[จบ]You're my fav person•คนโปรด•[Special Talk : HNY](01/01/2562)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบ]You're my fav person•คนโปรด•[Special Talk : HNY](01/01/2562)  (อ่าน 69076 ครั้ง)

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 21.2

"ทำกูต้องพูดแบบนั้นด้วย?"ใจผมกระตุกไปเล็กน้อยกับคำพูดของมัน แต่ก็ยังถามมันกลับไปด้วยน้ำเสียงยียวน

"ก็มันเป็นความจริง...แล้วมิทตี้อยากบอกเพื่อนว่าไงล่ะ"

"ไม่อยากบอก เพราะกูไม่อยากให้ใครรู้ว่ากูเป็นแค่คนโปรด...หรือเมียน้อยของคนอื่น"มุมปากผมกระตุกยิ้มหยัน แต่สีหน้าของลูคัสมืดครึ้มลงเรื่อยๆ

"อย่าพูดแบบนี้ มิทตี้ไม่ใช่เมียน้อย"มันเอ่ยเสียงเข้มลึก

"หึ! กูไม่ได้โง่นะ"ผมกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย นี่มันยังคิดว่าผมใสซื่อเหมือนตอนอายุสิบสองหรือไง

"กับคนอื่นพี่ไม่เคยสนใจ"

"แล้วคู่หมั้นมึงล่ะ มึงเอาเขาไปไว้ไหน? เลิกเห็นแก่ตัวสักทีเถอะลุค"ผมพูดออกไปอย่างสุดจะทน

"กับคาร่าพี่มีเหตุผลในการหมั้น พี่ขอเวลาอีกหน่อยแล้วพี่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย"

"มึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึง ไม่ต้องมาบอกกู"ว่าจบผมก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ แต่มันกลับยื่นมือเรียวมาขยี้เส้นผมของผมเบาๆ

"ไม่ใช่ว่ากำลังหึงพี่อยู่หรือไง?"

"อย่าฝัน!"ผมเงยหน้าตอบโต้ทั้งๆที่มีข้าวอยู่ในปาก เลยถูกมันมองดุๆเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร

ลืมไปว่ามันคุณชาย เรื่องเยอะที่หนึ่ง

หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างทานอาหารไปเงียบๆ มันชวนคุยบ้างเป็นบางครั้ง ผมก็ตอบมันบ้างไม่ตอบบ้างแล้วแต่อารมณ์

จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ในที่สุดมันก็จะพาผมไปเอาเสื้อพร้อมลายเซ็นต์ของโรเวลสักที

ผมอารมณ์ดีมาก รู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าสาวน้อยจะออกเดทครั้งแรกซะอีก

ไอ้เหี้ยลุคก็เหลือบสายตามองท่าทางผมนิดๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อถึงห้องมัน ผมก็เดินนำลิ่วเจ้าของห้องเข้าไปก่อน สายตาสอดส่องหาของไปทั่ว

"อยู่ไหนอ่ะ"ผมถามหาเสื้อ มันไม่ตอบแต่เดินนำเข้าไปในห้องนอนตัวเองแทน

ผมเดินตามลูคัสเข้าไปติดๆเห็นมันหยิบถุงที่วางโดดใบเดียวขึ้นมาแล้ฝยื่นให้ผม

ผมรับมาถืออย่างรวดเร็ว เปิดถุงดูด้านในมีเสื้อกีฬาสีฟ้าครามประจำสโมสร ผมหยิบมันออกมาอย่างตื่นเต้นแล้วคลี่เสื้อออก

มันเป็นเสื้อเบอร์ของโรเวลด้วยมีลายเซ็นต์ที่โคตรหายากของเขาตวัดอยู่ตรงอกด้านขวาของเสื้อ อย่างเท่เลยโว้ย!

"เจ้าของลายเซ็นต์เขาบอกว่าถ้าไม่รังเกียจว่าเป็นเสื้อที่เขาเคยใส่แล้ว..."

"ไม่รังเกียจ!กูชอบมากๆ จะหาได้จากไหนอีก นี่เป็นเสื้อที่เขาเคยใส่เชียวนะ!"

"อืม"

"กูใส่แล้วถ่ายรูปอัพลงไอจีดีกว่า"เอาจริงๆคือโคตรอยากอวดเพื่อนเลยตอนนี้

ผมทำท่าจะถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกเพื่อเปลี่ยนมาใส่เสื้อของนักบอลที่ชอบ แต่ไอ้คนที่ไปขอมาให้กลับเอ่ยขัดเสียงเข้ม

"อย่าเพิ่งใส่เลย เดี๋ยวพี่ให้คนเอาไปซักให้ก่อน"

"มันไม่สกปรกหรอก นี่ยังหอมๆอยู่เลย"ผมยกเสื้อขึ้นมาดมพิสูจน์ให้มันดู แต่หน้ามันกลับตึงยิ่งกว่าเดิมซะอีก สายตาที่มองเสื้อเหมือนพร้อมจะจุดไฟเผาได้ทุกเมื่อถ้าผมเผลอ ทำให้ผมเผลอกอดเสื้อแน่นด้วยความหวงเข้าไปอีก

"อย่าให้มันเยอะไปนัก ทีเสื้อพี่ไม่เห็นเคยหอม"ประโยคหลังมันพูดเสียงพึมพำในลำคอทำให้ผมได้ยินไม่ชัด

"เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะ?"

"ไม่มีอะไร แต่อย่าเพิ่งใส่เลยเอาไปซักลบกลิ่-...ทำความสะอาดก่อนดีกว่า"เหมือนว่ามันจะเปลี่ยนคำพูดกระทันหันนะ

"ใส่ถ่ายรูปแปบเดียวเอง"มันไม่พูดแต่มองผมนิ่งๆแบบกดดันแทน ผมถอนหายใจเบาๆแล้วก้าวขยับตัวเข้าไปใกล้มัน ก่อนยื่นหน้าไปทำจมูกฟุดฟิดดมแถวคอเสื้อเชิ๊ตมัน

"จริงๆเสื้อมึงหอมกว่าของโรเวลอีก"ดมเสร็จผมจึงเงยหน้าขึ้นพูดกับมัน ลูคัสยังคงทำหน้านิ่งๆต่อไปไม่กี่วินาที มันก็หลุดยิ้มออกมาก่อนจะเหนี่ยวต้นคอผมเข้าไปกอดแล้วจูบปากกันอีกเป็นนาที

"อ่ะ ถ่ายรูปให้หน่อย"ผมยื่นโทรศัพท์ให้มันหลังจากที่ริมฝีปากได้รูปถอนจูบออกไปแล้ว มันรับไปถือไว้แบบไม่อิดออด

ผมถอดเสื้อตัวเองออกแล้วใส่เสื้อบอลของโรเวลแทน แอ็คท่าทางที่คิดว่าเท่ห์  ที่สุดให้มันถ่ายให้ พามันเดินไปทั่วห้องเพื่อหาฉากสวยๆถ่ายรูปให้ตัวเองด้วย

เวลาผ่านไปสิบห้านาทีผมก็ได้รูปไปประมาณ7หมื่น4พันรูป(เว่อร์)

ก่อนที่ไอ้ลุคจะคืนโทรศัพท์คืนให้ ผมก็เห็นมันกดโทรศัพท์ยุกยิกอยู่นาน

"ทำไร?"

"ส่งรูปมิทตี้เข้าเครื่องพี่"มันตอบแบบหน้าตาเฉยมาก ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูคือมันเอาทุกรูปอ่ะ ขนาดรูปมัวๆไม่ชัดมันยังเอา

"รูปละ5000"ผมแกล้งว่า

"อืม เดี๋ยวพี่โอนให้"มันพยักหน้ารับโดยไม่ต่อรองสักบาท

"เหอะ"ผมแค่นเสียงในลำคอเบาๆ แล้วทิ้งตัวนอนลงโซฟารอมัน ไอ้หัวทองก็หย่อนก้นจะนั่งลงโซฟาตัวเดียวกับผมแต่โซฟามันไม่ได้ยาวพออยู่แล้วไง มันเลยยกขาผมขึ้นก่อนจะนั่งลงแล้วเอาขาผมพาดตักตัวเองไว้แทน

"มานั่งเบียดกูทำไมเนี่ย"ผมบ่น มันไม่ตอบแต่หันมายักคิ้วซ้ายให้

คิดว่าหล่อมากมั้ง...นิดนึงเท่านั้นแหละ

โยที่เดินมาจากไหนไม่รู้ก้มกระซิบพูดกับมันและยื่นโทรศัพท์ให้ ไอ้ลุคก็รับไปคุยแล้วยื่นโทรศัพท์ผมคืนให้

ผมรับโทรศัพท์ตัวเองมากดเลือกรูปจะอัพลงไอ้จี ไอ้หัวทองก็นั่งคุยงานอยู่ที่เดิมไม่ได้ลุกออกไปไหน

ผมกดเลือกรูปที่ถ่ายอยู่ริมสระน้ำ ในรูปผมฉีกยิ้มกว้างแล้วทำมือชี้ไปที่ลายเซ็นต์บนอกเสื้อแบบไม่ค่อยจะอวดเลยครับ

ผมเขียนแคปชั่นใต้รูปพอให้คนหมั่นไส้เล็กน้อย

Smith_jaja เสื้อของคุณผมจะเก็บไว้อย่างดีเลยคร้าบโรเวล <3

ไม่กี่วินาทีหลังอัพก็มีคนมากดหัวใจให้ผมหลักร้อยแล้ว ไอ้เซนท์ก็เข้ามาเสือกอย่างไว

Zent_LJD จริง?

Napamont44 พี่สมิธหล่อมากค่า

KOY.panna พี่ยิ้มทีไร ใจหนูละลายทุกที

Jomtup_Ch ของโรเวลนักเตะสโมสรGG คนนั้นหรอพี่

Smith_jaja @ Zent_LJD คนอย่างกูตอแหลเป็น?

Smith_jaja @ Jomtup_Ch จะโรเวลคนไหนอีกวะไอ้เหี้ยทัพ

Jomtup_Ch @ Smith_jaja โห่!!!โคตรอิจฉาเลยเว้ย คืนนี้เลี้ยงเหล้าปลอบใจผมเลย

Zent_LJD @ Smith_jaja ถ้ามึงตอแหลไม่เป็นคนทั้งโลกคงใบ้แดกอ่ะ

Kevin_Midnight ไอ้เหี้ยสมิธมึงไปหามาได้ไงไอ้สาสสส

Smith_jaja @ Kevin_Midnight กูเก่งไงไอ้เหี้ยขาดวิ่น

ตอนนี้ทั้งหัวใจและคอมเม้นท์ก็หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะไอ้พวกผู้ชายที่คอมเมนท์ด่าผมบ้าง อิจฉาผมบ้างกันอย่างถ้วนหน้า(บรรลุจุดประสงค์) แต่ผมก็เลือกตอบบางคนที่สนิทๆกัน

"ดูอะไรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่?"ไอ้ลุคที่วางโทรศัพท์ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เอ่ยถาม

"ไอจี เพื่อนกูอิจฉาเรื่องเสื้อกันใหญ่ ฮ่าๆๆ"ผมหัวเราะตอบมันไปอย่างอารมณ์ดี

"ขนาดนั้นเลย"

"ใช่! มึงไม่รู้หรอกว่ามันหายากแค่ไหน"

"ก็ไม่เห็นยากเท่าไหร่นี่"มันยักไหล่ประกอบคำพูดตัว

"หึ!"ผมแค่นเสียงใส่มันแต่ไม่เถียง มันก็ก้มอ่านเอกสารที่โยเอามาให้ต่อ มืออีกข้างก็นวดขาให้ผมไปด้วย

เออดี...ถึงยังไงเมื่อเช้ามันก็ทำผมเมื่อยไม่น้อย

เราต่างจมอยู่ในโลกของใครของมัน ผมเล่นโซเชียลมีเดีย ส่วนมันก็ทำงานอ่านเอกสาร มีบ้างที่ผมจะชี้บอกว่าเมื่อยตรงไหน มันก็จะย้ายมือเรียวสวยไปนวดให้

ผมทักไอ้ดีกับไอ้เซนต์ไปเข้าเกม เล่นกันอยู่นานจนกระทั่งไอ้คนที่นั่งให้ผมพาดขาอยู่เริ่มขยับตัวและยกขาผมออกจากตัก ผมเลิกคิ้วมองมันนิดหน่อยแล้วเบนสายตากลับมาที่หน้าจอต่อ

"พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อน"ผมพยักหน้าไม่ได้พูดอะไร ไม่นานมันก็เดินกลับมานั่งที่เดิม ผมได้ยินมันคุยโทรศัพท์สั่งงานสลับกับอ่านเอกสารไม่หยุด ดูมันงานยุ่งมากแต่ชอบทำตัวเหมือนว่างไง

"หิว"ผมบอก มันยกโทรศัพท์ออกจากหูก่อนจะเรียกลูกน้องให้เอาน้ำกับขนมมาให้ผมทานแล้วกลับไปคุยงานต่อ

ผมนอนเล่นเกมไปกินขนมไปอย่างกับพระราชา โดยมีทาสผมสีทองคอยรับใช้อยู่ข้างตัว ฮ่าๆๆ(หัวเราะแบบสะใจ)

จนกระทั่งประมาณ6โมงเย็น มันก็ถามผมว่าอยากกินอะไร ผมก็นั่งนึกอยู่นานก็คิดไม่ออก มันเลยลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำรอผมคิด จังหวะนั้นไอ้เซนท์ก็ทักแชทผมมาพอดี

Z_zent : ไปแดกบุฟเฟ่ต์ไหม?

สะมุดสะมิด : บุฟเฟ่ต์ไร

Z_zent : อาหารญี่ปุ่น

สะมุดสะมิด : ไม่อยากแดก

Z_zent : แล้วจะกินอะไร?

สะมุดสะมิด : ไม่รู้ คิดม่ายออก

Z_zent : งั้นไม่ต้องแดก!!!

สะมุดสะมิด : เกรี้ยวกราดนะมึง

สะมุดสะมิด : ผัวไม่ตามใจอ๋อ?

Z_zent : มันกวนตีนกู

Z_zent : กูเลยไม่อยากไปแดกข้าวด้วยแล้ว

สะมุดสะมิด : อ้ออออ

สะมุดสะมิด : งอนผัวละเห็นหัวเพื่อน

Z_zent : ไอ้สัส!!!จะไปไม่ไป

Z_zent : กูเลี้ยง!

พอเห็นข้อความสุดท้ายจากมันผม ผมก็รีบกดข้อความตอบไปแบบไม่ต้องคิด

สะมุดสะมิด : ไป!

คนงกอย่างไอ้เหี้ยเซนท์เนี่ยนะจะยอมเลี้ยงใครง่ายๆ แสดงว่ามันงอนผัวจริงจัง

Z_zent : ทุ่มครึ่งเจอกันแถว nn

สะมุดสะมิด : K

"สรุปคิดออกรึยังว่าจะทานอะไรมิทตี้?"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเหนือศีรษะทำผมสะดุ้งนิดๆ แต่ยังไม่เท่าประโยคที่มันถามผมเมื่อกี้

ฉิบหาย!แล้วไอ้ตัวบงการชีวิตผมคนนี้จะเอาไงดีวะครับ

"กูจะไปกินกับเพื่อน...ได้ไหมอ่ะ"ผมลุกขึ้นนั่งคุยกับมันดีๆแล้วขอออกไปตรงๆ มันก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม

"แล้วพี่ล่ะ?"ผมจับอารมณ์ในน้ำเสียงมันไม่ได้ แต่มันก็จ้องผมอย่างไม่วางตา

"ก็ค่อยกินด้วยกันวันหลัง"

"กับเพื่อนก็ค่อยทานด้วยกันวันหลังก็ได้"มันย้อนเสียงเรียบ

"ก็วันนี้มันทะเลาะกับผัว"

"มิทตี้ก็เลยทิ้งผัวไปหาเพื่อน?"มันยกมือขึ้นลูบผมของผมเบาๆผมไม่ได้ปัดมือมันออกแต่ทำหน้าหงิก

"มึงก็อยู่อีกตั้งหลายวันป่ะ ค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ กูหนีมึงไม่ได้อยู่แล้ว"

"แล้วรู้ได้ไงว่าพี่อยู่อีกหลายวัน"

เออนั่นสิ มันก็ไม่ได้บอก

"ไม่รู้แหละ เย็นนี้กูจะไปกินกับเพื่อน"ผมบอกอย่างเอาแต่ใจ

"ถ้าอย่างนั้นพี่จะไปด้วย"

"ไม่ได้!!!"

"ทำไม"มันเลิกคิ้วถาม

"ก็ไม่ได้อ่ะ"ผมตอบแบบกำปั้นทุบดิน

"งั้นพี่ยิ่งต้องไป"

"ลุค!"

"ครับ?"

"Shit! มึงไม่เคยตามใจกูเลย"

"แน่ใจนะที่บอกว่าพี่ไม่ตามใจ?"มันหรี่ตาลงนิดๆแล้วย้อนถาม

"..."ผมไม่ตอบเพราะเถียงไม่ออกเลยหันหน้าหนีมันแล้วก้มหน้าลงพิมพ์ข้อความส่งไปหาไอ้เซนท์แทน

สะมุดสะมิด : กูไปไม่ได้ละ

Z_zent : ได้ไงวะสมิธ

Z_zent : กูออกจากบ้านแล้วเนี่ย

Z_zent : *สติกเกอร์โกรธ

สะมุดสะมิด : กูขอโทษว่ะ ไปไม่ได้แล้วจริงๆ

Z_zent : มึงแม่ง!

Z_zent : เออ ตามใจ

ผมเห็นข้อความไอ้เซนท์ก็รู้ว่ามันคงนอยด์ไปแล้ว โคตรรู้สึกผิดเลยตอนนี้และผมก็เริ่มพาลโกรธไอ้เหี้ยลุคแล้วด้วย

​​​

"ช่างเถอะ ถ้าอยากไปเดี๋ยวพี่ให้คนไปส่งก็แล้วกัน"มันขยี้ผมสีเข้มผมเบาๆแล้วลุกขึ้นก่อนจะเรียกโยให้หาคนไปส่งผมแล้วมันก็เดินเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรกับผมสักคำ

ผมมองตามลูคัสเดินเข้าห้องตาปริบๆ นี่มันคงไม่ได้กำลังงอนผมอยู่หรอกใช่ไหมครับ?

แต่ถึงจะงอนหรือโกรธหรืออะไรก็เรื่องของมันอ่ะ ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว

"จะไปเลยไหมครับสมิธ?"โยเอ่ยถาม ผมจึงลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วพยักหน้า

"อืม"

ผมกดส่งข้อความไปบอกไอ้เซนท์ว่าไปได้แล้ว มันก็ส่งสติกเกอร์ดีใจกลับมา

+++++++++++

"ค่อยๆแดกก็ได้มั้ง"ผมเตือนไอ้คนที่นั่งจ้วงซาชิมิเอาๆ แถมยังมาแย่งฟัวกราส์ของผมไปอีกตั้งหลายคำ

"ก็กูหิว"มันพูดทั้งๆที่แซลมอนยังเต็มปาก

"หิวมึงก็แดก อารมณ์ดีก็แดก งอนผัวมึงก็แดกไอ้อ้วนนน"ผมแกล้งยื่นมือไปดึงแก้มมันแกล้งๆ เลยโดนมันตวัดสายตาใส่ทันที

"หึ!ใช่สิกูมันอ้วน ใครจะมารักกู"พูดจบก็คีบโอโทโร่เข้าปากไปอีกคำ

"พวกมึงทะเลาะอะไรกัน?"

"ไม่ได้ทะเลาะ"

"ไม่ได้ทะเลาะมึงจะเสนอหน้าออกมาหากูคนเดียวไหม?"

"เฮ้อ จริงๆกูก็คงงี่เง่าไปหน่อย"มันยอมวางตะเกียบแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม

"ยังไง?"

"มันไปดูตัว"มันของไอ้เซนท์ก็หมายถึงไอ้ดีนะครับ

"แล้วไง?นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนี่"

"ก็ใช่ แต่ครั้งนี้มันไม่ยอมบอกกู"

"อือฮึ แค่เนี้ย? แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันไปดูตัวมา"

"อืม เจ้กูเห็นแล้วถ่ายรูปส่งมาให้ดู"

"มันไม่อยากให้มึงคิดมากรึเปล่า ไอ้ดีคงไม่ได้คิดอะไรหรอกมั้ง"ผมบอกไปตามคิด

"มั้ง แต่กูว่าผู้หญิงคนนี้มันอาจจะต้องแต่งงานด้วยก็ได้"

"เฮ้ย!ไม่มั้ง"ผมร้องอย่างตกใจ

"กูไปสืบดูแล้ว คนนี้แม่มันหมายมั่นจะเอามาเป็นสะใภ้ให้ได้เลยว่ะ"ไอ้เซนท์พูดเสียงซึมๆแล้วคีบซูชิใส่ปาก(เศร้าแค่ไหนก็แดกได้จริงๆ)

"มึงอย่าเพิ่งคิดไปเองดิวะ มันไม่ทิ้งมึงหรอก แล้วมึงคุยกับไอ้ดีรึยัง?" เซนท์ส่ายหน้า

"คุยกันก่อนเถอะ เฮ้ยๆอย่าร้องนะมึง"ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อไอ้เซนท์ตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้(ผมทำตัวไม่ถูก)

"ไม่ร้องๆ"มันยกมือขยี้ตาแดงๆของตัวเองแล้วฉีกยิ้มเหมือนพยายามทำตัวเข้มแข็ง แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารบนโต๊ะต่อ

ผมก็มองเพื่อนและเริ่มลงมือกินอาหารตัวเองไปเงียบๆ คือผมเข้าใจนะว่าตอนนี้มันรู้สึกยังไง โคตรสงสารเพื่อนเลยว่ะ

แต่ผมไม่รู้จะพูดยังไงผมปลอบใจคนไม่เก่ง สิ่งที่ผมทำได้คงมีเพียงอยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจมัน

หลังจากที่กินไปได้สักพัก ไอ้เซนท์ก็เอ่ยถามทำลายความเงียบขึ้น แต่มันเป็นคำถามที่ผมไม่อยากจะตอบเลยจริงๆ

"ว่าแต่มึงเถอะ ก่อนหน้านี้บอกว่าออกมาไม่ได้ แต่อยู่ๆก็บอกว่ามาได้ แสดงว่าต้องมีคนไม่ยอมให้มึงออกมาแต่สุดท้ายก็ยอมให้ถูกมะ?" ไอ้เซนท์เดาเกือบจะถูกหมด แร่ที่ไม่ยอมออกมาเป็นผมไม่อยากออกมาพร้อมกับลูคัส

"..."

"ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร"ไอ้เซนท์ยักไหล่นิดๆแล้วก้มหน้าลงกินต่อ เพียงแต่ผมจะไม่รู้สึกผิดเลยถ้าไม่ได้ยินน้ำเสียงและเห็นใบหน้าเศร้าๆของมัน

"เออก็มีปัญหานิดหน่อย"ผมตอบแบบไม่เจาะจง

"ใช่คนเดียวกับที่มาคอยรับคอยส่งมึงไหม?"ผมพยักบอกว่าใช่

"คนเดียวกับที่ให้แบล็กการ์ดมึงใช้?"ผมพยักหน้าให้มันอีกรอบ

"เป็นคนที่ทำรอยบนคอมึง"นิ้วเรียวชี้มาที่ต้นคอผมแถวๆที่ไอ้เหี้ยนั่นทำรอยไว้จริงๆ ผมจึงพยักหน้าให้เพื่อนไปอย่างเถียงไม่ได้

"และคนๆนั้นก็คือลูคัส คนที่กูเจอเมื่อตอนกลางวัน"ประโยคนี้ของมันน็อคเอาท์ผมแล้ว

"..."

"..."

"ใช่"ผมยอมรับออกไปในที่สุด

"มึงเป็นอะไรกับเขา"ดวงตาตี่ๆของมันเบิกกว้างขึ้นแล้วเอ่ยคาดคั้นผมเสียงเข้ม

"กูไม่รู้"

"ห๊ะ!?"

"เออ"

"ไอ้เหี้ย!กูนึกว่ามึงเกลียดเกย์ มึงดูไม่ชอบใจทุกครั้งที่ผู้ชายเข้าใกล้ตัวมึง"มันสบถเสียงดังลั่น

"กูไม่ได้เกลียด แต่ที่กูไม่ชอบอ่ะมันมีสาเหตุเรื่องมันยาว"

"ยาวแค่ไหนกูก็จะฟัง กูมีเวลาให้มึงทั้งคืนเลยเพื่อน"ความเสือกนี่ทำให้ลืมเศร้าได้เหรอครับ?

"มึงนี่มัน...เออๆเล่าก็เล่า..."ตอาแรกว่าจะด่า แต่พอเห็นหน้ามันแล้วด่าไม่ลง ก็เลยตัดสินใจเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลูคัสให้มันฟังตั้งแต่ต้นแบบคร่าวๆ(แต่กินเวลาไปเป็นชั่วโมง)

" Oh my gosh!"ไอ้เหี้ยเซนท์อุทานออกมารอบที่ล้าน

"ก็ประมาณนั้นแหละ"ผมยักไหล่นิดๆ

"กูโคตรไม่อยากเชื่อว่าหุ่นอย่างมึงจะถูกกดลงได้"

"แล้วมึงจะให้กูทำไง มันเป็นไปแล้ว อีกอย่างแต่ก่อนก็ก็ตัวเล็กๆน่ารักจะตาย"ผมแสยะยิ้ม ไอ้เซนท์นี่ทำหน้าเหมือนเห็นผี

"กูขนลึกพรึ่บเลยอ่ะมึงดู นึกภาพมึงตอนนั้นแล้วสยอง"มันยื่นแขนที่ขนมันตั้งจริงๆ

"ไอ้สัส"ผมถีบขามันใต้โต๊ะอย่างหมั่นไส้

"งั้นที่มึงเคยบอกกูว่าผัวเก่านี่ก็เรื่องจริงดิ"

"กูเคยพูดเหรอ?"ผมเลิกคิ้วถามมันเหมือนจำไม่ได้

"เหอะ!ตอนนั้นผัวเก่าแต่ตอนนี้ผัวเก่ามาเป็นผัวปัจจุบันเลยสิมึง"ไอ้เซนท์เบ้ปากใส่ผมแบบเยาะๆที่เห็นหน้าหงุดหงิดจากผม

"อย่าเรียกผัว ให้เรียกคนแก้เงี่ย_ชั่วคราว"ผมส่ายหน้าตอบมันไป

"เหอๆอยู่ต่อหน้าเฮียก็พูดให้มันได้อย่างนี้ละกัน"

"มึงจะไปเรียกมันเฮียทำไม"ผมถามเพื่อนอย่างไม่ชอบใจ



"ก็เขาแก่กว่าแล้วยังเป็นผัวมึงด้วย"

"กูบอกว่าไม่ใช่ไง!"

"หรา กูจะรอดู"

"ไม่มีอะไรให้มึงดูทั้งนั้นแหละ"

"ขากที่มึงเล่าอนนี้มึงก็ไม่ได้ตัวเล็กเหมือนเมื่อก่อนอย่างที่เฮียชอบแล้วนี่ ทำไมเขายังเอามึงอยู่วะ"

"กูจะไปรู้กับมันหรอ"ผมทำหน้าเซ็งๆ ไอ้เซนท์ก็เงียบไปก่อนจะพูดขึ้น

"บอกตรงๆว่าพอได้ฟังเรื่องของมึงแล้ว เรื่องกูดูเล็กน้อยไปเลย"

"แต่ละคนก็มีเรื่องราวในชีวิตไม่เหมือนกัน เรื่องความรู้สึกมันเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกว่ะ ว่าเรื่องของใครเล็กหรือว่าใหญ่กว่ากัน"

"อือ ก็จริงอย่างที่มึงว่า"

"ถ้าเสือกสบายใจแล้วก็รีบแดกให้อิ่มซะ"ผมยื่มือข้ามโต๊ะไปยีผมไอ้ต๋ปลอบๆ

"ขอบใจนะมึง"

"เออ กูเพื่อนมึงนิ"

เวลาผ่านไปอีกเกือบๆหนึ่งชั่วโมง ไอ้เซนท์ก็แดกอิ่มสักที ผมรู้สึกสงสารเจ้าของร้านเหมือนกันนะ ไอ้เซนท์เขมือบเจ้าท้องไปเยอะมากและผมก็กินไปไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

"แล้วนี่มึงกลับไง"ผมเอ่ยถามขณะที่เรากำลังเดินออกจากร้าน

"ให้มึงไปส่ง"

"ละตอนมามึงมาไง?"

"คนขับรถที่บ้านมาส่ง"

"อ้อ งั้นมึงก็ยืนรออยู่ตรงนี้ก่อน"

"ทำไมวะ?"ไอ้เซนท์ทำหน้างงๆอย่างไม่เข้าใจ

ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากตอบมัน รถสปอร์ตสัญชาติอิตาลีสีดำก็ขับมาเทียบที่พวกผมยืนอยู่พอดี ไอ้เซนท์มองรถคันนั้นอึ้งๆเพราะจำได้ว่าเป็นรถใคร

ไม่กี่วินาทีต่อมาไอ้ดีก็เปิดประตูลงจากรถเดินตรงเข้ามาทางเราด้วยสีหน้าเย็นชาดูน่ากลัวกว่าปกติ

"โทรหาทำไมไม่รับ?"มันถามไอ้เซนท์เสียงกดต่ำ ฟังดูก็รู้ว่าพยายามระงับอารมณ์คุกรุ่นมากแค่ไหน

"ไม่อยากรับ"ไอ้เซนท์ก็ตอบนิ่งๆหน้าตึงไม่แพ้กัน

"เซนท์!"

"ป่ะมึงกลับ"ไอ้เซนท์หันมาหาผมแล้วพยายามดึงมือผมให้เดินไปอีกทาง แต่ไอ้ดีก็จับแขนไอ้ตี๋ไว้ก่อนไม่ให้ขยับไปไหนได้

"ปล่อย!"ไอ้เซนท์พยายามสะบัดแขนให้หลุดจากไอ้ดี แต่อีกคนก็จับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

"อย่าให้ดีโมโหนะป่อง"พอได้ยินชื่อที่ไอ้ดีเรียกไอ้เซนท์กันสองคนแล้วกูออกล้วงคออ้วกมากถ้าไม่ติดว่าเสียดายข้าวที่เพิ่งกินเข้าไปนะมึง

"มึงโมโหได้คนเดียวหรือไงล่ะ!"ไอ้เซนท์เริ่มเดือดขึ้นบ้างแล้ว

"เอ่อ กูว่ามึงกลับไปเคลียร์กับมันตรงๆเหอะว่ะ"ผมเอ่ยห้ามทัพออกมาเมื่อรู้สึดว่ามันชักไปกันใหซ่ บางคนที่เดินออกจากร้านมาก็พากันมองเราด้วย

"ไม่ใช่ตอนนี้!"

"จริงๆกูเป็นคนเรียกไอ้ดีมาเองแหละ"ผมสารภาพออกไป

"ไอ้เหี้ยสมิธ มึงไม่ใช่เพื่อนกู"ไอ้เซนท์ตาแดงก่ำเหมือนใกล้จะร้องไห้เต็มที และคงกำลังโกรธผมไปแล้ว

แต่ผมทนเห็นเพื่อนทุกข์ใจไม่ได้จริงๆว่ะ

"กูก็เพื่อนมึงทั้งคู่นั่นแหละ ไปๆไปคุยกัน"ผมช่วยไอ้ดีพาไอ้เซนท์ขึ้นเพราะมันดิ้นมาก ยังดีที่มันตัวเล็กกว่าพวกผมอยู่

"ใช้เหตุผลคุยกันล่ะ อย่างี่เง่าให้มันมากนะมึง"ผมชี้หน้าบอกไอ้เซนท์ มันไม่ตอบแต่เช็ดน้ำตาแล้วทำหน้างอนใส่

"กูก็อย่าทำอะไรมันรุนแรงล่ะ ไม่อย่างนั้นกูไม่ยอมแน่"ผมหันไปบอกไอ้ดีก่อนมันจะขึ้นรถ

"กูจะไปทำอะไรทันได้ล่ะ ไปละขอบใจมากมึง"มันโบกมือให้แล้วเข้าไปในรถจากนั้นก็ขับรถออกไป

ผมถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมๆกับที่รถคันหรูมาหยุดจอดอยู่ตรงหน้า

ผมก้าวขึ้นรถอย่างรู้หน้าที่ น่าแปลกที่ครั้งนี้มันไม่ได้นั่งมารับผมด้วยตัวเอง

ทั้งๆที่คิดว่าดีแล้วล่ะ แต่ในใจมันกลับวูบโหวงแปลกๆ

+++++++++++++

เอ๊ะ!มีคนกล้างอนเมียด้วย จะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อไปน้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อิลุคมันดูแปลกๆไปนะ ไม่น่าใว้วางใจ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :laugh:  มิทตี้ พี่มันก็ยอมเราอยู่นา
ดื้อมากเดี๋ยวก็โดนปราบอีกร้อก :mew5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทำไมครั้งนี้นังลุคยอมง่ายจังฟ่ะ มีแผนแน่ ๆ  :katai1:

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao3:น่าร๊๊๊๊๊ากกก

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ความงอนเมียนี้ อิพี่ก็มีโมเม้นนี้น่ะ


ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เออ เรื่องตัวเองก็ยังไม่เคลียร์สักอย่างแล้วจะมาให้มิทยอมรับว่าเป็นอะไรกัน มันใช่เหรอ

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 22.1

ผมกลับถึงห้องลูคัสก็ประมาณสี่ทุ่มนิดๆ เห็นโยนั่งทำงานอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ส่วนไอ้เจ้าของห้องนี่ไม่เจอแฮะ

“ไงโย ดึกขนาดนี้แล้วยังทำงานอยู่เหรอ? เจ้านายใช้คุ้มดีจริงๆ”ผมเอ่ยทักโยพร้อมเหน็บอีกคนไปด้วย โยเงยหน้าจากคอมพิวเตอร์แล้วส่งยิ้มให้ผม

“ไม่ใช่งานหนักหนาอะไรครับ อีกอย่างเวลาที่นี่กับทางนู้นไม่ตรงกันก็มีบ้างที่ต้องทำนอกเวลาปกติ”

“เหอะๆแก้ตัวแทนกันดีจริงๆ”ผมบ่นอย่างไม่จริงจัง ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่แล้ว

“สมิธก็อย่ามองนายท่านในแง่ร้ายนักสิครับ”

“มันทำอะไรดีให้มองล่ะ...ว่าแต่คุณทานข้าวแล้วรึยัง?”โยหน้าเจื่อนลงทันทีที่ผมตอบกลับ ผมเลยเปลี่ยนไปถามเขาอีกเรื่องแทน

“ผมทานเรียบร้อยแล้วครับ แต่ว่านาย...”

“ดีแล้ว งั้นผมไปอาบน้ำนอนก่อนละกัน กู๊ดไนท์”ผมเอ่ยตัดบทโยก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค จากนั้นก็เดินเข้าห้องของตัวเองโดยไม่พูดอะไรกับใครอีก

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ผมก็นอนเล่นเกมส์ในโทรศัพท์จนดึกดื่ม พอเริ่มจะง่วงแต่ดันรู้สึกหิวขึ้นมาซะได้ เลยฝืนลุกออกจากเตียงเพื่อออกไปหาอะไรกินรองท้องก่อนอน

“ไปโรงพยาบาลเถอะครับนาย”ผมชะลอฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงโยเอ่ยขึ้นจากทานห้องครัว

“ไม่ต้อง ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก”เสียงไอ้ผมทองปฏิเสธลูกน้องนิ่งๆ มันเป็นอะไรวะ?

“ถ้าอย่างนั้นทานอาหารสักหน่อยเถอะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นหนักอย่างคราวที่แล้วก็ได้”น้ำเสียงของโยเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและกังวล

“ผมรู้ตัวเองดีโย”

“แต่ว่า...”

“เลิกพูดแล้วเอายามา”ลูคัสสั่งเสียงเข้มตัดบทโยทำให้โยไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมาอีก ผมจึงขยับเท้าเดินเข้าไปหาพวกเขา ทั้งลุคและโยต่างก็หันมามองผมทันที่ที่ผมปรากฎตัว

“สมิธมีอะไรรึเปล่าครับ?”โยเป็นคนเอ่ยพูดกับผมก่อน

“หิวอ่ะ เลยว่าจะมาหาอะไรรองท้อง”ผมบอกโยออกไปตามตรง ลูคัสที่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วนิดๆแต่ยังไม่ยอมพูดอะไรกับผม เหอะ!

“ให้ผมโทรสั่งอาหารให้ไหมครับ?”โยส่งสายตาอ้อนวอนบางอย่างกลับมา แต่ผมกลับส่ายหน้าตอบเขาไป

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมหาอะไรเบาๆในตู้เย็นกินดีกว่า”

“เอ่อ…”เหมือนโยพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เสียงทุ้มเข้มของคนที่ไม่คุยกับผมก็ดังขึ้นซะก่อน

“ไปทานมาเมื่อหัวค่ำไม่อิ่มหรือไง”ผมหันหน้าไปมองมันแล้วเลิกคิ้วมองนิดๆ ตอนแรกว่าจะทำเป็นไม่ได้ยินเพื่อกวนตีนมันสักหน่อย แต่เห็นหน้านิ่งๆเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีของมันทำให้ผมต้องเจียมตัวสักเล็กน้อย

“ตอนนั้นก็อิ่ม แต่ตอนนี้หิว” มันพยักหน้ารับรู้ไม่พูดอะไร จากนั้นก็ตบยาในมือใส่ปากพร้อมกระดกน้ำดื่มจนหมดขวดแล้วก็เดินออกจากห้องครัวไปเงียบๆ...โดยไม่ได้สนใจผมอีก

โอเค...ตอนนี้ผมคิดว่ามันน่าจะโกรธผมแล้วล่ะ

“นี่มันโกรธผมรึเปล่าอ่ะโย?”ผมหันไปถามความคิดเห็นจากโยเพื่อความชัวร์

“ไม่น่าโกรธนครับ อาจจะแค่...เอ่อ”

“อาจจะแค่อะไร?”

“’...แค่น้อยใจมั้งครับ ผมก็ไม่แน่ใจ ท่านไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”

“ห๋า?อย่าพูดให้ผมขนลุกดิ”ผมอุทานออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ หน้าอย่างไอ้เหี้ยลุคเนี่ยนะจะมาน้อยจงน้อยใจผม บอกว่ามันระบำฮาวายผมยังจะเชื่อมากกว่า

“แต่ว่านายไม่ยอมทานอะไรเลยตั้งแต่สมิธออกไปข้างนอก โรคกระเพาะก็กำเริบถึงต้องกินยาอย่างที่เห็นเมื่อกี้แหละครับ”

“ปัญญาอ่อน ทำตัวเหมือนเด็กไปนะเจ้านายโย เรียกร้องความสนใจอ๋อ”

“ผมไม่ทราบความคิดนาย แต่คิดว่าท่านคงไม่มีอารมณ์จะทานอะไรจริงๆ สมิธช่วนบอกให้นายทานอะไรสักหน่อยเถอะครับ ผมกลัวว่าจะเป็นหนักเหมือนครั้งก่อนที่อาเจียนเป็นเลือด”

“หนักขนาดนั้นเลย?”โยพยักหน้าแล้วเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง

“ครับ ท่านเป็นเรื้อรังมาหลายปี คงตั้งแต่ที่คุณ...ช่างเถอะครับ เอาเป็นว่าค่อนข้างจะรุนแรงมาก”โยเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่ยอมพูดออกมา

“อย่างผมจะไปพูดอะไรได้ อีกอย่างนี่ไม่ใช้ธุระกงการอะไรของผมนี่ มันจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของมัน”นี่ผมดูใจร้ายไปรึเปล่านะ?

“คุณสมิธเป็นคนสำคัญของนายนะครับ ถือว่าผมขอร้องช่วยพูดกับท่านให้ยอมทานอะไรสักหน่อยเถอะครับ”โยแทบจะคุกเข่าอ้อนวอนผมอยู่แล้ว จะรักเจ้านายอะไรขนาดนั้นวะ

“ก็ได้ แต่ผมไม่รับประกันนะ”

“ขอบคุณครับ”

ผมเดินออกจากห้องครัว พร้อมกวาดสายตาหาเป้าหมาย เห็นผมสีทองๆเลยพ้นโซฟาที่ห้องนั่งเล่น ผมก็เดินตรงเข้ามาหามันทันที เมื่อขยับเข้าไปใกล้กลับพบว่ามันกำลังหลับตานั่งนิ่งๆอยู่ มือทั้งสองข้างก็ประสานกันวางไว้ที่หน้าท้องอย่างสงบ

ผมขยับตัวเข้าไปใกล้มันอีกนิด กำลังชั่งใจคิดว่าจะปลุกมันดีไหม แต่เปลือกตาของลูคัสก็เปิดขึ้นกะทันหัน ดวงตาสีเขียวเข้มจ้องมองผมอย่างไม่วางตา

“เอ่อ ทำไมไม่กินข้าว”ผมไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี เลยตัดสินใจนั่งลงข้างๆมันแล้วถามสาเหตุไปแทน

“พี่ไม่ค่อยหิว”มันยอมตอบผมแต่โดยดี เพียงแต่น้ำเสียงติดจะเรียบเย็นไปสักหน่อย

“ไม่หิวก็ต้องกิน!รู้ว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะแท้ๆยังจะอดอาหารอีก”

“มิทตี้เป็นห่วงพี่เหรอ?”น้ำเสียงมันดูอ่อนลงหลายระดับ แต่ผมก็ต้องเอ่ยดับฝันมันไปเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด

“เปล่า กูสงสารโยที่ต้องคอยมาเก็บศพมึงทีหลัง”

“อืม”ลูคัสรับคำด้วยน้ำเสียงราบเรียบอีกครั้ง จากนั้นต่างคนก็ต่างแข่งกันเงียบ กระทั่งผมรู้สึกว่ามันชักจะอึดอัดเกินไปนั่นแหละ ถึงได้ยอมเปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง

“กินข้าวสักนิดเถอะลุค”

“…”

“นะ”

อยู่ๆลูคัสก็ทำหน้าเหมือนอดกลั้นบางอย่างไม่ไหว มือเรียวยื่นมาจับท้ายทอยผมแล้วล็อคไว้แน่นก่อนจะประทับจูบลงมาอย่างหนักหน่วง ผมงุนงงนิดๆเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาก็จูบตอบมันกับไปอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ลิ้นเราเกี่ยวพันดูดรัดกันแทบไม่มีช่องว่าง ริมฝีปากสัมผัสดูดเม้มกันอย่างต่อเนื่อง

มือเรียวอีกข้างของมันสอดเข้ามาในเสื้อผมพร้อมขยี้ไปที่ยอดอกผมแรงๆจนเสียวแปลบขึ้นมา ส่วนมือผมข้างหนึ่งก็ขยำเส้นผมอ่อนนุ่มของมันระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็เกี่ยวต้นคอมันให้ขยับมาใกล้โดยไม่รู้ตัว

เราจูบกันอยู่นานมากจนกระทั่งริมฝีปากผมมันชานิดๆมันถึงได้ถอนจุมพิตออกไป แต่ริมฝีปากได้รูปของของมันกลับไม่ยอมผละห่างออกจากร่างกายผม มันลูบไซร้ลงไปที่ลำคอแล้วดูดแรงๆทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา มันจับขาผมแยกออกแล้วแทรกตัวเข้าระหว่างกลาง ผมตกใจเกือบสะดุ้งเมื่อกางเกงนอนกำลังจะถูกเกี่ยวลง

“ลุคพอ”ผมพยายามเค้นเสียงเอ่ยห้าม มือก็ฉุดรั้งกางเกงตัวเองไว้แน่น ลูคัสไม่ตอบและก็ไม่ยอมหยุด ทำให้ผมชักเริ่มโมโห

“มึงไม่หยุดกูโกรธ”มันชะงักแต่ยังไม่ยอมผละออกห่าง

“กูจะทำกับข้าวให้กิน จะกินไหม?”

“มิทตี้จะทำเอง?”มันยอมเงยหน้าออกจากต้นคอขึ้นคุยกับผมดีๆ ในแววตามีความแปลกใจปนอยู่ไม่น้อย

“ใช่”

“ให้พี่ทานคนเดียว?”

“อือฮึ ถ้ามึงไม่คิดจะแบ่งใครกิน”

“พี่ไม่ให้ใครกินอยู่แล้ว”มันพยักหน้ายืนยันคำพูดของตัวเอง

“ถ้าอย่างนั้นก็ถอยออกไป”ผมผลักหน้าอกมันเบาๆ

“ก็ได้”มันรับปากก่อนจะหอมแก้มผมฟอดใหญ่และลุกออกไป ไม่ลืมดึงกางเกงขึ้นให้ผมอีกต่างหาก

ผมเดินเข้าครัวโดนมีลูคัสเดินตามหลังมาติดๆ โยนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของบาร์ที่ติดกับห้องครัว เขายิ้มให้ผมนิดๆแล้วก้มหน้ากดไอแพดเพื่อทำงานต่อ

“จะกินไร?กูทำอาหารไม่เป็นนะ”แม้ผมจะบอกมันว่าจะทำอะไรให้กิน แต่เอาเข้าจริงๆผมก็ทำเป็นอยู่แค่ไม่กี่อย่าง อย่างมากก็ทอดไข่ดาวอ่ะครับ เผลอๆตอกไข่ก็คงแตกด้วยมั้ง

“พี่กินไรก็ได้”มันบอกอย่างอารมณ์ดี ผมก็เปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบที่น่าจะเอามาทำให้มันกินได้ ที่แน่ๆก็มีไข่ ผมเลยหยิบออกมาไว้ข้างนอกก่อน

“ไข่เจียวไหม?เคยกินป่ะ”ผมหันไปถามมันเพราะคิดเมนูอื่นไม่ออก ถ้าจะเอาไข่ดาวก็ดูจะกระจอกไปหน่อย ผมคือเทพสมิธจะทำอะไรมันต้องไม่ธรรมดาดิ

“เคย...มั้ง”คล้ายว่ามันจะไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าตัวเองเคยกินเมนูพื้นๆแบบนี้ไหม

“โอเค ว่าแต่มึงกินผักไหม?”แล้วมันใส่ผักอะไรลงไปในไข่เจียวบ้างวะ เคยกินที่ไอ้น้องรันต์ทำโคตรอร่อยแต่ไม่รู้ว่ามันใส่อะไรลงไปบ้างน่ะสิ

“พี่ทานได้”ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วหยิบไอ้ผักที่เป็นก้านๆสีเขียวๆเรียกอะไรไม่รู้(หน่อไม้ฝรั่ง)กับผักชีที่ผมโคตรเกลียดออกมา

“เนื้อสัตว์ใส่อะไร?”ผมถามมันพร้อมกับเปิดช่องฟรีซดูว่ามีอะไรบ้าง

“กุ้ง”ผมหยิบแพ็คกุ้งที่แกะแล้วออกมา หางตาเหลือบเห็นห่อชีสเลยหยิบติดมือออกมาด้วย

“เอาล่ะ รอสักครู่เดี๋ยวเชฟสมิธจะแสดงฝีมือให้ทานเอง”ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดๆที่จะได้ลงมือทำอาหารแบบจริงจังเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี บอกตรงๆว่าไม่มั่นใจแต่น่าจะสนุก หึๆ

“อืม”ลูคัสก็นั่งดูผมทำใกล้ๆอย่างใจจดใจจ่อ ทำให้ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ผมหยิบชามแก้วขนาดกลางออกมาพร้อมที่ตีไข่ ผมตอกไข่ใบแรกกับขอบชามด้วยมือเดียวอย่างที่ไอ้น้องรันต์ทำ แต่เพราะผมไม่ใช่ไอ้น้อง ไข่ที่ตอกเลยเละคามือและเลอะเทอะเต็มเคาน์เตอร์

“เอ่อ ผิดพลาดนิดหน่อยเอาใหม่ๆ”ผมเอ่ยแก้ตัวแล้วปัดเศษเปลือกไข่ออกจากชามลวกๆ จากนั้นก็ตอกไข่อีกรอบแล้วใช้สอมมือแยกเปลือกออกจากกัน ครั้งนี้ดูดีขึ้นหน่อยแม้ว่าไข่แดงจะแตกและมีเปลือกไข่ตกลงไปด้วยบ้าง ผมคิดว่าไม่น่าเป็นไร(?)

จากนั้นผมก็ตอกไข่ลงไปอีกสองฟอง เอาไอ้แท่งผักที่ไม่รู้จักชื่อมาสับ หยิบกุ้งตัวใหญ่ใส่ลงไปทั้งตัว แล้วก็เด็ดผักชีใส่ไปทั้งก้าน มีกลิ่นเหม็นเขียวโชยมานิดหน่อย ผมเลยดับกลิ่นด้วยพริกไท ปรุงด้วยเกลือที่ไม่รู้ใส่เท่าไหร่เลยกะๆเอาแล้วก็ใส่น้ำตาลลงไปตัดเผื่อว่ามันจะเค็มเกิน สุดท้ายผมก็ใส่ชีสลงไปอีกครึ่งห่อ ตีๆคนๆให้มันเข้ากันก็ดูน่ากินดีนะ...

ผมตั้งกระทะ แต่ไม่รู้ว่าจะใส่เนยหรือน้ำมันดี อืม...ผมเคยเห็นไอ้น้องรันต์ใส่น้ำมันงั้นก็ใส่น้ำมันก็แล้วกัน ผมหยิบขวดน้ำมันมะกอกเทลงไปเต็มกระทะเพราะกะไม่ค่อยถูก แต่คิดว่ามันน่าจะโอเคอ่ะนะ

จากนั้นก็เทไข่ลงไปจนหมดชาม เพียงแต่มันไม่เห็นจะฟูๆเหมือนที่คนอื่นทำเลยน่ะสิ

“ทำไมมันไม่ฟูวะ”ผมเกาหัวนิดๆอย่างไม่เข้าใจ

“รอน้ำมันร้อนก่อน”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง

“ก็กูอยากให้มึงได้กินเร็วๆไง”ผมแก้ตัวไปเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม ไม่นานไข่ก็เริ่มฟูนิดๆผมเลยรอต่อไปอีกสักหน่อยแต่กลิ่นไหม้ที่โชยออกมาแตะจมูก ผมจึงใช้ตะหลิวเขี่ยดูด้านใต้ แล้วก็พบว่ามันดันไหม้ไปแล้ว

“เหี้ยเอ้ย!”ผมอุทานอย่างหัวเสียแล้วรีบพลิกไข่กลับด้าน แต่ด้วยความที่ไม่ชำนาญเท่าไหร่ ไข่เลยหกออกจากกระทะไปเกือบครึ่ง ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับลูคัสที่มองอยู่ มันไม่ได้พูดอะไรแต่ยิ้มให้นิดๆเหมือนให้กำลังใจ คราวนี้ผมระวังเป็นพิเศษคอยเขี่ยดูไข่ตลอดว่าจะไหม้ไหม สุดท้ายเมื่อเห็นว่าไหม้ตรงกลางแล้วนิดหน่อยผมก็รีบตักใส่จานทันที

น้ำมันค่อนข้างชุ่มได้ที่ดูไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ ผมเลยเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่มาซับๆน้ำมันออกหน่อย แล้วยกไปเสิร์ฟให้คุณชายเขาถึงที่

“เสร็จแล้ว แต่ไม่มีข้าวนะ”แต่ผมคิดว่าคงไม่เป็นไรเพราะปกติมันก็ไม่ค่อยได้ทานข้าวเป็นมื้อหลักเหมือนคนไทย

“ไม่เป็นไร”มันหยิบมีดและซ้อมขึ้น ค่อยๆบรรจงหั่นตามสไตล์ผู้ดีของมัน ทันทีที่มันจิ้มไข่เข้าปากและเคี้ยวผมก็นั่งมองลุ้นรสชาติ เกร็งจนตระคิวแดกไปทั้งร่าง

“รสชาติเป็นไง?”

“อร่อยดี”มันตอบออกมาอย่างไม่ติดขัด มือก็จิ้มไข่เข้าปากอย่างต่อเนื่อง

“หึๆ กูว่าแล้วว่ามันต้องอร่อย”ผมแสยะยิ้มอย่างภูมิใจในฝีมือตัวเอง จากนั้นก็ไปหยิบนมและซีเรียลเทใส่ถ้วยก่อนจะมานั่งทานตรงข้ามลูคัส ผมเหลือบมองไข่เขียวด้านในยังเป็นแฉะๆเหมือนสุกไม่หมด แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร อาจจะคิดว่าเป็นไข่เจียวแบบมีเดียวแรร์ก็ได้

“มิทตี้ทำไข่เจียวครั้งแรกเหรอ?”

“ใช่!เคยทำไข่ดาว แต่ไข่เจียวนี่ครั้งแรก บางทีกูอาจมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ก็ได้”

“แค่ก!อืม...ค่อยๆฝึกไปอาจจะอร่อยยิ่งกว่านี้”อยู่ๆมันก็สำลักออกมา และแสดงความคิดเห็นถึงความเทพด้านการทำอาหารของผม

“ว่างๆกูลองทำเมนูใหม่ๆ มึงก็ล้างปากเตรียมท้องไว้ได้เลย”ผมบอกอย่างอารมณ์ดี

“ได้”มันรับปาก

“เออ สัปดาห์หน้ากูจะไปอังกฤษกับเพื่อนนะ”ผมบอกมันไว้ก่อน เดี๋ยวใกล้ๆวันมันรู้เรื่องแล้วจะไม่ให้ไป

“ไปทำไม?”

“ไปดูบอลสโมสรGGไปเยือนสโมสรVVที่เมืองZ ศึกล้างตาเลยนะ”ผมเล่าอย่างตื่นเต้น อยากให้ถึงวันแข่งเร็วๆ

“ชอบขนาดนั้นเลย”

“แน่น๊อน สรุปให้ไปป่ะ?”

“อืม”มันอนุญาตแล้วก้มหน้ากินไข่เจียวต่อเหมือนอร่อยมาก

“แล้วถ้าพี่ซื้อสโมสรGGให้ มิทตี้จะรู้สึกยังไง?”อยู่ๆมันก็ถามสิ่งที่เป็นไปได้ยากขึ้น การซื้อสโมสรฟุตบอลสักสโมสรมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแต่ถ้ามีเงินมากพอก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพียงแต่ว่าสโมสรGGใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวจะซื้อได้น่ะสิ ผมเห็นเศรษฐีที่อยากได้สโมสรนี้ล้มเหลวมาหลายคนแล้ว ใช่ว่าลูคัสจะเป็นคนแรกที่คิดอยากทำ

“คงรู้สึกดีใจมากจนพูดไม่ออก จะกระโดดจูบมึงหลายๆทีแล้วยอมทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆ”ก็แค่พูดเล่นๆล่ะนะ ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่ดี

“งั้นเหรอ...อย่าลืมจำคำพูดตัวเองไว้ให้ดีๆก็แล้วกัน”มันเท้าคางมองผมแล้วยิ้ม รู้สึกมันมีเสน่ห์มากอย่างบอกไม่ถูก ดีนะที่ผมก็ค่อนข้างมีภูมิต้านทาน

“เหอะๆถ้าทำได้จริงกูก็กล้าอยู่แล้ว”ผมแสยะยิ้มท้าทายอีกคน จานนั้นเราก็นั่งทานอาหารของตัวเองไปพลางฟังผมพูดไปเรื่อยพลาง จนกระทั่งอาหารของเราทั้งคู่หมดเกลี้ยงไม่เหลือ ผมหยิบชามไปเก็บแต่ไม่ต้องล้างเพราะมีคนคอยทำให้แล้ว ลูคัสบอกให้ผมเข้าไปนอนในห้องมัน(คงเพราะหายงอนแล้ว) ผมก็ทำตามที่มันสั่งอยู่ ขัดขืนไปก็มีแต่จะเจ็บตัว ผมเป็นคนฉลาดผมไม่อยากเจ็บตัว

ทางเดียวที่จะรอดพ้นจากเงื้อมือมันคืนนี้คือชิงหลับไปก่อนที่มันจะเข้ามา...ก็หวังว่ามันคงไม่ลักหลับผมนะ ผมยิ่งน่ารักๆซะด้วยสิ!(แหวะ!)

+++++++++++++++

“โย”ลูคัสเอ่ยเรียกลูน้องคนสนิทที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเขา

“ครับ”

“ติดต่อไปที่สโมสรGG ผมต้องการเซ็นต์สัญญาซื้อขายสโมสรของพวกเขา”

“เอ่อ...”โยฮันเนสพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แม้จะได้ยินเจ้านายตัวเองคุยกับเด็กคนโปรดแล้วก็ตาม

“ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ จะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้”

“ถึงเราจะจ่ายให้มากแค่ไหน ก็ไม่แน่ว่าท่านลอร์ดจะยอม”โยฮันเนสแสดงสีหน้าคิดไม่ตก

“ถ้าเงินซื้อไม่ได้...ไม่ว่าต้องใช้อำนาจด้านไหนก็ต้องเอามาให้ได้”ลูคัสเอ่ยนิ่งๆแต่น้ำเสียงแผงไปด้วยความจริงจัง นัยน์ตาสีมรกตนิ่งลึกยากจะคาดเดาอารมณ์ออก

“ทราบแล้วครับนาย ผมจะรีบดำเนินการให้เรียบร้อย”โยฮันเนสก้มศีรษะรับคำสั่ง

“ดี”

“ว่าแต่ไข่เจียวฝีมือคุณสมิธอร่อยมากไหมครับ”โยฮันเนสถามยิ้มๆกับไข่เจียวจานวิเศษที่กำลังจะเสกสโมสรฟุตบอลระดับโลกได้

“เขาทำด้วยความตั้งใจ ย่อมต้องอร่อยมาก”ลูคัสเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงท่าทางตั้งอกตั้งใจทำของเด็กที่เข้าห้องไปนอนแล้ว

“ถึงกับซื้อสโมสรให้ได้ แสดงว่าคงอร่อยมากจริงๆ”โยแซวเจ้านายยิ้มๆ

“อืม แต่ถ้ากินทุกวันลิ้นผมอาจจะพังหรือเบาหวานอาจจะขึ้น ไม่ก็ไตหายไปสักข้างก็ได้”ลูคัสเอ่ยยิ้มๆแล้วยืนขึ้นเพื่อกลับเข้าห้องนอน โยฮันจึงเนสกล่าวลาเจ้านายแล้วกลับห้องตัวเองไปพักผ่อน

ความหลงเด็กของนายช่างมีพลังอำนาจสูงมากจริงๆ

+++++++++++++++++

คนจริงเขาทำทุกอย่างได้เพื่อเมีย อิอิ //ช่วงนี้เปรมอาจจะมาช้าสักหน่อยนะคะ กำลังปั่นงานอีกเรื่องอยู่ รออีกนิดนะเบ๊บ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2018 14:10:11 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ฝีมือเมีย อร่อยเสมอ  :laugh:

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไข่เจียวที่แสนจะอนาถา กุ้งไม่แกะเปลือก และอาจจะไม่เปลือกไข่ปนๆอยู่ 555

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ชอบตอนนี้มากเลยครับ
คนแต่งน่ารัก


        :ling1:

ออฟไลน์ ppnplg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นี่ขนาดทอดไข่เจียวให้ยังได้สโมสร
ถ้าวันไหนสมิธทำข้าวผัดขึ้นมาพี่แกไม่ซื้อดาวอังคารให้เลยหรอเนี่ย

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 22.2

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนสายๆ ข้างเตียงว่างเปล่าแต่มีรอยยับนิดๆบ่งบอกว่าเมื่อคืนมีคนนอนข้างผม

ผมลุกออกจากเตียงไปล้างหน่าแปรงฟันและทำธุระตอนเช้าในห้องน้ำ จากนั้นก็ออกไปเปลี่ยนชุดออกกำลังกายอีกห้องหนึ่ง

วันนี้ผมจะเข้ายิมไปออกกำลังกายหลังจากที่ห่างหายไปนาน เริ่มรู้สึกว่ากล้ามลีบลงหน่อยๆ(คิดไปเอง) เมื่อผมออกจากห้องนอนมาก็เจอลุคนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ของต่างประเทศอยู่ที่ห้องนั่งเล่น มันทักทายผมยิ้มๆแล้วถามว่าจะไหน

"ไปยิม ไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายวันละ"

"หุ่นก็ดีอยู่แล้วนี่"

"มันยังไม่พอ กูอยากกล้ามใหญ่มากกว่านี้"ผมแสยะยิ้มออกมาเมื่อเห็นมันชะงักไปนิดๆ

ถ้าผมฟิตกล้ามมากว่านี้อีกหน่อย รับรองว่าผมล่ำกว่ามันแน่ และมันคงจะไม่ชอบใจนัก

"ทานอาหารสักนิดก่อนออกไปก็แล้วกัน"ผมพยักหน้ารับเพราะรู้สึกหิว แต่คงทานไม่เยอะเดี๋ยวไปออกกำลังกายแล้วจุก

"มึงยังไม่กิน?"ผมถามเมื่อเห็นมันนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกัน

"ยัง"มันส่ายหน้ายืนยันคำพูด

"สายแล้วเนี่ยนะ?"ปกติลุคเป็นคนที่ตรงเวลามาก คนระเบียบจัดอย่างมันตารางชีวิตแทบจะตรงเป๊ะๆเลยทีเดียว

"พี่รอทานพร้อมมิทตี้"ผมชะงักมีดที่กำลังจะหั่นไก่อบ เหลือบสายตามองมันนิดๆแต่สีหน้ามันคือเรียบเฉยมาก ผมก็ไม่พูดอะไรอีกก้มหน้าก้มตาทานอาหารของผมเงียบๆ

หลังจากนั้นผมก็ออกมายิม เล่นเครื่องออกกำลังกายอยู่หลายชั่วโมงก็พอใจ จึงไปอาบน้ำแล้วจะแวะไปหาไอ้ตี๋ก่อน เงียบหายไปเลยตั้งแต่เมื่อคืน สงสัยสลบคาเตียงไปแล้วมั้ง

ระหว่างทางผมรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาอีกรอบ เลยแวะห้างที่เป็นทางผ่านหาอะไรกินก่อน อย่างท่บอกว่าผมไม่ชอบทานข้าวคนเดียวอ่ะนะ แต่บางทีเพื่อนก็คงไม่ว่างไปไหนมาไหนกับเราได้ตลอดป่ะวะ ผมก็ต้องหัดพึ่งพาตัวเองบ้าง

ผมตัดสินใจเดินเข้าร้านภัตตาคารอาหารจีนระดับกลางที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากประตูทางเข้าเพราะขี้เกียจเดินหา จังหวะที่กำลังจะเดินเข้าไปในร้านก็เกิดสตอร์รี่ดั่งละครหลังข่าวเมื่อมีอีกคนเดินเข้าร้านพร้อมผมและเราชนกัน ผมรีบคว้าจับตัวคนที่กำลังจะล้มลงตามสัญชาตญาณของตัวเอง  เราเผลอจ้องตากันประมาณห้าวินาทีได้

"ปริม"ผมเอ่ยเรียกชื่อเธอเบาๆเมื่อเห็นหน้าว่าคือใคร ปริมสะดุ้งเหมือนเพิ่งได้สติ

"เอ่อ สวัสดีค่ะพี่สมิธ...บังเอิญจังเลยนะคะ"เธอกว่าวทักทายผมแล้วค่อยๆพยุงตัวเองยืนให้มั่นคง

"อืม บังเอิญมากๆ แล้วนี่จะเข้าร้านนี้เหรอ?"ผมชี้ไปที่ร้านอาหารที่กำลังจะเข้าไปทาน

"ก็...ใช่ค่ะ"

"เหมือนกันเลย ปริมมาทานกับใครครับ"

"...ปริมมาคนเดียวค่ะ"

"พี่ก็มาคนเดียว ไปทานด้วยกันไหม?"ผมชวนเธออย่างเป็นกันเอง ปริมเม้มปากนิดๆก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

ผมเดินนำปริมเข้ามาในร้าน รู้สึกพอใจที่ภายในไม่ได้เสียงดังโช้งเช้งอย่างที่คาดไว้ เมื่อถึงโต๊ะเราก็สั่งอาหารคนละ2-3อย่าง ระหว่างที่รออาหารผมก็ชวนปริมคุยบ้างและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดข้อความหาทั้งไอ้ดีและไอ้เซนท์ว่าจะไปหาพวกมัน เมื่อผมวางโทรศัพท์ปริมก็เอ่ยถามขึ้น

"พี่สมิธบล็อคไลน์ปริมเหรอคะ?"ผมขมวดคิ้วกำลังจะปฏิเสธออกไปแต่ก็นึกได้ว่าก่อนหน้านี้ไอ้หัวทองทำอะไรกับโทรศัพท์ผมไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่เพราะช่วงนี้ผมติดเกมส์ สาวๆที่คุยกับผมทางำลน์ไม่ได้ก็ทักแชทไอจีผมมาแทน แต่ผมไม่ค่อยได้ไปเปิดอ่านไง

"โทรศัพท์พี่มีปัญหานิดหน่อย ปริมทักไอจีพี่มาแทนก็แล้วกัน"ผมบอกยิ้มๆไม่ติดขัด

"ปริมทักไปหลายวันแล้ว แต่พี่สมิธก็ยังไม่ตอบสักที"ปริมเอ่ยทั้งใบหน้าเศร้าๆทำให้ผมสะอึกจนเกือบแก้ตัวไม่ออก

"มันอาจจะไม่แจ้งเตือน เดี๋ยวพี่เข้าไปดูให้นะคะ"ผมขยิบตาข้างหนึ่งแล้วฉีกยิ้มให้เธอ ปริมหน้าแดงซับสีเลือดขึ้นมาทันที

ผมชวนเธอคุยเรื่องอื่นไม่กี่คำอาหารที่สั่งไว้ก็ทยอยมาเสิร์ฟ อยู่ต่อหน้าผู้หญิงผมจะกินค่อนข้างมีมารยาทออกไปทางผู้ดีเหมือนไอ้ลุคเลยแหละ แต่พออยู่ต่อหน้ามันหรือเพื่อนผมก็จะแสดงความสถุนและตระกละของตัวเองออกมาย่างไม่ปิดบังไว้สักนิด

หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็อาสาไปส่งปริมที่หอพักเมื่อรู้ว่าเธอไม่มีรถ

"ขอบคุณนะคะพี่สมิธ"ปริมหันมายกมือไหว้ผมก่อนจะลงจากรถ

"ด้วยความยินดีครับ"

ผมใช้เวลาเดินทางจากหอปริมไปคอนโดไอ้ดีประมาณหนึ่งชั่วโมงเพราะรถโคตรติด...ก็วันอาทิตย์นี่เนอะ

พอเข้าไปเห็นสภาพไอ้เซนท์ในห้องไอ้ดี...สภาพอย่างกับศพ ส่วนไอ้ดีหน้าตาสดใสเปล่งปลั่งเพราะปล่อยน้ำจนเบาตัว

"โดนไปกี่ยกล่ะมึง"ผมแสยะยิ้มสะใจใส่ไอ้ตี๋ เลยโดนมันแยกเขี้ยวใส่โถมตัวมาบีบคอผมอย่างไม่เจียมสังขาร พอถูกผมถีบตกโซฟาก็ร้องงอแงน่ะสิครับ

"ไอ้เหี้ยสมิธ มึงจำไว้เลยนะ!เมื่อคืนยังไม่ทันชำระความวันนี้ก็มาทำกูเจ็บอีก ฮึก"อ่า มีเด็กร้องแล้วครับ

"มึงทำกูก่อนนะตี๋ จะโทษกูไม่ได้"ผมก็ยักไหล่ใส่มันอย่างไม่สำนึก ไอ้ดีที่เดินออกจากห้องนอนเห็นเมียนั่งร้องไห้อยู่ข้างโซฟาก็เดินไปอุ้มมันขึ้นมานั่งโซฟาดีๆ แต่ก็ไม่ได้ด่าผมหรอกครับ มันชินกับภาพแบบนี้แล้ว

"มึงแม่ง! กูโกรธแล้ว ฮือ"จากนั้นก็ร้องไห้ซบอกผัวไม่หยุด

"มึงทำมันหนักไปนะ ถึงได้งอแงขนาดนี้"ผมบ่น พลางต่อเกมเข้ากับทีวีจอใหญ่

​​

"มึงก็ไม่น่าไปซ้ำมัน"ไอ้ดีพูดหน้าตายพร้อมยกมือลูบหัวปลอบเมียไปด้วย

"เหอะๆกูเสือกผิดอีก"ผมเบ้ปากใส่พวกมันนิดๆ นี่กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ(?)

"กูพามันไปนอนก่อน เดี๋ยวออกมาเล่นด้วย"ไอ้ดีบอกพลางอุ้มไอ้ตี๋ที่สะอื้นจนเกือบหลับขึ้น

"เออๆรีบมานะมึง ไม่ใช่มัวไปกกกันอยู่"ผมโบกมือไล่มัน แล้วกดเลือกเกมไว้รอ

ผมนั่งเล่นเกมกับไอ้ดีที่ห้องมันจนถึงตอนเย็น ไอ้เซนท์ก็ตื่นความงอแงจากสิบลดเหลือห้าตามประสามันเหมืนเดิม

อ้อ ผมโดนไอ้ตี๋งอนด้วย มันไม่ยอมคุยกับผมเลยล่ะครับ แต่พอผมไปซื้อไอติมแท่งละห้าสิบบาทมาให้กินนี่พูดกับกูเหมือนลืมงอนอ่ะครับ

"แดกข้าวที่ไหนอ่า กูหิวแล้ว"ปากว่างไม่ได้เลย ไม่พูดก็แดก มีอยู่สองอย่าง

"พวกมึงไปหาแดกกันเลยนะ กูต้องกลับละ"ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ใกล้ถึงเวลาที่มันนัดแล้วครับ

"มึงจะไปไหน?...อ้อ กูรู้ละ"ไอ้เซนท์หรี่ตามองผมอย่างมีเลศนัย

"รู้ดีนักเหรอสาสส เป็นขี้ไคลบนตัวกูหรือไง?"ผมรัดคอไอ้ตี๋แน่นอย่างกวนตีน โดนมันร้องโวยวายไปตามระเบียบ

"กูรู้ละกัน มึงจะรีบกลับไปหาผัว"มันกอดอกเชิดหน้าใส่ผมอย่างคนที่เหนือกว่า ไอ้ดีหันมาเลิกคิ้วถามผมเหมือนแปลกใจที่ไอ้เซนท์พูดแบบนี้

"เรื่องมันยาววว"ผมลากเสียงอย่างขี้เกียจเล่า

"กูรู้นานแล้ว แต่ไม่คิดว่าป่องจะรู้"ไอ้ดีไขความกระจ่าง

"อ้าว/ห๊า"ผมกับไอ้เซนท์อุทานออกมาพร้อมกัน

"มึงรู้เรื่องมันแล้วไม่เห็นบอกกูอ่ะ"ไอ้ตี๋โวยขึ้นก่อนเป็นคนแรก

"ก็มันเป็นเรื่องส่วนตัว ดีไม่อยากยุ่ง"

"มึงรู้ได้ไงอ่ะ"ผมถามหน้างง

"กูไม่ได้รู้เรื่องมึงกับเขาเป็นมายังไง แต่สังเกตว่ามีคนคอยตามดูแลมึงอยู่ตลอด เลยพอเดาๆได้บ้าง"

"อ้อ"ฉลาดสมเป็นนักศึกษาอันดับหนึ่งของคณะ

"แต่มันไม่ได้เป็นผัวกูหรอกนะ"ผมเอ่ยบอกเพื่อนไป ไอ้เหี้ยตี๋เบ้ปากทันที

"รอยเต็มคอมึงขนาดนั้น มึงจะบอกว่าเขาเป็นเมียมึงอ๋อ"

"ไม่เยอะเท่ามึงหรอกสัส...แล้วก็ไม่ได้เป็นทั้งผัวทั้งเมียกูด้วย"ผมเถียงไอ้เหี้ยตี๋คืนอย่างไม่ยอม

"จ้าๆเชื่อมากเลย"เห็นหน้มมันละหมั่นไใเลยบีบแก้มป่องๆมันแรงๆจนไอ้ตี๋กำลังจะร้องอีกรอบ

"พอๆ"ผัวมันห้ามทัพ

"มึงดูมัน!/มันวอนโดน!"ผมกับไอ้ตี๋เถียงขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็ทะเลาะกันอีกสักพักถึงเข้าโหมดแยกย้าย

"แล้วมึงขอม๊ายังเรื่องไปอังกฤษ"ผมถามก่อนจะเตรียมตัวกลับ

"ขอละๆ แล้วไอ้ทศล่ะไปมะ?"

"ไม่รู้ ช่วงนี้ติดเมียฉิบหาย กูขี้เกียจไปเป็นก้างพวกมัน"

"ว่าแต่มัน มึงก็ติดเหมือนกันแหละไม่ค่อยไปแดกข้าวกับกู"ไอ้เซนท์พองลมจนแก้มป่องน่าบีบจริงๆ

"มันติดกูเหอะ!มาไทยทีกูกระดิกตัวไปไหนได้ซะที่ไหนล่ะ"ผมบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดโดยไม่ปิดบังเพื่อนอีก

"โว้ๆมีคนเอาเสือสมิธอยู่ว่ะ เฮียนี่แน่จริงๆ"ไอ้เซนท์ตบมือแปะๆอย่างพอใจ

"เหี้ยน่ะสิ!"

"ไปๆรีบไปก่อนเขาจะมาลากคอมึงถึงที่"ไอ้ดีไล่ผมเหมือนเป็นห่วงสวัสดิภาพร่างกายกู

"จิ๊!เออไปละ"

+++++++++++

ผมอยู่อังกฤษแล้ว! หลังจากที่ไม่ได้กลับมาหลายปีก็รู้สึกคิดถึงบรรยายกาศอยู่นิดหน่อยแต่ไม่มาก(ปกติไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว)

ผมมาถึงอังกฤษตั้งแต่เมื่อวาน และเดินทางต่อมาถึงเมืองZที่ตั้งสโมสรVVและมีนัดการแข่งขันซึ่งก็คือวันนี้ ผมและเพื่อนๆกำลังจะเดินเข้าไปในสเตเดี้ยมด้วยความตื่นเต้น เหล่าผู้คนที่เดินเข้าออกกันอย่างขวักไขว่เพราะเป็นการเจอกันของคู่ปรับตลอดกาล

นัดที่สโมสรGGเป็นเจ้าบ้านผมไม่ได้มาดูเพราะติดสอบ แต่วันนี้ยังไงก็จะไม่พลาดเพราะผมจะมาให้กำลังใจโรเวลของผม

"ไอ้เหี้ยเคลมึงซื้ออะไรมาแดกนักหนาเนี่ย"ไม่ถามอย่างเดียวแต่ผมตกหัวไอ้เหี้ยเควินไปด้วย

"ไอ้สัส!ก็น้ำกับป็อปคอร์นมาเผื่อให้พวกมึงแดกด้วยไง"มันยกเท้าถีบผมเพื่อเอาคืน ผมไม่ได้ตอบโต้มันกลับเพราะคนเยอะและเราไม่ควรมาแสดงนิสัยเสียๆต่อหน้าสาธารณะชนเกินไปนัก

ลืมบอกไป!ว่าทริปดูบอลครั้งนี้ประกอบไปด้วยกระผมนายสมิธสุดหล่อ ไอ้ตี๋เซนท์ ไอ้ดี ไอ้เควิน(เพื่อนร่วมสาขา)และไอ้เต๋อ(เพื่อนร่วมสาขา) ส่วนไอ้ทศไม่มาเพราะไอ้น้องรันต์ไม่สบาย จบข่าว.

"ไหนๆเอาตั๋วออกมาดูดิ๊ ที่นั่งเราอยู่โซนไหน"ไอ้ตี๋หันไปถามผัว ไอ้ดีเป็นคนนำทางไปเพราะเคยมาแล้ว

สนามที่นี่ใหญ่มากไม่แพ้เมืองGgของสโมสรGGเลย

เมื่อเดินมาถึงที่นั่งของตัวเองแล้วมองลงไปที่สนาม วิวดีใช้ได้เลย ผมเพิ่งเคยได้มาดูบอลสดๆที่สนามแบบนี้ครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นชะมัด

ไม่นานเกินรอเหล่านักเตะก็เดินลงสนาม มีพิธีเปิดตัวบลาๆหลายอย่าง จากนั้นจึงเริ่มการแข่งขันขึ้น

ผมตะโกนร้องเชียร์เหล่านักเตะทีมโปรดอย่างเมามันส์ ทุกครั้งที่ทีมGGได้ประตูลุงคนข้างๆก็ลุกขึ้นเฮก่อนผมซะอีก

เกมหมดเวลาและจบด้วยสกอร์4-3 ทีมGGเป็นฝ่ายชนะไปในนัดนี้

"โรเวลฟอร์มดีขึ้นเยอะเลย สงสัยอาการบาดเจ็บจะดีขึ้นแล้วจริงๆ"ไอ้เต๋อวิเคราะห์ขึ้นขณะที่เรากำลังจะลุกออกจากที่นั่ง

"ใช่ๆ แต่ฟอร์มโจเอลดูตกไปหน่อย ปีนี้จะได้แชมป์รึเปล่าก็ไม่รู้"ไอ้เซนท์ก็พูดสัมทับขึ้นอีกคน

"รอดูกันต่อไป"ผมว่าบ้าง แต่จังหวะที่สายตามองลงไปยังสนาม ผมสะดุดตาที่คนๆหนึ่งกำลังยืนคุยกับโค้ชของทีมGGอยู่



ผมสีทองบลอนด์ที่มัดรวบตึง รูปร่างสูงใหญ่ภายใต้โค๊ทตัวยาวขนสัตว์ ใบหน้าที่มีรอยยิ้มดูเป็นมิตรอยู่เสมอ

นั่นมัน...ลูคัสไม่ใช่เหรอ?

"กูได้ยินข่าวมาว่าสโมสรGGเพิ่งเปลี่ยนมือเจ้าของสโมสรเมื่อเร็วๆนี้ว่ะ"ไอ้เควินพูดขึ้น ทำให้ผมหันกลับมาสนใจพวกมันอีกครั้ง

"ห๊า!จริงเหรอวะ!?"ไอ้เต๋ออุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"อืม กูก็ได้ข่าวว่าซื้อหุ้นไปเหยียบพันล้านปอนด์เลยนะ"ไอ้ดีว่าบ้าง กูว่าน่าจะมีเค้าความจริงบ้างแล้วล่ะ แต่ผมก็ยังไม่เชื่อเท่าไหร่อยู่ดี

"รอฟังข่าวอีกทีดีกว่า"ผมว่าพร้อมหันกลับไปมองสนามที่เดิมก็ไม่เห็นมันแล้ว

พวกผมกลับที่พักในเมืองZ จากนั้นก็ไปเดินเที่ยวเล่นตามสถาปัตยกรรมต่างๆในเมืองนี้ ตกเย็นก็ไปทานดินเนอร์ที่ร้านอาหารชื่อดังของเมือง

พวกเรามีแพลนจะกลับเมืองไทยวันพรุ่งนี้เพราะจะได้กลับไปเรียนทันวันจันทร์(วันนี้วันเสาร์)

ขณะที่เรากำลังจะเดินกลับที่พัก ผมได้เดินผ่านจัตุรัสของเมือง หน้าตึกอะไรสักอย่างมีการติดจอLEDขนาดยักษ์กำลังฉายข่าวด้านกีฬา

ผมจะไม่ตกใจเลยถ้าไม่ใช่ข่าวการเปลี่ยนมือเจ้าของสโมสรGGอย่างที่เพื่อนว่าไว้เมื่อตอนกลางวัน และเจ้าของคนใหม่นั่นไม่ใช่ ลูคัส ฮาล์น

แต่ความจริง คือลูคัสเป็นเจ้าของสโมสรGGอย่างเป็นทางการแล้ว

ผมช็อคจนพูดไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะทำจริงๆ

"นี่ไงๆที่กูบอก ใช่จริงๆด้วย"ไอ้เควินชี้ไปที่หน้าจอ

"โห ต้องรวยขนาดไหนวะถึงซื้อได้เนี่ย"ไอ้เต๋ออ้าปากค้างกับมูลค่าหุ้นสโมสรที่ลูคัสซื้อไป

"เหมือนลูคัสคนนี้จะทำธุรกิจหลายอย่างเลยนะ แล้วก็เป็นนักลงทุนตัวฉกาจที่เก่งมากๆเลย กูเคยอ่านข่าวเจอว่าเขาทำเงินจากการเทขายหุ้นได้หลายพันล้านในเวลาไม่กี่ชั่วโมง"ไอ้เซนท์ลูบคางนึก

"มึงแน่ใจนะ?"ผมถามเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก ผมรู้ว่าลูคัสพอมีฐานะอยู่บ้างอ่ะนะ แต่ไม่คิดว่ามันจะมากขนาดนี้ และไม่คิดว่ามันจะเก่งอะไรขนาดนั้นด้วย(ไม่ค่อยได้ตามข่าว)

"กูจำได้แม่นเลย!ทั้งหล่อและเก่งขนาดนี้จะมีอยู่สักกี่คนกัน"

"เออ กูก็เคยได้ยิน"ไอ้ดีพยักหน้ายืนยัน

"เจ๋งเป็นบ้า กูอยากรวยได้สักครึ่งของเขา แล้วซื้อสโมสรไว้ดูเล่นสักสองสามทีม"ไอ้เต๋อทำหน้าเพ้อฝัน

"เหอะๆ ฝันยาวๆไปถึงชาติหน้าเถอะสัส ไม่สิ...อีกสิบชาติมึงก็ยังต้องฝันต่อไป"ไอ้เคลตบหัวไอ้เต๋อเรียกสติ

"ไอ้ห่า กูเกลียดมึง"

"กูรักมึงตายล่ะ"

Rrr Rrr  ขณะที่พวกมันกำลังเถียงกันอยู่ เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมากดรับโดยที่เพื่อนก็ไม่ได้หันมาสนใจ

"ว่า?"

(มาหาหน่อย)เสียงทุ้มน่าฟังดังขึ้น

"ไม่"ปากผมเอ่ยปฏิเสธออกไปอย่างไม่ต้องคิด

(หรือจะให้พี่ไปหาเอง?)

"ไม่ต้องมา!"ผมเผลอขึ้นเสียงนิดหน่อยจึงทำให้เพื่อนหันมามอง จึงลดระดับเสียงลงแล้วทำสัญญาณให้เพื่อนรู้ว่าจะเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์

(ทำไมไม่ให้ไป ซุกใครไว้?)เสียงมันเข้มขึ้นนิดๆแต่ยังไม่ถึงขนาดน่ากลัว

"อย่ามาหาเรื่องนะ กูมีเพื่อนนอกกลุ่มมาด้วย"ผมบอกออกไปอย่างหงุดหงิด ถ้ามันมาก็ฉิบหายดิ มีแค่ไอ้เซนท์กับไอ้ดีผมไม่อะไรหรอกเพราะพวกมันรู้เรื่องแล้ว แต่ไอ้เคลกับไอ้เต๋อผมขี้เกียจพูดมากมาย ผมไม่สนิทใจที่จะเล่าเรื่องพรรค์นั้นให้ฟังสักเท่าไหร่

(งั้นออกมาหาพี่)

"ที่ไหน?"

(พี่จะให้คนไปรับ รออยู่ที่พักนั่นแหละ)

"ไม่ได้อยู่ที่พัก อยู่โซนbจัตุรัสเมือง"ผมบอกเพราะขี้เกียจเดินย้อนไปย้อนมา รออยู่นี่แล้วไล่เพื่อนกลับน่าจะง่ายกว่า

(โอเค ไม่เกินสิบนาที)มันพูดจบผมก็กดวางสายโดยไม่ได้ร่ำลาอะไรอีก

"พวกมึงกลับไปก่อนเลยนะ กูมีธุระต้องไปทำต่อ"เมื่อเดินกลับไปหาเพื่อนที่ยืนรออยู่ ผมก็หาข้ออ้างไล่พวกมันทันที

"มึงจะไปไหนอ่ะ"ไอ้เซนท์เสือกอย่างไม่ต้องสงสัย

"ก็ธุระไง"

"มึงมาดูบอล จะมีธุระอะไรที่นี่"ไอ้ตั๋หนั่ตามองจับ มานึกฉลาดอะไรเอาตอนนี้วะ

"กูมีละกัน ไปๆกลับได้ละ"ผมดันหลังไล่พวกมันกลับไป ทุกคนก็พากันร่ำลาผมพอเป็นพิธี แต่ไอ้เหี้ยตี๋ดูเหมือนจะไม่ยอมร่ำลา ผมเลยยกนิ้วกลางให้มันไปหนึ่งนิ้ว มันเลยชูกลับมาให้สองข้างแล้วสะบัดหน้าเดินจากไป

รถมาผมในสิบนาทีเป๊ะ และจอดส่งให้ที่หน้าคลับหรูแห่งหนึ่งของเมือง

โยที่รออยู่หน้าคลับเป็นคนมาเปิดประตูรถให้ผม ยอกตรงๆว่าไม่ค่อยอยากให้ทำให้เท่าไหร่ เดี๋ยวจะเคยตัวจนง่อยแดกไม่อยากทำอะไรเอง

โยนำทางผมเข้ามาในคลับ มันเป็นคลับหรูๆหน่อย ภายในร้านเน้นความหรูหราถูกใจพวกเศรษฐีทั้งหลาย ไฟด้านในจะออกโทนสีส้มมัวๆหน่อยและมีเพลงสบายๆเปิดคลออยู่เข้ากับบรรยากาศอย่างลงตัว อีกโต๊ะนั่งดื่มแบ่งเป็นสัดส่วนคนละเรื่องกับคลับทั่วไปที่เมืองไทย คนไม่เยอะมากแต่นั่งเต็มทุกโต๊ะ เสียงไม่ดังแต่ก็ไม่ได้เงียบอะไร ถือว่าดีใช้ได้เลย

โยนำผมไปหยุดอยู่ที่โต๊ะในมุมหนึ่ง ที่นั่งเป็นโซฟาหนังแบบวงกลม(แต่เปิดช่องให้เดินเข้าได้)ล้อมรอบโต๊ะเอาไว้



บนโซฟามีผู้ชายสามคนนั่งอยู่ คนแรกคือไอ้หัวทองที่บีบบังคับผมออกมา คนถัดไปเป็นคนคุ้นเคยที่ผมรู้จักดี ซึ่งนั่นก็คือเกรย์ คนสุดท้ายผมไม่รู้จัก ผมสีน้ำตาลแซมทอง ดวงตาสีฟ้า หน้าตาออกเหมือนชาวอิตาเลี่ยน ตัวสูงพอๆกับลูคัสแต่น่าจะล่ำกว่า บรรยากาศรอบตัวผู้ชายคนนี้ดูไม่ปกติ

ดูน่ากลัว...อย่างกับพวกมาเฟียเลย

"ไงเกรย์"ผมเอ่ยทักเกรย์ก่อนโดยข้ามหัวอีกคนไป

"ไงสมิธ นั่งลงก่อนสิ"เกรโย์บกมือทักทายแล้วชี้ให้ผมนั่งข้างไอ้จอมเผด็จการ ผมก็ไม่อยากจะนั่งหรอก แต่อีกด้านเป็นผู้ชายท่าทางน่ากลัวคนนั้น...ใครมันจะไปกล้านั่งตรงนั้นฟระ

ผมจึงจำใจต้องนั่งข้างลูคัสแทน

"มิทตี้ นั่นเพื่อนพี่"ลูคัสพยักหน้ไปทางผู้ชายน่ากลัวคนนั้น

"สวัสดีครับ สมิธครับ"ต่อหน้าคนๆนี้ สมบัติผู้ดีอันน้อยนิดของผมถูกขุดมาใช้ทุกอย่าง

"สวัสดี ผมคาลว์ดิโอ เรียกดิโอก็ได้"เขายื่นมือมาด้านหน้า ผมลังเลนิดหน่อยแต่ก็ยื่นมือไปจับตอบอย่างเกร็งๆ

"ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้สมิธ"เกรย์หลุดหัวเราะเสียงดังกับท่าทางไม่เป็นตัวของตัวเองของผม

"กลัวอะไร?"ไอ้บ้าลุคถามอย่างไม่เข้าใจ

"เปล่า...เพราะมึงนั่นแหละ!"ผมทำอะไรไม่ถูกเลยเหวี่ยงมันซะเลย

"หึๆ ไม่ต้องกลัวผมหรอก ถ้าคุณไม่กลัวคนที่นั่งข้างคุณ ผมก็ไม่มีอะไรให้คุณกลัว"ดิโอพูดขึ้นแล้วจิบไวน์ด้วยท่าทางสบายๆ

"ใช่ๆ คนที่นั่งข้างสมิธน่ากลัวที่สุดแล้ว"เกรย์พยักหน้ายืนยันคำพูดดิโอ ผมหันไปมองไอ้คนที่เพื่อนมันพูดถึง มันยิ้มให้ผมบางๆแล้วยื่นมือมายีศีรษะผมเบาๆ

"ดูบอลวันนี้สนุกไหม?" ผมพยักหน้า และนึกถึงเรื่องช็อคที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ได้ ขึงเอ่ยถามมันออกไป

"มึงซื้อสโมสรGGจริงเหรอ"

"ใช่! ซื้อให้มิทตี้ไง"

"..."ยิ่งพอได้ยินมันยืนยันแบบนี้ผมยิ่งพูดไม่ออก แต่ก็รู้สึกดีใจมากๆอย่างบอกไม่ถูก

"ตามที่ตกลงกันไว้ พี่ทำตามสัญญาแล้ว มิทตี้ก็ต้องทำตามสัญญาบ้าง"มันยิ้มแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น สมองผมนึกไปถึงเหตุการณ์ไม่ถึงสัปดาห์ก่อน

'แล้วถ้าพี่ซื้อสโมสรGGให้ มิทตี้จะรู้สึกยังไง?'

'คงรู้สึกดีใจมากจนพูดไม่ออก จะกระโดดจูบมึงหลายๆทีแล้วยอมทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆ'

กูอยากตบปากมึงเลยทีจริงๆสมิธ ไอ้ควายเอ้ย!!!

"ตอนนั้นกูไม่ได้คิดจริงจัง"ผมติบมันเสียงเบา

"ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นสิ"

"เอ๊ะ!แล้วมึงจะให้กูทำต่อหน้าเพื่อนมึงเหรอไง!"ผมพูดออกไปอย่างหงุดหงิด เห็นทีจะเลี่ยงยากแล้ว

"ทำอะไรเหรอ?"เกรย์แทรกถามด้วยความอยากรู้

"เสือก/ไม่บอก"ลูคัสกับผมพูดขึ้นพร้อมกัน

"แหม สามัคคีกันดีจริงเชียว...จะทำอะไรก็ทำเถอะ ไม่แอบดูหรอก"เกรย์ยกมือขึ้นปิดตา แต่นิ้วห่างกันซะขนาดนี้ไม่ต้องปิดก็ได้นะ เมื่อยมือเปล่าๆ-_-

"ไม่เอา!ชงเหล้ามาเลยเกรย์ ผมจะดื่ม!"ลูคัสเลิกคิ้วมองผมนิดๆแต่ไม่ได้ห้ามปามอะไร มันดื่มไวน์กับดิโอสองคน ส่วนผมกับเกรย์ผลัดกันเทวิสกี้ให้กัน เวลาผ่านไปเหล้าก็หมดไปหลายขวด ผมไม่เมาเท่าไหร่แต่เริ่มออกลาย(?)

"ดิโอ พี่เป็นมาเฟียเหรอวะ"ผมถามออกไปด้วยความปากกล้าอย่างไม่กลัวตายเลยสักนิด

"แล้วคิดว่าไง?"

"โผมดูก็รู๊ หน้าพี่มันได้เว้ย"

"โหด?"เสียงใครสักคนถามขึ้น แต่ผมส่ายหน้าแรงๆ

"หึ!หล่อ!"ผมยกนิ้วโป้งสองข้างให้ดิโอ

"ฮ่าๆๆๆ"ดิโอหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจแล้วชนแก้วกับผม

"บางเรื่องเราก็พูดออกมาตรงๆไม่ได้ แต่เซนส์นายแรงดีสมิธ สมกับที่เป็นเมียมัน"

"เมียครายวะเพ่?"

"ไม่ใช่คนที่นั่งข้างๆนายเหรอ?"

"เอ๋?คนนี้เมียผมคร้าบ ใช่มะ?"ผมเกี่ยวคอลูคัสที่คุยกับเกรย์อยู่ให้เข้ามาใกล้ตัวเองก่อนจะเอียงคอถามมัน

"...ตามใจ"มันก้มมาหอมแก้มผมแรงๆ

"WTF!ความหลงเมียอะไรนี่"เสียงเกรย์แว่วๆมาเข้าหู

"หึๆหลงเมียหรือกลัวเมีย?"ดิโอแซวขึ้นบ้าง

"กูไม่เคยกลัว"

"อ้อ กูจะรอดู"ผมหน้าร้อนขึ้นนิดๆ แม่งพูดเชี่ยไรไม่รู้ ปากไม่น่าหาเรื่องเลยกู เข้าตัวเองหมด

"ปวดฉี่ ไปเข้าห้องน้ำแปบ"ผมบอกมันแล้วลุกขึ้น ชักเมาเกินไปแล้ว อยากไปล้างหน้าล้างตาด้วย

"พี่ไปเป็นเพื่อน"มันลุกขึ้นตาม

"ไม่ต้อง!"

"มิทตี้"มันกดเสียงเข้มลงอีกระดับ ผมเลยทำหน้าบึ่งใส่มันแล้วก้ามออกมาก่อน

"ที่เดินๆไปนั่นรู้เหรอห้องน้ำไปทางไหน?"เสียงไอ้เชี่ยลุคดังตามหลังมา ทำให้ผมหยุดก้าวเท้าต่อ

"มึงก็นำไปดิ!"ผมทำหน้าบึ้งอย่างขัดใจ มันส่ายหน้าหน่อยๆก่อนจะกอดคอพาผมเดินไปทางที่ผมกำลังจะตรงไปเมื่อกี้

กูก็ไปถูกแล้วป่ะวะ?

ผมเดินตรงไปฉี่ที่โถหนึ่ง ในห้องน้ำไม่มีคนเลยเว้ย แปลกจริง เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปล้างมือที่อ่างล้างมือ จังหวะนั้นอยู่ๆก็มีคนสวมกอดผมจากด้านหลัง ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบที่หลังคอผม ผมสะดุ้งนิดๆแต่ไม่ได้โวยวาย เพราะเห็นไอ้โจรบ้ากามผ่านทางกระจก

แต่พอจะหันกลับไปด่าสักยกก็ถูกประกบจูบริมฝีปากซะก่อน ผมบ่นอู้อี้ในลำคอ มันจึงสอดลิ้นเข้ามาดูพันกับลิ้นผมไม่ให้พูดอะไรได้อีก

ผมถูกชักนำจุมพิตอย่างมัวเมา ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกยกขึ้นไปนั่งบนเคาร์เตอร์อ่างล่างมือ ไม่รู้เลยว่าเผลอยกแขนขึ้นคล้องคอมันและเป็นผมที่เป็นฝ่ายรุกเร้าริมฝีปากเข้าหามันเอง



เราจูบกันอย่างดุเดือดอยู่หลายนาทีจนผมชักหายใจไม่ทัน ถึงได้เบี่ยงริมฝีปากหลบออก แต่ริมฝีปากบางน่าจูบของมันก็ตามมาประจูบอีกอย่างไม่ลดละ

"อื้อ!หายใจ อึก!ไม่ออก...จุ๊บ!"ผมพยายามส่งเสียงบอกอีกคน มันจึงยอมผละออกอย่างเสียดาย

"วันนี้ไปนอนกับพี่นะ"ริมฝีปากมันคลอเคลียจูบอยู่แถวใบหู ผมจึ้งผลักหน้ามันออกอย่างรำคาญ

"นอนแบบไหน?นอนเฉยๆหรือเอากัน"ผมเอ่ยถามออกไปตรงๆ ตามันเยิ้มขนาดนี้กูจะเหลือเหรอ

"เอากันเสร็จก็นอนด้วยกัน"

"ไม่เอา พรุ่งจะบินกลับไทย"ปฏิเสธทั้งที่รู้ดีว่าไม่น่ารอด

"เดี๋ยวไปส่ง"

"มันทรมานป่ะ นั่งเครื่องตั้งหลายชั่วโมง"ผมทำหน้าเซ็งๆไม่อยากจะคิดสภาพตัวเอง ถึงจะเป็นที่นั่งแบบเฟิร์สคลาสก็เถอะ

"พี่ให้นั่งเครื่องบินส่วนตัวพี่กลับ สบายๆไม่ทรมาน"ดูมันหว่านล้อมผมดิ

"เพื่อนกูล่ะ?"ผมถามเพราะไม่อยากทิ้งเพื่อน

"ให้เพื่อนไปด้วยก็ได้ ฟอด!"มันบอกอย่างใจกว้าง

"แต่ว่า..."ผมกำลังจะคิดหาข้ออ้าง แต่มันก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"ไม่มีแต่...ให้กำลังใจพี่บ้างนะครับ"แล้วมันก็กดริมฝีปากจูบข้างขมับผม กูชักจะใจสั่นเข้าไปทุกที ทำไมต้องมาพูเพราะๆกับกูด้วยเนี่ย!

"นี่จะคิดค่าที่ซื้อสโมสรเหรอ?"ผมถามอย่างหาเรื่อง

"ไม่นี่ พี่ซื้อให้มิทตี้มีความสุขเฉยๆ เดี๋ยวสักพักพี่โอนให้เป็นชื่อมิทตี้ ดีใจไหม?"

"...ก็ดีใจอยู่หรอก แต่กูจะเอาเงินที่ไหนไปคอยสนับสนุนทีม จ่ายเงินเดือนให้พวกเขาอีกล่ะ ค่าตัวแต่ละคนไม่ใช่น้อยๆ"

"พี่จะจ่ายให้"

"ไม่เอา งี้ก็เอาเปรียบมึงดิ"ผมปฏิเสธเพราะทำตัวเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้

"พี่เต็มใจ"

"ก็บอกว่าไม่ไง!"ผมเริ่มหงุดหงิด

"โอเคๆไว้มิทตี้พร้อมเมื่อไหร่ มิทตี้ก็บอกพี่ ระหว่างนี้มิทตี้จะมาดูพวกเขาซ้อม ขอถ่ายรูปหรืออะไรก็ตามแต่ใจมิทตี้เลย ดีไหม?"มันลูบแก้มผมเบาๆให้คลายความโกรธลง ผมก็พยักหน้าให้มันแล้วบ่นพึมพำออกมา

"ชาติกูจะพร้อมได้ไหมเนี่ย"และเพราะมันอยู่ใกล้ผมในระยะประชิดเลยได้ยินคำที่ผมพูด มันหัวเราะเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น

"พี่มีทางลัดนะ"

"อะไร?"ผมถามอย่างสนใจ

"แต่งงานกับพี่สิ สมบัติพี่จะยกให้มิทตี้หมดเลย"มันยิ้มบางๆแต่สายตาไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด

"..."

ผมช็อคไปแล้วครับ นี่มันกำลังขอผมแต่งงานเหรอ?

ในห้องน้ำด้วยนะ...

++++++++++++

ขอโทษจริงๆที่ทำให้รอนาน โน๊ตบุ๊คเปรมพังง่ะ ไฟล์อะไรที่พิมพ์ไว้ก็หายหม๊ดTT ช่วงนี้จะจัดให้เสพหวานยาวๆก่อน ก่อนที่จะ...

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ซึ้งมาก ขอแต่งงานในห้องน้ำ555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้โหหหหหหความรวยนี้ถึงกับซื้อสโมสรได้เลย หลงเมียขั้นสุดจริงๆ แต่จะให้มิทตี้แต่งงานด้วยเคยขอคบแบบจริงจังรึยัง เคลียร์ตัวเองหมดแล้วใช่มั้ย หา ว่าแต่ที่นักเขียนบอกเอาหวานๆมาเสิร์ฟก่อนที่จะ.....จะอะไรอีกค้าาา เท่าที่ผ่านมายังดราม่าไม่พอใช่ม้ายยยย

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 o22 เสี่่ยลุคเปย์รัวๆๆๆ

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
โว้วววว ขอแต่งงานในห้องน้ำ  :mew4:

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านแล้วยิ้มเฉยเลย แต่งๆไปเถอะมิตตี้ ยังไงพี่ลูก็ไม่ปล่อยให้หนีไปไหนหรอก :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะมีอะไรทีปริมมาเกี่ยวด้วยในอนาคตไหมนะ  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lcortsess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
ได้ใจ จ๊ะ ลูคัส 

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เป็นตอนที่น่ารัก
อีกตอนครับ



        :กอด1:



ออฟไลน์ มะลิมะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หึ..ยังไม่สาสมกับความเหี้ยของมึงหรอกลุค
สมิทอย่ายอมง่ายๆนะลูก อยากเห็นลุคเจ็บปวดบ้าง
ทำน้องไว้เยอะ  :z6:

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
เปย์เมียอะไรอย่างน้านนนนนนนนน อิพี่มันจะใจดีได้นานแค่ไหน

ออฟไลน์ ppnplg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อะไรรรรรรรรลูคัสเธอไปเคลียกับคู่หมั้นเธอแล้วหรอ
มาขอสมิธแต่งงาน ในห้องน้ำด้วย โอ้วแม่เจ้า5555555
อย่าลืมกระโดดจูบลูคัสหลายๆทีเลยนะได้สโมสรมาแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลุค เปย์เมียสุด

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 23.1

โอเค!ตั้งสติก่อนสมิธ

วันนี้กูช็อคไปกี่รอบแล้ววะเนี่ย ถ้านี่เป็นโรคหัวใจผมว่าผมตายไปละ...หัวใจแม่มทำงานหนักเกินไป

"ว่าไง?"มันเลิกคิ้วถามแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะจูบปากกันอีกรอบ

"ไม่แต่ง ขี้เกียจไปตามถีบเมียน้อยมึง"ใครจะไปตามจิกตามตบก็ทำไป แต่ถ้าผมเจอนะ กูจะกระโดดถีบก่อนเลย

"ไม่มี"มันฉีกยิ้มบางๆ

"กูไม่เชื่อ!"ผมเถียงทั้งหน้าบึ้งๆ ไม่ต้องสืบก็รู้ป่ะว่าเด็กเยอะ มันเจ้าชู้จะตาย

"พี่ไม่เคยให้ใครเป็นเมียนอกจากมิทตี้"

"..."เจอหมัดฮุกเข้าอีกรอบทำเอาพูดไม่ออกอีกละ วันนี้มันไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าวะ หรือว่ามันจะไปทำขนมไทยขาย

หยอดแล้วหยอดอีก

"ทำไมนิ่งไปอย่างนั้นล่ะ?"มันยื่นหน้ามาจูบริมฝีปากผมเร็วๆแล้วผละออก ผมถลึงตาใส่มันเมื่อได้สติกลับมา

"จะแต่งได้ไง คู่หมั้นดารามึงก็ยังอยู่"

"ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก ถ้ามิทตี้ตกลงทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา"มันพูดพลางยกมือเรียวเกลี่ยผิวแก้มผมเล่นไปมาแต่ผมก็ปัดออกอย่างหงุดหงิด

"มึงพูดจาเห็นแก่ตัวอีกแล้วนะลุค"ผมจ้องมันเขม็งอย่างไม่ค่อยพอใจ ลูคัสจึงถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

"พี่ไม่ใช่คนดี มิทตี้ก็รู้ใช่ไหม?"ผมพยักหน้ายืนยันคำพูดของมัน จริงๆอยากพูดว่ามันชั่วมากๆเลยต่างหาก...แต่กลัวโดนตบไง

"พี่จะดีเฉพาะกับคนพิเศษของพี่ พี่สามารถทุ่มเทให้เขาได้ทุกอย่าง...ถ้าเพื่อเขาแล้วต่อให้ต้องเลวกับคนอื่นแค่ไหน พี่ก็ไม่สนใจหรอก"

"หึ!"

"มิทตี้อยากรู้ไหมว่าคนพิเศษของพี่คือใคร?"มันดึงผมให้ลงมายืนก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างค้ำกับเคาน์เตอร์กักขังผมไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง

"ไม่"ผมหันหน้าหนีไปอีกทางเพราะรู้สึกว่าหน้ามันอยู่ใกล้จนริมฝีปากแทบจะสัมผัสกันทุกครั้งเวลาพูด

"เด็กดื้อของพี่ ไม่อยากรู้จริงๆเหรอ?"ลูคัสแนบริมฝีปากจูบซับไปที่หลังใบหูผมเบาๆ ร่างกายผมร้อนขึ้นราวกับไปยืนแช่อยู่ในหม้อน้ำเดือด ผมผลักมันออกแต่ร่างกายแข็งแรงของมันกลับไม่ยอมขยับเลยสักนิด

"ล..ลุค อย่า"ผมเอ่ยห้ามมันเสียงสั่น มันรู้ทั้งรู้ว่าหูคือจุดอ่อนของผมแล้วยังจะแกล้ง!

"ลองทายมาสิ ถ้าทายถูกพี่จะยอมหยุด"มันพูดไปพลางขบติ่งหูผมไปด้วย ผมตัวสั่นนิดๆแต่กลางกายนี่เสือกเสียววูบวาบๆขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

"อะไอ้ทศเหรอ"ลูคัสส่ายหน้า

"คู่หมั้นดาราของมึง"

"ไม่ใช่"มันว่าก่อนจะเลียไปตามซอกหูผม

"กูไม่...อ๊ะ!...รู้!"ผมหลุดเสียงน่าอายออกมา

"ลองทายดูดีๆ"

"กะ...ก็กูไม่รู้แล้ว!"

"ทำไมไม่ลองทายตัวเองดูบ้าง!"น้ำเสียงทุ้มต่ำของมันเจือไปด้วยความหงุดหงิด

"..."

"พี่ทำให้ขนาดนี้ มิทตี้ไม่รู้จริงๆเหรอ?"

"ง่วงแล้ว กลับเถอะ"ผมเอนศีรษะพิงไหล่มัน ใช้จมูกบี้ไปมากับเสื้อตัวสวยของมัน(ตัวมันหอมจังวะ) มือผมก็สอดกอดเอวสอบเอาไว้หลวมๆ ผมได้ยินเสียงมันถอนหายใจออกมาเบาๆ

"พอไม่อยากตอบก็เป็นอย่างนี้ทุกที"มันเอ่ยอย่างอ่อนใจก่อนจะก้มหอมหัวผมแรงๆ

ลูคัสกอดคอพาผมออกจากห้องน้ำแต่ปากก็ยังคลอเคลียหน้ากูไม่ห่าง-_-

ผมเหลือบสายตาเห็นลูกน้องมันยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำอยู่...ถึงว่าทำไมถึงไม่มีคน

จังหวะที่เรากำลังจะเลี้ยวออกจากทางเข้าห้องน้ำ อยู่ๆก็มีคนเดินตรงทางนี้ ผมได้ยินเสียงโวยวายที่คุ้นหูและรู้สึกคุ้นเคยกับคนรูปร่างลักษณะแบบนี้มาก ยิ่งขยับเท้าเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

จังหวะที่ผมกับเขาประสานสายตากัน เท้าที่กำลังก้าวเดินกลับหยุดชะงักไปซะดื้อๆ เสียงที่โวยวายก่อนหน้าก็เงียบเสียงลงโดยสิ้นเชิง

"สมิธ...มึงมาอยู่ที่นี่ได่ยังไงวะ"นอกจากปากมันจะเอ่ยถามผมแล้ว สายตาตี่ๆก็เหลือบมองคนที่ยืนกอดคอผมอย่างมีคำถาม

"ก็...ธุระที่กูบอกไง"ผมทำหน้าปั้นยากก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนไป

"มึง...มาคุยกับกูแปบดิ๊"ไอ้เซนท์บอกแต่ไม่กล้าขยับเข้ามาใกล้ เพราะการ์ดชุดดำห้อมล้อมรอบตัวผมอย่างกับกำแพง

"กูไปคุยกับเพื่อนแปบนะ"ผมหันไปบอกไอ้คนที่ยืนข้างๆ จับแขนมันออกจากคอ แต่ไอ้เหี้ยลุคดันไม่ยอมปล่อย

"คุยตรงนี้"ไอ้เซนท์ที่ยืนอยู่ข้างๆไอ้ดีถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงลูคัส

"มึง...คุยตรงนี้ได้ไหมวะ"ผมหันไปทำเสียงอ่อนใส่ไอ้เซนท์ คนหนึ่งก็เพื่อน อีกคนก็...ช่างเถอะ

"ไว้ค่อยกับไปคุยกันที่ห้องก็ได้"ไอ้เซนท์ยอมถอยให้ก่อน มันก็คงไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าลูคัสเท่าไหร่

"คือ...คืนนี้กูคงไม่ได้กลับ"มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วล่ะ

"ว่าไงนะ!แล้วมึงจะไปนอนไหน..."คำพูดสุดท้ายของไอ้เซนท์แผ่วลงฉับพลันเมื่อสายตายมันเหลือบมามองไอ้คนที่ยืนกอดคอผมอยู่

"กูก็อยู่แถวๆนี้แหละ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน"ผมส่งสายตาให้เพื่อนอย่างรู้กัน

"เออๆ...ว่าแต่ คนนี้เฮียใช่ไหม?"

"อืม"ผมพยักหน้าเบาๆ ไอ้เซนท์กับไอ้ดียกมือไว้ลูคัสทันที

"เฮียสวัสดีครับ"ลูคัสพยักหน้าพร้อมหันมามองผมอย่างมีคำถาม

"เฮียเป็นคำเรียกพี่ชาย"ผมอธิบาย มันก็พยักหน้ารับรู้

"พวกคุณนั่งโต๊ะไหน?"ลูคัสเอ่ยถามเพื่อนผมและไอ้ดีเป็นคนตอบว่ามันนั่งอยู่ตรงไหนกับเพื่อนอีกสองคน

"เต็มที่เลยนะ วันนี้ผมเลี้ยงต้อนรับในฐานะที่เป็นเพื่อนมิทตี้"

​​

"เอ่อ...ขอบคุณครับ"ไอ้ดีทำท่าจะเอ่ยปฏิเสธ แต่ผมขยิบตาให้มันยิกๆจนตาแทบจะบอด มันถึงได้เอ่ยตอบรับ

"ไว้ค่อยคุยกันวันหลัง มิทตี้ง่วงแล้วผมคงต้องพากลับก่อน"

"แค่กๆ"ไอ้เหี้ยเซนท์อยู่ๆก็สำลักอากาศแต่ผมก็รู้แหละว่าเพราะอะไร...ชื่อกับหน้ากูเข้ากันซะที่ไหนล่ะ

"เจอกันพรุ่งนี้ ตามเวลานัดนะ"ผมนัดแนะกับเพื่อนเสร็จก็เอ่ยลา พร้อมลากไอ้หัวทองออกมาด้วย

"ไปบอกลาเพื่อนพี่ก่อนแล้วค่อยกลับ"มันเกี่ยวแขนผมไว้ เมื่อเห็นผมทำท่าจะตรงดิ่งไปทางออก ลูคัสพาผมไปลาดิโอและเกรย์ โดนแซวนิดหน่อยแต่ผมด้านแล้วอ่ะ ไม่รู้สึก

ลูคัสพาผมมาพักโรงแรมระดับห้าดาวครึ่งของเมืองที่มันพักอยู่

ทันทีที่เห็นเตียงนอน ผมก็ถลาล้มตัวลงใส่เหมือนคนไร้กระดูก ไอ้เตียงบ้านี่ก็ไม่รู้จะนุ่มอะไรนักหนา นอนสบายทำสติผมแทบจะดับอยู่รอมร่อ

"ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ?"ผมได้ยินเสียงแว่วๆอยู่ข้างหู แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

"..."

"เนียนเลย สัญญากับพี่ไว้ว่าไงครับ ฟอด!"

"ง่วงแล้ว"ผมบอกมันด้วยความงัวเงียขั้นสุดท้าย นี่ไม่ได้จะแผนบ่ายเบี่ยงอะไรเลยนะครับ

"งั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องกลับ"เสียงทุ้มต่ำลงอีกระดับ ทำให้ผมฝืนลืมตามองมันอย่างหงุดหงิด

"ลุค!"

"พี่ตามใจมิทตี้มากแล้วนะ มิทตี้ต้องตามใจพี่บ้าง"

"มึงอยากนักก็ไปเอากับคนอื่นดิ!"

"ถ้าพี่อยากได้คนอื่นพี่จะมาขอมิทตี้ไหม?"

"กูเจ็บอ่ะไม่อยากทำ...มึงให้กูทำมึงแทนไหมล่ะ"

"มิทตี้จะออนท็อปให้พี่?"

"บ้า!ใครจะไปทำ"

"หึๆ"

"รอบเดียว ใส่ถุงด้วย"

"สามรอบ ขอแตกใน"

"มากไปแล้ว!"ผมใช้มือขยุ้มผมมันขณะที่มันกำลังก้มลงหอมแก้มผม

"หรือจะโดนจนกว่าพี่จะอยากพอ"โอโห!กูคงไม่ได้ออกจากห้องเป็นอาทิตย์

"มึงแม่ง!"

"มิทตี้!"

"เออ!ถอยออกไปเลย กูจะไปล้างตัว!"ผมผลักมันออก แล้วลุกขึ้นจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ คือนอกจากจะถูกเอาแล้วผมยังต้องมาคอยล้างตู้เย็นอีกนะ ลำบากกูทั้งขึ้นทั้งล่องเลยโว้ย!!!

ผมใช้เวลาอาบน้ำล้างตัวทั้งข้างนอกข้างในประมาณ20นาที ออกมาจากห้องน้ำก็เจอมันนั่งใส่เสื้อคลุมเช็คโทรศัพท์ผมอยู่

"ทำไร?"

"เช็คความประพฤติเมีย"

"เหอะ!"ผมพูดได้แค่นั้นแหละครับ รับรองว่าพอผมเปิดโทรศัพท์ดูอีกทีคือแชทสาวๆกูหายหมด

"มีเหล้าไหม?"ผมถามหาน้ำเมามาย้อมใจสักหน่อยเพราะตอนนี้มันสร่างแล้ว ทำใจยอมมันไม่ค่อยลงจริงๆว่ะ

"ไม่มี ถึงมีพี่ก็ไม่ให้"ตุ้บ! ลูคัสโยนโทรศัพท์ผมทิ้งไปอีกทางแล้วกระชากแขนผมให้ล้มลงบนเตียงกว้างก่อนที่มันจะตามมาคร่อมร่างผมไว้

"พี่จะอ่อนโยน"

"ไปหลอกคนอื่นไป อื้อ!"มันก้มลงมาจูบปิดปากไม่ให้ผมพูดอะไรได้อีก

มือเรียวแกะปมเชือกเสื้อคลุมผมออกเหมือนรีบ นิ้วโป้งมันไล้วนเค้นคลึงตุ่มไตบนอกผมจนร่างกายสั่นสะท้าน ริมฝีปากร้อนๆจูบดูดบนกลีบปากผมอย่างหื่นกระหายจนพอใจก่อนจะเคลื่อนสัมผัสไปที่คอและฝากรอยแดงช้ำไว้หลายรอย

มือเรียวข้างหนึ่งของลูคัสเริ่มขยับลงล่างไปสัมผัสกับน้องชายผม มันกอบกุมไว้จนเต็มมือก่อนจะลงน้ำหนักแล้วรูดชักให้แรงๆเพื่อปลุกความกระสันแห่งอารมณ์ผมขึ้นมา

"อ๊ะ...อื้อ!...อึก!"ผมหลุดเสียงออกมาทั้งๆที่กัดปากกลั้นสุดชีวิต แต่เพราะความเสียวซ่านที่โจมตีกลางกลายผมอย่างหนักทำให้มันกลั้นไม่ไหวจริงๆว่ะ

"เสียวก็ร้อง จะกลั้นทำไม?"มันขยับปากมาจูบแก้มผมแรงๆ ผมจึงทึ้งผมมันเบาๆ(ไม่กล้าทำแรง)พร้อมถลคงตาใส่

"ใครจะ อึก!ไปร้อง...อ๊า!"แม่งโกง!มันขยี้ปลายหัวตรงนั้นผมอ่ะ

"หึๆ"มันหัวเราะในลำคอก่อนจะก้มลงขบติ่งบนยอดอกผมอย่างแรง ผมสะดุ้งเฮือกเพราะเสียวอย่างหนักบวกกับช่วงล่างที่โดนขยับอย่างต่อเนื่องทำให้ผมทนไม่ไหวพรั่งพรูหยาดน้ำสีขุ่นออกมาเลอะเต็มหน้าท้องเลยมาเลอะปลายคางมันที่กำลังนัวเนียอยู่ที่อกผมด้วย

ผมหอบหายใจหนัก โดยไม่ทันได้ตั้งตัวสองขาก็ถูกถ่างออกจากกันแทบเป็นเส้นตรงพร้อมๆกับที่สัมผัสนิ่มๆเปียกชื้นไล้เลียอยู่ที่ปากทางด้านหลัง

ผมแทบสำลักอากาศตายเมื่อรู้ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ จีบรอบตรงนั้นถูกมือเรียวคลี่ออก ลิ้นร้อนๆสอดแยงเข้ามาให้ความรู้สึกแปลกใหม่

มันขนลุกแต่ก็เสียวไปพร้อมๆกัน

"อ๊ะ..อ๊ะ อื้อออ"ผมหลุดร้องเสียงหลง เมื่อลูคัสขยับลิ้นเข้าออกช่องทางนั้นรัวเร็ว

แม่งเสียวเหี้ยๆ แล้วมันยังยื่นมือมาสาวแก่นกายผมที่กำลังตั้งสู้มืออยู่อีก

ทนได้ก็ไม่ใช่คนแล้วครับ...ผมเสร็จน้ำที่สองภายในระยะเวลาแค่สิบนาที

มันใช้มือป้ายน้ำผมที่เลอะเทอะเต็มตัวสอดไปที่ช่องทางด้านหลัง สองนิ้วแรกก็อึดอัดปนๆเสียว แต่พอมันสอดนิ้วที่สามแล้วกระแทกเข้าออกสลับกับครูดผนังนุ่มด้านใน มันโดนจุดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำเอาผมหลุดครางไปหลายต่อหลายครั้ง...แต่ครั้งนี้ผมยังไม่เสร็จง่ายๆเพราะเพิ่งจะเสร็จสองน้ำไปติดๆกัน

ลูคัสถอนนิ้วออก ผมเห็นมันบีบเจลใส่มือก่อนจะนำไปชักแก่นกายสีแดงคล้ำที่ผงกหัวรอจนชุ่ม

ผมกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ มันแตกต่างจากเมื่อตอนผมเด็กมากจริงๆ

"ไม่ต้องกลัว ไม่เจ็บ"

"มึงไม่เจ็บ!แต่กูเจ็บ!"ผมขยับตัวหนีแต่ก็โดนมันยึดเอวไว้แน่น

"หึๆเจ็บแปบเดียวเดี๋ยวก็เสียวแล้ว ผ่อนคลายนะเด็กดี"มันยืดตัวโน้มหน้ามาจูบปากผมปลอบๆ ไม่กี่วินาทีต่อมาความอึดอัดปนเจ็บก็ถูกแทรกเข้าสู่ช่องทางนั้นของผม

แม้ไม่เท่าครั้งแรก แต่ก็เจ็บอยู่ดีป่ะวะ

ผมพยายามผ่อนคลายให้ตัวเองเจ็บน้อยลง มือก็แขนกับหลังคอมันสุดแรงระบายความรู้สึก

ลูคัสทำหน้าเหยเกเพราะช่องทางนั้นตอดรัดมันจนแทบขยับไม่ได้ แต่สุดท้ายมันก็ฝืนดันเข้ามาได้จนสุดอยู่ดี

"เด็กดีของพี่"มันจูบหน้าผากที่ชื้นเหงื่อผมหลายๆที สะโพกสอบก็เริ่มขยับโดยไม่ให้เสียเวลา

มังกรยักษ์หัวแดงขยับเข้าออกช้าๆเนิบๆแต่ก็กระแทกเข้าจนสุดทุกครั้งเล่นเอาผมจุกท้องน้อยไปหมด

มันโน้มหน้ามาจูบปากผมอย่างดูดดื่มด้วยกามอารมณ์ขณะเดียวกันสะโพกสอบก็เริ่มขยับถี่เร็วขึ้น

ลูคัสจับขาข้างหนึ่งของผมพาดกับบ่ามัน อีกข้างถ่างเหยียดกว้างไปกับที่นอน แขนแกร่งค้ำอยู่บนเตียงแล้วกระแทกสะโพกแทงสวนเอวเข้ามาไม่ยั้ง

ผมร้องครางไม่เป็นภาษา ทั้งเจ็บ ทั้งเสียวและจุกปนๆกันไป

ช่วงใกล้ถึงปลายอารมณ์ มันกดจมูกจูบขาอ่อนผมที่พาดอยู่บนตัวมันอย่างมัวเมา

แล้วไม่รู้เพราะอะไรที่พอผมเห็นแบบนั้นผมยิ่งเสียวมากขึ้นไปอีก ลูคัสขยับสะโพกถี่เร็วดังตับๆๆปนเสียงเฉอะแฉะในช่วงสุดท้ายก่อนจะฉีดพ่นน้ำอุ่นร้อนเข้ามาเต็มช่องทางผมจนแทบเลอะออกมา

ช่องทางนั้นบีบกระตุกรีดน้ำของมันและตัวผมก็กำลังจะเสร็จตามมันไปติดๆ ลูคัสสาวแก่นกายให้ผมเร็วๆไม่กี่ครั้ง สมิธน้อยก็ฉีดพ่นน้ำคาวๆที่เริ่มจางออกมา

ผมหอบหายใจเข้าออกลึก ในขณะเดียวกันไอ้ผมทองก็ก้มลงมาไซร้คออีกรอบ

"ใจคอมึงก็ให้กูพักหน่อยเถอะ"ผมบ่นหน่ายๆ มันเพียงผงกหัวมาหอมแก้มผมแรงๆแล้ววกกลับไปดูดคอกูต่อ-_-

"พี่กำลังทำเวลาให้มิทตี้อยู่นะที่รัก"

"มึงไม่ทำแต่รอบก็สิ้นเรื่อง!"

"ไม่งอแงนะครับ"จุ๊บ!

"ไม่ได้งอแง อ๊ะ!"มันเริ่มขยับสะโพกอีกแล้วโว้ย!!!

หลังจากนั้นผมก็โดนล่อยาวๆไปอีกสองชั่วโมงกว่าที่มัาจะยอมเสร็จให้

มันพาผมมาล้างตัวอีกรอบ จับผมนั่งบนขอบอ่างอาบน้ำแล้วถ่างขากูอีกรอบ

สองนิ้วเรียวถูกสอดเข้ามากวาดต้อนน้ำของมันที่อยู่ภายในออกไป ผมซี้ดปากนิดๆเพราะแสบปนๆเสียว แต่ไม่มีน้ำจะออกแล้วไง...

พาออกจากห้องน้ำมา ผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ก่อนหน้านี้ถูกเปลี่ยนใหม่ปูเรียบตึงน่านอนมาก

ผมล้มตัวลงนอนหลับตาพร้อมจะหลับทุกเมื่ออย่างหมดแรงทั้งๆที่ใส่แค่เสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น

ผมรู้สึกว่ามีคนยุ่มย่ามจัดการกับเสื้อผมบนตัวผมและถูกดึงตัวอยู่นิดหน่อย

ก่อนจะหลับร่างกายผมก็ถูกสัมผัสอบอุ่นเข้าแทรกซึมเหมือนมีคนโอบกอด ผมเกี่ยวขาพาดสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดแล้วกอดไว้แน่นเพราะรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ห้วงความคิดสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราผมได้ยินเสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาที่จับใจความไม่ได้แต่น้ำเสียงกลับเจือไปด้วยความอ่อนโยนที่ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาบางๆ

"ฝันดีครับที่รักของพี่"

+++++++++++++

อิพี่ชักจะเป็นผัวทาสไปทุกที ยอมกว่านี้ก็ชีวิตแล้วจ้า...ที่สำคัญปริมไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนี้นะคะทุกคนไม่ต้องกลัวนะ ฮี่ๆ

ป.ล.ช่วงนี้เปรมไม่ซาบาย ช้าหน่อยนะคะ ชุ้บๆ❤

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โห้มันละมุนใจมากเลยค่ะไรท์หายป่วยไวๆนะคะ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มันจะหวานไปได้สักกี่ตอนหว่า  :katai3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
กลายเป็นคนกลัวเมียไปซะละ555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด