำเหมือนกันใช่ไหมครับ...

หลังจากนั้นดำกับสิรินก็หลบออกมา ให้มาร์โก้ได้มีเวลาพูดคุยกับคนรักเป็นการส่วนตัว สิรินทำเช่นนี้เสมอ เพราะรู้ดีว่าสำหรับมาร์โก้แล้วคงมีเรื่องราวที่รับรู้ได้เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น

ในระหว่างรอ สิรินพาดำเดินเล่นในวัด ดำสนใจกับทุกสิ่งอย่างเพราะมันเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ สถานที่แรกที่ดำอยากไปคือโบสถ์หลังใหญ่อันเป็นจุดสำคัญของวัด

ทั้งยังเล่าว่าในปีที่ดำจากมาก็มีโบสถ์ตั้งอยู่เช่นกัน เพียงแต่เล็กและโทรมกว่านี้มาก เขาจึงเล่าประวัติที่พอรู้ให้ดำฟังบ้าง

วันนี้เปลี่ยนชื่อจากวัดทำนบ เป็นวัดศรีบุญเรืองตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2504 และในปีนั้นก็มีการบูรณะโบสถ์อันเป็นจุดสำคัญของวัดจนมีขนาดใหญ่ตามที่เห็นในปัจจุบัน

ยิ่งเข้าไปด้านในดำยิ่งตื่นเต้น ภาพจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามนั้นน่าหลงใหล หลังจากไหว้พระพุทธรูปในโบสถ์แล้ว สิรินก็ปล่อยให้ดำได้นั่งมองภาพรอบด้านจนพอใจแล้วจึงออกมาด้านนอก

การทำบุญในยุคปัจจุบันดูแปลกตา ดำทั้งสนใจทั้งไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง พอสิรินพาเดินไปทางไหนก็ตื่นเต้นไปเสียหมด และที่ดำชอบที่สุดก็คือระฆังที่เรียงรายเอาไว้ เสียงอันไพเราะ กลิ่นอายมีมนตร์ขลัง ยิ่งได้เดินเคียงคู่ร่วมลั่นระฆังยิ่งรู้สึกผูกพันลึกซึ้งมากขึ้น

เหมือนหัวใจเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน สายตาอบอุ่น ฝ่ามือแข็งแกร่ง ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกันทุกครั้งที่เดินไปข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่งดงามจนต้องสลักไว้ในส่วนลึกของจิตใจ

พวกเขาจะไม่มีทางลืมช่วงเวลาเหล่านี้โดยเด็ดขาด...

กว่าจะออกจากวัดก็สายมากแล้ว ถึงช่วงเวลาที่ห้างเปิดพอดิบพอดี พวกเขาจึงตัดสินใจไปกินข้าวที่ร้านอาหารแทนที่จะกลับไปทำอาหารเองที่บ้าน ให้มาร์โก้ได้พักผ่อน พวกเขาควรใช้เวลาอย่างสบายๆ ในวันที่สำคัญเช่นนี้

เพราะเป็นช่วงเช้า สิรินไม่อยากให้ดำกินจนแน่นท้องมากนัก จึงเลือกร้านแบบสั่งเป็นชุดพร้อมทาน ไม่ใช่แบบบุฟเฟ่ต์ที่ดำชอบ

ดำไม่คัดค้าน อย่างไรอาหารหลักของดำก็ต้องข้าวเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่ได้กินข้าวจะหิวเร็ว สิรินเข้าใจดำที่สุดดังนั้นคนตัวเล็กจะกล้าขัดได้อย่างไร

ภาพอาหารในเมนูละลานตาจนดำเลือกกินไม่ถูก เซตอาหารหน้าตาน่าทานเรียงรายเอาไว้บนหน้ากระดาษ ไม่ว่าจะเปิดไปกี่หน้าก็ล้วนแล้วแต่เป็นภาพสีทั้งสิ้น แม้เมนูเหล่านี้จะไม่คุ้นตา ทั้งชื่อก็แปลกประหลาด แต่ดำก็ยอมรับว่ามันน่ากินไปเสียหมดทุกอย่าง

“ยังเลือกไม่ได้อีกเหรอ” สิรินถามเมื่อดำเปิดเมนูรอบที่ 3 และยังคงขมวดคิ้วมุ่นทั้งที่น้ำลายไหลเลอะมุมปาก

“มันน่ากินทุกอย่างเลยไม่ดำเลือกไม่ได้ครับ” เงยหน้าพร้อมเช็ดปากแบบลวกๆ เดี๋ยวคุณสินจะมองไอ้ดำไม่ดี

“ดำอยากกินข้าวก็ตัดเมนูที่ไม่มีข้าวออกก่อน แล้วก็เลือกเมนูที่เป็นเซตดีกว่าจะได้เสิร์ฟพร้อมกับอย่างอื่นนอกจากข้าวด้วย” สิรินออกปากช่วยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เลือกให้ เขาอยากให้ดำเลือกของที่อยากกินด้วยตัวเองมากกว่าไปเจ้ากี้เจ้าการจัดการให้ไปเสียหมดไม่ได้ ดำไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ สิรินตระหนักถึงเรื่องนั้นดี

“ขอบคุณครับ” ดำยิ้มแป้น ได้ตัวช่วยมาแล้วก็ลองเปิดใหม่อีกครั้ง

อันนี้ไม่มีข้าว ข้ามๆ อันนี้ด้วย อันนี้ด้วย

ฟู่

เหลืออีกแค่ 3 หน้าแล้ว

ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อปลอมๆ หนึ่งทีราวกับว่าการเลือกอาหารเป็นเรื่องยากเหลือจะกล่าว จนต้องใช้พลังใจหักห้ามตัดทิ้งไปมากโข ก็ช่วยไม่ได้เล่นน่ากินทุกเมนูขนาดนี้ เวลาตัดทิ้งมันยากจริงๆ นะ

แต่หลังตัดใจได้ก็มองภาพอาหารเซตด้วยดวงตาแวววาว อย่างที่คุณสินพูดเป็นเซตได้เยอะกว่าจริงๆ ด้วย

หมู ไก่ เนื้อ ปลา กุ้ง จะกินอะไรดีนะ

สุดท้ายก็ต้องชะงักอีกรอบ แต่ด้วยความอยากของเด็กริมคลองแล้ว ปลาถือว่าเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ แซลมอนอร่อยที่สุดแต่เมื่อวานก็กินไปแล้ว ดำจึงจับจ้องปลาที่ตัวเองไม่รู้จักอย่างสนใจ

อ่านว่า ปลาซาบะย่างซีอิ๊วกะทะร้อน โห ไอ้ดำอ่านออก ไม่ติดขัดเลยด้วย คุณสินเก่งที่สุด สอนคนโง่ๆ อย่างไอ้ดำได้ขนาดนี้

ดำปลื้มกับความรู้สึกเหล่านี้ แต่ก่อนเขาต้องสะกดถ้าเจอคำที่ไม่เคยเห็น แต่หลังจากผ่านการติวเข้มมาเวลาอ่านหนังสือจึงคล่องปรื๋อจนตัวเองยังแปลกใจ

“ไอ้ดำอยากกินปลาซาบะย่างซีอิ๊วกระทะร้อนครับ” ตัดสินใจได้ก็หันไปบอกสิริน พร้อมๆ กับที่พนักงานเดินเข้ามารับเมนูเมื่อเห็นว่าลูกค้าเลือกอาหารได้แล้ว

สิรินสั่งข้าวหน้าหมู ส่วนมาร์โก้สั่งเป็นเซตหมูทอดทงคตสึ ในระหว่างรอดำก็เล่าเรื่องคลองแสนแสบให้ทุกคนฟัง

“แต่ก่อนคลองสวยมาก น้ำก็สะอาด ปลาเยอะแยะเลย ไอ้ดำมาเล่นน้ำประจำ พอตอนนี้เห็นแล้วใจหาย เพราะอะไรถึงมีสภาพแบบนั้นไปได้นะ เฮ้อ” ยิ่งคิดถึงปลาตัวใหญ่ๆ ยิ่งเสียดาย น้ำเสียขนาดนั้นไม่ใช่ว่าตายไปหมดแล้วเหรอ น้ำเริ่มมีสภาพแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ป่านนี้ทางนั้นน้ำเริ่มเปลี่ยนสภาพหรือยัง ยิ่งคิดยิ่งเป็นห่วง

“เพราะมีโรงงานปล่อยสารเคมีลงไปในแม่น้ำ ส่วนคนแถวนั้นก็ทิ้งขยะลงไปด้วย น้ำถึงได้มีสภาพแบบนี้ ...ไม่ต้องกังวลไปหรอกในปีที่ดำอยู่ยังไม่ได้มีโรงงานมากมาย” สิรินลูบหัวปลอบโยน ไม่อยากให้ดำคิดมาก แต่สิ่งที่เขาพูดก็ใช่ว่าจะไม่ใช่ความจริง เพราะอุตสาหกรรมพัฒนาเร็วมากในช่วงไม่กี่ปี ถึงได้ดูเหมือนมีมานาน ความจริงมันไม่ได้ยาวนานขนาดนั้น

“จริงเหรอครับ” ดำรู้สึกสบายใจขึ้น สิรินชอบเป็นแบบนี้ เหมือนเข้าใจความคิดของดำได้ง่ายๆ ทุกครั้งเวลาที่ได้รับฟังน้ำเสียงอบอุ่นถึงได้สบายใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

“โอ๊ะ มาแล้วๆ” เพียงไม่นานอาหารก็พร้อมเสิร์ฟ เพียงแต่...

“ของไอ้ดำล่ะ” ดำมองตาละห้อย ของคุณสินกับ ปะป๋ามาแล้ว แต่ของไอ้ดำหายไปไหน

ดูทงคตสึของปะป๋าสิ ข้างนอกเหลืองดูท่าจะกรุบกรอบ ด้านในมีหมูสีน้ำตาลดูนุ่มนิ่ม เห็นแล้วน้ำลายไหล ซู้ด ของคุณสินก็ใช่ย่อย หมูหั่นชิ้นพอดีคำ ผัดกับหอมหัวใหญ่จนกลายเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองวางเรียงรายบนสวยร้อนๆ กลิ่นหอมของเครื่องปรุงเรียกน้ำย่อยในกระเพาะให้ร้องได้เป็นอย่างดี

“ของดำมาทีหลัง คงเพราะต้องย่างปลาสดๆ รอก่อนนะ ไม่ไหวแล้วเหรอ” สิรินมองคนที่จดจ้องถาดอาหารด้านหน้าของเขา มองสลับไปมา ข้าวหน้าหมูที ทงคตสึที จนน้ำลายเริ่มไหล ดวงตาสะท้อนเป็นของกินตรงหน้าจนไม่สนใจสิ่งใดแล้ว

“หวะ ไหวครับ ไหวๆ” ดำตอบคำถาม และมันก็เป็นคำสั่งที่บอกให้ตัวเองอดทนด้วย

เอาน่า ของไอ้ดำต้องน่ากินกว่านี้แน่

“หึหึ แน่ใจนะ” สิรินเย้าแหย่ ก็ดูเข้าสิ บอกไหวแต่สายตายังไม่ละจากข้าวหน้าหมูของเขาเลย

“ครับ” อึก ไหวครับ ไอ้ดำไหว กลืนน้ำลายไว้ก็ได้ ไอ้ดำจะอดทน

“อา ถ้าอย่างนั้นที่คิดว่าจะให้ชิมข้าวหน้าหมูของฉันก่อน...ก็คงไม่ต้องสินะ” ดำหูผึ่ง หันไปมองหน้าสิรินทันที ส่วนสิรินก็เก็บรอยยิ้มมุมปากนั่นไว้ แกล้งเด็กน้อยของเขาเสียหน่อยช่างสนุกจริงๆ

ดูสายตาทั้งคาดหวัง ทั้งเสียดายนั่นสิ...จะเอาอย่างไรเจ้าจอมตะกละ

“ไอ้ดำ ไอ้ดำ เปลี่ยนคำตอบได้ไหมครับ” หลังจากอ้าปากพะงาบๆ ด้วยความอึ้ง สมองน้อยๆ ของดำก็นึกข้อแก้ตัวอะไรไม่ออก ได้แต่ส่งสายตาออดอ้อนไปให้สิรินเท่านั้น

คำขอแสนซื่อทำให้สิรินพอใจ แต่ก็ยังไม่คิดจะหยุดแกล้ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จุดขึ้นที่มุมปากอีกครั้งหลังเบือนหน้าไปมองด้านหน้าของตัวเอง

ท่าทีไม่รีบร้อน ขยับมือเปิดซุปมิโสะหอมฉุย หยิบช้อนตักซุปกินเล็กน้อย แล้วจึงเปลี่ยนเป็นตะเกียบคู่หนึ่งที่วางไว้ บรรจงคีมหมูขึ้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าปากอย่างช้าๆ

ตลอดเวลานั้นมันช่วงยั่วความอยากของดำเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะซุปหอมฉุย หรือหมูชิ้นพอดีคำที่อยู่บนข้าว ยิ่งมือสินเคลื่อนใกล้ปากมากเท่าใด สายตาดำก็ยิ่งจับจ้อง พร้อมกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า

ไอ้ดำอยากกินอะ!

รอยยิ้มของสิรินแทบจะเก็บไม่อยู่ แม้แต่มาร์โก้ยังต้องยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นขำ โอ๊ยลูกชายตัวน้อยน่ารักไปแล้ว แต่ดำไม่ได้รับรู้สิ่งเหล่านี้เลย เขาเพียงจ้อง จับจ้องเพียงหมูที่กำลังเคลื่อนเข้าปากสิรินเท่านั้น

ก่อนอ้าปากรับสิรินก็หยุดมือเอาไว้ แล้วจึงยื่นตะเกียบไปที่ปากดำแทน

น่าเอ็นดูเกินไปแล้วเจ้าตัวเล็ก

ดำมองหมูตรงหน้าสลับกับใบหน้าของสิรินไปมา เหมือนชั่งใจว่าเขากินได้จริงเหรอ พอสิรินพยักหน้าเท่านั้นก็อ้าปากงับหมูชิ้นที่เขาอยากกินทันที

เคี้ยวๆ เคี้ยวจนแก้มป่อง หลับตาพริ้มซึมซับรสชาติของหมูเนื้อนิ่ม ใบหน้าบ่งบอกว่าเจ้าตัวพอใจมากที่สุด

“อร่อยจังครับ” กลืนจนหมดก็ยิ้มแป้นให้สิริน แถมยังอ้าปากกว้างรอรับหมูอีกชิ้นอย่างไม่คิดจะพอ

“หึหึ พอแล้ว นั่นขอดำมาแล้ว” หันตะเกียบด้านที่ไม่เปื้อนเคาะหัวเบาๆ หนึ่งที แล้วจึงชี้บอกเมื่อพนักงานเดินมาถึงโต๊ะ น่าเอ็นดูไปแล้วเจ้าเด็กดื้อ

“ว้าว ปลาชิ้นใหญ่ๆ” ดำตาลุกวาว ละความสนใจจากหมูนุ่มนิ่มไปสนใจปลาโซบะย่างซีอิ๊วกระทะร้อนของตนทันที

ฟังเสียง ชี่ ชี่ ของกระทะร้อนๆ นั่นสิ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยมาก ไอ้ดำเลือกถูกจริงๆ ด้วย เย้

ความร้อนของกระทะทำให้น้ำซอสที่ราดบนตัวปลาหอมยิ่งขึ้น ยิ่งใกล้ยิ่งน่ากิน ขนาดเครื่องเคียงที่อยู่ในกระทะยังน่ากินเลย

งื้อ ไอ้ดำจะกินให้เกลี้ยง รอบนี้ต่อให้เป็นผักก็จะกินให้หมด ต้องอร่อยแน่

“เอ้าๆ อย่ามัวแต่จ้อง เดี๋ยวน้ำลายก็หมดตัวก่อนหรอก กินได้แล้ว” มาร์โก้แหย่บ้าง ดูสิ สายตาบอกว่าอยากกินๆ แต่กลับไม่ยอมลงมือเสียที คงเพราะคาดเดารสชาติของมันสินะ เด็กหนอเด็ก

“คร้าบบบ” ดำลากเสียงยาว ก่อนจะค่อยๆ หยิบตะเกียบมาจิ้มๆ บนตัวปลา

นุ่มมาก นั่นคือสัมผัสแรกที่รู้สึกผ่านทางตะเกียบ ทำให้ดำกระตือรือร้นยิ่งกว่าเดิม พยายามคีบเนื้อปลาออกจากก้างอยางทุลักทุเล

ตะเกียบใช้ยากจัง ทำไมปะป๋ากับคุณสินใช้กันง่ายๆ เลยนะ

“เอาช้อนกดไว้ก่อน จะได้คีบถนัดขึ้น เนื้อปลาจะหลุดง่ายกว่านะ” เห็นแล้วสงสาร สิรินจึงแนะนำไปเล็กน้อย

ดำหันมามองพร้อมสายตาที่สื่อว่า

‘ คุณสินฉลาดที่สุดเลย ไอ้ดำโง่ตั้งนาน’ แล้วจึงหันไปหยิบช้อนแล้วตั้งหน้าตั้งตาคีบเหนือปลาออกมาได้จนหมด

คราวนี้ล่ะ ไอ้ดำจะได้กินทีเดียว ค่อยๆ คีบมันช้า หึหึ ไอ้ดำก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย

หลังจากนั้นสิรินกับมาร์โก้ปล่อยให้ดำสุขสมกับโลกส่วนตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ พวกเขาเพียงกินพรางหันไปมองดำเป็นระยะเท่านั้น

ข้าวก็นุ่มปลาก็นุ่ม ซอสยิ่งหอม อื้ม เข้ากับเนื้อปลาที่สุด ยิ่งตักซอสไปคลุกข้าวด้วยยิ่งอร่อย ไอ้ดำขออีกชุดได้ไหมนะ อร่อยจนหยุดกินไม่ได้เลย ขนาดแครอทที่ไอ้ดำไม่ชอบยังอร่อย คงเพราะซอสซีอิ๊วอันนี้ ทั้งแครอทยังหั่นพอดีคำ เนื้อด้านในก็นุ่มนิ่ม เข้ากับซอสบนตัวปลาได้เป็นอย่างดี

ซุปหอมๆ ที่ได้แต่มองคุณสินกินก็อร่อย ถึงจะจืดไปเล็กน้อย แต่ดำชอบสาหร่ายที่อยู่ด้านในมาก เนื้อสาหร่ายลื่นๆ เวลาเคี้ยวก็ให้รสสัมผัสที่เหนียวนิดๆ แต่ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอร่อยจริง ตบท้ายด้วยสลัด ผักที่หั่นเป็นฝอยกับมะเขือเทศลูกเล็กแปลกตาชวนลิ้มลอง ราดด้วยน้ำสลัดสีขาว ยิ่งกินกับมะเขือเทศลูกเล็กก็ยิ่งอร่อย มันหวานต่างจากที่เคยกินกว่าปกติมากทีเดียว

สุดท้ายดำก็กินอาหารเซตปลาซาบะย่างกระทะร้อนของตนจนหมดเกลี้ยง ทั้งยังขอสั่งเพิ่มอีก 2 ชุด แถมท้ายด้วยเกี๊ยวซ่าทอดกับซูชิคำโต เรียกได้ว่าจุใจจนเกินกว่าเป็นมื้ออาหารเช้าแบบเบาๆ เชียวล่ะ

:: :: ::
วันเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ดำต้องไปโรงเรียน วันพรุ่งนี้ก็เป็นวันปฐมนิเทศแล้ว ดำตื่นเต้นทั้งวันกว่าจะกล่อมให้นอนได้ก็ใช้เวลาเกือบค่อนคืน

สิรินจับจ้องใบหน้าหลับพริ้มมีความสุขของดำ ความจริงส่วนลึกเขาไม่อยากให้ดำไปโรงเรียนเลย อยากจะขังคนตัวเล็กเอาไว้เป็นของเขาเพียงคนเดียว แต่ด้วยความรู้สึกของดำแล้ว สิรินรู้ดีว่าไม่ควรทำ และเพื่ออนาคตที่ดีของดำ เขาควรให้ดำได้เรียนรู้โลกกว้าง ดำควรมีอิสระของตัวเอง

แต่ใครจะรู้เล่าว่าเขาให้อิสระกับดำนั้น มันก็มีขอบเขตอยู่ ไม่มีทางเลยที่สิรินจะปล่อยให้ดำหลุดมือ เขาพันธนาการดำไว้ด้วยความรู้สึก และปัจจัยรอบด้าน

มั่นใจแล้วว่าดำไม่อาจหนีเขาไปไหนได้แล้วจึงเปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ ยอมรับสภาพที่ควรจะเป็น เพราะรู้ดีว่าการไร้อิสระทางความคิดมันทรมานยิ่งกว่าสิ่งใด

“ดำ เธอเป็นของฉัน เป็นคนสำคัญของฉันเข้าใจรึเปล่า ฉันไม่ปล่อยให้ดำหนีไปไหนแน่” สิรินจรดจูบบนหน้าผากเนียนอย่างแผ่วเบา แล้วจึงล้มตัวนอน กอดคนตัวเล็กเอาไว้ด้วยความรู้สึกหวงแหน ต่อให้พรุ่งนี้เป็นเช่นไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยมือ









โปรดติดตามตอนต่อไป...



__________________________________________

มาแล้วค่ะ กลับมาแล้ว กรีนสารภาพผิด

หลงลืมวันลืมคืนจริงๆ นึกว่าผ่านมาไม่กี่วันรู้สึกตัวก็ปาไป 10 แล้วค่ะ

ตอนต่อไปจะรีบลงนะคะ กรีนขอโทษจริงๆ

ขอบคุณทุกคอมเมนท์ด้วยน้า ชอบความอินของทุกคน

มีความสุขมากกกก ที่ทุกคนหิว5555

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปหาอะไรกินกันนะคะ กรีนเป็นห่วง หุหุหุ

(ช่วงนี้วุ่นๆ หน่อย คงไม่ค่อยได้ตอบคอมเมนท์ ขอโทษจริงๆ ค่ะ)










ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
 o13 ดำน่าเอ็นดู/อ่านจบหิวเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กระเพาะของดำนี่ ขยายได้มากเลยนะ นับถือๆ o13

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องดำน่ารัก~ :hao5:

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
นับวันน้องดำแก้มกลมก็ยิ่งน่ารักน่าเอ็นดู ..ใจบางหมดแล้วว  o2

ออฟไลน์ talbubbub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากเป็นไอดำ คุณสินนนนนนนนนนนพาน้องไปอยู่ด้วย :z1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
 :katai1:รู้สึกหิวว
ดำน่าร้ากกกกกกกก

ออฟไลน์ missme1485

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮื้ออออ ดำลู้กกกกก น้อนนนน เอ็นดูอ่ะ อยากพาหนูไปเลี้ยงชาบูเลี้ยงทุกอย่างที่หนูอยากกินเลยคนดี ;////;

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 10
«ตอบ #89 เมื่อ30-04-2018 22:05:13 »

เปย์ครั้งที่  10

‘สามเพลงตกม้าตาย’

การพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสู้เพียงไม่นานก็แพ้เสียแล้ว


เสียงพูดคุยจอแจดังขึ้นไม่ขาดสาย วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศของบรรดานักเรียนชั้นมัธยมทั้งหลาย หลังแยกกับผู้ปกครองที่ต้องร่วมประชุมกับโรงเรียนพวกเขาก็ต้องตามหาห้องของตัวเองเพื่อพบเพื่อนๆ และคุณครูที่ปรึกษาก่อนจะเริ่มต้นเรียนในวันพรุ่งนี้

หลังจากสิรินให้มาร์โก้เข้าร่วมประชุมในฐานะผู้ปกครอง และตามก็มาส่งดำถึงห้องเรียน เขาก็ต้องแยกตัวกลับไปมหาวิทยาลัยในทันที เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุดของเขา มหกรรมการฝึกงานในปีสุดท้ายนั่นเอง

ดำพยายามท่องทุกอย่างที่สิรินสั่งไว้

‘อย่าดื้อ ต้องตั้งใจเรียน อย่าให้ใครรังแกได้ เพราะดำตัวเล็กอาจโดนเพ่งเล็งง่ายๆ เข้าใจไหม ถ้าถูกแกล้งให้มาบอกฉัน ฉันจะปกป้องดำเอง’

รอยยิ้มอบอุ่น กับสัมผัสบางเบาบนหน้าผากทำให้ดำจำยอม รับปากอย่างง่ายดาย แม้ใจจะค้านเล็กน้อยก็ตาม

คุณสินจุ๊บๆ หน้าผากไอ้ดำอีกแล้ว อบอุ่นจัง ไอ้ดำชอบที่สุดเลย

ดำมองส่งสิรินจนลงหายไปจากมุมมองของสายตา แล้วจึงยกมือแตะหน้าผากอมยิ้มมีความสุข สิรินสัมผัสร่างกายเขามากขึ้น แต่ดำกลับไม่เคยคิดรังเกียจ ออกจะชอบเสียด้วยซ้ำ...ก็ทุกครั้งที่ถูกกอดถูกหอม มันอบอุ่นสุดๆ ไปเลยนี่นา

หลังจากยืนยิ้มจนพอใจดำจึงเปิดประตูเข้าห้องของตัวเอง ม.4/2 ห้องที่ดำต้องมาเรียนตลอดหนึ่งปีนี้ เพราะโรงเรียนมีระบบย้ายห้องทุกปี ไม่ได้วัดระดับคะแนน แต่คละกันแบบสุ่มเพื่อให้นักเรียนได้เปิดรับเพื่อนใหม่ๆ มากขึ้น ได้เรียนรู้สังคมที่หลายรูปแบบมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

เหล่าเพื่อนนักเรียนจดจ้องดำเป็นตาเดียว แต่ดำหาได้สนใจ เขามองหาโต๊ะที่ว่างก่อนจะเข้าไปนั่ง ทำตามลำดับขั้นตอนที่สิรินเคยบอกได้เป็นอย่างดี เพราะเขาไม่เคยมาโรงเรียนสิรินจึงเล่าลำดับขั้นตอนของการเป็นนักเรียนให้ฟังเสมอ

แม้ไม่ได้ขีดเส้นว่าดำต้องทำตัวอย่างไร แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างเข้าห้องแล้วควรทำอะไร คุณครูให้แนะนำตัวต้องตอบแบบไหนบ้าง หรือช่วงเวลาต่างๆ ของโรงเรียนมีกำหนดการเช่นไรสิรินล้วนบอกกล่าวแก่ดำแล้วทั้งสิ้น

‘นั่งโต๊ะแล้วรอคุณครู ถ้ามีเพื่อนมาพูดด้วยก็คุยได้ แล้วแต่ว่าดำอยากทำแบบไหน ช่วงนี้จะปล่อยให้นักเรียนได้ทำความรู้จักกัน ไม่ต้องคิดมาก’

โต๊ะหน้าห้องยังว่างเปล่าไร้เงาของคุณครูที่จะมาพูดคุยในวันนี้ ดำเลือกนั่งโต๊ะข้างหน้าต่าง นับจากด้านหน้าอยู่แถวที่ 3 เพราะดูท่าเย็นสบายและตำแหน่งกำลังดี

“เอ่อ คือ” เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิง เรียกให้ดำหันมาสนใจ มีผู้หญิง 2 คนยืนอยู่ข้างโต๊ะของเขา

ดำเอียงคอน้อยๆ อย่างสงสัย ผู้หญิงสองคนนี้มีอะไรจะพูดกับไอ้ดำนะ

“ไฮ้ ฉันชื่อ ลิลิน นะ ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนยัยนี่ ชื่อ ขมิ้น พวกเรามีเรื่องอยากจะถามนิดหน่อยน่ะ” ผู้หญิงอีกคนเปิดปากถาม เพราะดูท่าหากรอให้เพื่อนตัวเองพูดคงต้องรออีกนานโข

“อื้อ ไอ้ดำ ชื่อ ดำ มีเรื่องอะไรจะถามเหรอ” ดำคิดว่าคนทั้งสองไม่ได้แย่จึงคุยด้วยอย่างปกติ ยิ้มแย้มน่ารักจนใครหลายคนต้องหันมามองรอยยิ้มเจิดจ้านั้น

“คือว่าเมื่อเช้าเราเห็นดำมากับผู้ชายอีก 2 คน ใครเหรอ ไม่เหมือนดำเลยอะ” ลิลินยังถามต่อด้วยเป็นผู้หญิงที่พูดขวานผ่าซาก เธอจึงถามตรงๆ แบบไม่เกรงใจ ต่างจากขมิ้นที่ยิ้นเขินอายเมื่อนึกถึงผู้ชายในชุดนักศึกษาเมื่อเช้า

ผู้หญิงหลายคนในห้องหูผึ่ง มีคนเป็นทัพหน้าถามแล้ว พวกเธอพอใจไม่น้อย จึงเริ่มลุกขึ้นมาล้อมวงดำ จนตอนนี้แทบจะมองดำที่นั่งตรงกลางไม่เห็น

“ใช่ๆ ใครเหรอ หล่อมาก คนที่เป็นชาวต่างชาติถึงจะแก่ไปนิดแต่ยังหุ่นเป๊ะอยู่เลย โอ๊ย ปลื้มคนแก่”

“คนที่เป็นนักศึกษาก็หล่อมาก เย็นชาแต่สายตานั่นทำฉันละลาย”

คนที่ได้เห็นมาร์โก้กับสิรินช่วงก่อนจะเข้าห้องต่างถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น นานๆ ครั้งจะเจอผู้ปกครองนักเรียนที่โดดเด่น พวกเธอจึงให้ความสนใจไม่น้อย บางคนปลื้มความหล่อ แต่ก็มีบางคนคิดจริงจังถึงเข้ามาตีสินิทกับดำเพื่อเป็นสะพานไปยังเป้าหมาย

ดำฟังคำชมของนักเรียนหญิงคนแล้วคนเล่า จึงได้แต่ยิ้มภูมิใจในตัวสิรินกับมาร์โก้

ก็ช่วยไม่ได้ที่คนจะสนใจ ขนาดไอ้ดำยังคิดว่าปะป๋ากับคุณสินหล่อมากเลย เหมือนพวกดารา นายแบบที่เห็นในทีวี เวลาไปไหนก็ดูโดดเด่นสุดๆ ไม่แปลกที่คนจะสนใจ ไอ้ดำล่ะปลื้ม เหมือนได้รับคำชมเองเลย

“ลูกพี่ กับปะป๋า ของไอ้ดำเอง” ดำยืดอกรับคำชมอย่างภูมิใจ มีแต่คนชมล่ะดีจัง

“จริงเหรอ ไม่เหมือนกันเลย ลูกพี่ นี่คือลูกพี่ลูกน้องสินะ” คำตอบของดำทำให้คนสนใจมากขึ้น พวกเธอยังซักไซ้หาคำตอบจนกว่าจะพอใจ

“เฮอะ เสี่ยเลี้ยงล่ะสิไม่ว่า” เสียงของเด็กชายคนหนึ่งแทรกขึ้น เจ้าคนตัวเล็กที่ไม่ต่างจากเด็ก ม.ต้น นั้นกล้าดีอย่างไรจึงแย่งความสนใจไปจากเขาเสียหมด เป็นแค่นักเรียนใหม่แท้ๆ คงต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว

“หมายความว่ายังไง เต็ม นายจะกล่าวหาเพื่อนลอยๆ ไม่ได้นะ” ลิลินโต้กลับ เธอไม่ชอบการกล่าวหาใครโดยไม่มีมูลความจริงแบบนี้ที่สุด

“ใครว่ากล่าวหาลอยๆ ฉันเห็นเต็มๆ ตาว่าไอ้หน้าหล่อนั่นจูบหน้าผากไอ้เตี้ยนี่” เพราะเดินตามหลังดำมาตั้งแต่ขึ้นตึกเขาจึงเห็นภาพนั้นเข้าพอดี จะหาว่าเขากล่าวหาได้อย่างไร

“จริงเหรอเนี่ย”

“บ้าจริง ฉันอุตส่าห์หวัง สุดท้ายชอบผู้ชายหรอกเหรอ”

“นั่นสินะ ดำหน้าตาน่ารัก ไม่แปลกที่จะเลี้ยงไว้ทำอะไรๆ แบบนั้น”

เสียงซุบซิบดังขึ้นอีกระลอก มีคนเอนเอียงเชื่อคำบอกเล่าของเต็ม ส่วนดำนั้นไม่เข้าใจ จูบหน้าผากมันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความน่ารังเกียจของคำพูด มันคล้ายกับคำพูดของชายที่เจอหน้าลิฟต์มากทีเดียว

“ลูกพี่คือ พี่ชาย ปะป๋า คือ คุณพ่อ มันเข้าใจยากตรงไหนเหรอ” ดำเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ แต่สมองก็ขบคิดคำอธิบายที่คิดว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจ

คุณสินบอกว่าตอนนี้ไม่ใช้คำว่าลูกพี่ คุณสินคือพี่ชายของไอ้ดำ ส่วนปะป๋าคือพ่อบุญธรรม คำอธิบายง่ายๆ เหล่านี้คงไม่ได้ทำให้พวกเขาเข้าใจยากนักใช่ไหม

คนตัวเล็กยืนขึ้นเต็มความสูง แต่ก็สูงกว่าผู้หญิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะโทษใครได้ก็ไอ้ดำโตช้าเอง น้องๆ ก็เริ่มสูงกว่าไอ้ดำหลายคนแล้ว พูดถึงแล้วเศร้ากับความเตี้ยของตัวเอง แล้วยังจะมาย้ำอีก โกรธจริงๆ แล้วนะ

“นั่นสิ พ่อของดำก็เป็นคนต่างชาติการกอดจูบสำหรับต่างประเทศก็เป็นเรื่องปกติ นายจะเอามากล่าวหาเพื่อนไม่ได้” ลิลินยังกางปีกปกป้อง ดำน่าเอ็นดูเหมือนน้องน้อยขนาดนี้ จะปล่อยให้พวกเกเรมารังแกไม่ได้ อีกทั้งเธอก็เชื่อแบบนั้น เวลาดูภาพยนตร์ก็เห็นๆ กันอยู่ไม่ใช่เหรอ

“เฮอะ เธอเชื่อลงได้ยังไงว่าเป็นพ่อ เศษเสี้ยวความเหมือนก็ไม่เห็นจะมี มองยังไงไอ้เตี้ยนี่ก็คนไทยชัดๆ” เต็มยังเถียงเสียงแข็ง ต้องทำให้ทุกคนเชื่อให้ได้ เขาพูดเต็มปากเต็มทำขนาดนี้ยังจะมีใครกล้าไม่เชื่ออีก

“นายไม่รู้จักระบบพ่อลูกบุญธรรมรึไง โตจนขึ้น ม.ปลาย แล้วยังโง่อยู่อีกเหรอ” ฝ่ายที่โต้กลับยังคงเป็นลิลิน ดำเพียงมองเต็มด้วยสายตาไม่พอใจเท่านั้น

ผู้ชายคนนั้นดูสูงกว่าเขาหลายเซนติเมตร ทั้งใบหน้าก็โดดเด่นไม่น้อย ถึงจะเทียบคุณสินกับปะป๋าไม่ติดก็เถอะ ไอ้ดำไม่เข้าใจทำไมถึงนิสัยไม่ดีแบบนี้

“ลิลินเธอ! ” เต็มกัดฟันโกรธ ตะโกนอย่างเข่นเขี้ยว จากตอนแรกที่คิดว่าตนเองเป็นต่อ พอโดนด่าว่าโง่ความโกรธก็เข้าครอบงำ ตวัดสายตาโกรธเกรี้ยวไปมองดำผู้เป็นต้นเหตุในทันที

ลิลินเป็นผู้หญิงสวยและเก่ง เขาก็สนใจเธออยู่ไม่น้อย ไอ้เด็กเตี้ยนี่มีดีอะไรถึงแย่งความสนใจจากเธอไปหมด

ดำจดจ้องสายตาที่พร้อมจะมีเรื่องคู่นั้น เขาทั้งงุนงงทั้งไม่พอใจ เพราะไม่เข้าใจว่าเหตุใจชายคนนี้ถึงเข้ามาหาเรื่องตนโดยไร้สาเหตุ ทั้งยังว่าร้ายคุณสินอีก แบบนี้ไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ

ดี! ถ้าอยากมีเรื่องกับไอ้ดำนัก ไอ้ดำก็จะจัดให้ ให้รู้ซะบ้างว่าไอ้ดำไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครรังแกง่ายๆ ไม่ต้องถึงมือคุณสินหรอก เรื่องแค่นี้ไอ้ดำจัดการเอง!

“หยุดพูดจาชวนงงพวกนั้นสักที ถ้าอยากมีเรื่องนักก็บอกไอ้ดำตรงๆ” ดำเดินเข้าไปขวางหน้าลิลินเอาไว้ เขาไม่ชอบให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะปัญหาของตัวเอง ยิ่งลิลินเป็นผู้หญิง สู้กันมีแต่จะเสียเปรียบ

สายตาของเต็มแข็งกร้าวขึ้น จ้องมองคนตรงหน้าอย่างเต็มตา ตัวเตี้ยทั้งยังผอมแห้ง ทั้งใบหน้ายังติดหวานเล็กน้อย ดวงตาก็กลมโตเกินเด็กผู้ชายนั่นอีก ดูเหยาะแหยะไร้กำลัง เหอะ คิดจะมีเรื่องกับเขาอย่างนั้นเหรอ ลักษณะแบบนี้คือพวกอ่อนแอที่ต้องโดนแกล้งชัดๆ

หรือคิดว่าขึ้น ม.ปลาย แล้วจะเก่งขึ้น ก็เลยอวดเก่งต่อหน้าผู้หญิง เหอะ ดี เขาจะเอาให้มันขายหน้าจนไม่กล้าโผล่มาโรงเรียนเลย

“เออ กูอยากมีเรื่องกับมึง แล้วไงวะ” เต็มยื่นมือไปคว้าคอเสื้อนักเรียนสีขาวของดำ ดำก็ไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้อีกฝ่ายดึงคอเสื้อจนเท้าลอยจากพื้นเล็กน้อย เพราะน้ำหนักที่เบาของตัวเอง

เสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้น พวกผู้หญิงกรีดร้องตกใจ ถอยออกห่าง แม้แต่ลิลินก็ต้องถอยเพราะเพื่อนดึงออกมากลัวเธอจะโดนลูกหลง อย่างไร 2 คนนั้นก็เป็นผู้ชาย ถ้าลงมือกันต้องรุนแรงแน่ๆ อย่าเข้าใกล้จะดีกว่า

ส่วนพวกผู้ชายเองก็ส่งเสียงเชียร์คึกคัก มาโรงเรียนวันแรกก็เจอเรื่องสนุกเสียแล้ว ดูซิ เจ้าตัวเล็กนั่นจะตอบโต้เต็มอย่างไร เจ้านั่นเป็นตัวแทนนักมวยของโรงเรียน ทั้งยังได้รางวัลรองชนะเลิศระดับจังหวัดเขียวนะ มันถึงได้กล้าหาเรื่องไม่กลัวใครแบบนี้...แต่ดูคนถูกซ้อมน่าสนุกไม่เลว

เพราะเสียงเชียร์ดังก้องห้องอื่นๆ ที่อยู่ในชั้นเดียวกันจึงมีบางคนสนใจเข้ามาดู ทั้งยังไม่ถึงเวลาที่ครูขึ้นมาพูดคุยกับนักเรียน ปล่อยให้นักเรียนได้มีเวลาทำความรู้จักกันเอง ทุกอย่างถึงได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครไปบอกคุณครู ปล่อยให้คนทั้งคู่ได้มีเรื่องกันอย่างเต็มที่

เต็มใช้หางตามองรอบข้างแล้วยิ้มมุมปาก ดีมากันเยอะๆ มามองดูให้พอใจ จะได้ทำให้มันอับอายตามที่คิดเอาไว้ ซ้อมเสร็จแก้ผ้าประจานก็ไม่เลว หรือจะให้คานเห่าบ๊อกๆ รอบห้องดีนะ

“จะเริ่มได้รึยัง” ดำมองรอยยิ้มร้ายนั่นแล้วคิ้วกระตุก เกลียดคนที่คิดว่าตัวเองเป็นต่อแบบนี้ที่สุด คงคิดว่าจะทำอะไรกับเขาหลังจากชนะอยู่สินะ เดาได้ไม่ยากเลย น่าหงุดหงิดเป็นบ้า รอผู้ชมอยู่รึไง หรือเก่งแต่เห่าไม่กล้าลงมือจริง

เสียงของดำยั่วโทสะของอีกฝ่ายให้พวยพุ่ง เต็มง้างหมัดขึ้นเตรียมอัดใบหน้าเล็กๆ นั่นในทันที

“ก็เริ่มอยู่นี่ไงวะ” สิ้นเสียงสบถหมัดก็เคลื่อนถึงหน้าดำพอดิบพอดี แต่ดำเบี่ยงตัวหลบเพียงเล็กน้อยก็หลบหมัดนั้นได้เสียแล้ว

แรงใช้ได้ทีเดียว ฝีมือสูสีกับพวกที่เคยสู้ด้วยเลย ความจริงไอ้ดำอยากลองรับสักหมัด อยากรู้จริงๆ ว่าแรงขนาดไหน แต่ว่าถ้าปะป๋ากับคุณสินเห็นแผลที่หน้าเข้าไอ้ดำต้องโดนดุหาว่าเป็นเด็กดื้อแน่ๆ ไม่ดีๆ ไอ้ดำต้องเป็นเด็กดีถึงได้รางวัล

สมน้ำหน้าตัวเองเถอะที่เลือกต่อยผิดที่ ถ้าที่ท้องไอ้ดำจะยอมให้สักหมัดแท้ๆ

ชั่วเวลานั้นดำคิดหลายตลบแล้วจึงตัดสินใจได้ว่าไม่ควรโดนหมัดนั้น เพราะอีกเดี๋ยวจะต้องกลับห้องกับมาร์โก้แล้ว แผลหายไม่ทันแน่ๆ งานนี้มีแต่ต้องหลบเท่านั้น

การต่อสู้ของลูกผู้ชายต้องได้แผลถึงจะสะใจ หมัดแลกหมัด เลือดแลกเลือด จึงจะพอใจมากที่สุด แต่มันช่วยไม่ได้ ดำไม่อยากให้สิรินกับมาร์โก้มองไม่ดีจึงต้องละทิ้งการต่อสู้ที่ตัวเองชอบมากที่สุด

“อ่อน” ดำขยับปากพูดแผ่วเบา แต่มันก็มากพอที่จะให้คู่ต่อสู้ได้ยิน สร้างความไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเต็ม เหวี่ยงมือที่จับคอเสื้อดำอยู่ให้เข้ามาหาหมัดของตนที่ปล่อยออกไปอีกครั้งทันที

ดำกระเด็นตามแรงเหวี่ยง แต่ก่อนที่หมัดจะปะทะกับใบหน้าเขาก็ยกมือทั้งสองหยุดเอาไว้ทัน บิดข้อมือของอีกฝ่ายแล้วผลักออกไปในทันที

“โอ๊ย” ด้วยความเจ็บแปลบที่ของข้อมือขวาทำให้มือที่จับเสื้ออยู่ปล่อยออกอัตโนมัติ ถอยตามแรงผลักนั้นไป สองสามก้าวก็กลับมาจ้องมองดำด้วยสายตาไม่ยอมแพ้อีกครั้ง แต่ในดวงตานั้นก็มีคลื่นระลอกหนึ่งปรากฏขึ้นเบาบางก่อนจะจางหายไป

เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเก่ง!

“วู่ๆ อะไรวะ รองแชมป์ระดับจังหวัดมีฝีมือแค่นี้เองเหรอ ฮ่าๆ อ่อนว่ะ คู่ต่อสู้ตัวแค่นี้ก็ชนะไม่ได้” เสียงกระหึ่มดังขึ้นอีกครั้ง เยอะเย้ยถากถางคนที่เสียท่าเมื่อครู่ทันที มันเคยกลัวเต็ม พอเห็นอีกฝ่ายพลาดท่าจึงอดไม่ได้ที่จะเยอะเย้ย

“หุบปาก มึงดูให้ดีกูจะกระทืบไอ้เตี้ยนี่ให้ตายคาตีน” เต็มหันไปเถียงก่อนจะพุ่งเข้าคลุกวงในกับดำอีกครั้ง สเต็ปการก้าวขานับว่าว่องไว ทั้งการปล่อยหมัด ก็ใช่จะช้า หรือเบาลง แต่ทุกครั้งดำก็เพียงยกมือขึ้นมาปัดป้องจนสร้างความโมโหแก่เขาไม่น้อย

“น่ารำคาญ” ดำขยับปากอีกครั้ง ความไม่พอใจฉายชัดขึ้นในดวงตา จากคิดว่าจะได้สู้กับคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียม แต่พอถูกยั่วโมโหการออกหมัดของเต็มก็ยุ่งเหยิงไปหมด น่ารำคาญจริงๆ

หมัดขวาเฉียดเข้าไปหน้า ดำหลบก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกก้าวหนึ่ง อาศัยช่องว่างที่หมัดยังลอยกลางอากาศไม่อาจดึงกลับมาได้ทัน เข้าประชิดตัวคู่ต่อสู้แล้วปล่อยหมัดขวาใส่ท้องอีกฝ่ายทันที

“อั๊ก” เต็มชะงักหมัดอยู่เช่นนั้นแล้วขาก็ค่อยๆ ทรุดลง สิ่งเดียวที่รับรู้คือเจ็บ หมัดของดำหนักมาก เพราะไร้นวมกระดูกนิ้วมือกับซี่โครงปะทะกันเข้าพอดี จุกจนแทบทรุดลงไปกับพื้นเสียเดี๋ยวนั้น

แต่ดำก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายสบายถึงเพียงนั้นยกเท้าขึ้นถีบที่เดิมจนเต็มกระเด็นไปขนกำแพงห้องด้านหลังแล้วจึงค่อยทรุดตัวลงนอนกุมท้อง ทั้งยังไอออกมาอย่างทรมาน ดวงตาพร่าเลือนพยายามมองใบหน้าเรียบเฉยของดำ ในใจไม่อย่างจะเชื่อว่าเขาแพ้ให้กับคนที่ตัวเล็กเพียงแค่นี้

ดำชำนาญที่สุดคือการเอาชนะคนที่ตัวโตกว่า ด้วยเพราะร่างกายเขาเล็กกว่าใครๆ จึงหมั่นฝึกฝนให้เรี่ยวแรงของตนเยอะกว่าปกติเสมอ ฝึกฝนทักษะทั้งหมดที่ตนเองจนเก่งขึ้น แอบมองค่ายมวยที่ฝึกอย่างหนักแล้วนำมาฝึกด้วยตนเอง จนในที่สุดเขาก็หาหนทางที่ทำให้ตนเองแข็งแกร่งได้สำเร็จ

แต่ระดับของเขาก็ไม่ได้สูงนักยังสู้พวกผู้ใหญ่ไม่ได้ แม้ฝึกผ่านการต่อสู้จริงมามากมายก็ยังไม่อาจก้าวข้ามคนเหล่านั้นได้เสมอ ดำจึงไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่ง แต่กลับประเมินศัตรูได้อย่างถี่ถ้วน คนไหนเก่งกว่า คนไหนอ่อนแอกว่า คนไหนมีทักษะต่อสู้ใกล้เคียงกันล้วนแล้วไม่อาจรอดพ้นสายตาไปได้

เต็มเป็นอีกคนหนึ่งที่ดำคิดว่าฝีมือสูสีกับตน แต่ยังขาดประสบการณ์จึงทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เพียงถูกยั่วยุจากคนรอบข้าง ความอยากเอาชนะก็พานทำให้การออกท่าทางรวนไปหมด ดำจึงอดที่จะบอกว่าน่ารำคาญไม่ได้ มีร่างกาย มีฝีมือ แต่กลับไม่อาจดึงออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ไร้ค่าสิ้นดี

“ก๊าก ฮ่าๆ ดูดิวะ ดูๆ ไอ้เต็มจอมอวดเก่งแม่งนอนจมตีนไอ้เตี้ยนี่แทนว่ะ ฮ่าๆ สะใจโว้ย ว่าไงเต็ม คราวนี้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนวะ ฮ่าๆ” เสียงของชายคนเดิมดังขึ้นอีก ภายในห้องมีทั้งคนที่พอใจทั้งไม่พอใจเกิดขึ้น จะบอกว่าสะใจก็คงสะใจ แต่พูดทับถมคนอื่นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรกระทำ

ดำตวัดสายตาไปมองต้นเสียง นอกจากชายคนนี้แล้วยังมีอีกหลายคนที่หัวเราะออกมา แค่คนแพ้การดวลมันน่าหัวเราะนักหรือ

“นายพูดแบบนั้นแปลว่าคงเก่งกว่าเต็ม ฉันอยากสู้กับคนเก่งๆ อยู่พอดี ว่าไงออกมาสู้กันหน่อยไหม” ใบหน้ายิ้มแย้มแฝงอันตรายที่สิรินไม่เคยเห็นปรากฏขึ้น เวลาดำเข้าโหมดต่อสู้นิสัยจะเปลี่ยนไปเช่นนี้เสมอ เป็นนิสัยเสียๆ ที่เขาไม่อยากให้สิรินเห็นมากที่สุด

เต็มที่ได้แต่กัดฟันโกรธอย่างไรทางโต้เถียงมองดำอย่างไม่เข้าใจ เจ้าเตี้ยนั่นกำลังปกป้องเขาอยู่หรือ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

“หา คะ ใครจะสู้วะ” ชายคนนั้นตะลึงไป แทนที่ดำจะพอใจในคำพูดของเขาแต่กลับถูกหาเรื่องซะได้ นี่มันอะไรกัน

“ก็นายบอกว่าเต็มอวดเก่ง ดูถูกการดวลตัวต่อตัวของพวกเรานั่นก็แปลว่านายต้องเก่งกว่ามากๆ ถึงขั้นดูถูกคนอื่นได้ไม่ใช่เหรอ เพราะแบบนั้นไอ้ดำถึงท้าสู้อยู่นี่ไง...หรือความจริงเก่งแต่ปาก แบบนั้นไอ้ดำไม่พอใจหรอกนะ” ดวงตากลมโตแข็งกร้าว แสดงความรู้สึกออกไปตรงๆ พาให้ชายคนนั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดกลัว

“มะ ไม่ ไม่ใช่” ถอยหลังเพียงไม่กี่ก้าวก็ชนเก้าอี้จนล้มลงก้นจ้ำเบ้า ดูรนรานมากขึ้นเมื่อดำเดินเข้าไปหา คนที่มุงดูก็ตระหนักในใจว่าดำนั้นไม่ใช่คนที่ควรเข้าไปยุ่ง บางทีอาจอันตรายกว่าเต็มเสียอีก ต้องของใจเต็มแล้วที่เปิดโปงมันตั้งแต่แรก ถ้าปล่อยให้ภาพลักษณ์ภายหลอกตา ไม่แน่คนที่ต้องนอนกุมท้องอยู่ตรงนั้นอาจเป็นพวกเขาเอง

สายตาที่มองมามีทั้งคนที่กลัวดำ สนใจดำ ชื่นชมดำ แตกต่างกันออกไป ทั้งยังใจจดจ่อว่าดำจะทำอย่างไรกับคนที่ดูถูกการต่อสู้ของตนเอง

“แย่แล้ว! พวกครูพากันมาแล้ว”

“เฮ้ยจริงเหรอวะ หมดเวลาปล่อยฟรีแล้วเหรอ โถ่เอ๊ย! กำลังลุ้นเลย”


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด